โครงสร้างหนว่ ยการเรยี นรู้ รายวิชาคณิตศาสตร์ 3 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3 กล่มุ สาระการเรียนรคู้ ณติ ศาสตร์
ตวั ช้ีวัด :
ค 1.1 ป.3/8 หาผลลัพธก์ ารบวก ลบคณู หารระคน ของจำนวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0
ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ หี าคำตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขนั้ ตอนของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
หนว่ ย เวลา
ช่ือหนว่ ยการเรียนรู้ / แผนการจัดการเรียนรู้
ที่ (ช่วั โมง)
การบวก ลบ คูณ หารระคน 13
แผนการจดั การเรียนรูท้ ี่ 1 เรื่อง การเตรยี มความพรอ้ ม 1
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 2 เร่อื ง การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน(1) 1
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 เรอ่ื ง การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน(2) 1
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน(3) 1
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 เรอ่ื ง 1
การพัฒนาความร้สู กึ เชิงจำนวนเก่ยี วกับการบวก ลบ คูณ หารระคน
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 6 เรอื่ ง 1
สถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขนั้ ตอน(1)
13 แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 7 เร่ือง 1
สถานการณก์ ารบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้ันตอน(2)
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 8 เร่อื ง 1
โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน(1)
แผนการจัดการเรยี นรูท้ ่ี 9 เรือ่ ง 1
โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน(2)
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 10 เรอ่ื ง 1
โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขัน้ ตอน(3)
แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี 11 เรอ่ื ง การสร้างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน 1
กจิ กรรมขยะสรา้ งรายได้ 1
แบบทดสอบท้ายบท 1
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 1
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 13101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 3
เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 13 เรอ่ื ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เร่อื ง การเตรยี มความพร้อม
ครผู สู้ อน นางสาวจุฬาลักษณ์ ชูหนขู าว ตำแหน่ง ครูผชู้ ว่ ย
มาตรฐานการเรยี นรู้
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลาย ของการแสดงจำนวนระบบจำนวน การดำเนินการของ
จำนวน ผลที่เกดิ ข้นึ จากการดำเนนิ การ สมบตั ขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้
ตวั ชว้ี ัด : -
ทักษะพืน้ ฐานของนักเรยี น
1.การบวก การลบ การคูณ และการหาร ของจำนวนนับไม่เกนิ 100,000
2.การบวก ลบ คูณ หารระคน ของจำนวนนับไม่เกิน 1,000
3.สถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน ของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000
4.โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน ของจำนวนนับไม่เกนิ 1,000
สาระสำคญั
ผลลัพธ์ การบวก ลบ คูณ หารระคน สถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอน
โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
การบวก ลบ คณู หารระคน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1.การสอ่ื สารและการสอื่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเชอ่ื มโยง
3.คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1.มีวินยั
2.ใฝ่เรยี นรู้
3.มงุ่ มั่นในการทำงาน
ชนิ้ งานหรือภาระงาน
ใบงานท่ี 1 เร่อื ง การเตรียมความพรอ้ ม
กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ครกู ล่าวทักทายนักเรียนจากน้นั ใช้ข้อมูลในหนังสอื เรยี นหน้าเปดิ บทเพอื่ นำเขา้ สู่บทเรียนเก่ยี วกบั
การบวก ลบ คูณ หารระคน โดยใช้คำถาม เชน่
− ภาพหน้าเปดิ บทเปน็ ภาพเก่ียวกบั อะไร (นกั เรียนแยกขยะแล้วนำขยะมาช่งั ขาย)
− แยกขยะเปน็ อะไรบา้ ง (ขวด กระดาษ กระป๋อง โฟม)
− ราคาขยะแต่ละชนิดทพี่ อ่ คา้ รบั ซ้ือเทา่ กนั หรือไม่ (ไมเ่ ทา่ กัน)
− พอ่ ค้ารับซอื้ ขยะแต่ละชนิดเท่าไรบา้ ง (ขวดพลาสติกกิโลกรมั ละ 9 บาท กระป๋องกิโลกรัม
ละ 3 บาท กระดาษกิโลกรมั ละ 7 บาท)
− ถ้าช่ังขยะหลายชนิดขายพร้อมกนั จะหาจำนวนเงินท่ีขายขยะท้ังหมดได้อย่างไร นักเรียน
บางคนอาจตอบคำถามได้ว่า สามารถหาคำตอบได้โดยนำน้ำหนักของขยะแต่ละชนิดคูณกับราคาท่ี
พ่อคา้ รับซอ้ื แล้วนำเงนิ ท่ีไดม้ าบวกกนั ครแู นะนำว่าการหาคำตอบทีละขนั้ ตอนในลักษณะน้ีเป็นการหา
คำตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ซึ่งต้องหาคำตอบทีละข้ันตอนก่อน จากน้ันครูนำเขา้ สู่บทเรียนว่า
ในบทเรียนนี้นักเรียนจะไดเ้ รยี นเกยี่ วกบั การบวก ลบ คูณ หารระคน โจทย์ปัญหาการบวก การลบการ
คูณ และการหาร 2 ข้ันตอน ซ่ึงนักเรียนจะต้องมีความรู้พ้ืนฐานเก่ียวกับการบวก ลบ คูณหารระคน
ของจำนวนนับไม่เกิน 1,000 และการบวก การลบ การคูณ และการหาร ของจำนวนนับไม่เกิน
100,000
2.ครูตรวจสอบความรู้พ้ืนฐานของนักเรียนเร่ืองการบวก ลบ คูณ หารระคน ของจำนวนนับไม่เกิน
1,000 ก่อน โดยให้นักเรียนทำกิจกรรมเตรียมความพร้อมตามหนังสือเรียนหน้า 250 ซ่ึงแบง่ เป็น 2 ตอน ตอน
แรกนักเรียนจะได้ ทบทวนเรื่องการบวก ลบ คูณ หาร ของจำนวนนับไม่เกิน 100 โดยใช้เกม 24 ที่นักเรียน
คุ้นเคยโดยนำจำนวนท้ัง 4 จำนวน ที่ปรากฏอยู่ในบัตรเกม มาบวก ลบ คูณ หรือหารกันให้ได้ผลลัพธ์เท่ากับ
24 ซึ่งในเกมนี้ครูต้องถาม นักเรียนด้วยว่า หาคำตอบได้อย่างไรเพื่อให้นักเรียนในห้องได้คิดตามไปด้วยและ
นักเรียนคนอื่นอาจจะคิดวิธีหาคำตอบได้แตกต่างกัน ครูควรให้นักเรียนได้มีโอกาสในการนำเสนอวิธีคิดที่
แตกต่างกนั นี้ด้วย ตอนท่ี 2 ให้นักเรยี นทกุ คนทบทวนการบวก ลบ คณู หารระคน ของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 1,000
โดยให้หาผลลัพธ์ในใบกิจกรรมเป็นรายบุคคล จากนั้นส่มุ นักเรียนออกมานำเสนอผลลัพธ์หน้าห้องทีละข้อถา้ มี
นักเรียนคนใดทำผิดให้แก้ไขให้ถูกต้อง แล้วให้เพ่ือนที่ทำถูกต้องอธิบายวิธีคิดโดยครูควรเน้นย้ำเร่ืองการหา
ผลลัพธ์ท่ีอยู่ในวงเล็บก่อน ถ้านักเรยี นส่วนใหญ่ในห้องหาผลลัพธไ์ ม่ถกู ตอ้ งครูอาจให้นกั เรยี นทำโจทยก์ ารบวก
ลบ คณู หารระคนเพม่ิ เติมเพ่อื ให้นกั เรยี นได้ทบทวนมากขึน้
3.ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็นรายบุคคลโดยให้นักเรียน ทำใบงานเพ่ิมเติมจากน้ันครูและ
นกั เรียนรว่ มกนั ตรวจสอบความถกู ตอ้ ง ครูควรใหน้ ักเรียนแกไ้ ขใหถ้ กู ต้องและรว่ มกนั สรปุ สง่ิ ท่ไี ด้เรยี นรู้
ส่อื การเรียนรู้
1.หนงั สอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.3
2.ใบงานที่ 1 เรอ่ื ง การเตรยี มความพร้อม
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วธิ วี ดั เครื่องมือวดั เกณฑ์การประเมนิ
ใบงาน 50% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
1.ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน การประเมิน
แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
2.ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤตกิ รรมดา้ น ดา้ นทกั ษะ คณุ ภาพดขี ้นึ ไป
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ กระบวนการ
แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
3.ดา้ นคุณลักษณะทพ่ี ึง สังเกตพฤติกรรมดา้ น ด้านคณุ ลกั ษณะ คุณภาพดีขึ้นไป
ทพี่ งึ ประสงค์
ประสงค์ (A) คณุ ลักษณะทพี่ ึง
ประสงค์
เกณฑ์การประเมนิ แบบฝกึ หัด/ใบงาน
ประเด็นการประเมนิ ระดับคณุ ภาพ
1.ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา
2. รูปแบบ 4 3 21
3. ความเป็นระเบียบ เนื้อหาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไม่ถกู ตอ้ ง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่
การนำเสนอ การนำเสนอถูกตอ้ ง การนำเสนอ การนำเสนอไม่
น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ ถูกตอ้ งบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมคี วาม ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มคี วาม
เปน็ ระเบียบ ข้อบกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เปน็ ระเบยี บ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดับ 1
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทำงาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลทปี่ รากฏใหเ้ หน็
4 : ดมี าก มกี ารอา้ งองิ เสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจอย่างมเี หตผุ ล
3 : ดี มีการอ้างอิงท่ีถกู ตอ้ งบางสว่ น และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตัดสินใจ
1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแกป้ ัญหา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปญั หาทีป่ รากฏให้เห็น
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเรจ็ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ อธิบายถงึ เหตุผล
หลักการและขัน้ ตอนในการแก้ปัญหาได้เขา้ ใจชดั เจนนำมาซึง่ คำตอบทีถ่ ูกต้อง
3 : ดี ใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาได้สำเรจ็ แต่น่าจะอธบิ ายถึงเหตุผล
หลกั การและขนั้ ตอนในการแกป้ ัญหาไดด้ กี ว่านี้
2 : พอใช้ มีกระบวนการแก้ปัญหา สำเร็จเพียงบางสว่ น อธิบายถึงเหตุผล
หลักการและข้นั ตอนในการแก้ปัญหาได้บางสว่ น
1 : ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข มีร่องรอยการแกป้ ญั หาบางส่วน เรมิ่ คิดใช้เหตุผล หลกั การและขัน้ ตอน
ในการแกป้ ัญหา แลว้ หยุด อธบิ ายตอ่ ไมไ่ ด้ แกป้ ัญหาไม่สำเรจ็
