87
88
89
90
91
92
ภาคผนวก ง การวิเคราะห์คุณภาพเครื่องมือ ส่วนที่ 1 ความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ ส่วนที่ 2 ประเมินคุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ส่วนที่ 3 ประเมินคุณภาพของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอน Model - Eliciting Activities
94 ส่วนที่ 1 ความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้ ตารางที่ 6 ค่าความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน Model – Eliciting Activities รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ 1 2 3 เหมาะสม 1. ด้านจุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดชั้นปี และ สาระการเรียนรู้ ตรงตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 1.2 สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การ เรียนรู้สอดคล้องกับตัวชี้วัด 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 1.3 จุดประสงค์การเรียนรู้มีข้อความชัดเจน เข้าใจง่าย 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2. ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.1 กิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับ จุดประสงค์และสาระการเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.2 เนื้อหาเหมาะสมกับวัยและความสนใจ ของผู้เรียน 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.3 กิจกรรมการเรียนรู้มีความสอดคล้อง ตามขั้นตอนของกระบวนการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.4กิจกรรมมีความหลากหลาย 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.5กิจกรรมสอดคล้องกับรูปแบบการ เรียนรู้ที่ใช้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.6บริหารเวลาการจัดการเรียนการสอนได้ เหมาะสม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด
95 จากตารางที่ 6 พบว่า ผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ การสอน Model – Eliciting Activities ซึ่งระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในภาพรวม คะแนนเฉลี่ย 5.00 อยู่ในระดับมากที่สุด เป็นเกณฑ์ที่มีความสอดคล้องที่ยอมรับว่าแผนการจัดการเรียนรู้มีคุณภาพที่ สามารถนำไปใช้ได้ รายการประเมิน ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ 1 2 3 เหมาะสม 3. ด้านสื่อการเรียนรู้ 3.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.3 ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ เกิดความคิดรวบ ยอดและสรุปองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.4 ช่วยให้ผู้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อและ แหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการศึกษาค้นคว้า เพิ่มเติม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.5 เหมาะสมกับผู้เรียน 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4. ด้านกระบวนการวัดและประเมินผล 4.1 เกณฑ์การวัดครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4.2 สอดคล้องกับขั้นตอนการจัดการ เรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4.3 เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผล ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด รวม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด
96 ตารางที่ 7 ค่าความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน Model – Eliciting Activities รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ 1 2 3 เหมาะสม 1. ด้านจุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดชั้นปี และ สาระการเรียนรู้ ตรงตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 1.2 สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การ เรียนรู้สอดคล้องกับตัวชี้วัด 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 1.3 จุดประสงค์การเรียนรู้มีข้อความชัดเจน เข้าใจง่าย 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2. ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.1 กิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับ จุดประสงค์และสาระการเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.2 เนื้อหาเหมาะสมกับวัยและความสนใจ ของผู้เรียน 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.3 กิจกรรมการเรียนรู้มีความสอดคล้อง ตามขั้นตอนของกระบวนการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.4กิจกรรมมีความหลากหลาย 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.5กิจกรรมสอดคล้องกับรูปแบบการ เรียนรู้ที่ใช้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.6บริหารเวลาการจัดการเรียนการสอนได้ เหมาะสม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด
97 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ 1 2 3 เหมาะสม 3. ด้านสื่อการเรียนรู้ 3.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.3 ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ เกิดความคิดรวบ ยอดและสรุปองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.4 ช่วยให้ผู้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อและ แหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการศึกษาค้นคว้า เพิ่มเติม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.5 เหมาะสมกับผู้เรียน 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4. ด้านกระบวนการวัดและประเมินผล 4.1 เกณฑ์การวัดครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4.2 สอดคล้องกับขั้นตอนการจัดการ เรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4.3 เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผล ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด รวม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด จากตารางที่ 7 พบว่า ผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ การสอน Model – Eliciting Activities ซึ่งระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในภาพรวม คะแนนเฉลี่ย 5.00 อยู่ในระดับมากที่สุด เป็นเกณฑ์ที่มีความสอดคล้องที่ยอมรับว่าแผนการจัดการเรียนรู้มีคุณภาพที่ สามารถนำไปใช้ได้
98 ตารางที่ 8 ค่าความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน Model – Eliciting Activities รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ 1 2 3 เหมาะสม 1. ด้านจุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดชั้นปี และ สาระการเรียนรู้ ตรงตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 1.2 สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การ เรียนรู้สอดคล้องกับตัวชี้วัด 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 1.3 จุดประสงค์การเรียนรู้มีข้อความชัดเจน เข้าใจง่าย 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2. ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.1 กิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับ จุดประสงค์และสาระการเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.2 เนื้อหาเหมาะสมกับวัยและความสนใจ ของผู้เรียน 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.3 กิจกรรมการเรียนรู้มีความสอดคล้อง ตามขั้นตอนของกระบวนการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.4กิจกรรมมีความหลากหลาย 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.5กิจกรรมสอดคล้องกับรูปแบบการ เรียนรู้ที่ใช้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.6บริหารเวลาการจัดการเรียนการสอนได้ เหมาะสม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด
99 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ 1 2 3 เหมาะสม 3. ด้านสื่อการเรียนรู้ 3.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.3 ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ เกิดความคิดรวบ ยอดและสรุปองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.4 ช่วยให้ผู้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อและ แหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการศึกษาค้นคว้า เพิ่มเติม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.5 เหมาะสมกับผู้เรียน 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4. ด้านกระบวนการวัดและประเมินผล 4.1 เกณฑ์การวัดครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4.2 สอดคล้องกับขั้นตอนการจัดการ เรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4.3 เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผล ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด รวม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด จากตารางที่ 8 พบว่า ผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ การสอน Model – Eliciting Activities ซึ่งระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในภาพรวม คะแนนเฉลี่ย 5.00 อยู่ในระดับมากที่สุด เป็นเกณฑ์ที่มีความสอดคล้องที่ยอมรับว่าแผนการจัดการเรียนรู้มีคุณภาพที่ สามารถนำไปใช้ได้
