ระดับชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 โครงสรา้ งรายวชิ า สังคมศกึ ษา เวลา 20 ชว่ั โมง
ภาคเรียนที่ 2 / ……………
หนว่ ย ชอ่ื หน่วยการเรยี นรู้ / มาตรฐานการเรยี นรู้ สาระสาคัญ เวลา นา้ หนกั
ท่ี เรือ่ ง ตวั ชี้วัด (ชว่ั โมง) คะแนน
1 การเลือกซ้ือสินค้าและ มาตรฐาน ส 3.1 มนุษย์ทกุ คนมคี วามต้องการ 5 15
บริการ เข้าใจและสามารถบริหารจัดการ ท้ังทางด้านร่างกายและทาง (ส.1-5)
ทรัพยากรในการผลิตและการ จิตใจอยู่ตลอดเวลา เราจึง
บริโภคการใช้ทรัพยากรท่ีมีอยู่ จาเป็นต้องตัดสินใจเลือกซื้อ
จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและ สิน ค้าแ ละ บริ ก าร อ ย่า ง
คุ้มค่า รวมทั้งเข้าใจหลักการของ ปร ะหยัดคุ้มค่าและเกิ ด
เศร ษฐกิจพ อ เพี ยง เพ่ื อ ก าร ประโยชน์สูงสุด ซ่ึงแต่ละ
ดารงชีวิตอย่างมดี ลุ ยภาพ บุ ค ค ล จ ะ มี เ ห ตุ ผ ล ใ น ก า ร
ตัวชีว้ ดั ท่ี ป. 4/1- ป. 4/2 ตัดสินใจเลือกซ้ือสินค้าหรือ
-ระบุปัจจัยที่มีผลต่อการเลือกซื้อ บริการแตกตา่ งกัน
สินค้าและบริการ
-บอกสทิ ธิพืน้ ฐานและรกั ษา
ผลประโยชน์ของตนเองในฐานะ
ผู้บริโภค
2 เศรษฐกิจพอเพียงและ มาตรฐาน ส 3.1,ส 3.2 เศ ร ษ ฐ กิ จ พ อ เ พี ย ง เ ป็ น 5 20
10
ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ท า ง -เข้าใจและสามารถบริหารจัดการ ปรัชญาท่ีพระบาทสมเด็จ (ส.6-9)
เศรษฐกิจ ทรัพยากรในการผลิตและการ พระปรมินทร์มหาภูมิพลอ
บริโภคการใช้ทรัพยากรที่มีอยู่ ดุลยเดช ทรงชี้แนวทางการ
จากัดได้อย่างมีประสิทธิภาพและ ดารงอยู่และปฏิบัติตนของ
คุ้มค่า รวมท้ังเข้าใจหลักการของ ประชาชนในทุกระดับ ให้
เศร ษฐกิจพ อ เพี ยง เพ่ื อ ก าร ดาเนินไปในทางสายกลาง
ดารงชวี ิตอย่างมดี ุลยภาพ
-เข้าใจระบบ และสถาบันทาง
เศรษฐกิจตา่ งๆ ความสมั พนั ธ์
ทางเศรษฐกิจและความจาเป็นของ
การร่วมมอื กันทางเศรษฐกิจ
ในสงั คมโลก
ตัวช้วี ดั ท่ี ป. 4/1,ป.4/3
-อธบิ ายหลกั การของ
เศรษฐกิจพอเพยี งและนาไปใช้
ในชวี ิตประจาวนั ของตนเอง
-อ ธิ บ า ย ค ว า ม สั ม พั น ธ์ ท า ง
เศรษฐกิจของคนในชุมชน
สอบกลางภาค
3 หน้าทเ่ี บือ้ งต้นของเงิน มาตรฐาน ส 3.2 เงินคือส่ิงท่ีคนในสังคมได้ 2 15
10
-เข้าใจระบบ และสถาบันทาง สมมุติขึ้น และเป็นที่ยอมรับ (ส.11-
10
เศรษฐกจิ ต่างๆ ความสัมพันธ์ กันโดยท่ัวไปของสังคม เพ่ือ 12)
ทางเศรษฐกิจและความจาเป็นของ ใ ช้ เ ป็ น ส่ื อ ก ล า ง ใ น ก า ร
การร่วมมือกันทางเศรษฐกิจใน แลก เป ลี่ยน สิน ค้า แล ะ
สังคมโลก บริการใช้ ตามตอ้ งการ
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ป.4/2
-อธบิ ายหนา้ ทเ่ี บอื้ งตน้ ของ
เงิน
4 ลกั ษณะทางกายภาพ มาตรฐาน ส 5.1,ส 5.2 ลักษณะทางกายภาพของ 5
ของจังหวดั -เ ข้ า ใ จ ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง โ ล ก ท า ง จังหวัดมีบทบาทต่อสิ่งต่างๆ (ส.13-
กายภาพ และความสัมพันธ์ของ และการดารงชวี ติ 17)
สรรพส่ิงซึ่งมีผล ต่อกันและกันใน
ระบบของธรรมชาติ ใช้แผนท่ีและ
เครื่องมือทางภูมิศาสตร์ ในการ
ค้นหาวิเคราะห์ สรุป และใช้ข้อมูล
ภูมสิ ารสนเทศอย่างมปี ระสิทธิภาพ
-เข้าใจปฏสิ ัมพนั ธร์ ะหว่างมนุษยก์ ับ
ส ภ า พ แ ว ด ล้ อ ม ท า ง ก า ย ภ า พ ท่ี
ก่อให้เกดิ การสร้างสรรค์วัฒนธรรม
มีจิตสานึก และมีส่วนร่วมในการ
อ นุ รั ก ษ์ ท รั พ ย า ก ร แ ล ะ
สิง่ แวดลอ้ ม เพือ่ การพฒั นาทีย่ งั่ ยืน
ตวั ชวี้ ดั ที่ ป.4/1-ป.4/3
-สืบค้นและอธิบายข้อมูลลักษณะ
ทางกายภาพในจงั หวัดของตน ด้วย
แผนที่และรูปถ่าย
-ระบุแหลง่ ทรัพยากรและสิง่
ต่าง ๆ ในจังหวัดของตนเองด้วย
แผนท่ี
-อ ธิ บ า ย ลั ก ษ ณ ะ ท า ง ก า ย ภ า พ ที่
ส่งผลต่อแหล่ง ทรัพยากรและ
สถานทีส่ าคัญในจงั หวัด
-วิเคราะห์ส่ิงแวดล้อมทางกายภาพ
ที่สง่ ผลต่อการดาเนินชีวติ ของคนใน
จังหวดั
5 การเปลี่ยนแปลงและ มาตรฐาน ส 5.2 ส่ิงแวดล้อมต่างๆล้วนมีการ 2
การอนรุ ักษ์ -เข้าใจปฏิสมั พันธ์ระหว่างมนษุ ย์กับ พึ่งพาอาศัยกันและมีการ (ส.18-
สงิ่ แวดลอ้ มและ สภาพแวดล้อมทางกายภาพท่ี เปลี่ยนแปลงอยู่ลอดเวลา 19)
ทรัพยากรในจงั หวัด กอ่ ให้เกิดการสร้างสรรค์วัฒนธรรม ดังนั้นมนุษย์ควรร่วมกัน
มีจิตสานึก และมีส่วนร่วมในการ อนุรักษ์ส่ิงแวดล้อมและ
อ นุ รั ก ษ์ ท รั พ ย า ก ร แ ล ะ ทรัพยากร
สงิ่ แวดล้อม เพื่อการพฒั นาทยี่ ง่ั ยืน
ตวั ช้วี ัดที่ ป.4/2-ป.4/3 20
-อ ธิ บ า ย ก า ร เ ป ลี่ ย น แ ป ล ง ภ า พ 100
แวดล้อมในจังหวัดและผลท่ีเกิด
จากการเปลี่ยนแปลงน้นั
-นาเสนอแนวทางการจัดการ
สิง่ แวดล้อมในจงั หวดั
สอบปลายภาคเรียนท่ี 2/…………
รวม
สัปดาห์ท่ี 1
โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรยี นที่ 2/.................... ช่ือผสู้ อน.......................................................
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรู้ที่ 5 เรือ่ ง การเลือกซ้ือสนิ ค้าและบรกิ าร
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชีว้ ัด
มาตรฐานที่ ส 3.1
เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลติ และการบริโภคการใช้ทรพั ยากรท่ีมีอย่จู ากดั ได้อยา่ งมี
ประสิทธิภาพและคมุ้ ค่า รวมท้ังเข้าใจหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพอ่ื การดารงชวี ิตอยา่ งมดี ลุ ยภาพ
ตวั ชีว้ ัดท่ี ป 4/1
ระบปุ ัจจยั ท่ีมผี ลตอ่ การเลือกซ้ือสนิ คา้ และบรกิ าร
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ในการดารงชีวิตของมนษุ ย์มคี วามจาเปน็ ท่ตี ้องอาศยั สนิ ค้าและบรกิ ารเพอ่ื ตอบสนองความตอ้ งการและความ
สะดวกสบายในด้านต่างๆ
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1) บอกความหมายของสินค้าและการบรกิ ารได้ (K)
2) ระบปุ ระเภทของสินคา้ ได้ (P)
3) มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรแู้ ละมุ่งมน่ั ในการทางาน(A)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิน่
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
การเลอื กสินค้าและบริการ
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี1
ข้นั นา
1. ครูถามคาถามกระตนุ้ ความคิดนกั เรียน “นักเรยี นจะใชเ้ กณฑ์ในการเลอื กบริโภคสนิ ค้าอยา่ งไร”
2. ครนู าบัตรภาพประเภทของสนิ ค้ามาให้นักเรยี นดูแลว้ ใหน้ ักเรียนเปรยี บเทียบความแตกตา่ งของสินคา้ ว่ามคี วาม
แตกตา่ งกันอย่างไร
3. ครสู ุม่ นักเรยี น 2-3 คนออกมาแสดงความคดิ เหน็ ทีห่ น้าช้นั เรยี น
4. ครอู ธบิ ายให้นักเรียนเข้าใจวา่ ในการดาเนนิ ชวี ิตของมนุษยไ์ มไ่ ด้มคี วามตอ้ งการบรโิ ภคเฉพาะอาหารเพียงอยา่ งเดยี วแต่
ยงั มีความตอ้ งการบริโภคสนิ คา้ ชนดิ อืน่ ด้วยดงั นนั้ จึงมีการผลิตสนิ ค้าและบรกิ ารอย่างหลากหลายและมคี วามแตกตา่ ง
ทงั้ ดา้ นราคาและคุณภาพ
ขนั้ สอน
5. ครูแบง่ นักเรียนเป็นกลมุ่ กลุม่ ละ 4 คนคละกันตามความสามารถ จากน้ันให้นักเรียนแต่ละกลุม่ ร่วมกนั ศกึ ษาความรูเ้ ร่ือง
สินค้าและการบรกิ ารจากหนงั สือเรียน
6. นักเรยี นแต่ละกล่มุ รว่ มกันทาใบงาน เร่ือง สนิ ค้าและบรกิ ารโดยให้สมาชกิ แต่ละคนในกลุ่มหาคาตอบในใบงานดว้ ย
ตนเองจนครบทกุ ขอ้ จากน้ันจับค่กู บั เพอื่ นในกลุม่ ผลดั กันอธิบายคาตอบของตนเองใหเ้ พอื่ นฟัง (นักเรยี นอีกคหู่ นง่ึ ก็
ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมเชน่ เดียวกนั )
7. สมาชกิ รวมกลุ่ม 4 คน ตามเดิมผลดั กนั อธบิ ายคาตอบของค่ตู นเองให้เพอ่ื นอกี คู่หน่งึ ฟัง และสรปุ คาตอบท่เี ป็นมติของ
กลุ่มแลว้ บันทึกคาตอบลงในใบงาน เสร็จแล้วนาส่งครูตรวจ
ขนั้ สรปุ
8. ครใู ห้นกั เรยี นแตล่ ะคนยกตัวอย่างสนิ คา้ เพ่อื การบรโิ ภคและอปุ โภคมาอย่างละ 5 ตัวอย่าง
พร้อมบอกความแตกต่างของสนิ ค้าให้ถกู ตอ้ ง
9. ครแู ละนกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรเู้ รอ่ื งสนิ ค้าและการบรกิ าร
6. การวดั และประเมินผล
การวัดและประเมินผล วิธกี ารวัดผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ าร
ประเมินผล
จดุ ประสงค์ 1.คาถามกระตุ้น 70% ขึ้นไป ถือว่า
ความคดิ ผา่ นเกณฑ์การ
ความรคู้ วาม 1. ตอบคาถาม ประเมนิ
เขา้ ใจ (K) 1. ใบงาน เร่อื งสินคา้ 70% ข้นึ ไป ถือวา่
และบรกิ าร ผา่ นเกณฑก์ าร
ทักษะ/ 1. ทาใบงาน ประเมิน
กระบวนการ (P) 1. แบบสังเกต
พฤติกรรม 70% ขึ้นไป ถอื ว่า
คุณลักษณะนสิ ัย (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมีความ ผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมนิ
รบั ผิดชอบต่องานที่สัง่ และส่งงาน
ไดท้ ันตามทีก่ าหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการมุ่งม่ันในการ
ทางาน
7. ส่อื /แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสือเรียน สงั คมศกึ ษา ป.4
2) บตั รภาพ
3) ใบงาน เรอ่ื งสนิ คา้ และบริการ
1.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรียน
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................ครผู ูส้ อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)
บตั รภาพ ประเภทของสนิ ค้า
ภาพอาหาร ภาพผลไม้
ภาพน้าหอม ภาพยารกั ษาโรค
ภาพเสอ้ื ผ้า
ภาพรองเทา้
ใบงาน
เร่ือง สนิ คา้ และบรกิ าร
คาชแ้ี จง : ให้นกั เรยี นสารวจสินค้าในบา้ น แลว้ บันทึกลงในตาราง
สนิ คา้ เพอ่ื การบริโภค สินค้าเพอื่ การอปุ โภค
ตอนที่ 2
คาช้แี จง ให้นักเรียนดภู าพ แลว้ ตอบคาถาม
1. ส่ิงของนี้ คือ.................................................................................................................................................................
