กระตุนความสนใจ สสาํ ํารรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explain Expand Evaluate
Engage Explore
สาํ รวจคน หา Explore
1. แตละกลุม รวมกนั หาขอมูลวา ทักษะกลไก ò ·¡Ñ ÉСÅä¡·èÕʧ‹ ¼Åµ‹Í¡Òû¯ºÔ ѵԡ¨Ô ¡ÃÃÁ
คืออะไร
·Ò§¡ÒÂáÅСÒÃàŹ‹ ¡ÕÌÒ
2. แตล ะกลุม คิดกิจกรรมที่ใชหลักการเคลื่อนไหว
ของกลุมตนเอง และบอกวากิจกรรมนน้ั ใช “นกั เรยี นคิดวา ทกั ษะกลไกคอื อะไร”
ทักษะกลไกอะไร แลว ออกมานาํ เสนอ
หนาชน้ั เรียน ทักษะกลไก (Motor Skill) คอื ความสามารถในการเคลอื่ นไหวรา งกาย
ในการทํากิจกรรมทางกายและการเลน กีฬา ประกอบไปดวยทักษะตางๆ ดงั นี้
3. ครูใหนกั เรยี นแตละคนคิดวาในชวี ิตประจาํ วนั
ของตนเองทํากจิ กรรมอะไรบา ง มีหลักการ ๑. ความคลองแคลว เปนความสามารถในการควบคุมรางกายขณะ
เคลอื่ นไหวอยางไร และใชท กั ษะกลไกใดในการ เคลอื่ นไหว การเปลย่ี นทศิ ทางอยา งรวดเรว็ เชน การวงิ่ ซกิ แซก็ การวง่ิ ไปวง่ิ กลบั
ปฏิบัตกิ ิจกรรม เปนตน
๒. การทรงตัว เปนความสามารถในการรักษาสมดุลของรางกาย
ทงั้ ในขณะอยกู บั ท่ี และขณะเคลอ่ื นท่ี เชน การวงิ่ โดยที่ไมล ม การเลยี้ งลกู ฟตุ บอล
การกระโดดขาเดียว เปนตน
๓. พลงั เปน ความสามารถของกลา มเนอื้ ทที่ าํ งานโดยใชแ รงจาํ นวนมาก
ในระยะเวลาส้นั ๆ เชน การทมุ นา้ํ หนกั การกระโดดสงู เปนตน
๔. ความเร็ว เปนการเคลื่อนไหวรางกายจากที่หน่ึงไปยังอีกที่หนึ่ง
ในเวลาอนั รวดเรว็ เชน การว่ิง ๑๐๐ เมตร การวา ยนาํ้ ๕๐ เมตร เปน ตน
๕. การประสานสัมพันธ เปนความสามารถในการเคล่ือนไหวรางกาย
ที่มากกวา ๑ กลไก ในเวลาเดียวกัน เชน การเขยงกาวกระโดด การว่ิง
ขามสงิ่ กีดขวาง การกระโดดรบั ลกู บอล การขวา งลูกบอล เปน ตน
สนองตอ ๖ส.่ิงเเรวา1ลภาาปยฏในิกริระิยยาะเตวอลบาอสันนรอวงดเรเป็วนเชคนวากมาสรไาดมยาินรเถสขยี องปงรน าทงสี่ กง าสยัญทญ่ีตาอณบ
ใหอ อกวงิ่ ๑๐๐ เมตร การตโี ตล กู ปงปองดว ยความรวดเรว็ เปน ตน
ทักษะกลไก เปนกระบวนการรับรู เรยี นรู รวมไปถงึ การแสดงออกทาง
การเคลอื่ นไหว ผลที่ไดจ ะเปนอยา งไรขึ้นอยกู บั ความสามารถทางกลไก การรบั รู
และการเรยี นรู
กิจกรรมฝกทักษะกลไกชนิดตางๆ นั้น ทําใหเราไดพัฒนาสุขภาพ
และการเคลื่อนไหวของอวัยวะตางๆ เพื่อชวยใหเรามีทักษะและความสามารถ
๙๒ในชีวิตประจาํ วันมากข้ึน
เกรด็ แนะครู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
กฬี าในขอใดใชท กั ษะกลไกในเรื่องเวลาปฏกิ ิรยิ าตอบสนองมากทสี่ ดุ
ครใู หนกั เรียนยกตัวอยา งกจิ กรรมทใี่ ชท ักษะกลไกในแตละขอ 1. วายน้ํา
แลวแสดงความคดิ เห็นรวมกัน 2. วิง่ 100 เมตร
3. เทเบิลเทนนิส
นักเรียนควรรู 4. กระโดดไกล
วเิ คราะหคาํ ตอบ เวลาปฏิกริ ิยาตอบสนอง เปน ความสามารถของ
1 ความสามารถตอรางกายทีต่ อบสนองตอ ส่งิ เรา คือ การทาํ งานทปี่ ระสานกนั รางกายทต่ี อบสนองตอสิง่ เรา ภายในระยะเวลาอนั รวดเรว็ วา ยนา้ํ
ระหวางระบบประสาท ระบบกลามเนือ้ ระบบตอ มไรทอ และระบบตอ มมีทอ และวิ่ง 100 เมตร จะใชท ักษะกลไกนตี้ อนออกตวั สวนกระโดดไกลจะ
โดยตอบสนองผานประสาทสมั ผัสท้ัง 5 คือ หู สําหรบั ฟงเสยี ง ตา สาํ หรบั มองดู ใชท กั ษะกลไกพลังของกลามเนือ้ ขา การเลน เทเบลิ เทนนสิ ตอ งใชส ายตา
จมกู สาํ หรับดมกลิน่ ล้ิน สาํ หรบั รับรส และผิวหนงั สาํ หรับการสัมผสั เปนตน และการเคลอื่ นไหวแขนในการตีตอบโตลูกเทเบลิ เทนนิสอยางรวดเร็ว
ดงั น้นั ขอ 3. จงึ เปนคําตอบท่ถี ูกตอง
92 คมู ือครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
ó Â×´ËÂØ¹‹ ¢Ñé¹¾¹×é °Ò¹ 1. ใหนกั เรียนอบอุนรา งกาย โดยการยืด
“นักเรยี นเคยดกู ารแขงขันกฬี ายิมนาสติกหรอื ไม นกั เรยี นรูส กึ อยา งไร กลามเนื้อ เพ่อื ปอ งกนั การบาดเจบ็ ขณะ
เมอื่ ไดด กู ีฬาชนิดนี้” ปฏบิ ตั ิกิจกรรม
กิจกรรมยืดหยุนขั้นพื้นฐาน เปนกิจกรรมการเคลื่อนไหวท่ีสงเสริม 2. ครอู ธบิ ายวิธีการปฏิบตั ิน่งั งอเขา มวนหนา
ใหเ กดิ สมรรถภาพทางกายหลายๆ ดา น เพราะตอ งใชค วามแขง็ แรง ความออ นตวั โดยใหน ักเรยี น 1 คน ออกมาสาธิตใหเ พื่อนดู
การทรงตวั และการประสานสัมพนั ธข องประสาทและกลา มเน้ือ
3. ใหนักเรียนฝกปฏิบตั ิ แลว ครูสงั เกตวา นกั เรียน
การฝก ยดื หยนุ ขนั้ พนื้ ฐานเปน ประจาํ ทาํ ใหม ที รวดทรงดี รา งกายแขง็ แรง คนใดทําไดด ี นักเรียนคนใดทําไดพอใช
และสามารถทํากิจกรรมอื่นๆ ไดดี ในชั้นน้ีนักเรียนจะไดเรียนรูการฝกยืดหยุน และนกั เรยี นคนใดทําไมไ ดเลย
ขั้นพืน้ ฐา๑น.ในน่งั ๕งอลเกัขษา ณมวะนดหงั นน้ีา 1 4. ครูแบง กลมุ ใหนักเรยี นฝก ซอ มอกี ครง้ั
โดยแตล ะกลุมมีนักเรยี นทท่ี าํ ไดด ี นกั เรยี นที่
มีวิธีฝกปฏิบตั ิ ดงั นี้ ทาํ ไดพ อใช และนกั เรยี นทท่ี าํ ไมไ ดเ ลย จากนนั้
ใหน กั เรยี นชว ยกนั ฝก เพอ่ื เกบ็ เปน คะแนนกลมุ
นง่ั ยองๆ ลง โนม ตัว โนมตัวไปขา งหนา ขณะที่มวนตัว ลกุ ข้นึ ยนื ตรง
ไปขา งหนา พรอ มกบั เหยยี ดขา ยกสะโพก ใหก ดคางชดิ หนา อก
เหยียดแขนทั้งสอง ข้นึ พรอมกบั งอ จนกระท่งั ฝา เทา
ไปขา งหนา ยกสน เทา ขอ ศอก กม ศรี ษะ เหยยี บพื้น
ขนึ้ ใหน า้ํ หนกั ตวั อยู ใหคางชิดหนา อก
บนปลายเทา พยายามใหศ รี ษะ
สว นทา ยทอยแตะพน้ื
๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗.
วางฝามือทั้งสองลงบนเบาะ ใชแขนและเทา ท้ังสองดนั กลบั มาอยูในทา นั่งยองๆ
หา งจากปลายเทา พอสมควร ลาํ ตวั ไปขา งหนา การใชแ ขน แขนอยูขางใบหู เพ่อื การ
ฝา มอื ทั้งสองขางหา งกนั และเทา ตอ งออกแรงยันพื้น ทรงตัว
ประมาณ ๑ ชวงไหล ใหเ ทา ๆ กัน เพื่อใหมวนตัว
ไปขางหนาไปในทศิ ทางตรง ๙๓
กิจกรรมใดทาํ ใหร างกายยืดหยนุ ไดมากที่สดุ ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT เกรด็ แนะครู
1. กล้งิ ตวั 2. การตอตวั เพ่อื ความเขาใจในการทํากิจกรรมยืดหยนุ ครูอาจใหนักเรียนวเิ คราะหวา
3. การมวนตวั 4. การเดินบนคาน กจิ กรรมยืดหยนุ แตละชนดิ ใชหลักการใดในการเคลื่อนไหวบา ง อยา งไร
วเิ คราะหคําตอบ ยดื หยุนขัน้ พ้ืนฐานตอ งใชค วามแข็งแรง ความออ นตัว นักเรียนควรรู
การทรงตวั และการประสานกันของประสาทกลา มเน้ือ การกลิ้งตวั ใช
ความแข็งแรงและความคลอ งแคลว การเดนิ บนคานและการตอตวั ใชการ 1 นงั่ งอเขามว นหนา วิธฝี ก : นั่งดว ยปลายเทา ➾ มือวางบนพ้ืน ➾ เก็บคาง
ชดิ อก ➾ ยกกน ➾ วางศีรษะบนพน้ื ➾ ดันเทา ➾ ดนั มอื ➾ มว นตัวหลงั
ดทังรนงต้นั ัวขสอว น3ก.าจรมงึ เว ปนนตัวคใําชตคอวาบมทแถ่ีขกูง็ แรง ความออนตวั และการทรงตวั แตะพนื้ ➾ กน แตะพ้ืน ➾ เทา แตะพืน้ ➾ ทรงตวั ➾ ยืนตัวตรง
กิจกรรมทาทาย
ใหน กั เรยี นทําแผนภาพสาธติ การปฏบิ ตั กิ ิจกรรมยดื หยนุ ขั้นพน้ื ฐาน คูมอื ครู 93
ใหปลอดภยั แลวออกมานาํ เสนอหนา ช้นั เรยี น
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. ครูอธิบายวิธกี ารปฏิบตั นิ ั่งงอเขา มวนหลงั ๒. นง่ั งอเขามวนหลัง 1
และหกสามเสา เขางอ โดยใหนกั เรียน 1 คน
ออกมาสาธติ มวี ธิ ีฝก ปฏบิ ัติ ดังน้ี
2. ใหน กั เรียนแบงกลมุ ตามเดิมเพ่ือฝก ปฏบิ ัติ ยนื หนั หลงั เขา หาเบาะ เอนตวั ไปขา งหลงั สง ตวั ใหม ว นจนไปขา งหนา ลุกขน้ึ ยนื ตรง
กิจกรรม แลว ยอ ตวั นง่ั ยองๆ โดยใหส ะโพก หลัง
บนเบาะ เหยียดแขน ศรี ษะสว นทา ยทอย
3. ครูอธบิ ายการปฏบิ ตั ลิ อเกวยี นและการตอ ตัว ทัง้ สองไปขา งหนา แตะพนื้ ตอ เนอ่ื งกนั ไป
แบบ 2 คน โดยใหน ักเรียนออกมาสาธิต ตามลําดบั
4. ใหนักเรยี นแบงกลุมตามเดิม เพ่อื ฝกปฏบิ ตั ิ
กจิ กรรมและเกบ็ เปนคะแนนกลมุ
๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ๗.
งอแขน ฝา มอื หงายขน้ึ ขา งบน เมอ่ื ฝามือสัมผสั กบั พ้ืนเบาะ เม่อื ฝาเทาเหยยี บพน้ื
ใหน ้ิวหวั แมมอื อยรู ะดับใบหู แลว ใหใชฝา มือดันพื้น แลว จงึ เหยยี ดแขนทง้ั สอง
กมศรี ษะใหคางชดิ อก ไปขางหนา
๓. หกสามเสา เขา งอ ๓.
มวี ิธีฝก ปฏบิ ัติ ดงั น้ี
๑. ๒.
กม ตัวลง วางมอื ท้งั สองขา ง ยอ แขนตํ่าลง พรอมกบั สปรงิ (Spring) เทา ทง้ั สองขน้ึ
แตะพน้ื ขา งหนา หา งกัน โนมตวั ไปขา งหนา วางศีรษะ พรอ มกับเขางอ ยกลําตวั
๑ ชวงไหล ลงบนเบาะใหลาํ้ ไปขา งหนา ตั้งตรง ใหน ํ้าหนักตวั อยบู น
ระหวางมือทัง้ สอง ทาํ มมุ แขนและศรี ษะ
๙๔ เปน รูปสามเหลีย่ มกับมือ
ทั้งสองขา ง
เกรด็ แนะครู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
ขอใดเปนลกั ษณะการวางมอื ของหกสามเสา
ครใู หน ักเรยี นสืบคน ขอ มลู ยดื หยนุ ขน้ั พนื้ ฐาน ดงั น้ี 1. 2.
• การทรงตัว 3. 4.
• การตอ ตวั วิเคราะหค าํ ตอบ การวางมือของหกสามเสาตองวางมือ
• ความคลองแคลว ทั้ง 2 ขา ง แตะพนื้ ขางหนาหางกัน 1 ชวงไหล เพื่อจะได
• ความออ นตวั วางศรี ษะทํามุมเปนสามเหลย่ี มกบั แขนท้ัง 2 ขาง เพือ่ ให
แลวใหนักเรยี นยกตัวอยา งกจิ กรรมที่ไมซ ้าํ กบั บทเรยี น เกดิ ความสมดลุ และทรงตัวอยูได ดังนั้น ขอ 1. จึงเปน
คาํ ตอบทถ่ี กู ตอง
นกั เรียนควรรู
1 น่งั งอเขา มวนหลงั วิธี : น่งั ยองๆ ➾ เก็บคางชดิ อก ➾ ยกมือไวขางหู
➾ เอนไปดา นหลัง ➾ กน แตะพน้ื ➾ หลังแตะพ้นื ➾ ทา ยทอยแตะพืน้ ➾
มือแตะพนื้ ➾ มอื ดนั พนื้ ➾ เหวย่ี งตวั ใหเ ทา แตะพ้นื ➾ ทรงตวั ➾ ยืนตวั ตรง
94 คมู ือครู
กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขา ใา จใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
Expand Expand
ขยายความเขา ใจ
๔. ลอ เกวียน1 1. ใหน กั เรียนแตละกลมุ ออกมาปฏิบัตกิ ิจกรรม
ยดื หยนุ ข้นั พนื้ ฐาน เพือ่ เกบ็ เปนคะแนน
มีวิธีฝกปฏบิ ัติ ดงั นี้
2. ใหน ักเรยี นทาํ กิจกรรมรวบยอดที่ 5.2
ในแบบวัดฯ สุขศกึ ษาฯ ป.5
ใชฝ า มอื ซา ยแตะพ้นื ผลกั มอื ซา ยขน้ึ จากพ้นื ใบงาน ✓ แบบวดั ฯ แบบฝกฯ
กางนว้ิ ออก ใหน ้วิ กอย ถายน้ําหนกั ตวั มาอกี มือหน่ึง
ช้เี ขาหาตัว และใหนว้ิ ชี้ พรอ มกบั พบั ตัวลงไปทาง สขุ ศึกษา ป.5 กิจกรรมรวบยอดท่ี 5.2
ช้ีไปทางดานขา ง พรอ มกับ ดา นขาง วางเทาที่เตะกอนลง แบบประเมินตัวชว้� ัด พ 3.1 ป.5/3
เตะขาขวาขนึ้ ไปขางบน สพู ืน้
ยืนตรงชูแขนทงั้ สองขน้ึ กจิ กรรมรวบยอดที่ ๕.๒
แบบประเมินตวั ชว้ี ดั พ ๓.๑ ป.๕/๓
ควบคุมการเคลื่อนไหวในเร่อื งการรับแรง การใชแ รง และความสมดุล
๑. ๒. ๓. ๔. ๕. ๖. ชุดท่ี ๑ ๒๐ คะแนน
ปฏบิ ัติกจิ กรรมการเคลอ่ื นไหวทกี่ ําหนด จากนัน้ ใหครปู ระเมนิ
การปฏบิ ตั ิกจิ กรรม ผลการประเมิน ทาทางทค่ี วรแกไข
ดมี าก ดี พอใช ปรบั ปรงุ
๑) การเดนิ เรว็
✓●……เ…ด…นิ …ก…า…ว…ข…า…ไป……ขา…ง…ห…น……า ด…ว…ย. …………. …………. …………. ………………. ……………………………………………………
……ค……วา…ม…เ…ร…ว็ อ……ยา… ง…ส…ม…า…ํ่ เ…ส…ม…อ….
……………………………………………………
เฉฉบลับย …………………………………………………. ……………………………………………………
…………………………………………………. ……………………………………………………
…………………………………………………. ……………………………………………………
๒) การวงิ่ ๕๐ เมตร
น่งั ทาเตรยี มว่ิง ✓●…………………………………………………. …………. …………. …………. ………………. ……………………………………………………
……ห……ล…งั …เส…น……เร…่ิม……………………….
●……เ…ม…อื่ …ไ…ด…ย…นิ …ส……ญั …ญ…า…ณ……………. ……………………………………………………
กาวขาซา ยไปขา งหนา ถีบขาท่อี ยดู า นหนา ขน้ึ ผลกั มอื อกี ขา งหนง่ึ ขน้ึ จากพนื้ ……ใ…ห…อ…อ…ก……วง่ิ…ใ…ห…เ…ร…ว็ …ท…่ีส…ุด………. ……………………………………………………
๑ กาว พรอ มกบั พลิกตัว วางมอื อีกขา งหน่ึงไปขนาน พรอมกับวางเทาอีกขางหนึ่ง
ไปทางเดยี วกนั กบั ขาทอี่ ยู กับมอื แรก แยกขาใหก วา ง ลงสูพ ื้น และอยูในทา ยนื ตรง ……เ…ป…น…ร…ะ…ย…ะ…ท…า…ง……๕…๐……เม…ต……ร. ……………………………………………………
ดานหลงั ทส่ี ุด ขาทงั้ สองเหยยี ดตึง
……………………………………………………
๓) การขวา งบอล
ขนึ้ อยกู บั ดลุ ยพนิ จิ ของครูผูสอน…………………………………………………. …………. …………. …………. ………………. ……………………………………………………
…………………………………………………. ……………………………………………………
…………………………………………………. ……………………………………………………
…………………………………………………. ……………………………………………………
…………………………………………………. ……………………………………………………
๕๖
¤ÇÒÁÃÙ¤Œ ʋ٠آÀÒ¾ 3. ใหน กั เรียนทํากิจกรรมการเรียนรู ตอนท่ี 1
คาํ ถามชวนคดิ
การปฏิบัติกิจกรรมยืดหยุนข้ันพ้ืนฐาน ควรวางเบาะใหหางจากฝาผนังหรือ
สิ่งกีดขวางอื่นๆ เพื่อปองกันอันตรายท่ีเกิดจากผูเลนเหวี่ยงแขนหรือขาไปถูกส่ิงตางๆ
เพราะอาจทาํ ใหไ ดร บั บาดเจบ็ ได
๙๕
กจิ กรรมสรา งเสรมิ เกรด็ แนะครู
ครใู หนกั เรยี นดูภาพกจิ กรรมยืดหยนุ ขั้นพ้ืนฐาน แลว นักเรยี นสามารถ ครแู นะนําใหนักเรียนสปรงิ ขอเทา ขา งทอ่ี ยูดานหนา เพอ่ื ใหม แี รงสงลาํ ตัวในทา
ปฏบิ ัติไดต รงกับภาพทค่ี รูใหดู หรอื สามารถอธบิ ายวิธีการปฏิบตั ิได ลอ เกวยี น และสปริงขอ มือเพือ่ สงลาํ ตวั ใหกลบั มาอยทู า เดมิ ได
และบอกวากิจกรรมนั้นใชหลักการเคล่ือนไหวอะไร
นักเรียนควรรู
1 ลอ เกวยี น ถกู ใชเ ปน ทวงทาในทาอะโครบาติก (Acrobatics) ของคาโปเอรา
(Capoeira) ซึง่ เปน ศลิ ปะรปู แบบหน่ึงของประเทศบราซลิ ทีเ่ กิดจากการผสมผสาน
ของการตอ สู การเตน ดนตรี ปรัชญา ซงึ่ ทาลอ เกวยี นจัดอยูในทา สวยงามของศิลปะ
ประเภทน้ี
คูม อื ครู 95
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล
Explore Explain Expand
Engage Evaluate Evaluate
ตรวจสอบผล
1. ครูตรวจกจิ กรรมรวบยอดท่ี 5.2 จากแบบวัดฯ ๕. การตอตวั แบบ ๒ คน ๓.
สขุ ศึกษาฯ ป.5
มีวธิ ฝี ก ปฏบิ ัติ ดังนี้
2. ครตู รวจความถกู ตอ งของการทาํ กิจกรรม
การเรยี นรู ๑. ๒.
3. ครูประเมินการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมยืดหยนุ
ข้ันพ้นื ฐานและประเมินการปฏิบัตกิ จิ กรรม
เปนกลมุ
หลกั ฐานแสดงผลการเรียนรู ใหผเู ลน คนแรกนั่งคกุ เขา ใหผ เู ลน อกี คนหนึง่ (ควรมี เมือ่ ไปยืนบนหลังแลว
แลว วางมือยันพื้น ใหเขา ขนาดตวั เลก็ กวาผูเปน ฐาน) ใหก างแขนออกทงั้ ๒ ขา ง
1. กจิ กรรมรวบยอดท่ี 5.2 ตงั้ ฉากกบั พนื้ แขนเหยยี ดตงึ ขึ้นไปยืนบนหลงั ของผเู ลน และยนื ทรงตัวอยบู นผูเ ลน
จากแบบวัดฯ สุขศึกษาฯ ป. 5 หลงั ขนานกับพ้ืน คนแรก คนแรก ๑๐ วนิ าที จึงลง
2. ผลประเมินการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมยืดหยุน
ขน้ั พ้ืนฐาน
¡¨Ô ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ
ตอนที่ ๑ คําถามชวนคิด
เขียนตอบคําถามตอ ไปน้ลี งในสมุด
๑) เม่ือนักเรียนไดปฏิบตั กิ ิจกรรมยืดหยนุ นกั เรยี นรูส ึกอยางไร
๒) การปฏิบตั ิกจิ กรรมยดื หยนุ ของนกั เรยี นดีหรอื ไม เพราะอะไร
๓) นกั เรยี นจะปรบั ปรุงการปฏิบัติกจิ กรรมยดื หยุนใหดีขนึ้ อยางไร
ตอนท่ี ๒ ชวนคดิ ชวนทํา
แบง กลมุ ฝกกิจกรรมยืดหยุนตามทเี่ รียนมา แลว ใหค รปู ระเมนิ ผล
ตอนที่ ๓ ผลงานสรางสรรค
แบงกลุม ใหแตละกลุมคิดกิจกรรมการตอตัวมากลุมละ ๒ กิจกรรม ซ่ึงการตอตัวน้ัน
ตองไมเกิน ๒ ช้ัน และไมเปนอันตราย โดยควรปรึกษากับครู จากนั้นออกมาแสดง
ใหเพอ่ื นๆ ดู
๙๖
เฉลย กจิ กรรมการเรียนรู ตอนท่ี 1 ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
คําถามชวนคิด การตอ ตวั ผูท อ่ี ยเู ปน ฐานควรมีลักษณะแบบใด จึงจะเปนการปฏบิ ตั ิ
กิจกรรมทปี่ ลอดภยั
1) แนวตอบ รูสึกสนกุ สนานทา ทาย 1. มนี ํ้าหนักนอย
2) แนวตอบ ดีปานกลาง เพราะยงั ขาดทักษะทดี่ ใี นการปฏิบตั ิ 2. มีความยดื หยนุ
3) แนวตอบ ปรบั ปรงุ โดยการฝก ฝนบอ ยๆ เมอื่ ไมเ ขา ใจจงึ สอบถามครู 3. มีความแขง็ แรง
4. มคี วามคลอ งแคลว
และปฏบิ ตั ใิ หค รดู ู เพอื่ ขอคาํ แนะนาํ วิเคราะหค ําตอบ การตอตัว เปนการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมโดยใหผูเลนตอตัว
ตอๆ กันตามระดบั ชน้ั ที่ตองการ ซึง่ ผทู ่อี ยดู า นลางสุดควรเปนผูทแ่ี ขง็ แรง
เกรด็ แนะครู ท่สี ดุ เพราะตองรับนา้ํ หนกั จากผูทอ่ี ยบู นชน้ั ถดั ๆ ไป เพื่อไมใหฐานลม
แลวทาํ ใหดานบนลม ตามไปดวย ดงั นน้ั ขอ 3. จงึ เปน คาํ ตอบทีถ่ กู
หลงั ปฏิบัติกิจกรรมเสรจ็ แลว ครูใหน ักเรยี นไปทําความสะอาดรา งกาย แตงกาย
ใหเ รยี บรอ ย ชวยกันจัดเกบ็ อปุ กรณ เรยี กรวมแถวฝก ระเบียบแถว สรุปผลการเรียน
ซึง่ ครคู วรใชคําพดู ชมเชยมากกวา ติ
96 คมู ือครู
กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain
Engage Expand Evaluate
เปา หมายการเรยี นรู
òº··èÕ สาระสาํ คัญ 1. จัดรูปแบบการเคล่ือนไหวแบบผสมผสานและ
กายบรหิ าร การเคลอ่ื นไหวรางกายใหเขา กับจงั หวะ ควบคุมตนเอง เมือ่ ใชทักษะการเคลอ่ื นไหว
ทาํ ใหผ ฝู กสามารถเคล่อื นไหวรางกาย ตามแบบทกี่ าํ หนด (มฐ. พ 3.1 ป.5/1)
¡¨Ô ¡ÃÃÁ¹ÓÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹ ใหส ัมพันธกนั และสามารถควบคุมการ
เคล่ือนไหวใหเขา กบั จังหวะได จึงทาํ ใหเ กดิ 2. แสดงทกั ษะกลไกในการปฏบิ ตั กิ จิ กรรมทาง
ความแขง็ แรงและเกิดความเพลิดเพลนิ กายและการเลนกีฬา (มฐ. พ 3.1 ป.5/4)
สมรรถนะของผูเรยี น
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกไ ขปญ หา
3. ความสามารถในการใชท ักษะชวี ิต
คุณลักษณะอันพึงประสงค
1. มีวินัย รับผิดชอบ
2. ใฝเรยี นรู
3. มุงมั่นในการทํางาน
กระตนุ ความสนใจ Engage
? ใหน กั เรยี นดภู าพ หนา 97 แลว บอกวา
กจิ กรรมท่เี ห็นในภาพ คอื กิจกรรมอะไร นกั เรยี น
¡¨Ô ¡ÃÃÁ·àèÕ Ë¹ç ã¹ÀÒ¾ ¤×͡Ԩ¡ÃÃÁÍÐäà เคยปฏิบตั หิ รือไม ถา เคยนักเรยี นรูสึกอยา งไรกับ
¹Ñ¡àÃÂÕ ¹à¤Â»¯ºÔ µÑ ËÔ ÃÍ× äÁ‹ ¶ŒÒà¤Â กจิ กรรมนี้
¹Ñ¡àÃÂÕ ¹ÃÙŒÊÖ¡ÍÂÒ‹ §äáºÑ ¡¨Ô ¡ÃÃÁ¹Õé
(นักเรียนตอบตามความเปน จริง)
๙๗
เกรด็ แนะครู
ครูจัดกระบวนการเรยี นรูโดยการใหนกั เรียนปฏิบตั ิ ดังน้ี
• สาธิตการปฏบิ ัติทากายบรหิ ารมอื เปลา ประกอบจงั หวะ
• ปฏิบัติทากายบรหิ ารมอื เปลาประกอบจงั หวะทก่ี ลมุ ของตนคิดข้ึน
จนเกดิ ความรูความเขาใจวา การเคลือ่ นไหวรา งกายใหเขากบั จงั หวะ เปนการ
ควบคมุ ตนเองในการเคลื่อนไหว ทําใหเกิดความแขง็ แรงและความสนกุ สนาน
คูมือครู 97
กระตนุ ความสนใจ สสาํ ํารรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explain Expand Evaluate
Engage Explore
สาํ รวจคน หา Explore
1. ใหน กั เรยี นแบง กลุม กลมุ ละเทา ๆ กัน การทํากายบริหารมือเปลาประกอบดนตรี เปนการออกกําลังกายที่นํา
แตละกลุม ศกึ ษาคน ควา เครอ่ื งดนตรี ทากายบริหารมือเปลามาประกอบดนตรี เพื่อสรางความสนุกสนานรื่นเริง
ที่ใหจงั หวะ จากนนั้ ใหแ ตล ะกลมุ เลอื ก ใหเพลดิ เพลนิ กับเสยี งเพลงในขณะออกกาํ ลงั กาย
เครอ่ื งดนตรีท่ีใหจังหวะมากลมุ ละ 2 - 3 ชิ้น
เพ่ือนาํ มาใหจ ังหวะประกอบการกายบริหาร ¡ÒºÃÔËÒÃÁÍ× à»ÅÒ‹ »ÃСͺ´¹µÃÕ
มือเปลา
2. ใหน กั เรยี นอบอุน รางกายกอนปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
“นักเรยี นเคยปฏบิ ัติกิจกรรมกายบรหิ ารมือเปลาประกอบดนตรหี รอื ไม
อยา งไร”
หลกั ในการฝกกายบริหารมอื เปลาประกอบดนตรี ควรปฏบิ ัติ ดังน้ี
๑. เริม่ จากทาที่งายไปหาทา ที่ยาก
๒. เริม่ จากทา ท่เี บาไปหาทาที่หนัก
๓. ใหอวยั วะทุกสว นของรา งกายไดเ คลื่อนไหว
ตัวอยา งทากายบรหิ ารประกอบดนตรี ใชท า ดังนี้
ทา เตรียม ยืนตรง มอื เทาเอว เทา แยกหา งเทากบั ชวงไหล ตามองตรง
ยืดอกขึน้ เล็กนอ ย จากนั้นฝกปฏิบตั ทิ าตา งๆ ดงั น้ี
ทา กายบรหิ าร จงั หวะดนตรี -
ตึง้ ต้ึง ตง้ึ
ทาท่ี ๑ บรหิ ารกลา มเนอ้ื คอ ๔
๑. สะบัดหนา ไปทางซาย ๑๒๓ ๘
๒. สะบดั หนากลับทาเตรยี ม ๔
๓. สะบดั หนาไปทางขวา ๕๖๗
๔. สะบัดหนากลับทาเตรียม
๕. กมศรี ษะ ตามองพ้นื ๑๒๓
๖. เงยศรี ษะข้ึนสทู า เตรยี ม
๗. เงยศีรษะไปทางดานหลงั
๘. ผงกศีรษะกลบั สทู า เตรียม
ทา ท่ี ๒ บรหิ ารแขน
๑. ยกแขนซา ยขึน้
๒. ลดแขนซา ยลง
๓. ยกแขนขวาขน้ึ
๔. ลดแขนขวาลง
๙๘ ๕. - ๘. ทาํ ซา้ํ ๑. - ๔.
