The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนหลักวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.3 เทอม 2

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by natanong, 2019-10-24 02:59:21

แผนหลักวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.3 เทอม 2

แผนหลักวิชาวิทยาศาสตร์พื้นฐาน ม.3 เทอม 2

Keywords: แผนหลัก

๒o ๑๒ มนษุ ย์กบั ว ๒.๒ ม ๓/๒. อธบิ าย -ผู้เรยี นอธบิ ายแนวทางการ -อธิบาย การอนุรักษส์ ิ่งแวดล้อมและ ๑) หนงั สือเรยี น ๑

ส่งิ แวดล้อม แนวทางการรักษาสมดุล รักษาสมดลุ ของระบบนเิ วศ ทรพั ยากรธรรมชาติอย่างยงั่ ยืน วิทยาศาสตร์

ของระบบนิเวศ -ผเู้ รยี นเขียนผังความคิดแนว ขั้นนาเข้าสู่บทเรยี น ม.๓ เลม่ ๒

ทางการรักษาสมดุลของระบบ -ครใู หน้ ักเรยี นออกมาเลา่ ๒)ใบงานท่ี ๑o

นิเวศ ประสบการณเ์ กยี่ วกับการมีส่วน เร่อื ง แนวทางใน

-ผูเ้ รยี นตอบคาถามท้าย รว่ มในการอนุรักษส์ ิง่ แวดล้อมและ การอนุรักษ์

บทเรยี น ทรพั ยากรธรรมชาติให้เพื่อนฟัง ทรัพยากรธรรม

-นกั เรียนแต่ละคนทาใบงานที่ หน้าช้นั เรียน ชาตอิ ยา่ งยงั่ ยนื

๙ เรื่อง แนวทางในการ -ครูอธิบายเพ่ิมเตมิ เก่ยี วกับการนา

อนรุ ักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ทรพั ยากรธรรมชาติมาใช้

อย่างยั่งยืน ประโยชน์ แล้วตงั้ ประเด็นคาถาม

ให้นกั เรียนร่วมกันแสดงความ

คิดเห็นการมีส่วนรว่ มในการ

อนรุ ักษส์ งิ่ แวดลอ้ มและทรัพยากร

ธรรมชาติครูตรวจสอบความ

ถูกต้อง

ตารางท่ี ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจัดกิจกรรมการเรียนร(ู้ Learning Management Plan)

แผนที ช่อื หน่วย ตวั ชวี้ ัด(Indicator) / หลักฐานการเรียนร/ู้ แนวทางการวัด คาสาคญั กระบวนการจดั การเรยี นร้แู ละ ส่ือ/นวัตกรรม/ จานวน
ัสปดาห์ ีท่ ผลการเรยี นรู้ ประเมินผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรียนรู้ ทรพั ยากร ชัว่ โมง

(Learning Outcome)

๒๑ ๑๓ มนุษย์กับ ว ๒.๒ ม ๓/๓. -ผู้เรียนศกึ ษาการใช้ -อภิปราย วธิ สี อนแบบ ๑) หนงั สอื เรยี น ๑
อภปิ รายการใช้ ทรัพยากรธรรมชาติ อยา่ งยง่ั ยืน
ส่ิงแวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาติ -ผเู้ รียนเขยี นผังความคิดการใช้ นกั เรยี นแตล่ ะคนศึกษาความรเู้ รอ่ื ง วทิ ยาศาสตร์
ทรพั ยากรธรรมชาติอย่างยง่ั ยืน
อย่างยัง่ ยนื -ผเู้ รยี นตอบคาถามทา้ ยบทเรียน การสง่ิ แวดลอ้ มและทรัพยากร ม.๓ เล่ม ๒
-ใบงานที่ ๑๑ เร่ือง การจดั การ
ทรพั ยากรธรรมชาติอยา่ งยั่งยืน ธรรมชาตอิ ยา่ งย่ังยืน : การจัดการ ๒) ใบงานท่ี ๑๑

จากหนังสอื เรียน เร่อื ง การจัดการ

๑.นกั เรียนแต่ละคนเขยี นแผนผงั ทรัพยากรธรรมชาติ

ความคดิ สรุปความรเู้ ก่ยี วกบั การ อยา่ งย่ังยืน

จดั การใช้ทรัพยากรธรรมชาติในแต่

ละวธิ ีลงในใบงานที่ ๑๑ เรอื่ ง การ

จัดการทรพั ยากรธรรมชาตอิ ย่าง

ย่งั ยืน

๒.ครสู มุ่ นกั เรยี น ๔ คน ออกมา

อธิบายความรู้เก่ียวกับวธิ กี าร

จัดการใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่าง

ยงั่ ยนื ในใบงานที่ ๑๑ หนา้ ชน้ั เรยี น

นักเรยี นคนอนื่ ๆ ทีม่ ีความคิดเห็น

แตกตา่ งนาเสนอเพม่ิ เติม

ตารางท่ี ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นร้(ู Learning Management Plan)

แผนที ชอื่ หนว่ ย ตัวช้ีวัด(Indicator) /ผลการ หลักฐานการเรียนร/ู้ แนว คาสาคญั กระบวนการจัดการเรยี นรู้และ สื่อ/นวตั กรรม/ จานวน
สัปดาห์ ี่ท เรียนรู้ (Learning ทางการวดั ประเมนิ ผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรยี นรู้ ทรัพยากร ช่วั โมง
Outcome)

๒๒ ๑๓ มนษุ ยก์ ับ ว ๒.๒ ม ๓/๔. วิเคราะหแ์ ละ -ผเู้ รียนอธบิ ายแนวทางการ - วิเคราะห์ วิธีสอนแบบ สืบเสาะหาความรู้ ๑) หนงั สอื เรียน
อธบิ ายการใช้ ๑.นกั เรียนแตล่ ะคนศึกษาความรู้ วิทยาศาสตร์
ส่ิงแวดลอ้ ม ทรัพยากรธรรมชาติ ตาม รกั ษาสมดุลของระบบนเิ วศ - อธบิ าย เรอ่ื ง ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียงกบั ม.๓ เล่ม ๒

ปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง -ผเู้ รยี นเขยี นผงั ความคดิ แนว

