ขน้ั สรปุ
1. นักเรียนชว่ ยกันสรปุ สำนวนภาษาทีใ่ ชใ้ นการขอและให้ขอ้ มลู เกย่ี วกบั ทศิ ทาง
2. แบบฝกึ หดั (Workbook) นกั เรยี นอ่านทบทวนเร่อื ง prepositions of place และ the imperative
หน้า 36 แล้วทำ Exs. 12-14 หนา้ 37-38
7. การวดั และประเมินผล เครื่องมอื เกณฑ์การผา่ น
วิธีการวัด แบบสังเกตพฤติกรรมการเรยี นรู้ ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
หนังสือเรียน หน้า 49 Ex. 3a, Ex. 4 รอ้ ยละ 60
สังเกตการปฏิบตั ติ ามคำสง่ั (ต 1.1 ม. 4-6/1) แบบประเมินแสดงบทสนทนา ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ตอบคำถามจากการฟงั และอ่าน
(ต 1.1 ม. 4-6/1, ต 1.1 ม. 4-6/4) แบบประเมนิ การเขยี น ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการแสดงบทสนทนาเกีย่ วกบั การขอและบอก
ทิศทาง (ต 1.2 ม. 4-6/1, แบบประเมินการพูด ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ต 2.1 ม. 4-6/1, ต 4.1 ม. 4-6/1)
ประเมินการเขียนบรรยายสิ่งที่มีและไม่มีในละแวก แบบสังเกตพฤตกิ รรมการเรียนรู้ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
บา้ นของตนเอง (ต 1.1 ม. 4-6/3, แบบประเมนิ คณุ ลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ ผา่ น
ต 1.3 ม. 4-6/1) อันพึงประสงค์
ประเมินการพูดแนะนำสถานที่ท่องเที่ยวและวิธีการ
เดนิ ทางในท้องถน่ิ ของตนเอง
(ต 1.1 ม. 4-6/3, ต 1.3 ม. 4-6/1,
ต 4.1 ม. 4-6/1, ต 4.2 ม. 4-6/2)
สังเกตการเปรยี บเทียบประโยคคำส่ังในภาษาไทยกับ
ภาษาองั กฤษ (ต 2.2 ม. 4-6/1)
สังเกตพฤติกรรมบ่งชด้ี า้ นใฝเ่ รยี นรูแ้ ละ
ม่งุ มั่นในการทำงาน
8. สือ่ /แหล่งการเรยี นรู้
8.1 หนังสือเรยี น Upload 4 ม. 4
8.2 แบบฝกึ หดั Upload 4 ม. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชุด Upload 4 ม. 4
8.4 บตั รภาพจากอินเทอร์เนต็
หนา้ 101
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่ 9 Let’s cook!
เวลา 2 ชั่วโมง
จุดประสงค์ (Objectives)
- ตอบคำถามจากการอา่ นได้
- เขียน email บอกวิธกี ารทำอาหารแกเ่ พ่ือนชาวตา่ งชาตไิ ด้
- เขียนบอกวธิ กี ารทำขนมไทยได้
- เปรียบเทยี บสำนวนสุภาษติ ของไทยและภาษาอังกฤษได้
1. มาตรฐานการเรียนรแู้ ละตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ต 1.1: ต 1.1 ม. 4-6/1, ต 1.1 ม. 4-6/4
มาตรฐาน ต 1.2: ต 1.2 ม. 4-6/1, ต 1.2 ม. 4-6/2
มาตรฐาน ต 1.3: ต 1.3 ม. 4-6/1
มาตรฐาน ต 2.1: ต 2.1 ม. 4-6/2
มาตรฐาน ต 2.2: ต 2.2 ม. 4-6/1
มาตรฐาน ต 4.1: ต 4.1 ม. 4-6/1
มาตรฐาน ต 4.2: ต 4.2 ม. 4-6/2
2. สาระสำคญั /ความคิดรวบยอด
การรแู้ ละเขา้ ใจคำศัพท์เกย่ี วกับการเตรียมอาหาร (food preparation) คำเชอ่ื ม (connective words) ในการบอกลำดบั
ขั้นตอน การชัง่ ตวงวดั ช่วยให้เข้าใจเรื่องทีอ่ า่ น สามารถปฏิบตั ติ ามคำสั่ง และเขยี นอธบิ ายข้นั ตอนในการทำอาหาร รวมท้ังเข้าใจความ
เหมือนและความแตกตา่ งของสำนวนสภุ าษิตของไทยและของเจา้ ของภาษา
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทกั ษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: food preparation (break, beat, chop, stir, drain, add, grease, pour, peel, slice, mix,
grate); kitchen utensils (vegetable peeler, grater, whisk, roasting tin, knife, spoon,
bowl, colander); food technology (pound, ounce, fluid ounce, gramme, milliliter,
degree centigrade, centimetre); nouns (method, ingredient, measurement,
appetiser, snack, gas mask, scone, centigrade, self-raising flour, currant, caster
sugar, baking sheet, dough)
Grammar: the imperatives
Functions: describing how to cook something
2) Language Skills
Speaking: พูดบอกขน้ั ตอนวิธกี ารทำอาหาร
Reading: อา่ นเพื่อหาขอ้ มลู เฉพาะ
หน้า 102
Writing: เขยี นบอกวิธีการทำอาหาร
3) Culture: เปรียบเทยี บระบบชัง่ ตวงแบบอังกฤษกับแบบไทย
เปรียบเทียบสำนวนสภุ าษิต
4. สมรรถนะสำคัญของผู้เรยี น 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร 5.2 มงุ่ มัน่ ในการทำงาน
4.3 ความสามารถในการใชท้ กั ษะชวี ิต
5. คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
5.1 ใฝเ่ รียนรู้
6. กิจกรรมการเรยี นรู้
ชั่วโมงที่ 1
ขน้ั นำ
1. ทบทวนคำศัพทเ์ ก่ียวกับอาหาร โดยนกั เรยี นแบง่ เป็น 2 กลมุ่ เล่นเกม Beginning with แตล่ ะกลมุ่ ผลดั กันนึกคำศัพทช์ อื่
อาหารท่ขี ึ้นตน้ ด้วยตัวอักษรท่ีครูกำหนด เช่น
T: Can you tell me food beginning with c?
Team A: Cereal.
T: Yes. Team A gets 1 point.
Can you tell me food beginning with h?
Team B: Hot dog.
T: Yes. Team B gets 1 point.
2. ครูถามคำถามนกั เรียนเก่ยี วกับอาหารและการทำอาหาร
- Do you like cooking?
- How often do you cook?
- What is your favorite dish? Can you tell the class how to cook it?
3. ครูบอกนักเรยี นวา่ วนั นน้ี กั เรยี นจะไดเ้ รียนร้เู กีย่ วกับการบอกวิธกี ารทำอาหาร
ข้ันสอน
1. หนังสือเรียน หน้า 50 Ex. 1 นกั เรียนดูภาพและคำศพั ท์ที่ใหม้ า แลว้ ครเู ปดิ CD โดยหยุด CD
เป็นระยะ ๆ เพ่ือให้นักเรยี นออกเสียงคำศพั ท์ตาม จากนั้นนกั เรยี นดภู าพทีละภาพ แลว้ ครูถามความหมายของคำศัพทแ์ ต่ละ
คำท่ใี ห้มา เช่น What does the word ‘break’ mean? ครเู ปดิ CD
ให้นักเรียนฟังและฝึกออกเสยี งอกี ครัง้ เสรจ็ แลว้ ครูสุ่มเรยี กนักเรียนหลาย ๆ คน อา่ นออกเสยี งคำศพั ท์เหลา่ นี้ด้วยตนเอง ครู
สงั เกตว่านักเรียนออกเสยี งท้ายคำหรือไม่ และกระตุน้ ให้นักเรียน
ออกเสยี งท้ายคำใหช้ ัดเจน
หนา้ 103
Extra activities: ครเู ปดิ คลิปวดิ โี อนำเสนอคำศพั ทเ์ ก่ยี วกบั การทำอาหารให้นกั เรยี นดูหรืออาจแนะนำใหน้ ักเรียนไปเปิดดู
ดว้ ยตนเองนอกเวลาเรยี น โดยเขา้ ไปที่ www.youtube.com และพิมพช์ อ่ื คลิป Cooking actions: English Language
หรือเขา้ ไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=SRRtY928zWk
2. หนงั สือเรยี น หน้า 50 Ex. 2 นกั เรยี นดภู าพและอ่านออกเสยี งประโยคตวั อยา่ งทใ่ี ห้มาพร้อม ๆ กนั จากนัน้ ครถู ามคำถาม
นักเรยี นเกยี่ วกบั ภาพ เช่น
- How many people are there in the picture? (Eight people)
- What are their names? (They are Susan, Liz, Mary, Kate, Anna, Ian and George.)
- What are they doing? (They’re working in a restaurant kitchen.)
ครูถามนักเรยี นว่าบุคคลแตล่ ะคนในภาพกำลังทำอะไร
T: Look at Tony. What is he doing?
Ss: He is breaking eggs into a bowl.
T: A bowl (ครอู อกเสียงใหน้ กั เรยี นดูเปน็ ตน้ แบบ โดยให้มเี สียง /l/ ทา้ ยคำ)
T: Look at Anna? What is she doing?
Ss: She is beating eggs with a whisk.
