The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by นโยบาย สสว.1, 2023-12-28 04:33:48

รายงานประจำปี 2566 สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1

Annual Report 2566

Keywords: รายงานประจำปี

ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 46 ด้านความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สิน ข้อมูลการรับแจ้งคดีอาญาตามฐานความผิด ในปีพ.ศ.2563 – 2565 กลุ่มจังหวัดในเขต พื้นที่รับผิดชอบของสสว.1 จังหวัดที่มีการรับแจ้งคดีเกี่ยวกับชีวิต ร่างกาย และเพศมากที่สุด คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองลงมาได้แก่ จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนครนายก ตามล าดับ จังหวัดที่ได้รับแจ้งคดีความผิดเกี่ยวกับทรัพย์มากที่สุด คือ จังหวัดสระบุรี รองลงมา ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดนครนายกตามล าดับ ข้อมูลผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ในปีพ.ศ.2563 – 2565 ที่กลุ่มจังหวัดในเขต พื้นที่รับผิดชอบของสสว.1 มีผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนนมากที่สุด 3 อันดับ ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัดปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยาตามล าดับ และจังหวัดที่มี สัดส่วนผู้บาดเจ็บน้อยที่สุด คือ จังหวัดนครนายก ข้อมูลผู้บาดเจ็บจากอุบัติเหตุบนท้องถนน ต่อจ านวนประชากร 100,000 คน กลุ่ม จังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสสว.1 มีสัดส่วนผู้เสียชีวิตมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดสระบุรี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัดนครนายกตามล าดับ และจังหวัดที่มี สัดส่วนทุพพลภาพมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ รองลงมาคือจังหวัด พระนครศรีอยุธยา และจังหวัดสระบุรี ตามล าดับ ข้อมูลชุมชนผู้มีรายได้น้อย กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสสว.1 มีชุมชน ผู้มีรายได้น้อย จ านวนทั้งสิ้น 338 ชุมชน โดยจังหวัดที่มีชุมชนผู้มีรายได้น้อยมากที่สุด คือ จังหวัดสมุทรปราการ โดยอาศัยอยู่ในชุมชนแออัด 119 ชุมชน


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 47 ด้านเด็กและเยาวชน จ านวนเด็กและเยาวชนจ าแนกกลุ่มอายุ ในปีพ.ศ.2564 –2565กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่ รับผิดชอบของสสว.1 มีจ านวนเด็กและเยาวชนอายุ 0 – 5 ปี จ านวน 305,892 คน เด็กอายุ 6 – 14 ปี จ านวน 586,202 คน เยาวชนอายุ 15 – 18 ปี จ านวน 272,081 คน และเยาวชน อายุ 19 – 24 ปี จ านวน 417,073 คน ข้อมูลย้อนหลังสองปี สัดส่วนจ านวนเด็กและเยาวชน มากที่สุดคือ ช่วงอายุ 6 – 14 ปี และสัดส่วนจ านวนเด็กและเยาวชนที่มีจ านวนน้อยที่สุด คือ ช่วงอายุ 15 –18 ปี จ านวนและอัตราเด็กแรกเกิด ในปีพ.ศ.2564 –2565 กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบ ของสสว.1 ที่มีจ านวนเด็กและอัตราเด็กแรกเกิดน้อยที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดนครนายก รองลงมา ได้แก่ จังหวัดสระบุรี และจังหวัดนนทบุรีตามล าดับ เมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลัง สองปี กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสสว.1 ส่วนใหญ่มีแนวโน้มจ านวนและอัตราเด็ก แรกเกิดที่ลดลง อัตราส่วนพึ่งพิงวัยเด็ก ในปีพ.ศ.2563 – 2565 กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.1 ที่มีอัตราส่วนพึ่งวัยเด็กมากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ จังหวัด สระบุรี และจังหวัดนครนายกตามล าดับ เมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังสองปี กลุ่มจังหวัดในเขต รับผิดชอบของสสว.1 ส่วนใหญ่ มีแนวโน้มอัตราส่วนพึ่งพิงวัยเด็กที่ลดลง เด็กในบ้านเด็กและครอบครัว ในปีพ.ศ. 2563 – 2566 เมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังสี่ปี กลุ่มจังหวัดในเขตพื้นที่รับผิดชอบของสสว.1 มีแนวโน้มจ านวนเด็กในบ้านพักเด็กและครอบครัว ช่วงอายุ 0 – 17 ปี มีจ านวนเพิ่มมากขึ้นและแนวโน้มจ านวนเด็กในบ้านพักเด็กและครอบครัว ช่วงอายุ 18 –25 ปี มีจ านวนลดน้อยลง


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 48 จ านวนครอบครัวและจ านวนเด็กในครอบครัวอุปถัมภ์ ในปีพ.ศ.2565 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 ที่มีจ านวนครอบครัวและจ านวนเด็กในครอบครัวอุปถัมภ์มากที่สุด 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองลงมา ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี และจังหวัด สมุทรปราการตามล าดับ และจังหวัดที่มีสัดส่วนจ านวนครอบครัวและเด็กในครอบครัวอุปถัมภ์ น้อยที่สุด คือ จังหวัดนนทบุรี จ านวนเด็กและเยาวชนต่ ากว่า 15 ปี ที่ตั้งครรภ์ (กบรส.) ในปีพ.ศ.2565 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 ที่มีจ านวนเด็กและเยาวชนต่ ากว่า 15 ปี ที่ตั้งครรภ์ (กบรส.) มากที่สุด 3 อันดับแรก คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ปทุมธานี และจังหวัดอ่างทอง ตามล าดับ ข้อมูลอัตราการคลอดมีชีพในเด็กและเยาวชน ในปีพ.ศ.2563 – 2566 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 ที่มีอัตราการคลอดมีชีพในเด็กและเยาวชนมากที่สุดในช่วงอายุ 10 – 14 ปี 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดนครนายก จังหวัดสระบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ตามล าดับ จังหวัดที่มีอัตราการคลอดมีชีพในเด็กและเยาวชนมากที่สุดในช่วงอายุ 15 – 19 ปี 3 อันดับแรก ได้แก่ จังหวัดนครนายก จังหวัดสระบุรี และจังหวัดพระนครศรีอยุธยาตามล าดับ เมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังสี่ปี กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีแนวโน้มอัตรา การคลอดมีชีพในเด็กและเยาวชน ช่วงอายุ 15 –19 ปี มีจ านวนที่ลดลง การตั้งครรภ์ซ้ าในสตรีที่อายุต่ ากว่า 20 ปี ในปีพ.ศ.2563 –2566 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขต รับผิดชอบของสสว.1 ที่มีการตั้งครรภ์ซ้ าในสตรีที่อายุต่ ากว่า 20 ปี มากที่สุดคือ จังหวัด พระนครศรีอยุธยา รองลงมา คือ จังหวัดสระบุรี และจังหวัดนครนายกตามล าดับ และกลุ่ม จังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 ที่มีการตั้งครรภ์ซ้ าในสตรีที่อายุต่ ากว่า 20 ปี น้อยที่สุด คือ จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังสี่ปี จังหวัดที่มีแนวโน้มการตั้งครรภ์ซ้ า ในสตรีที่อายุต่ ากว่า 20 ปี เพิ่มสูงขึ้น ได้แก่ จังหวัดนครนายก จังหวัดสระบุรี และจังหวัด อ่างทอง


