The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ชุดที่ 7_อาณาจักรสัตว์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by salaeha2560, 2022-03-13 05:44:26

ชุดที่ 7_อาณาจักรสัตว์

ชุดที่ 7_อาณาจักรสัตว์

ฉบับนักเรียน

ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรียนร7ู้ ขนั้ (7E) ร่วมกบั ห้องเรยี นกลบั ดา้ น

เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ

รายวชิ าชวี วทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

ชอื่ —สกุล.............................................ช้ัน..........เลขที.่ ....

จัดทาโดย นางสาวสาแลฮะ ดซี ะเอะ๊
ตาแหนง่ ครู วทิ ยฐานะ ครูชานาญการ
โรงเรยี นคณะราษฎรบารุง จงั หวัดยะลา
สานักงานเขตพื้นทกี่ ารศึกษามธั ยมศึกษายะลา

ชุดกจิ กรรมการเรยี นร้ตู ามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรียนกลบั ดา้ น ก
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววิทยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 6

คำนำ

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลับ
ด้าน เรอ่ื งความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมัธยมศึกษาปี
ที่ 6 เป็นการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ที่เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ผู้เรียนสามารถ
ศกึ ษาค้นคว้าได้ด้วยตนเอง โดยชดุ กิจกรรมการเรยี นรแู้ ตล่ ะชดุ ประกอบด้วย กิจกรรมเรยี นรู้นอก
ห้องเรียน และกิจกรรมเรียนรู้ในชั้นเรียน ทั้งนี้เพื่อให้ผู้เรียนนำชุดกิจกรรมการเรียน รู้ไป
ดำเนินการกิจกรรมต่างๆได้สะดวกและมีประสิทธิภาพตรงตามจุดมุ่งหมายของการสร้างชุด
กิจกรรมการเรียนรู้ ประกอบด้วย 8 ชุด ได้แก่ ความสำคัญของความหลากหลายทางชีวภาพ
กำเนิดของสิ่งมีชีวิต อาณาจักรมอเนอรา (Monera) อาณาจักรโพรทิสตา (Protista) อาณาจักร
พืช (Plantae) อาณาจกั รฟังไจ (Fungi) อาณาจักรสัตว์ (Animalia) อนกุ รมวิธาน

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับห้องเรียนกลับด้าน
เรื่องความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6
ชดุ ท่ี 7 เร่อื งอาณาจกั รสตั ว์ (Animalia) ประกอบดว้ ย คำแนะนำสำหรบั นักเรยี น แผนผงั ขนั้ ตอน
การใชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้ กจิ กรรมเรียนรู้นอกห้องเรียน : กอ่ นเขา้ ชน้ั เรยี น กจิ กรรมเรียนรู้ใน
ชั้นเรยี น กจิ กรรมนอกห้องเรียน : หลงั เขา้ ช้ันเรยี น และแบบบันทกึ คะแนน สามารถนำไปเรียนรู้
ได้อย่างสะดวกและมปี ระสิทธิภาพ

ผู้จัดทำหวังเป็นอย่างยิ่งว่าชดุ กิจกรรมการเรียนรูน้ ้ี จะเป็นประโยชน์ต่อการเรียนของ
นักเรียน และการจัดการเรียนรู้สำหรับครูผู้สอน และผู้ที่สนใจ เพื่อใช้ในการพัฒนาผลสัมฤทธิ์
ทางการเรยี นตอ่ ไป

สาแลฮะ ดีซะเอ๊ะ

ชุดที่ 7 เรอ่ื งอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) รว่ มกบั ห้องเรียนกลบั ดา้ น ข
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6

สารบญั

เรือ่ ง หน้า

คำนำ ก
สารบญั ข
คำแนะนำสำหรบั นักเรยี น ค
ผงั มโนทัศน์ จ
แผนผังขน้ั ตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ ฉ
สาระ ผลการเรยี นรแู้ ละจุดประสงค์ ช
กิจกรรมเรียนร้นู อกหอ้ งเรยี น : ก่อนเข้าชั้นเรยี น 1
2
- แบบทดสอบกอ่ นเรียน 5
- ใบความรู้ 30
- กจิ กรรมสบื คน้ ขอ้ มูล 36
กิจกรรมเรียนรใู้ นหอ้ งเรยี น : เข้าช้นั เรยี น 37
- กจิ กรรมปฏบิ ัติการ 38
- แบบบนั ทึกกิจกรรม 41
- แบบทดสอบหลังเรยี น
44
กจิ กรรมนอกห้องเรยี น : หลงั เขา้ ชน้ั เรียน 46
แบบบันทกึ คะแนน 48
บรรณานุกรม

ชดุ ท่ี 7 เรอ่ื งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรูต้ ามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกบั ห้องเรยี นกลบั ด้าน ค
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ 6

คำแนะนำสำหรบั นกั เรียน

การใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับ
ห้องเรียนกลับด้าน เรื่องความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยา 6 (ว33290) ช้ัน
มัธยมศึกษาปีที่ 6 ชุดที่ 4 เรื่องอาณาจักรโพรทิสตา (Protista) จำนวน 3 ชั่วโมง โดย
แบ่งเป็นกิจกรรมเรียนรู้นอกห้องเรียน จำนวน 1 ชั่วโมง และกิจกรรมการเรียนรู้ใน
ห้องเรยี น จำนวน 2 ชวั่ โมง นักเรียนควรเตรียมพร้อมและปฏบิ ตั ิตามคำแนะนำ ดังตอ่ ไปน้ี
 ขนั้ เตรียมก่อนใช้ชุดกจิ กรรม

1. นกั เรยี นเขา้ รว่ ม Facebook Groups
ของหอ้ งเรยี น ท่คี รูไดส้ รา้ งไว้ โดยสแกน QR code

2. ศึกษาข้นั ตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้
จุดประสงค์ ใหเ้ ขา้ ใจ

3. เตรียมความพร้อมของตนเองสำหรับทำกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียนและใน
ห้องเรยี น

4. ศกึ ษาและปฏบิ ัติตามในกิจกรรมการเรยี นรนู้ อกห้องเรียนก่อนทุกคร้ังที่จะเข้าร่วม
กิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียน และเมื่อปฏิบัติกิจกรรมนอกห้องเรยี น : หลังเข้าชั้นเรียน
ให้เรยี บร้อย
 ขนั้ การใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้

 กิจกรรมเรยี นรนู้ อกห้องเรยี น : กอ่ นเขา้ ช้นั เรยี น
1. ศึกษาจากใบความรแู้ ละปฏิบัตติ ามใบกิจกรรมสืบค้นขอ้ มลู ดว้ ยตนเอง
2. หากมีปัญหาให้สอบถามครูผ่านการแชทของ Facebook Groups ได้

ตลอดเวลา
3. ตั้งใจปฏิบัติกิจกรรมปฏิบัติกิจกรรมด้วยตนเองอย่างเต็มความสามารถและ

รอบคอบ

ชุดที่ 7 เร่อื งอาณาจกั รสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) รว่ มกับหอ้ งเรยี นกลบั ด้าน ง
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 6

 กิจกรรมเรียนรใู้ นห้องเรียน : เขา้ ชั้นเรยี น
1. ศกึ ษาภาระงานให้เขา้ ใจ และปฏบิ ัติตามลำดับข้นั ตอน
2. ปฏิบตั กิ ิจกรรมอยา่ งตั้งใจและมสี ว่ นร่วมทุกกจิ กรรม
3. มีวินัย และสมาธใิ นการทำกิจกรรม
4. มีความสามัคคี มีน้ำใจ ภาคภูมิใจในผลงานของกลุ่ม และไม่เอาเปรียบ

เพื่อนรว่ มกลมุ่
 กจิ กรรมเรียนรนู้ อกห้องเรยี น : หลังเขา้ ช้ันเรียน
1. ศึกษาภาระงานใหเ้ ข้าใจ และปฏบิ ตั กิ จิ กรรมให้ครบถ้วน
2. มีส่วนร่วมในทุกกิจกรรม มีความสามัคคี มีน้ำใจ และไม่เอาเปรียบ

เพอ่ื นร่วมกลมุ่

 ข้นั หลังการใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรียนรู้
รวบรวมผลงานทไ่ี ด้จากการปฏิบัตกิ จิ กรรมสง่ ครู เพื่อประเมนิ ผลการเรียนรู้

QR code
สำหรบั ชุดกิจกรรมเรยี นรู้

ชดุ ที่ 7 เรื่องอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) รว่ มกับหอ้ งเรยี นกลับด้าน จ
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพ่มิ เติม 6 (ว 33290) ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

หนว่ ยการเรยี นที่ 1 เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ

ชดุ ที่ 7 เรื่องอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรูต้ ามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกบั ห้องเรยี นกลับด้าน ฉ
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

แผนผังขนั้ ตอนการใชช้ ดุ กิจกรรมการเรยี นรู้

ชุดท่ี 7 เร่ืองอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรยี นกลบั ด้าน ช
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววิทยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

สาระ ผลการเรยี นรแู้ ละจดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
ชุดท่ี 5 เร่อื งอาณาจกั รสตั ว์ (Animalia)

 สาระวทิ ยาศาสตรเ์ พ่มิ เติม
สาระชวี วทิ ยา
สาระที่ 2 เข้าใจการถ่ายทอดลักษณะทางพันธุกรรม การถ่ายทอดยีนบนโครโมโซม

สมบัตแิ ละหน้าท่ขี องสารพันธุกรรม การเกดิ มวิ เทชัน เทคโนโลยีทางดีเอ็นเอ หลกั ฐานข้อมูล
และแนวคิดเกย่ี วกับววิ ฒั นาการของส่งิ มีชวี ิต ภาวะสมดลุ ของฮาร์ดี - ไวน์เบิร์ก การเกิดสปี
ชีส์ใหม่ ความหลากหลายทางชีวภาพ กำเนิดของสิ่งมีชีวิต ความหลากหลายของสิ่งมีชีวิต
และอนกุ รมวธิ าน รวมท้งั นำความรู้ไปใช้ประโยชน์
 ผลการเรยี นรู้

อธบิ ายลักษณะสำคัญ และยกตัวอยา่ งส่ิงมีชวี ิตอาณาจักรสตั ว์
 จุดประสงคก์ ารเรียนรู้

1. ด้านพทุ ธพิ สิ ยั (K)
1.1 อธบิ ายลกั ษณะสำคัญของสัตว์ (K2)
1.2 ยกตัวอยา่ งส่ิงมชี วี ิตอาณาจักรสัตว์ (K2)
1.3 อภิปรายความหลากหลายของสิง่ มชี ีวิตอาณาจักรสตั ว์ (K2)
1.4 บอกประโยชนแ์ ละโทษของส่งิ มีชีวติ อาณาจักรสัตว์ (K4)

2. ดา้ นทกั ษะพสิ ัย (P)
2.1 ปฏิบัติกจิ กรรมศกึ ษาเกี่ยวกับสัตว์ (P3)
2.2 จัดทำแผนผงั มโนทศั น์การจดั หมวดหมูข่ องสง่ิ มีชีวิตอาณาจักรสัตว์ (P3)
2.3 มกี ระบวนการทำงานเป็นกลมุ่ (P3)

3. ด้านจติ พิสัย (A)
มีวนิ ัย ซือ่ สตั ย์ ใฝ่หาความรู้ และม่งุ มน่ั ในการทำงาน (K2)

ชดุ ท่ี 7 เร่ืองอาณาจกั รสตั ว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลบั ดา้ น 1
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววิทยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 6

:

คำชีแ้ จง : นักเรยี นศกึ ษาด้วยตนเองนอกหอ้ งเรียนและปฏิบตั ดิ ังตอ่ ไปนี้
1. นกั เรียน สแกน QR Code เพอ่ื ทำแบบทดสอบก่อนเรียน

2. นกั เรียนศกึ ษาเนอื้ หาจากใบความรู้
2.1 ใบความรู้ท่ี 7.1 เร่ืองลกั ษณะของสง่ิ มชี ีวิตในอาณาจกั รสัตว์
2.2 ใบความรู้ที่ 7.2 เร่อื งความหลากหลายของสตั ว์
2.3 ใบความร้ทู ี่ 7.3 เรื่องสัตว์ในไฟลมั คอรด์ าตา (Phylum Chordata)

3. นักเรียนจดั ทำใบกจิ กรรมสืบคน้ ข้อมูล
3.1 ใบกิจกรรมสืบคน้ ขอ้ มูลท่ี 7.1 เรอื่ งรอบรอู้ าณาจกั รสัตว์
3.2 ใบกิจกรรมสืบคน้ ขอ้ มลู ที่ 7.2 เรือ่ งความหลากหลายของสัตว์
3.3 ใบกจิ กรรมสืบค้นขอ้ มลู ที่ 7.3 เร่ืองรู้จกั Chordate

ชุดที่ 7 เร่ืองอาณาจกั รสตั ว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกบั ห้องเรียนกลับดา้ น 2
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 6

Pre – test)

คำช้แี จง : นักเรยี นพิจารณาเลอื กคำตอบทถ่ี ูกท่สี ุด และทำเครอ่ื งหมาย (X) ลงในกระดาษคำตอบ

1. ข้อใดเป็นสตั ว์เลยี้ งลูกดว้ ยน้ำนมที่ออกลูกเป็นไข่

ก. ตุ่นปากเปด็ ข. โคอาลา

ค. แพนดา้ ง. กระตา่ ย

2. สตั ว์ชนดิ ใดมีลักษณะเหมือนกับดาวทะเล ทัง้ หมด

ก. ไส้เดอื น หมปู า่ ข. ผเี สอ้ื แม่เพรียง

ค. หอยทาก พลานาเรีย ง. แมว สงิ โต

3. สัตวช์ นดิ หนงึ่ พบว่าวางไข่บนบก ไข่มีเปลอื กหุ้ม ปฏสิ นธภิ ายใน ผิวหนังปกคลมุ ด้วยเกลด็ ท่ีมี

เคราทิน สตั ว์ชนิดน้คี อื ข้อใด

ก. สัตวเ์ ล้อื ยคลาน ข. สัตว์สะเทนิ น้ำสะเทินบก

ค. สตั ว์ปีก ง. สตั ว์เล้ียงลกู ดว้ ยน้ำนม

4. การเจรญิ เตบิ โตของตัวออ่ นในกล่มุ ใดท่ี ตวั ออ่ นมรี ปู ร่างคล้ายลูกขา่ ง และมซี ิเลียชว่ ยในการ

เคลอ่ื นท่ี

ก. มอลลัส ข. นมี าโทด

ค. อารโ์ ทพอด ง. ไนดาเรยี น

5. ข้อใดกล่าวถงึ สตั ว์สะเทินน้ำสะเทินบก ไดถ้ กู ต้อง
ก. ไขไ่ ม่มีเปลือก
ข. แลกเปลี่ยนแก๊สทางผวิ หนัง
ค. ผวิ หนงั มีเคราทินเปน็ องคป์ ระกอบ
ง. อุณหภูมิรา่ งกายคงท่ี

ชุดที่ 7 เรือ่ งอาณาจกั รสตั ว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกับหอ้ งเรียนกลบั ด้าน 3
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววิทยาเพิม่ เติม 6 (ว 33290) ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 6

6. สตั ว์ชนดิ ใดมีสมมาตรตามรศั มี ข. แมงกะพรุน
ก. ฟองนำ้ ง. มนษุ ย์
ค. นก

7.ข้อใดเปน็ ลักษณะทีใ่ ช้ในการจำแนกส่งิ มีชวี ติ ในอาณาจักรสัตว์ออกเป็นกลมุ่ ย่อย

ก. ชนดิ ของเซลล์ ข. การเจริญเติมโตของเอ็มบริโอ

ค. สมมาตรของร่างกาย ง. รูปแบบการดำรงชวี ิต

8. ขอ้ ใดเปน็ สัตวเ์ ลีย้ งลูกด้วยนำ้ นมทตี่ งั้ ทอ้ งระยะส้นั โดยตวั ออ่ นจะต้องออกมาอาศัยในถงุ หนา้

ทอ้ ง

ก. ตวั กินมดมหี นาม ข. ตนุ่ ปากเป็ด

ค. โคอาลา ง. พยูน

9. ขอ้ ใดเป็นลกั ษณะของแอมฟอิ อกซัส ข. มชี ่องเหงือก
ก. มกี ระดูกสนั หลัง ง. มีโนโทคอร์ดตลอดชวี ติ
ค. มหี างในระยะตัวอ่อน

10. ข้อใดกล่าวถึงบลาสโทพอร์ ไดถ้ ูกต้อง
ก. พบในสัตวท์ ุกชนิด
ข. หอยเปน็ สตั ว์ท่บี ลาสโทพอรเ์ จรญิ ไปเป็นชอ่ งปาก
ค. พบในเอ็มบริโอระยะบลาสทลู า
ง. โพรโทสโทเมียมีในกลุ่มอาร์โทพอดเทา่ น้ัน

ชุดท่ี 7 เรื่องอาณาจกั รสตั ว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรูต้ ามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกับห้องเรียนกลับดา้ น 4
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพมิ่ เตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

กระดาษคำตอบ ชื่อ ....................................................................
แบบทดสอบก่อนเรียน ชัน้ .............เลขท่ี ................

ชุดที่ 7 เรื่องอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกับห้องเรียนกลับดา้ น 5
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 6

ประกอบด้วย
ใบความรทู้ ี่ 7.1 เรื่องลกั ษณะของส่ิงมีชีวติ ในอาณาจักรสัตว์
ใบความรทู้ ่ี 7.2 เรื่องความหลากหลายของสตั ว์
ใบความรทู้ ี่ 7.3 เร่ืองสตั ว์ในไฟลัมคอร์ดาตา (Phylum Chordata)

ชดุ ที่ 7 เร่อื งอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรียนร้ตู ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลับดา้ น 6
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

เรือ่ งลักษณะของสิ่งมีชีวติ ในอาณาจักรสตั ว์

ลกั ษณะของสตั ว์
1. เซลล์แบบยูคารโิ อต (eukaryotic cell) ไม่มีผนงั เซลล์
2. เป็นสิ่งมีชีวติ หลายเซลล์ (multicellular) โดยรวมกนั กลายเป็นเนอ้ื เย่ือ (tissue) เพ่อื

ทำหน้าท่ีเฉพาะอยา่ ง ยกเว้นฟองนำ้ ท่มี ีเซลล์รวมกันแต่ไม่มกี ารทำงานท่สี ัมพันธก์ นั
3. ดำรงชีวติ เป็น heterotrophic ไม่สามารถสร้างอาหารเอง มีบทบาทในระบบนิเวศ

เปน็ ผู้บริโภค บางชนิดพบว่าเป็นผยู้ ่อยสลาย
4. มกี ารสืบพนั ธ์ุไดท้ ้ังแบบไมอ่ าศัยเพศ เช่น การแบ่งตวั ออกเป็นส่วน (fission) การแตก

หน่อ (budding) การงอกใหม่ (regeneration) และการสบื พนั ธุ์แบบอาศยั เพศ ซึ่งเม่อื มีการ
ปฏสิ นธิได้ไซโกตและเจริญต่อไปเปน็ เอ็มบรโิ อระยะตา่ ง ๆ

5. มีการเจรญิ เตบิ โตของระยะเอ็มบริโอ ในระยะแกสทลู า (gastrulation) กล่มุ เซลล์จะมี
การเคล่ือนท่ี เพือ่ สรา้ งเนื้อเยอื่ แรกเกิด (germ layers) และทางเดนิ อาหาร

6. โดยสว่ นใหญส่ ามารถตอบสนองตอ่ สงิ่ เรา้ ไดอ้ ยา่ งรวดเรว็ เนอ่ื งจากมีระบบประสาท
และอวัยวะรบั ความร้สู ึก

เกณฑท์ ่ีใช้ในการจำแนกสัตว์โดยอาศัยลักษณะทางกายวภิ าคดงั นี้
1. การมีหรอื ไม่มีเนอื้ เย่อื
2. สมมาตรของรา่ งกาย
3. ชอ่ งว่างภายในลำตัว
4. การเปล่ยี นแปลงของบลาสโทฟอร์
5. รูปแบบการเจริญของตวั อ่อน

ชุดที่ 7 เร่ืองอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรยี นกลบั ด้าน 7
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววิทยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6

1. การมีหรือไมม่ เี นือ้ เยอ่ื (true tissue) แบ่งได้ 2 กลมุ่ ดงั น้ี
1.1 เนื้อเยื่อที่ไม่แท้จริง ( No true tissue) เรียกสัตว์กลุ่มนี้ว่า พาราซัว (Parazoa)

เนือ่ งจากเซลล์ในสตั ว์กลุ่มนีไ้ ม่มกี ารประสานงานกันระหวา่ งเซลล์ โดยเซลล์ทกุ เซลล์จะมีหน้าที่ใน
การดำรงชีวิตของตนเองหน้าที่ทั่วไปคือด้านโภชนาการ และสืบพันธุ์ ได้แก่ ไฟลัมฟอริเฟอรา
(Phylum Porifera)

1.2 เนื้อเยื่อที่แท้จริง (True tissue) เรียกสัตว์กลุ่มนี้ว่า ยูเมตาซัว (Eumetazoa) ซ่ึง
เนอ้ื เย่อื จะถกู สรา้ งข้นึ เป็นชั้น หรือเรียกว่า ช้นั ของเนื้อเยอ่ื (Germ layer) มี 2 ประเภทคือ

1.2.1 เนื้อเยื่อ 2 ชั้น (Diploblastica) ประกอบด้วยเนื้อเยื่อชั้นนอก (Ectoderm)
และเนื้อเยื่อชั้นใน (Endoderm) ได้แก่ ไฟลัมไนดาเรีย (Phylum Cnidaria) เช่น พวกไฮดรา
แมงกะพรนุ โอบีเลีย

1.2.2 เนื้อเยื่อ 3 ชั้น (Triploblastica) ประกอบด้วยเนื้อเยื่อชั้นนอก ชั้นกลาง
(Mesoderm) และชน้ั ในได้แก่ ไฟลมั แพลทิเฮลมินเทส (Phylum Platyhelminthes) ไฟลมั นมี า
โทดา (Phylum Nematoda) ไฟลัมมอลลัสกา (Phylum Mollusca) ไฟลัมเอคไคโนเดอมาตา
(Phylum Echinodermata) และไฟลมั คอร์ดาตา (Phylum Chordata)

ภาพที่ 1 การสร้าง Germ layer ของ embryo
ทมี่ า : https://stemcellthailand.org/germ-layers-gastrulation/

ชุดที่ 7 เรือ่ งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลบั ดา้ น 8
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววิทยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

2. สมมาตรของรา่ งกาย (symmetry)
สมมาตรของร่างกาย คือลักษณะการแบ่งร่างกายออกเป็นซีก ๆ ตามความยาวของซีก

เทา่ ๆ กนั มีอยู่ 3 ลักษณะ ไดแ้ ก่
2.1 ไม่มีสมมาตร (Asymmetry) มีรูปร่างไมแ่ นน่ อน ไมส่ ามารถแบง่ ซีกซ้ายและซีกขวา

