The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ดนตรี-นาฏศิลป์ ม.1 หน่วยที่ 1

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

ดนตรี-นาฏศิลป์ ม.1 หน่วยที่ 1

ดนตรี-นาฏศิลป์ ม.1 หน่วยที่ 1

ดนตรี-นาฏศ ิ ลป์ หนังสือเรียน รายวิชาพื้นฐาน ชั้นมัธยมศึกษาปี ที่ ๑ สถาบ ั นพฒ ั นาค ุ ณภาพวช ิ าการ(พว.)


หน ่ วยการเร ี ยนร ้ ู ท ี ่ ๑ เพลงไทย และการปฏิบัติตามตัวโน้ต เพลงสากล


ตัวชี้วัด ๑. อ่าน เขียน ร้องโน้ตไทยและโน้ตสากล (ศ ๒.๑ ม.๑/๑) ๒. เปรียบเทียบเสียงร้องและเสียงของเครื่องดนตรีที่มาจากวัฒนธรรมที่ ต่างกัน (ศ ๒.๑ ม.๑/๒) ๓. ร้องเพลงและใช้เครื่องดนตรีบรรเลงประกอบการร้องเพลงด้วยบทเพลงที่ หลากหลายร ู ปแบบ (ศ ๒.๑ ม.๑/๓)


ผง ั สาระการเร ี ยนร ้ ู เสียงร้องและเสียง ของเครื่องดนตรีใน บทเพลงจาก วัฒนธรรมต่าง ๆ การร้องและบรรเลง เครื่องดนตรี ประกอบการร้อง การอ่านตัวโน้ต บทเพลงไทยและสากล เครื่องหมายและ สัญลักษณ์ทางดนตรี การเทียบตัวโน้ต เป็ นอักษรไทย เครื่องหมายต่าง ๆ ที่ใช้ในบทเพลง เครื่องดนตรีที่ใช้ใน บทเพลงจาก วัฒนธรรมต่าง ๆ วิธีการขับร้อง โน้ตบทเพลงสากล โน้ตบทเพลงไทย บทเพลงประกอบ การเต้นร า บทเพลงร ู ปแบบ ABA บทเพลงประสาน เสียง ๒ แนว บทเพลงไทยเดิม บทเพลงปล ุ กใจ บทเพลงพื้นบ้าน เพลงไทย เพลงสากล และ การปฏิบัติตามตัวโน้ต


เครื่องหมายและสัญลักษณ์ทางดนตรี ๑. บรรทัด ๕ เส้น บรรทัด ๕ เส้น ม ีไวส้ ำ หร ั บบน ั ท ึ กตว ัโนต ้ รวมท ้ ง ั เคร ื่องหมำยหยุด ท ้ ง ั ๗ ลักษณะ และท ำให้ รู้ถึงระดับเสียงสูง-ต่ำ ของโนต ้ ต ่ ำง ๆ บรรทัด ๕ เส้ น ม ี ลก ั ษณะเป็ นเส้ นตรงเร ี ยงขนำนกน ัไป ๕ เส้น ( ) เพื่อให้เห็น เสียงสูง-ต่ำ ของตว ัโนต ้ ลก ั ษณะต ่ ำง ๆ


กำรบน ั ท ึ กโนต ้โดยทว ั่ ไปจะใชก ้ ญุ แจซอล เป็ นหลก ั กำรบันทึกตัวโน้ตที่มีเสียงสูง-ต่ำ เก ิ นบรรทด ั ๕ เส้น จะใช้วิธ ี กำรข ี ดเส้ นส ้ น ั ๆ เฉพำะตว ัโนต ้ ท ี่จะบน ั ท ึ กเท ่ ำน ้ น ั ซ่ึ งเร ี ยกเส้ นส ้ น ั ๆ น ้ ี วำ ่ เส้นน้อยเป็ น กำรเพ ิ่มโนต ้ ท ี่ม ี เส ี ยงส ู งข ้ึ นหร ื อเส ี ยงต่ำ ลงกวำ ่ บรรทด ั ๒. เส้นน้อย


๓. เส้นกั้นห้อง เส้นกั้นห้อง ม ี เพ ื่อใหก ้ ำรอ ่ ำนโนต ้ และกำรบน ั ท ึ กตว ัโน้ตลงจังหวะ ตำมที่ต้องกำร โดยเมื่อจบ ๑ หอ ้ งเพลงจะข ี ดเส้ นก ้ น ั หอ ้ ง ๑ เส้น และเมื่อจบ บทเพลงจะข ี ดเส้ นก ้ น ั หอ ้ งสองเส้ น เร ี ยกวำ ่ เคร ื่องหมำยจบเพลง


๔. ตัวโน้ต ตัวโน้ต เป็ นเครื่องหมำย ชนิดหนึ่งที่ใช้บันทึกแทน เสียงดนตรี และเสียงขับร้อง ม ี ช ื่อเร ี ยกตำมลก ั ษณะต ่ ำง ๆ และ ม ี อต ั รำจง ั หวะท ี่แตกต ่ ำงกน ั ดง ั น ้ ี