100 ตารางที่ 9 ค่าความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน Model – Eliciting Activities รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ 1 2 3 เหมาะสม 1. ด้านจุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดชั้นปี และ สาระการเรียนรู้ ตรงตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 1.2 สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การ เรียนรู้สอดคล้องกับตัวชี้วัด 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 1.3 จุดประสงค์การเรียนรู้มีข้อความชัดเจน เข้าใจง่าย 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2. ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.1 กิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับ จุดประสงค์และสาระการเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.2 เนื้อหาเหมาะสมกับวัยและความสนใจ ของผู้เรียน 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.3 กิจกรรมการเรียนรู้มีความสอดคล้อง ตามขั้นตอนของกระบวนการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.4กิจกรรมมีความหลากหลาย 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.5กิจกรรมสอดคล้องกับรูปแบบการ เรียนรู้ที่ใช้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.6บริหารเวลาการจัดการเรียนการสอนได้ เหมาะสม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด
101 จากตารางที่ 9 พบว่า ผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ การสอน Model – Eliciting Activities ซึ่งระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในภาพรวม คะแนนเฉลี่ย 5.00 อยู่ในระดับมากที่สุด เป็นเกณฑ์ที่มีความสอดคล้องที่ยอมรับว่าแผนการจัดการเรียนรู้มีคุณภาพที่ สามารถนำไปใช้ได้ รายการประเมิน ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ 1 2 3 เหมาะสม 3. ด้านสื่อการเรียนรู้ 3.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.3 ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ เกิดความคิดรวบ ยอดและสรุปองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.4 ช่วยให้ผู้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อและ แหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการศึกษาค้นคว้า เพิ่มเติม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.5 เหมาะสมกับผู้เรียน 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4. ด้านกระบวนการวัดและประเมินผล 4.1 เกณฑ์การวัดครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4.2 สอดคล้องกับขั้นตอนการจัดการ เรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4.3 เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผล ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด รวม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด
102 ตารางที่10 แสดงสรุปผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการสอน Model – Eliciting Activities รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ 1 2 3 เหมาะสม 1. ด้านจุดประสงค์การเรียนรู้ 1.1 มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัดชั้นปี และ สาระการเรียนรู้ ตรงตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 1.2 สาระการเรียนรู้ และจุดประสงค์การ เรียนรู้สอดคล้องกับตัวชี้วัด 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 1.3 จุดประสงค์การเรียนรู้มีข้อความชัดเจน เข้าใจง่าย 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2. ด้านกระบวนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ 2.1 กิจกรรมการเรียนรู้เหมาะสมกับ จุดประสงค์และสาระการเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.2 เนื้อหาเหมาะสมกับวัยและความสนใจ ของผู้เรียน 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.3 กิจกรรมการเรียนรู้มีความสอดคล้อง ตามขั้นตอนของกระบวนการคิดอย่างมี วิจารณญาณ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.4กิจกรรมมีความหลากหลาย 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.5กิจกรรมสอดคล้องกับรูปแบบการ เรียนรู้ที่ใช้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 2.6บริหารเวลาการจัดการเรียนการสอนได้ เหมาะสม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด
103 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ 1 2 3 เหมาะสม 3. ด้านสื่อการเรียนรู้ 3.1 สอดคล้องกับจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.2 สอดคล้องกับกิจกรรมการเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.3 ช่วยให้ผู้เรียนเข้าใจ เกิดความคิดรวบ ยอดและสรุปองค์ความรู้ได้ด้วยตนเอง 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.4 ช่วยให้ผู้เรียนรู้วิธีการใช้สื่อและ แหล่งข้อมูลต่าง ๆ เพื่อการศึกษาค้นคว้า เพิ่มเติม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 3.5 เหมาะสมกับผู้เรียน 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4. ด้านกระบวนการวัดและประเมินผล 4.1 เกณฑ์การวัดครอบคลุมจุดประสงค์ การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4.2 สอดคล้องกับขั้นตอนการจัดการ เรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด 4.3 เครื่องมือที่ใช้วัดและประเมินผล ครอบคลุมจุดประสงค์การเรียนรู้ 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด รวม 5.00 5.00 5.00 5.00 มากที่สุด จากตารางที่ 10 พบว่า ผลการประเมินความเหมาะสมของแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ การสอน Model – Eliciting Activities ซึ่งระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญในภาพรวม คะแนนเฉลี่ย 5.00 อยู่ในระดับมากที่สุด เป็นเกณฑ์ที่มีความสอดคล้องที่ยอมรับว่าแผนการจัดการเรียนรู้มีคุณภาพที่ สามารถนำไปใช้ได้
104 ส่วนที่ 2 ประเมินคุณภาพของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์(ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ตารางที่ 11 แสดงการวิเคราะห์ค่า IOC ในการตรวจสอบหาค่าความสอดคล้องกับเนื้อหาของแบบ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและ สามมิติจำนวน 40 ข้อ ข้อสอบ ข้อที่ ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญคนที่ ∑R ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 2 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง *3 -1 0 0 -1.00 -0.33 ไม่สอดคล้อง *4 +1 0 0 1.00 0.33 ไม่สอดคล้อง 5 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 6 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 7 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 8 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 9 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 10 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 11 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 12 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 13 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 14 +1 0 +1 2.00 0.67 สอดคล้อง 15 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 16 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 17 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 18 +1 0 +1 2.00 0.67 สอดคล้อง 19 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 20 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 21 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 22 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง หมายเหตุ ข้อที่มีเครื่องหมาย * เป็นข้อที่ตัดออก
