1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชอื่ มโยงยงั ไม่เหมาะสม สรปุ
องค์ความรู้ท่ไี ด้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค์
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นใฝเ่ รียนรู้
คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความต้งั ใจเป็นบางครงั้
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความตัง้ ใจในระยะเวลาส้นั ๆ ชอบเล่นในเวลาเรยี น
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรียนมคี วามมุ่งม่ันในการทำงาน
คะแนน : ระดบั คณุ ลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - สง่ งานกอ่ นหรอื ตรงกำหนดเวลานัดหมาย
- รับผดิ ชอบในงานที่ได้รบั มอบหมายและปฏบิ ตั ิตนเองจนเป็นนิสัย
2 : ดี - สง่ งานชา้ กว่ากำหนด แตไ่ ด้มีการติดต่อช้ีแจงผู้สอน มเี หตุผลที่รับฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานท่ีไดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเปน็ นิสัย
1 : พอใช้ - สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด
- ปฏิบตั ิงานโดยต้องอาศัยการชีแ้ นะ แนะนำ ตกั เตือนหรอื ใหก้ ำลังใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผเู้ รยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผเู้ รยี นได้รับความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อุปสรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
ใบงานที่ 7 เร่อื ง สถานการณก์ ารบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ข้นั ตอน
1. ครพู ลอยใสมคี กุ ก1้ี 2 ถงุ ถงุ ละ 6 ชนิ้ แบ่งคุกก้ที งั้ หมดใหเ้ ดก็ 9 คน คนละเทา่ ๆ กนั เด็กจะได้
คุกก้ีคนละกี่ช้นิ
ประโยคสัญลักษณ์
วธิ ีทำ
ตอบ
2. ฟา้ ใสขายเครอ่ื งดื่ม 42 แกว้ ราคาแก้วละ 15 บาท นำเงินไปซ้ือเสอื้ 600 บาท ฟ้าใสเหลือเงิน
ก่บี าท
ประโยคสญั ลกั ษณ์
วธิ ีทำ
ตอบ
3. ครมู ีเงนิ 4,897 บาท ซ้อื หนังสือ 4,797 บาท เงินที่เหลอื นำไปซื้อลกู ชิ้นไม้ละ 5 บาท ครูได้
ลกู ชนิ้ ทง้ั หมดก่ไี ม้
ประโยคสญั ลักษณ์
วิธีทำ
ตอบ
4. เมอื่ วานแมค่ า้ ขายเส้ือไดเ้ งิน 5,700 บาท วนั นข้ี ายเสอ้ื ได้21 ตวั ราคาตวั ละ 99 บาท รวมสอง
วันแม่คา้ ขายเส้ือได้เงนิ กีบ่ าท
ประโยคสัญลกั ษณ์
วธิ ีทำ
ตอบ
ชอื่
เลขท่ี
แผนการจดั การเรยี นร้ทู ี่ 8
กลุม่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วิชา ค 13101 ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 3
เวลาเรยี น 1 ชัว่ โมง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 13 เร่ือง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เรอื่ ง โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขัน้ ตอน(1)
ครูผู้สอน นางสาวจุฬาลักษณ์ ชูหนขู าว ตำแหน่ง ครผู ้ชู ่วย
มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ชี้วดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลาย ของการแสดงจำนวน ระบบจำนวนการดำเนนิ การของ
จำนวนผลท่เี กิดข้ึนจากการดำเนินการ สมบัติของการดำเนนิ การ และนำไปใช้
ตวั ชว้ี ัด : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขั้นตอนของจำนวนนบั ไมเ่ กนิ 100,000
และ 0
จุดประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ช้ีวดั
1.บอกวธิ ีแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขัน้ ตอน (K)
2.แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขนั้ ตอน (P)
3.นักเรียนมีความมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรูท้ ีไ่ ดไ้ ปตอ่ ยอดในการเรยี นเรอ่ื งต่อไป (A)
สาระสำคญั
การแกโ้ จทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ หรอื การหาร 2 ขั้นตอน ทำไดโ้ ดยอ่านทำความเขา้ ใจ
ปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้ันตอน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1.การแกป้ ญั หา
2.การสอ่ื สารและการส่ือความหมายทางคณิตศาสตร์
3.การเชอ่ื มโยง
3.คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.มวี นิ ยั
2.ใฝเ่ รียนรู้
3.มงุ่ มั่นในการทำงาน
ช้นิ งานหรือภาระงาน
ใบงานที่ 8 เร่อื ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขนั้ ตอน
กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ครนู ำเขา้ สูบ่ ทเรียนดว้ ยการทบทวนการเขียนประโยคสญั ลักษณใ์ ห้สอดคลอ้ งกับสถานการณ์จากนั้น
ครตู ิดบตั รโจทย์ปญั หาเพอ่ื ให้นักเรียนเห็นความแตกต่างระหว่างสถานการณแ์ ละโจทยป์ ญั หาทจ่ี ะต้องเรยี นใน
บทเรียนย่อยน้ซี ่งึ ส่งิ ทตี่ า่ งกนั คอื โจทย์ปัญหาจะมีสว่ นท่โี จทย์ถามและส่วนท่โี จทยบ์ อกดังนั้นเวลาเขียนประโยค
สญั ลักษณ์จะมีตวั ไมท่ ราบค่าปรากฏอยู่ เชน่
สถานการณ์แม่ค้ามดี อกบวั 120 ดอก จดั เป็นกำ กำละ 3 ดอก ขายกำละ 25 บาทขายดอกบวั หมดแมค่ า้ จะได้
เงิน 1,000 บาท
เขียนเป็นประโยคสัญลักษณ์ได้เป็น (120 ÷ 3) × 25 = 1,000 แต่เมื่อปรับสถานการณ์ให้เป็นโจทย์
ปัญหาจะได้แม่ค้ามีดอกบัว 120 ดอก จัดเป็นกำ กำละ 3 ดอก ขายกำละ 25 บาท ขายดอกบัวหมดแม่ค้าจะ
ไดเ้ งนิ เทา่ ไร เขียนเป็นประโยคสญั ลกั ษณ์ได้เปน็ (120 ÷ 3) × 25 = ในการวิเคราะห์โจทย์ปัญหาน้ัน วิเคราะห์
เช่นเดียวกับสถานการณ์ คือ การวิเคราะห์ว่า จะหาผลลัพธ์ของสองจำนวนใดก่อน แล้วจึงหาผลลัพธ์สุดท้าย
เมื่อนักเรียนเข้าใจ เกี่ยวกับโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนแล้ว ครูอธิบายเก่ียวกับการเขียนแสดงวิธีหาคำตอบของ
โจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอน ดังนี้
ครูตดิ บตั รโจทย์บนกระดาน แม่คา้ มดี อกบวั 120 ดอก จดั เป็นกำ กำละ 3 ดอก ขายกำละ 25 บาท
ขายดอกบัวหมดแม่ค้าจะไดเ้ งินเท่าไร ครใู ชก้ ารถาม - ตอบ ประกอบการเขยี นแสดงวิธหี าคำตอบ เช่น
− ส่วนทีโ่ จทย์บอกส่วนแรกคอื อะไร (แมค่ า้ มดี อกบัว 120 ดอก)
− สว่ นท่ีโจทยบ์ อกส่วนท่สี องคืออะไร (จดั เปน็ กำ กำละ 3 ดอก)
− หาผลลพั ธจ์ ากสองจำนวนแรกคอื จะตอ้ งรู้อะไรกอ่ น (จดั ดอกบัวได้กีก่ ำ)
− หาจำนวนกำของดอกบัวไดอ้ ยา่ งไร (120 ÷ 3)
− ได้คำตอบเท่าไร (40)
− โจทยก์ ำหนดให้ทำอะไรตอ่ (ขายกำละ 25 บาท)
− โจทยถ์ ามอะไร (ขายดอกบัวหมดแมค่ ้าจะไดเ้ งินเท่าไร)
− หาคำตอบไดอ้ ยา่ งไร (40 × 25)
− คำตอบคือเท่าไร (1,000 บาท)
− สรุปคำตอบได้อย่างไร (ขายดอกบวั หมดแม่ค้าจะได้เงนิ 1,000 บาท) ครแู ละนกั เรยี น
ร่วมกันเขียนประโยคสัญลกั ษณแ์ ละเขียนแสดงวธิ ีหาคำตอบได้ ดังน้ี
จากนั้นครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบโดยพิจารณาจากจำนวนทง่ี า่ ย
ๆ เช่น ถ้าขายกำละ 20 บาท 40 กำ จะได้เงิน 40 × 20 = 800 บาท แต่ขายกำละ 25 บาท 40 กำ คำตอบ
ต้องมากกว่า 800 บาท ดังนั้น 1,000 บาท จึงเป็นคำตอบที่สมเหตุสมผล ครูอธิบายเพิ่มเติมว่าในการ
ตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบนั้นอาจทำได้หลายวิธีขึ้นอยู่กับการกำหนดจำนวนท่ีจะนำมาอ้างอิง
และจำนวนนั้นส่วนมากจะเป็นจำนวนท่ีหาผลคูณไดง้ ่าย เชน่ 40 กำ กำละ 30 บาท
จะได้เงิน 40 × 30 = 1,200 บาท แต่ขายกำละ 25 บาท 40 กำ คำตอบต้องน้อยกว่า 1,200 บาท
ดังน้ัน 1,000 บาท จึงเป็นคำตอบท่ีสมเหตุสมผลจากน้ันครูให้นักเรียนฝึกเขียนแสดงวิธีหาคำตอบลงในสมุด
เพอื่ เป็นการฝกึ เขียนให้คลอ่ ง
2.ครูยกตัวอย่างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ตามหนงั สือเรยี นหน้า 264 โดยติดบตั รโจทย์บนกระดาน ลุง
ซื้อโตะ๊ 6 ตัว ราคาตัวละ 199 บาท ให้เงินไป 1,500 บาทลงุ จะได้รับเงนิ ทอนเท่าไร แล้วให้นักเรียนใช้ความรู้
เกี่ยวกับการเขียนประโยคสัญลักษณ์ให้สอดคล้องกับสถานการณ์ซ่ึงการเขียนประโยคสัญลักษณ์ครูอาจช้ีแนะ
ว่าต้องหาผลลัพธ์ของสองจำนวนใดก่อน หาคำตอบโดยวิธีใดจนนำไปสู่การเขียนประโยคสัญลักษณ์ท่ีถูกต้อง
ดังน้ี1,500 − (6 × 199) = เมื่อได้ประโยคสัญลักษณ์แล้วครูอาจทวนความหมายจากประโยคสัญลักษณ์
ไปสู่โจทย์ปัญหาเพ่ือให้นักเรียนได้ตรวจสอบว่าประโยคสัญลักษณ์ที่เขียนนั้นถูกต้องหรือไม่ จากนั้นครูอธิบาย
เก่ยี วกบั การเขียนแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทยป์ ญั หา 2 ขน้ั ตอนโดยใช้การถาม - ตอบประกอบการเขียนแสดง