เกรด็ แนะครู บูรณาการเช่ือมสาระ
ครูบรู ณาการความรูใ นสาระศิลปะ วิชาดนตรี - นาฏศิลป กบั สาระ
เคร่อื งดนตรีทีใ่ หจังหวะ เชน กลอง กลองยาว แทมบูรีน ฉิง่ ฉาบ กรับ ฆอ ง สุขศกึ ษาและพลศกึ ษา เร่อื งเครอื่ งดนตรีประกอบจงั หวะ โดยใหน กั เรียน
เปนตน ศึกษาคนควา ขอมูลเครอ่ื งดนตรีที่ใหจ งั หวะ แลว นาํ มาใหจ ังหวะในการฝก
กายบรหิ ารมือเปลาประกอบจงั หวะดนตรี
บรู ณาการอาเซียน
ครใู หน ักเรียนศกึ ษาคน ควา เร่อื ง การเตนบัดสลบ (Paslop) ของประเทศลาว
แลว นาํ มาฝก เตน และออกมานําเสนอหรือครูอาจนําวิดโี อการเตนบดั สลบมาให
นกั เรยี นดูเพ่ือฝก เตน ตาม
ครูอธบิ ายเพ่มิ เติมวา การเตน บัดสลบ คอื การเตนราํ หมูข องประเทศลาว
วิธีเตน เตนเปนแถวหลายๆ คน ทง้ั ชายและหญิง สวนมากจะเตน ในงานมงคล
หรืองานร่นื เริง
98 คมู ือครู
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
-
ทา กายบรหิ าร ตง้ึ จงั หวะดนตรี 1. ครูอธบิ ายการทํากายบรหิ ารมอื เปลาประกอบ
ตงึ้ ตง้ึ ดนตรี แลว สมุ เรยี กนกั เรียนใหออกมาสาธิต
ทา ที่ ๓ บรหิ ารกลา มเนอ้ื ลาํ ตวั ดา นขา ง ๑ ตวั อยา งทา กายบริหารประกอบดนตรี
๑. บดิ ลําตัวและสะบดั หนาไปทางซา ย ๑ ๒๓
๒. กลับสทู าเตรียม ๑ 2. ใหนักเรียนแตละกลมุ ปฏิบัติตามตวั อยา งทา
๓. บดิ ลาํ ตวั และสะบดั หนาไปทางขวา ๑ ๒๓ กายบรหิ ารประกอบดนตรีโดยใชเคร่อื งดนตรี
๔. กลบั สทู าเตรยี ม ทีใ่ หจ งั หวะ ทีก่ ลมุ ของนักเรยี นเลือกมาทํา
๕.- ๘. ทาํ ซา้ํ ๑.- ๔. สลบั ซา ยเปน ขวา ๒๓ จังหวะประกอบ
ทาท่ี ๔ บดารนหิ ขารา กงแลลามะดเนา อน้ื ลหําลตังวั ๒๓ ๔
๑. มือประสานกนั บนศีรษะ ยดื ตัวไป
๔
ทางซา ย
๒. กลบั สทู า เตรยี ม ๔
๓. ยดื ตัวไปทางขวา
๔. กลับสทู า เตรยี ม ๔
๕.- ๘. ทาํ ซาํ้ ๑.- ๔. สลบั ซา ยเปน ขวา
ทา ท่ี ๕ บรหิ ารเอว ๙๙
๑. บิดเอวไปทางซาย
๒. กลับสทู าเตรยี ม
๓. บดิ เอวไปทางขวา
๔. กลบั สูทา เตรยี ม
๕. - ๘. ทําซ้าํ ๑. - ๔. สลับซา ย
เปน ขวา
ทา ท่ี ๖ บรหิ ารขอสะโพกและขา
๑. ยกเทา ซา ยเหยยี ดไปขา งหนา
๒. กลบั สูทาเตรยี ม
๓. ยกเทาขวาเหยียดไปขางหนา
๔. กลบั สูทาเตรียม
๕. - ๘. ทาํ ซ้าํ ๑. - ๔. สลับซาย
เปนขวา
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT เกร็ดแนะครู
ขอ ใดเปน สง่ิ กาํ หนดการทาํ กายบริหารมอื เปลา ประกอบดนตรี
1. ทา กายบริหาร 2. เนื้อเพลง ครใู หน ักเรียนสบื คน กิจกรรมที่ใชด นตรปี ระกอบจังหวะ มาคนละ 1 ชนิด
3. ทาํ นอง 4. จงั หวะ ไมซ้ํากนั เขียนลงกระดาษและตกแตง ใหสวยงาม แลวนําสง ครู
วิเคราะหค าํ ตอบ จังหวะเปนส่ิงกาํ หนดการทาํ กายบริหารมอื เปลา • กจิ กรรมอะไร ภาพประกอบ
ประกอบดนตรี โดยผูปฏิบตั ติ อ งปฏิบัตใิ หต รงตามจังหวะ จึงจะทาํ ใหการทํา • ใชเครอ่ื งดนตรีหรอื เพลงอะไร
• ประโยชนท ี่ไดรับ
กายบรหิ ารเกิดความพรอมเพรียงกนั ดงั นนั้ ขอ 4. จงึ เปน คําตอบทถ่ี กู
มุม IT
ครูอาจดวู ดี ิทัศนเ รื่องพื้นฐานการเตน รํา จาก www.thaiteahers.tv.vdo2.
php?id=1843 ซง่ึ เปน เวบ็ ไซตข องโทรทศั นค รู โดยสาํ นกั งานคณะกรรมการอดุ มศกึ ษา
กระทรวงศกึ ษาธกิ าร ซงึ่ เปน การสาธติ รปู แบบการสอนทดี่ ี และสนบั สนนุ ครทู ต่ี อ งการ
แรงบันดาลใจ คําแนะนํา และแนวคดิ ใหมๆ ในการสอนเตน ใหกบั นักเรยี น
คมู ือครู 99
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา อธิบายความรู ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขา าใจใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain Evaluate
Engage Expand Expand
ขยายความเขา ใจ
1. ใหน ักเรยี นทาํ กิจกรรมรวบยอดที่ 5.3 ทากายบริหาร จงั หวะดนตรี
ในแบบวัดฯ สขุ ศึกษาฯ ป.5 ตง้ึ ตงึ้
ทาที่ ๗ บรหิ ารเขาและขา1
ใบงาน ✓แบบวดั ฯ แบบฝก ฯ ต้ึง ๒๓ -
๑. กาวเทา ซายไปขา งหนา และยอเขา
สขุ ศกึ ษา ป.5 กิจกรรมรวบยอดท่ี 5.3 ๒.ชกั เทาซา ยกลบั สูทาเตรยี ม ๑ ๒๓ ๔
แบบประเมนิ ตวั ช้ว� ดั พ 3.1 ป.5/1 ๓.ทาํ เหมือนขอ ๑. สลบั เปนเทาขวา ๑ ๒๓ ๔
๔.ชกั เทาขวากลบั สทู า เตรยี ม ๑ ๔
แบบประเมินผลการเรียนรูต ามตวั ชว้ี ดั ประจาํ หนวยที่ ๕ บทท่ี ๒ ๕.- ๘. ทาํ ซํา้ ๑. - ๔. ๒๓
๑ ๔
กิจกรรมรวบยอดท่ี ๕.๓ ทา ที่ ๘ บรหิ ารขอ เทาและนอง
๑.เขยง สนเทา ซายข้นึ จากพื้น
แบบประเมินตัวชว้ี ดั พ ๓.๑ ป.๕/๑
จัดรูปแบบการเคล่ือนไหวแบบผสมผสาน และควบคุมตนเองเมื่อใชทักษะการเคลื่อนไหว ใหส งู ที่สดุ
๒. วางสน เทาลงกบั พ้นื
ตามแบบที่กําหนด ๓. เขยง สน เทา ขวาขนึ้ จากพนื้ ใหส งู ทสี่ ดุ
๔. วางสนเทาลงกับพนื้
ชุดที่ ๑ ๑๐ คะแนน ๕. - ๘. ทําซ้ํา ๑. - ๔.
แบงกลุม แตละกลุมคิดทากายบริหารมือเปลาประกอบเพลงท่ีกลุมตนเองเลือก กลุมละ ๖ ทา
จากนั้นบนั ทกึ ขอมลู แลวใหครปู ระเมนิ ทาท่ี ๙ บริหารสว นขา
๑. ยอ เขาคางไวนบั ๑ - ๕
ชื่อเพลงทเ่ี ลอื ก มีจงั หวะ……………………………………………………………….. …………………………………………………….. ๒. กลบั สูทา เตรียม
๓. ยอ เขาคางไวนับ ๑ - ๕
๑๓๔๕ท๒.า.... กายบริหารท่ีใขชนึ้ อยูก บั ดุลยพบบบบบรรรรรินิหิหิหหิหิ ิจาาาาารรรรรขสสสสสอวววววงนนนนนครูผสู อนเฉฉบลบั ย……………………………………………………………….. ๔. กลับสทู าเตรียม
…………………………………………………………………………. ……………………………………………………………….. ๕. - ๘. ทาํ ซา้ํ ๑. - ๔.
…………………………………………………………………………. ………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………. ……………………………………………………………….. ทาที่ ๑๐ บรหิ ารขาและเพมิ่ อตั รา
…………………………………………………………………………. ……………………………………………………………….. การเตนของหวั ใจ
………………………………………………………………………….
๑. กระโดดตบมอื เหนอื ศรี ษะ
๖. บรหิ ารสว น…………………………………………………………………………. ……………………………………………………………….. กางขาออก
ตวั ชว้ี ดั พ ๓.๑ ขอ ๑ ๒. กลบั สทู า เตรียม
๓. กระโดดตบมอื เหนอื ศีรษะ
ñðไดคะแนน คะแนนเตม็
กางขาออก
เกณฑป ระเมนิ ชน้ิ งาน ๓ คะแนน ๔. กลบั สทู าเตรียม
พฤตกิ รรมการปฏบิ ัติ (๑๐ คะแนน) ๓ คะแนน ๕. - ๘. ทาํ ซ้ํา ๑. - ๔.
๒ คะแนน
• ความพรอ มเพรียง ๒ คะแนน ๑๐๐
• การเคลื่อนไหวเขา กับจงั หวะ
• ความสวยงามของทา
• ความคดิ สรา งสรรค
๖๐
2. ใหน กั เรียนทาํ กจิ กรรมการเรียนรูตอนท่ี 3
ผลงานสรา งสรรค
3. ใหนกั เรียนนาํ วัสดอุ ุปกรณท ่ไี มใชเครือ่ งดนตรี
มาใหจงั หวะในการกายบรหิ ารมือเปลาประกอบ
จังหวะ
เกร็ดแนะครู กจิ กรรมสรา งเสรมิ
ครอู าจใหน ักเรียนดัดแปลงวัสดอุ ุปกรณ เชน ไม ถงั กะละมงั ขวดพลาสตกิ ใหนกั เรยี นคดิ ทา กายบรหิ ารมือเปลา ประกอบจงั หวะ นอกเหนือจาก
ขวดแกว กระปอ ง เปน ตน เปนเคร่ืองดนตรโี ดยใชห ลกั การทําเคร่อื งดนตรี เชน บทเรยี น โดยคดิ ทากายบรหิ ารมา 5 ทา และบอกวา เปนการบริหารสวนใด
นํากระปอ งมาใสถัว่ เขียว นําขวดแกวมาใสน ้าํ ระดบั ตางๆ เพ่อื ใหเ กิดเสยี งสูง - ต่าํ ตวั อยางเชน
เปนตน
• บริหารกลา มเน้ือคอ
นกั เรียนควรรู • บริหารแขน
• บริหารกลามเน้ือลาํ ตัวดา นขา ง
1 บรหิ ารเขา และขา ขณะทีป่ ฏิบตั ใิ นจังหวะที่ 1 และ 3 ใหน ักเรียนกา วเทา • บริหารกลา มเน้อื ลาํ ตวั ดา นขา งและดานหลัง
ยาวๆ ไปขา งหนา และควรงอขาหลงั ในขณะเดียวกนั เทา หลงั ตองอยกู บั ที่ • บรหิ ารเอว
ไมเ คลื่อนไหว • บรหิ ารขอ สะโพก และขา
• บรหิ ารเขาและขา
100 คมู ือครู
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล
Engage Explore Explain Expand
Evaluate
ตรวจสอบผล
Evaluate
¡¨Ô ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ 1. ครปู ระเมินผลการแสดงทา กายบรหิ ารมือเปลา
ประกอบเพลง โดยพิจารณาจากความถกู ตอง
ตอนท่ี ๑ คาํ ถามชวนคดิ ความพรอ มเพรียง
เขยี นตอบคําถามตอไปนีล้ งในสมดุ
2. ครูตรวจการทาํ กิจกรรมการเรียนรูตอนที่ 3
๑) นักเรียนเคยรวมกิจกรรมกายบริหารประกอบจังหวะดนตรีหรือไม กิจกรรมนั้น 3. ครตู รวจการทํากจิ กรรมรวบยอดท่ี 5.3
มชี ื่อวา อะไร นักเรยี นรสู ึกอยา งไรเม่ือทํากจิ กรรมนน้ั
จากแบบวัดฯ สขุ ศกึ ษาฯ ป.5
๒) ในชีวิตประจําวัน นักเรียนเคยเห็นกิจกรรมกายบริหารประกอบจังหวะอะไรบาง
และเปน อยา งไร หลกั ฐานแสดงผลการเรียนรู
๓) นกั เรียนจะเลือกทาํ กิจกรรมกายบริหารประกอบจงั หวะแบบใด เพราะอะไร 1. การแสดงทา กายบริหารมอื เปลา ประกอบเพลง
2. กิจกรรมการเรยี นรูตอนท่ี 3
ตอนที่ ๒ ชวนคดิ ชวนทาํ (ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมขน้ึ อยูกับดลุ ยพนิ ิจของครูผูสอน)
แบง กลมุ ใหแ ตล ะกลมุ ฝก กจิ กรรมการเคลอ่ื นไหวประกอบดนตรตี ามทเ่ี รยี นมา แลว ออก
มาแสดงใหเ พอื่ นกลมุ อนื่ ดู จากน้นั ใหเ พอื่ นกลุมอ่นื ประเมิน แลวตอบคาํ ถามลงในสมดุ
กิจกรรม ผลการประเมิน ขอ เสนอแนะ
๑. ความถูกตอ ง ๔๓๒๑
๒. ความพรอมเพรียง
๓. ความคลอ งแคลว ............ ……….. ............ ............ ..................................................................................
๔. ความรับผิดชอบในการ
ตัวอยางแบบประเมนิ............ ……….. ............ ............ ..................................................................................
ทํางานกลุม
๕. ความสนกุ สนาน ............ ……….. ............ ............ ..................................................................................
............ ……….. ............ ............ ..................................................................................
............ ……….. ............ ............ ..................................................................................
ลงชอ่ื ……………………………………………………..ผปู ระเมนิ
เกณฑก ารใหค ะแนนยอย ๔ = ดมี าก ๓ = ดี ๒ = พอใช ๑ = ควรปรับปรงุ
เกณฑการใหคะแนนรวม ๑๖ ขึ้นไป = ดมี าก ๑๑ - ๑๕ = ดี ๖ - ๑๐ = พอใช ตา่ํ กวา ๖ = ควรปรับปรงุ
๑) นักเรียนคิดวา กลุมของตนแสดงการเคลื่อนไหวประกอบดนตรีอยูในเกณฑใด
๒) นกั เรยี นคิดวา กลมุ ของตนเองมขี อควรปรับปรงุ แกไขอยางไร
ตอนท่ี ๓ ผลงานสรา งสรรค (ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมขน้ึ อยกู บั ดลุ ยพนิ ิจของครผู สู อน)
แบงกลุม ใหแตล ะกลมุ เลอื กเพลงมา ๑ เพลง จากนัน้ ชว ยกันคดิ ทากายบรหิ ารประกอบ
เพลงทก่ี ลุมของตนเลอื ก ออกมาแสดงใหเพ่ือนดู และใหเ พ่ือนกลมุ อื่นประเมนิ ๑๐๑
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT เกรด็ แนะครู
ถานกั เรียนจะทาํ ทา กายบริหารมือเปลาประกอบจังหวะ นักเรียนตอ ง ครสู งเสริมใหนกั เรียนนําความรูทีไ่ ดจ ากการเรียนไปประยุกตใชก จิ กรรมท่เี รียน
ปฏบิ ัตขิ ัน้ ตอนใด เปนขนั้ ตอนแรก แลวครอู าจจดั การประกวด เพื่อจูงใจนกั เรยี นใหรูสึกสนใจทํากิจกรรม
1. รูจกั เครื่องดนตรี เฉลย กิจกรรมการเรียนรู ตอนที่ 1
2. ดสู าธติ วธิ ปี ฏบิ ตั ิ คาํ ถามชวนคิด
3. ฟงจังหวะใหเขาใจ
4. จบั คูก บั เพอื่ นกอนฝก ปฏิบัติ 1) แนวตอบ เคย/ กจิ กรรมน้ันคอื การเตน แอโรบิก/ เมื่อปฏิบัติแลว รสู กึ
วิเคราะหค าํ ตอบ การทําทา กายบรหิ ารมือเปลา ประกอบจังหวะ จะตอง เหนือ่ ยและสนกุ สนาน
รูจังหวะดนตรีกอน เพ่ือใหส ามารถปฏบิ ัตทิ าทางไดตรงตามจงั หวะ ทําให
2) แนวตอบ การเตนลีลาศ เปนการเตน ตามจงั หวะดนตรที าํ นองตา งๆ ซงึ่ มี
การปฏบิ ัตเิ กดิ ความพรอมเพรียงและปลอดภัย ดงั น้นั ขอ 3. จึงเปน ลกั ษณะเฉพาะและมลี ีลาทส่ี วยงาม
คาํ ตอบที่ถูก
3) แนวตอบ เลอื กการเตนแอโรบิก เพราะทาํ ไดงาย และสนกุ สนาน
คูมอื ครู 101
กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain Expand Evaluate
Engage Engage
กระตนุ ความสนใจ
1. ใหน ักเรยี นดูภาพ แลว สืบคนขอ มูลวา กฬี า ö˹Nj ¡ÒÃàÃչ̷٠èÕ
ที่เห็นในภาพเปน กฬี าชนดิ ใด และตอ งใชทักษะ ¡¨Ô ¡ÃÃÁ·Ò§¡ÒÂáÅСÌÕ Ò
ใดในการเลน กฬี าชนิดน้ี แลวผลดั กนั ออกมา
นาํ เสนอขอ มูลหนาชน้ั เรยี น เปา หมายการเรียนรูป้ ระจ�าหน่วยที่ ๖
2. ครูสอบถามนักเรยี นวา เมอื่ เรยี นจบหนว่ ยน ้ี ผเู้ รยี นจะมคี วามรคู้ วามสามารถตอ่ ไปน้ี
• นกั เรยี นเคยเลน กฬี าชนดิ ใดบาง ๑. เลน่ เกมน�าไปสูก่ ีฬาทเี่ ลอื กและกิจกรรมการเคลอ่ื นไหว
(ตอบตามความเปนจริง)
• กฬี าที่นักเรยี นเคยเลนมีวธิ ีเลนอยา งไร แบบผลดั (มฐ. พ ๓.๑ ป.๕/๒)
(ตอบตามความเปนจริง) ๒. แสดงทักษะกลไกในการปฏิบตั ิกจิ กรรมทางกาย
• นักเรยี นเคยดูการแขงขันกฬี าหรือไม และเล่นกีฬา (มฐ. พ ๓.๑ ป.๕/๔)
เพราะอะไร ๓. เ ลน่ กฬี าไทยและกฬี าสากล ประเภทบคุ คลและประเภททมี
(ตอบตามความเปนจรงิ )
อย่างละ ๑ ชนดิ (มฐ. พ ๓.๑ ป.๕/๕)
๔. อธบิ ายหลกั การและเขา้ รว่ มกิจกรรมนนั ทนาการ
อย่างน้อย ๑ กจิ กรรม (มฐ. พ ๓.๑ ป.๕/๖)
๕. ออกก�าลงั กายอย่างมีรปู แบบ เล่นเกมที่ใช้ทักษะการคิด
และตดั สินใจ (มฐ. พ ๓.๒ ป.๕/๑)
๖. เล่นกฬี าทต่ี นเองชอบอยา่ งสมา่� เสมอ โดยสรา้ งทางเลือก
ในวธิ ีปฏบิ ัตขิ องตนเองอย่างหลากหลาย และมนี �้าใจ
นักกีฬา (มฐ. พ ๓.๒ ป.๕/๒)
๗. ปฏบิ ตั ติ ามกฎ กตกิ าการเลน่ เกม กฬี าไทยและกฬี าสากล
ตามชนดิ กฬี าทเ่ี ล่น (มฐ. พ ๓.๒ ป.๕/๓)
๘. ปฏบิ ัตติ นตามสิทธขิ องตนเอง ไม่ละเมดิ สิทธผิ อู้ น่ื
และยอมรับในความแตกต่างระหว่างบุคคลในการเล่นเกม
และกีฬาไทย กฬี าสากล (มฐ. พ ๓.๒ ป.๕/๔)
๙. ทดสอบและปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกายตามผลการ
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย (มฐ. พ ๔.๑ ป.๕/๕)
๑๐. ปฏบิ ตั ติ นเพอ่ื ปอ้ งกนั อันตรายจากการเลน่ กฬี า
(มฐ. พ ๕.๑ ป.๕/๕)
เกร็ดแนะครู
ใหน ักเรียนสบื คน ขอ มูลหลกั การออกกาํ ลังกาย กีฬาไทย และกฬี าสากล
มาคนละ 1 ชนิด จากนนั้ ออกมารายงานทห่ี นา ชั้น
ครูอาจเปดวดี ิทศั นก ารแขง ขนั กฬี าใหนกั เรยี นดู แลวสังเกตพฤติกรรม
ขณะดูกฬี าของนกั เรียน จากนั้นครสู นทนากบั นักเรยี นเกี่ยวกบั กีฬาท่ีดู เชน
• กฬี าน้คี ือกฬี าอะไร
• นักเรยี นรจู ักนักกีฬาชนดิ นีห้ รือไม
• นกั เรยี นชอบกีฬาชนดิ นีห้ รอื ไม เพราะอะไร
102 คมู อื ครู
กกรระตะตนุ Eุนnคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สาํ รวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain
Engage Expand Evaluate
เปา หมายการเรยี นรู
ñº··Õè สาระสา� คัญ 1. เลนเกมนําไปสูกฬี าท่ีเลอื กและกิจกรรม
เกมและกจิ กรรม การเลน่ เกมและกจิ กรรมทางกาย ช่วย การเคลื่อนไหวแบบผลัด (มฐ. พ 3.1 ป.5/2)
ทางกาย สง่ เสรมิ ทกั ษะการเคลอื่ นไหว ทกั ษะความคดิ
รจู้ กั สทิ ธขิ องตนเองและสทิ ธขิ องผอู้ น่ื ในการ 2. แสดงทักษะกลไกการปฏิบัติกิจกรรมทางกาย
¡¨Ô ¡ÃÃÁ¹ÓÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹ เลน่ เกมและกจิ กรรมทางกาย และสามารถ และเลนกีฬา (มฐ. พ 3.1 ป.5/4)
ทา� กจิ กรรมรว่ มกบั บคุ คลทม่ี คี วามแตกตา่ ง
กนั ได ้ ทา� ใหเ้ กดิ ความสนกุ สนาน และปลกู ฝงั 3. ออกกาํ ลงั กายอยา งมรี ปู แบบ และเลน เกมทใ่ี ช
พฤติกรรมในการท�างานร่วมกับผอู้ น่ื ทกั ษะการคดิ และตดั สนิ ใจ (มฐ. พ 3.2 ป.5/1)
4. ปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ าการเลน เกม กฬี าไทย
และกีฬาสากล ตามชนิดกีฬาที่เลน
(มฐ. พ 3.2 ป.5/3)
5. ปฏิบัติตนตามสิทธิของตนเอง ไมละเมิดสิทธิ
ผูอ่ืนและยอมรับในความแตกตางระหวาง
บคุ คลในการเลน เกม และกฬี าไทย กฬี าสากล
(มฐ. พ 3.2 ป.5/4)
สมรรถนะของผเู รียน
1. ความสามารถในการคิด
2. ความสามารถในการแกปญ หา
3. ความสามารถในการใชท ักษะชีวติ
คุณลกั ษณะอันพึงประสงค
1. มีวินยั รับผดิ ชอบ
2. ใฝเ รียนรู
3. มงุ ม่ันในการทาํ งาน
? กระตนุ ความสนใจ Engage
¹Ñ¡àÃÕ¹¤Ô´Ç‹Ò ¡¨Ô ¡ÃÃÁã¹ÀÒ¾ ใหนักเรียนดูภาพ หนา 103 แลวชวยกันบอก
໚¹¡Ô¨¡ÃÃÁÍÐäà áÅÐ㪷Œ ¡Ñ ÉÐã´ºŒÒ§ วากิจกรรมในภาพเปนกิจกรรมอะไร และใชทักษะ
ใดบา ง
10๓
(ตอบ กจิ กรรมในภาพ คอื เกมชนไก ตอ งใช
ความแขง็ แรงในการชน และการทรงตวั ไมใ หล ม
เมอ่ื ถกู ชน และตอ งใชไ หวพรบิ ในการหาจังหวะ
เขาชนคตู อ ส)ู
เกรด็ แนะครู
ครูจดั กระบวนการเรียนรโู ดยการใหนักเรยี นปฏบิ ัติ ดังนี้
• ตั้งคาํ ถามใหนกั เรียนตอบ และสรปุ
• ปฏบิ ตั ิกจิ กรรมกลมุ โดยรวมกันคิดเกมตามขอกาํ หนด
• ปฏบิ ัติกจิ กรรม โดยใหนักเรียนเลนเกมตามกติกา
• สืบคนขอมลู การละเลน พน้ื เมืองของประเทศอาเซยี น
จนเกิดเปนความรคู วามเขาใจวา การเลนเกมและกิจกรรมทางกายชวยสงเสรมิ
ทักษะการคดิ และการตดั สินใจ ฝกทกั ษะทางกฬี า และสรางเสริมความสามคั คี
คูม อื ครู 103
กระตนุ ความสนใจ สสาํ ํารรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explain Expand Evaluate
Engage Explore
สาํ รวจคน หา Explore
1. ครถู ามนักเรียน แลว ใหน ักเรยี นตอบอยาง การออกก�าลังกาย หมายถึง การเคล่ือนไหวร่างกายหรือการกระตุ้น
อสิ ระวา ให้สว่ นต่างๆ ของรา่ งกายทา� งานมากกว่าภาวะปกตอิ ย่างมีแบบแผน โดยค�านงึ
• นักเรยี นออกกําลังกายดวยวธิ ใี ด ถงึ ความเหมาะสมของเพศ วัย และสภาพร่างกายของแตล่ ะบคุ คล
• นกั เรียนมีหลักอยางไรในการเลือก การออกก�าลังกายจะช่วยส่งเสริมความแข็งแรงของกล้ามเนื้อและระบบ
ออกกําลงั กาย ไหลเวียนโลหติ รวมทง้ั พัฒนาทักษะทางกฬี า การออกก�าลงั กายอยา่ งสม�า่ เสมอ
จะเสริมสร้างระบบภูมิคุ้มกัน ช่วยป้องกันโรคต่างๆ และส่งผลให้มีพัฒนาการ
2. ครสู งั เกตคาํ ตอบของนักเรยี น และเลือกคําตอบ ด้านอารมณ์ สังคมและสติปัญญา และเราควรเลือกกิจกรรมการออกก�าลังกาย
ทีน่ า สนใจเขียนบนกระดานดาํ โดยไมโ ตแยง หรอื กฬี าทีต่ นเองชอบและถนดั
วาเปนคาํ ตอบทถ่ี ูกหรอื ผดิ (คาํ ตอบของ
นกั เรียนมคี วามหลากหลาย และความคดิ ๑ หลกั การออกกำาลงั กาย
สรา งสรรค)
การออกก�าลังกายท่ีถูกต้องจะท�าให้ร่างกายแข็งแรง มีประสิทธิภาพ
3. ครูสรุปคําตอบของนักเรยี น และอธบิ ายความรู ในการทา� งาน และมคี วามปลอดภยั จากการออกก�าลงั กายได้ การออกกา� ลงั กาย
เพิ่มเติมหลักการออกกาํ ลังกาย ท่ถี ูกตอ้ งมหี ลักดังน้ี
๑. เลอื กกจิ กรรมใหเ้ หมาะสมกบั วยั ตวั อยา่ งเชน่ เดก็ ควรเลอื กกจิ กรรม
4. ใหน กั เรยี นเขยี นสรปุ หลกั การเลอื กออกกาํ ลงั กาย ทเี่ สรมิ สรา้ งทกั ษะการเคลอื่ นไหว และการเลน่ เปน็ ทมี ผสู้ งู อายุ ควรเลอื กกจิ กรรม
