แผนการจดั การเรียนรูท้ ่ี 7
รหัสวิชา ง๓1๑๐๑ รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานบา้ น)
กล่มุ สาระการเรียนเรียนรู้การงานอาชีพ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลยั นครปฐม
ระดบั ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา 2562 เวลา ๑ ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนรทู้ ่ี 4 เรอ่ื ง การสรา้ งสมั พันธภาพและความอบอุ่นในครอบครัว
******************************************************************************
ผู้สอน นางสาวชลธิชา แพทองคา
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวดั
มาตรฐาน ง 1.1
เข้าใจการทางาน มคี วามคิดสร้างสรรค์ มที ักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจัดการ ทักษะ
กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและ
ลักษณะนสิ ยั ที่ดีในการทางาน มีจิตสานกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรและส่ิงแวดล้อมเพื่อการดารงชีวิต
และครอบครวั
ตัวชว้ี ดั
ง 1.1 ม 4-6/5 มีทกั ษะในการแสวงหาความรเู้ พือ่ การดารงชวี ติ
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ครอบครัว หมายถึง กลุ่มคนที่อาศัยอยู่ร่วมกัน มีการดูแลซ่ึงกันและกัน มีการใช้จ่ายร่วมกันใน
บ้าน โดยครอบครัวที่สมบูรณ์ควรเป็นครอบครัวที่ประกอบด้วยด้านชีววิทยา ด้านกฎหมาย ด้าน
เศรษฐกิจและดา้ นสังคม
การสร้างสัมพันธภาพและความอบอุ่นในครอบครัวควรเร่ิมจากสมาชิก ทุกคนในครอบครวั ต้อง
ตระหนักในแนวทางในการทาให้ครอบครัวเป็นสุขและครอบครัวท่ีมีสัมพันธภาพและความอบอุ่ นที่ดีจะ
ทาใหส้ มาชกิ ในครอบครัวมคี วามสุข รักบา้ นและลดปญั หาสังคม
3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้(K)
- อธิบายแนวทางการสรา้ งสัมพนั ธภาพและความอบอนุ่ ในครอบครัวได้
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P)
- นักเรยี นเขียนระดมความคิดแนวทางการสร้างสัมพันธภาพและความอบอนุ่ ในครอบครัวได้
ด้านคุณลกั ษณะอันพึงประสงค์(A)
1. มีวินยั
2. ใฝเ่ รยี นรู้
3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน
4. มีจิตสาธารณะ
4. สมรรถนะสาคญั ของผ้เู รียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคดิ
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้
แนวทางการสรา้ งสัมพนั ธภาพและความอบอุน่ ในครอบครัว
6. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรยี น
ครูสนทนากบั นักเรยี นในประเด็น “เราจะสร้างสัมพันธภาพและความอบอุ่นในครอบครวั ได้
อยา่ งไร”
ขน้ั สอน
1. ครูอธิบาย เรื่อง แนวทางการสร้างสัมพันธภาพและความอบอุ่นในครอบครัว โดยใช้โปรแกรม
นาเสนอ(Power point) ประกอบการอธิบาย และศึกษาหาข้อมูลเพิ่มเติมที่บทเรียน e-learning ที่
https://sites.google.com
2. นกั เรยี นแบง่ กลุ่มๆ ละเทา่ ๆ กัน โดยวธิ ีการนบั ตัวเลข ให้ชว่ ยกนั ระดมความคดิ ในการปฏิบัติ
ในแนวทางการสรา้ งสมั พันธภาพและความอบอุ่นในครอบครวั โดยจดบันทึกลงในใบงาน เรื่อง การสร้าง
สัมพนั ธภาพและความอบอุ่นในครอบครัว กิจกรรมท่ี 3
ขนั้ สรปุ
1. ครูและนักเรียนสรุปเน้ือหาสาระเกี่ยวกับแนวทางการสร้างสัมพันธภาพและความอบอุ่น
ในครอบครัว
2. นักเรียนทาแบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 เร่ือง การสร้างสัมพันธภาพและความอบอุ่น
ในครอบครวั
3. ครูเฉลยแบบทดสอบ
7. สือ่ นวตั กรรม แหลง่ เรียนรู้
1. โปรแกรมนาเสนอ (Power point) เรื่อง แนวทางการสร้างสัมพันธภาพและความอบอุ่นใน
ครอบครวั
2. ใบงาน เรอื่ ง การสร้างสมั พันธภาพและความอบอุ่นในครอบครัว
3. แบบทดสอบหนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 4 เร่ือง การสรา้ งสมั พันธภาพและความอบอนุ่ ในครอบครัว
4. บทเรยี น e-learning ที่ https://sites.google.com
8. กระบวนการวัดและประเมินผล
ส่งิ ทตี่ อ้ งการประเมนิ วธิ กี าร เคร่อื งมอื เกณฑผ์ า่ น
การประเมิน
ดา้ นความรู้(K)
- อธิบายแนวทางการสร้างสัมพันธภาพ - การทาแบบทดสอบ - แบบทดสอบ - ไดค้ ะแนนเฉลย่ี
และความอบอุ่นในครอบครัวได้ รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P)
- นกั เรยี นเขียนระดมความคิดแนว - การตรวจใบงาน - ใบงาน - ได้คะแนนเฉลี่ย
ทางการสร้างสมั พันธภาพและความ รอ้ ยละ 60 ข้ึนไป
อบอุ่นในครอบครัวได้
ด้านคณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค(์ A)
1. มวี นิ ยั - การสงั เกต - แบบประเมนิ ดา้ น - ไดค้ ะแนนเฉลีย่
2. ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลักษณะอันพึง รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป
3. มุ่งม่ันในการทางาน ประสงค์
4. มจี ติ สาธารณะ
9. ผลการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. ......................................
10. ข้อเสนอแนะ/การพฒั นา
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. ......................................
ลงชื่อ ผสู้ อน
(นางสาวชลธิชา แพทองคา)
........./....................../............
แบบทดสอบ
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 4 เรื่อง การสรา้ งสมั พันธภาพและความอบอ่นุ ในครอบครัว
จงเลือกคาตอบท่ีถูกตอ้ งท่ีสดุ
1. กลมุ่ คนที่มคี วามสัมพนั ธ์กันทางสายโลหิต โดยอาศัยอยู่ในบา้ นเดียวกันและใช้จ่ายในงบประมาณ
เดยี วกนั ตรงกับความหมายในด้านใด
ก. สังคม กฎหมาย เศรษฐศาสตร์
ข. ชวี วทิ ยา สังคม เศรษฐศาสตร์
ค. สังคม กฎหมาย ชีววิทยา
ง. เศรษฐศาสตร์ ชีววิทยา กฎหมาย
2. ขอ้ ใดเป็นสมั พันธภาพภายในครอบครัว
ก. สมั พันธภาพระหว่างพอ่ กับแม่
ข. สัมพันธภาพระหวา่ งพ่อ แมก่ ับลูก
ค. สมั พนั ธภาพระหว่างพ่ีกบั นอ้ ง
ง. สัมพันธภาพระหว่างทุกคนในครอบครัว
3. ครอบครวั ทเี่ ล้ียงดูบตุ รให้อยใู่ นระเบยี บหรือกฎเกณฑ์ที่กาหนดขน้ึ สมั พันธภาพในครอบครวั เปน็ แบบใด
ก. เผดจ็ การ ข. ประชาธิปไตย ค. ปลอ่ ยตามสบาย ง. ถกู ทุกข้อ
4. พ่อแมต่ ้องการให้ลกู เป็นเด็กทม่ี ีเหตผุ ล ยอมรับฟังความคิดเห็นของผอู้ ื่น สมั พนั ธภาพในครอบครัว
ควรเปน็ แบบใด
ก. ปล่อยตามสบาย ข. ประชาธิปไตย ค. ยอมจานนตอ่ ลูก ง. เผด็จการ
5. แนวทางการสร้างสมั พันธภาพและความอบอนุ่ ในครอบครวั ในขอ้ ใดสาคัญทส่ี ดุ
ก. ทากจิ กรรมรว่ มกนั ข. พูดคุยกนั ค. มีน้าใจต่อกัน ง. เอ้ือเฟื้อกัน
6. ครอบครัวไทยมลี ักษณะตามขอ้ ใด
ก. ครอบครวั เดย่ี ว ข. ครอบครวั ขยาย ค. ครอบครวั ผสม ง. ถกู ท้งั ก. และ ข.
7. ขอ้ ใดคือลักษณะของครอบครวั เดย่ี ว
ก. พ่อ แม่ ลกู ข. พ่อ แม่ ลูก ปู่ ยา่ ค. พอ่ ป้า นา้ อา ง. แม่ ตา ยาย พ่อ
8. ในปัจจบุ ัน ครอบครัวสว่ นใหญเ่ ล้ยี งลกู แบบข้อใด
ก. ปล่อยตามสบาย ข. ประชาธปิ ไตย ค. ยอมจานนต่อลูก ง. เผดจ็ การ
9. ขอ้ ใดไม่ใช่การทากจิ กรรมรว่ มกนั ในครอบครัว
ก. รบั ประทานอาหารร่วมกนั
ข. ปลูกตน้ ไมด้ ว้ ยกัน
ค. ทาอาหารด้วยกนั
ง. ดูหนังกบั เพ่อื น
10. ถ้าสัมพันธภาพในครอบครัวดี จะส่งผลถงึ ข้อใด
ก. ทาใหส้ มาชิกในครอบครวั มีความสุข
ข. ทาให้ลดปัญหาทางสงั คม
ค. ทาใหเ้ ด็กมีคณุ ภาพชีวิตทดี่ ี
ง. ถูกทกุ ข้อ
แบบประเมินทักษะและกระบวนการ
เร่ือง..........................................................................................