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเชื่อมโยง สรปุ องคค์ วามรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชอ่ื มโยงที่ปรากฏใหเ้ หน็
คณุ ภาพ
นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชอื่ มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์
4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมที่ตอ้ งใชอ้ งค์ความรทู้ ี่เรยี นได้ถูกตอ้ งทกุ กิจกรรมเพ่อื ชว่ ยในการแก้ปัญหา
หรือประยกุ ต์ใชไ้ ด้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณติ ศาสตร์ในการเชื่อมโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรอื กิจกรรมทต่ี อ้ งใช้องค์ความรู้ทเ่ี รยี นได้เป็นส่วนใหญ่
เพือ่ ช่วยในการแกป้ ญั หาหรือประยุกต์ใชไ้ ด้บางสว่ น
2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณติ ศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรือ
กิจกรรมที่ต้องใชอ้ งคค์ วามรู้ทีเ่ รียนไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรับปรงุ นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณติ ศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ
แก้ไข องคค์ วามร้ทู ไี่ ด้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรียนใฝ่เรยี นรู้
คะแนน : ระดบั คุณลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น
คุณภาพ
3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความต้ังใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเป็นบางคร้งั
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตง้ั ใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นกั เรยี นมคี วามมุง่ ม่ันในการทำงาน
คะแนน : ระดับ คณุ ลักษณะทีป่ รากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - สง่ งานก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลานัดหมาย
- รับผดิ ชอบในงานทไี่ ด้รบั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเปน็ นสิ ยั
2 : ดี - สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด แต่ได้มกี ารตดิ ตอ่ ช้ีแจงผสู้ อน มเี หตุผลท่ีรับฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติตนเองจนเปน็ นสิ ยั
1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กำหนด
- ปฏิบัตงิ านโดยตอ้ งอาศัยการชแ้ี นะ แนะนำ ตกั เตอื นหรอื ใหก้ ำลงั ใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผเู้ รยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผเู้ รยี นได้รบั ความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อุปสรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
กจิ กรรม บวก ลบ คูณ หาร แสนสนุก
อุปกรณ์
ใบกจิ กรรมและบัตรเกม 24 จำนวน 3 บัตร
วิธีจดั กิจกรรม
1.ครูให้นักเรยี นจับคู่ เพอื่ ชว่ ยกันหาคำตอบ
2.ครชู บู ัตรเกม 24 ทลี ะบตั ร ให้นกั เรียนนำจำนวนท้งั 4 จำนวนในบตั ร บวก ลบ คูณ หารกันให้ได้ผล
ลพั ธเ์ ทา่ กับ 24 นักเรียนค่ใู ดคิดได้แลว้ ใหย้ กมอื เมื่อนักเรยี น ยกมือครบทกุ คู่ ครูให้คแู่ รกที่ยกมอื
นำเสนอวิธีคดิ เพอื่ น ๆ ชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง จากนัน้ ครูถามคอู่ ื่นท่มี วี ิธีคิดต่างจากนคี้ รูจัด
กิจกรรมทำนองเดยี วกันนจ้ี นครบ 3 บตั ร
3.ครูแจกใบกจิ กรรมใหน้ ักเรยี นแต่ละคนหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนและช่วยกันตรวจสอบ
ความถกู ตอ้ ง
ใบงานที่ 1 เรื่อง การเตรยี มความพร้อม 2. (12 × 12) ÷ 12 =
วธิ ีทำ
แสดงวิธีหาผลลพั ธ์
1. 180 ÷ (2 × 5) =
วิธที ำ
ตอบ ตอบ
3. (2,415 ÷ 7) × 3 = 4. 24 × (288 ÷ 8) =
วิธีทำ วิธีทำ
ตอบ ตอบ
5. 10,090 − (2,150 + 3,789) = 6. (51,032 − 9,765) + 21,963 =
วิธีทำ วธิ ีทำ
ตอบ ตอบ
7. 14 × (57 + 23) = 8. (87,450 − 86,978) ÷ 8 =
วธิ ที ำ วิธที ำ
ตอบ ตอบ
ช่ือ
เลขที่
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 2
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหัสวิชา ค 13101 ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 3
เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ี่ 13 เรือ่ ง การบวก ลบ คณู หารระคน
เรอื่ ง การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน(1)
ครผู ู้สอน นางสาวจุฬาลักษณ์ ชูหนขู าว ตำแหน่ง ครผู ู้ช่วย
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวนการดำเนินการของ
จำนวนผลทเี่ กิดข้ึนจาก การดำเนนิ การสมบัตขิ องการดำเนินการและนำไปใช้
ตวั ช้ีวัด : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลัพธก์ ารบวก ลบคูณ หารระคน ของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
จุดประสงค์การเรยี นรสู้ ตู่ ัวชี้วดั
1.บอกวธิ ีหาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ของจำนวนไม่เกนิ 100,000 (K)
2.หาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน ของจำนวนไม่เกนิ 100,000 (P)
3.นักเรยี นมคี วามมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรู้ท่ไี ดไ้ ปต่อยอดในการเรยี นเร่ืองต่อไป(A)
สาระสำคญั
การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนให้หาผลลัพธ์ในวงเล็บกอ่ นแล้วจงึ หาผลลัพธ์สุดทา้ ย
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน
2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1.การสอื่ สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเช่อื มโยง
3.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1.มีวนิ ัย
2.ใฝเ่ รียนรู้
3.มุ่งมัน่ ในการทำงาน
ช้นิ งานหรือภาระงาน
ใบงานที่ 2 เร่ือง การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
1.ครูกล่าวทกั ทายนกั เรียนจากน้ันจัดกิจกรรมดงั นค้ี รูตดิ บัตรโจทย์ 2,389 + (71,754 − 9,685) =
แล้วถามนักเรียนว่าจะหาผลลัพธ์ของสองจำนวนใดก่อนนักเรียนควรจะตอบได้ว่าต้องหาผลลัพธ์ของสอง
จำนวนท่ีอยู่ในวงเล็บก่อน คือต้องหาผลลัพธ์ของ 71,754 − 9,685 ก่อน ในการผลลพั ธ์น้ีอาจใช้วิธีต้ังลบโดย
เขยี นจำนวนท่ีอยูใ่ นหลักเดียวกันให้ตรงกันแล้วนำ จำนวนที่อยู่ในหลักเดียวกันมาลบกันถา้ จำนวนท่ีเป็นตัวตั้ง
นอ้ ยกว่าตวั ลบต้องกระจายจำนวนทีอ่ ยใู่ นหลักถดั ไปทางซา้ ยหรืออาจจะอธิบายตามหนังสือเรียนหนา้ 251 ซึ่ง
จะแบง่ การหาผลลพั ธข์ อง 2,389 + (71,754 − 9,685) ออกเป็น 2 ขน้ั ตอน คือ
ขั้นท่ี 1 หาผลลบของ 71,754 − 9,685 ได้ 62,069 เขยี นแสดงวธิ หี าผลลบได้ ดังน้ี
ขนั้ ท่ี 2 นำผลลบท่ีไดไ้ ปบวกกบั 2,389 และได้ผลลัพธส์ ุดท้ายเปน็ 64,458 เขียนแสดงการหาผลลัพธ์
สดุ ทา้ ยได้ ดังนี้
ดงั น้ัน 2,389 + (71,754 − 9,685) = 64,458
2.ครูต้องอธิบายวิธีหาผลลัพธ์โดยการตัง้ ลบและการตั้งบวกเพื่อให้นกั เรยี นเข้าใจมากข้ึนและให้สังเกต
การตั้งบวกและการตั้งลบว่าจำนวนใดเป็นตัวต้ังจำนวนใดเป็นตัวลบโดยใหเ้ ขียนตามลำดับของจำนวนท่ีโจทย์
กำหนด ซ่ึงการหาผลบวกโดยการต้ังบวกและการหาผลลบโดยการตั้งลบนั้นเป็นวิธีคิดหาผลลัพธ์จากนั้นครู
แนะนำการเขยี นแสดงวิธีหาผลลพั ธ์ ดงั นี้
3.ครูให้นักเรียนชว่ ยกนั เขียนแสดงวธิ ีหาผลลัพธข์ องโจทย์การบวก ลบระคนในกรอบท้ายหนงั สือเรียน
หน้า 251 ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง เม่ือนักเรียนเข้าใจวิธีการดีแล้วให้นักเรียนทำ
แบบฝึกหัด 13.1.1 หน้า 180 – 181 จากนัน้ ใหท้ ำใบงานเพม่ิ เติม
สื่อการเรียนรู้
1.หนงั สอื เรยี นคณิตศาสตร์ ป.3
2.ใบงานท่ี 2 เร่อื ง การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
จุดประสงค์การ วิธีวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
เรยี นรู้ ใบงาน 60% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
การประเมนิ
1.ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขึ้นไป
2.ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน กระบวนการ
แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดขี น้ึ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์
3.ดา้ นคณุ ลักษณะที่ สงั เกตพฤติกรรมด้าน
พึงประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝึกหดั /ใบงาน
ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ
1.ความถกู ต้องของเน้อื หา
2. รปู แบบ 4 3 21
3. ความเปน็ ระเบยี บ เน้อื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถกู ตอ้ งเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถกู ตอ้ ง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่
การนำเสนอ การนำเสนอถูกตอ้ ง การนำเสนอ การนำเสนอไม่
นา่ สนใจและ เปน็ ส่วนใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มคี วาม
เป็นระเบยี บ ขอ้ บกพรอ่ ง ข้อบกพร่อง เปน็ ระเบยี บ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑ์ประเมินคุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดมี าก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ ระดับ 1
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทำงาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการให้เหตุผลทีป่ รากฏใหเ้ หน็
4 : ดมี าก มกี ารอา้ งองิ เสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สินใจอย่างมเี หตุผล
3 : ดี มีการอ้างอิงท่ีถกู ตอ้ งบางสว่ น และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ
1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแกป้ ัญหา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาที่ปรากฏให้เห็น
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเรจ็ อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ อธิบายถึงเหตุผล
หลักการและขัน้ ตอนในการแกป้ ญั หาไดเ้ ขา้ ใจชดั เจนนำมาซงึ่ คำตอบท่ถี กู ตอ้ ง
