The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิเคราะห์หลักสูตร รายวิชาวิทยาศาสตร์ ว21102 ม.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rattiya2252, 2022-10-11 18:11:45

วิเคราะห์หลักสูตร รายวิชาวิทยาศาสตร์ ว21102 ม.1

วิเคราะห์หลักสูตร รายวิชาวิทยาศาสตร์ ว21102 ม.1

หนว่ ยที่ ชอ่ื หน่วย มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรแู้
กำรเรียนรู้ ตัวช้วี ัด
ว 3.2 ม.1/4อธิบายการ การพยากรณ์อากาศเปน็ การ
พยากรณอ์ ากาศ และ อากาศที่จะเกดิ ขนึ้ ในอนาคต
พยากรณอ์ ากาศอยา่ งง่าย องค์ประกอบลมฟ้าอากาศ ก
จากขอ้ มูลทรี่ วบรวมได้ แลกเปลยี่ นข้อมูลองคป์ ระกอ
ระหว่างพน้ื ท่กี ารวเิ คราะหข์ ้อ
พยากรณอ์ ากาศ

ว 3.2 ม.1/5 ตระหนกั ถึง การพยากรณอ์ ากาศสามารถ

คณุ คา่ ของการพยากรณ์ ด้านต่าง ๆ เชน่ การใชช้ ีวิตป
อากาศโดยนาเสนอแนว คมนาคม การเกษตร การป้อ
ทางการปฏบิ ัตติ น และการใช้
ประโยชนจ์ ากคาพยากรณ์ ภัยพิบตั ทิ างธรรมชาติ

อากาศ

ว 3.2 ม.1/6 อธิบาย ภมู อิ ากาศโลกเกดิ การเปลย่ี นแป

สถานการณแ์ ละผลกระทบ ปัจจัยทางธรรมชาติ แต่ปัจจุบนั ก

การเปล่ยี นแปลงภูมอิ ากาศ ภมู ิอากาศเกดิ ข้ึนอย่างรวดเรว็ เน

โลกจากขอ้ มูลทีร่ วบรวมได้ มนษุ ย์ในการปลดปล่อยแก๊สเรือ

แกส๊ เรอื นกระจกท่ีถกู ปลดปลอ่ ย

คารบ์ อนไดออกไซดซ์ ึ่งหมนุ เวยี น

แกนกลำง สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด เวลำ น้ำหนกั
(ชัว่ โมง) คะแนน
รคาดการณ์ลมฟ้า เกณฑใ์ นการพยากรณ์อากาศของ
ตโดยมีการตรวจวดั กรมอตุ ุนิยมวทิ ยา ได้แก่ เกณฑ์ 3 8
การสอื่ สาร อากาศร้อน เกณฑอ์ ากาศเย็น
อบลมฟา้ อากาศ เกณฑ์การกระจายของฝน เกณฑ์ 3 5
อมลู และสร้างคา ปรมิ าณฝน เกณฑ์ปริมาณเมฆใน
ท้องฟา้ เกณฑ์สถานะของทะเล ร่อง
ถนามาใช้ประโยชน์ มรสุม ลมพัดสอบ บรเิ วณความกด
ประจาวัน การ อากาศสงู บริเวณความกดอากาศต่า
องกัน และเฝ้าระวัง เป็นต้น
แผนทอี่ ากาศ เปน็ แผนทแ่ี สดงสภาพ
ลมฟ้าอากาศในชว่ งเวลาหนึง่ ข้อมลู
ในแผนท่อี ากาศจะนาไปใชใ้ นการ
พยากรณอ์ ากาศ

ปลงอย่างต่อเนอื่ งโดย การเปลยี่ นแปลงอุณหภมู ิของโลก 2 5
การเปลย่ี นแปลง สว่ นหนง่ึ มาจากผลการทากิจกรรม
นื่องจากกิจกรรมของ ของมนษุ ย์ ทาใหเ้ กดิ ฝุ่นละอองและ
อนกระจกสู่บรรยากาศ มแี กส๊ เรีอนกระจกในบรรยากาศ
ยมากที่สดุ ได้แก่ แกส๊ เพิม่ มากข้นึ อย่างรวดเรว็ สง่ ผลทาให้
นอยู่ในวฏั จกั รคาร์บอน อุณหภมู ิอากาศของโลกสงู ข้นึ และมี
แนวโน้มสงู ข้ึนเรื่อย ๆ

หนว่ ยท่ี ชอ่ื หน่วย มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรูแ้ กนก
กำรเรยี นรู้
ตวั ชี้วัด

ว 3.2 ม.1/7 การเปล่ยี นแปลงภมู อิ ากาศโ

ตระหนกั ถึง กอ่ ใหเ้ กดิ ผลกระทบต่อส่ิงมชี

ผลกระทบของการ ส่ิงแวดลอ้ ม เช่น การหลอมเ

เปลี่ยนแปลง นา้ แข็งขั้วโลก การเพมิ่ ข้นึ ขอ

ภูมิอากาศโลกโดย ระดบั นา้ ทะเล การเปลีย่ นแป

นาเสนอแนว น้า การเกิดโรคอบุ ตั ใิ หม่และ

ทางการปฏิบัตติ น และการเกดิ ภัยพิบตั ทิ างธรร

ภายใตก้ าร รุนแรงขึน้ มนษุ ย์จงึ ควรเรียน

เปล่ยี นแปลง ทางการปฏิบัตติ นภายใตส้ ถา

ภูมอิ ากาศโลก ดงั กลา่ ว ทงั้ แนวทางการปฏิบ

เหมาะสม และแนวทางการล

ทีส่ ่งผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงภ

โลก

กลำง สำระสำคัญ/ควำมคดิ รวบยอด เวลำ น้ำหนกั
(ชั่วโมง) คะแนน
โลก การเกิดโรคอุบตั ิใหม่และอุบตั ิซา้ และ
ชวี ิตและ การเกิดภยั พบิ ัติทางธรรมชาติทีร่ ุนแรง 2 5
เหลวของ ข้ึน มนษุ ย์จงึ ควรเรียนรูแ้ นวทางการ
อง ปฏบิ ัตติ นภายใต้สถานการณ์ดังกลา่ ว ทัง้
ปลงวัฏจักร
ะอบุ ัตซิ ้า แนวทางการปฏิบตั ิ
รมชาติท่ี
นรู้แนว
านการณ์
บัตใิ ห้
ลดกิจกรรม
ภูมิอากาศ

