ห น้ า | ก
ห น้ า | ข
คำนำ
ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เร่ือง ให้ใช้มาตรฐานการศึกษา ระดับปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้น
พ้ืนฐาน และระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ เพื่อเป็นหลักในการเทียบเคียง สาหรับสถานศึกษา
หน่วยงานต้นสังกัด และสานักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้งประถมศึกษาและมัธยมศึกษา ในการพัฒนาส่งเสริม
สนับสนุน กากับดูแลและติดตามตรวจสอบคุณภาพการศึกษา ประกาศ ณ วันที่ 6 สิงหาคม 2561 โดยท่ีมี
ประกาศใช้กฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 ลงวันท่ี 20 กุมภาพันธ์ 2561 ได้กาหนด
ระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพการศึกษา อันส่งผลให้การดาเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาท้ัง
หน่วยงานตน้ สังกัดหรอื หนว่ ยงานกากับดูแลและหน่วยงานภายนอกที่สะท้อนสภาพการดาเนินงานที่แท้จรงิ และเกิด
ประสิทธิภาพ และให้สถานศึกษาดาเนินการ ข้อ 2 จัดให้มีระบบประกันคุณภาพการศึกษาภายในสถานศึกษา
(2.1) กาหนดมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาให้เป็นไปตามมาตรฐานการศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัยและ
หรือระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานท่ีกระทรวงประกาศใช้ และให้สถานศึกษากาหนดเป้าหมายความสาเร็จตาม
มาตรฐานของสถานศึกษาตามบริบทและ (2.2) จัดทาแผนพัฒนาการจัดการศึกษาของสถานศึกษา ที่สอดคล้องกับ
สภาพปัญหาและความต้องการจาเป็นของสถานศึกษาอย่างเป็นระบบ โดยสะท้อนคุณภาพความสาเร็จอย่างชัดเจน
ตามมาตรฐานการศกึ ษาของสถานศกึ ษา
โรงเรียนวัดใหม่ดงเจริญ สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 จึงได้ดาเนินการ
ปรับปรุงแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา ปีการศึกษา 2564 - 2566 และแผนปฏิบัติการ ประจาปีการศึกษา
2564 ขึ้นใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการ โดยความเห็นชอบ
ของคณะกรรมการสถานศกึ ษาขั้นพ้ืนฐานโรงเรียนวดั ใหม่ดงเจริญ
ขอขอบคุณผู้ท่ีมีส่วนเกี่ยวข้องทุกท่านและทุกหน่วยงานที่ให้ความร่วมมือในการจัดทาแผนพัฒนาการ
จัดการศกึ ษา (พ.ศ. 2564 - 2566) ฉบับนี้
(ลงช่ือ) (ลงชอ่ื )
(นายกช อึง้ พรภิมนกลุ ) (นายนิพนธ์ สินธุศร)
ผู้อานวยการโรงเรยี นวดั ใหม่ดงเจริญ ประธานคณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน
สำรบญั ห น้ า | ค
ปก หน้ำ
คำนำ ก
สำรบัญ ข
บทที่ 1 ข้อมูลสภาพท่วั ไปของโรงเรยี นวดั ใหม่ดงเจริญ ค
บทท่ี 2 ผลการดาเนินงานท่ีผ่านมา 4
บทที่ 3 วิเคราะห์บริบทโรงเรียน 11
บทที่ 4 สาระสาคัญของแผนพัฒนา ๒6
บทที่ 5 แผนพัฒนาคุณภาพการศึกษา 28
บทที่ 6 แผนการควบคุม กากับ ติดตาม ๔2
๕3
ภำคผนวก
๕5
ประกาศโรงเรยี นวัดใหมด่ งเจริญ
คาส่ัง ๕6
๕7
ห น้ า | ๔
บทท่ี 1 ขอ้ มลู สภำพท่ัวไปของโรงเรยี นวัดใหม่ดงเจริญ
1. ประวตั ิควำมเป็นมำ
โรงเรียนวัดใหม่ดงเจริญ ตาบลวังง้ิว อาเภอดงเจริญ จังหวัดพิจติ ร รหัสไปรษณีย์ 66210
โทรศัพท์ 0811324-0545 E-mail: [email protected] website
www.wdjschool.com สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศึกษาพิจิตร เขต 2 เปดิ สอนต้ังแต่ระดับ ก่อนประถมศึกษา
ถงึ ระดับมธั ยมศึกษาตอนต้น มเี น้ือท่ี 14 ไร่ - งาน 58 ตารางวา มีเขตพื้นท่ีบรกิ าร 5 หมบู่ ้าน ได้แก่ หมู่ท่ี 4
หมู่ที่ 5 หมู่ที่ 6 หมู่ที่ 7 และหมู่ที่ 11 ตาบลวงั งิ้ว อาเภอดงเจริญ จังหวัดพิจติ ร
โรงเรยี นวัดใหม่ดงเจริญ ได้ก่อตั้งอย่างเป็นทางการ เมื่อวันท่ี 24 มิถุนายน 2517 นาโดย นายน้อย
แตงเล็ก และคณะ เปดิ เรยี นครง้ั แรกอาศัยศาลาการเปรียญวดั ดงเจริญเดิมเป็นสถานท่ีเรียน โดยจัดการเรยี นการ
สอนตง้ั แต่ระดับช้ันประถมศึกษาปีที่ 1-4
ปี พ.ศ. 2518 ไดร้ ับบริจาคท่ดี นิ จากนายน้อย นางนอง แตงเล็ก จานวน 15 ไร่เศษ (โดยประมาณ)
จงึ ได้ยา้ ยจากศาลาการเปรียญวดั ใหมด่ งเจริญ มาอยู่ในที่ดังกล่าว โดยคณะครูและชาวบ้านไดร้ ว่ มกันสรา้ งอาคาร
เรียนชั่วคราว 1 หลงั เพ่ือเป็นสถานท่จี ดั การเรยี นการสอน
ปี พ.ศ. 2519 โรงเรยี นได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน ตามแบบ ป 1 ข (ใต้ถุนสูง) จานวน 2
ห้องเรียน (ไม่เตม็ รูปแบบเพราะได้ครึ่งเดียว)
ปี พ.ศ. 2521 กระทรวงศกึ ษาธิการได้เปลยี่ นแปลงหลักสูตรใหม่ โดยประกาศใช้หลักสูตรประถมศึกษา
พุทธศกั ราช 2521 จงึ จัดการเรยี นการสอนตามหลักสูตรใหม่ ตง้ั แต่ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1-6 ตามลาดับ (ระบบ
การศกึ ษา 6:3:3)
ปี พ.ศ. 2523 โรงเรยี นได้ของบประมาณต่อเติมอาคารเรียนช้ันบนอีก 2 ห้องเรียน และช้ันล่างอีก
4 ห้องเรียน
ปี พ.ศ. 2523 ได้มีกฎหมายโอนโรงเรียนประชาบาลสังกดั องค์การบริหารส่วนจังหวัด กรมการปกครอง
กระทรวงมหาดไทย ไปสังกัดสานักงานคณะกรรมการการประถมศึกษาแห่งชาติ กระทรวงศึกษาธิการ
ปี พ.ศ. 2528 โรงเรยี นได้รับงบประมาณตอ่ เติมอาคารเรียนชั้นบนต่อไปอกี 2 หอ้ ง รวมเป็นช้ันบน
6 ห้องเรยี น ชั้นลา่ ง 4 ห้องเรียน
ปี พ.ศ. 2529 โรงเรยี นได้เปิดสอนชั้นเด็กเลก็ 1 ปี
ปี พ.ศ. 2545 กระทรวงศกึ ษาธิการ ได้ประกาศใช้หลกั สูตรประถมศกึ ษาพุทธศักราช 2511
(ฉบับปรับปรุง พ.ศ.2543)
ปี พ.ศ. 2548 โรงเรียนไดร้ ับงบประมาณก่อสร้างอาคารเรียน แบบ สปช 105/29 จานวน 4 ห้องเรียน
1 หลัง
ปี พ.ศ. 2550 โรงเรียนได้เปิดสอนช้ันอนุบาล 3 ขวบ ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ แต่ปจั จุบันได้
ยกเลิกอนุบาล 3 ขวบ เหลือเพียงอนุบาล 4-5 ขวบ
ปี พ.ศ. 2551 ไดร้ ับอนุญาตให้เป็นโรงเรียนขยายโอกาส จึงจัดการเรยี นการสอนตง้ั แตช่ ้ันอนุบาล
4 ขวบ ถงึ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 3
ปี พ.ศ. 2551 ได้รับอนุญาตให้เป็นโรงเรยี นขยายโอกาส จึงจดั การเรียนการสอนตง้ั แตช่ ั้นอนุบาล 4 ขวบ
ถึงช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 3
ห น้ า | ๕
ผบู้ รหิ ำรโรงเรียนตัง้ แตเ่ รมิ่ จัดตงั้ โรงเรยี นจนถงึ ปจั จบุ ัน มีจำนวนทง้ั ส้ิน 5 คน ดังนี้
1. นายประเสริฐ ดวงตา ดารงตาแหน่ง พ.ศ. 2517 - 2547
2. นายสมยั ใจภมู ิ ดารงตาแหน่ง พ.ศ. 2547 - 2551
3. นายบุญญา คามเกตุ ดารงตาแหนง่ พ.ศ. 2551 - 2554
4. นายสมหวัง เขยี วสวาท ดารงตาแหน่ง พ.ศ. 2554 - 2563
5. นายกช อึง้ พรภิมนกุล ดารงตาแหน่ง 22 มาราคม พ.ศ. 2564 ถงึ ปจั จุบัน
2. ปรัชญำโรงเรียน แสงสว่างเสมอด้วยปัญญาไม่มี
นตฺถิ ปญฺญา สมาอาภา
3. คำขวัญประจำโรงเรยี น
สร้างเสรมิ วินยั ใฝค่ ุณธรรม เลศิ ลา้ การเรยี น ยอดเย่ียมกีฬา
4. สีประจำโรงเรยี น ส้ม-เขียว
สีสม้ หมายถึง พลงั สรา้ งสรรค์ พัฒนาความรู้ สคู่ ุณธรรม
สีเขียว หมายถงึ ความสุขสดชื่น รา่ เริงท้ังกายและใจ
5. อักษรย่อของโรงเรยี น
ด.จ. สาหรับนักเรยี นระดับปฐมวัยและประถมศึกษา
ม.ด.จ. สาหรับนักเรียนระดับช้ันมัธยมศึกษาตอนต้น
6. อตั ลักษณข์ องสถำนศึกษำ
รกั ในอาชีพสจุ รติ ดาเนินชีวติ อย่างพอเพยี ง
7. เอกลักษณข์ องสถำนศึกษำ
ภมู ิทัศน์สะอาด บรรยากาศน่าเรียน
8. ตรำสัญลกั ษณ์ประจำโรงเรียน
ห น้ า | ๖
9. สภำพชุมชน
เขตบริกำรของโรงเรียน ประกอบด้วย เขตพื้นทกี่ ารปกครองจานวน 1 ตาบล 5 หมู่บ้าน
ไดแ้ ก่ หมู่ท่ี 4 บ้านคลองทราย , หมู่ที่ 5 บ้านทรายทอง , หมู่ท่ี 6 บ้านใหมด่ งเจริญ ,หมู่ท่ี 7 บ้านดงเจริญ
และหมู่ท่ี 11 บา้ นใหมร่ ่วมเจรญิ ตาบลวงั งิ้ว อาเภอดงเจริญ จังหวัดพจิ ติ ร
ลกั ษณะภมู ิประเทศ
ลักษณะภูมิประเทศท่ีตงั้ ของโรงเรยี น วัดใหมด่ งเจริญเป็นพื้นท่ีท่ีเป็นพ้ืนทีร่ าบเชิงเขา
กำรคมนำคมขนส่ง
ในเขตบริการของโรงเรียนวัดใหม่ดงเจริญมีเส้นทางคมนาคมทางรถยนต์ระหว่างหมู่บ้านดงเจริญ หมู่ 7
ตัดผ่านโรงเรียน ปัจจุบันนับว่า สะดวกและรวดเร็วเนื่องจากมีโครงข่ายการคมนาคมสะดวก ซึ่งประกอบด้วย
เส้นทางถนนลาดยาง เขา้ ถึงชมุ ชน 5 สายถนนคอนกรตี ภายในชุมชน 15 สาย ถนนลูกรงั 12 เส้นทาง
ดำ้ นเศรษฐกิจ
สภาพเศรษฐกิจโดยรวมของพ้ืนที่ภายในเขตบริการของโรงเรียนวัดใหม่ดงเจริญส่วนใหญ่จะข้ึนอยู่กับ
ภาคเกษตรกรรมเป็นหลักประกอบดว้ ยทานา พืชไร่ พืชเศรษฐกิจ ท่ีทารายได้เข้าหมู่บ้าน ได้แก่ ข้าว มนั สาปะหลัง
ออ้ ย ขา้ วโพดเลี้ยงสัตว์ ถ่วั เขยี ว เปน็ ตน้ ) สาขาอนั ดับรองจากภาคเกษตรกรรม คอื เหมืองแร่ และแหลง่ ท่องเทยี่ ว
ดำ้ นสำธำรณสขุ
ในเขตบริการของโรงเรยี นวดั ใหม่ดงเจริญ มีจานวนสถานบรกิ ารดา้ นการแพทย์และสาธารณสุขดงั น้ี
สถานีอนามยั 1 แห่ง
กำรนบั ถือศำสนำ
ประชากรในเขตบริการของโรงเรยี นวัดใหม่ดงเจริญส่วยใหญ่นับถือศาสนาพุทธ
กำรปกครองและกำรบรหิ ำร
หมู่บา้ น 5 แห่ง
องค์การบริหารสว่ นตาบล 1 แหง่
วดั 1 แห่ง
10. โครงสรำ้ งกำรบรหิ ำรงำน
ผู้บริหารโรงเรียน นายกช อึ้งพรภิมนกุล ตาแหนง่ ผู้อานวยการชานาญการ ได้แตง่ ตั้งบุคลากรปฏิบตั ิ
หนา้ ท่ีตามสายงานการบริหารโรงเรียนแบบนติ ิบุคคล ดงั น้ี
1. นายการุณ อุปโภค หัวหน้างานบริหารงานบุคคล
2. นายชินวัฒน์ สวุ รรณภูมิ หัวหนา้ งานบริหารงานวิชาการ
3. นางสาวอนันตญา ผดุงผล หัวหน้างานบริหารงบประมาณ
4. นายณรงศักด์ิ จลุ พล หัวหน้างานบริหารงานท่วั ไป
5. นายณัธกจิ กองช้าง หัวหน้างานกจิ การนักเรียน
ห น้ า | ๗
11.ข้อมลู ขำ้ รำชกำรครแู ละบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ
ท่ี ช่ือ – ชอ่ื สกลุ อำยุ อำยรุ ำช ตำแหนง่ / วฒุ ิ วชิ ำเอก
(ปี) กำร (ปี) วิทยฐำนะ การบริหารการศึกษา
ป.โท
1 นายกช อึ้งพรภิมนกุล 48 24 ผ้อู านวยการ ศษ.ม. ประถมศกึ ษา
ป.ตรี ค.บ. วจิ ัยและประเมินผล
ชานาญการ ป.ตรี การศกึ ษา
ค.ม. เกษตร
2 นางศรริ กั ษ์ ตันมี 61 28 ครู คศ.3 ป.ตรี ค.บ. ประถมศกึ ษา
ป.ตรี ค.บ. บริหารการศกึ ษา
3 นางสาเนียง กัลยา 60 36 ครู คศ.3 ป.โท
ศษ.ม. พลศกึ ษา
4 นายณรงค์ศักด์ิ จุลพล 49 22 ครู คศ.3 ป.ตรี ค.บ. ภาษาองั กฤษ
5 นายอุทัยวรรณ เมฆเขยี ว 52 18 ครู คศ.1 ป.ตรี
6 นางสาวชญานิศ เลกิ จันทร์ 43 12 ครู คศ.3 ศศ.บ. สงั คมศึกษา
ป.ตรี
7 นายณัธกิจ กองชา้ ง 31 5 ครู คศ.1 ค.บ. วจิ ยั และประเมิน
ป.ตรี การศึกษา
8 นายชินวัฒน์ สุวรรณภูมิ 31 5 ครู คศ.1 ค.บ. คอมพิวเตอร์ธุรกจิ
ป.ตรี
9 นางสาวอนันตญา ผดงุ ผล 28 4 ครู คศ.1 บธ.บ. เทคโนโลยีสารสนเทศ
ป.ตรี
10 นายการุณ อุปโภค 32 3 ครู คศ.1 วท.บ. เคมี
ป.ตรี
11 นายตฤณ ปัญญพนตก์ ุฬ 38 2 ครผู ู้ช่วย กศ.บ. ภาษาไทย
ป.ตรี
12 นายทยากร ตริ ะศรี 33 2 ครผู ู้ช่วย ค.บ. ภาษาองั กฤษ
13 นางสาวกมลชนก นาคสทุ ธิ์ 27 1 ครูผู้ชว่ ย ป.ตรี บริหารงานยตุ ิธรรมและ
ค.บ. กฎหมาย
14 นางสาวกุลธดิ า จันทสาน 26 0 ครผู ู้ชว่ ย ป.ตรรี ปศ.
