นิทำน เรอื่ ง กระรอกน้อยไม่มีระเบยี บ
กระรอกน้อยมีของเลน่ ของใช้มากมาย แถมยังชอบเอาของเลน่ ของใช้ออกมากองเต็มห้อง
เล่นแล้วไมเ่ ก็บเข้าท่ี วันนกี้ ระรอกนอ้ ยก็กาลงั เลน่ ของเลน่ อยู่ กอ๊ กๆ เสียงใครมาเคาะประตหู น้าบ้าน
กระรอกเปิดประตไู ปดู กพ็ บเพอ่ื นๆ ทมี่ าชวนไปเลน่ นอกบ้าน กระรอกตกลงทนั ที รบี วิ่งออกไปพร้อม
เพอื่ นๆ คณุ แม่ของกระรอกบอกว่า ทาไมไมเ่ กบ็ ของเลน่ กอ่ น กระรอกบอกเด๋ยี วค่อยมาเก็บกไ็ ด้
แลว้ กระรอกก็วิง่ ออกไปทนั ที
ตกเยน็ ทุกคนก็แยกยา้ ยกันกลบั บา้ น กระรอกรีบวิ่งเขา้ มาในบ้านอย่างรวดเร็ว โดยไม่ทนั ไดด้ ู
วา่ มขี องเลน่ วางเกะกะเตม็ ไปหมด กระรอกสะดดุ ของเล่นหกลม้ เข่าแตก ร้องใหฮ้ อื ๆ คุณแมจ่ ึงบอกว่า
เหน็ ไหมละก็แม่บอกให้กระรอกเกบ็ ของก่อน ถา้ กระรอกเก็บของกระรอกก็คงไม่วิ่งสะดุดหกลม้ อย่างน้ี
(ปิตพิ ร วทาทยิ าภรณ์)
เร่ืองและภำพ
https://www.youtube.com/watch?v=JfSzhGzHWSk
เกบ็ เกบ็ เกบ็ เพลงเกบ็ ของ
เรว็ คนดี
มาช่วยกันเกบ็ ของซี
เกบ็ ของเขา้ ที่กันเอย
ภำพตัวอยำ่ งของใช้ส่วนตัวของเดก็
แบบสงั เกตกำรเกบ็ ของใชส้ ่วนตวั ของเดก็
หนว่ ยที่ ๒ ชื่อหน่วย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต
แผนการจัดประสบการณ์ที่ ๖ เร่อื ง ความละอายและไมแ่ ย่ง หรอื ขโมยของใชผ้ ้อู นื่
วนั ที.่ ............เดือน.............................พ.ศ............................
คำชี้แจง : ให้ผู้ประเมินทาเครอ่ื งหมาย ในช่องระดบั คณุ ภาพของเด็กในแตล่ ะประเดน็ ทปี่ ระเมิน
ที่ ชอ่ื -สกลุ การเกบ็ ของใช้ส่วนตวั เขา้ ที่
๓ ๒๑
รวม
เฉลยี่
ลงช่ือ...........................................................ผู้ประเมิน
(........................................................)
เกณฑ์กำรประเมนิ
การเกบ็ ของใชส้ ่วนตนเขา้ ที่
ระดับ ๓ : เด็กสามารถเก็บของใชส้ ่วนตนเขา้ ทอ่ี ย่างเรียบร้อยไดด้ ้วยตนเองโดยไมแ่ ย่ง หรอื ขโมยของใชข้ องผ้อู ื่น
ระดบั ๒ : เด็กสามารถเกบ็ ของใชส้ ว่ นตนเขา้ ท่อี ย่างเรียบรอ้ ยโดยมผี อู้ ่ืนแนะนา แตไ่ ม่แยง่ หรอื ขโมยของใช้
ของผอู้ น่ื
ระดับ ๑ : เดก็ สามารถเกบ็ ของใชส้ ่วนตนเขา้ ท่ีได้ แตช่ อบแย่ง หรอื ขโมยของใชข้ องผอู้ ่นื
แผนกำรจัดประสบกำรณ์
หน่วยที่ ๒ ชอื่ หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต ชนั้ ปฐมวยั
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี ๗ เร่ือง ความรบั ผิดชอบตอ่ การทางานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย เวลำ ๑ ชั่วโมง
๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเขา้ ใจเก่ียวกับความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ
๑.๒ ปฏบิ ัตติ นเปน็ ผู้ท่ีมีความละอายและไมท่ นต่อการทุจริตทุกรูปแบบ
๒. จดุ ประสงคก์ ำรเรียนรู้
๒.๑ สามารถบอกประโยชน์ของการมคี วามรับผดิ ชอบต่อการทางานที่ได้รับมอบหมาย และโทษของการไม่มี
ความรับผิดชอบตอ่ การทางานท่ไี ด้รบั มอบหมายได้
๒.๒ มคี วามรบั ผิดชอบทางานทไ่ี ด้รบั มอบหมายจนสาเร็จ โดยไม่ลอก หรือนาผลงานของผ้อู ่ืนมาเป็นผลงานของ
ตนเอง
๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
การทางานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย คือ การท่บี ุคคลมีความรบั ผิดชอบ มงุ่ ม่ัน ตั้งใจท่ีจะทางานสงิ่ นน้ั ให้สาเร็จและ
มปี ระสิทธภิ าพ โดยไม่ลอก หรือนาผลงานของผู้อ่นื มาเป็นผลงานของตนเอง
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะทเ่ี กิด)
๑) มีทกั ษะชีวติ และอยรู่ ่วมกบั ผู้อน่ื ได้อยา่ งมคี วามสขุ
๒) มีทกั ษะการคดิ การใชภ้ าษาส่ือสาร
๓.๓ คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์/ค่ำนยิ ม
มงุ่ มนั่ ในการทางาน ซอื่ สัตยส์ จุ รติ
๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ขั้นตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) เด็กและครูรว่ มกนั รอ้ งเพลง “งานสง่ิ ใด”
๒) เดก็ และครรู ว่ มกนั สนทนาเกยี่ วกบั เนอ้ื หาของเพลง โดยครใู ช้คาถาม ดงั น้ี
• เพลงท่เี รารอ้ งไปเม่ือสักครู่นี้เป็นเพลงเกี่ยวกับอะไร (เกย่ี วกับการทางาน วา่ ตอ้ งรับผดิ ชอบในการทางาน
และตอ้ งช่วยเหลือซง่ึ กนั และกัน)
• ถ้าพวกเราทุกคนมคี วามรับผิดชอบทางานท่ีไดร้ ับมอบหมายจนสาเร็จ และในขณะเดียวกันหากพวกเรา
ทุกคนไม่มีความรับผิดชอบในการทางานที่ได้รับมอบหมาย สังคมเราจะเป็นอย่างไร (ถ้าทุกคนมีความรับผิดชอบ
สงั คมก็จะนา่ อยู่ ไม่วุ่นวาย ไม่มีคนทาผิด สังคมก็สงบสขุ แต่ถา้ ทกุ คนไมม่ คี วามรบั ผดิ ชอบ สงั คมกจ็ ะสับสน วุ่นวาย
มีแตค่ นเห็นแก่ตวั ทจุ ริตทาใหส้ งั คมไมน่ ่าอย)ู่
๓) เด็กและครดู ูคลิปนทิ าน เร่อื ง “ความรับผดิ ชอบ”
๔) เดก็ และครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับเนือ้ หาในนทิ าน ดงั น้ี
• การกระทาของบีถ๋ ูกตอ้ งหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ถูกต้อง เพราะบ๋ีเปน็ คนไม่รับผดิ ชอบในการทางาน
ที่ไดร้ ับมอบหมาย)
• ถา้ เรา เป็นบ๋ี เราจะปฏิบัตติ นอย่างไร ทาไมถงึ ปฏิบัตเิ ช่นน้ัน (จะรบั ผิดชอบในงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย
เพราะคนดีจะตอ้ งมคี วามรบั ผิดชอบ)
๕) ครมู อบหมายงานใหเ้ ด็กๆ วาดภาพระบายสีคนละ ๑ ภาพ (ครูสงั เกตการทางานของเดก็ )
๖) เด็กนาผลงานของตนเองนาเสนอหน้าช้นั ซึ่งผลงานทน่ี าเสนอจะต้องไม่ลอกเลียนแบบผู้อนื่ และไม่นา
ผลงานของผ้อู นื่ มาเป็นผลงานของตนเอง
๔.๒ ส่อื กำรเรียนร/ู้ แหล่งกำรเรียนรู้
๑) เพลง “งานสิ่งใด”
๒) Animation ๓D เรอ่ื ง “ความรับผดิ ชอบ”
๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วธิ กี ำรประเมิน
๑) สังเกตการตอบคาถาม เรอ่ื ง “ประโยชน์ของความรับผดิ ชอบในการทางานที่ได้รับมอบหมาย และโทษ
ของการไม่มีความรับผิดชอบในการทางานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย”
๒) สงั เกตการปฏบิ ตั ิงานทไี่ ด้รับมอบหมาย
๕.๒ เครอ่ื งมอื ทใ่ี ชใ้ นกำรประเมิน
๑) แบบสังเกตการตอบคาถาม เรอ่ื ง “ประโยชนข์ องความรับผิดชอบในการทางานทีไ่ ด้รบั มอบหมาย และ
โทษของการไมม่ ีความรับผดิ ชอบในการทางานทไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
๒) แบบสังเกตการปฏิบัติงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย
๕.๓ เกณฑ์กำรตัดสิน
เดก็ ผ่านการประเมนิ ระดบั ๒ ข้นึ ไปถอื ว่าผา่ น
บนั ทกึ หลังสอน
หน่วยการสอนท่ี................ แผนการจัดการเรียนรู้ท่.ี .............