ของนักเรยี นในกระดาษ แลว สง ครู ท่ีไม่หนกั๒จ. นกเกิจนิ กไรปรมเทช่น่ีเลือเดกินควรรา� ทไ�าทใ้เหก้เก๊ กิดเปคน็วาตม้นเหน็ดเหน่ือยพอ1ที่จะท�าให้หัวใจ
• การออกกาํ ลงั กายทน่ี ักเรยี นเลือก เตน้ เร็วขนึ้ เช่น การวิง่ การกระโดดติดตอ่ กนั เปน็ ต้น
• หลักการเลอื กออกกําลังกาย ๓. อบอนุ่ รา่ งกาย(Warmup) กอ่ นออกกา� ลงั กายทกุ ครง้ั นาน ๕- ๑๐ นาที
• ประโยชนที่ไดรบั จากการออกกําลงั กาย ๔. เลอื กออกก�าลังกายเบาๆ กอ่ นเพ่มิ เป็นกจิ กรรมหนักๆ เชน่ การวง่ิ
ตามหลกั การเลอื ก ระยะทาง ๑ กม. แลว้ จงึ เพมิ่ ระยะทาง เปน็ ตน้
๕. ออกกา� ลงั กายใหค้ รบทกุ สว่ นของรา่ งกายอยา่ งสมดลุ เชน่ การวา่ ยนา้�
เป็นต้น
๖. เมอื่ ออกกา� ลงั กายเสรจ็ แล้ว ควรผอ่ นคลายกล้ามเนื้อ (Cool down)
ใหร้ ่างกายกลับสภู่ าวะปกติ
๗. ออกกา� ลงั อยา่ งสมา่� เสมออยา่ งนอ้ ยสปั ดาหล์ ะ ๓ ครง้ั แตล่ ะครง้ั นาน
104อยา่ งนอ้ ย ๓๐ นาที
นกั เรยี นควรรู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
การออกกําลงั กายทุกวนั เปนผลดหี รอื ไม อยา งไร
1 เหนด็ เหนื่อยพอ ผูออกกาํ ลงั กายสามารถสงั เกตความรสู ึกเหนือ่ ยจากการ แนวตอบ การออกกาํ ลงั กายเปน ผลดตี อ รา งกาย เราควรออกกาํ ลงั กายดว ย
ออกกําลงั กายได ดังน้ี ความพอดี คอื ไมม ากหรอื นอ ยเกนิ ไป โดยเราควรออกกาํ ลงั กายอยา งนอ ย
สปั ดาหล ะ 2 - 3 ครง้ั ครงั้ ละประมาณ 20 - 30 นาที และออกกาํ ลงั กายพอท่ี
• ออกกาํ ลังกายระดับหนกั หมายถงึ ออกกาํ ลังกายจนรูสกึ เหนอ่ื ยมาก จะทําใหหวั ใจเตนเร็วข้ึน และมเี หง่อื ออก ซ่งึ ใน 1 สัปดาห เราควรมเี วลาให
โดยหายใจแรงและเรว็ หรอื หอบขณะออกกาํ ลงั กาย ไมสามารถพดู คยุ กบั รางกายไดพ กั ผอ นดวย ทั้งนเี้ พื่อใหรางกายไดซ อมแซมสวนที่สกึ หรอ จึงจะ
คนขา งเคียงไดจ นจบประโยค ทาํ ใหร างกายของเราแขง็ แรงและมีสุขภาพทด่ี ี
• ออกกาํ ลังกายระดับปานกลาง หมายถงึ การออกกาํ ลงั กายหรือออกแรงจน
ทําใหร สู ึกคอ นขา งเหนอื่ ยหรือเหน่อื ยกวา ปกติพอควร โดยหายใจเร็วกวา
ปกติ เลก็ นอ ย หรอื หายใจกระชัน้ ข้ึนไมถงึ กับหอบ หรือขณะออกกําลงั กาย
หรอื ออกแรงยังสามารถพดู คยุ กบั คนขางเคียงไดจ นจบประโยคและรเู รือ่ ง
• ออกกาํ ลังกายระดับนอ ย หมายถึง การออกกําลงั กายหรือออกแรงนอ ย
ไมร สู ึกเหนด็ เหนอื่ ยมากกวาปกติ
104 คูม ือครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
๒ รูปแบบการออกกาำ ลังกาย 1. ครูถามนกั เรียน แลว ใหน ักเรยี นแสดงความคดิ
การออกก�าลงั กายแบ่งออกเป็น ๒ ลกั ษณะ ดงั นี้ เหน็ อยางอิสระ
๑. การออกก�าลงั กายแบบแอโรบกิ (Aerobic Exercise) • นักเรียนคิดวา การออกกาํ ลงั กายมรี ูปแบบ
เปน็ การออกกา� ลงั กายทใี่ ชแ้ กส๊ ออกซเิ จน(Oxygen) ตลอดเวลา โดยอาศยั ในการออกกาํ ลงั กายหรือไม อยา งไร
การท�างานท่ีติดต่อกันของกล้ามเน้ืออย่างสม่�าเสมอ แแลละระะเบปบ็นไรหะยลเะวเวียลนาโลนหานิต1
จะท�าให้เพ่ิมประสิทธิภาพการท�างานของหัวใจ ปอด 2. ครอู ธบิ ายความรเู พมิ่ เตมิ รปู แบบการออกกาํ ลงั กาย
โดยหัวใจจะเต้นเร็วขึ้น เพื่อให้ได้ปริมาณอากาศมากท่ีสุด สูบฉีดเลือดแรงข้ึน 3. ครอู ธบิ ายความรเู พมิ่ เตมิ ขอ แนะนาํ สาํ หรับการ
เลือดในร่างกายจึงมีการไหลเวียนมากขึ้น แก๊สออกซิเจนจึงถูกกระจายไปยัง
สว่ นตา่ งๆ ของร่างกายเพิม่ ข้ึน กจิ กรรมท่ีใชใ้ นการออกก�าลังกายแบบแอโรบิก ออกกําลงั กาย
มีหลายชนิด เช่น การวิ่งเหยาะๆ การว่ายน�้า การเตน้ แอโรบกิ เปน็ ตน้ • ออกกาํ ลงั กายเมื่อรา งกายมสี ภาวะปกติ ไม
๒. การออกก�าลงั กายแบบแอนแอโรบิก (Anaerobic Exercise)
เป็นการออกก�าลังกายที่ใช้พลังงานแบบไม่ใช้แก๊สออกซิเจน เมื่อฝึก เจ็บปว ย ไมบ าดเจบ็ หรือสําหรบั ผูหญงิ ทีม่ ี
เป็นประจ�าจะมีผลต่อการเพ่ิมขนาดกล้ามเน้ิือ ท�าให้กล้ามเนื้อมีความแข็งแรง ประจําเดือน ควรพกั หรอื ใหรา งกายเปน ปกติ
มากขึ้น แต่มีผลน้อยกว่าในการเพิ่มสมรรถภาพของระบบหายใจ และระบบ กอ น
ไหลเวียนโลหิต ส�าหรับผู้ที่เป็นโรคหัวใจ หรือโรคความดันโลหิตสูง ไม่ควร • ไมค วรออกกําลังกายหลงั กินอาหารอิ่มใหมๆ
ออกก�าลังกายในลักษณะนี้ เพราะเมื่อมีการเกร็งกล้ามเนื้อ จะท�าให้หัวใจ เพราะอาจจะทาํ ใหปวดทอง คลน่ื ไส
ท�างานเพิ่มข้ึน พร้อมๆ กับความดันโลหิตสูงขึ้น อาจเป็นอันตรายต่อชีวิตได้ อาเจียน จุกเสียด หรอื เปนลมได
การออกก�าลังกายลักษณะนี้ จึงเหมาะกับนักกีฬา และผู้ที่ไม่เป็นโรคดังกล่าว • ดื่มนา้ํ ใหเ พยี งพอตอ รา งกาย เพ่อื ปองกัน
กจิ กรรมท่ีใชใ้ นการออกกา� ลงั กายแบบแอนแอโรบกิ มหี ลายชนดิ เชน่ การออกแรง การสูญเสียเหงอ่ื
• หลกี เลยี่ งการออกกาํ ลงั กายในทท่ี ม่ี อี ากาศรอ น
ควรออกกาํ ลงั กายในสภาพอากาศทพ่ี อเหมาะ
และมอี ากาศถายเทไดส ะดวก
• สวมเส้อื ผา ที่รดั กมุ ไมค บั หรอื หลวมเกนิ ไป
และใสรองเทา ทเี่ หมาะสมกับกฬี า
ในแตล ะประเภท
ดนั กา� แพง การออกแรงบบี วัตถุ การว่ิงระยะสั้น การกระโดดไกล การทุม่ น�้าหนกั
เปน็ ตน้
ในวยั ของนกั เรยี น ควรเลอื กกจิ กรรมการออกกา� ลงั กายทเ่ี สรมิ สรา้ งทกั ษะ
การเคล่ือนไหวรา่ งกาย การเล่นเกมเป็นทีม การเล่นกฬี าเปน็ ทมี จงึ จะเกดิ ความ
สนุกสนาน และมรี า่ งกายท่ีสมบูรณ์ แข็งแรง มกี ารเจรญิ เตบิ โต และพัฒนาการ
ทสี่ มวัย กิจกรรมที่นักเรยี นควรใชใ้ นการออกกา� ลังกาย เช่น การเล่นเกมตา่ งๆ
การเลน่ กีฬา การกายบริหาร เป็นตน้
105
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT นกั เรยี นควรรู
กจิ กรรมใดมีรปู แบบการออกกําลงั กายเหมอื นการวายน้าํ
1. การกระโดดไกล 2. การวิ่ง 50 เมตร 1 เพม่ิ ประสิทธภิ าพการทาํ งานของหวั ใจ ปอด และระบบไหลเวยี นโลหิต
3. การเลน แบดมินตัน 4. การเตน ประกอบเพลง การออกกาํ ลงั กาย ที่ทาํ ใหหัวใจเตน (ชีพจร) มีคาระหวา ง 60 - 80 % ของอัตรา
การเตน สงู สดุ ของหวั ใจ ซ่ึงอตั ราการเตนของหวั ใจสงู สดุ = 220 - อายุ (ป)
วิเคราะหค ําตอบ การวายนํ้าเปนการออกกําลงั กายแบบแอโรบกิ คอื ตวั อยา ง เรามอี ายุ 11 ป มีอตั ราการเตน ของหวั ใจสูงสุดเทา ไร
รา งกายไดเ คลอื่ นไหวครบทุกสัดสวนเปน เวลานาน หวั ใจจึงมีการสบู ฉดี เลอื ด อตั ราการเตนของหัวใจสงู สุด 220 - 11 = 209 ครง้ั ตอ นาที
เพ่มิ มากข้นึ และรา งกายมกี ารใชแกส ออกซิเจนมากข้ึน จงึ ชวยเพิ่ม หัวใจเตน 60 - 80 % คอื 209 x 60 = 125.4
ประสทิ ธภิ าพการทํางานของหัวใจ ปอด และระบบไหลเวยี นโลหติ การ
กระโดดไกล การวง่ิ 50 เมตร และการเตน ประกอบเพลง เปน การออกกาํ ลัง 209 x 80 = 167.2
กายแบบแอนแอโรบกิ คอื รา งกายเคล่ือนไหวแคช ั่วขณะหนึง่ หวั ใจไมได ดังน้นั การออกกําลังกายทจ่ี ะกอใหเกดิ ประโยชนต อหวั ใจและปอด คอื 125 - 167
สบู ฉดี เลอื ดเพิ่มขนึ้ และรา งกายใชแ กสออกซเิ จนในระดับปกติ จึงไมช วยเพ่มิ คร้ังตอ นาที
ประสทิ ธิภาพการทาํ งานของระบบหายใจ สว นการเลน แบดมนิ ตนั รา งกายได
เคล่อื นไหวเปน เวลานาน มกี ารสูบฉดี เลอื ด และใชแกสออกซิเจนเพม่ิ ขึน้ คมู ือครู 105
ซ่งึ เหมอื นกบั การวายนํา้ ดังนั้น ขอ 3. จงึ เปนคาํ ตอบทถี่ กู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. กอนเลนเกม ครอู ธิบายเรื่องสิทธิและความ ó ÊÔ·¸ÔáÅФÇÒÁᵡµ‹Ò§ÃÐËNjҧº¤Ø ¤Å
แตกตา งระหวางบุคคลในการเลนเกมและกฬี า
ใหนกั เรียนเขา ใจ 㹡ÒÃàÅ‹¹à¡ÁáÅСÌÕ Ò
2. ครถู ามนกั เรยี นแตละคนวาจากหลกั การ ในการเล่นเกมและกีฬาจะมีกฎ กติกาในการเล่น ผู้เล่นต้องปฏิบัติตาม
ออกกําลังกาย รปู แบบการออกกาํ ลงั กาย กฎ กตกิ าการเล่นเกม หรือการเลน่ กฬี าในสว่ นท่ีตนเองปฏบิ ตั ิ และเคารพการ
และสิทธแิ ละความแตกตา งระหวางบคุ คล เล่นในสว่ นของผู้อ่ืน ไม่ละเมิดหรอื ท�าผดิ กฎ กติกา จงึ จะทา� ใหก้ ารเลน่ เกมหรอื
ในการเลน เกมและกฬี า นักเรียนจะเลือก เลน่ กฬี าเกิดความสนุกสนาน และทา� ใหเ้ กดิ ความรกั ความสามัคคีตอ่ กัน
ออกกําลงั กายชนดิ ใด เพราะอะไร นอกจากน ี้ เราตอ้ งคา� นงึ ถงึ ความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คล มคี วามสามารถ
ในการเล่นเกมและการเล่นกีฬาท่ีแตกต่างกัน เราควรค�านึงถึงความแตกต่าง
3. ครถู ามคาํ ถามใหน ักเรยี นแสดงความคดิ เหน็ ระหวา่ งบ๑คุ. คอลา ยด1 ุงัแนตี้ ล่ ะวยั จะมคี วามสนใจในการเลน่ เกมและเลน่ กฬี าทแ่ี ตกตา่ งกนั
อยา งอสิ ระ วยั ของนกั เรยี นจะสนใจการเลน่ เปน็ ทมี และกจิ กรรมทเี่ คลอื่ นไหวรา่ งกายไดม้ าก
• ถา นักเรียนเลนเกมหรอื กฬี าแลวเปน ฝายแพ
นักเรยี นจะทาํ อยา งไร ๒. เพศ การเล่นเกมและเล่นกีฬา โดยทั่วไปเพศชายและเพศหญิง
• ถานกั เรียนเลน เกมหรอื กีฬาแลวเปนฝา ยชนะ สามารถเลน่ ไดเ้ หมือนกัน
นกั เรยี นจะทาํ อยา งไร
๓. ร่างกาย แต่ละคนมีร่างกายไม่เหมือนกัน ซ่ึงขึ้นอยู่กับกรรมพันธุ์
4. ครอู ธบิ ายความรูเพม่ิ เติมความมนี ํ้าใจเปน บางคนสงู บางคนเตยี้ บางคนอว้ น บางคนผอม สง่ ผลตอ่ การเลน่ เกมหรอื เลน่ กฬี า
นกั กฬี า บางชนดิ เชน่ การเลน่ บาสเกตบอล คนสงู จะไดเ้ ปรยี บมากกวา่ คนเตย้ี การตอ่ ตวั
คนรูปร่างเล็กควรอยู่บนยอด เปน็ ต้น
๔. ความถนัด แต่ละคนย่อมมีความถนัดแตกต่างกัน บางคนสามารถ
เล่นกีฬาได้ดีมาก หรือท่ีเรียกว่า พรสวรรค์ บางคนอาจจะเคล่ือนไหวร่างกาย
ได้ไมด่ ี แตส่ ามารถวางแผนการเล่นไดด้ ี เป็นตน้
เมอ่ื เราเขา้ ใจสทิ ธแิ ละความแตกตา่ งระหวา่ งบคุ คลแล้ว สง่ิ สดุ ท้ายที่เรา
ควรมี คือ ความมีน้า� ใจเปน็ นักกฬี า คือ
รูแ้ พ ้ คอื รจู้ กั ยอมรบั ในความสามารถของตนวา่ ไมไ่ ดท้ ดั เทยี มกบั คแู่ ขง่
รู้ชนะ คือ เมอ่ื มคี วามสามารถเหนอื คแู่ ขง่ ไมค่ วรแสดงกริ ยิ าเยย้ หยนั
ดูถูก หรอื เหยียดหยาม
รูอ้ ภยั คอื ยอมรับความผดิ พลาดท่ีอาจเกิดขน้ึ
10๖
เกร็ดแนะครู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT เช่ียวชาญชงิ ชยั ไมยนยอ
“พวกเรานกั กีฬาใจกลาหาญ
ครนู ําเพลงกราวกฬี ามาใหนกั เรยี นฟง แลวใหนกั เรยี นวิเคราะหเน้อื เพลงวา คราวชนะรกุ ใหญไ มร ีรอ คราวแพกไ็ มท อ กดั ฟนทน”
มคี วามหมายอยา งไร มีประโยชนต อ การเลน เกมหรอื กฬี าอยางไร จากเนอื้ เพลงขา งตน มีความหมายตรงกบั ขอใดมากท่สี ดุ
1. นํ้าขน้ึ ใหรบี ตัก 2. รูแพ รูชนะ รูอภัย
นักเรียนควรรู 3. แพเ ปน พระ ชนะเปนมาร 4. ไมซ กี งัดไมซ งุ
1 อายุ การออกกําลงั กายควรเลอื กใหเ หมาะสมกบั วยั ของตนเอง โดยในวัยของ วิเคราะหค าํ ตอบ เนอ้ื เพลงขา งตนเปน ของเพลงกราวกฬี า ซ่ึงเปน
นักเรียนนอกจากเลือกกิจกรรมที่มกี ารเคลอ่ื นไหวรา งกายครบทกุ สว นแลว ยงั ควร เพลงเชยี รก ีฬาใหนกั กฬี าเปน นกั กฬี าท่ีดี เลนกีฬาอยางถูกกตกิ า มีนํา้ ใจ
เลอื กกิจกรรมทไี่ มอ อกแรงมากเกินไปหรอื มีการกระทบกระแทกตอรางกาย เพราะ
จะสง ผลตอการเจรญิ เติบโตของกระดกู ได นกั กีฬา รแู พ รชู นะ รอู ภัย ดงั น้ัน ขอ 2. จึงเปนคําตอบทถ่ี กู
106 คมู อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
ô à¡Á 1. ใหน กั เรียนอบอนุ รางกายกอ นปฏิบัติกจิ กรรม
2. ใหนักเรยี นแตล ะกลมุ ออกมาสาธิตการเลนเกม
เกม เป็นกิจกรรมทีท่ �าให้เกิดความสนุกสนาน มีกฎ กติกา ไม่ซบั ซอ้ น
สามารถใชเ้ ป็นกจิ กรรมการออกกา� ลงั กายได้ เกมแบ่งได้เป็นหลายประเภท เชน่ เบ็ดเตล็ด ตามลําดบั ดังน้ี
• บอกอปุ กรณท่ไี ด
๑. เกมเบด็ เตลด็ • สาธิตวธิ ีการเลน
เกมเบ็ดเตล็ด เป็นเกมท่ีมีกฎ กติกาการเล่นง่ายๆ ไม่ยุ่งยากซับซ้อน • บอกประโยชนท ่ไี ดร บั
3. ใหน กั เรยี นทกุ กลมุ เลนเกมเบ็ดเตลด็
เกมเบด็ เตลด็ มอี ยหู่ ลายเกม เชน่ เกมกระโดดตามจดุ เกมรถดว่ น เกมแมวจบั หนู เพอื่ เกบ็ คะแนน โดยใหก ลุม ท่ีเปน เจา ของเกม
เป็นต้น ซ่ึงในช้ันเรียนน้ีเสนอแนะเกมแข่งต่อแถว ให้นักเรียนได้ฝึกเล่น ซึ่งมี เปนกรรมการตดั สนิ
รายละเอยี ด ดังนี้ • กลุม ทไ่ี ดที่ 1 ได 3 คะแนน
• กลมุ ทไ่ี ดที่ 2 ได 2 คะแนน
เกมแขง่ ตอ่ แถว มีวิธเี ล่น ดังน้ี • กลุม ท่ีไดที่ 3 ได 1 คะแนน
4. ครูประเมนิ เกมท่ีนักเรียนคดิ แลวสังเกต
(๑) แบง่ กลมุ่ กลมุ่ ละเทา่ กนั โดยใหผ้ เู้ ลน่ ทกุ คนจดจา� สมาชกิ ในกลมุ่ การปฏบิ ัติกจิ กรรม และประเมนิ การเลนเกม
ของตนใหไ้ ด้ ของแตล ะกลุม
(๒) ใหแ้ ตล่ ะกลมุ่ ยนื เขา้ แถวตอน และใหผ้ เู้ ลน่ คนแรกของแตล่ ะแถว 5. ครูอธบิ ายความรูเ พิ่มเติมเกมเบด็ เตลด็ ไดจาก
ยนื ถือลูกบอล ๑ ลูก ขอ มูลในมมุ IT
(๓) เรมิ่ เลน่ โดยใหผ้ เู้ ลน่ คนแรกของแถวขวา้ งลกู บอลไปขา้ งหนา้ ใหไ้ กล
ท่ีสุด แล้วให้ผ้เู ล่นทุกคนในแตล่ ะแถวว่ิงแย่งบอลของกลมุ่ ตน
(๔) เม่อื ผูเ้ ลน่ คนใดได้บอลแล้วใหห้ ยุดอยกู่ บั ท ี่ แลว้ ใหผ้ ูเ้ ลน่ ท่ีเหลือ
ของกลุ่มวงิ่ มาตอ่ แถว
(๕) ผเู้ ล่นกลมุ่ ใดเขา้ แถวเสร็จกอ่ นเปน็ ฝ่ายชนะ
10๗
บูรณาการเชอ่ื มสาระ เกร็ดแนะครู
ครูบูรณาการความรูในสาระภาษาไทยกับสาระสุขศกึ ษา เรื่อง สาํ นวน ครแู ละนกั เรียนรวมกนั ประเมนิ เกมของแตละกลมุ และเลือกเกมทม่ี ีความคดิ
ไทย โดยครคู ิดเกมตอ สํานวน สุภาษิต คําพังเพย ใหน ักเรียนในกลมุ ชว ยกนั ตอ สรา งสรรค และดที ี่สดุ มาชนิดละ 1 เกม
สาํ นวนใหถ กู ตอง (ครูอาจใชบัตรคาํ หรือการเขียนบนกระดานดําก็ได แลว ให
นกั เรยี นผลัดกันออกมาตอสาํ นวน โดยประยกุ ตเ ขา กบั เกมหรือกจิ กรรม มุม IT
ที่นักเรยี นแตล ะกลุมคดิ ข้นึ มา)
ครูศึกษาความรูเพม่ิ เติม เกมเบ็ดเตล็ด ไดท ่ี http://www.e-book.ram.edu/
กจิ กรรมทา ทาย e-book/inside/html/dlbook.asp?code=PE273(S)(48)
ใหนักเรียนคิดเกมที่บูรณาการเช่ือมสาระกับวิชาอื่นๆ แลวบอกประโยชน
ท่ีไดรบั
คมู ือครู 107
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. ใหน กั เรียนแตล ะกลุมออกมาสาธิตการเลนเกม ๒. เกมน�าไปส่กู ีฬา
นําไปสูกีฬา ตามลําดบั ดังน้ี
• กีฬาท่ีเลือก เกมนา� ไปส่กู ฬี า เป็นเกมท่มี ีกฎ กติกามากขน้ึ มุง่ เน้นใหผ้ เู้ ลน่ ฝึกทักษะ
• ใชท กั ษะใดในการเลน
• สาธิตการเลน เบอื้ งตน้ ของ๑ก)ฬี าเ กเพมอื่เตจะะไบดอม้ ลคี ววงากมลคมล1อ่ มงตีววัิธแีเลล่นะ เรดยี งั นนร้ี วู้ ธิ เี ลน่ กฬี าไดอ้ ยา่ งรวดเรว็
• บอกประโยชนท่ีไดรับ
(๑) ใหผ้ ู้เลน่ เข้าแถว
2. ใหนักเรยี นทกุ กลมุ เลน เกมนาํ ไปสกู ฬี า เป็นวงกลม และจับมือกันไว้
เพ่ือเก็บคะแนน โดยใหกลุมท่เี ปน เจาของเกม (๒) ใหเ้ ลอื กผู้เลน่
เปน กรรมการตัดสิน คนหน่งึ เป็นผเู้ รม่ิ เตะบอลสง่ ให้เพอ่ื น
• กลมุ ทไ่ี ดท ี่ 1 ได 3 คะแนน โดยเตะใหบ้ อลกล้ิงไปกับพ้นื และ
• กลุม ทีไ่ ดท่ี 2 ได 2 คะแนน ไม่ใหบ้ อลออกนอกวง ถา้ มผี ูเ้ ลน่
• กลมุ ท่ีไดท ่ี 3 ได 1 คะแนน คนใดทา� บอลออกไปนอกวง จะถกู
3. ครูประเมนิ เกมท่ีนกั เรยี นคดิ แลว สังเกต ท �าโทษต ามท๒ี่เพ) ือ่เกนมส่งัว่ิงขา้ มส่ิงกดี ขวาง2 มวี ิธีเล่น ดงั น้ี
การปฏิบัติกิจกรรม และประเมนิ การเลนเกม
ของแตล ะกลมุ (๑) แบ่งนักเรียนเปน็ กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กนั
(๒) ใหห้ าสงิ่ กดี ขวางมา ๒ - ๓ ชนดิ เชน่ กรวย ทอ่ นไม ้ แลว้ ใหว้ าง
สิง่ กดี ขวางให้มีระยะห่างเท่าๆ กนั พร้อมกับก�าหนดจุดเริ่มตน้ และจุดกลับตัว
(๓) ใหค้ นแรกของแตล่ ะกลมุ่ วงิ่ ขา้ มสงิ่ กดี ขวางแตล่ ะอยา่ งจนมา
ถึงจุดกลับตัว แล้วว่ิงกลับเข้ามาต่อท้ายแถวของกลุ่มตนเอง กลุ่มใดวิ่งข้าม
สิ่งกีดขวางได้ครบหมดทกุ คนกอ่ นถือว่าเปน็ ฝา่ ยชนะ
จุดกลบั ตัว
108 จดุ เร่มิ ตน้
เกรด็ แนะครู ขอ สอบ O-NET
ขอสอบป ’53 ออกเกยี่ วกับเกมนาํ ไปสูกฬี า
การกาํ หนดชนิดกีฬาหรือใหน กั เรยี นเลือกชนิดกฬี า เพื่อนาํ มาคิดเกมนาํ ไปสู นกั เรยี นจะเลน เกมนาํ ไปสกู ฬี าเมอื่ นกั เรยี นมคี วามพรอ มเรอื่ งใดมากทส่ี ดุ
กฬี า ควรเปน กฬี าทม่ี ีอุปกรณป ระกอบ และเกมทค่ี ิดควรใชท กั ษะการเลน ของชนิด 1. มีทกั ษะ
กีฬานัน้ ๆ และควรใหน ักเรียนศึกษาขอมูลของกฬี าท่เี ลอื กใหเขาใจกอนจะคิดเกม 2. มีความรูกฎ กติกา
นาํ ไปสูกฬี า 3. มมี ารยาทในการเลน
4. มนี า้ํ ใจนกั กีฬา
นกั เรยี นควรรู วเิ คราะหค ําตอบ การเลนเกมนําไปสูก ีฬา นักเรียนตองมคี วามพรอ ม
ในเรื่องทกั ษะของกีฬาท่จี ะเลน เพราะจะทาํ ใหนกั เรียนเลนเกมโดยใชทกั ษะ
1 เกมเตะบอลวงกลม นักเรียนตอ งใชท กั ษะการเลนกฬี าฟุตบอล คอื ของกฬี าชนิดนั้นไดถ กู ตอ ง ตามกตกิ า จึงจะเลน เกมไดอ ยา งสนกุ สนาน
การเตะลกู ดวยหลังเทา และการเตะลูกดว ยขา งเทาดานใน ดงั นั้น ขอ 1. จึงเปนคาํ ตอบที่ถกู
2 เกมวง่ิ ขามสิ่งกดี ขวาง นักเรียนตองมที กั ษะการเลนกรีฑา คือ การวง่ิ
และการกระโดดสงตวั ขา มสง่ิ กีดขวาง
108 คูม อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
๓. กจิ กรรมแบบผลดั 1. ใหน ักเรียนแตละกลมุ ออกมาสาธติ การเลน
กิจกรรมแบบผลัดตามลําดับ ดังนี้
กจิ กรรมแบบผลดั เปน็ การแขง่ ขนั หรอื เลน่ เปน็ กลมุ่ โดยตอ้ งเลน่ จนครบ • นักเรยี นใชลูกปงปองในการเลนกจิ กรรม
แบบใด อยา งไร
ท กุ คน ถ ้ากล๑่มุ ) ใดเกทมา� เโสยรน็จบก่ออนล1หรอื ได้คะแนนมากกวา่ จะเปน็ ผ้ชู นะ • สาธิตการเลน
• บอกประโยชนท ไ่ี ดร บั
มีวธิ เี ลน่ ดังน้ี
(๑) ผ้เู ล่นเขา้ แถว 2. ใหนกั เรยี นทุกกลมุ เลน กจิ กรรมแบบผลดั เพื่อ
เรียงหน้ากระดาน ๒ แถว ยืนหนั หน้า เก็บคะแนน โดยใหก ลุมทเี่ ปน เจาของกิจกรรม
เขา้ หากนั เปนกรรมการตัดสิน
(๒) ผเู้ ลน่ โยนบอล • กลมุ ท่ไี ดที่ 1 ได 3 คะแนน
กลบั ไปกลบั มาและไม่ใหซ้ �้าคน โดย • กลุมที่ไดท ี่ 2 ได 2 คะแนน
เรม่ิ จากค่ทู ่ ี ๑ ไลไ่ ปจนถงึ คสู่ ุดทา้ ย • กลุม ท่ีไดท ่ี 3 ได 1 คะแนน
๒) เกมส่งบอลลอดถ้�า มวี ิธีเล่น ดังนี้
(๑) แบง่ ผ้เู ลน่ ออกเปน็ กล่มุ กลุ่มละเท่าๆ กนั แลว้ ใหแ้ ตล่ ะกลุม่
เข้าแถวตอน แล้วยืนแยกเท้า
(๒) ให้ผู้เล่นท่ีอยู่หัวแถวก้มตัวลงส่งบอลลอดขาของตนเองให้
ผเู้ ลน่ คนถดั ไป แล้วใหส้ ่งต่อๆ กันไปจนถึงคนทา้ ยแถว โดยไม่ให้บอลตกพืน้
(๓) ผู้เล่นที่อยู่ท้ายแถว เมื่อได้รับบอลแล้ว ให้รีบวิ่งไปยืนท่ี
หวั แถว แลว้ สง่ บอลลอดขาเชน่ เดมิ ใหป้ ฏบิ ตั เิ ชน่ นตี้ อ่ ไปเรอ่ื ยๆ จนผเู้ ลน่ คนแรก
กลบั มาอยู่ที่หัวแถวเช่นเดิม
(๔) แถวใดทผ่ี เู้ ลน่ คนแรกกลบั มายนื หวั แถวไดก้ อ่ นจะเปน็ ผชู้ นะ
109
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT เกร็ดแนะครู