คาช้แี จง ครสู งั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในเวลาเรยี น
รายการประเมิน
เลขที่ ชือ่ -นามสกุล ความพอเ ีพยงของ ัวส ุด ุอปกร ์ณ
การเ ืลอกใช้ ัวส ุด ุอปกร ์ณ
คุณภาพในขณะปฏิ ับ ิตงาน
เวลาในการป ิฏ ับ ิตงาน
คุณภาพของผลงาน
ความถูก ้ตองของผลงาน
๔๔๔๔๔๔
เกณฑใ์ นการประเมิน 1 ระดับ ปรบั ปรุง
๒ ระดบั พอใช้
๓ ระดบั ดี ลงช่ือ ผ้สู อน
๔ ระดับ ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แบบประเมินด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
เร่ือง.........................................................................................
คาชแี้ จง ครูสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขท่ี ชอื่ -นามสกลุ รักชา ิต ศาสน์
ก่ืซอัษ ัสตริตย์ย์ ุสจริต
มี ิวนัย
ใ ่ฝรู้ ใ ่ฝเ ีรยน
อยู่อย่างพอเ ีพยง
มุ่งมั่นในการทางาน
มีจิตสาธารณะ
๔๔๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมิน 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดบั พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชื่อ ผู้สอน
๔ ระดับ ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะที่สาคัญ
เรื่อง......................................................................................
คาช้แี จง ครสู ังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเวลาเรียน
รายการประเมิน
เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ ความสามารถในการ ่ืสอสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ ัปญหา
ความสามารถในการใช้
ทักษะชี ิวต
ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมนิ 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดับ พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชอื่ ผู้สอน
๔ ระดบั ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8
รหัสวิชา ง๓1๑๐๑ รายวิชา การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานบ้าน)
กลุ่มสาระการเรยี นเรียนรู้การงานอาชีพ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั นครปฐม
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 4 ภาคเรียนที่ ๑ ปกี ารศกึ ษา 2562 เวลา ๑ ชั่วโมง
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 5 เร่ือง การเลย้ี งและอบรมเด็ก
******************************************************************************
ผูส้ อน นางสาวชลธิชา แพทองคา
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชว้ี ดั
มาตรฐาน ง 1.1
เข้าใจการทางาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจัดการ ทักษะ
กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและ
ลักษณะนิสยั ทด่ี ีในการทางาน มจี ิตสานึกในการใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากรและสง่ิ แวดล้อมเพ่อื การดารงชีวิต
และครอบครวั
ตัวชวี้ ดั
ง 1.1 ม 4-6/1 อธบิ ายการทางานเพอื่ การดารงชวี ิต
ง 1.1 ม 4-6/5 มีทกั ษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการดารงชีวิต
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
เป้าหมายในการเลี้ยงและอบรมเด็ก คือ เด็กมีร่างกายเติบโต มีสุขภาพดี มีคุณธรรมและเป็น
บุคคลที่มีคุณภาพชีวิตท่ีดี การเลี้ยงและอบรมเด็กเพ่ือสร้างคุณภาพชีวิตท่ีดีโดยการให้ความรักแก่เด็ก
ส่งเสรมิ ใหเ้ ด็กมีการพฒั นาทางรา่ งกาย สติปญั ญา อารมณแ์ ละสังคม
อาหารเสริมทารก เป็นอาหารทีให้เด็กรับประทานเมื่อเด็กมีอายุต้ังแต่ 4 เดือนข้ึนไป เน่ืองจาก
คุณค่าทางโภชนาการจากน้านมแม่ไม่เพียงพอกับการเจริญเตบิ โตของทารกโดยเริ่มจากข้าวบดกับไข่แดง
จนถึงอาหารท่ีลักษณะหยาบขึ้น เมื่อเด็กอายุ 6 เดือน อาหารเสริมจะแทนม้ือนม 1 มื้อ เม่ืออายุ 12
เดือน อาหารเสริมจะแทนม้ือนม 2 ม้ือ และเมื่ออายุ 18 เดือน อาหารเสริมจะเป็นอาหารหลักและนม
จะเป็นอาหารเสริม
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้(K)
- อธบิ ายเปา้ หมายในการเล้ียงและอบรมเดก็ ส่ิงท่ีมอี ิทธิพลต่อการเล้ยี งและอบรมเด็กและการ
เล้ยี งและอบรมเดก็ เพ่ือสร้างคุณภาพชีวติ ท่ดี ไี ด้
ด้านทักษะ/กระบวนการ(P)
- เขียนอธบิ ายเป้าหมายในการเล้ียงและอบรมเด็ก ส่งิ ที่มีอิทธิพลต่อการเลย้ี งและอบรมเด็ก
และการเล้ยี งและอบรมเด็กเพื่อสรา้ งคุณภาพชวี ติ ท่ดี ีได้
ด้านคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์(A)
1. ใฝเ่ รียนรู้
๒. มุง่ มน่ั ในการทางาน
๓. มีจติ สาธารณะ
4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ิต
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้
1. เปา้ หมายในการเลี้ยงและอบรมเด็ก
2. ส่งิ ที่มีอิทธพิ ลต่อการเล้ยี งและอบรมเดก็
3. การเล้ียงและอบรมเดก็ เพื่อสร้างคุณภาพชวี ิตทีด่ ี
6. กระบวนการจดั การเรียนรู้
ขนั้ นาเขา้ สู่บทเรยี น
ครูสนทนากับนักเรยี นถงึ เป้าหมายของพ่อแม่ในการเลีย้ งและอบรมนักเรียน สง่ิ ทีม่ ีอทิ ธิพลใน
การเล้ียงเดก็ และการเล้ยี งเดก็ เพอื่ สรา้ งคุณภาพชีวิตทดี่ ี โดยครูจะยกตวั อย่างการเลี้ยงดแู ละอบรมเดก็ ใน
แบบต่างๆ ใหน้ ักเรียนแสดงความคดิ เหน็
ข้ันสอน
1. ครูอธิบาย เร่ือง เป้าหมายในการเลี้ยงและอบรมเด็ก สิ่งท่ีมีอิทธิพลต่อการเลี้ยงและอบรม
เด็กและการเลี้ยงและอบรมเด็กเพื่อสร้างคุณภาพชีวิตที่ดี โดยใช้โปรแกรมนาเสนอ(Power point)
ประกอบการอธิบาย
2. นกั เรยี นทาใบงาน เรื่อง การเลีย้ งและอบรมเดก็ ในกิจกรรมท่ี 1 , 2 และ 3
ข้ันสรุป
1. ครแู ละนักเรยี นสรปุ เนื้อหาสาระเกีย่ วกบั เป้าหมายในการเลี้ยงและอบรมเด็ก สงิ่ ทม่ี ีอทิ ธิพล
ต่อการเลยี้ งและอบรมเดก็ และการเลี้ยงและอบรมเด็กเพ่ือสร้างคณุ ภาพชวี ิตทดี่ ี
2. ครใู ห้นักเรียนศึกษาเนื้อหาสาระเพ่ิมเติมในบทเรยี น e-learning ท่ี https://sites.google.com
7. สือ่ นวตั กรรม แหล่งเรียนรู้
1. โปรแกรมนาเสนอ (Power point) เรื่อง เป้าหมายในการเล้ียงและอบรมเด็ก ส่ิงท่ีมี
อิทธพิ ลต่อการเลย้ี งและอบรมเด็กและการเลย้ี งและอบรมเด็กเพื่อสรา้ งคุณภาพชีวติ ที่ดี
2. ใบงาน เร่อื ง การเลย้ี งและอบรมเด็ก
3. บทเรียน e-learning ท่ี https://sites.google.com
8. กระบวนการวดั และประเมินผล
ส่งิ ทีต่ ้องการประเมนิ วิธีการ เครอ่ื งมือ เกณฑ์ผ่าน
- ใบงาน การประเมิน
ด้านความรู้(K) - การตรวจใบงาน
- อธิบายเป้าหมายในการเลี้ยงและ - การตรวจใบงาน - ไดค้ ะแนนเฉลีย่
อบรมเด็ก สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการเลี้ยง - การสงั เกต รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป
และอบรมเด็กและการเลี้ยงและอบรม
เดก็ เพอื่ สร้างคุณภาพชวี ติ ทด่ี ไี ด้ - ใบงาน - ไดค้ ะแนนเฉลยี่
ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ(P)
- เขียนอธิบายเป้าหมายในการเลี้ยง - แบบประเมนิ ด้าน - ไดค้ ะแนนเฉลี่ย
และอบรมเด็ก สิ่งที่มีอิทธิพลต่อการ คุณลกั ษณะอนั พึง รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป
เล้ียงและอบรมเด็กและการเลี้ยงและ ประสงค์
อบรมเด็กเพือ่ สร้างคุณภาพชวี ิตท่ีดีได้
ด้านคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค(์ A)
1. ใฝ่เรยี นรู้
๒. ม่งุ ม่ันในการทางาน
๓. มีจิตสาธารณะ
9. ผลการจดั การเรยี นรู้
............................................................................................................................. .......................................