2. จัดเป็นสินค้า เพื่อการบรโิ ภค เพอื่ การอุปโภค
เพราะ .........................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
3. ประโยชนใ์ ชส้ อย คอื .....................................................................................................................................................
...........................................................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................................................
สัปดาห์ท่ี 2
โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรียนที่ 2/.................... ชื่อผูส้ อน.......................................................
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศึกษาปที ี่ 4 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 5 เร่อื ง ปัจจยั ทมี่ ีอทิ ธิพลตอ่ การเลือกซอ้ื สนิ ค้า
และบริการ
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั
มาตรฐานที่ ส 3.1
เขา้ ใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลิตและการบรโิ ภคการใช้ทรัพยากรที่มอี ยู่จากัดไดอ้ ยา่ งมี
ประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทั้งเขา้ ใจหลักการของเศรษฐกจิ พอเพียง เพ่อื การดารงชวี ิตอย่างมดี ลุ ยภาพ
ตวั ช้ีวัดท่ี ป 4/1
ระบุปจั จัยท่มี ีผลตอ่ การเลือกซ้อื สนิ ค้าและบริการ
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
ปจั จยั ที่มีผลต่อการเลอื กซ้อื สนิ ค้าและบรกิ ารมีหลายดา้ น ขึ้นอย่กู ับผซู้ ้อื ผ้ขู ายและตัวสนิ ค้า
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1) อธิบายปจั จยั ที่มีผลต่อการเลอื กซอื้ สนิ คา้ และบรกิ ารได้ (K)
2) วเิ คราะหป์ ัจจัยทมี่ ีผลต่อการเลอื กซือ้ สินค้าและบรกิ าร(P)
3) มีความสนใจใฝ่เรยี นรูแ้ ละมุ่งมัน่ ในการทางาน(A)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถ่นิ
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
ปจั จัยทม่ี ีผลต่อการเลอื กซ้ือสนิ คา้ และบรกิ ารท่ีมี
มากมาย ซงึ่ ข้ึนอยูก่ ับผูซ้ อื้ ผูข้ าย และตวั สนิ ค้า เช่น
ความ พึงพอใจของผ้ซู ื้อ ราคาสนิ คา้ การโฆษณา คุณภาพ
ของสินค้า
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นา
1. ครูนาบตั รภาพการโฆษณาขายสินค้ามาใหน้ กั เรียนดู แล้วให้นกั เรยี นแสดงความคิดเห็นว่าถา้ นกั เรียนเจอเหตุการณใ์ น
ภาพ
จะตัดสินใจซ้ือสนิ ค้าหรอื ไม่ อธบิ ายเหตุผลประกอบ
2. ครอู ธิบายเชอื่ มโยงใหน้ ักเรยี นเขา้ ใจวา่ เราทกุ คนอยใู่ นฐานะผูบ้ ริโภค ปัจจยั ท่ีเป็นผลต่อการเลือกซ้อื สนิ ค้าและบรกิ ารมี
อยู่มากมาย เช่น การโฆษณา การลดราคาของสินค้า เปน็ ตน้
3. ครูถามกระตุ้นความคิด “ถา้ สนิ ค้าชนดิ เดียวกนั แตร่ าคาต่างกนั นักเรียนจะใช้เกณฑใ์ ดในการเลอื กซือ้ สนิ คา้ ”
ข้ันสอน
4. ครูให้นักเรยี นรวมกล่มุ เดมิ (จากแผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 1) ให้แต่ละกลมุ่ รว่ มกันศึกษาความรู้ เร่ืองปัจจยั ท่มี อี ิทธิพลต่อ
การเลือกซอื้ สนิ คา้ และบริการ จากหนังสอื เรยี น และใบความรู้ที่ 2.1 เรอื่ งการเลือกซอื้ สินคา้ และบรกิ ารแลว้ บนั ทึกความรูท้ ี่ได้
จากการศกึ ษาลงในแบบบนั ทึกการอา่ น
5. ครูยกตวั อย่างสนิ คา้ ที่ใช้ในชีวิตประจาวัน แล้วให้นกั เรยี นแต่ละคนเขียนข้อความเพ่อื บอกเล่าเร่ืองราวการตัดสินใจเลอื ก
ซ้ือสนิ ค้าลงในกระดาษ
6. สมาชิกแตล่ ะคนในกลุม่ ผลดั กนั อ่านขอ้ ความที่ตนเองเขียนใหส้ มาชกิ ภายในกล่มุ ฟงั แล้วช่วยกนั ตรวจสอบความถกู ต้อง
ของการเลอื กซ้อื สนิ ค้า และเลือกนาเสนอผลงานการเขียนที่ดีท่ีสดุ ของกลุ่มท่ีหนา้ ชน้ั เรยี น
7. นักเรยี นทาแบบฝกึ หดั ในหนงั สอื เรียน
ขน้ั สรุป
8. ครูคาถามกระตุ้นความคิด “นักเรียนคิดวา่ ปัจจัยใดท่ีมีผลต่อการเลอื กซื้อสนิ ค้าและบริการมากท่ีสดุ ”
9. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปปจั จยั ทม่ี อี ิทธิพลต่อการเลือกซอื้ สนิ ค้าและบริการ
6. การวดั และประเมินผล วิธีการวดั ผล เคร่ืองมือวดั เกณฑ์การ
1. ตอบคาถาม ประเมนิ ผล
การวัดและประเมนิ ผล 1.คาถามกระตุ้น
จุดประสงค์ ความคิด 70% ข้นึ ไป ถอื วา่
ผา่ นเกณฑก์ าร
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) ประเมนิ
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1.ทาแบบฝึกหดั 1. แบบฝกึ หัดใน 70% ข้นึ ไป ถือวา่
หนงั สอื เรยี น ผ่านเกณฑ์การ
ประเมนิ
คุณลักษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต
พฤติกรรม 70% ข้นึ ไป ถอื วา่
รบั ผิดชอบต่องานทีส่ ั่งและส่งงาน ผา่ นเกณฑ์การ
ได้ทันตามทก่ี าหนด ประเมิน
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่เรยี นรู้
3. สังเกตจากการม่งุ ม่ันในการ
ทางาน
7. สือ่ /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี น สังคมศึกษา ป.4
2) บตั รภาพ
7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) หอ้ งเรียน
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครูผูส้ อน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงช่ือ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)
ใบความรู้
เรอ่ื ง การเลือกซือ้ สินคา้ และบรกิ าร
แนวทางในการซ้ือสนิ คา้ และบริการไดอ้ ย่างประหยดั คมุ้ ค่า และเกิดประโยชน์สงู สุด มีดงั นี้
1. เปรยี บเทยี บสินค้าประเภทและชนดิ เดยี วกัน โดยคานึงถงึ หลกั สนิ ค้าท่ีใช้แทนกนั ได้ ถ้า
สินค้าชนดิ ใดแพงกวา่ กห็ นั ไปซ้ือสินค้าชนดิ เดยี วกันทีค่ ณุ ภาพใกลเ้ คยี งและราคาถกู กว่า
2. เปรียบเทยี บร้านคา้ ต่างๆ ผู้บริโภคควรเปรยี บเทียบสินค้าและบรกิ ารของร้านคา้ ตา่ งๆ ท้ัง
ในดา้ นราคาและคณุ ภาพโดยวธิ ีการตรวจสอบจากโฆษณาและการไปยังร้านค้ามากกวา่ 1 แหง่
3. คานึงถงึ ความจาเปน็ คณุ ค่า ราคา และคณุ ภาพ ในการเลอื กซอ้ื สินคา้ ควรคานึงถึงความ
จาเป็น ความคุ้มค่า อกี ทงั้ ราคาและคุณภาพสนิ ค้าเปน็ สาคัญ
4. คานงึ ถึงฤดกู าล การเลอื กซือ้ สินคา้ ตามฤดกู าลจะชว่ ยใหผ้ บู้ ริโภคซือ้ สนิ ค้าในราคาทีถ่ กู
5. พจิ ารณาราคาตอ่ หนว่ ยของสินค้า ใช้สาหรบั เปรยี บเทยี บสนิ ค้ายีห่ ้อและขนาดต่างๆ กบั การ
เปรยี บเทียบราคาสนิ ค้าท่ีคล้ายคลงึ กนั แตม่ ีขนาดหรือปรมิ าณไม่เทา่ กนั
6. ควรซอื้ ปรมิ าณมาก ผูท้ ซี่ อื้ สินค้าหน่วยเล็กๆ จะต้องเสียเงินค่าสินคา้ ต่อหน่วยสงู กว่า
7. การบรกิ ารหลงั การขาย ในการเลือกซอ้ื สนิ คา้ บางประเภท เช่น คอมพวิ เตอร์
เครอ่ื งใชไ้ ฟฟ้า รถยนต์ ฯลฯ ปจั จัยท่ีควรคานึงถึงนอกจากราคาแลว้ ควรเลือกซื้อผลิตภัณฑ์ท่สี ามารถใช้
งานแล้วไมก่ อ่ ใหเ้ กิดปญั หา
ทีม่ า : www.maceducation.com/e-knowledge/2343104100/03.htm
บตั รภาพ
ภาพการโฆษณาขายสนิ คา้ ทีม่ ีของรางวลั สมนาคุณผู้บริโภค
ภาพการโฆษณาขายสนิ คา้ ทม่ี ีบตั รกานัลสมนาคณุ ผบู้ รโิ ภค
สัปดาห์ที่ 3
โรงเรียนขจรเกยี รติพัฒนา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรยี นท่ี 2/.................... ชื่อผสู้ อน.......................................................
