สำ�นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ได้กำ�หนดมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี
ขึ้น เพื่อใช้เป็นแนวทางในการจัดการอาชีวศึกษาระบบ
ทวิภาคีให้มีคุณภาพ และประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ตามประกาศ
สำ�นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ลงวันท 22
มิถุนายน 2563 เรื่องมาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษา
ระบบทวิภาคี โดยให้มีผลใช้บังคับตั้งแต่วันประกาศในราช
กิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ซึ่งได้ลงประกาศในราชกิจจานุ
เบกษา เล่ม 137 ตอนพิเศษ 191 ง วันที่ 20 สิงหาคม 2563
ดังนั้น สำ�นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจึงมอบ
หมายให้ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีดำ�เนินโครงการขยายและ
ยกระดับคุณภาพมาตรฐานในการจัดการอาชีวศึกษาระบบ
ทวิภาคีขึ้น เพื่อให้สถาบันการอาชีวศึกษาและสถานศึกษา
นำ�ไปเป็นแนวทางในการพัฒนาหรือปรับปรุงหลักสูตร
การจัดการเรียนการสอน และการพัฒนาคุณภาพ
การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีร่วมกับสถานประกอบ
การได้อย่างมีคุณภาพ
ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคี สำ�นักงานคณะ
กรรมการการอาชีวศึกษาได้แต่งตั้งคณะกรรมการดำ�เนิน
งานโครงการขยายและยกระดับการจัดการอาชีวศึกษา
ระบบทวิภาคี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อจัดทำ�คู่มือการจัด
ทำ�แผนการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ และพัฒนาครู
ฝึกในสถานประกอบการและครูนิเทศก์ให้มีความรู้ความ
สามารถในการจัดทำ�แผนการฝึกอาชีพในสถานประกอบ
การ ทั้งนี้เพื่อให้สถานศึกษาและสถานประกอบการนำ�ไปใช้
เป็นแนวทางในการเขียนแผนการฝึกอาชีพ
ศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคี สำ�นักงานคณะ
กรรมการการอาชีวศึกษา ขอขอบคุณคณะที่ปรึกษาคณะ
กรรมการดำ�เนินงาน และผู้เกี่ยวข้องที่มีส่วนร่วมจัดทำ�
คู่มือการจัดทำ�แผนการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ
การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ฉบับนี้สำ�เร็จตาม
วัตถุประสงค์
ศูนย์อาชีวศึกษาทวภิ าคี
8
1. การจัดการอาชีวศกึ ษาระบบทวิภาคี
1.1 กรอบความคดิ
สำ�นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ดำ�เนินการจัดการศึกษาด้านอาชีวศึกษาตาม
พระราชบญั ญัตกิ ารศึกษาแหง่ ชาติ และพระราชบญั ญัติการอาชีวศกึ ษา พ.ศ. 2551 ซง่ึ มีรายละเอยี ด ดงั น้ี
พระราชบัญญัตกิ ารอาชีวศกึ ษา พ.ศ. 2551
มาตรา 8 การจัดการอาชวี ศกึ ษาและการฝึกอบรมวชิ าชีพให้จดั ได้ โดยรปู แบบ ดังต่อไปนี้
(1) การศกึ ษาในระบบ เปน็ การจดั การศกึ ษาวชิ าชพี ทเี่ นน้ การศกึ ษา ในสถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษา
หรอื สถาบนั เปน็ หลกั โดยมกี ารก�ำ หนดจดุ มงุ่ หมาย วธิ กี ารศกึ ษา หลกั สตู ร ระยะเวลาการวดั และการประเมนิ
ผลท่เี ปน็ เง่ือนไขของการส�ำ เรจ็ การศกึ ษาทีแ่ นน่ อน
(2) การศึกษานอกระบบ เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพ ท่ีมีความยืดหยุ่นในการกำ�หนด
จุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการศึกษา ระยะเวลา การวัด และการประเมินผล ที่เป็นเง่ือนไขของการสำ�เร็จ
การศึกษา โดยเนื้อหา และหลักสูตร จะต้องมีความเหมาะสม และสอดคล้องกับสภาพปัญหา และความ
ต้องการของบคุ คลแต่ละกลุ่ม
(3) การศึกษาระบบทวิภาคี เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่าง
สถานศกึ ษาหรอื สถาบนั กบั สถานประกอบการ รฐั วสิ าหกจิ หรอื หนว่ ยงานของรฐั ในเรอื่ งการจดั หลกั สตู ร
การเรียนการสอน การวัดและประเมินผลโดยผ้เู รียนใชเ้ วลาส่วนหนึง่ ในสถานศึกษาอาชีวศกึ ษาหรอื สถาบนั
และเรยี นภาคปฏบิ ตั ิในสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหนว่ ยงานของรัฐ
เพ่ือประโยชน์ในการผลิตและพัฒนากำ�ลังคน สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันสามารถจัด
การศึกษาตามวรรคหน่ึงในหลายรูปแบบรวมกันก็ได้ ท้ังน้ี สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันน้ันต้องมุ่ง
เน้นการจัดการศึกษาระบบทวภิ าคเี ป็นส�ำ คญั
มาตรา 9 การจัดการอาชวี ศกึ ษาและการฝกึ อบรมวิชาชพี ตามมาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 8 ให้
จดั ตามหลักสตู รทค่ี ณะกรรมการการอาชีวศึกษาก�ำ หนด ดงั ตอ่ ไปน้ี
(1) ประกาศนยี บัตรวชิ าชีพ
(2) ประกาศนยี บัตรวชิ าชพี ชนั้ สูง
(3) ปริญญาตรสี ายเทคโนโลยีหรือสายปฏิบัติการ
คณะกรรมการการอาชวี ศึกษาอาจก�ำ หนดหลักสูตรทีจ่ ดั ขึ้นเพอ่ื ความรู้ หรือทักษะในการประกอบ
อาชพี หรือการศกึ ษาตอ่ ซ่ึงจัดข้นึ เป็นโครงการหรือสำ�หรบั กลุม่ เป้าหมายเฉพาะได้
มาตรา 51 ในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี ที่เป็นความร่วมมือระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษา
หรอื สถาบนั และสถานประกอบการ ใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ ตกลงระหวา่ งสถานศกึ ษาอาชีวศึกษาหรอื สถาบนั และ
สถานประกอบการ
9
มาตรา 52 สถานประกอบการใดที่ประสงค์จะดำ�เนินการจัดการอาชีวศึกษา และการฝึกอบรม
วิชาชีพตามพระราชบัญญัตินี้ ให้ยื่นคำ�ขอต่อเลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษาเพ่ือให้ได้รับ
การรบั รองประโยชนต์ ามกฎหมายทง้ั นี้ใหถ้ อื วา่ ไมเ่ ปน็ การขดั หรอื แยง้ กบั การจดั การศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐานรปู แบบ
ศูนยก์ ารเรยี นตามกฎหมายว่าด้วยการศกึ ษาแหง่ ชาติ
การยืน่ คำ�ขอและการพิจารณาให้เปน็ ไปตามหลักเกณฑ์และวธิ กี ารทกี่ �ำ หนดในกฎกระทรวง
การจัดการอาชีวศึกษาในสถานประกอบการให้จัดการสอนตามหลักสูตรการอาชีวศึกษา และ
การฝึกอบรมวิชาชีพ หรือจัดการสอนตามหลักสูตรท่ีสถานประกอบการร่วมกับสถานศึกษาอาชีวศึกษา
หรือสถาบันจัดทำ�ขน้ึ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอาชวี ศึกษา
หลักเกณฑ์ และวิธีการดำ�เนินการตามวรรคสาม ให้เป็นไปตามท่ีคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ก�ำ หนด
มาตรา 54 สถานประกอบการสมาคมวิชาชีพ หรือองค์กรอื่นท่ีให้ความร่วมมือในการจัดการ
อาชีวศึกษาและการฝกึ อบรมวชิ าชีพ อาจได้รบั สิทธแิ ละประโยชน์ ดังต่อไปน้ี
(1) การสนบั สนนุ ด้านวชิ าการและทรพั ยากรตามสมควรแก่กรณี
(2) การเชดิ ชเู กยี รตแิ กส่ ถานประกอบการ สมาคมวชิ าชพี หรอื องคก์ รอน่ื ที่ใหค้ วามรว่ มมอื
ในการจดั การอาชวี ศึกษาและการฝึกอบรมวชิ าชพี
มาตรา 55 ครฝู ึกในสถานประกอบการตามมาตรา 52 และมาตรา 53 ต้องมคี ณุ สมบตั ิอย่างใด
อยา่ งหนง่ึ ดงั ต่อไปนี้
(1) เป็นผู้สำ�เร็จการศึกษาระดับอุดมศึกษาและผ่านการศึกษาหรือฝึกอบรมวิชาการศึกษา
ดา้ นอาชพี
(2) เป็นผู้ชำ�นาญการด้านการอาชีพโดยสำ�เร็จการศึกษาวิชาชีพไม่ตํ่ากว่าระดับ
ประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือผ่านการทดสอบมาตรฐานฝีมือแรงงานแห่งชาติ หรือมาตรฐานอ่ืนตามที่
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษากำ�หนด
(3) เป็นผู้เช่ียวชาญด้านอาชีพเฉพาะสาขาซ่ึงสำ�เร็จการศึกษาวิชาชีพไม่ตำ่�กว่าระดับ
ประกาศนยี บตั รวชิ าชพี ทมี่ ปี ระสบการณ์ในสาขาอาชพี นนั้ ไมน่ อ้ ยกวา่ หา้ ปี หรอื ส�ำ เรจ็ การศกึ ษาวชิ าชพี ระดบั
ประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูงท่ีมีประสบการณ์ในสาขาอาชีพนั้นไม่น้อยกว่าสามปี หรือผู้ผ่านการทดสอบ
มาตรฐานฝีมือแรงงานแหง่ ชาติและมีประสบการณ์ในการท�ำ งานในสาขาอาชีพน้ันไมน่ อ้ ยกว่าห้าปี
(4) เปน็ ผมู้ ปี ระสบการณแ์ ละประสบความส�ำ เรจ็ ในอาชพี เฉพาะสาขามผี ลงานเปน็ ทย่ี อมรบั ใน
สังคมและทอ้ งถิ่น และสามารถถ่ายทอดความรู้ได้
หลักเกณฑ์ในการแต่งต้ัง การทดสอบ การฝึกอบรม และการออกใบรับรองการเป็นครูฝึกใน
สถานประกอบการ ให้เปน็ ไปตามหลกั เกณฑท์ ่คี ณะกรรมการการอาชีวศกึ ษากำ�หนด
10
1.2 ค�ำ นิยามศพั ท์
การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี หมายความว่า การจัดการศึกษาวิชาชีพท่ีเกิดจาก
ข้อตกลงระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการในเร่ืองการจัดหลักสูตร การจัดการเรียนการสอน
การจัดการฝกึ อาชพี การวดั และการประเมนิ ผล
สถานศึกษา หมายความว่า สถานศึกษาอาชีวศึกษาและสถาบันการอาชีวศึกษา สังกัด
สำ�นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
สถานประกอบการ หมายความวา่ หา้ งหนุ้ สว่ น บรษิ ทั รฐั วสิ าหกจิ และหนว่ ยงานของรฐั และ
เอกชน ทั้งในและตา่ งประเทศ ทร่ี ่วมมือกับสถานศกึ ษาหรอื สถาบันการอาชีวศึกษา เพอื่ จดั การอาชวี ศกึ ษา
และการฝึกอบรมวชิ าชพี
ผเู้ รยี น หมายความวา่ ผเู้ รยี นในหลกั สตู รประกาศนยี บตั รวชิ าชพี หลกั สตู รประกาศนยี บตั ร
วิชาชพี ชน้ั สงู หลักสตู รปริญญาตรสี ายเทคโนโลยหี รอื สายปฏบิ ตั ิการ
บันทึกข้อตกลงความร่วมมือ หมายความว่า หนังสือซึ่งฝ่ายหนึ่งแสดงความสมัครใจจะ
ปฏิบัติอย่างหน่ึงอย่างใดและตามเง่ือนไขที่ปรากฏในหนังสือนั้นกับอีกฝ่ายหน่ึงโดยท่ีหนังสือน้ีไม่ถือว่าเป็น
สญั ญาผูกมดั แตแ่ สดงความตอ้ งการอนั แนว่ แนข่ องผูล้ งช่อื ว่าจะปฏบิ ตั ิดังทไ่ี ด้ระบไุ ว้
แผนการฝึกอาชีพ หมายความว่า แผนงานของสถานประกอบการในการฝึกอาชีพให้กับ
ผูเ้ รยี นระบบทวภิ าคีให้มีความรู้ ความสามารถ ทกั ษะในอาชีพ และพฤติกรรมท่พี งึ ประสงคต์ ามลกั ษณะงาน
ของสถานประกอบการ สอดคลอ้ งกบั หลกั สตู รแต่ละระดบั โดยจัดทำ�เป็นเอกสารใบงาน
แผนการฝกึ อาชพี รายวชิ า หมายความวา่ แผนการจดั การเรยี นการสอนซงึ่ ครฝู กึ รว่ มกบั
ครใู นสถานศกึ ษาหรอื สถาบนั การอาชวี ศกึ ษาจดั ท�ำ ขนึ้ เพอื่ ก�ำ หนดขนั้ ตอนการพฒั นาผเู้ รยี นทเ่ี ขา้ รบั การฝกึ
ปฏบิ ตั ิ ในสถานประกอบการไวล้ ว่ งหนา้ ตามลกั ษณะงานของสถานประกอบการและผลลพั ธก์ ารเรยี นรตู้ าม
สาขาวชิ า ทผี่ ูเ้ รยี นกำ�ลังศกึ ษาอยู่
สญั ญาการฝกึ อาชพี หมายความวา่ สญั ญาขอ้ ตกลงในการฝกึ อาชพี ระบบทวภิ าครี ะหวา่ ง
สถานประกอบการกับผเู้ รียนระบบทวิภาคี
การฝึกงาน หมายความว่า การฝกึ ประสบการณส์ มรรถนะวิชาชีพและ/หรือการฝกึ อาชีพ
รปู แบบการศกึ ษาระบบทวภิ าคขี องผเู้ รยี นหลกั สตู รการอาชวี ศกึ ษาและการฝกึ อบรมวชิ าชพี ในสถานประกอบ
การ
การฝกึ อาชพี หมายความวา่ การฝกึ ภาคปฏบิ ตั ใิ นสถานประกอบการตามแผนการฝกึ อาชพี
ครูนิเทศก์ หมายความว่า ครูซ่ึงสถานศึกษาหรือสถาบันการอาชีวศึกษามอบหมายให้ทำ�
หน้าทนี่ ิเทศ ใหค้ ำ�แนะน�ำ และแก้ไขปญั หาระหวา่ งผ้เู รยี นฝึกงานในสถานประกอบการ ตดิ ตามความก้าวหนา้
ของผ้เู รยี น ตลอดจนการวดั ประเมนิ ผลการฝกึ งานตามรายวชิ าน้ันๆ
ครูฝึก หมายความว่า ผู้ทำ�หน้าที่สอนหรือฝึกอบรมผู้เรียนในสถานประกอบการตาม
หลักเกณฑท์ ่คี ณะกรรมการการอาชวี ศึกษากำ�หนด
ผู้ควบคุมการฝึก หมายความว่า ผู้ที่สถานประกอบการมอบหมายให้ทำ�หน้าที่ประสาน
งานกับสถานศึกษาในการจดั การอาชวี ศกึ ษาระบบทวิภาคี และรับผิดชอบ ดแู ลการฝึกอาชีพของผู้เรียนใน
สถานประกอบการ
11
ผู้ปกครอง หมายความวา่ บิดา มารดา หรือบคุ คลทไ่ี ดร้ ับมอบหมายใหค้ วามอุปการะเลยี้ ง
ดผู ้เู รียน
เบย้ี เลย้ี ง หมายความวา่ ค่าตอบแทนทีส่ ถานประกอบการจ่ายใหผ้ ้เู รยี นที่เขา้ รับการฝึกงาน
หรอื ฝกึ อาชีพ
1.3 ความหมายของการจัดการอาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคี
การศึกษาระบบทวิภาคี เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษา หรือ
สถาบันการอาชวี ศึกษากบั สถานประกอบการ รัฐวิสาหกจิ หรือหน่วยงานของรัฐ ในเรื่องการจดั หลักสูตร
การเรียนการสอน การวัดและการประเมินผล โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนหน่ึง ในสถานศึกษาหรือสถาบัน
การอาชีวศึกษา และเรียนภาคปฏิบัติในสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐการศึกษา
ระบบทวิภาคีตามวรรคหนึ่งต้องมีการจัดแผนการเรียน แผนการฝึกอาชีพ การฝึกทำ�งาน การวัดผลและ
การประเมนิ ผล เพือ่ มงุ่ เน้นผลติ ผสู้ ำ�เร็จการศกึ ษาในระดบั ฝีมือ ระดบั เทคนิค และระดับเทคโนโลยี ใหเ้ ปน็ ผ้มู ี
ความรูค้ วามเข้าใจ มีทักษะ มคี ุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวชิ าชพี และกิจนิสัยทเี่ หมาะสมปฏิบัติงาน
ไดจ้ รงิ ปฏิบัตงิ านที่ใชเ้ ทคนิคในการทำ�งาน สรา้ งและพฒั นางาน วางแผน จัดการพัฒนาตนเอง และท�ำ งาน
รว่ มกับผู้อน่ื ไดอ้ ย่างมีความสขุ ใหม้ คี วามกา้ วหน้าทางวิชาการ และวิชาชีพ มสี มรรถนะนำ�ไปปฏบิ ัตงิ านหรือ
ประกอบอาชีพอิสระได้ตามมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพ และมาตรฐาน สมรรถนะของสาขาวิชาน้ัน ๆ โดย
สอดคล้องกบั ยทุ ธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพฒั นา เศรษฐกิจและสังคมแหง่ ชาติ และแผนการศกึ ษาแห่งชาติ
1.4 วัตถปุ ระสงค์ และเป้าหมายการจัดการอาชวี ศกึ ษาระบบทวิภาคี
จากพระราชบัญญัตกิ ารอาชีวศกึ ษา พ.ศ. 2551 มาตรา 8 ในการจัดการศึกษาระบบทวภิ าคี เปน็
การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันกับสถานประกอบ
การในเรือ่ ง การจดั หลักสตู ร การเรยี นการสอน การวดั และการประเมินผล โดยผู้เรยี นใชเ้ วลาสว่ นหน่งึ ใน
สถานศึกษาอาชีวศึกษา หรือสถาบัน และเรียนภาคปฏิบัติในสถานประกอบการโดยมีการจัดแผนการเรียน
แผนการฝกึ อาชพี การวดั ผลและการประเมนิ ผลเพอื่ มงุ่ เนน้ ผลติ ผสู้ �ำ เรจ็ การศกึ ษาในระดบั ฝมี อื ระดบั เทคนคิ
และระดับเทคโนโลยีสายปฏิบัติการให้เป็นผู้มีความรู้ความเข้าใจทักษะ คุณธรรมจริยธรรม จรรยาบรรณ
วิชาชีพและกิจนิสัยท่ีเหมาะสม ปฏิบัติงานได้จริง ปฏิบัติงานที่ใช้เทคนิคในการทำ�งาน สร้าง และพัฒนางาน
วางแผน จัดการพัฒนาตนเองและทำ�งานร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมีความสุข ให้มีความก้าวหน้าทางวิชาการ
และวิชาชีพ มีสมรรถนะนำ�ไปปฏิบัติงาน หรือประกอบอาชีพอิสระได้ตามมาตรฐานการศึกษาวิชาชีพและ
มาตรฐานสมรรถนะของสาขาวชิ านน้ั ๆ โดยสอดคลอ้ งกบั แผนพฒั นาเศรษฐกจิ และสงั คมแหง่ ชาติ และแผนการ
ศกึ ษาแหง่ ชาติ
12
1.5 องคป์ ระกอบทีส่ ำ�คัญที่ในการจดั การศึกษาระบบทวิภาคี
มีองคป์ ระกอบทีส่ ำ�คญั 7 ประการ ดังนี้
1. มีบันทกึ ขอ้ ตกลงความรว่ มมือระหวา่ ง สถานศกึ ษา กับ สถานประกอบการ
2. มสี ญั ญาฝกึ อาชพี ระหว่าง สถานประกอบการ กับ นกั เรียน/นกั ศึกษา
3. มีครูฝึกในสถานประกอบการ ผ้คู วบคมุ การฝึก ครนู ิเทศก์
4. มีแผนการฝกึ อาชพี ในสถานประกอบการ ตลอดระยะเวลาการฝึกอาชีพทกี่ ำ�หนด
ในแผนการเรียนตลอดหลกั สูตร
5. มกี ารประเมินมาตรฐานฝีมือตามข้อตกลง และแผนการฝึกอาชพี ที่จดั ทำ�รว่ มกัน
ระหวา่ งสถานประกอบการ และสถานศกึ ษา
6. มีใบรบั รองการผา่ นงานของสถานประกอบการ เมอ่ื สิ้นสุดการฝึกอาชพี ลงนาม
โดยสถานประกอบการ
7. มีใบรับรองการส�ำ เร็จการศึกษาระบบทวภิ าคลี งนามรว่ มกนั 2 ฝา่ ย คอื
สถานประกอบการ และสถานศกึ ษา
1.6 พฒั นาการของการจดั การอาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคี
การจดั การอาชวี ศกึ ษาของส�ำ นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา ไดเ้ ร่มิ ด�ำ เนินการต้ังแต่ พ.ศ.