ทางการรักษาสมดลุ ของระบบ การใช้ทรพั ยากรธรรมชาติ จาก ๒) ใบงานที่ ๑๒

นิเวศ หนงั สือเรยี น ห้องสมดุ หรือ เร่ือง การจัดการ

-ผู้เรียนตอบคาถามท้าย แหล่งข้อมลู สารสนเทศ ทรพั ยากรธรรม

บทเรยี น ๒.นกั เรียนแตล่ ะคนสืบค้นข้อมลู ชาตอิ ย่างยง่ั ยืน

-ใบงานที่ ๑๒ เร่ือง โครงการ โครงการเศรษฐกิจพอเพยี ง

เศรษฐกจิ พอเพยี ง เกย่ี วกับการใช้ทรพั ยากรธรรมชาติ

แลว้ บันทึก

-นักเรยี นวเิ คราะหเ์ ก่ยี วกบั แนว

ทางการนาปรชั ญาเศรษฐกจิ

พอเพียงมาปรบั ใช้กับการใช้

ทรพั ยากรธรรมชาติในท้องถิน่ ของ

ตนเอง

๓.ครคู ดั เลอื กนักเรียน ๕-๖ คน

ออกมานาเสนอผลการวเิ คราะห์

หนา้ ช้ันเรียนลงในใบงานท่ี ๑๒

เร่อื ง โครงการเศรษฐกจิ พอเพียง

ตารางท่ี ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นร(ู้ Learning Management Plan)

แผนที ช่อื หนว่ ย ตัวชี้วดั (Indicator) /ผลการ หลกั ฐานการเรียนร้/ู แนว คาสาคัญ กระบวนการจัดการเรยี นร้แู ละ ส่อื /นวตั กรรม/ จานวน
ัสปดา ์ห ีท่ เรียนรู้ (Learning ทางการวัด ประเมินผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรียนรู้ ทรพั ยากร ชัว่ โมง
Outcome)

๒๓ ๑๓ มนุษย์กับ ว ๒.๒ ม ๓/๕.อภิปรายปญั หา -ผเู้ รยี นศึกษาการใช้ -อภิปราย มลพษิ ทางส่ิงแวดลอ้ ม ๑) หนังสอื เรียน ๑
สง่ิ แวดลอ้ ม สิ่งแวดลอ้ มและเสนอแนะแนว -การแก้ไข
ทางการแกป้ ัญหา ทรัพยากรธรรมชาติ ตาม ปญั หา วิธีสอน วทิ ยาศาสตร์

หลกั ปรัชญาของเศรษฐกิจ ขน้ั นาเข้าสูบ่ ทเรียน ม.๓ เลม่ ๒

พอเพยี ง ครูใหน้ ักเรยี นดูภาพมลพิษทาง ๒) ใบงานที่ ๑๓

-ผ้เู รียนเขียนผังความคดิ การ สิง่ แวดลอ้ ม แลว้ ร่วมกนั แสดง เรอ่ื ง มลพิษทาง

ใช้ทรพั ยากรธรรมชาติตาม ความคิดเหน็ ว่า ปัญหามลพษิ สง่ิ แวดล้อม

หลกั ปรชั ญาของเศรษฐกจิ ต่างๆ เกดิ ขึ้นได้อย่างไร และสง่ ผล

พอเพียง กระทบต่อการดารงชีวิตของ

-ผูเ้ รียนตอบคาถามท้าย มนุษยอ์ ย่างไร

บทเรยี น -ครูอธิบายเพิ่มเติมเพ่ือให้นกั เรยี น

-ใบงานท่ี ๑๓ เร่อื ง มลพษิ ตระหนกั ถึงผลกระทบทีจ่ ะเกิดขึ้น

ทางสิง่ แวดล้อม จากมลพิษทางส่งิ แวดลอ้ มต่อการ

ดารงชีวติ ของมนุษย์

ขน้ั สอน

-นักเรียนร่วมกนั ศึกษาความรู้เร่อื ง

มลพษิ ทางสิ่งแวดลอ้ ม จาก

หนังสอื เรียน ห้องสมดุ หรือ

แหลง่ ขอ้ มูลสารสนเทศ

-ครูให้นักเรยี นจับกลุ่มแลว้ ตั้ง

คาถามเกย่ี วกับสาเหตุและ

ผลกระทบของมลพษิ ตอ่ การ

ดารงชวี ติ ของมนุษย์ตามหวั ข้อ

ท่กี ลมุ่ ตนเอง

ตารางที่ ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นร(ู้ Learning Management Plan)

แผนที ตัวชีว้ ัด(Indicator) /ผลการ หลกั ฐานการเรยี นร/ู้ แนวทางการ คาสาคญั กระบวนการจดั การเรียนรแู้ ละ สอ่ื /นวตั กรรม/ จานวน
สัปดาห์ ี่ท เรยี นรู้ (Learning แนวทางการกิจกรรมการเรยี นรู้ ทรัพยากร ชว่ั โมง
ช่ือหน่วย Outcome) วดั ประเมนิ ผล (Key Word)
๒๓ ๑๓ มนุษยก์ ับ ๑
ว ๒.๒ ม ๓/๕.อภปิ รายปญั หา -ผู้เรยี นศกึ ษาการใช้ -อภิปราย -สมาชิกแตล่ ะกลุ่มช่วยกันทาใบ ๑) หนงั สอื เรียน
สิ่งแวดลอ้ ม สง่ิ แวดล้อมและเสนอแนะแนว -การแก้ไข งานที่ ๑๓ เรื่อง มลพิษทาง วิทยาศาสตร์ ๑
ทางการแก้ปญั หา ทรพั ยากรธรรมชาติ ตามหลัก ปัญหา สิ่งแวดล้อม เสรจ็ แล้วครูและ ม.๓ เลม่ ๒
๒๔ ๑๔ มนษุ ยก์ ับ
สง่ิ แวดล้อม ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง

-ผเู้ รียนเขียนผังความคดิ การใช้ นักเรียนร่วมกนั เฉลยคาตอบ ๒) ใบงานที่ ๑๓

ทรพั ยากรธรรมชาติตามหลกั ขั้นสรปุ เรื่อง มลพิษทาง

ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง ครแู ละนกั เรยี นร่วมกนั สรุปความรู้ ส่ิงแวดล้อม

