The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การจัดแสดงนิทรรศการ

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Bovorntap, 2021-07-09 03:53:09

การจัดแสดงนิทรรศการ

การจัดแสดงนิทรรศการ

งบประมาณในการจัดงานแสดงสนิ ค้าและนิทรรศการ

ผจู้ ัดงานแสดงสนิ คา้ และนิทรรศการจะรวบรวมขอ้ มลู จัดทาํ เปน็ งบประมาณล่วงหน้า
ดังนน้ั งบประมาณ จงึ แสดงถงึ ประมาณการรายรับและประมาณการรายจ่ายที่คาดว่า
จะเกิดขนึ้ จากการจัดงานแสดงสินค้าและนทิ รรศการ การจดั งบประมาณช่วยให้ผูจ้ ดั งาน
แสดงสินคา้ และนิทรรศการคาดการณแ์ ละบริหารโครงการไดด้ ขี ้ึน

กระบวนการจัดทาํ งบประมาณสําหรบั งาน
แสดงสนิ คา้ และนิทรรศการ

หากผ้จู ดั งานเปน็ เจา้ ของงานเองก็สามารถดาํ เนนิ การวางแผนและจดั ทาํ งบประมาณ
ไปไดเ้ ลยตามกระบวนการ แต่หากผู้จดั งานเป็นผ้รู ับ จัดงานมอื อาชีพ หรอื PEO จะต้องมกี าร
พูดคยุ กบั เจ้าของงานเพอื่ รบั ทราบแนวความคดิ วตั ถปุ ระสงค์ของการจัดงานกิจกรรมภายในงาน
จํานวนผู้มาเยย่ี มชมงานที่คาดหวงั รวมถงึ งบประมาณจากเจา้ ของงานกอ่ น

ประเภทของคา่ ใชจ้ ่าย (Expenses Categories)

1. คา่ ใช้จ่ายในการประชาสมั พนั ธ์ (Promotion Costs)
- คา่ ใช้จา่ ยในการประชาสัมพนั ธส์ าํ หรับผแู้ สดงสินค้าและนทิ รรศการ
- ค่าใช้จ่ายในการประชาสมั พนั ธส์ าํ หรับผู้เขา้ ชมงานหรอื ผซู้ อื้ กลุ่มเปา้ หมาย

2. คา่ ใช้จา่ ยในการดํา เนนิ การจัดงาน (Operation Costs)

3. ค่าใช้จา่ ยอน่ื ๆ (Other Costs)

ประเภทของรายรบั (Revenue Categories)

1. ค่าลงทะเบียนผเู้ ยีย่ มชมงาน (Registration Fee)
2. รายรบั จากคูหาแสดงสนิ ค้า (Exhibit Sales)
3. การเป็นผู้สนบั สนุน (Sponsorship)
4. ค่าโฆษณา (Advertising)

บทที่ 7

การบริหารการตลาด
งานแสดงสนิ คา้ และนทิ รรศการ

วตั ถุประสงค์ประจําบท

1. เขา้ ใจถึงความสําคญั และอธบิ ายถึงการบรหิ ารการตลาดสําหรับงานแสดงสนิ ค้า
และนทิ รรศการได้

2. อธบิ ายถึงกลยุทธ์ทางการตลาดสาํ หรบั งานแสดงสนิ ค้าและนทิ รรศการได้
3. ระบถุ งึ เคร่อื งมอื การส่ือสารการตลาดว่าประกอบไปดว้ ยอะไรบา้ ง
4. เขา้ ใจกลยทุ ธ์การส่ือสารการตลาดสาํ หรับผ้แู สดงสินคา้ และนทิ รรศการ
5. อธบิ ายถึงการหาผสู้ นับสนุนการจดั งานและการร่วมสง่ เสรมิ การตลาดได้
6. เขา้ ใจวิธีการขายพืน้ ทีแ่ ละคูหาแสดงสินคา้

ความหมายการตลาด

กจิ กรรมซ่งึ ดาํ นินการโดยกลุ่มของสถาบนั การตลาดตา่ งๆ ผา่ นกระบวนการใน
การสร้างสรรคส์ ื่อสาร สง่ มอบและแลกเปลยี่ นสง่ิ สนองความต้องการ
ซีง่ ใหค้ ุณคา่ แก่ลูกค้าของธรุ กิจผ้ใู ชบ้ ริการ องค์กรการกศุ ลหนุ้ ส่วนธรุ กจิ หรือ
หนุ้ สว่ นองคก์ รการกุศลและสังคม ในวงกว้าง

แผนการตลาด (Marketing Plan)

แผนกลยทุ ธ์ทางการตลาด ตามความหมายในพจนานกุ รม AMA หมายถึง แผนงานอนั
ประกอบดว้ ยการวเิ คราะหส์ ภาพแวดล้อมทางการตลาด โอกาสและอุปสรรค วตั ถปุ ระสงค์ทาง
การตลาด กลยทุ ธ์ทางการตลาด แผนปฏบิ ัตกิ าร และการประมาณการรายรับ และแผนงบการเงินอนื่
แผนการตลาดจดั เป็นเคร่อื งมอื อันไปสู่การนาํ ไปการปฏบิ ตั ิ ซ่ึงผสมผสานอยู่ภายใตแ้ ผนกลยทุ ธ์
ธรุ กิจของกจิ การ