105 ตารางที่ 11 แสดงการวิเคราะห์ค่า IOC ในการตรวจสอบหาค่าความสอดคล้องกับเนื้อหาของแบบ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและ สามมิติจำนวน 40 ข้อ (ต่อ) ข้อสอบ ข้อที่ ความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญคนที่ ∑R ค่า IOC แปลผล 1 2 3 23 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 24 +1 0 +1 2.00 0.67 สอดคล้อง 25 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 26 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 27 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง *28 +1 0 0 1.00 0.33 ไม่สอดคล้อง 29 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 30 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 31 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 32 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 33 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 34 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 35 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง 36 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง *37 +1 +1 -1 1.00 0.33 ไม่สอดคล้อง 38 +1 +1 +1 3.00 1.00 สอดคล้อง *39 +1 0 0 1.00 0.33 ไม่สอดคล้อง 40 +1 0 +1 2.00 0.67 สอดคล้อง หมายเหตุ ข้อที่มีเครื่องหมาย * เป็นข้อที่ตัดออก จากตารางที่ 11 พบว่าค่า Index of Item – Objective Congruence หรือ IOC จากผลการ ประเมินของผู้เชี่ยวชาญจำนวน 3 ท่าน มี่ค่าตั้งแต่ -0.33 ไปจนถึง 1.00 โดยจะเห็นได้ว่าข้อสอบข้อที่ 3 มี ค่า Index of Item – Objective Congruence หรือ IOC เท่ากับ -0.33 และข้อสอบข้อที่ 4, 28, 37 และ 39 มีค่า Index of Item – Objective Congruence หรือ IOC เท่ากับ 0.33
106 ดังนั้นข้อสอบข้อที่ 3, 4, 28, 37 และ 39 เป็นข้อสอบที่ไม่มีความสอดคล้องกับจุดประสงค์การ เรียนรู้ ดังนั้นจจึงไม่สามารถนำข้อสอบข้อดังกล่าวไปสร้างเป็นชุดข้อสอบต่อไปได้ สำหรับข้อสอบที่เหลือ อีก 35 ข้อ มีค่า Index of Item – Objective Congruence หรือ IOC ผ่านเกณฑ์ความสอดคล้อง ระหว่างข้อคำถามกับจุดประสงค์การเรียนรู้ นั่นคือส่วนของข้อสอบที่เหลือมีค่า Index of Item – Objective Congruence หรือ IOC มากกว่าหรือเท่ากับ 0.67 ซึ่งหมายความว่าสามารถนำข้อสอบที่ เหลือทั้งหมด 35 ข้อ ไปใช้ในการสร้างเป็นแบบทดสอบชุดต่อไปได้ ตารางที่ 12 แสดงการวิเคราะห์ค่าความยาก (p) และอำนาจจำแนก (r) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติจำนวน 35 ข้อ ที่ ผ่านการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง นำไปทดสอบ ข้อสอบข้อที่ ค่าความยาก (p) อำนาจจำแนก (r) แปลผล 1 0.47 0.27 ผ่านเกณฑ์ 2 0.37 0.33 ผ่านเกณฑ์ 5 0.30 0.20 ผ่านเกณฑ์ 6 0.30 0.20 ผ่านเกณฑ์ 7 0.43 0.20 ผ่านเกณฑ์ 8 0.47 0.27 ผ่านเกณฑ์ 9 0.23 0.33 ผ่านเกณฑ์ 10 0.33 0.27 ผ่านเกณฑ์ 11 0.40 0.27 ผ่านเกณฑ์ 12 0.37 0.33 ผ่านเกณฑ์ 13 0.43 0.33 ผ่านเกณฑ์ 14 0.40 0.27 ผ่านเกณฑ์ 15 0.37 0.20 ผ่านเกณฑ์ 16 0.43 0.20 ผ่านเกณฑ์ 17 0.50 0.20 ผ่านเกณฑ์ 18* 0.50 0.07 ไม่ผ่านเกณฑ์ หมายเหตุ ข้อที่มีเครื่องหมาย * เป็นข้อที่ตัดออก
107 ตารางที่ 12 แสดงการวิเคราะห์ค่าความยาก (P) และอำนาจจำแนก (R) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติจำนวน 35 ข้อ ที่ ผ่านการหาค่าดัชนีความสอดคล้อง นำไปทดสอบ (ต่อ) ข้อสอบข้อที่ ค่าความยาก (p) อำนาจจำแนก (r) แปลผล 19* 0.40 -0.13 ไม่ผ่านเกณฑ์ 20 0.37 0.47 ผ่านเกณฑ์ 21 0.37 0.47 ผ่านเกณฑ์ 22 0.37 0.47 ผ่านเกณฑ์ 23 0.37 0.47 ผ่านเกณฑ์ 24 0.43 0.20 ผ่านเกณฑ์ 25 0.47 0.27 ผ่านเกณฑ์ 26 0.23 0.33 ผ่านเกณฑ์ 27 0.33 0.27 ผ่านเกณฑ์ 29 0.40 0.27 ผ่านเกณฑ์ 30 0.37 0.33 ผ่านเกณฑ์ 31 0.43 0.33 ผ่านเกณฑ์ 32 0.40 0.27 ผ่านเกณฑ์ 33 0.37 0.47 ผ่านเกณฑ์ 34 0.43 0.33 ผ่านเกณฑ์ 35 0.40 0.40 ผ่านเกณฑ์ 36 0.43 0.33 ผ่านเกณฑ์ 37 0.33 0.53 ผ่านเกณฑ์ 39 0.30 0.20 ผ่านเกณฑ์ หมายเหตุ ข้อที่มีเครื่องหมาย * เป็นข้อที่ตัดออก จากตารางที่ 12 แสดงการวิเคราะห์ค่าความยาก (p) และอำนาจจำแนก (r) ของแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติพบว่า ข้อสอบมีค่าความยากง่าย (p) อยู่ในช่วง 0.23 ถึง 0.50 และอำนาจจำแนก (r) อยู่ในช่วง -0.13 ถึง 0.53
108 ซึ่งข้อสอบที่มีค่าความยากง่าย (P) อยู่ในช่วง 0.20 ถึง 0.80 และอำนาจจำแนก (R) ไม่น้อยกว่า 0.20 มี จำนวน 33 ข้อ จากข้อสอบทั้งหมดจำนวน 35 ข้อ
ตารางที่ 13 แสดงการวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบอิงเกณฑ์โดยวิธี รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติจำนวน นักเรียนคนที่ ข 1 2 3 4 5 6 7 8 9 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 2 1 1 1 1 1 1 1 1 1 3 1 0 1 1 1 1 1 1 1 4 1 1 0 0 1 1 1 1 0 5 1 1 1 1 1 1 1 1 1 6 1 1 1 1 0 1 1 1 1 7 1 1 0 0 1 1 1 1 0 8 1 1 1 1 1 0 0 1 1 9 1 1 0 0 1 1 1 1 1 10 1 0 0 1 1 1 1 1 1 11 1 0 0 1 0 1 1 1 1 12 1 0 0 1 0 1 0 1 0