การเปรียบเทียบอัตราโน้ต ใช้โน้ตตัวกลม เป็ นเกณฑ์ ตัวกลม ๑ ตัว ม ี ค ่ ำเท ่ ำกบ ัโนต ้ ตว ั ขำว ๒ ตัว ม ี ค ่ ำเท ่ ำกบ ัโนต ้ ตว ั ดำ ๔ ตัว ม ี ค ่ ำเท ่ ำกบ ัโนต ้ ตว ั เขบต ็ หน่ึ งช ้ น ั ๘ ตัว ม ี ค ่ ำเท ่ ำกบ ัโนต ้ ตว ั เขบต ็ สองช ้ น ั ๑๖ ตัว ม ี ค ่ ำเท ่ ำกบ ัโนต ้ ตว ั เขบต ็ สำมช ้ น ั ๓๒ ตัว ม ี ค ่ ำเท ่ ำกบ ัโนต ้ ตว ั เขบต ็ ส ี่ช ้ น ั ๖๔ ตัว


๕.การเข ี ยนจ ั ดกล ่ ุ มโน ้ ต การเขย ี นจ ั ดกล ่ ุ มโน ้ ต น ิ ยมใชก ้ บ ัโนต ้ ตว ั เขบต ็ ลก ั ษณะต ่ ำง ๆ ดง ั น ้ ี กำรเข ี ยนจด ั กล ุ ่ มโนต ้ในบทเพลง


๖. ต ั วหย ุ ด ตว ั หย ุ ด หรือเครื่องหมำยหยุด เป็ นเครื่องหมำยที่ใช้ในกำรบันทึก ร ่ วมกบ ั ตว ัโนต ้ ท ้ ง ั ๗ ลก ั ษณะเพ ื่อจะทำ ใหเ ้ ก ิ ดเส ี ยงเง ี ยบหร ื อหยุดในขณะที่ บรรเลงดนตร ี ดง ั น ้ ี ๗. ๖. ๕. ๔. ๒. ๓. ๑.


๗.กญุ แจประจ าหลก ั กำรบน ั ท ึ กกญุ แจประจำ หลก ั จะบน ั ท ึ กไวใ้ นตอนเร ิ่มตน ้ ของบรรทัด ๕ เส้ น เพ ื่อใชเ ้ป็ นเคร ื่องหมำยกำ กบ ั และเพ ื่อทำ ใหอ ้่ ำนช ื่อของตวโน้ตตำม ั กญุ แจประจำ หลก ัได ้ ดง ั น ้ ี ๗.๑กญุ แจซอล กญุ แจซอล ม ี หนำ ้ ท ี่กำ หนดเส ี ยงตว ัโนต ้ อยใ ู ่ นบรรทด ั ๕ เส้น หัวของ กญุ แจซอลจะอยบ ู ่ นคำบเส้ นท ี่๒ ของบรรทัด ๕ เส้ น ดง ั น ้ น ั ไม ่ วำ ่ จะเป็นโน้ตตัวใด เมื่อบันทึกลงบนคำบเส้นที่ ๒ ของกญุ แจซอลจะเร ี ยกวำ ่ โนต ้ ตว ั ซอลท ้ ง ั ส ิ ้ น และแลว ้ จ ึ งไล ่ เส ี ยง ดง ั น ้ ี


๗.๒ กญุ แจฟา กญุ แจฟำค ื อเคร ื่องหมำยท ี่กำ หนดเส ี ยงตว ัโนต ้ อยใ ู ่ นบรรทด ั ๕ เส้น หว ั ของกญุ แจฟำจะอยค ู ่ ำบเส้ นท ี่๔ ดง ั น ้ น ั ไม ่ วำ ่ จะเป็ นโนต ้ ตว ัใด เมื่อบันทึก ลงบนคำบเส้นที่ ๔ ของกญุ แจฟำจะเร ี ยกวำ ่ โนต ้ ตว ัฟำแลว ้ จ ึ งไล ่ เส ี ยง ดง ั น ้ ี


๘. เครื่องหมายก ากับจังหวะ เครื่องหมายก ากับจังหวะค ื อเคร ื่องหมำยท ี่ม ี ส ่ วนในกำรบน ั ทึกตัวโน้ต เพ ื่อใหผ ้ แ ู ้ ต ่ งเพลงผร ู ้้ องเพลงผบ ู ้ รรเลงเพลงสำมำรถเขำ ้ใจอำรมณ ์ ของบทเพลงได้ เครื่องหมายก ากับจังหวะมีลักษณะ ดังนี้ เครื่องหมายก ากับจังหวะจะเขียน เหม ื อนเลขเศษส ่ วนแต ่ จะไม ่ ม ี ข ี ดคน ั่ กลำง ซ่ึ งควำมหมำยของเลขตว ั ล ่ ำง หมำยถึง ลักษณะของตัวโน้ตที่นับเป็ น ๑ จง ั หวะ ส ่ วนเลขตว ั บน หมำยถ ึ ง จ ำนวนจังหวะใน ๑ ห้อง