T: A whisk. (ครอู อกเสียงใหน้ กั เรยี นดเู ปน็ ตน้ แบบ โดยใหม้ เี สยี ง /sk/ ทา้ ยคำ)
ครูทำกิจกรรมเชน่ นี้ไปเร่อื ย ๆ จนครบทกุ ภาพ โดยเนน้ ให้นักเรยี นออกเสียงคำศพั ท์เกีย่ วกบั อุปกรณท์ ำครวั ให้ถกู ตอ้ ง
ครูอธิบายเพม่ิ เติมวา่ ตัวอกั ษร h ในคำว่า whisk เปน็ silent word จึงไม่ออกเสียง เวลาออกเสียงจงึ เปน็ /wIsk/
ครูยกตัวอย่างคำศพั ท์ที่ลงทา้ ยด้วยเสยี ง /sk/ ใหน้ กั เรยี นฝกึ เพ่ิมเตมิ เช่น ask, desk, disk, mask, task
เสรจ็ แลว้ ใหน้ กั เรยี นจบั คแู่ ละผลดั กันถาม-ตอบเกี่ยวกับสิ่งทบ่ี ุคคลในภาพกำลงั ทำ เมอื่ นักเรยี นถามและตอบคลอ่ งแล้วครู
ขอใหน้ ักเรียนบางคูอ่ อกมาพูดอกี ครัง้ ทห่ี น้าชัน้ เรยี น
Susan is peeling a carrot with a vegetable peeler.
Liz is grating cheese with a grater.
Mary is chopping an onion with a knife.
Kate is stirring sauce with a spoon.
Ian is greasing a roasting tin.
George is draining pasta in a colander/is pouring pasta into a colander.
หน้า 104
ครใู หน้ ักเรยี นฝกึ ออกเสยี งคำวา่ colander ใหถ้ กู ต้อง ดงั น้ี /ˈkɒləndər/ โดยลงเสียงหนกั ทพ่ี ยางค์แรก
และแนะนำใหน้ ักเรียนไปฝกึ ออกเสียงด้วยตนเองทีบ่ า้ น โดยครใู หน้ กั เรยี นเข้าไปเปดิ ฟังการออกเสยี งจาก
พจนานุกรมภาษาองั กฤษ-องั กฤษออนไลน์ เชน่ http://www.oxfordlearnersdictionaries.com
http://dictionary.cambridge.org/
Extra activities: ครูเปดิ คลิปวดิ โี อนำเสนอเก่ยี วกบั วิธีการทำอาหารงา่ ย ๆ ใหน้ กั เรียนดเู ป็นตวั อยา่ งโดยเข้าไปท่ี
wwww.youtube.com และพิมพช์ ่อื คลปิ ใดคลิปหน่งึ ตอ่ ไปน้ี
mmmEnglish 01 Cooking Verbs & How to Poach an Egg!
(https://www.youtube.com/watch?v=bOnmVFww6gc)
How To Make Fresh Salsa | English Speaking Practice | ESL Cooking
(https://www.youtube.com/watch?v=WvTjL3b7oAE)
How to Make Coffee Cake. Cooking for People Studying English.
(https://www.youtube.com/watch?v=Y7SS0Mt2VrE)
3. ครูถามนกั เรียนวา่ ในการพดู หรอื เขยี นเกี่ยวกบั ขน้ั ตอนในการทำสิง่ ใดส่ิงหนึ่ง เชน่ การทำอาหารลักษณะสำคญั ของการบอก
ขน้ั ตอน คืออะไร ใหน้ กั เรยี นช่วยกนั บอกคำตอบ หลังจากนัน้ ครใู หน้ กั เรียนอา่ น email ใน Ex. 3a ในหน้า 51 ครา่ ว ๆ เพื่อ
หาคำตอบ เสร็จแล้วครเู ฉลยและอธบิ ายว่า เราใช้ first, then, next, after that และ finally เพือ่ ช่วยแสดงลำดบั ของ
เหตกุ ารณห์ รอื ข้ันตอน/วิธกี ารทำบางสง่ิ บางอย่าง โดย then, next และ after that สามารถสลบั ท่ีกนั ได้ แต่ first จะต้องมา
ในลำดบั แรกเสมอ และถา้ จะใช้ finally คำนี้จะต้องมาลำดับสดุ ท้ายเสมอ ครอู าจยกตัวอยา่ งวิธีการทำอาหารง่าย ๆ เช่น การ
ชงกาแฟ
First, boil some water.
Then, put coffee into a cup.
Next, pour the hot water into the cup.
After that, add a little milk.
Finally, stir the coffee.
4. หนงั สือเรยี น หนา้ 51 Ex. 3a ครอู า่ นคำสงั่ และถามคำถามทีใ่ ห้มา แล้วให้เวลานกั เรียนสนั้ ๆ เพอื่ ตอบคำถามดังกลา่ ว ครู
รวบรวมคำตอบจากนักเรียนหลาย ๆ คน จากน้ันครูเปดิ CD ใหน้ กั เรียนฟงั และอา่ น email ไปพรอ้ มกัน เพ่อื ตรวจคำตอบ
ของตนเอง เสรจ็ แล้วครถู ามคำถามนกั เรยี นอกี ครงั้
Who is sending the email? (Carmen Perez.)
Who is the receiver? (David.)
What is it about? (The email is about how to make a Mexican omelette.)
ตอ่ มาครูให้นกั เรยี นชว่ ยกนั อธิบายคำศพั ท์สำคญั ต่อไปนโ้ี ดยพยายามเดาความหมายจากบริบททีใ่ ห้มากอ่ น ถ้าตอบไมไ่ ด้ ครู
ช่วยบอกหรือใหน้ ักเรียนเปดิ พจนานุกรม
recipe = วิธีปรงุ /ทำอาหาร
a pinch of salt = เกลอื 1 หยบิ มอื
flip over = พลกิ กลับด้าน
หนา้ 105
5. หนงั สือเรียน หน้า 51 Ex. 3b นักเรียนอ่าน email อีกครัง้ อย่างรวดเร็ว โดยใชว้ ิธกี ารอา่ นแบบ scanning เพ่อื หารายการ
สว่ นผสมทีต่ ้องใช้ในการทำ Mexican omelette เมื่อหมดเวลาทีก่ ำหนด ครูรวบรวมคำตอบจากนกั เรยี น แลว้ เขยี น
คำตอบทถี่ กู ตอ้ งบนกระดาน
2 eggs, 2 tablespoons of cream, a pinch of salt, 1 teaspoon of oil, cheese,
chopped tomatoes
6. หนังสือเรยี น หน้า 51 Ex. 4 นกั เรียนจับคู่กนั ผลัดกันพูดบอกขั้นตอนการทำ Mexican omelette โดยใช้ first (อนั ดับ
แรก) then (ถัดมา) after that (หลงั จากนน้ั ) ขณะทน่ี กั เรยี นพดู ให้คขู่ องนักเรียนแสดงทา่ ทางประกอบด้วย ครกู ำหนดเวลา
ใหน้ กั เรยี นทำกิจกรรม และครเู ดนิ สงั เกตขณะนักเรยี นฝกึ เม่อื นกั เรียนฝึกคล่องแล้ว ครสู มุ่ เรียกนักเรยี นหลาย ๆ คู่ ออกมา
ทำกจิ กรรมอีกครง้ั ท่ีหน้าชน้ั เรยี น
To make a Mexican omelette you need 2 eggs, 2 tablespoons of cream, a pinch of salt,
grated cheese, chopped tomatoes and a teaspoon of oil.
First, break the eggs into a bowl. Add the cream and salt. Mix the ingredients. Heat the oil
in a frying pan, and pour the mixture into the frying pan and cook for two minutes. Then,
flip the omelette over and cook it for another two minutes. After that put the cheese and
the tomatoes on half of the omelette. Fold it in half and serve immediately.
