The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดประสบการณ์
การป้องกันการทุจริต อนุบาล 3
โรงเรียนวัดคลองห้า

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by tummeng.kt, 2021-05-30 09:10:00

แผนการจัดประสบการณ์ การป้องกันการทุจริต อนุบาล 3

แผนการจัดประสบการณ์
การป้องกันการทุจริต อนุบาล 3
โรงเรียนวัดคลองห้า

Keywords: หลักสูตรต้านทุจริต

บันทกึ หลังสอน

หนว่ ยการสอนที่................ แผนการจดั การเรยี นร้ทู .่ี .............
บนั ทกึ หลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(.................................................)
ครูผสู้ อน

ควำมคดิ เหน็ ของผู้อำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกนั ตนา จิตรบรรจง)
ผอู้ านวยการโรงเรยี นวัดคลองหา้

๗. ภำคผนวก

กำร์ตนู แอนิเมชน่ั เศรษฐกจิ พอเพยี ง แขง่ ทกั ษะวชิ ำชพี animation ๒d

https://www.youtube.com/watch?v=R๗๖Q-TNAvC๐

เพลงพ่อของแผ่นดนิ
(ญ.) บญุ ของแผ่นดนิ ไทย พ่อหลวงบนั ดาลให้ ทใี่ นยุ้งฉางมขี า้ ว นา้ รนิ ดินดใี ครเล่า
ทกุ ขใ์ ดเหนิ ไปบรรเทาด้วยพระบาท เกอื บศตวรรษ ธ นาไทยทั้งชาตพิ ้นภัย
(ช.) แผ่นดนิ ถ่ินเมอื งทอง ผา่ นพน้ โพยภยั เนืองนอง พระทรงคมุ้ ครองไทยไว้
ธ เป็นพลังแผน่ ดนิ สมานพลงั ชวี ินของชนชาวไทย อนุ่ ใจไพรฟ่ า้ พระบญุ ญาเกรกิ ไกร
ภมู พิ ลมหาราชา
(พร้อม) อา่ องค์สรุ ียศ์ รีมธี รรมส่อง ปกครองอยา่ งทรงพระเมตตา ดุจบดิ รเหลา่ ประชา
ทุกขร์ ้อนใดใดกราย มาโอ้ฟา้ เปน็ ดง่ั ฝน ดับไฟ
(ญ.) ภูมิใจไทย รว่ มร้อยหัวใจรว่ มใฝร่ ่วมหวัง
(ช.) ภูมพิ ลัง แผ่นดนิ ถิน่ นยี้ ง่ิ ใหญ่
(ญ.) ภมู ิประวัติ ประชาชาตภิ ูมิไผท
(ช.) ภาคภูมปิ ระชาชยั ภูมพิ ลังแผน่ ดิน
(พรอ้ ม) เทิดไทน้ บน้อมเทดิ ทูล ธ เหนอื เกล้า สราญนานเนา หทัยสุขล้าสมจนิ ต์ เพริศแพรว้
พพิ ฒั นเ์ ภทภยั พ่ายแพส้ ้นิ นวมนิ ทร์มหาราชาภูมพิ ล

แบบสงั เกตกำรตอบคำถำมของเดก็

หน่วยท่ี ๓ ชอ่ื หน่วย STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ รติ
แผนการจัดประสบการณ์ท่ี ๔ เร่ือง Onward : ความหมายของการมุ่งไปขา้ งหน้า

วนั ท.่ี ............เดือน.............................พ.ศ............................
คำชี้แจง: ให้ผู้ประเมินทาเคร่อื งหมาย  ในช่องระดบั คุณภาพของเดก็ ในแต่ละประเดน็ ท่ีประเมนิ

บอกถงึ พระราชกรณียกิจของในหลวงในการมงุ่

ท่ี ชอ่ื -สกลุ ไปข้างหน้าเพอื่ พฒั นาประเทศได้เหมาะสมกับวยั

๓ ๒๑

รวม
เฉลยี่

ลงชอื่ ...........................................................ผู้ประเมนิ
(......................................................)

เกณฑก์ ำรประเมิน
บอกถึงพระราชกรณียกจิ ของในหลวงในการพฒั นาประเทศไดเ้ หมาะสมกับวัย

ระดบั ๓ : เด็กสามารถบอกถึงพระราชกรณยี กิจของในหลวงในการมงุ่ ไปข้างหน้า เพือ่ พัฒนาประเทศ
ไดด้ ว้ ยตนเอง

ระดับ ๒ : เดก็ สามารถบอกถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงในการมุ่งไปข้างหนา้ เพอ่ื พัฒนาประเทศ
ได้โดยมีผู้ช้แี นะ

ระดบั ๑ : เด็กไม่สามารถบอกถึงพระราชกรณียกิจของในหลวงในการมุง่ ไปข้างหน้า เพื่อพัฒนาประเทศ
ไดด้ ว้ ยตนเองได้

แผนกำรจัดประสบกำรณ์

หนว่ ยที่ ๓ ชื่อหนว่ ย STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ ริต ชน้ั ปฐมวยั
แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ ๕ เรอ่ื ง Generosity : ความหมายของความเอ้ืออาทร เวลำ ๑ ชั่วโมง

๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ท่ี STRONG : จิตพอเพยี งต้านทจุ รติ

๒. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
๒.๑ เดก็ สามารถบอกพฤตกิ รรมความเอ้ืออาทรกันได้

๓. สำระกำรเรียนรู้
๓.๑ ควำมรู้

ความเอ้ืออาทร คือ การอยู่รว่ มกันของสมาชิกในสงั คมหนึ่งน้ัน ต้องอาศัยความเออื้ เฟ้ือเผ่อื แผ่ ความเข้าใจ

ซ่งึ กันและกนั รวมท้งั การเป็นสมาชิกในสังคม คิดและทาเพื่อส่วนรวม ร้จู ักการให้เพ่ือนในสังคม ไม่เห็นประโยชน์
ส่วนตนเป็นใหญ่ และพร้อมท่จี ะเสยี สละหรือชว่ ยปกปอ้ งผลประโยชนข์ องส่วนรวม

๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะท่ีเกดิ )
๑) มที กั ษะชวี ติ และอยู่รว่ มกบั ผอู้ น่ื ได้อย่างมคี วามสุข
๒) มที ักษะการคิด การใช้ภาษาส่ือสาร

๓.๓ คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค/์ คำ่ นิยม
ความเอื้อเฟื้อเผือ่ แผ่

๔. กำรจดั ประสบกำรณ์
๔.๑ ขน้ั ตอนกำรจดั ประสบกำรณ์

๑) ครถู ามเดก็ วา่ ร้จู กั รถไฟหรือไม่ รถไฟมสี ่วนประกอบอะไรบ้าง (ประกอบด้วย หัวรถจักร และตู้ หรอื โบก้ี
โดยสาร) ให้เดก็ ดูรปู หรอื วาดรูปรถไฟประกอบ

๒) จดั ขบวนรถไฟ
• ชวนเดก็ เลน่ ตอ่ ขบวนรถไฟ โดยหน่งึ ขบวนใหม้ จี านวนเดก็ ไม่เกนิ สบิ คน

• จัดแถวเด็กเป็นขบวน แล้วให้เดก็ ช่วยนับจานวน

• ใหเ้ ด็กใช้แขนเกาะบา่ เพือ่ นข้างหนา้ สมมติคนหน้าสุดเป็นหัวรถจกั ร คนที่เหลอื เป็นโบก้ีโดยสาร แล้วเดนิ
เปน็ ขบวน รอ้ งเปน็ เสยี งหวูดรถไฟ “ปนู๊ ปูน๊ ฉึกฉกั ฉึกฉกั ”

๓) เดนิ ทางสูจ่ ุดหมายปลายทาง
• ตั้งช่ือขบวนรถ แล้วกาหนดสถานท่ีที่เป็นจุดหมายปลายทางให้แตกตา่ งกัน (ครูอาจจะตงั้ ช่ือให้ เช่น

สถานีดอกไม้ สถานสี ถานสี ายรงุ้ )
• ใหเ้ ด็กผลัดเปลี่ยนกนั เป็นหัวจกั รรถไฟ

• ครูให้แต่ละขบวนออกเดินทางไปยังสถานีจุดหมายปลายทาง เช่น “รถไฟสายสีส้ม เดนิ ทางไปสถานี
หัวลาโพง” ต่อมาใหเ้ ด็กรว่ มตดั สินใจดว้ ยตนเองว่า ตอ้ งการไปสถานใี ด

• ต่อขบวนใหย้ าวขน้ึ แล้วออกเดนิ ทาง

๔) ธงสีแดง ธงสีเขียว (รถไฟหยดุ รถไฟเดนิ ทาง)
• ครูกาหนดกตกิ า อธิบายถ้าครยู กธงสีแดง ให้ขบวนรถไฟหยุด ถา้ ยกธงสเี ขยี ว ให้ออกเดินทาง

๕) ใหเ้ ด็กคิดและตอบคาถามว่า เหตกุ ารณท์ ่ีเกิดขึน้ ตอ่ ไปนจ้ี ะทาให้เกิดอะไรข้ึน

• รถไฟไม่ยอมออกเดินทาง โบกี้รถไฟแย่งกันเป็นหัวรถจักร (เกิดความวุ่นวาย รถไฟเดินทางไปไม่ถึง
จุดหมาย)

• โบก้รี ถไฟตัดสินใจไปคนละสถานี (เกดิ ความว่นุ วาย รถไฟเดินทางไปไมถ่ ึงจดุ หมาย)
• โบกี้รถไฟเหลือเพียงหน่งึ ตู้ ขบวนรถไฟเหลอื เพยี งหวั รถจกั ร (รถไฟไม่สามารถเดินทางได)้
• หัวรถจกั รหลงทาง ขบวนรถไฟทง้ั ขบวนหลงทาง (รถไฟหลงทาง เดนิ ทางไม่ถึงจุดหมาย)
• รถไฟไมห่ ยุดตามสญั ญาณธง (รถอาจจะชนกัน เกดิ อุบตั เิ หต)ุ
• โบก้รี ถไฟเอาแต่ใจตนเอง โบกีไ้ ม่อยากเดินตามหวั รถจักร (รถไฟจะไม่สามารถออกเดินทางได้ ตา่ งคน
ตา่ งไปคนละทิศ คนละทาง)
๖) เด็กและครูร่วมกนั สรปุ ถึงความเอื้ออาทรกัน ทกุ คนในสงั คมตอ้ งชว่ ยเหลือเก้ือกูลกนั
๔.๒ ส่ือกำรเรยี นรู้/แหล่งกำรเรยี นรู้
๑) รปู ภาพ รถไฟ
๒) ธงทปี่ ระดิษฐจ์ ากกระดาษสี
๕. กำรประเมินผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วิธกี ำรประเมิน
สังเกตการตอบคาถาม
๕.๒ เครอ่ื งมือท่ใี ชใ้ นกำรประเมนิ
แบบสังเกตการตอบคาถาม
๕.๓ เกณฑ์กำรประเมิน
เดก็ ผา่ นการประเมนิ ระดบั ๒ ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ น