บนั ทึกหลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(.................................................)
ครูผ้สู อน
ควำมคดิ เห็นของผอู้ ำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(นางสาวกันตนา จติ รบรรจง)
ผอู้ านวยการโรงเรยี นวัดคลองหา้
๗. ภำคผนวก
เพลง งำนส่ิงใด
งานสง่ิ ใด งานส่งิ ใด แม้ใครละเลยทิง้ ปลอ่ ย
มัวแต่คอย เฝ้าแต่คอย หวงั คอยแต่เกย่ี งโยนกลอง
ไม่มเี สร็จ ไมม่ เี สร็จรับรอง จาไวท้ ุกคนต้องทางาน
เราต้องช่วยกนั ช่วยกัน ชว่ ยกนั ชว่ ยกัน
Animation ๓D เรอ่ื ง ควำมรบั ผดิ ชอบ
https://www.youtube.com/watch?v=๗kbnUOzerjg
แบบสงั เกตกำรตอบคำถำม
หน่วยที่ ๒ ชอ่ื หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ
แผนการจัดประสบการณ์ท่ี ๗ เรื่อง ความรับผิดชอบต่อการทางานท่ไี ดร้ บั มอบหมาย
วันที.่ ............เดอื น.............................พ.ศ............................
คำช้แี จง : ให้ผู้ประเมินทาเครื่องหมาย ในชอ่ งระดบั คณุ ภาพของเดก็ ในแตล่ ะประเดน็ ที่ประเมิน
บอกประโยชนข์ อง
ความรับผดิ ชอบ การทางานทีไ่ ด้รบั
ท่ี ชอื่ -สกลุ และโทษของการไมม่ ี มอบหมายจนสาเรจ็
ความรบั ผดิ ชอบ
๓๒๑๓๒๑
รวม
เฉลีย่
ลงช่ือ...........................................................ผู้ประเมิน
(.......................................................)
เกณฑก์ ำรประเมิน
บอกประโยชน์ของความรับผิดชอบ และโทษของการไมม่ คี วามรับผดิ ชอบ
ระดับ ๓ : เด็กสามารถบอกประโยชน์ของความรับผดิ ชอบ และโทษของการไมม่ คี วามรบั ผดิ ชอบได้
ระดบั ๒ : เดก็ สามารถบอกประโยชน์ของความรบั ผิดชอบ และโทษของการไม่มคี วามรบั ผิดชอบได้โดยมีผ้ชู ี้แนะ
ระดับ ๑ : เดก็ ไมส่ ามารถบอกประโยชน์ของความรบั ผดิ ชอบ และโทษของการไม่มีความรับผดิ ชอบได้
การทางานที่ไดร้ บั มอบหมายจนสาเรจ็
ระดบั ๓ : เดก็ ทางานท่ีได้รับมอบหมายจนสาเร็จด้วยตนเอง โดยไม่ลอก หรือนาผลงานของผู้อืน่ มาเป็นผลงาน
ของตนเอง
ระดบั ๒ : เด็กทางานที่ได้รบั มอบหมายจนสาเรจ็ โดยมีผ้ชู ้แี นะ แตไ่ มล่ อก หรอื นาผลงานของผู้อ่ืนมาเปน็ ผลงาน
ของตนเอง
ระดับ ๑ : เด็กสามารถทางานทีไ่ ดร้ บั มอบหมายได้ แตช่ อบลอก หรือนาผลงานของผู้อน่ื มาเปน็ ผลงานของตน
แผนกำรจัดประสบกำรณ์
หนว่ ยที่ ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ รติ ชนั้ ปฐมวัย
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี ๘ เร่อื ง การแบ่งปัน เวลำ ๑ ชว่ั โมง
๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเขา้ ใจเกี่ยวกบั ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจรติ
๑.๒ ปฏิบตั ิตนเป็นผู้ท่ีมีความละอายและไมท่ นตอ่ การทุจรติ ทกุ รปู แบบ
๒. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
๒.๑ บอกความหมายของการแบง่ ปนั ได้
๒.๒ มีพฤติกรรมการแบง่ ปนั และปฏบิ ัตติ นเปน็ ผูท้ มี่ คี วามละอายและไม่ทนต่อการทจุ รติ
๓. สำระกำรเรียนรู้
๓.๑ ควำมรู้
การแบ่งปัน หมายถึง การเสียสละสิ่งของ หรือทรัพยส์ ินของตนให้แกผ่ ู้อ่ืน แต่สิง่ ของ หรอื ทรพั ยส์ ินน้ัน
จะต้องได้มาโดยสุจรติ ไมใ่ ชไ่ ดม้ าจากการลกั ขโมยของผู้อืน่
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะท่ีเกดิ )
๑) มที ักษะชวี ติ และอยู่ร่วมกับผอู้ นื่ ไดอ้ ยา่ งมีความสุข
๒) มีทกั ษะการคิด การใชภ้ าษาสอ่ื สาร
๓.๓ คุณลักษณะที่พงึ ประสงค/์ คำ่ นิยม
ความเอ้อื อาทร
๔. กำรจดั ประสบกำรณ์
๔.๑ ขั้นตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) เด็กและครดู ูคลิปนทิ าน เรือ่ ง “หนนู ดิ ไมม่ ีนา้ ใจ”
๒) เดก็ และครูรว่ มกนั สนทนาเกย่ี วกับเน้ือหาของนทิ าน โดยครใู ช้คาถาม ดังน้ี
• การกระทาของหนูนดิ ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (ไม่ถกู ตอ้ ง เพราะหนนู ดิ ไม่ชอบแบ่งปนั ของให้ผู้อนื่
เปน็ คนไม่มีน้าใจ ไม่เออ้ื เฟื้อเผ่อื แผ่)
• ถา้ เรา เป็นหนูนิด เราจะปฏบิ ัติตนอย่างไร เพราะเหตุใดจึงปฏิบตั ิเชน่ น้ัน (จะรู้จกั แบง่ ปนั สงิ่ ของให้ผ้อู ื่น
เพราะคนดีจะตอ้ งมนี ้าใจ รจู้ ักแบง่ ปัน)
• ถ้าเราพบเพื่อนที่ไม่ยอมแบ่งปันสิ่งของของตนเองให้เพือ่ น เราจะทาอย่างไร (จะไปตักเตือนเพื่อน จะบอก
เพ่ือนว่า คนดีต้องรจู้ กั การเสยี สละ แบ่งปัน)
• ถ้าเราขโมยสิ่งของผู้อื่นแล้วนามาแบ่งปันให้เพ่ือน เป็นการกระทาที่ถูกต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด
(ไมถ่ ูกต้อง เพราะการขโมยของผู้อนื่ เปน็ สิง่ ท่ีไมค่ วรกระทาอยา่ งย่ิง และอาจผิดกฎหมายด้วย หากตอ้ งการแบ่งปัน
สิ่งของใหเ้ พื่อนควรเป็นสิง่ ของของเราเอง)
๓) เด็กและครูร่วมกันอภปิ รายสรปุ เกี่ยวกับ ความหมายของการแบ่งปันวา่ การแบง่ ปัน หมายถึง การเสียสละ
สง่ิ ของ หรือทรัพย์สนิ ของตนให้แก่ผอู้ ืน่ แต่ส่งิ ของ หรือทรัพยส์ นิ นน้ั จะต้องได้มาโดยสุจรติ ไม่ใช่ได้มาจากการลักขโมย
ของผอู้ ื่น
๔) เดก็ และครรู ว่ มกันร้องเพลง “แบง่ ปัน”
๔.๒ สอ่ื กำรเรยี นรู้/แหลง่ กำรเรยี นรู้
๑) คลิปนทิ าน เรือ่ ง “หนนู ดิ ไม่มีน้าใจ”
๒) เพลง “แบ่งปนั ”
๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วธิ กี ำรประเมนิ
๑) สงั เกตการตอบคาถาม เร่อื ง “ความหมายของการแบ่งปนั ”
๒) สังเกตพฤติกรรมการแบ่งปนั ของเด็ก
๕.๒ เครื่องมอื ที่ใช้ในกำรประเมนิ
๑) แบบสงั เกตการตอบคาถาม เรอื่ ง “ความหมายของการแบ่งปนั ”
๒) แบบสงั เกตพฤติกรรมการแบง่ ปัน
๕.๓ เกณฑก์ ำรตัดสิน
เดก็ ผา่ นการประเมินระดับ ๒ ขน้ึ ไปถอื ว่าผ่าน
บนั ทึกหลงั สอน
หนว่ ยการสอนท.ี่ ............... แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่..............
บันทกึ หลงั สอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(.................................................)