-ผเู้ รียนตอบคาถามท้ายบทเรียน เกีย่ วกบั สาเหตุ ผลกระทบ การ

-ทาใบงานที่ ๑๓ เรอื่ ง มลพิษ ดแู ลรกั ษาและป้องกนั ปัญหา

ทางสิ่งแวดลอ้ ม มลพษิ ทางสง่ิ แวดลอ้ ม

ว ๒.๒ ม ๓/๖. อภปิ รายและมี -ผเู้ รียนศึกษาการมีสว่ นรว่ มใน -วเิ คราะห์ วธิ ีสอน ๑) หนังสือเรียน
สว่ นรว่ มในการดแู ลและ การดแู ลและอนรุ ักษ์สิง่ แวดล้อม -มีส่วนร่วม ข้ันนาเขา้ สบู่ ทเรยี น วิทยาศาสตร์
อนรุ กั ษส์ งิ่ แวดลอ้ มในทอ้ งถ่นิ ในทอ้ งถ่นิ อย่างยงั่ ยืน -นักเรียนดภู าพขยะท่ีอยู่ในแม่นา้ ม.๓ เล่ม ๒
อยา่ งย่งั ยนื -ผเู้ รยี นตอบคาถามท้ายบทเรียน ครูภาพนักเรียนเห็นอะไรในภาพ ๒) บตั รภาพ
บ้าง แลว้ นักเรยี นจะมีแนวทางใน
การอนรุ ักษส์ ง่ิ แวดล้อมในท้องถิ่น
อยา่ งย่งั ยืนอย่างไร
ข้ันสอน
-นกั เรยี นจับกล่มุ ตามหมู่บ้านท่ี
นกั เรียนอาศัยแล้วชว่ ยกัน
วเิ คราะหป์ ัญหาที่เกิดขนึ้ ในหมู
บา้ นของตนเองรวมถงึ หาแนวใน
การอนุรักษส์ ่งิ แวดลอ้ มในท้องถน่ิ
อย่างย่ังยนื
- นักเรยี นแตล่ ะกลุ่มส่งสมาชกิ
ออกมานาเสนอ
ขน้ั สรุป
-นักเรียนและครรู ่วมกนั สรปุ
และตอบคาถามทา้ ยบทเรยี น

ตารางท่ี ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้(Learning Management Plan)

แผนที ชือ่ หนว่ ย ตัวช้ีวดั (Indicator) /ผลการ หลักฐานการเรียนรู้/แนว คาสาคญั กระบวนการจดั การเรยี นรู้และ สื่อ/นวัตกรรม/ จานวน
ัสปดาห์ ีท่ เรียนรู้ (Learning ทางการวัด ประเมนิ ผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรียนรู้ ทรัพยากร ช่ัวโมง
Outcome)

๒๕ ๑๔ การถา่ ยทอด ว ๑.๒ ม ๓/๑. สงั เกตและ - ทาการทดลองเพ่ือศึกษา -สงั เกต -ใชก้ ระบวนการเรยี นรแู้ บบสืบ ๑) หนังสือเรยี น
อธบิ ายลักษณะของโครโมโซม ลกั ษณะของโครโมโซมแล้ว
ลักษณะทาง ท่ีมหี น่วยพันธกุ รรมหรือยนี ใน -อธบิ าย เสาะหาความรู้ วทิ ยาศาสตร์
พนั ธุกรรม นิวเคลยี ส
บนั ทึกผลการทดลองลงในใบ - ทาการทดลองเพ่ือศึกษาลักษณะ ม.๓ เล่ม ๒
งานที่ ๑ เร่อื ง ลกั ษณะของ
ของโครโมโซมแล้วบนั ทึกผลการ ๒) ใบงานท่ี ๑

โครโมโซมแลว้ นาเสนอผลการ ทดลองลงในใบงานที่ ๑ เรื่อง เร่อื ง ลกั ษณะ

ทดลอง ลกั ษณะของโครโมโซม แล้ว ของโครโมโซม

-นักเรยี นศกึ ษาความรเู้ ร่ือง นาเสนอผลการทดลอง ๓) ใบงานที่ ๒

โครโมโซมและยนี -นกั เรยี นแบง่ กลมุ่ แลว้ ให้แตล่ ะคน เรอ่ื ง การ

-นกั เรยี นแตล่ ะคนทาใบงานที่ ผลัดกันอธิบายความรู้ทไี่ ด้จาก ถา่ ยทอด

ใบงานท่ี ๒ เรอื่ ง การถา่ ยทอด การศกึ ษา เขยี นแผนผงั ความคดิ ลกั ษณะทาง

ลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม และ สรุปความรู้ และออกมานาเสนอ พันธุกรรม

ใบงานที่ ๓ เร่ือง ลักษณะ หนา้ ช้ันเรยี น ๔) ใบงานที่ ๓

ความแปรผนั ทางพันธุกรรม -นกั เรียนแตล่ ะคนทาใบงานที่ เรื่อง ลักษณะ

ใบงานที่ ๒ เร่อื ง การถ่ายทอด ความแปรผนั

ลักษณะทางพนั ธุกรรม และ ทางพนั ธกุ รรม

ใบงานที่ ๓ เรอื่ ง ลกั ษณะความ

แปรผันทางพันธุกรรม

ตารางท่ี ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนร(ู้ Learning Management Plan)

แผนที ชอ่ื หน่วย ตวั ช้วี ดั (Indicator) / หลักฐานการเรยี นร/ู้ แนว คาสาคญั กระบวนการจดั การเรียนรแู้ ละ ส่ือ/นวัตกรรม/ จานวน
ัสปดา ์ห ีท่ ผลการเรียนรู้ ทางการวดั ประเมนิ ผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรยี นรู้ ทรพั ยากร ชัว่ โมง

(Learning Outcome) ๒

๒๖ ๑๕ การถ่ายทอด ว ๑.๒ ม ๓/๒. อธบิ าย -นักเรียนศึกษาลักษณะสาคญั -อธบิ าย -นักเรยี นจับค่รู ่วมกันให้แตล่ ะคู่ ๑) หนังสือเรยี น
ความสาคัญของสาร ร่วมกันศกึ ษาความรู้เร่ือง วทิ ยาศาสตร์ ม.
ลักษณะทาง พันธุกรรมหรือดีเอ็นเอ ของสารพนั ธกุ รรม (DNA) กระบวนการถา่ ยทอดลักษณะ ๓ เล่ม ๒
พนั ธุกรรม และกระบวนการถ่ายทอด และกระบวนการถ่ายทอด ทางพันธุกรรมจากหนังสือเรยี น ๒) ใบงานท่ี ๔
ลกั ษณะทางพันธกุ รรม ลักษณะทางพันธกุ รรม แล้ว ดงั น้ี เร่ือกระบวนการ

