ชุดฝกึ ทกั ษะ เรือ่ งทักษะทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 ก
ชุดที่ 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
คำนำ
ชุดฝกึ ทักษะ เรอ่ื งทักษะทศั นศลิ ป์ สำหรับนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 โรงเรยี น
คณะราษฎรบำรงุ จงั หวดั ยะลา จัดทำขนึ้ เพื่อเปน็ นวัตกรรมที่ใชป้ ระกอบการจัดกิจกรรมการ
เรียนรู้ รายวิชาทศั นศิลป์ ศ 22101 ภาคเรียนท่ี 1 ปีการศึกษา 2565 กลมุ่ สาระการเรยี นรู้ศิลปะ
ชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 2 เพ่ือพฒั นาคุณภาพผเู้ รียนใหส้ อดคล้องกับสมรรถนะสำคญั ตามหลักสตู ร
แกนกลางการศึกษาขน้ั พื้นฐาน 2551 โดยเน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ และการปฏบิ ตั จิ ริง ผ่าน
กระบวนการกลมุ่ ซง่ึ ครูผสู้ อนทำหนา้ ที่ให้คำแนะนำตลอดการจัดการเรยี นรู้
ผ้จู ัดทำได้สรา้ งชดุ ฝกึ ทักษะเพ่ือใหน้ ักเรยี นสามารถเรยี นรู้ได้ด้วยตนเอง โดยได้วิเคราะห์หลกั สูตร
มาตรฐานการเรยี นรู/้ ตัวชว้ี ดั ตลอดจนการกำหนดสาระการเรยี นรู้ ทัง้ นี้ผ้เู รียนจำเป็นตอ้ งศกึ ษา
ขั้นตอนการใชช้ ดุ ฝึกทักษะก่อนลงมือทำใบงานท่ีกำหนดไว้ในชุดฝึกทักษะ เรอ่ื งทักษะทัศนศลิ ป์
จำนวน 4 ชุด ดงั นี้
ชดุ ที่ 1 เรอื่ ง รปู แบบทัศนธาตุและแนวคิดในงานทัศนศิลป์
ชดุ ท่ี 2 เร่ือง รูปแบบการใชว้ สั ดุ อุปกรณ์ในงานทัศนศลิ ป์ของศิลปนิ
ชดุ ท่ี 3 เรอื่ ง การวาดภาพส่ือความหมายและเรอ่ื งราว
ชดุ ที่ 4 เรอ่ื ง การวาดภาพถ่ายทอดบุคลกิ ลักษณะตวั ละคร
ผ้จู ดั ทำหวังเป็นอยา่ งย่งิ ว่า ชุดฝึกทักษะ เรอ่ื งทักษะทัศนศลิ ป์ จะเปน็ ประโยชนต์ ่อครู
และนักเรียนตลอดจนถงึ ผู้ทสี่ นใจท่วั ไป ทำให้การจดั กิจกรรมการเรียนรสู้ ่งผลให้สาระทัศนศลิ ป์มี
ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรยี นทีส่ ูงข้ึน ขอขอบคุณผมู้ ีส่วนเก่ยี วข้องทุกทา่ น ที่ทำให้ชุดฝึกทักษะนส้ี ำเรจ็
ดว้ ยดี
โสพิศ ชาตพิ นั ธุ์
ชดุ ฝกึ ทกั ษะ เร่อื งทกั ษะทศั นศิลป์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 ข
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคิดในงานทศั นศิลป์
สำรบญั
เรื่อง หนา้
คำนำ ก
สารบัญ ข
สารบญั ภาพ ค
ข้ันตอนการเรียน 1
คำแนะนำสำหรับครู 2
คำแนะนำสำหรบั นกั เรียน 3
สาระ/มาตรฐานการเรียนรู้/ตัวชีว้ ัด 4
สาระสำคัญ/สาระการเรยี นรู้/จุดประสงค์การเรียนรู้ 5
แบบทดสอบกอ่ นเรยี น 6
กระดาษคำตอบแบบทดสอบก่อนเรียน 8
ใบความรู้ เรื่อง รปู แบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทัศนศิลป์ 9
ใบงานท่ี 1 เร่ือง การสร้างสรรคท์ ศั นธาตุ 30
ใบงานท่ี 2 เร่ือง พ้ืนฐานการรบั รู้ 31
ใบงานที่ 3 เรอ่ื ง ทัศนธาตใุ นทัศนศิลป์ 32
ใบงานที่ 4 เรอื่ ง เอกภาพของทศั นธาตุ 33
ใบงานท่ี 5 เรือ่ ง วเิ คราะห์แนวคดิ ทัศนศิลป์ศิลปิน 34
แบบทดสอบหลังเรยี น 35
กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลงั เรยี น 37
ชุดฝึกทกั ษะ เร่อื งทกั ษะทัศนศลิ ป์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ค
ชุดที่ 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศิลป์
สำรบญั (ต่อ)
เร่ือง หนา้
บรรณานกุ รม 38
ภาคผนวก 39
40
เฉลยแบบทดสอบก่อนเรยี น 41
แนวการตอบในงานท่ี 1 42
แนวการตอบในงานที่ 2 43
แนวการตอบในงานที่ 3 44
แนวการตอบในงานท่ี 4 45
แนวการตอบในงานที่ 5 46
เฉลยแบบทดสอบหลังเรยี น 47
เกณฑ์การประเมนิ การทำแบบทดสอบหลงั เรยี น 48
เกณฑ์การประเมินการทำใบงานแบบฝกึ ทักษะ 49
ประวตั ิผู้จดั ทำ 50
ตัวอยา่ งผลงานนกั เรยี น
ชดุ ฝกึ ทักษะ เรื่องทักษะทัศนศิลป์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 ง
ชุดท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
สำรบญั ภำพ
ภาพที่ หนา้
1 พ้นื ฐานการรบั รู้ 10
2-3 การรบั ร้ทู างการมองเห็น 11
4-7 ทฤษฎีการเหน็ (Visual Theory) 13
8 "A Sunday Afternoon on the Island of La Grande Jatte" 15
9-16 รูปแบบของทัศนธาตุ 16
17 เอกภาพของสี 24
18 กระท่อม (COTTAGES) (ค.ศ. 1890) 29
19 ภาพห่นุ นงิ่ (Still Life) (ค.ศ.๑๘๗๙) 45
ชดุ ฝึกทกั ษะ เร่อื งทกั ษะทัศนศิลป์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 1
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทศั นธาตแุ ละแนวคิดในงานทศั นศิลป์
ชุดฝกึ ทกั ษะ เรื่องทักษะทัศนศิลป์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 2
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
คำแนะนำสำหรับครผู ้สู อน
ชุดฝกึ ทกั ษะ ชุดท่ี 1 เรือ่ ง รปู แบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์ชดุ นี้ เปน็ ส่วนหนึ่ง
ของนวัตกรรมประกอบการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ เพือ่ พัฒนาทักษะทางดา้ นทศั นศิลปเ์ พื่อการโฆษณา
สำหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวดั ยะลา เปน็ กจิ กรรมท่ีครผู ู้สอน
มอบหมายใหน้ ักเรยี นไดฝ้ กึ ฝนด้วยตนเองจนเกดิ ความชำนาญ ดังน้ันเพ่ือให้เกิดประสิทธิภาพในการจดั
กจิ กรรมการเรยี นรู้ ใหค้ รูผ้สู อนปฏิบตั ิตามคำแนะนำดังต่อไปน้ี
1. ชุดฝกึ ทักษะ ชุดที่ 1 เร่ือง รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทศั นศลิ ป์ชุดน้ี เป็น
นวตั กรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรยี นรทู้ ่ีครผู สู้ อนมอบหมายใหน้ ักเรียนไดฝ้ กึ ฝนดว้ ยตนเองจนเกิด
ความชำนาญ
2. ครูผ้สู อนควรจดั กิจกรรมการเรยี นร้ตู ามแผนการจดั การเรียนรู้ควบคู่กบั การนำชดุ ฝึกทักษะชุดที่
1 เร่อื งงานทัศนศิลป์ในการโฆษณาไปใช้กับนกั เรียน
3. ครูผู้สอนควรช้แี จงจุดประสงค์ในการเรียนรู้ และบอกให้นักเรยี นทราบถงึ วิธกี ารเรียนด้วยชดุ ฝึก
ทกั ษะ ชดุ ท่ี 1 เร่ืองรูปแบบทศั นธาตุและแนวคดิ ในงานทศั นศลิ ป์ กอ่ นใหน้ ักเรยี นลงมือปฏบิ ัติ
4. จดั บรรยากาศในชั้นเรียนให้เหมาะสม
5. ใหน้ กั เรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน ก่อนทำใบงาน
6. ใหน้ ักเรียนศึกษาใบความรู้ใหเ้ ขา้ ใจก่อนทำใบงาน
7. ในระหว่างท่นี ักเรียนทำกิจกรรมครูผสู้ อนควรดูแลนักเรยี นและใหค้ ำแนะนำอย่างใกลช้ ิด สงั เกต
พฤติกรรมนกั เรยี น กระตุน้ เสริมแรงนักเรียนอยเู่ สมอ และบันทึกผลการทำใบงานภายในชุดฝึกทักษะ
8. เม่ือนักเรยี นทำใบงานเสรจ็ ครูควรใหน้ ักเรียนรว่ มกนั เฉลยคำตอบและอธิบายเพ่ิมเติม ชื่นชม
นกั เรยี นที่ให้ความรว่ มมือในการใชช้ ดุ ฝกึ ทุกครั้ง
9. ใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรยี น หลงั จากทำใบงานเสร็จ
10 .ตรวจผลงานการทำชุดฝกึ ทักษะ ชดุ ที่ 1 เรื่องงานทัศนศลิ ปใ์ นการโฆษณา และบันทึกคะแนน
หลังเรยี น เพอื่ สังเกตพัฒนาการของนักเรียนทกุ ครั้ง
ชดุ ฝึกทกั ษะ เรอื่ งทักษะทศั นศลิ ป์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีที่ 2 3
ชุดที่ 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
คำแนะนำสำหรบั นักเรียน
ชุดฝึกทักษะ ชุดที่ 1 เร่อื ง รปู แบบทัศนธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์ชุดน้ี เป็นสว่ นหน่ึง
ของนวัตกรรมประกอบการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ เพ่ือพัฒนาทักษะทางด้านการจัดองค์ประกอบ
ศิลป์สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 โรงเรียนคณะราษฎรบำรุง จังหวัดยะลา เป็นกิจกรรมท่ี
ครูผู้สอนมอบหมายให้นักเรียนได้ฝึกฝนด้วยตนเองจนเกิดความชำนาญ ดังนั้นเพื่อให้เกิด
ประสิทธภิ าพในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ให้นักเรียนปฏิบตั ติ ามคำแนะนำดังต่อไปน้ี
1. อ่านคำแนะนำการใช้ชุดฝึกทักษะ ชุดท่ี 1 เร่ือง รูปแบบทัศนธาตุและแนวคิดในงาน
ทัศนศิลป์
2. ศึกษาและทำความเข้าใจมาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชี้วัด สาระสำคัญ สาระการเรียนรู้
และจุดประสงคก์ ารเรียนรู้
3. ทำแบบทดสอบก่อนเรียน
4. ศึกษาใบความรู้ใหเ้ ขา้ ใจก่อนทำใบงาน
5. ให้นักเรยี นทำแบบทดสอบก่อนเรียน กอ่ นทำใบงาน
6. ลงมือใช้ชดุ ฝกึ ทกั ษะ ชุดท่ี 1 เรื่อง รปู แบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์ให้เสร็จ
ทีละกิจกรรม
7. เม่ือนักเรียนเกิดข้อสงสัย มีปัญหาเก่ียวกับการทำใบงานในชุดฝึกทักษะ ชุดท่ี 1 เร่ือง
รูปแบบทัศนธาตุและแนวคิดในงานทศั นศิลป์ใหน้ ักเรียนสอบถามจากครผู สู้ อนทนั ที
