The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

องค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาอันดามัน

จัดทำโดย สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search

องค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาอันดามัน

องค์ความรู้ด้านศิลปวัฒนธรรม และภูมิปัญญาอันดามัน

จัดทำโดย สำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต

Keywords: องค์ความรู้,ศิลปวัฒนธรรม,ภูมิปัญญา,ภูเก็ต,อันดามัน

47

ªØ´¼ÒŒ ºÒµ¡Ô

ÊàÕ ¢ÕÂÇ㺵ͧ Í͡ྐྵŒ ·ÅÇ´ÅÒÂ
ãˌ໹š ÅÒ¼àÕ Ê้Í× ·Á่Õ ÕÊÊÕ ¹Ñ ÊǧÒÁ
áÅмŒÒª้¹Ô ¹¡Õ้ ä็ Á‹ä´Œ¹ÓÁÒµ´Ñ àÂ็º

ãËàŒ »¹š àÊ×้ͼŒÒÊÓàè็ ûÙ

ᵋ¤ÇÒÁ¾ÔàÈÉÍ‹µÙ ç·่Õ
໚¹¼ÒŒ ªÔ้¹ áÅnj ¹ÓÁÒ¾¹Ñ áÅÐàÂ็º
ãˌÁ¡Ô « á͹´áÁµ«ã้ˌ໹š ªØ´à´ÃÊ
ÊÓËÃѺÊÇÁãÊ͋ Í¡§Ò¹ä´ŒÊǧÒÁ

48

ª´Ø ¼ŒÒºÒµ¡Ô ÊÕá´§

ྌ¹·ÅÇ´ÅÒ´͡äÁ·Œ ÐàÅÊǧÒÁ
¾Ã้ÔÇäËÇ仵ÒÁÅÒ¹Ó้

º‹§ºÍ¡¶Ö§àÍ¡Åѡɳ¢Í§·ÍŒ §·ÐàÅ㵌

¼ÒŒ ¼×¹¹้äÕ Á‹ä´ÍŒ ͡ẺµÑ´àº็
ẺÊÓàÃ็¨Ã»Ù ᵋ¹ÓÁҾѹáÅÐàº็
ÁÔ¡«á ͹´áÁµ«º¹µÇÑ ¹Ò§áºº

ãËàŒ »š¹ª´Ø à´ÃÊÊǧÒÁ

49

ª´Ø ÊÒǹŒÍÂÁÊØ ÅÁÔ

Á¡Õ ÒÃÍ͡ẺµÑ´àº็ ´ŒÒ¹ã¹
´ÇŒ ¼ŒÒäËÁÊÕ¹้Óà§¹Ô

·§Ñ้ Î­Ô ÒºáÅеÇÑ ªØ´ áÅÐÁ¡Õ ÒÃ¤ÅØÁ·Ñº
´ÇŒ ¼ŒÒš٠äÁ»Œ ˜¡àÅÍ×่ ÁÊ·Õ Í§ÊǧÒÁ
º‹§ºÍ¡¶Ö§àÍ¡Åѡɳ¤ÇÒÁ໚¹ÀÙà¡็µ

50

ªØ´ºÒºÒŽ

·Ê่Õ µÃÕªÒÇÀàÙ ¡µ็ ¹ÔÂÁÊÇÁãʋ㹧ҹµÒ‹ §æ
µÑÇàÊÍ×้ ¨Ð໚¹¤Íµ§Ñ้ ᢹ¨ºÕ ÊÕá´§Ê´

¼ŒÒ¶Ø§à»š¹¼ŒÒ»Ò്ÐÇÒ´ÅÇ´ÅÒÂÊǧÒÁ
à¤ÃÍ×่ §»ÃдºÑ »ÃСͺ´ÇŒ ¡ÍÊѧ
µÒ‹ §ËË٠ҧ˧ʏ

ª´Ø ‹ÒËÂÒ

ÊÓËÃºÑ ÊµÃªÕ ÒÇÀÙࡵ็ ·Õ่¹ÂÔ ÁÊÇÁãʋ
Á·Õ §Ñ้ ໹š àÊ×้ÍÂҋ ËÂÒÊàÕ ¢ÂÕ ÇÊ´ãÊ

áÅÐàÊ×้Íš٠äÁµŒ ͋ ´Í¡ ãʋ¤Ù‹¡ºÑ ¼ŒÒ¶Ø§
·à่Õ »š¹¼ÒŒ »ÒàµÐ ÅÒ¾¹้× àÁÍ× §
·Á่Õ àÕ Í¡Åѡɳâ´´à´‹¹
¢Í§ÊµÃªÕ ÒÇÀàÙ ¡็µÁÕ¡ÃÐ້Ò
ËÃ×ÍàÊ่ÂÕ Ë¹ÒänjÊÓËÃѺãÊ¢‹ ͧ

51

ª´Ø ‹ÒËÂÒ

µÑÇàÊ้Í× à»¹š àÊ×Í้ ¼ŒÒ‹ÒËÂÒ
µÃ§ªÒ¼ŒÒ໚¹ÅÒµ͋ ´Í¡ÊàÕ ËÅÍ× §

¼ŒÒ¶§Ø ÊÕá´§ ໹š ¼ÒŒ »ÒàµÐ
·Õ่ÇÒ´ÅÇ´ÅÒÂ໹š ÅÒ´͡äÁŒÊǧÒÁ

52

ªØ´ÃÒµÃÕ

ÂÒǼҋ ˹ŒÒÍ͡ẺµÑ´àº็ â´Â㪌
¼ŒÒ»Ò്зÕ่ÁÕÅÇ´ÅÒ¼ÊÁ¼ÊÒ¹
¡ºÑ ÅÒÂä·Â´ÙÊǧÒÁá»Å¡µÒ

áÅÐÁÕÅÒÂËÒ§»ÅÒÊ¢Õ ÒÇ໹š ÃкÒÂ
´ÒŒ ¹ËÅѧáÅеѴ¢Íº´ÇŒ ¼ŒÒ»ÒàµÐ
ÅÒÂà´ÕÂǡѺªØ´ÊÌҧ¤ÇÒÁÁÁÕ ÔµÔ
ãˌ¡Ñºãˌ¡ÑºªØ´´Ê٠ǧÒÁáÅÐÃNj ÁÊÁÂÑ

53

ª´Ø ÃÒµÃÂÕ ÒÇ ¼ÒŒ »ÒàµÐ Ê¢Õ ÒÇÅÒÂ´Í¡ÊªÕ Á¾áÙ ÅÐÊÁÕ ‹Ç§

µÇÑ àÊÍ×้ ´ÒŒ ¹º¹¨ÐÍ͡ẺãËàŒ »¹š ¤ÍÇÕ ÊNj ¹µÑÇ¡ÃÐâ»Ã§¨Ð໚¹¼Ò‹ ¢ŒÒ§ÊǧÒÁ

ª´Ø ÃÒµÃÂÕ ÒÇ

¼ÒŒ »ÒàµÐ ÊªÕ Á¾ÙÅÒ´͡äÁŒÊÕàËÅ×ͧ ÊÁÕ Ç‹ § ÊÕ¿‡ÒáÅÐÊÕà¢ÂÕ Ç
µÑÇàÊ×้Í䴌¶Ù¡Í͡Ẻãˌ໹š Ẻແ´äËŋ ÁÕÃкÒÂ໹š ¼ŒÒª¿Õ ͧ

ÊNj ¹µÑÇ¡ÃÐâ»Ã§Í͡ẺãˌÂÒÇàÊÁ;¹้×

54

ª´Ø à´ÃÊʹ้Ñ ÊáÕ ´§

µÑÇàÊ×้Íà¡ÒÐÍ¡´ÒŒ ¹º¹à»š¹
¼ŒÒäËÁÊáÕ ´§à§Ò§ÒÁ

ÊNj ¹µÇÑ ¡ÃÐâ»Ã§à»š¹¡ÃÐâ»Ã§ÃкÒÂ
¤ÇÒÁÂÒÇà˹×Íà¢Ò‹ Í͡Ẻµ´Ñ àÂ็º
â´Â㪌¼ÒŒ »Ò്ÐÊÕá´§ÅÒ´͡äÁʌ ·Õ ͧ

à¤Ã×Í่ §»ÃдºÑ »ÃСͺ´ŒÇÂ
ÊÌͤÍÁ¡Ø ÊÕ¢ÒÇÊǧÒÁ

55

ª´Ø ÃÒµÃÕ

¼ÒŒ »ÒàµÐ ÊÁÕ ‹Ç§ ÅÒ´͡äÁʌ ÊÕ ŒÁâÍÃÊ
µÇÑ àÊ×Í้ Í͡Ẻãˌ໹š Ẻແ´äËŋ
Á¡Õ ÔÁÁ¡Ô ·่ÕᢹàÊ้Í× ¼ÒŒ ªÕ¿Í§ ÊÕÁNj §Í‹Í¹

áÅÐÊÇÁãʋ䴨Œ çÔ

µÑÇ¡ÃÐâ»Ã§à»š¹ËÒ§»ÅÒ¼‹Ò˹Ҍ
à¾่×ͤÇÒÁÊдǡʺÒÂ㹡ÒÃÊÇÁãʋ

áÅÐ㹡ÒÃà´Ô¹ û٠Ẻâ´ÂÃÇÁ
¶¡Ù Í͡Ẻãˌ´ÙËÇÁÊÁÂÑ

56

ª´Ø ÃÒµÃÂÕ ÒÇËÒ§»ÅÒ

ÅÒ¼ŒÒ»Ò്ÐÊ´Õ Ó
µÇÑ àÊÍ×้ ¶¡Ù Í͡ẺÁÒãˌ໹š ¤Íµ้ѧ

ᢹ¡Ø´ªÇ‹ §¤Í ¶Ù¡Í͡Ẻãˌ
໹š ¼ÒŒ µÒ¢‹Ò¹Ô่ÁÊ´Õ Ó

¾ÃŒÍÁÃкÒ¢Ҍ § µÇÑ ¡ÃÐâ»Ã§ ¶Ù¡Í͡Ẻ
ãËàŒ »¹š ·Ã§ËÒ§»ÅÒ»¡˜ áÅе¡áµ§‹ ´ŒÇ¤ÃÊÑ µÅÑ

ÁÕà¤Ã่Í× §»ÃдºÑ ໹š µ‹Ò§ËÃÙ ÐŒÒ
ÊǧÒÁà¾Í่× à¾่ÁÔ ¤ÇÒÁâ´à´¹‹ ᡼‹ Êٌ ÇÁãʋ

57

µÑÇàÊ้Í× ä´ÃŒ ºÑ áçºÑ¹´ÒÅ㨠㹡ÒÃÍ͡Ẻ
ÁÒ¨Ò¡¹ÔµÂÊÒÃῪ่¹Ñ µÒ‹ §»ÃÐà·È

â´ÂµÑǼŒÒ¨Ð㪼Œ Ҍ á¡ÇŒ Í͡ẺãËàŒ »¹š
àÊ้Í× á¢¹¡´Ø ÁÕÃкÒÂáÅйÓÁÒÁÔ¡«á͹´áÁ·«

¡Ñº¡Ò§à¡§·Ã§¡Ãк͡àÍÇʧÙ
¼ÒŒ »Ò്ÐÊàÕ ¢ÂÕ ÇÍ͋ ¹ÅÒ´͡äÁŒ

ÊÕÁ‹Ç§áÅÐÊáÕ ´§

áÅÐÁÕ Detail š٠àŹ‹ ·Õª่ ‹Ç§àÍÇ ¹ÓÁÒ¼¡Ù
໹š âºÇÊÒÁÒö¹ÓÁÒÊÇÁãÊä‹ ´Œ¨ÃÔ§

㹪ÕÇµÔ »ÃШÓÇѹ áÅеÑǡҧࡧ¼ŒÒ»ÒàµÐ
ÊÒÁÒö¹ÓÁÒÁ¡Ô «á͹´á Á·«

ãÊ¡‹ ºÑ àÊ้Í× ã¹Ã»Ù ẺÍ×¹่ æ ä´àŒ ª¹‹ ¡¹Ñ

เจีย๊ ะฉา่ ย ในภเู กต็

นักบวชและศาสนิกชนในศาสนาพุทธนิกายมหายานจะบริโภคอาหารเจ ซึ่งปราศจาก
เนื้อสัตว์และมีลักษณะที่แตกต่างจากอาหารมังสวิรัติในหลายประการ คำว่า เจ เป็น
ภาษาจีนมาจากคำว่า “ไจ” ซ่ึงเป็นภาพตวั อกั ษรจีน เขยี นดว้ ยสีแดง ซึ่งเป็นสีแห่งความ
เป็นสิริมงคล ในกรอบสีเหล่ียมจตั ุรสั พื้นมีสเี หลือง ซึ่งเป็นสีแหง่ ความเป็นกษตั ริย์
คำว่า “เจ” และ “ไจ” ดังกลา่ วแปลว่า “ปราศจากการทำลายชีวิตและปราศจากของที่มี
กล่นิ คาว” ความหมายมาจาก คำสัง่ สอนท่ีไดม้ าจากพทุ ธศาสนาฝ่ายนกิ ายมหายาน
คำดั้งเดิมของ “เจ” หมายถึง “อุโบสถ หรือ การรักษาศีล 8” คือคนกินเจมกั จะถือ
ศีล ร่วมกับการไม่กินอาหารพวกเนื้อสัตว์ อาหารเจเป็นอาหารที่ปรุงโดยปราศจาก
เนื้อสัตว์ รวมทั้งไมม่ ีส่วนประกอบอื่นใดทีน่ ำมาจากเนือ้ สัตว์ทุกประเภท ทั้งสัตว์เลก็
และใหญ่ สัตวบ์ กหรอื สตั ว์น้ำใดๆ จงึ มคี ำกลา่ วว่า “กินเจหนึ่งมือ้ หม่ืนชีวติ รอดตาย”
ที่สำคัญ ตามความเชื่อของคนจีนท่ีกินเจว่า การกินเจยังจะต้องไม่กินอาหารที่นำมา
ปรงุ อาหารเจ คือ ต้องงดเวน้ ผกั ทม่ี ีกลิน่ ฉนุ

59

การกนิ อาหารเจแบง่ เป็น 3 กลุ่มคลา้ ยการกนิ อาหารมงั สวิรัติ คอื อาหารเจบริสุทธิ์ อาหารเจแบบดื่ม
นม และอาหารเจด่ืมนมและกนิ ไข่ด้วย

นอกจากนี้ คนกินอาหารเจมีเหตุผลถือหลักการว่า ผักผลไม้มีธรรมชาติเป็น “หยาง” ซึ่ง
หมายถงึ “ความสะอาด ความโปรง่ ความแจ่มใส” แต่เนอ้ื สัตว์มธี รรมชาติตรงข้ามคือเปน็ “หยิน” ซ่ึง
หมายถึง “ความขุ่นมัว ความมืดมิด ความทึบ” ตามธรรมชาติของร่างกายคนเรา มักมีเป็นความ
หยนิ มากเกินไป ดงั น้นั เราจะตอ้ งเพิ่มความเปน็ หยางใหม้ ากขึน้ ผู้ที่บำเพญ็ ธรรม จะตอ้ งขจัดสภาวะท่ี
ขนุ่ มวั ชำระลา้ งพษิ โดยการกนิ เจ ชวี ิตจึงจะมีสภาวะท่ีแจม่ ใส ควรจะกินอาหาร พชื ผกั และผลไม้ให้มาก
ข้ึน

อาหารเจมีประวัติดั้งเดิมมาจากประเทศจีนนานกว่าสองพันปีมาแล้ว ตั้งแต่ราชวงศ์ ของ
จักรพรรดฟิ ูซี (Fu Xi) แหง่ เมืองซ้องโกะ (Zhong Guo) ซึง่ เครง่ ครัดทางศาสนา มีการ กินอาหารเจ
และเผยแพรล่ ัทธิเต๋าโดยเหลา่ จื๊อและขงจ๊ือ โดยมีหลักธรรมะของจิตวญิ ญาณ ภายในร่างกาย การมี
ชีวิตตามวิถีธรรมชาติด้วยความเมตตาและการบริโภคอาหารเจ นับว่า คนจีนจึงกินอาหารเจมานาน
หลายพันปีแล้ว อาหารเจเกีย่ วขอ้ งกับศาสนาและการปฏิบัตธิ รรม มากกว่าเพื่อสขุ ภาพ จงึ มกั เรียกติด
ปากกันว่า “ถือศีลกินเจ” ซึ่งมีความหมายครบถ้วนว่า ผู้ปฏิบัติธรรมที่รักษาศีลความเป็นมนุษย์
จะตอ้ งเจรญิ เมตตาและกรณุ า จึงไมค่ วรกินเน้อื สตั ว์

เทศกาลกินอาหารเจในแต่ละปีนาน 9 วัน ดั้งแต่วันข้ึน 1-9 ค่ำ ในเดือน 9 ตามปฏิทินจันทรคติ
แบบจนี หรอื ในราวปลายเดอื นกันยายนหรอื ต้นเดือนตุลาคมของทกุ ปี

มีตำนานหลายตำนานท่ีเก่ียวกับประวตั ิการกินอาหารเจ ตำนานที่มกี ารกล่าวถึงกันมาก คือ ขาว
จนี กินเจเปน็ การบำเพ็ญกุศลเพ่อื รำลึกถงึ วีรชนซาวจีน 9 คน ทีเ่ รยี กว่า “หง่ีห่ัวทว้ ง” ซ่ึงได้ต่อสู้กับ
ชาวแมนจูผู้เป็นศัตรขู องประเทศอย่างกลา้ หาญ ถงึ แมจ้ ะแพแ้ ละถูกฆา่ ตายหมดก็ตาม

ชาวบ้านได้พากันถือศีลกินเจ นุ่งขาวห่มขาว เพราะเชื่อว่าการปฏิบัติเช่นนี้จะช่วยชำระจิต
วิญญาณและเกดิ ความเข้มแข็งทางร่างกายและจิตใจ

60

อาหารเจเป็นอาหารทีป่ รุงขึ้นโดยไม่มีเน้ือสัตว์ หรือผลิตภัณฑ์ที่ได้จากสัตว์ เช่น นม ไข่ น้ำผึ้ง
นำ้ ปลา เจลาติน คอลลาเจน ) และไม่ปรุงดว้ ยผักทมี่ ีกล่ินฉนุ ได้แก่ กระเทียม หอม (ทุกชนิดอาทิ
ต้นหอม หัวหอม หอมแดง) หลักเกียว กุยช่าย และผักชี บ้างก็รวม ผักชีและเครื่องเทศรสเผ็ด
ร้อนเข้ามาด้วย เพราะผักเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อธาตุในร่างกาย บ้างเชื่อว่าผักเหลา่ นี้เพิ่มความ
กำหนัด หรือมาจากเลือดของสัตว์ตามตำนานจีน ทำให้ อาหารเจไม่มีกลิ่นคาว เนื่องจากการงด
เนอ้ื สตั ว์ ทำให้ผ้ทู ่ีกนิ เจหนั มาบริโภคธัญพชื ใน ธรรมชาตเิ พือ่ ให้ได้มาซงึ่ โปรตีน ซ่ึงส่วนใหญ่ได้แก่
ผลิตภัณฑจ์ ากถว่ั เหลอื ง

61



63

64

การแตง่ กายในเทศกาลกนิ เจ เอกสารท่กี ล่าวเกย่ี วกบั พิธกี นิ เจ ลว้ นให้คำ อธบิ ายเก่ียวกบั การ
แต่งชุดขาว ไปในทาง เดียวกันว่าชุดขาวเป็นเครื่องหมายของความ บริสุทธิ์ เหมาะที่จะใช้สวมใส่ใน
พธิ กี รรมเซ่นสรวง เทพยดา หรอื พระพทุ ธเจา้ ทั้งหลาย
ทำไมคนกินเจตอ้ งสวมชุดสขี าว

ธรรมเนียมการกินเจมีระเบียบการปฏิบัติอย่างเคร่งครัด และสมัยก่อนธรรมเนียม
บางอยา่ งยากแกก่ ารปฏิบตั ิ คนโบราณ เร่ิมแก้ไขใหค้ นรนุ่ ใหม่ปฏิบัติตาม แต่ยงั มีการบังคับเร่ืองการ
สวมชดุ ขาวอยู่ ใชว่ ่าจะสรา้ งความลำบากแก่ผู้ท่ีจะกินเจ เม่ือ ผูก้ นิ เจเลอ่ื มใสศรัทธา จิตใจจะอิ่มเอิบ
เพราะการกินเจคอื การ บังคับจิตตนเอง ใหค้ รองสติอยูต่ ลอดเวลาเมอื่ สตติ ัง้ มัน่ อยใู่ นศีล คติความ
เชื่อคนโบราณว่าการชนะตนเองคือชัยชนะที่ยิ่งใหญ่ จะได้รับการสรรเสริญจากเทวดาฟ้าดิน จะ
ประทานพรให้สงบสุข ฉะนั้นสัญลักษณ์ชุดสีขาวยังคงอยู่คู่กับคนกินเจ เพราะชุดสีขาวคือ
สัญลักษณ์ความสะอาด ปราศจากกิเลส ประเพณีกินเจจะกำหนดให้สีขาวคือสีที่แสดงตนว่าคือผู้
ทรงศลี และอบุ ายอย่างหนึ่งทีค่ นโบราณสอนลูกหลานคือธรรมชาติ สีขาวจะสกปรกง่าย คราใดที่ผู้
ท่ีสวมใสไ่ มร่ ะมดั ระวังตน จะสกปรกจนต้องอับอายแกผ่ กู้ ินเจท้งั หลาย ฉะนน้ั คนกินเจต้องสำรวม
คนโบราณว่าสิ่งสกปรกเปรียบได้กับกิเลสครอบงำ สีขาวทางจิตวิทยาเชื่อว่า คือสีที่ผู้พบเจอจะมี
ความรู้สึกสงบสขุ สนั ติภาพ ความ สะอาด ความหลดุ พ้น สรา้ งสมดลุ ให้กบั การตัดสนิ ใจเลือกปฏิบัติ
ตามคำสอนจาก เจ้าแม่กวนอิม เรื่องความเมตตา การใช้ชีวิตที่เรียบง่าย เปิดเผย สีขาวจะชำระล้าง
ความคิด และความรู้สึกที่เลวร้าย ส่งผลให้ชีวิตมีความปลอดภัย คนกินเจควรกินอาหารที่ไม่ได้
เบียดเบยี นชวี ิตอื่น ผูก้ นิ เจแล้วไดบ้ ุญกุศล ผ้กู นิ เจ ควรทำความดี ละเวน้ ความชั่ว ไม่ข้องเก่ียวกับ
อบายมขุ ท้งั ปวงจะได้กศุ ลอย่างสูงสุด

ศิลปะรปู สัตว์ในศาลเจ้า

เมื่อศาสนาเต๋ารุ่งเรืองขึ้น มังกรเขียว เสือขาว หงส์แดงและเต่าดำในฐานะเทพเจ้าผู้คุ้มครองมนุษย์ต่างมี
ความสำคญั ขน้ึ ถกู ยกใหม้ ีความเปน็ มนษุ ยย์ ิ่งข้ึน ต่างมีชื่อเรียกเปน็ มนษุ ย์ และต่อมาอีกไมน่ าน เทพเสวยี นอหู่ รอื เต่าดำ
ก็โดดเด่นขึ้นในฐานะของ “เจินอู่” ปรมาจารย์เตา๋ ผู้สำเร็จมรรคผล ส่วนหงสแ์ ดงเป็นเทพที่มีบทบาทแยกออกมาเป็น
เอกเทศ ขณะท่มี ังกรเขยี วและเสอื ขาวกลายเป็นเทพทวารบาลผู้รักษาประตทู างเขา้ ส่มู รรคาแหง่ เตา๋

มงั กรเขยี ว (青龍)