เขียนผังมโนทศั น์

ทาแบบฝึกทักษะ เร่ือง การ คู่ที่ ๑ ศึกษาความรู้เร่อื ง การ ถา่ ยทอด

ถา่ ยทอดลักษณะทาง ถา่ ยทอดลกั ษณะทางพนั ธกุ รรม ลักษณะทาง

พันธุกรรมตามกฎของเมนเดล หน่ึงลักษณะ พนั ธกุ รรม

แลว้ ตอบคาถามทา้ ยบทเรยี น คู่ท่ี ๒ ศึกษาความรเู้ รื่อง การ

ถา่ ยทอดลักษณะทางพันธกุ รรม

สองลักษณะ

-นักเรยี นแตล่ ะคู่ผลัดกนั อธิบาย

ความรตู้ ามหวั ข้อที่ไดร้ ับ

ทาใบงานท่ี ๔ เรอื่ ง กระบวนการ

ถ่ายทอดลกั ษณะทางพนั ธุกรรม

นาเสนอหน้าชั้นเรียน

ตารางที่ ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นร(ู้ Learning Management Plan)

แผนท่ี ตัวชี้วดั (Indicator) / หลกั ฐานการเรียนรู้ / คาสาคญั กระบวนการจดั การเรยี นร้แู ละ สอ่ื /นวตั กรรม/ จานวน
ัสปดา ์ห ีท่ ผลการเรยี นรู้ แนวทางการวดั (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรียนรู้ ทรัพยากร ชวั่ โมง
ช่ือหน่วย ประเมนิ ผล
(Learning Outcome) -นกั เรยี นศึกษาลักษณะสาคัญของ ๑) หนังสือเรียน ๒
๒๗ ๑๕ การถ่ายทอด สารพนั ธกุ รรม (DNA) และ วิทยาศาสตร์ ม.
ลกั ษณะทาง ว ๑.๒ ม ๓/๒. อธบิ าย -นกั เรียนศึกษาลักษณะ -อธบิ าย กระบวนการถา่ ยทอดลักษณะทาง ๓ เลม่ ๒
พนั ธกุ รรม ความสาคญั ของสาร สาคญั ของสารพันธกุ รรม พนั ธกุ รรมครสู มุ่ นักเรียนออกมา ๒) ใบงานท่ี ๔
พนั ธุกรรมหรือดเี อ็นเอ และ (DNA) และกระบวนการ อธิบายเกย่ี วกบั การถ่ายทอดลักษณะ เรือ่ งกระบวนการ
กระบวนการถา่ ยทอดลกั ษณะ ถ่ายทอดลกั ษณะทาง ทางพนั ธกุ รรมทเ่ี มนเดลค้นพบหนา้ ถ่ายทอดลักษณะ
ทางพนั ธกุ รรม พนั ธุกรรม แล้วเขียนผงั ชั้นเรยี น นักเรียนชว่ ยกนั เพิม่ เตมิ ใน ทางพันธกุ รรม
สว่ นทแี่ ตกต่าง
มโนทัศน์ -ครแู ละนักเรียนรว่ มกันสรุปความรู้
เกยี่ วกับการถา่ ยทอดลกั ษณะทาง
ทาแบบฝึกทักษะ เร่ือง พนั ธกุ รรมทเ่ี มนเดลค้นพบ จากนน้ั
ครอู ธิบายเพ่ิมเติมให้นักเรยี นฟงั
การถา่ ยทอดลักษณะทาง เก่ยี วกับกฎการถ่ายทอดลักษณะทาง

พนั ธกุ รรมตามกฎของ

เมนเดล แลว้ ตอบคาถาม

ท้ายบทเรยี น

พันธุกรรมทเ่ี กรเกอร์ เมนเดลสรปุ ไว้
นกั เรียนจับคู่แลว้ ออกมาจับสลากชือ่
ส่งิ มีชีวติ กลุม่ ละ ๑ ชนดิ แล้วเขยี น
แผนภาพแสดงการ
ถ่ายทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมของ
สิ่งมีชวี ติ ลงในใบงานท่ี ๔ เรอื่ งการ
ถา่ ยทอดลักษณะทางพนั ธกุ รรมตาม
กฎของเมนเดล

ตารางท่ี ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้(Learning Management Plan)

แผนที ตวั ช้ีวัด(Indicator) /ผลการ หลักฐานการเรียนรู้/แนว คาสาคญั กระบวนการจดั การเรยี นรู้และ ส่อื /นวัตกรรม/ จานวน
ัสปดา ์ห ีท่ ช่อื หนว่ ย เรียนรู้ (Learning Outcome) ทางการวดั ประเมินผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรยี นรู้ ทรัพยากร
ช่วั โมง

๒๘ ๑๖ การถา่ ยทอด ว ๑.๒ ม ๓/๓. อภิปรายโรค - ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาโรคทาง -อภิปราย วธิ ีสอนแบบ สบื เสาะหาความรู้ ๑) หนงั สอื เรียน ๒
ลกั ษณะทาง ทางพันธุกรรมทเ่ี กดิ จากความ นักเรยี นศึกษาความรู้เร่ือง วิธกี าร วทิ ยาศาสตร์ ม.
ผดิ ปกตขิ องยนี และโครโมโซม พันธกุ รรมทีเ่ กดิ จากความ -นาความรู้ไป ถา่ ยทอดลักษณะทางพันธุกรรม ๓ เลม่ ๒
และนาความรู้ไปใชป้ ระโยชน์ จากหนังสือเรยี นตามหัวขอ้ ท่ี
พนั ธุกรรม ผดิ ปกตขิ องยีนและ ใช้ประโยชน์ กาหนด ดังนี้
1) ผ่านทางออโตโซม
โครโมโซม 2) ผา่ นทางโครโมโซมเพศ
-ให้ผเู้ รยี นทาแผน่ พบั เรอ่ื ง โรค
- ให้ผู้เรยี นทาแผน่ พบั เรื่อง ทางพันธกุ รรม ทาแบบฝึกทักษะ
โรคทางพนั ธกุ รรมท่เี กิดจากความ
โรคทางพันธกุ รรม ทาแบบ ผดิ ปกติของยีนและโครโมโซม

ฝึกทักษะโรคทางพันธุกรรมที่

เกดิ จากความผิดปกติของยีน

และโครโมโซม

ตารางที่ ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กิจกรรมการเรียนรู้(Learning Management Plan)

แผนที ช่อื หนว่ ย ตวั ชว้ี ัด(Indicator) /ผลการ หลักฐานการเรยี นร/ู้ แนว คาสาคญั กระบวนการจัดการเรยี นรู้และ สื่อ/นวัตกรรม/ จานวน
สัปดาห์ ี่ท เรียนรู้ (Learning ทางการวัด ประเมินผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรยี นรู้ ทรพั ยากร ชั่วโมง
Outcome)