8. เมื่อนักเรียนทำใบงานครบ ควรแลกเปล่ียนความรู้ และร่วมกันเฉลยคำตอบพร้อมกับ
เพือ่ นในช้นั เรยี น ฟังครูอธิบายเพ่มิ เตมิ
9. ทำแบบทดสอบหลังเรยี น
10.ส่งผลงานการทำชุดฝึกทักษะ ชุดที่ 1 เร่ือง รูปแบบทัศนธาตุและแนวคิดในงาน
ทศั นศิลป์เพือ่ ใหค้ รตู รวจและบนั ทกึ คะแนน
11.ในระหวา่ งทำใบงานนักเรียนควรใหค้ วามร่วมมอื ตัง้ ใจ และตรงตอ่ เวลาเสมอ
ชุดฝกึ ทักษะ เร่อื งทักษะทัศนศลิ ป์ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 4
ชุดที่ 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
สาระ/มาตรฐานการเรียนรู/้ ตวั ช้วี ัด
สาระท่ี 1 ทัศนศิลป์
มาตรฐานการเรียนรู้
มาตรฐาน ศ 1.1สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ตามจินตนาการ และความคิดสร้างสรรค์
วิเคราะห์ วิพากษ์ วิจารณ์คุณค่างานทัศนศิลป์ ถ่ายทอดความรู้สึก ความคิดต่องาน
อยา่ งอิสระ ชน่ื ชม และประยกุ ตใ์ ชใ้ นชวี ิตประจำวัน
ตวั ช้วี ัด
ศ 1.1 ม.2/1 อภิปรายเก่ียวกับทัศนธาตุ ในดา้ นรปู แบบ และแนวคิดของงานทัศนศลิ ป์
ทีเ่ ลอื กมา
ชุดฝึกทกั ษะ เร่อื งทกั ษะทัศนศลิ ป์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 5
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
สาระสำคัญ/สาระการเรียนรู/้ จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
สาระสำคญั
ผลงานทัศนศิลป์ท่ีถูกสร้างสรรค์ข้ึนมานั้น เกิดจากท่ีศิลปินนำเอาทัศนธาตุต่าง ๆ มาจัดวาง
ประสานกันอย่างลงตัวตามหลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยเหตุท่ีทัศนธาตุแต่ละอย่างก็จะมีรูปแบบ
คุณสมบัติแตกต่างกัน ดังน้ัน ผู้สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ จึงต้องรู้จักวิเคราะห์ เลือกใช้ทัศนธาตุแต่ละอย่าง
ให้เหมาะสม การศกึ ษาเรยี นรเู้ กย่ี วกบั การวิเคราะห์รูปแบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์ จะชว่ ยทำให้
ผ้เู รียนสรา้ งสรรค์ผลงานทัศนศลิ ป์ได้อย่างถูกต้อง ตามหลกั การ มคี วามงดงาม และนา่ ประทบั ใจ
สาระการเรยี นรู้
1. ความร้เู ก่ียวกบั ทัศนธาตุ
2. พืน้ ฐานการรับรู้
3. รปู แบบทัศนธาตใุ นงานทัศนศิลป์
4. แนวคิดในงานทัศนศิลป์
5. ตัวอยา่ งการวเิ คราะห์ทศั นธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
6. วเิ คราะหท์ ศั นธาตุและแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ความรู้ความเข้าใจเก่ียวกับความรู้เกีย่ วกบั ทศั นธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์ (K2)
2. สามารถรบั ร้หู ลกั การปฏิบัติที่ถกู ต้องเกย่ี วกับรปู แบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทัศนศิลป์(P1)
3. การมเี จตคติที่ดี การเหน็ คุณค่าของงาน และการเรียนอยา่ งมีความสุข (A3)
ชุดฝกึ ทักษะ เร่อื งทกั ษะทศั นศลิ ป์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 6
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศลิ ป์
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
เรอื่ งทกั ษะทศั นศลิ ป์
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศิลป์
คำชแ้ี จง 1. แบบทดสอบก่อนเรยี นมีจำนวน 10 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน 2. ให้เลอื กคำตอบทถ่ี ูกต้อง
ที่สดุ เพยี งข้อเดียวโดยทำเคร่อื งหมายกากบาท ( x ) ในช่องข้อ ก, ข, ค, หรอื ง ในกระดาษคำตอบ
1. ข้อใดคือความหมายของทัศนธาตุ ข. ส่วนประกอบของการได้ยิน
ก. สว่ นประกอบของการสมั ผัส ง. สว่ นประกอบของการได้กลิ่น
ค. ส่วนประกอบของการมองเห็น
2. ขอ้ ใดคือความหมายของการรบั รู้การเห็น (Seeing)
ก. การรับรูร้ ายละเอยี ดของส่ิงน้นั ๆ
ข. การรับรู้เพ่ือบรรลุวัตถุประสงคน์ ั้นๆ
ค. การรับรูโ้ ดยการสอดรูส้ อดเห็น
ง. การรับรอู้ ย่างไมเ่ ป็นทางการ
3. ข้อใดไม่ใช่ทฤษฎกี ารเหน็ ข. การเห็นสมดุลและกลมกลืน
ก. การเหน็ รปู และพื้น ง. การเหน็ ตำแหน่งและสดั ส่วน
ค. การเหน็ แสงและเงา
4. การนำองคร์ ูปแบบของทัศนธาตุมาออกแบบงานทัศนศิลป์สำคัญอย่างไร
ก. เพอื่ ความหรหู ราและดูแพง
ข. เพื่อความสวยงาม
ค. เพ่อื ความน่าสนใจและจูงใจผ้ชู ม
ง. เพอ่ื เพม่ิ คุณค่าของงาน
5. ขอ้ ใดไมไ่ ด้อยใู่ นรูปแบบของทศั นธาตุ ข. สี (Color)
ก. พืน้ ผิว (Texture) ง. จดุ เดน่ (Emphasis)
ค. พนื้ ทว่ี ่าง (Space)
ชุดฝกึ ทักษะ เรอื่ งทักษะทัศนศิลป์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 7
ชุดที่ 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคดิ ในงานทศั นศลิ ป์
6. จากภาพทัศนธาตุรปู แบบใดไม่มีในภาพ
ก. จุด (Point) ข. เสน้ (Line)
ค. รูปรา่ ง – รูปทรง (Shape and Form) ง. สี (Color)
7. จากภาพเป็นเอกภาพในทัศนธาตรุ ปู แบบใด
ก. การใช้รปู ร่างรูปทรงแบบขัดแย้งกนั
ข. การใชน้ ำ้ หนกั แบบขัดแย้งกัน
ค. การใชเ้ ส้นแบบขดั แย้งกนั
ง. การใช้สแี บบขัดแยง้ กนั
8. หลักการวิเคราะห์แนวคิดในการสร้างสรรคผ์ ลงานทัศนศิลป์ข้อใดสำคญั เปน็ อันดบั แรก
ก. วเิ คราะหจ์ ดุ มงุ่ หมาย
ข. วเิ คราะห์รูปแบบและรปู ทรง
ค. วิเคราะห์การใช้วัสดุและเทคนิค
ง. วิเคราะห์แนวคิดในการถ่ายทอดอดตี และปัจจุบัน
9. ขอ้ ใดคือศิลปินทสี่ ร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ชื่อดัง
ก. ลโี อนาโด ดีคาปริโอ
ข. บาโบล ปกิ ซั โซ
ค. นโี ออาร์มสตรอง ไซโคลนเจต็ อาร์มตรอง
ง. ชารล์ ส์ ดาร์วิน
10. ข้อใดเป็นสีตรงข้ามของสนี ำ้ เงนิ ข. สีแดง
ก. สีม่วง ง. สีส้ม
ค. สีเหลือง
ชุดฝกึ ทกั ษะ เร่อื งทักษะทัศนศิลป์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 8
ชุดที่ 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทัศนศิลป์
กระดาษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เร่อื งทกั ษะทัศนศิลป์
ชุดท่ี 1 รปู แบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศิลป์
ช่ือ-สกลุ …………………………………………………………………………..ชนั้ …………………..…….เลขท่…ี ……………
ข้อ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
คะแนนท่ไี ด้
ชุดฝึกทกั ษะ เรอ่ื งทักษะทัศนศิลป์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 9
ชุดท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทศั นศิลป์
ใบความรู้
เรอ่ื ง รปู แบบทศั นธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
1. ความรูเ้ กี่ยวกบั ทัศนธาตุ
ทัศนธาตุ (Visual Element) หมายถึงส่วนประกอบของการมองเห็น หรือสิ่งที่เป็นปัจจัยของ
การมองเห็นในผลงานทัศนศิลป์ อันประกอบไปด้วยจุดเส้น รูปร่าง รูปทรง น้ำหนักอ่อน - แก่ พ้ืนท่ีว่าง
พน้ื ผิว และสี ซ่ึงเป็นสื่อด้านสุนทรียภาพทศี่ ิลปินนำมาใช้สรา้ งสรรค์ผลงาน เพื่อสื่อความหมายตามแนวคิด
โดยนำทัศนธาตุดังกลา่ วมาประกอบ หรือประสานใหเ้ ข้ากัน จนเป็นอันหน่ึงอันเดียวและเกิดการรวมตัวกัน
อย่างสมบูรณ์โดยอาศัยหลกั เกณฑ์ความเปน็ เอกภาพ ความกลมกลืน และความสมดลุ
ในการสร้างสรรค์ผลงาน ศิลปินอาจใช้ทัศนธาตุอย่างใดอย่างหนึ่ง หรือหลายอย่างรวมกัน แต่ในความเป็น
จรงิ แล้ว แมศ้ ลิ ปินจะใช้เพียงทศั นธาตเุ ดียวในการสรา้ งสรรคผ์ ลงาน ทัศนธาตุอน่ื ๆ กจ็ ะปรากฏขึน้ เอง เช่น เมอื่ ใชเ้ ส้น
วาดรูปทรงข้ึนช้ินหน่ึง จะเกิดพื้นท่วี ่างและรปู รา่ งขึ้นพร้อมกับเสน้ และเมื่อใช้สีระบายลงในรูปทรงท่ีใช้เส้นวาด ทัศน
ธาตอุ ื่นกจ็ ะปรากฏข้ึนมาด้วย โดยมีทัง้ เส้นที่เป็นขอบเขตของรูปทรง สี พ้ืนท่ีวา่ ง นำ้ หนักอ่อน - แก่ แม้แต่สที ่ีระบาย
ลงไปก็จะปรากฏใหเ้ ห็นในลกั ษณะหยาบ หรือละเอียด มนั หรือด้าน เปน็ ต้น
ดังนั้น จึงกล่าวได้ว่าผลงานทัศนศิลป์จะมีทัศนธาตุเป็นองค์ประกอบสำคัญ กล่าวคือ เมื่อมีรูปทรงของงาน
ทศั นศลิ ป์ปรากฏข้ึน ทัศนธาตุท้ังหลายจะประสานและรวมตัวกันอยใู่ นงานทัศนศิลป์นนั้ อย่างครบถ้วน ดังนั้นหากจะ
ทำการวิเคราะห์รูปแบบของทัศนธาตุในงานทัศนศิลป์ จึงจำเป็นต้องแยกทัศนธาตุออกเป็นอย่างๆ เพ่ือให้ง่ายต่อ
การศึกษาวิเคราะห์ รวมท้ังจะได้เข้าใจแนวความคิดและวัตถุประสงค์ของศิลปินในการเลือกรูปแบบทัศนธาตุมา
สร้างสรรคผ์ ลงานทศั นศลิ ป์ชนิ้ น้นั
ชุดฝกึ ทกั ษะ เรื่องทกั ษะทัศนศิลป์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 10
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทศั นศลิ ป์
การได้รับชมและสัมผัสกับงานที่เป็นต้นแบบ จะช่วยให้ผู้ชมเข้าใจ
เนื้อหา เทคนิค และวิธีการสร้างสรรค์ผลงานของศิลปินได้ดีย่ิงข้ึน
