The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาภาษาไทย ป.5 เทอม 1-63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จิรพงศ์ ไมตรีจิตร, 2020-06-10 11:19:12

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาภาษาไทย ป.5 เทอม 1-63 ปก-ผสาน

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาภาษาไทย ป.5 เทอม 1-63

8. กิจกรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ .............................................ครผู ู้สอน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชอ่ื ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 14

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท.่ี .…1…../.…2563... ชอ่ื ผสู้ อน ……………………………………………………..
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที …ี่ …5..... จํานวน……5….คาบ
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ ..……6…..… เรอ่ื ง......................จากคลองสู่ห้องแอร์.................

1. มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวช้ีวัด

มาตรฐานที่ ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคิดเพือ่ นําไปใชต้ ดั สินใจ แก้ปญั หาในการดาํ เนนิ ชีวติ และมี
นิสัยรกั การอา่ น

ตัวชี้วดั ที่ ป 5/4 แยกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จากเร่อื งท่ีอ่าน
ตัวชวี้ ัดที่ ป 5/5 วิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเกี่ยวกบั เรือ่ งทอ่ี า่ นเพ่ือนําไปใช้ในการดําเนินชวี ติ
ตวั ช้วี ัดท่ี ป 5/8 มีมารยาทในการอา่ น
มาตรฐานท่ี ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนสือ่ สาร เขียนเรยี งความ ยอ่ ความ และเขียนเร่อื งราวในรปู แบบตา่ งๆ เขียน
รายงานขอ้ มลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นควา้ อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ตัวชี้วัดท่ี ป 5/4 เขียนย่อความจากเร่ืองทีอ่ า่ น
ตวั ชว้ี ดั ท่ี ป 5/9 มีมารยาทในการเขยี น
มาตรฐานที่ ท 4.1 เข้าใจธรรมชาติของภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและ พลังของภาษา ภูมิ
ปญั ญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ
ตวั ช้ีวดั ที่ ป 5/1 ระบุชนดิ และหนา้ ทข่ี องคาํ ในประโยค

2. สาระสาํ คญั /ความคดิ รวบยอด

การอ่านจับใจความสําคัญ คือ การอ่านเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสําคัญหลักของข้อความ หรือเรื่องท่ีอ่าน
การอ่านจบั ใจความสําคญั ถอื เปน็ ทักษะสําคญั ทใ่ี ช้ในการอ่านเพ่ือการส่ือสารมากทีส่ ุด เพราะเปน็

การเขียนย่อความ เป็นการเขียนสรุปเร่ืองใจความสําคัญของเรื่องท่ีนํามาเรียบเรียงใหม่ให้ส้ันกระชับ ต่อเนื่องและ
คงสาระเดมิ อยา่ งครบถว้ นโดยเขียนเป็นสาํ นวนของตนเองทําใหเ้ ข้าใจง่าย

คําวิเศษณ์ เป็นคําท่ีขยายคําหรือข้อความให้ชัดเจนมากยิ่งข้ึน แบ่งออกเป็น ลักษณะวิเศษณ์ กาลวิเศษณ์ สถานวิเศษณ์
ประมาณวิเศษณ์ นิยมวิเศษณ์ อนิยมวิเศษณ์ ปฤจฉาวิเศษณ์ ประติชญาวิเศษณ์ การเลือกใช้ที่เหมาะจะช่วยให้ประโยคมีใจความ
สมบรู ณ์

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ

1. และเขา้ ใจเรื่องการอา่ นจับใจความสําคญั ได้ (K)
2. อธบิ ายรูปแบบการเขยี นย่อโอวาท (K)
3. สรปุ ลักษณะและหน้าทีข่ องคาํ วิเศษณ์ (K)
4. อา่ นบทความไดถ้ ูกตอ้ งตามอักขรวิธี (P)
5. เขยี นยอ่ โอวาท (P)
6. ใช้คําวเิ ศษณใ์ นการสนทนา (P)
7. กระตอื รือร้นและมสี ว่ นรว่ มกับการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ (A)
8. เห็นความสําคญั ของการใชค้ ําวเิ ศษณใ์ นการส่อื สาร (A)

4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. และเข้าใจเรือ่ งการอ่านจับใจความสําคญั ได้
2. อธบิ ายรูปแบบการเขยี นย่อโอวาทได้
3. สรุปลกั ษณะและหนา้ ทีข่ องคําวิเศษณ์ได้

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน
สาระสาํ คญั
คาบท่ี
การอ่านจับใจความสําคัญ คือ การอ่านเพ่ือจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสําคัญ
คาบท่ี 1 หลกั ของขอ้ ความ หรอื เร่อื งทอ่ี ่านการอ่านจับใจความสาํ คัญ ถือเป็นทักษะสําคัญที่ใช้ในการอ่าน
เพ่ือการสอื่ สารมากทสี่ ดุ เพราะเปน็
การอ่าน ขนั้ ที่ 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มลู
จับใจความสาํ คญั
1. นกั เรียนทบทวนเก่ียวกบั การอา่ นสรุปใจความ โดยใชค้ ําถามดงั ต่อไปน้ี
- การอ่านสรุปใจความคอื อะไร
- นักเรียนใชท้ ักษะอะไรบา้ งในการอา่ นสรุปใจความ

2. นักเรยี นเขา้ กลุม่ อ่านบทความเกี่ยวกับวันแมท่ ่ีครูเตรยี มมาให้ แลว้ รว่ มสนทนาโดย
ครใู ช้คําถามดงั น้ี

- บทความท่ีนักเรียนอ่านเก่ียวขอ้ งกับอะไร
ขนั้ ที่ 2 ขน้ั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ

3. นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มร่วมกันวเิ คราะห์ใจความสําคัญของวนั แม่
4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มคดิ ประเมินเพอ่ื เพ่ิมคณุ ค่าโดยครูใชค้ ําถามดงั ต่อไปน้ี

- นกั เรียนสามารถนาํ ความรู้ท่ไี ดร้ ับไปใช้ในชวี ติ ประจาํ วันได้อยา่ งไร
ขนั้ ท่ี 3 ขน้ั ปฏบิ ตั ิและสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ัติ

5. นักเรยี นเขา้ กลมุ่ ทํากิจกรรมการต้ังคําถามและตอบคาํ ถามจากเรอ่ื งทอ่ี ่าน
กลุ่มละ 5 ขอ้ กติกาในการตงั้ คําถาม คุณครูแบง่ จํานวนหน้าท่แี ตล่ ะกลมุ่ จะต้องรับผดิ ชอบใน
การตง้ั คาํ ถาม เพือ่ ป้องกันไม่ใหก้ ารตั้งคําถามของแต่ละกลุ่มไมใ่ ห้ซ้ํากนั

6. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ข้อคิดทีไ่ ด้จากการอา่ น
ขนั้ ท่ี 4 ขน้ั สอื่ สารและนาํ เสนอ

7. นักเรียนแต่ละกลุ่มนําเสนอคําถามหน้าช้ันเรียน แล้วให้เพอ่ื นตอบคําถาม
ขนั้ ท่ี 5 ขน้ั ประเมนิ เพื่อเพมิ่ คุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ

8. นักเรยี นร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คําถามดงั นี้
- นักเรียนสามารถนําความรู้เก่ยี วกับเร่อื งทีเ่ รยี นไปใช้ประโยชน์ในสังคมไดอ้ ย่างไร

คาบที่ 2-3 สาระสาํ คญั
การเขยี นยอ่ โอวาท การเขียนย่อความเป็นการเขียนสรุปเร่ืองใจความสําคัญของเร่ืองท่ีนํามาเรียบเรียง

ใหม่ให้สน้ั กระชบั ต่อเนื่องและคงสาระเดิมอย่างครบถ้วนโดยเขียนเป็นสํานวนของตนเองทําให้
เขา้ ใจง่าย
ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มลู

1. นกั เรยี นอ่านตัวอยา่ งโอวาท แลว้ ร่วมสนทนาโยงเข้าสู่บทเรียน โดยครใู ชค้ ําถามดงั น้ี
- อา่ นเขียนที่นักเรียนอา่ นคอื อะไร
- งานเขียนประเภทโอวาทมคี วามสําคัญอย่างไร

2. นกั เรยี นศึกษาความรู้เรอื่ ง การยอ่ โอวาทแลว้ ร่วมกันสนทนาโดยครใู ช้คําถามดงั น้ี
- ในการยอ่ โอวาทนกั เรียนตอ้ งคาํ นึงถึงเรือ่ งอะไรมากท่ีสดุ
- นักเรยี นควรระมัดระวงั เกย่ี วกบั อะไรในการย่อโอวาท

ครอู ธบิ ายเพ่ิมเติมถึงหลกั การย่อความดงั น้ี
หลักการย่อความ
1. อา่ นเรอ่ื งที่จะยอ่ ให้เข้าใจ
2. จบั ใจความสาํ คัญหรอื สาระสําคัญของเรือ่ ง
3. ใช้สาํ นวนภาษาง่าย ๆ ของผยู้ อ่ เองโดยไมเ่ ปลย่ี นแปลงเรื่องเดิม
4. เปลย่ี นสรรพนามบุรษุ ท่ี 1 หรือสรรพนามบุรษุ ที่ 2 เป็นสรรพนามบรุ ษุ ท่ี 3

ขน้ั ท่ี 2 ขนั้ คดิ วิเคราะห์และสรปุ ความ
3. นกั เรียนศกึ ษาตวั อยา่ งการย่อโอวาทแล้วร่วมกนั วเิ คราะห์ โดยครถู ามคําถามดังนี้
- การย่อโอวาทมีความสําคญั อยา่ งไร
4. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มคดิ ประเมนิ เพ่ือเพ่ิมคุณค่าโดยครใู ช้คําถามดังต่อไปน้ี
- นักเรียนสามารถนําเร่อื งที่เรยี นไปใช้ประโยชนใ์ นชีวติ ประจําวนั ได้อยา่ งไร

ขน้ั ท่ี 3 ขนั้ ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบตั ิ
5. นกั เรยี นทาํ กิจกรรมการเขียนยอ่ โอวาท ตามรูปแบบที่เรียน
6. นกั เรยี นร่วมกนั สรปุ ความสําคญั ของการยอ่ โอวาท ครูอธิบายเพ่มิ เตมิ เกย่ี วกบั

องค์ประกอบของการยอ่ โอวาท
ขน้ั ที่ 4 ขนั้ สอื่ สารและนาํ เสนอ

7. นักเรียนแต่ละคนนาํ เสนอผลงานหนา้ ชน้ั เรยี น เพ่อื นในหอ้ งเรียนร่วมกนั แสดงความ
คิดเหน็
ขน้ั ที่ 5 ขนั้ ประเมนิ เพอื่ เพม่ิ คณุ คา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ

8. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ช้คําถามดงั นี้
-นกั เรยี นสามารถนําความรู้เกีย่ วกับเร่ืองทีเ่ รยี นไปใช้ประโยชน์ในสังคมได้อย่างไร

คาบที่ 4-5 สาระสาํ คญั
คาํ วเิ ศษณ์ คําวิเศษณ์ เป็นคําท่ีขยายคําหรือข้อความให้ชัดเจนมากยิ่งข้ึน แบ่งออกเป็น

