The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เล่มสมบูรณ์ ถอดบทเรียน RT-64

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by pbn3.teerasit, 2021-08-24 23:35:45

เล่มสมบูรณ์ ถอดบทเรียน RT-64

เล่มสมบูรณ์ ถอดบทเรียน RT-64

การประเมนิ ความสามารถดา้ นการอา่ น

๖๓ของผเู้ รยี นชั้นประถมศึกษาปที ี่ 1
ปกี ารศกึ ษา ๒๕

Reading Test

RT

กลมุ่ นเิ ทศ ตดิ ตามและประเมินผลการจัดการศึกษา
สานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบรู ณ์ เขต 3
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้ืนฐาน
กระทรวงศึกษาธกิ าร

คำนำ

การถอดบทเรียน วิธีปฏิบัติท่ีดี การประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ของนักเรียน
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 (Reading Test : RT) ปีการศึกษา 2563 สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา
เพชรบูรณ์ เขต 3 จัดทาขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพื่อนาเสนอข้อมูลและสารสนเทศ เกี่ยวกับการถอดบทเรียน
วิธีปฏิบัติท่ีดี ด้านการอ่าน ช้ันประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2563 โดยนาเสนอวิธีการส่งเสริมสนับสนุน
ด้านการอ่านของผู้เรียน วิธีการขั้นตอนกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการอ่านของผู้เรียน
โครงการกิจกรรมส่งเสริมด้านการอ่านของผู้เรียน พร้อมด้วยคลิปวีดีโอการถอดบทเรียน วิธีปฏิบัติที่ดี
การประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ของนักเรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 (Reading Test : RT)
ปีการศกึ ษา 2563

ขอขอบคุณคณะทางาน ผู้บริหารสถานศึกษา คณะครู และผู้มีส่วนเก่ียวข้องทีได้ร่วมกันถอด
บทเรียน ให้ข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ ทาให้หนังสือเล่มน้ีสาเร็จลุล่วงด้วยดี และท่ีสาคัญท่ีสุด
หนังสือฉบับน้ีจะบรรลุตามวัตถุประสงค์หรือไม่น้ัน ข้ึนอยู่กับบุคลากรในเขตพ้ืนที่การศึกษา ผู้บริหาร
โรงเรยี นครูทกุ คน และผมู้ ีสว่ นเกี่ยวขอ้ งทนี่ าหนงั สือ “ถอดบทเรียน วิธปี ฏบิ ตั ทิ ด่ี ีการประเมนิ ความสามารถ
ด้านการอ่านของผู้เรียน ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีท่ี 1 (Reading Test : RT) ปีการศึกษา 2563
จากการปฏิบัติที่แท้จริงประสบความสาเร็จเป็นท่ีประจักษ์ไปปรับใช้ในบริบทของตนเอง จึงขอขอบคุณ
และใหก้ าลังใจทุกท่าน มา ณ โอกาสน้ี

กลุ่มนเิ ทศ ตดิ ตามและประเมนิ ผลการจดั การศึกษา
สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3

กรกฎาคม 2564

สำรบัญ

บทที่ หนำ้

การถอดบทเรยี นวธิ ปี ฏิบตั ิที่ดี การประเมนิ ความสามารถดา้ นการอา่ นของผเู้ รยี น 1
ชนั้ ประถมศึกษาปีท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563…………………………………………………...…
รายช่ือโรงเรยี นถอดบทเรยี นวิธีปฏบิ ตั ทิ ดี่ ี การประเมินความสามารถด้านการอา่ นของผ้เู รยี น 2
ของนักเรยี นชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563………………………………………………..
โรงเรียนถอดบทเรยี นวิธีปฏิบัตทิ ่ีดี การประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน 4
ของนักเรยี นช้นั ประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563…………………………………………….. 8
12
โรงเรียนบา้ นลาพาด......................................................................................... 19
โรงเรยี นบ้านท่าโรง……………………………………………………………………………….. 23
โรงเรยี นบ้านวังขาม………………………………………………………………………………. 30
โรงเรียนบ้านหนองจอกวงั กาแพง……………………………………………………………. 35
โรงเรียนบ้านกระทุม่ ทองประชาสรรค์……………………………………………………… 40
โรงเรยี นบา้ นโคกสง่านาข้าวดอ………………………………………………………………. 45
โรงเรยี นบา้ นโคกปรอื ....................................................................................... 50
โรงเรยี นบ้านคลองด่.ู ........................................................................................ 54
โรงเรยี นบา้ นตะกุดไผ่....................................................................................... 61
โรงเรียนบ้านนาทงุ่ ........................................................................................... 65
โรงเรยี นบ้านโคกรังนอ้ ย................................................................................... 67
โรงเรยี นบา้ นบ่อไทย......................................................................................... 73
โรงเรียนอนุบาลศรีเทพ (สว่างวัฒนา)............................................................... 76
โรงเรยี นชุมชนบ้านวงั พกิ ุล............................................................................... 78
โรงเรียนอนบุ าลวัดในเรอื งศรีวิเชยี รบุร.ี ............................................................ 81
โรงเรยี นบ้านคลองทราย.................................................................................. 86
โรงเรยี นบา้ นพนมเพชร.................................................................................... 92
โรงเรยี นบา้ นหนองยา่ งทอย............................................................................. 97
โรงเรยี นบ้านพระที่น่ัง......................................................................................
โรงเรียนบ้านหนองชุมแสง...............................................................................
โรงเรียนบา้ นโคกเจริญ.....................................................................................
ภาคผนวก
คณะผ้จู ดั ทา

การถอดบทเรยี นวิธีปฏิบตั ิที่ดี
การประเมินความสามารถดา้ นการอา่ นของผเู้ รียนช้ันประถมศึกษาปีที่ 1

ปกี ารศกึ ษา 2563 (Reading Test : RT)

สำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำเพชรบูรณ์ เขต 3 ดำเนินกำรถอดบทเรียนวิธีปฏิบัติที่ดี
กำรดำเนินกำรของโรงเรียนท่ีมีผลกำรประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำน ของผู้เรียนช้ันประถมศึกษำปีท่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2563
ดังน้ี

1. โรงเรียนมีผลกำรประเมินในระดับดีมำก อันดับที่ 1-3 ของโรงเรียนขนำดเล็กพิเศษ โรงเรียนขนำดเล็ก
โรงเรยี นขนำดกลำง โรงเรียนขนำดใหญ่ และโรงเรียนขนำดใหญ่พิเศษ จำนวน 15 โรงเรยี น

2. โรงเรยี นที่มีผลกำรประเมนิ กำรอำ่ นออกเสยี ง ได้คะแนนรอ้ ยละ 100 จำนวน 4 โรงเรยี น
3. โรงเรยี นท่ีมีผลกำรประเมินกำรอำ่ นร้เู ร่อื ง ได้คะแนนร้อยละ 100 จำนวน 3 โรงเรียน
4. โรงเรยี นท่มี ีผลพฒั นำกำรกำรประเมินกำรอ่ำนฯ ปีกำรศึกษำ 2562 - 2563 สงู ขนึ้ จำนวน 8 โรงเรียน
ซง่ึ โรงเรยี นจำนวน 21 โรงเรียน 30 รำงวัล ดำเนินกำรดังน้ี
1. ถอดบทเรียนวธิ ปี ฏิบัติทดี่ กี ำรประเมินควำมสำมำรถดำ้ นกำรอ่ำน ฯ รูปแบบไฟล์ Clip VDO
ควำมยำวไมเ่ กนิ 5 นำที และคัดลอกลิงค์ URLจำก YouTube
2. ถอดบทเรยี นวิธปี ฏิบัติท่ดี ี กำรประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำนของผู้เรียนชั้นประถมศึกษำปที ่ี 1
Reading Test : RT ปีกำรศึกษำ 2563 รูปแบบไฟล์ word ควำมยำว ไม่เกิน 5 หน้ำ จัดพิมพ์ด้วยแบบอักษร
TH SarabunIT9 ขนำดตัวอักษร 16 Point
3. สง่ ผลงำนทง้ั 2 รปู แบบ มำยงั กลมุ่ นเิ ทศ ติดตำมฯ E-Mail : [email protected]
เพื่อรบั โล่รำงวลั ในกำรประชมุ ประจำเดือนของผ้บู รหิ ำรสถำนศกึ ษำ

รายชอ่ื โรงเรยี นถอดบทเรยี นวธิ ปี ฏบิ ัตทิ ่ีดี
การประเมินความสามารถด้านการอา่ นของผเู้ รยี นชั้นประถมศึกษาปที ่ี 1 ปีการศึกษา 2563

สานกั งานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเพชรบูรณ์ เขต 3

1. โรงเรยี นที่มผี ลการประเมนิ การอ่านออกเสียง และการอา่ นรเู้ ร่อื ง รวม 2 ดา้ น ปีการศกึ ษา 2563 ไดแ้ ก่
1.1 โรงเรยี นขนาดเล็กพิเศษ
1) โรงเรียนบ้ำนลำพำด
2) โรงเรียนบำ้ นท่ำโรง
3) โรงเรยี นบ้ำนวงั ขำม
1.2 โรงเรียนขนาดเลก็
1) โรงเรยี นบำ้ นหนองจอกวงั กำแพง
2) โรงเรียนบ้ำนกระทุ่มทองประชำสรรค์
3) โรงเรียนบ้ำนโคกสงำ่ นำข้ำวดอ
1.3 โรงเรียนขนาดกลาง
1) โรงเรียนบำ้ นโคกปรอื
2) โรงเรียนบ้ำนคลองดู่
3) โรงเรียนบำ้ นตะกดุ ไผ่
1.4 โรงเรยี นขนาดใหญ่
1) โรงเรียนบ้ำนนำทุง่
2) โรงเรียนบ้ำนโคกรังนอ้ ย
3) โรงเรยี นบ้ำนบอ่ ไทย
1.5 โรงเรียนขนาดใหญ่พิเศษ
1) โรงเรียนอนบุ ำลศรเี ทพ (สว่ำงวัฒนำ)
2) โรงเรียนชุมชนบ้ำนวงั พกิ ุล
3) โรงเรียนอนบุ ำลวดั ในเรอื งศรีวเิ ชยี รบุรี

2. โรงเรียนที่มผี ลการประเมินการอ่านออกเสียง ร้อยละ 100 ปีการศึกษา 2563 ไดแ้ ก่
1) โรงเรยี นบ้ำนโคกปรือ
2) โรงเรยี นกระทุ่มทองประชำสรรค์
3) โรงเรียนบำ้ นวังขำม
4) โรงเรยี นบำ้ นลำพำด

3. โรงเรยี นท่ีมีผลการประเมนิ การอ่านรเู้ รอ่ื ง ร้อยละ 100 ปกี ารศกึ ษา 2563 ได้แก่
1) โรงเรยี นบ้ำนท่ำโรง
2) โรงเรียนบ้ำนหนองจอกวงั กำแพง
3) โรงเรียนบำ้ นลำพำด

4. โรงเรียนทมี่ ีพัฒนาการประเมนิ ความสามารถดา้ นการอ่าน เปรยี บเทยี บระหว่างปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒-๒๕๖๓
มีพฒั นาการสงู ข้ึน ไดแ้ ก่
1) โรงเรยี นบ้ำนท่ำโรง
2) โรงเรยี นบ้ำนคลองทรำย
3) โรงเรยี นบ้ำนพนมเพชร
4) โรงเรียนบำ้ นกระทุ่มทองประชำสรรค์
5) โรงเรยี นบ้ำนหนองยำ่ งทอย
6) โรงเรียนบ้ำนพระทน่ี ั่ง
7) โรงเรียนบ้ำนหนองชุมแสง
8) โรงเรียนบำ้ นโคกเจริญ

ถอดบทเรยี นวธิ ีปฏบิ ัตทิ ดี่ ี
การประเมินความสามารถด้านการอา่ นของผเู้ รยี น ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2563

สานักงานเขตพ้นื ที่การศึกษาประถมศกึ ษาเพชรบูรณ์ เขต 3
โรงเรยี นบ้านลาพาด ศูนยพ์ ัฒนาวชิ าการหนองไผ่ อาเภอหนองไผ่ จังหวดั เพชรบรู ณ์

1. ผบู้ รหิ ารสถานศึกษา มวี ธิ กี ารบรหิ ารจัดการส่งเสรมิ สนับสนนุ ด้านการอ่านของผู้เรียนอย่างไร
ผู้บริหำรสถำนศึกษำ ให้ควำมสำคัญต่อกำรพัฒนำคุณภำพผู้เรียน โดยเฉพำะกำรส่งเสริมควำมสำมำรถ

ด้ำนกำรอ่ำนและกำรเขียนในทุกระดับช้ัน สนับสนุนบุคลำกรให้ได้รับกำรพัฒนำตนเองอย่ำงต่อเนื่อง และส่งเสริม
ให้มีกำรผลิตส่ือกำรเรียนกำรสอน เพ่ือพัฒนำทักษะกำรเรยี นรู้ของผู้เรียนอย่ำงต่อเน่ือง โดยใช้รูปแบบกำรบริหำร
BLP Model สถำนศึกษำ สรำ้ งคนดี ส่สู ังคม (Ban Lampad Model)

B : พทุ ธวจนะ ( Buddha wajana ) กำรปลกู ฝงั และสรำ้ งคุณธรรมพื้นฐำนให้กบั นักเรยี น
L : ศูนย์กลำงกำรเรียนรู้ ( Learner Center ) กำรจัดกิจกรรมที่หลำกหลำย เพื่อพัฒนำทักษะกำรเรียนรู้
โดยเนน้ ผู้เรยี นเป็นสำคญั
P : กำรบริหำรแบบมีส่วนร่วม (Participative Management ) กำรร่วมคิด ร่วมรับฟัง และร่วม
รับผิดชอบ จำกหน่วยงำนทุกภำคส่วนท่ีเก่ียวข้อง เพื่อให้กำรดำเนินงำนกำรบริหำรสถำนศึกษำเป็นไปอย่ำงมี
ประสทิ ธภิ ำพและควำมต้องกำรของชมุ ชน เกิดประโยชนส์ ูงสุดต่อคณุ ภำพของผเู้ รยี น

2. ครผู ูส้ อน มวี ธิ ีการขัน้ ตอน/กระบวนการ/วธิ กี ารจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ด้านการอา่ นของผ้เู รยี นอย่างไร
กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ด้ำนกำรอ่ำนของผู้เรียน ครูผู้สอนเน้นกำรให้นักเรียนอ่ำนออกเสียงทุกคร้ัง

ในกำรเรียนทุกรำยวิชำและสรุปใจควำมสำคญั จำกเรือ่ งทอี่ ่ำน
นอกจำกน้ียังได้จัดกิจกรรมกำรเรียนรู้ โดยใช้รูปแบบต่ำง ๆ เช่น กำรร้องเพลง เล่นเกม ใช้บัตรคำ

และกิจกรรมเรียนปนเลน่ เพอื่ ให้ผเู้ รยี นรสู้ ึกสนกุ และมคี วำมสขุ กับกำรเรียน

3. โครงการ/กิจกรรมสง่ เสรมิ ดา้ นการอา่ นของผเู้ รียนมอี ะไรบ้าง
โรงเรี ย น ได้ ด ำ เนิ น งำน ต ำม โค รงก ำรห รื อกิ จ ก รรม ท่ี ส่ งเส ริ ม ค ว ำ ม ส ม ำ ร ถ ด้ ำ น ก ำ ร อ่ ำ น ข อ ง ผู้ เรี ย น