๒๗ ๑๖ การถา่ ยทอด ว ๑.๒ ม ๓/๓. อภิปรายโรค - ให้ผเู้ รียนศึกษาโรคทาง -อภปิ ราย วิธสี อน โรคทเ่ี กดิ จากความ ๑) หนงั สอื เรียน
ทางพนั ธกุ รรมทเี่ กิดจาก ผดิ ปกตขิ องโครโมโซม วทิ ยาศาสตร์ ม.
ลักษณะทาง ความผดิ ปกติของยนี และ พนั ธุกรรมท่เี กดิ จากความ -นาความรไู้ ป นักเรียนจับค่กู ันเปน็ ๒ คู่ ให้แต่ ๓ เลม่ ๒
พนั ธกุ รรม โครโมโซมและนาความรู้ไปใช้ ผิดปกตขิ องยนี และโครโมโซม ใชป้ ระโยชน์ ละคู่แบ่งหน้าทก่ี ันศกึ ษาความรู้ ๒) ใบงานที่ ๕
ประโยชน์ - ใบงานที่ ๕ เร่ือง โรคท่เี กดิ เรือ่ ง โรคทางพันธกุ รรม เร่ือง โรคท่ีเกิด

จากความผดิ ปกตขิ อง

โครโมโซม จากหนังสือเรยี น ดังนี้ จากความ

-คนที่ ๑ ศึกษาความรู้เรอ่ื ง ความ ผดิ ปกตขิ อง

ผดิ ปกตขิ องโครโมโซมรา่ งกาย โครโมโซม

-คนท่ี ๒ ศึกษาความรเู้ รื่อง ความ

ผิดปกตขิ องโครโมโซมเพศ

๑.นกั เรียนแต่ละคนผลัดกนั

อธบิ ายความรทู้ ี่ไดจ้ ากการศึกษา

ใหส้ มาชกิ ท่ีเป็นคู่ฟงั จนเกิดความ

เขา้ ใจที่ตรงกนั

๒.สมาชิกแตล่ ะคชู่ ว่ ยกันทาใบงาน

ท่ี ๕ เรือ่ ง โรคท่เี กิดจากความ

ผดิ ปกตขิ องโครโมโซม

ผลัดกนั อธบิ ายใหส้ มาชกิ อกี คู่หนง่ึ

ฟงั เพื่อแลกเปล่ียนความรู้ความ

เขา้ ใจกนั เสร็จแลว้ นาใบงานส่งครู

ตรวจ

ตารางท่ี ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนร(ู้ Learning Management Plan)

แผนที ช่อื หนว่ ย ตวั ชว้ี ดั (Indicator) /ผล หลกั ฐานการเรียนร้/ู แนว คาสาคัญ กระบวนการจัดการเรยี นร้แู ละ ส่อื /นวตั กรรม/ จานวน
ัสปดา ์ห ีท่ การเรียนรู้ (Learning ทางการวัด ประเมินผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรียนรู้ ทรพั ยากร ชัว่ โมง

Outcome)

๒๗ ๑๗ การถ่ายทอด ว ๑.๒ ม ๓/๓. อภปิ ราย - ใหผ้ เู้ รยี นศึกษาโรคทาง -อภปิ ราย วิธสี อนแบบ สืบเสาะหาความรู้ ๑) หนงั สือเรียน ๒
ลกั ษณะทาง โรคทางพนั ธุกรรมท่เี กิด พันธกุ รรมที่เกิดจากความ -นาความรไู้ ป ๑.นักเรยี นแบ่งกลุม่ กลุ่มละ ๔ คน วิทยาศาสตร์ ม.
จากความผดิ ปกตขิ องยีน ผดิ ปกติของยีนและโครโมโซม ใช้ประโยชน์ ตดิ หมายเลข ๑ – ๔ และเรยี ก ๓ เล่ม ๒
พนั ธกุ รรม และโครโมโซมและนา - ให้ผเู้ รียนทาแผ่นพบั เรอ่ื ง กลมุ่ นีว้ ่า กลมุ่ บ้าน ๒) ใบงานที่ ๖
โรคทางพนั ธุกรรม โรคทาง ๒.สมาชกิ ท่มี หี มายเลขเดยี วกันมา เร่อื ง โรคที่เกิด
ความร้ไู ปใช้ประโยชน์ พนั ธกุ รรมทเ่ี กิดจากความ รวมกันเป็นกลุ่มใหม่ เรียกว่า กลุ่ม จากความ
ผดิ ปกตขิ องยนี และโครโมโซม ผู้เชี่ยวชาญ แลว้ รว่ มกันศกึ ษา ผดิ ปกติของยีน
-นักเรยี นทาใบงานที่ ๖ เร่อื ง ความรู้เรือ่ ง ความผิดปกติของยีน
โรคทเ่ี กดิ จากความผดิ ปกติ จากหนงั สอื เรยี น หอ้ งสมดุ หรอื
ของยีน แหล่งข้อมูลสารสนเทศ ดังน้ี
-สมาชิกกลมุ่ หมายเลข ๑ ศกึ ษา
ความร้เู รื่อง คนเผอื ก
-สมาชกิ กลุ่มหมายเลข ๒ ศกึ ษา
ความรู้เรอ่ื ง โรคธาลัสซเี มยี : ผู้
เปน็ พาหะ
-สมาชิกกลุ่มหมายเลข ๓ ศึกษา
ความรู้เร่อื ง โรคธาลสั ซเี มยี :
ผู้ปว่ ย โรค สมาชกิ กลุ่มอน่ื ชว่ ยกนั
เพิม่ เติมในส่วนท่บี กพรอ่ ง

ตารางท่ี ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้(Learning Management Plan)

แผน ีท ช่ือหนว่ ย ตัวชีว้ ัด(Indicator) / หลกั ฐานการเรียนร้/ู แนว คาสาคญั กระบวนการจัดการเรยี นรู้และ ส่ือ/นวตั กรรม/ จานวน
สัปดาห์ ี่ท ผลการเรียนรู้ ทางการวัด ประเมินผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรยี นรู้ ทรัพยากร ชั่วโมง

