The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาภาษาไทย ป.2 เทอม 1-63

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by จิรพงศ์ ไมตรีจิตร, 2020-06-13 09:15:06

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาภาษาไทย ป.2 เทอม 1-63

โครงสร้างและแผนการสอน วิชาภาษาไทย ป.2 เทอม 1-63

คาบที่ 5-6 ขน้ั ที่ 4 ขั้นสือ่ สารและนาเสนอ
สระอัว สระโอะ 7.สมุ่ นกั เรยี นออกมำน้ำเสนอกำรเขียนแสดงควำมรสู้ กึ 3-4 คน โดยใชไ้ ม้เรยี กเลขที่

ขน้ั ที่ 5ข้ันประเมนิ เพ่ือเพิ่มคุณคา่ บรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ
8.นักเรยี นรว่ มกันแสดงควำมคดิ เห็น โดยครูใชค้ ้ำถำมดงั นี
-นักเรียนสำมำรถน้ำควำมรไู้ ปใชป้ ระโยชนใ์ นสังคมไดอ้ ยำ่ งไร

สาระสาคญั
สระ หมำยถงึ เครอ่ื งหมำยใช้แทนเสยี งทเ่ี ปล่งออกมำ ตำมหลกั ภำษำ ถอื ว่ำพยญั ชนะ

จ้ำเปน็ ตอ้ งอำศัยสระจงึ จะออกเสียงได้ อำ่ นและเขียนได้คลอ่ งก็จะนำ้ ไปใช้ไดอ้ ย่ำงเหมำะสม
ขน้ั ที่ 1 ข้ันรวบรวมข้อมลู

1. นักเรียนอำ่ นบตั รคำ้ ต่อไปนี มด กลวั รถยนต์ ควัน พรวน แลว้ ร่วมกนั สนทนำโดย
ครใู ช้ค้ำถำมดังนี

-คำ้ ท่ีนกั เรียนอ่ำนประสมด้วยสระอะไรบ้ำง
-นักเรยี นรจู้ ักค้ำอะไรอีกบ้ำงทปี่ ระสมดว้ ยสระ โอะ และสระ อัว
* ในกำรทำ้ กจิ กรรมใหใ้ ชไ้ ม้เรียกเลขท่ี เพ่ือควำมเป็นระเบียบเรียบรอ้ ย
2. นักเรียนศึกษำเรอื่ งค้ำที่ประสมด้วยสระ โอะ และสระ อวั
ขั้นที่ 2 ขั้นคดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความ
3. นกั เรยี นอำ่ นบทควำมตอ่ ไปนี

สง่ิ ท่ีนำ่ กลัวทสี่ ุดในชวี ิต คือ ควำมคดิ ทีเ่ ป็นลบของคน ซงึ่ คิดวนหลำยรอบ
ในเรือ่ งเดยี วจนเกนิ ควบคมุ
แลว้ ร่วมกนั สนทนำโดยครใู ชค้ ้ำถำมดงั นี
-จำกบทควำมท่ีอำ่ นค้ำใดบ้ำงทปี่ ระสมด้วยสระ อวั และสระ โอะ
4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ คดิ ประเมนิ เพ่อื เพิม่ คณุ คำ่ โดยครใู ชค้ ำ้ ถำมดังตอ่ ไปนี
- นักเรยี นสำมำรถน้ำควำมร้ไู ปใชใ้ นชวี ิตประจำ้ วนั ไดอ้ ยำ่ งไร
ขน้ั ที่ 3 ข้ันปฏิบัติและสรุปความรู้หลังการปฏิบตั ิ
5. นกั เรียนเข้ำกลุ่มท้ำกิจกรรมยกตวั อย่ำงคำ้ ทปี่ ระสมด้วยสระ โอะ และสระ อวั ตัวแทน
แต่ละกลมุ่ อ่ำนใหเ้ พือ่ นๆฟงั
6. นกั เรยี นทำ้ กจิ กรรมฝกึ อ่ำนค้ำ (ค้ำจำกแบบฝกึ หัด)
ขนั้ ท่ี 4 ขั้นสอ่ื สารและนาเสนอ
9. นักเรียนน้ำเสนอเกีย่ วกับค้ำทปี่ ระสมดว้ นสระ อัว และสระ โอะ โดยครูใช้ไม้เรยี กเลขท่ี
ขั้นที่ 5ขั้นประเมินเพ่ือเพ่ิมคุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ
10. นักเรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เห็น โดยครูใชค้ ้ำถำมดงั นี
-นกั เรียนสำมำรถนำ้ ควำมรูไ้ ปใชป้ ระโยชน์ในสังคมได้อยำ่ งไร
3.3 คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ : Attitude (A) ซ่อื สัตยส์ จุ ริต มีวนิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อยูย่ ำ่ งพอเพียง
มุ่งม่ันในกำรทำ้ งำน
รักควำมเปน็ ไทย มจี ิตสำธำรณะ

6. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

กำรประเมิน วิธกี ำร เครือ่ งมอื
ดำ้ นควำมรู้ (K) -กำรตอบคำ้ ถำม -ค้ำถำม
-ทำ้ แบบฝกึ หดั -แบบฝึกหัด
ด้ำนทกั ษะและกระบวนกำร (P)
-ทกั ษะกำรอ่ำน -แบบประเมินกำรอำ่ น
-ทักษะกำรเขยี น -แบบประเมินกำรเขยี นแสดงควำมรู้สกึ
-ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์ -แบบฝกึ หัด

ดำ้ นคุณธรรม จริยธรรมและค่ำนยิ ม -สังเกตพฤตกิ รรมในกำรร่วมกจิ กรรม -แบบสังเกตพฤตกิ รรม
(A) กำรท้ำงำนกลมุ่
-สังเกตพฤตกิ รรมกำรใชส้ ระ

7. สอ่ื /อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรียนรู้

1. แบบฝึกหดั 2. เพลงสระโอะ 3. หนงั สอื หลักภำษำเลม่ 1 ประถมศึกษำปที ี่ 2

4. ไมเ้ รยี กเลขที่ 5.ค้ำถำม 6.บตั รค้ำศัพท์

7. เพลง

8. กิจกรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................... ....................................

ลงช่ือ.............................................ครผู สู้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝำ่ ยวชิ ำกำร
(...........................................................) (...........................................................)

vv ลงชื่อ................................................... ผ้บู รหิ ำร
(...........................................................)

สปั ดำหท์ ี่ 5

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/……..……... ช่ือผสู้ อน ….…..….................................................……...
กลุม่ สาระการเรยี นรู้ ภำษำไทย
หน่วยการเรยี นร้ทู ี่ 2 ใจหำย ชั้นประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 6 คาบ

เรอื่ ง ใจหำย

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชี้วัด

มำตรฐำน ท 1.1 ใช้กระบวนกำรอำ่ นสร้ำงควำมร้แู ละควำมคดิ เพอื่ นำ้ ไปใช้ตัดสนิ ใจแกป้ ัญหำในกำรดำ้ เนินชวี ติ และมี
นิสยั รักกำรอำ่ น

ตัวชวี ัดท่ี ป 2/1 อ่ำนออกเสียงค้ำ คำ้ คล้องจอง ข้อควำม และบทร้อยกรองง่ำยๆได้ถูกต้อง
ตวั ชีวัดที่ ป 2/2 อธิบำยควำมหมำยของค้ำและข้อควำมท่ีอำ่ น
ตัวชีวัดที่ ป 2/8มมี ำรยำทในกำรอ่ำน
มำตรฐำนท่ี ท 2.1ใชก้ ระบวนกำรเขยี นเขียนส่อื สำร เขยี นเรยี งควำม ยอ่ ควำม และเขียนเรือ่ งรำวในรปู แบบต่ำงๆ
เขยี นรำยงำนขอ้ มลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศกึ ษำค้นควำ้ อย่ำงมีประสิทธิภำพ

ตัวชีวดั ที่ ป 2/3เขยี นเรื่องสันๆ ตำมจินตนำกำร
ตัวชวี ัดที่ ป 2/4มมี ำรยำทในกำรเขียน
มำตรฐำนที่ ท 4.1เขำ้ ใจธรรมชำตขิ องภำษำและหลกั ภำษำไทยกำรเปลีย่ นแปลงของภำษำและพลังของภำษำ ภูมิปญั ญำทำง
ภำษำ และรกั ษำภำษำไทยไวเ้ ป็นสมบตั ขิ องชำติ
ตวั ชีวดั ที่ ป 2/1บอกและเขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยกุ ต์ และเลขไทย
ตัวชวี ัดที่ ป 2/2เขยี นสะกดค้ำและบอกควำมหมำย ของค้ำ
มำตรฐำนที่ ท 5.1เขำ้ ใจและแสดงควำมคิดเหน็ วิจำรณ์วรรณคดีและวรรณกรรมไทยอยำ่ งเห็นคณุ คำ่ และนำ้ มำ
ประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ จรงิ
ตวั ชีวัดที่ ป 2/1 ระบุข้อคิดทไ่ี ด้จำกกำรอำ่ นหรอื กำรฟังวรรณกรรมส้ำหรับเด็ก เพื่อน้ำไปใชใ้ นชีวิตประจำ้ วัน

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรอำ่ นจบั ใจควำมสำ้ คญั คือ กำรอ่ำนเพอื่ จับใจควำมหรือขอ้ คิด ควำมคดิ สำ้ คัญหลกั ของขอ้ ควำม หรือเรื่องทีอ่ ่ำน

กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คญั ถือเป็นทกั ษะสำ้ คัญที่ใชใ้ นกำรอำ่ นเพื่อกำรส่อื สำรมำกทส่ี ุด เพรำะเป็นพืนฐำนสำ้ คัญในกำรศึกษำหำ
ควำมรู้ จึงควรฝกึ ฝนให้เกดิ ควำมช้ำนำญ

กำรเขยี นบรรยำยภำพ เปน็ กำรใช้ประสบกำรณร์ ่วมกับจินตนำกำรของผเู้ ขยี น โดยดูรำยละเอียดต่ำงๆจำกภำพเป็น
พืนฐำน เขียนเปน็ เรื่องรำวที่น่ำสนใจหรอื สนกุ สนำนเพลดิ เพลนิ แกผ่ อู้ ำ่ น

สระ หมำยถึง เครื่องหมำยใช้แทนเสยี งที่เปล่งออกมำ ตำมหลักภำษำ ถือว่ำพยัญชนะจ้ำเปน็ ต้องอำศัยสระจึงจะออก
เสยี งได้ ดงั นันจึงต้องอำ่ นและเขยี นสระใหค้ ล่องจงึ จะทำ้ ใหน้ ำ้ ไปใช้ไดอ้ ยำ่ งมปี ระสิทธภิ ำพ

3. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1.อธิบำยควำมหมำย และหลกั กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคญั (K)
2. รูแ้ ละเข้ำใจหลักกำรอำ่ นกำรเขยี นสระเออ(K)
3.รู้และเขำ้ ใจหลักกำรเขยี นบรรยำยภำพ (K)
4.อ่ำนเร่ืองไดค้ ล่องแคลว่ รวดเร็วและถูกต้องตำมอักขรวธิ ี (P)
5.แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคิดเห็นจำกเร่ืองทอี่ ำ่ น (P)
6.อำ่ นและเขียนค้ำทป่ี ระสมด้วยสระเออได้ (P)
7.เห็นควำมสำ้ คญั ของกำรอ่ำนและมำรยำทในกำรอำ่ น (A)
8.เขยี นบรรยำยภำพได้(P)
9.มีควำมสนใจในกำรเรียนภำษำไทย (A )
10.กระตอื รอื รน้ และมสี ่วนร่วมกบั กำรจดั กจิ กรรมกำรเรยี นรแู้ ละมีมำรยำทในกำรเรยี น (A)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถิ่น
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

3.1 ควำมรู้ : Knowledge (K) กำรอ่ำนจบั ใจควำมนิทำนอำ่ นใหม่
กำรเขียนบรรยำยภำพ สระเออ

3.2 กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ : Process (P)

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี กิจกรรมการเรียนการสอน

คาบท่ี 1-2 สาระสาคญั
กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คญั คือ กำรอำ่ นเพื่อจับใจควำมหรือขอ้ คิด ควำมคดิ ส้ำคัญหลกั ของ

การอา่ นจบั ข้อควำม หรอื เร่ืองท่ีอ่ำน

ใจความนทิ านอา่ น กำรอำ่ นจบั ใจควำมส้ำคญั ถอื เปน็ ทกั ษะสำ้ คัญทใ่ี ช้ในกำรอำ่ นเพอ่ื กำรส่ือสำรมำกทส่ี ดุ เพรำะเป็น
ใหม่ พนื ฐำนสำ้ คัญในกำรศึกษำหำควำมรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนให้เกดิ ควำมชำ้ นำญ
ขนั้ ที่ 1 ขนั้ รวบรวมข้อมูล

1.นักเรยี นทบทวนเกยี่ วกับกำรอ่ำนสรปุ ใจควำม โดยใชค้ ้ำถำมดังต่อไปนี
- กำรอ่ำนสรปุ ใจควำมคอื อะไร
- นักเรียนใชท้ กั ษะอะไรบ้ำงในกำรอ่ำนสรปุ ใจควำม

2.นกั เรียนอำ่ นเรอื่ งนทิ ำนอ่ำนใหม1่ รอบ ในขณะท่นี กั เรยี นอ่ำนครสู ังเกตนักเรียนในหอ้ ง
เมอื่ ถึงตอนทีจ่ ะเล่ำนิทำนครูให้นกั เรียนหยุดและถำมนกั เรียน โดยใช้คำ้ ถำมดังนี

-ในเร่ืองมีใครบำ้ ง
-ในเรือ่ งใครเป็นคนเกเร
-นักเรียนรสู้ ึกอยำ่ งไรเกี่ยวกบั เกง่ เล็กและเกง่ ใหญ่

ขัน้ ท่ี 2 ขั้นคดิ วเิ คราะห์และสรุปความ

3.ครเู ลำ่ นทิ ำนเรือ่ ง รำชสหี ์กบั หนใู ห้นักเรยี นฟงั เพอ่ื วิเครำะห์เร่อื งท่ีอ่ำนโดยครใู ชค้ ำ้ ถำม

ดงั นี

- เหตกุ ำรณ์นเี กดิ ขนึ ทใ่ี ด

- ตัวละครใดในเรื่องท่นี ักเรยี นชอบ

- นกั เรยี นคดิ อยำ่ งไรกบั รำชสหี แ์ ละหนู

- เพรำะเหตุใดรำชสหี ์จงึ ยอมปล่อยหนู

-กำรกระทำ้ ของรำชสีหก์ ับหนแู สดงให้เห็นนิสัยของสัตวท์ งั สองอยำ่ งไร

4. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ คิดประมลู เพอื่ เพมิ่ คณุ ค่ำโดยครใู ชค้ ำ้ ถำมดังตอ่ ไปนี

- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมรู้ทีไ่ ดร้ บั ไปใช้ในชวี ิตประจ้ำวันได้อย่ำงไร

ข้นั ที่ 3 ข้ันปฏบิ ตั ิและสรุปความรู้หลังการปฏบิ ัติ

5. นกั เรียนรว่ มแสดงทำ่ ทำงตอ่ ไปนี

- รำชสีหน์ อนหลับ

- หนูไต่ขำ้ มตวั รำชสหี ์

-รำชสหี ก์ ระโดดตะครบุ หนู

-หนูแทะเชือกขำด

6.นกั เรยี นเข้ำกลมุ่ รว่ มกนั สรุปประโยชน์และขอ้ คดิ ท่ไี ดจ้ ำกกำรฟังนิทำน

ขนั้ ท่ี 4 ข้ันส่อื สารและนาเสนอ

7.ตัวแทนกลุ่มนำ้ เสนอกำรท้ำกจิ กรรมในข้อที่ 6 หน้ำชันเรยี น

ข้ันที่ 5ข้ันประเมนิ เพื่อเพิม่ คุณค่าบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ

8.นักเรียนรว่ มกันแสดงควำมคดิ เห็น โดยครใู ชค้ ้ำถำมดงั นี

- นกั เรียนสำมำรถน้ำควำมรเู้ กย่ี วกับเร่อื งที่เรียนไปใชป้ ระโยชน์ในสงั คมไดอ้ ยำ่ งไร

คาบท่ี 3-4 สาระสาคัญ
กำรเขยี นบรรยำยภำพ เป็นกำรใชป้ ระสบกำรณร์ ่วมกบั จินตนำกำรของผเู้ ขียน โดยดู

การเขยี นบรรยาย รำยละเอยี ดต่ำงๆจำกภำพเป็นพืนฐำน เขียนเปน็ เร่อื งรำวทนี่ ำ่ สนใจหรอื สนุกสนำนเพลิดเพลินแก่
ผู้อำ่ น
ภาพ ขน้ั ท่ี 1 ขนั้ รวบรวมข้อมลู

1. นกั เรยี นดูตวั อย่ำงกำรเขียนบรรยำยภำพ แลว้ รว่ มกนั สนทนำโดยครูใชค้ ำ้ ถำมดงั นี

-กำรเขยี นบรรยำยภำพดังกล่ำวนักเรยี นคิดว่ำดหี รอื ไม่เพรำะอะไร

-นักเรียนทรำบหรอื ไม่วำ่ กำรเขยี นบรรยำยภำพมหี ลกั กำรเขยี นอย่ำงไร

2. นักเรยี นศกึ ษำควำมรเู้ รอ่ื ง กำรเขียนบรรยำยภำพ แล้วร่วมกันอภิปรำยวำ่ กำรเขยี น

บรรยำยภำพมหี ลกั ในกำรปฏิบัติอยำ่ งไรบำ้ ง

ขั้นที่ 2 ขั้นคดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความ

3. นกั เรียนดภู ำพแล้วร่วมกนั วเิ ครำะห์ โดยครูใช้ค้ำถำมดังนี

-ภำพท่นี กั เรยี นเห็นมอี งค์ประกอบอะไรบ้ำง
-กำรเขยี นบรรยำยภำพมีควำมสำ้ คญั อยำ่ งไร
นกั เรียนช่วยกันเขียนบรรยำยภำพบนกระดำน เพอ่ื นตรวจสอบควำมถูกต้อง ครู
แนะนำ้ เพ่มิ เติมว่ำควรปรบั ปรุงอยำ่ งไร
4.นักเรยี นคดิ ประมลู เพอ่ื เพิ่มคุณคำ่ โดยครูใชค้ ำ้ ถำมดงั ตอ่ ไปนี

- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมรทู้ ี่ไดร้ บั ไปใชใ้ นชวี ิตประจำ้ วนั ไดอ้ ย่ำงไร
*ในกำรตอบค้ำถำมใหค้ รใู ชไ้ มเ้ รยี กเลขท่ี เพื่อให้นกั เรยี นตอบทีละคน โดยถำมคำ้ ถำม
กอ่ นจะเรียกเลขท่ีเพอ่ื ใหท้ กุ คนไดค้ ิด ในแตล่ ะค้ำถำมควรให้นกั เรยี นนำ้ เสนอ 4-5 คน
ขัน้ ที่ 3 ขั้นปฏิบัตแิ ละสรปุ ความรู้หลงั การปฏบิ ัติ
5. ครูแบง่ นกั เรียนเป็นกล่มุ กลมุ่ ละ 4 คน แล้วใหแ้ ต่ละกลุม่ ดภู ำพท่กี ้ำหนดแลว้ ฝกึ เขยี น
บรรยำยภำพ
6.นักเรียนสรปุ เกี่ยวกบั กำรเขียนบรรยำยภำพ แล้วครูอธิบำยเพม่ิ เติมดงั นี
* กำรเขยี นบรรยำยภำพ เป็นกำรใชป้ ระสบกำรณ์รว่ มกบั จินตนำกำรของผูเ้ ขียน โดย
ดรู ำยละเอยี ดตำ่ งๆจำกภำพเป็นพนื ฐำน เขียนเป็นเรื่องรำวที่นำ่ สนใจหรอื สนุกสนำนเพลิดเพลินแก่
ผอู้ ำ่ น
ขั้นท่ี 4 ข้ันสอ่ื สารและนาเสนอ
7.นักเรยี นน้ำเสนอผลงำนหน้ำชนั เรียน โดยครใู ช้ไม้เรยี กเลขท่ี เรียกนักเรียนออกมำ
นำ้ เสนอหน้ำชนั เรยี นประมำณ 4-5 คน
ขัน้ ท่ี 5ขั้นประเมินเพื่อเพม่ิ คุณค่าบริการสังคมและจติ สาธารณะ
8.นกั เรียนร่วมกันแสดงควำมคดิ เห็น โดยครูใชค้ ้ำถำมดงั นี
- นกั เรยี นสำมำรถนำ้ ควำมร้เู กี่ยวกบั เรื่องทเ่ี รียนไปใช้ประโยชน์ในสังคมไดอ้ ยำ่ งไร

คาบที่ 5-6 สาระสาคญั
สระ เออ สระ หมำยถึง เครอ่ื งหมำยใชแ้ ทนเสยี งทเี่ ปลง่ ออกมำ ตำมหลักภำษำ ถอื ว่ำพยญั ชนะ

จำ้ เปน็ ตอ้ งอำศยั สระจงึ จะออกเสียงได้ ดงั นนั จงึ ต้องอ่ำนและเขียนสระใหค้ ล่องจึงจะท้ำให้นำ้ ไปใช้
ได้อย่ำงมปี ระสทิ ธิภำพ

ขน้ั ที่ 1 ขนั้ รวบรวมข้อมลู
1. นักเรียนฟงั เพลง สระ เออ และร่วมรองเพลง 1-2 รอบ นักเรียนแยกค้ำท่ปี ระสมสระ
เออ จำกบนเพลงเขียนบน

