กมิ ซน้ิ เชิงทะเล : มรดกทางวฒั นธรรมชมุ ชน
คณะผจู้ ดั ทา ผชู้ ่วยศาสตราจารย์ทิพวรรณ ประยงคร์ ัตน์
นายราชรถ ปัญญาบญุ
นางสาวพรพมิ ล เตียมวัง คณะมนษุ ยศาสตรแ์ ละสังคมศาสตร์
โครงการสรา้ งมลู คา่ เพมิ่ ด้านศลิ ปวัฒนธรรม ภมู ิปัญญาท้องถิ่น และความเปน็ ไทย
เพอ่ื สรา้ งมลู ค่าเพมิ่ ทต่ี อบสนองการพฒั นาชมุ ชนทอ้ งถนิ่
กจิ กรรมท่ี 8 การอนรุ ักษ์งานประติมากรรมกมิ ซน้ิ เพื่อสง่ เสริมการทอ่ งเทยี่ วชุมชน
คำนำ
โครงการสร้างมูลค่าเพ่ิมด้านศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญาท้องถ่ิน และความเป็นไทยเพ่ือสร้างมูลค่าเพิ่ม
ท่ีตอบสนองการพัฒนาชุมชนท้องถิ่น ในกิจกรรมที่ 8 : การอนุรักษ์งานประติมากรรมกิมซ้ินเพ่ือส่งเสริมการ
ท่องเที่ยวชุมชน ถือเป็นกิจกรรมมุ่งส่งเสริมการอนุรักษ์ พัฒนา และเผยแพร่ คุณค่ามรดกทางวัฒนธรรมของ
ชุมชน ภายใต้การบรู ณาการกับกจิ กรรมการเรียนการสอนในรายวิชาอันดามันววิ รรธน์ และวิชาภูมิศาสตร์การ
ทอ่ งเทย่ี ว
ตาบลเชิงทะเล อาเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ถือเป็นหนึ่งในตาบลท่ีมีศาสนสถานเก่าแก่สาคัญท่ีเป็น
ศูนย์รวมจิตใจและเป็นที่เคารพเล่ือมใสศรัทธาของชาวไทยเช้ือสายจีนซ่ึงอาศัยอยู่ในจังหวัดภูเก็ตมาช้านาน
รวมไปถึงมีต้นตระกูลช่างแกะสลักกิมซิ้นภายในหมู่บ้านมาหลายรุ่น โดยมีศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้เชิงทะเลเป็นท่ี
ประดิษฐานของพระแกะสลักเกา่ แก่อายุกวา่ ร้อยปีหลายองค์ซึ่งถูกอัญเชิญมาจากเมอื งจีน และ กิมซ้ิน ที่ทาการ
แกะสลักจากปราชญ์ชุมชนมาเก็บรักษาไว้เป็นจานวนมาก จนมีช่ือเสียงในด้านความสวยงามและความ
ศักดิ์สิทธ์ิขององค์พระเป็นท่ีรู้จักและนิยมเดินทางมาเคารพสักการะ ท้ังนักท่องเท่ียวชาวไทยเชื้อสายจีนและ
ชาวตา่ งชาติ
มหาวิทยาลัยราชภัฏภูเก็ต นาโดยคณาจารย์ และนักศึกษา พร้อมทั้งความร่วมมือจากประชาชน
เทศบาลตาบลเชิงทะเล และศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้เชิงทะเล ต่างตระหนักเห็นถึงคุณค่าภูมิปัญญามรดกทาง
วัฒนธรรมของชุมชน จึงร่วมกันจัดทากิจกรรมการเก็บรวบรวมข้อมูลกิมซ้ินองค์พระจีน ณ ศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้
เชิงทะเล โดยมีวัตถุประสงค์ เพ่ือรวบรวม และตรวจสอบข้อมูลขององค์พระจีน อันจะนาไปสู่การพัฒนาเป็น
ฐานข้อมูลภูมิปัญญามรดกวัฒนธรรมของชุมชนและต่อยอดสร้างมูลค่าเพ่ิมด้านศิลปวัฒนธรรม ภูมิปัญญา
ทอ้ งถน่ิ และความเปน็ ไทยตอ่ ไป
คณะผจู้ ดั ทา
ก
สำรบญั หนำ้
เรอื่ ง
คานา…………………………………………………………………………………………………………………………... ก
สารบัญ…………………………………………………………………………………………………………………………... ข
กิมซน้ิ เชิงทะเล : มรดกทางวัฒนธรรมชมุ ชนเชงิ ทะเล................................................................... 1
องคท์ ่ี 1 จู ฮู้ ออ๋ ง เอี๋ย.................................................................................................................... 7
องค์ท่ี 2 เฮง หู้ อ๋อง เอย๋ี .................................................................................................................. 9
องคท์ ่ี 3 หลยุ หู้ อ๋อง เอย๋ี ................................................................................................................ 11
องค์ที่ 4 หลีหู้ออ๋ งเอีย๋ .................................................................................................................... 13
องค์ท่ี 5 ตี่ หู้ ออ๋ ง เอย๋ี .................................................................................................................. 15
องค์ท่ี 6 เฮียบ หู้ อ๋อง เอีย๋ ............................................................................................................ 17
องค์ท่ี 7 หลิม หู้ ออ๋ ง เอยี๋ ............................................................................................................ 19
องค์ท่ี 8 อิว๋ หู้ ออ๋ ง เอ๋ีย............................................................................................................... 22
องค์ท่ี 9 อ๋องเอย๋ี ........................................................................................................................... 24
องค์ท่ี 10 หงอ หู้ ออ๋ ง เอย๋ี ............................................................................................................ 26
องค์ที่ 11 หงอฮูเ้ ชยี่ นโส่ย.............................................................................................................. 28
องค์ที่ 12 กวนอ.ู ............................................................................................................................ 30
องค์ท่ี 13 จู้หู้................................................................................................................................. 32
องค์ท่ี 14 หลยุ ฮ.ู้ ............................................................................................................................ 34
องค์ท่ี 15 เฮงหู้.............................................................................................................................. 36
องค์ที่ 16 แซห่ ลี (ออ๋ งเอย๋ี ) .......................................................................................................... 38
องค์ที่ 17 อ๋องสนุ้ ไต่ส่าย............................................................................................................... 41
องค์ท่ี 18 หลีหลู้ อ้ เฉย้ี สามไท่จ้อื .................................................................................................... 43
องค์ท่ี 19 กวนเสง็ เต้กุน้ ................................................................................................................ 45
องค์ที่ 20 หลฮี่ ูบ้ กเฉี้ย.................................................................................................................... 47
บรรณานกุ รม................................................................................................................................. 49
ข
กิมซน้ิ เชิงทะเล : มรดกทำงวัฒนธรรมชุมชนเชิงทะเล
ควำมเป็นมำ
เมื่อประเทศจีนประสบปัญหาภายในประเทศ ท้ังเร่ืองการเมือง เศรษฐกิจ และสังคม จนเกิดความ
ระส่าระสายขึ้นอย่างรุ่นแรง ประชากรส่วนหนง่ึ หาทางออกดว้ ยการอพยพ หลบหนีออกนอกประเทศมุ่งหน้าสู่
ประเทศท่ีมีความสงบกว่า ท้ิงบ้านเกิดเมืองนอนแสวงหาที่ทากินใหม่ โดยยอมตายเอาดาบหน้าพร้อมจะผจญ
ภัยและเผชิญปัญหา เลือกท่ีจะหาถิ่นทามาหากินที่อุดมสมบูรณ์ ดีกว่าอัตคัดขัดสน อดอยากแร้นแค้นแบบไร้
อนาคตและสิ้นหวัง การอพยพของจีนโพ้นทะเล ( OVERSEAS CHINESE ) มักเลือกท่ีจะลงเรือท่ีเมือง เอ่หมึง
หรือเมืองเซียะเหมิน ( XIAMEN ) มณฑลฮกเก้ียนหรือฝูเจี้ยน มณฑลทางตะวันออกเฉียงใต้ของประเทศจีน
โดยอาศัยเรือ โต้คลื่นด้วยสาเภาขนาดใหญ่ หรือเรือใบ 3 หลัก จุผู้โดยสารเต็มลาเรือ หลั่งไหลเข้ามาแต่ละปี
หลายลา ลาละรว่ มร้อยคนก็มี อย่างน้อยก็ 50 หรือ 60 คน รอนแรมมากับสายลมใช้เวลาแรมเดอื น ต้องอาศัย
ชว่ งฤดมู รสุมเท่าน้ัน เมื่อรอดพ้นจากอนั ตรายในท้องทะเลก็ข้ึนฝงั่ ณ เมืองถอ่ งข่า (ทุ่งคา ซ่ึงใช้เรียกเมืองภูเก็จ
ในสมัยโบราณ) โดยขึ้นฝ่ังที่บ้านท่าเรือ ห่างจากอนุสาวรีย์ท้าวเทพกระษัตรีฯ ไม่มากนัก ปัจจุบันคือซอยหลัง
ศาลเจ้าท่าเรือ ภายหลังนิยมขึ้นที่ท่าเรือสะพานหิน ท่านเรศวร์ ซ่ึงเป็นท่าเรือใหญ่ อยู่บริเวณหลังห้องสมุด
ประชาชนในปัจจุบัน ซ่ึงทางการของประเทศสยาม มีท้ังด่านตรวจคนเข้าเมืองและด่านภาษี (จับเส๊) อยู่ใกล้
ท่าเรือ การเดินทางออกจากแผ่นดินแม่สู่เมือง ถ่องข่า มักรวมกลุ่มกันในหมู่เครือญาติ หรือชินหลาง หรืออาจ
เป็นคนร่วมหมู่บ้านในอาเภอเดียวกัน ส่วนมากจะมาขายแรงงานโดยเป็นกรรมกรเหมืองแร่ การบอกเล่าต่อๆ
กันมาว่า มาถึงถ่องข่าแล้วไม่อดตาย ที่น่ีน่าอยู่มากทุกอย่างล้วนอุดมสมบูรณ์ ชีวิตใหม่ในแผ่นดินใหม่ต้องเริ่ม
ข้ึนให้ได้ เมื่อตัดสินใจแล้วจึงร่วมลงเรือลาเดียวกันและมุ่งสู่จุดหมายอันไกลโพ้น จากแผ่นดินจีนสู่แผ่นดินใหม่
คือ ถ่องข่า (ชาวเรือในอดตี เรียกเมืองนี้ว่า "ทองคา” Tongka เป็นภาษามาลายู แปลว่า ทองคา ทางราชการจึง
เรียกอาเภอเมืองว่า "อาเภอท่งุ คา” ) ท้องทะเล ผืนนา้ อันกว้างใหญ่ไพศาลสุดลกู หูลูกตา เวงิ้ ว้างจนมองไม่เห็น
แผน่ ดิน อันตรายจากมรสมุ อันบา้ คล่ังในผืนน้าไมม่ ีใครรู้ล่วงหนา้ จิตใจของผู้อพยพต้องการท่ีพึง่ พงิ การหวังจะ
ได้รับความคุ้มครองจากสิ่งศักดิ์สิทธ์ิที่มองไม่เห็น ย่อมเป็นทางเลือกท่ีดีท่ีสุดทางหนึ่ง (สานักงานวัฒนธรรม
จงั หวดั ภูเกต็ , 2563)
ชาวจีนด้ังเดิมมีความเช่ือว่า ฟ้าดินเป็นสิ่งท่ีต้องเคารพ ส่ิงศักด์ิสิทธ์ิที่มองไม่เห็นเป็นของท่ีต้องเคารพ
นับถือ ต้องบูชากราบไหว้ยึดเหนี่ยวทางจิตใจ จึงคิดท่ีจะต้องมีสิ่งที่เป็นตัวแทนท่ีเป็นรูปธรรม จับต้องได้ จน
กลายเป็นประติมากรรมไม้แกะขนาดเล็ก "กิ่มซ้ิน” จึงเป็นองค์เทพท่ีถูกรังสรรค์ขึ้น โดยอาศัยฝีมืออันปราณีต