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 49 แม่วัยใสและแม่วัยใสเลี้ยงเดี่ยวที่ได้รับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด ในปีพ.ศ.2563 – 2566 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 ในปีพ.ศ. 2565 มีสัดส่วนที่แม่วัยใสแม่วัยใสเลี้ยงเดี่ยวที่ได้รับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิด มีจ านวน 16,393 คน เมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังสามปี กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของ สสว.1 มีอัตราจ านวนคนที่ได้รับสิทธิ์เงินอุดหนุนเพื่อการเลี้ยงดูเด็กแรกเกิดเพิ่มมากขึ้น จ านวนคดีเด็กและเยาวชนที่ถูกด าเนินคดีโดยสถานพินิจฯ ในปีพ.ศ.2563 – 2566 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 คดีเด็กและเยาวชนชายที่ด าเนินคดีในสถานพินิจ ปีพ.ศ. 2566 มีจ านวน 880 คดี คดีเด็กและเยาวชนหญิงที่ด าเนินคดีในสถานพินิจฯ จ านวน 52 คดี และคดีเด็กและเยาวชนรวมที่ด าเนินคดีในสถานพินิจฯ มีจ านวนทั้งสิ้น 932 คดี เมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังสี่ปี พบว่า คดีเด็กและเยาวชนที่ถูกด าเนินคดีโดยสถานพินิจฯ กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีแนวโน้มลดลง พฤติกรรมเด็กและเยาวชน และความรุนแรงต่อเด็กและเยาวชน ในปีพ.ศ.2563 – 2566 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 ในปีพ.ศ. 2566 เด็กและเยาวชนที่มีพฤติกรรม ไม่เหมาะสม มีจ านวน 464 คน เด็กถูกกระท าความรุนแรงในครอบครัว มีจ านวน 495 คน และ เด็กถูกกระท าความรุนแรงนอกครอบครัว มีจ านวน 415 คน เมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังสี่ปี เด็กถูกกระท าความรุนแรงในครอบครัว มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง ในขณะที่เด็กถูกกระท า ความรุนแรงนอกครอบครัว มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นอย่างต่อเนื่อง ซึ่งถูกกระท าความรุนแรง ด้านเพศมากที่สุด เงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจน ในปีพ.ศ.2565 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบ ของสสว.1 จังหวัดที่ครอบครัวได้รับเงินสงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจนมากที่สุด คือ จังหวัด นนทบุรี รองลงมา คือ จังหวัดนครนายก และจังหวัดปทุมธานีตามล าดับ จังหวัดที่เด็กได้รับเงิน สงเคราะห์เด็กในครอบครัวยากจนมากที่สุดคือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยารองลงมา คือ จังหวัด นนทบุรี และจังหวัดปทุมธานีตามล าดับ


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 50 สภาเด็กและเยาวชน ในปีพ.ศ.2566 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีจ านวนสภาเด็กและเยาวชน จ านวนทั้งสิ้น 636 แห่ง จังหวัดที่มีสภาเด็กและเยาวชนมากที่สุด คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา รองลงมา จังหวัดสระบุรี และจังหวัดนนทบุรีตามล าดับ จังหวัด ที่มีจ านวนสภาเด็กและเยาวชนน้อยที่สุด คือ จังหวัดนครนายก ด้านสตรีและสถาบันครอบครัว ประชากรเพศหญิงจ าแนกกลุ่มอายุ ในปีพ.ศ.2563 – 2565 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขต รับผิดชอบของสสว.1 สัดส่วนประชากรเพศหญิงจ าแนกกลุ่มอายุมากที่สุด คือ วัยแรงงานหญิง (15 - 59 ปี) รองลงมาคือ วัยสูงอายุ (60 ปีขึ้นไป) และวัยเด็กหญิง (0 -14 ปี) เมื่อพิจารณา ข้อมูลย้อนหลังสามปี วัยสูงอายุหญิง (60 ปีขึ้นไป) มีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งตรงกันข้ามกับ วัยเด็กหญิง (0-14 ปี) วัยแรงงานหญิง (15-59 ปี) มีแนวโน้มที่ลดลง ครอบครัวที่จดทะเบียนสมรส หย่าร้าง และอัตราการหย่าร้าง ในปีพ.ศ.2563 – 2565 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 ครอบครัวที่จดทะเบียนสมรส หย่าร้าง และอัตรา การหย่าร้างมากที่สุด คือ จังหวัดสระบุรี รองลงมา คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และจังหวัด ปทุมธานีตามล าดับ และจังหวัดที่ครอบครัวจดทะเบียนสมรส หย่าร้าง และอัตราการหย่าร้าง น้อยที่สุด คือ จังหวัดนครนายก อัตราการว่างงานในสตรี ในปีพ.ศ.2563 – 2565 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของ สสว.1 อัตราการว่างงานในเพศชายมีแนวโน้มที่ลดลง และอัตราการว่างงานในเพศหญิง มีแนวโน้มที่ลดลง ความรุนแรงในสตรีและครอบครัว ในปีพ.ศ.2563 – 2566 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขต รับผิดชอบของสสว.1 ครอบครัวที่มีคนในครอบครัวกระท าความรุนแรงต่อกัน มีจ านวน 219 ครอบครัวสตรีที่ถูกท าร้ายร่างกาย/จิตใจ มีจ านวน 197 คน ข้อมูลย้อนหลังสี่ปี สตรีที่ถูก ล่วงละเมิดทางเพศมีแนวโน้มเพิ่มขึ้น


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 51 อัตราแรงงานในระบบหญิงต่อชาย ในปีพ.ศ.2563 – 2565 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขต รับผิดชอบของสสว.1 มีอัตราแรงงานในระบบเพศหญิงและเพศชายที่คงที่ สตรีที่เป็นสมาชิกของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรี ในปีพ.ศ.2563 – 2565 กลุ่มจังหวัด ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีจ านวนทั้งสิ้น 821,557 คน จังหวัดที่มีจ านวนสตรีที่เป็น สมาชิกของกองทุนพัฒนาบทบาทสตรีมากที่สุด คือ จังหวัดพระนครศรีออยุธยา รองลงมา ได้แก่ จังหวัดสระบุรี และจังหวัดสมุทรปราการ ตามล าดับ เครือข่าย/สวัสดิการด้านสตรีและสถาบันครอบครัว กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบ ของสสว.1 เครือข่าย/สวัสดิการด้านสตรีและสถาบันครอบครัวมากที่สุด คือ ศูนย์พัฒนา ครอบครัวในชุมชน (ศพค.) มีจ านวน 433 แห่ง รองลงมาคือ ศูนย์ปฏิบัติการเพื่อป้องกัน การกระท าความรุนแรงในครอบครัวระดับต าบล (ศปก.ต.) มีจ านวน 63 แห่ง โรงเรียนครอบครัว มีจ านวน 31 แห่ง มาตรฐาน ศพค. มีจ านวน 28 แห่ง และองค์กรสาธารณะประโยชน์ มีจ านวน 15 แห่ง ด้านคนพิการ คนพิการที่ได้รับการจดทะเบียนในปีพ.ศ. 2563 – 2565 กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขต รับผิดชอบของสสว.1 จ านวนคนพิการที่ได้รับการจดทะเบียนในปี พ.ศ.2565 มีจ านวนทั้งสิ้น 141,127 คน เมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังสามปี สัดส่วนคนพิการที่ได้รับการจดทะเบียน มีแนวโน้มที่เพิ่มมากขึ้น จ านวนคนพิการจ าแนกตามประเภทความพิการในปีพ.ศ.2563 – 2565 กลุ่มจังหวัดที่ อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีสัดส่วนคนพิการจ าแนกตามประเภทความพิการมากที่สุด คือ พิการทางการเคลื่อนไหวหรือทางร่างกาย รองลงมา คือ พิการทางการได้ยินหรือสื่อความหมาย พิการมากกว่า 1 ประเภท พิการทางจิตใจหรือพฤติกรรม พิการทางการเรียนรู้ พิการทาง การเห็น พิการทางออทิสติก พิการทางการเรียนรู้ และพิการไม่ระบุประเภทตามล าดับ