กระดำนดำ้ แลว้ อำ่ นออกเสียงพรอ้ มกัน
2. นักเรียนศึกษำเรื่องสระ เออ

ขนั้ ท่ี 2 ขัน้ คิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความ
3. ครตู ดิ บตั รค้ำทมี่ สี ระ เออ เช่น เชญิ เลย เตมิ เทอม เสรมิ เดิน นกั เรยี นอำ่ นออก
เสยี งพรอ้ มกัน แลว้ ร่วมกนั

สนทนำโดยครใู ชค้ ้ำถำมดังนี
-ค้ำทมี่ ีตัวสะกดและไมม่ ีตวั สะกดแตกตำ่ งกนั อยำ่ งไร
-นักเรียนรจู้ กั คำ้ อะไรอีกบ้ำงทป่ี ระสมดว้ นสระเออ กำรยกตวั อยำ่ งคำ้ ใหค้ รูใชไ้ ม้

เรยี กเลขที่ เพื่อใหน้ กั เรยี นตอบทีละคน โดยถำมค้ำถำมกอ่ นจะเรยี กเลขที่เพ่อื ใหท้ ุกคน
ไดค้ ดิ และใหน้ กั เรยี นนำ้ เสนอ 4-5 คน
4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ คิดประมลู เพอื่ เพม่ิ คณุ ค่ำโดยครใู ช้ค้ำถำมดงั ตอ่ ไปนี

- นักเรียนสำมำรถนำ้ ควำมรทู้ ไ่ี ดร้ บั ไปใช้ในชวี ิตประจำ้ วนั ได้อย่ำงไร
ขั้นท่ี 3 ข้ันปฏิบตั ิและสรุปความรูห้ ลงั การปฏิบัติ

5. นักเรียนเข้ำกลุ่มอำ่ นบตั รต่อไปนี เดนิ ทำง ใบเตย ละเมอ เนยแข็ง ชักเยอ่ ตัวแทน
กลมุ่ ออกมำเขยี นรปู สระจำกบตั รภำพที่นกั เรยี นไดร้ บั ไป กลมุ่ ใดตอบถกู ใหแ้ รงเสริมเป็นคะแนน
กลมุ่

6. นกั เรยี นฝกึ อำ่ นทำ้ ท่ีประสมดว้ นสระเออจำกบัตรคำ้ (บัตรคำ้ จำกแบบฝกึ หดั )
7.นกั เรียนรว่ มกันสรุปเรื่องสระ เออ และท้ำแบบฝกึ หัด
ขั้นท่ี 4 ขั้นสือ่ สารและนาเสนอ
8.นักเรยี นน้ำเสนอคำ้ ท่ีประสมด้วยสระเออ หน้ำชันเรยี น โดยครใู ช้ไมเ้ รียกเลขทเี่ รยี ก
นักเรยี นออกมำน้ำเสนอประมำณ 4-5 คน
ขัน้ ที่ 5ข้ันประเมินเพื่อเพ่มิ คุณค่าบรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ
9.นักเรียนรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เหน็ โดยครใู ช้คำ้ ถำมดังนี

- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมร้เู กย่ี วกับเรื่องทีเ่ รียนไปใช้ประโยชน์ในสงั คมไดอ้ ย่ำงไร
3.3 คุณลกั ษณะทีพ่ งึ ประสงค์ : Attitude (A) ซ่ือสตั ย์สจุ รติ มวี นิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยูย่ ำ่ งพอเพยี ง
มงุ่ มั่นในกำรทำ้ งำน
รักควำมเปน็ ไทย มจี ิตสำธำรณะ

6. การวัดและประเมินผลการเรียนรู้

กำรประเมิน วธิ ีกำร เครือ่ งมือ

ดำ้ นควำมรู้ (K) -กำรตอบค้ำถำม -คำ้ ถำม
-ท้ำแบบฝกึ หัด -แบบฝกึ หดั

ด้ำนทกั ษะและกระบวนกำร (P) -ทักษะกำรอ่ำน -แบบประเมนิ กำรอ่ำน
-ทกั ษะกำรเขียน -แบบฝกึ หดั
ด้ำนคณุ ธรรม จริยธรรมและค่ำนิยม -ทกั ษะกำรคดิ วเิ ครำะห์ -แบบฝึกหดั
(A) -แบบสงั เกตพฤติกรรม
-สงั เกตพฤตกิ รรมในกำรรว่ ม
กจิ กรรม กำรทำ้ งำนกลุ่ม
-สงั เกตพฤตกิ รรมกำรใช้สระ

7. ส่อื /อปุ กรณ/์ แหล่งการเรียนรู้

1. แบบฝกึ หัด 2. เพลงสระเออ 3. หนังสอื หลกั ภำษำเลม่ 1 ประถมศึกษำปที ี่ 2
6.บตั รภำพ
4. ไมเ้ รียกเลขที่ 5.คำ้ ถำม 9. หนังสอื วรรณคดลี ้ำน้ำประถมศกึ ษำปที ่2ี

7.บัตรคำ้ ศัพท์ 8. เพลง

8. กิจกรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................. ............................................................

ลงชอ่ื .............................................ครผู สู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ำยวิชำกำร
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่ือ................................................... ผู้บรหิ ำร
vv (...........................................................)

เพลงสระเออ

คำ้ ร้อง รศ.ปิตนิ นั ธ์ (ประคอง) สทุ ธสำร
ทำ้ นอง แขกตำรกี ปี สั

เอ เดินน้ำหนำ้ อ อ่ำงตำมมำ ประสมกนั เป็นเออ (ซ้ำ)
เออ้ เฮอ เธอ ละเมอ เหมอ่ เสมอ ก็มสี ระเออ
เก้อ เพ้อ เจอ กระเชอ เอ่อ อย่ำเผลอ กม็ ีสระเออ
(สรอ้ ย) เรำมำเรียนค้ำเออ มำ เรำมำเรยี นค้ำสระเออ (ซ้ำ)
เชญิ เพลนิ เกนิ เนนิ เดิน เปิ่น บงั เอญิ ล้วนเปน็ สระเออ (ซ้ำ)
เออ นนั มีตวั สะกด อ อ่ำงละลด แปลงรปู อิ แทน (ซ้ำ)
(สร้อย) เรำมำเรียนคำ้ เออ มำ เรำมำเรียนคำ้ สระเออ (ซ้ำ)
เคย เลย ใบเตย เนย เอ่ย เฉยเมย ลว้ นเป็นสระเออ (ซำ้ )
เออ นันแมเ่ กยสะกด อ อ่ำงละลด หำยวับหมดเลย (ซำ้ )
(สรอ้ ย) เรำมำเรยี นค้ำเออ มำ เรำมำเรียนคำ้ สระเออ (ซ้ำ)
เทอญ เทอม และเกอว คำ้ เก่ำโบรำณ ล้วนเป็นสระเออ (ซ้ำ)
เออ นนั มตี วั สะกด อ อำ่ งไมล่ ด จำ้ ไว้ใหด้ ี (ซ้ำ)
(สร้อย) เรำมำเรียนคำ้ เออ มำ เรำมำเรียนคำ้ สระเออ (ซ้ำ)

สปั ดำหท์ ่ี 6

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/……………... ชือ่ ผสู้ อน ….…..….................................................……...
กล่มุ สาระการเรียนรู้ ภำษำไทย
หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 ใจหำย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 6 คาบ

เรือ่ ง ใจหำย

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้ีวดั

มำตรฐำน ท 1.1 ใช้กระบวนกำรอ่ำนสรำ้ งควำมรูแ้ ละควำมคดิ เพอ่ื น้ำไปใชต้ ัดสินใจแกป้ ญั หำในกำรดำ้ เนินชีวติ และมี
นสิ ยั รกั กำรอ่ำน

ตวั ชีวัดท่ี ป 2/3ตังคำ้ ถำมและตอบคำ้ ถำมเกี่ยวกับ เรอ่ื งท่ีอำ่ น
ตวั ชวี ัดท่ี ป 2/4ระบใุ จควำมส้ำคญั และรำยละเอียดจำกเร่อื งท่อี ่ำน
ตัวชีวัดท่ี ป 2/5แสดงควำมคิดเห็นและคำดคะเนเหตกุ ำรณ์จำกเร่อื งทอ่ี ำ่ น
ตัวชีวดั ท่ี ป 2/8มมี ำรยำทในกำรอำ่ น
มำตรฐำนที่ ท 2.1ใช้กระบวนกำรเขียนเขียนสอ่ื สำร เขียนเรยี งควำม ย่อควำม และเขียนเรื่องรำวในรปู แบบตำ่ งๆ
เขยี นรำยงำนข้อมลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศกึ ษำคน้ คว้ำอย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ
ตัวชีวัดท่ี ป 2/2เขียนเรื่องสนั ๆ เก่ียวกบั ประสบกำรณ์

ตัวชีวดั ที่ ป 2/4มีมำรยำทในกำรเขียน
มำตรฐำนที่ ท 4.1เขำ้ ใจธรรมชำติของภำษำและหลักภำษำไทยกำรเปล่ยี นแปลงของภำษำและพลงั ของภำษำ ภมู ิปญั ญำทำง
ภำษำ และรกั ษำภำษำไทยไว้เปน็ สมบัตขิ องชำติ
ตวั ชีวดั ที่ ป 2/1บอกและเขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย
ตวั ชีวดั ท่ี ป 2/2เขียนสะกดคำ้ และบอกควำมหมำย ของคำ้

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การอ่านจบั ใจความสาคัญ คอื กำรอำ่ นเพื่อจับใจควำมหรอื ข้อคดิ ควำมคดิ ส้ำคัญหลักของข้อควำม หรือเรื่องทอ่ี ำ่ น

กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคัญ ถอื เปน็ ทกั ษะสำ้ คญั ที่ใช้ในกำรอำ่ นเพื่อกำรส่ือสำรมำกทสี่ ุด เพรำะเป็นพืนฐำนสำ้ คญั ในกำรศกึ ษำหำ
ควำมรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนให้เกดิ ควำมช้ำนำญ

การเขยี นบรรยายภาพ เปน็ กำรใชป้ ระสบกำรณร์ ่วมกับจินตนำกำรของผเู้ ขยี น โดยดรู ำยละเอียดตำ่ งๆจำกภำพเป็น
พืนฐำน เขยี นเป็นเรอื่ งรำวทนี่ ่ำสนใจหรอื สนุกสนำนเพลิดเพลนิ แก่ผอู้ ่ำน

สระ หมำยถึง เครือ่ งหมำยใชแ้ ทนเสยี งทเ่ี ปล่งออกมำ ตำมหลกั ภำษำ ถอื ว่ำพยญั ชนะจ้ำเป็นตอ้ งอำศัยสระจงึ จะออก
เสียงได้ ดังนันจึงตอ้ งอ่ำนและเขียนสระให้คลอ่ งจงึ จะทำ้ ใหน้ ้ำไปใช้ไดอ้ ย่ำงมปี ระสิทธภิ ำพ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.อธบิ ำยควำมหมำย และหลกั กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคญั (K)
2. รแู้ ละเข้ำใจหลกั กำรอ่ำนกำรเขยี นสระเออ(K)
3.รู้และเขำ้ ใจหลกั กำรเขียนบรรยำยภำพ (K)
4.อ่ำนเรอื่ งได้คล่องแคล่ว รวดเรว็ และถูกต้องตำมอกั ขรวธิ ี (P)
5.แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเห็นจำกเรอ่ื งทีอ่ ำ่ น (P)
6.อ่ำนและเขียนค้ำทป่ี ระสมดว้ ยสระเออได้ (P)
7.เหน็ ควำมสำ้ คญั ของกำรอำ่ นและมำรยำทในกำรอำ่ น (A)
8.เขียนบรรยำยภำพได(้ P)
9.มคี วำมสนใจในกำรเรียนภำษำไทย (A )
10.กระตอื รือรน้ และมสี ว่ นร่วมกบั กำรจัดกจิ กรรมกำรเรยี นรแู้ ละมีมำรยำทในกำรเรียน (A)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถนิ่
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

3.1 ควำมรู้ : Knowledge (K) กำรอ่ำนจบั ใจควำมนิทำนอำ่ นใหม่
กำรเขยี นบรรยำยภำพ สระเออ

3.2 กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ : Process (P)

5. กจิ กรรมการเรียนรู้

คาบที่ กจิ กรรมการเรียนการสอน

คาบที่ 1-2 สาระสาคัญ
กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คญั คอื กำรอ่ำนเพอ่ื จบั ใจควำมหรอื ขอ้ คิด ควำมคดิ ส้ำคัญหลักของ

การอา่ นจับ ข้อควำม หรอื เรือ่ งท่อี ่ำน

ใจความนทิ านอ่าน กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คัญ ถอื เป็นทกั ษะส้ำคัญทใี่ ช้ในกำรอำ่ นเพ่อื กำรส่อื สำรมำกทสี่ ุด เพรำะเปน็
ใหม่ พนื ฐำนสำ้ คัญในกำรศึกษำหำควำมรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กดิ ควำมชำ้ นำญ
ข้ันท่ี 1 ขั้นรวบรวมขอ้ มูล

1.นกั เรยี นทบทวนเก่ียวกบั กำรอำ่ นสรปุ ใจควำม โดยใชค้ ้ำถำมดงั ตอ่ ไปนี
- กำรอำ่ นสรปุ ใจควำมคอื อะไร
- นักเรยี นใชท้ กั ษะอะไรบ้ำงในกำรอ่ำนสรปุ ใจควำม

2.นักเรียนอ่ำนเร่ืองนทิ ำนอ่ำนใหม1่ รอบ ในขณะท่ีนกั เรียนอ่ำนครูสังเกตนกั เรียนในห้อง
เม่อื ถึงตอนทจ่ี ะเล่ำนทิ ำนครูใหน้ กั เรยี นหยดุ และถำมนกั เรยี น โดยใชค้ ้ำถำมดังนี

-ในเรอ่ื งมีใครบ้ำง
-ในเร่อื งใครเปน็ คนเกเร
-นกั เรยี นรสู้ ึกอยำ่ งไรเกี่ยวกับเก่งเลก็ และเกง่ ใหญ่
ขน้ั ท่ี 2 ข้นั คดิ วิเคราะห์และสรปุ ความ

3.ครูเลำ่ นทิ ำนเรื่อง รำชสหี ์กบั หนใู หน้ กั เรียนฟงั เพ่อื วเิ ครำะหเ์ รอื่ งที่อ่ำนโดยครใู ช้คำ้ ถำม

ดงั นี

- เหตุกำรณ์นเี กดิ ขึนทใี่ ด

- ตวั ละครใดในเรื่องที่นักเรยี นชอบ

- นักเรียนคิดอย่ำงไรกบั รำชสหี ์และหนู

- เพรำะเหตใุ ดรำชสหี ์จงึ ยอมปล่อยหนู

-กำรกระท้ำของรำชสีหก์ บั หนูแสดงให้เหน็ นสิ ยั ของสัตว์ทงั สองอย่ำงไร

4. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ คดิ ประมลู เพอื่ เพม่ิ คุณค่ำโดยครใู ช้คำ้ ถำมดงั ตอ่ ไปนี

- นักเรยี นสำมำรถน้ำควำมรู้ท่ีไดร้ บั ไปใชใ้ นชีวิตประจำ้ วันไดอ้ ยำ่ งไร

ขัน้ ที่ 3 ข้ันปฏบิ ัตแิ ละสรุปความรู้หลังการปฏิบตั ิ

5. นักเรียนรว่ มแสดงท่ำทำงตอ่ ไปนี

- รำชสหี น์ อนหลบั

- หนไู ตข่ ้ำมตวั รำชสีห์

-รำชสหี ์กระโดดตะครบุ หนู

-หนแู ทะเชอื กขำด

6.นกั เรยี นเข้ำกลมุ่ รว่ มกนั สรุปประโยชนแ์ ละข้อคิดทไ่ี ดจ้ ำกกำรฟังนทิ ำน

ข้นั ท่ี 4 ข้ันส่ือสารและนาเสนอ

7.ตัวแทนกลมุ่ น้ำเสนอกำรท้ำกจิ กรรมในข้อที่ 6 หนำ้ ชนั เรียน

ขั้นที่ 5ข้ันประเมินเพ่ือเพ่ิมคุณค่าบรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ

8.นกั เรยี นร่วมกันแสดงควำมคิดเห็น โดยครูใช้ค้ำถำมดังนี

- นกั เรียนสำมำรถนำ้ ควำมรู้เกีย่ วกบั เรือ่ งทเ่ี รียนไปใช้ประโยชน์ในสงั คมไดอ้ ยำ่ งไร

คาบท่ี 3-4 สาระสาคัญ
กำรเขยี นบรรยำยภำพ เป็นกำรใช้ประสบกำรณร์ ่วมกบั จนิ ตนำกำรของผเู้ ขียน โดยดู

การเขียนบรรยาย รำยละเอียดต่ำงๆจำกภำพเปน็ พนื ฐำน เขียนเปน็ เร่ืองรำวทน่ี ่ำสนใจหรอื สนกุ สนำนเพลดิ เพลินแก่

ภาพ ผู้อ่ำน
ขั้นท่ี 1 ขัน้ รวบรวมขอ้ มลู

1. นักเรียนดตู วั อยำ่ งกำรเขียนบรรยำยภำพ แล้วรว่ มกนั สนทนำโดยครูใช้ค้ำถำมดงั นี

-กำรเขียนบรรยำยภำพดังกลำ่ วนักเรยี นคิดวำ่ ดีหรอื ไม่เพรำะอะไร

-นักเรียนทรำบหรือไม่วำ่ กำรเขยี นบรรยำยภำพมหี ลักกำรเขยี นอยำ่ งไร

2. นักเรยี นศึกษำควำมรเู้ รอื่ ง กำรเขียนบรรยำยภำพ แล้วร่วมกนั อภิปรำยว่ำกำรเขยี น

บรรยำยภำพมีหลกั ในกำรปฏบิ ัตอิ ยำ่ งไรบ้ำง

ข้ันท่ี 2 ข้ันคิดวิเคราะห์และสรปุ ความ

3. นกั เรียนดภู ำพแลว้ ร่วมกันวเิ ครำะห์ โดยครใู ชค้ ้ำถำมดงั นี

คาบที่ 5-6 -ภำพทน่ี ักเรยี นเห็นมีองค์ประกอบอะไรบำ้ ง
สระเออ -กำรเขยี นบรรยำยภำพมีควำมส้ำคัญอยำ่ งไร
นกั เรยี นช่วยกนั เขียนบรรยำยภำพบนกระดำน เพื่อนตรวจสอบควำมถกู ตอ้ ง ครู
แนะน้ำเพิ่มเตมิ ว่ำควรปรบั ปรุงอย่ำงไร
4.นกั เรยี นคิดประมูลเพือ่ เพ่มิ คุณค่ำโดยครูใชค้ ำ้ ถำมดังตอ่ ไปนี

- นักเรยี นสำมำรถน้ำควำมรทู้ ไ่ี ดร้ บั ไปใชใ้ นชวี ิตประจ้ำวนั ได้อยำ่ งไร
*ในกำรตอบค้ำถำมใหค้ รูใชไ้ ม้เรยี กเลขที่ เพอ่ื ให้นักเรยี นตอบทีละคน โดยถำมค้ำถำม
ก่อนจะเรียกเลขที่เพอื่ ให้ทกุ คนไดค้ ดิ ในแตล่ ะคำ้ ถำมควรใหน้ กั เรียนนำ้ เสนอ 4-5 คน
ขน้ั ที่ 3 ข้ันปฏิบตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบัติ
5. ครูแบง่ นกั เรยี นเป็นกลุ่ม กลมุ่ ละ 4 คน แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกล่มุ ดูภำพท่กี ำ้ หนดแล้วฝกึ เขยี น
บรรยำยภำพ
6.นกั เรยี นสรปุ เก่ยี วกบั กำรเขยี นบรรยำยภำพ แลว้ ครอู ธบิ ำยเพ่ิมเติมดงั นี
* กำรเขียนบรรยำยภำพ เปน็ กำรใช้ประสบกำรณ์ร่วมกบั จินตนำกำรของผเู้ ขียน โดย
ดูรำยละเอยี ดตำ่ งๆจำกภำพเป็นพืนฐำน เขยี นเปน็ เร่ืองรำวทีน่ ำ่ สนใจหรอื สนกุ สนำนเพลดิ เพลินแก่
ผู้อำ่ น
ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและนาเสนอ
7.นกั เรียนน้ำเสนอผลงำนหน้ำชันเรยี น โดยครใู ชไ้ มเ้ รียกเลขที่ เรียกนกั เรยี นออกมำ
น้ำเสนอหน้ำชนั เรียนประมำณ 4-5 คน
ขัน้ ที่ 5ขั้นประเมนิ เพ่ือเพ่ิมคุณค่าบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ
8.นกั เรยี นรว่ มกันแสดงควำมคิดเห็น โดยครใู ช้คำ้ ถำมดงั นี
- นักเรยี นสำมำรถน้ำควำมรู้เกี่ยวกับเร่ืองทเ่ี รียนไปใชป้ ระโยชน์ในสงั คมไดอ้ ย่ำงไร
สาระสาคัญ
สระ หมำยถึง เครื่องหมำยใช้แทนเสียงท่ีเปลง่ ออกมำ ตำมหลักภำษำ ถือว่ำพยญั ชนะ
จ้ำเป็นตอ้ งอำศัยสระจึงจะออกเสียงได้ ดงั นันจงึ ต้องอ่ำนและเขยี นสระให้คลอ่ งจึงจะทำ้ ใหน้ ้ำไปใช้
ได้อยำ่ งมีประสทิ ธิภำพ
ขัน้ ท่ี 1 ขั้นรวบรวมขอ้ มูล
1. นกั เรยี นฟงั เพลง สระ เออ และรว่ มรองเพลง 1-2 รอบ นกั เรียนแยกคำ้ ท่ปี ระสมสระ
เออ จำกบนเพลงเขยี นบน
กระดำนดำ้ แลว้ อ่ำนออกเสียงพรอ้ มกนั

2. นักเรียนศึกษำเรือ่ งสระ เออ
ข้ันท่ี 2 ขัน้ คิดวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ

3. ครตู ดิ บตั รคำ้ ทม่ี ีสระ เออ เชน่ เชิญ เลย เติม เทอม เสรมิ เดิน นกั เรียนอำ่ นออก
เสยี งพร้อมกัน แล้วรว่ มกัน

สนทนำโดยครใู ชค้ ำ้ ถำมดงั นี
-ค้ำที่มตี วั สะกดและไมม่ ีตัวสะกดแตกตำ่ งกนั อยำ่ งไร
-นักเรียนรจู้ ักคำ้ อะไรอกี บ้ำงทป่ี ระสมดว้ นสระเออ กำรยกตวั อยำ่ งค้ำใหค้ รูใชไ้ ม้

เรยี กเลขที่ เพ่อื ใหน้ กั เรียนตอบทลี ะคน โดยถำมค้ำถำมก่อนจะเรยี กเลขทเี่ พอ่ื ให้ทกุ คน
ได้คิด และให้นกั เรียนนำ้ เสนอ 4-5 คน
4. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ คดิ ประมลู เพอ่ื เพม่ิ คณุ คำ่ โดยครใู ช้คำ้ ถำมดงั ต่อไปนี

- นักเรียนสำมำรถน้ำควำมรทู้ ไ่ี ดร้ บั ไปใชใ้ นชีวิตประจ้ำวันได้อย่ำงไร
ขน้ั ท่ี 3 ข้ันปฏบิ ตั แิ ละสรุปความรหู้ ลงั การปฏิบัติ

5. นกั เรียนเข้ำกลมุ่ อำ่ นบัตรต่อไปนี เดนิ ทำง ใบเตย ละเมอ เนยแข็ง ชกั เยอ่ ตวั แทน
กลุม่ ออกมำเขยี นรูปสระจำกบัตรภำพท่ีนกั เรยี นไดร้ บั ไป กลมุ่ ใดตอบถูกใหแ้ รงเสริมเป็นคะแนน
กลมุ่

6. นกั เรยี นฝกึ อ่ำนท้ำทปี่ ระสมด้วนสระเออจำกบตั รคำ้ (บัตรค้ำจำกแบบฝกึ หดั )
7.นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ เรอื่ งสระ เออ และท้ำแบบฝึกหดั
ข้ันที่ 4 ข้ันสือ่ สารและนาเสนอ
8.นกั เรยี นนำ้ เสนอค้ำทีป่ ระสมดว้ ยสระเออ หน้ำชันเรยี น โดยครใู ชไ้ ม้เรยี กเลขทเี่ รยี ก
นักเรยี นออกมำนำ้ เสนอประมำณ 4-5 คน
ข้ันท่ี 5ข้ันประเมินเพื่อเพ่ิมคุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ
9.นักเรียนร่วมกนั แสดงควำมคิดเหน็ โดยครูใชค้ ้ำถำมดงั นี

- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมรเู้ กีย่ วกบั เรือ่ งทีเ่ รยี นไปใช้ประโยชนใ์ นสงั คมไดอ้ ยำ่ งไร
3.3 คณุ ลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ : Attitude (A) ซื่อสตั ย์สจุ รติ มวี ินยั ใฝเ่ รยี นรู้ อย่ยู ่ำงพอเพียง
ม่งุ มัน่ ในกำรทำ้ งำน
รกั ควำมเป็นไทย มีจิตสำธำรณะ

6. การวัดและประเมนิ ผลการเรียนรู้

กำรประเมิน วิธกี ำร เครือ่ งมอื

ดำ้ นควำมรู้ (K) -กำรตอบค้ำถำม -คำ้ ถำม
-ท้ำแบบฝกึ หดั -แบบฝึกหดั

ด้ำนทกั ษะและกระบวนกำร (P) -ทกั ษะกำรอ่ำน -แบบประเมินกำรอำ่ น
-ทักษะกำรเขยี น -แบบฝึกหดั
ดำ้ นคุณธรรม จริยธรรมและคำ่ นิยม -ทกั ษะกำรคิดวเิ ครำะห์ -แบบฝึกหดั
(A)
-สังเกตพฤตกิ รรมในกำรรว่ ม -แบบสังเกตพฤตกิ รรม
กจิ กรรม กำรท้ำงำนกลุ่ม
-สังเกตพฤตกิ รรมกำรใชส้ ระ

7. สือ่ /อปุ กรณ์/แหลง่ การเรยี นรู้

1. แบบฝึกหดั 2. เพลงสระเออ 3. หนังสือหลกั ภำษำเลม่ 1 ประถมศึกษำปที ี่ 2
6.บัตรภำพ
4. ไม้เรยี กเลขท่ี 5.ค้ำถำม 9. หนังสอื วรรณคดลี ำ้ นำ้ ประถมศึกษำปที ่2ี

7.บัตรค้ำศัพท์ 8. เพลง

8. กิจกรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
............................................................................................................................................................................... ..........................

ลงชื่อ.............................................ครผู สู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝ่ำยวิชำกำร
(...........................................................) (...........................................................)

vv ลงชื่อ................................................... ผู้บริหำร
(...........................................................)

ท้ำนอง แขกตำรกี ปี ัส

เพลงสระเออ

คำ้ รอ้ ง รศ.ปติ นิ นั ธ์ (ประคอง) สทุ ธสำร

เอ เดนิ นำ้ หน้ำ อ อ่ำงตำมมำ ประสมกนั เปน็ เออ (ซ้ำ)
เอ้อเฮอ เธอ ละเมอ เหม่อ เสมอ กม็ สี ระเออ
เก้อ เพ้อ เจอ กระเชอ เออ่ อย่ำเผลอ กม็ ีสระเออ
(สร้อย) เรำมำเรียนคำ้ เออ มำ เรำมำเรยี นคำ้ สระเออ (ซ้ำ)
เชญิ เพลิน เกิน เนิน เดนิ เป่ิน บงั เอญิ ลว้ นเป็นสระเออ (ซ้ำ)
เออ นันมตี วั สะกด อ อำ่ งละลด แปลงรูป อิ แทน (ซ้ำ)
(สร้อย) เรำมำเรียนคำ้ เออ มำ เรำมำเรยี นคำ้ สระเออ (ซำ้ )
เคย เลย ใบเตย เนย เอ่ย เฉยเมย ล้วนเป็นสระเออ (ซำ้ )
เออ นันแม่เกยสะกด อ อำ่ งละลด หำยวับหมดเลย (ซำ้ )
(สร้อย) เรำมำเรยี นค้ำเออ มำ เรำมำเรียนคำ้ สระเออ (ซ้ำ)
เทอญ เทอม และเกอว คำ้ เก่ำโบรำณ ลว้ นเปน็ สระเออ (ซ้ำ)
เออ นนั มีตัวสะกด อ อ่ำงไมล่ ด จำ้ ไวใ้ หด้ ี (ซ้ำ)
(สร้อย) เรำมำเรยี นค้ำเออ มำ เรำมำเรยี นคำ้ สระเออ (ซำ้ )

สัปดำหท์ ี่ 7

โรงเรียนขจรเกยี รตพิ ัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/…….……... ชอ่ื ผูส้ อน ….…..….................................................……...
กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ ภำษำไทย
หน่วยการเรียนร้ทู ี่ 3 ใจหำย ชั้นประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 6 คาบ

เร่อื ง ครวั ปำ่

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ช้วี ดั

มำตรฐำนท่ี ท 1.1ใชก้ ระบวนกำรอำ่ นสรำ้ งควำมรแู้ ละควำมคิดเพ่ือนำ้ ไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ญั หำในกำรด้ำเนนิ ชีวติ
และมนี สิ ยั รกั กำรอำ่ น

ตัวชีวดั ท่ี ป 2/1 อ่ำนออกเสียงคำ้ ขอ้ ควำม และเขียนสะกดคำ้ และบอกควำมหมำยของค้ำง่ำยๆไดถ้ ูกตอ้ ง
ตวั ชีวดั ที่ ป 2/2 อธิบำยควำมหมำยของค้ำและข้อควำมทอ่ี ำ่ น
ตัวชวี ดั ที่ ป 2/3 ตังค้ำถำมและตอบค้ำถำมเกีย่ วกบั เรื่องท่ีอำ่ น
ตวั ชีวัดที่ ป 2/4 ระบุใจควำมสำ้ คญั และรำยละเอยี ดจำกเร่อื งที่อ่ำน
ตัวชีวดั ท่ี ป 2/8 มีมำรยำทในกำรอำ่ น
มำตรฐำนที่ ท 2.1ใช้กระบวนกำรเขียนเขยี นส่อื สำร เขียนเรียงควำม ยอ่ ควำม และเขยี นเรอ่ื งรำวในรปู แบบต่ำงๆ
เขยี นรำยงำนขอ้ มลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศกึ ษำค้นคว้ำอยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพ
ตวั ชีวัดท่ี ป 2/3 เขยี นเร่ืองสันๆตำมจนิ ตนำกำร
ตวั ชวี ดั ท่ี ป 2/4 มีมำรยำทในกำรอำ่ น
มำตรฐำนที่ ท 4.1 เข้ำใจธรรมชำติของภำษำและหลักภำษำไทย กำรเปล่ียนแปลงของภำษำและพลงั ของภำษำ ภูมปิ ญั ญำ
ทำงภำษำ และรกั ษำภำษำไทยไว้เปน็ สมบตั ิของชำติ
ตวั ชีวดั ท่ี ป 2/1 บอกและเขียนพยัญชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย

ตัวชีวดั ท่ี ป 2/2เขยี นสะกดค้ำและบอกควำมหมำยของคำ้

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

การอา่ นจับใจความสาคัญ คอื กำรอำ่ นเพื่อจับใจควำมหรอื ข้อคิด ควำมคิดสำ้ คญั หลักของขอ้ ควำม หรือเร่อื งทอี่ ่ำน

กำรอำ่ นจบั ใจควำมสำ้ คญั ถอื เป็นทกั ษะส้ำคัญที่ใช้ในกำรอำ่ นเพอื่ กำรสอ่ื สำรมำกทส่ี ุด เพรำะเป็นพืนฐำนสำ้ คญั ในกำรศึกษำหำ
ควำมรู้ จึงควรฝกึ ฝนใหเ้ กิดควำมช้ำนำญ

การเขียนตามจนิ ตนาการ คอื กำรเขยี นเรอื่ งทมี่ ำจำกควำมคิด ควำมรสู้ ึก ควำมใฝฝ่ นั ของผ้เู ขยี นเอง เปน็ กำรเขียนแบบ
อิสระ ผเู้ ขียนควรมีควำมคดิ สร้ำงสรรค์และชำ่ งสงั เกต

วรรณยุกตเ์ ป็นเครื่องหมำยทใ่ี ชก้ ำ้ กบั ค้ำเพ่ือให้มรี ะดบั เสยี งต่ำงกนั และชว่ ยท้ำให้คำ้ มีควำมหมำยมำกขึน

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1.อธบิ ำยควำมหมำย และหลกั กำรอำ่ นจบั ใจควำมส้ำคญั (K)
2. อธิบำยวธิ ีกำรเขยี นวรรณยุกตไ์ ทย (K)
3ใช้จนิ ตนำกำรในกำรคดิ เร่อื งรำวต่ำง ๆ (K)
4.อ่ำนเรอื่ งไดค้ ลอ่ งแคลว่ รวดเรว็ และถกู ตอ้ งตำมอักขรวิธี (P)
5.แยกข้อเทจ็ จริงและข้อคดิ เหน็ จำกเร่อื งที่อำ่ น (P)
6.เขียนเรอื่ งสนั ๆ ตำมจนิ ตนำกำรได้ (P)
7.จำ้ แนกรปู และเสยี งวรรณยกุ ต์ (P)
8.บอกและเขยี นสว่ นประกอบของคำ้ ได้ (P)
9.เหน็ ควำมสำ้ คญั ของกำรอ่ำนและมำรยำทในกำรอ่ำน (A)
10.ตระหนกั ถงึ ควำมสำ้ คญั ของกำรรูจ้ กั ใชจ้ นิ ตนำกำรอยำ่ งสร้ำงสรรค์ (A)
11.กระตือรือรน้ ในกำรร่วมกิจกรรม (A)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรูท้ อ้ งถ่นิ
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

3.1 ควำมรู้ : Knowledge (K) กำรอำ่ นจบั ใจควำมเรอ่ื งครัวป่ำ
กำรเขียนตำมจินตนำกำร วรรณยุกต์
3.2 กระบวนกำรจดั กำรเรยี นรู้ : Process (P)

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบที่ กิจกรรมการเรียนการสอน

คาบท่ี 1-2 สาระสาคัญ
กำรอำ่ นจบั ใจควำมส้ำคญั คือ กำรอ่ำนเพ่อื จบั ใจควำมหรือข้อคดิ ควำมคิดสำ้ คญั หลกั ของ

การอา่ นจบั ขอ้ ควำม หรือเรื่องที่อำ่ น
ใจความเรอื่ งครัว
กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คัญ ถอื เป็นทกั ษะสำ้ คญั ทใี่ ชใ้ นกำรอำ่ นเพือ่ กำรส่ือสำรมำกทส่ี ดุ เพรำะเปน็
ป่า
พืนฐำนสำ้ คญั ในกำรศึกษำหำควำมรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กดิ ควำมชำ้ นำญ

ขน้ั ที่ 1 ขนั้ รวบรวมข้อมูล

1.นักเรยี นอ่ำนค้ำคลอ้ งจองและรอ้ งเลน่ ให้เปน็ จงั หวะและชว่ ยกันคิดคำ้ ตอบ

เดนิ ทำงเข้ำป่ำ อยำ่ ช้ำเรว็ ไว

เอะ๊ !นน่ั อะไร ต้นใหญ่ตน้ โต(ตอบ ต้นไทร ต้นโพธ)์

ออกเดินไปอกี หลบหลกี ไมใ้ หญ่

เอะ๊ !น่นั เสียงใคร รอ้ งจิ๊บ จบ๊ิ จบิ๊ (ตอบ ....................)

เดินไปอกี หน่อย คอ่ ย ค่อย ย่อง ยอ่ ง

เอะ๊ !อะไรน่ำมอง เหมอื นดอกไมบ้ นิ (ตอบ............................)

2.นกั เรยี นทบทวนเก่ียวกับกำรอ่ำนสรุปใจควำม โดยใชค้ ้ำถำมดังต่อไปนี

คาบที่ 3-4 - กำรอำ่ นสรปุ ใจควำมคืออะไร
- นักเรียนใช้ทกั ษะอะไรบ้ำงในกำรอำ่ นสรปุ ใจควำม
การเขียนตาม *ในกำรตอบค้ำถำมใหค้ รูใชไ้ ม้เรยี กเลขที่ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนตอบทีละคน โดยถำม
จนิ ตนาการ คำ้ ถำมก่อนจะเรียกเลขท่เี พือ่ ใหท้ ุกคนได้คิด ในแตล่ ะค้ำถำมควรใหน้ ักเรียนนำ้ เสนอ 4-5 คน
3. นักเรยี นแบง่ กลมุ่ ให้แต่ละกลมุ่ อำ่ นในใจเรอื่ ง ครวั ปำ่ จำกหนังสอื ภำษำพำที ชนั
ประถมศึกษำปีท่ี 2
โดยนำ้ หลกั กำรอ่ำนในใจมำใช้ ครสู ังเกตกำรอำ่ นของนกั เรียนแต่ละคนว่ำปฏบิ ัติไดถ้ ูกตอ้ งตำม
หลักกำรอ่ำนหรอื ไม่
ขน้ั ท่ี 2 ข้นั คิดวเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ
4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ ร่วมกนั สรปุ ใจควำมส้ำคญั ของเรื่องครวั ปำ่
5.นกั เรยี นแตล่ ะกลุ่มคิดประเมนิ เพื่อเพ่ิมคุณค่ำโดยครใู ชค้ ้ำถำมดังต่อไปนี
- ตวั ละครในเร่ืองมีใครบำ้ ง มีเหตกุ ำรณอ์ ะไรเกิดขึนบ้ำง
- จำกเรือ่ งที่อำ่ นนกั เรยี นสำมำรถน้ำไปใช้ในชีวติ ประจำ้ วนั อยำ่ งไร
ข้นั ท่ี 3 ข้ันปฏบิ ตั แิ ละสรปุ ความรูห้ ลงั การปฏบิ ัติ
6.นักเรียนท้ำกิจกรรมกำรถำมตอบจำกเรอื่ งที่ศึกษำและตังคำ้ ถำมกลมุ่ ละ 10 ค้ำถำม
7.นกั เรียนร่วมกันสรปุ ข้อคดิ ที่ไดจ้ ำกกำรอำ่ นเร่ือง ครวั ป่ำ
ขั้นที่ 4 ข้ันสื่อสารและนาเสนอ
8.นกั เรียนนำ้ เสนอค้ำถำม โดยครูใช้ไม้เรียกเลขทีเ่ รยี กนกั เรียนออกมำนำ้ เสนอ
ขน้ั ที่ 5ขั้นประเมนิ เพื่อเพ่ิมคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ
9.นกั เรยี นร่วมกันแสดงควำมคดิ เห็น โดยครใู ชค้ ำ้ ถำมดังนี
- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมรู้เกย่ี วกบั เรอื่ งทเ่ี รยี นไปใชป้ ระโยชนใ์ นสังคมไดอ้ ย่ำงไร

สาระสาคญั
กำรเขยี นตำมจนิ ตนำกำร คือกำรเขยี นเรอ่ื งทม่ี ำจำกควำมคิด ควำมร้สู ึก ควำมใฝฝ่ นั ของ

ผูเ้ ขยี นเอง เปน็ กำรเขียนแบบอิสระ ผเู้ ขียนควรมีควำมคิดสรำ้ งสรรคแ์ ละช่ำงสงั เกต
ขั้นที่ 1 ข้นั รวบรวมข้อมลู

1. ครูสนทนำซกั ถำมนกั เรยี น เก่ียวกบั ควำมหมำยของค้ำวำ่ จินตนำกำร
2. นกั เรยี นศึกษำควำมร้เู ร่อื ง กำรเขยี นเรอื่ งตำมจินตนำกำร
ข้นั ท่ี 2 ข้ันคดิ วิเคราะห์และสรปุ ความ
3.นกั เรยี นดตู วั อย่ำงกำรเขยี นเรอ่ื งตำมจนิ ตนำกำร แลว้ รว่ มกนั วเิ ครำะหโ์ ดยครใู ช้ค้ำถำมดังนี

-งำนเขยี นที่นักเรียนอำ่ นเปน็ เร่ืองรำวเกี่ยวกบั อะไร
-กำรเขยี นตำมจนิ ตนำกำรมลี กั ษณะอยำ่ งไร
4. นักเรยี นแตล่ ะกล่มุ คดิ ประเมินเพอ่ื เพม่ิ คณุ คำ่ โดยครูใชค้ ำ้ ถำมดงั ตอ่ ไปนี

- นกั เรียนสำมำรถน้ำควำมรทู้ ไี่ ด้รบั ไปใชใ้ นชีวติ ประจำ้ วนั ไดอ้ ย่ำงไร
ข้นั ที่ 3 ขั้นปฏิบตั แิ ละสรปุ ความรู้หลังการปฏบิ ัติ

5.นกั เรยี นฝกึ เขยี นเรื่องตำมจินตนำกำร

6.นกั เรยี นรว่ มกันสรุปเกยี่ วกับกำรเขยี นตำมจินตนำกำร และครูอธบิ ำยเพ่ิมเติมดงั นี กำร
เขยี นตำมจนิ ตนำกำร คอื กำรเขยี นเร่อื งทม่ี ำจำกควำมคิด ควำมรูส้ กึ ควำมใฝ่ฝัน ของผเู้ ขยี นเอง
เปน็ กำรเขยี นแบบอสิ ระ ผูเ้ ขยี นควรมีควำมคดิ สร้ำงสรรคแ์ ละชำ่ งสงั เกต
ขนั้ ท่ี 4 ข้ันส่ือสารและนาเสนอ

7. นกั เรยี นน้ำเสนอผลงำน โดยกำรจดั แสดงทปี่ ำ้ ยนเิ ทศ
ข้ันท่ี 5ขั้นประเมนิ เพื่อเพ่ิมคุณค่าบรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ

6.นักเรียนร่วมกนั แสดงควำมคดิ เห็น โดยครูใชค้ ้ำถำมดงั นี

คาบท่ี 5-6 - นักเรียนสำมำรถน้ำควำมร้เู กย่ี วกับเรื่องท่ีเรยี นไปใชป้ ระโยชน์ในสังคมได้อยำ่ งไร
วรรณยุกต์ สาระสาคัญ

วรรณยุกตเ์ ปน็ เคร่อื งหมำยทใ่ี ชก้ ้ำกบั คำ้ เพือ่ ใหม้ รี ะดบั เสียงตำ่ งกันและช่วยทำ้ ใหค้ ำ้ มี
ควำมหมำยมำกขนึ
ขัน้ ที่ 1 ข้ันรวบรวมข้อมลู

1. นกั เรียนฟงั เพลง วรรณยุกต์ แล้วร่วมกันสนทนำโดยครูใชค้ ้ำถำมดงั นี
-เพลงที่นกั เรยี นฟงั เกีย่ วกบั เรือ่ งอะไร
-จำกเพลงมรี ปู วรรณยุกต์อะไรบำ้ ง

2. นกั เรยี นศึกษำเรื่องวรรณยกุ ต์
ขน้ั ที่ 2 ขัน้ คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความ

3. นักเรยี นอำ่ นบัตรค้ำ โอง่ ปำ้ โต๊ะ กว๋ ยเต๋ยี ว แลว้ รว่ มกันวเิ ครำะหค์ ำ้ โดยครูใช้ค้ำถำม
ดงั นี
-คำ้ ท่ีนกั เรยี นอำ่ นเหมอื นและต่ำงกนั อยำ่ งไร