บรรจงเป็นความงดงามท่ีมีจิตวิญญาณแฝงเร้นอยู่ข้างใน เบ้ืองหลังการอพยพของชาวจีนโพ้นทะเล ซ่ึงรู้ว่า
เปา้ หมายเบ้อื งหนา้ อนั ไกลโพน้ จากบา้ นเกิด สัมภาระท่จี าเปน็ ตอ้ งน้อยท่ีสดุ เพ่ือความสะดวกในการเคล่อื นยา้ ย
คาพูดที่ว่า "เส่ือผืนหมอนใบ” น้ันปรากฏขึ้นให้เห็นเป็นภาพได้ชัดเจน หีบไม้ใบหน่ึงขนาดไม่ใหญ่มากนักกับ
เส้ือผ้าจานวนจากดั หน่ึงในน้ันท่ีซ่อนอยู่อย่างภายในอย่างเหมาะสมกับพื้นท่ีแคบๆก็คือ "กิ่มซิ้น” การเดินทาง
อันแสนไกลของประติมากรรมชิ้นเล็ก สูงแค่ประมาณ 4 น้ิว ถึง 6 นิ้ว งดงามประณีตสมกับงานศิลป์ท่ีมาจาก
แหล่งกาเนิด ปรากฏข้ึน ณ เมือง ถ่องข่า หรือ ทุ่งคา ต่อมาคือเมืองภูเก็จ ซ่ึงแต่เดิมมีแต่ชาวภูเก็ตพื้นเมือง
1
ผสมผสานกันเท่าน้ัน ที่ไหนมีชาวจีนอพยพท่ีน้ันเป็นชุมชน และที่ชุมชนนั้นก็มี "กิ่มซิ้น” อยู่ด้วยเสมอ ซึ่ง
ปจั จุบันน้ี จะพบเห็นไดต้ ามบ้านเรือนของชาวภูเก็ตและศาลเจ้าเกา่ แก่ บางแหง่ ยงั สามารถเกบ็ รักษาสภาพเดิม
ไว้ แมเ้ วลาจะล่วงเลยมาเกือบสองร้อยปแี ล้วก็ตาม มีเร่ืองเลา่ ตอ่ ๆกนั มาว่า ผอู้ พยพรายหน่ึง จาเป็นต้องอพยพ
ออกมาจากจีนสู่ดนิ แดนใหม่ เช่นเดยี วกับผู้อพยพอื่นๆ ซึง่ รู้ตัวดีวา่ ในทะเลนั้นมีอนั ตรายรอบด้าน ต้องการท่ีพึ่ง
และท่ียึดเหน่ียวทางจิตใจ ไม่มีอะไรท่ีดีกว่า นาสิ่งศักด์ิสิทธ์ิท่ีตัวเองนับถือบูชามาคุ้มครองระหว่างรอนแรมอยู่
กลางเว้ิงน้าอันยาวไกล จึงได้อนั เชิญ "จอสู่กง” หรือองค์ "เฉ่งจุ้ยจ๊อสู๊” ติดตัวมาด้วย เม่ือสาเภาลานั้นเทียบท่า
เมืองทุ่งคา ทันใดน้ัน ฝาหีบที่บรรจุองค์เทพนั้น พลันเปิดขึ้นเองโดยไม่มีใครคาดคิด ความศักดิ์สิทธ์ิและ
ปาฏิหารย์ปรากฏขึ้นทันที เสมือนหนึ่ง องค์เทพบอกว่า "มาถึงแล้วด้วยความปลอดภัย”และ"ยินดีที่จะประทับ
อยู่ท่ีเมืองทุ่งคาแห่งนี้” ซ่ึงเป็นเร่ืองเล่าขานต่อๆกันมาจนถึงทุกวันน้ี ปัจจุบันองค์ท่านประดิษฐานโดดเด่นเป็น
สง่าอยู่ในศาลเจ้าแห่งหนึ่งในภูเก็ต ต่อมาราชวงศ์ชิงก็ล่มสลาย จีนได้สถาปนาระบบสาธารณะรัฐข้ึนมาแทน
และรัฐบาลจีนได้ปิดประเทศ การอพยพหนีตายของผู้คนจากประเทศจีนถือเป็นการสิ้นสุดลง ทิ้งทุกอย่างเป็น
อดีต การเดินทางของ "กิ่มซ้ิน” ก็เป็นอันสิ้นสุดลงด้วย ไม่มีประติมากรรมศักด์ิสิทธิ์อัญเชิญข้ามน้าข้ามทะเล
ของใครมาอีกแลว้
ก่ิมซิ้น รุ่นแรกๆที่ออกมาจากประเทศจีน ได้ตกทอดบูชามาถึงลูกหลานรุน่ หลัง ความมงุ่ ม่ันของบรรพ
ชน ลูกหลานเปน็ ผ้สู ืบทอด จนเกิดเป็นความผูกพันแยกกันไมอ่ อกของชาวภเู ก็ต แทบทุกบ้านจะมงี านหัตถศิลป์
อนั ทรงคณุ คา่ ไวบ้ ูชา ตกทอดจากรนุ่ สรู่ ุ่น จวบจนทุกวันนี้
"ก่ิมซิ้น” งานแกะพระด้วยไม้ รังสรรค์ช้ินงานด้วยสองมือ สร้างขึ้นด้วยพลังศรัทธาตามความเช่ือใน
กลุ่มลูกหลานผู้สืบเช้ือสายจากแดนมังกรโพ้นทะเล เร่ืองเล่าและตานานแฝงพลังความศักด์ิสิทธิ์อยู่ข้างในถูก
แปลงเป็นรปู เคารพสถิตไวก้ ราบไหว้ทศ่ี าลเจ้าและไว้กราบไหวท้ บี่ า้ น
ความเช่ือถือและศรัทธา บอกเล่าเป็นตานานถูกหล่อหลอมเข้าด้วยกันได้อย่างกลมกลืน โดยฝีมือช่าง
แกะองค์เทพ เปี่ยมไปด้วยคุณค่าทางสุนทรีภาพ ปรากฏออกมาอย่างชัดเจนในช้ินงาน ช่างแกะจะคัดเลือกไม้
ตามขนาดทีต่ ้องการ จากนั้นจะตัดแต่งทอ่ นไม้ให้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมสี่ด้าน พร้อมกาหนดความกว้างและความ
สูงไว้ จากน้ันสูข่ ั้นตอนการกาหนดไม้ การกาหนดไม้ ก่อนแกะต้องดูวนั ท่ีเป็นมงคล คือ วนั โฉ่ยอิด (ชวิ อกิ ) และ
วันจับหง่อ (จับโหงว )หมายความว่า เป็นวันขึ้น 1 ค่า หรือวันข้ึน 15 ค่า ทางจันทรคติ ตามปีปฏิทินฝ่ายจีน
จะต้องทาการสบั ไม้ 3 คร้งั 3 รอย เปน็ ลักษณะสบั บง้ั พร้อมคาสวดอธษิ ฐานขออนญุ าตบอกกลา่ วไม้ทอ่ นน้ันว่า
จะแกะเป็นพระอะไร ต้องระลึกถึงพร้อมเอย่ ชื่อ แล้วปิดหน้าไม้ด้วยฮู้ ซ่ึงเรียกว่า "เฉง่ หู” คือกระดาษยันต์จีนสี
เหลือง มีอักขระเป็นอักษรจีน ซึ่งได้ผ่านพิธีกรรมการทาฮู้จากการประทับทรงของเจ้าเรียบร้อยแล้วหลังจาก
การทาพิธดี ังกล่าวแล้ว ช่างจะเร่ิมทาการแกะวนั ไหนก็ได้ตามแต่ต้องการ ไม่มขี ้อกาหนดตายตัว สาคัญท่สี ุดคือ
วันทาพิธีสับไม้ จะต้องเป็นวันที่กาหนดไว้ข้างต้น ก่อนท่ีจะลงมือแกะ จะต้องทาการแบ่งไม้เป็นตอนประมาณ
สามส่วน เพอื่ กาหนดสัดสว่ นกายวภิ าค (ANATOMY) ของชิ้นงานทตี่ ้องการ จากน้นั ก็รา่ งรูปลกั ษณะเพื่อให้เห็น
ภาพของรูปลกั ษณแ์ ละสัดสว่ น เชน่ ช่วงลาตัว แขน ขา และสว่ นศีรษะหรือใบหน้า พรอ้ มทงั้ กาหนดท่าทางของ
องค์เทพ เพ่ือให้ช้ินงานออกมาสมจริง งดงามดุจมีชีวิต ดูแล้วขลังมีพลังของความศักด์ิสิทธิ์ให้ปรากฏออกมา
สะกดคนทเ่ี พ่งมองขณะบชู า และระลึกถงึ องคท์ า่ น
2
การทาความเข้าใจรูปลักษณ์ตามธรรมชาติขององค์เทพเป็นเร่ืองที่สาคัญมาก ช่างแกะจะต้องรู้จุดน้ี
กอ่ นเริม่ งานเสมอ ว่าเทพแตล่ ะองค์ จะมลี ักษณะ ใบหน้า ท่าทาง อยา่ งไร อาทิเช่น
องคเ์ ทพ ลโิ ลเชีย้ หนา้ ตาเป็นเดก็ มีรอยย้มิ ต้องแกะให้หน้าดูออกกลม แววตาสุกใส
องคเ์ ทพกวนอู ท่านเปน็ นักรบผ้ซู อื่ สัตย์ ใบหน้าต้องเคร่งขรมึ จรงิ จัง สงบน่ิงน่าศรทั ธา
พระโพธสิ ัตว์ กวนอมิ หนา้ ตอ้ งเปน็ ผูห้ ญงิ สวยงาม มีพลังศกั ดส์ิ ทิ ธิแ์ ฝงเรน้
องค์เทพท่ีถืออาวุธ หรือพระตระกูลฝ่ายบู้ หน้าตาต้องดุดัน มีตบะ มีฤทธ์ิดูน่าเกรงขาม
เป็นต้น
กำรเริ่มแกะ เน้ือไม้จะค่อยๆถูกแซะออกด้วยส่ิวคมๆ ตามแตข่ นาดท่ีต้องการ เมือ่ ไดร้ ูปลักษณะตามท่ี
วางไว้ จะทาการขดั แต่งเพื่อใหผ้ วิ ของชิ้นงานเกลยี้ งเกลางดงาม งานชา่ งด้งั เดิมนยิ มขัดผวิ ช้ินงานด้วยใบไม้ชนิด
หนึ่ง คือ ใบปด (ใบรสสคุ นธ์) ใบไม้ตามธรรมชาตหิ างา่ ยพบเห็นได้ท่วั ไป .
ขั้นตอนต่อไป คือการทาลวดลายบนเครื่องทรง หรืออาภรณ์บนเรือนร่างองค์เทพ ต้องศึกษาลวดลาย
อย่างลึกซ้ึง เทพแต่ละองค์ใช้ลวดลายต่างกัน ส่วนมากจะเป็นลายมังกร ประกอบด้วยก้อนเมฆและลายเส้น
ศิลปะจีน จะเพิ่มความสวยงามข้ึนอีก ด้วยการประดับเพชรพลอยท่ีตาแหน่งเหมาะสม การตกแต่งลวดลาย
ชา่ งจะใช้เข็มฉีดยาใส่ปูนเคมผี สมเสร็จ แลว้ กดลากเส้นลวดลายตามรอยท่ีได้รา่ งไว้ดว้ ยดินสอ จากน้ันสู่ข้ันตอน
การลงทอง หมายถึงการปิดทองด้วยทองคาเปลว ใช้พู่กันแตะเบาๆจนทองคาเปลวติดแน่นกับพื้นผิว ให้เกิด
ประกายทองวาววับ เปลง่ สีทองสดใสเพื่อความโดดเด่นของช้ินงาน ซ่ึงจะข้ึนอยู่กับฝมี ือและเทคนคิ ของช่างแต่
ละคน ก่อนทาลวดลาย ต้องลงสรี องพนื้ ก่อนและขดั อีกครั้ง สรี องพ้ืนต้องใช้สีคนละสีกับสีในเข็มฉดี ยา ซง่ึ สีต้อง
ตดั กนั ทาใหง้ ่ายตอ่ การวางเสน้ ลวดลายจากปลายเขม็
ข้นั ตอนต่อมา คือการลงสีที่เครื่องทรงหรอื อาภรณ์บนชิ้นงาน ต้องเลอื กสีท่ีเหมาะสมกับองค์เทพแตล่ ะ
องค์ จากนนั้ ลงสบี นใบหน้า มือ เก้าอีท้ ปี่ ระทับ การฝงั ธาตใุ นกมิ่ ซ้นิ เมอ่ื องค์เทพเสร็จทุกขน้ั ตอนแล้ว
ขั้นตอนสุดท้าย คือการเพ่ิมความเข้มขลังพลังศักด์ิสิทธ์ิ ประจุธาตุกายสิทธ์ิ ส่งเสริมพลังภายในรูปไม้
แกะ โดยวิธีการฝังธาตุ อันประกอบด้วยสิ่งมงคล เชน่ เพชร พลอย เงิน ทอง ชิ้นเล็กๆ และดินกลางหาว (ซึ่งก็
คอื ดินของรังหมาร่า) แมลงชนิดหน่ึงสร้างรังด้วยดิน เพ่ือเพาะเลี้ยงตัวอ่อน แล้วหาอาหารประเภท มด แมลง
มาบารุงตัวอ่อนจนโต แล้วค่อยบินออกจากรัง ทิ้งดินก้อนหนึ่งเอาไว้ ดินชนิดน้ีมักปรากฏบนต้นไม้หรือท่อนไม้
จึงเรียกวา่ กลางหาว ซง่ึ อยู่บนพนื้ ดนิ ไมไ่ ด้ อยใู่ นท่ีรม่ ชายคาบ้านเรอื นกใ็ ช้ไม่ได้
สิ่งอันเป็นมงคลอีกชนิดหนึ่ง ซ่ึงนิยมว่าศักดิ์สิทธ์ิและหายากยิ่งนัก คือ งูปากเป็ด (งูตัวเล็กๆ เกล็ด
คล้ายงูแต่เรียบและละเอียดมาก มีทั้งสีเงินหรือสีทอง สดี าเข้มหรือออกขาว ออกเหลือง ถือเป็นของมงคลตาม
ธรรมชาติ มักให้โชคกับผู้พบเห็นหรือเก็บได้ ขนาดลาตัวเท่าก้านไม้ขีด มีกระดูกเหมือนงูท่ัวไป แลบล้ินได้
เหมืองงู ทค่ี อมีลักษณะคล้ายตวั อักษร เสยี งร้องเหมือนลูกเป็ดตัวเล็ก มกั จะตายเมื่อมผี ู้พบเหน็ หรือเกบ็ ได้
กำรฝังธำตุ นยิ มเจาะรูด้านหลังองค์เทพ เมื่อฝังธาตแุ ล้วก็ตอกปิดด้วยไม้ ซึ่งจะตอ้ งใช้ไม้ท่อนเดียวกัน
กับท่อนไม้ที่แกะองค์เทพ ขั้นตอนนี้เป็นข้ันตอนสุดท้าย การฝังธาตุเป็นการประจุพลังเพิ่มความขลังศักดิ์สิทธิ์
3
จะฝังหรือไม่ฝงั ก็ได้ สุดแท้แต่ผู้สั่งแกะ ถ้าต้องการฝังธาตุ ผู้เป็นเจ้าของพระจะต้องเป็นผู้จัดหามา โดยช่างแกะ
จะเปน็ ผ้บู รรจุและทาพิธีให้ และถอื การเปน็ เสร็จสนิ้ สมบรู ณข์ องการแกะ "กิม่ ซนิ้ ”
พิธีกรรมเต้ียม (เต้ียมง่ำน) "ก่ิมซ้ิน” (พิธีกรรมอัญเชิญองค์เทพศักด์ิสิทธิ์เข้าประทับสถิต) ภายใน
ก่ิมซ้ิน ชาวจีนมีความเชื่อว่า องค์เทพเจ้าประทับอยู่ในท่ีท่ีมนุษย์มองไม่เห็น เม่ือช่างได้แกะ ก่ิมซิ้นเสร็จส้ิน
สมบูรณ์แลว้ กจ็ ะต้องทาพธิ ีอัญเชญิ เทพให้มาประทบั ในกิ่มซ้ิน การประกอบพิธตี ้องทาใหถ้ ูกต้อง เพ่อื ความเป็น
สริ ิมงคลและความรม่ เย็นของครอบครัว โดยมีขอ้ กาหนดและพธิ กี รรม ดังนี้
อุปกรณ์ทีต่ ้องใช้
- กระจกเงา ขนาดพอเหมาะกบั "ก่มิ ซิน้ ” ไม่ใหญเ่ กินไป 1 ชน้ิ
- ปีด หรือพ่กู ันจีน 1 อัน
- สแี ดง ชนิดผง ใช้ผสมนา้ 1 ซอง
- กระดาษทองแผน่ ใหญ่ (ตัว่ กิ้ม) ,กระดาษทองแผ่นเลก็ (เสก้ ้ิม) อยา่ งละชดุ
- แป้งจนั ทร์ มนั หอม (ใช้แป้งโกริน) 1 ซอง
- กระถางธปู
- ผลไม้ท่ีเป็นมงคล 5 ชนิด (หง่อโก้) ( รวมลงใน 1 ถาด) 1.สับปะรด (อ่องหลาย) 1 ผล
หมายถึง นาโชค 2.ส้ม (กา) 3 ผล หมายถึง ขอบคุณ 3. แอ๊ปเปิ้ล (เบ่งโก๊) 3 ผล 4. กล้วยข้าว (บี้เจ๊ว) 1 หวี
หมายถึงเชื้อเชิญ 5. แตงโม 1 ผล ผลไม้ปรับเปล่ียนได้ตามความเหมาะสม กล้วยน้าว้าเป็นของต้องห้ามและ