ประจำทิศตะวันออก สีเขียว ธาตุไม้ ฤดูใบไม้ผลิ ชาวจีนโบราณถือว่ามังกรเป็นสัญลักษณ์ของอำนาจ
กษัตริย์ และเป็นสัตว์มงคลชนิดหนึ่ง นับตั้งแต่ยุคของจักรพรรดิเหลืองเป็นต้นมา มังกรก็กลายเป็น
ตวั แทนของผมู้ เี ช้อื สายจนี ท้งั มวล โดยเฉพาะเมอื่ ถึงสมยั ราชวงศฮ์ ่นั ปรากฏภาพวาดและตำนานเกยี่ วกบั
หวงตี้หรือจักรพรรดิเหลืองที่ทรงมังกรเป็นพาหนะเหินบินสู่ฟ้า มังกรจึงกลายเป็นสัญลักษณ์ของ
จกั รพรรดิผยู้ ่งิ ยงอกี ดว้ ย ตำนานกล่าวว่า มงั กรเขียวมลี ำตัวเป็นงู หวั เปน็ กิเลน หางเปน็ ปลา มเี ครายาว
มีเขา เท้าคล้ายกรงเล็บ รูปลักษณ์เป็นมังกรเหิน เปี่ยมด้วยพลังอำนาจ เนื่องจากประจำทิศตะวันออก
ธาตุไม้มีสีเขียว จึงเป็นมังกรเขียว เมื่อศาสนาเต๋ารุ่งเรืองขึ้น มังกรเขยี ว เสือขาว หงส์แดงและเต่าดำใน
ฐานะเทพเจา้ ผู้คุม้ ครองมนุษยต์ ่างมคี วามสำคญั ข้นึ ถกู ยกให้มีความเป็นมนษุ ย์ย่งิ ขน้ึ ต่างมชี ่อื เรียก เปน็
มนุษย์ และต่อมาอีกไม่นาน เทพเสวียนอู่หรือเต่าดำก็โดดเด่นขึ้นในฐานะของ “เจินอู่” ปรมาจารย์เต๋า
ผูส้ ำเร็จมรรคผล สว่ นหงสแ์ ดงเป็นเทพท่ีมบี ทบาทแยกออกมาเป็นเอกเทศ ขณะที่มงั กรเขยี วและเสอื ขาว
กลายเป็นเทพทวารบาลผูร้ ักษาประตูทางเข้าสมู่ รรคาแหง่ เตา๋

เสือขาว (白虎)

ประจำทิศตะวนั ตก สขี าว ธาตุทอง ฤดูใบไมร้ ว่ ง เสอื เป็นเจา้ แห่งสตั ว์ป่าทั้งมวล เน่ืองจาก
ประจำทิศตะวันตก ธาตุทอง มีสีขาว จึงกลายเป็น เสือขาว เป็นตัวแทนของอำนาจบารมี
ความ เคารพยำเกรงและการทหาร เนอื่ งจากเสอื เป็นนกั ลา่ กนิ เน้อื ดังนั้นจงึ มภี าพลักษณ์
เปน็ เทพเจา้ แห่งศึกสงครามและการล่า สงั หารอกี ด้วย สถานทห่ี รอื ชยั ภมู ใิ นสมยั โบราณหาก
มชี ่อื ของ เสือขาว จงึ มักมีนัยสำคัญทางทหาร นอกจากนี้ยงั ใชใ้ นการตั้งชือ่ หนว่ ยกำลังรบ
และใช้เป็นตราสัญลักษณ์ในการบัญชาการเคลื่อนทัพ หรือสลักเป็นลวดลายคู่กับมังกร
เขยี วบนบานประตทู ้ังสองขา้ งเพื่อ ป้องกนั สิ่งชั่วร้าย

หงส์แดง (朱雀)

ทศิ ใต้ สแี ดง ธาตุไฟ ฤดูรอ้ น หงสเ์ ป็นเจา้ แหง่ ปกั ษา และเปน็ สัตว์มงคลชนิดหน่ึงของจีนมา
แต่โบราณ มีรูปลักษณ์เดิมมาจากนกหลากหลายชนิด อาทิ ไก่ฟ้า ห่านฟ้า นกกระจอก
เหยี่ยวนกกระจอก นกนางแอ่น ฯลฯ ในตำนานกล่าวว่า หงส์มีรปู คล้ายไก่ฟ้า มีสีขนสลับ
ลายเป็นประกาย มีนิสัยรักสะอาด ช่างเลือก (มีความละเอียดอ่อนประณีต) เนื่องจาก
รปู ลกั ษณเ์ ป็นนก ประจำทิศใต้ ธาตไุ ฟ สแี ดง จงึ ไดช้ ื่อว่า หงส์แดง ภายหลังได้รับอิทธิพล
จากความเช่ือลัทธเิ ต๋า จากสัตว์ เทพค่อยวิวัฒนาการเป็นรูปลักษณ์ของครึ่งคนครึง่ สัตว์
จากน้ัน กลายเปน็ เทพทม่ี รี ูปเปน็ หญงิ

เตา่ ดำ (玄武)

ประจำทิศเหนือ สีดำ ธาตุน้ำ ฤดูหนาว เต่าดำหรือเสวียนอู่ มีรูปลักษณ์เป็นเตา่ แต่มีเกลด็
คล้ายงู มีลักษณะ รว่ มกนั ของเตา่ และงู แต่เดิมมาจากการใช้กระดองเตา่ ในการ ทำนายทาย
ทัก ซึ่งหมายถึงการให้เต่านำคำถามลงไปสู่โลกแห่ง วิญญาณเพื่อนำคำตอบกลับมายังโลก
มนษุ ย์ ภายหลังได้มี การขยายความออกไป โดยเหน็ วา่ เตา่ อาศัยอยกู่ บั น้ำ ทงั้ แม่น้ำ ลำคลอง
นอ้ ยใหญ่จนถึงท้องทะเลกวา้ ง จงึ ไดร้ ับการขนาน นามใหเ้ ปน็ เทพเจ้าแหง่ น้ำ อีกทั้งเต่ามอี ายุ
ยืนนาน จึงเป็น สัญลักษณ์แทนการมีอายุวัฒนะ ภายหลังเทพเสวียนอู่ได้รับ การ “ยก
ฐานะ” จากลทั ธิเต๋าใหเ้ ป็นปรมาจารย์เจนิ อู่ โดยกลา่ ว กนั วา่ เจินอ่เู ป็นภาคหน่ึงของเง็กเซียน
ฮ่องเต้มาจุติยังโลกมนุษย์ แต่ด้วยความเบื่อหน่ายในโลกีย์ จึงเก็บตัวบำเพ็ญภาวนาบน
เขาบตู๊ ง๊ึ จนสำเร็จมรรคผลเป็นเซียนขนึ้ สถิตบนฟา้





71

กมิ ซนิ้ เชิงทะเล : มรดกทางวัฒนธรรมชมุ ชนเชิงทะเล

ความเป็นมา
เมอื่ ประเทศจีนประสบปญั หาภายในประเทศ ท้งั เรอ่ื งการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม จนเกดิ ความระส�ำ่ ระสายข้นึ อย่างรุ่นแรง
ประชากรสว่ นหนงึ่ หาทางออกด้วยการอพยพ หลบหนีออกนอกประเทศมุ่งหน้าสปู่ ระเทศทม่ี คี วามสงบกว่า ทิ้งบา้ นเกดิ เมอื งนอนแสวงหา
ท่ที �ำ กินใหม่ โดยยอมตายเอาดาบหน้าพร้อมจะผจญภยั และเผชญิ ปัญหา เลือกที่จะหาถิ่นทำ�มาหากินทอ่ี ดุ มสมบรู ณ์ ดกี วา่ อัตคัดขัดสน
อดอยากแรน้ แค้นแบบไรอ้ นาคตและส้นิ หวัง การอพยพของจีนโพน้ ทะเล ( OVERSEAS CHINESE ) มกั เลือกที่จะลงเรอื ทเ่ี มือง เอห่ มึง หรอื
เมืองเซยี ะเหมนิ ( XIAMEN ) มณฑลฮกเก้ียนหรือฝเู จี้ยน มณฑลทางตะวันออกเฉยี งใต้ของประเทศจนี โดยอาศยั เรือ โต้คล่นื ด้วยสำ�เภาขนาด
ใหญ่ หรอื เรอื ใบ 3 หลัก จผุ ู้โดยสารเต็มลำ�เรือ หลง่ั ไหลเขา้ มาแตล่ ะปหี ลายลำ� ลำ�ละรว่ มร้อยคนก็มี อย่างนอ้ ยก็ 50 หรอื 60 คน รอนแรมมา
กับสายลมใชเ้ วลาแรมเดือน ตอ้ งอาศยั ช่วงฤดูมรสมุ เทา่ นนั้ เมอ่ื รอดพน้ จากอันตรายในท้องทะเลกข็ น้ึ ฝง่ั ณ เมอื งถ่องข่า (ทุ่งคา ซง่ึ ใชเ้ รยี ก
เมืองภูเก็จในสมัยโบราณ) โดยขึน้ ฝ่งั ท่บี ้านทา่ เรือ ห่างจากอนุสาวรียท์ ้าวเทพกระษัตรีฯ ไมม่ ากนัก ปจั จบุ ันคอื ซอยหลงั ศาลเจา้ ทา่ เรือ ภาย
หลงั นยิ มขึน้ ที่ทา่ เรือสะพานหนิ ท่านเรศวร์ ซ่งึ เป็นทา่ เรือใหญ่ อยบู่ รเิ วณหลงั หอ้ งสมุดประชาชนในปจั จุบัน ซ่งึ ทางการของประเทศสยาม มี
ทงั้ ด่านตรวจคนเขา้ เมืองและด่านภาษี (จับเส)๊ อยู่ใกล้ท่าเรอื การเดินทางออกจากแผ่นดนิ แม่ส่เู มอื ง ถอ่ งข่า มกั รวมกลมุ่ กันในหม่เู ครอื ญาติ
หรอื ชนิ หลาง หรอื อาจเป็นคนร่วมหม่บู า้ นในอ�ำ เภอเดียวกนั ส่วนมากจะมาขายแรงงานโดยเป็นกรรมกรเหมืองแร่ การบอกเล่าตอ่ ๆกันมา
ว่า มาถึงถ่องข่าแล้วไม่อดตาย ท่ีน่นี ่าอย่มู ากทุกอย่างลว้ นอุดมสมบูรณ์ ชวี ติ ใหม่ในแผน่ ดนิ ใหมต่ ้องเรมิ่ ขน้ึ ให้ได้ เม่ือตดั สนิ ใจแลว้ จึงรว่ มลง
เรอื ล�ำ เดยี วกนั และม่งุ สจู่ ดุ หมายอนั ไกลโพ้น จากแผน่ ดินจนี ส่แู ผ่นดนิ ใหม่ คอื ถอ่ งขา่ (ชาวเรอื ในอดีตเรียกเมืองนีว้ า่ “ทองคา” Tongka เป็น
ภาษามาลายู แปลวา่ ทองค�ำ ทางราชการจงึ เรยี กอ�ำ เภอเมืองวา่ “อ�ำ เภอทุ่งคา” ) ท้องทะเล ผนื นำ้�อันกว้างใหญไ่ พศาลสดุ ลกู หลู ูกตา เว้ิงวา้ ง
จนมองไม่เหน็ แผน่ ดนิ อนั ตรายจากมรสมุ อันบ้าคล่งั ในผนื น�ำ้ ไมม่ ีใครรูล้ ว่ งหนา้ จติ ใจของผอู้ พยพต้องการที่พ่งึ พิง การหวังจะได้รบั ความ
คุ้มครองจากสิง่ ศกั ดิส์ ทิ ธท์ิ ่ีมองไมเ่ หน็ ยอ่ มเป็นทางเลอื กท่ีดีท่ีสุดทางหนึง่ (สำ�นกั งานวัฒนธรรมจงั หวัดภูเกต็ , 2563)
ชาวจนี ดงั้ เดิมมีความเช่ือว่า ฟ้าดนิ เป็นส่ิงที่ต้องเคารพ สง่ิ ศกั ดิส์ ทิ ธิท์ ีม่ องไมเ่ ห็นเปน็ ของท่ตี อ้ งเคารพนับถอื ต้องบชู ากราบไหวย้ ดึ
เหนี่ยวทางจิตใจ จงึ คดิ ท่จี ะต้องมสี ่ิงทเ่ี ป็นตวั แทนท่เี ป็นรูปธรรม จบั ตอ้ งได้ จนกลายเป็นประตมิ ากรรมไมแ้ กะขนาดเล็ก “กม่ิ ซิน้ ” จึงเปน็ องค์
เทพทีถ่ กู รงั สรรค์ข้ึน โดยอาศัยฝีมอื อนั ปราณตี บรรจงเป็นความงดงามทีม่ จี ิตวญิ ญาณแฝงเร้นอยู่ขา้ งใน เบ้อื งหลงั การอพยพของชาวจีน
โพ้นทะเล ซ่งึ ร้วู ่าเปา้ หมายเบ้อื งหน้าอันไกลโพน้ จากบ้านเกิด สมั ภาระทีจ่ �ำ เปน็ ตอ้ งน้อยท่ีสุด เพือ่ ความสะดวกในการเคล่อื นย้าย คำ�พูดท่ีว่า
“เสือ่ ผืนหมอนใบ” นน้ั ปรากฏข้ึนใหเ้ ห็นเปน็ ภาพไดช้ ดั เจน หบี ไม้ใบหนึง่ ขนาดไม่ใหญ่มากนักกบั เส้อื ผา้ จำ�นวนจำ�กัด หนง่ึ ในนนั้ ทีซ่ ่อนอยอู่ ย่าง
ภายในอย่างเหมาะสมกับพน้ื ทีแ่ คบๆกค็ ือ “กิ่มซ้ิน” การเดนิ ทางอนั แสนไกลของประตมิ ากรรมช้ินเล็ก สงู แคป่ ระมาณ 4 น้ิว ถึง 6 น้ิว งดงาม
ประณตี สมกบั งานศิลปท์ ่มี าจากแหลง่ ก�ำ เนิด ปรากฏข้ึน ณ เมอื ง ถอ่ งข่า หรือ ทุ่งคา ตอ่ มาคอื เมอื งภูเก็จ ซ่ึงแต่เดมิ มแี ตช่ าวภูเก็ตพน้ื เมือง
ผสมผสานกัน เท่านัน้ ที่ไหนมีชาวจนี อพยพท่ีน้นั เป็นชุมชน และท่ชี ุมชนน้นั ก็มี “ก่ิมซ้นิ ” อยดู่ ้วยเสมอ ซึ่งปัจจุบันน้ี จะพบเห็นได้ตามบ้านเรอื น
ของชาวภเู ก็ตและศาลเจ้าเกา่ แก่ บางแหง่ ยังสามารถเกบ็ รักษาสภาพเดิมไว้ แมเ้ วลาจะล่วงเลยมาเกอื บสองร้อยปแี ล้วกต็ าม มีเรอ่ื งเลา่ ต่อๆ
กันมาว่า ผู้อพยพรายหนึ่ง จ�ำ เป็นตอ้ งอพยพออกมาจากจีนสู่ดนิ แดนใหม่ เช่นเดียวกบั ผู้อพยพอืน่ ๆ ซึ่งรู้ตัวดีวา่ ในทะเลนั้นมอี นั ตรายรอบ
ด้าน ตอ้ งการท่พี ง่ึ และทย่ี ดึ เหนย่ี วทางจิตใจ ไม่มอี ะไรทด่ี กี วา่ น�ำ สงิ่ ศักดิส์ ทิ ธ์ิทตี่ วั เองนับถือบูชามาค้มุ ครองระหวา่ งรอนแรมอยู่กลางเวิ้งน้ำ�
อันยาวไกล จงึ ไดอ้ ันเชญิ “จอสกู่ ง” หรอื องค์ “เฉง่ จุ้ยจอ๊ ส”ู๊ ติดตัวมาด้วย เมอ่ื สำ�เภาลำ�นน้ั เทยี บท่าเมอื งทงุ่ คา ทนั ใดนัน้ ฝาหบี ท่บี รรจอุ งค์
เทพนั้น พลันเปิดขน้ึ เองโดยไมม่ ีใครคาดคดิ ความศกั ดิ์สทิ ธิแ์ ละปาฏหิ ารย์ปรากฏขึ้นทนั ที เสมอื นหนึง่ องค์เทพบอกวา่ “มาถึงแลว้ ด้วยความ
ปลอดภยั ”และ”ยนิ ดที ี่จะประทบั อยทู่ ่เี มืองทุ่งคาแหง่ น”้ี ซง่ึ เป็นเรอ่ื งเลา่ ขานต่อๆกนั มาจนถงึ ทุกวันน้ี ปจั จุบนั องค์ทา่ นประดิษฐานโดดเด่นเป็น
สงา่ อยู่ในศาลเจา้ แห่งหน่งึ ในภูเก็ต ต่อมาราชวงศ์ชิงกล็ ่มสลาย จนี ได้สถาปนาระบบสาธารณะรฐั ขน้ึ มาแทน และรัฐบาลจีนได้ปดิ ประเทศ การ
อพยพหนีตายของผูค้ นจากประเทศจีนถอื เปน็ การส้นิ สุดลง ทิง้ ทุกอย่างเป็นอดีต การเดนิ ทางของ
“ก่มิ ซน้ิ ” กเ็ ป็นอันสิ้นสดุ ลงดว้ ย ไม่มปี ระติมากรรมศักด์สิ ิทธิ์อัญเชิญข้ามน�ำ้ ข้ามทะเลของใครมาอีกแลว้
“กิม่ ซิ้น” รุน่ แรกๆที่ออกมาจากประเทศจีน ไดต้ กทอดบูชามาถงึ ลูกหลานร่นุ หลัง ความมงุ่ ม่ันของบรรพชน ลกู หลานเปน็ ผูส้ บื ทอด
จนเกิดเป็นความผกู พนั แยกกนั ไมอ่ อกของชาวภูเกต็ แทบทกุ บ้านจะมงี านหัตถศิลป์อนั ทรงคุณคา่ ไว้บูชา ตกทอดจากรนุ่ สูร่ นุ่ จวบจนทกุ วันนี้
“ก่มิ ซิน้ ” งานแกะพระด้วยไม้ รังสรรคช์ ้ินงานดว้ ยสองมอื สร้างขน้ึ ด้วยพลังศรทั ธาตามความเช่ือในกลุม่ ลูกหลานผสู้ ืบเชือ้ สายจาก
แดนมังกรโพ้นทะเล เร่ืองเลา่ และต�ำ นานแฝงพลังความศักดิ์สทิ ธ์อิ ยู่ขา้ งในถกู แปลงเปน็ รูปเคารพสถติ ไว้กราบไหว้ท่ีศาลเจา้ และไวก้ ราบไหว้ท่ี
บา้ น
ความเชือ่ ถอื และศรทั ธา บอกเล่าเปน็ ต�ำ นานถูกหล่อหลอมเขา้ ดว้ ยกนั ได้อยา่ งกลมกลืน โดยฝีมือชา่ งแกะองคเ์ ทพ เป่ียมไปดว้ ย
คณุ คา่ ทางสุนทรีภาพ ปรากฏออกมาอยา่ งชดั เจนในชิน้ งาน ชา่ งแกะจะคัดเลอื กไม้ตามขนาดทตี่ อ้ งการ จากนัน้ จะตดั แตง่ ท่อนไม้ใหเ้ ป็นรูปทรง
สีเ่ หล่ียมส่ดี า้ น พรอ้ มก�ำ หนดความกวา้ งและความสูงไว้ จากนน้ั สขู่ ัน้ ตอนการกำ�หนดไม้ การกำ�หนดไม้ ก่อนแกะต้องดวู นั ท่ีเปน็ มงคล

72

คอื วนั โฉ่ยอิด (ชิวอิก) และ วนั จับหง่อ (จบั โหงว )หมายความวา่ เป็นวันขน้ึ 1 ค�่ำ หรือวนั ขึน้ 15 คำ่� ทางจันทรคติ ตามปปี ฏทิ ินฝา่ ยจีน จะ
ต้องท�ำ การสับไม้ 3 ครัง้ 3 รอย เป็นลักษณะสับบง้ั พร้อมค�ำ สวดอธิษฐานขออนญุ าตบอกกลา่ วไม้ท่อนน้ันวา่ จะแกะเปน็ พระอะไร ตอ้ งระลกึ
ถงึ พร้อมเอย่ ช่ือ แลว้ ปิดหน้าไมด้ ว้ ยฮู้ ซง่ึ เรียกวา่ “เฉ่งห”ู คอื กระดาษยันต์จีนสเี หลอื ง มีอักขระเปน็ อักษรจนี ซ่งึ ไดผ้ า่ นพิธกี รรมการทำ�ฮจู้ าก
การประทับทรงของเจ้าเรียบรอ้ ยแล้วหลังจากการท�ำ พธิ ีดังกล่าวแล้ว ชา่ งจะเรมิ่ ทำ�การแกะวันไหนก็ได้ตามแตต่ ้องการ ไม่มขี อ้ กำ�หนดตายตวั
ส�ำ คญั ท่ีสุดคือ วันทำ�พิธีสับไม้ จะต้องเป็นวันท่กี �ำ หนดไว้ขา้ งต้น ก่อนที่จะลงมือแกะ จะตอ้ งทำ�การแบง่ ไม้เปน็ ตอนประมาณสามส่วน เพ่ือ
ก�ำ หนดสดั ส่วนกายวิภาค (ANATOMY) ของชน้ิ งานทต่ี อ้ งการ จากนั้นกร็ า่ งรูปลกั ษณะเพ่อื ใหเ้ หน็ ภาพของรปู ลักษณแ์ ละสดั สว่ น เชน่ ช่วงลำ�
ตวั แขน ขา และสว่ นศีรษะหรือใบหนา้ พรอ้ มท้งั ก�ำ หนดทา่ ทางขององค์เทพ เพอ่ื ใหช้ ิ้นงานออกมาสมจริง งดงามดุจมีชวี ิต ดแู ล้วขลังมพี ลงั
ของความศักด์ิสทิ ธ์ิให้ปรากฏออกมา สะกดคนทเ่ี พง่ มองขณะบชู า และระลกึ ถึงองคท์ ่าน

การท�ำ ความเข้าใจรูปลักษณ์ตามธรรมชาติขององค์เทพเปน็ เรื่องท่สี �ำ คญั มาก ช่างแกะจะต้องรู้จดุ นีก้ อ่ นเร่ิมงานเสมอ วา่ เทพแต่ละ
องค์ จะมลี กั ษณะ ใบหน้า ทา่ ทาง อยา่ งไร อาทิเชน่

องคเ์ ทพ ลิโลเชีย้ หน้าตาเปน็ เด็ก มรี อยยิ้ม ต้องแกะใหห้ นา้ ดูออกกลม แววตาสุกใส
องค์เทพกวนอู ทา่ นเปน็ นกั รบผู้ซือ่ สัตย์ ใบหนา้ ต้องเครง่ ขรมึ จรงิ จงั สงบน่งิ นา่ ศรทั ธา
พระโพธิสัตว์ กวนอิม หนา้ ตอ้ งเปน็ ผูห้ ญงิ สวยงาม มีพลงั ศกั ดส์ิ ิทธ์ิแฝงเรน้
องคเ์ ทพที่ถอื อาวุธ หรอื พระตระกูลฝ่ายบู้ หนา้ ตาตอ้ งดดุ นั มีตบะ มฤี ทธิด์ ูน่าเกรงขาม เป็นต้น

