The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by เยาวภา บุญญาธิการ, 2022-09-10 23:10:27

แผนการสอน เทอม 1- 64

รวมแผน1- 64

ผลทีเ่ กิดกับผูเ้ รยี นสอดคลอ้ งหลัก ปศพพ. ดังน้ี

องคป์ ระกอบ พอประมาณ มเี หตุผล มีภมู คิ ุ้มกนั ทด่ี ีในตัว
หลักความ
พอเพยี ง - มีการแบง่ กลมุ่ ทีเ่ หมาะสม - มกี ารวเิ คราะหเ์ น้ือหา - วางแผนการทำกิจกรรมท่ีได้รับ

ความรู้ - เลอื กใชว้ ัสดุ สอ่ื อปุ กรณ์ ได้ ความรเู้ พ่ือนำมาอธบิ าย มอบหมายได้อยา่ งเหมาะสมชัดเจน

เหมาะสมและคุ้มคา่ กบั การเรียน ในรปู แบบท่เี ข้าใจงา่ ย - มีการเตรยี มส่ือ อปุ กรณ์ให้พร้อมก่อน

- มีการเรียนร้ตู ามหวั ข้อภยั แลง้ - อธิบายโดยการนำเสนอ ลงมือทำ

วาตภยั อทุ กภัย และดินโคลน งานได้อยา่ งชัดเจน - วางแผนกำหนดแบง่ หน้าท่กี าร

ถลม - มกี ารเชอ่ื มโยงเนอ้ื หาที่ ทำงานในกลมุ่ เหมาะสม ในการสรปุ ใบ

สรปุ อยา่ งเป็นขน้ั ตอนและ ความรู้ ในรูปแบบมายเม็บ

มเี หตุผลประกอบในการ - ศกึ ษาขัน้ ตอนการการปฏบิ ัติงานที่

อธิบาย ได้รับมอบหมายใหเ้ ขา้ ใจก่อนลงมอื ทำ

- สามารถปรบั เปล่ยี นเหตุการณ์

ได้ตามทผ่ี เู้ รยี นสนใจ

1. ผเู้ รยี นสามารถอธิบายความหมายของ ภัยแล้ง วาตภยั อทุ กภยั และดินโคลน ถลม

2. ผู้เรยี นบอกสาเหตุ และปจจยั การเกิดภยั แล้ง วาตภยั อุทกภัย และดินโคลน ถลม

3. ผ้เู รียนบอกวิธีการปฏบิ ัตขิ ณะเกดิ ภยั แล้ง วาตภยั อทุ กภัย และดนิ โคลน ถลม

4. ผเู้ รยี นบอกวธิ ีการปฏิบตั ิตนหลังเกิดภยั แลง้ วาตภยั อทุ กภยั และดนิ โคลน ถลม

5. ผู้เรียนสามารถเสนอแนวทางการปองกันและการแกไขปญหา ผลกระทบท่ีเกิดจากภัยแล้ง วาตภัย

อุทกภัย และดนิ โคลน ถลม

คณุ ธรรม มคี วามใฝร่ ู้ ใฝ่เรยี น มีความรับผดิ ชอบ สามคั คี มีระเบียบวินัย ความซอ่ื สัตย์ ความพอเพียง
ความตรงต่อเวลา ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล

ผเู้ รียนไดเ้ รียนรู้ การใชช้ ีวติ ท่สี มดลุ และพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงใน 4 มติ ิ

ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพียง

ดา้ น วตั ถุ สงั คม ส่งิ แวดล้อม วัฒนธรรม
องคค์ วามรู้

ความรู้ - ผู้เรยี น มคี วามรูใ้ น - รจู้ ักวิธีการทำงานเปน็ - ร้จู กั รกั ษาส่ิงแวดลอ้ ม - อธบิ ายความหมายของ ภยั

การเลอื กใช้สอ่ื วัสดุ กลุ่ม/การอยู่ร่วมกัน การ - รกั ษาความสะอาด แลง้ วาตภัย อทุ กภยั และดิน

อปุ กรณ์ ในการเรียน แบง่ หนา้ ที่รับผิดชอบ ภายในศูนยก์ ารเรยี น โคลน ถลม

การสอน ได้ถกู ต้อง - รู้จักรับฟังความคดิ เห็น - มคี วามรูเ้ ก่ยี วกบั การ - บอกสาเหตุ และปจจัยการ

- มคี วามรูใ้ นเร่ือง ของสมาชิกในกลุ่ม กำหนดเป้าหมายและ เกดิ ภยั แล้ง วาตภัย อทุ กภยั

ภยั แลง้ วาตภัย อุทกภยั - แลกเปล่ียนเรียนรู้ในการ วางแผนการเรียนรดู้ ว้ ย และดนิ โคลน ถลม

และดนิ โคลน ถลม เรยี นรดู้ ้วยตนเอง ตนเอง

ทกั ษะ - นำขอ้ มลู มาใชใ้ นการ - ยอมรบั ในความสามารถ -ลงมอื ปฎบิ ัตใิ นการ - บอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ขิ ณะเกดิ ภัย

สรุปองคค์ วามร้ไู ดถ้ ูกตอ้ ง ของสมาชิกในกลุ่ม เรียนรู้ดว้ ยเอง แลง้ วาตภัย อทุ กภัย และดิน

- เลือกวิธีการเรยี นรูด้ ว้ ย - ไดร้ บั ความร่วมมือในการ โคลน ถลม
- บอกวิธีการปฏบิ ตั ิหลงั เกิดภัย
ตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม ทำงานกลุ่ม แล้ง วาตภยั อุทกภัย และดิน
โคลน ถลม
และถกู ต้อง - ออกแบบการทำมายเมบ็ ได้ เสนอแนวทางการปองกันและ

- เลอื กใช้ส่ือในการเรยี นรู้ เหมาะสมกับสงั คมในปัจจุบนั

ดว้ ยตนเองที่เหมาะสม

การแกไขปญหา ผลกระทบท่ี

เกิดจากภยั แล้ง วาตภยั

อุทกภยั และดินโคลน ถลม

ค่านิยม - ภูมิใจในผลงานของ -มีความสามัคคใี นการ -เหน็ คุณคา่ ของศูนย์ - มีเจตคติต่อการทำงาน
รว่ มกนั
ตนเอง เห็นคุณคา่ ใน ทำงานกลุม่ การเรยี น และ - ตระหนักถึงความสามัคคี
และการทำงานร่วมกัน
การใชส้ ือ่ วสั ดุ อปุ กรณ์ -มีความเอื้อเฟ้อื เผ่ือแผใ่ น สง่ิ แวดลอ้ มใน - เหน็ ความสำคัญของการ
ได้ถูกต้องเหมาะสม การทำงานกล่มุ ร่วมกัน สถานศึกษา เรียนร้ดู ว้ ยตนเอง
- ตระหนกั หลักการเลือก -ยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ และ - เหน็ คณุ ค่าของการ
ใชส้ ง่ิ ของบนพ้ืนฐาน ยอมรับเสยี งข้างมาก
ความพอเพยี ง -เห็นความสำคญั และคุณค่า เรียนรู้ด้วยตนเอง

-เห็นความสำคัญ เจตคต/ิ ปจั จยั ทท่ี ำใหก้ าร

ความสำคัญของการ เรยี นรูด้ ว้ ยตนเองประสบ

เรยี นรู้ด้วยตนเอง ความสำเร็จ

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9

ระดับมธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

แบบพบกลุ่ม เวลา 6 ชว่ั โมง

เร่ือง ไฟปา่ หมอกควัน แผน่ ดินไหว และสินามึ วันที่ 25 เดือน กรกฎาคม พ.ศ 2564

.................................................................................... .................................................................................................

ของนางสาวเยาวภา บุญญาธกิ าร ศูนยก์ ารเรยี นชุมชนโรงเรยี นจนั ทร์หนุ่ บำเพ็ญ จังหวัดกรงุ เทพมหานคร

................................................................ ........................................................................................................ .............

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มีความรูความเขาใจและตระหนัก เกยี่ วกบั ภูมิศาสตร ประวตั ิศาสตร เศรษฐศาสตร การเมืองการปกครอง

ในโลก และนำมาปรบัใชในการดำเนนิ ชีวิตเพ่ือความมัน่ คงของชาติ

2. ผลการเรียนรู้ทคี่ าดหวัง
1. ผู้เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายของไฟป่า หมอกควัน แผน่ ดนิ ไหว และสนิ ามึ
2. ผู้เรียนบอกสาเหตุ และปจจัยการเกดิ ไฟปา่ หมอกควนั แผ่นดินไหว และสนิ ามึ
3. ผู้เรียนบอกวิธกี ารปฏิบตั ขิ ณะเกดิ ไฟปา่ หมอกควัน แผน่ ดนิ ไหว และสนิ ามึ
4. ผเู้ รียนบอกวิธกี ารปฏบิ ตั ิตนหลังเกดิ ไฟปา่ หมอกควนั แผ่นดินไหว และสินามึ
5. ผู้เรียนสามารถเสนอแนวทางการปองกันและการแกไขปญหา ผลกระทบที่เกิดจากไฟป่า หมอกควัน

แผน่ ดนิ ไหว และสินามึ

3. สาระการเรยี นรู้ /เน้ือหา

ไฟป่า
1. ความหมายของไฟป่า
2. แนวทางการปองกนั และการแกไขปญหาผลกระทบท่เี กดิ จากไฟป่า

หมอกควนั
1. ความหมายของหมอกควนั
2. แนวทางการปองกันและการแกไขปญหาผลกระทบทเ่ี กดิ จากหมอกควนั

แผ่นดินไหว
1. ความหมายของแผน่ ดนิ ไหว
2. แนวทางการปองกนั และการแกไขปญหาผลกระทบท่เี กิดจากแผน่ ดินไหว

สึนามิ
1. ความหมายของสนิ ามิ
2. แนวทางการปองกันและการแกไขปญหาผลกระทบทเ่ี กดิ จากสนิ ามึ

4.จดุ ประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายความหมายของไฟป่า หมอกควนั แผน่ ดินไหว และสนิ ามึ

2. บอกสาเหตุ และปจจยั การเกิดไฟปา่ หมอกควนั แผ่นดินไหว และสนิ ามึ

3. บอกวธิ กี ารปฏิบัติขณะเกิดไฟป่า หมอกควัน แผน่ ดินไหว และสนิ ามึ

4. บอกวธิ กี ารปฏบิ ตั ติ นหลังเกิดไฟป่า หมอกควนั แผน่ ดินไหว และสนิ ามึ

5. เสนอแนวทางการปองกันและการแกไขปญหา ผลกระทบท่ีเกิดจากไฟป่า หมอกควัน แผ่นดินไหว
และสินามึ

5. ขน้ั ตอนการจดั กระบวนการเรียนรู้
ขั้นท่ี 1 กำหนดสภาพปัญหาความตอ้ งการ

1. ครูนำเข้าสู่บทเรียน และสอบถามความรู้เดิมของแต่ละบุคคลที่มีต่อไฟป่า หมอกควัน แผ่นดินไหว
และสนิ ามึ

2. ครูและผู้เรียนแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ ซักถาม/แสดงความคิดเหน็ เกี่ยวเร่ือง ความหมายของไฟป่า หมอกควัน
แผ่นดินไหว และสินามึ และแนวทางการปองกันและการแกไขปญหาผลกระทบท่ีเกิดจากไฟป่า หมอกควัน
แผน่ ดินไหว และสินามึ

ขนั้ ท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและการจดั การเรียนรู้
1. ให้ผู้เรียนช่วยกันระดมความคิดโดยการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ 6 - 8
คน ซ่งึ ในแตล่ ะกลมุ่ จะได้ใบความรู้ ดงั ตอ่ ไปน้ี

กลุ่มที่ 1 และ 2 ใบความรู้ เร่ือง ไฟป่า หนังสือเรียนรายวิชาการเรียนรูสูภัยธรรมชาติ 3
(สค32032) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า 77 - 94

กลุ่มที่ 3 และ 4 ใบความรู้ เร่ือง หมอกควัน หนังสือเรียนรายวิชาการเรียนรูสูภัยธรรมชาติ 3
(สค32032) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 100 - 118

กลุ่มท่ี 5 และ 6 ใบความรู้ เร่ือง แผ่นดินไหว หนังสือเรียนรายวิชาการเรียนรูสูภัยธรรมชาติ 3
(สค32032) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า 123 - 145

กลุ่มท่ี 7 และ 8 ใบความรู้ เร่ือง สินามึ หนังสอื เรยี นรายวิชาการเรียนรูสูภยั ธรรมชาติ 3 (สค32032)
ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า 152 - 174

2. ครเู ปดิ โอกาสให้ผู้เรียนในแตล่ ะกลุ่มศกึ ษาใบความร้ทู ี่ตนเองได้รบั ร่วมกัน และสรุปองค์ความรทู้ ไี่ ด้รับลงใน
รูปแบบของมายแมบ็ ปิ้ง พรอ้ มส่งตวั แทนในการนำเสนอหน้าช้นั เรยี น

ขน้ั ที่ 3 การปฏิบตั ิและนำไปประยุกต์ใช้
1. ใหผ้ ูเ้ รยี นแต่ละคนทำใบงานตามทีน่ ักศกึ ษาของแต่ละคนได้รับตามหัวข้อใบความรู้
2. ใหผ้ ู้เรยี นแต่ละคนไปศกึ ษาความรู้เพิ่มเติมในหวั ขอ้ สถานการณไฟป่า หมอกควนั แผ่นดินไหว และสินามึ
และลักษณะการเกดิ การเกดิ ไฟป่า หมอกควนั แผน่ ดนิ ไหว และสินามึ ส่งครใู นรูปแบบ กรต.
ขน้ั ที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้
1. ใบสรุปองคค์ วามรมู้ ายแม็บป้งิ
2. ใบงาน

6. สอ่ื การเรียนรู้
1. หนังสือเรียนรายวชิ าการเรียนรูสูภยั ธรรมชาติ 3 (สค32032) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
2. ใบงาน เรอื่ ง ไฟป่า
3. ใบงาน เรื่อง หมอกควัน
4. ใบงาน เรื่อง แผน่ ดนิ ไหว
5. ใบงาน เร่อื ง สินามึ

7. การวัดและประเมินผล
ด้านความรู้
- ประเมนิ จากการนำเสนอ
- ใบงาน
ด้านทักษะ
- ประเมินผลจากการปฏิบตั ิงานร่วมกัน
- จากการสังเกตการทำกจิ กรรมของผู้เรียน
ด้านคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านิยม
- ประเมินจากความรบั ผดิ ชอบงานท่ไี ด้รับมอบหมาย
- ประเมินโดยการสงั เกตพฤติกรรมในการรว่ มกจิ กรรม

บันทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1. กิจกรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
2. สภาพปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
3. วิธีการแก้ปญั หา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…
4. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ปญั หา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…

ลงช่ือ................................................ครผู ู้สอน
(นางสาวเยาวภา บญุ ญาธิการ)
ครู คศ.2

5. ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษา
.......................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ........................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่อื .................................................ผู้ตรวจ
(นายพเิ ชษฐ เสอื เฒา่ )

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการ กศน.เขตห้วยขวาง
วันที่ .......... เดอื น............................... พ.ศ.....................

ตารางวเิ คราะห์ตามหลักปรัชญาของ ปศพพ. (แผนการสอนคร้ังที่ 9)

ผู้สอนนำมาใช้ในการจดั กจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั นี้

หลักความพอเพยี ง พอประมาณ มเี หตุผล มีภมู ิคุ้มกันทด่ี ใี นตัว
ประเด็น

- กำหนดเนอื้ หาในเหมาะสมกบั - เนือ้ หาท่ีเกิดขึ้นสอดคล้อง - กำหนดแนวทางอย่างชดั เจน
เน้อื หา มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ช้วี ัด และ กับมาตรฐาน ตัวชี้วดั - ครเู ตรยี มเน้ือหา

เหมาะกบั วัยของผู้เรียน - ครูเตรียมสื่อใบความรู้

- ครจู ดั เตรียมใบงาน

- จดั กจิ กรรมให้ผู้เรียนไดป้ ฏบิ ตั ิ - ผ้เู รยี นไดป้ ฏิบัติจริงและ - มกี ารวางขัน้ ตอนการจัดการจัด
วธิ ีการจดั กจิ กรรม จรงิ
เกิดทกั ษะการคิด วเิ คราะห์ กิจกรรมการเรยี นการสอนท่ี

- จัดกจิ กรรมใหผ้ ้เู รียนได้แสดง - การระดมความคิดทำให้ ชัดเจน

ความคิดเห็นและระดมความคิดใน ทำงานกล่มุ เกิดมิติทางสงั คม - จัดเตรยี มกิจกรรมสำรองใน

การสรปุ องค์ความรู้ - มีการแลกเปลยี่ นเรียนรถู้ ึง กรณที ี่ไม่สามารถจัดกลมุ่ ระดม

การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ความคิดได้

สื่อ/อปุ กรณ์ - เลือกใช้ใบความรูแ้ ละใบกจิ กรรม - เลือกใชส้ ื่อ อปุ กรณ์ที่ - เตรียมสื่อ อุปกรณ์ ให้พร้อมกับ

ที่เหมาะสมกับผู้เรียน ผเู้ รียนสามารถเรยี นรู้ไดด้ ้วย การจัดกจิ กรรมการเรียน

- มีสื่อการเรยี นที่เพยี งพอกับ ตนเอง การสอน และเตรียมส่อื ที่มี

ผู้เรียน - เลอื กใชส้ ือ่ อุปกรณ์ ความหลากหลาย

- ทท่ี ันสมัย เหมาะแก่การ - ลำดบั ขน้ั ตอนในการใชส้ ือ่

เรยี นรแู้ ละสามารถเข้าใจง่าย - ครูมคี วามชำนาญในการใชส้ ื่อ

แหล่งเรยี นรู้ - มีแหล่งเรียนร้ทู ่เี ออ้ื ต่อการจดั - สอื่ มีความชดั เจนหมาะสม - สำรวจ ตรวจสอบแหล่งเรียนรู้