ไดแ้ ก่ โครงกำรอ่ำนออกเขียนได้ 100% โดยใช้กิจกรรมภำษำไทยวนั ละคำ กิจกรรมส่งเสรมิ กำรอำ่ นข่ำว กำรอ่ำนบทร้อยแก้ว
บทร้อยกรอง และกจิ กรรมกำรคัดลำยมือ

จำกกำรประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำนของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษำปีท่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2563
ของโรงเรียนบ้ำนลำพำด สังกัดสำนักงำนเขตพื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำเพชรบูรณ์ เขต 3 จำแนกตำมขนำดโรงเรียน
ซึง่ โรงเรียนบ้ำนลำพำดเป็นโรงเรยี นขนำดเล็กพเิ ศษ พบว่ำ

1. ควำมสำมำรถดำ้ นกำรอำ่ นของผู้เรียน รวม 2 ดำ้ น มีผลกำรประเมนิ สงู สุด คิดเป็นร้อยละ 100
2. ควำมสำมำรถดำ้ นกำรอ่ำนออกสยี ง ( อ่ำนคำและอ่ำนขอ้ ควำม ) คดิ เปน็ ร้อยละ 100
3. ควำมสำมำรถด้ำนกำรอำ่ นร้เู รื่อง ( อำ่ นคำ อำ่ นประโยค และอ่ำนข้อควำม ) คิดเป็นรอ้ ยละ 100
จำกผลกำรประเมินดงั กล่ำว โรงเรยี นบำ้ นลำพำดไดผ้ ลนำผลกำรประเมนิ มำเป็นสำรสนเทศในกำรวำง
แผนกำรจัดกำรศึกษำของโรงเรียน เพ่ือแก้ไขปัญหำนักเรียนท่ีมีผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนต่ำ และพัฒนำนักเรียน
ที่มผี ลสมั ฤทธกิ์ ำรเรียนสูง ใหม้ ีคณุ ภำพสงู ย่งิ ข้ึน

4. ภาพประกอบ

Clip VDO การถอดบทเรยี น วธิ ีปฏบิ ตั ิท่ดี ี
การประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผ้เู รียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563

โรงเรยี นบ้านลาพาด อาเภอหนองไผ่ จังหวัดเพชรบรู ณ์
สานกั งานเขตพ้นื ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาเพชรบรู ณ์ เขต 3

https://www.youtube.com/watch?v=04ou4Xuw_Wo
QR Code

ถอดบทเรยี นวิธีปฏิบัติทีด่ ี
การประเมินความสามารถด้านการอา่ นของผูเ้ รียนชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๓

สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบรู ณ์ เขต ๓
โรงเรียนบ้านท่าโรง ศูนยพ์ ฒั นาวิชาการทา่ โรงโคกปรง อาเภอวิเชยี รบรุ ี จังหวัดเพชรบรู ณ์

๑. ผู้บริหารสถานศึกษา มีวิธีการบริหารจัดการส่งเสริมสนับสนุนด้านการอ่านของผู้เรียนอย่างไร
ผู้บริหำรสถำนศึกษำมีบทบำทในกำรส่งเสริมด้ำนกำรอ่ำน โดยกำรสร้ำงควำมตระหนัก ให้นักเรียน

ครูและบุคลำกรทำงกำรศึกษำเห็นควำมสำคัญของกำรอ่ำนจำกน้ันกระตุ้นและปลูกฝังให้อ่ำนอย่ำงต่อเน่ือง มี
กำรจัดสภำพแวดล้อมและบรรยำกำศที่เอ้ือต่อกำรอ่ำน รวมท้ังประสำนควำมร่วมมือทุกภำคส่วน
มีส่วนร่วมในกิจกรรมส่งเสริมให้มีนิสัยรักกำรอ่ำน ได้กำหนดแผนกำรจัดกิจกรรมส่งเสริมกำรอ่ำนไว้
ในแผนปฏิบัติกำรประจำปีและยังกำรส่งเสริมให้มีนิสัยรักกำรอ่ำนอย่ำงต่อเน่ือง หลำกหลำยและสม่ำเสมอ
ทั้งในระดับโรงเรียนและระดับเขต มีกำรพัฒนำบุคลำกรให้มีควำมรู้และทักษะในกำรบริหำรจัดกำรห้องสมุด
ที่มีคุณภำพ ให้เป็นห้องสมุดท่ีมีชีวิต และพัฒนำทักษะกำรจัดกำรเรียนกำรสอนท่ีเน้นควำมสำคัญของกำรอ่ำน
มีกำรบรู ณำกำรกำรอำ่ นในกำรจัดกำรเรียนกำรสอนกำรวัดประเมนิ ผลทกุ กลุ่มสำระกำรเรียนรู้
และทุกระดบั ชัน้ โดยผู้บรหิ ำรมกี ำรนิเทศตดิ ตำมเปน็ รำยสปั ดำห์

๒. ครูผสู้ อน มีวิธกี ารขั้นตอน/กระบวนการ/วิธกี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรูด้ า้ นการอ่านของผู้เรยี นอย่างไร
ครูผู้สอนมขี น้ั ตอนจดั กจิ กรรมกำรเรียนรู้ด้ำนกำรอ่ำนของผเู้ รียน ดงั นี้
ข้ันท่ี 1 โดยเริ่มจำกกำรทำควำมรู้จักนักเรียนก่อน แสดงควำมผูกพัน มีควำมจริงใจต่อเด็ก

ชวนพูดคุยทำให้เด็กไม่รู้สึก วิตกกังวล ชวนร้องเพลง ฟังนิทำน หรือเล่ำเรื่องรำวเพื่อสร้ำงควำมเป็นกันเอง
ทำให้เด็กอยำกมำเรียนกับครู กำรพูดของครูเป็นกำรสร้ำงกำลังใจ คำชื่นชม ละเว้นกำรดุด่ำหรือตำหนิ
ต้องแสดงควำมรักควำมเมตตำกบั เด็กอย่ำงจริงใจ

ข้นั ที่ 2 เรม่ิ ทำกำรสอนให้รจู้ ักและผูกพันกบั พยัญชนะ สอนให้ร้จู ักชื่อพยัญชนะ สอนให้รู้จกั รปู และ
เสยี งพยัญชนะก่อน แล้วสอนกำรเขียนรูปพยัญชนะบนกระดำน โดยใช้แบบบรรทัด 5 เส้น ฝึกเขียนให้ถูกต้อง
ตำมลีลำมือและหลักกำรเขียน จำกน้ันสอนรูปสระโดยใช้บัตรสระเป็นรำยตัว เพ่ือให้เห็นรูปสระแต่ละตัวแล้ว
สอนกำรอ่ำนออกเสียงสระและกำรเขยี นสระตำมหลกั กำรเขยี นโดยลำดับกำรเขียนชุดสระจำกงำ่ ยไปยำก

ข้ันท่ี ๓ ขั้นกำรอ่ำนสะกดคำ ฝึกสะกดคำเพ่ือแยกแยะส่วนประกอบของคำว่ำประกอบด้วย
พยัญชนะ สระ วรรณยุกต์และตัวสะกดอะไรบ้ำง ในกำรฝึกประสมคำให้คล่องในกำรอ่ำนยิ่งขึ้นข้อควรคำนึง
ควรสอนกำรสะกดคำให้ได้ก่อนสอนกำรแจกลูก ในกำรสอนสะกดคำใช้สื่อบัตรคำท่ีต้องกำรสอน เพื่อให้เห็น
รปู ร่ำงและลกั ษณะของพยัญชนะ สระทีป่ ระสมเปน็ คำน้ันๆจำกน้นั สอนให้ทบทวนเสยี งพยัญชนะและสระให้ฟัง
ชัดเจนข้ึนโดยกำร ออกเสียงพยัญชนะและออกเสียงสระ แล้วให้นักเรียนสะกดคำโดยดูรูปคำแล้วครูอ่ำนสะกดคำ
ให้นักเรียนฟังก่อน เช่น กำ – กอ-อำ-กำ แล้วให้นักเรียนดูรูปคำ ออกเสียงสะกดคำเป็นรำยบุคคล
แลว้ ใหน้ ักเรียนดูรูปคำแล้วออกเสยี งสะกดคำเองตำมลำดับ

ขน้ั ท่ี ๔ สอนใหอ้ ่ำนแจกลูก เพอ่ื แตกแขนงคำออกไป โดยครูนำพยญั ชนะ สระที่ต้องกำรแจกลูก
ทบทวนให้นักเรียนอ่ำนออกเสียงพยัญชนะและสระอย่ำงชัดเจน แล้วให้นักเรียนดูรูปคำ ชุดคำท่ีต้องกำรแจกลูก
โดยใช้แผนภมู เิ ปน็ สอ่ื ประกอบในกำรอำ่ นแจกลกู

ขั้นท่ี ๕ สอนกำรเขียนสะกดคำ โดยครูเขียนรูปคำบนกระดำน นักเรียนออกเสียงสะกดคำตำมครู
พร้อมกันแล้วให้นักเรียนเขียนรูปคำตำมครูลงในสมุด ขณะที่เขียนคำให้ออกเสียงสะกดคำไปด้วย จำกน้ันให้
นักเรียนฝึกเขียนตำมคำบอก ขณะเขียนให้ออกเสียงสะกดไปด้วย นอกจำกน้ันครูได้เสริมทักษะกำรเขียน
โดยนำนวตั กรรมทจ่ี ดั ทำขน้ึ เอง เป็นแบบฝึกกำรเขยี นคำพืน้ ฐำนชัน้ ประถมศกึ ษำปีท่ี 1 ฝึกทักษะแกน่ ักเรียน เพิ่มเติม

ขัน้ ท่ี ๖ กำรอ่ำนคล่อง ร้องเล่น เพิ่มเติม เน้นกำรอ่ำนออกเสียงให้เปน็ จังหวะคล้องจอง หรือร้องเป็น
เพลง แสดงท่ำทำงประกอบ เพื่อให้อ่ำนคล่อง จดจำได้ เข้ำใจควำมหมำยและเชื่อมโยงกำรเรียนรู้เรื่องอื่น ๆ
แล้วทำกิจกรรมฝึกทักษะกำรฟังพูดอ่ำนเขียนเพิ่มเติมตำมควำมเหมำะสม และก่อนทำกำรประเมิน RT ได้นำแบบ
ประเมนิ ปีทผ่ี ่ำนมำเพื่อวเิ ครำะห์โครงสรำ้ งของข้อสอบ มำติวแก่นักเรยี นหลำยรอบ

๓. โครงการ/กจิ กรรมส่งเสรมิ ด้านการอา่ นของผเู้ รียนมอี ะไรบา้ ง
โรงเรียนบำ้ นทำ่ โรงได้กำหนดแผนกำรจดั กิจกรรมส่งเสรมิ กำรอ่ำนไว้ในแผนปฏิบัตกิ ำรประจำปีในโครงกำร

แก้ปัญหำกำรอ่ำนไม่ออก เขียนไม่ได้ คิดคำนวณไม่ได้ อ่ำนไม่คล่อง เขียนไม่คล่อง คิดคำนวณ ไม่คล่อง
เน่ืองจำกกำรติดตำมกำรวัดและประเมินผลของโรงเรียน ปรำกฏว่ำมีนักเรียนจำนวนหนึ่งท่ีอ่ำนหนังสือไม่ออก
เขียนไม่ถูกต้อง คิดคำนวณไม่ได้ จึงส่งผลกระทบในเร่ืองผลสัมฤทธิ์ทำงกำรเรียนของโรงเรียนลดต่ำลง
และเพ่ือเป็นกำรแกป้ ญั หำดังกลำ่ ว โรงเรียนบำ้ นทำ่ โรงจงึ กำหนดให้มโี ครงกำรอำ่ นไมอ่ อก เขียนไม่ได้ คำนวณไม่ได้
อ่ำนไม่คล่อง เขียนไม่คล่อง คิดคำนวณ ไม่คล่อง เพื่อส่งเสริมให้นักเรียนเกิดกำรพัฒนำในกำรอ่ำน กำรเขียน
กำรคดิ คำนวณ ซ่งึ เป็นพ้ืนฐำนในกำรเรียนร้ขู องนักเรียนต่อไป โดยมวี ัตถุประสงค์ เพื่อแก้ปัญหำกำรอ่ำน กำรเขยี น
กำรคิดคำนวณและเพื่อยกระดับผลสัมฤทธ์ิทำงกำรเรียนของนักเรียนให้สูงข้ึน โดยมีกิจกรรมหลักที่ดำเนินกำร
มีกำรแต่งตั้งครูผู้รับผิดชอบ และจัดทำข้อมูลสำรสนเทศนักเรียน ออกเย่ียมบ้ำนนักเรียน ส่งเสริมสนับสนุนให้ครู
ผลิตส่ือ นวัตกรรม ให้เหมำะสมกับระดับชั้น จัดให้มีกิจกรรม อ่ำนเป็นคำ อ่ำนจับใจควำม บทควำม นิทำน
เรื่องส้ันทุกช้ันในชั่วโมงท่ีสอนซ่อมเสริม กิจกรรมห้องสมุด กิจกรรมกำรอ่ำนภำษำไทยวันละคำ กำรอ่ำนข่ำว กำร
อ่ำนนิทำน จำกน้ันได้ทำกำรทดสอบสมรรถภำพกำรอ่ำนกับนักเรียนรำยบุคคล โดยโรงเรียนได้จัดทำเครื่องมือวัด
และประเมินผลท่ีหลำกหลำย สำมำรถวัดควำมสำมำรถกำรอ่ำนของนักเรียน จำกน้ันสรุปรำยงำนผลต่อผู้บริหำร
ผลกำรดำเนินโครงกำร ส่งผลนักเรียนมีผลกำรอ่ำน ผ่ำนเกณฑ์กำรประเมินร้อยละ 80 และมีผลสัมฤทธ์ิทำงกำร
เรียนในสำระกำรเรียนรู้ภำษำไทยสูงขึ้นเมื่อเทียบกับปีท่ีผ่ำนมำ นักเรียนชั้นประถมศึกษำปีท่ี 1 มีผลกำร
พฒั นำกำรประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรอำ่ น เปรียบเทียบระหวำ่ ง ปกี ำรศกึ ษำ 2562-2563มีพัฒนำกำรสูงขึ้น
เป็นลำดบั ท่ี ๑ และภำพรวมกำรประเมนิ ควำมสำมำรถด้ำนกำรอำ่ นของผู้เรียนช้ันประถมศึกษำปที ่ี 1 ปกี ำรศึกษำ 2563
ของสำนักงำนเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำเพชรบูรณ์ เขต 3 และมีผลกำรประเมินกำรอ่ำนออกเสียง
และกำรอ่ำนรเู้ ร่อื งรวม ๒ ดำ้ นเปน็ อนั ดับท่ี ๒ ของโรงเรยี นขนำดเล็กพเิ ศษ