เอกภาพของงานทัศนศลิ ป์ชนิ้ นนั้
https://twitter.com/artofth/status/1374195050347786240
2. พนื้ ฐานการรบั รู้
เราเคยสงั เกตเหน็ นกจำนวนมากมาเกาะสายไฟฟ้าเป็นแนวยาวริมถนน ถึงแม้ว่ารถจะวิ่งผา่ นไปผ่านมาท้ัง
ความเร็วและเสียงเครื่องยนต์ท่ีดัง นกเหล่านั้นก็ยังเกาะสายไฟน่ิง และส่งเสียงร้องจ้อกแจ้กจอแจ ไม่ได้เกิดความ
ตกใจแต่อย่างใด นี่คือ การเรียนรขู้ องนก ซงึ่ ในช่วงแรกๆ นกฝงู แรกเม่ือบินมาเกาะสายไฟ นกเหล่านั้นคงตกใจและ
บินหนีทุกคร้ังท่ีมีรถวิ่งผ่าน แต่พอนานเข้า นกจะค่อยๆ เรียนรู้ว่าไม่มีอันตรายใดๆ เกิดขึ้นจากรถ จึงเลิกบินหนี
ถึงแม้ว่าจะมีรถว่ิงผ่านไปมาก็ตาม สำหรับนกตัวอื่นๆ ท่ีบินเข้ามาสมทบภายหลัง ก็จะค่อยๆ เรียนรู้พฤติกรรมของ
นกรุ่นกอ่ นๆ เมอ่ื นกรนุ่ ก่อนอยนู่ ิง่ มนั ก็จะนงิ่ ตาม
แต่ส่วนการรับร้ขู องมนุษย์ มีมาต้ังแต่กำเนิด หรอื ท่เี รียกกันว่า "สัญชาตญาณ" ซ่งึ เป็นพฤติกรรมธรรมชาติ
โดยไม่ต้องมีการเรียนรู้มาก่อน เช่น เมื่อมีส่ิงใดส่ิงหน่ึงพุ่งตรงมาใกล้นัยน์ตา ตาจะกะพริบ หรือเมื่อมือไปถูกของร้อน
เราก็จะชักมือออกเป็นตัน ลักษณะเช่นน้ีถือเป็นการรับรู้ที่เป็นสัญชาตญาณของมนุษย์ เพื่อให้ตนเองรอดพ้นจาก
อันตราย
มนุษย์มีความรับรู้ต่อธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแตกต่างกันไป ซ่ึงการรับรเู้ กิดข้ึนจากประสาทสัมผัสแต่ใน
ด้านของความคิดและความเข้าใจยังเป็นสิ่งท่ีถูกต้องบ้างและไม่ถูกต้องบ้าง จนกว่ามนุษย์จะได้รับรู้ต่อส่ิงเดียวกัน
หลายๆ ครง้ั จนเกดิ การเรียนรตู้ อ่ ส่ิงเหลา่ นน้ั ซึง่ หลงั จากเรยี นรู้ก็จะสามารถวิเคราะห์ จำแนก และแยกแยะส่ิงต่าง ๆ
ได้อย่างชัดเจนมากขึ้น จากนั้นก็จะถ่ายทอดประสบการณ์ผ่านทางกระบวนการเรียนรู้และอบรมส่ังสอนสำหรับ
พ้นื ฐานทางการรบั ร้ขู องมนุษย์ สามารถแบ่งออกได้เป็น ๒ ลกั ษณะใหญ่ ๆ ดังน้ี
ชุดฝกึ ทักษะ เรือ่ งทกั ษะทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 11
ชุดที่ 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคดิ ในงานทศั นศิลป์
2.1 การรบั รทู้ างการมองเหน็
การรับรู้ทางการมองเห็น คือ การรบั ร้ทู ีเ่ กิดจากจักษุสัมผสั ซ่ึงเป็นการรบั รู้ท่ีมีประสิทธิภาพสูงสดุ
เมือ่ เทยี บกับการรับร้ผู า่ นประสาทสมั ผสั ด้านการได้ยิน ดา้ นกายสมั ผัส และดา้ นรสสัมผสั มนษุ ย์สามารถ
รบั รไู้ ดจ้ ากมองเห็น โดยใชน้ ยั น์ตาเปน็ อวยั วะรับภาพและมีสมองทำหน้าทีแ่ ปลความหมายของภาพที่ไดร้ ับ
การมองเห็น ซงึ่ การรบั รู้จากการมองเหน็ ในทางจิตวทิ ยา สามารถแบ่งออกได้ ๒ ลักษณะ ดงั น้ี
การมองเพื่อบรรลุวตั ถุประสงค์ มองผ่านตาโดย 1) การมอง (Looking) เป็นอาการของ
ไมส่ งั เกตรายละเอียดของสงิ่ ที่มอง มนุษ ย์ที่กระทำโดยไม่ได้มีความตั้งใจ
https://www.sanook.com/travel/1424741 แน่นอน แต่เป็นไปเพื่อให้บรรลุวตั ถุประสงค์
/ อย่างหน่ึงในขณะนั้น เช่น เวลาเราเดินข้าม
ถนน เป้าหมายของเราเป็นฝ่ังตรงขา้ มซึ่งเรา
2) การเห็น (Seeing) เป็นกระบวนการรับรู้ จะต้องข้ามไป ดังน้ัน เราก็จะมองดูให้แน่ใจ
ด้วยประสาทสัมผัสทางตา ซึ่งสามารถจะ ว่าไม่มีรถวิ่งผ่านมา ถนนว่าง แล้วเราจึงเดิน
บอกรายละเอียดสงิ่ ทีเ่ ห็นได้ ผู้เรียนคงเคยได้ ข้าม นั่นคือ วัตถุประสงค์หลักของการมอง
ยินประโยดท่ีว่า "มองไปท่ีภาพวาดภาพนั้น ซึ่งการมองในลักษณะนี้ ผู้มองจะไม่ใส่ใจว่า
แล้วบอกด้วยว่าเห็นอะไรบ้าง" การกล่าว รถที่ผ่านหน้าไปมีสีอะไร เป็นรถประเภทใด
เช่นน้ีช่วยทำให้เราแยกความแตกต่างของ หรือมีคนน่ังทั้งส้ินก่ีคน เราจะไม่เก็บข้อมูล
การมองกับการเห็นได้ชัดเจนข้ึน การเห็นมี เหล่านี้ไว้ นอกจากรู้ว่ามีรถผ่านไป การมอง
กระบวนการเก็บข้อมูลของสมองไปตาม ลักษณะนถ้ี ือเปน็ การมองแบบธรรมดา
ระดับการเห็น โดยอาจเป็นการเห็นแบบ
ธรรมดาท่ีไม่มีรายละเอียดมากนัก ไปจนถึง การเหน็ เพื่อสงั เกตถึงรายละเอยี ดของสง่ิ ทเี่ หน็
เห็นความสัมพันธ์ท่ีเช่ือมโยงกัน อันเป็น เพื่อให้สามารถระบลุ กั ษณะได้
ระดับการเห็นที่มีความทะลุปรุโปร่งมีความ https://www.winnews.tv/news/19928
ละเอยี ดลกึ ซ้ึง
ชุดฝึกทักษะ เรือ่ งทกั ษะทัศนศลิ ป์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 12
ชุดท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
การศกึ ษาเก่ียวกับศิลปะการมองเหน็ ผู้เรียนต้องพยายามสั่งสมประสบการณ์ทางการเห็นให้มาก
ขึ้นด้วยการฝึกสังเกตจากสิ่งรอบๆ ตัวอย่างพินิจพิเคราะห์โดยอาจเร่ิมต้นจากมองงานทัศนศิลป์ชิ้นใดชิ้น
หนึ่งเป็นภาพรวมก่อน แล้วจึงมองแบบจำแนกและแยกแยะหาองคป์ ระกอบของภาพ เช่น ความสมดุลของ
รูปทรง หรือน้ำหนักอ่อน - แก่ของสี ความกลมกลืน ความเป็นรายละเอียดของเส้น สี แสง -เงา พ้ืนที่ว่าง
รูปทรง ตลอดจนลักษณะพ้ืนผิว ซ่ึงทั้งหมดเป็นรายละเอียดของภาพ ก็จะทำให้เราเห็นถึงความสัมพันธ์
เชื่อมโยงกันของรูปแบบทัศนธาตุที่ปรากฏอยู่ในรูปทรงของภาพ การมองเห็นเช่นนี้ถือเป็นข้อมูลสำคัญที่
ช่วยให้ผู้เรียนสามารถศึกษาวิเคราะห์ตัวผลงานทัศนศิลป์ รูปแบบของทัศนธาตุ ที่ต้องการส่ือตามแนวคิด
ของศลิ ปินผู้สร้างไดง้ ่ายข้ึน
2.2 ทฤษฎีการเหน็ (Visual Theory)
การรับรู้การเหน็ ของมนษุ ย์ ถือเป็นกระบวนการทางธรรมชาติ โดยเป็นเรอ่ื งของจกั ษสุ ัมผัสทม่ี ี
ความ สัมพันธ์กับประสบการณ์ท่ีแต่ละบุคคลได้เคยผ่านพบมา หรือเป็นสิ่งเร้าภายนอก ทำให้เกิดการ
รับรู้ภาพท่ีปรากฎใน ลักษณะท่ีแตกต่างกันออกไป ซึ่งสามารถอธิบายเก่ียวกับ ทฤษฎีการเห็น ได้ 4
ประการ ดังน้ี การเห็นรูปและพ้ืน (Figure and Ground) การเห็นแสงและเงา (Light and Shadow)
การเหน็ ตำแหนง่ และสัดสว่ น (Position and Proportion) และการเหน็ ความเคล่อื นไหว (Motion)
หลักการท้ัง 4 ประการดังกล่าว เปรียบเสมือน ข้อสรุปเก่ียวกับการเห็นส่ิงต่าง ๆ รอบตัวเรา
ซง่ึ มีพื้นฐาน มาจากแรงกระต้นุ หรอื เป็นสิ่งเร้าภายนอก โดยทั่วไป การรบั รู้ทางการเห็น จะเกิดจากการ
ประทับใจกับสิ่งที่เห็นภาพท่ีปรากฏในจักษุสัมผัสจะส่งผ่านไปยังสมองซ่ึงจะเกิดการรับรู้เช่น เห็นตึกสูง
ตัดกับท้องฟ้ายามตะวันใกล้ตกดิน เห็นและเข้าใจแตกต่างกันออกไปตามประสบการณ์ของแต่ละบุคคล
ดอกไม้กำลังเบง่ บานรบั แสงอาทติ ย์ยามรุ่งอรุณ เป็นตน้ ท้ังน้ี การรบั รู้ทางการเห็นของมนุษย์ยอ่ มมคี วาม
แตกตา่ งกันไป เช่น คน 2 คนมองเห็นงานประติมากรรมชิ้นเดียวกันแต่อาจจะอธิบายออกมาแตกต่างกัน
ได้เพราะต่างก็มองชิ้นงานน้ันแล้ววิเคราะห์ตีความไปตามประสบการณ์เดิมของตน ซ่ึงย่อมมีไม่เท่ากัน
ทฤษฎกี ารเหน็ มีรายละเอียดสงั เขป ดงั นี้
ชุดฝกึ ทักษะ เรือ่ งทักษะทัศนศิลป์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 13
ชุดท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
https://m.facebook.com/ArtFanpage77/posts/190 1) การเหน็ รปู และพน้ื
4525703129077/ เป็นองค์ประกอบแรกท่ีมนุษย์มองเห็น ถ้าเป็น
2) การเห็นแสงและเงา ภาพจากธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมเม่ือเรามองเห็น
เป็นการรับรู้ หรือมองเห็นวัตถุ เนื่องจากบริเวณ วัตถใุ ดวัตถุหนึง่ เราจะสามารถรบั รไู้ ด้เปน็ อนั ดับแรก
พร้อมๆ กันท้ังรูปและพื้นหลัง โดยมีวัตถุเป็นรูปทรง
ท่ีวัตถุต้ังอยู่มีแสงสว่าง ส่องกระทบเข้ามา ถ้าไม่มี และบริเวณรอบๆ เป็นพ้ืนแต่จะเห็นส่วนใดเป็น
แสงสว่างก็จะไม่มีน้ำหนักความเข้มปรากฏอยู่บนตัว รูปทรงของวัตถุและส่วนใดเป็นพ้ืนน้ัน ซ่ึงภาพบาง
วัตถุ หรือถ้ามีแสงสว่างเท่ากันรอบวัตถุ ทุกด้าน ภาพ หรือช้ินงานศิลปะบางชิ้น เราอาจมองเห็น
ความเข้มของแสงและงาก็จะลดน้อยลง ดังน้ัน รปู ทรงเพ่งมองและให้ความสำคัญกับบริเวณใดของ
คุณค่าของแสงและเงาจึงมีอิทธิพลต่อรูปทรงของ ภาพ กับพื้นสลบั กับการมองเหน็ ของอีกคนหน่ึงก็ได้
วัตถุ ซึ่งการเห็นแสงและเงาจะเกิดข้ึนพร้อมๆ กับ ส่วนภาพเหมือนจริง หรือภาพสัญลักษณ์ที่ต้องการ
การเหน็ รปู ทรง ขนาด สี และพ้นื ผิวของวัตถุ จะ ความชัดเจน จะต้องทำให้รปู ทรงมีความเด่นชัด
แล้วลดความเด่นของส่วนพื้นลงไป เพื่อให้สามารถ
อย่างไรก็ตาม แสงท่ีตกกระทบลงบนวัตถุจะมี ระบุ ส่ิงใดเป็นรูปทรงและสิ่งใดเป็นพื้นอสารให้เกิด
ลักษณะและความเข้มของแสงแตกต่างกัน ซ่ึงจะมี บุได้ง่ายว่า
อิทธิพลต่อความรู้สึกและการรับรู้ทางการเห็น ทำให้
เกิดอารมณ์ความรู้สึกต่างๆ เช่น สงบเงียบ นุ่มนวล https://sites.google.com/site/ar5216680412/shade
เร้าใจเป็นต้น -shadow?