2527 กรมอาชีวศึกษา (ขณะนนั้ ) ไดร้ ับความเห็นชอบ และความชว่ ยเหลือทางวชิ าการ จากรัฐบาลสหพันธ์
สาธารณรัฐเยอรมนี ทดลองจดั อาชีวศึกษาระบบโรงเรยี น – โรงงาน
การจดั อาชวี ศกึ ษาระบบทวิภาคี มพี ฒั นาการโดยเปลีย่ นแปลงตามบริบท แบ่งเปน็ 4 ระยะเวลา ดังนี้
1. โครงการโรงเรยี น-โรงงาน (Dual System) พ.ศ. 2527 – 2537
2. โครงการอาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคี (Dual Vocational System) พ.ศ. 2538 – 2541
3. การฝึกงานคร่งึ หลักสูตร พ.ศ. 2542 – 2550
4. การศกึ ษาระบบทวิภาคี พ.ศ. 2551 – ปัจจบุ ัน (Dual Vocational Education)
ระยะที่ 1 โครงการโรงเรียน - โรงงาน (Dual System) พ.ศ. 2527 - 2537
การจัดการอาชีวศึกษาตามโครงการโรงเรียน-โรงงาน ในระยะท่ี 1 นั้น มีวัตถุประสงค์ เพื่อฝึก
ช่างฝมี ือที่มคี ณุ ภาพตรงตามความต้องการของสถานประกอบการ และประหยดั งบประมาณของรฐั บาล
พ.ศ. 2527 โดยกรมอาชีวศึกษา (ช่ือหน่วยงานในขณะน้ัน) ได้รับความช่วยเหลือทางวิชาการ
จากรัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีได้เร่ิมดำ�เนินการอย่างเป็นระบบ โดยบริษัทปูนซีเมนต์ไทย จำ�กัด
ไดม้ อบโรงเรยี นซเี มนต์ไทยอปุ ถมั ภ์ ใหก้ รมอาชวี ศกึ ษา กระทรวงศกึ ษาธกิ าร จดั ตง้ั วทิ ยาลยั เทคนคิ ทา่ หลวง
ซเี มนต์ไทยอนสุ รณ์ เพ่อื เป็นวทิ ยาลัยต้นแบบ ทดลองจดั อาชีวศกึ ษาระบบโรงเรียน – โรงงาน โดยไดร้ บั
ความเห็นชอบ และความช่วยเหลอื ทางวิชาการ จากรฐั บาลสหพนั ธส์ าธารณรัฐเยอรมนี
พ.ศ. 2532 กระทรวงศกึ ษาธกิ ารไดอ้ นมุ ตั ิใหท้ ดลองใชห้ ลกั สตู รชา่ งช�ำ นาญงาน สาขาชา่ งซอ่ มบ�ำ รงุ
โรงงานอุตสาหกรรม ภายใต้ความช่วยเหลือ ด้านการจัดระบบและรูปแบบการฝึกหัด จากองค์การ GTZ
(German Technical Cooperation) สหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี GTZ ซึ่งย่อจากภาษาเยอรมันว่า
Gesellschaftfur Technische Zusammenarbeit
13
พ.ศ. 2534 สถานศกึ ษาทจ่ี ดั การอาชีวศกึ ษาระบบโรงเรียน – โรงงานนัน้ มีจ�ำ นวนเพม่ิ ข้นึ อีก 3 แหง่
คอื วิทยาลยั เทคนคิ มนี บรุ ี วิทยาลยั เทคนคิ สมุทรสงคราม และวทิ ยาลยั เทคนิคระยอง
พ.ศ. 2535 ไดเ้ ปลี่ยนชือ่ การจดั การศึกษาระบบโรงเรยี น – โรงงานเปน็ การจดั การศึกษาเม่ือสำ�เร็จ
การศกึ ษาไดร้ บั ประกาศนยี บตั รชา่ งช�ำ นาญงาน สามารถท�ำ งานใหก้ บั สถานประกอบการได้ และสว่ นมากจะได้
เงนิ เดือนสงู กวา่ ผ้สู ำ�เร็จระดับประกาศนยี บตั รวชิ าชพี (ปวช.) แต่ถ้าจะศึกษาต่อระดับประกาศนยี บัตรวชิ าชพี
ชั้นสงู (ปวส.) จะต้องเรยี นเพิ่มให้ไดค้ รบตามโครงสรา้ งหลกั สตู รระดับประกาศนียบัตรวชิ าชพี (ปวช.)
ระยะที่ 2 โครงการอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคี (Dual Vocational System) พ.ศ. 2538 – 2541
รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีให้ความช่วยเหลือ เน้นด้านการประชาสัมพันธ์สร้าง
ความเขา้ ใจการพัฒนาครู อาจารย์ ครูฝึกของสถานประกอบการ และผู้เชย่ี วชาญ
พ.ศ. 2538 กรมอาชีวศึกษาได้จัดทำ�หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศักราช 2538
ได้รับอนุมัติตามคำ�สั่งกระทรวงศึกษาธิการให้ใช้ ต้ังแต่ปีการศึกษา 2538 เป็นต้นมา ในหลักสูตร มีความ
หลากหลายวิธกี ารจดั การเรียนการสอน ได้แก่ ระบบปกติ ระบบทวิภาคี ระบบสะสมหนว่ ยกิต เทียบโอน และ
ระบบทางไกล จงึ เริ่มมีค�ำ ว่า นกั เรยี นระบบปกติ และนกั เรยี นระบบทวิภาคี มคี วามแตกตา่ ง คอื
- ระบบปกติ วิชาฝกึ งาน ใช้เวลาฝกึ 10 สัปดาห์
(เรยี นภาคเรยี น ละ 20 สปั ดาห์)
- ระบบทวิภาคี เรยี นในสถานศึกษา 1 – 2 วนั และฝกึ อาชีพในสถานประกอบการ
3 – 4 วนั
ระยะที่ 3 การฝกึ งานคร่ึงหลกั สตู ร พ.ศ. 2542 – 2550
สืบเน่ืองจาก การประกาศใช้พระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 มาตรา 20
การจัดการอาชีวศึกษา และการฝึกอบรมวิชาชีพ ให้จัดในสถานศึกษาของรัฐ สถานศึกษาของเอกชน
สถานประกอบการ หรือโดยความร่วมมือระหว่างสถานศึกษากับสถานประกอบการ ท้ังน้ีให้เป็นไปตาม
กฎหมายว่าดว้ ยการอาชวี ศกึ ษาและกฎหมายทเี่ ก่ียวขอ้ ง
รัฐบาลสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนีให้ความช่วยเหลือด้านการจัดการเรียนการสอนอาชีวศึกษา
สรา้ งความเขา้ ใจ พฒั นาครอู าจารย์ ครฝู กึ ในสถานประกอบการ ส�ำ นกั งานคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา
จึงได้ด�ำ เนินการพัฒนาหลักสตู รประกาศนียบตั รวิชาชีพ (ปวช.) พุทธศกั ราช 2545 (ปรบั ปรงุ พ.ศ. 2546)
และหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง (ปวส.) พุทธศักราช 2546 เพ่ือให้เป็นไปตามพระราชบัญญัติ
การศกึ ษาแหง่ ชาติ พ.ศ. 2546
การจัดการศึกษาในหลักสูตร ปวช. 2545 (ปรับปรุง พ.ศ. 2546) และ ปวส. 2546 เป็นการจัด
อาชีวศึกษาโดยความร่วมมือกับสถานประกอบการกำ�หนดให้จัดการเรียนการสอนเน้นการปฏิบัติจริง
สามารถนำ�รายวิชาชีพไปจัดฝึกในสถานประกอบการไม่น้อยกว่า 1 ภาคเรียนเพื่อให้เกิดความรู้จริงจาก
การปฏิบัติงาน (On the job training) สถานศึกษาจัดแผนการเรียน โดยนำ�รายวิชาชีพหรือบูรณาการ
รายวิชาชีพร่วมกับสถานประกอบการนำ�ไปฝึกงานในสถานประกอบการ ได้มีการเปลี่ยนแปลงทางด้าน
การจดั การอาชีวศกึ ษาระบบทวิภาคี ดังน้ี
14
1. การปฏิรูปหลักสูตร ในปีการศึกษา 2545 กระทรวงศึกษาธิการประกาศใช้หลักสูตร
ประกาศนียบตั รวิชาชีพ พ.ศ. 2545 และในปกี ารศึกษา 2546 ไดป้ ระกาศใช้หลักสูตร พ.ศ. 2545 (ปรับปรงุ
2546) และประกาศใช้หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพช้ันสูง พ.ศ. 2546 ซึ่งหลักสูตรดังกล่าวได้มี
การเปล่ียนแปลงระยะเวลาการฝึกงาน โดยมสี าระสำ�คัญท่เี กีย่ วข้องกับการจดั การศึกษาระบบทวภิ าคี ดงั น้ี
1.1 ด้านหลกั การของหลกั สูตร หลกั สตู รใหม่นี้เปน็ หลกั สตู รที่เน้นความชำ�นาญเฉพาะดา้ น
ดว้ ยการปฏบิ ตั จิ รงิ เปดิ โอกาสใหเ้ ลอื กเรยี นไดห้ ลากหลายวธิ อี ยา่ งกวา้ งขวาง สามารถเลอื กวธิ กี ารเรยี นตาม
ศกั ยภาพ และโอกาสของผเู้ รยี น ถา่ ยโอนผลการเรยี น สะสมผลการเรยี น เทยี บโอนความรแู้ ละประสบการณ์
จากแหลง่ วทิ ยาการ สถานประกอบการ และสถานประกอบอาชพี อสิ ระได้ ทส่ี �ำ คญั คอื เปน็ หลกั สตู รทส่ี นบั สนนุ
การประสานความร่วมมือในการจัดการศึกษาร่วมกันระหว่างหน่วยงาน และองค์กรท่ีเกี่ยวข้องท้ังภาครัฐ
และเอกชน
1.2 ด้านวิธีการจัดการเรียนการสอน จากแนวทางของการปฏิรูปการอาชีวศึกษา โดยมี
ปรัชญาวา่ ผสู้ �ำ เรจ็ การศึกษาจะตอ้ งเป็นผ้ทู ร่ี จู้ ริง ท�ำ ได้ เขา้ ใจชีวติ แนวทางการปฏิรปู หลักสูตรและการจัด
การเรยี นการสอนจึงเน้น 4 จรงิ คือ เรียนรจู้ ากสถานท่ีจริง เรียนร้จู ากผู้ปฏบิ ัติจริง เรียนรู้ในสถานการณ์
จริง และเรียนรู้ในวัฒนธรรมจริง การจัดการเรียนการสอนตามหลักสูตรใหม่จึงให้ความสำ�คัญกับ
การเรยี นรว่ มกบั สถานประกอบการ เนน้ ความรว่ มมอื กบั สถานประกอบการ เนน้ การปฏบิ ตั จิ รงิ ใหส้ ามารถ
นำ�รายวิชาชีพ และรายวิชาในหมวดวิชาชีพไปจัดการเรียนและการฝึกงานในสถานประกอบการ เพ่ือให้เกิด
การเรียนร้จู ากการปฏิบตั ิงาน (On the job training) โดยจดั ได้ 2 รูปแบบ คือ
1) การฝึกงาน ให้สถานศึกษานำ�รายวิชาในหมวดวิชาชีพไปจัดฝึกในสถานประกอบการ
ไมน่ ้อยกว่า 1 ภาคเรยี น
2) การฝกึ อาชพี หรอื ฝกึ งานครง่ึ หลกั สตู ร หลกั สตู รใหมน่ ใี้ หส้ ถานศกึ ษาน�ำ รายวชิ าในหมวด
วิชาชพี ไปจดั ฝกึ ในสถานประกอบการ ไม่นอ้ ยกว่า 3 ภาคเรียน ในระดับประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) และ
2 ภาคเรยี น ในระดบั ประกาศนียบตั รวิชาชีพชน้ั สงู (ปวส.)
ระยะท่ี 4 การศกึ ษาระบบทวิภาคี พ.ศ. 2551 – ปจั จบุ นั
จากพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551 มาตรา 8 การจัดการอาชีวศึกษา และการฝึก
อบรมวิชาชพี ให้จดั ได้ 3 รปู แบบคือ
1) การศกึ ษาในระบบ
2) การศึกษานอกระบบ
3) การศกึ ษาระบบทวิภาคี
เป็นการจัดการศึกษาวิชาชีพท่ีเกิดจากข้อตกลงระหว่างสถานศึกษาหรือสถาบันกับสถานประกอบ
การ รฐั วิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐในเร่อื งการจดั หลักสตู ร การเรียนการสอนการวัด และประเมินผล
โดยผเู้ รยี นใชเ้ วลาสว่ นหนง่ึ ในสถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษา หรอื สถาบนั และเรยี นภาคปฏบิ ตั ิในสถานประกอบการ
รัฐวสิ าหกจิ หรอื หนว่ ยงานของรฐั
เพื่อประโยชน์ในการผลิต และพัฒนากำ�ลังคนสามารถจัดการศึกษาได้หลายรูปแบบรวมกัน ท้ังนี้
ต้องมุ่งเน้นการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีเป็นสำ�คัญ โดยสำ�นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้
ดำ�เนนิ การพฒั นาหลกั สูตรประกาศนียบัตรวชิ าชีพ (ปวช.) หลักสูตรประกาศนียบตั รวชิ าชีพชน้ั สูง (ปวส.)