15 ระหวา่ งรอคาส่ัง กศจ.พจิ ติ ร 22 พนกั งาน
16 นางวราลกั ษณ์ อินทร์จันทร์ 46 ราชการ
17 นางสาวโญษติ รา แพงละ 35 4 เจา้ หน้าที่
ธรุ การ
ห น้ า | ๘
11.3 จำนวนครูทส่ี อนตรงตำมวชิ ำเอก
3.1 ระดับการศึกษาปฐมวยั จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.66
3.2 ระดับการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน จานวน 12 คน คดิ เป็นร้อยละ 80.00
11.4 จำนวนครทู ่ไี มไ่ ดส้ อนตรงตำมวิชำเอก แต่ได้สอนตำมควำมถนดั
3.1 ระดับการศึกษาปฐมวยั จานวน 1 คน คดิ เป็นร้อยละ 6.66
3.2 ระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน จานวน 2 คน คิดเป็นร้อยละ 13.33
12. ข้อมลู นกั เรียน
12.3 ข้อมูลนักเรยี นปีการศึกษา 2565 (ณ 25 มีนาคม 2565 ตามระบบ DMC)
ระดบั ช้นั หอ้ ง จำนวนนักเรียน(คน)
ชำย หญิง รวม
อนุบาล 1 1- - -
อนุบาล 2 14 4 8
อนุบาล 3 1 7 4 11
ประถมศึกษาปที ่ี 1 1 11 7 18
ประถมศึกษาปีที่ 2 1 3 8 11
ประถมศึกษาปีที่ 3 1 6 6 12
ประถมศึกษาปีท่ี 4 14 5 9
ประถมศกึ ษาปที ี่ 5 15 1 6
ประถมศกึ ษาปที ่ี 6 13 2 5
มัธยมศกึ ษาปีที่ 1 1 8 7 15
มัธยมศึกษาปที ่ี 2 1 10 8 18
มัธยมศึกษาปที ่ี 3 1 4 7 11
รวมท้ังสิ้น 11 65 59 124
ห น้ า | ๙
13. ข้อมลู อำคำรสถำนที่
แผนผงั บริเวณโรงเรียนวดั ใหม่ดงเจริญ
แผนทีต่ ัง้ โรงเรียนวัดใหมด่ งเจรญิ
โรงเรียนวัดใหม่ดงเจริญ ตาบลวังงิ้ว อาเภอดงเจริญ จงั หวัดพจิ ติ ร รหัสไปรษณีย์
66210 สงั กัดสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษาประถมศกึ ษาพิจติ ร เขต 2 สานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
พกิ ดั ทาง GPS : 15.968351, 100.776159 ภาพถา่ ยแผนท่ีจาก https://maps.google.co.th
ห น้ า | ๑๐
14. สอื่ แหล่งเรยี นรู้ และภูมิปัญญำทอ้ งถ่นิ
14.1 ห้องสมุด
14.1.1 ห้องสมุด
แยกเป็นอาคารต่างหาก มพี ้ืนท่ีขนาด 25 ตารางเมตร
จัดรวมไว้ในห้องอ่ืนๆ (ระบุ) ห้องเรียน (ห้องสมดุ เล็กในห้องเรียน)
14.1.2 มีหนังสือในห้องสมุด จานวน 1,000 เล่ม
14.2 หอ้ งปฏบิ ัติกำร จานวน 1 หอ้ ง
14.2.1 ห้องปฏิบัติการวิทยาศาสตร์ จานวน 1 ห้อง
14.2.2 ห้องปฏิบตั ิการคอมพวิ เตอร์ จานวน 1 หลัง
14.2.5 หอ้ งพยาบาล
14.3 คอมพวิ เตอร์ สถานศึกษามีคอมพวิ เตอร์ (ตั้งโต๊ะและNotebook) ทงั้ ส้ิน จานวน 21 เคร่ือง
14.3.1 คอมพิวเตอร์สาหรับใช้เพ่ือการเรยี นการสอน จานวน 10 เคร่ือง
14.3.2 คอมพวิ เตอร์สาหรับใช้เพ่ือสืบค้นขอ้ มูลทางอินเตอร์เน็ต จานวน 2 เครื่อง
14.3.3 คอมพวิ เตอร์สาหรับใช้เพื่อการบริหารจดั การ (Note book) จานวน 9 เคร่ือง
ห น้ า | ๑๑
บทท่ี 2 ผลกำรดำเนินงำนที่ผ่ำนมำ
โรงเรียนวัดใหมด่ งเจริญ ไดร้ ับการประเมินภายนอกรอบสาม เม่ือวันที่ 2๔,๒๗ และ ๒๘ มกราคม
พ.ศ.255๗ โดยคณะผู้ประเมินภายนอก ซ่ึงสงั กัดหน่วยประเมิน บรษิ ัท พี คิว เอ จากัด มผี ลการประเมิน ดังนี้
ตำรำงสรปุ ผลกำรประเมนิ คุณภำพภำยนอกจำแนกตำมกล่มุ ตวั บ่งชี้
ระดบั กำรศึกษำขน้ั พ้ืนฐำน : กำรศึกษำปฐมวัย
ระดบั กำรศึกษำขนั้ พน้ื ฐำน : กำรศึกษำปฐมวัย น้ำหนัก คะแนน ระดบั
คะแนน ทีไ่ ด้ คุณภำพ
กล่มุ ตัวบง่ ช้ีพนื้ ฐำน
ตัวบง่ ชท้ี ่ี 1 เด็กมีพฒั นาการดา้ นรา่ งกายสมวยั ๕.00 ๔.๕0 ดมี าก
ตัวบง่ ช้ที ี่ 2 เดก็ มพี ัฒนาการด้านอารมณ์และจติ ใจสมวยั ๕.00 ๔.๕0 ดีมาก
ตวั บ่งชี้ที่ 3 เดก็ มีพัฒนาการดา้ นสงั คมสมวยั ๕.00 ๔.๕0 ดีมาก
ตัวบง่ ขที้ ี่ 4 เด็กมพี ัฒนาการด้านสติปญั ญาสมวยั ๑0.00 ๘.00 ดี
ตวั บ่งขี้ที่ 5 เด็กมคี วามพรอ้ มศกึ ษาต่อในข้ันต่อไป ๑0.00 ๑0.00 ดีมาก
ตัวบง่ ข้ีท่ี 6 ประสิทธผิ ลการจดั ประสบการณก์ ารเรยี นรทู้ ่เี นน้ เดก็ เปน็ สาคญั ๓๕.00 ๓๒.00 ดีมาก
ตัวบง่ ขท้ี ่ี 7 ประสิทธภิ าพของการบรหิ ารจดั การและการพฒั นาสถานศกึ ษา ๑๕.00 ๑๓.๕0 ดีมาก
ตัวบง่ ขี้ที่ 8 พฒั นาการของการประกนั คุณภาพภายในโดยสถานศกึ ษาและตน้ ๕.00 ๔.๙0 ดมี าก
สังกัด
กลุ่มตวั บ่งซ้ีอัตลักษณ์
ตวั บง่ ช้ที ี่ 9 ผลการพัฒนาใหบ้ รรลตุ ามปรัชญา ปณิธาน/วสิ ยั ทัศน์ พนั ธกจิ และ ๒.๕0 ๒.๕0 ดีมาก
วัตถุประสงคข์ องการจัดตัง้ สถานศกึ ษา
ตวั บง่ ขี้ท่ี 10 ผลการพัฒนาตามจดุ เนน้ และจุดเดน่ ทสี่ ง่ ผลสะทอ้ นเป็นเอกลกั ษณ์ ๒.๕0 ๒.00 ดี
ของสถานศึกษา
กลมุ่ ตวั บ่งชมี้ ำตรกำรส่งเสริม
ตัวบ่งขท้ี ี่ 11 ผลการดาเนินงานโครงการพเิ ศษเพื่อสง่ เสรมิ บทบาทของ ๒.๕0 ๒.00 ดี
สถานศกึ ษา
ตวั บง่ ช้ที ่ี 12 ผลการสง่ เสริมพฒั นาสถานศกึ ษาเพอ่ื ยกระดับมาตรฐาน รักษา ๒.๕0 ๒.๕0 ดมี าก
มาตรฐาน และพฒั นาสคู่ วามเป็นเลศิ ทีส่ อดคลอ้ งกับแนวทางปฏิรูป
คะแนนรวม ๑00.00 ๙0.๙0 ดมี ำก
การรับรองมาตรฐานสถานศึกษาระดับการศึกษาปฐมวัย
ผลคะแนนรวมทุกตวั บง่ ช้ี ต้งั แต่ ๘0 คะแนนขึน้ ไป ใช่ ไมใ่ ช่
มตี ัวบ่งชที้ ไ่ี ดร้ ะดบั ดขี ้นึ ไปอยา่ งนอ้ ย ๑0 ตัวบ่งชี้ จาก ๑๒ ตวั บง่ ชี้ ใช่ ไม่ใช่
ไม่มตี ัวบง่ ช้ใี ดท่มี ีระดบั คุณภาพตอ้ งปรบั ปรุงหรอื ตอ้ งปรับปรงุ เรง่ ดว่ น ใช่ ไม่ใช่
ในภาพรวมสถานศึกษาจดั การศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน : ระดับการศกึ ษาปฐมวยั
สมควรรับรองมาตรฐานจัดการศึกษา ไม่สมควรรบั รองมาตรฐานการศึกษา
ห น้ า | ๑๒
ตำรำงสรปุ ผลกำรประเมนิ คุณภำพภำยนอกจำแนกเป็นรำยมำตรฐำนตำมกฎกระทรวง
ระดบั กำรศึกษำขน้ั พื้นฐำน : กำรศกึ ษำปฐมวัย
ชอ่ื ตัวบ่งช้ี น้ำหนัก คะแนน ระดบั
คะแนน ที่ได้ คุณภำพ
มำตรฐำนที่ ๑ มำตรฐำนท่วี ่ำดว้ ยผลกำรจดั กำรศึกษำ
กลุ่มตวั บ่งชพี้ นื้ ฐำน ๕.00 ๔.๕0 ดีมาก
๕.00 ๔.๕0 ดีมาก
ตวั บ่งชี้ที่ 1 เด็กมพี ฒั นาการด้านรา่ งกายสมวยั ๕.00 ๔.๕0 ดีมาก
ตวั บง่ ชีท้ ่ี 2 เด็กมพี ัฒนาการดา้ นอารมณ์และจิตใจสมวยั ๑0.00 ๘.00
ตัวบง่ ชีท้ ี่ 3 เดก็ มพี ัฒนาการด้านสงั คมสมวยั ๑0.00 ๑0.00 ดี
ตัวบ่งขีท้ ่ี 4 เด็กมีพฒั นาการด้านสติปัญญาสมวยั ๒.๕0 ๒.๕0 ดมี าก
ตัวบง่ ขี้ท่ี 5 เดก็ มีความพร้อมศึกษาต่อในขั้นตอ่ ไป ๒.๕0 ๒.00 ดมี าก
๕.00 ๔.๙0
กลมุ่ ตัวบ่งซอ้ี ตั ลักษณ์ ๒.๕0 ๒.00 ดี
ดมี าก
ตวั บ่งช้ที ี่ 9 ผลการพฒั นาให้บรรลตุ ามปรชั ญา ปณิธาน/วิสัยทศั น์ พนั ธกิจ และ ๑๕.00 ๑๓.๕0
วัตถุประสงคข์ องการจดั ตงั้ สถานศกึ ษา ๒.๕0 ๒.๕0 ดี
ตวั บง่ ขท้ี ่ี 10 ผลการพฒั นาตามจดุ เนน้ และจุดเด่นที่ส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์
ของสถานศกึ ษา ๓๕.00 ๓๒.00 ดมี าก
ตวั บ่งขี้ที่ 8 ประสิทธผิ ลของระบบการประกนั คณุ ภาพภายใน ดีมาก
๕.00 ๔.๙0
กลมุ่ ตวั บ่งชี้มำตรกำรสง่ เสริม ดีมาก
๑00.00 ๙0.๙0
ตวั บ่งขี้ที่ 11 ผลการดาเนินงานโครงการพเิ ศษเพือ่ ส่งเสรมิ บทบาทของ ดมี าก
สถานศกึ ษา
ดีมำก
มำตรฐำนท่ี ๒ มำตรฐำนที่วำ่ ด้วยกำรบริหำรจัดกำรศกึ ษำ
กลมุ่ ตัวบง่ ชพ้ี ื้นฐำน
ตวั บง่ ขี้ที่ 7 ประสทิ ธภิ าพของการบรหิ ารจดั การและการพฒั นาสถานศกึ ษา
กลมุ่ ตวั บ่งชี้มำตรกำรส่งเสริม
ตัวบ่งช้ีที่ 12 ผลการสง่ เสรมิ พฒั นาสถานศกึ ษาเพื่อยกระดบั มาตรฐาน รกั ษา
มาตรฐาน และพฒั นาสูค่ วามเปน็ เลิศท่ีสอดคลอ้ งกบั แนวทางปฏิรูป
มำตรฐำนที่ ๓ มำตรฐำนที่ว่ำด้วยกำรกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนทีเ่ น้น
ผู้เรยี นเปน็ สำคญั
กลมุ่ ตวั บง่ ช้พี น้ื ฐำน
ตัวบง่ ขีท้ ี่ 6 ประสิทธผิ ลการจัดประสบการณก์ ารเรยี นร้ทู เ่ี น้นเดก็ เปน็ สาคัญ
มำตรฐำนที่ ๔ มำตรฐำนที่วำ่ ด้วยกำรประกนั คณุ ภำพ ภำยใน
กลุ่มตวั บ่งชพ้ี นื้ ฐำน
ตวั บ่งขท้ี ี่ 8 ประสิทธผิ ลของระบบการประกนั คณุ ภาพภายใน
ผลรวมคะแนนทงั้ หมด
ห น้ า | ๑๓
ตำรำงสรุปผลกำรประเมนิ คุณภำพภำยนอกจำแนกตำมกลุม่ ตวั บ่งช้ี
ระดบั กำรศึกษำขนั้ พ้นื ฐำน : ประถมศกึ ษำและมัธยมศกึ ษำ
ระดับกำรศกึ ษำขนั้ พน้ื ฐำน : น้ำหนัก คะแนนที่ ระดบั
คุณภำพ
ประถมศึกษำและมัธยมศกึ ษำ คะแนน ได้
ดีมาก
กลมุ่ ตวั บ่งชพ้ี ้ืนฐำน ดมี าก
ตัวบง่ ขี้ที่ 1 ผู้เรยี นมีสขุ ภาพกายและสุขภาพจติ ทดี่ ี ๑0.00 ๙.๔๖ ดี
ดี
ตวั บง่ ขท้ี ี่ 2 ผู้เรยี นมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ มท่ีพึงประสงค์ ๑0.00 ๙.0๖ ดี
ดี
ตัวบ่งขีท้ ่ี 3 ผ้เู รยี นมคี วามใฝ่รู้ และเรียนรอู้ ย่างตอ่ เน่ือง ๑0.00 ๘.๔0 ดีมาก
ดีมาก
ตวั บ่งชี้ที่ 4 ผ้เู รยี นคดิ เป็น ทาเปน็ ๑0.00 ๘.๒๗
ดีมาก
ตัวบง่ ขีท้ ่ี 5 ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรยี นของผเู้ รียน ๒0.00 ๑๒.๔๔
ดี
ตวั บง่ ข้ีท่ี 6 ประสิทธผิ ลการจดั ประสบการณ์การเรยี นร้ทู ีเ่ นน้ เด็กเปน็ สาคัญ ๑0.00 ๘.00
ดี
ตัวบ่งขที้ ่ี 7 ประสทิ ธภิ าพของการบรหิ ารจดั การและการพฒั นาสถานศึกษา ๕.00 ๔.๘0
ดมี าก
ตัวบ่งชท้ี ่ี 8 พฒั นาการของการประกันคณุ ภาพภายใน โดยสถานศึกษา และต้น ๕.00 ๔.๙๑
ดี
สงั กัด
กลุ่มตวั บ่งซ้อี ัตลักษณ์
ตัวบง่ ชท้ี ี่ 9 ผลการพฒั นาใหบ้ รรลตุ ามปรชั ญา ปณธิ าน/วิสยั ทัศน์ พนั ธกิจ และ ๕.00 ๕.00
วัตถุประสงคข์ องการจดั ตงั้ สถานศกึ ษา
ตัวบง่ ขที้ ่ี 10 ผลการพัฒนาตามจดุ เนน้ และจุดเด่นที่สง่ ผลสะท้อนเปน็ เอกลกั ษณ์ ๕.00 ๔.00
ของสถานศกึ ษา
กลุ่มตัวบ่งชี้มำตรกำรส่งเสริม
ตัวบ่งขี้ท่ี 11 ผลการดาเนินงานโครงการพเิ ศษเพื่อส่งเสรมิ บทบาทของ ๕.00 ๔.00
สถานศกึ ษา
ตัวบ่งช้ีที่ 12 ผลการส่งเสริมพฒั นาสถานศกึ ษาเพื่อยกระดับมาตรฐาน รกั ษา ๕.00 ๕.00
มาตรฐาน และพัฒนาสคู่ วามเป็นเลิศที่สอดคลอ้ งกับแนวทางปฏิรปู
คะแนนรวม ๑00.00 ๘๓.๓๔
การรับรองมาตรฐานสถานศึกษา ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษา
• ผลคะแนนรวมทุกตวั บง่ ช้ี ต้ังแต่ ๘0 คะแนนข้นึ ไป ใช่ ไม่ใช่
• มีตวั บง่ ชท้ี ไ่ี ด้ระดบั ดขี ึน้ ไปอย่างนอ้ ย ๑0 ตัวบ่งชี้ จาก ๑๒ ตัวบ่งชี้ ใช่ ไมใ่ ช่
• ไม่มตี ัวบ่งชี้ใดท่มี รี ะดบั คณุ ภาพตอ้ งปรับปรงุ หรือตอ้ งปรับปรงุ เรง่ ด่วน ใช่ ไม่ใช่
ในภาพรวมสถานศึกษาจดั การศกึ ษาข้ันพื้นฐาน ของสถานศึกษาในภาพรวม
สมควรรับรองมาตรฐานจดั การศกึ ษา ไม่สมควรรบั รองมาตรฐานการศกึ ษา
ห น้ า | ๑๔
ตำรำงสรปุ ผลกำรประเมนิ คุณภำพภำยนอกจำแนกเป็นรำยมำตรฐำนตำมกฎกระทรวง
ระดับกำรศกึ ษำข้ันพ้นื ฐำน : ประถมศึกษำและมัธยมศกึ ษำ
ระดับกำรศึกษำขนั้ พื้นฐำน น้ำหนัก คะแนนท่ี ระดับ
คณุ ภำพ
(ประถมศึกษำและมัธยมศึกษำ) คะแนน ได้
ดีมาก
มำตรฐำนที่ ๑ มำตรฐำนทวี่ ำ่ ดว้ ยผลกำรจัดกำรศึกษำ ดมี าก
กลุม่ ตวั บ่งช้พี ืน้ ฐำน ดี
ดี
ตัวบ่งขท้ี ี่ 1 ผเู้ รยี นมีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตทดี่ ี ๑0.00 ๙.๔๖ ดี
ดมี าก
ตัวบง่ ข้ีที่ 2 ผเู้ รยี นมีคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นยิ มที่ ๑0.00 ๙.0๖ ดี
พงึ ประสงค์ ดี
ตัวบง่ ขที้ ่ี 3 ผูเ้ รยี นมคี วามใฝ่รู้ และเรียนรู้อย่างตอ่ เน่อื ง ๑0.00 ๘.๔0 ดีมาก
ดมี าก
ตัวบง่ ชท้ี ่ี 4 ผู้เรียนคดิ เปน็ ทาเปน็ ๑0.00 ๘.๒๗
ดี
ตัวบ่งข้ีท่ี 5 ผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี นของผเู้ รียน ๒0.00 ๑๒.๔๔
ดมี าก
กลุ่มตวั บ่งซีอ้ ตั ลักษณ์
ดี
ตวั บ่งชท้ี ่ี 9 ผลการพฒั นาใหบ้ รรลตุ ามปรชั ญา ปณธิ าน/วิสัยทศั น์ พนั ธกจิ และ ๕.00 ๕.00
วัตถปุ ระสงคข์ องการจดั ต้งั สถานศกึ ษา
ตวั บง่ ขีท้ ่ี 10 ผลการพัฒนาตามจดุ เนน้ และจุดเดน่ ทส่ี ง่ ผลสะท้อนเป็นเอกลกั ษณ์ ๕.00 ๔.00
ของสถานศึกษา
กลมุ่ ตัวบง่ ชี้มำตรกำรสง่ เสริม
ตวั บง่ ข้ีที่ 11 ผลการดาเนนิ งานโครงการพิเศษเพอื่ ส่งเสรมิ บทบาทของ ๕.00 ๔.00
สถานศกึ ษา
มำตรฐำนที่ ๒ มำตรฐำนท่วี ำ่ ด้วยกำรบริหำรจดั กำรศกึ ษำ
กลมุ่ ตัวบ่งช้ีพืน้ ฐำน
ตัวบ่งข้ีท่ี 7 ประสทิ ธภิ าพของการบริหารจดั การและการพฒั นาสถานศกึ ษา ๕.00 ๔.๘0
กลุ่มตัวบ่งชีม้ ำตรกำรส่งเสริม
ตัวบง่ ชท้ี ่ี 12 ผลการส่งเสริมพัฒนาสถานศึกษาเพ่ือยกระดบั มาตรฐาน รักษา ๕.00 ๕.00
มาตรฐาน และพฒั นาส่คู วามเป็นเลศิ ทสี่ อดคลอ้ งกบั แนวทางปฏิรูปการศกึ ษา
มำตรฐำนที่ ๓ มำตรฐำนทีว่ ่ำด้วยกำรกำรจดั กำรเรียนกำรสอนทเ่ี น้น
ผู้เรียนเป็นสำคญั
กลุ่มตวั บ่งชพ้ี น้ื ฐำน
ตัวบ่งข้ีที่ 6 ประสิทธผิ ลการจดั ประสบการณ์การเรยี นร้ทู ีเ่ น้นเด็กเปน็ สาคญั ๑0.00 ๘.00
มำตรฐำนท่ี ๔ มำตรฐำนทีว่ ำ่ ด้วยกำรประกันคุณภำพภำยใน
กลมุ่ ตัวบ่งชี้พน้ื ฐำน
ตัวบ่งชท้ี ่ี 8 พฒั นาการของการประกนั คณุ ภาพภายใน โดยสถานศึกษา และต้น ๕.00 ๔.๙๑
สงั กดั
ผลรวมคะแนนทั้งหมด ๑00.00 ๘๓.๓๔
ห น้ า | ๑๕
กำรศกึ ษำปฐมวัย
ขอ้ เสนอแนะเพ่ือกำรพฒั นำตำมกฎู กระทรวงวำ่ ด้วยระบบ หลกั เกณฑ์ และวธิ ีกำรประกนั คุณภำพ
กำรศกึ ษำ พ.ศ. ๒๕๕๓
๑. ด้ำนผลกำรจดั กำรศกึ ษำ
๑) สถานศึกษาพัฒนาให้เด็กมีพัฒนาการด้านร่างกาย มีสุขภาพกาย สุขนสิ ัยสมวยั ดีอยู่แล้ว
แต่สถานศึกษาควรพัฒนาให้เด็กทุกคนรู้จักดูแลตนเองให้มีสุขนิสัยท่ีดีมากย่ิงขึ้น โดยฝึกฝนให้เด็กทุกคนล้างมือก่อน
รบั ประทานอาหารและหลังเข้าหอ้ งนา้ รวมท้ังแปรงฟันหลังรับประทานอาหารทุกคร้ังจนคดิ เป็นนิสัย และควรจัดให้
มีผา้ เช็ดมือแขวนไว้ในท่ีที่เหมาะสมและมีปริมาณเพียงพอสาหรับเด็ก
๒) สถานศกึ ษาส่งเสริมให้เด็กมีพัฒนาการดา้ นอารมณ์และจิตใจสมวัยดอี ยู่แล้ว แต่
สถานศึกษาควรพัฒนาให้เด็กแสดงความตระหนักในคนเองและแสดงความชื่นชอบต่อธรรมชาติ โดยฝึกฝน ให้รู้จัก
บอกความต้องการหรือความพอใจของคนเอง ดัดสินใจเลือกส่ิงต่างๆ เรียนรู้เก่ียวกับสถานภาพและจานวนสมาชิก
ในครอบครัวของคนเอง รวมทั้งให้รู้จักคุณค่า ประโยชน์ และแสดงความชื่นชอบ ตื่นดาต่ืนใจ สนใจใคร่รู้ธรรมชาติ
รอบตัวและปรากฏการณ์ทางธรรมชาติ
๓) เดก็ มีพัฒนาการด้านสังคมสมวัยดีอยแู่ ลว้ แด่เด็กควรไดร้ บั การพัฒนาให้รจู้ ักประหยดั
โดยการฝึก ให้รับประทานอาหาร นม และน้าในปริมาณที่คนเลือกอย่างคุ้มค่า ใช้ของที่มีอยู่อย่างคุ้มค่า เช่น สมุด
ดินสอ หนังสือ เสื่อผ้า เป็นตัน และครูฝึกฝนให้เด็กรู้จักอดทนรอดอยสิ่งที่ต้องการ มุ่งมานะและควบคุมคนเองให้
ทางาน จนเสร็จ รวมทั้งให้รู้จักการเป็นผู้นาและผู้ดามท่ีดี โดยจัดกิจกรรมให้รับฟังความคิดเห็นของเพ่ือนในการ
ทางานร่วมกัน แสดงความคิดเห็นในท่ีประชุมหรือการทางานต่างๆ ร่วมกับเพื่อน บอกเหตุผลในการดัดสินใจที่จะ
ทาส่ิงใด สง่ิ หน่ึงได้
๔) เด็กควรได้รับการพฒั นาให้ใฝร่ ู้ในเร่ืองรอบตัว โดยฝกึ ให้สนใจเรียนรู้สงิ่ รอบตัวผ่าน