การเรม่ิ แกะ เนอ้ื ไม้จะคอ่ ยๆถกู แซะออกดว้ ยสว่ิ คมๆ ตามแตข่ นาดทตี่ อ้ งการ เม่อื ได้รูปลักษณะตามที่วางไว้ จะทำ�การขัดแต่งเพอื่
ใหผ้ ิวของชน้ิ งานเกลย้ี งเกลางดงาม งานช่างด้งั เดมิ นิยมขัดผิวชิ้นงานด้วยใบไม้ชนิดหนึ่ง คือ ใบปด (ใบรสสคุ นธ์) ใบไมต้ ามธรรมชาติหางา่ ย
พบเห็นไดท้ ัว่ ไป .
ขน้ั ตอนต่อไป คือการท�ำ ลวดลายบนเครื่องทรง หรอื อาภรณบ์ นเรอื นร่างองคเ์ ทพ ตอ้ งศกึ ษาลวดลายอย่างลึกซงึ้ เทพแต่ละองค์ใชล้ วดลาย
ตา่ งกัน ส่วนมากจะเป็นลายมงั กร ประกอบดว้ ยก้อนเมฆและลายเส้นศิลปะจีน จะเพม่ิ ความสวยงามขนึ้ อีก ดว้ ยการประดบั เพชรพลอยท่ี
ต�ำ แหน่งเหมาะสม การตกแตง่ ลวดลาย ช่างจะใชเ้ ขม็ ฉดี ยาใสป่ นู เคมผี สมเสร็จ แลว้ กดลากเส้นลวดลายตามรอยท่ไี ด้รา่ งไว้ด้วยดนิ สอ จาก
นั้นสู่ขั้นตอนการลงทอง หมายถงึ การปดิ ทองด้วยทองค�ำ เปลว ใชพ้ ู่กนั แตะเบาๆจนทองคำ�เปลวตดิ แน่นกับพืน้ ผวิ ให้เกดิ ประกายทองวาววับ
เปล่งสที องสดใสเพอ่ื ความโดดเดน่ ของช้นิ งาน ซงึ่ จะขึน้ อยู่กบั ฝมี อื และเทคนิคของช่างแต่ละคน กอ่ นทำ�ลวดลาย ต้องลงสีรองพื้นก่อนและขัด
อีกคร้งั สรี องพนื้ ตอ้ งใช้สคี นละสกี ับสีในเข็มฉดี ยา ซง่ึ สีตอ้ งตัดกัน ท�ำ ให้ง่ายตอ่ การวางเสน้ ลวดลายจากปลายเข็ม

ขนั้ ตอนตอ่ มา คอื การลงสีทเ่ี ครื่องทรงหรืออาภรณ์บนชนิ้ งาน ตอ้ งเลอื กสีทเี่ หมาะสมกับองค์เทพแตล่ ะองค์ จากนน้ั ลงสบี นใบหน้า
มอื เก้าอ้ที ีป่ ระทับ การฝงั ธาตุในกม่ิ ซน้ิ เมอื่ องค์เทพเสร็จทกุ ขนั้ ตอนแล้ว

ขัน้ ตอนสดุ ท้าย คอื การเพมิ่ ความเข้มขลังพลงั ศกั ด์สิ ทิ ธิ์ ประจธุ าตุกายสิทธิ์ ส่งเสริมพลังภายในรูปไมแ้ กะ โดยวธิ กี ารฝงั ธาตุ อนั
ประกอบด้วยส่งิ มงคล เช่น เพชร พลอย เงนิ ทอง ชนิ้ เลก็ ๆ และดินกลางหาว (ซงึ่ ก็คอื ดินของรังหมาร่า) แมลงชนิดหน่งึ สรา้ งรังด้วยดิน เพือ่
เพาะเล้ียงตวั อ่อน แล้วหาอาหารประเภท มด แมลง มาบ�ำ รงุ ตัวออ่ นจนโต แลว้ ค่อยบินออกจากรงั ทงิ้ ดินก้อนหนงึ่ เอาไว้ ดินชนดิ นมี้ ักปรากฏ
บนต้นไม้หรือท่อนไม้ จึงเรยี กวา่ กลางหาว ซ่ึงอยู่บนพนื้ ดนิ ไม่ได้ อยู่ในที่รม่ ชายคาบา้ นเรอื นกใ็ ช้ไมไ่ ด้

สิง่ อนั เปน็ มงคลอกี ชนดิ หน่งึ ซงึ่ นิยมว่าศกั ดสิ์ ทิ ธแิ์ ละหายากยิ่งนกั คอื งปู ากเปด็ (งูตัวเลก็ ๆ เกลด็ คลา้ ยงแู ต่เรยี บและละเอยี ดมาก มี
ทั้งสเี งินหรอื สที อง สดี �ำ เข้มหรอื ออกขาว ออกเหลอื ง ถอื เปน็ ของมงคลตามธรรมชาติ มกั ให้โชคกับผ้พู บเห็นหรือเกบ็ ได้ ขนาดลำ�ตัวเท่าก้าน
ไมข้ ีด มีกระดูกเหมือนงูท่ัวไป แลบลิ้นไดเ้ หมืองงู ทีค่ อมลี กั ษณะคลา้ ยตัวอกั ษร เสียงร้องเหมือนลูกเป็ดตัวเล็ก มักจะตายเมอ่ื มผี ู้พบเห็น หรือ
เก็บได้

การฝงั ธาตุ นิยมเจาะรูด้านหลังองคเ์ ทพ เมือ่ ฝังธาตแุ ล้วกต็ อกปดิ ดว้ ยไม้ ซ่ึงจะต้องใช้ไมท้ อ่ นเดยี วกันกบั ทอ่ นไมท้ ี่แกะองคเ์ ทพ ขนั้
ตอนน้เี ป็นขัน้ ตอนสุดท้าย การฝงั ธาตเุ ป็นการประจพุ ลงั เพมิ่ ความขลงั ศกั ด์สิ ิทธ์ิ จะฝงั หรอื ไมฝ่ ังกไ็ ด้ สดุ แทแ้ ต่ผู้สงั่ แกะ ถา้ ต้องการฝงั ธาตุ ผู้
เปน็ เจ้าของพระจะต้องเป็นผูจ้ ดั หามา โดยช่างแกะจะเปน็ ผ้บู รรจแุ ละท�ำ พธิ ใี ห้ และถือการเปน็ เสร็จสิน้ สมบรู ณ์ของการแกะ “กม่ิ ซิน้ ”

พิธกี รรมเตีย้ ม (เตี้ยมงา่ น) “กิ่มซ้ิน” (พิธีกรรมอัญเชิญองคเ์ ทพศกั ดสิ์ ทิ ธเิ์ ข้าประทบั สถิต) ภายใน กิ่มซ้ิน ชาวจนี มีความเชอ่ื ว่า
องคเ์ ทพเจา้ ประทับอยู่ในท่ีที่มนุษยม์ องไม่เห็น เมอ่ื ชา่ งได้แกะ กิ่มซ้นิ เสร็จสนิ้ สมบรู ณแ์ ลว้ กจ็ ะต้องทำ�พธิ อี ัญเชิญเทพให้มาประทับในก่มิ ซนิ้ การ
ประกอบพิธีต้องทำ�ให้ถูกต้อง เพ่ือความเป็นสริ ิมงคลและความร่มเย็นของครอบครวั โดยมขี ้อกำ�หนดและพิธีกรรม ดงั นี้

73

อปุ กรณท์ ่ตี อ้ งใช้
- กระจกเงา ขนาดพอเหมาะกับ “กิม่ ซน้ิ ” ไม่ใหญ่เกินไป 1 ช้นิ
- ปดี หรอื พกู่ นั จีน 1 อัน
- สแี ดง ชนดิ ผง ใช้ผสมน้ำ� 1 ซอง
- กระดาษทองแผน่ ใหญ่ (ต่ัวก้ิม) ,กระดาษทองแผน่ เลก็ (เส้ก้ิม) อย่างละชุด
- แปง้ จนั ทร์ มันหอม (ใชแ้ ป้งโกรนิ ) 1 ซอง
- กระถางธปู
- ผลไม้ที่เปน็ มงคล 5 ชนิด (หงอ่ โก้) ( รวมลงใน 1 ถาด) 1.สบั ปะรด (ออ่ งหลาย) 1 ผล หมายถงึ นำ�โชค 2.ส้ม (ก๊ำ�) 3 ผล หมาย
ถึง ขอบคณุ 3. แอป๊ เปล้ิ (เบ่งโก๊) 3 ผล 4. กล้วยข้าว (บีเ้ จ๊ว) 1 หวี หมายถงึ เชื้อเชิญ 5. แตงโม 1 ผล ผลไม้ปรบั เปล่ียนได้ตามความเหมาะสม
กลว้ ยน�ำ้ ว้าเปน็ ของตอ้ งหา้ มและผลไมบ้ างอยา่ งท่ไี ม่เหมาะสมกับพิธี เช่น รางสาด (ชาวจีนไมน่ ยิ มใช้รางสาดในการบชู าของมงคล)
ก่อนประกอบพิธอี ญั เชญิ องค์เทพเจ้าเขา้ ประทบั ในกิม่ ซน้ิ ต้องเลือกดูวันอันเหมาะสมเป็นสิริมงคล ถอื เป็นวนั ดี ฤกษด์ ี สำ�หรับประกอบพธิ ี
มักเลอื กเอาวนั “โฉย่ อิด” และวนั “จับหงอ่ ” คือวนั ขนึ้ 1 ค�ำ่ หรือ 15 ค่ำ� ทางจันทรคตขิ องจีน ส่วนเวลา มกั จะเลือก เวลาเชา้ หรือ เวลาสาย
และเวลาที่สะดวก บางคร้งั อาจเลอื กช่วงเวลาเทศกาลทส่ี �ำ คัญของจีน เช่น เทศกาลกินเจ เทศกาลตรุษจีน เทศกาลไหวเ้ ทวดา วนั งานแซยิด
องคเ์ ทพเจ้า หรอื พธิ ีเฉีย้ โฮ่ย (เชิญไฟ) ซึ่งมักประกอบพธิ ีบริเวณชายหาด มกั ใช้เวลาเชา้ ตรูของวนั หรอื ช่วงใกลค้ �่ำ หรือเลยหนึ่งทมุ่ ไปแล้ว
เมือ่ “กิ่มซ้นิ ” ผ่านข้ันตอนทกุ อย่างเรียบรอ้ ยแลว้ ควรปดิ ใบหน้าดว้ ยกระดาษสแี ดง เพ่ือรอพิธเี ต้ยี ม ไมค่ วรปลอ่ ยให้ “องค์
เทพเจ้า” มีใบหน้าวา่ งเปลา่ ควรหมุ้ ด้วยกระดาษสแี ดงเมอื่ งานเสร็จแล้ว
เมอ่ื เชญิ เจ้าเขา้ ประทับรา่ งทรงแลว้ เจา้ จะรู้ถึงพธิ กี รรมและวธิ กี ารรวมท้งั การดำ�เนินการอันเปน็ ขน้ั ตอน ในการเชญิ เทพเข้าสถติ ใน
“กม่ิ ซ้นิ ” โดย “รา่ งทิพย”์ จะเข้าสูป่ ฏมิ ากรรมอันเป็นช้นิ งานซง่ึ ส�ำ เร็จเปน็ องคเ์ ทพแลว้ เปน็ “กายใน” ซอ้ นอยู่ใน “กายนอก” แสดงเร่ืองรปู รา่ ง
อนั เปน็ กายนอก เรียกวา่ “กายในกาย” มกี ายอนั เป็นทพิ ยท์ ี่มองไม่เห็นซอ่ นอยู่ภายใน เรยี กตามภาษาฮกเกย้ี นทอ้ งถิน่ ว่า “สนี ”
การกราบไหว้ “กม่ิ ซ้นิ ” มไิ ด้หมายความว่า ไหว้ไมแ้ กะสลัก ซ่งึ เป็นร่างสมมุติเทพในตำ�นานจีนฝา่ ยเดียวเท่าน้ัน หากแตจ่ ิตของผบู้ ชู า
สง่ ไปยังองค์เทพทส่ี ถิตอยู่ภายในเปน็ ท่ตี ัง้ พลงั แหง่ การสอ่ื ระหว่างมนษุ ย์กับ เทพเจา้ มงุ่ ตรงเขา้ ส่กู ายใน ถึงจะเป็นการสือ่ ทถี่ กู ต้องตรงตาม
ความเป็นจริง ตามเจตนาของการกราบไหวอ้ งคเ์ ทพท่ีตวั เองนับถอื
องค์เทพขณะประทับทรง จะจับปีดหรอื พกู่ นั จิม้ สแี ดง ซ่งึ “ฮวดกั๊ว” ลา่ มหรือผ้ชู ว่ ยรา่ งทรงจะน�ำ ผงสแี ดงเทลงบนแผ่นกระจกเงา
ผสมกบั แป้งหอมและน�้ำ มนั หอมใช้พูก่ นั ละเลงจนเขา้ กันดีแล้ว พร้อมเปิดกระดาษสแี ดงซึ่งปดิ ลอ้ มใบหน้าออก จม้ิ สแี ดงท่ีเตรยี มไว้พร้อมแล้ว
ลงบนบรเิ วณต�ำ แหนง่ หวา่ งคว้ิ หรือหนา้ ผาก มอื ทั้งสองข้าง หน้าอก เทา้ ท้งั สองขา้ ง แผน่ หลัง และเก้าอ้ีทีป่ ระทบั ขณะจิ้มสแี ดงองค์เทพท่ีผ่าน
รา่ งทรง จะเรยี ก “สนี ” เขา้ ประทับและสถติ ในรูป “ก่มิ ซ้ิน”
การเชญิ “สีน” เป็นการเรยี กจติ วญิ ญาณขององค์เทพนนั้ ๆเขา้ สภู่ ายในให้เปน็ รา่ งทพิ ยส์ ถิตไว้เพ่ือส่อื กบั ผ้บู ชู ากราบไหวแ้ ละสถติ
ถาวรสืบไปตราบนานเท่านาน
อุปกรณ์และเคร่ืองมือท่ีใช้การแกะ
- ส่ิวเล็บมอื
- คัดเตอร์
- สิว่ ปากแบน
- ใบเลือ่ ยเหล็ก
- ค้อนตอกสายไฟ
- คอ้ นหวั กลม
- ขวาน
- มีด
- เลื่อยเหล็ก
- เลือ่ ยคันธนู
- เลื่อยหูช้าง
- บรรทดั เหลก็
- เหล็กฉาก
- ปากกาหนีบไม้
- ดนิ สอ

74

พิธกี รรมใดบา้ ง ท่ตี อ้ งใช้ “ก่ิมซิน้ ”
- พิธี โข้กู๊น (เลย้ี งอาหารทหารท่มี ารักษาบรเิ วณมณฑลพธิ )ี
- พิธีส่งเกง้ (สวดมนต)์
- พธิ ีป้ายชดิ แช้ (บชู าเทวดา)
- พิธโี ก้ยโหย้ (ลยุ ไฟ)
- พธิ ีปนี บนั ใดมีด , เดนิ บนตาปู , อาบน�ำ้ มนั , อาบน้ำ�ร้อน
- พิธีอ้ิวเก้ง (แห่พระ) การออกประภาสเพ่ือโปรดสัตว์
- พิธโี ก้ยห่าน (สะเดาะเคราะห์)
- พิธเี ฉย้ี โหย้ (อนั เชิญไฟเขา้ ศาลเจา้ )
- พิธีกรรมในช่วงเทศกาลถอื ศีลกินผัก จังหวัดภเู ก็ต
- พิธีกรรมในงานแซยดิ (วันเกดิ )ของเทพเจา้

ลกั ษณะเฉพาะท่ีแสดงถงึ อตั ลักษณข์ องมรดกภมู ปิ ัญญาทางวฒั นธรรม
- ลักษณะเดน่ ของ”กม่ิ ซ้นิ ” เปน็ ประติมากรรมท่ีใชม้ อื ล้วนๆ ให้เกดิ ความงดงามทีแ่ ฝงจติ วิญญาณใหร้ ะลกึ ถงึ องคเ์ ทพ จนตกทอดสู่
ชมุ ชน จากรนุ่ หนงึ่ ไปสอู่ ีกรนุ่ หนึ่ง
- เป็นงานหตั ถศิลป์ ทีส่ อ่ื ถึงองคเ์ ทพในต�ำ นานจนี ตามความเชอ่ื ลทั ธมิ หายาน
- เป็นตวั แทนของเทพเจา้ ทส่ี ื่อถงึ มนุษย์ โดยผ่านร่างทรงในการประกอบพธิ กี รรมของชมุ ชน
- เปน็ ส่อื กลางใหเ้ กดิ ความเชื่อและความศรทั ธาในองคเ์ ทพ สู่การปฏบิ ัติในส่ิงทด่ี งี าม
- เป็นศนู ย์รวมจติ ใจของคนในชมุ ชน จนเกดิ เปน็ ความสามัคครี ว่ มกนั

ทมี่ า : ส�ำ นักงานวัฒนธรรมจงั หวัดภเู กต็ . (2563). ขอ้ มลู วัฒนธรรม เข้าถึงจาก https://www.m-culture.go.th/phuket/ewt_
news.php?nid=1394&filename=index

75

แบบฟอรม์ การเก็บขอ้ มูลพระเจา้ จนี (กมิ ซ้ิน) ศาลเจา้ เชงิ ทะเล

องค์ท่ี 1 พระจีน (กิมซนิ้ ) ศาลเจา้ เชงิ ทะเล

รูป (ดา้ นข้างซา้ ย ดา้ นขา้ งขวา ด้านหนา้ ดา้ นหลงั ดา้ นบน ด้านลา่ ง และลกั ษณะพเิ ศษหรือต�ำ หนิ) 1. ชอ่ื ภาษาไทย จู ฮู้ อ๋อง เอยี๋
2. ช่อื ภาษาจีน 朱府王爺
ประวัติความเป็นมา 3. ชอ่ื ภาษาองั กฤษ Zhū fǔ wángyé
4. ปางองคพ์ ระ
คนจีนอพยพเข้ามาทำ�มาหากินในบ้านตีนเลเป็นจำ�นวน
มาก ตอนน้ันยงั ไม่ไดส้ ร้างศาลเจ้าไว้ในหมู่บา้ นแห่งนี้ และเม่อื ต้องการ องค์พระชาย
ไหวพ้ ระในโอกาสตา่ งๆ ก็ตอ้ งเดินทางไปไหวพ้ ระในศาลเจา้ ต่างๆในตวั องค์พระหญิง
เมอื งภูเก็ตและกะทู้ จนกระท่ัง พ.ศ.2444 นายจูป้ า่ ยตก๊ั เดินทางกลบั ไป 5. สถานภาพ
ยงั เมอื งจีนและไดอ้ ัญเชญิ พระจีนกลบั มาจ�ำ นวน 3 องค์ 5.1 เทพเจา้ ฝา่ ยบู๊
5.2 เทพเจา้ ฝา่ ยบนุ๋
เมือ่ นำ�พระจีนกลบั มายังบ้านตนี เล กไ็ ปปรกึ ษากบั นาย นกั บวช/โพธสิ ตั ย์
จ้แู จว่ ต่ี และนายแป๊ะจแู้ จว่ ต่จี งึ มอบท่ีดนิ เพอื่ สร้างเป็นประดิษฐานพระ ชนชนั้ ปกครอง (กษตั รยิ ์)
จีนทงั้ 3 องค์ โดยใชช้ ่ือสำ�นกั วา่ “ก่ิมฮุ้ยเตย่ี น” โดยมีองคท์ งั้ 3 องค์ ชนชน้ั นักรบ (แมท่ ัพหรอื ทหาร)
เป็นประธานซงึ่ เรยี กรวมวา่ “สา่ มออ๋ งห้”ู แปลว่า เจา้ ส่งิ ศักดิส์ ิทธิ์ 3 ชนช้ันสามัญชน
องค์ องค์ใหญท่ ี่สดุ มีใบหน้าสแี ดงเป็นพระของคนแซ่จู้ เรียกวา่ “พระ สตั ว/์ พาหนะ อนื่ ๆ................
จหู้ ”ู้ องค์ท่มี ีใบหน้าสีด�ำ เปน็ พระของคนแซ่เฮง เรียกวา่ “พระเฮงห”ู้ 6. วัตถุทีส่ รา้ งองค์พระ
และองค์ท่ีมีใบหน้าสเี ขียวเป็นพระของคนแซ่หลยุ เรียกว่า “พระหลยุ ฮู”้ ไม้
ตามต�ำ นานเชอื่ กนั ว่าพระสา่ มอ๋องห้มู ีพนี่ อ้ งรว่ มสาบานอกี 360 องค์ เซรามคิ
ทไ่ี ด้เขา้ ร่วมดแู ลส�ำ นักกม่ิ หุ้ยเตีย่ นแห่งนี้ 7. แหล่งทมี่ าขององค์พระ
สอบถามจาก
จฉู า่ ง / จฉู าง / หนานหวาง / หน�ำ ออ๋ ง หน้าแดงหรือ 1. คณุ นิรมิต ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจา้ สา่ มออ๋ งหู้ เชิง
สีเนอ้ื มอื ขวา จบั เข็มขัด (ยศ) มือซา้ ยต้ัง ไวต้ รงหนา้ ขา บางองค์ ก็ก�ำ ทะเล)
มือ บาง องค์ ก็แบมือ บางตำ�รา เรยี กท่านว่า จูฮเู้ ชย่ี นโส่ย จฮู อู้ ๋อง 2. คุณประสทิ ธ ิ์ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผู้เช่ียวชาญภาษาจนี
เอ๋ีย ช่ือเดิม จูซูหรง (朱叔裕) เป็นชาวเกยี เฮ็ง (嘉興) เป็นผสู้ ขุ ุม และวัฒนธรรมจนี เชิงทะเล)
คงแกเ่ รียน ได้เป็นผวู้ างแผนและออกกฎหมายในพระราชส�ำ นัก โดย 3. คณุ โชคชัย รักษ์ธรรมกจิ
เฉพาะมีใจยุตธิ รรม สามารถตัดสิน โดยช้ีให้เห็นความแตกตา่ งระหว่าง 4. คณุ กมลวรรณ ช่างเหลก็
ถกู และผิด ยึดถอื กฎหมายอย่างเขม้ งวด ขณะช่วงท่จี กั รพรรดิถงั 5. คุณประเสรฐิ ชูวงค์
ก�ำ ลังบุกเบิกประเทศ ครง้ั หนึ่งไดร้ บั คำ�สัง่ ให้ปอ้ งกันเมอื ง โดยต่อสู้กับ 8. หลกั คณุ ธรรม
ศัตรูท่ีมาตีเมือง ในช่วงปี พ.ศ.1166 ไดเ้ ปน็ ผสู้ งั่ การกองทัพไปยงั เมอื เสียสละ ค�ำ นงึ ถงึ ผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกว่าผล
งกว้ งโจว (廣州) และเปน็ ผสู้ งั่ ให้ท�ำ กำ�แพง เพอ่ื ป้องกันเมอื งโดย ประโยชน์ของตนเอง
เฉพาะวัดต้าล่ี เพื่อปกป้องป้องกันขา้ ศึกโจมตีวดั ซ่ึงแสดงถงึ ความ 9. อทิ ธิฤทธิ์
เคารพเล่อื มใสในศาสนา เม่อื สิ้นอายขุ ัย ไดก้ ลายเปน็ เทพ และเนือ่ งจาก ดแู ลความทุกข์สุขของมวลมนษุ ย์ ชว่ ยขจัดโรครา้ ยต่าง ๆ
ความดีของท่านได้ทราบถงึ องคห์ ยกออ๋ งซ่งเต่ พระองคจ์ ึงทรงโปรด 10. ผู้ให้ข้อมูล
เกล้า ใหม้ หี น้าท่เี ปน็ ตัวแทนสวรรค์ คอยตรวจตราพิทกั ษป์ กปอ้ งโลก 1. คณุ นิรมติ ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้ เชิง
ในนาม โถ่ยเทียงซ้งุ ซ่วิ (代天巡狩) ในนาม จูฮเู้ ชย่ี นโส่ย (朱府 ทะเล)
千歲) นอกจากน้ีผ้คู นต่างกราบไหว้ และยังนับถือใหเ้ ป็นเทพแหง่ การ 2. คณุ ประสิทธ์ิ ชา่ งเหล็ก (อาจารย์ผ้เู ช่ียวชาญภาษาจีน
พพิ ากษาอีกด้วย และวัฒนธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คณุ โชคชัย รักษ์ธรรมกจิ
4. คุณกมลวรรณ ช่างเหล็ก
5. คุณประเสรฐิ ชูวงค์
11. วนั ทเี่ กบ็ ข้อมลู 08/02/64