๔. ภาพประกอบ

ภาพกจิ กรรมการเรียนการสอนนกั เรยี นในชัน้ เรียน ป.1

ภาพกจิ กรรมโครงการส่งเสริมการอ่านในสถานศึกษา

Clip VDO การถอดบทเรยี น วิธปี ฏบิ ัตทิ ด่ี ี
การประเมินความสามารถด้านการอา่ นของผเู้ รยี น ช้ันประถมศกึ ษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2563

โรงเรยี นบา้ นทา่ โรง อาเภอวิเชียรบุรี จงั หวัดเพชรบูรณ์
สานักงานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบรู ณ์ เขต 3

https://www.youtube.com/watch?v=zsPgPQSrqWU

QR Code

ถอดบทเรียนวธิ ปี ฏบิ ตั ิท่ดี ี
การประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียนชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓

สานักเขตพ้ืนท่กี ารศกึ ษาประถมศกึ ษาเพชรบูรณ์ เขต ๓
โรงเรียนบ้านวงั ขาม ศนู ยพ์ ัฒนาวิชาการโคกสะอาดสระกรวดประดงู่ าม อาเภอศรีเทพจังหวดั เพชรบูรณ์

โรงเรียนบ้ำนวังขำมตั้งอยู่เลขท่ี ๑๙๔ หมู่ ๓ ตำบลสระกรวด อำเภอศรีเทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
สังกัดสำนักงำนเขตพ้ืนท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำเพชรบูรณ์ เขต๓ เป็นโรงเรียนขนำดเล็กพิเศษ เปิดทำกำรเรียน
กำรสอนต้ังแต่ระดับชั้นอนุบำล ๒ ถึงระดบั ชน้ั ประถมศกึ ษำปีที่ ๖ โรงเรียนบำ้ นวงั ขำมมขี ้ำรำชกำรครู ๓ คน ครูธรุ กำร ๑ คน
และนักกำร ๑ คน โดยกำรบริหำรงำนของ นำยชำญชัย ชัชวำลย์ รักษำกำรในตำแหนง่ ผอู้ ำนวยกำรโรงเรยี นบ้ำนวังขำม

๑. วธิ ีการปฏิบัตทิ ีด่ ใี นการส่งเสริม และสนับสนุนดา้ นการอ่านของนกั เรียนชน้ั ประถมศึกษาปีที่ ๑ ของผู้บรหิ ารมีดังนี้
ผู้บริหำรได้สร้ำงควำมตระหนักให้ครู บุคลำกร และนักเรียนเห็นควำมสำคัญของกำรอ่ำน โดยกำหนด

แผนงำนกำรจัดกิจกรรมส่งเสริมกำรอ่ำนไว้ในแผนปฏิบัติงำนประจำปีของโรงเรียน เห็นควำมสำคัญของกำรอ่ำน
ออก เขียนได้ในทุกระดับช้ัน โดยเฉพำะระดับช้ันประถมศึกษำปีที่ ๑ เน่ืองจำกเป็นระดับช้ันท่ีต้องให้ควำมสำคัญ
เป็นพิเศษในกำรปลูกฝังและปูพื้นฐำนให้นักเรียนมีทักษะด้ำนกำรอ่ำนออก เขียนได้ เพรำะถ้ำนักเรียนมีทักษะกำร
อ่ำนออก เขียนได้ต้ังแต่ชั้นประถมศกึ ษำปีที่ ๑ แล้ว ก็จะทำให้นักเรยี นมีพัฒนำกำรด้ำนกำรเรียนรู้ในรำยวชิ ำอนื่ ๆ
และในระดับชั้นท่ีสูงข้ึนตำมมำอีกด้วย กำหนดแผนงำนวิชำกำรร่วมกับคณะครูในโรงเรียน เพื่อส่งเสริม สนับสนุน
กำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนในกำรพัฒนำทักษะด้ำนกำรอ่ำนออก เขียนได้ ของนักเรียน ให้บรรลุผลตำม
เป้ำหมำย สนับสนุนวัสดุ อุปกรณ์ ในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน และสนับสนุนงบประมำณให้ครูจัดทำส่ือ
นวัตกรรมกำรเรียนรู้ ที่จำเป็นต่อกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน เพ่ือพัฒนำทักษะด้ำนกำรอ่ำนออก เขียนได้
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษำปีที่ ๑ พัฒนำครู บุคลำกรในโรงเรียนให้มีควำมรู้ ควำมสำมำรถ และทักษะท่ีจำเป็น
ต่อกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน เพ่ือพัฒนำทักษะด้ำนกำรอ่ำน คิดวิเครำะห์ และเขียนสื่อควำมของนักเรียน
ให้ดียิง่ ข้ึน โดยส่งเสริม สนับสนุนครเู ข้ำรับกำรอบรมกับหน่วยงำนต่ำง ๆ ท่จี ัดขึ้น ส่งเสริม สนับสนนุ ใหค้ รจู ัดแหล่ง
กำรเรียนรู้ท่ีหลำกหลำย เช่นกำรจัดตกแต่งห้องเรียนให้มีมุมควำมรู้ และจัดให้มีมุมกำรอ่ำนตำมอำคำรเรียน
นิเทศติดตำมกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนของครูอย่ำงสม่ำเสมอ จัดให้มีกำรแลกเปล่ียนเรียนรู้ ระหว่ำงครูใน
โรงเรยี น เพื่อพัฒนำทักษะด้ำนกำรอ่ำนของนักเรียนใหด้ ีย่ิงขนึ้ ตลอดทั้งเพอื่ หำแนวทำงในกำรแก้ไขปัญหำด้ำนกำร
อ่ำนของนักเรียน ส่งเสริม สนับสนุนครู เข้ำร่วมกิจกรรม PLC ชุมชนแห่งกำรเรียนรู้ทำงวิชำชีพกับโรงเรียน
ใกล้เคียงในศูนย์วิชำกำรเดียวกัน เพ่ือแลกเปล่ียนเรียนรู้หำแนวทำงในกำรพัฒนำทักษะด้ำนกำรอ่ำนของนักเรียน
ชัน้ ประถมศึกษำปีท่ี ๑ นอกจำกน้ียงั ไดต้ ิดต่อ ส่งเสรมิ สนับสนุนครูสง่ นกั เรยี นเข้ำรว่ มแขง่ ขันกิจกรรมด้ำนวิชำกำร
กับหน่วยงำนต่ำง ๆ ท่ีจัดขึ้นอย่ำงสม่ำเสมอ เพ่ือปลูกฝังให้นักเรียนมีควำมกล้ำสดงออก ได้รับทักษะและ
ประสบกำรณ์ที่หลำกหลำยภำยนอกโรงเรียน ไม่เพียงแต่นักเรียนชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๑ เท่ำน้ัน แต่ยังรวมไปถึง
นักเรียนในระดับชั้นอ่ืน ๆ อีกด้วย นอกจำกน้ียังได้ประสำนขอควำมร่วมมือจำกศึกษำนิเทศก์สังกัดสำนักงำนเขต
พื้นที่กำรศึกษำประถมศึกษำเพชรบูรณ์ เขต ๓ เพ่ือปรึกษำ ขอคำช้ีแนะแนวทำงในกำรพัฒนำและแก้ไขปัญหำ
ด้ำนกำรอ่ำนของนักเรยี นอีกด้วย

๒. ครผู ู้สอน มวี ิธกี ารขั้นตอน / กระบวนการ และวธิ กี ารจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ดา้ นการอ่านของนักเรยี นช้ัน
ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ดังน้ี

สืบเนื่องจำกกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนเพ่ือพัฒนำ และประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำน
ของนักเรียนชั้นประถมศึกษำปีท่ี ๑ ในปีกำรศึกษำ ๒๕๖๒ ทำให้โรงเรียนมีผลกำรประเมินกำรสอบ RT ( Reading Test )
ด้ำนกำรอ่ำนออกเสียง ได้คะแนนเต็ม ๑๐๐ % และได้รับโล่เกียรติคุณจำกเขตพื้นท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำ
เพชรบูรณ์ เขต ๓ ครูผู้สอนจึงได้นำเทคนิค วิธีกำรในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนมำพัฒนำ และปรับ
ประยกุ ต์ใชใ้ นปีกำรศึกษำ ๒๕๖๓ โดยเน้นกำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนกำรสอนภำษำไทยในระดับช้ันประถมศกึ ษำปีที่
๑ อย่ำงจริงจัง และต้ังใจมำกขึ้น เพ่ือให้นักเรียนอ่ำนออกเขียนได้ตำมคำพื้นฐำนที่อยู่ในระดับช้ัน และเพื่อ
ให้บรรลุผลตำมเป้ำหมำยของโครงกำรอ่ำนออก เขียนได้ ๑๐๐ % จัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนผ่ำนระสบกำรณ์
ตรง และนกั เรียนไดป้ ฏิบัติจรงิ โดยเน้นผ้เู รยี นเป็นสำคญั เน้นกระบวนกำรอ่ำนและเขียนเป็นหลัก นำสื่อกำรสอน
และนวัตกรรมกำรเรียนรู้ที่หลำกหลำยมำเป็นตัวช่วยในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน เพ่ือกระตุ้นและดึงดูด
ควำมสนใจของนักเรียน ตลอดทั้งเพื่อให้นักเรียนเข้ำใจง่ำย เกิดทักษะกำรเรียนรู้ได้เร็วข้ึน และที่สำคัญนักเรียนได้
เรียนร้อู ยำ่ งมคี วำมสุข ครผู ู้สอนใช้เทคนคิ กำรสอนแบบสอนตำมลำดับขั้นจำกง่ำยไปสู่ยำก สอนให้นักเรยี นรจู้ ักรูป
และเสียงของพยัญชนะ และสระก่อน ตลอดทั้งฝึกทักษะด้ำนกำรอ่ำน กำรเขียน นำบัตรคำ บัตรภำพ ลูกเต๋ำ
พยัญชนะมำเป็นสื่อในกำรสอน เพ่ือให้นักเรียนเกิดกำรเรียนรู้ สำมำถบอกชื่อและเสียงของพยัญชนะ และสระได้
อย่ำงถูกต้อง ตลอดทั้งสำมำรถเขียนตำมคำบอกได้ เมื่อนักเรียนรู้จักรูปและเสียงของพยัญชนะและสระแล้วจึงให้
นกั เรยี นเขียนตำมคำบอก เพ่ือเปน็ กำรทบทวนควำมรู้ ควำมจำของนักเรียน และเพื่อให้นกั เรียนเกดิ ทักษะด้ำนกำร
อ่ำน กำรเขียนไปพร้อม ๆ กัน นอกจำกน้ียังได้นำเทคนิคกำรสอนประสมคำ โดยนำพยัญชนะและสระมำประสม
กนั ให้เป็นคำ ใช้ปฏิทิน และวงล้อประสมคำด้วยสระต่ำง ๆ มำเป็นส่ือตวั ช่วยในกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
สอนใหน้ ักเรยี นฝึกอ่ำนสะกดคำ และอ่ำนเป็นประโยค ตลอดท้ังใหน้ ักเรยี นทำกิจกรรมในใบงำนและแบบฝึกทักษะ
ต่ำง ๆ ที่หลำกหลำย เช่น ฝึกคัดหลำยมือ ฝึกเขียนคำและแต่งประโยคจำกภำพ ฝึกเขียนเร่ืองจำกภำพ
ด้วยเร่ืองรำวสั้น ๆ ไม่เกิน ๓ บรรทัด เพื่อเป็นกำร ฝึก ซ้ำ ย้ำ ทวน และเป็นกำรประเมินผลหลังกำรเรียนรู้
ของนักเรียน ครูผู้สอนจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนโดยให้นักเรียนเขียนตำมคำบอก จำกคำพื้นฐำนในระดับ
ประถมศึกษำปีท่ี ๑ ทุกวนั กอ่ นเรมิ่ เรียนวชิ ำภำษำไทย วันละ ๕ – ๑๐ คำ จำกน้ันนำคำทเ่ี ขียนตำมคำบอกมำเขียน
แจกลูกคำ และฝึกแต่งประโยค โดยครูมอบหมำยให้ไปทำต่อเป็นกำรบ้ำน มีกำรประสำนงำนขอควำมร่วมมือจำก
ผู้ปกครองให้ควำมช่วยเหลือนักเรียนในกำรสอนกำรบ้ำน สอนกำรอ่ำน และกำรเขียน นอกจำกกำรจัดกิจกรรม
กำรเรียนกำรสอนในห้องเรียนแล้วครูผู้สอนยังได้จัดกิจกรรมกำรเรี ยนกำรสอนนอกห้องเรียนร่วมกับคณะครู
และนักเรียนในระดับชั้นอ่ืน ๆ เพื่อปลูกฝังให้นักเรียนรู้จักกำรทำงำนเป็นหมู่คณะ มีกำรแลกเปลี่ยนเรียนรู้
ชว่ ยเหลอื ซง่ึ กันและกนั ระหว่ำงรนุ่ พ่ีกบั รุน่ นอ้ ง ร้จู ักแก้ไขปญั หำเฉพำะหน้ำ ทำให้นักเรียนเกิดทักษะประสบกำรณ์
ท่ีหลำกหลำย จำกกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน ท่ีได้กล่ำวมำข้ำงต้นน้ี ทำให้เกิดเป็นผลงำนของนักเรียน
ตำมมำอย่ำงมำกมำย และส่งผลให้กำรประเมินผลกำรสอบ RT ( Reading Test ) ในปีกำรศึกษำ ๒๕๖๓
ของนักเรียนระดบั ชนั้ ประถมศึกษำปที ี่ ๑ อยูใ่ นเกณฑ์ดีมำก มีผลกำรประเมินดำ้ นกำรอำ่ นออกเสียง เต็ม ๑๐๐ %

๓. โครงการ / กจิ กรรมสง่ เสริมด้านการอา่ นของผเู้ รยี น มีดงั นี้
๑. โครงกำรอำ่ นออกเขียนได้ ๑๐๐ %
เพื่อให้ครูผู้สอนไดต้ ระหนักและเห็นควำมสำคญั ของกำรสอนภำษำไทยเพื่อให้นกั เรยี นอ่ำนออก เขียนได้

และสื่อสำรได้อย่ำงย่ังยืน ตำมนโยบำยของรัฐบำล โดยผ่ำนกระบวนกำรกำรเรียนกำรสอนสอนท่ีมีประสิทธิภำพ
โรงเรียนได้ดำเนินงำนตำมขัน้ ตอนของโครงกำร ดังนี้ ครูสอนภำษำไทยเน้นกำรอ่ำน เขียนคำพ้ืนฐำนของแต่ละชั้น
สอนแบบแจกลูกคำและสะกดคำ สอนกำรอ่ำนออกเสียงและประสมคำ ตลอดท้ังให้นักเรียนเขียนตำมคำบอกทุก
วัน โดยกำรปรับประยุกต์ใช้และสอดแทรกในกิจกรรมกำรเรียนกำรสอนวิชำภำษำไทย นอกจำกน้ียังจัดให้มีกำร
แข่งขันเขียนตำมคำบอกในแต่ละระดับช้ัน มีกำรมอบรำงวัลให้กับนักเรียนที่เป็นผู้ชนะ เพื่อเป็นกำรสร้ำงขวัญ
กำลงั ใจ และสนับสนนุ สง่ เสริมให้นักเรยี นมีควำมกระตอื รอื ร้น สนใจใฝร่ ใู้ ฝ่เรียนมำกขน้ึ