15
และหลักสตู รปรญิ ญาตรีสายเทคโนโลยีหรอื สายปฏิบัติการ (ทล.บ.) ให้สอดคลอ้ งกับพระราชบญั ญัตกิ าร
อาชวี ศึกษา พ.ศ. 2551
เมื่อวันที่ 5 พฤศจิกายน พ.ศ. 2555 สำ�นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ได้จัดตั้งศูนย์
อาชีวศึกษาทวิภาคีข้ึนเป็นหน่วยงานภายใน ทำ�หน้าที่ส่งเสริม สนับสนุน การจัดอาชีวศึกษาระบบ
ทวิภาคีเช่ือมโยงเพ่ือผลักดันนโยบายรัฐบาลสู่สถานศึกษาในสังกัด ประสานความร่วมมือภาคีเครือข่าย ใน
การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี โดยจัดต้ังคณะอนุกรรมการการอาชีวศึกษาด้านความร่วมมือ และ
การจดั การอาชวี ศกึ ษาระบบทวิภาคขี นึ้ จากการดำ�เนินการท่ผี ่านมา ถอื วา่ ประสบความสำ�เรจ็ ในระดับหน่ึง
จากตัวชว้ี ดั จ�ำ นวนผ้เู รียนระบบทวภิ าคี และสถานประกอบการ มีจำ�นวนเพมิ่ มากข้ึนอย่างต่อเนือ่ ง
จากความส�ำ คญั ดังกลา่ วใน ปี พ.ศ. 2557 กระทรวงศึกษาธกิ ารได้มีประกาศ เร่ือง มาตรฐานการ
จัดอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ลงวันที่ 17 ตุลาคม 2557 โดยได้ลงประกาศในราชกิจจานุเบกษา เล่มท่ี 131
ตอนพเิ ศษ 239 วนั ที่ 24 พฤศจกิ ายน 2557 ใหส้ ถานศกึ ษา และสถานประกอบการทรี่ ว่ มจดั การอาชวี ศกึ ษา
ระบบทวิภาคีใช้เป็นหลักและแนวทางในการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี ให้มีคุณภาพ และประสิทธิภาพ
ยง่ิ ขนึ้ และในปี พ.ศ. 2563 ไดม้ กี ารประกาศคณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษา เรอื่ ง มาตรฐานการจดั อาชวี ศกึ ษา
ระบบทวิภาคี ลงวันท่ี 22 มิถนุ ายน พ.ศ. 2563 ได้ลงประกาศในราชกจิ จานุเบกษา เล่ม 137 ตอนพเิ ศษ 191
วันท่ี 20 สิงหาคม 2563
ในปี พ.ศ. 2564 ส�ำ นักงานคณะกรรมการการอาชีวศกึ ษาได้ประกาศจัดต้งั ศนู ยอ์ าชีวศกึ ษาทวิภาคี
เขตพ้ืนที่ เมื่อวันที่ 17 มิถุนายน พ.ศ. 2564 เพ่ือให้การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีมีคุณภาพและ
ประสิทธิภาพสอดคล้องกับความต้องการกำ�ลังคนของสถานประกอบการในเขตพ้ืนที่ สำ�นักงานคณะ
กรรมการการอาชีวศึกษา จึงประกาศจัดต้ังศูนย์อาชีวศึกษาทวิภาคีเขตพ้ืนท่ีโดยใช้สถานศึกษาเป็นท่ีตั้ง
จ�ำ นวน 15 แหง่
1.7 หลักการด�ำ เนนิ งานการจัดอาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคี
หลัก สนองความตอ้ งการของสถานประกอบการ และ
ยดื เปน็ ไปตามเกณฑ์มาตรฐานคุณวฒุ อิ าชวี ศึกษา
วธิ กี าร แตล่ ะภาค
เป้าหมาย โครงสร้างหลกั สตู ร
ยดื หยุ่นตามความพร้อมของทุกฝ่าย
โดยเน้นสถานประกอบการและผเู้ รยี นเป็นสำ�คญั
ทักษะ ความชำ�นาญในอาชพี วุฒกิ ารศกึ ษา
16
หลัก สนองความตอ้ งการของสถานประกอบการ
ยืด หมายถงึ สถานศกึ ษาตอ้ งใหค้ วามส�ำ คญั กบั ความตอ้ งการของสถานประกอบ
วธิ ีการ การ โดยสอดคลอ้ งกบั เกณฑม์ าตรฐาน เพอ่ื ผลติ ผเู้ รยี นใหต้ รงกบั ความตอ้ งการ เมอื่
สำ�เร็จการศึกษาสามารถทำ�งานกับสถานประกอบการได้ โดยไม่ต้องเสียเวลาฝึกการ
เป้าหมาย ปฏิบตั งิ านอกี ซ่งึ เปน็ วตั ถปุ ระสงคข์ องการจดั การศกึ ษา “ระบบทวภิ าค”ี
โครงสร้างหลักสูตร
หมายถึง การสนองความต้องการของสถานประกอบการต้องอยู่บนพ้ืนฐาน
ของโครงสรา้ งหลักสตู ร ขอ้ กำ�หนด หลกั เกณฑ์ ระเบยี บปฏบิ ตั ติ า่ งๆ ของทางราชการ
เพื่อให้ไดว้ ุฒกิ ารศกึ ษา
ยืดหยุ่นตามความพรอ้ มของทกุ ฝา่ ย
หมายถึง ต้องใช้วิธีการยืดหยุ่น ตามความพร้อมของสถานประกอบการ
สถานศึกษา และผู้เรียน เพือ่ ให้ด�ำ เนนิ การไดส้ ำ�เรจ็ ซ่งึ อาจจะแตกต่างจากวิธกี ารทีเ่ คย
ปฏิบัตมิ า เชน่
การรับสมัคร - คดั เลือก สถานประกอบการอาจจะทำ�การคดั เลือกเอง
หรือรว่ มกับสถานศกึ ษา
การจดั แผนการเรยี น สามารถจัดรายวชิ าแตกต่างจากกลุ่มในระบบ
การลงทะเบียน วนั ลงทะเบยี นอาจจะปรบั เลอื่ นไมต่ รงกบั ทส่ี ถาน
ศึกษากำ�หนด
การจัดกจิ กรรม กิจกรรมของสถานประกอบการเพ่ิมเติม เชน่
การปฐมนเิ ทศ ผูเ้ รยี นระบบทวภิ าคี การจัด
สมั มนาระหว่าง หรอื หลังการฝกึ อาชีพ
ระยะเวลาการฝึกอาชพี ตามบนั ทกึ ขอ้ ตกลงระหว่างสถานศึกษากบั
สถานประกอบการสอดคลอ้ งกบั มาตรฐาน
การจดั การอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี
มีทักษะ มคี วามชำ�นาญในอาชพี มีวฒุ กิ ารศึกษา
หมายถึง ผเู้ รยี นตอ้ งมที กั ษะ มีความชำ�นาญตามแผนการฝึกอาชีพ และไดร้ ับ
วฒุ กิ ารศกึ ษาเมอ่ื ส�ำ เรจ็ การศกึ ษาตามแผนการเรยี นซงึ่ จดั รว่ มกนั ระหวา่ งสถานศกึ ษา
และสถานประกอบการ
17
1.8 ขั้นตอนการด�ำ เนนิ การ
แนวทางปฏบิ ัติของข้นั ตอนการดำ�เนินการจัดการอาชีวศกึ ษระบบทวิภาคี
ระหว่างสถานศกึ ษากบั สถานประกอบการ
สถานศกึ ษา 1. แสดงความประสงค์ สถานประกอบการ
2. ส�ำ รวจความพรอ้ ม
3. บันทึกข้อตกลงความรว่ มมอื
4. วางแผนรว่ มกับสถานประกอบการ
5. ประชาสมั พนั ธ์ แนะแนวผูเ้ รียน
6. คัดเลือกผู้เรยี น
7. ท�ำ สัญญาการฝึกอาชพี
8. ปฐมนิเทศผเู้ รียน/การประชุมผูป้ กครอง
9. จัดการเรียนการสอน/การฝกึ อาชีพ
10. นิเทศการจดั การเรียนการสอน/การฝึกอาชีพ
11. วัดและประเมนิ ผลรายวชิ า/การฝกึ อาชีพ
12. ทดสอบมาตราฐานวิชาชีพแต่ละระดับ
13. ส�ำ เรจ็ การศึกษา
14. ติดตามการมีงานท�ำ หรอื การศกึ ษาต่อของผู้สำ�เร็จการศึกษา
15. สรุปผลการด�ำ เนนิ งานและรายงาน
18
1.9 ปัจจยั แห่งความส�ำ เร็จในการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวภิ าคี
ปจั จัยแหง่ ความส�ำ เร็จในการจัดการอาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคี มอี งค์ประกอบสำ�คัญ ดังน้ี
1.9.1 นโยบาย
ตามที่ยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ และพระราชบัญญัติการ
อาชีวศึกษา พ.ศ. 2551 ได้กำ�หนดให้สำ�นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาจัดการอาชีวศึกษาระบบ
ทวิภาคีเพื่อเพิ่มปริมาณและคุณภาพผู้เรียนในระบบทวิภาคีให้มีสมรรถนะตรงตามความต้องการของสถาน
ประกอบการ สำ�นักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษาได้ดำ�เนินการขยายยกระดับการจัดการอาชีวศึกษา
ระบบทวภิ าคี สรา้ งแรงจูงใจให้สถานประกอบการร่วมมือดว้ ยมาตรการสทิ ธิประโยชน์ทางภาษยี กยอ่ งเชดิ ชู
เกยี รติ จดั ท�ำ ประกาศ ระเบยี บ กฎหมาย ขอ้ ก�ำ หนดตา่ งๆ เพอ่ื เชอ่ื มโยงกระทรวงและหนว่ ยงานทเ่ี กยี่ วขอ้ งกบั
การจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีนั้น ในระดับสถานศึกษาควรกำ�หนดเป็นนโยบายวางแผนปฏิบัติการ
ประจ�ำ ปี โดยมงุ่ เนน้ การขบั เคลอ่ื นอาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคเี ปน็ ส�ำ คญั ใหส้ อดคลอ้ งกบั นโยบายของส�ำ นกั งาน
คณะกรรมการการอาชวี ศกึ ษาสนบั สนนุ สง่ เสรมิ สรา้ งความรคู้ วามเขา้ ใจและสรา้ งความตระหนกั ใหแ้ กบ่ คุ ลากร
ของสถานศกึ ษา
1.9.2. สถานศกึ ษา ครูผู้สอน และบคุ ลากรทเ่ี กยี่ วขอ้ ง
สถานศึกษาต้องจัดทำ�หลักสูตรท่ีสอดคล้องกับความต้องการของตลาดแรงงาน การพัฒนา
หลักสูตรต้องอยู่บนฐานความต้องการของสถานประกอบการ และความต้องการของประเทศ เนื้อหา
หลกั สตู ร และกระบวนการเรยี นรตู้ อ้ งเปน็ แบบฐานสมรรถนะ เนน้ ภาคปฏบิ ตั เิ พอื่ ใหผ้ เู้ รยี นมคี วามรทู้ างทฤษฎี
และมที กั ษะในทางปฏบิ ตั ิ สามารถปฏบิ ตั งิ านไดม้ คี วามยดื หยนุ่ เปดิ โอกาสใหผ้ สู้ นใจสามารถเรยี นรู้ไดอ้ ยา่ งตอ่
เน่อื งตลอดชวี ติ
สถานศกึ ษามกี ารสนบั สนนุ ทรพั ยากร มกี ารสง่ เสรมิ สนบั สนนุ ใหค้ รผู สู้ อนและบคุ ลากรทเ่ี กยี่ วขอ้ งใน
สาขาวชิ าชพี ไดร้ บั การพฒั นาใหม้ คี ณุ ภาพ เพม่ิ สมรรถนะทว่ั ไปและสมรรถนะดา้ นวชิ าชพี ใหแ้ กค่ รู แลกเปลย่ี น
เรยี นรวู้ ทิ ยาการเทคโนโลยที ท่ี นั สมยั จากสถานประกอบการน�ำ มาประยกุ ต์ใชพ้ ฒั นารปู แบบการเรยี นการสอน
ให้ทนั ตอ่ สภาพการณ์ท่เี ปลี่ยนแปลงในปจั จบุ ันมกี ารพัฒนาระบบ
การบริหารจัดการแบบเครือข่ายการประสานงานร่วมกับสถานประกอบการให้เป็นแหล่งเรียนรู้ท่ี
ทันสมยั สร้างนวัตกรรมและงานวิจยั ที่เป็นประโยชน์ตอ่ การพัฒนาประเทศ
สถานศึกษาสนับสนุนด้านสื่อการศึกษาให้มีความหลากหลายและพอเพียงสำ�หรับการให้ผู้เรียน
สามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ เปิดโอกาสให้ผู้สนใจสามารถเรียนรู้ได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต ใช้
เทคโนโลยสี ารสนเทศและการสอื่ สาร สรา้ งโอกาสทางการศกึ ษา ลดขอ้ จ�ำ กดั ดา้ นเวลา สถานที่ และคา่ ใชจ้ า่ ย
ในการศึกษา โดยใชก้ ารศึกษาทางไกลในรปู แบบต่างๆ รวมทั้งส่งเสริมให้สถานประกอบการทกุ ภาคส่วนเปน็
แหล่งเรียนรดู้ า้ นอาชีพ
1.9.3 สถานประกอบการ
สถานประกอบการต้องมีความรู้ ความเข้าใจในการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีมีส่วนร่วมใน
การคัดเลอื กผเู้ รยี นระบบทวิภาคี ตามสมรรถนะท่ีสถานประกอบการตอ้ งการ ส่งเสรมิ สนับสนุนครฝู กึ ใน
สถานประกอบการ สนบั สนนุ ทรพั ยากรการจดั การศกึ ษา โดยรว่ มมอื ใหส้ ถานศกึ ษาพฒั นาองคค์ วามรเู้ พอ่ื
ถา่ ยทอดเทคโนโลยีใหมๆ่ ใหแ้ กผ่ เู้ รยี น จดั สวสั ดกิ ารทจี่ �ำ เปน็ รวมทง้ั จดั สงิ่ แวดลอ้ มทเ่ี ออ้ื ตอ่ การเรยี นรขู้ อง
ผ้เู รียน การจัดการศึกษาระบบทวภิ าคเี ปน็ ความร่วมมอื ระหวา่ งสถานศกึ ษาอาชวี ศกึ ษา
19
หรอื สถาบนั กบั สถานประกอบการ ตอ้ งเปน็ ไปตามขอ้ ตกลงทท่ี งั้ สองฝา่ ยลงนามในบนั ทกึ ความรว่ มมอื แสดง
ความสมัครใจต้องปฏบิ ตั ติ ามเง่อื นไขท่ีปรากฏในหนังสอื ฉบับนน้ั โดยท่ีหนังสอื น้ไี มถ่ ือวา่ เปน็ สญั ญาผกู มดั
โดยสถานประกอบการมกี ารเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ดังตอ่ ไปน้ี
(1) เป็นผปู้ ระกอบการทีด่ �ำ เนนิ การฝึกอาชีพใหส้ อดคล้องกบั ผู้เรยี นในสาขาวิชาท่เี กี่ยวข้อง
(2) มคี วามพร้อมในการฝกึ อาชพี ตามสาขาวิชาน้นั
(3) จัดให้มีครูฝึกท่ีมีคุณสมบัติตามกฎหมายว่าด้วยการอาชีวศึกษา ทำ�หน้าที่สอนการปฏิบัติงาน
จริงในสถานประกอบการ ท้ังนีก้ ารฝกึ อาชพี ระดบั ประกาศนยี บัตรวิชาชีพ และประกาศนยี บัตรวิชาชพี ช้ันสูง
ตอ้ งมคี รฝู ึกหนงึ่ คนต่อผู้เรยี นไมเ่ กนิ สิบคน การฝึกอาชีพระดบั ปรญิ ญาตรีต้องมคี รูฝกึ หนง่ึ คนต่อผ้เู รียน
ไมเ่ กินแปดคน
(4) จัดใหม้ ีผคู้ วบคมุ การฝึกท�ำ หน้าที่ประสานงานกับสถานศกึ ษาในการจดั ฝึกอาชีพ และรบั ผดิ ชอบ
ดแู ลการฝกึ อาชพี ของผเู้ รยี นในสถานประกอบการ
(5) จัดสิง่ แวดล้อมท่เี อื้ออ�ำ นวยตอ่ การฝึกอาชีพได้
(6) จัดฝกึ อาชีพใหก้ ับผ้เู รยี นไดต้ ามบันทกึ ขอ้ ตกลงทท่ี �ำ ไว้รว่ มกัน
(7) จัดสง่ บคุ ลากรเขา้ ร่วมประชุมสมั มนากบั สถานศึกษาได้
(8) จัดสวสั ดิการ ตลอดจนมาตรการเกีย่ วกับสวัสดภิ าพใหแ้ ก่ผเู้ รียนที่เข้ารับการฝึกอาชีพได้
ในการเลือกสถานประกอบการเขา้ ร่วมจัดการอาชวี ศึกษาระบบทวภิ าคี สถานศึกษาจะตอ้ งวเิ คราะห์
การประกอบกจิ การความพรอ้ มของสถานประกอบการ และความพรอ้ มของสถานศกึ ษา กอ่ นก�ำ หนดสาขา
วิชาชีพท่ีจะร่วมกันฝึก จะต้องทำ�ความเข้าใจร่วมกันในหลักการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคีและหน้าที่
ความรบั ผิดชอบของแตล่ ะฝ่าย
1.9.4 ผ้เู รียน
สถานศึกษาและสถานประกอบการ รว่ มกันประชาสัมพนั ธ์ แนะแนวใหค้ วามรคู้ วามเข้าใจกบั ผเู้ รยี นที่
ศึกษาระบบทวิภาคี และคัดเลือกผู้เรียนตามความต้องการของสถานประกอบการพัฒนาผู้เรียนทั้งความรู้
ทักษะและเจตคติท่ีดีต่อวิชาชีพ ปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ มีสมรรถนะวิชาชีพ
พอเพยี งส�ำ หรบั การปฏบิ ตั งิ าน และใหม้ คี ณุ ลกั ษณะอนั พงึ ประสงคส์ อดคลอ้ งตามกรอบคณุ วฒุ อิ าชวี ศกึ ษา
แหง่ ชาติ และเกณฑ์มาตรฐานคณุ วุฒิอาชีวศกึ ษาแตล่ ะระดบั จดั การเรียนการสอนอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี
โดยยึดตามประกาศคณะกรรมการการอาชีวศึกษา เร่ือง มาตรฐานการจัดการอาชีวศึกษาระบบทวิภาคี
พ.ศ. 2563 เป็นสำ�คญั
1.9.5 ผปู้ กครอง
ผปู้ กครองควรมคี วามรู้ ความเขา้ ใจ มเี จตคตติ อ่ การศกึ ษาอาชวี ศกึ ษาเปน็ เชงิ บวก สง่ เสรมิ สนบั สนนุ
ให้ผู้เรียนเลือกเรียนสายอาชีพในระบบทวิภาคี ให้ความร่วมมือกับสถานศึกษาและสถานประกอบการมี
ความเช่อื มั่นในการจดั การเรยี นการสอน การฝึกอาชีพ ประโยชนท์ ไ่ี ดร้ บั และการมงี านทำ�หลงั ผู้เรยี นสำ�เร็จ
การศึกษา
22
2. ความรพู้ ืน้ ฐานก่อนการเขียนแผนการฝกึ อาชพี
การดำ�เนินงานร่วมกนั ระหวา่ งสถานศกึ ษาและสถานประกอบการ
สถานศกึ ษาและสถานประกอบการประชุมร่วมกนั
ก�ำ หนดรูปแบบการเรยี นและการฝึกอาชพี
เลือกวิชา
สถานศึกษา สถานประกอบการ
แผนการเรียนตลอดหลกั สูตร แผนการฝึกอาชพี ตลอดหลักสตู ร
แผนการเรียนประจ�ำ ภาค แผนการฝึกอาชพี รายหน่วย
พนื้ ฐานของผเู้ ก่ยี วข้องในการจัดแผนการฝกึ อาชีพในสถานประกอบการ
1 2345
ศึกษารูปแบบการ ศกึ ษาหลักสูตร ศึกษาลกั ษณะงาน ศึกษาแนวทางการ ศึกษาการค�ำ นวณ
เรียนและการฝกึ ของสถานประกอบ เลอื กรายวชิ าฝกึ เวลาในการฝกึ อาชพี
อาชพี การ อาชีพ
ผู้เกี่ยวขอ้ งในการจัดแผนการฝึกอาชพี ในสถานประกอบการ ควรศึกษา ทำ�ความเขา้ ใจเร่อื งต่อไปนี้
23
2.1 ศกึ ษารูปแบบการเรยี นและการฝึกอาชีพ
2.1.1 ความหมายรปู แบบการเรยี นและการฝึกอาชีพ
หมายถงึ การก�ำ หนดชว่ งระยะเวลาเรยี นในสถานศกึ ษา และชว่ งระยะเวลาการฝกึ อาชพี
ในสถานประกอบการ
2.1.2 รปู แบบการเรยี นและการฝกึ อาชีพในระดบั ปวช. และปวส.