สร ุ ป เคร ื่องหมำยและสญ ั ลก ั ษณ ์ เป็ นส ิ่งสำ คญ ั ในกำรบน ั ท ึ กบทเพลง ท ำให้ผู้ร้องและผู้บรรเลงเข้ำใจจังหวะ ทำ นองของบทเพลงไดง ้่ ำยข ้ึ น สำมำรถ ขับร้องและบรรเลงดนตรีได้ถูกต้องตำมจังหวะและท ำนองของบทเพลง


การอ่านตัวโน้ตบทเพลงไทยและสากล ๑. โน้ตบทเพลงไทย ๑.๑ กำรอ ่ ำนโนต ้ บทเพลงไทย กำรถ ่ ำยทอดทำ นองเพลงของไทยไม ่ไดม ้ี กำรบน ั ท ึ กดว ้ ยกำรเข ี ยน ส ่ วนใหญ ่ ถ ่ ำยทอดต ่ อเน ื่องกน ั มำดว ้ ยกำรจำ และกำรปฏ ิ บต ัิ ซ ้ ำ เพ ื่อใหเ ้ ก ิ ด ควำมจำ อยำ ่ งแม ่ นยำ ต ่ อมำเม ื่อเร ิ่มม ี กำรศ ึ กษำเร ื่องโนต ้ สำกลจึงเห็น ควำมสำ คญ ั ในกำรบน ั ท ึ กโนต ้ เพลงไทยดว ้ ยกำรเข ี ยน เพ ื่อเป็ นกำรถ ่ ำยทอด ต ่ อเน ื่องอยำ ่ งเป็ นแบบแผน แต ่ กำรใชโ้ นต ้ในกำรบน ั ท ึ กเพลงไทยยง ัไม ่ ม ี หลักเกณฑ์ตำยตัว


กำรบันทึกโน้ตเพลงไทยด้วยตัวอักษรไทยแทนตัวโน้ตสำกล ตัว ด ใช้แทนเสียงโด ตัว ม ใช้แทนเสียง มี ตัว ซ ใช้แทนเสียง ซอล ตัว ท ใช้แทนเสียง ที, ซี ตัวรใช้แทนเสียง เร ตัว ฟ ใช้แทนเสียง ฟำ ตัวลใช้แทนเสียงลำ ใช้จุดเป็ นสัญลักษณ์แสดงเสียงที่สูงหรือต ่ำกวำ ่ เส ี ยงเด ิ ม เช ่ น ด ใช ้ แทนเส ี ยงโดส ู ง ดฺ ใช้แทนเสียงโดต ่า การบันทึกโน้ตเพลงไทยแต่ละบรรทัดแบ่งเป็ น ๘ ห้องเพลง ในหนึ่งห้องเพลง จะมี ๔ จังหวะ ใช้เครื่องหมายลบ หรือขีด (-) แทนจังหวะในห้องเพลงนั้น ๆ


๑.๒ โน้ตบทเพลงไทยอัตราจังหวะ ๒ ชั้น อัตรำจังหวะ ๒ ช ้ น ั ค ื ออต ั รำจง ั หวะท ี่ม ี ควำมเร ็ วปำนกลำงไม ่ ชำ ้ มำก และไม ่ เร ็ วมำกเป็ นจง ั หวะท ี่ฟั งสบำย ๆ ใหค ้ วำมร ู ้ส ึ กผอ ่ นคลำย ๑. ศ ิ ลปิ น หร ื อผป ู ้ ระพน ั ธ ์ แต ่ งข ้ึ นเพ ื่อเป็ นเพลงท ี่มีอัตรำจังหวะ ๒ ช ้ น ัโดยตรง ๒. ถ ื อกำ เน ิ ดจำกเพลงอ ื่น เช ่ น นำ เพลงช ้ น ั เด ี ยวมำขยำยหร ือปรับ ให้เป็ นเพลงที่มีอัตรำจังหวะ ๒ ช ้ น ั เพ ื่อใชบ ้ รรเลงหร ื อขบ ั ร ้องประกอบ กำรแสดงโขนและละคร บทเพลงไทยอัตราจังหวะ ๒ ชั้น มีที่มา ดังนี้


โน้ตบทเพลงไทย อัตราจังหวะ ๒ ชั้น


๒. โน้ตบทเพลงสากล ๒.๑ กำรอ ่ ำนโนต ้ บทเพลงสำกลในกญุ แจซอล ในกำรเขียนกุญแจซอลจะเขียนให้หัวกุญแจคำบเส้นที่ ๒ ดังน ้ น ั กำรอ ่ ำนโนต ้ ท ุ กตว ั ท ี่บน ั ท ึ กลงบนคำบเส้ นท ี่๒ จะเป็ นเสียงซอล แลว ้ไล ่ ระดับเสียงสูง-ต ่ำ ตำมบรรทัด ๕ เส้น ดง ั น ้ ี


๒.๒ การอ ่ านโน ้ ตบทเพลงสากลในกญุ แจฟา ในกำรเขียนกุญแจฟำจะเขียนให้หัวกุญแจคำบเส้นที่ ๔ ดังน ้ น ั กำรอ ่ ำนโนต ้ ท ุ กตว ั ท ี่บน ั ท ึ กลงบนคำบเส้ นท ี่๔ จะเป็ นเสียงฟำแลว ้ไล ่ ระดับเสียงสูง-ต ่ำ ตำมบรรทัด ๕ เส้ น ดง ั น ้ ี