3 : ดี ใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาได้สำเรจ็ แต่นา่ จะอธิบายถึงเหตผุ ล
หลกั การและขนั้ ตอนในการแก้ปญั หาได้ดีกว่านี้
2 : พอใช้ มีกระบวนการแก้ปัญหา สำเร็จเพยี งบางส่วน อธบิ ายถงึ เหตผุ ล
หลักการและข้นั ตอนในการแก้ปญั หาได้บางสว่ น
1 : ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข มีร่องรอยการแกป้ ญั หาบางสว่ น เริม่ คดิ ใชเ้ หตผุ ล หลกั การและขัน้ ตอน
ในการแกป้ ัญหา แลว้ หยุด อธบิ ายตอ่ ไมไ่ ด้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเร็จ
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเชื่อมโยง สรปุ องคค์ วามรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชอ่ื มโยงที่ปรากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมที่ตอ้ งใชอ้ งค์ความรทู้ ่ีเรียนไดถ้ ูกต้องทุกกจิ กรรมเพ่ือช่วยในการแกป้ ัญหา
หรือประยกุ ต์ใชไ้ ด้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์
3 : ดี หรอื กิจกรรมทต่ี อ้ งใช้องค์ความรู้ทีเ่ รียนได้เป็นสว่ นใหญ่
เพือ่ ช่วยในการแกป้ ญั หาหรือประยุกตใ์ ชไ้ ด้บางส่วน
2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณติ ศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรือ
กิจกรรมที่ต้องใชอ้ งคค์ วามรู้ทีเ่ รียนไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรับปรงุ นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณติ ศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ
แก้ไข องคค์ วามร้ทู ไี่ ด้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรียนใฝ่เรยี นรู้
คะแนน : ระดบั คุณลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น
คุณภาพ
3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความต้ังใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเป็นบางคร้งั
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตง้ั ใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นกั เรยี นมคี วามมุง่ ม่ันในการทำงาน
คะแนน : ระดับ คณุ ลักษณะทีป่ รากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - สง่ งานก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลานัดหมาย
- รับผดิ ชอบในงานทไี่ ด้รบั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเปน็ นสิ ยั
2 : ดี - สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด แต่ได้มกี ารตดิ ตอ่ ช้ีแจงผสู้ อน มเี หตุผลท่ีรับฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติตนเองจนเปน็ นสิ ยั
1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กำหนด
- ปฏิบัตงิ านโดยตอ้ งอาศัยการชแ้ี นะ แนะนำ ตกั เตอื นหรอื ใหก้ ำลงั ใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผเู้ รยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผเู้ รยี นได้รบั ความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อุปสรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
ใบงานท่ี 2 เร่อื ง การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คณู หารระคน
แสดงวธิ ีหาผลลพั ธ์
1. 40,971 + (7,023 − 3,987) =
วิธที ำ
ตอบ
2. (15,234 + 26,568) − 9,999 =
วิธที ำ
ตอบ
3. 84,235 − (29,009 + 7,643) =
วธิ ที ำ
ตอบ
ชือ่
เลขที่
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 3
กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 3
เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 13 เรอ่ื ง การบวก ลบ คณู หารระคน
เรือ่ ง การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน(2)
ครูผูส้ อน นางสาวจุฬาลกั ษณ์ ชูหนูขาว ตำแหน่ง ครผู ชู้ ว่ ย
มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวนการดำเนนิ การของ
จำนวนผลทีเ่ กิดข้นึ จาก การดำเนินการสมบัตขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้
ตัวช้วี ัด : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธ์การบวก ลบคณู หารระคน ของจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 และ 0
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สูต่ ัวชี้วดั
1.บอกวิธีหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน ของจำนวนไมเ่ กนิ 100,000 (K)
2.หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน ของจำนวนไมเ่ กนิ 100,000 (P)
3.นกั เรยี นมคี วามมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรทู้ ่ไี ดไ้ ปตอ่ ยอดในการเรียนเร่ืองต่อไป(A)
สาระสำคัญ
การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคนให้หาผลลัพธใ์ นวงเล็บก่อนแล้วจงึ หาผลลัพธ์สุดทา้ ย
สาระการเรยี นรู้
1.ความรู้
การหาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1.การส่ือสารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเชอ่ื มโยง
3.คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.มวี ินัย
2.ใฝ่เรียนรู้
3.มุ่งมน่ั ในการทำงาน
ชิน้ งานหรือภาระงาน
ใบงานท่ี 3 เรื่อง การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คณู หารระคน
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
1.ครูกล่าวทักทายนักเรียนจากน้ันจัดกิจกรรมการสอนดังน้ีครูติดบัตรโจทย์ 31 × (275 ÷ 5) =
แลว้ ถามนักเรยี นวา่ จะหาผลลัพธข์ องสองจำนวนใดก่อน นักเรียนควรตอบได้วา่ หาผลลัพธข์ องสองจำนวนท่ีอยู่
ในวงเล็บก่อนในที่น้ี ต้องหาผลหารของ 275 ÷ 5 ก่อนแล้วนำผลหารท่ีได้ไปคูณ กับ 31 ตามท่ีอธิบายไว้ใน
หนังสอื เรียนหน้า 252 ซ่งึ แบง่ วิธหี าผลลพั ธไ์ ว้ 2 ข้ันตอน คือ
ข้นั ท่ี 1 หาผลหาร 275 ÷ 5 นักเรียนใช้การหารสั้นหรือการหารยาวขึ้นอยู่กับความถนัดของนักเรียน
ในหนังสือเรยี นนำเสนอเป็นการหารสน้ั เพราะนักเรียนไดฝ้ ึกการหารสั้นมาแลว้ ในบทท่ี 8 ดงั นั้นนำการหารส้ัน
นั้นมาใช้ในเน้ือหาน้ีเพ่ือเป็นการฝึกทบทวนการหารสั้นอีกคร้ังด้วยและผลหารท่ีได้คือ 55 เขียนแสดงวิธีหา
ผลหารได้ ดังน้ี
ขั้นท่ี 2 นำ 55 มาคูณกับ 31 ซ่ึงเป็นการหาผลคูณของจำนวนสองหลักกับจำนวนสองหลัก นักเรียน
ต้องหาผลคณู โดยการต้งั คณู อาจจะมีนักเรยี นบางคนท่ีฝกึ ทักษะการคูณมายังไมเ่ พยี งพอ ครอู าจจะอธิบายการ
คูณในขั้นตอนนี้ให้ชัดเจนว่าต้องคูณทีละหลัก โดยคูณในหลักหน่วยก่อนแล้วคูณในหลักสิบแล้วนำผลคูณที่
ไดม้ าบวกกนั ผลคณู จงึ ไดเ้ ปน็ 1,705 เขยี นแสดงการหาผลลพั ธ์สุดท้ายได้ ดังน้ี
หากมีนกั เรยี นไมเ่ ข้าใจครอู าจยกตัวอยา่ งเพิม่ เตมิ ซ่ึงการหาผลหารโดยการหารสั้นและการหาผลคูณ
โดยการต้งั คณู น้ันเปน็ วธิ ีคิดหาผลลัพธจ์ ากน้ันครูแนะนำการเขียนแสดงวิธหี าผลลัพธ์ ดังนี้
2.ครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนแสดงวิธีหาผลลัพธ์การคูณ หารระคน ในกรอบท้ายหนังสือเรียนหน้า
252 ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องแล้วให้ฝึกทักษะการคูณ หารระคน ในแบบฝกึ หัด 13.1.2
หน้า 182 – 183 จากนั้นใหท้ ำใบงานเพมิ่ เตมิ
สื่อการเรียนรู้
1.หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.3
2.ใบงานท่ี 3 เรอื่ ง การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
จุดประสงค์การ วิธีวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
เรยี นรู้ ใบงาน 60% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
การประเมนิ
1.ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขึ้นไป
2.ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน กระบวนการ
แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดขี น้ึ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์
3.ดา้ นคณุ ลักษณะที่ สงั เกตพฤติกรรมด้าน
พึงประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝึกหดั /ใบงาน
ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ
1.ความถกู ต้องของเน้อื หา
2. รปู แบบ 4 3 21
3. ความเปน็ ระเบยี บ เน้อื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถกู ตอ้ งเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถกู ตอ้ ง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่
การนำเสนอ การนำเสนอถูกตอ้ ง การนำเสนอ การนำเสนอไม่
นา่ สนใจและ เปน็ ส่วนใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มคี วาม
เป็นระเบยี บ ขอ้ บกพรอ่ ง ข้อบกพร่อง เปน็ ระเบยี บ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑ์ประเมินคุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดมี าก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ ระดับ 1
เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทำงาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลทปี่ รากฏใหเ้ หน็
4 : ดมี าก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตผุ ล
3 : ดี มกี ารอา้ งอิงทถี่ กู ต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตดั สินใจ
1 : ควรปรับปรุงแกไ้ ข มีความพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาทปี่ รากฏให้เหน็
4 : ดีมาก ใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาไดส้ ำเรจ็ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ อธบิ ายถึงเหตุผล
หลักการและขัน้ ตอนในการแกป้ ญั หาได้เข้าใจชัดเจนนำมาซึ่งคำตอบท่ีถูกต้อง
3 : ดี ใช้กระบวนการแกป้ ญั หาไดส้ ำเร็จ แตน่ า่ จะอธบิ ายถงึ เหตุผล
หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาได้ดกี วา่ น้ี
2 : พอใช้ มีกระบวนการแก้ปญั หา สำเรจ็ เพียงบางสว่ น อธิบายถึงเหตุผล
หลักการและขั้นตอนในการแกป้ ัญหาไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรับปรุงแก้ไข มีรอ่ งรอยการแกป้ ัญหาบางส่วน เรมิ่ คิดใชเ้ หตุผล หลกั การและขั้นตอน
ในการแก้ปญั หา แล้วหยดุ อธบิ ายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไม่สำเร็จ
