The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ป.5

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by noouink_271143, 2022-01-11 02:47:21

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ ป.5

แผนการจัดการเรียนรู้

วิชา คณิตศาสตร์
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5

น า ง ส า ว ธ น ภ ร เ สี ย ง ใ ห ญ่

แผนการจดั การเรยี นรู้
วิชาคณติ ศาสตร์

ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 5

จัดทำโดย
นางสาวธนภร เสยี งใหญ่
เลขที่ 13รหสั 6221148016 หม่เู รียน D4
สาขาการวดั ประเมินและวิจยั ทางการศกึ ษา

เสนอ
อาจารย์ ดร.พชั รภี รณ์ บางเขยี ว
รายงานฉบับน้ีเป็นสว่ นหนึง่ ของการศึกษารายวชิ า “วิทยาการจดั การเรียนรู้”
ภาคเรยี นที่ 2 ปกี ารศกึ ษา 2564 มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเดจ็ เจ้าพระยา



คำนำ

แผนการจัดการเรียนรู้รายวิชาคณติ ศาสตร์ ระดับช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5 จดั ทาข้นึ เพ่ือใชเ้ ปน็
แนวทางในการจัดการเรยี นการสอนที่เน้นผเู้ รยี นเปน็ สาคัญ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขนั้ พื้นฐาน
พุทธศักราช 2560 (ฉบบั ปรับปรุง) แผนการจดั การเรยี นรปู้ ระกอบด้วยเน้อื หาสาระดังต่อไปนี้ แผนการ
จดั การเรียนรรู้ ายปีซง่ึ ประกอบดว้ ย มาตรฐานและตวั ชว้ี ัดกล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิชาคณิตศาสตร์ แผนการ
จัดการเรยี นรู้รายคาบทงั้ หมด 5 แผนการจดั การเรียนรู้ได้แก่ หน่วยท่ี 1 บวก–ลบ–คณู -หาร พาเพลนิ
หน่วยที่ 2 เศษส่วนชวนคิด หนว่ ยที่ 3 แต่ “ระคน”หนว่ ยที่ 4 อ่านแล้ว “อ๋อ”และหน่วยท่ี 12 ใครไมซ่ ึม
แต่ “ปริซึม”

ผู้จัดทาขอขอบพระคณุ ผู้ช่วยศาสตราจารย์ดร. พัชรภี รณ์ บางเขียว เป็นอย่างยิ่ง ทใี่ หค้ าปรกึ ษา
และ คาแนะนาตลอดระยะเวลาการจัดทาแผนการจัดการเรยี นรู้ และหวงั เป็นอย่างยิ่งวา่ แผนการจัดการ
เรียนร้เู ล่มน้ี เป็นประโยชนก์ ับการจัดการเรียนรใู้ นห้องเรยี น ทาให้ผ้เู รยี นสามารถพัฒนาการเรยี นรไู้ ด้
อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพต่อไป

นำงสำวธนภร เสียงใหญ่

ผูจ้ ดั ทำ

สารบญั ข

เร่ือง หน้า

คำนำ ข
สารบญั 1-6
แผนการจัดการเรียนรู้รายปี 7-8
ตารางโครงสร้างรายวิชา 9 - 25
แผนการจดั การเรียนรทู้ ี่ 1 26 - 39
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2 40 - 53
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 3 54 - 69
แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 4 70 - 82
แผนการจดั การเรียนรทู้ ่ี 5 83
บรรณานกุ รม

1

แผนการจดั การเรียนรู้รายปี

สาระการเรยี นรคู้ ณิตศาสตร์ รายวชิ าคณติ ศาสตร์ หน่วยกิต 4 หน่วยกิต

ชนั้ ประถมศกึ ษาปีที่ 5 ปีการศกึ ษา 2564 เวลา 160 ชวั่ โมง

ครูผสู้ อน นางสาวธนภร เสยี งใหญ่

มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชีว้ ดั

มาตรฐานการเรยี นรู้

มำตรฐำนที่ ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ

ของจานวน ผลทเ่ี กิดขึ้นจากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้

มำตรฐำนท่ี ค 2.1 เข้าใจพนื้ ฐานเกี่ยวกับการวดั วัดและคาดคะเนขนาดของสงิ่ ทตี่ ้องการวดั

และนาไปใช้

มำตรฐำนที่ ค 2.2 เข้าใจและวเิ คราะหร์ ปู เรขาคณติ สมบัตขิ องรูปเรขาคณติ ความสัมพันธ์

ระหว่างรูปเรขาคณติ และทฤษฎีบททางเรขาคณิต และนาไปใช้

มำตรฐำนที่ ค 3.1 เข้าใจกระบวนการทางสถติ ิ และใชค้ วามรูท้ างสถติ ิในการแก้ปญั หา

ตัวช้วี ดั

มำตรฐำนที่ ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ
ของจานวน ผลทีเ่ กดิ ขึน้ จากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษส่วนทมี่ ีตัวส่วนเปน็ ตัวประกอบ ของ 10 หรือ 100 หรือ 1,000 ในรปู ทศนิยม
ค 1.1 ป.5/2 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา โดยใช้บัญญัตไิ ตรยางศ์
ค 1.1 ป.5/3 หาผลบวก ผลลบของเศษสว่ นและ จานวนคละ
ค 1.1 ป.5/4 หาผลคณู ผลหารของเศษส่วนและ จานวนคละ
ค 1.1 ป.5/5 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา การบวก การลบ การคูณ การหาร เศษส่วน 2 ขั้นตอน
ค 1.1 ป.5/6 หาผลคณู ของทศนิยมทผี่ ลคูณ เปน็ ทศนยิ มไม่เกนิ 3 ตาแหน่ง
ค 1.1 ป.5/7 หาผลหารที่ตวั ตง้ั เปน็ จานวนนบั หรอื ทศนยิ มไม่เกิน 3 ตาแหน่ง และตวั หาร เป็นจานวนนบั
ผลหารเปน็ ทศนิยม ไมเ่ กิน 3 ตาแหนง่
ค 1.1 ป.5/8 แสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์ปัญหา การบวก การลบ การคูณ การหาร ทศนยิ ม 2 ข้นั ตอน
ค 1.1 ป.5/9 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทย์ปญั หา ร้อยละไม่เกนิ 2 ขัน้ ตอน

2

มำตรฐำนที่ ค 2.1 เข้าใจพื้นฐานเกย่ี วกบั การวดั วัดและคาดคะเนขนาดของส่ิงท่ตี อ้ งการวัด
และนาไปใช้
ค 2.1 ป.5/1 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปญั หาเกยี่ วกบั ความยาวที่มกี ารเปลยี่ นหน่วย และเขยี นในรปู
ทศนิยม
ค 2.1 ป.5/2 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกี่ยวกับน้าหนักท่ีมีการเปลีย่ นหนว่ ย และเขียนในรูป
ทศนิยม
ค 2.1 ป.5/3 แสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ปริมาตรของทรงสเี่ หล่ยี มมุมฉาก และความจุ
ของภาชนะทรงสเ่ี หลีย่ มมุมฉาก
ค 2.1 ป.5/4 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ญั หาเกีย่ วกบั ความยาวรอบรปู ของรูปสี่เหลย่ี มและพน้ื ที่ ของ
รูปส่เี หลี่ยมด้านขนานและรปู สีเ่ หล่ียมขนมเปยี กปนู

มำตรฐำนที่ ค 2.2 เขา้ ใจและวเิ คราะห์รปู เรขาคณิต สมบัติของรปู เรขาคณติ ความสมั พันธ์
ระหว่างรปู เรขาคณติ และทฤษฎบี ททางเรขาคณิต และนาไปใช้
ค 2.2 ป.5/1 สร้างเสน้ ตรงหรือสว่ นของเส้นตรง ใหข้ นานกับเส้นตรงหรอื ส่วนของเส้นตรง ท่กี าหนดให้
ค 2.2 ป.5/2 จาแนกรูปส่เี หลี่ยมโดยพจิ ารณาจากสมบัติของรปู
ค 2.2 ป.5/3 สรา้ งรูปสเี่ หลี่ยมชนดิ ตา่ ง ๆ เมื่อกาหนดความยาวของด้านและขนาดของมมุ หรือเม่ือ
กาหนดความยาวของเส้นทแยงมุม
ค 2.2 ป.5/4 บอกลกั ษณะของปรซิ ึม

มำตรฐำนที่ ค 3.1 เขา้ ใจกระบวนการทางสถติ ิ และใช้ความรู้ทางสถิติในการแก้ปญั หา
ค 3.1 ป.5/1 ใช้ขอ้ มูลจากกราฟเส้นในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา
ค 3.1 ป.5/2 เขยี นแผนภูมิแท่งจากข้อมูลท่เี ปน็ จานวนนบั

3

จดุ ประสงค์การเรยี นรู้

1. ดา้ นความรู้ (K)
1. นักเรยี นสามารถบอกวิธีการเขยี นเศษสว่ นในรปู ทศนยิ ม (K)
2. นักเรียนสามารถบอกวิธีการหาผล บวก ลบ คณู หาร ของเศษส่วนและจานวนคละ (K)
3. นกั เรียนสามารถบอกวธิ กี ารหาผลทผ่ี ลคูณ เปน็ ทศนิยมไม่เกิน 3 ตาแหน่ง (K)
4. นกั เรยี นสามารถบอกวธิ ีการหาผลหารทตี่ วั ต้งั เปน็ จานวนนบั หรือ ทศนิยมไมเ่ กิน 3 ตาแหนง่

และตัวหารเป็นจานวนนบั ผลหารเป็นทศนยิ ม ไม่เกิน 3 ตาแหนง่ (K)
5. นกั เรยี นสามารถสรุปวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรปู ของรูปสี่เหลยี่ ม

และพ้ืนที่ ของรูปสีเ่ หลีย่ มด้านขนานและรปู สี่เหลยี่ มขนมเปียกปูน (K)
6. นกั เรยี นสามารถสรุปการจาแนกรปู สเ่ี หลีย่ มโดยพจิ ารณาจากสมบตั ิของรปู (K)
7. นกั เรียนสามารถบอกลกั ษณะของปริซึม (K)
8. นกั เรยี นสามารถสรุปข้อมูลจากกราฟเส้นในการหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา (K)

2. ด้านทักษะ (P)
9. นกั เรียนสามารถเขยี นเศษสว่ นในรูปทศนิยม (P)
10. นักเรยี นสามารถเขยี นแสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ญั หา โดยใช้บญั ญตั ไิ ตรยางศ์ (P)
11. นกั เรียนสามารถเขยี นแสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา การบวก การลบ การคณู การหาร

เศษสว่ น 2 ข้ันตอน (P)
12. นักเรยี นสามารถเขยี นแสดงวิธีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา การบวก การลบ การคณู การหาร

ทศนยิ ม 2 ขน้ั ตอน (P)
13. นกั เรยี นสามารถเขียนแสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หา รอ้ ยละไม่เกนิ 2 ข้ันตอน (P)
14. นักเรียนสามารถเขียนแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์เกี่ยวกับความยาวที่มีการเปลี่ยนหน่วย