๓. การเทียบตัวโน้ตเป็ นอักษรไทย กำรเร ี ยนร ู ้ ทำงดำ ้ นดนตร ีไทยแต ่ เด ิ มไม ่ ม ี กำรบน ั ท ึ กดว ้ยอักษรหรือ สญ ั ลก ั ษณ ์ อะไร ต ่ อมำไดม ้ี กำรบน ั ท ึ กเพลงไทยดว ้ ยกำรเท ี ยบตว ัโนตเป็ น ้ อก ั ษรไทย ดง ั น ้ ี โด เร มี ฟำ ซอล ลำ ที(ซี) ด ร ม ฟ ซ ล ท


๓) เร ี ยกวำ ่ แนเชอร ั ล(natural) คือ เครื่องหมำยแปลงเสียงตัวโน้ตที่ถูก เคร ื่องหมำย หร ื อ กำ กบ ั อยน ู ่ ้ น ั ใหม ้ี เส ี ยงปกต ิ /โดยจะบันทึกไว้ ดำ ้ นหนำ ้ ของโนต ้ ตว ั น ้ น ั ๔. เครื่องหมายต่าง ๆ ที่ใช้ในบทเพลง ๔.๑ เครื่องหมายแปลงเสียง เครื่องหมำยแปลงเสียงมี ๓ ลักษณะ ดังน ้ ี ๑) เร ี ยกวำ ่ ชำร ์ป (sharp) คือ เครื่องหมำยแปลงเสียงตัวโน้ตท ี่กำ กบ ั อยน ู ่ ้ น ั ใหม ้ี เส ี ยงส ู งข ้ึ นคร่ึ งเส ี ยง ๒) เร ี ยกวำ ่ แฟลต (flat) คือ เครื่องหมำยแปลงเสียงตัวโน้ตที่กำ กบ ั อยน ู ่ ้ น ั ใหม ้ี เส ี ยงต่ำ ลงคร่ึ งเส ี ยง


๔.๒ เครื่องหมายโยงเสียง เครื่องหมายโยงเสียง คือ กำรโยงโนต ้ สองตว ั เขำ ้ ดว ้ ยกน ั ทำ ใหค ้ ่ ำควำมยำว ของตว ัโนต ้ เพ ิ่มข ้ึ นเท ่ ำกบ ัโนต ้ สองตว ั รวมกน ั ๔.๓ การประจ ุ ด การประจ ุ ด ค ื อกำรเพ ิ่มจง ั หวะของตว ัโนต ้ ท ี่ประจ ุ ดใหม ้ี จง ั หวะยำวข ้ึ นมำอ ี ก คร่ึ งเส ี ยงของตว ัโนต ้ น ้ น ั เช่น โน้ตตัวด ำประจุด หมำยถึง จังหวะจะเพิ่มขึ้นอีก ครึ่งของ ๑ คือ ๑/๒ (มีควำมยำว ๑ จังหวะ) รวมเป็ น ๑ จังหวะครึ่ง


เสียงร้องและเสียงของเครื่องดนตรีในบทเพลงจากวัฒนธรรมต่าง ๆ ๑.วิธีการขับร้อง การขับร้องค ื อกำรเปล ่ งเส ี ยงร ้ องหร ื อคำ ร ้ องใหเป็ น ้ ทำ นองสอดคลอ ้ งกบ ั จง ั หวะท ี่กำ หนด ประเภทการขับร้อง ๑.๑ การขับร้องเดี่ยว คือ กำรขับร้องหรือกำรร้องเพลงคนเดียว อำจม ี ดนตร ี บรรเลงคลอไปดว ้ ย หร ื อไม ่ ม ี ดนตร ี กไ็ ด ้ ๑.๒ การขับร้องประกอบดนตรี คือ กำรร้องเพลงที่มีดนตรีบรรเลง ประกอบ ซึ่งผู้ขับร้อง จะต้องพึงระวังและรักษำระดับของเสียงให้สอดคล้อง กบ ั ดนตร ี ๑.๓ การขบ ั ร ้ องเพลงหม ่ ู แบ ่ งเป็ น ๒ ลักษณะ คือ กำรขับร้องหม ู ่ ในทำ นองเด ี ยวกน ั และกำรขบ ั ร ้ องหม ู ่ในลก ั ษณะของกำรประสำนเส ี ยง