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเช่ือมโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการเชอื่ มโยงทปี่ รากฏใหเ้ ห็น
นำความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณติ ศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงกบั สาระ
4 : ดมี าก คณิตศาสตรห์ รอื กิจกรรมทต่ี อ้ งใชอ้ งคค์ วามรทู้ ี่เรียนไดถ้ ูกตอ้ งทุกกจิ กรรมเพอ่ื ชว่ ย
ในการแกป้ ญั หา หรือประยกุ ต์ใช้ได้อย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นำความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเช่อื มโยงกบั สาระ
3 : ดี คณิตศาสตร์หรอื กิจกรรมท่ีตอ้ งใชอ้ งค์ความรู้ที่เรยี นไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่
เพือ่ ช่วยในการแก้ปัญหาหรอื ประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้บางสว่ น
2 : พอใช้ นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรไ์ ปเชื่อมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์
หรอื กิจกรรมท่ีตอ้ งใช้องคค์ วามรูท้ ่เี รยี นได้บางส่วน
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชือ่ มโยงยังไม่เหมาะสม
สรปุ องคค์ วามรู้ทีไ่ ด้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝ่เรียนรู้
คะแนน : ระดับ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - มีความสนใจ / ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเป็นบางครง้ั
1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความตั้งใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรียนมคี วามมงุ่ มั่นในการทำงาน
คะแนน : ระดบั คุณลักษณะที่ปรากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - ส่งงานก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลานัดหมาย
- รับผดิ ชอบในงานท่ีได้รบั มอบหมายและปฏบิ ตั ิตนเองจนเป็นนสิ ัย
2 : ดี - ส่งงานชา้ กว่ากำหนด แตไ่ ดม้ ีการตดิ ต่อชี้แจงผ้สู อน มเี หตผุ ลที่รับฟังได้
- รบั ผิดชอบในงานท่ไี ด้รับมอบหมายและปฏิบตั ิตนเองจนเป็นนสิ ยั
1 : พอใช้ - สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด
- ปฏบิ ัติงานโดยตอ้ งอาศัยการช้แี นะ แนะนำ ตักเตอื นหรอื ให้กำลังใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผู้เรยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผูเ้ รยี นได้รบั ความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อปุ สรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
ใบงานท่ี 3 เรอ่ื ง การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คณู หารระคน
แสดงวธิ ีหาผลลัพธ์
1. 29 × (2,080 − 1,998) =
วธิ ีทำ
ตอบ
2. 70,861 − (987 ÷ 3) =
วิธที ำ
ตอบ
3. (3,521 ÷ 7) + 89,053 =
วธิ ที ำ
ตอบ
ชอื่
เลขท่ี
แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี 4
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 13101 ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
เวลาเรียน 1 ชัว่ โมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 13 เร่ือง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เรื่อง การหาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน(3)
ครูผ้สู อน นางสาวจุฬาลกั ษณ์ ชูหนขู าว ตำแหนง่ ครูผูช้ ่วย
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวนการดำเนนิ การของ
จำนวนผลที่เกดิ ขึ้นจากการดำเนินการสมบัตขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้
ตัวช้วี ดั : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธก์ ารบวก ลบคณู หารระคน ของจำนวนนับไม่เกนิ 100,000 และ 0
จดุ ประสงค์การเรียนรู้สตู่ ัวช้ีวดั
1.บอกวิธีหาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คณู หารระคน ของจำนวนไม่เกนิ 100,000 (K)
2.หาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน ของจำนวนไม่เกนิ 100,000 (P)
3.นักเรยี นมคี วามมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรูท้ ี่ได้ไปตอ่ ยอดในการเรยี นเรอื่ งตอ่ ไป(A)
สาระสำคญั
การหาผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนให้หาผลลัพธ์ในวงเล็บก่อนแล้วจึงหาผลลัพธ์สุดท้าย
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คณู หารระคน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1.การสื่อสารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเชือ่ มโยง
3.คุณลักษณะอนั พึงประสงค์
1.มวี นิ ยั
2.ใฝ่เรียนรู้
3.ม่งุ มน่ั ในการทำงาน
ช้ินงานหรอื ภาระงาน
ใบงานที่ 4 เร่ือง การหาผลลัพธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคน
กจิ กรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ครูกล่าวทักทายนักเรียนจากนน้ั ติดบัตรโจทย์ 3,021 − (791 ÷ 7) = แล้วถามนักเรียนวา่ จะหา
ผลลัพธไ์ ดอ้ ย่างไร
- นักเรียนตอบได้ว่าหาผลลัพธท์ ่ีอยใู่ นวงเล็บก่อนนนั่ คือ 791 ÷ 7 = 113 แล้วนำ 113 ไปลบออกจาก
3,021 จะได้คำตอบเป็น 2,908 ครอู าจให้นักเรียนหาผลหารโดยการหารสน้ั และหาผลลบโดยการตั้งลบซ่งึ เป็น
วธิ ีคดิ หาผลลพั ธจ์ ากนั้นครใู หน้ กั เรยี นออกมาเขียนแสดงวธิ ีหาผลลัพธ์ ดงั นี้
2.ครูให้นักเรียนช่วยกันเขียนแสดงวิธีหาผลลัพธ์ในหนังสือเรียนหน้า 253 ถ้าเป็นไปได้ครูอาจให้
นกั เรียนจับคู่กันแล้วให้ช่วยกันเขียนแสดงวิธีหาผลลัพธ์จากนั้นร่วมกนั เฉลยทีละข้อพร้อมกัน โดยสุ่มนักเรียน
ออกมานำเสนอเป็นคู่ จนครบทุกคู่ ในขณะที่ออกมานำเสนอท่ีหน้ากระดาน ครูอาจให้นักเรียนอธิบายวิธีหา
ผลลัพธ์ตามท่ีคู่ตนเองได้ทำ ไว้ให้เพ่ือนในห้องฟัง ถ้าโจทย์ในหนังสือเรียนไม่เพียงพอ ครูสามารถนำโจทย์ใน
หนังสือแบบฝึกหัดมาให้นักเรียนทำ เพิ่มเติมได้อย่างไรก็ตามถ้านักเรียนสามารถทำโจทย์ในหนังสือเรียนได้
ถูกต้องทุกข้อ แสดงว่านักเรียนเกิดความเข้าใจแล้ว ครูอาจไม่จำเป็นต้องนำโจทย์เพิ่มเติมมาจากหนังสือ
แบบฝึกหดั กไ็ ดท้ งั้ นี้ข้นึ อยู่กบั ความสามารถของผ้เู รียน
3.ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็นรายบุคคลโดยให้นักเรียนหาผลลัพธ์การบวก ลบ คูณ หาร
ระคน ตามหนังสือเรียนหน้า 254 ถ้ามีนักเรียนท่ียังไม่สามารถหาผลลัพธ์ได้ครูอาจมีโจทย์ฝึกเพิ่มเติมให้
นกั เรียนทำเปน็ รายบุคคลก่อน ครูอาจสังเกตจากการทำแบบฝึกหดั วา่ นักเรยี นมคี วามบกพรอ่ งในเรอื่ งการบวก
การลบ การคูณ หรือการหารจากนั้นให้ทำแบบฝึกหัดเพิ่มเติมในส่วนท่ีนักเรียนบกพร่องเพราะถ้าไม่แก้ไข
นักเรียนจะทำโจทย์ท่ีเป็นการบวก ลบ คูณ หารระคนไม่ได้จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความ
ถูกต้องและสรปุ ส่ิงทีไ่ ด้เรียนรู้ การหาผลลพั ธ์การบวก ลบ คูณ หารระคน ใหห้ าผลลพั ธใ์ นวงเล็บกอ่ นแล้วจึงหา
ผลลพั ธ์สุดท้ายและใหน้ ักเรยี นทำแบบฝึกหัด 13.1.3 หนา้ 184 - 185 จากนน้ั ให้ทำใบงานเพิม่ เติม
ส่อื การเรยี นรู้
1.หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.3
2.ใบงานที่ 4 เรือ่ ง การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คณู หารระคน
การวดั และประเมินผลการเรียนรู้
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธวี ัด เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การประเมนิ
1.ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ข้นึ ไป ถือว่าผา่ นเกณฑ์
การประเมิน
2.ด้านทักษะ สงั เกตพฤตกิ รรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ ด้านทักษะกระบวนการ คณุ ภาพดีขน้ึ ไป
3.ดา้ นคุณลักษณะทีพ่ งึ สงั เกตพฤตกิ รรมด้าน แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนไดค้ ะแนนระดับ
ดา้ นคณุ ลกั ษณะ คุณภาพดีขน้ึ ไป
ประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะที่พงึ ทพ่ี งึ ประสงค์
ประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเดน็ การประเมิน ระดับคุณภาพ
1.ความถูกตอ้ งของเน้ือหา
2. รปู แบบ 4 3 21
3. ความเป็นระเบยี บ เน้อื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ เน้อื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ
ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานถูกตอ้ งเปน็ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไม่ถกู ต้อง
ครบถ้วน สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เปน็ ส่วนใหญ่
การนำเสนอ การนำเสนอถูกตอ้ ง การนำเสนอ การนำเสนอไม่
น่าสนใจและ เป็นสว่ นใหญ่ ถกู ตอ้ งบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมคี วาม ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไมม่ คี วาม
เปน็ ระเบียบ ข้อบกพรอ่ ง ขอ้ บกพรอ่ ง เป็นระเบียบ
เลก็ นอ้ ย บางสว่ น
เกณฑป์ ระเมินคุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดมี าก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรุง ระดบั 1
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านทักษะและกระบวนการทำงาน
ทักษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการให้เหตุผลที่ปรากฏใหเ้ ห็น
4 : ดมี าก มกี ารอ้างอิง เสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจอยา่ งมีเหตผุ ล
3 : ดี มีการอ้างองิ ที่ถกู ต้องบางส่วน และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ
1 : ควรปรับปรุงแกไ้ ข มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแกป้ ญั หา
คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแกป้ ญั หาทีป่ รากฏให้เหน็
4 : ดีมาก ใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ ำเร็จ อย่างมปี ระสิทธภิ าพ อธิบายถึงเหตุผล
หลกั การและขนั้ ตอนในการแกป้ ัญหาได้เขา้ ใจชัดเจนนำมาซ่ึงคำตอบทีถ่ ูกต้อง
3 : ดี ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเรจ็ แต่น่าจะอธิบายถึงเหตผุ ล
หลักการและขั้นตอนในการแก้ปญั หาได้ดกี วา่ น้ี