ลกั ษณะวเิ ศษณ์ กาลวเิ ศษณ์ สถานวิเศษณ์ ประมาณวเิ ศษณ์ นยิ มวเิ ศษณ์ อนิยมวิเศษณ์ ปฤจฉา
วิเศษณ์ ประติชญาวเิ ศษณ์ การเลือกใชท้ เี่ หมาะจะชว่ ยให้ประโยคมใี จความสมบูรณ์
ขนั้ ที่ 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มลู

1. นกั เรียนอา่ นแถบประโยคต่อไปนี้ - แมวสีขาวกินปลายา่ ง
- สุนขั ขนปกุ ปุยวงิ่
- ดาวกินข้าวทุกวนั

แล้วรว่ มสนทนาโยงเข้าสู่บทเรยี น โดยครใู ช้คาํ ถามดงั นี้
- คําที่ขีดเสน้ ใต้เรยี กว่าคําอะไร

2. นักเรยี นศกึ ษาเรอื่ งคาํ วเิ ศษณ์ แลว้ รว่ มสนทนาโดยครูใช้คาํ ถามดงั นี้
- คําวเิ ศษณห์ มายถงึ อะไร
- คําวเิ ศษณม์ ีประโยชน์อย่างไร

- คําวิเศษณ์มีลักษณะอย่างไรและใชท้ ําอะไร
3. นกั เรยี นบอกชนดิ ของคาํ วิเศษณ์ โดยครูตดิ แถบประโยคบนกระดานดําแลว้ ให้
นักเรยี นบอกวา่ คําวิเศษณ์ในประโยค เปน็ คาํ วิเศษณช์ นดิ ใด
ขนั้ ท่ี 2 ขน้ั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ
4. นกั เรยี นร่วมกนั วิเคราะห์ประโยค และบอกว่าคาํ ไหนเป็นคําวิเศษณ์ และเปน็ คาํ
วเิ ศษณช์ นดิ ใด

ดาวนัง่ อ่านหนังสือเรยี นทกุ วนั

คําวิเศษณ์ คอื ทุกวัน ซ่ึงขยายกรยิ า
5. นักเรียนคดิ ประเมนิ เพ่มิ คณุ ค่า โดยครถู ามคําถามดังตอ่ ไปน้ี

- นกั เรียนสามารถนาํ เร่ืองคาํ วิเศษณไ์ ปใชใ้ นชวี ิตประจําวนั ไดอ้ ยา่ งไร
ขน้ั ท่ี 3 ขนั้ ปฏบิ ตั ิและสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ัติ

6. แบง่ นกั เรยี นออกเปน็ กลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ อ่านนิทานตามความสนใจของสมาชกิ ใน
กลมุ่ แลว้ เขียนตารางแยกคําวิเศษณท์ ่ีปรากฏในนิทานใหถ้ กู ตอ้ ง

7. นกั เรยี นเล่นเกมนาํ คําไปเรยี บเรียงประโยคได้ถูกตอ้ งตามหลักการใช้ภาษาไทย
แลว้ ใหท้ ุกคนชว่ ยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

8. นักเรียนชว่ ยกนั สรุปเรื่องคาํ วิเศษณ์ ดังน้ี
คําวิเศษณ์ เป็นคําที่ขยายคําหรือข้อความให้ชัดเจนมากย่ิงข้ึน แบ่งออกเป็น

ลักษณะวิเศษณ์ กาลวิเศษณ์ สถานวิเศษณ์ ประมาณวเิ ศษณ์ นยิ มวเิ ศษณ์ อนิยมวิเศษณ์ ปฤจฉา
วิเศษณ์ ประติชญาวเิ ศษณ์ การเลอื กใชท้ เ่ี หมาะจะชว่ ยใหป้ ระโยคมใี จความสมบูรณ์

9. นักเรียนทําแบบฝกึ หดั เรอื่ งคาํ วเิ ศษณ์
ขน้ั ท่ี 4 ขนั้ สอ่ื สารและนาํ เสนอ

10. นักเรียนนาํ เสนอคําวเิ ศษณ์ โดยครใู ช้ไม้เรยี กเลขท่ีเพื่อใหน้ ักเรียนยกตวั อยา่ งคาํ
วเิ ศษณท์ ีละคนพรอ้ มแตง่ ประโยค
ขน้ั ท่ี 5 ขนั้ ประเมนิ เพอื่ เพม่ิ คุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ

11. นักเรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คําถามดงั น้ี
- นกั เรียนสามารถนําความรูเ้ กีย่ วกบั เร่ืองท่ีเรยี นไปใช้ประโยชน์ในสงั คมได้อย่างไร

6. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

การประเมนิ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื

ด้านความรู้ (K) - การตอบคําถาม - คาํ ถาม
- ทําแบบฝึกหัด - แบบฝกึ หัด
- แบบประเมนิ การอา่ น
ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) - ทักษะการอา่ น - แบบประเมินการเขียน
- ทกั ษะการเขียน - แบบฝกึ หัด
- คําถาม
- ทักษะการคิดวิเคราะห์ - แบบสังเกตพฤติกรรม

ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ - สงั เกตพฤติกรรมในการร่วม

ค่านิยม (A) กจิ กรรม การทาํ งานกลุม่

7. สอ่ื /อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้ 2. หนงั สอื ภาษาไทยช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5

1. แบบฝกึ หัด 4. คาํ ถาม 5. บัตรคาํ คําวเิ ศษณ์
3. ไมเ้ รียกเลขที่

8. กิจกรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงช่ือ.............................................ครผู สู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 15

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท.่ี .…1…../.…2563... ชอื่ ผสู้ อน ……………………………………………………..
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที …ี่ …5..... จํานวน……5….คาบ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี ..……7…..… เรอ่ื ง.................ด่ังหยาดทิพย์ชโลมใจ....................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชว้ี ดั

มาตรฐานท่ี ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคดิ เพื่อนําไปใชต้ ดั สนิ ใจ แก้ปัญหาในการดาํ เนินชวี ิต
และมีนสิ ยั รกั การอา่ น

ตวั ชว้ี ดั ท่ี ป 5/1 อา่ นออกเสียงบทรอ้ ยแก้วและบทร้อยกรองได้ถูกตอ้ ง
ตวั ชว้ี ัดที่ ป 5/2 อธบิ ายความหมายของคาํ ประโยคและข้อความที่เป็นการบรรยายและการพรรณนา
ตวั ชี้วัดที่ ป 5/3 อธบิ ายความหมายโดยในจากเรือ่ งที่อา่ นอยา่ งหลากหลาย
ตัวช้วี ดั ท่ี ป 5/4 แยกข้อเท็จจรงิ และข้อคดิ เห็นจากเร่อื งทอี่ ่าน
ตวั ชี้วดั ท่ี ป 5/5 วิเคราะหแ์ ละแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั เรอื่ งท่ีอ่านเพื่อนําไปใช้ในการดําเนนิ ชีวิต
ตวั ชีว้ ัดที่ ป 5/8 มมี ารยาทในการอา่ น
มาตรฐานท่ี ท 2.1 ใช้กระบวนการเขียนเขียนส่ือสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรือ่ งราวในรูปแบบต่าง ๆ
เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศกึ ษาคน้ คว้าอย่างมีประสทิ ธภิ าพ
ตวั ชีว้ ดั ท่ี ป 5/2 เขยี นส่ือสารโดยใช้คาํ ได้ถูกตอ้ งชัดเจนและเหมาะสม
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป 5/4 เขียนย่อความจากเร่อื งทอี่ า่ น
ตวั ช้ีวัดท่ี ป 5/9 มมี ารยาทในการเขยี น
มาตรฐานที่ ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปลย่ี นแปลงของภาษาและพลังของภาษา
ภมู ิปญั ญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัตขิ องชาติ

ตัวชว้ี ดั ป 5/1 ระบชุ นดิ และหน้าที่ของคําในประโยค

2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด

การอ่านจบั ใจความสําคัญ คือ การอา่ นเพอื่ เพ่ือจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสําคัญหลักของการจับใจความหรือเร่ืองท่ี
อา่ น การอ่านจบั ใจความสําคัญ ถือเป็นทักษะสาํ คัญท่ใี ช้ในการอ่านเพื่อการสื่อสารมาก เพราะเป็นพื้นฐานที่จําเป็นในการศึกษาหา
ความรู้ จงึ ควรฝึกฝนใหเ้ กดิ ความชาํ นาญ

การเขยี นย่อความ เป็นการเขียนสรปุ เร่ืองใจความสําคญั ของเรอ่ื งท่ีนํามาเรียบเรียงใหม่ให้สั้นกระชับ ต่อเนื่องและคงสาระ
เดิมอย่างครบถ้วนโดยเขียนเปน็ สํานวนของตนเองทาํ ให้เขา้ ใจง่าย

คําบพุ บท เป็นคาํ เช่ือมคําหรอื กลมุ่ คํา จะวางไว้หนา้ คาํ นามคําสรรพนามหรือคาํ กริยาทที่ าํ หน้าทอ่ี ย่างคาํ นาม

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายความหมาย และหลกั การอา่ นจบั ใจความสําคญั (K)
2. อธิบายรปู แบบการเขียนยอ่ คําปราศรยั (K)
3. อธบิ ายลักษณะของคาํ บพุ บทได้ (K)
4. อ่านเรอ่ื งไดค้ ล่องแคล่ว รวดเร็วและถกู ต้องตามอกั ขรวิธี (P)
5. แยกขอ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เห็นจากเรอ่ื งที่อา่ น (P)
6. เขียนยอ่ คําปราศรัย (P)
7. วเิ คราะห์แยกแยะหนา้ ทีข่ องคาํ ท่ปี รากฏในประโยคไดถ้ กู ต้อง (P)
8. เห็นความสําคัญของการอา่ นมารยาทในการอ่านและ นําความรแู้ ละข้อคิดไปประยุกต์ใช้ในชวี ิตประจาํ วัน (A)
9. กระตอื รอื ร้นในการรว่ มกจิ กรรม (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถน่ิ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. อธบิ ายความหมาย และหลกั การอ่านจบั ใจความสาํ คัญ
2. อธบิ ายรปู แบบการเขียนยอ่ คําปราศรัยได้
3. อธบิ ายลักษณะของคาํ บพุ บทได้

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน
สาระสาํ คญั
คาบที่
การอ่านจบั ใจความสําคญั คือ การอ่านเพ่ือเพ่ือจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสําคัญ
คาบท่ี 1 หลกั ของการจบั ใจความหรือเรื่องที่อ่าน การอ่านจับใจความสําคัญ ถือเป็นทักษะสําคัญท่ีใช้ใน
การอา่ นเพื่อการสอื่ สารมาก เพราะเปน็ พน้ื ฐานท่จี ําเป็นในการศึกษาหาความรู้ จึงควรฝึกฝนให้
การอ่าน เกดิ ความชํานาญ
จับใจความสาํ คญั ขนั้ ท่ี 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู

1. นักเรยี นทบทวนเกี่ยวกับการอา่ นสรปุ ใจความ โดยใชค้ ําถามดงั ตอ่ ไปนี้
- การอ่านสรปุ ใจความคืออะไร