การขาย (Selling)

การขายโดยใช้บุคคล (Personal selling) เปน็ เครอื่ งมือทางการตลาดทม่ี คี วาม
สําคัญตอ่ การขายสทิ ธปิ ระโยชน์ การร่วมสนับสนนุ การจดั งาน และการร่วมสง่ เสรมิ การ
ตลาดเชน่ เดยี วกบั การขายพ้ืนทแ่ี สดงสนิ คา้ บุคลากรฝา่ ยขายควรเป็นผ้ทู ีม่ คี วามรแู้ ละความ
คิดสรา้ งสรรค์ เข้าใจลักษณะของงานและธุรกจิ ของผู้แสดงสินค้าและนิทรรศการเป็นอยา่ งดี
จากการตดิ ตอ่ และพบปะกับผแู้ สดงสนิ ค้าและนิทรรศการอยา่ งตอ่ เน่ือง

กลยทุ ธ์การส่อื สารการตลาดสํา หรับผ้เู ข้าชมงาน

(Visitors Promotion:VisProm)

ในการวางแผนการส่อื สารการตลาดสําหรบั ผู้เขา้ ชมงานในเกดิ ประสทิ ธผิ ลนน้ั ผ้จู ัด
งานแสดงสนิ คา้ และนทิ รรศการควรมคี วามรแู้ ละความเข้าใจในเรอื่ งต่าง ๆ ดงั ตอ่ ไปน้ี
1. กลุม่ เปา้ หมายคอื ใคร
2. สอ่ื ทจ่ี ะเขา้ ถงึ คนกลุ่มเปา้ หมายเหลา่ นี้ มอี ะไรบ้าง
3. คา่ ใชจ้ า่ ยของสอื่ แต่ละอยา่ ง
4. สือ่ แตล่ ะชนดิ ทําหน้าท่อี ย่างไร มขี อ้ ด/ี ข้อเสยี อะไรบา้ ง
5. รูปแบบของโฆษณาทจี่ ะเร้าใจใหผ้ ้ซู อื้ มาชมงาน
6. ส่วนผสมของส่ือท่จี ะใช้
7. ระยะเวลาท่จี ะสอื่ สารเพือ่ ให้ไดผ้ ลมากทส่ี ุด

บทที่ 8

การบริหารงานปฏิบตั กิ าร

วตั ถุประสงคป์ ระจําบท

1. เขา้ ใจความสาํ คัญและสามารถอธบิ ายกระบวนการบรหิ ารงานปฏบิ ตั ิการได้

2. เขา้ ใจและสามารถทาํ ตารางการปฏบิ ัตงิ าน (Operation Timeline) ในแบบแผน
(Grant Chart) ได้

3. เขา้ ใจการวางแผนการปฏบิ ัติการ (Operation Plan) บริหารงานแสดงสินคา้ และ
นทิ รรศการ

4. เข้าใจกระบวนการจดั ทาํ โครงรา่ งคําขอข้อเสนอทางเทคนคิ

ข้ันตอนในการบริหารโครงการ
(Project Management Process)

(1) ขั้นตอนการเริ่มตน้ โครงการ
(2) ข้ันตอนการวางแผนโครงการ
(3) ข้ันตอนการดําเนินโครงการ
(4) ขนั้ ตอนการตดิ ตามและควบคุมการดําเนินโครงการ
(5) ข้ันตอนการปดิ โครงการ

การบริหารงานปฏบิ ัติการ
(Operation Management)

การดาํ เนินงานในระหว่างบริหารงานแสดงสนิ คา้
และนิทรรศการ (Onsite Operations)

ชว่ งวนั ก่อสร้าง (Move-In)
เป็นขั้นตอนทผ่ี ู้จัดงานและผใู้ หบ้ ริการทเ่ี กีย่ วข้อง เรม่ิ เขา้ ใช้พื้นที่ ณ สถานท่ีจัดงาน
เพ่ือรบั มอบพ้ืนท่ี และจดั เตรียมสถานท่ีเพื่อกอ่ สร้างคหู าแสดงสนิ ค้า โดยปกตใิ ชร้ ะยะ
เวลา 1-2 วนั หรอื มากกวา่ นนั้

ช่วงวนั แสดงงาน (Exhibition/ Show Days)
ผู้จัดงานตอ้ งสํารวจดูความพรอ้ มของทกุ ฝ่ายให้เรียบร้อย กอ่ นทเี่ วลางานจะเร่มิ ข้นึ
และคอยกาํ กับดูแลใหก้ จิ กรรมทกุ อยา่ งดาํ เนินไปตามแผนและเวลาทกี่ าํ หนด

ช่วงวนั รอ้ื ถอนงาน (Move-Out)
ผจู้ ดั งานสามารถใชเ้ ปน็ โอกาสในการสานความสมั พันธอ์ นั ดี ระหว่างผแู้ สดงสินค้า
และนทิ รรศการและผสู้ นบั สนนุ รวมถึงผ้เู กยี่ วข้องทกุ ฝา่ ยเพ่อื การจัดงานในครั้งต่อไป