๒. กจิ กรรมพีอ่ ่ำนให้นอ้ งฟัง
กจิ กรรมนี้มกี ำรดำเนนิ กำรโดยใหน้ ักเรยี นจับคกู่ ันระหวำ่ งพก่ี ับน้องตำมควำมชอบใจหรือให้ครูจัด

ให้แล้วแต่ควำมเหมำะสม จำกนั้นแต่ละคู่อ่ำนหนังสือให้กันฟัง โดยให้พี่อ่ำนออกเสียงให้น้องฟัง ( ไม่ใช่เล่ำเร่ือง )
อำ่ นอยำ่ งน้อยคร้งั ละ ๑๐ - ๑๕ นำที เวลำเช้ำหรอื กลำงวันกไ็ ด้ อยำ่ งน้อยสัปดำหล์ ะ ๓ วัน ตลอดปีกำรศกึ ษำ

๓. กจิ กรรมภำษำไทยวนั ละคำ
กิจกรรมน้ีดำเนินกำรโดยให้นักเรียนในแต่ละชั้นออกมำนำเสนอคำศัพท์ภำษำไทยวันละ ๑ คำ

ท่ีหน้ำเสำธงในตอนเช้ำ หลังจำกกิจกรรมเคำรพธงชำติเสร็จ โดยเริ่มจำกช้ันประถมศึกษำปีท่ี ๑ นักเรียนท่ีออกมำ
นำเสนอคำศัพท์ อ่ำนคำศัพท์ให้นักเรียนท่ีอยู่ในแถวฟัง พร้อมกับชูบัตรคำที่นำเสนอให้ให้นักเรียนท่ีอยู่ในแถวฟัง
ด้วย เม่ือข้ึนช้ันเรียนก่อนเริ่มเรียนครูจำนำคำที่นักเรียนนำเสนอที่หน้ำเสำธงมำให้นักเรยี นเขียนตำมคำบอกพร้อม
กับแต่งประโยค วิธีน้ีจะช่วยให้นักเรียนมีทักษะ และพัฒนำกำรด้ำนกำรอ่ำน กำรเขียน ท่ีดีขึ้น ตลอดท้ังสำมำรถ
แตง่ ประโยคจำกคำท่กี ำหนดใหไ้ ด้ และใชเ้ ป็นพืน้ ฐำนควำมรู้ในกำรฝกึ เขยี นเรือ่ งจำกภำพได้อีกตอ่ ไป

๔. ภาพประกอบ

ผู้บริหารกาหนดแผนงานวชิ าการรว่ มกบั ส่งเสรมิ สนับสนุนครใู หม้ คี วามรู้ ความสามารถและคณะครู
ในโรงเรียนทกั ษะท่ีจาเป็นต่อการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนสนับสนนุ ใหค้ รูจดั ตกแต่งห้องเรียนใหเ้ ปน็ แหลง่ เรียนรู้

ส่งเสริมสนับสนนุ งบประมาณให้ครจู ดั ทาสื่อ นวตั กรรมการเรียนจาเป็นต่อการจดั กิจกรรมการเรยี นการสอน

นเิ ทศตดิ ตามการจัดกจิ กรรมการเรียนการสอนของครู

ส่งเสริม สนับสนุนครู เข้ารว่ มกิจกรรม PLC ชุมชนแห่งการเรยี นรทู้ างวิชาชพี
กับโรงเรยี นใกล้เคยี งในศนู ย์วิชาการเดียวกนั

สนบั สนนุ ครสู ่งนักเรียนเข้ารว่ มแข่งขันประสานความขอรว่ มมือจากศึกษานเิ ทศกส์ ังกัดเขตพน้ื ท่ี
กจิ กรรมด้านวชิ าการ ของสานักงานเขตพ้นื ที่การศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต ๓

แนวทางการจดั กจิ กรรมการเรยี นการสอนของครูในการส่งเสรมิ พัฒนาการด้านการอา่ นของนักเรยี น

Clip VDO การถอดบทเรียน วิธีปฏบิ ตั ทิ ่ดี ี
การประเมนิ ความสามารถด้านการอา่ นของผเู้ รยี น ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563

โรงเรียนบา้ นวงั ขาม อาเภอศรเี ทพ จงั หวัดเพชรบูรณ์
สานักงานเขตพื้นทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเพชรบรู ณ์ เขต 3

https://www.youtube.com/watch?v=51GSkWGMKHg

QR Code

ถอดบทเรียนวธิ ปี ฏบิ ัตทิ ีด่ ี
การประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผเู้ รียนชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 ปีการศึกษา 2563

สานกั งานเขตพนื้ ทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเพชรบรู ณ์ เขต 3
โรงเรียนบ้านหนองจอกวงั กาแพง ศูนย์พัฒนาวชิ าการโคกสะอาดสระกรวดประดู่งาม อาเภอศรเี ทพ จังหวดั เพชรบรู ณ์

1. ผบู้ ริหารสถานศึกษา มีวิธีการบรหิ ารจดั การสง่ เสริมสนับสนนุ ด้านการอ่านของผูเ้ รยี นอย่างไร
1.1 มกี ำรสนบั สนนุ งบประมำณ ในกำรจัดซ้ือวสั ดุอปุ กรณ์ในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอน
1.2 มกี ำรจัดเตรยี มสือ่ และอุปกรณ์ทำงด้ำนเทคโนโลยีให้กบั คุณครู เพ่ือใช้ในกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนในห้องเรียน
1.3 มีกำรนเิ ทศติดตำม กำรจัดกำรเรียนกำรสอนของคุณครู เพื่อตดิ ตำมและรบั ฟงั ปญั หำอุปสรรคในกำร

จดั กำรเรียนกำรสอน และนำมำแก้ไขพัฒนำต่อไป
1.4 มกี ำรจัดทำส่อื เอกสำรในกำรสง่ เสรมิ กำรเขียนตำมคำบอกสำหรบั นกั เรียน ให้คณุ ครูนำไปใชใ้ นกำร

จดั กำรเรียนกำรสอน

2. ครูผสู้ อน มีวิธกี ารขนั้ ตอน/กระบวนการ/วธิ ีการจัดกจิ กรรมการเรยี นร้ดู า้ นการอา่ นของผู้เรียนอยา่ งไร
2.1 ทบทวนควำมรู้ของนักเรียนช้ันอนุบำลปีที่ 3 ที่ข้ึนมำเรียนช้ันประถมศึกษำปีท่ี 1 เพ่ือจะได้คัดแยก

เด็กออกเป็นกลุ่ม เก่ง ปำนกลำง อ่อน โดยกำรสอนให้นักเรียนได้รู้จักอ่ำนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และคำท่ีมี
ตัวสะกดคำงำ่ ยๆ เหน็ บ่อย เชน่ โรงเรียน บำ้ น ครู หนงั สอื ดินสอ ฯลฯ

2.2 กำรสอนให้นักเรียนอ่ำนหนังสือภำษำพำที หรือ บัญชีคำพ้ืนฐำนของชั้นประถมศึกษำปีที่ 1
เมือ่ ให้นกั เรียนอ่ำนเปน็ คำแล้วคุณครจู ะพำนักเรียนฝกึ แจกลูก-สะกดคำ เช่น กิน = กอ - อิ - กิ > กิ - นอ > กิน
จำกน้ันสอนให้นักเรียนรู้จักพยัญชนะต้น กำรประสมพยัญชนะต้นกับสระ และสะกดด้วยตัวสะกดอะไร สอนอ่ำน
หลำยๆ คร้ัง หรืออำจเปลี่ยนพยัญชนะต้น เช่น ดิน = ดอ - อิ - ดิ > ดิ - นอ > ดิน ทำเช่นน้ีจนนักเรียนเข้ำใจ
ตอ่ มำลองเปลี่ยนสระ เช่น กอน = กอ - ออ - กอ > กอ - นอ > กอน หรอื ดอน = ดอ - ออ - ดอ > ดอ - นอ >
ดอน หลังจำกนนั้ ลองเปลี่ยนตัวสะกด เช่น กิง = กอ - อิ - กิ > กิ - งอ > กิง และสดุ ทำ้ ยลองเพ่ิมวรรณยุกต์เข้ำ
ไปเพื่อให้คำมีควำมหมำย ก่ิง = กอ - อิ - กิ > กิ - งอ > กิง - กิง - ไม้เอก > ก่ิง เปลี่ยนพยัญชนะต้น สระ
ตวั สะกดไปเรื่อย ๆ พรอ้ มทั้งเพิ่มวรรณยุกต์เขำ้ มำ เพื่อให้คำมีควำมหมำยที่สมบูรณ์ โดยกำรจัดกำรเรียนกำรสอน
ดว้ ยกระบวน 4 ข้นั ในรปู แบบ เรียน ย้ำ ซำ้ ทวน

2.3 ครใู หน้ ักเรียนอ่ำนหนังสือโดยให้อำ่ นตำมคุณครู 1 ครั้ง เพอื่ นอ่ำนนำ 2 ครั้ง แล้วอ่ำนพรอ้ มกันย้ำ 2 คร้ัง
เมื่ออ่ำนเสร็จแล้วทุกครั้งให้นักเรียนเขียนคำท่ีอ่ำนลงในสมุด โดยคำท่ีอ่ำนมำจำกคำในบัญชีพ้ืนฐำนหรือหนังสือ
ภำษำพำที มำเขยี นแจกลกู -สะกดคำ อย่ำงน้อยวนั ละ 5-10 คำ

2.4 ใหน้ ักเรียนฝึกแต่งประโยคจำกคำท่ีนกั เรยี นนำมำจำกลกู สะกดคำ เป็นประโยคส้นั ๆ เชน่ ฉัน กนิ ข้ำว
แม่ เลี้ยง น้อง ฯลฯ

2.5 คุณครูสอนให้นักเรียนรู้จักควำมหมำยของคำ ท้ังจำกในหนังสือเรียน, บัญชีคำพ้ืนฐำน และสำมำรถ
นำมำแต่งประโยคส้นั ๆ ง่ำยๆ ไดค้ วำมหมำย

2.6 อ่ำนบททบทวนทุกคร้ังท่ีเขียนคำ แต่งประโยคเพื่อให้อ่ำนได้อย่ำงคล่อง และรู้ควำมหมำยของคำ
ของประโยค และสำมำรถเขำ้ ใจควำมหมำยของประโยคนั้น ๆ ได้ ทำให้นำไปสูก่ ำรวเิ ครำะห์ประโยคต่อไป

3. โครงการ/กจิ กรรมสง่ เสรมิ ด้านการอา่ นของผูเ้ รยี นมอี ะไรบา้ ง
3.1 โครงกำรพฒั นำทกั ษะกำรอ่ำนเขยี นในภำษำไทย
3.2 กิจกรรมกำรอ่ำนเขยี นคำพนื้ ฐำน
3.3 กจิ กรรมเพื่อนอ่ำนนำเรำอ่ำนตำม

4. ภาพประกอบ

Clip VDO การถอดบทเรยี น วิธีปฏบิ ัตทิ ดี่ ี
การประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผูเ้ รยี น ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศกึ ษา 2563

โรงเรียนบา้ นหนองจอกวงั กาแพง อาเภอศรเี ทพ จงั หวดั เพชรบูรณ์
สานกั งานเขตพื้นทีก่ ารศึกษาประถมศกึ ษาเพชรบรู ณ์ เขต 3

https://www.youtube.com/watch?v=HG5fSC1NeKU

QR Code

ถอดบทเรียนวธิ ีปฏบิ ัติท่ดี ี
การประเมนิ ความสามารถด้านการอา่ นของผูเ้ รียนช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 1 ปีการศึกษา 2563

สานกั งานเขตพืน้ ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3
โรงเรียนบ้านกระทุ่มทองประชาสรรค์ ศนู ย์พัฒนาวิชาการซบั สมบูรณซ์ ับนอ้ ย อาเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบรู ณ์

กระบวนการถอดบทเรียนความสามารถด้านการอา่ นของผ้เู รยี นชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 1

ข้นั การเตรยี มความพรอ้ ม
1) ต้ังเปำ้ หมำยที่จะทำใหผ้ ้เู รยี นอ่ำนออก เขยี นได้ 100 %
2) ศึกษำหลักสตู รสถำนศึกษำ , ศึกษำหลักสตู รภำษำไทย
3) จัดบรรยำกำศในช้นั เรยี นใหเ้ อื้อต่อกำรเรียนรู้ ของผู้เรียน
4) จดั ทำแผนกำรสอน และส่อื กำรเรียนรู้

ขน้ั การจัดการเรียนรู้
1. สอนให้ผเู้ รยี นรู้จัก “ชื่อพยัญชนะ” ท้ังหมด

โดยวิธอี ำ่ น ท่อง ร้องเล่น และใชส้ ่ือพยญั ชนะเพือ่ ใหผ้ เู้ รยี นไดร้ ้จู ัก “ชื่อ” ของพยัญชนะแตล่ ะตัว เปน็ กำรสรำ้ ง
ควำมคุ้นเคย และสนกุ สนำนเพลิดเพลินกับกำรท่อง ร้องเล่น

2. สอนให้ผูเ้ รียนร้จู กั “รูป” และ “เสียง” พยัญชนะ
กำรสอนให้รจู้ กั “รูป” และ “เสียง” ของพยญั ชนะแต่ละตัว เพ่อื เตรียมกำรนำไปสูก่ ำรอำ่ นและเขยี นสะกดคำ
โดยมีแนวทำงและขนั้ ตอนกำรสอนที่สำคญั ดังน้ี

ขั้นท่ี ๑ สอนให้เห็นรปู
โดยครูใช้ “บตั รพยัญชนะ” เปน็ รำยตวั ให้นักเรยี นได้เหน็ รูปร่ำงลักษณะของพยญั ชนะแต่ละตัว เชน่

ขนั้ ท่ี ๒ สอนใหร้ จู้ กั เสียง
ขณะทน่ี ำบตั รพยัญชนะให้ผเู้ รียนดู ทีละตัวนัน้ ต้องใหผ้ ู้เรียนได้รจู้ กั เสยี งของพยัญชนะตัวนนั้ ๆ โดย

๑) ครูอำ่ นออกเสยี งพยญั ชนะให้ฟงั อย่ำงชัดเจน เช่น

๒) ให้ผู้เรยี นดรู ปู พยญั ชนะทีล่ ะตวั แลว้ อ่ำนออกเสียงตำมครู (โดยคดั ตัวบรรจงเต็มบรรทัด และ
ลำกเสน้ ให้ถกู ต้องตำมหลักกำรเขยี นพยัญชนะ) พร้อมท้ังออกเสยี งดงั ๆ และชดั เจน

๓) ใหผ้ ู้เรยี นดรู ูปแลว้ อ่ำนออกเสียงเอง โดยเรมิ่ จำกอ่ำนออกเสยี งพร้อมกันทัง้ ชน้ั อำ่ นออกเสียงพร้อม
กันเปน็ รำยกลุ่ม และอ่ำนออกเสียงเป็นรำยบุคคล