76

ประวตั คิ วามเป็นมา องค์ท่ี 2

คนจีนอพยพเข้ามาทำ�มาหากินในบ้านตีนเลเป็น รปู ดา้ นขา้ งซา้ ย ดา้ นข้างขวา ด้านหนา้ ดา้ นหลัง ดา้ นบน ดา้ นล่าง และลักษณะพเิ ศษหรือตำ�หน)ิ
จำ�นวนมาก ตอนน้ันยังไม่ได้สรา้ งศาลเจา้ ไว้ในหมบู่ ้านแห่งน้ี และ
เม่ือต้องการไหวพ้ ระในโอกาสตา่ ง ๆ กต็ ้องเดินทางไปไหวพ้ ระใน 1. ชื่อภาษาไทย เฮง หู้ อ๋อง เอ๋ีย
ศาลเจา้ ตา่ งๆในตวั เมอื งภเู กต็ และกะทู้ จนกระทั่ง พ.ศ.2444 นาย 2. ช่อื ภาษาจีน 衡 府 王 爺
จู้ป่ายตั๊กเดินทางกลับไปยังเมืองจีนและได้อัญเชิญพระจีนกลับ 3. ชื่อภาษาอังกฤษ Héng fǔ wángyé
มาจ�ำ นวน 3 องค์ 4. ปางองค์พระ

เมอื่ นำ�พระจนี กลับมายังบ้านตีนเล ก็ไปปรึกษา องคพ์ ระชาย
กบั นายจู้แจว่ ต่ี และนายแป๊ะจ้แู จว่ ตจ่ี งึ มอบที่ดนิ เพอ่ื สรา้ งเป็น องค์พระหญงิ
ประดษิ ฐานพระจีนทงั้ 3 องค์ โดยใช้ช่อื สำ�นักวา่ “กมิ่ ฮ้ยุ เตี่ยน” 5. สถานภาพ
โดยมีองค์ทั้ง 3 องคเ์ ป็นประธานซ่ึงเรยี กรวมว่า “สา่ มออ๋ งหู”้ 5.1 เทพเจ้าฝ่ายบู๊
แปลวา่ เจา้ สิ่งศักด์สิ ทิ ธ์ิ 3 องค์ องค์ใหญ่ท่สี ดุ มีใบหน้าสแี ดงเปน็ 5.2 เทพเจ้าฝา่ ยบุน๋
พระของคนแซจ่ ู้ เรยี กว่า “พระจหู้ ู้” องคท์ ี่มีใบหน้าสดี �ำ เป็นพระ นกั บวช/โพธิสัตย์
ของคนแซเ่ ฮง เรียกว่า “พระเฮงหู้” และองคท์ ่ีมีใบหนา้ สเี ขยี วเป็น ชนช้นั ปกครอง (กษัตรยิ ์)
พระของคนแซ่หลุย เรยี กวา่ “พระหลยุ ฮ้”ู ตามต�ำ นานเชอื่ กนั วา่ ชนช้นั นักรบ (แมท่ พั หรือทหาร)
พระส่ามอ๋องหู้มีพ่ีนอ้ งร่วมสาบานอกี 360 องค์ ทีไ่ ด้เข้ารว่ ม ชนชน้ั สามัญชน
ดแู ลสำ�นกั ก่ิมหยุ้ เตี่ยนแห่งนี้ สตั ว์/พาหนะ อื่นๆ................
6. วัตถุทสี่ รา้ งองคพ์ ระ
หวางซื่อชง / เฮงซีชง หนา้ ด�ำ ตาโปนมอื ขวา ถอื ไม้
ขวาน 1 ขา้ ง มอื ซา้ ยจับ เขม็ ขัด (ยศ) บางต�ำ ราก็เรียกทา่ น เซรามิค
วา่ เอีย่ หู้ออ๋ งเอยี๋ หรือ เฮ่งห้อู อ๋ งเอยี๋ บา้ นเกดิ ณ เมอื งเลก็ 7. แหลง่ ทม่ี าขององคพ์ ระ
เสีย มณฑลโห่ตงั่ ชีวิตในวัยเดก็ ครอบครัว ตอ้ งอพยพจาก สอบถามจาก
บ้านเกดิ ไปอยทู่ เี่ มืองจว๋ นจิว ฮกเก้ียน เน่อื งจากเมืองประสบ 1. คณุ นิรมิต ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจา้ ส่ามอ๋องหู้ เชิงทะเล)
ปญั หาน�ำ้ ท่วมบอ่ ยครั้ง ทำ�ให้ครอบครัวของท่านค่อนข้างจะ 2. คุณประสทิ ธ์ิ ช่างเหล็ก (อาจารยผ์ ู้เชยี่ วชาญภาษาจนี และ
ล�ำ บาก เน่ืองจากเงนิ ทองหมดไปกับการอพยพ แมค้ รอบครัวจะ วฒั นธรรมจีน เชิงทะเล)
ลำ�บาก ยากจน เพยี งใด ท่านก็ ยงั มานะบากบัน่ เสาะหาอาจารย์ 3. คณุ ร่งุ โรจน์ เพช็ รปนั (อาจารยผ์ ู้ให้ขอ้ มลู ภาษาจีน)
ผูม้ คี วามรแู้ ขนงต่างๆเพื่อท่ีจะฝากตัว เป็นศษิ ย์ ทำ�ใหท้ ่านมี 4. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพิธีกรรม)
ความรู้ในดา้ นการปกครอง การทหารและการแพทย์เปน็ อยา่ ง 5. หนงั สอื สืบกำ�เนดิ 225 แซ่ โดย บุญศักดิ์ แสงระวี
ดี จนท่านมีอายุสิบเจ็ดปี ท่านได้ผา่ นการสอบคดั เลือกเพื่อเข้า
รบั ราชการ ในขณะทท่ี ่านรับราชการรบั ใชร้ าชส�ำ นกั ท่านได้
ใช้ความรู้วิชาแพทย์ท่ีท่านเคยศึกษาในวัยเยาว์ทำ�การวิเคราะห์
รกั ษาอาการเจ็บปว่ ยของคนในราชสำ�นัก ท�ำ ใหท้ า่ นไดร้ บั การ
เล่อื นตำ�แหน่งเป็นขุนนางขนั้ สูง ในยามศกึ สงคราม หากผ้อู ยู่
ใตบ้ งั คับบญั ชาของทา่ นไดร้ บั บาดเจ็บจาก สนามรบ ทา่ นจะ
เขา้ ไปรกั ษาพวกเขาเหลา่ นน้ั เอง ด้วยความออ่ นน้อมถ่อมตน
และเอาใจใส่ทหารเช่นน้ี ทำ�ให้ท่านได้รบั การย�ำ เกรงและเคารพ
นับถือของกองทัพเปน็ อย่างท่ีสุด เมือสงครามสงบลงราช
สำ�นกั ไดเ้ รียกตวั ท่านกลบั เข้าวังหลวงเพ่ือ ปอ้ งกันทา่ นก่อกบฏ
เนื่องจากทา่ นเป็นคนจงรักภกั ดีกบั ราชวงศ์ถังมาก และชว่ งนนั้
เกิดการเปลี่ยนแปลงราชวงศ์จากราชวงศ์ถังเป็นราชวงศ์จิว
ทา่ นจึงไดข้ ัดราชโองการ ไม่ยอมกลบั เข้าวัง และทำ�การฆ่าตวั
ตายเพอื่ แสดงความจงรกั ภักดกี บั ราชวงศถ์ ัง ในวนั ที่ 13 เดือน
1(จนี ) ขณะนัน้ ท่าน มีอายไุ ด้เพยี ง 33 ปี หลงั จากที่ท่านเสยี ชีวติ
ลง ผู้ใตบ้ งั คับบัญชา รวมไปถึงชาวบา้ น ตา่ งพากันสร้างศาลเจา้
เพอ่ื ระลกึ ถงึ ทา่ น และกราบไหวบ้ ูชาจนถึงปัจจุบัน

77

10. หลักคณุ ธรรม
มคี วามจงรกั ภักดี เสยี สละ คำ�นึงถงึ ผลประโยชน์ของสว่ นรวมมากกวา่ ผลประโยชน์

ของตนเอง
11. อิทธิฤทธิ์

ดแู ลความทุกขส์ ขุ ของมวลมนุษย์ ช่วยขจดั โรคร้ายตา่ ง ๆ
12. ผู้ให้ข้อมลู

1. คุณนิรมติ ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้ เชงิ ทะเล)
2. คณุ ประสิทธ์ิ ช่างเหล็ก (อาจารย์ผเู้ ช่ยี วชาญภาษาจีน และวฒั นธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คณุ รงุ่ โรจน์ เพ็ชรปนั (อาจารย์ผู้ใหข้ อ้ มูลภาษาจนี )
4. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝ่ายพธิ กี รรม)
5. หนงั สอื สืบก�ำ เนิด 225 แซ่ โดย บญุ ศักดิ์ แสงระวี
13. วันทีเ่ ก็บข้อมลู 08/02/64

78

องค์ที่ 3

ประวตั ิความเป็นมา

รปู ด้านข้างซา้ ย ดา้ นข้างขวา ด้านหน้า ดา้ นหลัง ด้านบน ด้านล่าง และลกั ษณะพิเศษหรอื ตำ�หนิ) คนจีนอพยพเข้ามาทำ�มาหากินในบ้าน
ตนี เลเปน็ จ�ำ นวนมาก ตอนน้ันยงั ไมไ่ ด้สร้างศาลเจา้
1. ชอ่ื ภาษาไทย หลยุ หู้ ออ๋ ง เอี๋ย 4. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ย ไว้ในหมบู่ ้านแห่งน้ี และเม่ือต้องการไหวพ้ ระในโอกาส
ตา่ งๆ ก็ตอ้ งเดินทางไปไหว้พระในศาลเจา้ ตา่ งๆในตวั
2. ช่ือภาษาจีน 雷府王爺 พธิ ีกรรม) เมอื งภูเก็ตและกะทู้ จนกระทัง่ พ.ศ.2444 นายจ้ปู ่าย
ตั๊กเดินทางกลับไปยังเมืองจีนและได้อัญเชิญพระจีน
3. ช่ือภาษาองั กฤษ Léi fǔ wángyé 8. หลักคณุ ธรรม กลบั มาจำ�นวน 3 องค์

4.ปางองค์พระ เสียสละ ค�ำ นงึ ถงึ ผลประโยชน์ของ เม่ือนำ�พระจีนกลบั มายงั บา้ นตนี เล ก็
ไปปรกึ ษากับนายจแู้ จว่ ตี่ และนายแป๊ะจแู้ จว่ ตจี่ งึ มอบ
องคพ์ ระชาย สว่ นรวมมากกวา่ ผลประโยชนข์ องตนเอง ทดี่ นิ เพือ่ สรา้ งเป็นประดิษฐานพระจีนท้ัง 3 องค์ โดย
ใช้ชื่อสำ�นักว่า “ก่มิ ฮ้ยุ เต่ียน” โดยมีองค์ทง้ั 3 องค์
องค์พระหญิง 9. อทิ ธิฤทธ์ิ เปน็ ประธานซึง่ เรยี กรวมวา่ “ส่ามออ๋ งหู”้ แปลว่า
เจ้าส่งิ ศักดิ์สทิ ธิ์ 3 องค์ องค์ใหญ่ท่ีสดุ มีใบหน้าสี
5. สถานภาพ ดูแลความทุกข์สุขของมวลมนุษย์ แดงเปน็ พระของคนแซ่จู้ เรยี กวา่ “พระจู้ห้”ู องค์ทม่ี ี
ใบหน้าสดี ำ�เปน็ พระของคนแซ่เฮง เรียกว่า “พระเฮง
5.1 เทพเจา้ ฝ่ายบู๊ ช่วยขจดั โรคร้ายตา่ งๆ ห้”ู และองค์ทมี่ ีใบหนา้ สเี ขียวเป็นพระของคนแซห่ ลยุ
เรียกว่า “พระหลยุ ฮ”ู้ ตามตำ�นานเชอื่ กันว่าพระสา่
5.2 เทพเจา้ ฝ่ายบุ๋น 10. ผู้ให้ข้อมูล มอ๋องหู้มีพี่นอ้ งรว่ มสาบานอีก 360 องค์ ทไี่ ด้เขา้
ร่วมดูแลส�ำ นักกม่ิ หุ้ยเตย่ี นแห่งนี้
นักบวช/โพธิสตั ย์ สอบถามจาก
หลยุ ส์ฮู้ออ๋ งเอย๋ี (ใบหน้าสีเขยี ว) เปน็
ชนชนั้ ปกครอง (กษัตรยิ ์) 1. คุณนริ มติ ชา่ งเหล็ก (ประธาน เทพสายฮู้ โหงวนเ้ี ชี่ยนโส่ย หรือพระฮหู้ า้ ปี ประเทศ
จีนในสมัยก่อนจะมีพิธีบวงสรวงบูชาอย่างย่ิงใหญ่
ชนช้ันนกั รบ (แมท่ ัพหรือทหาร) ศาลเจ้าสา่ มอ๋องหู้ เชงิ ทะเล) ทกุ ๆ 5 ปี ส�ำ หรบั ชุดนจ้ี ะมี 12 องค์ ไดแ้ ก่ แซ่ 1.จฮู ู้
ออ๋ งเอี๋ย 2.เฮงฮู้ออ๋ งเอยี๋ 3.หลี่ฮอู้ อ๋ งเอย๋ี 4.ตฮี่ ู้
ชนชน้ั สามญั ชน 2. คุณประสทิ ธิ์ ช่างเหล็ก อ๋องเอ๋ยี 5.หวมออ๋ งเอีย๋ 6.ทิฮู้อ๋องเอ๋ยี 7.ไทฮ่ อู้ อ๋ ง
เอย๋ี 8.หล่ิมฮอู้ ๋องเอ๋ีย 9.หลยุ่ ฮ้อู ๋องเอีย๋ 10.หงอฮู้
สตั ว์/พาหนะ อนื่ ๆ................ (อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญภาษาจีนและวัฒนธรรม อ๋องเอยี๋ 11.ถานฮูอ้ อ๋ งเอ๋ยี และ12.เตียหรือจางฮู้
อ๋องเอี๋ย เชอ่ื กนั วา่ ท่านเปน็ องคส์ ดุ ท้องใน365องค์
6. วตั ถทุ ่ีสร้างองค์พระ จีน เชงิ ทะเล) ทา่ นถือเป็นเทพองค์หนึ่งทีม่ คี วามสามารถ และสติ
ปัญญา ทา่ นเปน็ ท่รี กั ของพๆ่ี ใน365องค์ และบาง
ไม้ 3. คุณโชคชัย รักษ์ธรรมกิจ ตำ�นานกลา่ วไว้ว่า ทา่ นไมส่ ามารถพดู ได้เลยมีฉายา
เรยี กกนั วา่ พระใบ้ เนอื่ งจากทา่ นได้ลั่นวาจาไว้ ว่าตอ่
เซรามคิ 4. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ย ไปจะไมไ่ ดย้ ินเสียงท่าน ทา่ นจะไม่พดู

7. แหลง่ ที่มาขององค์พระ พิธกี รรม)

สอบถามจาก 11. วนั ท่ีเก็บขอ้ มูล 08/02/64

1. คุณนริ มิต ชา่ งเหล็ก (ประธาน

ศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้ เชงิ ทะเล)

2. คณุ ประสิทธ์ิ ช่างเหลก็

(อาจารย์ผู้เช่ียวชาญภาษาจีนและวัฒนธรรม

จนี เชิงทะเล)

3. คุณโชคชยั รักษธ์ รรมกจิ

79

รปู ดา้ นขา้ งซา้ ย ดา้ นขา้ งขวา ด้านหนา้ ด้านหลัง ดา้ นบน ดา้ นล่าง และลกั ษณะพิเศษหรือต�ำ หน)ิ องค์ที่ 4

ประวัติความเป็นมา 1. ช่ือภาษาไทย หลหี อู้ ๋องเอ๋ยี
2. ชอ่ื ภาษาจีน 李府王爺
คนจีนอพยพเขา้ มาท�ำ มาหากนิ ในบ้านตีนเลเป็นจ�ำ นวนมาก ตอนน้นั 3. ช่ือภาษาองั กฤษ Lǐ fǔ wángyé
ยังไม่ได้สรา้ งศาลเจา้ ไว้ในหมบู่ า้ นแห่งนี้ และเมือ่ ต้องการไหวพ้ ระในโอกาสต่างๆ 4. ปางองค์พระ
กต็ ้องเดนิ ทางไปไหวพ้ ระในศาลเจ้าต่างๆในตวั เมืองภเู กต็ และกะทู้ จนกระทั่ง
พ.ศ.2444 นายจ้ปู ่ายตั๊กเดนิ ทางกลบั ไปยังเมอื งจีนและได้อัญเชิญพระจนี กลบั มา องค์พระชาย
จ�ำ นวน 3 องค์ องคพ์ ระหญงิ
5. สถานภาพ
เมื่อนำ�พระจนี กลบั มายังบา้ นตีนเล กไ็ ปปรึกษากับนายจแู้ จ่วตี่ และ 5.1 เทพเจา้ ฝา่ ยบู๊
นายแป๊ะจู้แจว่ ตี่จึงมอบทด่ี ินเพ่ือสร้างเป็นประดษิ ฐานพระจนี ทง้ั 3 องค์ โดยใช้ 5.2 เทพเจา้ ฝา่ ยบุน๋
ชอ่ื สำ�นกั วา่ “กิม่ ฮุ้ยเตย่ี น” โดยมอี งคท์ ้งั 3 องค์เป็นประธานซง่ึ เรียกรวมว่า “ส่า นักบวช/โพธิสตั ย์
มอ๋องห”ู้ แปลว่า เจ้าสง่ิ ศักด์สิ ทิ ธ์ิ 3 องค์ องค์ใหญท่ ีส่ ุดมีใบหนา้ สีแดงเปน็ พระ ชนชั้นปกครอง (กษัตรยิ )์
ของคนแซ่จู้ เรียกวา่ “พระจหู้ ”ู้ องคท์ ม่ี ีใบหนา้ สีด�ำ เป็นพระของคนแซ่เฮง เรียกวา่ ชนชั้นนกั รบ (แม่ทัพหรอื ทหาร)
“พระเฮงหู”้ และองค์ที่มีใบหน้าสีเขยี วเป็นพระของคนแซห่ ลยุ เรียกวา่ “พระหลยุ ชนชัน้ สามัญชน
ฮ้”ู ตามต�ำ นานเชอ่ื กนั ว่าพระสา่ มออ๋ งหู้มีพีน่ อ้ งร่วมสาบานอกี 360 องค์ ทไ่ี ด้ สัตว/์ พาหนะ อ่ืนๆ................
เขา้ รว่ มดูแลสำ�นักกิม่ หยุ้ เต่ียนแห่งนี้
6. วตั ถทุ ีส่ ร้างองคพ์ ระ
หลฮ่ี เู้ ชีย่ นโสย่ (李府千歲) ชอ่ื เดมิ ของท่านคือ หลตี่ า้ เหลยี ง
(李大亮) เป็นชาวเกง็ เอย๊ี ง (涇陽) เก่งทัง้ บุน๋ และบู๊ เป็นผูน้ �ำ ใหญส่ ดุ ใน ไม้
บรรดา 5 พน่ี อ้ ง หลังจากช่วยสถาปนาราชวงศถ์ ังแล้ว ก็ได้ไปเป็นเจ้าเมืองกมิ
โจว (金州) และไปรับตำ�แหน่งผู้บญั ชาการคุมทพั ทเ่ี มอื งเลี้ยงโจว (涼州) เซรามคิ
หน้าท่ีดแู ลความปลอดภยั ในการเดนิ ทางของราชฑูต
ผลงานทโี่ ดดเดน่ ของท่านคอื คมุ ทัพไปตีเผา่ ทาทาใช้เวลาเกือบ 7 ปจี งึ ตีไดแ้ ตก 7. แหลง่ ทีม่ าขององค์พระ
ราบคาบ (แตกในปี พ.ศ.1184)
สอบถามจาก
หลงั จากสน้ิ อายขุ ัย เง็กเซยี นได้แต่งต้งั ท่านในนามไต่ออ๋ งหลฮี่ เู้ ชยี่ น
โสย่ (大王李府千歲) ผคู้ นก็กราบไหว้บชู าทา่ นในฐานะเทพแห่งความ 1. คุณนิรมติ ช่างเหลก็ (ประธานศาลเจ้าสา่ มออ๋ งหู้
ยตุ ธิ รรมและมนษุ ยธรรม
เชงิ ทะเล)

2. คณุ ประสิทธ์ิ ชา่ งเหลก็ (อาจารยผ์ ู้เช่ียวชาญภาษา

จีน และวฒั นธรรมจีน เชิงทะเล)

3. คณุ โชคชยั รกั ษธ์ รรมกิจ

4. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพิธกี รรม)

8. หลักคุณธรรม

ความยุติธรรมและมนษุ ยธรรม

9. อิทธฤิ ทธ์ ิ -

10. ผู้ใหข้ อ้ มูล

สอบถามจาก

1. คณุ นริ มติ ช่างเหลก็ (ประธานศาลเจ้าสา่ มอ๋องหู้

เชงิ ทะเล)

2. คณุ ประสทิ ธิ์ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผูเ้ ชี่ยวชาญภาษา

จีน และวัฒนธรรมจีน เชงิ ทะเล)

3. คุณโชคชัย รักษธ์ รรมกิจ

4. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝ่ายพิธีกรรม)

11. วันที่เก็บขอ้ มูล 08/02/64

80

องค์ที่ 5 ชนช้ันสามญั ชน 3. คณุ โชคชยั รักษธ์ รรมกิจ
สัตว์/พาหนะ อน่ื ๆ................ 4. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝ่าย
1. ชอื่ ภาษาไทย ต่ี หู้ ออ๋ ง เอี๋ย 6. วตั ถทุ ีส่ ร้างองค์พระ พิธกี รรม)
2. ชื่อภาษาจีน 池 府 王 耶 ไม้ 8. หลกั คุณธรรม
3. ชอื่ ภาษาอังกฤษ Chí fǔ wáng yé เซรามิค เสยี สละ ค�ำ นึงถงึ ผลประโยชนข์ อง
4. ปางองคพ์ ระ 7. แหลง่ ที่มาขององค์พระ ส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
สอบถามจาก 9. อิทธฤิ ทธิ์
องคพ์ ระชาย 1. คุณนิรมิต ชา่ งเหล็ก (ประธาน การดทู แ่ี ห่งโชค ดูฤกษ์ ชำ�นาญ
องคพ์ ระหญิง ศาลเจ้าสา่ มอ๋องหู้ เชิงทะเล) การเดินเรอื และเชีย่ วชาญเรอ่ื งยารกั ษาโรค
5. สถานภาพ 2. คณุ ประสิทธิ์ ช่างเหล็ก 10. หลกั คุณธรรม
5.1 เทพเจ้าฝา่ ยบู๊ (อาจารย์ผู้เช่ียวชาญภาษาจีนและวัฒนธรรม เสยี สละ ค�ำ นงึ ถึงผลประโยชน์ของ
5.2 เทพเจ้าฝา่ ยบุ๋น จนี เชงิ ทะเล) สว่ นรวมมากกว่าผลประโยชน์ของตนเอง
นกั บวช/โพธิสัตย์ 11. อิทธฤิ ทธิ์
ชนชน้ั ปกครอง (กษตั รยิ )์ การดูท่ีแห่งโชค ดูฤกษ์ ช�ำ นาญ
ชนชั้นนักรบ (แม่ทัพหรอื ทหาร) การเดนิ เรือ และเช่ียวชาญเร่ืองยารกั ษาโรค