ครูผู้สอน
ควำมคดิ เห็นของผู้อำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(นางสาวกันตนา จติ รบรรจง)
ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั คลองห้า
๗. ภำคผนวก
นทิ ำน เร่อื ง หนูนิดไม่มีน้ำใจ
https://www.youtube.com/watch?v=๓๕nlQfGCzf๘
เพลงแบ่งปัน
https://www.youtube.com/watch?v=__S๑xhE-EQU
อยากจะแบ่งให้เธอ ก็เราแบง่ กัน
คนละนิดคนละหน่อย มีน้อยให้นอ้ ยมเี ยอะกแ็ บง่ ไป
เผือ่ แผเ่ อือ้ เฟอื้ กนั ไว้ แบง่ ปันกันไปน้าใจเบ่งบาน
แบ่งปัน แบง่ กัน แบ่งปนั แบ่งส่งตอ่ กัน แบ่งปันกันไป
นา้ ใจท่ดี ีแบบน้ีมีไว้ เบกิ บานชนื่ ใจ นา้ ใจทด่ี ี
แบบนมี้ ไี วเ้ บิกบานช่นื ใจ น้าใจเบง่ บาน
แบบสงั เกตกำรตอบคำถำม
หน่วยที่ ๒ ช่ือหนว่ ย ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต
แผนการจดั ประสบการณ์ที่ ๘ เร่อื ง การแบ่งปนั
วันท.่ี ............เดือน.............................พ.ศ............................
คำช้แี จง : ให้ผปู้ ระเมินทาเครอ่ื งหมาย ในชอ่ งระดบั คุณภาพของเดก็ ในแตล่ ะประเดน็ ทป่ี ระเมิน
ท่ี ชอ่ื -สกลุ บอกความหมาย พฤตกิ รรมการแบง่ ปนั
ของการแบ่งปนั และปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ทม่ี ี
ความละอายและไมท่ น
๓๒๑
ต่อการทุจริต
๓๒๑
รวม
เฉลีย่
ลงชอ่ื ...........................................................ผ้ปู ระเมิน
(........................................................)
เกณฑก์ ำรประเมิน
บอกความหมายของการแบง่ ปนั
ระดบั ๓ : เดก็ สามารถบอกความหมายของการแบ่งปันได้ดว้ ยตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ สามารถบอกความหมายของการแบ่งปนั ไดแ้ ต่ตอ้ งใหค้ รูชี้แนะ
ระดับ ๑ : เดก็ ไมส่ ามารถบอกความหมายของการแบ่งปันได้
พฤติกรรมการแบ่งปนั และปฏบิ ตั ิตนเป็นผทู้ ี่มีความละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ ริต
ระดบั ๓ : เดก็ มพี ฤติกรรมการแบ่งปันและปฏิบัตติ นเป็นผ้ทู ่ีมคี วามละอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ
ได้ด้วยตนเอง
ระดับ ๒ : เด็กมพี ฤตกิ รรมการแบ่งปันและปฏบิ ัตติ นเป็นผูท้ ม่ี ีความละอายและไม่ทนตอ่ การทจุ รติ ได้
โดยมผี คู้ อยชี้แนะ
ระดับ ๑ : เด็กไมม่ ีพฤตกิ รรมการแบ่งปันและไม่ปฏิบตั ติ นเปน็ ผ้ทู ่มี ีความละอายและไม่ทนตอ่ การทุจรติ
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์
หนว่ ยที่ ๒ ช่อื หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทจุ ริต ชัน้ ปฐมวยั
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี ๙ เรือ่ ง ความหมายของการแบง่ ปนั เวลำ ๑ ช่ัวโมง
๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเกย่ี วกบั ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ
๑.๒ ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ที่มคี วามละอายและไมท่ นตอ่ การทุจรติ ทุกรูปแบบ
๒. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
๒.๑ เด็กมพี ฤตกิ รรมการแบ่งปนั และปฏิบัตติ นเป็นผทู้ ่มี ีความละอายและไมท่ นตอ่ การทจุ ริต
๓. สำระกำรเรียนรู้
๓.๑ ควำมรู้
การแบ่งปัน หมายถึง การเสียสละสิ่งของ หรือทรัพย์สินของตนให้แก่ผู้อ่ืน แต่ส่ิงของ หรือทรัพย์สินนั้น
จะตอ้ งไดม้ าโดยสุจริต ไมใ่ ช่ได้มาจากการลกั ขโมยของผ้อู ่นื
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะที่เกดิ )
๑) มที ักษะชีวิต และอยู่ร่วมกับผูอ้ น่ื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
๒) มีทักษะการคดิ การใช้ภาษาสอื่ สาร และการแสวงหาความรไู้ ดเ้ หมาะสมกบั วยั
๓.๓ คุณลักษณะท่ีพึงประสงค์/ค่ำนิยม
ความเออื้ เฟือ้ เผือ่ แผ่
๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ข้นั ตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) เด็กและครูร่วมกันรอ้ งเพลง “เออ้ื เฟอ้ื แบง่ ปนั ” พรอ้ มทาทา่ ทางประกอบเพลง
๒) เดก็ และครรู ่วมกันสนทนาเกีย่ วกบั เนื้อหาของเพลง โดยครูใชค้ าถาม ดงั น้ี
• เนอื้ หาของเพลงเกี่ยวกับเร่อื งอะไร (เก่ียวกบั เร่ืองการแบง่ ปัน)
• เราเห็นดว้ ยกับเนื้อหาของเพลงหรอื ไม่ เพราะเหตใุ ด (เห็นด้วย เพราะคนท่ีรู้จักการแบ่งปัน เอ้ือเฟื้อ
เผื่อแผ่ จะเปน็ ที่รักของคนทกุ คน เป็นคนที่สงั คมตอ้ งการ)
๓) เด็กร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ เกี่ยวกับสถานการณ์ทค่ี รูกาหนดขึ้น ดงั นี้
• ถ้าพบวา่ เพ่อื นลืมเอาเงนิ มาซอ้ื ขนม เราจะทาอย่างไร เพราะเหตใุ ดจึงทาเช่นนัน้ (จะแบ่งขนมของตนเอง
ให้เพือ่ นทาน เพราะสงสารเพอื่ น เพ่อื นจะได้ไมห่ ิว)
• ถา้ เพอื่ นของเราลืมเอาดนิ สอมาจากบา้ น เราจะทาอยา่ งไร เพราะเหตุใดจงึ ทาเช่นนนั้ (เอาดินสอให้
เพอ่ื นยืม เพราะเรามหี ลายแทง่ เพ่อื นจะไดม้ ดี นิ สอทาการบา้ น)
• ถา้ เพื่อนเอาดนิ สอแท่งใหม่มาให้เรา แต่เรารู้วา่ ดินสอนั้นเพ่ือนไปขโมยของผู้อ่ืนมา เราจะรบั ของเพื่อน
หรือไม่ เพราะเหตใุ ด (ไม่รบั เพราะสิ่งของน้ันได้มาจากการลกั ขโมย มาจากการทจุ ริต)
๔) ครูให้เด็กแบ่งกลุ่มๆ ละ ๔ – ๕ คน และให้สมาชิกภายในกลุ่มร่วมกันคิดการแสดงบทบาทสมมติท่ีมี
เน้ือหาเก่ียวกับเร่อื งการแบง่ ปัน
๕) แต่ละกลมุ่ ออกมาแสดงบทบาทสมมติ โดยครจู บั ฉลากลาดบั ว่ากล่มุ ใดจะไดแ้ สดงก่อนหลงั
๖) เดก็ และครรู ่วมกันอภิปรายสรุปเก่ียวกบั เร่ืองการแบง่ ปนั
๔.๒ สอ่ื กำรเรยี นร/ู้ แหล่งกำรเรยี นรู้
เพลง “เออื้ เฟ้ือแบ่งปัน”
๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วิธีกำรประเมนิ
สังเกตการแสดงออกถงึ การแบ่งปนั
๕.๒ เคร่อื งมอื ท่ีใช้ในกำรประเมนิ
แบบสังเกตพฤติกรรมการแบง่ ปัน
๕.๓ เกณฑ์กำรตดั สิน
เด็กผา่ นการประเมินระดบั ๒ ขนึ้ ไปถอื วา่ ผา่ น
บันทกึ หลังสอน
หนว่ ยการสอนท่.ี ............... แผนการจดั การเรยี นรูท้ ่ี..............
บันทกึ หลงั สอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปัญหาและอุปสรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(.................................................)
ครูผู้สอน
ควำมคดิ เหน็ ของผู้อำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(นางสาวกันตนา จิตรบรรจง)
ผอู้ านวยการโรงเรยี นวดั คลองห้า
๗. ภำคผนวก
เพลง เอ้อื เฟอื้ แบ่งปัน
https://www.youtube.com/watch?v=oU๓๔HKM๕UtI
มกี เ็ อามาเผอ่ื เออื้ เฟอ้ื แบง่ ปนั มีก็แบง่ ใหก้ นั ฉนั แบง่ ปันให้เธอ
ใจโอบออ้ มอารมี ีใหเ้ ธอเสมอ รกั กนั ฉนั และเธอ เรารักกัน
เออ้ื เฟ้อื เผอ่ื แผ่ นา้ ใจแกท่ กุ คน ได้รับก็สุขลน้ น้าใจจากคนเอ้อื เฟอ้ื
แบง่ ปันขนมท่ีมี ยามเรามเี หลอื เฟือ มีกเ็ อามาเผ่อื แบ่งปนั
ภูมิใจได้เป็นผใู้ ห้ไม่หวงั สง่ิ ใดตอบแทน ยามใดเราขาดแคลน ไม่มใี ครทอดท้ิงเรา
แบบสงั เกตพฤติกรรมกำรแบ่งปนั และกำรปฏบิ ตั ิตนเปน็ ผทู้ ี่มคี วำมละอำยและไมท่ นตอ่ กำรทจุ รติ
หน่วยที่ ๒ ชื่อหนว่ ย ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ รติ
แผนการจดั ประสบการณ์ท่ี ๙ เรอื่ ง ความหมายของการแบ่งปัน
วนั ที่.............เดือน.............................พ.ศ............................