................................................................................................................................................................. ...
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. ......................................
10. ข้อเสนอแนะ/การพัฒนา
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. ......................................
ลงชอ่ื ผสู้ อน
(นางสาวชลธิชา แพทองคา)
........./....................../............
ใบงาน
เรือ่ ง การเล้ยี งและอบรมเดก็
กจิ กรรมท่ี 1 ให้นักเรยี นบอกความคาดหวงั ของพ่อแมใ่ นการเล้ยี งและอบรมเด็ก
1. ……………………………………………………………………………………………………………………………
2. ……………………………………………………………………………………………………………………………
3. ……………………………………………………………………………………………………………………………
กิจกรรมท่ี 2 ให้นักเรียนบอกสง่ิ ทีม่ ีอิทธิพลต่อการเล้ียงและอบรมเดก็
1. ……………………………………………ได้แก่………………………………………………………………………
2. ……………………………………………ได้แก่………………………………………………………………………
กจิ กรรมท่ี 3 ให้นกั เรยี นอธิบายแนวทางการเล้ียงและอบรมเด็ก เพ่ือสง่ เสรมิ พัฒนาการเด็กในด้าน
ต่างๆ ดังน้ี
สง่ เสริมการพัฒนาการดา้ น แนวทางการเลย้ี งและอบรมเด็ก
1. ร่างกาย ………………………………………………………………………………………..........
……………………………………………………………………………………………….
2. อารมณ์ ………………………………………………………………………………………..........
……………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………..........
……………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………..........
3. สงั คม ………………………………………………………………………………………..........
……………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………..........
……………………………………………………………………………………………….
๔. สติปัญญา ………………………………………………………………………………………..........
……………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………...........
๕. คณุ ธรรม จรยิ ธรรม ………………………………………………………………………………………..........
……………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………..........
กิจกรรมท่ี 4 อาหารเสรมิ ทารก
ใหน้ กั เรยี นตอบคาถามต่อไปน้ี
1. นักเรยี นบอกอาหารเสริมทารก ที่นกั เรยี นเคยพบเห็น มา 2 อย่าง
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………..
2. นกั เรียนศกึ ษา เรอื่ ง อาหารเสริมทารก แล้วสรปุ ในแผนผังดงั น้ี
แรกเกิด-4 เดือน
........................................................................................
4 เดอื นข้ึนไป
.........................................................................................
อาหารทารก 5 เดอื นขึ้นไป
........................................................................................
7 เดือนข้นึ ไป
........................................................................................
8-9 เดอื น
........................................................................................
10-12 เดอื น
........................................................................................
3. นกั เรียนคน้ คว้าหาข้อมูลในอินเทอรเ์ น็ต เลือกเมนูอาหารเสรมิ ทารกมา 1 อย่าง
อาหารเสริมทารก คือ ...........................................................................................................................
เปน็ อาหารทเ่ี หมาะกับทารกอายุ...........................................................................................................
มลี กั ษณะ คือ.........................................................................................................................................
กจิ กรรมที่ 5 ใหน้ กั เรียนศกึ ษา สาเหตแุ ละแนวทางแก้ไขปัญหาพฤติกรรมท่ีจัดว่าเปน็ ปัญหาในเดก็
พฤติกรรม สาเหตุ แนวทางแก้ไข
เด็กปัสสาวะรดทน่ี อน
เด็กขี้อาย ………………………………………………….. …………………………………………………..
เดก็ ไม่ซ่ือสตั ย์ …………………………………………………. ………………………………………………….
เด็กก้าวร้าว …………………………………………………. ………………………………………………….
เด็กโมโหรา้ ย
เด็กมีพฤติกรรมขัดขนื ………………………………………………….. …………………………………………………..
…………………………………………………. ………………………………………………….
…………………………………………………. ………………………………………………….
………………………………………………….. …………………………………………………..
…………………………………………………. ………………………………………………….
…………………………………………………. ………………………………………………….
………………………………………………….. …………………………………………………..
…………………………………………………. ………………………………………………….
…………………………………………………. ………………………………………………….
………………………………………………….. …………………………………………………..
…………………………………………………. ………………………………………………….
…………………………………………………. ………………………………………………….
………………………………………………….. …………………………………………………..
…………………………………………………. ………………………………………………….
…………………………………………………. ………………………………………………….
**********
แบบประเมินด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
เร่ือง.........................................................................................
คาชแี้ จง ครูสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขท่ี ชอื่ -นามสกลุ รักชา ิต ศาสน์
ก่ืซอัษ ัสตริตย์ย์ ุสจริต
มี ิวนัย
ใ ่ฝรู้ ใ ่ฝเ ีรยน
อยู่อย่างพอเ ีพยง
มุ่งมั่นในการทางาน
มีจิตสาธารณะ
๔๔๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมิน 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดบั พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชื่อ ผู้สอน
๔ ระดับ ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะที่สาคัญ
เรื่อง......................................................................................
คาช้แี จง ครสู ังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ ความสามารถในการ ่ืสอสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ ัปญหา
ความสามารถในการใช้
ทักษะชี ิวต
ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมนิ 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดับ พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชอื่ ผู้สอน
๔ ระดบั ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี 9
รหสั วชิ า ง๓1๑๐๑ รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานบ้าน)
กลมุ่ สาระการเรยี นเรยี นรกู้ ารงานอาชพี โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลัย นครปฐม
ระดับชัน้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ ๑ ปกี ารศึกษา 2562 เวลา ๑ ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 5 เรอ่ื ง การเล้ียงและอบรมเดก็
******************************************************************************
ผสู้ อน นางสาวชลธชิ า แพทองคา
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชี้วดั
มาตรฐาน ง 1.1
เข้าใจการทางาน มคี วามคิดสรา้ งสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจดั การ ทักษะ
กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและ
ลักษณะนิสัยท่ดี ีในการทางาน มีจติ สานกึ ในการใชพ้ ลงั งาน ทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อมเพื่อการดารงชีวิต
และครอบครวั
ตัวชีว้ ดั
ง 1.1 ม 4-6/1 อธิบายการทางานเพื่อการดารงชวี ิต
ง 1.1 ม 4-6/5 มีทักษะในการแสวงหาความรู้เพ่ือการดารงชวี ติ
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
เป้าหมายในการเลี้ยงและอบรมเด็ก คือ เด็กมีร่างกายเติบโต มีสุขภาพดี มีคุณธรรมและเป็น
บุคคลท่ีมีคุณภาพชีวิตที่ดี การเลี้ยงและอบรมเด็กเพ่ือสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีโดยการให้ความรักแก่เด็ก