กำรวเิ ครำะหค์ วำมเชอื่ มโยงข
สมรรถนะของผเู้ รยี น แล

กรณที ่ี 2 กรณีท่สี ามารถวิเคราะหค์ ุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ท่ีสอดคลอ้ งกบั การพฒั น
สำระที่ 2 วทิ ยำศำสตร์กำยภำพ
มำตรฐำน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชีวิตประจาวัน ผลของแรงทก่ี ระทาตอ่ ว

ตวั ชวี้ ดั ผู้เรยี นร้อู ะไร/ทาอะไรได้

ว 2.2 ม.1/1 สรา้ ง ผูเ้ รียนรู้อะไร
แบบจาลองท่ีอธบิ าย ความสัมพันธ์ระหวา่ งความดันอากาศกบั ความสูงจากพื้น
ความสมั พันธ์ระหวา่ ง นักเรยี นทำอะไรได้
ความดันอากาศกับความ แบบจาลองความดนั อากาศกับความสูงจากพนื้ โลก
สงู จากพนื้ โลก

ของมำตรฐำนกำรเรียนรู้/ตวั ชวี้ ัด
ละคุณลักษณะอนั พึงประสงค์
นาตามตัวชี้วัดได้อย่างชัดเจนกลมุ่ สาระการเรียนรู้ วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

วตั ถลุ ักษณะการเคลือ่ นที่แบบต่าง ๆ ของวตั ถุ รวมทง้ั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

นาไปสู่

สมรรถนะของผู้เรียน คณุ ลักษณะอนั พงึ

ประสงค์

1. ความสามารถในการ 1.มีวนิ ยั

นโลก สอ่ื สาร 2.ใฝเ่ รียนรู้

2. ความสามารถในการคิด 3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

1) ทักษะการสารวจค้นหา

2) ทกั ษะการจาแนก

ประเภท

3) ทกั ษะการเปรียบเทยี บ

4) ทักษะการตคี วาม

ข้อมูลและการลงข้อสรปุ

3. ความสามารถในการใช้

เทคโนโลยี

มำตรฐำน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปล่ียนแปลง และการถา่ ยโอนพ
ของคลนื่ ปรากฏการณ์ที่เกย่ี วขอ้ งกบั เสียง แสง และคล่นื แม่เหล็กไฟฟา้ รวมทัง้ นาควา

ตวั ช้วี ดั ผู้เรยี นรอู้ ะไร/ทาอะไรได้

ว 2.3 ม.1/1 วเิ คราะห์ ผ้เู รียนรู้อะไร
แปลความหมายข้อมูล ความหมายปริมาณความร้อนทที่ าให้สสารเปล่ียนอณุ หภ
และคานวณ ปรมิ าณ นกั เรียนทำอะไรได้
ความร้อนทที่ าให้สสาร คานวณ ปรมิ าณความร้อนทีท่ าให้สสารเปล่ียนอณุ หภมู แิ
เปลี่ยนอุณหภูมิและ สมการ Q = mc∆t และ Q = mL
เปลย่ี นสถานะ โดยใช้
สมการ Q = mc∆t และ
Q = mL

พลังงาน ปฏิสัมพนั ธ์ระหวา่ งสสาร และพลังงาน พลงั งานในชีวติ ประจาวัน ธรรมชาติ

ามรูไ้ ปใช้ประโยชน์

นาไปสู่

สมรรถนะของผ้เู รียน คณุ ลกั ษณะอันพึง

ประสงค์

1. ความสามารถในการ 1.มีวนิ ัย

ภูมแิ ละเปลย่ี นสถาน สื่อสาร 2.ใฝ่เรียนรู้

2. ความสามารถในการ 3. มุ่งมน่ั ในการทางาน

และเปล่ยี นสถานะ โดยใช้ คิด

1) ทกั ษะการสารวจ

คน้ หา

2) ทกั ษะการจาแนก

ประเภท

3) ทักษะการ

เปรียบเทียบ

4) ทักษะการตคี วาม

ข้อมูลและการลง

ขอ้ สรุป

3. ความสามารถในการ

ใช้

เทคโนโลยี

ตัวชีว้ ดั ผเู้ รยี นรอู้ ะไร/ทาอะไรได้

ว 2.3 ม.1/2 ใช้เทอร์ ผเู้ รยี นรู้อะไร
มอมิเตอร์ในการวัด วัดอุณหภมู ขิ องสาร
อณุ หภูมิของสสาร นักเรยี นทำอะไรได้
ใชเ้ ทอรม์ อมเิ ตอร์ในการวดั อุณหภูมิของสสาร

นาไปสู่
สมรรถนะของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สือ่ สาร 2.ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
คิด

1) ทักษะการสารวจ
ค้นหา

2) ทักษะการจาแนก
ประเภท

3) ทักษะการ
เปรยี บเทยี บ

4) ทักษะการตคี วาม
ข้อมูลและการลง
ขอ้ สรุป
3. ความสามารถในการ
ใช้เทคโนโลยี

ตวั ช้วี ัด ผูเ้ รียนรอู้ ะไร/ทาอะไรได้

ว 2.3 ม.1/3 สร้าง ผูเ้ รียนรอู้ ะไร
แบบจาลองทอี่ ธบิ ายการ ผลของ ความร้อนต่อการเปลี่ยนแปลงอุณหภมู ิของสาร
ขยายตัว หรือหดตัวของ นกั เรียนทำอะไรได้
สสารเนือ่ งจากไดร้ บั หรือ คานวณปรมิ าณความร้อนที่ทาให้สสารเปลีย่ นอณุ หภมู แิ ล
สูญเสยี ความรอ้ น