ผลไม้บางอยา่ งท่ีไมเ่ หมาะสมกบั พิธี เช่น รางสาด (ชาวจนี ไม่นยิ มใชร้ างสาดในการบูชาของมงคล)
กอ่ นประกอบพิธอี ัญเชิญองค์เทพเจ้าเขา้ ประทับในกิ่มซิ้น ตอ้ งเลือกดูวนั อันเหมาะสมเป็นสิริมงคล ถือ
เป็นวันดี ฤกษด์ ี สาหรับประกอบพิธี มักเลือกเอาวัน "โฉย่ อิด” และวัน "จับหง่อ” คือวันขึ้น 1 ค่า หรือ 15 ค่า
ทางจันทรคติของจีน ส่วนเวลา มักจะเลือก เวลาเช้า หรือ เวลาสาย และเวลาท่ีสะดวก บางคร้ังอาจเลือก
ชว่ งเวลาเทศกาลทสี่ าคัญของจีน เช่น เทศกาลกินเจ เทศกาลตรษุ จีน เทศกาลไหว้เทวดา วนั งานแซยิดองค์เทพ
เจ้า หรือพิธีเฉ้ียโฮ่ย (เชิญไฟ) ซึ่งมกั ประกอบพิธีบริเวณชายหาด มักใช้เวลาเช้าตรขู องวัน หรือช่วงใกล้ค่า หรือ
เลยหนึ่งทุ่มไปแลว้
เมื่อ "กิ่มซิ้น” ผ่านขั้นตอนทุกอย่างเรียบร้อยแล้ว ควรปิดใบหน้าด้วยกระดาษสีแดง เพ่ือรอพิธีเต้ียม
ไม่ควรปลอ่ ยให้ "องคเ์ ทพเจ้า” มใี บหน้าวา่ งเปลา่ ควรหุ้มด้วยกระดาษสแี ดงเมือ่ งานเสร็จแล้ว
เม่ือเชิญเจ้าเข้าประทับร่างทรงแล้ว เจ้าจะรู้ถึงพิธีกรรมและวิธีการรวมทั้งการดาเนินการอันเป็น
ข้ันตอน ในการเชิญเทพเข้าสถิตใน "ก่ิมซิ้น” โดย "ร่างทิพย์” จะเข้าสู่ปฏิมากรรมอันเป็นชิ้นงานซ่ึงสาเร็จเป็น
องค์เทพแล้ว เป็น "กายใน” ซ้อนอยูใ่ น "กายนอก” แสดงเร่ืองรปู ร่างอันเป็นกายนอก เรียกว่า "กายในกาย” มี
กายอนั เป็นทิพย์ท่มี องไมเ่ ห็นซอ่ นอยภู่ ายใน เรียกตามภาษาฮกเก้ียนทอ้ งถนิ่ วา่ "สีน”
การกราบไหว้ "กิ่มซิ้น” มิได้หมายความว่า ไหว้ไม้แกะสลัก ซ่ึงเป็นร่างสมมุติเทพในตานานจีนฝ่าย
เดียวเทา่ นั้น หากแต่จิตของผู้บูชา ส่งไปยังองค์เทพทีส่ ถติ อยู่ภายในเป็นท่ีตั้ง พลังแห่งการสื่อระหวา่ งมนุษย์กับ
4
เทพเจ้ามุ่งตรงเข้าสู่กายใน ถึงจะเป็นการสื่อท่ีถูกต้องตรงตามความเป็นจริง ตามเจตนาของการกราบไหว้องค์
เทพท่ีตัวเองนบั ถอื
องคเ์ ทพขณะประทับทรง จะจับปีดหรือพู่กัน จ้ิมสีแดง ซ่ึง "ฮวดกัว” ล่ามหรือผู้ช่วยรา่ งทรงจะนาผงสี
แดงเทลงบนแผน่ กระจกเงาผสมกับแป้งหอมและน้ามันหอมใชพ้ ู่กนั ละเลงจนเข้ากันดีแล้ว พร้อมเปดิ กระดาษสี
แดงซึ่งปิดล้อมใบหน้าออก จิ้มสีแดงท่ีเตรียมไว้พร้อมแล้ว ลงบนบริเวณตาแหน่งหว่างคิ้วหรือหน้าผาก มือท้ัง
สองข้าง หน้าอก เท้าทั้งสองข้าง แผ่นหลัง และเก้าอ้ีที่ประทับ ขณะจิ้มสีแดงองค์เทพที่ผ่านร่างทรง จะเรียก
"สีน” เขา้ ประทบั และสถติ ในรูป "กิ่มซิ้น”
การเชิญ "สีน” เป็นการเรียกจิตวิญญาณขององค์เทพนั้นๆเข้าสู่ภายในให้เป็นร่างทิพย์สถิตไว้เพื่อส่ือ
กับผ้บู ชู ากราบไหว้และสถติ ถาวรสบื ไปตราบนานเท่านาน
อุปกรณ์และเครือ่ งมือทใ่ี ช้กำรแกะ
- สวิ่ เลบ็ มือ
- คัดเตอร์
- สวิ่ ปากแบน
- ใบเลื่อยเหลก็
- คอ้ นตอกสายไฟ
- ค้อนหวั กลม
- ขวาน
- มดี
- เลอ่ื ยเหลก็
- เล่ือยคันธนู
- เลื่อยหูช้าง
-บรรทดั เหล็ก
- เหลก็ ฉาก
- ปากกาหนบี ไม้
- ดนิ สอ
พิธีกรรมใดบำ้ ง ทตี่ ้องใช้ "กิ่มซิ้น”
- พิธี โขก้ นู๊ (เล้ียงอาหารทหารท่มี ารกั ษาบรเิ วณมณฑลพธิ )ี
- พิธีส่งเกง้ (สวดมนต์)
- พธิ ปี า้ ยชดิ แช้ (บูชาเทวดา)
- พธิ ีโก้ยโห้ย (ลยุ ไฟ)
- พธิ ปี ีนบนั ใดมีด , เดนิ บนตาปู , อาบนา้ มัน , อาบนา้ ร้อน
5
- พิธีอวิ้ เก้ง (แห่พระ) การออกประภาสเพ่ือโปรดสตั ว์
- พธิ โี ก้ยหา่ น (สะเดาะเคราะห)์
- พิธเี ฉยี้ โหย้ (อันเชิญไฟเข้าศาลเจา้ )
- พิธกี รรมในชว่ งเทศกาลถือศีลกินผกั จังหวดั ภเู ก็ต
- พธิ ีกรรมในงานแซยิด(วันเกิด)ของเทพเจ้า
ลกั ษณะเฉพำะทแ่ี สดงถึงอัตลกั ษณข์ องมรดกภูมิปัญญำทำงวัฒนธรรม
- ลักษณะเดน่ ของ”กมิ่ ซน้ิ ” เป็นประติมากรรมที่ใช้มือลว้ นๆ ให้เกดิ ความงดงามทแี่ ฝงจิตวิญญาณ
ใหร้ ะลกึ ถึงองคเ์ ทพ จนตกทอดสชู่ ุมชน จากรุ่นหน่ึงไปสอู่ ีกรุน่ หน่ึง
- เปน็ งานหัตถศลิ ป์ ท่ีสื่อถงึ องค์เทพในตานานจนี ตามความเชือ่ ลทั ธิมหายาน
- เปน็ ตัวแทนของเทพเจา้ ที่สื่อถึงมนษุ ย์ โดยผ่านรา่ งทรงในการประกอบพธิ ีกรรมของชมุ ชน
- เปน็ สอื่ กลางให้เกดิ ความเชื่อและความศรัทธาในองคเ์ ทพ สู่การปฏบิ ตั ิในสง่ิ ทดี่ งี าม
- เปน็ ศูนย์รวมจิตใจของคนในชมุ ชน จนเกดิ เป็นความสามัคคีร่วมกนั
6
องคท์ ่ี1
ขอ้ มูลพระเจำ้ จีน(กิมซน้ิ ) ศาลเจ้าเชิงทะเล
1.ชอื่ ภาษาไทย พระจีน(กมิ ซิ้น) ศาลเจา้ เชิงทะเล
2.ชื่อภาษาจนี
3.ชอื่ ภาษาองั กฤษ จู ฮู้ ออ๋ ง เอ๋ยี
4.ปางองค์พระ 朱府王爺
Zhū fǔ wángyé
องค์พระชาย
องคพ์ ระหญิง นกั บวช/โพธิสัตย์
5.สถานภาพ ชนช้ันปกครอง (กษัตริย์)
5.1 เทพเจา้ ฝ่ายบู๊ ชนชัน้ นักรบ (แม่ทัพหรือทหาร)
5.2 เทพเจ้าฝา่ ยบนุ๋ ชนชน้ั สามัญชน
สัตว์/พาหนะ อน่ื ๆ................
6.รูป
7
7.แหล่งที่มาขององค์พระ สอบถามจาก 1. คุณนริ มิต ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจ้าส่ามออ๋ งหู้ เชิงทะเล)
8.ประวัติความเปน็ มา 2. คุณประสทิ ธ์ิ ช่างเหล็ก (อาจารย์ผเู้ ชีย่ วชาญภาษาจีน และ
วัฒนธรรมจีน เชิงทะเล)
9.หลักคณุ ธรรม 3. คุณโชคชัย รกั ษ์ธรรมกจิ
10.อทิ ธฤิ ทธ์ิ 4. คณุ กมลวรรณ ชา่ งเหลก็
11.ผใู้ หข้ อ้ มูล 5. คณุ ประเสริฐ ชูวงค์
12.วนั ที่เก็บข้อมูล
จูฮู้เชี่ยนโส่ย จูฮู้อ๋องเอี๋ย ชื่อเดิม จูซูหรง (朱叔裕) เป็นชาวเกียเฮ็ง
(嘉興) เป็นผู้สุขุม คงแก่เรียน ได้เป็นผู้วางแผนและออกกฎหมายใน
พระราชสานัก โดยเฉพาะมีใจยุติธรรม สามารถตัดสิน โดยชี้ให้เห็นความ
แตกต่างระหว่างถูกและผิด ยึดถือกฎหมายอย่างเข้มงวด ขณะช่วงที่จักรพรรดิ
ถังกาลังบุกเบิกประเทศ ครั้งหนึ่งได้รับคาส่ังให้ป้องกันเมือง โดยต่อสู้กับศัตรู
ท่ีมาตเี มอื ง ในช่วงปี พ.ศ.1166 ไดเ้ ปน็ ผสู้ ่งั การกองทัพไปยงั เมอื งกว้ งโจว (
廣州 ) และเป็นผู้ส่ังให้ทากาแพง เพื่อป้องกันเมืองโดยเฉพาะ วัดต้าลี่ เพ่ือ
ปกป้องป้องกนั ข้าศึกโจมตีวดั ซงึ่ แสดงถึงความเคารพเลื่อมใสในศาสนา เมอ่ื สิ้น
อายุขัย ได้กลายเป็นเทพ และเนือ่ งจากความดีของทา่ นได้ทราบถึงองค์หยกออ๋ ง
ซ่งเต่ พระองค์จึงทรงโปรดเกล้า ให้มีหน้าที่เป็นตัวแทนสวรรค์ คอยตรวจตรา
พิทักษ์ปกป้องโลก ในนาม โถ่ยเทียงซุ้งซ่ิว (代天巡狩) ในนาม จูฮู้เชี่ยน
โส่ย (朱府千歲)นอกจากน้ีผู้คนต่างกราบไหว้ และยังนับถือให้เป็นเทพ
แหง่ การพิพากษาอีกดว้ ย
-
-
1. คุณนริ มติ ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้ เชิงทะเล)
2. คณุ ประสิทธ์ิ ชา่ งเหล็ก (อาจารย์ผู้เช่ยี วชาญภาษาจีน และวัฒนธรรมจนี
เชงิ ทะเล)
3. คุณโชคชัย รักษ์ธรรมกจิ
4. คุณกมลวรรณ ช่างเหล็ก
5. คุณประเสริฐ ชูวงค์
05/03/64
8
องคท์ ี่ 2
ขอ้ มูลพระเจำ้ จีน(กิมซนิ้ ) ศาลเจ้าเชิงทะเล
1.ชอื่ ภาษาไทย พระจีน(กมิ ซิ้น) ศาลเจา้ เชิงทะเล
2.ชื่อภาษาจนี
3.ชอ่ื ภาษาอังกฤษ เฮง หู้ อ๋อง เอี๋ย
4.ปางองค์พระ 衡府王爺
Héng fǔ wángyé
องค์พระชาย
องคพ์ ระหญิง นักบวช/โพธสิ ัตย์
5.สถานภาพ ชนชน้ั ปกครอง (กษตั รยิ ์)
5.1 เทพเจ้าฝา่ ยบู๊ ชนช้ันนักรบ (แมท่ ัพหรอื ทหาร)
5.2 เทพเจ้าฝา่ ยบนุ๋ ชนชั้นสามัญชน
สัตว์/พาหนะ อน่ื ๆ................
6.รปู
7.แหลง่ ท่มี าขององค์พระ สอบถามจาก 1. คณุ นิรมิต ช่างเหลก็ (ประธานศาลเจ้าสา่ มออ๋ งหู้ เชงิ ทะเล)
2. คุณประสทิ ธ์ิ ชา่ งเหลก็ (อาจารยผ์ ู้เชยี่ วชาญภาษาจีน
และวฒั นธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คุณรงุ่ โรจน์ เพช็ รปนั ( อาจารย์ผูใ้ หข้ ้อมลู ภาษาจีน )
4. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ยพิธีกรรม)
5. หนงั สอื สบื กาเนดิ 225 แซ่ โดย บุญศักดิ์ แสงระวี
9
9.ประวัติความเป็นมา คนจีนอพยพเข้ามาทามาหากินในบา้ นตนี เลเปน็ จานวนมาก ตอนน้ันยัง
ไม่ไดส้ รา้ งศาลเจา้ ไวใ้ นหมบู่ ้านแห่งนี้ และเมื่อต้องการไหว้พระในโอกาสตา่ งๆ ก็
10.หลักคุณธรรม ตอ้ งเดินทางไปไหวพ้ ระในศาลเจา้ ตา่ งๆในตัวเมืองภเู กต็ และกะทู้ จนกระทัง่
11.อิทธิฤทธิ์ พ.ศ.2444 นายจู้ปา่ ยตกั เดินทางกลับไปยังเมืองจนี และได้อัญเชญิ พระจนี
12.ผู้ให้ข้อมลู กลบั มาจานวน 3 องค์
13.วนั ทเี่ ก็บข้อมลู เมื่อนาพระจนี กลบั มายงั บ้านตนี เล ก็ไปปรกึ ษากับนายจูแ้ จ่วต่ี และนายแป๊ะจู้
แจว่ ตจี่ งึ มอบท่ีดนิ เพ่ือสร้างเป็นประดษิ ฐานพระจนี ทั้ง 3 องค์ โดยใช้ชือ่ สานัก
วา่ “ก่มิ ฮุย้ เต่ยี น” โดยมอี งคท์ ้ัง 3 องค์เปน็ ประธานซงึ่ เรยี กรวมว่า “ส่ามอ๋อง
หู้” แปลวา่ เจ้าสิง่ ศักดิ์สิทธิ์ 3 องค์ องค์ใหญ่ท่ีสดุ มีใบหน้าสีแดงเปน็ พระของคน
แซ่จู้ เรยี กวา่ “พระจ้หู ู้” องค์ทีม่ ใี บหนา้ สดี าเปน็ พระของคนแซเ่ ฮง เรยี กว่า
“พระเฮงหู้” และองค์ที่มใี บหน้าสเี ขยี วเปน็ พระของคนแซห่ ลุย เรียกวา่
“พระหลยุ ฮู้” ตามตานานเชอื่ กนั ว่าพระส่ามอ๋องหมู้ ีพี่น้องร่วมสาบานอีก 360
องค์ ที่ไดเ้ ข้ารว่ มดูแลสานกั ก่ิมหุ้ยเต่ียนแห่งนี้
-
-
1. คณุ นิรมติ ช่างเหล็ก (ประธานศาลเจา้ ส่ามอ๋องหู้ เชิงทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธ์ิ ช่างเหลก็ (อาจารย์ผู้เช่ยี วชาญภาษาจนี และวฒั นธรรมจนี
เชงิ ทะเล)
3. คุณรงุ่ โรจน์ เพ็ชรปนั ( อาจารยผ์ ้ใู ห้ขอ้ มลู ภาษาจนี )
4. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ กี รรม)
5. หนังสือสบื กาเนิด 225 แซ่ โดย บุญศักด์ิ แสงระวี
05/03/64
10
องค์ท3ี่
ขอ้ มูลพระเจำ้ จีน(กิมซน้ิ ) ศาลเจา้ เชิงทะเล
พระจนี (กิมซ้ิน) ศาลเจา้ เชงิ ทะเล
1.ชือ่ ภาษาไทย หลุย หู้ ออ๋ ง เอย๋ี
2.ชอ่ื ภาษาจนี 雷府王爺
3.ชอ่ื ภาษาองั กฤษ Léi fǔ wángyé
4.ปางองค์พระ
องค์พระชาย
องคพ์ ระหญิง
5.สถานภาพ นกั บวช/โพธิสัตย์
5.1 เทพเจา้ ฝ่ายบู๊ ชนชน้ั ปกครอง (กษัตรยิ ์)
5.2 เทพเจ้าฝ่ายบนุ๋ ชนช้ันนักรบ (แม่ทัพหรือทหาร)
ชนช้นั สามญั ชน
สตั ว์/พาหนะ อื่นๆ................