ส่งเสริมใหเ้ ด็กมกี ารพัฒนาทางรา่ งกาย สตปิ ญั ญา อารมณแ์ ละสงั คม
อาหารเสริมทารก เป็นอาหารทีให้เด็กรับประทานเม่ือเด็กมีอายุตั้งแต่ 4 เดือนข้ึนไป เน่ืองจาก
คุณค่าทางโภชนาการจากน้านมแม่ไม่เพียงพอกับการเจรญิ เตบิ โตของทารกโดยเริ่มจากข้าวบดกับไข่แดง
จนถึงอาหารที่ลักษณะหยาบข้ึน เม่ือเด็กอายุ 6 เดือน อาหารเสริมจะแทนมื้อนม 1 ม้ือ เม่ืออายุ 12
เดือน อาหารเสริมจะแทนม้ือนม 2 มื้อ และเม่ืออายุ 18 เดือน อาหารเสริมจะเป็นอาหารหลักและนม
จะเปน็ อาหารเสริม
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้(K)
1. อธบิ ายอาหารเสริมทารกได้
2. วิเคราะหพ์ ฤติกรรมท่ีจดั ว่าเป็นปญั หาในเด็กได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ(P)
1. สามารถทาอาหารเสริมทารกได้
2. เขียนอธบิ ายพฤติกรรมที่จัดเปน็ ปญั หาในเด็กได้
ดา้ นคุณลกั ษณะอันพงึ ประสงค(์ A)
1. ใฝ่เรียนรู้
๒. มุง่ มนั่ ในการทางาน
๓. มีจติ สาธารณะ
4. สมรรถนะสาคัญของผเู้ รียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวติ
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้
1. อาหารเสรมิ ทารก
2. พฤติกรรมทีจ่ ัดวา่ เปน็ ปัญหาในเดก็
6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขน้ั นาเขา้ สู่บทเรยี น
1. ครูให้นกั เรยี นยกตัวอย่างอาหารเสรมิ ทารกท่ีนักเรยี นรู้จกั มาคนละ 1 เมนู
2. ครพู ดู สนทนากบั นักเรยี นถงึ เด็กทีเ่ ม่ือโกรธ จะอาละวาด ทาลายขา้ วของ โดยให้นักเรยี น
พิจารณาวา่ เป็นพฤติกรรมท่ีจัดวา่ เป็นปญั หาหรือไม่ และให้นักเรียนบอกพฤติกรรมทจ่ี ัดว่าเป็นปัญหาใน
เด็กทน่ี ักเรยี นเคยพบเห็น
ขั้นสอน
1. ครูอธิบาย เร่ือง อาหารเสริมทารกและพฤติกรรมท่ีจัดว่าเป็นปัญหาในเด็ก โดยใช้โปรแกรม
นาเสนอ(Power point) ประกอบการอธิบาย และใหน้ ักเรยี นศกึ ษาขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ ทบี่ ทเรยี น e-learning
2. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม จานวน 6 กลุ่ม โดยวิธีการสุ่มนับตัวเลข แล้วให้ทาอาหารเสริมทารก
ทีม่ ีส่วนประกอบ ดังนี้
กลุ่มที่ 1 ข้าวต้ม ไข่แดง นา้ แกงจดื
กลมุ่ ท่ี 2 ข้าวต้ม ไขแ่ ดง ฟังทอง น้าแกงจดื
กลุ่มที่ 3 ขา้ วตม้ เนอ้ื ปลา ผักตาลึง น้าแกงจดื
กลมุ่ ท่ี 4 ขา้ วต้ม เนอื้ ไก่ ฟักทอง นา้ แกงจืด
กลุ่มท่ี 5 ขา้ วต้ม ไข่แดง ผกั ตาลงึ น้าแกงจดื
กลุ่มที่ 6 ข้าวต้ม เนื้อไก่ ผกั ตาลึง น้าแกงจืด
3. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ นาเสนอเมนอู าหารเสริมทารกท่ไี ดท้ า
4. นักเรยี นทาใบงาน เรอื่ ง การเลีย้ งและอบรมเดก็ ในกิจกรรมที่ 4 และ 5
ขัน้ สรปุ
1. ครแู ละนักเรียนสรปุ เนอ้ื หาสาระเกยี่ วกับอาหารเสรมิ ทารกและพฤตกิ รรมทจ่ี ดั ว่าเป็นปญั หา
2. นักเรยี นทาแบบทดสอบหนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรือ่ ง การเล้ยี งและอบรมเดก็
7. สอื่ นวัตกรรม แหลง่ เรียนรู้
1. โปรแกรมนาเสนอ (Power point) เรื่อง อาหารเสริมทารกและพฤติกรรมท่ีจัดว่าเป็น
ปญั หาในเด็ก
2. ใบงาน เรื่อง การเล้ยี งและอบรมเด็ก
3. แบบทดสอบหนว่ ยการเรียนรทู้ ่ี 5 เรื่อง การเลีย้ งและอบรมเดก็
4. บทเรยี น e-learning ที่ https://sites.google.com
8. กระบวนการวดั และประเมินผล วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ผ่าน
การประเมิน
ส่ิงที่ตอ้ งการประเมิน - การตรวจใบงาน - ใบงาน
- การทาแบบทดสอบ - แบบทดสอบ - ได้คะแนนเฉล่ยี
ด้านความรู้(K) รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป
1. อธิบายอาหารเสรมิ ทารกได้
2. วเิ คราะห์พฤติกรรมท่จี ัดว่าเป็น - การตรวจใบงาน - ใบงาน - ได้คะแนนเฉล่ยี
ปัญหาในเด็กได้ - การทาอาหาร
ดา้ นทกั ษะ/กระบวนการ(P) - แบบประเมิน ร้อยละ 60 ขน้ึ ไป
1. สามารถทาอาหารเสรมิ ทารกได้ - การสังเกต
2. เขยี นอธิบายพฤติกรรมที่จดั เป็น ทกั ษะกระบวนการ
ปัญหาในเด็กได้
ดา้ นคุณลกั ษณะอนั พงึ ประสงค(์ A) - แบบประเมินดา้ น - ได้คะแนนเฉลีย่
1. ใฝ่เรียนรู้ คณุ ลกั ษณะอันพึง รอ้ ยละ 60 ขึ้นไป
๒. มุ่งม่ันในการทางาน ประสงค์
๓. มจี ิตสาธารณะ
9. ผลการจดั การเรียนรู้
.................................................................................... ................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
......................................................................................................................................... ...........................
....................................................................................................... .............................................................
10. ข้อเสนอแนะ/การพฒั นา
............................................................................................................................. .......................................
.................................................................................................................................. ..................................
................................................................................................. ...................................................................
............................................................................................................................. .......................................
ลงชือ่ ผูส้ อน
(นางสาวชลธชิ า แพทองคา)
........./....................../............
แบบทดสอบ
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 5 เร่ือง การเลย้ี งและอบรมเด็ก
จงตอบคาถามใหถ้ ูกต้อง
1. ขอ้ ใดเป็นส่ิงที่มอี ทิ ธิพลต่อการเลี้ยงและอบรมเด็กมากท่ีสุด
ก. อาหาร การเล้ยี งดู
ข. พันธกุ รรม สิง่ แวดลอ้ ม
ค. ความสัมพันธภาพในครอบครวั
ง. การให้ความรกั ความอบอ่นุ
2. สิง่ ทส่ี าคัญทีส่ ดุ ในการเลย้ี งและอบรมเดก็ คืออะไร
ก. ให้ความรกั แก่เด็ก
ข. รอ้ งเพลง เห่กล่อม
ค. หาของเลน่ ใหเ้ ด็ก
ง. จัดอาหารใหแ้ กเ่ ด็ก
3. ข้อใดเป็นการสง่ เสริมการพัฒนาเด็กทางด้านร่างกาย
ก. ให้เด็กเลน่ เกมในคอมพิวเตอร์
ข. ให้เดก็ เลน่ ออกกาลังกาย
ค. จัดหาของเลน่ ให้แกเ่ ด็ก
ง. จัดอาหารทีถ่ ูกหลกั โภชนาการ
4. ข้อใดเปน็ การสง่ เสริมการพัฒนาการเด็กในดา้ นสังคม
ก. ใหอ้ ิสระแก่เด็กในการคดิ
ข. จัดหาหนงั สอื ใหแ้ ก่เดก็
ค. ฝึกให้เด็กรจู้ ักแพ้ รู้จักชนะ
ง. ฝกึ ใหเ้ ดก็ แก้ปัญหาด้วยตนเอง
5. การให้เด็กมีสัตว์เลยี้ งเป็นการส่งเสริมการพฒั นาการเด็กในด้านใด
ก. สังคม
ข. ลกั ษณะนิสัย
ค. ความรบั ผิดชอบ
ง. การกระตุ้นใหเ้ กย่ี วกับการเรยี นรู้
6. นอ้ งเอม็ เมือโกรธจะอาละวาด ทาลายข้าวของ ควรแก้ปัญหาดว้ ยวธิ ใี ด
ก. ทาโทษเด็ก
ข. เอาใจเด็ก
ค. นิ่งเฉยไมส่ นใจเด็ก
ง. หยดุ พฤติกรรมของเดก็ ในขณะนัน้ ทนั ที
7. ขอ้ ใดไมใ่ ช่สาเหตทุ ่ที าให้เด็กมีพฤติกรรมไม่ซือ่ สตั ย์
ก. เรียกร้องความสนใจ
ข. เดก็ กลัวการลงโทษ
ค. เด็กเลยี นแบบผู้ใหญ่
ง. เด็กทาผดิ แล้วผู้ใหญใ่ ห้ท้าย
8. ข้อใดถูกตอ้ งเกี่ยวกับเด็กวัยทารก
ก. วัยท่อี ตั ราการเจรญิ เตบิ โตมากทสี่ ดุ
ข. อายแุ รกเกิดถึง 1 เดือน
ค. เปน็ วัยท่ไี มม่ ีการพฒั นาบุคลกิ ภาพ
ง. ถกู ทกุ ข้อ
9. การให้อาหารเสรมิ ทารก ควรเร่มิ ใหเ้ มอ่ื เด็กอายุเท่าใด
ก. 1 เดือน
ข. 4 เดือน
ค. 5 เดือน
ง. 6 เดอื น
10. อาหารเสรมิ ที่ประกอบด้วย ขา้ วบด เน้อื ปลา ผักใบเขียวเหมาะกบั ทารกอายุก่เี ดอื นข้นึ ไป
ก. 4 เดอื น
ข. 5 เดอื น
ค. 6 เดอื น
ง. 7 เดือน
**********
แบบประเมนิ ทักษะและกระบวนการ
เรือ่ ง..........................................................................................