4. นกั เรียนแตล่ ะกลุ่มคดิ ประเมินเพอ่ื เพ่ิมคณุ คำ่ โดยครใู ช้คำ้ ถำมดังต่อไปนี
- นักเรยี นสำมำรถนำ้ ควำมรทู้ ีไ่ ดร้ บั ไปใชใ้ นชีวติ ประจำ้ วนั ไดอ้ ย่ำงไร

ขั้นท่ี 3 ข้ันปฏิบตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบตั ิ
5. นกั เรียนทำ้ กิจกรรมแยกแยะค้ำจำกบัตรค้ำตอ่ ไปนี มะม่วง เพลง นำฬกิ ำ เสอื กระปอ๋ ง

หนงั สือ โจ๊กไก่ โดยใหน้ ำ้ บตั รคำ้ ศพั ทท์ ีแ่ จกให้มำติดใหถ้ กู ฝง่ั ว่ำเปน็ คำ้ ทม่ี รี ูปวรรณยกุ ต์ หรอื ไมม่ รี ูป
วรรณยกุ ต์

6. นกั เรียนฝกึ อ่ำนค้ำท่ีมรี ปู วรรณยกุ ตจ์ ำกบตั รค้ำ (คำ้ จำกแบบฝึกหัด) แลว้ สนทนำกบั
นักเรยี นโดยใช้ค้ำถำมดงั นี

-คำ้ ท่อี ำ่ นใชว้ รรณยุกตอ์ ะไร
7. นักเรียนรว่ มกันสรุปเกีย่ วกบั วรรณยกุ ต์ ครอู ธบิ ำยเพม่ิ เตมิ ดงั นี

*วรรณยุกตเ์ ปน็ เครอื่ งหมำยทใี่ ชก้ ้ำกบั ค้ำเพื่อให้มรี ะดบั เสียงต่ำงกนั และช่วยท้ำใหค้ ้ำมี
ควำมหมำยมำกขนึ
ข้นั ที่ 4 ข้ันสอื่ สารและนาเสนอ

8.นกั เรยี นนำ้ เสนอคำ้ ทใ่ี ชว้ รรณยุกต์ โดยครูใชไ้ ม้เรยี กเลขท่ี เพื่อให้นักเรียนนำ้ เสนอทลี ะคน
เพื่อนๆช่วยกัน

ตรวจสอบควำมถูกต้อง
ขั้นที่ 5ข้ันประเมนิ เพื่อเพ่ิมคุณคา่ บรกิ ารสงั คมและจติ สาธารณะ

9.นักเรียนร่วมกนั แสดงควำมคดิ เห็น โดยครใู ช้คำ้ ถำมดงั นี
- นกั เรยี นสำมำรถนำ้ ควำมร้เู กย่ี วกบั เรื่องท่เี รียนไปใช้ประโยชน์ในสังคมไดอ้ ยำ่ งไร

3.3 คุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ : Attitude (A) ซื่อสัตยส์ ุจรติ มวี นิ ัย ใฝเ่ รยี นรู้ อย่ยู ่ำงพอเพียง
มงุ่ มน่ั ในกำรท้ำงำน
รกั ควำมเปน็ ไทย มจี ติ สำธำรณะ

6. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

กำรประเมิน วธิ กี ำร เครอื่ งมอื
-คำ้ ถำม
ด้ำนควำมรู้ (K) -กำรตอบค้ำถำม -แบบฝึกหดั
-แบบประเมินกำรอำ่ น
-ท้ำแบบฝกึ หัด -แบบฝึกหัด
-แบบสังเกตพฤตกิ รรม
ดำ้ นทกั ษะและกระบวนกำร (P) -ทักษะกำรอำ่ น

-ทักษะกำรเขยี น

ดำ้ นคณุ ธรรม จริยธรรมและค่ำนยิ ม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในกำรรว่ มกจิ กรรม

กำรท้ำงำนกลมุ่

7. สอ่ื /อปุ กรณ/์ แหล่งการเรยี นรู้

1. แบบฝกึ หดั 2. บัตรคำ้ เร่ืองครวั ป่ำ 3. หนังสอื ภำษำไทยชนั ประถมศึกษำปีท่ี 2

4. ไมเ้ รียกเลขท่ี 5.คำ้ ถำม 6.บตั รภำพตัวเลข

7.บตั รค้ำ 8. หนังสือหลักภำษำเลม่ 1ชันประถมศกึ ษำปีที่ 2 9. เพลง

8. กิจกรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
......................................................................................................................................................................................... ................
.........................................................................................................................................................................................................

ลงชอื่ .............................................ครผู สู้ อน ลงชือ่ ...................................................ฝ่ำยวชิ ำกำร
(...........................................................) (...........................................................)

vv ลงชือ่ ................................................... ผบู้ ริหำร
(...........................................................)

สปั ดำหท์ ่ี 8

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/…….……... ช่ือผ้สู อน ….…..….................................................……...
กลมุ่ สาระการเรียนรู้ ภำษำไทย
หนว่ ยการเรียนรทู้ ี่ 3 ใจหำย ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 6 คาบ

เรอื่ ง ครัวป่ำ

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ชีว้ ดั

มำตรฐำน ท 1.1 ใชก้ ระบวนกำรอำ่ นสรำ้ งควำมรแู้ ละควำมคดิ เพ่ือน้ำไปใช้ตดั สนิ ใจแกป้ ัญหำในกำรด้ำเนนิ ชีวิตและมี
นิสัยรกั กำรอ่ำน

ตวั ชีวัดที่ ป 2/1 อำ่ นออกเสยี งคำ้ ค้ำคลอ้ งจอง ขอ้ ควำม และบทร้อยกรองง่ำยๆได้ถกู ตอ้ ง
ตวั ชีวัดที่ ป 2/2 อธบิ ำยควำมหมำยของค้ำและขอ้ ควำมที่อำ่ น
ตวั ชวี ดั ท่ี ป 2/8มีมำรยำทในกำรอ่ำน
มำตรฐำนท่ี ท 2.1ใช้กระบวนกำรเขียนเขยี นสือ่ สำร เขียนเรยี งควำม ยอ่ ควำม และเขยี นเรือ่ งรำวในรปู แบบตำ่ งๆ
เขียนรำยงำนข้อมลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศกึ ษำค้นควำ้ อยำ่ งมีประสิทธภิ ำพ
ตวั ชวี ดั ที่ ป 2/2เขียนเรื่องสันๆ เกีย่ วกบั ประสบกำรณ์
ตวั ชวี ัดที่ ป 2/4มมี ำรยำทในกำรเขียน
มำตรฐำนท่ี ท 4.1เขำ้ ใจธรรมชำตขิ องภำษำและหลกั ภำษำไทยกำรเปล่ยี นแปลงของภำษำและพลังของภำษำ ภมู ปิ ญั ญำทำง
ภำษำ และรักษำภำษำไทยไวเ้ ป็นสมบัตขิ องชำติ
ตวั ชวี ดั ท่ี ป 2/2เขยี นสะกดคำ้ และบอกควำมหมำย ของค้ำ
มำตรฐำนที่ ท 5.1เขำ้ ใจและแสดงควำมคิดเหน็ วิจำรณว์ รรณคดแี ละวรรณกรรมไทยอยำ่ งเห็นคุณค่ำและนำ้ มำ
ประยุกต์ใช้ในชวี ติ จรงิ
ตวั ชีวัดที่ ป 2/1 ระบขุ อ้ คดิ ทไ่ี ดจ้ ำกกำรอำ่ นหรือ กำรฟังวรรณกรรมส้ำหรับเด็ก เพ่ือนำ้ ไปใชใ้ นชีวติ ประจำ้ วนั
ตวั ชวี ัดท่ี ป 2/3ท่องจำ้ บทอำขยำนตำมทกี่ ้ำหนดและบทร้อยกรองท่ีมคี ุณค่ำตำมควำมสนใจ

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การอา่ นจับใจความสาคัญ คอื กำรอ่ำนเพอ่ื จบั ใจควำมหรอื ข้อคดิ ควำมคดิ สำ้ คัญหลกั ของขอ้ ควำม หรือเรอ่ื งทีอ่ ่ำน

กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคญั ถือเป็นทกั ษะสำ้ คญั ท่ใี ช้ในกำรอำ่ นเพื่อกำรส่อื สำรมำกทส่ี ดุ เพรำะเป็นพืนฐำนส้ำคญั ในกำรศึกษำหำ
ควำมรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กิดควำมช้ำนำญ

กำรเขยี นประโยคจำกภำพเป็นกำรเขยี นเชิงสร้ำงสรรคเ์ พื่อพฒั นำให้นักเรยี นมที ักษะในกำรคิดและกำรเขียนเชงิ
สร้ำงสรรค์มำกยง่ิ ขึน

ตวั การันต์ หมำยถงึ ค้ำที่มีไม้ทณั ฑฆำตก้ำกับไว้ เพ่อื ไม่ต้องกำรออกเสียงและลดพยำงค์ของคำ้ ทำ้ ใหง้ ำ่ ยต่อกำร
ออกเสียง

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.อธบิ ำยลกั ษณะของค้ำที่มีตวั กำรันต์ 1 ตัว (K)
2.อธบิ ำยลักษณะของประโยค (K)
3.อธบิ ำยควำมหมำย และหลกั กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคัญ (K)
4. เข้ำใจและบอกควำมหมำยของไตรยำงค์ (K)
5.อ่ำนเรอ่ื งไดค้ ลอ่ งแคล่ว รวดเรว็ และถกู ต้องตำมอกั ขรวิธี (P)
6.แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คิดเหน็ จำกเรอ่ื งที่อำ่ น (P)
7.วเิ ครำะห์ภำพและเรยี บเรยี งคำ้ หรอื ข้อควำมให้เป็นประโยค (P)
8.อำ่ นออกเสียงและเขยี นคำ้ ท่ีมีตัวกำรนั ต์ (P)
9. อำ่ น เขียนและแยกไตรยำงคไ์ ด้อย่ำงถกู ต้อง (P)
10.กระตอื รือร้นและมสี ว่ นรว่ มกบั กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ มีมำรยำทในกำรอ่ำน และเขียน (A)
11.กระตือรอื รน้ ในกำรรว่ มกิจกรรม (A)
12.เหน็ ควำมส้ำคญั ของกำรอ่ำนและมำรยำทในกำรอ่ำน (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถ่ิน
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

3.1 ควำมรู้ : Knowledge (K) กำรอ่ำนจบั ใจควำมร่นื รสสักวำ กำร
เขยี นประโยคจำกภำพ คำ้ ที่มตี ัวกำรันต์ ไตรยำงค์
3.2 กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ : Process (P)

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี กิจกรรมการเรียนการสอน

คาบที่ 1-2 สาระสาคัญ

กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คญั คือ กำรอ่ำนเพอ่ื จับใจควำมหรือขอ้ คิด ควำมคิดส้ำคัญหลกั ของ

ข้อควำม หรือเรอ่ื งทีอ่ ่ำน

กำรอำ่ นจบั ใจควำมส้ำคญั ถือเปน็ ทกั ษะสำ้ คัญทีใ่ ชใ้ นกำรอำ่ นเพื่อกำรสอ่ื สำรมำกทสี่ ดุ เพรำะเป็น

พืนฐำนสำ้ คัญในกำรศกึ ษำหำควำมรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนให้เกิดควำมชำ้ นำญ

ขนั้ ที่ 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มูล

1. นักเรยี นอ่ำนบทกลอนตอ่ ไปนี แลว้ รว่ มกนั สนทนำ โดยครูใช้คำ้ ถำมดงั นี

ร่ืนรสสกั วำแสนออ่ นหวำน
กลอนขับขำนเสนำะลำ้ เกนิ ค้ำไข
ดังถ้อยคำ้ ไพเรำะหูชนื่ ชใู จ

รจู้ กั ใชว้ ำจำดมี คี นชม

-บทกลอนที่นกั เรยี นอำ่ นมีควำมหมำยอย่ำงไร

* ครูสุ่มถำมนกั เรียนโดยจบั ไมเ้ รยี กเลขท่ี
2. นักเรยี นอำ่ นเรอ่ื งรน่ื รสสกั วำ 1 รอบ ในขณะทนี่ ักเรยี นอ่ำนครสู ังเกตนกั เรยี นในห้อง
ขั้นที่ 2 ขน้ั คดิ วเิ คราะห์และสรปุ ความ
3. นกั เรยี นร่วมกนั สนทนำเก่ียวกบั เร่อื งที่อำ่ น โดยครใู ช้ค้ำถำมดงั นี

-ในเรือ่ งมใี ครบ้ำง
-ลงุ ตลบั ทำ้ อำชพี อะไร
-นักเรยี นรสู้ กึ อยำ่ งไรเกีย่ วกับเรอื่ งท่อี ำ่ น
- เหตใุ ดจึงเรยี กลงุ ตลับว่ำเป็น คนเจ้ำบทเจำ้ กลอน
4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ คิดประเมนิ เพอ่ื เพ่ิมคณุ ค่ำโดยครใู ช้คำ้ ถำมดังต่อไปนี

- นกั เรียนสำมำรถน้ำควำมรทู้ ี่ได้รบั ไปใชใ้ นชวี ติ ประจำ้ วันไดอ้ ย่ำงไร
ขน้ั ที่ 3 ข้ันปฏิบัติและสรปุ ความร้หู ลังการปฏิบัติ

5.นกั เรียนท้ำกจิ กรรมกำรถำมตอบจำกเรอื่ งท่ีศึกษำและตังคำ้ ถำมกลมุ่ ละ 10 ค้ำถำม
6.นกั เรียนร่วมกันสรปุ ขอ้ คดิ ที่ได้จำกกำรอำ่ นเรอื่ ง ครวั ป่ำ
ขนั้ ที่ 4 ข้ันสอ่ื สารและนาเสนอ
7.นกั เรียนน้ำเสนอคำ้ ถำม โดยครูใช้ไม้เรียกเลขทเ่ี รยี กนักเรยี นออกมำนำ้ เสนอ

คาบท่ี 3 ขน้ั ที่ 5ข้ันประเมินเพื่อเพมิ่ คุณคา่ บริการสังคมและจิตสาธารณะ
8.นกั เรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคิดเหน็ โดยครูใชค้ ้ำถำมดังนี
การเขยี นประโยค - นกั เรียนสำมำรถนำ้ ควำมรเู้ ก่ียวกบั เร่อื งทเี่ รยี นไปใช้ประโยชนใ์ นสงั คมได้อยำ่ งไร
จากภาพ
สาระสาคญั
กำรเขยี นประโยคจำกภำพเปน็ กำรเขยี นเชงิ สร้ำงสรรคเ์ พ่ือพฒั นำใหน้ กั เรียนมีทักษะในกำร

คิดและกำรเขยี นเชงิ สร้ำงสรรคม์ ำกยิง่ ขนึ
ขน้ั ที่ 1 ขั้นรวบรวมข้อมลู

1. นกั เรียนดูภำพ แลว้ ให้ช่วยกนั คิดและแต่งประโยคจำกภำพ

2. นักเรยี นศกึ ษำควำมรเู้ ร่อื ง กำรแตง่ ประโยคจำกภำพท่คี รกู ้ำหนดให้ แลว้ ร่วมกัน
อภปิ รำยวำ่ กำรแต่งประโยคจำก
ภำพมีหลกั ในกำรปฏิบตั อิ ยำ่ งไรบำ้ ง
ข้ันท่ี 2 ขั้นคดิ วิเคราะหแ์ ละสรปุ ความ
3. นกั เรยี นดูภำพแล้วรว่ มกันวเิ ครำะห์ โดยครูใชค้ ำ้ ถำมดงั นี

คาบท่ี 4 -ภำพท่นี กั เรยี นเห็นมอี งค์ประกอบอะไรบำ้ ง
คาท่มี ีตัวการนั ต์ - กำรแต่งประโยคจำกภำพมีควำมสำ้ คญั อย่ำงไร
4. นักเรียนอำ่ นแถบประโยค (คณุ แม่รกั ลกู มำกทสี่ ุด) แลว้ รว่ มกนั บอกองคป์ ระกอบ
ของประโยค
5.นักเรยี นคิดประมูลเพอื่ เพ่ิมคุณค่ำโดยครูใช้คำ้ ถำมดังต่อไปนี

- นักเรียนสำมำรถนำ้ ควำมรทู้ ีไ่ ด้รบั ไปใชใ้ นชวี ิตประจำ้ วันไดอ้ ยำ่ งไร
*ในกำรตอบคำ้ ถำมให้ครใู ชไ้ มเ้ รียกเลขท่ี เพ่อื ให้นักเรยี นตอบทีละคน โดยถำมค้ำถำม
กอ่ นจะเรียกเลขท่ีเพอื่ ใหท้ กุ คนได้คิด ในแต่ละค้ำถำมควรให้นักเรยี นนำ้ เสนอ 4-5 คน
ข้ันท่ี 3 ข้ันปฏิบตั แิ ละสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบัติ
6. ครูแบง่ นักเรยี นเปน็ กลมุ่ กลุ่มละ 4 คน แล้วใหแ้ ต่ละกลุม่ ดภู ำพทก่ี ำ้ หนดแลว้ ฝกึ แต่ง
ประโยคจำกภำพ
7.นักเรยี นสรปุ เกย่ี วกบั กำรเขียนประโยคจำกภำพ แล้วครอู ธิบำยเพิ่มเตมิ ดงั นี
*กำรเขยี นประโยคจำกภำพชว่ ยพฒั นำทักษะกำรคดิ กำรเขยี น ร้จู กั กำรเช่อื มโยง
ประโยคจำกภำพทเ่ี หน็ ให้ เป็นเรื่องรำวใหส้ ัมพันธ์กัน
ขน้ั ท่ี 4 ขั้นส่อื สารและนาเสนอ
8.นักเรียนนำ้ เสนอผลงำนหนำ้ ชันเรียน โดยครูใชไ้ ม้เรียกเลขที่ เรยี กนกั เรียนออกมำ
น้ำเสนอหนำ้ ชันเรยี นประมำณ 4-5 คน
ขน้ั ท่ี 5ขั้นประเมนิ เพ่ือเพิ่มคุณค่าบริการสงั คมและจติ สาธารณะ
9.นกั เรียนร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ โดยครใู ช้ค้ำถำมดงั นี
- นักเรียนสำมำรถน้ำควำมรูเ้ ก่ยี วกับเรื่องทเ่ี รียนไปใชป้ ระโยชนใ์ นสังคมไดอ้ ย่ำงไร
สาระสาคัญ
ตัวกำรนั ต์ หมำยถงึ คำ้ ท่ีมีไมท้ ณั ฑฆำตกำ้ กับไว้ เพื่อไม่ต้องกำรออกเสียงและลดพยำงค์
ของค้ำทำ้ ให้งำ่ ยตอ่ กำร
ออกเสยี ง
ขั้นที่ 1 ขัน้ รวบรวมขอ้ มูล
1. นกั เรียนอ่ำนบัตรค้ำตอ่ ไปนี โจทยเ์ ลข ซื่อสตั ย์ เลขศูนย์ ทนั ตแพทย์ สตั ว์น้ำ
ประโยชน์ แลว้ รว่ มกนั สนทนำโดย
ครูใชค้ ำ้ ถำมดังนี
-คำ้ ทน่ี กั เรยี นอำ่ นมลี กั ษณะเหมอื นกันอย่ำงไร
-คำ้ ที่อ่ำนเรียกว่ำอะไร
2. ครูอธิบำยเรอ่ื งตัวกำรนั ต์
ขัน้ ที่ 2 ข้นั คิดวิเคราะห์และสรุปความ
3.นกั เรยี นอำ่ นแถมประโยคต่อไปนี เมอื่ วันจันทรค์ ุณแมพ่ ำเจ้ำดำ้ ไปหำสัตวแพทย์ทอี่ ยู่ข้ำง
ศนู ยก์ ำรค้ำ แล้วร่วมกนั สนทนำโดยครใู ชค้ ำ้ ถำมดังนี
-จำกแถบประโยคที่อำ่ นมคี ้ำใดบำ้ งทม่ี ีตวั กำรนั ต์ก้ำกบั ไว้

คาบท่ี 5-6 -คำ้ ทีม่ ตี วั กำรันต์ก้ำกบั ไวอ้ ่ำนอยำ่ งไร
ไตรยางค์ -จำกแถบประโยคทอ่ี ำ่ น เจ้ำดำ้ หมำยถงึ อะไรและสงั เกตจำกอะไร
4. นกั เรียนแตล่ ะกลมุ่ คดิ ประเมนิ เพื่อเพม่ิ คุณคำ่ โดยครูใชค้ ้ำถำมดงั ต่อไปนี

- นกั เรยี นสำมำรถนำ้ ควำมรทู้ ีไ่ ดร้ บั ไปใชใ้ นชวี ิตประจ้ำวนั ไดอ้ ยำ่ งไร
ขน้ั ที่ 3 ขั้นปฏบิ ัติและสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏิบัติ

5. นกั เรียนเข้ำกลุ่มเลม่ เกมยกตัวอยำ่ งคำ้ ทมี่ ีตัวกำรนั ตก์ ำ้ กบั ให้แต่ละกลุ่มยกมอื ตอบทลี ะ
คำ้ แล้วครูเขยี นบนกระดำนดำ้ แลว้ อำ่ นออกเสยี งค้ำพรอ้ มกนั

6. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ เก่ยี วกบั ตัวกำรันต์ และครูอธบิ ำยเพิ่มเตมิ ดงั นี
ตวั กำรนั ต์ หมำยถงึ ค้ำทม่ี ไี ม้ทณั ฑฆำตกำ้ กบั ไว้ เพอ่ื ไมต่ อ้ งกำรออกเสียงและลด

พยำงค์ของค้ำทำ้ ใหง้ ำ่ ยต่อกำรออกเสียง
7. นักเรียนทำ้ แบบฝกึ หดั ในขณะท่ีนักเรียนตังใจทำ้ แบบฝกึ หัด ครูตรวจดูควำม