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 4 จานวน 1 คาบ
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 5 เรื่อง สิทธพิ ื้นฐานของผูบ้ ริโภค
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วดั
มาตรฐานที่ ส 3.1
เขา้ ใจและสามารถบริหารจัดการทรัพยากรในการผลติ และการบริโภคการใช้ทรพั ยากรทม่ี อี ย่จู ากัดได้อยา่ งมี
ประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมทง้ั เข้าใจหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพียง เพื่อการดารงชีวติ อย่างมีดลุ ยภาพ
ตวั ชี้วัดท่ี ป 4/1
บอกสิทธิพน้ื ฐานและรกั ษาผลประโยชน์ของตนเองในฐานะผ้บู รโิ ภค
2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด
การศกึ ษาเกี่ยวกับสทิ ธิพนื้ ฐานของผ้บู รโิ ภคทาให้ทราบถึงสทิ ธิท่ีจะไดร้ บั ความเปน็ ธรรมในการบรโิ ภคสนิ คา้ และ
บรกิ าร
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) บอกสิทธิพืน้ ฐานของผ้บู ริโภคได้ (K)
2) วเิ คราะห์ข่าวการละเมิดสิทธพิ ืน้ ฐานของผบู้ ริโภค (P)
3) มคี วามสนใจใฝเ่ รียนรแู้ ละม่งุ มั่นในการทางาน (A)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถนิ่
สาระการเรยี นร้แู กนกลาง
พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สิทธิพ้ืนฐานของผบู้ รโิ ภค
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขั้นนา
1.ครูใหน้ กั เรียนแตล่ ะคนเขยี นแสดงความคดิ เห็นของตนเองเก่ียวกับสทิ ธพิ น้ื ฐานของผ้บู รโิ ภคคนละ 5 ข้อ เม่อื นกั เรยี น
เขียนเสรจ็ เรียบร้อยให้จบั คกู่ นั ในกลุ่ม แลว้ เปรยี บเทียบความแตกตา่ งของผลงาน
2. ครสู ุม่ เรยี กนักเรียน 2-3 คู่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรยี น เพอ่ื ให้นักเรยี นคูอ่ ื่นแสดงความคิดเหน็ ในสว่ นทแ่ี ตกตา่ ง
3. ครูถามคาถามกระต้นุ ความคิด “เพราะเหตุใดเราตอ้ งศกึ ษาสิทธพิ น้ื ฐานของผบู้ ริโภค”
ขั้นสอน
4. นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาความรู้ เรื่องสิทธพิ นื้ ฐานของผูบ้ ริโภคจากหนงั สอื เรยี นและแหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ
5. ครใู ห้นักเรยี นสารวจการซื้อสินคา้ และบรกิ ารของตนว่ามีความสอดคลอ้ งกับสิทธิพ้ืนฐานของผ้บู ริโภคอยา่ งไรบา้ ง แล้ว
ร่วมกันวเิ คราะหว์ ิจารณใ์ นประเด็นทค่ี รูกาหนด ดังน้ี
1) ดา้ นขอ้ มลู ของสินค้า
2) ดา้ นความอิสระในการเลอื กซื้อ
3) ดา้ นความปลอดภัยในการซ้ือสินคา้
4) ดา้ นรับประกนั สินค้า
5) ดา้ นความเป็นธรรม
6. ครสู ุ่มเรยี กตัวแทนนักเรียนแต่ละกลมุ่ รายงานผลการวิเคราะหว์ ิจารณ์ในแต่ละประเดน็ โดยครูคอยตรวจสอบความ
ถกู ตอ้ งและแนะนาเพิม่ เตมิ
7. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ ชว่ ยกนั หาขา่ วการละเมิดสทิ ธพิ ้นื ฐานของผบู้ รโิ ภคจากแหลง่ การเรียนรตู้ า่ งๆ (ครูอาจให้นักเรียน
เตรยี มไวล้ ว่ งหนา้ ) แล้วเขยี นสรุปว่าเป็นการละเมิดสทิ ธพิ ้นื ฐานของผบู้ รโิ ภคอย่างไร และเสนอแนะวธิ ีที่จะปรับปรงุ แก้ไขหรือ
ข้อแนะนาในการปฏิบตั ิที่เหมาะสมกบั ขา่ ว แล้วบันทึกลงในใบงาน เรือ่ งการละเมดิ สิทธพิ น้ื ฐานของผู้บริโภค เม่อื นกั เรียนทา
ใบงานเสรจ็ แลว้ ใหต้ รวจสอบความถูกต้องก่อนนาส่งครูตรวจ
ขนั้ สรปุ
8. ครูและนักเรียนช่วยกันสรปุ ความรทู้ ี่ได้รับจากการศึกษาเรือ่ ง สิทธิพ้นื ฐาน ของผู้บริโภคพรอ้ มบอกแนวทางในการนาไป
ปรบั ใชใ้ นการดาเนินชีวิตประจาวัน
6. การวดั และประเมินผล วิธกี ารวดั ผล เครอื่ งมือวัด เกณฑก์ าร
การวัดและประเมินผล 1. ตอบคาถาม ประเมนิ ผล
จุดประสงค์
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) 1.ทาใบงาน 1.คาถามกระตุน้ 70% ขน้ึ ไป ถือวา่
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม ความคดิ ผ่านเกณฑ์การ
รบั ผิดชอบต่องานทีส่ ่ังและส่งงาน
คณุ ลกั ษณะนสิ ัย (A) ไดท้ นั ตามท่กี าหนด ประเมนิ
2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการมงุ่ มั่นในการ 1. ใบงาน เรือ่ ง การ 70% ขึน้ ไป ถอื วา่
ทางาน
ละเมิดสิทธิพน้ื ฐานของ ผา่ นเกณฑ์การ
ผู้บรโิ ภค ประเมนิ
1. แบบสังเกต 70% ขึ้นไป ถอื วา่
พฤตกิ รรม ผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมนิ
7. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนงั สอื เรยี น สงั คมศึกษา ป.4
2) ใบงาน เร่ือง การละเมดิ สทิ ธิพน้ื ฐานของผู้บรโิ ภค
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องเรยี น
2) ห้องสมดุ
3) อินเทอรเ์ น็ต
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)
ใบงาน เรอื่ ง การละเมิดสิทธิพ้นื ฐานของผู้บริโภค
คาชแี้ จง ใหน้ ักเรียนสบื ค้นข้อมูลเกี่ยวกบั ข่าวการละเมิดสิทธิพน้ื ฐานของผบู้ รโิ ภค แลว้ นามาวเิ คราะหแ์ ละตอบคาถาม
(ติดภาพขา่ วและเนอื้ หาขา่ ว)
1. จากขา่ วเป็นการละเมิดสิทธพิ ื้นฐานของผู้บริโภคอยา่ งไร
.......................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................................
2. นกั เรยี นจะเสนอแนะวธิ ที จ่ี ะปรบั ปรุงแก้ไขอย่างไร
.......................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................................................
3. ขอ้ เสนอแนะในการปฏบิ ตั ิที่เหมาะสมกับขา่ ว
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................
สัปดาห์ท่ี 4-5
โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรยี นที่ 2/.................... ชื่อผู้สอน.......................................................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ช้ันประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 2 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ่ี 5 เรือ่ ง เครื่องหมายรับรองคุณภาพสนิ ค้าและ
บริการ
1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวชีว้ ัด
มาตรฐานที่ ส 3.1
เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลิตและการบริโภคการใช้ทรพั ยากรทมี่ ีอยจู่ ากดั ได้อยา่ งมี
ประสิทธิภาพและคุ้มค่า รวมท้งั เข้าใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพียง เพือ่ การดารงชวี ิตอยา่ งมดี ลุ ยภาพ
ตวั ชี้วัดที่ ป 4/2
บอกสทิ ธิพน้ื ฐานและรักษาผลประโยชน์ของตนเองในฐานะผบู้ ริโภค
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
เครือ่ งหมายรับรองคุณภาพสนิ คา้ และบริการเป็นสัญลักษณ์ท่ีบอกให้ทราบถึงคณุ ภาพและมาตรฐานของสินค้า
และบรกิ ารนนั้ ๆ
3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1) บอกความหมายของสัญลกั ษณห์ รือเครื่องหมายรบั รองคุณภาพสนิ ค้าและบรกิ ารได้ (K)
2) ระบุสนิ คา้ และบริการที่มีเคร่อื งหมายรบั รองคุณภาพได้ (P)
3) มคี วามสนใจใฝเ่ รยี นรูแ้ ละม่งุ มน่ั ในการทางาน (A)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรูท้ ้องถ่นิ
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง
พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
สนิ ค้าและบริการทมี่ ีเครื่องหมายรบั รองคณุ ภาพ
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี1
ขนั้ นา
1.ครนู าบัตรภาพเครื่องหมายรบั รองคณุ ภาพสนิ ค้าและบริการ มาใหน้ ักเรียนดู แลว้ ถามนกั เรียนว่าเคยเห็นสัญลักษณ์
เหล่าน้หี รือไม่ และหมายถงึ อะไร
2.นกั เรียนรว่ มกนั สนทนาจนมีความคดิ เหน็ ท่ตี รงกนั ว่าเคร่อื งหมายรับรองคณุ ภาพสินค้าและบริการหมายถึงสญั ลักษณท์ ่ีบ่ง
บอกใหท้ ราบถงึ คุณภาพและมาตรฐานของสนิ คา้ และบรกิ ารนน้ั ๆท่หี น่วยงานภาครฐั ไดก้ าหนดไว้
3. ครูถามคาถามกระต้นุ ความคดิ “นักเรียนเคยเหน็ สญั ลักษณ์ทีเ่ ปน็ เครื่องหมายรับรองคณุ ภาพสนิ ค้าและบริการบนสินค้า
ใดบ้าง ยกตวั อยา่ งประกอบ”
ขั้นสอน
4. ครใู ห้นักเรยี นกล่มุ เดมิ เรยี กวา่ กลุ่มบ้าน แลว้ ให้แตล่ ะกลมุ่ กาหนดหมายเลขประจาตวั ให้สมาชิกแตล่ ะคนในกลมุ่ เป็น
หมายเลข 1-4
5. สมาชกิ ทีม่ หี มายเลขเดียวกันมารวมกันเปน็ กลมุ่ ใหม่ เรียกวา่ กลมุ่ ผเู้ ชย่ี วชาญแล้วรว่ มกันศึกษาความรเู้ รือ่ งเครอื่ งหมาย
รับรองคณุ ภาพสินคา้ และบรกิ ารจากหนังสือเรียน ห้องสมดุ และแหลง่ ขอ้ มลู สารสนเทศ ตามหมายเลข ดงั นี้
- กล่มุ หมายเลข 1 ศกึ ษาความรเู้ ร่อื งเครอื่ งหมายมาตรฐานหรอื เครื่องหมาย มอก.
- กลมุ่ หมายเลข 2 ศึกษาความรูเ้ รอ่ื งเครื่องหมาย อย. และตรา OTOP
- กลุ่มหมายเลข 3 ศกึ ษาความรเู้ รอ่ื งเคร่อื งหมายฮาลาล และเครือ่ งหมายประหยัดไฟ เบอร์ 5
- กลมุ่ หมายเลข 4 ศึกษาความร้เู รือ่ งเครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะด้านสงิ่ แวดลอ้ มและเครือ่ งหมายมาตรฐานเฉพาะด้าน
ความปลอดภยั
ข้ันสรปุ
6. นักเรียนทาแบบฝึกหัดในหนังสอื หนา้ ท่ี 167-169
7. ครแู ละนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ เน้อื หาที่ไดเ้ รียนไป
คาบท่ี2
ขั้นนา
1.ครูทบทวนความรเู้ ดิมท่เี รียนไปในคาบที่แล้ว
ขน้ั สอน
2. นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกนั อภิปรายและตรวจสอบผลของการศึกษาในแตล่ ะประเด็น
3. นักเรียนสรุปผลการตรวจสอบจากน้ันให้นักเรยี นกล่มุ ผูเ้ ชีย่ วชาญแยกยา้ ยกนั กลบั เขา้ สูก่ ลมุ่ บ้านเพ่ืออธิบายความรู้ทีไ่ ด้
จากการศึกษาและปฏิบัติกิจกรรมให้สมาชกิ ในกลุ่มบา้ นฟัง โดยเรยี งลาดับจากสมาชิกหมายเลข 1-4 หรอื ตามความสมัครใจ
จนครบทุกคน
4. ครใู หน้ กั เรียนแตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั ตรวจสอบเคร่อื งใชภ้ ายในบา้ นหรอื ท่ีโรงเรยี นว่ามเี คร่ืองหมายรับรองคณุ ภาพประเภท
ใดบา้ ง
แล้วบนั ทกึ ข้อมูลลงในกระดาษ
ขัน้ สรุป
5. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ ออกมานาเสนองาน หนา้ ชนั้ เรยี นโดยมีครูคอยตรวจสอบความถูกตอ้ งและเพม่ิ เติมในส่วนท่ียงั มี
ขอ้ บกพรอ่ งอยู่
6. ครูและนักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรูเ้ รอื่ งเคร่ืองหมายรบั รองคณุ ภาพสนิ ค้าและบรกิ าร
7. ครูถามคาถามกระตนุ้ ความคดิ “ถ้าเครื่องใช้ไฟฟา้ ทบ่ี ้านของนักเรยี นไม่มเี ครอ่ื งหมายรบั รองคุณภาพนกั เรยี นจะใช้
เครื่องใช้ไฟฟา้ นนั้ หรือไม่อธิบายเหตุผล”
6. การวดั และประเมนิ ผล
การวัดและประเมนิ ผล วธิ ีการวดั ผล เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารประเมนิ ผล
จุดประสงค์ 1. ตอบคาถาม 1.คาถามกระตนุ้ ความคิด 70% ข้นึ ไป ถือว่าผา่ น
เกณฑ์การประเมิน
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) 70% ข้ึนไป ถือว่าผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1.ทาแบบฝกึ หัด 1. ใบงานเร่อื งเคร่อื งหมาย
รับรองคณุ ภาพสนิ ค้าและ 70% ขึ้นไป ถือว่าผา่ น
เกณฑ์การประเมนิ
บริการ
คุณลักษณะนิสยั (A) 1. สงั เกตจากการเรยี นมี 1. แบบสังเกต
ความรบั ผดิ ชอบต่องานที่ พฤตกิ รรม
สั่งและส่งงานไดท้ ัน
ตามที่กาหนด
2. สงั เกตจากการเรียน
ใฝ่เรยี นรู้
7. สือ่ /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสือเรียน พระพุทธศาสนา ป.4
2) บตั รภาพ เครื่องหมายรับรองคุณภาพสนิ ค้าและบริการ
7.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) หอ้ งเรยี น
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครผู ูส้ อน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)
บตั รภาพ เครือ่ งหมายรบั รองคุณภาพสนิ ค้าและบริการ
ภาพเครอ่ื งหมายมาตรฐานทั่วไป ภาพเครื่องหมายมาตรฐานบังคับ
ภาพเครื่องหมาย อย. ภาพเครอื่ งหมาย OTOP
ภาพเครื่องหมายฮาลาล ภาพเครื่องหมายประหยดั ไฟ เบอร์ 5
ภาพเคร่อื งหมายมาตรฐานเฉพาะดา้ นสิ่งแวดลอ้ ม ภาพเครื่องหมายมาตรฐานเฉพาะดา้ นความปลอดภยั
สัปดาห์ที่ 6
โรงเรียนขจรเกียรตพิ ฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรยี นที่ 2/.................... ชื่อผู้สอน.......................................................