ข้นั ที่ ๓ สอนให้เขียนรูป
เมอ่ื ผู้เรยี นอำ่ นออกเสียงได้แล้ว ต้องฝึกให้เขยี นรปู พยัญชนะตวั น้นั ๆ โดย

๑) ครูเขียนรปู พยญั ชนะบนกระดำน (โดยคดั ตัวบรรจงเต็มบรรทัด และลำกเสน้ ใหถ้ กู ต้องตำม
หลักกำรเขียนพยัญชนะ) ครลู ำกเสน้ ชำ้ ๆ ให้นักเรียนดู และอำ่ นออกเสียงพยัญชนะตัวน้ันไปพร้อมกัน

๒) ให้ผู้เรียนเขยี นรูปพยัญชนะตำมครู โดยเขยี นในกระดำนหรอื เขยี นลงในสมุดของแตล่ ะคน
ขณะเขียนให้อำ่ นออกเสยี งพยญั ชนะไปด้วย

๓) ใหผ้ ู้เรียนคดั รูปพยัญชนะแต่ละตวั ดว้ ยตัวบรรจงเตม็ บรรทดั ใหส้ วยงำม คดั ลงในสมดุ หลำย ๆ คร้งั
หลำยๆเทย่ี ว

4) ในขัน้ ของกำรเขยี นนี้ ครคู วรสงั เกตวธิ ีกำรจับดนิ สอ กำรวำงสมุด ตลอดจนท่ำทำงกำรนัง่ เขยี น
ของผู้เรียนไปด้วย หำกพบวำ่ คนใดไมถ่ ูกต้อง ควรแนะนำ แก้ไขให้ถูกต้อง

ลาดบั พยญั ชนะท่คี วรสอน ก่อน-หลงั
พยัญชนะไทยทง้ั ๔๔ ตัว มีระดับควำมยำกงำ่ ยในกำรอ่ำนออกเสยี ง และกำรเขยี นรูปพยญั ชนะท่ี

แตกตำ่ งกนั ควรเลอื กพยัญชนะทง่ี ่ำยในกำรออกเสียงและเขยี นรูป มำใหฝ้ ึกอำ่ นฝึกเขียนก่อน จะเป็นแรงเสรมิ เพม่ิ
กำลังใจท่สี ำคัญในกำรเรยี นรู้ ลำดบั พยัญชนะท่ีควรสอนก่อน-หลัง เป็นชุด ๆ ดังน้ี

3. สอนให้รู้จกั สระ
สระมีท้ังหมด ๒๑ รปู ๓๒ เสยี ง ตอ้ งสอนให้ผู้เรียนรู้จกั “รปู ” และ “เสยี ง” ของสระแตล่ ะตวั

เพื่อเตรยี มกำรนำไปสู่กำรอ่ำนและเขยี นสะกดคำต่อไป โดยมีแนวทำงและขนั้ ตอนกำรสอนทส่ี ำคญั ดังนี้
ขั้นที่ ๑ สอนใหเ้ ห็นรปู สระ

โดยครูใช้ “บตั รสระ” เปน็ รำยตวั ให้นกั เรยี นได้เหน็ รปู รำ่ งลกั ษณะของพยัญชนะแตล่ ะตัว เช่น

ขน้ั ที่ ๒ สอนใหร้ ู้จักเสียงสระ
ขณะทีน่ ำบตั รสระใหเ้ ดก็ ดูหรือเขยี นรูปสระในกระดำนทีละตัวนัน้ ต้องใหน้ กั เรยี นได้รจู้ กั เสียงของสระตัวนั้น ๆ โดย

๑) ครอู ่ำนออกเสยี งสระให้ฟังอย่ำงชัดเจน เชน่

๒) ให้ผเู้ รยี นดรู ูปสระทีละตวั แลว้ อำ่ นออกเสยี งตำมครู โดยออกเสยี งดงั ๆ และชัดเจน
๓) ใหผ้ ู้เรียนดรู ูปแลว้ อ่ำนออกเสยี งเอง โดยเริ่มจำกอ่ำนขนั้ ท่ี ๒ สอนให้ผเู้ รยี นร้จู ักเสียงสระแลว้ ออก
เสยี งพรอ้ มกนั ทั้งช้นั อำ่ นออกเสียงพร้อมกันเป็นรำยกลมุ่ และอำ่ นออกเสียงรำยบุคคล

ข้ันที่ ๓ สอนใหเ้ ขียนรปู สระเม่อื ผ้เู รยี นอำ่ นออกเสียงได้แลว้ ตอ้ งฝึกให้เขยี นรูปสระตัวนั้น ๆ โดย
๑) ครเู ขียนรูปสระบนกระดำน (โดยคดั ตัวบรรจงเตม็ บรรทดั และลำกเสน้ ให้ถูกต้องตำมหลกั กำรเขยี น
สระ) ครลู ำกเสน้ ชำ้ ๆ ใหผ้ ้เู รียนดู และอ่ำนออกเสียงสระตัวนน้ั ไปพรอ้ มกัน
๒) ใหผ้ ู้เรียนเขียนรูปสระตำมครู โดยเขยี นบนกระดำนหรอื เขียนลงในสมุดของแต่ละคน ขณะเขียน
ใหอ้ ำ่ นออกเสยี งสระไปด้วย
๓) ใหผ้ ้เู รียนคัดรูปสระแต่ละตวั ด้วยตวั บรรจงเต็มบรรทดั ให้สวยงำม คัดลงในสมดุ หลำย ๆ คร้งั

ลาดับสระท่คี วรสอน ก่อน-หลงั
สระท้งั ๓๒ เสยี ง มรี ะดับควำมยำกง่ำยในกำรอ่ำนออกเสยี ง และกำรเขยี นรปู สระทีแ่ ตกต่ำงกัน

มที ั้งสระเดย่ี ว สระประสม และสระเกนิ ควรเลือกสระทีง่ ำ่ ยในกำรออกเสียงและเขยี นรูป มำใหฝ้ กึ อ่ำนฝกึ เขยี น
ก่อน จะเป็นแรงเสรมิ เพม่ิ กำลังใจที่สำคัญในกำรเรียนรู้จึงลำดับสระท่คี วรสอนกอ่ น-หลัง เปน็ ชดุ ๆ ดงั นี้

4. สอนอา่ น เขียน สะกดคา แจกรปู ขัน้ ตอนในการสอนอ่านสะกดคาแจกลกู มีข้นั ตอนท่สี าคญั ดังน้ี
ขัน้ ท่ี ๑ สอนใหเ้ ห็นรปู
โดยครูใช้ “บตั รคำ” คำทต่ี อ้ งกำรสอน ให้นักเรียนไดเ้ หน็ รูปร่ำงลักษณะของพยัญชนะ สระ ที่ประสม

เปน็ คำนัน้ ๆ เชน่

ขนั้ ท่ี ๒ สอนให้รู้จักเสยี ง
๑) ครตู ้องทบทวนเสยี งพยญั ชนะและเสียงสระโดยอ่ำนออกเสียงพยญั ชนะและเสียงสระใหผ้ เู้ รียนฟงั อยำ่ งชัดเจน
๒) ใหผ้ ้เู รยี นดูรูปพยัญชนะและสระแลว้ อ่ำนออกเสยี งพยัญชนะและเสียงสระตำมครู โดยออกเสยี งดังๆและชดั เจน

ขัน้ ที่ ๓ สอนใหอ้ ่ำนสะกดคำ
๑) ใหผ้ ้เู รียนดรู ูปคำ แล้วครอู ่ำนสะกดคำใหผ้ เู้ รยี นฟัง (ครตู ้องออกเสียงใหด้ ังและชดั เจน) เช่น

๒) ใหผ้ เู้ รียนดรู ูปคำ แล้วอ่ำนออกเสยี งสะกดคำตำมครูพรอ้ มกันทงั้ ช้นั เป็นรำยกลุ่ม หรือรำยบุคคล
๓) ให้ผูเ้ รยี นดรู ูปคำ แลว้ อำ่ นออกเสียงสะกดคำเอง โดยเริม่ จำกอ่ำนออกเสียงพรอ้ มกนั ท้ังชั้น
เป็นรำยกลุ่ม และรำยบุคคล
๔) ครตู อ้ งสังเกต ตรวจสอบ หรอื ทดสอบกำรอำ่ นออกเสียงสะกดคำของนักเรยี นเป็นรำยบคุ คล
หำกพบว่ำผ้เู รียนคนใดยงั อ่ำนออกเสียงไมไ่ ด้ หรือไมช่ ัดเจน ตอ้ งแกไ้ ขทันที (และต้องแกไ้ ขกอ่ นทจี่ ะใหอ้ ำ่ นคำต่อไป)
ขน้ั ท่ี ๔ สอนให้อ่ำนแจกลกู
๑) ครูนำพยัญชนะ และ สระทตี่ อ้ งกำรอ่ำนแจกลูก โดยใช้บัตรพยัญชนะ หรือบตั รสระ หรือเขยี น
บนกระดำน แลว้ ทบทวนใหอ้ ่ำนออกเสียงพยัญชนะ และเสียงสระอยำ่ งชัดเจนเสียกอ่ น เชน่

๒) ใหผ้ ู้เรียนดรู ูปชดุ คำทีต่ ้องกำรแจกลูก โดยใช้แผนภมู ิ หรือเขียนชุดคำบนกระดำน แล้วครอู ่ำน
แจกลูกให้ฟงั เสียงดังและชัดเจน เช่น

๓) ใหผ้ ูเ้ รยี นดชู ุดคำ แลว้ อ่ำนออกเสียงแจกลูกตำมครูพร้อมกนั ทง้ั ช้ัน เป็นรำยกลุม่ หรือ
รำยบุคคล

๔) ใหผ้ ้เู รียนดชู ดุ คำ แลว้ อำ่ นออกเสียงแจกลูกเอง โดยเริม่ จำกอำ่ นแจกลกู พร้อมกันทั้งชนั้ เปน็
รำยกลุ่ม และรำยบุคคล

ขั้นท่ี ๕ สอนให้อำ่ นทบทวน
๑) หลังจำกผู้เรยี นได้อ่ำนสะกดคำแจกลูก คำในแตล่ ะชุดแล้ว ครูเลอื กคำบำงคำท่ีอ่ำนสะกดคำ

แจกลูกมำแล้วในชุดนั้น และชุดก่อนหน้ำนั้น มำให้อ่ำนทบทวน โดยอ่ำนออกเสียง “เป็นคำ (ไม่ต้องอ่ำนสะกดคำ
แตถ่ ้ำอำ่ นเปน็ คำไมไ่ ด้ก็ใหอ้ ำ่ นสะกดคำก่อน)

ขน้ั ที่ ๖ สอนใหเ้ ขยี นสะกดคำเมื่อผเู้ รียนอ่ำนออกเสยี งสะกดคำ แจกลกู ได้แล้ว ต้องฝึกใหเ้ ขียนรูปคำนน้ั ๆ โดย
๑) ครูเขียนรปู คำบนกระดำน (โดยคดั ตัวบรรจงเต็มบรรทดั และลำกเสน้ ใหถ้ ูกตอ้ งตำมหลกั กำรเขยี น)
ครลู ำกเส้นช้ำ ๆ ให้ผเู้ รียนดู และอ่ำนออกเสียงสะกดคำตวั นนั้ ไปพร้อมกัน
๒) ใหผ้ เู้ รียนเขยี นรปู คำตำมครู โดยเขียนในกระดำนหรือคดั ลงในสมดุ ของแต่ละคน ขณะเขยี นให้อ่ำนออกเสียง
สะกดคำไปดว้ ย
๓) ให้ผูเ้ รยี นคัดรูปคำแตล่ ะตวั ดว้ ยตวั บรรจงเต็มบรรทัดให้สวยงำม คัดลงในสมุดหลำยๆครัง้
๔) ครูต้องสังเกต ตรวจสอบ หรือทดสอบกำรเขียนสะกดคำของผู้เรียนเป็นรำยบุคคล โดยให้ผู้เรียน
เขียนคำตำมคำบอก หำกพบว่ำผู้เรียนคนใดยังเขียนคำใดไม่ได้หรือเขียนไม่ถูกต้อง ต้องช่วยเหลือแก้ไขทันที

Clip VDO การถอดบทเรยี น วิธปี ฏบิ ัตทิ ่ดี ี
การประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2563

โรงเรยี นบา้ นกระทุ่มทองประชาสรรค์ อาเภอวิเชยี รบรุ ี จังหวดั เพชรบูรณ์
สานักงานเขตพื้นที่การศกึ ษาประถมศกึ ษาเพชรบูรณ์ เขต 3

https://www.youtube.com/watch?v=_xb6ZDZD4nQ
QR Code

แบบถอดบทเรยี นวธิ ีปฏบิ ัติที่ดี
การประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผู้เรยี นชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563

สานักงานเขตพน้ื ท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3
โรงเรียนบา้ นโคกสงา่ นาข้าวดอ ศนู ยพ์ ัฒนาวิชาการวังโบสถบ์ ่อไทย อาเภอหนองไผ่ จงั หวดั เพชรบูรณ์

1. ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา มีวิธีการบริหารจัดการสง่ เสริมสนบั สนุนดา้ นการอ่านของผู้เรียนอยา่ งไร
โรงเรียนบ้ำนโคกสง่ำนำข้ำวดอ มีแนวคิดว่ำกำรอ่ำน กำรเขียน ภำษำไทยเป็นปัจจัยที่สำคัญ

สู่กำรเรียนรู้ในวิชำอ่ืน ๆ จึงได้มีกลยุทธกำรเรียนโดยเน้นกลุ่มสำระภำษำไทย ให้สำมมำรถ อ่ำนออก เขียนได้
จึงได้สร้ำงนวัตกรรมแบบฝึกเสริมทักษะ บัตรคำ ทำได้ เน้นคำพ้ืนฐำนของชั้นประถมศึกษำปีท่ี 1 มำฝึกอ่ำนกำร
ซ้ำ กำรย้ำ และทวน เพื่อให้เด็ก ๆได้จดจำ และคุ้นเคยกับคำที่ต้องกำรให้สอน ด้วยกิจกรรมมำกมำยกำรดูภำพ
จำกบัตรคำ, อ่ำนตำมแผนภูมิกำรอ่ำน, ย้ำให้จดจำด้วยบทบำทสมมติ, ใช้แผนผังควำมคิดเพื่อเด็กคิดคำใหม่ๆ
และต่อยอดควำมรูเ้ รือ่ งรูปแบบกำรสอนแบบใชก้ ำรเนน้ ย้ำ ซำ้ ทวน ผ่ำนกิจกรรมตำ่ ง ๆ โรงเรยี นเชื่อว่ำกำรเรียนรู้
กำรทำแบบซ้ำ ๆ นักเรียนจะเกิดกำรเรียนรู้ได้อย่ำงรวดเร็วและสำมำรถจดจำบทเรียนน้ีได้อย่ำงคงทน โดยทำเป็น
บัตรคำ แผ่นกระดำษแขง็ บตั รคำอีเลคทรอนคิ สแ์ ละในรปู ของกจิ กรรมนนั ทนำกำรอนื่ ๆ