ขน้ั ที่ 4 ข้ันสื่อสารและนาเสนอ
8.นักเรยี นน้ำเสนอค้ำกำรันต์ โดยครใู ชไ้ ม้เรยี กเลขทเี่ รียกให้นักเรยี นยกตวั อยำ่ งค้ำทลี ะคน

เพ่อื นๆช่วยกัน
ตรวจสอบควำมถกู ตอ้ ง
ขัน้ ที่ 5ขั้นประเมินเพื่อเพม่ิ คุณค่าบรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ

9.นกั เรยี นร่วมกันแสดงควำมคิดเหน็ โดยครใู ชค้ ำ้ ถำมดงั นี
- นักเรียนสำมำรถนำ้ ควำมรูเ้ กี่ยวกบั เรือ่ งทเี่ รียนไปใช้ประโยชน์ในสังคมได้อยำ่ งไร

สาระสาคญั
ไตรยำงค์ คอื กำรแบง่ พยญั ชนะไทยทงั 44 ตัว ออกเป็น 3 ส่วน ซง่ึ เรียกว่ำ “ อกั ษรสำม

หมู่” โดยอกั ษรสำมหมู่ประกอบดว้ ย อักษรสงู อกั ษรกลำง และอักษรต่้ำ ถำ้ เขำ้ ใจจะน้ำไปใชไ้ ด้
ถูกต้อง
ขน้ั ที่ 1 ข้นั รวบรวมข้อมลู

16. นกั เรียนฟงั เพลง ไตรยำงค์ แล้วร่วมกนั สนทนำโดยใชค้ ้ำถำมดงั นี
- เพลงท่ีนกั เรยี นฟังเป็นเรอื่ งเกย่ี วกบั อะไร
- จำกบทเพลงที่ฟงั ไตรยำงค์หมำยถงึ อะไร

17. นักเรียนศกึ ษำเก่ยี วกับเรือ่ ง ไตรยำงค์ แลว้ รว่ มกนั สนทนำโดยครใู ช้คำ้ ถำมดงั นี
- อกั ษรแต่ละหมู่แตกต่ำงกันอยำ่ งไร

ข้นั ที่ 2 ข้ันคิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความ
18. นกั เรียนอ่ำนแผนภมู พิ ยญั ชนะ ก-ฮ แลว้ สมุ่ นักเรยี นโดยใชไ้ ม้เรยี กเลขทอี่ อกมำชี
พยัญชนะอักษรกลำง อักษรสงู อักษรต้ำ่ เม่อื นกั เรยี นชคี รเู ขียนพยัญชนะของอักษร
แตล่ ะหมบู่ นกระดำน แลว้ รว่ มกันสนทนำโดยครใู ชค้ ้ำถำมดงั นี
-อักษรกลำงมีพยญั ชนะทงั หมดกตี่ ัว
-อักษรสงู มพี ยญั ชนะทังหมดกีต่ ัว
-อกั ษรต้่ำมีพยญั ชนะทงั หมดกต่ี วั

4. นกั เรยี นร่วมกันวิเครำะหแ์ ถบประโยคและแยกค้ำตำมลักษณะของ ไตรยำงค์
*กำรกนิ อำหำรตอ้ งลดพวกแปง้ และไขมันเนือ่ งจำกจะทำ้ ใหอ้ ว้ น

5. นักเรียนแต่ละกลมุ่ คิดประเมนิ เพอ่ื เพม่ิ คุณค่ำโดยครใู ชค้ ้ำถำมดงั ต่อไปนี
- นักเรยี นสำมำรถน้ำควำมรทู้ ี่ไดร้ บั ไปใช้ในชีวติ ประจำ้ วนั ไดอ้ ย่ำงไร

ข้ันท่ี 3 ข้ันปฏิบัตแิ ละสรปุ ความรู้หลงั การปฏิบตั ิ
6. นกั เรยี นเขำ้ กลมุ่ เลน่ เกม แยกคำ้ จำกบัตรคำ้ ทแ่ี จกให้ โดยใหน้ ักเรียนมำตดิ บนกระดำน

ดำ้ ใหต้ รงหมบู่ ้ำนวำ่ อยใู่ นหมู่บ้ำนอักษรใด กลุ่มใดตอบถกู ให้แรงเสริมเป็นคะแนนกล่มุ หรอื ดำว
ตำมที่ครตู กลงกบั นกั เรยี น

7. นกั เรยี นอำ่ นบตั รค้ำพร้อมกนั แลว้ บอกวำ่ อยใู่ นอักษรหมู่ใด จ้ำนวน 20 ค้ำ
8. นักเรยี นสรปุ เรื่องไตรยำงค์ ดงั นี

ไตรยำงค์ คือ กำรแบ่งพยญั ชนะไทยทงั 44 ตัว ออกเปน็ 3 สว่ น ซึ่งเรียกวำ่ “ อักษร
สำมหมู่” โดยอกั ษรสำมหมปู่ ระกอบดว้ ย อกั ษรสงู อักษรกลำง และอกั ษรต้ำ่ ถำ้ เขำ้ ใจจะน้ำไปใช้
ได้ถูกต้อง

9. นกั เรยี นทำ้ แบบฝึกหัด
ข้นั ท่ี 4 ขั้นส่ือสารและนาเสนอ

10.นักเรยี นน้ำเสนอคำ้ ไตรยำงค์ โดยครูใช้ไมเ้ รยี กเลขทเี่ รยี กใหน้ ักเรียนยกตวั อย่ำงค้ำ
และบอกวำ่ อย่ใู นอักษรหมใู่ ดทลี ะคน เพอ่ื นๆช่วยกนั ตรวจสอบควำมถกู ตอ้ ง
ขนั้ ท่ี 5ข้ันประเมนิ เพ่ือเพมิ่ คุณคา่ บริการสังคมและจิตสาธารณะ

11.นกั เรียนร่วมกันแสดงควำมคิดเหน็ โดยครูใช้คำ้ ถำมดงั นี
- นกั เรียนสำมำรถนำ้ ควำมรเู้ กย่ี วกับเรื่องที่เรยี นไปใช้ประโยชน์ในสังคมไดอ้ ย่ำงไร

3.3 คุณลกั ษณะท่ีพงึ ประสงค์ : Attitude (A) ซ่ือสัตยส์ จุ ริต มีวินัย ใฝเ่ รียนรู้ อยยู่ ่ำงพอเพียง
มุ่งมน่ั ในกำรทำ้ งำน
รกั ควำมเป็นไทย มจี ิตสำธำรณะ

6. การวดั และประเมินผลการเรียนรู้

กำรประเมนิ วิธีกำร เคร่อื งมอื
-ค้ำถำม
ดำ้ นควำมรู้ (K) -กำรตอบค้ำถำม -แบบฝึกหัด
-แบบประเมินกำรอำ่ น
-ทำ้ แบบฝกึ หัด -แบบประเมินกำรเขยี น
-แบบฝึกหัด
ดำ้ นทักษะและกระบวนกำร (P) -ทักษะกำรอ่ำน -แบบสังเกตพฤตกิ รรม

-ทกั ษะกำรเขยี น

-ทักษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

ดำ้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและคำ่ นิยม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในกำรร่วมกจิ กรรม

กำรทำ้ งำนกลมุ่

-สังเกตพฤตกิ รรมกำรใช้สระ

7. ส่ือ/อปุ กรณ/์ แหลง่ การเรียนรู้

1. แบบฝกึ หดั 2. เพลงไตรงยำงค์ 3. หนังสอื หลกั ภำษำเลม่ 2 ประถมศึกษำปที ่ี 2

4. ไมเ้ รยี กเลขท่ี 5.ค้ำถำม 6.บัตรภำพ 7.บัตรค้ำศพั ท์

8. เพลง วรรณยุกต์ 9. หนังสือวรรณคดลี ้ำนำ้ ประถมศกึ ษำปีที2่ 10.แผนภมู ิพยญั ชนะ

8. กิจกรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
........................................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .............................................ครผู สู้ อน ลงช่ือ...................................................ฝ่ำยวชิ ำกำร
(...........................................................) (...........................................................)

vv

ลงชอื่ ................................................... ผู้บรหิ ำร
(...........................................................)

เพลงไตรยางค์

คาร้อง รองศาสตราจารยป์ ติ ินันท์ สุทธสาร
ทำ้ นอง Rasa Sayang

จงจาไว้เธอจา๋ เวลาเรียนอกั ษรไตรยางศ์

พยัญชนะมเี สยี งตา่ ง ๆ จงึ จัดวางสามหมนู่ ะเธอ

อยา่ ละเมอเผลอไผล เสียงสงู ไซร้มสี ิบเอด็ ตวั

เสยี งกลางน้ันอย่าไดเ้ มามัว มีเกา้ ตัวเสียงออกงา่ ยดาย

อักษรที่เหลือน้ัน เสียงของมนั ตา่ กวา่ ใคร ๆ

เขาจัดไว้ยสี่ ิบส่ี จาให้ดีนะ..นี่ไตรยางศ์

ไข่ ขวด ฉง่ิ ถุง ฐาน ผง้ึ ฝา ศาล ฤๅษี และ เสอื

ห หีบ น้ันเข้ามาจุนเจอื เมื่อครบครันน่ัน สบิ เอด็ ตัว

ไก่ และ จาน เดก็ นั้น เดนิ ตามกนั อกี เตา่ ชฎา

ทง้ั ปฏัก ใบไม้ ป ปลา อา่ ง น้ันมา ครบ เกา้ พอดี

อกั ษรทเ่ี หลือนั้น คิดเร็วพลัน ควายครู่ ะฆัง

ยักษ์ ลงิ เรอื โซ่ มพี ลงั ญ หญงิ ยัง มีอกี มากมาย.

สปั ดำหท์ ี่ 11

โรงเรียนขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรยี นที่ ……1…/……………... ชอ่ื ผู้สอน ….…..….................................................……...
กลุ่มสาระการเรียนรู้ ภำษำไทย
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ่ี 4 กลวั ทำ้ ไม ช้นั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 6 คาบ

เรอ่ื ง กลวั ท้ำไม

1. มาตรฐานการเรยี นร/ู้ ตวั ชวี้ ดั

มำตรฐำนที่ ท 1.1ใชก้ ระบวนกำรอ่ำนสรำ้ งควำมร้แู ละควำมคดิ เพอ่ื น้ำไปใช้ตดั สนิ ใจ แก้ปญั หำในกำรด้ำเนินชีวิต
และมีนสิ ยั รกั กำรอำ่ น
ตัวชีวัดท่ี ป 2/1 อ่ำนออกเสียงคำ้ ขอ้ ควำม และเขียนสะกดค้ำและบอกควำมหมำยของคำ้ งำ่ ยๆได้ถูกตอ้ ง
ตัวชวี ัดท่ี ป 2/2 อธบิ ำยควำมหมำยของคำ้ และขอ้ ควำมที่อำ่ น
ตวั ชีวดั ท่ี ป 2/3ตังคำ้ ถำมและตอบคำ้ ถำมเก่ยี วกับเรอ่ื งทอ่ี ่ำน
ตวั ชวี ัดที่ ป 2/4ระบใุ จควำมสำ้ คัญและรำยละเอยี ดจำกเรื่องท่ีอำ่ น
ตวั ชวี ัดท่ี ป 2/8 มีมำรยำทในกำรอำ่ น
มำตรฐำนที่ ท 2.1ใช้กระบวนกำรเขยี นเขยี นสือ่ สำร เขยี นเรยี งควำม ย่อควำม และเขียนเรื่องรำวในรปู แบบต่ำงๆ
เขียนรำยงำนข้อมลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศึกษำคน้ ควำ้ อย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ
ตัวชีวดั ท่ี ป 2/2 เขียนเรอื่ งสนั ๆ เก่ยี วกบั ประสบกำรณ์
ตัวชวี ดั ที่ ป 2/4 มมี ำรยำทในกำรเขยี น
มำตรฐำนท่ี ท 4.1เขำ้ ใจธรรมชำตขิ องภำษำและหลักภำษำไทยกำรเปลย่ี นแปลงของภำษำและพลงั ของภำษำ ภมู ิปญั ญำ
ทำงภำษำ และรักษำภำษำไทยไว้เปน็ สมบตั ขิ องชำติ
ตวั ชีวดั ที่ ป 2/2เขียนสะกดค้ำและบอกควำมหมำย ของคำ้

2. สาระสาคัญ/ความคิดรวบยอด

การอ่านจบั ใจความสาคัญ คอื กำรอำ่ นเพอ่ื จบั ใจควำมหรอื ขอ้ คิด ควำมคิดส้ำคญั หลักของขอ้ ควำม หรือเร่อื งทอี่ ำ่ น

กำรอำ่ นจบั ใจควำมส้ำคญั ถอื เปน็ ทกั ษะสำ้ คัญทใี่ ชใ้ นกำรอำ่ นเพอ่ื กำรสอ่ื สำรมำกทสี่ ดุ เพรำะเปน็ พนื ฐำนส้ำคัญในกำรศกึ ษำหำ
ควำมรู้ จึงควรฝกึ ฝนใหเ้ กิดควำมช้ำนำญ

การผนั วรรณยกุ ต์ คือ กำรเปลย่ี นเสยี งวรรณยกุ ตข์ องพยำงคท์ ป่ี ระกอบดว้ ยพยญั ชนะตน้ กบั สระหรือพยัญชนะตน้ กับ
สระและตัวสะกดอย่ำงเดยี วกันใสร่ ปู วรรณยกุ ตต์ ่ำงกนั ตำมทปี่ รำกฏเปน็ พยำงคใ์ นภำษำไทย

กำรเขยี นเร่อื งจำกภำพเป็นกำรเขยี นเชิงสร้ำงสรรคเ์ พอ่ื พฒั นำใหน้ ักเรียนมที ักษะในกำรคิดและกำรเขยี นเชงิ สร้ำงสรรค์
มำกยิง่ ขึน

3. จดุ ประสงค์การเรียนรู้ สาระการเรยี นรทู้ อ้ งถ่นิ

1.อธบิ ำยควำมหมำย และหลกั กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คัญ (K)
2.อธบิ ำยลักษณะของประโยค (K)
3.อธิบำยวิธีกำรอักษรกลำง (K)
4.อำ่ นเร่ืองได้คลอ่ งแคล่ว รวดเรว็ และถกู ต้องตำมอักขรวธิ ี (P)
5.แยกขอ้ เทจ็ จริงและข้อคดิ เหน็ จำกเรือ่ งท่อี ่ำน (P)
6.วิเครำะห์ภำพและเรยี บเรียงคำ้ หรอื ข้อควำมให้เป็นประโยค (P)
7.อ่ำนออกเสียงและผันวรรณยกุ ตไ์ ด้ (P)
8.มีควำมกระตอื รอื ร้นในกำรร่วมกจิ กรรม (A)
9.เหน็ ควำมส้ำคญั ของกำรอำ่ นและมำรยำทในกำรอ่ำน (A)

4. สาระการเรยี นรู้
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

3.1 ควำมรู้ : Knowledge (K) กำรอ่ำนจบั ใจควำมกลัวทำ้ ไม กำร
เขยี นเรอ่ื งจำกภำพ กำรผนั วรรณยกุ ต์อักษรกลำง
3.2 กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ : Process (P)

5. กจิ กรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี กจิ กรรมการเรยี นการสอน

คาบที่ 1-2 สาระสาคญั

กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคญั คือ กำรอ่ำนเพ่อื จับใจควำมหรอื ข้อคดิ ควำมคดิ สำ้ คญั หลกั ของ

การอา่ นจับ ข้อควำม หรอื เร่ืองทอ่ี ่ำน
ใจความกลวั ทาไม กำรอำ่ นจบั ใจควำมสำ้ คัญ ถอื เปน็ ทกั ษะสำ้ คัญทใี่ ช้ในกำรอำ่ นเพือ่ กำรสือ่ สำรมำกทส่ี ุด เพรำะเป็น

พนื ฐำนส้ำคัญในกำรศกึ ษำหำควำมรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนให้เกดิ ควำมช้ำนำญ
ข้นั ที่ 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มูล

1.นกั เรียนทำ้ กิจกรรมสนทนำถำมตอบเพอ่ื เชอ่ื มโยงเข้ำสูบ่ ทเรยี น โดยครใู ช้คำ้ ถำมดังนี
-นักเรียนกลัวอะไรและมวี ิธจี ัดกำรกบั ควำมกลัวอย่ำงไร ให้ครใู ชไ้ มเ้ รยี กเลขทเ่ี รียก

ให้นักเรียนตอบทีละคน
2.นักเรยี นทบทวนเกย่ี วกับกำรอ่ำนสรปุ ใจควำม โดยใช้ค้ำถำมดงั ตอ่ ไปนี
- กำรอำ่ นสรปุ ใจควำมคืออะไร
- นักเรยี นใช้ทักษะอะไรบ้ำงในกำรอ่ำนสรปุ ใจควำม
3.นักเรียนศกึ ษำเรื่องกลวั ท้ำไม จำกหนังสือเรียน

ข้ันที่ 2 ขนั้ คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความ
4. นักเรียนแต่ละกลมุ่ รว่ มกันวเิ ครำะห์เกยี่ วกับเรอ่ื งท่ีอำ่ น โดยครูใช้คำ้ ถำมดังนี

-ตัวละครส้ำคัญในเร่ืองมีใครบ้ำง แต่ละคนมนี สิ ัยอยำ่ งไร

-จำกเรอื่ งทอ่ี ำ่ นนกั เรยี นได้ข้อคดิ อะไรบ้ำง

5. นกั เรียนแตล่ ะกล่มุ คิดประเมนิ เพือ่ เพมิ่ คุณค่ำโดยครูใช้คำ้ ถำมดงั ต่อไปนี

- นักเรยี นสำมำรถน้ำควำมรทู้ ไี่ ดร้ ับไปใชใ้ นชวี ติ ประจำ้ วนั ไดอ้ ยำ่ งไร
ขั้นที่ 3 ข้ันปฏบิ ตั ิและสรุปความรหู้ ลังการปฏบิ ตั ิ

6.นกั เรียนเข้ำกลมุ่ ท้ำกจิ กรรมกำรตงั คำ้ ถำมและตอบค้ำถำมจำกเรือ่ งทอ่ี ่ำน กลมุ่ ละ 5 ขอ้

กตกิ ำในกำรตงั คำ้ ถำม คุณครแู บ่งจำ้ นวนหน้ำท่ีแต่ละกลมุ่ จะตอ้ งรบั ผดิ ชอบในกำรตงั คำ้ ถำม
เพอ่ื ปอ้ งกนั ไม่ใหก้ ำรตงั คำ้ ถำมของแตล่ ะกลุม่ ไม่ใหซ้ ้ำกนั

7. นักเรยี นร่วมกนั สรปุ ขอ้ คดิ ท่ไี ดจ้ ำกกำรอ่ำน

ขน้ั ท่ี 4 ขั้นสือ่ สารและนาเสนอ

8.นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ น้ำเสนอคำ้ ถำมหนำ้ ชันเรยี น แลว้ ใหเ้ พือ่ นตอบค้ำถำม

ขน้ั ที่ 5ข้ันประเมินเพ่ือเพม่ิ คุณค่าบริการสังคมและจติ สาธารณะ

9.นักเรยี นรว่ มกนั แสดงควำมคิดเห็น โดยครูใชค้ ำ้ ถำมดงั นี

- นกั เรยี นสำมำรถนำ้ ควำมรู้เกยี่ วกับเร่อื งที่เรยี นไปใช้ประโยชนใ์ นสังคมไดอ้ ยำ่ งไร

สาระสาคัญ

คาบท่ี 3-4 กำรเขยี นเร่ืองจำกภำพเปน็ กำรเขียนเชิงสรำ้ งสรรค์เพอื่ พัฒนำใหน้ ักเรยี นมีทกั ษะในกำรคิดและ

กำรเขียนเชงิ สรำ้ งสรรค์มำกย่ิงขนึ

การเขียนเรื่องจาก ข้ันที่ 1 ขัน้ รวบรวมขอ้ มูล
1. นักเรียนดภู ำพ แล้วชว่ ยกนั คดิ และเลำ่ เร่อื งรำวจำกภำพ
ภาพ 2. นักเรียนศึกษำควำมรเู้ รอื่ ง กำรเขียนเรอ่ื งจำกภำพ แลว้ รว่ มกันอภปิ รำยวำ่ กำรเขียนเรื่อง

จำกภำพ มี

หลักในกำรปฏิบัตอิ ย่ำงไรบำ้ ง
ขน้ั ที่ 2 ข้ันคิดวิเคราะห์และสรปุ ความ

3. นกั เรยี นดตู วั อย่ำงกำรเขียนเร่อื งจำกภำพ แลว้ ร่วมกนั สนทนำโดยครใู ช้ค้ำถำมดังนี

-ในกำรเขยี นเรอ่ื งจำกภำพนักเรยี นต้องค้ำนึงถงึ อะไรบ้ำง

-จำกตัวอยำ่ งที่ศกึ ษำ นักเรยี นคดิ วำ่ เปน็ กำรเขยี นจำกภำพทดี่ หี รอื ไมเ่ พรำะอะไร

4. นักเรียนแต่ละกลมุ่ คดิ ประเมินเพ่ือเพิ่มคุณคำ่ โดยครใู ชค้ ้ำถำมดังตอ่ ไปนี

- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมรทู้ ไี่ ด้รบั ไปใช้ในชีวิตประจ้ำวันไดอ้ ย่ำงไร

ข้นั ที่ 3 ขั้นปฏิบัตแิ ละสรุปความรู้หลงั การปฏบิ ตั ิ

5. นักเรียนเข้ำกลุ่มท้ำกิจกรรม ฝกึ เขียนเรอ่ื งจำกภำพโดยคณุ ครูเตรียมภำพมำใหแ้ ตล่ ะกลมุ่
และตัวแทนกลมุ่ อ่ำนใหเ้ พื่อนฟงั หนำ้ ชันเรียน