6.รูป
7.แหลง่ ทีม่ าขององค์พระ สอบถามจาก 1. คุณนริ มิต ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจ้าสา่ มอ๋องหู้ เชิงทะเล)
2. คณุ ประสิทธิ์ ช่างเหล็ก (อาจารย์ผู้เชี่ยวชาญภาษาจนี และ
วัฒนธรรมจนี เชงิ ทะเล)
3. คุณโชคชัย รกั ษธ์ รรมกิจ
4. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝ่ายพิธีกรรม)
11
8.ประวัตคิ วามเป็นมา คนจนี อพยพเขา้ มาทามาหากินในบ้านตีนเลเปน็ จานวนมาก ตอนน้นั ยัง
ไม่ไดส้ ร้างศาลเจา้ ไว้ในหมู่บา้ นแหง่ น้ี และเม่ือต้องการไหว้พระในโอกาสตา่ งๆ ก็
9.หลักคณุ ธรรม ตอ้ งเดินทางไปไหวพ้ ระในศาลเจา้ ต่างๆในตวั เมืองภเู ก็ตและกะทู้ จนกระทั่ง
10.อิทธฤิ ทธ์ิ พ.ศ.2444 นายจปู้ า่ ยตกั เดนิ ทางกลับไปยงั เมืองจีนและได้อัญเชิญพระจีน
กลับมาจานวน 3 องค์
เม่อื นาพระจีนกลับมายงั บา้ นตนี เล กไ็ ปปรกึ ษากบั นายจ้แู จ่วตี่ และนายแปะ๊ จู้
แจ่วตจ่ี งึ มอบท่ีดนิ เพื่อสรา้ งเป็นประดษิ ฐานพระจีนท้ัง 3 องค์ โดยใชช้ ือ่ สานัก
ว่า “กิ่มฮยุ้ เตีย่ น” โดยมีองคท์ ั้ง 3 องคเ์ ป็นประธานซึ่งเรยี กรวมวา่ “สา่ มอ๋อง
หู้” แปลว่า เจา้ สง่ิ ศกั ดิ์สิทธิ์ 3 องค์ องค์ใหญ่ท่ีสุดมใี บหน้าสีแดงเป็นพระของคน
แซ่จู้ เรียกว่า “พระจ้หู ู้” องค์ที่มใี บหนา้ สีดาเปน็ พระของคนแซ่เฮง เรยี กว่า
“พระเฮงหู้” และองค์ท่มี ใี บหน้าสีเขียวเปน็ พระของคนแซห่ ลยุ เรียกวา่
“พระหลยุ ฮู้” ตามตานานเชือ่ กนั ว่าพระสา่ มอ๋องห้มู ีพน่ี ้องร่วมสาบานอีก 360
องค์ ที่ได้เข้าร่วมดแู ลสานักกิ่มหุย้ เต่ยี นแหง่ น้ี
-
-
11.ผู้ใหข้ อ้ มูล สอบถามจาก 1. คุณนิรมิต ช่างเหล็ก (ประธานศาลเจ้าสา่ มออ๋ งหู้ เชิงทะเล)
12.วนั ท่เี กบ็ ข้อมลู 2. คุณประสิทธ์ิ ชา่ งเหล็ก (อาจารย์ผูเ้ ชีย่ วชาญภาษาจนี และ
วัฒนธรรมจีน เชิงทะเล)
3. คุณโชคชัย รกั ษ์ธรรมกิจ
4. คุณอฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)
05/03/64
12
องค์ท4่ี
ข้อมูลพระเจำ้ จนี (กิมซ้ิน) ศาลเจา้ เชิงทะเล
พระจนี (กิมซน้ิ ) ศาลเจ้าเชงิ ทะเล
1.ชื่อภาษาไทย หลีหู้ออ๋ งเอ๋ีย
2.ช่ือภาษาจนี 李府王爺
3.ช่ือภาษาองั กฤษ Lǐ fǔ wángyé
4.ปางองค์พระ
องค์พระชาย นกั บวช/โพธสิ ตั ย์
ชนช้นั ปกครอง (กษัตรยิ )์
องค์พระหญิง ชนช้นั นักรบ (แมท่ ัพหรอื ทหาร)
5.สถานภาพ ชนชัน้ สามญั ชน
5.1 เทพเจ้าฝา่ ยบู๊ สัตว/์ พาหนะ อนื่ ๆ................
5.2 เทพเจา้ ฝ่ายบุ๋น
6.รปู
13
7.แหลง่ ทม่ี าขององค์พระ สอบถามจาก
8.ประวัตคิ วามเปน็ มา 1. คุณนิรมิต ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้ เชงิ ทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธ์ิ ช่างเหล็ก (อาจารย์ผูเ้ ช่ียวชาญภาษาจนี และวัฒนธรรมจนี
9.หลกั คุณธรรม เชิงทะเล)
10.อิทธฤิ ทธิ์ 3. คณุ โชคชัย รักษ์ธรรมกจิ
4. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)
หลี่ฮเู้ ชี่ยนโส่ย (李府千歲) ช่อื เดิมของท่านคือ หล่ตี ้าเหลียง (李大亮)
เปน็ ชาวเก็งเอียง (涇陽) เก่งทงั้ บนุ๋ และบู๊ เป็นผูน้ าใหญ่สุดในบรรดา 5 พ่ีน้อง
หลังจากชว่ ยสถาปนาราชวงศถ์ ังแล้ว กไ็ ด้ไปเป็นเจ้าเมืองกิมโจว (金州) และไป
รบั ตาแหนง่ ผ้บู ัญชาการคุมทัพทีเ่ มืองเลี้ยงโจว (涼州) หน้าทด่ี ูแลความ
ปลอดภยั ในการเดนิ ทางของราชฑตู
ผลงานทโี่ ดดเด่นของทา่ นคือคุมทัพไปตีเผ่าทาทาใชเ้ วลาเกือบ 7 ปีจงึ ตีได้แตกราบ
คาบ (แตกในปี พ.ศ.1184)
หลงั จากสนิ้ อายุขยั เง็กเซยี นไดแ้ ตง่ ต้ังท่านในนามไต่ออ๋ งหลี่ฮู้เชย่ี นโส่ย (大王
李府千歲) ผ้คู นกก็ ราบไหวบ้ ชู าทา่ นในฐานะเทพแหง่ ความยุติธรรมและ
มนษุ ยธรรม
ความยุติธรรมและมนุษยธรรม
-
11.ผใู้ ห้ข้อมลู สอบถามจาก
12.วนั ทเี่ กบ็ ข้อมลู 1. คุณนิรมิต ช่างเหลก็ (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้ เชิงทะเล)
2. คุณประสิทธ์ิ ชา่ งเหลก็ (อาจารยผ์ ้เู ช่ียวชาญภาษาจนี และวัฒนธรรมจีน เชิง
ทะเล)
3. คณุ โชคชยั รักษธ์ รรมกจิ
4. คุณอฐั พร พรหมมาศ (ฝ่ายพิธกี รรม)
05/03/64
14
องค์ท่ี 5
ขอ้ มูลพระเจำ้ จนี (กิมซิน้ ) ศาลเจา้ เชงิ ทะเล
พระจนี (กมิ ซิน้ ) ศาลเจ้าเชิงทะเล
1.ชื่อภาษาไทย ต่ี หู้ ออ๋ ง เอ๋ยี
2.ชื่อภาษาจีน 池府王耶
3.ชอ่ื ภาษาองั กฤษ Chí fǔ wáng yé
4.ปางองค์พระ
องคพ์ ระชาย
องค์พระหญิง
5.สถานภาพ นกั บวช/โพธสิ ตั ย์
5.1 เทพเจ้าฝา่ ยบู๊ ชนชัน้ ปกครอง (กษัตรยิ ์)
5.2 เทพเจ้าฝา่ ยบ๋นุ ชนช้ันนกั รบ (แมท่ ัพหรอื ทหาร)
ชนชั้นสามญั ชน
สัตว/์ พาหนะ อน่ื ๆ................
6.รปู
7.แหลง่ ทม่ี าขององค์ สอบถามจาก
พระ 1. คณุ นริ มิต ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจ้าสา่ มอ๋องหู้ เชงิ ทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธิ์ ชา่ งเหล็ก (อาจารยผ์ ้เู ช่ยี วชาญภาษาจีน และวฒั นธรรมจีน เชิง
ทะเล)
15
8.ประวัตคิ วามเป็นมา 3.คุณโชคชัย รักษธ์ รรมกิจ
9.หลกั คุณธรรม 4. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝ่ายพธิ ีกรรม)
ตฮ่ี เู้ ชย่ี นโส่ย (池府千歲) ช่ือเดิมของท่านคือ ตเ่ี ม่งิ เปียว (池夢彪) เป็น
ชาวท่ิงลวิ้ (陳留) เปน็ คนซ่ือตรงและมคี วามเฉลยี วฉลาดมาก รับหนา้ ท่ีเป็นครู
ฝึกทหาร หลังจากชว่ ยสถาปนาราชวงศ์ถังแล้ว กไ็ ด้เป็นทปี่ รึกษาคณะกรรมการ
สภาบรหิ ารกองทัพ และในปี พ.ศ.1186 ก็รับตาแหน่งเปน็ แมท่ ัพในการเกณฑ์
ทหารไปยงั ประเทศเกาหลี และเปน็ ผรู้ ับใช้ใกลช้ ิดของถังไท่จงด้วย
ผลงานท่โี ดดเดน่ คอื รับโรคระบาดเองคนเดียว เรือ่ งมีอย่วู ่า เงก็ เซยี นพิพากษาให้
พ้นื ทหี่ น่ึงเกิดโรคระบาดด้วยการส่งเทพแหง่ โรคระบาดลงมาทางานนี้ เทพโรค
ระบาดแปลงกายเปน็ หนมุ่ รปู งามและได้พบกับตีเ่ มง่ิ เปียวโดยบงั เอญิ ท้ังสองคยุ
กันถูกคอและชวนกันด่ืมสรุ า พอเมาได้ท่ีเทพโรคระบาดกเ็ ปดิ เผยตัวเองและถาม
ตเ่ี ม่ิงเปยี วถงึ วิธกี ารแพร่กระจายโรคที่ไดผ้ ลดีที่สุด ต่ีเม่ิงเปยี วกน็ ึกสงสารมนษุ ย์
จึงหลอกลอ่ เอาโรคระบาดทั้งหมดมาและกลืนลงท้องไปจนตาย (พิษไดท้ าใหต้ ่ี
เมง่ิ เปียวมีรา่ งกายสดี าตาปดู โปนกอ่ นตายด้วยครับ)
เง็กเซยี นได้เหน็ แบบนั้นกแ็ ตง่ ต้งั ใหต้ เี่ ม่ิงเปยี วมีหน้าท่คี ุมและกาจดั โรคระบาดใน
นามย่ีอ๋องต่ีฮเู้ ชี่ยนโส่ย (二王池府千歲) ผู้คนกก็ ราบไหวบ้ ูชาทา่ นใน
ฐานะเทพแหง่ ยทุ ธศาสตร์
เทพแหง่ ยุทธศาสตร์
10.อิทธิฤทธ์ิ -
11.ผู้ใหข้ อ้ มลู สอบถามจาก
1. คุณนิรมติ ช่างเหล็ก (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้ เชิงทะเล)
12.วันที่เกบ็ ข้อมลู 2. คุณประสทิ ธ์ิ ชา่ งเหล็ก (อาจารย์ผเู้ ช่ยี วชาญภาษาจนี และวัฒนธรรมจีน เชิง
ทะเล)
3.คุณโชคชัย รกั ษ์ธรรมกจิ
4. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ กี รรม)
05/03/64
16
องค์ท6่ี
ขอ้ มูลพระเจำ้ จนี (กิมซิน้ ) ศาลเจ้าเชิงทะเล
พระจีน(กิมซนิ้ ) ศาลเจา้ เชงิ ทะเล
1.ช่ือภาษาไทย เฮยี บ หู้ อ๋อง เอย๋ี
2.ชือ่ ภาษาจีน 腋府王耶
3.ชื่อภาษาอังกฤษ Yè fǔ wáng yé
4.ปางองค์พระ
องค์พระชาย นกั บวช/โพธิสตั ย์
ชนชัน้ ปกครอง (กษัตริย์)
องคพ์ ระหญิง ชนชนั้ นักรบ (แม่ทัพหรือทหาร)
5.สถานภาพ ชนช้ันสามญั ชน
5.1 เทพเจ้าฝา่ ยบู๊ สัตว/์ พาหนะ อนื่ ๆ................
5.2 เทพเจา้ ฝ่ายบุน๋
6.รปู
7.แหล่งที่มาขององค์พระ สอบถามจาก
1. คุณนริ มติ ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจ้าส่ามอ๋องหู้ เชิงทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธ์ิ ชา่ งเหล็ก (อาจารยผ์ เู้ ชย่ี วชาญภาษาจีน และวฒั นธรรมจีน
เชงิ ทะเล)
3. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)
4. คณุ นาวี พฤกษารักษ์ มา้ ทรงพระเฮยี บหู้ออ๋ งเอ๋ีย ผู้ใหข้ ้อมลู
17
8.ประวัตคิ วามเปน็ มา เป็นหนง่ึ ในแม่ทัพของสายสกุล
9.หลกั คุณธรรม -
10.อทิ ธฤิ ทธิ์ -
11.ผใู้ หข้ ้อมูล สอบถามจาก
12.วนั ทเ่ี กบ็ ข้อมลู 1. คุณนิรมิต ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจา้ ส่ามอ๋องหู้ เชงิ ทะเล)
2. คณุ ประสิทธิ์ ช่างเหลก็ (อาจารย์ผู้เชีย่ วชาญภาษาจนี และวัฒนธรรมจีน
เชงิ ทะเล)
3. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝ่ายพิธีกรรม)
4. คุณนาวี พฤกษารักษ์ ม้าทรงพระเฮียบหู้อ๋องเอ๋ยี ผูใ้ หข้ ้อมูล
06/03/64
18
องค์ท7่ี
ข้อมูลพระเจ้ำจีน(กิมซ้นิ ) ศาลเจา้ เชงิ ทะเล
พระจนี (กิมซิ้น) ศาลเจ้าเชิงทะเล
1.ชอื่ ภาษาไทย หลมิ หู้ อ๋อง เอี๋ย
2.ชอ่ื ภาษาจีน 林府王耶
3.ชื่อภาษาอังกฤษ Lín fǔ wáng yé
4.ปางองค์พระ
องค์พระชาย นักบวช/โพธิสตั ย์
ชนชั้นปกครอง (กษตั รยิ ์)
องคพ์ ระหญิง ชนชน้ั นักรบ (แมท่ ัพหรอื ทหาร)
5.สถานภาพ ชนชน้ั สามัญชน
5.1 เทพเจา้ ฝา่ ยบู๊ สตั ว์/พาหนะ อน่ื ๆ................