รูปแบบการเรียนและการฝึกอาชีพ สามารถจัดได้หลายรูปแบบ แต่ที่นิยมใช้ท่ัวไป
มี 2 รูปแบบ ไดแ้ ก่
• เรยี นในสถานศึกษา 1 – 2 วัน และฝึกอาชีพในสถานประกอบการ
3 – 4 วัน ในหนึ่งสปั ดาห์
• เรยี นในสถานศกึ ษา 1 ภาคเรยี น และฝึกอาชีพ 1 ภาคเรียนสลบั กนั
หรอื ตอ่ เนอ่ื งกนั
แบบท่ี 1 รปู แบบการเรยี นและการฝกึ อาชพี แบบสลบั วนั (Day release)
ใน 1 สปั ดาห์ เรยี น 1 - 2 วนั , ฝกึ อาชีพ 3 - 4 วนั ตอ่ เน่อื งตลอดหลักสูตร
1 สัปดาห์ (5 – 6 วัน) จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์
เรยี น 1 วัน ฝกึ อาชพี 4 - 5 วนั เรียน ฝึก ฝึก ฝกึ ฝกึ ฝึก
หรือเรยี น 2 วนั ฝึกอาชพี 3 - 4 วนั เรียน เรยี น ฝึก ฝึก ฝกึ ฝกึ
แบบที่ 2 รูปแบบการเรียนและการฝึกอาชพี แบบสลับสัปดาห์ / ภาคเรียน / ปีการศึกษา (Block release)
ใน 1 สัปดาห์ เรียน 5 วัน หรือฝึกอาชีพ 5 - 6 วนั ต่อเน่อื งตลอดหลักสตู ร
1 สัปดาห์ (5 – 6 วนั ) จันทร์ อังคาร พธุ พฤหสั ศกุ ร์ เสาร์
เรียน 5 วัน เรยี น
เรียน เรียน เรยี น เรียน เรยี น
หรือฝึกอาชพี 5 - 6 วนั ฝกึ ฝึก ฝกึ ฝกึ ฝึก ฝกึ
24
ตัวอยา่ ง รูปแบบการเรยี นการฝึกอาชพี แบบที่ 1
ภาคเรยี นท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2
จันทร์ อังคาร พุธ พฤหัส ศุกร์ เสาร์ จันทร์ อังคาร พธุ พฤหัส ศกุ ร์ เสาร์
ปวช.1 เรยี น เรยี น เรยี น เรียน เรียน ฝึก เรยี น เรยี น เรียน เรียน เรียน
ปวช.2 เรียน เรียน ฝึก ฝกึ ฝึก ฝึก เรียน เรยี น ฝึก ฝึก ฝึก ฝึก
ปวช.3 เรยี น เรียน ฝกึ ฝกึ ฝึก เรียน เรียน ฝึก ฝกึ ฝกึ ฝึก
หมายเหต ุ ปวช. 1 เรยี นในวิทยาลยั วันจนั ทร์ - วันศุกร์
วนั จนั ทร์ - วนั อังคาร
ปวช. 2 - 3 เรียนในวทิ ยาลยั วนั พุธ - วันเสาร์
ฝึกอาชีพในสถานประกอบการ
ปวส.1 เรยี น เรียน ฝกึ ฝึก ฝึก ฝกึ เรยี น เรยี น ฝึก ฝึก ฝึก ฝึก
ปวส.2 เรยี น เรยี น ฝึก ฝกึ ฝกึ ฝึก เรียน เรียน ฝกึ ฝึก ฝึก ฝกึ
ตัวอยา่ ง รปู แบบการเรยี นการฝึกอาชพี แบบที่ 2
ภาคเรียนท่ี 1 ภาคเรียนท่ี 2
จนั ทร์ องั คาร พธุ พฤหสั ศุกร์ เสาร์ จนั ทร์ อังคาร พธุ พฤหัส ศกุ ร์ เสาร์
ปวช.1 เรยี น เรยี น เรยี น เรียน เรียน ฝึก เรยี น เรียน เรียน เรียน เรยี น
ปวช.2 เรยี น เรยี น เรียน เรยี น เรียน ฝึก ฝึก ฝึก ฝกึ ฝึก ฝกึ
ปวช.3 ฝึก ฝกึ ฝึก ฝกึ ฝกึ ฝกึ ฝกึ ฝกึ ฝึก ฝึก ฝกึ
ปวส.1 เรยี น เรียน เรียน เรยี น เรยี น เรียน ฝกึ ฝึก ฝกึ ฝกึ ฝึก ฝกึ
ปวส.2 เรียน เรียน เรยี น เรยี น เรียน เรยี น ฝึก ฝึก ฝึก ฝึก ฝกึ ฝึก
ปวส.1 เรียน เรยี น เรียน เรยี น เรยี น เรียน เรยี น เรียน เรยี น เรียน เรียน เรยี น
ปวส.2 ฝกึ ฝึก ฝึก ฝกึ ฝึก ฝึก ฝกึ ฝึก ฝกึ ฝึก ฝกึ ฝกึ
25
2.1.3 รูปแบบการเรยี นและการฝกึ อาชีพในระดบั ปรญิ ญาตรี
การเลอื กจดั การเรยี นการสอน และการฝกึ อาชพี ในระดบั ปรญิ ญาตรี รปู แบบใด
รปู แบบหนง่ึ ใหเ้ ปน็ ไปตามขอ้ ตกลงของสถานศกึ ษา และสถานประกอบการ โดยยดึ ตามกรอบมาตรฐาน
คณุ วุฒอิ าชวี ศึกษาแหง่ ชาติ และเกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศกึ ษาระดับปริญญาตรีสายเทคโนโลยี
หรือสายปฏบิ ัตกิ าร
หมายเหตุ ในกรณี “ผเู้ รยี นกลมุ่ เดียวกนั ”สง่ ฝึกอาชพี หลายสถานประกอบการ ควรใชร้ ูปแบบ และ
ระยะเวลาการจดั สง่ ฝกึ อาชพี เหมอื นกนั ทง้ั นี้ ควรค�ำ นงึ ถงึ ความพรอ้ มของสถานประกอบการ และ
สถานศึกษา
2.2 การใช้หลกั สูตร ท่เี กี่ยวขอ้ งกบั การศกึ ษาระบบทวภิ าคี
การศึกษาระบบทวิภาคี เป็นรูปแบบการจัดการศึกษาท่ีเกิดจากข้อตกลงร่วมกันระหว่าง
สถานศึกษาอาชีวศึกษาหรือสถาบันการอาชีวศึกษากับสถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วย
งานของรัฐ โดยผู้เรียนใช้เวลาส่วนหน่ึงในสถาบันการอาชีวศึกษา สถานศึกษา และเรียนภาคปฏิบัติใน
สถานประกอบการ รัฐวิสาหกิจ หรือหน่วยงานของรัฐ เพ่ือให้การจัดการศึกษาระบบทวิภาคีสามารถ
เพม่ิ ขดี ความสามารถดา้ นการผลติ และพฒั นาก�ำ ลงั คนทตี่ รงตามความตอ้ งการของผู้ใช้ ตามจดุ หมาย
ของหลักสูตร การจัดการศึกษาระบบทวิภาคี โดยนำ�รายวิชาทวิภาคีในกลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก
หรือรายวิชา ที่เรียนในสถานประกอบการสำ�หรับปริญญาตรี ไปกำ�หนดรายละเอียดของรายวิชา
ได้แก่ จดุ ประสงค์รายวชิ า สมรรถนะรายวชิ า คำ�อธิบายรายวิชา เวลาท่ีใช้ฝึก และจำ�นวนหน่วยกิต ให้
สอดคลอ้ งกับลกั ษณะงานของสถานประกอบการรัฐวิสาหกจิ หรอื หน่วยงานของรฐั รวมทงั้ สมรรถนะ
วชิ าชพี ของสาขางาน พรอ้ มจดั ท�ำ แผนฝกึ อาชพี การวดั และประเมนิ ผลในแตล่ ะรายวชิ า ทงั้ นี้ อาจน�ำ
รายวชิ าชพี อน่ื ในหมวดสมรรถนะวชิ าชพี ไปจดั รว่ มดว้ ยก็ได้ ทง้ั นกี้ ารน�ำ หลกั สตู รไปใช้ในทางปฏบิ ตั ิ
ใหศ้ ึกษารายละเอียดในแต่ละหลกั สตู ร
การเลอื กรายวิชาเรียนในสถานศึกษา และฝกึ อาชพี ในสถานประกอบการ เพื่อจดั แผนการเรยี น
ตลอดหลกั สตู ร ควรเลอื กรายวชิ าในหมวดต่างๆ ดงั น้ี
26
โครงสร้างของแผนการเรยี น รูปแบบปกตแิ ละทวิภาคี
โครงสรา้ งหลักสตู ร ตามเกณฑม์ าตรฐานคุณวฒุ ิ ปวช. (หนว่ ยกิต) ปวส. (หนว่ ยกิต) หมายเหตุ
4.1 หมวดสมรรถนะแกนกลาง ไม่นอ้ ยกวา่ 21 18 สถานประกอบการมีความพร้อมสามารถ
ย ก แ ผ น ก า ร เ รี ย น ใ น ร า ย วิ ช า ใ น ห ม ว ด
สมรรถนะแกนกลางให้สถานประกอบการ
เป็นผู้ดำ�เนินการจัดการเรียนการสอน และ
วดั ผลประเมินผล ได้
4.2 หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ ไม่น้อยกว่า 69 56
(19)
4.2.1 กลมุ่ สมรรถนะวชิ าชีพพ้ืนฐาน ไมน่ ้อยกวา่ (24) (15) สถานประกอบการมีความพร้อมสามารถยก
4.2.2 กลุ่มสมรรถนะวชิ าชีพเฉพาะ ไมน่ อ้ ยกวา่ แผนการเรียนในรายวิชา ในกลุ่มทักษะวิชาชีพ
(21) พื้นฐานและวิชาชีพเฉพาะ,ให้สถานประกอบการ
เปน็ ผดู้ �ำ เนนิ การจดั การเรยี นการสอน และวดั ผล
ประเมนิ ผลได้
4.2.3 กลุ่มสมรรถนะวชิ าชพี เลือก ไมน่ อ้ ยกว่า (18) (12) เลือก ในกลุ่มรายวิชาทวิภาคี เพื่อนำ�มาจัดทำ�
แผนการฝึกอาชพี รว่ มกบั สถานประกอบการ
4.2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชพี (4) (4) สามารถเลือก นำ�มาจัดทำ�แผนการฝึกอาชีพ
4.2.5 โครงงานพฒั นาสมรรถนะวชิ าชีพ (4) (4) รว่ มกบั สถานประกอบการได้
4.3 หมวดวชิ าเลือกเสรี (10) (6)
บรู ณาการรว่ มกบั สถานประกอบการในรายวชิ า
4.4 กจิ กรรมเสรมิ หลักสูตร (ไม่นอ้ ยกว่า 2 ชม./ - - โครงการ 1 และ 2
สัปดาห์ 100 - 110 80 - 90
เลอื กรายวชิ าในหลกั สตู รฯ ทผี่ เู้ รยี นมคี วาม
หนว่ ยกติ รวมระหวา่ ง สนใจและสถานประกอบการมคี วามพรอ้ มใน
การฝกึ อาชีพ
บูรณาการร่วมกับสถานประกอบการใน
รายวิชากจิ กรรมในสถานประกอบการ
โครงสรา้ งของแผนการเรียน หลักสูตรเทคโนโลยบี ัณทิต (ทล.บ.)
โครงสร้างแผนการเรยี นทวิภาคี } หมายเหตุ
รายวิชาฝกึ อาชพี ในสถานประกอบการ
1. หมวดวิชาศกึ ษาทัว่ ไป (ทักษะชวี ิต) ไมน่ อ้ ยกวา่ 18 หนว่ ยกติ
2. หมวดวิชาเฉพาะ (ทักษะวชิ าชพี ) ไมน่ ้อยกว่า 42 หน่วยกิต
2.1 วชิ าพ้นื ฐาน ไม่นอ้ ยกว่า 18 หนว่ ยกติ
2.2 หมวดวชิ าเฉพาะด้าน ไมน่ อ้ ยกวา่ 21 หน่วยกติ
2.3 วชิ าการฝึกประสบการณ์วิชาชพี ไมน่ ้อยกวา่ 3 หนว่ ยกิต
3. หมวดเลือกเสรี ไม่น้อยกว่า 6 หนว่ ยกติ
หนว่ ยกิตรวมไม่น้อยกวา่ 72 หน่วยกติ
27
ตวั อยา่ ง รายวิชาและคำ�อธิบายรายวิชา ในหลกั สตู ร ระดบั ปวช. และปวส.