ได้ เท่า ๆ กัน ได้แก่ พวกฟองน้ำ
2.2 สมมาตรแบบรัศมี (Radial symmetry) ร่างกายของสัตว์จะมีรูปร่างคล้าย

ทรงกระบอก หรือล้อรถ ถ้าตัดผา่ นจุดศูนย์กลางแลว้ จะตัดอย่างไรก็ได้ 2 ส่วนท่ีเทา่ กนั เสมอ หรือ
เรียกว่า มีสมมาตรที่ผ่าซีกได้เท่า ๆ กันหลาย ๆ ครั้งในแนวรัศมี ได้แก่ สัตว์พวกไฮดรา
แมงกะพรนุ ดาวทะเล เม่นทะเล

2.3 สมมาตรแบบครึ่งซีก (Bilateral symmetry) หรือมีสามาตรที่ผ่าซีกได้เท่า ๆ กัน
เพยี ง 1 ครง้ั สมมาตรแบบนส้ี ามารถผ่าหรือตัดแบ่งครง่ึ รา่ งกายตามความยาวของลำตวั แล้วทำให้
2 ขา้ งเทา่ กนั ได้เพยี งครงั้ เดียวเทา่ นนั้ ไดแ้ ก่ พวกหนอนตัวกลม แมลง สัตวม์ ีกระดูกสนั หลงั

ภาพที่ 2 สมมาตรของร่างกาย
ที่มา : https://www.scimath.org/lesson-biology/item/7035-animal-kingdom-
invertebrate

ชุดท่ี 7 เรอ่ื งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจักรการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรยี นกลบั ด้าน 9
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

3. ลกั ษณะชอ่ งว่างในลำตัวหรอื ช่องตัว (Body cavity หรอื Coelom)
ลักษณะช่องวา่ งในลำตัวหรือชอ่ งตัว (Body cavity หรือ Coelom) คือช่องว่างภายใน

ลำตัวที่อยรู่ ะหว่างผนงั ลำตัวกบั อวยั วะภายใน สามารถนำมาใช้เป็นเกณฑ์ในการจำแนกสัตวส์ ัตว์ที่
มเี นื้อเย่อื 3 ชน้ั ดงั น้ี

3.1 ไม่มชี อ่ งว่างในลำตวั หรอื ไม่มีชอ่ งตัว (No body cavity หรอื Acoelom) เปน็ พวกท่ี
มีเนอ้ื เยอื่ 3 ชนั้ อยชู่ ิดกัน โดยไม่มีชอ่ งวา่ งในแต่ละชั้น ไดแ้ ก่ ไฟลมั แพลทิเฮลมินเทส

3.2 มีชอ่ งตวั เทยี ม (Pseudocoelom) เปน็ ชอ่ งตัวท่ีเจรญิ อยรู่ ะหวา่ ง mesoderm ของ
ผนังลำตัว และendoderm ซึ่งเป็นทางเดินอาหาร ช่องตัวนี้ไม่มีเยื่อบุช่องท้องกั้นเป็นขอบเขต
ไดแ้ ก่ ไฟลมั นีมาโทดา

3.3 มชี ่องตวั ทีแ่ ทจ้ รงิ (Eucoelom หรอื Coelom) เป็นช่องตวั ทเ่ี จรญิ แทรกอยู่ระหว่าง
Mesoderm จำนวน 2 ชั้น คือ Mesoderm ชั้นนอกเป็นส่วนหนึ่งของผนังลำตัว (Body wall)
กับ Mesoderm ชั้นในซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของผนังลำไส้ (Intestinal wall) และ Mesoderm ทั้ง
สองส่วนจะบดุ ว้ ยเยื่อบุช่องท้อง (Peritoneum) ได้แก่ ไส้เดือนดิน หอย แมลง ปลา สตั ว์มกี ระดูก
สันหลงั เปน็ ต้น

ภาพที่ 3 ลักษณะชอ่ งวา่ งภายในลำตวั
ทมี่ า : https://www.brainkart.com/article/Basis-of-classification_33160/

ชุดท่ี 7 เร่ืองอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรูต้ ามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกบั ห้องเรียนกลับด้าน 10
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 6

4. การเปลย่ี นแปลงของบลาสโทฟอร์
บลาสโทพอร์ (Blastopore) เป็นช่องที่เกิดจากการม้วนตัวของชั้นเนื้อเอนโดเดิร์ม

ในชว่ งการเจรญิ ของตัวอ่อนระยะแกสทรู า (gastrula) พบเฉพาะสตั วท์ มี่ สี มมาตรดา้ นข้าง แบ่งได้
2 กลุ่มดังนี้

4.1 โพรโตสโทเมีย (Protostomia) เป็นสัตว์พวกที่บลาสโทพอร์พัฒนาเป็นช่องปาก
ไดแ้ ก่ พวกหนอนตัวแบนหนอนตัวกลม หนอนมปี ลอ้ ง หอย สตั ว์ขาขอ้

4.2 ดิวเทอโรสโทเมีย (Deuterostomia) เป็นสัตว์พวกที่บลาสโทพอร์พัฒนาเป็นช่อง
ทวาร ได้แก่ พวกดาวทะเล และสัตว์มีกระดูกสนั หลัง

ก. Protostomes

ข. Deuterostomes
ภาพท่ี 4 การเปลีย่ นแปลงของบลาสโทฟอร์
ท่มี า : (ก) https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Protostomes.png

(ข) https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Deuterostomes.png

ชุดท่ี 7 เรอื่ งอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับห้องเรยี นกลับด้าน 11
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 6

5. รปู แบบการเจรญิ ในระยะตัวออ่ น
ดวิ เทอโรสโทเมีย จะมีตวั อ่อนแบบไดพลรู ูลา (Dipleurula) สว่ นโพรโทสโทเมยี จะมีการ

เจรญิ ตัวออ่ น แบ่งได้ 2 แบบ ดังนี้
5.1 ระยะตัวอ่อนแบบโทรโคฟอร์ (Trochophore) ตวั อ่อนจะมีรปู ร่างคลา้ ยลูกข่าง และ

มซี เี ลยี ชว่ ยในการเคลื่อนทีไ่ ด้ในน้ำ เช่น ไฟลมั มอลลสั กา ไฟลมั แอนเนลิดา
5.2 ระยะตัวอ่อนแบบอีไดโซซัว (ecdysozoa) ผิวหนังมีไคทินเป็นองค์ประกอบ การ

เจริญเติบโตจะต้องมีการลอกคราบ และกลุ่มที่มีการลอกคราบในขณะเจริญเติบโต เช่น
ไฟลัมนมี าโทดา ไฟลัมอาร์โทโพดา

ก. ตวั อ่อนแบบ ecdysozoa ข.ตวั ออ่ นแบบ Trochophore

ภาพท่ี 4 รูปแบบการเจริญของตวั อ่อน

ทม่ี า : https://www.scimath.org/lesson-biology/item/7035-animal-kingdom-

invertebrate

ชดุ ที่ 7 เร่ืองอาณาจกั รสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E) ร่วมกับหอ้ งเรียนกลับดา้ น 12
เรื่อง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 6

การจำแนกส่งิ มชี ีวติ ในอาณาจกั รสตั วโ์ ดยใชล้ ักษณะทางกายวิภาค สามารถแบง่ ได้ดงั นี้

ภาพที่ 5 phylogenetic tree ของสัตว์
ทีม่ า : https://schoolbag.info/biology/living/155.html

ชุดท่ี 7 เรอื่ งอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกับหอ้ งเรียนกลับด้าน 13
เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพิม่ เติม 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

เรือ่ งความหลากหลายของสัตว์

1.ไฟลัมฟอริเฟอรา (Phylum Porifera)
คำวา่ Porifera มาจากภาษาละติน คอื porus หมายถึงรูพรุน และคำว่า ferre หมายถงึ

การถือกำเนิด ส่วนใหญ่พบในทะเล ร่างกายประกอบด้วยหลายเซลล์แต่ยังไม่มีการรวมกันเป็น
เนือ้ เยอ่ื ท่ีแทจ้ รงิ มโี ครงรา่ งแข็งทีเ่ รยี กวา่ สปคิ ลู (spicule) ซ่งึ เปน็ สารประกอบประเภทแคลเซยี ม
หรือซลิ กิ าแทรกอยู่ บางชนิดเปน็ เส้นใยโปรตีนทอี่ อ่ นนุ่มมีความยดื หยนุ่ เรียก สปองจิน (spongin)
พบเซลล์โคเอโนไซท์ (Choanocyte) หรือ เซลล์ปลอกคอ (Collar Cell) จะมีแฟลเจลลัม
(Flagellum) ที่โบกพัดน้ำ เพื่อเร่งการไหลเวียนของน้ำและดกั จับสิง่ มีชีวิตขนาดเล็กเป็นอาหาร
ภายในมีเซลล์มีอะมีโบไซต์ (Amoebocyte) ซึ่งสามารถเคลื่อนที่และเปลี่ยนแปลงตัวเองให้เป็น
เซลล์ชนดิ ต่าง ๆ ตามที่ตอ้ งการได้ เชน่ การยอ่ ยอาหาร

ข. กระเช้าดอกไม้ของวีนสั

ก. ลักษณะโครงสร้างของฟอรเิ ฟอรา ค. ฟองน้ำแจกนั

ภาพที่ 6 ตัวอย่างและโครงสรา้ งของสัตวใ์ นไฟลมั ฟอริเฟอรา
ทีม่ า : (ก) https://www.scimath.org/lesson-biology/item/7035-animal-kingdom-
invertebrate (ข) https://ngthai.com/science/28115/porifera/
(ค) https://bodell.mtchs.org/OnlineBio/BIOCD/text/chapter23/concept23.3.html

ชุดท่ี 7 เรอ่ื งอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนร้ตู ามแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกับห้องเรียนกลับดา้ น 14
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววิทยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

2. ไฟลัมไนดาเรยี (Phylum Cni
สตั วใ์ นไฟลัมไนดาเรีย (Cnidaria) กลุ่มเซลลร์ วมตวั กนั เป็นเน้อื เยื่อ 2 ช้นั มสี มมาตรแบบ

รัศมี มีทางเดินอาหารแบบไมส่ มบูรณ์ หลายชนิดเคลื่อนที่ไมไ่ ด้ บางชนิดเคลื่อนทีไ่ ดอ้ ยา่ งอิสระ
บางชนิดเคลอ่ื นทไ่ี ด้ในบางชว่ งของชีวติ สรา้ งโครงร่างแข็งภายนอก (exoskeleton) ท่มี ีแคลเซยี ม
คารบ์ อเนตเปน็ องคป์ ระกอบ เชน่ ปะการัง

ก. แมงกะพรนุ ข. ไฮดรา ค.ปะการงั สมอง

ภาพที่ 8 สัตวใ์ นไฟลัม Cnidaria

ทีม่ า : (ก,ข) http://www.thaigoodview.com/node/114745?page=0,8

(ค) http://www.taludiving.com/

มีหนวดและเข็มพิษ (Nematocyst) ช่วยในการป้องกนั ตวั และจับอาหาร มีรูปร่างได้ 2
แบบ คือ โพลิป (Polyp) มีรูปทรงกระบอกที่มีช่องปากอยู่ทางด้านบน และเมดูซา (Medusa)
ลกั ษณะคล้ายรม่ ท่ี