7. หนังสอื เรยี น หน้า 51 กรอบ Did you know? นกั เรยี นอา่ นข้อมลู เกีย่ วกับระบบการช่วั ตวงวัดท่ีใชใ้ น สหราชอาณาจักร
ครอู ธิบายเพ่ิมว่า สหราชอาณาจกั รใชร้ ะบบการชัง่ ตวงวดั อยู่ 2 ระบบ คือ
1) ระบบเมตรกิ (metric system) เป็นหนว่ ยวดั ท่วี ดั ความยาวเป็นมลิ ลเิ มตร (millimetre) เมตร (metre)
กิโลเมตร (kilometre) หนว่ ยวดั นำ้ หนักเป็นกรัม (gramme) กโิ ลกรมั (kilogramme) หน่วยวัดความจเุ ปน็ ลติ ร
(litre) มิลลลิ ิตร (mililitre)
2) ระบบอังกฤษ (imperial system) เปน็ หนว่ ยวัดโบราณทใ่ี ช้มาต้ังแตค่ รสิ ตศ์ ตวรรษท่ี 12 หนว่ ยวดั ทวี่ ัดความยาว
เปน็ นิ้ว (inch), ฟุต (foot), หลา (yard), 1 ไมล์ (mile) หน่วยวัดน้ำหนกั เปน็ ออนซ์ (ounce) ปอนด์ (pound)
หนว่ ยวัดความจเุ ป็นไพนท์ (pint), ควอต (quart), แกลลอน (gallon)
จากนนั้ ครูอธบิ ายว่า conversion คอื การแปลงหน่วย โดยเปลยี่ นจากหน่วยวดั หนึง่ ไปเปน็ อกี หนว่ ยวดั หน่ึง ซึ่งหน่วยท่จี ะ
แปลงต้องเปน็ หน่วยการวดั ประเภทเดยี วกนั เชน่ นำ้ หนักกับน้ำหนัก ความจุกับความจุ เปน็ ตน้
ตอ่ มาครูถามนกั เรยี นวา่ รูห้ รือไม่วา่ หน่วยการวดั ของไทยในปจั จบุ ันใชร้ ะบบอะไร เมื่อได้คำตอบวา่ ระบบเมตรกิ แล้ว ครถู าม
นักเรยี นวา่ รหู้ รอื ไมว่ า่ แตเ่ ดิมประเทศไทยหนว่ ยวัดคอื อะไร ถ้านกั เรยี นนกึ ไม่ออก ครอู าจช่วยยกตวั อยา่ งดว้ ยการร้องเพลง
ทอ่ นหน่ึงในการละเล่นของไทย
หนา้ 106
“รรี ีขา้ วสาร สองทะนานข้าวเปลือก
เลือกท้องใบลาน เก็บเบย้ี ใตถ้ นุ รา้ น
คดขา้ วใส่จาน พานเอาคนข้างหลังไว้”
แล้วใหน้ กั เรียนช่วยกันพดู ตอบครอู กี คร้ังจนไดค้ ำตอบว่า ทะนาน เกวยี น เปน็ หนว่ ยวดั ความจขุ องไทย แลว้ ครูชว่ ยแปลง
หน่วยวัดความจุของไทยนี้เปน็ หนว่ ยวดั ความจุในระบบเมตริก เชน่
1 ทะนาน = 1 ลติ ร 1 เกวยี น = 2,000 ลติ ร
ครูสามารถเขา้ ไปดหู น่วยวดั ของไทย และการแปลงหนว่ ยเป็นระบบเมตริกและระบบอังกฤษได้ท่ี
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000016412
ระบบการวดั ทางวิทยาศาสตร์ทใ่ี ช้กนั อยา่ งแพรห่ ลายต้ังแตอ่ ดตี จนถึงปจั จบุ นั คือ ระบบหนว่ ยพื้นฐาน SI ซ่งึ เปน็ ระบบการวดั
แบบเมตริก “SI” ยอ่ มาจากคำาวา่ “The International System of Units” ซึ่งมีความสำคญั อย่างมากตอ่ ระบบการวดั ทาง
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี ปจั จบุ นั พบวา่ ระบบการวดั แบบเมตรกิ “SI” เป็นท่ียอมรับทางการคา้ ระหว่างประเทศทัว่ โลก
หน่วยพื้นฐานในระบบเอสไอ (SI Base Units) เปน็ หน่วยการวดั พน้ื ฐานของหนว่ ยวดั อน่ื ๆ ทั้งหมดซง่ึ สามารถสอบกลบั ได้
(Traceability) หน่วยพ้ืนฐานท้ัง 7 หนว่ ย ดังแสดงในตาราง
ที่มา: http://lib3.dss.go.th/fulltext/dss_j/2555_189_60_p44-46.pdf
ชื่อหน่วยวัดบางหน่วยในระบบการวัดแบบเมตริกจะสะกดแตกตา่ งกนั ในภาษาองั กฤษแบบองั กฤษ (British English
และภาษาอังกฤษแบบอเมรกิ นั (American English) เชน่
British English American English
gramme/gram gram
metre meter
centimetre centimeter
litre liter
millilitre milliliter
ที่มา: http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/the-metric-system
http://www.manager.co.th/Science/ViewNews.aspx?NewsID=9540000016412
8. ครแู นะนำสำนวนสภุ าษิตทีเ่ กี่ยวขอ้ งกบั เกลือในภาษาอังกฤษ พรอ้ มทั้งอธิบายความหมายและยกตวั อยา่ งประโยค จากนนั้
นักเรยี นชว่ ยกันบอกว่า มสี ำนวนสภุ าษติ ของไทยที่ใกลเ้ คยี งกบั สำนวนเหลา่ น้ีหรอื ไม่ เสรจ็ แล้วนกั เรยี นช่วยกนั บอกสำนวน
สภุ าษติ ของไทยทเ่ี ก่ยี วข้องกับเกลอื พรอ้ มทงั้ อธิบายความหมายหรอื บอกสำนวนสภุ าษติ ในภาษาองั กฤษทใ่ี กล้เคยี งกบั
สำนวนสภุ าษติ ของไทยเหลา่ นี้
ครูอาจอธบิ ายเกี่ยวกับความเชือ่ เกย่ี วกับเร่อื งเกลือ โดยศกึ ษาข้อมลู จากเว็บไซต์ตอ่ ไปน้ี
http://www.thairath.co.th/content/367191
หนา้ 107
• สำนวนทเี่ ก่ยี วข้องกับเกลอื
take something with a pinch of salt (idm) = to be careful about believing that
something is completely true (ตรงกับสุภาษิตไทยวา่ ฟงั หูไว้ห)ู
ตัวอยา่ ง If I were you, I’d take everything he says with a pinch of salt.
worth your/its salt (idm) = deserving respect, especially because you do your job well
(สมกบั ค่าจ้าง)
ตัวอยา่ ง Any teacher worth their salt will not only teach students but also inspire
them.
rub salt into the wound, rub salt into somebody’s wounds (idm) = make a bad situation
even worse for someone (เอาเกลือไปขดั แผล = ตอกยำ้ ซ้ำเตมิ )
ตัวอยา่ ง Losing was bad enough. Watching them receiving the trophy just
rubbed salt into the wound.
(be) the salt of the earth (idm) = a person or group of people of great kindness, reliability or
honesty (คนทมี่ ีคณุ ค่า, พึงรกั ษาความดีไว้ ดังเกลือรักษาความเคม็ )
ตัวอย่าง “You are the salt of the earth. But if the salt loses its saltiness, how
can it be made salty again? It is no longer good for anything, except to
be thrown out and trampled underfoot.” (Matthew 5:13-16 New
International Version)
พระเยซคู รสิ ตท์ รงตรัสวา่ ... “ท่านทั้งหลายเป็นเกลอื แห่งโลก แตถ่ า้ เกลอื นั้นหมดรสเค็ม
ไปแลว้ จะทำให้กลับเคม็ อีกอย่างไรได้ แต่นน้ั ไปกไ็ ม่เป็นประโยชนอ์ ะไร มแี ตจ่ ะทิง้ เสียสำหรบั คนเหยยี บย่ำ”
(มัทธิว 5:13-16)
สำนวนสภุ าษติ ไทยทเ่ี กี่ยวขอ้ งกบั เกลือ
เกลอื จม้ิ เกลอื หมายถึง ไม่ยอมเสยี เปรียบกนั แกเ้ ผด็ ใหส้ าสมกนั (ใกล้เคยี งกบั สำนวนสภุ าษติ องั กฤษ an eye for
an eye = the idea that a person who causes another person to suffer should suffer in an equal
amount)
ใกล้เกลือกนิ ดา่ ง หมายถงึ มองข้ามของดที อ่ี ย่ใู กล้ตวั ซง่ึ จะเปน็ ประโยชน์แก่ตน กลับไปแสวงหาสง่ิ อน่ื ที่ด้อยกวา่
(ใกล้เคยี งกับคำกลา่ วในภาษาองั กฤษ the grass is (always) greener on the other side = said about
people who never seem happy with what they
have and always think that other people have a better situation than they have)
9. หนงั สอื เรียน หน้า 51 Ex. 5 นักเรียนเลอื กอาหารมาหนงึ่ ชนิดท่ีรูว้ ธิ กี ารทำ เชน่ ไขเ่ จียวหมสู ับ
แลว้ เขยี น email ถึงเพอ่ื นชาวต่างชาตเิ พ่อื บอกวธิ ีการทำอาหารชนิดนนั้ เม่อื นักเรียนทำเสรจ็
ครูขออาสาสมคั รมาอา่ น email ของตนเองหนา้ ช้ันเรยี น หรือนักเรียนอาจเขยี น email ร่วมกันกอ่ น
บนกระดานเพือ่ เป็นตน้ แบบ แล้วนักเรยี นกลบั ไปเขยี นด้วยตนเองเปน็ การบา้ น
หน้า 108
Dear Peter,
I like cooking. My favourite dish is spaghetti carbonara. To make it you need a packet of
pasta, a tablespoon of oil, chopped bacon, four eggs, a small carton of cream, a
teaspoon of olive oil and grated cheese.
First, you boil a packet of pasta in a pot of water for about ten minutes. Pour the pasta
into a colander to drain. Then, heat oil in a pan and add chopped bacon to it. After that,
in a bowl, mix four eggs, a small carton of cream and one teaspoon of olive oil together.
Put the spaghetti back into the pot and add the cream mixture and bacon to it. Grate
cheese on top.
Write back,
Salvador
Extra activities: นักเรยี นทำงานกลุ่ม แตล่ ะกลมุ่ เลอื กอาหารในทอ้ งถ่ินของนกั เรยี นมากลมุ่ ละ 1 ชนิด แล้วจัดนทิ รรศการ
แสดงวธิ กี าร และอธิบายข้ันตอนการทำอาหารชนดิ นั้น ๆ ครูอาจจดั เป็นนิทรรศการเล็ก ๆ หลงั จากนัน้ นำขอ้ มลู มาเผยแพร่
ประชาสมั พันธใ์ นเวบ็ ไซตข์ องโรงเรียน
10. นักเรียนแบง่ กลมุ่ ยอ่ ย ช่วยกันค้นควา้ หาสำนวนสุภาษติ ภาษาอังกฤษขององั กฤษทีเ่ กีย่ วขอ้ งกบั อาหาร อย่างนอ้ ย 10 สำนวน
โดยให้มี 5 สำนวนท่ีใกลเ้ คยี งกบั สำนวนไทย เมอื่ นกั เรียนรวบรวมไดแ้ ล้ว ใหน้ ักเรยี นทำเปน็ โปสเตอรห์ รือสมดุ รวบรวม
สำนวนสภุ าษติ วาดภาพประกอบ และยกตวั อย่างประโยค
ขั้นสรปุ
1. ทบทวนคำศพั ท์และโครงสร้างประโยคทใี่ ช้บอกขน้ั ตอนการทำอาหาร
2. แบบฝึกหัด (Workbook) นักเรยี นทำ Exs. 15-18 หนา้ 12-13
ชว่ั โมงที่ 2
ขั้นนำ
1. ทบทวนคำศพั ทท์ ีเ่ ก่ยี วขอ้ งกับการทำอาหาร โดยนักเรยี นพดู บอกคำศพั ท์จากบัตรภาพทีค่ รูแสดง
ครสู ามารถดาวนโ์ หลดบตั รภาพไดท้ ่ี
https://www.englishwsheets.com/cooking-verbs-flashcards.html
http://www.kids-pages.com/folders/flashcards/Kitchen.htm
หนา้ 109
2. ครูเขียนวิธีการทำอาหารลงในแถบประโยค โดยเว้นคำกรยิ าไว้ เชน่
1) ____ and___ the carrot. (Peel and chop the carrots.)