- นกั เรยี นใชท้ กั ษะอะไรบ้างในการอา่ นสรุปใจความ
2. นกั เรียนเขา้ กล่มุ อ่านเรือ่ ง ดง่ั ทิพยช์ โลมใจ ในหนังสือเรยี นภาษาไทย
ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 โดยนําหลักการอ่านภาษาไทยมาใช้
3. ครูสังเกตการอา่ นของนกั เรยี นแต่ละคนว่าปฏบิ ัตไิ ด้ถูกต้องตามหลักการอ่านหรือไม่
ขนั้ ที่ 2 ขนั้ คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ
4. นักเรียนร่วมกนั วิเคราะห์เก่ยี วกับเรอื่ งทอี่ ่าน โดยครใู ช้คําถามดังน้ี

- ดงั่ หยาดทพิ ย์ชโลมใจ เป็นเร่อื งราวเกีย่ วกบั อะไร
5. นกั เรียนแต่ละกลุม่ คดิ ประเมนิ เพ่ือเพ่มิ คณุ ค่าโดยครูใช้คําถามดังตอ่ ไปน้ี

- นกั เรยี นสามารถนําความรู้ที่ได้รับไปใช้ในชวี ิตประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ งไร
ขน้ั ที่ 3 ขนั้ ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั ิ

6. นกั เรยี นเขา้ กลุ่มทํากิจกรรมถามตอบจากเรื่อง ดงั่ หยาดทพิ ยช์ โลมใจโดยตัง้ คําถาม
กล่มุ ละ 5 ขอ้ และตวั แทนกล่มุ อ่านคาํ ถามใหเ้ พ่อื นในชน้ั เรยี นชว่ ยกันตอบ

7.นกั เรยี นรว่ มกันสรปุ ข้อคิดทีไ่ ด้จากการอ่าน
ขน้ั ท่ี 4 ขน้ั สอ่ื สารและนาํ เสนอ

8. แตล่ ะกลุ่มออกมานาํ เสนอข้อคิดทไี่ ด้จากเรือ่ ง ด่ังหยาดทพิ ยช์ โลมใจ
ขน้ั ที่ 5 ขนั้ ประเมนิ เพอ่ื เพม่ิ คณุ ค่าบรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ

9.นักเรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ช้คาํ ถามดังน้ี
- นักเรยี นสามารถนาํ ความร้เู ก่ยี วกับเร่อื งที่เรียนไปใชป้ ระโยชน์ในสังคมไดอ้ ย่างไร

คาบท่ี 2-3 สาระสาํ คญั
การเขียนยอ่ ความเป็นการเขยี นสรปุ เรอื่ งใจความสาํ คัญของเร่อื งทน่ี าํ มาเรียบเรียงใหม่ให้ส้ัน
การเขยี นยอ่
คําปราศรยั กระชบั ตอ่ เนือ่ งและคงสาระเดิมอย่างครบถว้ นโดยเขยี นเปน็ สาํ นวนของตนเองทาํ ให้เขา้ ใจง่าย
ขน้ั ท่ี 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู

1. นักเรยี นดูตวั อย่างคําปราศรยั แล้วอ่านออกเสียงพร้อมกัน ครูและนักเรียนร่วมกัน
สนทนาเก่ยี วกับเน้อื หา โดยครูถามนําเพ่ือโยงเข้าสู่สาระการเรียนรู้และกระตุ้นความสนใจของ
ผูเ้ รียนโดยครถู ามคําถามดังนี้

- การเขยี นยอ่ คําปราศรยั คอื อะไร
- นักเรียนใชท้ กั ษะอะไรบ้างในการยอ่ คําปราศรยั
- นกั เรยี นจะนาํ หลักการย่อคาํ ปราศรยั ไปใช้ในชีวติ ประจําวนั ไดอ้ ยา่ งไร

*ในการตอบคาํ ถามใหค้ รูใช้ไม้เรียกเลขที่ เพ่ือให้นกั เรียนตอบทลี ะคน โดยถามคาํ ถามก่อน
จะเรียกเลขทเี่ พือ่ ให้ทุกคนไดค้ ิด ในแต่ละคาํ ถามควรใหน้ กั เรียนนาํ เสนอ 4-5 คน

2. นักเรียนศึกษาเรอ่ื งการเขียนย่อคําปราศรยั
- คําปราศรัยคืออะไร
- หลักการเขียนยอ่ คําปราศรัยมีอะไรบ้าง

ขน้ั ท่ี 2 ขนั้ คดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความ
3. นกั เรยี นรว่ มกันวเิ คราะห์เกี่ยวกับเรื่องทศี่ กึ ษา โดยครใู ช้คําถามดังน้ี
- จากการศกึ ษาเรอ่ื ง ยอ่ คาํ ปราศรัยนกั เรยี นสามารถนาํ ไปใช้ประโยชนใ์ น

ชวี ิตประจาํ วนั ได้อยา่ งไร
4. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ คิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าโดยครใู ช้คาํ ถามดังต่อไปน้ี
- นกั เรยี นสามารถนําความรู้ท่ีไดร้ ับไปใช้ในชีวิตประจาํ วันได้อย่างไร

ขน้ั ท่ี 3 ขนั้ ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั ิ
5. นักเรยี นเข้ากลุ่มทํากิจกรรมการเขยี นย่อคาํ ปราศรยั
6. นักเรียนร่วมกันสรปุ เรื่องการย่อคําปราศรยั ดังน้ี
การเขียนย่อความเป็นการเขียนสรุปเรื่องใจความสําคัญของเรื่องที่นํามาเรียบ

เรียงใหมใ่ หส้ ้ันกระชับ ตอ่ เนือ่ งและคงสาระเดมิ อยา่ งครบถ้วนโดยเขยี นเป็นสํานวนของตนเองทํา
ใหเ้ ข้าใจงา่ ย
ขน้ั ที่ 4 ขน้ั สอื่ สารและนาํ เสนอ

7. แต่ละกลุ่มออกมานาํ เสนอผลของการทาํ กิจกรรมการยอ่ คาํ ปราศรัย โดยใช้วิธีจับ
สลาก
*ขณะทนี่ กั เรียนนาํ เสนอ ครูพยายามสังเกตพฤติกรรมทงั้ ของผูฟ้ ังและผนู้ ําเสนอ เพอ่ื เก็บไป
เป็นขอ้ มูลในการพฒั นาปรับปรงุ ต่อไป

พฤตกิ รรมท่ีนําไปเป็นเง่ือนไขพัฒนา เชน่
- มารยาทในการพูดและฟัง
- ความสนใจ ให้เกียรติ
- การซกั ถาม เสนอแนวคดิ แย้งหรือคลอ้ ยตามอย่างมีเหตุผล
- การใช้ทกั ษะทางภาษาเพ่อื การสอื่ สาร

ขนั้ ท่ี 5 ขนั้ ประเมนิ เพอื่ เพมิ่ คุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ
8. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครูใชค้ ําถามดังนี้

- นักเรียนสามารถนาํ ความรเู้ กีย่ วกับเรอื่ งท่ีเรียนไปใชป้ ระโยชนใ์ นสงั คมไดอ้ ย่างไร

คาบที่ 4-5 สาระสาํ คญั
คําบพุ บท คาํ บพุ บท เปน็ คําเช่ือมคําหรอื กลมุ่ คํา จะวางไวห้ น้าคํานามคําสรรพนามหรือคาํ กริยาที่

ทําหน้าท่อี ย่างคํานาม
ขน้ั ที่ 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู

1. นกั เรียนรว่ มกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครูใช้คําถามท้าทายดงั นี้
๏ คาํ วา่ แก่ นาํ ไปใช้ในความหมายใดไดบ้ า้ ง

2. นักเรียนสงั เกตภาพตอ่ ไปน้ี เดก็ นอนในเปล รังนกอยูบ่ นตน้ ไม้ และภาพเด็กยืนดู
ผเี ส้อื บินไปมาอยใู่ กล้ๆ ให้นักเรียนเติมคาํ ในช่องวา่ ง

เด็กนอนอยู่...........เปล
รงั นกอยู่............ตน้ ไม้
ผเี ส้ือบนิ มา..........ฉนั
นกั เรียนสังเกตคาํ ทเ่ี ตมิ ในประโยคทง้ั สามคํา คอื ใน บน ใกล้ จากน้นั ครใู ช้คาํ ถามดังน้ี
- คําทงั้ 3 น้ี ทาํ หน้าที่ใดในประโยค (เปน็ คาํ ทอ่ี ยใู่ นสว่ นขยายกรยิ า หรอื แสดง
ความสมั พนั ธร์ ะหวา่ งคาํ ในประโยค เชน่ เดก็ อยทู่ ใ่ี ดของเปล รงั นกอยทู่ ใี่ ดของตน้ ไม้ )
- ทราบหรือไมว่ า่ คาํ ทั้ง 3 เรียกว่าคําอะไร (คําบพุ บท)
*ในการตอบคาํ ถามใหค้ รใู ช้ไมเ้ รยี กเลขท่ี เพ่ือให้นกั เรียนตอบทีละคน โดยถามคาํ ถามก่อนจะ
เรยี กเลขที่เพ่ือให้ทุกคนไดค้ ิด ในแต่ละคาํ ถามควรให้นกั เรียนนําเสนอ 4-5 คน
3. นักเรียนศกึ ษาเรอ่ื ง คําบุพบท แล้วรว่ มสนทนาโดยครูใชค้ ําถามดงั นี้
- คําบุพบทหมายถึงอะไร
- คาํ บุพบททาํ หนา้ ทอี่ ะไร
- คําบุพบทจะอยหู่ นา้ คําประเภทใด (คํานาม คาํ สรรพนาม)
- คําบุพบทมกี ป่ี ระเภทมอี ะไรบา้ ง
ขน้ั ที่ 2 ขนั้ คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ
4. นักเรยี นเรียงคําใหเ้ ปน็ ประโยค ดงั ต่อไปน้ี
มา เชา้ น้ี เม่อื คุณป้า ตั้งแต่ ตืน่ นอน ฉนั
เช้าตรู่ จากนน้ั ครใู ชค้ ําถามดังน้ี
- เพือ่ นเรยี งคําเปน็ ประโยคได้ถกู ตอ้ งหรอื ไม่ ประโยคทเ่ี รียงไดถ้ ูกต้องคืออะไร

(ประโยคที่ 1 คอื คณุ ปา้ มาเมอ่ื เชา้ นี้ ประโยคที่ 2 คอื ฉนั ตนื่ นอนตงั้ แตเ่ ชา้ ตรู่)
- นกั เรียนรว่ มกนั วิเคราะห์วา่ คาํ ใดในประโยคทเ่ี ป็นคาํ บพุ บท

(ประโยคที่ 1 เมอ่ื ประโยคที่ 2 ตงั้ แต่)
5. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ คิดประเมินเพ่อื เพ่มิ คณุ ค่าโดยครใู ช้คาํ ถามดงั ตอ่ ไปน้ี

- นักเรยี นสามารถนาํ ความรู้ทีไ่ ดร้ บั ไปใช้ในชีวิตประจาํ วนั ได้อยา่ งไร
ขนั้ ที่ 3 ขนั้ ปฏบิ ตั ิและสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั ิ

6. นกั เรยี นเติมคําบุพบทในช่องว่างของประโยคใหไ้ ด้ใจความสมบรู ณ์
○ คุณตาปลูกตน้ ไมอ้ ยู่ ...........ร้วั
○ หลอดไฟอย่.ู ..............ศรี ษะของเรา
○ สนุ ัขหมอบอยู่.............โตะ๊
○ เขาดูแลต้นมะม่วง..............มลี กู