กลุ่มสาระการเรียนรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปที ี่ 4 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรยี นรูท้ ี่ 6 เร่ือง ความหมายของเศรษฐกจิ พอเพียง
1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตัวช้วี ดั
มาตรฐานท่ี ส 3.1
เข้าใจและสามารถบริหารจดั การทรัพยากรในการผลติ และการบรโิ ภคการใช้ทรพั ยากรทมี่ อี ยู่จากัดได้อย่างมี
ประสทิ ธิภาพและค้มุ ค่า รวมทง้ั เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพ่ือการดารงชีวิตอยา่ งมีดลุ ยภาพ
ตัวช้ีวัดที่ ป 4/4
อธบิ ายหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพียงและนาไปใช้ในชีวิตประจาวันของตนเอง
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
เศรษฐกจิ พอเพยี งเป็นปรชั ญาท่ีพระบาทสมเด็จพระเจา้ อยูห่ วั ทรงชแ้ี นะเป็นแนวทางในการดาเนินชวี ิตแกป่ วงชนชาว
ไทย
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1) อธบิ ายความหมายของเศรษฐกิจพอเพียงได้ (K)
2) นาหลกั การของเศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวนั ได้ (P)
3) ผเู้ รยี นมีความใฝร่ ู้ ใฝเ่ รยี นมุ่งมนั่ ในการทางาน (A)
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรูแ้ กนกลาง สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่ิน
หลักการของเศรษฐกจิ พอเพียง พิจารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
ขั้นนา
1. ครใู หน้ ักเรยี นศกึ ษาพระราชดารัสเกีย่ วกบั เศรษฐกจิ พอเพียงจากใบความรู้ เรอื่ งพระราชดารัสเศรษฐกจิ พอเพยี ง
แลว้ ร่วมกันสนทนาถงึ ความสาคญั ของเศรษฐกิจพอเพยี ง
2. ครูถามคาถามกระตุน้ ความคดิ “หลักเศรษฐกิจพอเพียงมีประโยชน์ต่อการดาเนนิ ชวี ิตของนกั เรียนอย่างไรบ้าง
ยกตัวอย่างประกอบ”
ขนั้ สอน
3. ครูให้นักเรยี นแบง่ กลมุ่ กลุ่มละ 4 คนตามความสมคั รใจ แลว้ สนทนากบั นักเรียนวา่ การดาเนนิ ชวี ิตแบเศรษฐกิจ
พอเพียงเป็นการดาเนนิ ชีวิตแบบใด
4. นกั เรียนสบื ค้นข้อมูลความรู้เร่ืองความหมายของเศรษฐกจิ พอเพยี งจากหนงั สือเรียน หอ้ งสมุดและแหลง่ ข้อมูล
สารสนเทศแลว้ บนั ทกึ ความรทู้ ่ีได้จากการศึกษาลงในแบบบันทกึ การอา่ น
5. ครูแจกใบงาน เรอ่ื ง เศรษฐกิจพอเพยี งให้ตัวแทนแตล่ ะกลุ่มเพ่ือนามาแบง่ ให้สมาชกิ แต่ละคนในกลุม่ สืบค้นขอ้ มลู
6. สมาชิกแต่ละคนศกึ ษาสบื คน้ ความรู้เพอื่ เป็นคาตอบในประเดน็ ทตี่ นรับผิดชอบแลว้ นาคาตอบมาอภิปรายรว่ มกันใน
กลุม่ จนได้คาตอบท่สี มบูรณ์และมีความเขา้ ใจตรงกันทุกคน
7. เมือ่ ไดค้ าตอบท่ถี ูกตอ้ งสมบูรณ์ใหบ้ นั ทกึ ลงในใบงาน แลว้ ใหต้ วั แทนกลุ่มออกมานาเสนอใบงานท่ีหน้าช้ันเรยี น
8. ครูและนกั เรียนชว่ ยกันเฉลยคาตอบในใบงาน
ขัน้ สรปุ
9. ครใู ห้นกั เรียนแต่ละคนรวบรวมพระราชดารสั เก่ยี วกบั เศรษฐกิจพอเพยี งในโอกาสตา่ งๆแล้วนาสง่ ครใู นระยะเวลาที่
กาหนด2. ครูและนกั เรียนร่วมกนั สรปุ ความรเู้ รอ่ื งเศรษฐกิจพอเพยี ง
10. ครูถามคาถามกระตุ้นความคิด “ในวยั ของนกั เรียนการดาเนนิ ชวี ิตตามหลักเศรษฐกจิ พอเพียงมคี วามสาคญั
อยา่ งไร”
6. การวัดและประเมนิ ผล
การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวัดผล เครื่องมอื วัด เกณฑก์ าร
ประเมินผล
จุดประสงค์ 1. คาถามกระตนุ้ 70% ขน้ึ ไป ถือวา่
ความคิด ผ่านเกณฑก์ าร
ความรู้ความ 1. ตอบคาถาม ประเมิน
เขา้ ใจ (K) 1. ใบงานเรือ่ ง 70% ข้นึ ไป ถือวา่
เศรษฐกิจพอเพียง ผา่ นเกณฑ์การ
ทักษะ/ 1. ทาใบงาน ประเมิน
กระบวนการ (P)
70% ขนึ้ ไป ถอื วา่
คณุ ลกั ษณะนสิ ยั (A) 1. สังเกตจากการเรียนมคี วาม 1. แบบสังเกต ผ่านเกณฑก์ าร
พฤตกิ รรม ประเมนิ
รับผิดชอบต่องานทส่ี งั่ และสง่ งาน
ได้ทันตามทีก่ าหนด
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่เรยี นรู้
3. สังเกตจากการมุ่งมนั่ ในการ
ทางาน
7. ส่ือ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนังสือเรียน สงั คมศกึ ษา ป.4
2) ใบความรู้ เรือ่ ง พระราชดารสั เศรษฐกิจพอเพียง
3) ใบงาน เรือ่ ง เศรษฐกจิ พอเพยี ง
7.2 แหล่งการเรยี นรู้
1) ห้องเรียน
2) หอ้ งสมุด
3) อนิ เทอร์เนต็
8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครูผู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงช่ือ................................................... ผู้บรหิ าร
(...........................................................)
ใบความรู้
เร่ือง พระราชดารสั เศรษฐกิจพอเพยี ง
พระราชดารสั เศรษฐกิจพอเพยี ง
“เศรษฐกิจพอเพยี งเป็นเสมือนรากฐานของชีวิต รากฐานความม่นั คงของแผน่ ดนิ
เปรยี บเสมือนเสาเขม็ ท่ตี อกรองรบั บา้ นเรอื นตวั อาคารไวน้ ่นั เอง สง่ิ ก่อสรา้ งจะม่นั คงไดก้ ็อยทู่ ่ี
เสาเข็ม แตค่ นสว่ นมากมองไมเ่ หน็ เสาเข็ม และลมื เสาเขม็ เสยี ดว้ ยซา้ ไป เศรษฐกิจพอเพยี ง...จะ
ทาความเจรญิ ใหแ้ ก่ประเทศได้ แตต่ อ้ งมีความเพียร และตอ้ งอดทน ตอ้ งไมใ่ จรอ้ น ตอ้ งไม่พดู
มาก ตอ้ งไม่ทะเลาะกนั ถา้ ทาโดยเขา้ ใจกนั เช่ือวา่ ทกุ คนจะมีความพอใจได”้
พระราชดารสั พระเจา้ อยหู่ วั พระราชทาน เม่ือ วนั ท่ี 5 ธันวาคม 2541
ท่มี า : www.oae.go.th/ewt_news.php?nid=6578&filename=index
ใบงาน
เรอื่ ง เศรษฐกิจพอเพยี ง
คาชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นสืบคน้ ขอ้ มูลในหัวข้อ “ผอู้ ยแู่ บบเศรษฐกิจพอเพียง” พร้อมวาดภาพหรือหาภาพมาตดิ ประกอบ
ติดภาพประกอบ
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................
(พจิ ารณาตามคาตอบของนกั เรยี น โดยให้อยู่ในดุลยพินจิ ของครูผ้สู อน)
สัปดาห์ท่ี 7-8
โรงเรียนขจรเกยี รติพัฒนา
แผนการจัดการเรยี นรู้
ภาคเรียนท่ี 2/.................... ช่ือผู้สอน.......................................................