5.2 เทพเจ้า
ฝ่ายบนุ๋
6.รูป
19
7.แหล่งท่มี าขององค์พระ สอบถามจาก 1. คุณนริ มิต ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้ เชิงทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธิ์ ช่างเหล็ก (อาจารย์ผเู้ ช่ียวชาญภาษาจีน และ
วฒั นธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ยพิธีกรรม)
4.คณุ สมบูรณ์ แกน่ ตะเคยี น 2553
5. คุณจินวัฒน์ สันติวสิ ทุ ธวกลุ ม้าทรง หลิม หู้ อ๋อง เอ๋ีย
เว็บไซตh์ ttp://www.somboon.info
8.ประวัติความเปน็ มา ไท่ซือ หรือทีป่ รึกษา ในนามว่า จ่วิ หวงไท่ซอื กง 九皇太師公 ผูเ้ ปน็ ท่ี
ปรกึ ษาขององค์กว่ิ หวงตา้ ตี้ หรอื กิวอ๋องไตเ่ ต่ ทัง้ ๙ พระองค์ เทพเจ้าหลิมฮู้ไท่
ซอื เป็นองค์ประธานของศาลเจ้าหลมิ ฮไู้ ท่ซอื ที่ภเู กต็ สิงคโปร์ มาเลเซีย ตลอดจน
ประเทศอื่นๆในภูมภิ าคนี้ รวมทัง้ ไต้หวันและแถบมณฑลฝูเจี้ยน เป็นต้น
หลมิ ไท่ซอื กง เดมิ ชือ่ เจ๊ะฉ้วน แซห่ ลมิ หรือ หลนิ เจ๊ะฉ้วน 林偕春
ชอื่ รองวา่ หลนิ ฟหุ๋ ยวน 林孚元 หรอื ลมิ เทียนโจ๊ว ถือกาเนดิ ในตระกูลแซ่
หลิมท่ตี าบลอวิน๋ เฉี้ยว หรอื ฮุนเส้ียว เมอื งจ้างโจว มณฑลฝูเจย้ี น หรอื ฮกเก้ียน
เม่อื พ.ศ. 20๘0 ปีมะแม ตรงกบั รัชสมยั ฮ่องเต้หมิงซอื จง ( จูโฮ่วชง ) ในปี
รชั กาลเจยี่ จ้งิ ที่ 16 จากครอบครวั ทมี่ ฐี านะและการศกึ ษา ในวัยเดก็ หลนิ มีความ
เฉลียวฉลาด บิดาจงึ ได้สอนการเขียนอา่ นพน้ื ฐานและความรู้ทว่ั ไป เพ่ือเตรียม
ตวั สอบเขา้ รับราชการ หลินจึงเรยี นรไู้ ด้รวดเร็วในวชิ าศิลปศาสตร์ทง้ั 6 สาขา
คือ ยุทธศาสตร์การสงคราม กฎหมายพลเรอื น การจดั เก็บภาษี เกษตรกรรม
ภมู ศิ าสตร์ วรรณคดี ลัทธิขงจ่ือ รวมท้ังวิชาอื่นๆซ่ึงแตเ่ ดิมไดม้ กี ารเรียนการสอน
กัน เชน่ วิชา ดนตรี เลขคณติ การเขียน พธิ กี รรมต่างๆ การทหาร การใช้อาวุธ
ต่างๆ การขี่ม้า เป็นตน้ ดังนั้นจึงเป็นผู้ท่ีมีสตปิ ญั ญาความสามารถ จึงเรียนรู้ทั้ง
ฝ่ายบนุ๋ และฝา่ ยบู๊ เพื่อเตรยี มตวั สอบเขา้ รบั ราชการและการปอ้ งกนั ตัวเอง จน
ในทีส่ ดุ เขาได้เขา้ รับราชการใกลช้ ิดกบั ฮ่องเต้ และไดส้ ร้างผลงานไวอ้ ยา่ ง
มากมาย
ตามลทั ธิเต๋า ได้กล่าวไว้ตอนหนึง่ วา่ ในชว่ งท่เี ขามีชวี ติ อยู่ เขาไดห้ ้ามปราม
พวกอนั ธพาลท่ีเข้าทาลายศาลเจา้ เมอ่ื ความวุน่ วายสงบ เขาจงึ ทราบว่าเปน็ ศาล
เจา้ เพือ่ บชู าเทพกิวอ๋องไตเ่ ตห่ รือ จิ่วหวางตา้ ตี้ หลงั จากกลับบ้าน เขาฝันว่าไดม้ ี
องค์เทพผู้แทนองค์กิวอ๋องไต่เตไ่ ด้เขา้ มาหา เพื่อแสดงให้ทราบว่า องคก์ วิ อ๋อง
ไตเ่ ต่ทรงพอพระทยั ในการกระทาของเขา ท่ีช่วยปอ้ งกนั ศาลเจ้าไมใ่ หถ้ ูกทาลาย
ในความฝันนน้ั พระองค์ได้พระราชทานบรรดาศักดใิ์ ห้เป็นที่ปรึกษา หรอื ไท่ซือ
ขององค์กิวอ๋องไตเ่ ตด่ ว้ ยในนามวา่ “กวิ อ๋องไต่เตไ่ ทซ่ ือกง” หรือ "จิ่วหวางตา้ ต้ี
20
9.หลกั คุณธรรม ไทซ่ ือกง” วันตอ่ มาเขาเดินทางไปยังศาลเจ้าดังกลา่ ว ปรากฏว่า มเี กา้ อีต้ ัวหน่งึ
10.อิทธฤิ ทธิ์ สาหรับให้เขาน่ัง
11.ผู้ใหข้ อ้ มลู
ในปพี .ศ. 2426 ปลายสมัยราชวงศช์ ิง ทางลัทธเิ ตา๋ ได้มีมติยกย่อง หลนิ
12.วนั ทีเ่ ก็บข้อมูล เจ๊ะฉว้ น เปน็ เทพเจ้าองค์หนึ่ง และใช้ชื่อว่า กิวอ๋องไตเ่ ต่ไท่ซอื กง หรือเป็นท่ี
เรียกขานทั่วไปวา่ หลิมไท่ซือ หรือ หลิมฮไู้ ทซ่ ือกง หรือ หลิมฮไู้ ทซ่ ือ พร้อมกบั
สร้างศาลเจา้ ใหด้ ว้ ย และใชช้ ื่อศาลเจา้ ว่า “ฮุนซานเก้ง” หรือ “อวิ๋นซานกง” ซง่ึ
เป็นชือ่ ทีใ่ ชเ้ รียกบ้านเดมิ ของเขา คือ อวิ๋นเสยี้ ว
เมื่อชาวฮกเกีย้ นไดเ้ ดินทางมาเอเชยี ตะวนั ออกเฉียงใต้ สิงคโปร์ มาเลเซยี
ไทย ฯลฯ พวกตระกูลแซห่ ลมิ ตา่ งได้สร้างศาลเจา้ ขึ้น เพอื่ ประดษิ ฐานรูปของ
ท่าน เช่นในปีพ.ศ. 2445 ครอบครัวแซห่ ลิม ที่สงิ คโปร์ได้สร้างศาลเจา้ ฮนุ ซาน
เก้งขนึ้
ที่ภูเกต็ ศาลเจา้ หลิมฮไู้ ท่ซอื นา่ จะสร้างครัง้ แรกท่ตี ีนเลหรอื ตาบลเชงิ ทะเล
ประมาณร้อยปีเศษแล้ว โดยคนในตระกูลแซห่ ลิมบ้านตีนเล โดยใช้ช่อื ศาลเจ้า
ฮนุ ซานเก้ง แล้วขยายมายังเมืองภูเก็ตท่ีถนนทงุ่ คา ที่บ้านสามกองถนนเยาวรา
ชโดยครอบครัวแซ่หลิมจากตาบลกะทู้
หลมิ ฮไู้ ทซ่ ือ จึงเปน็ บรรพบุรุษคนหนง่ึ ในตระกูลแซ่หลมิ ท่ีได้รับการยกยอ่ ง
ในคณุ งามความดีในชว่ งทม่ี ชี วี ติ อยู่ เม่ือถงึ แก่กรรมไปแล้ว ผู้คนกย็ ังเชิดชอู ยู่
ตลอดมาจนทุกวันนี้
ความขยน่ั หมน่ั เพยี ร
-
สอบถามจาก 1. คุณนริ มิต ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจา้ สา่ มออ๋ งหู้ เชงิ ทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธ์ิ ชา่ งเหลก็ (อาจารยผ์ ู้เช่ยี วชาญภาษาจนี และ
วัฒนธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝา่ ยพิธีกรรม)
4.คณุ สมบรู ณ์ แกน่ ตะเคียน 2553
5. คุณจนิ วฒั น์ สันติวสิ ทุ ธวกุล ม้าทรง หลิม หู้ อ๋อง เอ๋ีย
เวบ็ ไซตh์ ttp://www.somboon.info
06/03/64
21
องค์ท8่ี
ขอ้ มูลพระเจำ้ จีน(กิมซ้นิ ) ศาลเจ้าเชิงทะเล
พระจนี (กิมซิน้ ) ศาลเจ้าเชงิ ทะเล
1.ชื่อภาษาไทย อว๋ิ หู้ อ๋อง เอย๋ี
2.ชอ่ื ภาษาจีน 痞府王耶
3.ชื่อภาษาอังกฤษ Pǐ fǔ wáng yé
4.ปางองค์พระ
องค์พระชาย
องค์พระหญิง
5.สถานภาพ นักบวช/โพธิสัตย์
5.1 เทพเจ้าฝ่ายบู๊ ชนช้ันปกครอง (กษัตริย)์
5.2 เทพเจ้าฝา่ ยบุ๋น ชนชน้ั นกั รบ (แมท่ ัพหรือทหาร)
ชนชัน้ สามัญชน
สัตว์/พาหนะ อน่ื ๆ................
6.รปู
8.แหลง่ ทมี่ าขององค์พระ สอบถามจาก 1. คุณนริ มิต ช่างเหล็ก (ประธานศาลเจา้ ส่ามอ๋องหู้ เชิงทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธิ์ ช่างเหล็ก (อาจารย์ผู้เชย่ี วชาญภาษาจีน และ
วัฒนธรรมจนี เชงิ ทะเล)
3. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)
4. เพจ ชีวติ ศรทั ธา เทพเจา้
5. คุณบุญนึก รัตนดลิ ก ณ ภูเกต็ มา้ ทรงพระอว๋ิ หอู้ ๋องเอีย๋
22
9.ประวัติความเปน็ มา ไมป่ รากฎขอ้ มลู องค์พระ
10.หลกั คุณธรรม ความซ่ือสัตย์
11.อิทธฤิ ทธ์ิ -
12.ผ้ใู ห้ขอ้ มูล สอบถามจาก 1. คณุ นิรมิต ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจ้าสา่ มอ๋องหู้ เชงิ ทะเล)
2. คณุ ประสิทธิ์ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผเู้ ชยี่ วชาญภาษาจนี และ
วัฒนธรรมจนี เชงิ ทะเล)
3. คุณอฐั พร พรหมมาศ (ฝ่ายพิธีกรรม)
4. เพจ ชวี ติ ศรัทธา เทพเจา้
5. คณุ บุญนกึ รัตนดลิ ก ณ ภเู กต็ มา้ ทรงพระอ๋ิวหู้อ๋องเอย๋ี
13.วันที่เกบ็ ข้อมูล 06/03/64
23
องค์ท9่ี
ข้อมูลพระเจ้ำจีน(กิมซ้ิน) ศาลเจ้าเชิงทะเล
พระจนี (กมิ ซน้ิ ) ศาลเจา้ เชิงทะเล
1.ชอ่ื ภาษาไทย ออ๋ งเอีย๋
2.ชอื่ ภาษาจนี 王爺
3.ชอ่ื ภาษาองั กฤษ Wángyé
4.ปางองค์พระ
องค์พระชาย
องค์พระหญิง
5.สถานภาพ นักบวช/โพธสิ ัตย์
5.1 เทพเจ้าฝ่ายบู๊ ชนช้นั ปกครอง (กษตั รยิ )์
5.2 เทพเจ้าฝา่ ยบุ๋น ชนชน้ั นกั รบ (แมท่ ัพหรือทหาร)
ชนชัน้ สามัญชน
สัตว/์ พาหนะ อน่ื ๆ................
6.รปู
7.แหล่งท่ีมาขององค์พระ สอบถามจาก 1. คุณนริ มิต ช่างเหล็ก (ประธานศาลเจา้ สา่ มออ๋ งหู้ เชิงทะเล)
2. คณุ ประสิทธ์ิ ช่างเหล็ก (อาจารยผ์ เู้ ชย่ี วชาญภาษาจนี และ
วัฒนธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพิธีกรรม)
24
8.ประวตั คิ วามเปน็ มา 4. เพจ เทพเจ้าจนี - Chinese Gods
ขนุ พลในตระกลู "ออ๋ งเอย๋ี " จะเป็นตัวแทนสวรรค์ มีหนา้ ท่ีคอยดแู ล
9.หลกั คุณธรรม ปกปอ้ งโลกมนษุ ย์ ชว่ ยเง็กเซียนดูแลทุกข์สุขของประชาชน ขนุ พลในตระกลู
10.อทิ ธฤิ ทธ์ิ "ออ๋ งเอย๋ี " มีจานวนแค่ 5 องค์หลักๆในสมัยราชวงศ์ถงั เรียกตามแซ่ท่ีมี 132 แซ่
เพราะชาวฮกเกย้ี นเชอ่ื ว่าพวกทา่ นเป็นเทพเจา้ ประจาตระกูล
ในสมัยราชวงศ์ถังเหมือนมี 5 พนี่ ้องรว่ มสาบาน ได้ช่วยถังเกาจง
(จักรพรรดิองค์แรกของราชวงศถ์ ัง) สู้กับฮ่องเตร้ าชวงศ์สุยและสถาปนาราชวงศ์
ถังข้ึนมา พรอ้ มทัง้ เปน็ แมท่ ัพของราชวงศ์ถังชนะศึกหลายศึก ฮอ่ งเต้ก็ได้ปนู
บาเหนจ็ รางวลั ให้ แต่ 5 พี่น้องเป็นผทู้ ีม่ จี ติ ใจเมตตา ปลอ่ ยทาสท่ีไดร้ ับ
พระราชทานมาเป็นร้อยคน พรอ้ มแถมเงนิ ใหเ้ ดนิ ทางกลับบ้านเกิดไปอกี ผู้คน
ต่างร่าลือถึงความเมตตาของพวกท่าน พอสนิ้ อายุขัย เง็กเซียนกแ็ ตง่ ต้ังให้เป็น
"โหงวฮู้เชี่ยนโสย่ " มหี นา้ ทีค่ ุ้มครองการเดินทางโดยเรอื ของเง็กเซยี นและเป็น
ตัวแทนสวรรคค์ อยตรวจตราพิทักษ์โลกมนษุ ย์เรยี กว่า โถย่ เทยี งซุ้งซ่วิ (代天
巡狩) และกาจัดโรคระบาด
ความเมตตา
-
11.ผ้ใู หข้ ้อมลู สอบถามจาก 1. คณุ นริ มิต ช่างเหล็ก (ประธานศาลเจ้าส่ามออ๋ งหู้ เชิงทะเล)
2. คุณประสทิ ธ์ิ ช่างเหล็ก (อาจารยผ์ เู้ ชย่ี วชาญภาษาจีน และ
วัฒนธรรมจนี เชงิ ทะเล)
3. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)
4. เพจ เทพเจ้าจีน - Chinese Gods
12.วันทีเ่ กบ็ ข้อมูล 06/03/64
25
องค์ท1่ี 0
ขอ้ มูลพระเจำ้ จีน(กิมซนิ้ ) ศาลเจา้ เชิงทะเล
พระจนี (กิมซิน้ ) ศาลเจ้าเชิงทะเล
1.ช่อื ภาษาไทย หงอ หู้ ออ๋ ง เอยี๋
2.ชอ่ื ภาษาจนี 误府王耶
3.ช่อื ภาษาองั กฤษ Wù fǔ wáng yé
4.ปางองค์พระ
องค์พระชาย
องค์พระหญงิ
5.สถานภาพ นกั บวช/โพธสิ ตั ย์
5.1 เทพเจา้ ฝ่ายบู๊ ชนช้นั ปกครอง (กษัตรยิ ์)
5.2 เทพเจ้าฝ่ายบุ๋น ชนชน้ั นักรบ (แม่ทัพหรือทหาร)
ชนชนั้ สามญั ชน
สตั ว์/พาหนะ อื่นๆ................