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 52 จ านวนนักเรียนพิการที่เข้าเรียนในโรงเรียนแบบเรียนรวม ในปีพ.ศ.2565 กลุ่มจังหวัด ที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีจ านวนนักเรียนพิการที่เข้าเรียนในโรงเรียนแบบเรียนรวม จ านวนทั้งสิ้น 21,312 คน โดยนักเรียนพิการที่เข้าเรียนในโรงเรียนมากที่สุด คือระดับมัธยมศึกษา ตอนต้น มีจ านวน 17,912 คน รองลงมา คือ ระดับประถมศึกษา มีจ านวน 3,110 คน และระดับ อนุบาล มีจ านวน 290 คน ตามล าดับ และเมื่อพิจารณาข้อมูลย้อนหลังสี่ปี คนพิการที่ได้รับ การศึกษาในกลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีแนวโน้มที่ได้รับการศึกษาเพิ่มขึ้น ในส่วนของสถานประกอบการและอัตราส่วนที่ต้องรับคนพิการเข้าท างาน ในปีพ.ศ.2566 พบว่า กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีจ านวนอัตราส่วนที่ต้องรับคนพิการเข้า ท างานมากที่สุด คือ จังหวัดสมุทรปราการ รองลงมา ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี และจังหวัด พระนครศรีอยุธยาตามล าดับ และจ านวนสถานประกอบการที่มีลูกจ้าง ตั้งแต่ 100 คน ขึ้นไป จ านวนมากที่สุด คือ จังหวัดสมุทรปราการ รองลงมา ได้แก่ จังหวัดปทุมธานี และจังหวัดนนทบุรี ตามล าดับ และสัดส่วนการรับคนพิการเข้าท างาน กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีสัดส่วนการรับคนพิการเข้าท างานมากที่สุด คือ การรับคนพิการท างานตาม ม.33 รองลงมา คือ ส่งเงินเข้ากองทุนตาม ม.34 ไม่ปฏิบัติตามกฎหมาย รับคนพิการตาม ม.33 และส่งเงินตาม ม.34 ตามล าดับ กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีเครือข่ายด้านคนพิการจ านวนทั้งหมด 422 แห่ง ได้แก่ ศูนย์บริการคนพิการ มีจ านวน 296 แห่ง และองค์กรด้านคนพิการ มีจ านวน 126 แห่ง และสวัสดิการด้านคนพิการ กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีสวัสดิการ ด้านคนพิการ ได้แก่ การให้บริการกายอุปกรณ์ส าหรับช่วยคนพิการ มีจ านวนทั้งสิ้น 50 คน คนพิการที่ได้รับเบี้ยยังชีพ จ านวน 104,123 คน และการบริการกู้ยืมเงินกองทุนส่งเสริมและ พัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการ จ านวน 683 คน


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 53 ด้านผู้สูงอายุ กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีจ านวนผู้สูงอายุมากที่สุด คืออายุ 60 – 69 ปี มีจ านวนรวมทั้งสิ้น 637,314 คน รองลงมา ผู้สูงอายุ 70 – 79 ปี มีจ านวน 317,815 คน และผู้สูงอายุ 80 ปีขี้นไป มีจ านวน 161,599 คน ตามล าดับ โดยจังหวัดที่มีจ านวนผู้สูงอายุมาก ที่สุด คือ จังหวัดอ่างทอง คิดเป็นร้อยละ 24.2 รองลงมา คือ จังหวัดนครนายก คิดเป็นร้อยละ 21.7 จังหวัดนนทบุรี คิดเป็นร้อยละ 20.9 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา คิดเป็นร้อยละ 20.4 จังหวัดสระบุรี คิดเป็นร้อยละ 19.1 จังหวัดสมุทรปราการคิดเป็นร้อยละ 17.4 และจังหวัด ปทุมธานี คิดเป็นร้อยละ 16.4 โดยสัดส่วนผู้สูงอายุต่อประชากร กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขต รับผิดชอบของสสว.1 มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้นผู้สูงอายุ ติดบ้าน ติดเตียง ติดสังคม กลุ่มจังหวัดที่ อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีสัดส่วนผู้สูงอายุติดสังคม คิดเป็นร้อยละ 97.37 สัดส่วน ผู้สูงอายุติดบ้าน คิดเป็นร้อยละ 1.98 และสัดส่วนผู้สูงอายุติดเตียง คิดเป็นร้อยละ 0.65 ทั้งนี้ สัดส่วนผู้สูงอายุติดสังคม กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น และสัดส่วนผู้สูงอายุติดบ้าน และติดเตียง มีแนวโน้มลดลง และผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียว กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 จังหวัดที่มีผู้สูงอายุอยู่คนเดียวมากที่สุด คือ จังหวัดอ่างทอง รองลงมา ได้แก่ จังหวัดนครนายก และจังหวัดสระบุรีตามล าดับ และจังหวัดที่มี สัดส่วนผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวน้อยที่สุด คือ จังหวัดปทุมธานี โดยจังหวัดนนทบุรี จังหวัด ปทุมธานี จังหวัดพระนครศรีอยุธยา จังหวัดสมุทรปราการ และจังหวัดสระบุรี เป็นจังหวัด ที่มีแนวโน้มของผู้สูงอายุที่อยู่คนเดียวเพิ่มมากขึ้น ด้านความรุนแรงในผู้สูงอายุ กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีจ านวนการ แจ้งเหตุร้องเรียนความรุนแรงที่เกิดขึ้นกับผู้สูงอายุ ในปีพ.ศ. 2566 มีจ านวน 3,603 ครอบครัว ผู้สูงอายุที่ถูกท าร้ายร่างกาย/จิตใจ มีจ านวน 44 ราย ทั้งนี้จ านวนการแจ้งเหตุร้องเรียนความ รุนแรงกับผู้สูงอายุมีแนวโน้มเพิ่มมากขึ้น