การขบ ั ร ้ องเพลงไทยและเพลงสากลชน ิ ดต ่ างๆ ผ ้ ู ขบ ั ร ้ องต ้ องคา น ึ งถง ึ ส ิ่งต่าง ๆ ต่อไปนี้ ๑. การหายใจ กำรฝึ กฝนระบบกำรหำยใจใหส้ ำมำรถผอ ่ นลมหำยใจไดเ ้ หมำะสม จะตอ ้ ง ฝึ กฝนส ู ดลมหำยใจใหก ้ กัลมไวใ้ นทอ ้ งใหม ้ ำกท ี่ส ุ ด โดยกำรส ู ดลมเขำ ้-ออกช้ำ ๆ หรือ อำจจะยกแขนท ้ งัสองขำ ้ งข ้ึ นในขณะท ี่หำยใจเขำ ้ และลดแขนลงในขณะท ี่หำยใจออก สัมพนัธ ์ กบักำรส ู ดลมหำยใจเขำ ้ เม ื่อฝึ กกำรหำยใจใหก ้ กัลมไวใ้ หได้มำก ้ และ ระบำยลมออกมำพร ้ อมท ้ งัออกเส ี ยง เช ่ น เสียงลำ เสียงอำ โดยจะต้องออกเสียงให้ ต ่ อเน ื่องและยำวนำนท ี่ส ุ ดเท ่ ำท ี่จะทำ ได ้ ๒. การออกเสียง


กำรเอ ้ ื อนในแบบต ่ ำง ๆ ของเพลงไทยจำ เป็ นจะตอ ้ งออกเส ี ยง เออเอ ๋ ย อ ื อ ห ื อ หร ื อเพ ื่อใหเ ้ ก ิ ดควำมไพเรำะจะตอ ้ งร ู ้ จกัและเขำ ้ใจควำมหนกั-เบำ-ยำว-ส ้ัน ให้พอเหมำะพอดี ตอ ้ งเขำ ้ใจลกัษณะและทำ นองของเพลงวำ ่ เป็ นเพลงประเภทใด เช ่ น เพลงสนุกสนำน เพลงเศร้ำ หรือเพลงปลุกใจ ผู้ขับร้องจะต้องเข้ำใจควำมหมำยของ เน ้ ื อร ้ อง เนน ้ เส ี ยงและทอดเส ี ยงไดอ ้ ยำ ่ งเหมำะสม รวมท ้ งัทำ ใหผ ้ ฟ ู ้ ังเก ิดจินตนำกำร และอำรมณ์คล้อยตำมเพลงไปด้วย ๓. การเอื้อน ๔. การใส่อารมณ์เพลง


กำรขบ ั ร ้ องเพลงควรออกเส ี ยงตว ั ควบกล ้ ำ รลวใหช ้ ด ั เจน และขบ ัร้อง ตำมจง ั หวะวรรคตอนและสม ั ผส ั ของเน ้ ื อเพลง สำ รวมก ิ ร ิ ยำไม ่ วำ ่ จะเป็ นกำรนง ั่หร ื อกำรยน ื จะตอ ้ ง ไม ่ล้วง แคะ แกะเกำในขณะท ี่กำ ลง ั ร ้ องเพลงร ู ้ จก ั สร ้ ำงบรรยำกำศร ่ วมกบ ั ผฟัง ู ้ ๕. อักขรวิธี ๖. มารยาทในการขับร้องเพลง การขับร้องเพลงกับวงดนตรีไทย การขับร้องเพลงกับวงดนตรีสากล


สร ุ ป กำรขบ ั ร ้ องเพลงท ี่ด ี ควรฝึ กร ้ องอยำ ่ งสม่ำ เสมอควรฝึ กตำมหลัก และวิธีกำรขับร้องเพลงที่ถูกต้อง โดยค ำนึงถึงจังหวะ ท ำนอง และเสียง เพ ื่อใหส้ ำมำรถถ ่ ำยทอดอำรมณ ์ ของบทเพลงออกมำไดถ ้ ู กตอ ้ ง


เคร ื่องดนตร ี ท ี่ใชบ ้ รรเลงประกอบบทเพลงในแต ่ ละวฒ ั นธรรม ม ี ควำมแตกต ่ ำงกน ัไปข ้ึ นอยก ู ่ บ ั สภำพสง ั คม ว ิ ถ ี ช ี ว ิ ตของทอ ้ งถน ิ่น ้ น ั ๆ เคร ื่องดนตร ี ของแต ่ ละวฒ ั นธรรมจะม ี ร ู ปร ่ ำงลก ั ษณะเส ี ยงและว ิ ธก ี ำรเล ่ น ท ี่แตกต ่ ำงกน ั ม ี บทบำทหนำ ้ ท ี่ท ี่แตกต ่ ำงกน ัไปตำมลก ั ษณะของเครื่องดนตรี เคร ื่องดนตร ี ท ี่ใชใ้ นบทเพลงจำกวฒ ั นธรรมต ่ ำง ๆ สำมำรถแบ ่ งได ้ ดง ั น ้ ี ๒. เครื่องดนตรีที่ใช้ในบทเพลงจากวัฒนธรรมต่าง ๆ


๒.๑ เครื่องดนตรีที่ใช้ในบทเพลงจากวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคเหนือ เคร ื่องดนตร ี พ ้ ื นบำ ้ นภำคเหน ื อ ม ี หลำยประเภท เก ิ ดจำกภ ูมิปัญญำ ของคนในทอ ้ งถ ิ่น ม ี ร ู ปร ่ ำงลก ั ษณะและเส ี ยงท ี่แตกต ่ ำงกน ั ออกไป ใชบ ้ รรเลงในโอกำสต ่ ำง ๆ เช ่ น เพลงจ ๊ อยเพลงซอ ท ี่ม ี ควำมไพเรำะ อ ่ อนหวำน เคร ื่องดนตร ี ท ี่ใชบ ้ รรเลง เช ่ น สะลอ ้ ซ ึ ง พ ิ ณเพ ี ยะ ปี่แน สะล้อ ซึง พิณเพียะ ปี่ แน