6.รูป
8.แหล่งท่ีมาขององค์พระ สอบถามจาก 1. คุณนริ มิต ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจา้ ส่ามอ๋องหู้ เชงิ ทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธ์ิ ชา่ งเหล็ก (อาจารย์ผูเ้ ช่ยี วชาญภาษาจนี และ
วฒั นธรรมจนี เชงิ ทะเล)
3. คณุ โชคชัย รกั ษธ์ รรมกิจ
26
9.ประวัติความเปน็ มา 4. คณุ อฐั พร พรหมมาศ (ฝ่ายพธิ ีกรรม)
กล่มุ "อ๋องเอ๋ีย" ท่ีคนรู้จกั และนิยมกราบไหว้กนั มากทีส่ ุด คือ..
10.หลักคุณธรรม
11.อิทธิฤทธิ์ ■ ซาฮู้ออ๋ งเอย๋ี (三府王爺) : มี 3 องค์คอื แซห่ ล่ี (李) / แซ่ต่ี (池) /
12.ผ้ใู หข้ ้อมูล แซห่ งอ
13.วันท่ีเกบ็ ข้อมูล
■ โหงวฮูอ้ ๋องเอยี๋ (五府王爺) : มี 5 องค์คือ แซ่หลี่ (李) / แซต่ ่ี (池) /
แซห่ งอ (吳) และเพิ่มไปอกี 2 ทา่ นคือ แซ่จู ( 朱) และแซ่หวม ( 范) หรือจะ
เรยี ก โหงวฮู้เชย่ี นโส่ย (五府千歲)
(吳) ในสมัยถงั ไท่จง (หล่ีซื่อหมิน) มบี ณั ฑิต 5 คนเดนิ ทางจากทางใต้ไปสอบที่
เมืองหลวงฉางอาน แตส่ อบไม่ไดก้ ็เลยเล่นดนตรหี ากินอยู่ในเมืองฉางอาน ถังไท่
จงอยากลองอทิ ธิฤทธ์เิ ต่ยี วเทียนซ่ือ เลยเรยี ก 5 คนเขา้ วังและไปบรรเลงดนตรีที่
หอ้ งใตด้ ิน ด้วยความเขา้ ใจผดิ ก็ถูกเตย่ี วเทยี นซื่อฆ่าตาย บางตานานบอกว่าเป็น
ขา้ ราชการตาแหน่งจิ้นซือ 360 คน แต่บางตานานบอกว่าเปน็ ขา้ ราชการ 360
คนไปช่วยขจดั โรคระบาด (อุ่นสนิ ) แล้วตาย บางตานานก็ว่าเรือลม่ แล้วตาย แต่
ไม่ว่าจะตานานไหนเรากส็ ามารถสรุปไดว้ ่าองคอ์ ๋องเอีย๋ ในปัจจบุ ันทีเ่ รากราบไวม้ ี
360 องค์ และมมี หี ลกั ๆเลยคือ 5 องคค์ รับ เน่ืองจากพวกท่านเปน็ ผู้ทีม่ อี ิทธิฤทธ์ิ
มาก คาเรยี กช่ือท่านจงึ มกั ลงท้ายดว้ ย "ออ๋ งเอย๋ี " และเม่ือต้องการเน้นให้รู้วา่ มี
อทิ ธิฤทธ์มิ ากจงึ เป็น "เชยี นโสย่ เอ๋ีย" หรอื "เชยี นโส่ยอ๋องเอี๋ย"
-
-
สอบถามจาก 1. คณุ นริ มิต ช่างเหลก็ (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้ เชงิ ทะเล)
2. คุณประสทิ ธิ์ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผ้เู ชย่ี วชาญภาษาจนี และ
วฒั นธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คุณโชคชัย รกั ษ์ธรรมกิจ
4. คณุ อัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)
06/03/64
27
องค์ท1่ี 1
แบบฟอร์มกำรเก็บข้อมลู พระจีน (กมิ ซน้ิ - 金身) ศำลเจ้ำ สำ่ มออ๋ งหเู้ ชงิ ทะเล
พระจนี (กมิ ซ้ิน - 金身) ศำลเจำ้ ส่ำมอ๋องห้เู ชงิ ทะเล
1. ชือ่ ภำษำไทย แซ่หงอ
2. ชือ่ ภำษำจีน
吳
3. ชื่อภำษำอังกฤษ
hn̄ gx
4. รปู ภำพพระจนี (กิมซน้ิ - 金身)
28
5. แหล่งท่ีมำ สอบถามจาก 1. คณุ นิรมิต ช่างเหลก็ (ประธานศาลเจา้ สา่ มอ๋องหู้ เชิงทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธ์ิ ชา่ งเหล็ก (อาจารยผ์ เู้ ช่ียวชาญภาษาจนี และ
วฒั นธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)
6. ประวตั ิควำมเปน็ มำของพระจนี หงอฮู้เช่ียนโส่ย (吳府千歲) ชื่อเดิมของท่านคือ หงอเส้ียวควาน (吳孝
(กิมซน้ิ - 金身) 寬) เป็นชาวกงั โซวหงอเชียน (江蘇吳縣) ท่านเกง่ ดา้ นฮวงจยุ้ สามารถสังเกต
ดวงดาวสาหรับการออกรบได้อย่างแม่นยา หลังจากช่วยสถาปนาราชวงศ์ถังแล้ว
ก็ได้รับราชการเป็นผู้ว่าการรัฐและเป็นที่ปรึกษาระดับสูงของจักรพรรดิในการสอน
ประชาชนทาเข่ือนแก้ปัญหาภัยแลง้
หลังจากส้ินอายุขัย เง็กเซียนได้แต่งตั้งท่านในนามซาอ๋องหงอฮู้เช่ียนโส่ย (三
王吳府千歲) ผคู้ นกก็ ราบไหวบ้ ูชาท่านในฐานะเทพแห่งความกลา้ หาญ
7. หลกั คณุ ธรรม ความกล้าหาญ
8. ขอ้ มูลเพิ่มเติม ในบรรดา 5 พ่นี ้อง จะมีท่านหงอฮู้เชย่ี นโสย่ ท่านเดียวท่ีไม่มีหนวดและเครา
29
องคท์ 1ี่ 2
แบบฟอร์มกำรเก็บข้อมูลพระจีน (กมิ ซน้ิ - 金身) ศำลเจ้ำ ส่ำมออ๋ งหู้เชิงทะเล
พระจนี (กมิ ซนิ้ - 金身) ศำลเจ้ำ ส่ำมอ๋องห้เู ชิงทะเล
1. ชื่อภำษำไทย แซก่ วน
2. ช่ือภำษำจีน 關
3. ช่อื ภำษำอังกฤษ kwn
4. รปู ภำพพระจนี (กิมซ้ิน - 金身)
5. แหล่งที่มำ สอบถามจาก 1. คุณนริ มิต ชา่ งเหล็ก (ประธานศาลเจ้าสา่ มออ๋ งหู้ เชิง
ทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธ์ิ ชา่ งเหล็ก (อาจารย์ผเู้ ชี่ยวชาญภาษาจนี
และ
วฒั นธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)
6. ประวตั ิควำมเปน็ มำของพระจีน น้องรว่ มสาบานคนรองของเล่าปี่ และเตยี วหุย หน้าแดงเหมอื นผลพทุ ราสกุ
(กมิ ซิน้ - 金身) จักษุเรยี วงามคลา้ ยนกการเวก ค้ิวโก่งดั่งตัวหนอนไหม หนวดเคราสีดางาม
30
7. หลักคณุ ธรรม ยาวละเอยี ด มีง้าวมังกรเขียวยาว 8 ศอก หนัก 82 ชั่งจนี เป็นอาวุธคกู่ าย
8. ข้อมูลเพิ่มเติม ร่วมตอ่ สกู้ ับเล่าปี่ ตลอดชีวิตทผ่ี า่ นมาสดู้ ว้ ยความจงรักภักดี คณุ ธรรม และ
ความกล้าหาญ ถึงจะพ่ายแพ้ศึก และยอมเป็นขา้ รับใชโ้ จโฉ แต่ใจก็ยงั คง
ภกั ดตี ่อเล่าปี่เพียงผู้เดยี ว สรา้ งชือ่ เสียงลอื ไกล ด้วยการสังหาร ฮวั หยงแม่
ทพั ของตง๋ั โตะ๊ โดยท่ีสุรายังอุน่ ๆ อยู่ เอาชนะงันเหลียง และบุนทวิ 2 แม่
ทัพของอว้ นเสี้ยว ฝ่า 5 ด่าน สังหาร 6 แม่ทัพของโจโฉ และยงั ครองใจผคู้ น
ไมว่ ่าเลยี วฮวั และจิวฉอง รวมถึงเตยี วเล้ียวแม่ทัพของโจโฉ และฮองตง ท่ี
แม้เคยเปน็ ศัตรู แตก่ ็ครองใจได้ ข่มี า้ เซ็กเธาวอ์ าชาช้ันยอดของลิโป้ ตอ่ มา
ได้เปน็ เจา้ เมืองเกงจิ๋ว อยู่ร่วมกบั กวนเป๋งบุตรบุญธรรม กบั จิวฉอง
ภายหลังถูก แผนกลยุทธ์ของลกซนุ และลิบองฆ่าตาย แตถ่ ึงจะตายไป ก็ยงั
ทาให้ลิบองตายตามไปดว้ ย หลังจากตายไป ได้ถกู ยกย่องว่า เป็นเทพเจ้า
แหง่ ความซ่ือสัตย์ ชงึ่ ภาษาจีนกลางเรียก กวนอี่ว์
ความซือ่ สัตย์
สูง 32 นว้ิ
31
องค์ท1ี่ 3
แบบฟอรม์ กำรเก็บข้อมูลพระจีน (กิมซนิ้ - 金身) ศำลเจำ้ ส่ำมออ๋ งห้เู ชงิ ทะเล
พระจนี (กมิ ซนิ้ - 金身) ศำลเจ้ำ ส่ำมอ๋องห้เู ชงิ ทะเล
1. ชอ่ื ภำษำไทย แซจ่ ู (จู้)
2. ช่ือภำษำจนี 朱
Cū̂
3. ชื่อภำษำอังกฤษ
4. รูปภำพพระจีน (กิมซิน้ - 金身)
5. แหลง่ ที่มำ สอบถามจาก 1. คณุ นริ มติ ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจา้ ส่ามออ๋ งหู้ เชิงทะเล)
2. คณุ ประสทิ ธิ์ ช่างเหลก็ (อาจารย์ผ้เู ชี่ยวชาญภาษาจีน และ
วฒั นธรรมจนี เชงิ ทะเล)
3. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝ่ายพิธีกรรม)
6. ประวตั คิ วำมเปน็ มำของพระจนี คนจีนอพยพเข้ามาทามาหากินในบ้านตีนเลเป็นจานวนมาก ตอนน้ันยังไม่ได้
(กมิ ซิน้ - 金身) สร้างศาลเจ้าไว้ในหมู่บ้านแห่งนี้ และเม่ือต้องการไหว้พระในโอกาสต่างๆ ก็ต้อง
32
7. หลกั คุณธรรม เดินทางไปไหว้พระในศาลเจ้าต่างๆในตัวเมืองภูเก็ตและกะทู้ จนกระท่ัง พ.ศ.2444
8. ข้อมูลเพมิ่ เติม นายจปู้ า่ ยตักเดินทางกลับไปยงั เมืองจนี และได้อญั เชิญพระจีนกลับมาจานวน 3 องค์
เมื่อนาพระจีนกลับมายังบ้านตีนเล ก็ไปปรึกษากับนายจ้แู จ่วตี่ และนายแป๊ะจู้แจ่วต่ี
จึงมอบท่ีดินเพ่ือสร้างเป็นประดิษฐานพระจีนทั้ง 3 องค์ โดยใช้ช่ือสานักว่า “กิ่มฮุ้ย
เตี่ยน” โดยมีองค์ทั้ง 3 องค์เป็นประธานซึ่งเรียกรวมว่า “ส่ามอ๋องหู้” แปลว่า เจ้าส่ิง
ศักดส์ิ ิทธ์ิ 3 องค์ องค์ใหญ่ท่ีสดุ มีใบหน้าสีแดงเปน็ พระของคนแซ่จู้ เรียกว่า “พระจูห้ ู้”
องค์ท่ีมใี บหน้าสีดาเปน็ พระของคนแซ่เฮง เรยี กว่า “พระเฮงหู้” และองค์ที่มีใบหน้าสี
เขียวเป็นพระของคนแซ่หลุย เรียกว่า “พระหลุยฮู้” ตามตานานเชื่อกันว่าพระส่าม
ออ๋ งห้มู ีพี่น้องรว่ มสาบานอีก 360 องค์ ทไ่ี ดเ้ ขา้ รว่ มดูแลสานกั กมิ่ หุ้ยเต่ียนแห่งน้ี
-
พระจ้หู ู้ มีขนาด 42 นิว้ และเปน็ ประธานใหญข่ องศาลเจา้ สา่ มอ๋องห้เู ชิงทะเล
ม้าทรง หรอื รา่ งทรงพระจู้หู้ คือ แปะ๊ อ๋องหา้ หยกหรืออ๋องหยก
33
องคท์ 1ี่ 4
แบบฟอรม์ กำรเก็บขอ้ มลู พระจีน (กิมซิ้น - 金身) ศำลเจำ้ สำ่ มออ๋ งหเู้ ชิงทะเล
พระจีน (กิมซน้ิ - 金身) ศำลเจ้ำ สำ่ มออ๋ งห้เู ชิงทะเล
1. ช่ือภำษำไทย แซล่ ยุ (แซ่หลยุ )
2. ชอ่ื ภำษำจีน 雷
Léi
3. ช่ือภำษำอังกฤษ
4. รูปภำพพระจีน (กิมซิ้น - 金身)
5. แหล่งที่มำ สอบถามจาก 1. คณุ นริ มติ ชา่ งเหลก็ (ประธานศาลเจา้ ส่ามออ๋ งหู้ เชงิ ทะเล)
2. คุณประสิทธ์ิ ชา่ งเหลก็ (อาจารย์ผู้เชย่ี วชาญภาษาจนี และ
วฒั นธรรมจนี เชิงทะเล)
3. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝ่ายพธิ กี รรม)