คำช้ีแจง : ใหผ้ ปู้ ระเมนิ ทาเครื่องหมาย ในชอ่ งระดับคณุ ภาพของเดก็ ในแต่ละประเดน็ ที่ประเมิน
ท่ี ชอ่ื -สกุล เดก็ มพี ฤติกรรมการแบง่ ปนั
และปฏบิ ัติตนเป็นผู้ที่มคี วามละอาย
และไม่ทนตอ่ การทจุ ริต
๓๒๑
รวม
เฉลีย่
ลงชื่อ...........................................................ผูป้ ระเมนิ
(........................................................)
เกณฑ์กำรประเมิน
ระดบั ๓ : เดก็ มพี ฤติกรรมการแบง่ ปนั และปฏบิ ัติตนเปน็ ผู้ทมี่ ีความละอายและไมท่ นต่อการทุจริต
ไดด้ ้วยตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ มีพฤตกิ รรมการแบง่ ปันและปฏิบัติตนเปน็ ผ้ทู ่ีมีความละอายและไม่ทนต่อการทุจริตได้
โดยมีผคู้ อยชีแ้ นะ
ระดับ ๑ : เดก็ ไมม่ ีพฤติกรรมการแบง่ ปันและไม่ปฏิบัติตนเป็นผู้ทมี่ ีความละอายและไม่ทนตอ่ การทุจรติ
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์
หนว่ ยที่ ๒ ช่ือหน่วย ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทุจริต ชั้นปฐมวัย
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี ๑๐ เรอ่ื ง การแต่งกายดว้ ยตนเองและการไม่นาเอาเครอ่ื งแต่งกาย เวลำ ๑ ชวั่ โมง
ของผู้อ่ืนมาเป็นของตนเอง
๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต
๑.๒ ปฏิบัติตนเป็นผู้ทมี่ คี วามละอายและไมท่ นต่อการทจุ รติ ทุกรูปแบบ
๒. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
๒.๑ เดก็ สามารถบอกขัน้ ตอนการแตง่ กายได้
๒.๒ เด็กสามารถแต่งกายด้วยตนเองได้ โดยไมน่ าเอาเครือ่ งแต่งกายของคนอ่นื มาเป็นของตนเอง
๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
การแต่งกาย หมายถึง ความสามารถของเดก็ ในการสวมเส้ือ กางเกง ติดกระดุมเสื้อ ผกู เชอื กรองเท้า สวม
ถงุ เทา้ ความสามารถในการแต่งกายของเด็กข้ึนอยู่กบั พัฒนาการด้านการใชก้ ล้ามเนอื้ เล็กของเด็ก การแต่งกายเป็น
การปฏิบัติกิจวัตรประจาวันของเด็กท่ีควรได้รับการฝึกฝน นอกจากนั้นต้องไม่นาเอาเครอื่ งแต่งกายของคนอ่ืนมา
เปน็ ของตนเอง
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะท่ีเกดิ )
๑) มที ักษะชีวติ และช่วยเหลือตนเองได้
๒) มที กั ษะการคดิ การใช้ภาษาส่อื สาร
๓.๓ คุณลักษณะท่พี ึงประสงค์/ค่ำนยิ ม
มีวนิ ยั ซื่อสัตย์สจุ รติ
๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ขั้นตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) ครูนารูปภาพการแต่งกายของเดก็ สองคน มาให้เดก็ ดู แลว้ ให้เด็กสังเกต เปรียบเทยี บ โดยใช้คาถาม ดงั น้ี
• ภาพท้ังสองภาพทีค่ รนู ามาให้ดูมีความเหมือน หรอื แตกต่างกันหรอื ไม่ อย่างไร (แตกตา่ งกัน เพราะ
ภาพแรกเปน็ ภาพเด็กแต่งกายเรียบรอ้ ย แตภ่ าพที่สองเปน็ ภาพเดก็ แตง่ กายไม่เรยี บรอ้ ย)
• ถ้าจะใหเ้ ลือก เราอยากเป็นบุคคลในภาพไหน เพราะเหตุใด (เป็นบุคคลในภาพที่หนึ่ง เพราะแต่งกาย
เรยี บรอ้ ย)
• ถ้าเราพบเห็นเพื่อนๆ แต่งตัวไม่เรียบร้อย เราจะทาอย่างไร เพราะเหตุใดจึงทาเช่นน้ัน (จะตักเตือน
เพราะการแต่งกายไมเ่ รียบรอ้ ยเป็นการผิดระเบียบของโรงเรยี น คนดีจะต้องไมท่ าผิดกฎ กตกิ า ระเบยี บ)
๒) เดก็ และครรู ว่ มกันสนทนาเกี่ยวกับขน้ั ตอนการแต่งกาย
๓) ครูให้เด็กทุกคนถอดเส้ือกันเป้ือน ถอดรองเท้า ของตนแลว้ นามากองรวมกันไว้กลางห้อง จากนน้ั ครูให้
เด็กๆ ทุกคนเลือกสิ่งของของตนเองแลว้ นากลบั มาใส่ใหถ้ กู ต้อง เรียบร้อย ใครสามารถแตง่ ตัวเสร็จกอ่ นและถูกต้อง
โดยไม่นาของเพอื่ นมาใส่ เป็นคนแรก ถือว่าคนนั้นชนะ
๔) เด็กและครูร่วมกันอภิปรายสรุป เก่ียวกับเรื่องการแต่งกาย ว่า การแต่งกาย หมายถึง ความสามารถ
ของเด็กในการสวมเสอื้ กางเกง ติดกระดุมเส้ือ ผูกเชือกรองเท้า สวมถุงเท้า ความสามารถในการแต่งกายของเด็ก
ขนึ้ อยกู่ ับพัฒนาการดา้ นการใช้กลา้ มเน้ือเลก็ ของเด็ก การแต่งกายเป็นการปฏบิ ัติกิจวตั รประจาวันของเด็กทีค่ วรได้รับ
การฝกึ ฝน นอกจากนัน้ ต้องไม่นาเอาเครอ่ื งแตง่ กายของคนอ่ืนมาเปน็ ของตนเอง
๔.๒ สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรยี นรู้
๑) ภาพเด็กแต่งกายเรียบร้อยและภาพเด็กท่ีแตง่ กายไมเ่ รียบร้อย
๒) อปุ กรณ์การแตง่ กาย เช่น เสื้อกันเปอ้ื น รองเทา้ ฯลฯ (ของจรงิ )
๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วิธกี ำรประเมิน
๑) สังเกตการตอบคาถาม เรอ่ื ง “ขั้นตอนการแต่งตัว”
๒) สังเกตการฝกึ การแตง่ ตวั ของเดก็
๕.๒ เครือ่ งมอื ทใ่ี ช้ในกำรประเมิน
๑) แบบสังเกตการตอบคาถาม เรอื่ ง “ขนั้ ตอนและวธิ ีการแตง่ ตัว”
๒) แบบสงั เกตการฝกึ การแตง่ ตวั ของเดก็
๕.๓ เกณฑก์ ำรตัดสิน
เดก็ ผา่ นการประเมินระดับ ๒ ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่าน
บนั ทกึ หลังสอน
หนว่ ยการสอนที่................ แผนการจดั การเรยี นรูท้ .่ี .............
บนั ทกึ หลงั สอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(.................................................)
ครูผสู้ อน
ควำมคดิ เหน็ ของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(นางสาวกันตนา จติ รบรรจง)
ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั คลองห้า
๗. ภำคผนวก
ภำพกำรแตง่ กำยของเด็กที่เรียบร้อย
ภำพกำรแต่งกำยของเดก็ ทไี่ มเ่ รยี บร้อย
ภำพตวั อย่ำงอปุ กรณเ์ คร่อื งแตง่ ตวั ของเดก็
แบบสงั เกตกำรตอบคำถำม
หนว่ ยที่ ๒ ชือ่ หนว่ ย ความละอายและความไมท่ นต่อการทุจริต
แผนการจดั ประสบการณ์ที่ ๑๐ เรือ่ ง การแต่งกายดว้ ยตวั เองและการไม่นาเอาเครือ่ งแตง่ กายของผอู้ ื่น
มาเปน็ ของตนเอง
วันที่.............เดอื น.............................พ.ศ............................
คำชแ้ี จง : ให้ผู้ประเมินทาเครือ่ งหมาย ในช่องระดับคุณภาพของเดก็ ในแต่ละประเดน็ ทีป่ ระเมิน
ท่ี ช่อื -สกลุ บอกขั้นตอน ฝกึ การแตง่ กาย
การแต่งกาย ๓๒๑
๓๒๑
รวม
เฉลยี่
ลงชือ่ ...........................................................ผูป้ ระเมิน
(........................................................)