สัตว์กลุ่มไนดาเรียนับว่ามีความสำคัญต่อระบบนิเวศในทะเลอย่างมาก หลายชนิดเป็น
แพลงก์ตอนขนาดใหญ่ บางชนิดเป็นแหล่งท่ีอยู่อาศัยและแหล่งอนุบาลตัวอ่อนของสัตว์น้ำ ช่วย
ลดความรุนแรงของการกัดเซาะชายฝงั่

ภาพท่ี 9 นมี าโตไซท์
ทีม่ า : https://bodell.mtchs.org/OnlineBio/BIOCD/text/chapter23/concept23.3.html

ชดุ ท่ี 7 เรอ่ื งอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขนั้ (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรยี นกลบั ด้าน 15
เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 6

3. ไฟลัมแพลทิเฮลมินทสิ (Phylum Platyhelminthes)
Platy แปลว่า flat และ Helminth แปลว่า worm จึงเรียกสตั ว์ในกลุ่มนี้วา่ พวกหนอน

ตัวแบน (Flatworm) ลักษณะเด่นคือ มีหัว มีเนื้อเยื่อ 3 ชั้น แต่ไม่มีช่องลำตัว ระบบทางเดิน
อาหารไม่สมบรู ณ์ ขับถ่ายของเสียโดยใช้ Flame cell ระบบประสาทมีปมประสาทคล้ายสมอง
และเส้น ประสาทตามยาวออกจากสมอง ไมม่ ีระบบหมุนเวียนเลือดและระบบหายใจ พบไดท้ ัง้ ใน
ทะเล นำ้ จืด หรอื บรเิ วณทช่ี ื้นแฉะ มีลกั ษณะลำตัวอ่อนน่มุ ตวั แบนและยาว

ก. รปู รา่ งของพลานาเรยี ข. โครงสร้างเนือ้ เย่ือ3 ชั้น

ภาพท่ี 11 โครงสร้างของพลานาเรีย

ที่มา : (ก) https://skeletalphylum.weebly.com/platyhelminthes.html

(ข) https://slideplayer.com/slide/8106864/

การสืบพันธุ์ได้ทั้งแบบอาศัยเพศโดยการผสมข้ามตัว และแบบไม่อาศัยเพศโดยการงอก
ใหม่ (Regeneration) และเคลอื่ นที่ได้โดยการหดตวั ของกล้ามเนอื้ บางชนิดดำรงชวี ิตแบบปรสิต
(Parasite) เชน่ พยาธิตวั ตืด พยาธิใบไม้

ก.พลานาเรยี ข.พยาธใิ บไม้ ค.พยาธติ วั ตืด

ภาพที่ 12 สัตวใ์ นไฟลมั แพลทีเฮลมินเทส

ท่ีมา : (ก) https://ngthai.com/science/28477/platyhelminthes/

(ข) http://sciencealive-flatworms.blogspot.com/2011/09/flukes-class-

trematoda.html (ค) http://96.30.55.62/taenia-saginata-beef-tapeworm.html

ชดุ ที่ 7 เร่ืองอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลบั ด้าน 16
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววิทยาเพ่มิ เติม 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

4.ไฟลมั นีมาโทดา (Phylum Nematoda)
สตั วใ์ นไฟลมั นีมาโทดา หรือหนอนตัวกลม (Roundworm) เป็นสัตวท์ ม่ี ชี ่องว่างภายในลำตวั เทียม
(Pseudocoelom) พบทั้งดำรงชีวิตแบบอิสระ เช่น ไส้เดือนฝอย หลายสปีชีส์เป็นปรสิต
(Parasitic nematodes) เช่น ไส้เดือนฝอยรากปม พยาธิไส้เดือน พยาธิแส้ม้า พยาธิปากขอ
พยาธิเส้นด้าย ลักษณะเด่นของสัตว์ในไฟลัมน้ีคอื การมีคิวติเคิล (Cuticle) หนาปกคลุมร่างกาย
รูปแบบการเจริญของตัวอ่อนเป็นแบบเอไดโซซัว มีระบบทางเดินอาหารแบบสมบูรณ์ แต่ไม่มี
ระบบหายใจและระบบหมุนเวียนเลือด มีระบบประสาทที่ไม่ซับซ้อน พบกลุ่มของเส้นประสาท
อยู่บริเวณหัว และมีเส้นประสาทยาวตลอดลำตัว การเคลื่อนที่ใช้กล้ามเนื้อตามยาว ทำงาน
ร่วมกับโครงร่างที่เป็นของเหลวภายใน pseudocoelom การสืบพัน์แบบอาศัยเพศและมีการ
ปฏสิ นธิภายในรา่ งกาย

ก. พยาธิปากขอ ข. พยาธิเสน้ ดา้ ย ค. พยาธิไส้เดอื น

ภาพท่ี 13 ตัวอย่างสิง่ มชี วี ติ ไฟลมั นมี าโทดา

ทม่ี า : (ก,ข) https://thaihealthlife.com (ค) http://kingdom-animalia.bbkbike.com/

ชุดที่ 7 เร่ืองอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้ตู ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกบั ห้องเรยี นกลับด้าน 17
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววิทยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

5. ไฟลัมมอลลสั กา (Phylum Molluska)
มอลลัสค์ (Mollusks) เป็นสัตว์ที่มีช่องว่างภายในลำตัวที่แท้จรงิ (Coelom) ลำตัวนม่ิ

จัดอยู่ในกลุ่มโพรโทสโทเมีย มีตัวอ่อนเปน็ แบบโทรโคพอร์ พบได้ทัง้ ในนำ้ เค็ม น้ำจืด และบนดนิ
ส่วนใหญจ่ ะมลี ำตัวมสี มมาตรแบบครงึ่ ซีก ไมม่ ีปลอ้ ง รา่ งกายแบง่ ได้ 3 ส่วน ไดแ้ ก่

1) เทา้ (foot) เปน็ สว่ นที่ใชใ้ นการเคลือ่ นที่ อยูด่ า้ นทอ้ งมีความแข็งแรงมาก
2) วสิ เซอรอลแมส (visceral mass) เปน็ ส่วนของอวยั วะภายในท่หี ่อหุ้มด้วยเนื้อเย่ือ
3) ช่องแมนเทิล (mantle cavity) เป็นบริเวณที่มีการแลกเปลี่ยนแก๊สผ่านทางเหงือก
และกำจัดของเสีย

ก.หอยฝาเดียว ข. หอยสองฝา

ภาพท่ี 14 โครงสร้างร่ายกายของหอย

ทม่ี า : (ก) https://courses.lumenlearning.com/wm-biology2/chapter/phylum-

mollusca/ (ข) http://zoology2014rylee.weebly.com/mollusca-mollusks.html

มอลลัสมคี วามสำคญั ทางเศรษฐกิจมาก เปน็ แหลง่ อาหารท่ีสำคัญของมนุษย์ เปน็ อาหาร
ของสตั ว์ บางชนดิ ทำลายพชื ทีเ่ กษตรกรเพาะปลกู เช่น หอยทาก หอยเชอรี่

ก.ล่นิ ทะเล (chiton) ข. หอยมือเสอื ค. หอยงวงช้าง (nautilus)

ภาพที่ 15 ส่ิงมชี ีวติ ไฟลมั มอลลัสกา

ที่มา : (ก)https://courses.lumenlearning.com/wm-biology2/chapter/phylum-mollusca/

(ข) https://prangthip3008.wordpress.com/ (ค)http://www.slowlife.company/nautilus-

ชดุ ที่ 7 เรือ่ งอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวฏั จกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 18
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6

6. ไฟลมั แอนาลดิ า (Phylum Annelida)
Annelida มีรากศัพท์มาจาก Annulus ซึ่งแปลว่า วง ชื่อเรียกรวมว่าหนอนปล้อง

(Segmented worm) พบได้ทั้งน้ำเค็ม น้ำจืด หรือในดินบริเวณที่ชื้นแฉะ ส่วนใหญ่ดำรงชีวิต
อย่างอิสระเช่น ไส้เดือนดิน (Earthworm) แม่เพรียง และบางพวกเป็นปรสิตเช่น ปลิงน้ำจืด
(Leeches)

สตั ว์ในไฟลัมนี้มชี อ่ งว่างในลำตวั ท่ีแท้จริงร่างกายถกู แบ่งออกเปน็ ปล้องกันโดย Septa มี
โครงร่างค้ำจุนร่างกายเป็นของเหลว ลำตัวมีสมมาตรแบบครึ่งซีก มีระบบประสาทดีมาก มี
กล้ามเนื้อวงกลม (Circular muscle) และกล้ามเนื้อตามยาว (Longitudinal muscle) ซึ่ง
สามารถประสานงานแบบตรงกันข้าม (antagonism) เพื่อใช้ในการเคลื่อนที่ ระบบหมุนเวียน
โลหิตแบบปิด ระบบแลกเปลี่ยนก๊าซใชผ้ นงั ลำตัว หรือพาราโพเดีย (Parapodia) ระบบทางเดนิ
อาหารเป็นแบบสมบูรณ์ มีเนพฟริเดีย ทุกปล้องจะมี Nephridia เป็นอวัยวะทำหน้าที่ขับถ่าย
ปล้องละ 1 คู่ มีการสืบพันธุ์แบบอาศัยเพศ โดยที่ไส้เดือนทะเลจะแยกเพศ และมีการปฏิสนธิ
ภายนอกรา่ งกาย สว่ นไส้เดือนดนิ และทากดดู เลอื ดจะมีสองเพศในตวั เดยี วกนั และปฏสิ นธภิ ายใน
ร่างกาย ตัวอยา่ งสตั ว์ในไฟลมั นี้ เช่น ไสเ้ ดอื นดนิ แม่เพรยี ง ทาก ปลงิ หนอนไฟ เป็นต้น

ก. แม่เพรียง

ค. โครงสร้างภายในของไส้เดอื นดิน
ข. ทาก
ภาพที่ 16 โครงสร้างและตวั อยา่ งสตั ว์ใน Phylum Annelida
ท่มี า : (ก) https://sites.google.com/site/classificationoflifehannah/home/

(ข) https://www.xn--12ca9dhi6bg8cwdm0m1f.com
(ค) https://www.sas.upenn.edu/~rlenet/Earthworms.html

ชุดท่ี 7 เรอ่ื งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลบั ด้าน 19
เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6

7. ไฟลมั อารโ์ ทโพดา

Arthropoda มาจากคำในภาษากรกี ว่า arthro แปลวา่ ขอ้ ตอ่ และคำว่า pod แปลว่า

เท้า จึงเรยี กสตั ว์ในกลมุ่ นว้ี า่ สัตวข์ าข้อ พบได้ในท่ีอยู่อาศัยทกุ แบบ ลกั ษณะทั่วไป คือ มีสมมาตร

แบบครึง่ ซีก มีชอ่ งว่างในลำตวั ที่แทจ้ ริง มที างเดนิ อาหารสมบูรณ์ มรี ะบบทอ่ อลมหรือเหงือกเป็น

โครงสร้างในการแลกเปล่ียนแก๊ส มีระบบหมุนเวียนเลอื ดแบบเปิด ระบบประสาทพฒั นาโดยมีปม

ประสาทที่ส่วนหัว และเส้นประสาทอยู่ทางด้านท้อง มีการพัฒนาตัวอ่อนแบบ ecdysozoa มี

โครงร่างแข็งภายนอก (exosketeton) ซึ่งประกอบด้วยสารไคทิน มีลำตัวเป็นข้อปล้อง และ

รยางคเ์ ป็นขอ้ ๆ ตอ่ กัน (jointed appendage) ทำใหม้ คี วามยืดหยนุ่ ในการเคลอ่ื นที่