ข้นั ตอนการปดิ โครงการ (Closing Phase)

ข้นั ตอนนีจ้ ดั เปน็ กจิ กรรมหลังเสร็จสนิ้ งาน ประกอบไปด้วยการรวบรวม
ขอ้ มลู สถิตภิ าพถ่ายในงาน และเอกสาร เพือ่ สง่ มอบงานใหก้ บั เจา้ ของงาน
การประเมนิ ความสําเร็จของโครงการ วา่ สอดคลอ้ งกับวัตถปุ ระสงค์ของการจัดงาน
หรอื ไม่ การประเมนิ ความสําเรจ็ ของทมี งานแต่ละสว่ น เช่น ฝา่ ยการตลาด ฝ่ายทีมขาย
ฝา่ ยปฏบิ ตั ิการและฝา่ ยบริหาร

บทที่ 9

การปฏิบัตกิ ารในพ้นื ท่ี

วัตถุประสงคป์ ระจาํ บท

1.สามารถอธิบายกระบวนการทาํ งานทห่ี นา้ งานได้
2. มีความเขา้ ใจและสามารถอธบิ ายเก่ยี วกับการลงทะเบยี นเขา้ งานได้
3. มคี วามรู้ในด้านการจดั การในวนั เปิดงาน (Opening day)
4. มีความรูแ้ ละความเขา้ ใจเร่ืองของการแก้ไขปญั หาเฉพาะหนา้ เชน่ การควบคมุ
ฝงู ชน (Crowd Control) การจัดการความเสี่ยง (Risk Management)

ข้ันตอนที่ 1 ชว่ งก่อนจดั งาน

ทมี ปฏิบตั กิ ารต้องประสานงานกับผรู้ บั เหมาสําคญั ๆ อ่นื ๆ อกี เชน่ ผู้รบั เหมาให้
บรกิ ารปพู รม ผ้รู ับเหมางานไฟฟ้าและงานระบบ ผใู้ ห้บรกิ ารเช่าเฟอร์นิเจอร์ ผูใ้ หบ้ รกิ ารดา้ น
ความปลอดภยั และรักษาความสะอาด ผใู้ ห้บรกิ ารงานโสตทศั นปู กรณ์ และผู้ใหบ้ รกิ ารงานส่วนอน่ื ๆ

การนดั ประชมุ ทมี งาน (Key Onsite Team Meetings)
แมจ้ ะมกี ารวางแผนติดต่อประสานงานระหว่างผูจ้ ัดงานและผ้ทู เ่ี กีย่ วข้องฝ่ายตา่ งๆ
มาเป็นระยะเวลาหลายเดือนในระหวา่ งการดําเนนิ งาน แตเ่ มือ่ มาถงึ ขน้ั ตอนการบรหิ าร
หน้างาน ผจู้ ดั งานจะต้องจดั ใหม้ กี ารประชมุ กบั ทมี ผทู้ ่เี กี่ยวข้องเพื่อให้ม่ันใจวา่ การบริหาร
หนา้ งานทุกขั้นตอนจะดําเนนิ ไปตามแผนภายในเวลาทก่ี าํ หนดเพื่อให้การจัดงานแสดงสนิ คา้
และนทิ รรศการในครัง้ น้ีประสบความสําเร็จ

ข้ันตอนที่ 2 ช่วงวันแสดงงาน

ช่วงวนั แสดงงาน (Exhibition/ Show Days) ทมี ปฏบิ ัตกิ ารมหี นา้ ที่คอย
กํากับดแู ลใหก้ ิจกรรมทุกอย่างดําเนินไปตามแผนและกาํ หนดการตามทวี่ างไว้
เช่น ในวนั แรกทเ่ี ปิดงานผจู้ ัดงานตอ้ งดูแลการจัดการพน้ื ที่ และการลงทะเบยี นเข้างาน

การจดั การในวนั เปดิ งาน (Opening Day)

1. ห้องโถงจัดงาน
คูหาแสดงสนิ ค้าของผแู้ สดงสนิ คา้ และนทิ รรศการแตล่ ะรายมปี ้ายชื่อทีพ่ มิ พ์
อย่างถูกต้อง และแต่ละคหู าได้รบั การตกแตง่ เป็นทเี่ รยี บรอ้ ย

2. พื้นท่ลี งทะเบยี น
ระบบคอมพิวเตอรส์ าํ หรบั การตรวจสอบการลงทะเบียนลว่ งหนา้ และให้
การลงทะเบียนหน้างานมีจาํ นวนเพยี งพอและใชง้ านได้เปน็ ปกติ

3. พน้ื ท่แี ละบรเิ วณเวทีในการทําพธิ เี ปิดงาน
ผจู้ ัดงานควรตรวจสอบความเรยี บร้อยของป้ายหลงั เวที/ฉากหลัง แทน่ สาํ หรับองคป์ ระธานในพธิ กี ลา่ วเปดิ งาน

4. หอ้ งสัมมนา
โต๊ะ-เก้าอสี้ าํ หรับวิทยากร คอมพวิ เตอร์ เครือ่ งฉาย จอ เคร่ืองเสียง

การจัดการในวนั เปดิ งาน (Opening Day)