(Learning Outcome) ๒

๒๗ ๑๗ การถ่ายทอด ว ๑.๒ ม ๓/๓. อภิปราย - ใหผ้ เู้ รยี นศกึ ษาโรคทาง -อภิปราย -สมาชิกกลมุ่ หมายเลข ๔ ศกึ ษา ๑) หนังสือเรียน
ลักษณะทาง โรคทางพนั ธุกรรมที่เกิด พันธุกรรมทเ่ี กดิ จากความ -นาความร้ไู ปใช้ ความรเู้ รอ่ื ง ตาบอดสี วทิ ยาศาสตร์ ม.
จากความผดิ ปกติของยีน ผิดปกติของยีนและ ประโยชน์ ๑.เม่อื สมาชิกกลุ่มผูเ้ ชี่ยวชาญศึกษา ๓ เล่ม ๒
พนั ธกุ รรม และโครโมโซมและนา โครโมโซม ความรูเ้ สร็จแล้ว ใหแ้ ยกยา้ ยกันกลบั ๒) ใบงานท่ี ๖
- ใหผ้ เู้ รยี นทาแผ่นพบั เร่อื ง เขา้ ส่กู ลุ่มบา้ น แลว้ ใหแ้ ต่ละ เรื่อง โรคท่ีเกิด
ความร้ไู ปใช้ประโยชน์

โรคทางพนั ธกุ รรม โรคทาง หมายเลขผลดั กนั อธบิ ายความรู้ทไ่ี ด้ จากความ

พนั ธกุ รรมทเี่ กดิ จากความ จากการศึกษาใหส้ มาชกิ ในกลุ่มบา้ น ผดิ ปกติของยนี

ผิดปกตขิ องยีนและ ฟงั

โครโมโซม ๒.ครสู มุ่ นกั เรียน ๓ กลมุ่ ออกมา

-นักเรยี นใบงานที่ ๖ เรอ่ื ง อธิบายสาเหตุและอาการของผ้ปู ่วย

โรคทเี่ กิดจากความผดิ ปกติ ทเ่ี ป็นโรคธาลสั ซเี มีย ตาบอดสี และ

ของยนี คนเผือก กล่มุ ละ ๑ คน

๓.นักเรียนทาใบงานท่ี ๗ เร่ือง โรค

ที่เกดิ จากความผิดปกติของยีน

ตารางที่ ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้(Learning Management Plan)

แผนที ช่อื หน่วย ตวั ชว้ี ดั (Indicator) /ผล หลกั ฐานการเรียนรู้ / คาสาคัญ กระบวนการจดั การเรยี นร้แู ละ ส่อื /นวัตกรรม/ จานวน
ัสปดา ์ห ีท่ การเรียนรู้ (Learning แนวทางการวดั (Key Word) แนวทางการกิจกรรมการเรียนรู้ ทรัพยากร ช่วั โมง
ประเมนิ ผล
Outcome)

๒๘ ๑๘ การถา่ ยทอด ว ๑.๒ ม ๓/๔. สารวจ -ผ้เู รียนอธิบายความ -สารวจ เรอ่ื ง ความหลากหลายของพืชและสตั ว์ใน ๑) หนงั สอื เรียน ๑
ท้องถิ่น วทิ ยาศาสตร์
ลกั ษณะทาง และอธบิ ายความ หลากหลายทางชีวภาพใน -อธบิ าย ข้นั นาเขา้ สู่บทเรียน ม.๓ เล่ม ๒
-นักเรยี นยกตวั อย่างพชื และสัตว์ท่พี บใน ๒) ใบงานท่ี ๗
พนั ธุกรรม หลากหลายทางชีวภาพใน ท้องถิ่นทท่ี าให้สงิ่ มีชีวติ ประเทศ เรอื่ ง ความ
-ครอู ธิบายเชอ่ื มโยงเพื่อใหน้ กั เรียนเข้าใจ หลากหลายของ
ท้องถ่นิ ท่ีทาใหส้ ง่ิ มชี วี ติ ดารงชวี ิตอยู่ได้อย่าง เกีย่ วกับสาเหตุท่ีทาให้ในประเทศไทยเกิด พชื และสัตว์ใน
ความความหลากหลายของพืชและสัตว์ ท้องถิน่
ดารงชีวติ อยู่ได้อยา่ ง สมดลุ ขน้ั สอน
-นกั เรียนศกึ ษาความร้เู ร่ือง ความหลากหลาย
สมดลุ -ในใบงานที่ ๗ เร่ือง ของพชื และสัตว์ในท้องถ่ิน จากหนงั สอื เรยี น
-ครูมอบหมายใหน้ กั เรยี นสารวจพืชและสตั ว์
ความหลากหลายของพืช ในบริเวณสระน้าของโรงเรยี น สนามหญา้ ของ
โรงเรียน ลาคลองในชมุ ชน และบา้ นของ
และสัตวใ์ นทอ้ งถนิ่ นกั เรยี น
-นักเรียนสารวจพชื และสัตว์ในบริเวณที่ครู
กาหนด แลว้ บนั ทกึ ข้อมลู ลงในใบงานท่ี ๙
เร่ือง
ความหลากหลายของพชื และสตั ว์ในทอ้ งถิ่น
ขน้ั สรุป
-ครแู ละนักเรียนร่วมกนั สรปุ ความรู้เกี่ยวกับ
สาเหตุที่ทาใหเ้ กดิ ความหลากหลายของพืช
และสตั ว์ในท้องถ่ิน

ตารางที่ ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กิจกรรมการเรยี นรู(้ Learning Management Plan)

แผนที ตวั ช้วี ัด(Indicator) /ผลการ หลักฐานการเรียนร้/ู คาสาคัญ กระบวนการจดั การเรียนรูแ้ ละ สื่อ/นวัตกรรม/ จานวน
สัปดาห์ ี่ท (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรยี นรู้ ทรัพยากร ช่วั โมง
ช่อื หน่วย เรยี นรู้ (Learning แนวทางการวดั

Outcome) ประเมนิ ผล

๒๙ ๑๘ การถ่ายทอด ว ๑.๒ ม ๓/๕. อธิบายผล - นักเรยี นศกึ ษาอธิบาย -อธิบาย เร่ือง ความหลากหลายทางชีวภาพ ๑) หนังสือเรียน ๑

ลกั ษณะทาง ของความหลากหลายทาง ผลของความ วิธีสอน วิทยาศาสตร์

พนั ธกุ รรม ชีวภาพทม่ี ีต่อมนษุ ย์ สตั ว์ หลากหลายทางชีวภาพ ขน้ั นาเขา้ สูบ่ ทเรียน ม.๓ เลม่ ๒