ละเปลยี่ นสถานะ นาไปสู่
สมรรถนะของผูเ้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพึง

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สื่อสาร 2.ใฝ่เรยี นรู้
2.ความสามารถในการ 3. มุ่งมั่นในการทางาน
คิด

1)ทักษะการสารวจ
คน้ หา

2) ทกั ษะการจาแนก
ประเภท

3)ทกั ษะการ
เปรียบเทียบ

4) ทกั ษะการตคี วาม
ข้อมูลและการลงขอ้ สรุป
3.ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

ตวั ชี้วัด ผู้เรยี นร้อู ะไร/ทาอะไรได้

ว 2.3 ม.1/4 ตระหนัก ผ้เู รยี นรู้อะไร
ถงึ ประโยชน์ของความรู้ แบบจาลองการนาความร้อน
ของการหดและขยายตัว
ของสสารเนอ่ื งจากความ นกั เรยี นทำอะไรได้
ร้อน โดยวเิ คราะห์ สร้างแบบจาลองการนาความรอ้ น
สถานการณ์ปัญหา และ
เสนอแนะวธิ กี ารนา
ความรู้มาแก้ปญั หา ใน
ชวี ิตประจาวัน

นาไปสู่
สมรรถนะของผ้เู รยี น คณุ ลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

ส่อื สาร 2.ใฝ่เรียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน
คดิ

1) ทักษะการสารวจ
ค้นหา

2) ทักษะการจาแนก
ประเภท

3) ทกั ษะการ
เปรยี บเทียบ

4) ทักษะการตคี วาม
ข้อมลู และการลงข้อสรปุ
3. ความสามารถในการ
ใช้เทคโนโลยี

ตวั ชว้ี ดั ผ้เู รียนรูอ้ ะไร/ทาอะไรได้

ว 2.3 ม.1/5 วิเคราะห์ ผเู้ รียนรอู้ ะไร
สถานการณ์การถ่ายโอน ปริมาณความร้อนท่ถี ่ายโอนระหวา่ งสสารจนเกดิ สมดุลค
ความรอ้ น และคานวณ สมดลุ ความร้อนไปใชป้ ระโยชน์
ปรมิ าณความรอ้ นท่ถี ่าย นักเรยี นทำอะไรได้
โอนระหวา่ งสสารจนเกิด คานวณปรมิ าณความรอ้ นท่ีถา่ ยโอนระหว่างสสารจนเกิด
สมดลุ ความรอ้ นโดยใช้ สมการ
สมการ Qสูญเสีย = Qไดร้ บั

ความร้อนโดยใช้สมการ นาไปสู่
ดสมดุลความร้อนโดยใช้ สมรรถนะของผ้เู รยี น คุณลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

ส่อื สาร 2.ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
คดิ

1) ทักษะการสารวจ
ค้นหา

2) ทกั ษะการจาแนก
ประเภท

3) ทกั ษะการ
เปรียบเทยี บ

4) ทกั ษะการตคี วาม
ข้อมูลและการลง
ข้อสรปุ
3. ความสามารถในการ
ใช้ เทคโนโลยี

ตวั ชีว้ ดั ผเู้ รียนรอู้ ะไร/ทาอะไรได้

ว 2.3 ม.1/6 สร้าง ผเู้ รียนรูอ้ ะไร
แบบจาลองที่อธบิ ายการ - แบบจาลองการนาความร้อน การพาความรอ้ น การแผ
ถา่ ยโอนความ รอ้ นโดย -นาความรู้เรอื่ ง การนาความร้อน การพาความร้อน การ
การนาความร้อน การพา ไปใชใ้ นชีวิตประจาวนั
ความรอ้ น การแผร่ ังสี
ความรอ้ น นักเรียนทำอะไรได้
- สร้างแบบจาลองการนาความรอ้ น การพาความรอ้ น ก
ความรอ้ น

ผ่รงั สี ความรอ้ น นาไปสู่
รแผ่รงั สีความร้อน สมรรถนะของผเู้ รียน คณุ ลกั ษณะอันพงึ

การแผร่ งั สี ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สื่อสาร 2.ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
คดิ

1) ทักษะการสารวจ
ค้นหา

2) ทกั ษะการจาแนก
ประเภท

3) ทกั ษะการ
เปรยี บเทียบ

4) ทักษะการตีความ
ขอ้ มลู และการลงขอ้ สรปุ
3. ความสามารถในการ
ใช้เทคโนโลยี

ตวั ชี้วดั ผู้เรียนรอู้ ะไร/ทาอะไรได้

ว 2.3 ม.1/7 ออกแบบ ผเู้ รยี นรอู้ ะไร
เลือกใช้ และสรา้ งอุปกรณ์ การถ่ายโอนความร้อน
เพ่อื แก้ปัญหา ใน
ชวี ิตประจาวันโดยใช้ความรู้ นกั เรยี นทำอะไรได้
เกย่ี วกบั การถ่ายโอนความ ออกแบบ เลอื กใช้ และสรา้ งอปุ กรณ์การถ่ายโอนความร้อน
ร้อน

นาไปสู่
สมรรถนะของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สือ่ สาร 2.ใฝ่เรียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. ม่งุ ม่นั ในการทางาน
คิด

1) ทักษะการสารวจ
ค้นหา

2) ทักษะการจาแนก
ประเภท

3) ทักษะการ
เปรยี บเทยี บ

4) ทักษะการตคี วาม
ข้อมูลและการลง
ขอ้ สรุป
3. ความสามารถในการ
ใช้เทคโนโลยี

สำระท่ี 3 วทิ ยำศำสตร์โลกและอวกำศ
มำตรฐำน ว 3.2 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ และความสัมพนั ธข์ องระบบโลก กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทง้ั ผลต่อสิ่งมีชีวิต และส่ิงแวดล้อม