2 : พอใช้ มกี ระบวนการแกป้ ัญหา สำเร็จเพยี งบางส่วน อธบิ ายถงึ เหตุผล
หลกั การและขัน้ ตอนในการแกป้ ัญหาไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรับปรุงแก้ไข มรี อ่ งรอยการแกป้ ญั หาบางสว่ น เร่ิมคิดใช้เหตผุ ล หลกั การและขั้นตอน
ในการแก้ปัญหา แล้วหยุด อธบิ ายตอ่ ไมไ่ ด้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเร็จ
ทักษะ และกระบวนการ: การเชื่อมโยง สรปุ องค์ความรู้
คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการเชื่อมโยงทป่ี รากฏให้เหน็
นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ในการเช่ือมโยงกับสาระ
4 : ดีมาก คณิตศาสตร์หรอื กจิ กรรมที่ต้องใชอ้ งคค์ วามรทู้ ี่เรยี นไดถ้ กู ต้องทุกกิจกรรมเพื่อช่วย
ในการแก้ปญั หา หรือประยกุ ตใ์ ช้ไดอ้ ยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ในการเช่ือมโยงกบั สาระ
3 : ดี คณติ ศาสตรห์ รอื กิจกรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามรู้ที่เรยี นได้เป็นสว่ นใหญ่
เพอื่ ช่วยในการแกป้ ัญหาหรือประยกุ ต์ใชไ้ ดบ้ างสว่ น
2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตรไ์ ปเช่ือมโยงกับสาระคณิตศาสตร์
หรอื กิจกรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ่ีเรยี นไดบ้ างส่วน
1 : ควรปรับปรงุ แกไ้ ข นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณติ ศาสตร์ในการเชอ่ื มโยงยงั ไมเ่ หมาะสม
สรปุ องค์ความร้ทู ี่ได้
เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรียนใฝเ่ รียนรู้
คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏให้เหน็
3 : ดมี าก - มีความสนใจ / ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจเป็นบางครั้ง
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตง้ั ใจในระยะเวลาสัน้ ๆ ชอบเล่นในเวลาเรยี น
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นกั เรยี นมีความมงุ่ มั่นในการทำงาน
คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะที่ปรากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
3 : ดีมาก - ส่งงานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย
- รับผดิ ชอบในงานทไ่ี ด้รบั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเปน็ นสิ ยั
2 : ดี - สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด แตไ่ ด้มกี ารติดต่อชี้แจงผูส้ อน มีเหตุผลที่รบั ฟงั ได้
- รับผิดชอบในงานท่ไี ดร้ บั มอบหมายและปฏิบตั ิตนเองจนเป็นนสิ ัย
1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด
- ปฏิบตั งิ านโดยต้องอาศยั การช้แี นะ แนะนำ ตักเตอื นหรอื ใหก้ ำลังใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผู้เรยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผูเ้ รยี นได้รบั ความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อปุ สรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
ใบงานท่ี 4 เรอ่ื ง การหาผลลัพธ์การบวก ลบ คณู หารระคน เลขท่ี
แสดงวธิ ีหาผลลัพธ์
1. 70,962 − (8,921 + 9,032) =
วธิ ีทำ
ตอบ
2. 70,861 − (987 ÷ 3) =
วธิ ที ำ
ตอบ
3. (3,521 ÷ 7) + 89,053 =
วธิ ที ำ
ตอบ
ชอ่ื
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 5
กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหัสวชิ า ค 13101 ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 3
เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
หน่วยการเรยี นรู้ท่ี 13 เรอื่ ง การบวก ลบ คณู หารระคน
เรอื่ ง การพฒั นาความรูส้ กึ เชิงจำนวนเกย่ี วกับการบวก ลบ คณู หารระคน
ครผู ู้สอน นางสาวจุฬาลักษณ์ ชูหนขู าว ตำแหนง่ ครูผชู้ ่วย
มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวน การดำเนนิ การของ
จำนวน ผลท่ีเกดิ ข้ึนจาก การดำเนนิ การ สมบตั ิของ การดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ชีว้ ดั : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธ์การบวก ลบคูณ หารระคน ของจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000 และ 0
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สตู่ วั ชี้วดั
1.บอกไดว้ ่าผลลัพธใ์ ดมากกวา่ น้อยกว่า หรอื เทา่ กนั โดยไมต่ ้องคำนวณ (K)
2.เขยี นคำตอบไดว้ ่าผลลพั ธใ์ ดมากกว่า น้อยกว่า หรอื เทา่ กัน โดยไม่ต้องคำนวณ (P)
3.นกั เรยี นมีความมงุ่ ในการทำงานและสามารถนำความร้ทู ี่ได้ไปตอ่ ยอดในการเรยี นเร่ืองต่อไป (A)
สาระสำคัญ
การเปรียบเทียบผลลพั ธก์ ารบวก ลบ คูณ หารระคนว่าผลลัพธ์ใดมากกวา่ น้อยกวา่ หรอื เท่ากนั อาจ
เปรียบเทยี บไดโ้ ดยไมต่ อ้ งคำนวณ
สาระการเรยี นรู้
1.ความรู้
ความรูส้ กึ เชงิ จำนวนเกี่ยวกบั การบวก ลบ คูณ หารระคน
2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1.การสื่อสารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเชอื่ มโยง
3.การให้เหตุผล
3.คณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
1.มีวินัย
2.ใฝ่เรยี นรู้
3.มุ่งมัน่ ในการทำงาน
ชิน้ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานท่ี 5 เรอื่ ง ความรู้สึกเชิงจำนวนเกยี่ วกับการบวก ลบ คณู หารระคน
กิจกรรมการจัดการเรียนรู้
1.ครตู ิดบัตรโจทย์แรก (400 − 172) + 394 และบัตรโจทยท์ ่ีสอง (385 − 172) + 394 บนกระดาน
แล้วถามนกั เรยี นว่าบตั รโจทยใ์ ดมผี ลลัพธ์มากกว่า ครใู หน้ ักเรียนสังเกตจำนวนสามจำนวนท่ีอยใู่ นบตั รโจทย์แต่
ละใบ แลว้ ใช้คำถามชี้แนะว่าบัตรโจทย์สองใบนีม้ ีอะไรท่เี หมือนกันและมอี ะไร ท่ไี ม่เหมือนกนั นักเรยี นควรตอบ
ไดว้ ่าทั้งสองบัตร มจี ำนวนสามจำนวนเทา่ กนั เคร่ืองหมายเหมอื นกันตำแหนง่ ของวงเลบ็ เหมือนกนั ยกเว้น 400
กับ 385 ที่บัตรโจทยส์ องใบมีไมเ่ หมอื นกนั ใบแรกเปน็ 400 ใบทีส่ องเป็น 385 ครถู ามต่อว่า 400 กับ 385
จำนวนใดมากกวา่ (400 มากกวา่ ) และถามตอ่ ไปว่า ตอบไดห้ รอื ไมว่ า่ บัตรโจทย์ใดมผี ลลพั ธม์ ากกวา่ นกั เรียน
ควรจะตอบไดว้ า่ บตั รโจทยแ์ รกมีผลลพั ธม์ ากกวา่ หากนักเรียนยงั ไมเ่ ขา้ ใจวา่ บตั รโจทยแ์ รกมีผลลัพธ์มากกว่า
ได้อย่างไร
2.ครูยกตัวอย่างต่อไปโดยการติดบัตรโจทย์ใหม่เป็นบัตรโจทย์ (1,000 - 5) - 100 และบัตรโจทย์
(1,000 x 5) - 100 บนกระดาน แล้วถามนักเรียนวา่ บัตรโจทยใ์ ดมีผลลัพธม์ ากกวา่ ครูให้นักเรียนสงั เกตวา่ บัตร
โจทย์ท้ังสองบัตรมีอะไรที่เหมือนกันและตา่ งกัน ครูอธิบายวา่ จดุ ท่ตี ่างกันคือ (1,000 + 5) กับ (1,000 x 5) ครู
ถามนักเรียนต่อไปวา่ ผลลัพธ์ใดมากกว่านักเรียนควรตอบได้วา่ 1,000 x 5) มผี ลลัพธ์มากกว่าจะได้ 1,000 - 5)
มีผลลพั ธ์น้อยกว่า ดังน้ัน (1,000 - 5) - 100 จึงมผี ลลพั ธน์ อ้ ยกวา่ ถา้ มีนักเรียนทีไ่ ม่สามารถบอกได้ว่า 1,000 x
5 มผี ลลัพธ์มากวา่ 1,000 - 5 ครูอาจอธิบายโดยใช้ความหมายของการคูณและความหมายของการหาร เพ่ือให้
นักเรียนเข้าใจได้ว่าเพราะเหตุใด 1,000 - 5 จึงมีค่าน้อยกว่า 1,000 x 5 เมื่อนักเรียนเข้าใจตัวอย่างท้ังสอง
ตัวอยา่ งดีแล้ว ครูให้นักเรียนช่วยกันเติมเคร่ืองหมาย > หรือ < ในกรอบทา้ ยหนังสือเรียนหน้า 256 พร้อมทั้ง
ให้นักเรียนอธิบายเหตุผลด้วย ครูอาจให้นักเรียนจับคู่กันเพ่ือจะได้ช่วยกันคิดช่วยกันทำทั้งนี้ ครูสามารถให้
คำแนะนำเพิ่มเติมในบางข้อได้ เช่น ข้อ 2 8,000 - (600 + 254) 8,000 - (600 + 138) จะมีลักษณะท่ีต่างไป
จากตัวอย่างท่ีสอนมาขา้ งต้น แต่นกั เรียนสามารถนำความรมู้ าประยุกต์ใช้ ในข้อน้ีได้ ถือว่าไม่ได้ใช้ความรเู้ กิน
กว่าจากทีส่ อนมาเนือ่ งจากเป็นการลบออกดว้ ยจำนวนท่ไี ม่เทา่ กันและตวั ต้งั เทา่ กนั
ครูอาจถามให้นกั เรียนคดิ ว่า ถา้ ตัวต้ังเท่ากนั ลบออกด้วยจำนวนทนี่ ้อยกับลบออกด้วยจำนวนทม่ี ากจะ
ได้ผลลบเป็นอย่างไร ครูอาจใชส้ ่ือตัวนับ เช่น แบ่งตวั นับออกเป็นสองกลุ่มเทา่ ๆ กนั แล้วหยิบตัวนับออกจาก
กองแรกมากกว่ากองที่สอง จะเหลือตัวนับกองใดมากกว่านักเรียนควรตอบ ได้ว่าจะเหลือตัวนับกองที่สอง
มากกว่าเพราะหยิบออกไปน้อยกวา่ กองแรก จากนั้นครูและนกั เรียนรว่ มกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง
3.ครูติดบัตรโจทย์ (3 x 541) - 279 และบัตรโจทย์ (541 x 3) – 279 บนกระดาน แล้วถามนักเรียน
ว่า บัตรโจทย์ใดมผี ลลัพธม์ ากกวา่ ครอู าจใช้คำถามชแ้ี นะวา่ บัตรโจทย์สองใบนมี้ อี ะไรทเี่ หมือนกัน และมีอะไรที่
ตา่ งกัน นักเรียนควรตอบได้ว่าบัตรโจทย์สองใบน้ีมี (3 x 541) เหมือนกันแต่ต่างกันท่ีตำแหน่ง มีเครื่องหมาย
เหมือนกันทั้งสองใบและมี 279 เหมือนกัน ครถู ามต่อไปวา่ (3 x 541) กับ (541 x 3) มีผลคณู เท่ากันหรือไม่
นกั เรียนควรตอบได้ว่า มีผลคูณเท่ากัน หากนักเรียนตอบไม่ได้ว่ามีผลคูณเท่ากัน ครูอาจยกตัวอย่างการสลับที่
การคูณของจำนวนง่าย ๆ เชน่ 2 x 3 เท่ากับ 3 x 2 หรือไม่ เมือ่ นักเรียนตอบไดแ้ ล้ว ครูโยงมาสูค่ ำถามวา่ (3 x
541) กับ (541 x 3) มีผลคูณเท่ากันหรือไม่ แล้วถาม ต่อไปว่า (3 x 541) - 279 กับ (541 x 3) - 279 มี
ผลลัพธ์ เท่ากันหรือไม่ นักเรยี นควรตอบได้ว่ามีผลลัพธ์เท่ากัน หากนักเรียนตอบไม่ได้ ครูอาจใช้ตัวนับแสดง
เป็นกอง สองกองท่ีเท่ากันแล้วหยิบตัวนับออกจากกองแรกกับ กองที่สองด้วยจำนวนท่ีเท่ากนั ดังน้ันจะเหลือ
ตวั นับเทา่ กัน ท้งั สองกอง จากนนั้ ครใู หน้ ักเรียนชว่ ยกันเติมเครอ่ื งหมาย > < หรอื = ในกรอบทา้ ยหนงั สือเรียน
หน้า 257 นักเรียน อาจตอบได้อย่างรวดเร็ว บางคนอาจจะยังตอบไม่ได้ ครูอาจให้นักเรียนในห้องช่วยกัน
อธิบายเหตุผลเพื่อให้นักเรียนคนอื่นเข้าใจไปพร้อมกัน หรือครูอาจลุ่มนักเรียนท่ีไม่ค่อยตอบให้ออกมาเขียน
อธบิ าย ความคดิ หนา้ ห้องเรยี น หากยังไม่ได้ก็ให้เพอ่ื นในห้องเรียนชว่ ยกันอธบิ าย เปน็ ต้น
หากนักเรียนส่วนใหญ่ในห้องเรียนตอบไม่ได้ ครูอาจใช้คำถามนำเพื่อให้นักเรียนคิดตามทีละข้ันตอน
ตามที่ได้เสนอไว้ ในการสอนตามหนังสือเรียนหนา้ 256 เช่น ข้อ 1 (435 + 219) – 400 (435 + 219) – 500