เกณฑ์กำรประเมนิ
บอกขัน้ ตอนการแต่งกาย
ระดบั ๓ : เด็กสามารถบอกข้นั ตอนการแต่งกายไดด้ ้วยตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ สามารถบอกขั้นตอนการแต่งกายได้โดยมีผู้ช้ีแนะ
ระดบั ๑ : เดก็ ไมส่ ามารถบอกขัน้ ตอนการแตง่ กายได้
ฝึกการแต่งกาย
ระดับ ๓ : เด็กแต่งกายด้วยตนเองได้อย่างถกู ต้อง เรยี บรอ้ ย คลอ่ งแคล่ว โดยไมน่ าเอาเครอื่ งแต่งกายของคน
อื่นมาเปน็ ของตนเอง
ระดบั ๒ : เด็กแตง่ กายดว้ ยตนเองไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง เรยี บรอ้ ย แต่ยังขาดความคล่องแคลว่ และไมน่ าเอา
เครอ่ื งแตง่ กายของคนอืน่ มาเป็นของตนเอง
ระดับ ๑ : เดก็ แต่งกายได้ แต่นาเอาเคร่ืองแตง่ กายของคนอน่ื มาเปน็ ของตนเอง
แผนกำรจัดประสบกำรณ์
หน่วยที่ ๒ ชอื่ หนว่ ย ความละอายและความไมท่ นตอ่ การทจุ ริต ชัน้ ปฐมวัย
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี ๑๑ เรอ่ื ง ความหมายของกิจวตั รประจาวัน เวลำ ๑ ชว่ั โมง
๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจริต
๑.๒ ปฏิบัติตนเปน็ ผู้ท่ีมคี วามละอายและไมท่ นต่อการทุจริตทุกรปู แบบ
๒. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
๒.๑ ปฏบิ ตั ติ น และบอกวิธกี ารปฏิบตั ิกิจวัตรประจาวันของตนแกบ่ คุ คลอนื่ ได้
๒.๑ สามารถปฏิบัตติ นเป็นผู้ละอายและเป็นผู้ไม่ทนตอ่ การทจุ ริตได้
๓.สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
กจิ วัตรประจาวนั หมายถงึ กิจที่ทาเปน็ ประจา การปฏิบัติกจิ วัตรประจาวนั เป็นพฤติกรรมที่แสดงออกถึง
ความมีวินยั ในตนเอง
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะทีเ่ กดิ )
๑) มที กั ษะชีวิต และอยู่ร่วมกบั ผ้อู ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
๒) มีทักษะการคดิ การใช้ภาษาส่ือสาร และการแสวงหาความรไู้ ด้เหมาะสมกับวยั
๓.๓ คณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์/คำ่ นิยม
มีวินยั
๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ขน้ั ตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) เด็กและครูศึกษา Stop Motion เร่อื ง “กจิ วตั รประจาวนั ของหนูแดง” (YouTube Rungkan Aueafuea)
๒) เด็กและครูร่วมกนั สนทนาเกยี่ วกับเนอื้ หา Stop Motion เร่ือง “กิจวตั รประจาวันของหนูแดง” และปฏิบัติ
ดังน้ี
• ช่วยกนั บอกการปฏิบัติกจิ วตั รประจาวนั ของหนูแดงที่ปรากฏในเร่ืองว่ามีอะไรบา้ ง (ใส่บาตร อาบน้า
รับประทานอาหาร ไปโรงเรียน เรียนหนงั สือ)
• ได้รบั ความรู้อะไรบา้ งจากการศกึ ษากิจวัตรประจาวันของหนแู ดง (เด็กควรปฏิบัติตนตามหนูแดง ซ่ึงเป็น
การกระทาทีถ่ ูกต้องและเปน็ สิง่ ด)ี
• ครูสอบถามเด็กเกี่ยวกับกิจวตั รประจาวนั ของเด็กทโี่ รงเรียนมีอะไรบ้าง (ล้างมือ, ล้างหน้า, แปรงฟัน,
เก็บของใชข้ องเล่น, ดม่ื นม)
• ถ้าเราพบเพ่ือนทป่ี ฏิบตั ิกจิ วัตรประจาวนั ของตนเองไม่ได้ หรือทาไม่เป็น เราจะทาอย่างไร (จะสอน
เพื่อน ใหเ้ พ่อื นฝึกทาด้วยตนเอง จนสามารถปฏิบัติได้)
๓) เดก็ และครูร่วมกันสนทนา สรุป ข้อดขี องการปฏบิ ัติตนท่ถี ูกตอ้ งในการปฏิบัติกิจวตั รประจาวัน
๔.๒ ส่ือกำรเรียนร/ู้ แหลง่ กำรเรยี นรู้
๑. Stop Motion เรือ่ ง “กิจวัตรประจาวันของหนูแดง”
๒. จาน ชาม ช้อน ห้องน้า ห้องส้วม เครือ่ งแต่งกาย
๕. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วิธีกำรประเมิน
สังเกตการรว่ มกจิ กรรม สนทนา ตอบคาถาม
๕.๒ เครอื่ งมอื ทใ่ี ช้ในกำรประเมนิ
แบบสงั เกตการร่วมกจิ กรรม สนทนา ตอบคาถาม
๕.๓ เกณฑก์ ำรตัดสิน
เดก็ ผา่ นเกณฑ์การประเมนิ ตั้งแตร่ ะดบั ๒ ขน้ึ ไปถือว่าผา่ น
บนั ทึกหลังสอน
หนว่ ยการสอนท่ี................ แผนการจัดการเรยี นร้ทู ่ี..............
บันทกึ หลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปัญหาและอปุ สรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(.................................................)
ครูผู้สอน
ควำมคดิ เห็นของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี น (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(นางสาวกันตนา จติ รบรรจง)
ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดคลองห้า
๗. ภำคผนวก
Stop Motion เร่ือง กิจวัตรประจำวนั ของหนูแดง
https://www.youtube.com/watch?v=PGSOajgPN-k
จาก YouTube Rungkan Aueafuea
แบบสงั เกตกำรปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจำวนั
หน่วยที่ ๒ ชอ่ื หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ
แผนการจัดประสบการณ์ท่ี ๑๑ เรือ่ ง ความหมายของกจิ วตั รประจาวนั
วนั ท่ี.............เดอื น.............................พ.ศ. ................
คำชแ้ี จง : ให้ผู้ประเมนิ ทาเครอื่ งหมาย ในช่องระดับคณุ ภาพของเด็กในแต่ละประเด็นท่ีประเมิน
ท่ี ชือ่ -สกลุ การปฏิบตั ิกิจวัตรประจาวัน
๓ ๒๑
รวม
เฉลยี่
ลงชอื่ ...........................................................ผู้ประเมิน
(........................................................)
เกณฑก์ ำรประเมนิ
การปฏบิ ตั ิกจิ วตั รประจาวัน
ระดับ ๓ : เด็กปฏบิ ัตกิ ิจวัตรประจาวันด้วยตนเองอย่างคล่องแคลว่ และสามารถแนะนาเพื่อนคนที่ปฏบิ ตั ิ
กิจวตั รประจาวันด้วยตนเองไมไ่ ด้
ระดับ ๒ : เดก็ ปฏิบัติกจิ วัตรประจาวนั ดว้ ยตนเองได้ แต่ไม่คลอ่ งแคลว่ และสามารถแนะนาเพื่อนคนทปี่ ฏบิ ัติ
กจิ วัตรประจาวนั ด้วยตนเองไม่ได้
ระดบั ๑ : เดก็ ไม่สามารถปฏิบัตกิ จิ วตั รประจาวนั ได้ด้วยตนเอง และไม่สามารถแนะนาเพื่อนทป่ี ฏิบตั ิกิจวตั ร
ประจาวันด้วยตนเองไมไ่ ด้
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์
หนว่ ยที่ ๒ ชือ่ หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนต่อการทุจรติ ชนั้ ปฐมวยั
แผนกำรจัดประสบกำรณท์ ่ี ๑๒ เรื่อง ข้อดี และข้อเสยี ของการปฏบิ ัตแิ ละไม่ปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจาวนั เวลำ ๑ ชวั่ โมง
๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ มีความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกบั ความละอายและความไมท่ นต่อการทจุ ริต
๑.๒ ปฏบิ ัตติ นเป็นผู้ท่มี ีความละอายและไม่ทนต่อการทุจรติ ทกุ รปู แบบ
๒. จดุ ประสงค์กำรเรยี นรู้
๒.๑ บอกขอ้ ดี และข้อเสียของการปฏบิ ตั ิและไม่ปฏิบัติกิจวัตรประจาวนั ได้
๒.๒ ปฏบิ ตั ิตน และบอกวธิ กี ารปฏิบตั กิ ิจวตั รประจาวันของตนแกบ่ ุคคลอน่ื ได้
๒.๓ สามารถปฏิบตั ติ นเป็นผู้ละอายและเปน็ ผไู้ ม่ทนต่อการทุจรติ ทกุ รูปแบบในการปฏิบตั กิ จิ วตั รประจาวนั
ไมถ่ ูกตอ้ งได้
๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
กจิ วัตรประจาวัน หมายถึง กิจที่ทาเป็นประจา การปฏิบัติกจิ วัตรประจาวันเป็นพฤติกรรมท่ีแสดงออกถึง
ความมีวินัยในตนเอง
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะทเ่ี กดิ )
๑) มที กั ษะชีวิต และอยูร่ ่วมกับผอู้ ่นื ไดอ้ ยา่ งมคี วามสขุ
๒) มีทกั ษะการคดิ การใช้ภาษาสื่อสาร
๓.๓ คณุ ลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์/คำ่ นิยม
มีวนิ ยั ซ่ือสัตยส์ ุจรติ
๔. กำรจดั ประสบกำรณ์
๔.๑ ขัน้ ตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑. เดก็ และครูศึกษา นทิ าน เร่ือง “กจิ วัตรประจาวันหนทู าได้” (YouTube แสงอรณุ บญุ ลือชา)
๒. เดก็ และครรู ่วมกนั สนทนาเก่ียวกับเนือ้ หาของนทิ าน โดยครใู ช้คาถาม ดงั น้ี
• เราลองช่วยกันบอกซิว่า การปฏิบัติกิจวตั รประจาวันของหนูแสนดีมีอะไรบ้าง (อาบน้า ไปโรงเรียน
รบั ประทานอาหาร ทางานบา้ น)
• เราได้รับความรู้อะไรบ้างจากการดูนิทาน เร่ือง “กิจวัตรประจาวันหนูแสนดีทาได้” (เราต้องปฏิบัติ
กจิ วัตรประจาวนั ดว้ ยตนเอง เช่น ตื่นนอน อาบน้า รับประทานอาหาร ไปโรงเรยี นใหถ้ ูกต้อง)
• ถา้ พบเห็นเพื่อนที่เขา้ ห้องน้าแล้วไม่ราดนา้ , ขณะแปรงฟันแล้วไมป่ ิดน้า เราจะทาอย่างไร (จะไปบอก
เพอื่ นวา่ การกระทานั้นไมถ่ กู ตอ้ ง ทาให้เกิดความสิ้นเปลืองค่าใช้จ่ายของสว่ นรวม (โรงเรียน) แลว้ พยายามชีแ้ นะเพ่ือน
ใหป้ ฏบิ ตั ิในสิง่ ทถี่ ูกต้อง)
๓) เดก็ และครูร่วมกันสนทนา เก่ียวกับวิธปี ฏิบัติกิจวตั รประจาวันท่ไี ม่ถูกตอ้ ง เช่น การรับประทานอาหาร
มูมมาม การพูดคุยขณะอาหารอยู่ในปาก การแต่งกายไม่เรียบร้อย ไม่ถูกระเบียบ การเข้าห้องน้าไม่กดชักโครก
การเหยียบบนโถชกั โครก การทิง้ กระดาษชาระลงในโถชกั โครก
๔) เด็กและครูรว่ มกันสรุปเกย่ี วกับผลดี และผลเสยี ของการปฏบิ ัตกิ ิจวตั รประจาวันทถ่ี ูกตอ้ ง และไมถ่ ูกตอ้ ง
๔.๒ สื่อกำรเรียนรู้/แหล่งกำรเรยี นรู้
นิทาน เรอื่ ง “กจิ วัตรประจาวนั หนูทาได้”
๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ำรประเมิน
สงั เกตการรว่ มกจิ กรรม สนทนา ตอบคาถาม
๕.๒ เครื่องมือทีใ่ ช้ในกำรประเมิน
แบบสงั เกตการร่วมกิจกรรม สนทนา ตอบคาถาม
๕.๓ เกณฑ์กำรตดั สนิ
เดก็ ผา่ นการประเมนิ ต้งั แต่ระดับ ๒ ข้ึนไปถอื ว่าผา่ น
บันทกึ หลังสอน
หนว่ ยการสอนท่.ี ............... แผนการจดั การเรยี นรูท้ .่ี .............