กิจกรรมและสื่อที่หลากหลายในโอกาสต่างๆ ให้มากย่ิงข้ึน โดยเฉพาะอย่างย่ิงกิจกรรมท่ีฝึกให้รู้จักตั้งคาถาม
ประเภทอะไร ทาไม อย่างไร ท่ีไหน เมื่อไร และได้รับการพัฒนาให้มีความคิดรวบยอดเกี่ยวกับสิ่งต่างๆ ท่ีเกิดจาก
การเรียนรู้ โดยจัดกิจกรรมส่งเสริมให้มีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับความรู้พ้ืนฐาน เช่น สี จานวน ขนาด ตาแหน่ง
การเปรียบเทียบ ตามประสบการณ์การเรยี นรู้ทไ่ี ดร้ ับและสภาพแวดล้อมตัวเด็ก
๕) เด็กมคี วามพรอ้ มศึกษาต่อในข้ันต่อไป โดยมีทกั ษะพ้ืนฐานตามพัฒนาการทุกดา้ น
สมวัย และมีความรู้พ้ืนฐานสมวัยดีอยู่แล้ว แต่เด็กควรได้รับการพัฒนาด้านทักษะพ้ืนฐานตามพัฒนาการด้าน
สติปัญญาและ ความรู้เรื่องราวเกี่ยวกับส่ิงต่างๆ รอบตัวเด็ก โดยเน้นกิจกรรมพัฒนาความคิดรวบยอดเก่ียวกับส่ิง
ดา่ งๆ ท่ีอยู่รอบตัว ได้แก่ คุณลักษณะและคุณสมบัติของส่ิงต่างๆ การเปรียบเทยี บเก่ียวกบั สี จานวน ขนาด รูปทรง
น้าหนัก ระยะ ให้มากย่ิงขึ้น เช่น ฝึกให้บอกคามแตกต่างระหว่างสี ขนาด น้าหนักสิ่งของท่ีมีอยู่ในห้องเรียน ฝึกให้
บอก คุณลักษณะและประโยชน์ของสิ่งของเครื่องใช้ ยานพาหนะ และการสื่อสารต่าง ๆ ที่ใช้อยู่ในชีวิดประจาวัน
เปน็ ดนั
๖) สถานศึกษามผี ลการพัฒนาให้บรรลดุ ามปรัชญา ปณธิ าน/วิสยั ทัศน์ พนั ธกจิ และ
วัตถุประสงค์ของ จัดต้ังสถานศึกษาดีอยู่แล้ว แต่สถานศึกษาควรพัฒนาครูผู้สอนในกลุ่มสาระการเรียนรู้โดยกลุ่ม
สาระการ เรียนรู้ภาษาไทย สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปศึกษา กลุ่มคณิตตาสตร์ สงั คมศึกษา คาสนาและวฒั นธรรม
โดยการจัดกิจกรรมการเรียนการสอนท่ีเน้นให้ผู้เรียนฝึกคิด ฝึกปฏิบัติ ฝึกแก้ปัญหา และฝึกเรียนรู้ด้วยตนเอง ให้
ห น้ า | ๑๖
มากย่ิงข้ึน และควรพัฒนาครูให้มีความรู้ความสามารถและมีทกั ษะในวิชาท่สี อนโดยการเขา้ รบั การฝึกอบรม สัมมนา
ศึกษาดูงาน เป็นต้น
๗) สถานศึกษาพัฒนาตามจดุ เน้นและจดุ เด่น คอื "ผเู้ รยี นมคี ณุ ธรรม จรยิ ธรรม และมวี นิ ัย"
ส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของสถานศึกษา ดาเนินการตามโครงการสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรม และด่านิยมท่ี
พึงประสงค์ ส่งผลให้เด็กเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่หรือผู้ปกครอง เป็นท่ีประทับใจของผู้พบเห็น แต่ควรจัดทาหลักฐาน
ยืนยันการยอมรับจากองค์กรภายนอกสถานศึกษาอย่างชัดเจน
๘) สถานศึกษาควรปรับปรงุ การดาเนินงานโครงการพิเศษเพ่ือส่งเสริมบทบาทขอสถานศึกษา
ดามโครงการกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียง เพ่ือแก้ปัญหาเศรษฐกิจนักเรียนและชุมชน โดยเฉพาะสถานศึกษาควรมี
หลกั ฐานการยอมรับผลการดาเนินงานตามโครงการกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพยี งที่ชัดเจน เชน่ เกยี รดบิ ัตรหรือ
การศึกษาดงู าน เปน็ ต้น
๒. ดำ้ นกำรบรหิ ำรจดั กำรศึกษำ
๑) สถานศกึ ษามปี ระสทิ ธิภาพในการบริหารจดั การ โดยมีประสิทธิภาพการบริหารจัดการ
ของผู้บริหารสถานศึกษา ประสิทธิภาพของคณะกรรมการสถานศึกษา การจัดสภาพแวดล้อมภายนอกอาคารให้
เอ้ือต่อการเรียนรู้ ปลอดภัย และถูกสุขลักษณะ ดีอยู่แล้ว แด่สถานศึกษาควรให้คณะกรรมการสถานศึกษาข้ัน
พื้นฐานมีส่วนร่วมในงานวิซาการ งานงบประมาณ งานบุคคลและงานบริหารท่ัวไปให้มากยิ่งข้ึน จัดการประชมุ อย่าง
นอ้ ย ภาคเรยี นละ 2 คร้งั และรายงานผลการประชุมตอ่ ดันสงั กัดหลังประชุมภายใน ๑๕ วัน
๒) การสง่ เสรมิ พฒั นาสถานศึกษาเพอ่ื รักษามาตรฐานที่สอดคล้องกับแนวทางการปฏิรูป
การศึกษาดีอยู่แล้ว แด่สถานศึกษาควรพัฒนาเด็กปฐมวัยให้เรียนรู้ด้านคอมพิวเตอร์ในระดับพื้นฐาน เช่น การเปิด-
ปิด เครื่อง การใช้แป้นพิมพ์ การใช้เมาส์ เป็นต้น ฝึกให้เด็กเล่นเกม ดูการ์ตูนจากโปรแกรมสาเร็จรูปท่ีสร้างสรรค์
และ มีประโยชน์เพ่ือฝึกให้เด็กสนใจใฝ่รู้และศึกษาหาความรู้ทางอินเทอร์เน็ตในโอกาสต่อไป และกาหนดเป้าหมาย
ของกิจกรรมการดาเนินงานแต่ละโครงการเป็นค่าร้อยละ เพ่ือความชัดเจนในการประเมินผลการปฏิบัติและเป็น
แนวทางในการพัฒนาผลการดาเนินงานให้บรรลุผลสาเร็จตามเปา้ หมายให้ไดร้ ้อยละ ๑00 ในอนาคต
๓. ดำ้ นกำรจดั กำรเรยี นกำรสอนท่ีเนน้ ผู้เรยี นเปน็ สำคญั
สถานศกึ ษามปี ระสิทธิผลของการจดั ประสบการณ์การเรยี นรทู้ ่ีเน้นเด็กเป็นสาคัญ โดยครูส่งเสริมการเรียนรู้
เพ่ือพัฒนาการด้านร่างกาย ด้านอารมณ์และจิตใจ ด้านสติปัญญา และส่งเสริมความ สัมพันธ์ทางบวกกับเด็กและ
ครอบครัว ดีอยู่แล้ว แต่ครูควรจัดประสบการณ์การเรียนรู้ผ่านกิจกรรมแบบบูรณาการ ท่ีเด็กได้เล่นและลงมือ
กระทา เพ่ือพัฒนาความคิดรวบยอดและทักษะเกี่ยวกับคณิตศาสตร์ให้มากยิ่งข้ึน เช่น การฝึกบอกคุณลักษณะ
คุณสมบัติของส่ิงต่างๆ บอกความสัมพันธ์ส่ิงท่ีอยู่รอบตัว บอกความเหมือนความต่างเกี่ยวกับสี จานวน ขนาด
น้าหนัก ระยะ เป็นตัน และเปิดโอกาสให้ผู้ปกครองทุกคนมีส่วนร่วมในการพัฒนาการเด็กด้วยการให้ผู้ปกครองได้
แจง้ ข้อมูลของเดก็ เกีย่ วกับพฤติกรรม พฒั นาการการเรยี นรู้ หรือข้อห่วงใยจากผู้ปกครอง
ห น้ า | ๑๗
๔. ด้ำนกำรประกนั คณุ ภำพภำยใน
สถานศึกษามีประสิทธิผลของระบบการประกันคุณภาพภายใน โดยมีผลการประเมินคุณภาพภายใน
โดยตันสังกัด และมีพัฒนาการของระบบการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษาดีอยู่แล้ว แต่สถานศึกษาควร
โดยยืดหลกั การมีส่วนร่วมของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ชุมชนและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้องทั้งภาครัฐและเอกชนในการประกัน
คณุ ภาพภายในสถานศึกษา
นวตั กรรมหรือตวั อย่ำงกำรปฏิบตั ทิ ่ดี ี (Good Practice) ของสถำนศึกษำที่เป็นประโยชน์ต่อสงั คม
⍁ ไม่มี
ระดับกำรศึกษำขัน้ พ้นื ฐำน : ประถมศกึ ษำและมัธยมศกึ ษำ
ข้อเสนอแนะเพื่อการพัฒนาตามกฎกระทรวงว่าด้วยระบบ หลักเกณฑ์ และวิธีการประกันคณุ ภาพการศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๓
๑. ตำ้ นผลกำรจัดกำรศึกษำ
๑) สถานศึกษาพัฒนาผู้เรียนให้มีสุขภาพกายและสุขภาพจิตดีอยู่แล้ว แต่ผู้เรียนบางส่วนคิ เป็นร้อยละ ๑0
มีน้าหนักส่วนสูงและสมรรถภาพทางกายไม่เป็นไปดามเกณฑ์มาตรฐาน สถานศึกษาจึงควรมีการขอความร่วมมือ
จากผู้ปกครองในการแก้ไข้ปัญหา โดยรายงานผลการตรวจสุขภาพการช่ังน้าหนักวัดส่วนสูงและ การทดสอบ
สมรรถภาพทางกายของผู้เรียนท่ีมีปัญหาให้ทราบเป็นระยะ พร้อมทั้งช้ีแจงเพ่ือทาความเข้าใจ เก่ียวกับการมี
โภชนาการที่ถกู ต้องเพื่อให้ผู้ปกครองได้ร่วมมอื อยา่ งตรงประเด็นในการดูแลบุตรหลานอยา่ งถูกวิธี ตอ่ ไป
๒) สถานศึกษาพัฒนาผู้เรียนให้มีคุณธรรมจริยธรรมและค่านิยมที่พ่ึงประสงค์ดีอยู่แล้ว แต่สถานศึกษาควร
มีการจัดกิจกรรมการเย่ียมบ้านอย่างสม่าเสมอและต่อเนื่อง โดยเฉพาะผู้เรียนบางคนท่ีมีปัญหาด้านความยากจน
ปัญหาจากการหย่าร้างของพ่อแม่ผู้ปกครองเพื่อสร้างความอบอุ่นและเป็นกาลังใจแก่ผู้เรียนดังกล่าวเพื่อจะได้ไม่มี
การประพฤติปฏิบัติที่ไม่เหมาะสมกับการเป็นลูกที่ดีของพ่อแม่และผู้ปกครอง เป็นนักเรียนท่ีดีของโรงเรียนและเป็น
คนดีของสังคมต่อไป
๓ ) ผู้เรียนควรได้รับ การพั ฒ นาส่งเสริม ให้ เป็ น ผู้มี ความใฝ่รู้และเรียนรู้อย่างต่อเนื่ องม าก
ย่ิงข้ึนจากการอ่านและการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศและหลังการอ่านการดันคว้าควรมีการวิเคราะห์เน้ือหาจากการ
อา่ นและ คันคว้าเพ่ือสรุปไว้ทุกคร้ังเพื่อกันลมื และเพอื่ เป็นขอ้ มูลให้ผู้เรยี นรุ่นหลงั ๆ ไดศ้ ึกษาเพ่อื เรียนรตู้ ่อไป
๔) ผู้เรียนควรได้รับการพัฒ นาส่งเสริมให้มีความสามารถในการคิดในระดับดีให้มากยิ่งขึ้น
ด้วยกิจกรรมที่หลวกหลาย เช่น การฝึกคิดแก้ปัญหาทางคณิตศาสตร์ การทดลองทางวิทยาศาสตร์ การวิเคราะห์
ข่าว หรือบทความรวมทั้งเร่ืองส้ัน การแข่งขันทักษะทางการคิด เช่น การประกวดเรียงความ คาขวัญ การประกวด
ภาพวาดเชิงความคิดสร้างสรรค์และจินตนาการ กิจกรรมการคันคว้าและรายงาน และกิจกรรมการเรียนรู้ด้วย
โครงงานที่กว้างขวางครอบคลุมทกุ กลุ่มสาระการเรยี นร้แู ละทุกระดับชั้นเรียน
๕) ผู้เรียนควรได้รับการส่งเสริมพัฒนาให้มีความรู้และทักษะที่จาเป็นดามหลักสูดรให้มากยิ่งขึ้นโดยเฉพาะ
ในกลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย สังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม สขุ ศกึ ษาและพลศึกษาสาระการเรยี นรู้การงาน
อาชีพและเทคโนโลยี ด้วยกิจกรรมการเรียนการสอนที่หลากหลายและยึดผู้เรียนเป็นสาคัญอย่างจริงจังสม่าเสมอ
และตอ่ เน่ือง เช่น กิจกรรมการสอนซ่อมเสรมิ การบูรณาการการเรยี นรู้ การเรียนรู้ด้วยกระบวนการกลมุ่ การนาภูมิ
ปัญญาท้องถ่ินมาช่วยสอน การเรียนรู้ด้วยกิจกรรมโครงงาน การไปนอกสถานที่ การใช้นวัตกรรมหรือเทคโนโลยี
ใหม่มาประกอบการสอน การส่งเสริมให้ผู้เรียนรู้จกั คันคว้าหาความรู้ด้วยตนเองและการวัดผลประเมินผลจากสภาพ
จริง ด้วยหลากหลายวิธี
ห น้ า | ๑๘
๖) สถานศึกษามีผลการพัฒนาให้บรรลุตามปรัชญา ปณิธาน วิสัยทัศน์ พันธกิจและวัตถุประสงค์ของจัดต้ัง
สถานศึกษาดีอยู่แล้ว แต่สถานศึกษาควรพัฒนาครูผู้สอนในกล่มุ สาระการเรียนรู้โดยกลุ่มสาระการเรียนรู้ ภาษาไทย
สุขศึกษาและพลศึกษา ศิลปศึกษา กลุ่มคณิตศาสตร์ สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม โดยการจัดกิจกรรมการ
เรียนการสอนท่ีเน้นให้ผู้เรียนฝึกคิด ฝึกปฏิบัติ ฝึกแก้ปัญหา และฝึกเรียนรู้ด้วยตนเอง ให้มากย่ิงขึ้น และควรพัฒนา
ครใู หม้ ีความรู้ความสามารถและมที ักษะในวิชาที่สอนโดยการเขา้ รับการฝกึ อบรม สัมมนา ศกึ ษาดูงาน เป็นดัน
๗) สถานศึกษาควรปรับปรุงพัฒนาการพัฒนาตามจุดเน้นและจุดเด่นท่ีส่งผลสะท้อนเป็นเอกลักษณ์ของ
สถานศึกษา คือ "คุณธรรม จริยธรรม และวินัย" โดยโครงการสร้างเสริมคุณธรรม จริยธรรมและค่านิยมที่พึง
ประสงค์ ซ่ึงสถานศึกษาควรพัฒนาให้บรรลุผลตามจุดเน้นและจุดเด่นท่ีส่งผดสะท้อนปีนเอกลักษณ์ของสถานศึกษา
เกิดผลกระทบที่ดีต่อชุมซนท้องถิ่น เป็นที่ประทับใจของผู้พบเห็น แต่ควรจัดทาหลักฐานยืนยันการยอมรับจาก
องค์กรภายนอกสถานศึกษาอยา่ งชัดเจน
๘) สถานศึกษาควรปรับปรุงพัฒนาการดาเนินงานโดรงการพิเศษเพื่อส่งเสริมบทบาทของสถานศึกษา โดย
สถานศึกษาควรมีหลักฐานการยอมรับผลการดาเนินงานตามโดรงการกิจกรรมเศรษฐกิจพอเพียงท่ีซัดเจน เช่น
เกียรตบิ ัตรหรือการศึกษาดูงาน เปน็ ตัน
๒. ดำ้ นกำรบรหิ ำรจดั กำรศึกษำ
๑) สถานศึกษามีประสิทธิภาพในการบริหารจัดการดีอยู่แล้ว แต่สถานศึกษาควรให้คณะกรรมการ
สถานศึกษาขั้นพ้ืนฐานมีส่วนร่วมในงานวิซาการ งานงบประมาณ งานบุคคล และงานบริหารทั่วไปให้มากย่ิงข้ึน
จัดการประชมุ อยา่ งน้อยภาคเรยี นละ ๒ ครงั้ และรายงานผลการประชมุ ต่อตันสังกดั หลังประชมุ ภายใน ๑๔ วัน
๒) สถานศึกษาดาเนินการส่งเสริมและพัฒนาเพ่ือรกั ษามาตรฐานของสถานศกึ ษาดีอยู่แล้ว แต่สถานศกึ ษา
ควรกาหนดโครงการ/กิจกรรมพัฒนาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนเพือ่ พัฒนาสูค่ วามเป็นเลิศในอนาคต โดยการสง่ ครูเขา้
รบั การอบรม ศึกษาดูงาน เป็นดัน
๓. ด้ำนกำรจัดกำรเรยี นกำรสอนทเ่ี น้นผเู้ รยี นเป็นสำคญั
สถานศึกษาควรมีการนาผลการประเมินครูเกยี่ วกับการพัฒนาความสามารถในวิธาทส่ี อน แผนการจดั การ
เรียนรขู้ องครู การจัดการเรียนการสอน การวดั แบบทดสอบของครูไปดาเนินการพัฒนาครแู ต่ละคนอยา่ งเป็นระบบ
และควรส่งเสรมิ ใหค้ รูได้รับการฝึกฝนการอบรมเก่ียวกับการศึกษาดันควา้ วจิ ยั พัฒนาสื่อและ พัฒนากระบวนการ
จดั การเรียนรทู้ ่ีเน้นผู้เรยี นเป็นสาคัญและร่วมกันกาหนดมาดรการในหารปฏิบัติงานการสอนของครูนิเทศ ติดตาม
และประเมินผลการประเมินมาปรับปรุงอย่างต่อเน่ือง
๔. ดำ้ นกำรประกนั คุณภำพภำยใน
สถานศกึ ษาพัฒนาการระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษามพี ัฒนาการดีอยู่แล้ว
แตส่ ถานศึกษาควรโดยยดึ หลักการมีส่วนร่วมของผมู้ ีส่วนเกี่ยวข้อง ชุมชนและหน่วยงานท่ีเกยี่ วข้องทงั้ ภาครฐั และ
เอกชนในการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา
นวตั กรรมหรือตัวอย่ำงกำรปฏบิ ตั ทิ ี่ดี (Good Practice) ของสถำนศกึ ษำทเ่ี ปน็ ประโยชน์ตอ่ สงั คม
⍁ ไมม่ ี
ห น้ า | ๑๙
17. ควำมสำเร็จของนกั เรยี น
ท่ี ช่อื – สกลุ รำงวัล ระดบั กำรแข่งขัน หมำยเหตุ
1. นายยศวนิ ศ์ รุ่งเรือง ชนะเลิศ การแข่งขนั ระดับเขตพ้ืนที่การศึกษา ใหไ้ ว้ ณ วันที่19
มีนาคม 2564
เซปกั ตะกรอ้ ชายร่นุ อายุ 16 ปี ระดับเขตพื้นที่การศกึ ษา
ให้ไว้ ณ วนั ที่19
2. นายภมู ภิ ทั รพงศ์ สุขขี ชนะเลศิ การแขง่ ขัน ระดับเขตพนื้ ท่กี ารศกึ ษา มนี าคม 2564
เซปักตะกรอ้ ชายรุ่นอายุ 16 ปี ระดบั เขตพื้นที่การศกึ ษา ใหไ้ ว้ ณ วันที่19
มนี าคม 2564
3. เด็กชายศิวะ พทิ ักเขตต์ ชนะเลศิ การแขง่ ขนั ระดบั เขตพืน้ ทก่ี ารศึกษา
ใหไ้ ว้ ณ วนั ที่19
เซปกั ตะกรอ้ ชายรนุ่ อายุ 16 ปี มีนาคม 2564
4. เด็กหญงิ จินตรา สิทธริ ราช รองชนะเลศิ อนั ดบั 2 ให้ไว้ ณ วันท่ี23
กนั ยายน 2563
เซปักตะกร้อชายรุน่ อายุ 16 ปี
5. เดก็ หญิงแพรวา สนิ อยู่ ครอบครวั คณุ ธรรม
18. ควำมสำเรจ็ ของโรงเรยี น ผู้บรหิ ำร ครู และบคุ ลำกรทำงกำรศกึ ษำ
ท่ี รำงวัล ผไู้ ด้รับรำงวลั วนั ท่ีได้รบั
1 ครูดีในดวงใจครัง้ ท่ี 17 นางสาวชญานิศ เลิกจนั ทร์ 16 มกราคม 2563
16 มกราคม 2564
2 ครดู ี ไม่มีอบายมขุ นางสาวชญานิศ เลกิ จันทร์
16 มกราคม 2564
ประจาปกี ารศึกษา 2563
16 มกราคม 2564
3 ครดู ี ไมม่ ีอบายมขุ นางสาวสุวรรณา หละวรรณ์
31 ตลุ าคม 2563
ประจาปกี ารศึกษา 2563 31 ตลุ าคม 2563
31 ตลุ าคม 2563
4 ครูดี ไมม่ ีอบายมขุ นายชติ พล เปตามานัง 31 ตลุ าคม 2563
31 ตลุ าคม 2563
ประจาปีการศึกษา 2563 23 สิงหาคม 2563
24 มนี าคม 2564
5 ห้องเรยี นคณุ ภาพ นายการณุ อุปโภค
6 หอ้ งเรยี นคณุ ภาพ นางสาวสวุ รรณา หละวรรณ์
7 ห้องเรยี นคณุ ภาพ นางสาวอนนั ตญา ผดงุ ผล
8 ห้องเรยี นคณุ ภาพ นายณัธกิจ กองช้าง
9 หอ้ งเรยี นคณุ ภาพ นางสาเนยี ง กลั ยา
10. วทิ ยากรอบรมลูกเสอื ตา้ นภยั ยาเสพติด นายณธั กิจ กองชา้ ง
11. ผ่านการฝกึ อบรมผู้กากบั ลูกเสือสารอง นายตฤณ ปัญญพนตก์ ฬุ