ตวั ชีว้ ดั ผูเ้ รยี นรู้อะไร/ทาอะไรได้

ว 3.2 ม.1/1 สรา้ ง ผ้เู รยี นร้อู ะไร
แบบจาลองทอี่ ธิบายการ การแบง่ ช้ันบรรยากาศแต่ละชนั้
แบง่ ชน้ั บรรยากาศ และ
เปรียบเทียบประโยชน์ นักเรียนทำอะไรได้
ของบรรยากาศแต่ สรา้ งแบบจาลองท่ีอธบิ ายการแบ่งชั้นบรรยากาศ
ละชน้ั

รเปลี่ยนแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณี พบิ ัตภิ ยั กระบวนการ

นาไปสู่
สมรรถนะของผูเ้ รียน คุณลักษณะอนั พึง

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สอ่ื สาร 2.ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการคิด 3. มงุ่ ม่ันในการทางาน

1) ทักษะการสารวจคน้ หา
2) ทกั ษะการจาแนก

ประเภท
3) ทักษะการเปรยี บเทียบ
4) ทักษะการตคี วาม
ขอ้ มลู และการลงขอ้ สรปุ
3. ความสามารถในการใช้
เทคโนโลยี

ตัวชว้ี ดั ผเู้ รยี นรู้อะไร/ทาอะไรได้

ว 3.2 ม.1/2 อธิบาย ผู้เรียนร้อู ะไร
ปัจจยั ที่มีผลต่อการ ปจั จยั ท่มี ีผลตอ่ การเปลี่ยนแปลงองค์ประกอบของลมฟ้าอ
เปลย่ี นแปลง
องค์ประกอบของลมฟา้ นกั เรียนทำอะไรได้
อากาศ จากขอ้ มูลท่ี อธบิ ายปัจจัยทม่ี ีผลตอ่ การเปลีย่ นแปลงองค์ประกอบของ
รวบรวมได้

อากาศ นาไปสู่
งลมฟา้ อากาศ สมรรถนะของผเู้ รยี น คุณลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สือ่ สาร 2.ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
คิด

1) ทกั ษะการสารวจ
คน้ หา

2) ทักษะการจาแนก
ประเภท

3) ทักษะการ
เปรียบเทียบ

4) ทักษะการตคี วาม
ข้อมูลและการลง
ขอ้ สรปุ
3. ความสามารถในการ
ใช้เทคโนโลยี

ตวั ชวี้ ัด ผเู้ รยี นรู้อะไร/ทาอะไรได้

ว 3.2 ม.1/3 ผู้เรยี นร้อู ะไร

เปรยี บเทยี บกระบวนการ -เปรยี บเทียบกระบวนการเกดิ พายุฝนฟ้าคะนองและพาย

เกดิ พายุฝนฟา้ คะนอง

และพายหุ มนุ เขตร้อน

และผลทมี่ ตี อ่ ส่ิงมีชีวิต นักเรียนทำอะไรได้

และส่งิ แวดลอ้ ม รวมทั้ง บอกผลทมี่ ีต่อสง่ิ มชี วี ติ และสงิ่ แวดลอ้ ม

นาเสนอแนวทางการ

ปฏบิ ัติตนใหเ้ หมาะสม

และปลอดภัย

ยหุ มนุ เขตร้อน นาไปสู่
สมรรถนะของผูเ้ รียน คุณลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สื่อสาร 2.ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
คิด

1) ทักษะการสารวจ
ค้นหา

2) ทกั ษะการจาแนก
ประเภท

3) ทักษะการ
เปรยี บเทยี บ

4) ทกั ษะการตีความ
ขอ้ มูลและการลง
ขอ้ สรุป
3. ความสามารถในการ
ใช้เทคโนโลยี

ตัวช้วี ดั ผู้เรียนรู้อะไร/ทาอะไรได้

ว 3.2 ม.1/4 อธบิ ายการ ผ้เู รียนรู้อะไร
พยากรณอ์ ากาศ และ การพยากรณอ์ ากาศ และพยากรณ์อากาศ
พยากรณอ์ ากาศอย่าง
ง่ายจากข้อมูลท่รี วบรวม นักเรียนทำอะไรได้
ได้ อธิบายการพยากรณอ์ ากาศ และพยากรณอ์ ากาศ

นาไปสู่
สมรรถนะของผู้เรยี น คุณลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สื่อสาร 2.ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
คิด

1) ทกั ษะการสารวจ
ค้นหา

2) ทักษะการจาแนก
ประเภท

3) ทักษะการ
เปรยี บเทียบ

4) ทกั ษะการตคี วาม
ข้อมูลและการลง
ขอ้ สรุป
3. ความสามารถในการ
ใช้ เทคโนโลยี

ตัวชวี้ ัด ผูเ้ รียนรู้อะไร/ทาอะไรได้

ว 3.2 ม.1/5 ตระหนกั ผ้เู รยี นรู้อะไร
ถงึ คณุ คา่ ของการ การใช้ประโยชนจ์ ากคาพยากรณ์อากาศ
พยากรณอ์ ากาศโดย
นาเสนอแนวทางการ นักเรียนทำอะไรได้
ปฏบิ ตั ติ น และการใช้ อธิบาพยากรณ์อากาศจากสถานการณท์ ก่ี าหนดให้
ประโยชนจ์ ากคา
พยากรณ์อากาศ

นาไปสู่
สมรรถนะของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สือ่ สาร 2.ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
คิด

1) ทักษะการสารวจ
ค้นหา

2) ทักษะการจาแนก
ประเภท

3) ทักษะการ
เปรยี บเทยี บ

4) ทักษะการตคี วาม
ข้อมูลและการลง
ขอ้ สรุป
3. ความสามารถในการ
ใช้เทคโนโลยี

ตัวชวี้ ดั ผเู้ รียนรอู้ ะไร/ทาอะไรได้

ว 3.2 ม.1/6 อธิบาย ผ้เู รยี นรอู้ ะไร
สถานการณ์และ ผลกระทบการเปลี่ยนแปลงภูมิอากาศโลก
ผลกระทบการ
เปล่ยี นแปลงภูมิอากาศ นกั เรียนทำอะไรได้
โลกจากขอ้ มูลที่รวบรวม แผนผงั สถานการณแ์ ละผลกระทบการเปล่ยี นแปลงภูมอิ
ได้