บนั ทึกหลงั สอน

หน่วยการสอนที.่ ............... แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี.่ .............
บนั ทึกหลงั สอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(.................................................)
ครูผู้สอน

ควำมคิดเห็นของผู้อำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกนั ตนา จิตรบรรจง)
ผ้อู านวยการโรงเรียนวดั คลองห้า

๗. ภำคผนวก

ภำพรถไฟ

ธงใหส้ ญั ญำณ

ธงสแี ดง ธงสเี ขยี ว

แบบสงั เกตกำรตอบคำถำมของเดก็

หนว่ ยที่ ๓ ช่ือหน่วย STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ ริต
แผนการจัดประสบการณ์ที่ ๕ เรอ่ื ง Generosity : ความหมายของความเออ้ื อาทร

วนั ที.่ ............เดอื น.............................พ.ศ............................
คำช้ีแจง: ให้ผ้ปู ระเมนิ ทาเครอื่ งหมาย  ในชอ่ งระดับคณุ ภาพของเด็กในแต่ละประเด็นทีป่ ระเมนิ

ท่ี ชือ่ -สกุล บอกถึงพฤตกิ รรมของการเอ้อื อาทรกนั ได้
๓ ๒๑

รวม
เฉลีย่

ลงช่ือ...........................................................ผ้ปู ระเมนิ
(...........................................................)

เกณฑก์ ำรประเมิน
บอกถึงพฤตกิ รรมของการเอ้อื อาทรกนั ได้

ระดบั ๓ : เด็กสามารถบอกถงึ พฤติกรรมของการเอื้ออาทรไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดับ ๒ : เด็กสามารถบอกถงึ พฤติกรรมของการเอ้อื อาทรไดโ้ ดยมผี ู้ช้แี นะ
ระดับ ๑ : เดก็ ไมส่ ามารถบอกถงึ พฤตกิ รรมของการเอ้อื อาทรได้

แผนกำรจัดประสบกำรณ์

หนว่ ยที่ ๓ ชอ่ื หน่วย STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ ริต ชนั้ ปฐมวยั
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ ๖ เร่ือง ความหมายของการต้านทจุ รติ เวลำ ๑ ช่วั โมง

๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑ ปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผู้ที่ STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทจุ รติ

๒. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
๒.๑ บอกพฤติกรรมการต้านทุจรติ ได้

๓. สำระกำรเรียนรู้
๓.๑ ควำมรู้
การต้านทจุ ริต หมายถงึ การทาหน้าทอี่ ยา่ งซือ่ สัตย์สุจริต เข้าใจและฝึกพฤตกิ รรมการไมเ่ อาของของคนอ่ืน

มาเปน็ ของตนเอง เกบ็ ของได้แล้วส่งคืน การพดู ความจรงิ ไมโ่ กหก และการไม่ใช้เล่หเ์ หลยี่ มคดโกงเอาเปรียบผู้อน่ื
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะทเี่ กดิ )
๑) มที กั ษะชีวติ และอยู่ร่วมกับผูอ้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
๒) มีทกั ษะการคิด การใช้ภาษาสอื่ สาร
๓.๓ คณุ ลักษณะท่พี ึงประสงค์/ค่ำนยิ ม
ซ่อื สัตย์ สุจรติ

๔. กำรจดั ประสบกำรณ์

๔.๑ ขัน้ ตอนกำรจัดประสบกำรณ์
๑) เด็กและครรู ว่ มกนั ทอ่ งคาคล้องจอง “ดินสอแกว้ ตา”
๒) เด็กและครูสนทนากนั ถึงคาคลอ้ งจอง “ดนิ สอแกว้ ตา” โดยใช้คาถามวา่
• ถา้ เราพบดนิ สอสีในห้องเรยี นเราจะทาอย่างไร (ประกาศหาเจา้ หา เอาไปคืนเจา้ ของ)
• ถา้ เราอยากใช้ดนิ สอสขี องเพอ่ื นเราจะทาอยา่ งไร (ขอยมื เพื่อน)
๓) สนทนากบั เด็กเรื่อง “เตา่ ” โดยใช้บัตรภาพมาให้เดก็ ได้เรียนรู้ลักษณะของเตา่ และเชอ่ื มโยงเขา้ สกู่ ารเล่า

นิทาน เร่ือง “แหวนแหง่ ความซ่ือสัตย์” โดยใชห้ ุ่นถุงกระดาษมาใช้ประกอบการเลา่ นทิ านเพอ่ื ให้เดก็ เกิดความสนใจ
๔) เด็กและครูรว่ มกนั สนทนาเกี่ยวกบั นิทาน เรอ่ื ง “แหวนแหง่ ความซอ่ื สัตย์” โดยใช้คาถาม ดงั น้ี
• แหวนเปน็ ของใค
• ต้วมเตี้ยม ทาอะไรทเ่ี รยี กว่า “ซอ่ื สตั ย์” (เอาแหวนไปคนื เจ้าของ)
• ตว้ มเตี้ยม ทาอะไรที่เรียกว่า “ไมซ่ อื่ สัตย์” (เกบ็ แหวนไดแ้ ลว้ ไมเ่ อาไปคืนเจ้าของ)
• ต้วมเตย้ี ม ร้สู ึกอย่างไรเมือ่ ไม่พูดความจริง (ไมส่ บายใจ ป่ันปว่ นในทอ้ ง)
• ต๊อกแต๊ก พสี่ าวของต้วมเต้ียม ช่วยให้ต้วมเต้ียมหายปวดท้องอย่างไร (แนะนาให้ต้วมเต้ียมเอาแหวน

ไปคนื เจ้าของ)
• การท่ี ตอ๊ กแต๊ก พูดว่า “ต้วมเตี้ยมทาถูกตอ้ งแลว้ ” คอื การกระทาอะไร (การช่วยกันแนะนา เพื่อชว่ ย

ต่อต้านการทจุ ริต)
• ถ้าเราพบสงิ่ ของที่เจ้าของทาตกไว้ เราจะทาอย่างไร (จะเอาไปคนื เจา้ ของ)

๕) เด็กและครรู ่วมกนั สรุปข้อคิดทีไ่ ดจ้ ากนิทานเองนี้ด้วยกัน

๔.๒ สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรียนรู้
๑) คาคล้องจอง “ดินสอแก้วตา”

๒) นิทาน เรื่อง “แหวนแหง่ ความซอื่ สตั ย์”
๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้

๕.๑ วธิ ีกำรประเมิน
สงั เกตพฤตกิ รรม

๕.๒ เคร่ืองมอื ท่ใี ช้ในกำรประเมนิ
แบบสังเกตพฤติกรรม

๕.๓ เกณฑ์กำรประเมิน
เด็กผา่ นการประเมินระดบั ๒ ขึ้นไป ถอื วา่ ผา่ น

บันทกึ หลังสอน

หนว่ ยการสอนที่................ แผนการจัดการเรียนรู้ที่..............
บนั ทกึ หลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(.................................................)
ครูผูส้ อน

ควำมคดิ เหน็ ของผู้อำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกนั ตนา จิตรบรรจง)
ผ้อู านวยการโรงเรียนวดั คลองห้า

๗. ภำคผนวก

“ดินสอแก้วตำ”

ดินเอ๋ยดินสอ ขอยืมได้ไหม
เห็นแล้วอยากได้ เพราะว่าสวยดี
เธอซ้ือท่ีไหน ขอได้ไหมนี่
ดูสิดูซี ช่างสวยบาดตา
ดินสอของเธอ ฉันเผลอถือมา
คนื ให้แก้วตา ไม่ใช่ของเรา
แม้วา่ อยากได้ แต่ไม่กล้าเอา
เปน็ ของใครเขา เขาต่างกร็ ัก
ฉนั สง่ คนื เธอ เธอยม้ิ ทายทัก
ดินสองามนัก ฉนั จกั แบง่ เธอ