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 4 จานวน 2 คาบ
หนว่ ยการเรยี นร้ทู ่ี 6 เรอ่ื ง หลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตัวชว้ี ดั
มาตรฐานท่ี ส 3.1
เขา้ ใจและสามารถบรหิ ารจัดการทรพั ยากรในการผลติ และการบรโิ ภคการใช้ทรพั ยากรทม่ี ีอยจู่ ากดั ได้อยา่ งมี
ประสทิ ธิภาพและค้มุ ค่า รวมทง้ั เขา้ ใจหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี ง เพ่อื การดารงชีวิตอยา่ งมดี ลุ ยภาพ
ตัวชวี้ ัดท่ี ป 4/3
อธิบายหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี งและนาไปใช้ในชีวิตประจาวันของตนเอง
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
เศรษฐกจิ พอเพียงเป็นระบบเศรษฐกจิ ที่ยึดหลกั การพ่งึ ตนเอง และความสามคั คีในชุมชน ยดึ ทางสายกลางในการ
ดารงชวี ติ
3. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธิบายหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงได้ (K)
2) นาหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียงไปประยกุ ต์ใช้ในชวี ิตประจาวนั (P)
3) มคี วามสนใจใฝเ่ รียนร้แู ละมุ่งมัน่ ในการทางาน(A)
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถิ่น
หลักการของเศรษฐกิจพอเพียง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศึกษา
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี1
ข้นั นา
1.ครูทบทวนความรู้เดมิ เกย่ี วกบั เศรษฐกิจพอเพียง โดยให้นกั เรยี นดูบตั รภาพเกย่ี วกบั โครงการในพระราชดารเิ กีย่ วกบั
เศรษฐกจิ พอเพียงของพระบาทสมเดจ็ พระเจ้าอยู่หัว แลว้ ถามนักเรียนวา่ ภาพดงั กลา่ วมีความเกย่ี วข้องกบั หลักปรัชญา
เศรษฐกิจพอเพยี งอยา่ งไร
2.ครูใหอ้ าสาสมัครนกั เรยี น 1-2 คน ออกมาแสดงความคดิ เห็นใหเ้ พือ่ นฟงั ที่หน้าชั้นเรียน แล้วให้นกั เรียนคนอื่นแสดง
ความคิดเหน็ เพมิ่ เตมิ ในส่วนที่แตกตา่ ง
ข้ันสอน
3. ครูใหน้ ักเรยี นแต่ละกล่มุ (กลุ่มเดิมจากแผนการจดั การเรยี นร้ทู ่ี 1) รว่ มกันศกึ ษาความรู้เรอ่ื ง หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจ
พอเพยี ง จากหนงั สือเรยี น ห้องสมดุ และแหล่งข้อมูลสารสนเทศ และศกึ ษาความรเู้ พิ่มเติมเกีย่ วกบั หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ
พอเพียง จากใบความรู้ เรื่อง หลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง แล้วบันทกึ ความรทู้ ่ีไดจ้ ากการศึกษาลงในแบบบนั ทกึ การอา่ น
4. ครถู ามคาถามกระตุน้ ความคดิ “ นักเรียนจะมีวิธใี ชจ้ ่ายแบบเศรษฐกจิ พอเพียงอยา่ งไร อธบิ ายเหตุผล ”
5. สมาชกิ ในแต่ละกลุ่มผลดั กนั อธบิ ายความร้ทู ี่ได้จากการศกึ ษา และซักถามขอ้ สงสยั จนสมาชิกในกลุ่มมีความรคู้ วาม
เขา้ ใจตรงกนั
ขั้นสรุป
6. นกั เรยี นทาใบงาน เรอ่ื ง หลกั ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง
คาบท่ี 2
ขนั้ นา
1. ครทู บทวนความรู้เดิม
ข้นั สอน
2. ครแู ละนกั เรียนร่วมกันเฉลยคาตอบใบงาน เรอื่ ง หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง ผลดั กันซกั ถามข้อสงสัยจนมคี วาม
เข้าใจท่ตี รงกนั
3. นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับการปฏิบตั ิตนทถี่ ูกต้องตามหลกั เศรษฐกิจพอเพยี ง
4. ครูถามคาถามกระตุ้นความคดิ “หากเส้อื ผา้ ของนกั เรียนชารุด จะมวี ิธีแกป้ ญั หาให้ตรงตามหลกั เศรษฐกิจพอเพียง
อย่างไร”
ข้นั สรุป
5. ครูใหต้ ัวแทนของแต่ละกลุม่ ออกมานาเสนอผลงานหนา้ ช้นั เรียน โดยครูคอยตรวจสอบความถกู ต้อง และแนะนา
เพม่ิ เตมิ ในส่วนทบี่ กพร่อง
6. ครแู ละนกั เรยี นร่วมกันสรุปความร้เู รอื่ ง หลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพียง
6. การวัดและประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เคร่อื งมอื วดั เกณฑก์ าร
1. ตอบคาถาม ประเมินผล
การวัดและประเมนิ ผล 1.คาถามกระตุ้น
จุดประสงค์ ความคิด 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่
ผ่านเกณฑก์ าร
ความร้คู วามเขา้ ใจ (K) 1. ใบงาน เรอื่ ง หลกั ประเมนิ
ปรัชญาเศรษฐกจิ
ทักษะ/กระบวนการ (P) 1. ทาใบงาน พอเพยี ง 70% ข้นึ ไป ถอื วา่
ผ่านเกณฑก์ าร
ประเมิน
คุณลกั ษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสงั เกต 70% ข้ึนไป ถอื ว่า
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานที่สั่งและส่งงาน พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑก์ าร
ประเมนิ
ไดท้ ันตามทกี่ าหนด
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้
3. สงั เกตจากการมุ่งมั่นในการ
ทางาน
7. สอื่ /แหล่งการเรียนรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สือเรียน สังคมศึกษา ป.4
2) ใบความรู้ เร่อื ง หลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง
3) บตั รภาพ โครงการในพระราชดารขิ องพระเจา้ อยหู่ ัว
4) ใบงาน เร่ือง หลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) หอ้ งสมดุ
3) อนิ เทอรเ์ น็ต
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................ครผู ู้สอน ลงชอื่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
ใบความรู้
เรอ่ื ง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
คานยิ าม ความพอเพียงจะต้องประกอบด้วย 3 คุณลักษณะพร้อมๆ กนั ดังน้ี
1. ความพอประมาณ หมายถึง ความพอดีที่ไม่น้อยเกนิ ไปและไม่มากเกินไป โดยไมเ่ บียดเบยี น
ตนเองและผูอ้ ่ืน เช่น การผลติ และการบรโิ ภคที่อยู่ในระดับพอประมาณ
2. ความมเี หตุผล หมายถงึ การตัดสินใจเกีย่ วกบั ระดับของความพอเพยี งนน้ั จะต้องเป็นไปอยา่ งมี
เหตุผล โดยพิจารณาจากเหตุปัจจัยทเ่ี ก่ียวขอ้ งตลอดจนคานงึ ถึงผลท่ีคาดว่าจะเกดิ ขน้ึ จากการกระทานน้ั ๆ
อย่างรอบคอบ
3. การมภี มู ิคุ้มกนั ในตวั ทีด่ ี หมายถึง การเตรยี มตัวให้พรอ้ มรบั ผลกระทบและการเปล่ยี นแปลง
ด้านต่างๆ ท่จี ะเกิดขึ้นโดยคานงึ ถงึ ความเป็นไปไดข้ องสถานการณต์ า่ งๆ ท่ีคาดวา่ จะเกดิ ขน้ึ ในอนาคตทั้ง
ใกล้และไกล
เง่ือนไข การตดั สนิ ใจและการดาเนนิ กจิ กรรมตา่ งๆ ให้อยู่ในระดับพอเพยี งนนั้ ตอ้ งอาศยั ทั้ง
ความรแู้ ละคณุ ธรรมเป็นพื้นฐาน กลา่ วคือ
1. เงือ่ นไขความรู้ ประกอบดว้ ย ความรอบรเู้ กย่ี วกับวิชาการต่างๆ ที่เกยี่ วขอ้ งอย่างรอบดา้ น
ความรอบคอบทจ่ี ะนาความร้เู หล่าน้นั มาพิจารณาใหเ้ ช่ือมโยงกัน เพ่ือประกอบการวางแผนและความ
ระมัดระวงั ในขั้นปฏิบัติ
2. เงอื่ นไขคณุ ธรรม ทีจ่ ะต้องเสริมสรา้ งประกอบด้วย มคี วามตระหนกั ในคณุ ธรรม มีความซ่อื สตั ย์
สุจริต และมีความอดทน มีความพากเพียร ใช้สติปญั ญาในการดาเนินชวี ิต
ทมี่ า : www.guru.google.co.th/guru/thread%3Ftid%3
บัตรภาพ
โครงการในพระราชดารขิ องพระเจ้าอยหู่ ัว
ภาพแผนผังแสดงการแบ่งพื้นท่ีตามหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง ภาพศูนย์การเรียนรูเ้ ศรษฐกจิ พอเพียง
ภาพการสาธติ การทานาตามหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง ภาพการแบ่งพืน้ ที่ตามหลักเศรษฐกจิ พอเพยี ง
ใบงาน
เรือ่ ง หลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
คาชีแ้ จง ให้นกั เรยี นเติมข้อมูลลงในช่องวา่ งให้ถกู ต้อง
1. เศรษฐกจิ พอเพยี งเปน็ ปรชั ญาของ ................................................................................................
.......................................................................................................................................................
ทรงชแ้ี นะแนวทางในการดารงชีวิตใหก้ บั ประชาชนชาวไทย โดยให้ดาเนินชวี ิตอยูแ่ บบ.................
.......................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................
2. เศรษฐกิจพอเพยี งเป็นระบบเศรษฐกจิ ท่ียึดหลักการพงึ่ ตนเองและความสามัคคใี นชมุ ชน ยดึ ทาง
สายกลางในการดารงชวี ิต ซง่ึ ประกอบดว้ ย 3 ห่วง กบั 2 เงื่อนไข ดังน้ี
หว่ งที่ 1 คือ.....................................................................................................................................
ห่วงที่ 2 คอื .....................................................................................................................................
ห่วงที่ 3 คอื .....................................................................................................................................
เง่ือนไขท่ี 1 คอื ...............................................................................................................................
เงือ่ นไขที่ 2 คอื ...............................................................................................................................
3. ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียงเปน็ ส่งิ ที่คนไทยทกุ คนควรนาไปปฏบิ ัติเพ่อื ความสุข
ความเจริญของตนเอง ครอบครวั และสังคม สว่ นฉันจะนาไปปฏิบตั ิในชวี ิตประจาวนั ดงั น้ี
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
..........................................................................................................................................................
สปั ดาห์ท่ี 9
โรงเรียนขจรเกียรติพฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้
ภาคเรยี นท่ี 2/.................... ช่ือผู้สอน.......................................................
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 4 จานวน 1 คาบ
หนว่ ยการเรียนรู้ที่ 6 เรือ่ ง การประยกุ ต์ใช้เศรษฐกจิ พอเพียงใน
ชีวติ ประจาวนั
1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตวั ช้ีวดั
มาตรฐานท่ี ส 3.1
เข้าใจและสามารถบริหารจัดการทรพั ยากรในการผลิตและการบรโิ ภคการใช้ทรัพยากรทีม่ อี ยจู่ ากดั ได้อยา่ งมี
ประสิทธภิ าพและค้มุ ค่า รวมทัง้ เขา้ ใจหลกั การของเศรษฐกจิ พอเพยี ง เพ่อื การดารงชีวิตอยา่ งมีดลุ ยภาพ
ตัวชว้ี ัดท่ี ป 4/3
อธบิ ายหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี งและนาไปใชใ้ นชวี ติ ประจาวันของตนเอง
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
การนาหลักการเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยุกตใ์ ช้ในชวี ิตประจาวันจะทาใหเ้ กิดการพฒั นาท่สี มดุลและยง่ั ยนื
พร้อมรับตอ่ การเปล่ียนแปลงในทุกด้าน
3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้
1) อธิบายวธิ กี ารนาหลกั เศรษฐกจิ พอเพยี งมาประยกุ ต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวนั ได้(K)
2) นาหลักการของเศรษฐกิจพอเพยี งไปประยุกตใ์ ช้ในชีวิตประจาวันของตนเองได้ (P)
3) มีความสนใจใฝเ่ รียนรแู้ ละม่งุ ม่นั ในการทางาน(A)
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถ่นิ
การประยุกต์ใช้ปรชั ญาของเศรษฐกิจพอเพียงในการ พจิ ารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
ดารงชวี ิต เช่น การแต่งกาย การกนิ อาหาร การใช้จา่ ย
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
ขน้ั นา
1. ครูให้นกั เรยี นอ่านขา่ วทเ่ี กย่ี วขอ้ งกบั บคุ คลทป่ี ฏิบัตติ ามหลัก เศรษฐกิจพอเพยี ง แล้วให้นกั เรยี นร่วมกันแสดงความ
คิดเหน็ วา่ การปฏิบัติตนของบคุ คลคลในขา่ วสอดคล้องกบั หลกั เศรษฐกิจพอเพียง อยา่ งไร
2. ครถู ามคาถามกระตนุ้ ความคดิ “ในครอบครวั ของนกั เรยี นไดน้ าหลกั เศรษฐกิจพอเพยี งมาประยกุ ต์ใชใ้ น
ชีวิตประจาวันอย่างไรบา้ ง”
ขนั้ สอน
3. ครใู ห้นักเรยี นแตล่ ะคนออกมาเขยี นบนกระดานวา่ นกั เรียนไดน้ าหลกั เศรษฐกจิ พอเพียงมาประยกุ ตใ์ ช้ใน
ชีวติ ประจาวันอย่างไรบา้ ง”
4. ครูและนักเรียนร่วมกนั อภปิ รายถงึ การนาหลักเศรษฐกิจพอเพยี งมาประยุกต์ใชใ้ นชีวติ ประจาวัน
5. นกั เรียนทาแบบฝึกหัดในหนงั สอื เรยี น หน้า175-176
6. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั เฉลยคาตอบในแบบฝกึ หัด ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นซักถามข้อสงสัยจนมีความเขา้ ใจที่
ถูกต้องชดั เจน
ขั้นสรปุ
7. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปเรอื่ ง การประยกุ ต์ใช้เศรษฐกจิ พอเพยี งในชีวิตประจาวัน
6. การวัดและประเมินผล วิธีการวดั ผล เคร่ืองมอื วดั เกณฑก์ าร
ประเมินผล
การวดั และประเมนิ ผล 70% ขึ้นไป ถือวา่
จดุ ประสงค์ ผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมนิ
ความรู้ความเขา้ ใจ (K) 1. ตอบคาถาม 1.คาถามกระตนุ้ ความคดิ 70% ขึ้นไป ถือว่า
ผา่ นเกณฑก์ าร
ทักษะ/กระบวนการ (P) 1.ทาแบบฝกึ หดั 1. แบบฝึกหัด ประเมิน
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมคี วาม 1. แบบสังเกต 70% ขน้ึ ไป ถอื ว่า
รบั ผิดชอบต่องานทส่ี ั่งและสง่ พฤติกรรม ผ่านเกณฑ์การ
ประเมนิ
งานไดท้ นั ตามท่กี าหนด
2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการมงุ่ ม่นั ในการ
ทางาน
7. ส่อื /แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี น สังคมศึกษา ป.4
2) ตวั อย่างขา่ วบคุ คลที่ปฏิบัตติ ามหลักเศรษฐกิจพอเพยี ง
7.2 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรียน
8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงช่ือ............................................ครูผู้สอน ลงชื่อ...................................................ฝา่ ยวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผ้บู ริหาร
(...........................................................)