ขน้ั ความรู้เบื้องต้น
ควำมสำเร็จของโรงเรยี น รำงวัล ระดับกำรแข่งขัน หมำยเหตุ
ท่ี รำยกำรแขง่ ขนั ชนะเลิศ
1 กีฬาเซปักตะกร้อ ระดับช้ัน กฬี านักเรยี นระดับเขต
รองชนะเลศิ มัธยมศึกษา (ชาย) พื้นท่ีฯ
2 กฬี าเซปักตะกร้อ อับดับที่ 1
ระดับชั้น กีฬานักเรียนระดับเขต
มธั ยมศกึ ษา (หญงิ ) พื้นทีฯ่
ห น้ า | ๒๐
19. ผลกำรประเมินควำมสำมำรถด้ำนกำรอำ่ นของผเู้ รียน (RT)
ระดบั ชน้ั ประถมศึกษำปีท่ี 1
ที่ สมรรถนะ ร้อยละของจำนวนนกั เรยี น ปี 2563
1 การอ่านออกเสยี ง ดีมำก ดี พอใช้ ปรบั ปรุง
2 การอา่ นรู้เรื่อง
80 20 0 0
รวม 2 สมรรถนะ
70 30 0 0
80 20 0 0
ผลกำรทดสอบควำมสำมำรถพน้ื ฐำนระดับชำติ (NT)
ระดบั ช้นั ประถมศึกษำปีท่ี 3
สมรรถนะ คะแนนเฉลย่ี ร้อยละ
ปี 2563
ความสามารถด้านภาษา 65.16
ความสามารถด้านคานวณ 53.33
ความสามารถด้านเหตุผล -
รวมคะแนนเฉลี่ย 3 ดำ้ น 59.25
ผลกำรทดสอบระดบั ชำตขิ น้ั พ้นื ฐำน (o-net)
ระดบั ประถมศกึ ษำปีท่ี 6
ระดับ จำนวน ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี 6 ปีกำรศึกษำ 2563 (คะแนนเฉลีย่ )
ผเู้ ข้ำสอบ
โรงเรยี น ภำษำไทย ภำษำอังกฤษ คณิตศำสตร์ วทิ ยำศำสตร์
จงั หวัด 3
สังกดั 3,956 59.25 46.67 28.33 28.27
ประเทศ 317,651
495,250 53.65 41.23 29.10 37.38
54.96 38.87 28.59 37.64
56.20 43.55 29.99 38.78
ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3
ระดับ จำนวน ชน้ั มัธยมศกึ ษำปที ่ี 3 ปีกำรศกึ ษำ 2563 (คะแนนเฉลย่ี )
ผเู้ ขำ้ สอบ
ภำษำไทย ภำษำองั กฤษ คณิตศำสตร์ วิทยำศำสตร์
โรงเรยี น 4 58.75 30.00 23.00 36.45
จังหวดั 4,117 51.23 31.67 23.71 28.73
สงั กัด 253,689 55.18 34.14 25.82 30.17
ประเทศ 357,051 54.29 34.38 25.46 29.89
ห น้ า | ๒๑
20. ผลกำรทดสอบระดบั ชำติ
ผลกำรประเมินกำรทดสอบควำมสำมำรถดำ้ นกำรอำ่ นของผเู้ รยี น (Reading Test : RT)
ชนั้ ประถมศึกษำปีท่ี 1 ปกี ำรศึกษำ 2562 – 2563
คะแนนเฉลีย่ ร้อยละ ปกี ำรศึกษำ 2561 – 2562 เปรยี บเทยี บระดับตำ่ งๆ
ท่ี ระดับ คะแนนเฉล่ยี รอ้ ยละ คะแนนเฉล่ยี รอ้ ยละ รวม 2 สมรรถนะ
1 ระดับโรงเรยี น กำรอ่ำนออกเสียง กำรอ่ำนร้เู ร่อื ง
2 ระดับเขตพืน้ ท่ี
3 ระดบั ประเทศ 2561 2562 ผลต่ำง 2561 2562 ผลต่ำง 2561 2562 ผลต่ำง
(+/-)
(+/-) (+/-) 94.10 76.27 -20.94
72.03 73.16 1.13
99.40 69.27 -28.67 88.80 83.27 -13.21 68.69 70.66 1.97
69.43 70.73 1.3 74.62 75.59 0.97
66.13 68.50 2.37 71.24 72.81 1.57
คะแนนเฉลยี่ รอ้ ยละ ปกี ำรศกึ ษำ 2562 – 2563 เปรียบเทยี บระดบั ตำ่ งๆ
ท่ี ระดบั คะแนนเฉล่ียรอ้ ยละ คะแนนเฉล่ียร้อยละ รวม 2 สมรรถนะ
กำรอ่ำนออกเสยี ง กำรอ่ำนรู้เรือ่ ง
2562 2563 ผลต่ำง 2562 2563 ผลตำ่ ง 2562 2563 ผลต่ำง(+/-
)
(+/-) (+/-) 76.27
73.16 80.90 7.74
1 ระดบั โรงเรยี น 69.27 86.40 15.67 83.27 75.40 -0.19 70.66 74.13 0.97
73.02 2.36
2 ระดบั เขตพ้ืนที่ 70.73 76.59 5.86 75.59 71.65 -3.94
3 ระดับประเทศ 68.50 74.14 5.64 72.81 71.86 -0.95
รอ้ ยละของจำนวนนักเรยี น ปีกำรศกึ ษำ 2563 - 2565 จำแนกตำมระดับคณุ ภำพ
ที่ สมรรถนะ รอ้ ยละของจำนวนนักเรียน รอ้ ยละของจำนวนนกั เรียน รอ้ ยละของจำนวนนกั เรียน
ปี 2563 ปี 2564 ปี 2565
1 การอ่านออกเสียง
2 การอา่ นรู้เรอ่ื ง ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ดีมาก ดี พอใช้ ปรบั ดมี าก ดี พอใช้ ปรับ
ปรุง ปรุง ปรงุ
รวม 2 สมรรถนะ
100 0 0 0 27.27 72.72 0 0 80 20 0 0
100 0 0 0 81.81 18.18 0 0 70 30 0 0
100 0 0 0 63.63 36.36 0 0 80 20 0 0
ห น้ า | ๒๒
แผนภูมิ แสดงกำรเปรยี บเทียบผลกำรทดสอบควำมสำมำรถด้ำนกำรอ่ำน
(Reading Test : RT) ชนั้ ประถมศึกษำปที ่ี 1 ปีกำรศึกษำ 2561 – 2563
จากตารางแสดงการเปรียบเทียบผลการทดสอบความสามารถด้านการอ่าน (Reading Test: RT)
ช้ันประถมศึกษาปีท่ี 1 ปีการศกึ ษา 2561 – 2563 พบวา่ ในภาพรวมคะแนนเฉลี่ยผลการทดสอบ
ความสามารถด้านการอา่ น (Reading Test : RT) รวม 2 สมรรถนะ
ในปีการศึกษา 2561 อยู่ในเกณฑ์ระดับ ดีมาก คิดเป็นร้อยละ 100 เกณฑ์ระดับ ดี คดิ เป็นร้อยละ 0
ปีการศกึ ษา 2562 อยู่ในเกณฑ์ระดับ ดีมาก คดิ เป็นรอ้ ยละ 63.63 เกณฑ์ระดับ ดี คิดเป็นร้อยละ 36.36และ
ปีการศึกษา 2563 อยู่ในเกณฑร์ ะดับ ดมี าก คดิ เป็นรอ้ ยละ 80 เกณฑร์ ะดับดี คิดเป็นร้อยละ 20
โดยพจิ ารณาเป็นรายดา้ นสมรรถนะ ดังนี้
ปีการศกึ ษา 2561 การอา่ นออกเสียง อยู่ในเกณฑ์ระดับ ดมี าก คิดเป็นร้อยละ 100
และเกณฑร์ ะดับ ดี คิดเป็นร้อยละ 0 การอ่านรู้เร่ือง อยู่ในเกณฑร์ ะดับ ดีมาก คิดเป็นร้อยละ 100
และเกณฑ์ระดับ ดี คดิ เป็นร้อยละ 0
ปีการศกึ ษา 2562 การอ่านออกเสียง อยู่ในเกณฑ์ระดับ ดมี าก คิดเป็นร้อยละ 27.27
และเกณฑ์ระดับ ดี คิดเป็นร้อยละ 72.72 การอ่านรู้เร่อื ง อยู่ในเกณฑร์ ะดับ ดมี าก คิดเป็นร้อยละ 81.81
และเกณฑ์ระดับ ดี คิดเป็นร้อยละ 18.18
และ ปีการศึกษา 2563 การอ่านออกเสยี ง อยู่ในเกณฑ์ระดับ ดมี าก คดิ เป็นรอ้ ยละ 80
และเกณฑร์ ะดับ ดี คิดเป็นร้อยละ 20 การอา่ นรู้เร่ือง อยู่ในเกณฑ์ระดับ ดมี าก คิดเป็นร้อยละ 70
และเกณฑ์ระดับ ดี คิดเป็นร้อยละ 30
ห น้ า | ๒๓
21. ผลกำรประเมนิ กำรทดสอบควำมสำมำรถพ้ืนฐำนของผ้เู รยี นระดับชำติ NT
ช้ันประถมศึกษำปที ี่ 3 ปกี ำรศึกษำ 2561 – 2563
สมรรถนะ ปี 2561 ปี 2562 คะแนนเฉลี่ยรอ้ ยละ ปี 2563 ผลต่าง (+/-)
52.30 47.35 ผลตา่ ง (+/-) ปี 2562 65.16 17.81
ความสามารถด้านภาษา 40.87 45.14 53.33 8.19
ความสามารถด้านคานวณ 43.07 -4.95 47.35
ความสามารถด้านเหตุผล 45.41 46.25 4.27 45.14 59.25 13.00
รวมคะแนนเฉลี่ย 3 ดำ้ น
0.83 46.25
แผนภมู ิ แสดงกำรเปรียบเทียบผลกำรประเมินกำรทดสอบควำมสำมำรถพื้นฐำนของผู้เรียนระดบั ชำติ
(NT) ชัน้ ประถมศึกษำปที ่ี 3 ปกี ำรศกึ ษำ 2561 – 2563
จำแนกตำมรอ้ ยละของระดับคุณภำพ
แผนภูมิ
จากตารางผลแผนภูมิการประเมินการทดสอบความสามารถพ้ืนฐานของผู้เรียนระดับชาติ (NT) ระดับช้ัน
ประถมศกึ ษาปีที่ 3 ปกี ารศึกษา 2561 – 2563 พบว่า ในภาพรวมคะแนนเฉลี่ย 3 ดา้ น
ในปีการศึกษา 2562 มีคะแนนเฉล่ยี สงู กว่าปกี ารศกึ ษา 2561 อยู่ที่ 0.83
และปีการศกึ ษา 2563 มีคะแนนเฉล่ียตา่ กว่าปีการศกึ ษา 2562 อยู่ที่ 13
โดยพจิ ารณาเป็นรายดา้ น ดงั น้ี
ควำมสำมำรถดำ้ นภำษำ ปีการศกึ ษา 2562 มคี ะแนนเฉล่ียต่ากว่า ปกี ารศกึ ษา 2561 อยทู่ ี่ -4.95
สว่ นปกี ำรศึกษำ 2563 มีคะแนนเฉลี่ยสงู กวา่ ปีการศึกษา 2562 อยทู่ ่ี 17.81
ควำมสำมำรถด้ำนกำรคำนวณ ปีการศึกษา 2562 มีคะแนนเฉลีย่ สูงกว่าปีการศึกษา 2561 อยู่ท่ี 4.27
สว่ นปีกำรศึกษำ 2563 มีคะแนนเฉลยี่ สูงกว่าปกี ารศกึ ษา 2562 อยทู่ ี่ 8.19
ควำมสำมำรถดำ้ นเหตผุ ล ปีการศกึ ษา 2561 มคี ะแนน อยู่ที่ 43.07 โดยท่ีในปีการศึกษา 2562
และปีการศึกษา 2563 ไมม่ ีขอ้ มูลในส่วนนี้ให้เรียบเทยี บ
ห น้ า | ๒๔
22. ผลกำรทดสอบทำงกำรศกึ ษำระดบั ชำตขิ ัน้ พน้ื ฐำน (O-NET) ระดับชนั้ ประถมศกึ ษำปที ่ี 6
ปกี ำรศกึ ษำ 2561 – 2563
สมรรถนะ คะแนนเฉลย่ี รอ้ ยละ
ปี 2561 ปี 2562 ผลตำ่ ง (+/-) ปี 2562 ปี 2563 ผลต่ำง (+/-)
ภาษาไทย 44.30 46.04 1.74 46.04 59.25 13.21
คณิตศาสตร์ 27.14 30.83 3.69 30.83 28.33 -2.50
วทิ ยาศาสตร์ 31.57 26.33 -5.24 26.33 28.27 1.94
ภาษาอังกฤษ 28.39 30.42 2.03 30.42 46.67 16.25
รวมคะแนนเฉล่ยี ท้ังหมด 32.85 33.41 0.56 33.41 40.63 7. 23
แผนภูมิ
จากแผนภูมิ แสดงการเปรยี บเทยี บผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาตขิ ้ันพื้นฐาน (O - NET)
ระดับช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ปีการศึกษา 2561 – 2563 พบวา่
กล่มุ สำระกำรเรียนร้วู ิชำภำษำไทย
ปีการศกึ ษา 2562 มคี ะแนนเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2561 อยู่ท่ี 1.74 คะแนน
ปีการศกึ ษา 2563 มีคะแนนเฉลี่ยสงู กว่าปีการศึกษา 2562 อยทู่ ่ี 13.21 คะแนน
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรวู้ ิชำคณิตศำสตร์
ปีการศึกษา 2562 มคี ะแนนเฉลี่ยสูงกว่าปีการศึกษา 2561 อยทู่ ี่ 3.69 คะแนน
ปีการศึกษา 2563 มีคะแนนเฉล่ียต่ากว่าปีการศึกษา 2562 อยู่ที่ - 2.50 คะแนน
กลมุ่ สำระกำรเรียนรวู้ ิชำวิทยำศำสตร์
ปีการศึกษา 2562 มคี ะแนนเฉล่ียตา่ กว่าปกี ารศึกษา 2561 อยู่ที่ - 5.24 คะแนน
ปีการศึกษา 2563 มีคะแนนเฉล่ียสงู กวา่ ปีการศึกษา 2562 อยูท่ ่ี 1.94 คะแนน
กล่มุ สำระกำรเรยี นรวู้ ิชำภำษำองั กฤษ
ปีการศึกษา 2562 มีคะแนนเฉลย่ี สูงกว่าปีการศึกษา 2561 อยู่ท่ี 2.03 คะแนน
ปีการศึกษา 2563 มีคะแนนเฉลย่ี สูงกวา่ ปีการศึกษา 2562 อยูท่ ่ี 16.25 คะแนน
ห น้ า | ๒๕
23. ผลกำรทดสอบทำงกำรศึกษำระดบั ชำตขิ ้นั พ้นื ฐำน (O-NET) ชน้ั มธั ยมศกึ ษำปีท่ี 3
ปีกำรศกึ ษำ 2561-2563
สมรรถนะ คะแนนเฉลี่ยร้อยละ
ปี 2561 ปี 2562 ผลตำ่ ง (+/-) ปี 2562 ปี 2563 ผลต่ำง (+/-)
7.11
ภาษาไทย 44.30 51.64 7.34 51.64 58.75 -1.36
8.68
คณติ ศาสตร์ 27.14 24.36 -2.78 24.36 23.00 1.27
3.93
วิทยาศาสตร์ 31.57 27.77 -3.80 27.77 36.45
ภาษาองั กฤษ 28.39 28.73 0.34 28.73 30.00
รวมคะแนนเฉลี่ยทง้ั หมด 32.85 33.13 0.28 33.13 37.05
แผนภมู ิ
จากแผนภูมิ แสดงการเปรียบเทยี บผลการทดสอบทางการศึกษาระดับชาติขั้นพื้นฐาน (O - NET)
ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 3 ปีการศึกษา 2561 – 2563 พบว่า
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรู้วชิ ำภำษำไทย
ปีการศกึ ษา 2562 มีคะแนนเฉลย่ี สูงกวา่ ปีการศกึ ษา 2561 อยทู่ ี่ 7.34 คะแนน
ปกี ารศกึ ษา 2563 มคี ะแนนเฉลยี่ สูงกว่าปกี ารศกึ ษา 2562 อยูท่ ี่ 7.11 คะแนน
กลมุ่ สำระกำรเรยี นรูว้ ิชำคณติ ศำสตร์
ปกี ารศกึ ษา 2562 มคี ะแนนเฉลย่ี ต่ากว่าปีการศึกษา 2561 อยู่ที่ -2.78 คะแนน
ปีการศกึ ษา 2563 มคี ะแนนเฉลยี่ ต่ากวา่ ปกี ารศึกษา 2562 อยู่ที่ -1.36 คะแนน
กลุ่มสำระกำรเรียนรวู้ ิชำวิทยำศำสตร์
ปีการศกึ ษา 2562 มคี ะแนนเฉลย่ี ตา่ กว่าปีการศกึ ษา 2561 อยู่ท่ี -3.80 คะแนน
ปกี ารศึกษา 2563 มคี ะแนนเฉลย่ี สูงกวา่ ปกี ารศึกษา 2562 อยทู่ ่ี 8.68 คะแนน
กล่มุ สำระกำรเรยี นรู้วชิ ำภำษำองั กฤษ
ปีการศึกษา 2562 มคี ะแนนเฉลยี่ สูงกว่าปกี ารศกึ ษา 2561 อยู่ที่ 0.28 คะแนน
ปีการศกึ ษา 2563 มีคะแนนเฉลย่ี สูงกว่าปกี ารศกึ ษา 2562 อยู่ที่ 3.93 คะแนน
ห น้ า | ๒๖
บทท่ี 3 วเิ ครำะห์บริบทโรงเรยี น
วิเครำะหส์ ภำพแวดลอ้ ม โรงเรียนวัดใหม่ดงเจริญ (SWOT Analysis)
การวิเคราะห์สภาพแวดล้อมเป็นเคร่ืองมือในการวิเคราะห์สถานการณ์ เพื่อให้ผู้บริหารรู้ จุดแข็ง จุดอ่อน
สภาพภายในของโรงเรียน โอกาส และอุปสรรค์ของสภาพภายนอก ซึ่งจะช่วยให้ทราบว่าองค์กรได้เดินทางมาถูก
ทิศทางหรือไม่ นอกจากน้ียังบอกได้ว่าองค์กรมีแรงขับไปยังเป้าหมายได้ดีหรือไม่ ม่ันใจได้อย่างไรว่าระบบการ
ทางานในองค์กรยังมีประสิทธิภาพอยู่ มีจุดอ่อนที่จะต้องปรับปรุงอย่างไร ซึ่งการวิเคราะห์สภาพแวดล้อม (SWOT
Analysis) โรงเรยี นวดั ใหม่ดงเจริญ มีดังนี้
ผลกำรวิเครำะห์ SWOT
จดุ แขง็ ของสถำนศกึ ษำ จดุ ออ่ นของสถำนศึกษำ
๑. โรงเรยี นไดร้ ับการสนับสนุนจากชุมชนเป็นอยา่ งดี ๑. นักเรียนขาดความรัก ความอบอุ่น เนื่องจากบิดา
๒. การใช้งบประมาณสถานศึกษาผา่ นการเห็นชอบของ มารดา ทางานอยู่ตา่ งถ่ิน ร้อยละ ๗๐
คณะกรรมการสถานศึกษาข้ันพ้ืนฐาน ๒. ผู้ปกครองนักเรยี น ชุมชนในเขตบริการร้อยละ
๓. มกี ารวางแผนการดาเนินการและใช้แผนเป็น ๘๕ มีฐานะยากจน
เครื่องมอื บริหารจดั การงบประมาณ ๓. งบประมาณท่ีได้รับในการซอ่ มแซม ปรับปรุง
๔. โรงเรยี นมรี ูปแบบการบริหารทเ่ี ป็นระบบ โปร่งใส สภาพอาคารเรยี น อาคารประกอบได้น้อย สาหรับ
การพัฒนาโรงเรยี น
ตรวจสอบได้
๕. บุคลากรได้รับการพัฒนาตนเองอย่างตอ่ เนื่อง ๔. นกั เรยี นตอ้ งได้รับการปรับปรุงด้านการคิด
๖. มภี มู ิทศั นท์ ่ีสวยงามสะอาดรม่ รื่น วิเคราะห์ การกล้าแสดงออก และความคดิ
๗. มกี ารบริหารจดั การแบบชุมชนเข้ามามีส่วนร่วม สร้างสรรค์
๘. การจดั การบริการจัดการศกึ ษาครอบคลุมเขตพ้ืนท่ี
๕. ครูไม่ครบตามวิชาเอกขาดแคลน
บริการ
๙. พื้นท่ีของโรงเรียนเหมาะสมกับการเรยี นรดู้ า้ น
เศรษฐกจิ พอเพียง
๑๐.บุคลากรทางานเป็นทีม ช่วยเหลือซงึ่ กันและกันใน
งานส่วนรวมและส่วนตัว
๑๑.ครูให้ความทุ่มเทเสียสละ
ห น้ า | ๒๗
โอกำสของสถำนศึกษำ อุปสรรคของสถำนศกึ ษำ
๑. ประชาชนส่วนใหญม่ ีสุขภาพ และคุณภาพชวี ติ ทีด่ ี ๑. งบประมาณด้านบริหารจดั การที่โรงเรียนไดร้ ับไม่
๒. การคมนาคมสะดวก เพยี งพอต่อการบริหารจดั การ
๓. ชุมชน องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น มีส่วนรว่ มการ
๒. โรงเรยี นมีคอมพิวเตอรไ์ ม่เพยี งพอ ต่อการเรียนรู้
จัดการศกึ ษา ๓. การขาดแคลนบคุ ลากรในการสอน ตรงตาม
๔. มีระบบการตดิ ต่อสื่อสารที่สะดวก
๕. เปดิ โอกาสให้องค์กรต่างๆ ทัง้ ภาครัฐและเอกชน สาขาวิชา
๔. บุคลากรตาแหน่งลูกจา้ งประจาจะเกษียณอายุ
เข้ามามีส่วนร่วมในการจดั การศกึ ษา
๖. ภมู ิปัญญาท้องถิ่นมคี วามสามารถที่หลากหลาย ราชการในปีงบประมาณ 2564 ต้องจ้างลูกจ้าง
๗. อยู่ใกลแ้ หล่งเรยี นรู้ภายในชมุ ชน ชัว่ คราว โดยใช้งบประมาณรายไดส้ ถานศึกษา
๘. ชมุ ชนให้ความร่วมมือดี
๙. ชุมชนอยู่แบบไทย ยึดม่ันวฒั นธรรมและประเพณี
๑๐.ครมู คี วามเสียสละ อทุ ศิ ตน และมมี นุษยสมั พันธ์
อันดี ทาให้มีการประสานงานกับผู้ปกครองและ
ชุมชนไดด้ ี
๑๑.โรงเรียนได้รับการช่วยเหลือจากหน่วยงาน
ภายนอกในการบรจิ าคเงินและวัสดุอุปกรณ์ให้
โรงเรียนสมา่ เสมอ
ควำมตอ้ งกำรรับกำรชว่ ยเหลอื และขอรบั กำรสนับสนนุ เพื่อกำรพัฒนำสถำนศึกษำ
1. การปรับปรุงซ่อมแซมอาคารเรียน อาคารประกอบ ระบบไฟฟ้าภายในอาคาร
2. การปรับปรงุ ภมู ิทัศน์ สภาพแวดล้อมและพัฒนาแหลง่ เรียนรู้
3. จา้ งบคุ ลากรสาขาท่ีขาดแคลน เช่น ปฐมวัย ภาษาไทย การประถมศึกษา ศิลปะ ฯลฯ
4. จา้ งวิทยากรภายนอกสอนหลักสูตรท้องถิ่น
5. การพัฒนาบุคลากร เช่น การอบรม สมั มนา ศึกษาดูงาน ฯลฯ
6. งบประมาณจ้างช่ัวคราว เพอื่ จ้าง ลูกจา้ งชั่วคราว ตาแหนง่ นกั การภารโรง