พชื และสิง่ แวดลอ้ ม ท่ีมีต่อ มนุษย์ สัตว์ พชื -ครูใหน้ ักเรยี นดูภาพส่ิงมีชีวติ หลายๆ ๒) ใบงานท่ี ๘

และสง่ิ แวดลอ้ ม ทา ชนิด แลว้ ร่วมกนั อภิปรายเกยี่ วกับ เร่ือง ความ

แบบฝกึ ทักษะ และ ความแตกต่างของส่ิงมชี วี ติ หลากหลายทาง

ตอบคาถามท้าย -ครูอธิบายเกย่ี วกับความหลากหลาย ชีวภาพ

บทเรยี น ทางชีวภาพเพื่อเชอ่ื มโยงกับคาตอบ

ของนักเรยี น

ข้นั สอน

-ครแู บ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละ ๔

คน คละกันตามความสามารถ แล้วให้

แตล่ ะกลุ่มร่วมกันศึกษาความรู้ เรอ่ื ง

ประเภทของความหลากหลายทาง

ชวี ภาพ จากหนงั สือเรียน

-สมาชกิ แตล่ ะกลุ่มรว่ มกนั แสดงความ

คดิ เหน็ เกีย่ วกบั ความหลากหลายทาง

ชีวภาพทที่ าให้สิง่ มีชวี ิตดารงชีวิตอยู่

ไดอ้ ยา่ งสมดุล แล้วส่งตัวแทนกลุม่

ออกมานาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น

-.สมาชกิ กลมุ่ อน่ื เปรยี บเทียบผลการ

แสดงความคิดเหน็ กบั กลุ่มตนเอง

และเพิ่มเติมในสว่ นท่ีแตกตา่ ง

ตารางที่ ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้(Learning Management Plan)

แผนที ชอ่ื หนว่ ย ตวั ชวี้ ัด(Indicator) /ผลการ หลกั ฐานการเรยี นร/ู้ แนว คาสาคญั กระบวนการจัดการเรียนรู้ ส่ือ/นวตั กรรม/ จานวน
สัปดาห์ ี่ท เรยี นรู้ (Learning ทางการวดั ประเมินผล (Key Word) และแนวทางการกิจกรรมการ ทรพั ยากร ช่ัวโมง
Outcome)
เรยี นรู้

๒๙ ๑๘ การถ่ายทอด ว ๑.๒ ม ๓/๕. อธิบายผล - นักเรยี นศกึ ษาอธิบายผล -อธบิ าย ข้ันสรปุ ๑) หนังสอื เรยี น ๑

ลกั ษณะทาง ของความหลาก ของความหลากหลายทาง -นกั เรียนทาใบงานที่ ๙ เร่ือง วิทยาศาสตร์ ม.๓ เล่ม ๒

พันธกุ รรม หลายทางชวี ภาพที่มีต่อ ชวี ภาพทมี่ ีตอ่ มนุษย์ สัตว์ ความหลากหลายทางชีวภาพ ๒) ใบงานที่ ๘ เรอ่ื ง

มนุษย์ สตั ว์ พชื และ พืช และส่ิงแวดล้อม ทา เสร็จแล้วนาสง่ ครู ความหลากหลายทาง

สิง่ แวดลอ้ ม แบบฝึกทักษะ และตอบ ชวี ภาพ

คาถามทา้ ยบทเรยี น

๓o ๑๙ การถ่ายทอด ว ๑.๒ ม ๓/๖.อภิปรายผล - นักเรียนศึกษาข้อมลู จาก -อภปิ ราย เร่ือง ประโยชนข์ องความ ๑) หนังสอื เรียน ๑

ลกั ษณะทาง ของเทคโนโลยีชวี ภาพต่อ แหลง่ เรียนรู้ต่างๆ ของผล หลากหลายทางชีวภาพต่อการ วทิ ยาศาสตร์ ม.๓ เล่ม ๒

พนั ธุกรรม การดารงชีวิตของมนษุ ย์และ ของเทคโนโลยีชีวภาพตอ่ ดารงชวี ติ ของมนุษย์ ๒) บัตรภาพ

สิ่งแวดล้อม การดารงชีวติ ของมนุษย์ วธิ ีสอน ๓) ตรวจใบงานท่ี ๙

และสง่ิ แวดล้อม ทาแบบฝกึ ขัน้ นาเข้าส่บู ทเรียน เร่อื ง ประโยชน์และโทษ

ทกั ษะ และตอบคาถามทา้ ย -นักเรียนดูภาพพืชและสัตว์ ของควากหลาก

บทเรียน แลว้ ชว่ ยกนั บอกประโยชน์ที่ หลายทางชีวภาพต่อการ

-ใบงานท่ี ๙ เรื่อง ได้จากพชื และสตั ว์ ดารง

ประโยชน์และโทษของ -ครอู ธิบายเพ่ิมเติมให้นักเรียน ชีวิตของมนษุ ย์

ควากหลาก ฟังเกยี่ วกับประโยชนข์ องพืช

หลายทางชีวภาพต่อการ และสตั ว์ทมี่ ีต่อมนุษย์ ทัง้ ดา้ น

ดารง อาหาร ดา้ นท่ีอยู่ อาศยั ด้าน

ชวี ติ ของมนุษย์ เครื่องนุ่งห่ม และด้านยารกั ษา

โรค

ตารางท่ี ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้(Learning Management Plan)

แผนที ช่ือหน่วย ตัวช้ีวดั (Indicator) /ผล หลกั ฐานการเรียนร/ู้ แนว คาสาคญั กระบวนการจัดการเรียนรู้และ สอื่ /นวตั กรรม/ จานวน
ัสปดา ์ห ีท่ การเรียนรู้ (Learning ทางการวดั ประเมนิ ผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรยี นรู้ ทรัพยากร ชั่วโมง

Outcome)

๓o ๑๙ การถ่ายทอด ว ๑.๒ ม ๓/๖.อภปิ รายผล -นกั เรียนศึกษาข้อมลู จาก -อภปิ ราย ขนั้ สอน ๑) หนงั สอื เรยี น ๑

ลกั ษณะทาง ของเทคโนโลยีชีวภาพต่อ แหล่งเรยี นรตู้ า่ งๆ ของผลของ -นกั เรียนศกึ ษาความรู้เรื่อง วทิ ยาศาสตร์ ม.