ประวตั คิ วามเปน็ มา

คนจนี อพยพเข้ามาทำ�มาหากินในบา้ นตีนเลเป็นจำ�นวนมาก ตอนนัน้ ยงั ไม่ได้สร้างศาลเจา้ ไว้ใน รปู ดา้ นขา้ งซา้ ย ด้านขา้ งขวา ด้านหนา้ ดา้ นหลัง ด้านบน ดา้ นล่าง และ
หมบู่ ้านแหง่ น้ี และเมื่อต้องการไหวพ้ ระในโอกาสต่างๆ ก็ต้องเดินทางไปไหวพ้ ระในศาลเจา้ ตา่ งๆในตวั ลักษณะพิเศษหรือตำ�หนิ)
เมอื งภูเก็ตและกะทู้ จนกระทั่ง พ.ศ.2444 นายจปู้ า่ ยตกั๊ เดินทางกลบั ไปยงั เมืองจีนและไดอ้ ัญเชญิ พระ
จนี กลับมาจ�ำ นวน 3 องค์ 12. ผู้ให้ข้อมูล
สอบถามจาก
เม่ือน�ำ พระจนี กลบั มายังบ้านตีนเล กไ็ ปปรกึ ษากับนายจ้แู จ่วต่ี และนายแปะ๊ จ้แู จ่วต่ีจงึ มอบทด่ี ิน
เพื่อสรา้ งเปน็ ประดษิ ฐานพระจีนทง้ั 3 องค์ โดยใช้ช่อื ส�ำ นักวา่ “กิม่ ฮยุ้ เต่ยี น” โดยมีองค์ทงั้ 3 องค์เป็น 1. คุณนิรมิต ช่างเหลก็ (ประธาน
ประธานซ่งึ เรียกรวมวา่ “สา่ มออ๋ งห”ู้ แปลวา่ เจ้าสง่ิ ศักดิ์สิทธิ์ 3 องค์ องค์ใหญท่ ี่สดุ มีใบหน้าสีแดง ศาลเจา้ สา่ มออ๋ งหู้ เชิงทะเล)
เป็นพระของคนแซ่จู้ เรียกว่า “พระจ้หู ”ู้ องคท์ ม่ี ีใบหน้าสดี �ำ เป็นพระของคนแซ่เฮง เรยี กวา่ “พระเฮง
ห”ู้ และองคท์ ่ีมีใบหน้าสีเขียวเป็นพระของคนแซห่ ลุย เรียกวา่ “พระหลุยฮ้”ู ตามต�ำ นานเชอื่ กนั ว่าพระ 2. คุณประสทิ ธ์ิ ชา่ งเหล็ก
สา่ มอ๋องหมู้ พี นี่ ้องรว่ มสาบานอกี 360 องค์ ทไ่ี ดเ้ ขา้ รว่ มดแู ลสำ�นกั กิ่มหุ้ยเต่ยี นแหง่ น้ี (อาจารยผ์ ูเ้ ชีย่ วชาญภาษาจนี แลวัฒนธรรม
จีน เชิงทะเล)
ตีฮ่ ู้เชย่ี นโสย่ (池府千歲) ชือ่ เดมิ ของท่านคือ ตี่เม่ิงเปยี ว (池夢彪) เปน็ ชาวทง่ิ ลิ้ว (
陳留) เปน็ คนซ่ือตรงและมคี วามเฉลียวฉลาดมาก รบั หน้าท่ีเปน็ ครูฝึกทหาร หลงั จากชว่ ยสถาปนา 3.คณุ โชคชัย รักษ์ธรรมกิจ
ราชวงศ์ถงั แลว้ กไ็ ดเ้ ปน็ ที่ปรึกษาคณะกรรมการสภาบริหารกองทพั และในปี พ.ศ.1186 กร็ ับตำ�แหน่ง 4. คุณอฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ย
เปน็ แม่ทพั ในการเกณฑท์ หารไปยงั ประเทศเกาหลี และเป็นผู้รบั ใช้ใกลช้ ิดของถงั ไท่จงดว้ ย พธิ ีกรรม)
ผลงานท่ีโดดเดน่ คือรบั โรคระบาดเองคนเดียว เรื่องมีอยวู่ า่ เงก็ เซยี นพพิ ากษาใหพ้ ้นื ท่หี น่ึงเกดิ โรค 13. วันทเ่ี กบ็ ขอ้ มลู 08/02/64
ระบาดดว้ ยการสง่ เทพแห่งโรคระบาดลงมาท�ำ งานนี้ เทพโรคระบาดแปลงกายเปน็ หนมุ่ รูปงามและได้
พบกับตเ่ี ม่งิ เปียวโดยบงั เอิญ ท้งั สองคุยกนั ถูกคอและชวนกนั ดม่ื สรุ า พอเมาไดท้ ี่เทพโรคระบาดก็เปิด
เผยตัวเองและถามต่ีเมงิ่ เปยี วถงึ วธิ กี ารแพร่กระจายโรคทไ่ี ดผ้ ลดที ่ีสดุ ตเี่ มง่ิ เปยี วกน็ กึ สงสารมนษุ ย์
จงึ หลอกล่อเอาโรคระบาดท้ังหมดมาและกลืนลงท้องไปจนตาย (พิษได้ท�ำ ให้ต่ีเม่ิงเปยี วมรี า่ งกายสดี ำ�
ตาปดู โปนก่อนตาย) เง็กเซยี นได้เห็นแบบนัน้ กแ็ ต่งตัง้ ให้ต่เี มิ่งเปยี วมีหน้าทีค่ ุมและกำ�จัดโรคระบาดใน
นามยอี่ อ๋ งตฮ่ี เู้ ช่ยี นโส่ย (二王池府千歲) พรอ้ มกบั พระราชทานดาบวิเศษใหเ้ ป็นอาวุธและทรง
แตง่ ตั้งใหเ้ ปน็ ผู้น�ำ แมท่ ัพ 36 ทหารเกราะเหลก็ เปน็ เทพเจ้าแห่งยทุ ธศาสตร์ นอกจากนแ้ี ล้ว พระตฮี๋ ู้
ออ๋ งเอี๋ยยงั มีความสามารถดา้ นการดูทแ่ี หง่ โชค ดูฤกษ์ ชำ�นาญการเดนิ เรอื และเชย่ี วชาญเรื่องยา
รกั ษาโรคอกี ดว้ ย ผู้คนกก็ ราบไหว้บชู าท่านในฐานะเทพแห่งยุทธศาสตร์

81

องคท์ ี่ 6

1. ชอ่ื ภาษาไทย หลิม หู้ ออ๋ ง เอย๋ี
2. ชอ่ื ภาษาจีน 林 府 王 耶
3. ชอ่ื ภาษาองั กฤษ Lín fǔ wáng yé
4. ปางองคพ์ ระ
องค์พระชาย
องคพ์ ระหญิง
5. สถานภาพ
5.1 เทพเจา้ ฝ่ายบู๊
5.2 ทพเจ้าฝา่ ยบนุ๋
นักบวช/โพธิสตั ย์
ชนชน้ั ปกครอง (กษตั รยิ ์)
ชนชั้นนักรบ (แมท่ พั หรือทหาร)
ชนชน้ั สามญั ชน
สัตว์/พาหนะ อนื่ ๆ................ รูป ด้านขา้ งซ้าย ด้านข้างขวา ด้านหน้า ด้านหลัง ดา้ นบน ด้านลา่ ง และลักษณะพเิ ศษหรือตำ�หนิ)
6. วัตถทุ ี่สร้างองคพ์ ระ
ไม้ ประวตั ิความเปน็ มา
เซรามคิ
7. แหล่งทมี่ าขององค์พระ ไท่ซือ หรอื ที่ปรกึ ษา ในนามวา่ จ่วิ หวงไทซ่ ือกง (九皇太
สอบถามจาก 師公) ผเู้ ปน็ ทีป่ รกึ ษาขององค์ก่วิ หวงตา้ ต้ี หรือ กิวออ๋ งไตเ่ ต่ ทงั้ 9
1. คณุ นริ มติ ช่างเหล็ก (ประธานศาลเจา้ ส่ามอ๋องหู้ เชิง พระองค์ เทพเจ้าหลิมฮู้ไท่ซอื เป็นองคป์ ระธานของศาลเจา้ หลิมฮู้ไท่ซือ
ทะเล) ทภ่ี ูเก็ต สงิ คโปร์ มาเลเซยี ตลอดจนประเทศอน่ื ๆในภมู ภิ าคน้ี รวมทง้ั
2. คุณประสิทธิ์ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผู้เช่ียวชาญภาษาจนี ไต้หวนั และแถบมณฑลฝเู จี้ยน เปน็ ต้น
และ วัฒนธรรมจีน เชงิ ทะเล)
3. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝ่ายพธิ ีกรรม) หลิมไท่ซือกง เดิมชอื่ เจ๊ะฉว้ น แซ่หลิม หรอื หลินเจ๊ะฉว้ น (
4.คุณสมบรู ณ์ แก่นตะเคียน 2553 林偕春) ชื่อรองวา่ หลนิ ฟหุ๋ ยวน (林孚元) หรือ ลิมเทยี นโจ๊ว
5. คุณจนิ วัฒน์ สนั ตวิ สิ ทุ ธวกุล ม้าทรง หลมิ หู้ อ๋อง เอีย๋ ถอื กำ�เนิดในตระกลู แซห่ ลมิ ทต่ี �ำ บลอวน๋ิ เฉี้ยว หรือ ฮนุ เส้ียว เมอื งจา้ ง
ค้นควา้ ข้อมูลเพม่ิ เตมิ จาก เว็บไซต์http://www.somboon.info โจว มณฑลฝเู จี้ยน หรอื ฮกเก้ยี น เม่อื พ.ศ. 2080 ปีมะแม ตรงกับรชั
8. หลกั คณุ ธรรม ความขย่นั หมน่ั เพยี ร สมัยฮ่องเต้หมิงซอื จง (จูโฮว่ ชง) ในปีรชั กาลเจ่ยี จ้งิ ที่ 16 จากครอบครัว
9. อทิ ธฤิ ทธิ์ - ท่ีมีฐานะและการศกึ ษา ในวยั เด็กหลินมคี วามเฉลยี วฉลาด บิดาจึงได้สอน
10. ผู้ใหข้ อ้ มลู การเขียนอา่ นพนื้ ฐานและความรู้ทั่วไป เพอื่ เตรยี มตวั สอบเข้ารับราชการ
สอบถามจาก หลินจงึ เรยี นรู้ไดร้ วดเรว็ ในวิชาศลิ ปศาสตร์ท้งั 6 สาขา คอื ยุทธศาสตร์
1. คุณนิรมิต ช่างเหล็ก (ประธานศาลเจา้ ส่ามอ๋องหู้ เชิง การสงคราม กฎหมายพลเรอื น การจดั เก็บภาษี เกษตรกรรม
ทะเล) ภูมศิ าสตร์ วรรณคดี ลัทธิขงจอื่ รวมท้ังวชิ าอื่นๆซงึ่ แตเ่ ดิมไดม้ กี ารเรียน
2. คุณประสิทธิ์ ชา่ งเหล็ก (อาจารย์ผเู้ ชยี่ วชาญภาษาจนี การสอนกนั เชน่ วิชา ดนตรี เลขคณติ การเขยี น พธิ ีกรรมตา่ งๆ การ
และ วฒั นธรรมจนี เชิงทะเล) ทหาร การใช้อาวธุ ตา่ งๆ การขม่ี ้า เป็นต้น ดังนน้ั จงึ เปน็ ผู้ที่มสี ติปญั ญา
3. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝ่ายพิธีกรรม) ความสามารถ จงึ เรยี นรทู้ งั้ ฝา่ ยบ๋นุ และฝ่ายบู๊ เพอื่ เตรยี มตวั สอบเข้ารับ
4.คณุ สมบูรณ์ แก่นตะเคียน 2553 ราชการและการป้องกนั ตัวเอง จนในท่สี ุดเขาได้เข้ารับราชการใกล้ชดิ กับ
5. คุณจินวฒั น์ สนั ติวสิ ทุ ธวกลุ ม้าทรง หลิม หู้ ออ๋ ง เอ๋ีย ฮอ่ งเต้ และไดส้ รา้ งผลงานไว้อย่างมากมาย
คน้ ควา้ ข้อมูลเพม่ิ เติมจาก เว็บไซตh์ ttp://www.somboon.info
11. วันท่ีเก็บข้อมูล 08/02/64 ตามลัทธิเต๋า ไดก้ ล่าวไวต้ อนหน่งึ ว่า ในช่วงทเี่ ขามชี ีวิตอยู่ เขา
ได้ห้ามปรามพวกอนั ธพาลทเ่ี ขา้ ทำ�ลายศาลเจา้ เม่อื ความวุน่ วายสงบ เขา
จึงทราบวา่ เป็นศาลเจ้าเพอ่ื บูชาเทพกิวอ๋องไต่เตห่ รือ จ่ิวหวางต้าต้ี หลงั
จากกลับบ้าน เขาฝันวา่ ได้มอี งค์เทพผแู้ ทนองค์กิวออ๋ งไต่เต่ได้เข้ามาหา
เพอ่ื แสดงให้ทราบวา่ องค์กิวอ๋องไตเ่ ตท่ รงพอพระทยั ในการกระท�ำ ของ
เขา ท่ชี ว่ ยป้องกันศาลเจ้าไม่ใหถ้ กู ทำ�ลาย ในความฝันนั้น พระองค์ได้
พระราชทานบรรดาศกั ด์ิใหเ้ ป็นท่ปี รกึ ษา หรือ ไทซ่ อื ขององค์กวิ อ๋องไต่

82

เต่ด้วยในนามว่า “กิวออ๋ งไต่เตไ่ ท่ซือกง” หรอื “จ่วิ หวางต้าตไ้ี ท่ซอื กง”
วันต่อมาเขาเดนิ ทางไปยังศาลเจา้ ดังกล่าว ปรากฏวา่ มเี กา้ อต้ี ัวหนึง่
สำ�หรับให้เขาน่งั

ในปพี .ศ. 2426 ปลายสมัยราชวงศ์ชงิ ทางลทั ธิเต๋าได้มมี ติ
ยกยอ่ ง หลนิ เจ๊ะฉ้วน เปน็ เทพเจ้าองค์หนง่ึ และใชช้ อ่ื วา่ กิวอ๋องไตเ่ ต่ไท่ซื
อกง หรอื เปน็ ท่เี รียกขานท่ัวไปว่า หลิมไทซ่ อื หรือ หลมิ ฮู้ไท่ซือกง หรอื
หลิมฮู้ไทซ่ ือ พรอ้ มกบั สร้างศาลเจา้ ใหด้ ว้ ย และใช้ชื่อศาลเจ้าว่า “ฮุนซาน
เกง้ ” หรือ “อวิ๋นซานกง” ซ่ึงเปน็ ช่อื ที่ใชเ้ รียกบา้ นเดิมของเขา คอื อวิน๋
เส้ียว

เ ม่ื อ ช า ว ฮ ก เ กี้ ย น ไ ด้ เ ดิ น ท า ง ม า เ อ เ ชี ย ต ะ วั น อ อ ก เ ฉี ย ง ใ ต้
สิงคโปร์ มาเลเซีย ไทย ฯลฯ พวกตระกลู แซ่หลิมต่างไดส้ ร้างศาลเจา้ ขนึ้
เพือ่ ประดิษฐานรปู ของทา่ น เช่นในปพี .ศ. 2445 ครอบครัวแซห่ ลมิ ท่ี
สงิ คโปร์ได้สรา้ งศาลเจา้ ฮนุ ซานเกง้ ขน้ึ

ท่ีภูเก็ต ศาลเจา้ หลมิ ฮู้ไทซ่ ือนา่ จะสร้างครัง้ แรกท่ีตนี เลหรือต�ำ บลเชิง
ทะเล ประมาณร้อยปเี ศษแลว้ โดยคนในตระกูลแซ่หลมิ บ้านตนี เล โดยใชช้ ือ่
ศาลเจา้ ฮุนซานเกง้ แลว้ ขยายมายงั เมอื งภเู ก็ตท่ีถนนทงุ่ คา ทบี่ า้ นสาม
กองถนน เยาวราชโดยครอบครัวแซห่ ลมิ จากตำ�บลกะทู้

หลมิ ฮู้ไท่ซือ จงึ เปน็ บรรพบุรษุ คนหนึ่งในตระกูลแซห่ ลิม ท่ไี ด้
รบั การยกยอ่ งในคุณงามความดีในช่วงที่มีชวี ิตอยู่ เมอ่ื ถงึ แก่กรรมไป
แล้ว ผู้คนกย็ ังเชิดชูอยตู่ ลอดมาจนทกุ วนั นี้

83

องคท์ ่ี 7 1.ช่อื ภาษาไทย กวนเสง็ เต้กุน้

ประวัตคิ วามเป็นมา 2.ชอ่ื ภาษาจีน 關聖帝君

ท่านเกิดในตระกูลสามัญชนมีนาม 3.ชือ่ พินอิน Guān shèngdì jūn
เดิมว่าฉางเซนิ (เชยี งเฮง) เกิดวันอังคารที่
13 เดอื นหา้ ปขี าล ค.ศ. 161 ตำ�บลไกเ่ หลียง 4.ปางองคพ์ ระ
มณฑล ซานซี (ซวั่ ไซ) รูปร่างลักษณะของทา่ น
สงู ใหญ่ หนา้ แดง ค้ิวดก ตาด�ำ หนวดเครายาว องคพ์ ระชาย องคพ์ ระหญิง
น�้ำ เสยี งดงั กงั วาล อุปนสิ ัยรักษาค�ำ พดู ดว้ ยชีวิต
รกั คุณธรรม ชอบการอา่ นหนังสือ ส�ำ หรับ 5.สถานภาพ
หนังสือที่อา่ นประจำ� ชือ่ หนงั สอื “ซุนซวิ ” และมี
ความสามารถในการรบ ทา่ นได้เขา้ รบั ราชการ 5.1 เทพเจา้ ฝา่ ยบ ู๊ 5.2 เทพเจ้าฝา่ ยบุน๋
จนได้ตำ�แหนง่ เจา้ เมอื งเก็งจ้ิว ( หรอื เจา้ เมอื ง
เกงจิ๋ว) นกั บวช/โพธิสัตย์

ช่วงแรกเร่มิ ไดพ้ บกับเลา่ ปี่ และ เตยี ว ชนชัน้ ปกครอง (กษตั รยิ )์
ฮุย ไดร้ ว่ มสาบานเปน็ พี่น้องกัน วา่ จะซ่อื สตั ย์
ตอ่ กันจนวนั ตาย เม่ือออกศกึ กู้ชาตบิ ้านเมือง ชนชั้นนักรบ (แมท่ ัพหรอื ทหาร)
อาวธุ ประจ�ำ ตัวทา่ นคือ ง้าวหนกั 82 ช่งั มา้ ศึก
ฝเี ทา้ ดีชอ่ื เช็กเทา ขุนศกึ คู่ใจ 2 ท่านคอื “กวน ชนชน้ั สามัญชน
เป็ง” ซ่งึ เปน็ บุตรบญุ ธรรม และ “จวิ ฉอง” ต่อ
มาท่านเสียชวี ิตจากการรบ ทางราชการยกยอ่ ง สัตว/์ พาหนะ อ่ืนๆ...............
ให้เป็น เทพารกั ษเ์ รียกวา่ “กวนต่”ี และ “บตู่ ี”่
คอื เทพเจ้าแหง่ สงคราม และ เทพเจ้าแห่งความ รูป ด้านขา้ งซา้ ย ดา้ นข้างขวา ด้านหน้า ด้านหลงั ด้านบน ด้านลา่ ง และลกั ษณะพเิ ศษหรือตำ�หน)ิ
ซื่อสัตย์ ชาวจีนจงึ นำ�รปู ปน้ั ไว้บชู า เพอ่ื ขจัด
ทกุ ข์ สง่ิ ชวั่ ร้ายต่าง ๆ จากบา้ นเรอื น และนำ� 6. วัตถทุ ีส่ ร้างองค์พระ ไม้ เซรามคิ
โชคลาภ ความเป็นสิริมงคลเขา้ มาแทนท่ี เพื่อให้
ชีวิตอยู่อยา่ งมคี วามสขุ ความเชอื่ ของคนส่วน 7.แหล่งท่มี าขององค์พระ
ใหญ่ เชื่อว่าทา่ นชว่ ยให้คนดีพ้นผดิ ในเรอ่ื งของ
คดคี วามต่างๆ ทา่ นชอบคนขยัน จึงมกั ดล 1. คณุ นิรมติ ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจา้ ส่ามออ๋ งหู้ เชิงทะเล)
บนั ดาลให้ ผู้ทปี่ ระกอบอาชพี สุจรติ และขยนั จะมี
โชค และ ค้าขายรุ่งเรอื ง เชือ่ กนั ว่าใบหนา้ ทีแ่ ดง 2. คณุ ประสทิ ธิ์ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผเู้ ชย่ี วชาญภาษาจีน และวฒั นธรรมจนี
สด ยังชว่ ยให้ แคล้วคลาดปลอดภยั ในการเดิน
ทาง หากมีรูปเคารพอยู่ในบา้ นจะชว่ ยปดั เปา่ ส่ิง เชิงทะเล)
ไมด่ ที งั้ ปวง และ ชกั น�ำ สง่ิ ทด่ี ๆี เขา้ มาสู่บา้ น และ
ครอบครวั ท่านยงั เปน็ เทพแห่งชัยชนะ (รบรอ้ ย 3. คณุ โชคชัย รักษ์ธรรมกิจ
ครั้งชนะร้อยครั้ง) เปน็ เทพทีม่ ีความซือ่ สตั ย์ มี
น�ำ้ ใจนกั กีฬา และ มีความจงรักภักดี ต่อผมู้ ีบญุ 4. คณุ กมลวรรณ ช่างเหล็ก
คณุ เนน้ เรื่องความมีบญุ คุณ ชาวบ้านนบั ถือมา
ต้ังแตท่ ่านยังชวี ติ อยู่ ผ้ทู ่ีนบั ถือจะต้องเปน็ คน ท่ี 5. คุณประเสรฐิ ชูวงค์
มีความกตัญญู และซือ่ สัตย์ เหนอื รปู เคารพ
ของเทพเจา้ กวนอู มกั จะมีตวั อักษรจนี อย่คู ำ� ค้นคว้าขอ้ มูลเพมิ่ เตมิ จาก https://variety.phuketindex.com
หน่ึง คือคำ�วา่ “หงี่” อนั หมายถึง คณุ ธรรม
8.หลักคณุ ธรรม ความกตัญญู ความซอื่ สตั ย์ ความจงรกั ภักดี

9.อิทธฤิ ทธ ิ์ -

10.ผู้ใหข้ อ้ มลู

1. คุณนริ มิต ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจา้ ส่ามออ๋ งหู้ เชงิ ทะเล)

2. คุณประสิทธ ิ์ ช่างเหลก็ (อาจารย์ผเู้ ชี่ยวชาญภาษาจีน และวฒั นธรรมจนี

เชิงทะเล)

3. คณุ โชคชยั รกั ษธ์ รรมกิจ

4. คณุ กมลวรรณ ช่างเหลก็

5. คณุ ประเสรฐิ ชูวงค์

ค้นคว้าข้อมูลเพิม่ เติมจาก https://variety.phuketindex.com

11.วันท่ีเก็บข้อมูล 08/02/64

84

องค์ท่ี 8

1.ชื่อภาษาไทย หลหี่ บ้ กเฉยี้ รปู ดา้ นข้างซ้าย ด้านขา้ งขวา ด้านหนา้ ดา้ นหลงั ดา้ นบน ด้านลา่ ง และลกั ษณะพเิ ศษหรอื ตำ�หนิ)