กจิ กรรม เวลาที่กำหนด และวัย กบั เนอ้ื หา - จัดเตรยี มแหล่งเรยี นรู้

ของผูเ้ รยี น - แหล่งเรียนรู้ผู้เรยี นสามารถ - ศึกษาแหลง่ เรียนรูล้ ่วงหนา้

ค้นหาง่ายสะดวก เช่นเว็บไซต์

- มีการออกแบบการวัดผลและ - ประเมนิ ผลดว้ ยวิธที ่ี - วางแผนการออกแบบ
การประเมนิ ผล ประเมินผลได้เหมาะสมตามตวั ชีว้ ดั เหมาะสม ตรงตามตัวช้วี ดั ประเมนิ ผลใหต้ รงตามตวั ช้วี ดั

เน้ือหา เวลา และวัยของผู้เรียน ทำให้บรรลุเป้าหมาย - มีการประเมินในหลายรปู แบบ

ความรู้ - ความรู้ เร่ือง ไฟป่า หมอกควัน แผน่ ดินไหว และสินามึ
คุณธรรม - ครูมคี วามรู้ใน เรือ่ ง ความหมายของไฟป่า หมอกควนั แผน่ ดนิ ไหว และสนิ ามึ และแนวทาง
การปองกนั และการแกไขปญหาผลกระทบทเ่ี กิดจากไฟปา่ หมอกควนั แผน่ ดินไหว และสินามึ
- มีความร้ทู ่ถี ูกตอ้ งชัดเจน ความรัก ความเมตตา ใฝ่เรยี นรู้ ความขยัน ความอดทน ความเสยี สละ
ความพอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล

ผลทเ่ี กดิ กับผู้เรยี นสอดคล้องหลัก ปศพพ. ดังน้ี

องค์ประกอบ พอประมาณ มเี หตผุ ล มภี มู ิคมุ้ กนั ทดี่ ใี นตัว
หลักความ
พอเพยี ง - มกี ารแบง่ กลุ่มท่เี หมาะสม - มกี ารวิเคราะหเ์ นอ้ื หา - วางแผนการทำกจิ กรรมท่ีได้รับ

ความรู้ - เลอื กใช้วสั ดุ ส่ือ อปุ กรณ์ ได้ ความรูเ้ พ่ือนำมาอธบิ าย มอบหมายได้อย่างเหมาะสมชัดเจน

คณุ ธรรม เหมาะสมและคุ้มค่ากบั การเรียน ในรูปแบบท่เี ข้าใจงา่ ย - มีการเตรยี มส่ือ อปุ กรณใ์ ห้พร้อมก่อน

- มีการเรียนรูต้ ามหวั ข้อภยั แลง้ - อธิบายโดยการนำเสนอ ลงมือทำ

วาตภยั อทุ กภยั และดินโคลน งานได้อย่างชดั เจน - วางแผนกำหนดแบ่งหน้าทก่ี าร

ถลม - มีการเชื่อมโยงเนอื้ หาที่ ทำงานในกลุม่ เหมาะสม ในการสรุปใบ

สรปุ อย่างเป็นข้ันตอนและ ความรู้ ในรปู แบบมายเม็บ

มีเหตุผลประกอบในการ - ศึกษาข้ันตอนการการปฏบิ ัตงิ านที่

อธิบาย ได้รับมอบหมายให้เขา้ ใจก่อนลงมอื ทำ

- สามารถปรับเปลย่ี นเหตกุ ารณ์

ไดต้ ามทผ่ี ูเ้ รยี นสนใจ

1. ผู้เรียนสามารถอธิบายความหมายของไฟป่า หมอกควัน แผ่นดนิ ไหว และสินามึ

2. ผู้เรยี นบอกสาเหตุ และปจจยั การเกดิ ไฟป่า หมอกควนั แผ่นดนิ ไหว และสนิ ามึ

3. ผู้เรยี นบอกวธิ ีการปฏบิ ตั ขิ ณะเกดิ ไฟป่า หมอกควัน แผน่ ดนิ ไหว และสินามึ

4. ผู้เรยี นบอกวิธีการปฏบิ ตั ิตนหลังเกดิ ไฟป่า หมอกควนั แผ่นดินไหว และสนิ ามึ

5. ผ้เู รยี นสามารถเสนอแนวทางการปองกนั และการแกไขปญหา ผลกระทบที่เกิดจากไฟปา่ หมอกควัน

แผน่ ดนิ ไหว และสนิ ามึ

มีความใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น มีความรับผิดชอบ สามคั คี มรี ะเบียบวินยั ความซอื่ สตั ย์ ความพอเพียง

ความตรงต่อเวลา ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล

ผเู้ รยี นได้เรียนรู้ การใชช้ ีวิตทีส่ มดุล และพร้อมกับการเปลีย่ นแปลงใน 4 มติ ิ

ตามหลกั ปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

ด้าน วัตถุ สังคม ส่ิงแวดล้อม วฒั นธรรม
องคค์ วามรู้

ความรู้ - ผู้เรียน มีความรู้ใน - รู้จักวิธีการทำงานเป็น - รจู้ กั รักษาส่งิ แวดลอ้ ม - อธิบายความหมายของไฟป่า

การเลอื กใชส้ ่อื วสั ดุ กลุ่ม/การอย่รู ่วมกัน การ - รักษาความสะอาด หมอกควนั แผน่ ดนิ ไหว และสิ

อุปกรณ์ ในการเรยี น แบ่งหนา้ ทร่ี บั ผิดชอบ ภายในศนู ยก์ ารเรียน นามึ

การสอน ได้ถกู ต้อง - รจู้ ักรับฟงั ความคิดเหน็ - มคี วามร้เู กี่ยวกบั การ - บอกสาเหตุ และปจจัยการ

- มีความร้ใู นเรื่อง ของสมาชิกในกลุ่ม กำหนดเปา้ หมายและ เกิดไฟปา่ หมอกควัน

ภัไฟปา่ หมอกควัน - แลกเปลีย่ นเรยี นรใู้ นการ วางแผนการเรียนรดู้ ้วย แผ่นดนิ ไหว และสนิ ามึ ม

แผ่นดินไหว และสินามึ เรียนรู้ดว้ ยตนเอง ตนเอง

ทักษะ - นำข้อมูลมาใชใ้ นการ - ยอมรับในความสามารถ -ลงมือปฎิบัติในการ - บอกวิธีการปฏบิ ัตขิ ณะเกิด

สรปุ องคค์ วามรู้ได้ถกู ต้อง ของสมาชิกในกลุ่ม เรียนรู้ด้วยเอง ภัไฟปา่ หมอกควัน แผน่ ดนิ ไหว

- เลอื กวธิ ีการเรยี นรดู้ ว้ ย - ไดร้ บั ความร่วมมือในการ และสินามึ
- บอกวธิ ีการปฏิบตั ิหลังเกดิ
ตนเองได้อย่างเหมาะสม ทำงานกลุ่ม ไฟปา่ หมอกควนั แผ่นดินไหว
และสนิ ามึ ม
และถกู ตอ้ ง - ออกแบบการทำมายเมบ็ ได้ เสนอแนวทางการปองกนั และ

- เลอื กใชส้ ่อื ในการเรยี นรู้ เหมาะสมกบั สังคมในปจั จุบนั

ด้วยตนเองท่ีเหมาะสม

การแกไขปญหา ผลกระทบที่

เกิดจากไฟป่า หมอกควัน

แผน่ ดินไหว และสนิ ามึ

ค่านิยม - ภูมใิ จในผลงานของ -มคี วามสามัคคีในการ -เหน็ คุณคา่ ของศนู ย์ - มเี จตคตติ ่อการทำงาน
รว่ มกัน
ตนเอง เหน็ คุณค่าใน ทำงานกลุ่ม การเรียน และ - ตระหนักถึงความสามัคคี
และการทำงานร่วมกนั
การใช้ส่อื วสั ดุ อุปกรณ์ -มคี วามเอื้อเฟ้ือเผื่อแผใ่ น ส่งิ แวดลอ้ มใน - เหน็ ความสำคญั ของการ
ไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม การทำงานกลมุ่ ร่วมกัน สถานศกึ ษา เรยี นรดู้ ้วยตนเอง
- ตระหนักหลักการเลือก -ยอมรับฟงั ความคิดเห็นและ - เหน็ คุณคา่ ของการ
ใชส้ ่งิ ของบนพื้นฐาน ยอมรับเสยี งข้างมาก
ความพอเพยี ง -เห็นความสำคญั และคุณค่า เรียนรู้ด้วยตนเอง

-เห็นความสำคัญ เจตคต/ิ ปจั จยั ทที่ ำใหก้ าร

ความสำคัญของการ เรยี นรูด้ ว้ ยตนเองประสบ

เรียนร้ดู ้วยตนเอง ความสำเร็จ

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 10

ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

แบบพบกลุ่ม เวลา 6 ชว่ั โมง

เรื่อง ความภมู ิใจในความเปน็ ไทย วันท่ี 1 เดือน สิงหาคม พ.ศ 2564

.............................................................................................. .....................................................................................
ของนางสาวเยาวภา บุญญาธกิ าร ศูนย์การเรียนชมุ ชนโรงเรยี นจันทรห์ นุ่ บำเพญ็ จงั หวัดกรุงเทพมหานคร
........................................................................... ............................................................................................. .........

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มคี วามรูความเขาใจและตระหนัก เกี่ยวกบั ภูมิศาสตร ประวตั ิศาสตร เศรษฐศาสตร การเมืองการ

ปกครองในโลก และนำมาปรบัใชในการดำเนินชีวิตเพ่ือความมนั่ คงของชาติ

2. ผลการเรียนรทู้ ีค่ าดหวัง

1. ผ้เู รยี นสามารถอธบิ ายความหมาย ความสำคัญของสถาบนั หลักของชาติ
2. ผเู้ รยี นสามารถอธิบายความเปน็ มาของชนชาตไิ ทย
3. ผเู้ รยี นสามารถบอกพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทยกบั การรวมชาติ
4. ผเู้ รียนสามารถอธิบายความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตริย์
5. ผเู้ รยี นสามารถอธิบายและยกตวั อย่างทีแ่ สดงถึงความภาคภูมใิ จในความเปน็ ไทย
6. ผู้เรียนสามารถบอกบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทยตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา ธนบุรี และ

รตั นโกสินทร์

3. สาระการเรยี นรู้ /เนอ้ื หา
ความภูมใิ จ ในความเป็นไทย
1. สถาบันหลักของชาติ
2. บทสรุปสถาบันพระมหากษตั ริย์ เป็นศูนย์รวมใจของคนในชาติ
3. บญุ คณุ ของพระมหากษัตริย์ไทย ตัง้ แต่สมัยสโุ ขทัย อยุธยา ธนบรุ ี และรตั นโกสนิ ทร์

4.จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายความหมาย ความสำคัญของสถาบนั หลักของชาติ
2. อธบิ ายความเปน็ มาของชนชาตไิ ทย
3. บอกพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทยกับการรวมชาติ
4. อธบิ ายความสำคัญของสถาบันพระมหากษตั ริย์
5. อธบิ ายและยกตัวอยา่ งที่แสดงถึงความภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย
6. บอกบญุ คุณของพระมหากษัตรยิ ์ไทยตั้งแตส่ มยั สุโขทัย อยุธยา ธนบรุ ี และรัตนโกสินทร์

5. ขัน้ ตอนการจดั กระบวนการเรียนรู้
ขั้นที่ 1 กำหนดสภาพปญั หาความตอ้ งการ

1. ครูนำเขา้ สบู่ ทเรียน และสอบถามความรูเ้ ดมิ ของแต่ละบุคคลทมี่ ตี ่อความภูมิใจ ในความเป็นไทย

2. ครูและผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซักถาม/แสดงความคิดเห็นเก่ียวเรื่องสถาบันหลักของชาติ บทสรุป
สถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศูนย์รวมใจของคนในชาติ และบุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย
อยธุ ยา ธนบรุ ี และรัตนโกสนิ ทร์

ขนั้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มลู และการจัดการเรยี นรู้
1. ให้ผเู้ รยี นช่วยกันระดมความคดิ โดยการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ซง่ึ จะแบง่ ออกได้เปน็ 6 กล่มุ กลมุ่ ละ 6 - 8
คน ซงึ่ ในแต่ละกลมุ่ จะไดใ้ บความรู้ ดงั ตอ่ ไปนี้

กลุ่มที่ 1 และ 2 ใบความรู้ เรื่อง สถาบันหลักของชาติ หนังสือเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ชาติ
ไทย (สค32034) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า 3 - 21

กลุม่ ที่ 3 และ 4 ใบความรู้ เรื่อง บทสรุปสถาบันพระมหากษตั ริย์ เป็นศนู ย์รวมใจของคนในชาติ
หนังสอื เรียนรายวิชาประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย (สค32034) ระดับมธั ยมศึกษาตอนปลาย หน้า 22 - 26

กลุ่มท่ี 5 และ 6 ใบความรู้ เร่ือง บุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่สมัยสุโขทัย อยุธยา
ธนบุรี และรัตนโกสินทร์ หนังสือเรียนรายวิชาประวัติศาสตร์ชาติไทย (สค32034) ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย
หนา้ 27 - 35

2. ครูเปิดโอกาสให้ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้ที่ตนเองได้รับร่วมกัน และสรุปองค์ความรู้ที่ได้รับ
ลงในรูปแบบของมายแมบ็ ปง้ิ พร้อมสง่ ตวั แทนในการนำเสนอหน้าชั้นเรยี น

ขน้ั ท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้
1. ใหผ้ เู้ รียนแต่ละคนทำใบงานตามทีน่ กั ศกึ ษาของแตล่ ะคนได้รับตามหัวข้อใบความรู้

2. ให้ผู้เรียนแต่ละคนไปศึกษาความรู้เพ่ิมเติมในหัวข้อบุคลากรที่เก่ียวของกับการใหความชวยเหลือ
ผูประสบภัยธรรมชาติตาง ๆ และหนวยงานที่เกี่ยวของกับการใหความ ชวยเหลือผูประสบภัยธรรมชาติตาง ๆ
ส่งครใู นรปู แบบ กรต.

ขัน้ ที่ 4 การประเมินผลการเรียนรู้
1. ใบสรุปองคค์ วามรมู้ ายแม็บป้งิ
2. ใบงาน

6. สื่อการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย (สค32034) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
2. ใบงาน เรือ่ ง สถาบนั หลักของชาติ
3. ใบงาน เร่อื ง บทสรุปสถาบันพระมหากษัตริย์ เป็นศนู ย์รวมใจของคนในชาติ
4. ใบงาน เรอ่ื ง บุญคุณของพระมหากษัตริย์ไทย ตั้งแต่สมยั สโุ ขทยั อยุธยา ธนบุรี และรัตนโกสนิ ทร์

7. การวัดและประเมนิ ผล
ด้านความรู้
- ประเมนิ จากการนำเสนอ
- ใบงาน
ดา้ นทักษะ
- ประเมินผลจากการปฏบิ ัติงานร่วมกัน
- จากการสงั เกตการทำกจิ กรรมของผ้เู รยี น

ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม และค่านยิ ม
- ประเมินจากความรบั ผิดชอบงานทีไ่ ด้รับมอบหมาย
- ประเมินโดยการสงั เกตพฤติกรรมในการร่วมกิจกรรม

บนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1. กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
2. สภาพปญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
3. วิธีการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
4. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…

ลงช่ือ................................................ครูผสู้ อน
(นางสาวเยาวภา บุญญาธิการ)
ครู คศ.2

5. ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา
...................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ....................................................
..................................................................................................................................... ...................................

ลงช่ือ.................................................ผูต้ รวจ
(นายพเิ ชษฐ เสอื เฒา่ )

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการ กศน.เขตห้วยขวาง
วันท่ี .......... เดอื น............................... พ.ศ.....................

