The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

วิเคราะห์หลักสูตร รายวิชาวิทยาศาสตร์ ว21102 ม.1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rattiya2252, 2022-10-11 18:11:45

วิเคราะห์หลักสูตร รายวิชาวิทยาศาสตร์ ว21102 ม.1

วิเคราะห์หลักสูตร รายวิชาวิทยาศาสตร์ ว21102 ม.1

สำระที่ 3 วทิ ยำศำสตรโ์ ลกและอวกำศ
มำตรฐำน ว 3.2 เขา้ ใจองคป์ ระกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการ
เปลี่ยนแปลงลมฟ้าอากาศและภูมิอากาศโลก รวมทง้ั ผลต่อส่ิงมีชีวติ และสิ่งแวดล้อม

มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคญั สำระกำรเรียนรู้ ส
ตวั ชว้ี ัด แกนกลำง ควำมคิดรวบยอด ส

ว 3.2 ม. • โลกมีบรรยากาศหอ่ ห้มุ บรรยากาศเปน็ อากาศทห่ี ่อห้มุ -องคป์ ระกอบของ 1. ค
1/1 ดาวเคราะห์ รวมถงึ โลกของเรา บรรยากาศ การ
นกั วทิ ยาศาสตรใ์ ช้สมบัตแิ ละ บรรยากาศประกอบไปดว้ ย -การแบง่ ชั้น 2. ค
องค์ประกอบของบรรยากาศในการแบ่ง อากาศแหง้ ซึ่งเป็นอากาศท่ีไมม่ ี บรรยากาศ การ
บรรยากาศของโลกออกเป็นชัน้ ซึ่งแบง่ ได้ ไอน้าอยู่ สว่ นประกอบของ
หลายรูปแบบตามเกณฑ์ทแี่ ตกต่างกัน อากาศแห้ง ได้แก่ ไนโตรเจน 1
โดยท่วั ไปนักวทิ ยาศาสตรใ์ ชเ้ กณฑก์ าร ออกซิเจน อารก์ อน สาร
เปลยี่ นแปลงอณุ หภมู ิตามความสูงแบ่ง คาร์บอนไดออกไซด์ ไอนา้ และ
บรรยากาศได้เปน็ 5 ชัน้ ไดแ้ ก่ ชั้นโทรโพส อน่ื ๆ นอกจากน้ี บรรยากาศยัง 2
เฟียร์, ชน้ั สตราโตสเฟยี ร์, ประกอบไปด้วยไอนา้ และฝ่นุ ผง จาแ
ชน้ั มีโซสเฟยี ร์,ชน้ั เทอร์โมสเฟยี ร์ และช้นั ซงึ่ มีบทบาทสาคญั ต่อการ
เอกโซสเฟยี ร์ ดารงชวี ิตของสง่ิ มีชีวติ 3
บรรยากาศแตล่ ะช้นั มีประโยชนต์ อ่ บรรยากาศของโลกแบง่ เปน็ 5 เปรีย
ส่งิ มชี ีวิตแตกต่างกัน โดยช้นั โทรโพสเฟียร์ ชน้ั โดยใชเ้ กณฑ์การ
มปี รากฏการณล์ มฟ้าอากาศท่สี าคัญตอ่ เปล่ียนแปลงอุณหภมู ติ ามความ 4
การดารงชวี ิตของส่ิงมชี วี ิต สูงแบง่ บรรยากาศเปน็ 5 ช้ัน ตคี ว
ชั้นสตราโตสเฟียร์ ช่วยดูดกลนื รังสี ไดแ้ ก่ ชนั้ โทรโพสเฟียร์ ช้นั สต การ
อัลตราไวโอเลตจากดวงอาทติ ย์ไมใ่ ห้ ราโทสเฟยี ร์ ชั้นมโี ซสเฟียร์ ชนั้ 3. ค
มายังโลกมากเกินไป ชน้ั มี เทอร์โมสเฟียร์ และช้นั เอกโซส การ
โซสเฟียรช์ ่วยชะลอวตั ถุนอกโลกที่ผา่ น เฟยี ร์ ซึ่งบรรยากาศแตล่ ะช้นั มี
เข้ามาใหเ้ กดิ การเผาไหมก้ ลายเปน็ วัตถุ ประโยชน์ตอ่ ส่งิ มชี วี ติ แตกต่าง
ขนาดเล็ก ลดโอกาสท่ีจะทาความเสยี หาย กนั
แก่ส่ิงมีชวี ติ บนโลก ชน้ั เทอร์โมสเฟยี ร์
สามารถสะท้อนคลืน่ วทิ ยุ และ
ช้นั เอกโซสเฟียร์เหมาะสาหรับการโคจร
ของดาวเทยี มรอบโลกในระดับต่า

รเปลย่ี นแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณี พบิ ตั ภิ ยั กระบวนการ

นำไปสู่

สมรรถนะ คุณลกั ษณะอัน ชน้ิ งำน/ภำระ แนวกำรจัดกิจกรรมกำร
สำคัญของ พึงประสงค์ งำน เรยี นรู้

ผู้เรียน 1.ความซอ่ื สตั ย์สุจรติ แผนผังมโนทัศน์ วิธีสอนแบบสบื เสาะหา
2.ความมวี ินยั เร่อื ง ความรู้ (5Es Instructional
ความสามารถใน 3.ใฝ่เรยี นรู้ องค์ประกอบของ Model)
รสื่อสาร 4. มงุ่ มนั่ ในการ บรรยากาศ
ความสามารถใน ทางาน
รคิด
1) ทักษะการ
รวจคน้ หา
2) ทักษะการ
แนกประเภท
3) ทกั ษะการ
ยบเทยี บ
4) ทักษะการ
วามข้อมูลและ
รลงขอ้ สรปุ
ความสามารถใน
รใชเ้ ทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคัญ สำระกำรเรียนรู้ ส
ตวั ชวี้ ัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบยอด สำ

ว 3.2 ม. ลมฟา้ อากาศเป็นสภาวะของ -องคป์ ระกอบของลม ฟ้า อากาศ -องค์ประกอบ 1. คว
อากาศในเวลาหนึ่งของพื้นทีห่ นงึ่ ท่ี ได้แก่ อุณหภูมอิ ากาศ ความกด ของลม ฟ้า การส
1/2 มีการเปลีย่ นแปลงตลอดเวลา อากาศ ลม ความชื้น เมฆ และ อากาศ 2. คว
ขน้ึ อยู่กบั องคป์ ระกอบลมฟา้ หยาดนา้ ฟา้ องคป์ ระกอบเหล่าน้ี -อุณหภูมิของ การค
อากาศ ไดแ้ ก่ อุณหภูมิอากาศ สง่ ผลต่อลม ฟ้า อากาศ ณ พ้ืนท่ี อากาศ
ความกดอากาศ ลม ความชน้ื เมฆ หนึ่ง เวลาหน่ึง ซ่ึงมีการ -ความดนั อากาศ 1)
และหยาดน้าฟ้า โดยหยาดน้าฟา้ ที่ เปลี่ยนแปลงตลอดเวลา ซึ่งแต่ละ -ความช้นื อากาศ สารวจ
พบบ่อย ในประเทศไทย ได้แก่ ฝน พื้นท่มี ีสภาพลม ฟา้ อากาศท่ี
องคป์ ระกอบลมฟ้าอากาศ แตกต่างกัน เน่อื งจากแต่ละพ้นื ท่ี 2)
เปลยี่ นแปลงตลอดเวลาขึน้ อยกู่ ับ สามารถสะทอ้ นและดูดกลนื รังสี จาแน
ปัจจัยตา่ ง ๆ เชน่ ปรมิ าณรังสีจาก จากดวงอาทติ ย์แตกต่างกนั
ดวงอาทติ ยแ์ ละลกั ษณะพน้ื ผวิ โลก -อุณหภมู ขิ องอากาศ คอื ระดบั 3)
ส่งผลตอ่ อุณหภมู ิอากาศ อุณหภมู ิ ความรอ้ นเยน็ ของอากาศ โดยปัจจยั เปรยี บ
อากาศ และปรมิ าณไอนา้ ส่งผลตอ่ ท่มี ีผลตอ่ อณุ หภูมิของอากาศ ไดแ้ ก่
ความชน้ื ความกดอากาศส่งผลตอ่ รงั สีจากดวงอาทิตย์ ความสูงจาก 4)
ลม ความชืน้ และลมสง่ ผลตอ่ เมฆ ระดบั น้าทะเล เมฆปกคลุมท้องฟา้ ตีควา
และลกั ษณะของพน้ื ที่ เคร่ืองมือที่ การล
ใชว้ ัดอุณหภูมิของอากาศ ไดแ้ ก่ 3. คว
เทอร์มอมิเตอร์วัดอณุ หภูมสิ ูงสุด– การใช
ตา่ สดุ
- ความดันอากาศ คือ แรงดนั
อากาศท่ีกระทาตอ่ หนงึ่ หนว่ ยพืน้ ที่
ซึง่ ปจั จัยที่สง่ ผลตอ่ ความดนั อากาศ
คือ จานวนโมเลกุลของสาร
อุณหภูมิ และความสงู การบอกค่า
ความดันอากาศจะใช้เคร่อื งมือวัด
ความดนั อากาศ คอื บารอมิเตอร์
ปรอท แอนิรอยดบ์ ารอมิเตอร์ และ
แอลติมเิ ตอร์