คาช้แี จง ครสู ังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเวลาเรียน
รายการประเมิน
เลขที่ ชอื่ -นามสกุล ความพอเ ีพยงของ ัวส ุด ุอปกร ์ณ
การเ ืลอกใช้ ัวส ุด ุอปกร ์ณ
คุณภาพในขณะปฏิ ับ ิตงาน
เวลาในการป ิฏ ับ ิตงาน
คุณภาพของผลงาน
ความถูก ้ตองของผลงาน
๔๔๔๔๔๔
เกณฑใ์ นการประเมนิ 1 ระดับ ปรบั ปรุง
๒ ระดับ พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงช่ือ ผ้สู อน
๔ ระดับ ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แบบประเมินด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
เร่ือง.........................................................................................
คาชแี้ จง ครูสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขท่ี ชอื่ -นามสกลุ รักชา ิต ศาสน์
ก่ืซอัษ ัสตริตย์ย์ ุสจริต
มี ิวนัย
ใ ่ฝรู้ ใ ่ฝเ ีรยน
อยู่อย่างพอเ ีพยง
มุ่งมั่นในการทางาน
มีจิตสาธารณะ
๔๔๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมิน 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดบั พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชื่อ ผู้สอน
๔ ระดับ ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะที่สาคัญ
เรื่อง......................................................................................
คาช้แี จง ครสู ังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ ความสามารถในการ ื่สอสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแ ้ก ัปญหา
ความสามารถในการใช้
ทักษะชี ิวต
ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมนิ 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดับ พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชอื่ ผู้สอน
๔ ระดบั ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แผนการจดั การเรียนร้ทู ี่ 10
รหสั วชิ า ง๓1๑๐๑ รายวชิ า การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานบา้ น)
กลุ่มสาระการเรียนเรยี นรู้การงานอาชีพ โรงเรยี นกาญจนาภิเษกวิทยาลยั นครปฐม
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรยี นที่ ๑ ปีการศึกษา 2562 เวลา ๑ ชั่วโมง
หน่วยการเรียนร้ทู ่ี 6 การจัดตกแตง่ บา้ น
******************************************************************************
ผู้สอน นางสาวชลธิชา แพทองคา
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชวี้ ดั
มาตรฐาน ง 1.1
เขา้ ใจการทางาน มคี วามคิดสร้างสรรค์ มที ักษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจัดการ ทักษะ
กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและ
ลักษณะนสิ ยั ท่ีดใี นการทางาน มีจิตสานึกในการใชพ้ ลังงาน ทรพั ยากรและสิง่ แวดล้อมเพ่ือการดารงชีวิต
และครอบครัว
ตัวช้วี ัด
ง 1.1 ม 4-6/5 มที กั ษะในการแสวงหาความรเู้ พ่ือการดารงชวี ิต
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
ในการจัดตกแต่งบ้านและบริเวณบ้านควรคานึงถึงผู้อยู่อาศัยในด้านความสะดวกสบาย
ถกู สุขลกั ษณะ ความปลอดภัย ความสวยงาม ประหยดั และส่งเสรมิ ความสมั พันธใ์ นครอบครวั
ในการจัดวางเคร่ืองเรือนภายในบ้านควรคานึงถึงเนื้อที่ใช้สอยภายในบ้านเพ่ือให้ผู้อยู่อาศัยมี
ความสะดวกสบาย ถูกสขุ ลักษณะและปลอดภยั
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
ด้านความรู้(K)
- อธบิ ายหลกั การจัดตกแตง่ บ้านได้
ด้านทกั ษะ/กระบวนการ(P)
- มีทักษะในการจัดตกแต่งบ้าน
ด้านคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค(์ A)
1. ใฝ่เรียนรู้
๒. มุ่งม่นั ในการทางาน
๓. มจี ติ สาธารณะ
4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแกป้ ัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้
หลกั การจดั ตกแตง่ บ้าน
6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขัน้ นาเข้าสู่บทเรียน
ครูนาภาพห้องตา่ งๆ บา้ นและบรเิ วณบา้ นใหน้ กั เรยี นดแู ลว้ สนทนากับนกั เรียนถึงการจดั ตกแตง่
บ้านและบรเิ วณบ้าน
ขนั้ สอน
1. ครูให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการจัดตกแต่งบ้าน ในบทเรียน e-learning ที่
https://sites.google.com และอนิ เทอรเ์ นต็
2. นักเรียนสรุปแนวคิดเกี่ยวกับการจัดตกแต่งบ้านจากการศึกษาค้นคว้า แล้วทาเป็นผัง
ความคดิ ในใบงาน เร่อื ง หลกั การจดั ตกแต่งบ้าน
ขน้ั สรปุ
ครูสรปุ เน้อื หาสาระเกีย่ วกบั หลกั การจดั ตกแต่งบ้าน
7. ส่ือ นวตั กรรม แหล่งเรียนรู้
1. ใบงาน เรอ่ื ง หลักการจัดตกแต่งบา้ น
2. บทเรียน e-learning ท่ี https://sites.google.com
8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล วธิ กี าร เครอ่ื งมือ เกณฑ์ผ่าน
- การตรวจใบงาน การประเมนิ
สงิ่ ที่ต้องการประเมนิ - การตรวจใบงาน
- การสงั เกต - ใบงาน - ไดค้ ะแนนเฉลี่ย
ดา้ นความรู้(K) รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป
- อธิบายหลกั การจัดตกแต่งบา้ นได้
- ใบงาน - ได้คะแนนเฉลย่ี
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ(P) รอ้ ยละ 60 ขึน้ ไป
- มีทักษะในการจดั ตกแต่งบ้าน
- แบบประเมนิ ดา้ น - ได้คะแนนเฉลย่ี
ดา้ นคุณลักษณะอนั พึงประสงค(์ A) คณุ ลักษณะอันพงึ ร้อยละ 60 ขึ้นไป
1. ใฝเ่ รยี นรู้ ประสงค์
๒. มุง่ มัน่ ในการทางาน
๓. มีจติ สาธารณะ
9. ผลการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
10. ข้อเสนอแนะ/การพัฒนา
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
ลงชื่อ ผ้สู อน
(นางสาวชลธชิ า แพทองคา)
........./....................../............
ใบงาน
เร่อื ง หลักการจดั ตกแต่งบ้าน
ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการจัดตกแต่งบ้านในอินเทอร์เน็ตและสรุปแนวคิดเก่ียวกับการจัด
ตกแตง่ บ้านจากการศึกษาคน้ คว้า แล้วทาเป็นผงั ความคิดในใบงาน เรื่อง หลักการจัดตกแตง่ บา้ น
หลกั การจัดตกแต่งบา้ น
แบบประเมินด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
เร่ือง.........................................................................................
คาชแี้ จง ครูสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขท่ี ชอื่ -นามสกลุ รักชา ิต ศาสน์
ก่ืซอัษ ัสตริตย์ย์ ุสจริต
มี ิวนัย
ใ ่ฝรู้ ใ ่ฝเ ีรยน
อยู่อย่างพอเ ีพยง
มุ่งมั่นในการทางาน
มีจิตสาธารณะ
๔๔๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมิน 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดบั พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชื่อ ผู้สอน
๔ ระดับ ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะที่สาคัญ
เรื่อง......................................................................................