บนั ทึกหลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปัญหาและอุปสรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(.................................................)
ครูผสู้ อน
ควำมคดิ เห็นของผอู้ ำนวยกำรโรงเรียน (ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(นางสาวกนั ตนา จติ รบรรจง)
ผูอ้ านวยการโรงเรยี นวัดคลองหา้
๗. ภำคผนวก
Stop Motion นทิ ำน กิจวตั รประจำวันหนูทำได้
https://www.youtube.com/watch?v=d๐ixZ๖E๕HkU
จำก YouTube แสงอรุณ บญุ ลอื ชำ
แบบสงั เกตกำรปฏบิ ตั กิ จิ วตั รประจำวนั
หน่วยที่ ๒ ชอ่ื หนว่ ย ความละอายและความไม่ทนตอ่ การทุจริต
แผนการจดั ประสบการณ์ท่ี ๑๒ เรื่อง ขอ้ ดี และข้อเสียของการปฏบิ ตั แิ ละไม่ปฏบิ ัติกจิ วัตรประจาวนั
วันที.่ ............เดอื น.............................พ.ศ. ................
คำช้แี จง : ใหผ้ ้ปู ระเมินทาเครอ่ื งหมาย ในช่องระดบั คณุ ภาพของเดก็ ในแต่ละประเด็นทปี่ ระเมิน
ท่ี ช่ือ-สกลุ การปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจาวัน
๓ ๒๑
รวม
เฉล่ยี
ลงช่ือ...........................................................ผปู้ ระเมิน
(........................................................)
เกณฑก์ ำรประเมิน
การปฏิบตั กิ จิ วตั รประจาวัน
ระดบั ๓ : เด็กปฏบิ ตั ิกจิ วัตรประจาวันดว้ ยตนเองอยา่ งคล่องแคล่ว และสามารถแนะนาเพอ่ื นคนท่ปี ฏิบตั ิ
กิจวตั รประจาวันดว้ ยตนเองไมไ่ ด้
ระดับ ๒ : เดก็ ปฏบิ ตั กิ ิจวตั รประจาวันดว้ ยตนเองได้ คล่องแคล่ว แต่ไม่สามารถแนะนาเพ่อื นคนที่ปฏบิ ัติ
กิจวัตรประจาวันดว้ ยตนเองไม่ได้
ระดับ ๑ : เดก็ ไม่สามารถปฏิบตั กิ จิ วตั รประจาวนั ดว้ ยตนเองได้ และไม่สามารถแนะนาเพือ่ นคนท่ปี ฏบิ ัตกิ ิจวตั ร
ประจาวันดว้ ยตนเองไม่ได้
หน่วยที่ ๓
STRONG : จติ พอเพียงตำ้ นทจุ รติ
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ ชั้นปฐมวยั
เวลำ ๑ ชั่วโมง
หน่วยท่ี ๓ ชอ่ื หนว่ ย STRONG : จิตพอเพยี งต้านทจุ ริต
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ท่ี ๑ เร่อื ง Sufficient : ความหมายของความพอเพยี ง
๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ ปฏบิ ตั ิตนเป็นผู้ที่ STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทุจริต
๒. จดุ ประสงคก์ ำรเรยี นรู้
๒.๑ สามารถบอกความหมายของความพอเพยี งได้
๓. สำระกำรเรียนรู้
๓.๑ ควำมรู้
ความพอเพียง คือ การรู้จกั ประมาณ การทาอะไรไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป อยบู่ นทางสายกลาง
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะท่ีเกิด)
๑) มที กั ษะชวี ติ และปฏบิ ตั ิตนตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง และอยรู่ ว่ มกับผอู้ ่นื ได้อย่างมคี วามสุข
๒) มที ักษะการคิด การใชภ้ าษาส่อื สาร
๓.๓ คุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์/คำ่ นิยม
อยู่อย่างพอเพียง
๔. กำรจดั ประสบกำรณ์
๔.๑ ขน้ั ตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) เด็กและครูรว่ มกนั รอ้ งเพลง “พอเพียง”
๒) เด็กเคลอ่ื นไหวร่างกายประกอบเพลง “พอเพียง” อยา่ งอสิ ระ
๓) ครแู ละเดก็ เลา่ ประสบการณ์ทเี่ คยได้ยนิ เรื่อง “การใช้ชีวิตพอเพียง”
๔) เด็กและครรู ่วมกันสนทนาเกย่ี วกบั ความหมาย และแนวปฏิบตั อิ ยา่ งพอเพยี ง เช่น การเกบ็ ออม การดมื่ นม
ใหห้ มด การใช้ของอยา่ งประหยัด
๕) เด็กและครูร่วมกนั สรุป ความหมายของความพอเพียง หมายถึงการรู้จกั ประมาณ การทาอะไรไม่มาก
เกนิ ไป ไม่นอ้ ยเกนิ ไป อยบู่ นทางสายกลาง
๔.๒ ส่อื กำรเรียนรู้/แหลง่ กำรเรยี นรู้
๑) เพลง “พอเพียง”
๒) สงิ่ ของต่างๆ ในห้องเรียนทใี่ ชส้ ่วนรวม เชน่ ดนิ สอสี กรรไกร เป็นต้น
๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วิธกี ำรประเมิน
สังเกตการตอบคาถาม
๕.๒ เครอื่ งมือทใ่ี ช้ในกำรประเมิน
แบบสังเกตการตอบคาถาม
๕.๓ เกณฑ์กำรประเมิน
เด็กผ่านการประเมินระดับ ๒ ข้นึ ไป ถอื ว่าผา่ น
บันทึกหลังสอน
หนว่ ยการสอนท.ี่ ............... แผนการจัดการเรยี นรูท้ .่ี .............
บนั ทกึ หลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปัญหาและอุปสรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(.................................................)
ครูผูส้ อน
ควำมคิดเห็นของผู้อำนวยกำรโรงเรยี น (ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(นางสาวกันตนา จิตรบรรจง)
ผอู้ านวยการโรงเรยี นวดั คลองห้า
๗. ภำคผนวก
เพลงพอเพยี ง
พออยู่ พอกนิ พอใช้ พอใจ
เดก็ ๆ ไทย จงจาใหม้ ัน่
อดทน อดออม อดกลั้น (ซา้ )
เธอและฉัน มคี วามพอเพยี ง
แบบสงั เกตกำรตอบคำถำมของเดก็
หน่วยท่ี ๓ ช่อื หน่วย STRONG : จติ พอเพียงตา้ นทุจริต
แผนการจัดประสบการณ์ท่ี ๑ เรอื่ ง Sufficient : ความหมายของความพอเพียง
วนั ที.่ ............เดือน.............................พ.ศ............................