109 ธีการของคูเดอร์- ริชาร์ดสันวัดแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 20 ข้อ ของนักเรียนชันมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 45 คน ข้อสอบข้อที่ คะแนน (Xi 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ) 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 20 0 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 19 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 19 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 17 1 1 1 0 0 1 1 1 1 1 1 18 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 18 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 17 1 1 1 1 0 0 0 1 1 1 1 15 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 17 1 0 1 1 1 1 1 1 1 1 1 17 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 16 1 1 1 1 1 1 0 1 1 1 1 14
ตารางที่ 13 แสดงการวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบอิงเกณฑ์โดยวิธี รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติจำนวน นักเรียนคนที่ ข 1 2 3 4 5 6 7 8 9 13 1 0 0 1 0 0 1 1 1 14 1 0 1 0 1 1 0 1 1 15 0 0 1 0 1 1 1 1 0 16 1 0 0 1 0 1 0 1 1 17 1 1 1 1 1 1 1 0 1 18 0 0 1 1 1 1 1 1 1 19 1 1 1 0 0 1 1 1 1 20 1 1 1 1 1 1 0 1 1 21 1 0 0 1 0 1 0 1 1 22 0 1 0 1 1 0 0 1 0 23 1 0 0 0 0 0 0 1 0 24 1 0 1 0 1 1 0 1 1
110 ธีการของคูเดอร์- ริชาร์ดสันวัดแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 20 ข้อ ของนักเรียนชันมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 คน (ต่อ) ข้อสอบข้อที่ คะแนน (Xi 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ) 1 1 1 1 1 0 1 1 0 1 1 14 1 1 1 1 0 1 0 1 1 0 1 14 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 15 1 1 1 0 1 1 0 1 1 0 1 13 1 1 0 1 1 1 1 0 0 0 0 14 1 1 0 0 1 1 1 0 0 0 0 12 0 1 0 1 1 1 1 0 0 0 0 12 1 1 0 1 1 1 0 0 0 0 0 13 1 1 0 1 1 1 0 0 1 0 1 12 0 1 1 0 0 0 0 1 0 0 1 8 0 1 1 0 1 0 0 1 0 0 1 7 1 1 0 0 0 1 0 0 1 0 1 11
ตารางที่ 13 แสดงการวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบอิงเกณฑ์โดยวิธี รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติจำนวน นักเรียนคนที่ ข 1 2 3 4 5 6 7 8 9 25 0 0 0 0 1 1 1 0 1 26 1 1 0 0 0 1 1 0 0 27 0 1 1 0 1 1 0 0 1 28 1 0 1 0 0 0 0 1 0 29 0 0 0 1 0 0 1 0 0 30 1 0 0 1 1 0 0 0 1 สัดส่วนคนที่ตอบถูก(p) 0.80 0.47 0.50 0.60 0.63 0.77 0.60 0.80 0.70 สัดส่วนคนที่ตอบผิด(q) 0.20 0.53 0.50 0.40 0.37 0.23 0.40 0.20 0.30 p × q 0.16 0.25 0.25 0.24 0.23 0.18 0.24 0.16 0.21 ผลรวมของ p × q
111 ธีการของคูเดอร์- ริชาร์ดสันวัดแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 20 ข้อ ของนักเรียนชันมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 คน (ต่อ) ข้อสอบข้อที่ คะแนน (Xi 10 11 12 13 14 15 16 17 18 19 20 ) 1 0 0 0 1 1 1 0 1 1 0 10 0 1 0 1 0 1 1 0 1 1 0 10 1 0 0 0 0 1 0 0 1 0 0 8 1 1 0 0 0 0 0 0 0 0 1 6 1 1 0 0 0 0 1 0 0 1 0 6 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 0 5 0.80 0.87 0.60 0.50 0.70 0.77 0.60 0.60 0.67 0.57 0.70 0.20 0.13 0.40 0.50 0.30 0.23 0.40 0.40 0.33 0.43 0.30 0.16 0.12 0.24 0.25 0.21 0.18 0.24 0.24 0.22 0.25 0.21 4.23 S.D.2 17.58
112 จากตารางที่ 13 แสดงการวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบอิงเกณฑ์โดยวิธีการของ คูเดอร์- ริชาร์ดสันวัดแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนรายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูป เรขาคณิตสองมิติและสามมิติจำนวน 20 ข้อ ของนักเรียนชันมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 30 คน ซึ่งเป็น ผู้เรียนที่ผ่านการเรียนมาแล้ว พบว่าค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับมีค่าเท่ากับ 0.79 สามารถนำไปทดสอบกับ กลุ่มตัวอย่างได้ ภาพที่ 2 แสดงการวิเคราะห์ค่าความเชื่อมั่นของแบบทดสอบอิงเกณฑ์โดยวิธีการของคูเดอร์– ริชาร์ดสันวัด โดยโปรแกรม Excel ขอ้ 1 ขอ้ 2 ขอ้ 3 ขอ้ 4 ขอ้ 5 ขอ้ 6 ขอ้ 7 ขอ้ 8 ขอ้ 9 ขอ้ 10 ขอ้ 11 ขอ้ 12 ขอ้ 13 ขอ้ 14 ขอ้ 15 ขอ้ 16 ขอ้ 17 