นำไปสู่

สมรรถนะ คุณลักษณะอนั ชิน้ งำน/ภำระ แนวกำรจดั กิจกรรมกำร
ำคญั ของ พงึ ประสงค์ งำน เรียนรู้
ผูเ้ รยี น
-การทากจิ กรรม วิธสี อนแบบสืบเสาะหา
วามสามารถใน 1.ความซอื่ สตั ยส์ จุ ริต เรื่อง รงั สีจากดวง ความรู้ (5Es Instructional
ส่ือสาร 2.ความมีวินัย อาทติ ย์ Model)
วามสามารถใน 3.ใฝเ่ รยี นรู้ -รายงาน เรื่อง
คดิ 4. มุ่งม่ันในการ องค์ประกอบของ
ทกั ษะการ ทางาน ลม ฟา้ อากาศ
จค้นหา
ทักษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทยี บ
ทักษะการ
ามขอ้ มูลและ
ลงข้อสรุป
วามสามารถใน
ช้เทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคญั สำระกำรเรียนรู้ สม
ตัวชีว้ ัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบ สำ

ยอด

ว 3.2 ม.1/3 • พายฝุ นฟ้าคะนอง เกดิ จาก - พายฝุ นฟา้ พายฝุ นฟา้ คะนอง 1. คว
คะนอง เปน็ ลมฟา้ การสื่อ
การท่ีอากาศที่มอี ุณหภมู ิ อากาศรูปแบบ 2. คว
และความช้นื สูงเคล่อื นทีข่ ึ้น หนง่ึ ซึ่งเกดิ ข้ึนเม่ือ การคดิ
สู่ระดบั ความสงู ท่ีมีอุณหภมู ิ มีเมฆควิ มโู ลนมิ บัส
ตา่ ลง จนกระทง่ั ไอน้าใน ส่วนใหญเ่ กิดใน 1) ท
อากาศเกดิ การควบแนน่ เปน็ เฉพาะถ่ินใน สารวจ
ละอองน้า และเกดิ ตอ่ เนอ่ื ง ระยะเวลาสน้ั
เปน็ เมฆขนาดใหญ่ พายฝุ น - พายุหมนุ เขต 2) ท
ฟา้ คะนอง ทาให้เกิดฝนตก ร้อน เกิดข้ึน จาแน
หนกั ลมกรรโชกแรง ฟ้า บรเิ วณมหาสมุทร
แลบฟ้าผ่า ซึ่งอาจก่อให้เกดิ และทะเลในเขต 3) ท
ร้อนเทา่ น้นั ทาให้ เปรยี บ
อันตรายต่อชวี ติ และทรพั ย์สิน เกิดคลน่ื ขนาด
พายหุ มุนเขตร้อนเกดิ เหนือมหาสมุทร ใหญใ่ น ทะเล มี 4) ท
หรอื ทะเลที่น้าอณุ หภมู สิ ูงตั้งแต่ 26– ผลตอ่ การเดนิ เรอื ตคี วาม
27 องศาเซลเซียสขึ้นไป ทาให้อากาศ การลง
ที่มอี ณุ หภมู แิ ละความชื้นสงู บริเวณนั้น 3. คว
เคลือ่ นทส่ี ูงขึ้นอยา่ งรวดเร็วเป็นบริเวณ การใช
กว้าง อากาศจากบริเวณอื่นเคลื่อนเขา้
มาแทนที่ และพดั เวียนเขา้ หา
ศนู ย์กลางของพายุ ย่ิงใกลศ้ ูนย์กลาง
อากาศจะเคลอื่ นทพ่ี ดั เวยี นเกือบเปน็
วงกลม และมีอตั ราเร็วสูงทส่ี ุด พายุ

หมนุ เขตรอ้ นทาใหเ้ กดิ คล่ืนพายซุ ัดฝ่ัง
ฝนตกหนัก ซ่ึงอาจก่อใหเ้ กิด
อนั ตรายต่อชวี ิตและทรพั ย์สนิ จงึ
ควรปฏิบัติตนให้ปลอดภยั โดย
ติดตามขา่ วสาร การพยากรณ์
อากาศ และไม่เขา้ ไปอยู่ในพน้ื ท่ที ่ี
เส่ียงภยั

นำไปสู่

มรรถนะ คุณลกั ษณะอนั ชน้ิ งำน/ภำระ แนวกำรจดั กจิ กรรมกำร
ำคัญของ พึงประสงค์ งำน เรียนรู้
ผู้เรียน
ใบงาน เรือ่ งพายุ วธิ สี อนแบบสืบเสาะหา
วามสามารถใน 1.ความซ่อื สัตย์สุจริต ฝนฟ้าคะนอง ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 2.ความมวี ินยั Model)
วามสามารถใน 3.ใฝเ่ รยี นรู้
ด 4. มุง่ ม่นั ในการ
ทักษะการ ทางาน
จคน้ หา
ทักษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทียบ
ทักษะการ
มข้อมูลและ
งขอ้ สรปุ
วามสามารถใน
ชเ้ ทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั สำระกำร สม
สำ
ตัวช้ีวัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบยอด เรยี นรู้

ว 3.2 ม.1/4 การพยากรณ์ เกณฑ์ในการ การพยากรณ์ 1. คว
การสอื่
อากาศเป็นการ พยากรณ์อากาศของ อากาศ 2. คว
การคดิ
คาดการณ์ลมฟา้ กรมอุตุนิยมวทิ ยา
1) ท
อากาศที่จะเกดิ ขึ้น ไดแ้ ก่ เกณฑอ์ ากาศ สารวจ

ในอนาคตโดยมี ร้อน เกณฑอ์ ากาศ 2) ท
จาแน
การตรวจวดั เยน็ เกณฑก์ าร
3) ท
องคป์ ระกอบลมฟา้ กระจายของฝน เปรียบ

อากาศ การสือ่ สาร เกณฑ์ปริมาณฝน 4) ท
ตีความ
แลกเปล่ยี นขอ้ มูล เกณฑป์ ริมาณเมฆใน การลง
3. คว
องคป์ ระกอบลมฟ้า ทอ้ งฟ้า เกณฑ์ การใช

อากาศระหวา่ ง สถานะของทะเล รอ่ ง

พ้นื ทีก่ ารวเิ คราะห์ มรสมุ ลมพัดสอบ

ขอ้ มลู และสร้างคา บริเวณความกด

พยากรณอ์ ากาศ อากาศสูง บริเวณ

ความกดอากาศต่า

เป็นต้น

นำไปสู่

มรรถนะ คุณลกั ษณะอัน ชนิ้ งำน/ภำระ แนวกำรจดั กิจกรรมกำร
ำคัญของ พึงประสงค์ งำน เรยี นรู้
ผู้เรียน
ใบงาน เร่ืองการ วธิ ีสอนแบบสบื เสาะหา
วามสามารถใน 1.ความซอื่ สตั ย์สจุ ริต พยากรณ์อากาศ ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 2.ความมวี นิ ยั Model)
วามสามารถใน 3.ใฝ่เรยี นรู้
ด 4. มงุ่ มนั่ ในการ
ทักษะการ ทางาน
จคน้ หา
ทักษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทียบ
ทักษะการ
มข้อมูลและ
งขอ้ สรปุ
วามสามารถใน
ชเ้ ทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคญั สำระกำรเรียนรู้ สม
ตัวชวี้ ัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบยอด สำ

ว 3.2 ม.1/5 การพยากรณ์ แผนทอี่ ากาศ เป็น การพยากรณ์ 1. คว
อากาศสามารถ แผนท่แี สดงสภาพลม อากาศ การส่ือ
นามาใช้ 2. คว
ประโยชน์ดา้ น ฟา้ อากาศใน การคิด
ตา่ ง ๆ เช่น การ ช่วงเวลาหน่งึ ขอ้ มลู
ใชช้ ีวติ ประจาวนั ในแผนท่ีอากาศจะ 1) ท
การคมนาคม นาไปใชใ้ นการ สารวจ
การเกษตร การ พยากรณอ์ ากาศ
ป้องกัน และเฝ้า 2) ท
ระวงั ภัยพิบตั ิ จาแน
ทางธรรมชาติ
3) ท
เปรยี บ

4) ท
ตคี วาม
การลง
3. คว
การใช

นำไปสู่

มรรถนะ คุณลกั ษณะอัน ชนิ้ งำน/ภำระ แนวกำรจดั กิจกรรมกำร
ำคัญของ พึงประสงค์ งำน เรยี นรู้
ผู้เรียน
รายงาน เร่ืองการ วิธีสอนแบบสบื เสาะหา
วามสามารถใน 1.ความซอื่ สตั ย์สจุ ริต พยากรณอ์ ากาศ ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 2.ความมวี นิ ยั Model)
วามสามารถใน 3.ใฝ่เรยี นรู้
ด 4. มงุ่ มนั่ ในการ
ทักษะการ ทางาน
จคน้ หา
ทักษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทียบ
ทักษะการ
มข้อมลู และ
งขอ้ สรปุ
วามสามารถใน
ชเ้ ทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั สำระกำรเรยี นรู้ สม
ตัวช้ีวัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบยอด สำ