นทิ ำน เรอื่ ง แหวนแหง่ ควำมซ่อื สัตย์

ต๊อกแตก๊ และต้วมเตีย้ มเป็นเตา่ ทะเล ชอบว่ายน้ากลางแสงแดด วนั หนง่ึ ขณะทีต่ ว้ มเตี้ยมกาลัง
วา่ ยนา้ ใกล้กับชายหาดที่มีผูค้ นมาเล่นนา้ จานวนมาก ต้วมเต้ียมมองเห็นแหวนทองคาแสนสวยแวววาว
ที่สดุ เทา่ ที่เคยเห็นมา ตกอยูท่ พี่ ้ืนใต้นา้ “ใครทาแหวนตกไว้นะ” “แตม่ นั ไมใ่ ช่ของฉนั น่นี า” “แลว้ ทาไม
มนั จะเป็นของฉันไม่ได้ละ่ ” ต้วมเต้ยี มพูดกบั ตัวเอง “ฉันเป็นคนเจอก็ต้องเปน็ ของฉนั สิ” ต้วมเตยี้ มว่ายนา้
ไปพร้อมกบั สวมแหวนทองคาแสนสวยแวววาวไวบ้ นนว้ิ เลก็ ๆ สเี ขยี ว เวลาทต่ี ้วมเต้ยี มแหวกว่าย แหวน
บนนิ้วสีเขียวยิง่ ดูสวยงามเป็นประกายแวววาว “ดูที่แหวนของฉนั สิ ช่างสวยเหลือเกิน เพื่อนๆ ต้องชอบ
แหวนของฉันแน่ๆ” ขณะที่บนชายหาด ต้วมเตี้ยมได้ยินเสียงใครบางคนตะโกนว่า “มีใครเห็นแหวน
ของฉันไหม” “มีใครเห็นแหวนทองคาแสนสวยแวววาวที่สุดไหม” ต้วมเตี้ยมชักลังเลสงสัยว่าจะเป็น
แหวนที่ต้วมเต้ียมเก็บได้หรือเปล่านะ “ไม่ใช่หรอกน่า” ต้วมเต้ียมบอกตัวเอง “ไม่ใช่หรอก ไม่ใช่แน่ๆ
ไม่ใช่แหวนของฉันหรอก” เมื่อต้วมเต้ียมว่ายน้าจากชายฝั่งไปกลางทะเลลึก เพ่ือนาแหวนแสนสวยไป
อวดเพื่อนๆ เพื่อนๆ ของต้วมเต้ียมเห็นแหวนทองคาแสนสวยแวววาวท่ีสุดบนนวิ้ ของตว้ มเตี้ยม “สวย
ท่ีสุดเลย สวยท่ีสุดเลย” แล้วถามต้วมเต้ียมว่า “ต้วมเต้ียมเธอได้แหวนวงน้ีมาจากไหนจ๊ะ” “โอ เอ่อ
ฉัน ฉัน เออ่ ซื้อมาจะ้ ” ต้วมเตย้ี มอกึ อกั เมือ่ ต้องตอบคาถามเพื่อน ต้วมเตี้ยมรตู้ วั ดีว่าเธอไม่ได้พูดความ
จริง ทอ้ งของตว้ มเต้ยี มเรมิ่ ป่นั ปว่ น เหมอื นมีผีเสอ้ื เป็นรอ้ ยๆ ตวั บินวนเวยี นอยใู่ นทอ้ ง ตว้ มเต้ียมรสู้ กึ ไม่
สบาย จึงรบี ว่ายน้าไป ต๊อกแต๊ก พี่สาวของต้วมเต้ยี มได้ยนิ เรือ่ งแหวนของตว้ มเตี้ยมจากเพื่อนๆ จงึ ว่าย
นา้ ออกตามหาต้วมเตีย้ มและเห็นแหวนแสนสวยวงนน้ั “ตว้ มเตี้ยมจะ๊ นอ้ งเอาแหวนมาจากไหน” “เอ่อ
เออ่ ฉัน เอ่อ มีคนให้ฉันมา เอ้ย ฉันซ้ือมา เออ่ ไมใ่ ช่ ฉนั เก็บได้ เออ่ ฉัน ฉัน…” ต้วมเตี้ยมพยายามตอบ
คาถามพส่ี าวอย่างตะกุกตะกกั “ตว้ มเต้ียม” ต๊อกแต๊ก พูดเสยี งอ่อนโยนแลว้ ถามอีกครั้งว่า “น้องไปเอา
แหวนมาจากไหนจ๊ะ” “คือฉันเก็บมันไดท้ ี่ชายหาด แถวๆ ท่ีมีคนเล่นน้าจ้ะพ่ีต๊อกแต๊ก” ต้วมเตย้ี มก้มหน้า
ตอบพึมพา “น้องคิดว่าใครอาจจะทาแหวนตกหายหรอื เปลา่ จ๊ะ” ต๊อกแตก๊ ถามต่อ ต้วมเตยี้ มมองหน้า
พ่ีสาวและพยักหน้า “น่าจะเปน็ อยา่ งน้ันล่ะจ้ะ” “น้องคิดว่า น้องน่าจะทาอย่างไรดีกบั แหวนท่ีน้องเก็บ
ได”้ ตอ๊ กแตก๊ ถามต้วมเต้ียม ต้วมเตย้ี มหยดุ คิดสักคร่หู นง่ึ แล้วตอบว่า ฉนั คิดว่า ฉันน่าจะว่ายน้ากลบั ไป
ท่ชี ายหาดและเอาแหวนไปให้ตารวจ ตารวจจะไดต้ ามหาเจ้าของจ้ะ” “พ่ีคิดวา่ น่ันเป็นสิ่งดีทส่ี ุดเลยจ้ะ
ต้วมเต้ียม น้องคิดวา่ น้องทาถูกต้องหรือเปล่าจ๊ะ” ต้วมเตี้ยมรีบพยักหน้า “แน่นอนจ้ะ พ่ีต๊อกแต๊ก”
ในท่ีสุด ต้วมเตี้ยมก็เอาแหวนทองคาแสนสวยแวววาวที่สุดเท่าท่ีเธอเคยเห็นมา มอบให้ตารวจ แล้ว
ตารวจกน็ าไปคนื เจา้ ของทแี่ ทจ้ รงิ ตอ่ ไป

ต้วมเต้ียมว่ายน้ากลับบ้าน และเจอพ่ีสาวกาลังรออยู่“พี่ต๊อกแต๊กจ๋า ฉันไม่ชอบเป็นคนไม่
ซื่อสัตยเ์ ลย ฉันรูส้ ึกดีขึ้นตั้งเยอะเวลาพูดความจริง ตอนน้ีผีเส้ือในท้องของฉันหายไปหมดแล้ว ไม่ปวด
ท้องแล้ว” ต๊อกแต๊กจึงบอกต้วมเตี้ยมว่า “เม่ือเราพูดความจริง เราจะรู้สึกดีทั้งข้างในท้ังข้างนอก แต่
เวลาเราทาไม่ดี เราก็จะรู้สึกไม่สบายตัวไม่สบายใจ พี่ดีใจมากที่ต้วมเต้ียมทาสิ่งที่ถูกต้อง ดีจริงที่น้อง
หายปวดทอ้ งและรู้สึกสบายทอ้ งแลว้ ถา้ ง้นั เรามากนิ ขนมเคก้ กันดกี ว่า”

http://dl.dropbox.com/u/๗๗๘๗๕๘๑/ring_of_honesty.mp๓%๕D
Click to hear the story of The Ring of Honesty.

The original story is posted on the โตไปไม่โกง website here

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมของเดก็

หน่วยท่ี ๓ ชื่อหน่วย STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ ริต
แผนการจดั ประสบการณ์ท่ี ๖ เร่อื ง ความหมายของการตา้ นทจุ ริต

วันท่ี.............เดอื น.............................พ.ศ............................
คำช้แี จง: ให้ผู้ประเมินทาเครอื่ งหมาย  ในช่องระดับคุณภาพของเด็กในแต่ละประเดน็ ท่ีประเมิน

ที่ ชอื่ -สกลุ มพี ฤติกรรมซ่อื สตั ย์สุจรติ
๓ ๒๑

รวม
เฉลย่ี

ลงชือ่ ...........................................................ผปู้ ระเมิน
(..........................................................)

เกณฑก์ ำรประเมนิ
มีพฤติกรรมซือ่ สตั ยส์ ุจริต

ระดบั ๓ : เดก็ มพี ฤติกรรมที่ซ่อื สัตย์สจุ ริตได้ด้วยตนเอง
ระดับ ๒ : เดก็ มพี ฤตกิ รรมทซ่ี ่ือสัตย์สจุ ริตไดโ้ ดยมีผู้ช้ีแนะ
ระดับ ๑ : เดก็ ไมม่ ีพฤตกิ รรมทีซ่ ่อื สตั ยส์ ุจริต

แผนกำรจดั ประสบกำรณ์

หนว่ ยท่ี ๓ ชอ่ื หนว่ ย STRONG : จติ พอเพยี งต้านทจุ รติ ชน้ั ปฐมวยั
แผนกำรจดั ประสบกำรณท์ ี่ ๗ เรอื่ ง การรับประทานอาหารท่สี อดคล้องกับ STRONG เวลำ ๑ ช่วั โมง

๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ ปฏิบตั ติ นเป็นผู้ท่ี STRONG : จติ พอเพยี งต้านทุจรติ

๒. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
๒.๑ สามารถบอกวิธีการรับประทานอาหารอยา่ งพอเพียง แบ่งปัน และเคารพกฎ กติกา หรือขอ้ ตกลงของการ

รับประทานอาหารได้
๓. สำระกำรเรียนรู้

๓.๑ ควำมรู้
การรับประทานอาหารอย่างพอเพียง หมายถึง การรับประทานอาหารให้เพียงพอต่อความต้องการของ

ร่างกายไม่รับประทานมากเกินไปหรือน้อยเกินไป โดยรู้จักกิน รู้จักแบ่งปันและ เคารพกติกา ข้อตกลงของการ
รบั ประทานอาหาร

๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะท่ีเกดิ )
๑) มที กั ษะชวี ิตและปฏิบตั ิตนตามหลักปรชั ญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง
๒) มีทกั ษะการคดิ การใชภ้ าษาสือ่ สาร

๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์/ค่ำนิยม
อยู่อย่างพอเพยี ง ความเอื้อเฟอ้ื เผ่ือแผ่

๔. กำรจดั ประสบกำรณ์
๔.๑ ข้ันตอนกำรจัดประสบกำรณ์
๑) เดก็ และครู ร่วมกันร้องเพลง “มากินข้าวสิ ”
๒) ครูสนทนากับเดก็ ถึง เรอ่ื ง “อาหารไทย” ครูยกตัวอย่างอาหารไทย มา ๕ อย่าง มีต้มข่าไก่ ผัดผัก ไข่เจียว

ตม้ ยากุ้ง น้าพริกปลาทู ผกั ตม้
๓) ครบู อกเดก็ ว่า วันน้ีเราจะมาทาอาหารทานกนั นะคะ ครูเตรยี มของมา สาหรบั ทาไข่เจยี ว โดยกาหนด

ข้อตกลงใหเ้ ดก็ ดังนี้
• ใหเ้ ด็กแบ่งกลุ่มๆ ละ ๕ คน
• ครูแจกไขใ่ ห้เดก็ กลุม่ ละ ๓ ฟอง
• ครูมเี ครอื่ งปรุงรสให้กบั เด็กกลุ่มละ ๑ ชดุ โดยใหเ้ ด็กได้ตวงส่วนผสมเอง
• เม่ือทาเสรจ็ ใหเ้ ดก็ นาไข่เจียวไปทานรว่ มกันในกลุ่ม โดยแบง่ กนั ทาน

๔) เด็กและครรู ่วมกนั สรปุ เกีย่ วกับการทาไข่เจยี วและรับประทานไข่เจยี วร่วมกนั โดยใช้ คาถาม ดังน้ี
• เรามีวธิ ีการรบั ประทานไขเ่ จยี วรว่ มกันอย่างไร (แบ่งกนั ทานทกุ คน)
• แลว้ เราคดิ ว่าเราจะแบ่งไข่ อยา่ งไร (แบง่ ใหเ้ ท่าๆกนั )
• เรามีกติกาของกลุ่มในการรบั ประทานอาหารหรอื ไม่ ถา้ ไม่มีใหร้ ่วมกันคิดกติกาในการรับประทานอาหาร

(มี คือ ทกุ คนตอ้ งแบ่งปนั กัน ทานแต่พอประมาณ ไมแ่ ยง่ กนั ทานเสร็จแลว้ ก็ต้องช่วยกันเกบ็ )
๔.๒ สือ่ กำรเรยี นร/ู้ แหลง่ กำรเรยี นรู้
๑) อปุ กรณท์ าไข่เจยี ว (ไข/่ กระทะ/ซอส/นา้ มนั /ผกั )
๒) รปู ภาพอาหารไทย