ครถู ามนักเรียนว่าจะเติมเครื่องหมายอะไร ถ้ามีนักเรียนคนใดตอบได้ ครูให้นักเรียนคนน้ันอธิบายเหตุผล ถ้า
นักเรียนส่วนใหญ่ตอบไม่ได้ ครูใช้คำถามชี้แนะว่าจำนวนท่ีอยู่ทางซ้ายกับจำนวนท่ีอยู่ทางขวา เหมือนกัน
หรอื ไม่ มีจำนวนใดบ้างทีเ่ หมอื นกัน มีจำนวนใดบา้ งทต่ี ่างกันจำนวนท่ีต่างกนั นั้นจำนวนใด มากกว่า จำนวนใด
น้อยกว่า มีเครื่องหมายเหมือนกันหรือต่างกัน ตำแหน่งของเครื่องหมายอยู่ตำแหน่งเดียวกันหรือไม่ เมื่อ
นักเรยี นตอบคำถามได้และคดิ ตามนกั เรยี นจะสามารถสรปุ ได้ ด้วยตนเองว่า ควรจะเติมเครื่องหมาย > < หรือ
= เป็นตน้ จากน้ันครแู ละนักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
4.ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็นรายบุคคลโดยครูติดบัตรโจทย์ตามหนังสือเรียนหน้า 258
แล้วใหน้ กั เรยี นแตล่ ะคนเตมิ เครอื่ งหมาย > < หรือ = โดยไมต่ อ้ งคำนวณพร้อมบอกเหตุผล ครอู าจสุ่มนกั เรยี น
ให้บอกเหตุผล นักเรียนอาจบอกเหตุผลท่ีแตกตา่ งกัน แล้วถามนักเรียนว่า มีใครให้เหตุผลต่างจากน้ีและไม่จำ
เป็นต้องเขียนแสดงเหตุผลซ่ึงในการบอกเหตุผลของนักเรียนนั้นครใู ห้ข้อสังเกตเก่ียวกับสมบัติต่าง ๆ ของการ
ดำเนินการของจำนวน เช่น การบวก การคูณเปน็ ต้น ครไู ม่ควรใหน้ ักเรยี นทอ่ งจำครใู ห้นักเรยี นสังเกตแล้วสรุป
จากน้ันครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปส่ิงที่ได้เรียนรู้ และให้นักเรียนทำแบบฝึกหัด
13.2 หนา้ 186 จากน้ันให้ทำใบงานเพ่ิมเติม
สือ่ การเรียนรู้
1.หนังสือเรยี นคณติ ศาสตร์ ป.3
2.ใบงานที่ 5 เรอื่ ง ความรู้สกึ เชงิ จำนวนเกี่ยวกับการบวก ลบ คูณ หารระคน
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
จุดประสงค์การ วิธีวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
เรยี นรู้ ใบงาน 60% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
การประเมนิ
1.ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขึ้นไป
2.ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน กระบวนการ
แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดขี น้ึ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์
3.ดา้ นคณุ ลักษณะที่ สงั เกตพฤติกรรมด้าน
พึงประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝึกหดั /ใบงาน
ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ
1.ความถกู ต้องของเน้อื หา
2. รปู แบบ 4 3 21
3. ความเปน็ ระเบยี บ เน้อื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถกู ตอ้ งเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถกู ตอ้ ง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่
การนำเสนอ การนำเสนอถูกตอ้ ง การนำเสนอ การนำเสนอไม่
นา่ สนใจและ เปน็ ส่วนใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มคี วาม
เป็นระเบยี บ ขอ้ บกพรอ่ ง ข้อบกพร่อง เปน็ ระเบยี บ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑ์ประเมินคุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดมี าก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ ระดับ 1
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านทักษะและกระบวนการทำงาน
ทักษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการให้เหตผุ ลทีป่ รากฏให้เหน็
4 : ดมี าก มีการอ้างองิ เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจอยา่ งมเี หตผุ ล
3 : ดี มกี ารอ้างองิ ทีถ่ กู ตอ้ งบางส่วน และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตัดสินใจ
1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สินใจ
ทักษะและกระบวนการ : การแกป้ ัญหา
คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาทป่ี รากฏให้เหน็
4 : ดมี าก ใช้กระบวนการแกป้ ญั หาได้สำเรจ็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ อธบิ ายถึงเหตุผล
หลกั การและขัน้ ตอนในการแก้ปญั หาไดเ้ ขา้ ใจชัดเจนนำมาซง่ึ คำตอบที่ถกู ต้อง
3 : ดี ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาได้สำเร็จ แตน่ ่าจะอธบิ ายถงึ เหตุผล
หลกั การและข้ันตอนในการแกป้ ัญหาไดด้ ีกวา่ น้ี
2 : พอใช้ มกี ระบวนการแกป้ ญั หา สำเรจ็ เพียงบางสว่ น อธบิ ายถงึ เหตผุ ล
หลกั การและข้นั ตอนในการแกป้ ัญหาได้บางสว่ น
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มรี อ่ งรอยการแก้ปญั หาบางส่วน เริ่มคิดใช้เหตุผล หลกั การและขนั้ ตอน
ในการแก้ปัญหา แล้วหยุด อธบิ ายตอ่ ไม่ได้ แก้ปัญหาไมส่ ำเรจ็
ทักษะ และกระบวนการ: การเช่ือมโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเช่ือมโยงทีป่ รากฏใหเ้ หน็
คณุ ภาพ
นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชอื่ มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์
4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมทต่ี อ้ งใชอ้ งคค์ วามรูท้ ีเ่ รียนไดถ้ ูกตอ้ งทกุ กิจกรรมเพือ่ ช่วยในการแก้ปัญหา
หรือประยุกตใ์ ชไ้ ด้อย่างสอดคล้องและเหมาะสม
นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณติ ศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรือกจิ กรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามรู้ท่เี รียนไดเ้ ป็นส่วนใหญ่
เพ่ือชว่ ยในการแกป้ ญั หาหรือประยกุ ตใ์ ชไ้ ดบ้ างส่วน
2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณิตศาสตรห์ รือ
กจิ กรรมที่ตอ้ งใช้องค์ความร้ทู ีเ่ รยี นได้บางส่วน
1 : ควรปรับปรุง นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณติ ศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงยังไมเ่ หมาะสม สรุป
แก้ไข องค์ความรู้ท่ีได้
เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : นกั เรยี นใฝ่เรยี นรู้
คะแนน : ระดับ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความต้ังใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มีความสนใจ / ความต้งั ใจเป็นบางคร้งั
1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้ังใจในระยะเวลาสนั้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรียนมคี วามมงุ่ มั่นในการทำงาน
คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะท่ปี รากฏให้เห็น
คุณภาพ
3 : ดมี าก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย
2 : ดี - รับผิดชอบในงานที่ไดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเป็นนสิ ัย
1 : พอใช้ - ส่งงานช้ากวา่ กำหนด แต่ได้มกี ารติดตอ่ ชี้แจงผสู้ อน มีเหตผุ ลท่ีรบั ฟงั ได้
- รับผิดชอบในงานทไี่ ด้รบั มอบหมายและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นิสัย
- สง่ งานช้ากวา่ กำหนด
- ปฏิบตั ิงานโดยต้องอาศยั การชีแ้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรอื ใหก้ ำลงั ใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผเู้ รยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผเู้ รยี นได้รบั ความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อุปสรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
ใบงานท่ี 5 เรือ่ ง ความรู้สึกเชงิ จำนวนเก่ยี วกับการบวก ลบ คณู หารระคน
เตมิ เครอื่ งหมาย > < หรือ = พร้อมบอกเหตุผล
1. (5,023 − 500) ÷ 2 (5,023 − 300) ÷ 2
2. (312 × 6) − 53 (6 × 312) – 53
3. 3 × (456 + 732) 12 × (456 + 732)
4. 1 × (3,459 + 63) 0 + (63 + 3,459)
5. (100 × 10) − 10 (100 ÷ 10) – 10
ชื่อ เลขท่ี
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 6
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 13101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3
เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 13 เรอ่ื ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เร่ือง สถานการณก์ ารบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน(1)
ครผู สู้ อน นางสาวจุฬาลกั ษณ์ ชูหนูขาว ตำแหน่ง ครูผชู้ ่วย
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวนการดำเนินการ ของ
จำนวนผลทเี่ กิดขึ้นจากการดำเนนิ การสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้
ตัวช้ีวัด : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธ์การบวก ลบคูณ หารระคน ของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ส่ตู ัวช้ีวัด
1.บอกวิธีเขยี นประโยคสัญลกั ษณจ์ ากสถานการณ์การบวก ลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอน (K)
2.เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์จากสถานการณก์ ารบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน (P)
3.นักเรียนมคี วามม่งุ ในการทำงานและสามารถนำความรทู้ ่ไี ดไ้ ปตอ่ ยอดในการเรยี นเรอื่ งตอ่ ไป (A)
สาระสำคัญ
เร่อื งราวหรือสถานการณท์ แี่ สดงใหเ้ ห็นถงึ การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอนสามารถ
เขียนแสดงไดด้ ว้ ยประโยคสญั ลักษณ์โดยใชว้ งเลบ็ เพอ่ื ระบุวา่ ตอ้ งหาผลบวก ผลลบ ผลคูณหรอื ผลหารของสอง
จำนวนใดก่อน
สาระการเรยี นรู้
1.ความรู้
สถานการณก์ ารบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอน
2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1.การสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเชอ่ื มโยง
3.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1.มวี นิ ยั
2.ใฝเ่ รียนรู้
3.มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
ชิน้ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานที่ 6 เร่ือง สถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน
กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ครูกลา่ วทักทายนักเรียนจากนั้นติดบัตรภาพสถานการณต์ ามหนังสือเรียนหนา้ 259 แล้ว ใช้การถาม