ตัวอยา่ งขา่ ว บุคคลทป่ี ฏบิ ตั ิตามหลักเศรษฐกิจพอเพียง
“ทองเหมาะ แจ่มแจ้ง” ปราชญแ์ หง่ เกษตรอนิ ทรีย์ ยดึ หลักเศรษฐกจิ พอเพยี งเพอ่ื ลดตน้ ทนุ การผลิต
เปน็ ปราชญ์ชาวบา้ นตัวอย่างท่ีประสบความสาเร็จจนไดร้ บั รางวลั เชดิ ชเู กยี รตหิ ลายรางวลั ตดิ เตม็ ฝาบา้ น ล้วน
การนั ตถี ึงความวริ ยิ อุตสาหะถือเป็นบคุ คลตัวอยา่ งด้านการอนุรักษ์ และส่งเสริมภมู ปิ ญั ญาท้องถ่นิ อย่าง
แท้จริง นายทองเหมาะ แจ่มแจ้ง วัย 63 ปี ชาวบ้าน ต.วงั หวา้ อ.ศรปี ระจนั ต์ จ.สุพรรณบุรี หรือท่ีชาวบ้าน
แถวน้ันเรียกสน้ั ๆ วา่ “ลุงทองเหมาะ”เลา่ ถึงประสบการณ์เม่ือครั้งกอ่ นที่จะมาเป็นปราชญ์ชาวบา้ นและเป็น
เจา้ ของศูนย์ปราชญห์ รือสถาบันพฒั นาการเรียนรู้เกษตรอนิ ทรีย์ ทไี่ ดร้ บั การยอมรับจากชาวบ้านใกล้เคียง
และเปน็ ท่ีร้จู ักของเกษตรกรส่วนใหญท่ ั่วประเทศในขณะนี้วา่ ก่อนทจี่ ะพบทางสว่างนเี้ คยทาอาชีพมาหลาย
อยา่ ง ส่วนใหญ่ล้วนแลว้ แตเ่ ปน็ อาชพี ทางการเกษตรแทบทงั้ สิน้ ไมว่ า่ จะเปน็ อาชีพชาวไรอ่ ้อย ชาวไร่มัน
สาปะหลัง เล้ยี งปลา และชาวนาวา่ กันว่าทุกสิง่ ที่สรรคส์ ร้างล้วนแตเ่ ปน็ เร่ืองของเกษตรเชงิ เด่ียวปลูกอย่าง
เดียวชนิดเดียวล้วนๆ และส่วนใหญก่ ็ เน้นในเรอ่ื งของการใช้สารเคมีไม่วา่ จะเป็นปุ๋ยเคมี ยาปราบศัตรพู ืชทีค่ ดิ
เพยี งอยา่ งเดียววา่ จะช่วยเรง่ ใหม้ ีผลผลิตเรว็ และได้ผลดีคุ้มกับการลงทนุ แต่แนวทางดังกลา่ วเปน็ เพียงการ
โฆษณาชวนเชือ่ ของพอ่ ค้าหัวใสเท่าน้นั เพราะสิง่ ที่ได้รับไม่คมุ้ กับการลงทนุ ลุงบอกวา่ ยิ่งทายง่ิ จนเพราะคนท่ี
เขากาหนดราคาท้ังปยุ๋ เคมแี ละสารเคมตี ่างๆ โดยเฉพาะยาปราบศตั รูพชื คือพอ่ ค้าไม่ใช่เกษตรกร และ
ผลผลติ ท่สี ามารถผลติ ไดเ้ กษตรกรก็ยงั ไม่สามารถกาหนดราคาไดอ้ ีกนอกจากนนั้ ยังมเี รอื่ งใหญอ่ กี เรอ่ื งหนึง่ ที่
ลุงทองเหมาะเลา่ ใหฟ้ งั ว่าขณะทเ่ี ขาพ่ึงพาสารเคมีในการผลิตสินค้าเกษตร นอกจากเขาทาลายผนื ดินที่เขาทา
กนิ แล้ว เขายังทาลายตัวเองไปดว้ ย เพราะรา่ งกายทเี่ คยแข็งแรงดูออ่ นล้าลงอยา่ งเห็นไดช้ ดั สุขภาพท่ีเคยดี
กลบั ไม่มเี รย่ี วแรงเหตุเพราะสารเคมที ี่ใชท้ กุ วันสะสมในรา่ งกายอย่างไม่ร้ตู ัวและเมอ่ื ลงุ เร่ิมไมค่ ่อยสบายจาก
ปัญหาสขุ ภาพท่ีเกดิ จากสารเคมีทใ่ี ชต้ กคา้ งในร่างกายจึงคิดทบทวนตวั เอง และเกิดความคดิ ข้นึ มาว่าหากตอ้ ง
พ่งึ พาสารเคมใี นการผลิตสินค้าเกษตร ต้องลาบากเป็นแน่เพราะย่ิงทายงิ่ จนตน้ ทนุ สูง ไมใ่ ชเ่ ฉพาะสนิ คา้
เกษตรท่ผี ลิตออกมา แตม่ นั หมายถึงต้นทนุ ชีวิตของลงุ ดว้ ย จากนนั้ จงึ ไดค้ ดิ ท่ีจะไมใ่ ชส้ ารเคมีโดยได้ยึดแนว
พระราชดารขิ องพระบาทสมเดจ็ พระเจา้ อย่หู ัวทพี่ ระราชทานแนวคดิ ดา้ นการเกษตรทฤษฎีใหม่ ซ่ึงยึดหลัก
เศรษฐกจิ พอเพยี งคุณลุงทองเหมาะจงึ หนั หลงั ให้กับสารเคมี หนั มาทานาขา้ วอนิ ทรยี ์ใช้จุลนิ ทรีย์และ
สารชวี ภาพทดแทนขณะเดยี วกนั กค็ ิดคน้ หาวิธีการทานาใหไ้ ดผ้ ลผลิตมากขึ้นรวมทั้งพยายามท่ีจะคดิ ค้น
ดัดแปลงเครอื่ งจักรเคร่อื งมอื การเกษตรใหม้ คี วามเหมาะสมกับพ้ืนท่ี และในชว่ ง 1 ปผี ่านไปก็เหน็ ว่าแนวทาง
ทีท่ ามาถกู ทาง เพราะขา้ วท่ีปลูกไดผ้ ลดกี วา่ ท่ีคาดไว้ขณะเดยี วกันสุขภาพท่ีเคยมีปัญหากก็ ลบั มาแขง็ แรง
ดงั เดมิ “ตอนน้ีเตะปี๊บดงั ไกล 3 บา้ น”ลงุ ทองเหมาะพดู ไปยม้ิ ไป พรอ้ มกลับเลา่ วา่ เมื่อชาวบ้านละแวกนั้นเหน็
ก็เข้ามาถามว่าทาอยา่ งไร ลงุ ไดแ้ นะนาให้เขารู้และเขาก็นาไปปฏิบัติ จากน้นั ไดม้ กี ารเลา่ ต่อๆ กัน จึงมีคนเข้า
มาขอเรยี นรมู้ ากขึ้นและไดแ้ นะนาไปตามมตี ามเกิด จนตอนน้มี คี นมาขอเรยี นรู้งานมากกวา่ วนั ละ 100 ถึง
200 คน บางคนกม็ าเอง บางคนหนว่ ยงานราชการพามาโดยเฉพาะช่วงน้เี ปน็ ชว่ งที่คนตกงานมาจาก
ภาคอุตสาหกรรมก็มามากข้ึนบางวนั กม็ ากจนรบั ไม่ไหว แตไ่ ม่เปน็ ไร เพราะเขาเต็มใจมาเรียนรทู้ างรอดของ
เกษตรกรคอื เราตอ้ งทาอยา่ งไรใหต้ น้ ทนุ เรานอ้ ยท่ีสุดโดยเราตอ้ งไมใ่ ชส้ ารเคมแี ละตอ้ งพ่ึงพาตนเองให้ไดก้ ่อน
เม่ือเราลดต้นทุนของเราไดถ้ งึ แม้ราคาสนิ คา้ มันจะถูกเราก็ขายได้ อย่ไู ด้ แต่หากราคามนั สงู เรากไ็ ด้เงนิ มากข้นึ
อย่าไปคดิ มาก เพราะเราไมใ่ ช่ผูก้ าหนดราคา เมอื่ เรากาหนดราคาไมไ่ ดเ้ ราต้องลดตน้ ทนุ ให้เราอยไู่ ด้
เศรษฐกจิ พอเพียงคือส่งิ ที่ผมยดึ ถอื และปฏิบตั ิมาตลอดทาทุกอยา่ งทีล่ ดต้นทนุ น่นั คอื แนวคดิ ของลุงทอง
เหมาะ แจ่มแจ้งชาวนาจากเมอื งสุพรรณบุรี
ท่ีมา :www.dailynews.co.th/web/html/popup_news
สปั ดาห์ 11-12
โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรยี นที่ 2/.................... ชื่อผู้สอน.......................................................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 4 จานวน 2 คาบ
หน่วยการเรียนรูท้ ี่ 7 เรือ่ ง เงินในระบบเศรษฐกิจ
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวัด
มาตรฐานท่ี ส 3.2
เข้าใจระบบ และสถาบันทางเศรษฐกิจต่างๆ ความสัมพนั ธ์ทางเศรษฐกจิ และความจาเปน็ ของการร่วมมือกนั ทาง
เศรษฐกจิ ในสังคมโลก
ตัวชี้วัดท่ี ป 4/2
อธบิ ายหนา้ ท่เี บือ้ งต้นของเงนิ
2. สาระสาคัญ/ความคดิ รวบยอด
เงินเปน็ สง่ิ ทีม่ นษุ ยก์ าหนดขน้ึ มาใชเ้ ป็นสื่อกลางในการแลกเปลย่ี นสนิ ค้าและบรกิ าร หน้าที่ของเงิน คือ เปน็ ส่ือกลางใน
การแลกเปลี่ยน เป็นหน่วยวัดมลู คา่ เปน็ เครือ่ งรักษามูลค่า และเป็นมาตรฐานการชาระหน้ใี นอนาคต
3. จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
1) บอกความหมาย ความสาคญั ประเภท และหน้าท่ีเบอ้ื งตน้ ของเงินได้ (K)
2) สบื คน้ นาเสนอ และเผยแพร่ข้อมลู เกี่ยวกบั เงินในระบบเศรษฐกิจได้ (P)
3) เห็นคุณค่าและความสาคญั ของเงนิ ในระบบเศรษฐกิจ (A)
4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ท้องถิน่
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง พจิ ารณาตามหลกั สูตรของสถานศกึ ษา
เงนิ ในระบบเศรษฐกจิ
-ความหมายและความสาคัญของเงิน
-ประเภทของเงิน
-หน้าทเ่ี บื้องต้นของเงนิ
-สกุลเงนิ ทีส่ าคญั ทใ่ี ชใ้ นการซ้ือขาย
แลกเปลยี่ นระหว่างประเทศ
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 1
ข้นั นา
1. ครใู ห้นักเรียนดภู าพสกุลเงินของประเทศตา่ ง ๆ แลว้ สนทนาและซกั ถามนักเรียนในประเดน็
ตา่ ง ๆ เช่น
1) เป็นสกุลเงินประเทศใด
2) เงนิ มีความสาคญั อย่างไร
4. ครูสรุปความรู้แล้วเชอ่ื มโยงไปสเู่ น้อื หาทจ่ี ะเรยี น
ขัน้ สอน
2. ครใู หค้ วามรแู้ ก่นักเรียนเกี่ยวกบั เงนิ ในระบบเศรษฐกิจเรือ่ ง ความหมายและความสาคัญของเงนิ แลว้ สนทนา
และซกั ถามนกั เรยี นในประเดน็ ต่าง ๆ เช่น
1) เงินมีความสาคัญตอ่ เราอย่างไร
2) เหตใุ ดเราจงึ ตอ้ งใชเ้ งนิ เปน็ ส่ือกลางในการซื้อขายแลกเปล่ียนสินค้า
3. ครูซกั ถามนกั เรียนวา่ เงนิ ที่นักเรียนได้รบั เพ่อื นามาใช้จา่ ยที่โรงเรียนเปน็ เงินประเภทใด
4. ครูใหค้ วามรู้แก่นักเรียนเกยี่ วกับเงนิ ในระบบเศรษฐกิจเร่ือง หน้าทีเ่ บ้ืองต้นของเงนิ
5. ครูเขยี นขอ้ ความวา่ “เสอื้ ราคาตวั ละ 99 บาท” ลงบนกระดาน แลว้ ซกั ถามนักเรยี นว่า จากข้อความนีเ้ งินทา
หน้าทีใ่ ด
6. ครูกล่าวชมเชยนกั เรยี นที่ช่วยกันตอบคาถาม แลว้ รว่ มกันเฉลยคาตอบทถี่ ูกตอ้ ง
7. ครแู ละนักเรียนรว่ มกนั สรปุ ความร้เู กยี่ วกับเร่อื งท่ีเรยี น
8. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนสารวจอตั ราแลกเปล่ียนประจาวนั จากแหล่งการเรียนร้ตู ่าง ๆ เชน่ หนังสอื พมิ พ์
เวบ็ ไซตท์ ่เี กี่ยวข้องทางอินเทอร์เนต็ เปน็ การบา้ นเพ่อื เตรียมจัดการเรยี นรใู้ นคร้ังต่อไป
คาบที่ 2
ขั้นนา
1. ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนซักถามขอ้ สงสยั ต่าง ๆ จากเรื่องท่ีได้รับมอบหมายให้ไปอ่านมา โดยครตู อบข้อสงสัย
และอธบิ ายเพม่ิ เติม
ข้นั สอน
2. ครใู หค้ วามรแู้ ก่นักเรียนเก่ียวกบั เงนิ ในระบบเศรษฐกจิ เรอื่ ง สกลุ เงินที่สาคัญท่ีใชใ้ นการซ้อื ขายแลกเปลีย่ น
ระหว่างประเทศ
3. ครูใหน้ ักเรียนทาแบบฝกึ หัด หนา้ ที่ 187-188
4. ครูสมุ่ เลือกนักเรียน 2–3 คน ใหอ้ อกมานาเสนอผลงานของตน ครูกลา่ วชมเชยนักเรียนทอ่ี อกมานาเสนอผลงาน
หน้าชน้ั เรียน จากน้นั รว่ มกนั สรุปความรูเ้ กี่ยวกบั เรอื่ งท่เี รยี น
5. ครูอธบิ ายเพมิ่ เติมหรอื เสริมความร้วู า่ นอกจากการซื้อขายสนิ คา้ ระหว่างประเทศจะชว่ ยใหเ้ ศรษฐกิจของแต่ละ
ประเทศขยายตัวแล้ว อาเซียนยังมีความม่งุ ประสงคใ์ หป้ ระเทศสมาชกิ แต่ละประเทศเป็นตลาดและฐานการผลติ เดยี ว
คือ มกี ารเคลอื่ นย้ายอย่างเสรีของสนิ ค้า บริการ การลงทนุ เงินทนุ และแรงงานฝีมอื
ข้ันสรปุ
6. ครูและนกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรู้เร่อื ง เงินในระบบเศรษฐกจิ โดยใหน้ ักเรยี นบันทกึ ข้อสรุปลงในแบบบันทกึ
ความรู้ หรอื สรุปเป็นแผนผงั ความคิดหรอื ผังมโนทศั นล์ งในสมดุ พร้อมตกแต่งให้สวยงาม
6. การวัดและประเมินผล
การวดั และประเมินผล วธิ กี ารวดั ผล เครื่องมือวัด เกณฑ์การ
ประเมินผล
จุดประสงค์ 1.คาถามกระตุน้ 70% ข้ึนไป ถอื วา่
ความคดิ ผ่านเกณฑ์การ
ความรคู้ วามเข้าใจ (K) 1. ตอบคาถาม ประเมิน
1. แผนผงั ความคิด 70% ข้ึนไป ถือว่า
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1.ทาแผนผงั ความคดิ ผ่านเกณฑก์ าร
ประเมิน
คุณลักษณะนสิ ัย (A) 1. สังเกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสังเกต
รบั ผดิ ชอบต่องานทส่ี งั่ และส่งงาน พฤติกรรม 70% ขน้ึ ไป ถือวา่
ได้ทันตามท่ีกาหนด ผ่านเกณฑก์ าร
ประเมิน
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรยี นรู้
3. สังเกตจากการมุ่งมั่นในการ
ทางาน
7. สื่อ/แหลง่ การเรยี นรู้
7.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน สังคมศึกษา ป.4
2) ภาพสกุลเงินของประเทศต่าง ๆ
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) หอ้ งเรียน
8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
.....................................................................................................................................................................