และบอกวา่ เปน็ คาํ บพุ บท ชนิดใดเพราะอะไร
7. นักเรียนทาํ กจิ กรรมบอกชนดิ ของคําบุพบท โดยครตู ิดคําบุพบทบนกระดานดําและ
บอกว่าเป็นคําบพุ บทชนิดใด
8. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปความรู้เร่ืองคาํ บุพบท ดังน้ี

คําบพุ บทเปน็ คําท่ีแสดงความสัมพันธ์ระหวา่ งคําในประโยค โดยจะอยู่หนา้ คาํ นาม
หรอื คาํ สรรพนาม

9. นกั เรยี นทาํ แบบฝกึ หัด คําบุพบท
ขน้ั ที่ 4 ขน้ั สอื่ สารและนาํ เสนอ

10. นกั เรียนนาํ เสนอคําบพุ บท โดยครูใชไ้ ม้เรยี กเลขที่เรียกใหน้ ักเรยี นยกตัวอยา่ งคําที
ละคน เพ่ือนๆช่วยกันตรวจสอบความถกู ต้อง
ขนั้ ท่ี 5 ขนั้ ประเมนิ เพอ่ื เพมิ่ คณุ คา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ

11.นักเรียนร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คําถามดังนี้
- นกั เรียนสามารถนําความรู้เกีย่ วกบั เรือ่ งที่เรยี นไปใชป้ ระโยชนใ์ นสงั คมไดอ้ ยา่ งไร

6. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

การประเมนิ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื

ด้านความรู้ (K) - การตอบคําถาม - คาํ ถาม
- ทาํ แบบฝึกหัด - แบบฝกึ หดั
-แบบประเมนิ การอา่ น
ด้านทกั ษะและกระบวนการ (P) - ทักษะการอ่านในใจ -แบบฝกึ หัด
- ทกั ษะการเขียน -คําถาม
- แบบสงั เกตพฤติกรรม
- ทักษะการอา่ น

ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและ - สังเกตพฤตกิ รรมในการร่วม

ค่านยิ ม (A) กิจกรรม การทํางานกลุ่ม

7. สอื่ /อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้

1. แผนภมู เิ พลง
2. รูปภาพ
3. หนงั สือเรียนภาษาไทยชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5
4. บตั รคาํ บพุ บท

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงช่อื .............................................ครผู ูส้ อน ลงชื่อ...................................................ฝ่ายวิชาการ
(...........................................................) (...........................................................)

vv ลงช่ือ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 16

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท.่ี .…1…../.…2563... ชอื่ ผสู้ อน ……………………………………………………..
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที …่ี …5..... จํานวน……5….คาบ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ..……7…..… เรอื่ ง.....................ดงั่ หยาดทพิ ยช์ โลมใจ................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตัวชวี้ ดั

มาตรฐานที่ ท 1.1 ใช้กระบวนการอ่านสร้างความรูแ้ ละความคิดเพื่อนาํ ไปใชต้ ดั สินใจ แกป้ ญั หาในการดําเนนิ ชีวติ และ
มีนิสยั รกั การอ่าน

ตวั ชวี้ ัดท่ี ป 5/2 อธิบายความหมายของคํา ประโยคและข้อความทีเ่ ปน็ การบรรยายและการพรรณนา
ตัวช้ีวัดท่ี ป 5/4 แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และข้อคิดเหน็ จากเรอื่ งทอ่ี า่ น
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป 5/5 วเิ คราะห์และแสดงความคิดเห็นเกย่ี วกับเร่อื งท่อี า่ นเพอ่ื นําไปใชใ้ นการดาํ เนินชีวติ
ตวั ชว้ี ัดท่ี ป 5/8 มีมารยาทในการอ่าน
มาตรฐานที่ ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขียนสื่อสาร เขยี นเรยี งความ ยอ่ ความ และเขยี นเรื่องราวในรปู แบบตา่ ง ๆ
เขียนรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาคน้ ควา้ อยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ
ตัวชี้วดั ที่ ป 5/7 กรอกแบบรายการต่างๆ
ตวั ชว้ี ัดที่ ป 5/9 มมี ารยาทในการเขียน

2. สาระสาํ คญั /ความคิดรวบยอด

การอ่านจับใจความสําคัญ คือ การอ่านเพื่อเพ่ือจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสําคัญหลักของข้อความหรือเรื่องที่อ่าน
การอ่านจับใจความสําคัญ ถือเป็นทักษะสําคัญที่ใช้ในการอ่านเพื่อการส่ือสารมาก เพราะเป็นพ้ืนฐานที่จําเป็นในการศึกษาหา
ความรู้ จงึ ควรฝึกฝนใหเ้ กิดความชํานาญ

การเขียนกรอกแบบรายการ ใบฝากและใบถอนเงนิ กรอกแบบรายการประเภทตา่ งๆ มีความสําคัญและจําเป็นอย่างยิ่งใน
ชีวิตประจาํ วนั ในการติดต่อกบั หนว่ ยงานราชการ ในขอ้ มลู น้นั จึงตอ้ งตระหนักในความสําคัญของข้อมูลที่กรอกในรายการต่างๆ

การใชพ้ จนานกุ รม ต้องเรียนรู้วิธีเรียงลําดับคํา ซึ่งหาความของคําได้รวดเร็ว เพื่อนําไปส่ือความหมาย อย่างชัดเจนและ
ถูกต้อง

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. ร้แู ละเขา้ ใจเรือ่ งการอ่านจับใจความบทโฆษณาได้ (K)
2. อ่านเร่อื งจากบทโฆษณาไดถ้ ูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี (P)

3. กระตอื รือร้นและมีส่วนรว่ มกับการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ (A) สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
4. สามารถกรอกแบบรายการใบฝากและใบถอนได้ (K)
5. คาดคะเนเหตุการณจ์ ากเรอื่ งท่ีเขียนได้ โดยระบุเหตผุ ลประกอบได้ (P)
6. สะกดคาํ และบอกความหมายของคาํ ไดใ้ นบริบทต่าง ๆ ได้ถกู ต้อง (K)
7. ใช้พจนานุกรมคน้ หาความหมายของคาํ ได้ (P)
8. มีส่วนรว่ มกบั การจัดกิจกรรมการเรียนรู้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. รแู้ ละเขา้ ใจเรอ่ื งการอ่านจบั ใจความบทโฆษณาได้
4. สามารถกรอกแบบรายการใบฝากและใบถอนได้
6. สะกดคํา และบอกความหมายของคําได้ในบริบทตา่ ง ๆ ได้ถกู ตอ้ ง

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน
สาระสาํ คญั
คาบที่
การอา่ นจับใจความสาํ คัญ คือ การอา่ นเพื่อเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสําคัญ
คาบที่ 1 หลกั ของขอ้ ความหรือเร่ืองทีอ่ า่ น การอา่ นจับใจความสาํ คญั ถอื เปน็ ทักษะสําคญั ที่ใช้ในการอ่าน
เพื่อการสือ่ สารมาก เพราะเปน็ พืน้ ฐานทจี่ ําเปน็ ในการศกึ ษาหาความรู้ จงึ ควรฝึกฝนให้เกิดความ
การอา่ นจบั ใจความ ชํานาญ
( บทโฆษณา ) ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มลู

1. นักเรียนทบทวนเก่ียวกบั การอ่านสรุปใจความ โดยใช้คําถามดังตอ่ ไปนี้
- การอ่านสรปุ ใจความคอื อะไร
- นักเรียนใช้ทักษะอะไรบา้ งในการอ่านสรุปใจความ

2. นักเรียนแตล่ ะกล่มุ อ่านบทโฆษณา โดยนําหลกั การอา่ นในใจมาใช้ ครูสังเกตการอา่ น
ของนกั เรยี นแต่ละคนว่าปฏิบตั ไิ ด้ถกู ตอ้ งตามหลกั การอา่ นหรอื ไม่
ขนั้ ท่ี 2 ขนั้ คดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความ

3. นักเรียนศกึ ษาตวั อย่างการเขยี นโฆษณา แล้วร่วมกนั วเิ คราะหว์ ่าเปน็ โฆษณาทด่ี ีหรอื ไม่
เพราะอะไร

4. ให้นักเรยี นแต่ละกลมุ่ คิดประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่าโดยครูใช้คาํ ถามดงั ต่อไปน้ี
- บทโฆษณาคอื อะไร มหี ลักการอย่างไรบ้าง

- จากการศึกษาเรื่องบทโฆษณา นักเรยี นสามารถนําไปใชป้ ระโยชน์ใน
ชวี ิตประจําวันไดอ้ ยา่ งไร
ขนั้ ท่ี 3 ขน้ั ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบตั ิ

5. นักเรยี นเข้ากล่มุ ทาํ กิจกรรมการแสดงบทบาทสมมตกิ ารโฆษณาสนิ ค้า
6. นักเรยี นร่วมกนั สรุปเกีย่ วกบั หลกั การเขยี นโฆษณา
ขนั้ ที่ 4 ขน้ั สอ่ื สารและนาํ เสนอ
7. นักเรยี นนําเสนอการแสดงบทบาทสมมติการโฆษณาสินค้า
ขน้ั ที่ 5 ขนั้ ประเมนิ เพอ่ื เพม่ิ คุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ
8.นักเรยี นรว่ มกันแสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ช้คําถามดังน้ี

- นักเรียนสามารถนาํ ความรู้เกีย่ วกบั เรื่องทเ่ี รียนไปใชป้ ระโยชนใ์ นสังคมได้อย่างไร

คาบท่ี 2-3 สาระสาํ คญั
การเขียนกรอกแบบรายการ ใบฝากและใบถอนเงินกรอกแบบรายการประเภทต่าง ๆ
การเขยี นใบกรอก
แบบรายการใบฝาก มคี วามสําคัญและจาํ เปน็ อยา่ งยงิ่ ในชีวติ ประจําวนั ในการติดตอ่ กบั หนว่ ยงานราชการ ในข้อมูล
เงนิ และถอนเงนิ นั้นจึงต้องตระหนกั ในความสําคญั ของข้อมลู ท่ีกรอกในรายการต่างๆ
ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มลู

1. นกั เรียนดแู บบฟอรม์ หรอื ใบกรอกเงิน ใบถอนเงนิ ของธนาคารตา่ งๆ สนทนาเกย่ี วกับ
ประสบการณก์ ารกรอกแบบรายการฝากเงิน ถอนเงนิ โอนเงิน แลว้ ร่วมสนทนาโยง
เข้าสบู่ ทเรยี นโดยครใู ช้คําถามดงั นี้

- นักเรียนเคยไปฝาก / ถอนเงนิ หรอื ไม่
- นกั เรยี นเคยไปฝาก/ ถอนเงนิ ทีไ่ หน

2. นกั เรยี นแต่ละกลุ่มศึกษา การกรอกแบบรายการฝากเงิน ถอนเงนิ ครูสงั เกตการอ่าน
ของนกั เรียนแตล่ ะคนว่าปฏบิ ตั ไิ ด้ถกู ตอ้ งหรอื ไม่
ขนั้ ที่ 2 ขน้ั คดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความ

3. นกั เรียนศึกษาตวั อย่างการเขียน กรอกแบบรายการฝากเงนิ ถอนเงิน แลว้ รว่ มกนั
สนทนาถึงรปู แบบการเขยี น

4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ คดิ ประเมนิ เพือ่ เพมิ่ คุณคา่ โดยครใู ช้คําถามดังต่อไปน้ี
- จากการศกึ ษาเร่ืองการกรอกแบบรายการฝากเงนิ ถอนเงนิ นักเรยี นสามารถ