จำกแนวคิดน้ีสอดคล้องกับกำรศึกษำทฤษฎีกำรเรียนรู้ของ ธอร์นไดค์ (Thorndike) ได้แก่ กฎแห่งกำร
ฝึกหัด กฎแห่งควำมพร้อม และกฎแห่งผล (Law of Exercise) กล่ำวว่ำ สิ่งใดก็ตำมท่ีมีกำรฝึกหัดหรอื กระทำบ่อย
ๆ ย่อมทำให้ผู้ฝึกมีควำมคล่องและสำมำรถทำได้ดี (Law of Disuse) ทฤษฎีพัฒนำกำรทำงควำมคิดของ เปียเจท์
(Piaget) กล่ำววำ่ สิง่ แวดลอ้ มมีควำมสำคัญอยำ่ งยิง่ ตอ่ กำรพฒั นำทำงสติปัญญำ เพรำะส่ิงแวดลอ้ มมีปฏิสัมพันธก์ ับ
มนุษย์ต่อกำรปรบั ตวั เพ่ือกำรดำรงอยูอ่ ย่ำงสมดุลและกำรเรียนรู้ทีย่ ึดผู้เรียนเป็นศูนย์กลำง เปน็ กำรจัดกำรเรียนรู้ที่
เน้นผู้เรียนมีบทบำทสำคัญ ซ่ึงดูได้จำกกำรมีส่วนร่วมในกิจกรรมกำรเรียนรู้อย่ำงกระตือรือร้น มีใจจดจ่อผูกพัน
และมีปริมำณส่วนร่วมท่ีมำกข้ึน วิชำภำษำไทยเป็นวิชำทักษะ และมีหลักเกณฑ์ทำงภำษำ ผู้เรียนจะมีควำมรู้
หลักเกณฑ์ทำงภำษำท่ีถูกต้อง และมีทักษะท่ีดีก็ต่อเมื่อมีกำรฝึกฝนกำรอ่ำน เขียนบ่อย ๆ ฝึกปฏิบัติจำกของจริงท่ี
เปน็ รูปธรรม สู่ควำมร้ทู ่เี ปน็ นำมธรรมตลอดจนศกึ ษำหลักเกณฑ์ภำษำไทยใหถ้ ูกต้อง

แบบฝึกทักษะ หมำยถึง งำนที่ครูมอบหมำยให้นกั เรียนทำเพอ่ื ทบทวนควำมรู้ทเ่ี รียนไปแล้ว และฝกึ ทกั ษะ
โดยฝึกใช้กฎหรือสูตรต่ำง ๆ ที่เรียนไปแล้วโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้นักเรียน เกิดทักษะ สำมำรถนำควำมรู้ไปใช้
แก้ปัญหำและพฒั นำทกั ษะของนักเรยี น (ฉวีวรรณ กรี ติกร . 2545 : 9)

การฝึกทักษะ หมำยถึง กำรสอนท่ีมุ่งให้ผู้เรียนพัฒนำควำมเร็วและควำมแม่นยำ ในเร่ืองที่เรียนโดยกำร
ทำซำ้ ๆ จนเกิดควำมชำนำญมำกข้ึน นอกจำกจะทำให้ผูเ้ รียนได้รับควำมรู้ มีทกั ษะ และทศั นคติต่อสิง่ ท่ีฝึกแลว้ ยัง
ทำให้ผู้เรียนมีประสบกำรณ์ตรงด้วยตนเอง สำมำรถเก็บสะสมส่ิงที่เรียนหรือฝึกทักษะไปแล้วเป็นเวลำนำน ในกำร
ฝกึ ทักษะผู้เรียนจะตอ้ งเข้ำใจลกั ษณะของทักษะที่ฝึก กำรใช้เวลำที่เหมำะสม สำมำรถรู้วิธนี ำทักษะกระบวนกำรฝึก
ทักษะไปใชใ้ นเร่ืองอน่ื ๆ ทคี่ ลำ้ ยคลงึ กันในชวี ติ ประจำวันได้

ควำมสำคัญของแบบฝึก แบบฝึกเป็นวิธีกำรสอนท่ีสนุกอีกวิธีหนึ่ง คือกำรให้นักเรียนได้ทำแบบฝึกมำก ๆ

สิง่ ที่ชว่ ยให้นักเรียนมีพฒั นำกำรทำงกำรเรียนรู้ในเน้ือหำวิชำได้ดีข้ึน คือแบบฝึกเพรำะนักเรยี นมีโอกำสนำควำมรู้ที่

เรียนมำแลว้ มำฝกึ ใหเ้ กิดควำมเข้ำใจกวำ้ งขวำงย่ิงข้นึ (วมิ ลรัตน์ สนุ ทรโรจน์ . 2545 : 131)

แบบฝึกเสริมท่ีดี ลักษณะของแบบฝึกเสริมท่ีดีของ วิมลรัตน์ สุนทรโรจน์ (2545 : 131 – 132)

ควรประกอบด้วยสิง่ ต่อไปน้ี เปน็ สิ่งท่ีนักเรียนเรียนมำแลว้

1. เหมำะกบั ระดบั วยั หรือควำมสำมำรถของนักเรยี น
2. มคี ำชีแ้ จงสน้ั ๆ ที่ช่วยให้นกั เรียนเขำ้ ใจวธิ ที ำได้งำ่ ย
3. ใชเ้ วลำทเี่ หมำะสม คอื ไม่นำนเกนิ ไป
4. เปน็ ส่ิงที่นำ่ สนใจและทำ้ ทำยใหน้ กั เรยี นแสดงควำมสำมรถ
5. ใช้สำนวนภำษำท่เี ขำ้ ใจงำ่ ย
6. ฝกึ ให้คิดไดเ้ รว็ และสนุกสนำน
7. สำมำรถศึกษำได้ดว้ ยตนเอง
8. ประโยชนข์ องแบบฝึกเสริมทกั ษะที่ดี
ดวงเดือน อ่อนน่วม (2535 : 20-21) กล่ำวว่ำ กำรฝึกทกั ษะมปี ระโยชน์หลำยอย่ำง ดงั ตอ่ ไปนี้

1. กำรฝึกช่วยจำให้แม่นยำขึ้น เพรำะโดยปกติกำรอ่ำน ฟัง มองดู หรือทำเพียงคร้ังเดียวย่อมยำกแก่กำร
จดจำไดท้ ัง้ หมด

2. ทำใหค้ รทู รำบควำมเขำ้ ใจของนักเรียนที่มีตอ่ กำรเรียน
3. ครูได้แนวทำงกำรพัฒนำกำรเรียนกำรสอน เพ่ือช่วยให้นักเรียนเรียนได้ดีท่ีสุดตำมควำมสำมำรถของ
ตนเอง
4. ฝกึ ใหน้ กั เรียนมีควำมเชอ่ื มน่ั และสำมำรถประเมนิ ผลงำนของตนเองได้
5. ฝกึ ให้นักเรยี นทำงำนดว้ ยตนเอง
6. ฝกึ ใหน้ ักเรียนมคี วำมรบั ผิดชอบต่องำนทีไ่ ดร้ ับมอบหมำย
7. คำนึงถึงควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล โดยเปิดโอกำสให้นักเรียน ได้ฝึกทักษะของตนเอง โดยไม่ต้อง
คำนงึ ถงึ เวลำ หรือควำมกดดนั อืน่ ๆ
สุจริต เพียรชอบ และสำยใจ อินทรัมพรรย์ (2522 : 25) ให้แนวคิดว่ำ กำรสร้ำงแบบฝึกท่ีดีควรยึด

ทฤษฎกี ำรเรียนรู้ทำงจิตวทิ ยำ ดังนี้

1. กฎกำรเรียนรู้ของธอนไดค์เกี่ยวกับกฎแห่งกำรฝึกคือ สิ่งใดที่มีกำรฝึกหัด กำรทำบ่อย ๆ ย่อมทำให้ผู้

ฝึกมีควำมสำมำรถมำกข้นึ

2. ควำมแตกต่ำงระหว่ำงบุคคล ควรคำนึงว่ำแต่ละคนมีควำมรู้ ควำมถนัด ควำมสำมำรถ และควำม

สนใจตำ่ งกนั กำรสรำ้ งแบบฝกึ จึงควรพจิ ำรณำถงึ ควำมเหมำะสม มหี ลำยๆ แบบมคี วำมยำกงำ่ ยต่ำงกัน

3. กำรจูงใจผเู้ รียน จัดแบบฝกึ จำกงำ่ ยไปยำกเพือ่ ใหเ้ กิดผลสำเร็จในกำรฝึกและยัว่ ยใุ ห้ติดตำมตอ่ ๆ ไป

4. ใชแ้ บบฝกึ สัน้ ๆ เพ่อื ไม่ให้เกิดควำมเบอ่ื หนำ่ ย

5. กำหนดอปุ กรณท์ จ่ี ะใช้ในกจิ กรรมแต่ละขนั้ ตอนให้เหมำะสม

6. กำหนดเวลำทีใ่ ชใ้ นกำรฝกึ แตล่ ะขั้นตอนใหเ้ หมำะสม

7. กำหนดประเมินผลอย่ำงไร

สรุปได้ว่ำ แบบฝึกเสริมทักษะหมำยถึง เครื่องมือท่ีครูสร้ำงขึ้น เพื่อใช้ตรวจสอบเข้ำใจของนักเรียนแต่ละ
คนในบทเรยี นเรือ่ งน้นั ๆ และใชเ้ ป็นเครื่องมือทส่ี ง่ เสรมิ พฒั นำควำมร้ขู องนกั เรียนในเรื่องดังกล่ำวเพ่มิ เตมิ จำกตำรำเรยี น

2. ครผู ู้สอน มวี ธิ กี ารขั้นตอน/กระบวนการ/วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรยี นรดู้ ้านการอ่านของผู้เรียนอย่างไร
2.1 ศกึ ษาเด็กเป็นรายบุคคล
- ประเมนิ กำรอ่ำน/กำรเขยี นเป็นรำยบคุ คล
- แบง่ กล่มุ นกั เรียนเปน็ 2 กลุ่ม กลมุ่ อำ่ นออกเขียนได้ และกลุ่มอ่ำนไม่ออกเขยี นไม่ได้
2.2 ฝกึ ฝนทกุ เวลา
- ฝึกอำ่ นเขยี นคำพ้ืนฐำน
- ฝกึ อ่ำนคำ/แจกลกู
- สอนซ่อมเสริมนอกเวลำเรียน
- นำผลมำปรับปรงุ พัฒนำ
2.3 พฒั นาการอ่านการเขยี น
- สร้ำงนวัตกรรมเสรมิ กำรอ่ำนกำรเขียน
- ฝึกเพม่ิ เตมิ ตำมศักยภำพผ้เู รียน
- ฝึกทักษะกำรคิดวเิ ครำะห์ ตำมศักยภำพผู้เรยี น
- ประเมนิ ผลก่อนเรยี น/ระหว่ำงเรียน/หลงั เรียน

ตารางขน้ั ตอนการดาเนินงาน ดังน้ี

ขั้นตอน กจิ กรรม เครอื่ งมือ/สื่อทใี่ ช้
ขั้นเรียน นกั เรยี นรับบัตรคำและเรียนรู้คำศัพทต์ ำ่ ง ๆ ตำมบัญชีคำศัพท์พื้นฐำน
บัตรคำ
ขัน้ ยำ้ อ่ำนสะกดคำ แจกลูก คน้ หำควำมหมำยของคำศัพท์ กำรนำไปใช้ ฝึกอำ่ นและ บัญชคี ำพื้นฐำน
เขยี น บัตรคำ,แบบเรยี น
ขน้ั ซำ้ ทดสอบกำรเขยี นและกำรอ่ำนคำศัพท์ และประเมินผเู้ รยี นเปน็ รำยบคุ คล พจนำนุกรม
แบบทดสอบ,ใบงำน
ขนั้ ทวน - สอนซ่อมเสรมิ นักเรยี นทีย่ ังไมผ่ ่ำนเกณฑ์ ทบทวนคำศัพท์ท้ังอ่ำนและเขียน แบบประเมนิ ผเู้ รยี น
อีกคร้ังจนทดสอบผ่ำนตำมเกณฑ์ที่กำหนด สำหรับนกั เรยี นท่ผี ำ่ นเกณฑ์ บตั รคำ ,บญั ชคี ำพืน้ ฐำน,
ให้ปฏิบตั กิ จิ กรรมทบทวนคำศัพท์ เช่น เลน่ เกม ปรศิ นำคำทำย เกมปริศนำคำทำย
ทำหนงั สือเล่มเล็ก อำ่ นหนังสอื เสริม หนังสืออำ่ นเสริม

แนวคดิ ทีจ่ ะต่อยอดพัฒนา
ในกำรดำเนินงำนกำรพัฒนำผู้เรียนให้สำมำรถอ่ำนออก เขียนได้ ได้ข้อค้นพบ คือ โรงเรียนขนำดเล็ก
มีบุคลำกรจำกัด ผู้สอนมีภำระงำนอ่ืนท่ีได้รับมอบหมำย ทำให้มีผลกระทบต่อกำรจัดกิจกรรมกำรเรียนกำรสอน
กับผู้เรียน และครูแต่ละคนรับผิดชอบนักเรียนสองช้ันเรียนและต้องสอนทุกกลุ่มสำระอำจส่งผลให้ในบำงกลุ่ม
สำระครมู เี วลำจัดกำรเรียนรูไ้ ด้ไมเ่ ตม็ ท่เี ทำ่ ทคี่ วร
กำรบริหำรจัดกำร ผู้บริหำรต้องมีวิสัยทัศน์ ส่งเสริมขวัญกำลังใจ และกำรทำงำนเป็นทีม ซ่ึงครูในแต่ละ
ช่วงชั้น ต้องประสำนควำมร่วมมือในกำรสอนอย่ำงต่อเนื่อง และกระตุ้นควำมอยำกรู้อยำกเห็นให้นักเรียนได้เกิด
กำรเรยี นรูแ้ ละมีกำรแขง่ ขันตลอดเวลำ
ครูผู้สอนต้องคอยดูแลเอำใจใส่นักเรียนอย่ำงใกล้ชิดในขณะฝึกปฏิบัติกิจกรรมกำรเรียนก ำรสอนให้ควำม
เป็นกันเอง และให้แรงเสริมแก่นักเรียนเสมอ และควรนำกิจกรรมที่หลำกหลำยมำบูรณำกำรในกำรใช้แบบเสริม
ทกั ษะกระตุ้นให้นกั เรียนได้เพลิดเพลินในกำรเรยี นรู้เช่น รอ้ งเพลง สมุดเลม่ เล็ก เล่มเกมส์ เล่นละครฯ และควรทำ
บัตรคำพื้นฐำนช่วงชัน้ ให้มีจำนวนมำก ๆ และใชส้ ่ืออเี ลกทรอนิกส์ เข้ำมำช่วยในกำรเรยี นรู้ให้นักเรยี นตื่นเตน้ เร้ำใจ
จะทำใหจ้ ดจำได้มำกขึ้น
3. โครงการ/กิจกรรมสง่ เสริมด้านการอ่านของผเู้ รียนมอี ะไรบา้ ง
3.1 โครงกำรส่งเสรมิ รกั กำรอ่ำน
3.2 โครงกำรพัฒนำผู้เรียนให้ใชก้ ระบวนกำรคดิ วิเครำะห์ คิดสังเครำะห์
ภาพประกอบ