จดุ มุง หมายของกจิ กรรมแบบผลัดคอื อะไร และนาํ มาใชใ นชีวติ ประจาํ วัน • ใหน ักเรยี นวเิ คราะหว า การทํากจิ กรรมแบบผลดั ตองใชค ุณธรรมใดบา ง
ไดอ ยางไร พรอมอธิบายหรอื ยกตวั อยา งประกอบ
แนวตอบ การเลนกิจกรรมแบบผลัดมีจดุ มุง หมายใหเ ราสามารถเลน
กิจกรรมแบบผลดั รว มกับกลุม ของเราไดจนสําเรจ็ ไมว า ผลจะแพหรือชนะ • กอ นการเลนเกม ครูควรใหแตละกลมุ พูดคยุ กัน เพอ่ื ฝก วางแผนการเลน
ถา เราชนะกค็ ือเราเลน กจิ กรรมน้นั รวมกันไดดี แตถาเราแพเ ราก็สามารถ เปนกลุม
พัฒนาการเลนของกลมุ ใหด ยี ิ่งขึ้น เราสามารถนาํ หลักการทํางานรวมกัน
มาใชไ ดกบั การทาํ กจิ กรรมกลุมรว มกับผอู น่ื และเคารพกติกาทีก่ าํ หนดขน้ึ นกั เรยี นควรรู
ไดอยา งมีประสิทธิภาพ
1 เกมโยนบอล เปน เกมทต่ี องใชค วามสมั พนั ธข องสายตาและมือ โดยผูเลน ท่ี
โยนลูกบอลตองมองท่ีผูร บั และโยนลูกบอลใหตรงกบั ผูรบั สว นผรู บั ตอ งมองลูกบอล
ทล่ี อยมา เพื่อใหร บั ลกู บอลได
คมู ือครู 109
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
ครูประเมินกิจกรรมท่ีนักเรียนคดิ แลว สังเกต ๓) เกมเขี่ยบอลเข้าประต ู มีวธิ ีเล่น ดังนี้
การปฏบิ ตั กิ ิจกรรม และประเมนิ การเลนกิจกรรม (๑) แบง่ ผู้เลน่
ของแตล ะกลมุ (ครสู ามารถประเมนิ ความคดิ ออกเป็นกลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน
สรา งสรรคเปรียบเทียบแตละกลุมได ให้แต่ละกลุ่มยืนเข้าแถวหลังเส้น
เพราะใชอ ปุ กรณเ ดยี วกนั คอื ลกู ปง ปอง)
ท่ีกา� หนด ๕
(๒) ผเู้ ลน่ คนแรก
วง่ิ ไปเขย่ี ลกู บอลทว่ี างอยลู่ กั ษณะ ๑ ๒๓๔
ตามภาพ โดยวางแผนกนั วา่ ใครจะ
เขยี่ ลกู ใดก่อน
(๓) เมื่อผู้เล่นคนแรกเขี่ยลูกบอลเสร็จแล้วให้กลับมาแตะมือ
ผเู้ ลน่ คนถัดไป ผ้เู ล่นคนถดั ไปท�าเหมอื นคนแรก
(๔) กลุ่มใดท�าเสร็จก่อน และมีลูกบอลเข้าประตูมากท่ีสุดเป็น
ฝา่ ยชนะ
๔) เกมตีบอลเขา้ เปา มีวธิ ีเลน่ ดงั น้ี
(๑) แบ่งผเู้ ลน่ ออกเป็นกลมุ่ กลุม่ ละเท่าๆ กัน แต่ละกลุม่ ยืนเขา้
แถวตอนหลงั เส้นที่ก�าหนด
(๒) ผเู้ ลน่ คนแรก
ตีลูกบอลให้โดนก�าแพงที่ขีดช่อง
คะแนนไว้ เม่ือตีเสร็จให้รีบเก็บ ๔ ๕ ๓
ลกู บอล แลว้ สง่ ใหผ้ ู้เลน่ คนถัดไป ๑ ๒
ผู้เล่นคนถัดไปท�าแบบเดียวกับ
ผู้เล่นคนแรก
(๓) กลุ่มใดท�า
เสรจ็ กอ่ น และมคี ะแนนมากทสี่ ดุ
เป็นฝ่ายชนะ
110
เกรด็ แนะครู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT 2. ขมี่ า สง เมอื ง
ขอใดแตกตา งจากขออ่ืน 4. วิง่ ผลดั
ครูควรเลือกเกมที่เลนเปน กลมุ เพ่ือใหส มาชกิ ในกลุม ไดเลน รวมกัน ผทู มี่ ที ักษะ 1. ลิงชงิ บอล
การเลนนอ ยกวาคนอ่ืนจะไดม สี วนรวมในการเลนอยา งสนกุ สนาน เพราะไมต อง 3. วิง่ เปย ว
ออกจากการเลนเกมกอ นผทู มี่ ที ักษะการเลนทีด่ ีกวา กอ ใหเ กดิ ทัศนคติท่ีดตี อตนเอง
และคุณคาของการเลนเกม วิเคราะหคาํ ตอบ ลิงชิงบอล ขีม่ า สง เมือง และวิ่งเปย ว เปน การละเลน
พื้นเมือง สวนว่งิ ผลดั เปน กฬี าสากล ดังนน้ั ขอ 4. จงึ เปนคําตอบทถี่ กู
110 คูมอื ครู
กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
õ ¡ÒÃÅÐàŹ‹ ¾é¹× àÁ×ͧ 1. ใหนกั เรียนแตล ะกลมุ ออกมาสาธิตการละเลน
พ้ืนเมอื ง ตามลําดับ ดงั น้ี
การละเล่นพื้นเมือง เป็นการละเล่นในท้องถิ่นท่ีสืบทอดกันมาแต่อดีต • การละเลน พนื้ เมืองของประเทศใด
ซงึ่ มกี ฎ กตกิ าไมม่ าก สามารถเลน่ ไดท้ ง้ั ในทก่ี ลางแจง้ และในทร่ี ม่ ทา� ใหผ้ เู้ ลน่ เกดิ • สาธิตการเลน
ความสนุกสนานเพลดิ เพลนิ มคี วามสามัคคี และยังช่วยอนุรักษว์ ฒั นธรรมไทย • บอกประโยชนทีไ่ ดรับ
การละเลน่ พนื้ เมอื งมหี ลายอยา่ ง เชน่ วงิ่ เปยี ว อตี กั งกู นิ หาง รรี ขี า้ วสาร
หมากเก็บ เปน็ ตน้ ในชนั้ น้ีนกั เรยี นได้ฝกึ เล่นวง่ิ เปียว ซงึ่ เปน็ การละเลน่ ทเี่ หมาะ 2. ใหนักเรยี นทุกกลุมเลน การละเลนพนื้ เมอื ง
กับวยั ของนักเรียน เพอ่ื เกบ็ คะแนน โดยใหก ลุมท่เี ปนเจา ของเกม
เปน กรรมการตดั สนิ
วิง่ เปย ว • กลุมท่ีไดท ี่ 1 ได 3 คะแนน
• กลมุ ทีไ่ ดท่ี 2 ได 2 คะแนน
อปุ กรณ ๑) ไม้ ๒ ท่อน หรอื ผา้ ๒ ผืน • กลุมท่ีไดท ่ี 3 ได 1 คะแนน
๒) หลัก ๒ หลัก เชน่ เสาหลกั ต้นไม้
3. ครูสังเกตการปฏิบตั ิกิจกรรม และประเมินการ
วธิ เี ลน่ เลนการละเลน พนื้ เมอื งของแตละกลมุ
๑) วางหลกั แต่ละหลกั ให้หา่ งกันประมาณ ๕ เมตร
๒) แบ่งผู้เล่นออกเป็น ๒ กลุ่ม กลุ่มละเท่าๆ กัน ให้แต่ละกลุ่มยืน 4. ใหนกั เรยี นจดั ปา ยนเิ ทศใหความรกู ารละเลน
เขา้ แถวอย่หู ลงั หลกั โดยหนั หนา้ เขา้ หากนั และมีผู้ตดั สิน ๑ คน พน้ื เมอื งของประเทศอาเซยี น
๓) เมอื่ ผตู้ ดั สนิ ใหส้ ญั ญาณเรมิ่ เลน่ ใหผ้ เู้ ลน่ คนแรกของแตล่ ะแถวถอื ไม้
หรือผ้ารีบวิ่งไปอ้อมหลักของฝ่ายตรงข้าม แล้วกลับมาส่งไม้หรือผ้าให้กับผู้เล่น 5. ครูและนักเรียนรวมกันสรุปการเลน เกมที่มผี ล
คนต่อไปของกลุม่ เปน็ คนว่ิงต่อไป ใหว้ ่ิงและสง่ ไมห้ รือผา้ ต่อกันไปเรือ่ ยๆ ตอสุขภาพและจิตใจ เปนแผนผังความคดิ
๔) ขณะท่ีวง่ิ ให้ผเู้ ลน่ ของแตล่ ะฝา่ ยพยายามว่ิงไล่อกี ฝา่ ยให้ทัน แล้วใช้
ไมห้ รือผ้าในมือแตะฝ่ายตรงขา้ มใหไ้ ด้
๕) ฝ่ายใดไลแ่ ตะฝา่ ยตรงข้ามได้กอ่ น ถือวา่ เป็นฝา่ ยชนะ
111
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT เกร็ดแนะครู
ถานกั เรยี นเปนหัวหนากลมุ นกั เรียนจะวางแผนการเลนว่ิงเปยวอยา งไร ใหน กั เรยี นแตล ะกลมุ เขยี นเกมทน่ี กั เรยี นคดิ ลงในกระดาษและตกแตง ใหส วยงาม
แนวตอบ ถาเปนหัวหนา กลมุ ควรจะวางแผนการเลนวิ่งเปย ว ดังนี้ แลวรวบรวมเปน สมดุ เกมนํามาสง ครู
• ศึกษาคน ควาขอ มลู การวิง่ ใหเร็ว คือ ตอ งวิ่งดวยปลายเทา สบั แขนใหเ รว็
บูรณาการอาเซียน
ลาํ ตวั พุงไปขางหนา เลก็ นอ ย
• เสรมิ สรา งความแข็งแรงของกลามเน้ือขาดว ยการออกกาํ ลังกายอยา ง นกั เรยี นสบื คนการละเลน พน้ื เมอื งของสมาชิกอาเซียนแตล ะประเทศ บอกวธิ ี
การเลนและประโยชนท่ไี ดร ับ (ถา สามารถบอกความคลา ยคลงึ กนั กับการละเลน
สมาํ่ เสมอโดยการว่งิ เหยาะๆ ใหก ลามเนอ้ื ขาไดก ําลัง พืน้ เมอื งของไทยไดด วยก็จะดี) จากน้ันอาจแบง กลุมทําการสาธิตการละเลน
• เม่ือถึงเวลาว่ิงเปยวควรวางแผนใหผทู ี่ออกตัวไดเรว็ และวิง่ ไดเ รว็ ว่งิ เปน พ้ืนเมอื งของแตละชาติ
คนแรก
• ถาใชผา ใหผ ูกปมผา ทีป่ ลายทั้ง 2 ขา ง เพอ่ื ใหมนี า้ํ หนกั เหวย่ี งเวลาสงให
คนถัดไป
คมู อื ครู 111
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขาาใจใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล
Explore Explain
Engage Expand Expand Evaluate
ขยายความเขา ใจ
ใหน ักเรยี นทาํ กจิ กรรมการเรียนรู ตอนที่ 1 ¡¨Ô ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ
คาํ ถามชวนคดิ และตอนที่ 2 ชวนคิด ชวนทํา
ตรวจสอบผล Evaluate
1. ครปู ระเมนิ การคดิ เกมเบด็ เตลด็ เกมนาํ ไปสกู ฬี า ตอนที ่ ๑ ค�าถามชวนคดิ
กจิ กรรมแบบผลัด และการละเลน พนื้ เมือง เขยี นตอบค�าถามต่อไปน้ลี งในสมุด (ผลการปฏิบตั กิ ิจกรรมขึน้ อยูกับดุลยพนิ ิจของครผู ูส อน)
๑) หลังจากทน่ี ักเรยี นเลน่ เกมแลว้ นกั เรยี นร้สู ึกอยา่ งไร
2. ครปู ระเมนิ การเลน เกมเบ็ดเตล็ด การเลนเกม ๒) นกั เรยี นเคยเลน่ เกมอะไรบ้าง และเกมน้ันใช้ทกั ษะการเลน่ กฬี าชนดิ ใด
นาํ ไปสูกฬี า การเลน กิจกรรมแบบผลัด ๓) นกั เรียนชอบเลน่ กีฬาอะไร และถ้านักเรยี นจะคิดเกมท่ีนา� ไปสู่กฬี า เกมนัน้ จะมี
และการเลนการละเลน พ้ืนเมอื ง แลว ครรู วบรวม วธิ กี ารเลน่ อย่างไร
คะแนนการปฏบิ ัติกิจกรรมทง้ั หมด เพอ่ื สรุป
กลมุ ทช่ี นะ ตอนที ่ ๒ ชวนคิด ชวนทา� (ผลการปฏบิ ัติกจิ กรรมขึ้นอยูกับดลุ ยพนิ จิ ของครผู ูสอน)
แบง่ กลุ่ม เลอื กเล่นเกมหรอื กจิ กรรมทางกายตามทเี่ รยี นมา ๑ กจิ กรรม แลว้ ตอบค�าถาม
หลักฐานแสดงผลการเรียนรู
๑) นกั เรยี นเลอื กเล่นกิจกรรมน ้ี เพราะเหตใุ ด
1. เกมเบด็ เตล็ดที่นักเรียนคิด ๒) กลุ่มของนกั เรียนมกี ารวางแผนกอ่ นปฏิบัตกิ จิ กรรมหรอื ไม่ อย่างไร
2. เกมนาํ ไปสูก ีฬาทีน่ ักเรยี นคดิ ๓) กอ่ นทนี่ กั เรียนจะเล่นกิจกรรมน้ี นักเรยี นควรท�าอย่างไร
3. กิจกรรมแบบผลัดทนี่ กั เรยี นคิด ๔) นกั เรยี นปฏบิ ตั หิ นา้ ทที่ ี่ไดร้ บั มอบหมายจากกลมุ่ ครบถว้ นหรอื ไม ่ เพราะเหตใุ ด
4. การละเลน พนื้ เมอื งที่นกั เรยี นคน ควา มา ๕) นกั เรยี นปฏิบัติไดถ้ ูกต้องตามกฎ กติกาการเลน่ หรือไม ่ อย่างไร
๖) นักเรยี นเล่นกิจกรรมแบบผลดั ได้คลอ่ งแคลว่ และปลอดภยั หรือไม่ อยา่ งไร
๗) นกั เรียนมีพฤตกิ รรมทเี่ คารพสิทธิของตนเองและผอู้ นื่ หรือไม่ อย่างไร
๘) นักเรียนคดิ วา่ ตนเองและกลุม่ มขี ้อควรปรบั ปรงุ แก้ไขอย่างไร
๙) นักเรียนมีวิธีการแก้ไขข้อบกพรอ่ งของกลมุ่ ตนเองอย่างไร
๑๐) ถา้ กล่มุ นกั เรียนเปน็ กลมุ่ ทีแ่ พ้ นกั เรยี นควรทา� อยา่ งไร
ตอนท ่ี ๓ ผลงานสร้างสรรค (ผลการปฏบิ ัตกิ จิ กรรมขึ้นอยูกับดลุ ยพนิ จิ ของครูผูสอน)
แบ่งกลมุ่ ใหแ้ ต่ละกล่มุ คิดเกมเบด็ เตลด็ เกมนา� ไปสกู่ ีฬา หรือกจิ กรรมแบบผลดั มา ๑
กิจกรรม จากน้ันนา� มาสาธติ ใหเ้ พื่อนกลุ่มอื่นดแู ละเลน่ ตาม ผลดั กนั เลน่ จนครบทุกกล่มุ
แล้วรว่ มกันให้คะแนนวา่ ตนเองชอบกิจกรรมของกล่มุ ใดมากทสี่ ดุ
112
บรู ณาการอาเซียน
ครอู ธบิ ายเพม่ิ เตมิ ใหน กั เรยี นเขาใจวา ในประเทศสมาชิกอาเซยี นประเทศอ่นื ๆ ก็มีการละเลนพน้ื บานของแตล ะประเทศดว ย
เชน กนั ซ่ึงผูใหญหรอื เด็กสามารถเลน ได เชน
การลากทางมะพราว (tarik การเลน ซอ นของ
Upeh) เปน การละเลนพ้ืนบาน เปน การละเลน พน้ื บา น
ของประเทศมาเลเซีย มลี กั ษณะ ของประเทศลาว มลี ักษณะ
คลายกับการลากกาบหมาก คลายกบั มอญซอ นผา
แขง กนั ของไทย ของไทย
112 คมู อื ครู
กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain
Engage Expand Evaluate
เปา หมายการเรียนรู
òº··èÕ สาระส�าคัญ 1. แสดงทักษะกลไกในการปฏิบัติกิจกรรมทาง
กฬี า กฬี าเปน็ กจิ กรรมทต่ี อ้ งใชท้ กั ษะการเคลอื่ นไหว กายและเลนกฬี า (มฐ. พ 3.1 ป. 5/4)
ร่างกาย และมีกฎ กตกิ าในการเลน่ ผู้เลน่
¡¨Ô ¡ÃÃÁ¹ÓÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹ จึงตอ้ งฝกึ ทักษะ และปฏิบตั ติ ามกฎ กตกิ า 2. เลน กฬี าไทยและกฬี าสากล ประเภทบคุ คลและ
สิทธิของตนเองและผู้อ่ืน ยอมรับในความ ประเภททมี อยา งละ 1 ชนดิ (มฐ. พ 3.1 ป. 5/5)
แตกต่างระหว่างบุคคลในการเล่นกีฬาและ
มนี ้า� ใจเปน็ นกั กฬี า 3. เลน กฬี าทต่ี นเองชอบอยา งสมาํ่ เสมอ โดยสรา ง
ทางเลือกในวิธีปฏิบัติของตนเองอยางหลาก
หลายและมีน้ําใจนักกีฬา (มฐ. พ 3.2 ป. 5/2)
4. ปฏิบัติตามกฎ กติกาการเลนเกม กีฬาไทย
และกีฬาสากลตามชนิดกีฬาที่เลน
(มฐ. พ 3.2 ป. 5/3)
5. ปฏิบัติตนตามสิทธิของตนเอง ไมละเมิดสิทธิ
ผูอื่น และยอมรับในความแตกตางระหวาง
บคุ คลในการเลน เกม และกฬี าไทย กฬี าสากล
(มฐ. พ 3.2 ป. 5/4)
6. ปฏบิ ตั ติ นเพอื่ ปอ งกนั อนั ตรายจากการเลน กฬี า
(มฐ. พ 5.1 ป. 5/5)
สมรรถนะของผูเรียน
1. ความสามารถในการคดิ
2. ความสามารถในการแกปญ หา
3. ความสามารถในการใชทกั ษะชวี ติ
? คุณลกั ษณะอันพึงประสงค
¹¡Ñ àÃÕ¹Ì٨¡Ñ ¡ÕÌÒã¹ÀÒ¾ËÃ×ÍäÁ‹ 1. มวี ินยั รับผดิ ชอบ
¶ÒŒ èŒÙ ¡Ñ ºÍ¡ä´ŒËÃ×ÍäÁ‹ÇÒ‹ 2. ใฝเรียนรู
3. มงุ มน่ั ในการทาํ งาน
໚¹¡ÕÌÒª¹Ô´ã´ ÁÕÇÔ¸Õ¡ÒÃàŹ‹ ÍÂÒ‹ §äÃ
กระตนุ ความสนใจ Engage
11๓
ใหน กั เรยี นดภู าพ หนา 113 แลว ชว ยกนั บอกวา
นักเรียนรจู ักกฬี าในภาพหรือไม ถา รจู กั บอกได
หรอื ไมวา เปนกฬี าชนดิ ใด มีวิธกี ารเลนอยา งไร
(ตอบ กฬี าในภาพ คือ ตะกรอ เปน กฬี าของไทย
เลน เปนทีม โดยเลนลกู ตะกรอใหไปตกในแดนของ
ฝง ตรงขา ม จึงจะไดคะแนน)
เกรด็ แนะครู
ครูจัดกระบวนการเรยี นรโู ดยการใหนักเรียนปฏิบตั ิ ดังนี้
• การทาํ งานกลมุ โดยใหน กั เรียนรวมกันฝก ซอ มทักษะกฬี า
• การสบื คน ขอมูลกฬี าไทยและกฬี าสากล
• การวเิ คราะหผ ลการเลน กีฬาและหาวธิ ปี รบั ปรุงแกไ ข
จนเกิดเปน ความรคู วามเขาใจวา กฬี าเปน กิจกรรมทีต่ อ งใชท ักษะ
การเคลอ่ื นไหว มีกฎ กติกาการเลน ทแ่ี นนอน ผูเลนจงึ ตองฝก ทักษะการเลน
และปฏิบัติตามกฎ กติกา และมนี า้ํ ใจเปนนักกีฬา
คมู ือครู 113
กระตุนความสนใจ สสาํ าํ รรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explain Expand Evaluate
Engage Explore
สาํ รวจคน หา Explore
1. ใหน ักเรียนแบง กลมุ แตละกลมุ ศึกษาคนควา กฬี าเปน็ กจิ กรรมทต่ี อ้ งใชท้ กั ษะในการเลน่ กฬี ามที ง้ั กฬี าไทย กฬี าสากล
ขอ มลู กฬี าไทย มากลมุ ละ 1 ชนดิ มหี วั ขอ ดงั น้ี ท่ีเราสามารถเลือกเล่นได้ตามความชอบและความถนัด เพ่ือพัฒนาทักษะให้มี
• ประวตั ิ ประสทิ ธภิ าพดีข้ึน และเล่นไดอ้ ยา่ งสนกุ สนาน
• อปุ กรณก ารเลน
• กฎ กติกาการเลน ๑ ¡ÕÌÒ
• วธิ กี ารเลน
“นกั เรยี นชอบเลน่ กฬี าอะไร เพราะอะไร”
2. ใหแ ตละกลุมออกมานาํ เสนอหนา ชนั้ เรียน กฬี า เปน็ กจิ กรรมหรอื การเลน่ ในลกั ษณะมกี ฎ กตกิ าแนน่ อน จดุ มงุ่ หมาย
ของการเล่นกฬี ามหี ลายประการ คือ เลน่ เพ่อื สขุ ภาพ เลน่ เพื่อความสนกุ สนาน
เพลดิ เพลิน เลน่ เพอ่ื เขา้ รว่ มกบั กลุ่ม และเล่นเพ่ือการแข่งขันชงิ ความเปน็ เลิศใน
ระดบั ตา่ งๆ
๑. ประเภทของกีฬา
กฬี าแบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ
๑) กฬี าไทย แบง่ ไดเ้ ปน็ ประเภทบคุ คล เชน่ กระบก่ี ระบอง มวยไทย
เป็นตน้ ประเภททมี เชน่ เซปกั ตะกรอ้ ตะกร้อลอดหว่ ง เปน็ ตน้
๒) กฬี าสากล แบง่ ไดเ้ ปน็ ประเภทบคุ คล เชน่ เทเบลิ เทนนสิ กรฑี า
เป็นตน้ ประเภททมี เชน่ ฟตุ บอล วอลเลยบ์ อล เปน็ ตน้
๒. การปฏบิ ัตเิ พอื่ ปองกนั อนั ตรายจากการเลน่ กีฬา
การปฏิบัติตนเพอื่ ความปลอดภยั ในการเล่นกีฬา สามารถปฏบิ ัตไิ ด้ดังนี้
๑) ก่อนเร่ิมเล่นกีฬา ควรอบอุ่นร่างกาย และเตรียมความพร้อม
ของร่างกายก่อน
๒) สวมเคร่อื งแตง่ กายท่ีรดั กุมและเหมาะสม
๓) ตรวจสอบสภาพอุปกรณ์และสนามใหเ้ รยี บร้อย
๔) ปฏิบัติตามกฎ กติกา และขอ้ ตกลงในการเล่นกีฬา
๕) ขณะฝึก ควรมีผสู้ อนคอยดแู ลอยา่ งใกลช้ ดิ
๖) ควรเร่ิมฝกึ จากท่าทง่ี า่ ยไปหาท่าท่ียากข้นึ
๗) หลังเล่นกีฬาเสร็จแล้ว ควรมีการยืดเหยียดกล้ามเน้ือ เพื่อให้
114กลา้ มเนอ้ื คลายตัว
เกรด็ แนะครู ขอสอบ O-NET
ขอ สอบป ’52 ออกเก่ียวกับ กฬี าประเภททมี
ครูถามนกั เรียนวา นกั เรียนรูจักกีฬาใดบาง ใหต อบมา 1 ชนิด แลว ใหน ักเรียน การปฏิบตั ติ นในขอ ใดเหมาะสมในการเปน ผเู ลนกฬี าเปน ทีม
บอกวา กฬี าชนดิ นั้นอยูในประเภทอะไร และประโยชนข องกีฬาประเภทน้นั 1. เลอื กตําแหนง ผเู ลน ท่นี กั เรียนชอบ
2. เลือกตาํ แหนง ทม่ี คี วามสาํ คญั และเปน หวั ใจของทีม
มุม IT 3. เลนตามตาํ แหนงท่ีไดร บั มอบหมาย
4. ยอมเปน ตวั สาํ รองเมื่อไมไดเ ลนตาํ แหนงทีต่ องการ
นกั เรยี นสบื คนขอ มลู กีฬาประเภทตา งๆ ไดจ ากเว็บไซตก ารกฬี า วเิ คราะหคําตอบ การเลน กฬี าประเภททีมตอ งอาศยั ความสามคั คีและ
แหง ประเทศไทย www.sat.or.th การทาํ หนา ทใี่ นตาํ แหนง ของตนเองที่ไดร ับมอบหมายตามความสามารถ
ดงั น้ันเราจงึ ตอ งคํานึงถงึ ความสามารถของตนเองทีเ่ หมาะสมกบั ตาํ แหนง
ท่ไี ดรับมอบหมายและเลน ใหด ีท่ีสดุ จึงจะทาํ ใหทมี ประสบความสําเร็จ
ดงั น้นั ขอ 3. จงึ เปน คาํ ตอบทีถ่ ูก
114 คมู อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
๒ ¡ÕÌÒä·Â 1. ครูอธบิ ายความรูเ พิ่มเตมิ ความหมายของกฬี า
ไทย และมีกฬี าไทยทย่ี กตัวอยา งในแบบเรยี น
กีฬาไทย จัดเป็นกีฬาที่เป็นศิลปวัฒนธรรมไทยและเป็นเอกลักษณ์ คือ วงิ่ ชงิ ธง และตะกรอ
ประจ�าชาติไทย ท่ีบรรพบุรุษได้คิดค้นและพัฒนาสืบทอดจนมาถึงปัจจุบัน
ได้แก่ ว่ิงชิงธง มวยไทย ตะกร้อ ตะกร้อลอดห่วง ว่าวไทย กระบ่ีกระบอง 2. ครูอธบิ ายวธิ ีการเลน วิ่งชิงธงแลว ใหนักเรียนจับ
ดาบไทย หมากกระดาน เรือยาว เปน็ ต้น ฉลากเพอื่ เลอื กคแู ละแบง สายแขงขันกนั และ
ในระดับช้ันน้ี เราจะได้เรียนกีฬาวิ่งชิงธงและตะกร้อ ซ่ึงเป็นกีฬาไทยท่ี หาผูช นะเพยี งคนเดยี ว
นยิ มเลน่ กนั มานาน และสามารถพบเหน็ ไดท้ วั่ ไปในทกุ ทอ้ งถนิ่ ซงึ่ อาจเปน็ เพราะ
ใช้พนื้ ที่ในการเล่นไมม่ าก ไมจ่ �ากัดลกั ษณะ และรูปร่างของผู้เลน่
๑. วิง่ ชงิ ธง
ว่ิงชิงธง เป็นการเล่นท่ีเก่าแก่ชนิดหนึ่งของไทย นิยมเล่นกันในจังหวัด
ตา่ งๆ ของภาคกลาง การวงิ่ ลกั ษณะนสี้ นั นษิ ฐานวา่ เลยี นแบบมาจากการแขง่ ขนั
วิ่งวัวควายท่ีใช้วัวหรือควายวิ่งแข่งกัน ชาวบ้านในสมัยก่อนนิยมเล่นว่ิงชิงธง
เพือ่ เป็นเปน็ การประลองความเรว็
๑) อุปกรณแ ละสนาม
ธง เสาหลักสา� หรับพันเชือกหรือผา้ ผูกเอว
ราวเชือกผูกธงสี
เสาหลกั เสยี บธง
๒๐ เมตร
๒) วธิ เี ล่น
(๑) ปกั เสาหนง่ึ ตน้ ทเี่ สน้ เรมิ่ และวดั จากเสน้ เรมิ่ ไปตามความยาว
ทกี่ า� หนด ปกั หลกั สา� หรบั เสยี บธง มรี าวเชอื กผกู ธงระหวา่ งเสาทเ่ี สน้ เรมิ่ และหลกั
สา� หรบั เสียบธง เปน็ เส้นกน้ั แดน
(๒) ผูเ้ ล่นอยูค่ นละแดน ทัง้ สองคนผูกเอวดว้ ยเชือกหรือผา้ แล้ว
นา� ไปคลอ้ งไวก้ บั เสาทเี่ สน้ เรม่ิ ผเู้ ลน่ ยนื เตรยี มพรอ้ มทจ่ี ะออกวง่ิ ในระดบั เดยี วกนั
(๓) เมื่อได้ยินสัญญาณปล่อยตัว ให้ผู้วิ่งแกะเชือกท่ีผูกเสาออก
แลว้ วิง่ ไปที่เสาที่ปกั ธงไวแ้ ละควา้ ธงออกจากเสา ใครควา้ ไดจ้ ะเป็นผู้ชนะ
115
ขอ สอบ O-NET เกร็ดแนะครู
ขอ สอบป ’53 ออกเกีย่ วกับ กฬี า ใหน ักเรียนทีส่ ามารถเตะหรือเดาะตะกรอไดดี มาสาธิตใหเ พื่อนดู รวมกัน
นักเรียนจะเลนกฬี าไดอยางสนุกสนานเม่อื นกั เรียนมีความพรอ มเรอ่ื งใด บอกเทคนคิ สั้นๆ ในการเลนตะกรอ โดยครูชว ยเสรมิ และอธิบายเพมิ่ เตมิ
มากทส่ี ดุ บรู ณาการอาเซียน
1. มีทกั ษะ
2. มีความรกู ฎ กติกา ครยู กตวั อยางกีฬาของประเทศในกลุมอาเซียนทคี่ ลายกบั กฬี าไทย เชน
3. มีมารยาทในการเลน กีฬาประดลั เสรี (Pradal serey) ซง่ึ เปน กีฬาพน้ื บานของประเทศกัมพูชา
4. มีนา้ํ ใจนักกีฬา มีลักษณะคลายมวยไทย โดยกอนการชกจะมกี ารไหวค รู และมีการบรรเลงดนตรี
วเิ คราะหคาํ ตอบ นักเรยี นจะเลนกฬี าไดอยา งสนกุ สนาน เม่ือนักเรยี น ระหวางชก
มที กั ษะการเลนกีฬานน้ั ๆ ถา นกั เรยี นไมมีทกั ษะการเลนกีฬาก็อาจทําใหเ กิด การแขง ขนั กีฬาประดัลเสรี จะแบง การแขงขนั ครง้ั ละ 5 ยก ยกละ 3 นาที