ว 3.2 ม.1/6 ภมู อิ ากาศโลก การเปลี่ยนแปลง ภมู อิ ากาศโลกเกิด 1. คว
การสื่อ
เกิดการ อุณหภูมิของโลก การเปลี่ยนแปลง 2. คว
เปล่ยี นแปลง การคดิ
อยา่ งต่อเนอ่ื ง สว่ นหน่ึงมาจากผล
โดยปัจจยั ทาง การทากิจกรรมของ 1) ท
ธรรมชาติ แต่ มนษุ ย์ ทาให้เกดิ ฝุ่น สารวจ
ปัจจุบันการ ละอองและมีแกส๊ เรีอ
นกระจกใน 2) ท
บรรยากาศ เพมิ่ มาก จาแน

เปลยี่ นแปลง ขน้ึ อยา่ งรวดเรว็ 3) ท
เปรียบ
ภูมอิ ากาศ สง่ ผลทาใหอ้ ุณหภูมิ
เกิดขึ้นอยา่ ง อากาศของโลกสูงขึน้ 4) ท
รวดเร็วเน่ืองจาก และมีแนวโน้มสงู ขึ้น ตคี วาม
กจิ กรรมของ เรื่อย ๆ การลง
3. คว
มนุษยใ์ นการ การใช

ปลดปลอ่ ยแกส๊

เรือนกระจกสู่

บรรยากาศ แก๊ส

เรือนกระจกทถ่ี ูก

นำไปสู่

มรรถนะ คณุ ลักษณะอนั ชนิ้ งำน/ภำระ แนวกำรจดั กจิ กรรมกำร
ำคัญของ พึงประสงค์ งำน เรยี นรู้
ผ้เู รียน
1.ความซือ่ สตั ย์สุจริต ใบงาน ภูมิอากาศ วธิ สี อนแบบสืบเสาะหา
วามสามารถใน 2.ความมีวนิ ยั โลกเกดิ การ ความรู้ (5Es Instructional
อสาร 3.ใฝเ่ รยี นรู้ เปล่ยี นแปลง Model)
วามสามารถใน 4. ม่งุ มนั่ ในการ
ด ทางาน
ทักษะการ
จคน้ หา
ทักษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทยี บ
ทักษะการ
มข้อมลู และ
งขอ้ สรปุ
วามสามารถใน
ชเ้ ทคโนโลยี

มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สำระสำคญั สำระกำรเรยี นรู้ ส
ควำมคดิ รวบ สำ
ตวั ชวี้ ัด แกนกลำง
ยอด

ว 3.2 ม.1/7 ปลดปลอ่ ยมากท่ีสดุ การเกดิ โรคอบุ ัติ ภมู อิ ากาศโลก 1. คว
ได้แก่ แกส๊ ใหม่และอุบัตซิ ้า เกดิ การ การส
คาร์บอนไดออกไซดซ์ ่งึ และการเกดิ ภยั เปล่ยี นแปลง 2. คว
หมนุ เวยี นอยใู่ นวัฏจักร พิบตั ิทาง การค
คารบ์ อน ธรรมชาติท่ีรนุ แรง
ขนึ้ มนษุ ย์จึงควร 1)
การเปลี่ยนแปลงภูมอิ ากาศ เรยี นรู้แนวทางการ สารวจ
โลกกอ่ ให้เกิดผลกระทบตอ่
ปฏิบัติตนภายใต้ 2)
ส่งิ มีชวี ิตและส่ิงแวดลอ้ ม เช่น สถานการณ์ดังกล่าว จาแน
การหลอมเหลวของน้าแขง็ ขวั้ ทงั้ แนวทางการ
โลก การเพ่มิ ข้ึนของ ปฏบิ ัติ 3)
ระดบั นา้ ทะเล การ เปรียบ
เปล่ยี นแปลงวฏั จกั รน้า การ
เกิดโรคอบุ ัตใิ หม่และอุบตั ซิ ้า 4)
และการเกิดภยั พิบตั ิทาง ตีควา
ธรรมชาติทีร่ ุนแรงขึน้ มนษุ ยจ์ ึง การล
ควรเรียนรู้แนวทางการปฏบิ ตั ิ 3. คว
ตนภายใต้สถานการณด์ ังกลา่ ว การใช
ทง้ั แนวทางการปฏิบตั ิให้
เหมาะสม และแนวทางการลด
กิจกรรม ทีส่ ง่ ผลตอ่ การ
เปล่ียนแปลงภมู อิ ากาศโลก

นำไปสู่

สมรรถนะ คุณลักษณะอนั ชิ้นงำน/ภำระ แนวกำรจดั กจิ กรรมกำร
ำคญั ของ พงึ ประสงค์ งำน เรียนรู้
ผเู้ รยี น

วามสามารถใน 1.ความซ่ือสัตย์สุจริต รายงาน เร่อื ง วธิ สี อนแบบสืบเสาะหา
ส่ือสาร 2.ความมีวินยั ความรู้ (5Es Instructional
วามสามารถใน 3.ใฝเ่ รยี นรู้ ผลกระทบการ Model)
คดิ 4. มุ่งม่ันในการ เปลีย่ นแปลงภมู ิอากาศ
ทักษะการ ทางาน โลก
จค้นหา
ทกั ษะการ
นกประเภท
ทกั ษะการ
บเทยี บ
ทกั ษะการ
ามข้อมูลและ
ลงขอ้ สรุป
วามสามารถใน
ชเ้ ทคโนโลยี

หน่วยก
1. วำงแผนกำรจัดทำหน่วยกำรเรียนรู้

กล่มุ สำระกำรเรียนรู้วิทยำศำสตรแ์ ละเทคโนโลยี
สาระที่ 1 วิทยาศาสตร์ชวี ภาพ
มำตรฐำน ว 2.3 เข้าใจความหมายของพลงั งาน การเปลย่ี นแปลง และการ
ธรรมชาตขิ องคล่นื ปรากฏการณ์ที่เกีย่ วขอ้ งกบั เสียง แสง และคลื่นแม่เหลก็ ไฟฟ้า รวม

นำไปสู่

มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั สมรรถนะ ค
ตัวชว้ี ัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบยอด อ
สำคญั ของ ป
ว 2.3 ม. • ปริมาณความร้อนที่ สารเมือ่ ได้รับความร้อนอาจมีการเปลยี่ นแปลง
1/1 ทาใหส้ สารเปลี่ยน อณุ หภมู ิ สถานะ หรือรูปร่างของสารเม่ือสาร ผเู้ รยี น 1
ได้รับความร้อนจะทาให้อนภุ าคเคล่อื นที่เร็วข้ึน ซ
อุ ณ ห ภู มิ ขึ้ น กั บ มวล ทาให้เกิดการขยายตัวและหดตวั สง่ ผลใหข้ นาด 1. ความสามารถในการ 2
ความร้อนจาเพาะ และ และรูปร่างเปล่ียนแปลงไป สือ่ สาร 3
อุณหภูมิที่เปลี่ยนไ ป 2. ความสามารถในการ 4
ปริมาณความรอ้ นที่ สารเมอ่ื ไดร้ ับความร้อนจะทาให้อุณหภมู ิของ คิด ก
ทาใหส้ สารเปลี่ยน สารสารเปลี่ยนแปลง แต่สถานะของสารไม่
สถานะข้ึนกับมวลและ เปลย่ี นแปลง ซ่ึงปรมิ าณความร้อนทีท่ าให้ 1) ทักษะการสารวจ
ความรอ้ นแฝงจาเพาะ อณุ หภูมิของสารเปลย่ี นแปลงขน้ึ อยูก่ ับมวล ค้นหา
โดยขณะทส่ี สารเปลีย่ น ความรอ้ นจาเพาะ และอุณหภูมทิ ่ีเปลย่ี นแปลง
สถานะ อณุ หภูมิ จะไม่ ไป และสารเม่ือได้รบั ความร้อนจะทาใหส้ าร 2) ทักษะการจาแนก
เปลย่ี นแปลง เปลี่ยนสถานะ แตอ่ ุณหภูมขิ องสารไม่
เปลย่ี นแปลง เน่ืองจากอนภุ าคของสารอยหู่ า่ ง ประเภท
กันมาก ซงึ่ ปริมาณความรอ้ นทีท่ าให้สาร
เปลยี่ นสถานะขนึ้ อยกู่ บั มวลและความร้อน 3) ทกั ษะการ
จาเพาะ
เปรยี บเทียบ
4) ทกั ษะการตคี วาม

ข้อมูลและการลงขอ้ สรปุ
3. ความสามารถในการ
ใชเ้ ทคโนโลยี

กำรเรียนรู้

รถ่ายโอนพลงั งาน ปฏสิ ัมพนั ธ์ระหว่างสสาร และพลงั งาน พลังงานในชีวติ ประจาวัน
มท้ังนาความรู้ไปใช้ประโยชน์