อากาศโลก นาไปสู่
สมรรถนะของผูเ้ รียน คุณลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สือ่ สาร 2.ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
คิด

1) ทกั ษะการสารวจ
คน้ หา

2) ทกั ษะการจาแนก
ประเภท

3) ทกั ษะการ
เปรยี บเทยี บ

4) ทักษะการตคี วาม
ขอ้ มูลและการลง
ขอ้ สรปุ
3. ความสามารถในการ
ใชเ้ ทคโนโลยี

ตวั ชี้วดั ผ้เู รยี นร้อู ะไร/ทาอะไรได้

ว 3.2 ม.1/7 ตระหนักถงึ ผเู้ รียนรอู้ ะไร
ผ ล ก ร ะ ท บ ข อ ง ก า ร - ผลกระทบของการเปลี่ยนแปลงภมู ิอากาศโลก
เปลี่ยนแปลงภูมิอากาศ
โลก โดยนาเสนอแนว
ท า ง ก า ร ป ฏิ บั ติ ต น นักเรียนทำอะไรได้
ภายใต้การเปล่ียนแปลง บอกแนวทางการ ปฏิบตั ติ น ภายใตก้ ารเปลย่ี นแปลงภมู
ภูมิอากาศโลก

มิอากาศโลก นาไปสู่
สมรรถนะของผู้เรียน คุณลกั ษณะอันพงึ

ประสงค์
1. ความสามารถในการ 1.มีวินัย

สือ่ สาร 2.ใฝเ่ รียนรู้
2. ความสามารถในการ 3. มงุ่ ม่นั ในการทางาน
คดิ

1) ทักษะการสารวจ
คน้ หา

2) ทักษะการจาแนก
ประเภท

3) ทักษะการ
เปรยี บเทียบ

4) ทักษะการตีความ
ขอ้ มูลและการลง
ขอ้ สรปุ
3. ความสามารถในการ
ใชเ้ ทคโนโลยี

กำรออกแบบ
1. วำงแผนกำรจดั ทำหน่วยกำรเรียนรู้

กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
สาระท่ี 1 วิทยาศาสตรช์ ีวภาพ
มำตรฐำน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลังงาน การเปลย่ี นแปลง และการ
ธรรมชาตขิ องคล่ืน ปรากฏการณ์ท่เี กี่ยวข้องกบั เสียง แสง และคลืน่ แมเ่ หลก็ ไฟฟ้า รวม

มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ สำระกำร
ตวั ชวี้ ัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบยอด เรียนรู้ สมรร

ว 2.3 ม. • ปริมาณความรอ้ นท่ี สารเมื่อไดร้ ับความร้อนอาจมกี าร ผลของควำม 1. ควา
1/1 ทาใหส้ สารเปลีย่ น เปล่ียนแปลงอุณหภูมิ สถานะ หรือรูปร่าง รอ้ นต่อกำร ส่อื สาร
ของสารเมอ่ื สารไดร้ ับความรอ้ นจะทาให้ เปลยี่ นแปลง 2. ควา
อุณ ห ภูมิขึ้นกับ มว ล อนภุ าคเคลือ่ นท่ีเร็วข้ึน ทาให้เกิดการ อณุ หภูมิของ คดิ
ความร้อนจาเพาะ และ ขยายตวั และหดตวั สง่ ผลให้ขนาดและ สสำรและ
อุ ณ ห ภู มิ ท่ี เ ป ลี่ ย น ไ ป รปู ร่างเปลีย่ นแปลงไป สถำนะของ 1) ท
ปริมาณความรอ้ นท่ี สสำร คน้ หา
ทาให้สสารเปล่ียน สารเม่ือได้รับความร้อนจะทาให้
สถานะขึ้นกบั มวลและ อุณหภมู ขิ องสารสารเปลี่ยนแปลง แต่ 2)
ความร้อนแฝงจาเพาะ สถานะของสารไม่เปลีย่ นแปลง ซ่ึงปรมิ าณ
โดยขณะทสี่ สารเปลยี่ น ความรอ้ นท่ที าให้อุณหภมู ขิ องสาร ประเภ
สถานะ อุณหภูมิ จะไม่ เปลี่ยนแปลงขึน้ อยกู่ ับมวล ความร้อน
เปลีย่ นแปลง จาเพาะ และอุณหภมู ิทเ่ี ปล่ียนแปลงไป 3)
และสารเมื่อได้รบั ความร้อนจะทาใหส้ าร
เปลย่ี นสถานะ แต่อณุ หภูมิของสารไม่ เปรยี บ
เปลย่ี นแปลง เนอ่ื งจากอนภุ าคของสารอยู่ 4) ท
หา่ งกนั มาก ซึ่งปริมาณความรอ้ นที่ทาให้
สารเปลี่ยนสถานะขึ้นอยู่กับมวลและความ ขอ้ มูล
ร้อนจาเพาะ ขอ้ สรปุ
3. คว
ใชเ้ ทค

บหน่วยกำรเรยี นรู้

รถา่ ยโอนพลังงาน ปฏิสัมพนั ธร์ ะหว่างสสาร และพลังงาน พลังงานในชีวิตประจาวัน
มทง้ั นาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์

นำไปสู่ ช้ินงำน/ภำระ แนวกำรจัดกิจกรรมกำร
งำน เรียนรู้
รถนะสำคญั ของ คณุ ลกั ษณะอนั พ่งึ
ผเู้ รยี น ประสงค์ ใบงาน เร่อื ง นา้ วิธสี อนแบบสืบเสาะหา
เปล่ียนสถานะ ความรู้ (5Es Instructional
ามสามารถในการ 1.ความซื่อสตั ย์สุจรติ Model)
ร 2.ความมีวินัย
ามสามารถในการ 3.ใฝ่เรยี นรู้
4. มุง่ มัน่ ในการ
ทักษะการสารวจ ทางาน