5. บริเวณงานโดยรอบ
ป้ายงานทงั้ ภายในสถานท่ีจดั งานและดา้ นนอก ป้ายบอกทางและปา้ ย
สัญลักษณ์ต่างๆ ได้รับติดตั้งครบถว้ น อยูใ่ นสภาพสมบรู ณต์ ามจดุ ตา่ งๆ
ทก่ี ําหนด
6. จุดประสานงานและอํานวยความสะดวกแกผ่ ู้เขา้ รว่ มงาน
7. จุดบริการอาหารและเครอื่ งดมื่
8. ห้องพกั รับรองสําหรบั ประธานและบคุ คลสาํ คญั ในงาน
9. สาํ นกั งานบรหิ ารการจดั งานแสดงสินคา้ และนทิ รรศการ
10. ศูนย์ประสานงานและอํานวยความสะดวกแกผ่ ูส้ อื่ ข่าวทกุ สาขา
ชดุ คอมพวิ เตอร์พกพา อินเทอร์เนต็ ความเรว็ สงู ผ่านสายเคเบล้ิ และอปุ กรณ์เช่อื มตอ่
11. เจา้ หน้าทร่ี ักษาความปลอดภัยมปี ระจําทต่ี ามตําแหนง่ ตา่ งๆ
12. ตรวจสอบความสะอาดของห้องน้ํา

การจัดการฝงู ชน และการจดั การเหตุการณฉ์ ุกเฉนิ

เหตุไฟไหม้: ผจู้ ดั งานต้องทราบถงึ แผนการอพยพฝูงชน จุดรวมพล การใช้เครอ่ื ง
ดับเพลงิ การแจ้งและรายงานเหตุการณ์ เปน็ ต้น

เหตุบาดเจ็บ: ผจู้ ัดงานตอ้ งมีจุดปฐมพยาบาลเบื้องต้นไวบ้ รกิ ารภายในงาน
(First-Aid) พรอ้ มท้ังเตรยี มเจ้าหนา้ ท่แี ละรถพยาบาลไว้เพ่อื ขนย้ายผ้บู าดเจบ็ ได้
ทนั ที ในกรณีฉุกเฉนิ

ข้ันตอนที่ 3 ชว่ งวนั รอื้ ถอนงาน

ทมี ปฏบิ ตั กิ ารมหี น้าที่คอยดูแลให้ผแู้ สดงสนิ คา้ และนิทรรศการรับทราบกฎระเบียบ
และเวลาในการรื้อถอน กระบวนการและลาํ ดบั ในการร้ือถอนของผู้รบั เหมาฝ่ายต่างๆ ก็จะ
ตอ้ งเป็นไปตามแผนและระยะเวลาตามทก่ี าํ หนดไว้ ส่วนใหญว่ นั รือ้ ถอนงานจะเป็นเวลา 1
วัน อาจมีสว่ นน้อยทใ่ี ชเ้ วลารือ้ ถอน 2 วัน เวน้ แต่เป็นงานขนาดใหญจ่ ริง ๆ ผูร้ ับเหมาขนสง่
สินค้าดาํ เนนิ การเคล่ือนย้ายเครื่องจกั รและสนิ คา้ ไปยงั จุดขนถา่ ยสินคา้ และนาํ ข้นึ รถบรรทุก
เพอ่ื ออกจากพ้ืนที่ เมื่อทุกฝา่ ยออกจากพน้ื ที่แล้ว ผู้จดั งานต้องทาํ การสํารวจพนื้ ที่รว่ มกบั
ฝา่ ยสถานท่จี ดั งานเพ่อื ตรวจสอบว่ามีพน้ื ที่ใดเกิดความเสียหายหรือไม่ และทาํ การสง่ มอบคนื
พื้นท่ีแกส่ ถานที่จัดงาน

การจดั การความเสี่ยง (Risk Management)

การจัดการความเสยี่ ง (Risk Management)

1. ความเส่ยี งทางดา้ นกลยทุ ธ์ (Strategic Risk: SR)
เปน็ ความเส่ียงท่ีสง่ ผลต่อกลยทุ ธ์การดาํ เนินงาน ความเสี่ยงทม่ี าจากการเปลยี่ นแปลงวิธกี ารจัดกา
ส่งผลตอ่ ชือ่ เสยี งของงาน เช่น กลยุทธท์ างการตลาดท่ีไมม่ ีประสทิ ธิภาพ เข้าไมถ่ งึ กลมุ่ เปา้ หมาย
การออกแคมเปญทางการตลาดที่ไมช่ ดั เจน การเลือกใช้เคร่อื งมือทางการตลาดทไ่ี ม่ถกู ตอ้ ง
สง่ ผลให้จํานวนผเู้ ข้าชมงานน้อยกวา่ ทีค่ าดการณ์หรือผิด กลุม่ เปน็ ต้น

2. ความเสยี่ งทางด้านการเงิน (Financial Risk: FR)
เป็นความเสย่ี งด้านการบริหารการเงนิ เชน่ กรณงี บประมาณอาจไมเ่ ปน็ ไปตามแผน กรณเี ช่นน้ี
ผู้จดั งานแสดงส่วนใหญม่ กั จะบริหารความเสย่ี งด้านการเงนิ ดว้ ยการกาํ หนดงบประมาณสํารอง