7. การพัฒนารูปแบบการจดั การเรียนการสอนให้ผู้เรียนเป็นผูม้ ีคุณธรรม จริยธรรม
ห น้ า | ๒๘
บทที่ 4 สำระสำคญั ของแผนพัฒนำ
อุดมกำรณ์ หลักกำรในกำรจัดกำรศึกษำขั้นพ้ืนฐำน
อุดมกำรณ์
เป็นการจัดการศึกษาเพ่ือปวงชนโดยรัฐต้องจัดให้มีการศึกษาข้ันพื้นฐานเพื่อพัฒนาเยาวชนไทยทุกคน
ให้มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ท้ังในฐานะท่ีเป็นพลเมืองไทยและพลเมืองโลก เพื่อเป็นรากฐานท่ีพอเพียงสาหรับการ
ใฝ่เรียนรู้ตลอดชีวิต รวมท้ังเพ่ือการพัฒนาหน้าท่ีการงานและการพัฒนาคุณภาพชีวิตส่วนตนและครอบครัว และ
เพื่อสร้างรากฐานที่แข็งแกร่งสาหรับการสร้างสรรค์สังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ เพ่ือการพัฒนาประเทศที่
ยงั่ ยืนในอนาคต
หลกั กำร
ในการจดั การศกึ ษาขนั้ พน้ื ฐาน ยดึ หลักทสี่ อดคลอ้ งกับอุดมการณ์ ดังน้ี
1. หลักกำรพัฒนำผู้เรียนอย่ำงครบถ้วนสมบูรณ์ ทั้งร่างกายและจิตใจ สติปัญญา ความรู้ และ
คุณธรรม เป็นผู้มีจริยธรรมในการดาเนินชีวิต สามารถอยู่ร่วมกับผู้อ่ืนได้อย่างมีความสุข ใฝ่รู้มีทักษะในการแสวงหา
ความรู้ท่ีพอเพียงต่อการพัฒนางานอาชีพและคุณภาพชีวิตส่วนตน สามารถเผชิญความเปล่ียนแปลงได้อย่างเท่าทัน
และชาญฉลาด และมีความเปน็ ประชาธิปไตย
2. หลักกำรจัดกำรศึกษำเพ่ือควำมเป็นไทย ให้มีความรัก และภาคภูมิใจในท้องถ่ินและ
ประเทศชาติ มีความรู้และทักษะพ้ืนฐานสาหรับการประกอบอาชีพสุจริต มีความมุ่งม่ัน ขยัน ซื่อสัตย์ ประหยัด
อดทน มีลกั ษณะนิสยั และทัศนคติที่พงึ ประสงค์ เพ่ือเป็นสมาชกิ ทด่ี ขี องครอบครัว ชุมชน สังคมไทย และสงั คมโลก
3. หลกั แหง่ ควำมเสมอภำค คนไทยทั่งปวงต้องมีสิทธิ์เสมอกันในการรับการศกึ ษา
พื้นฐานไม่น้อยกว่า 12 ปี อย่างเท่าถึงเท่าเทียม ควบคู่ไปกับความมีคุณภาพ โดยไม่แบ่งชนชั้นหรือความแตกต่าง
ทางสังคมวฒั นธรรม
4. หลักกำรมีส่วนร่วม องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นและภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการบริหารและ
การจัดการศึกษาร่วมกับคณะกรรมการสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาเพ่ือเสริมสร้างเอกลักษณ์
ศักดิ์ศรีและตอบสนองความต้องการของท้องถ่ินตามนัยของธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540
เก่ยี วกับการกระจายอานาจ
5. หลกั แหง่ ควำมสอดคล้อง อดุ มการณ์และมาตรฐานในการจัดการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน
ตอ้ งสอดคล้องกับสาระบัญญัติในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2540 พระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พุทธศักราช 2542 และแก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับท่ี 2 ) พุทธศักราช 2545 นโยบายการศึกษาของรัฐบาลที่
แถลงต่อรัฐสภา สอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาของชาติและสัมพันธ์เช่ือมโยงกับมาตรฐานการอาชีวศึกษา และ
มาตรฐานการอุดมศึกษา
ห น้ า | ๒๙
ทศิ ทำงของกำรพัฒนำกำรศึกษำของโรงเรียน
จากรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ราชกิจจานุเบกษา เล่ม 134 ตอนที่ 40 ก 6 เมษายน 2560
มาตรา 54 รัฐต้องดาเนินการให้เด็กทุกคนได้รับการศึกษาเป็นเวลาสิบสองปี ตั้งแต่ก่อนวัยเรียนจนจบการศึกษา
ภาคบังคับอย่างมีคุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย รัฐต้องดาเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและพัฒนาก่อนเข้ารับ
การศึกษาตามวรรคหนึ่ง เพ่ือพัฒนาร่างกาย จิตใจ วินัย อารมณ์ สังคม และสติปัญญาให้สมกับวัย โดยส่งเสริมและ
สนับสนุน ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถ่ินและภาคเอกชนเข้ามีส่วนร่วมในการดาเนินการด้วยรัฐต้องดาเนินการให้
ประชาชนได้รับการศึกษาตามความต้องการในระบบต่าง ๆ รวมทั้งส่งเสริม ให้มีการเรียนรู้ตลอดชีวิต และจัดให้มี
การร่วมมือกนั ระหวา่ งรัฐ องค์กรปกครองสว่ นท้องถิ่น และภาคเอกชนในการจดั การศึกษาทุกระดับ
โดยรัฐมีหน้าที่ดาเนินการ กากับ ส่งเสริม และสนับสนุนให้การจัดการศึกษาดังกล่าวมีคุณภาพและได้
มาตรฐานสากล ท้ังนี้ ตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติซ่ึงอย่างน้อย ต้องมีบทบัญญัติเกี่ยวกับการจัดทา
แผนการศึกษาแห่งชาติ และการดาเนินการและตรวจสอบการดาเนินการ ใหเ้ ป็นไปตามแผนการศึกษาแห่งชาตดิ ้วย
การศึกษาทั้งปวงต้องมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้เป็นคนดี มีวินัย ภูมิใจในชาติ สามารถเชี่ยวชาญได้ ตามความถนัดของตน
และมีความรับผิดชอบต่อครอบครัว ชุมชน สังคมและประเทศชาติในการดาเนินการให้เด็กเล็กได้รับการดูแลและ
พัฒนาตามวรรคสอง หรือให้ประชาชนได้รับการศึกษาตามวรรคสาม รัฐต้องดาเนินการให้ผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์
ไดร้ ับการสนบั สนุนค่าใชจ้ า่ ยในการศกึ ษาตามความถนัดของตน
ให้จัดต้ังกองทุนเพ่ือใช้ในการช่วยเหลือผู้ขาดแคลนทุนทรัพย์ เพื่อลดความเหล่ือมล้าในการศึกษาและเพ่ือ
เสริมสร้างและพัฒนาคุณภาพและประสิทธิภาพครูโดยให้รัฐจัดสรรงบประมาณให้แก่กองทุน หรือใช้มาตรการหรือ
กลไกทางภาษีรวมทั้งการให้ผู้บริจาคทรัพย์สินเข้ากองทุนได้รับประโยชน์ในการลดหย่อนภาษีด้วย ทั้งน้ี ตามที่
กฎหมายบัญญัติ ซึ่งกฎหมายดังกล่าวอย่างน้อยต้องกาหนดให้การบริหารจัดการกองทุน เป็นอิสระและกาหนดให้มี
การใชจ้ ่ายเงินกองทุนเพ่ือบรรลุวตั ถุประสงค์ดังกลา่ ว
พระรำชกระแสรับสั่งสมเดจ็ พระเจำ้ อยู่หัวฯ รชั กำลที่ 10 เรอ่ื ง กำรศกึ ษำ เมื่อวันที่ 2 กุมภำพนั ธ์ 2560
ณ หอ้ งประชุม สพฐ. 1 อำคำร 4 สำนกั งำนคณะกรรมกำรกำรศึกษำขนั้ พืน้ ฐำน
****************************
ตามที่ได้มีการประชุมร่วมองคมนตรี 3 ท่าน กับผู้บริหารกระทรวงศึกษาธิการ ประกอบด้วย พลเอก
สุรยุทธ์ จุลานนท์ ศาสตราจารย์เกียรติคุณ นายแพทย์เกษม วัฒนชัย และพลเอกดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ ได้น้อมนา
พระราชกระแสรับสั่งสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลที่ 10 เร่ือง การศึกษามาแจ้งให้ผู้บริหารระดับสูงของ
กระทรวงศึกษาธิการทราบเมื่อวันท่ี 2 กุมภาพันธ์ 2560 เวลา 15.30 -16.30 น. ณ ห้องประชุม สพฐ. 1
อาคาร 4 สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน นัน้
สรุปได้ดงั น้ี
พระบรมราโชบาย/ พระราชกระแสรับส่ัง สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ รัชกาลท่ี 10 สมเด็จพระเจ้าอยู่หัวมหา
วชิราลงกรณ บดินทรเทพยวรางกูร ทรงตอบรับเป็นพระมหากษัตริย์ เม่ือวันที่ 1 ธันวาคม 2559“เพื่อสืบสานพระ
ราชปณธิ าน และเพื่อประโยชนข์ องประชาชนชาวไทยทั้งปวง”
ห น้ า | ๓๐
1. พระบรมรำโชบำยของสมเดจ็ พระเจำ้ อยหู่ ัวฯ รชั กำลที่ 10 ด้ำนกำรศกึ ษำ
การศกึ ษาต้องมุ่งสรา้ งพ้ืนฐานใหแ้ ก่ผู้เรียน
1. ทัศนคตทิ ถี่ ูกต้อง
2. พื้นฐานชีวติ (= อุปนสิ ัย) ทม่ี ่ันคงเขม้ แขง็
3. มีอาชีพ – มงี านทา
พระรำชกระแสของสมเดจ็ พระเจ้ำอยู่หัวฯ รัชกำลที่10 ด้ำนกำรศึกษำในภำพรวม
1. สืบสานพระราชปณิธานหรือพระราชกระแสรับส่ังรัชกาลท่ี 9 เรอ่ื ง การสรา้ งคนดี
2. การศึกษาต้องมุ่งสร้างพ้ืนฐานให้แก่เด็ก ทศั นคตทิ ี่ถกู ต้อง (อุปนิสัย) ท่มี ่ันคงเข้มแข็ง มีอาชีพ-มี
งานทา ฯลฯ
3. เน้นการสร้างทัศนคติ (Attitude)
4. การศึกษาในภาพรวมทาอยา่ งไรให้เยาวชนมคี วามสนใจและเขา้ ใจเรื่องของสถาบันและ
ประวตั ิศาสตร์
2. กำรดำเนนิ งำนขององคมนตรตี ำมพระรำโชบำย/ พระรำชกระแสรบั สงั่ รัชกำลท่ี 9 และรัชกำล
ที่ 10 เรอื่ ง กำรศกึ ษำ มสี ำคัญ ดังนี้
พระราชกระแสรับสั่งรัชกาลท่ี 9 ทรงห่วงใยเรื่องมาตรฐานการศึกษาของโรงเรียนในพ้ืนที่ห่างไกล และใน
ชุมชน จึงมีการดาเนินการโดยเร่ิมทาเหมือนภาคเอกชนไม่เอาตาแหน่งไปทาให้เกิดปัญหากับ ส่วนราชการ ต้องรับ
ฟังปัญหาและมาแก้ไขให้ตรงจุด ดาเนินการมาแล้ว 4 ปี ในโรงเรียนพ้ืนท่ีห่างไกลรวม 155 แห่งในทุกภาค เช่น
กองทนุ การศกึ ษาพระราชทาน เรือ่ งทพ่ี กั อาศัยครู การปรบั ปรงุ อาคาร สถานท่ี ทพี่ กั นกั เรยี น
การจัดการเรียนการสอนในพื้นที่ห่างไกล และการอาชีวศึกษาบางส่วน ได้รับความร่วมมือจากหน่วยงาน
สพฐ. และ สอศ. สกอ. การจัดการศึกษาแบบทวิภาคี โดยร่วมกับภาคเอกชน ส่งผลให้เด็กได้เรียนรู้เทคโนโลยีใหม่ๆ
ในการฝึกงานในโรงเรียน และ สกอ. โดยมหาวิทยาลัยราชภัฏ ให้ความช่วยเหลือโรงเรียน ในพ้ืนท่ีห่างไกลในการ
อบรมพัฒนาครู และจัดนักศึกษาฝึกสอน
3. แนวคิดและแนวทำงดำเนินกำรขององคมนตรีในกำรน้อมนำพระรำชกระแสรับส่ังสมเด็จ
พระเจำ้ อยูห่ วั รชั กำลที่ 10 เร่อื ง กำรศกึ ษำ ทสี่ ำคัญๆ ได้แก่
3.1 กระทรวงศึกษาธิการดาเนินการควบรวมภารกิจ/ โครงการในส่วนของรัชกาลที่9 และรัชกาล
ที่ 10 เข้าดว้ ยกนั และดาเนินการในภาพกวา้ งตามทร่ี ชั กาลท่ี 10 ทรงมอบหมาย
3.2 การสร้างคนดีให้แก่บ้านเมือง ต้องหาแนวทางสร้างคนดีก่อน แล้วจึงจะไปสู่เด็กเป็นคนดี
และพัฒนาให้เป็นคนเก่ง โดยเฉพาะปัญหาการศึกษามีเรื่องการทุจริตในห้องสอบ ปัญหาหน้ีสินครู และปัญหา
การศึกษา ฯลฯ ครูต้องมีศรัทธาท่ีแรงกล้าเพื่อทาให้เด็กเป็นคนดี คือ สิ่งที่สอนและอบรมผู้เรียนให้มีองค์ความรู้ มี
อุปนิสัยติดตัว (Character Education) 5 ด้าน คือ ศีลธรรม จริยธรรม มารยาท วินัย และวัฒนธรรม เพ่ือให้คน
ไทยเปน็ ผูม้ ีมารยาท มีวนิ ัย มีความรับผิดชอบในหน้าที่ และเป็นพลเมืองดขี องชาติ โดยการศกึ ษาแบง่ เป็น 2 สว่ น
คือ การสอน และการอบรม ซงึ่ เปรียบเสมือนต้นไม้ที่มีส่วนของลาต้นและราก
ห น้ า | ๓๑
3.3 ระบบการศกึ ษาต้องใชศ้ รัทธาสร้างเด็ก เยาวชน เป็นผู้ใหญ่ที่ฝากบา้ นเมอื ง : งานของครจู ะ
เป็น เรื่องยาก ชว่ ยก่อสรา้ งคนดแี ก่บ้านเมือง ต้องสอนให้เดก็ รู้ ถูก รู้ผดิ ยึดม่ันในสง่ิ ทีถ่ ูกตอ้ งในเรอ่ื งความเป็นชาติ
สถาบัน ประวัตศิ าสตร์ การสรา้ งเด็กเพ่อื เป็นคนในอนาคตของชาตทิ ่ีมีการศึกษา และพบวา่ ความคาดหวงั ในเด็ก
ของประเทศไทย คือ ซื่อสัตย์ รบั ผดิ ชอบ มีน้าใจ
ห น้ า | ๓๒
รำ่ งกรอบยุทธศำสตร์ชำติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560 - 2579)
คณะกรรมการจัดทายุทธศาสตร์ชาติได้ดาเนินการยกร่างกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ.2560-
2579) เพ่ือใช้เป็นกรอบแนวทางการพัฒนาประเทศในระยะ 20 ปี โดยกาหนดวิสัยทัศน์ เป้าหมายและ
ยทุ ธศาสตร์ ดังนี้
วิสัยทัศน์
“ประเทศไทยมีความมั่นคง มั่งคั่ง ย่ังยืน เป็นประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของ
เศรษฐกิจพอเพียง”และเป็นคตพิ จน์ประจาชาตวิ ่า “มน่ั คง มงั่ ค่งั ย่งั ยนื ”
เป้ำหมำย
1. ควำมม่ันคง
1.1 การมีความมั่นคงปลอดภัยจากภัยและการเปลี่ยนแปลงทั้งภายในประเทศและภายนอกประเทศในทุก
ระดับ ท้ังระดับประเทศ สังคม ชุมชน ครัวเรือน และปัจเจกบุคคล และมีความม่ันคงในทุกมิติท้ังมิติเศรษฐกิจ
สงั คม สิง่ แวดล้อม และการเมือง
1.2 ประเทศมีความม่ันคงในเอกราชและอธิปไตย มีสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ที่เข้มแข็ง
เป็นศูนย์กลางและท่ียึดเหน่ียวจิตใจของประชาชน ระบบการเมืองมีความม่ันคง เป็นกลไกท่ีนาไปสู่การบริหาร
ประเทศทีต่ อ่ เนือ่ งและโปรง่ ใสตามหลักธรรมาภิบาล
1.3 สังคมมีความปรองดองและความสามัคคี สามารถผนึกกาลังเพ่ือพัฒนาประเทศชุมชนมีความเข้มแข็ง
ครอบครัวมีความอบอุ่น
1.4 ประชาชนมีความม่ันคงในชีวิต มีงานและรายได้ท่ีม่ันคงพอเพียงกับการดารงชีวิตมีท่ีอยู่อาศัย และ
ความปลอดภัยในชวี ิตทรพั ย์สิน
1.5 ฐานทรพั ยากรและส่งิ แวดล้อม มีความม่ันคงของอาหาร พลังงาน และนา้
2. ควำมมั่งค่ัง
2.1 ประเทศไทยมีการขยายตัวของเศรษฐกิจอย่างต่อเน่ือง ยกระดับเป็นประเทศในกลุ่มรายได้สูง
ความเหล่ือมล้าของการพัฒนาลดลง ประชากรไดร้ ับผลประโยชน์จากการพัฒนาอย่างเทา่ เทียมกันมากข้ึน
2.2เศรษฐกิจมีความสามารถในการแข่งขันสูง สามารถสร้างรายได้ท้ังภายในและภายนอกประเทศ
สร้างฐานเศรษฐกิจและสังคมแห่งอนาคต และเป็นจุดสาคัญของการเช่ือมโยงในภูมิภาค ทั้งการคมนาคมขนส่ง
การผลิต การค้าการลงทุนและการทาธุรกิจ มีบทบาทสาคัญในระดับภูมิภาคและระดับโลก เกิดสายสัมพันธ์ทาง
เศรษฐกิจและการค้าอยา่ งมีพลัง
2.3 ความสมบูรณ์ในทุนท่ีจะสามารถสร้างการพัฒนาคนอย่างต่อเน่ือง ได้แก่ ทุนมนุษย์ ทุนทางปัญญา
ทุนทางการเงนิ ทุนทเี่ ปน็ เคร่ืองมือเคร่ืองจกั ร ทนุ ทางสงั คม และทนุ ทรัพยากรธรรมชาติและ สิ่งแวดลอ้ ม
ห น้ า | ๓๓
3. ควำมยัง่ ยนื
3.1 การพัฒนาท่ีสามารถสร้างความเจริญ รายได้ และคุณภาพชีวิตของประชาชนให้เพิ่มขึ้นอย่างต่อเน่ือง
ซ่ึงเป็นการเจริญเติบโตของเศรษฐกิจท่ีไม่ใช้ทรัพยากรธรรมชาติเกินพอดี ไม่สร้างมลภาวะต่อสิ่งแวดล้อมจนเกิน
ความสามารถในการรองรับและเยียวยาของระบบนิเวศน์
3.2 การผลิตและการบริโภคเป็นมิตรกับส่ิงแวดล้อม และสอดคล้องกับกฎระเบียบของประชาคมโลก
ซ่ึงเป็นที่ยอมรับร่วมกัน ความอุดมสมบูรณ์ของทรัพยากรธรรมชาติและส่ิงแวดล้อมมีคุณภาพดีข้ึน คนมีความ
รับผิดชอบต่อสงั คม มีความเอื้ออาทร เสียสละเพื่อผลประโยชน์ส่วนรวม
3.3 ประชาชนทุกภาคส่วนในสงั คมยดึ ถือและปฏิบัติตามปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
วัตถปุ ระสงค์
1. เพ่ือสร้างความปรองดองสมานฉันท์
2. เพ่ือเพ่ิมกระจายโอกาสและคุณภาพการให้บรกิ ารของรัฐอยา่ งท่ัวถึง เทา่ เทยี ม เป็นธรรม
3. เพ่ือลดต้นทุนให้ภาคการผลิตและบริการ
4. เพื่อเพ่ิมมูลคา่ สินค้าเกษตร อุตสาหกรรม และบรกิ ารด้วยนวตั กรรม
รา่ งกรอบยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี (พ.ศ. 2560-2579) มี 6 ยุทธศาสตร์ ซ่ึงเกยี่ วข้องกับสานักงาน
คณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน 6 ยุทธศาสตร์ ดงั น้ี
ยุทธศำสตร์ที่ 1 กำรสร้ำงควำมมน่ั คง
ยุทธศาสตร์ที่ 1.3 การรักษาความมั่นคงภายใน และความสงบเรยี บร้อยภายในตลอดจนการ
บริหารจดั การความมั่นคงชายแดนและชายฝ่งั ทะเล
ยุทธศำสตรท์ ี่ 2 กำรสรำ้ งควำมสำมำรถในกำรแข่งขนั
ยทุ ธศาสตร์ที่ 2.5 การลงทุนพัฒนาโครงสรา้ งพ้ืนฐาน ในด้านการขนส่ง ด้านพลังงานระบบ
เทคโนโลยีสารสนเทศและการส่ือสารและการวิจยั และพัฒนา
ยุทธศำสตรท์ ี่ 3 กำรพฒั นำและเสริมสร้ำงศักยภำพคน