ตารางวเิ คราะห์ตามหลกั ปรัชญาของ ปศพพ. (แผนการสอนครัง้ ท่ี 10)

ผสู้ อนนำมาใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังนี้

หลักความพอเพียง พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู คิ มุ้ กนั ทีด่ ีในตัว
ประเด็น

- กำหนดเนื้อหาในเหมาะสมกับ - เนือ้ หาทเ่ี กดิ ข้ึนสอดคล้อง - กำหนดแนวทางอย่างชดั เจน
เน้อื หา มาตรฐานการเรยี นรู้ ตัวชีว้ ดั และ กับมาตรฐาน ตัวชวี้ ดั - ครูเตรียมเน้อื หา

เหมาะกับวัยของผ้เู รยี น - ครูเตรยี มสื่อใบความรู้

- ครจู ดั เตรยี มใบงาน

- จัดกิจกรรมใหผ้ เู้ รียนได้ปฏบิ ตั ิ - ผู้เรยี นได้ปฏบิ ตั ิจรงิ และ - มกี ารวางขั้นตอนการจัดการจัด
วธิ กี ารจัดกิจกรรม จริง
เกิดทกั ษะการคิด วิเคราะห์ กิจกรรมการเรยี นการสอนท่ี

- จัดกจิ กรรมใหผ้ ้เู รยี นได้แสดง - การระดมความคิดทำให้ ชดั เจน

ความคดิ เหน็ และระดมความคดิ ใน ทำงานกลุ่มเกดิ มิตทิ างสังคม - จดั เตรียมกจิ กรรมสำรองใน

การสรปุ องค์ความรู้ - มีการแลกเปลีย่ นเรียนรูถ้ งึ กรณที ี่ไม่สามารถจัดกลุ่มระดม

การเรียนร้ดู ว้ ยตนเอง ความคิดได้

สื่อ/อปุ กรณ์ - เลือกใช้ใบความรแู้ ละใบกจิ กรรม - เลือกใชส้ ื่อ อุปกรณ์ท่ี - เตรียมส่ือ อปุ กรณ์ ให้พร้อมกับ

ที่เหมาะสมกบั ผู้เรยี น ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ไดด้ ้วย การจดั กิจกรรมการเรียน

- มีส่อื การเรยี นทีเ่ พยี งพอกบั ตนเอง การสอน และเตรยี มส่อื ท่ีมี

ผเู้ รยี น - เลอื กใชส้ อื่ อุปกรณ์ ความหลากหลาย

- ทีท่ นั สมัย เหมาะแก่การ - ลำดบั ข้ันตอนในการใช้ส่ือ

เรยี นรแู้ ละสามารถเข้าใจง่าย - ครูมีความชำนาญในการใชส้ ่ือ

แหล่งเรียนรู้ - มีแหล่งเรยี นรทู้ ี่เอ้ือต่อการจดั - ส่อื มีความชัดเจนหมาะสม - สำรวจ ตรวจสอบแหล่งเรยี นรู้

กจิ กรรม เวลาท่ีกำหนด และวัย กบั เนอ้ื หา - จัดเตรยี มแหลง่ เรยี นรู้

ของผูเ้ รยี น - แหล่งเรียนรผู้ ู้เรียนสามารถ - ศกึ ษาแหล่งเรียนรลู้ ว่ งหนา้

ค้นหาง่ายสะดวก เช่นเว็บไซต์

- มีการออกแบบการวัดผลและ - ประเมินผลดว้ ยวธิ ีที่ - วางแผนการออกแบบ
การประเมินผล ประเมินผลได้เหมาะสมตามตวั ช้ีวดั เหมาะสม ตรงตามตวั ชี้วัด ประเมนิ ผลใหต้ รงตามตวั ชวี้ ัด

เน้ือหา เวลา และวัยของผเู้ รียน ทำให้บรรลเุ ป้าหมาย - มกี ารประเมินในหลายรปู แบบ

ความรู้ - ความรู้ เรือ่ ง ความภูมิใจในความเปน็ ไทย
คุณธรรม - ครูมีความรใู้ น เรื่อง สถาบันหลักของชาติ บทสรปุ สถาบันพระมหากษัตรยิ ์ เปน็ ศนู ย์รวมใจของ
คนในชาติ และบญุ คุณของพระมหากษัตริย์ไทย ตงั้ แตส่ มยั สุโขทยั อยธุ ยา ธนบุรี และรัตนโกสินทร์
- มีความรทู้ ่ถี ูกตอ้ งชดั เจน ความรกั ความเมตตา ใฝเ่ รยี นรู้ ความขยัน ความอดทน ความเสยี สละ
ความพอเพียง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล

ผลที่เกิดกบั ผเู้ รยี นสอดคลอ้ งหลัก ปศพพ. ดังน้ี

องค์ประกอบ พอประมาณ มีเหตุผล มภี มู คิ ุม้ กนั ทดี่ ีในตัว
หลกั ความ
พอเพียง - มกี ารแบง่ กล่มุ ท่ีเหมาะสม - มีการวิเคราะห์เนอื้ หา - วางแผนการทำกจิ กรรมทีไ่ ดร้ ับ

ความรู้ - เลอื กใช้วสั ดุ ส่อื อุปกรณ์ ได้ ความร้เู พื่อนำมาอธบิ าย มอบหมายได้อยา่ งเหมาะสมชัดเจน

เหมาะสมและคุ้มคา่ กับการเรียน ในรูปแบบทเ่ี ข้าใจงา่ ย - มีการเตรียมสื่อ อุปกรณ์ให้พร้อมก่อน

- มกี ารเรยี นร้ตู ามหัวข้อความ - อธบิ ายโดยการนำเสนอ ลงมือทำ

ภมู ใิ จในความเป็นไทย งานได้อย่างชดั เจน - วางแผนกำหนดแบ่งหน้าที่การ

- มีการเชอ่ื มโยงเน้ือหาที่ ทำงานในกลุ่มเหมาะสม ในการสรปุ ใบ

สรุปอยา่ งเป็นขั้นตอนและ ความรู้ ในรูปแบบมายเมบ็

มเี หตผุ ลประกอบในการ - ศกึ ษาขน้ั ตอนการการปฏิบัติงานท่ี

อธบิ าย ไดร้ ับมอบหมายใหเ้ ขา้ ใจก่อนลงมือทำ
- สามารถปรับเปลย่ี นเหตุการณ์

ได้ตามท่ผี เู้ รียนสนใจ

1. ผูเ้ รียนสามารถอธบิ ายความหมาย ความสำคัญของสถาบันหลกั ของชาติ
2. ผเู้ รียนสามารถอธิบายความเปน็ มาของชนชาตไิ ทย
3. ผเู้ รียนสามารถบอกพระปรีชาสามารถของพระมหากษัตริย์ไทยกบั การรวมชาติ
4. ผู้เรียนสามารถอธิบายความสำคัญของสถาบันพระมหากษัตรยิ ์
5. ผู้เรียนสามารถอธิบายและยกตัวอยา่ งท่แี สดงถึงความภาคภูมิใจในความเปน็ ไทย
6. ผู้เรยี นสามารถบอกบญุ คุณของพระมหากษัตรยิ ์ไทยตั้งแตส่ มัยสโุ ขทยั อยุธยา ธนบรุ ี และรัตนโกสนิ ทร์

คณุ ธรรม มีความใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มีความรับผดิ ชอบ สามัคคี มรี ะเบยี บวินยั ความซอื่ สตั ย์ ความพอเพียง
ความตรงต่อเวลา ความพอประมาณ ความมีเหตุผล

ผ้เู รยี นไดเ้ รียนรู้ การใชช้ ีวติ ท่ีสมดุล และพรอ้ มกบั การเปล่ียนแปลงใน 4 มติ ิ

ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกิจพอเพยี ง

ด้าน วัตถุ สงั คม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม
องคค์ วามรู้

ความรู้ - ผเู้ รียน มีความรู้ใน - รจู้ กั วิธกี ารทำงานเปน็ - รู้จักรักษาส่งิ แวดลอ้ ม - อธบิ ายความหมาย
การเลือกใช้สอื่ วสั ดุ กลมุ่ /การอย่รู ว่ มกัน การ - รักษาความสะอาด ความสำคัญของสถาบันหลัก
อปุ กรณ์ ในการเรียน แบง่ หนา้ ท่ีรับผิดชอบ ภายในศูนยก์ ารเรียน ของชาติ
การสอน ได้ถูกต้อง - รจู้ กั รับฟังความคิดเหน็ - มคี วามรู้เกี่ยวกบั การ - อธิบายความเปน็ มาของชน

- มคี วามรู้ในเร่ือง ของสมาชิกในกลุ่ม กำหนดเป้าหมายและ ชาติไทย

ความภูมใิ จในความเป็น - แลกเปล่ียนเรยี นร้ใู นการ วางแผนการเรียนรดู้ ้วย - บอกพระปรีชาสามารถของ
ไทย เรียนรู้ดว้ ยตนเอง ตนเอง พระมหากษัตริย์ไทยกับการ

รวมชาติ
- อธบิ ายความสำคัญของ

สถาบันพระมหากษัตริย์

ทักษะ - นำขอ้ มลู มาใชใ้ นการ - ยอมรบั ในความสามารถ -ลงมือปฎบิ ัตใิ นการ - อธิบายและยกตัวอยา่ งท่ี
ค่านยิ ม แสดงถงึ ความภาคภมู ใิ จใน
สรุปองคค์ วามรู้ได้ถูกต้อง ของสมาชิกในกลุ่ม เรียนรู้ดว้ ยเอง ความเป็นไทย

- เลือกวิธีการเรยี นรดู้ ว้ ย - ได้รับความรว่ มมือในการ - มเี จตคตติ ่อการทำงาน
รว่ มกัน
ตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม ทำงานกล่มุ - ตระหนกั ถึงความสามคั คี
และการทำงานร่วมกนั
และถกู ต้อง - ออกแบบการทำมายเมบ็ ได้ - เหน็ ความสำคัญของการ
เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง
- เลอื กใชส้ ่อื ในการเรียนรู้ เหมาะสมกบั สังคมในปัจจบุ ัน - นึกถงึ บุญคุณของ
พระมหากษัตรยิ ์ไทยตั้งแต่
ด้วยตนเองทเ่ี หมาะสม สมยั สโุ ขทัย อยธุ ยา ธนบรุ ี
และรตั นโกสินทร์
- ภมู ใิ จในผลงานของ -มคี วามสามคั คใี นการ -เหน็ คณุ ค่าของศูนย์

ตนเอง เหน็ คุณคา่ ใน ทำงานกลุ่ม การเรยี น และ

การใชส้ อ่ื วสั ดุ อุปกรณ์ -มีความเอ้ือเฟอ้ื เผ่ือแผใ่ น สง่ิ แวดลอ้ มใน
ไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม การทำงานกลุม่ รว่ มกนั สถานศึกษา
- ตระหนักหลกั การเลอื ก -ยอมรบั ฟังความคดิ เห็นและ - เห็นคณุ ค่าของการ
ใช้สงิ่ ของบนพนื้ ฐาน ยอมรับเสียงข้างมาก
ความพอเพียง -เห็นความสำคญั และคณุ คา่ เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง

-เห็นความสำคญั เจตคติ/ปจั จยั ท่ีทำให้การ

ความสำคญั ของการ เรยี นรู้ด้วยตนเองประสบ

เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง ความสำเรจ็

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 11

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

แบบพบกล่มุ เวลา 6 ชั่วโมง

เรอื่ ง มรดกไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์และการเปลย่ี นแปลงของชาตไิ ทย วนั ท่ี 8 เดือน สิงหาคม พ.ศ 2564

สมัยรัตนโกสนิ ทร์
......................................................................................................................................................................... ..........
ของนางสาวเยาวภา บุญญาธกิ าร ศูนยก์ ารเรยี นชมุ ชนโรงเรยี นจนั ทรห์ นุ่ บำเพญ็ จังหวัดกรุงเทพมหานคร
...................................................................................................................................................... ...........................

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มคี วามรูความเขาใจและตระหนัก เก่ยี วกบั ภมู ิศาสตร ประวัตศิ าสตร เศรษฐศาสตร การเมอื งการ

ปกครองในโลก และนำมาปรบใั ชในการดำเนินชวี ติ เพื่อความมั่นคงของชาติ

2. ผลการเรยี นรูท้ ค่ี าดหวัง
1. ผูเ้ รยี นสามารถอธิบายความหมายและ ความสำคญั ของมรดกไทย
2. ผู้เรยี นสามารถยกตัวอยา่ งมรดกไทย สมัยรตั นโกสินทร์ ได้อย่างนอ้ ย 3 เรื่อง
3. ผู้เรียนสามารถวเิ คราะห์มรดกไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์ท่ีมีผลต่อการพัฒนาชาตไิ ทย
4. ผ้เู รียนสามารถวเิ คราะหเ์ หตกุ ารณ์สำคัญทางประวตั ิศาสตรท์ มี่ ีผลตอ่ การพัฒนาชาติไทย
5. ผเู้ รยี นสามารถอภปิ รายและนำเสนอ เหตุการณ์สำคัญทาง ประวัติศาสตรท์ ่ีมีผลต่อการพัฒนาชาตไิ ทย

3. สาระการเรยี นรู้ /เนื้อหา

มรดกไทยสมัยรัตนโกสนิ ทร์
1. มรดกไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์

การเปลยี่ นแปลงของชาตไิ ทยสมัยรตั นโกสินทร์
1. เหตุการณ์สำคัญทางประวัตศิ าสตร์ ท่มี ผี ลต่อการพฒั นาชาติไทย
2. ตัวอย่างการวเิ คราะหแ์ ละอภิปราย เหตกุ ารณ์สำคัญทางประวัตศิ าสตร์ ท่ีมีผลต่อการพัฒนาชาติไทย

4.จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้

1. อธบิ ายความหมายและ ความสำคญั ของมรดกไทย
2. ยกตัวอยา่ งมรดกไทย สมัยรัตนโกสนิ ทร์ ไดอ้ ย่างน้อย 3 เรือ่ ง
3. วิเคราะห์มรดกไทยสมัยรัตนโกสินทรท์ ม่ี ีผลต่อการพัฒนาชาตไิ ทย
4. วิเคราะหเ์ หตุการณ์สำคญั ทางประวตั ิศาสตร์ทมี่ ผี ลต่อการพัฒนาชาตไิ ทย
5. อภปิ รายและนำเสนอ เหตุการณส์ ำคัญทาง ประวัตศิ าสตรท์ ่มี ผี ลต่อการพัฒนาชาติไทย

5. ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้
ข้ันที่ 1 กำหนดสภาพปัญหาความต้องการ

1. ครูนำเข้าสู่บทเรียน และสอบถามความรู้เดิมของแต่ละบุคคลท่ีมีต่อมรดกไทยสมัยรัตนโกสินทร์และ
การเปลยี่ นแปลงของชาตไิ ทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์

2. ครูและผู้เรียนแลกเปล่ียนเรียนรู้ ซักถาม/แสดงความคิดเห็นเก่ียวเรื่องมรดกไทยสมัยรัตนโกสินทร์

เหตุการณ์สำคัญทางประวัติศาสตร์ ท่ีมีผลต่อการพัฒนาชาติไทย และตัวอย่างการวิเคราะห์และอภิปราย
เหตกุ ารณส์ ำคัญทางประวัตศิ าสตร์ ที่มีผลต่อการพัฒนาชาตไิ ทย

ข้ันท่ี 2 แสวงหาขอ้ มูลและการจัดการเรยี นรู้
1. ใหผ้ ู้เรียนช่วยกนั ระดมความคิดโดยการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ซงึ่ จะแบ่งออกได้เป็น 8 กล่มุ กลุม่ ละ 6 - 8
คน ซึ่งในแต่ละกลุ่มจะได้ใบความรู้ ดงั ตอ่ ไปน้ี

กลุ่มที่ 1,3,5 และ 7 ใบความรู้ เร่ือง มรดกไทยสมัยรัตนโกสินทร์ หนังสือเรียนรายวิชา
ประวตั ศิ าสตรช์ าตไิ ทย (สค32034) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 3 - 21

กลุ่มที่ 2,4,6 และ 8 ใบความรู้ เรื่อง การเปล่ียนแปลงของชาติไทยสมัยรัตนโกสินทร์
หนงั สอื เรยี นรายวิชาประวัติศาสตรช์ าติไทย (สค32034) ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย หนา้ 22 - 26

2. ครูเปิดโอกาสให้ผู้เรียนในแต่ละกลุ่มศึกษาใบความรู้ท่ีตนเองได้รับร่วมกัน และสรุปองค์ความรู้ที่ได้รับ
ลงในรูปแบบของมายแม็บปิง้ พรอ้ มส่งตวั แทนในการนำเสนอหน้าชนั้ เรียน

ขั้นท่ี 3 การปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยุกตใ์ ช้
1. ใหผ้ ู้เรียนแตล่ ะคนทำใบงานตามทน่ี กั ศกึ ษาของแต่ละคนได้รับตามหวั ข้อใบความรู้
2. ใหผ้ เู้ รยี นแตล่ ะคนไปศกึ ษาความร้เู พ่มิ เติมในหัวข้อบุคลากรท่เี กีย่ วของกับศาสนา ไดแ้ ก่ ศาสนาพุทธ
ศาสนาคริสต์ ศาสนาอิสลาม ศาสนาซกิ ส์ และศาสนาฮนิ ดู ส่งครใู นรูปแบบ กรต.
ขน้ั ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. ใบสรุปองค์ความรมู้ ายแม็บปง้ิ
2. ใบงาน

6. สื่อการเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นรายวิชาประวัติศาสตรช์ าตไิ ทย (สค32034) ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย
2. ใบงาน เรอื่ ง มรดกไทยสมัยรัตนโกสินทร์
3. ใบงาน เรื่อง การเปล่ียนแปลงของชาติไทยสมัยรตั นโกสินทร์

7. การวดั และประเมนิ ผล
ด้านความรู้
- ประเมนิ จากการนำเสนอ
- ใบงาน
ดา้ นทักษะ
- ประเมนิ ผลจากการปฏิบตั งิ านรว่ มกนั
- จากการสังเกตการทำกิจกรรมของผ้เู รยี น

ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านิยม
- ประเมนิ จากความรับผิดชอบงานทีไ่ ดร้ บั มอบหมาย
- ประเมินโดยการสังเกตพฤติกรรมในการรว่ มกิจกรรม

บนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1. กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
2. สภาพปญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
3. วิธีการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
4. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…

ลงช่ือ................................................ครูผสู้ อน
(นางสาวเยาวภา บุญญาธิการ)
ครู คศ.2

5. ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา
...................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ....................................................
..................................................................................................................................... ...................................

ลงช่ือ.................................................ผูต้ รวจ
(นายพเิ ชษฐ เสอื เฒา่ )

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการ กศน.เขตห้วยขวาง
วันท่ี .......... เดอื น............................... พ.ศ.....................