6. นกั เรยี นสรปุ ขนั ตอนกำรเขยี นเรอ่ื งจำกภำพ และครอู ธิบำยเพ่มิ เตมิ ดังนี

กำรเขยี นเร่ืองจำกภำพเปน็ กำรเขยี นเชงิ สรำ้ งสรรคเ์ พอ่ื พฒั นำให้นักเรียนมีทกั ษะในกำร
คดิ และกำรเขียนเชิงสรำ้ งสรรค์มำกย่ิงขึน

7.นักเรียนท้ำใบงำนเรอ่ื งกำรเขียนเรือ่ งจำกภำพ

ขน้ั ท่ี 4 ข้ันส่อื สารและนาเสนอ

คาบท่ี 5-6 8. นกั เรยี นน้ำเสนอผลงำนหนำ้ ชนั เรียน โดยครใู ชไ้ ม้เรยี กเลขทเ่ี รยี กนักเรยี นออกมำนำ้ เสนอ
การผนั วรรณยกุ ต์ ประมำณ 4-5 คน
ขั้นที่ 5ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณคา่ บริการสงั คมและจติ สาธารณะ
อักษรกลาง
9.นักเรยี นร่วมกันแสดงควำมคดิ เห็น โดยครูใช้ค้ำถำมดงั นี
- นกั เรยี นสำมำรถนำ้ ควำมรูเ้ กี่ยวกบั เรอ่ื งท่ีเรยี นไปใช้ประโยชนใ์ นสังคมไดอ้ ยำ่ งไร

สาระสาคัญ
กำรผันวรรณยุกต์ คือ กำรเปลยี่ นเสยี งวรรณยกุ ตข์ องพยำงคท์ ีป่ ระกอบดว้ ยพยญั ชนะตน้

กบั สระหรอื พยัญชนะต้นกบั สระและตวั สะกดอย่ำงเดยี วกันใสร่ ปู วรรณยุกตต์ ่ำงกันตำมทปี่ รำกฏ
เป็นพยำงค์ในภำษำไทย
ขั้นท่ี 1 ขน้ั รวบรวมข้อมลู

1. นักเรียนท่องอกั ษรกลำง ไก่จกิ เดก็ ตำย เดก็ (ฎ)ตำย(ฏ)บนปำกโอ่ง แล้วรว่ นสนทนำโดยครู

ใชค้ ้ำถำมดงั นี

-ประโยคท่ีนักเรียนท่องคอื อักษรหมใู่ ด
2. นักเรยี นดูวีดีทศั นเ์ ร่ือง กำรผนั วรรณยุกตอ์ ักษรกลำง แล้วรว่ มสนทนำโดยครูใชค้ ำ้ ถำมดังนี

-อักษรกลำงผันวรรณยกุ ต์ไดก้ ่หี มู่

ขน้ั ที่ 2 ขนั้ คิดวิเคราะหแ์ ละสรุปความ
3. นกั เรียนสงั เกตค้ำ และท้ำกจิ กรรมบอกเสียงวรรณยุกต์
ตัวอยำ่ งค้ำ
ปู ไก่ โตะ๊ ปลำ เตำ่
ตวั อย่ำงกำรบอกเสยี งวรรณยกุ ตเ์ ช่น ปลำ เปน็ เสยี ง สำมญั
*ในกำรตอบค้ำถำมใหค้ รูใช้ไมเ้ รียกเลขที่ เพือ่ ให้นกั เรียนตอบทีละคน โดยถำมคำ้ ถำม
ก่อนจะเรียกเลขท่เี พอ่ื ใหท้ กุ คนได้คดิ ในแตล่ ะคำ้ ถำมควรใหน้ ักเรยี นนำ้ เสนอ 4-5 คน
4. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ คิดประเมนิ เพอื่ เพม่ิ คณุ คำ่ โดยครใู ช้คำ้ ถำมดงั ตอ่ ไปนี
- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมรทู้ ไ่ี ด้รบั ไปใช้ในชวี ติ ประจำ้ วนั ไดอ้ ย่ำงไร

ขัน้ ท่ี 3 ข้ันปฏบิ ัติและสรุปความรหู้ ลงั การปฏบิ ัติ
5. นกั เรยี นท้ำกจิ กรรมฝึกผนั วรรณยุกตจ์ ำกบัตรค้ำ (บตั รคำ้ จำกแบบฝกึ หัด)
6. นกั เรียนสรปุ เรื่องกำรผนั วรรณยุกตอ์ กั ษรกลำง ซง่ึ จะใชใ้ นทกุ วัน
7.นกั เรยี นทำ้ แบบฝกึ หดั

ขัน้ ที่ 4 ขั้นสอ่ื สารและนาเสนอ
8.นกั เรยี นนำ้ เสนอกำรผันวรรณยุกตอ์ กั ษรกลำงหนำ้ ชนั เรยี น ครูใช้ไม้เรียกเลขทเี่ รยี ก

นกั เรยี นออกมำนำ้ เสนอหน้ำชนั เรยี นประมำณ 4-5 คน
*โดยให้นกั เรยี นยกตัวอย่ำงคำ้ และผันให้เพอ่ื นๆฟงั เพื่อนชว่ ยตรวจสอบควำมถกู ต้อง

ขั้นท่ี 5ข้ันประเมินเพื่อเพ่มิ คุณค่าบริการสังคมและจติ สาธารณะ
9.นกั เรียนรว่ มกนั แสดงควำมคิดเห็น โดยครูใชค้ ้ำถำมดงั นี
- นกั เรยี นสำมำรถนำ้ ควำมรู้เก่ียวกบั เร่ืองที่เรียนไปใช้ประโยชน์ในสังคมได้อย่ำงไร

3.3 คุณลักษณะที่พึงประสงค์ : Attitude (A) ซื่อสตั ย์สจุ ริต มวี นิ ัย ใฝ่เรยี นรู้ อยูย่ ำ่ งพอเพยี ง
มงุ่ ม่นั ในกำรทำ้ งำน
รักควำมเป็นไทย มจี ติ สำธำรณะ

6. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

กำรประเมิน วิธกี ำร เคร่อื งมือ
-ค้ำถำม
ดำ้ นควำมรู้ (K) -กำรตอบค้ำถำม -แบบฝกึ หัด
-แบบประเมินกำรอำ่ น
-ท้ำแบบฝกึ หดั -แบบประเมินกำรเขยี นเรอ่ื งจำกภำพ
-แบบฝึกหดั
ด้ำนทักษะและกระบวนกำร (P) -ทักษะกำรอ่ำน -คำ้ ถำม
-แบบสงั เกตพฤตกิ รรม
-ทกั ษะกำรเขยี น

-ทักษะกำรคิดวเิ ครำะห์

ดำ้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่ำนยิ ม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในกำรร่วม
กจิ กรรม กำรท้ำงำนกลมุ่
-สงั เกตพฤตกิ รรมกำรใชส้ ระ

7. สื่อ/อปุ กรณ/์ แหล่งการเรยี นรู้

1. แบบฝกึ หดั 2. วดี ิทัศน์กำรผนั วรรณยกุ ต์ 3. หนังสือภำษำพำทปี ระถมศกึ ษำปที ี่ 2

4. ไม้เรียกเลขท่ี 5.คำ้ ถำม 6.บตั รภำพ

7.บัตรค้ำศัพท์ 8. หนงั สอื หลกั ภำษำเล่ม 2 ชันประถมศึกษำปที ่ี 2

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................................................
.............................................................................................................................................................................................. ...........
.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................

ลงชือ่ .............................................ครผู สู้ อน ลงชอ่ื ...................................................ฝำ่ ยวชิ ำกำร
(...........................................................) (...........................................................)

vv ลงชอื่ ................................................... ผบู้ รหิ ำร
(...........................................................)

สปั ดำหท์ ่ี 12

โรงเรยี นขจรเกยี รติพัฒนา

แผนการจัดการเรียนรู้

ภาคเรียนที่ ……1…/………..……... ชื่อผ้สู อน ….…..….................................................……...
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภำษำไทย
หน่วยการเรยี นรทู้ ี่ 4 กลัวทำ้ ไม ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 6 คาบ

เรื่อง กลัวท้ำไม

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตวั ช้วี ัด

มำตรฐำนท่ี ท 1.1ใชก้ ระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมร้แู ละควำมคิดเพ่ือน้ำไปใชต้ ัดสินใจ แก้ปญั หำในกำรดำ้ เนนิ ชวี ิต
และมนี สิ ยั รกั กำรอำ่ น
ตวั ชวี ัดท่ี ป 2/1อ่ำนออกเสยี งคำ้ คำ้ คลอ้ งจอง ขอ้ ควำมและบทรอ้ ยกรองงำ่ ยๆได้ถกู ตอ้ ง
ตัวชวี ัดท่ี ป 2/3ตงั ค้ำถำมและตอบค้ำถำมเกี่ยวกับเรอ่ื งท่อี ่ำน
ตวั ชวี ดั ท่ี ป 2/4ระบใุ จควำมสำ้ คัญและรำยละเอียดจำกเร่ืองที่อ่ำน
ตัวชวี ดั ที่ ป 2/5 แสดงควำมคดิ เห็นและคำดคะเนเหตกุ ำรณจ์ ำกเรื่องทอี่ ำ่ น
ตัวชีวดั ท่ี ป 2/8 มมี ำรยำทในกำรอ่ำน
มำตรฐำนท่ี ท 2.1ใช้กระบวนกำรเขียนเขยี นส่อื สำร เขยี นเรยี งควำม ย่อควำม และเขยี นเร่อื งรำวในรปู แบบตำ่ งๆ
เขียนรำยงำนขอ้ มลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศกึ ษำคน้ คว้ำอย่ำงมีประสทิ ธภิ ำพ
ตัวชีวดั ที่ ป 2/4 มีมำรยำทในกำรเขียน
มำตรฐำนที่ ท 4.1เขำ้ ใจธรรมชำตขิ องภำษำและหลักภำษำไทยกำรเปลีย่ นแปลงของภำษำและพลงั ของภำษำ ภมู ปิ ญั ญำ
ทำงภำษำ และรักษำภำษำไทยไวเ้ ปน็ สมบัติของชำติ
ตวั ชีวดั ท่ี ป 2/2เขยี นสะกดคำ้ และบอกควำมหมำย ของคำ้

2. สาระสาคญั /ความคิดรวบยอด

กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคัญ คอื กำรอ่ำนเพ่ือจบั ใจควำมหรอื ข้อคิด ควำมคดิ ส้ำคญั หลักของข้อควำม หรอื เรอ่ื งที่อ่ำน
กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คัญ ถอื เปน็ ทกั ษะส้ำคญั ทใ่ี ช้ในกำรอำ่ นเพอื่ กำรสอ่ื สำรมำกทส่ี ุด เพรำะเปน็ พืนฐำนสำ้ คญั ในกำรศึกษำหำ
ควำมรู้ จึงควรฝกึ ฝนใหเ้ กิดควำมชำ้ นำญ

กำรเขียนค้ำอ่ำนเปน็ กำรเขียนเพ่อื ฝกึ พฒั นำใหน้ ักเรียนมที ักษะในกำรคิดและกำรเขยี นค้ำใหม้ คี วำมถกู ต้องมำกยงิ่ ขนึ

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. รู้และเข้ำใจหลกั กำรอำ่ นสรุปใจควำม (K)
2.ร้แู ละ เขำ้ ใจวิธีกำรเขียนค้ำอ่ำน (K)
3.อธบิ ำยวิธีกำรอกั ษรสูง (K)
4.อ่ำนออกเสียงและผันวรรณยกุ ต์ได้ (P)

5. เขยี นค้ำอำ่ นได้ถูกต้อง(P)
6. อำ่ นขำ่ วได้ถูกต้อง(P)
7.กระตือรือรน้ และมีส่วนร่วมกบั กำรจัดกจิ กรรมกำรเรียนรู้ (A)
8.กระตือรือร้นในกำรร่วมกจิ กรรม (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรยี นรู้ทอ้ งถ่นิ
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

3.1 ควำมรู้ : Knowledge (K) กำรอำ่ นจบั ใจควำมข่ำว กำรเขยี น
ค้ำอำ่ น กำรผนั วรรณยุกต์อกั ษรสงู
3.2 กระบวนกำรจัดกำรเรียนรู้ : Process (P)

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบที่ กิจกรรมการเรยี นการสอน

คาบท่ี 1-2 สาระสาคญั
กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคญั คอื กำรอำ่ นเพ่อื จับใจควำมหรอื ขอ้ คดิ ควำมคิดสำ้ คญั หลกั ของ

การอา่ นจับ ขอ้ ควำม หรอื เรอื่ งทอ่ี ่ำน กำรอำ่ นจบั ใจควำมสำ้ คญั ถอื เปน็ ทกั ษะสำ้ คญั ท่ีใชใ้ นกำรอ่ำนเพอื่ กำรสือ่ สำร

ใจความข่าว มำกทีส่ ดุ เพรำะเปน็ พืนฐำนส้ำคญั ในกำรศึกษำหำควำมรู้ จงึ ควรฝึกฝนใหเ้ กดิ ควำมชำ้ นำญ
ขั้นที่ 1 ข้ันรวบรวมขอ้ มลู

1. นกั เรียนดกู ำรอ่ำนขำ่ วของผู้ประกำศข่ำวแลว้ รว่ มกันสนทนำโดยครูใช้ค้ำถำมดงั นี
-นอกจำกกำรดขู ่ำวจำกโทรทัศนน์ กั เรยี นสำมำรถรบั ร้ขู ำ่ วสำรได้จำกท่ีใดบำ้ ง

-กำรอำ่ นข่ำวมคี วำมสำ้ คัญอยำ่ งไร

2.นักเรียนทบทวนเกยี่ วกับกำรอำ่ นสรปุ ใจควำม โดยใช้ค้ำถำมดงั ตอ่ ไปนี
- กำรอำ่ นสรปุ ใจควำมคอื อะไร
- นักเรยี นใชท้ กั ษะอะไรบ้ำงในกำรอำ่ นสรปุ ใจควำม

3.นักเรียนศึกษำวธิ กี ำรอ่ำนสรุปใจควำมข่ำว

ข้นั ท่ี 2 ขั้นคดิ วเิ คราะห์และสรุปความ
4. นกั เรยี นอ่ำนขำ่ ว และร่วมกันวเิ ครำะหข์ ่ำวโดยครูใชค้ ้ำถำมดังนี

-ขำ่ วที่นกั เรยี นอำ่ นเกยี่ วกบั อะไร

-เหตกุ ำรณ์ในข่ำวเกิดขนึ ท่ีไหน
-มีใครเกี่ยวขอ้ งกบั เหตุกำรณ์นบี ำ้ ง
-สำระสำ้ คญั ของขำ่ วคอื
5. นักเรียนแต่ละกลุ่มคิดประเมนิ เพ่ือเพ่มิ คณุ คำ่ โดยครูใชค้ ้ำถำมดังต่อไปนี

- นักเรยี นสำมำรถน้ำควำมรทู้ ไ่ี ด้รบั ไปใช้ในชีวิตประจ้ำวนั ได้อยำ่ งไร
ขั้นท่ี 3 ขั้นปฏบิ ตั ิและสรุปความร้หู ลงั การปฏิบัติ

คาบที่ 3-4 6. นักเรยี นเข้ำกลุ่มทำ้ กิจกรรม ข่ำวสำรน่ำรู้ โดยครูแจกขำ่ วให้นกั เรยี นกลุ่มละหนึ่งข่ำว
การเขียนคาอ่าน นักเรยี นฝึกวิเครำะหข์ ่ำว

7. นักเรียนร่วมสรุปเกย่ี วกบั กำรอำ่ นสรปุ ใจควำมส้ำคญั ของขำ่ ว
ขั้นที่ 4 ข้ันส่ือสารและนาเสนอ

8. แตล่ ะกลมุ่ ออกมำน้ำเสนอผลงำนของกำรทำ้ กจิ กรรม กำรระดมสมองใหเ้ พื่อนฟงั
*ขณะท่นี กั เรยี นน้ำเสนอ ครพู ยำยำมสังเกตพฤติกรรมทงั ของผฟู้ ังและผู้น้ำเสนอ เพ่ือ

เก็บไปเปน็ ขอ้ มูลในกำรพฒั นำปรับปรงุ ตอ่ ไป
พฤตกิ รรมทน่ี ้ำไปเป็นเงื่อนไขพฒั นำ เชน่
- มำรยำทในกำรพดู และฟงั
- ควำมสนใจ ให้เกยี รติ
- กำรซกั ถำม เสนอแนวคดิ แยง้ หรอื คลอ้ ยตำมอย่ำงมเี หตผุ ล
- กำรใช้ทักษะทำงภำษำเพื่อกำรสือ่ สำร

ขน้ั ท่ี 5ขั้นประเมนิ เพ่ือเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ
9.นกั เรียนร่วมกนั แสดงควำมคิดเหน็ โดยครใู ช้ค้ำถำมดงั นี

- นกั เรียนสำมำรถน้ำควำมรู้เก่ียวกับเรอ่ื งท่เี รียนไปใชป้ ระโยชน์ในสังคมได้อยำ่ งไร

สาระสาคญั
กำรเขยี นคำ้ อำ่ นเปน็ กำรเขียนเพ่ือฝึกพฒั นำใหน้ กั เรียนมที ักษะในกำรคิดและกำรเขยี นคำ้

ใหม้ คี วำมถกู ตอ้ งมำกย่ิงขนึ
ขั้นท่ี 1 ขน้ั รวบรวมข้อมลู

1. นกั เรียนอำ่ นออกเสยี งคำ้ จำกบตั รค้ำท่ีครตู ิดบนกระดำนด้ำ แล้วรว่ มสนทนำโดยครูใช้

คำ้ ถำมดังนี

-กำรฝกึ อำ่ นค้ำมปี ระโยชนอ์ ย่ำงไร
-นกั เรยี นมีวธิ ีกำรอำ่ นคำ้ ทีม่ ีพยญั ชนะไม่ตรงมำตรำอย่ำงไร
2. นักเรยี นศึกษำวิธกี ำรเขยี นค้ำอำ่ น

ขน้ั ที่ 2 ขั้นคดิ วเิ คราะห์และสรุปความ
3. นักเรียนเล่นเกมจบั คู่บตั รค้ำศัพท์กบั บตั รคำ้ อำ่ นโดยบตั รค้ำศัพท์จะเขยี นกลบั หัว

เรียกวำ่ บตั รค้ำกระจกเช่น

ปลิวลม ปลิว-ลม

**คำ้ ศัพทใ์ ห้เขียนแบบกลบั ด้ำนเม่ือน้ำกระจกมำทำบหรือกลับอกี ด้ำนจะเปน็ ค้ำศพั ทท์ ี่
ถูกตอ้ ง
4. นักเรียนฝกึ อ่ำนและท้ำควำมเขำ้ ใจกบั กำรเขยี นคำ้ อำ่ น

5. นักเรยี นแต่ละกลมุ่ คิดประเมนิ เพ่อื เพิม่ คุณค่ำโดยครูใชค้ ำ้ ถำมดงั ตอ่ ไปนี
- นกั เรียนสำมำรถนำ้ ควำมรทู้ ไ่ี ดร้ บั ไปใชใ้ นชีวิตประจำ้ วันได้อย่ำงไร

ขั้นท่ี 3 ข้ันปฏบิ ัติและสรปุ ความรหู้ ลงั การปฏบิ ัติ

6. นักเรยี นเขำ้ กลมุ่ ทำ้ กจิ กรรมฝกึ อำ่ น ฝึกเขยี นคำ้ อำ่ นจำกคำ้ ท่ีกำ้ หนดให้

7. นกั เรียนสรุปเกีย่ วกับวธิ ีกำรเขยี นคำ้ อ่ำน

ข้นั ที่ 4 ขั้นส่อื สารและนาเสนอ

8.นักเรยี นแต่ละกลมุ่ นำ้ เสนอผลกำรเขยี นค้ำอ่ำน หนำ้ ชันเรยี น

ขน้ั ที่ 5ขั้นประเมินเพ่ือเพิม่ คุณค่าบรกิ ารสังคมและจิตสาธารณะ

9.นักเรียนร่วมกนั แสดงควำมคิดเห็น โดยครใู ชค้ ำ้ ถำมดังนี

- นกั เรยี นสำมำรถนำ้ ควำมรู้เกย่ี วกบั เร่ืองท่เี รียนไปใช้ประโยชน์ในสงั คมได้อยำ่ งไร

คาบที่ 5-6 สาระสาคัญ
กำรผันวรรณยกุ ต์ คือ กำรเปล่ียนเสยี งวรรณยุกต์ของพยำงคท์ ปี่ ระกอบด้วยพยญั ชนะตน้
การผันวรรณยุกต์
อักษรสงู กับสระหรอื พยัญชนะต้นกบั สระและตวั สะกดอยำ่ งเดียวกันใส่รปู วรรณยกุ ตต์ ำ่ งกันตำมทปี่ รำกฏ
เป็นพยำงคใ์ นภำษำไทย
ขั้นท่ี 1 ข้นั รวบรวมข้อมลู

1.นกั เรยี นอำ่ นบทท่องจ้ำอกั ษรสงู ดงั นี ผฝี ำกถุงข้ำวสำรใหฉ้ นั แล้วรว่ มสนทนำโดยครใู ชค้ ำ้ ถำม

ดงั นี

- ประโยคทน่ี ักเรยี นอำ่ นเรยี กวำ่ อกั ษรอะไร

2.นักเรยี นดแู ผนภูมกิ ำรผนั วรรณยกุ ตอ์ ักษรสงู และครอู ธิบำยกำรผันวรรณยกุ ตอ์ กั ษรสูงดังนี

- กำรผนั วรรณยุกตไ์ ด้ 3 เสยี ง

- คำ้ เปน็ คำ้ ตำย ผนั เสยี งวรรณยกุ ต์ได้กี่เสยี ง

หลงั จำกนนั นกั เรียนดวู ีดทิ ัศนเ์ รื่องกำรผนั วรรณยุกตอ์ กั ษรสงู

ขั้นท่ี 2 ข้นั คดิ วิเคราะห์และสรปุ ความ

3.นักเรียนสงั เกตและวิเครำะหค์ ้ำต่อไปนี ถ้ำ แผน่ ผำ้ เข่ง ถำ่ ย ฉำย และช่วยกนั

ตอบวำ่ เป็นเสียงวรรณยกุ ต์ใด เช่น ถ้ำ เป็นเสยี ง โท เมื่อนกั เรียนสำมำรถตอบได้และเขำ้ ใจแลว้