กลองยาว ๒.๒ เครื่องดนตรีที่ใช้ในบทเพลงจากวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคกลาง เน ื่องจำกภำคกลำงเป็ นภ ู ม ิ ภำคท ี่เป็ นแหล ่ งอำรยธรรมของประเทศ เป็ น ถ ิ่นท ี่ต ้ ง ั ของเม ื องหลวงต ้ ง ั แต ่ อด ี ตจนถ ึ งปั จจ ุ บน ั ม ีประชำชนมำกมำยหลำยกล ุ ่ ม อำศย ั อย ู ่ จ ึ งทำ ใหเ ้ ก ิ ดควำมหลำกหลำยทำงวฒ ั นธรรมและควำมเป็ นอย ู ่ ส ่ งผลให ้ ดนตร ี พ ้ ื นบำ ้ นภำคกลำงม ี ควำมหลำกหลำยเป็ นกำรผสมผสำนกน ั ระหวำ ่ ง วฒ ั นธรรมรำษฎร ์ และวฒ ั นธรรมหลวง ทำ ใหว ้ งดนตร ี พ ้ ื นบำ ้ นภำคกลำง มีกำรน ำเครื่องดนตรีไทยมำผสมผสำนในวงดนตรีด้วย ฉิ่ง กรับ ระนาดท ้ ุ ม ระนาดเอก


๒.๓ เครื่องดนตรีที่ใช้ในบทเพลงจากวัฒนธรรมท้องถิ่น ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ เคร ื่องดนตร ี พ ้ ื นบำ ้ นภำคตะวน ั ออกเฉ ี ยงเหน ื อหร ื อภำคอ ี สำน เป็ น เคร ื่องดนตร ี ท ี่เก ิ ดจำกภ ู ม ิปั ญญำของคนในทอ ้ งถ ิ่น โดยใชว ้ส ั ด ุ ท ี่หำง ่ ำยในทอ ้ งถ ิ่น เนน ้ ควำมเร ี ยบง ่ ำย น ิ ยมนำ มำบรรเลงประกอบตำมเทศกำลหร ื อพ ิ ธ ี กรรมทำงศำสนำ เช ่ น ประเพณ ีไหลเร ื อไฟ ประเพณ ี บ ุญบ ้ ง ัไฟ เคร ื่องดนตร ี ท ี่นำ มำใชส้ ่ วนใหญ ่ ม ี เส ี ยง ท ี่กง ั วำนไพเรำะใหค ้ วำมร ู ้ส ึ กค ึ กคก ั สน ุ กสนำน เช ่ น แคน โปงลำงโหวด พ ิ ณ แคน โปงลาง โหวด พิณ


๒.๔ เครื่องดนตรีที่ใช้ในบทเพลงจากวัฒนธรรมท้องถิ่นภาคใต้ เคร ื่องดนตร ี พ ้ ื นบำ ้ นภำคใต ้ส ่ วนใหญ ่ เป็ นเคร ื่องดนตร ีประเภทตี ม ี เส ี ยงหนก ั แน ่ น ค ึ กคก ั เร ้ ำใจและใชบ ้ รรเลงประกอบเพลงต ่ ำง ๆ เช ่ น เพลงบอกเพลงนำ เพลงตน ั หยงรวมท ้ ง ัใชบ ้ รรเลงประกอบงำนเทศกำลและ ประกอบกำรแสดงต ่ ำง ๆ เช ่ น กำรแสดงโนรำ ฆ ้ องค ่ ู ร ามะนา กลองชาตรี ปี่ ไฉน โทน


สร ุ ป เคร ื่องดนตร ี พ ื น ้ บ ้ านเป็ นส ิ่งทเ ี่กด ิ จากภ ู ม ิปั ญญาของคนในท้องถิ่น ซ ึ่งม ี ลก ั ษณะร ู ปร ่ างและเส ี ยงทแ ี่ตกต ่ างกน ั เป็ นส ิ่งทส ี่ะท ้อนให้เห็นถึง วัฒนธรรมในท้องถิ่นนั้น ๆ เป็ นมรดกของท้องถิ่นที่ควรแก่การอน ุ ร ั กษ ์ไว ้ สืบไป