วธิ หี าคำตอบ ดังน้ี
− ส่วนทโ่ี จทยบ์ อกสว่ นแรกคืออะไร (ลงุ ซอื้ โตะ๊ 6 ตวั )
− สว่ นทโ่ี จทยบ์ อกสว่ นทสี่ องคอื อะไร (ราคาตวั ละ 199 บาท)
− หาผลลพั ธ์จากสองจำนวนแรกคือจะตอ้ งรู้อะไรกอ่ น (ลงุ ต้องจา่ ยเงินเทา่ ไร)
− หาจำนวนเงนิ ท่ีลุงตอ้ งจ่ายไดอ้ ยา่ งไร (6 × 199)
− ได้คำตอบเท่าไร (1,194 บาท)
− โจทยก์ ำหนดให้ทำอะไรต่อ (ลุงให้เงนิ ไป 1,500 บาท)
− โจทย์ถามอะไร (ลุงจะได้รบั เงินทอนเทา่ ไร)
− หาคำตอบได้อย่างไร (1,500 − 1,194)
− คำตอบคือเท่าไร (306 บาท)
− สรปุ คำตอบได้อยา่ งไร (ลงุ จะไดร้ ับเงนิ ทอน 306 บาท) ครูและนกั เรยี นรว่ มกันเขยี น
ประโยคสญั ลักษณ์และเขียนแสดงวิธีหาคำตอบได้ ดังนี้
จากนั้นครูและนกั เรียนร่วมกันตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบโดยพิจารณาจากจำนวนทีง่ า่ ย
ๆ เช่น ถา้ โต๊ะตัวละ 200 บาท ซ้อื 6 ตัว ลุงต้องจ่ายเงิน 6 × 200 = 1,200 บาทไดเ้ งนิ ทอน 1,500 − 1,200 =
300 บาท แต่โต๊ะแต่ละตัวราคาน้อยกว่า 200 บาทลงุ ต้องได้รับเงินทอนมากกว่า 300 บาท ดังนั้น 306 บาท
จึงเป็นคำตอบท่ีสมเหตุสมผลจากนั้นครใู ห้นักเรยี นฝกึ เขียนแสดงวิธหี าคำตอบลงในสมดุ เพอ่ื เป็นการฝึกเขยี นให้
คล่อง จากน้นั ใหท้ ำใบงานเพ่มิ เติม
ครยู กตัวอย่างโจทยป์ ญั หา 2 ข้นั ตอน ตามหนังสอื เรียนหน้า 265 ครูติดบตั รโจทยบ์ นกระดาน พอ่ เก็บ
ไข่เป็ดได้ 1,892 ฟอง จัดใส่กลอ่ ง กล่องละ 4 ฟอง ขายไป 470 กล่อง พ่อเหลือไข่เป็ดก่กี ลอ่ ง แล้วให้นกั เรียน
ใช้ความรู้เก่ียวกับการเขียนประโยคสัญลักษณ์ให้สอดคล้อง กบั สถานการณ์ซ่ึงการเขียนประโยคสัญลักษณ์ครู
อาจชีแ้ นะว่า ต้องหาผลลพั ธ์ของสองจำนวนใดกอ่ น หาคำตอบโดยวิธีใด จนนำไปสู่การเขียนประโยคสญั ลักษณ์
ที่ถูกต้อง ดังน้ี(1,892 ÷ 4) − 470 = เมื่อได้ประโยคสัญลักษณ์แล้ว ครูอาจทวนความหมาย จากประโยค
สัญลักษณ์ไปสู่โจทย์ปัญหา เพ่ือให้นักเรียน ได้ตรวจสอบว่าประโยคสัญลักษณ์ที่เขียนนั้นถูกต้องหรือไม่ ครู
อธบิ ายเกี่ยวกบั การเขยี นแสดงวิธีหาคำตอบ ของโจทยป์ ัญหา 2 ขนั้ ตอน โดยการถาม - ตอบ ดงั น้ี
− ส่วนที่โจทยบ์ อกสว่ นแรกคืออะไร (พ่อเก็บไขเ่ ป็ดได้1,892 ฟอง)
− ส่วนท่โี จทย์บอกสว่ นท่สี องคืออะไร (จัดใส่กล่องกล่องละ 4 ฟอง)
− หาผลลพั ธจ์ ากสองจำนวนแรกคือจะตอ้ งรอู้ ะไรกอ่ น (ไดไ้ ข่เป็ดทัง้ หมดกกี่ ลอ่ ง)
หาจำนวนกลอ่ งไขเ่ ปด็ ท่ีจัดแล้วไดอ้ ย่างไร (1,892 ÷ 4)
− ไดค้ ำตอบเทา่ ไร (473 กล่อง)
− โจทย์กำหนดใหท้ ำ อะไรตอ่ (ขายไป 470 กลอ่ ง)
− โจทยถ์ ามอะไร (พ่อเหลือไข่เป็ดก่กี ลอ่ ง)
− หาคำตอบไดอ้ ยา่ งไร (473 − 470)
− คำตอบคือเท่าไร (3 กลอ่ ง)
− สรุปคำตอบไดอ้ ยา่ งไร (พอ่ เหลอื ไขเ่ ปด็ 3 กล่อง)
ครูสมุ่ ใหน้ กั เรยี นบางคนออกมาเขียนประโยคสญั ลักษณแ์ ละสุ่มนักเรยี นอกี คนออกมาเขียนแสดงวธิ ีหา
คำตอบบนกระดาน โดยให้เพื่อนในห้องช่วยกันตรวจสอบความถูกต้อง ซ่ึงควรเขียนประโยคสัญลักษณ์และ
เขยี นแสดงวิธีหาคำตอบได้ ดังนี้
ครอู ธิบายวธิ ีตรวจสอบความเหตุสมผลของคำตอบอาจเทยี บกบั 2,000 ÷ 4 เนื่องจาก 1,892 ÷ 4
น้อยกว่า 2,000 ÷ 4 ดงั นนั้ (1,892 ÷ 4) − 470 จงึ ควรได้คำตอบนอ้ ยกวา่ (2,000 ÷ 4) − 470 = 30
ดังนั้น 3 จึงเป็นคำตอบที่สมเหตุสมผล จากนั้นครูให้นักเรียนฝึกเขียนประโยคสัญลักษณ์และเขียน
แสดงวธิ ีหาคำตอบลงในสมุดเพือ่ ฝกึ เขยี นใหค้ ล่องแล้วแบง่ นกั เรยี นเป็น 5 กลุม่ ใหแ้ ต่ละกลมุ่ ช่วยกนั เขยี นแสดง
วธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 2 ข้นั ตอนในกรอบท้ายหนงั สือเรียนหนา้ 265 กลุ่มละ 1 ขอ้ ครูให้นกั เรียนแตล่ ะ
กลมุ่ ออกมานำเสนอหน้าช้ันเรยี นจนครบทุกข้อครูและนกั เรียนช่วยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง แล้วให้นักเรยี น
แตล่ ะคนทำแบบฝกึ หัด 13.4.1 หน้า 189 – 190 และใหท้ ำใบงานเพิ่มเติม
สื่อการเรียนรู้
1.หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.3
2.ใบงานที่ 8 เรือ่ ง โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอน
การวัดและประเมินผลการเรยี นรู้
จดุ ประสงค์การ วิธวี ัด เคร่อื งมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ
เรยี นรู้
1.ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขึ้นไป ถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
การประเมนิ
2.ด้านทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ ด้านทกั ษะ คุณภาพดขี นึ้ ไป
กระบวนการ
3.ดา้ นคณุ ลักษณะท่ี สังเกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
พึงประสงค์ (A) คุณลักษณะท่ีพงึ ประสงค์ ด้านคุณลักษณะ คณุ ภาพดขี ึ้นไป
ทพี่ ึงประสงค์
เกณฑก์ ารประเมินแบบฝึกหดั /ใบงาน
ประเดน็ การประเมิน ระดับคณุ ภาพ
1.ความถกู ต้องของเนื้อหา
2. รูปแบบ 4 3 21
3. ความเปน็ ระเบียบ เนอื้ หาสาระของ เน้อื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ
ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกตอ้ งเป็น ผลงานถูกตอ้ ง ผลงานไม่ถกู ตอ้ ง
ครบถว้ น สว่ นใหญ่ บางประเดน็ เป็นส่วนใหญ่
การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่
นา่ สนใจและ เปน็ ส่วนใหญ่ ถูกต้องบางสว่ น เปน็ ไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมคี วาม ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไม่มคี วาม
เปน็ ระเบียบ ขอ้ บกพร่อง ขอ้ บกพร่อง เป็นระเบียบ
เลก็ น้อย บางส่วน
เกณฑ์ประเมนิ คณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดมี าก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรุง ระดับ 1
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นทกั ษะและกระบวนการทำงาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดบั คุณภาพ ความสามารถในการให้เหตผุ ลท่ปี รากฏให้เหน็
4 : ดมี าก มกี ารอา้ งองิ เสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจอย่างมเี หตผุ ล
3 : ดี มีการอ้างอิงท่ีถกู ตอ้ งบางส่วน และเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตดั สนิ ใจ
1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแกป้ ัญหา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแกป้ ญั หาทปี่ รากฏให้เหน็
4 : ดีมาก ใช้กระบวนการแก้ปญั หาได้สำเรจ็ อยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ อธบิ ายถึงเหตุผล
หลักการและขั้นตอนในการแก้ปัญหาไดเ้ ขา้ ใจชดั เจนนำมาซงึ่ คำตอบที่ถูกตอ้ ง
3 : ดี ใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ ำเรจ็ แต่นา่ จะอธบิ ายถึงเหตผุ ล
หลักการและขัน้ ตอนในการแกป้ ญั หาไดด้ กี ว่าน้ี
2 : พอใช้ มีกระบวนการแก้ปัญหา สำเร็จเพียงบางสว่ น อธบิ ายถึงเหตุผล
หลักการและข้นั ตอนในการแกป้ ญั หาไดบ้ างส่วน
1 : ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข มีร่องรอยการแกป้ ญั หาบางส่วน เรมิ่ คิดใช้เหตุผล หลกั การและข้นั ตอน
ในการแกป้ ัญหา แลว้ หยุด อธบิ ายตอ่ ไมไ่ ด้ แกป้ ัญหาไม่สำเรจ็
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเชื่อมโยง สรปุ องคค์ วามรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชอ่ื มโยงท่ปี รากฏใหเ้ หน็
คณุ ภาพ
นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเช่อื มโยงกับสาระคณิตศาสตร์
4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมที่ต้องใชอ้ งค์ความร้ทู ี่เรยี นได้ถูกต้องทกุ กิจกรรมเพอ่ื ชว่ ยในการแกป้ ญั หา
หรือประยกุ ต์ใชไ้ ด้อยา่ งสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นำความรู้ หลักการ และวธิ ีการทางคณติ ศาสตร์ในการเชือ่ มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรอื กิจกรรมทต่ี อ้ งใช้องค์ความรู้ทเ่ี รยี นได้เป็นส่วนใหญ่
เพือ่ ช่วยในการแก้ปัญหาหรือประยุกต์ใชไ้ ด้บางส่วน
2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณติ ศาสตรไ์ ปเช่อื มโยงกับสาระคณิตศาสตร์หรือ
กิจกรรมที่ต้องใช้องคค์ วามรู้ทีเ่ รียนไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรับปรงุ นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณติ ศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงยังไมเ่ หมาะสม สรปุ