ตารางวิเคราะหต์ ามหลกั ปรชั ญาของ ปศพพ. (แผนการสอนครงั้ ท่ี 11)

ผสู้ อนนำมาใชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรยี นรู้ ดงั นี้

หลกั ความพอเพยี ง พอประมาณ มีเหตผุ ล มีภมู ิคุ้มกันทีด่ ใี นตัว
ประเด็น

- กำหนดเนอ้ื หาในเหมาะสมกับ - เนอ้ื หาทเ่ี กิดข้ึนสอดคล้อง - กำหนดแนวทางอยา่ งชัดเจน
เนือ้ หา มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัด และ กับมาตรฐาน ตัวชวี้ ัด - ครูเตรียมเนอื้ หา

เหมาะกบั วัยของผู้เรยี น - ครเู ตรียมสื่อใบความรู้

- ครูจัดเตรียมใบงาน

- จดั กจิ กรรมใหผ้ ู้เรยี นได้ปฏบิ ัติ - ผูเ้ รยี นไดป้ ฏบิ ัตจิ ริงและ - มีการวางขนั้ ตอนการจดั การจัด
วิธกี ารจัดกิจกรรม จริง
เกิดทักษะการคิด วเิ คราะห์ กจิ กรรมการเรยี นการสอนที่

- จดั กจิ กรรมใหผ้ ้เู รยี นไดแ้ สดง - การระดมความคิดทำให้ ชดั เจน

ความคิดเห็นและระดมความคิดใน ทำงานกลุ่มเกดิ มิติทางสงั คม - จัดเตรยี มกิจกรรมสำรองใน

การสรุปองค์ความรู้ - มีการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ถึง กรณีที่ไมส่ ามารถจัดกลมุ่ ระดม

การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ความคดิ ได้

สอ่ื /อปุ กรณ์ - เลือกใช้ใบความรู้และใบกิจกรรม - เลือกใชส้ ื่อ อปุ กรณ์ท่ี - เตรียมส่อื อปุ กรณ์ ให้พร้อมกับ

ที่เหมาะสมกบั ผูเ้ รียน ผเู้ รียนสามารถเรยี นรู้ได้ด้วย การจดั กิจกรรมการเรยี น

- มสี ่อื การเรยี นที่เพยี งพอกับ ตนเอง การสอน และเตรยี มสอื่ ท่ีมี

ผู้เรียน - เลอื กใช้สือ่ อปุ กรณ์ ความหลากหลาย

- ทีท่ นั สมยั เหมาะแก่การ - ลำดับข้ันตอนในการใช้สื่อ

เรียนรูแ้ ละสามารถเข้าใจง่าย - ครมู คี วามชำนาญในการใช้ส่ือ

แหล่งเรยี นรู้ - มีแหลง่ เรียนรูท้ เี่ ออ้ื ต่อการจัด - สอื่ มคี วามชัดเจนหมาะสม - สำรวจ ตรวจสอบแหลง่ เรยี นรู้

กจิ กรรม เวลาทีก่ ำหนด และวัย กบั เน้อื หา - จดั เตรียมแหล่งเรียนรู้

ของผเู้ รียน - แหล่งเรียนรูผ้ ู้เรียนสามารถ - ศึกษาแหลง่ เรียนรู้ล่วงหนา้

คน้ หาง่ายสะดวก เช่นเว็บไซต์

- มกี ารออกแบบการวัดผลและ - ประเมนิ ผลด้วยวิธที ี่ - วางแผนการออกแบบ
การประเมนิ ผล ประเมินผลได้เหมาะสมตามตวั ชวี้ ัด เหมาะสม ตรงตามตัวชี้วัด ประเมนิ ผลให้ตรงตามตวั ชี้วดั

เนื้อหา เวลา และวยั ของผูเ้ รียน ทำใหบ้ รรลุเป้าหมาย - มกี ารประเมินในหลายรปู แบบ

ความรู้ - ความรู้ เรอ่ื ง มรดกไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์และการเปลย่ี นแปลงของชาติไทยสมัยรตั นโกสินทร์
คณุ ธรรม - ครูมคี วามรู้ใน เรื่อง มรดกไทยสมัยรัตนโกสินทร์ เหตกุ ารณส์ ำคัญทางประวัติศาสตร์ ท่ีมีผลต่อการ
พัฒนาชาติไทย และตวั อย่างการวเิ คราะหแ์ ละอภิปราย เหตุการณ์สำคญั ทางประวัตศิ าสตร์ ทม่ี ีผลต่อ
การพัฒนาชาติไทย
- มีความรู้ท่ถี ูกตอ้ งชดั เจน ความรกั ความเมตตา ใฝ่เรยี นรู้ ความขยัน ความอดทน ความเสียสละ
ความพอเพยี ง ความพอประมาณ ความมเี หตุผล

ผลที่เกดิ กบั ผเู้ รียนสอดคล้องหลัก ปศพพ. ดังนี้

องค์ประกอบ พอประมาณ มีเหตุผล มีภมู คิ ุม้ กนั ที่ดใี นตัว
หลักความ
พอเพยี ง - มีการแบ่งกลมุ่ ทีเ่ หมาะสม - มีการวิเคราะห์เนื้อหา - วางแผนการทำกจิ กรรมที่ได้รับ

ความรู้ - เลอื กใช้วสั ดุ สือ่ อปุ กรณ์ ได้ ความรเู้ พ่ือนำมาอธิบาย มอบหมายได้อย่างเหมาะสมชัดเจน

คุณธรรม เหมาะสมและคุ้มคา่ กบั การเรียน ในรปู แบบทเ่ี ข้าใจงา่ ย - มีการเตรยี มสื่อ อุปกรณ์ให้พร้อมก่อน

- มีการเรยี นรตู้ ามหัวข้อมรดก - อธบิ ายโดยการนำเสนอ ลงมือทำ

ไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์และการ งานได้อยา่ งชดั เจน - วางแผนกำหนดแบ่งหน้าทก่ี าร

เปลีย่ นแปลงของชาตไิ ทยสมัย - มกี ารเช่อื มโยงเนอื้ หาที่ ทำงานในกลุ่มเหมาะสม ในการสรปุ ใบ

รตั นโกสนิ ทร์ สรุปอย่างเปน็ ข้นั ตอนและ ความรู้ ในรปู แบบมายเม็บ

มเี หตุผลประกอบในการ - ศกึ ษาข้ันตอนการการปฏบิ ัตงิ านที่

อธิบาย ได้รับมอบหมายให้เข้าใจกอ่ นลงมือทำ

- สามารถปรับเปลี่ยนเหตกุ ารณ์

ไดต้ ามทผ่ี ู้เรยี นสนใจ

1. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายความหมายและ ความสำคญั ของมรดกไทย

2. ผเู้ รยี นสามารถยกตัวอยา่ งมรดกไทย สมัยรัตนโกสนิ ทร์ ได้อยา่ งน้อย 3 เรื่อง

3. ผู้เรียนสามารถวเิ คราะหม์ รดกไทยสมัยรัตนโกสินทร์ท่ีมผี ลตอ่ การพัฒนาชาติไทย

4. ผเู้ รยี นสามารถวิเคราะห์เหตุการณ์สำคัญทางประวตั ิศาสตร์ทมี่ ีผลต่อการพัฒนาชาติไทย

5. ผเู้ รียนสามารถอภิปรายและนำเสนอ เหตุการณ์สำคัญทาง ประวตั ศิ าสตร์ท่ีมีผลต่อการพัฒนาชาตไิ ทย

มคี วามใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น มีความรับผิดชอบ สามคั คี มีระเบยี บวินัย ความซอ่ื สตั ย์ ความพอเพียง

ความตรงต่อเวลา ความพอประมาณ ความมเี หตุผล

ผูเ้ รียนไดเ้ รยี นรู้ การใช้ชีวิตทสี่ มดุล และพรอ้ มกบั การเปลย่ี นแปลงใน 4 มติ ิ

ตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ดา้ น วตั ถุ สงั คม สิ่งแวดล้อม วัฒนธรรม
องคค์ วามรู้

ความรู้ - ผู้เรยี น มคี วามรู้ใน - ร้จู ักวิธกี ารทำงานเปน็ - รูจ้ กั รกั ษาสิง่ แวดลอ้ ม - อธบิ ายความหมายและ

การเลอื กใช้ส่ือ วัสดุ กลุ่ม/การอย่รู ว่ มกัน การ - รกั ษาความสะอาด ความสำคญั ของมรดกไทย

อุปกรณ์ ในการเรียน แบ่งหน้าทีร่ ับผดิ ชอบ ภายในศนู ยก์ ารเรยี น

การสอน ได้ถูกต้อง - รจู้ ักรับฟงั ความคดิ เหน็ - มีความรู้เก่ียวกบั การ

- มคี วามรใู้ นเรอื่ ง ของสมาชิกในกลุ่ม กำหนดเป้าหมายและ
มรดกไทยสมยั
- แลกเปล่ียนเรียนรู้ในการ วางแผนการเรยี นรู้ดว้ ย
รตั นโกสนิ ทร์และการ เรยี นรูด้ ้วยตนเอง
เปลีย่ นแปลงของชาติ ตนเอง

ไทยสมัยรตั นโกสนิ ทร์

ทกั ษะ - นำข้อมลู มาใช้ในการ - ยอมรับในความสามารถ -ลงมือปฎบิ ัตใิ นการ - ยกตัวอยา่ งมรดกไทย สมัย

สรุปองคค์ วามรู้ไดถ้ กู ตอ้ ง ของสมาชิกในกลุ่ม เรยี นรู้ด้วยเอง รตั นโกสินทร์ ไดอ้ ย่างน้อย 3

- เลอื กวธิ ีการเรียนรดู้ ว้ ย - ได้รับความร่วมมือในการ เร่ือง

ตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทำงานกล่มุ - วิเคราะห์มรดกไทยสมัย
รตั นโกสนิ ทรท์ ม่ี ีผลต่อการ
และถูกตอ้ ง - ออกแบบการทำมายเมบ็ ได้ พัฒนาชาติไทย
- วิเคราะหเ์ หตกุ ารณ์สำคญั
- เลอื กใช้สือ่ ในการเรียนรู้ เหมาะสมกบั สงั คมในปัจจุบัน

ดว้ ยตนเองท่เี หมาะสม

ทางประวตั ิศาสตร์ทมี่ ผี ลต่อ

การพัฒนาชาติไทย

- อภิปรายและนำเสนอ

เหตุการณส์ ำคัญทาง

ประวตั ศิ าสตร์ที่มผี ลต่อการ

พัฒนาชาตไิ ทย

ค่านิยม - ภูมใิ จในผลงานของ -มีความสามคั คีในการ -เห็นคุณคา่ ของศูนย์ - มเี จตคตติ ่อการทำงาน
ร่วมกนั
ตนเอง เห็นคุณค่าใน ทำงานกลมุ่ การเรียน และ - ตระหนกั ถึงความสามคั คี
และการทำงานร่วมกนั
การใชส้ ื่อ วสั ดุ อุปกรณ์ -มคี วามเอื้อเฟ้ือเผ่ือแผใ่ น สิ่งแวดล้อมใน - เหน็ ความสำคญั ของการ
ไดถ้ ูกต้องเหมาะสม การทำงานกล่มุ ร่วมกนั สถานศึกษา เรียนรูด้ ้วยตนเอง
- ตระหนักหลักการเลือก -ยอมรบั ฟังความคดิ เห็นและ - เหน็ คณุ ค่าของการ
ใชส้ ิง่ ของบนพ้ืนฐาน ยอมรับเสยี งข้างมาก
ความพอเพยี ง -เห็นความสำคัญและคณุ ค่า เรยี นร้ดู ว้ ยตนเอง

-เห็นความสำคญั เจตคติ/ปัจจยั ท่ีทำให้การ

ความสำคัญของการ เรยี นร้ดู ้วยตนเองประสบ

เรยี นรู้ด้วยตนเอง ความสำเร็จ

แผนการจัดการเรยี นรทู้ ี่ 12

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

แบบพบกลมุ่ เวลา 6 ชว่ั โมง

เร่ือง สอบกลางภาค วนั ที่ 14 เดือน กุมภาพนั ธ์ พ.ศ 2564

................................................................................................................. ..........................................................

ของนางสาวเยาวภา บญุ ญาธกิ าร ศูนย์การเรยี นชุมชนโรงเรียนจนั ทร์หุ่นบำเพญ็ จังหวดั กรุงเทพมหานคร

..................................................................................................... ......................................................................

1. มาตรฐานการเรียนรู้

ประเมนิ ผลสมั ฤทธ์ทิ างการเรียน ระหว่างภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ของนักศึกษาแตล่ ะคน

2. ผลการเรยี นรู้ทค่ี าดหวัง

ผู้เรยี นสามารถประเมนิ ผลสมั ฤทธิ์ทางการเรยี น ระหวา่ งภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564 ในแตล่ ะรายวชิ า
ของตนเองได้

3. สาระการเรยี นรู้ /เนอ้ื หา
แบบทดสอบระหว่างภาคเรยี นที่ 1 ปกี ารศึกษา 2564
1. รายวิชาศลิ ปศกึ ษา (ทช31003)
2. รายวชิ าทักษะการขยายอาชพี (อช31002)
3. รายวิชาคณิตศาสตร์ (พค31001)
4. รายวชิ าการเรยี นรูสูภัยธรรมชาติ 3 (สค32032)
5. รายวชิ าประวัตศิ าสตรช์ าติไทย (สค32034)
6. รายวิชาภาษาองั กฤษเพ่ือการศกึ ษาต่อ (พต32005)

4.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
ประเมินผลสมั ฤทธ์ิทางการเรียน ระหว่างภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ในแต่ละรายวิชาของตนเองได้

5. ขัน้ ตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้
ขั้นท่ี 1 กำหนดสภาพปญั หาความตอ้ งการ
- ครูแจกแบบทดสอบระหว่างภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2564 ให้นักศึกษาแต่ละคนท่ีมีการลงทะเบียน

เรียนในแตล่ ะรายวิชา
ขัน้ ที่ 2 แสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรียนรู้
- ให้ผู้เรียนทำแบบทดสอบโดยการเลือกคำตอบที่ถูกต้องตอบลงในกระดาษคำตอบของแต่ละคน ในแต่

ละรายวชิ า
- ให้ผู้เรยี นแตล่ ะคนทำแบบทดสอบระหว่างภาคเรยี นที่ 1 ปีการศึกษา 2564 เสร็จแล้วใหส้ ่งแบบทดสอบ

และกระดาษคำตอบ
- ครูและผู้เรียนสรุปองค์ความรู้ร่วมกัน หลังจากที่มีการทำข้อสอบรวมถึงทำความเข้าใจในเรื่อง

ขอ้ สอบบางข้อทน่ี กั ศึกษายังไมม่ ีความเข้าใจ
ขั้นที่ 3 การปฏิบัตแิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้
1. ให้จัดสง่ แบบทดสอบและกระดาษคำตอบ โดยการรวบรวมมาสง่ เป็นรายบคุ คล
2. ใหผ้ เู้ รียนแต่ละคนไปศกึ ษาความรู้เพมิ่ เติมในหัวข้อความแตกต่างของความจำเปน็ และความตอ้ งการ

และการจัดลำดบั ความสำคัญของรายจ่าย มาส่งครูในรูปแบบ กรต.

ขัน้ ท่ี 4 การประเมินผลการเรียนรู้
1. แบบทดสอบระหว่างภาคเรียนท่ี 1 ปกี ารศึกษา 2564
2. กระดาษคำตอบแต่ละรายวิชา

6. สอ่ื การเรยี นรู้
1. แบบทดสอบรายวชิ าศลิ ปศึกษา (ทช31003)
2. แบบทดสอบรายวชิ าทกั ษะการขยายอาชพี (อช31002)
3. แบบทดสอบรายวิชาคณิตศาสตร์ (พค31001)
4. แบบทดสอบรายวิชาการเรียนรูสูภยั ธรรมชาติ 3 (สค32032)
5. แบบทดสอบรายวชิ าประวัตศิ าสตร์ชาตไิ ทย (สค32034)
6. แบบทดสอบรายวชิ าภาษาองั กฤษเพื่อการศึกษาต่อ (พต32005)

7. การวดั และประเมินผล
ด้านความรู้
- ประเมนิ จากข้อสอบระหวา่ งภาคเรยี นท่ี 1 ปกี ารศกึ ษา 2564
ดา้ นทกั ษะ
- จากการสังเกตการทำขอ้ สอบของผู้สอบ
ดา้ นคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม
- ประเมนิ โดยการสังเกตพฤติกรรมในการรว่ มทำกจิ กรรมการสอบ

บันทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1. กิจกรรมการเรียนรู้
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
2. สภาพปัญหา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
3. วิธีการแก้ปญั หา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…
4. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแก้ปญั หา
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…

ลงช่ือ................................................ครผู ู้สอน
(นางสาวเยาวภา บญุ ญาธิการ)
ครู คศ.2

5. ขอ้ เสนอแนะของหัวหนา้ สถานศกึ ษา
.......................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ........................................................
............................................................................................................................. ...................................

ลงช่อื .................................................ผู้ตรวจ
(นายพเิ ชษฐ เสอื เฒา่ )

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการ กศน.เขตห้วยขวาง
วันที่ .......... เดอื น............................... พ.ศ.....................