๕. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้

๕.๑ วิธีกำรประเมิน
สังเกตการตอบคาถามและการเลา่ เรือ่ งของเดก็

๕.๒ เคร่อื งมือทใ่ี ชใ้ นกำรประเมนิ
แบบสงั เกตการตอบคาถามและการเล่าเรอ่ื ง

๕.๓ เกณฑ์กำรประเมนิ
เด็กผา่ นการประเมินระดับ ๒ ขึน้ ไป ถอื วา่ ผ่าน

บันทกึ หลังสอน

หน่วยการสอนที.่ ............... แผนการจัดการเรยี นรทู้ .่ี .............
บนั ทึกหลงั สอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(.................................................)
ครูผสู้ อน

ควำมคดิ เหน็ ของผู้อำนวยกำรโรงเรยี น (ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จิตรบรรจง)
ผูอ้ านวยการโรงเรยี นวัดคลองห้า

๗ ภำคผนวก

ภำพอำหำรไทย

เพลง มำกนิ ข้ำวสิ

มำกินข้ำวซิ มำกินข้ำวซิ
กับดีดี กบั ดีดี มีท้ังแกงและต้มยำ
อำ อำ่ อำ อรอ่ ยดี

แบบสงั เกตกำรตอบคำถำมของเดก็

หนว่ ยท่ี ๓ ช่อื หน่วย STRONG : จติ พอเพยี งต้านทุจริต
แผนการจดั ประสบการณ์ที่ ๗ เรอ่ื ง การรบั ประทานอาหารท่สี อดคล้องกบั STRONG

วนั ท่ี.............เดอื น.............................พ.ศ............................
คำชแ้ี จง: ให้ผปู้ ระเมินทาเครือ่ งหมาย  ในช่องระดับคุณภาพของเด็กในแต่ละประเด็นทป่ี ระเมิน

ท่ี ชือ่ -สกุล บอกวิธรี บั ประทานอาหารอย่างพอเพียง
แบง่ ปันและเคารพกติกา ขอ้ ตกลง
ของการรบั ประทานอาหาร

๓ ๒๑

รวม
เฉล่ีย

ลงช่ือ...........................................................ผู้ประเมิน
(........................................................)

เกณฑก์ ำรประเมิน
บอกวิธรี บั ประทานอาหารอย่างพอเพียง แบง่ ปนั และเคารพกฏิกาขอ้ ตกลงของการรับประทานอาหาร

ระดับ ๓ : เด็กสามารถบอกวธิ รี บั ประทานอาหารอยา่ งพอเพยี ง แบง่ ปันและเคารพกตกิ าของการรับประทาน
อาหารไดด้ ว้ ยตนเอง

ระดบั ๒ : เดก็ สามารถบอกวิธีรบั ประทานอาหารอยา่ งพอเพียง แบง่ ปันและเคารพกติกาของการรับประทาน
อาหารได้โดยมีผ้ชู ี้แนะ

ระดับ ๑ : เด็กไมส่ ามารถบอกวิธรี ับประทานอาหารอยา่ งพอเพยี ง แบง่ ปนั และไม่เคารพกตกิ าของการ
รับประทานอาหารได้

แผนกำรจัดประสบกำรณ์ ช้ันปฐมวัย
หนว่ ยที่ ๓ ชื่อหนว่ ย STRONG : จิตพอเพยี งต้านทจุ รติ เวลำ ๑ ชวั่ โมง
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ ๘ เรอื่ ง การช่วยเหลือเพ่อื นทส่ี อดคล้องกับ STRONG

๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้ที่ STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ รติ

๒. จุดประสงค์กำรเรยี นรู้
๒.๑ เดก็ สามารถอธบิ ายวิธกี ารชว่ ยเหลอื เพอื่ นได้

๓. สำระกำรเรียนรู้
๓.๑ ควำมรู้
การช่วยเหลือเพ่ือน คือ การมีน้าใจ เมตตากรุณา ช่วยเหลือแบ่งปัน แสดงความรักเพ่ือน เห็นอกเห็นใจ

ผู้อ่นื เดก็ ได้เรยี นรู้ ทากิจกรรมรว่ มกนั กบั เพ่อื นไดอ้ ยา่ งมีความสขุ
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะที่เกดิ )
๑) มที กั ษะชีวิต และอยู่ร่วมกับผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมีความสขุ
๒) มีทักษะการคดิ การใชภ้ าษาสือ่ สาร
๓.๓ คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม
ความเออ้ื เฟ้อื เผื่อแผ่

๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ขั้นตอนกำรจัดประสบกำรณ์
๑) ใหเ้ ดก็ ดนู ิทาน เร่อื ง “เราผองเพือ่ น” จากนน้ั รว่ มกนั สนทนา โดยครูใช้คาถาม ดงั นี้
• เกดิ เหตุการณ์อะไรขึน้ กับเจา้ กวาง (เสอื จะมาจับกิน)
• เจา้ กวางโดนเสอื จับกนิ ไดห้ รือไม่ เพราะเหตใุ ด (ไม่ได้ เพราะเพ่ือนๆ เหลา่ สัตว์ทงั้ หลายมาช่วยเจ้ากวางไว้)
• ทาไมเจ้าเสือถงึ ต้องหนไี ป (เพราะเจ้าเสอื ปวดหู จากเสียงสตั วต์ ่างๆ ท่ีมาช่วยเจา้ กวาง)
• ถ้าเราเป็นเพ่ือนของเจ้ากวาง เราจะทาอย่างไร (ก็จะช่วยเหลือเจ้ากวางให้รอดจากการเป็นอาหาร

ของเจ้าเสอื เชน่ กนั )
๒) ใหเ้ ด็กเลา่ ประสบการณข์ องตนเองเกยี่ วกับการชว่ ยเหลือเพ่อื น ใหเ้ พอ่ื นๆ ในชน้ั ฟัง
๓) เดก็ และครูร่วมกนั สรปุ เก่ยี วกับวธิ กี ารปฏิบตั ติ นท่ดี ีตอ่ เพ่ือน การช่วยเหลือเพือ่ น

๔.๒ สื่อกำรเรยี นร/ู้ แหล่งกำรเรยี นรู้
นทิ าน เรื่อง “เราผองเพ่อื น”

๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้

๕.๑ วิธกี ำรประเมนิ
สงั เกตการตอบคาถามและการเล่าเรือ่ งของเด็ก

๕.๒ เครอ่ื งมือทใี่ ช้ในกำรประเมิน
แบบสังเกตการตอบคาถามและการเลา่ เรอ่ื ง

๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมนิ
เดก็ ผา่ นการประเมินระดบั ๒ ขึน้ ไป ถอื ว่าผา่ น

บนั ทกึ หลงั สอน

หนว่ ยการสอนท่.ี ............... แผนการจดั การเรยี นรูท้ ี่..............
บนั ทึกหลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(.................................................)
ครูผู้สอน

ควำมคดิ เหน็ ของผู้อำนวยกำรโรงเรยี น (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จติ รบรรจง)
ผู้อานวยการโรงเรียนวดั คลองหา้

๗. ภำคผนวก

นทิ ำน เรอ่ื ง เรำผองเพ่ือน

https://www.youtube.com/watch?v=aP๘PtAhk๐Zc

แบบสงั เกตกำรตอบคำถำมของเดก็

หนว่ ยท่ี ๓ ชอ่ื หน่วย STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทุจรติ
แผนการจดั ประสบการณ์ท่ี ๘ เรอ่ื ง การชว่ ยเหลอื เพ่ือนท่สี อดคล้องกบั STRONG

วนั ท่.ี ............เดือน.............................พ.ศ............................
คำช้ีแจง: ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ทาเครือ่ งหมาย  ในช่องระดบั คณุ ภาพของเดก็ ในแต่ละประเดน็ ทปี่ ระเมิน

ท่ี ชือ่ -สกุล การชว่ ยเหลือเพ่อื น ๑
๓๒

รวม
เฉลย่ี

ลงชอ่ื ...........................................................ผ้ปู ระเมนิ
(........................................................)

เกณฑก์ ำรประเมิน
การช่วยเหลอื เพ่อื น

ระดบั ๓ : เด็กสามารถช่วยเหลอื เพื่อนได้ดว้ ยตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ สามารถช่วยเหลือเพอ่ื นได้โดยมผี ูช้ ี้แนะ
ระดับ ๑ : เดก็ ไม่สามารถช่วยเหลอื เพื่อนได้

แผนกำรจัดประสบกำรณ์

หน่วยท่ี ๓ ช่อื หนว่ ย STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ ริต ชน้ั ปฐมวัย
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี ๙ เร่อื ง การใช้กระดาษท่ีสอดคล้องกับ STRONG เวลำ ๑ ชว่ั โมง

๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑ ปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้ท่ี STRONG : จิตพอเพียงต้านทจุ ริต

๒. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
๒.๑ เราสามารถบอกวิธีการใชก้ ระดาษอย่างประหยัดได้
๒.๒ เราสามารถใช้กระดาษได้อย่างประหยัด

๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
การใชก้ ระดาษอย่างประหยัด หมายถึง การรจู้ กั ใช้กระดาษอยา่ งพอเพียง ใช้เท่าทีจ่ าเป็น ใช้ให้เกิดประโยชน์

และคุ้มคา่
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะทเ่ี กดิ )
๑) มที ักษะชวี ิต
๒) มีทักษะการคดิ การใช้ภาษาสอ่ื สาร
๓.๓ คณุ ลกั ษณะที่พึงประสงค/์ คำ่ นิยม
ความประหยัด อยอู่ ยา่ งพอเพยี ง

๔. กำรจดั ประสบกำรณ์
๔.๑ ข้ันตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) ให้เดก็ ดคู ลิปวีดโี อ เรื่อง “ใช้สิ่งของอยา่ งไร ใหป้ ระหยัดและคุ้มคา่ ” จากน้ันร่วมกนั สนทนา โดยครใู ช้

คาถาม ดังน้ี
• เน้ือเรอื่ งในวดี ีโอ เกยี่ วกับเร่อื งอะไร (การใชส้ ่งิ ของอยา่ งประหยดั )
• ในเรือ่ งตัวละครมีพฤติกรรมอยา่ งไรที่แสดงถึงการประหยดั (ทานอาหารหมด ไม่เหลอื , ซ่อมแซมเส้ือผา้ ,

ปิดไฟ ปดิ พัดลม หลงั เลิกใช้, ปดิ น้าขณะแปรงฟนั )
๒) ครูนางานศิลปะ ฉีก ตัด ปะ มาทารว่ มกบั เด็ก โดยครสู าธิตการทางาน ฉกี ตัด ปะ และกาหนดขอ้ ตกลง