ชุดฝึกทกั ษะ เรื่องทกั ษะทัศนศลิ ป์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 2 14
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
https://nl.pinterest.com/pin/349169777329314042/ 3) การเห็นความเคลื่อนไหว
เป็นการรับรู้หรือมองเห็น เน่ืองจากวัตถุมีการ
4) การเห็นตำแหนง่ และสดั สว่ น
เป็นลักษณะการรับรู้ หรือมองเห็นวัตถุตาม เค ลื่อ น ไห ว ห รือ ตั วเราเป็ น ผู้ ท ำให้ เกิ ด การ
เคล่ือนไหวเอง ในกรณีที่วัตถุเคล่ือนไหวเราจะ
ระยะห่างของการมอง คือ ถ้าเราอยู่ใกล้วัตถุก็จะ มองเห็นเป็นการเคลื่อนท่ีท่ีแสดงออกมาในลักษณะ
สามารถมองเห็นวัตถไุ ด้ชัดและเห็นรายละเอียดมาก ท่ีรวดเร็ว หรือเชื่องช้า เห็นทิศทาง จังหวะการ
ข้ึน แต่ถ้าอยู่ไกลก็จะมองเห็นวัตถุไม่ชัดเจน หรือ เคล่ือนไหวของวัตถุ แต่ถ้าตัวเราเป็นผู้เคล่ือนไหว
เม่ือเรามองวัตถุช้ินเดียวกันในระยะใกล้จะเห็นว่ามี เอง เราจะเห็นภาพของวัตถุมีการเปล่ียนขนาดและ
ขนาดใหญ่กว่าเม่ือมองในระยะไกล การเห็นใน รูปทรงไปตามมุม หรือทศิ ทางทเ่ี ราเคลือ่ นไหว
ลักษณะนี้จะมีความสัมพันธ์กับการพิจารณาวาด
สัดส่วนของรูปทรงในผลงานทัศนศิลป์ โดยเฉพาะ ท้ังน้ี ถ้าเราบันทึกความเคลื่อนไหวในแต่ละ
ผลงานภาพวาดประเภทตามแบบ ลักษณ ะไว้เป็นภาพถ่าย วีดีทัศน์ ก็จะเห็นถึง
ความสัมพันธ์ของรูปแบบ รูปร่าง รูปทรงของวัตถุท่ี
นอกจากน้ี ตำแหน่งและสัดส่วนของวัตถุยังมี ปรบั เปล่ียนไปได้ เถาทอง เป็นผลงานภาพพิมพ์ท่นี ำ
ความเกี่ยวข้องกับความใกล้ - ไกล ความชัดเจน หลกั ของแสงเงามาใชส้ ร้างงาน
ความพร่ำามัวอีกด้วย อันเป็นผลของความสัมพันธ์
ระหว่างระยะของตัวเราต่อการเห็นวัตถุ ดังน้ัน ใน http://www.thaischool.in.th/_files_school/101062
การวาดภาพจึงต้องกำหนดมิติและระยะภาพท่ี 50/data/10106250_1_20170127-133324.pdf
แสดงความสัมพันธ์ใหม้ ีความถูกต้อง ก็จะช่วยให้เรา
สามารถถ่ายทอดผลงานออกมา
ชุดฝกึ ทักษะ เรื่องทักษะทัศนศิลป์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 15
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทศั นศลิ ป์
3. รูปแบบทศั นธาตุในงานทศั นศิลป์
ในการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ศิลปินจำเป็นต้องนำเอาองค์ประกอบของทัศนธาตุมาใช้ในการ
ออกแบบซ่งึ ผลงานทศั นศิลป์ หรืองานออกแบบทีม่ ีการจัดวางอย่างถกู ต้องตามหลกั การนั้น จะทำให้ผลงานมี
ความน่าสนใจ และจูงใจผู้ชม เนื่องจากมีความเหมาะสมลงตัวท้ังจังหวะ การเคล่ือนไหว และจุดสนใจ แต่
การจะเลอื กใชท้ ศั นธาตุไดอ้ ย่างเหมาะสม เรากค็ วรรู้จักวเิ คราะหท์ ศั นธาตทุ จี่ ะนำมาใช้ดว้ ย
"A Sunday Afternoon on the Island of La Grande Jatte"
(ค.ศ, ๑๘๘๔) ผลงานของชอร์ช ปแิ ยร์ เซอราต์
ทม่ี า : https://jamienunnally.com/index.php/2019/08/26/connect-the-dots/
ชดุ ฝึกทกั ษะ เรื่องทักษะทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 16
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตแุ ละแนวคิดในงานทศั นศิลป์
3.1 รูปแบบของทศั นธาตุ
ทัศนธาตุ (Visual Element) เป็นส่วนประกอบสำคัญท่ีเป็นโครงสร้างของงานทัศนศิลป์
หรือที่ปรากฎในงานออกแบบ หรือหมายถึง สง่ิ ที่เป็นปัจจัย หรือส่วนประกอบสำคัญในผลงาน
ซง่ึ เราสามารถจะเหน็ ได้เปน็ เบอ้ื งตนั อันประกอบไปดว้ ยส่งิ ต่างๆ ดงั นี้
1) จุด (Point, Dot) เป็นทัศนธาตุอันดับแรก ไม่มีมิติ
แต่เมื่อนำมาเรียงร้อยต่อกัน จะทำให้เกิดเป็น เส้น และถ้า
นำจุดหลายๆ จุดมารวมกลุ่มกันอย่างหนาแนน่ ก็จะเกดิ เป็น
รูปร่าง หรือการรวมกันของจุดท่ีมนี ้ำหนักและปริมาตรก็จะ
เกดิ รปู ทรงต่างๆ ขนึ้
2) เส้น (Line) เป็นทัศนธาตุที่สำคัญที่สุดในทางศิลปะ
เพราะเป็นแกนของงานทัศนศิลป์ทุกแขนงและเป็นพื้นฐาน
โครงสร้างของส่ิงต่างๆ ที่ทำให้เกิดอารมณ์ความรู้สึกแก่ผู้ชม
ทั้งน้ี เส้นจะมีคุณค่าทางด้านกายภาพโดยเป็นส่ิงที่ช่วยบ่ง
บอกถึงขนาด ลักษณะ และทิศทางเส้นข้ันต้นจะมี ๒
ลักษณะ ได้แก่ เส้นตรงและเส้นโค้ง ส่วนเส้นลักษณะอ่ืนๆ
ล้วนเกิดจากการประกอบกันของเส้นตรงและเส้นโค้งท้ังส้ิน
เช่น เส้นหยักฟันปลา เกิดจากการนำเส้นตรงมาประกอบกัน
เปน็ ตัน
ท่มี า : 1. https://shopee.co.th/.98121997.3643849343
2. https://sites.google.com/site/programgraphicsjirat01/
ชุดฝึกทักษะ เร่ืองทักษะทศั นศลิ ป์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 17
ชุดท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทศั นศิลป์
3) รูปร่างและรูปทรง (Shape and Form) เป็น
รูปธรรมของการแสดงออกเพ่ือส่ือความหมายในงาน
ทัศนศิลป์ โดยทั่วไปคำ ๒ คำนี้มักจะใช้คู่กัน เพราะมี
ความหมายใกล้เคียงกัน แต่ในทางทัศนศิลป์จะมี
ความหมายแตกต่างกัน ดังนี้
รูปร่าง เป็นภาพ ๒ มิติ คือ มีความกว้างและความ
ยาว มีเน้ือที่ภายในเส้นขอบเขต เช่น ลากเส้นเป็นรูป
วงกลม เนื้อท่ีภายในเส้นรอบวง คือ รูปร่าง มีลักษณะ ๒
มติ ิ โดยเปรยี บได้กบั วัตถทุ มี่ ลี ักษณะเปน็ แผน่ กลม
รูปทรง เป็นภาพ ๓ มิติ คือ มีความกว้าง ความยาว
ความหนา เน้ือท่ี และปริมาตร มีการก่อรูปรวมตัวกันขึ้น
เป็นผลงานทัศนศิลป์ เช่น ประติมากรรมลอยตัว
จิตรกรรมเหมอื นจรงิ ท่มี รี ะยะใกล้ - ไกล เปน็ ต้น
4) น้ำหนักอ่อน - แก่ (Tone) บริเวณท่ีถูกแสงสว่าง
และบริเวณที่เป็นเงาของวัตถุ หรือการระบายสีให้มีผล
เป็นความอ่อน - แก่ของสีใดสีหนึ่ง หรือหลายสีหรือเป็น
บริเวณที่มีสีขาว สีเทา และสีดำในความเข้มระดับต่างๆ
ท่ีปรากฎอยู่ในงานทัศนศิลปั ซึ่งน้ำหนักท่ีใช้ตามลักษณะ
ของแสง - เงาท่ีมีในธรรมชาติ จะทำให้เกิดปริมาตรของ
รูปทรง ให้ความรู้สึกและอารมณ์ต่อน้ำหนักอ่อน- แก่ ที่
รบั รู้
ท่มี า : 1. https://bkkentweek.com/image-collection/
2. http://www.digitalschool.club/digitalschool/art/art4_1/lesson1/web7.php
ชุดฝึกทักษะ เรอ่ื งทักษะทัศนศิลป์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 2 18
ชุดท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
5) พ้ืนท่ีว่าง (Space) ที่ว่างจะอยู่คู่กับ
รูปทรง โดยเป็นคู่ที่มีความหมายตรงข้ามกัน
หรือขัดแย้งกันกับรูปทรง แตก่ ็มสี ่วนชว่ ยทำให้
รูปทรงมีความเด่นชัดมากขึ้น ความหมายของ
คำว่าท่ีว่างมีอยู่หลายประการเช่น อากาศที่
โอบล้อมรูปทรง ระยะห่างระหว่างรูปทรงหรือ
ทีเ่ รียกวา่ "ชอ่ งไฟ" เป็นตน้
6) พ้ืนผิว (Texture) คือ ลักษณะพ้ืนผิว
ของสิ่งต่างๆ เช่น ผิวหยาบ ด้าน มัน ละเอียด
เนียน"เส่ือขบม้าคืนฝนดาวตก" ผลงานของ
ถวัลย์ ดัชนี ที่ใช้น้ำหนักของสีขาว - ดำ พื้นที่
วา่ งสร้างสรรค์ผลงานออกมาอย่างมีพลงั ขรขุ ระ
ริ้วรอย เป็นต้น พ้ืนผิวจะมีผลต่อการรับรู้จาก
การมองเห็น ซ่ึงพื้นผิวของงานทัศนศิลป์มีท้ัง
พื้นผิวตามธรรมชาติและพื้นผิวท่ีเกิดจากการ
กระทำของศิลปินเช่น งานแกะสลักพื้นผิวไม้
เป็นลวดลาย หรือเป็นภาพเป็นต้น ส่วนพื้นผิว
ในภาพวาดนั้นอาจเป็นพ้ืนผิวของเน้ือสีเน้ือ
กระดาษ หรอื ผนื แผน่ วัสดกุ ็ได้
ท่มี า : 1. http://www.thaischool1.in.th/_files_school/10105761/workteacher/
2. https://elfar.ssru.ac.th/nawaporn_sr/pluginfile.php/33/block_
ชดุ ฝกึ ทกั ษะ เรื่องทักษะทัศนศิลป์ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 19
ชุดท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
7) สี (Color) มีคุณลักษณะเฉพาะ
ข อ ง ทั ศ น ธ า ตุ ทั้ ง ห ล า ย ร ว ม อ ยู่ อ ย่ า ง
ครบถ้วน เช่น จุด เส้นน้ำหนักอ่อน - แก่
พ้ืนผิว เป็นต้น นอกจากน้ีแล้วสียังมี
คุณสมบัติของตัวเอง ในเร่ืองความเข้ม
หรือระดับสีโดยจะมีลักษณะเฉพาะตัว ที่
ให้ความรู้สึกทั้งในด้านดีและไม่ดีตาม
ลั ก ษ ณ ะ ข อ ง สี แ ต่ ล ะ สี แ ล ะ อ า จ
เปล่ียนแปลงไปตามวัฒนธรรมของแต่ละ
ประเทศ หรือแต่ละภูมิภาค เช่นสีแดง
ชาวตะวันออกมีความเชื่อว่าเป็นสีแห่ง
ความสุขเป็นสิริมงคล แต่ชาวตะวันตกมี
ค ว า ม เชื่ อ ว่ า เป็ น สี ท่ี แ ส ด ง ถึ ง ค ว า ม ไ ม่
ปลอดภัย ให้ความรู้สึกท่ีน่ากลัว ทำให้
จิตใจไม่สงบ เป็นต้น สีจึงช่วยทำให้ผู้พบ
เหน็ เกิดการรบั รู้ สามารถจำแนกแยกแยะ
ทศั นธาตุอ่ืนๆ ไดง้ ่าย
ท่มี า : 1. http://color011.blogspot.com/2013/09/blog-post.html
2. https://sites.google.com/site/krusornsil/sara-thasn-silp/thasn-thatu/si/Color_B9.