– ตอบ เกี่ยวกับรูปภาพว่าเป็นรูปภาพเกี่ยวกับอะไรมีใครพูดอะไรบ้างและคำพูดของแต่ละคนบอกอะไรบ้าง
จากนั้นครูนำข้อความคำพูดของแต่ละคนมาเรียงต่อกันให้เป็นบัตรโจทย์แล้วถามนักเรียนว่าแต่ละข้อความ
เขียนเปน็ ประโยคทางคณิตศาสตร์ได้อย่างไร แล้วครูเขียนประโยคทางคณิตศาสตรน์ ้ันไปคู่กับข้อความเพ่อื ให้
นักเรียนเห็นความสอดคลอ้ งกันระหวา่ งขอ้ ความกับประโยคทางคณิตศาสตร์
จากนั้นครูแนะนำการใส่เคร่ืองหมายวงเล็บเพื่อให้ทราบว่าต้องหาผลลัพธ์ท่ีอยู่ในวงเล็บก่อนและ
อธบิ ายการหาคำตอบทีละข้ันตอน ดังนี้
จากนน้ั ครเู ขยี นเปน็ ประโยคสัญลกั ษณพ์ ร้อมคำตอบ ดงั น้ี
2.ครูอธิบายการเขียนแสดงด้วยประโยคสัญลักษณ์อาจไม่จำเป็นต้องเขียนออกมาให้ได้ตรงกันแต่ครู
ควรแนะนำให้นักเรียนเขียนให้สอดคล้องกับสถานการณ์มากท่ีสุดเพื่อเป็นประโยชน์ในการนำไปใช้วิเคราะห์
โจทย์ปญั หา 2 ขน้ั ตอน เพอ่ื ให้นักเรียนเข้าใจมากข้ึน ครูอาจยกตวั อย่างเพิ่มเตมิ จากทกี่ ำหนดไวใ้ นหนังสอื เรยี น
หรือจะใช้สถานการณ์ที่อยู่ในกรอบท้ายหนังสือเรียนหน้า 259 นำมาเป็นตัวอย่างเพิ่มเติม แล้วให้นักเรียนแต่
ละคนช่วยกันคิดว่าจะเขียนประโยคสัญลักษณ์ให้สอดคล้องได้อย่างไรโดยครูช้ีแนะทีละข้ันตอนทีละประโยค
จนนักเรียนสามารถทำเองได้จากน้ันครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มทำข้อที่เหลืออีก 2 ข้อ ครูและนักเรียนร่วมกัน
ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
3.ครูติดบัตรโจทย์สถานการณ์ตามหนังสือเรียนหน้า 260 โดยติดทีละข้อความแล้วเขียนประโยคทาง
คณิตศาสตร์ให้สอดคล้องกับข้อความน้ันไปทีละข้ันตอน เช่น ครูติดบัตรข้อความออมสินมีเงิน 234 บาท
แก้วตามีเงินน้อยกว่าออมสิน 30 บาทแล้วครูเขียนประโยคทางคณิตศาสตร์แก้วตามีเงิน 234 − 30 บาทครู
อธิบายทมี่ าของประโยคแก้วตามเี งิน 234 − 30 บาท โดยใช้ bar model ชว่ ยในการอธิบาย ดงั นี้
จาก bar model ครูถามนกั เรียนว่า แกว้ ตามีเงินกี่บาท คดิ ไดอ้ ยา่ งไร นักเรียนควรตอบได้วา่ แก้วตามี
เงนิ 234 − 30 บาท จากน้ันครูติดบตั รข้อความออมสินและแกว้ ตามเี งินรวมกนั เขยี นประโยคทางคณิตศาสตร์
ได้เป็น 234 + (234 − 30) พร้อมกับอธิบายการใส่เครื่องหมายวงเล็บว่าเป็นเงินของแก้วตาและครูติดบัตร
ข้อความออมสินและแก้วตามีเงินรวมกัน 438 บาท เขียนประโยคสัญลักษณ์ทางคณิตศาสตร์ได้เป็น 234 +
(234 − 30) = 438 ครูอธิบายการเขียนประโยคสัญลกั ษณท์ ี่สอดคล้องกบั สถานการณ์วา่ ไม่ใชก่ ารเขียนเพื่อหา
คำตอบของโจทยป์ ัญหา เนือ่ งจากสถานการณ์ทีย่ กตวั อย่างนี้ไมใ่ ช่โจทย์ปญั หาจงึ ไมไ่ ด้เขียนประโยคสัญลักษณ์
ในลักษณะของการหาคา่ ของตัวไม่ทราบคา่ จากนัน้ ครูติดประโยคพ่อเกบ็ ขา้ วโพดได้ 183 ฝัก ทำเปน็ มัด มัดละ
3 ฝักได้ข้าวโพด .............. 183 ÷ 3........... มัด แล้วสุ่มนักเรียนออกมาเขียนประโยคทางคณิตศาสตร์เติมใน
ช่องว่าง ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้อง และครูติดประโยค นำข้าวโพด ............183 ÷ 3
............มดั ขายมดั ละ 20 บาท ได้เงนิ ทงั้ หมด 1,220 บาท
4.ครูให้นักเรียนเขียนประโยคทางคณิตศาสตร์เดิมในช่องว่าง เมื่อนักเรียนเข้าใจสถานการณ์ทั้ง 2
ขัน้ ตอนแล้ว ครูสรุปเขียนเป็นประโยคสญั ลักษณ์ได้เป็น (183 ÷ 3) × 20 = 1,220 พร้อมอธบิ ายการใส่วงเล็บ
เพ่ือให้หาผลลัพธ์ในวงเล็บก่อน ในท่ีนี้คือให้หาจำนวนมัดของข้าวโพดก่อนแล้วนำไปคูณกับราคาขายก็จะได้
จำนวนเงินทั้งหมด คือ 1,220 บาท ครูให้นักเรียนจับคู่ช่วยกันเขียนประโยคสัญลักษณ์ให้สอดคล้องกับ
สถานการณ์ในกรอบทา้ ยหนังสือเรยี นหน้า 260 ครแู ละนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและให้นกั เรียน
ทำแบบฝึกหดั 13.3.1 หนา้ 187 จากนัน้ ให้ทำใบงานเพิ่มเตมิ
สอ่ื การเรียนรู้
1.หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.3
2.ใบงานท่ี 6 เร่อื ง สถานการณก์ ารบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
จุดประสงค์การ วิธีวัด เครือ่ งมอื วัด เกณฑก์ ารประเมิน
เรียนรู้
1.ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ข้นึ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
การประเมนิ
2.ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรียนไดค้ ะแนนระดับ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ด้านทักษะ คณุ ภาพดขี ้ึนไป
กระบวนการ
3.ดา้ นคณุ ลักษณะท่ี สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนระดับ
พึงประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ด้านคณุ ลกั ษณะ คุณภาพดขี น้ึ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝึกหดั /ใบงาน
ประเด็นการประเมนิ ระดบั คุณภาพ
1.ความถกู ตอ้ งของเน้อื หา
2. รปู แบบ 4 3 21
3. ความเป็นระเบยี บ เนื้อหาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เน้ือหาสาระของ
ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกตอ้ งเปน็ ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไม่ถกู ตอ้ ง
ครบถ้วน ส่วนใหญ่ บางประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่
การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่
นา่ สนใจและ เป็นสว่ นใหญ่ ถกู ต้องบางส่วน เปน็ ไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกบั
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานสว่ นใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มคี วาม
เปน็ ระเบยี บ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพรอ่ ง เป็นระเบยี บ
เล็กน้อย บางสว่ น
เกณฑป์ ระเมนิ คณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดับ 1
เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทำงาน
ทักษะและกระบวนการ: การใหเ้ หตุผล
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลทีป่ รากฏให้เห็น
4 : ดีมาก มกี ารอา้ งอิง เสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สินใจอยา่ งมีเหตุผล
3 : ดี มกี ารอา้ งอิงทถี่ ูกตอ้ งบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตดั สินใจ
1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
ทักษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแกป้ ัญหาทีป่ รากฏให้เหน็
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปัญหาได้สำเร็จ อยา่ งมีประสิทธิภาพ อธบิ ายถงึ เหตุผล
หลักการและข้นั ตอนในการแกป้ ัญหาไดเ้ ข้าใจชัดเจนนำมาซง่ึ คำตอบที่ถูกต้อง
3 : ดี ใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาได้สำเร็จ แต่นา่ จะอธิบายถงึ เหตุผล
หลักการและขัน้ ตอนในการแก้ปญั หาได้ดกี วา่ นี้
2 : พอใช้ มกี ระบวนการแกป้ ัญหา สำเร็จเพยี งบางสว่ น อธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลกั การและขนั้ ตอนในการแกป้ ญั หาได้บางสว่ น
1 : ควรปรับปรงุ แก้ไข มรี อ่ งรอยการแก้ปญั หาบางสว่ น เริ่มคิดใช้เหตุผล หลักการและข้ันตอน
ในการแกป้ ัญหา แลว้ หยดุ อธบิ ายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไม่สำเรจ็
ทักษะ และกระบวนการ: การเช่ือมโยง สรปุ องค์ความรู้
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการเชอื่ มโยงทป่ี รากฏให้เห็น
นำความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณติ ศาสตรใ์ นการเชอื่ มโยงกับสาระคณิตศาสตร์
4 : ดมี าก หรือกิจกรรมทต่ี ้องใชอ้ งคค์ วามรทู้ ่ีเรยี นไดถ้ กู ตอ้ งทุกกิจกรรมเพอ่ื ช่วยในการ
แก้ปัญหา หรอื ประยกุ ตใ์ ชไ้ ดอ้ ย่างสอดคล้องและเหมาะสม
นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชอื่ มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรือกจิ กรรมทตี่ ้องใชอ้ งคค์ วามรูท้ ี่เรียนได้เปน็ สว่ นใหญ่
เพือ่ ช่วยในการแกป้ ัญหาหรือประยุกต์ใช้ไดบ้ างส่วน
2 : พอใช้ นำความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ไปเชือ่ มโยงกบั สาระคณิตศาสตรห์ รอื
กิจกรรมทีต่ อ้ งใชอ้ งค์ความรทู้ เ่ี รยี นได้บางสว่ น
1 : ควรปรับปรุงแกไ้ ข นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงยังไม่เหมาะสม สรปุ
องคค์ วามรู้ท่ีได้
เกณฑก์ ารให้คะแนนด้านคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รียนรู้
คะแนน : ระดับคณุ ภาพ คณุ ลักษณะทปี่ รากฏให้เหน็
3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความต้ังใจเปน็ บางครงั้
1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความตั้งใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเล่นในเวลาเรยี น
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนมีความม่งุ มน่ั ในการทำงาน
คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะที่ปรากฏให้เหน็
คุณภาพ
3 : ดีมาก - สง่ งานกอ่ นหรือตรงกำหนดเวลานัดหมาย
- รับผิดชอบในงานทไี่ ดร้ ับมอบหมายและปฏิบัติตนเองจนเปน็ นสิ ยั
2 : ดี - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด แต่ได้มีการติดตอ่ ช้ีแจงผู้สอน มีเหตุผลที่รบั ฟงั ได้
- รับผดิ ชอบในงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบตั ิตนเองจนเป็นนสิ ัย
1 : พอใช้ - สง่ งานช้ากวา่ กำหนด
- ปฏิบตั ิงานโดยตอ้ งอาศัยการชีแ้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรอื ใหก้ ำลังใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผู้เรยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผูเ้ รยี นได้รบั ความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อปุ สรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
ใบงานที่ 6 เรือ่ ง สถานการณ์การบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขน้ั ตอน
เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์จากสถานการณ์
1.รา้ นคา้ มีไขเ่ ค็ม 108 ฟอง นำมาบรรจกุ ลอ่ ง กล่องละ 4 ฟอง ขายไปกล่องละ 35 บาท ร้านค้า
ขายไข่เค็มได้เงินทัง้ หมด 945 บาท