คำชแ้ี จง: ให้ผูป้ ระเมนิ ทาเครื่องหมาย ในชอ่ งระดับคุณภาพของเด็กในแต่ละประเดน็ ท่ปี ระเมิน
ที่ ชือ่ -สกุล บอกความหมายของพอเพยี ง
๓ ๒๑
รวม
เฉลยี่
ลงช่ือ...........................................................ผปู้ ระเมิน
(........................................................)
เกณฑ์กำรประเมิน
บอกถึงความพอเพียง
ระดับ ๓ : เด็กสามารถบอกความหมายความพอเพยี งได้ดว้ ยตนเอง
ระดับ ๒ : เดก็ สามารถบอกความหมายความพอเพียงได้โดยมีผู้ชี้แนะ
ระดับ ๑ : เด็กไมส่ ามารถบอกความหมายความพอเพยี งได้
แผนกำรจัดประสบกำรณ์ ช้นั ปฐมวยั
เวลำ ๑ ชว่ั โมง
หนว่ ยที่ ๓ ชื่อหน่วย STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทุจริต
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ที่ ๒ เร่อื ง Transparent : ความหมายของความโปรง่ ใส
๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ท่ี STRONG : จิตพอเพียงตา้ นทุจริต
๒. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
๒.๑ สามารถบอกความหมายของความโปร่งใสได้
๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
ความโปร่งใส คือ การกระทาการใด ที่ผู้อื่นสามารถมองเห็นได้ คาดเดาได้ และเข้าใจได้ การดาเนินงาน
การมีระบบงานและขั้นตอนการทางานท่ีชัดเจน มีกฎระเบียบ ตรงไปตรงมา และช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริต
รวมทง้ั นาไปสกู่ ารสรา้ งความไวว้ างใจซึ่งกัน
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะที่เกดิ )
๑) มีทักษะชวี ิต และอยูร่ ว่ มกบั ผู้อื่นไดอ้ ย่างมีความสขุ
๒) มีทกั ษะการคิด การใช้ภาษาสอ่ื สาร
๓.๓ คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์/ค่ำนิยม
มวี นิ ยั ซอ่ื สัตยส์ จุ ริต
๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ขนั้ ตอนกำรจัดประสบกำรณ์
๑) เด็กและครูร่วมกันท่องคาคล้องจอง “ความรู้คู่คุณธรรม” จากนั้นร่วมกันสนทนา โดยครูใช้คาถาม
ดงั นี้
• คาคล้องจองทเี่ ราทอ่ งร่วมกนั นั้นเป็นเรอื่ งเกี่ยวกับอะไร (เร่ืองการมีคุณธรรมควบคู่ไปกบั การมีความรู้)
๒) เด็กและครรู ว่ มกันสนทนา เร่ือง “ความโปร่งใสคืออะไร” (ความโปร่งใส คือ การกระทาการใด ท่ีผูอ้ ่ืน
สามารถมองเห็นได้ คาดเดาได้ และเขา้ ใจได้ การดาเนนิ งาน การมีระบบงานและข้ันตอนการทางานท่ีชัดเจน มีกฎ
ระเบียบ ตรงไปตรงมา และชว่ ยปอ้ งกันไม่ให้เกิดการทจุ ริต รวมทง้ั นาไปสูก่ ารสรา้ งความไว้วางใจซ่งึ กนั )
๓) ใหเ้ ดก็ ชมวีดีโอ เรอื่ ง “นิมนตย์ มิ้ เดลคี่ นดไี มค่ อรร์ ัปชัน” ตอนเข้าแถว จากน้นั ร่วมกนั สนทนา โดยครู
ใชค้ าถาม ดังน้ี
• จากเนื้อเรื่องเกิดเหตกุ ารณ์อะไรขน้ึ (มีผ้ชู ายคนหน่ึงต่อแถวรับค่าแรงจากนายจ้างหลายรอบ เป็นการ
ทจุ ริต ไมโ่ ปร่งใส)
•การกระทาของชายคนดังกล่าวถกู ต้องหรือไม่ เพราะเหตุใด (ไม่ถกู ต้อง เพราะเปน็ การกระทาท่ีทุจริต
ไมโ่ ปร่งใส โกงคนอืน่ )
๕) เด็กและครรู ่วมกนั สรปุ ความโปร่งใส การทาทตี่ รงไป ตรงมาไม่ ผอู้ ืน่ สามารถมองเหน็ ได้ ไม่เอาเปรยี บ
ผอู้ น่ื
๖) เด็กและครูรว่ มกันสรา้ งข้อตกลงร่วมกัน เก่ียวกับการปฏิบตั ิตนใหเ้ ปน็ คนโปร่งใสไม่ทุจริต เป็นข้อตกลง
ทจ่ี ะใช้ร่วมกนั ในหอ้ งเรยี น
๔.๒ สือ่ กำรเรียนรู้/แหลง่ กำรเรยี นรู้
๑) คาคล้องจอง “ความร้คู คู่ ุณธรรม”
๒) วีดโี อ “นมิ นต์ย้ิมเดลค่ี นดีไม่คอร์รัปชนั ตอน เขา้ แถว”
๕. กำรประเมนิ ผลกำรเรยี นรู้
๕.๑ วิธกี ำรประเมิน
สงั เกตการตอบคาถาม
๕.๒ เคร่อื งมือท่ีใช้ในกำรประเมิน
แบบสังเกตการตอบคาถาม
๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมนิ
เด็กผ่านการประเมนิ ระดับ ๒ ขน้ึ ไป ถือวา่ ผ่าน
บันทกึ หลงั สอน
หนว่ ยการสอนที.่ ............... แผนการจัดการเรียนร้ทู .่ี .............
บันทกึ หลังสอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ขอ้ เสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(.................................................)
ครูผู้สอน
ควำมคิดเห็นของผู้อำนวยกำรโรงเรยี น (ตรวจ/นเิ ทศ/เสนอแนะ/รบั รอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(นางสาวกนั ตนา จติ รบรรจง)
ผูอ้ านวยการโรงเรยี นวัดคลองห้า
๗. ภำคผนวก
คำคลอ้ งจอง “ควำมรคู้ ู่คุณธรรม”
หากความรู้สูงล้าคณุ ธรรมเลศิ
แสนประเสริฐกอบกิจวินิจฉยั
จะพัฒนาประชาราษฎรท์ ้ังชาตไิ ทย
ตอ้ งฝึกให้ความรู้ค่คู ณุ ธรรม
(ผู้แตง่ : อาจารย์อาไพ สุจริตกุล)
วีดีโอนิมนต์ยม้ิ เดลค่ี นดไี ม่คอร์รปั ชัน
https://www.youtube.com/watch?v=H๑lsvIVVdEg
แบบสงั เกตกำรตอบคำถำมของเดก็
หนว่ ยท่ี ๓ ชอื่ หน่วย STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ ริต
แผนการจดั ประสบการณ์ท่ี ๒ เรือ่ ง Transparent : ความหมายของความโปร่งใส
วันท่ี.............เดอื น.............................พ.ศ............................
คำช้ีแจง: ใหผ้ ปู้ ระเมินทาเครื่องหมาย ในช่องระดับคุณภาพของเด็กในแต่ละประเดน็ ท่ีประเมนิ
ท่ี ชื่อ-สกุล บอกความหมายและพฤติกรรมความโปรง่ ใส
๓ ๒๑
รวม
เฉลี่ย
ลงชือ่ ...........................................................ผู้ประเมนิ
(.........................................................)