และเขียนในรปู ทศนิยม (P)
15. นักเรียนสามารถเขียนแสดงวิธีหาคาตอบของโจทย์เก่ียวกับน้าหนักที่มีการเปลี่ยนหน่วย และ

เขยี นในรูปทศนยิ ม (P)
16. นักเรียนสามารถเขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทย์ปัญหาเกีย่ วกับปริมาตรของทรงส่ีเหลี่ยม

มมุ ฉาก และความจุของภาชนะทรงสเ่ี หล่ียมมมุ ฉาก (P)
17. นกั เรียนสามารถเขียนแสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาเกี่ยวกับความยาวรอบรปู ของรปู

สเ่ี หลยี่ มและพน้ื ท่ี ของรูปสเ่ี หลยี่ มดา้ นขนานและรปู ส่เี หล่ียมขนมเปียกปูน (P)

4

18. นักเรียนสามารถสรา้ งเส้นตรงหรือสว่ นของเสน้ ตรง ให้ขนานกบั เส้นตรงหรอื ส่วนของเส้นตรง
ที่กาหนดให้ (P)

19. นกั เรยี นสามารถสร้างรูปส่ีเหลีย่ มชนดิ ตา่ ง ๆ เมอื่ กาหนดความยาวของดา้ นและขนาดของมมุ
หรอื เมอื่ กาหนดความยาวของเสน้ ทแยงมุม (P)

20. นกั เรยี นสามารถเขยี นแผนภูมิแทง่ จากข้อมลู ท่เี ป็นจานวนนบั (P)
3. ดา้ นทศั นคติ (A)

21. นกั เรยี นตระหนักถงึ การแก้โจทยป์ ญั หาโดยใชบ้ ัญญตั ิไตรยางศ์ (A)
22. นักเรยี นตระหนักถึงการแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู การหาร เศษส่วน 2
ข้นั ตอน (A)
23. นักเรียนตระหนักถงึ การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก การลบ การคณู การหาร ทศนยิ ม 2
ขั้นตอน (A)
24. นกั เรยี นตระหนักถึงการแกโ้ จทย์ปญั หาร้อยละไม่เกนิ 2 ขน้ั ตอน (A)
25. นักเรยี นมีความมงุ่ มานะในการแก้โจทย์ปญั หาเกย่ี วกบั ความยาวที่มกี ารเปลย่ี นหน่วย และ
เขียนในรปู ทศนิยม (A)
26. นักเรยี นมีความมงุ่ มานะในการแกโ้ จทยป์ ญั หาเก่ียวกบั นา้ หนกั ที่มีการเปลย่ี นหนว่ ย และ
เขียนในรูปทศนิยม (A)
27. นกั เรียนมคี วามมุ่งมานะในการแกโ้ จทยป์ ัญหาเกี่ยวกับปริมาตรของทรงส่เี หลีย่ มมุมฉาก และ
ความจขุ องภาชนะทรงสีเ่ หลี่ยมมมุ ฉาก (A)
28. นกั เรยี นมคี วามมงุ่ มานะในการแกโ้ จทยป์ ัญหาเก่ียวกบั ความยาวรอบรปู ของรปู สีเ่ หลี่ยมและ
พนื้ ท่ี ของรูปส่ีเหลย่ี มด้านขนานและรูปส่เี หลี่ยมขนมเปยี กปูน (A)
29. นกั เรียนมีความมุ่งมานะในการสรา้ งรปู สเ่ี หลยี่ มชนิดตา่ งๆ เม่ือกาหนดความยาวของดา้ นและ
ขนาดของมุม หรอื เมื่อกาหนดความยาวของเส้นทแยงมมุ (A)
30. นักเรยี นตระหนักถึงการใช้ข้อมูลจากกราฟเส้นในการหาคาตอบของโจทยป์ ัญหา (A)

5

สาระสำคัญ

คณติ ศาสตรม์ บี ทบาทสาคญั ยิง่ ต่อความสาเร็จในการเรียนรูใ้ นศตวรรษที่ 21 เนือ่ งจาก คณิตศาสตร์
ช่วยใหม้ นษุ ย์มคี วามคดิ รเิ ร่ิมสรา้ งสรรค์ คดิ อย่างมีเหตผุ ล เป็นระบบ มแี บบแผน สามารถ วิเคราะห์ปญั หา
หรือสถานการณ์ได้อย่างรอบคอบและถี่ถ้วน ช่วยให้คาดการณ์ วางแผน ตัดสินใจ แก้ปัญหาได้อย่าง
ถกู ต้องเหมาะสม และสามารถนา ไปใช้ในชวี ิต จริงไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ นอกจากน้ี คณติ ศาสตร์ยังเป็น
เครื่องมือ ในการศึกษาด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และศาสตร์อื่นๆ อันเป็นรากฐาน ในการพัฒนา
ทรัพยากรบุคคลของชาติให้มีคุณภาพและพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศให้ทัดเทียม กับนานาชาติ
การศึกษาคณิตศาสตร์จึงจาเป็นต้องมีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้ทันสมัย และสอดคล้องกับสภาพ
เศรษฐกจิ สังคมและความรู้ทางวทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยีที่เจรญิ กา้ วหนา้ อยา่ งรวดเรว็ ในยคุ โลกาภวิ ัตน์

สาระการเรียนรู้

• ความสัมพันธร์ ะหว่างเศษส่วนและทศนิยม
• การแกโ้ จทยป์ ญั หาโดยใช้บญั ญตั ไิ ตรยางศ์
• การบวก การลบของเศษส่วนและจานวนคละ
• การคูณ การหารของเศษสว่ นและจานวนคละ
• การแก้โจทย์ปัญหาเศษส่วนและจานวน
• การคูณทศนยิ ม
• การหารทศนิยม
• การแกโ้ จทย์ปญั หาเกีย่ วกบั ทศนยิ ม
• การแกโ้ จทย์ปญั หาร้อยละ
• การแกโ้ จทย์ปัญหาเกี่ยวกบั ความยาวโดยใช้ความรเู้ รื่องการเปล่ยี นหน่วย และทศนยิ ม
• การแก้โจทย์ปัญหาเก่ยี วกับน้าหนัก โดยใช้ ความรู้เรื่องการเปล่ยี นหน่วยและทศนยิ ม
• การแก้โจทย์ปญี หาเกี่ยวกบั ปริมาตร ของทรงสี่เหล่ียมมุมฉากและความจุ ของภาชนะทรงสีเ่ หลย่ี มมุม

ฉาก
• ความยาวรอบรปู ของรูปสีเ่ หลี่ยม
• พื้นท่ีของรูปสี่เหลีย่ มด้านขนานและรปู สีเ่ หลย่ี มขนมเปียกปูน
• การแก้โจทย์ปญั หาเก่ยี วกบั ความยาวรอบรปู ของรูปสเี่ หล่ียมและพน้ื ทีข่ องรูปส่ีเหลี่ยมด้านขนานและรูป

สี่เหลี่ยมขนมเปยี กปนู

6

• เส้นขนานและสญั ลักษณแ์ สดงการขนาน
• การสรา้ งเส้นขนาน
• ชนดิ และสมบตั ิของรูปสี่เหลยี่ ม
• การสร้างรูปสเ่ี หลย่ี ม
• ลกั ษณะและส่วนต่าง ๆ ของปริซมึ
• การอ่านกราฟเส้น
• การอ่านและการเขยี นแผนภูมิแทง่

คำอธิบายรายวิชา
บอกจานวนของสง่ิ ต่าง ๆ แสดงสิง่ ต่าง ๆ ตามจานวนท่ีกาหนด อา่ นและเขียนตวั เลขฮินดูอารบิก

ตัวเลขไทย แสดงจานวนนบั ไม่เกิน 100 และ 0 เปรียบเทยี บจานวนนับไมเ่ กนิ 100 และ 0 โดยใช้
เคร่อื งหมาย = เรียงลาดบั จานวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0 ตง้ั แต่ 3 – 5 จานวน หาค่าของตัวไม่ทราบค่าใน
ประโยคสัญลักษณ์ แสดงการบวกและประโยคสญั ลกั ษณ์ แสดงการลบจานวนนับไมเ่ กิน 100 และ 0
แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก และโจทยป์ ัญหาการลบของจานวนนบั ไม่เกนิ 100 และ 0
ระบุจานวนทห่ี ายไปในแบบรูปของจานวนที่เพมิ่ ขึ้นหรอื ลดลงทีละ 1 และ ทลี ะ 10 ระบุรปู ทหี่ ายไปใน
แบบรปู ซา้ ของรปู เรขาคณติ และรูปอื่นๆ ในแตล่ ะชดุ ทซ่ี ้ามี 2 รปู วดั และเปรียบเทียบความยาวเปน็
เซนตเิ มตรเปน็ เมตร นา้ หนักเป็นกิโลกรัมเปน็ ขดี จาแนกรปู สามเหล่ยี ม รปู สเี่ หลยี่ ม วงกลม วงรี ทรง
ส่เี หลยี่ มมมุ ฉาก ทรงกลม ทรงกระบอก และกรวย ใช้ข้อมูลจากแผนภูมิรูปภาพ ในการหาคาตอบของ
โจทย์ปญั หา เมือ่ กาหนดรูปหนึ่งรูปแทนหนง่ึ หนว่ ย

โดยใชท้ ักษะและกระบวนการทางคณิตศาสตร์ในการแกป้ ัญหาในสถานการณ์ต่างๆ ได้อยา่ ง
เหมาะสม รู้จักใช้วธิ กี ารท่ีหลากหลายในการแกป้ ัญหา เพอ่ื ให้มคี วามรู้ความเข้าใจ มีทักษะในการคิด
คานวณ การแกป้ ญั หา การให้เหตุผล การสอ่ื สาร ส่อื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ และสามารถนาไปใช้ใน
การเรียนร้สู ิง่ ตา่ งๆ ไดอ้ ยา่ งถูกตอ้ ง

เพื่อให้ผู้เรียนได้ศึกษาพัฒนาทักษะกระบวนการในการคิดคานวณ การแก้ปัญหา การให้เหตุผล
การสอ่ื ความหมายทางคณติ ศาสตร์ ไปใชใ้ นชีวติ ประจาวนั อย่างสร้างสรรค์ เหน็ คณุ คา่ และมีเจตคติที่ดีต่อ
คณิตศาสตร์ สามารถทางานอย่างเป็นระบบระเบียบ รอบคอบ มีความรับผิดชอบ มีวิจารณญาณ และ
เช่ือม่ันในตนเอง

7

ตารางโครงสร้างรายวชิ า

รายวิชาพ้ืนฐาน รหัสวชิ า ค15101 กลุ่มสาระการเรยี นรู้คณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศึกษาปีที่ 5 ปกี ารศึกษาท่ี 2564 จำนวน 160 ช่ัวโมง

หนว่ ยท่ี ชื่อหน่วยการเรียนรู้ เวลา (ชัว่ โมง)