2) ____ and ____the onion. (Peel and slice the onion.)
3) ____ the cheese. (Grate the cheese.)
4) ____ and ____ the egg. (Break and beat the egg.)
5) _____ gently with a spoon. (Stir gently with a spoon.)
6) _____ together the flour and water. (Mix together the flour and water.)
ครตู ิดแถบประโยคบนกระดาน และปดิ แถบประโยคไว้ พร้อมทง้ั เขยี นหมายเลข 1,2,3 ท่ขี า้ งหน้าแถบประโยค ใหน้ กั เรียนแต่
ละแถวเลอื กวา่ จะเปดิ หมายเลขใด เม่อื เปิดแลว้ หากแถวนนั้ เตมิ คำกริยาไดถ้ กู ต้องไดร้ ับ 2 คะแนน ถ้าไมถ่ กู แถวอน่ื มีสทิ ธต์ อบ
แตไ่ ด้ 1 คะแนน ถา้ เตมิ ไดถ้ ูกต้องและมสี ทิ ธเิ์ ลือกเปดิ หมายเลขต่อไป ทำเช่นน้ีจนครบ หลังจากนน้ั ครสู ่มุ นกั เรยี นอ่านแถบ
ประโยคบนกระดาน และเลือกใหเ้ พื่อนปฏิบตั ติ ามคำสงั่ นกั เรยี นท่ีปฏิบัติตามคำสงั่ แลว้ เลอื กอา่ นขอ้ ความใหม่แล้วเรยี กเพ่อื น
คนอน่ื ให้ปฏบิ ตั ิ
3. ครอู ธิบายเกี่ยวกับวัฒนธรรมการดมื่ ชาของคนองั กฤษ คนอังกฤษจะนยิ มดืม่ ชา โดยจะดื่มตอนเช้าและตลอดทั้งวัน คนอังกฤษ
จะนิยมต้อนรบั แขกโดยถามวา่ ตอ้ งการจะรบั ชาสกั ถว้ ยหรือไม่
โดยขนมอย่างหนึ่งที่คนอังกฤษนิยมรับประทานร่วมกับชาคือ สโคน ซึ่งเป็นขนมเค้กก้อนเล็กกลม ๆ คล้ายขนมปัง บางครั้งมี
ผลไมแ้ หง้ ดว้ ย คนองั กฤษจะนยิ มทาสโคนดว้ ยแยม เนย และครีม
จากนั้นนักเรียนเปิดหนังสือเรียน หน้า 103 เพื่อดูภาพสโคน แล้วช่วยกันระบุว่า ข้อความที่ให้มาคืออะไร จนได้คำตอบว่า
วธิ ีการทำขนมเค้กสโคน
ข้นั สอน
1. หนงั สอื เรยี น หนา้ 103 Ex. 1 นักเรยี นดขู ้อความที่ใหม้ าครา่ ว ๆ จากนน้ั ครเู ขียนคำวา่ ingredient, measurement,
method บนกระดาน แลว้ ครูอา่ นข้อความให้นักเรยี นฟังและให้นักเรยี นบอกวา่ ข้อความทไี่ ดฟ้ ังนัน้ เป็น method,
ingredient หรอื measurement เช่น
We need flour, sugar and egg for making biscuits.
Chop the carrot into small cubes.
55 grams of butter
หลงั จากนนั้ จงึ ให้นักเรยี นบอกความหมายของคำว่า ingredient, measurement, method เพอ่ื ตรวจสอบความเขา้ ใจ
ingredient (n) ส่วนประกอบ, สว่ นผสม หรือเครอื่ งปรุง
measurement (n) การช่ังตวงวดั
method (n) วธิ ีการทำ
ต่อมาครูอา่ นคำสงั่ และอธิบายความแตกตา่ งของ appetiser กบั snack แล้วใหน้ ักเรยี นตอบคำถาม
Is a scone an appetiser or a snack?
It is a snack.
หน้า 110
• appetiser (a small amount of food or a drink that you have before a meal)
อาหารเรยี กนำ้ ย่อย หรืออาหารจานแรก เป็นอาหารทเ่ี สิรฟ์ ในปรมิ าณไม่มากนัก
ในขณะรอการเสริ ฟ์ อาหารจานหลกั
ตัวอยา่ ง At 6.30 everyone gathered for drinks and appetisers in the lounge.
คำวา่ appetiser สามารถสะกดไดท้ ัง้ s และ z โดยถ้าสะกดด้วยตัว s จะเป็นการสะกดคำ
แบบอังกฤษ ถา้ สะกดดว้ ยด้วย z จะเป็นการสะกดคำแบบอเมริกัน
• snack (a small amount of food that is eaten between meals, or a very small meal)
อาหารว่าง คือ อาหารระหว่างมือ้ เปน็ อาหารเบา ๆ
ตวั อย่าง Many snack foods are high in salt, sugar and fat.
• cream tea (a special meal eaten in the afternoon, consisting of tea with scones, jam
and thick cream) คนองั กฤษนยิ มรับประทานชารว่ มกบั สโคน (scones) แยม และครมี ในยามบา่ ย โดย
จะเรยี กวา่ cream tea
ตวั อยา่ งเชน่ We had a cream tea in the bar in the afternoon and ate in the hotel’s
restaurant that evening.
• gas mark (= a particular temperature level in a gas
oven.) อณุ หภูมิของเตาอบแกส๊
ตัวอยา่ งเช่น Preheat the oven to gas mark 5.
Reduce the oven temperature to 160 C/gas mark 3.
2. หนงั สอื เรียน หน้า 103 Ex. 2 นักเรยี นอา่ นกรอบ Note แล้วกลบั ไปดสู ูตรการทำ scones อีกครงั้
เพอ่ื ระบหุ นว่ ยทีช่ าวอังกฤษใชช้ งั่ และตวงสว่ นผสมของอาหาร และออกมาเขียนหนว่ ยวดั เหลา่ นน้ั บนกระดาน
grammes, ounces, millilitres, centimetre, degree centigrade/gas mark and fluid ounces.
คำวา่ centigrade เปน็ หนว่ ยวดั อณุ หภมู คิ วามรอ้ น ซ่งึ เปน็ อกี ช่ือเรยี กหน่งึ ของ Celsius
หนา้ 111
ต่อมาครูใหน้ กั เรียนช่วยกันระบุตัวอยา่ งของหน่วยชง่ั ตวงวัดเหลา่ นี้
pound (p) ounce (oz)
fluid ounce (fl oz), gramme (g)
millilitre (ml) degree centigrade (C)
centimetre (cm)
ครูอธบิ ายว่า ให้นกั เรยี นระมดั ระวงั การออกเสยี งคำวา่ pound กบั ounce เพราะภาษาไทยกบั ภาษาองั กฤษจะออกเสียง
ต่างกัน
ounce อ่านวา่ เอานซ แตค่ นไทย อ่านว่า ออนซ์
pound อา่ นว่า เพานด แตค่ นไทย อ่านว่า ปอนด์
3. ครูอธิบายคำศพั ทส์ ำคัญก่อนการอ่าน
self-raising flour (n) แป้งทผี่ สมผงฟแู ล้ว (baking flour)
currant (n) อง่นุ แหง้ ทมี่ กั ใช้ในการอบขนมเค้ก
caster sugar (n) น้ำตาลทรายขาว
baking sheet (n) ถาดทีใ่ ชใ้ นการอบอาหารในเตาอบ
dough (n) แป้งทผี่ สมน้ำ ไขมัน น้ำตาล ยสี เพอื่ นำไปอบขนมปัง
4. ครูเขยี นประโยคตอ่ ไปนบ้ี นกระดาน นักเรยี นอา่ นขอ้ ความทั้ง 6 ข้อพร้อมกนั หลังจากน้ันทกุ คนขีดเสน้ ใต้คำสำคญั แลว้ อา่ น
วธิ กี ารทำ scones อีกคร้งั อย่างรวดเร็ว เพอ่ื หาคำตอบ
Are the sentences True or False?
1. You need 55oz of currants to make the scones for 4 people. ____
2. You need about 225 g of self-raising flour. ____
3. A pinch of salt is only enough for one person. ____
4. You should put oil or butter on a baking sheet. ____
5. You should mix together the flour, salt, butter, currants, sugar
and milk to make a soft dough. ____
6. You need to bake for 5 minutes. ____
1 F 2T 3F 4 T 5T 6F
5. หนงั สือเรียน หน้า 103 Ex. 3 นักเรยี นทำงานคู่ แลว้ ช่วยกันเลือกขนมหวานไทยทีน่ ักเรียนรจู้ ักหรอื ชนื่ ชอบเพือ่ นำมาเขยี น
สตู รวธิ ีการทำขนมหวานชนิดนน้ั ครูมอบหมายงานนีใ้ หน้ กั เรียนทำนอกเวลาเรยี น เพือ่ ใหน้ กั เรียนสามารถคน้ หาข้อมลู ของ
ขนมหวานไทยบนอนิ เทอรเ์ น็ตได้ โดยครใู หค้ ำสำคญั ในการค้นวา่ Thai desserts recipes เม่ือนกั เรยี นทำเสร็จ ครอู าจให้
นักเรยี นจดั นทิ รรศการเล็ก ๆ เพ่ือนำเสนอผลงาน
หนา้ 112
Bua Loi Phuak (Taro Balls in Coconut Cream)
Ingredients
Serves: 4-6
o 1 cup cooked taro root, mashed
o cups glutinous-rice flour
o 1 cup cornstarch
o cups coconut milk
o 1 cup palm sugar (can use cane or beet sugar)
o 1/8 teaspoon salt
o 6 -8 teaspoons water
Method:
1. Put the rice flour and cornstarch in a bowl.
2. Add the mashed taro and knead. Add water as needed to create a soft dough.
3. Knead well.
4. Roll into little balls and set aside.
5. Dissolve the palm sugar and salt in the coconut milk over low heat, stirring constantly.
6. Bring to a boil and add the taro balls.
7. When they are cooked through, remove from the heat.
8. Serve hot.
ทมี่ า: http://www.food.com/recipe/bua-loi-phuak-taro-balls-in-coconut-cream-33367
Extra activities: ครอู าจแบง่ นกั เรียนเป็นกลมุ่ ให้แตล่ ะกลมุ่ อดั คลปิ วิดโี อสาธติ วธิ กี ารทำขนมหวานทน่ี กั เรียนไปหาสตู รมา
โดยครอู ธบิ ายว่า ใหน้ กั เรยี นจดั ทำเป็นรายการสอนการทำอาหาร ครแู นะนำให้นักเรียนอดั วดิ โี อดว้ ยโทรศัพทม์ ือถอื ของ
ตนเองหรอื ผู้ปกครองกไ็ ด้
Advanced classes: ครูแนะนำใหน้ ักเรยี นฝกึ อา่ นและเขยี นเกย่ี วกับวิธีการทำอาหารเพมิ่ เตมิ ไดท้ ี่เวบ็ ไซตต์ อ่ ไปน้ี
http://learnenglishteens.britishcouncil.org/skills/writing-skills-practice/recipe
ขน้ั สรปุ
ครถู ามนกั เรยี นวา่ โครงสรา้ งภาษาท่มี กั ใชใ้ นการเขียนวธิ กี ารทำอาหารคืออะไร เมือ่ ได้คำตอบว่า The imperatives แล้ว
ครูใหน้ ักเรยี นชว่ ยกันบอกโครงสรา้ งของประโยคคำส่ัง และชว่ ยกันแต่งประโยคเกยี่ วกบั การทำอาหารคนละ 1 ประโยค
หน้า 113
7. การวดั และประเมินผล
วิธีการวัด เคร่ืองมอื เกณฑ์การผ่าน
รอ้ ยละ 60
ตอบคำถามจากการอา่ น (ต 1.1 ม. 4-6/4) หนงั สือเรียน หนา้ 51 ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
Exs. 3a-3b ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ประเมินการเขียน email เก่ยี วกบั วิธีการทำอาหาร (ต แบบประเมนิ เขยี น ระดับคณุ ภาพ พอใช้
1.1 ม. 4-6/1, ต 1.2 ม. 4-6/2, ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ต 4.1 ม. 4-6/1)
ประเมินโปสเตอร/์ สมุดรวบรวมสำนวน แบบประเมินชน้ิ งาน
สุภาษิต (ต 1.3 ม. 4-6/1, ต 2.1 ม. 4-6/2,
ต 2.2 ม. 4-6/1)
เขียนนำเสนอวิธีการทำขนมไทย ประเมินการเขียน
(ต 1.1 ม. 4-6/1, ต 1.2 ม. 4-6/2,
ต 4.1 ม. 4-6/1, ต 4.2 ม. 4-6/2)
สงั เกตพฤตกิ รรมบง่ ชด้ี ้านใฝเ่ รียนรู้และมงุ่ ม่ันในการ แบบประเมินคุณลกั ษณะอันพงึ
ทำงาน ประสงค์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 หนังสอื เรยี น Upload 4 ม. 4
8.2 แบบฝกึ หดั Upload 4 ม. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชุด Upload 4 ม. 4
8.4 คลปิ วิดีโอจากอินเทอรเ์ นต็
หนา้ 114
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 Long ago
เวลา 1 ชัว่ โมง
จดุ ประสงค์ (Objectives)
- ตอบคำถามจากการอ่านได้
- พูดเลา่ เก่ยี วกบั ทีม่ าของวนั ขอบคณุ พระเจ้าได้
- พูดสนุ ทรพจนไ์ ด้
1. มาตรฐานการเรยี นรู้และตัวชี้วดั
มาตรฐาน ต 1.1: ต 1.1 ม. 4-6/2, ต 1.1 ม. 4-6/4
มาตรฐาน ต 1.3: ต 1.3 ม. 4-6/1
มาตรฐาน ต 2.1: ต 2.1 ม. 4-6/2, ต 2.1 ม. 4-6/3
มาตรฐาน ต 4.1: ต 4.1 ม. 4-6/1
2. สาระสำคญั /ความคดิ รวบยอด
การรู้และเข้าใจคำศัพท์ โครงสร้าง past simple ชว่ ยใหเ้ ข้าใจเรอ่ื งทอี่ า่ น และพดู ส่อื สารเกย่ี วกับ
วันขอบคุณพระเจา้ และพูดสนุ ทรพจนไ์ ด้
3. สาระการเรยี นรู้
3.1 ทักษะเฉพาะวิชา
1) Language Features and Functions
Vocabulary: past activities (sailed, arrived, started a new town, helped them to grow
crops, celebrated with a feast)
Pronunciation: past simple endings /t/, /d/, /Id/
Grammar: past simple
Functions: making a speech
2) Language Skills
Speaking: พดู สุนทรพจน์
Reading: อา่ นเพอื่ ความเข้าใจ
Writing: เขยี นสนุ ทรพจน์
3) Culture: ที่มาของวันขอบคณุ พระเจา้
4. สมรรถนะสำคัญของผูเ้ รยี น 4.2 ความสามารถในการคดิ
4.1 ความสามารถในการสอ่ื สาร
4.3 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
หน้า 115
5. คุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ 5.2 มุ่งมน่ั ในการทำงาน
5.1 ใฝ่เรียนรู้
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ขั้นนำ
1. ครูทบทวนเรื่อง past simple จากการทำกิจกรรม verbs board race โดยครแู บ่งนักเรยี นทัง้ ช้ันออกเปน็ 2 กลุ่ม และครู
ต้องแนใ่ จว่า นกั เรียนทัง้ ช้ันได้ปดิ หนงั สอื เรียนขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม ครูเรยี กนกั เรียน 1 คนในแตล่ ะกลมุ่ ออกมาแข่งกันเขียน
คำกรยิ ารปู อดีตตามคำกริยารปู ปจั จุบันที่ครูบอกบนกระดาน นักเรยี นคนแรกทเ่ี ขียนสะกดคำกรยิ ารปู อดตี ได้ถูกตอ้ ง กลมุ่
ของนกั เรียนคนนน้ั จะไดร้ ับ 1 คะแนน จากนน้ั ใหแ้ ต่ละทีมสง่ ตัวแทนคนใหม่ออกมาแข่งขันอกี ครง้ั ตัวอยา่ งคำกรยิ า เชน่
buy, think, live, go, drink, listen, read, write, eat, get, leave, can
2. ครเู ขยี นคำวา่ Thanksgiving บนกระดาน จากนน้ั นกั เรียนช่วยกนั บอกความรเู้ ดมิ ของตนเองวา่
รอู้ ะไรเกี่ยวกับวนั ขอบคณุ พระเจ้าบา้ ง เชน่ Thanksgiving หรือวนั ขอบคุณพระเจ้า เปน็ วนั ทค่ี นอเมรกิ นั รำลกึ ขอบคณุ พระผู้
เปน็ เจา้ ทช่ี ว่ ยใหผ้ ูอ้ พยพมาต้ังรกรากในอเมรกิ าชุดแรกรอดชีวติ มาได้ เมือ่ เกอื บสร่ี ้อยปีมาแล้ว โดยจะฉลองกนั ในวนั พฤหสั บดี
ท่สี ี่ของเดือนพฤศจกิ ายนของทุกปี โดยจะมีการอบไก่งวง
สว่ นของหวานก็มกั จะไดแ้ ก่ พายฟกั ทองหรือพายแอปเปิล
ข้นั สอน
1. หนงั สอื เรยี น หน้า 52 Ex. 1 นักเรยี นดูภาพท่ีให้มา และอ่านออกเสยี งคำศพั ทท์ ีละคำโดยครตู รวจสอบความถกู ต้อง จากนน้ั
นกั เรียนตง้ั ใจฟัง CD และออกเสียงคำศัพท์ตาม โดยครูเน้นใหน้ กั เรยี นออกเสียงท้ายคำกรยิ าท่ีเตมิ ed ใหถ้ ูกต้อง เช่น
arrived /əˈraIvd/
sailed /seIld/
started /ˈsta:tId/
helped /helpt/
celebrated /ˈselIbreItId/
นักเรียนดภู าพประกอบอีกครัง้ และช่วยกันบอกความหมายของวลี 1-5
2. นกั เรียนช่วยกนั ทบทวนหลักการเติม -ed หลงั คำกริยาสัน้ ๆ โดยครอู าจช่วยยกตัวอย่างคำศพั ท์และใหน้ กั เรียนบอกกฎ
จากนนั้ ครบู อกนกั เรยี นวา่ คำกรยิ ารูปอดตี เหลา่ นเี้ มื่อเติม -ed แล้วเสียงทา้ ยคำจะออกเสียงเปน็ เสยี ง /Id/, /t/ หรอื /d/ ครู
ถามนักเรยี นว่า รู้หรอื ไมว่ า่ เมอ่ื ไรจึงจะออกเสียงทา้ ยคำเป็นเสยี ง /Id/, /t/ หรือ /d/ ครอู าจยกตัวอยา่ งคำศพั ท์และให้