โดยกรรมการจะตัดสนิ โดยการนับคะแนนเมื่อสกู ันครบยก ฝา ยใดไดค ะแนน
ความเบ่ือหนา ย ไมอยากเลนได ดังนั้น ขอ 1. จงึ เปน คําตอบท่ีถูก มากกวาเปน ผชู นะ หรอื หากทาํ ใหคูตอ สูลมโดยไมส ามารถสตู อ ไดภายใน 10 วนิ าที
ก็จะถอื เปนผชู นะเหมอื นกัน
คมู อื ครู 115
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. ครูอธิบายความรเู พ่ิมเตมิ การเลนตะกรอ พรอม ๒. ตะกรอ้
สาธติ ทกั ษะเบื้องตนในการเลนตะกรอ
ตะกรอ้ เปน็ กฬี าทคี่ นในอดตี คดิ ขน้ึ มาใหส้ อดคลอ้ งกบั วถิ ชี วี ติ ของคนไทย
2. ครูสุม นักเรียน 1 คน ออกมาสาธติ รว มกับครู เช่น การใชเ้ ท้า เขา่ ศอก และศรี ษะในการเล่น ซงึ่ อวยั วะเหลา่ นีค้ นไทยมักใช้
3. ครใู หน ักเรียนจับคฝู กทกั ษะเบ้อื งตน ในการเลน ในการต่อสู้ป้องกนั ตวั เป็นตน้ หาสถานท่ีในการเลน่ ตะกร้อได้งา่ ย เป็นการเล่น
เพือ่ ความสนกุ สนาน และเล่นรว่ มกนั ไดท้ ั้งเด็กและผู้ใหญ่
ตะกรอ เพื่อประเมนิ ทักษะ
๑) ทกั ษะเบอ้ื งตน้ ในการเลน่ ตะกรอ้ นกั เรยี นควรฝกึ ทกั ษะเบอ้ื งตน้
ในการเลน่ ตะกรอ้ ดงั น้ี
(๑) การยนื ในทา่ เตรยี ม ใหย้ นื แยกเทา้ หา่ งกนั ๑ ชว่ งไหล ่ งอเขา่
เล็กนอ้ ย ล�าตวั ต(ร๒ง)ห กรือารเอเตนะไลปูกขตา้ ะงกหรนอ้ 1า้ เมลวี็กิธนีปอ้ ฏยบิ ตัตาหิ มลอางยลวูกธิ ตี ดะังกนรอ้ี้
การเตะลกู ตะกรอ ดว ยขา งเทา ดา นใน ยนื อยใู่ นทา่ เตรยี มพรอ้ ม
เม่ือลูกตะกร้อลอยมาให้ย่อเข่าเล็กน้อย ยกเท้าข้างที่ถนัดข้ึนเตะลูกตะกร้อใน
ลกั ษณะหงายเทา้ ดา้ นในขนึ้ ขา้ งบนใหล้ กู ตะกรอ้ ถกู ขา้ งเทา้ ดา้ นในบรเิ วณใตต้ าตมุ่
ข้อเท้าเกร็ง ปลายเทา้ และส้นเท้าขนานกับพื้น แบะเข่าออกดา้ นข้างเพ่อื ให้เตะ
ไดง้ า่ ยขึ้น
11๖ ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
การเลน ตะกรอ ชวยสรา งเสริมรางกายใหแ ข็งแรงไดอยา งไร
นกั เรยี นควรรู แนวตอบ การเลนตะกรอทําใหร างกายแข็งแรงโดยเฉพาะชวงลําตัว ขา
และขอ ตอ ทมี่ ีการเคลื่อนไหวเพอื่ เลน ลูกในลกั ษณะตา งๆ เชน การเตะลูก
1 ลูกตะกรอ ตอ งมีลักษณะเปนทรงกลม ทาํ ดวยหวาย หรือใยสังเคราะห ดว ยขา งเทา ดา นนอก จะตอ งมกี ารบดิ ลาํ ตวั และยกขาไปดา นขา งเพอื่ เลน ลกู
ช้นั เดียว มรี ู 12 รู มีจดุ ตดั ไขว 20 จดุ หากทําดวยหวายตอ งมจี าํ นวน 9-11 เสน ทาํ ใหชวงลําตวั ดา นขาง ขา ขอตอ เขา และขอตอ เทาไดเคลือ่ นไหว
ขนาดเสน รอบวง 41-43 ซม.สาํ หรับชาย และ 42-44 ซม. สําหรบั หญิง มนี ํา้ หนกั
170-180 กรมั สาํ หรบั ชาย และ 150-160 กรมั สําหรับหญิง กจิ กรรมทาทาย
บรู ณาการอาเซียน ใหน กั เรยี นวิเคราะหทักษะเบือ้ งตนในการเลน ตะกรอ แตละทา วาใชใ น
การเลน ลูกในรูปแบบใด เพราะอะไร เชน การเลน ลูกดวยศรี ษะใชกบั ลูก
ใหนกั เรียนสืบคน ขอมลู ประวัตกิ ฬี าตะกรอ และกีฬาที่มีลกั ษณะคลา ยกับ ท่ีลอยตวั สงู เปน ตน หรือครูใหนกั เรยี นดูกีฬาตะกรอ แลว วิเคราะหก ารเลน
การเลน ตะกรอ ของไทยในกลุมประเทศอาเซยี น วเิ คราะหความเหมือนและ ของผูเ ลน
ความแตกตา ง แลว ทาํ เปน รายงานสง ครู
116 คมู ือครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
การเตะลูกดวยหลังเทา มักใช้เล่นกับลูกท่ีมีระยะห่างตัว 1. นักเรียนแตล ะคทู ดสอบทกั ษะเบ้ืองตนในการ
และไม่สามารถเล่นด้วยท่าอื่นได้ทัน โดยให้ย่อเข่าเล็กน้อย ยกเท้าข้างท่ีถนัด เลน ตะกรอ ใหครดู ู เพือ่ ประเมนิ ผล
เหยยี ดเตะลกู ตะกรอ้ ดว้ ยหลงั เทา้ ใหล้ กู ตะกรอ้ ถกู เทา้ บรเิ วณโคนนว้ิ ปลายเทา้ งมุ้
ขณะเตะลูกเทา้ ต้องอยู่ในลักษณะเขย่งสน้ เทา้ เพื่อช่วยใหเ้ กดิ แรงสง่ มากขึน้ 2. ครูใหนักเรียนแตล ะคูสืบคน เรื่องกีฬาตะกรอ วา
มกี ารเลนแบบใดบา ง โดยเลือกมาคลู ะ 1 ชนดิ
แลว ทําเปนรายงานสงครู
การเตะลูกตะกรอดวยขางเทาดานนอก มักใช้กับลูกที่
พุ่งเข้ามาหาตัวด้านข้างอย่างแรง โดยให้ย่อเข่าเอี้ยวตัวบิดไปในทิศทาง
ตรงข้ามกับเท้าข้างท่ีใช้เตะแล้วพับข้อเท้าท่ีใช้เตะมาด้านนอกตัว งอปลายเท้า
และเกร็งให้ตะกร้อถูกเท้าบริเวณใต้ตาตุ่มด้านนอก ระยะท่ีเท้าสัมผัสลูก คือ
ระดับเข่าของผู้เตะ
11๗
บรู ณาการอาเซียน
ครอู ธิบายความรูเพม่ิ เติมประวตั ิกฬี าเซปกตะกรอ มที ี่มาจาก “ตะกรอ ขามตาขา ย” ของประเทศไทย
และ “เซปก การา จารัง” ของประเทศมาเลเซีย โดยสมาคมกฬี าไทยในพระบรมราชปู ถมั ภไดจดั งานเทศกาล
“กฬี าไทย” ซ่ึงครัง้ นนั้ สมาคมกฬี าตะกรอ ไดเ ชิญการเลน ตะกรอ ของมาเลเซียมาเผยแพรใหค นไทยรูจัก
เพอ่ื เช่ือมสัมพันธไมตรี และแลกเปลยี่ นเรียนรูใ นกตกิ าของตะกรอไทย โดยจดั ใหม กี ารสาธิตกีฬาตะกรอ
ของท้ังสองประเทศ โดยผลัดกันเลน ตามกติกาของมาเลเซีย 1 วัน และตามกติกาของไทย 1 วนั ซ่งึ ผลการแขงขนั
คอื ตา งฝา ยตางมีความถนดั หรอื มีความสามารถในการเลนตามกติกาของตน จงึ ไดมกี ารประชมุ รว มกนั กาํ หนด
กติกาการเลน ตะกรอ ขน้ึ ใหมเ พ่ือนําเสนอเขาแขงขันใน “กีฬาเซยี พเกมส” (“กีฬาแหลมทอง หรือ เซียพเกมส”
ตอมาเปลยี่ นเปน “ซีเกมส”) ไดข อตกลง คอื วิธกี ารเลน และรูปแบบสนามแขงขันใหถอื เอารูปแบบของ
ประเทศมาเลเซีย อปุ กรณก ารแขง ขนั และขนาดความสงู ของตาขา ยใหถ ือเอารปู แบบของประเทศไทย และไดตัง้ ชือ่
กีฬาตะกรอ น้ีวา “เซปก-ตะกรอ ” ซ่งึ เปน ภาษาของ 2 ชาตริ วมกัน คอื คําวา “เซปก” เปนภาษามาเลเซีย
แปลวา “เตะ” คาํ วา “ตะกรอ” เปนภาษาไทย หมายถึง “ลูกบอล”
คูมอื ครู 117
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. ครแู ละนกั เรียนรวมกันสรปุ วาจะเลือกกฬี าไทย (๓) กกาารรเเลลน่ นลลกู ูกตดะกวรย้อเข มา1ีว ิธมปี ักฏใบิ ชัต้เหิลล่นาเยมว่ือธิ ตี ด้อังงนกี้ ารจะต้ังลูกไว้
และกีฬาสากลชนิดใด มาฝกทักษะและจดั การ เพอ่ื พักลูกหรือเลน่ ลูกอน่ื ตอ่ ไป โดยกา้ วเท้าข้างที่ไมถ่ นดั มาข้างหน้าแลว้ ย่อเข่า
แขง ขนั เม่ือลูกตะกร้อลอยมาถึง ให้ยกเข่าเล่นลูก โดยต้ังเข่าท�ามุมกับพื้นไม่ควรเกิน
๙๐ องศา ปลายเท้าช้ลี งสูพ่ ้นื ลกู ตะกร้อจะโดนขาบรเิ วณเหนือสะบา้ ขนึ้ มา
2. ครูอธิบายความรเู พ่มิ เติมเกยี่ วกับกีฬา ประเภท
ของกฬี า และการปฏบิ ตั ิตนเพือ่ ปอ งกันอนั ตราย
จากการเลน กฬี า
การเลน ลูกดว ยศรี ษะ2 มกั ใช้เลน่ กบั ลกู ท่ีลอยมาเหนือศรี ษะ
โดยยืนในทา่ เตรยี ม ให้ย่อเข่าเล็กน้อย ตามองที่ลกู ตะกร้อ เม่อื ลกู ตะกร้อลอยต่า�
ลงมาในระยะท่จี ะโหมง่ ได้ใหส้ ปริง (Spring) ขอ้ เทา้ เหยยี ดล�าตัวและเท้าทั้งสอง
ขึ้นตามแรงโหม่ง ให้ลูกตะกร้อสมั ผสั บริเวณหน้าผาก ขณะโหมง่ ไม่ควรหลับตา
เพราะจะท�าให้ไมเ่ หน็ ลูกตะกร้อ และไม่สามารถควบคมุ ทศิ ทางของลกู ตะกร้อได้
118 กิจกรรมทาทาย
นักเรยี นควรรู ครใู หนักเรียนฝกการเลนลูกตะกรอโดยการจับคูกับเพือ่ นและเตะลกู
ตะกรอดวยทา ตา งๆ โตต อบกนั ไปมาใหน านท่ีสุด
1 การเลนลูกดว ยเขา ขณะเลนลกู อยา ใหล กู ตะกรอ ถกู หวั เขาสวนทแ่ี ข็งหรอื
ถกู สะบา เพราะจะทาํ ใหล กู ตะกรอกระดอนแรงเกินไป และไมควรใหลูกตะกรอถกู
บรเิ วณหนาขาชดิ ลาํ ตัว เพราะลกู ตะกรอจะไมก ระดอนออกมา ทาํ ใหไมส ามารถ
เลนลูกไดตามตอ งการ
2 การเลนลกู ดว ยศีรษะ เปนทกั ษะพนื้ ฐานท่ีมีความสําคัญสาํ หรับการเลน
ตะกรอเปน อยา งมาก นิยมใชในการเปดลกู เสิรฟ การรกุ ดวยศีรษะ การรับ การสง
การชงลกู หรอื การตั้งลูกตะกรอ และการสกัดกัน้ หรือการบลอ็ กลกู จากการรุกของ
ฝา ยตรงขา ม ผเู ลน จะตอ งฝก การเลน ตะกรอ ดว ยศรี ษะหลายๆ ลกั ษณะ โดยเฉพาะ
การแขง ขนั กฬี าเซปกตะกรอ ผูเ ลนในตาํ แหนงหนา ซายและหนา ขวา จะตองเลน
ลูกตะกรอดวยศีรษะไดเปน อยา งดี
118 คูมือครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
(๔) การเดาะลกู มวี ธิ ปี ฏบิ ตั หิ ลายวธิ ี ดงั น้ี 1. ครูและนกั เรยี นรว มกันศกึ ษาคนควา ขอมลู กฬี า
การเดาะลูกดวยขางเทาดานใน ไทยและกฬี าสากลทเ่ี ลอื ก และนาํ มาอภปิ ราย
รว มกัน
โยนลกู ขน้ึ แลว้ เตะลกู ดว้ ยขา้ งเทา้ ดา้ นในเบาๆ ขณะเดาะ • ทักษะการเลน
ใหห้ กั ขอ้ เทา้ ขน้ึ ขา้ งบนมากๆ บงั คบั ใหล้ กู ตะกรอ้ กระดอน • กฎ กติกาการเลน
ขึ้นมาเป็นแนวตรง การเดาะแต่ละครั้งให้ออกแรงส่ง
เทา่ ๆ กนั 2. ใหน ักเรยี นแบงกลุมตามความเหมาะสมของ
แตละชนดิ กีฬา และคละเด็กท่มี คี วามสามารถ
การเดาะลูกดวยหลังเทา โยนลูกขึ้นแล้ว ตา งกันใหอ ยดู วยกนั
ใหเ้ ดาะลกู ตะกรอ้ ดว้ ยหลงั เทา้ เบาๆ ลกู จะถกู หลงั เทา้ คอ่ นไป
ทางปลายเทา้ และบรเิ วณโคนนวิ้ ใชป้ ลายเทา้ ตวดั ลกู ตะกรอ้ 3. ครูแบง นักเรยี นครึ่งหนึง่ ดแู ลการแขงขันกีฬา
ให้ลอยขึ้นมาตรงๆ ยกเท้าเดาะลูกให้ต่�าสุด เพราะถ้ายก ไทย และอกี คร่งึ หนึ่งดแู ลการแขงขันกฬี า
เทา้ สงู อาจทา� ใหเ้ สยี ทศิ ทาง และการทรงตวั ได ้ ขณะเดาะลกู สากล
ควรก้มตัวไปข้างหนา้ เล็กน้อย
การเดาะลกู ดว ยเขา โยนลกู ขน้ึ แลว้
ให้ขาท่อนบนท�ามุมต้ังฉากกับขาท่อนล่าง เดาะลูก
ด้วยเข่าโดยใช้ส่วนบนของเข่าในการเดาะลูก และควร
รักษาระดับของการยกเข่าในแต่ละคร้ังไม่ให้สูงเกิน
ระดับเอว เพราะจะทา� ใหบ้ ังคบั ลกู ในแนวตรงไมไ่ ด้
(๕) การตั้งลูกด้วยเข่า ถ้าลูกตะกร้อลอยมาตก
ขา้ งหนา้ ในระดบั อกใหย้ กเขา่ ขนึ้ ตงั้ ลกู โดยใชส้ ว่ นบนของเขา่
ในการต้ังลูก ลูกตะกร้อจะถูกบริเวณปลายเข่า บังคับลูก
ให้ลอยสงู ข้ึนในแนวตรง
119
ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT มุม IT
หากเดาะลกู ดว ยเขา ในระดบั ท่สี ูงกวาเอวจะสงผลอยางไร
1. ลูกตะกรอลอยขึ้นสงู 2. ลกู ตะกรอ ลอยเร็วขึน้ นกั เรียนสามารถสบื คน ความรเู พ่ิมเติมเก่ยี วกบั กีฬาตะกรอไดท่ี สมาคมตะกรอ
3. ลกู ตะกรอ จะลอยออกขาง 4. ลกู ตะกรอจะหมนุ ในขณะท่ีลอยขึ้น แหงประเทศไทย ไดท่ี www.takraw.or.th
วิเคราะหคําตอบ การเดาะลกู ดวยเขา ในระดับที่สูงกวา เอวจะทาํ ใหบังคับ
ลกู ในแนวตรงไมไ ด เพราะลกู ตะกรอ จะลอยออกดา นขา งหรอื ลอยไปทศิ ทางอนื่
และกระดอนตกพนื้ ดังนน้ั ขอ 3. จงึ เปน คําตอบที่ถูก
กิจกรรมทา ทาย
ใหนกั เรยี นฝกเดาะลกู ใหไดน านท่ีสดุ ในพ้ืนที่จํากดั เพ่ือฝก ควบคมุ ลกู ได
ดีย่ิงข้ึน ตวั อยางเชน
• เดาะลูกตะกรอ ภายในวงกลมทีข่ ดี ไว
คมู อื ครู 119
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. ใหน กั เรียนแบง กลุม ตามชนดิ กีฬาไทยท่ีเลอื ก ๒) ตะกรอ้ เตะทน ม ี ๒ ชนิด คอื ตะกรอ้ เตะทนวงเลก็ และตะกรอ้
และฝก ซอ มทกั ษะการเลนกฬี าไทยตามที่ เตะทนวงใหญ่
นักเรียนชว ยเลือก (๑) สนาม
ตะกรอ้ วงเล็ก ตะกร้อวงใหญ่
2. ใหน ักเรยี นกลุม ทร่ี บั ผดิ ชอบการแขงขัน
กีฬาไทยทําการจับฉลากแขงขันกีฬาไทย ๒ เมตร ๓ เมตร
และจดั ตารางแขง ขัน
๖ เมตร
3. ใหนักเรียนแขง ขนั กีฬาไทย เพ่ือเก็บคะแนน ๖ เมตร
• กลมุ ที่ไดที่ 1 ได 3 คะแนน
• กลุมทีไ่ ดที่ 2 ได 2 คะแนน
• กลุม ท่ไี ดที่ 3 ได 1 คะแนน
4. ครปู ระเมนิ การฝกทักษะการเลนกฬี าไทยของ
นกั เรยี นแตละกลุม (เพื่อนทกุ คนตอ งชวยกนั
ฝกซอมใหเ พ่อื นในกลุม )
สนามตะกรอ้ เตะทน จะเปน็ รูปวงกลมซอ้ นกนั ๒ วง มเี ส้นแบ่งแดนวงกลม
ทง้ั สองออกเปน็ ๖ แดน เทา่ ๆ กนั
(๒) ผู้เลน่ ชดุ หนึง่ ตอ้ งมี ๖ คน แบ่งเปน็ ๓ ค่ ู ดังน้ี
คทู่ ่ี ๑ ติดหมายเลข ๑
คทู่ ี่ ๒ ติดหมายเลข ๒
คูท่ ่ี ๓ ติดหมายเลข ๓
กา� หนด
ผู้เลน่ การโยน เวลา
แต่ละชุด โยนไมเ่ กนิ ๙ คร้งั ๓๐ นาที
แตล่ ะคู่ โยนไมเ่ กิน ๓ ครง้ั ๑๐ นาที
(๓) วิธเี ลน่
• เรม่ิ เลน่ โดยใหผ้ เู้ ลน่ ยนื อยู่ในแดนของตนเองทอี่ ยตู่ รงขา้ ม
กับคขู่ องตนเอง
120
เกรด็ แนะครู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
ถาลกู ตะกรอ ลอยเขา มาใกลตัวนกั เรียนในระดับเอวอยางรวดเร็ว
ครอู ธิบายความรเู พ่ิมเติม นักเรยี นควรเลนลกู แบบใด เพราะเหตุใด
• ลกู แป ใชเ ทา ขา งทถี่ นดั เตะขึ้นขา งบน อยา ยกเทาสูงเกนิ ไป ตะแคงเทา แนวตอบ ควรเลนลูกดวยเขา เพราะเขา เปน อวัยวะทใ่ี กลล กู มากท่สี ุด
ในระดบั เอว และลกู มาดว ยความเรว็ การเลน ลกู ลกั ษณะนใ้ี หด คี วรถอยตวั
ใหล กู ตะกรอสัมผสั ที่ขา งเทา ดานในระหวางตาตมุ กบั สนเทา หรือใหต่ํา ออกมาเลก็ นอ ยเพอ่ื ทาํ ใหเ รามเี วลาเลน ลกู มากขนึ้ และไมควรยกเขา สูง
ไปทางฝา เทา เกินไป เพราะจะทาํ ใหเกิดแรงปะทะมาก ไมสามารถควบคุมทิศทางลกู ได
• ลูกหลงั เทา ยกเทา ขึ้นสูงพอสมควร ใหล กู ตะกรอ ถูกหลงั เทาตรงเหนอื
โคนนิ้วเล็กนอ ย ลักษณะเปน การชอนลูกขึ้นมา
• ลูกโหมง ตามองลกู ตะกรอทล่ี อยมา กะระยะใหลูกสมั ผัสก่งึ กลางของหนาผาก
เอนหวั ไปดา นหลังเล็กนอ ย แลวโหมงใหสวนกลางของหนาผากกระแทกใหล ูก
ตะกรอโดง ออกไป
120 คมู อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
• เมื่อเจ้าหน้าท่ีผู้รักษาเวลาให้สัญญาณเร่ิมการแข่งขัน 1. เมอ่ื จบการแขงขันแตละรายการ ครูสนทนา
ใหผ้ ้เู ลน่ คนหนึง่ ของค่ทู ่ี ๑ โยนลูกใหก้ บั คู่ของตน คอื คู่หมายเลข ๑ เทา่ นั้น กบั นกั เรียน ดงั นี้
เป็นผู้รับลูกและโต้กลับให้คู่ของตนจนกว่าลูกน้ันตายหรือเสีย แล้วให้ผู้ใดผู้หนึ่ง • ความพงึ พอใจในผลงานของกลมุ
ในคู่ที่ ๑ จับลูกโยนให้กับคู่ของตนอีกครั้ง เม่ือเกิดลูกตายหรือเสีย ๑ คร้ัง • ขอ บกพรองทีค่ วรปรับปรงุ แกไ ข
นบั วา่ เลน่ ไปแลว้ ๑ โยน ถา้ เกดิ ตายหรอื เสยี ๓ ครงั้ ถอื วา่ เลน่ ไปแลว้ ครบ ๓ โยน • วิธกี ารแกไขขอ บกพรอ ง
หรอื แมว้ า่ ยงั ไมค่ รบ ๓ โยน แตเ่ ลน่ ไปแลว้ ครบ ๑๐ นาท ี ถอื วา่ หมดสทิ ธติ์ อ้ งเปลยี่ น
ใหค้ ทู่ ี่ ๒ เลน่ และเช่นเดยี วกนั เมอ่ื คูท่ ี ่ ๒ หมดสิทธิ ์ ก็ใหค้ ู่ท่ี ๓ ทา� การเลน่ ต่อไป 2. นกั เรยี นสรปุ ผลการแขงขันลงในสมดุ
ท้ังนห้ี า้ มไม่ให้ผู้เล่นแก้ไขลกู ใหแ้ ก่ผรู้ ว่ มเล่นของตน แลวนาํ สงครู
• ระหวา่ งแขง่ ขนั ผเู้ ลน่ จะเปลย่ี นทก่ี นั ไดเ้ มอื่ ลกู ตายเทา่ นน้ั
• การโตล้ กู เพอื่ นับคะแนนใหก้ ระทา� ด้วยลกู หน้าเท้าเทา่ นั้น
ลกู เตะโต้ทที่ า� ด้วยลูกอนื่ จะไมน่ ับคะแนนให้
• ผเู้ ลน่ มสี ทิ ธเิ ลน่ ลกู ยา่ ม (ลกู ทผ่ี เู้ ตะกา้ วเขา้ ไปทา� การเตะใน
เขตวงกลมใน) และไม่ผดิ แดน ไมเ่ หยียบเสน้ ไมล่ �า้ เสน้ ให้ ๑ คะแนน ผเู้ ลน่
มสี ทิ ธพิ กั ลกู ไว ้ ๑ ครง้ั ถา้ ผเู้ ลน่ เลน่ ลกู ครดู หรอื พกั ลกู เกนิ ๑ ครง้ั ใหถ้ อื วา่ เสยี โยน
ลกู ตาย คอื
• ลกู ตกถกู พ้ืนสนาม หรอื ถกู สงิ่ อ่นื ใด
• ผู้เล่นเอามือถกู ลูก
• พักลูกเกินกว่า ๑ ครั้ง
• เลน่ ลูกครดู (ลกู สัมผัสร่างกายของผูเ้ ตะต้งั แต ่ ๒ จุดข้นึ ไป ตดิ ต่อกนั อยา่ ง
รวดเร็ว)
• เม่ือผรู้ ักษาเวลาให้สัญญาณหมดเวลา
(๔) ผลการแข่งขัน
• ชุดใดท�าจา� นวนลูกโต้ได้มากท่ีสุด ชุดนน้ั ชนะ
• ถา้ จ�านวนลกู เท่ากนั ชดุ ใดเลน่ โยนนอ้ ยกว่าชดุ น้นั ชนะ
• ถา้ จา� นวนลกู และจา� นวนโยนเทา่ กนั ชดุ ใดใชเ้ วลานอ้ ยกวา่
ชดุ นนั้ ชนะ
• ถา้ ยงั เสมอกนั ใหช้ ดุ ทเ่ี สมอกนั นน้ั เลน่ ตอ่ ไป ชดุ ละ ๑ โยน
ภายในเวลา ๕ นาท ี จนกว่าจะแพช้ นะกนั
121
ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู
การตง้ั ลกู ตะกรอ ลกู ตะกรอ จะมลี ักษณะอยางไร
1. หยุดนง่ิ อยกู บั พ้ืน 2. กระดอนขึน้ ลง ครแู ละนักเรยี นรว มกนั บอกประโยชนของการเลนกฬี าตะกรอ โดยใหนักเรียน
3. ลอยเฉี่ยวไปขางหนา 4. ลอยสูงขนึ้ ตรงๆ เขียนเปนแผนผังความคดิ
วิเคราะหค ําตอบ การต้งั ลกู ตะกรอ เปน การยกลูกตะกรอใหล อยสูงขึ้น
ตรงๆ ในแนวดง่ิ ดงั น้ัน ขอ 4. จงึ เปนคําตอบทถ่ี ูก
คมู ือครู 121
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. ครูอธิบายความรเู พิ่มเติมกีฬาสากลประเภท ó ¡ÕÌÒÊÒ¡Å
กรฑี า
กีฬาสากลเป็นกีฬาที่เป็นท่ียอมรับขององค์กรกีฬาท่ัวโลกให้เป็นกีฬาท่ี
2. ครูอธบิ ายทักษะการวงิ่ ระยะส้นั และใหน ักเรียน บรรจอุ ยู่ในเกมการแขง่ ขนั ซง่ึ ในชนั้ เรยี นนจ้ี ะนา� เสนอกฬี าทเ่ี ปน็ ทร่ี จู้ กั คอื กรฑี า
ฝกปฏิบตั ิ และฟุตบอล
3. ใหนักเรยี นจับคทู ดสอบทักษะการว่ิงระยะสนั้ ๑. กรฑี า
และครูใหคาํ แนะนาํ ในการปรับปรุงทักษะ
การวง่ิ ระยะสน้ั เปนรายบคุ คล กรฑี ๑า)แ บกง่ รอีฑอากปเประ็นเ ภ๖ท ลป1ู่ ระเปเภ็นทก รคีฑอื าที่แข่งขันบนทางว่ิงหรือลู่ว่ิง มีการ
ตัดสนิ แพช้ น๒ะก) ันกดรว้ฑี ยาเปวลราะเ ภเชท่นล าวนิ่ง2 รเะปยน็ ะกสรน้ั ฑี วา่งิทรแี่ ะขย่งะขไกนั ลบ นวงิ่สผนลาดัม หเปรือ็นลตา้นน มีการ
ตดั สนิ กันดว้ ยระยะทางหรอื วดั ความสูง เชน่ พุ่งแหลน กระโดดสูง กระโดดไกล
ขวา้ งจกั ร เปน็ ตน้
๓) กรฑี าประเภทถนน เปน็ กรฑี าทต่ี อ้ งวง่ิ บนถนนซงึ่ ทา� เครอ่ื งหมาย
ไว้ชดั เจนแล้ว และพ้นื ถนนต้องไม่ใชพ่ ้นื ออ่ นนุ่ม เส้นเร่มิ และเส้นชยั จะใหอ้ ยู่ใน
บรเิ วณสนามกรีฑาก็ได ้ ไดแ้ ก่ การว่ิง ๑๕ กโิ ลเมตร วิ่ง ๒๐ กิโลเมตร วงิ่ ๒๕
กโิ ลเมตร วิ่ง ๓๐ กโิ ลเมตร และวิ่งมาราธอน (Marathon)
๔) กรฑี าประเภทเดนิ เป็นการกา้ วเท้าไปข้างหนา้ การกา้ วน้ันตอ้ ง
ไม่ท�าให้การสัมผัสพ้ืนของเท้าขาดช่วง ต่อเนื่องกันไปในลักษณะเท้าหน้าสัมผัส
พ้นื ก่อนที่เทา้ หลังจะพ้นพื้น และเทา้ หน้าทสี่ ัมผสั นน้ั ต้องเหยียดตรงในชว่ งขณะ
ทล่ี า� ตวั ตั้งฉากกบั พ้ืน ได้แก ่ เดนิ ๒๐ กิโลเมตร และเดิน ๕๐ กโิ ลเมตร
๕) กรีฑาประเภทว่ิงข้ามทุ่ง เป็นการแข่งขันวิ่งไปตามภูมิประเทศ
ที่กา� หนด อาจเปน็ เนนิ เขา ทางลาดเอยี ง ทุ่งหญ้า เปน็ ต้น มรี ะยะทาง ๔ - ๖
กิโลเมตร ส�าหรับนักกฬี าหญิง ระยะทาง ๘ - ๑๒ กิโลเมตร ส�าหรับนักกฬี าชาย
๖) กรีฑาประเภทรวม แบง่ ออกเป็น ๒ ประเภท คือ
ประเภทชาย ไดแ้ ก ่ ทศกรฑี า ประกอบดว้ ยการแขง่ ขนั ๑๐ รายการ
แข่งขัน ๒ วนั ติดตอ่ กัน
ประเภทหญิง ได้แก่ สัตตกรีฑา ประกอบด้วยการแข่งขัน ๗
รายการ แข่งขนั ๒ วัน ตดิ ตอ่ กนั
122
นกั เรียนควรรู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
ขอใดเปนสิ่งสําคัญของการวงิ่ ระยะสน้ั
1 กรีฑาประเภทลู แบง ออกได ดงั น้ี 1. ความแขง็ แรง 2. ความอดทน
• การว่งิ ระยะส้นั นักกรีฑาตองวิ่งในชอ งวิ่งเฉพาะตัวตลอดระยะทาง 3. ความวอ งไว 4. ความเร็ว
มรี ะยะทางไมเกิน 400 เมตร
• การวิ่งระยะกลาง ประเภทกรีฑาทมี่ ีระยะทางเกิน 400 เมตร วเิ คราะหคําตอบ การวง่ิ ระยะสนั้ ตดั สินแพชนะกันดวยเวลา
แตไ มเกิน 1,500 เมตร
• การวง่ิ ระยะไกล มีระยะทางการแขง ขันเกิน 1,500 เมตรขึน้ ไป ดงั นั้น ความเรว็ จึงเปนสงิ่ สาํ คัญของการวิ่งระยะสนั้ ดังนั้น ขอ 4.