รายวิชาในหลักสูตร หมายถึง รายวิชาท่ไี ด้กำ�หนดรายละเอียดของรายวิชา 3 สว่ นไวแ้ ล้ว คอื
จดุ ประสงค์รายวิชา
สมรรถนะรายวชิ า
ค�ำ อธิบายรายวิชา
- ตัวอย่าง -
30001-1001 การบรหิ ารงานคณุ ภาพในองคก์ าร 1-2-2
(Quality Administration in Organization)
จดุ ประสงค์รายวิชา เพ่ือให้
1. เข้าใจหลักการจดั การองคก์ าร หลักการบริหารงานคุณภาพ และเพิ่มผลผลติ และหลกั การเพมิ่ ประสิทธิภาพ
การทํางาน
2. สามารถประยุกต์ใช้หลักการจัดการองค์การ การเพิ่มประสิทธิภาพขององค์การ และการเพิ่มประสิทธิภาพ
การทํางานในการจดั การงานอาชีพ
3. มีเจตคตแิ ละกิจนสิ ยั ท่ีดใี นการจดั การงานอาชีพด้วยความรับผดิ ชอบ รอบคอบ มวี นิ ยั ขยัน ประหยัด อดทน
และสามารถทาํ งานรว่ มกนั
สมรรถนะรายวิชา
1. แสดงความรเู้ ก่ียวกับหลกั การจัดการองค์การ หลักการบรหิ ารงานคุณภาพ และเพ่มิ ผลผลิต และหลกั การเพม่ิ
ประสทิ ธิภาพการทํางาน
2. วางแผนการจดั การองค์การ และเพ่ิมประสทิ ธภิ าพขององคก์ ารตามหลักการ
3. กําหนดแนวทางจัดการความเส่ียง และความขดั แย้งในงานอาชีพตามหลักการและสถานการณ์
4. เลอื กกลยทุ ธเ์ พือ่ เพิ่มประสทิ ธิภาพการทาํ งานตามหลกั การบริหารงานคุณภาพ และเพิ่มผลผลติ
5. ประยุกต์ ใช้กจิ กรรมระบบคณุ ภาพ และเพม่ิ ผลผลติ ในการจัดการงานอาชพี
คาํ อธิบายรายวชิ า
ศึกษาเกี่ยวกับหลักการจัดองค์การ การเพิ่มประสิทธิภาพขององค์การ การบริหารงานคุณภาพ
และเพ่ิมผลผลิต การจัดการความเส่ียง การจัดการความขัดแย้งในองค์การ กลยุทธ์การเพิ่มประสิทธิภาพ
การทํางาน การนาํ กิจกรรมระบบคณุ ภาพและเพ่ิมผลผลติ มาประยกุ ต์ใช้ในการจัดการงานอาชพี
28
ลักษณะรายวชิ าทวภิ าคี
รายวชิ าทวภิ าคี โดยทั่วไปจะช่อื วิชาเหมอื นกนั ทกุ รหสั วชิ าใช้ช่ือสาขางานเปน็ ชอ่ื วชิ า ต่อด้วยตวั เลข
แสดงลำ�ดับที่ 1, 2, 3..... XX แตอ่ าจมขี ้อแตกต่างในการก�ำ หนดชวั่ โมง หน่วยกิต และการเขียนค�ำ อธิบาย
รายวิชา ดงั นี้
1. ให้ใช้รหสั รายวชิ าทวิภาคีตามโครงสรา้ งหลกั สูตรของกลุ่มสมรรถนะวชิ าชีพ เลือกหรือสาขางาน
ที่ก�ำ หนด
ตวั อยา่ ง 20101 - 5101 ถึง 20101 - 5106
หมายถงึ รายวิชาทวิภาคีในหลักสูตรระดบั ปวช. (2) ประเภทวิชาอตุ สาหกรรม
สาขาวชิ าช่างยนต์ สาขางานยานยนต์ รายวชิ าท่ี 1 ถงึ รายวชิ าท่ี 6
2. ใหก้ �ำ หนดชอื่ รายวชิ าในแตล่ ะระดบั ตามโครงสรา้ งหลกั สตู ร โดยใชช้ อ่ื สาขางานหรอื ชอ่ื งานทป่ี ฏบิ ตั ิ
เช่น
ตัวอย่างท่ี 1 กำ�หนดช่ือวิชาตามชื่อสาขางาน เพื่อให้สามารถบริหารจัดการการจัดแผนการเรียนการลง
ทะเบยี นเรยี นรายวชิ าการประเมนิ ผลการเรยี นและการบนั ทกึ ผลการเรยี นในเอกสารการศกึ ษาไดเ้ หมอื นกนั ในทกุ กลมุ่
ผูเ้ รียนสาขางานเดยี วกันแตไ่ ปฝกึ อาชีพตา่ งสถานประกอบการ
20101 - 5101 ปฏบิ ตั ิงานยานยนต์ 1
20101 - 5102 ปฏบิ ตั ิงานยานยนต์ 2
20101 - 5103 ปฏบิ ตั ิงานยานยนต์ 3
20101 - 5104 ปฏิบัติงานยานยนต์ 4
20101 - 5104 ปฏบิ ัติงานยานยนต์ 5
20101 - 5104 ปฏิบัติงานยานยนต์ 6
29
ตัวอย่างที่ 2 กำ�หนดช่ือวิชาโดยใช้ชอ่ื งานวงเลบ็ ไว้ท้ายชื่อวชิ า มขี ้อดคี อื สามารถแสดงให้ทราบวา่ ผู้สำ�เร็จ
การศึกษาได้ผ่านการฝึกอาชีพในงานใดบ้าง และมีสมรรถนะในสาขางานที่เรียนในเรื่องใดบ้าง นอกจากนี้ผู้เรียนใน
กลุ่มสาขางานเดียวกันทีจ่ ำ�เป็นต้องแยกไปฝกึ อาชีพตา่ งสถานประกอบการซ่ึงมีขนาด และลักษณะงานต่างกัน กย็ งั
สามารถระบชุ อ่ื งานในวงเลบ็ ทต่ี า่ งกนั ออกไปได้ แตย่ งั คงใชช้ อ่ื วชิ า และรหสั วชิ าเดยี วกนั หรอื ทำ�เพมิ่ เตมิ ใหค้ รอบคลมุ
ลกั ษณะงานของสาขาวชิ า แลว้ ใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะกลมุ่ เลอื กลงทะเบยี นเรยี นใหส้ อดคลอ้ งกบั งานของสถานประกอบการ
ท่ไี ปฝึกอาชีพก็ได้
20101 - 5101 ปฏิบัติงานยานยนต์ 1 (งานเคร่อื งยนต์)
20101 - 5102 ปฏบิ ัตงิ านยานยนต์ 2 (งานเครอ่ื งลา่ งรถยนต์)
20101 - 5103 ปฏบิ ัตงิ านยานยนต์ 3 (งานปรบั อากาศรถยนต)์
20101 - 5104 ปฏบิ ัติงานยานยนต์ 4 (งานบำ�รงุ รกั ษารถยนต)์
20101 - 5105 ปฏิบัติงานยานยนต์ 5 (งานอิเล็กทรอนกิ ส์รถยนต)์
20101 - 5106 ปฏบิ ตั งิ านยานยนต์ 6 (งานบริการรถยนต)์
ตวั อย่างที่ 3 กำ�หนดช่อื วชิ าโดยใช้ช่ืองาน มขี ้อดีคอื สามารถแสดงให้ทราบวา่ ผูส้ ำ�เรจ็ การศกึ ษาได้ ผา่ นการ
ฝึกอาชีพในงานใดบ้างและมีสมรรถนะในสาขางานท่ีเรียนในเร่ืองใดบ้างการกำ�หนดชื่องานแบบน้ีเหมาะกับลักษณะ
งานอาชีพทีเ่ ปน็ มาตรฐานสากลหรือมีมาตรฐานวชิ าชีพกำ�หนดไว้
ส่วนข้อจำ�กัดก็คือผู้เรียนในกลุ่มสาขางานเดียวกันที่แยกไปฝึกอาชีพในสถานประกอบการท่ีมีขนาดและ
ลกั ษณะงานตา่ งกนั จะไมส่ ามารถใชช้ อ่ื วชิ าเดยี วกนั ตอ้ งจดั ทำ�รายวชิ าและรายละเอยี ดรายวชิ าเพมิ่ ตามลกั ษณะงาน
ของสถานประกอบทรี่ ว่ มมอื จดั การศกึ ษาโดยใชร้ หสั รายวชิ าเรยี งลำ�ดบั ตอ่ กนั ไป และการจดั แผนการเรยี นกต็ อ้ งเปน็
แผนการเรยี นเฉพาะกลุ่มผู้เรียน
20101-5101 ปฏิบัตงิ านเครือ่ งยนต์เลก็
20101-5102 ปฏิบตั ิงานอเิ ล็กทรอนิกสร์ ถยนต์
20101-5103 ปฏบิ ัตงิ านระบบฉดี เชือ้ เพลงิ ควบคุมดว้ ยอเิ ลก็ ทรอนิกส์
20101-5104 ปฏบิ ตั งิ านปรบั อากาศรถยนต์
20101-5105 ปฏบิ ตั งิ านบำ�รงุ รกั ษารถยนต์
20101-5106 ปฏบิ ัตงิ านบรกิ ารรถยนต์
20101-5107 ปฏิบัตงิ านปรับแตง่ เครื่องยนต์
20101-5108 ปฏิบัติงานจักรยานยนต์
20101-5109 ปฏิบัตงิ านประดบั ยนต์
30
3. ใหก้ �ำ หนด ท-ป-น หรอื เวลาเรยี นภาคทฤษฎตี อ่ สปั ดาห์ - เวลาเรยี นภาคปฏบิ ตั ติ อ่ สปั ดาห์ - จ�ำ นวน
หน่วยกิตของรายวิชา ตามลักษณะงานที่ต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และฝึกปฏิบัติตามเกณฑ์ที่ กำ�หนด คือ
การฝึกอาชีพไม่น้อยกว่า 54 ช่ัวโมงต่อภาคเรียน หรือไม่น้อยกว่า 3 ช่ัวโมงต่อสัปดาห์ มีค่า เท่ากับ
1 หนว่ ยกติ และหากจ�ำ เปน็ ตอ้ งมกี ารเรยี นรภู้ าคทฤษฎดี ว้ ย โดยอาจจะเปน็ การใหค้ วามรกู้ อ่ น การฝกึ ปฏบิ ตั ิ
งาน (ทฤษฎหี วั งาน) หรอื การสรปุ องคค์ วามรู้ แลกเปลย่ี นรปู้ ระจ�ำ วนั /สปั ดาห์ ก�ำ หนดให้ 1 ชว่ั โมงตอ่ สปั ดาห์
มีคา่ เท่ากบั 1 หนว่ ยกติ ทัง้ นี้ ขึ้นอยู่กบั ลกั ษณะงานทจ่ี ะตอ้ งพิจารณารว่ มกนั เช่น
ตัวอยา่ ง รายวชิ าทวภิ าคีในระดบั ปวช. ประเภทวิชาอตุ สาหกรรม
สาขาวิชาช่างยนต์ สาขา งานยานยนต์
รหสั วิชา ช่ือวชิ า ท-ป-น
20101-5101 ปฏิบัติงานยานยนต์ 1 (งาน...) 1-6-3
20101-5102 ปฏบิ ตั ิงานยานยนต์ 2 (งาน...) 1-6-3
20101-5103 ปฏบิ ตั ิงานยานยนต์ 3 (งาน...) 0-9-3
20101-5105 ปฏบิ ตั งิ านยานยนต์ 4 (งาน...) 0-9-3
20101-5106 ปฏบิ ัติงานยานยนต์ 5 (งาน...) 0-9-3
20101-5107 ปฏิบัติงานยานยนต์ 6 (งาน...) 0-9-3
4. ให้เขียนจุดประสงค์รายวิชา และสมรรถนะรายวิชาให้สอดคล้องกัน ครอบคลุมพฤติกรรม
การเรยี นรทู้ ้งั ดา้ นความรู้ (พุทธพิ ิสัย) ทกั ษะ (ทักษะพิสยั ) เจตคติ และกจิ นิสยั หรอื พฤตกิ รรมลกั ษณะนิสยั
(จิตพิสยั ) แม้ว่าในการฝึกอาชพี จะเนน้ ทกั ษะปฏิบัติ แต่ “สมรรถนะ” ในการท�ำ งานน้ันเกดิ จากการ ประยกุ ต์
ใชค้ วามรู้ ทักษะ และคณุ ลักษณะทีพ่ ึงประสงค์ ดังนั้นนอกจากทกั ษะในการปฏิบตั งิ านแล้ว ทักษะทางปัญญา
ไมว่ า่ การคิด วิเคราะห์ วางแผน ตัดสนิ ใจ แก้ไขปญั หา ฯลฯ ก็มีความสำ�คัญต่อการปฏิบัติ และพฒั นางาน
ที่รับผิดชอบ ผู้เรียนจึงต้องมีความรู้พื้นฐานที่จำ�เป็นจากการเรียนในสถานศึกษา เพื่อนำ�มาประยุกต์ใช้ใน
การปฏบิ ตั งิ าน ในขณะทอี่ งคค์ วามรู้ในบางเรอ่ื งกส็ ามารถเกดิ ขนึ้ จากการไดล้ งมอื ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยตนเองในสภาพ
จรงิ ของการทำ�งานในสถานประกอบการ
5. ให้เขียนคำ�อธิบายรายวิชา ครอบคลุมขอบข่ายของเน้ือหาสาระหรืองานที่ต้องการให้ผู้เรียนได้
ศกึ ษาเรยี นรู้ และหรอื ฝกึ ปฏบิ ตั เิ พอื่ ใหบ้ รรลตุ ามจดุ ประสงคร์ ายวชิ า และสมรรถนะรายวชิ า ซงึ่ ครผู สู้ อน และ
ครฝู กึ จะตอ้ งท�ำ ความเขา้ ใจในค�ำ อธบิ ายรายวชิ าของรายวชิ าทรี่ บั ผดิ ชอบ เพอ่ื น�ำ ไปจดั ท�ำ แผนการฝกึ อาชพี
ในแตล่ ะรายวิชา
การจัดการศึกษาระบบทวิภาคี ในระดับปรญิ ญาตรี
ลักษณะแผนการศึกษา
การจัดแผนการศึกษาในสถานประกอบการระดับเทคโนโลยีบัณฑิต โดยนำ�รายวิชาไปใช้ใน
การเขียนแผนการฝึกอาชีพ จากแผนการเรียน เชน่
ตวั อย่าง สาขาเทคโนโลยีอิเล็กทรอนกิ ส์
33 - 4105 - 2006 เทคโนโลยกี ารสือ่ สารข้อมลู และเครอื ขา่ ย 3(0-9-0)
33 - 4105 - 2101 การซ่อมบำ�รุงระบบคอมพิวเตอร์และเครือข่าย 3(0-9-0)
33 - 4105 - 2103 การบรหิ ารอุตสาหกรรมอเิ ลก็ ทรอนกิ ส์ 3(0-9-0)
31
รหัสวชิ า ชอ่ื วิชา น. (ท-ป-ศ) หมายเหตุ
กลุ่มวิชาชีพเฉพาะ
33-4105-2006 เทคโนโลยีการสอ่ื สารข้อมูลและเครอื ข่าย 3 (0-9-0) สถานประกอบการ
กลมุ่ วิชาชีพเลอื ก
33-4105-2101 การซอ่ มบ�ำ รุงระบบคอมพิวเตอรแ์ ละเครอื ขา่ ย 3 (0-9-0) สถานประกอบการ
33-4105-2103 การบริหารอตุ สาหกรรมอเิ ล็กทรอนิกส์
3 (0-9-0) สถานประกอบการ
รวม
9 (0-27-0)
โดยรายวิชาทวภิ าคี จะมขี ้อความอธบิ ายไวต้ อนท้าย ดังน้ี
สำ�หรับการจัดการศึกษาระบบทวิภาคีให้สถานศึกษาร่วมวิเคราะห์ลักษณะงานของสถานประกอบ
การเพ่ือนำ�รายวิชาในกลุ่มทักษะวิชาชีพเฉพาะ และกลุ่มวิชาชีพเลือกไปกำ�หนดรายละเอียดของรายวิชา
จัดแผนการฝกึ อาชีพ การวัดและการประเมินผลรายวิชาน้ันๆ ท้ังน้ี โดยให้ใช้เวลาฝกึ ในสถานประกอบการ
ไมน่ ้อยกวา่ 54 ชว่ั โมง มีคา่ เทา่ กบั 1 หน่วยกติ
หากเปน็ รายวชิ าทพี่ ฒั นาขน้ึ มาใหมเ่ พอื่ ใหเ้ หมาะสมกบั สถานประกอบการ มกี ระบวนการพฒั นา
ดงั น้ี
ก) หลกั การเขยี นหรือก�ำ หนดวัตถุประสงค์ของรายวิชา
ควรเขยี นใหส้ ามารถเหน็ วา่ ผเู้ รยี นทเ่ี รยี นรายวชิ านแี้ ลว้ จะตอ้ งมสี มรรถนะอยา่ งไร ทง้ั นต้ี อ้ ง
ใหค้ รอบคลมุ สมรรถนะในการทำ�งาน เชน่
1. มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกบั ......
2. มีทกั ษะเกี่ยวกบั ......
3. มกี จิ นิสัยในการปฏิบัตงิ านดว้ ยความ ......
ข) หลักการเขียนสมรรถนะรายวชิ า
ควรเขยี นใหค้ รอบคลมุ ใหเ้ ห็นว่าผ้เู รยี นต้องแสดงสมรรถนะอะไรในการทำ�งาน เชน่
1. แสดงความรู้เก่ยี วกับ .........
2. ถอด....
3. ตรวจสอบ......
4. บำ�รุงรักษา .....
5. ปฏิบัตงิ านดว้ ยความปลอดภัย.......
ค) หลักการเขยี นคำ�อธิบายรายวิชา
การกำ�หนดรายละเอียดของเนื้อหาหรือรายละเอียดท่ีต้องใช้ในการเรียนในรายวิชาหนึ่งๆ
สามารถใช้ทฤษฎีการวเิ คราะห์งาน (Job Analysis) มาประยกุ ต์ใช้ เพอ่ื กำ�หนดรายละเอียดต่างๆ ของเนื้อหา
โดยนำ�ข้อมูลท่ีได้จากการวิเคราะห์รายการความสามารถ (Task Analysis) ในส่วนของความรู้มาเขียน
เป็นความเรียงโดยคำ�นึงถึงระดับความสามารถของเน้ือหาวิชาตามระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
ประกาศนยี บตั รวิชาชพี ชน้ั สูง (ปวส.) และ เทคโนโลยีบัณฑติ (ทล.บ.)
32
ขอ้ ค�ำ นงึ ในการเขยี นจุดประสงค์ สมรรถนะรายวิชา และค�ำ อธบิ ายรายวิชา
1. ในกรณที ี่นำ�รายวิชาหลายรายวิชาไปฝึกในสถานประกอบการเดยี วกนั งานหลักที่ฝึกแตกตา่ งกัน
ใหแ้ ยกรายวิชาตามงานหลกั ท่ฝี ึกอาชพี
2. ในกรณีที่นำ�รายวิชาหลายรายวิชาไปฝึกในสถานประกอบการเดียวกัน งานหลักที่ฝึกเหมือนกัน
ให้ก�ำ หนดจดุ ประสงค์ให้มรี ะดบั ความสามารถแตกตา่ งกนั
3. ตอ้ งค�ำ นงึ ถงึ ความแตกตา่ งของระดบั ความสามารถตามกรอบมาตรฐานคณุ วฒุ วิ ชิ าชพี และกรอบ
คณุ วฒุ ิอาชวี ศึกษา ระดับประกาศนยี บตั รวิชาชีพ (ปวช.) ประกาศนียบตั รวชิ าชีพช้ันสูง (ปวส.) ปรญิ ญาตรี
สายเทคโนโลยี และสายปฏบิ ัติงาน (ทล.บ.)
2XXXX - 5X... ปฏิบัติงาน.................................. .... *-*-*
(..........................................Practice)
(ตอ้ งเรยี นรายวชิ า................ก่อน)
จุดประสงคร์ ายวิชา เพ่อื ให้
1. เข้าใจหลกั การปฏบิ ัติตน และปฏิบตั งิ านในการประกอบอาชพี ผลติ และหรือบรกิ ารทางด้าน.......................