34
6. ประวัตคิ วำมเปน็ มำของพระจนี คนจีนอพยพเข้ามาทามาหากินในบ้านตีนเลเป็นจานวนมาก ตอนน้ันยังไม่ได้
(กิมซนิ้ - 金身) สร้างศาลเจ้าไว้ในหมู่บ้านแห่งน้ี และเมื่อต้องการไหว้พระในโอกาสต่างๆ ก็ต้อง
เดินทางไปไหว้พระในศาลเจ้าต่างๆในตัวเมืองภูเก็ตและกะทู้ จนกระท่ัง พ.ศ.2444
นายจู้ปา่ ยตักเดนิ ทางกลบั ไปยังเมืองจนี และได้อญั เชิญพระจนี กลบั มาจานวน 3 องค์
เม่ือนาพระจีนกลับมายังบ้านตีนเล ก็ไปปรึกษากับนายจ้แู จ่วตี่ และนายแป๊ะจู้แจ่วตี่
จึงมอบท่ีดินเพ่ือสร้างเป็นประดิษฐานพระจีนท้ัง 3 องค์ โดยใช้ชื่อสานักว่า “ก่ิมฮุ้ย
เตี่ยน” โดยมีองค์ท้ัง 3 องค์เป็นประธานซึ่งเรียกรวมว่า “ส่ามอ๋องหู้” แปลว่า เจ้าส่ิง
ศักดิ์สิทธ์ิ 3 องค์ องคใ์ หญท่ ี่สดุ มใี บหน้าสีแดงเป็นพระของคนแซ่จู้ เรียกว่า “พระจู้หู้”
องคท์ ี่มีใบหน้าสีดาเปน็ พระของคนแซ่เฮง เรียกว่า “พระเฮงหู้” และองค์ที่มีใบหน้าสี
เขียวเป็นพระของคนแซ่หลุย เรียกว่า “พระหลุยฮู้” ตามตานานเชื่อกันว่าพระส่าม
ออ๋ งหู้มีพน่ี ้องร่วมสาบานอกี 360 องค์ ท่ไี ดเ้ ขา้ ร่วมดแู ลสานักก่มิ ห้ยุ เตย่ี นแหง่ น้ี
7. หลกั คณุ ธรรม -
8. ข้อมูลเพิ่มเติม พระหลยุ ฮู้ แปลว่า สายฟ้า มีขนาด 19 นวิ้
35
องคท์ 1ี่ 5
แบบฟอรม์ กำรเก็บขอ้ มูลพระจนี (กมิ ซ้นิ - 金身) ศำลเจ้ำ ส่ำมออ๋ งหเู้ ชงิ ทะเล
พระจีน (กิมซิน้ - 金身) ศำลเจำ้ ส่ำมออ๋ งหเู้ ชิงทะเล
1. ชื่อภำษำไทย แซ่เฮง หรือแซ่หวงั
2. ชอ่ื ภำษำจนี 王
Wáng
3. ชอ่ื ภำษำอังกฤษ
4. รปู ภำพพระจีน (กิมซ้นิ - 金身)
5. แหล่งที่มำ สอบถามจาก 1. คณุ นิรมิต ช่างเหล็ก (ประธานศาลเจ้าสา่ มอ๋องหู้ เชิงทะเล)
2. คุณประสิทธิ์ ช่างเหลก็ (อาจารยผ์ ู้เช่ยี วชาญภาษาจนี และ
วัฒนธรรมจนี เชงิ ทะเล)
3. คุณอัฐพร พรหมมาศ (ฝา่ ยพธิ ีกรรม)
4. หนังสือสืบกาเนดิ 225 แซ่ โดย บญุ ศกั ดิ์ แสงระวี
36
6. ประวัตคิ วำมเปน็ มำของพระจนี คนจีนอพยพเข้ามาทามาหากินในบ้านตีนเลเป็นจานวนมาก ตอนน้ันยังไม่ได้
(กิมซน้ิ - 金身) สร้างศาลเจ้าไว้ในหมู่บ้านแห่งนี้ และเม่ือต้องการไหว้พระในโอกาสต่างๆ ก็ต้อง
เดินทางไปไหว้พระในศาลเจ้าต่างๆในตัวเมืองภูเก็ตและกะทู้ จนกระท่ัง พ.ศ.2444
นายจู้ป่ายตกั เดนิ ทางกลบั ไปยงั เมืองจนี และได้อัญเชญิ พระจนี กลบั มาจานวน 3 องค์
เมื่อนาพระจีนกลับมายังบ้านตีนเล ก็ไปปรึกษากับนายจแู้ จ่วตี่ และนายแป๊ะจู้แจ่วตี่
จึงมอบที่ดินเพื่อสร้างเป็นประดิษฐานพระจีนทั้ง 3 องค์ โดยใช้ช่ือสานักว่า “กิ่มฮุ้ย
เต่ียน” โดยมีองค์ทั้ง 3 องค์เป็นประธานซึ่งเรียกรวมว่า “ส่ามอ๋องหู้” แปลว่า เจ้าส่ิง
ศกั ด์สิ ิทธิ์ 3 องค์ องคใ์ หญท่ ่ีสดุ มีใบหน้าสแี ดงเป็นพระของคนแซ่จู้ เรียกว่า “พระจู้หู้”
องคท์ ี่มีใบหน้าสีดาเปน็ พระของคนแซ่เฮง เรยี กว่า “พระเฮงหู้” และองคท์ ี่มีใบหน้าสี
เขียวเป็นพระของคนแซ่หลุย เรียกว่า “พระหลุยฮู้” ตามตานานเช่ือกันว่าพระส่าม
อ๋องห้มู พี นี่ อ้ งร่วมสาบานอกี 360 องค์ ทไ่ี ด้เข้ารว่ มดแู ลสานกั กิ่มหยุ้ เต่ยี นแห่งนี้
7. หลักคณุ ธรรม -
8. ขอ้ มูลเพิม่ เติม พระเฮงหู้ หมายความวา่ พระนามของพระเจา้ แผน่ ดนิ หรือเจา้ นาย มีขนาด 39 น้ิว
และพระเฮงหูย้ งั เป็นผสู้ บื เชือ้ สายของพระเจ้าหย่ีซ่นุ
37
องค์ท1ี่ 6
แบบฟอร์มกำรเกบ็ ข้อมูลพระจนี (กมิ ซ้นิ - 金身) ศำลเจ้ำ ส่ำมอ๋องห้เู ชิงทะเล
พระจนี (กิมซนิ้ - 金身) ศำลเจำ้ ส่ำมอ๋องหเู้ ชิงทะเล
1. ช่อื ภำษำไทย 21 แซ่หลี
2. ชื่อภำษำจนี 李
3. ชือ่ ภำษำอังกฤษ Lǐ
4. รูปภำพพระจนี (กิมซิน้ - 金
身)
5. แหล่งที่มำ ศาลเจา้ สา่ มอ๋องหเู้ ชงิ ทะเล อ.ถลาง จ.ภเู ก็ต
6. ใประวตั ิควำมเป็นมำของพระ ขนุ พลในตระกูล "ออ๋ งเอ๋ยี " จะเป็นตัวแทนสวรรค์ มีหน้าทคี่ อยดูแลปกป้อง
จีน(กมิ ซนิ้ - 金身) โลกมนุษย์ ช่วยเง็กเซียนดูแลทุกข์สุขของประชาชน แล้วขุนพลในตระกูล "อ๋องเอี๋ย"
มี 360 องค์ บางคนบอกว่า 365 องค์ (ตามจานวนวัน) แต่เร่ิมจากแค่ 5 องค์หลักๆ
ในสมัยราชวงศ์ถัง ซึ่งเราจะเรียกท่านตามแซ่ที่มี 132 แซ่ เพราะชาวฮกเก้ียนเช่ือว่า
38
พวกท่านเป็นเทพเจ้าประจาตระกูลกลุ่ม "อ๋องเอ๋ีย" ที่คนรู้จักและนิยมกราบไหว้กัน
มากทีส่ ุด คอื ..
ซาฮู้ออ๋ งเอ๋ยี : มี 3 องค์คอื แซ่หล่ี / แซต่ ่ี / แซ่หงอ
โหงวฮูอ้ ๋องเอ๋ีย : มี 5 องคค์ ือ แซห่ ล่ี / แซต่ ่ี / แซ่หงอ และเพิม่ ไปอีก 2 ทา่ นคือ แซจ่ ู
และแซห่ วม หรอื จะเรียก โหงวฮเู้ ชย่ี นโสย่
สว่ นประวตั ิครา่ วๆของพวกท่านคือ
ในสมัยถังไท่จง (หล่ีซ่ือหมิน) มีบัณฑิต 5 คนเดินทางจากทางใต้ไปสอบที่เมืองหลวง
ฉางอาน แต่สอบไม่ได้ก็เลยเล่นดนตรีหากินอยู่ในเมืองฉางอาน ถังไท่จงอยากลอง
อิทธิฤทธ์ิเตี่ยวเทียนซ่ือ เลยเรียก 5 คนเข้าวังและไปบรรเลงดนตรีท่ีห้องใต้ดิน ด้วย
ความเขา้ ใจผิดก็ถูกเตี่ยวเทียนซื่อฆ่าตาย บางตานานบอกวา่ เป็นข้าราชการตาแหน่ง
จ้นิ ซือ 360 คน แตบ่ างตานานบอกว่าเป็นขา้ ราชการ 360 คนไปช่วยขจัดโรคระบาด
(อุ่นสิน) แล้วตาย บางตานานก็ว่าเรือล่มแล้วตาย แต่ไม่ว่าจะตานานไหนเราก็
สามารถสรุปได้ว่าองค์ออ๋ งเอี๋ยในปัจจุบันที่เรากราบไว้มี 360 องค์ และมีมหี ลักๆเลย
คือ 5 องค์ เนื่องจากพวกท่านเป็นผู้ท่ีมีอิทธิฤทธ์ิมาก คาเรียกช่ือท่านจึงมักลงท้าย
ด้วย "อ๋องเอ๋ีย" และเม่ือต้องการเน้นให้รู้ว่ามีอิทธิฤทธิ์มากจึงเป็น "เชียนโส่ยเอี๋ย"
หรือ "เชียนโสย่ ออ๋ งเอ๋ีย" อีกตานานที่แตกต่างออกไปคือในสมัยราชวงศถ์ ังเหมือนกัน
ครับ 5 พี่น้องร่วมสาบาน ได้ช่วยถังเกาจง (จักรพรรดิองค์แรกของราชวงศ์ถัง) สู้กับ
ฮ่องเต้ราชวงศ์สุยและสถาปนาราชวงศ์ถังขึ้นมา พร้อมท้ังเป็นแม่ทัพของราชวงศ์ถัง
ชนะศึกหลายศึก ฮ่องเต้ก็ได้ปูนบาเหน็จรางวัลให้ แต่ 5 พี่น้องเป็นผู้ท่ีมีจิตใจเมตตา
ปล่อยทาสทไ่ี ดร้ บั พระราชทานมาเปน็ ร้อยคน พร้อมแถมเงินให้เดินทางกลบั บ้านเกิด
ไปอกี ผูค้ นต่างร่าลือถึงความเมตตาของพวกทา่ น พอสนิ้ อายขุ ยั เง็กเซียนกแ็ ต่งต้ังให้
เป็น "โหงวฮู้เช่ียนโส่ย" มีหน้าที่คุ้มครองการเดินทางโดยเรือของเง็กเซียนและเป็น
ตวั แทนสวรรค์คอยตรวจตราพิทักษ์โลกมนุษย์เรียกว่า โถ่ยเทียงซุ้งซิ่ว และกาจัดโรค
ระบาดครับในตาแหน่งโถ่ยเทียงซุ้งซ่ิว หรือไต่เทียนฮู้ น้ันจะมีอานาจควบคุมส่ังการ
3 กองทพั สวรรค์ คอื
1. ทัพฟา้ : ซาจับหลักเทียงกงั
2. ทพั ดิน : ชกิ จับยตี่ ี่ซวั
39
3. หา้ กองพลรักษามณฑลพธิ ี : โหงวเอยี ซง้ิ เปยี
ในฮกเก้ยี นสมัยก่อนจะมีการจัดพิธีไหว้ "อ๋องเอ๋ีย" ด้วยการเอาไม้มาแกะสลักเป็นรูป
พวกท่านแล้วเขียนแซ่กากับไว้ ใส่ในเรือพร้อมของกินเต็มลพและเอาไปเผาทิ้ง บาง
พ้ืนที่เอาไปลอยน้า เพราะเช่ือว่าเป็นการทาลายโรคระบาด แต่ปัจจุบันโรคระบาด
ไม่ได้มเี หมือนเมอ่ื ก่อนคนกเ็ ลยกราบไหวพ้ วกท่านในเร่อื งอน่ื ๆแทน
7. หลักคณุ ธรรม
8. ข้อมูลเพิ่มเติม
40
องค์ท1ี่ 7
แบบฟอรม์ กำรเกบ็ ขอ้ มูลพระจนี (กิมซ้นิ - 金身) ศำลเจำ้ ส่ำมออ๋ งหเู้ ชิงทะเล
พระจีน (กมิ ซน้ิ - 金身) ศำลเจ้ำ สำ่ มออ๋ งห้เู ชงิ ทะเล
1. ชื่อภำษำไทย ออ๋ งสนุ้ ไต่สำ่ ย
2. ชอ่ื ภำษำจนี 王孫大使
3. ช่อื ภำษำอังกฤษ Wángsūn dàshǐ
4. รปู ภำพพระจนี (กิมซ้นิ - 金身)
5. แหลง่ ท่ีมำ ศาลเจ้ากวงฮกเกง
https://www.facebook.com/423138037826578/posts/447794248694290/
41
6. ประวัติควำมเปน็ มำของพระจนี ท่านเปน็ คนสมัยราชวงศซ์ ้อง เดมิ แซ่ เจ่ีย (謝) ชอ่ื เส่ียเฮีย้ ง (聖賢)แตส่ ว่ นใหญ่
(กมิ ซ้ิน - 金身) เรยี กท่านว่า เจีย่ เอี่ยน (謝玄)เกดิ ในตระกลู ขุนนางชนั้ สูง เมอื่ อายุสบิ สาม ได้ชว่ ย
ชาวบ้านปราบปศี าจในบึง จนสาเร็จแตต่ วั เองก็ทนพิษบาดแผลไม่ไหวได้สนิ้ ใจเช่นกนั
ทนั ใดน้นั ทวั่ ท้งั ทอ้ งฟ้าได้มีแสงสว่าง ดนตรปี ระโคม วญิ ญาณเด็กหนุ่มคนนไี้ ดล้ อยขนึ้
สูส้ วรรค์ ชาวบ้านจงึ ต้งั ศาลให้เพือ่ ระลึกถึงคุณงามความดี ต่อมาจนถึงสมยั ราชวงศ์
ซ้องเหนือ ฮ่องเต้ได้ทาศกึ ผ่านมาทางน้ี จงึ ทาการขอพรให้รบชนะ ทันใดนนั้ ก็มี
เทวดาเด็กหน่มุ ขมี่ ้า เข้าสู้ศกึ จนขา้ ศกึ แตกพา่ ยไป ฮ่องเตจ้ งึ ไดแ้ ตง่ ต้ังให้ท่านเป็น เจ่ีย
ฮู้หง่วนโส่ย (謝府元帥) มอี ีกหลายตานาน บางตานานกล่าววา่ ทา่ นเปน็ หลาน
ขององค์หยกอ๋องซ่งเต้ อ๋องสุ้นไต่ส่าย ยังสัมพนั ธ์กบั พระตระกลู ฮู้ องคห์ น่ึงกค็ ือ เจย่ี