กบั เด็ก
• ครูมีกระดาษสีสาหรับเดก็ คนละ ๓ สี ให้เดก็ สร้างรปู ผักจากการฉีก แปะลงกระดาษ โดยที่เดก็ ต้องใช้

กระดาษอยา่ งประหยัด
• เดก็ ทาเสรจ็ แล้วให้นามาเล่าใหค้ รูฟังว่าหนูได้ใช้กระดาษทาอะไรได้บ้าง

๓) ครูและเด็กร่วมกันสรุปเก่ยี วกบั การใชก้ ระดาษท่ีพอดีเหมาะสม
๔.๒ สอ่ื กำรเรยี นรู/้ แหลง่ กำรเรียนรู้

๑) คลิปวดี ีโอ เร่อื ง “ใช้สิง่ ของอย่างไร ใหป้ ระหยัดและคุม้ ค่า”
๒) กระดาษสตี ่างๆ
๓) กาว

๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ำรประเมิน

๑) สังเกตการตอบคาถาม
๒) สังเกตพฤตกิ รรมการใช้กระดาษอยา่ งประหยดั
๕.๒ เคร่ืองมอื ท่ใี ชใ้ นกำรประเมนิ
๑) แบบสังเกตการตอบคาถาม
๒) แบบพฤตกิ รรมการใชก้ ระดาษอย่างประหยัด
๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมนิ
เดก็ ผา่ นการประเมินระดบั ๒ ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน

บันทึกหลงั สอน

หน่วยการสอนที่................ แผนการจัดการเรียนรู้ท.ี่ .............
บันทึกหลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(.................................................)
ครูผสู้ อน

ควำมคดิ เห็นของผู้อำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จิตรบรรจง)
ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั คลองห้า

๗. ภำคผนวก

คลปิ วีดโี อ เรอื่ ง ใช้สิง่ ของอยำ่ งไร ใหป้ ระหยดั และค้มุ คำ่

https://www.youtube.com/watch?v=๕๒itPpm๖rdk

แบบสงั เกตกำรตอบคำถำมของเดก็

หน่วยที่ ๓ ชื่อหนว่ ย STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ ริต
แผนการจัดประสบการณ์ที่ ๙ เร่อื ง การใชก้ ระดาษทสี่ อดคล้องกบั STRONG

วนั ที่.............เดอื น.............................พ.ศ............................
คำชี้แจง: ให้ผ้ปู ระเมินทาเคร่อื งหมาย  ในชอ่ งระดับคุณภาพของเด็กในแตล่ ะประเดน็ ทปี่ ระเมิน

บอกวิธกี ารใชก้ ระดาษ ใชก้ ระดาษ

ที่ ชอ่ื -สกุล อย่างประหยัดได้ ไดอ้ ย่างประหยดั

๓๒๑๓๒๑

รวม
เฉล่ยี

ลงชอื่ ...........................................................ผู้ประเมนิ
(......................................................)

เกณฑก์ ำรประเมนิ
บอกวธิ ีการใช้กระดาษอย่างประหยัดได้

ระดบั ๓ : เดก็ สามารถบอกวิธกี ารใชก้ ระดาษอยา่ งประหยดั ไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดับ ๒ : เด็กสามารถบอกวธิ กี ารใช้กระดาษอยา่ งประหยดั ได้โดยมผี ู้ชีแ้ นะ
ระดับ ๑ : เดก็ ไม่สามารถบอกวธิ กี ารใช้กระดาษอยา่ งประหยดั ได้

การใช้กระดาษได้อยา่ งประหยดั
ระดบั ๓ : เดก็ สามารถใช้กระดาษอยา่ งประหยดั ไดด้ ้วยตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ สามารถใช้กระดาษอย่างประหยดั ได้โดยมีผู้ชี้แนะ
ระดบั ๑ : เด็กไมส่ ามารถใช้กระดาษอยา่ งประหยัดได้

หน่วยท่ี ๔
พลเมอื งกบั ควำมรับผิดชอบต่อสงั คม

แผนกำรจดั ประสบกำรณ์

หน่วยที่ ๔ ช่ือหน่วย พลเมืองกับความรบั ผดิ ชอบตอ่ สังคม ชั้นปฐมวยั
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี ๑ เรอื่ ง ความรับผิดชอบต่อตนเอง (การแปรงฟนั ) เวลำ ๑ ชั่วโมง

๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมีความรับผิดชอบต่อสังคม
๑.๒ ปฏิบตั ิตนตามหน้าที่พลเมอื งและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สงั คม

๒. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
๒.๑ สามารถดูแลรักษาฟนั ได้ดว้ ยตนเอง

๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
ร่างกายของเราประกอบด้วยอวัยวะต่างๆ ซึ่งอวัยวะเหล่าน้ีมหี น้าท่ีแตกตา่ งกัน เช่น จมูกใช้หายใจ ปากใช้พูด

และรับประทานอาหาร ฟันใช้บดเคี้ยวอาหาร เป็นต้น อวัยวะทุกส่วนลว้ นมีความสาคัญ เราจึงควรดูแลรกั ษาอวยั วะ
ของเราดว้ ยตนเองอยา่ งถูกวธิ ี

๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะทีเ่ กิด)
๑) มที ักษะชวี ิตอยา่ งมีความสุข
๒) มีทกั ษะการคดิ การใช้ภาษาส่อื สาร

๓.๓ คุณลักษณะทพี่ งึ ประสงค/์ ค่ำนยิ ม
มีวินัย ความรับผดิ ชอบ

๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ขัน้ ตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) ครูให้เด็กเล่นเกมภาพตัดต่อร่างกายของเรา เมื่อต่อเสร็จให้เด็กช่วยกันสังเกตและทบทวนว่าร่างกาย

ของเราประกอบด้วยอวยั วะใดบา้ ง และมหี น้าท่ีอยา่ งไร
๒) ครูแนะนาเพลง “แปรงฟนั ” ใหเ้ ดก็ รอ้ งและทาท่าประกอบเพลงตามจินตนาการ
๓) ครนู าโมเดลฟันจาลอง หรือภาพฟนั จาลองมาให้เด็กสงั เกต แล้วสนทนาเกี่ยวกับลกั ษณะของฟัน หนา้ ท่ี

ของฟนั แล้วสนทนาแลกเปลีย่ นประสบการณ์ร่วมกนั โดยถามคาถามกระตุน้ ความคดิ ดังนี้
• ลกั ษณะของฟนั เป็นอยา่ งไรบ้าง
• ฟันมีหน้าทอี่ ะไร
• เด็กๆ เคยปวดฟนั หรอื ไม่ เพราะอะไรจึงปวด

๔) ครูให้เดก็ สอ่ งกระจก แล้วสังเกตฟันของตนเอง จากนั้นให้จบั คกู่ บั เพอ่ื นผลัดกันสังเกตช่องปากและฟัน
ของคตู่ นเอง แล้วลองเปรยี บเทยี บกันวา่ เป็นอยา่ งไร เชน่ สีของปาก ลน้ิ ฟนั

๕) ครูใหอ้ าสาสมัครออกมานาเสนอผลการสงั เกตช่องปากและฟนั ของตนเองและเพอ่ื น
๖) ครใู หเ้ ด็กเรียนรู้คาศพั ทเ์ กีย่ วกบั ฟัน และฝึกใหเ้ ดก็ ออกเสียงคาศพั ท์ใหถ้ ูกตอ้ ง เช่น Milk tooth Tooth
๗) ครใู ห้ความรู้เพ่มิ เตมิ เกย่ี วกบั ฟันว่า มีด้วยกัน ๒ ชุด คอื ฟนั น้านมจะเริ่มขึ้นเมือ่ อายุ ๖ เดอื น และฟนั แท้
จะเริม่ ขึ้นเม่อื อายุ ๖ ปี ฟันหน้ามีหน้าท่กี ดั ฉกี อาหาร ส่วนฟันกรามมหี น้าท่ีบดและเคยี้ วอาหารให้ละเอยี ด ลิน้ ช่วย
ในการพูด นอกจากนี้ ฟันยงั ชว่ ยทาให้รปู ปากและใบหนา้ มีลักษณะได้สัดสว่ นสวยงาม
๘) ครูให้เด็กทดลองแปรงฟนั ด้วยตนเอง

๙) ครูและเด็กร่วมกันแสดงความคิดเห็นเพิ่มเตมิ เกี่ยวกับหนา้ ท่ีของฟัน อาหารทีด่ ีต่อสุขภาพฟัน และวิธีการ
ดแู ลรกั ษาฟัน ดังน้ี

• แปรงฟันให้ถูกวธิ ีอยา่ งน้อยวนั ละ ๒ คร้งั
• หลีกเล่ียงขนมหวาน ลกู อม เพราะอาจทาให้ฟันผุ
• ไม่ควรใช้ฟันกัดของแขง็ เพราะจะทาใหฟ้ นั แตกและหักได้
๔.๒ ส่อื กำรเรยี นร/ู้ แหล่งกำรเรียนรู้
๑) เพลง “แปรงฟัน”
๒) เกมภาพตัดตอ่ ร่างกายของเรา
๓) โมเดลฟนั จาลองหรอื ภาพฟนั จาลอง
๔) บตั รคาศัพทเ์ กีย่ วกบั ฟนั
๕) บัตรภาพเก่ยี วกับฟนั
๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ำรประเมนิ
๑) สงั เกตการตอบคาถาม
๒) สังเกตพฤตกิ รรมความรับผิดชอบตอ่ ตนเองของเดก็
๕.๒ เคร่อื งมอื ท่ใี ชใ้ นกำรประเมิน
๑) แบบสงั เกตการตอบคาถาม
๒) แบบสงั เกตพฤตกิ รรมความรบั ผิดชอบตอ่ ตนเองของเด็ก
๕.๓ เกณฑ์กำรประเมิน
เดก็ ผ่านการประเมนิ ระดับ ๒ ขน้ึ ไปถือว่าผา่ น

บนั ทึกหลังสอน

หนว่ ยการสอนท.่ี ............... แผนการจัดการเรยี นรู้ท่.ี .............
บนั ทึกหลงั สอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(.................................................)
ครูผ้สู อน

ควำมคิดเห็นของผอู้ ำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จิตรบรรจง)
ผอู้ านวยการโรงเรียนวัดคลองห้า

๗. ภำคผนวก

เพลง แปรงฟัน
(ไม่ทราบนามผู้แตง่ )

ตน่ื เช้าเราแปรงฟัน กินอาหารแลว้ เราแปรงฟนั
กอ่ นนอนเราแปรงฟนั ฟันสะอาดใหข้ าวเงางาม
แปรงฟนั ให้ถูกวธิ ี ดซู ติ ้องแปรงข้ึนลง

ภำพฟัน

แบบสงั เกตกำรตอบคำถำมของเดก็

หน่วยท่ี ๔ ช่อื หน่วย พลเมืองกบั ความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม

แผนการจัดประสบการณ์ที่ ๑ เรอื่ ง ความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง (การแปรงฟนั )
วันที่.............เดอื น.............................พ.ศ............................