2.ช่ือภาษาจีน 李府木吒 ประวัติความเป็นมา

3.ช่อื พนิ อนิ Lǐ fǔ mù zhā หลี่ฮู้บกเฉยี้ (李府木吒), หยไ่ี ท้จอ้ื (二太子) (ม้จู า
หรอื บกั จา) อาวุธประจ�ำ กาย : หอกและดาบ (บางที่กจ็ ะถือลูกตมุ้ คู่ หรอื
4.ปางองค์พระ บางทกี่ ็จะถอื กระบี่และนิว้ หรือบางทีไ่ ม่ถอื อะไรเลยก็มี ชสู องนิ้วชี้ฟ้า
ชีด้ นิ )
องคพ์ ระชาย
ท่านถือก�ำ เนิดสมยั พระเจ้าซ้งโจว บดิ าคอื หลี่จิ้ง (李靖)
องค์พระหญิง หรอื หล่เี ทียนออ๋ ง (李天王) มารดาคอื นางอิน๋ ซอื่ มพี ช่ี ายคือ หลี่ฮู้
กมิ เฉีย้ (李府金吒) และน้องชายคอื หลี่โลเฉี้ย (李哪吒)
5.สถานภาพ ทั้งสามรบั ราชการอยกู่ ับบิดาท่ีเมืองฉาเกอ ทา่ นหลจ่ี งิ้ ส่งบกเฉี้ยไปศึกษา
วชิ าการทส่ี ำ�นักอาจารยเ์ ตา้ หยินชอื่ เผาเหยี นจนิ หยิน (普賢真人)
5.1 เทพเจา้ ฝ่ายบู๊ ที่ภเู ขาจิ่วหลงซาน ภายหลงั ได้ช่วยเมอื งซีกี ทป่ี กครองโดยธรรม โคน่
ราชวงศซ์ างลง(ปราบนางตา๋ จซี ง่ึ เป็นนางจ้งิ จอกพันปี ทมี่ อมเมาฮอ่ งเต)้
5.2 เทพเจา้ ฝา่ ยบุ๋น ทง้ั สีค่ นพ่อลกู ได้มาเขา้ กับ โจวอหู่ วัง เจา้ ผู้ครองแคว้นโจว ของพระเจา้
จวิ บ๊อู ๋อง (โจวอูห่ วาง) โดยการนำ�ทพั ของเกยี งจแู หย (เจยี งจ่อื หยา หรือ
นักบวช/โพธิสตั ย์ เจยี งไท้กง) โดยทบี่ กเฉ้ยี ไดม้ าเขา้ รว่ มกบั ทพั พระเจ้าจิวบอู๊ อ๋ ง ภายใตค้ �ำ
สง่ั ของทา่ นอาจารยเ์ ผาเหียนจน้ิ หยิน โดยมตสิ วรรคถ์ ึงคราวเปลยี่ น
ชนชนั้ ปกครอง (กษตั ริย์,เจา้ เมอื ง,ขนุ นาง) ราชวงศ์ ภายหลังจากการทำ�ศึกอยูห่ ลายปีในทส่ี ุด ทัพฝ่ายธรรมะของ
พระเจ้าจิวบอู๊ อ๋ งกไ็ ดร้ ับชัยชนะ โดยภายหลงั ทสี่ งครามสงบลง ตอนทา้ ย
ชนช้ันนักรบ (แม่ทัพหรือทหาร) สค่ี นพ่อลกู ไมข่ อรับยศฐาบรรดาศกั ด์ิใดๆ ท้ังส้นิ เพราะทำ�ตามค�ำ สั่งของ
อาจารยแ์ ละขอลากลับไปบ�ำ เพ็ญต่อไปจนสำ�เร็จเปน็ เซยี นในทส่ี ุด ท่านปฎิ
ชนชั้นสามญั ชน เสธรับต�ำ แหนง่ ทางการทหาร เน่ืองจากเช่อื ฟังค�ำ สั่งสอนของอาจารย์
และกลบั ไปบำ�เพ็ญเพียรจนสำ�เรจ็ เป็นเซยี น เชน่ เดยี วกบั บดิ าและพนี่ ้อง
สัตว/์ พาหนะ อ่ืนๆ................

6. วตั ถทุ ี่สรา้ งองค์พระ

ไม้

เซรามิค

7.แหล่งท่ีมาขององค์พระ

ศาลเจา้ ส่ามออ่ งหู้ เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภเู กต็

ค้นควา้ ข้อมูลเพม่ิ เตมิ จาก

-https://tumetr2.blogspot.com/2015/04/blog-post_40.html

-.facebook.com/kimsinbytaekhunsong/photos/หล่ฮี บู้ กเฉ้ยี

8.หลักคณุ ธรรม

มีความกลา้ หาญในการรบ การไม่ยึดตดิ ในอ�ำ นาจ

9.อิทธิฤทธ์ิ -

10.ผู้ให้ขอ้ มูล

ศาลเจ้าส่ามออ่ งหู้ เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเกต็

ค้นควา้ ขอ้ มลู เพม่ิ เตมิ จาก

-https://tumetr2.blogspot.com/2015/04/blog-post_40.html

-.facebook.com/kimsinbytaekhunsong/photos/หลฮ่ี บู้ กเฉ้ยี

11.วันที่เก็บข้อมลู 08/02/64

85

องคท์ ี่ 9

รูป ด้านขา้ งซา้ ย ด้านขา้ งขวา ดา้ นหนา้ ด้านหลัง ด้านบน ด้านล่าง และลกั ษณะพิเศษหรอื ตำ�หนิ) 1.ชอื่ ภาษาไทย หงอ หู้ ออ๋ ง เอย๋ี
2.ช่ือภาษาจีน 误 府 王 耶
ประวตั คิ วามเปน็ 3.ช่อื ภาษาอังกฤษ Wù fǔ wáng yé
4.ปางองค์พระ
กลมุ่ “อ๋องเอยี๋ ” ที่คนรู้จกั และนยิ มกราบไหวก้ นั มากที่สดุ
คือ.... องค์พระชาย
องค์พระหญิง
ซาฮ้อู อ๋ งเอี๋ย (三府王爺) : มี 3 องคค์ ือ แซห่ ล่ี ( 5.สถานภาพ
李) / แซต่ ี่ (池) / แซ่หงอ 5.1 เทพเจา้ ฝา่ ยบู๊
5.2 เทพเจา้ ฝ่ายบนุ๋
โหงวฮอู้ ๋องเอย๋ี (五府王爺) : มี 5 องคค์ ือ แซ่หลี่ ( นกั บวช/โพธสิ ัตย์
李) / แซ่ต่ี (池) / แซห่ งอ (吳) และเพิม่ ไปอีก 2 ท่านคือ แซจ่ ู ชนชั้นปกครอง (กษตั ริย์)
( 朱) และแซห่ วม (范) หรอื จะเรียก โหงวฮูเ้ ชี่ยนโสย่ (五府千 ชนชน้ั นกั รบ (แมท่ ัพหรอื ทหาร)
ชนชั้นสามญั ชน
歲) สัตว์/พาหนะ อื่นๆ................
6.วัตถุท่สี รา้ งองคพ์ ระ
(吳) ในสมยั ถงั ไทจ่ ง (หลซ่ี ่อื หมิน) มีบณั ฑติ 5 คนเดิน ไม้
ทางจากทางใต้ไปสอบท่ีเมอื งหลวงฉางอาน แต่สอบไมไ่ ดก้ เ็ ลยเล่น เซรามคิ
ดนตรีหากินอยู่ในเมืองฉางอาน ถังไท่จงอยากลองอิทธฤิ ทธ์ิเตย่ี ว 7.แหล่งทมี่ าขององคพ์ ระ
เทียนซอื่ เลยเรียก 5 คนเขา้ วังและไปบรรเลงดนตรที ห่ี อ้ งใตด้ นิ สอบถามจาก
ดว้ ยความเข้าใจผิดกถ็ กู เตย่ี วเทยี นซอื่ ฆ่าตาย บางต�ำ นานบอกว่า 1. คณุ นริ มิต ช่างเหลก็ (ประธานศาลเจ้าสา่ มออ๋ งหู้
เป็นขา้ ราชการตำ�แหน่งจิน้ ซอื 360 คน แตบ่ างตำ�นานบอกวา่ เปน็ เชงิ ทะเล)
ข้าราชการ 360 คนไปชว่ ยขจดั โรคระบาด (อุ่นสิน) แล้วตาย บาง 2. คณุ ประสิทธ์ิ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผูเ้ ชี่ยวชาญภาษาจีน และ
ต�ำ นานก็วา่ เรอื ลม่ แล้วตาย แต่ไม่วา่ จะต�ำ นานไหนเราก็สามารถสรุป วัฒนธรรมจีน เชิงทะเล)
ได้ว่าองค์ออ๋ งเอ๋ยี ในปัจจบุ ันที่เรากราบไวม้ ี 360 องค์ และมมี ีหลักๆ 3. คณุ โชคชัย รักษ์ธรรมกจิ
เลยคอื 5 องค์ครบั เนือ่ งจากพวกท่านเปน็ ผทู้ ่มี ีอทิ ธิฤทธม์ิ าก คำ� 4. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ยพิธีกรรม)
เรยี กช่อื ท่านจงึ มักลงท้ายด้วย “ออ๋ งเอย๋ี ” และเมื่อตอ้ งการเน้นให้รู้ 10.หลกั คณุ ธรรม
วา่ มีอทิ ธิฤทธ์มิ ากจึงเปน็ “เชยี นโสย่ เอ๋ยี ” หรือ “เชียนโส่ยออ๋ งเอ๋ีย” เสียสละ คำ�นึงถงึ ผลประโยชนข์ องส่วนรวมมากกว่าผลประโยชน์
ของตนเอง
11.อิทธิฤทธ์ิ
ดูแลความทุกข์สขุ ของมวลมนษุ ย์ ชว่ ยขจัดโรครา้ ยต่าง ๆ
12.ผู้ให้ข้อมูล
สอบถามจาก
1. คุณนริ มิต ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้ เชงิ ทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธิ์ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญภาษาจนี และ
วัฒนธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คุณโชคชยั รักษ์ธรรมกจิ
4. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพิธกี รรม)
11.วันทเ่ี ก็บขอ้ มลู 08/02/64

86

รปู ดา้ นขา้ งซา้ ย ดา้ นขา้ งขวา ด้านหนา้ ดา้ นหลงั ด้านบน ด้านล่าง และลักษณะพิเศษหรอื ตำ�หนิ) องคท์ ่ี 10 ประวตั คิ วามเปน็ มา

1.ชอ่ื ภาษาไทย (จ้อเซยี น) โคยแซป้ ักเต้า 魁星北斗
2.ชื่อภาษาจีน 魁斗星君, 魁星北斗 ทา่ นเป็นเทพเจา้ ทีไ่ ด้รบั ความเคารพและนับถอื ดา้ นการ
3.ชื่อพินอนิ
Kuí dǒu xīng jūn สอบ การเล่าเรยี น รูปลักษณ์ ของทา่ นจะแสดงในท่ายนื อย่บู นศรษี ะ
ของปลามังกร ด้วยเทา้ เดียว อีกเทา้ ยกไวข้ า้ งหลงั ในมอื ขวาของท่าน
Kuíxīng běidǒu ถอื พูก่ นั เพอื่ ใช้ในการจดบันทึก ผู้ทส่ี ำ�เร็จในการสอบ จอหงวน มอื
ซา้ ยถือ โต่ว (เครือ่ งมือ วัดชนิดหน่งึ ) ใบหนา้ ของทา่ นคลา้ ยปีศาจ น่า
4.ปางองค์พระ กลวั ยง่ิ นัก อีกทัง้ ยงั มรี ่างกายทีแ่ ขง็ แรง บกึ บึน

องคพ์ ระชาย ทา่ นมดี าวประจำ�ตัว คอื ส่วนหนึง่ ของดาวเหนอื (4ดวง
แรก) รูปทรง คลา้ ยภาชนะสมัยโบราณ ท่มี ไี ว้สำ�หรบั ตวงขา้ ว (ไมม่ ดี า้ ม
องคพ์ ระหญิง จบั บางทมี ีหหู วิ้ และ คล้ายจอกเหลา้ จีน)ซ่งึ คือ โต่ว

5.สถานภาพ มีตำ�นานเล่าว่า มีนักศึกษาผหู้ นึ่งทมี่ ีความชำ�นาน ในดา้ น
อกั ษรศาสตร์ แตเ่ ขามีใบหน้าท่ี พิกลพกิ าร เขาไดส้ อบผา่ นจอหงวน
5.1 เทพเจ้าฝ่ายบู๊ ของเมอื งหลวง ตามธรรมเนยี มนัน้ จักรพรรดิ จะตอ้ งเป็นผปู้ ระทาน
กุหลาบทองคำ�โดยพระหัตถ์ ของพระองคเ์ อง ผู้สอบผา่ นรายน่ี มีชือ่
5.2 เทพเจา้ ฝ่ายบ๋นุ วา่ ชุงขยุ แตเ่ ม่อื จกั รพรรดิ ไดเ้ ห็นหน้าตา ท่ีหนา้ รังเกยี จของเขา จงึ
ปฏิเสธทีจ่ ะพระราชทานกหุ ลาบทองคำ�ให้แก่เขา จงึ ทำ�ใหเ้ กดิ ความสน้ิ
นักบวช/โพธสิ ตั ย์ หวัง เขาจึงไปทึท่ ะเล เพอ่ื หวังกระโดดเพ่อื ปลิดชพี ตัวเอง แตท่ ันใดนน้ั
ขณะท่ีเขา กำ�ลงั จะตาย ไดม้ สี ัตวท์ ะเลโบราณ ได้ช่วยน�ำ เขาขน้ึ มาบน
ชนชัน้ ปกครอง (กษัตริย์,เจา้ เมือง,ขุนนาง) ผวิ น้ำ�และน�ำ เขา ลอยขน้ึ สสู่ วรรค์ ทั้งนี้ เนอ่ื งจากเง็กเซียนฮ่องเต้ ได้
เห็นใจ จงึ แต่งต้ัง ชงุ ขุย ใหเ้ ป็นเทพขยุ ซิง เช่ือว่าอยู่บนดาวขุยซงิ
ชนช้ันนักรบ (แมท่ ัพหรือทหาร)
สัตว์ในต�ำ นาน เรยี กว่า อา๋ ว ว่ากนั วา่ หัวเป็นมังกร ตวั
ชนชั้นสามัญชน เป็นเตา่ บ้าง หัวเป็นมังกร ตวั เปน็ ปลาบ้าง หรอื บางตำ�นาน ตวั เปน็
เตา่ หางเป็นปลา ซึง่ ตั้งแตส่ มยั ราชวงศ์ ถงั มา ผู้ทส่ี อบไดต้ ำ�แหน่ง
สตั ว์/พาหนะ อน่ื ๆ................ จอหงวน จะได้รบั อนญุ าตกา้ วขา ขึ้นบนหนิ สลักรปู ตวั อ๋าว เพอื่ เข้า
รบั ต�ำ แหนง่ จอหงวน ในไม่ช้าขยุ ซิงกไ็ ดร้ บั ความเคารพ นับถือ วา่ เป็น
6.วัตถุทส่ี ร้างองคพ์ ระ เทพเจา้ แหง่ อกั ษรศาสตร์ หรอื เทพเจ้าผอู้ ปุ ถมั ภ์การศกึ ษา และ ได้รับ
การเคารพบชู าเป็นอยา่ งมาก จากบรรดานกั ศึกษา
ไม้
10.ผู้ใหข้ อ้ มลู
เซรามคิ สอบถามจาก

7.แหลง่ ที่มาขององค์พระ 1. คุณนริ มติ ช่างเหลก็ (ประธานศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้
เชงิ ทะเล)
สอบถามจาก
2. คุณประสทิ ธ์ ิ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผู้เช่ียวชาญภาษาจนี
1.คุณนิรมติ ช่างเหล็ก(ประธานศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้ และ วฒั นธรรมจีน เชงิ ทะเล)

เชิงทะเล) 3. คุณโชคชัย รักษธ์ รรมกิจ
4. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)
2.คณุ ประสิทธ์ิ ชา่ งเหลก็ (อาจารยผ์ ูเ้ ชี่ยวชาญภาษาจนี 11.วันทีเ่ ก็บขอ้ มูล 08/02/64

และ วฒั นธรรมจีน เชิงทะเล)

3. คุณโชคชัย รกั ษธ์ รรมกจิ

4. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ กี รรม)

8.หลกั คณุ ธรรม -

9.อทิ ธิฤทธิ ์ -

87

องค์ที่ 11

ประวัติความเปน็ มา รูป ดา้ นข้างซา้ ย ดา้ นข้างขวา ด้านหน้า ดา้ นหลัง ด้านบน ดา้ นล่าง และลกั ษณะพิเศษหรอื ตำ�หน)ิ

ขนุ พลในตระกลู “ออ๋ งเอยี๋ ” จะเป็นตวั แทนสวรรค์ มีหน้าท่ี 1.ชอื่ ภาษาไทย หู้ อ๋อง เอ๋ีย
คอยดูแลปกป้องโลกมนษุ ย์ ช่วยเง็กเซยี นดูแลทุกขส์ ุขของประชาชน แล้ว
ขุนพลในตระกลู “อ๋องเอีย๋ ” มี 360 องค์ บางคนบอกวา่ 365 องค์ (ตาม 2.ชื่อภาษาจีน 府 王 耶
จำ�นวนวนั ) แต่เรมิ่ จากแค่ 5 องคห์ ลักๆในสมยั ราชวงศถ์ ัง ซง่ึ เราจะเรียก
ทา่ นตามแซ่ทมี่ ี 132 แซ่ เพราะชาวฮกเกีย้ นเช่อื วา่ พวกทา่ นเป็นเทพเจ้า 3.ชือ่ พินอิน Fǔ wáng yé
ประจำ�ตระกลู กลมุ่ “อ๋องเอีย๋ ” ที่คนรจู้ กั และนิยมกราบไหว้กนั มากท่สี ดุ
คอื ..ซาฮู้ออ๋ งเอยี๋ : มี 3 องคค์ อื แซ่หลี่ / แซต่ ่ี / แซห่ งอ โหงวฮู้อ๋อง 4.ปางองคพ์ ระ
เอี๋ย : มี 5 องคค์ ือ แซ่หล่ี / แซ่ตี่ / แซห่ งอ และเพม่ิ ไปอกี 2 ทา่ นคือ แซ่
จู และแซห่ วม หรอื จะเรียก โหงวฮูเ้ ชี่ยนโสย่ องคพ์ ระชาย

สว่ นประวตั คิ ร่าวๆของพวกทา่ นคอื ในสมยั ถังไท่จง (หล่ีซือ่ องคพ์ ระหญิง
หมนิ ) มบี ัณฑิต 5 คนเดนิ ทางจากทางใต้ไปสอบทเี่ มอื งหลวงฉางอาน
แตส่ อบไมไ่ ด้กเ็ ลยเลน่ ดนตรีหากนิ อยู่ในเมืองฉางอาน ถงั ไท่จงอยาก 5.สถานภาพ
ลองอทิ ธิฤทธเิ์ ตีย่ วเทียนซื่อ เลยเรียก 5 คนเขา้ วังและไปบรรเลงดนตรี
ทหี่ ้องใต้ดนิ ดว้ ยความเขา้ ใจผดิ กถ็ กู เต่ยี วเทียนซือ่ ฆา่ ตาย บางต�ำ นาน 5.1 เทพเจา้ ฝา่ ยบู๊
บอกว่าเป็นข้าราชการต�ำ แหน่งจน้ิ ซือ 360 คน แต่บางตำ�นานบอกวา่
เป็นขา้ ราชการ 360 คนไปช่วยขจัดโรคระบาด (อ่นุ สิน) แล้วตาย บาง 5.2 เทพเจา้ ฝา่ ยบนุ๋
ต�ำ นานกว็ ่าเรือลม่ แล้วตาย แตไ่ ม่วา่ จะต�ำ นานไหนเรากส็ ามารถสรุปได้
ว่าองคอ์ ๋องเอ๋ยี ในปัจจุบนั ทเี่ รากราบไว้มี 360 องค์ และมีมหี ลกั ๆเลย นักบวช/โพธสิ ตั ย์
คอื 5 องค์ เนือ่ งจากพวกท่านเป็นผูท้ ่ีมอี ิทธิฤทธ์ิมาก คำ�เรียกช่ือทา่ น
จงึ มักลงทา้ ยด้วย “อ๋องเอย๋ี ” และเม่อื ต้องการเน้นใหร้ ูว้ า่ มีอทิ ธิฤทธ์ิ ชนชั้นปกครอง (กษตั ริย)์
มากจงึ เปน็ “เชยี นโสย่ เอ๋ยี ” หรือ “เชียนโส่ยอ๋องเอี๋ย” อกี ต�ำ นานท่ีแตก
ต่างออกไปคือในสมยั ราชวงศ์ถังเหมอื นกนั ครับ 5 พ่ีนอ้ งรว่ มสาบาน ชนชั้นนกั รบ (แม่ทัพหรือทหาร)
ได้ชว่ ยถังเกาจง (จักรพรรดิองคแ์ รกของราชวงศ์ถัง) สู้กับฮอ่ งเต้ราช
วงศส์ ุยและสถาปนาราชวงศถ์ งั ขนึ้ มา พร้อมทั้งเปน็ แม่ทัพของราชวงศ์ถงั ชนชั้นสามญั ชน
ชนะศึกหลายศึก ฮอ่ งเต้ก็ไดป้ ูนบำ�เหนจ็ รางวลั ให้ แต่ 5 พน่ี ้องเปน็ ผูท้ ่มี ี
จติ ใจเมตตา ปล่อยทาสท่ไี ด้รับพระราชทานมาเป็นรอ้ ยคน พรอ้ มแถมเงิน สตั ว/์ พาหนะ อืน่ ๆ................
ให้เดินทางกลับบ้านเกิดไปอกี ผ้คู นต่างร่ำ�ลอื ถงึ ความเมตตาของพวก
ท่าน พอสิ้นอายุขัย เง็กเซียนกแ็ ต่งต้ังใหเ้ ปน็ “โหงวฮูเ้ ชยี่ นโส่ย” มีหนา้ ที่ 6. วัตถทุ ่สี ร้างองคพ์ ระ ไม ้ เซรามคิ
คุ้มครองการเดินทางโดยเรือของเง็กเซียนและเป็นตัวแทนสวรรค์คอย
ตรวจตราพทิ กั ษ์โลกมนษุ ย์เรยี กว่า โถย่ เทยี งซุ้งซิว่ และก�ำ จดั โรคระบาด 7.แหลง่ ที่มาขององคพ์ ระ
ครบั ในต�ำ แหน่งโถย่ เทียงซ้งุ ซ่วิ หรือไต่เทียนฮู้ น้นั จะมีอ�ำ นาจควบคุมสั่ง
การ 3 กองทพั สวรรค์ คือ ศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเกต็

1. ทพั ฟ้า : ซาจบั หลักเทียงกงั 8.หลกั คุณธรรม
2. ทัพดิน : ชกิ จบั ย่ีตี่ซัว
3. หา้ กองพลรักษามณฑลพธิ ี : โหงวเอ๊ียซิ้งเปยี เสยี สละ คำ�นงึ ถงึ ผลประโยชน์ของส่วนรวมมากกวา่ ผล
ในฮกเก้ยี นสมยั ก่อนจะมีการจดั พิธีไหว้ “ออ๋ งเอ๋ีย” ด้วยการ
เอาไมม้ าแกะสลกั เป็นรปู พวกทา่ นแลว้ เขยี นแซ่กำ�กับไว้ ใส่ในเรือพรอ้ ม ประโยชน์ของตนเอง
ของกินเต็มลพและเอาไปเผาทง้ิ บางพ้นื ท่เี อาไปลอยน�ำ้ เพราะเช่อื ว่า
เปน็ การทำ�ลายโรคระบาด แต่ปัจจบุ นั โรคระบาดไมไ่ ดม้ เี หมอื นเมื่อก่อนคน 9.อิทธฤิ ทธิ์
ก็เลยกราบไหวพ้ วกทา่ นในเรื่องอืน่ ๆแทน
ดแู ลความทุกข์สุขของมวลมนุษย์ ชว่ ยขจัดโรคร้ายต่างๆ