1 บวก – ลบ– คูณ -หาร พาเพลนิ 8
2
1.1 การบวกการลบ 3
3
1.2 การคณู 13
4
1.3 การหาร 6
3
2 เศษส่วนชวนคิด 12
6
2.1 การเขียนเศษสว่ น 6
17
2.2 การแก้โจทย์ปญั หาเศษสว่ น 3
4
2.3 ความสัมพนั ธ์ระหวา่ งเศษสว่ นและทศนิยม 4
6
3 แต่ “ระคน” 15
3
3.1 การแก้โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ ระคน 6
6
3.2 การแกโ้ จทยป์ ญั หาการคูณ การหาร ระคน 8
8
4 จดุ เดียวที่จดจำ 15
2
4.1 ทศนยิ มกบั กาวัด 2
4
4.2 การคณู ทศนิยม 7

4.3 การหารทศนยิ ม

4.4 การแก้โจทย์ปญั หาทศนยิ ม

5 อ่านแล้ว “อ๋อ”

5.1 การอา่ นแผนภมู แิ ท่ง และกราฟเส้น

5.2 การสรา้ งแผนภูมแิ ทง่

5.3 การสรา้ งกราฟเส้น

6 บัญญัติไตรยางศ์

6.1 การแกโ้ จทย์ปญั หาบัญญตั ไิ ตรยางศ์

7 ถงึ “รอ้ ยละ” จ้า

7.1 การอ่าน -การเขียนร้อยละ

7.2 การอ่าน -การเขียนเปอร์เซน็ ต์

7.3 รอ้ ยละของจำนวนนบั

7.4 การแก้โจทย์ปญั หารอ้ ยละเปอรเ์ ซ็นต์

หนว่ ยที่ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ 8

8 วัดและคาดคะเน เวลา (ชัว่ โมง)
8.1 ความยาว
8.2 นำ้ หนัก 24
8.3 ปรมิ าตรและความจุ 4
ความสมั พนั ธร์ ะหว่างหน่วยปริมาตรและความจุ 4
- การแกโ้ จทยป์ ญั หาความยาว นำ้ หนกั และปรมิ าตรและความจุ 8
8.4 รปู ตา่ งๆ
9 ชนดิ ของรูปสี่เหล่ยี ม 8
9.1 สมบตั ขิ องรูปสเ่ี หลี่ยม 15
9.2 การสรา้ งรูปส่เี หล่ียม 2
9.3 การแกโ้ จทย์ปญั หารูปสเี่ หล่ยี ม 2
9.4 พนื้ ทอี่ ย่ไู หน?? 5
10 การหาพื้นท่ี 6
10.1 สองเสน้ ค่กู นั 8
11 เส้นขนานและสัญลกั ษณ์แสดงการขนาน 8
11.1 สมบตั ขิ องเสน้ ขนาน 15
11.2 การสรา้ งเส้นขนาน 5
11.3 ใครไม่ซึมแต่ “ปริซึม” 5
12 ลักษณะและส่วนตา่ งๆของปรซิ มึ 5
12.1 ปรมิ าณของปริซึม 10
12.2 5
รวมทัง้ หมด 5
160

9

10

แผนการจดั การเรยี นรทู้ ี่ 1

สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รายวิชาคณิตศาสตร์

ชั้น ประถมศึกษาปีท่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 1 บวก - ลบ – คูณ - หาร พาเพลิน เวลา 8 ช่ัวโมง

ช่ือผสู้ อน นางสาวธนภร เสยี งใหญ่

1. มาตรฐานการเรียนร้/ู ตัวช้ีวัด
มาตรฐานการเรยี นรู้

มำตรฐำนท่ี ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ
ของจานวน ผลท่เี กิดขึ้นจากการดาเนนิ การ สมบัติของการดาเนนิ การ และนาไปใช้
ตัวชี้วัด

ค 1.1 ป.5/3 หาผลบวก ผลลบของเศษสว่ นและ จานวนคละ
ค 1.1 ป.5/4 หาผลคูณ ผลหารของเศษส่วนและ จานวนคละ
ค 1.1 ป.5/5 แสดงวิธหี าคาตอบของโจทยป์ ัญหา การบวก การลบ การคูณ การหาร
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. นกั เรยี นสามารถบอกวธิ กี ารหาผล บวก ลบ คณู หาร (K)
2. นักเรยี นสามารถเขียนแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ การหาร
(P)
3. นักเรียนตระหนกั ถึงการแก้โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ การคูณ การหาร (A)
3. สาระสำคัญ
การบวก ลบ คณู หารระคน มวี ธิ กี ารทหี่ ลากหลายและใช้ทกั ษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ใน
การหาคาตอบและตรวจสอบความสมเหตุสมผลของคาตอบ ส่วนการแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวก ลบ คณู
หารระคนต้องวเิ คราะหโ์ จทย์ และแสดงวธิ ีทาเพอ่ื หาคาตอบ รวมทัง้ ตรวจสอบความสมเหตสุ มผลของ
คาตอบ
4. สาระการเรยี นรู้
- การบวก
- การลบ
- การคูณ
- การหาร

11

5. สมรรถนะสำคญั ของผเู้ รียน (เฉพาะที่เกดิ ในหน่วยการเรยี นรูน้ ้)ี
 ความสามารถในการส่อื สาร
 ความสามารถในการคดิ
 ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวติ
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี

6. ทักษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสู่การพฒั นาคณุ ภาพผเู้ รียน)
 ทักษะการอ่าน (Reading)
 ทกั ษะการ เขยี น (Writing)
 ทกั ษะการ คิดคำนวณ (Arithmetic)
 ทกั ษะด้านการคิดอย่างมีวิจารณญาณและทักษะในการแกป้ ญั หา (Critical thinking and problem
solving)
 ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation)
 ทักษะดา้ นความรว่ มมอื การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration , teamwork
and leadership)
 ทกั ษะดา้ นความเข้าใจตา่ งวฒั นธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)
 ทกั ษะด้าน การสื่อสาร สารสนเทศ และร้เู ท่าทันสื่อ (Communication information and
media literacy)
 ทักษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการสอ่ื สาร (Computing)
 ทกั ษะอาชีพและทักษะการเรยี นรู้ (Career and learning self-reliance, change)
 ทกั ษะการเปล่ยี นแปลง (Change)
 ทักษะการเรียนรู้ (Learning Skills)
 ภาวะผนู้ ำ (Leadership)

12

7. ชน้ิ งานหรือภาระงาน ( หลกั ฐาน / ร่องรอยแสดงความรู้ )
1. แบบฝกึ หดั ท่ี 1 เร่อื ง การบวก
2. แบบฝกึ หัดที่ 2 เรื่อง การลบ
3. แบบฝกึ หัดที่ 3 เรื่อง การคูณ
4. แบบฝกึ หัดท่ี 4 เรอ่ื ง การหาร

8. การจัดกิจกรรมการเรียนรู้
หนว่ ยยอ่ ยที่ 1 เร่อื ง การบวก การลบ
ช่ัวโมงท่ี 1-2 (ใช้รูปแบบการเรยี นรู้แบบแฮร์บารต์ (Herbart Method)
ขั้นท่ี 1 ขั้นเตรียม
1.1 ครูกลา่ วทักทายนกั เรยี นพรอ้ มเชค็ ชอ่ื นักเรยี นโดยการใหน้ ักเรยี น พิมพค์ ําอะไรกไ็ ด้ 3 คํา มา
ในช่องแชท ภายในระยะเวลา 10 วินาที
1.2 ครชู ี้แจงจดุ ประสงค์ที่นักเรียนจะไดร้ ับในการเรียนวันนี้
ขั้นที่ 2 ข้นั สอน
2.1 ครูเร่มิ เขา้ สูบ่ ทเรียนเร่อื ง การบวก การลบ โดยใชส้ อ่ื PowerPoint
2.2 ครูมีตวั อย่างการแก้โจทย์ปญั หาเรื่อง การบวก การลบ ไดล้ องทำไปพรอ้ มครู
2.3 ครมู ีกจิ กรรมให้นักเรยี นได้มีส่วนรว่ มโดยการเขา้ เวป็ เกม Wordwall เร่อื งการบวก การลบ
ขั้นที่ 3 ขัน้ ทบทวน
3.1 ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นได้ยกมือถามเกี่ยวกับการเรียนเร่อื ง การบวก การลบ
3.2 ครูมโี จทยป์ ญั หาให้นักเรียนทีอ่ าสาอยากแก้ไขโจทย์ปัญหาเร่ือง การบวก การลบได้ทดลอง
ทำให้เพ่ือนๆดู (มีคะแนน)
ข้นั ที่ 4 ข้ันสรุป
4.1 ครูสรุปบทเรียนท่ีเรยี นในวันนี้
4.2 ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนได้ยกมือถามในส่งิ ที่นักเรยี นเกิดข้อสงสยั ทีเ่ รียนในวันนี้
ขั้นที่ 5 ข้ันนำไปใช้
5.1 ครมู อบหมายแบบฝกึ หัดท่ี1 เรอ่ื งการบวก
5.2 ครมู อบหมายแบบฝึกหดั ที่2 เรอ่ื งการลบ

13

หนว่ ยย่อยที่ 2 เร่อื ง การคูณ
ชั่วโมงท่ี 3-5 (ใชร้ ปู แบบการเรียนรู้แบบแฮรบ์ าร์ต (Herbart Method)
ข้ันท่ี 1 ขั้นเตรียม
1.1 ครูกล่าวทักทายนกั เรยี นพร้อมเช็คช่ือนกั เรยี นโดยใหน้ ักเรียนเปดิ ไมค์พูดคำอะไรก็ได้ท่ไี มใ่ ช่
คำวา่ มาครบั /มาค่ะ
1.2 ครชู ี้แจงจดุ ประสงค์ทน่ี กั เรียนจะได้รบั ในการเรียนวนั นี้
1.3 ครูทบทวนเรอ่ื งการบวก การลบ ท่ีได้เรยี นในชวั่ โมงทแ่ี ล้ว
ขน้ั ที่ 2 ข้นั สอน
2.1 ครูเร่ิมเข้าสู่บทเรยี นเรอ่ื ง การคณู โดยใช้ส่อื PowerPoint
2.2 ครูมตี วั อยา่ งการแกโ้ จทย์ปญั หาเรื่อง การคูณ ได้ลองทำไปพร้อมครู
2.3 ครูมีกิจกรรมให้นักเรียนไดม้ สี ว่ นรว่ มโดยการเข้าเวป็ เกม Kahoot เร่ืองการคณู
ขน้ั ท่ี 3 ขน้ั ทบทวน
3.1 ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนได้ยกมือถามเกี่ยวกับการเรียนเร่อื ง การคณู
3.2 ครูมีโจทย์ปญั หาให้นักเรียนทีอ่ าสาอยากแก้ไขโจทย์ปัญหาเรือ่ ง การคณู ไดท้ ดลองทำให้
เพ่อื นๆดู (มคี ะแนน)
ขน้ั ท่ี 4 ขั้นสรุป
4.1 ครสู รุปบทเรยี นท่ีเรียนในวันนี้
4.2 ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนได้ยกมือถามในส่ิงท่ีนักเรยี นเกิดขอ้ สงสัยทีเ่ รยี นในวันน้ี
ขน้ั ที่ 5 ขั้นนำไปใช้
5.1 ครมู อบหมายแบบฝกึ หดั ที่ 3 เรื่องการคณู