แก้ไข องคค์ วามร้ทู ไี่ ด้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ : นักเรียนใฝ่เรียนรู้
คะแนน : ระดบั คุณลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น
คุณภาพ
3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความตัง้ ใจตลอดระยะเวลาการเรยี นรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความต้งั ใจเป็นบางคร้งั
1 : พอใช้ - มคี วามสนใจ / ความต้ังใจในระยะเวลาสั้นๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นกั เรียนมคี วามมุง่ ม่ันในการทำงาน
คะแนน : ระดับ คณุ ลักษณะทีป่ รากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - สง่ งานก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลานัดหมาย
- รับผดิ ชอบในงานทไี่ ด้รบั มอบหมายและปฏิบัตติ นเองจนเปน็ นสิ ยั
2 : ดี - สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด แต่ได้มกี ารตดิ ตอ่ ช้ีแจงผสู้ อน มเี หตุผลท่ีรับฟงั ได้
- รบั ผิดชอบในงานที่ได้รับมอบหมายและปฏิบัติตนเองจนเปน็ นสิ ยั
1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กำหนด
- ปฏิบัตงิ านโดยต้องอาศัยการชแ้ี นะ แนะนำ ตกั เตอื นหรอื ใหก้ ำลงั ใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผเู้ รยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผเู้ รยี นได้รบั ความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อุปสรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
ใบงานท่ี 8 เรอ่ื ง โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขน้ั ตอน
แสดงวธิ ีทำหาคำตอบ
1.ครูพลอยใสมีคกุ ก้ี 12 ถุง ถุงละ 6 ชิ้น แบ่งคุกกที้ ั้งหมดให้เดก็ 9 คน คนละเท่า ๆ กนั เด็กจะได้
คกุ ก้คี นละก่ชี น้ิ
ประโยคสัญลักษณ์
วธิ ีทำ
ตอบ
2.ขุนขายเครอ่ื งดมื่ 42 แกว้ ราคาแก้วละ 15 บาท นำเงนิ ไปซอ้ื เสอื้ 600 บาท ขนุ เหลอื เงินกีบ่ าท
ประโยคสัญลกั ษณ์
วิธที ำ
ตอบ
3.ครูมีเงิน 4,897 บาท ซื้อหนังสือ 4,797 บาท เงินที่เหลือนำไปซื้อลูกช้ินไม้ละ 5 บาท ครูได้
ลูกชน้ิ ท้ังหมดกีไ่ ม้
ประโยคสัญลักษณ์
วิธที ำ
ตอบ
ชือ่
เลขท่ี
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 9
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 3
เวลาเรยี น 1 ชว่ั โมง
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 13 เรื่อง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เร่ือง โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอน(2)
ครูผ้สู อน นางสาวจุฬาลักษณ์ ชูหนขู าว ตำแหน่ง ครผู ู้ชว่ ย
มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลาย ของการแสดงจำนวน ระบบจำนวนการดำเนนิ การของ
จำนวนผลท่ีเกิดขึน้ จากการดำเนินการ สมบตั ิของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ช้วี ัด : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขั้นตอนของจำนวนนบั ไม่เกนิ 100,000
และ 0
จดุ ประสงค์การเรยี นรสู้ ตู่ วั ชี้วดั
1.บอกวิธีแสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขัน้ ตอน (K)
2.แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน (P)
3.นกั เรยี นมคี วามมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรู้ที่ไดไ้ ปตอ่ ยอดในการเรยี นเรอ่ื งตอ่ ไป (A)
สาระสำคญั
การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ หรอื การหาร 2 ข้ันตอน ทำได้โดยอ่านทำความเขา้ ใจ
ปัญหาวางแผนแก้ปญั หา หาคำตอบ และตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบ
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน
2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคดิ
1.การแกป้ ญั หา
2.การสอื่ สารและการสื่อความหมายทางคณิตศาสตร์
3.การเช่อื มโยง
3.คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
1.มวี ินยั
2.ใฝเ่ รยี นรู้
3.มุง่ ม่นั ในการทำงาน
ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานที่ 9 เรอ่ื ง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
1.ครูทบทวนการเรียนในชั่วโมงที่ผ่านมาจากนั้นยกตัวอย่างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอนที่มีความซับซ้อน
มากขึน้ ตามหนังสอื เรียนหนา้ 266 ครูอธิบายวา่ เม่ือโจทย์ปญั หา 2 ขัน้ ตอนมคี วามซบั ซอ้ นมากขึน้ สามารถใช้
bar model มาช่วยในการวิเคราะห์โจทย์ก่อนว่าจะใช้วิธีใดในการหาคำตอบดังนี้ครตู ิดบัตรโจทย์บนกระดาน
ขนุ มีเงิน 450 บาทแก้วตามเี งินน้อยกว่าขุน 20 บาท ขุนและแกว้ ตามีเงนิ รวมกันก่ีบาท ครูอธบิ ายเกี่ยวกบั การ
เขยี นแสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขัน้ ตอน โดยใชก้ ารถาม - ตอบ ดังนี้
− สว่ นทีโ่ จทยบ์ อกส่วนแรกคืออะไร (ขุนมีเงิน 450 บาท)
− ส่วนทโ่ี จทยบ์ อกสว่ นทีส่ องคืออะไร (แกว้ ตามีเงินนอ้ ยกวา่ ขนุ 20 บาท)
− หาผลลพั ธจ์ ากสองจำนวนแรกคอื จะต้องรูอ้ ะไรกอ่ น (แก้วตามเี งินกบ่ี าท)
การหาคำตอบของสว่ นนี้ครูอาจใช้ bar model ชว่ ยแสดง ดังน้ี
− หาจำนวนเงินของแกว้ ตาได้อยา่ งไร (450 − 20)
− ไดค้ ำตอบเทา่ ไร (430 บาท)
− โจทย์กำหนดให้ทำอะไรตอ่ (ขนุ และแกว้ ตามีเงินรวมกนั )
− โจทยถ์ ามอะไร (ขุนและแกว้ ตามีเงนิ รวมกนั ก่บี าท)
− หาคำตอบไดอ้ ย่างไร (450 + 430)
− คำตอบคือเท่าไร (880 บาท)
− สรปุ คำตอบไดอ้ ยา่ งไร (ขุนและแก้วตามีเงินรวมกนั 880 บาท)
2.ครูใหน้ ักเรียนช่วยกันเขียนประโยคสัญลักษณ์และเขยี นแสดงวิธหี าคำตอบบนกระดาน ดังนี้
3.ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความความสมเหตุสมผลของคำตอบ ครูอธิบายการตรวจสอบ
ความสมเหตุสมผลของคำตอบว่า 880 บาทเป็นคำตอบที่สมเหตุสมผลเพราะจำนวนเงินของท้ังแก้วตาและ
จำนวนเงนิ ของขนุ นอ้ ยกว่า 500 บาท เม่ือนำมารวมกันย่อมไดผ้ ลรวมน้อยกว่า 1,000 ดังน้ัน 880 บาทจึงเป็น
คำตอบท่ีสมเหตุสมผลหรือครูอาจแสดงการตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคำตอบตามหนังสือเรียนหน้า
266 ดังนี้
4.ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรียนเป็นรายบุคคลโดยให้นักเรียน ทำใบงานเพิ่มเติมจากน้ันครูและ
นักเรียนร่วมกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง ครูควรให้นกั เรียนแก้ไขใหถ้ ูกต้องและรว่ มกนั สรุปส่ิงทไ่ี ด้เรยี นรู้
สือ่ การเรยี นรู้
1.หนังสอื เรียนคณิตศาสตร์ ป.3
2.ใบงานท่ี 9 เรอื่ ง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขนั้ ตอน
การวัดและประเมินผลการเรียนรู้
จุดประสงค์การ วิธีวดั เครือ่ งมือวดั เกณฑก์ ารประเมิน
เรยี นรู้
1.ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขน้ึ ไป ถอื วา่ ผ่านเกณฑ์
การประเมิน
2.ดา้ นทกั ษะ สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรียนได้คะแนนระดบั
กระบวนการ (P) ทักษะกระบวนการ ด้านทักษะ คุณภาพดีขึน้ ไป
กระบวนการ
3.ด้านคุณลกั ษณะที่ สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤติกรรม นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
พึงประสงค์ (A) คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ ด้านคุณลกั ษณะ คุณภาพดีขึ้นไป
ทพ่ี งึ ประสงค์
เกณฑ์การประเมนิ แบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเด็นการประเมิน ระดับคุณภาพ
1.ความถูกตอ้ งของเนอ้ื หา
2. รูปแบบ 4 3 21
3. ความเป็นระเบยี บ เนือ้ หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนื้อหาสาระของ เนอื้ หาสาระของ
ผลงานถูกต้อง ผลงานถกู ต้องเป็น ผลงานถกู ต้อง ผลงานไม่ถูกต้อง
ครบถว้ น ส่วนใหญ่ บางประเด็น เป็นส่วนใหญ่
การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอ การนำเสนอไม่
นา่ สนใจและ เป็นสว่ นใหญ่ ถูกต้องบางส่วน เปน็ ไปตามเกณฑ์
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
ผลงานมคี วาม ผลงานสว่ นใหญม่ ี ผลงานมี ผลงานไมม่ ีความ
เป็นระเบยี บ ข้อบกพรอ่ ง ข้อบกพรอ่ ง เป็นระเบียบ
เลก็ นอ้ ย บางส่วน
เกณฑ์ประเมนิ คุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถึง ดมี าก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดบั 2
7 - 9 คะแนน หมายถึง ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรับปรงุ ระดบั 1
เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านทกั ษะและกระบวนการทำงาน
ทักษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการให้เหตุผลทปี่ รากฏใหเ้ ห็น
4 : ดีมาก มกี ารอา้ งองิ เสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสินใจอย่างมเี หตผุ ล
3 : ดี มีการอา้ งอิงทถี่ ูกต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตัดสนิ ใจ
1 : ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข มีความพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตดั สนิ ใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาทีป่ รากฏใหเ้ หน็
4 : ดมี าก ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาไดส้ ำเร็จ อยา่ งมีประสิทธภิ าพ อธบิ ายถงึ เหตุผล
หลักการและขนั้ ตอนในการแกป้ ญั หาไดเ้ ขา้ ใจชัดเจนนำมาซ่ึงคำตอบท่ีถกู ตอ้ ง
3 : ดี ใช้กระบวนการแก้ปญั หาได้สำเร็จ แตน่ า่ จะอธบิ ายถึงเหตุผล
หลกั การและขั้นตอนในการแกป้ ญั หาไดด้ กี วา่ น้ี
2 : พอใช้ มีกระบวนการแกป้ ญั หา สำเร็จเพียงบางสว่ น อธบิ ายถึงเหตุผล
หลกั การและขนั้ ตอนในการแก้ปัญหาไดบ้ างส่วน
1 : ควรปรบั ปรงุ แก้ไข มีรอ่ งรอยการแก้ปัญหาบางส่วน เรม่ิ คดิ ใชเ้ หตุผล หลักการและขัน้ ตอน
ในการแก้ปญั หา แล้วหยุด อธบิ ายต่อไม่ได้ แก้ปัญหาไมส่ ำเร็จ
ทักษะ และกระบวนการ: การเช่ือมโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเช่ือมโยงทีป่ รากฏใหเ้ หน็
คณุ ภาพ
นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณิตศาสตร์ในการเชอื่ มโยงกบั สาระคณิตศาสตร์
4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมทต่ี อ้ งใชอ้ งคค์ วามรูท้ ีเ่ รียนไดถ้ ูกตอ้ งทกุ กิจกรรมเพือ่ ช่วยในการแก้ปัญหา
หรือประยุกตใ์ ชไ้ ด้อย่างสอดคล้องและเหมาะสม
นำความรู้ หลกั การ และวิธกี ารทางคณติ ศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงกบั สาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรือกจิ กรรมท่ีต้องใช้องคค์ วามรู้ท่เี รียนไดเ้ ป็นส่วนใหญ่
เพ่ือชว่ ยในการแกป้ ญั หาหรือประยกุ ตใ์ ชไ้ ดบ้ างส่วน
2 : พอใช้ นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตร์ไปเช่อื มโยงกับสาระคณิตศาสตรห์ รือ
กจิ กรรมที่ตอ้ งใช้องค์ความร้ทู ีเ่ รยี นได้บางส่วน
1 : ควรปรับปรุง นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณติ ศาสตรใ์ นการเช่ือมโยงยังไมเ่ หมาะสม สรุป
แก้ไข องค์ความรู้ท่ีได้
เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : นกั เรยี นใฝ่เรยี นรู้
คะแนน : ระดับ คุณลกั ษณะทป่ี รากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความต้ังใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มีความสนใจ / ความต้งั ใจเป็นบางคร้งั
1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้ังใจในระยะเวลาสนั้ ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรยี น
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรียนมคี วามมงุ่ มั่นในการทำงาน
คะแนน : ระดบั คุณลกั ษณะท่ปี รากฏให้เห็น
คุณภาพ
3 : ดมี าก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานดั หมาย
2 : ดี - รับผิดชอบในงานที่ไดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเป็นนสิ ัย
1 : พอใช้ - ส่งงานช้ากวา่ กำหนด แต่ได้มกี ารติดตอ่ ชี้แจงผสู้ อน มีเหตผุ ลท่ีรบั ฟงั ได้
- รับผิดชอบในงานทไี่ ด้รบั มอบหมายและปฏบิ ตั ติ นเองจนเปน็ นิสัย
- สง่ งานช้ากวา่ กำหนด
- ปฏิบตั ิงานโดยต้องอาศยั การชีแ้ นะ แนะนำ ตักเตือนหรอื ใหก้ ำลงั ใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผเู้ รยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผเู้ รยี นได้รบั ความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อุปสรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
ใบงานท่ี 9 เรือ่ ง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ข้ันตอน
แสดงวธิ ีทำหาคำตอบ
1.ครูพลอยใสมเี กา้ อี้ 42 ตัว นกั เรยี นเอามาเพ่มิ อกี 35 ตวั จดั เกา้ อเี้ ป็นแถว แถวละ 7 ตัว
ครพู ลอยใสจะจัดเก้าอีไ้ ดท้ ั้งหมดก่แี ถว
ประโยคสัญลกั ษณ์
วิธที ำ
ตอบ
2.ชาวสวนเพาะตน้ ฝร่ัง 164 ต้น เพาะต้นฝรั่งมากกว่าตน้ มะมว่ ง 20 ต้น ชาวสวน ขายต้นมะมว่ ง
ตน้ ละ 35 บาท ชาวสวนขายตน้ มะม่วงทั้งหมดได้เงนิ ก่ีบาท
ประโยคสญั ลกั ษณ์
วธิ ีทำ
ตอบ
ชอ่ื
เลขที่
แผนการจดั การเรยี นรู้ที่ 10
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ คณติ ศาสตร์ รหสั วชิ า ค 13101 ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 3
เวลาเรียน 1 ชวั่ โมง
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 13 เรอ่ื ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เร่ือง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขั้นตอน(3)
ครูผู้สอน นางสาวจุฬาลกั ษณ์ ชูหนูขาว ตำแหนง่ ครผู ้ชู ่วย
มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลาย ของการแสดงจำนวน ระบบจำนวนการดำเนนิ การของ
จำนวนผลท่เี กิดข้ึนจากการดำเนินการ สมบตั ขิ องการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ชว้ี ดั : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธีหาคำตอบของโจทยป์ ัญหา 2 ขนั้ ตอนของจำนวนนับไมเ่ กนิ 100,000
และ 0
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้สูต่ ัวช้ีวัด
1.บอกวธิ ีแสดงวิธหี าคำตอบของโจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน (K)
2.แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอน (P)
3.นักเรยี นมคี วามม่งุ ในการทำงานและสามารถนำความรู้ทไ่ี ด้ไปต่อยอดในการเรียนเรอ่ื งต่อไป (A)
สาระสำคัญ
การแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ หรอื การหาร 2 ขั้นตอน ทำไดโ้ ดยอ่านทำความเข้าใจ
ปญั หาวางแผนแกป้ ัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของคำตอบ
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน
2.ทกั ษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1.การแก้ปญั หา
2.การสอื่ สารและการส่อื ความหมายทางคณิตศาสตร์
3.การเช่ือมโยง
3.คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
1.มีวนิ ัย
2.ใฝ่เรยี นรู้
3.มุง่ ม่นั ในการทำงาน
ชน้ิ งานหรือภาระงาน
ใบงานที่ 9 เร่อื ง โจทย์ปัญหาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขนั้ ตอน
กิจกรรมการจัดการเรยี นรู้
1.ครูกล่าวทักทายนักเรียนยกตัวอย่างโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอน ตามหนังสือเรยี นหนา้ 267 โดยตดิ บัตร
โจทย์บนกระดาน โรงเรียนแห่งหน่ึงมีนักเรียนชาย 210 คน มีนักเรียนหญิงมากกว่านักเรียนชาย 12 คน
โรงเรียนน้ีมีนักเรียนท้ังหมดก่ีคน ครูอธิบายเกี่ยวกับการเขียนแสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน
โดยใช้การถาม - ตอบ ดังนี้
− สว่ นท่โี จทย์บอกสว่ นแรกคืออะไร (โรงเรียนแห่งหนงึ่ มนี ักเรียนชาย 210 คน)
− ส่วนท่ีโจทยบ์ อกสว่ นทส่ี องคืออะไร (มีนักเรยี นหญิงมากกว่านักเรยี นชาย 12 คน)
− หาผลลัพธ์จากสองจำนวนแรกคอื จะต้องรอู้ ะไรกอ่ น (โรงเรียนน้ีมนี กั เรียนหญงิ กค่ี น)
การหาคำตอบของส่วนนคี้ รูอาจใช้ bar model ช่วยอธิบาย ดงั นี้
− หาจำนวนนักเรียนหญงิ ได้อยา่ งไร (210 + 12)
− ได้คำตอบเทา่ ไร (222 คน)
− โจทย์กำหนดใหท้ ำอะไรต่อ (หาจำนวนนักเรยี นท้งั หมดในโรงเรียนนี้)
− โจทย์ถามอะไร (โรงเรยี นนี้มนี กั เรียนทัง้ หมดก่คี น)
− หาคำตอบได้อย่างไร (210 + 222)
− คำตอบคอื เท่าไร (432 คน)
− สรปุ คำตอบได้อย่างไร (โรงเรียนน้ีมนี ักเรยี นท้ังหมด 432 คน)
2.ครใู ห้นักเรียนชว่ ยกนั เขยี นประโยคสัญลักษณแ์ ละเขยี นแสดงวธิ หี าคำตอบบนกระดาน ดงั น้ี
3.ครูถามนักเรียนว่าคำตอบที่ได้สมเหตุสมผลหรือไม่ ครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบควา ม
สมเหตุสมผลของคำตอบโดยพิจารณาจาก นักเรียนชาย 210 คน ถ้ามีนักเรียนหญิง 210 คนเท่ากัน จะมี
นกั เรียนทั้งหมด 210 + 210 = 420 คน แตเ่ นื่องจากมนี ักเรียนหญงิ มากกว่านักเรยี นชาย นักเรียนท้ังหมดจึง