ลำตัวแบ่งออกเป็น 3 ส่วน คือ ส่วน

หัว ส่วนอก และส่วนท้อง โดยแต่ละส่วนจะ
ประกอบด้วยหลายปล้อง บางชนิดมีส่วนหัว

และส่วนอกรวมกัน เช่น กุ้ง ปู แต่บางชนิด

ไม่ได้แยกอย่างชดั เจน เช่น ตะขาบ กิ้งกือ ใน
ภาพท่ี 18 โครงสร้างของสตั ว์ไฟลัมอาร์โทโปดา แต่ละส่วนจะมีรยางค์ยืน่ ออกมา จำนวนและ
ท่มี า : (ก)
ชนิดของรยางค์ท่ีแตกตา่ งกัน เช่น แมลงมีขา
https://sites.google.com/site/kingdomfor เดิน 3 คู่ แมงมุม แมงปอ่ ง มขี าเดิน 4 คู่ ส่วน
easy/home/fi-lam-ni-xanacakr-
ตะขาบมีขาเดินปล้องละ 1 คู่ กิ้งกือมีขาเดิน
satw/phylum-arthopoda
ปล้องละ 2 คู่ เปน็ ต้น

สัตว์ไฟลัมนี้มบี ทบาทสำคัญในระบบนเิ วศ เช่น ผึ้งที่ช่วยผสมเกสร กิ้งกือช่วยกำจัดซาก

พืชและสัตว์ บางชนิดเป็นสัตว์เศรษฐกิจ เช่น กุ้ง ปู กั้ง แต่หลายชนิดอาจเป็นพาหะของโรค เช่น
ยุงลาย แมลงวัน หรือเป็นปรสติ ขอองสัตว์ เช่น เห็บ หมัด

ก. แมงดายกั ษ์ ข. เพรียงคอห่าน ค.ตะขาบ

ภาพท่ี 7.19 ตัวอยา่ งสัตว์ในไฟลมั อารโ์ ทโพดา

ที่มา : (ก) https://www.catdumb.com/this-is-aussie-119/ (ข)

http://www.jaxshells.org/bti020.htm (ค)https://home.kapook.com/view172564.html

ชุดที่ 7 เร่อื งอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกับหอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 20
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพ่ิมเติม 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

7. ไฟลัมเอคไคโนเดอร์มาตา (Phylum Echinodermata)
สตั ว์ไฟลัมน้ีเปน็ สัตว์ท่ีมีหนามแหลม การเปลีย่ นแปลงของบลาสโทพอร์เป็นแบบดิวเทอ

โรสโทเมยี และตวั ออ่ นมีรูปร่างแบบครงึ่ ซกี เมอ่ื เปน็ ตวั เต็มวัยที่มีสมมาตรแบบรัศมี มีระบบท่อน้ำ
(water vascular system) ใชใ้ นการเคลื่อนทไี่ ด้ การลำเลยี งอาหาร และของเสยี มโี ครงร่างแข็ง
ภายใน (endoskeleton) มีผิวชั้นนอกบางปกคลุม หรือผิวที่มีหนามหรือปุ่ม บางชนิดไม่
สามารถเคล่อื นทีไ่ ดแ้ ตจ่ ะมกี ้านยดึ ตดิ กับพ้ืน ได้แก่ ดาวทะเล เมน่ ทะเล เหรียญทะเล ปลิงทะเล

มีการสืบพันธุ์แบบไม่อาศยั เพศโดยการงอกใหม่ (regeneration) และการสืบพันธ์ุแบบ
อาศัยเพศโดยการปฏสิ นธิเกดิ ขน้ึ ภายนอกร่างกาย

ก. โครงสรา้ งภายในและระบบท่อน้ำ

ข.เหรียญทะเล ค.ดาวขนนก ง.ปลงิ ทะเล

ภาพท่ี 21 ตัวอย่างสัตวใ์ นไฟลัมเอไคโนเดอมาตา

ทมี่ า : (ก) https://gmadp.weebly.com/comparative-anatomy-dissection.html

(ข) https://oceanjewelrystore.com/priceless-beauty-of-sand-dollars/

(ค) https://www.britannica.com/animal/feather-star

(ง) http://eddive.blogspot.com/2012/06/blog-post_25.html

ชุดท่ี 7 เร่ืองอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกบั ห้องเรียนกลบั ด้าน 21
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 6

9. ไฟลัมคอรด์ าตา (Phylum Chordata)
สตั วใ์ นไฟลมั น้มี คี วามหลากหลายสงู พบประมาณ 50,000 สปีชีส์ ทกุ ชนิดจะมเี อ็มบริโอ

ทีม่ ีลักษณะเฉพาะเหมอื นกันดงั น้ี
1. มีโนโตคอรต์ (notochord) เป็นท่อยาวตลอดลำตัว อย่รู ะหว่างท่อทางเดนิ อาหารและ

ท่อประสาทกลวงด้านหลัง ทำหน้าที่ช่วยค้ำจุนร่างกาย บางชนิดพบตลอดชีวิต แต่บางชนิดพบ
เฉพาะในระยะเอม็ บรโิ อเทา่ นั้น

2. มีท่อประสาทกลวงทางด้านหลัง (dorsal hollow nerve cord) จะพัฒนาต่อไปเป็น
สมองและไขสนั หลัง

3. มีถุงคอหอย (pharyngeal pouch) ในปลาจะพัฒนาเป็นช่องเหงือก (gill slit)
สำหรบั มนษุ ย์นัน้ บางสว่ นเปลยี่ นเปน็ ท่อยูสเตเชยี น (eustachian tube) ใชส้ ำหรบั ปรับความดัน
ภายในหูส่วนกลาง

4. มีหางเป็นกล้ามเนื้ออยู่ทางด้านท้ายของลำตัว สำหรับมนุษย์จะลดรูปเหลือเพียง
กระดกู กน้ กบซ่งึ มีขนาดเลก็

ภาพท่ี 22 การจดั หมวดหมสู่ ง่ิ มีชีวิตในไฟลัมคอรด์ าตา
ท่มี า : https://www.carlsonstockart.com/photo/chordate-chordata-nerve-cord-
notochord-family-tree-illustration/

ชุดท่ี 7 เรื่องอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรยี นกลับดา้ น 22
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 6

เร่ืองสัตวใ์ นไฟลมั คอรด์ าตา (Phylum Chordata)

สัตวใ์ นไฟลัมคอร์ดาตา หรอื คอร์เดต (Chordate) สามารถแบ่งกลุ่มดังนี้
1. สัตว์ในกลุ่มคอร์เดตที่ไม่มีกระดูกกระดูกสันหลัง เมื่อเจริญเติบโตจะไมม่ ีการพัฒนา
ของส่วนทีเ่ ปน็ กระดูกสันหลงั ค้ำจนุ ภายในร่างกาย มี 2 ซบั ไฟลมั ได้แก่ Cephalochorata และ
Urochordata)

1.1 Sub-phylum Cephalochordate เป็นคอร์เดตท่ีไม่มีขากรรไกร ไม่มีกะโหลก
ศีรษะ รูปร่างคล้ายปลา แต่ไม่มีเส้นข้างตัวและไมม่ ีรยางค์คู่ หัวท้ายเรียว ตัวแบนและโปร่งแสง
ยาวประมาณ 4-8 เซนติเมตร พบฝงั ตัวอยใู่ นพ้นื ทรายในเขตทะเลตนื้ ตัวเตม็ วัยมีโนโตคอร์ดยาว
ด้านหลงั ต้งั แต่หัวถงึ หางและมอี ย่ตู ลอดชีวติ ได้แก่ แอมฟอิ อกซสั (Amphiosus)

ก. แอมฟอิ อกซสั ข.โครงสร้างของแอมฟอิ อกซสั

ภาพท่ี 23 Sub-phylum Cephalochordate

ที่มา : (ก) https://biokingdom2013.wordpress.com,

(ข) https://www.liberaldictionary.com/notochord/

1.2 Sub-phylum Urochordata เป็นคอร์

เดตที่อาศัยในทะเลไม่มีขากรรไกร ดำรงชีวิตโดยการ

กรองกิน ไม่มีกะโหลกศีรษะ ไม่มีรยางค์คู่ ตัวอ่อน

เคลื่อนทีไ่ ด้อย่างอิสระ มีโนโตคอร์ดอยู่แค่บริเวณหาง

เทา่ นั้น ในขณะทีต่ วั เต็มวัยนนั้ อาจจะไม่เคลื่อนที่เลย

และลักษณะเด่น ๆ ของไฟลัมน้ีจะหายไป เหลือเพียง

ภาพที่ 23 เพรยี งหัวหอม ช่องเหงือกที่คอหอย ลำตัวจะมีช่องเปิด 2 ช่อง

ทีม่ า:http://thefuhc.blogspot.com/2 ด้านบนเป็นช่องน้ำเข้า มีปากอยู่ภายในด้านล่างเป็น

012/04/what-is-tunicate_18.html ช่องน้ำออก เช่น เพรียงหัวหอม (Tunicate) เพรียง

ลอย (Sea squirt)

ชุดท่ี 7 เรอื่ งอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E) รว่ มกับห้องเรียนกลับดา้ น 23
เร่ือง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชีววทิ ยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 6

2. สตั วใ์ นกลุ่มคอรเ์ ดตที่มีกระดูกสนั หลงั
แบ่งได้ 2 กล่มุ คอื กลุม่ ไมม่ ีขากรรไกร และกลุม่ มขี ากรรไกร ดังน้ี
2.1 ปลาไม่มขี ากรรไกร หรอื ปลาปากกลม ปจั จบุ ันเหลอื อยู่เพียงไม่กชี่ นิด ปลาแฮค

ฟิช (Hagfishes) อาศัยอยู่ในทะเล มีหนวด 4 คู่ที่ปลายสุดของปาก มีรูจมูก 1 รู โพรงจมูกมีทอ่
ต่อไปยังคอหอย มีถุงเหงือก 5-15 คู่ ไม่มีครีบหลัง ไม่มีเกล็ด แต่มีเมือกมาก ส่วนใหญ่เป็นเพศ
รวม ดำรงชีวิตเป็นผู้กินซาก (Scavenger) บางชนิดดำรงชีวิตคล้ายเป็นปรสิต แลมเพรย์
(Lampreys) มีปากแบบปากดดู ดำรงชีวิตเป็นปรสติ มีรูจมูก 1 รู โพรงจมูกไม่ตดิ ตอ่ กับคอหอย
มีถงุ เหงอื ก 7 คู่ สามารถพบโนโทคอร์ดได้ ไม่มหี นวด (Tentacle) ไมม่ คี รบี คู่ (มีครบี หลังและครีบ
หาง) ไมม่ ีเกลด็ ตัวยาวเหมอื นปลาไหล แยกเพศ

ก. ปากและตัวปลาแฮคฟิช (Hagfishes)

ข. ปากของปลาแลมเพรย์ ค. ปลาแลมเพรย์

ภาพท่ี 24 ตัวอยา่ งปลาปากกลม

ทีม่ า : (ก)

https://www.reddit.com/r/interestingasfuck/comments/c4y98d/mouth_of_a_hagfish/

(ข) https://blog.nature.org/science/2017/12/11/recovery-why-sea-lampreys-need-to-

be-restored-and-killed/

(ค) https://www.thecanadianencyclopedia.ca/en/article/lamprey

ชุดท่ี 7 เรอ่ื งอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกบั ห้องเรยี นกลับด้าน 24
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีที่ 6