หน่วยยอ่ ยท่ี 3 เรื่อง การหาร
ชั่วโมงท่ี 6-8 (ใช้รปู แบบการเรียนรู้แบบแฮรบ์ ารต์ (Herbart Method)
ขัน้ ท่ี 1 ข้นั เตรยี ม
1.1 ครกู ลา่ วทกั ทายนกั เรียนพรอ้ มเช็คช่ือนกั เรียนโดยใหน้ ักเรยี นตอบรับคำวา่ มาครบั /มาคะ่
1.2 ครชู ้ีแจงจุดประสงค์ที่นกั เรียนจะไดร้ ับในการเรียนวันน้ี
1.3 ครูทบทวนเรื่อง การหาร ท่ีไดเ้ รยี นในช่วั โมงทแี่ ล้ว

14

ขน้ั ท่ี 2 ข้ันสอน
2.1 ครเู รมิ่ เขา้ สู่บทเรียนเรอื่ ง การหาร โดยใชส้ อ่ื PowerPoint
2.2 ครูมีตวั อยา่ งการแกโ้ จทย์ปัญหาเรอื่ ง การหาร ได้ลองทำไปพร้อมครู
2.3 ครูมกี ิจกรรมใหน้ กั เรยี นได้มีส่วนรว่ มโดยการเข้าเว็ปเกม Kahoot เรื่องการหาร

ขั้นที่ 3 ข้ันทบทวน
3.1 ครูเปดิ โอกาสใหน้ ักเรียนได้ยกมือถามเกีย่ วกับการเรียนเรื่อง การหาร
3.2 ครูมโี จทยป์ ัญหาให้นักเรียนท่ีอาสาอยากแก้ไขโจทย์ปัญหาเร่อื ง การหาร ได้ทดลองทำให้

เพื่อนๆดู (มีคะแนน)
ขน้ั ที่ 4 ขั้นสรุป

4.1 ครูสรุปบทเรียนทเ่ี รยี นในวนั นี้
4.2 ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรียนได้ยกมือถามในสงิ่ ทน่ี ักเรยี นเกิดขอ้ สงสยั ที่เรยี นในวนั นี้
ขน้ั ท่ี 5 ข้นั นำไปใช้
5.1 ครมู อบหมายแบบฝกึ หัดที่ 4 เร่อื ง การหาร

9. สอื่ การสอน
1. สอ่ื Power Point เรอ่ื ง การบวก การลบ การคูณ การหาร
2. แบบฝกึ หดั ที่ 1 เรอื่ งการบวก
3. แบบฝกึ หัดท่ี 2 เรือ่ งการลบ

4. แบบฝึกหดั ที่ 3 เรื่องการคูณ
5. แบบฝกึ หดั ท่ี 4 เร่อื งการหาร
6. เกม Kahoot
7. เกม Wordwall

10. แหล่งเรียนรู้ในหรือนอกสถานที่
-

15

11. การวดั และประเมนิ ผล

จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธีวดั เคร่อื งมือวดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑก์ ารประเมิน
หรอื สงิ่ ท่ีตอ้ งการจะวดั และ
-ถามนักเรยี นใน แบบประเมนิ ทักษะ 3=ดี ระดบั 2คะแนนขึ้นไป
ประเมนิ ผล ชัน้ เรียน ทางคณติ ศาสตร์ 2=พอใช้ ถือว่าผา่ น
1. นักเรียนสามารถบอกวิธกี าร ระดบั 5–6คะแนนขนึ้
บวกการลบการคณู การหาร -ตรวจแบบฝกึ หดั 1 = ปรับปรุง ไปถอื ว่าผ่าน
ได้ ท่ี 1เรื่องการบวก -แบบฝึกหดั ที่ 1 9–10 =ดีมาก
2. นกั เรยี นสามารถเขียน -ตรวจแบบฝกึ หัด เรือ่ งการบวก 7–8 =ดี ระดบั 2คะแนนถอื วา่
วิธกี ารบวกการลบการคณู ที่ 2เรือ่ งการลบ -แบบฝึกหดั ที่ 2 5–6 = พอใช้ ผ่าน
การหารได้ - ตรวจแบบฝึกหดั เร่ืองการลบ ตำ่ กว่า4=ปรบั ปรงุ
ที่ 3เรอื่ งการคณู -แบบฝกึ หดั ท่ี 3
3. นกั เรียนมีความใฝเ่ รยี นรใู้ น - ตรวจแบบฝึกหดั เรื่องการคณู
การเรียน ที่ 4เรื่องการหาร -แบบฝกึ หดั ที่ 4
-สังเกตพฤตกิ รรม เร่ืองการหาร
การมีสว่ นรว่ มใน แบบสังเกต 2=ผา่ น
ชนั้ เรียน พฤติกรรมการมี 1=ไม่ผา่ น
สว่ นรว่ มในชั้น
เรยี น

16

สมรรถนะสำคัญของ วิธวี ัด เครือ่ งมือวดั เกณฑก์ ารให้ เกณฑ์การ
ผู้เรยี น คะแนน ประเมิน
- ถามนักเรยี นในชนั้
(ตามหัวข้อท่ี 5) เรียน -แบบฝกึ หดั ท่ี 1เรื่องการบวก 9–10 =ดีมาก ระดบั 5คะแนน
1 ความสามารถในการ
คดิ - ตรวจแบบฝกึ หัดที่ 1 -แบบฝึกหดั ท่ี 2เรื่องการลบ 7–8 =ดี ข้นึ ไปถือว่าผา่ น
เรือ่ งการบวก
2 ความสามารถในการ - ตรวจแบบฝึกหัดท่ี 2 -แบบฝึกหดั ที่ 3เรื่องการคณู 5–6 = พอใช้
แกป้ ัญหา เร่อื งการลบ
- ตรวจแบบฝึกหัดที่ 3 -แบบฝกึ หดั ท่ี 4เรือ่ งการหาร ตำ่ กว่า4=ปรับปรุง
เรอ่ื งการคณู
- ตรวจแบบฝึกหัดที่ 4 -แบบฝกึ หดั ที่ 1เร่ืองการบวก 9–10 =ดีมาก ระดับ5คะแนน
เรอ่ื งการหาร
-แบบฝึกหัดท่ี 2เรื่องการลบ 7–8 =ดี ขน้ึ ไปถอื ว่าผา่ น

-แบบฝึกหดั ท่ี 3เร่อื งการคูณ 5–6 = พอใช้

-แบบฝกึ หัดท่ี 4เรอ่ื งการหาร ต่ำกวา่ 4=ปรับปรงุ

17

ทักษะของผู้เรียน วธิ ีวดั เคร่ืองมอื วัด เกณฑก์ ารให้ เกณฑ์การ
คะแนน ประเมนิ
ในศตวรรษท่ี 21

(ตามหัวขอ้ ที่ 6)

1. ทกั ษะการเขยี น -ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 1เรื่องการบวก แบบประเมนิ ทกั ษะ 3 = ดี ระดับ 2 คะแนน
2 = พอใช้ ขนึ้ ไปถือว่าผ่าน
(Writing) -ตรวจแบบฝึกหัดที่ 2เร่อื งการลบ ทางคณิตศาสตร์ 1 = ปรับปรุง

-ตรวจแบบฝึกหัดที่ 3เรอื่ งการคณู

-ตรวจแบบฝกึ หัดที่ 4เรอื่ งการหาร

2. ทกั ษะการคดิ -ตรวจแบบฝึกหัดท่ี 1เรอ่ื งการบวก แบบประเมนิ ทักษะ 3 = ดี ระดับ 2 คะแนน
2 = พอใช้ ข้นึ ไปถอื ว่าผา่ น
คำนวณ -ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 2เร่ืองการลบ ทางคณติ ศาสตร์ 1 = ปรับปรุง

(Arithmetic) -ตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 3เรื่องการคณู

-ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 4เรอ่ื งการหาร

แบบประเมนิ สังเกตพฤตกิ รรมนกั เรียน
คำชแ้ี จง : ให้ครผู สู้ อนสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นของนกั เรียนในระหว่างเรียน แลว้ ขีด √ ลงในชอ่ ง ให้ตรง
กับระดบั คะแนนตามความเป็นจริง

เลขท่ี ช่อื - สกุล เข้าเรียนตรงเวลา มีความใฝ่เรยี นรู้ มีส่วนร่วมในชน้ั คะแนนรวม
เรียน

ผา่ น ไม่ผา่ น ผ่าน ไมผ่ ่าน ผ่าน ไมผ่ า่ น

18

แบบประเมนิ แบบฝึกหัด

คำช้ีแจง : ให้ครผู ู้สอนประเมนิ แบบฝกึ หัดของตามเกณฑ์ทก่ี ำหนด แล้วขดี √ ลงในช่อง ให้ตรงกบั ระดับ

คะแนน

เลขที่ ชื่อ - สกลุ แบบฝึกหดั มเี น้ือหา และเขียน แบบฝึกหดั มคี วาม สง่ แบบฝกึ หัดตรงตาม คะแนน

ถกู ตอ้ ง เป็นระเบียบเรยี บรอ้ ย เวลาทีก่ ำหนด รวม

432132132 1

*เกณฑก์ ารประเมนิ แบบฝึกหดั *

รายการประเมนิ 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
เขียนแบบฝกึ หดั
1. แบบฝึกหัด มี เขยี นแบบฝึกหัด ถูกต้องแต่ยังขาด เขียนแบบฝกึ หดั ไม่ เขียนแบบฝกึ หัดไม่
เนอื้ หาบางสว่ น
เน้อื หา และเขยี น ถกู ตอ้ งและมี ลายมอื สวยและ ถกู ตอ้ งแตม่ ีเนื้อหา ถูกตอ้ งและมเี น้อื หา
เขียนแบบฝึกหดั
ถกู ต้อง เน้ือหาครบถว้ น ครบถว้ น ไมค่ รบถว้ น
เปน็ ระเบยี บ
2. แบบฝึกหัดมีความ - ส่งแบบฝกึ หดั ตรง ลายมอื พออา่ นออก ลายมอื ไม่สวยและ

เปน็ ระเบยี บเรยี บรอ้ ย เวลา แตเ่ ขยี นแบบฝึกหดั เขียนแบบฝึกหดั ไม่

เป็นระเบียบ เปน็ ระเบยี บ

3. ส่งแบบฝึกหัดตรง - ส่งแบบฝึกหัดชา้ 1 สง่ แบบฝกึ หดั ช้า 2
ตามเวลาทก่ี ำหนด
วัน วันขน้ึ ไป

19

แบบประเมนิ ทักษะคณิตศาสตร์

คำชีแ้ จง : ให้ครผู ู้สอนสังเกตการใชท้ กั ษะคณิตศาสตร์ในระหวา่ งเรยี นแลว้ ขีด√ลงในชอ่ งคะแนนตาม

ความเป็นจริง

เลขท่ี ชือ่ - สกลุ ทักษะการ เขยี น ทกั ษะการ คดิ คำนวณ คะแนน
รวม
(Writing) (Arithmetic)

32132 1

12. กจิ กรรมเสนอแนะ
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________

13. บันทกึ ผลหลังการสอน
สรปุ ผลการเรียนการสอน

นักเรียนท้งั หมดจำนวน __ คน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนรูข้ ้อที่ จำนวนนักเรยี นทีผ่ ่าน จำนวนนักเรียนท่ีไมผ่ า่ น

1 จำนวนคน ร้อยละ จำนวนคน ร้อยละ
2.
3.