ควรมากกว่า 420 คน ดังน้นั 432 คน จึงเป็นคำตอบท่สี มเหตุสมผล จากน้นั ครูแบ่งนกั เรยี นเปน็ 5 กลุ่ม ให้แต่
ละกลุ่มชว่ ยกนั เขยี นประโยคสัญลกั ษณ์และเขยี นแสดงวธิ ีหาคำตอบพรอ้ มกับตรวจสอบความสมเหตุสมผลของ
คำตอบที่ได้ของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน ตามหนังสือเรียนหน้า 267 กลุ่มละ 1 ข้อ ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม
ออกมานำเสนอหน้าชัน้ เรียนจนครบทกุ ข้อ ครูและนกั เรียนช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง
4.ตรวจสอบความเขา้ ใจของนักเรียนเป็นรายบุคคลโดยให้นักเรียนเขียนประโยคสัญลักษณ์และเขียน
แสดงวิธีหาคำตอบของโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ตามหนังสือเรียนหน้า 268 ครูและนักเรียนรว่ มกันตรวจสอบ
ความถูกตอ้ งและสรุปสิง่ ท่ีไดเ้ รียนรูถ้ า้ มีนักเรียนคนใดทเ่ี ขยี นประโยคสญั ลกั ษณ์และเขียนแสดงวิธีหาคำตอบไม่
ถูกตอ้ งครูอาจฝึกเพิ่มเติมเปน็ รายบุคคล การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู หรอื การหาร 2 ขั้นตอน
ทำได้โดยอ่านทำความเข้าใจปัญหา วางแผนแก้ปัญหา หาคำตอบ และตรวจสอบ ความสมเหตุสมผลของคำ
ตอบ จากนั้นให้นกั เรียนทำแบบฝกึ หดั 13.4.2 หน้า 191 – 192 จากน้นั ให้ทำใบงานเพม่ิ เตมิ
ส่อื การเรียนรู้
1. หนังสือเรียนคณติ ศาสตร์ ป.3
2. ใบงานที่ 10 เรอ่ื ง โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคณู และการหาร 2 ขัน้ ตอน
การวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
จุดประสงค์การ วิธีวัด เครอ่ื งมือวดั เกณฑ์การประเมิน
เรียนรู้
1.ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขึ้นไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
การประเมนิ
2.ดา้ นทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤตกิ รรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทกั ษะ คุณภาพดีขึ้นไป
กระบวนการ
3.ดา้ นคุณลักษณะท่ี สงั เกตพฤติกรรมดา้ น แบบสังเกตพฤตกิ รรม นักเรยี นไดค้ ะแนนระดบั
พงึ ประสงค์ (A) คณุ ลกั ษณะท่พี ึงประสงค์ ด้านคุณลกั ษณะ คณุ ภาพดีขนึ้ ไป
ท่ีพึงประสงค์
เกณฑก์ ารประเมนิ แบบฝึกหดั /ใบงาน
ประเดน็ การประเมิน 4 ระดบั คุณภาพ 1
32 เน้อื หาสาระของ
ผลงานไม่ถูกต้อง
1.ความถูกตอ้ งของ เน้ือหาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ เนื้อหาสาระของ เป็นส่วนใหญ่
การนำเสนอไม่
เน้ือหา ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกต้องเป็น ผลงานถูกต้องบาง เป็นไปตามเกณฑ์
ครบถ้วน สว่ นใหญ่ ประเดน็ ผลงานไมม่ คี วาม
เปน็ ระเบยี บ
2. รปู แบบ การนำเสนอ การนำเสนอถกู ต้อง การนำเสนอถกู ตอ้ ง
น่าสนใจและ เป็นส่วนใหญ่ บางสว่ น
เหมาะสมกับ
สถานการณ์
3. ความเปน็ ระเบียบ ผลงานมีความ ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมขี อ้ บกพรอ่ ง
เปน็ ระเบยี บ ข้อบกพร่องเล็กนอ้ ย บางสว่ น
เกณฑป์ ระเมนิ คุณภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดมี าก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถงึ พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถงึ ปรับปรงุ ระดับ 1
เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทำงาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตผุ ล
คะแนน:ระดับคณุ ภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตผุ ลที่ปรากฏให้เหน็
4 : ดีมาก มีการอา้ งองิ เสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สินใจอยา่ งมีเหตุผล
3 : ดี มีการอา้ งองิ ท่ีถกู ต้องบางส่วน และเสนอแนวคิดประกอบการตัดสนิ ใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคดิ ไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตัดสินใจ
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข มคี วามพยายามเสนอแนวคิดประกอบการตดั สินใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดบั คณุ ภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาทป่ี รากฏใหเ้ หน็
4 : ดมี าก ใชก้ ระบวนการแกป้ ัญหาไดส้ ำเรจ็ อยา่ งมีประสิทธิภาพ อธิบายถงึ เหตุผล
หลักการและขั้นตอนในการแกป้ ัญหาไดเ้ ขา้ ใจชัดเจนนำมาซง่ึ คำตอบท่ถี ูกต้อง
3 : ดี ใชก้ ระบวนการแก้ปญั หาได้สำเรจ็ แต่นา่ จะอธบิ ายถึงเหตุผล
หลักการและขนั้ ตอนในการแกป้ ญั หาไดด้ กี วา่ น้ี
2 : พอใช้ มีกระบวนการแก้ปญั หา สำเร็จเพยี งบางสว่ น อธบิ ายถงึ เหตุผล
หลักการและขนั้ ตอนในการแก้ปัญหาไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรบั ปรุงแกไ้ ข มรี ่องรอยการแกป้ ัญหาบางสว่ น เริ่มคดิ ใชเ้ หตผุ ล หลักการและขัน้ ตอน
ในการแก้ปัญหา แล้วหยุด อธบิ ายต่อไม่ได้ แกป้ ัญหาไม่สำเร็จ
ทกั ษะ และกระบวนการ: การเชือ่ มโยง สรุปองคค์ วามรู้
คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการเชือ่ มโยงท่ปี รากฏใหเ้ หน็
นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณติ ศาสตรใ์ นการเชื่อมโยงกับสาระ
4 : ดมี าก คณติ ศาสตร์หรอื กจิ กรรมทีต่ ้องใชอ้ งค์ความรทู้ ี่เรยี นได้ถูกตอ้ งทุกกจิ กรรมเพอ่ื ชว่ ย
ในการแก้ปัญหา หรอื ประยุกตใ์ ช้ได้อย่างสอดคล้องและเหมาะสม
นำความรู้ หลักการ และวธิ กี ารทางคณติ ศาสตรใ์ นการเชอื่ มโยงกบั สาระ
3 : ดี คณติ ศาสตร์หรอื กิจกรรมทีต่ อ้ งใช้องคค์ วามร้ทู ี่เรียนไดเ้ ป็นสว่ นใหญ่
เพื่อชว่ ยในการแกป้ ญั หาหรือประยกุ ตใ์ ช้ได้บางส่วน
2 : พอใช้ นำความรู้ หลกั การ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ไปเชอื่ มโยงกับสาระคณิตศาสตร์
หรือกิจกรรมทีต่ ้องใช้องคค์ วามรู้ทเ่ี รียนไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรบั ปรุงแก้ไข นำความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตรใ์ นการเชือ่ มโยงยังไมเ่ หมาะสม
สรปุ องค์ความรู้ทีไ่ ด้
เกณฑก์ ารใหค้ ะแนนดา้ นคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นกั เรยี นใฝเ่ รียนรู้
คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะทป่ี รากฏให้เหน็
คณุ ภาพ
3 : ดมี าก - มคี วามสนใจ / ความต้งั ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มคี วามสนใจ / ความตั้งใจเปน็ บางครัง้
1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความต้งั ใจในระยะเวลาส้ันๆ ชอบเล่นในเวลาเรียน
คุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ : นักเรยี นมีความมุง่ มน่ั ในการทำงาน
คะแนน : ระดับ คณุ ลกั ษณะท่ีปรากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
3 : ดีมาก - ส่งงานก่อนหรอื ตรงกำหนดเวลานัดหมาย
- รบั ผดิ ชอบในงานที่ไดร้ บั มอบหมายและปฏิบตั ิตนเองจนเปน็ นิสยั
2 : ดี - สง่ งานชา้ กวา่ กำหนด แตไ่ ด้มีการตดิ ต่อช้ีแจงผู้สอน มีเหตผุ ลท่ีรับฟังได้
1 : พอใช้ - รับผดิ ชอบในงานท่ีได้รับมอบหมายและปฏิบัติตนเองจนเปน็ นสิ ัย
- ส่งงานช้ากวา่ กำหนด
- ปฏิบตั งิ านโดยตอ้ งอาศยั การชี้แนะ แนะนำ ตกั เตือนหรอื ให้กำลังใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผเู้ รยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผเู้ รยี นได้รบั ความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อุปสรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
ใบงานที่ 10 เรอ่ื ง โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ข้นั ตอน
แสดงวธิ ีทำและหาคำตอบ
1.ชาวสวนเพาะต้นฝรั่ง 124 ต้น เพาะต้นฝรั่งมากกว่าต้นมะม่วง 60 ต้น ชาวสวน ขายต้นมะม่วง
ตน้ ละ 35 บาท ชาวสวนขายตน้ มะมว่ งทั้งหมดไดเ้ งนิ กบ่ี าท
ประโยคสัญลกั ษณ์
วิธีทำ
ตอบ
2.ครูทองดีมเี กา้ อี้ 52 ตัว นกั เรยี นเอามาเพ่ิมอกี 18 ตวั จัดเกา้ อเี้ ปน็ แถว แถวละ 10 ตวั
ครูทองดจี ะจดั เก้าอี้ไดท้ งั้ หมดกีแ่ ถว
ประโยคสัญลกั ษณ์
วธิ ีทำ
ตอบ
ชือ่
เลขที่
แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 11
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ คณิตศาสตร์ รหสั วิชา ค 13101 ชั้นประถมศึกษาปีท่ี 3
เวลาเรยี น 1 ช่วั โมง
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 13 เรอื่ ง การบวก ลบ คูณ หารระคน