นกั เรยี นช่วยกันบอก เช่น
/id/ เช่น started, celebrated, wanted, lasted, needed, ended
/t/ เชน่ helped, talked, kissed, laughed, washed, watched
ครรู วบรวมคำตอบจากนักเรยี น และสรปุ ให้นกั เรียนวา่ ฟังว่า
- คำกริยาทล่ี งท้ายดว้ ยเสยี ง /t/ และ /d/ เมื่อเตมิ -ed จะออกเสียงท้ายคำเปน็ เสียง /Id/
- คำกริยาที่ลงท้ายดว้ ยเสยี ง /p/, /k/, /s/, /f/, /ʃ/ และ /tʃ/ เมือ่ เตมิ -ed จะออกเสยี งท้ายคำเปน็ เสยี ง /t/
- คำกริยาท่ีลงทา้ ยดว้ ยเสียงอนื่ นอกเหนอื จากท่กี ลา่ วมา เมือ่ เตมิ -ed จะออกเสียงท้ายคำเปน็ เสยี ง /d/ เชน่
arrived, sailed, decided, died, named, called
หน้า 116
3. ครูให้นกั เรยี นดูภาพที่ 5 ในหนังสอื เรียน หน้า 52 แล้วถามนกั เรียนวา่ What does American people usually eat for
Thanksgiving? ครูรวบรวมคำตอบจากนกั เรยี นหลาย ๆ คน และอธบิ ายเพ่มิ เตมิ
วนั ขอบคณุ พระเจา้ (Thanksgiving Day)
วันขอบคณุ พระเจา้ กลายเป็นวันหยดุ ราชการของประเทศสหรัฐอเมรกิ าในปี พ.ศ. 2406 เม่ือประธานาธบิ ดี
เอบราแฮม ลิงคอลน์ ประกาศใหว้ นั พฤหสั สดุ ท้ายของเดือนพฤศจกิ ายนเป็นวันฉลองเทศกาลขอบคณุ พระ
เจ้าของประเทศ หลงั จากนัน้ ประธานาธบิ ดี แฟรงคลิน รสู ตเ์ วลทไ์ ดป้ ระกาศเพม่ิ วา่ วนั ขอบคุณพระเจา้ คือ
วันพฤหัสท่สี ี่ของเดือนพฤศจิกายน เพื่อกระตนุ้ ใหป้ ระชาชนออกมาจบั จ่ายซ้อื ของสำหรับเทศกาลวนั หยุด
ครสิ ตม์ าสและปีใหม่ (ในประเทศแคนาดาจะเฉลมิ ฉลองทกุ วนั จันทรท์ ่ี 2 ของเดือนตุลาคม) คนอเมรกิ ัน
โดยทั่วไปจะนิยมกลับบา้ นในชว่ งน้ี เพ่ือใชเ้ วลากับครอบครวั พวกเขาจะรับประทานอาหารมือ้ ใหญ่ ซึง่
มกั จะประกอบไปด้วย ไก่งวง (turkey), มันเทศ (sweet potatoes or yams), แครนเบอรี (cranberries)
ซึ่งจะนำมาทำเปน็ jelly หรอื sauce สว่ นอาหารหวานมักจะนำฟักทอง ถ่วั พีแคน (pecan) มาทำเป็นพาย
(pie)
ในทางธุรกจิ วนั ขอบคุณพระเจา้ ไดก้ ลายเปน็ วนั เรม่ิ ตน้ ของเทศกาลคริสต์มาส ชาวอเมรกิ ันจำนวนมากจะคอยดู
ขบวนพาเหรดประจำปขี องห้างเมซสี ์ในเมอื งนวิ ยอรก์ (New York City Macy’s Thanksgiving Day Parade)
ซานตาคลอสจะปรากฏตวั ตอนทา้ ยขบวนพาเหรด เปน็ การบอกว่าเทศกาลครสิ ตม์ าสเร่มิ ข้ึนแลว้ ประชาชนจะ
เร่มิ ไปซอื้ ของขวัญครสิ ตม์ าสให้ญาติสนทิ มิตรสหายจนห้างร้านต่าง ๆ แน่นขนดั
นริ โทษกรรมไก่งวง (The Turkey Pardon)
ทกุ ๆ ปีจะมีธรรมเนียมปฏิบตั ิอีกอย่างหน่ึงสำหรับเทศกาลขอบคณุ พระเจ้า คอื ประธานาธบิ ดขี อง
สหรฐั อเมริกาจะไดร้ บั ของขวัญเปน็ ไกง่ วงทีย่ งั มชี ีวติ อยู่ รวมทัง้ ไก่งวงสำรองอกี 1 ตัว (the National
Thanksgiving Turkey and the alternate turkeys) ในกรณที ี่อาจเกิดอะไรขน้ึ กับไก่งวงตวั แรก
ประธานาธิบดจี ะทำพิธี Pardoning (pardon = นริ โทษกรรม) ไก่งวงทไ่ี ด้รบั มา ไม่ให้ตกเปน็ อาหารคำ่ ม้อื พเิ ศษ
ในเทศกาลน้ีทีท่ ำเนียบขาว
กระทรวงเกษตรของสหรฐั ฯ ประมาณการณ์ว่า ในการฉลองเทศกาล Thanksgiving ของชาวอเมรกิ นั ในแต่ละปี
ไก่งวงถกู นำมาทำอาหารราว 45 ล้านตวั
ทม่ี าของวนั ขอบคณุ พระเจา้ (History)
ชวี ติ นกั บกุ เบกิ ของพวกพลิ กรมิ ส์ หรอื ชาวยุโรปทอ่ี พยพมาตงั้ รกรากอยู่ในโลกใหม่ ตอ้ งเผชิญกับความ
ยากลำบากหลายประการ ฤดูหนาวอนั ทารณุ มักทำให้เกดิ ความอดอยากจนทำให้พวกเขาลม้ ตายเป็นใบไมร้ ว่ ง
มหี ลายกลุ่มท่ีจำนวนคนลดลงจากหลายรอ้ ยเหลือเพียงไมก่ ส่ี ิบคน บางคร้งั ถึงกบั ทำให้พวกเขาต้องละทิง้ อาณา
นิคมของตนไปกอ่ นเรอื ขนเสบียงอาหารจากองั กฤษจะเดนิ ทางมาถงึ
ในปี พ.ศ.2164 ชนพนื้ เมืองอเมรกิ นั เผา่ วอมอาโน้ก (Wampanoag) ช่วยเหลือพวกพิลกริมสใ์ นอาณานคิ ม
พลีมัธ (Plymouth Colony) ซ่ึงปจั จบุ นั เปน็ เมือง ๆ หนง่ึ ในรฐั แมสซาชูเสตต์ (Massachusetts) ดว้ ยการ
สอนเคลด็ ลบั การเอาชีวติ รอด และสอนให้ปลกู พืชท่ีสามารถเอามาทำอาหารไดห้ ลายอย่าง เช่น ขา้ วโพด เปน็
หน้า 117
ตน้ พวกพลิ กริมส์รสู้ กึ ขอบคุณทีพ่ วกเขาสามารถมีชวี ติ รอดมาไดต้ ลอดปีและการทำเกษตรกรรมไดผ้ ลดี
สามารถเกบ็ เก่ยี วพชื พรรณได้มากพอท่จี ะมีอาหารสำรองไปไดต้ ลอดฤดหู นาว
พวกเขาจึงเชิญหัวหน้าเผ่าวอมอาโน้ก ช่ือมาสซาโซอติ มาร่วมงานเลีย้ งใหญส่ ามวันสามคนื ที่จดั ข้ึนโดยชาวพลิ ก
รมิ ส์หา้ สิบคนทร่ี อดชวี ิตมาได้ ทา่ นหวั หนา้ เผ่าพาสมาชกิ เผา่ มาร่วมงานเก้าสิบคนและเอาข้าวโพดคั่วมาเสริมใน
งานดว้ ย การเฉลิมฉลองนี้ประกอบดว้ ยการแขง่ กีฬาหลายอย่าง และอาหารมากมายเช่นไกง่ วงปา่ เปด็ ห่าน
กวาง กงุ้ ลอบสเตอร์ หอยกาบ ปลากะพง ขา้ วโพด ผัก และผลไม้แหง้
ทมี่ า: http://bangkok.usembassy.gov/thanksgiving.html
http://www.oxfordlearnersdictionaries.com/definition/english/thanksgiving
http://kids.nationalgeographic.com/explore/history/thanksgiving-traditions
http://www.voathai.com/content/obama-turkey-pardon-pa-134437008/925167.html
4. ครนู ำเสนอสำนวนภาษาเกยี่ วกับไก่งวง (turkey) ดว้ ยการบอกตวั อย่างประโยคหรอื คำจำกัดความ และให้นกั เรยี นชว่ ยกัน
บอกความหมายในภาษาไทย
Talk turkey (idm) = to discuss something honestly and directly
ตัวอย่าง OK, let’s talk turkey – you’re broke and you don’t have work. What are you going to
do? (คุยอย่างเปดิ อก พดู คยุ อยา่ งจรงิ จงั )
Cold turkey (idm) = the unpleasant state that drug addicts experience when they suddenly stop taking
a drug; a way of treating drug addicts that makes them experience this state (หกั ดิบ)
ตัวอย่าง Six years ago she went cold turkey on (= stopped completely) a three-pack-a-day
smoking habit.
5. หนังสอื เรียน หนา้ 52 Ex. 2a นกั เรยี นอา่ นประโยคคำสั่งทใี่ หม้ า จากนัน้ ดภู าพและแผนที่
แล้วช่วยกนั เล่าเรือ่ งราวเกย่ี วกบั การเฉลมิ ฉลองวันขอบคณุ พระเจ้า ครรู วบรวมคำตอบจากนักเรียนหลาย ๆ คน เสร็จแลว้ ครู
เปดิ CD ให้นกั เรยี นฟงั และอา่ นเนอ้ื เรือ่ งท่ใี ห้มาเพอื่ ตรวจคำตอบ
The Pilgrims sailed from England to America in 1620. They arrived in America 66 days
later. They started a new town. The natives helped them grow crops. They celebrated
the harvest with the natives with a feast. There was turkey, boiled pumpkin, fish and
corn.