นําไปใช้ประโยชน์ในชวี ติ ประจาํ วันไดอ้ ยา่ งไร
ขนั้ ท่ี 3 ขน้ั ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบตั ิ

5. นกั เรยี นทาํ กิจกรรมการกรอกแบบรายการฝากเงนิ ถอนเงนิ
6. นกั เรียนรว่ มกนั สรุปการกรอกแบบรายการฝากเงนิ ถอนเงนิ และลงมือปฏบิ ตั กิ รอกใบ
ฝากเงินและถอนเงิน
ขน้ั ที่ 4 ขน้ั สอ่ื สารและนาํ เสนอ
7. นกั เรยี นนําเสนอการกรอกแบบรายการฝากเงิน ถอนเงิน
ขน้ั ที่ 5 ขนั้ ประเมนิ เพอ่ื เพมิ่ คณุ ค่าบรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ
8. นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครูใช้คําถามดงั น้ี

- นักเรียนสามารถนําความรูเ้ กี่ยวกบั เร่ืองท่เี รยี นไปใช้ประโยชนใ์ นสังคมได้อยา่ งไร

คาบที่ 4-5 สาระสาํ คญั
การใชพ้ จนานกุ รม การใช้พจนานุกรม ต้องเรียนรวู้ ธิ ีเรียงลําดบั คํา ซึ่งหาความของคาํ ได้รวดเร็ว เพ่อื นาํ ไปสือ่

ความหมาย อยา่ งชัดเจนและถกู ตอ้ ง
ขน้ั ที่ 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มลู

1. นักเรยี นดู หนงั สือพจนานกุ รมหลาย ๆ ฉบบั แล้วถามนักเรยี นวา่ เป็นหนังสืออะไร
ใช้ทาํ อะไร

2. นกั เรยี นชว่ ยกันบอกความหมายของพจนานุกรมตามท่ีเคยรมู้ า แลว้ ครูช่วยสรปุ
ความหมายของ พจนานุกรมท่ีถูกต้องเพิ่มเตมิ

3. นกั เรยี นศึกษาวธิ กี ารใช้พจนานกุ รม
ข้นั ที่ 2 ขน้ั คดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความ

4. นกั เรยี นเขา้ กลุม่ รว่ มกันวเิ คราะห์คาํ และจดั เรยี งคาํ ตามพจนานุกรม ตัวแทนอ่าน
ให้เพอ่ื นๆฟังและช่วยกนั ตรวจสอบความถูกตอ้ ง

5. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ คิดประเมนิ เพอ่ื เพ่ิมคณุ ค่าโดยครูใชค้ ําถามดังตอ่ ไปนี้
- นักเรยี นสามารถนาํ ความรู้ท่ีไดร้ บั ไปใช้ในชีวิตประจาํ วนั ไดอ้ ยา่ งไร

ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั ิ
6. นกั เรยี นฝกึ ใช้พจนานุกรม โดยเปดิ หาคาํ ศัพท์ ตามท่คี รบู อก ใครเปิดพบก่อนให้ยก

มือขึน้ แลว้ อ่านความหมายของคาํ น้ันให้เพอื่ นฟัง ทําเชน่ น้ันจนนกั เรยี นเกิดความชาํ นาญในการ
ใช้พจนานุกรมมากข้ึน

7. นกั เรยี นแตล่ ะกลุม่ แข่งกนั หาความหมายของคําจากบัตรคาํ โดยครูแจกพจนานกุ รม
ให้กลุ่มละ 2 เลม่ ใหน้ ักเรียนช่วยกนั หาความหมายของคําศพั ทจ์ ากบตั รคําต่อไปน้ี

เถื่อน อากาศ ดอกบวั กราบ หมอง ขนม ไหว้ เปล

เม่ือทกุ กลุม่ เสร็จแลว้ ใหน้ กั เรียนชว่ ยกนั เฉลยคาํ ตอบ ครูตรวจผลงานของนักเรยี น กลมุ่
ใดทําถูกตอ้ ง และเสร็จเปน็ อันดับแรกเปน็ ผู้ชนะ

8. นกั เรยี นชว่ ยกนั เรียงลาํ ดับก่อนหลงั ของบตั รคําตามพจนานกุ รม
9. นักเรียนช่วยกนั สรปุ วิธีการใชพ้ จนานกุ รม และทําแบบฝึกหัด
ขน้ั ท่ี 4 ขนั้ สอ่ื สารและนาํ เสนอ
10. นักเรยี นนาํ เสนอผลงานหน้าชั้นเรียน โดยครูใช้ไมเ้ รียกเลขท่ี เรียกนักเรียนออกมา
นําเสนอหน้าช้ันเรียนประมาณ 4-5 คน
ขน้ั ที่ 5 ขน้ั ประเมนิ เพอ่ื เพมิ่ คณุ คา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ
11. นกั เรยี นร่วมกนั แสดงความคิดเหน็ โดยครใู ช้คําถามดังน้ี

- นกั เรียนสามารถนาํ ความรเู้ กีย่ วกับเรือ่ งที่เรียนไปใช้ประโยชนใ์ นสังคมไดอ้ ย่างไร

6. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

การประเมนิ วธิ กี าร เครอ่ื งมอื

ดา้ นความรู้ (K) - การตอบคําถาม - คาํ ถาม
- ทาํ แบบฝึกหัด - แบบฝกึ หดั
- แบบประเมินการอ่าน
ด้านทักษะและกระบวนการ (P) - ทกั ษะการอ่าน - แบบฝกึ หัด
- ทักษะการเขียน - คําถาม
- แบบสังเกตพฤติกรรม
- ทกั ษะการคดิ วเิ คราะห์

ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและ - สงั เกตพฤตกิ รรมในการรว่ ม

ค่านยิ ม (A) กิจกรรม การทาํ งานกลุ่ม

7. สอื่ /อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้ 2. ใบกรอกรายการฝาก ถอนและโอนเงิน
4. หนังสือเรยี นภาษาไทยช้นั ประถมศกึ ษาปที ี่ 5
1. แผนภมู ิเพลง
3. บัตรคําศพั ท์
5. พจนานุกรม

8. กิจกรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................................
....................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .............................................ครูผู้สอน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

vv ลงชอื่ ................................................... ผ้บู รหิ าร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 17

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท.่ี .…1…../.…2563... ชอ่ื ผสู้ อน ……………………………………………………..
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที …ี่ …5..... จาํ นวน……5….คาบ
หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี ..………8..… เรอื่ ง....................กา้ วใหไ้ กล ไปให้ถึง....................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั

มาตรฐานท่ี ท 1.1 ใช้กระบวนการอา่ นสรา้ งความรแู้ ละความคดิ เพอ่ื นาํ ไปใช้ตัดสินใจ แกป้ ัญหาในการดาํ เนนิ ชีวติ และ
มนี ิสยั รกั การอ่าน

ตวั ช้ีวดั ที่ ป 5/1 อ่านออกเสียงบทร้อยแก้วและบทร้อยกรองไดถ้ กู ต้อง
ตัวช้ีวดั ท่ี ป 5/2 อธิบายความหมายของคาํ ประโยคและขอ้ ความทเี่ ปน็ การบรรยายและการพรรณนา
ตัวชีว้ ัดที่ ป 5/3 อธิบายความหมายโดยในจากเร่อื งทีอ่ า่ นอย่างหลากหลาย
ตัวชี้วดั ท่ี ป 5/4 แยกขอ้ เท็จจรงิ และข้อคดิ เหน็ จากเรอื่ งทอี่ ่าน
ตวั ชว้ี ัดที่ ป 5/5 วเิ คราะห์และแสดงความคดิ เห็นเกย่ี วกบั เรือ่ งท่ีอา่ นเพอ่ื นําไปใช้ในการดําเนินชวี ิต
ตัวช้วี ดั ท่ี ป 5/8 มมี ารยาทในการอ่าน
มาตรฐานท่ี ท 2.1 ใชก้ ระบวนการเขยี นเขยี นส่ือสาร เขียนเรยี งความ ย่อความ และเขยี นเร่ืองราวในรูปแบบต่าง ๆ
เขยี นรายงานข้อมลู สารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมีประสทิ ธิภาพ
ตวั ช้ีวัดท่ี ป 5/7 กรอกแบบรายการตา่ งๆ
ตวั ชี้วดั ที่ ป 5/9 มีมารยาทในการเขยี น
มาตรฐานที่ ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ียนแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภูมิปัญญาทางภาษา และรักษาภาษาไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชาติ

ตวั ชว้ี ดั ป 5/1 ระบุชนิดและหนา้ ท่ีของคาํ ในประโยค

2. สาระสําคัญ/ความคิดรวบยอด

การอา่ นจบั ใจความสาํ คัญ คือ การอา่ นเพอ่ื เพอื่ จับใจความหรือข้อคิด ความคิดสําคัญหลักของการจับใจความหรือเรื่องท่ี
อ่าน การอา่ นจบั ใจความสาํ คญั ถอื เป็นทกั ษะสาํ คญั ที่ใช้ในการอ่านเพื่อการสื่อสารมาก เพราะเป็นพื้นฐานที่จําเป็นในการศึกษาหา
ความรู้ จึงควรฝึกฝนให้เกดิ ความชาํ นาญ

การกรอกใบฝากธนาณัติในประเทศ มีความสําคัญในการส่งเงินทางไปรษณีย์ท่ีสะดวกและปลอดภัย ดังน้ันต้อง
กรอกอย่างระมดั ระวังและมคี วามรอบคอบ

คาํ สนั ธาน เปน็ คาํ เชื่อมคาํ กับประโยคหรอื ข้อความใหก้ ลมกลนื เปน็ เนอื้ ความเดียวกัน

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธิบายความหมาย และหลักการอ่านจบั ใจความสาํ คญั (K)
2. อธิบายวธิ กี ารกรอกใบฝากธนาณตั ิในประเทศ (K)
3. อธบิ ายลักษณะของคําสนั ธานได้ (K)
4. อา่ นเรอ่ื งได้คลอ่ งแคลว่ รวดเรว็ และถกู ต้องตามอกั ขรวธิ ี (P)
5. แยกข้อเท็จจรงิ และขอ้ คิดเห็นจากเรื่องทอ่ี ่าน (P)
6. กรอกใบฝากธนาณัตใิ นประเทศ (P)
7. วเิ คราะห์แยกแยะหน้าที่ของคาํ ท่ีปรากฏในประโยคได้ถูกตอ้ ง (P)
8. เห็นความสําคญั ของการอา่ นมารยาทในการอ่านและ นาํ ความรูแ้ ละข้อคิดไปประยกุ ต์ใช้ในชีวิตประจําวนั (A)
9. กระตือรอื รน้ ในการรว่ มกิจกรรม (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. อธบิ ายความหมาย และหลักการอา่ นจบั ใจความสาํ คญั ได้
2. อธบิ ายวธิ ีการกรอกใบฝากธนาณัติในประเทศได้
3. อธบิ ายลักษณะของคาํ สนั ธานได้