เร่ือง การสร้างโจทยป์ ัญหา 2 ขั้นตอน
ครผู สู้ อน นางสาวจุฬาลักษณ์ ชูหนูขาว ตำแหนง่ ครผู ู้ชว่ ย
มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชว้ี ัด
มาตรฐาน ค 1.1 เข้าใจความหลากหลาย ของการแสดงจำนวน ระบบจำนวนการดำเนินการ ของ
จำนวนผลทเี่ กดิ ขนึ้ จาก การดำเนินการสมบตั ขิ องการดำเนนิ การและนำไปใช้
ตวั ช้ีวดั : ค 1.1 ป.3/9 แสดงวิธหี าคำตอบของโจทย์ปญั หา 2 ข้ันตอนของจำนวนนับไมเ่ กิน 100,000
และ 0
จดุ ประสงค์การเรียนรู้สู่ตวั ช้ีวดั
1.บอกวิธีสร้างโจทย์ปญั หา 2 ขัน้ ตอนจากประโยคสัญลกั ษณ์ (K)
2.แสดงวิธีหาสรา้ งโจทย์ปัญหา 2 ขัน้ ตอนจากประโยคสัญลักษณ์ (P)
3.นักเรยี นมีความมุ่งในการทำงานและสามารถนำความรทู้ ไ่ี ด้ไปต่อยอดในการเรียนเรือ่ งต่อไป (A)
สาระสำคัญ
การสร้างโจทย์ปญั หา 2 ข้นั ตอน ต้องมที งั้ ส่วนที่โจทย์บอกและส่วนทโ่ี จทยถ์ าม นอกจากนี้
โจทย์ปัญหาท่ีสร้างต้องมีความเป็นไปได้
สาระการเรียนรู้
1.ความรู้
การสรา้ งโจทยป์ ัญหา 2 ขนั้ ตอน
2.ทักษะ/กระบวนการ/กระบวนการคิด
1.การส่ือสารและการสือ่ ความหมายทางคณิตศาสตร์
2.การเชอ่ื มโยง
3.คุณลกั ษณะอันพึงประสงค์
1.มีวนิ ัย
2.ใฝ่เรยี นรู้
3.มุ่งมัน่ ในการทำงาน
ชน้ิ งานหรอื ภาระงาน
ใบงานที่ 11 เรอื่ ง การสร้างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน
กจิ กรรมการจัดการเรียนรู้
1.ครูทบทวนการสร้างโจทย์ปัญหาการบวกหรือโจทยป์ ัญหาการลบหรือโจทย์ปัญหาการคณู หรือโจทย์
ปัญหาการหาร ท่ีเปน็ โจทย์ปัญหาข้ันตอนเดียวพรอ้ มกับให้เขียนประโยคสญั ลักษณ์เพ่ือตรวจสอบโจทย์ปัญหา
ท่ีสร้างวา่ มีความถกู ต้องหรอื ไม่ โดยติดบัตรโจทยแ์ ละบตั รประโยคสญั ลกั ษณ์ บนกระดานหลาย ๆ โจทยแ์ ล้วให้
นกั เรียนช่วยกัน จบั คบู่ ตั รโจทยแ์ ละบตั รประโยคสัญลกั ษณ์ท่ีสอดคล้องกัน เช่น
− พ่อมเี งนิ 5,000 บาท แมม่ เี งนิ 4,000 บาท พอ่ และแม่มีเงนิ ท้งั หมดเทา่ ไร ประโยค
สญั ลกั ษณ์ 5,000 + 4,000 =
− พ่อค้าขายมงั คุดได้เงนิ 8,000 บาท ขายทุเรียนไดเ้ งิน 19,500 บาท พ่อค้าขายมงั คุด ได้
เงนิ นอ้ ยกว่าขายทุเรียนเท่าไร ประโยคสัญลักษณ์ 19,500 − 8,000 =
− ระยะทาง 1 กิโลเมตรเท่ากบั ระยะทาง 1,000 เมตร ขนุ วงิ่ ได้ระยะทาง 5 กโิ ลเมตร คิดเป็น
ก่เี มตร ประโยคสัญลกั ษณ์ 5 × 1,000 =
− น้ำหนกั 1 กโิ ลกรัมเทา่ กับนำ้ หนัก 10 ขีด แม่ค้ามที เุ รยี น 6,890 ขดี แม่คา้ มีทุเรยี นกี่
กิโลกรมั ประโยคสญั ลักษณ์ 6,890 ÷ 10 =
เม่ือนักเรียนจับคู่บัตรโจทย์ปัญหากับบัตรประโยคสัญลักษณ์เรียบร้อยแล้วครูให้นักเรียนอ่านโจทย์
ปัญหากับประโยคสญั ลักษณ์ที่ค่กู ันอีกครง้ั เพอ่ื ทบทวนประโยคสัญลกั ษณ์กบั โจทย์ปัญหาท่ีสอดคล้องกนั
จากน้ันครูอธิบายว่าตัวอย่างโจทย์ปัญหาและประโยคสัญลักษณ์ท่ีอยู่บนกระดานน้ีเป็นโจ ทย์ปัญหา
การบวก โจทย์ปัญหาการลบ โจทย์ปัญหาการคูณ และโจทย์ปัญหาการหารขั้นตอนเดียวซ่ึงโจทย์ปัญหาแต่ละ
โจทยป์ ญั หาจะประกอบด้วยส่วนที่โจทย์ถามและสว่ นทโ่ี จทยบ์ อก
จากน้ันครูนำบัตรโจทย์ปัญหาที่ติดอยู่บนกระดานนั้นแยกเป็นบัตรข้อความ 2 บัตร บัตรส่วนท่ีโจทย์
ถามและบัตรส่วนที่โจทย์บอก หรืออาจใช้การถามตอบ ถามนักเรียนว่า จากโจทย์ปัญหาท่ีติดอยู่ ส่วนที่โจทย์
บอกคืออะไร ส่วนที่โจทย์ถามคอื อะไร เม่ือนกั เรยี นตอบได้ครบทกุ โจทยป์ ญั หาแลว้
ครูนำเข้าสู่บทเรียนย่อยน้ีโดยอธิบายว่า บทเรียนย่อยนี้จะเรียนเก่ียวกับการสร้างโจทย์ปัญหา 2
ขั้นตอน ครยู กตัวอยา่ งโจทยป์ ญั หา 2 ขัน้ ตอน จากเน้ือหาที่เรียนในชวั่ โมงทีแ่ ลว้ ดงั น้ี แม่ค้ามีดอกบวั 120 ดอก
จัดเป็นกำ กำละ 3 ดอก ขายกำละ 25 บาท ขายดอกบัวหมด แม่ค้าจะได้เงินเท่าไร ครูติดบัตรโจทย์น้ีบน
กระดาน แล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบว่าโจทย์ปัญหาขั้นตอนเดียวกับโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอนน้ันเหมือนหรือ
ต่างกันอย่างไร ครูและนักเรียนร่วมกัน อภิปรายว่า โจทย์ปัญหาข้ันตอนเดียวกับโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน
ประกอบด้วย 2 สว่ น เหมือนกัน คือ ส่วนท่ีโจทย์ถามและส่วนท่ีโจทย์บอก แต่ต่างกันคือ โจทย์ปัญหาขัน้ ตอน
เดียวมีส่วนที่โจทย์บอกเก่ียวข้องกับจำนวนสองจำนวนเท่านั้น แต่โจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน มีส่วนท่ีโจทย์บอก
เกี่ยวข้องกับ จำนวนหลายจำนวน ครูอธิบายว่า เน่ืองจากโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน เกี่ยวข้องกับจำนวนหลาย
จำนวน จึงต้องกำหนดกอ่ นว่าจะหาผลลพั ธ์ของสองจำนวนใดก่อนโดยการใสว่ งเล็บ
ดังนั้น การใส่วงเล็บในประโยคสัญลักษณ์จึงเป็นการกำหนดให้รู้ว่าต้องหาผลลัพธท์ ่ีอยู่ในวงเล็บก่อน
การสร้างโจทย์ปัญหา 2 ขั้นตอน ให้สอดคล้องกับประโยคสัญลักษณ์นั้นจึงต้องเขียนส่วนท่ีโจทย์บอกให้
สอดคล้องกับจำนวน ที่อยู่ในวงเล็บก่อนดว้ ยเช่นกัน ดังน้ี จากบัตรโจทย์แม่ค้ามีดอกบัว 120 ดอก จัดเป็นกำ
กำ ละ 3 ดอก ขายกำละ 25 บาท ขายดอกบัวหมดแม่ค้าจะได้เงินเท่าไร และบัตรประโยคสัญลักษณ์ (120 ÷
3) × 25 = แยกบัตรโจทย์และบัตรประโยคสัญลักษณ์โดยครูติดบัตรข้อความที่แยกออกมาจากบัตรโจทย์
ขา้ งต้น ใหต้ รงกับประโยคทางคณติ ศาสตร์ ดังรปู
ครอู ธิบายว่าดงั นั้น การสรา้ งโจทย์ปัญหา 2 ขนั้ ตอน จงึ เปน็ การเขียนส่วนทีโ่ จทย์บอกสองสว่ น ส่วน
แรกเขยี นใหส้ อดคล้องกบั จำนวนสองจำนวนท่อี ยู่ในวงเล็บทป่ี รากฏในประโยคสัญลกั ษณ์ และสว่ นท่ีสองเขียน
ให้สอดคล้องกับจำนวนทอี่ ย่นู อกวงเล็บ และเขยี นสว่ นทีโ่ จทย์ถามเมือ่ นกั เรียนเข้าใจเกีย่ วกับส่วนประกอบต่าง
ๆ ของโจทยป์ ญั หา 2 ขัน้ ตอนแลว้
2.ครตู ดิ บัตรภาพ ทีเ่ กยี่ วกับสถานการณต์ ่าง ๆ ท่ีเกิดขน้ึ ในชวี ติ จรงิ ทสี่ ามารถนำมาสร้างโจทย์ปัญหา 2
ข้ันตอนไดต้ ามหนังสอื เรยี นหน้า 269 ดังนี้
ครใู หน้ กั เรยี นพจิ ารณาภาพและถามนักเรียนวา่ สร้างโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอน จากภาพนไ้ี ด้อย่างไรโดย
ครยู ังไม่กำหนดประโยคสัญลักษณ์ครูให้นกั เรยี นใช้ขอ้ ความท่ปี รากฏในภาพนำมาสร้างโจทยป์ ัญหา 2 ขน้ั ตอน
โดยโจทย์ปัญหาต้องมีส่วนท่ีโจทย์ถามและส่วนท่ีโจทย์บอก ส่วนที่โจทย์บอกของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอน มี 2
สว่ น ส่วนแรกเป็นส่วนท่ีอยู่ในวงเล็บ ครูถามนักเรียนว่าจากข้อความที่อยู่ในภาพ ส่วนแรกที่อยู่ในวงเล็บควร
เป็นข้อความใด (มีโดนัทรสช็อกโกแลต 12 ช้นิ มโี ดนทั รสสตรอว์เบอร์รี 16 ชน้ิ ) สว่ นที่สองคือข้อความใด (พวก
เรามี 7 คน) โจทย์ข้อน้ีควรถามว่าอย่างไร (พวกเราแต่ละคนจะได้โดนัทคนละกี่ชิ้น) ถ้านักเรียนตอบไม่ได้ครู
อาจใช้คำถามท่ีเป็นคำถามช้ีแนะก่อนจนกว่านักเรียนจะคิดได้ว่าต้องถามคำถามว่าอย่างไรหรือครูอาจเขียน
ประโยคสัญลกั ษณ์ให้นักเรียนเห็นก่อน แลว้ ให้เขียนข้อความท่ีอยู่ในภาพให้ตรงกับประโยคสญั ลักษณ์นักเรียน
จะสามารถสร้างโจทย์ปัญหาได้ง่ายข้นึ ทั้งนี้ เปน็ ทางเลือกสุดท้ายที่นักเรียนคิดไมไ่ ดจ้ ริง ๆ ว่าจะถามคำถามว่า
อยา่ งไร เม่ือนกั เรียนสร้างโจทย์ปัญหาได้แล้ว ครใู หน้ กั เรียนออกมาเขยี นโจทยป์ ัญหาที่สรา้ งบนกระดาน ดงั น้ีมี
โดนทั รสช็อกโกแลต 12 ชิ้น มีโดนัทรสสตรอว์เบอร์รี 16 ชิน้ พวกเรามี 7 คน พวกเราแต่ละคนจะได้โดนทั คน
ละก่ีชิ้น ครูเขียนโจทยป์ ัญหาให้กระชบั มากข้นึ ดังน้ี ครูมีโดนัทรสช็อกโกแลต 12 ชิ้นมีโดนัทรสสตรอว์เบอร์รี
16 ช้นิ แบ่งให้นกั เรยี น 7 คน คนละเท่า ๆ กัน นกั เรยี นจะไดโ้ ดนทั คนละก่ชี น้ิ ครูใช้การถาม - ตอบ ดงั น้ี
จากโจทยป์ ัญหาทส่ี ร้างสว่ นทโ่ี จทย์บอกส่วนแรกคอื อะไร (ครูมโี ดนัทรสช็อกโกแลต 12 ช้นิ มโี ดนทั รส
สตรอวเ์ บอร์รี 16 ชน้ิ ) ส่วนท่โี จทย์บอกส่วนทส่ี องคอื อะไร (แบ่งให้นกั เรียน 7 คน คนละเท่า ๆ กนั )สว่ นท่ีโจทย์
ถามคืออะไร (นกั เรยี นจะได้โดนัทคนละกช่ี น้ิ ) เขยี นเป็นประโยคสัญลกั ษณไ์ ด้อย่างไร
((12 + 16) ÷ 7 =) ครูและนักเรยี นร่วมกนั สรปุ ว่าการสร้างโจทยป์ ญั หา 2 ข้นั ตอนประกอบดว้ ย สว่ นที่
โจทย์บอกและสว่ นทโ่ี จทย์ถาม ส่วนท่โี จทย์บอกมีสองสว่ น สว่ นแรกเป็นส่วนทส่ี อดคล้องกบั จำนวนทีอ่ ย่ใู น
วงเล็บ สว่ นท่ีสองเปน็ ส่วนท่ีสอดคล้องกับจำนวนที่อยนู่ อกวงเลบ็