ชดุ ฝึกทกั ษะ เรือ่ งทกั ษะทัศนศลิ ป์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 20
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทศั นธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทศั นศิลป์
3.2 หลักการวเิ คราะห์ทัศนธาตุในงานทัศนศลิ ป์
การวิเคราะห์ทศั นธาตุในด้านรูปแบบ เปน็ การพิจารณาว่าศลิ ปนิ ผู้สรา้ งสรรคง์ านทัศนศิลป์
ชิ้นนั้น ได้มีการนำรูปแบบทัศนธาตุใดมาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานของตน ซึ่งการวิเคราะห์ทัศน
ธาตุมิใช่มองแค่รูปแบบของทัศนธาตุท่ีนำมาใช้ในงานเพียงอย่างเดียว แต่หลักการวิเคราะห์จะต้อง
มองความเป็นเอกภาพของทศั นธาตุที่ศลิ ปินนำมาใชด้ ้วย
การสร้างงานทัตนศิลป์ เปน็ การนำเอาทัศนธาตุต่างๆ มาประกอบกนั เพอ่ื ให้เกิดรูปทรงที่
มีความเป็นเอกภาพมีความสอดคล้องกบั จุดม่งุ หมายทีต่ ้องการแสดงออก รวมท้ังประกอบด้วยความ
สมดุลของลักษณะท่ีมีความชัดแย้งหรือตรงกันข้าม ความสมดุลของการซ้ำ การประสานของทัศน
ธาตุตา่ ง! รวมท้ังการจดั วางสตั ส่วนและจังหวะทีเ่ หมาะสมในการสรา้ งรปู ทรง โดยอาจใช้ทัศนธาตใุ ด
เพยี งหน่ึงเดียวก็ได้ แต่ท่วั ไปศิลปนิ จะเลือกใชท้ ัศนธาตุหลายๆอย่างรวมกนั โดยมีทศั นธาตุบางอย่าง
เป็นจุดเด่นและทัศนธาตุอ่ืนเป็นจดุ รอง เช่น ใช้สเี ปน็ จุดเด่น ใช้เส้นเปน็ จดุ รองหรือใชเ้ ส้นเปน็ จุดเด่น
ใชส้ เี ปน็ จดุ รอง เปน็ ตน้
ท้ังน้ี เราจะวิเคราะห์ทัศนธาตุในผลงานทัตนศิลป์ตามท่ีสายตาเรามองเห็น โดยพิจารณา
จากความเป็นเอกภาพ อันหมายถึง ความสัมพันธ์ต่อเนื่องของส่วนประกอบต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นจุด
เสน้ รูปร่าง รูปทรง นำ้ หนักอ่อน - แก่ พ้ืนที่ว่าง พน้ื ผวิ สี มวล และปริมาตร โดยส่ิงเหล่านี้จะตอ้ งมี
ความสัมพันธ์ต่อเนื่องกันเป็นอย่างดี แต่ถ้าเราให้สิ่งดังกล่าวแข่งกันแสดงจุดเด่น ก็ย่อมเป็นการ
ทำลายความเป็นเอกภาพ ซง่ึ ส่วนประกอบสำคัญของความเป็นเอกภาพ มีดงั น้ี
ศลิ ปะไม่มถี กู ผดิ หรอก มีแค่ความคิด
สรา้ งสรรคท์ ่มี ากพอเทา่ นน้ั เอง
ชดุ ฝกึ ทักษะ เรือ่ งทักษะทศั นศิลป์ ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 21
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศลิ ป์
1) เอกภาพของเส้น เส้น คือ จุดจำนวนมากท่ีนำมาเรียงติดต่อเชื่อมโยงกัน ดังน้ัน การใช้เส้นในงาน
ทศั นศลิ ป์จะต้องคำนงึ ถึงความเปน็ เอกภาพดว้ ย ซง่ึ ลักษณะของความเป็นเอกภาพของเส้น มดี ังนี้
1.1) การใชเ้ สน้ แบบขัดแยง้ เส้นจะมลี กั ษณะ ทศิ ทาง และขนาดที่แตกต่างกนั เช่น เส้นตรงจะมี
ลักษณะขัดแย้งกับเส้นโค้ง เส้นที่มีทิศทางตั้งจะขัดแย้งกับเส้นที่มีทิศทางนอน เป็นตัน ซึ่งการใช้เส้นแบบ
ขัดแย้งให้มีเอกภาพสามารถทำได้โดยนำเส้นท่ีมีลักษณะ ทิศทาง และขนาดที่แตกต่างกันมาใช้ร่วมกัน เพื่อให้
ผลงานทศั นศิลปน์ นั้ เกิดความสมดุ
1.2) การใช้เส้นแบบประสาน เส้นจะมีลักษณะทิศทางและขนาดท่ีซ้ำกัน ซ่ึงสามารถมองเห็นการ
เคล่ือนไหวและจังหวะท่ีเกิดขึ้นได้ ซ่ึงการไร้เส้นให้เกิดเอกภาพอย่างสมบูรณ์นั้น จะต้องนำเส้นแบบขัดแย้งและ
แบบประสานมาประกอบกนั โดยมจี งั หวะของการซ้ำในสัดสว่ นทพี่ อเหมาะ ซึ่งจะทำให้ภาพมีจดุ เดน่
ชดุ ฝึกทักษะ เร่ืองทักษะทัศนศลิ ป์ ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 22
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
2) เอกภาพของรูปร่างและรูปทรง รูปร่างและรูปทรงเป็นทัศนธาตุหลักของการรับรู้ ทังน้ี รูปร่างและ
รูปทรงในงานทัศนศิลป์จะมีหลายลักษณะ เม่ือเราจะนำมาประกอบกัน ผู้สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์จะต้องพิจารณา
ถึงการจัดให้เกิดเอกภาพด้วยการทำซ้ำ การเปลี่ยนแปลงขนาดและทิศทาง ซ่ึงลักษณะของความเป็นเอกภาพของ
รปู รา่ งและรูปทรง มดี งั น้ี
2.1) การใช้รูปร่างและรูปทรงแบบขัดแย้ง คือ การใช้ลักษณะของรูปร่างและรปู ทรงที่แตกต่างกนั เช่น
แตกต่างกันทางความกว้าง ความแคบ ความใหญ่ ความกลม ความเหล่ียม ความเรยี บงา่ ย ความซับซอ้ น เปน็ ต้น
2.2) การใช้รูปร่างและรูปทรงแบบประสาน เป็นการนำรูปร่างและรูปทรงท่ีมีรูปแบบเหมือนกันมาซ้ำ
ลงในงาน เพ่ือให้เกิดความเป็นเอกภาพขึ้น โดยการซ้ำกันของรปู ร่างและรูปทรงจะมีความเป็นเอกภาพอยู่ ถึงแม้ว่า
จะมีการเปล่ียนแปลงขนาดและทิศทางก็ตาม แต่ถ้าใช้รูปร่าง หรือรูปทรงแบบขัดแย้งมาผสมกับแบบประสาน จะ
ทำให้มคี วามเป็นเอกภาพมากขน้ึ และชว่ ยให้เราสามารถกำหนดจุดเด่นของผลงานได้ง่าย
ชุดฝึกทักษะ เร่ืองทักษะทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 2 23
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศิลป์
3) เอกภาพของที่ว่าง ในที่น้ีความหมายของท่ีว่าง คือ อากาศท่ีโอบล้อมรูปทรงและระยะห่างระหว่าง
รูปร่างและรูปทรง หรือท่ีเรียกกันว่า "ช่องไฟ" ซึ่งจะขัดแย้ง หรือประสานกันก็ได้ ดวามเป็นเอกภาพจะเกิดได้ก็
ต่อเม่ือพ้ืนที่ว่างกับรูปร่างและรูปทรงมีสัดส่วนท่ีพอเหมาะ มีพ้ืนท่ีท่ีเกิดจากระยะห่างระหว่างรูปร่างและรูปทรงมี
การจดั วางอย่างเหมาะสมลงตัว
4) เอกภาพของน้ำหนักอ่อน - แก่ วิธีการใช้น้ำหนักอ่อน - แก่ให้มีเอกภาพ คือ การใช้น้ำหนักอ่อน - แก่
ของสดี ำและสขี าว ซงึ่ ลักษณะของความเป็นเอกภาพของน้ำหนักอ่อน - แก่ มีดงั นี้
4.1) การใช้น้ำหนักแบบขัดแย้ง คือ การตัดกันของสีดำกับสีขาว เป็นการขัดแย้งกันอย่างมากของ
นำ้ หนัก สว่ นการตัดกนั ของสเี ทาแก่กบั สขี าว หรือสเี ทาออ่ นกับสดี ำ เป็นการตัดกันท่ีน้อยกว่าของนำ้ หนกั
4.2) การใช้น้ำหนักแบบประสาน คือ การใช้น้ำหนักของสีดำกระจายไปบนพ้ืนท่ีว่างสีขาว จะได้
เอกภาพของน้ำหนักแบบการซ้ำ และเม่ือเราใช้สเี ทาแก่ หรอื สเี ทาอ่อนเช่ือมประสานกันก็จะเกิดความเป็นเอกภาพ
มากข้นึ
ชุดฝึกทักษะ เรอื่ งทักษะทศั นศลิ ป์ ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 24
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคดิ ในงานทศั นศลิ ป์
5) เอกภาพของพ้ืนผวิ คือ คุณลักษณะของพ้ืนวัตถุในงานทัศนศิลป์และงานออกแบบท่สี ามารถรับรู้ได้ด้วย
ตา ลกั ษณะพื้นผวิ จะปรากฏอยูใ่ นเสน้ น้ำหนกั อ่อน - แก่ และสี ซ่ึงจะช่วยเน้นทัศนธาตอุ ่ืนๆ ให้มคี วามโดดเด่นมาก
ข้ึนลักษณะพ้ืนผิวในงานทัศนศิลป์ มีทั้งแบบท่ีขัดแย้งกันและแบบประสานกัน ถ้าใช้ลักษณะพ้ืนผิวแบบขัดแย้ง ก็
ต้องกำหนดพ้ืนผิวของสิ่งต่างๆ ใหต้ ัดกัน เชน่ ความหยาบกับความละเอยี ด ความขรขุ ระกบั ความเรียบความมันกับ
ความดา้ น เป็นตน้
6) เอกภาพของสี สีมีคุณลักษณะพิเศษนอกเหนือไปจากทัศนธาตุอ่ืน ๒ ประการ คือ ความเป็นสี
(Hue)เช่น ความเป็นสีแดง ความเป็นสีเหลือง เป็นต้น และความเข้มจัดของสี (Intensity) ดังนั้น การใช้สีให้มี
เอกภาพจงึ ต้องคำนงึ ถึงคณุ ลักษณะพิเศษทั้ง ๒ ประการน้ีดว้ ย ซ่ึงลักษณะของความเปน็ เอกภาพของสี มดี งั นี้