20

15. ปัญหา/อุปสรรค/แนวทางแกไ้ ข
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________

16. ข้อเสนอแนะ
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________

ลงช่อื ........................................................................
()
ตำแหน่ง ครู วทิ ยฐานะ ......................

ลงชอื่ ........................................................................
()
หวั หน้ากลมุ่ สาระการเรยี นรู้

ลงช่อื .........................................................................
()
รองผู้อำนวยการกลุ่มบริหารวชิ าการ

21

ความเห็นของหัวหน้าสถานศึกษา

ได้ทำการตรวจแผนการเรียนรู้ของ....................................................แล้วมีความคิดเหน็ ดงั น้ี

1. เป็นแผนการจัดการเรยี นรู้ที่

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรบั ปรงุ

2. การจัดกิจกรรมได้นำเอากระบวนการเรยี นรู้

 เนน้ ผ้เู รียนเปน็ สำคญั มาใช้ในการสอนได้อยา่ งเหมาะสม

 ยังไม่เน้นผูเ้ รยี นเปน็ สำคัญ ควรปรับปรงุ พฒั นาต่อไป

3. ขอ้ เสนอแนะอื่นๆ

............................................................................................................................. ..................

...............................................................................................................................................

............................................................................................................................. ..................

................................................................................................................ ...............................

ลงชอ่ื ...........................................................................
( ………………………………………………… )
ผ้อู ำนวยการ

โรงเรียน……………………………………………

22

วิชาคณิตศาสตร์ ช้นั ประถมศึกษาปีท่ี 5
แบบฝกึ หดั ที่ 1 : เรือ่ ง การบวก

ช่ือนักเรียน………………………………นามสกุล………………………เลขท่ี………………………..
คำชแี้ จง ใหน้ ักเรยี นหาผลบวกของเลขทกี่ ำหนดให้ถูกตอ้ ง

23

วชิ าคณิตศาสตร์ ชนั้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
แบบฝกึ หดั ท่ี 2 : เรอ่ื ง การลบ

ชอ่ื นกั เรียน………………………………นามสกุล………………………เลขท่ี………………………..
คำช้แี จง ให้นักเรยี นหาผลลบของเลขทก่ี ำหนดใหถ้ ูกตอ้ ง

24

วิชาคณติ ศาสตร์ ชัน้ ประถมศกึ ษาปีท่ี 5
แบบฝกึ หัดท่ี 3 : เรอ่ื ง การคณู

ชอ่ื นกั เรียน………………………………นามสกุล………………………เลขท่ี………………………..
คำชแ้ี จง ให้นักเรยี นหาผลคูณของเลขท่ีกำหนดให้ถกู ต้อง

25

วชิ าคณติ ศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปที ี่ 5
แบบฝกึ หัดที่ 4 : เรอ่ื ง การหาร

ชอ่ื นักเรียน………………………………นามสกุล………………………เลขท่ี………………………..
คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนหาผลหารของเลขทก่ี ำหนดให้ถูกต้อง

26

27

แผนการจัดการเรียนรทู้ ่ี 2

สาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ รายวชิ าคณิตศาสตร์

ชน้ั ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนที่ 1 ปกี ารศกึ ษา 2564

หนว่ ยการเรียนรู้ท่ี 2 เศษสว่ นชวนคิด เวลา 13 ชวั่ โมง

ชือ่ ผสู้ อน นางสาวธนภร เสยี งใหญ่

1. มาตรฐานการเรยี นร้/ู ตวั ช้ีวัด
มาตรฐานการเรยี นรู้

มำตรฐำนท่ี ค 1.1 เขา้ ใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ
ของจานวน ผลท่เี กดิ ขึ้นจากการดาเนินการ สมบตั ิของการดาเนนิ การ และนาไปใช้

ตัวช้วี ดั
ค 1.1 ป.5/1 เขียนเศษส่วนทมี่ ตี วั ส่วนเปน็ ตัวประกอบ ของ 10 หรอื 100 หรือ 1,000 ในรปู
ทศนิยม
ค 1.1 ป.5/3 หาผลบวก ผลลบของเศษส่วนและ จานวนคละ
ค 1.1 ป.5/4 หาผลคูณ ผลหารของเศษสว่ นและ จานวนคละ
ค 1.1 ป.5/5 แสดงวธิ หี าคาตอบของโจทยป์ ัญหา การบวก การลบ การคูณ การหาร เศษสว่ น
2 ข้นั ตอน
2. จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรียนสามารถบอกวธิ ีการเขียนเศษสว่ นในรูปทศนิยม (K)
2. นักเรียนสามารถบอกวิธกี ารหาผล บวก ลบ คูณ หาร ของเศษสว่ นและจานวนคละ (K)
3. นักเรียนสามารถเขียนเศษส่วนในรปู ทศนิยม (P)
4. นักเรียนสามารถเขยี นแสดงวธิ หี าคาตอบของโจทย์ปญั หา การบวก การลบ การคูณ การหาร
เศษสว่ น 2 ขน้ั ตอน (P)
5. นักเรียนตระหนกั ถงึ การแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบ การคูณ การหาร เศษสว่ น
2 ขน้ั ตอน(A)
3. สาระสำคญั
ใช้แสดงการเปรียบเทียบส่วนแบ่งที่กล่าวถึงกับส่วนแบ่งทั้งหมดที่เท่า ๆ กัน ตัวเลขตัวบนของ
เศษสว่ น เรียกว่า ตวั เศษ ซึง่ เป็นจำนวนส่วนแบง่ ท่กี ลา่ วถึง ตวั เลขตวั ลา่ งของเศษส่วน เรียกวา่ ตวั ส่วน ซ่ึง
เป็นจำนวนสว่ นแบ่งทั้งหมดทเ่ี ท่า ๆ กัน เส้นคัน่ ระหวา่ งตวั เศษและตวั สว่ น เรียกวา่ เสน้ คั่นเศษสว่ น

28

4. สาระการเรียนรู้
- ความสัมพันธร์ ะหวา่ งเศษสว่ นและทศนยิ ม
- การบวก การลบของเศษส่วนและจานวนคละ
- การคณู การหารของเศษสว่ นและจานวนคละ
- การแก้โจทย์ปญั หาเศษส่วนและจานวน

5. สมรรถนะสำคญั ของผ้เู รียน (เฉพาะท่ีเกดิ ในหน่วยการเรยี นรนู้ ้)ี
 ความสามารถในการสื่อสาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแกป้ ัญหา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชีวิต
 ความสามารถในการใชเ้ ทคโนโลยี
6. ทักษะของผเู้ รยี นในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นสู่การพฒั นาคณุ ภาพผู้เรียน)
 ทักษะการอา่ น (Reading)
 ทักษะการ เขียน (Writing)
 ทักษะการ คดิ คำนวณ (Arithmetic)
 ทกั ษะดา้ นการคิดอย่างมวี ิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem
solving)
 ทกั ษะดา้ นการสร้างสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation)
 ทกั ษะดา้ นความร่วมมือ การทำงานเป็นทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration , teamwork
and leadership)
 ทักษะด้านความเขา้ ใจต่างวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)
 ทักษะดา้ น การส่ือสาร สารสนเทศ และร้เู ท่าทนั ส่อื (Communication information and
media literacy)
 ทกั ษะด้านคอมพวิ เตอร์ และเทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสาร (Computing)
 ทักษะอาชพี และทักษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
 ทักษะการเปล่ยี นแปลง (Change)
 ทักษะการเรยี นรู้ (Learning Skills)
 ภาวะผู้นำ (Leadership)

29

7. ชิ้นงานหรือภาระงาน ( หลกั ฐาน / ร่องรอยแสดงความรู้ )
1. แบบฝึกหดั ท่ี 1 เรื่อง การเขยี นเศษสว่ น
2. แบบฝึกหดั ที่ 2 เรอ่ื ง การแกโ้ จทยป์ ัญหาเศษส่วน
3. สมดุ วชิ าคณติ ศาสตร์

8. การจดั กจิ กรรมการเรียนรู้
หนว่ ยยอ่ ยท่ี 1 เร่ือง การเขียนเศษสว่ น
ชั่วโมงท่ี 1 (ใชร้ ูปแบบการเรยี นรู้แบบแฮรบ์ าร์ต (Herbart Method)
ข้นั ที่ 1 ขนั้ เตรียม
1.1 ครกู ล่าวทักทายนกั เรยี นพรอ้ มเชค็ ชื่อนักเรยี น
1.2 ครชู ้ีแจงจุดประสงค์ทน่ี ักเรยี นจะไดร้ ับในการเรียนวนั นี้
ข้ันที่ 2 ขั้นสอน
2.1 ครูเรมิ่ เขา้ สู่บทเรียนเรอ่ื ง การเขียนเศษส่วน โดยใชส้ อ่ื PowerPoint
2.2 ครแู สดงตวั อย่างการเขียนเศษส่วนแลว้ ใหน้ ักเรยี นได้ลองทำไปพร้อมครู
2.3 ครใู หเ้ วลานกั เรียนได้ทดลองเขยี นเศษส่วนในสมดุ ของนกั เรยี นเอง จากนั้นครูกจ็ ะดูความ
คบื หน้าของแตล่ ะคนว่าการเขียนเศษสว่ นของแต่ละคนเป็นอย่างไร ใครทเ่ี ขียนไมไ่ ด้ครูจะตอ้ งรีบเข้าไป
ชว่ ยทนั ที
ขั้นที่ 3 ขน้ั ทบทวน
3.1 ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนได้ยกมือถามเกีย่ วกับการเรียนเรือ่ ง การเขียนเศษส่วน
3.2 ครูมกี ิจกรรมภายในชว่ั โมง โดยครจู ะพูดปากเปล่าแลว้ ให้นักเรยี นเขยี นเศษสว่ นใหถ้ ูกต้องลง
ในสมดุ (มีคะแนน) เชน่
ครู : เศษสองสว่ นย่สี บิ
นกั เรียน(จะต้องเขยี น) : 2

20

ครู : เศษหา้ สบิ สว่ นหนึ่งรอ้ ย
นักเรียน(จะต้องเขียน) : 50

100

ขน้ั ท่ี 4 ขั้นสรุป
4.1 ครสู รุปบทเรียนที่เรียนในวันน้ี
4.2 ครูเปิดโอกาสให้นักเรยี นได้ยกมือถามในส่งิ ท่นี ักเรียนเกิดขอ้ สงสัยทีเ่ รียนในวนั น้ี