ตารางวิเคราะห์ตามหลักปรชั ญาของ ปศพพ.(แผนการสอนคร้งั ที่ 12)
ผสู้ อนนำมาใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ดังนี้

หลักความพอเพยี ง

พอประมาณ มเี หตผุ ล มีภมู ิคุม้ กนั ท่ีดีในตัว

ประเด็น

- กำหนดเนอ้ื หาใน - เน้ือหาแบบทดสอบท่ีเกิดข้นึ - กำหนดแนวทางอย่างชัดเจน
เนอื้ หา แบบทดสอบเหมาะสมกับ สอดคล้องกับมาตรฐาน ตัวช้ีวดั - ครเู ตรียมกระดาษคำตอบ

มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัด - ครูเตรียมแบบทดสอบ

และเหมาะกบั วัยของผู้เรียน

- จัดกจิ กรรมให้ผเู้ รยี นได้ - ผเู้ รียนได้ปฏบิ ัติจรงิ และเกิด - มกี ารวางขัน้ ตอนการจัดการ
วิธีการจดั กจิ กรรม ปฏบิ ัติจรงิ
ทกั ษะการคดิ วิเคราะหจ์ ากโจทย์ ทดสอบที่ชัดเจน

- จดั กจิ กรรมใหผ้ เู้ รียนได้ ปญั หาแบบทดสอบ - จัดเตรียมแบบทดสอบสำรอง

แสดงวเิ คราะห์คำตอบ ในกรณที ี่ขอ้ สอบไมเ่ พียงพอ

สอ่ื /อปุ กรณ์ - เลอื กใชแ้ บบทดสอบที่ - เลอื กใชส้ ือ่ แบบทดสอบทผี่ ู้เรียน -เตรียมแบบทดสอบให้พรอ้ ม

เหมาะสมกบั ผู้เรยี น สามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเอง กับการจัดกิจกรรมการสอบ

- มีแบบทดสอบและ - เลอื กใช้แบบทดสอบทผ่ี ู้เรยี น กลางภาค

กระดาษคำตอบเพยี งพอกบั เกดิ ความเข้าใจ -ลำดบั ขน้ั ตอนการสอบได้ชัดเจน

ผู้เรยี น - เลอื กใช้แบบทดสอบทีส่ อดคล้อง -ครมู คี วามชำนาญในการ

กบั จุดประสงค์ตัวช้วี ดั ทดสอบ

แหล่งเรยี นรู้ - มแี หลง่ เรยี นรทู้ ีเ่ อ้อื ต่อ - แบบทดสอบมคี วามชดั เจน - จัดเตรยี มสถานทส่ี ำหรบั การ
การจัดการทดสอบ เวลาท่ี เหมาะสมกับเน้ือหา ทดสอบไดเ้ หมาะสม

กำหนด และวัยของผู้เรียน - ผู้เรยี นสามารถสอบถามจาก

ครผู สู้ อนไดใ้ นกรณีไม่เขา้ ใจ

- มกี ารออกแบบการ - ประเมนิ ผลด้วยวธิ ที ่ีเหมาะสม - วางแผนการออกแบบ
การประเมนิ ผล วดั ผลและประเมนิ ผลได้ ตรงตามตัวชว้ี ัด ทำใหบ้ รรลุ
ประเมนิ ผลใหต้ รงตามตัวชวี้ ัด

เหมาะสมตามตวั ชว้ี ดั เปา้ หมาย - มกี ารประเมินในหลาย

เนื้อหา เวลา และวัยของ รูปแบบท่เี หมาะสม

ผเู้ รียน

- ความรู้เรื่องการทดสอบกลางภาคเรยี น
ความรู้ - ครูมคี วามรใู้ นรายวิชาศิลปศึกษา (ทช31003) รายวิชาทักษะการขยายอาชีพ (อช31002) รายวิชา

คณติ ศาสตร์ (พค31001) รายวิชาการเรียนรูสูภยั ธรรมชาติ 3 (สค32032) รายวิชาประวัติศาสตร์

ชาติไทย (สค32034) รายวชิ าภาษาองั กฤษเพื่อการศึกษาต่อ (พต32005)

คุณธรรม - มคี วามรทู้ ี่ถูกตอ้ งชัดเจน ความรัก ความเมตตา ใฝ่เรียนรู้ ความขยนั ความอดทน ความเสียสละ
ความพอเพยี ง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล

ผลท่ีเกดิ กับผเู้ รยี นสอดคลอ้ งหลกั ปศพพ. ดงั น้ี

องค์ประกอบ พอประมาณ มเี หตุผล มีภูมคิ ้มุ กันทด่ี ใี นตัว

หลกั ความ - มกี ารจัดแบ่งข้อสอบ เวลา - มีการวเิ คราะหจ์ ัดทำ - วางแผนการทำทดสอบท่ีไดร้ ับ
พอเพยี ง สอบอยา่ งเหมาะสม
แบบทดสอบในรปู แบบท่ี มอบหมายได้อย่างเหมาะสมชัดเจน
- เลอื กใช้แบบทดสอบได้
เหมาะสมและคุ้มคา่ กบั การเรียน เข้าใจง่าย - มกี ารแบบทดสอบให้พร้อมก่อนลงมอื

- มีการทดสอบตามหวั ข้อที่มี - มีการเช่ือมโยง ทำ
การเลอื กวเิ คราะห์
เนือ้ หาข้อสอบจากการจัด - วางแผนการทดสอบอย่างเปน็ ระบบ

กระบวนการเรยี นรุ้อย่าง - ศกึ ษาขน้ั ตอนการการปฏบิ ตั ิงานท่ี

เปน็ ขนั้ ตอนและมีเหตุผล ไดร้ บั มอบหมายให้เข้าใจก่อนลงมอื ทำ

ประกอบในการอธบิ ายใน - สามารถปรับเปลีย่ นเหตุการณ์

แบบทดสอบ ไดต้ ามท่ผี เู้ รยี นสนใจ

ความรู้ ผเู้ รยี น มคี วามรใู้ นเรอื่ งรายวชิ าศิลปศึกษา (ทช31003) รายวชิ าทกั ษะการขยายอาชีพ (อช31002)
คุณธรรม รายวิชาคณติ ศาสตร์ (พค31001) รายวิชาการเรียนรูสูภยั ธรรมชาติ 3 (สค32032) รายวิชาประวัติศาสตร์
ชาติไทย (สค32034) รายวิชาภาษาอังกฤษเพื่อการศึกษาต่อ (พต32005)

มีความใฝ่รู้ ใฝ่เรยี น มีความรับผดิ ชอบ สามคั คี มีระเบยี บวินัย ความซอ่ื สัตย์ ความพอเพียง
ความตรงต่อเวลา ความพอประมาณ ความมีเหตุผล

ผเู้ รียนไดเ้ รยี นรู้ การใชช้ ีวติ ที่สมดลุ และพรอ้ มกบั การเปล่ยี นแปลงใน 4 มติ ิ
ตามหลกั ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง

ดา้ น วตั ถุ สงั คม สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม
องคค์ วามรู้ - มคี วามรใู้ นเรื่อง
การทดสอบ
ความรู้ - ผู้เรยี น มีความรูใ้ น - ผ้เู รยี นมคี วามร้คู วามเข้าใจ - รูจ้ กั รักษาสิง่ แวดล้อม
-นำความรู้ไปใชใ้ น
แบบทดสอบ วิธกี ารทดสอบที่ถกู ต้องในการ - เรียนรวู้ ธิ ีการทำความ ทดสอบไปใช้ใน
การสอบปลายภาค
- มคี วามร้กู ารทำ สอบกบั ผเู้ รยี นคนอ่นื ๆ สะอาดศูนย์การเรียนท่ี เรียนได้

แบบทดสอบ ตนเองเรยี น - มเี จตคตติ ่อการ
การทดสอบ
- ผู้เรียนมคี วามรกู้ าร

จัดทำข้อสอบภายในเวลา

ที่กำหนด

ทักษะ - ปฏบิ ัตติ ามขั้นตอนการ - ยอมรบั ในการทำแบทดสอบ -ลงมอื ปฎบิ ัติทำความ

ทดสอบท่ีถูกต้อง โดยไม่ลอกจากเพือ่ นๆคนอ่ืนๆ สะอาดศนู ย์การเรยี นที่

- นำขอ้ มลู ไปใช้ในการทดสอบ ตนเองเรยี น

ปลายภาคเรียนได้ -ลงมือปฎิบัติในการ

ทดสอบถูกต้อง

คา่ นยิ ม -ภมู ใิ จในการทำแบบทดสอบ -ยอมรับกฎ กติกาในการ -เห็นคุณค่าของศูนยก์ าร

ด้วยตนเอง ทดสอบ เรียน และส่ิงแวดลอ้ มใน

-ตระหนกั ถงึ ความร้ทู ี่ไดร้ ับเพื่อ -เหน็ ความสำคัญและคุณค่า สถานศึกษา

นำมาทดสอบ ของการการทดสอบ - เห็นคุณค่าของทดสอบ

-เห็นความสำคญั เลอื กของการ

ทดสอบกลางภาคเรยี น

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 13

ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย

แบบพบกลมุ่ เวลา 6 ชั่วโมง

เรื่อง จำนวนและการดำเนนิ การ วันท่ี 8 เดือน สงิ หาคม พ.ศ 2564

...................................................................................................................................................................................
ของนางสาวเยาวภา บญุ ญาธกิ าร ศนู ย์การเรยี นชุมชนโรงเรียนจันทร์หุ่นบำเพญ็ จงั หวัดกรุงเทพมหานคร
........................................................................................................................................................................ .........

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มคี วามรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับจำนวนและการดำเนินการ เลขยกกำลังที่มีเลขชี้กำลงั เป็นจำนวนตรรกยะ

เซต และการให้เหตุผล อัตราส่วน ตรีโกณมิติ และการนำไปใช้ การใช้เคร่ืองมือและการออกแบบผลิตภัณฑ์

สถิติเบือ้ งตน้ และความน่าจะเป็น

2. ผลการเรียนรทู้ ี่คาดหวัง

1. ผู้เรยี นสามารถแสดงความสมั พนั ธ์ของจำนวนตา่ งๆ ในระบบจำนวนจริง
2. ผู้เรียนสามารถอธิบายความหมายและหาผลลัพธ์ที่เกิดจากการบวก การลบ การคูณ และการหาร
จำนวนจริง
3. ผู้เรียนสามารถอธิบายสมบัติของจำนวนจริง ท่ีเกี่ยวกับการบวก การคูณ การเท่ากัน และการไม่
เท่ากนั และนำไปใช้
4. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายเกย่ี วกับค่าสัมบูรณ์ของจำนวนจรงิ และหาค่าสมั บรู ณ์ของจำนวนจรงิ

3. สาระการเรยี นรู้ /เน้ือหา

จำนวนและการดำเนินการ
1. ความสมั พนั ธข์ องระบบจำนวนจรงิ
2. สมบตั ขิ องการบวก การลบ การคูณ และการหาร จำนวนจริง
3. สมบตั กิ ารเท่ากันและการไม่เทา่ กัน
4. ค่าสมั บรู ณ์

4.จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. แสดงความสมั พันธ์ของจำนวนตา่ งๆ ในระบบจำนวนจริง
2. อธิบายความหมายและหาผลลัพธ์ท่ีเกดิ จากการบวก การลบ การคณู และการหารจำนวนจริง
3. อธิบายสมบัติของจำนวนจรงิ ทเี่ กี่ยวกับการบวก การคูณ การเท่ากัน และการไม่เท่ากนั และนำไปใช้
4. อธบิ ายเกีย่ วกับคา่ สัมบูรณ์ของจำนวนจรงิ และหาคา่ สมั บูรณ์ของจำนวนจริง

5. ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้
ขนั้ ท่ี 1 กำหนดสภาพปัญหาความต้องการ
1. ครูนำเขา้ ส่บู ทเรยี น และสอบถามความรู้เดมิ ของแตล่ ะบคุ คลท่ีมตี ่อจำนวนและการดำเนนิ การ
2. ครูและผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซักถาม/แสดงความคิดเห็นเก่ียวเร่ืองความสัมพันธ์ของระบบจำนวน

จริง สมบัติของการบวก การลบ การคูณ และการหาร จำนวนจริง สมบัติการเท่ากันและการไม่เท่ากัน และค่า
สมั บูรณ์

ข้นั ท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและการจัดการเรียนรู้
1. ให้ผูเ้ รียนช่วยกนั ระดมความคิดโดยการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ซงึ่ จะแบง่ ออกได้เปน็ 8 กลุ่ม กลุ่มละ 6 - 8
คน ซึ่งในแต่ละกลุ่มจะได้ใบความรู้ เรื่อง จำนวนและการดำเนินการ หนังสือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์
(พค31001) ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า 2 - 14
2. ครเู ปิดโอกาสใหผ้ ู้เรยี นในแตล่ ะกลุ่มศึกษาใบความรู้ทต่ี นเองได้รบั ร่วมกัน และสรุปองค์ความรู้ทไี่ ดร้ ับ
ลงในรปู แบบของมายแมบ็ ป้ิง พรอ้ มสง่ ตวั แทนในการนำเสนอหน้าชั้นเรยี น
ข้นั ท่ี 3 การปฏิบัตแิ ละนำไปประยุกต์ใช้
1. ให้ผเู้ รยี นแตล่ ะคนทำใบงานตามท่ีนกั ศกึ ษาของแต่ละคนไดร้ ับตามหัวข้อใบความรู้
2. ให้ผู้เรียนแต่ละคนไปศึกษาความรู้เพิ่มเติมในหัวข้อความหมายและความสำคัญของมรดกไทย มรดก
ไทยท่ีมีผลต่อการพัฒนาชาติไทย การอนุรักษ์มรดกไทย และการมีส่วนร่วมในการอนุรักษ์มรดกไทย ส่งครูใน
รูปแบบ กรต.
ข้ันท่ี 4 การประเมินผลการเรยี นรู้
1. ใบสรุปองค์ความรมู้ ายแม็บป้งิ
2. ใบงาน

6. สือ่ การเรยี นรู้
1. หนงั สอื เรยี นรายวชิ าคณิตศาสตร์ (พค31001) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย
2. ใบงาน เรื่อง จำนวนและการดำเนนิ การ

7. การวดั และประเมนิ ผล
ดา้ นความรู้
- ประเมนิ จากการนำเสนอ
- ใบงาน
ดา้ นทกั ษะ
- ประเมินผลจากการปฏิบตั งิ านรว่ มกัน
- จากการสงั เกตการทำกิจกรรมของผู้เรียน
ดา้ นคณุ ธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม
- ประเมินจากความรับผิดชอบงานทไ่ี ด้รับมอบหมาย
- ประเมินโดยการสังเกตพฤติกรรมในการร่วมกิจกรรม

บนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1. กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
2. สภาพปญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
3. วิธีการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
4. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…

ลงช่ือ................................................ครูผสู้ อน
(นางสาวเยาวภา บุญญาธิการ)
ครู คศ.2

5. ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา
...................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ....................................................
..................................................................................................................................... ...................................

ลงช่ือ.................................................ผูต้ รวจ
(นายพเิ ชษฐ เสอื เฒา่ )

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการ กศน.เขตห้วยขวาง
วันท่ี .......... เดอื น............................... พ.ศ.....................

ตารางวิเคราะหต์ ามหลกั ปรัชญาของ ปศพพ. (แผนการสอนครงั้ ที่ 13)

ผสู้ อนนำมาใช้ในการจัดกจิ กรรมการเรยี นรู้ ดังนี้

หลกั ความพอเพียง พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมิคุ้มกนั ทดี่ ีในตัว
ประเด็น

- กำหนดเนอ้ื หาในเหมาะสมกบั - เนอื้ หาทีเ่ กิดข้ึนสอดคล้อง - กำหนดแนวทางอยา่ งชดั เจน
เนอื้ หา มาตรฐานการเรยี นรู้ ตวั ชว้ี ัด และ กับมาตรฐาน ตวั ช้วี ดั - ครูเตรียมเนือ้ หา

เหมาะกบั วัยของผู้เรียน - ครจู ดั เตรียมใบงาน

- จัดกจิ กรรมใหผ้ ู้เรียนได้ปฏบิ ตั ิ - ผ้เู รยี นได้ปฏบิ ตั จิ ริงและ - มีการวางขั้นตอนการจัดการจัด
วิธกี ารจดั กิจกรรม จริง
เกดิ ทักษะการคิด วิเคราะห์ กจิ กรรมการเรยี นการสอนที่

- จัดกจิ กรรมให้ผู้เรียนได้แสดง - การระดมความคิดทำให้ ชัดเจน

ความคิดเหน็ และระดมความคดิ ใน ทำงานกลุ่มเกดิ มิติทางสงั คม - จดั เตรียมกิจกรรมสำรองใน

การสรุปองคค์ วามรู้ - มกี ารแลกเปลี่ยนเรยี นรูถ้ งึ กรณที ี่ไม่สามารถจดั กลุ่มระดม

การเรยี นรู้ด้วยตนเอง ความคดิ ได้

สอ่ื /อปุ กรณ์ - เลือกใช้ใบความรู้และใบกิจกรรม - เลือกใช้ส่ือ อุปกรณ์ท่ี - เตรยี มสื่อ อุปกรณ์ ให้พรอ้ มกับ

ทีเ่ หมาะสมกบั ผู้เรยี น ผ้เู รยี นสามารถเรียนรู้ไดด้ ว้ ย การจดั กจิ กรรมการเรียน

- มสี ือ่ การเรียนท่เี พียงพอกับ ตนเอง การสอน และเตรียมสอ่ื ท่ีมี

ผู้เรยี น - เลือกใชส้ ือ่ อปุ กรณ์ ความหลากหลาย

- ทีท่ ันสมยั เหมาะแก่การ - ลำดับข้ันตอนในการใชส้ ื่อ

เรียนร้แู ละสามารถเข้าใจง่าย - ครมู ีความชำนาญในการใชส้ ่ือ

แหล่งเรยี นรู้ - มีแหล่งเรียนรูท้ ีเ่ อ้อื ต่อการจดั - สื่อมคี วามชัดเจนหมาะสม - สำรวจ ตรวจสอบแหลง่ เรยี นรู้

กิจกรรม เวลาทีก่ ำหนด และวัย กับเนอื้ หา - จัดเตรียมแหล่งเรยี นรู้

ของผเู้ รียน - แหล่งเรียนรูผ้ ู้เรยี นสามารถ - ศกึ ษาแหลง่ เรยี นรูล้ ่วงหน้า

คน้ หาง่ายสะดวก เช่นเวบ็ ไซต์

- มกี ารออกแบบการวัดผลและ - ประเมินผลดว้ ยวธิ ที ่ี - วางแผนการออกแบบ
การประเมินผล ประเมินผลได้เหมาะสมตามตัวชี้วัด เหมาะสม ตรงตามตวั ชวี้ ัด ประเมนิ ผลให้ตรงตามตวั ชีว้ ดั

เน้ือหา เวลา และวยั ของผเู้ รียน ทำให้บรรลุเป้าหมาย - มีการประเมินในหลายรูปแบบ

ความรู้ - ความรู้ เรือ่ ง จำนวนและการดำเนินการ
คุณธรรม - ครมู ีความรใู้ น เรอื่ ง ความสัมพนั ธข์ องระบบจำนวนจริง สมบตั ิของการบวก การลบ การคณู
และการหาร จำนวนจริง สมบัติการเทา่ กนั และการไม่เท่ากนั และคา่ สัมบรู ณ์
- มีความร้ทู ถ่ี ูกต้องชัดเจน ความรกั ความเมตตา ใฝ่เรยี นรู้ ความขยัน ความอดทน ความเสยี สละ
ความพอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล

ผลทเ่ี กดิ กบั ผูเ้ รียนสอดคล้องหลกั ปศพพ. ดงั นี้

องคป์ ระกอบ พอประมาณ มเี หตุผล มภี มู ิคุ้มกนั ที่ดีในตัว
หลกั ความ
พอเพยี ง - มีการแบ่งกลมุ่ ที่เหมาะสม - มีการวิเคราะห์เน้ือหา - วางแผนการทำกจิ กรรมที่ไดร้ ับ

ความรู้ - เลือกใช้วสั ดุ สอ่ื อุปกรณ์ ได้ ความรู้เพื่อนำมาอธบิ าย มอบหมายได้อย่างเหมาะสมชัดเจน