เกณฑ์กำรประเมนิ
บอกถงึ ความโปร่งใส
ระดับ ๓ : เดก็ สามารถบอกความหมายและพฤติกรรมความโปร่งใสได้ด้วยตนเอง
ระดับ ๒ : เด็กสามารถบอกความหมายและพฤติกรรมความโปร่งใสได้โดยมผี ูช้ ้แี นะ
ระดับ ๑ : เด็กไม่สามารถบอกความหมายและพฤตกิ รรมความโปร่งใสได้
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์
หน่วยที่ ๓ ชอื่ หน่วย STRONG : จติ พอเพยี งตา้ นทจุ รติ ชัน้ ปฐมวยั
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี ๓ เรือ่ ง Realise/Knowledge : ความหมายของความตนื่ รแู้ ละความรู้ เวลำ ๑ ชว่ั โมง
๑. ผลกำรเรยี นรู้
๑.๑ ปฏบิ ตั ติ นเปน็ ผู้ท่ี STRONG : จติ พอเพียงต้านทจุ ริต
๒. จุดประสงคก์ ำรเรียนรู้
๒.๑ มีพฤตกิ รรมความต่ืนรู้ และความรู้
๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
• ความต่ืนรู้ หมายถงึ ความเข้าใจตระหนักรู้ถึงรากเหง้าของปัญหา และพร้อมในการป้องกันและแก้ไขปัญหา
การทุจริต
• ความรู้ หมายถงึ การพฒั นาองค์ความรู้อย่างสมา่ เสมอ เพอื่ ให้เท่าทันต่อสถานการณก์ ารทุจริต
๓.๒ ทักษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะที่เกดิ )
๑) มีทักษะชีวิต และอยู่รว่ มกบั ผอู้ น่ื ไดอ้ ย่างมีความสขุ
๒) มที ักษะการคดิ การใช้ภาษาสือ่ สาร และการแสวงหาความรู้ได้เหมาะสมกบั วยั
๓.๓ คุณลกั ษณะท่พี ึงประสงค์/คำ่ นยิ ม
ใฝ่เรยี นรู้
๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ข้ันตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) เด็กและครูร่วมกันท่องคาคลอ้ งจอง “ต้งั เอย๋ ตงั้ ไข”่
๒) เดก็ และครสู นทนากนั ถงึ คาคลอ้ งจอง “ตง้ั เอ๋ยต้งั ไข”่ โดยครใู ช้คาถาม ดงั น้ี
• คาคล้องจองท่เี ราร่วมทอ่ งกัน มีเนอ้ื หาเกย่ี วกับเร่อื งอะไร (ความต้ังใจ ใฝเ่ รยี นรู้)
๓) ครูใหเ้ ด็กชมวดิ โี อ “เรอื่ ง แพะสามตวั กบั เจ้ายกั ษ์”
๔) ครตู ง้ั คาถามให้เดก็ ไดค้ ิดและแสดงความคิดเหน็ เก่ียวกบั นิทาน ดังนี้
• แพะทาอยา่ งไรจงึ รอดตายจากการถกู ยักษ์จับกิน (เพราะแพะฉลาด มีวิธคี ิดแกป้ ัญหา สามารถฝา่ ฟัน
อุปสรรคไ์ ปได)้
• ถ้าเราเปน็ แพะเราจะทาอยา่ งไรจึงจะรอดตายจากการถูกยกั ษ์จับกิน (กจ็ ะคิดหาวิธีต่างๆ เหมอื นเจา้ แพะ
เชน่ กัน เพอ่ื ให้สามารถขา้ มผ่านสะพานไปได)้
๕) เด็กและครูร่วมกันสนทนาเกี่ยวกับวดี ีโอที่ได้รบั ชม ครสู ะทอ้ นความเห็น และการค้นคว้าในการแกป้ ัญหา
จากเน้อื เรอ่ื งในนิทาน
๖)เด็กและครูรว่ มกนั สรปุ ข้อคดิ ทไ่ี ด้จากนิทานเองนีด้ ้วยกนั
๔.๒ สือ่ กำรเรยี นรู้/แหลง่ กำรเรยี นรู้
๑) คาคลอ้ งจอง “ต้งั เอย๋ ต้ังไข”่
๒) วีดีโอนทิ าน เร่ือง “แพะสามตวั กับเจ้ายักษ์”
๕. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ำรประเมิน
สังเกตการตอบคาถาม
๕.๓ เคร่อื งมือท่ใี ชใ้ นกำรประเมนิ
แบบสังเกตการตอบคาถาม
๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมนิ
เด็กผา่ นการประเมินระดับ ๒ ขึ้นไป ถือวา่ ผา่ น
บนั ทกึ หลังสอน
หน่วยการสอนที่................ แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่..............
บนั ทกึ หลงั สอน
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ปญั หาและอุปสรรค
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(.................................................)
ครูผสู้ อน
ควำมคดิ เหน็ ของผูอ้ ำนวยกำรโรงเรยี น (ตรวจ/นิเทศ/เสนอแนะ/รับรอง)
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................
(นางสาวกนั ตนา จิตรบรรจง)
ผู้อานวยการโรงเรยี นวัดคลองหา้
๗. ภำคผนวก
คำคลอ้ งจอง “ตง้ั เอย๋ ตั้งไข่”
ต้ังเอ๋ยต้ังไข่
จะตั้งใย ไขก่ ลม กล็ ม้ สน้ิ
ถึงวา่ ไขล่ ้ม จะต้มกิน
ถา้ ตกดิน เสยี กอ็ ด หมดฝีมอื
ตงั้ ใจ เราน้ี จะดีกว่า
อุตส่าห์ อา่ นเขยี น เรียนหนงั สอื
ท้งั วชิ า สารพัด เพยี รหัดปรือ
อย่าดงึ ดื้อ ต้ังไข่ รา่ ไรเอย......
วดี ีโอนิทำน เร่ือง แพะสำมตวั กับเจ้ำยกั ษ์
https://www.youtube.com/watch?v=๒IuQrpsroSA
แบบสงั เกตกำรตอบคำถำมของเดก็
หน่วยท่ี ๓ ชือ่ หน่วย STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทุจรติ
แผนการจัดประสบการณ์ที่ ๓ เรอื่ ง Realise/Knowledge : ความหมายของความตืน่ รแู้ ละความรู้
วันท่ี.............เดือน.............................พ.ศ............................
คำชแ้ี จง: ใหผ้ ปู้ ระเมินทาเครื่องหมาย ในช่องระดับคณุ ภาพของเดก็ ในแต่ละประเดน็ ท่ีประเมิน
ท่ี ชอ่ื -สกุล ความตน่ื รู้ และความรู้ในการเรยี นรู้
๓ ๒๑
รวม
เฉลย่ี
ลงช่อื ...........................................................ผู้ประเมนิ
(..........................................................)
เกณฑก์ ำรประเมนิ
ความตน่ื รู้ และความรู้ในการเรียนรู้
ระดับ ๓ : เดก็ มคี วามต่ืนรู้ และเรยี นรู้ไดด้ ้วยตนเอง
ระดบั ๒ : เดก็ มคี วามตืน่ รู้ และเรียนรู้ได้โดยมผี ้ชู ้ีแนะ
ระดับ ๑ : เด็กไม่มีความต่ืนรู้ และเรียนรู้
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์
หนว่ ยที่ ๓ ชือ่ หนว่ ย STRONG : จิตพอเพยี งตา้ นทจุ รติ ชัน้ ปฐมวยั
แผนกำรจดั ประสบกำรณ์ท่ี ๔ เรื่อง Onward : ความหมายของการมุ่งไปขา้ งหน้า เวลำ ๑ ช่วั โมง
๑. ผลกำรเรียนรู้
๑.๑ ปฏิบตั ิตนเปน็ ผู้ท่ี STRONG : จติ พอเพยี งต้านทุจริต
๒. จุดประสงคก์ ำรเรยี นรู้
๒.๑ สามารถบอกถึงพระราชกรณยี กจิ ของในหลวงท่ีมงุ่ ไปขา้ งหนา้ ในการพฒั นาประเทศได้เหมาะสมกบั วยั
๓. สำระกำรเรยี นรู้
๓.๑ ควำมรู้
การมงุ่ ไปขา้ งหนา้ หมายถงึ มุ่งพฒั นาใหเ้ กดิ ความเจรญิ อยา่ งยั่งยนื โดยรว่ มสร้างวฒั นธรรมไมท่ นต่อการทุจรติ
อยา่ งไมย่ อ่ ทอ้
๓.๒ ทกั ษะ/กระบวนกำร (สมรรถนะท่ีเกิด)
๑) มีทักษะชีวติ และอยู่รว่ มกับผู้อน่ื ได้อยา่ งมคี วามสขุ
๒) มีทกั ษะการคดิ การใช้ภาษาสอื่ สาร และการแสวงหาความรู้ไดเ้ หมาะสมกบั วยั
๓.๓ คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์/ค่ำนิยม
ใฝเ่ รยี นรู้ มงุ่ มนั่ ในการทางาน
๔. กำรจัดประสบกำรณ์
๔.๑ ขั้นตอนกำรจดั ประสบกำรณ์
๑) ใหเ้ ด็กดคู ลิปวดี โี อ เรือ่ ง “เศรษฐกิจพอเพียง” จากน้นั รว่ มกันสนทนา โดยครใู ชค้ าถาม ดงั น้ี
• พอ่ ที่น้องพอใจกลา่ วถงึ ในเรอื่ งนี้ คอื ใคร (ในหลวงรัชกาลที่ ๙)
• น้องพอใจกล่าวถึงในหลวงรัชกาลที่ ๙ วา่ ทา่ นทรงเปน็ อะไรบา้ ง (เป็นชาวนา เปน็ นกั ภมู ิศาสตร์ เป็น
นกั ประดิษฐ์ เป็นนกั ดนตรี เป็นนกั ออกแบบ เป็นนักถา่ ยภาพ)
๒) ใหเ้ ด็กดูภาพพระราชกรณียกจิ ของในหลวงรชั กาลท่ี ๙ แล้วรว่ มกันสนทนาถงึ การมุง่ ม่ันพฒั นาชาตไิ ทย
ทีใ่ นหลวงรัชกาลท่ี ๙ ท่านทรงทุ่มเท เพ่ือให้ประเทศไทยมีความพัฒนา เจริญก้าวหน้าเทียบทันกับนานาประเทศ
วา่ ทรงพัฒนาชาติไทยในเรื่องใดบ้าง
๓) เด็กและครูร่วมกนั สรปุ ถึงความม่งุ ม่นั ในการพัฒนาประเทศของในหลวงรชั กาลท่ี ๙
๔) เดก็ และครรู ่วมกนั ร้องเพลง “ภมู ิแผน่ ดนิ นวมนิ ทรม์ หาราชา”
๔.๒ ส่ือกำรเรียนร้/ู แหล่งกำรเรยี นรู้
๑) การต์ นู แอนิเมช่นั “เศรษฐกจิ พอเพยี ง แขง่ ขันทกั ษะวิชาชีพ animation 2d”
๒) เพลง “ภูมแิ ผน่ ดิน นวมนิ ทร์มหาราชา”
๕. กำรประเมินผลกำรเรียนรู้
๕.๑ วธิ กี ำรประเมนิ
สงั เกตการตอบคาถาม
๕.๒ เครื่องมือที่ใชใ้ นกำรประเมนิ
แบบสังเกตการตอบคาถาม
๕.๓ เกณฑก์ ำรประเมนิ
เด็กผ่านการประเมนิ ระดับ ๒ ขนึ้ ไป ถอื วา่ ผา่ น