3.ครูยกตัวอย่างการสร้างโจทย์ปัญหา 2 ขน้ั ตอน จากประโยคสัญลักษณ์ (50 ÷ 5) × 10 =
ตามหนังสือเรยี นหนา้ 270 โดยให้นักเรียนพจิ ารณาว่า จากประโยคสัญลกั ษณ์ สามารถสร้างโจทย์ปญั หาได้
อยา่ งไรบ้างโดยไมใ่ ช้ภาพประกอบนกั เรียนอาจสรา้ งโจทยป์ ญั หา ไดห้ ลากหลายขน้ึ อยูก่ บั จนิ ตนาการของ
นกั เรยี น ครอู าจใช้คำถามนำ เชน่
− การสร้างโจทยป์ ญั หาตอ้ งประกอบด้วยสองส่วนอะไรบา้ ง (สว่ นทโี่ จทย์ถามและ สว่ นท่ี
โจทยบ์ อก)
− สว่ นที่โจทยบ์ อกมีก่ีส่วนสอดคลอ้ งกบั จำนวนใดบา้ งในประโยคสญั ลักษณ์ (สองสว่ น ส่วน
แรกสอดคลอ้ งกบั 50 ÷ 5 ส่วนที่สองสอดคลอ้ งกบั × 10)
จากน้นั ครใู หน้ กั เรียนสร้างประโยคขอ้ ความของโจทยป์ ญั หาพร้อมระบุสว่ นท่ีโจทย์ถามและ
ส่วนทโี่ จทย์บอก โดยให้ระบุส่วนท่โี จทย์บอกเปน็ ส่วนแรกและสว่ นทีส่ อง ดงั นี้
− แมค่ ้ามีลูกชน้ิ 50 ลกู เสียบลกู ช้นิ ไมล้ ะ 5 ลูก นำลูกชน้ิ ไปขายไมล้ ะ 10 บาท ขายลกู ชนิ้
หมดแม่ค้าจะไดเ้ งนิ ก่ีบาท
สว่ นที่โจทยถ์ าม (ขายลูกชนิ้ หมดแม่ค้าจะได้เงนิ กบ่ี าท)
สว่ นทโ่ี จทยบ์ อกส่วนแรก (แม่คา้ มีลกู ช้นิ 50 ลูก เสยี บลูกชิ้นไมล้ ะ 5 ลกู )
ส่วนท่โี จทยบ์ อกสว่ นทสี่ อง (นำลูกชน้ิ ไปขายไม้ละ 10 บาท)
− ใบบัวมีเงิน 50 บาท ซ้ือลกู อมถุงละ 5 บาท แต่ละถงุ มลี กู อม 10 เมด็ ใบบวั ได้ลกู อม
ทัง้ หมดกีเ่ ม็ด
สว่ นทโ่ี จทย์ถาม (ใบบัวไดล้ ูกอมท้งั หมดกเ่ี มด็ )
ส่วนทีโ่ จทยบ์ อกส่วนแรก (ใบบวั มเี งนิ 50 บาท ซ้ือลูกอมถุงละ 5 บาท)
ส่วนทโ่ี จทยบ์ อกส่วนที่สอง (แต่ละถุงมลี กู อม 10 เมด็ )
− ครูมีนำ้ ดื่ม 50 ลิตร แบง่ ใสถ่ งั ถังละ 5 ลิตร แต่ละถงั เทนำ้ ดม่ื ใส่ขวดได้10 ขวด ครมู นี ้ำ
ด่ืมท้งั หมดกีข่ วด
ส่วนทโ่ี จทยถ์ าม (ครูมีน้ำด่ืมทงั้ หมดกีข่ วด)
ส่วนท่ีโจทย์บอกสว่ นแรก (ครมู นี ำ้ ดมื่ 50 ลิตร แบ่งใสถ่ ัง ถังละ 5 ลติ ร)
สว่ นทีโ่ จทย์บอกส่วนท่ีสอง (แต่ละถงั เทน้ำ ดมื่ ใสข่ วดได้10 ขวด)
ครเู ขียนโจทยป์ ญั หาท่สี ร้างบนกระดานแล้วให้นักเรียนตรวจสอบว่าโจทยป์ ญั หาทส่ี ร้างสอดคลอ้ งกบั
ประโยคสญั ลักษณท์ ่กี ำหนดให้ หรอื ไม่ โดยใหน้ กั เรยี นอ่านโจทย์ปญั หาท่สี ร้าง เขยี นประโยคสญั ลักษณ์และ
พิจารณาว่า ประโยคสญั ลักษณท์ ี่เขยี นจากโจทย์ปัญหาน้นั ตรงกบั ประโยคสญั ลักษณท์ กี่ ำหนดใหห้ รือไม่
จากนั้นครใู ห้นักเรยี นชว่ ยกันหาคำตอบ จากโจทย์ปญั หาท่ีสร้างเมือ่ ไดค้ ำตอบแลว้ ครถู ามนกั เรยี นว่า จาก
ประโยคสัญลักษณท์ ี่กำหนดให้ เป็นประโยคสัญลักษณ์ท่มี ีวงเลบ็ ใชห่ รือไม่ (ใช่) ดังน้ันในการสร้างโจทยป์ ัญหา
ในสว่ นที่โจทยบ์ อกตอ้ งสอดคลอ้ งกับจำนวนท่อี ยใู่ นวงเล็บใชห่ รอื ไม่ (ใช่) ครูใหน้ ักเรียนสังเกตวา่ ในวงเล็บท่ี
กำหนดไว้ คอื 50 ÷ 5 ดังนัน้ สว่ นที่โจทย์บอกสว่ นแรก ต้องเขียนให้สอดคล้องกบั 50 ÷ 5 เชน่ ครูมีนำ้ ดื่ม 50
ลิตร แบ่งใสถ่ ัง ถงั ละ 5 ลิตร จากนนั้ ครูใหน้ กั เรียนสังเกตจำนวนตอ่ ไปในประโยคสัญลักษณ์คอื × 10 ใหเ้ ขยี น
ส่วนทโี่ จทย์บอกให้ สอดคลอ้ งกับ × 10 เชน่ แต่ละถงั เทนำ้ ด่มื ใส่ขวดได้10 ขวด สว่ นสุดทา้ ยคือส่วนทีโ่ จทย์
ถามเป็นเรอื่ งยากที่นกั เรียนจะเขียนสว่ นทโ่ี จทยถ์ ามไดถ้ ูกตอ้ ง แม้วา่ จะกำหนดประโยคสัญลกั ษณ์ ให้แลว้ กต็ าม
ครูอาจใหน้ ักเรียนสงั เกตจากโจทยป์ ัญหาทุกโจทย์ปัญหาทส่ี รา้ งมานน้ั วา่ คำถาม ควรจะเขยี นให้เกี่ยวข้องกบั
สว่ นใดของส่วนที่โจทย์บอก ดังนี้
1.แมค่ า้ มลี ูกช้นิ 50 ลกู เสยี บลูกช้นิ ไมล้ ะ 5 ลูก นำลกู ชิน้ ไปขายไมล้ ะ 10 บาท ขายลูกชิน้
หมด แมค่ ้าจะไดเ้ งนิ กีบ่ าท
2.ใบบัวมเี งนิ 50 บาท ซื้อลกู อมถงุ ละ 5 บาท แต่ละถุงมีลูกอม 10 เมด็ ใบบวั ได้ลูกอม
ทง้ั หมดก่เี ม็ด
3.ครมู นี ้ำด่ืม 50 ลิตร แบ่งใส่ถัง ถังละ 5 ลิตร แต่ละถังเทน้ำด่ืมใส่ขวดได้ 10 ขวด
ครมู ีน้ำดื่มทงั้ หมดก่ีขวด
ครูให้นักเรียนสงั เกตส่วนที่โจทย์ถามของทุกโจทย์ปัญหาที่สร้างมาแล้วข้างต้น จะเห็นวา่ สว่ นที่โจทย์
ถามน้ันจะเกีย่ วข้องกบั สว่ นที่โจทย์บอกสว่ นที่สองทัง้ สน้ิ เช่น
โจทย์ปญั หาขอ้ 1 สว่ นทโ่ี จทย์ถาม ขายลูกชิ้นหมดแม่คา้ จะไดเ้ งินก่ีบาท
ส่วนที่โจทย์บอกส่วนทส่ี อง นำลกู ชนิ้ ไปขายไม้ละ 10 บาท
โจทย์ปญั หาข้อ 2 ส่วนท่ีโจทยถ์ ามใบบัวได้ลกู อมทั้งหมดกเ่ี ม็ด
สว่ นทโ่ี จทย์บอกส่วนทสี่ อง แต่ละถุงมลี ูกอม 10 เมอ่ื
โจทย์ปญั หาขอ้ 3 ส่วนทโี่ จทย์ถาม ครมู ีน้ำดมื่ ท้ังหมดกข่ี วด
สว่ นทโี่ จทยบ์ อกสว่ นท่สี อง แต่ละถงั เทน้ำ ดื่มใส่ขวดได้10 ขวด
3.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มช่วยกันสร้างโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอนจากประโยค
สัญลกั ษณ์ที่กำหนดให้ตามหนังสือเรยี นหน้า 271 แล้วให้นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานำเสนอโจทยป์ ญั หาทีส่ ร้าง
ขึ้น โดยระบุสว่ นทีโ่ จทยบ์ อกส่วนแรก ส่วนท่โี จทยบ์ อกส่วนทสี่ องและส่วนท่ีโจทย์ถาม เขียนประโยคสญั ลักษณ์
จากโจทย์ปัญหาทส่ี ร้างว่าสอดคล้องกับประโยคสัญลักษณ์ทีก่ ำหนดใหห้ รือไม่ พร้อมหาคำตอบ ครูและนักเรียน
ชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ งครูอาจให้นกั เรียนสังเกตประโยคสัญลักษณท์ ี่กำหนดให้ว่า สว่ นที่โจทย์บอกสว่ น
แรกสอดคล้องกับจำนวนในวงเล็บหรือไม่ ส่วนท่ีโจทย์บอกส่วนท่ีสองสอดคล้องกับจำนวนที่อยู่นอกวงเล็บ
หรอื ไมส่ ว่ นทีโ่ จทย์ถามเก่ียวขอ้ งกับส่วนทีโ่ จทยบ์ อกส่วนทส่ี องหรอื ไม่
4.ตรวจสอบความเข้าใจของนักเรยี นเป็นรายบุคคล โดยให้นกั เรยี นแต่ละคนสร้างโจทย์ปญั หา 2 ขั้นตอน
จากประโยคสญั ลักษณ์ท่ีกำหนดตามหนังสอื เรียนหน้า 272 ครูควรใหน้ ักเรียนสร้างโจทย์ปัญหาด้วยตนเองทุก
คน จากนั้นครูให้นักเรยี นช่วยกันพิจารณาความเป็นไปได้ของโจทย์ปัญหา 2 ข้ันตอนท่ีนักเรียนสร้างขึ้นว่า มี
ความสอดคล้องกับประโยคสัญลักษณ์ที่กำหนดให้หรือไม่แล้วร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและสรุปส่ิงท่ีได้
เรยี นรู้และใหน้ กั เรียนทำแบบฝกึ หดั 13.5 หน้า 193 และให้ทำใบงานเพิม่ เติม
สอ่ื การเรียนรู้
1.หนงั สอื เรียนคณติ ศาสตร์ ป.3
2.ใบงานที่ 11 เรื่อง โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขน้ั ตอน
การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้
จุดประสงค์การ วธิ ีวัด เคร่ืองมือวดั เกณฑก์ ารประเมนิ
เรียนรู้
1.ดา้ นความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน 60% ขนึ้ ไป ถอื ว่าผ่านเกณฑ์
การประเมนิ
2.ด้านทกั ษะ สงั เกตพฤติกรรมด้าน แบบสังเกตพฤติกรรม นกั เรยี นได้คะแนนระดบั
กระบวนการ (P) ทกั ษะกระบวนการ ดา้ นทักษะ คุณภาพดีขนึ้ ไป
กระบวนการ
3.ดา้ นคุณลักษณะท่ี สังเกตพฤติกรรมด้าน แบบสงั เกตพฤติกรรม นักเรยี นได้คะแนนระดบั
พงึ ประสงค์ (A) คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ ดา้ นคณุ ลักษณะ คณุ ภาพดขี นึ้ ไป
ทพ่ี ึงประสงค์
เกณฑก์ ารประเมนิ แบบฝึกหัด/ใบงาน
ประเดน็ การประเมนิ ระดับคุณภาพ
1.ความถกู ต้องของ
เนือ้ หา 4 32 1
เนือ้ หาสาระของ
2. รปู แบบ เน้อื หาสาระของ เนือ้ หาสาระของ เนอ้ื หาสาระของ ผลงานไมถ่ ูกต้อง
เป็นส่วนใหญ่
ผลงานถกู ตอ้ ง ผลงานถูกต้องเปน็ ผลงานถูกต้อง การนำเสนอไม่
เปน็ ไปตามเกณฑ์
ครบถ้วน สว่ นใหญ่ บางประเดน็
การนำเสนอนา่ สนใจ การนำเสนอถูกต้อง การนำเสนอ
และเหมาะสมกบั เปน็ ส่วนใหญ่ ถกู ตอ้ งบางสว่ น
สถานการณ์
3. ความเป็นระเบยี บ ผลงานมคี วามเป็น ผลงานส่วนใหญ่มี ผลงานมี ผลงานไมม่ ีความ
ระเบียบ ข้อบกพร่อง ข้อบกพร่อง เป็นระเบียบ
เลก็ นอ้ ย บางสว่ น
เกณฑ์ประเมินคณุ ภาพ
10 - 12 คะแนน หมายถงึ ดีมาก ระดบั 4 4 - 6 คะแนน หมายถึง พอใช้ ระดับ 2
7 - 9 คะแนน หมายถงึ ดี ระดบั 3 1-3 คะแนน หมายถึง ปรบั ปรุง ระดบั 1
เกณฑ์การใหค้ ะแนนดา้ นทักษะและกระบวนการทำงาน
ทกั ษะและกระบวนการ: การให้เหตุผล
คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการใหเ้ หตุผลทปี่ รากฏใหเ้ ห็น
4 : ดีมาก มกี ารอ้างองิ เสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สนิ ใจอยา่ งมเี หตผุ ล
3 : ดี มกี ารอ้างองิ ทถ่ี กู ตอ้ งบางสว่ น และเสนอแนวคดิ ประกอบการตัดสนิ ใจ
2 : พอใช้ เสนอแนวคิดไม่สมเหตุสมผลในการประกอบการตดั สนิ ใจ
1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มคี วามพยายามเสนอแนวคดิ ประกอบการตดั สินใจ