ยุทธศาสตร์ท่ี 3.1 การพัฒนาศักยภาพคนตลอดช่วงชวี ิตให้สนับสนุนการเจริญเติบโตของประเทศ
ยุทธศาสตร์ที่ 3.2 การยกระดบั คุณภาพการศึกษาและการเรยี นรู้ให้มีคุณภาพเทา่ เทยี มและ
ท่วั ถึง
ยุทธศาสตร์ที่ 3.3 การปลูกฝังระเบยี บวินัย คุณธรรม จริยธรรม ค่านยิ มท่ีพึงประสงค์
ยุทธศำสตร์ที่ 4 ด้ำนกำรสร้ำงโอกำสบนควำมเสมอภำคและควำมเท่ำเทยี มกนั ทำงสังคม
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 4.1 การสรา้ งความมั่นคงและการลดความเหล่อื มล้ าทางด้านเศรษฐกจิ และสังคม
ยทุ ธศำสตร์ที่ 5 ด้ำนกำรสรำ้ งกำรเตบิ โตบนคุณภำพชีวติ ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
ยุทธศาสตร์ท่ี 5.1 การจัดระบบอนรุ ักษ์ ฟ้ืนฟแู ละปาองกันการท าลายทรัพยากรธรรมชาติ
ยุทธศำสตร์ท่ี 6 ด้ำนกำรปรับสมดลุ และพฒั นำระบบกำรบริหำรจดั กำรภำครฐั
ยทุ ธศาสตร์ที่ 6.1 การปรับปรงุ โครงสรา้ ง บทบาท ภารกิจของหน่วยงานภาครัฐให้มขี นาดที่
เหมาะสม
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 6.4 การต่อต้านการทจุ รติ และประพฤติมิชอบ
ยทุ ธศาสตร์ท่ี 6.5 การปรับปรุงกฎหมายและระเบยี บต่าง ๆ ให้ทันสมัย เป็นธรรมและเป็นสากล
ห น้ า | ๓๔
แผนพฒั นำเศรษฐกจิ และสังคมแห่งชำติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564)
สานักงานคณะกรรมการพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติได้จัดทาแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม
แห่งชาติ ฉบับท่ี 12 (พ.ศ. 2560-2564) สาหรับใช้เป็นแผนพัฒนาประเทศไทยในระยะ 5 ปี ซ่ึงเป็นการแปลง
ยทุ ธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี สู่การปฏิบัติอย่างเป็นรปู ธรรม เพ่ือเตรียมความพรอ้ มและวางรากฐานในการยกระดับ
ประเทศไทยให้เป็นประเทศที่พัฒนาแล้ว มีความม่ันคง ม่ังค่ัง ยั่งยืน ด้วยการพัฒนาตามปรัชญาของเศรษฐกิจ
พอเพียง ซ่ึงการพัฒนาประเทศในระยะของแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 (พ.ศ. 2560-
2564) มีหลักการที่สาคัญ คือ
1) ยึด “หลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง”เพ่ือให้เกิดบูรณาการการพัฒนาในทุกมิติอย่างสมเหตุสมผล
มีความพอประมาณ และมีระบบภูมิคุ้มกันและการบริหารจัดการความเสี่ยงที่ดี ซ่ึงเป็นเง่ือนไขท่ีจาเป็นสาหรับการ
พัฒนาท่ียั่งยืนซ่ึงมุ่งเน้นการพัฒนาคน มีความเป็นคนท่ีสมบูรณ์ สังคมไทยเป็นสังคมคุณภาพ มีท่ียืนและเปิดโอกาส
ใหก้ บั ทกุ คนในสงั คมไดด้ าเนินชีวิตท่ดี มี ีความสุข และอยู่รว่ มกันอย่างสมานฉันท์
2) ยึด “คนเป็นศูนย์กลางการพัฒนา” มุ่งสรา้ งคุณภาพชีวติ และสขุ ภาวะที่ดี สาหรับคนไทยพัฒนาคนให้มี
ความเป็นคนท่ีสมบูรณ์ มีวินัย ใฝ่รู้ มีความรู้ มีทักษะมีความคิดสร้างสรรค์ มีทัศนคติท่ีดีรับผิดชอบต่อสังคม
มีจริยธรรมและคุณธรรม พัฒนาคนทุกช่วงวยั และเตรยี มความพร้อมเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุอย่างมีคุณภาพ รวมถึงการ
สร้างคนให้ใช้ประโยชน์และอยู่กับสิ่งแวดล้อมอย่างเกื้อกูล อนุรักษ์ ฟ้ืนฟูใช้ประโยชน์ทรัพยากรธรรมชาติและ
สิง่ แวดล้อมอย่างเหมาะสม
3) ยึด “วิสัยทัศน์ภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี” มาเป็นกรอบของวิสัยทัศน์ประเทศไทยใน
แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ 12 วิสัยทัศน์ “ประเทศไทยมีความม่ันคง มั่งค่ัง ย่ังยืนเป็น
ประเทศพัฒนาแล้วด้วยการพัฒนาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” หรือเป็นคติพจน์ประจาชาติว่า “มั่นคง
มงั่ ค่งั ยงั่ ยนื ”
4) ยึด “เป้าหมายอนาคตประเทศไทย ปี 2579” ที่เป็นเป้าหมายในยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ20 ปี มาเป็น
กรอบในการกาหนดเป้าหมายท่ีจะบรรลุใน 5 ปีแรกและเป้าหมายในระดับย่อยลงมา ควบคู่กับกรอบเป้าหมาย
ทีย่ ่ังยืน (SDGs)
5) ยึด “หลักการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจท่ีลดความเหล่ือมล้าและขับเคล่ือนการเจรญิ เติบโตจากการเพ่ิม
ผลติ ภาพการผลิตบนฐานของการใช้ภูมิปัญญาและนวัตกรรม”
6) ยึด “หลักการนาไปสู่การปฏิบัติให้เกิดผลสัมฤทธิ์อย่างจริงจังใน 5 ปีที่ต่อยอดไปสู่ผลสัมฤทธิ์ท่ีเป็น
เป้าหมายระยะยาว” เป้าหมายรวม เพ่อื ให้เป็นไปตามวตั ถุประสงคด์ ังกล่าว ได้กาหนดเป้าหมายรวมการพัฒนาของ
แผนพัฒนาฯ ฉบบั ท่ี 12 ประกอบดว้ ย
1. คนไทยมีคุณลักษณะเป็นคนไทยทีส่ มบูรณ์ มวี ินยั มีทัศนคติและพฤตกิ รรมตามบรรทัดฐานที่ดขี องสงั คม
มีความเป็นพลเมืองตื่นรู้ มีความสามารถในการปรับตัวได้อย่างรู้เท่าทันสถานการณ์มีความรับผิดชอบและทา
ประโยชน์ตอ่ ส่วนรวม มสี ุขภาพกายและใจท่ีดี มคี วามเจรญิ งอกงามทางจิตวิญญาณมีวิถีชีวิตที่พอเพยี ง
และมีความเป็นไทย
2. ความเหล่ือมล้าทางด้านรายได้และความยากจนลดลง เศรษฐกิจฐานรากมีความเข้มแข็งประชาชนทุก
คนมโี อกาสในการเขา้ ถึงทรพั ยากร การประกอบอาชีพและบริการทางสังคมทม่ี คี ุณภาพอย่างทั่วถงึ และเป็นธรรม
ห น้ า | ๓๕
3. ระบบเศรษฐกิจมีความเข้มแข็งและแข่งขันได้ โครงสรา้ งเศรษฐกิจปรับสู่เศรษฐกิจฐานบริการและดิจิทัล
มีผู้ประกอบการรุ่นใหม่และเป็นสังคมผู้ประกอบการผู้ประกอบการขนาดกลางและขนาดเล็กที่เข้มแข็งสามารถใช้
นวัตกรรมและเทคโนโลยีดิจิทัลในการสร้างสรรค์คุณค่าสินค้าและบริการมีระบบการผลิตและให้บริการจากฐาน
รายได้เดิมท่ีมีมูลค่าเพ่ิมสูงข้ึน และมีการลงทุนในการผลิตและบริการฐานความรู้ช้ันสูงใหม่ๆ ท่ีเป็นมิตรกับ
สิง่ แวดล้อมและชมุ ชน รวมทั้งกระจายฐานการผลิตและการให้บริการสู่ภูมิภาคเพ่ือลดความเหลื่อมล้าโดยเศรษฐกิจ
ไทยมีเสถยี รภาพ
4. ทุนทางธรรมชาติและคุณภาพสง่ิ แวดล้อมสามารถสนับสนุนการเติบโตท่ีเป็นมิตรกับส่งิ แวดล้อม มคี วาม
มน่ั คงทางอาหาร พลงั งาน และน้า
แผนกำรศกึ ษำแหง่ ชำติ พ.ศ.2560 - 2579
สานักงานเลขาธิการสภาการศึกษาได้จัดทาแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 เพ่ือใช้เป็นแผน
ยุทธศาสตร์ระยะยาวสาหรับหน่วยงานที่เก่ียวข้องกับการศึกษาของประเทศ ได้นาไปใช้เป็นกรอบและแนวทางการ
พัฒนาการศึกษาและเรียนรู้สาหรับพลเมืองทุกช่วงวัยตั้งแต่แรกเกิดจนตลอดชีวิต โดยจุดมุ่งหมายท่ีสาคัญของแผน
คือ การมุ่งเน้นการประกันโอกาสและความเสมอภาคทางการศึกษาและการศึกษาเพื่อการมีงานทาและสร้างงานได้
ภายใต้บริบทเศรษฐกิจและสังคมของประเทศและของโลกที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรมและความคิดสร้างสรรค์
รวมท้ังความเป็นพลวัตร เพ่ือให้ประเทศไทยสามารถ ก้าวข้ามกับดักประเทศท่ีมีรายได้ปานกลางไปสู่ประเทศท่ี
พัฒนาแล้ว ซ่ึงภายใต้กรอบแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2560-2579 ได้กาหนดสาระสาคัญสาหรับบรรลุ
เป้าหมายของการพัฒนาการศึกษาใน 5 ประการ ได้แก่ การเข้าถึงโอกาสทางการศึกษา (Access) ความเท่าเทียม
ทางการศึกษา (Equity) คุณภาพการศึกษา (Quality) ประสิทธิภาพ (Efficiency) และตอบโจทย์บริบทท่ี
เปลย่ี นแปลง (Relevancy) ในระยะ 20 ปขี า้ งหนา้ ดังน้ี
วสิ ยั ทัศน์
คนไทยทกุ คนไดร้ ับการศึกษาและเรยี นรู้ตลอดชีวติ อย่างมคี ุณภาพ ดารงชวี ติ อย่างเป็นสุข สอดคล้องกับ
หลกั ปรัชญาของเศรษฐกจิ พอเพยี ง และเปลีย่ นแปลงของโลกศตวรรษที่ 21
วตั ถปุ ระสงค์
1. เพ่ือพัฒนาระบบและกระบวนการจดั การศึกษาทีม่ คี ุณภาพและมีประสทิ ธิภาพ
2. เพ่ือพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองดี มีคุณลักษณะ ทกั ษะและสมรรถนะท่ีสอดคล้องกับบทบัญญัตขิ อง
รฐั ธรรมนูญแหง่ ราชอาณาจักรไทย พระราชบัญญัติการศึกษาแหง่ ชาติ และยุทธศาสตร์ชาติ
3. เพื่อพัฒนาสังคมไทยให้เป็นสังคมแห่งการเรียนรู้ และคุณธรรมจริยธรรม รู้จักสามัคคี และร่วมมือผนึก
กาลังม่งุ สู่การพัฒนาประเทศอย่างยัง่ ยืน ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพยี ง
4. เพื่อนาประเทศไทยก้าวขา้ มกับดักประเทศที่มรี ายได้ปานกลาง และความเหลื่อมล้าภายในประเทศ
ลดลง
ยทุ ธศำสตร์
1. การจดั การศกึ ษาเพือ่ ความมนั่ คงของสังคมและประเทศชาติ
ห น้ า | ๓๖
2. การผลิตและพัฒนากาลังคน การวจิ ัย และนวัตกรรม เพื่อสรา้ งขดี ความสามารถในการแข่งขัน
3. การพัฒนาศักยภาพคนทุกช่วงวัย และการสรา้ งสังคมแห่งการเรียนรู้
4. การสรา้ งโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษา
5. การจัดการศึกษาเพ่อื สร้างเสริมคุณภาพชีวติ ที่เป็นมิตรกับสิง่ แวดล้อม
6. การพัฒนาประสทิ ธิภาพของระบบบริหารจัดการศึกษา
นโยบำยควำมม่นั คงแหง่ ชำติ(พ.ศ. 2558-2564)
นโยบายความม่ันคงแห่งชาติ กาหนดข้ึนเพอื่ เป็นกรอบในการดาเนินการดา้ นความม่ันคงของภาครัฐใน
ระยะ 7 ปี แบ่งเป็น 2 ส่วน คือ สว่ นท่ี 1 นโยบาย
เสริมสรา้ งความมั่นคงที่เป็นแกน่ หลักของชาตแิ ละส่วนที่ 2 นโยบายความมั่นคงแห่งชาติทวั่ ไป โดยกาหนด
กรอบความคดิ หลกั จากการกาหนดนโยบายได้คานงึ ถึง
คา่ นยิ มหลักของชาติ 12 ประการ ดงั น้ี
วสิ ัยทศั น์ “ชาติมีเสถยี รภาพและเป็นปกึ แผ่น ประชาชนมีความมั่นคงในชีวติ ประเทศมีการพัฒนาอยา่ ง
ตอ่ เนอ่ื งปลอดภัยจากภัยคุกคามขา้ มพรมแดน พร้อมเผชิญวกิ ฤตกิ ารณ์ มีบทบาทเชิงรุกในประชาคมอาเซยี นและ
ดาเนินความสมั พันธ์กับนานาประเทศอยา่ งมดี ุลยภาพ”
นโยบายความมั่นคงท่ีเกยี่ วข้องกับสานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐานมี ดงั น้ี
สว่ นท่ี 1 นโยบายสาคัญเพ่ือเสริมสรา้ งความม่ันคงที่เป็นแก่นหลักของชาติ (ศธ. เป็นหน่วยหลกั ) เก่ียวข้อง
ใน 3 นโยบาย
1. นโยบายท่ี 1 เสริมสรา้ งความมั่นคงของสถาบันหลกั ของชาติ และการปกครองระบอบประชาธิปไตย
อันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นประมุข
1.1) เสริมสรา้ งความรู้ ความเข้าใจที่ถูกตอ้ งเกยี่ วกับสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตรยิ ์
2. นโยบายที่ 2 สรา้ งความเป็นธรรม ความปรองดอง และความสมานฉันท์ในชาติ
2.4) ส่งเสรมิ ให้ประชาชนเกดิ ความรู้สึกเป็นส่วนหน่ึงของชาติ อย่รู ว่ มกันอยา่ งสันติสขุ มีความรัก
ความภาคภูมิใจในความเป็นชาติและเป็นสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง
3. นโยบายท่ี 3 ปาองกันและแกไ้ ขการกอ่ ความไม่สงบในจังหวดั ชายแดนภาคใต้
3.3) เสรมิ สรา้ งสันติสขุ และการพัฒนาอย่างยง่ั ยืนโดยใช้กระบวนการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนเป็น
พลังในการเขา้ ถึงประชาชน
ห น้ า | ๓๗
ทิศทำงกำรพัฒนำกำรจัดกำรศึกษำสำนักงำนเขตพน้ื ท่ีกำรศึกษำประถมศึกษำพิจิตร เขต 2
วิสยั ทัศน์
สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 เป็นองค์กรช้ันนาในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา
ขัน้ พ้ืนฐาน ส่มู าตรฐานสากล บนพ้นื ฐานความเป็นไทย
พันธกจิ
1. สง่ เสริมและสนับสนุนให้ประชากรวัยเรยี นทุกคนไดร้ ับการศึกษาอย่างท่ัวถึง และมคี ุณภาพ
2. ส่งเสริมให้ผู้เรียนมีคุณธรรม จริยธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ตามหลักสูตร และค่านิยมหลักของ
คนไทย 12 ประการ
3. พัฒนาระบบบริหารจัดการท่ีเน้นการมีส่วนร่วม เพ่ือเสริมสร้างความรับผิดชอบต่อคุณภาพการศึกษา
และบรู ณาการการจดั การศึกษา
เปำ้ ประสงค์
1. นักเรียนระดับก่อนประถมศึกษา และระดับการศึกษาข้ันพื้นฐานทุกคน มีพัฒนาการเหมาะสมตามวัย
และมคี ุณภาพ
2. ประชากรวัยเรยี นทุกคนไดร้ ับโอกาสในการศึกษาข้ันพ้ืนฐานอย่างทั่วถึง มคี ณุ ภาพ และเสมอภาค
3. ครู และบุคลากรทางการศึกษา มสี มรรถนะตรงตามสายงาน และมีวฒั นธรรมการทางานท่ีมงุ่ เน้น
ผลสมั ฤทธิ์
4. สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษา และสถานศึกษาและสถานศึกษามีประสิทธิภาพ และเป็นกลไก
ขับเคลอ่ื นการศึกษาข้ันพ้ืนฐานสู่คุณภาพระดับมาตรฐานสากล
5. สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐานเน้นการทางานแบบบูรณากา การมีเครือข่ายการบริหาร
จัดการ บริหารแบบมีส่วนร่วมจากทุกภาคส่วนในการจัดการศึกษา และกระจายอานาจและความรับผิดชอบสู่
สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา และสถานศึกษา
6. พ้ืนที่พิเศษ ได้รับการพัฒนาคุณภาพการศึกษาและพัฒนารูปแบบการจัดการศึกษาท่ีเหมาะสมตาม
บรบิ ทของพื้นท่ี
กลยุทธ์
จากวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน จึงกาหนดกลยุทธ์
ปงี บประมาณ พ.ศ. 2560 จานวน 4 กลยุทธ์ ดงั ตอ่ ไปนี้
กลยทุ ธท์ ี่ 1 การพัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี นในระดับการศึกษาข้ันพื้นฐาน
กลยทุ ธท์ ี่ 2 การเพ่ิมโอกาสการเข้าถึงบริการการศึกษาขั้นพื้นฐานให้ท่ัวถึงครอบคลุมผู้เรียนให้ได้รับ
โอกาสในการพัฒนาเต็มตามศกั ยภาพและมีคุณภาพ
กลยทุ ธท์ ี่ 3 การพฒั นาคุณภาพครูและบุคลากรทางการศกึ ษา
กลยทุ ธ์ที่ 4 การพัฒนาระบบการบรหิ ารจดั การ
ห น้ า | ๓๘
ผลผลติ
สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน มีการดาเนินงาน 6 ผลผลติ คือ
1. ผูจ้ บการศึกษาระดับก่อนประถมศกึ ษา
2. ผจู้ บการศกึ ษาภาคบังคับ
3. ผจู้ บการศกึ ษาระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
4. เด็กพกิ ารได้รับการศกึ ษาขั้นพื้นฐานและพัฒนาสมรรถภาพ
5. เด็กด้อยโอกาสไดร้ ับการศึกษาขั้นพื้นฐาน
6. ผู้ท่ีมีความสามารถพิเศษได้รบั การพัฒนาศักยภาพ
จดุ เน้นกำรดำเนนิ งำน
สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาพิจิตร เขต 2 ได้กาหนด 6 จุดเน้นการดาเนินงาน ใน
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2562 ที่สอดคล้องกับ 6 จุดเน้นสานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพ้ืนฐาน 6
ยทุ ธศาสตร์ กระทรวงศึกษาธกิ าร ดังน้ี
1. จุดเน้นด้ำนหลกั สตู รและกระบวนกำรเรียนรู้
1. หลกั สตู รและกระบวนการเรียนรูม้ ีการปรับปรุงตามความเหมาะสม ดังตอ่ ไปนี้
1.1 หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐานมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับผู้เรยี น
1.2 โครงสรา้ งเวลาเรยี นมีการปรับปรุงให้เหมาะสมกับผู้เรียน
1.3 สถานศกึ ษาทุกแห่งมีการยกระดับมาตรฐานภาองั กฤษในแต่ละช่วงชั้น
1.4 สถานศกึ ษาใช้ STEM Education BBL DLTV