ลงชอ่ื ............................................ครผู ู้สอน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงช่ือ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)
บัตรภาพ สกุลเงินของประเทศตา่ งๆ
เงนิ ไทย
เงนิ ดอลลาร์ เงินเยน
เงนิ ปอนด์ เงินยโู ร
สปั ดาห์ที่ 13-14
โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา
แผนการจัดการเรยี นรู้
ภาคเรยี นที่ 2/.................... ช่ือผูส้ อน.......................................................
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศกึ ษา ศาสนาและวัฒนธรรม ชนั้ ประถมศึกษาปที ่ี 4 จานวน 2 คาบ
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 8 เร่อื ง ลักษณะทางกายของจังหวัด
1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชวี้ ัด
มาตรฐานที่ ส 5.1-ส 5.2
เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพันธ์ของสรรพสิ่งซึ่งมีผล ตอ่ กันและกันในระบบของธรรมชาติ ใช้
แผนทแ่ี ละเคร่อื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ ในการค้นหาวิเคราะห์ สรปุ และใช้ขอ้ มูลภมู ิสารสนเทศอยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชว้ี ัดท่ี ป.4/1-ป.4/2
ระบุแหล่งทรพั ยากรและสงิ่ ตา่ ง ๆ ในจังหวัดของตนเองด้วยแผนที่
2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด
ลกั ษณะทางกายภาพในแต่ละจังหวดั มีความแตกต่างกนั ทงั้ ทางดา้ นลักษณะภมู ิประเทศ ภูมิอากาศ
และทรัพยากรธรรมชาติ ซง่ึ ทาให้การดาเนนิ ชวี ิตของคนในแตล่ ะจงั หวดั มีความแตกตา่ งกนั ไปด้วย
3. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) อธบิ ายและจาแนกลกั ษณะทางกายภาพของจังหวัดต่าง ๆ ได้ (K)
2. อธบิ ายอทิ ธิพลของลักษณะทางกายภาพที่มีตอ่ การดาเนินชีวติ ของคนในจงั หวดั ต่าง ๆ ได้ (K)
2) ค้นควา้ ขอ้ มูลเกย่ี วกบั ลกั ษณะทางกายภาพของจังหวัดตา่ ง ๆ ได้ (P)
3) ใฝ่เรียนรเู้ ร่อื ง ลกั ษณะทางกายภาพของจังหวัด (A)
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถน่ิ
1. จังหวดั ต่าง ๆ ในประเทศไทย พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศกึ ษา
2. ลักษณะทางกายภาพ
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบที่1
ขนั้ นา
1. ครูสนทนาซักถามความรู้ของนักเรียนเก่ียวกับจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทย
1) ประเทศไทยมที ัง้ หมดก่ีจงั หวัด
2) ภาคใดของประเทศไทยทมี่ ีจานวนจังหวดั มากทีส่ ดุ และภาคใดที่มจี านวนจงั หวดั น้อยทส่ี ุดได้แก่จังหวัด
อะไรบา้ ง
2. ครูสรุปคาตอบของนกั เรียนแล้วเช่ือมโยงไปสเู่ นอ้ื หาทีจ่ ะเรยี น
ข้นั สอน
3. ครนู าแผนทป่ี ระเทศไทยมาให้นักเรยี นศึกษาจังหวัดต่าง ๆ ในประเทศไทยจากแผนท่แี สดงอาณาเขตจงั หวดั ต่าง ๆ
ของประเทศไทย แล้วให้นกั เรียนชว่ ยกันแบง่ จังหวดั ตามภาคต่าง ๆ ของประเทศไทยให้ครบท้ัง 6 ภาค แลว้ ครูช่วย
ตรวจสอบให้ถกู ต้อง
4. ครูอธบิ ายเนอื้ หาเกย่ี วกับลักษณะภูมิประเทศ โดยใชส้ อ่ื การเรียนรูต้ า่ ง ๆ เช่น แผนที่ลกั ษณะภูมิประเทศของ
ประเทศไทย ภาพถา่ ยลกั ษณะภมู ิประเทศแบบต่าง ๆ ประกอบการอธิบาย
5. ครใู หน้ ักเรียนทาแบบฝึกหัดหน้าท่ี 253-254
ขั้นสรุป
6. ครมู อบหมายใหน้ ักเรยี นอ่านเน้ือหาเกย่ี วกับภูมอิ ากาศ เพอ่ื เตรยี มจัดการเรยี นรู้ในคร้งั ต่อไป
คาบท่ี 2
ขน้ั นา
1. ครูสนทนาซกั ถามความร้ขู องนกั เรยี นเกี่ยวกบั ภมู อิ ากาศท่ไี ด้รับมอบหมายใหไ้ ปอา่ นมาในประเด็นตา่ ง ๆ เช่น
1) ภูมอิ ากาศคอื อะไร
2) ปัจจยั ใดบ้างท่มี อี ิทธพิ ลตอ่ ภูมิอากาศ
ขั้นสอน
2. ครูเฉลยคาตอบและอธิบายเพิ่มเตมิ เนื้อหาเกยี่ วกับภูมิอากาศ โดยใช้สอ่ื การเรียนรู้ต่าง ๆ เช่น
ภาพแสดงทศิ ทางของลมประจาท่ีพัดผา่ นเขา้ มาในประเทศไทย ประกอบการอธิบาย
3. ครสู นทนาซักถามความรู้ของนักเรียนเก่ียวกับทรพั ยากรธรรมชาติทีไ่ ดร้ ับมอบหมายใหไ้ ปอ่านมาในประเด็นต่าง ๆและ
อธบิ ายเพ่มิ เติมเนอ้ื หาเกี่ยวกับทรพั ยากรธรรมชาติ
1) ทรัพยากรธรรมชาติคืออะไร
2) ทรพั ยากรธรรมชาตทิ ส่ี าคัญได้แก่อะไรบา้ ง
4. ครยู กตัวอย่างลักษณะทางกายภาพของจังหวัดภูเกต็
5. ครเู ปดิ โอกาสใหน้ กั เรียนทส่ี ามารถซักถามขอ้ สงสัยได้
6. ครูสรปุ ให้นักเรียนฟังวา่ “ลกั ษณะทางกายภาพมีอทิ ธพิ ลต่อการดาเนินชีวติ ของคนในแต่ละพื้นที่”
ขนั้ สรุป
7. ครูและนกั เรยี นชว่ ยกันสรุปลักษณะทางกายภาพของประเทศไทยเปน็ แผนผงั ความคิด
8. ครมู อบหมายใหน้ ักเรียนอ่านเนือ้ หา เรอ่ื ง ส่งิ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาติของจงั หวัด เรือ่ ง การเปล่ียนแปลงของ
สง่ิ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาติ เพ่ือเตรียมจัดการเรียนรใู้ นครัง้ ต่อไปของนกั เรียน
6. การวดั และประเมินผล วิธกี ารวดั ผล เครื่องมือวัด เกณฑก์ าร
1. ตอบคาถาม ประเมินผล
การวดั และประเมนิ ผล 1.คาถามกระต้นุ
จุดประสงค์ ความคดิ 70% ขึ้นไป ถือว่า
ผ่านเกณฑก์ าร
ความรูค้ วามเข้าใจ (K) 1. แบบฝึกหัด ประเมิน
2. แผนผังความคิด
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1. ทาแบบฝกึ หัด 70% ขึ้นไป ถือว่า
2. แผนผงั ความคิด ผ่านเกณฑก์ าร
ประเมิน
คุณลักษณะนสิ ยั (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต 70% ขน้ึ ไป ถอื วา่
รบั ผดิ ชอบตอ่ งานที่สั่งและสง่ งาน พฤติกรรม ผ่านเกณฑก์ าร
ได้ทนั ตามทีก่ าหนด ประเมิน
2. สังเกตจากการเรียนใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการมุ่งมัน่ ในการ
ทางาน
7. สื่อ/แหล่งการเรยี นรู้
7.1 สื่อการเรียนรู้
1) หนังสอื เรียน สงั คมศกึ ษา ป.4
2) แผนทป่ี ระเทศไทย
7.2 แหลง่ การเรยี นรู้
1) ห้องเรียน
8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชือ่ ............................................ครูผู้สอน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผบู้ รหิ าร
(...........................................................)
สัปดาห์ท่ี 15-16
โรงเรียนขจรเกียรตพิ ัฒนา
แผนการจัดการเรยี นรู้
ภาคเรียนที่ 2/.................... ช่ือผสู้ อน.......................................................