การจดั การความเสีย่ ง (Risk Management)

3. ความเสยี่ งทางดา้ นการปฏิบัติงาน (Operational Risk: OR)
เป็นความเส่ียงท่จี ะทําให้ผจู้ ดั งานแสดงสินคา้ และนทิ รรศการไม่สามารถปฏิบตั ิ
งานตอ่ ไปได้ หรือปฏบิ ัติงานไดอ้ ยา่ งไม่เต็มท่ี เปน็ ส่ิงทีม่ ักเกดิ ขึ้นได้เสมอในการ
จัดงานแสดง ซึ่งตอ้ งอาศยั การแกไ้ ขปญั หาเฉพาะหนา้

4. ความเส่ียงทีเ่ กินขอบเขตของงาน (Perimeter Risk: PR)
เปน็ ความเสยี่ งทผี่ ู้จัดงานไมส่ ามารถคาดการณ์และรับมอื ได้ทันที
เช่น การเปลยี่ นแปลงของสภาพภูมิอากาศ การเกดิ ภยั พบิ ัติตา่ งๆ

บทท่ี 10

การบริหารพ้นื ที่จดั งาน

วัตถุประสงคป์ ระจําบท

1. มีความเข้าใจในปจั จัยสําคญั เรอื่ งการสํารวจสถานทจ่ี ดั งาน

2. มีความรู้ความเข้าใจเรอ่ื งการตัดสินใจเลอื กสถานทีจ่ ดั งานแสดงสนิ ค้า
และนทิ รรศการ

3. การวางแผนการใช้พน้ื ที่ รวมถึงการใช้พ้นื ทที่ งั้ ภายในและ
ภายนอกอาคาร

องค์ประกอบของสถานที่ท่ีมผี ลต่อการเลอื กสถานทจ่ี ัดงาน
(Site Selection)

ในการเลือกสถานท่จี ดั งาน ผจู้ ดั งานต้องมงุ่ ความสาํ คัญท่เี ป้าหมายและวัตถปุ ระสงค์
ของการจดั งาน วา่ สถานทจ่ี ดั งานจะตอ้ งตอบสนองเพ่อื บรรลเุ ปา้ หมายและวตั ถปุ ระสงค์
ท่กี าํ หนดไว้ จากนนั้ รวบรวมขอ้ มูลในอดตี คอื สถานทีจ่ ดั งานทีเ่ คยเลอื กจัดงาน จํานวน
หอ้ งโถงจัดงานที่เคยจองไว้ ขนาดของพื้นทีแ่ ละจาํ นวนคหู าแสดงสนิ คา้ ทเ่ี คยจัดงาน
จํานวนและขนาดของหอ้ งประชุม งบสาํ หรบั คา่ อาหารและเครือ่ งดื่ม เปน็ ต้น

ขนาดของสถานที่จดั งาน (Venue Size)

หมายถงึ ขนาดของพนื้ ท่ีห้องโถง (Hall Space) ท้งั หมดของสถานท่จี ัดงานทีใ่ ช้
งานได้ และความจผุ ูเ้ ข้าร่วมงาน ซ่งึ จะเป็นตัวแปรสาํ คัญในการเลอื กสถานทีข่ องผู้จดั งาน
ผูจ้ ดั งานตอ้ งประมาณการจํานวนผ้เู ขา้ รว่ มงานและเลอื กหาสถานท่ีที่มีขนาดเพยี งพอในการ
รองรบั จํานวนผู้เข้ารว่ มงาน เพ่ือไม่ให้งานท่ีจัดดูแออัดจนเกินไปหรอื ใหญเ่ กนิ จาํ นวนผูเ้ ข้า
รว่ มงานทําให้ดูโล่ง

ตําแหนง่ ที่ตงั้ ของสถานทจี่ ดั งาน (Venue Location))

ปัจจยั หนง่ึ ท่ีผูจ้ ดั งานใช้ในการพิจารณาเลือกสถานทจ่ี ดั งานคือ ความสะดวกในการ
เดนิ ทางสสู่ ถานทีจ่ ดั งาน (Transportation Access) สถานทจ่ี ดั งานที่มีระบบคมนาคมขนสง่
เช่ือมตอ่ กับสถานท่ีจดั งาน หรือมรี ะบบคมนาคมขนส่งเข้าถึงทเ่ี พยี บพรอ้ มและสะดวกสบาย
ไมว่ ่าจะเป็นระบบรถไฟฟ้าทง้ั ใตด้ นิ และบนดนิ หรอื แมแ้ ต่ระบบขนสง่ มวลชน จะเปน็ ตัวเลือก
ท่ีดที ส่ี ุดในการจัดงานขนาดใหญ่ เนอ่ื งจากผู้เข้าร่วมงานสามารถเดินทางได้ง่าย

แผนผงั ของสถานทีจ่ ัดงาน (Venue Layout)