2. สามารถประยกุ ตใ์ ช้ความรู้ และทักษะในการปฏบิ ตั ิงานผลติ และหรอื บริการทางดา้ น............................ ใน
สถานประกอบการตามภาระหนา้ ท่ที ไ่ี ดร้ บั มอบหมาย
3. มีเจตคติทดี่ ีต่องานอาชพี และมีกจิ นิสัยในการทำ�งานดว้ ยความรบั ผิดชอบ รอบคอบ ปลอดภัย มีวนิ ัย ตรง
ตอ่ เวลา ขยัน ชอื่ สัตย์ อดทน และสามารถทำ�งานร่วมกับผอู้ ืน่
สมรรถนะรายวชิ า
1. แสดงความรูเ้ กย่ี วกบั หลกั การปฏิบัติตน และปฏิบตั ิงานผลิต และหรือบรกิ ารทางด้าน.................................
ในสถานประกอบการ
2. เตรียมความพร้อมสว่ นบุคคลในการปฏบิ ตั ิงานผลติ และหรอื บรกิ ารตามข้อกำ�หนด
3. ปฏบิ ัตงิ านผลติ และหรือบริการทางด้าน.............................................ท่ีได้รบั มอบหมาย ตามหลกั การ และ
กระบวนการ
4. บันทึกรายงานประสบการณ์ และผลการปฏบิ ัตงิ านผลิต และหรอื บรกิ ารตามหลกั การ
คำ�อธิบายรายวชิ า
ศึกษา และปฏบิ ัติเกีย่ วกบั งานผลิต และหรอื บริการทางดา้ น..........................ระดับฝีมอื ในสถานประกอบการ
การเตรียมความพรอ้ มสว่ นบคุ คล การปฏิบัตติ นในงานอาชพี การรบั คำ�สัง่ การวางแผนการ ทำ�งานการจัดเตรียมเคร่อื ง
มือ และวัสดุอปุ กรณ์ในการปฏิบตั งิ าน การตำ�เนนิ งานและแกไ้ ขปัญหาการทำ�งานการบันทึก และสรปุ รายงานผลการ
ปฏิบตั ิงาน
(ให้สถานศึกษารว่ มกบั สถานประกอบกรวเิ คราะห์ลกั ษณะงาน สมรรถนะท่ตี ้องการและเวลาทใ่ี ช้ฝึกเพ่ือวาง
แผน และกำ�หนดขอบเขตการฝึกอาชีพ รวมทงั้ แนวทางการวดั และประเมนิ ผลใหส้ อดคล้องกับสมรรถนะวิชาชีพสาขา
งาน)
33
2.3 ศึกษาลกั ษณะงานของสถานประกอบการ
สถานศึกษา ตอ้ งศึกษาลกั ษณะงานของสถานประกอบการ ศึกษากระบวนการทำ�งาน เพอ่ื เปน็
ขอ้ มูลในการวิเคราะห์งาน สำ�หรับการกำ�หนดงานหลกั งานย่อย ระยะเวลาการฝึก ก่อนการเลอื กรายวิชา
สำ�หรับการจัดทำ�แผนการเรียน และแผนการฝึกอาชีพตลอดหลักสูตรร่วมกับสถานประกอบการ สามารถ
ท�ำ ไดด้ งั น้ี
1. ส่งครูในสถานศกึ ษาเขา้ ไปฝึกประสบการณ์วชิ าชพี ในสถานประกอบการ
2. ศกึ ษาดูงานในสถานประกอบการ
3. ประชมุ รว่ มกับสถานประกอบการ
34
2.4 การคำ�นวณเวลาในการฝึกอาชีพ
• การคดิ หน่วยกิต ใหถ้ อื เกณฑ์ คือ
- รายวิชาท่ีใช้ในการฝกึ อาชีพระบบทวิภาคี
ระดบั ปวช. ปวส. และ ทล.บ. ไม่นอ้ ยกว่า 54 ชั่วโมง เท่ากับ 1 หนว่ ยกิต
- การฝกึ ประสบการณส์ มรรถนะวชิ าชีพในสถานประกอบการ
ระดบั ปวช. และ ปวส. ไม่น้อยกวา่ 320 ชัว่ โมงเทา่ กับ 4 หน่วยกติ
(80 ชว่ั โมง เท่ากับ 1 หน่วยกิต)
ระดบั ทล.บ. ไมน่ ้อยกวา่ 54 ชัว่ โมง เทา่ กับ 1 หนว่ ยกติ
- การทำ�โครงการพัฒนาสมรรถนะวชิ าชีพไม่นอ้ ยกว่า 54 ชัว่ โมง เทา่ กบั 1 หนว่ ยกิต
• การระบชุ ว่ั โมงเรยี น จำ�นวนหน่วยกติ ให้ระบุตามความหมาย
ท หมายถึง จำ�นวนชว่ั โมงเรยี นทฤษฎีต่อสปั ดาห์
ป หมายถงึ จ�ำ นวนชว่ั โมงเรยี นปฏิบตั ิต่อสปั ดาห์
น หมายถงึ จำ�นวนหน่วยกติ
ศ หมายถงึ จำ�นวนชัว่ โมงศึกษาคน้ ควา้ ดว้ ยตนเองตอ่ สปั ดาห์
ระดบั ปวช. และ ปวส. ใช้ ท – ป – น ท–ป–น
ตวั อย่าง เชน่ 1–2–2
รหัสวิชา ชอ่ื วชิ า
2204-2003 เครือขา่ ยคอมพิวเตอรเ์ บอ้ื งต้น
หมายความว่า ทฤษฎี 1 ชว่ั โมง ปฏิบัติ 2 ช่ัวโมง จำ�นวน ๒ หนว่ ยกติ
3100-0105 ความแขง็ แรงของวสั ดุ 3 – 0 – 3
หมายความว่า ทฤษฎี 3 ชั่วโมง ปฏบิ ตั ิ 0 ชั่วโมง จำ�นวน 3 หน่วยกิต
ระดบั ทล.บ. ใช้ น.(ท – ป – ศ)
ตัวอยา่ ง เช่น
รหสั วิชา ชอ่ื วชิ า น.(ท – ป – ศ)
33-4105-2101 การซ่อมบ�ำ รงุ ระบบคอมพวิ เตอรแ์ ละเครอื ข่าย 3 (0-9-0)
หมายความวา่ ทฤษฎี 0 ชวั่ โมง ปฏิบตั ิ 9 ช่ัวโมง จ�ำ นวน 0 หนว่ ยกิต
33-4105-2102 เทคโนโลยกี ารบ�ำ รุงรกั ษา 3 (0-9-0)
หมายความวา่ ทฤษฎี 0 ช่วั โมง ปฏบิ ัติ 9 ชวั่ โมง จำ�นวน 0 หน่วยกติ
35
ข้อเสนอแนะแนวปฏิบัติ
จากเกณฑ์ที่กล่าวว่า รายวิชาท่ีใช้ในการฝึกอาชีพระบบทวิภาคี ในระดับ ปวช. ,ปวส. และ ทล.บ.
ไมน่ อ้ ยกว่า 54 ช่ัวโมง เทา่ กับ 1 หน่วยกิต หมายความวา่ สถานศกึ ษาสามารถก�ำ หนดช่วั โมงฝึกอาชพี เป็น
อยา่ งอืน่ ได้ แตต่ อ้ งไม่น้อยกว่า 54 ช่วั โมง ตอ่ 1 หนว่ ยกิต
ทงั้ น้ี เมอื่ สถานศึกษาพิจารณาว่าจะกำ�หนดวา่ ระดับการศกึ ษามชี ว่ั โมงฝกึ : หน่วยกิตเท่าไร ต้องใช้
ปฏิบตั ิเหมอื นกนั ทุกสาขาวชิ า
ตัวอย่าง แนวทางการคำ�นวณ ชั่วโมงการฝึก : หน่วยกิต เพื่อประกอบการพิจารณาการกำ�หนด
จ�ำ นวนหน่วยกิต และจำ�นวนรายวิชา เพื่อจดั ทำ�แผนการฝึกอาชพี ในสถานประกอบการ
ฝึกอาชพี สปั ดาหล์ ะ 5 วัน
จ�ำ นวน นก. ก�ำ หนดชม. วนั ละ 8 ชม. สัปดาหล์ ะ 5 วัน จำ�นวน นก. รวมหนว่ ยกจิ ท่ีได้
ไม่นอ้ ยกว่า จ�ำ นวนวัน 18 สัปดาห์
1 นก. ฝึก/นก. มวี ันฝกึ 3 ภาคเรียน 2 ภาคเรียน
1 นก. 54
80 7 วนั 90 วัน 12 นก. 36 นก. 24 นก.
10 วนั 90 วัน 9 นก. 27 นก. 18 นก.
หมายเหตุ ตามเวลาท่ีฝึกผู้เรียนได้หน่วยกิตไม่เกินเกณฑ์ที่กำ�หนด ท้ังน้ีสถานศึกษา
ต้องจัดแผนการฝึกของผู้เรียนในสถานประกอบการให้มีช่ัวโมงสำ�หรับผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ
กบั สถานประกอบการ 2 ชั่วโมงตอ่ สัปดาห์
38
3. การเขียนแผนการฝกึ อาชพี ในสถานประกอบการ
3.1 ความหมายและประเภทของแผนการฝกึ อาชีพ
3.1.1 แผนการฝกึ อาชีพ หมายถึง แผนงานของสถานประกอบการในการฝึกอาชพี ใหก้ ับ
ผู้เรียนระบบทวิภาคีให้มี ความรู้ ความสามารถ ทักษะในอาชีพ และพฤติกรรมที่พึงประสงค์ตามลักษณะ
งานของสถานประกอบการ สอดคล้องกับ หลักสูตรแต่ละระดับ โดยจัดทำ�เป็นเอกสาร ใบงาน
แผนการฝึกอาชพี มี 2 ประเภท ดังน้ี
3.1.1.1. แผนการฝึกอาชีพตลอดหลักสูตร (ฝอ.1) หมายถึง แผนงานของ
สถานประกอบการ เพื่อจัดเตรียม บุคลากร สถานท่ีฝึก วัสดุ อุปกรณ์ เครื่องมือในการฝึกอาชีพ
ให้แก่ผู้เรียน ระบบทวิภาคี ตลอดระยะเวลาการฝึกอาชีพในสถานประกอบการ ตั้งแต่เริ่มต้น จนสิ้นสุด
การฝึกอาชีพ
3.1.1.2. แผนการฝึกอาชีพรายหน่วย (ฝอ.2) หมายถึง แผนงานของครูฝึก
เพื่อจัดเตรียม เนื้อหา วิธีสอน วัสดุ อุปกรณ์ เคร่ืองมือ การประเมินผลในการฝึกอาชีพให้แก่ผู้เรียน
ระบบทวภิ าคี เพ่อื ให้มีระดับความรู้ ความสามารถ ตามจุดประสงค์ท่ีก�ำ หนดแต่ละงานที่ทำ�การฝึกอาชพี
แบบบนั ทึกแผนการฝกึ อาชพี ตลอดหลกั สูตร (ฝอ. 1)
แผนการฝกึ อาชีพตลอดหลกั สูตร บริษัท........................................................................... ฝอ.01
ผเู้ รียนระบบทวิภาคี วิทยาลยั ........................................................ระดับชน้ั ....................สาขาวชิ า....................สาขางาน......................
ฝึกอาชพี ปีการศกึ ษา................ระหวา่ ง วันที่.......เดือน...................พ.ศ.25....... ถงึ วันท.ี่ ......เดือน...................พ.ศ.25....... (........สัปดาห์)
อาชีพ / ตำ�แหนง่ งาน งานหลกั งานยอ่ ย ครฝู กึ เวลาฝึก (ชัว่ โมง)
รวมระยะเวลาการฝึกอาชพี
39
แบบบนั ทึกแผนการฝึกอาชีพรายหน่วย (ฝอ. 2)
แผนการฝกึ อาชีพรายหน่วย บรษิ ทั ........................................................................... ฝอ.02
ผู้เรียนระบบทวภิ าคี วิทยาลยั ........................................................ระดับชน้ั ....................สาขาวชิ า....................สาขางาน......................
อาชีพ / ตำ�แหน่งงาน................................................................................................
งานหลกั 1 ................................................................................................
งานยอ่ ย 1.1 .............................................................................................
ครูฝึก...................................................... ตำ�แหนง่ ...................................................... หน่วย......................................................
ท่ี จกุ ประสงคเ์ ชิง ระดับความสารถท่ีตอ้ งการ หวั ข้อเรื่อง วิธสี อน เครอื่ งมอื อปุ กรณ์ วิธีการประเมิน
พฤติกรรม ส่อื การสอน
ความรู้ ทักษะ เจตคติ ประยกุ ต์ใช้
หมายเหตุ จดุ ประสงค์ ครอบคลุม ดา้ นความร(ู้ K), ด้านทกั ษะ(S), ดา้ นเจตนคต(ิ A), ดา้ นการประยกุ ต์ใช(้ Ap) โดยเมอ่ื กำ�หนดจดุ ประสงค์แลว้ ให้ระบุระดับความสามารถในชอ่ ง ความรู้ ทกั ษะ เจตคติ และการประยุกต์ใช้
ความรู้ หมายถงึ K1 : ความรู้ ความจำ�ที่จำ�เปน็ ในการปฏิบัติหนา้ ที่ K2 : ความเขา้ ใจความรู้ท่เี ก่ียวขอ้ งกับการทำ�งาน K3 : ความรู้ทใี่ ชใ้ นการแก้ปัญหา สร้างสรรค์ พฒั นางาน หรอื นำ�เสนองาน
ทักษะ หมายถึง S1 : ทักษะระดับการเลียนแบบครฝู กึ S2 : ทักษะในการทำ�งานดว้ ยความถกู ต้อง S3 : ทกั ษะในการทำ�งานด้วยความชำ�นาญ สรา้ งสรรค์ พฒั นางาน หรือนำ�เสนองาน
เจตคติ หมายถึง A1 : การยอมรบั กฎระเบียบของสถานที่ทำ�งานและสงั คม A2 : การปฏิบัติตามกฏระเบียบของสถานที่และสังคม A3 : การปฏิบตั ิตามกฏระเบียบของสถานทีแ่ ละสังคมจนเปน็ ลักษณะนิสยั
ประยุกต์ใช้ หมายถึง Ap1 : ประยุกตค์ วามรแู้ ละทกั ษะในการแก้ปัญหาในการปฏบิ ตั ิงานทรี่ บั ผดิ ชอบ Ap2 : ประยกุ ตค์ วามรูแ้ ละทักษะในการแก้ปญั หาทซ่ี บั ซอ้ น หรือในประเดน็ ท่ยี งั ไม่ชัดเจน Ap3 : วางแผน
การแกป้ ัญหาการปฏิบัติงานที่ซบั ซอ้ น หรือพัฒนาวิธีการปฏบิ ตั งิ านในสถานการณท์ ี่เปลย่ี นแปลงตลอดเวลาดว้ ยกลยุทธ์ท่หี ลากหลาย
3.1.2 ผเู้ กย่ี วข้องกับการจัดแผนการเรียนตลอดหลกั สตู ร
3.1.2.1. สถานประกอบการ
ผู้ควบคุมการฝึก และครูฝึก ทําหน้าท่ี ประสานงานกับสถานศึกษา สถาบันใน
การจัดการ อาชีวศึกษาระบบทวิภาคี และรับผิดชอบดูแลการฝึกอาชีพของผู้เรียนในสถานประกอบการ
วางแผนการเรยี น และแผนการฝกึ อาชีพตลอดหลักสตู ร (ฝอ.1) และแผนการฝกึ อาชพี รายหนว่ ย (ฝอ.2)
3.1.2.2 สถานศึกษา สถาบนั
หวั หนา้ งานอาชวี ศกึ ษาระบบทวภิ าคี หวั หนา้ งานพฒั นาหลกั สตู รการเรยี นการสอน
และหวั หนา้ แผนกวชิ า ครปู ระจําสาขาวชิ า อาจารยป์ ระจําหลกั สตู ร ครนู เิ ทศก์ ทําหนา้ ท่ี ประสานงานกบั สถาน
ประกอบการในการจัดแผนการเรียน และแผนการฝึกอาชีพตลอดหลักสูตร (ฝอ.1) และแผนการฝึกอาชีพ
รายหนว่ ย (ฝอ.2)
โดยใหส้ ถานศกึ ษากําหนดระยะเวลาในการจดั ทํา และเสนอเหน็ ชอบแผนการฝกึ ตลอด
หลักสูตร และแผนการฝึกรายหน่วย
3.1.2.3 ประโยชนข์ องสถานประกอบการในการจัดทําแผนการฝกึ อาชีพ
1) สามารถจัดครฝู ึกได้อย่างเหมาะสม
2) จัดหาอุปกรณเ์ คร่อื งมอื เครื่องใช้ที่จําเป็นต่อการฝึกอาชีพ
3) สามารถวางแผนการปฏบิ ตั งิ านและกําลงั คนของหนว่ ยงานได้อย่าง
เหมาะสม
4) สามารถจดั การฝกึ อาชพี ใหแ้ กผ่ เู้ รยี นระบบทวภิ าคไี ดอ้ ยา่ งมคี ณุ ภาพตรง
ตามวตั ถปุ ระสงค์เป้าหมายที่สถานประกอบการกําหนดไว้ และสอดคล้อง
กับสมรรถนะสาขาวิชา สาขางานในหลกั สตู ร
5) สามารถนําข้อมูลไปประกอบการใชส้ ทิ ธปิ ระโยชนท์ างภาษี ของสถาน
ประกอบการ
40
3.2 ขั้นตอนการจดั ทำ�แผนการฝกึ อาชพี
การจัดทําแผนการฝึกอาชีพ สถานประกอบการ และสถานศึกษาร่วมกันวิเคราะห์งาน
ในสถานประกอบการ ทสี่ อดคลอ้ งกบั สมรรถนะสาขาวชิ า สาขางานของผเู้ รยี นระบบทวภิ าคี รายละเอยี ด ดงั น้ี
3.2.1 การเขยี นแผนการฝกึ อาชพี ตลอดหลักสตู ร (ฝอ.1)