คุณลกั ษณะ ช้ินงำน/ กำรวัดประเมินผล กจิ กรรมกำร เวลำเรียน
อนั พ่ึง ภำระงำน เรยี นรู้ (ชว่ั โมง)
ตรวจใบงาน
ประสงค์ ผา่ นร้อยละ 60 วธิ ีสอนแบบ 4
-พฤติกรรมการทางาน สืบเสาะหา
1.ความ ใบงาน เรอ่ื ง รายบคุ คล ความรู้ (5Es
ซอื่ สัตยส์ จุ ริต นา้ เปลีย่ น - สงั เกตพฤตกิ รรมการตอบ
2.ความมีวนิ ยั สถานะ คาถาม Instructional
3.ใฝ่เรียนรู้
Model)
4. มงุ่ มนั่ ใน

การทางาน

สำระกำร สำระสำคญั นำไปสู่
เรียนรู้
มำตรฐำน/ แกนกลำง ควำมคดิ รวบ สมรรถนะ คุณลักษณะอ
ตวั ชว้ี ัด สำคัญของ พงึ ประสงค
เมื่อสสารไดร้ ับ ยอด
ว 2.3 ม.1/2 หรือสูญเสยี ผู้เรียน
ความร้อนอาจ เครอื่ งมอื วัดอุณหภูมิ
ทาให้สสาร เรยี กว่า เทอร์มอมิเตอร์ 1. ความสามารถ 1.ความซ่อื สัตย์
เปลยี่ นอุณหภูมิ (thermometer) มี 2 แบบ ในการส่ือสาร สจุ รติ
เปลีย่ นสถานะ คอื เทอรม์ อมเิ ตอร์แบบ 2. ความสามารถ 2.ความมีวินยั
หรอื เปลย่ี น กระเปาะ ใช้หลกั การการ ในการคิด 3.ใฝ่เรียนรู้
รปู รา่ ง ขยายตัวและหดตัวของ 4. มุง่ มนั่ ในการ
ของเหลวทีบ่ รรจอุ ย่ใู น 1) ทักษะการ ทางาน
กระเปาะตามอุณหภมู ิ สารวจค้นหา
ภายนอก เทอร์มอมิเตอร์
แบบดิจิทลั ภายในมไี มโคร 2) ทกั ษะการ
ชิปสามารถเปลี่ยน จาแนกประเภท
กระแสไฟฟา้ ให้เปน็ ตวั เลข
ซึง่ เป็นคา่ อุณหภูมิขณะนั้นได้ 3) ทกั ษะการ
โดยหนว่ ยวดั อณุ หภมู ิมีอยู่ เปรยี บเทียบ
หลายหนว่ ย ไดแ้ ก่ องศา
เซลเซียส เคลวิน องศาฟา 4) ทกั ษะการ
เรนไฮต์ และองศาโรเมอร์ ตคี วามข้อมูลและ
แตล่ ะหน่วยจะมีจดุ เยือกแขง็ การลงข้อสรปุ
และจดุ เดือดแตกต่างกนั หาก 3. ความสามารถ
ตอ้ งการเปรียบเทยี บคา่ ในการใช้
อุณหภมู ิระหวา่ งหน่วยวดั เทคโนโลยี
อณุ หภูมิ จะได้สมการ ดังนี้
C/5 = (K-273)/5 = (F-32)/9
=R/4

อนั ช้นิ งำน/ภำระ วดั ประเมนิ ผล กำรจัดกิจกรรม เวลำเรียน
ค์ งำน กำรเรียนรู้ (ชวั่ โมง)

ใบงาน เรื่อง ตรวจใบงาน วธิ สี อนแบบสืบ 4
อุณหภูมิและ ผ่านร้อยละ 60 เสาะหาความรู้
การวัด -พฤตกิ รรมการทางาน (5Es Instructional
รายบคุ คล Model)
- สงั เกตพฤติกรรมการ
ตอบคาถาม

สำระสำคญั นำไปสู่
ควำมคดิ รวบ
มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สมรรถนะ คณุ ลักษณ
ตัวช้ีวัด แกนกลำง ยอด สำคญั ของ พึงประ

ว 2.3 ม.1/3 • ความร้อนทา ผูเ้ รยี น
ใ ห้ ส ส า ร
ข ย า ย ตั ว ห รื อ • ความร้อนจะทา 1. ความสามารถใน 1.ความซ่ือสตั
ห ด ตั ว ไ ด้
เนื่องจากเมื่อ ใ ห้ อ นุ ภ า ค การส่อื สาร 2.ความมีวินยั
ส ส า ร ไ ด้ รั บ
ค ว า ม ร้ อ น จ ะ เคลื่อนท่ีเร็วขึ้น 2. ความสามารถใน 3.ใฝเ่ รยี นรู้
ท า ใ ห้ อ นุ ภ า ค ทาให้เกิ ดก าร การคดิ 4. มุง่ มัน่ ในก
เคลอื่ นทีเ่ ร็วข้ึน ขยายตัว แต่เมื่อ 1) ทักษะการ ทางาน
ทาให้เกิดการ
ขยายตัว แต่ สสารคายความ สารวจคน้ หา
เม่ือสสารคาย ร้อน จะทาให้ 2) ทักษะการ
ความร้อน จะ อนุภาคเคล่ือนที่
ท า ใ ห้ อ นุ ภ า ค จาแนกประเภท
เคลื่อนที่ช้าลง 3) ทักษะการ
ทาให้เกิดการ ช้าลง ทาให้เกิด เปรียบเทยี บ
หดตวั การหดตัว
4) ทักษะการ

ตคี วามขอ้ มลู และ

การลงข้อสรุป

3. ความสามารถใน

การใชเ้ ทคโนโลยี

ณะอนั ชน้ิ งำน/ภำระ วดั ประเมนิ ผล แนวกำรจัด เวลำเรยี น
ะสงค์ งำน กิจกรรมกำร (ชว่ั โมง)

เรียนรู้

ตย์สจุ ริต ใบงานเร่อื ง ตรวจใบงาน วิธสี อนแบบสบื
ย ความร้อนทาให้ ผา่ นร้อยละ 60 เสาะหาความรู้
การ สสารขยายตัว -พฤติกรรมการ (5Es
ทางานรายบคุ คล
หรอื หดตวั - สงั เกตพฤติกรรม Instructional
การตอบคาถาม
Model)

สำระกำร สำระสำคญั นำไปสู่
เรียนรู้ ควำมคิดรวบ
มำตรฐำน/ แกนกลำง สมรรถนะ คณุ ลักษณะ
ตวั ชวี้ ัด ยอด สำคัญของ พึงประสง

ผ้เู รียน

ว 2.3 ม. ความรเู้ ร่อื งการ ประโยชน์ ใน 1. ความสามารถ 1.ความซ่อื สัตย
1/4 ในการสอื่ สาร สจุ ริต
หดและ ด้านต่าง ๆ เช่น 2. ความสามารถ 2.ความมวี นิ ัย
ในการคิด 3.ใฝเ่ รยี นรู้
ขยายตวั ของ การสรา้ งถนน 4. มงุ่ มน่ั ในการ
1) ทกั ษะการ ทางาน
สสารเนื่องจาก การสรา้ งราง สารวจคน้ หา

ความรอ้ น รถไฟ การทา 2) ทกั ษะการ
จาแนกประเภท
นาไปใช้ เทอรม์ อมเิ ตอร์
3) ทักษะการ
ประโยชน์ ใน เปรียบเทยี บ

ด้านตา่ ง ๆ เช่น 4) ทักษะการ
ตีความขอ้ มูลและ
การสร้างถนน การลงขอ้ สรุป
3. ความสามารถ
การสร้าง ในการใช้
เทคโนโลยี
รางรถไฟ การ

ทาเทอรม์ อ

มิเตอร์

ะอัน ชนิ้ งำน/ภำระ กำรวัดประเมินผล กจิ กรรมกำร เวลำเรียน
งค์ งำน เรียนรู้ (ชวั่ โมง)

ย์ ใบงาน เรอ่ื ง ตรวจใบงาน วิธีสอนแบบ
ผา่ นรอ้ ยละ 60 สืบเสาะหา
การหดและ -พฤตกิ รรมการทางาน ความรู้ (5Es

ขยายตัว รายบคุ คล

ร - สงั เกตพฤตกิ รรมการตอบ Instructional

คาถาม Model)

มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั นำไปสู่
ตวั ช้วี ัด แกนกลำง ควำมคิดรวบยอด
สมรรถนะสำคญั คุณ
ว 2.3 • ความรอ้ นถ่ายโอน สารทม่ี อี ุณหภูมิแตกตา่ งกัน ของผู้เรยี น พ
ม.1/5 จากสสารที่มี เกิดการถา่ ยโอนความ
อณุ หภมู ิสงู กว่าไป รอ้ นระหวา่ งกัน 1. ความสามารถใน 1.ควา
ยังสสารที่มี จนกระทัง่ อณุ หภมู ขิ อง การสอ่ื สาร สุจริต
อณุ หภูมิตา่ กว่า สารเท่ากนั เรียกสภาพน้ี 2. ความสามารถใน 2.ควา
จนกระทั่ง ว่า สมดุลความรอ้ น โดย การคดิ 3.ใฝ่เ
อณุ หภมู ขิ องสสาร ความรอ้ นทเ่ี พ่ิมขึน้ ของ 4. มุ่ง
ทงั้ สองเท่ากัน สารหนึ่งจะเท่ากับความ 1) ทกั ษะการ ทางา
สภาพที่สสารทงั้ รอ้ นที่ลดลงของอีกสาร สารวจคน้ หา
สองมีอุณหภมู ิ หนึง่ ซ่ึงเปน็ ไปตามกฎ
เท่ากนั เรยี กวา่ การอนุรกั ษ์พลงั งาน 2) ทกั ษะการ
สมดุลความร้อน การถา่ ยโอนความร้อน จาแนกประเภท
จนเกิดสมดุลความร้อน
เม่อื มกี ารถา่ ยโอน เปน็ ไปตามสมการ Q 3) ทักษะการ
ความร้อนจากสสารท่ี สูญเสีย = Qไดร้ ับ เปรยี บเทียบ
มอี ณุ หภูมิต่างกันจน
เกิดสมดลุ ความร้อน 4) ทกั ษะการ
ความรอ้ นท่เี พมิ่ ข้นึ ตีความข้อมลู และการ
ของสสารหนง่ึ จะ ลงขอ้ สรุป
เทา่ กับความรอ้ นที่ 3. ความสามารถใน
ลดลงของอีกสสาร การใชเ้ ทคโนโลยี
หนึ่ง ซ่งึ เป็นไปตามกฎ
การอนุรกั ษพ์ ลังงาน

ณลักษณะอนั ชิ้นงำน/ กำรวัด แนวกำรจัด เวลำเรยี น
พึงประสงค์ ภำระงำน ประเมินผล กจิ กรรมกำร (ชัว่ โมง)

ามซ่อื สตั ย์ ใบงาน เรียนรู้ 2
ต เรอื่ ง
ามมีวินยั สมดลุ ตรวจใบงาน วิธีสอนแบบ
เรยี นรู้ ความรอ้ น ผา่ นรอ้ ยละ 60 สบื เสาะหา
งมั่นในการ -พฤตกิ รรมการ ความรู้ (5Es
าน ทางาน
รายบุคคล Instructional
- สงั เกต
พฤติกรรมการ Model)
ตอบคาถาม

สำระกำร สำระสำคญั นำไปสู่
เรียนรู้ ควำมคิดรวบ
มำตรฐำน/ แกนกลำง สมรรถนะ คณุ ลกั ษณ
ตัวชวี้ ัด ยอด สำคญั ของ พึงประส

ว 2.3 ม. ผ้เู รยี น
1/6.
การถ่ายโอนความ สารท่ีมี 1. ความสามารถ 1.ความซื่อสตั ย
รอ้ นมี 3 แบบ คือ อุณหภูมิ ในการสื่อสาร 2.ความมวี นิ ยั
การนาความรอ้ น แตกต่างกัน จะ 2. ความสามารถ 3.ใฝเ่ รยี นรู้
การพา- ความร้อน มีการถ่ายโอน ในการคดิ 4. ม่งุ มั่นในกา
และการแผ่รังสีความ ความร้อน ทางาน
ร้อน การนาความ ระหว่างกัน การ 1) ทักษะการ
ร้อนเปน็ การ ถ่ายโอนความ สารวจค้นหา
ถ่ายโอนความรอ้ นท่ี ร้อนมี 3 แบบ
อาศยั ตัวกลาง โดยที่ คือ การนาความ 2) ทกั ษะการ
ตัวกลางไมเ่ คลอื่ นที่ ร้อน การพา จาแนกประเภท
การพาความร้อนเปน็ ความร้อน และ
การถ่ายโอนความ การแผ่รังสีความ 3) ทักษะการ
รอ้ นทอ่ี าศยั ตวั กลาง ร้อน ซ่ึงการนา เปรียบเทยี บ
โดยทีต่ ัวกลาง ค ว า ม ร้อ น เ ป็ น
เคลอื่ นท่ีไปดว้ ย สว่ น การถ่ายโอน 4) ทักษะการ
การแผ่รังสีความรอ้ น ความร้อนที่ ตีความข้อมูลและ
เปน็ การถ่ายโอน อาศัยตัวกลาง การลงขอ้ สรปุ
ความรอ้ นท่ีไมต่ ้อง 3. ความสามารถ
อาศัยตวั กลาง ในการใช้
เทคโนโลยี

ณะอนั ชิ้นงำน/ภำระ กำรวดั แนวกำรจัด เวลำเรยี น
สงค์ งำน ประเมินผล กิจกรรมกำร (ช่วั โมง)

เรยี นรู้ 8

ยส์ จุ รติ ใบงาน เรอ่ื ง ตรวจใบงาน วธิ ีสอนแบบสืบ
การนาความ ผ่านรอ้ ยละ 60 เสาะหาความรู้
-พฤติกรรมการทางาน (5Es
าร รอ้ น รายบคุ คล
-การพาความ - สังเกตพฤติกรรมการ Instructional
รอ้ น ตอบคาถาม
-การแผ่รังสี Model)
ความรอ้ น

มำตรฐำน/ สำระกำร สำระสำคัญ นำไปสู่
ตัวชว้ี ัด เรียนรู้ ควำมคิดรวบ
แกนกลำง
ยอด

โดยตวั กลางไม่
เคลื่อนที่ การพา
ความร้อนเป็ น
การถ่ายโอน

ความร้อนท่ี
อาศยั ตวั กลาง
โดยตวั กลางมี
การเคลื่อนที่
ส่วนการแผร่ ังสี
ความร้อนเป็ น
การถ่ายโอน
ความรอ้ นท่ไี ม่
อาศยั ตวั กลาง

ช้นิ งำน/ภำระ กำรวัด แนวกำรจัด เวลำเรียน
งำน ประเมนิ ผล กจิ กรรมกำร (ชัว่ โมง)

เรียนรู้

สำระสำคัญ นำไปสู่
ควำมคดิ รวบ
มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สมรรถนะ คณุ ลกั ษณ
ตวั ชว้ี ัด แกนกลำง ยอด
สำคญั ของ พึงประ
ว 2.3 ม.
1/7 ผเู้ รียน

ความรเู้ กย่ี วกบั ประโยชน์ใน 1. ความสามารถใน 1.ความซอื่ ส
การถา่ ยโอน ชีวิตประจาวนั ได้
ความร้อน เช่น การเลือกใช้ การสื่อสาร 2.ความมวี นิ
สามารถนาไปใช้ วสั ดุเพอ่ื นามาทา
ประโยชน์ใน ภาชนะบรรจุ 2. ความสามารถใน 3.ใฝเ่ รียนรู้
ชวี ิตประจาวนั อาหารเพ่อื เก็บ
ได้ เชน่ การ ความรอ้ น หรอื การคิด 4. มุ่งม่นั ในก
เลือกใชว้ ัสดุเพื่อ การออกแบบ
นามาทาภาชนะ ระบบระบาย 1) ทกั ษะการ ทางาน
บรรจุอาหารเพอ่ื ความร้อนใน
เกบ็ ความรอ้ น อาคาร สารวจค้นหา
หรือการ
ออกแบบระบบ 2) ทกั ษะการ
ระบายความ
รอ้ นในอาคาร จาแนกประเภท

3) ทักษะการ

เปรียบเทยี บ

4) ทักษะการ

ตีความข้อมลู และ

การลงขอ้ สรปุ

3. ความสามารถใน

การใช้เทคโนโลยี

ณะอนั ชิน้ งำน/ภำระ กำรวัด แนวกำรจัด เวลำเรียน
ะสงค์ งำน ประเมินผล กจิ กรรมกำร (ช่วั โมง)

เรียนรู้

สัตยส์ ุจริต ใบงาน เรอ่ื ง ตรวจใบงาน วธิ ีสอนแบบสืบ
นยั การถ่ายโอน ผ่านร้อยละ 60 เสาะหาความรู้
การ ความรอ้ น -พฤตกิ รรมการ (5Es
ทางานรายบุคคล
- สังเกตพฤติกรรม Instructional
การตอบคาถาม
Model)

สำระท่ี 1 วทิ ยำศำสตรช์ ีวภำพ
มำตรฐำน ว 2.2 เข้าใจธรรมชาตขิ องแรงในชวี ติ ประจาวัน ผลของแรงท่ีกระทาต่อ

สำระสำคญั นำไปสู่
ควำมคดิ รวบ
มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สมรรถนะ คณุ ลกั ษณ
ตัวช้วี ัด แกนกลำง ยอด สำคัญของ พงึ ประส