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน
สาระสาํ คญั
คาบท่ี
การอา่ นจบั ใจความสําคญั คอื การอ่านเพ่อื เพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสําคัญ
คาบที่ 1 หลกั ของการจบั ใจความหรือเรื่องท่ีอ่าน การอ่านจับใจความสําคัญ ถือเป็นทักษะสําคัญที่ใช้ใน
การอ่านเพื่อการสอื่ สารมาก เพราะเปน็ พื้นฐานทจี่ ําเป็นในการศึกษาหาความรู้ จึงควรฝึกฝนให้
การอา่ น เกิดความชํานาญ
จับใจความสาํ คญั ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มลู

1. นกั เรียนดภู าพ แล้วรว่ มสนทนาโดยครูใช้คาํ ถามดงั นี้
- ภาพท่นี กั เรียนเหน็ เก่ียวกบั อะไร

*ในการตอบคาํ ถามให้ครูใช้ไมเ้ รียกเลขท่ี เพ่ือให้นักเรยี นตอบทลี ะคน โดยถามคําถาม
ก่อนจะเรียกเลขทเี่ พ่ือใหท้ กุ คนไดค้ ดิ ในแต่ละคําถามควรให้นกั เรียนนําเสนอ 4-5 คน

2. นักเรียนทบทวนเกย่ี วกับการอา่ นสรปุ ใจความ โดยใช้คาํ ถามดังตอ่ ไปนี้
- การอ่านสรปุ ใจความคืออะไร

- นกั เรียนใชท้ ักษะอะไรบ้างในการอ่านสรุปใจความ
3. นักเรยี นแบง่ กลุ่ม ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ อ่านในใจเร่อื งก้าวใหไ้ กลไปให้ถงึ จากหนังสือภาษา
พาที ช้นั ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 โดยนาํ หลักการอา่ นในใจมาใช้ ครูสังเกตการอา่ นของนกั เรียนแต่
ละคนว่าปฏิบัตไิ ด้ถกู ตอ้ งตามหลักการอ่านหรอื ไม่
ขนั้ ที่ 2 ขน้ั คดิ วิเคราะห์และสรปุ ความ
4. นกั เรยี นร่วมกนั วิเคราะหเ์ กย่ี วกบั วิธกี ารสรา้ งกําลังใจให้ตัวเองและเพ่อื นแล้วร่วม
สนทนาโดยครูใชค้ ําถามดังนี้

- วธิ กี ารสร้างกําลังใจใหต้ วั เองและเพอื่ นมวี ิธกี ารอย่างไรบา้ ง
5. นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ คดิ ประเมินเพือ่ เพ่ิมคุณค่าโดยครูใช้คําถามดังต่อไปน้ี

- จากการศึกษาเร่ืองจาก ก้าวให้ไกลไปให้ถึง นกั เรียนสามารถนาํ ไปใช้
ประโยชน์ในชีวิตประจําวนั ได้อยา่ งไร
ขนั้ ท่ี 3 ขนั้ ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบตั ิ

6. นกั เรียนเข้ากลมุ่ ทาํ กิจกรรมการถามตอบจากเรื่องทศี่ ึกษา โดยให้แตล่ ะกลุ่มตั้ง
คาํ ถาม 5 ข้อ

7. นักเรียนรว่ มกนั สรปุ ขอ้ คิดทีไ่ ด้จากเร่อื ง
ขน้ั ท่ี 4 ขน้ั สอื่ สารและนาํ เสนอ

8. ตัวแทนกล่มุ อา่ นคําถามและใหเ้ พ่ือนๆในชั้นเรยี นตอบคําถาม
ขน้ั ท่ี 5 ขนั้ ประเมนิ เพอ่ื เพม่ิ คุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ

9. นกั เรียนร่วมกันแสดงความคดิ เห็น โดยครใู ชค้ ําถามดังน้ี
- นกั เรียนสามารถนาํ ความร้เู กี่ยวกบั เร่ืองทเ่ี รยี นไปใช้ประโยชน์ในสงั คมได้อย่างไร

คาบที่ 2-3 สาระสาํ คญั
การกรอกใบฝากธนาณัตใิ นประเทศ มคี วามสําคญั ในการส่งเงินทางไปรษณีย์ท่ีสะดวกและ

การเขยี นกรอก ปลอดภัย ดังนนั้ ตอ้ งกรอกอย่างระมดั ระวังและมีความรอบคอบ

แบบรายการธนาณตั ิ ขนั้ ท่ี 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู

1. นักเรียนดแู บบฟอร์มการกรอกแบบรายการธนาณัติของไปรษณยี ์ในประเทศ แลว้

ร่วมสนทนาโยงเขา้ ส่บู ทเรยี น โดยครใู ช้คําถามดังนี้

- นักเรยี นเคยไปสง่ เงนิ ทางไปรษณีย์หรอื ไม่

- นักเรยี นเคยไปส่งเงนิ ทางไปรษณยี ์ที่ไหน แล้วมีวิธกี ารอย่างไร

2. นักเรียนศกึ ษาเรื่อง การกรอกแบบรายการธนาณัติ แล้วร่วมสนทนาโดยครูใช้
คาํ ถามดงั น้ี

- การกรอกแบบรายการธนาณตั ขิ องไปรษณียใ์ นประเทศมีการกรอก
รายละเอียดอะไรบา้ ง
ขนั้ ท่ี 2 ขนั้ คดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความ

3. นักเรยี นรว่ มกนั วิเคราะหเ์ กย่ี วกับ การกรอกแบบรายการธนาณัติ แลว้ ร่วมสนทนา
โดยครใู ช้คาํ ถามดังน้ี

- การกรอกแบบรายการธนาณัติ มคี วามสําคัญอยา่ งไร
4. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ คดิ ประเมนิ เพ่ือเพมิ่ คณุ ค่าโดยครใู ช้คาํ ถามดังต่อไปน้ี

- จากการศึกษาเรอ่ื งการกรอกแบบรายการฝากเงนิ ถอนเงนิ นักเรียน
สามารถนาํ ไปใช้ประโยชนใ์ นชีวิตประจําวันไดอ้ ย่างไร
ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ตั ิ

5. นักเรยี นศึกษาตวั อยา่ ง การกรอกแบบรายการธนาณตั ิ และลงมอื ปฏิบัติ
6. นกั เรยี นรว่ มกนั สรุปการกรอกแบบรายการธนาณัติของไปรษณีย์ในประเทศ
ขนั้ ที่ 4 ขน้ั สอ่ื สารและนาํ เสนอ
7.นกั เรยี นนาํ เสนอการเขยี น กรอกแบบรายการธนาณตั ิ โดยการจดั ป้ายนเิ ทศนําเสนอ
ผลงาน
ขน้ั ที่ 5 ขน้ั ประเมนิ เพอื่ เพม่ิ คุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ
8. นกั เรียนรว่ มกันแสดงความคิดเห็น โดยครใู ช้คาํ ถามดังนี้

- นักเรยี นสามารถนําความรูเ้ กีย่ วกับเร่อื งที่เรียนไปใชป้ ระโยชนใ์ นสงั คมไดอ้ ยา่ งไร

คาบท่ี 4-5 สาระสาํ คญั
คาํ สนั ธาน คําสนั ธาน เป็นคําเช่ือมคํากบั ประโยคหรือข้อความใหก้ ลมกลืนเป็นเนอื้ ความเดยี วกนั

ขนั้ ที่ 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู
1. นกั เรียนอา่ นประโยคต่อไปน้ี
ประโยคท่ี 1 ฉนั ไปเทีย่ วทะเล
ประโยคท่ี 2 เธอไปเทย่ี วทะเล
ประโยคที่ 3 ฉันและเธอไปเทยี่ วทะเล
2. นักเรียนสังเกตประโยคทีอ่ ่าน แลว้ ร่วมสนทนาโยงเขา้ สูบ่ ทเรยี น โดยครูใชค้ ําถามดังนี้

- ประโยคที่ 3 แตกต่างจากประโยคที่ 1 และ 2 อย่างไร
- คําวา่ และ ในประโยคที่ 3 ทําหนา้ ทอ่ี ะไรและมีความสาํ คัญอย่างไร
- คําวา่ และ ในประโยคที่ 3 เรียกว่าคําอะไร
*ในการตอบคาํ ถามใหค้ รูใชไ้ มเ้ รียกเลขที่ เพอ่ื ให้นกั เรียนตอบทลี ะคน โดยถามคาํ ถามก่อน
จะเรียกเลขท่ีเพ่ือให้ทุกคนไดค้ ดิ ในแต่ละคาํ ถามควรใหน้ กั เรยี นนําเสนอ 4-5 คน
ขน้ั ท่ี 2 ขน้ั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ
3. นักเรียนเรยี งคาํ ตอ่ ไปนีใ้ หเ้ ป็นประโยคที่ถูกต้อง
ห้อง ใน อยู่ ผู้ใหญ่ และ เด็ก นอน
หมี อาศัย ปา่ กับ หมู อยู่ ใน
แล้วรว่ มสนทนาโดยครใู ชค้ าํ ถามดังน้ี
- เพอ่ื นเรยี งคาํ เปน็ ประโยคไดถ้ กู ต้องหรือไม่
- คําสันธานของประโยคท้ังสองคอื
4. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ คิดประเมินเพ่อื เพ่ิมคุณคา่ โดยครูใช้คาํ ถามดงั ต่อไปน้ี
- นกั เรียนสามารถนําความรูท้ ่ีได้รับไปใชใ้ นชวี ติ ประจําวนั ได้อย่างไร
ขนั้ ท่ี 3 ขน้ั ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบตั ิ
5. นกั เรยี นชว่ ยกัน หาคาํ สันธานจากประโยคทคี่ รูกําหนดให้ โดยครตู ิดประโยคบน
กระดานดาํ ทลี ะประโยคและใหน้ ักเรยี นช่วยกันบอกคําสนั ธาน
* ในการตอบคาํ ถามให้ครใู ชไ้ ม้เรียกเลขท่ี เพอื่ ให้นักเรยี นตอบทลี ะคน โดยถามคาํ ถามก่อนจะ
เรียกเลขที่เพอื่ ให้ทกุ คนได้คิด
6. นกั เรยี นเขา้ กลมุ่ แต่งประโยคโดยใช้คําสันธาน และตัวแทนกลุ่มอ่านให้เพ่ือนๆฟังเพื่อ
ชว่ ยตรวจสอบความถูกต้อง
7. นักเรยี นร่วมกนั สรุปความรเู้ รือ่ งคําสันธาน และทาํ แบบฝกึ หัด
ขน้ั ที่ 4 ขน้ั สอ่ื สารและนาํ เสนอ
8. นักเรยี นนาํ เสนอการทาํ แบบฝกึ หัดหน้าช้นั เรยี น
ขนั้ ที่ 5 ขนั้ ประเมนิ เพอ่ื เพม่ิ คณุ คา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ
9. นกั เรียนร่วมกนั แสดงความคดิ เหน็ โดยครใู ช้คําถามดงั นี้
- นักเรียนสามารถนาํ ความรู้เกีย่ วกับเรื่องที่เรยี นไปใชป้ ระโยชนใ์ นสงั คมไดอ้ ยา่ งไร

6. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

การประเมนิ วธิ กี าร เครอื่ งมอื

ดา้ นความรู้ (K) - การตอบคําถาม - คําถาม
- ทาํ แบบฝึกหัด - แบบฝึกหดั

ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) - ทักษะการอา่ นในใจ - แบบประเมินการอ่าน
- ทักษะการเขยี น - แบบฝกึ หัด

- ทกั ษะการอ่าน

ด้านคุณธรรม จริยธรรมและ - สงั เกตพฤติกรรมในการร่วม - แบบสงั เกตพฤติกรรม

ค่านยิ ม (A) กิจกรรม การทาํ งานกลุ่ม

7. สอื่ /อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้ 2. รูปภาพ
4. หนังสือเรียนภาษาไทยช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
1. แผนภูมิเพลง 6. บตั รคํา
3. ใบฝากธนาณัติ
5. แถบประโยค

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .............................................ครูผสู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

vv

ลงช่ือ................................................... ผู้บริหาร
(...........................................................)