การร้องและบรรเลงเครื่องดนตรีประกอบการร้อง กำรร ้ องเพลงค ื อกำรเปล ่ งเส ี ยงออกมำเป็ นทำ นอง ประกอบดว ้ ย เน ้ ื อร ้ องกำ กบ ั ดว ้ ยจง ั หวะของบทเพลงน ้ น ั ๆ รวมท ้ ง ั กำรใชเ ้ คร ื่องดนตรี ประกอบกบ ั กำรร ้ องในแต ่ ละบทเพลงใหเ ้ หมำะสม เพ ื่อช ่ วยสร ้ ำงบรรยำกำศ และอำรมณ ์ ร ่ วมในเพลง บทเพลงท ี่สำ คญ ั ม ี ดง ั น ้ ี ๑. บทเพลงพื้นบ้าน บทเพลงพ ้ ื นบำ ้ นหร ื อเพลงพ ้ ื นเม ื องเป็ นบทเพลงท ี่ม ีบทร้อง หร ื อคำ ร ้ องท ี่แสดงถ ึ งควำมเป็ นทอ ้ งถ ิ่นหร ื อพ ้ ื นเม ื องในแต ่ ละภำค ดง ั น ้ ี


๑.๑ บทเพลงพื้นบ้านภาคเหนือ บทเพลงพ ้ ื นบำ ้ นภำคเหน ื อเป็ นบทเพลงท ี่ม ี ควำมไพเรำะอ ่ อนหวำน น ุ ่ มนวล ม ี กำรใชภ ้ ำษำทอ ้ งถ ิ่นท ี่เร ี ยบง ่ ำย ม ี เน ้ ื อหำท ี่เก ี่ยวกบ ั กำรเก ้ ี ยวพำรำส ี หร ื อกำรบรรยำยถ ึ งธรรมชำต ิ ซ่ึ งในกำรขบ ั ร ้ องบทเพลงพ ้ ื นบำ ้ นภำคเหนือจะ ม ี กำรนำ เคร ื่องดนตร ี มำบรรเลงคลอประกอบกำรขบ ั ร ้ อง เช ่ น ปี่ซอ ซ ึ ง สะลอ ้ พ ิ ณเพ ี ยะ บทเพลงพ ้ ื นบำ ้ นภำคเหน ื อท ี่น ิ ยมนำ มำขบ ั ร ้ อง เช ่ น เพลงจ ๊ อย เพลงซอน้อยไชยำ กำรบรรเลงบทเพลงพ ้ ื นบำ ้ นภำคเหน ื อ ที่มำ: www.thepbodint.ac.th


ตัวอย่างบทเพลงพื้นบ้านภาคเหนือ


๑.๒ บทเพลงพื้นบ้านภาคกลาง ภำคกลำงม ี บทเพลงท ี่ม ี เน ้ ื อหำเก ี่ยวกบ ั กำรประกอบอำช ี พ เกษตรกรรม เพรำะคนในภำคกลำงประกอบอำช ี พทำ นำ ทำ ไร ่ จ ึ งเก ิ ด บทเพลงท ี่ใชร ้้ องโตต ้ อบกน ั หร ื อเก ้ ี ยวพำรำส ี กน ั ขณะทำ งำน เพื่อ ผอ ่ นคลำยควำมเหน ็ ดเหน ื่อย บทเพลงท ี่เป็ นท ี่ร ู ้ จก ั และน ิ ยมน ำมำขับร้อง กน ั อยำ ่ งแพร ่ หลำยเช ่ น เพลงเก ี่ยวขำ ้ วเพลงลำ ตด ั เพลงอ ี แซว การขับร้องและบรรเลงดนตรีประกอบเพลงพื้นบ้านภาคกลาง ที่มา: www.music.mahidol.ac.th/thardhive_view.phpid=347


ตัวอย่างบทเพลงพื้นบ้านภาคกลาง


บทเพลงพ ้ ื นบำ ้ นภำคตะวน ั ออกเฉ ี ยงเหน ื อเป็ นบทเพลงท ี่ม ี ควำม สน ุ กสนำน ม ี จง ั หวะทำ นองท ี่เร ้ ำใจใชภ ้ ำษำทอ ้ งถ ิ่นในกำรขบ ั ร ้ องแต ่ อำจ ม ี สำ เน ี ยงหร ื อเส ี ยงขบ ั ร ้ องท ี่แตกต ่ ำงกน ั เพรำะภำคตะวน ั ออกเฉียงเหนือมี ภ ู ม ิประเทศต ิ ดกบ ั ประเทศเพ ื่อนบำ ้ นท ้ ง ัประเทศลำวและกม ั พช ู ำ ท ำให้ ไดร ้ั บอ ิ ทธ ิ พลทำงภำษำจำกประเทศเพ ื่อนบำ ้ นดว ้ ย ลก ั ษณะเพลงพ ้ ืนบ้ำน ของภำคตะวน ั ออกเฉ ี ยงเหน ื อแบ ่ งเป็ นกล ุ ่ มต ่ ำง ๆ ดง ั น ้ ี ๑.๓ บทเพลงพื้นบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ กล ่ ุ มอส ี านเหน ื อได ้ แก ่ จ ั งหวด ั อ ุ ดรธาน ี นครพนม หนองคาย ขอนแก ่ น ร ้ อยเอด ็ อ ุ บลราชธาน ี เลย สกลนคร ช ั ยภ ู ม ิ กาฬส ิ นธ ์ ุ และม ุ กดาหาร จะเป็ นเพลงประเภทหมอล าต่าง ๆ เซิ้งต่าง ๆ เช่น เพลงล าเต้ย เซิ้งบั้งไฟ