ว 2.2 ม.1/1 เม่อื วัตถอุ ย่ใู นอากาศจะ ผเู้ รียน
มีแรงท่ีอากาศกระทา
ตอ่ วัตถใุ นทุกทิศทาง ความดันอากาศ 1. ความสามารถใน 1.ความซอ่ื สตั
แรงทอ่ี ากาศกระทาต่อ
วตั ถขุ ึน้ อยกู่ ับขนาด คื อ แรงท่ี อาก าศ การส่อื สาร 2.ความมวี นิ ัย
พนื้ ท่ีของวตั ถนุ น้ั แรงท่ี
อากาศกระทาต้งั ฉาก กระทาต่อหน่ึงหน่วย 2. ความสามารถใน 3.ใฝเ่ รยี นรู้
กบั ผิววตั ถตุ อ่ หนง่ึ พื้นท่ี ปัจจัยที่ส่งผล การคดิ 4. มงุ่ ม่ันในก
หน่วยพ้นื ที่ เรียกวา่
ความดนั อากาศ ความ ต่อความดันอากาศ 1) ทกั ษะการ ทางาน
ดันอากาศมี สารวจค้นหา
ความสมั พนั ธก์ บั ความ คือ จานวนโมเลกุล 2) ทักษะการ
สูงจากพ้ืนโลก โดย ของอากาศ อุณหภูมิ
บริเวณท่ีสูงจากพน้ื โลก อากาศ และความสูง จาแนกประเภท
ขึ้นไป อากาศเบาบาง 3) ทกั ษะการ
ลง มวลอากาศนอ้ ยลง จากระดับนา้ ทะเล เปรียบเทียบ
ความดนั อากาศก็จะ
ลดลง 4) ทักษะการ

ตีความข้อมูลและ

การลงข้อสรุป

3. ความสามารถใน

การใชเ้ ทคโนโลยี

อวตั ถุ ลักษณะการเคล่ือนที่แบบตา่ ง ๆ ของวตั ถุ รวมทงั้ นาความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์

ณะอัน ช้ินงำน/ภำระ กำรวัด แนวกำรจัด เวลำเรยี น
สงค์ งำน ประเมนิ ผล กจิ กรรมกำร (ชวั่ โมง)

เรียนรู้

ตย์สจุ รติ ใบงาน เร่อื ง ตรวจใบงาน วิธสี อนแบบสืบ 2
ย ความดันอากาศ ผ่านรอ้ ยละ 60 เสาะหาความรู้
-พฤตกิ รรมการ (5Es
การ ทางานรายบุคคล
- สังเกตพฤติกรรม Instructional
การตอบคาถาม
Model)

สำระท่ี 3 วทิ ยำศำสตร์โลกและอวกำศ
มำตรฐำน ว 3.2 เขา้ ใจองค์ประกอบ และความสัมพันธ์ของระบบโลก กระบวนการ
เปลีย่ นแปลงลมฟ้าอากาศและภมู ิอากาศโลก รวมทง้ั ผลต่อสิ่งมชี วี ติ และส่งิ แวดล้อม

สำระสำคญั นำไปสู่
ควำมคิดรวบ
มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สมรรถนะ คณุ ลกั
ตัวชว้ี ัด แกนกลำง ยอด สำคญั ของ พงึ ปร

ว 3.2 ม. • โลกมบี รรยากาศห่อหุม้ บรรยากาศเปน็ อากาศทห่ี ่อหุม้ ผเู้ รียน 1.ความซอ่ื
1/1 ดาวเคราะห์ รวมถงึ โลกของเรา 2.ความมวี
นักวิทยาศาสตรใ์ ช้สมบตั แิ ละองค์ประกอบ บรรยากาศประกอบไปดว้ ย 1. ความสามารถ 3.ใฝเ่ รยี น
ของบรรยากาศในการแบง่ บรรยากาศของ อากาศแห้ง ซ่ึงเป็นอากาศท่ไี ม่ ในการส่อื สาร 4. มุง่ ม่ันใ
โลกออกเป็นชัน้ ซึง่ แบง่ ไดห้ ลายรปู แบบ มไี อนา้ อยู่ ส่วนประกอบของ 2. ความสามารถ ทางาน
ตามเกณฑ์ที่แตกต่างกันโดยทวั่ ไป อากาศแห้ง ไดแ้ ก่ ไนโตรเจน ในการคดิ
นักวทิ ยาศาสตร์ใชเ้ กณฑก์ ารเปลย่ี นแปลง ออกซิเจน อารก์ อน
อณุ หภมู ิตามความสงู แบง่ บรรยากาศได้ คารบ์ อนไดออกไซด์ ไอน้า 1) ทักษะการ
เปน็ 5 ช้นั ไดแ้ ก่ ชนั้ โทรโพสเฟียร์, ช้นั สต และอ่นื ๆ นอกจากนี้ สารวจคน้ หา
ราโตสเฟยี ร์, บรรยากาศยงั ประกอบไปด้วย
ช้นั มโี ซสเฟียร์,ชัน้ เทอร์โมสเฟยี ร์ และช้ัน ไอน้า และฝุน่ ผง ซึ่งมีบทบาท 2) ทักษะการ
เอกโซสเฟียร์ สาคัญตอ่ การดารงชวี ติ ของ จาแนกประเภท
บรรยากาศแต่ละชนั้ มีประโยชน์ต่อ สง่ิ มชี ีวิต
สิ่งมีชีวติ แตกตา่ งกนั โดยชน้ั โทรโพสเฟียร์ บรรยากาศของโลกแบ่งเป็น 5 3) ทกั ษะการ
มีปรากฏการณ์ลมฟ้าอากาศทสี่ าคญั ต่อ ช้ัน โดยใชเ้ กณฑ์การ เปรยี บเทียบ
การดารงชวี ติ ของสงิ่ มชี วี ติ เปลี่ยนแปลงอุณหภมู ิตาม
ชั้นสตราโตสเฟียร์ ช่วยดูดกลนื รงั สี ความสงู แบง่ บรรยากาศเป็น 5 4) ทกั ษะการ
อลั ตราไวโอเลตจากดวงอาทติ ยไ์ มใ่ หม้ ายัง ชน้ั ไดแ้ ก่ ช้นั โทรโพสเฟียร์ ช้นั ตีความขอ้ มลู และ
โลกมากเกินไป ชัน้ มี สตราโทสเฟียร์ ชน้ั มโี ซสเฟยี ร์ การลงขอ้ สรุป
โซสเฟยี รช์ ่วยชะลอวตั ถนุ อกโลกทผี่ ่านเข้า ชั้นเทอร์โมสเฟียร์ และช้ันเอก 3. ความสามารถ
มาใหเ้ กิดการเผาไหมก้ ลายเปน็ วัตถุขนาด โซสเฟียร์ ซ่งึ บรรยากาศแตล่ ะ ในการใช้
เล็ก ลดโอกาสท่จี ะทาความเสยี หายแก่ ช้นั มปี ระโยชนต์ ่อสิ่งมชี ีวิต เทคโนโลยี
สง่ิ มชี ีวติ บนโลก ชัน้ เทอรโ์ มสเฟียรส์ ามารถ แตกตา่ งกนั
สะทอ้ นคลืน่ วิทยุ และ
ชั้นเอกโซสเฟียร์เหมาะสาหรบั การโคจร
ของดาวเทยี มรอบโลกในระดับต่า

รเปล่ยี นแปลงภายในโลกและบนผิวโลก ธรณี พบิ ตั ิภัย กระบวนการ

กษณะอนั ชนิ้ งำน/ภำระ กำรวัด แนวกำรจัด เวลำเรยี น
ประเมนิ ผล กิจกรรมกำร (ชัว่ โมง)

ระสงค์ งำน เรยี นรู้ 6

อสตั ย์สุจรติ แผนผังมโนทัศน์ ตรวจใบงาน วิธีสอนแบบสบื
วินัย เรือ่ ง ผา่ นรอ้ ยละ 60 เสาะหาความรู้
นรู้ -พฤติกรรมการทางาน (5Es
ในการ องคป์ ระกอบ รายบุคคล
- สังเกตพฤตกิ รรมการ Instructional
ของบรรยากาศ ตอบคาถาม
Model)