2.2 ปลากระดูกอ่อน (Super-class Chondrichthyes) เช่น ฉลาม (Shark)
สเกตต์ (Skate) ปลากะเบน (Ray) การพฒั นาอวัยวะรบั ความรสู้ กึ ทด่ี ี สามารถตรวจจับเหย่ือจาก
กระแสไฟฟ้า มโี ครงรา่ งเปน็ กระดกู อ่อนยืดหยุ่นได้ดี มีเกลด็ เลก็ และเบาแบบ Placoid และมีฟัน
ทีพ่ ฒั นามาจากเกล็ดจึงสามารถงอกใหม่ทดแทนฟนั เก่าที่หลุดหายไป ทำใหส้ ามารถดำรงเผ่าพันธุ์
มาได้เปน็ อยา่ งดี เช่น ฉลาม มีลักษณะลำตวั เรยี ว มีครบี หางแบบ Heterocercal มเี หงอื ก 5-7 คู่
มีชอ่ งเปิดแยกกัน ไมม่ แี ผ่นปิดเหงือก ไม่มีถงุ ลม ฉลามจึงไมส่ ามารถลอยตวั อยูน่ ่งิ ได้

ก. โครงสร้างของฉลาม ข.ปลากะเบน (Ray)

ค. ฉลามขาว ง. ฉลามวาฬ

ภาพที่ 25 ปลากระดกู อ่อน

ที่มา : (ก) https://www.whitesharkprojects.co.za/news/shark-anatomy-part-1/

(ข) https://www.thairath.co.th/news/foreign/1732581

(ค) https://www.thoughtco.com/great-white-shark-2291582

(ง) https://mgronline.com/travel/detail/9620000051633

ชุดท่ี 7 เรื่องอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกับหอ้ งเรียนกลับดา้ น 25
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชนั้ มธั ยมศึกษาปีที่ 6

2.3 ปลากระดกู แขง็ (Super-class Osteichthyes) เชน่ ปลานกแกว้ ปลานลิ ปลา
ดุก ซงึ่ เป็นปลาทม่ี ขี ากรรไกร ในปัจจบุ ันมปี ระมาณ 30,000 ชนดิ สว่ นใหญม่ ีรูปรา่ งแบบกระสวย
มีครีบเดี่ยวและครีบคู่ โครงร่างแข็งภายในเป็นกระดูกแข็ง (Bone) ซึ่งมีแคลเซียมเป็น
องค์ประกอบ มีแผ่นปิดเหงอื ก (operculum) มีถุงลม (Air bladder) หรือปอด ช่วยในการเกบ็
อากาศ และลอยตัว สว่ นใหญ่สืบพันธุโ์ ดยการวางไข่และปฏสิ นธภิ ายนอก

ปลาปอด (lung fish) เปน็ ปลากระดกู แข็งทีม่ ีปอด สามารถหายใจเอาออกซเิ จนจาก
อากาศได้ในช่วงเวลาสนั้ ๆ และสามารถอย่ใู นโคลนเมื่อฤดแู ล้งได้ ซึ่งเปน็ หลักฐานทส่ี นับสนุนการ
เกดิ วิวัฒนาการเพื่อดำรงชีวิตบนนพื้นดนิ โดยมีปอดทีต่ อ่ กับระบบหมุนเวยี นเลือด แตย่ งั ใชเ้ หงือก
ในการแลกเปลยี่ นแก๊สเปน็ หลัก

ก. ปลานกแก้ว ข.ปลาปอด ค. ม้านำ้

ง. แซลม่อน จ. ปลาไหล ฉ.ปลาปะการัง

ภาพ 26 ตัวอยา่ งปลากระดูกแข็ง

ท่มี า : (ก) https://sawadeehub.com/parrotfish-

(ข) https://www.tnews.co.th/variety/477560

(ค) http://kaigyou-joseikin.com/seahorse/

(ง) https://lifestyle.campus-star.com/knowledge/84501.html

(จ) http://www.siamfishing.com/content/view.php?nid=77396&cat=article

(ฉ) https://sites.google.com/a/rpg15.ac.th/satw-lok-na-rak/satw-na/4-pla-karang-

pak-maena

ชดุ ท่ี 7 เรอื่ งอาณาจกั รสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) รว่ มกับหอ้ งเรยี นกลับด้าน 26
เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววิทยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

2.4 สตั ว์สะเทินนำ้ สะเทนิ บก (Amphibian)
มลี กั ษณะเดน่ คือ มบี างชว่ งของชีวติ ที่สามารถข้นึ มาดำรงชีวิตบนบกได้ แต่เมื่อจะ

สบื พนั ธต์ุ อ้ งกลบั ลงไปในนำ้ อีกคร้ัง ไขม่ ลี กั ษณะคลา้ ยมถี งุ วุ้นหุ้ม วางไข่ในน้ำหรือทชี่ นื้ เนื่องจากไข่
ไม่มีเปลือกแข็งหุ้มจึงสูญเสียความชื้นได้อย่างรวดเร็วหากอยู่ในที่แห้ง มีการเจริญเติบโตผ่าน
ระยะตัวอ่อนและเปลี่ยนแปลงไปเป็นตัวเต็มวัยแบบ Metamorphosis เป็นสัตว์สี่เท้าเลือดเยน็
(Ectotherm) หายใจโดยใชเ้ หงอื ก ผิวหนงั หรอื ปอด ผิวหนงั เปียกช้นื มตี ่อมสร้างเมือก ไม่มีเกลด็
หวั ใจมสี ามห้อง มีเสน้ ประสาทสมอง 10 ค่เู หมอื นปลา นว้ิ ไม่มเี ล็บ จำนวนนิ้วของรยางคห์ น้าและ
หลังอาจไมเ่ ทา่ กัน เชน่ กบ เขียด อึง่ อาง คางคก งดู นิ ซาลาเมนเดอร์ กระทา่ ง

ก. กบอเมริกันบูลฟร็อก ข. อึ่งอา่ ง

ค. กระทา่ ง ง. เขยี ดงู

ภาพท่ี 27 สัตว์สะเทินน้ำสะเทนบก

ทม่ี า : (ก,ข) https://th.wikipedia.org/wiki/

(ค) https://ngthai.com/animals/30155/new-newts-in-nan/

(ง) http://srdi.yru.ac.th/bcqy/view/129_

ชุดท่ี 7 เรื่องอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรยี นกลบั ดา้ น 27
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพมิ่ เตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 6

2.5 สัตวเ์ ลอ้ื ยคลาน (Reptilia)
จัดเป็นสตั วบ์ กสมบรู ณแ์ ล้ว พัฒนาระบบหายใจมาใช้ปอดเพยี งอยา่ งเดียว หวั ใจมี

4 ห้องไม่สมบูรณ์ (ยกเว้นจระเข)้ มีฟนั ท่กี ราม วางไข่บนบก ปฏิสนธิภายใน ตัวอ่อนเจรญิ จากไข่ท่ี
มีเปลือกหุ้ม ไข่แดงมีปริมาณมาก มีถุงน้ำคร่ำ (Amnion) ช่วยป้องกันตัวอ่อนในไข่
กระทบกระเทือน และยังมีถุงเก็บของเสียและแลกเปลี่ยนแก๊สที่เรียกว่า Allantois ไม่มีการ
เปลี่ยนระยะตัวอ่อน ผิวหนังแห้ง ไม่มีต่อมเมือก มีเกล็ดซึ่งเป็นสารเคราทินเป็นองค์ประกอบ
ปกคลมุ รา่ งกายเพอื่ ปอ้ งกนั การสูญเสียนำ้ ไมใ่ ช้เมตาบอลซิ ึมในการควบคุมอุณหภูมริ ่างกายแต่จะ
ใช้พฤติกรรมในการปรับอุณหภมู ิในรา่ งกายจงึ ถกู จดั เปน็ เปน็ สตั วส์ ่ีเท้าเลือดเย็น เช่น ก้ิงก่า จ้ิงจก
อีกัวนา มังกรโคโม ตวั เงินตวั ทอง เต่า จระเข้ เปน็ ตน้

ก. งูหลามแอฟริกา ข.เตา่ รศั มีดารา

ค. มังกรโคโมโด ง. อีกวั นา

ภาพท่ี 28 ตัวอยา่ งสัตวเ์ ลอื้ ยคลาน

ท่ีมา : (ก) http://www.safariforless.com/python.html

(ข) https://www.thairath.co.th/news/local/1753710

(ค) https://mgronline.com/around/detail/9600000045234

(ง) https://pxhere.com/th/photo/1553263

ชุดท่ี 7 เร่อื งอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรียนกลับด้าน 28
เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

2.6 สัตวป์ กี (Avian)
เป็นสัตว์เลือดอุ่น ขาคู่หน้าเปลี่ยนแปลงไปเป็นปีก ใช้ในการกระพืออากาศ

เพื่อบิน ลำตัวปกคลุมไปด้วยขนแบบขนนก (Feather : Down Semiplume Filoplume
Contour Bristle) แตท่ ี่หนา้ แข้งจะพบวา่ มีเกล็ดปกคลุม ไมม่ ฟี นั ทหี่ นกั กระดูกเปน็ โพรง หัวใจมี
4 ห้องสมบูรณ์ มีระบบหายใจที่ช่วยแลกเปลี่ยนแก๊สได้อย่างมีประสิทธิภาพเพราะมีถุงลม (Air
sac) ช่วยสำรองอากาศขณะบิน ไม่มีกระเพาะปัสสาวะ ร่างกายมีอุณหภูมสิ ูง เป็นสัตว์เลอื ดอ่นุ
ปฏิสนธภิ ายในและออกลกู เป็นไข่ เช่น นก ไก่ หา่ น

ก. ขนแบบขนนก (Feather) ข. โครงสรา้ งระบบหายใจ

ภาพท่ี 29 ลักษณะโครงสรา้ งของปีกนกและโครงสร้างระบบหายใจ

ท่มี า : (ก) http://1ab.in/5qa (ข) https://7vertebrates.weebly.com/class-aves.html

บางชนิดปีกใช้บนิ ไมไ่ ด้ กระดูกอกไมเ่ ปน็ สัน ว่ิงไดเ้ ร็ว เชน่ นกอมี ูล นกกระจอกเทศ บาง
ชนดิ ปีกเปล่ยี นแปลงไปใหม้ ีลกั ษณะเหมาะสมต่อการวา่ ยน้ำทเี่ รยี กวา่ Flipper ขาหลงั เป็นผังพืด
ชว่ ยในการว่ายนำ้ มขี นตามลำตัวมาก และไมม่ ถี งุ ลมแทรกในกระดกู เช่น นกเพนกวนิ

ก. นกเหงอื ก ข. นกเพนกวิน ค.นกอีมลู

ภาพท่ี 30 ตัวอย่างสัตวป์ ีก

ที่มา : (ก) https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9620000015637

(ข) http://tafnit.tv/2020/07/16/

(ค) http://www.dooasia.com/animals/birds-112.shtml

ชดุ ที่ 7 เรือ่ งอาณาจกั รสตั ว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรียนร้ตู ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรียนกลับดา้ น 29
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววิทยาเพม่ิ เตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มัธยมศึกษาปีท่ี 6

2.7 สัตวเ์ ลีย้ งลกู ดว้ ยน้ำนม (Mammal)
เป็นสัตว์เลือดอุ่น มีต่อมเหงื่อ และต่อมเหงื่อบรเิ วณลำตัวด้านท้องจะพัฒนา

ไปเป็นต่อมน้ำนม ลำตัวปกคลุมไปด้วยขนแบบขนเส้นเดี่ยว (Hair) มีสมองที่เจริญพัฒนาดีมาก
แลกเปล่ยี นแกส๊ โดยใชป้ อด หวั ใจมี 4 หอ้ งสมบูรณ์ สามารถแบง่ ได้เป็น 3 กลุม่ คอื