6. หนังสอื เรียน หน้า 52 กรอบ Check these words นักเรียนอา่ นคำศพั ท์ท่ใี ห้มาในกรอบ และช่วยกันบอกความหมายของ
คำศัพท์จากบริบทท่ีใหม้ าในเนอ้ื เรอ่ื ง คำใดท่ีนกั เรียนไมส่ ามารถเดาความหมายจากบริบทได้ ครชู ว่ ยเหลอื ดว้ ยการพดู บอก
ความหมายภาษาอังกฤษ เชน่ A crewman is a person who works on a ship. หรือให้นกั เรยี นเปดิ พจนานุกรม เปน็ ตน้
หนา้ 118
trip (n) journey
last (v) continue for a length of time
dear (adj) used as a term of affection and as a form of address in letters
arrive in (v) reach (a place)
journey (n) when someone travels from one place to another
passenger (n) person who uses a form of transport
crewman (n) a person who works on a ship
die (v) to stop living
was born (v) come into the world
voyage (n) a journey by sea
name (v) give someone a name
native (n) a person who was born in a place
grow crops (phr) plant and look after plants that we eat
harvest (n) the time when people cut the plants when they are ripe
celebrate together (phr) have fun with other people
feast (n) a large meal with lots of food
wild duck (n) a type of bird with webbed feet which is smaller than a goose
7. หนังสือเรยี น หน้า 53 Ex. 2b นักเรยี นอา่ นข้อความและตวั เลอื กทก่ี ำหนดให้ แลว้ จงึ กลบั ไปอา่ นเน้อื เรอ่ื งอกี ครงั้ โดยหาวา่
เนือ้ หาท่ีข้อความแตล่ ะข้ออ้างอิงถึงนน้ั อยู่ตรงส่วนใดของเนื้อเรือ่ ง ข้อมลู ดงั กลา่ วอาจจะไม่ไดเ้ รยี บเรยี งโดยใชถ้ อ้ ยคำเดียวกัน
1 A 2 A 3 B 4A
8. นักเรยี นดภู าพแผนท่ใี นหนังสอื เรยี น หนา้ 52 และตอบคำถามครตู อ่ ไปน้ี
Who were the Pilgrims? (English people who sailed to America in 1620.)
What was the name of the ship the Pilgrims took to reach America? (The Mayflower)
Who was the captain of the Mayflower? (Christopher Jones)
Which ocean did the pilgrims cross? (Atlantic)
In which month is Thanksgiving celebrated in the United States? (November)
How long was the Pilgrims journey to new land? (66 days)
The pilgrims landed in America in the beginning of winter. Why was this a challenge for them?
(Finding food was a challenge.)
หนา้ 119
The Mayflower เป็นชอ่ื เรอื ทีน่ ำชาวพลิ กริมสเ์ ดนิ ทางจากประเทศอังกฤษไปยังสหรัฐอเมริกาและเรมิ่ ตน้
ชีวติ ใหม่ในปี ค.ศ. 1620 การเดินทางใช้ระยะเวลา 2 เดอื นและเต็มไปดว้ ยอปุ สรรค เรือ Mayflower เดมิ
เป็นเรอื ขนสง่ สินค้าและมี Christopher Jones เป็นกปั ตันเรือ
Christopher Jones เกดิ ปี ค.ศ. 1570 และเสยี ชวี ติ ในปี ค.ศ. 1622 เกดิ ณ เมืองฮารว์ ิช (Harwich)
ประเทศองั กฤษ เป็นกัปตันเรือ Mayflower ตง้ั แตป่ ี ค.ศ. 1609 – 1622 ในปี ค.ศ. 1620 เขานำเรือ
Mayflower เดินทางจากประเทศองั กฤษสอู่ เมรกิ าและเสียชวี ิตลงสองปหี ลงั จากนนั้ ชาวพลิ กริมสต์ ั้งช่อื
แมน่ ำ้ โจนส์ (The Jones River) ในมลรฐั แมสสาชเู ซ็ตตามชื่อของเขา
Plymouth เปน็ ชือ่ เมอื งทมี่ ีอยู่ทั้งในอังกฤษและสหรฐั อเมรกิ า เมอื ง Plymouth ในประเทศอังกฤษอยู่
ในเดวอน (Devon) หา่ งจากกรุงลอนดอนไปทางตะวนั ตกเฉียงใต้ 190 ไมล์ เป็นเมืองโบราณยอ้ นกลบั
ไปถงึ ยุคสมั ฤทธ์ิ (the Bronze Age) ส่วนเมือง Plymouth ในสหรัฐอเมรกิ านน้ั เปน็ เมอื งใหม่ทต่ี ้ังชือ่ ให้
เหมอื นเมอื งในประเทศอังกฤษ เมอ่ื ชาวพิลกริมสเ์ ดินทางมาถึง ณ เมอื งนี้ เป็นหน่ึงในเมืองทีเ่ ก่าแก่ทสี่ ดุ
ท่ีชาวอังกฤษมาตงั้ รกรากอยใู่ นประเทศสหรฐั อเมรกิ า Plymouth Rock คือจดุ ทีช่ าวพิลกรมิ ส์นำเรือ
Mayflower เทยี บฝ่งั และกลายเปน็ แหลง่ ท่องเทยี่ วทส่ี ำคญั ในปจั จบุ นั
Native Americans หมายถงึ คนกล่มุ แรกท่เี ดนิ มาอาศยั อย่ใู นอเมริกาเหนือ มหี ลากหลายกลมุ่ ซงึ่
เรียกว่า เผ่า และพวกเขาสญู เสยี ดนิ แดนสว่ นใหญใ่ หแ้ ก่ชาวอเมริกนั แต่ยังคงรกั ษาภาษาและวัฒนธรรม
การดำรงชพี ไว้ ในปัจจุบันมีประชากรเพียง 1% เทา่ นนั้ ท่เี ป็นชนพืน้ เมืองอเมริกนั
9. หนังสอื เรยี น หนา้ 53 Ex. 3a ให้นักเรียนอา่ นกฎการใชป้ ระโยคบอกเล่าของ Past simple ในกรอบทใ่ี ห้มา และช่วยกนั
สรปุ และบอกโครงสรา้ งประโยค ครอู ธบิ ายเพิ่มเติมว่า Past simple ใชเ้ พื่อเลา่ ถึงเหตุการณ์และกิจกรรมต่าง ๆ ท่เี กิดข้นึ ใน
อดีต โดยมีโครงสร้างคอื Subject + past form verb จากนน้ั ครพู ูดกริยาในรปู base form และให้นักเรยี นชว่ ยกันบอก
คำกริยาในรูป past form เช่น play – played, live – lived, study – studied, …etc. จากนน้ั ครใู หน้ ักเรียนกลับไปทเ่ี น้ือ
เรือ่ งใน Ex. 2 แลว้ ชว่ ยกนั หาคำกรยิ าช่องท่ี 2 ครูเขียนคำกริยาชอ่ ง 2 เหล่านนั้ บนกระดาน
started, decided, sailed, called, lasted, arrived, died, named, helped, celebrated
10. หนงั สือเรยี น หนา้ 53 Ex. 3b ให้เวลานกั เรียนสน้ั ๆ เปลย่ี นคำกรยิ าในวงเล็บใหอ้ ยใู่ นรูป past formหรอื past simple
form เสร็จแล้วครรู วบรวมคำตอบจากนกั เรยี น เพ่ือเฉลยคำตอบพรอ้ มกัน
1 arrived 5 survived 8 showed
2 wanted 6 entered 9 thanked
3 tried 7 welcomed 10 celebrated
4 stayed
หน้า 120
11. หนังสอื เรยี น หนา้ 53 Ex. 4a นักเรยี นอ่านคำศพั ทท์ ีใ่ หม้ าในตารางและเขียนคำศัพท์ในรูปอดีตลงในช่องข้าง ๆ แลว้ ให้
นกั เรยี นระบุเสียงทา้ ยของคำกริยารูปอดีตว่าเป็นเสียง /t/, /d/, /Id/ หลังจากนั้นครูเปดิ CD ให้นักเรยี นฟัง 1-2 ครัง้ เพอ่ื
ตรวจและแก้ไขคำตอบให้ถูกตอ้ ง หลงั จากนัน้ ครรู วบรวมคำตอบจากนกั เรียนหลาย ๆ คน และเฉลยคำตอบบนกระดาน
ตอ่ มาครเู ปดิ CD อีก 1-2 ครัง้ ให้นกั เรยี นฟังและอา่ นออกเสยี งคำศพั ท์ตาม CD
/t/ /d/ /Id/
12. หนงั สอื เรยี น หนา้ 53 Ex. 4b นักเรียนเลอื กคำกรยิ าจำนวน 4 คำ จากตารางใน Ex. 4a แลว้ แตง่ ประโยคเกยี่ วกับตวั เอง
หรอื เพอื่ น เมือ่ แตง่ ประโยคเสรจ็ ครสู ่มุ เรียกนักเรียนหลาย ๆ คน อา่ นประโยคของตนเอง ครูสังเกตวา่ นกั เรยี นออกเสียง -ed
ท้ายคำกรยิ ารูปอดตี ถูกต้องหรอื ไม่
We liked our trip to the zoo.
Yesterday, we arrived late to school.
We visited a museum last week.
I stopped at the park on the way home from school yesterday.
We walked to the theatre last Sunday.
13. หนังสอื เรยี น หนา้ 53 Ex. 5a นกั เรยี นทำงานคู่ ช่วยกนั เรยี บเรยี งข้อมูลทม่ี าของวันขอบคณุ พระเจา้ หรอื Thanksgiving
โดยใช้ข้อมลู จากภาพและเน้ือหาทใ่ี ห้มาในหนา้ 53 ครใู ห้เวลานักเรยี นเตรียมข้อมลู เสรจ็ แล้วสุ่มเรียกนกั เรียนหลาย ๆ คู่
ออกมาเล่าท่มี าของวนั ขอบคณุ พระเจา้ ใหเ้ พอื่ นฟัง
The Pilgrims sailed from England on the Mayflower in 1620. They arrived in America and
started a new town, Plymouth. The natives helped them to grow crops. They celebrated
their first harvest with a big feast with turkey, wild ducks, fish, bread from corn and
boiled pumpkin.