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 54 ผู้สูงอายุที่กู้ยืมประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุ จังหวัดที่มีผู้สูงอายุกู้ยืมประกอบ อาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุมากที่สุด คือ จังหวัดปทุมธานี รองลงมา คือ จังหวัดอ่างทอง และ จังหวัดสระบุรี จังหวัดที่มีผู้สูงอายุกู้ยืมประกอบอาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุน้อยที่สุด คือ จังหวัด นนทบุรี ทั้งนี้จังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีแนวโน้มของผู้สูงอายุที่กู้ยืมประกอบ อาชีพจากกองทุนผู้สูงอายุเพิ่มมากขึ้น ในส่วนของผู้สูงอายุที่ได้รับการสงเคราะห์ในการจัดการงานศพผู้สูงอายุตามประเพณี จังหวัดปทุมธานีมีผู้สูงอายุที่ได้รับการสงเคราะห์ในการจัดการงานศพผู้สูงอายุตามประเพณี จ านวนมากที่สุด รองลงมา ได้แก่ พระนครศรีอยุธยา และนนทบุรี และจังหวัดที่ผู้สูงอายุได้รับ การสงเคราะห์ในการจัดการงานศพผู้สูงอายุตามประเพณีน้อยที่สุด ได้แก่ จังหวัดสระบุรี เครือข่าย/สวัสดิการด้านผู้สูงอายุ กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีข้อมูลคลังปัญญาผู้สูงอายุ จังหวัดที่มีข้อมูลคลังปัญญาผู้สูงอายุมากที่สุด คือ จังหวัดนครนายก มีจ านวน 286 คน ข้อมูลจ านวนศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิต และส่งเสริมอาชีพผู้สูงอายุ (ศพอส.) มากที่สุด คือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีจ านวน 38 แห่ง และผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ย ยังชีพ มีจ านวนทั้งสิ้น 845,908 คน จังหวัดที่มีจ านวนผู้สูงอายุที่ได้รับเบี้ยยังชีพมากที่สุด คือ จังหวัดนนทบุรี มีจ านวน 169,358 คน ด้านกลุ่มคนเปราะบาง กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีจ านวนคนเร่ร่อน/ไร้ที่อยู่ มากที่สุด คือ จังหวัดปทุมธานี รองลงมา ได้แก่ จังหวัดสมุทรปราการ และนนทบุรี และจังหวัดที่มีจ านวนคน เร่ร่อน/ไร้ที่อยู่น้อยที่สุด คือ จังหวัดอ่างทอง กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขตรับผิดชอบของสสว.1 มีจ านวนผู้แสดงความสามารถทั้งสิ้น 287 คน จังหวัดที่มีผู้แสดงความสามารถมากที่สุด คือ จังหวัดสมุทรปราการ รองลงมา ได้แก่ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา อ่างทอง ตามล าดับ และจ านวนน้อยที่สุด คือ จังหวัดนนทบุรี


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 55 เครือข่าย/สวัสดิการด้านกลุ่มคนเปราะบาง มีจ านวนกองทุนสวัสดิการชุมชน 374 แห่ง จ านวนบ้านพอเพียงชนบท จ านวน 3,860 แห่ง และจ านวนผู้ได้รับเบี้ยยังชีพผู้ป่วยเอดส์ จ านวน 2,709 คน ภาคีเครือข่าย/ สวัสดิการสังคม จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีจ านวน อพม.มากที่สุด รองลงมา คือ จังหวัดอ่างทอง โดยจังหวัดอ่างทองมีจ านวน อพม. เกินเป้าหมายมากที่สุด ในขณะที่กลุ่มจังหวัดที่อยู่ในเขต รับผิดชอบของสสว.1 มีจ านวนองค์กรสวัสดิการชุมชน ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการจัดสวัสดิการ สังคม จ านวน 356 แห่ง องค์กรสาธารณประโยชน์ ตาม พ.ร.บ. ส่งเสริมการจัดสวัสดิการสังคม จ านวน 338 แห่ง ข้อเสนอแนะเชิงนโยบาย 1) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ควรขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุ ในระดับพื้นที่โดยผ่านกลไกศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบลเพื่อการท างานบูรณาการร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุ 2) ทบทวน ปรับแก้กฎระเบียบ หลักเกณฑ์ การเบิกจ่ายเงินสงเคราะห์ ให้เหมาะสมกับ สถานการณ์ปัจจุบัน เพื่อสนับสนุนการยกระดับคุณภาพชีวิตครัวเรือนเปราะบาง ข้อเสนอแนะเชิงปฏิบัติระดับกลุ่มจังหวัด 1) สร้างความเข้มแข็งให้สภาเด็กและเยาวชนในการเฝ้าระวัง ป้องกัน พัฒนา กลุ่มเป้าหมายของ พม. 2) พัฒนาศักยภาพและทักษะการท างานให้อาสาสมัคร ครอบครัว ชุมชน หน่วยงาน ในท้องถิ่น เพื่อเป็นกลไกระดับพื้นที่ในการเฝ้าระวัง ป้องกัน ช่วยเหลือ และส่งต่ออย่างทันทวงที


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 56


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 57 2. โครงการพัฒนาและยกระดับการให้บริการศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล โครงการพัฒนาและยกระดับการให้บริการ ศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 58 ศูนย์ช่วยเหลือสังคมต ำบล ในเขตพ ื้นทร ี ่ับผิดชอบของ สสว.1 จังหวัด จ านวน ศชต. (แห่ง) A B C จังหวัด นครนายก 46 11 35 0 0 นนทบุรี 53 3 20 30 0 ปทุมธานี 67 16 40 4 7 พระนครศรีอยุธยา 223 7 72 144 0 สมุทรปราการ 57 0 14 43 0 สระบุรี 112 48 64 0 0 อ่างทอง 100 34 52 14 0


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 59 3. โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน ครัวเรือนเป้าหมาย ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในพื้นที่รับผิดชอบ 7 จังหวัด ของ สสว.1 จ านวน 51,213 ครัวเรือน


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 60 การวัดผลการด าเนินงาน (สสว.) (ส าหรับ สสว.) การก ากับติดตาม หมายถึง การตรวจการท างานเป็นระยะ ขณะที่ ก าลังด าเนินงานตามแผนงาน/โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน ท าให้ทราบกิจกรรมที่ด าเนินการตรงตามกลุ่มเป้าหมาย มีการใช้ทรัพยากรตามเวลา ที่ก าหนด สามารถแก้ไขปัญหาและให้ค าปรึกษาแนะน าในขณะปฏิบัติงานได้ทันท่วงที การประเมินผลรอการประเมินผลรอบ 6 เดือน (มีนาคม 2566) การประเมินผลรอบ 12 เดือน (กันยายน 2566) ผลการด าเนินงานรอบ 12 เดือน (เมษายน – กันยายน)