สัปดาห์ที่ 18

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรยี นรู้

ภาคเรยี นท.ี่ .…1…../.…2563... ชอ่ื ผสู้ อน ……………………………………………………..
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภาษาไทย ชนั้ ประถมศกึ ษาปที …่ี …5..... จํานวน……5….คาบ
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ ..……8…..… เรอ่ื ง....................ก้าวให้ไกล ไปให้ถึง....................

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชว้ี ดั

มาตรฐานท่ี ท 1.1 ใชก้ ระบวนการอา่ นสร้างความรู้และความคิดเพ่อื นาํ ไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปญั หาในการดาํ เนินชีวติ และ
มนี ิสัยรกั การอ่าน

ตวั ชว้ี ดั ท่ี ป5/7 อ่านหนงั สอื ท่มี ีคุณคา่ ตามความสนใจอย่างสมาํ่ เสมอและแสดงความคิดเห็นเก่ียวกับเรอื่ งทีอ่ า่ น
ตวั ช้ีวัดที่ ป5/8 มีมารยาทในการอา่ น
มาตรฐานที่ ท 2.1 ใช้กระบวนการเขยี นเขยี นส่ือสาร เขยี นเรียงความ ยอ่ ความ และเขยี นเร่อื งราวในรปู แบบต่าง ๆ
เขยี นรายงานขอ้ มูลสารสนเทศและรายงานการศึกษาค้นคว้าอยา่ งมปี ระสทิ ธิภาพ
มาตรฐานที่ ท 3.1 สามารถเลอื กฟังและดอู ยา่ งมีวจิ ารณญาณและพูดแสดงความรู้ ความคดิ และความรสู้ ึกในโอกาส
ตา่ ง ๆ อยา่ งมวี ิจารญาณและสรา้ งสรรค์
ตัวชี้วดั ที่ ป5/1 พูดแสดงความรู้ ความคิดเหน็ และความรูส้ ึกจากเรอื่ งท่ฟี งั และดู
ตัวชวี้ ัดท่ี ป5/3 วเิ คราะหค์ วามน่าเชอ่ื ถือจากเรื่องทีฟ่ งั และดูอย่างมเี หตุผล
มาตรฐานท่ี ท 4.1 เข้าใจธรรมชาตขิ องภาษาและหลักภาษาไทย การเปล่ยี นแปลงของภาษาและพลงั ของภาษา
ภูมปิ ัญญาทางภาษา และรกั ษาภาษาไทยไวเ้ ป็นสมบตั ิของชาติ
ตัวชวี้ ดั ป 5/1 ระบุชนดิ และหนา้ ทขี่ องคําในประโยค

2. สาระสําคญั /ความคดิ รวบยอด

การอ่านจบั ใจความสาํ คัญ คือ การอ่านเพอ่ื เพ่อื จับใจความหรือขอ้ คดิ ความคิดสําคัญหลักของการจับใจความหรือเร่ืองท่ี
อ่าน การอ่านจบั ใจความสําคัญ ถอื เป็นทกั ษะสาํ คญั ท่ใี ช้ในการอ่านเพื่อการส่ือสารมาก เพราะเป็นพื้นฐานท่ีจําเป็นในการศึกษาหา
ความรู้ จงึ ควรฝึกฝนให้เกิดความชาํ นาญ

การเขยี นแสดงความคดิ เหน็ การเขยี นทีด่ ีจะต้องรู้หลกั การเขียนแสดงความคิดเห็น โดยอาศยั การวิเคราะห์ วจิ ารณ์อยา่ งมี
เหตุผล จงึ จะเปน็ งานเขยี นแสดงความคดิ เหน็ ท่เี กดิ ประโยชนแ์ ละสร้างสรรค์

คาํ อทุ าน เป็นคาํ ทแี่ สดงอารมณ์ความรู้สกึ ของผู้พดู สว่ นมากจะไมค่ ่อยมคี วามหมายในตัวเอง

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายความหมาย และหลกั การอ่านจบั ใจความสาํ คญั (K)
2. อ่านเร่อื งไดค้ ลอ่ งแคลว่ รวดเร็วและถกู ตอ้ งตามอักขรวิธี (P)
3. แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเหน็ จากเรือ่ งที่อ่าน (P)
4. เหน็ ความสาํ คญั ของการอา่ นมารยาทในการอา่ นและ นําความรูแ้ ละขอ้ คิดไปประยกุ ต์ใช้ในชีวติ ประจาํ วนั (A)
5. บอกหลกั การแสดงความคดิ เหน็ จากสอ่ื ต่างๆ ได้ (K)
6. เขียนแสดงความคิดเหน็ เกย่ี วกบั สาระจากสือ่ ต่างๆ ได้อยา่ งสรา้ งสรรค์ (P)
7. อธบิ ายลกั ษณะของคําอุทานได้ (K)
8. วิเคราะหแ์ ยกแยะหนา้ ทขี่ องคําที่ปรากฏในประโยค ได้ถกู ตอ้ ง (P)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

1. อธิบายความหมาย และหลกั การอา่ นจับใจความสําคัญ
2. บอกหลักการแสดงความคิดเห็นจากสอ่ื ตา่ งๆ ได้
3. อธิบายลกั ษณะของคาํ อุทานได้

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้ กจิ กรรมการเรยี นการสอน
สาระสาํ คญั
คาบที่
การอ่านจับใจความสําคัญ คอื การอ่านเพ่ือเพื่อจับใจความหรือข้อคิด ความคิดสําคัญ
คาบที่ 1 หลักของการจบั ใจความหรือเรื่องท่ีอ่าน การอ่านจับใจความสําคัญ ถือเป็นทักษะสําคัญที่ใช้ใน
การอา่ นเพื่อการสอื่ สารมาก เพราะเปน็ พืน้ ฐานท่ีจําเป็นในการศึกษาหาความรู้ จึงควรฝึกฝนให้
การอา่ น เกดิ ความชาํ นาญ
จับใจความ ขน้ั ท่ี 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู
หนงั สอื นอกเวลา
1. นักเรียนดแู ผนภูมิเพลง “อา่ นในใจ” แลว้ อา่ นออกเสียงพร้อมกัน ร้องเป็นเพลงตาม
ครู 1 เท่ยี ว แลว้ ให้นกั เรียนรอ้ งเอง 2 เท่ียว ครูและนักเรียนร่วมกันสนทนาเก่ียวกับเน้ือหา
ของเพลง โดยครถู ามนําเพ่ือโยงเข้าสู่สาระการเรียนรู้และกระตุ้นความสนใจของผู้เรียนโดยครู
ถามคําถามดงั นี้

- การอ่านสรปุ ใจความคอื อะไร
- นกั เรียนใชท้ ักษะอะไรบา้ งในการอ่านสรุปใจความ
- นักเรยี นจะนาํ หลกั การอ่านสรุปความไปใช้ในชีวิตประจําวันไดอ้ ย่างไร

*ในการตอบคาํ ถามให้ครใู ชไ้ มเ้ รยี กเลขท่ี เพือ่ ให้นักเรยี นตอบทลี ะคน โดยถามคําถามกอ่ นจะ
เรียกเลขทเี่ พอื่ ให้ทกุ คนได้คิด ในแตล่ ะคาํ ถามควรให้นักเรยี นนําเสนอ 4-5 คน

2. นักเรียนศึกษาวธิ ีการอ่านจบั ใจความสําคัญจากใบความรู้ และสนทนาเกี่ยวกับการ
อ่านจับใจความสําคัญโดยครูใช้คําถามดังนี้

- การอ่านจบั ใจความสาํ คญั คอื อะไร
*ในการตอบคําถามใหค้ รูใชไ้ ม้เรียกเลขท่ี เพอ่ื ให้นักเรยี นตอบทลี ะคน โดยถามคาํ ถามก่อนจะ
เรียกเลขท่ีเพือ่ ใหท้ กุ คนไดค้ ิด ในแตล่ ะคําถามควรให้นกั เรียนนาํ เสนอ 4-5 คน
ขน้ั ที่ 2 ขน้ั คดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความ

3. แบง่ นักเรยี นออกเป็น 5 กล่มุ ให้นักเรยี นแต่ละกล่มุ อ่านนอกเวลา ในหอ้ งสมุด โดย
นําหลักการอ่านในใจมาใช้ ครูสังเกตการอ่านของนักเรียนแต่ละคนว่าปฏิบัติได้ถูกต้องตาม
หลักการอ่านหรือไม่

4. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันสรุปแนวความคิดท่ไี ดอ้ า่ นจากการอา่ นหนังสอื นอกเวลา
และตงั้ คาํ ถามกลุ่มละ 10 คาํ ถาม

5. ใหน้ กั เรยี นแต่ละกลุม่ คดิ ประเมนิ เพ่อื เพม่ิ คณุ คา่ โดยครูใชค้ ําถามดงั ต่อไปนี้
- อ่านหนังสือนอกเวลามหี ลักการอย่างไรบา้ ง
- จากการศึกษาการอ่านหนังสือนอกเวลา นกั เรยี นสามารถนาํ ไปใช้ประโยชน์ใน

ชีวติ ประจาํ วนั ได้อยา่ งไร
ขนั้ ท่ี 3 ขน้ั ปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบตั ิ

6. นักเรียนทํากิจกรรมการถามตอบจากเรือ่ งท่ีศึกษา
7. นักเรียนรว่ มกันสรุปหลกั การอา่ นจบั ใจความดงั นี้

หลกั การจับใจความสาํ คญั
- ตงั้ จดุ มงุ่ หมายในการอ่านให้ชัดเจน

- อา่ นเรอื่ งราวอยา่ งคร่าวๆ พอเข้าใจ และเก็บใจความสําคญั ของแต่ละยอ่ หนา้

- เมอ่ื อา่ นจบใหต้ ั้งคําถามตนเองว่า เรือ่ งที่อา่ น มใี คร ทาํ อะไร ท่ไี หน เมอ่ื ไหร่
อยา่ งไร

- นําสง่ิ ท่ีสรุปได้มาเรียบเรยี งใจความสําคญั ใหม่ด้วยสํานวนของตนเองเพอ่ื ใหเ้ กิด
ความสละสลวย

ขน้ั ที่ 4 ขน้ั สอ่ื สารและนาํ เสนอ

8. แต่ละกลุม่ ออกมานําเสนอผลของการทํากจิ กรรม การระดมสมองใหเ้ พื่อนฟงั โดยใช้
วธิ จี บั สลาก
*ขณะท่นี กั เรียนนําเสนอ ครูพยายามสังเกตพฤติกรรมทง้ั ของผู้ฟงั และผู้นาํ เสนอ เพ่อื เกบ็ ไป
เปน็ ขอ้ มูลในการพฒั นาปรบั ปรงุ ต่อไป พฤตกิ รรมทน่ี ําไปเป็นเง่อื นไขพัฒนา เชน่