10.ผู้ให้ข้อมูล

ศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเกต็

11.วันท่เี ก็บขอ้ มูล 08/02/64

88

องคท์ ี่ 12 ประวตั คิ วามเปน็ หลุ่ยฮู้ออ๋ งเอย๋ี ( 雷府王爺)
คร้งั แผน่ ดนิ พระเจา้ ถงั เสวียนจง (唐玄宗 ค.ศ.712-756)
รปู ด้านขา้ งซ้าย ด้านข้างขวา ดา้ นหน้า ด้านหลัง ด้านบน ด้านลา่ ง และลักษณะพิเศษหรือต�ำ หน)ิ
แหง่ ราชวงศ์ถงั หลังจากท่คี รองราชยม์ าไดป้ ระมาณ 40 ปี ในชว่ งแรก
1. ชื่อภาษาไทย ลุยฮู้ออ๋ งเอยี๋ พระองคท์ รงศึกษาและแก้ไขจดุ ออ่ น ขอ้ บกพร่องของระบบการปกครอง
2. ชือ่ ภาษาจีน 雷府王爺 เดิมๆเสยี ใหม่ จนกระทั่งประสพความสำ�เรจ็ เกิดเป็นยุคแห่งความเจริญไค
3. ชอื่ ภาษาอังกฤษ Léi fǔ wángyé หยวน คร้ันพระองคท์ รงได้พระสนมผู้มีสริ ิโฉมงดงาม คอื หยางกุ้ยเฟย
4. ปางองค์พระ (楊貴妃) ผมู้ ีความงามทที่ ำ�ให้แมแ้ ตม่ วลหมู่ดอกไมย้ งั ต้องละอาย
องคพ์ ระชาย หลังจากน้ันพระองค์ทรงไม่ได้ทำ�นุบำ�รุงเอาใจใส่ราชกิจอย่างแต่ก่อน
องค์พระหญิง ปล่อยใหเ้ หล่าขุนนางมีอ�ำ นาจมากข้ึน จนกระทั่งในปี ค.ศ. 755 จึงเกิด
5. สถานภาพ กบฏอวั ลกซวั (อันล่ซู าน安禄山)ขน้ึ ฝ่ายกบฏได้บกุ เขา้ ตีเมอื งลกเอี๊
5.1 เทพเจา้ ฝา่ ยบู๊ ยง(เมืองล่ัวหยาง,ลวั่ หยงั ) หลยุ บว้ นชุน แม่ทพั แหง่ พระเจา้ ถงั เสวยี นจง
5.2 เทพเจ้าฝา่ ยบุ๋น ได้ออกรบกับฝ่ายกบฏจนกระทั่งโดนฝ่ายตรงข้ามใช้ธนูยิงจนถึงแก่ชีวิต
นักบวช/โพธสิ ัตย์ ด้วยวรี กรรมที่ไดพ้ ลชี พี ในคร้งั น้ี หลุยบว้ นชุน จงึ ไดร้ บั การยกย่องเป็น
ชนชั้นปกครอง (กษตั รยิ ์) หลุ่ยฮ้อู อ๋ งเอ๋ีย 雷府王爺 หรอื หลุย่ ฮเู้ ชย่ี นโส่ย 雷府千歲 มี
ชนชนั้ นกั รบ (แม่ทพั หรอื ทหาร) การสร้างรูปเคารพองค์ท่านออกมาในหลายๆลักษณะ โดยสว่ นใหญ่จะ
ชนชั้นสามญั ชน ใหม้ ีหน้าตาดุดันสมกับเป็นชายชาติทหาร หนา้ มสี เี ขยี วหรือสเี ข้มๆ และยงั
สตั ว์/พาหนะ อนื่ ๆ................ คงมีรอยแผลจากธนปู รากฎบนใบหนา้ ไว้
6. วัตถทุ ีส่ ร้างองคพ์ ระ
ไม้ เหลย่ ว้านชุน เป็นอีกตัวอยา่ งหนึง่ ที่ทำ�คุณงามความดีใหก้ ับ
เซรามิค ประเทศ และไดร้ ับการยกยอ่ งใหท้ ่านเป็น เชีย่ นสุ้ย (千歲) ทา่ นเปน็ นาย
7. แหล่งทม่ี าขององค์พระ ทหารในราชวงศถ์ ัง ยดุ ของกษตั รยิ ถ์ ังเสวยี นจง (唐玄宗) แตท่ า่ น
ศาลเจ้าส่ามอ่องหู้ เชงิ ทะเล อ.ถลาง จ.ภเู กต็ อยู่ในสังกัดนายทหารองศ์ครักษ์ ของทา่ น จางสวงิ่ (เตยี วซ่นุ 張巡)
คน้ คว้าขอ้ มลู เพ่ิมเติมจาก เดิมทา่ นเปน็ คนเมอื ง จู่โจ้ว (逐州) รำ่�เรียนวิชาทางการทหาร มีนิสัย
http://oknation.nationtv.tv/blog/Nat- และกิริยาท่าทา่ งไมเ่ สแสร้ง พดู จาโผงผาง ตรงไปตรงมา เปิดเผย ซื่อตรง
thakant/2013/05/29/entry-1 ยุตธิ รรม รูปรา่ งแข็งแรง กล้าหาญ ไม่เกรงกลวั ใคร เกง่ ในเร่ืองส้รู บ และ
8. หลกั คุณธรรม มคี วามปรารถนาอยา่ งแรงกล้าในการทีจ่ ะรกั ษาผลประโยชน์ของประเทศ
มคี วามจงรกั ภกั ดตี อ่ พระมหากษัตริย์ , สละชีพเพอ่ื ชาติ
และสว่ นรวม ท่านจะมีบทบาทและมชี ื่อเสยี งในชว่ งปลายราชวงศถ์ ัง ซึง่ อยู่
9. อทิ ธิฤทธ์ิ - ในชว่ งของการเริม่ เสือ่ มถอยของกษตั รยิ ์ถงั เสวียนจง ในสมัยรชั ศก
10. ผู้ให้ข้อมลู เทียนเปา่ (ค.ศ. 742 – 756) ในปี ค.ศ. 755 ได้เกิด กบฏอาน-ส่ือ 安史
ศาลเจา้ ส่ามอ่องหู้ เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต 之乱 คำ�วา่ อาน (安) จะหมายถงึ อันลซู่ าน 安禄山 ซงึ่ เป็นผู้น�ำ
คน้ ควา้ ขอ้ มูลเพม่ิ เตมิ จาก เพจ พลงั แห่งศรทั ธา กอ่ การกบฏในชว่ งนน้ั สว่ นคำ�วา่ สื่อ (史) จะหมายถงึ สื่อซอื หมิง 史
11. วันทเ่ี กบ็ ข้อมูล 08/02/64 思明 เป็นแมท่ ัพใต้บังคับบัญชาของอันลซู่ านทรี่ ว่ มกอ่ กบฏในครั้งนัน้
ดว้ ย

ท่านเหลย่ วา้ นชุน ได้รว่ มกับทา่ น จางสว่งิ ออกไปสรู้ บในศกึ
ครั้งน้ีด้วย โดยมเี รือ่ งเลา่ วา่ ชว่ งทที่ ่านยนื อยูบ่ นเชงิ เทนิ ของกำ�แพงเมือง
ไดถ้ ูกยงิ ด้วยธนูอย่างรวดเร็วโดยไม่ทนั ไดห้ ลบจำ�นวน 6 ดอกบนใบหน้า
ท่าน และท่านได้ยืนแนน่ ่ิงอย่บู นน้นั กอ่ นท่ีท่านจะเสยี ชวี ิตในเวลาตอ่ มา
หลงั จากการสรู้ บในศึกครัน้ นัน้ แล้ว ท่านกไ็ ด้ถูกประกาศเกียรตคิ ณุ เลือ่ น
ยศใหเ้ ป็น เหลย่ ถิงชโี้ ม่วต้าเจยี งจวนิ 雷霆驅魔大將軍 และตอ่
มาไดม้ ีการน�ำ รปู ทา่ นมากราบไหวบ้ ูชาและยกยอ่ งทา่ นเป็น เหล่ยฝเู ช่ียน
ส้ยุ (.雷府千歲) ลกั ษณะหนา้ ตาองศท์ า่ นจะดดุ นั ผวิ สีเข้ม บางองศ์
หน้าตาจะมรี อยทีโ่ ดนยิงดว้ ยธนู และบางองศจ์ ะมีการทาสหี นา้ ท่านเป็นสี
เขยี ว ซึง่ อาจจะมบี างคนเข้าใจผดิ คิดวา่ ท่านเป็นองศเ์ ดียวกนั กับ องศ์เหล่
ยเสิน (เทพอสนุ )ี

นอกจากเรยี กทา่ นว่า เหลย่ ฝูเชียนส่ยุ แลว้ ยังสามารถเรยี ก
ชอ่ื ทา่ นไดอ้ ีกดงั น้ี เหล่ยหวงั แหย 雷王爺 หรือ ลหี้ วังแหย 厲王爺
หรอื ตา้ เจียงแหย 大將爺 หรือ ตา้ จ้งแหย 大眾爺

89

องค์ที่ 13

1. ชื่อภาษาไทย ฮง หู้ ออ๋ ง เอี๋ย

2. ชอ่ื ภาษาจนี 封府王爺

3. ชื่อภาษาอังกฤษ fēng fǔ wáng yé

4. ปางองค์พระ

องคพ์ ระชาย

องค์พระหญิง

5. สถานภาพ

5.1 เทพเจา้ ฝา่ ยบู๊

5.2 เทพเจา้ ฝ่ายบ๋นุ

นักบวช/โพธิสัตย์

ชนชัน้ ปกครอง (กษัตริย์)

ชนชน้ั นักรบ (แมท่ ัพหรือทหาร)

ชนชัน้ สามญั ชน

สัตว/์ พาหนะ อืน่ ๆ................

6. วตั ถทุ สี่ ร้างองค์พระ รูป ดา้ นขา้ งซ้าย ดา้ นขา้ งขวา ด้านหน้า ด้านหลัง ด้านบน ด้านลา่ ง และลกั ษณะพเิ ศษหรอื ตำ�หน)ิ

ไม้ ประวัติความเป็นมา

เซรามคิ ท่านเป็นวีรบุรุษในยุคของกษัตริย์หวู่แห่งราชวงศ์โจว
ด้วยความชว่ ยเหลือของกษตั รยิ ห์ ว่เู คอ่ หยิน ท่านจงึ สามารถ
7. แหล่งทมี่ าขององค์พระ เอาชนะกษตั รยิ ห์ ยินโจวได้ ภายหลงั ไดถ้ ูกแตง่ ตัง้ เปน็ 代天巡狩
之千歲 ทำ�หน้าที่ลาดตระเวนไปทว่ั โลก เฝา้ ติดตามคนท�ำ ความดี
สอบถามจาก และความช่วั

1. คณุ นิรมิต ช่างเหล็ก (ประธานศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้ เชงิ มีใบหนา้ สดี ำ� มกี ารวาดลายบนใบหนา้ มีเคราสีด�ำ สวม
หมวกจอมพล สวมชุดมังกรสีแดง
ทะเล)

2. คุณประสทิ ธ์ิ ช่างเหล็ก (อาจารย์ผู้เชยี่ วชาญภาษาจีน

และวัฒนธรรมจีน เชงิ ทะเล)

3. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพิธีกรรม)

8. หลกั คณุ ธรรม -

9. อทิ ธฤิ ทธ ิ์ -

10.ผู้ใหข้ ้อมูล

สอบถามจาก

1. คณุ นิรมิต ช่างเหลก็ (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้

เชิงทะเล)

2. คณุ ประสิทธิ์ ช่างเหล็ก (อาจารยผ์ ้เู ชย่ี วชาญภาษาจีน

และ วฒั นธรรมจีน เชงิ ทะเล)

3. คุณอฐั พร พรหมมาศ (ฝ่ายพธิ ีกรรม)

11.วนั ท่เี กบ็ ขอ้ มูล 08/02/64

90

องค์ท่ี 14 ประวตั ิความเป็น กวนเส็งเตก้ นุ้ หรอื ที่เรารู้จกั ทา่ นในนาม กวนอู แห่งจก๊ ก๊ก
ชอ่ื จริงทา่ นคือ หนนุ ฉาง มาเจอเลา่ ป่ี เตียวหยุ จงึ ไดเ้ รมิ่ ต้นชวี ติ ใหมเ่ ปน็
รปู ด้านข้างซา้ ย ดา้ นขา้ งขวา ด้านหนา้ ด้านหลัง ด้านบน ด้านล่าง และลกั ษณะพิเศษหรือต�ำ หน)ิ ทหาร วรี กรรมเด่นๆของท่าน : ตดั หัวฮัวหยงทัพของตงั๋ โตะ๊ , จดั การงยั
เหลียงและบุนทวิ ทหารเอกของอ้วนเสี้ยว, บุกเดย่ี วจากฮโู ต๋หกั ดา่ นฆ่าขนุ
1. ช่ือภาษาไทย กวนเสง็ เต้กุน้ ผลหลายนายเพื่อไปหาเล่าป,ี่ ยอมท�ำ ผิดวินัยทหารปลอ่ ยโจโฉกลบั ฮู๋โต๋
2. ชือ่ ภาษาจีน 關聖帝君 เพ่ือแทนคณุ ท่โี จโฉเคยไวช้ ีวติ แมต้ ัวเองต้องกลบั ไปโดนโทษประหาร จาก
3. ชือ่ ภาษาองั กฤษ guān shèngdì jūn ศึกเซก็ เผ็ก (ยทุ ธการผาแดง), ชว่ ยเล่าปคี รองเมอื งเก็งจ๋วิ ทำ�ให้ไดข้ ุน
4. ปางองค์พระ พลเอกฮฮงตง, ข้ึนเรือไปกับจิวฉอ้ งสองคนข้ามฝากไปกนิ เล้ียงงานท่ีกัง
องค์พระชาย ต๋งั (โลซกวางอบุ ายบงั คบั คืนเกงจว๋ิ ) แตไ่ ม่กลวั เลย, ให้หมอฮวั โต๋ผ่าเอา
องคพ์ ระหญิง พิษออกจากกระดกู ด�ำ โดยไมต่ อ้ งวางยาสลบ แถมยังน่ังเล่นหมากลอ้ ม
5. สถานภาพ กบั ม้าเลย้ี ง, วางแผนใช้น้ำ�ปราบทพั เบ้งตดั ช่วงทา้ ยชีวิตประมาทไม่เชอ่ื คำ�
5.1 เทพเจา้ ฝ่ายบู๊ เตือนขงเบ้งบกุ ข้ึนเหนือแล้วไม่ไมตรีต่องอ่ กก๊ เลยโดนแอบยดึ เมอื งเกง
5.2 เทพเจา้ ฝา่ ยบนุ๋ จิ๋วโดยฝนของลกซุนและลิบอง แค้นใจนำ�ทัพไปชิงเมอื งคืนแต่โดนตดั ทาง
นกั บวช/โพธสิ ตั ย์ หนโี ดนจเู กยี นและพัวเจย้ี งขดุ หลุมพลางดักไว้ ถูกจับไดพ้ ร้อมกวนเปง๋ และ
ชนชัน้ ปกครอง (กษตั ริย)์ ม้าเซก็ เทา และถูกประหารเพราะไมย่ อมเข้าร่วมซนุ กวน (ตอ่ มาม้าเซ็กเทาก็
ไมย่ อมกนิ อาหารและตายตามไปเชน่ กัน) รวมอายุได้ 58ปี เปน็ จุดเร่ิมต้น
แหง่ การตกต�่ำ ของจ๊กก๊ก หลงั จากนนั้ เลา่ ปี่ สถาปณาตวั เองเป็นฮ่องเต้
และต้ังกวนอู เตียวหุยเปน็ อ๋อง และกรฑี าทพั นับล้านไปล้างแคน้ ซนุ กวนให้
กวนอู กอ่ นเคลื่อนทัพเตียวหยุ โดนแอบลอบตดั หวั ไปใหซ้ ุนกวนอีกราย
หลังจากเล่าปียกทัพไปไดช้ ยั ไปกว่าครึง่ สุดท้าย ประมาทตงั้ ทพั องิ ปา่ โดน
ขนุ พลหนุ่มลกซนุ เผาทพั วอดไม่เหลอื เลา่ ปีเสียใจและอายมากไมก่ ล้ากลบั
เสฉวน และตรอมใจตายคาท่ี ตอ่ มาภายหลังในสามกก๊ เลา่ วา่ วิญญาณ
กวนอไู ปร้องขอความเปน็ ธรรมจากหลวงจนี เภาเจง๋ เรือ่ งโดนฆา่ แต่
หลวงจนี ทา่ นกลบั เทศนาเร่อื ง กงเกวยี นกงกรรม ท่านฆ่าคนอน่ื คนอนื่ ก็
ฆา่ ท่าน วญิ ญาณทา่ นกวนอูเลย เข้าใจในพระธรรม ทำ�ให้ในทางพทุ ธทา่ น
ไดช้ ื่อว่า “แคนำ�ผสู่ ัก” แปลว่าผูพ้ ิทักษธ์ รรม อยดู่ ้านซ้ายมือคู่กับ “อ่ยุ ทอ้
ผ่สู ัก”

ชนช้ันนักรบ (แม่ทพั หรือทหาร)
ชนชน้ั สามญั ชน
สตั ว/์ พาหนะ อืน่ ๆ................
6. วัตถุท่ีสรา้ งองคพ์ ระ
ไม้
เซรามิค
7. แหลง่ ทมี่ าขององคพ์ ระ
ศาลเจา้ ส่ามอ่องหู้ เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภเู ก็ต
ค้นคว้าข้อมูลเพม่ิ เติมจากเพจ กมิ ซนิ้ - 金身 และประวัติ
8. หลักคุณธรรม
ท่านกวนอูเป็นท่ียอมรบั ว่ามคี วามเชีย่ วชาญและเกง่ กาจ
วทิ ยายุทธ์ จงรักภักดี กตญั ญูรคู้ ุณ มีคุณธรรมและซ่อื สัตยเ์ ป็นเลิศ
ทส่ี ดุ คนหนึ่งในประวัติศาสตร์จนี ได้รบั ยกยอ่ งเปน็ ทง้ั เทพบ๊แู ละบ๋นุ เชน่
เดียวกับแมท่ ัพงักฮุย แต่ภายหลังราชวงศห์ มงิ มาตัง้ ให้ทา่ นกวนอูเป็น
เทพแหง่ ความซอื้ สัตย์แบบเตม็ ตวั เพราะท่านงักฮยุ มชี อ่ื เสยี งในการ
ขบั ไล่พวกชนเผ่าท่ีไม่ใชฮ่ ั่น
9. อทิ ธิฤทธิ์ -
10. ผู้ใหข้ อ้ มลู
ศาลเจา้ ส่ามออ่ งหู้ เชงิ ทะเล อ.ถลาง จ.ภเู ก็ต
คน้ คว้าขอ้ มลู เพมิ่ เตมิ จากเพจ กมิ ซิน้ - 金身 และประวตั ิ
11. วันทเ่ี ก็บขอ้ มูล 08/02/64

91

องคท์ ่ี 15

1.ชื่อภาษาไทย (จ้อเซยี น) โคยแซ้ปักเต้า

2.ชอ่ื ภาษาจีน 魁斗星君, 魁星北斗

3.ช่ือภาษาองั กฤษ Kuí dǒu xīng jūn , Kuíxīng běidǒu

4.ปางองค์พระ

องค์พระชาย

องค์พระหญิง

5.สถานภาพ

รปู ด้านขา้ งซา้ ย ดา้ นข้างขวา ด้านหนา้ ดา้ นหลงั ด้านบน ดา้ นล่าง และลกั ษณะพเิ ศษหรือตำ�หนิ) 5.1 เทพเจ้าฝ่ายบู๊

ประวตั ิความเป็น 5.2 เทพเจ้าฝา่ ยบนุ๋

魁星北斗 นกั บวช/โพธิสัตย์

ทา่ นเป็นเทพเจ้าทไ่ี ด้รบั ความเคารพและนบั ถอื ด้านการ ชนช้นั ปกครอง (กษัตริย)์
สอบ การเล่าเรียน รูปลักษณ์ ของทา่ นจะแสดงในท่ายืน อยบู่ นศรษี ะ
ของปลามงั กร ดว้ ยเท้าเดยี ว อกี เท้ายกไวข้ ้างหลัง ในมอื ขวาของ ชนชั้นนักรบ (แม่ทพั หรือทหาร)
ทา่ นถอื พ่กู ัน เพ่ือใช้ในการจดบันทกึ ผู้ที่สำ�เร็จในการสอบ จอหงวน
มือซ้ายถอื โต่ว (เครอ่ื งมอื วัดชนดิ หนงึ่ ) ใบหน้าของท่านคลา้ ยปีศาจ ชนชัน้ สามัญชน
นา่ กลวั ยง่ิ นัก อกี ท้งั ยังมรี า่ งกายท่ีแข็งแรง บึกบนึ
สตั ว/์ พาหนะ อื่นๆ................
ท่านมีดาวประจ�ำ ตวั คอื ส่วนหน่ึงของดาวเหนือ (4ดวง
แรก)รปู ทรง คลา้ ยภาชนะสมยั โบราณ ทีม่ ไี ว้สำ�หรับตวงขา้ ว(ไมม่ ดี ้าม 6.วตั ถุท่ีสร้างองคพ์ ระ
จบั บางทีมีหหู ิว้ และ คลา้ ยจอกเหลา้ จีน)ซึง่ คอื โตว่
ไม้
มตี ำ�นานเล่าวา่ มีนักศกึ ษาผหู้ นึง่ ท่ีมคี วามชำ�นาน ในด้าน
อกั ษรศาสตร์ แต่เขามีใบหน้าท่ี พิกลพิการ เขาไดส้ อบผ่านจอหงวน เซรามคิ
ของเมอื งหลวง ตามธรรมเนยี มนน้ั จักรพรรดิ จะตอ้ งเปน็ ผู้ประทาน
กหุ ลาบทองคำ�โดยพระหัตถ์ ของพระองค์เอง ผ้สู อบผา่ นรายนี่ มีช่ือ 7.แหล่งที่มาขององค์พระ
ว่า ชุงขยุ แต่เม่ือ จกั รพรรดิ ได้เหน็ หนา้ ตา ทห่ี น้ารงั เกียจของเขา
จงึ ปฏิเสธทจ่ี ะพระราชทานกุหลาบทองคำ�ใหแ้ กเ่ ขา จึงท�ำ ใหเ้ กดิ ความ สอบถามจาก
ส้ินหวงั เขาจึงไปท่ทึ ะเล เพือ่ หวงั กระโดดเพอ่ื ปลดิ ชีพตวั เอง แต่ทนั ใด
นั้น ขณะที่เขา ก�ำ ลงั จะตาย ไดม้ ีสัตว์ทะเลโบราณ ได้ชว่ ยนำ�เขาขนึ้ มา สอบถามจาก
บนผวิ น�ำ้ และน�ำ เขา ลอยขน้ึ สู่สวรรค์ ทง้ั น้ี เนอื่ งจากเงก็ เซียนฮอ่ งเต้
ไดเ้ ห็นใจ จงึ แต่งตงั้ ชุงขุย ใหเ้ ป็นเทพขยุ ซงิ เชอ่ื วา่ อยบู่ นดาวขยุ ซิง 1. คณุ นริ มิต ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจ้าสา่ มออ๋ งหู้ เชงิ ทะเล)