2. ผู้เรยี นมีสมรรถนะท่ีสาคัญ สมู่ าตรฐานสากล ดังต่อไปน้ี
2.1 ผู้เรยี นระดับก่อนประถมศกึ ษามพี ัฒนาการดา้ น รา่ งกาย อารมณ์ จติ ใจ สงั คมและ
สติปัญญาท่ีสมดุล เหมาะสมกับสงั คม วยั และเรยี นรูอ้ ยา่ งมีความสุข
2.2 ผู้เรียนต้งั แตช่ ้ันประถมศึกษาปที ่ี 1 อ่านออก เขียนได้
2.3 ผู้เรยี นตั้งแตช่ ้ันประถมศึกษาปที ่ี 2 ข้ึนไป อ่านคลอ่ งเขยี นคล่อง
2.4 ผู้เรียนตัง้ แตช่ ้ันประถมศึกษาปีท่ี 3 มีความสามารถดา้ นภาษา ด้านคานวณ และด้าน
เหตุผลผา่ นเกณฑ์มาตรฐานที่กาหนดเพ่ิมขึ้น
2.5 ผู้เรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 3 และช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6 มี
ผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนจากการทดสอบระดับชาตขิ ั้นพื้นฐาน (O-NET) กลุ่มสาระหลักเพิ่มข้ึน
2.6 ผู้เรียนในระดับมัธยมศกึ ษาได้รับการสง่ เสรมิ ใหม้ ีแรงจูงใจสู่อาชพี ด้านการแนะแนวและ
ไดร้ ับการพัฒนาความรู้ทักษะทีเ่ หมาะสมเพ่ือการมงี านทาในอนาคต
2.7 ผู้เรยี นมีทักษะในการสอ่ื สาร ทกั ษะการคิด ทักษะการแก้ปัญหา ทักษะชีวติ และทกั ษะการ
ใช้เทคโนโลยี ที่เหมาะสมตามช่วงวยั
2.8 ผู้เรียนได้รับการวดั และประเมินผลที่หลากหลายเหมาะสมตามศกั ยภาพเป็นรายบุคคล
3. ผู้เรียนมีคุณธรรม จรยิ ธรรม ตามค่านิยมหลักของคนไทย 12 ประการ รวมทั้งมจี ิตสานึกในการอนุรกั ษ์
ทรพั ยากรธรรมชาติและสงิ่ แวดล้อม และห่างไกลยาเสพติด
3.1 ผู้เรยี นระดับประถมศึกษา ใฝ่เรยี นรู้ ใฝ่ดี และอย่รู ่วมกับผอู้ ่ืนได้
3.2 ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนต้น มีทักษะการแก้ปัญหา และอยู่อยา่ งพอเพยี ง
ห น้ า | ๓๙
3.3 ผู้เรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย มีความมง่ั ม่ันในการศึกษาและการทางาน สามารถ
ปรับตัวเข้ากับพหวุ ัฒนธรรม บนพื้นฐานวัฒนธรรมที่ดงี ามของไทย
4. ผู้เรียนท่ีมคี วามต้องการพิเศษไดร้ ับการสง่ เสริม สนับสนุน และพัฒนา เต็มตามศักยภาพเป็นรายบคุ คล
ได้แก่
4.1 ผู้พิการ
4.2 ผดู้ ้อยโอกาสและผู้เรยี นในพื้นท่ีพิเศษ
4.3 ผู้เรียนที่มีความสามารถพิเศษ
4.4 ผู้เรียนภายใตก้ ารจดั การศึกษาโดยครอบครัว สถานประกอบการ และศูนย์การเรยี น
4.5 ผู้เรยี นทีต่ ้องการความคุ้มครองและชว่ ยเหลือเป็นกรณีพิเศษ
2. จดุ เน้นดำ้ นกำรผลิตครูและบุคลำกรทำงกำรศกึ ษำ
1. ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาองค์ความรู้ ตรงตามความต้องการของบุคคลและ
สถานศึกษา
1.1 ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการพัฒนาวิธีจัดการเรียนรู้ ที่ใช้ทักษะกระบวนการคิด
รวมทั้งการวดั และประเมินผลการเรยี นรู้
1.2 ครูและบุคลากรทางการศึกษา สามารถประยุกต์ใช้ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศและการ
สือ่ สารทท่ี นั สมยั
1.3 ครูและบุคลากรทางการศึกษา ได้รับการนิเทศแบบกัลยาณมิตร จากสานักงานเขตพื้นที่
การศึกษา ผู้บริหารสถานศึกษา และครู ท้ังในโรงเรียน ระหว่างโรงเรียน หรือภาคส่วนอื่นๆ ตามความพร้อมของ
โรงเรียน
1.4 ครูและบุคลากรทางการศึกษา สร้างเครือข่ายการเรียน การมีส่วนร่วมจากผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง
และทกุ ภาคสว่ นให้เกดิ ชุมชนแหง่ การเรียนรู้
1.5 ครจู ดั การเรียนร้สู ่ปู ระคมอาเซียน
1.6 ครูและบุคลากรทางการศึกษา มีจิตวิญญาณของความเป็นครู การเป็นครูมืออาชีพและยึดมั่น
ในจรรยาบรรณวิชาชพี
2. ผ้บู ริหารสถานศกึ ษา สามารถบรหิ ารงานทกุ ดา้ นใหม้ ีประสิทธภิ าพ และเกิดประสทิ ธิผล
3. ครแู ละบคุ ลากรทางการศึกษา มีขวัญกาลังใจในการทางาน และมผี ลการปฏิบตั งิ านเชิงประจักษ์
4. องค์กร องค์คณะบุคคล และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียวางแผนสรรหา ย้าย โอน ครู และบุคลากรทางการ
ศึกษา ให้สอดคล้องกับความต้องการของโรงเรียนและชมุ ชน
3. จดุ เน้นด้ำนกำรทดสอบ กำรประเมนิ กำรประกันคณุ ภำพและมำตรฐำนกำรศกึ ษำ
1. ระบบการประเมินสถานศึกษาและผู้เรียนมีการพัฒนาให้เหมาะสมกับสถานศกึ ษาและผู้เรียน
2. ระบบทดสอบเพอ่ื ประเมินผ่าน หรือซา้ ซ้อน มีการพัฒนาให้เหมาะสมในการจบการศกึ ษาชั้น
ประถมศกึ ษาปีท่ี 6 ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 3 และช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 6
3. ผู้ประเมินคุณภาพสถานศึกษามกี ารพัฒนาตามมาตรฐานผู้ประเมิน
ห น้ า | ๔๐
4. จุดเนน้ ด้ำนพัฒนำกำลังคนและงำนวิจัยที่สอดคล้องกับควำมต้องกำรของประเทศ
1. สถานศึกษาสร้างคา่ นยิ มเชงิ บวกในการเรยี นสายอาชีพ เพื่อลดสัดส่วนการเรียนสายสามัญ
2. หน่วยงานทุกระดับมีการวจิ ัยที่สามารถนาไปใช้ประโยชน์ได้
5. จดุ เนน้ ด้ำน ICT เพอ่ื กำรศึกษำ
1. หนว่ ยงานทุกระดับพัฒนาระบบ ICT เพื่อการศกึ ษาให้เหมาะสมกับสถานศกึ ษาและผู้เรยี น
2. หน่วยงานทุกระดับพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศให้เป็นฐานเดียวกันในเร่ืองข้อมูลนักเรียน ข้อมูล
ครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้อมูลสถานศึกษาและข้อมูลข้าราชการและบุคลากรอื่น ในการใช้ข้อมูลร่วมกันอย่าง
มีประสิทธภิ าพ
3. หน่วยงานทกุ ระดับพัฒนา DLTV DLI T ให้เหมาะสมกับสถานศึกษาและผู้เรยี น
4. ผู้เรียนมีคอมพิวเตอร์ใช้ในการเรยี นรู้
6. จุดเนน้ ด้ำนบรหิ ำรจดั กำร
1. หน่วยงานทุกระดับบริหารจัดการโดยมุ่งเน้นการกระจายอานาจ การสร้างเครือข่ายและรับผิดชอบ
ตอ่ ผลการดาเนินงาน
1.1 สถานศึกษาท่ีไม่ผ่านการรับรองคุณภาพภายนอกตามท่ีกาหนดได้รับการแก้ไข ช่วยเหลือ
นเิ ทศ ตดิ ตาม และประเมินผล
1.2 สถานศกึ ษาขนาดเล็กได้รับการพัฒนาให้มีคุณภาพการจัดการศกึ ษา
1.3 สถานศึกษาที่มีความพร้อมรับการกระจายอานาจมีรูปแบบการบริหาจัดการได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ
1.4 สถานศึกษาบริหารจัดการร่วมกันโดยใช้การวางแผนพัฒนาการศึกษาระดับตาบล
(Educational Maps)
1.5 สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษาบริหารร่วมกันในรูปแบบ Cluster อยา่ งมปี ระสิทธิภาพ
1.6 สานักงานเขตพื้นที่การศึกษาบริหารจัดการอย่างมีคุณภาพ โดยใช้มาตรฐานสานักงานเขต
พน้ื ที่การศกึ ษา
1.7 หน่วยงานทุกระดับพัฒนาคุณภาพการศึกษา สร้างระบบสวัสดิการ สวัสดิภาพและความ
ปลอดภัยให้เหมาะสมตามบริบทของพ้ืนทพี่ ิเศษ
1.8 หน่วยงานทุกระดับพัฒนาระบบ กากับ ติดตาม และประเมินผล เพื่อการบริหารจัดการท่ีมี
ประสิทธิภาพและต่อเน่ือง
1.9 หน่วยงานทุกระดับปรับปรุงระบบการจัดสรรงบประมาณ และเกณฑ์การจัดสรรงบเงิน
อดุ หนนุ ค่าใชจ้ ่ายรายหัว ให้มีความเหมาะสมและเพียงพอ
1.10 หน่วยงานทุกระดับ ยกย่องเชิดชูเกียรติ หน่วยงาน องค์คณะบุคคลและบุคลากรท่ีมีผลงาน
เชงิ ประจักษ์
1.11 หน่วยงานทุกระดับ ส่งเสริมให้มีการวิจัยเพื่อพัฒนานโยบายและพัฒนาการจัดการศึกษา
ของเขตพ้ืนที่การศึกษา และสถานศกึ ษา
1.12 หนว่ ยงานทุกระดับ มีการบรหิ ารจัดการโดยยดึ หลักธรรมาภิบาล
ห น้ า | ๔๑
2. หนว่ ยงานทกุ ระดับ สง่ เสรมิ การมีสว่ นร่วมในการจัดการศึกษา
2.1 หน่วยงานทุกระดับ ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสียเข้ามามีส่วนร่วมในการจัด
การศึกษา
2.2 หนว่ ยงานทุกระดับ ส่งเสรมิ การระดมทรัพยากรในการจัดการศึกษา
2.3 หน่วยงานทุกระดับ รับฟังความคดิ เห็น ข้อเสนอแนะจากทุกภาคส่วน และผู้มสี ่วนได้ส่วนเสีย
เพื่อปรบั ปรุงพัฒนาการจัดการศึกษา
จุดเน้นพเิ ศษตำมนโยบำยของสำนักงำนเขตพน้ื ทกี่ ำรศกึ ษำประถมศกึ ษำพจิ ติ ร เขต 2
ด้ำนคุณภำพผเู้ รยี น
1. ส่งเสรมิ ความเป็นเลิศทางวิชาการ
2. สง่ เสรมิ ความเป็นเลิศทางกีฬา
3. ส่งเสรมิ ความเป็นเลศิ ทางดนตรี
4. ผู้เรียนช้ันประถมศึกษาปีท่ี 6 ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 3 และช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 6 มี ผลสัมฤทธิ์ทางการ
เรียนจากการทดสอบระดับชาติข้ันพ้ืนฐาน (O-NET) อยใู่ นระดบั Top Ten ของประเทศ
5. ผู้เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 1 อา่ นออก เขียนได้ทกุ คน
ด้ำนกำรบริหำรงำนบุคคล
1. ใช้ระบบคุณธรรม
2. การบริหารอัตรากาลงั โดยคณะกรรมการ
3. ส่งเสรมิ ความก้าวหน้าของครู บุคลากร และผู้บริหาร
4. การบริหารงานบุคคลท่ดี ี จะส่งผลต่อคุณภาพผู้เรยี น
ด้ำนกำรบรหิ ำรงบประมำณ
1. การจัดสรรงบประมาณยึดขอ้ มูล และความต้องการจาเป็น
2. การบริหารงบประมาณตอทันกาหนดเวลา
ด้ำนกำรบริหำรจดั กำรของสำนักงำนเขต
1. สานักงานเขต “จะเป็นโซ่ข้อกลาง” เป็นผู้ประสานท่ดี ี
2. ใช้สหวิทยาเขต เป็นกลไกในการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ
3. จดั ทา War Rooms ในการนานโยบาย/ยทุ ธศาสตร์ สู่การปฏิบัติ
4. การบริหารจดั การใช้ฐานข้อมูล และ ICT
5. สานักงานเขตพื้นท่กี ารศกึ ษาประถมศึกษาพิจติ ร เขต 2 พร้อมรับนักเรียนจากโรงเรียนขยายโอกาสของ
โรงเรียนประถมศึกษาที่มแี นวโนม้ ลดลง
6. เพมิ่ เป้าหมายจานวนโรงเรียนมาตรฐานสากล และโรงเรียนทักษะอาชีพ
7. สง่ เสริมคุณธรรมและภูมติ ้านทาน ค่านยิ มพื้นฐานดา้ นระบบดูแลช่วยเหลือนักเรยี น
8. สง่ เสริมให้ผู้เรียนมีจิตอาสาและเป็นผู้นาด้านศาสนพิธี
9. สง่ เสริมกจิ กรรมพัฒนาผู้เรียนดา้ นลูกเสือ ยุวกาชาด เนตรนารีและการศกึ ษาวิชาทหาร (ร.ด.)
ห น้ า | ๔๒
บทที่ 5 แผนพัฒนำคุณภำพกำรศึกษำ
ตามนโยบายของรัฐบาล (นายกรัฐมนตรี ประยุทธ์ จันทร์โอชา) ยุทธศาสตร์ชาติ ระยะ 20 ปี
(พ.ศ. 2561 – 2580) แผนการศึกษาแห่งชาติ (พ.ศ. 2560 – 2579) นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ นโยบาย
สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน นโยบายสานักงานเขตพื้นที่การศึกษา มาเชื่อมโยงกับอานาจหน้าที่
ของผู้อานวยการสถานศึกษามาเป็นกรอบแนวทางในการเขียนแสดงวิสัยทัศน์ และแนวคิดในการบริหารจัดการ
สถานศึกษา โดยทบทวนภารกิจ และกาหนดแผนการดาเนินโครงการ กิจกรรม แนวทางการดาเนินงาน โดย
วิเคราะห์จากกรอบนโยบายด้านสังคมของรัฐบาล นโยบายกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายสานักงานคณะกรรมการ
การศึกษาข้ันพื้นฐาน นโยบายสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษา นามาวิเคราะห์ กาหนดเป็นวิสัยทัศน์ พันธกิจ
เป้าประสงค์ กลยุทธ์ และภาพแห่งความสาเร็จ การดาเนินงานบริหารจัดการศึกษาในอนาคต เพ่ือใช้เป็นกรอบใน
การดาเนินงานที่สอดคล้องเช่ือมโยงสัมพันธ์ไป ในทิศทางเดียวกัน โดยต้องการให้เห็นภาพความสาเร็จในด้านต่างๆ
ซ่งึ เป็นความคาดหวังให้เกดิ ข้ึนในอนาคต ดงั น้ี
วิสยั ทัศน์
“พฒั นาครสู ู่มาตรฐาน ประสานงานชุมชน เยาวชนมคี ุณธรรมนาความรู้”
พันธกจิ
1. บริหารจัดการโรงเรียนตามกระบวนการ PDCA หลกั ธรรมาภิบาล และใช้โรงเรียนเป็นฐาน
2. พัฒนาหลักสตู ร และจดั กระบวนการเรียนรู้ให้ครอบคลุม และสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษา
3. บูรณาการกจิ กรรมการเรียนการสอน และกิจกรรมพัฒนาผู้เรียนเพ่ือพัฒนาคุณภาพ คุณธรรม
จรยิ ธรรม ทกั ษะในการดารงชีวติ ดารงความเป็นไทย
4. พัฒนาระบบดูแลช่วยเหลือนักเรยี นอย่างเป็นระบบ
5. สง่ เสริมให้ครู บุคลากรเป็นครูมอื อาชีพ
6. พัฒนาหอ้ งปฏิบัติการ ศูนย์การเรียนร้กู ลุม่ สาระ แหล่งการเรยี นรู้ อาคารสถานที่ให้สะอาด และ
ปลอดภยั
7. พัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเพ่ือการบริหารจดั การ พัฒนาการเรยี นรู้
8. พัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศกึ ษาให้ได้มาตรฐานดีมากทุกมาตรฐาน
9. พัฒนาการศึกษาดว้ ยการวจิ ยั พัฒนาเพ่ือยกระดับการจัดการศกึ ษาอย่างต่อเนื่อง
10.ประสานสัมพันธก์ ับสมาคมผู้ปกครอง สมาคมศิษย์เก่า เครือข่ายผู้ปกครอง และภาคเครือขา่ ย
ทุกภาคส่วนเพื่อการมสี ่วนร่วมในการจัดการศึกษา
11.สง่ เสริมให้นักเรียน ใฝ่เรยี นรู้ โดยใช้เทคโนโลยี ตามคุณลักษณะในศตวรรษท่ี ๒๑
เป้ำประสงค์
1. นักเรียนในเขตบริการของโรงเรียนเม่ือเข้าเรียนแลว้ จบหลักสูตรการศกึ ษาภาคบังคับ และสามารถ
ศึกษาตอ่ หรือประกอบอาชพี ทีส่ จุ ริตได้
2. โรงเรียนมีห้องปฏิบัติการครบทุกกลมุ่ สาระ มีส่อื นวัตกรรมเทคโนโลยที างการศึกษา
3. นักเรียนได้รับความช่วยเหลอื ในระบบการดแู ลช่วยเหลอื นักเรยี น และปฏิบตั ิตนอยู่ในระเบียบของ
โรงเรยี น
ห น้ า | ๔๓
4. โรงเรยี นมหี ลักสตู รทสี่ อดคล้องกับความต้องการของผู้เรียน ชุมชนและท้องถ่ิน โดยเน้นให้ผู้เรียน
ตระหนกั และเห็นคุณค่าของการอนรุ ักษ์พลังงานสิ่งแวดลอ้ ม ศลิ ปวัฒนธรรม มคี วามภูมิใจในความเป็นไทย ศรทั ธา
และยดึ ม่ันในการปกครองระบอบประชาธิปไตย อันมีพระมหากษัตรยิ ์ทรงเป็นพระประมขุ
5. ครูทกุ คนเป็นครูมืออาชีพ สามารถจัดการเรยี นรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีศักยภาพ ในการใช้
เทคโนโลยีเพื่อพัฒนาการเรยี นรขู้ องผู้เรยี นไดท้ ันต่อการเปลี่ยนแปลง
6. ผู้บริหารเป็นผู้นาในการเปลีย่ นแปลง มีภาวะผู้นาทม่ี ีประสิทธิภาพ สามารถกาหนดทิศทางการ
เปลย่ี นแปลงได้อย่างชัดเจนและนาสถานศึกษาสู่การเป็นองค์การอัจฉริยะ
7. นักเรยี นมีความรู้ทกั ษะกระบวนการแก้ปัญหา คดิ วิเคราะห์ สงั เคราะห์ และมีผลสัมฤทธ์ิทางการเรยี น
ทกุ ลุ่มสาระไม่ต่ากวา่ รอ้ ยละ 70
8. นกั เรียนเป็นคนดี มีคุณธรรม จรยิ ธรรม มีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ และดาเนินชวี ติ ตามแนวทาง
ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง
กลยุทธ์สถำนศกึ ษำ
กลยทุ ธข์ อ้ 1 : พัฒนาคณุ ภาพผู้เรยี น
กลยุทธข์ ้อ 2 : พฒั นาคุณภาพการจัดการศกึ ษา
กลยุทธ์ข้อ 3 : สร้างเสริมสังคมแห่งการเรียนรู้
กลยทุ ธ์ข้อ 4 : สง่ เสรมิ อตั ลักษณข์ องสถานศึกษาให้โดดเด่น
กลยุทธข์ อ้ 5 : พัฒนาคุณภาพการศึกษาตามแนวปฏิรูปการศึกษา
กำรกำหนดกลยุทธ์ระดบั สถำนศกึ ษำ
เป้ำหมำย กลยทุ ธร์ ะดบั สถำนศึกษำ
1. ผู้เรียนระดับการศึกษาปฐมวยั และการศึกษาข้ันพ้ืนฐานมีความรแู้ ละ 1. พัฒนำคุณภำพผู้เรียน
ทกั ษะท่ีจาเป็นตามหลักสูตรสถานศกึ ษา
2. ผู้เรยี นเป็นบุคคลทม่ี ีความร้คู ู่คุณธรรม มีคุณลักษณะอันพึงประสงคแ์ ละมี 2. พฒั นำคุณภำพกำรจัด
สุขภาพทดี่ ี กำรศึกษำ