คำช้แี จง: ให้ผปู้ ระเมนิ ทาเครือ่ งหมาย  ในชอ่ งระดบั คณุ ภาพของเด็กในแต่ละประเดน็ ทีป่ ระเมิน

ที่ ชื่อ-สกลุ เด็กสามารถแปรงฟันได้ดว้ ยตนเอง
๓ ๒๑

รวม
เฉลย่ี

ลงช่ือ...........................................................ผ้ปู ระเมนิ
(......................................................)

เกณฑ์กำรประเมิน
เดก็ สามารถแปรงฟนั ไดด้ ้วยตนเอง

ระดับ ๓ : เด็กสามารถแปรงฟันไดด้ ้วยตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ สามารถแปรงฟันได้ดว้ ยตนเองโดยมผี ู้ช้แี นะ
ระดับ ๑ : เดก็ ไม่สามารถแปรงฟันไดด้ ้วยตนเอง

แผนกำรจดั ประสบกำรณ์

หนว่ ยท่ี ๔ ช่ือหน่วย พลเมอื งกบั ความรบั ผดิ ชอบตอ่ สงั คม ช้นั ปฐมวยั
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี ๒ เรื่อง ความรบั ผิดชอบต่อตนเอง (การแต่งกาย) เวลำ ๑ ชั่วโมง

๑. ผลกำรเรียนรู้

๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกบั พลเมืองและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม

๑.๒ ปฏบิ ตั ิตนตามหนา้ ท่ีพลเมืองและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม

๒. จุดประสงค์กำรเรียนรู้

๒.๑ เด็กสามารถบอกวธิ ีการแตง่ กาย (ช่วยเหลอื ตนเอง) ได้
๒.๒ เดก็ สามารถแต่งกาย (ชว่ ยเหลือตนเอง) ได้
๓. สำระกำรเรียนรู้

๓.๑ ควำมรู้

การแต่งกายที่ถกู ต้อง

๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะทเ่ี กิด)
๑) มีทักษะชีวิต
๒) มที กั ษะการคดิ การใชภ้ าษาสอ่ื สาร

๓.๓ คณุ ลักษณะทีพ่ งึ ประสงค/์ ค่ำนิยม
มีวนิ ัย ความรบั ผดิ ชอบ

๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ขนั้ ตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) ครูนาภาพเดก็ ที่แต่งตวั เรียบร้อยถกู ระเบยี บกบั เดก็ ทแ่ี ต่งตัวไมเ่ รียบรอ้ ยมาใหเ้ ด็กดู แล้วรว่ มกนั สนทนา

โดยครใู ช้คาถาม ดังนี้
• ถา้ จะให้เลอื ก เราอยากเป็นเด็กในภาพใด เพราะเหตุใดถึงเลอื กภาพนน้ั (เลือกเด็กภาพท่ี ๑ เพราะแต่งตัว

ถกู ระเบยี บของโรงเรยี น แสดงวา่ เขาเปน็ ผู้มีวนิ ยั ในตนเอง)
• การปล่อยชายเส้ือออกนอกกางเกง เราคิดว่าเป็นการกระทาท่ีถูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ถูกต้อง

เพราะแต่งกายไม่เรียบร้อย ผดิ ระเบียบของโรงเรียน แสดงว่าเป็นคนไมม่ วี นิ ยั ในตนเอง)
• เราสามารถช่วยเหลือตนเองในการใสเ่ สื้อผา้ เองไดห้ รอื ไม่ (ใสเ่ องได้)
๒) ให้เด็กเล่นเกมแต่งกายให้ตนเอง โดยครูช้ีแจงวิธีการเลน่ ว่า ครูจะมีเคร่ืองแต่งตัวใส่ตะกร้ามาให้เด็ก

จากนนั้ ให้เด็กนาสิง่ ของเหลา่ นั้นมาแตง่ กายเอง ใครใส่ได้ถกู ต้องและเสรจ็ ก่อน ถือว่าเป็นผูช้ นะ)
๓) เด็กและครรู ่วมกันสนทนาถึงการช่วยเหลอื ตนเอง เชน่ การแตง่ กาย การรับประทานอาหาร การปฏบิ ัติ

กิจวตั รประจาวนั ว่าตนเองต้องรับผิดชอบตนเองใหไ้ ด้ ตอ้ งมีวินัยในตนเอง ไม่ปฏิบัตติ นใหเ้ ปน็ ภาระตอ่ ผ้อู ื่น
๔) ครสู รุปการแตง่ กายด้วยบทร้องเลน่ “การแตง่ กาย”

๔.๒ สื่อกำรเรียนร/ู้ แหล่งกำรเรียนรู้
๑) ภาพการแตง่ กาย
๒) อุปกรณเ์ ครอ่ื งแตง่ กาย เชน่ เสื้อผ้า กางเกง เข็มขัด
๓) บทร้องเลน่ “การแต่งกาย”

๕. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วธิ ีกำรประเมิน

๑) สงั เกตการตอบคาถาม
๒) สังเกตการปฏิบัตกิ ารแต่งกายด้วยตนเองของเดก็
๕.๒ เครือ่ งมอื ทใี่ ช้ในกำรประเมิน
๑) แบบสังเกตการตอบคาถาม
๒) แบบสงั เกตการปฏบิ ัตกิ ารแต่งกายด้วยตนเองของเด็ก
๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมิน

เด็กผา่ นการประเมนิ ระดบั ๒ ข้ึนไปถอื ว่าผา่ น

บันทกึ หลงั สอน

หน่วยการสอนท.ี่ ............... แผนการจัดการเรยี นรู้ท่.ี .............
บนั ทึกหลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(.................................................)
ครูผสู้ อน

ควำมคดิ เหน็ ของผอู้ ำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกนั ตนา จติ รบรรจง)
ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดคลองห้า

๗. ภำคผนวก

กำรแตง่ กำยทีถ่ ูกระเบียบ

กำรแต่งกำยทผี่ ดิ ระเบียบ

บทรอ้ งเลน่

เด็กดมี วี นิ ยั ใสเ่ สอ้ื กางเกง
ทาด้วยตวั เอง รีบเร่งเรว็ ไว
อีกทั้งเขม็ ขัด คาดทับให้ดี
ทาได้ตามนี้ หนดู ีแสนเก่ง
…………………………………………………….

(สมบัตร สบื ศักดิ์ : เรยี บเรียง)

แบบสงั เกตกำรตอบคำถำมของเดก็

หน่วยท่ี ๔ ช่อื หนว่ ย พลเมอื งกบั ความรับผดิ ชอบต่อสังคม
แผนการจดั ประสบการณ์ที่ ๒ เรือ่ ง ความรับผดิ ชอบตอ่ ตนเอง (การแต่งกาย)

วนั ท่.ี ............เดอื น.............................พ.ศ............................
คำชแ้ี จง: ให้ผ้ปู ระเมนิ ทาเครอ่ื งหมาย  ในช่องระดบั คณุ ภาพของเด็กในแต่ละประเด็นทป่ี ระเมิน

บอกวิธีการแตง่ กาย เด็กสามารถแตง่ กาย
ที่ ชอ่ื -สกลุ (ชว่ ยเหลือตนเอง) ได้ (ช่วยเหลือตนเอง) ได้

๓๒๑๓๒๑

รวม
เฉลยี่

ลงชือ่ ...........................................................ผปู้ ระเมิน
(......................................................)

เกณฑ์กำรประเมิน
บอกวธิ กี ารแต่งกาย (ช่วยเหลือตนเอง) ได้

ระดับ ๓ : เด็กสามารถบอกวิธกี ารแต่งกาย (ชว่ ยเหลือตนเอง) ได้ด้วยตนเอง
ระดบั ๒ : เด็กสามารถบอกวิธกี ารแตง่ กาย (ชว่ ยเหลอื ตนเอง) ได้โดยมผี ู้ชีแ้ นะ
ระดบั ๑ : เดก็ ไม่สามารถบอกวธิ ีการแต่งกาย (ช่วยเหลือตนเอง) ได้

เด็กสามารถแตง่ กาย (ชว่ ยเหลือตนเอง) ได้
ระดับ ๓ : เดก็ สามารถแตง่ กาย (ช่วยเหลอื ตนเอง) ไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ สามารถแต่งกาย (ช่วยเหลอื ตนเอง) ได้โดยมีผู้ชแี้ นะ
ระดับ ๑ : เดก็ ไม่สามารถแตง่ กาย (ชว่ ยเหลือตนเอง) ได้

แผนกำรจัดประสบกำรณ์ ชน้ั ปฐมวัย
หน่วยท่ี ๔ ชื่อหนว่ ย พลเมอื งกับความรบั ผดิ ชอบต่อสังคม เวลำ ๑ ช่ัวโมง
แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี ๓ เรอ่ื ง ความรับผิดชอบต่อตนเอง (การเรยี น)

๑. ผลกำรเรยี นรู้

๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกยี่ วกับพลเมอื งและมีความรับผิดชอบต่อสงั คม

๑.๒ ปฏิบตั ติ นตามหนา้ ที่พลเมืองและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม

๒. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้

๒.๑ สามารถบอกขอ้ ควรปฏบิ ตั ิในการเรยี นในห้องเรียนได้
๒.๒ สามารถบอกประโยชนข์ องการตัง้ ใจเรยี นได้
๒.๓ สามารถบอกสิ่งที่ควรปฏิบตั ิและไมค่ วรปฏิบัติในห้องเรยี นได้
๓. สำระกำรเรียนรู้
๓.๑ ควำมรู้

เด็กดีมีวินัยในการเรยี น ตอ้ งรู้หน้าท่ีของตนเอง เรยี นเล่นให้เป็นเวลา และเวลาเรียนต้องตง้ั ใจเรยี น

๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะที่เกิด)

๑) มีทักษะชีวิต
๒) มีทกั ษะการคดิ การใช้ภาษาส่ือสาร
๓.๓ คุณลกั ษณะทพ่ี ึงประสงค์/คำ่ นยิ ม
มีวินยั ใฝ่เรียนรู้
๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ข้นั ตอนกำรจัดประสบกำรณ์
๑) ครูและเดก็ รว่ มกนั ร้องเพลง “หน้าท่ีของเด็ก” พรอ้ มทาทา่ ทางประกอบเพลง
๒) ครูและเด็กรว่ มกนั สนทนาเก่ียวกับเนื้อหาในเพลง ดังน้ี