Clip VDO การถอดบทเรยี น วธิ ปี ฏบิ ัติทีด่ ี
การประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผูเ้ รียน ชั้นประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563

โรงเรยี นบ้านโคกสง่านาขา้ วดอ อาเภอหนองไผ่ จังหวดั เพชรบรู ณ์
สานกั งานเขตพ้ืนทก่ี ารศึกษาประถมศึกษาเพชรบูรณ์ เขต 3

https://www.youtube.com/watch?v=uLTpLCetjrQ
QR Code

ถอดบทเรียนวิธีปฏบิ ัติทดี่ ี
การประเมินความสามารถด้านการอา่ นของผู้เรียนช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ ๑ ปีการศึกษา ๒๕๖๓

สานกั งานงานเขตพ้ืนท่กี ารศึกษาประถมศึกษาเพชรบรู ณ์เขต ๓
โรงเรียนบา้ นโคกปรือ ศูนยพ์ ฒั นาวชิ าการสระประดู่ อาเภอวเิ ชยี รบรุ ี จงั หวดั เพชรบูรณ์

๑. ผูบ้ ริหารสถานศึกษา มีวธิ กี ารบริหารจัดการสง่ เสริมสนับสนนุ ดา้ นการอา่ นของผู้เรียนอยา่ งไร
ผูบ้ รหิ ำรช่วยสง่ เสริมสนบั สนนุ ด้ำนกำรอ่ำนออกเขยี นได้มีกำรนเิ ทศติดตำมกำรเรียนกำรและชว่ ยแนะแนว

ทำงกำรปฏิบตั ใิ นกำรสอน นักเรียนทีม่ คี วำมบกพร่องทำงดำ้ นกำรอ่ำนใหม้ ีกำรพัฒนำที่ดขี ้ึน
๒.ครูผู้สอน มวี ิธีการขน้ั ตอน/กระบวนการ/วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ด้านการอ่านของผู้เรียนอย่างไร

๑.การสอนใหร้ จู้ กั พยัญชนะพยัญชนะไทยมีทั้งหมด ๔๔ ตวั มีวธิ ีการสอนให้ร้จู กั พยญั ชนะใน ๒ ลักษณะ คือ
๑) สอนให้รู้จักชือ่ พยญั ชนะเบือ้ งตน้ สำมำรถสอนให้เด็กรจู้ ักช่ือพยัญชนะทัง้ หมดโดยวิธกี ำรอำ่ น

ท่องร้องเล่นตำมที่ท่องกันโดยท่ัวไปเพื่อให้เด็กได้รู้จักชื่อพยัญชนะแต่ละตัว เป็นกำรสร้ำงควำมคุ้นเคยและสนุกสนำน
เพลิดเพลินกับกำรท่องร้องเล่น (อย่ำงเช่นที่ท่องต่อ ๆกันมำว่ำ) ก เอ๋ย กอ ไก่ ส่ือที่ใช้ในกำรสอน ให้รู้จัก
ชื่อพยัญชนะ คือ แผนภำพพยัญชนะ โดยกำรช้ีให้เห็นพยัญชนะแล้วอ่ำนท่องร้องเล่นพร้อมกันทั้งชั้นเรียน
หรือเป็นกลุ่มก็ได้ ในกำรอ่ำนท่องร้องเล่นน้ันอำจจะปรบมือให้จังหวะหรือมีกิจกรรมอื่น ๆ เพื่อควำมสนุกสนำน
เพลิดเพลินไปดว้ ยก็ย่ิงดี

๒) สอนให้รจู้ กั รูปและเสียงพยัญชนะเปน็ กำรสอนใหร้ จู้ ักรูปเสียงของพยญั ชนะแต่ละตัว
เพือ่ เตรียมกำรนำไปสกู่ ำรอำ่ นและเขียนสะกดคำตอ่ ไปโดยมแี นวทำงและขั้นตอนกำรสอนท่ีสำคัญดังนี้

ขั้นที่ ๑ สอนใหเ้ ห็นรูปโดยครูใช้บตั รพยัญชนะเปน็ รำยตัวใหน้ ักเรียนได้เป็นรปู รำ่ งลกั ษณะของพยัญชนะ
แตล่ ะตวั เชน่

ก ขค

หรอื ครอู ำจจะใชว้ ิธีเขียนพยัญชนะในกระดำษก็ได้
ขัน้ ท่ี ๒ สอนใหร้ จู้ ักเสียง ขณะที่นำบตั รพยญั ชนะใหเ้ ด็กดูหรอื เขียนพยัญชนะในกระดำนทล่ี ะตัวน้นั ตอ้ ง
ใหน้ กั เรียนได้รจู้ ักเสียงของพยัญชนะตัวนั้น ๆ โดย
๑. ครอู ำ่ นออกเสยี งพยัญชนะให้ฟงั อย่ำงชัดเจนเชน่

ก ออกเสียงว่ำ กอ (อยำ่ ออกเสยี งวำ่ กอ ไก)่
ข ออกเสียงว่ำ ขอ (อย่ำออกเสยี งว่ำ ขอ ไข่)
๒. ให้นักเรียนดรู ปู พยญั ชนะทีล่ ะตัว แล้วออกเสียงตำมครู(โดยคดั ตวั บรรจงเต็มบรรทดั และลำกเส้นให้
ถกู ต้องตำมหลักกำรเขยี นพยัญชนะ) ออกเสยี งดังและชดั เจน

๓. ใหน้ ักเรยี นดรู ปู แลว้ อำ่ นออกเสยี งเองโดยเริ่มจำกอ่ำนออกเสียง พร้อมกนั ท้ังชน้ั อ่ำนออกเสียงพร้อมกัน
เปน็ รำยบคุ คล

๔. ครูต้องสังเกตตรวจสอบหรือทดสอบกำรอ่ำนออกเสียงพยัญชนะของนักเรียนเป็นรำยคนหำกพบว่ำ
นักเรียนคนใดยงั อำ่ นออกเสยี งไม่ไดห้ รอื ไม่ชดั เจนต้องแกไ้ ขทนั ที่ และตอ้ งแก้ไขเสยี กอ่ นทจี่ ะได้อำ่ นพยัญชนะตวั ต่อไป

ขั้นที่ ๓ สอนใหเ้ ขียนรูป เม่ือนกั เรียนอ่ำนออกเสียงไดแ้ ลว้ ต้องฝึกใหเ้ ขียนรูปพยญั ชนะตัวน้นั ๆ โดย
๑. ครูเขยี นรูปพยัญชนะในกระดำน โดยคัดตัวบรรจงเต็มบรรทัดและลำกเสน้ ใหถ้ ูกต้องตำม

หลักกำรเขยี นพยญั ชนะ ครูลำกเสน้ ช้ำ ๆ ให้นกั เรยี นดูและอ่ำนออกเสยี งพยญั ชนะตัวนั้นไปพร้อมกนั
๒. ให้นักเรียนเขียนรูปพยญั ชนะตำมครูโดยเขียนในกระดำนหรือเขียนลงในสมุดของแต่ละคน

ขณะเขยี นให้อ่ำนออกเสยี งพยญั ชนะไปดว้ ย
๓. ใหน้ ักเรียนคดั รูปพยญั ชนะแต่ละตัวด้วยตวั บรรจงเตม็ บรรทัดให้สวยงำมคัดลงในสมุดหลำยๆ

ครงั้ หลำยเท่ียว
๔. ครูต้องสงั เกตตรวจสอบหรอื ทดสอบกำรเขยี นรปู พยัญชนะของนักเรยี นคนใดยงั เขยี นไม่ได้

หรือเขยี นไม่ถูกตอ้ ง ต้องแก้ไขทันที(และต้องแก้ไขเสียก่อนท่ีจะให้เขยี นพยญั ชนะตัวต่อไป
๕. ในชนิ้ กำรเขียนนค้ี รูควรสงั เกตวธิ ีกำรจับดินสอกำรวำงสมุดตลอดจนท่ำทำงกำรนั่งเขียนของ

นกั เรียนไปด้วยหำกพบว่ำคนใดไม่ถูกต้องควรแนะนำแก้ไขให้ถกู ตอ้ งเสียแต่ต้นลำดบั พยัญชนะที่ควรสอนก่อน-หลัง
พยัญชนะไทยท้ัง ๔๔ ตัวมีระดับควำมยำกง่ำยในกำรอ่ำนออกเสียงและเขียนรูปพยัญชนะท่ีแตกต่ำงกัน ควรเลือก
พยัญชนะท่ีง่ำยในกำรออกเสียงและเขียนรูปมำให้ฝึกอ่ำนฝึกเขียนก่อนจะเป็ นแรงเสริมเพ่ิมกำลังใจที่สำคัญ
ในกำรเรียนรจู้ ึงเสนอลำดบั พยัญชนะท่คี วรก่อน-หลงั เปน็ ชุด ๆ ทั้งนี้

ชุดท่ี ๑ ก จ ด ต บ ป อ
ชุดท่ี ๒ ค ง ช ซ ท น
ชุดที่ ๓ พ ฟ ม ย ร ล ว ฮ
ชดุ ที่ ๔ ข ฉ ถ ผ ฝ ส ห
ชุดท่ี ๕ ซ ฅ ฆ ฑ ธ ภ ศ ษ ฬ
ชุดท่ี ๖ ฌ ญ ฎ ฏ ฐ ฒ ณ
๒. สอนใหร้ จู้ ักสระ สระทั้งหมดมี ๒๑ รูป ๓๒ เสียงต้องสอนใหร้ จู้ ักรูปและเสียงของสระแต่ละตัว
เพือ่ เตรยี มกำรนำไปส่กู ำรอ่ำนและเขียนสะกดคำตอ่ ไป โดยมแี นวทำงและขนั้ ตอนกำรสอนท่สี ำคญั ดังนี้
โดยครใู หบ้ ตั รสระเป็นรำยตัวให้นักเรยี นไดเ้ ห็นรูปรำ่ งลักษณะของ สระ แต่ละตวั เช่น

ะ าแ

ขนั้ ที่ ๒ สอนใหร้ จู้ ักเสยี งสระ ขณะท่ีนำบตั รสระใหเ้ ดก็ ดหู รือเขยี นรปู สระในกระดำนท่ลี ะตัวน้นั ตอ้ งให้
นกั เรยี นไดร้ ูจ้ กั เสียงของสระตัวน้ัน ๆ โดย

๑. ครูอ่ำนออกเสยี งสระให้ฟงั อย่ำงชัดเจนเชน่ ะ ออกเสียง อะ (อย่ำออกเสียงสระ อะ)
๒. ใหน้ ักเรียนดูรปู สระท่ีละตัวแล้วอ่ำนออกเสียงตำมครโู ดยออกเสยี งดังชัดเจน

๓. ให้นักเรียนดรู ูปแลว้ อ่ำนออกเสียงเองโดยเรมิ่ จำกอำ่ น
๔. ให้นักเรยี นคดั สระ
๕. ครทู ดสอบกำรเขียนสระลำดบั สระทคี่ วรสอนก่อนหลัง

ชุดท่ี ๑ อะ อำ อิ อี อึ อื อุ อู
ชดุ ท่ี ๒ เอะ เอ แอะ แอ โอะ โฮ เอำะ ออ
ชุดท่ี ๓ อัวะ อัว อำ ใอ ไอ เอำ
ชุดที่ ๔ เออะ เออ เอียะ เอีย เอือะ เออื
ชุดท่ี ๕ ฤ ฤำ ฦ ฦำ
๓. สอนอ่านเขียนสะกดคาแจกลูก กำรอ่ำนเขียนสะกดคำ แจกลูก จัดเป็นข้ันตอนท่ีสำคัญท่ีสุดท่ีจะทำ
ให้เด็กอำ่ นออกเขยี นได้ตวั อย่ำงกำรแจกลูก
๑. พยญั ชนะต้นคงทสี่ ระแปรเปลยี่ นไปเชน่ ต้องกำรฝกึ อ่ำนคำที่ ม เปน็ พยญั ชนะต้นแจกลูกว่ำ
มะ มำ มิ มี มึ มื มุ มู เมะ เม
๓. สระคงที่ พยญั ชนะแปรเปลี่ยนไปเช่น ต้องกำรฝึกอ่ำนคำทปี่ ระสม สระ อ และ ง เป็น ตัวสะกดแจก
ลูกวำ่ กอง จอง ซอง จอง ลอง
ข้อควรคานึงในการสอนสะกดคาแจกลกู
๑. เด็กสำมำรถอ่ำนสะกดคำแจกลูกได้เม่ือรู้จักและออกเสียงเสียงพยัญชนะและเสียงสระ ได้ถูกต้องแล้ว
ทั้งน้ีเพรำะปัญหำของเด็กที่อ่ำนสะกดคำแจกลูกไม่ได้เกิดจำกไม่รู้จักหรือไม่แม่นในเสียงพยัญชนะและเสียงสระ
ดังน้ันกอ่ นท่ีจะสอนอ่ำนสะกดคำแจกลูกแต่ละคร้งั ครูต้องตรวจสอบทบทวนให้เด็กแม่นในเสียงพยัญชนะและเสียง
สระเสียกอ่ นทกุ ครัง้
๒. ให้เริ่มต้นท่ีกำรสอนอ่ำนสะกดคำก่อนเมื่อเห็นว่ำสำมำรถอ่ำนสะกดคำได้ถูกต้องแล้วจึงค่อยฝึกให้แจก
ลูกเพอื่ ใหเ้ กิดควำมคล่องในกำรอ่ำนคำกลุ่มนน้ั
๓. ให้เริม่ ต้นท่ีกำรอ่ำนสะกดคำอ่ำนแจกลูกก่อนเมื่อเห็นว่ำสำมำรถอ่ำนได้ถูกต้องแล้วจึงให้ฝกึ เขียนสะกด
คำเขยี นแจกลกู เพอ่ื ใหเ้ กดิ ควำมคลอ่ งในกำรอ่ำนกำรเขยี นต่อไป
๔. กิจกรรม เขียนตำมคำบอก และคัดลำยมือเป็นกิจกรรมท่ีสำมำรถใช้ฝึกฝนให้เกิดควำมแม่นยำ
และคงทนในกำรอ่ำนกำรเขียน จึงควรนำมำใช้หลงั กำรอำ่ นเขยี นสะกดคำแจกลูกทุกครง้ั
๓.โครงการ/กิจกรรมส่งเสรมิ ดา้ นการอ่านของผู้เรยี นมีอะไรบา้ ง
- กจิ กรรมสง่ เสริมกำรอำ่ น
- กจิ กรรมคัดไทยเขยี นสวย
- กจิ กรรมเล่ำเรอ่ื งจำกภำพ
- กจิ กรรมเขยี นเรื่องจำกภำพ
- กิจกรรมกำรอ่ำนนทิ ำนใหเ้ พื่อนฟงั
- กิจกรรมเขยี นตำมคำบอก
- กิจกรรมแต่งประโยคจำกภำพ

๔. ภาพประกอบ

Clip VDO การถอดบทเรยี น วิธปี ฏิบัติทดี่ ี
การประเมนิ ความสามารถด้านการอา่ นของผู้เรยี น ชน้ั ประถมศกึ ษาปีท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2563