ทกั ษะการจาแนก
ภท

ทักษะการ
บเทียบ
ทกั ษะการตคี วาม
ลและการลง

วามสามารถในการ
คโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคัญ สำระกำรเรียนรู้ สม
ตัวชี้วัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบยอด สำ

ว 2.3 ม.1/2 เม่ือสสารไดร้ ับ เครอื่ งมือวัดอุณหภูมิ -อุณหภูมิและการ 1. คว
หรอื สูญเสยี ความ เรียกว่า เทอร์มอมิเตอร์ วัด การสื่อ
ร้อนอาจทาให้ (thermometer) มี 2 แบบ คือ -ผลของความรอ้ น 2. คว
สสารเปลยี่ น เทอรม์ อมเิ ตอร์แบบ กระเปาะ ต่อการหดตวั และ การคดิ
อณุ หภมู ิ เปลี่ยน ใช้หลักการการขยายตัวและหด ขยายตัวของสาร
สถานะ หรือ ตัวของของเหลวทบี่ รรจุอยใู่ น 1) ท
เปล่ยี นรูปร่าง กระเปาะตามอณุ หภมู ิภายนอก สารวจ
เทอร์มอมิเตอรแ์ บบดจิ ทิ ัล
ภายในมไี มโครชปิ สามารถ 2) ท
เปลีย่ นกระแสไฟฟ้าใหเ้ ป็น จาแน
ตวั เลข ซ่ึงเปน็ คา่ อุณหภมู ิ
ขณะนั้นได้ โดยหนว่ ยวดั 3) ท
อณุ หภมู มิ ีอยู่หลายหนว่ ย ได้แก่ เปรียบ
องศาเซลเซียส เคลวิน องศาฟา
เรนไฮต์ และองศาโรเมอร์ 4) ท
แต่ละหนว่ ยจะมีจดุ เยือกแข็ง ตีความ
และจดุ เดอื ดแตกต่างกนั หาก การลง
ต้องการเปรยี บเทยี บคา่ อุณหภมู ิ 3. คว
ระหว่างหนว่ ยวดั อณุ หภมู ิ จะได้ การใช
สมการ ดังนี้
C/5 = (K-273)/5 = (F-32)/9
=R/4

นำไปสู่

มรรถนะ คณุ ลกั ษณะอนั ชน้ิ งำน/ภำระ แนวกำรจัดกิจกรรมกำร
ำคัญของ พงึ ประสงค์ งำน เรยี นรู้
ผู้เรียน
1.ความซือ่ สัตย์สจุ ริต ใบงาน เรอื่ ง วธิ สี อนแบบสืบเสาะหา
วามสามารถใน 2.ความมวี ินัย อุณหภมู แิ ละการ ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 3.ใฝเ่ รยี นรู้ วัด Model)
วามสามารถใน 4. มุ่งม่นั ในการ
ด ทางาน
ทักษะการ
จค้นหา
ทักษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทียบ
ทักษะการ
มขอ้ มลู และ
งขอ้ สรปุ
วามสามารถใน
ชเ้ ทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคญั สำระกำรเรยี นรู้ สม
ตัวชว้ี ัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบยอด สำ

ว 2.3 ม.1/3 • ความร้อนทาให้ • ความร้อนจะทา ความร้อนทาให้ 1. คว
สสารขยายตัว ใ ห้ อ นุ ภ า ค สสารขยายตวั หรือ การสอื่
ห รื อ ห ด ตั ว ไ ด้ เ ค ล่ื อ น ที่ เ ร็ ว ขึ้ น หดตวั 2. คว
เ นื่ อ ง จ า ก เ มื่ อ ท า ใ ห้ เ กิ ด ก า ร การคดิ
ส ส า ร ไ ด้ รั บ ขยายตัว แต่เม่ือ
ความร้อนจะทา สสารคายความ 1) ท
ใ ห้ อ นุ ภ า ค ร้ อ น จ ะ ท า ใ ห้ สารวจ
เคลื่อนที่เร็วข้ึน อนุภาคเคลื่อนท่ี
ท า ใ ห้ เ กิ ด ก า ร ช้าลง ทาให้เกิด 2) ท
ขยายตัว แตเ่ มื่อ การหดตวั จาแน
สสารคายความ
ร้อน จะทาให้ 3) ท
อ นุ ภ า ค เปรยี บ
เคล่ือนท่ีช้าลง
ท า ใ ห้ เ กิ ด ก า ร 4) ท
หดตัว ตคี วาม
การลง
3. คว
การใช

นำไปสู่

มรรถนะ คุณลักษณะอัน ชนิ้ งำน/ภำระ แนวกำรจดั กิจกรรมกำร
ำคัญของ พงึ ประสงค์ งำน เรยี นรู้
ผ้เู รยี น
1.ความซ่ือสัตย์สุจริต ใบงานเร่อื ง ความ วิธสี อนแบบสืบเสาะหา
วามสามารถใน 2.ความมีวินยั รอ้ นทาให้สสาร ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 3.ใฝเ่ รยี นรู้ ขยายตวั หรือหด Model)
วามสามารถใน 4. มุ่งม่ันในการ ตวั
ด ทางาน
ทกั ษะการ
จค้นหา
ทกั ษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทยี บ
ทักษะการ
มข้อมลู และ
งขอ้ สรปุ
วามสามารถใน
ชเ้ ทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั สำระกำรเรยี นรู้ สม
ตัวชว้ี ัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบยอด สำ

ว 2.3 ม.1/4 ความรเู้ รือ่ งการ ประโยชน์ ในด้าน ประโยชนก์ ารหด 1. คว
หดและขยายตัว ต่าง ๆ เชน่ การ และขยายตวั ของ การส่อื
ของสสาร สร้างถนน การ สสาร 2. คว
เนอ่ื งจากความ สร้างรางรถไฟ การคิด
รอ้ น นาไปใช้ การทาเทอร์มอ
ประโยชน์ ใน มเิ ตอร์ 1) ท
ดา้ นต่าง ๆ เช่น สารวจ
การสร้างถนน
การสรา้ ง 2) ท
รางรถไฟ การทา จาแน
เทอรม์ อมเิ ตอร์
3) ท
เปรยี บ