ขอ้ 18 ขอ้ 19 ขอ้ 20 xคนที่ 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 20คนที่ 2 1 1 1 1 1 1 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 19คนที่ 3 1 0 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 19คนที่ 4 1 1 0 0 1 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 17คนที่ 5 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 0 0 1 1 1 1 1 1 18คนที่ 6 1 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 18คนที่ 7 1 1 0 0 1 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 1 17คนที่ 8 1 1 1 1 1 0 0 1 1 1 1 1 1 0 0 0 1 1 1 1 15คนที่ 9 1 1 0 0 1 1 1 1 1 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 17คนที่ 10 1 0 0 1 1 1 1 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 1 1 17คนที่ 11 1 0 0 1 0 1 1 1 1 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 16คนที่ 12 1 0 0 1 0 1 0 1 0 1 1 1 1 1 1 0 1 1 1 1 14คนที่ 13 1 0 0 1 0 0 1 1 1 1 1 1 1 1 0 1 1 0 1 1 14คนที่ 14 1 0 1 0 1 1 0 1 1 1 1 1 1 0 1 0 1 1 0 1 14คนที่ 15 0 0 1 0 1 1 1 1 0 1 1 1 0 1 1 1 1 1 1 1 15คนที่ 16 1 0 0 1 0 1 0 1 1 1 1 1 0 1 1 0 1 1 0 1 13คนที่ 17 1 1 1 1 1 1 1 0 1 1 1 0 1 1 1 1 0 0 0 0 14คนที่ 18 0 0 1 1 1 1 1 1 1 1 1 0 0 1 1 1 0 0 0 0 12คนที่ 19 1 1 1 0 0 1 1 1 1 0 1 0 1 1 1 1 0 0 0 0 12คนที่ 20 1 1 1 1 1 1 0 1 1 1 1 0 1 1 1 0 0 0 0 0 13คนที่ 21 1 0 0 1 0 1 0 1 1 1 1 0 1 1 1 0 0 1 0 1 12คนที่ 22 0 1 0 1 1 0 0 1 0 0 1 1 0 0 0 0 1 0 0 1 8คนที่ 23 1 0 0 0 0 0 0 1 0 0 1 1 0 1 0 0 1 0 0 1 7คนที่ 24 1 0 1 0 1 1 0 1 1 1 1 0 0 0 1 0 0 1 0 1 11คนที่ 25 0 0 0 0 1 1 1 0 1 1 0 0 0 1 1 1 0 1 1 0 10คนที่ 26 1 1 0 0 0 1 1 0 0 0 1 0 1 0 1 1 0 1 1 0 10คนที่ 27 0 1 1 0 1 1 0 0 1 1 0 0 0 0 1 0 0 1 0 0 8คนที่ 28 1 0 1 0 0 0 0 1 0 1 1 0 0 0 0 0 0 0 0 1 6คนที่ 29 0 0 0 1 0 0 1 0 0 1 1 0 0 0 0 1 0 0 1 0 6คนที่ 30 1 0 0 1 1 0 0 0 1 0 0 0 0 1 0 0 0 0 0 0 5ผลรวมคนตอบถูก 24.00 14.00 15.00 18.00 19.00 23.00 18.00 24.00 21.00 24.00 26.00 18.00 15.00 21.00 23.00 18.00 18.00 20.00 17.00 21.00 17.58ผลรวมคนตอบผดิ 6.00 16.00 15.00 12.00 11.00 7.00 12.00 6.00 9.00 6.00 4.00 12.00 15.00 9.00 7.00 12.00 12.00 10.00 13.00 9.00 p 0.80 0.47 0.50 0.60 0.63 0.77 0.60 0.80 0.70 0.80 0.87 0.60 0.50 0.70 0.77 0.60 0.60 0.67 0.57 0.70 q 0.20 0.53 0.50 0.40 0.37 0.23 0.40 0.20 0.30 0.20 0.13 0.40 0.50 0.30 0.23 0.40 0.40 0.33 0.43 0.30 p*q 0.16 0.25 0.25 0.24 0.23 0.18 0.24 0.16 0.21 0.16 0.12 0.24 0.25 0.21 0.18 0.24 0.24 0.22 0.25 0.21 4.23 kr20 =0.7854
113 ตารางที่ 14 ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และคะแนนความก้าวหน้า นักเรียนคนที่ คะแนนก่อนเรียน Pre - test คะแนนก่อนเรียน Pre - test คะแนนความก้าวหน้า (D) 1 14 16 2 2 14 16 2 3 10 15 5 4 19 19 0 5 17 18 1 6 18 18 0 7 16 16 0 8 12 13 1 9 12 14 2 10 16 17 1 11 17 18 1 12 16 17 1 13 18 18 0 14 15 17 2 15 16 16 0 16 10 15 5 17 16 17 1 18 14 15 1 19 9 13 4 20 14 14 0 21 11 14 3 22 17 18 1 23 11 15 4 24 14 17 3 25 19 19 0
114 ตารางที่ 14 ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนก่อนเรียนและหลังเรียน และคะแนนความก้าวหน้า (ต่อ) นักเรียนคนที่ คะแนนก่อนเรียน Pre - test คะแนนก่อนเรียน Pre - test คะแนนความก้าวหน้า (D) 26 13 16 3 27 17 16 -1 28 15 16 1 29 11 13 2 30 15 16 1 31 16 18 2 32 16 17 1 33 13 14 1 34 15 15 0 35 11 14 3 36 13 16 3 37 13 14 1 38 16 18 2 39 15 19 4 40 15 17 2 41 12 13 1 42 16 17 1 43 17 19 2 44 13 15 2 45 13 15 2 เฉลี่ย 14.44 16.07 1.63 ร้อยละ 72.22 80.33 8.11
115 ตารางที่ 15 แสดงผลการประเมินค่าเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ค่าสถิติทดสอบที และระดับนัยสำคัญ ทางสถิติของการทดสอบเปรียบเทียบคะแนนสอบก่อนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 45 คน (คะแนนเต็ม 20)