คุณธรรม เหมาะสมและคุ้มคา่ กบั การเรียน ในรปู แบบทีเ่ ข้าใจง่าย - มกี ารเตรยี มสื่อ อุปกรณใ์ ห้พร้อมก่อน

- มกี ารเรียนรตู้ ามหวั ข้อจำนวน - อธบิ ายโดยการนำเสนอ ลงมอื ทำ

และการดำเนนิ การ งานได้อยา่ งชัดเจน - วางแผนกำหนดแบ่งหนา้ ทีก่ าร

- มกี ารเชอื่ มโยงเนอ้ื หาท่ี ทำงานในกลุ่มเหมาะสม ในการสรุปใบ

สรปุ อยา่ งเปน็ ข้นั ตอนและ ความรู้ ในรูปแบบมายเมบ็

มีเหตุผลประกอบในการ - ศึกษาข้นั ตอนการการปฏบิ ัติงานที่

อธิบาย ไดร้ ับมอบหมายให้เข้าใจก่อนลงมือทำ
- สามารถปรบั เปลี่ยนเหตกุ ารณ์

ไดต้ ามที่ผเู้ รยี นสนใจ

1. ผู้เรยี นสามารถแสดงความสัมพนั ธข์ องจำนวนต่างๆ ในระบบจำนวนจริง
2. ผเู้ รียนสามารถอธิบายความหมายและหาผลลัพธ์ที่เกิดจากการบวก การลบ การคณู และการหารจำนวน
จรงิ
3. ผู้เรียนสามารถอธิบายสมบัติของจำนวนจริง ท่ีเก่ียวกับการบวก การคูณ การเท่ากัน และการไม่เท่ากัน
และนำไปใช้
4. ผู้เรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกับคา่ สมั บูรณ์ของจำนวนจรงิ และหาค่าสัมบูรณ์ของจำนวนจรงิ

มคี วามใฝ่รู้ ใฝเ่ รยี น มคี วามรับผดิ ชอบ สามัคคี มีระเบยี บวนิ ัย ความซ่อื สตั ย์ ความพอเพียง

ความตรงต่อเวลา ความพอประมาณ ความมีเหตผุ ล

ผู้เรยี นไดเ้ รยี นรู้ การใช้ชีวติ ท่สี มดุล และพร้อมกบั การเปล่ียนแปลงใน 4 มติ ิ

ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ดา้ น วตั ถุ สงั คม ส่ิงแวดล้อม วฒั นธรรม
องค์ความรู้

ความรู้ - ผเู้ รียน มคี วามร้ใู น - รจู้ ักวิธกี ารทำงานเป็น - รจู้ ักรกั ษาส่งิ แวดลอ้ ม - อธิบายความหมายและหา

การเลอื กใชส้ ่ือ วัสดุ กลมุ่ /การอยูร่ ่วมกนั การ - รักษาความสะอาด ผลลพั ธ์ทเี่ กดิ จากการบวก

อปุ กรณ์ ในการเรียน แบง่ หน้าทร่ี ับผดิ ชอบ ภายในศนู ยก์ ารเรยี น การลบ การคูณ และการหาร

การสอน ได้ถกู ต้อง - รจู้ กั รับฟังความคิดเห็น - มีความรเู้ กยี่ วกับการ จำนวนจรงิ

- มคี วามรู้ในเร่อื ง ของสมาชิกในกลุ่ม กำหนดเป้าหมายและ - อธิบายสมบตั ิของจำนวน
จำนวนและการ
ดำเนนิ การ - แลกเปลย่ี นเรียนรใู้ นการ วางแผนการเรยี นรดู้ ้วย จริง ที่เกี่ยวกับการบวก การ

เรยี นรู้ด้วยตนเอง ตนเอง คูณ การเท่ากัน และการไม่

เทา่ กนั และนำไปใช้

- อธบิ ายเก่ยี วกับค่าสัมบรู ณ์

ของจำนวนจรงิ และหาคา่

สมั บรู ณข์ องจำนวนจรงิ

ทักษะ - นำขอ้ มูลมาใช้ในการ - ยอมรบั ในความสามารถ -ลงมือปฎบิ ัติในการ - แสดงความสัมพนั ธข์ อง

สรุปองคค์ วามรู้ไดถ้ กู ต้อง ของสมาชิกในกลุ่ม เรียนรู้ด้วยเอง จำนวนตา่ งๆ ในระบบจำนวน

- เลือกวิธีการเรยี นรดู้ ว้ ย - ไดร้ ับความรว่ มมือในการ จริง

ตนเองไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ทำงานกลมุ่

และถูกตอ้ ง - ออกแบบการทำมายเมบ็ ได้

- เลือกใช้สอ่ื ในการเรยี นรู้ เหมาะสมกับสงั คมในปัจจุบนั

ดว้ ยตนเองทีเ่ หมาะสม

ค่านยิ ม - ภูมใิ จในผลงานของ -มีความสามัคคใี นการ -เหน็ คณุ คา่ ของศูนย์ - มเี จตคติต่อการทำงาน

ตนเอง เห็นคุณค่าใน ทำงานกลุม่ การเรยี น และ ร่วมกัน

การใชส้ ่อื วัสดุ อุปกรณ์ -มคี วามเอ้ือเฟ้ือเผื่อแผใ่ น สง่ิ แวดลอ้ มใน - ตระหนกั ถึงความสามัคคี

ได้ถูกต้องเหมาะสม การทำงานกลุม่ รว่ มกนั สถานศกึ ษา และการทำงานร่วมกนั

- ตระหนกั หลักการเลือก -ยอมรบั ฟงั ความคดิ เห็นและ - เห็นคณุ คา่ ของการ - เหน็ ความสำคัญของการ

ใชส้ ่ิงของบนพนื้ ฐาน ยอมรบั เสียงข้างมาก เรยี นรู้ดว้ ยตนเอง เรียนรู้ด้วยตนเอง

ความพอเพียง -เห็นความสำคัญและคณุ คา่

-เหน็ ความสำคัญ เจตคติ/ปัจจยั ทที่ ำให้การ

ความสำคญั ของการ เรยี นรู้ด้วยตนเองประสบ

เรยี นรู้ด้วยตนเอง ความสำเรจ็

แผนการจดั การเรียนรู้ท่ี 14

ระดบั มธั ยมศกึ ษาตอนปลาย

แบบพบกลุม่ เวลา 6 ชว่ั โมง

เร่อื ง เลขยกกำลังที่มีเลขชีก้ ำลังเป็นจำนวนตรรกยะ วนั ท่ี 29 เดอื น สิงหาคม พ.ศ 2564

.................................................................................................................................................................................
ของนางสาวเยาวภา บุญญาธิการ ศนู ย์การเรียนชุมชนโรงเรียนจนั ทร์หุ่นบำเพญ็ จงั หวัดกรงุ เทพมหานคร

........................................................................................................................................................................ .........

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มีความรู้ ความเขา้ ใจเกย่ี วกับจำนวนและการดำเนินการ เลขยกกำลังท่ีมีเลขช้ีกำลงั เป็นจำนวนตรรกยะ

เซต และการให้เหตุผล อัตราส่วน ตรีโกณมิติ และการนำไปใช้ การใช้เครื่องมือและการออกแบบผลิตภัณฑ์

สถติ ิเบื้องตน้ และความนา่ จะเป็น

2. ผลการเรยี นรทู้ ่ีคาดหวัง

1. ผู้เรียนสามารถอธิบายความหมายและบอก ความแตกต่างของจำนวนตรรกยะ และอตรรกยะ
2. ผู้เรียนสามารถอธิบายเก่ียวกับจำนวนจริงท่ีอยู่ในรูปเลขยกกำลังท่ีมีเลขช้ีกำลังเป็นจำนวนตรรกยะ
และจำนวนจรงิ ในรูปกรณฑ์
3. ผู้เรียนสามารถอธิบายความหมายและหาผลลัพธ์ท่ีเกิดจากการบวก การลบ การคูณ การหาร
จำนวนจรงิ ทอ่ี ยใู่ นรูปเลขยกกำลังทมี่ ีเลขช้กี ำลังเป็นจำนวนตรรกยะ และจำนวนจริงในรูปกรณฑ์

3. สาระการเรียนรู้ /เน้ือหา

เลขยกกำลังทมี่ ีเลขช้ีกำลังเป็นจำนวนตรรกยะ
1. จำนวนตรรกยะ และอตรรกยะ
2. เลขยกกำลงั ที่มเี ลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะและจำนวนจริงในรปู กรณฑ์
3. การบวก การลบ การคูณ การหาร จำนวนท่มี เี ลขช้ีกำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ และจำนวนจริงใน

รปู กรณฑ์

4.จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายความหมายและบอก ความแตกตา่ งของจำนวนตรรกยะ และอตรรกยะ
2. อธิบายเกี่ยวกับจำนวนจริงที่อยู่ในรูปเลขยกกำลังท่ีมีเลขช้ีกำลังเป็นจำนวนตรรกยะ และจำนวนจริง

ในรูปกรณฑ์
3. อธิบายความหมายและหาผลลัพธ์ทีเ่ กิดจากการบวก การลบ การคณู การหาร จำนวนจรงิ ทีอ่ ยู่ในรูป

เลขยกกำลงั ท่มี ีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ และจำนวนจริงในรปู กรณฑ์

5. ขนั้ ตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้
ขั้นที่ 1 กำหนดสภาพปัญหาความต้องการ
1. ครูนำเข้าสู่บทเรียน และสอบถามความรู้เดิมของแต่ละบุคคลที่มีต่อเลขยกกำลังที่มีเลขช้ีกำลังเป็น

จำนวนตรรกยะ

2. ครูและผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซักถาม/แสดงความคิดเห็นเกี่ยวเร่ืองจำนวนตรรกยะ และ
อตรรกยะ เลขยกกำลังท่ีมีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะและจำนวนจริงในรูปกรณฑ์ และการบวก การลบ
การคณู การหาร จำนวนท่ีมีเลขช้ีกำลงั เปน็ จำนวนตรรกยะ และจำนวนจริงในรูปกรณฑ์

ข้นั ที่ 2 แสวงหาข้อมลู และการจดั การเรียนรู้
1. ให้ผ้เู รียนชว่ ยกันระดมความคิดโดยการเรียนรู้ดว้ ยตนเอง ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็น 8 กลุ่ม กลุ่ม

ละ 6 - 8 คน ซ่ึงในแต่ละกลุ่มจะได้ใบความรู้ เรื่อง เลขยกกำลังที่มีเลขช้ีกำลังเป็นจำนวนตรรกยะ หนังสือเรียน
รายวชิ าคณิตศาสตร์ (พค31001) ระดับมัธยมศกึ ษาตอนปลาย หนา้ 16 - 26

2. ครเู ปดิ โอกาสให้ผู้เรยี นในแต่ละกล่มุ ศึกษาใบความรู้ทีต่ นเองได้รับร่วมกัน และสรุปองคค์ วามรทู้ ่ีไดร้ ับ
ลงในรูปแบบของมายแม็บป้ิง พร้อมสง่ ตัวแทนในการนำเสนอหนา้ ชน้ั เรียน

ข้ันท่ี 3 การปฏิบัติและนำไปประยุกตใ์ ช้
1. ให้ผู้เรียนแตล่ ะคนทำใบงานตามทน่ี ักศึกษาของแต่ละคนได้รบั ตามหวั ข้อใบความรู้

2. ให้ผู้เรียนแต่ละคนไปศึกษาความรู้เพิ่มเติมในหัวข้อการให้เหตุผลแบบอุปนัยและนิรนัย การอ้าง
เหตผุ ลโดยใช้แผนภาพเวนน์-ออยเลอร์ สง่ ครใู นรปู แบบ กรต.

ขัน้ ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. ใบสรปุ องค์ความรู้มายแม็บปงิ้
2. ใบงาน

6. สื่อการเรียนรู้
1. หนังสือเรียนรายวชิ าคณิตศาสตร์ (พค31001) ระดบั มัธยมศกึ ษาตอนปลาย
2. ใบงาน เรือ่ ง เลขยกกำลงั ทีม่ ีเลขชี้กำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ

7. การวัดและประเมินผล
ด้านความรู้
- ประเมนิ จากการนำเสนอ
- ใบงาน
ดา้ นทกั ษะ
- ประเมนิ ผลจากการปฏิบตั งิ านร่วมกนั
- จากการสงั เกตการทำกจิ กรรมของผเู้ รยี น
ดา้ นคณุ ธรรม จริยธรรม และคา่ นิยม
- ประเมนิ จากความรบั ผดิ ชอบงานทไี่ ด้รับมอบหมาย
- ประเมินโดยการสงั เกตพฤติกรรมในการรว่ มกจิ กรรม

บนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1. กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
2. สภาพปญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
3. วิธีการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
4. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…

ลงช่ือ................................................ครูผสู้ อน
(นางสาวเยาวภา บุญญาธิการ)
ครู คศ.2

5. ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา
...................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ....................................................
..................................................................................................................................... ...................................

ลงช่ือ.................................................ผูต้ รวจ
(นายพเิ ชษฐ เสอื เฒา่ )

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการ กศน.เขตห้วยขวาง
วันท่ี .......... เดอื น............................... พ.ศ.....................

ตารางวเิ คราะห์ตามหลกั ปรชั ญาของ ปศพพ. (แผนการสอนคร้ังท่ี 14)

ผู้สอนนำมาใชใ้ นการจดั กจิ กรรมการเรยี นรู้ ดงั น้ี

หลักความพอเพียง พอประมาณ มีเหตผุ ล มภี ูมคิ มุ้ กันทดี่ ใี นตัว
ประเดน็

- กำหนดเน้ือหาในเหมาะสมกับ - เนือ้ หาที่เกดิ ขึน้ สอดคล้อง - กำหนดแนวทางอยา่ งชัดเจน
เน้ือหา มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ดั และ กับมาตรฐาน ตัวช้ีวดั - ครูเตรียมเนื้อหา

เหมาะกบั วยั ของผเู้ รียน - ครจู ัดเตรยี มใบงาน

- จัดกจิ กรรมให้ผูเ้ รียนได้ปฏบิ ตั ิ - ผูเ้ รยี นได้ปฏบิ ัติจริงและ - มกี ารวางข้นั ตอนการจดั การจัด
วธิ กี ารจดั กจิ กรรม จรงิ
เกิดทักษะการคิด วเิ คราะห์ กิจกรรมการเรียนการสอนท่ี

- จดั กิจกรรมให้ผเู้ รยี นได้แสดง - การระดมความคิดทำให้ ชัดเจน

ความคิดเห็นและระดมความคดิ ใน ทำงานกลุ่มเกดิ มิติทางสังคม - จัดเตรยี มกจิ กรรมสำรองใน

การสรุปองค์ความรู้ - มกี ารแลกเปลยี่ นเรียนรูถ้ ึง กรณที ่ีไม่สามารถจัดกลมุ่ ระดม

การเรียนรดู้ ว้ ยตนเอง ความคดิ ได้

สอ่ื /อุปกรณ์ - เลอื กใชใ้ บความรแู้ ละใบกิจกรรม - เลอื กใชส้ ่ือ อปุ กรณ์ที่ - เตรยี มสอื่ อปุ กรณ์ ให้พรอ้ มกับ

ทเี่ หมาะสมกับผู้เรยี น ผู้เรยี นสามารถเรยี นรู้ไดด้ ้วย การจัดกิจกรรมการเรยี น

- มีสอ่ื การเรยี นท่ีเพยี งพอกับ ตนเอง การสอน และเตรียมสอื่ ที่มี

ผู้เรยี น - เลอื กใชส้ ่อื อุปกรณ์ ความหลากหลาย

- ท่ที นั สมัย เหมาะแก่การ - ลำดบั ขน้ั ตอนในการใชส้ ือ่

เรียนรแู้ ละสามารถเขา้ ใจง่าย - ครมู คี วามชำนาญในการใชส้ ื่อ

แหล่งเรยี นรู้ - มีแหล่งเรยี นร้ทู ่ีเอื้อต่อการจดั - สื่อมคี วามชดั เจนหมาะสม - สำรวจ ตรวจสอบแหลง่ เรยี นรู้

กจิ กรรม เวลาทกี่ ำหนด และวัย กบั เนือ้ หา - จดั เตรยี มแหลง่ เรยี นรู้

ของผ้เู รยี น - แหล่งเรียนรู้ผู้เรียนสามารถ - ศึกษาแหล่งเรยี นรู้ล่วงหน้า

ค้นหาง่ายสะดวก เช่นเว็บไซต์

- มีการออกแบบการวัดผลและ - ประเมินผลด้วยวิธที ี่ - วางแผนการออกแบบ
การประเมินผล ประเมินผลได้เหมาะสมตามตวั ช้ีวัด เหมาะสม ตรงตามตวั ชวี้ ัด ประเมินผลใหต้ รงตามตวั ชว้ี ดั

เน้ือหา เวลา และวยั ของผเู้ รียน ทำให้บรรลุเป้าหมาย - มกี ารประเมนิ ในหลายรูปแบบ

ความรู้ - ความรู้ เรือ่ ง เลขยกกำลังท่ีมเี ลขชกี้ ำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ
คุณธรรม - ครูมคี วามรใู้ น เร่ือง จำนวนตรรกยะ และอตรรกยะ เลขยกกำลังท่ีมีเลขชีก้ ำลงั เป็นจำนวนตรรกยะ
และจำนวนจรงิ ในรูปกรณฑ์ และการบวก การลบ การคูณ การหาร จำนวนทมี่ ีเลขชก้ี ำลังเป็นจำนวน
ตรรกยะ และจำนวนจรงิ ในรูปกรณฑ์
- มีความรูท้ ถ่ี ูกตอ้ งชัดเจน ความรัก ความเมตตา ใฝเ่ รียนรู้ ความขยนั ความอดทน ความเสียสละ
ความพอเพียง ความพอประมาณ ความมีเหตุผล

ผลทีเ่ กิดกับผูเ้ รียนสอดคล้องหลัก ปศพพ. ดงั นี้

องคป์ ระกอบ พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมิคมุ้ กันทด่ี ีในตัว
หลักความ
พอเพยี ง - มกี ารแบ่งกลมุ่ ท่เี หมาะสม - มีการวเิ คราะห์เนอ้ื หา - วางแผนการทำกจิ กรรมที่ไดร้ ับ