6.1) การใช้สีแบบขัดแย้ง การขัดแย้งของสีจะมีความเด่นชัดกว่าความขัดแย้งของทัศนธาตุอื่นทั้งนี้ สคี ู่
ตรงข้ามในวงสีธรรมชาติเป็นสีท่ีตัดกันอยู่แล้วส่วนการตัดกันของสีท่ีไม่ใช่คู่ตรงข้ามในวงสีธรรมชาติถ้าเป็นการตัด
กันของสีที่มีความจัดมาก จะมีความขัดแย้งกันมากกว่าสีท่ีมีความจัดน้อย และยิ่งสีหม่นลงเท่าใดความขัดแย้งก็จะ
ยงิ่ ลดลงมากข้นึ จนกลายเป็นความกลมกลนื กันในท่สี ดุ
6.2) การใช้สีแบบประสาน การใช้สีสีเดียว โดยมีน้ำหนักอ่อน - แก่ เป็นการใช้สีแบบประสานซึ่งมี
วิธีการง่ายๆ คือ เลือกใช้สีที่มีน้ำหนักใกล้เดียงกันในวงสีธรรมชาติ หรือใช้สีที่มีความหม่นเท่าๆ กัน ก็จะทำให้
ผลงานดปู ระสานกลมกลืน
ทีม่ า : http://beenoii.blogspot.com/2014/07/blog-post_50.htm
ชุดฝกึ ทักษะ เรอื่ งทักษะทศั นศิลป์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 25
ชุดท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
4. แนวคิดในงานทศั นธาตุ
การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ เป็นการสร้างสรรค์งานที่เกิดข้ึนเฉพาะสังคมมนุษย์เท่านั้น เป็น
ความต้องการที่จะสร้างชน้ิ งานใหม่ ผลงานใหม่ที่มใิ ชก่ ารเลียนแบบ ศิลปินต้องใชค้ วามคิดในการแก้ปัญหา
ออกแบบ และถ่ายทอดความรู้สึกนึกคิดท่ีมีต่อธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมให้ปรากฏในงานทัศนศิลป์ โดย
อาศยั การรบั รู้ จินตนาการและประสบการณเ์ ฉพาะของตน ดงั นนั้ การวิเคราะหแ์ นวคดิ ในงานทัศนศิลป์ จึง
ตอ้ งวิเคราะห์แนวคดิ ท่ศี ิลปินใชใ้ นการสร้างสรรค์ผลงาน
4.1 แนวคิดในการสรา้ งสรรคผ์ ลงานทัศนศิลป์
การสร้างสรรค์ผลงานมีส่วนสำคัญต่อมนุษยชาติ เพราะผลงานที่เกิดจากการสร้างสรรค์ช่วยทำให้มนุษย์
สามารถพฒั นาตนเอง พัฒนาสงั คม และพัฒนาประเทศชาติได้ แต่การสร้างสรรค์ผลงานใดๆ ก็ตาม ถ้าขาดแนวคิด
และกระบวนการ ก็ไม่สามารถบรรลุวัตถุประสงค์ท่ีตั้งไว้ได้ ดังนั้น แนวคิดจึงเป็นหัวใจของการทำงานและกำหนด
แนวทางปฏบิ ตั ิ รวมถงึ แนวทางการแก้ปัญหาทอี่ าจจะเกดิ ข้นึ จากการทำงานน้นั พร้อมๆ กนั ไปดว้ ย
ทั้งนี้ การสร้างสรรค์ผลงานศิลปะของมนุษย์ในแต่ละคร้ัง ย่อมเกิดจากสิ่งเร้า หรือแรงบันดาลใจอาจจะเป็น
ภายนอก หรือภายในก็ได้ ซ่ึงถ้าได้รับแรงบันดาลใจจากภายนอก รูปแบบของงานศิลปะท่ีถ่ายทอดออกมาจะมี
ลักษณะท่ีเป็นรูปธรรม (Realistic) แต่ถ้าเป็นผลงานที่เกิดจากแรงบันดาลใจภายใน รูปแบบของงานศิลปะก็จะมี
ลักษณะเป็นนามธรรม (Abstract Art) และหากได้รับแรงบันดาลใจทง้ั ภายนอกและภายใน รูปแบบของานศิลปะท่ี
ถ่ายทอดออกมาก็จะมีลักษณะเป็นก่ึงนามธรรม(Semi Abstract) ซึ่งหลักการวิเคราะห์แนวคิดในการสร้างสรรค์
ผลงานทศั นศิลป์ มดี ังน้ี
ชุดฝึกทกั ษะ เร่ืองทักษะทศั นศลิ ป์ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 26
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทศั นธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทศั นศลิ ป์
1) วัตถุประสงค์ของผลงานนน้ั อย่างละเอยี ด เพ่อื ผลงานทศั นศิลป์ ในวตั ถุประสงค์ของผลงาน ผู้สร้างสรรค์
งานทัศนศิลป์จะต้องสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ท่ีต้ังไว้ เช่น สถาปนิกจะทำการออกแบบอาคารหอศิลป์ ก็จะต้องรู้
วัตถปุ ระสงค์ของงานท่ีต้องการสรา้ งว่าตอ้ งมสี ่วนทีแ่ สดงผลงาน พน้ื ท่ีสำหรบั แสดงนทิ รรศการถาวรและนิทรรศการ
หมุนเวียนนอกจากนี้ต้องคำนึงถึงการออกแบบส่วนท่ีใช้เป็นที่สัมมนาสำหรับศิลปิน หรือประชาชนท่ัวไป และ
อาจจะต้องมีห้องสำหรับเป็นเวทีการแสดงด้วย เป็นต้น เง่ือนไขดังกล่าวเป็นส่ิงท่ีสถาปนิกต้องศึกษาเพ่ือนำมาใช้
เป็นแนวคิดในการออกแบบอาคารใหม้ คี วามสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ หรือการออกแบบพาณชิ ยศิลป์ ก็ต้องเขา้ ใจ
วัตถุประสงค์ว่าต้องการส่ือถึงผู้บริโภคเพื่อหวังการขายสินค้า จึงต้องเข้าใจกลุ่มเป้าหมายเพ่ือจะได้ออกแบบให้เข้า
กับรสนิยมและความสนใจของผบู้ ริโภคกลุ่มนัน้
2) ในเทคนิคการทำงาน หรือกลวธิ ีในการสร้างสรรค์ผลงานแขนงต่างๆ ซึ่งต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน
เพราะแต่ละงานจะใช้เครื่องมือ วัสดุ และกระบวนการทำงานที่มีความแตกต่างกันออกไป ดังนั้นการศึกษาแนวคิด
ของศิลปีนด้านเทคนิคการทำงานน้ันเราจะต้องวิเคราะห์การตัดสินใจเลือกเทคนิคของศิลปินซ่ึงอาจเลือกตาม
รปู แบบของงาน หรอื ตามความถนัดความสนใจ โดยสังเกตจากความเหมาะสมของวัสดุกับช้ินงาน การใช้เคร่ืองมือ
ในการปฏิบัติ และการใช้กระบวนการ หรือขั้นตอนการปฏิบัติ ซึ่งจะแตกต่างกันไปตามลักษณะของแต่ละชิ้นงาน
เช่น การวาดภาพสีนำ้ โปสเตอร์ สนี ้ำมันก็จะมีเทดนิค หรอื ข้นั ตอนในการวาดท่แี ตกต่างกนั เปน็ ตน้
3) ในคุณค่าทางสุนทรียภาพ ผู้วิเคราะห์ควรที่จะต้องมีความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับสุนทรียภาพซึ่งแนว
ทางการพิจารณาจะเกีย่ วข้องกับการวิเคราะห์รปู แบบทัศนธาตุท่ีใช้ในงานทัศนศลิ ปนี ั้น เช่น จุด เส้นรูปร่าง รูปทรง
นำ้ หนักอ่อน - แก่ พ้ืนท่ีว่าง พื้นผิวและสี ตลอดจนส่ิงตา่ งๆ ทแี่ สดงออกถึงแนวคิด วิธีการในการสรา้ งสรรค์ผลงาน
ทศั นศลิ ป์ช้ินดังกล่าวของศลิ ปิน
ชดุ ฝึกทักษะ เรือ่ งทกั ษะทัศนศลิ ป์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 27
ชุดที่ 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคดิ ในงานทศั นศิลป์
4.2 หลักการวเิ คราะห์แนวคิดในงานทศั นศิลป์
การวเิ คราะห์แนวคดิ จะกระทำได้หลงั จากที่ศลิ ปนิ ได้สร้างสรรค์ผลงานทศั นศิลป์เสรจ็ สมบูรณ์
แล้วเป็นการมอง หรือการรับรู้ในส่ิงท่ีศิลปนิ ถ่ายทอดออกมาไม่ว่าจะเป็นด้านรูปแบบ จุดมุ่งหมายของ
งาน การใช้วัสดุและเทคนิค ล้วนปรากฎให้เห็นในผลงานทัศนศิลป์น้ันๆซ่ึงหลักการสำคัญที่เก่ียวข้อง
กับการวเิ คราะหแ์ นวคิดในผลงานทัศนศลิ ป์ มีดงั น้ี
1) วเิ คราะห์จุดมุ่งหมาย การทำงานย่อมต้องมจี ุดมุ่งหมาย ซ่ึงการศึกษาเง่ือนไขและจดุ มุ่งหมายของกรสร้าง
งาน ย่อมช่วยให้ทราบแนวทางของศิลปินในการสร้างสรรค์ผลงานให้บรรลุผลสำเร็จ เนื่องจากการทำงานแต่ละ
ประเภทจะมีวิธีการท่ีเป็นลักษณะเฉพาะ เช่นภาพวาดป่าใหญ่และภูเขา ศิลปินมีจุดมุ่งหมายต้องการศึกษาเร่ืองสี
และแฮง - เงา ป่าทึบขนาดใหญ่จะมีส่วนที่ถูกแสงสว่างและส่วนท่ีไม่ถูกแสงจะเป็นเงามืดทึบ แสดงให้เห็นถึง
ลกั ษณะทต่ี ัดกันอย่างเหน็ ไดเ้ ดน่ ชัด เปน็ ต้น
จุดมุ่งหมายในการทำงานทัศนศิลป์จึงเปรียบเสมือนเง่ือนไข หรือข้อบังคับบางประการท่ีช่วยทำให้ผู้สร้าง
สรรค์ หรือศิลปินต้องดำเนินการไปตามน้ัน ทำให้เรามีข้อมูลท่ีจะนำมาวิเคราะห์ได้ว่า สรุปแล้วศิลปินสามารถ
ทำงานไดส้ อดคล้องกับจุดมงุ่ หมายทก่ี ำหนดไว้หรอื ไม่
2) วิเคราะห์รูปแบบและรูปทรง การถ่ายทอดรูปแบบงานทัศนศิลป์ของศิลปิน ส่ือให้เห็นถึงแนวคิดในการ
สร้างสรรค์ผลงาน ซ่ึงศิลปินอาจนำเสนอรูปแบบและเลือกรูปทรงต่างๆ ท่ีมีในธรรมชาติมาเป็นตันแบบในการ