ใหน้ กั เรียนยกตัวอย่ำงค้ำทเ่ี สยี ง เอก เสียง โท ตรีซึ่งเปน็ อกั ษรสูงให้ออกมำเขียนบนกระดำนด้ำ

* ในกำรตอบค้ำถำมใหค้ รูใช้ไม้เรยี กเลขที่ เพอ่ื ใหน้ กั เรียนตอบทีละคน โดยถำม

คำ้ ถำมก่อนจะ

เรียกเลขทเ่ี พ่ือให้ทกุ คนได้คิด

4. นักเรียนแต่ละกลมุ่ คิดประเมินเพื่อเพม่ิ คณุ คำ่ โดยครูใช้ค้ำถำมดังต่อไปนี

- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมรทู้ ี่ไดร้ บั ไปใช้ในชีวิตประจ้ำวนั ได้อย่ำงไร
ขน้ั ท่ี 3 ขั้นปฏบิ ัตแิ ละสรปุ ความรู้หลงั การปฏิบตั ิ

5.นกั เรยี นเข้ำกลมุ่ ท้ำกจิ กรรมวงกลมคำ้ ที่เป็นองั ษรสงู และบอกเสยี งวรรณยกุ ต์จำกประโยคที่

กำ้ หนดให้ดังนี
-ผงึ ต่อย นอ้ ง สำว

6.นกั เรยี นฝึกผันวรรณยุกต์คำ้ อักษรสูงและบอกเสียงวรรณยกุ ต์ของแตล่ ะค้ำ

7.นกั เรยี นสรุปเร่อื งกำรผนั วรรณยุกต์อักษรสงู

8. นักเรียนท้ำแบบฝึกหัด

ขัน้ ที่ 4 ขั้นส่อื สารและนาเสนอ
9.นกั เรยี นน้ำเสนอกำรผนั วรรณยุกตจ์ ำกบัตร โดยครใู ช้ไมเ้ รียกเลขที่เพอ่ื เรียกให้นกั เรยี น

นำ้ เสนอทลี ะคน เพอ่ื นๆชว่ ยกันตรวจสอบควำมถกู ต้อง
ขัน้ ที่ 5 ข้ันประเมนิ เพื่อเพม่ิ คุณคา่ บริการสงั คมและจติ สาธารณะ

10.นกั เรียนรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เห็น โดยครูใช้ค้ำถำมดังนี
- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมรู้เกย่ี วกบั เรอื่ งทเ่ี รียนไปใชป้ ระโยชนใ์ นสังคมไดอ้ ยำ่ งไร

3.3 คุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ : Attitude (A) ซื่อสตั ยส์ จุ รติ มวี นิ ยั ใฝ่เรียนรู้ อยู่ยำ่ งพอเพยี ง
มุ่งม่นั ในกำรท้ำงำน รกั ควำมเป็นไทย มีจิตสำธำรณะ

6. การวดั และประเมนิ ผลการเรียนรู้

กำรประเมิน วิธีกำร เครือ่ งมอื
-ค้ำถำม
ด้ำนควำมรู้ (K) -กำรตอบค้ำถำม -แบบฝกึ หัด
-แบบประเมินกำรอำ่ น
-ทำ้ แบบฝกึ หดั -แบบประเมนิ กำรเขยี นค้ำอำ่ น
-แบบฝกึ หดั
ด้ำนทกั ษะและกระบวนกำร (P) -ทักษะกำรอำ่ น -แบบสังเกตพฤตกิ รรม

-ทกั ษะกำรเขียน

-ทักษะกำรคดิ วเิ ครำะห์

ดำ้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่ำนิยม (A) -สังเกตพฤตกิ รรมในกำรรว่ มกจิ กรรม

กำรท้ำงำนกลมุ่

-สังเกตพฤตกิ รรมกำรใช้สระ

7. ส่ือ/อปุ กรณ/์ แหล่งการเรียนรู้

1. แบบฝึกหดั 2. วดี ิทศั นก์ ำรผันวรรณยกุ ต์ 3. บตั รประโยค

4. ไมเ้ รยี กเลขที่ 5.ค้ำถำม 6.บตั รภำพ

7.บัตรคำ้ ศพั ท์ 8. หนงั สือหลักภำษำเล่ม 2ชนั ประถมศึกษำปีที่ 2

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................... ...................................................

.........................................................................................................................................................................................................

.........................................................................................................................................................................................................

ลงชื่อ.............................................ครผู สู้ อน ลงชื่อ...................................................ฝ่ำยวชิ ำกำร
(...........................................................) (...........................................................)

ลงช่อื ................................................... ผบู้ รหิ ำร
(...........................................................)

สัปดำหท์ ี่ 13

โรงเรยี นขจรเกยี รตพิ ฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรยี นท่ี ……1…/………..……... ช่ือผูส้ อน ….…..….................................................……...
กลุ่มสาระการเรยี นรู้ ภำษำไทย
หน่วยการเรียนรู้ท่ี 4 กลวั ท้ำไม ช้ันประถมศกึ ษาปที ่ี 2 จานวน 6 คาบ

เร่อื ง กลัวท้ำไม

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวช้วี ัด

มำตรฐำนท่ี ท 1.1ใชก้ ระบวนกำรอ่ำนสร้ำงควำมรู้และควำมคดิ เพื่อนำ้ ไปใช้ตดั สินใจ แกป้ ญั หำในกำรดำ้ เนนิ ชีวติ
และมีนสิ ยั รกั กำรอำ่ น

ตัวชวี ดั ท่ี ป 2/1อำ่ นออกเสียงค้ำ คำ้ คลอ้ งจอง ข้อควำมและบทร้อยกรองงำ่ ยๆได้ถูกต้อง
ตัวชวี ัดท่ี ป 2/3ตังคำ้ ถำมและตอบค้ำถำมเก่ยี วกบั เรือ่ งท่ีอำ่ น
ตวั ชีวดั ที่ ป 2/4ระบุใจควำมสำ้ คญั และรำยละเอียดจำกเรือ่ งท่ีอ่ำน
ตัวชีวดั ที่ ป 2/5 แสดงควำมคดิ เหน็ และคำดคะเนเหตกุ ำรณจ์ ำกเรอ่ื งที่อำ่ น
ตวั ชวี ัดท่ี ป 2/6อำ่ นหนงั สอื ตำมควำมสนใจอยำ่ งสมำ่้ เสมอและ น้ำเสนอเรอ่ื งที่อำ่ น
ตัวชวี ัดที่ ป 2/8 มมี ำรยำทในกำรอ่ำน
มำตรฐำนท่ี ท 2.1ใชก้ ระบวนกำรเขียนเขยี นส่อื สำร เขยี นเรยี งควำม ย่อควำม และเขยี นเรอื่ งรำวในรปู แบบต่ำงๆ
เขยี นรำยงำนข้อมลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศกึ ษำค้นควำ้ อย่ำงมปี ระสิทธิภำพ
ตวั ชีวดั ท่ี ป 2/2เขยี นเรอื่ งสนั ๆ เกย่ี วกบั ประสบกำรณ์
ตัวชวี ัดที่ ป 2/4 มมี ำรยำทในกำรเขียน
มำตรฐำนท่ี ท 4.1เขำ้ ใจธรรมชำติของภำษำและหลกั ภำษำไทยกำรเปล่ยี นแปลงของภำษำและพลงั ของภำษำ ภูมปิ ัญญำ
ทำงภำษำ และรักษำภำษำไทยไว้เป็นสมบตั ิของชำติ
ตวั ชีวัดท่ี ป 2/2เขียนสะกดค้ำและบอกควำมหมำย ของคำ้

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

กำรอำ่ นจบั ใจควำมส้ำคัญ คอื กำรอำ่ นเพอ่ื จับใจควำมหรอื ขอ้ คดิ ควำมคิดสำ้ คัญหลกั ของข้อควำม หรอื เรื่องทีอ่ ่ำน

กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คญั ถอื เป็นทกั ษะสำ้ คญั ท่ีใช้ในกำรอำ่ นเพ่ือกำรส่ือสำรมำกทสี่ ุด เพรำะเปน็ พนื ฐำนส้ำคญั ในกำรศึกษำหำ
ควำมรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนให้เกิดควำมช้ำนำญ

กำรเขยี นบรรยำยภำพเป็นกำรเขยี นเพอ่ื ฝกึ จินตนำกำรและพฒั นำใหน้ กั เรียนมที กั ษะในกำรคิดและกำรเขียน
สรำ้ งสรรคค์ ำ้ ใหม่ ๆ ใหม้ ีควำมถกู ต้องมำกยง่ิ ขึน

กำรผันวรรณยกุ ต์ คอื กำรเปลี่ยนเสียงวรรณยกุ ต์ของพยำงคท์ ่ปี ระกอบดว้ ยพยญั ชนะตน้ กบั สระหรอื พยญั ชนะต้นกับ
สระและตวั สะกดอยำ่ งเดยี วกนั ใสร่ ูปวรรณยุกตต์ ่ำงกันตำมทป่ี รำกฏเป็นพยำงค์ในภำษำไทย

3. จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. รู้และเข้ำใจหลกั กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคญั (K)
2.อธบิ ำยวิธกี ำรอักษรสูง (K)
3.รู้และเข้ำใจหลักกำรเขยี นบรรยำยภำพ (K)
4.อธิบำยวธิ ีกำรอักษรต้่ำ (K)
5.อ่ำนออกเสยี งและผนั วรรณยกุ ตไ์ ด้ (P)
6. เขียนบรรยำยภำพไดถ้ กู ต้อง(P)
7. เลอื กอ่ำนหนงั สอื ตำมควำมสนใจและเหมำะสมกบั วัยได(้ P)
8. มีมำรยำทในกำรเรยี นภำษำไทยและมีควำมกระตือรอื ร้น (A)
9.กระตอื รอื ร้นในกำรร่วมกจิ กรรม (A)

4. สาระการเรียนรู้ สาระการเรียนรู้ทอ้ งถนิ่
สาระการเรยี นรแู้ กนกลาง

3.1 ควำมรู้ : Knowledge (K) กำรอ่ำนจบั ใจควำมหนงั สอื ที่
นกั เรียนสนใจเหมำะกบั วยั กำรเขยี นบรรยำยภำพ
กำรผันวรรณยกุ ต์อกั ษรต้ำ่
3.2 กระบวนกำรจดั กำรเรียนรู้ : Process (P)

5. กิจกรรมการเรียนรู้

คาบท่ี กิจกรรมการเรยี นการสอน

คาบท่ี 1-2 สาระสาคัญ
กำรอำ่ นจบั ใจควำมส้ำคญั คอื กำรอำ่ นเพื่อจบั ใจควำมหรอื ขอ้ คิด ควำมคิดส้ำคญั หลักของ

การอา่ นจบั ขอ้ ควำม หรอื เรือ่ งทอ่ี ำ่ น
ใจความหนังสือที่
นกั เรยี นสนใจ กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคัญ ถือเปน็ ทกั ษะส้ำคัญท่ใี ช้ในกำรอำ่ นเพอ่ื กำรสือ่ สำรมำกทสี่ ดุ เพรำะเปน็
พนื ฐำนส้ำคัญในกำรศึกษำหำควำมรู้ จงึ ควรฝกึ ฝนใหเ้ กดิ ควำมช้ำนำญ
เหมาะกับวัย ขั้นท่ี 1 ขัน้ รวบรวมข้อมลู

1. นักเรียนฟงั ครเู ล่ำนทิ ำน แล้วรว่ มกนั สนทนำโดยครใู ชค้ ้ำถำมดงั นี
-นทิ ำนเรือ่ งนีเกย่ี วกบั อะไร
-นกั เรยี นชอบอ่ำนนทิ ำนหรอื ไมเ่ พรำะอะไร
* ในกำรตอบคำ้ ถำมให้ครใู ชไ้ ม้เรยี กเลขท่ี เพื่อให้นกั เรียนตอบทลี ะคน โดยถำมคำ้ ถำม
ก่อนจะ

เรยี กเลขทเ่ี พอื่ ให้ทกุ คนได้คดิ ในแตล่ ะค้ำถำมควรใหน้ ักเรยี นน้ำเสนอ 4-5 คน
2.นกั เรียนทบทวนเก่ยี วกบั กำรอ่ำนสรปุ ใจควำม โดยใชค้ ้ำถำมดงั ต่อไปนี
- กำรอ่ำนสรปุ ใจควำมคอื อะไร
- นกั เรียนใชท้ ักษะอะไรบ้ำงในกำรอำ่ นสรุปใจควำม

ข้นั ท่ี 2 ขั้นคิดวเิ คราะห์และสรปุ ความ
3. นกั เรยี นร่วมกันวิเครำะหเ์ กีย่ วกับกำรเลอื กอ่ำนหนงั สอื ท่เี หมำะสมกบั วยั โดยใหด้ หู นังสอื

ดังนี หนงั สือนิยำย
หนังสอื นิทำน หนงั สอื เรียน แลว้ รว่ มสนทนำโดยครใู ช้คำ้ ถำมดงั นี

-หนังสือแต่ละเลม่ มปี ระโยชน์อยำ่ งไร
-นักเรียนชอบงำนหนงั สอื อะไรมำกทส่ี ดุ ใน 3 เลม่ นเี พรำะอะไร
-นกั เรยี นสำมำรถนำ้ ควำมรูไ้ ปใชใ้ นชีวติ ประจำ้ วันไดอ้ ยำ่ งไร

ขน้ั ท่ี 3 ขั้นปฏิบตั แิ ละสรปุ ความร้หู ลงั การปฏิบัติ
4.นกั เรียนเข้ำกลมุ่ ท้ำกจิ กรรมกำรอ่ำนและสรปุ ควำมนทิ ำน ดงั นี
-ตวั ละครทส่ี ำ้ คญั
-เหตกุ ำรณเ์ กดิ ขึนทีไ่ หน
-ประโยชน์ท่ีไดร้ บั จำกกำรอ่ำนนทิ ำน
5.นกั เรยี นร่วมกันสรปุ ควำมส้ำคัญของกำรเลือกอ่ำนหนังสือตำมควำมสนใจ

ขัน้ ท่ี 4 ขั้นสอื่ สารและนาเสนอ
6. นักเรียนแต่ละกลมุ่ นำ้ เสนอกจิ กรรมกำรอ่ำนและสรปุ ควำมนทิ ำนหนำ้ ชันเรียน

คาบท่ี 3-4 ขน้ั ที่ 5ข้ันประเมนิ เพ่ือเพม่ิ คุณค่าบริการสงั คมและจิตสาธารณะ
7.นักเรียนร่วมกันแสดงควำมคิดเห็น โดยครูใช้คำ้ ถำมดังนี
การเขยี นบรรยาย - นกั เรียนสำมำรถนำ้ ควำมรู้เกยี่ วกบั เรอื่ งท่ีเรียนไปใช้ประโยชน์ในสงั คมได้อย่ำงไร
ภาพ
สาระสาคัญ
กำรเขียนบรรยำยภำพเปน็ กำรเขยี นเพอื่ ฝกึ จินตนำกำรและพัฒนำใหน้ ักเรียนมที ักษะในกำรคดิ

และกำรเขียนสรำ้ งสรรคค์ ้ำใหม่ ๆ ใหม้ ีควำมถูกต้องมำกยง่ิ ขนึ
ขน้ั ท่ี 1 ขั้นรวบรวมข้อมลู

1. นักเรียนดูภำพ แล้วร่วมกันแสดงควำมคิดเห็นเพ่ือเชื่อมโยงเขำ้ สู่บทเรียน โดย

ครูใช้คำ้ ถำมดงั นี

๏ เด็กนักเรียนในภำพกำ้ ลังท้ำอะไร
๏ นกั เรยี นคิดวำ่ เหตุกำรณ์ดงั กลำ่ วเกิดขึนเวลำใดเพรำะอะไร
2 นกั เรยี นศึกษำเรอื่ งกำรเขยี นบรรยำยภำพ แลว้ รว่ มสนทนำโดยครใู ชค้ ้ำถำมดงั นี
๏ กำรเขียนบรรยำยภำพหมำยถงึ อะไร
๏ ในกำรเขยี นบรรยำยภำพตอ้ งคำ้ นงึ ถึงอะไรบำ้ ง
๏ กำรเขยี นบรรยำยภำพมขี นั ตอนอย่ำงไร
ขัน้ ท่ี 2 ขัน้ คดิ วิเคราะหแ์ ละสรุปความ
3. นกั เรยี นดตู วั อยำ่ งกำรเขยี นบรรยำยภำพ แล้วรว่ มกันสนทนำโดยครใู ช้ค้ำถำมดังนี
-ในกำรเขยี นบรรยำยภำพนกั เรียนตอ้ งคำ้ นงึ ถึงอะไรบำ้ ง

-จำกตวั อย่ำงท่ศี กึ ษำ นักเรยี นคดิ ว่ำเป็นกำรเขยี นบรรยำยภำพทด่ี หี รอื ไม่เพรำะอะไร

4. นกั เรียนแต่ละกลุ่มคิดประเมนิ เพอ่ื เพม่ิ คุณค่ำโดยครูใช้ค้ำถำมดังตอ่ ไปนี

- นักเรยี นสำมำรถนำ้ ควำมรทู้ ไี่ ดร้ บั ไปใช้ในชวี ติ ประจ้ำวนั ได้อยำ่ งไร

ขน้ั ที่ 3 ข้ันปฏบิ ตั แิ ละสรุปความรูห้ ลงั การปฏบิ ตั ิ

5. นักเรียนเข้ำกลมุ่ ท้ำกิจกรรม ฝกึ เขียนบรรยำยภำพ และตวั แทนกลมุ่ อ่ำนใหเ้ พอ่ื นฟงั หน้ำ

ชันเรียน

6. นกั เรยี นสรปุ ขนั ตอนกำรเขยี นบรรยำย และครูอธบิ ำยเพม่ิ เตมิ ดงั นี

กำรเขยี นบรรยำยภำพเป็นกำรเขียนถ่ำยทอดควำมคิด และอธิบำย

รำยละเอียดของภำพโดยใช้ประสบกำรณเ์ ดิม

7.นักเรยี นทำ้ ใบงำนเรอ่ื งกำรเขยี นบรรยำยภำพ

ขั้นท่ี 4 ขั้นส่ือสารและนาเสนอ

8. นักเรียนนำ้ เสนอผลงำนหนำ้ ชนั เรยี น โดยครูใช้ไมเ้ รยี กเลขทีเ่ รยี กนักเรยี นออกมำ

นำ้ เสนอประมำณ 4-5 คน

ข้นั ที่ 5ข้ันประเมนิ เพื่อเพ่ิมคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ

9.นกั เรยี นร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ โดยครใู ช้ค้ำถำมดังนี

- นกั เรียนสำมำรถน้ำควำมรเู้ กยี่ วกับเรอ่ื งทเี่ รียนไปใชป้ ระโยชนใ์ นสงั คมได้อยำ่ งไร

คาบท่ี 5-6 สาระสาคญั

การผันวรรณยกุ ต์ กำรผนั วรรณยกุ ต์ คือ กำรเปล่ียนเสียงวรรณยกุ ตข์ องพยำงคท์ ป่ี ระกอบด้วยพยญั ชนะต้น

อักษรตา่ กบั สระหรือพยญั ชนะตน้ กบั สระและตัวสะกดอยำ่ งเดยี วกันใส่รปู วรรณยกุ ตต์ ำ่ งกนั ตำมทป่ี รำกฏ
เปน็ พยำงค์ในภำษำไทย

ข้นั ที่ 1 ขัน้ รวบรวมข้อมูล

1. นกั เรียนทอ่ งอกั ษรตำ้่ วธิ ีกำรท่องจำ้ อกั ษรต้่ำคู่ และอกั ษรตำ่้ เดีย่ ว นักเรียนศึกษำแผนภมู ิ

กำรผันวรรณยุกตอ์ กั ษรตำ้่

2. นักเรียนดูวดี ที ศั นเ์ รือ่ งกำรผนั วรรณยุกตอ์ กั ษรต่้ำ แลว้ ร่วมสนทนำโยงเข้ำสู่บทเรียน โดย

ครูใชค้ ำ้ ถำมดังนี

-อกั ษรต่้ำผันวรรณยกุ ตไ์ ดก้ เ่ี สียง

-กำรผนั วรรณยุกตอ์ กั ษรคูม่ ปี ระโยชน์อย่ำงไร

ขน้ั ท่ี 2 ขัน้ คิดวิเคราะหแ์ ละสรปุ ความ

3. นักเรยี นสงั เกตคำ้ แลว้ ช่วยกนั บอกว่ำเปน็ เสยี งวรรณยุกต์ใด

รปู ภำพ งเู หำ่ เล็บมือ นำ้ ค้ำง ม้ำลำย แมวน้ำ

*ในกำรตอบค้ำถำมใหค้ รใู ชไ้ มเ้ รียกเลขท่ี เพ่อื ให้นกั เรียนตอบทลี ะคน โดยถำมค้ำถำม

ก่อนจะเรยี กเลขท่ีเพอื่ ให้ทกุ คนไดค้ ิด ในแต่ละคำ้ ถำมควรให้นักเรียนนำ้ เสนอ 4-5 คน

4. นักเรียนแตล่ ะกลุ่มคดิ ประเมินเพอ่ื เพมิ่ คณุ ค่ำโดยครูใช้คำ้ ถำมดงั ต่อไปนี

- นักเรียนสำมำรถน้ำควำมรทู้ ี่ได้รับไปใชใ้ นชวี ติ ประจำ้ วนั ได้อยำ่ งไร

ขน้ั ท่ี 3 ขั้นปฏบิ ัติและสรุปความรหู้ ลงั การปฏิบัติ
5. นกั เรียนเขำ้ กลมุ่ ทำ้ กจิ กรรมยกตัวอยำ่ งค้ำอกั ษรต่้ำทม่ี ีเสยี ง เอก โท ตรี ตวั แทนกลมุ่ อำ่ น