สำระกำร นำไปสู่
เรยี นรู้
มำตรฐำน/ สำระสำคญั สมรรถนะ คณุ ลกั ษณะอนั
ตวั ชวี้ ัด แกนกลำง ควำมคดิ รวบยอด พงึ ประสงค์
สำคญั ของ
ว 3.2 ม. ลมฟา้ อากาศเป็นสภาวะของ -องค์ประกอบของลม ฟ้า อากาศ 1.ความซ่อื สัตย์
อากาศในเวลาหนึ่งของพื้นที่ ไดแ้ ก่ อณุ หภมู อิ ากาศ ความกด ผ้เู รียน สจุ รติ
1/2 หน่ึงทม่ี กี ารเปลีย่ นแปลง อากาศ ลม ความชนื้ เมฆ และหยาด 2.ความมีวินัย
ตลอดเวลาขน้ึ อยกู่ บั น้าฟ้า องคป์ ระกอบเหลา่ น้สี ่งผลต่อ 1. 3.ใฝเ่ รียนรู้
องค์ประกอบลมฟ้าอากาศ ลม ฟา้ อากาศ ณ พื้นทีห่ นึ่ง เวลา ความสามารถ 4. ม่งุ ม่นั ในการ
ไดแ้ ก่ อณุ หภมู อิ ากาศ ความ หน่งึ ซึ่งมีการเปล่ียนแปลง ในการสอื่ สาร ทางาน
กดอากาศ ลม ความชนื้ เมฆ ตลอดเวลา ซึ่งแต่ละพนื้ ที่มสี ภาพลม 2.
และหยาดนา้ ฟา้ โดยหยาด ฟา้ อากาศท่ีแตกตา่ งกัน เน่ืองจาก ความสามารถ
นา้ ฟา้ ทีพ่ บบ่อย ในประเทศ แตล่ ะพ้ืนท่สี ามารถสะท้อนและ ในการคิด
ไทย ไดแ้ ก่ ฝน องค์ประกอบ ดูดกลนื รังสจี ากดวงอาทิตยแ์ ตกต่าง
ลมฟา้ อากาศเปล่ยี นแปลง กนั 1) ทักษะการ
ตลอดเวลาขนึ้ อยกู่ ับปจั จัย -อุณหภูมิของอากาศ คือ ระดบั สารวจค้นหา
ตา่ ง ๆ เชน่ ปริมาณรังสจี าก ความร้อนเย็นของอากาศ โดยปัจจัย
ดวงอาทิตย์และลกั ษณะ ท่ีมผี ลตอ่ อณุ หภมู ิของอากาศ ได้แก่ 2) ทักษะ
พื้นผวิ โลกสง่ ผลต่ออุณหภูมิ รงั สจี ากดวงอาทิตย์ ความสงู จาก
อากาศ อุณหภูมิอากาศ และ ระดับน้าทะเล เมฆปกคลุมท้องฟ้า การจาแนก
ปริมาณไอนา้ สง่ ผลตอ่ และลกั ษณะของพืน้ ที่ เครื่องมอื ทใี่ ช้ ประเภท
ความชน้ื ความกดอากาศ วัดอณุ หภมู ิของอากาศ ได้แก่ เทอร์
สง่ ผลต่อลม ความชนื้ และ มอมิเตอรว์ ดั อุณหภูมสิ ูงสุด–ต่าสุด 3) ทกั ษะ
ลมส่งผลตอ่ เมฆ - ความดันอากาศ คอื แรงดันอากาศ
ทก่ี ระทาตอ่ หน่ึงหน่วยพน้ื ที่ ซึง่ การ
ปจั จยั ท่ีสง่ ผลตอ่ ความดันอากาศ คือ เปรียบเทียบ
จานวนโมเลกุลของสาร อุณหภมู ิ
และความสูง การบอกค่าความดัน 4) ทักษะการ
อากาศจะใชเ้ ครื่องมือวดั ความดัน ตคี วามข้อมลู
อากาศ คือ บารอมเิ ตอร์ปรอท แอนิ และการลง
รอยดบ์ ารอมิเตอร์ และแอลตมิ ิเตอร์ ข้อสรปุ
3.
ความสามารถ
ในการใช้
เทคโนโลยี

น ชิ้นงำน/ภำระ กำรวดั แนวกำรจดั เวลำเรยี น
งำน ประเมินผล กิจกรรมกำร (ชั่วโมง)

เรยี นรู้

การทา ตรวจใบงาน วธิ สี อนแบบสบื 3
กจิ กรรม เรือ่ ง ผ่านรอ้ ยละ 60 เสาะหาความรู้
รังสจี ากดวง -พฤตกิ รรมการ (5Es
อาทติ ย์ ทางาน
-รายงาน เรื่อง รายบุคคล Instructional
องคป์ ระกอบ - สงั เกต
ของลม ฟ้า พฤติกรรมการ Model)
อากาศ ตอบคาถาม

มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สำระสำคญั นำไปสู่
ตัวช้ีวัด แกนกลำง ควำมคิด
รวบยอด สมรรถนะ คุณลักษณะ
สำคญั ของ อนั พึงประสงค

ผ้เู รียน

ว 3.2 • พายฝุ นฟา้ คะนอง เกิดจากการ - พายุฝนฟา้ 1. ความสามารถ 1.ความซือ่ สตั ย์
ม.1/3 คะนอง เปน็ ลม ในการส่ือสาร สุจรติ
ท่อี ากาศทม่ี อี ุณหภูมแิ ละ ฟ้าอากาศ 2. ความสามารถ 2.ความมีวินัย
ความชน้ื สงู เคล่อื นทขี่ ้ึนสู่ระดับ รูปแบบหนงึ่ ซง่ึ ในการคดิ 3.ใฝเ่ รียนรู้
ความสูงที่มีอุณหภมู ติ ่าลง เกิดขนึ้ เมอ่ื มี 4. มงุ่ มน่ั ในการ
จนกระทัง่ ไอน้าในอากาศเกดิ เมฆคิวมโู ลนิม 1) ทกั ษะการ ทางาน
การควบแนน่ เปน็ ละอองน้า บสั ส่วนใหญ่ สารวจค้นหา
และเกิดต่อเนอ่ื งเป็นเมฆขนาด เกิดใน
ใหญ่ พายุฝนฟ้าคะนอง ทาให้ เฉพาะถิ่นใน 2) ทกั ษะการ
เกิดฝนตกหนกั ลมกรรโชกแรง ระยะเวลาส้นั จาแนกประเภท
ฟ้าแลบฟ้าผา่ ซึ่งอาจก่อใหเ้ กดิ - พายหุ มุนเขต
รอ้ น เกดิ ขน้ึ 3) ทักษะการ
อนั ตรายต่อชวี ติ และทรพั ย์สิน บริเวณ เปรยี บเทียบ
พายหุ มุนเขตรอ้ นเกดิ เหนอื มหาสมุทร มหาสมทุ รและ
หรือทะเลทนี่ า้ อณุ หภมู ิสงู ตงั้ แต่ 26–27 ทะเลในเขตรอ้ น 4) ทกั ษะการ
องศาเซลเซียสข้ึนไป ทาใหอ้ ากาศท่มี ี เท่านนั้ ทาให้ ตีความข้อมลู และ
อุณหภูมิและความชืน้ สูงบริเวณนน้ั เกิดคลน่ื ขนาด การลงข้อสรุป
เคล่ือนท่ีสูงขึน้ อย่างรวดเรว็ เป็นบริเวณ ใหญใ่ น ทะเล มี 3. ความสามารถ
กว้าง อากาศจากบรเิ วณอ่ืนเคล่อื นเข้ามา ผลตอ่ การ ในการใช้
แทนท่ี และพัดเวียนเขา้ หาศูนย์กลางของ เดนิ เรือ เทคโนโลยี
พายุ ยิง่ ใกลศ้ นู ยก์ ลางอากาศจะเคล่อื นที่
พดั เวียนเกอื บเป็นวงกลม และมีอัตราเรว็
สูงทีส่ ดุ พายุหมนุ เขตร้อนทาใหเ้ กิดคลนื่

พายุซัดฝ่ัง ฝนตกหนัก ซึง่ อาจ
ก่อใหเ้ กิดอันตรายต่อชวี ติ และ
ทรัพย์สนิ จงึ ควรปฏิบตั ิตนให้
ปลอดภยั โดยตดิ ตามขา่ วสาร การ
พยากรณ์อากาศ และไม่เข้าไปอย่ใู น
พื้นที่ทเ่ี ส่ียงภยั

ช้นิ งำน/ภำระ กำรวดั แนวกำรจัด เวลำเรยี น
ค์ งำน ประเมินผล กจิ กรรมกำร (ชวั่ โมง)

เรียนรู้

ใบงาน เรอ่ื ง ตรวจใบงาน วิธสี อนแบบสบื 3
พายุฝนฟ้า ผ่านรอ้ ยละ 60 เสาะหาความรู้
คะนอง -พฤติกรรมการ (5Es
ทางานรายบุคคล
- สงั เกต Instructional
พฤตกิ รรมการ
ตอบคาถาม Model)

สำระสำคัญ นำไปสู่
ควำมคดิ รวบ
มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สมรรถนะ คณุ ลักษณ
ตวั ชวี้ ัด แกนกลำง ยอด
สำคญั ของ พึงประ
ว 3.2 ม.1/4 การพยากรณ์ เกณฑใ์ นการ
อากาศเป็นการ พยากรณ์อากาศ ผูเ้ รียน
คาดการณ์ลมฟ้า ของกรม
อากาศท่ีจะเกดิ ข้ึน อตุ ุนยิ มวิทยา ได้แก่ 1. ความสามารถใน 1.ความซอ่ื สตั
ในอนาคตโดยมี เกณฑ์อากาศรอ้ น
การตรวจวดั เกณฑ์อากาศเย็น การส่อื สาร 2.ความมีวินยั
องค์ประกอบลม เกณฑก์ ารกระจาย
ฟา้ อากาศ การ ของฝน เกณฑ์ 2. ความสามารถใน 3.ใฝเ่ รียนรู้
สื่อสารแลกเปลยี่ น ปริมาณฝน เกณฑ์
ขอ้ มูล ปริมาณเมฆใน การคิด 4. ม่งุ มั่นในก
องค์ประกอบลม ท้องฟา้ เกณฑ์
ฟา้ อากาศระหวา่ ง สถานะของทะเล 1) ทกั ษะการ ทางาน
พนื้ ทีก่ ารวิเคราะห์ รอ่ งมรสุม ลมพัด
ขอ้ มูล และสร้าง สอบ บริเวณความ สารวจคน้ หา
คาพยากรณ์ กดอากาศสูง
อากาศ บริเวณความกด 2) ทกั ษะการ
อากาศต่า เป็นต้น
จาแนกประเภท