ถ่ายทอด หรืออาจจะคิดต้นรูปทรงใหม่ขึ้นโดยพัฒนามาจากรูปทรงเดิมท่ีมีอยู่แล้วก็ได้ ส่วนการกำหนดรูปแบบ
หรือรปู ทรงที่เป็นเรอ่ื งเกี่ยวกับนามธรรมเป็นสิ่งท่ีวิเคราะห์ค่อนข้างยาก เนื่องจากศิลปินอาจกำหนดรูปทรงข้ึนใหม่
ให้มคี วามสอดคลอ้ งกับจุดม่งุ หมายและเทดนิด ดังนั้น รปู ทรงท่ีศิลปินได้นำเสนอนั้นจึงมักเป็นตัวแทนของความคิด
อารมณ์ และความรู้สึก เราต้องศึกษาเรียนรู้แนวการทำงานของศิลปินมามากพอสมควรจึงจะทำให้สามารถ
วเิ คราะห์ดคี วามได้ถูกต้อง
ชุดฝกึ ทักษะ เรื่องทกั ษะทศั นศลิ ป์ ช้นั มัธยมศกึ ษาปีที่ 2 28
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทศั นศลิ ป์
3) วิเคราะห์การใช้วัสดุและเทคนิค วัสดุและเทคนิค เป็นข้อมูลหนึ่งท่ีทำให้เราเห็นถึงความถนัดความ
ชำนาญ และฝีมือของศิลปิน สามารถมองไปถึงความคงทน หรือความเหมาะสมของวัสดุท่ีนำมาใช้ประกอบกันใน
การสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ซึ่งย่อมจะมีผลต่อการนำเสนอผลงาน ไม่ว่าจะเป็นในด้านรูปแบบ หรือเน้ือหาของ
งานกต็ าม
เมื่อผู้วิเคราะห์ได้จำแนกการสร้างงาน ก็จะเห็นถึงเทคนิคการทำงาน รับรู้ถึงความยากง่าย ในกรรมวิธี
การสร้างงาน ตลอดจนความเหมาะสมของวัสดกุ ับประเภทของงาน
4) วิเคราะห์แนวคิดในการถา่ ยทอดอดตี และปัจจุบนั อปุ สรรคของการวเิ คราะห์ความหมายหรือแนวคดิ ใน
การถ่ายทอดงานทัศนศิลป์ ก็คือ ความไม่ชัดเจนของสิ่งที่จะมองเพื่อใช้ในการตีความ โดยเฉพาะรปู แบบนามธรรม
(Abstract Art) ซ่ึงในการวเิ คราะห์ครง้ั แรกเราอาจไมร่ ู้วธิ กี ารแปลความหมายจากภาพที่ปรากฏตรงหนา้ ดงั น้นั สิ่งท่ี
ควรกระทำ ก็คือ พยายามดูงานนั้นหลายๆ คร้ัง โดยพิจารณาแบบจำแนกแยกแยะ เพื่อให้เห็นถึงการใช้รูปแบบ
ของทัศนธาตุในการสร้างรูปทรงท่ีมีองค์ประกอบของความเป็นเอกภาพ และประสานกันจนเกิดโครงสร้างที่สมดุล
กลมกลืน ทัง้ น้ี อาจใช้วิธีการตั้งคำถามกับตวั เองเพือ่ หาคำตอบนำไปวิเคราะห์ เช่น
ㆍ ศิลปินแสดงความคดิ เกีย่ วกบั สิ่งใด
ㆍ ศิลปนิ อาศยั แนวคดิ หรอื จุดม่งุ หมายในการสร้างสรรคผ์ ลงานอย่างไร
ㆍ ศิลปนิ แสดงออกดว้ ยรปู แบบรูปทรงอะไรบา้ ง
ㆍ เพราะเหตใุ ดศิลปนิ จึงแสดงออกด้วยรปู แบบของทัศนธาตนุ ั้นๆ
คิดไมอ่ อก กพ็ กั ก่อน
ชุดฝกึ ทักษะ เรอ่ื งทกั ษะทัศนศิลป์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 2 29
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตแุ ละแนวคิดในงานทศั นศิลป์
5. ตวั อยา่ งการวเิ คราะห์ทัศนธาตุและแนวคิดในงานทัศนศิลป์
พ้ืนฐานความรู้เก่ียวกับทัศนธาตุและแนวคิดที่ผู้เรียนได้ศึกษามาแล้วในแต่ละหัวข้อ ถือว่าเป็นหลักการและ
ทฤษฎี ซ่ึงเราจะเกิดความรู้ ความเข้าใจอย่างลึกซ้ึง ก็ต่อเม่ือได้นำความรู้ไปปฏิบัติจริง ในที่นี้จะขอยกตัวอย่างการ
วเิ คราะห์รปู แบบของทัศนธาตุและวเิ คราะหแ์ นวคดิ ในงานทศั นศิลปม์ าใหผ้ ้เู รยี นได้เห็นเป็นแนวทางศึกษา ดังน้ี
ตัวอย่าง
ชอ่ื ภาพ
กระท่อม (COTTAGES)(ค.ศ. ๑๘๙๐)
ศิลปิน
พินเซนต์ วิลเลยี ม ฟาน ก็อกฮ์ (Vincent
https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Vi Willem Van Gogh)
จดุ มงุ่ หมาย ncent_van_Gogh_-
เ_ปTน็ hงaาtนcทheศั dน_ศCิลoปtป์ taรgะeเภs_ท%ท่ีม28ิได1้ม8ีจ9ุด0ม%ุ่ง2ห9ม.jาpยgในการแสดงออกแบบเหมือนจริง หรอื การรับรตู้ ามการ
เหน็ จรงิ เท่านน้ั แต่ยงั มีจดุ มงุ่ หมายเชงิ อารมณ์ในการแสดงออกเป็นจุดสำคัญดว้ ย
ฟาน ก็อกซ์ ไดน้ ำเอาลกั ษณะเสน้ น้ำหนักออ่ น - แก่ สี รูปรา่ ง และรูปทรงมาผสมผสานกนั แลว้
นำมาจดั เปน็ โครงสรา้ งของภาพท่มี ีความเปน็ เอกภาพและดวามสมดลุ โดยเน้นเสน้ เปน็ หลกั ขี้ให้เหน็ ถึง
จังหวะและความเคลื่อนไหวท่ีมดี วามล่นื ไหลและส่นั พลิว้ โดยการใชเ้ ส้นทเ่ี กิดจากรอยแปรง ทำใหเ้ กิดเป็น
ลกั ษณะพ้นื ผวิ ท่มี ีความแตกต่างกันทวั่ ท้งั ภาพ
ความเป็นเอกภาพของงานทัศนศลิ ป์ชนิ้ นี้ เกดิ จากการนำรปู แบบทศั นธาตุมาสรา้ งสรรค์ เพื่อใหเ้ กดิ
ลีลาในการเคล่อื นไหวทมี่ ีความกลมกลนื ซงึ่ เกดิ จากแนวคิดของศิลปนิ ท่ีมจี ุดมุ่งหมายให้ผลงานชิน้ น้ีบ่งบอก
คุณค่าทางอารมณ์ ความรู้สึก และการแสดงออกมากกว่าส่งิ อนื่ ใด
ชดุ ฝกึ ทักษะ เรือ่ งทักษะทศั นศิลป์ ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 2 30
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทศั นธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
ใบงานที่ 1
เรอื่ ง การสร้างสรรคท์ ศั นธาตุ
คำชแ้ี จง ให้นกั เรยี นนำความรู้เรอื่ ง ทัศนธาตุ ทีน่ ักเรียนรู้จัก มาสรา้ งสรรคง์ าทัศนศลิ ป์ (ในกระดาษ หนงั ไก่
ขนาด 100 ปอนด์ แบ่งครงึ่ A4)
ชดุ ฝกึ ทกั ษะ เร่อื งทักษะทัศนศิลป์ ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 31
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศิลป์
ใบงานท่ี 2
เรื่อง พื้นฐานการรับรู้
คำชี้แจง ให้นักเรียนนำความรเู้ รื่อง พนื้ ฐานการรบั รู้ มาสร้างสรรค์งาทศั นศิลป์ (ในกระดาษ หนงั ไก่ ขนาด
100 ปอนด์ แบ่งครึ่ง A4)
การเหน็ รูปและพนื้ การเหน็ แสงและเงา
การเห็นความเคลื่อนไหว การเห็นตาแหน่งและสดั สว่ น
ชุดฝึกทักษะ เร่ืองทักษะทัศนศลิ ป์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 32
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
ใบงานท่ี 3
เรือ่ ง ทัศนธาตุในทัศนศิลป์
คำช้ีแจง ใหน้ กั เรียนนำความรเู้ รื่อง ทศั นธาตุ สรุปความรู้ ความเขา้ ใจเปน็ Mind Mapping (ในกระดาษ
หนงั ไก่ ขนาด 100 ปอนด์ A4)
ชุดฝกึ ทกั ษะ เรือ่ งทักษะทัศนศิลป์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีท่ี 2 33
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทศั นศิลป์
ใบงานที่ 4
เรอ่ื ง เอกภาพของทศั นธาตุ
คำชี้แจง ให้นกั เรยี นนำความรู้เร่ือง หลกั การวิเคราะห์ทศั นธาตุในงานทัศนศิลป์ โดยใหน้ กั เรียนเลือกหัวข้อ
คือ เส้น , รปู รา่ ง-รปู ทรง , น้ำหนกั ออ่ น-แก่ และสี ทำหัวขอ้ ท่ีเลือก ออกมาในรูปแบบ ประสาน-
ขัดแย้ง ใหถ้ ูกตอ้ ง (ในกระดาษ หนังไก่ ขนาด 100 ปอนด์ ครงึ่ A4)
ชุดฝึกทักษะ เรื่องทกั ษะทศั นศลิ ป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 34
ชุดที่ 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทศั นศิลป์
ใบงานท่ี 5
เรอื่ ง วเิ คราะหแ์ นวคดิ ทศั นศลิ ป์ศลิ ปนิ
คำช้แี จง ให้นกั เรียนค้นควา้ ตัวอยา่ งงานจิตรกรรมของศิลปินชอ่ื ดัง พร้อมเขียนผลของการคน้ คว้า โดยมี
หัวข้อดงั น้ี ช่ือภาพ , ช่ือศิลปิน และจดุ ม่งุ หมายของภาพ ลงในกระดาษ A4
ตวั อย่าง
ช่ือภาพ
ศิลปิน
จดุ มงุ่ หมาย
....................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................................................................................................................
..................................................................