ให้เพือ่ นฟงั
6. นกั เรียนสรปุ เรอ่ื งกำรผันวรรณยกุ ตอ์ กั ษรสูงซงึ่ จะใช้ในทุกวัน
7.นักเรยี นทำ้ แบบฝึกหดั

ข้ันที่ 4 ข้ันสือ่ สารและนาเสนอ
8.นกั เรียนนำ้ เสนอกำรท้ำแบบฝึกหดั โดยครูใช้ไม้เรยี กเลขท่ี เพอ่ื ใหน้ กั เรยี นนำ้ เสนอทลี ะ

คน เพื่อนๆช่วยกนั ตรวจสอบควำมถูกตอ้ ง
ขน้ั ที่ 5ข้ันประเมินเพ่ือเพมิ่ คุณคา่ บริการสงั คมและจติ สาธารณะ

9.นักเรียนรว่ มกนั แสดงควำมคิดเหน็ โดยครูใช้คำ้ ถำมดงั นี
- นกั เรียนสำมำรถนำ้ ควำมรเู้ ก่ียวกบั เรอ่ื งท่ีเรียนไปใชป้ ระโยชน์ในสังคมไดอ้ ย่ำงไร

3.3 คุณลักษณะท่พี งึ ประสงค์ : Attitude (A) ซ่ือสตั ย์สจุ ริต มีวนิ ยั ใฝเ่ รยี นรู้ อยู่ย่ำงพอเพยี ง
มุง่ มนั่ ในกำรท้ำงำน
รักควำมเป็นไทย มีจติ สำธำรณะ

6. การวดั และประเมนิ ผลการเรยี นรู้

กำรประเมิน วิธีกำร เคร่ืองมอื
-คำ้ ถำม
ด้ำนควำมรู้ (K) -กำรตอบค้ำถำม -แบบฝกึ หดั
-แบบประเมินกำรอำ่ น
-ท้ำแบบฝกึ หดั -แบบประเมินกำรเขียนเรอื่ งจำกภำพ
-แบบฝกึ หดั
ด้ำนทักษะและกระบวนกำร (P) -ทกั ษะกำรอ่ำน -คำ้ ถำม
-แบบสังเกตพฤติกรรม
-ทักษะกำรเขยี น

-ทักษะกำรคิดวิเครำะห์

ด้ำนคณุ ธรรม จรยิ ธรรมและค่ำนิยม (A) -สงั เกตพฤตกิ รรมในกำรรว่ มกจิ กรรม
กำรท้ำงำนกลมุ่
-สงั เกตพฤตกิ รรมกำรใชส้ ระ

7. สือ่ /อปุ กรณ์/แหล่งการเรียนรู้

1. แบบฝึกหัด 2. วดี ิทัศน์กำรผันวรรณยกุ ต์ 3. บตั รประโยค

4. ไม้เรียกเลขที่ 5.คำ้ ถำม 6.บัตรภำพ

7.บัตรค้ำศพั ท์ 8. หนังสอื หลักภำษำเล่ม 2ชันประถมศึกษำปที ี่ 2

8. กจิ กรรมเสนอแนะ

.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................................................................

ลงชอ่ื .............................................ครผู สู้ อน ลงช่อื ...................................................ฝ่ำยวิชำกำร
(...........................................................) (...........................................................)

vv ลงชื่อ................................................... ผูบ้ ริหำร
(...........................................................)

การเขียนบรรยายภาพ

.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................
.................................................................................................................................................................................

เนอื้ เร่อื งสอดคลอ้ งกับภาพ (3) ความสะอาด ลายมอื ความเป็นระเบยี บ(3) รวม (5)

สัปดำหท์ ่ี 14

โรงเรยี นขจรเกยี รติพฒั นา

แผนการจดั การเรียนรู้

ภาคเรียนท่ี ……1…/………..……... ช่อื ผสู้ อน ….…..….................................................……...
กล่มุ สาระการเรยี นรู้ ภำษำไทย
หนว่ ยการเรยี นรทู้ ี่ 4 ชวี ิตใหม่ ชนั้ ประถมศกึ ษาปที ี่ 2 จานวน 6 คาบ

เรอ่ื ง ชีวิตใหม่

1. มาตรฐานการเรียนร/ู้ ตัวชีว้ ดั

มำตรฐำน ท 1.1 ใช้กระบวนกำรอ่ำนสรำ้ งควำมรแู้ ละควำมคดิ เพอื่ น้ำไปใช้ตดั สนิ ใจแกป้ ญั หำในกำรดำ้ เนินชีวิตและมี
นิสยั รกั กำรอ่ำน
ตัวชวี ดั ท่ี ป 2/1 อ่ำนออกเสยี งคำ้ คำ้ คล้องจอง ขอ้ ควำม และบทร้อยกรองงำ่ ยๆไดถ้ กู ต้อง
ตัวชวี ัดท่ี ป 2/2 อธบิ ำยควำมหมำยของค้ำและข้อควำมทอี่ ำ่ น
ตวั ชวี ัดท่ี ป 2/3ตังค้ำถำมและตอบคำ้ ถำมเกีย่ วกับเร่อื งทอี่ ำ่ น
ตัวชวี ัดท่ี ป 2/4ระบุใจควำมส้ำคญั และรำยละเอียดจำกเรอื่ งทอี่ ่ำน
ตวั ชีวดั ท่ี ป 2/8มีมำรยำทในกำรอ่ำน
มำตรฐำนที่ ท 2.1ใชก้ ระบวนกำรเขยี นเขียนสอื่ สำร เขียนเรยี งควำม ยอ่ ควำม และเขยี นเรื่องรำวในรปู แบบต่ำงๆ
เขยี นรำยงำนขอ้ มลู สำรสนเทศและรำยงำนกำรศกึ ษำค้นควำ้ อย่ำงมปี ระสทิ ธภิ ำพ
ตัวชีวัดที่ ป 2/2เขียนเร่อื งสันๆ เกยี่ วกบั ประสบกำรณ์
มำตรฐำนที่ ท 4.1เข้ำใจธรรมชำตขิ องภำษำและหลักภำษำไทยกำรเปล่ียนแปลงของภำษำและพลงั ของภำษำ ภูมิปญั ญำทำง
ภำษำ และรักษำภำษำไทยไวเ้ ปน็ สมบตั ิของชำติ
ตัวชีวดั ที่ ป 2/1บอกและเขยี นพยญั ชนะ สระ วรรณยุกต์ และเลขไทย
ตัวชีวดั ท่ี ป 2/2เขียนสะกดค้ำและบอกควำมหมำย ของคำ้

2. สาระสาคญั /ความคดิ รวบยอด

การอา่ นจบั ใจความสาคญั คอื กำรอำ่ นเพื่อจับใจควำมหรอื ขอ้ คิด ควำมคดิ ส้ำคญั หลกั ของขอ้ ควำม หรือเร่อื งทอ่ี ่ำน

กำรอ่ำนจบั ใจควำมส้ำคัญ ถอื เป็นทกั ษะส้ำคญั ท่ีใช้ในกำรอำ่ นเพอื่ กำรส่อื สำรมำกทส่ี ดุ เพรำะเปน็ พืนฐำนส้ำคัญในกำรศึกษำหำ
ควำมรู้ จึงควรฝกึ ฝนให้เกดิ ควำมชำ้ นำญ

การเขียนนิทาน เปน็ เรอ่ื งของกำรเขียนบรรยำย ผเู้ ขียนจะตอ้ งมศี ลิ ปะในกำรเขยี นเพื่อใหเ้ กิดควำมสนกุ สนำน ปลกู ฝัง
คุณธรรมคตแิ งค่ ดิ มุมมองตำ่ งๆ แก่ผู้อ่ำน

คาทีค่ วามหมายตรงกันขา้ ม คอื ค้ำท่ีมคี วำมหมำยต่ำงกนั ในกำรนำ้ มำใชต้ ้องเลือกใหเ้ หมำะสมกบั สิ่งทีต่ อ้ งกำรสอ่ื สำร
เพรำะอำจจะทำ้ ให้ควำมหมำยไมต่ รงประเดน่

3. จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้

1.อธิบำยควำมหมำย และหลกั กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คญั (K)
2.รูแ้ ละเขำ้ ใจหลักกำรแตง่ นทิ ำนได้ (K)
3.อธบิ ำยลักษณะของค้ำท่ีมีควำมหมำยตรงข้ำมกนั (K)
4.บอกควำมหมำยของค้ำท่ีมคี วำมหมำยตรงข้ำมกนั ได้ (K)
5.ยกตวั อยำ่ งคำ้ ที่มีควำมหมำยตรงข้ำมกนั (P)
6.แตง่ นิทำนได้ถูกตอ้ ง(P)
7.อำ่ นเร่อื งไดค้ ล่องแคล่ว รวดเรว็ และถูกต้องตำมอกั ขรวิธี (P)
8.แยกขอ้ เทจ็ จรงิ และขอ้ คดิ เหน็ จำกเรอื่ งที่อำ่ น (P)
9.มงุ่ ม่นั ในกำรเรยี น เพ่ือพฒั นำควำมสำมำรถดำ้ นกำรเขียน (A)
10.เหน็ ควำมส้ำคัญของกำรอ่ำนและมำรยำทในกำรอำ่ น (A)
11.กระตือรอื ร้นในกำรเรยี นรู้ (A)

4. สาระการเรยี นรู้ สาระการเรียนรทู้ อ้ งถิ่น
สาระการเรียนรแู้ กนกลาง

3.1 ควำมรู้ : Knowledge (K) กำรอำ่ นจบั ใจควำมชีวติ ใหม่ กำร
เขยี นนทิ ำน คำ้ ทมี่ คี วำมหมำยตรงกนั ขำ้ ม
3.2 กระบวนกำรจัดกำรเรยี นรู้ : Process (P)

5. กิจกรรมการเรยี นรู้

คาบท่ี กิจกรรมการเรียนการสอน

คาบที่ 1-2 สาระสาคญั
กำรอ่ำนจบั ใจควำมสำ้ คัญ คือ กำรอ่ำนเพือ่ จับใจควำมหรือขอ้ คดิ ควำมคิดส้ำคญั หลักของ

การอา่ นจบั ข้อควำม หรือเร่อื งท่ีอ่ำน กำรอำ่ นจบั ใจควำมส้ำคญั ถือเปน็ ทกั ษะส้ำคญั ท่ีใชใ้ นกำรอำ่ นเพือ่ กำรสอื่ สำร

ใจความชีวติ ใหม่ มำกท่ีสดุ เพรำะเปน็ พนื ฐำนส้ำคญั ในกำรศึกษำหำควำมรู้ จงึ ควรฝึกฝนให้เกิดควำมช้ำนำญ
ขัน้ ที่ 1 ขน้ั รวบรวมขอ้ มลู

1. นกั เรียนเลน่ เกมทำยคำ้ เกี่ยวกบั ควำมหมำยของค้ำและมีภำพประกอบเชน่

- ธ. อะไรฝำกเงินและมีดอกเบีย ตอบ ธนำคำร

- ผักอะไรกินแล้วตำหวำน ตอบ ผกั บงุ้
- ตรงข้ำมกับขำย ตอบ ซอื

* ครสู มุ่ ถำมนกั เรียนโดยจับไมเ้ รยี กเลขที่

ดังต่อไปนี เมอ่ื ตอบคำ้ ถำมเสรจ็ นักเรยี นทบทวนเก่ยี วกบั กำรอำ่ นสรุปใจควำม โดยใชค้ ้ำถำม

- กำรอำ่ นสรปุ ใจควำมคอื อะไร
- นกั เรยี นใช้ทกั ษะอะไรบำ้ งในกำรอำ่ นสรุปใจควำม

2. นกั เรยี นอ่ำนเรอื่ ง ชวี ิตใหม่ โดยให้เวลำนกั เรียนในกำรอำ่ น 10 -15 นำที (เวลำอำจ
เปลี่ยนแปลงได้ตำมควำมเหมำะสมเพรำะนกั เรียนบำงคนอ่ำนเรว็ บำงคนอ่ำนชำ้ )

คาบท่ี 3-4 - ตัวละครในเรื่องมใี ครบ้ำง มเี หตกุ ำรณอ์ ะไรเกิดขึนบำ้ ง
การเขยี นนทิ าน - เหตุกำรณท์ เ่ี กิดขึนเกดิ ทใ่ี ด เม่อื ไหร่
- นกั เรยี นรสู้ ึกอย่ำงไรกบั เรอ่ื งทอี่ ่ำน
ข้นั ที่ 2 ขั้นคิดวเิ คราะหแ์ ละสรุปความ
3. นกั เรยี นแตล่ ะกลมุ่ ร่วมกนั วิเครำะห์เกี่ยวกับเรอ่ื งที่อ่ำน โดยครูใช้คำ้ ถำมดงั นี
-ตัวละครสำ้ คญั ในเรื่องแต่ละคนมนี สิ ัยอย่ำงไร
-จำกเรอื่ งทอ่ี ่ำนนกั เรียนไดข้ อ้ คดิ อะไรบำ้ ง
4. นักเรียนแตล่ ะกลุม่ คดิ ประเมินเพอ่ื เพม่ิ คุณค่ำโดยครใู ช้ค้ำถำมดังตอ่ ไปนี

- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมรทู้ ไ่ี ด้รบั ไปใช้ในชีวติ ประจำ้ วันไดอ้ ย่ำงไร
ข้ันที่ 3 ขั้นปฏบิ ัตแิ ละสรุปความร้หู ลงั การปฏิบัติ

5.นกั เรียนเขำ้ กลมุ่ ท้ำกจิ กรรมกำรตงั ค้ำถำมและตอบค้ำถำมจำกเรอื่ งที่อ่ำน กลมุ่ ละ 5 ข้อ
กตกิ ำในกำรตังคำ้ ถำม คุณครูแบ่งจ้ำนวนหน้ำที่แต่ละกลุ่มจะต้องรบั ผิดชอบในกำรตงั คำ้ ถำม
เพือ่ ปอ้ งกันไมใ่ หก้ ำรตงั คำ้ ถำมของแตล่ ะกลมุ่ ไม่ใหซ้ ำ้ กนั
6. นักเรยี นรว่ มกนั สรปุ ข้อคดิ ท่ีไดจ้ ำกกำรอำ่ น
ขน้ั ที่ 4 ข้ันส่ือสารและนาเสนอ
7.นกั เรยี นแตล่ ะกล่มุ นำ้ เสนอค้ำถำมหนำ้ ชนั เรยี น แลว้ ใหเ้ พอ่ื นตอบค้ำถำม
ขั้นที่ 5ขั้นประเมนิ เพ่ือเพ่มิ คุณค่าบรกิ ารสงั คมและจิตสาธารณะ
8.นักเรียนร่วมกนั แสดงควำมคดิ เหน็ โดยครใู ชค้ ้ำถำมดังนี

- นกั เรียนสำมำรถน้ำควำมรู้เกี่ยวกับเรื่องทีเ่ รยี นไปใชป้ ระโยชนใ์ นสงั คมได้อยำ่ งไร
สาระสาคัญ

กำรเขยี นนทิ ำน เป็นเรื่องของกำรเขียนบรรยำย ผเู้ ขียนจะตอ้ งมศี ลิ ปะในกำรเขียนเพ่อื ใหเ้ กิด
ควำมสนกุ สนำน ปลกู ฝงั คุณธรรมคติแง่คิดมุมมองตำ่ งๆ แกผ่ ูอ้ ่ำน
ขนั้ ที่ 1 ขัน้ รวบรวมขอ้ มูล

1.นกั เรยี นดนู ทิ ำนเร่อื งลูกหมสู ำมตัวจำกวีดที ัศน์ แลว้ ร่วมสนทนำโยงเข้ำสบู่ ทเรยี น โดยครู
ใชค้ ้ำถำมดังนี

-นกั เรียนชอบดนู ทิ ำนหรอื ไม่เพรำะอะไร
-นกั เรยี นเคยเขยี นนิทำนเองหรอื ไม่
2.นักเรียนศึกษำขนั ตอนกำรเขยี นนทิ ำน แลว้ ร่วมสนทนำโดยครใู ชค้ ้ำถำมดงั นี
-ในกำรเขยี นนทิ ำนต้องคำ้ นงึ ถงึ สง่ิ ใด
-กำรเขียนนทิ ำนมีขันตอนอยำ่ งไร
ขั้นที่ 2 ขน้ั คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรปุ ความ
3.นักเรยี นดตู วั อยำ่ งกำรเขียนนิทำน แล้วร่วมสนทนำโดยครใู ชค้ ำ้ ถำมดังนี
-นิทำนท่นี ักเรยี นอำ่ นเกี่ยวกบั เรือ่ งอะไร

-ตวั ละครมใี ครบ้ำง

-ตอนจบของนทิ ำนเป็นอยำ่ งไร

4. นกั เรยี นแต่ละกลมุ่ คดิ ประเมนิ เพือ่ เพ่ิมคุณค่ำโดยครใู ชค้ ้ำถำมดังตอ่ ไปนี

- นกั เรยี นสำมำรถน้ำควำมรทู้ ่ไี ด้รบั ไปใช้ในชีวติ ประจำ้ วันไดอ้ ยำ่ งไร

ข้ันท่ี 3 ข้ันปฏบิ ตั ิและสรปุ ความรู้หลงั การปฏบิ ตั ิ

5. นกั เรยี นเข้ำกลุม่ เขยี นนทิ ำนเร่ือง ไอศกรมี แสนอร่อย พร้อมวำดภำพประกอบ

6. นกั เรียนสรุปเก่ยี วกับประโยชน์ท่ไี ด้รบั จำกกำรฝกึ เขียนนิทำน

ขัน้ ท่ี 4 ข้ันสอื่ สารและนาเสนอ

7.นักเรียนออกมำนำ้ เสนอนทิ ำนที่แตล่ ะกลุ่มชว่ ยกนั แต่ง

ขั้นที่ 5ข้ันประเมนิ เพื่อเพิ่มคุณค่าบริการสังคมและจิตสาธารณะ

8.นกั เรียนรว่ มกนั แสดงควำมคดิ เห็น โดยครูใช้ค้ำถำมดังนี

- นักเรียนสำมำรถนำ้ ควำมรูเ้ กี่ยวกับเร่อื งท่ีเรยี นไปใชป้ ระโยชนใ์ นสงั คมได้อย่ำงไร

คาบท่ี 5-6 สาระสาคัญ
ค้ำทค่ี วำมหมำยตรงกันข้ำม คือค้ำท่ีมีควำมหมำยตำ่ งกนั ในกำรนำ้ มำใชต้ อ้ งเลือกให้
คาทมี่ ีความหมาย เหมำะสมกับสง่ิ ทต่ี ้องกำรสอื่ สำรเพรำะอำจจะทำ้ ให้ควำมหมำยไมต่ รงประเดน่

ตรงกันข้าม ขนั้ ท่ี 1 ข้ันรวบรวมขอ้ มูล

1. ครูนำ้ ภำพมำติดบนกระดำนดำ้ โดยแบ่งเปน็ สองฝง่ั ดงั นี

อว้ น ผอม

สูง เตยี

ร้องไห้ หวั เรำะ

นกั เรยี นสังเกตแล้วร่วมสนทนำโยงเข้ำสู่บทเรยี น โดยครูใช้คำ้ ถำมดงั นี

-ภำพทังสองฝงั่ ตำ่ งกนั อยำ่ งไร

-ค้ำดังกล่ำวเรำเรียกว่ำคำ้ อะไร

2. นกั เรียนศกึ ษำเรอ่ื ง ค้ำที่มีควำมหมำยตรงกนั ขำ้ ม แลว้ ร่วมสนทนำโดยครูใช้ค้ำถำมดังนี

-คำ้ ทีม่ ีควำมหมำยตรงกันข้ำมหมำยถึงอะไร

-คำ้ ที่มคี วำมหมำยตรงกนั ขำ้ มมลี ักษณะอย่ำงไร

ขั้นที่ 2 ขัน้ คดิ วเิ คราะหแ์ ละสรุปความ

3. นกั เรียนเล่นเกมจับคูค่ ้ำท่ตี รงกนั ข้ำมโดยครเู สยี บบัตรคำ้ ไวใ้ นแผนภมู ปิ ริศนำ และ

นักเรยี นออกมำเปดิ บตั รคำ้ หำกนกั เรยี นเปดิ บตั รค้ำและเปดิ ไดค้ ่ทู ถี่ ูกตอ้ งจะไดร้ บั รำงวัล

4. นกั เรียนแต่ละกลมุ่ คดิ ประเมนิ เพอื่ เพิม่ คุณคำ่ โดยครใู ช้ค้ำถำมดังต่อไปนี

- นกั เรยี นสำมำรถนำ้ ควำมรู้ท่ไี ดร้ บั ไปใชใ้ นชีวิตประจ้ำวนั ไดอ้ ย่ำงไร

ขน้ั ที่ 3 ข้ันปฏิบตั แิ ละสรปุ ความรู้หลังการปฏบิ ัติ

5. นักเรยี นฝึกอำ่ นค้ำทม่ี ีควำมหมำยตรงกนั ขำ้ มจำกบตั รค้ำ (บตั รค้ำจำกแบบฝึกหัด)

6. นักเรียนยกตัวอย่ำงคำ้ ทมี่ คี วำมหมำยตรงกันข้ำม

* ในกำรทำ้ กิจกรรมใหค้ รใู ช้ไม้เรยี กเลขที่ เพ่อื ให้นักเรียนตอบทลี ะคน

7. นกั เรยี นสรุปในเร่ืองคำ้ ทมี่ ีควำมหมำยตรงกนั ขำ้ ม ดังนี


Click to View FlipBook Version