คาช้แี จง ครสู ังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ ความสามารถในการ ่ืสอสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ ัปญหา
ความสามารถในการใช้
ทักษะชี ิวต
ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมนิ 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดับ พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชอื่ ผู้สอน
๔ ระดบั ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 11
รหสั วชิ า ง๓1๑๐๑ รายวชิ า การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานบา้ น)
กล่มุ สาระการเรยี นเรียนรูก้ ารงานอาชีพ โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวทิ ยาลยั นครปฐม
ระดับชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2562 เวลา ๑ ช่ัวโมง
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 6 การจดั ตกแตง่ บ้าน
******************************************************************************
ผู้สอน นางสาวชลธิชา แพทองคา
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ช้วี ดั
มาตรฐาน ง 1.1
เขา้ ใจการทางาน มีความคิดสรา้ งสรรค์ มีทกั ษะกระบวนการทางาน ทกั ษะการจดั การ ทกั ษะ
กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและ
ลกั ษณะนสิ ยั ที่ดใี นการทางาน มจี ติ สานึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมเพอ่ื การดารงชีวิต
และครอบครัว
ตวั ช้ีวัด
ง 1.1 ม 4-6/5 มที ักษะในการแสวงหาความรู้เพื่อการดารงชีวติ
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ในการจัดตกแต่งบ้านและบริเวณบ้านควรคานึงถึงผู้อยู่อาศัยในด้านคว ามสะดวกสบาย
ถกู สุขลกั ษณะ ความปลอดภัย ความสวยงาม ประหยัดและส่งเสรมิ ความสมั พนั ธ์ในครอบครวั
ในการจัดวางเคร่ืองเรือนภายในบ้านควรคานึงถึงเนื้อที่ใช้สอยภายในบ้านเพ่ือให้ผู้อยู่อาศัยมี
ความสะดวกสบาย ถูกสขุ ลักษณะและปลอดภัย
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
ดา้ นความรู้(K)
- อธบิ ายการจัดวางเครื่องเรือนภายในบา้ นได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ(P)
- มที ักษะการจดั วางเคร่อื งเรือนภายในบ้าน
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค(์ A)
1. ใฝเ่ รยี นรู้
๒. ม่งุ ม่ันในการทางาน
๓. มจี ิตสาธารณะ
4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
๑. ความสามารถในการสื่อสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
๕. ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
5. สาระการเรียนรู้
การจดั วางเคร่ืองเรอื น
6. กระบวนการจัดการเรยี นรู้
ขั้นนาเขา้ สู่บทเรียน
ครนู าภาพหอ้ งรับแขก หอ้ งนอน หอ้ งครวั ให้นกั เรยี นดู แล้วสนทนากบั นกั เรยี นถึงการจัดวาง
เครอื่ งเรือนในห้องนน้ั ๆ
ขั้นสอน
1. ให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับการจัดวางเครื่องเรือนในบทเรียน e-learning ที่
https://sites.google.com
2. นักเรียนทาใบงาน เรื่อง การจัดวางเคร่ืองเรือนภายในบ้าน โดยจะมีผังบ้านมาให้ แล้วให้
นกั เรยี นตดั ภาพเครื่องเรอื นมาจัดวางในผงั บ้านตามทนี่ ักเรียนได้ศึกษาค้นควา้ มา
3. ให้นกั เรยี นมานาเสนอการจดั วางเคร่อื งเรอื นภายในบา้ น โดยส่มุ นกั เรยี นจากเลขท่ี
ขน้ั สรุป
1. ครูสรุปเน้ือหาสาระเกย่ี วกับการจดั วางเร่ืองเรอื นภายในบ้าน
2. นกั เรียนทาแบบทดสอบหน่วยการเรยี นรู้ที่ 6 เร่ือง การจดั ตกแตง่ บา้ น
7. สอื่ นวตั กรรม แหล่งเรยี นรู้
1. ใบงาน เร่ือง การจดั วางเคร่อื งเรอื นภายในบา้ น
2. แบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ที่ 6 เรอ่ื ง การจัดตกแตง่ บ้าน
3. บทเรียน e-learning ที่ https://sites.google.com
8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล
สิง่ ทตี่ ้องการประเมิน วธิ กี าร เครอื่ งมอื เกณฑผ์ า่ น
การประเมนิ
ดา้ นความรู้(K)
- อธบิ ายการจดั วางเคร่ืองเรือนภายใน - การทาแบบทดสอบ - แบบทดสอบ - ได้คะแนนเฉลย่ี
บา้ นได้ ร้อยละ 60 ขึน้ ไป
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ(P) - ไดค้ ะแนนเฉลยี่
- มที ักษะการจัดวางเครอ่ื งเรือนภายใน - การตรวจใบงาน - ใบงาน รอ้ ยละ 60 ข้นึ ไป
บ้าน
ส่ิงทต่ี อ้ งการประเมิน วธิ ีการ เครื่องมือ เกณฑ์ผา่ น
- การสังเกต การประเมนิ
ดา้ นคณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค์(A)
1. ใฝ่เรียนรู้ - แบบประเมนิ ด้าน - ได้คะแนนเฉลีย่
๒. มุ่งมั่นในการทางาน คุณลกั ษณะอันพึง ร้อยละ 60 ข้นึ ไป
๓. มจี ิตสาธารณะ ประสงค์
9. ผลการจดั การเรียนรู้
............................................................................................................................. .......................................
................................................................................................................................. ...................................
................................................................................................ ....................................................................
............................................................................................................................. .......................................
10. ข้อเสนอแนะ/การพัฒนา
............................................................................................................................. .......................................
......................................................................................... ...........................................................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................................ ........................
ลงชื่อ ผ้สู อน
(นางสาวชลธิชา แพทองคา)
........./....................../............
ใบงาน
เรอื่ ง การจัดวางเครื่องเรอื นภายในบา้ น
ใหน้ ักเรียนจัดวางเครอ่ื งเรอื นที่กาหนดใหล้ งในผงั บ้าน
ผงั เครอ่ื งเรอื น
หอ้ งรบั แขก
แบบทดสอบ
หนว่ ยการเรียนร้ทู ี่ 6 เร่ือง การจดั ตกแตง่ บา้ น
จงเลอื กคาตอบตอ่ ไปนี้ใหถ้ ูกต้อง
1. “การจัดเนื้อทีใ่ ชส้ อยใหเ้ หมาะกับการทากิจกรรมในบ้าน” ตรงกับหลักการจัดตกแต่งบา้ นในข้อใด
ก. สะดวกสบาย
ข. ถกู สขุ ลกั ษณะ
ค. สวยงาม
ง. ส่งเสรมิ ความสมั พันธใ์ นครอบครัว
2. หอ้ งนอนเด็กที่มีเน้ือทน่ี อ้ ย ควรทาด้วยสใี นขอ้ ใด
ก. สีออ่ น สีเย็น
ข. สีอ่อน สรี อ้ น
ค. สีเขม้ สเี ยน็
ง. สีเขม้ สีร้อน
3. การจดั ตกแตง่ บ้านเพ่ือสง่ เสรมิ ความสัมพันธ์ใครอบครวั ควรทาอย่างไร
ก. ให้สมาชกิ ในบา้ นได้มสี ่วนร่วมในการตกแต่งบา้ น
ข. มเี นอ้ื ท่ใี ชส้ อยให้สมาชกิ ทุกคนทากจิ กรรมรว่ มกนั
ค. ควรมเี น้อื ท่ใี ห้สมาชิกทากิจกรรมทเ่ี ป็นสว่ นตวั
ง. ถูกทุกข้อ
4. ขอ้ ใดถูกต้องเก่ยี วกับการจดั ตกแต่งบา้ น
ก. หอ้ งครวั ควรทาด้วยสีร้อน
ข. ควรวางสง่ิ ของบรเิ วณบันได
ค. หอ้ งน้าควรมแี สงสว่างเพียงพอ
ง. ควรวางตเู้ ย็นในห้องรบั แขก
5. การจดั วางเคร่ืองเรือนในขอ้ ใดถกู ต้อง
ก. เตียงนอนควรวางไว้หวั เตียงและด้านข้างเตียงชิดผนัง
ข. ตู้เสื้อผา้ ควรวางชดิ ผนงั
ค. ชดุ รบั แขกควรจดั เป็นเส้นตรง
ง. อ่างลา่ งควรวางใกลต้ ู้เย็น
6. “การนาต้นไมม้ าเปน็ ส่วนหนึ่งในการตกแต่งบ้าน แต่ไม่ควรนามาไวใ้ นห้องนอน” ตรงกับหลักการ
จัดตกแต่งบ้านในข้อใด
ก. สะดวกสบาย
ข. ถูกสขุ ลกั ษณะ
ค. สวยงาม
ง. ส่งเสริมความสัมพันธใ์ นครอบครัว
7. ข้อใดไม่ใช่การจัดวางเคร่ืองเรอื นในห้องนอน
ก. เตียงนอนควรใหห้ วั เตียงชิดผนงั
ข. ตเู้ สอ้ื ผ้าไมค่ วรวางปดิ หน้าตา่ ง
ค. โตะ๊ แตง่ ตัวควรวางปิดหน้าต่าง
ง. โตะ๊ ทางานควรวางในบรเิ วณทีไ่ ดร้ ับแสงสวา่ งลมเยน็
8. ข้อใดคอื รูปแบบการจดั วางเครอื่ งเรือนในห้องครัว
ก. แบบชิดผนังเพยี งด้านเดียว หรือแบบเส้นตรง
ข. แบบชดิ ผนังสองด้าน หรือแบบตัว L
ค. แบบขนาน
ง. ถกู ทกุ ข้อ
9. จากภาพต่อไปนี้ เป็นการจัดวางเครื่องเรือนในห้องครวั แบบใด
ก. แบบชิดผนังเพียงด้านเดียว หรือแบบเสน้ ตรง
ข. แบบชิดผนังสองด้าน หรือแบบตัว L
ค. แบบขนาน
ง. แบบชดิ ผนังสามดา้ น หรอื แบบตัว U
10. จากภาพต่อไปน้ี เป็นการจดั วางเคร่ืองเรือนในห้องครัวแบบใด
ก. แบบชิดผนังเพียงดา้ นเดยี ว หรือแบบเส้นตรง
ข. แบบชิดผนงั สองดา้ น หรอื แบบตวั L
ค. แบบขนาน
ง. แบบชิดผนังสามด้าน หรือแบบตัว U
**********
แบบประเมินทักษะและกระบวนการ
เร่ือง..........................................................................................
คาช้แี จง ครสู งั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในเวลาเรยี น
รายการประเมิน
เลขที่ ชือ่ -นามสกุล ความพอเ ีพยงของ ัวส ุด ุอปกร ์ณ
การเ ืลอกใช้ ัวส ุด ุอปกร ์ณ
คุณภาพในขณะปฏิ ับ ิตงาน
เวลาในการป ิฏ ับ ิตงาน
คุณภาพของผลงาน
ความถูก ้ตองของผลงาน
๔๔๔๔๔๔
เกณฑใ์ นการประเมิน 1 ระดับ ปรบั ปรุง
๒ ระดบั พอใช้
๓ ระดบั ดี ลงช่ือ ผ้สู อน
๔ ระดับ ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แบบประเมินด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
เร่ือง.........................................................................................