- มารยาทในการพูดและฟงั
- ความสนใจ ให้เกียรติ
- การซกั ถาม เสนอแนวคดิ แยง้ หรอื คลอ้ ยตามอย่างมีเหตผุ ล
- การใชท้ ักษะทางภาษาเพือ่ การสอื่ สาร
9. เปิดโอกาสให้นกั เรยี นแสดงความคดิ เห็น วพิ ากษ์วจิ ารณ์ผลงานของเพ่อื น ลกั ษณะ
การนําเสนอของเพ่ือน อย่างอิสระ นาํ จุดเด่นจดุ ด้อย จุดควรพัฒนา ส่งิ ท่เี หมือนกัน และ
แตกตา่ งกนั ของแต่ละกลุม่ มาแสดงให้นกั เรียนเห็นถงึ ความหลากหลายของความคิด ซ่งึ ข้นึ อยู่
กับเหตุผล
ขนั้ ที่ 5 ขนั้ ประเมนิ เพอื่ เพมิ่ คณุ ค่าบรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ
10. นักเรยี นช่วยกันสรปุ บทเรยี น ครูสรุปเพิ่มเติมด้วยการสุ่มถามนกั เรยี นบาง
คน เพอื่ เป็นการประเมินความเขา้ ใจไปในตวั ดว้ ย
11. ให้นักเรียนนําความรเู้ ร่ือง การอา่ นจบั ใจความ ท่ไี ดเ้ รยี นรู้ไปใช้เพื่อการฝึกทักษะ
การอา่ นสือ่ สารและแนะนาํ เพ่อื นๆ น้อง ๆ หรือคนใกลช้ ดิ

คาบที่ 2-3 สาระสาํ คญั
การเขียนแสดงความคิดเห็นท่ีดีจะต้องรู้หลักการเขียนแสดงความคิดเห็น โดยอาศัย

การพดู และการเขยี น การวเิ คราะห์ วิจารณอ์ ย่างมีเหตุผล จึงจะเป็นงานเขียนแสดงความคิดเห็นท่ีเกิดประโยชน์และ

เชงิ วเิ คราะห์ สร้างสรรค์

ขน้ั ท่ี 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู

1. ซักถามเกีย่ วกบั ลักษณะของงานเขยี นเชิงสร้างสรรค์

2. ครนู ําตัวอย่างงานเขยี นเชงิ วเิ คราะห์ให้นกั เรยี นดู

ขนั้ ท่ี 2 ขนั้ คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ

3. แบ่งนกั เรยี นออกเปน็ 5 กลมุ่ ให้นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ศกึ ษาหาความร้จู ากใบความรู้

และศกึ ษาเพมิ่ เตมิ จากห้องสมุด ครสู ังเกตการอา่ นของนักเรียนแต่ละคนว่าปฏบิ ัติไดถ้ กู ตอ้ ง

หรอื ไม่

4. นักเรยี นแตล่ ะกลุม่ ร่วมกันสรปุ แนวความคิดท่ีได้และตั้งคาํ ถามกล่มุ ละ 10 คําถาม
5. ให้นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มคิดประเมนิ
ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั ปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ัติ
6. นกั เรยี นทํากิจกรรมการถามตอบจากเร่อื งท่ีศึกษา
7. นักเรียนแตล่ ะกลมุ่ รว่ มกันเขียนเรอ่ื งเกี่ยวกบั เชิงวิเคราะห์ นักเรยี นรว่ มกันสรุปเปน็
แผนผงั ความคดิ เกยี่ วกับเร่ืองการเขียนและการพูดเชงิ วเิ คราะห์
ขนั้ ท่ี 4 ขนั้ สอ่ื สารและนาํ เสนอ
8. แตล่ ะกลุ่มออกมานําเสนอผลของการทํากิจกรรม การระดมสมองใหเ้ พ่ือนฟงั โดย
ใชว้ ิธีจบั สลาก
*ขณะทีน่ กั เรยี นนําเสนอ ครพู ยายามสังเกตพฤติกรรมทง้ั ของผู้ฟังและผู้นําเสนอ เพื่อเก็บไป
เปน็ ข้อมลู ในการพฒั นาปรบั ปรุงต่อไป
พฤตกิ รรมทน่ี าํ ไปเป็นเงื่อนไขพฒั นา เชน่

- มารยาทในการพูดและฟงั
- ความสนใจ ใหเ้ กยี รติ
- การซักถาม เสนอแนวคิดแยง้ หรือคลอ้ ยตามอย่างมีเหตุผล
- การใชท้ กั ษะทางภาษาเพือ่ การสอ่ื สาร
9. เปิดโอกาสให้นกั เรียนแสดงความคิดเหน็ วพิ ากษว์ จิ ารณ์ผลงานของเพอ่ื น ลักษณะ
การนาํ เสนอของเพ่อื น อย่างอิสระ นาํ จุดเด่นจุดด้อย จุดควรพัฒนา สิ่งท่ีเหมือนกนั และ
แตกต่างกัน ของแต่ละกลมุ่ มาแสดงให้นกั เรียนเห็นถึงความหลากหลายของความคิด ซ่งึ ข้นึ อยู่
กบั เหตผุ ล
ขนั้ ท่ี 5 ขน้ั ประเมนิ เพอ่ื เพม่ิ คุณค่าบรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ
10. นกั เรยี นชว่ ยกนั สรุปบทเรยี น ครสู รปุ เพม่ิ เติมด้วยการสมุ่ ถามนักเรยี นบาง
คน เพ่ือเปน็ การประเมนิ ความเข้าใจไปในตวั ดว้ ย
11. ใหน้ กั เรียนนาํ ความรู้ ท่ไี ด้เรยี นรู้ไปใช้เพื่อการฝึกทกั ษะการอ่านส่ือสารและแนะนํา
เพื่อนๆ น้อง ๆ หรอื คนใกล้ชดิ

คาบที่ 4-5 สาระสาํ คญั
คําอทุ าน คําอุทาน เปน็ คําที่แสดงอารมณ์ความรู้สึกของผพู้ ูด ส่วนมากจะไม่ค่อยมคี วามหมายในตัวเอง

ขนั้ ที่ 1 ขนั้ รวบรวมขอ้ มลู
1. ครูนาํ แถบประโยคทีแต่งโดยใช้คาํ อทุ านติดที่แผน่ ป้ายหนา้ ช้นั เรยี น ใหน้ ักเรียน

สังเกตประโยคดังกล่าวน้ันวา่ มีก่ปี ระโยค และมคี ําใดเปน็ คาํ อุทาน
2. ครูใหน้ กั เรยี นช่วยกันยกตัวอยา่ งคําอุทานและแสดงท่าทางประกอบ

*ในการตอบคําถามให้ครูใช้ไมเ้ รยี กเลขท่ี เพือ่ ให้นักเรยี นตอบทีละคน โดยถามคําถามกอ่ นจะ
เรียกเลขทเ่ี พือ่ ให้ทกุ คนไดค้ ิด ในแตล่ ะคาํ ถามควรใหน้ กั เรียนนําเสนอ 4-5 คน
ขน้ั ท่ี 2 ขน้ั คดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความ

3. นกั เรยี นทํากิจกรรมท่ีเกย่ี วกบั คําอุทาน
( ตัวอยา่ ง เชน่ .................คณุ พระชว่ ย ................ฉนั ปวดทอ้ งเหลอื เกนิ )
แล้วชว่ ยกนั เฉลยคาํ ตอบ
4. นกั เรยี นแต่งประโยคที่มีการใช้คําอุทานคนละ 5 ประโยค
5. นกั เรียนทําใบงานเรื่องการใช้คําอุทานชนิดต่างๆ แล้วชว่ ยกันตรวจสอบความถูกตอ้ ง
ขน้ั ที่ 3 ขน้ั ปฏบิ ตั ิและสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ัติ
6. ครูและนักเรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้ และทําแบบฝึกหดั ในหลักภาษา ชั้นประถมศึกษา
ปีท่ี 5
7. นกั เรยี นทําแผนผงั ความคดิ เรอ่ื งคาํ อุทาน
ขน้ั ที่ 4 ขนั้ สอื่ สารและนาํ เสนอ
8. แต่ละคนออกมานาํ เสนอผลของการทํากจิ กรรม การระดมสมองใหเ้ พ่อื นฟัง โดยใช้
วิธีจบั สลาก
*ขณะท่นี กั เรยี นนําเสนอ ครพู ยายามสงั เกตพฤติกรรมทง้ั ของผู้ฟังและผ้นู าํ เสนอ เพือ่ เกบ็ ไป
เป็นขอ้ มลู ในการพัฒนาปรบั ปรงุ ตอ่ ไป
พฤตกิ รรมที่นําไปเปน็ เงอ่ื นไขพฒั นา เช่น

- มารยาทในการพูดและฟงั
- ความสนใจ ใหเ้ กียรติ
- การซักถาม เสนอแนวคิดแย้งหรอื คล้อยตามอย่างมเี หตผุ ล
- การใช้ทักษะทางภาษาเพ่ือการส่อื สาร
9. เปดิ โอกาสให้นักเรียนแสดงความคิดเห็น วิพากษว์ ิจารณ์ผลงานของเพ่ือน ลักษณะ
การนําเสนอของเพ่ือน อย่างอิสระ นาํ จุดเดน่ จดุ ด้อย จดุ ควรพฒั นา สง่ิ ทเ่ี หมือนกนั และ
แตกตา่ งกัน ของแต่ละกลุ่มมาแสดงให้นกั เรียนเห็นถงึ ความหลากหลายของความคิด ซงึ่ ขนึ้ อยู่

กบั เหตุผล
ขนั้ ท่ี 5 ขน้ั ประเมนิ เพอื่ เพม่ิ คณุ ค่าบรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ

10. นกั เรยี นช่วยกันสรปุ บทเรยี น ครูสรุปเพิม่ เติมด้วยการสุม่ ถามนักเรียนบาง
คน เพื่อเป็นการประเมินความเข้าใจไปในตัวดว้ ย

11. ใหน้ ักเรียนนําความรู้ ทีไ่ ด้เรยี นรูไ้ ปใชเ้ พื่อการฝกึ ทักษะการอ่านสือ่ สารและ
แนะนาํ เพ่ือนๆ นอ้ ง ๆ หรือคนใกลช้ ิด

6. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

การประเมนิ วธิ กี าร เครอื่ งมอื

ด้านความรู้ (K) - การตอบคําถาม - คําถาม
- แบบฝกึ หดั
- ทําแบบฝึกหัด

ดา้ นทักษะและกระบวนการ (P) - ทักษะการอ่านในใจ -แบบประเมินการอ่าน
-แบบฝกึ หัด
- ทักษะการเขยี น

- ทักษะการอ่าน

ด้านคณุ ธรรม จริยธรรมและ - สงั เกตพฤติกรรมในการร่วม - แบบสงั เกตพฤติกรรม

คา่ นิยม (A) กิจกรรม การทํางานกล่มุ

7. สอื่ /อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรยี นรู้ 2. หนังสือนอกเวลา
4. หนังสือเรยี นหลกั ภาษาช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5
1. แผนภมู เิ พลง
3. แถบประโยค

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

................................................................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .............................................ครูผ้สู อน ลงช่ือ...................................................ฝา่ ยวชิ าการ
(...........................................................) (...........................................................)

ลงชื่อ................................................... ผูบ้ ริหาร
(...........................................................)


Click to View FlipBook Version