ความรู้ - เลอื กใช้วสั ดุ ส่อื อุปกรณ์ ได้ ความรู้เพื่อนำมาอธิบาย มอบหมายได้อยา่ งเหมาะสมชัดเจน
เหมาะสมและคุ้มค่ากบั การเรียน ในรปู แบบที่เข้าใจงา่ ย - มีการเตรยี มส่ือ อปุ กรณใ์ ห้พร้อมก่อน
คุณธรรม
- มีการเรยี นรู้ตามหวั ข้อเลขยก - อธบิ ายโดยการนำเสนอ ลงมอื ทำ

กำลงั ท่ีมีเลขชี้กำลังเปน็ จำนวน งานได้อย่างชดั เจน - วางแผนกำหนดแบ่งหน้าท่กี าร

ตรรกยะ - มกี ารเชอื่ มโยงเนอ้ื หาที่ ทำงานในกลุม่ เหมาะสม ในการสรุปใบ

สรปุ อยา่ งเป็นขัน้ ตอนและ ความรู้ ในรปู แบบมายเมบ็

มเี หตุผลประกอบในการ - ศึกษาขน้ั ตอนการการปฏบิ ัติงานที่

อธิบาย ได้รบั มอบหมายใหเ้ ขา้ ใจก่อนลงมอื ทำ

- สามารถปรบั เปลี่ยนเหตกุ ารณ์

ไดต้ ามทีผ่ เู้ รียนสนใจ

1. ผู้เรยี นสามารถอธบิ ายความหมายและบอก ความแตกตา่ งของจำนวนตรรกยะ และอตรรกยะ
2. ผู้เรียนสามารถอธิบายเกี่ยวกับจำนวนจริงที่อยู่ในรูปเลขยกกำลังท่ีมีเลขชี้กำลังเป็นจำนวนตรรกยะ และ
จำนวนจรงิ ในรปู กรณฑ์
3. ผเู้ รยี นสามารถอธบิ ายความหมายและหาผลลัพธ์ที่เกิดจากการบวก การลบ การคูณ การหาร จำนวนจริง

ท่ีอย่ใู นรูปเลขยกกำลงั ที่มีเลขช้กี ำลังเป็นจำนวนตรรกยะ และจำนวนจรงิ ในรูปกรณฑ์

มีความใฝ่รู้ ใฝ่เรียน มคี วามรับผิดชอบ สามัคคี มีระเบียบวนิ ัย ความซือ่ สัตย์ ความพอเพียง

ความตรงต่อเวลา ความพอประมาณ ความมเี หตุผล

ผูเ้ รยี นได้เรยี นรู้ การใช้ชีวิตที่สมดุล และพร้อมกบั การเปล่ยี นแปลงใน 4 มติ ิ

ตามหลักปรชั ญาเศรษฐกจิ พอเพียง

ดา้ น วัตถุ สังคม ส่ิงแวดล้อม วัฒนธรรม
องคค์ วามรู้

ความรู้ - ผู้เรยี น มคี วามรใู้ น - รูจ้ ักวธิ ีการทำงานเปน็ - รจู้ กั รกั ษาสง่ิ แวดลอ้ ม - อธบิ ายความหมายและบอก

การเลอื กใชส้ ื่อ วัสดุ กลุ่ม/การอยรู่ ว่ มกัน การ - รกั ษาความสะอาด ความแตกตา่ งของจำนวน

อปุ กรณ์ ในการเรียน แบ่งหนา้ ทร่ี ับผดิ ชอบ ภายในศนู ยก์ ารเรยี น ตรรกยะ และอตรรกยะ

การสอน ได้ถูกต้อง - รูจ้ ักรบั ฟังความคดิ เห็น - มีความรเู้ กี่ยวกบั การ - อธบิ ายเกี่ยวกบั จำนวนจริงท่ี

- มคี วามร้ใู นเรื่อง ของสมาชิกในกลุ่ม กำหนดเป้าหมายและ อยู่ในรูปเลขยกกำลังท่ีมเี ลขช้ี
เลขยกกำลังที่มเี ลขช้ี - แลกเปล่ียนเรียนรใู้ นการ วางแผนการเรยี นร้ดู ้วย กำลังเปน็ จำนวนตรรกยะ และ
กำลงั เป็นจำนวนตรรก เรียนรดู้ ว้ ยตนเอง
ตนเอง จำนวนจรงิ ในรปู กรณฑ์
ยะ - อธบิ ายความหมายการบวก

การลบ การคูณ การหาร

จำนวนจริงทอ่ี ยู่ในรปู เลขยก

กำลังที่มีเลขชี้กำลงั เป็น

จำนวนตรรกยะ และจำนวน

จรงิ ในรูปกรณฑ์

ทักษะ - นำขอ้ มูลมาใชใ้ นการ - ยอมรบั ในความสามารถ -ลงมือปฎิบตั ใิ นการ - หาผลลพั ธ์ทเี่ กดิ จากการบวก

สรปุ องคค์ วามรู้ไดถ้ ูกต้อง ของสมาชิกในกลุ่ม เรียนรู้ดว้ ยเอง การลบ การคูณ การหาร

- เลอื กวธิ กี ารเรยี นรูด้ ว้ ย - ไดร้ ับความรว่ มมือในการ จำนวนจริงทอ่ี ยใู่ นรูปเลขยก

ตนเองไดอ้ ย่างเหมาะสม ทำงานกล่มุ กำลงั ทีม่ เี ลขชก้ี ำลงั เปน็

และถูกต้อง - ออกแบบการทำมายเมบ็ ได้ จำนวนตรรกยะ และจำนวน

- เลือกใช้ส่ือในการเรียนรู้ เหมาะสมกบั สังคมในปจั จบุ นั จริงในรูปกรณฑ์

ดว้ ยตนเองท่ีเหมาะสม

คา่ นยิ ม - ภมู ใิ จในผลงานของ -มีความสามคั คใี นการ -เห็นคุณค่าของศูนย์ - มีเจตคติต่อการทำงาน

ตนเอง เหน็ คุณค่าใน ทำงานกลมุ่ การเรียน และ ร่วมกัน

การใช้สื่อ วัสดุ อุปกรณ์ -มคี วามเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ใน ส่ิงแวดลอ้ มใน - ตระหนักถึงความสามัคคี

ได้ถูกต้องเหมาะสม การทำงานกลุม่ ร่วมกัน สถานศกึ ษา และการทำงานรว่ มกัน

- ตระหนกั หลักการเลือก -ยอมรับฟงั ความคิดเห็นและ - เห็นคุณคา่ ของการ - เห็นความสำคัญของการ

ใชส้ ่ิงของบนพื้นฐาน ยอมรับเสียงข้างมาก เรยี นรูด้ ้วยตนเอง เรยี นรูด้ ว้ ยตนเอง

ความพอเพียง -เห็นความสำคัญและคณุ ค่า

-เห็นความสำคญั เจตคติ/ปัจจัย ท่ีทำใหก้ าร

ความสำคญั ของการ เรยี นรูด้ ว้ ยตนเองประสบ

เรยี นรดู้ ้วยตนเอง ความสำเรจ็

แผนการจดั การเรียนรู้ที่ 15

ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย

แบบพบกลุ่ม เวลา 6 ชว่ั โมง

เรือ่ ง เซต และสถติ เิ บ้ืองต้น วันที่ 5 เดือน กนั ยายน พ.ศ 2564

.................................................................................................................................................................................
.. ของนางสาวเยาวภา บญุ ญาธิการ ศนู ยก์ ารเรียนชมุ ชนโรงเรยี นจนั ทร์หุน่ บำเพญ็ จงั หวดั กรุงเทพมหานคร
........................................................................................................................................................................ .........

1. มาตรฐานการเรียนรู้

มีความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกับจำนวนและการดำเนินการ เลขยกกำลังที่มีเลขช้ีกำลงั เป็นจำนวนตรรกยะ

เซต และการให้เหตุผล อัตราส่วน ตรีโกณมิติ และการนำไปใช้ การใช้เครื่องมือและการออกแบบผลิตภัณฑ์

สถิตเิ บ้อื งต้นและความนา่ จะเป็น

2. ผลการเรยี นร้ทู คี่ าดหวัง

1. ผเู้ รยี นสามารถอธิบายความหมายเก่ยี วกบั เซต
2. ผเู้ รียนสามารถหายเู นย่ี นอินเตอร์เซกชน่ั คอมพลีเมนต์ และผลต่างของเซต
3. ผู้เรียนสามารถเขยี นแผนภาพแทนเซต และนำไปใชแ้ กป้ ัญหาที่เกี่ยวกับการหาสมาชิกของเซต
4. ผูเ้ รียนสามารถอธบิ ายขั้นตอนการวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น และสามารถนำผลจากการวิเคราะหข์ ้อมลู
เบือ้ งตน้ ไปใช้ในการตดั สินใจ

3. สาระการเรยี นรู้ /เนอื้ หา

เซต

1. เซต
2. การดำเนินการของเซต
สถิตเิ บือ้ งตน้
1. การวเิ คราะห์ข้อมลู เบื้องต้น

4.จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธบิ ายความหมายเกีย่ วกับเซต
2. สามารถหายเู น่ยี นอนิ เตอร์เซกช่ันคอมพลีเมนต์ และผลต่างของเซต
3. เขียนแผนภาพแทนเซต และนำไปใช้แก้ปญั หาท่เี ก่ยี วกับการหาสมาชิกของเซต
4. อธบิ ายข้นั ตอนการวิเคราะห์ขอ้ มลู เบ้ืองต้น และสามารถนำผลจากการวิเคราะหข์ ้อมูลเบอ้ื งตน้ ไปใช้
ในการตัดสนิ ใจ

5. ข้นั ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้
ข้ันที่ 1 กำหนดสภาพปญั หาความต้องการ

1. ครูนำเข้าสู่บทเรียน และสอบถามความร้เู ดมิ ของแตล่ ะบุคคลทม่ี ีต่อเซต และสถติ เิ บื้องต้น
2. ครูและผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซักถาม/แสดงความคิดเห็นเกี่ยวเร่ือง เซต การดำเนินการของเซต
และการวิเคราะห์ขอ้ มูลเบ้อื งตน้

ขน้ั ท่ี 2 แสวงหาขอ้ มลู และการจดั การเรียนรู้
1. ให้ผู้เรียนช่วยกันระดมความคิดโดยการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซึ่งจะแบ่งออกได้เป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ
6 - 8 คน ซงึ่ ในแต่ละกลุ่มจะไดใ้ บความรู้ ดงั ตอ่ ไปน้ี

- กลุ่มที่ 1,3,5,7 เรื่อง เซต จากหนังสือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์ (พค31001) ระดับ
มัธยมศกึ ษาตอนปลาย หน้า 36 - 56

- กลุ่มที่ 2,4,6,8 เร่ือง การวิเคราะห์ข้อมูลเบื้องต้น จากหนังสือเรียนรายวิชาคณิตศาสตร์
(พค31001) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย หน้า 121 - 128

2. ครเู ปดิ โอกาสให้ผู้เรียนในแตล่ ะกลุ่มศึกษาใบความรู้ทต่ี นเองได้รับร่วมกนั และสรุปองคค์ วามรทู้ ไี่ ด้รับ
ลงในรปู แบบของมายแมบ็ ป้ิง พร้อมสง่ ตัวแทนในการนำเสนอหนา้ ชั้นเรียน

ขั้นท่ี 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้
1. ใหผ้ ู้เรียนแตล่ ะคนทำใบงานตามท่ีนกั ศึกษาของแต่ละคนไดร้ ับตามหัวข้อใบความรู้

2. ให้ผู้เรียนแต่ละคนไปศึกษาความรู้เพิ่มเติมในหัวข้อการสร้างรูปทางเรขาคณิตโดยใช้เครื่องมือ
การแปลงทางเรขาคณิต เช่น การเลอ่ื นขนาน การหมุน และการสะทอ้ น และการออกแบบสร้างสรรค์ งานศลิ ปะ
จากการแปลงทางคณิตศาสตร์และทางเรขาคณิตส่งครูในรปู แบบ กรต.

ข้ันท่ี 4 การประเมนิ ผลการเรียนรู้
1. ใบสรปุ องค์ความร้มู ายแม็บปิ้ง
2. ใบงาน

6. ส่ือการเรียนรู้
1. หนงั สือเรียนรายวชิ าคณิตศาสตร์ (พค31001) ระดบั มธั ยมศึกษาตอนปลาย
2. ใบงาน เรอ่ื ง เซต
3. ใบงาน เร่ือง การวเิ คราะห์ข้อมลู เบ้อื งตน้

7. การวดั และประเมนิ ผล
ด้านความรู้
- ประเมินจากการนำเสนอ
- ใบงาน
ดา้ นทกั ษะ
- ประเมินผลจากการปฏบิ ัติงานรว่ มกนั
- จากการสงั เกตการทำกิจกรรมของผูเ้ รียน
ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม และคา่ นิยม
- ประเมินจากความรับผดิ ชอบงานทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
- ประเมนิ โดยการสงั เกตพฤติกรรมในการรว่ มกิจกรรม

บนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1. กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
2. สภาพปญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
3. วิธีการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
4. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…

ลงช่ือ................................................ครูผสู้ อน
(นางสาวเยาวภา บุญญาธิการ)
ครู คศ.2

5. ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา
...................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ....................................................
..................................................................................................................................... ...................................

ลงช่ือ.................................................ผูต้ รวจ
(นายพเิ ชษฐ เสอื เฒา่ )

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการ กศน.เขตห้วยขวาง
วันท่ี .......... เดอื น............................... พ.ศ.....................

ตารางวิเคราะห์ตามหลกั ปรชั ญาของ ปศพพ. (แผนการสอนคร้งั ท่ี 15)

ผู้สอนนำมาใชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ ดงั นี้

หลกั ความพอเพยี ง พอประมาณ มีเหตุผล มีภูมคิ ุ้มกนั ทด่ี ีในตัว
ประเด็น

- กำหนดเนอื้ หาในเหมาะสมกับ - เนื้อหาที่เกดิ ขน้ึ สอดคล้อง - กำหนดแนวทางอยา่ งชดั เจน
เนื้อหา มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวช้วี ดั และ กับมาตรฐาน ตวั ช้ีวัด - ครูเตรยี มเนือ้ หา

เหมาะกบั วัยของผู้เรียน - ครูจดั เตรยี มใบงาน

- จัดกิจกรรมใหผ้ ู้เรียนไดป้ ฏิบตั ิ - ผเู้ รียนไดป้ ฏิบัตจิ ริงและ - มกี ารวางขั้นตอนการจดั การจัด
วธิ กี ารจัดกจิ กรรม จรงิ
เกิดทักษะการคิด วิเคราะห์ กจิ กรรมการเรียนการสอนท่ี

- จดั กิจกรรมใหผ้ ู้เรียนไดแ้ สดง - การระดมความคิดทำให้ ชัดเจน

ความคดิ เหน็ และระดมความคิดใน ทำงานกลมุ่ เกิดมิติทางสงั คม - จัดเตรยี มกิจกรรมสำรองใน

การสรุปองค์ความรู้ - มีการแลกเปล่ยี นเรยี นรถู้ งึ กรณีท่ีไมส่ ามารถจดั กลมุ่ ระดม

การเรยี นรู้ดว้ ยตนเอง ความคดิ ได้

สื่อ/อปุ กรณ์ - เลอื กใชใ้ บความรู้และใบกิจกรรม - เลือกใช้ส่ือ อปุ กรณ์ท่ี - เตรียมส่อื อปุ กรณ์ ให้พร้อมกับ

ที่เหมาะสมกบั ผ้เู รยี น ผู้เรียนสามารถเรียนรู้ได้ดว้ ย การจดั กิจกรรมการเรียน

- มสี อ่ื การเรียนที่เพยี งพอกับ ตนเอง การสอน และเตรยี มสือ่ ที่มี

ผเู้ รยี น - เลือกใชส้ ื่อ อปุ กรณ์ ความหลากหลาย

- ที่ทันสมยั เหมาะแก่การ - ลำดับขนั้ ตอนในการใช้สือ่

เรียนรู้และสามารถเขา้ ใจง่าย - ครูมคี วามชำนาญในการใช้สื่อ

แหล่งเรยี นรู้ - มแี หล่งเรยี นรู้ทเี่ อ้ือต่อการจดั - สื่อมคี วามชดั เจนหมาะสม - สำรวจ ตรวจสอบแหล่งเรยี นรู้

กจิ กรรม เวลาที่กำหนด และวัย กบั เนอ้ื หา - จดั เตรยี มแหล่งเรยี นรู้

ของผเู้ รยี น - แหล่งเรียนรผู้ ู้เรียนสามารถ - ศกึ ษาแหล่งเรียนรู้ลว่ งหน้า

คน้ หาง่ายสะดวก เช่นเว็บไซต์

- มีการออกแบบการวัดผลและ - ประเมินผลด้วยวธิ ที ่ี - วางแผนการออกแบบ
การประเมนิ ผล ประเมินผลได้เหมาะสมตามตวั ช้วี ัด เหมาะสม ตรงตามตัวชี้วดั ประเมนิ ผลให้ตรงตามตัวชว้ี ัด

เน้ือหา เวลา และวัยของผ้เู รียน ทำให้บรรลุเปา้ หมาย - มีการประเมนิ ในหลายรูปแบบ

- ความรู้ เรอื่ ง เซต และสถติ ิเบอื้ งตน้
ความรู้ - ครูมคี วามรู้ใน เร่ือง เซต การดำเนินการของเซต และการวเิ คราะห์ข้อมูลเบ้ืองตน้

คุณธรรม - มคี วามรทู้ ี่ถูกต้องชัดเจน ความรกั ความเมตตา ใฝ่เรียนรู้ ความขยัน ความอดทน ความเสียสละ
ความพอเพียง ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล

ผลทีเ่ กดิ กบั ผูเ้ รียนสอดคลอ้ งหลัก ปศพพ. ดังน้ี

องค์ประกอบ พอประมาณ มเี หตุผล มภี ูมคิ มุ้ กนั ทดี่ ใี นตัว
หลักความ
พอเพียง - มีการแบ่งกลมุ่ ทเ่ี หมาะสม - มกี ารวิเคราะหเ์ นอ้ื หา - วางแผนการทำกิจกรรมท่ีได้รับ

ความรู้ - เลอื กใช้วัสดุ ส่ือ อปุ กรณ์ ได้ ความรู้เพ่ือนำมาอธบิ าย มอบหมายได้อยา่ งเหมาะสมชัดเจน

คณุ ธรรม เหมาะสมและคุ้มค่ากบั การเรียน ในรูปแบบท่เี ข้าใจงา่ ย - มกี ารเตรียมส่ือ อปุ กรณ์ให้พร้อมก่อน

- มกี ารเรียนรตู้ ามหวั ข้อเซต และ - อธิบายโดยการนำเสนอ ลงมอื ทำ

สถติ เิ บอ้ื งตน้ งานได้อย่างชัดเจน - วางแผนกำหนดแบ่งหน้าที่การ

- มีการเชอ่ื มโยงเนอื้ หาที่ ทำงานในกล่มุ เหมาะสม ในการสรปุ ใบ

สรปุ อย่างเป็นขั้นตอนและ ความรู้ ในรปู แบบมายเม็บ

มีเหตุผลประกอบในการ - ศึกษาขัน้ ตอนการการปฏบิ ตั งิ านที่

อธบิ าย ได้รับมอบหมายใหเ้ ข้าใจก่อนลงมอื ทำ
- สามารถปรับเปลี่ยนเหตุการณ์

ได้ตามทีผ่ เู้ รยี นสนใจ

1. ผ้เู รยี นสามารถอธบิ ายความหมายเกี่ยวกับเซต
2. ผ้เู รยี นสามารถหายูเนย่ี นอินเตอร์เซกชัน่ คอมพลีเมนต์ และผลตา่ งของเซต
3. ผ้เู รียนสามารถเขียนแผนภาพแทนเซต และนำไปใช้แกป้ ัญหาที่เกย่ี วกบั การหาสมาชิกของเซต

4. ผู้เรยี นสามารถอธบิ ายขน้ั ตอนการวเิ คราะหข์ ้อมลู เบ้ืองต้น และสามารถนำผลจากการวิเคราะห์ข้อมูล

เบอื้ งต้นไปใช้ในการตัดสินใจ

มคี วามใฝ่รู้ ใฝเ่ รียน มีความรับผิดชอบ สามคั คี มีระเบียบวินยั ความซอื่ สัตย์ ความพอเพียง

ความตรงต่อเวลา ความพอประมาณ ความมเี หตุผล

ผ้เู รยี นได้เรียนรู้ การใชช้ ีวิตท่ีสมดุล และพรอ้ มกับการเปลยี่ นแปลงใน 4 มติ ิ

ตามหลักปรัชญาเศรษฐกจิ พอเพยี ง

ด้าน วตั ถุ สงั คม สงิ่ แวดล้อม วฒั นธรรม
องคค์ วามรู้

ความรู้ - ผู้เรยี น มคี วามรู้ใน - รู้จักวธิ กี ารทำงานเปน็ - รู้จักรักษาสิง่ แวดลอ้ ม - อธบิ ายความหมายเกยี่ วกับ

การเลอื กใช้สอ่ื วัสดุ กลมุ่ /การอยู่รว่ มกนั การ - รกั ษาความสะอาด เซต

อปุ กรณ์ ในการเรียน แบง่ หน้าท่รี ับผดิ ชอบ ภายในศูนย์การเรียน - อธิบายขน้ั ตอนการวิเคราะห์

การสอน ได้ถูกต้อง - รจู้ กั รบั ฟงั ความคดิ เหน็ - มคี วามรู้เกย่ี วกบั การ ขอ้ มลู เบ้ืองตน้ และสามารถ

- มีความรู้ในเรื่อง ของสมาชิกในกลุ่ม กำหนดเปา้ หมายและ นำผลจากการวิเคราะหข์ ้อมูล
เซต และสถติ ิเบ้ืองต้น - แลกเปลยี่ นเรยี นรู้ในการ วางแผนการเรยี นรดู้ ้วย เบอ้ื งต้นไปใช้ในการตดั สินใจ

เรยี นร้ดู ้วยตนเอง ตนเอง

ทกั ษะ - นำข้อมลู มาใช้ในการ - ยอมรบั ในความสามารถ -ลงมือปฎบิ ตั ใิ นการ - หายูเน่ียนอนิ เตอร์เซกชน่ั

สรุปองค์ความร้ไู ด้ถูกต้อง ของสมาชิกในกลุ่ม เรยี นรู้ดว้ ยเอง คอมพลเี มนต์ และผลต่างของ

- เลือกวิธีการเรยี นรดู้ ว้ ย - ไดร้ ับความร่วมมือในการ เซต

ตนเองได้อยา่ งเหมาะสม ทำงานกลุม่ - เขยี นแผนภาพแทนเซต และ

และถูกตอ้ ง - ออกแบบการทำมายเม็บได้ นำไปใชแ้ กป้ ัญหาที่เกย่ี วกับ

- เลอื กใชส้ ่ือในการเรยี นรู้ เหมาะสมกับสงั คมในปัจจุบัน การหาสมาชกิ ของเซต

ด้วยตนเองทเี่ หมาะสม

คา่ นยิ ม - ภูมิใจในผลงานของ -มคี วามสามัคคีในการ -เหน็ คณุ คา่ ของศูนย์ - มเี จตคตติ ่อการทำงาน

ตนเอง เหน็ คุณค่าใน ทำงานกลุม่ การเรียน และ ร่วมกัน

การใชส้ ื่อ วัสดุ อปุ กรณ์ -มีความเอ้ือเฟ้อื เผ่ือแผใ่ น สง่ิ แวดลอ้ มใน - ตระหนักถึงความสามัคคี

ไดถ้ ูกตอ้ งเหมาะสม การทำงานกลุ่มรว่ มกนั สถานศกึ ษา และการทำงานรว่ มกัน

- ตระหนกั หลักการเลือก -ยอมรับฟงั ความคิดเห็นและ - เหน็ คณุ คา่ ของการ - เหน็ ความสำคญั ของการ

ใช้สิ่งของบนพ้นื ฐาน ยอมรับเสยี งข้างมาก เรยี นรู้ด้วยตนเอง เรยี นรดู้ ว้ ยตนเอง

ความพอเพยี ง -เห็นความสำคัญและคณุ ค่า

-เหน็ ความสำคัญ เจตคติ/ปจั จัย ท่ที ำให้การ

ความสำคัญของการ เรยี นรดู้ ้วยตนเองประสบ

เรียนรู้ดว้ ยตนเอง ความสำเร็จ

แผนการจัดการเรียนรู้ท่ี 16

ระดบั มัธยมศึกษาตอนปลาย

แบบพบกลุ่ม เวลา 6 ช่วั โมง

เรอื่ ง โครงสร้างและหน้าท่ีทางภาษา วันที่ 19 เดือน กันยายน พ.ศ 2564

...................................................................................................................................................................................

ของนางสาวเยาวภา บุญญาธิการ ศนู ยก์ ารเรยี นชุมชนโรงเรียนจนั ทร์หุน่ บำเพ็ญ จงั หวัดกรุงเทพมหานคร

........................................................................................................................................................................ .........

1. มาตรฐานการเรยี นรู้

มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ ทกั ษะและเจตคติเกีย่ วกบั ภาษาท่าทาง การฟัง พดู อ่าน เขียน ภาษาต่างประเทศ

ด้วยประโยคที่ซับซ้อนมากข้ึนในชีวิตประจำวัน และงานอาชีพของตน ถูกต้องตามหลักภาษาวัฒนธรรม และ

กาลเทศะของเจา้ ของภาษา

2. ผลการเรยี นร้ทู ่คี าดหวัง
ผู้เรียนสามารถสามารถใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเคร่ืองมือในการจัดการด้านการเรียน การแสวงหา

ความรู้ การเข้าสู่สังคมและการศึกษาต่อ รวมทั้งเช่ือมโยงความรู้ทางด้านภาษาต่างประเทศกับกลุ่มสาระ
การเรยี นรอู้ ่นื

3. สาระการเรียนรู้ /เนอ้ื หา
1. โครงสรา้ งทางภาษา (Structure)
2. หนา้ ท่ีทางภาษา (Function) เชน่
 การทกั ทาย (Greeting)
การกล่าวลา (Good bye)
 การขอบคุณ (Thank you)
 การแนะนำตัวเอง (Introducing)
 การขอร้อง (Request)
 การขอและใหค้ ำแนะนำปรึกษา(Asking and Giving Advice)
 การถามทศิ ทาง (Asking for Direction)

4.จุดประสงคก์ ารเรียนรู้
สามารถใช้ภาษาต่างประเทศเป็นเครื่องมือในการจัดการด้านการเรียน การแสวงหาความรู้ การเข้าสู่

สงั คมและการศึกษาต่อ รวมทง้ั เช่ือมโยงความรู้ทางด้านภาษาต่างประเทศกับกลุม่ สาระการเรยี นรู้อน่ื

5. ขั้นตอนการจดั กระบวนการเรียนรู้
ข้นั ที่ 1 กำหนดสภาพปญั หาความตอ้ งการ
1. ครนู ำเขา้ สู่บทเรียน และสอบถามความร้เู ดมิ ของแตล่ ะบคุ คลท่ีมตี อ่ โครงสร้างและหนา้ ทข่ี องภาษา

2. ครูและผู้เรียนแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ซักถาม/แสดงความคิดเห็นเก่ียวเรื่อง โครงสร้างทางภาษา
(Structure) หน้าท่ีทางภาษา (Function) เช่น การทักทาย (Greeting) การกล่าวลา (Good bye) การขอบคุณ
(Thank you) การแนะนำตัวเอง (Introducing) การขอรอ้ ง (Request) การขอและให้คำแนะนำปรึกษา(Asking
and Giving Advice) และการถามทิศทาง (Asking for Direction)

ข้นั ท่ี 2 แสวงหาข้อมูลและการจดั การเรียนรู้
1. ให้ผู้เรียนช่วยกันระดมความคิดโดยการเรียนรู้ด้วยตนเอง ซ่ึงจะแบ่งออกได้เป็น 8 กลุ่ม กลุ่มละ
6 - 8 คน ซงึ่ ในแตล่ ะกลุ่มจะไดใ้ บความรู้ เรอ่ื ง โครงสร้างและหนา้ ท่ีของภาษา
2. ครเู ปดิ โอกาสให้ผู้เรียนในแต่ละกลมุ่ ศึกษาใบความรู้ทีต่ นเองได้รบั ร่วมกัน และสรุปองค์ความร้ทู ่ไี ด้รับ
ลงในรูปแบบของมายแมบ็ ปง้ิ พร้อมส่งตัวแทนในการนำเสนอหนา้ ช้ันเรียน
ข้ันท่ี 3 การปฏิบตั แิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้
1. ให้ผูเ้ รยี นแต่ละคนทำใบงานตามท่ีนักศึกษาของแตล่ ะคนได้รบั ตามหัวข้อใบความรู้
2. ให้ผู้เรียนแต่ละคนไปศึกษาความรู้เพ่ิมเติมในหัวข้อการทำข้อสอบแบบเว้นช่องว่างอย่างมีระบบ
(Cloze Test) ภูมิหลังเจ้าของภาษาวัฒนธรรม (Cultural Background) และการตรวจจับท่ีผิด (Error
Detection) ส่งครใู นรปู แบบ กรต.
ขนั้ ที่ 4 การประเมนิ ผลการเรยี นรู้
1. ใบสรปุ องคค์ วามรูม้ ายแม็บปิ้ง
2. ใบงาน

6. ส่อื การเรยี นรู้
1. ใบความรู้ เร่ือง โครงสร้างและหน้าทีข่ องภาษา
2. ใบงาน เร่ือง โครงสร้างและหนา้ ที่ของภาษา

7. การวัดและประเมนิ ผล
ด้านความรู้
- ประเมินจากการนำเสนอ
- ใบงาน
ด้านทกั ษะ
- ประเมินผลจากการปฏิบัติงานร่วมกนั
- จากการสงั เกตการทำกิจกรรมของผ้เู รียน
ด้านคุณธรรม จรยิ ธรรม และค่านยิ ม
- ประเมินจากความรบั ผดิ ชอบงานท่ไี ดร้ ับมอบหมาย
- ประเมินโดยการสงั เกตพฤติกรรมในการรว่ มกิจกรรม

บนั ทึกหลงั การจัดกจิ กรรมการเรียนรู้

1. กิจกรรมการเรยี นรู้
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
2. สภาพปญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
3. วิธีการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
4. ขอ้ เสนอแนะและแนวทางการแกป้ ญั หา
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…
……………………………………………………………………………………………………………………………………………………..…

ลงช่ือ................................................ครูผสู้ อน
(นางสาวเยาวภา บุญญาธิการ)
ครู คศ.2

5. ขอ้ เสนอแนะของหัวหน้าสถานศึกษา
...................................................................................................................................................................

............................................................................................................................. ....................................................
..................................................................................................................................... ...................................

ลงช่ือ.................................................ผูต้ รวจ
(นายพเิ ชษฐ เสอื เฒา่ )

ตำแหนง่ ผูอ้ ำนวยการ กศน.เขตห้วยขวาง
วันท่ี .......... เดอื น............................... พ.ศ.....................

ตารางวิเคราะหต์ ามหลกั ปรัชญาของ ปศพพ. (แผนการสอนครั้งท่ี 16)

ผ้สู อนนำมาใช้ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ ดงั นี้

หลักความพอเพยี ง พอประมาณ มีเหตุผล มภี ูมิค้มุ กนั ท่ดี ใี นตัว
ประเดน็

- กำหนดเนอ้ื หาในเหมาะสมกบั - เนอ้ื หาท่เี กดิ ข้นึ สอดคล้อง - กำหนดแนวทางอยา่ งชดั เจน
เนอื้ หา มาตรฐานการเรียนรู้ ตัวชวี้ ัด และ กับมาตรฐาน ตวั ชีว้ ัด - ครูเตรยี มเน้ือหา

เหมาะกบั วัยของผู้เรียน - ครูจดั เตรียมใบงาน

- จดั กิจกรรมให้ผเู้ รยี นได้ปฏิบัติ - ผู้เรยี นไดป้ ฏิบตั ิจริงและ - มกี ารวางขั้นตอนการจัดการจัด
วธิ กี ารจดั กจิ กรรม จรงิ
เกดิ ทกั ษะการคิด วิเคราะห์ กจิ กรรมการเรียนการสอนที่

- จัดกจิ กรรมใหผ้ เู้ รยี นไดแ้ สดง - การระดมความคิดทำให้ ชัดเจน

ความคดิ เห็นและระดมความคิดใน ทำงานกลมุ่ เกิดมิตทิ างสงั คม - จัดเตรยี มกจิ กรรมสำรองใน

การสรปุ องคค์ วามรู้ - มีการแลกเปล่ยี นเรียนรู้ถึง กรณีที่ไม่สามารถจัดกลมุ่ ระดม

การเรียนรู้ด้วยตนเอง ความคดิ ได้

ส่ือ/อปุ กรณ์ - เลอื กใช้ใบความรูแ้ ละใบกิจกรรม - เลือกใชส้ ่ือ อุปกรณ์ที่ - เตรยี มส่อื อปุ กรณ์ ให้พรอ้ มกับ

ทเ่ี หมาะสมกบั ผเู้ รยี น ผู้เรยี นสามารถเรียนรู้ไดด้ ้วย การจัดกจิ กรรมการเรยี น

- มีสอ่ื การเรยี นท่เี พยี งพอกบั ตนเอง การสอน และเตรียมสือ่ ที่มี

ผเู้ รียน - เลอื กใช้ส่ือ อปุ กรณ์ ความหลากหลาย

- ทที่ นั สมยั เหมาะแก่การ - ลำดับขนั้ ตอนในการใช้ส่ือ

เรยี นรู้และสามารถเข้าใจง่าย - ครมู คี วามชำนาญในการใช้ส่ือ

แหลง่ เรยี นรู้ - มแี หลง่ เรยี นร้ทู เ่ี ออื้ ต่อการจัด - สื่อมีความชัดเจนหมาะสม - สำรวจ ตรวจสอบแหล่งเรยี นรู้

กิจกรรม เวลาท่ีกำหนด และวัย กบั เนอ้ื หา - จดั เตรยี มแหลง่ เรยี นรู้

ของผู้เรียน - แหล่งเรียนรู้ผู้เรียนสามารถ - ศึกษาแหลง่ เรยี นรู้ลว่ งหน้า

ค้นหาง่ายสะดวก เช่นเว็บไซต์

- มกี ารออกแบบการวัดผลและ - ประเมนิ ผลดว้ ยวธิ ที ่ี - วางแผนการออกแบบ
การประเมนิ ผล ประเมินผลได้เหมาะสมตามตวั ชว้ี ดั เหมาะสม ตรงตามตัวชีว้ ัด ประเมินผลใหต้ รงตามตัวช้ีวดั

เน้ือหา เวลา และวัยของผเู้ รียน ทำให้บรรลุเปา้ หมาย - มีการประเมินในหลายรปู แบบ

ความรู้ - ความรู้ เรือ่ ง โครงสร้างและหน้าทข่ี องภาษา
คุณธรรม - ครมู คี วามรูใ้ น เรอ่ื ง โครงสรา้ งทางภาษา (Structure) หน้าทีท่ างภาษา (Function) เชน่ การทักทาย
(Greeting) การกล่าวลา (Good bye) การขอบคุณ (Thank you) การแนะนำตัวเอง (Introducing)
การขอร้อง (Request) การขอและใหค้ ำแนะนำปรึกษา(Asking and Giving Advice) และการถาม
ทศิ ทาง (Asking for Direction)
- มีความรู้ทถ่ี ูกตอ้ งชดั เจน ความรกั ความเมตตา ใฝ่เรียนรู้ ความขยัน ความอดทน ความเสียสละ
ความพอเพียง ความพอประมาณ ความมเี หตผุ ล


Click to View FlipBook Version