โรงเรียนบา้ นโคกปรือ อาเภอวเิ ชยี รบรุ ี จังหวดั เพชรบูรณ์
สานักงานเขตพ้ืนทก่ี ารศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบรู ณ์ เขต 3

https://www.youtube.com/watch?v=3tXl5brH7X8

QR Code

ถอดบทเรียนวธิ ีปฏิบัตทิ ี่ดี
การประเมนิ ความสามารถด้านการอ่านของผ้เู รยี นชนั้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ปีการศึกษา 2563

สานักงานเขตพน้ื ทีก่ ารศึกษาประถมศึกษาเพชรบรู ณ์ เขต 3
โรงเรยี นบา้ นคลองดู่ ศนู ย์พัฒนาวชิ าการคลองกระจัง อาเภอศรเี ทพ จังหวัดเพชรบูรณ์

1. ผูบ้ ริหารสถานศึกษา มีวิธกี ารบริหารจดั การสง่ เสริมสนบั สนุนด้านการอ่านของผูเ้ รยี นอยา่ งไร
มีกำรสนับสนุนและส่งเสริมนโยบำยท่ีนำไปสู่กำรปฏิบัติมำกข้ึน ให้ครูและบุคลำกรในโรงเรียนมีส่วนร่วม

ในกำรกำหนดนโยบำยด้ำนกำรส่งเสริมกำรอ่ำน ให้ควำมสำคัญในกำรนำเทคโนโลยีเข้ำมำมีบทบำทในกำร
สนับสนุนด้ำนกำรอ่ำน จัดหำแหล่งเรียนรู้ ส่ืออิเล็กทรอนิกส์ อินเทอรเ์ น็ตให้เพียงพอและท่ัวถึง ให้ควำมสำคัญกับ
กำรสร้ำงขวัญกำลังใจกับครูและนักเรียนอย่ำงสม่ำเสมอ ตลอดจนกำกับติดตำมและประเมินผลอย่ำงต่อเนื่องและ
เปน็ ปัจจบุ ัน
2. ครผู สู้ อน มวี ิธกี ารขน้ั ตอน/กระบวนการ/วธิ ีการจดั กิจกรรมการเรียนร้ดู ้านการอา่ นของผูเ้ รียนอยา่ งไร

ผสู้ อนได้ใช้วิธกี ำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ด้ำนกำรอ่ำนของผ้เู รยี น ดังน้ี
1. ฝกึ กำรอำ่ นออกเสยี ง โดยใช้บัญชคี ำพ้นื ฐำนช้ันประถมศกึ ษำปที ี่ 1 ดว้ ยกำรเปิดคลปิ วิดโี อใน YouTube
ใหน้ กั เรยี นเรยี นได้ฟัง เพอื่ อ่ำนออกเสยี งตำม และฝกึ กำรอำ่ นเปน็ รำยบคุ คล
2. ฝึกกำรเขยี น โดยครใู ห้นักเรียนคดั ไทยเป็นกำรบำ้ น กอ่ นท่ีจะเขยี นตำมคำบอกทกุ เชำ้ ก่อนเริ่มเรยี น
วิชำแรก จำนวน 20 คำ จำกนั้นครูและนักเรยี นร่วมกันเฉลย นักเรียนจะได้แก้คำท่ีตนเองเขียนผิด โดยกำรคัดคำ
น้ัน ๆ จำนวน 5 ครั้ง และมีกำรฝึกให้นักเรียนแต่งประโยคทุกวันในคำบเรียนวิชำภำษำไทย โดยมีกำรฝึกแต่ง
ประโยคจำกคำศัพท์ท่ีกำหนดให้ ฝึกแต่งประโยคจำกคำท่ีนักเรียนเขียนผิดของกำรเขียนตำมคำบอก ฝึกแต่ง
ประโยคจำกภำพ เปน็ ตน้
3. มีกำรจัดชั่วโมงสำหรับกำรตวิ เข้มกำรประเมนิ ควำมสำมำรถดำ้ นกำรอ่ำน จำนวน 3 ชวั่ โมง ใน 1 วัน
เป็นเวลำ 1 เดือน ก่อนมีกำรสอบ โดยกำรนำแบบทดสอบกำรประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำนของนักเรียนช้ัน
ประถมศกึ ษำปที ี่ ๑ ในปีทผี่ ำ่ นมำ (ยอ้ นหลงั ตงั้ แต่ปี พ.ศ. 2559 - พ.ศ. 2562) มำใหน้ กั เรียนได้ทำ มวี ธิ ีกำร ดังนี้

๓.๑ ครชู แ้ี จงจดุ ประสงคข์ องกำรสอบกำรประเมนิ ควำมสำมำรถด้ำนกำรอำ่ น และอธิบำยวธิ ีกำร
ทำแบบทดสอบแตล่ ะตอนใหน้ ักเรยี นเข้ำใจ

๓.๒ นำแบบทดสอบมำให้นกั เรยี นได้ทำ โดยจบั เวลำกำรทำแบบทดสอบตำมเวลำกำรสอบจรงิ
๒.๓ ครูและนกั เรียนร่วมกนั เฉลยแบบทดสอบ พรอ้ มทง้ั ครอู ธบิ ำยคำตอบที่ถูกตอ้ งของข้อนน้ั ๆ
ใหน้ ักเรียนเขำ้ ใจ
๓.๔ รวมคะแนนแบบทดสอบแยกเปน็ แตล่ ะตอน และนำคะแนนของนักเรียนแต่ละคนมำ
วิเครำะห์ว่ำ นักเรียนคนใด เก่ง หรือ อ่อน ในกำรทำแบบทดสอบตอนใด จำกนั้นจึงทำกำรสอนซ่อมเสริมให้กับ
นักเรยี นเพ่อื พฒั นำนักเรยี นในด้ำนนนั้ ๆ ต่อไป

3. โครงการ/กิจกรรมส่งเสริมดา้ นการอา่ นของผู้เรยี นมีอะไรบา้ ง
ครูผู้สอนจัดกจิ กรรมกำรอำ่ นของนักเรยี น ดงั น้ี
๓.๑ นกั เรียนฝกึ กำรอ่ำนออกเสียงหน้ำชน้ั เรยี นเปน็ รำยบุคคล
๓.๒ นักเรียนฝึกกำรอำ่ นออกเสยี งบัญชีคำพื้นฐำนตำมคลปิ วดิ ีโอใน YouTube
๓.๓ นักเรยี นฝกึ กำรอำ่ นเร่ืองส้ัน ข้อควำม และตอบคำถำมจำกเรื่องท่ีอ่ำน
๓.๔ จดั ชว่ั โมงสำหรับกำรติวเข้มกำรประเมนิ ควำมสำมำรถดำ้ นกำรอ่ำน

4. ภาพประกอบ

ภำพบรรยำกำศกำรฝึกกำรเขียน โดยกำรฝกึ ใหน้ กั เรียนแต่งประโยคทุกวนั ในคำบเรียนวชิ ำ
ภำษำไทย

ภำพบรรยำกำศกำรฝกึ กำรอ่ำนเรอื่ งสัน้ ขอ้ ควำม เป็นรำยบุคคล

ภำพบรรยำกำศกำรฝกึ กำรเขียน โดยกำรเขยี นตำมคำบอก
ภำพบรรยำกำศกำรฝกึ กำรอ่ำนออกเสยี งหน้ำชน้ั เรยี น เปน็ รำยบคุ คล

ภำพบรรยำกำศกำรจดั ชวั่ โมงสำหรับกำรตวิ เข้มกำรประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรอำ่ น
ภำพบรรยำกำศกำรสอนซ่อมเสริมกำรอำ่ นใหก้ บั นักเรียน

Clip VDO การถอดบทเรยี น วิธีปฏิบตั ิที่ดี
การประเมินความสามารถด้านการอ่านของผ้เู รยี น ชัน้ ประถมศึกษาปีที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2563

โรงเรยี นบา้ นคลองดู่ อาเภอศรเี ทพ จังหวัดเพชรบูรณ์
สานกั งานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาเพชรบรู ณ์ เขต 3

https://www.youtube.com/watch?v=tCep0a-dA5o
QR Code

ถอดบทเรยี นวิธปี ฏิบตั ทิ ีด่ ี

การประเมินความสามารถด้านการอา่ นของผ้เู รยี นชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 1 ปีการศกึ ษา 2563

สานกั งานเขตพ้นื ท่ีการศึกษาประถมศกึ ษาเพชรบรู ณ์ เขต 3

โรงเรยี นบ้านตะกุดไผ่ ศนู ย์พัฒนาวิชาการพุเตยพขุ าม อาเภอวิเชยี รบรุ ี จังหวัดเพชรบรู ณ์

๑. ผู้บริหารสถานศึกษา มีวิธกี ารบริหารจดั การส่งเสริมสนับสนนุ ด้านการอ่านของผ้เู รียนอยา่ งไร

1) สนบั สนุนโครงกำร ด้ำนเวลำ งบประมำณ สื่อ วสั ดุ อุปกรณ์
2) สง่ เสรมิ ให้ครูได้มีกำรพัฒนำตนเอง ในกำรอบรม พัฒนำตนเอง ศึกษำหำควำมรู้เพ่มิ เตมิ
3) นิเทศ กำกับ ติดตำม กำรจัดกำรเรียนกำรสอนของครู พร้อมใหข้ ้อเสนอแนะเพ่มิ เติม
4) สร้ำงขวัญ และกำลงั ใจให้กบั ครูและบคุ ลำกร

๒. ครผู ูส้ อน มีวิธีการ ข้ันตอน / วธิ ีการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ด้านการอ่านของผเู้ รียนอยา่ งไร
ครูผสู้ อน มวี ธิ กี ำร ขนั้ ตอน กำรจดั กำรเรยี นรดู้ ำ้ นกำรอำ่ นของผู้เรียน ดังนี้
1) ตรวจสอบควำมร้พู นื้ ฐำนของผู้เรียน
2) เตรียมควำมพร้อม กำรอ่ำน กำรเขียนของผู้เรียน
- อำ่ นออกเสียงพยัญชนะ (รูป / เสยี ง)
- อ่ำนออกเสยี งสระ (รปู / เสยี ง)
3) จดั กิจกรรมกำรเรียนรู้ มีกำรทบทวนเนื้อหำเก่ำก่อนเรียนทุกครง้ั จดั ทำบัญชีคำเปน็ รูปเล่มให้นกั เรยี น

ฝกึ อ่ำนและทบทวน มีกำรใช้สอ่ื กำรเรยี นกำรสอน เกม เพลง เทคนิคกำรสอน และเทคโนโลยีทห่ี ลำกหลำย พร้อม
ทั้งได้ใช้เทคนิค BBL (Brain-based Learning) เข้ำมำช่วยกระตุ้นกำรเรียนรู้ 1. Warm Up 2. Present (นำเสนอ)
3. Learn-Practic 4. Summary (สรปุ ควำมร)ู้ 5. Apply (ประยกุ ตใ์ ช้ควำมรู)้ เพ่ือให้นกั เรียนเกิดควำมสนุกและ
ไม่เบ่อื ในกำรเรียนรู้ ในระหวำ่ งกำรสอนนนั้ ก็จะประเมินกำรอ่ำนออก เขยี นไดข้ องนกั เรียนควบคไู่ ปดว้ ย

- อ่ำน /เขยี น แจกลกู สะกดคำ
- อำ่ นออกเสียง อำ่ นผสมคำ อ่ำนคำศัพท์ อ่ำนคำท่มี ีตัวสะกด
- เขยี นตำมคำบอก
- แตง่ ประโยค
4) ติดตำมกำรอ่ำนของผ้เู รยี นท่บี ้ำนจำกผปู้ กครอง โดยตัง้ กล่มุ ไลน์ เพื่อติดต่อส่อื สำรกับผปู้ กครอง

๓. โครงการ/กจิ กรรมสง่ เสริมด้านการอ่านของผ้เู รยี นมอี ะไรบา้ ง
๑) โครงการยกระดบั ผลสัมฤทธิท์ างการศึกษาระดบั ชาติ
วตั ถุประสงค์ เพ่ือยกระดับผลสัมฤทธิท์ ำงกำรศกึ ษำระดับชำติ RT ของนักเรียนช้นั ประถมศึกษำปีท่ี 1
เป้าหมาย นกั เรยี นชน้ั ประถมศึกษำปที ี่ 1 ทุกคน มคี วำมสำมำรถด้ำนกำรอำ่ นตำมมำตรฐำน
กลยทุ ธก์ ารขับเคลื่อนการยกระดับ RT
กลยุทธ์ ที่ 1 นเิ ทศภำยในอย่ำงเปน็ ระบบ
กลยทุ ธ์ ท่ี 2 สอนครบ ตรงตำมตัวชวี้ ดั
กลยทุ ธ์ ท่ี 3 จดั สอบเพ่ือพฒั นำนกั เรยี น
กลยุทธ์ ท่ี 4 พำกเพียรสอนเพิ่มเติม กิจกรรมดังน้ี

- วิเครำะห์ผเู้ รียนเป็นรำยบุคคล
- จดั ทำแผนกำรจัดกำรเรียนรู้
- ผลติ พัฒนำสื่อ นวตั กรรม
- จดั หำแบบทดสอบ
- แลกเปลยี่ นเรยี นรู้
- ส่งเสริมใหค้ รพู ัฒนำตนเอง
- สรำ้ งขวัญและกำลังใจแก่ครแู ละบุคลำกร
๒) โครงการการอา่ น การเขียน คิดคานวณได้ ๑๐๐ %
วตั ถปุ ระสงค์ เพ่ือยกระดบั ของนักเรยี นในดำ้ น กำรอ่ำน กำรเขยี น คดิ คำนวณได้ 100 %
เป้าหมาย นกั เรียน ทุกคน มีควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำน กำรเขียน คดิ คำนวณได้ 100 %
ตำมมำตรฐำน กิจกรรมดังนี้
- วิเครำะห์ผเู้ รยี นเปน็ รำยบคุ คล
- สร้ำง พัฒนำ สื่อ นวตั กรรม / อบรม พฒั นำ
- นิเทศ กำกบั ติดตำม ประเมินผล
๓) โครงการนเิ ทศภายในโรงเรยี น
วัตถปุ ระสงค์ เพื่อพัฒนำครใู หม้ ีควำมรูค้ วำมเขำ้ ใจเกย่ี วกบั กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ สำมำรถ
นำเทคนคิ วธิ ีกำรต่ำง ๆ มำใช้ในกำรจดั กำรเรยี นรู้
เป้าหมาย ครมู ีกำรพัฒนำตนเอง และพฒั นำกำรจัดกำรเรยี นรู้ กิจกรรมดังนี้
- ประชุมชี้แจง
- ทำตำรำงกำรนเิ ทศภำยใน
- นิเทศภำยใน โดยผู้บรหิ ำรโรงเรียน ครูวชิ ำกำร หัวหน้ำสำยชั้น
- ประเมินผล สรุปผล นำผลไปใชใ้ นพฒั นำปรับปรุง

๔. ภาพประกอบ

 การนเิ ทศการจดั การเรียนการสอน 


Click to View FlipBook Version