คือ แผนผังที่แสดงและระบถุ ึงตาํ แหน่งการก่อสร้างต่างๆ ในบรเิ วณสถานที่จัดงาน พรอ้ มกับ
ระบุระยะหา่ งของแนวที่ข้างเคยี งโดยรอบ ระยะแนวถนน เสน้ ทางการเดินรถ ทางเข้า-ออก ทีจ่ อดรถ
ส่ิงอาํ นวยความสะดวกตา่ งๆ และผงั พื้นอาคาร (Floor Plan) คอื ผังที่แสดงรายละเอียดตา่ งๆ ท่ีอยู่
ภายในอาคาร เพื่อให้ทราบว่าภายในอาคารมีอะไรบ้าง

โครงสร้างพน้ื ฐานของสถานท่ีจดั งาน
(Venue Infrastructure and Facility)

โครงสร้างพื้นฐานของสถานท่จี ดั งาน มกั จะมอี งคป์ ระกอบปลีกยอ่ ยที่ผจู้ ดั งานใช้
พิจารณาตามแต่ละประเภทและขนาดของงานท่ีจดั โดยโครงสรา้ งพนื้ ฐานของสถานทีจ่ ดั งาน
ทง้ั ในส่วนของอาคารจดั งานและสง่ิ อํานวยความสะดวกตา่ งๆ ประกอบดว้ ย

- สิ่งอํานวยความสะดวก (Visiting a Facility)
- หอ้ งโถงจดั งานแสดงสนิ ค้าและนทิ รรศการ (Visiting the Exhibition Hall)
- พ้นื ที่ดา้ นนอกอาคาร (Visiting Outdoor Spaces)

การจดั ทาํ แผนผงั งาน (Developing Floor Plan)

ผังพ้นื หรือแผนผังงานแสดงสนิ คา้ และนทิ รรศการ คือ ผังทแ่ี สดงรายละเอียดต่างๆ ที่อย่ใู นงาน
เพอ่ื ให้ทราบว่าภายในบริเวณงานจะมีอะไรบา้ ง อาทิคหู าแสดงสนิ ค้ามจี าํ นวนและขนาดเท่าไร เวที
กิจกรรมกลาง การวางทางเดนิ มีความกว้างเทา่ ไร จดุ ลงทะเบียน สง่ิ อํานวยความสะดวกตา่ งๆ การ
ออกแบบวางผงั งานแสดงสนิ ค้า และนิทรรศการทีด่ จี ะตอ้ งตอบสนองเป้าหมายและวัตถุประสงค์
ตลอดจนแนวคิดและธีมของงาน

ประเภทและขนาดของคหู าแสดงสินคา้

1. คหู าขนาดมาตรฐาน (Standard or Linear or In-Line Booth)
เปน็ คูหาสําหรับงานแสดงสนิ คา้ และนทิ รรศการทมี่ ขี นาดมาตรฐาน ท่ีติดทางเดนิ เฉพาะดา้ นหน้า
เพยี ง 1 ดา้ น เพอ่ื ใหผ้ ู้เขา้ ชมงานเข้าและใชผ้ นงั 3 ดา้ น สามารถวางสินค้าตวั อย่างโชวไ์ ด้

2. คหู าชนิดเพนนนิ ซลู า (Peninsula Booth)
จะเปน็ คหู าเปดิ 3 ดา้ นและมผี นังด้านหนง่ึ ตดิ กบั คหู าอน่ื

3. คูหาชนิดเพอริมิเตอร์ (Perimeter Booth)
คูหามาตรฐานทด่ี ้านหลังติดกบั ผนังห้องโถงแทนที่จะตดิ กบั คหู าข้างเคยี ง เนือ่ งด้วย
ดา้ นหลังคูหาติดกบั ผนงั ดงั น้นั ความสูงสงู สุดทสี่ ามารถกอ่ สรา้ งได้

4. คหู าชนดิ ไอสแ์ ลนด์ (Island Booth)
เป็นคหู าแสดงสินค้าชนดิ เปิด 4 ด้าน ทยี่ นื โดยลาํ พงั (Stand Alone) แยกออกจากคูหาอน่ื ๆ

บทท่ี 11

การจัดการงานผ้ใู หบ้ รกิ ารรอง

วตั ถุประสงค์ประจาํ บท

1. มคี วามรคู้ วามเข้าใจเรอื่ งการจัดการเกี่ยวกับทพี่ ัก และการ
อาํ นวยความสะดวกในการเดินทาง ใหแ้ ก่ผู้แสดงสนิ ค้า

2. มีความรู้เกี่ยวกบั ผใู้ หบ้ ริการเสริมอื่นๆ เชน่ ผใู้ ห้บริการรบั ตกแต่งดอกไม้
(Flower Décor) ผใู้ หบ้ รกิ ารจดั อเี ว้นท์

3. มีความเขา้ ใจเร่อื งการบรหิ ารจัดการงานขายสําหรับงานคร้ังตอ่ ไป

4. มคี วามเข้าใจเรอ่ื งการทําประชาสมั พนั ธล์ ่วงหน้าสาํ หรบั งานครง้ั ต่อไป

การบรหิ ารการจัดการและการให้บรกิ ารแกผ่ ู้แสดงสนิ ค้า
และนทิ รรศการ(Exhibitors) และผเู้ ขา้ ชมงาน (Visitors)