พนั ธกุ รรม การดารงชีวิตของมนุษย์ เทคโนโลยีชวี ภาพต่อการ ประโยชน์และโทษของความ ๓ เลม่ ๒

และส่ิงแวดลอ้ ม ดารงชีวติ ของมนุษย์และ หลากหลายทางชวี ภาพต่อการ ๒) บตั รภาพ

สิง่ แวดลอ้ ม ทาแบบฝึกทักษะ ดารงชีวิตของมนุษย์ จาก ๓) ใบงานที่ ๙

และตอบคาถามท้ายบทเรียน หนังสือเรยี น เรอ่ื ง ประโยชน์

-ใบงานที่ ๙ เร่ือง ประโยชน์ -นกั เรียนทาใบงานที่ ๙ เรอ่ื ง และโทษของ

และโทษของควากหลาก ประโยชน์และโทษของควากหลาก ควากหลาก

หลายทางชวี ภาพตอ่ การดารง หลายทางชวี ภาพตอ่ การดารง หลายทาง

ชวี ติ ของมนุษย์ ชีวิตของมนษุ ย์ ชวี ภาพตอ่ การ

ข้นั สรุป ดารง

-นักเรียนและครูช่วยกันสรุป ชีวิตของมนุษย์

ความร้เู ก่ยี วกับประโยชน์ของ

ความหลากหลายทางชีวภาพตอ่

การดารงชวี ิต

ของมนุษย์

ตารางท่ี ๙ การออกแบบ/การวางแผนการจดั กจิ กรรมการเรยี นร(ู้ Learning Management Plan)

แผนที ช่อื หนว่ ย ตวั ชว้ี ดั (Indicator) /ผล หลกั ฐานการเรียนร้/ู แนว คาสาคัญ กระบวนการจัดการเรยี นร้แู ละ ส่อื /นวตั กรรม/ จานวน
ัสปดา ์ห ีท่ การเรียนรู้ (Learning ทางการวัด ประเมินผล (Key Word) แนวทางการกจิ กรรมการเรียนรู้ ทรพั ยากร ชัว่ โมง

Outcome)

๓๑ ๒o การถา่ ยทอด ว ๑.๒ ม ๓/๖.อภปิ รายผล -นกั เรยี นศกึ ษาข้อมลู จาก -อภิปราย เรอื่ ง เทคโนโลยีชีวภาพ ๑) หนังสือเรียน ๑

ลักษณะทาง ของเทคโนโลยีชวี ภาพต่อ แหล่งเรยี นรู้ต่างๆของผลของ ขน้ั นาเข้าสบู่ ทเรียน วทิ ยาศาสตร์ ม.๓

พนั ธกุ รรม การดารงชีวติ ของมนษุ ย์ เทคโนโลยีชีวภาพตอ่ การ -นกั เรียนอา่ นข่าวเกย่ี วกบั เลม่ ๒

และสิง่ แวดล้อม ดารงชวี ิตของมนุษยแ์ ละ เทคโนโลยีชีวภาพทคี่ รูแจกให้ ๒) ขา่ วเก่ยี วกับ

ส่งิ แวดล้อม ทาแบบฝกึ ทกั ษะ แล้วรว่ มกันอภิปรายถงึ ประโยชน์ เทคโนโลยีชีวภาพ

และตอบคาถามท้ายบทเรยี น ของเทคโนโลยีชีวภาพ ๓) ใบงานที่ ๑o

-ใบงานท่ี ๑o เร่ือง เทคโนโลยี -ครอู ธบิ ายเพิ่มเตมิ เพ่อื เชือ่ มโยงให้ เร่ือง เทคโนโลยี

ชวี ภาพ นกั เรยี นเขา้ ใจว่าเทคโนโลยมี คี วาม ชวี ภาพ

เกยี่ วขอ้ งกบั การดารงชีวิตของ

มนษุ ย์

ชนั้ สอน

-นกั เรียนแตล่ ะคนศกึ ษาความรู้

เร่ือง เทคโนโลยีชีวภาพ จาก

หนงั สอื เรยี น ตามหัวข้อที่กาหนด

นักเรียนแตล่ ะคนนาความรู้

เกย่ี วกับเทคโนโลยีชวี ภาพทไี่ ด้

จากการศึกษามาทาใบงานที่ ๑o

เร่ือง เทคโนโลยีชวี ภาพ

ขน้ั สรุป

-นกั เรยี นรว่ มกนั สรปุ ความรู้

เกยี่ วกบั ประโยชนข์ องเทคโนโลยี

ชวี ภาพท่ีมีต่อการดารงชวี ติ ของ

มนุษยแ์ ละสงิ่ แวดลอ้ ม เขียนเปน็

แผนผงั ความคดิ ลงในสมุด

สรุป การวดั และประเมินผล วชิ า วิทยาศาสตร์ ชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ ๓

๑.เปา้ หมายการจัดการเรยี นรู้

๑.๑. ผเู้ รยี นมผี ลการเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน ร้อยละ ๘o

๑.๒. มผี ลสมั ฤทธท์ิ างการเรยี นเฉล่ีย ๓.oo

๒. การให้คะแนน ๑oo คะแนน

๒.๑ อัตราส่วนคะแนน ระหว่างภาค : ปลายภาค = ๗o : ๓o

๒.๒ คะแนนระหว่างเรียน

๒.๒.๑ ประเมนิ วัดความร้.ู ๓o .คะแนน

๒.๒.๒ ประเมนิ ดา้ นทักษะ ๖o คะแนน

๒.๒.๓ ประเมนิ คณุ ลักษณะอันพงึ ประสงค์ ๑o คะแนน

๒.๓ สอบกลางภาค ๓o คะแนน

๒.๔ สอบปลายภาค ๒o คะแนน

๓. คณุ ลกั ษณะอันพึงประสงค์ทปี่ ระเมินคอื

๓.๑ รักชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ ๓.๒ ซอื่ สตั ยส์ จุ ริต ๓.๓ มีวนิ ัย ๓.๔ ใฝเ่ รยี นรู้ ๓.๔ อยู่อยา่ งพอเพียง ๓.๖ ม่งุ มน่ั ในการทางาน

๓.๗ รกั ความเปน็ ไทย ๓.๘ มีจิตสาธารณะ

๔. สมรรถนะทีไ่ ดร้ บั การพัฒนาจากการเรียนรรู้ ายวิชานี้คือ

๔.๑ ความสามารถในการสอ่ื สาร ๔.๒ ความสามารถในการคิด ๔.๓ ความสามารถในการแกป้ ัญหา ๔.๔ ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ

๔.๕ ความสามมารถในการใชเ้ ทคโนโลยี


Click to View FlipBook Version