ประโยคสญั ลกั ษณจ์ ากสถานการณ์
2.เมือ่ วานน้ีพอ่ ขายฝรัง่ ได้เงนิ 3,210 บาท วนั น้ีขายฝรัง่ ได้ 34 กิโลกรมั ราคากิโลกรมั ละ 45 บาท
เม่อื วานนี้พอ่ ขายฝรงั่ ได้มากกว่าวนั นี้ 1,680 บาท
ประโยคสัญลกั ษณจ์ ากสถานการณ์
3.พอ่ เกบ็ ส้มโอได้ 312 ผล นำไปขาย 300 ผล ที่เหลือแบง่ ให้เพอื่ นบ้าน 6 คน คนละ เทา่ ๆ กัน
เพอ่ื นบ้านไดส้ ้มโอคนละ 2 ผล
ประโยคสญั ลกั ษณ์จากสถานการณ์
4.แมค่ า้ ขายสม้ 57 กิโลกรัม ราคากิโลกรมั ละ 60 บาท นำเงินไปซื้ออุปกรณก์ ารเรียนใหล้ ูก 1,200
บาท แม่คา้ เหลอื เงนิ 2,220 บาท
ประโยคสัญลกั ษณ์จากสถานการณ์
5.ชาวสวนเพาะตน้ มะม่วง 35 ตน้ เพาะต้นฝร่งั มากกว่าต้นมะม่วง 10 ต้น ขายต้นฝรง่ั ตน้ ละ 50
บาท ขายตน้ ฝรัง่ ทัง้ หมดได้เงนิ 2,250 บาท
ประโยคสญั ลักษณ์จากสถานการณ์
6.ครพู ลอยใสมีขนมชัน้ 20 ช้ิน ซ้อื มาเพมิ่ อีก 30 ชนิ้ นำมาแบง่ ให้เดก็ 5 คน คนละเท่า ๆ กัน เดก็
แตล่ ะคนไดข้ นมคนละ 10 ช้นิ
ประโยคสัญลกั ษณ์จากสถานการณ์
ชื่อ เลขท่ี
แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 7
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 13101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีที่ 3
เวลาเรยี น 1 ชั่วโมง
หน่วยการเรียนรทู้ ี่ 13 เรอ่ื ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เร่ือง สถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน(2)
ครผู สู้ อน นางสาวจุฬาลกั ษณ์ ชูหนูขาว ตำแหน่ง ครูผชู้ ่วย
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวนการดำเนินการ ของ
จำนวนผลทเี่ กิดขนึ้ จากการดำเนินการสมบัติของการดำเนนิ การและนำไปใช้
ตัวช้ีวัด : ค 1.1 ป.3/8 หาผลลพั ธ์การบวก ลบคูณ หารระคน ของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000 และ 0
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ส่ตู ัวชี้วดั
1.บอกวิธีเขยี นประโยคสญั ลกั ษณจ์ ากสถานการณ์การบวก ลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอน (K)
2.เขยี นประโยคสัญลักษณ์จากสถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน (P)
3.นกั เรียนมคี วามม่งุ ในการทำงานและสามารถนำความรทู้ ่ไี ดไ้ ปตอ่ ยอดในการเรยี นเรอ่ื งตอ่ ไป (A)
สาระสำคัญ
เร่อื งราวหรอื สถานการณท์ ่แี สดงใหเ้ ห็นถึงการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอนสามารถ
เขียนแสดงไดด้ ว้ ยประโยคสญั ลักษณ์โดยใชว้ งเลบ็ เพือ่ ระบุวา่ ตอ้ งหาผลบวก ผลลบ ผลคูณหรอื ผลหารของสอง
จำนวนใดก่อน
สาระการเรยี นรู้
1.ความรู้
สถานการณก์ ารบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน
2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1.การสอ่ื สารและการสอ่ื ความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเชอ่ื มโยง
3.คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์
1.มวี นิ ยั
2.ใฝเ่ รียนรู้
3.มงุ่ มนั่ ในการทำงาน
ชิน้ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานที่ 7 เร่ือง สถานการณ์การบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน
กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ครูกล่าวทักทายนักเรยี นจากน้นั ใหน้ ักเรียนแบ่งเป็น 6 กลมุ่ ช่วยกนั เขยี นประโยคสญั ลักษณ์ให้สอดคลอ้ ง
กบั สถานการณ์ กลุม่ ละ 1 สถานการณไ์ ม่ซ้ำกัน ตามหนงั สอื เรยี นหน้า 261 ก่อนท่แี ต่ละกล่มุ จะทำกจิ กรรม ครู
ยกตัวอย่างการเขียนประโยคสัญลักษณ์ท่ีสอดคล้องกับสถานการณ์โดยติดบัตรโจทย์บนกระดาษ แล้วเขียน
ประโยคสญั ลักษณ์ โดยใชก้ ารถาม - ตอบ เช่น
− ช้ัน ป.3 มีนักเรยี นกี่คน (210 คน)
− ชนั้ ป.4 มนี ักเรยี นน้อยกว่าชัน้ ป.3 ก่ีคน (25 คน)
− แสดงวา่ ชนั้ ป.4 มีนกั เรยี นกีค่ น (210 − 25 คน)
− ชั้น ป.3 และชน้ั ป.4 มนี กั เรยี นรวมกันกี่คน (395 คน)
− เขียนประโยคสัญลกั ษณ์ที่สอดคลอ้ งกับสถานการณ์ไดอ้ ย่างไร (210 + (210 −25) = 395)
จากน้ันครูให้นักเรียน แต่ละกลุ่มช่วยกันเขียนประโยคสัญ ลักษ ณ์ ให้สอดคล้องกับ สถานการณ์ ท่ี
กำหนดให้เมื่อแต่ละกลุ่มเขียนประโยคสัญลักษณ์เสร็จแล้ว ครูสุ่มตัวแทนแต่ละกลุ่มออกมาเขียนประโยค
สัญลกั ษณ์บนกระดานหน้าหอ้ งเรียน แล้วใหเ้ พื่อนช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง ถ้าพบว่ากลมุ่ ใดเขียนประโย
สัญลักษณ์ไม่ถูกต้อง ครูอธิบายชี้แนะเพ่ิมเติมจนนักเรียนกลุ่มนั้นแก้ไขถูกต้อง ครูให้นักเรียนแต่ละคนเขียน
ประโยคสัญลกั ษณข์ องแต่ละข้อที่ถกู ตอ้ งลงในสมดุ
2.ครูตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเปน็ รายบุคคลโดยให้นักเรยี นแตล่ ะคนเขียนประโยคสัญลกั ษณ์
ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ตามหนังสือเรียนหน้า 262 โดยครูอาจใช้คำถามชี้แนะเพื่อให้นักเรียนสามารถ
เขียนประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างถูกต้อง และเพื่อช่วยให้นักเรียนเข้าใจสถานการณ์การบวก การลบ การคูณ
และการหาร 2 ข้ันตอนได้ดีย่ิงข้ึน เช่นโจทย์ข้อ 1 ครูอาจถามคำถามช้ีแนะว่าใช้วิธีคำนวณอย่างไรถึงจะรู้ว่า
ชาวสวนเก็บส้มได้ก่ีลังใส่วงเล็บอย่างไร ขายไปแล้วยังเหลือส้มอยู่น่าจะใช้วิธีใดในการคำนวณเขียนประโยค
สัญลกั ษณ์ไดอ้ ยา่ งไร โจทย์ข้อ 2 ครูอาจถามคำถามชี้แนะวา่ ใชว้ ิธคี ำนวณอย่างไรถึงจะรู้ว่าแม่ค้ามีเงาะทง้ั หมด
เท่าไร ใส่วงเล็บอย่างไร ขายไปแล้วได้เงินน่าจะใช้วิธีใดในการคำนวณเขียนประโยคสัญลักษณ์ได้อย่างไร
จากนนั้ ครูและนกั เรยี นร่วมกันตรวจสอบความถกู ต้องและรว่ มกนั สรปุ ส่ิงทีเ่ รียนรู้ และให้นักเรยี นทำแบบฝึกหัด
13.3.2 หน้า 188 และใหท้ ำใบงานเพ่มิ เตมิ
สื่อการเรยี นรู้
1.หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.3
2.ใบงานท่ี 7 เรื่อง สถานการณก์ ารบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขั้นตอน
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
จุดประสงค์การ วิธีวดั เคร่อื งมอื วัด เกณฑ์การประเมนิ
เรยี นรู้ ใบงาน 60% ขึน้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
การประเมนิ
1.ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นไดค้ ะแนนระดบั
ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขึ้นไป
2.ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน กระบวนการ
แบบสงั เกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดับ
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดขี น้ึ ไป
ทพ่ี งึ ประสงค์
3.ดา้ นคณุ ลักษณะที่ สงั เกตพฤติกรรมด้าน
พึงประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์
เกณฑ์การประเมินแบบฝึกหดั /ใบงาน
ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ
1.ความถกู ต้องของเน้อื หา
2. รปู แบบ 4 3 21
3. ความเปน็ ระเบยี บ เน้อื หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอื้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถกู ตอ้ งเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถกู ตอ้ ง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเด็น เปน็ ส่วนใหญ่
การนำเสนอ การนำเสนอถูกตอ้ ง การนำเสนอ การนำเสนอไม่
นา่ สนใจและ เปน็ ส่วนใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เป็นไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไม่มคี วาม
เป็นระเบยี บ ขอ้ บกพรอ่ ง ข้อบกพร่อง เปน็ ระเบยี บ
เล็กนอ้ ย บางส่วน
เกณฑ์ประเมินคุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดมี าก ระดับ 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรงุ ระดับ 1
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทำงาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลทป่ี รากฏใหเ้ ห็น
4 : ดีมาก มีการอ้างองิ เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจอยา่ งมีเหตุผล
3 : ดี มกี ารอ้างองิ ทีถ่ ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตดั สินใจ
1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มีความพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สินใจ
ทักษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแกป้ ญั หาท่ปี รากฏใหเ้ หน็
4 : ดมี าก ใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาไดส้ ำเรจ็ อย่างมปี ระสิทธิภาพ อธิบายถงึ เหตุผล
หลกั การและขั้นตอนในการแกป้ ญั หาได้เขา้ ใจชัดเจนนำมาซง่ึ คำตอบท่ีถูกตอ้ ง
3 : ดี ใชก้ ระบวนการแกป้ ญั หาได้สำเรจ็ แต่นา่ จะอธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลักการและขั้นตอนในการแกป้ ญั หาได้ดกี วา่ นี้
2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ัญหา สำเรจ็ เพียงบางสว่ น อธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลักการและขัน้ ตอนในการแกป้ ญั หาไดบ้ างส่วน
1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มีรอ่ งรอยการแกป้ ัญหาบางสว่ น เริม่ คดิ ใช้เหตุผล หลักการและขน้ั ตอน
ในการแกป้ ัญหา แลว้ หยดุ อธบิ ายตอ่ ไม่ได้ แกป้ ัญหาไมส่ ำเร็จ
ทักษะ และกระบวนการ: การเชอื่ มโยง สรปุ องค์ความรู้
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏให้เห็น
นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชอื่ มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
4 : ดีมาก หรือกิจกรรมทต่ี ้องใชอ้ งค์ความรู้ทีเ่ รียนได้ถูกต้องทุกกจิ กรรมเพ่ือช่วยในการ
แกป้ ัญหา หรอื ประยกุ ตใ์ ชไ้ ด้อย่างสอดคล้องและเหมาะสม
นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณติ ศาสตร์ในการเชื่อมโยงกบั สาระคณิตศาสตร์
3 : ดี หรอื กจิ กรรมทตี่ ้องใช้องคค์ วามรู้ทีเ่ รยี นได้เป็นส่วนใหญ่
เพอื่ ชว่ ยในการแก้ปญั หาหรือประยุกต์ใช้ไดบ้ างส่วน
2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรือ
กิจกรรมทีต่ ้องใช้องคค์ วามรูท้ ่ีเรยี นไดบ้ างส่วน