ชุดฝกึ ทกั ษะ เรอ่ื งทกั ษะทัศนศิลป์ ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 35
ชุดท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคดิ ในงานทศั นศิลป์
แบบทดสอบหลังเรยี น
เร่อื งทักษะทศั นศิลป์
ชุดท่ี 1 ทศั นธาตุ ทศั นศิลป์
คำช้แี จง 1. แบบทดสอบก่อนเรยี นมจี ำนวน 10 ข้อ คะแนนเตม็ 10 คะแนน 2. ให้เลือกคำตอบทถ่ี ูกตอ้ ง
ท่ีสุดเพียงข้อเดียวโดยทำเครอ่ื งหมายกากบาท ( x ) ในช่องขอ้ ก, ข, ค, หรือ ง ในกระดาษคำตอบ
1. ขอ้ ใดคือความหมายของทัศนธาตุ ข. ส่วนประกอบของการไดย้ ิน
ก. ส่วนประกอบของการสมั ผัส ง. สว่ นประกอบของการได้กล่ิน
ค. ส่วนประกอบของการมองเห็น
2. ขอ้ ใดคือความหมายของการรบั รู้การเหน็ (Seeing)
ก. การรบั ร้รู ายละเอยี ดของสิ่งนั้นๆ
ข. การรับรเู้ พ่ือบรรลุวตั ถปุ ระสงค์น้นั ๆ
ค. การรบั รู้โดยการสอดรสู้ อดเห็น
ง. การรับรอู้ ย่างไม่เป็นทางการ
3. ขอ้ ใดไม่ใชท่ ฤษฎีการเห็น
ก. การเห็นรูปและพื้น ข. การเหน็ แสงและเงา
ค. การเห็นสมดลุ และกลมกลืน ง. การเห็นตำแหน่งและสัดสว่ น
4. การนำองคร์ ปู แบบของทัศนธาตุมาออกแบบงานทัศนศิลปส์ ำคญั อยา่ งไร
ก. เพอื่ ความหรูหราและดูแพง
ข. เพ่ือความน่าสนใจและจูงใจผู้ชม
ค. เพอ่ื ความสวยงาม
ง. เพอ่ื เพม่ิ คุณคา่ ของงาน
5. ข้อใดไม่ไดอ้ ยู่ในรปู แบบของทัศนธาตุ ข. สี (Color)
ก. จดุ เด่น (Emphasis) ง. พ้ืนผวิ (Texture)
ค. พ้นื ทวี่ ่าง (Space)
ชุดฝกึ ทักษะ เรือ่ งทักษะทัศนศลิ ป์ ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 2 36
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทศั นศลิ ป์
6. จากภาพทศั นธาตุรปู แบบใดไมม่ ีในภาพ
ก. สี (Color) ข. เส้น (Line)
ค. รูปร่าง – รูปทรง (Shape and Form) ง. จดุ (Point)
7. จากภาพเปน็ เอกภาพในทัศนธาตรุ ูปแบบใด
ก. การใช้รูปร่างรูปทรงแบบขัดแยง้ กนั
ข. การใช้สีแบบขัดแย้งกัน
ค. การใช้เส้นแบบขัดแย้งกนั
ง. ถูกทกุ ข้อ
8. ทัศนธาตใุ นข้อใดไม่ถือเปน็ เอกภาพ
ก. จุด (Point)
ข. เส้น (Line)
ค. รูปรา่ ง – รูปทรง (Shape and Form)
ง. สี (Color)
9. หลกั การวิเคราะห์แนวคิดในการสรา้ งสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ข้อใดสำคัญเป็นอนั ดับแรก
ก. วเิ คราะห์รูปแบบและรูปทรง
ข. วเิ คราะหจ์ ุดมุ่งหมาย
ค. วิเคราะหก์ ารใชว้ ัสดแุ ละเทคนิค
ง. วเิ คราะหแ์ นวคิดในการถา่ ยทอดอดตี และปจั จบุ นั
10. ขอ้ ใดเป็นสีตรงขา้ มของสีม่วง ข. สีแดง
ก. สีน้ำเงิน ง. สีสม้
ค. สเี หลือง
ชุดฝกึ ทักษะ เร่ืองทักษะทศั นศลิ ป์ ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 2 37
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
กระดาษคำตอบแบบทดสอบหลังเรียน
เร่อื งทกั ษะทศั นศลิ ป์
ชดุ ท่ี 1 ทศั นธาตุ ทัศนศลิ ป์
ช่ือ-สกลุ …………………………………………………………………………..ชน้ั …………………..…….เลขท่…ี ……………
ข้อ ก ข ค ง
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
คะแนนท่ไี ด้
ชดุ ฝกึ ทักษะ เรื่องทกั ษะทศั นศิลป์ ชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 2 38
ชุดท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
บรรณานกุ รม
จรี พนั ธ์ สมประสงค์. (2546). ศิลปะ. กรงุ เทพฯ : แมค็ .
ฉตั รช์ ยั อรรถปกั ษ.์ (2551). องคป์ ระกอบศิลปะ. พมิ พ์ครั้งที่ 7. สมุทรสาคร : บรษิ ัทพิมพด์ จี ำกัด.
เตชิต ตรีชยั . (2557). ทัศนศลิ ป์ 1. นนทบุรี : เอมพันธ์จำกัด.
. (2558). หนังสอื เรยี น รายวิชาพ้ืนฐาน ทัศนศิลป์ 2 ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 2 กลุ่มสาระ
การเรียนรูศ้ ลิ ปะ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551.
กรงุ เทพฯ : บรษิ ัทสำนักพมิ พ์เอมพันธ์จำกัด.
วิทรู ย์ โสแก้ว. (2551). หนังสือเรยี น รายวชิ าพ้นื ฐาน ทศั นศลิ ป์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 1 กลุ่มสาระการ
เรยี นรศู้ ิลปะ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขัน้ พ้นื ฐาน พทุ ธศักราช 2551.
กรงุ เทพฯ : ไทยวัฒนาพานชิ .
สมชาย พรหมสุวรรณ. (2548). หลกั การทศั นศลิ ป์. กรงุ เทพฯ : สำนกั พมิ พ์แห่งจุฬาลงกรณ์
มหาวิทยาลัย.
สำนักวชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา. (2551). ตวั ชวี้ ดั และสาระการเรียนรู้แกนกลาง กล่มุ สาระ
การเรียนร้ศู ลิ ปะ ตามหลกั สูตรแกนกลางการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน พทุ ธศักราช 2551. สำนักงาน
คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ.
สชุ าติ เถาทอง และคณะ. (2550). หนงั สือเรยี นสาระการเรียนรู้พืน้ ฐาน กลมุ่ สาระการเรยี นรู้
ศิลปะทัศนศลิ ป์ ช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 1 ช่วงชน้ั ท่ี 3. กรุงเทพฯ : อักษรเจริญทัศน์.
ชุดฝึกทกั ษะ เร่ืองทกั ษะทัศนศิลป์ ช้นั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 39
ชุดท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
ภาคผนวก
ชุดฝกึ ทักษะ เรอ่ื งทกั ษะทัศนศิลป์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 40
ชุดท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทศั นศิลป์
เฉลย แบบทดสอบกอ่ นเรยี น
เร่อื งทักษะทัศนศิลป์
ชดุ ที่ 1 รปู แบบทศั นธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทัศนศิลป์
ช่ือ-สกลุ …………………………………………………………………………..ชนั้ …………………..…….เลขท่…ี ……………
ข้อ ก ข ค ง
1X
2X X
3X X
4X X
5
6X
7
8X
9X
10
คะแนนท่ไี ด้
ชดุ ฝกึ ทกั ษะ เร่ืองทักษะทศั นศลิ ป์ ชน้ั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 41
ชดุ ที่ 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
แนวการตอบใบงานท่ี 1
เรอื่ ง ทศั นธาตุ ทศั นศลิ ป์
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นนำความรู้เรอื่ ง ทัศนธาตุ ท่ีนกั เรยี นรจู้ กั มาสรา้ งสรรค์งาทัศนศลิ ป์ (ในกระดาษ หนงั ไก่
ขนาด 100 ปอนด์ แบ่งครงึ่ A4)
ชุดฝึกทกั ษะ เรอื่ งทักษะทัศนศลิ ป์ ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 2 42
ชุดท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคิดในงานทัศนศลิ ป์
แนวการตอบใบงานที่ 2
เร่อื ง ทัศนธาตุ ทัศนศิลป์
คำชีแ้ จง ใหน้ ักเรยี นนำความรเู้ รือ่ ง พืน้ ฐานการรับรู้ มาสร้างสรรค์งาทัศนศิลป์ (ในกระดาษ หนงั ไก่ ขนาด
100 ปอนด์ แบ่งคร่งึ A4)
การเห็นรูปและพนื้ การเหน็ แสงและเงา
การเหน็ ความเคลื่อนไหว การเห็นตาแหนง่ และสดั ส่วน
ชดุ ฝึกทกั ษะ เรอื่ งทกั ษะทัศนศลิ ป์ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 2 43
ชุดท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตแุ ละแนวคดิ ในงานทศั นศลิ ป์
แนวการตอบใบงานที่ 3
เรื่อง ทศั นธาตุ ทศั นศลิ ป์
คำช้แี จง ใหน้ กั เรียนนำความรูเ้ ร่อื ง ทศั นธาตุ สรุปความรู้ ความเข้าใจเปน็ Mind Mapping (ในกระดาษ
หนังไก่ ขนาด 100 ปอนด์ A4)
ชุดฝกึ ทักษะ เร่อื งทักษะทัศนศิลป์ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 2 44
ชดุ ท่ี 1 รูปแบบทศั นธาตุและแนวคดิ ในงานทศั นศลิ ป์
แนวการตอบใบงานท่ี 4
เร่ือง ทัศนธาตุ ทศั นศิลป์
คำชีแ้ จง ให้นักเรยี นนำความรเู้ ร่ือง หลกั การวิเคราะหท์ ัศนธาตใุ นงานทัศนศิลป์ โดยใหน้ กั เรยี นเลือกหัวข้อ
คือ เส้น , รูปร่าง-รปู ทรง , น้ำหนกั ออ่ น-แก่ และสี ทำหัวขอ้ ทเ่ี ลือก ออกมาในรูปแบบ ประสาน-
ขดั แย้ง ให้ถูกตอ้ ง (ในกระดาษ หนังไก่ ขนาด 100 ปอนด์ ครึ่ง A4)
ชดุ ฝกึ ทักษะ เรือ่ งทักษะทัศนศิลป์ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 2 45
ชุดท่ี 1 รูปแบบทัศนธาตุและแนวคดิ ในงานทศั นศลิ ป์
แนวการตอบใบงานที่ 5
เร่ือง ทัศนธาตุ ทศั นศลิ ป์
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรียนค้นคว้าตัวอยา่ งงานจิตรกรรมของศิลปนิ ชอื่ ดัง พรอ้ มเขียนผลของการคน้ คว้า โดยมีหวั ข้อ
ดงั นี้ ช่ือภาพ , ชื่อศลิ ปิน และจุดมุ่งหมายของภาพ ลงในกระดาษ A4
ตวั อยา่ ง
ชอ่ื ภาพ
ภาพหนุ่ นง่ิ (Still Life) (ค.ศ.๑๘๗๙)
ศิลปิน
ปอล เซซาน(Paul Cezanne)
https://www.takieng.com/stories/17621
จดุ มุ่งหมาย
เปน็ ผลงานท่ีแสดงให้เหน็ ถึงเทคนคิ การใช้คา่ น้ำหนักออ่ น - แก่ของแสงและสี โดยน้ำหนักของแสงจะ
มีส่วนมืดและสว่าง เป็นความขัดแย้งท่ีมีสัดส่วนกลมกลืน ส่วนสีของผลส้มมีความเป็นเอกภาพของสีท่ีอยู่ใน
ระดับเดียวกันซึ่งการจัดวางของหุ่นนิ่งท่ีประกอบไปด้วยขวด ผลส้ม ถ้วยชาม ผืนผ้า มีพื้นท่ีว่างและมี
ระยะห่างที่ได้จังหวะ ทำให้เกิดช่องไฟระหว่างรูปทรงแต่ละส่วนเอกภาพของรูปทรงเป็นแบบประสาน
กลมกลืน สีที่ศิลปินระบายลงไปทำให้เกิดพื้นผิวตามรอยแปรงและพู่กันช่วยสะท้อนอารมณ์ความรู้สึก
ประทับใจของศลิ ปินในขณะนน้ั
ศิลปินสร้างสรรค์ภาพนี้โดยมีจุดมุ่งหมายเพ่ือนำเสนอแสง - เงาของรูปทรงในลักษณะเหมือนจริง โดย
ถ่ายทอดดวามงามของรูปทรงจากธรรมชาติและน้ำหนักอ่อน - แก่ของสีและแสงท่ีสื่อถึงความสงบนิ่ง มี
แนวคิดของการถ่ายทอดส่ิงของที่ปรากฏตามความเป็นจริง ด้วยกระบวนการของการถ่ายโอนลงบนพ้ืน
ระนาบด้วยรปู ร่าง ๒ มิติ แล้วเพมิ่ มิติที่ ๓ ด้วยดา่ นำ้ หนักออ่ น - แก่ให้มีความสัมพันธก์ นั อยา่ งมีเอกภาพ