ขน้ั ท่ี 5 ขั้นนำไปใช้
5.1 ครูมอบหมายแบบฝกึ หัดเรอ่ื งที่ 1 การเขยี นเศษส่วน

30

หนว่ ยยอ่ ยท่ี 2 เร่ือง การแก้โจทยป์ ัญหาเศษสว่ น
ชั่วโมงที่ 2 (ใช้รูปแบบการเรยี นรู้แบบแฮร์บารต์ (Herbart Method)
ขนั้ ที่ 1 ขั้นเตรียม
1.1 ครูกลา่ วทักทายนักเรยี นพรอ้ มเชค็ ชื่อนักเรยี นโดยเชค็ ชื่อตามลำดับเลขท่ี แล้วใหน้ ักเรยี น
ตอบกลบั โดยบอกอาชพี ท่ีอยากจะเป็น
1.2 ครชู แี้ จงจุดประสงค์ท่ีนักเรียนจะได้รับในการเรียนวนั นี้
1.3 ครูทบทวนเรอ่ื งการเขียนเศษส่วน ทไี่ ดเ้ รียนในช่วั โมงที่แล้ว
1.4 ครสู ่มุ ถามนักเรียนบางคนเกย่ี วกับการเขียนเศษสว่ นทไี่ ดเ้ รียนไปช่วั โมงที่แลว้ เพือ่ ทดสอบ
ความเขา้ ใจ มากน้อยเพียงใด
ข้นั ที่ 2 ขน้ั สอน
2.1 ครูเริม่ เข้าสบู่ ทเรยี นเร่อื ง การแกโ้ จทยป์ ญั หาเศษส่วน โดยใช้สอ่ื PowerPoint
2.2 ครูมีตัวอย่างการแกโ้ จทย์ปัญหาเศษส่วน ให้นกั เรียนได้ลองทำไปพร้อมครู
2.3 ครูมโี จทย์ปญั หาเศษส่วน ใหน้ ักเรียนไดท้ ำลงสมดุ ดังน้ี

ขน้ั ที่ 3 ขั้นทบทวน
3.1 ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนได้ยกมือถามเกย่ี วกบั การเรยี นเรือ่ ง การแก้โจทย์ปัญหาเศษส่วน
3.2 ครูมโี จทย์ปัญหาให้นักเรียนทอ่ี าสาอยากแก้ไขโจทยป์ ัญหาเรื่อง การแกโ้ จทยป์ ญั หาเศษส่วน

ได้ทดลองทำให้เพ่ือนๆดู (มคี ะแนน)
ข้นั ที่ 4 ข้นั สรุป

4.1 ครูสรุปบทเรียนที่เรียนในวนั นี้
4.2 ครเู ปิดโอกาสใหน้ ักเรยี นได้ยกมือถามในสิง่ ท่นี ักเรยี นเกิดข้อสงสยั ทเ่ี รยี นในวันน้ี
ขั้นที่ 5 ขน้ั นำไปใช้
5.1 ครูมอบหมายแบบฝกึ หัดที่ 2 เรื่องการแกโ้ จทยป์ ัญหาเศษสว่ น

31

หนว่ ยย่อยท่ี 3 เร่ือง ความสัมพันธร์ ะหวา่ งเศษสว่ นและทศนยิ ม
ช่ัวโมงท่ี 3 (ใชร้ ูปแบบการเรียนรู้แบบแฮร์บาร์ต (Herbart Method)
ขน้ั ที่ 1 ขน้ั เตรยี ม

1.1 ครูกลา่ วทักทายนักเรยี นพร้อมเช็คชื่อนกั เรียนโดยให้นักเรยี นสง่ รูปอิโมจบิ อกแทนความรู้สึก
ตอนนี้

1.2 ครชู ้ีแจงจดุ ประสงค์ทน่ี กั เรยี นจะไดร้ ับในการเรียนวันน้ี
1.3 ครทู บทวนเร่อื ง การเขยี นและการแก้โจทยป์ ัญหาเศษสว่ น ท่ไี ดเ้ รยี นในชั่วโมงทแ่ี ลว้
ข้นั ท่ี 2 ขั้นสอน
2.1 ครเู ร่ิมเข้าส่บู ทเรียนเร่ือง ความสมั พนั ธ์ระหวา่ งเศษส่วนและทศนิยม โดยใชส้ อ่ื PowerPoint
2.2 ครูมีตัวอยา่ งเรื่อง ความสมั พันธร์ ะหว่างเศษส่วนและทศนิยม ให้นกั เรียนได้ลองทำพร้อมครู
2.3 ครูมกี ิจกรรมให้นักเรียนได้มีส่วนร่วมโดยการเข้าเว็ปเกม Kahoot เรอ่ื ง ความสัมพนั ธ์
ระหว่างเศษส่วนและทศนิยม
ขัน้ ที่ 3 ข้ันทบทวน
3.1 ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นได้ยกมือถามเกี่ยวกบั การเรียนเรอ่ื ง การหาร
3.2 ครูมีโจทย์ปญั หาให้นักเรียนท่อี าสาอยากแก้ไขโจทยป์ ัญหาเรอื่ ง ความสัมพันธ์ระหว่างเศษสว่ นและ
ทศนยิ ม ได้ทดลองทำให้เพ่ือนๆดู (มีคะแนน) ดังนี้

ขน้ั ท่ี 4 ขั้นสรุป
4.1 ครูสรุปบทเรียนทเี่ รียนในวันน้ี
4.2 ครเู ปดิ โอกาสใหน้ ักเรยี นได้ยกมือถามในสิ่งทน่ี ักเรยี นเกิดข้อสงสยั ทเ่ี รียนในวนั นี้

ขั้นท่ี 5 ข้ันนำไปใช้
5.1 ครใู ห้นกั เรยี นไดฝ้ กึ เขยี นเศษสว่ นในรูปทศนิยมในช่วั โมงเรียนลงในสมุดวชิ าคณติ ศาสตร์

32

9. ส่อื การสอน
1. สือ่ Power Point เรอ่ื ง การเขียนเศษสว่ น
2. สอื่ Power Point เร่อื ง การแกโ้ จทยป์ ญั หาเศษส่วน
3. สื่อ Power Point เรอ่ื ง ความสัมพนั ธร์ ะหว่างเศษสว่ นและทศนยิ ม
4. แบบฝึกหัดที่ 1 เรื่อง การเขยี นเศษส่วน
5. แบบฝกึ หัดท่ี 2 เรอ่ื ง การแกโ้ จทยป์ ญั หาเศษส่วน
6. เกม Kahoot

10. แหล่งเรยี นรูใ้ นหรอื นอกสถานท่ี
-

11. การวัดและประเมนิ ผล

ชิน้ งาน/ภาระงาน และ วิธีวัด เครื่องมอื วัด เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การประเมนิ

พฤติกรรมของผเู้ รียน

1. แบบฝึกหดั ท่ี 1เรอ่ื งการ -ตรวจแบบฝึกหัด แบบฝึกหดั ท่ี 1 9–10 =ดมี าก ระดบั 5-6คะแนนขนึ้
7–8 =ดี ไปถอื วา่ ผ่าน
เขยี นเศษสว่ น ท่ี 1เรอ่ื งการเขียน เรอื่ งการเขียน 5–6 = พอใช้
ตำ่ กวา่ 4=ปรับปรุง ระดบั 5–6คะแนนขน้ึ
เศษสว่ น เศษสว่ น 9–10 =ดีมาก ไปถอื วา่ ผ่าน
7–8 =ดี
2. แบบฝึกหดั ท่ี 2เร่อื งการแก้ - ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝึกหัดที่ 2 5–6 = พอใช้ ระดบั 2คะแนนถือวา่
โจทย์ปัญหาเศษสว่ น ท่ี 2เรอื่ งการแก้ เร่อื งการแกโ้ จทย์ ต่ำกว่า4=ปรบั ปรงุ ผ่าน
โจทย์ปัญหา ปัญหาเศษสว่ น 2 = ผ่าน
3. นักเรยี นมคี วามใฝ่เรยี นรูใ้ น เศษสว่ น 1=ไมผ่ า่ น
การเรยี น -สงั เกตพฤตกิ รรม แบบสังเกต
การมีสว่ นรว่ มใน พฤติกรรมการมี
ช้ันเรยี น สว่ นรว่ มในชน้ั
เรยี น

33

สมรรถนะสำคญั ของ วธิ ีวดั เครอื่ งมือวัด เกณฑ์การให้ เกณฑก์ าร
ผู้เรียน คะแนน ประเมิน
- ตรวจแบบฝกึ หดั ท่ี 1 -แบบฝึกหดั ที่ 1เรื่องการ
(ตามหัวขอ้ ที่ 5) เร่ืองการเขียนเศษสว่ น เขยี นเศษสว่ น 9–10 =ดมี าก ระดับ5-6
1 ความสามารถในการ - ตรวจแบบฝึกหดั ท่ี 2 -แบบฝึกหดั ท่ี 2เร่ืองการแก้
คิด เรอ่ื งการแกโ้ จทย์ โจทย์ปญั หาเศษสว่ น 7–8 =ดี คะแนนขนึ้ ไปถอื
ปญั หาเศษสว่ น
2 ความสามารถในการ - ตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 1 -แบบฝึกหดั ท่ี 1เรือ่ งการ 5–6 = พอใช้ ว่าผ่าน
แก้ปัญหา เร่อื งการเขียนเศษสว่ น เขยี นเศษสว่ น
- ตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 2 -แบบฝึกหัดท่ี 2เร่ืองการแก้ ตำ่ กว่า4=ปรบั ปรุง
เรื่องการแกโ้ จทย์ โจทย์ปัญหาเศษสว่ น
ปญั หาเศษสว่ น 9–10 =ดีมาก ระดับ5–6

7–8 =ดี คะแนนขึ้นไป ถอื

5–6 = พอใช้ วา่ ผา่ น

ตำ่ กว่า4=ปรับปรงุ

ทักษะของผู้เรยี น วิธีวดั เครื่องมือวดั เกณฑก์ ารให้ เกณฑ์การ
คะแนน ประเมิน
ในศตวรรษที่ 21

(ตามหัวข้อที่ 6)

1. ทกั ษะการเขียน -ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 1เรื่องการ แบบประเมนิ ทักษะทาง 3=ดี ระดบั 2คะแนน
ข้ึนไปถอื วา่ ผา่ น
(Writing) เขยี นเศษสว่ น คณิตศาสตร์ 2 = พอใช้
-ตรวจแบบฝึกหดั ท่ี 2เร่อื งการ
1 = ปรับปรงุ

แก้โจทย์ปญั หาเศษสว่ น

2. ทักษะการคดิ -ตรวจแบบฝกึ หดั ที่ 1เรือ่ งการ แบบประเมินทกั ษะทาง 3=ดี ระดับ 2 คะแนน
ขนึ้ ไปถือว่าผา่ น
คำนวณ เขียนเศษสว่ น คณิตศาสตร์ 2 = พอใช้
(Arithmetic) -ตรวจแบบฝกึ หัดที่ 2เรื่องการ
1 = ปรับปรุง
แกโ้ จทย์ปัญหาเศษส่วน

34

แบบประเมินสังเกตพฤตกิ รรมนักเรียน
คำช้ีแจง : ให้ครูผ้สู อนสงั เกตพฤติกรรมนักเรยี นของนักเรยี นในระหว่างเรียน แล้วขีด √ ลงในชอ่ ง ให้ตรง
กบั ระดับคะแนนตามความเป็นจริง