1. การจัดการเกยี่ วกบั ท่พี ัก (Accommodation)
ผู้แสดงสินคา้ และนิทรรศการเดินทางมาจากพนื้ ท่ีไกลจากสถานท่ีจดั งาน
ผูจ้ ดั งานจะตอ้ งเตรียมการอาํ นวยความสะดวกในเรอ่ื งที่พกั ให้กับผู้ทีจ่ ะเดินทางมาร่วมงาน
โดยผู้จัดงานจะระบุรายช่อื โรงแรมทีเ่ ลือกไว้ (Official Hotels) ใส่ไว้บนหนา้ เวบ็ ไซต์ของงาน

2. การเดินทาง (Transportation)
ความสาํ เร็จของการจดั งานแสดงสินค้าและนทิ รรศการ นอกเหนอื จากการมผี แู้ สดง
สนิ คา้ และนิทรรศการนํานวตั กรรม สนิ คา้ และบรกิ ารมานาํ เสนอแล้ว จาํ นวนและคณุ ภาพ
ของผ้เู ขา้ ร่วมงานก็มีความสาํ คัญไมน่ อ้ ยไปกวา่ กัน

ปัจจัยสาํ หรบั การพิจารณาเพื่อวางแผนดา้ นการอํานวย
ความสะดวกในการเดินทาง (Planning Factors to Consider)

1. ความปลอดภัย (Safety) ในระหว่างการเข้าเยย่ี มชมสถานทีจ่ ัดงานจรงิ ผจู้ ดั
งานควรทาํ การสํารวจเส้นทางที่ผู้เขา้ ชมงานจะตอ้ งเดนิ ผ่านในสถานท่จี ดั งาน

2. ทําเล (Location) หากระยะทางระหวา่ งทพ่ี ักและสถานที่จดั งานอยู่ไมไ่ กลจาก
กัน ซึ่งใช้เวลาในการเดนิ เพยี ง 5-10 นาที ผูจ้ ดั งานอาจเสนอให้ผู้เขา้ ชมงาน
เดินไป-กลบั จากที่พกั

3. บริการรถรับ-ส่ง (Limited Shuttle) ผจู้ ัดงานควรตระเตรยี มบริการรถรบั -ส่ง
ไวเ้ พื่ออํานวยความสะดวกให้แก่ผู้เข้าชมงานเสมอ

การบรหิ ารการจัดการและการให้บรกิ ารแกผ่ ู้แสดงสินคา้
และนิทรรศการ(Exhibitors) และผ้เู ข้าชมงาน (Visitors)

4. ความสะดวกในการเดนิ ทางสสู่ ถานทจี่ ดั งาน (Transportation Access)
สําหรบั ผู้เข้าชมงานในประเทศก็มคี วามจาํ เป็นอยา่ งยิ่งตอ่ ความสําเร็จของงาน

5. ท่จี อดรถ (Parking)
ปริมาณทจ่ี อดรถเปน็ ปัจจยั สาํ คัญทผี่ ูจ้ ดั งานควรพจิ ารณา
โดยเฉพาะสถานที่จดั งานทีอ่ ยูแ่ ถบชานเมืองซึง่ ผเู้ ข้าชมงานมกั นยิ มเดนิ ทางโดยรถยนต์

6. การเดินทางในระดบั ภมู ิภาคและในประเทศ (Regional and National
Transportation)
ผู้จดั งานควรศกึ ษาเกีย่ วกบั จดุ เชื่อมโยงของการเดนิ ทางระดับภมู ิภาคและภายในประเทศด้วย

บทที่ 12

การประเมนิ ผลและการส่งมอบงาน

วัตถุประสงคป์ ระจาํ บท

1. เขา้ ใจความสําคัญและสามารถอธบิ ายการประเมนิ ผลการปฏบิ ัตงิ านได้
2. เขา้ ใจและสามารถอธิบายวิธกี ารเก็บขอ้ มลู จากแหลง่ ขอ้ มลู ต่างๆ กันได้
3. สามารถออกแบบวิธกี ารเกบ็ ขอ้ มลู ทใ่ี ชใ้ นการประเมนิ ผล

การจดั งานแสดงสินค้าและนิทรรศการได้
4. สามารถทําสรปุ รายงานประเมนิ ผลการจัดงานแสดงสนิ ค้าและนิทรรศการได้

วัตถุประสงคข์ องการประเมินผลการจัดงาน

1. เพ่อื ใหท้ ราบวา่ การดําเนนิ งานในดา้ นตา่ งๆ สําเร็จลุล่วงตามเปา้ หมายและ
วัตถปุ ระสงค์ทีว่ างไวห้ รอื ไม่

2. เพื่อประเมนิ จุดแข็งและจุดออ่ นของการจัดงานครั้งน้ีวา่ ตรงกับการประเมนิ กอ่ น
การจัดงานหรอื ไม่ เพอ่ื ปรับปรงุ พฒั นาการจัดงานในครง้ั ตอ่ ไป

3. รวบรวมความคดิ เห็นจากผ้ทู มี่ สี ่วนเก่ียวข้องต่างๆ สาํ หรบั การวางแผนการจดั งาน
คร้งั ตอ่ ไป