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 61 4. การสนับสนุนการตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (พม.) โดยคณะผู้ตรวจราชการ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ร่วมกับกองตรวจราชการ ส านักงาน ส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-11 ส านักงานพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จังหวัด และกรมต่าง ๆ สังกัดกระทรวง พม. ได้จัดท าแผนการตรวจราชการ กระทรวงการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 วัตถุประสงค์เพื่อเป็นกรอบแนวทางด้านการตรวจราชการส าหรับผู้ที่เกี่ยวข้อง ได้แก่ ผู้ตรวจราชการกระทรวง พม. ผู้ช่วยผู้ตรวจราชการกระทรวง (ส านักงานส่งเสริมและ สนับสนุนวิชาการ) ผู้สนับสนุนการตรวจราชการ (กองตรวจราชการ และฝ่ายเลขานุการ ผู้ตรวจราชการกระทรวง) รวมถึง หน่วยรับตรวจ คือ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงการพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ตลอดจนหน่วยงาน และผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 แผนการตรวจราชการ ก าหนดให้สอดคล้องและเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี (พ.ศ. 2561 - 2580) ซึ่งเป็นยุทธศาสตร์ชาติตามรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย แผนปฏิบัติราชการกระทรวง พม. ระยะ 5 ปี (พ.ศ. 2565 - 2570) นโยบายกระทรวง พม. นโยบายผู้บริหาร นโยบายที่เกี่ยวข้องกับการประเมินผลภาครัฐ นโยบายการก ากับองค์กรที่ ดี แนวทางและประเด็นการตรวจสอบของคณะกรรมการตรวจสอบและประเมินผลภาค ราชการ (ค.ต.ป) เพื่อให้การขับเคลื่อนการตรวจราชการซึ่งเป็นกลไกส าคัญในการก ากับดูแล ให้การปฏิบัติงานของหน่วยงานภาครัฐ บรรลุเป้าหมาย น าไปสู่ “การสร้างสังคมดี คนมี คุณภาพ” การสนับสนุนการตรวจราชการ ประจ าปี 2566


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 62 สรุปผลการด าเนินงาน 1) เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ประชุมจัดท าแผนการตรวจราชการ และ เครื่องมือการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวง ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ ห้องประชุมประชาบดี ขั้น 19 กระทรวงฯ โดยมี ผู้แทนกรมต่าง ๆ ชี้แจงรายละเอียด แผนงาน/โครงการส าคัญที่สอดคล้องกับนโยบายกระทรวง พม. และเสนอให้ผู้ตรวจราชการ ติดตาม ตรวจสอบ ปี 2566 2) เมื่อวันที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2565 ประชุมจัดท าแผนการตรวจราชการ และ เครื่องมือการตรวจราชการของผู้ตรวจราชการกระทรวง ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ณ ห้องประชุมประชาบดี ขั้น 19 กระทรวงฯ โดยมี ผู้แทนกรมต่าง ๆ ชี้แจงรายละเอียด แผนงาน/โครงการส าคัญที่สอดคล้องกับนโยบายกระทรวง พม. และเสนอให้ผู้ตรวจราชการ ติดตาม ตรวจสอบ ปี 2566 การตรวจราชการ รอบที่ 1 Agenda Review เมื่อวันที่ 10 - 11 กุมภาพันธ์ 2566 ประชุมประชุมชี้แจงกรอบแนวทางการตรวจ ราชการตามแผนการตรวจราชการกระทรวงฯ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2566 (การตรวจ ราชการรอบที่ 1) ณ โรงแรมไอยรา แกรนด์ โฮเต็ล จังหวัดชลบุรี เพื่อประชุมชี้แจงกรอบ แนวทางการตรวจราชการ ตามแผนการตรวจราชการกระทรวงฯ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ.2566 (การตรวจราชการรอบที่ 1) รายงานผลการด าเนินงานตามแบบตรวจราชการ และการติดตามการปฏิบัติงานตามแผนการตรวจราชการ พม. ปี 2566


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 63 การตรวจราชการ รอบที่ 2 Progress Review 1) เมื่อวันที่ 19 - 21 เม.ย. 66 เข้าร่วมการตรวจราชการ รอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 2 จังหวัดนนทบุรี 2) เมื่อวันที่ 25 - 26 เม.ย. 66 เข้าร่วมการตรวจราชการ รอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 2 จังหวัดสระบุรี 3) เมื่อวันที่ 1 - 2 พ.ค. 66 เข้าร่วมการตรวจราชการ รอบที่ 2 เขตตรวจราชการส่วนกลาง กรุงเทพฯ 4) เมื่อวันที่ 19 พ.ค. 66 ตรวจราชการรอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 1 จังหวัดอ่างทอง 5) เมื่อวันที่ 9 มิ.ย. 66 ตรวจราชการรอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 2 จังหวัดสมุทรปราการ 6) เมื่อวันที่ 27 มิ.ย. 66 ตรวจราชการรอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 1 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา 7) เมื่อวันที่ 28 มิ.ย. 66 ตรวจราชการรอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 9 จังหวัดนครนายก 8) เมื่อวันที่ 28 - 29 มิ.ย. 66 และ 3 ก.ค. 66 ตรวจราชการรอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 2 จังหวัดปทุมธานี


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 64 ตรวจราชการแบบบูรณาการส านักนายกรัฐมนตรี รอบที่ 1 1) เมื่อวันที่ 20 ก.พ. 66 ร่วมตรวจราชการแบบบูรณาการ รอบที่ 1 เขตตรวจราชการที่ 9 ณ จังหวัดนครนายก 2) เมื่อวันที่ 2 มี.ค. 66 ร่วมตรวจราชการแบบบูรณาการ รอบที่ 1 เขตตรวจราชการที่ 2 ณ จังหวัดสมุทรปราการ 3) เมื่อวันที่ 21 มี.ค. 66 ร่วมตรวจราชการแบบบูรณาการ รอบที่ 1 เขตตรวจราชการส่วนกลาง กรุงเทพมหานคร ตรวจราชการแบบบูรณาการส านักนายกรัฐมนตรี รอบที่ 2 1) เมื่อวันที่ 27 ก.ค. 66 ร่วมตรวจราชการแบบบูรณาการ รอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 2 ณ จังหวัดปทุมธานี 2) เมื่อวันที่ 4 ส.ค. 66 ร่วมตรวจราชการแบบบูรณาการ รอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 2 ณ จังหวัดนนทบุรี 3) เมื่อวันที่ 22 ส.ค. 66 ร่วมตรวจราชการแบบบูรณาการ รอบที่ 2 เขตตรวจราชการที่ 2 ณ จังหวัดสมุทรปราการ 4) เมื่อวันที่ 23 ส.ค. 66 ร่วมตรวจราชการแบบบูรณาการ รอบที่ 2 เขตตรวจราชการส่วนกลาง กรุงเทพมหานคร


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 65 ภาพการสนับสนุนการตรวจราชการ ประจ าปี 2566


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 66 ภาพการสนับสนุนการตรวจราชการ ประจ าปี 2566


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 67 ภาพการสนับสนุนการตรวจราชการ ประจ าปี 2566


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 68 5. การนิเทศโครงการส าคัญและการบริหารจัดการองค์กรของหน่วยงานสังกัด กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ วัตถุประสงค์ 1. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการด าเนินงานด้านสังคมระดับพื้นที่ ที่มีความสอดคล้อง และเชื่อมโยงกับยุทธศาสตร์ ตามนโยบายส าคัญของกระทรวง พม. 2. เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนให้หน่วยงานกระทรวง พม. ทีม One Home มีแนวทาง ในการพัฒนา แก้ไข ปรับปรุง ด าเนินงานด้านสังคมให้มีประสิทธิภาพ ตอบสนองนโยบาย กระทรวง พม. 3. เพื่อนิเทศและติดตามผลการปฏิบัติงานในโครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่ม เปราะบางรายครัวเรือน และศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ 2566 การด าเนินงาน ก าหนดจัดประชุมนิเทศและติดตามงานจังหวัดพื้นที่รับผิดชอบของสสว.1 โดยเชิญ ทีม One Home พม. และผู้ทรงคุณวุฒิด้านสังคมในพื้นที่ เข้าร่วมประชุม โดยมี 2 ประเด็น หลัก ได้แก่ 1) โครงการพัฒนาคุณภาพชีวิตกลุ่มเปราะบางรายครัวเรือน 2) โครงการศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล การนิเทศโครงการส าคัญและการบริหารจัดการองค์กรของหน่วยงาน สังกัดกระทรวงการพัฒนาสงัคมและความมั่นคงของมนษุย์