เลขที่ ช่ือ - สกลุ เขา้ เรียนตรงเวลา มคี วามใฝ่เรยี นรู้ มสี ว่ นรว่ มในชั้น คะแนนรวม
เรียน

ผ่าน ไม่ผา่ น ผา่ น ไม่ผา่ น ผา่ น ไม่ผ่าน

แบบประเมินแบบฝึกหัด

คำชี้แจง : ให้ครผู สู้ อนประเมนิ แบบฝึกหัดของตามเกณฑ์ที่กำหนด แล้วขีด √ ลงในชอ่ ง ให้ตรงกับระดับ

คะแนน

เลขท่ี ชอ่ื - สกลุ แบบฝกึ หดั มเี นอื้ หา และเขียน แบบฝกึ หดั มคี วาม ส่งแบบฝึกหดั ตรงตาม คะแนน

ถูกต้อง เป็นระเบยี บเรียบรอ้ ย เวลาทก่ี ำหนด รวม

432132132 1

35

*เกณฑ์การประเมนิ แบบฝึกหัด*

รายการประเมิน 4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
เขียนแบบฝกึ หดั
1. แบบฝกึ หดั มี เขยี นแบบฝึกหัด ถูกตอ้ งแต่ยังขาด เขียนแบบฝึกหดั ไม่ เขยี นแบบฝกึ หดั ไม่
เนือ้ หาบางส่วน
เนอื้ หา และเขียน ถกู ตอ้ งและมี ลายมือสวยและ ถกู ตอ้ งแตม่ เี น้อื หา ถกู ต้องและมเี นอื้ หา
เขียนแบบฝกึ หดั
ถกู ตอ้ ง เน้ือหาครบถ้วน ครบถ้วน ไมค่ รบถ้วน
เปน็ ระเบยี บ
2. แบบฝึกหดั มคี วาม - สง่ แบบฝึกหัดตรง ลายมือพออ่านออก ลายมือไมส่ วยและ

เป็นระเบียบเรียบร้อย เวลา แตเ่ ขียนแบบฝกึ หดั เขียนแบบฝกึ หัดไม่

เป็นระเบยี บ เปน็ ระเบยี บ

3. สง่ แบบฝกึ หดั ตรง - ส่งแบบฝึกหดั ช้า 1 ส่งแบบฝกึ หัดช้า 2
ตามเวลาทกี่ ำหนด
วัน วันข้ึนไป

แบบประเมินทักษะคณติ ศาสตร์

คำช้ีแจง : ให้ครผู ู้สอนสังเกตการใชท้ กั ษะคณติ ศาสตร์ในระหวา่ งเรยี นแล้วขดี √ลงในช่องคะแนนตาม

ความเปน็ จริง

เลขท่ี ช่ือ - สกุล ทักษะการ เขยี น ทกั ษะการ คดิ คำนวณ คะแนน
รวม
(Writing) (Arithmetic)

32132 1

12. กิจกรรมเสนอแนะ
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
____________________________________________________________________________
________________________________________________________

36

13. บันทกึ ผลหลังการสอน
สรปุ ผลการเรียนการสอน
นักเรียนท้งั หมดจำนวน __ คน

จดุ ประสงคก์ ารเรียนร้ขู อ้ ท่ี จำนวนนักเรียนที่ผ่าน จำนวนนักเรยี นทไี่ ม่ผ่าน

1. จำนวนคน รอ้ ยละ จำนวนคน ร้อยละ
2.
3.

15. ปัญหา/อปุ สรรค/แนวทางแกไ้ ข
____________________________________________________________________________
__________________________________________________________________

16. ข้อเสนอแนะ
____________________________________________________________________________
__________________________________________________________________

ลงชือ่ ........................................................................
()
ตำแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ......................

ลงชื่อ........................................................................
()
หวั หน้ากลุ่มสาระการเรียนรู้

ลงชื่อ.........................................................................
()
รองผ้อู ำนวยการกลุม่ บรหิ ารวิชาการ

37

ความเหน็ ของหัวหน้าสถานศึกษา

ไดท้ ำการตรวจแผนการเรยี นรู้ของ....................................................แล้วมคี วามคดิ เหน็ ดังนี้

4. เปน็ แผนการจดั การเรยี นรู้ท่ี

 ดีมาก  ดี  พอใช้  ควรปรับปรุง

5. การจัดกจิ กรรมไดน้ ำเอากระบวนการเรยี นรู้

 เน้นผ้เู รยี นเปน็ สำคัญมาใช้ในการสอนไดอ้ ย่างเหมาะสม

 ยงั ไม่เนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคัญ ควรปรบั ปรงุ พฒั นาต่อไป

6. ขอ้ เสนอแนะอ่ืนๆ

............................................................................................................................. ...........................

............................................................................................................................. ...........................

ลงช่อื ...........................................................................
( ………………………………………………… )
ผูอ้ ำนวยการ

โรงเรยี น……………………………………………

38

วิชาคณิตศาสตร์ ช้ันประถมศึกษาปีที่ 5
แบบฝกึ หดั ท่ี 1 : เร่ือง การเขยี นเศษสว่ น

ชอ่ื นกั เรียน………………………………นามสกุล………………………เลขท่ี………………………..

คำช้ีแจง ใหน้ ักเรียนอา่ นคำอา่ นดา้ นซ้ายมอื แล้วนำมาเขยี นให้อยใู่ นรูปเศษสว่ นดา้ น
ขวามอื ใหถ้ กู ตอ้ ง

คำอ่าน เขียนเศษสว่ น
เศษหา้ ส่วนสิบ
เศษสามสว่ นยี่สิบสี่
เศษสบิ สว่ นหน่ึงรอ้ ย
เศษหา้ สิบสว่ นสองรอ้ ย
เศษยีส่ บิ ห้าสว่ นหน่งึ รอ้ ยย่สี ิบหา้
เศษหนึง่ รอ้ ยสว่ นหนง่ึ พนั
เศษหกสิบสว่ นสอง
เศษสิบสองสว่ นหน่ึงรอ้ ยส่สี ิบสี่

39

วิชาคณติ ศาสตร์ ช้นั ประถมศกึ ษาปีที่ 5
แบบฝกึ หัดท่ี 2 : เร่ือง การแกโ้ จทย์ปัญหาเศษส่วน

ชอ่ื นักเรยี น…………………………นามสกุล………………………เลขท…่ี ……………………..
คำชี้แจง ใหน้ กั เรยี นแก้โจทย์ปญั หาเศษส่วนทก่ี ำหนดให้ถูกต้อง

1. ออมซอ้ื ส้มหนกั 2 กิโลกรมั ซอ้ื แอปเปิล้ หนัก 1 กิโลกรัม ออมซ้ือ

53

ผลไมท้ งั้ สองชนดิ หนักรวมกนั กกี่ ิโลกรมั

วิธที ำ

2.แม่มขี ้าวสาร 11 แบง่ ใสถ่ ุง ถุงละ 2 แมแ่ บง่ ข้าวสารได้กถี่ ุง

53

วธิ ีทำ

40

41

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ่ี 3

สาระการเรียนรู้ คณติ ศาสตร์ รายวิชาคณติ ศาสตร์

ช้ัน ประถมศกึ ษาปที ่ี 5 ภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564

หน่วยการเรียนรู้ท่ี 3 แต่ “ระคน” เวลา 12 ช่ัวโมง

ชือ่ ผูส้ อน นางสาวธนภร เสยี งใหญ่

1. มาตรฐานการเรยี นรู้/ตวั ชี้วดั
มาตรฐานการเรียนรู้

มำตรฐำนที่ ค 1.1 เข้าใจความหลากหลายของการแสดงจานวน ระบบจานวน การดาเนินการ
ของจานวน ผลที่เกดิ ขึน้ จากการดาเนินการ สมบัติของการดาเนินการ และนาไปใช้

ตวั ชว้ี ดั
ค 1.1 ป.5/3 หาผลบวก ผลลบของเศษสว่ นและ จานวนคละ
ค 1.1 ป.5/4 หาผลคณู ผลหารของเศษสว่ นและ จานวนคละ
2. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. นกั เรียนสามารถบอกวธิ กี ารหาผล บวก ลบ คณู หาร ของเลขระคน (K)
2. นักเรยี นสามารถเขยี นแสดงวธิ ีหาคาตอบของโจทยป์ ญั หา การบวก การลบ การคูณ การหาร
เลขระคน (P)
3. นักเรยี นตระหนกั ถงึ การแก้โจทยป์ ัญหาการบวก การลบ การคูณ การหาร เลขระคน (A)
3. สาระสำคญั
การบวก ลบ คูณ หารระคน คือ การหาผลลัพธ์ของจำนวนตงั้ แต่ 3 จำนวนข้ึนไป โดยใช้วธิ ีการ
บวก ลบ คณู หาร อย่างใดอย่างหน่ึง ตง้ั แต่สองวธิ ีขน้ึ ไปประกอบกันเพื่อหาผลลัพธ์ โจทย์ปญั หา
ระคน หมายถึง โจทยป์ ัญหาทางคณติ ศาสตรท์ ่ีประกอบด้วยทง้ั ข้อความและตวั เลข ที่ต้องใช้วิธกี าร บวก
ลบ คณู และหาร เข้ามาช่วยในการแก้ปัญหา

4. การเรียนรู้
- การแก้โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ ระคน
- การแกโ้ จทยป์ ญั หาการคูณ การหาร ระคน

42

5. สมรรถนะสำคญั ของผู้เรียน (เฉพาะที่เกิดในหน่วยการเรียนรนู้ ี)้
 ความสามารถในการส่อื สาร
 ความสามารถในการคิด
 ความสามารถในการแก้ปัญหา
 ความสามารถในการใชท้ ักษะชวี ติ
 ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี
6. ทกั ษะของผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 (3R 8C + 2L) (จุดเน้นส่กู ารพัฒนาคุณภาพผู้เรียน)
 ทกั ษะการอ่าน (Reading)
 ทักษะการ เขยี น (Writing)
 ทักษะการ คดิ คำนวณ (Arithmetic)
 ทกั ษะดา้ นการคดิ อยา่ งมีวิจารณญาณและทักษะในการแก้ปัญหา (Critical thinking and problem
solving)
 ทกั ษะด้านการสรา้ งสรรค์และนวตั กรรม (Creativity and innovation)
 ทกั ษะด้านความร่วมมือ การทำงานเปน็ ทีม และภาวะผู้นำ (Collaboration , teamwork
and leadership)
 ทกั ษะดา้ นความเขา้ ใจตา่ งวัฒนธรรม ต่างกระบวนทศั น์ (Cross-cultural understanding)
 ทักษะด้าน การส่ือสาร สารสนเทศ และรูเ้ ท่าทันสื่อ (Communication information and
media literacy)
 ทักษะด้านคอมพิวเตอร์ และเทคโนโลยสี ารสนเทศและการสื่อสาร (Computing)
 ทกั ษะอาชพี และทกั ษะการเรียนรู้ (Career and learning self-reliance, change)
 ทกั ษะการเปล่ียนแปลง (Change)
 ทักษะการเรยี นรู้ (Learning Skills)
 ภาวะผ้นู ำ (Leadership)