• การวง่ิ ขามเคร่อื งกดี ขวาง จงึ เปน คาํ ตอบทีถ่ กู
• การว่ิงผลดั
2 กรีฑาประเภทลาน แบง ออกได ดงั น้ี
• ประเภทกระโดดเพอ่ื ความไกล ไดแ ก กระโดดไกล เขยงกาวกระโดด
• ประเภทกระโดดเพือ่ ความสูง ไดแก กระโดดสูง กระโดดคํ้า
• ประเภททุม ขวา ง พงุ ไดแก ทุมนํา้ หนกั ขวา งจักร พงุ แหลน ขวางคอ น
122 คูมือครู
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
กรฑี ามีหลายชนดิ ซ่ึงในชนั้ เรยี นนี้จะน�าเสนอการวิง่ ระยะสน้ั 1. ใหน กั เรยี นสืบคนกีฬากรีฑาทตี่ นเองสนใจ
มาคนละ 1 ชนิด บอกวิธกี ารเลน และกติกา
การวง่ิ ระยะส้นั เป็นการวิ่งในระยะทางที่ไมไ่ กลมาก เช่น วิ่งระยะ ทาํ ลงในกระดาษ A4 แลว สงครู
ทาง ๖๐ เมตร ๘๐ เมตร ๑๐๐ เมตร เปน็ ตน้ ซึง่ ทกั ษะท่นี กั เรยี นควรฝึก มีดงั นี้ 2. ครูใหนกั เรียนดูวิดีโอการแขงขันฟตุ บอล
ประมาณ 3 - 5 นาที แลวใหนักเรียนบอกวา
๑) การเข้าที่เร่ิมออกว่ิง ๒) การออกวง่ิ เมอื่ ไดย้ นิ เปน การแขง ขนั กีฬาชนดิ ใด
เม่ือได้ยินค�าสั่งว่า “เขาที่” ให้ผู้วิ่ง คา� สงั่ วา่ “ระวงั ” ใหย้ กลา� ตวั และสะโพก
นงั่ ยองๆ ห่างจากเสน้ เริ่ม ๑ ชว่ งเทา้ สูงกว่าระดับไหล่ โน้มตัวไปข้างหน้า 3. ครูอธิบายความรเู พิ่มเตมิ กีฬาฟตุ บอล
ถแอลว้ยใเชท้มา้ ทอื ถ่ียนันดัพไืน้ ปหขลา้ ังงเหสลน้ งั 1เ รแมิ่ ล ะจวาางกเนขนั้า่ เล็กน้อย และเม่ือได้ยินสัญญาณจาก พรอ มสาธิตทกั ษะการเลน กฬี าฟุตบอล
นกหวดี หรือปน ใหอ้ อกวิ่งโดยถบี เท้า
4. ครสู ุม นกั เรยี น 1 คน ออกมาสาธิตทกั ษะ
การเลนฟุตบอลรว มกับครู
5. ใหน ักเรยี นจับคฝู ก ซอมทกั ษะการเลนฟตุ บอล
เพื่อประเมินผล
6. นกั เรียนแตละคูทดสอบทักษะการเลน ฟตุ บอล
ใหค รดู ูเพอ่ื ประเมินผล
ใหอ้ ยู่ใกล้ส้นเทา้ หลงั เปน็ แรงส่งลา� ตัวพุง่ ไปข้างหน้า
๓) การวงิ่ การวงิ่ เรว็ เตม็ ท่ี ๔) การเขา้ เสน้ ชัย วิง่ ให้
ล�าตัวจะเอนไปข้างหน้าโดยท�ามุม เร็วที่สุด เม่ือถึงระยะ ๒ - ๓ เมตร
ประมาณ ๗๕ องศา ยกเข่าสูงว่ิงดว้ ย ก่อนเข้าเส้นชัย ให้กดหน้าอกต่�าพุ่ง
ปลายเท้า ข้อศอกท�ามุมฉาก ก�ามือ ให้เข้าแถบเส้นชัย หรือบิดตัวให้ไหล่
หลวม ศีรษะตั้งตรง สายตามองไป ข้างใดขา้ งหน่งึ แตะแถบเส้นชยั
ขา้ งหนา้
12๓
ขอใดแตกตางจากพวก ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู
1. พุงแหลน
3. วิง่ ขา มรวั้ 2. กระโดดสงู ครใู หน กั เรียนฝกการว่ิงระยะสนั้ โดยจัดการแขงขันการว่ิงระยะสัน้ ขนึ้ เพื่อหาผู
4. กระโดดไกล ทช่ี นะเปนท่ี 1 แลวใหนักเรยี นชวยกันวิเคราะหวา เพราะอะไรเพื่อนจงึ ชนะ
การแขง ขัน
วเิ คราะหคําตอบ พุง แหลน กระโดดสงู และกระโดดไกล เปนกรีฑา
นักเรียนควรรู
ประเภทลาน สวนว่งิ ขามรัว้ เปน กรีฑาประเภทลู ดังนน้ั ขอ 3. จึงเปน
คําตอบที่ถูก 1 ถอยเทา ที่ถนดั ไปขางหลัง การวางเทาขา งทถ่ี นดั ไวดานหลงั จะชวยให
มแี รงสงในการออกตวั วิ่ง ทําใหอ อกตวั วิง่ ไดเรว็
คมู ือครู 123
กระตุนความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. ใหน กั เรียนแบงกลุม แลวใหแตล ะกลุมเลอื ก ๒. ฟตุ บอล
กีฬาสากลทีช่ อบมากลมุ ละ 1 ชนิด
และฝกซอ มทักษะการเลน กฬี าสากลตามท่ี ฟตุ บอล เปน็ กฬี าสากลชนดิ หนง่ึ ทต่ี อ้ งมกี ารประสานงานเปน็ ทมี ฟตุ บอล
นกั เรียนชว ยกันเลอื ก เปน็ กฬี าทน่ี ยิ มเลน่ กนั อยา่ งแพรห่ ลายมากในปจั จบุ นั ซง่ึ การเลน่ ฟตุ บอลจะทา� ให้
ผู้เล่นมีสุขภาพแข็งแรง แล้วยังช่วยฝึกระเบียบวินัย เสริมสร้างความสามัคคี
2. ใหนักเรยี นกลุม ที่รบั ผิดชอบการแขง ขนั กีฬา และความมีนา้� ใจนกั กีฬา
สากลทาํ การจับฉลากแขงขันกีฬาสากล
และจดั ตารางการแขงขนั ๑) ทักษะการเล่นฟุตบอล การเล่นฟุตบอลเป็นกีฬาที่เราต้องใช้
3. ใหน ักเรียนแขงขันกฬี าสากล เพือ่ เกบ็ คะแนน อปุ กรณ ์ คอื ลกู บอล ดงั นัน้ ผู้เลน่ จงึ ควรมีทกั ษะพ้ืนฐานในการเล่น ดงั นี้
• กลุม ทไี่ ดที่ 1 ได 3 คะแนน (๑) การเตะลูก
• กลุมท่ไี ดที่ 2 ได 2 คะแนน
• กลมุ ที่ไดที่ 3 ได 1 คะแนน ปฏบิ ตั ิ ดงั นี้
เตะลกู ดว ยหลงั เทา
4. ครูประเมินการฝกทักษะการเลน กฬี าสากลของ
นักเรียนแตละกลมุ (เพ่อื นทกุ คนตองชวยกนั ฝก เร่ิมจากวางเท้าที่ไม่ได้เตะให้ได้ระดับ
ซอ มใหเ พื่อนในกลุม ) กับลูก จากนั้นใช้เท้าอีกข้างหน่ึงเตะ
ลูก ปลายเท้างุ้ม ข้อเท้าเกร็ง เข่าตึง
5. เม่อื จบการแขง ขันแตละรายการ ครสู นทนากบั อยู่เหนือลูก ให้ใช้หลังเท้าถูกลูกบอล
นักเรยี น ดังน้ี ตรงส่วนกลางด้านหลังของลูก ลูกจะ
• ความพึงพอใจของผลงานกลมุ กล้งิ ไปข้างหน้าตามทิศทางท่ีต้องการ
• ขอ บกพรอ งทีค่ วรปรบั ปรุงแกไ ข
• วิธกี ารแกไขขอ บกพรอ ง เตะลกู ดว ยขา งเทา
ด้านใน วางเท้าข้างที่ไม่ได้เตะให้ได้
6. นกั เรียนสรปุ ผลการแขง ขนั ลงในสมุด ระดับเดียวกับลูกบอล แล้วใช้ข้างเท้า
แลวนาํ สง ครู ดา้ นในเตะลกู โดยใหเ้ ทา้ ถูกลกู บรเิ วณ
หนา้ เทา้ สว่ นกลาง สง่ ลกู ไปตามทศิ ทาง
ท่ตี ้องการ
124 กจิ กรรมสรา งเสรมิ
เกร็ดแนะครู ใหนกั เรยี นฝกใชอ วัยวะเล้ียงลูกบอลใหไ ดน านท่ีสุด เพ่ือฝก ความคนุ เคย
กบั ลูกบอล ตวั อยางเชน
• ระหวา งฝก ทักษะการเลน กีฬา ครยู กสถานการณใหนกั เรยี นฝก ทกั ษะการ • ใชศีรษะเล้ียงลกู บอล • เลี้ยงลูกบอลดวยหลังเทา
ตดั สนิ ใจในการเลน เชน กฬี าฟุตบอล ถา นกั เรียนเล้ียงลกู มาแลว เจอคูต อสู • เดาะลกู บอลใหนานที่สุด
เขามาแยงลกู จากดานหนา นกั เรียนควรทําอยางไร เปนตน
กจิ กรรมทา ทาย
• ครูใหนักเรยี นฝก ทกั ษะการควบคุมลูกบอล โดยขดี เสนจาํ กัดพืน้ ท่ีใหน ักเรียน
ฝกเตะลกู บอลใหอ ยใู นกรอบท่คี รูขีดเสน ไวใ ห ใหนักเรยี นฝกใชอวัยวะเลย้ี งลูกบอลใหไดน านทสี่ ุด ในพ้ืนทีท่ ีจ่ าํ กัด
เพอ่ื ฝก การควบคุมลกู ใหดีย่ิงขนึ้ ตัวอยางเชน
บูรณาการอาเซียน
• ใชศ ีรษะเล้ยี งลูกบอลในวงกลมทีข่ ีดไว
ครอู าจเปดวีดทิ ัศนการแขง ขันฟตุ บอลในกีฬาซเี กมส ซ่งึ เปนกฬี าที่แขง ขนั กนั • เลย้ี งลูกบอลดวยหลงั เทาในวงกลมทข่ี ีดไว
ในภูมภิ าคอาเซยี น ใหนกั เรียนดู หรอื ใหน กั เรียนสืบคนประวตั ิการแขงขนั กีฬา • เดาะลูกบอลใหน านท่สี ุดในวงกลมท่ีขีดไว
ฟุตบอลในกีฬาซีเกมส จากนัน้ นํามาสนทนาพดู คุยกัน เพื่อใหน ักเรยี นเกิดทัศนคติ
ท่ีดตี อกีฬาฟุตบอล
124 คมู ือครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
(๒) การโหม่งลกู 1 ปฏบิ ัติ ดงั นี้ 1. ครแู ละนกั เรยี นรว มกันสรุปผลการแขง ขนั
ยืนหันหน้าไปทิศทางที่ลูกบอล กีฬาไทย และกฬี าสากล
ลอยมาใหส้ ายตามองอยทู่ ลี่ กู บอล กางแขน
ออกเล็กน้อย งอเข่าเลก็ นอ้ ยใหเ้ ท้าใดเทา้ 2. ใหน ักเรียนบอกส่ิงทีไ่ ดร ับจากการเลน กฬี าไทย
หนงึ่ อยขู่ า้ งหนา้ เมอื่ ลกู บอลพงุ่ มาไดร้ ะยะ และกีฬาสากลท่นี กั เรยี นรว มกนั เลอื ก
ท่ีโหม่งได้ ให้เอนตัวไปข้างหลังเล็กน้อย
แล้วยืดตัวขึ้นเต็มที่ สปริงข้อเท้าและเข่า
เกร็งกลา้ มเนื้อคอ ให้ลืมตาไว ้ โลน้ ้�าหนัก
ตัวไปท่ีลูก ใหห้ น้าผากปะทะกบั ลูกบอล
(๓) การหยดุ ลูก2 ปฏิบัติ ดังนี้
การหยุดลูกดวยฝาเทา เม่ือ
ลูกบอลกลิ้งมากับพื้น ให้หันหน้าเข้าหา
ลกู บอล ใหใ้ ชเ้ ทา้ ท่ีไมถ่ นดั เปน็ หลกั ในการ
ยนื และใช้เทา้ ที่ถนดั ยกขน้ึ ดา้ นหน้า ยก
ปลายเท้าให้เงยข้ึน ใช้ฝ่าเท้าประกบกับ
ลูกบอลทพ่ี งุ่ มาหาตวั เบาๆ
การหยุดลูกดวยขางเทาดานใน
วางเท้าท่ีไม่ถนัดไว้ข้างหน้า หันหน้า
เขา้ หาลูกบอลเม่อื จะหยดุ ลูก เมอ่ื ลูกบอล
ผ่านไปท่ีเท้าท่ีถนัดใช้เท้าประกบลูกบอล
ไวเ้ บาๆ เมอื่ ลกู บอลถงึ เทา้ ใหผ้ อ่ นเทา้ ตาม
ลูกบอลเลก็ นอ้ ย
125
กจิ กรรมทาทาย เกร็ดแนะครู
ใหนักเรยี นหยุดลกู บอลท่พี งุ เขา มาในลักษณะตางๆ ไดนงิ่ โดยใชศ ีรษะ ใหน ักเรียนวิเคราะหตําแหนง ผูเลน ฟุตบอลแตละตําแหนง วา ควรมีคณุ ลกั ษณะ
หนา อก และเทา (เทคนคิ คือการผอ นแรงปะทะระหวา งอวัยวะและลกู บอล) อยา งไร และนํามาวางแผนในการแขงขนั และครคู อยใหคําแนะนาํ
หรอื นกั เรียนคิดเทคนิคการเลนลกู บอลไดน อกเหนือจากทกั ษะพื้นฐาน
นกั เรียนควรรู
1 การโหมง ลูก เมอ่ื เร่มิ ฝก ใหนักเรยี นจับคกู ับเพื่อน แลวผลัดกนั ใชวิธีโยน
ลูกบอลใหเพอื่ นโหมง จากน้นั เมื่อมที กั ษะในการโหมงลกู ที่ดแี ลว ใหฝกโหมงลูกกับ
เพื่อนไปมา โดยพยายามใหลูกตกพนื้ นอยที่สดุ
2 การหยุดลกู เปน การบงั คับลูกบอลท่ีเคลอ่ื นท่มี าในลกั ษณะตา งๆ ใหอ ยกู ับ
เทาบนพ้นื ดนิ หรือเคลื่อนไหวไปในลักษณะทีอ่ ยใู นครอบครอง หลกั ทัว่ ๆ ไป ทีจ่ ะ
ใชส ว นตางๆ ของรางกายชว ยในการบงั คบั ลูกบอลน้ันตองอาศยั การผอนตาม เพ่อื
ใหล กู บอลอยใู นครอบครองซ่งึ หมายถึง เทา รา งกายจะตอ งอยูในมมุ ของลกู บอลที่
เคลื่อนทีเ่ ขา มา แลวบังคับใหลูกบอลหยุดนง่ิ
คมู ือครู 125
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
ใหนักเรยี นดกู ารแขงขันกฬี าไทย หรือกีฬา (๔) การทุม่ ลูก ปฏบิ ตั ิ ดงั น ี้
สากลทีถ่ า ยทอดผานโทรทัศน เพื่อศกึ ษาขอ มูลและ ผเู้ ลน่ ยนื ทมุ่ นอกเสน้ ขา้ ง จบั ลกู บอล
จดบนั ทกึ ผล ด้วยมือท้ังสองข้างตรงกลางลูก ค่อนไปด้านหลังลูก
ยกลกู บอลขา้ มศรี ษะไปขา้ งหลงั ขณะทมุ่ ใหเ้ หวย่ี งมอื ทมุ่ ลกู
• กฎ กติกาการเลน ขา้ มศีรษะไปด้านหน้า โดยปลอ่ ยแขนใหเ้ หยียดตามลกู
• เทคนิคการเลน ( ๕) ผกาู้รรักรษกั าษปารปะรตะ1ตูม ูีหปนฏ้าบิ ทตั ี่ร ิ ับดังลนูกี้ บอลท่ี
• สถานการณการเลนและการตัดสนิ ฝ่ายตรงข้ามยิงมา เพ่ือป้องกันไม่ให้ลูกบอลเข้าประตู
• วเิ คราะหก ารเลนและปญหาในการเลน ของฝา่ ยตน เมอื่ อยู่ในเขตรกั ษาประตผู รู้ กั ษาประตสู ามารถใชท้ กุ สว่ นของรา่ งกาย
ป้องกันลูกไม่ให้เข้าประตูได้ แต่ถ้าอยู่นอกเขตโทษ ต้องปฏิบัติเหมือนผู้เล่น
ตา� แหน่งอนื่ ๆ
ขณะรักษาประตู ผู้รักษาประตูควร
ยนื เตรยี มพรอ้ มอยเู่ สมอโดยยนื ใหเ้ ทา้ ทงั้ สองแยกหา่ งกนั
ประมาณ ๑ ชว่ งไหล ่ งอเขา่ ทง้ั สองลงและโนม้ ตวั ไปขา้ งหนา้
เลก็ นอ้ ย กางแขนออกขา้ งลา� ตวั เลก็ นอ้ ย ตามองทล่ี กู บอล
ตลอดเวลา
การรบั ลกู สามารถรบั ไดห้ ลายรปู แบบ
เช่น รับลูกระหวา่ งอก รบั ลกู ระดบั พืน้ เป็นตน้
12๖
นักเรียนควรรู ขอสอบ O-NET
ขอสอบป ’52 ออกเกย่ี วกับ การแขง ขันฟุตบอล
1 ผูรักษาประตู ในกฬี าฟตุ บอล ผูรักษาประตูเปนผเู ลนคนเดยี วทกี่ ติกาอนุญาต ขอ ใดแสดงถงึ การเคารพสิทธิของผูอืน่ ในการแขงขนั ฟตุ บอล
ใหเลน ลกู บอลดว ยมอื ไดในเสนกรอบประตู ซงึ่ ผูรักษาประตเู นนการใชมือมากกวา 1. ผรู กั ษาประตูเลย้ี งลกู บอลไปยังประตฝู า ยตรงขาม
ใชเทา ดงั นน้ั ผูร ักษาประตูจงึ ตองฝก ความคลอ งแคลว วองไวมากกวาฝก ความเร็ว 2. กองหลงั ทําหนา ทีเ่ ลนเปนกองหนา
ในการว่งิ โดยฝกความแขง็ แรงของแขน มือ และหัวไหล เพื่อใหจ ับ ขวา ง และปด ลกู 3. กองหนา มาทาํ หนาทีเ่ ลน เปน กองหลัง
ไดอ ยางแมน ยํา และตอ งฝก อยูระหวา งเสาประตูใหม าก เพราะขณะเลน จรงิ 4. ผเู ลนกองกลางสงลูกใหก องหนายงิ ประตู
ผูรักษาประตจู ะเคลอื่ นท่อี ยใู กลๆ บริเวณประตูมากท่ีสดุ วเิ คราะหคําตอบ นักกีฬาทดี่ ีควรทําหนา ทีข่ องตนเองใหดีท่สี ุดและ
เคารพสทิ ธขิ องผูเลนคนอืน่ ไมไ ปเลนในหนา ท่ีของผูเลนคนอื่น ดังนน้ั
มมุ IT ขอ 4. จึงเปนคําตอบทถ่ี ูก
นักเรยี นสามารถศึกษาขอ มูล ไดท่ี ฐานขอมูลองคความรูดา นวทิ ยาศาสตร
การกฬี า http://sportscience.dpe.go.th/web/main/sportdata.jsp?sport=1
126 คมู อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
๒) กฎ กตกิ า การเลน่ ฟตุ บอล มรี ายละเอยี ด ดังนี้ นักเรยี นวเิ คราะหผลการจดบนั ทกึ การดกู าร
ธงมุมสนาม แขงขนั กีฬาไทยหรือกีฬาสากล แลวออกมา
และเสน้ มีขนาดกวา้ ง นาํ เสนอหนา ชั้นเรียน
ไม่เกิน ๑๒ ซม. หรือ ๕ นวิ้ เสน้ ขา้ ง
เสาธงสูงไมน่ อ้ ยกว่า ๑.๕ ม. ๕.๕ ม. ่สวนโค้ง มุมสนาม
หรอื ๕ ฟุต ตอ้ งไม่มยี อดแหลม
ความกว้าง ๒.๔๔ ม. ุจดโทษ ส่วนโค้งเขตโทษ วงกลม ๙.๑๕ ม.
ต�่าสุด ๔๕ ม. เส้นแบ่งแดน ัรศมี ๙.๑๕ ม. กลางสนาม ๑๖.๕ ม.
ัรศมี ๑ ม.
ุจดก่ึงกลางสนาม ๕.๕ ม.
เส้นประตู เขตประตู ๗.๓๒ ม.
๗.๓๒ ม. เขตโทษ ๑๑ ม.
ความกว้าง เ ้สนด้าน ๙.๑๕ ม. ๑๖.๕ ม.
ูสงสุด ๙๐ ม. นอกสนาม
ความยาว ตา�่ สดุ ๙๐ ม. ธงด้าน ความยาว สงู สุด ๑๒๐ ม.
นอกสนาม
ลกั ษณะของสนามฟุตบอล
(๑) สนาม1 เป็นสนามหญ้าธรรมชาติหรือสนามหญ้าเทียม
มลี กั ษณะเปน็ รูปส่ีเหล่ียมผนื ผา้ ซ่งึ ความยาวของเสน้ ขา้ งตอ้ งยาวกวา่ ความยาว
ของเสน้ ประตู
(๒) ลกู บอล จะเปน็ ทรงกลมทา� จากหนงั หรอื วสั ดอุ นื่ ๆ ทเี่ หมาะสม
(๓) ผู้เล่น การแข่งขันแบ่งเปน็ ทีม แต่ละทีมประกอบด้วยผู้เล่น
ไม่เกิน ๑๑ คน มีผู้เล่นคนหนึ่งเป็นผู้รักษาประตู และจะไม่อนุญาตให้ทีมท่ีมี
ผเู้ ล่นนอ้ ยกว่า ๗ คน แขง่ ขัน แล้วสามารถเปล่ียนตัวผู้เลน่ ไดม้ ากท่ีสุด ๓ คน
(๔) ชว่ งเวลาของการเลน่ แบง่ เป็น ๒ คร่งึ ครึง่ ละ ๔๕ นาที
การพักครึ่งเวลาตอ้ งไม่เกิน ๑๕ นาที
(๕) การเตรียมก่อนแข่งขัน ท�าการเสี่ยงเหรียญและทีมท่ีชนะ
การเส่ียงจะเป็นฝ่ายเลือกประตูท่ีจะท�าการรุกในคร่ึงเวลาแรกของการแข่งขัน
อกี ทมี จะเปน็ ฝา่ ยไดเ้ ตะเรม่ิ เลน่ เพอ่ื เรมิ่ ตน้ การแขง่ ขนั ทงั้ สองทมี จะเปลยี่ นแดนกนั
ในครึง่ เวลาหลังของการแขง่ ขนั และทา� การรุกประตูตรงขา้ ม
12๗
ขอสอบ O-NET เกร็ดแนะครู
ขอสอบป ’52 ออกเก่ยี วกับการแขงขันฟุตบอล ถาเปน ไปไดค รคู วรพานกั เรียนไปฝก ซอมและทดลองแขงในสนามจรงิ เพ่ือให
เมื่อนกั เรียนไดร บั คัดเลอื กเปน ตวั สํารองของทีมฟตุ บอล ควรปฏิบตั ติ น นกั เรียนเกดิ ประสบการณต รง เพราะสว นใหญน ักเรยี นมกั จะไดเ ลนหรอื ฝก ในพนื้ ท่ี
จาํ กัด ซงึ่ จังหวะการรับ - สง ลูก ความแรงในการเตะ รวมทง้ั พละกาํ ลังทีใ่ ชในการว่งิ
ตามขอใด จะนอ ยกวาสนามจรงิ
1. มารว มฝกซอมสมํ่าเสมอ
2. มาเฉพาะในวนั แขง ขัน นักเรยี นควรรู
3. มาฝก ซอ มเปน บางวัน
4. มาฝก ซอ มเฉพาะกอ นวันแขง ขัน 1 สนาม กอ นเลน ฟุตบอล ผเู ลนควรตรวจสอบสภาพสนามและอปุ กรณ
วเิ คราะหค ําตอบ เมื่อเราไดรบั เลอื กใหเ ปน ตวั สํารอง ก็ควรเคารพ ทีใ่ ชเลน ใหอ ยูในสภาพเรยี บรอยและปลอดภยั เชน สนามตองไมเปน หลมุ เปน บอ
หรือมีเศษวสั ดุทก่ี อใหเ กดิ อันตรายได เสาประตูตองอยใู นสภาพทดี่ ี มีทีเ่ กาะยึดกบั
ในการตดั สินนั้นๆ และในฐานะนกั กฬี าทีด่ กี ็ควรมาฝกซอ มอยา งสมาํ่ เสมอ พ้ืนสนามแนน หนา เพราะถาไมแ นน หนาอาจลม ทับผเู ลนจนถึงข้นั เสยี ชีวติ ได
เพอื่ พัฒนาทักษะของตนเองใหดยี ่ิงขึน้ และเปน การเตรยี มความพรอ ม
สําหรับทีมดวย ดังน้ัน ขอ 1. จงึ เปน คาํ ตอบทีถ่ ูก
คูมอื ครู 127
กระตุนความสนใจ สาํ รวจคน หา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. ครถู ามคาํ ถามแลวใหนกั เรียนแสดงความ (๖) การลา�้ หนา้ ผเู้ ลน่ จะอยใู่ นตา� แหนง่ ลา้� หนา้ ถา้ อยใู่ กลเ้ สน้ ประตู
คิดเห็นอยา งอิสระ ของฝา่ ยตรงขา้ ม(ม๗า)ก กกาวรา่ ทลุ่มกู 1บอเปล็นแวลิธะีผกเาู้ ลรน่หคนน่ึงทขสี่อองกงจาารกเรทิ่มา้ เยลส่นดุ ใขหอมง่ ฝไา่ มย่สตารมงขาา้รมถ
• นกั เรียนคิดวา กตกิ าการเลนกฬี ามีความ ทา� ประตูได้จากการทมุ่ โดยผ้เู ลน่ จะไดท้ ่มุ เมอื่ ลูกบอลผ่านเสน้ ขา้ งออกไปท้งั ลูก
สาํ คญั อยา งไร ไม่ว่าจะบนพื้นดินหรือในอากาศ โดยให้ฝ่ายตรงข้ามกับผู้เล่นท่ีสัมผัสลูกบอล
• นกั เรียนคดิ วาการรกุ และการรบั ในการเลน เปน็ ครง้ั สุดทา้ ยเป็นผู้ทุ่มลกู
กีฬามคี วามสําคญั อยา งไร
(๘) การท�าประตู เมื่อลูกบอลท้ังลูกได้ผ่านเส้นประตูระหว่าง
2. ครูอธบิ ายความรเู พ่มิ เติมหลักการรุกในการเลน เสาประตูและภายใต้คานประตู โดยต้องไม่มีการกระท�าผิดกติกาการแข่งขัน
ฟตุ บอล และหลักการรบั ในการเลน ฟุตบอล เกิดข้ึนก่อนที่ทีมนั้นจะท�าประตูได้ถือว่าได้ประตู ทีมท่ีท�าประตูได้มากกว่า
ในระหวา่ งการแข(๙่งข) ันกจาะรเเปต็นะโฝทา่ ษยชณนะจดุ โทษ2 การเตะโทษ ณ จดุ เตะโทษ จะต้อง
เตะจากจุดโทษ และเม่ือก่อนจะเตะผู้เล่นทุกคนนอกจากผู้เตะและผู้รักษาประตู
ของฝ่ายรับ ต้องอยู่ในสนามแต่นอกเขตโทษ และให้ห่างจากจุดโทษอย่างน้อย
๑๐ หลา จากจดุ เตะโทษ ผ้รู กั ษาประตขู องฝา่ ยรบั ต้องยนื บนเส้นประตูระหวา่ ง
เสาประตขู องตนจนกวา่ ผเู้ ตะได้เตะลกู
(๑๐) การเตะจากประตู เมื่อลูกท้ังลูกได้ผ่านเส้นประตูออกไป
นอกสนามโดยฝา่ ยรุกเป็นผู้ถกู ลูกนั้นเป็นครงั้ สดุ ท้าย ใหฝ้ ่ายรับน�าลกู ไปวางเตะ
ภายในเขตประตูด้านที่ใกล้ลูกนั้น และต้องเตะครั้งเดียวให้ลูกออกนอกเขตโทษ
ถ้าเตะคร้ังเดียวแล้วลูกไม่ออกนอกเขตโทษ ผู้เตะลูกจะเล่นลูกน้ันซ�้าอีกไม่ได้
จนกว่าลูกจะไดถ้ ูกผูเ้ ลน่ คนใดคนหน่ึงเสียก่อน
(๑๑) การเตะจากมุม เมื่อลูกทั้งลูกได้ผ่านเส้นประตูออกไป
นอกสนาม โดยฝา่ ยรับเป็นผถู้ กู ลกู น้นั เปน็ ครั้งสุดท้าย ใหฝ้ า่ ยรุกนา� ลกู ไปวางเตะ
ภายในเขตมุม ณ ธงมมุ ใกล้กับทลี่ กู ไดอ้ อกไป และตอ้ งไม่ท�าให้คนั ธงเคลอื่ นท่ี
ในการเตะจากมมุ นี้ ถ้าเตะทเี ดียวลกู ตรงเข้าประตูให้นับวา่ ไดป้ ระตู
128
นกั เรียนควรรู ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT
เราควรหยุดลูกทกี่ ลง้ิ เลยี ดมากบั พื้นดว ยวิธใี ด
1 การทุม ผูท มุ ลกู บอลตองทุมลกู จากเสนขา งสนามในจุดท่ีลกู บอลออก และ 1. หยุดลกู ดวยขา งเทา ดานใน
ขณะทุมเทาท้งั 2 ขา งตองอยูบนพืน้ 2. หยดุ ลูกดว ยขางเทาดานนอก
2 การเตะโทษ ณ จุดโทษ ในกรณที ไี่ ดจ ุดโทษจากการทาํ ฟาวล ผทู ่ียงิ จดุ โทษ 3. หยดุ ลูกดว ยฝา เทา
ไมจาํ เปนตองเปน ผูที่ถูกทาํ ฟาวลก็ได โดยสามารถใหผ รู วมทีมคนอ่ืนเปนผูยิงแทนได 4. หยุดลกู ดว ยศรี ษะ
วเิ คราะหคาํ ตอบ เม่ือลกู กล้งิ เลียดมากบั พื้น เราควรใชฝ า เทาหยุดลกู จงึ
จะหยดุ ลกู ไดง ายที่สดุ ดังนั้น ขอ 3. จงึ เปน คําตอบทถี่ ูก
128 คูม ือครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา อธบิ ายความรู ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขา ใา จใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Evaluate
Expand Expand
ขยายความเขา ใจ
๓) หลักการรุกในการเล่นฟุตบอล มรี ายละเอยี ด ดงั นี้ 1. ใหน กั เรยี นทํากจิ กรรมการเรยี นรู ตอนท่ี 1
(๑) ต้องพยายามดึงฝ่ายตรงข้ามจากด้านหน่ึงไปอีกด้านหน่ึง คําถามชวนคิด
เพ่ือเป็นการกระจายผู้เล่นฝ่ายตรงข้าม โดยการส่งบอลออกไปท่ีต�าแหน่งปีกท้ัง
2. ใหน กั เรยี นทํากิจกรรมรวบยอดที่ 6.2 และ 6.3
ในแบบวดั ฯ สุขศกึ ษาฯ ป.5
สองข้าง และอาศัยความเร็วของปีกในการส่งลกู บอลทีแ่ ม่นย�าในการรกุ ใบงาน ✓แบบวัดฯ แบบฝกฯ
สขุ ศึกษา ป.5 กิจกรรมรวบยอดท่ี 6.2
(๒) เล่นฟุตบอลอย่างรวดเร็ว เพื่อเปลี่ยนจุดการรุกและการส่ง แบบประเมนิ ตวั ช�ว้ ดั พ 3.1 ป.5/5
ลกู บอลระยะใกลใ้ หเ้ รว็ ขน้ึ รวมถงึ เปน็ การสรา้ งชอ่ งวา่ งใหเ้ กดิ ขนึ้ และทา� ใหผ้ เู้ ลน่
ฝ่ายรับป รับต ัวไม(๓่ท)นั ใชก้ ลลวงคตู่ อ่ ส1ู้ เชน่ ลวงวา่ จะสง่ ลกู บอลแตก่ ลบั หยดุ ลกู บอล
แบบประเมินผลการเรียนรูต ามตวั ชวี้ ัด ประจําหนว ยท่ี ๖ บทท่ี ๒
เป็นตน้ ท�าให้เกิดความผิดพลาดในการเข้าแย่งลกู บอล กิจกรรมรวบยอดที่ ๖.๒
(๔) เลน่ ฟตุ บอลผา่ นแนวปอ้ งกนั ดว้ ยการสง่ บอลในลกั ษณะตา่ งๆ
แบบประเมินตัวช้วี ัด พ ๓.๑ ป.๕/๕
เลน กฬี าไทยและกีฬาสากล ประเภทบุคคลและประเภททมี อยา งละ ๑ ชนดิ
ไม่ว่าจะเป็นการส่งลูกทแยงมุม การส่งลูกชิ่ง คือ การส่งบอลโดยที่ไม่พักหรือ ชุดที่ ๑ ๑๐ คะแนน
แบง กลมุ เลนกีฬาฟตุ บอล ๗ คน แลว บนั ทึกผล จากนั้นใหครูประเมินผล
หยุดลูก หรอื การส่งลกู สตู ร คอื การสง่ บอลตามแผนการเล่นท่วี างไว้ ช่ือกลมุ แขง ขันกับกลุม……………………………………………………………….. ………………………………………………………..