• หน้าทขี่ องเด็กดมี ีอะไรบ้าง
• เวลาเรียนหนังสอื ตอ้ งทาอย่างไร
• เม่อื อยใู่ นหอ้ งเรียน เราควรปฏบิ ัติตนอยา่ งไร
• สิ่งทไ่ี มค่ วรปฏบิ ตั ิ เมอ่ื อย่ใู นหอ้ งเรียนไดแ้ กอ่ ะไรบา้ ง
๓) ครูนาสงิ่ ท่ีเด็กบอกมาเขยี นเปน็ ข้อตกลงในการปฏิบัติตน เมื่ออยใู่ นห้องเรยี นและให้เด็กปฏิบัติตามขอ้ ตกลง
ครูสังเกตการปฏิบัติตนตามข้อตกลงของเด็ก
๔) ครอู ธบิ ายถึงผลของการตั้งใจเรียนอย่างสม่าเสมอ จะทาใหเ้ ดก็ เรียนเก่ง เป็นที่รักของทุกคนและครูตั้ง
คาถามใหเ้ ดก็ คิดตอ่ เชน่ ถ้าเดก็ ๆ ไม่ตง้ั ใจเรยี นในเวลาเรียน เดก็ ๆ จะเปน็ อย่างไร
๔.๒ ส่ือกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรยี นรู้
เพลง “หนา้ ทีข่ องเด็ก”
๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วธิ ีกำรประเมนิ
๑) สงั เกตการตอบคาถาม
๒) สงั เกตพฤติกรรมการต้ังใจเรยี น
๕.๒ เคร่ืองมอื ทใ่ี ช้ในกำรประเมิน
๑) แบบสงั เกตการตอบคาถาม
๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการต้ังใจเรียน
๕.๓ เกณฑ์กำรประเมนิ
เด็กผา่ นการประเมนิ ระดับ ๒ ขนึ้ ไปถอื ว่าผา่ น

บันทกึ หลงั สอน

หน่วยการสอนท่ี................ แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี..............
บนั ทึกหลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(.................................................)
ครูผสู้ อน

ควำมคดิ เหน็ ของผ้อู ำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกนั ตนา จติ รบรรจง)
ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั คลองหา้

๗. ภำคผนวก

เพลง หนำ้ ทีข่ องเดก็

(ไมท่ ราบนามผู้แต่ง)

หนูเลก็ เดก็ ท้ังหลาย อยา่ นอนตน่ื สาย
เป็นเดก็ เกียจครา้ น ตนื่ เชา้ จะไดเ้ บิกบาน
สดชน่ื สาราญสมองแจม่ ใส ตื่นเชา้ ล้างหนา้ สฟี ัน
รบี เรง่ เร็วพลนั แต่งตัวทนั ใด รบั ประทานอาหารเรว็ ไว
เสรจ็ แล้วจะได้ รีบไปโรงเรียน

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมและกำรตอบคำถำมของเด็ก

หนว่ ยที่ ๔ ช่ือหนว่ ย พลเมืองกบั ความรับผิดชอบตอ่ สงั คม
แผนการจัดประสบการณ์ท่ี ๓ เร่ือง ความรบั ผดิ ชอบตอ่ ตนเอง (การเรียน)

วันท.่ี ............เดือน.............................พ.ศ............................
คาชี้แจง: ให้ผู้ประเมินทาเครื่องหมาย  ในช่องระดับคุณภาพของเด็กในแต่ละประเดน็ ทีป่ ระเมิน

ท่ี ชื่อ-สกลุ เด็กสามารถบอกสิ่งท่ี การปฏบิ ัตติ นตาม
ควรปฏิบตั แิ ละไม่ควร ข้อตกลงในห้องเรยี น
ปฏบิ ตั ใิ นห้องเรยี นได้

๓๒๑๓๒๑

รวม
เฉลีย่

ลงช่อื ...........................................................ผู้ประเมนิ
(......................................................)

เกณฑก์ ำรประเมนิ
เด็กสามารถบอกสง่ิ ทคี่ วรปฏิบัติและไมค่ วรปฏิบัติในห้องเรียนได้

ระดบั ๓ : เดก็ สามารถบอกสิ่งที่ควรปฏิบัตแิ ละไม่ควรปฏบิ ตั ิในห้องเรียนไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดบั ๒ : เด็กสามารถบอกส่งิ ท่คี วรปฏิบตั แิ ละไมค่ วรปฏิบัติในหอ้ งเรียนได้โดยมผี ้ชู แี้ นะ
ระดับ ๑ : เดก็ ไม่สามารถบอกสง่ิ ที่ควรปฏิบัตแิ ละไม่ควรปฏบิ ัติในห้องเรยี นได้

การปฏบิ ตั ิตนตามขอ้ ตกลงในห้องเรียน
ระดบั ๓ : เด็กปฏบิ ัตติ นตามข้อตกลงในหอ้ งเรยี นได้ดว้ ยตนเอง
ระดับ ๒ : เด็กปฏบิ ัติตนตามขอ้ ตกลงในห้องเรยี นได้โดยตอ้ งมผี ชู้ ้แี นะ
ระดบั ๑ : เดก็ ไม่สามารถปฏิบัติตนตามข้อตกลงในหอ้ งเรียนได้

แผนกำรจดั ประสบกำรณ์

หน่วยท่ี ๔ ชอ่ื หน่วย พลเมอื งกบั ความรบั ผิดชอบต่อสังคม ชนั้ ปฐมวยั
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี ๔ เร่ือง ความรับผิดชอบตอ่ สงั คม (การตรงต่อเวลา) เวลำ ๑ ช่ัวโมง

๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกีย่ วกับพลเมอื งและมีความรบั ผดิ ชอบต่อสงั คม
๑.๒ ปฏิบัตติ นตามหนา้ ที่พลเมอื งและมคี วามรับผิดชอบตอ่ สังคม

๒. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้
๒.๑ เดก็ สามารถบอกพฤตกิ รรมทแ่ี สดงถงึ การตรงตอ่ เวลาได้
๒.๒ เดก็ ประพฤตแิ ละปฏิบัติตนเปน็ ผู้ท่ีตรงตอ่ เวลาได้

3. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
การตรงต่อเวลา เชน่ ความมีวนิ ัยในการตรงต่อเวลาในการทากิจกรรมต่างๆ ทุกๆ เรื่อง การเข้านอนและ

ต่ืนนอนเป็นเวลา การไปโรงเรยี นใหต้ รงต่อเวลาและสามารถปฏบิ ัติตนไดต้ ามกฎเกณฑ์ของสงั คม และไมท่ าให้ผู้อ่ืน
เดือดรอ้ น

๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะทีเ่ กิด)
๑) มีทักษะชีวิต และอยรู่ ่วมกบั ผู้อนื่ ไดอ้ ย่างมคี วามสขุ
๒) มีทักษะการคดิ การใช้ภาษาสอ่ื สาร

๓.๓ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค/์ ค่ำนยิ ม
มีวนิ ัย

๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ขั้นตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) ครูเลา่ นิทาน เรื่อง “เมอ่ื หมูน้อยไม่ตรงตอ่ เวลา”
๒) ใหเ้ ด็กแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใช้คาถาม ดงั น้ี
• หมนู ้อยเป็นคนอยา่ งไร (ขยนั /ขี้เกียจ)
• การไมต่ รงตอ่ เวลาของหมูนอ้ ยทาให้พลาดโอกาสอะไร (ไมไ่ ดก้ ระปุกออมสิน)
• กระทาของหมนู อ้ ยในเรอื่ งน้ีสง่ ผลอยา่ งไร (ทาให้โดนลงโทษ)
• การท่คี รูให้หมนู ้อยรดน้าตน้ ไม้ เดก็ เห็นด้วยหรอื ไม่ เพราะเหตุใด (เห็นดว้ ยเพราะหมนู อ้ ย ทาสิง่ ทผ่ี ิด

คอื ไปขโมยกระปกุ ออมสนิ ของเพอ่ื น)
๔) ครมู อบหมายให้เด็กวาดภาพระบายสี นิทาน เรอ่ื ง “เม่ือหมูน้อยไม่ตรงต่อเวลา” โดยกาหนดเวลาให้

(ครสู ังเกตวา่ เด็กทางานเสร็จ และส่งครตู รงเวลาทก่ี าหนดหรอื ไม่)
๕) ครใู หเ้ ด็กรอ้ งเพลงตรงตอ่ เวลาและทาทา่ ประกอบ
๖) เด็กและครูรว่ มกนั สรุปถึงโทษของการเปน็ คนไมก่ ารตรงต่อเวลา และเน้นย้าใหเ้ ด็กเป็นคนตรงตอ่ เวลา

๔.๒ สื่อกำรเรียนรู้/แหลง่ กำรเรยี นรู้
๑) เพลง “ตรงตอ่ เวลา”
๒) นิทาน เรอื่ ง “เมอ่ื หมูน้อยไมต่ รงตอ่ เวลา”

๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ำรประเมิน

๑) สงั เกตการตอบคาถาม
๒) สังเกตพฤติกรรมการปฏิบัติตนในการเป็นคนตรงตอ่ เวลาของเด็ก
๕.๒ เคร่อื งมอื ทีใ่ ชใ้ นกำรประเมนิ
๑) แบบสงั เกตการตอบคาถามของเด็ก
๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการปฏบิ ตั ิตนในการเปน็ คนตรงตอ่ เวลาของเดก็
๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมนิ
เดก็ ผ่านการประเมนิ ระดบั ๒ ขึน้ ไปถอื วา่ ผา่ น

บนั ทึกหลังสอน

หนว่ ยการสอนที.่ ............... แผนการจดั การเรียนร้ทู .่ี .............
บนั ทึกหลงั สอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(.................................................)
ครูผูส้ อน

ควำมคิดเห็นของผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี น (ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

(นางสาวกันตนา จิตรบรรจง)
ผ้อู านวยการโรงเรียนวัดคลองห้า

๗. ภำคผนวก

เพลง “ตรงตอ่ เวลำ ”

ตรงตอ่ เวลา พวกเราต้องมาให้ตรงเวลา
ตรงตรงตรงเวลา พวกเราต้องมาใหต้ รงเวลา
เราเกดิ มาเป็นคน ตอ้ งหม่ันฝกึ ตนใหต้ รงเวลา
วันคืนไมค่ อยทา่ วันเวลาไม่เคยคอยใคร
วนั เวลาไมเ่ คยคอยใคร
(*ซ้าอกี รอบ)