กล ุ ่ มอ ี สำนเฉพำะเม ื องโครำช ไดแ ้ ก ่ จง ั หวด ั นครรำชส ี มำ ม ี บทเพลง ท ี่เร ี ยกวำ ่ เพลงโครำช เป็ นท ี่น ิ ยมมำก กล ุ ่ มอ ี สำนใต ้ไดแ ้ ก ่ จง ั หวด ั ส ุ ร ิ นทร ์ ศร ี สะเกษ และบุรีรัมย์ จะ เป็ นเพลงประเภทกน ั ตร ึ ม เพรำะไดร ้ั บอ ิ ทธ ิ พลจำกวฒ ั นธรรมของประเทศ กม ั พช ู ำ เช ่ น กน ั ตร ึ ม เจร ี ยง เซิ้งบั้งไฟ กันตรึม เพลงโคราช


ตัวอย่างบทเพลงพื้นบ้านภาคตะวันออกเฉียงเหนือ


๑.๔ บทเพลงพื้นบ้านภาคใต้ เพลงพ ้ ื นบำ ้ นภำคใต ้ เป็ นบทเพลงท ี่สน ุ กสนำน ใชร ้้ องประกอบ กำรละเล ่ นในเทศกำลต ่ ำง ๆ ม ี กำรขบ ั ร ้ องท ี่ใชภ ้ ำษำทอ ้ งถ ิ่น ภำษำมลำยู ภำษำยำว ี ม ี เน ้ ื อหำเก ี่ยวกบ ั กำรโตต ้ อบซก ั ถำมหร ื อประชำสม ั พน ั ธ ์ บอก ข ่ ำวต ่ ำง ๆ เพลงท ี่น ิ ยมขบ ั ร ้ อง เช ่ น เพลงนำ เพลงบอกเพลงฮ ู ล ู เพลงตนหยง ั เพลงบอก เพลงฮ ู ล ู


ตัวอย่างบทเพลงพื้นบ้านภาคใต้


สร ุ ป เพลงพ ้ ื นบำ ้ นเป็ นบทเพลงท ี่ใชข ้ บ ั ร ้ องเพ ื่อควำมผอ ่ นคลำย สน ุ กสนำน เป็ นบทเพลงท ี่เก ิ ดจำกภ ู ม ิปั ญญำของคนในทอ ้ งถ ิ่น ม ี ท ้ งบรรเลง ั ดนตร ีประกอบกำรขบ ั ร ้ อง บำงคร ้ ั งไม ่ ม ี ดนตร ี บรรเลงแต ่ใชล ้ ู กค ู ่ร้องรับแทน เป็ นส ิ่งท ี่สะทอ ้ นใหเ ้ ห ็ นว ิ ถ ี ช ี ว ิ ต อำช ี พ ควำมเช ื่อต ่ ำง ๆ ของคนในทอ ้ งถ ิ่นท ี่ ควรแก ่ กำรอน ุ ร ั กษไ์ วส้ื บไป


๒. บทเพลงปล ุ กใจ เน ้ ื อเพลงท ี่ใชใ้ นทำ นองของบทเพลงปล ุ กใจท ี่ม ี ท ่ ำทำงประกอบ ส ่ วนใหญ ่ จะเป็ นบทเพลงท ี่พลตร ี หลวงว ิ จ ิ ตรวำทกำรไดแ ้ ต ่ งประกอบ ละครปล ุ กใจ ท ุ กเพลงม ี เน ้ ื อหำสำระท ี่ใหค ้ วำมร ู ้ ดำ ้ นประวต ัิ ศำสตร์มำกมำย ส ่ วนท ่ ำร ำท ี่ใชป้ ระกอบบทเพลงคร ู และนก ั เร ี ยนสำมำรถค ิ ดท ่ ำประกอบ เองได ้โดยนำ ควำมร ู ้ เร ื่องนำฏยศพ ั ทแ ์ ละภำษำท ่ ำมำประยก ุ ตใ์ ช ้ บทเพลง ปล ุ กใจท ี่จะนำ มำใชใ้ นระดบ ั ช ้ น ั น ้ ีไดแ ้ ก ่ เพลงตน ้ ตระกล ู ไทย ซึ่งเป็ นเพลง ประกอบกำรแสดงช ุ ดอำน ุ ภำพพอ ่ ขน ุ รำมคำ แหง ในเน ้ ื อหำของเพลง ไดก ้ ล ่ ำวถ ึ งบ ุ คคลสำ คญ ั ท ี่ม ี ควำมสำ คญ ั ต ่ อชำต ิไทย


ตว ั อย ่ างบทเพลงปล ุ กใจ เจ้าพระยาโกษาเหล็ก ท่านเป็นแม่ทัพชั้นเอก ของสมเด็จพระนารายณ์


สร ุ ป บทเพลงปลุกใจ เป็ นเพลงที่สร้ำงควำมคึกคัก ฮึกเหิม และสร้ำง ควำมสำมค ั ค ีใหก ้ บ ั คนในชำต ิ ม ี จง ั หวะทำ นองเร ้ ำใจใหค ้ นไทยร ั กชำติไทย


Click to View FlipBook Version