รายชอ่ื สมาชกิ ๑) ……………………………………………………………………………………………………………………………………….
(๕) แก้ปัญหาเฉพาะหน้า โดยผู้จะเล่นต้องใช้ความสามารถ ๒) ๓)……………………………………………………………………………..
๔ผป๖ล)ญ)กหาารทแี่เขกงดิ ขใันนการแขขึน้ ง ขอันยูกับดลุ ย๕๗พ))ินิจของครผู สู อน……………………………………………………………………………..……………………………………………………………………………..
…………………………………………………………………………….. เฉฉบลับย
เฉพาะบคุ คลมาแก้ปัญหาทเี่ กดิ ขึ้นในเกมการเล่นอยา่ งฉบั พลันทนั ที …………………………………………………………………………….. ……………………………………………………………………………..
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
๔) หลกั การรบั ในการเลน่ ฟตุ บอล การรบั ทดี่ ีทสี่ ุด คือ การครอง ………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
ลูกบอลใหอ้ ยู่ในฝา่ ยของตนเองให้มากท่สี ดุ ซง่ึ มีหลักการรบั ดังนี้ วิธีแกไ ขปญหา …………………………………………………………………………………………………………………………………………….
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
(๑) พยายามทจี่ ะลดโอกาสของฝา่ ยรกุ ไม่ใหเ้ ขา้ โจมตไี ด้ โดยลด เกณฑป ระเมนิ ชิน้ งาน ตัวช้วี ดั พ ๓.๑ ขอ ๕
ช่องว่างและระยะของผู้เล่นท่ีก�าลังรุกข้ึนไป โดยเฉพาะต�าแหน่งปีกของฝ่ายรุก
ผลการแขงขนั (๕ คะแนน) ñðไดคะแนน คะแนนเต็ม
• ทมี ชนะ ๕ คะแนน • เสมอ
ทพี่ ยายามบกุ โจมตฝี า่ ยรบั ผเู้ ลน่ กองหลงั ของฝา่ ยรบั ตอ้ งชว่ ยกดดนั ใหอ้ ยดู่ า้ นนอก ๓ คะแนน • แพ ๑ คะแนน
(๒) ขดั ขวางผเู้ ลน่ และสกดั กนั้ ฝา่ ยตรงขา้ มเมอ่ื ลกู บอลเขา้ มาถงึ พฤตกิ รรมในการปฏิบัติ (๕ คะแนน) ๒ คะแนน
• ปฏบิ ตั ิตามกฎ กตกิ า ๑ คะแนน
• นาํ ทกั ษะตา งๆ มาใช ๑ คะแนน
• มีความรบั ผดิ ชอบ ๑ คะแนน
• มีนํา้ ใจนักกีฬา
เขตหนา้ ประตดู ว้ ยการประกบฝา่ ยตรงขา้ มไวอ้ ยา่ ใหย้ งิ ประตูได้ และพยายามบีบ ๖๗
ให้ฝา่ ยตรงขา้ มส่งลูกบอลออกนอกเขตอันตรายให้ได้
(๓) ผ้เู ลน่ จะตอ้ งเขา้ ถึงลูกบอลก่อนคนอืน่ และเล่นลูกบอลใหอ้ ยู่
กับเท้าตนเอง เชน่ การเลน่ ลูกโด่ง เปน็ ต้น
(๔) ป้องกันทกุ อย่าง โดยการครอบครองลกู บอลภายใต้ก�าหนด
เวลาของการแข่งขนั และปอ้ งกันฝ่ายตรงข้ามไม่ใหก้ ลบั ตัวเล่นลกู บอล
(๕) ดึงเกมการเล่นของฝ่ายตรงข้ามให้ช้าลง เช่น การกลับมา
ตั้งรับในแดนของตนเองเต็มพ้ืนท่ี เป็นต้น บีบบังคับให้ฝ่ายตรงข้ามส่งลูกบอล
กลับหลัง
129
กจิ กรรมสรา งเสรมิ นักเรียนควรรู
ครูใหนกั เรียนคน หานักฟุตบอลท่ีมีชอ่ื เสยี ง หรือที่นกั เรียนช่นื ชอบ แลว 1 กลลวงคูตอสู เชน สับขาหลอก เปน ทา หลอกลอ หรอื เทคนิคอยางหน่งึ ในการ
บอกจุดเดน ของนกั ฟุตบอลทีม่ ตี อการแขงขันฟตุ บอลหรอื การเลนเปนทีม เลนฟตุ บอล โดยผคู รองบอลจะตวดั ขาขางหนาขามบอลไป อาจทําหลายๆ คร้ัง
หรอื ทาํ สลบั ขา ถา เรม่ิ จากการคลงึ บอลหนง่ึ ครง้ั แลว ใชเ ทา ขา งเดมิ ขา มบอล (สบั ขา)
แลว ใชเ ทาอกี ขา งนงึ เตะบอลหนไี ปอกี ทาง เรยี กวา ทาซสิ เซอรส (scissors)
ถาเพิม่ การสับขาไปอกี ครั้งหนง่ึ เรียกวา ดบั เบิลซสิ เซอรส (double scissors)
แตถ าคร้งั สดุ ทา ยเตะหนีมาทางเดมิ จะเรยี กวา รเี วิรส ซสิ เซอรส (reverse scissors)
คมู อื ครู 129
กระตนุ ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล
Explore Explain Expand
Engage Evaluate Evaluate
ตรวจสอบผล
1. ครูตรวจรายงานกีฬาไทยและกฬี าสากล ¤Ø³¸ÃÃÁ¤‹¡Ù ÕÌÒ
2. ครูประเมินทกั ษะการเลน กฬี าไทย และกฬี า
ในการเล่นกีฬาใดๆ ก็ตาม สิ่งท่ีผู้เล่นทุกคนจ�าเป็นต้องมี คือ คุณธรรม
สากลของแตละกลุม ในการเล่นกีฬา ไดแ้ ก่ ความมนี ้า� ใจเปน นักกีฬา ซึ่งปฏิบัตไิ ดห้ ลายวธิ ี ตัวอย่างเช่น
3. ครสู รุปผลการแขง ขันกฬี า ๑) รแู้ พ ้ รชู้ นะ ผเู้ ลน่ ตอ้ งยอมรบั ผลการเลน่ เมอื่ เลน่ แพก้ ็ไมค่ วรโทษตนเอง
4. ครูตรวจรายงานการแขง ขันของนักเรียน และเพอื่ น แต่ควรปรบั ปรุงแกไ้ ขให้ดีขึ้น เม่ือชนะก็ไมค่ วรเยาะเย้ยถากถางผู้แพ้
๒) รูอ้ ภยั ถา้ มกี ารปะทะกันในขณะเลน่ กีฬา ต้องไมโ่ กรธกัน
แตละกลมุ ๓) มรี ะเบยี บวินยั ปฏิบตั ิตามกฎ กตกิ าการเลน่ อยู่เสมอ
5. ครตู รวจการจดบันทกึ การดกู ารแขง ขนั กฬี าไทย ๔) มคี วามรับผิดชอบต่อการเล่นและตรงตอ่ เวลา
๕) ยอมรบั ความแตกตา่ งของผู้อื่น และเคารพในสทิ ธิของผอู้ ่นื
หรอื กฬี าสากล เพอ่ื ดกู ารวเิ คราะหข องนักเรียน ๖) มีความกลา้ หาญ ยอมรับในส่ิงทีต่ นท�า และมีความเสียสละ
หลกั ฐานแสดงผลการเรียนรู การเล่นกีฬาให้มีประสิทธิภาพจะต้องฝึกฝนทักษะในการเล่นกีฬานั้นๆ
ใหค้ ลอ่ งแคลว่ จึงจะเล่นกฬี าร่วมกับผ้อู ่ืนได้อยา่ งสนกุ สนาน
1. ผลการประเมินทกั ษะการเลนกีฬาไทยและ
กีฬาสากล ¡¨Ô ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ
2. ผลการแขงขันกฬี า
3. บนั ทกึ การดูการแขง ขันกีฬาไทย หรอื กีฬาสากล
ตอนท ่ี ๑ คา� ถามชวนคดิ
เขียนตอบคา� ถามตอ่ ไปนล้ี งในสมดุ
๑) ถ้านักเรยี นเลน่ กีฬาไม่เก่ง นักเรียนจะรสู้ กึ อยา่ งไร
๒) กฬี าทนี่ ักเรยี นชอบเล่น ตอ้ งใชท้ ักษะอะไรบ้าง
๓) ถ้านกั เรียนแขง่ ขันกีฬาแลว้ แพ ้ นกั เรียนจะทา� อยา่ งไร
ตอนท่ ี ๒ ชวนคดิ ชวนทา� (ผลการปฏบิ ตั ิกิจกรรมขึน้ อยกู ับดุลยพินิจของครูผสู อน)
แบ่งกลุม่ จัดแข่งขนั กีฬาตามที่สนใจ แล้วบันทึกผลการแข่งขนั ลงในสมดุ
ตอนที ่ ๓ ผลงานสร้างสรรค (ผลการปฏิบตั ิกจิ กรรมขน้ึ อยูกับดุลยพินิจของครูผูสอน)
แบ่งกลุม่ ให้แตล่ ะกลุ่มคิดวธิ กี ารเล่นฟตุ บอลทส่ี ร้างสรรค มากลมุ่ ละ ๑ กจิ กรรม
1๓0แล้วออกมาสาธิตใหเ้ พื่อนกลุม่ อน่ื ปฏิบตั ิ จากน้ันใหเ้ พื่อนกล่มุ อืน่ ประเมนิ ผล
เกรด็ แนะครู ขอสแอนบวเนนOก-าNรคEดิT
การกระทําในขอใดถอื วาขาดมารยาทในการเลนกฬี ามากทส่ี ดุ
ครอู าจเปดเพลง “กราวกฬี า” ใหน ักเรียนฟง แลว รว มสนทนาเกยี่ วกับเน้ือเพลง 1. ตนเตะบอลใหผ รู ักษาประตูฝายตรงขาม
ทีแ่ สดงถงึ มารยาทและความมนี ํ้าใจในการเลน กฬี า 2. หนองใชศีรษะโหมงลกู ตะกรอใหเ พ่ือนรบั
3. กานใชมอื ทุมลูกบอลจากขา งสนามมาใหเพอ่ื น
เฉลย กิจกรรมการเรียนรู ตอนท่ี 1 4. อารตขัดขาคแู ขง เพื่อแยงลูกบอลทค่ี แู ขงกําลงั เลี้ยง
คําถามชวนคดิ วิเคราะหค าํ ตอบ การกระทาํ ท่ขี าดมารยาท คือ การทผ่ี เู ลน ไมป ฏบิ ัติ
ตามกฎ กติกา ทาํ รายรางกายผูแ ขง ขนั ฝา ยตรงขาม เพือ่ มงุ หวังประโยชน
1), 2) คําตอบน้ันข้ึนอยกู ับนักเรียน ตอ ฝา ยตนเทาน้ัน ซงึ่ การขัดขาฝายตรงขาม อาจทาํ ใหผ ูเ ลน ฝา ยตรงขาม
3) แนวตอบ พยายามฝก ฝนและหม่นั ฝกซอ มใหมากขน้ึ ไดร บั บาดเจ็บได จงึ ถือวา เปนการขาดมารยาท ดงั นัน้ ขอ 4. จงึ เปน
คาํ ตอบท่ีถูก
130 คมู อื ครู
กกรระตะตนุ Eุนnคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สํารวจคน หา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain
Engage Expand Evaluate
เปา หมายการเรียนรู
óบ··èÕ อธิบายหลกั การและเขารวมกจิ กรรม
กจิ กรรม นันทนาการอยา งนอ ย 1 กจิ กรรม
นันทนาการ (มฐ. พ 3.1 ป.5/6)
¡¨Ô ¡ÃÃÁ¹ÓÊÙ¡‹ ÒÃàÃÕ¹ สาระสา� คญั สมรรถนะของผูเรียน
กิจกรรมนนั ทนาการเปนกิจกรรมท่ีท�าใน
เวลาว่าง และทา� ใหเ้ กิดความสนุกสนาน 1. ความสามารถในการคดิ
เพลิดเพลนิ เปนการใช้เวลาว่างใหเ้ ปน 2. ความสามารถในการแกป ญ หา
ประโยชน์ และเราควรเข้ารว่ มกจิ กรรม 3. ความสามารถในการใชทกั ษะชวี ิต
อย่างน้อย ๑ กจิ กรรม
คณุ ลักษณะอนั พงึ ประสงค
1. มีวินยั รับผิดชอบ
2. ใฝเรยี นรู
3. มงุ มน่ั ในการทาํ งาน
กระตนุ ความสนใจ Engage
? ใหนักเรียนดภู าพ หนา 131 แลวชวยกนั บอกวา
• เด็กในภาพทํากจิ กรรมใด และจัดเปน
¹Ñ¡àÃÕ¹¤´Ô Ç‹Ò à´¡ç ã¹ÀÒ¾·íÒ¡Ô¨¡ÃÃÁã´
áÅШ´Ñ ໚¹¡¨Ô ¡ÃÃÁ¹¹Ñ ·¹Ò¡ÒÃËÃÍ× äÁ‹ กจิ กรรมนนั ทนาการหรือไม เพราะอะไร
(ตอบ กิจกรรมในภาพ คอื การวายนํ้า
à¾ÃÒÐÍÐäà เปนกิจกรรมนนั ทนาการ เพราะเปน การใช
เวลาวางใหเกิดประโยชนและทาํ ใหส ขุ ภาพ
1๓1 แข็งแรง)
เกรด็ แนะครู
ครจู ดั กระบวนการเรยี นรโู ดยการใหน กั เรยี นปฏบิ ตั ิ ดงั นี้
• สืบคน ขอมลู กิจกรรมนันทนาการ
• นําเสนอกจิ กรรมนันทนาการ
จนเกิดเปนความรูความเขา ใจวา กิจกรรมนันทนาการเปน กิจกรรมท่ีทาํ
ในเวลาวา ง ตามความสนใจของตนเองและเปนประโยชนต อ ตนเอง
คมู อื ครู 131
กระตนุ ความสนใจ สสาํ ํารรEวxวpจจloคคrนeน หหาา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Expand Evaluate
Engage Explore Explain
สาํ รวจคน หา Explore
1. ครถู ามนักเรยี นวา เวลาวางนักเรยี นทาํ อะไร การเรียนหรือการใช้ชีวิตประจ�าวัน อาจท�าให้เราเกิดความเครียดได้
แลว ใหน กั เรยี นเขียนกจิ กรรมที่นกั เรียนทาํ การท�ากิจกรรมนันทนาการ จึงเปนอีกหน่ึงวิธีการท่ีจะช่วยให้เราผ่อนคลายจาก
ในเวลาวางบนกระดานดํา ความเครียด และใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปนประโยชน์ได้
2. ครสู นทนากบั นกั เรียนเกย่ี วกับกิจกรรม ¡Ô¨¡ÃÃÁ¹¹Ñ ·¹Ò¡ÒÃ1
ทนี่ ักเรยี นออกมาเขียนบนกระดานดํา
“กจิ กรรมนันทนาการท่ีนักเรียนชอบท�า คืออะไร”
อธบิ ายความรู Explain กิจกรรมนันทนาการ เปนกิจกรรมท่ีคนเราท�าในเวลาว่าง ด้วยความ
สมัครใจ และไม่ผิดกฎหมาย เม่ือท�ากิจกรรมเหล่านี้แล้วจะท�าให้เกิดความ
1. ครูและนักเรียนรวมกนั อธบิ าย ความหมายของ พงึ พอใจ ความสบายใจ
กิจกรรมนันทนาการ
๑. ประเภทของกจิ กรรมนนั ทนาการ
2. ใหนกั เรียนสืบคนขอมลู กิจกรรมนนั ทนาการ
แลว สรุปเปนแผนผงั ความคดิ กจิ กรรมนนั ทนาการมหี ลายประเภท ดังน้ี
๑) กีฬา เชน่ บาสเกตบอล ฟตุ บอล แชร์บอล เปน ต้น
3. ครสู ุมนกั เรยี นออกมานาํ เสนอแผนผงั ความคิด ๒) งานอดเิ รก เช่น การปลูกตน้ ไม้ สะสมแสตมป เปน ตน้
๓) เกมและการละเลน่ เช่น ปาเปา ว่ิงสามขา ขม่ี ้าสง่ เมอื ง เปน ตน้
๔) การเล่นดนตรี ละคร ฟอ นรา� เช่น รอ้ งเพลง เล่นโขน เปนต้น
๕) งานสงั คม เช่น กิจกรรมบา� เพ็ญประโยชน์ เปนต้น
๖) กิจกรรมนอกเมือง เชน่ การอยคู่ ่ายพกั แรม เปนตน้
๗) การอา่ น เขยี น พูด เช่น เลา่ นทิ าน อา่ นหนงั สอื เขียนบันทึก
เปน ตน้
๒. หลักการเลอื กกจิ กรรมนันทนาการ
กิจกรรมนันทนาการมีอยู่หลายประเภท ซ่ึงแต่ละประเภทจะมีลักษณะ
ที่แตกต่างกัน ผู้เข้าร่วมกิจกรรมจึงควรมีหลักในการเลือกให้เหมาะสมกับวัย
เพศ โอกาส ความรู้ ความสามารถของตนเอง เพ่อื ท�าใหเ้ กดิ ประโยชนส์ งู สุด
การเลือกกิจกรรมนนั ทนาการ ควรเลอื กตามหลัก ดังน้ี
๑) ลกั ษณะสว่ นบคุ คล กิจกรรมเหมาะสมกบั เพศและวัย
๒) สภาพรา่ งกาย กจิ กรรมเหมาะสมกบั สภาพร่างกายของตนเอง
๓) ความรคู้ วามสามารถ กจิ กรรมเหมาะกบั ความสามารถสว่ นบคุ คล
เช่น วาดภาพ งานฝมือ การพูด เปน ตน้
1๓๒
เกร็ดแนะครู ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT
ผูท ี่เจบ็ ปวย ควรเลือกทาํ กิจกรรมนันทนาการในขอ ใด
ครใู หนกั เรยี นแบงกลุม และรว มกันแสดงความคดิ เหน็ วา กิจกรรมนันทนาการใด 1. วายน้าํ 2. เตน ลลี าศ
เหมาะกับวยั ของนกั เรียน และใหแ ตละกลมุ ยกตัวอยางกิจกรรมนันทนาการเพ่อื ให 3. ปน จกั รยาน 4. อา นหนงั สอื
เพอื่ นกลมุ อนื่ นําไปเปนแนวทางในการปฏิบัติ
วิเคราะหค ําตอบ ผูทีเ่ จบ็ ปว ยอยคู วรเลอื กกจิ กรรมนันทนาการท่ที าํ ให
นักเรียนควรรู เกิดการพักผอน ผอ นคลาย ไมใชกําลังมากเกินไป และไมเปน การแพรโ รค
1 นันทนาการ หมายถึง กิจกรรมที่ทําดว ยความสมคั รใจในยามวา ง เพือ่ ให ใหกบั ผูอ ่นื ดังน้ัน ขอ 4. จงึ เปน คาํ ตอบที่ถกู
เกิดความสนุกสนาน เพลิดเพลนิ ผอนคลายความตงึ เครยี ด และเกิดความสขุ
ทางใจ กิจกรรมนต้ี องไมเปนอาชพี มปี ระโยชนต อ ตนเองและสวนรวม ไมข ัดตอ
ขนบธรรมเนียมประเพณไี ทย วฒั นธรรม และกฎหมายบา นเมือง
132 คมู ือครู
กระตุน ความสนใจ สาํ รวจคนหา อธิบายความรู ขขยยาายยEคคxวpวaาาnมมdเขเขาใา จใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล
Engage Explore Explain
Expand Evaluate
ขยายความเขา ใจ Expand
๔) โอกาส มีเวลาวา่ งท่ีเหมาะสม 1. ใหน ักเรยี นจดั ทําขอ มลู กจิ กรรมนนั ทนาการมา
๕) สถานท่ี เหมาะสมกบั กจิ กรรม มีความปลอดภยั และสะดวก คนละ 1 ชนดิ โดยใชห ลกั การเลือกกิจกรรม
๖) ฐานะ กิจกรรมเหมาะสมกบั ฐานะ ความเปนอยขู่ องตนเอง นันทนาการ
๗) สปงัรคะโมยชกนจิ 1์กกริจรกมรเหรมมเาปะนสมปรกะบั โปยรชะนเพต์ อ่ณตแี นลเะอวงฒั แนลธะรตรอ่มสข่วอนงรทวอ้ มงถน่ิ • กิจกรรมอะไร
๘) • มีวิธกี ารปฏิบัตอิ ยา งไร
กิจกรรมนันทนาการเปนกิจกรรมที่มีประโยชน์ต่อร่างกาย นักเรียน • ใชหลักการเลอื กอยางไร
ควรเลอื กกจิ กรรมนนั ทนาการอยา่ งนอ้ ย ๑ กจิ กรรม มาปฏบิ ตั ิ เพอ่ื ทา� ใหน้ กั เรยี น • ประโยชนทีไ่ ดรบั เหมาะสมกับวัยของ
ใชเ้ วลาวา่ งใหเ้ ปน ประโยชน์ และผอ่ นคลายความเครยี ดจากการเรยี น ซงึ่ นกั เรยี น นักเรียนอยางไร
ควรเลอื กตามความชอบและความถนัดของตนเอง
2. ใหน ักเรยี นออกมานาํ เสนอกจิ กรรม
นันทนาการหนา ช้ันเรยี น
3. ใหน ักเรียนทาํ กจิ กรรมการเรียนรู ตอนที่ 1-3
¡¨Ô ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ ตรวจสอบผล Evaluate
ตอนที่ ๑ คา� ถามชวนคิด 1. ครูประเมินการนําเสนอกจิ กรรมนันทนาการ
เขียนตอบค�าถามตอ่ ไปนล้ี งในสมดุ (ผลการปฏบิ ัตกิ ิจกรรมขึน้ อยูก บั ดลุ ยพนิ จิ ของครผู สู อน) ของนักเรยี นแตละคน
๑) ในปจจบุ นั นักเรยี นท�ากจิ กรรมนันทนาการหรือไม่ ถ้าท�า คอื กิจกรรรมอะไร 2. ครูตรวจผลการทาํ กิจกรรมการเรยี นรู
ทา� แลว้ รสู้ กึ อยา่ งไร ถา้ ไมไ่ ดท้ า� กจิ กรรมนี้ นกั เรยี นอยากทา� กจิ กรรมนนั ทนาการใด
เพราะอะไรจึงอยากท�ากิจกรรมนนั้ หลกั ฐานแสดงผลการเรยี นรู
๒) กิจกรรมนันทนาการที่นักเรียนทา� ในปจจุบันมปี ระโยชนอ์ ยา่ งไร 1. บันทกึ การสาํ รวจตนเองในการใชเวลาวางใหเปน
๓) ถา้ นกั เรยี นรสู้ กึ เครยี ดจากการเรยี นหนงั สอื อยา่ งหนกั นกั เรยี นจะเลอื กทา� กจิ กรรม ประโยชนเปน เวลา 5 วัน
นนั ทนาการอะไร เพราะอะไร 2. กิจกรรมนันทนาการทนี่ กั เรยี นนําเสนอ
ตอนท่ี ๒ ชวนคิด ชวนทา� (ผลการปฏบิ ตั กิ ิจกรรมขึน้ อยูกับดลุ ยพินิจของครผู ูส อน)
สา� รวจตนเองเปนเวลา ๕ วนั ว่าใช้เวลาว่างในการท�ากจิ กรรมใดบ้าง ใชเ้ วลาเทา่ ใด
แล้วตอบค�าถามลงในสมดุ
๑) เพราะเหตใุ ด นกั เรยี นจึงเลือกปฏิบัติกิจกรรมเหลา่ นี้
๒) นักเรยี นไดร้ ับประโยชน์จากการปฏิบัติกจิ กรรมเหล่านีอ้ ย่างไร
ตอนที่ ๓ ผลงานสรา้ งสรรค์ (ผลการปฏิบัติกิจกรรมข้นึ อยกู บั ดุลยพินิจของครูผสู อน)
แบ่งกลุ่ม ให้แต่ละกลุ่มร่วมกันค้นหากีฬาพื้นบ้าน และอ่ืนๆ ที่สามารถน�ามาปฏิบัติ
เปนกิจกรรมนนั ทนาการ แลว้ ออกมานา� เสนอวธิ กี ารเลน่ ใหเ้ พ่อื นกล่มุ อ่นื ดู
1๓๓
ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT นักเรียนควรรู
การชนไก เปน กิจกรรมนันทนาการท่เี หมาะสมกับวยั ผูใ หญ นกั เรยี น 1 ประโยชน การปฏบิ ัติกิจกรรมนันทนาการจะทาํ ใหเ กดิ ประโยชน ดังน้ี
เหน็ ดว ยหรือไม อยางไร • เกิดความสนุกสนาน และรูจักใชเวลาวา งใหเ ปน ประโยชน
แนวตอบ ไมเ หน็ ดว ย เพราะการชนไก เปน กิจกรรมท่ที ารณุ กรรมสตั ว • ชว ยใหมสี ขุ ภาพจติ ดี
ไมถ อื เปนกจิ กรรมนนั ทนาการ และอาจมกี ารพนันเขามาเก่ยี วของ ดังน้ัน • เสรมิ บคุ ลิกภาพ
คนทุกวัยจึงไมค วรเลนการชนไก • เหน็ คุณคาของตนเอง
• สรางเสริมการทาํ งานรว มกนั
คมู อื ครู 133
กกรระตะตนุ Eนุ nคคgววaาgามeมสสนนใจใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Explain Expand Evaluate
Engage Explore
เปา หมายการเรียนรู
ทดสอบและปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกาย ôบ··èÕ
ตามผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย สมรรถภาพ
(มฐ. พ 4.1 ป.5/5) ทางกาย
สมรรถนะของผูเรยี น ¡¨Ô ¡ÃÃÁ¹ÓÊÙ‹¡ÒÃàÃÕ¹ สาระส�าคัญ
สมรรถภาพทางกายที่ดียอ่ มมผี ลต่อการ
1. ความสามารถในการคดิ ท�างานที่ดี การทดสอบสมรรถภาพทางกาย
2. ความสามารถในการแกปญ หา จะทา� ให้เราสามารถปรบั ปรุงสมรรถภาพ
3. ความสามารถในการใชท ักษะชีวิต ทางกาย เพอ่ื ประสิทธภิ าพในการทา� งาน
ท่ดี ขี ้นึ ดว้ ย
คณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค
1. มีวนิ ยั รบั ผิดชอบ
2. ใฝเ รียนรู
3. มุงมั่นในการทํางาน
กระตนุ ความสนใจ Engage
ใหนักเรยี นดูภาพ หนา 134 แลวชวยกนั บอกวา ?