ทกั ษะและกระบวนการ : การแก้ปญั หา
คะแนน:ระดับคุณภาพ ความสามารถในการแก้ปัญหาท่ปี รากฏให้เห็น
4 : ดมี าก ใชก้ ระบวนการแก้ปัญหาได้สำเร็จ อย่างมปี ระสทิ ธิภาพ อธบิ ายถงึ เหตุผล
หลักการและขน้ั ตอนในการแกป้ ญั หาได้เข้าใจชดั เจนนำมาซง่ึ คำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง
ใช้กระบวนการแก้ปญั หาได้สำเร็จ แตน่ ่าจะอธิบายถงึ เหตุผล
3 : ดี หลักการและขั้นตอนในการแกป้ ญั หาได้ดกี ว่านี้
2 : พอใช้ มกี ระบวนการแกป้ ัญหา สำเรจ็ เพยี งบางส่วน อธิบายถงึ เหตผุ ล
หลกั การและข้ันตอนในการแกป้ ัญหาไดบ้ างส่วน
1 : ควรปรบั ปรงุ แกไ้ ข มรี ่องรอยการแกป้ ัญหาบางส่วน เร่ิมคิดใช้เหตุผล หลกั การและขัน้ ตอน
ในการแกป้ ญั หา แลว้ หยุด อธบิ ายต่อไมไ่ ด้ แก้ปัญหาไม่สำเร็จ
ทักษะ และกระบวนการ: การเช่ือมโยง สรุปองค์ความรู้
คะแนน:ระดบั ความสามารถในการเชือ่ มโยงที่ปรากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
นำความรู้ หลกั การ และวธิ ีการทางคณิตศาสตร์ในการเชอ่ื มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
4 : ดมี าก หรอื กจิ กรรมท่ีต้องใชอ้ งค์ความรทู้ ี่เรยี นได้ถกู ต้องทกุ กิจกรรมเพ่อื ชว่ ยในการแก้ปญั หา
หรือประยกุ ต์ใชไ้ ดอ้ ย่างสอดคลอ้ งและเหมาะสม
นำความรู้ หลักการ และวิธกี ารทางคณติ ศาสตรใ์ นการเช่อื มโยงกับสาระคณติ ศาสตร์
3 : ดี หรือกจิ กรรมที่ตอ้ งใชอ้ งคค์ วามรทู้ ่ีเรยี นได้เปน็ สว่ นใหญ่
เพ่ือชว่ ยในการแก้ปญั หาหรอื ประยกุ ต์ใชไ้ ดบ้ างส่วน
2 : พอใช้ นำความรู้ หลกั การ และวธิ กี ารทางคณิตศาสตรไ์ ปเชอ่ื มโยงกับสาระคณิตศาสตรห์ รือ
กจิ กรรมท่ตี ้องใช้องค์ความรูท้ ่เี รียนไดบ้ างสว่ น
1 : ควรปรับปรุง นำความรู้ หลักการ และวิธีการทางคณิตศาสตร์ในการเชือ่ มโยงยังไม่เหมาะสม สรปุ
แก้ไข องค์ความร้ทู ีไ่ ด้
เกณฑ์การใหค้ ะแนนด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค์
คุณลกั ษณะอนั พึงประสงค์ : นักเรียนใฝเ่ รียนรู้
คะแนน : ระดับ คุณลักษณะทป่ี รากฏให้เห็น
คณุ ภาพ
3 : ดีมาก - มีความสนใจ / ความตงั้ ใจตลอดระยะเวลาการเรียนรู้
2 : ดี - มีความสนใจ / ความต้งั ใจเป็นบางคร้ัง
1 : พอใช้ - มีความสนใจ / ความตง้ั ใจในระยะเวลาสน้ั ๆ ชอบเลน่ ในเวลาเรียน
คุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ : นกั เรียนมีความมุ่งมนั่ ในการทำงาน
คะแนน : ระดบั คณุ ลกั ษณะทีป่ รากฏให้เหน็
คุณภาพ
3 : ดมี าก - สง่ งานก่อนหรือตรงกำหนดเวลานัดหมาย
2 : ดี - รับผิดชอบในงานทีไ่ ดร้ ับมอบหมายและปฏบิ ัตติ นเองจนเป็นนิสยั
1 : พอใช้ - ส่งงานชา้ กวา่ กำหนด แต่ไดม้ กี ารตดิ ต่อชี้แจงผ้สู อน มเี หตุผลที่รับฟังได้
- รับผิดชอบในงานที่ไดร้ บั มอบหมายและปฏบิ ัติตนเองจนเป็นนสิ ยั
- สง่ งานช้ากว่ากำหนด
- ปฏิบตั งิ านโดยต้องอาศยั การช้ีแนะ แนะนำ ตกั เตือนหรอื ให้กำลังใจ
บนั ทกึ ผลหลังกระบวนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ คน คดิ เป็นร้อยละ
1. ผลการเรียนรทู้ เี่ กดิ ข้นึ กับผเู้ รยี น คน
1.1 ผเู้ รยี นผา่ นจุดประสงคก์ ารเรยี นรู้ จำนวน
1.2 ผเู้ รยี นไมผ่ า่ นจุดประสงค์การเรยี นรู้ จำนวน
ได้แก่
สาเหตุ
1.3 ผเู้ รยี นได้รบั ความรู้ :
1.4 ผูเ้ รยี นเกดิ ทกั ษะกระบวนการ :
1.5 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จริยธรรม คา่ นิยม :
2. ปัญหา / อุปสรรค
3. ข้อเสนอแนะ / แนวทางแกไ้ ข
ลงชอื่ ผู้สอน
(นางสาวจฬุ าลักษณ์ ชูหนขู าว)
ใบงานที่ 11 เร่ือง โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ และการหาร 2 ขั้นตอน
สรา้ งโจทย์ปัญหา 2 ขนั้ ตอนจากประโยคสญั ลกั ษณ์
1. 1,000 − (200 + 199) =
โจทยป์ ัญหา
2. (100 ÷ 5) − 12 =
โจทย์ปญั หา
3. (99 + 19) × 12 =
โจทย์ปัญหา
4. (514 + 126) ÷ 2 =
โจทย์ปญั หา
ช่อื
เลขท่ี
ร่วมคิดรว่ มทำ “กจิ กรรมขยะสร้างรายได้”(1ชว่ั โมง)
อุปกรณ์
1.บตั รแสดงปรมิ าณขยะ
2.กระดาษ A4
3.ปา้ ยแสดงราคาขยะที่ “บริษทั คดั แยกขยะเพือ่ รไี ซเคิล” รับซื้อ
วิธีจัดกจิ กรรม
1.ครูแบ่งนกั เรียนเป็นกลุม่ กลุ่มละเท่า ๆ กัน ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ เป็นผ้รู ับซื้อขยะและ แจกกระดาษ A4
เทา่ กบั จำนวนบตั รแสดงปรมิ าณขยะเพือ่ ใช้ในการเขยี นราคา ทีก่ ลุ่มจะรับซอื้ จากครู
2.ครูติดปา้ ยแสดงราคาขยะท่ี “บริษทั คัดแยกขยะเพ่อื รไี ซเคลิ ” รบั ซื้อบนกระดาน
3.ครูอธิบายกติกาวา่ นักเรยี นจะตอ้ งซอ้ื ขยะจากครแู ลว้ นำไปขายให้ “บรษิ ทั คัดแยกขยะเพื่อรีไซเคลิ ”
จำนวนเงินท่ีได้จากการขายขยะให้บรษิ ทั ลบด้วยจำนวน เงินทใ่ี ช้ซือ้ ขยะจากครเู รียกวา่ กำไร กล่มุ ใดได้
กำไรมากที่สดุ จะเปน็ กลุ่มชนะ
4.ครูชบู ัตรแสดงปรมิ าณขยะทีละบตั ร แลว้ ให้นักเรยี นแต่ละกลุ่มเขยี นราคาท่ีจะซ้ือขยะจากครลู งใน
กระดาษ A4 ซ่ึงครจู ะขายให้กับกลุม่ ทใี่ ห้ราคาสูงสุด
5.กลมุ่ ใดซื้อขยะมาแล้วใหน้ ำปรมิ าณขยะน้นั ไปขายใหก้ บั “บริษทั คัดแยกขยะเพ่ือรีไซเคิล” ตามราคา
ที่ตดิ ไว
แบบทดสอบท้ายหน่วย เร่ือง การบวก ลบ คณู หารระคน
คะแนนเตม็ 10 คะแนน เวลา 60 นาที
มาตรฐาน ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจำนวน ระบบจำนวนการดำเนนิ การของจำนวนผลที่
เกิดขึน้ จากการดำเนนิ การ สมบัติของการดำเนินการ และนำไปใช้
ตวั ช้ีวัด :
ค 1.1 ป.3/8 หาผลลัพธก์ ารบวก ลบคูณ หารระคน ของ จำนวนนับไม่เกิน 100,000 และ 0
ค 1.1 ป.3/9 แสดงวธิ ีหาคำตอบของโจทย์ปญั หา 2 ขั้นตอนของจำนวนนบั ไม่เกนิ 100,000 และ 0
เลือก ก ข หรอื ค ท่เี ป็นคำตอบท่ีถกู ตอ้ ง
1.ขอ้ ใดกลา่ วถกู ต้อง
ก. (5,239 × 8) + 19,780 มีผลลัพธ์เท่ากับจำนวนเงินออมของขนุ
ข. ออมสินมเี งนิ ออมมากกว่า (71,950 − 68,987 ) × 9
ค. ตน้ กลา้ มีเงนิ ออมน้อยกว่า (8,211 ÷ 7 ) × 6
2. ขอ้ ใดมีผลลัพธ์น้อยทส่ี ุด
ก. (46,979 − 39,869 ) ÷ 9
ข. (98,123 − 97,899) + 500
ค. (5,341 × 5 ) − 25,989
3. ขอ้ ใดมีผลลพั ธ์ต่างจากข้ออนื่
ก. (8,756 + 90,972 ) − 9,728
ข. (5,000 × 5) + 75,000
ค. (4,875 ÷ 5 ) + 99,025
4. ข้อใดถูกต้อง
ก. (1,750 − 900) ÷ 2 > (1,750 − 200) ÷ 2
ข. (2,890 × 3) + 7,000 = 7,000 + (3 × 2,890)
ค. (100 ÷ 1) − 10 < (100 × 1) − 10
5.ชาวไรข่ ดุ มันสัมปะหลังได4้ ,763 กโิ ลกรมั นำไปขายใหก้ จิ การลานมนั กโิ ลกรัมละ 6 บาทกจิ การลานมันหักคา่
ป๋ยุ 19,600 บาท ชาวไร่เหลอื เงนิ เท่าไรประโยคสญั ลกั ษณใ์ นขอ้ ใดสอดคลอ้ งกับโจทย์ปัญหาที่กำหนด
ก. (19,600 − 4,763) × 6
ข. (19,600 × 6) − 4,763
ค. (4,763 × 6) − 19,600
6.จากขอ้ 5 คำตอบของโจทยป์ ัญหาคือขอ้ ใด
ก. ชาวไร่เหลอื เงิน 8,978 บาท
ข. ชาวไรข่ ายมันสัมปะหลงั ได้เงิน 28,578 บาท
ค. ชาวไรจ่ ่ายค่าปุ๋ยเปน็ เงิน 19,600 บาท
7.พอ่ บริจาคเงนิ ให้โรงเรยี นประถมศึกษาแหง่ หน่งึ 28,500 บาท ซ้อื อปุ กรณก์ ีฬาให้ทกุ ระดบั ชั้น 20,400 บาท
เงนิ ทเ่ี หลอื มอบเปน็ ทุนการศึกษาใหน้ กั เรียนระดับชนั้ ละ 1 คน นักเรียนจะได้รับทุนการศกึ ษาคนละเท่าไร
ก.1,350 บาท ข. 3,400 บาท ค. 4,750 บาท
8.เม่ือวานน้ชี าวสวนเก็บมะพรา้ วได้ 1,476 ผล วนั นเ้ี ก็บมะพรา้ วได้อีก 1,581 ผล พอ่ คา้ มารบั ซอื้ ท่ีสวนลูกละ
9 บาท ชาวสวนขายมะพรา้ วได้เงินเทา่ ไร
ก. 13,284 บาท ข. 14,229 บาท ค. 27,513 บาท
9.ข้อใดเป็นโจทยป์ ญั หาการหารและการบวก
ก. ขนุ มเี งิน 100 บาท ซอ้ื สมดุ เลม่ ละ 15 บาท 4 เล่ม ขุนเหลือเงินก่ีบาท
ข. ใบบัวมขี นม 18 ช้นิ แกว้ ตามีขนม 17 ช้นิ ทั้งสองคนนำขนมทงั้ หมดไปแจกเด็ก 5 คน คนละเท่า ๆ
กนั เด็กแตล่ ะคนจะได้ขนมคนละกช่ี ้นิ
ค.ต้นกล้าเกบ็ มะม่วงได้35 ผล แบ่งไว้สำ หรบั ตนเอง 14 ผล ทีเ่ หลือนำไปแบง่ ให้ขุนแกว้ ตา และใบบวั
คนละเทา่ ๆ กัน จะได้คนละกีผ่ ล
10.ข้อใดเปน็ โจทยป์ ัญหาท่ีสอดคลอ้ งกบั ประโยคสัญลักษณ์ (8 × 12) − 30 =
ก.ออมสนิ มีเงิน 30 บาท ขายลกู ช้นิ 8 ไมไ้ ม้ละ 12 บาท ออมสนิ มเี งินทั้งหมดเท่าไร
ข.ตน้ กล้าขายมะนาว 8 ถงุ ถงุ ละ 12 บาท นำเงินทไี่ ด้ไปซ้อื กล่องดนิ สอ 30 บาท ต้นกลา้ เหลอื เงิน
เท่าไร
ค.แก้วตามีลูกปัด 30 เม็ด เก็บไวส้ ำหรับตนเอง 12 เม็ด ที่เหลือนำไปแบง่ ให้เพ่ือน 8 คน คนละเท่า ๆ
กนั เพ่ือนจะได้ลูกปดั คนละกเี่ ม็ด