สตั ว์ในต�ำ นาน เรยี กว่า อ๋าว วา่ กนั ว่า หัวเปน็ มังกร ตัว 2. คณุ ประสทิ ธิ์ ชา่ งเหล็ก (อาจารย์ผเู้ ชยี่ วชาญภาษาจีน และ
เปน็ เต่า บา้ ง หัวเปน็ มังกร ตัวเปน็ ปลาบ้าง หรือ บางตำ�นาน ตัวเป็น
เตา่ หางเป็นปลา ซ่ึงต้ังแตส่ มัยราชวงศ์ ถงั มา ผู้ท่สี อบไดต้ ำ�แหน่ง วฒั นธรรมจนี เชิงทะเล)
จอหงวน จะไดร้ ับอนุญาตกา้ วขา ขนึ้ บนหิน สลักรูปตัว อ๋าว เพื่อ
เขา้ รบั ตำ�แหนง่ จอหงวน 3. คุณอฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)

ในไมช่ ้าขุยซงิ กไ็ ดร้ ับความเคารพ นับถือ ว่าเป็น เทพเจา้ 10.หลักคณุ ธรรม -
แห่งอกั ษรศาสตร์ หรอื เทพเจา้ ผู้อุปถัมภ์การศกึ ษา และ ไดร้ บั การ
เคารพบูชาเป็นอยา่ งมาก จากบรรดานักศึกษา 11.อทิ ธิฤทธิ ์ -

12.ผู้ให้ข้อมลู

สอบถามจาก

สอบถามจาก

1. คุณนริ มิต ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้ เชิงทะเล)

2. คุณประสทิ ธิ์ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผูเ้ ชย่ี วชาญภาษาจีน และ

วฒั นธรรมจีน เชิงทะเล)

3. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)

11.วนั ที่เก็บขอ้ มลู 08/02/64

92

องค์ท่ี 16

1.ชือ่ ภาษาไทย ฉนิ หู้อ๋องเอี๋ย

2.ช่อื ภาษาจนี 秦府王爺

3.ชื่อพินอนิ Qín fǔ wángyé

4.ปางองค์พระ

องคพ์ ระชาย องค์พระหญิง

5.สถานภาพ รปู ด้านข้างซา้ ย ด้านข้างขวา ด้านหนา้ ด้านหลัง ด้านบน ดา้ นล่าง และลกั ษณะพเิ ศษหรือตำ�หนิ)

5.1 เทพเจา้ ฝา่ ยบู๊ ประวัตคิ วามเป็นมา

5.2 เทพเจา้ ฝ่ายบุ๋น มีเร่อื งเล่ากันว่า องค์พระฉินหู้อ๋องเอ๋ยี ชือ่ เดมิ 秦天祿
ฉนิ เทยี นลกเปน็ ลูกน้องของนายพล ซูหยงเซงิ มชี าวบา้ นเมืองไทห่ ยวน
นกั บวช/โพธสิ ตั ย์ มณฑลซานซี ชือ่ เว่ยเต๋อ สมัยราชวงศถ์ ังได้ตดิ ตาม ช่วยเหลือ นายพล
ซูหยงเซงิ ในการพัฒนาเมอื งจินเหมนิ ในตอนแรกบ้านเมอื งโดนโจรปล้น
ชนชั้นปกครอง (กษัตรยิ ์,เจา้ เมอื ง,ขุนนาง) ครง้ั แลว้ ครัง้ เลา่ แต่ดว้ ยความกลา้ หาญของ ฉินเทยี นลก บ้านเมืองได้
อยรู่ อดปลอดภยั เน่อื งจากได้รับความช่วยเหลือจาก นายพลซหู ยงเซงิ
ชนชั้นนักรบ (แม่ทพั หรอื ทหาร) และ การท�ำ งานอย่างขยันขนั แขง็ และรกั ประชาชน ตอ่ มาได้รบั การเลือ่ น
ยศพรอ้ มกับนายพลซหู ยงเซิง หลงั จากที่ ฉนิ เทยี นลกเสยี ชีวติ ชาวบา้ น
ชนช้ันสามัญชน ในจนิ เหมนิ รู้สึกซาบซ้ึงในคณุ งามความดขี องทา่ น

สัตว์/พาหนะ อ่นื ๆ................ จึงได้กอ่ ตงั้ ศาลเจา้ ร่วมกบั นายพลซหู ยงเซิง เพอ่ื ระลึกถึงคณุ
งามความดีของท่าน
6. วตั ถุท่สี รา้ งองค์พระ

ไม้ เซรามิค

7.แหลง่ ทม่ี าขององค์พระ

สอบถามจาก

1. คณุ นิรมติ ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้

เชิงทะเล)

2. คณุ ประสทิ ธ์ิ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผ้เู ช่ยี วชาญภาษาจนี

และ วฒั นธรรมจนี เชงิ ทะเล)

3. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝ่ายพธิ กี รรม)

8.หลกั คณุ ธรรม -

9.อิทธฤิ ทธ ์ิ -

10.ผู้ใหข้ ้อมูล

สอบถามจาก

1. คุณนริ มติ ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้

เชิงทะเล)

2. คุณประสทิ ธิ์ ช่างเหลก็ (อาจารย์ผู้เช่ียวชาญภาษาจีน

และ วัฒนธรรมจนี เชงิ ทะเล)

3. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ยพิธีกรรม)

11.วนั ที่เก็บข้อมูล 08/02/64

93

องคท์ ่ี 17

1.ชื่อภาษาไทย เปาหู้ออ๋ งเอยี๋

2.ชอื่ ภาษาจีน 包府王爺

3.ชอ่ื พินอนิ bāo fǔ wángyé

4.ปางองคพ์ ระ

องค์พระชาย

องค์พระหญิง

5.สถานภาพ

5.1 เทพเจ้าฝ่ายบู๊

5.2 เทพเจา้ ฝา่ ยบุน๋

นักบวช/โพธสิ ัตย์

ชนชั้นปกครอง (กษัตรยิ ์,เจา้ เมือง,ขนุ นาง)

ชนชน้ั นกั รบ (แม่ทพั หรือทหาร)

ชนชัน้ สามัญชน

สตั ว/์ พาหนะ อ่ืนๆ................

6. วตั ถุท่ีสร้างองคพ์ ระ รูป ด้านขา้ งซ้าย ด้านข้างขวา ดา้ นหน้า ดา้ นหลัง ดา้ นบน ด้านลา่ ง และลักษณะพเิ ศษหรอื ตำ�หน)ิ

ไม้ เซรามคิ ชีวติ ราชการเรมิ่ แรกเขาไดป้ กครองอ�ำ เภอเทียนฉัง่ มณฑล
อนั ฮยุ ต่อมา ในขณะที่ย้ายไปปกครองอำ�เภอตวนโจว อยู่ในมณฑล
7.แหล่งที่มาขององคพ์ ระ กวางต้งุ ปจั จบุ ัน ซ่ึงเปน็ แหล่งขึน้ ช่อื ด้านผลติ จานฝนหมกึ เปาบุ้นจิ้น
ตรวจสอบพบว่า ผ้ปู กครองคนก่อน ๆ มกั ขูดรีดจานฝนหมึกจ�ำ นวน
ศาลเจ้าส่ามอ่องหู้ เชงิ ทะเล อ.ถลาง จ.ภเู กต็ มากจากราษฎร เมื่อท�ำ ราชการอยูท่ อ่ี ำ�เภอน้ี เปาบนุ้ จิ้น จึงใชจ้ านฝน
หมกึ เพยี งอันเดียว โดยกล่าววา่ ความจำ�เป็นมเี ทา่ น้ัน ครน้ั ตอ้ งยา้ ย
8.หลักคณุ ธรรม กตญั ญู ซื่อตรง ไปทอ้ งที่อ่นื ประชาชนรักใครก่ ็นำ�จานฝนหมึกมามอบใหเ้ ปน็ ของขวัญ
มากมาย เปาบ้นุ จิน้ ไม่รบั ไวเ้ ลย และโยนจานฝนหมกึ ที่ใชป้ ระจำ�อยูน่ นั้ ทง้ิ
9.อิทธฤิ ทธิ ์ - ลงส่แู ม่น�้ำ กวางต้งุ

10.ผู้ใหข้ อ้ มูล พงศาวดารยงั วา่ ใน ค.ศ. 1057 เปาบ้นุ จนิ้ ไดเ้ ป็นเจา้ เมือง
เปยี นเหลยี ง ซึง่ เปน็ เมอื งหลวงในครง้ั น้ัน หรือปัจจบุ นั เรยี ก เมืองไคฟง
ศาลเจา้ ส่ามอ่องหู้ เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภเู ก็ต ด้วย เปาบนุ้ จ้ิน ปกครองเมอื งไคฟงไม่ถึงหนง่ึ ปี แต่ไดป้ ฏิรูประบบราชการ
หลายประการ เชน่ เปดิ ให้ประชาชนเข้ารอ้ งทกุ ข์ตอ่ ผบู้ ริหารเมอื งได้
11.วนั ทเี่ กบ็ ข้อมลู 08/02/64 โดยตรง จากเดมิ ท่ีตอ้ งผ่านปลัดเมอื งซง่ึ มกั เรยี กสินบน และเปน็ ใจใหแ้ ก่
ผ้มู อี ทิ ธพิ ล ก่อใหเ้ กดิ การฉอ้ ฉลนานัปการ การปฏิรูปดงั กล่าวสร้าง
ประวัตคิ วามเป็นมา ช่ือเสยี งใหแ้ ก่เขาเป็นอันมาก สญั กรรม เปาบุน้ จน้ิ ถงึ แก่อสัญกรรมท่ี
เมอื งหลวงเมอื่ ค.ศ. 1062 พระเจ้าเหรนิ จงทรงรับศพเขาไว้ในพระราชา
เปาฮู้ออ่ งเอี๋ย 包府王爺 นเุ คราะห์ และพระราชทานสมัญญาแกเ่ ขาว่า “เสย้ี วส”ู้ (孝肅) แปลวา่
เปาฮูเ้ ชีย่ นโสย้ (包府千歲) บางต�ำ นานวา่ ท่านเป็นอว กตัญญปู ชู นีย์
ตานของ เงีย่ มหล่อเทยี นจู้ (閰羅天子) หรอื เงี่ยมลอ่ อ๋อง (閰羅
王) เจ้านรกขมุ ท่ี5 นามเดมิ ของทา่ น คือ เปาบ้นุ จิน้ (包文拯) ตามส�ำ ก่อนตาย เปาบุน้ จน้ิ ส่ังเสยี ไวด้ ้วยว่า “ลกู หลานเราคนใดเป็น
เนยี งฮกเก่ียน เปน็ ขา้ ราชการชาวจีนซ่ึงมีชวี ิตอยู่ในสมยั ราชวงศซ์ ง่ เหนือ ขา้ ราชการแล้วกินสินบาตรคาดสนิ บน ห้ามกลบั คนื มายังบา้ นเราและห้าม
ในรัชกาลพระเจ้าเหรนิ จง ด�ำ รงต�ำ แหนง่ หลายหลากในราชการพลเรือน เผาผีรว่ มสกุลกนั อีก ใครไม่นบั ถือคุณงามความดอี ยา่ งเรา เราไม่นบั เปน็
ตั้งแต่นายอำ�เภอ เจ้าเมอื ง ขนุ นางทดั ทาน ไปจนถึงเสนาบดีกระทรวงพระ ลูกเป็นหลาน
คลงั มหาสมบัติ (รฐั มนตรีว่าการกระทรวงการคลงั ) ในประวัตศิ าสตร์ คุณงามความดขี องท่านไดท้ ราบถึงสวรรค์ หยกอ๋องซง่ เตจ่ งึ เเต่งต้งั ให้
กอ่ นรบั ราชการ พงศาวดารซ่งว่า เปาบุ้นจน้ิ เกดิ ในครอบครวั นัก ท่านเป็นเทพเจ้าต�ำ เเหน่งผูต้ รวจการเเทนฟา้ ไต่เทยี นซุ้นซ้วิ (代天巡
วชิ าการ ณ เมืองหลูโจว หรือปจั จบุ นั เปลย่ี นชื่อเป็นเมืองเหอเฝย์ อยู่ 狩) นาม เปาฮู้เชยี่ นโส่ย (包府千歲)
ในมณฑลอันฮยุ ครอบครวั เปาบุน้ จน้ิ น้ันมีฐานะปานกลาง บดิ ามารดา
สามารถส่งเสียใหเ้ ขาร่ำ�เรียนได้ตลอดรอดฝง่ั แตก่ อ่ นจะใหก้ �ำ เนดิ เขาน้นั
มารดาต้องข้ึนเขาลงห้วยไปหาของป่าและฟืนมาขายเพ่ือเก็บหอมรอมริบ
ไวส้ �ำ หรับวนั ข้างหนา้ อยพู่ กั ใหญ่ เปาบนุ้ จ้ิน เติบโตขึ้นในทา่ มกลางสังคม
ชน้ั ลา่ งซ่งึ เป็นพลเมอื งหลักของประเทศ จงึ รับรูแ้ ละเข้าใจปญั หาของคน
ชนั้ ลา่ งเป็นอยา่ งดี

94

องคท์ ่ี 18

1. ชอ่ื ภาษาไทย กวนเส้งเตก้ ุน
2. ช่ือภาษาจนี 關聖帝君
3. ชอ่ื ภาษาอังกฤษ guān shèngdì jūn
4. ปางองคพ์ ระ

องค์พระชาย
องค์พระหญิง
5. สถานภาพ
5.1 เทพเจา้ ฝา่ ยบู๊
5.2 เทพเจา้ ฝา่ ยบุ๋น
นกั บวช/โพธสิ ัตย์
ชนช้ันปกครอง (กษตั รยิ )์
ชนชัน้ นกั รบ (แม่ทัพหรอื ทหาร)
ชนช้นั สามัญชน
สัตว/์ พาหนะ อนื่ ๆ................

รูป ดา้ นข้างซ้าย ด้านขา้ งขวา ดา้ นหน้า ดา้ นหลงั ดา้ นบน ดา้ นล่าง และลกั ษณะพิเศษหรือต�ำ หนิ) 6. วัตถุที่สรา้ งองค์พระ

ประวตั คิ วามเปน็ มา ไม้

เหล็งฮอู้ ๋องเอยี๋ เซรามิค
龍府千歲 เหล็งฮู้เชียนโสย่ นามเดิมของทา่ นชอ่ื เหล็งส่วนเหอ
เปน็ ชาว ซุนเตก็ มณฑลกวางตุ้ง ในสมยั ราชวงค์หมงิ ภายใตก้ ารปกครองของ 7. แหล่งทีม่ าขององคพ์ ระ
จกั รพรรดิเจง้ เตก็ (เจ้ิงเตอ๋ 1505 – 1521) ไดร้ ับหนา้ ที่ปกครองเมอื งจ่นิ กัง้ (จ่ิน
เจียง อยู่ในมณฑลฮกเก้ียน) มคี วามสามารถในการปกครอง ชาวเมอื งตา่ ง ศาลเจ้าสา่ มอ่องหู้ เชงิ ทะเล อ.ถลาง จ.ภูเก็ต
นบั ถอื เหมือนญาติผู้ใหญ่ นกั โทษตา่ งเคารพและย�ำ เกรงดุจเทพเจา้ จึงไดร้ ับ
ฉายาว่า เหลงอ๋อง (龍王) หรอื ราชามงั กร เม่ือท่านเหล็งส่วนเหอสนิ้ อายุ 8. หลกั คณุ ธรรม
ขัย ชาวเมืองต่างร�ำ ลึกถึงคณุ งามความดีและยกย่องให้เปน็ ดง่ั เทพเจา้ กราบไหว้
บูชา คณุ งามความดขี องทา่ นได้ทราบถึงสวรรค์ หยกอ๋องซง่ เตจ่ งึ เเต่งตง้ั ให้ทา่ น จงรักภกั ดี กตญั ญูร้คู ุณ มคี ุณธรรมและซื่อสตั ยเ์ ปน็
เป็นเทพเจา้ ตำ�เเหนง่ ผู้ตรวจการเเทนฟา้ ไตเ่ ทียนซุ้นซิ้ว (代天巡狩) นาม เห
ลง็ ฮเู้ ช่ยี นโส่ย (龍府千歲) เลศิ
วันเสง้ ต๋านคอื วนั ท่ี5เดือน5ตามปฏทิ ินจันทรคติจีน.
9. อิทธิฤทธ ์ิ -

10. ผู้ใหข้ ้อมลู

ศาลเจ้าสา่ มอ่องหู้ เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภเู ก็ต

11. วันท่ีเก็บขอ้ มูล 08/02/64

95

องค์ท่ี 19

1. ช่อื ภาษาไทย หงอฮอู้ อ๋ งเอย๋ี

2. ช่ือภาษาจนี 吳府王爺

3. ชื่อภาษาองั กฤษ wú fǔ wáng yé

4. ปางองคพ์ ระ

องคพ์ ระชาย

องคพ์ ระหญิง

5. สถานภาพ

5.1 เทพเจ้าฝ่ายบู๊

5.2 เทพเจา้ ฝ่ายบุ๋น

นักบวช/โพธสิ ตั ย์

ชนชั้นปกครอง (กษตั รยิ )์

ชนชั้นนกั รบ (แม่ทัพหรอื ทหาร)

ชนชั้นสามญั ชน

สตั ว์/พาหนะ อนื่ ๆ................

6. วัตถทุ ส่ี รา้ งองคพ์ ระ

ไม้

เซรามคิ

7. แหลง่ ท่มี าขององค์พระ

สอบถามจาก

1. คณุ นิรมิต ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจา้ ส่ามออ๋ งหู้

เชิงทะเล) รปู ดา้ นขา้ งซ้าย ด้านขา้ งขวา ดา้ นหน้า ด้านหลัง ดา้ นบน ด้านล่าง และลกั ษณะพเิ ศษหรอื ตำ�หน)ิ

2. คณุ ประสทิ ธ ิ์ ช่างเหลก็ (อาจารยผ์ ูเ้ ช่ียวชาญภาษาจีน

และ วฒั นธรรมจนี เชงิ ทะเล) ประวัตคิ วามเป็นมา

3. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)

8. หลักคณุ ธรรม ความกล้าหาญ หงอฮู้อ่องเอ๋ยี

9. อทิ ธฤิ ทธิ์ - มนี ามเดิมวา่ หงอเส้ยี วควาน (吳孝寬) รูปลักษณ์

10.ผู้ให้ข้อมลู ของทา่ นดสู ง่างาม หนา้ ตาเกล้ยี งเกลา ไมม่ หี นวดเคลา ท่านเป็น

สอบถามจาก ชาวกังโซวหงอเชยี น (江蘇吳縣) ได้ศกึ ษาศาสตร์ ฮวงจุย้

1. คุณนิรมิต ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจา้ ส่ามอ๋องหู้ อย่างแตกฉาน สามารถสังเกตดวงดาวเมือ่ ออกรบได้อย่าง

เชิงทะเล) แมน่ ย�ำ เนอ่ื งจากชว่ ยจกั รพรรดถิ งั บกุ เบกิ ประเทศและ สามารถ

2. คุณประสิทธิ์ ชา่ งเหล็ก (อาจารยผ์ ู้เชี่ยวชาญภาษาจีน สอบแขง่ ขันข้อสอบหลวงระดับสูงไดเ้ ปน็ ผ้สู ำ�เร็จราชการ จึงได้รบั

และ วฒั นธรรมจีน เชิงทะเล) ราชการโดยมหี น้าท่เี ป็นผวู้ า่ การรฐั และเป็นท่ปี รึกษาระดับสงู ของ

3. คุณอฐั พร พรหมมาศ (ฝ่ายพธิ กี รรม) องคจ์ ักรพรรดถิ ังในการสอนประชาชนทำ�เขื่อนก้นั น�ำ้ สร้างทำ�นบ

11.วนั ท่เี กบ็ ขอ้ มลู 08/02/64 เพอ่ื แกป้ ัญหายามเกิดภยั แลง้ เปน็ ผ้นู �ำ ทางและให้ค�ำ แนะนำ�เร่อื งพ้นื ท่ี

จัดสรรน�ำ้ แกช่ าวบา้ น โดยไม่ยอ่ ท้อตอ่ ความเหน่ือยยาก

เมอื่ ส้ินอายขุ ัย ได้กลายเป็นเทพ และเน่ืองจากความดี

ของทา่ นไดท้ ราบถึงองคห์ ยกอ๋องซ่งเต่ พระองคจ์ ึงทรงโปรดเกลา้

แต่งตั้งให้มีหน้าที่เป็นตัวแทนสวรรค์คอยตรวจตราพิทักษ์ปกป้อง

โลก หรือ โถ่ยเทียงซงุ้ ซ่วิ (代天巡狩) ในนาม หงอฮ้เู ชยี่ นโสย่

(吳府千歲) นอกจากนี้ผูค้ นต่างกราบไหวแ้ ละยงั นับถอื ใหเ้ ป็น

เทพแหง่ ความกล้าหาญ

องค์ท่ี 20 96

1. ชือ่ ภาษาไทย เอ๊ยี บห้อู ๋องเอย๋ี รูป ดา้ นข้างซา้ ย ด้านขา้ งขวา ดา้ นหน้า ด้านหลัง ดา้ นบน ด้านล่าง และลกั ษณะพเิ ศษหรือตำ�หน)ิ

2. ชอ่ื ภาษาจีน 葉府王爺 ประวัตคิ วามเปน็ มา

3. ชอ่ื ภาษาอังกฤษ Yè fǔ wángyé พระเอยี๊ บหูอ้ ๋องเอี๋ย มีชื่อเรยี กอกี อยา่ งว่า เอี๊ยบหู้
เฉีย่ นโสย่ ได้รบั พระบัญชา ใหต้ ระเวนและดูแลทว่ั โลก 巡狩人間
4. ปางองคพ์ ระ เป็นเทพเจ้าแหง่ ความโชคดี และการปราบการผดิ ประเวณี

องคพ์ ระชาย ตามหนังสือเก่า : เอ๊ียบออ๋ ง มชี ือ่ เดิมว่า เอ๊ียบเฉง้ เกิด
และอาศัยอยู่ในจกั วรรดิ เกาสวง
องคพ์ ระหญิง
แหง่ ราชวงศ์ ถงั – ปีกงหงวน คริสตศ์ ักราช 668-670
5. สถานภาพ ไดร้ ับการแตง่ ตง้ั ให้เป็นนายพล ในเมอื งเจียงจิว
มกี ารสร้างรากฐานบ้านเมือง จนถงึ ราชวงศ์ซ่ง
5.1 เทพเจ้าฝ่ายบู๊ คอยดแู ล ลูกหลานทีอ่ าศัยอยู่ในเมอื งเจยี งหงวน

5.2 เทพเจา้ ฝา่ ยบุ๋น

นกั บวช/โพธิสตั ย์

ชนชน้ั ปกครอง (กษัตรยิ )์

ชนชัน้ นักรบ (แมท่ พั หรอื ทหาร)

ชนช้นั สามัญชน

สัตว/์ พาหนะ อนื่ ๆ................

6. วตั ถทุ ี่สรา้ งองค์พระ

ไม้

เซรามคิ

7. แหลง่ ทม่ี าขององค์พระ

ศาลเจา้ ส่ามอ่องหู้ เชิงทะเล อ.ถลาง จ.ภเู ก็ต

8. หลกั คุณธรรม ความกลา้ หาญ และความมีเมตตา

9. อิทธิฤทธ์ ิ -

10.ผู้ใหข้ อ้ มูล

คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝ่ายพิธีกรรม)

ศาลเจา้ ส่ามอ่องหู้ เชงิ ทะเล อ.ถลาง จ.ภูเกต็

11.วันท่ีเก็บข้อมูล 08/02/64


Click to View FlipBook Version