• นักเรียนคดิ วาคนในภาพกาํ ลังทาํ กิจกรรมใด
¤¹ã¹ÀÒ¾¡íÒÅ§Ñ ·Òí ¡Ô¨¡ÃÃÁã´
และทาํ กิจกรรมนี้เพอื่ อะไร ¹Ñ¡àÃÕ¹¤´Ô Ç‹Ò à¢Ò·íÒ¡¨Ô ¡ÃÃÁ¹Õé
(ตอบ คนในภาพกําลงั ทาํ การทดสอบ
สมรรถภาพทางกาย เพอ่ื ดูสมรรถภาพ à¾×èÍÍÐäÃ
รา งกายของตนเองวา อยูในระดบั ใด
และหาวิธีปรบั ปรงุ แกไข)
1๓4
เกร็ดแนะครู
ครจู ดั กระบวนการเรยี นรโู ดยการใหน กั เรียนปฏิบตั ิ ดงั น้ี
• จดั การทดสอบสมรรถภาพทางกาย
• ปฏิบตั ิกจิ กรรมกลุม โดยรว มกนั คดิ กจิ กรรมการปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกาย
• วิเคราะหเปรียบเทยี บผลการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
• รวมกันคิดวธิ ีการปรบั ปรุงสมรรถภาพทางกาย
จนเกิดเปนความรูความเขา ใจวา การทดสอบสมรรถภาพทางกาย จะทําใหเ รารู
ระดบั สมรรถภาพของตนเอง สามารถปรับปรงุ แกไ ข เพ่อื ประสิทธิภาพในการทาํ งาน
ท่ดี ไี ด
134 คมู ือครู
กระตุน ความสนใจ สสาํ าํ รรEวxวpจจloคคrนeน หหาา อธิบายความรู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Engage Explain Expand Evaluate
Explore Explore
สาํ รวจคน หา
สมรรถภาพทางกายบอกถึงประสิทธิภาพในการท�างานของร่างกาย 1. ครจู ดั ฐานการทดสอบสมรรถภาพทางกาย
สมรรถภาพทางกายทดี่ จี ะทา� ใหเ้ ราดา� เนนิ ชวี ติ และทา� งานไดอ้ ยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ ครง้ั ที่ 1 เพือ่ จดั ระดับสมรรถภาพทางกาย
ของนักเรียน
ñ ¡¨Ô ¡ÃÃÁ·´ÊͺÊÁÃöÀÒ¾·Ò§¡Ò • สมรรถภาพอยใู นระดับ ดี
“นกั เรียนคิดว่า ตนเองมสี มรรถภาพทางกายดีหรอื ไม่ อย่างไร” • สมรรถภาพอยูในระดบั พอใช
คนแต่ละคนจะมีระดับสมรรถภาพท่ีแตกต่างกัน ซ่ึงเราปฏิบัติกิจกรรม • สมรรถภาพอยใู นระดบั ควรปรบั ปรงุ
ทดสอบสมรรถภาพทางกายมาตัง้ แตช่ น้ั ประถมศึกษาปท่ี ๓ แล้ว และนกั เรียน
ควรทา� อยา่ งตอ่ เน่อื ง การทดลองสมรรถภาพทางกาย มดี ังนี้ 2. ใหนักเรยี นจดบันทกึ ผลการทดสอบ
สมรรถภาพของตนเอง
๑. ดันพ้นื ๓๐ วินาที (ทดสอบความแขง็ แรงและความอดทน
ของกลา มเนอ้ื )
อุปกรณ์ นาฬก าจบั เวลา
วิธที ดสอบ นอนคว�่าเหยียดตัวตรง ต้ังศอกข้ึน
โดยใชฝ้ า่ มอื ทงั้ สองขา้ งดนั พน้ื ไว้ หา่ งกนั ประมาณ ๑ ชว่ งไหล่
ขาเหยยี ดตรง ปลายเทา้ ชดิ วางเทา้ ใหป้ ลายเทา้ สมั ผสั พน้ื เมอื่ ทดสอบใหใ้ ชแ้ ขน
ดันพ้ืนยกตัวลอยขึ้นจนศอกเหยียดตึง เมื่อได้ยินสัญญาณเร่ิมให้ยุบศอกทั้งสอง
งอทา� มุม ๙๐ องศา แลว้ ดนั พ้ืน ใหแ้ ขนเหยยี ดตรงกลับมาท่าเดิม นับ ๑ ครง้ั
ทดสอบเปนเวลา ๓๐ วนิ าที ท�าการทดลอง ๒ ครัง้
การบนั ทึกผล (นทบั ดจส�าอนบวนคควราัง้มทอี่ทอ า� นไดตใ้ วันแเวลละาคว๓า๐มอวนิดาททนี )
๒. นัง่ งอตวั
อุปกรณ์ เครือ่ งวัดความอ่อนตัว
วิธีทดสอบ นั่งเหยียดขาตรง เท้าทั้งสองต้ังฉาก
กบั พนื้ เทา้ ชดิ ตดิ กนั วางเทา้ ตรงกงึ่ กลางของเครอ่ื งวดั ความออ่ นตวั แลว้ เหยยี ด
แขนทงั้ สองตรงไปขา้ งหนา้ ใหข้ นานกบั พน้ื คอ่ ยๆ กม้ ตวั ไปขา้ งหนา้ จนไมส่ ามารถ
กม้ ตวั เหยยี ดแขนไดอ้ กี ใหอ้ า่ นคา่ ระยะที่ไดเ้ ปน เซนตเิ มตร การวดั ใหใ้ ชป้ ลายนว้ิ
มือเปน หลัก ท�าการทดสอบ ๒ คร้ัง
การบันทึกผล
๑) ถ้าปลายนิ้วเลยปลายเท้า ให้วัดระยะที่ปลายน้ิวเลยปลายเท้า แล้ว
บันทกึ คา่ เปน บวก เชน่ +๕ เซนตเิ มตร
๒) ถ้าปลายน้ิวไม่ถึงปลายเท้า ให้วัดระยะที่ปลายน้ิวไม่ถึงปลายเท้า
แล้วบนั ทกึ ค่าเปนลบ เช่น -๓ เซนตเิ มตร 1๓๕
ขอ สอบป ’53 ออกเกยี่ วกบั สมรรถภาพทางกาย ขอสอบ O-NET เบศูรณรากษารฐกิจพอเพียง
การทดสอบความแขง็ แรงของกลามเนื้อ ขอใดที่นกั เรียนหญิงทําได นกั เรยี นคดิ วธิ ปี ระดษิ ฐก ลอ งวดั ความออ นตวั ไดด ว ยตนเอง เพอ่ื ประหยดั คา ใชจ า ย
ใกลเ คียงกับนกั เรียนชาย ตวั อยา ง
1. ดันพื้น 2. ดงึ ขอ
3. กระโดดเชือก 4. ลุก - น่ัง แปะเทปกาว
วิเคราะหคําตอบ ในวัยของนักเรียนเปนวัยท่เี ริ่มมีการเปล่ียนแปลง ไมบรรทัดทม่ี หี นว ยวดั เปน
ทางดานรา งกาย เพศชายจะมพี ฒั นาการดา นกลา มเนอ้ื กระดูก และขอตอ เซนติเมตร ขดี ท่ีเปนเซนตเิ มตร
ที่แข็งแรงกวา เพศหญงิ ในการทดสอบสมรรถภาพทางกาย เพศชายจึงทําได อยูตรงขอบของกลองพอดี
ดีกวา แตก ารดันพื้นเพศหญงิ สามารถทําไดใ กลเ คียงกับเพศชาย เพราะใช
ทา ในการทดสอบแตกตา งกัน โดยเพศหญิงจะสามารถคกุ เขาดันพนื้ ได กลอ งไมห รอื กลองกระดาษ
แตเ พศชายเขาตองไมโ ดนพนื้ ดังนน้ั ขอ 1. จึงเปน คาํ ตอบท่ถี ูก
คมู อื ครู 135
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคน หา ออธธบิ บิ Eาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขาใจ ตรวจสอบผล
Explore Expand Evaluate
Engage Explain Explain
อธบิ ายความรู
1. ครูแบง กลุม นกั เรียน โดยใหก ลุมหน่ึง ๓. วิ่งระยะไกล (ทดสอบความอดทนของระบบหัวใจและระบบ
มที ัง้ นกั เรียนที่มีสมรรถภาพอยูใ นระดบั ดี ไหลเวียนโลหติ )
พอใช และควรปรับปรงุ อุปกรณ์ ๑) นาฬกาจบั เวลา ๒) นกหวีด ๓) ลู่วงิ่
วธิ ีทดสอบ ยนื หลงั เสน้ เรมิ่ ใหป้ ลายเทา้ ขา้ งใดขา้ งหนง่ึ ชดิ เสน้ เมอ่ื ครู
2. ใหนกั เรยี นนําผลการทดสอบสมรรถภาพ ใหส้ ญั ญาณออกวง่ิ โดยเปา่ นกหวดี ใหอ้ อกไปตามเสน้ ทางทกี่ า� หนด ปฏบิ ตั ิ ๑ ครง้ั
ออกมาสนทนารวมกนั เพอื่ หาวิธปี รบั ปรงุ การบันทึกผล เวลาที่ใชว้ ่ิง มีหน่วยเปนวนิ าที
สมรรถภาพ (กิจกรรมเหมาะสมกบั ระดบั ๔. ยนื กระโดดไกล (ทดสอบพลงั ของกลา มเน้ือ)
สมรรถภาพ)
3. ใหน กั เรยี นปฏบิ ตั ิตามวธิ กี ารปรับปรงุ
สมรรถภาพท่ีรวมกันคิด
อปุ กรณ์ ๑) พ้นื ท่เี รียบและไม่ล่ืน
๒) ไมว้ ัดระยะมหี นว่ ยเปน เซนติเมตร
วิธีทดสอบ ยนื โดยปลายเทา้ ทง้ั สองอยหู่ ลงั
เส้นเร่ิม หลังจากซ้อมเหว่ียงแขนทั้งสองไปข้างหลัง
ใหก้ ม้ ตวั ไปขา้ งหนา้ เมอื่ ไดจ้ งั หวะใหเ้ หวยี่ งแขนทง้ั สอง
ไปขา้ งหนา้ อยา่ งแรง พร้อมกับกระโดดด้วยเทา้ ท้งั สอง
ไปข้างหนา้ ใหไ้ กลที่สุด ให้ทา� การทดสอบ ๒ ครั้ง
การบันทกึ ผล ระยะทางทกี่ ระโดดเปนเซนติเมตร
๕. ลกุ นง่ั ใน ๖๐ วนิ าที (ทดสอบความแขง็ แรงของกลา มเนอื้ )
อปุ กรณ์ ๑) นาฬกาจับเวลา ๒) เบาะหรือพนื้ ราบ
วิธที ดสอบ นอนหงายบนเบาะหรอื พนื้ ราบ วางปลายเทา้ ทงั้ สองขา้ ง
ใหห้ ่างกนั ประมาณ ๓๐ เซนตเิ มตร เขา่ งอ
ต้ังเปนมุมฉาก ก�ามือทั้งสองข้างไว้ข้างหู
ให้เพื่อนช่วยกดหลังเท้าของผู้เข้ารับการ
ทดสอบใหต้ ดิ กับพ้ืน เมอื่ ได้ยนิ สัญญาณเรมิ่
ให้ผู้เข้ารับการทดสอบดึงตัวลุกข้ึนสู่ท่านั่ง
พร้อมกับก้มศีรษะลงระหว่างเข่าทั้งสอง แล้วหุบข้อศอกไปข้างหน้า โดยท�า
ติดต่อกันอย่างรวดเร็ว จากน้ันนอนลงให้หลังมือจรดพ้ืน แล้วลุกข้ึนสู่ท่าน่ังอีก
ให้ทา� เช่นน้ีตดิ ต่อกันอย่างรวดเร็วจนครบ ๖๐ วินาที
1๓๖ การบันทกึ ผล จา� นวนครั้งทที่ า� ไดใ้ นเวลา ๖๐ วนิ าที
เกร็ดแนะครู ขอสอบ O-NET
ขอ สอบป ’53 ออกเก่ยี วกบั สมรรถภาพทางกาย
การทดสอบความแข็งแรงของกลา มเนอื้ ขอใดท่นี ักเรียนหญงิ ทําไดยาก
แบบทดสอบสมรรถภาพทางกายนักเรียนอายุ 10 - 12 ป มกี ารทดสอบจาํ นวน ทส่ี ุด
8 รายการ ท่ีครสู ามารถพิจารณาเลอื กมาทดสอบนักเรยี น ดังนี้
• น่งั งอตัว • ยืนกระโดดไกล 1. ดันพื้น 2. ดงึ ขอ
3. กระโดดเชอื ก 4. ลุก - นงั่
• วง่ิ เก็บของ • ดงึ ขอ และงอแขนหอ ยตัว วเิ คราะหค ําตอบ วัยของนกั เรยี นเปน วยั ทีเ่ ริ่มมกี ารเปลย่ี นแปลงทางดา น
• ลกุ - นัง่ 30 วินาที • วง่ิ ทางไกล
• วิ่งเรว็ 50 เมตร • แรงบบี มือ รา งกาย เพศชายจะมพี ฒั นาการดา นกลา มเนอ้ื กระดกู และขอ ตอ ทแี่ ขง็ แรง
กวา เพศหญิง ในการทดสอบสมรรถภาพทางกายจงึ ทําไดด กี วา การดันพืน้
กระโดดเชอื ก และลกุ - น่งั เปน การทดสอบความแข็งแรงของกลา มเน้อื
สว นการดึงขอ เปน การทดสอบท้ังความแขง็ แรงของกลา มเน้ือและขอ ตอ
เพศหญงิ จึงทําไดย ากกวา ดงั น้ัน ขอ 2. จงึ เปน คําตอบท่ถี กู
136 คูม อื ครู
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา ออธธบิ ิบEาาxยยplคคaวiวnาามมรรู ู ขยายความเขา ใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Expand Evaluate
Explain Explain
อธบิ ายความรู
เกณฑ์มาตรฐานสา� หรับเด็กไทยอายุ ๑๑ ปี 1. ใหน กั เรยี นทดสอบสมรรถภาพทางกายครงั้ ที่ 2
2. ใหน กั เรยี นนาํ ผลมาเปรยี บเทียบกับการทดสอบ
รายการ ต่�ามาก เกณฑม์ าตรฐาน ดมี าก
ต่�า ปานกลาง ดี ครง้ั แรก (ดีขนึ้ หรือแยลง เพราะอะไร)
3. ใหค รูอธิบายเพิ่มเตมิ วา การทดสอบ
๑. ดันพ้นื ๑๐ ลงมา ๑๑ - ๑๘ ๑๙ - ๒๖ ๒๗ - ๓๔ ๓๕ ขน้ึ ไป ชาย หญงิ
๓๐ วนิ าที (ครงั้ ) ๘ ลงมา ๙ - ๑๖ ๑๗ - ๒๔ ๒๕ - ๓๒ ๓๓ ข้นึ ไป สมรรถภาพทางกาย ควรทดสอบอยา งสมาํ่ เสมอ
เปนระยะๆ เพ่อื ใหท ราบวา เรามสี มรรถภาพ
๒. น่ังงอตวั ๒ ลงมา ๓ - ๖ ๗ - ๑๐ ๑๑ - ๑๔ ๑๕ ข้นึ ไป ทางกายดขี ึน้ หรอื แยลง เพอ่ื จะไดสรา งเสรมิ
๙ - ๑๓ ๑๔ - ๑๘ ๑๙ ขนึ้ ไป หรอื ปรับปรงุ ใหดขี ึน้ ตอ ไป
(เซนตเิ มตร) ๓ ลงมา ๔ - ๘
๓. วง่ิ ระยะไกล ๕.๕๔ ลงมา ๕.๕๕ - ๘.๑๔ ๘.๑๕ - ๑๐.๔๑ ๑๐.๔๒-๑๓.๔๕ ๑๓.๔๖ ขึน้ ไป
(วินาที)
๖.๔๔ ลงมา ๖.๔๕ - ๙.๓๗ ๙.๓๘ - ๑๒.๔๑ ๑๒.๔๒-๑๕.๓๐ ๑๕.๓๑ ขน้ึ ไป
๔. ยนื กระโดดไกล ๗๑ ลงมา ๗๒ - ๑๐๖ ๑๐๗ - ๑๔๒ ๑๔๓ - ๑๗๙ ๑๘๐ ขึ้นไป
(เซนตเิ มตร) ๗๐ ลงมา ๗๑ - ๙๘ ๙๙ - ๑๒๖ ๑๒๗ - ๑๕๔ ๑๕๕ ขึ้นไป
๕. ลกุ - น่ัง ๑๒ ลงมา ๑๓ - ๒๒ ๒๓ - ๓๒ ๓๓ - ๔๒ ๔๓ ขนึ้ ไป
๖๐ วนิ าที (ครง้ั ) ๑๐ ลงมา ๑๑ - ๒๐ ๒๑ - ๓๐ ๓๑ - ๔๐ ๔๑ ขนึ้ ไป
แบบทดสอบและเกณฑม์ าตรฐานสมรรถภาพทางกาย ส�าหรับเด็กไทยอายุ ๗ - ๑๘ ป
รศ.ดร. สพุ ิตร สมาหิโต และคณะ, ๒๕๕๕
ò ¡ÒÃ»ÃºÑ »ÃاÊÁÃöÀÒ¾·Ò§¡ÒÂ
หลังจากการทดสอบสมรรถภาพทางกายแล้ว เราสามารถสร้างเสริม
และปรับปรุงสมรรถภาพของเราให้ดีขึ้นได้ด้วยการปฏิบัติกิจกรรมด้านท่ีเรา
บกพร่องอย่างสม่�าเสมอ ตวั อย่างกิจกรรม มีดังน้ี
เ๑ช.่นกยานื รดทว้ รยงเตทวั า้ เดียว1 ๒. พลังของกลา้ มเนอ้ื
ยื่นเทา้ อีกขา้ งหนง่ึ เช่น กระโดดขา้ ม
ไปขา้ งหลงั สงิ่ กดี ขวางขาคู่
1๓๗
ขอ สแอนบวเนน Oก-าNรคEดิT มมุ IT
ถาผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายของนกั เรยี นอยใู นระดับ ครดู าวนโ หลด เกณฑป ระเมนิ ผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายไดท ่ี
ควรปรบั ปรงุ นกั เรยี นควรทาํ อยางไร http://202.29.213.19/home/Files/songserm/003.pdf
แนวตอบ นักเรยี นควรหาขอ บกพรอ งของตนเองและหาวิธปี รับปรงุ แกไ ข
เชน ถา นกั เรยี น ลกุ - นงั่ อยใู นระดบั ควรปรบั ปรงุ เพราะกลา มเนอ้ื หนา ทอ ง นักเรียนควรรู
ไมแข็งแรง นักเรยี นก็ควรสรา งเสรมิ ความแขง็ แรงของกลามเน้อื หนาทอ ง
ดว ยการฝก ลกุ - นง่ั วนั ละ 20 - 50 คร้ัง และเพ่ิมจํานวนครง้ั มากขน้ึ เปนตน 1 ยนื ดว ยเทา เดียว นํา้ หนกั ตัวจะอยูท ่เี ทาขางทยี่ ืนอยู ทําใหรา งกายเสยี สมดุล
จึงจะทําใหนกั เรียนมีสมรรถภาพทางกายทีด่ ีข้ึนได การกางแขนจะทาํ ใหรางกายเกดิ ความสมดุลได เพราะนา้ํ หนักจะกระจายไปท่ี
แขนท้งั 2 ขาง ทาํ ใหเราสามารถยนื ทรงตวั เทาเดยี วได
คูม อื ครู 137
กระตนุ ความสนใจ สํารวจคนหา อธิบายความรู ขขยยาายยEคคxpววaาาnมมdเเขขา าใจใจ ตรวจสอบผล
Explore Explain Evaluate
Engage Expand Expand
ขยายความเขา ใจ
1. ใหน ักเรยี นคดิ โปรแกรมการปรบั ปรุงสมรรถภาพ ๓. ความออ่ นตวั เช่น ๔. ความแขง็ แรง เช่น
ของนักเรียนเอง มาคนละ 1 โปรแกรม
แลวสงครู ๑) นงั่ เหยียดเทา้ ๑) ดนั พื้นหรอื ยบุ ข้อไม่ให้
ก้มตัวแขนตึง ท้องแตะพ้ืน
2. ใหน กั เรียนปฏบิ ตั ติ ามโปรแกรมท่ีนกั เรยี นคิดขนึ้ ปลายน้ิว ๒) นงั่ เปน รูปตัววี
เปน เวลา 1 - 3 เดอื น อยา งสมาํ่ เสมอ แลว ทดสอบ แตะปลายเท้า
สมรรถภาพทางกายอกี คร้ัง ๒) ยนื กางขา
ใชม้ อื ขวาแตะ
3. ใหน ักเรยี นทํากจิ กรรมการเรยี นรู ตอนที่ 1 เทา้ ซ้ายแลว้ สลับ
คําถามชวนคิด ขวาเปนซ้าย
๕. ความคล่องแคลว่ ว่องไวและความเรว็ เช่น
วง่ิ สลบั ฟน ปลาอ้อมหลัก
การสร้างเสริมสมรรถภาพทางกายท่ีให้ผลดี ควรปฏิบตั ิตามข้นั ตอน ดังน้ี
ทดสอบ สร้างเสรมิ
รรู้ ะดบั สมรรถภาพทางกาย ปฏบิ ัตกิ ิจกรรมสร้างเสริมสมรรถภาพ
และความบกพร่อง ทางกายเปน ประจา�
ปรับปรุง
พัฒนาใหม้ ีระดับสมรรถภาพทางกายท่สี งู ขึ้น โดยปรบั ปรงุ ข้อบกพร่องแตล่ ะด้าน
ของเราใหอ้ ยู่ในเกณฑท์ ดี่ ขี ้ึน
ปรบั ปรงุ พอใช้ ดี มสี มรรถภาพทางกายที่ดีตลอดไป เหมาะสมกบั วัย
1๓๘
เกร็ดแนะครู ขอ สแอนบวเนนOก-าNรคEิดT
การปรับปรุงสมรรถภาพทางกายมปี ระโยชนอ ยางไร
ครอู าจกําหนดหัวขอการปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกายในดานตา งๆ แลว ให แนวตอบ ชวยสรา งเสริมประสทิ ธิภาพของสมรรถภาพทางกายใหสงู ขน้ึ
นกั เรยี นสืบคนขอมลู วธิ กี ารปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกายดา นท่ีนักเรยี นเลือก ชว ยลดขอจํากัดในการทาํ งานตางๆ รวมท้งั ชวยทาํ ใหส ุขภาพรา งกาย
หรอื จบั ฉลากได แขง็ แรงดวย
• การทรงตวั • ความแข็งแรง
• ความออนตัว • ความคลอ งแคลววองไว กิจกรรมทาทาย
ใหน ักเรียนคดิ โปรแกรมการปรบั ปรงุ สมรรถภาพ ใหครอบคลมุ ดาน
โภชนาการและดานรา งกาย ใหเหมาะสมกับวัยของนกั เรยี น
138 คมู อื ครู
กระตุน ความสนใจ สํารวจคนหา อธบิ ายความรู ขยายความเขา ใจ ตตรรวEวvจจaสสluออaบtบeผผลล
Engage Explore Explain
Expand Evaluate
ตรวจสอบผล Evaluate
¡¨Ô ¡ÃÃÁ¡ÒÃàÃÕ¹ÃÙŒ 1. ครูประเมินผลการทดสอบสมรรถภาพของ
นักเรียนท้ัง 3 ครัง้
ตอนท่ี ๑ ค�าถามชวนคดิ
เขียนตอบค�าถามตอ่ ไปนล้ี งในสมุด (ผลการปฏบิ ตั ิกจิ กรรมขึ้นอยกู บั ดุลยพินจิ ของครูผูสอน) 2. ครปู ระเมนิ กิจกรรมการปรับปรุงสมรรถภาพ
ทางกายทแ่ี ตล ะกลุม รวมกันคดิ
๑) การทดสอบสมรรถภาพทางกายของนกั เรียนอยู่ในระดับใด และนกั เรียน
มีขอ้ บกพร่องเร่อื งใดบา้ ง 3. ครปู ระเมนิ โปรแกรมปรับปรงุ สมรรถภาพ
ทางกาย เปรียบเทยี บกับผลการทดสอบ
๒) ถา้ นักเรยี นทดสอบการนง่ั ก้มตวั ไมผ่ ่าน แสดงวา่ มสี มรรถภาพด้านใดไม่ดี สมรรถภาพครงั้ ที่ 3
นกั เรยี นจะรสู้ กึ อยา่ งไร และนกั เรยี นจะมวี ธิ กี ารปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกายอยา่ งไร
หลกั ฐานแสดงผลการเรยี นรู
ตอนท่ี ๒ ชวนคดิ ชวนท�า
ทดสอบสมรรถภาพทางกาย แลว้ บันทึกผลตามตวั อยา่ งทก่ี �าหนดให้ลงในสมดุ 1. การทดสอบสมรรถภาพทางกายทั้ง 3 ครัง้
จากน้ันทา� การปรบั ปรงุ สมรรถภาพดา้ นทตี่ นเองไม่ผ่าน 2. กิจกรรมการปรับปรุงสมรรถภาพทางกาย
แบบบันทกึ ทแี่ ตล ะกลมุ คดิ
3. โปรแกรมปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกาย
การทดสอบสมรรถภาพ ครั้งท่ี ๑
วนั ที่ ……………….. เดอื น ………………………………….. พ.ศ. ………………………..
ชอื่ -นามสกลุ ………………………………………………………………………………………………………………………………………………………..
อายุ ………………………………… ป ชนั้ ……………………………………… เพศ ❍ ชาย ❍ หญิง
สว่ นสูง …………………………………………………. เซนติเมตร นา้� หนัก ………………………………………… กิโลกรมั
รทาดยสกอาบร ผลการทดสอบ สรปุ ผล
คร้งั ที่ ๑ คร้ังที่ ๒ คร้งั ทีด่ ที ส่ี ุด อยู่ในระดับ
๑. ดนั พน้ื ๓๐ วนิ าที
๒. นั่งงอตวั ……………….. ครง้ั ……………….. คร้ัง ……………….. คร้ัง ………………………………………..
๓. วงิ่ ระยะไกล ……………….. ซม. ……………….. ซม. ……………….. ซม. ………………………………………..
๔. ยนื กระโดดไกล …………….. วนิ าที - …………….. วนิ าที ………………………………………..
๕. ลุกน่งั ๖๐ วนิ าที ……………….. ซม. ……………….. ซม. ……………….. ซม. ………………………………………..
……………….. ครงั้ ……………….. คร้ัง ……………….. ครั้ง ………………………………………..
หมายเหตุ : น�าผลการทดสอบสมรรถภาพทางกายเทียบกับเกณฑม์ าตรฐานทค่ี รูกา� หนด ถ้าผลการทดสอบ
ตา�่ กวา่ เกณฑ์ ใหน้ �ามาปรบั ปรุงแกไ้ ขสมรรถภาพทางกายของตนเอง
ตอนท่ี ๓ ผลงานสรา้ งสรรค์
นกั เรยี นแตล่ ะคนคิดวธิ กี ารปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกายดา้ นท่ตี นเองอ่อนมากท่ีสดุ
มาคนละ ๑ วธิ ี จากนั้นออกมาน�าเสนอให้ครแู ละเพอ่ื นดู และร่วมกันวพิ ากษว์ จิ ารณ์
ถงึ ความเหมาะสมของกิจกรรมทเ่ี ลอื กมา
1๓๙
ขอสแอนบวเนน Oก-าNรคEิดT เกร็ดแนะครู
นักเรียนควรวางแผนในการสรางเสรมิ สมรรถภาพทางกายสําหรบั ตนเอง ครูแนะนําเพิม่ เติมเกีย่ วกับการปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกายวา ควรคาํ นึงถงึ
ในขอใดจงึ จะเหมาะสม หลักการตอ ไปนี้
1. ทดสอบสมรรถภาพทางกายกอน ออกกําลงั กายสรา งเสรมิ ทดสอบ • รจู กั ประมาณตนเอง โดยเลือกกิจกรรมท่ีเหมาะกับรางกายของตนเอง
สมรรถภาพทางกายอีกครงั้ เปรยี บเทยี บ • ความปลอดภยั การปรบั ปรงุ สมรรถภาพทางกายอาจตอ งใชร ะยะเวลา
2. ทดสอบสมรรถภาพทางกายกอ น เปรยี บเทียบ ทดสอบสมรรถภาพ ในการปฏบิ ตั ิ จึงไมค วรหกั โหมในการทํากิจกรรมจนเกินไป
ทางกายอีกครัง้ ออกกําลังกายสรา งเสรมิ เพราะอาจทาํ ใหบาดเจบ็ ได
• การวางแผนปฏิบัตแิ ละกําหนดเปา หมายใหชดั เจน โดยตองรูวาตนเอง
3. ทดสอบสมรรถภาพทางกายกอ น ทดสอบสมรรถภาพทางกายอีกครั้ง ตอ งการปรับปรุงดา นใด มวี ธิ ีการปฏบิ ัติอยา งไร และกําหนดระยะเวลา
เปรียบเทยี บ และความถใ่ี นการปฏบิ ตั ิ จากนนั้ ลงมอื ปฏบิ ตั อิ ยา งสมา่ํ เสมอ
จนมสี มรรถภาพทางกายทดี่ ขี น้ึ
4. ทดสอบสมรรถภาพทางกายกอ น ออกกาํ ลงั กายสรา งเสรมิ เปรยี บเทยี บ
วเิ คราะหคําตอบ การสรา งเสรมิ สมรรถภาพทางกาย เราตอ งรูก อนวา คูม อื ครู 139
เรามีสมรรถภาพทางกายเปนอยางไร มขี อควรปรบั ปรงุ ในดานใด แลวจึง
ออกกาํ ลังกายเพือ่ สรา งเสริมจดุ ที่ควรปรบั ปรุง เม่อื ออกกาํ ลงั กายไปได
สกั ระยะเวลาหนง่ึ กใ็ หทดสอบสมรรถภาพทางกายอีกครงั้ และนําไป
เปรียบเทียบกับคร้ังกอ น ดังนั้น ขอ 1. จงึ เปน คาํ ตอบทีถ่ ูก
กระตนุ้ ความสนใจ สำ� รวจค้นหา อธบิ ายความรู้ ขยายความเข้าใจ ตรวจสอบผล
Engage Explore Explain Expand Evaluate
บรรณานุกรม
กรมพลศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ. เกม ๑๐๘. พิมพ์คร้ังที่ ๕. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์คุรุสภา
ลาดพร้าว, ๒๕๓๘.
กรมวชิ าการ กระทรวงศกึ ษาธกิ าร. กีฬาพ้ืนบ้าน. พิมพค์ รง้ั ท่ี ๑. กรงุ เทพฯ : โรงพมิ พค์ รุ ุสภา
ลาดพร้าว, ๒๕๔๖.
กรมสนบั สนนุ บรกิ ารสขุ ภาพ กองสขุ ศกึ ษา กระทรวงสาธารณสขุ . สขุ บญั ญตั แิ หง่ ชาต.ิ พมิ พค์ รง้ั ที่ ๑.
กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณก์ ารเกษตรแห่งประเทศไทย จา� กัด, ๒๕๕๕.
กรมสขุ ภาพจติ กระทรวงสาธารณสุข. สร้างสุขในบา้ น. พิมพค์ รัง้ ท่ี ๑. นนทบุรี : ศูนย์สขุ ภาพจติ
ที่ ๑ กระทรวงสาธารณสุข, ๒๕๔๗.
จิรภรณ์ ศริ ปิ ระเสรฐิ . เกมน�าไปส่ทู กั ษะกีฬา. พิมพค์ ร้งั ที่ ๑. กรุงเทพฯ : อักษรพทิ ยา, ๒๕๔๕.
ชมรมบ้านวิทยาศาสตร.์ รา่ งกายมหัศจรรย.์ พมิ พ์ครั้งที่ ๑. นนทบรุ ี : บรษิ ทั ไทยรม่ เกล้า จ�ากัด
(ฝา่ ยการพมิ พ)์ , ๒๕๔๖.
ยุวดี จอมพทิ ักษ์. คมู่ อื เลือกซื้ออาหาร. พิมพ์ครง้ั ท่ี ๑. กรงุ เทพฯ : สา� นักพิมพน์ า้� ฝน, ๒๕๔๔.
รงั สฤษฎิ์ บุญชลอ. เซปักตะกร้อและตะกร้อลอดห่วง. พมิ พ์คร้งั ที่ ๖. กรงุ เทพฯ : บริษทั พี เอน็
เค แอนด์ สกายพริ้นต้ิง จา� กดั , ๒๕๔๗.
วชิ าการและมาตรฐานการศกึ ษา, สา� นัก. สา� นักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพืน้ ฐาน กระทรวง
ศึกษาธิการ. ตัวช้ีวัดและสาระการเรียนรู้แกนกลาง กลุ่มสาระการเรียนรู้สุขศึกษา
และพลศึกษา. พิมพ์คร้ังท่ี ๑. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมชนสหกรณ์การเกษตรแห่ง
ประเทศไทย จา� กดั , ๒๕๕๑.
สพุ ชั รา ซมิ้ เจรญิ และคณะ. หนงั สอื เรยี น รายวชิ าพนื้ ฐาน พลศกึ ษา ม.๑. พมิ พค์ รงั้ ท่ี ๒. กรงุ เทพฯ
: บรษิ ทั ไทยรม่ เกลา้ จา� กัด, ๒๕๕๗.
สพุ ชั รา ซ้ิมเจรญิ และไพบลู ย์ กฤษณจักราวัฒน.์ หนงั สอื เรียน รายวิชาพ้ืนฐาน พลศกึ ษา ม.๕.
พมิ พ์ครัง้ ที่ ๕. กรงุ เทพฯ : บรษิ ัทไทยร่มเกลา้ จา� กดั , ๒๕๕๗.
สพุ ิตร สมาหิโต และคณะ. แบบทดสอบและเกณฑ์มาตรฐานสมรรถภาพทางกาย สา� หรับเด็กไทย
อายุ ๗ - ๑๘ ป.ี ฉบบั ที่ ๒. กรุงเทพฯ : บริษทั ไทยรม่ เกล้า จา� กัด, ๒๕๕๗.
อดุ ม ดุจศรีวัชร. ยาเสพติด. พิมพ์ครั้งที่ ๑. กรุงเทพฯ : โรงพมิ พท์ พิ ยวิสทุ ธิ์, ๒๕๓๙.
เอกรนิ ทร์ สม่ี หาศาล. แม่บทมาตรฐาน หลกั สูตรแกนกลางฯ สขุ ศึกษาและพลศึกษา ป.๕.
พมิ พ์คร้งั ท่ี ๓. กรงุ เทพฯ : สา� นักพิมพส์ ัมปชญั ญะ, ๒๕๕๕.
140
140 คู่มือครู