คาชแี้ จง ครูสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขท่ี ชอื่ -นามสกลุ รักชา ิต ศาสน์
ก่ืซอัษ ัสตริตย์ย์ ุสจริต
มี ิวนัย
ใ ่ฝรู้ ใ ่ฝเ ีรยน
อยู่อย่างพอเ ีพยง
มุ่งมั่นในการทางาน
มีจิตสาธารณะ
๔๔๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมิน 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดบั พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชื่อ ผู้สอน
๔ ระดับ ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะที่สาคัญ
เรื่อง......................................................................................
คาช้แี จง ครสู ังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ ความสามารถในการ ่ืสอสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแก้ ัปญหา
ความสามารถในการใช้
ทักษะชี ิวต
ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมนิ 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดับ พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชอื่ ผู้สอน
๔ ระดบั ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 12
รหัสวิชา ง๓1๑๐๑ รายวชิ า การงานอาชพี และเทคโนโลยี (งานบ้าน)
กล่มุ สาระการเรยี นเรียนรู้การงานอาชพี โรงเรียนกาญจนาภเิ ษกวิทยาลยั นครปฐม
ระดับช้นั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศึกษา 2562 เวลา ๑ ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 7 เร่อื ง การนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ต์ใชใ้ นงานบ้าน
******************************************************************************
ผสู้ อน นางสาวชลธชิ า แพทองคา
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวชวี้ ดั
มาตรฐาน ง 1.1
เข้าใจการทางาน มคี วามคิดสร้างสรรค์ มที กั ษะกระบวนการทางาน ทักษะการจัดการ ทักษะ
กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและ
ลักษณะนสิ ยั ทดี่ ใี นการทางาน มีจติ สานึกในการใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากรและส่งิ แวดล้อมเพอื่ การดารงชีวิต
และครอบครัว
ตัวชว้ี ดั
ง 1.1 ม 4-6/1 อธิบายวิธกี ารทางานเพอื่ การดารงชีวติ
ง 1.1 ม 4-6/2 สร้างผลงานอย่างมีความคดิ สรา้ งสรรค์ และมีทักษะการทางานร่วมกัน
ง 1.1 ม 4-6/3 มที ักษะการจัดการในการทางาน
ง 1.1 ม 4-6/4 มีทักษะกระบวนการแกป้ ญั หาในการทางาน
ง 1.1 ม 4-6/5 มีทักษะในการแสวงหาความรูเ้ พื่อการดารงชีวติ
ง 1.1 ม 4-6/6 มคี ณุ ธรรมและลกั ษณะนิสัยในการทางาน
ง 1.1 ม 4-6/7 ใชพ้ ลงั งาน ทรัพยากร ในการทางานอย่างคุ้มคา่ และยงั่ ยืน เพื่อการอนรุ ักษ์
ส่งิ แวดลอ้ ม
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประกอบด้วยคุณลักษณะของความพอเพียง 3 ประการ ได้แก่
ความมีเหตุผล ความพอประมาณ การมีภูมิคุ้มกันท่ีดีในตัว และเง่ือนไขของความพอเพียง 2 ประการ
ไดแ้ ก่ เงือ่ นไขความรู้และเง่ือนไขคุณธรรม
ในการทางานบ้านตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงประกอบด้วยข้ันตอนในการดาเนินการ
ได้แก่
1. ก่อนลงมือทางานบ้านควรศึกษาข้อมูลในงานบ้านที่จะลงมือปฏิบัติ สอดคล้องกับหลัก
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
2. การวางแผนการทางานบ้าน โดยพิจาณาถึงคุณลักษณะของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
ได้แก่ ความมีเหตุผล ความพอประมาณ ความมภี ูมิคุ้มกนั
3. ขณะลงมือปฏบิ ตั ิ โดยพิจารณาถงึ เงอื่ นไขของหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ไดแ้ ก่ มคี วามรู้
มคี ณุ ธรรม
4. ทาแล้วควรประเมินผลการปฏิบัติงานเพ่ือเป็นข้อมูลในการดาเนินการต่อไป สอดคล้องกับ
หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งในด้านการมภี ูมิคมุ้ กนั
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
ดา้ นความรู้(K)
- อธิบายหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและการนาหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมา
ประยกุ ตใ์ ช้ในงานบา้ นได้
ด้านทักษะ/กระบวนการ(P)
1. เขียนอธบิ ายหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี งได้
2. สามารถนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้ในงานบ้านได้
ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์(A)
1. ใฝเ่ รียนรู้
๒. ม่งุ มน่ั ในการทางาน
๓. อย่อู ยา่ งพอเพียง
4. สมรรถนะสาคญั ของผเู้ รียน
๑. ความสามารถในการส่ือสาร
๒. ความสามารถในการคิด
๓. ความสามารถในการแก้ปัญหา
๔. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชวี ติ
๕. ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
5. สาระการเรยี นรู้
1. หลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
2. การนาหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานบ้าน
6. กระบวนการจัดการเรียนรู้
ขน้ั นาเขา้ สบู่ ทเรียน
ครสู นทนากบั นักเรียนเกยี่ วกับหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
ขัน้ สอน
1. ครูอธิบายหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง โดยใช้โปรแกรมนาเสนอ (Power Point)
ประกอบการอธบิ าย และให้นกั เรยี นศึกษาค้นควา้ หาข้อมูลเพ่ิมเตมิ ไดใ้ นบทเรยี น e-learning ที่
https://sites.google.com
2. ครูยกตัวอย่างงานบ้าน แล้วให้นักเรียนช่วยกันวิเคราะห์ว่า “การทางานบ้านตามหลัก
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง”
3. นกั เรยี นทาใบงาน เร่ือง การประยกุ ตห์ ลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในงานบ้าน
ขั้นสรปุ
1. ครูสรปุ เนอื้ หาสาระเกี่ยวกับหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงและการนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพียงมาประยุกตใ์ ชใ้ นงานบ้าน
2. นักเรียนทาแบบทดสอบหน่วยการเรียนรู้ที่ 7 เร่ือง การนาหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
มาประยุกต์ใชใ้ นงานบา้ น
7. ส่ือ นวตั กรรม แหล่งเรียนรู้
1. โปรแกรมนาเสนอ (Power Point) เรือ่ ง หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง
2. ใบงาน เรอื่ ง การประยุกต์หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในงานบ้าน
3. แบบทดสอบหนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 7 เรือ่ ง การนาหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงมาประยุกต์ใช้
ในงานบา้ น
4. บทเรยี น e-learning ท่ี https://sites.google.com
8. กระบวนการวัดและประเมนิ ผล
ส่ิงที่ตอ้ งการประเมนิ วธิ กี าร เครอื่ งมือ เกณฑ์ผา่ น
การประเมนิ
ดา้ นความรู้(K)
- อธิบายหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ - การทาแบบทดสอบ - แบบทดสอบ - ได้คะแนนเฉลี่ย
พอเพียงและการนาหลักปรชั ญา รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป
เศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยุกต์ใช้ในงาน
บา้ นได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ(P)
1. เขยี นอธิบายหลักปรัชญาเศรษฐกิจ - การตรวจใบงาน - ใบงาน - ไดค้ ะแนนเฉล่ยี
พอเพียงได้ - การสังเกต - แบบประเมิน ร้อยละ 60 ข้ึนไป
2. สามารถนาหลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ ทกั ษะกระบวนการ
พอเพยี งมาประยุกต์ใชใ้ นงานบ้านได้
ด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์(A)
1. ใฝ่เรยี นรู้ - การสงั เกต - แบบประเมินดา้ น - ได้คะแนนเฉลีย่
๒. มุ่งมนั่ ในการทางาน คุณลักษณะอนั พึง รอ้ ยละ 60 ขน้ึ ไป
๓. อยอู่ ย่างพอเพียง ประสงค์
9. ผลการจดั การเรียนรู้
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
.................................................................................... ................................................................................
10. ข้อเสนอแนะ/การพฒั นา
............................................................................................................................. .......................................
............................................................................................................................. .......................................
....................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. .......................................
ลงชอ่ื ผสู้ อน
(นางสาวชลธิชา แพทองคา)
........./....................../............
ใบงาน
เรื่อง การประยุกตห์ ลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งในงานบ้าน
ใหน้ กั เรยี นอธิบายเกีย่ วกบั “การประยุกตห์ ลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งในงานบ้าน” ตามความคิด
ของนักเรียน
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.................................................................................................................................................. ..............
..................................................................................................................... ...........................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................ ................
................................................................................................................... .............................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................. ...............................................................................
............................................................................................................................. ...................................
.............................................................................................................................................. ..................
................................................................................................................. ...............................................
............................................................................................................................. ...................................
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...................................
............................................................................................................................. ...................................