2.7.1 กลุ่มออกลูกเป็นไข่ (monotreme) พวกที่ไม่มีใบหู ไม่มีมดลูก ต่อม
น้ำนมจะรวมเป็นกระจุกที่ผวิ หนังและมีรอยผ่าลกึ เพื่อให้น้ำนมขังในร่องให้ตัวออ่ นเลยี กิน ได้แก่
ตวั กนิ มดมหี นาม ตนุ่ ปากเปด็

2.7.2 กลุ่มที่ต้ังท้องระยะสัน้ โดยตัวอ่อนที่ออกมาจะตอ้ งอาศัยอยู่ในถุงหนา้
ท้องระยะหนึง่ (Marsupialia) เช่น โคอาลา จงิ โจ้ โอพอสซมั วอมแบต

2.7.3 กลุ่มที่มีรกซึ่งตัวอ่อนเจริญอยู่ภายในมดลูกของแม่ และจะได้รับ
สารอาหารผ่านทางรถ ไดแ้ ก่ มนุษย์ ลิง ชา้ ง คา่ ง พยนู เป็นต้น

ก. ต่นุ ปากเปด็ ข. ตัวกินมดมีหนาม ค. วอมแบต

ง. ลงิ บาบนู จ. คา่ งแว่นถิ่นใต้ ฉ. พยูน

ภาพท่ี 31 ตวั อยา่ งสัตว์เลี้ยงลกู ดว้ ยนำ้ นม

ทม่ี า : (ก) https://www.medicalnewstoday.com/articles/322156

(ข) https://www.wired.com/2014/07/the-creature-feature-10-fun-facts-about-the-

echidna/ (ค) https://www.zooportraits.com/common-wombat-vombatus-ursinus/

(ง) https://www.khaosod.co.th/lifestyle/news_1442938

(จ) http://www.thongthailand.com/articles/42100789/

(ฉ) https://mgronline.com/greeninnovation/detail/9620000078954

ชุดที่ 7 เร่ืองอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) รว่ มกับห้องเรียนกลบั ดา้ น 30
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

คำชี้แจง : นักเรียนทำกจิ กรรมสืบคน้ ขอ้ มลู โดยศึกษาความรูจ้ ากใบความรู้

ใบกจิ กรรมการสืบคน้ ข้อมูล 7.1 เรอ่ื งรอบรู้อาณาจกั รสตั ว์
ใบกิจกรรมการสืบคน้ ขอ้ มูล 7.2 เร่อื งความหลากหลายของสตั ว์
ใบกิจกรรมการสบื ค้นข้อมลู 7.3 เรอื่ งรจู้ ัก Chordate

ชดุ ท่ี 7 เรอื่ งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จักรการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกบั ห้องเรียนกลบั ด้าน 31
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วิทยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศึกษาปที ่ี 6

เรอื่ งรอบรอู้ าณาจกั รสตั ว์

คำสั่ง : นักเรยี นศึกษาเก่ียวกับอาณาจักรสตั ว์ (Animal) จากใบความรู้ และตอบคำถามต่อไปนี้
1. Whitaker ไดจ้ ัดให้ส่งิ มชี ีวติ กลุ่มสตั ว์อยู่ใน Kingdom ...............................................................
และ Woese ได้จดั อยใู่ น Domain ................................................................................................
2. ลักษณะโดยรวมของสง่ิ มีชีวติ ในอาณาจกั รสัตว์ เปน็ ดังนี้

2.1 เป็นส่ิงมชี วี ิตทม่ี เี ซลล์แบบ....................................................................................................
2.2 เซลลย์ ึดและเกาะตดิ กนั ดว้ ยโปรตีนชนิด..............................................................................
2.3 เซลล์มีลักษณะอ่อนนมุ่ เนือ่ งจากไม่พบ ..............................................................................
2.4 มีรูปแบบดำรงชวี ติ เปน็ .......................................................................................................
มบี ทบาทในระบบนิเวศเป็น ............................................................................................................
.........................................................................................................................................................
2.5 สามารถตอบสนองต่อส่งิ เร้าได้อยา่ ง ...................................................................................
เน่ืองจากม.ี ......................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
3. การแบ่งสิง่ มชี ีวติ อาณาจักรสัตวอ์ อกเป็นไฟลมั ใช้ลักษณะดังนีเ้ ป็นเกณฑพ์ ิจารณา
3.1 เนื้อเยอ่ื แบ่งได้ 2 กลุ่ม คือ

3.1.1 ................................................................ ไดแ้ ก่ ไฟลัม .............................................
3.1.2.................................................................. ซงึ่ แบง่ ได้ 2 กล่มุ ยอ่ ย คื

1) ..................................... ประกอบด้วย เนื้อเยื่อชั้น ...............................................
ไดแ้ ก่ ไฟลมั ......................................................................

2) ...................................... ประกอบด้วย เนอื้ เย่อื ช้นั ..............................................
ไดแ้ ก่ ไฟลัม ......................................................................

3.2 .............................................................. แบ่งได้ 3 กล่มุ คอื
3.2.1 อสมมาตร (Asymmetry) ไดแ้ ก่ ไฟลัม ………………………….................………………….
3.2.2 ......................................... ไดแ้ ก่ ไฟลมั ....................................................................
3.2.3 ......................................... ได้แก่ ไฟลัม ....................................................................

ชดุ ท่ี 7 เรอ่ื งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรยี นร้ตู ามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขั้น (7E) ร่วมกับหอ้ งเรียนกลับดา้ น 32
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 6

3.3 ลักษณะชอ่ งว่างในลำตัว (....................................................................) แบ่งได้
3.3.1 ......................................... ได้แก่ ไฟลัม.................................................................
3.3.2 ......................................... ช่องว่างแทรกระหวา่ ง ................................................

ไดแ้ ก่ ไฟลมั ....................................................................
3.3.3 ......................................... ช่องวางแทรกระหว่าง ...............................................

ได้แก่ ไฟลัม .....................................................................
3.4 การเปลีย่ นแปลงของบลาสโทฟอร์ ในระยะ ......................................................................

ของ ............................................. พบเฉพาะในสัตวท์ ี่มี .....................................................แบง่ ได้
3.4.1 ........................................ บลาสโทฟอร์พัฒนาเป็น ....................................... ได้แก่

ไฟลัม ..........................................................
3.4.2 ......................................... บาลาสโทฟอร์พัฒนาเป็น .................................... ได้แก่

ไฟลัม ..........................................................
3.5 การเจรญิ ในระยะตัวออ่ น พบเฉพาะในสัตวก์ ลุม่ .................................. แบง่ ได้ 2 กล่มุ คอื
3.5.1 ......................................... มลี ักษณะ ............................................................. ได้แก่

ไฟลมั ........................................................
3.5.2 ………..............………………. มีลกั ษณะ ............................................................. ไดแ้ ก่

ไฟลัม .................................................

ชุดที่ 7 เรือ่ งอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชุดกิจกรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกับห้องเรยี นกลบั ดา้ น 33
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพมิ่ เติม 6 (ว 33290) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

4. จงจดั ทำ phylogenetic tree ของส่ิงมีชีวติ ในอาณาจักรสัตวใ์ ห้สมบรู ณ์

ไฟ ัลม......................
ไฟ ัลม.......................

ไฟ ัลมแพลทีเฮล ิมนเทส

ไฟ ัลม.......................
ไฟ ัลมอาร์โทโพดา
ไฟ ัลม.......................
ไฟ ัลม.......................
ไฟ ัลม.......................
ไฟ ัลม.......................

3.1ไม่มีช่องว่างในลำตวั 6.1ตัวออ่ น................ 6.2ตวั อ่อน.................

5.1โพรโทสโทเมีย

4.1ชอ่ งวา่ ง
....................

2.1สมมาตรแบบรศั มี 4.2 ช่องว่าง....................

1.1......................... 3.2 มีช่องว่างในลำตวั
2.2สมมาตรแบบ.............

1.2 มเี น้ือเยอื่ ทแ่ี ท้จริง

บรรพบรุ ษุ รว่ มของสตั ว์
(common ancestor)

ชุดท่ี 7 เรือ่ งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกับห้องเรียนกลบั ด้าน 34
เร่ือง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวชิ าชวี วทิ ยาเพิม่ เติม 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

เรอ่ื งความหลากหลายของสัตว์

ชื่อไฟลมั ลักษณะเฉพาะท่พี บ ตัวอย่างสตั ว์
1. porifera
2. Cnidaria
3. Platyheminthes
4. Nematoda
5. Mollusca
6. Annelida
7. Arthropada
8. Echinodermata
9. Chordata

ชดุ ท่ี 7 เรอื่ งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 35
เรอ่ื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วทิ ยาเพ่มิ เตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 6

เรอ่ื งรจู้ ัก Chordate

1. จงเตมิ ขอ้ ความในชอ่ งว่างให้ถกู ต้อง และโยงเส้นจบั คู่กบั ตวั อยา่ งสตั ว์ให้ถกู ตอ้ ง

ชอ่ื ซบั ไฟลมั / ลกั ษณะเฉพาะท่ีพบ ตวั อย่างสตั ว์
คลาส

1. ไมม่ กี ระดูกสันหลัง ตวั อ่อนมีลกั ษณะของคอร์เดตครบ ปลาปักเปา้
ตวั เต็มวัยเหลือเพียงชอ่ งเหงือก มีสารพวก tunicin แฮกฟชิ
ตุ่นปากเปด็
2. มลี ักษณะของคอรเ์ ดตครบตลอดชวี ติ ฝังตัวอย่ใู นพ้ืน กงิ้ กา่
ทรายในเขตทะเลน้ำตื้น

3. ไม่มขี ากรรไกร ไมม่ กี ระดูกสันหลงั ไม่มเี กล็ด มีครบี หลัง
2 อนั และครีบหาง กนิ ซากสงิ่ มชี ีวติ

5. กระดูกมคี วามยดื หยุ่น ปฏิสนธิภายใน ออกลกู เปน็ ตวั มี
ชอ่ งเหงือก 5 – 7 ช่อง ออกลกู เป็นตวั

6. มขี ากรรไกร มแี ผน่ ปดิ ชอ่ งเหงือก ปฏิสนธภิ ายนอก เพรยี งหัว
ออกลูกเปน็ ไข่ มีครีบเดยี่ ว 3 ตำแหน่ง ครบี คู่ 2 ตำแหนง่ หอม

7. ใชป้ อดและผวิ หนงั ในการแลกเปลย่ี นแก๊ส วางไข่ในน้ำ แอมฟอิ อก
ไข่ไมม่ ีเปลอื กแขง็ ห้มุ ซสั

8. มถี ุงนำ้ คร่ำ ไขม่ เี ปลอื กแขง็ หมุ้ ปฏิสนธิภายใน ผิวหนงั มี โอพอสซมั
เคราทิน หัวใจ 4 ห้องไมส่ มบรู ณ์
กอริลา
9. มถี งุ น้ำคร่ำ ขนแบบ feather ออกลกู เป็นไข่ อง่ึ อา่ ง

10. มีขนแบบเสน้ เดย่ี ว ออกลกู เปน็ ไข่ ใชป้ อดในการ
แลกเปลย่ี นแก๊ส เรยี กว่า monotrem

11. ออกลูกเป็นตัว ตงั้ ท้องระยะสนั้ ตวั อ่อนตอ้ งอยภู่ ายใน ฉลาม
ถงุ หน้าทอ้ ง อกี า