14. หนงั สือเรยี น หน้า 53 Ex. 5b สมมติว่านกั เรียนเปน็ หนงึ่ ในชาวพิลกรมิ ส์ ซ่ึงจะตอ้ งกล่าวสนุ ทรพจน์ในงานเลี้ยงฉลองเพอื่
ขอบคุณชนพนื้ เมืองอเมริกัน และในสนุ ทรพจนข์ องนกั เรียนต้องใช้คำกรยิ าทีใ่ หม้ า ได้แก่ arrive, (journey) be, die,
(winter) be, help (us grow), celebrate, thank ครแู นะนำนกั เรียนวา่ ควรข้ึนต้นสนุ ทรพจนด์ ้วยคำวา่ Dear เมอ่ื เขียน
สนุ ทรพจนเ์ สร็จแล้ว
ครสู มุ่ เรียกนักเรียนหลาย ๆ คน พูดสนุ ทรพจน์ของตนเองใหเ้ พือ่ นฟงั ครูแนะนำวา่ นักเรียนไม่ควรอา่ น แต่ควรจดโนต้ สนั้ ๆ
สงิ่ ทจ่ี ะพดู ใสก่ ระดาษแผน่ เลก็ ๆ แลว้ ชำเลืองดูโนต้ เหลา่ น้ใี นขณะทพ่ี ดู ได้
หน้า 121
Dear friends,
We arrived here a year ago. The journey was very difficult and some people died.
The winter was very hard but you helped us grow crops and we had a good harvest.
We thank you for all your help and we are happy we can celebrate this feast with you.
Thank you.
Advanced classes: ครูแนะนำใหน้ ักเรียนไปเปดิ ดคู ลปิ วดิ ีโอเกี่ยวกับวันขอบคณุ พระเจา้ ดว้ ยตนเองในหอ้ งคอมพวิ เตอร์
หรอื ทบ่ี ้าน โดยเข้าไปท่ี www.youtube.com และพมิ พ์ชื่อคลิป The First Thanksgiving | Single Story | Level 7 | By
Little Fox หรอื เข้าไปที่ https://www.youtube.com/watch?v=Yh_0t4EcsjE&t=25s
15. หนังสือเรียน หน้า 109 หัวข้อ O-NET Practice Exs. 1-2 ให้เวลานักเรียนฝึกทำข้อสอบแบบเติมคำในช่องว่าง โดย
นักเรียนอ่านเนื้อเรื่องอย่างรวดเร็วเพื่อจับใจความสำคัญ แล้วอ่านเน้ือเรื่องอีกครั้งอย่างละเอียด โดยเน้นที่คำศัพท์ก่อนและ
หลงั ชอ่ งว่างทจ่ี ะให้เตมิ คำ จากนน้ั อา่ นตวั เลือกทก่ี ำหนด แลว้ เลือกคำตอบท่ีคิดวา่ เหมาะสมที่สดุ
เสร็จแล้วอ่านเนื้อเรื่องที่เติมคำสมบูรณ์แล้วอีกครั้ง เพื่อให้แน่ใจว่าคำที่เติมลงไปในช่องว่างมีความสมเหตุสมผล ครูย้ำกับ
นักเรียนว่าเราไม่จำเป็นต้องรู้คำศัพท์ทุกคำในบทอ่าน เมื่อหมดเวลาที่กำหนด ครูรวบรวมคำตอบจากนักเรียนและเฉลย
คำตอบพร้อมกนั
Ex. 1
1 C (whole text)
2 A (Gerald Crabtree, humans … living in towns and cities …didn’t need
to be clever in order to survive)
3 B (Before that, humans were hunter-gatherers. … A man who made a mistake
… – the wild animal – caught him and ate him.)
4 C (only intelligent people survived … make mistakes and nothing bad happens.
Just look at the Wall Street bankers who made very big mistakes … .
Today they are still very rich …)
5 D (Gerald Crabtree thinks that we reached our intellectual peak between 2,000
and 6,000 years ago.)
6 C (he hopes that he is wrong and that society, through education, distributes intelligence to
everybody. Maybe in this way intelligence is increasing.)
Ex. 2
1 B ประโยคนีห้ มายความว่า “เด็กผ้ชู ายจบั มอื ของพ่อของเขาแนน่ ____ อกี ด้านหนึ่งของถนน” ซ่ึง
tense ท่ใี ชใ้ นประโยคคือ past simple โดยสังเกตจากคำวา่ held ดังนนั้ ขอ้ A และ C จงึ ผิด
และเม่ือพิจารณาจากความหมายแลว้
หนา้ 122
ขอ้ B ถกู ต้องทสี่ ุด เพราะหมายความวา่ “จนกระทั่งพวกเขาเดินไปถงึ ” ในขณะที่ข้อ D ความหมาย
ไมถ่ กู ต้อง
2 Bขอ้ นว้ี ดั การใช้คำบอกปรมิ าณ (qualifier) โดยประโยคมีความหมายว่า “คนจำนวนมากใช้_____ของชวี ติ
ของพวกเขาเพยี งลำพัง” ซง่ึ คำบอกปรมิ าณที่ต้องใชน้ ้ันจะใช้เพ่อื ขยายความหมายของคำว่า “ชีวิต
ของพวกเขา” (their lives)
ถา้ พิจารณาจากคำอยา่ งเดยี ว จะพบว่า คำว่า lives เปน็ คำนามนบั ได้ จงึ อาจจะตอบ A (many), C
(few) หรือ D (several) ได้ แตเ่ นอ่ื งจากชวี ติ ของพวกเขาในทนี่ ้ี ไม่ไดก้ ลา่ วถงึ ชวี ติ แต่ละชวี ติ แต่เป็น
การกล่าวถงึ ชว่ งเวลาในชีวติ (ของคนหลายคน) จงึ ควรใช้คำว่า much เพ่ือเป็นการบอกปริมาณของ
ช่วงเวลา โดยมีความหมายวา่ “คนจำนวนมากใช้เวลาส่วนใหญข่ องชวี ิตของพวกเขาเพยี งลำพัง”
ขัน้ สรุป
1. นกั เรยี นสรปุ ความรู้เกี่ยวกบั วันขอบคณุ พระเจา้ จากนน้ั ครูถามนกั เรยี นวา่ ในประเทศไทยมเี ทศกาลอะไรที่เก่ยี วข้องกับการ
ขอบคณุ พระเจ้าหรือขอบคณุ เร่ืองอน่ื ๆ กไ็ ด้ ครรู วบรวมคำตอบจากนกั เรยี น เชน่ วันลอยกระทง ขอบคุณพระแม่คงคา
2. ครูถามนกั เรียนว่า ในการพดู เกีย่ วกับเหตุการณ์ท่เี กดิ ขึ้นในอดีตและส้ินสุดไปแล้วในภาษาอังกฤษ จะใช้ tense ใด และมี
โครงสร้างประโยคอยา่ งไร จากน้ันให้นักเรยี นชว่ ยกนั แต่งประโยคบอกส่งิ ทีน่ กั เรียนไดท้ ำไปเม่ือวานนี้
3. แบบฝึกหดั (Workbook) นักเรยี นทำ Ex. 19 หนา้ 13 แล้วอา่ นทบทวนเรือ่ ง past simple หนา้ 38 และทำ Exs. 15-21
เป็นการบ้าน
4. หนังสือเรยี น หนา้ 54 หวั ข้อ Self-Check นักเรยี นทำแบบประเมนิ ตนเองในห้องเรียนหรือทำ เฉพาะ Ex. 3 ใน
หอ้ งเรียน ส่วนข้ออืน่ ทำเปน็ การบา้ น
1 1 Lemonade 5 carton 9 Peel
2 Grease 6 paper 10 Beat
3 newsagent’s 7 dairy
4 loaves 8 packet
2 1 a lot of 5 little 9 there
2 some 6 any 10 can
3 much 7 Would
4 These 8 on
3 1 tidies 5 live 9 goes
2 is playing 6 are talking 10 sang
3 love 7 walks
4 went 8 stopped
41a 2a 3b 4a 5b
51F 2T 3F 4T
หนา้ 123
7. การวัดและประเมนิ ผล เครอ่ื งมือ เกณฑ์การผ่าน
วธิ กี ารวัด หนังสือเรียน หนา้ 53 Ex. 2b ร้อยละ 60
แบบประเมนิ การพูด ระดบั คณุ ภาพ พอใช้
ตอบคำถามจากการอา่ น (ต 1.1 ม. 4-6/4)
ประเมินการพูดเลา่ เกยี่ วกบั ท่ีมาของวนั ขอบคุณพระเจา้ แบบประเมนิ การพดู ระดับคณุ ภาพ พอใช้
(ต 2.1 ม. 4-6/2, ต 2.1 ม. 4-6/3,
ต 4.1 ม. 4-6/1) แบบประเมนิ คุณลกั ษณะ ระดับคณุ ภาพ พอใช้
ประเมนิ การพดู สุนทรพจน์ (ต 1.3 ม. 4-6/1, อันพึงประสงค์
ต 2.1 ม. 4-6/3, ต 4.1 ม. 4-6/1)
สงั เกตพฤตกิ รรมบ่งชีด้ ้านใฝเ่ รยี นรูแ้ ละมุง่ ม่นั ในการ
ทำงาน
8. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
8.1 หนงั สือเรียน Upload 4 ม. 4
8.2 แบบฝึกหัด Upload 4 ม. 4
8.3 Class Audio CD ประกอบสอ่ื ฯ ชดุ Upload 4 ม. 4
8.4 คลิปวดิ โี อจากอนิ เทอรเ์ นต็
หน้า 124