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 69 ครั้งที่ 1 จังหวัดสระบุรี วันที่ 12 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุมส านักงานพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดสระบุรี มีผู้รับการนิเทศ จ านวน 25 คน ครั้งที่ 2 จังหวัดนครนายก วันที่ 13 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุมศูนย์คุ้มครอง คนไร้ที่พึ่งจังหวัดนครนายก มีผู้รับการนิเทศ จ านวน 15 คน ครั้งที่3 จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันที่ 14 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุมบึง พระราม ศาลากลางจังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีผู้รับการนิเทศ จ านวน 25 คน ครั้งที่ 4 จังหวัดอ่างทอง วันที่ 19 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุมส านักงาน พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดอ่างทอง มีผู้รับการนิเทศ จ านวน 15 คน ครั้งที่ 5 จังหวัดปทุมธานี วันที่ 23 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุมสถาบันพระ ประชาบดี มีผู้รับการนิเทศ จ านวน 35 คน ครั้งที่ 6 จังหวัดสมุทรปราการ วันที่ 26 มิถุนายน 2566 ณ ห้องประชุม ศูนย์บริการ คนพิการจังหวัดสมุทรปราการ มีผู้รับการนิเทศ จ านวน 23 คน ครั้งที่ 7 จังหวัดนนทบุรี วันที่ 14 กรกฎาคม 2566 ณ ห้องประชุมบ้านพักเด็ก และครอบครัวจังหวัดนนทบุรี มีผู้รับการนิเทศ จ านวน 45 คน


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 70 ภาพกิจกรรมการนิเทศโครงการส าคัญและการบริหารจัดการองค์กร ของหน่วยงาน สังกัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมน ุ ษย์


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 71


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 72 6. ข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการพัฒนาสังคมระดับประเทศ ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 เล็งเห็นถึงผลกระทบจากสถานการณ์ จ านวนนักเรียนที่ออกกลางคันมีจ านวนเพิ่มขึ้นทุกปี และจากผลกระทบทางสังคมและ เศรษฐกิจจากสถานการณ์การระบาดของโควิด-19 ส่งผลกระทบและเกิดปัญหาด้านศึกษา ของเด็กและเยาวชน ทั้งด้านการศึกษา พัฒนาการ สุขภาพจิต สุขภาวะทางเพศ และ การตั้งครรภ์ในวัยรุ่น นักเรียน นักศึกษาประสบปัญหาสูญเสียจากการเรียนรู้ และหลุดจาก ระบบจากศึกษารวมถึงผลกระทบจากการเติบโตของนวัตกรรมสร้างความคาดหวังและ ความเครียดในสังคม การท าความเข้าใจ และใช้ประโยชน์จากการเปลี่ยนแปลงจะสร้าง อนาคตใหม่ จึงจัดท าข้อเสนอเชิงนโยบายจากโครงการประชุมสมัชชาสวัสดิการสังคม จังหวัด ภาคกลาง ประจ าปี 2566 หัวข้อ การพัฒนามาตรฐานหลักประกันบริการทางสังคม แก่กลุ่มเป้าหมายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน “ประเด็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอด ชีวิต (Lifelong-learning) ของเยาวชนนอกระบบการศึกษา (18 – 25 ปี) กลุ่มจังหวัด สสว. 1 รับผิดชอบ เพื่อเสนอแนะนโยบายการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิตของเยาวชนนอกระบบ การศึกษา (18 – 25 ปี) ที่ตอบโจทย์การท างาน การใช้ชีวิต และการสร้างภูมิคุ้มกันการ เปลี่ยนแปลง ดังนี้ การจัดท าข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการพัฒนาสังคมระดับประเทศ ประจ าปีงบประมาณ 2566


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 73 ข้อเสนอเชิงนโยบายจากโครงการประชุมสมัชชาสวัสดิการสังคมจังหวัด ภาคกลาง ประจ าปี2566 หัวข้อ การพัฒนามาตรฐานหลักประกันบริการทางสังคมแก่กลุ่ม เป้าหมายที่สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน “ประเด็นการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต (Lifelong-learning) ของเยาวชนนอกระบบการศึกษา (18–25 ปี) กลุ่มจังหวัด สสว.1 รับผิดชอบ ดังนี้ 1. ภาครัฐควรส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายด้านสวัสดิการทางการศึกษาทุกรูปแบบ เพื่อให้เยาวชนที่เรียนในระบบและนอกระบบได้เข้าถึงการศึกษา ซึ่งเป็นหลักประกันส าคัญ ที่จะท าให้คนมีงานท าและมีรายได้ 2. ควรเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเรียนรู้ตลอดชีวิตให้เยาวชนนอก ระบบการศึกษาให้ทราบถึงความส าคัญ และความจ าเป็นในการเรียนรู้ตลอดชีวิต 3. ภาครัฐควรพัฒนาบุคลากรที่เกี่ยวข้องกับการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต พัฒนา ความรู้ และทักษะ จัดให้มีเวทีการเรียนรู้ของชุมชน เพื่อการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ ตรง 4. ควรส่งเสริมและสนับสนุนการสอนทักษะชีวิตและทักษะทางวิชาชีพให้เยาวชน เพื่อน ามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้จริงเมื่อส าเร็จการศึกษาหรือออกนอกระบบ การศึกษา 5. ควรพัฒนาและยกระดับหลักสูตรอาชีพส าหรับเยาวชนนอกระบบการศึกษาให้ สอดคล้องกับความต้องการและบริบทการด าเนินชีวิต รวมถึงมาตรฐานอาชีพและ ตลาดแรงงานในปัจจุบัน 6. ยกระดับนโยบายการส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษาในรูปแบบใช้บ้านเป็นฐาน การเรียนรู้แทนการไปที่โรงเรียน (Home school) ที่มีความเสมอภาคและเท่าเทียมกันมาก ขึ้น โดยบูรณาการระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอก และการศึกษาตามอัธยาศัย


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 74 7. ภาครัฐส่งเสริมและสนับสนุนให้สถานศึกษามีระบบและกลไกการดูแลให้ ค าปรึกษา และคุ้มครองเยาวชนนอกระบบการศึกษาในพื้นที่ ทั้งด้านการศึกษา ด้านสุขภาพ กาย และสุขภาพจิต 8. ส่งเสริมและสนับสนุนการท างานควบคู่ไปกับการเรียนเพื่อต่อยอดความรู้และวุฒิ การศึกษา 9. สร้างกลไกการกระจายอ านาจการบริการจัดการการเรียนรู้ เพื่อให้เกิดความ ร่วมมือในการส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ระหว่างหน่วยงานรัฐ องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่น ภาคเอกชน ภาคประชาชน และภาคีเครือข่าย และควรบูรณาการพัฒนาศักยภาพ ด้าน 7 Q ให้แก่ เด็ก และเยาวชน เพื่อขับเคลื่อนการพัฒนาและแก้ไขปัญหาในชุมชน และ สังคม รวมทั้งสามารถน าแนวทางการพัฒนาเด็กและเยาวชนไปขับเคลื่อนการท างานร่วมกับ เครือข่ายอื่น ๆ 10. การเปิดโอกาสให้เยาวชนนอกระบบการศึกษาได้มีโอกาสเข้าถึงแหล่งเรียนรู้ (โดยไม่มีค่าใช้จ่าย) เพื่อพัฒนาตนเองอย่างทั่วถึง ดำวน์โหลดรูปเล่ม https://shorturl.asia/vX9Q0