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ สังคมศกึ ษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชัน้ ประถมศกึ ษาปที ่ี 4 จานวน 2 คาบ
หน่วยการเรียนรูท้ ่ี 6 เร่อื ง การใชแ้ ผนท่แี ละรปู ถ่ายเพ่ือการ
เรยี นร้พู ื้นท่ีจังหวัด
1. มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ดั
มาตรฐานท่ี ส 5.1
เข้าใจลกั ษณะของโลกทางกายภาพ และความสัมพนั ธข์ องสรรพสง่ิ ซงึ่ มีผล ตอ่ กนั และกันในระบบของธรรมชาติ
ใชแ้ ผนท่ีและเครอ่ื งมอื ทางภมู ศิ าสตร์ ในการคน้ หาวเิ คราะห์ สรุป และใช้ขอ้ มลู ภูมิสารสนเทศอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
ตวั ชว้ี ัดที่ ป 4/2
สบื คน้ และอธิบายขอ้ มูลลักษณะทางกายภาพในจังหวัดของตน ดว้ ยแผนท่แี ละรปู ถา่ ย
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
ลกั ษณะทางกายภาพและทรัพยากรธรรมชาตขิ องจงั หวดั สามารถศกึ ษาขอ้ มูลเบอ้ื งต้นได้จากแผนท่ีแสดงลักษณะภูมิ
ประเทศ
3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1) บอกความสาคัญและประโยชน์แผนท่ี รปู ถ่ายทางอากาศ ภาพถ่ายจากดาวเทยี มได้ (K)
2) สามารถใชแ้ ผนท่ีและรูปถา่ ยได้ถูกตอ้ ง (P)
3) ผู้เรียนมีความใฝร่ ู้ ใฝเ่ รยี นมงุ่ มัน่ ในการทางาน (A)
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรู้แกนกลาง สาระการเรยี นร้ทู ้องถิ่น
การใช้แผนทแี่ ละรูปถา่ ยเพ่ือการ พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
เรียนร้พู ้นื ทีจ่ ังหวดั
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
คาบท่ี 1
ขัน้ นา
1. ครนู านักเรียนสนทนาเรมิ่ ต้นดว้ ยการตั้งคาถามกระตุน้ ความคิด เชน่ ถ้านักเรียนตอ้ งการเดินทางไปท่องเทย่ี ว
นักเรยี นต้องเตรยี มอะไรไปบ้าง ครกู ระตุ้นให้นักเรยี นชว่ ยกันตอบคาถามใหม้ ากท่ีสุด ซึ่งคาตอบของนักเรยี นจะมหี ลากหลาย
ครูสรปุ คาตอบของนกั เรียน แลว้ อธบิ ายใหน้ ักเรียนเขา้ ใจว่า ในการเดนิ ทางทอ่ งเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆ ที่เราไม่เคยไป และ
อยากท่ีจะท่องเท่ยี วให้ รู้จักสถานทนี่ ั้นให้มากท่ีสดุ สิ่งทตี่ อ้ งเตรียมไป คือ แผนที่ ครยู กตวั อยา่ นกั ทอ่ งเทย่ี วจาก ต่างประเทศ
ที่เดินทางมาท่องเที่ยวในประเทศไทย จะต้องมแี ผนทตี่ ิดตวั อยู่ตลอดเวลา
ขน้ั สอน
2.ครถู ามนกั เรียนเกยี่ วกบั ความสาคัญของแผนที่ โดยใหน้ กั เรยี นช่วยกนั ระดมสมองวา่ แผนท่ี มีความสาคญั อย่างไร
บ้าง ครูและนักเรยี นสรุปความสาคญั ของแผนที่
3. ครนู าแผนทปี่ ระเภทต่างๆ มาให้นกั เรยี นดู ให้ฝกึ การอา่ นและแปลความหมายจากแผนที่ และออกมาช้ีตาแหนง่
ตา่ งๆ บนแผนท่ี
ขั้นสรุป
4. นกั เรียนทาแบบฝกึ หัดหนา้ ที่ 268-269
คาบท่ี 2
ขน้ั นา
1. ครูนารปู ถา่ ยทางอากาศ และภาพถ่ายจากดาวเทยี มมาให้นักเรียนดู แลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั บอกว่า รูปถ่ายทาง
อากาศ และภาพถ่ายจากดาวเทยี มคอื อะไร มีไวเ้ พ่ืออะไร โดยให้นักเรียนทกุ คนมีส่วนรว่ มในการแสดงความคิดเหน็
ขั้นสอน
2. ครูอธบิ ายความสาคญั ของรูปถา่ ยทางอากาศ และภาพถ่ายจากดาวเทียม
3. ครสู าธิตการใช้การใช้รปู ถา่ ยทางอากาศ และภาพถา่ ยจากดาวเทียม และให้นักเรียนออกมาฝกึ ใช้
ขั้นสรุป
4. นกั เรียนทาแบบฝึกหัดหนา้ ที่ 270-272
6. การวดั และประเมนิ ผล
การวัดและประเมินผล วธิ ีการวดั ผล เครื่องมือวัด เกณฑก์ าร
จุดประสงค์ 1.คาถามกระตุ้นความคิด ประเมนิ ผล
ความรู้ความเข้าใจ (K) 1. ตอบคาถาม 1. แบบฝึกหัด 70% ขึน้ ไป ถอื วา่
ผ่านเกณฑ์การ
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1.ทาแบบฝึกหดั ประเมิน
70% ขนึ้ ไป ถอื วา่
ผ่านเกณฑก์ าร
ประเมิน
คณุ ลักษณะนิสัย (A) 1. สงั เกตจากการเรียนมีความ 1. แบบสงั เกต 70% ขึ้นไป ถอื ว่า
รบั ผดิ ชอบต่องานท่สี ง่ั และสง่ พฤติกรรม ผ่านเกณฑก์ าร
งานไดท้ ันตามทกี่ าหนด ประเมิน
2. สังเกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้
3. สงั เกตจากการม่งุ มั่นในการ
ทางาน
7. สือ่ /แหล่งการเรียนรู้
7.1 ส่ือการเรยี นรู้
1) หนังสอื เรยี น สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.4
2) แผนท่ี รูปถา่ ยทางอากาศ และภาพถ่ายจากดาวเทยี ม
7.2 แหล่งการเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
8. กจิ กรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงชื่อ............................................ครูผ้สู อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงช่ือ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)
สปั ดาห์ท่ี 17-18
โรงเรียนขจรเกียรติพัฒนา
แผนการจดั การเรยี นรู้
ภาคเรยี นท่ี 2/………… ชอ่ื ผสู้ อน………………………………………………..
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ สงั คมศึกษา ศาสนาและวฒั นธรรม ชน้ั ประถมศึกษาปที ่ี 4 จานวน 2 คาบ
หนว่ ยการเรียนร้ทู ่ี 9 เรื่อง การเปลี่ยนแปลงของสงิ่ แวดลอ้ ม
1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ัด
มาตรฐานท่ี ส 5.2
เขา้ ใจปฏสิ มั พันธ์ระหวา่ งมนุษยก์ ับสภาพแวดล้อมทางกายภาพทกี่ อ่ ให้เกิดการสร้างสรรคว์ ัฒนธรรมมจี ติ สานกึ และมี
สว่ นรว่ มในการอนรุ กั ษ์ ทรพั ยากร และสงิ่ แวดล้อม เพือ่ การพัฒนาท่ยี ่งั ยนื
ตวั ชี้วัดที่ ป 4/2
อธบิ ายการเปล่ียนแปลงสภาพแวดลอ้ มในจังหวดั และผลทีเ่ กิดจากการเปลี่ยนแปลงน้ัน
2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด
การเปลีย่ นแปลงของส่ิงแวดล้อมและทรพั ยากรธรรมชาติในจังหวัดเกดิ ขึ้นจากหลายสาเหตทุ ่ีสาคญั ไดแ้ ก่ การเพิ่มขน้ึ
ของจานวนประชากร การกระจายตวั ของประชากร คณุ ภาพของประชากร การเรง่ พัฒนาเศรษฐกจิ ความเจริญก้าวหนา้
ทางด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และการกอ่ สร้างตา่ ง ๆ เพ่ิมข้ึน ผลของการเปลีย่ นแปลงดังกลา่ วล้วนสง่ ผลกระทบตอ่
คนเรา ตลอดจนสิง่ ทม่ี ชี ีวิตตา่ ง ๆ ในจังหวดั
3. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายสาเหตกุ ารเปลย่ี นแปลงของสง่ิ แวดล้อมและทรัพยากรธรรมชาตใิ นจงั หวัด (K)
2. ระบุผลกระทบทเี่ กิดขนึ้ จากการเปล่ียนแปลงของสิ่งแวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรมชาตใิ นจังหวดั ได้ (K)
3. สารวจการเปล่ยี นแปลงของสิง่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติในชมุ ชนของตนเอง (P)
4. เห็นคุณคา่ และความสาคญั ของสิง่ แวดลอ้ มและทรัพยากรธรรมชาติ (A)
4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง สาระการเรยี นรทู้ ้องถ่นิ
การเปลีย่ นแปลงของสิง่ แวดลอ้ มและทรพั ยากรธรรม พิจารณาตามหลักสูตรของสถานศึกษา
ชาตใิ นจังหวดั
-สาเหตกุ ารเปล่ียนแปลงส่งิ แวดล้อมและ
ทรัพยากรธรรมชาติ
-ผลกระทบท่ีเกดิ จากการเปลี่ยนแปลงส่งิ แวดล้อม
ทางธรรมชาติ
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
คาบที่ 1
ขั้นนา
1. ครนู าภาพการเปลยี่ นแปลงสภาพแวดล้อมมาให้นักเรยี นดู แล้วใหน้ ักเรียนชว่ ยกนั บอกวา่ การเปลยี่ นแปลงดงั กลา่ ว
เกดิ จากสาเหตุใดบ้างและมีผลต่อการดาเนินชวี ติ ของคนในชุมชนหรอื จงั หวดั น้ันอยา่ งไร
ขั้นสอน
2. ครสู นทนากบั นกั เรยี นว่าในจังหวดั ทน่ี ักเรยี นอย่มู ีการเปลีย่ นแปลงใดบ้างทนี่ ักเรยี นเห็นได้อยา่ งชดั เจน
แลว้ ขออาสาสมัครนักเรยี น1 คน ออกมาเล่าให้เพื่อนๆ ฟังหน้าช้ันเรยี น จากนนั้ ครูและเพอื่ นคนอน่ื ช่วยกันวิเคราะหว์ า่
การเปล่ยี นแปลงของสภาพแวดล้อมทเี่ กิดขึน้ สว่ นใหญ่น้ันมาจากสาเหตุใด
3. ครูอธบิ ายถงึ ผลกระทบจากการเปลยี่ นแปลงของสิง่ แวดลอ้ ม
4. ครใู ห้นกั เรียนทาแบบฝึกหัด หน้าที่ 275-277
ขั้นสรปุ
5. ครูและนกั เรยี นร่วมกันสรุปเน้อื หาทีไ่ ด้เรียนไป
คาบที่ 2
ขั้นนา
1. ครูนาภาพภูเกต็ ในอดตี และในตอนปจั จุบนั มาใหน้ ักเรียนดู แลว้ ให้นักเรียนร่วมกันวิเคราะห์วา่ มีการเปล่ียนแปลงไป
อย่างไรบา้ ง
ขัน้ สอน
2. ครูใหน้ กั เรียนดูวีดโี อเกีย่ วกบั สภาพแวดลอ้ มของภเู ก็ตในอดตี
3. ครูและนกั เรยี นรว่ มกนั อภปิ รายถงึ การเปล่ียนแปลงทางด้านสิ่งแวดลอ้ มของภูเก็ต
ขน้ั สรุป
4. ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรุปเนอ้ื หาทไี่ ด้เรียนไป
5. นกั เรยี นทาใบงาน
6. การวัดและประเมินผล
การวัดและประเมินผล วิธกี ารวดั ผล เคร่อื งมอื วัด เกณฑก์ าร
จดุ ประสงค์ 1.คาถามกระตุ้นความคิด ประเมินผล
ความร้คู วามเข้าใจ (K) 1. ตอบคาถาม 1. ใบงาน 70% ข้นึ ไป ถือว่า
ผ่านเกณฑ์การ
ทกั ษะ/กระบวนการ (P) 1.ทาใบงาน ประเมิน
70% ข้นึ ไป ถอื ว่า
ผา่ นเกณฑก์ าร
ประเมนิ
คณุ ลกั ษณะนิสยั (A) 1. สังเกตจากการเรยี นมีความ 1. แบบสังเกต 70% ขึ้นไป ถอื ว่า
รับผดิ ชอบตอ่ งานท่ีส่งั และสง่ พฤตกิ รรม ผ่านเกณฑ์การ
ประเมนิ
งานได้ทนั ตามท่ีกาหนด
2. สงั เกตจากการเรยี นใฝ่เรียนรู้
3. สังเกตจากการมุง่ มั่นในการ
ทางาน
7. ส่อื /แหลง่ การเรียนรู้
7.1 ส่ือการเรียนรู้
1) หนงั สือเรยี น สงั คมศกึ ษา ศาสนา และวฒั นธรรม ป.4
2) บตั รภาพ การเปลยี่ นแปลงสภาพแวดลอ้ ม
7.3 แหลง่ การเรียนรู้
1) ห้องเรยี น
2) หอ้ งสมารท์ คลาส
8. กิจกรรมเสนอแนะ
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................
ลงช่ือ............................................ครูผสู้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)
ลงชื่อ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)