4. เพื่อให้ทราบประสิทธิผลการดาํ เนินงานของงานแสดงสนิ ค้าและนทิ รรศการเมือ่
เปรียบเทียบกบั งานแสดงสินค้าและนิทรรศการอนื่ ทีใ่ กล้เคยี งกนั

กระบวนการประเมนิ ผลการจัดงาน (Evaluation Process)

ข้นั ตอนกอ่ นการจดั งาน

ขน้ั ตอนน้มี คี วามสําคญั มาก เพราะการเตรยี มงานท่ีดจี ะ
นาํ ไปส่ผู ลที่ดี ตัง้ แตก่ ารวเิ คราะหผ์ ลการดําเนินงานโครงการทผี่ า่ นมา
การศึกษากลุม่ เปา้ หมายและค่แู ขง่ ขนั เพื่อจัดทาํ เป็นแผนงานของโครงการใหม่
พร้อมทัง้ จดั ทํางบประมาณ แผนงานดงั กล่าวจะชว่ ยในการตดิ ตามผลการดําเนินงาน
ของแต่ละส่วนวา่ เป็นไปตามเปา้ หมายและวัตถุประสงคแ์ ละตรงตามกําหนดการหรือไม่

ขัน้ ตอนระหว่างการจัดงาน

ขน้ั ตอนนก้ี ็มคี วามสําคัญไมแ่ พก้ ัน นับตง้ั แตช่ ว่ งก่อนการจัดงาน
ผู้จัดงานแสดงสนิ ค้าและนิทรรศการต้องติดตามการดําเนนิ งานของผูร้ ับเหมา
แตล่ ะสว่ นวา่ ไดต้ ระเตรยี มความพรอ้ มด้านสิ่งอํานวยความสะดวก ด้านการกอ่ สรา้ งคหู า
แสดงสนิ ค้า และการตกแตง่ สถานทีว่ ่าเปน็ ไปตามข้นั ตอนหรือไม่

ขั้นตอนการปดิ งาน

สว่ นใหญ่ผจู้ ดั งานแสดงสนิ ค้าและนทิ รรศการมักทาํ การ
ประเมนิ ผลโครงการในขน้ั ตอนการปิดงาน เพือ่ ให้ทราบระดบั ความสําเรจ็
ของโครงการวา่ บรรลเุ ป้าหมายหรือวัตถปุ ระสงคห์ รือไม่ รวมถงึ ปญั หาและอปุ สรรคตา่ งๆ
ของโครงการ

ข้อมูลเก่ยี วกับผู้เข้าชมงานและขอ้ เสนอแนะ
(Visitors Data and Feedback)

1. แบบฟอรม์ การลงทะเบยี นของผเู้ ขา้ ชมงาน (Visitors Registration Form)
การให้ผูเ้ ข้าชมงานลงทะเบียนผา่ นทางเว็บไซต์ สอ่ื ออนไลน์ และแบบฟอร์มลงทะเบยี นหนา้ งาน

2. การศกึ ษาเชงิ ปรมิ าณผเู้ ขา้ ชมงาน (Quantitative Visitors Survey)
ผจู้ ดั งานแสดงสินค้าและนิทรรศการต้องกาํ หนดวัตถุประสงคใ์ นการ
ศกึ ษาให้ชัดเจน เพ่อื เป็นแนวทางในการออกแบบคาํ ถามและการกาํ หนดวิธีการเก็บข้อมลู

3. การศึกษาเชิงคุณภาพ (Qualitative Study)
มักใช้ในกรณที ีผ่ จู้ ัดงานแสดงสนิ คา้ และนิทรรศการมคี วามประสงค์
ทจ่ี ะศกึ ษาประเด็นปัญหาใดเปน็ การจาํ เพาะ ตอ้ งการทดสอบแนวความคดิ ใหม่
และตอ้ งการให้ไดค้ ุณภาพของข้อมูล

ผูแ้ สดงสินคา้ และนทิ รรศการและขอ้ เสนอแนะ
(Exhibitor Data and Feedback)

1. ขอ้ มูลพน้ื ฐานทั่วไปเก่ยี วกบั ผแู้ สดงสินค้าและนทิ รรศการ
ผจู้ ัดงานแสดงสินค้าและนทิ รรศการสามารถเกบ็ รวบรวมข้อมูลพ้ืนฐานทว่ั ไป
เก่ียวกบั ผู้แสดงสินคา้ และนิทรรศการได้จากภายในองค์กร

2. การสํารวจในเชิงปริมาณของผแู้ สดงสนิ ค้าและนิทรรศการ
ผจู้ ัดงานแสดงสนิ ค้าและนิทรรศการควรทําการสํารวจระดับความพึงพอใจและ
ความคดิ เหน็ ของผู้แสดงสนิ คา้ และนิทรรศการเพือ่ ปรับปรุงการจดั งานในครัง้ ต่อไป

3. การศึกษาในเชิงคณุ ภาพ (Qualitative Study)
ผู้จดั งานแสดงสนิ ค้าและนทิ รรศการสามารถเก็บข้อมลู เชงิ ลึกจากผแู้ สดงสินค้า
และนทิ รรศการได้เช่นเดียวกับ วธิ ีการศกึ ษาเชิงคุณภาพของผู้เข้าชมงาน


Click to View FlipBook Version