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 75 โดยจากการจัดท าข้อเสนอเชิงนโยบายระดับพื้นที่ของ สสว.1-11 ได้น าข้อเสนอเชิง นโยบายระดับพื้นที่มาจัดท าสรุปข้อเสนอเชิงนโยบายด้านการพัฒนาสังคมระดับประเทศ ใน 5 ประเด็น ซึ่งครอบคลุมกลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ เด็ก เยาวชน แรงงาน คนพิการ ผู้สูงอายุ โดยเป็นข้อเสนอระดับนโยบาย และระดับปฏิบัติการ เพื่อส่งต่อหน่วยงานที่เกี่ยวข้องน าไปใช้ ประโยชน์ต่อไป ดังนี้ 1. ข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคม ประเด็นเด็ก ระดับนโยบาย ได้แก่ 1) การพัฒนาสถานะบุคคลให้มีสัญชาติไทย 2) สร้าง เสริมบุคคลและครอบครัวต้นแบบ 3) สร้างกลไกความร่วมมือเชิงบูรณาการที่มีความ สอดคล้องต่อเนื่อง 4) ส่งเสริมให้มีระบบสวัสดิการสนับสนุนครอบครัวเพื่อการเลี้ยงดูเด็ก แต่ละช่วงวัย และเพิ่มช่องทางการสื่อสารระหว่างเด็ก/ครอบครัว 5) ยกระดับพัฒนาศักยภาพ ผู้ปฏิบัติงานด้านเด็กในทุกหน่วยงาน ทุกองค์กร 6) พัฒนาระบบฐานข้อมูลเด็กให้ทันสมัย เป็นปัจจุบัน ครอบคลุมเด็กทุกคนในทุกพื้นที่ทุกมิติ 7) การจัดตั้งคณะกรรมการและ คณะท างานศูนย์ประสานงานให้ความช่วยเหลือ เยียวยา ฟื้นฟูผู้ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ ความรุนแรงในพื้นที่เกิดเหตุ (One Stop Service Center: OSCC) 8) การยกระดับกลไก “การพัฒนาคุณภาพชีวิตคนทุกช่วงวัย” ในการเฝ้าระวัง ช่วยเหลือ คุ้มครองพิทักษ์สิทธิ และ พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้ที่ได้รับผลกระทบและชุมชน 9) การส่งเสริมความปลอดภัยด้านสาธารณ ภัยและสถานการณ์ฉุกเฉิน 10) องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) ควรส่งเสริมและสนับสนุน ให้สภาเด็กเข้ามามีบทบาทในการจัดท าแผนพัฒนาเด็กและเยาวชนในพื้นที่ 11) บรรจุ กระบวนการจัดการสถานการณ์ความรุนแรงในพื้นที่ลงในแผนพัฒนาจังหวัด ข้อบัญญัติของ ท้องถิ่น กฎระเบียบของหมู่บ้าน ระดับปฏิบัติการ ได้แก่ 1) การพัฒนาความรู้ความเข้าใจในการเลี้ยงดูเด็ก แก่ผู้ปกครอง 2) การสร้างแนวทางการรับรู้สู่ชุมชนหรือการให้ความรู้รวมถึงการจัดอบรม ในรูปแบบต่าง ๆ 3) สร้างเสริมพัฒนาบุคคลและครอบครัวต้นแบบ โดยกระทรวง พม. ก าหนด


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 76 หลักสูตรการสร้างเสริมความสัมพันธ์ในครอบครัวในการดูแลเด็กบูรณาการร่วมกันทั้งภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคประชาชน 4) สร้างความเข้มแข็งให้สภาเด็กและเยาวชนในการเฝ้าระวัง ป้องกัน แก้ไข พัฒนา และเครือข่ายเฝ้าระวัง 5) สร้างรากฐานครอบครัวตั้งแต่การครองคู่ การวางแผนครอบครัว การตั้งครรภ์ การเลี้ยงดู การสร้างครอบครัวคุณภาพ 6) เปิดโอกาสให้ เด็กได้เข้ามามีส่วนร่วมในทุกกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเด็ก 7) พัฒนาศักยภาพอาสาสมัครพัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ให้มีทักษะการท างานด้านเด็ก 8) การส่งเสริมและพัฒนา ทักษะเด็กที่เหมาะสมในด้านการป้องกันและหลีกเลี่ยงสถานการณ์เสี่ยงต่อการถูกล่วงละเมิด ทางเพศ 9) ส่งเสริมการคัดกรองตรวจสุขภาพจิตเพื่อลดอัตราการเกิดภาวะซึมเศร้าในเด็ก 2. ข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคม ประเด็นเยาวชน ระดับนโยบาย ได้แก่ 1) ภาครัฐควรส่งเสริมและสนับสนุนนโยบายด้าน สวัสดิการทางการศึกษาทุกรูปแบบ 2) ควรเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับการเรียนรู้ ตลอดชีวิตให้เยาวชนนอกระบบการศึกษา 3) ควรมีการบูรณาการข้อมูลของกระทรวง พม. กับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อก าหนดหลักสูตรการเรียนการสอนที่สอดคล้องกับความต้องการ ตลาดแรงงานปัจจุบัน 4) เพิ่มอัตรานักจิตวิทยา นักสังคมสงเคราะห์ให้กับทุกหน่วย ที่ปฏิบัติงานในด้านเด็กและเยาวชน ระดับปฏิบัติการ ได้แก่ ควรส่งเสริมและสนับสนุนการสอนทักษะชีวิตและ ทักษะทางวิชาชีพให้เยาวชนเพื่อน ามาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานได้จริง 3. ข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคม ประเด็นแรงงาน ระดับนโยบาย ได้แก่ 1) การออกกฎหมายให้ความคุ้มครองและการจัด สวัสดิการให้แก่การจ้างงานแบบชั่วคราว (Gig Economy) 2) การปรับปรุงกลไกกฎหมายให้ แรงงานนอกระบบเข้าถึงสวัสดิการมากขึ้น 3) ยกระดับนโยบายในการเตรียมความพร้อมของ แรงงานนอกระบบกับการเป็นสังคมสูงอายุ และส่งเสริมการมีงานท าของผู้สูงอายุ