การเขยี นแผนการฝกึ อาชพี ตลอดหลกั สตู ร (ฝอ.1) ซงึ่ ตอ้ งดําเนนิ การรว่ มกนั ระหวา่ ง
สถานศึกษา และสถานประกอบการ โดยมีข้นั ตอนการเขียนแผนการฝกึ อาชพี ตลอดหลักสตู ร (ฝอ.1) ดงั นี้
เริ่ม
เลอื กรายวชิ าฝึกอาชพี วเิ คราะหห์ ลกั สตู รรายวชิ า
วิเคราะห์หลกั สตู รรายวิชา / อาชีพ / ตำ�แหน่งงาน วเิ คราะหอ์ าชพี
เลอื กต�ำ แหน่งงาน งานหลักและงานย่อยท่ีมีในสภานประกอบการ วิเคราะห์ตำ�แหนง่ งาน
บันทึกขอ้ มลู ลงแบบฟอร์ม ฝอ.1
No ตรวจสอบ ไดแ้ ผนการฝึกอาชีพ
ตลอดหลักสตู ร (ฝอ.1)
ความถกู ตอ้ ง
Yes
เสนอขออนุมัติ
ส้ินสุด
ภาพท่ี .. ข้ันตอนการเขยี นแผนฝึกอาชีพตลอดหลกั สตู ร (ฝอ.1)
41
(1) เลอื กรายวิชาฝกึ อาชีพ ควรเลอื กรายวชิ าทเี่ ป็นไปตามโครงสร้าง และหลกั เกณฑ์การใช้
หลกั สตู ร
(2) วิเคราะห์หลักสูตรรายวชิ า อาชีพ และตําแหนง่ งาน โดยมีหลักการวิเคราะหอ์ าชพี หรอื
ตําแหน่งงานโดยนําเอารายละเอียดที่ได้จากการวิเคราะห์ การทํางานงานต่างๆในอาชีพ หรือในตําแหน่ง
งานทคี่ รองอยู่ และนําเอางานยอ่ ยๆ ทม่ี ลี กั ษณะการทํางาน หรอื ประเดยี วกนั มาจดั เปน็ กลมุ่ หนา้ ท่ี หรอื เปน็
ใหญ่ๆ โดยใช้แผนผงั สกาลา (Scalar Pattern) เขยี นเปน็ ผงั อาชีพ หรอื ตําแหน่งงานเพ่ือแสดง หรอื กําหนด
รายละเอียดของหนา้ ท่ี และงานตา่ งๆ ในแต่ละหนา้ ที่
งาน (Job) หมายถงึ การกระทําใดๆท่มี กี ารเริม่ ต้น ใชเ้ คร่ืองมอื และอปุ กรณด์ ําเนินการทํา
งาน ตามขนั้ ตอนการปฏบิ ตั ิงาน และเมอื่ สิ้นสดุ ข้ันตอนสดุ ทา้ ยแล้ว จะได้ผลงาน หรือชิน้ งาน ดงั น้นั การนํา
เอางาน (Job) มาให้นักศึกษาฝึกปฏิบัติจึงควรเป็นงานเล็กๆ หรืองานย่อยน่ันเอง จะทําให้การฝึกอาชีพใน
สถาน ประกอบการประสบความสําเร็จตามวตั ถุประสงค์ของหลักสตู ร
การวิเคราะหห์ ลักสูตรรายวิชา อาชพี และตําแหน่งงาน สามารถทําได้ 3 วิธี
วธิ ที ่ี 1 การวเิ คราะหจ์ ากคําอธบิ ายรายวชิ า โดยศกึ ษาขอ้ มลู จากคําอธบิ ายรายวชิ า สมรรถนะ
รายวิชา และจุดประสงค์รายวิชา เกี่ยวกับทักษะหรืองานท่ีผู้เรียนจะต้องปฏิบัติในสถานประกอบการ ตาม
ภาระหนา้ ที่รบั ผดิ ชอบ
ตัวอยา่ ง 0101 - 2003 งานเครื่องลา่ งรถยนต์ 1-6-3
จดุ ประสงค์รายวชิ า
1. มีความเข้าใจเกี่ยวกบั โครงสรา้ ง และหลักการทํางานของระบบเครือ่ งล่างรถยนต์
2. สามารถถอด ประกอบ ตรวจสภาพ ปรบั ต้งั บรกิ ารและบํารงุ รกั ษาระบบเครอื่ งล่าง
รถยนต์
3. มกี ิจนสิ ัยทีด่ ีในการทํางาน รับผิดชอบ ประณตี รอบคอบ ตรงตอ่ เวลา สะอาดปลอดภัย
และรักษาสภาพแวดล้อม
สมรรถนะรายวชิ า
1. แสดงความรู้เกี่ยวกบั โครงสรา้ งและหลักการทํางานของระบบเครอื่ งลา่ งรถยนต์
2. ถอด ประกอบ ตรวจสภาพช้ินสว่ นของระบบเคร่ืองลา่ งรถยนตต์ ามคมู่ ือ
3. บริการลอ้ และยาง ปรบั ตงั้ มมุ ล้อรถยนต์ตามคมู่ ือ
4. บํารงุ รักษาระบบเคร่อื งลา่ งรถยนตต์ ามคมู่ ือ
คาํ อธิบายรายวชิ า
ศกึ ษา และปฏบิ ตั เิ กย่ี วกบั โครงสรา้ ง และหลกั การทํางานของระบบเครอื่ งลา่ งรถยนต์ อปุ กรณ์
ยกรถ การถอด ประกอบ ตรวจสภาพ ระบบรองรับนำ�้หนัก ระบบบังคับเลี้ยว ระบบเบรก อุปกรณ์ลด
การส่ันสะเทือน และกันโคลง การบริการล้อและยาง การปรับต้ังมุมล้อ การบํารุงรักษาระบบเครื่องล่าง
รถยนต์ และประมาณราคาค่าบริการ
42
ตวั อย่าง การวิเคราะห์หลกั สูตรรายวชิ า : 20101-2003 งานเคร่ืองลา่ งรถยนต์ 1-6-3
หลักสูตรสถานศกึ ษา วเิ คราะห์งานจากรายวชิ าในหลักสตู ร
ท-ป-น สมรรถนะรายวชิ า ค�ำ อธบิ ายรายวชิ า อาชีพ/งาน งานหลกั งานยอ่ ย
1-6-3 1. แสดงคสามรู้เกี่ยวกับ ศกึ ษาและปฏบิ ตั เิ กยี่ ว ช่างเครือ่ งล่าง งานระบบรองรับ 1. งานถอดระบบรองรับนํ้า
โครงสร้างและหลักการ กับโครงสร้างและหลัง รถยนต์ นำ�้หนัก หนัก
ทำ�งานของระบบเครื่อง การทำ�งานของระบบ 2. งานตรวจสอบระบบรอง
ล่างรถยนต์ เ ค รื่ อ ง ล่ า ง ร ถ ย น ต์ รับนำ�้หนกั
2. ถอด ประกอบตรวจ อุปกรณ์ยกรถ การ 3. งานประกอบระบบรองรับ
สภาพช้ินส่วนของระบบ ถอดประกอบ ตรวจ น�ำ ห้ นัก
เคร่ืองล่างรถยนต์ตาม สภาพระบบ รองรบั นา้ํ
คู่มือ หนัก ระบบบังคบั เลยี้ ว งานระบบบังคบั 1. งานถอดงานระบบบงั คับ
3. บริการลอ้ และยาง ปรับ ระบบเบรก อุปกรณ์ เลยี้ ว เลีย้ ว
ตง้ั มุมลอ้ รถยนต์ตามคูม่ ือ ลดการ สนั่ สะเทอื นและ 2. งานตรวจสอบงานระบบ
4. บำ�รุงรักษาระบบเคร่อื ง กันโคลง การ บริการ บังคับเลี้ยว
ลา่ งรถยนต์ตามคูม่ ือ ล้อและยาง การปรับ 3. งานประกอบงานระบบ
ต้ัง มุมล้อ การบํารุง บงั คับเลย้ี ว
รกั ษาระบบ เครอื่ งลา่ ง
รถยนต์และประมาณ งานระบบเบรค 1. งานถอดงานระบบเบรค
ราคาค่าบริการ 2. งานตรวจสอบงานระบบ
เบรค
3. งานประกอบงานระบบ
เบรค
งานบรกิ ารลอ้ 1. งานถอดลอ้ และยาง
และ ยาง 2. งานตรวจสอบลอ้ และ
ยาง
3. งานประกอบลอ้ และยาง
งานบํารุงรักษา 1.งานบํารงุ รกั ษาระบบ
เครื่องลา่ ง รองรับ น้ําหนกั
รถยนต์ 2.งานบํารุงรักษาระบบ
บงั คับเลย้ี ว
3.งานบํารุงรักษาเบรค
4.งานบํารงุ รักษาล้อและยาง
43
รายวชิ างานเครอ่ื งลา่ งรถยนต์ 1
ระบบรองรบั นํ้าหนัก
งานถอดระบบ.. งานตรวจสอบระบบ.. งานประกอบระบบ..
งานถอดลูกหมากปกี นก งานฯสภาพลูกหมากปีกนก งานประกอบลกู หมากปีกนก
งานถอดบูชปกี นก งานฯสภาพบูชปีกนก งานประกอบบชู ปีกนก
งานถอดปีกนกบน งานฯสภาพปกี นกบน งานประกอบปีกนกบน
งานถอดปีกนกล่าง งานฯสภาพปีกนกล่าง งานประกอบปกี นกลา่ ง
งานถาดทอร์ชน่ั บาร์ งานฯสภาพทอร์ช่นั บาร์ งานประกอบทอรช์ นั่ บาร์
งานถอดบูชหแู หนบ งานฯสภาพบูชหูแหนบ งานประกอบบูชหูแหนบ
งานถอดแหนบ งานฯการออ่ นลา้ ของแหนบ งานประกอบแหนบ
ภาพท่ี ..... แผนผังวเิ คราะหห์ ลักสูตรรายวชิ า
วธิ ที ่ี 2 การเขยี นผงั สมรรถนะจากการวเิ คราะหอ์ าชพี ในสาขาวชิ า โดยศกึ ษารายละเอยี ดของ
การปฏิบัติงานในภาระหน้าท่ขี องแต่ละสว่ นงานหรือแผนกตาม โครงสรา้ งของสถานประกอบการ
ตัวอย่าง การวเิ คราะห์อาชีพ ตําแหน่งงานของสถานประกอบการ
อาชพี /ตำ�แหนง่ งาน วเิ คราะหง์ านในสถานประกอบการ งานย่อย
ช่างเครื่องล่าง งานหลัก
งานระบบรองรับน้าํ หนกั 1. งานถอดระบบรองรบั นํา้ หนัก
งานระบบบงั คบั เลีย้ ว 2. งานตรวจสอบระบบรองรับนํ้าหนกั
งานระบบเบรค 3. งานประกอบระบบรองรบั น้าํ หนกั
งานบรกิ ารลอ้ และยาง
1. งานถอดงานระบบบังคบั เลีย้ ว
2. งานตรวจสอบงานระบบบงั คบั เลย้ี ว
3. งานประกอบงานระบบบังคบั เล้ยี ว
1. งานถอดงานระบบเบรค
2. งานตรวจสอบงานระบบเบรค
3. งานประกอบงานระบบเบรค
1. งานถอดล้อและยาง
2. งานตรวจสอบลอ้ และยาง
3. งานประกอบล้อและยาง
44
ชา่ งเครื่องล่างรถยนต์ 2
ระบบรองรบั นํ้าหนกั
งานถอดระบบ.. งานตรวจสอบระบบ.. งานประกอบระบบ..
งานถอดลูกหมากปกี นก งานฯสภาพลูกหมากปกี นก งานประกอบลกู หมากปีกนก
งานถอดบูชปกี นก งานฯสภาพบูชปีกนก งานประกอบบูชปกี นก
งานถอดปีกนกบน งานฯสภาพปีกนกบน งานประกอบปีกนกบน
งานถอดปกี นกล่าง งานฯสภาพปกี นกล่าง งานประกอบปีกนกล่าง
งานถาดทอร์ช่นั บาร์ งานฯสภาพทอร์ช่ันบาร์ งานประกอบทอรช์ ่นั บาร์
งานถอดบชู หแู หนบ งานฯสภาพบูชหแู หนบ งานประกอบบชู หแู หนบ
งานถอดแหนบ งานฯการออ่ นลา้ ของแหนบ งานประกอบแหนบ
ภาพท่ี ........ ตวั อยา่ งการวเิ คราะหต์ าํ แหนง่ งานช่างเครื่องลา่ งรถยนต์
วธิ ที ่ี 3 การวเิ คราะห์ตําแหนง่ งาน โดยศกึ ษาจากข้อกําหนดรายละเอยี ดของตําแหน่งงานท่ี
จะต้องปฏบิ ัติใน สถานประกอบการ ตามภาระหนา้ ทีร่ บั ผดิ ชอบ
ช่อื บรษิ ทั ... 3
กลุ่มงาน.. กลมุ่ งานซ่อมบ�ำ รงุ .. กลุ่มงาน.. กลุ่มงาน.. กลุม่ งาน..
งาน..... งาน..... งาน..... งาน.....
งาน..... งาน..... งาน..... งาน.....
งาน..... งาน.....
งาน.....
ซอ่ ม งาน.....
งานซอ่ มระบบไฟ งานระบบเคร่ือง งานระบบปรบั อากาศ งานซ่อมชว่ งลา่ ง
งานฯแสงสว่าง งานเปลีย่ นวาส.์ ......... งานเปลย่ี นสวิทซ์.......... งานเปลย่ี นระบบรองรบั น�ำ ห้ นัก
งานฯไฟเล้ยี ว งานเปล่ยี นแบริ่ง....... งานซ่อมระบบคอส์ยรอ้ ย งานซอ่ มระบบบงั คบั เล้ยี ว
งานฯไฟฉุกเฉนิ งานเปลี่ยนแหวน....... งานซอ่ มระบบคอส์ยเยน็ งานซอ่ มระบบบงั คบั ลอ้
งานฯไฟสัญญาณ งานเปลี่ยนระบบ........ งานเปล่ียนไทมเ์ มอร์ งานเปลี่ยนขดุ กนั โคลง
งานว่อมฯลฯ งานเปลย่ี นฯลฯ.......... งานตรวจฯลฯ งานเปลย่ี นฯลฯ
45
(3) เลือกตําแหน่งงาน งานหลกั และงานย่อยท่มี ีในสถานประกอบการ
เลอื กตําแหน่งงาน งานหลักและงานย่อย โดยให้ใชข้ อ้ มลู จากการวเิ คราะห์หลกั สูตรรายวชิ า
อาชพี และตําแหนง่ งานในสถานประกอบการเพอ่ื นํามาทําแผนการ ฝึกอาชพี ตลอดหลักสตู ร (ฝอ.1)
วเิ คราะหง์ านในรายวชิ า วิเคราะห์งานจากรายวชิ าในหลักสูตร
อาชีพ/งาน งานหลกั งานยอ่ ย อาชพี /งาน งานหลกั งานยอ่ ย
ช่างเคร่อื งลา่ ง งานระบบ 1. งานถอดระบบรองรับ ชา่ งเครอ่ื งล่าง งานระบบ 1. งานถอดระบบรองรบั นา้ํ
รถยนต์ รองรับ รองรบั หนกั
นำ�้หนัก น�ำ ห้ นกั รถยนต์ น�ำ ห้ นัก 2. งานตรวจสอบระบบรอง
รบั น้ําหนัก
2. งานตรวจสอบระบบรอง 3. งานประกอบระบบรองรบั
นํา้ หนกั
รบั นำ�ห้ นกั
3. งานประกอบระบบรองรบั
นำ�้หนกั
งานระบบ 1. งานถอดงานระบบบังคับ งานระบบ 1. งานถอดงานระบบบังคับ
บงั คบั เลีย้ ว เลี้ยว บังคับเลีย้ ว เล้ียว
2. งานตรวจสอบงานระบบ 2. งานตรวจสอบงานระบบ
บงั คับเล้ยี ว บังคับเลี้ยว
3. งานประกอบงานระบบ 3. งานประกอบงานระบบ
บังคบั เลี้ยว บังคบั เลยี้ ว
งานระบบ 1. งานถอดงานระบบเบรค งานระบบ 1. งานถอดงานระบบเบรค
เบรค 2. งานตรวจสอบงานระบบ เบรค 2. งานตรวจสอบงานระบบ
เบรค เบรค
3. งานประกอบงานระบบ 3. งานประกอบงานระบบ
เบรค เบรค
งานบริการ 1. งานถอดลอ้ และยาง งานบรกิ าร 1. งานถอดลอ้ และยาง
ลอ้ และยาง 2. งานตรวจสอบลอ้ และยาง ล้อและยาง 2. งานตรวจสอบลอ้ และ
ยาง
3. งานประกอบลอ้ และยาง 3. งานประกอบลอ้ และยาง
งานบํารงุ 1.งานบํารุงรักษาระบบรอง สถานประกอบการไมม่ งี านยอ่ ยท่สี อดคล้อง
รกั ษา รบั นำ�ห้ นกั กบั งานใน รายวชิ า แนวทางแก้ไขคือสถาน
2.งานบํารงุ รกั ษาระบบบงั คบั
เครือ่ งล่าง เลี้ยว ศึกษาจัดสอนเสริม
รถยนต์ 3.งานบํารงุ รกั ษาเบรค
4.งานบํารงุ รกั ษาลอ้ และยาง
46
(4) บันทึกข้อมูลลงในแบบฟอร์ม ฝอ.1 นํารายละเอียดของชื่อตําแหน่งงาน งานหลักและ
งานย่อยมาเขียนลงในแบบฟอร์ม โดยการเลือกงานย่อยท่ีจะใช้ฝึกตลอดหลักสูตรต้องทําข้อตกลงกับ
สถานประกอบการ งานยอ่ ยทเ่ี ลอื กนน้ั จะตอ้ งครอบคลมุ รายการงานหลกั ทกุ งานหลกั ทไ่ี ดจ้ ากการวเิ คราะห์
หลักสูตรรายวิชา อาชีพ และตําแหน่งงาน ท้ังนี้ต้องคํานึงถึงความสําคัญของงานย่อย และความถ่ีใน
การปฏิบัติงานที่จําเป็นในสถานประกอบการ ซ่ึงจํานวนของงานย่อยจะต้องสอดคล้องกับระยะเวลาที่ต้อง
ฝกึ ในหลักสตู ร
การกําหนดรายละเอียดต่างๆ ลงในแบบฟอร์ม ฝอ.1 ทีละช่องจากอาชีพ/ตําแหน่งงาน
งานหลักงานย่อย หลังจากนั้นให้กําหนดรายชื่อของครูฝึก และกําหนดเวลาฝึก ให้คํานวณจากงานย่อย
เปน็ หลัก และต้องตรงกบั ระยะเวลาของการฝึกอาชีพของนักศกึ ษาที่ได้กําหนดไว้ในหลกั สตู ร
แผนการฝึกอาชพี ตลอดหลักสตู ร บริษทั ........................................................................... ฝอ.01
ผูเ้ รียนระบบทวิภาคี วิทยาลยั ........................................................ระดับช้นั ....................สาขาวิชา....................สาขางาน......................