4) ท
ตีความ
การลง
3. คว
การใช

นำไปสู่

มรรถนะ คุณลกั ษณะอัน ชนิ้ งำน/ภำระ แนวกำรจดั กิจกรรมกำร
ำคัญของ พึงประสงค์ งำน เรยี นรู้
ผู้เรียน
1.ความซอื่ สตั ย์สจุ ริต ใบงาน เร่ืองการ วธิ ีสอนแบบสบื เสาะหา
วามสามารถใน 2.ความมวี นิ ยั หดและขยายตวั ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 3.ใฝ่เรยี นรู้ Model)
วามสามารถใน 4. มงุ่ มนั่ ในการ
ด ทางาน
ทักษะการ
จคน้ หา
ทักษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทียบ
ทักษะการ
มข้อมูลและ
งขอ้ สรปุ
วามสามารถใน
ชเ้ ทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ สำระกำรเรยี นรู้ สม
ตัวช้ีวัด แกนกลำง ควำมคิดรวบยอด สำ

ว 2.3 ม.1/5 • ความร้อนถ่ายโอนจาก สารทม่ี ีอณุ หภมู แิ ตกต่างกันเกดิ สมดุลความร้อน 1. คว
การถา่ ยโอนความรอ้ น การสื่อ
สสารทม่ี ีอุณหภูมสิ ูงกว่า ระหว่างกนั จนกระทั่ง 2. คว
ไปยังสสารท่มี อี ุณหภมู ิ อณุ หภูมิของสารเท่ากนั การคดิ
ต่ากว่าจนกระทัง่ เรยี กสภาพนี้ว่า สมดุล
อุณหภูมิของสสารทงั้ ความรอ้ น โดยความรอ้ น 1) ท
สองเทา่ กนั สภาพท่ี ที่เพิ่มข้นึ ของสารหนึ่งจะ สารวจ
สสารทั้งสองมีอณุ หภมู ิ เทา่ กับความร้อนท่ีลดลง
เท่ากัน เรียกว่า สมดลุ ของอกี สารหน่งึ ซงึ่ 2) ท
ความรอ้ น เป็นไปตามกฎการ จาแน
เมอื่ มกี ารถ่ายโอนความร้อน อนรุ กั ษ์พลงั งาน การ
จากสสารที่มีอณุ หภูมิตา่ งกัน ถ่ายโอนความรอ้ นจน 3) ท
จนเกดิ สมดลุ ความรอ้ น ความ เกิดสมดลุ ความรอ้ น เปรียบ
ร้อนที่เพ่ิมขน้ึ ของสสารหนง่ึ จะ เป็นไปตามสมการ Q
เทา่ กับความรอ้ นท่ีลดลงของ สญู เสีย = Qได้รับ 4) ท
อกี สสารหน่ึง ซึ่งเปน็ ไปตาม ตีความ
กฎการอนุรักษ์พลงั งาน การลง
3. คว
การใช

นำไปสู่

มรรถนะ คุณลกั ษณะอนั ชิ้นงำน/ภำระ แนวกำรจัดกิจกรรมกำร
ำคัญของ พึงประสงค์ งำน เรยี นรู้
ผู้เรียน
1.ความซ่อื สัตย์สุจริต ใบงาน เร่อื ง วิธสี อนแบบสบื เสาะหา
วามสามารถใน 2.ความมวี ินยั สมดุลความรอ้ น ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 3.ใฝเ่ รยี นรู้ Model)
วามสามารถใน 4. มุง่ ม่นั ในการ
ด ทางาน
ทักษะการ
จค้นหา
ทกั ษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทียบ
ทกั ษะการ
มขอ้ มลู และ
งขอ้ สรปุ
วามสามารถใน
ชเ้ ทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคญั สำระกำรเรยี นรู้ สม
ตัวชี้วัด แกนกลำง ควำมคิดรวบยอด สำ

ว 2.3 ม. การถ่ายโอนความร้อน สารทีม่ ีอณุ หภูมแิ ตกต่าง -การนาความร้อน 1. คว
1/6. มี 3 แบบ คือ การนา กนั จะมีการถ่าย -การพาความรอ้ น การสื่อ
ความรอ้ น การพา- โอนความร้อน -การแผ่รงั สีความ 2. คว
ความร้อน และการแผ่ ระหวา่ งกนั การถ่าย รอ้ น การคดิ
รงั สีความรอ้ น การนา โอนความรอ้ นมี 3
ความร้อนเป็น แบบ คือ การนา 1) ท
การถา่ ยโอนความร้อน ความรอ้ น การพา สารวจ
ทอี่ าศัยตวั กลาง โดยที่ ความร้อน และการ
ตัวกลางไมเ่ คล่ือนที่ แผร่ งั สีความรอ้ น ซง่ึ 2) ท
การพาความร้อนเป็น การนาความรอ้ น จาแน
การถา่ ยโอนความร้อน เปน็ การถา่ ยโอน
ท่ีอาศัยตัวกลาง โดยที่ ความรอ้ นทอ่ี าศยั 3) ท
ตวั กลางเคลือ่ นที่ไป ตัวกลาง โดย เปรียบ
ด้วย ส่วนการแผ่รงั สี ตวั กลางไมเ่ คล่อื นที่
ความรอ้ นเปน็ การถ่าย การพาความร้อน 4) ท
โอนความร้อนทไ่ี มต่ ้อง เปน็ การถา่ ยโอน ตคี วาม
อาศยั ตวั กลาง ความรอ้ นที่อาศัย การลง
ตวั กลาง โดย 3. คว
ตวั กลางมกี าร การใช
เคล่อื นที่ สว่ นการ
แผ่รังสีความร้อน
เป็นการถ่ายโอน
ความร้อนท่ไี มอ่ าศยั
ตวั กลาง