116 ส่วนที่ 3 ประเมินคุณภาพของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอน Model - Eliciting Activities ตารางที่16 ค่าความสอดคล้องของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอน Model - Eliciting Activities รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น ของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ สอดคล้อง 1 2 3 ด้านที่ 1 ด้านบรรยากาศในการเรียน 1.1 นักเรียนเกิดความสนุกสนานในการเรียน คณิตศาสตร์ 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 1.2 นักเรียนมีความกระตือรือร้นในการเรียน คณิตศาสตร์ 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 1.3 นักเรียนมีความกล้าแสดงออกในการตอบคำถาม คณิตศาสตร์ 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 1.4 นักเรียนมีความรับผิดชอบต่อตนเอง และกลุ่ม 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 1.5 นักเรียนได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับเพื่อนใน กลุ่ม และต่างกลุ่ม 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง ด้านที่ 2 ด้านกิจกรรมการเรียนการสอน 2.1 เนื้อหาและกิจกรรมเหมาะสมกับนักเรียน 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 2.2 นักเรียนมีส่วนร่วมในกิจกรรมในชั้นเรียน 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 2.3 กิจกรรมการเรียนการสอนส่งเสริมให้นักเรียนเกิด ทักษะการแก้ปัญหา 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 2.4 กิจกรรมการเรียนการสอนส่งเสริมให้นักเรียนฝึก การคิดอย่างมีวิจารณญาณ 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 2.5 สื่อการสอนประกอบกิจกรรมการเรียนการสอน เหมาะสมกับเรื่องที่เรียน 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง
117 ตารางที่ 16 ค่าความสอดคล้องของแบบสอบถามความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอน Model - Eliciting Activities รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 (ต่อ) รายการประเมิน ระดับความคิดเห็น ของผู้เชี่ยวชาญ เฉลี่ย ความ สอดคล้อง 1 2 3 ด้านที่ 3 ด้านพัฒนาการการเรียนของนักเรียน 3.1 นักเรียนเข้าใจบทเรียนมากขึ้น 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 3.2 นักเรียนสามารถแก้โจทย์ปัญหาได้ 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 3.3 นักเรียนสามารถประยุกต์การแก้โจทย์ปัญหาจาก ตัวอย่างที่กำหนดได้ 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 3.4 นักเรียนสามารถแก้โจทย์ปัญหาได้คล่องแคล่วขึ้น 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง 3.5 นักเรียนสามารถนำความรู้ที่ได้เรียนไปต่อยอดได้ 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง รวม 1.00 1.00 1.00 1.00 สอดคล้อง จากตารางที่ 16 พบว่า ผลการประเมินความสอดคล้องของแบบสอบถามความพึงพอใจของ นักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอน Model - Eliciting Activities รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูป เรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งระดับความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญใน ภาพรวม มีค่า 1.00 โดยจะเห็นได้ว่ารายการประเมินทั้ง 15 ข้อ มีค่าของ Index of Item – Objective Congruence หรือ IOC ไม่น้อยกว่า 0.67 ซึ่งหมายความว่าเป็นเกณฑ์ที่มีความสอดคล้องที่ยอมรับว่า แบบสอบถามความพึงพอใจมีคุณภาพที่สามารถนำไปใช้ได้
118 ภาพที่ 3 การศึกษาความพึงพอใจของนักเรียนที่มีต่อรูปแบบการสอน Model - Eliciting Activities รายวิชา คณิตศาสตร์ (ค21101) เรื่อง รูปเรขาคณิตสองมิติและสามมิติ ภาคเรียนที่ 1 ปี การศึกษา 2565 กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ โรงเรียนอุดรพิทยานุกูล ผู้สอน นายนที พ่อไชยราช สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 45 คน โดยโปรแกรม Excel
119 ประวัติผู้วิจัย ชื่อ – ชื่อสกุล นที พ่อไชยราช วัน เดือน ปี เกิด 9 เมษายน 2542 ที่อยู่ปัจจุบัน 99 หมู่ 10 บ้านอ่างคำค้อ ตำบลบ่อแก้ว อำเภอบ้านม่วง จังหวัดสกลนคร 47140 ที่ทำงานปัจจุบัน มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี 64 ถนนทหาร ตำบลหมากแข้ง อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี 41000 ตำแหน่งหน้าที่ปัจจุบัน ศึกษาอยู่ระดับปริญญาตรีคณะครุศาสตร์บัณฑิต สาขาวิชา คณิตศาสตร์ ประวัติการศึกษา พ.ศ. 2561 จบการศึกษาจากโรงเรียนบ้านม่วงพิทยาคม พ.ศ. 2561 ศึกษาต่อครุศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยราชภัฏอุดรธานี (กำลังศึกษา)