ฝกึ อาชีพปกี ารศกึ ษา................ระหวา่ ง วนั ท่.ี ......เดอื น...................พ.ศ.25....... ถึง วันท่.ี ......เดอื น...................พ.ศ.25....... (........สัปดาห)์
อาชพี / ตำ�แหนง่ งาน งานหลัก งานย่อย ครฝู ึก เวลาฝกึ (ช่วั โมง)
ชา่ งเครื่องล่างรถยนต์ 1. งานถอดระบบรองรบั น้ําหนัก 1.1 งานถอดลกู หมากปีกนก ไพโรจน์ 2
2. งานตรวจสอบระบบรองรับน้าํ หนกั 1.2 งานถอดทอร์ช่ันบาร์ ไพโรจน 2
3. งานประกอบระบบรองรบั นาํ้ หนัก 2.1 งานตรวจสอบลูกหมากปีกนก ไพโรจน 2
2.2 งานตรวจสอบทอร์ชั่นบาร์ ไพโรจน 2
3.1 งานประกอบลูกหมากปกี นก ไพโรจน 2
3.2 งานประกอบทอร์ชน่ั บาร์ ไพโรจน 2
47
3.2.2 การเขียนแผนการฝึกอาชีพรายหนว่ ย (ฝอ.2)
การเขยี นแผนฝกึ อาชพี ตลอดรายหนว่ ย (ฝอ.2) ซง่ึ ตอ้ งดําเนินการโดยสถานประกอบการ
มี ขั้นตอน ดังน้ี
เร่ิม
เตรียมแผนการฝึกอาชพี ตลอดหลักสตู ร (ฝอ.)
เตรียมผงั วเิ คราะห์หลกั สูตรรายวิชา อาชีพ และต�ำ แหนง่ งาน
ศกึ ษา/รวบรวมข้อมลู การเขียนวตั ถปุ ระสงค์เชงิ พฤติกรรม
บันทกึ ข้อมูลลงแบบฟอรม์ ฝอ.2 การเลอื กวธิ กี ารถา่ ยทอด
การเลือกสือ่ การสอน
การวัดและประเมินผลภาคทฤษฎีและภาคปฏบิ ัติ
No ตรวจสอบ ไดแ้ ผนการฝกึ อาชีพ
รายหน่วย (ฝอ.2)
ความถูกต้อง
Yes
สิ้นสดุ
ภาพท่ี ... ข้ันตอนการเขียนแผนการฝกึ อาชีพรายหน่วย (ฝอ.2)
(1) เตรียมแผนการฝกึ อาชีพตลอดหลกั สูตร (ฝอ.1)
(2) เตรียมผังวิเคราะห์หลักสูตรรายวิชา อาชีพ และตําแหน่งงาน แล้วนําข้อมูลจาก
แบบฟอรม์ การฝกึ อาชีพตลอดหลักสตู ร (ฝอ.1) เชน่ ช่อื อาชีพ / ตําแหน่งงาน งานหลกั และงานยอ่ ยทลี ะ
งานย่อย กําหนดลงบนหวั แบบฟอรม์ การฝึกอาชพี รายหน่วย (ฝอ.2) ใหส้ อดคลอ้ งกบั งานหลกั งานย่อย
ในผังวเิ คราะห์อาชพี
(3) ศึกษารวบรวมข้อมูลประกอบไปด้วยข้นั ตอนดังต่อไปนี้
ก) วิเคราะห์งาน หมายถึง การนําเอางาน (Job) มาวิเคราะห์รายละเอียดว่า ในงานน้ันๆ ประกอบ
ด้วยกิจกรรมย่อยหรือข้ันตอนการปฏิบัติงานก่ีข้ันตอน จึงจะสามารถทําให้งานน้ันสําเร็จต้องให้เห็นว่า
เริ่มตรงไหน ? และส้นิ สุด (จบ) ตรงไหน ? วิธตี รวจสอบการวเิ คราะห์งาน คอื เป็นประโยคบอกเลา่ ข้ึนต้น
ดว้ ยคํากริยา และแต่ละขัน้ ตอนต้องมกี ารกระทําเพยี งอย่างเดียว
48
ข) เขยี นจดุ ประสงค์ หรอื วตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรม โดยเขยี นใหค้ รอบคลมุ ขน้ั ตอนการ ปฏบิ ตั งิ าน
ไดแ้ ก่ ขั้นเตรียม ข้นั ปฏิบัตงิ าน ข้ันตรวจสอบผลงาน ขนั้ เก็บเคร่ืองมือ และอุปกรณ์ และขั้นทําความสะอาด
โดยการเขยี นจดุ ประสงค์จะต้องคํานึงถงึ หลกั การเขียน ดงั น้ี
- เปน็ ประโยคบอกเล่า
- ขึน้ ตน้ ดว้ ยคํากริยาตามระดบั ของการเรียนรู้
- มี 3 ส่วนได้แก่ พฤติกรรมหลกั หรือพฤตกิ รรมทีค่ าดหวัง เง่อื นไข และเกณฑ์
- จดุ ประสงค์ 1 ข้อใช้สําหรับการเรียนรู้ 1 อย่าง เมื่อกําหนดจดุ ประสงคห์ รอื วัตถปุ ระสงค์
เชงิ พฤตกิ รรมแลว้ ใหก้ ําหนดรายละเอยี ดในสว่ นของระดบั การ เรยี นรขู้ องนกั ศกึ ษาดว้ ยวา่ เปน็ ดา้ นความรู้
ทกั ษะ และเจตคติ พรอ้ มกบั กําหนดระดับความสามารถดว้ ย ซงึ่ การกําหนดรายละเอยี ด ดงั กลา่ วสามารถ
ศกึ ษาขอ้ มลู จาก หมายเหตใุ ตแ้ บบฟอรม์ การเขยี นแผนการฝกึ อาชพี รายหนว่ ย (ฝอ.2) แบง่ ออกเปน็ 4 ดา้ น
ดังนี้
1. ดา้ นความรู้ (Knowledge) หรอื พุทธพิ สิ ยั (Cognitive Domain)
หมายถงึ วตั ถปุ ระสงคท์ เ่ี นน้ ความสามารถทกั ษะดา้ นสมอง จากการทไ่ี ด้ ฝกึ อบรม หรอื เรยี นมา และ
นําความรู้ ท่มี ีอยไู่ ปใช้คดิ แก้ไขปญั หาต่างๆ ซ่งึ แบง่ ออกเป็น 3 ระดับ จากงา่ ยไปหายาก คอื
1.1 การฟ้ืนคืนความรู้ (Recalled Knowledge) เป็นวัตถุประสงค์ท่ีมุ่งเน้น ความสามารถ
ของผู้เรียน ในลักษณะการฟ้ืนคืนความจําสิ่งต่าง ๆ ที่ได้ประสบมา และสามารถถ่ายทอด ออกมาได้อย่าง
ถกู ต้อง โดยการเขยี น บอก หรอื เล่าเรอ่ื งราวดว้ ยคําพดู เปน็ ตน้
1.2 การประยกุ ต์ความรู้ (Applied Knowledge) เป็นวตั ถปุ ระสงคท์ ม่ี ุ่งเน้น ความสามารถ
ของผู้เรียนในการนําความรู้ไปแก้ปัญหาใหม่ๆ ที่มีลักษณะเช่นเดียวกับส่ิงท่ีได้เคยผ่านการ เรียนรู้หรือ
มปี ระสบการณม์ าแล้วไดอ้ ย่างถูกตอ้ ง โดยการพดู เขยี น แปลความ ขยายความ อธบิ าย เป็นตน้
1.3 การสง่ ถา่ ยความรู้ (Transferred Knowledge) เปน็ วตั ถปุ ระสงคท์ ม่ี งุ่ เนน้ ความสามารถ
ของผเู้ รยี น ในการสง่ ถา่ ยความรู้ไปใช้ในการแกป้ ญั หางานใหมๆ่ ทมี่ ลี กั ษณะแตกตา่ งไปจาก คณุ ลกั ษณะเดมิ
ที่ผ้เู รยี นได้มปี ระสบการณม์ าแล้วได้อยา่ งถูกตอ้ งโดยการวเิ คราะห์ สงั เคราะห์ หรอื ประเมินค่า เปน็ ตน้
2. ทักษะพิสยั (Psychomotor Domain)
หมายถึง วัตถุประสงค์ท่ีมุ่งเน้นความสามารถของผู้เรียนทางด้านทักษะกล้ามเน้ือ โดยแสดง
พฤติกรรมทางอวัยวะต่างๆ ของร่างกายตามรูปแบบที่เคยได้มีประสบการณ์ หรือได้เคยปฏิบัติมาด้วย
ความชํานาญ และถูกตอ้ ง ซงึ่ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดับ คือ
2.1 ข้ันการเลยี นแบบ (Imitation)
2.2 ขนั้ ทําด้วยความถูกต้อง (Control)
2.3 ขนั้ ชํานาญ (Automatism)
3. เจตคติ หรือจติ พิสัย (Affective Domain)
หมายถึง วัตถุประสงค์ที่มุ่งเน้นในดา้ นทักษะความรู้สึก ความสนใจ ความเอาใจใส่ รวมทั้งทัศนคติ
ตา่ งๆ พฤตกิ รรมทีแ่ สดงออกมาในรูปของความพอใจ สามารถแบ่งออกได้เป็น 3 ระดบั คือ
3.1 การยอมรับ (Reception)
3.2 การตอบสนอง (Response)
3.3 ลักษณะนิสัย (Internalization)
49
4. การประยกุ ต์ใช้
หมายถึง ความสามารถของบุคคลท่ีเกิดจากกระบวนการเรียนรู้ การใช้ความรู้ ทักษะทางสังคม
ในการทํางานหรือการศึกษาอบรมเพ่ือการพัฒนาวิชาชีพของบุคคล สามารถแบ่ง ออกเป็น 3 ระดับตาม
ระดับชัน้ ดังนี้
4.1 แก้ปัญหาในการปฏบิ ตั งิ านทร่ี ับผิดชอบ
4.2 ประยกุ ตค์ วามร้แู ละทกั ษะในการแกป้ ญั หางานทีซ่ บั ซ้อน หรือในประเด็นท่ยี ังไมช่ ดั เจน
4.3 วางแผนการแก้ปัญหา การปฏิบัติงานที่ซับซ้อน หรือพัฒนาวิธีการปฏิบัติงานใน
สถานการณ์ท่เี ปล่ียนแปลงตลอดเวลาด้วยกลยทุ ธ์ทหี่ ลากหลาย
คํากรยิ าที่ใช้เขยี นวตั ถปุ ระสงคเ์ ชงิ พฤตกิ รรมทเ่ี หมาะสมกับการเรียนรู้
ประเภทวัตถุประสงค์ ระดับ คํากริ ยิ า ตวั อยา่ ง
วตั ถปุ ระสงค์ พุทธพิ ิสยั ฟื้นคนื ความรู้ บอกคําจํากดั ความ บอกชอ่ื - บอกชอื่ โปรแกรมท่ีใช้ในการนํา
เชงิ พฤติกรรม (Cognitive
Domain) บอกความหมาย จําแนก เสนอขอ้ มลู ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
บรรยาย เลือก แยกประเภท - บอกชอื่ เครอื่ งมอื และอปุ กรณ์
บง่ ช้ี พรรณนาฯลฯ ท่ี ใช้ ในการถอดช่างล่างปีกนก
รถยนต์ได้อย่างถกู ต้อง
ประยกุ ต์ความรู้ อธิบาย คํานวณ เปรียบ - เปรยี บเทยี บความแตกตา่ งของ
เทียบ แปลความ ให้เหตุผล ไฟลภ์ าพ .jpg และ .wmf ได้ อยา่ ง
ส รุปผล จัดลํา ดับ ยก ถูกตอ้ ง
ตวั อย่าง ฯลฯ - อธิบายวิธีการถอดช่วงล่าง
ปีกนกรถยนต์ได้อยา่ งถกู ต้อง
สง่ ถา่ ยความรู้ วิเคราะห์ สังเคราะห์ แก้ไข - วิเคราะห์สาเหตุที่เกิดจากการ
ประเ มินค่า ประเ มินผล ตดิ ไวรสั ของเครอ่ื งคอมพวิ เตอร์
พัฒนา ฯลฯ ได้อยา่ งถกู ต้อง
- ประเมนิ อาการเสยี ของชว่ งลา่ ง
ปีกนกรถยนต์ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
ทักษะพิสยั เลยี นแบบ ปฏิบัติ ถอด ประกอบ ต่อ - แ ทรกภาพตราครุฑลงใน
(Psychomotor วงจร เดินสายไฟวัดขนาด เอกสาร บันทึกข้อความภายใน
ทําดว้ ยความ วาดภาพ (ตามตน้ แบบ) ดว้ ย โปรแกรม Microsoft Word
Domain) ถูกต้อง
2019 ได้อย่างถูกต้อง
ทําดว้ ยความ - ถอดช่วงล่างปีกนกรถยนต์
ชํานาญ ตาม ครูฝึกไดอ้ ย่างถูกต้อง
ปฏิบัติ ถอด ประกอบ ต่อ - ถอดช่วงล่างปีกนกรถยนต์ที่
วงจร เดินสายไฟวัดขนาด กําหนดให้ได้อย่างถกู ต้อง
วาดภาพ (ด้วยตนเอง)
ปรับแต่ง สาธิต วินิจฉัย - สาธิตการถอดลูกหมาก
วเิ คราะห์ สังเคราะห์ ปีกนกได้อย่างถกู ตอ้ ง
50
ประเภทวตั ถุประสงค์ ระดบั คาํ กริ ิยา ตัวอยา่ ง
วตั ถปุ ระสงค์ เชิง จติ พสิ ัย ยอมรับ เหน็ ด้วย ยอมรับ - ยอมรับกฎระเบียบการใช้ห้อง
พฤตกิ รรม (Affective ตอบสนอง ปฏบิ ตั ิการคอมพวิ เตอร์ได้
Domain)
ตดิ ตาม ปฏิบัตติ าม เขา้ รว่ ม - ปฏิบัติตามกฎระเบียบการใช้
กิจกรรม ห้องปฏบิ ตั ิการคอมพวิ เตอร์ได้
- ทําความสะอาดพื้นที่ปฏิบัติ
งานถอดช่วงล่างปีกนกตาม
ขอ้ ตกลง ไดอ้ ยา่ งถกู ต้อง
ลักษณะนสิ ยั ตระหนกั ปฏบิ ัติเป็นประจํา - ปฏบิ ตั กิ ารทําความสะอาดพนื้ ที่
ปฏิบัติงานบํารุงรักษารถยนต์
เป็นประจําได้
การประยกุ ต์ใช้ แกป้ ญั หาใน การ แกป้ ญั หา วิเคราะห์ - แก้ปัญหาการปฏิบัติการถอด
(Apply) ปฏิบตั ิงาน ทีร่ ับ ลูกหมากนกได้อยา่ งถูกตอ้ ง
ผดิ ชอบ
ประยกุ ต์ ความรู้ ประยกุ ต์ สรา้ งสรรค์ พฒั นา - ประยกุ ต์ใชเ้ ทคนคิ การถอดลูก
และ ทกั ษะในการ หมากปีกนกที่ฝึกเพ่ือถอดลูก
แกป้ ญั หางาน ท่ี หมากปีกนกรถชนิดอ่ืนได้อย่าง
ซบั ซ้อน หรอื ใน ถกู ต้อง
ประเด็นทยี่ ัง ไม่
ชดั เจน
วางแผนการ วางแผนจัดระบบ - วางแผนการปฏบิ ตั ิงานเพอ่ื ลด
แก้ปัญหา การ ปญั หาในการปฏบิ ตั งิ านถอดลกู
ปฏิบตั งิ านท่ี ซบั หมากปกี นกไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง
ซอ้ น หรือ พฒั นา
วิธกี าร ปฏิบัตงิ าน
ใน สถานการณ์
ที่ เปลีย่ นแปลง
ตลอดเวลาด้วย
กลยุทธท์ ่ี หลาก
หลาย
หมายเหตุ : คํากิรยิ าท่ไี ม่ควรนํามาใช้ในการเขียนวัตถปุ ระสงค์เชิงพฤติกรรม คอื รู้ เชือ่ เขา้ ใจ พอใจ ซาบซ้ึง
ทราบ คุ้นเคย ชอบ จํา สนใจ สํานกึ เป็นต้น เนอ่ื งจากไมส่ ามารถวดั พฤติกรรมโดยตรงได้