7. ชน้ิ งานหรือภาระงาน ( หลักฐาน / ร่องรอยแสดงความรู้ )
- 1. แบบฝกึ หดั ท่ี 1 เร่ือง การแก้โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ระคน
- 2. แบบฝึกหดั ท่ี 2 เรอ่ื ง การแกโ้ จทย์ปญั หาการคูณ การหาร ระคน

43

8. การจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้
หน่วยย่อยท่ี 1 เร่ือง กำรแกโ้ จทย์ปัญหำกำรบวก กำรลบ ระคน
ชว่ั โมงท่ี 1 (ใช้รูปแบบการเรียนรู้แบบแฮร์บาร์ต (Herbart Method)
ขน้ั ที่ 1 ขน้ั เตรยี ม
1.1 ครกู ล่าวทักทายนกั เรียนพร้อมเชค็ ชือ่ นักเรียน
1.2 ครชู ีแ้ จงจดุ ประสงค์ท่ีนักเรยี นจะได้รับในการเรียนวนั นี้
ขน้ั ที่ 2 ขนั้ สอน
2.1 ครูเร่ิมเข้าสบู่ ทเรียนเรอื่ ง การแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบ ระคน PowerPoint
2.2 ครยู กตัวอย่าง การแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบ ระคน แลว้ ให้นกั เรียนไดล้ องทำไปพร้อม
ครู
2.3 ครูมีแบบทดสอบในช่ัวโมงเรยี นให้นักเรยี นได้ทดลองทำ เพื่อทดสอบความเขา้ ใจของนักเรยี น
ที่ไดเ้ รียนมา ดังนี้
ข้อ 1. (365 + 200) – 555 =
ข้อ 2. 470 – (2711 + 10) =
ขอ้ 3. (700 – 350) – 50 =
ข้อ 4. (8921 – 1354 ) + 440 =
ข้อ 5. (3817 + 552) + 80 =
ข้อ 6. 3790 – (563 – 856) =
ขอ้ 7. 4700 + (893 + 862) =
ขอ้ 8. (267 – 49) + 952 =
ข้ันที่ 3 ขั้นทบวน
3.1 ครเู ปดิ โอกาสให้นักเรยี นได้ยกมือถามเกีย่ วกับการเรียนเรอื่ ง การแก้โจทยป์ ญั หาการบวก
การลบ ระคน
3.2 เม่ือครูสอนเร่อื งการแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก การลบ ระคน PowerPoint เสร็จ ครขู อ
อาสาสมัคร 5 คน ในการตอบคำถามเร่ือง การแก้โจทยป์ ัญหาการคณู การหาร ระคน
ขนั้ ที่ 4 ขน้ั สรุป
4.1 ครูสรุปบทเรยี นท่เี รียนในวันน้ี
4.2 ครเู ปิดโอกาสให้นักเรียนได้ยกมือถามในสง่ิ ทีน่ ักเรยี นเกิดข้อสงสยั ท่เี รยี นในวันนี้
ขั้นท่ี 5 ขน้ั นำไปใช้
5.1 ครูมอบหมายแบบฝกึ หดั เรื่องที่ 1 การแกโ้ จทย์ปัญหาการบวก การลบ ระคน

44

หนว่ ยยอ่ ยที่ 2 เรอ่ื ง กำรแก้โจทย์ปัญหำกำรคณู กำรหำร ระคน
ชว่ั โมงท่ี 2 (ใชร้ ูปแบบการเรียนรู้แบบแฮร์บารต์ (Herbart Method)
ข้นั ที่ 1 ข้ันเตรยี ม
1.1 ครูกล่าวทกั ทายนกั เรยี นพรอ้ มเช็คช่อื นกั เรยี นโดยเช็คช่ือตามลำดับเลขท่ี
1.2 ครชู แ้ี จงจดุ ประสงค์ท่ีนักเรยี นจะได้รับในการเรยี นวนั นี้
1.3 ครูทบทวนเร่ือง การแก้โจทย์ปญั หาการบวก การลบ ระคน ที่ไดเ้ รียนในชั่วโมงที่แลว้
1.4 ครสู ่มุ ถามนักเรยี นบางคนเกย่ี วกบั การเขยี นเศษสว่ นท่ไี ดเ้ รยี นไปชั่วโมงทีแ่ ลว้ เพือ่ ทดสอบ
ความเขา้ ใจ มากน้อยเพียงใด
ขน้ั ท่ี 2 ขั้นสอน
2.1 ครูเร่มิ เข้าสบู่ ทเรียนเร่อื ง การแกโ้ จทยป์ ญั หาการคูณ การหาร ระคน โดยใช้สื่อ
PowerPoint
2.2 ครยู กตวั อยา่ ง การแกโ้ จทยป์ ัญหาการคณู การหาร ระคน แล้วใหน้ กั เรยี นไดล้ องทำไปพรอ้ ม
ครู
2.3 ครมู ีแบบทดสอบในช่วั โมงเรยี นใหน้ ักเรยี นไดท้ ดลองทำ เพ่ือทดสอบความเขา้ ใจของนักเรียน
ท่ีได้เรยี นมา ดังน้ี
ขอ้ 1. (55 ÷ 5) × 10 =
ขอ้ 2. 20 × (290 ÷ 10) =
ขอ้ 3. (852 ÷ 12) × 5 =
ข้อ 4. (753 × 8 ) ÷ 4 =
ข้อ 5. (657 ÷ 9) × 12 =
ขน้ั ที่ 3 ขั้นทบวน
3.1 ครูเปดิ โอกาสให้นักเรียนได้ยกมือถามเก่ียวกับการเรียนเรือ่ ง การแกโ้ จทยป์ ญั หาการคูณ
การหาร ระคน
3.2 เมอื่ ครสู อนเรอ่ื งการแกโ้ จทย์ปญั หาการบวก การลบ ระคน PowerPoint เสรจ็ ครขู อ
อาสาสมัคร 5 คน ในการตอบคำถามเร่ือง การแกโ้ จทย์ปญั หาการคูณ การหาร ระคน
ขั้นที่ 4 ขน้ั สรุป
4.1 ครูสรปุ บทเรยี นทีเ่ รยี นในวันน้ี
4.2 ครเู ปิดโอกาสให้นักเรยี นได้ยกมือถามในสง่ิ ท่ีนักเรียนเกิดขอ้ สงสยั ท่เี รียนในวันน้ี
ขน้ั ที่ 5 ขัน้ นำไปใช้
5.1 ครูมอบหมายแบบฝึกหัดเรอื่ งท่ี 2 การแก้โจทย์ปัญหาการคณู การหาร ระคน

45

9. สือ่ การสอน
1. ส่ือ Power Point เรอ่ื ง การแก้โจทยป์ ญั หาการบวก การลบ ระคน
2. ส่ือ Power Point เรอื่ ง การแกโ้ จทย์ปญั หาการคณู การหาร ระคน
3. แบบฝกึ หดั ท่ี 1 เร่ือง การแกโ้ จทยป์ ัญหาการบวก การลบ ระคน
4. แบบฝกึ หดั ที่ 2 เรื่อง การแก้โจทยป์ ญั หาการคูณ การหาร ระคน

10. แหล่งเรียนรูใ้ นหรอื นอกสถานท่ี
-

11. การวัดและประเมินผล วธิ วี ัด เครอื่ งมือวดั เกณฑ์การใหค้ ะแนน เกณฑ์การประเมนิ
ช้ินงาน/ภาระงาน และ ระดบั 5-6คะแนนขนึ้
พฤตกิ รรมของผ้เู รียน -ตรวจแบบฝกึ หัด -แบบฝกึ หัดที่ 1 9–10 =ดมี าก ไปถอื วา่ ผ่าน
7–8 =ดี
1. แบบฝกึ หดั ที่ 1เรื่องการแก้ ท่ี 1เร่ืองเร่อื งการ เร่อื งเรื่องการแก้ 5–6 = พอใช้ ระดบั 5–6คะแนนขน้ึ
โจทย์ปัญหาการบวก การลบ ตำ่ กวา่ 4=ปรับปรุง ไปถอื วา่ ผ่าน
ระคน แกโ้ จทย์ปัญหาการ โจทย์ปญั หาการ 9–10 =ดีมาก
7–8 =ดี ระดบั 2คะแนนถือวา่
2. แบบฝึกหัดที่ 2เรอ่ื งการแก้ บวกการลบระคน บวกการลบระคน 5–6 = พอใช้ ผา่ น
โจทยป์ ัญหาการคูณการหาร ตำ่ กวา่ 4=ปรบั ปรงุ
ระคน -ตรวจแบบฝึกหดั -แบบฝกึ หดั ท่ี 2 2=ผา่ น
1=ไมผ่ ่าน
3. นักเรียนมีความใฝเ่ รยี นรู้ใน ที่ 2เรอื่ งการแก้ เร่อื งการแกโ้ จทย์
การเรยี น
โจทย์ปญั หาการ ปัญหาการคูณการ

คณู การหารระคน หารระคน

-สงั เกตพฤติกรรม แบบสงั เกต

การมีส่วนรว่ มใน พฤติกรรมการมี

ชั้นเรียน สว่ นรว่ มในชน้ั

เรยี น

46

สมรรถนะสำคัญของ วิธวี ดั เครอ่ื งมอื วัด เกณฑ์การให้ เกณฑก์ าร
ผูเ้ รยี น คะแนน ประเมนิ
- ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 1 -แบบฝึกหดั ท่ี 1เรอ่ื งเร่ือง
(ตามหัวขอ้ ท่ี 5) เร่ืองการแกโ้ จทยป์ ัญหา การแก้โจทย์ปัญหาการบวก 9–10 =ดมี าก ระดับ5-6
1 ความสามารถในการ การบวก การลบระคน การลบ ระคน
คดิ - ตรวจแบบฝกึ หัดท่ี 2 -แบบฝกึ หัดที่ 2เรือ่ งการ 7–8 =ดี คะแนนขึน้ ไปถือ
เรือ่ งการแกโ้ จทย์ปัญหา แก้โจทย์ปญั หาการคูณ
การคณู การหารระคน การหาร ระคน 5–6 = พอใช้ ว่าผ่าน

ตำ่ กว่า4=ปรบั ปรุง

2 ความสามารถในการ - ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 1 -แบบฝึกหัดที่ 1เร่ืองเรอื่ ง 9–10 =ดมี าก ระดบั 5–6
แกป้ ญั หา เร่อื งการแกโ้ จทยป์ ญั หา การแกโ้ จทย์ปญั หาการบวก
การบวกการลบระคน การลบระคน 7–8 =ดี คะแนนขึน้ ไปถือ
- ตรวจแบบฝึกหดั ที่ 2 -แบบฝกึ หดั ที่ 2เรอื่ งการ
เร่ืองการแกโ้ จทย์ปัญหา แกโ้ จทยป์ ัญหาการคณู 5–6 = พอใช้ ว่าผ่าน
การคูณการหารระคน การหารระคน
ต่ำกวา่ 4=ปรบั ปรุง


Click to View FlipBook Version