นำไปสู่

มรรถนะ คณุ ลักษณะอนั ชนิ้ งำน/ภำระ แนวกำรจดั กจิ กรรมกำร
ำคัญของ พงึ ประสงค์ งำน เรยี นรู้
ผเู้ รียน
1.ความซือ่ สตั ยส์ จุ ริต ใบงาน เรื่อง วธิ สี อนแบบสบื เสาะหา
วามสามารถใน 2.ความมวี นิ ัย การนาความรอ้ น ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 3.ใฝเ่ รียนรู้ -การพาความร้อน Model)
วามสามารถใน 4. มงุ่ มน่ั ในการ -การแผร่ ังสคี วาม
ด ทางาน รอ้ น
ทกั ษะการ
จคน้ หา
ทักษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทยี บ
ทักษะการ
มข้อมลู และ
งข้อสรปุ
วามสามารถใน
ช้เทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคญั สำระกำรเรยี นรู้ สม
ตัวชี้วัด แกนกลำง ควำมคิดรวบยอด สำ

ว 2.3 ม.1/7 ความรเู้ กย่ี วกับ ประโยชน์ใน การถ่ายโอนความ 1. คว
การถา่ ยโอน ชีวติ ประจาวนั ได้ รอ้ น การสอื่
ความร้อน เช่น การเลอื กใช้ 2. คว
สามารถนาไปใช้ วัสดุเพ่ือนามาทา การคดิ
ประโยชน์ใน ภาชนะบรรจุ
ชวี ิตประจาวันได้ อาหารเพอ่ื เก็บ 1) ท
เชน่ การเลอื กใช้ ความร้อน หรอื สารวจ
วัสดเุ พอ่ื นามาทา การออกแบบ
ภาชนะบรรจุ ระบบระบาย 2) ท
อาหารเพื่อเก็บ ความรอ้ นใน จาแน
ความรอ้ น หรือ อาคาร
การออกแบบ 3) ท
ระบบระบาย เปรยี บ
ความร้อนใน
อาคาร 4) ท
ตีความ
การลง
3. คว
การใช

นำไปสู่

มรรถนะ คณุ ลกั ษณะอนั ช้นิ งำน/ภำระ แนวกำรจดั กิจกรรมกำร
ำคัญของ พงึ ประสงค์ งำน เรยี นรู้
ผู้เรยี น
ใบงาน เร่อื งการ วิธสี อนแบบสืบเสาะหา
วามสามารถใน 1.ความซือ่ สัตย์สจุ ริต ถ่ายโอนความ ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 2.ความมวี ินัย ร้อน Model)
วามสามารถใน 3.ใฝเ่ รยี นรู้
ด 4. ม่งุ ม่นั ในการ
ทกั ษะการ ทางาน
จค้นหา
ทักษะการ
นกประเภท
ทักษะการ
บเทยี บ
ทักษะการ
มขอ้ มูลและ
งขอ้ สรุป
วามสามารถใน
ช้เทคโนโลยี

สำระท่ี 1 วิทยำศำสตร์ชีวภำพ
มำตรฐำน ว 2.2 เขา้ ใจธรรมชาติของแรงในชวี ิตประจาวนั ผลของแรงท่ีกระทาตอ่

มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั สำระกำรเรียนรู้ สม
ตัวชีว้ ัด แกนกลำง ควำมคิดรวบยอด สำ

ว 2.2 ม.1/1 เมอื่ วัตถุอยใู่ นอากาศจะ ความดันอากาศ ความดันอากาศ 1. คว
มแี รงท่อี ากาศกระทาตอ่ คือ แรงท่ีอากาศ การสือ่
วัตถุในทกุ ทศิ ทาง แรงท่ี ก ร ะ ท าต่ อ หนึ่ ง 2. คว
อากาศกระทาตอ่ วตั ถุ หน่วยพ้ืนที่ ปัจจัย การคดิ
ขึ้นอยู่กับขนาดพ้นื ทข่ี อง ที่ส่งผลต่อความดัน
วตั ถนุ น้ั แรงทอ่ี ากาศ อากาศ คือ จานวน 1) ท
กระทาตั้งฉากกับผวิ วัตถุ โมเลกุลของอากาศ สารวจ
ตอ่ หน่ึงหน่วยพื้นท่ี อุ ณหภู มิ อากาศ
เรียกวา่ ความดนั อากาศ และ คว ามสู ง จา ก 2) ท
ความดนั อากาศมี ระดบั น้าทะเล จาแน
ความสัมพันธก์ บั ความสูง
จากพ้ืนโลก โดยบรเิ วณ 3) ท
ที่สูงจากพ้นื โลกขึน้ ไป เปรียบ
อากาศเบาบางลง มวล
อากาศนอ้ ยลง ความดัน 4) ท
อากาศก็จะลดลง ตคี วาม
การลง
3. คว
การใช

อวัตถุ ลักษณะการเคลอ่ื นทแี่ บบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมท้ังนาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

นำไปสู่

มรรถนะ คณุ ลกั ษณะอนั ช้นิ งำน/ภำระ แนวกำรจัดกิจกรรมกำร
ำคญั ของ พงึ ประสงค์ งำน เรยี นรู้
ผู้เรียน
1.ความซือ่ สัตยส์ ุจรติ ใบงาน เร่อื ง วิธีสอนแบบสืบเสาะหา
วามสามารถใน 2.ความมีวนิ ยั ความดันอากาศ ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 3.ใฝเ่ รยี นรู้ Model)
วามสามารถใน 4. มุ่งมน่ั ในการ
ด ทางาน
ทกั ษะการ
จค้นหา
ทกั ษะการ
นกประเภท
ทักษะการ
บเทียบ
ทกั ษะการ
มขอ้ มูลและ
งขอ้ สรปุ
วามสามารถใน
ชเ้ ทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version