12. มีขนแบบ hair ตัวออ่ นเจริญภายในรก ระบบหมุนเวยี น
เลอื ดแบบปดิ

ชดุ ท่ี 7 เร่อื งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรียนร้ตู ามแบบวัฏจกั รการเรียนรู้ 7 ข้ัน (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรยี นกลบั ดา้ น 36
เร่อื ง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพ่ิมเตมิ 6 (ว 33290) ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 6

:

คำชี้แจง : นักเรียนทำกิจกรรมเรียนรู้เกี่ยวกบั อาณาจักรสตั ว์ และบันทกึ ผลให้ครบถ้วน ตาม
ข้ันตอนต่อไปนี้

ชดุ ที่ 7 เร่ืองอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรียนรตู้ ามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกับห้องเรยี นกลับดา้ น 37
เร่อื ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ 6

เร่ืองการศกึ ษาความหลากหลายของสตั ว์

 วัสดอุ ุปกรณ์ประจำกลมุ่

1. ไม้ไอติมป้ายสตั วต์ วั อยา่ ง 5. ดินน้ำมันไว้สำหรบั ปกั กล่มุ ละ 1 อัน

2. ป้าย “ไฟลัม......” กล่มุ ละ 1 อัน 6. กระดาษบตั รคำ “ลกั ษณะของสัตวใ์ นไฟลัม”

3. กระดาษโพสอิท “ฉันอยากรวู้ ่า...” พรอ้ มฟวิ เจอร์บอร์ขนาด A4 กลมุ่ ละ 1 อัน

4. กระดาษคำตอบ กลมุ่ ละ 1 อัน 7. ปากกาเมจิก กล่มุ ละ 2 ด้าม

 ขน้ั ตอนการทำกจิ กรรม
1. นักเรยี นสุ่มเลือกปา้ ยสัตวจ์ ากในกลอ่ ง คนละ 1 อัน
2. กบั กลุ่มสัตว์ท่อี ยูใ่ นไฟลมั เดยี วกันอยกู่ ลุ่มเดียวกัน พร้อมบันทกึ รายละเอยี ดของสมาชิก
3. นำปา้ ย “ไฟลัม..............” เขยี นช่อื ไฟลัมของสัตว์กล่มุ ตัวเอง
4. ปกั ปา้ ยสัตวแ์ ละปา้ ยไฟลัม บนก้อนดินนำ้ มนั
5. ร่วมกันอธิบายลักษณะของสตั ว์ในไฟลัม แล้วเขียนลักษณะของสัตวใ์ นไฟลัมลงใน บตั ร
คำ “ลกั ษณะของสัตว์ในไฟลัม” จำนวน 5 – 6 ข้อ แล้ววางไวบ้ นโต๊ะ
6. รว่ มกนั วิเคราะหป์ ระโยชนแ์ ละโทษของสตั ว์ในไฟลัมของกลุม่ ตนเอง เขียนในบัตรคำ
“ประโยชน์หรอื โทษ” จำนวน 2 ขอ้
7. ศึกษาลกั ษณะของสตั วไ์ ฟลมั อน่ื ๆ กลมุ่ ละ 5 นาที
8. เขียนคำถามปลายเปิดที่เกี่ยวขอ้ งกบั ไฟลมั ท่กี ลุ่มศกึ ษา ในกระดาษโพสอิท “ฉนั อยากรู้
ว่า...” แลว้ แปะติดท่ีบอร์ด
9. ทำตามข้อ 6 – 7 กับกล่มุ อ่ืน ๆ จนครบ
10. แล้วเลอื กคำถามที่สมาชิกกลุ่มอนื่ ไดถ้ าม จำนวน 3 ข้อ ตอบลงในใบบันทึกกจิ กรรม
11. ตวั แทนกลมุ่ ออกมานำเสนอข้อคำถามและคำตอบที่เลอื กใหน้ ักเรียนในชน้ั เรยี นได้
รว่ มกนั อภิปราย
12. นกั เรยี นบนั ทึกสรปุ การเรียนรใู้ นชนั้ เรียน

ชุดที่ 7 เรอ่ื งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ขั้น (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรียนกลับดา้ น 38
เรื่อง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพิม่ เตมิ 6 (ว 33290) ชนั้ มธั ยมศึกษาปที ี่ 6

เรื่อง

การศึกษาความหลากหลายของสัตว์

คำช้แี จง : ใหน้ กั เรียนบันทึกผลการทำกิจกรรมการเรยี นรู้ในหอ้ งเรยี น เร่อื ง การศึกษาความ
หลากหลายของสัตว์ ดงั นี้
1. สมาชิกในกลมุ่

1.1 ........................................................... เลขที่ ................
1.2 ........................................................... เลขที่ ................
1.3 ........................................................... เลขที่ ................
1.4 ........................................................... เลขที่ ................
1.5 ........................................................... เลขที่ ................
1.6 ........................................................... เลขที่ ................

2. ไฟลมั คอื ...............................................................
3. มลี ักษณะดังนี้

3.1 ....................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

3.1 ....................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

3.1 ....................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

3.1 ....................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

3.1 ....................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

3.1 ....................................................................................................................................
........................................................................................................................................................

ชุดท่ี 7 เร่ืองอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรตู้ ามแบบวฏั จักรการเรยี นรู้ 7 ขนั้ (7E) รว่ มกบั หอ้ งเรยี นกลับด้าน 39
เรอื่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพม่ิ เติม 6 (ว 33290) ชน้ั มัธยมศึกษาปที ี่ 6

4. กล่มุ ของนักเรียนไดไ้ ปศกึ ษาสตั วไ์ ฟลัมใดบา้ งตามลำดับ

1......................... 2......................... 3.......................... 4.........................

8………................. 7……….................. 6………................. 5.........................

9………................. 10…….................. 11…….................. 12……..................

5. นักเรยี นเลือกคำถามจากกระดาษโพสอิท “ฉันอยากรวู้ ่า...” จำนวน 3 ขอ้ และตอบคำถามให้
ถูกต้อง

คำถามขอ้ ที่ 1 :.................................................................................................................
ตอบ : ....................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

คำถามขอ้ ท่ี 2 :.................................................................................................................
ตอบ : ....................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

คำถามข้อที่ 3 :.................................................................................................................

ตอบ : ....................................................................................................................................
..............................................................................................................................................

ชดุ ท่ี 7 เร่ืองอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)

ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ตามแบบวัฏจักรการเรยี นรู้ 7 ข้นั (7E) ร่วมกบั ห้องเรยี นกลับดา้ น 40
เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 6

6. สัตวใ์ นไฟลมั .......................... มปี ระโยชน์ดงั น้ี
6.1 .......................................................................................................
6.2 .......................................................................................................
6.3…………………………………………………………………………………………….

7. สตั ว์ในไฟลัม ......................... มีโทษดังนี้ดังนี้
7.1 .......................................................................................................
7.2 .......................................................................................................
7.3…………………………………………………………………………………………….

สรุปผลการเรียนรู้ : ส่ิงมชี ีวิตอาณาจักรสตั ว์

.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

ชุดที่ 7 เรอ่ื งอาณาจักรสัตว์ (Animalia)

ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้ตามแบบวฏั จกั รการเรียนรู้ 7 ขัน้ (7E) ร่วมกับห้องเรยี นกลบั ดา้ น 41
เร่ือง ความหลากหลายทางชวี ภาพ รายวิชาชีววทิ ยาเพิ่มเตมิ 6 (ว 33290) ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 6

Post – test)

คำชี้แจง : นกั เรียนเลอื กคำตอบท่ีถูกท่สี ุด และทำเครื่องหมาย (X) ลงในกระดาษคำตอบ

1.ขอ้ ใดเป็นลักษณะท่ใี ชใ้ นการจำแนกสงิ่ มีชีวิตในอาณาจักรสัตวอ์ อกเปน็ กลุ่มย่อย

ก. ชนิดของเซลล์ ข. การเจรญิ เติมโตของเอ็มบริโอ

ค. สมมาตรของร่างกาย ง. รปู แบบการดำรงชีวติ

2. สัตวช์ นิดใดมสี มมาตรตามรศั มี ข. แมงกะพรนุ
ก. ฟองน้ำ ง. มนุษย์
ค. นก

3. สัตว์ชนดิ ใดมีลกั ษณะเหมือนกับดาวทะเล ท้งั หมด

ก. ไสเ้ ดอื น หมูป่า ข. ผเี ส้อื แม่เพรียง

ค. หอยทาก พลานาเรยี ง. แมว สิงโต

4. ขอ้ ใดกล่าวถึงบลาสโทพอร์ ได้ถูกตอ้ ง
ก. พบในสตั ว์ทกุ ชนิด
ข. หอยเปน็ สัตว์ท่บี ลาสโทพอรเ์ จริญไปเป็นช่องปาก
ค. พบในเอม็ บริโอระยะบลาสทลู า
ง. โพรโทสโทเมยี มีในกลมุ่ อาร์โทพอดเทา่ นัน้

5. การเจริญเตบิ โตของตัวออ่ นในกล่มุ ใดท่ี ตัวอ่อนมีรูปรา่ งคล้ายลูกขา่ ง และมซี ิเลียชว่ ยในการ

เคลอ่ื นท่ี

ก. มอลลัส ข. นีมาโทด

ค. อารโ์ ทพอด ง. ไนดาเรียน

ชดุ ท่ี 7 เรอ่ื งอาณาจกั รสัตว์ (Animalia)

ชดุ กิจกรรมการเรยี นรูต้ ามแบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 7 ขน้ั (7E) ร่วมกบั หอ้ งเรียนกลบั ดา้ น 42
เรือ่ ง ความหลากหลายทางชีวภาพ รายวิชาชวี วิทยาเพิ่มเติม 6 (ว 33290) ชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 6

6. สตั วช์ นิดหนึง่ พบวา่ วางไข่บนบก ไข่มเี ปลือกหุ้ม ปฏิสนธภิ ายใน ผิวหนงั ปกคลมุ ดว้ ยเกล็ดที่มี

เคราทนิ สตั ว์ชนิดน้ีคือข้อใด

ก. สัตวเ์ ล้ือยคลาน ข. สัตว์สะเทินน้ำสะเทนิ บก

ค. สัตว์ปกี ง. สัตว์เล้ียงลกู ดว้ ยนำ้ นม

7. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะของแอมฟอิ อกซสั ข. มชี อ่ งเหงอื ก
ก. มีกระดกู สันหลัง ง. มีโนโทคอร์ดตลอดชีวติ
ค. มหี างในระยะตัวอ่อน

8. ขอ้ ใดเปน็ สัตว์เล้ยี งลกู ดว้ ยนำ้ นมที่ออกลกู เปน็ ไข่

ก. ต่นุ ปากเป็ด ข. โคอาลา

ค. แพนด้า ง. กระต่าย

9. ขอ้ ใดเป็นสัตว์เล้ยี งลกู ด้วยนำ้ นมทต่ี ้งั ทอ้ งระยะส้ันโดยตัวออ่ นจะตอ้ งออกมาอาศยั ในถงุ หน้า

ทอ้ ง

ก. ตัวกินมดมีหนาม ข. ตุน่ ปากเป็ด

ค. โคอาลา ง. พยนู

10. ขอ้ ใดกล่าวถึงสตั วส์ ะเทนิ นำ้ สะเทนิ บก ได้ถูกต้อง
ก. ไข่ไมม่ ีเปลอื กหุ้ม
ข. แลกเปล่ยี นแก๊สทางผิวหนัง
ค. ผิวหนงั มเี คราทินเป็นองคป์ ระกอบ
ง. อณุ หภูมิร่างกายคงที่

ชุดที่ 7 เร่ืองอาณาจักรสตั ว์ (Animalia)


Click to View FlipBook Version