3) ทกั ษะการ

เปรียบเทียบ

4) ทกั ษะการ

ตีความข้อมลู และ

การลงข้อสรปุ

3. ความสามารถใน

การใช้เทคโนโลยี

ณะอัน ชิ้นงำน/ภำระ กำรวดั แนวกำรจัด เวลำเรยี น
ะสงค์ งำน ประเมนิ ผล กจิ กรรมกำร (ช่วั โมง)

เรยี นรู้

ตย์สุจรติ ใบงาน เร่อื ง ตรวจใบงาน วิธสี อนแบบสืบ 3
ย การพยากรณ์ ผ่านร้อยละ 60 เสาะหาความรู้
การ อากาศ -พฤตกิ รรมการ (5Es
ทางานรายบคุ คล
- สงั เกตพฤตกิ รรม Instructional
การตอบคาถาม
Model)

สำระสำคญั นำไปสู่
ควำมคิดรวบ
มำตรฐำน/ สำระกำรเรียนรู้ สมรรถนะ คณุ ลักษณ
ตวั ชว้ี ัด แกนกลำง ยอด
สำคญั ของ พึงประ

ผูเ้ รยี น

ว 3.2 ม.1/5 การพยากรณ์ แผนทอี่ ากาศ เป็น 1. ความสามารถใน 1.ความซ่ือสตั
อากาศสามารถ แผนทแ่ี สดงสภาพ
นามาใช้ ลมฟ้าอากาศใน การส่อื สาร 2.ความมีวินยั
ประโยชน์ด้าน ชว่ งเวลาหน่งึ
ต่าง ๆ เชน่ การ ขอ้ มลู ในแผนท่ี 2. ความสามารถใน 3.ใฝเ่ รยี นรู้
ใช้ อากาศจะนาไปใช้
ชวี ิตประจาวัน ในการพยากรณ์ การคิด 4. มุ่งมัน่ ในก
การคมนาคม อากาศ
การเกษตร การ 1) ทกั ษะการ ทางาน
ปอ้ งกนั และเฝ้า
ระวังภัยพบิ ัติ สารวจคน้ หา
ทางธรรมชาติ
2) ทักษะการ

จาแนกประเภท

3) ทกั ษะการ

เปรยี บเทียบ

4) ทกั ษะการ

ตีความขอ้ มลู และ

การลงขอ้ สรุป

3. ความสามารถใน

การใช้เทคโนโลยี

ณะอัน ชิน้ งำน/ภำระ กำรวัด แนวกำรจดั เวลำเรยี น
ะสงค์ งำน ประเมนิ ผล กจิ กรรมกำร (ชว่ั โมง)

เรยี นรู้

ตย์สจุ ริต รายงาน เรื่อง ตรวจใบงาน วธิ ีสอนแบบสืบ 3
ย การพยากรณ์ ผา่ นรอ้ ยละ 60 เสาะหาความรู้
การ อากาศ -พฤตกิ รรมการ (5Es
ทางานรายบคุ คล
- สงั เกตพฤติกรรม Instructional
การตอบคาถาม
Model)

สำระกำร สำระสำคญั นำไปสู่
เรียนรู้ ควำมคดิ รวบ
มำตรฐำน/ แกนกลำง สมรรถนะ คุณลักษณะ
ตัวชีว้ ัด ยอด สำคัญของ พึงประสง

ผเู้ รยี น

ว 3.2 ม.1/6 ภมู อิ ากาศโลกเกดิ การเปล่ยี นแปลง 1. ความสามารถ 1.ความซือ่ สัตย
การเปล่ียนแปลง อณุ หภูมขิ องโลก ในการสอื่ สาร สจุ รติ
อยา่ งต่อเนอื่ งโดย ส่วนหน่ึงมาจากผล 2. ความสามารถ 2.ความมวี นิ ัย
ปจั จัยทาง การทากจิ กรรม ในการคิด 3.ใฝ่เรียนรู้
ธรรมชาติ แต่ ของมนุษย์ ทาให้ 4. มุ่งมัน่ ในการ
ปจั จุบนั การ เกดิ ฝุ่นละอองและ 1) ทกั ษะการ ทางาน
เปลย่ี นแปลง มแี ก๊สเรีอนกระจก สารวจค้นหา
ภูมิอากาศเกดิ ขน้ึ ในบรรยากาศ เพมิ่
อย่างรวดเรว็ มากขึ้นอยา่ ง 2) ทกั ษะการ
เน่ืองจากกิจกรรม รวดเร็ว ส่งผลทาให้ จาแนกประเภท
ของมนษุ ยใ์ นการ อุณหภมู ิอากาศ
ปลดปล่อยแกส๊ ของโลกสูงข้นึ และ 3) ทกั ษะการ
เรือนกระจกสู่ มีแนวโน้มสงู ขึน้ เปรยี บเทยี บ

4) ทักษะการ
ตีความขอ้ มลู และ
การลงขอ้ สรปุ
3. ความสามารถ

บรรยากาศ แกส๊ เรอื่ ย ๆ ในการใช้
เรอื นกระจกที่ถกู เทคโนโลยี

ปลดปล่อยมาก

ทีส่ ดุ ไดแ้ ก่ แกส๊
คาร์บอนไดออกไซด์
ซึง่ หมุนเวียนอยูใ่ นวัฏ
จกั รคารบ์ อน

ะอัน ช้ินงำน/ภำระ กำรวัด แนวกำรจดั เวลำเรียน
งค์ งำน ประเมนิ ผล กิจกรรมกำร (ชั่วโมง)

เรยี นรู้ 2

ย์ ใบงาน ตรวจใบงาน วธิ สี อนแบบสืบ

ภูมอิ ากาศโลก ผ่านร้อยละ 60 เสาะหาความรู้
-พฤติกรรมการทางาน
เกิดการ (5Es Instructional
รายบคุ คล

ร เปลย่ี นแปลง - สังเกตพฤติกรรมการ Model)

ตอบคาถาม

สำระสำคญั นำไปสู่
ควำมคิดรวบ
มำตรฐำน/ สำระกำรเรยี นรู้ สมรรถนะ คุณลกั ษณ
ตัวชี้วัด แกนกลำง ยอด สำคัญของ พงึ ประส

ว 3.2 ม.1/7 การเปลยี่ นแปลง การเกิดโรคอุบัติ ผู้เรยี น
ภมู ิอากาศโลก ใหม่และอุบัตซิ ้า
กอ่ ใหเ้ กิดผลกระทบ และการเกิดภัย 1. ความสามารถ 1.ความซ่อื สตั
ต่อสงิ่ มชี วี ิตและ พบิ ตั ทิ าง ในการส่ือสาร 2.ความมีวนิ ยั
ธรรมชาติที่ 2. ความสามารถ 3.ใฝเ่ รียนรู้
สงิ่ แวดลอ้ ม เช่น การ รุนแรงขึ้น มนษุ ย์ ในการคิด 4. มุง่ ม่ันในกา
หลอมเหลวของน้าแขง็ จึงควรเรียนรู้ ทางาน
ขัว้ โลก การเพิ่มขน้ึ ของ แนวทางการ 1) ทกั ษะการ
ระดบั น้าทะเล การ ปฏบิ ตั ติ นภายใต้ สารวจค้นหา
เปล่ยี นแปลงวฏั จกั รนา้ สถานการณ์
การเกิดโรคอบุ ตั ใิ หม่ ดังกล่าว ทงั้ 2) ทกั ษะการ
และอุบัตซิ า้ และการ แนวทางการ จาแนกประเภท
เกดิ ภัยพิบัตทิ าง ปฏิบตั ิ
ธรรมชาตทิ ร่ี นุ แรงขึ้น 3) ทักษะการ
มนุษย์จงึ ควรเรยี นรู้ เปรียบเทียบ
แนวทางการปฏบิ ตั ติ น
ภายใตส้ ถานการณ์ 4) ทักษะการ
ดงั กล่าว ทงั้ แนวทาง ตคี วามขอ้ มูลและ
การปฏบิ ตั ิให้เหมาะสม การลงข้อสรุป
และแนวทางการลด 3. ความสามารถ
กิจกรรม ที่สง่ ผลต่อ ในการใช้
การเปลย่ี นแปลง เทคโนโลยี
ภมู ิอากาศโลก

ณะอัน ชนิ้ งำน/ภำระ กำรวัด แนวกำรจดั เวลำเรยี น
สงค์ งำน ประเมนิ ผล กจิ กรรมกำร (ชั่วโมง)

เรยี นรู้ 2

ตยส์ ุจรติ รายงาน เรือ่ ง ตรวจใบงาน วิธสี อนแบบสบื
ย ผา่ นร้อยละ 60 เสาะหาความรู้
ผลกระทบการ -พฤตกิ รรมการทางาน
าร เปลี่ยนแปลง รายบคุ คล (5Es Instructional
ภมู อิ ากาศโลก - สังเกตพฤติกรรมการ Model)
ตอบคาถาม




Click to View FlipBook Version