ฮอู้ ๋องเอ๋ีย (謝府王爺), หรือ กง่ หยุ เสีย่ อ๋อง (廣惠聖王) ส่วนใหญเ่ รียกวา่
อ๋องกง (王公) นามเดมิ วา่ เจี่ยอัน (謝安) เป็นคนสมยั ราชวงศจ์ ิ้น เปน็ แมท่ พั
ประจากองพลระวงั หนา้ เชี่ยวชาญการรบ และยงั เปน็ เอกอัครราชทูตใหญป่ ระจา
องค์ฮ่องเต้ มีเกยี รตปิ ระวตั ิความเก่งกล้าสามารถจนเป็นที่เล่ืองลอื ผู้คนตา่ งยกย่อง
อยา่ งกวา้ งขวางจนมีหลายชือ่ เรียก ได้แก่ เจ่ยี ฮเู้ ชยี่ นโส่ย (謝府千歲), หกู ๊กจนุ
ออ๋ ง (護國尊王), เหลยี งโจ้วฮุดกง (靈祖佛公), เจี่ยฮ้อู ๋องกง (謝府
王公) หลงั สุดฮอ่ งเต้ไตเ้ ชง็ อ้วงเต่ (大清皇帝) ทรงแต่งตง้ั เป็น ก๋งเอง่ จุนอ๋อง
(廣應尊王) บา้ งเรียก เฮยี่ นจเ่ี หลยี งอ๋อง (顯劑靈王) เจย่ี อนั มีพี่ชายเป็น
ขนุ นางช้ันสงู ซ่งึ มีบตุ รชาย ช่อื ว่า เจยี่ เอยี่ น (謝玄) หรอื เจย่ี ฮูห้ งว่ นโสย่ (謝府
元帥) ดังนนั้ จึงเรียก เจีย่ เอ่ียนว่า อ๋องสนุ้ (王孫) ซึ่งมีศกั ดิเ์ ป็นหลานของเจีย่
อัน โดยเรียกวา่ อ๋องส้นุ ไตส่ า่ ยน่ันเอง
7. หลกั คุณธรรม ความกลา้ หาญ
8. ขอ้ มูลเพ่มิ เติม
42
องคท์ 1ี่ 8
แบบฟอร์มกำรเกบ็ ข้อมูลพระจีน (กิมซนิ้ - 金身) ศำลเจำ้ สำ่ มออ๋ งห้เู ชงิ ทะเล
พระจีน (กิมซนิ้ - 金身) ศำลเจ้ำ สำ่ มอ๋องห้เู ชิงทะเล
1. ชื่อภำษำไทย หลหี ลู้ อ้ เฉี้ยสามไทจ่ ้ือ
2. ชอ่ื ภำษำจีน 三太子
3. ชื่อภำษำอังกฤษ Sān tàizǐ
4. รปู ภำพพระจนี (กิมซนิ้ - 金身)
5. แหลง่ ท่ีมำ เทพเจา้ จีน
https://www.facebook.com/363415133996355/posts/412563115748223/
6. ประวัตคิ วำมเปน็ มำของพระจีน ตงต๋านหงว่ นโสย่ หรอื โลเฉยี หรอื ส่ามไทจ้ ื้อ หรอื หลฮี โู้ ลเฉีย เปน็ บุคคลที่เกิด ใน
(กมิ ซนิ้ - 金身) สมยั ปลายราชวงศเ์ ซ่ีย (ซาง) เป็นบตุ รคนท่ี 3 ของหลี่เจง้ นายด่านตงึ ตนั กวนกับนาง
ฮนื สี อดีตช่ือ เหลงจจู๊ ือ อย่บู นสวรรคไ์ ด้รบั คาส่ังให้จตุ ลิ งมาเกิด เพื่อช่วยเกยี งจแู่ หย
นากองทัพของพระเจ้าบูออ๋ งแห่งเมืองไซรกี เข้าตีกองทพั พระเจา้ ติวอ๋องยึดเมืองจวิ
โก๋ มีพี่ชาย 2 คน กมิ เชย้ี และ บก๊ เชย้ี (กิมเฉีย/กิมจา หรือ อดี ไทจ้ อ้ื หรอื หลีฮ้กู ิม
เฉีย ซง่ึ ต่อไปไดเ้ ปน็ เทพคอยติดตามพระพุทธเจ้า คนทีส่ องชื่อ บกเฉีย/ม่จู า หรอื หย่ี
ไท้จื้อ หรือ หลีฮูบ้ กเฉยี ซึง่ ต่อไปเปน็ ศิษยข์ องพระกวนอิม ช่ือทางธรรมวา่ ฮุยไง้) หล่ี
เจง้ พาโลเชย้ี ไปฝากตัวเปน็ ศิษยไ์ ทอ่ ิดจินหยนิ ต่อมาโลเช้ยี ไปฆ่าองคช์ ายมังกรตาย
43
7. หลกั คณุ ธรรม เจา้ สมุทรมาเอาเรือ่ งถงึ บ้านหล่เี จง้ โลเช้ยี จงึ ไม่อยากให้พ่อแมเ่ ดอื ดรอ้ น จึงเลาะ
8. ข้อมูลเพ่ิมเติม กระดูกคืนแม่ เนอ้ื หนงั คนื พ่อ ฆา่ ตัวตายและเข้าฝนั นางฮืนสใี หส้ รา้ งศาลเจ้าและรูป
ป้นั ใหเ้ พ่ือที่ 3 ปขี ้างหนา้ ตนจะได้คนื ชีพมรี ูปกายข้นึ มา แต่หลีเ่ จง้ ไปทาลายเสียส้ิน
ซ่ึงหลงั จากนัน้ โลเชี้ยจงึ ไปให้ ไทอ่ ิดจนิ หยนิ คนื ชพี ให้ ไท่อิดจนิ หยนิ ใช้ดอกบัว 2 ดอก
ตา่ งเน้อื หนงั ใบบวั 3 ใบต่างกระดกู 300 ท่อนคนื ชพี เปน็ มนษุ ย์ มผี ิวขาว ปากแดง
ดุจชาด ตาเป็นประกายดุจดวงดาว สูงสบิ ศอก ไท้อดิ จนิ หยินมอบทวน (กิมเซ้ยี ว)
ห่วงทอง (ซิ้วกว้ิ ) และจกั รลมจกั รไฟ (ห้องโห้ยลู๋น) พร้อมผ้าแพรสายฟ้าฟาดให้กบั โล
เชยี้ โลเชี้ยข้นึ เหยยี บจักรมงุ่ ตรงไปหาหลเ่ี จ้งเพ่ือฆ่า หลเ่ี จ้งรบกันได้ 5 เพลง หลเ่ี จ้ง
เห็นทสี ู้ไม่ไหวจงึ ไดห้ นีไปจนพบบ๊กเชย้ี โลเชยี้ กับบก๊ เช้ยี จึงสกู้ นั ผลสุดท้ายเทียนจ๋นุ
และเหยียนเตง๋ โตหยนิ ต้องเขา้ มาชว่ ยลงโทษ โลเชย้ี ใหส้ านึกในบญุ คณุ โดยการใชแ้ ก้ว
7 ประการโยนข้ึนฟา้ กลายเป็นห่วงทองมาคลอ้ งมอื และเท้าของโลเชีย้ โลเชีย้ ซ่ึงจะ
ได้รับความเจบ็ ปวดทรมานมาก (เหมือนท่ีเหง้ เจยี ใส่อย)ู่ ไท้อิดจินหยินจงึ เข้ามา
อบรมส่งั สอนโลเชย้ี สดุ ท้ายพ่อลูกก็เขา้ ใจกนั หลังจากนน้ั โลเชีย้ ก็ได้ฝึกวิชาตลอด
มา จนกระท่ังไท้อดิ จนิ หยนิ สงั่ ใหไ้ ปช่วยเกยี งจแู หย จึงมุ่งหนา้ ไปเขา้ ทัพเกียงจูแหย
และเป็นแม่ทพั ปีกขวาของไซรกี ซึง่ ตอ่ มา โลเช้ยี พลาดท่าต้องอาวุธขา้ ศึกสลบไป ไท้
อดิ จนิ หยนิ ใหศ้ ิษย์มารบั ไปรกั ษาตัวและมอบพุทรา 3 ลกู เหล้า 3 จอกใหก้ ินจึงมี 3
หนา้ 6 มือ และไดม้ อบกระบี่ 2 คู่ อฐิ ทอง 1 ก้อนให้ โลเชี้ยจงึ ลากลบั มาหา เกียงจู่
แหยและไดช้ ว่ ยเกยี งจแู หยบกุ ล้มทัพพระเจ้าติวอ๋องไดส้ าเร็จ จึงไดล้ าเกียงจู่แหย
กลบั ไปบาเพ็ญเพยี รหาความสงบในปา่ สืบไป
ความเสยี สละและมีความกตัญญูตอ่ บดิ ามารดา
เทพองค์นี้ มีบทบาทสาคญั มาก ตามศาลเจา้ ต่างๆ เพราะเป็นผ้คู ุมทหารในศาลเจ้า
และดแู ลพิธีกรรมต่างๆ ใหเ้ ป็นไป อย่างเรยี บร้อย ลโ่ี ลเ้ ฉีย เปน็ หัวหน้าทหารธง
เหลอื ง (อ๋ยุ ก่)ี มีทหาร 33000 นายดแู ลบริเวณราชวังสวรรค์ ปางต่าง ๆ ของพระนา
จา รปู เคารพของพระนาจามีลกั ษณะยืนเหยยี บล้อไฟ มือถือหอกอัคคี
44
องคท์ 1ี่ 9
แบบฟอร์มกำรเก็บข้อมลู พระจีน (กิมซิ้น - 金身) ศำลเจ้ำ สำ่ มออ๋ งหู้เชงิ ทะเล
พระจีน (กิมซ้นิ - 金身) ศำลเจ้ำ สำ่ มอ๋องหู้เชิงทะเล
1. ชื่อภำษำไทย กวนเสง็ เตก้ นุ้
2. ชอ่ื ภำษำจนี 關聖帝君
3. ชอ่ื ภำษำอังกฤษ Guān shèngdì jūn
4. รูปภำพพระจนี (กิมซ้นิ - 金身)
45
5. แหลง่ ที่มำ https://variety.phuketindex.com/faith/%E0%B9%80%E0%
B8%97%E0%B8%9E%E0%B9%80%E0%B8%88%E0%B9%89
%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%
B8%AD%E0%B8%B9%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B9%8
9%E0%B8%81%E0%B8%B8%E0%B9%8A%E0%B8%99-3352.html
6. ประวตั ิควำมเปน็ มำของพระจีน ทา่ นเกดิ ในตระกูลสามัญชนมีนามเดมิ ว่าฉางเซิน (เชยี งเฮง) เกดิ วนั อังคารท่ี 13
(กมิ ซ้นิ - 金身) เดือนหา้ ปีขาล ค.ศ. 161 ตาบลไก่เหลียง มณฑล ซานซี (ซ่ัวไซ) รูปร่างลักษณะของ
ทา่ น สูงใหญ่ หน้าแดง ค้ิวดก ตาดา หนวดเครายาว น้าเสียงดังกงั วาล อปุ นิสัยรักษา
คาพูดดว้ ยชีวติ รกั คุณธรรม ชอบการอา่ นหนังสือ สาหรบั หนังสอื ที่อา่ นประจา ชอื่
หนังสอื “ซุนซิว” และมคี วามสามารถในการรบ ทา่ นไดเ้ ขา้ รับราชการจนไดต้ าแหน่ง
เจา้ เมืองเก็งจ้วิ ( หรอื เจ้าเมืองเกงจ๋วิ )
ชว่ งแรกเร่มิ ได้พบกับเล่าป่ี และ เตยี วฮุย ได้ร่วมสาบานเป็นพ่นี ้องกนั ว่าจะซ่ือสัตย์
ต่อกันจนวนั ตาย เม่ือออกศกึ ก้ชู าตบิ ้านเมือง อาวธุ ประจาตวั ทา่ นคือ งา้ วหนัก 82
ชงั่ ม้าศึกฝีเท้าดีชื่อ เช็กเทา ขุนศกึ คู่ใจ 2 ท่านคือ “กวนเปง็ ” ซงึ่ เปน็ บุตรบุญธรรม
และ “จวิ ฉอง” ต่อมาท่านเสียชีวติ จากการรบ ทางราชการยกยอ่ งใหเ้ ป็น เทพารักษ์
เรียกวา่ “กวนต่ี” และ “บู่ต”ี่ คอื เทพเจา้ แห่งสงคราม และ เทพเจ้าแห่งความ
ซอื่ สัตย์ ชาวจนี จึงนารปู ปัน้ ไว้บูชา เพ่อื ขจัดทกุ ข์ สงิ่ ช่วั ร้ายต่าง ๆ จากบา้ นเรือน
และนาโชคลาภ ความเป็นสิรมิ งคลเขา้ มาแทนที่ เพื่อใหช้ วี ติ อยู่อย่างมคี วามสขุ
7. หลกั คณุ ธรรม ความเชอื่ ของคนสว่ นใหญ่ เชื่อว่าทา่ นช่วยใหค้ นดีพน้ ผิดในเรอื่ งของคดีความต่างๆ
8. ข้อมูลเพ่มิ เติม ท่านชอบคนขยนั จึงมัก ดลบันดาลให้ ผ้ทู ี่ประกอบอาชพี สุจริตและขยัน จะมีโชค
และ ค้าขายรุ่งเรือง เชือ่ กันว่าใบหน้าทแี่ ดงสด ยังช่วยให้ แคล้วคลาดปลอดภยั ใน
การเดนิ ทาง หากมีรปู เคารพอยู่ในบา้ นจะช่วยปดั เปา่ สิง่ ไมด่ ีทงั้ ปวง และ ชกั นาสงิ่ ที่
ดีๆ เข้ามาสู่บา้ น และครอบครวั ทา่ นยังเป็นเทพแหง่ ชยั ชนะ (รบรอ้ ยครง้ั ชนะร้อย
ครัง้ ) เป็นเทพทีม่ ีความซ่ือสตั ย์ มนี ้าใจนกั กีฬา และ มีความจงรักภักดี ต่อผู้มบี ุญคณุ
เนน้ เรื่องความมีบญุ คุณ ชาวบา้ นนบั ถือมาต้ังแต่ท่านยังชวี ิตอยู่ ผทู้ น่ี บั ถือจะต้องเปน็
คน ท่มี คี วามกตัญญู และซ่ือสัตย์ เหนือรปู เคารพ ของเทพเจา้ กวนอู มกั จะมี
ตัวอักษรจีนอยคู่ าหนึ่ง คอื คาว่า “หง่ี” อนั หมายถงึ คณุ ธรรม
ท่านกวนอเู ป็นทย่ี อมรบั ว่ามคี วามเช่ยี วชาญและเกง่ กาจวิทยายทุ ธ จงรักภกั ดี
กตญั ญรู ู้คุณ มคี ุณธรรมและซื่อสัตย์เป็นเลศิ ที่สดุ คนหน่ึงในประวัตศิ าสตรจ์ ีน ได้รับ
ยกยอ่ งเป็ฯทั้งเทพบแู๊ ละบนุ๋ เชน่ เดียวกบั แมท่ ัพงักฮุย แตภ่ ายหลังราชวงศ์
หมงิ มาตงั้ ให้ท่านกวนอเู ปน็ เทพแห่งความซ้ือสัตย์
46