นิทำน “หมูน้อยไมต่ รงตอ่ เวลำ”

ในป่ากว้างนั้นมีสัตว์น้อยใหญ่ ต่างร่วมใจ ร่วมรักษา ด้วยว่าถูกปลูกฝังร่วมกันมา
หากว่ามปี ัญหาจักช่วยกันแต่วา่ มีเจา้ หมูอยตู่ ัวหนึง่ เป็นหมูซงึ่ แสนขี้เกยี จ ไมข่ ยัน บา้ นอยู่หา่ ง
โรงเรียนเพียงรว้ั ก้ัน แต่ว่ามาสายทุกวนั เร่ืองการบ้านกพ็ อกไวไ้ มท่ าสง่ วนั หนงึ่ ครูบอกว่าถ้า
ใครนาเงินมาฝากในวนั พรุ่งนี้ จะได้กระปกุ ออมสินรูปกระต่ายคนละ ๑ ใบ เพ่ือไว้สาหรบั ให้
เด็กหยอดเงินตัวเองไว้ในห้องเรยี น พอถึงวันฝากหมูนอ้ ยไม่ได้นาเงินมาฝาก จงึ ไม่ได้กระปุก
ออมสิน

วันต่อมาหมูน้อยนาเงินมาฝากครู และขอกระปกุ ออมสิน ครูบอกว่าหมูน้อยฝากไม่
ตรงเวลาจึงไม่ไดก้ ระปุกออมสิน ตอ่ มามีกระปุกออมสินของเพ่ือนในห้องหายไป ๑ ใบ และ
พบวา่ หมนู ้อยมีกระปกุ ออมสิน ครจู งึ เรียกมาถามว่า เอากระปกุ ออมสนิ มาจากไหน หมนู อ้ ย
บอกครวู ่าของผม แต่ครจู าได้วา่ หมูนอ้ ยไม่ได้ฝากเงินจึงไมไ่ ดก้ ระปกุ ครวู า่ ตกั เตือนหมนู อ้ ยว่า
การไม่ตรงต่อเวลาทาให้เกิดผลเสียหายต่อตนเองและผู้อื่น และการลักขโมยเป็นสิ่งไม่ดีถือ
เป็นการไม่ซอื่ สัตยท์ าให้ผู้อ่ืนเดือดรอ้ นและถูกลงโทษได้ และครูส่ังให้หมูนอ้ ยลดน้าต้นไม้ ๕
วนั ดงั นั้น จงึ อยากฝากไว้ให้แงค่ ดิ วา่ เรื่องการไม่ตรงต่อเวลาทาให้พลาดโอกาสดๆี ไปได้

……………………………………………………………………………………………………………………………………………….

แบบสงั เกตพฤตกิ รรมและกำรตอบคำถำมของเดก็

หน่วยที่ ๔ ชื่อหน่วย พลเมืองกบั ความรับผดิ ชอบตอ่ สังคม

แผนการจดั ประสบการณ์ที่ ๔ เร่ือง ความรบั ผิดชอบต่อสังคม (การตรงต่อเวลา)
วันที.่ ............เดอื น.............................พ.ศ............................

คำชี้แจง: ให้ผปู้ ระเมนิ ทาเครื่องหมาย  ในชอ่ งระดับคณุ ภาพของเดก็ ในแต่ละประเดน็ ทป่ี ระเมนิ

ท่ี ช่อื -สกลุ เด็กสามารถบอก เดก็ ประพฤติและปฏิบตั ิ
พฤตกิ รรมทแี่ สดงถึง ตนเป็นผทู้ ต่ี รงต่อเวลา
การตรงต่อเวลาได้

๓๒๑๓๒๑

รวม
เฉลย่ี

ลงชือ่ ...........................................................ผปู้ ระเมนิ
(......................................................)

เกณฑ์กำรประเมนิ
เด็กสามารถบอกพฤติกรรมท่ีแสดงถึงการตรงตอ่ เวลาได้

ระดับ ๓ : เด็กสามารถบอกพฤติกรรมท่ีแสดงถึงการตรงต่อเวลาได้ดว้ ยตนเอง
ระดับ ๒ : เด็กสามารถบอกพฤติกรรมทีแ่ สดงถงึ การตรงตอ่ เวลาไดโ้ ดยมีผู้ช้แี นะ
ระดับ ๑ : เด็กไม่สามารถบอกพฤตกิ รรมที่แสดงถงึ การตรงต่อเวลาได้

เดก็ ประพฤตแิ ละปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ทีต่ รงต่อเวลา
ระดบั ๓ : เดก็ ประพฤติและปฏิบัติตนเป็นผู้ท่ีตรงต่อเวลาไดด้ ว้ ยตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ ประพฤติและปฏิบัตติ นเปน็ ผู้ทตี่ รงตอ่ เวลาได้โดยมีผชู้ แ้ี นะ
ระดบั ๑ : เดก็ ไมส่ ามารถประพฤติและปฏบิ ัติตนเป็นผู้ท่ีตรงตอ่ เวลาได้

แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ ช้นั ปฐมวยั
เวลำ ๑ ช่ัวโมง
หนว่ ยท่ี ๔ ช่อื หน่วย พลเมืองกับความรับผิดชอบต่อสงั คม
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ที่ ๕ เรือ่ ง ความรบั ผิดชอบต่อสงั คม (การทาความสะอาดในหอ้ งเรียน)

๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเก่ยี วกบั พลเมอื งและมีความรบั ผิดชอบตอ่ สังคม
๑.๒ ปฏิบตั ิตนตามหน้าทพ่ี ลเมอื งและมคี วามรบั ผิดชอบต่อสังคม

๒. จดุ ประสงค์กำรเรียนรู้
๒.๑ ปฏบิ ัติตนในการรักษาความสะอาดห้องเรียน

๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
๑) ความเข้าใจเก่ยี วกบั การทาความสะอาด
๒) มีความรเู้ กยี่ วกับอปุ กรณ์ทาความสะอาด
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะทเี่ กดิ )
๑) มีทักษะชวี ิต และอย่รู ่วมกับผูอ้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมีความสขุ
๒) มีทักษะการคดิ การใชภ้ าษาสอ่ื สาร
๓.๓ คุณลกั ษณะทพี่ ึงประสงค/์ คำ่ นิยม
มีวนิ ยั ความรับผดิ ชอบ

๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ขน้ั ตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) เดก็ และครรู ว่ มกนั รอ้ งเพลง “อย่าทงิ้ ”
๒) เด็กและครูร่วมกันสนทนากันถึงเน้ือหาในเพลง “อย่าท้ิง” เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับเนื้อหา

ของเพลง โดยครูใชค้ าถาม ดงั นี้
• เพลงทเี่ รารอ้ งไปเมื่อสักครู่นีเ้ ปน็ เพลงเก่ียวกบั อะไร
• คนที่ทิง้ ขยะ ไม่ลงถัง เป็นคนเชน่ ไรและหอ้ งเรียนของจะเปน็ อยา่ งไร ถา้ เราทงิ้ ขยะไม่ลงถงั ชแี้ นะให้

เดก็ ท่องจาเป็นคาคลอ้ งจองว่า “ขยะน่าชัง ท้ิงลงถังสะอาดตา”
๓) ครูและเด็กพูดคุยสนทนาเกีย่ วกับการรกั ษาความสะอาดว่าการทีห่ อ้ งสกปรกเกิดจากอะไร และควรทา

อยา่ งไรเมอ่ื ไดร้ ับมอบหมายใหท้ าความสะอาดแล้วเด็กไม่ปฏิบัติ จะเกิดผลอย่างไร
๔) ใหเ้ ด็กช่วยกันบอกช่ืออปุ กรณท์ าความสะอาดหอ้ งเรียนวา่ มอี ะไรบา้ ง (เชน่ ไมก้ วาดแขง็ ไมก้ วาดออ่ น ฯ)

แต่ละชนดิ ใชอ้ ย่างไร โดยขออาสาสมคั รเดก็ สาธติ การใช้อปุ กรณ์ทาความสะอาด และการจดั เก็บอปุ กรณ์ทาความ
สะอาดใหถ้ ูกทแี่ ละถกู ต้อง ไมท่ ้ิงเกลอื่ นกลาด ไม่นาอุปกรณ์ทาความสะอาดของห้องเรียนกลบั บา้ น

๕. ครูและเดก็ ร่วมกันสรุปวินยั ในการใช้อุปกรณว์ ่า หากใช้ไมถ่ กู ต้องและไมเ่ กบ็ ให้ถกู ทีข่ องอาจจะหาย หรือ
ชารุด เม่อื ถึงเวลาทาความสะอาดทาให้ไม่มีของใช้สง่ ผลให้เกดิ ปัญหาตามมา เช่น ห้องเรยี นสกปรก ขโมยอุปกรณ์
จากหอ้ งอ่ืนมาทาความสะอาด ทาให้ผู้อื่นเดือดร้อนเป็นตน้ และให้เด็กท่องข้อปฏิบัติเป็นคาคล้องจองวา่ “เก็บให้
ถูกท่ี ดูดีมีระเบยี บ” “หยบิ กง็ า่ ย หายก็รู้ ดูกง็ ามตา”

๖) เดก็ แสดงบทบาทสมมติเกี่ยวกับ
• การใช้อุปกรณ์ทาความสะอาดให้ถูกตอ้ งกบั ลักษณะงาน (ครูสังเกตพฤติกรรมระหวา่ งแสดงบทบาท

สมมติ)

• การเก็บอุปกรณ์ให้ถูกต้อง และถูกท่ี เช่น ไม้กวาด ถังน้า ไม้ถู (ครูสังเกตพฤติกรรมระหว่างแสดง
บทบาทสมมติ)

๔.๒ สื่อกำรเรยี นร/ู้ แหล่งกำรเรยี นรู้
๑) เพลง “อย่าท้งิ ”
๒) อปุ กรณท์ าความสะอาด เชน่ ไมก้ วาด ถงั ขยะ ไม้ถูพืน้ ฯลฯ

๕. กำรประเมินผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วิธีกำรประเมนิ
สงั เกตพฤตกิ รรมการมวี นิ ัยของเดก็ ในการรักษาความสะอาดห้องเรียน
๕.๒ เครื่องมอื ท่ใี ช้ในกำรประเมิน
แบบสังเกตพฤตกิ รรมการมวี ินัยของเดก็ ในการรักษาความสะอาดหอ้ งเรยี น
๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมิน
เด็กผา่ นการประเมินระดับ ๒ ขนึ้ ไปถือวา่ ผา่ น


Click to View FlipBook Version