3. ผู้เรยี นมีความสามารถในการคดิ วิเคราะหค์ ิดสงั เคราะห์อยา่ งเป็นระบบ
และมีความคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ สามารถใช้เทคโนโลยอี ัน
ทนั สมัยได้
4. สถานศึกษามีการจดั กจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรยี นอย่าง หลากหลาย
5. ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาตนเองสู่มาตรฐานวิชาชีพ
6. สถานศกึ ษาได้รับการพัฒนาอย่างเป็นระบบ มปี ระสทิ ธภิ าพ โดย
ชมุ ชนเข้ามามีส่วนรว่ มพัฒนาการจดั การศกึ ษา
7. สถานศกึ ษาปรับปรงุ อาคารสถานท่ี สง่ิ แวดล้อมห้องเรยี นอาคาร
เรียน สิง่ อานวยความสะดวก ส่อื เทคโนโลยี พอเพียง และเหมาะสมกับการ
เรียนรู้
ห น้ า | ๔๔
เป้ำหมำย กลยุทธร์ ะดบั สถำนศกึ ษำ
8. สถานศึกษามีการใช้แหล่งเรียนรู้ภายใน ภายนอกและแหล่งเรียนรู้ 3. เสรมิ สรำ้ งสงั คมแหง่ กำร
เศรษฐกิจพอเพียง เรียนรู้
9. สถานศกึ ษามีอัตลกั ษณ์ทโ่ี ดดเด่นทางดา้ นการเรียนและกีฬา 4. ส่งเสริมอัตลกั ษณข์ อง
สถำนศึกษำให้โดดเด่น
10. สถานศึกษามีการพัฒนาคุณภาพสถานศึกษาตามแนวทางปฏิรูป 5. พัฒนำคณุ ภำพสถำนศึกษำ
การศึกษาในทศวรรษที่สอง ตำมแนวทำงปฏริ ูปกำรศกึ ษำ
ในทศวรรษทีส่ อง
กำรกำหนดตัวชว้ี ดั ควำมสำเร็จ
เป้ำหมำย ตัวช้วี ดั ควำมสำเรจ็
1. ผู้เรียนระดับการศกึ ษาปฐมวยั และ 1. ร้อยละของผู้เรียนท่ีมีระดับผลการเรียนผ่านเกณฑ์การประเมิน
การศึกษาขั้นพื้นฐานมีความรูแ้ ละ ทกุ รายวิชา
ทักษะทีจ่ าเป็นตามหลกั สูตร 2. รอ้ ยละของผู้เรียนทม่ี ีทักษะกระบวนการในระดับดีขึ้นไป
สถานศึกษา
2. ผู้เรยี นเป็นบุคคลท่มี ีความรคู้ ู่ 3. รอ้ ยละของผู้เรยี นมีคุณลกั ษณะที่พึงประสงคต์ ามหลักสูตร
คุณธรรม มีคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 4. ร้อยละของผู้เรียนมีคุณลักษณะที่มีคุณธรรม จริยธรรม
และมีสุขภาพทีด่ ี 5. รอ้ ยละของผู้เรยี นมีสุขภาพจิต สขุ ภาพกายตามเกณฑ์มาตรฐาน
6. ร้อยละของผู้เรียนที่ร่วมกิจกรรมด้านดนตรี กีฬา ศิลปะ
7. ร้อยละของผู้เรียนสามารถระบุอาชีพสจุ รติ ในทอ้ งถ่ินได้
3. ผู้เรียนมีความสามารถในการคดิ 8. ร้อยละของผู้เรียนทม่ี ีความสามารถในการคิดอย่าง
วเิ คราะหค์ ดิ สงั เคราะหอ์ ย่างเป็น เป็นระบบ คดิ สรา้ งสรรค์ ตัดสินใจ แก้ปัญหาได้อยา่ งมี
ระบบ และมคี วามคิดริเร่ิม สตสิ มเหตุผล
สร้างสรรค์ สามารถใช้เทคโนโลยอี ัน 9. ร้อยละของผู้เรียนมีความสามารถในการอ่าน คดิ
ทันสมัยได้ วิเคราะห์ และเขียนในระดบั ผา่ นเกณฑข์ ้ันตา่ ข้ึนไป
10. ร้อยละของผู้เรยี นท่ีสามารถใช้ Internet สืบค้น
ข้อมูล
11. ร้อยละของผู้เรยี นท่ีสามารถสืบค้นข้อมูลความรู้จากห้องสมุด
และแหลง่ เรยี นรู้อ่ืน
12. ร้อยละของผู้เรียนท่ีมีคุณภาพดา้ นรักการทางานในระดับดีขึ้นไป
13. ร้อยละของผู้เรยี นที่ร่วมปฏิบัติงานกับผอู้ ่ืน
4. สถานศึกษามีการจัดกิจกรรมพัฒนา 14. สถานศึกษามีหลกั สตู รสถานศกึ ษาที่ไดร้ ับการเห็นชอบจาก
คุณภาพผ้เู รียนอย่างหลากหลาย คณะกรรมการสถานศึกษาที่สามารถตรวจสอบได้
15. สถานศกึ ษาจัดกิจกรรมพัฒนาผู้เรยี นเพ่ือมงุ่ ยกระดับผลสัมฤทธิ์
ทางการเรียนและคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์
ห น้ า | ๔๕
เปำ้ หมำย ตวั ชี้วดั ควำมสำเร็จ
5. ครแู ละบุคลากรทางการศึกษาไดร้ ับการ 16. ร้อยละของผู้เรยี นท่ีมีคุณลักษณะอันพึงประสงค์ในระดับดีข้ึนไป
พัฒนาตนเองสู่มาตรฐานวชิ าชพี 17. สถานศึกษามีข้อมูล หลักฐาน การร่วมกิจกรรมระหว่างโรงเรียนกับ
6. สถานศกึ ษาไดร้ ับการพัฒนาอยา่ งเป็น ชุมชนอย่างน้อยภาคเรียนละ 2 คร้ัง
ระบบ มีประสิทธิภาพ โดยชุมชนเข้ามามี
ส่วนร่วมพัฒนาการจดั การศกึ ษา 18. ร้อยละของครูทมี่ ีแผนการจดั การเรียนรทู้ ่ีเน้นผู้เรียนเป็นสาคัญ
19. รอ้ ยละของครูท่ีมเี คร่ืองมือวัดและประเมินผลตามสภาพจรงิ
7. สถานศกึ ษาปรับปรงุ อาคารสถานท่ี 20. ร้อยละของครทู ่มี ีรายงานการวิจัยในชั้นเรยี น คนละ 1 เร่ือง/
สง่ิ แวดล้อมห้องเรยี นอาคารเรยี น สิ่ง
อานวยความสะดวก สอ่ื เทคโนโลยี ภาคเรยี นหรือปีการศกึ ษา
พอเพียง และเหมาะสมกับการเรยี นรู้
21. สถานศกึ ษาจดั ประชุมคณะกรรมการสถานศกึ ษา อย่างน้อยภาค
8. สถานศึกษามีการใชแ้ หลง่ เรยี นรู้ เรียน ละ 2 ครง้ั
เศรษฐกิจพอเพียง
22. สถานศึกษามีการจดั แสดงแผนภูมิโครงสรา้ งของสถานศึกษา
9. สถานศกึ ษามอี ัตลักษณ์ที่โดดเด่น อย่างชัดเจน
ทางด้านการเรยี นและกีฬา
23. สถานศกึ ษามีคู่มือ การปฏิบัตงิ านของสถานศึกษาครบทุกกล่มุ /
10.สถานศึกษามีการพัฒนาคุณภาพ ทกุ งาน
สถานศึกษาตามแนวทางปฏิรูป
การศกึ ษาในศตวรรษที่ 21 24. สถานศึกษามีแผนพัฒนาการจัดการศกึ ษาทม่ี ่งุ คุณภาพตาม
มาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา และแผนปฏิบตั ิการประจาปี
25. กรรมการสถานศึกษาและบุคลากรในสถานศึกษาเป็นผู้มีวินัย
และให้ความร่วมมอื ในการจัดการศึกษาของสถานศึกษา
26. สถานศกึ ษาปรับภมู ทิ ัศน์เหมาะกับการเรียนการสอน
27. ครูประจาชั้นจัดบรรยากาศในชั้นเรยี นเอื้อต่อการเรียนรู้
28. มีส่ือสิ่งอานวยความสะดวก และใช้สื่อเทคโนโลยีเหมาะกับการ
เรียนรขู้ องผู้เรยี น
29. สถานศึกษามีแหลง่ เรียนรูเ้ ศรษฐกจิ พอเพียง
30. สถานศกึ ษามีการใช้แหล่งเรียนรู้แหลง่ เรยี นรู้เศรษฐกจิ พอเพียง
31. ผู้เรียนมีความสามารถด้านการคิดแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบ
เรียนรู้แบบ Active Learning
32. ผเู้ รียนร่าเรงิ แจม่ ใส สขุ ภาพแขง็ แรง
33. ครทู กุ คนมีความโอบอ้อมอารี
34. ผบู้ รหิ ารมีความเป็นประชาธิปไตย
35. ร้อยละของผู้เรียนท่ีมีคุณภาพในระดับดีขึ้นไปตามท่ี
สถานศึกษากาหนด
ห น้ า | ๔๖
เพ่อื การดาเนินการจดั การศึกษาของโรงเรียนวดั ใหม่ดงเจริญ เป็นไปตามกลยทุ ธข์ องโรงเรียนวางไว้จึงได้
กาหนดแผนงานโครงการเพื่อการปฏิบตั ิ ดังน้ี
โครงกำร ทั้งหมด 13 โครงกำร แยกตำมกลุ่มบริหำรงำน
แผนงำนบริหำรงำนวิชำกำร ประกอบด้วยโครงการต่างๆ ดงั นี้
1. โครงกำรกล่มุ บรหิ ำรงำนวชิ ำกำร
1.1 โครงการปรับปรงุ พัฒนางานด้านวิชาการในโรงเรยี น
1.2 โครงการวันสาคัญและส่งเสริมความเป็นเลิศทางวชิ าการ
1.3 โครงการสง่ เสรมิ กจิ กรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรียน
1.4 โครงการพัฒนาผู้เรยี นระดบั ปฐมวัย
1.5 โครงการปรับปรุงพัฒนา สง่ เสริมนิสัยรักการอา่ น และกิจกรรมห้องสมดุ
แผนงำนบรหิ ำรงำนงบประมำณ
2. โครงกำรกล่มุ บริหำรงำนงบประมำณ
2.1 โครงการพัฒนาและเพิ่มประสิทธิภาพงานงบประมาณและความโปรง่ ใสในสถานศึกษา
2.2 โครงการระดมทรัพยากรเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา
แผนงำนบรหิ ำรงำนบคุ คล
3. โครงกำรกล่มุ บรหิ ำรงำนบคุ คล
3.1 โครงการพัฒนาศักยภาพบคุ ลากรสศู่ ตวรรษที่ 21
แผนงำนบริหำรงำนทั่วไป
4. โครงกำรกลุ่มบรหิ ำรงำนท่วั ไป
4.1 โครงการเสริมสร้างความเข็มแข็งในการบริหารจดั การสถานศึกษา
4.2 โครงการส่งเสริมสขุ ภาพ
แผนงำนบริหำรงำนกิจกำรนกั เรยี น
5. โครงกำรกลุ่มบริหำรงำนกจิ กำรนกั เรียน
5.1 โครงการส่งเสริมการดแู ลช่วยเหลือนกั เรียน
5.2 โครงการเสริมสร้างน้อมนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี งสู่การปฏิบตั ิ
5.3 โครงการพัฒนาสุนทรยี ภาพผู้เรียน
ห น้ า | ๔๗
สรปุ งบประมำณแบบมงุ่ เน้นผลงำนระยะกลำง 4 ปี
กรอบคำดกำรณ์กำรใช้จ่ำยที่ควรจะเปน็
ท่ี โครงกำร งบประมำณจัดสรร / ปีกำรศกึ ษำ
2564 2565 2566
แผนงำนบรหิ ำรวิชำกำร 86,200.00 75,000.00 75,000.00
1 โครงการปรับปรุงพัฒนางานด้านวชิ าการในโรงเรียน 53,100.00 45,000.00 45,000.00
2 โครงการวันสาคัญและส่งเสริมความเป็นเลศิ ทาง 22,100.00 19,300.00 19,300.00
วชิ าการ
3 โครงการส่งเสริมกิจกรรมพัฒนาคุณภาพผู้เรยี น 78,260.00 75,740.00 75,740.00
4 โครงการพัฒนาผู้เรยี นระดับปฐมวัย 8,800.00 8,500.00 8,500.00
5 โครงการปรับปรุงพัฒนา ส่งเสริมนิสยั รกั การอ่าน 2,200.00 2,200.00 2,200.00
และกจิ กรรมห้องสมุด
แผนงำนบริหำรบคุ คล 50,900.00 45,700.00 45,700.00
6 โครงการพัฒนาศกั ยภาพบคุ ลากรสู่ศตวรรษท่ี 21 50,900.00 45,700.00 45,700.00
แผนงำนบริหำรงบประมำณ 3,000.00 13,500.00 13,500.00
7 โครงการพัฒนาและเพิม่ ประสิทธิภาพงาน 1,500.00 3,500.00 3,500.00
งบประมาณและความโปร่งใสในสถานศึกษา
8 โครงการระดมทรัพยากรเพอ่ื พัฒนาคุณภาพ 1,500.00 10,000.00 10,000.00
การศึกษา
แผนงำนบริหำรท่ัวไป 28,000.00 22,000.00 22,000.00
9 โครงการเสริมสรา้ งความเขม็ แข็งในการบริหาร 21,000.00 14,500.00 14,500.00
จดั การสถานศึกษา
10 โครงการส่งเสริมสขุ ภาพ 7,000.00 7,500.00 7,500.00
แผนงำนกำรบรหิ ำรงำนกจิ กำรนกั เรยี น 20,000.00 28,000.00 28,000.00
11 โครงการส่งเสริมการดแู ลช่วยเหลอื นักเรียน 7,400.00 4,500.00 4,500.00
12 โครงการเสริมสรา้ งน้อมนาปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง 1,000.00 5,000.00 5,000.00
สกู่ ารปฏิบัติ
13 โครงการพัฒนาสุนทรียภาพผู้เรียน 20,000.00 18,500.00 18,500.00
รวมงบประมำณท้งั ส้นิ 284,760.00 259,940.00 259,940.00
ห น้ า | ๔๘
กรอบแผนพฒั นำตำมกลยุทธ์
กลยุทธ์ข้อ 1 : พัฒนำคุณภำพผ้เู รียน
เปำ้ หมำย ตวั ชี้วดั เป้ำหมำย เชิง
ปรมิ ำณ-คุณภำพ/ (แผนงำน/โครงกำร)
(Goals) (KPIs) สถิติ/รอ้ ยละ 1.โครงการปรับปรุงพัฒนางาน
64 65 66 ดา้ นวิชาการในโรงเรยี น
2.โครงการวันสาคัญและส่งเสรมิ
1. ผู้เรยี นระดับการศกึ ษา 1.ร้อยละของผู้เรยี นท่ีมี 75 80 85 ความเป็นเลิศทางวิชาการ
3.โครงการส่งเสรมิ กจิ กรรม
ปฐมวยั และการศึกษาขั้น ระดับผลการเรยี นผ่าน พัฒนาคุณภาพผู้เรยี น
4.โครงการพัฒนาผู้เรียนระดับ
พ้ืนฐานมีความรู้ และ เกณฑ์การประเมินทุก ปฐมวยั
5.โครงการปรับปรุงพัฒนา
ทกั ษะทจ่ี าเป็นตาม รายวชิ า ส่งเสรมิ นิสัยรักการอา่ น และ
กจิ กรรมห้องสมดุ
หลกั สตู รสถานศึกษา 2.ร้อยละของผู้เรียนทมี่ ี 75 80 85 6.โครงการส่งเสรมิ ส่งเสริมการ
ดูแลช่วยเหลือนกั เรยี น
ทักษะกระบวนการในระดับ
ดขี ้ึนไป
2. ผู้เรยี นเป็นบุคคลทีม่ ี 1.ร้อยละของผู้เรียนมี 75 80 85
ความรู้คู่คุณธรรม มี คุณลักษณะที่พึงประสงค์
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ ตามหลักสูตร
และมสี ขุ ภาพทดี่ ี 2.ร้อยละของผู้เรียนมี 75 80 85
คุณลกั ษณะท่มี ีคุณธรรม
จรยิ ธรรม
3.ร้อยละของผู้เรียนมี 75 80 85
สขุ ภาพจิต สุขภาพกายตาม
เกณฑ์มาตรฐาน
4.ร้อยละของผู้เรยี นทรี่ ่วม 75 80 85
กิจกรรมด้านดนตรี กีฬา
ศิลปะ
5.ร้อยละของผู้เรียน 75 80 85
สามารถระบุอาชีพสจุ ริต
ในท้องถิ่นได้
3. ผู้เรียนมีความสามารถ 1.ร้อยละของผู้เรียนทม่ี ี 75 80 85
ในการคิดวิเคราะห์คิด ความสามารถในการคิด
สงั เคราะห์อย่างเป็นระบบ อยา่ งเป็นระบบ คดิ
และมคี วามคดิ ริเรมิ่ สร้างสรรค์ ตดั สินใจ
สรา้ งสรรค์ สามารถใช้ แกป้ ัญหาได้อย่างมี
เทคโนโลยอี ันทันสมยั ได้ สตสิ มเหตุผล
ห น้ า | ๔๙
เป้ำหมำย ตวั ช้วี ัด เปำ้ หมำย เชงิ
(Goals)
ปรมิ ำณ-คณุ ภำพ/ (แผนงำน/โครงกำร)
(KPIs) สถิติ/ร้อยละ
64 65 66
2.ร้อยละของผู้เรียนมี 75 80 85
ความสามารถในการอา่ น
คิดวิเคราะห์ และเขยี นใน
ระดับผ่านเกณฑ์ขั้นต่าข้ึน
ไป
3.ร้อยละของผู้เรียนท่ี 75 80 85
สามารถใช้ Internet
สืบค้นข้อมูล
4.ร้อยละของผู้เรยี นท่ี 75 80 85
สามารถสืบค้นข้อมูล
ความร้จู ากห้องสมดุ และ
แหลง่ เรยี นรู้อ่ืน
5.ร้อยละของผู้เรยี นที่มี 75 80 85
คุณภาพด้านรักการทางาน
ในระดับดีข้ึนไป
6.ร้อยละของผู้เรยี นที่ร่วม 75 80 85
ปฏิบตั งิ านกับผู้อื่น
กลยทุ ธข์ ้อ 2 : พัฒนำคณุ ภำพกำรจัดกำรศึกษำ
เป้ำหมำย ตัวชี้วดั เป้ำหมำย เชิง
ปริมำณ-คณุ ภำพ/ (แผนงำน/โครงกำร)
(Goals) (KPIs) สถิติ/รอ้ ยละ 1.โครงการวันสาคัญและสง่ เสรมิ
64 65 66 ความเป็นเลศิ ทางวิชาการ
2.โครงการปรับปรงุ พัฒนางาน
4. สถานศกึ ษามีการจัด 1. สถานศกึ ษามีหลักสูตร 75 80 85 ด้านวิชาการในโรงเรยี น
3.โครงการระดมทรพั ยากรเพื่อ
กจิ กรรมพัฒนา สถานศกึ ษาที่ไดร้ ับการ พัฒนาคุณภาพการศึกษา
4.โครงการพัฒนาและเพ่ิม
คุณภาพผู้เรียนอย่าง เห็นชอบจากคณะกรรม ประสิทธิภาพงานงบประมาณ
หลากหลาย การสถานศึกษาทีส่ ามารถ
ตรวจสอบได้
2. สถานศกึ ษาจดั กิจกรรม 75 80 85
พฒั นาผู้เรียนเพื่อมุง่
ยกระดบั ผลสมั ฤทธิ์ทางการ
เรยี นและคุณลักษณะ
ห น้ า | ๕๐
เปำ้ หมำย ตัวชว้ี ัด เปำ้ หมำย เชิง (แผนงำน/โครงกำร)
(Goals) (KPIs) ปรมิ ำณ-คุณภำพ/
5.โครงการเพมิ่ ประสิทธิภาพการจดั
3.รอ้ ยละของผู้เรยี นท่ีมี สถิติ/รอ้ ยละ การศกึ ษาปฐมวยั
6.โครงการส่งเสรมิ นิสยั รกั การอ่านและ
คุณลักษณะอันพึงประสงคใ์ น 64 65 66 พัฒนาหอ้ งสมุดมีชวี ิต
7.โครงการสง่ เสรมิ ชวี ติ ตามหลกั
ระดับดขี ้นึ ไป 75 80 85 ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง
8.โครงการกจิ กรรมพัฒนาคณุ ภาพ
4.สถานศกึ ษามีขอ้ มลู 75 80 85 ผเู้ รยี น
9.โครงการโรงเรียนสง่ เสริมสุขภาพ
หลกั ฐาน การร่วมกจิ กรรม 75 80 85 10.โครงการส่งเสรมิ การดแู ลชว่ ยเหลอื
นักเรยี น
ระหว่างโรงเรยี นกับชมุ ชนอย่าง 75 80 85 11.โครงการเสริมสรา้ งความเข้มแขง็ ใน
การบรหิ ารจดั การสถานศกึ ษา
นอ้ ยภาคเรียนละ2 คร้งั 75 80 85 12.โครงการพัฒนาศกั ยภาพบุคลากรสู่
ศตวรรษท่ี 21
5. ครแู ละบคุ ลากรทางการ 1.รอ้ ยละของครูที่มีแผนการ 75 80 85
ศึกษาได้รบั การพฒั นา จดั การเรียนรู้ท่ีเน้นผเู้ รยี น 75 80 85
ตนเองสมู่ าตรฐานวิชาชพี เปน็ สาคญั 75 80 85
75 80 85
2.ร้อยละของครูทมี่ เี ครื่องมอื
วัดและประเมนิ ผลตามสภาพ
จรงิ
3.รอ้ ยละของครูทีม่ รี ายงาน
การวิจัยในชน้ั เรียน คนละ 1
เรือ่ ง/ภาคเรียนหรอื ปี
การศกึ ษา
6. สถานศึกษาไดร้ ับการ 1.สถานศึกษาจัดประชุม
พัฒนาอยา่ งเป็นระบบ มี คณะกรรมการสถานศกึ ษา
ประสทิ ธภิ าพ โดยชุมชน อยา่ งนอ้ ยภาคเรยี น ละ 2
เขา้ มามสี ่วนรว่ มพฒั นาการ คร้ัง
จดั การศึกษา 2.สถานศกึ ษามกี ารจดั แสดง
แผนภมู โิ ครงสรา้ งของ
สถานศกึ ษาอยา่ งชัดเจน
3.สถานศกึ ษามีคูม่ อื การ
ปฏิบัติงานของสถานศกึ ษา
ครบทกุ กลมุ่ /ทกุ งาน
4.สถานศึกษามแี ผนพฒั นา
การจัดการศกึ ษาทมี่ งุ่
คณุ ภาพตามมาตรฐาน
การศึกษาของสถานศึกษา
และแผนปฏิบัติการประจาปี