แบบทดสอบ
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 7 เรือ่ ง การนาหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ตใ์ ชใ้ นงานบา้ น
จงเลือกคาตอบต่อไปนีใ้ ห้ถูกต้อง
๑. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง คอื ข้อใด
ก. พอประมาณ สมดุล มเี หตุผล
ข. มีเหตุผล มภี มู ิคุ้มกัน พอไปวดั ไปวา
ค. พอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมิคมุ้ กนั
ง. มีเหตผุ ล มนั่ คง ยืนไดด้ ว้ ยตนเอง
๒. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง เปน็ แนวพระราชดาริของรชั กาลใด
ก. รชั กาล ท่ี ๗
ข. รชั กาล ท่ี ๘
ค. รัชกาล ที่ ๙
ง. รัชกาล ที่ ๑๐
๓. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมีเป้าหมายตามข้อใด
ก. ดาเนนิ ชีวิตได้ทกุ สถานการณ์
ข. ดาเนนิ ชวี ติ ได้ทุกประเทศ
ค. ดาเนินชีวติ ไดท้ กุ วยั
ง. ดาเนนิ ชีวิตไดท้ กุ สภาพอากาศ
4. การปฏบิ ัตติ ามหลักความพอเพียงควรเร่มิ จากท่ีใด
ก. ตนเอง
ข. เพื่อน
ค. ครอบครัว
ง. ประเทศ
5. ความมภี ูมคิ มุ้ กันที่ดีในตัว หมายถึงข้อใด
ก. กล้าเสยี่ งในการลงทุน
ข. ยอมรบั สภาพสังคมได้ทง้ั สภาพดีและไมด่ ี
ค. มคี วามพร้อมทจี่ ะเผชิญต่อผลกระทบและการเปลย่ี นแปลง
ง. ดแู ลรักษาสุขภาพให้แขง็ แรงอยเู่ สมอ
6. ทางสายกลาง หมายถึง
ก. พัฒนาปัญญาและความรู้อยา่ งตอ่ เน่ือง
ข. ทาทกุ อยา่ งแบบกลางๆ ไม่เอียงไปดา้ นใดดา้ นหน่ึง
ค. ความพอดี พอเหมาะ มีความหลากหลาย และกลมกลืน
ง. การต้งั อย่ใู นความไมป่ ระมาทพึง่ ตนเองให้มากข้นึ ในทุกระดับ
7. ความพอประมาณอยา่ งมเี หตุผล คือข้อใด
ก. ความสมดลุ และความยงั่ ยืน
ข. ไมโ่ ลภ ไมฟ่ ้งุ เฟ้อ รู้จักพอ มเี หตผุ ล มคี วามพอประมาณ
ค. มีไมตรี เอื้ออาทร
ง. ถกู ทกุ ข้อ
8. ภมู คิ มุ้ กนั และรู้เท่าทันโลก หมายถงึ ข้อใด
ก. มีความรอบคอบ
ข. ร้เู ทา่ ทันการเปลีย่ นแปลงจากส่ิงแวดล้อมภายนอก
ค. สามารถปอ้ งกนั หรอื ลดผลกระทบอนั เกิดจากความผันผวนหรือความผกผนั ของโลกภายนอก
ง. ถูกทุกข้อ
9. ขอ้ ใดคือการประยกุ ตห์ ลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี งมาใช้ในงานบา้ น
ก. ก่อนทางานบ้านควรศึกษาขอ้ มลู ในงานบ้าน
ข. วางแผนการทางานบา้ น
ค. ขณะลงมือทางานบา้ นด้วยการมคี วามรู้ มีคุณธรรม
ง. ถูกทกุ ข้อ
10. ขอ้ ใดเปน็ การปฏิบัติตนตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
ก. รู้จกั ประหยัด
ข. ยืมเงนิ เพื่อนและผ่อนใช้ทีหลงั
ค. อดอาหารกลางวันเพ่ือเก็บเงินใสอ่ อมสนิ
ง. ทางานหลังเลิกเรียนเพื่อเก็บเงนิ ไวซ้ ้อื สง่ิ ของท่ีอยากได้
************
แบบประเมนิ ทักษะและกระบวนการ
เรื่อง..........................................................................................
คาช้แี จง ครสู งั เกตพฤติกรรมนกั เรียนในเวลาเรียน
รายการประเมิน
เลขที่ ชือ่ -นามสกุล ความพอเ ีพยงของ ัวส ุด ุอปกร ์ณ
การเ ืลอกใช้ ัวส ุด ุอปกร ์ณ
คุณภาพในขณะปฏิ ับ ิตงาน
เวลาในการป ิฏ ับ ิตงาน
คุณภาพของผลงาน
ความถูก ้ตองของผลงาน
๔๔๔๔๔๔
เกณฑใ์ นการประเมิน 1 ระดบั ปรบั ปรุง
๒ ระดบั พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงช่ือ ผ้สู อน
๔ ระดับ ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แบบประเมินด้านคณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์
เร่ือง.........................................................................................
คาชแี้ จง ครูสงั เกตพฤติกรรมนกั เรยี นในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขท่ี ชอื่ -นามสกลุ รักชา ิต ศาสน์
ก่ืซอัษ ัสตริตย์ย์ ุสจริต
มี ิวนัย
ใ ่ฝรู้ ใ ่ฝเ ีรยน
อยู่อย่างพอเ ีพยง
มุ่งมั่นในการทางาน
มีจิตสาธารณะ
๔๔๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมิน 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดบั พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชื่อ ผู้สอน
๔ ระดับ ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แบบประเมนิ ดา้ นสมรรถนะที่สาคัญ
เรื่อง......................................................................................
คาช้แี จง ครสู ังเกตพฤติกรรมนกั เรียนในเวลาเรียน
รายการประเมนิ
เลขที่ ชือ่ -นามสกลุ ความสามารถในการ ื่สอสาร
ความสามารถในการคิด
ความสามารถในการแ ้ก ัปญหา
ความสามารถในการใช้
ทักษะชี ิวต
ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี
๔๔๔๔๔
เกณฑ์ในการประเมนิ 1 ระดบั ปรบั ปรงุ
๒ ระดับ พอใช้
๓ ระดับ ดี ลงชอื่ ผู้สอน
๔ ระดบั ดมี าก (...............................................)
........../....................../............
แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 13
รหสั วชิ า ง๓1๑๐๑ รายวิชา การงานอาชีพและเทคโนโลยี (งานบ้าน)
กลุ่มสาระการเรียนเรยี นรกู้ ารงานอาชีพ โรงเรียนกาญจนาภิเษกวิทยาลยั นครปฐม
ระดับช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 ภาคเรียนท่ี ๑ ปีการศกึ ษา 2562 เวลา ๑ ช่ัวโมง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 เร่อื ง เคร่ืองแขวนไทย (กล่นิ ตะแคง)
******************************************************************************
ผสู้ อน นางสาวชลธิชา แพทองคา
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชวี้ ัด
มาตรฐาน ง 1.1
เขา้ ใจการทางาน มีความคดิ สร้างสรรค์ มีทักษะกระบวนการทางาน ทักษะการจดั การ ทักษะ
กระบวนการแก้ปัญหา ทักษะการทางานร่วมกัน และทักษะการแสวงหาความรู้ มีคุณธรรมและ
ลักษณะนิสัยท่ีดีในการทางาน มจี ิตสานกึ ในการใช้พลงั งาน ทรัพยากรและสิ่งแวดลอ้ มเพื่อการดารงชีวิต
และครอบครัว
ตวั ชี้วดั
ง 1.1 ม 4-6/2 สรา้ งผลงานอยา่ งมีความคิดสรา้ งสรรค์ และมที ักษะการทางานรว่ มกัน
ง 1.1 ม 4-6/4 มีทกั ษะกระบวนการแกป้ ญั หาในการทางาน
ง 1.1 ม 4-6/6 มคี ณุ ธรรมและลกั ษณะนิสัยในการทางาน
ง 1.1 ม 4-6/7 ใช้พลังงาน ทรัพยากร ในการทางานอย่างคุ้มคา่ และย่ังยนื เพ่ือการอนุรักษ์
ส่ิงแวดลอ้ ม
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
เคร่ืองแขวนไทยเป็นการนาดอกไม้มาร้อยประกอบกันเป็นพวงแบบต่างๆ เพื่อใช้ในการประดับ
ตกแตง่ หนา้ ต่าง ชอ่ งประตู กลางเพดานและฝาผนัง ไดแ้ ก่ ตาข่ายหน้าชา้ ง วมิ าณพระอินทร์ กลนิ่ ตะแคง
กลิน่ จระเข้ พูก่ ล่ิน โคมหวด โคมจีน ฯลฯ
สว่ นประกอบของเครือ่ งแขวน ได้แก่
1. ลาตัวเครือ่ งแขวน ไดแ้ ก่ โครงเคร่อื งแขวน ตาข่าย
2. เครือ่ งแตง่ ตวั ไดแ้ ก่ งานเย็บแบบตา่ งๆ งานเยบ็ สวน ทดั หแู ละอุบะ
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
ด้านความรู้(K)
- อธบิ ายความรู้ทัว่ ไปเกย่ี วกบั เครอ่ื งแขวนไทยได้
ดา้ นทักษะ/กระบวนการ(P)
- เขยี นอธบิ ายความร้ทู ว่ั ไปเกี่ยวกับเคร่อื งแขวนไทยได้