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 77 ระดับปฏิบัติการ ได้แก่ 1) การส่งเสริมสวัสดิการที่ครอบคลุมและเหมาะสม ให้กับวัยแรงงานทั้งในระบบและนอกระบบอย่างเท่าเทียม 2) การสร้างระบบสวัสดิการ ในพื้นที่รองรับแรงงานที่ว่างงาน ถูกเลิกจ้างด้วยเหตุการณ์ต่าง ๆ 3) การสนับสนุนและ ประสานงานการจัดสวัสดิการให้กับจ้างเหมาบริการของหน่วยงานภาครัฐ 4) การประสาน ความร่วมมือกับกระทรวงแรงงาน เพื่อยกระดับการรับรู้ การประชาสัมพันธ์ การให้ความรู้ ความเข้าใจด้านกฎหมายของแรงงานนอกระบบเพื่อให้เข้าถึงสิทธิสวัสดิการ 4. ข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคม ประเด็นผู้สูงอายุ 4.1 ด้านการพัฒนาศักยภาพและเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับสังคมสูงวัย ระดับนโยบาย ได้แก่ 1) ขับเคลื่อนงานด้านผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ โดยผ่าน กลไกศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล พื้นที่ปฏิบัติการทางสังคม (Social Lab) 2) ก าหนดสวัสดิการ และค่าตอบแทนที่เหมาะสมให้กับอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (อพม.) และอาสาสมัครที่ดูแลผู้สูงอายุ (อผส.) 3) ส่งเสริมให้ทุกภาคส่วนมีการจ้างงานผู้สูงอายุอย่าง เป็นรูปธรรม 4) ก าหนดมาตรการในการวางแผนทางการเงินให้แก่คนทุกช่วงวัย 5) ส่งเสริมให้ ผู้สูงอายุเข้าถึงเทคโนโลยีและพัฒนาทักษะการใช้เทคโนโลยีที่จ าเป็น ระดับปฏิบัติการ ได้แก ่ 1) จัดท าแผนบูรณาการด้านผู้สูงอายุในระดับ ต าบล/ระดับหมู่บ้าน เพื่อสนับสนุนการขับเคลื่อนงานผู้สูงอายุในชุมชน 2) ก าหนดให้มี การจัดโครงการ/กิจกรรม เพื่อพัฒนาศักยภาพและส่งเสริมการเรียนรู้ผู้สูงอายุในชุมชน 3) จัดกิจกรรมเชิดชูเกียรติและมอบประกาศเกียรติคุณ ให้แก่ บุคลากร ผู้น าหรือแกนน า ชุมชน องค์กร และเครือข่ายที่ท าคุณประโยชน์ให้แก่ผู้สูงอายุ 4.2 พัฒนานโยบายมาตรการ กลไกและขับเคลื่อนสู่การปฏิบัติ ระดับนโยบาย ได้แก่ 1) กระทรวงการคลัง ก าหนดมาตรการทางภาษีเพื่อสร้าง แรงจูงใจให้กับผู้ดูแลผู้สูงอายุให้สามารถน าไปลดหย่อนภาษีประจ าปีได้2) ปรับปรุงระเบียบ


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 78 การช่วยเหลือเงินสงเคราะห์ผู้สูงอายุในภาวะยากล าบากเป็นรายกรณี3) ก าหนดกลไก ขับเคลื่อนการปฏิบัติงานในระดับจังหวัดในการท างานบูรณาการร่วมกับหน่วยที่เกี่ยวข้อง ในด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้สูงอายุ4) กระทรวงมหาดไทย ปรับปรุงระเบียบกฎหมาย ให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นสนับสนุนและจัดบริการเพื่อการดูแลผู้สูงอายุแบบครอบคลุม ทุกมิติ 4.3 ส่งเสริมสวัสดิการ คุ้มครองและพิทักษ์สิทธิเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิต ผู้สูงอายุทุกมิติ ระดับปฏิบัติการ ได้แก่ รัฐบาลควรก าหนดนโยบายให้องค์กรปกครองส่วน ท้องถิ่นจัดตั้งศูนย์ดูแลผู้สูงอายุในชุมชน (Day Care) เพื่อช่วยดูแลผู้สูงอายุในชุมชนทุกพื้นที่ 4.4 เพิ่มประสิทธิภาพระบบการบริหารองค์กรและพัฒนาองค์ความรู้แบบ บูรณาการ ระดับนโยบาย ได้แก่ 1. พัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้สูงอายุ และภาคีเครือข่าย ที่มีการด าเนินงานด้านผู้สูงอายุที่เป็นระบบ Digital Platform ที่เป็นปัจจุบันและมีคุณภาพ ที่ประชาชนและหน่วยงานสามารถเข้าถึงข้อมูลได้อย่างปลอดภัย (Digital Aging Data Center Development) 2. ก าหนดนโยบายให้สสว.1 - 11 มีบทบาทในการพัฒนาศักยภาพ บุคลากร (Re-skill, Up skill) เพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตผู้สูงอายุในระดับพื้นที่ 5. ข้อเสนอเชิงนโยบายด้านสังคม ประเด็นคนพิการ ระดับนโยบาย ได้แก่ 1) ให้ความส าคัญกับการสื่อสารสาธารณะและการขยาย ช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายครอบคลุมทั้งมิติพื้นที่ และกลุ่มเป้าหมาย 2) พัฒนาระบบ ระเบียบและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับกองทุนส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการภายใต้หลัก ธรรมาภิบาล 3) พัฒนาระบบสารสนเทศและเชื่อมโยงการใช้ประโยชน์ข้อมูลร่วมกัน 4) สร้าง เวทีและกระบวนการมีส่วนร่วมเพื่อก าหนดนโยบายสาธารณะเพื่อคนพิการตั้งแต่ระดับชุมชน เชื่อมโยงสู่ระดับประเทศ 5) สร้างพัฒนากลไก และส่งเสริมการกระจายอ านาจ เพื่อให้องค์กร


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 79 ปกครองส่วนท้องถิ่นได้ขับเคลื่อนภารกิจเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตคนพิการได้อย่างเป็นองค์ รวม 6) สร้าง วิจัย และพัฒนาระบบการศึกษา การพัฒนาทักษะอาชีพของคนพิการที่สอดคล้อง กับตลาดแรงงานและความต้องการของสถานประกอบการ 7) ผลักดัน เร่งรัด ก ากับดูแล ให้มี การจัดสิ่งอ านวยความสะดวกส าหรับคนพิการเพื่อการมีชีวิตที่ดีกว่า 8) ก าหนดมาตรการเชิง บวกเพื่อกระตุ้นให้ภาคส่วนต่าง ๆ ยกระดับหรือจัดตั้งเป็นศูนย์บริการคนพิการให้ครอบคลุม พื้นที่ ระดับปฏิบัติการ ได้แก่ 1) ตระหนักและให้ความส าคัญกับการสร้างคุณค่า และ ศักยภาพในการจัดการตนเองของคนพิการ ด้วยองค์ประกอบหลัก 5 ด้าน คือ การตระหนัก ในตัวเอง การดูแลตนเอง การประกอบอาชีพ การเรียนรู้ และเทคโนโลยีสิ่งอ านวยความสะดวก 2) พัฒนาศักยภาพเครือข่ายปฏิบัติการในพื้นที่ 3) พัฒนาศักยภาพและส่งเสริมให้ศูนย์บริการ คนพิการจังหวัด เป็นกลไกหลักในการขับเคลื่อนงานคนพิการแบบบูรณาการ 4) สร้างกลไก ความร่วมมือเพื่อสร้างโอกาสการมีงานท าและสร้างรายได้แก่คนพิการในระดับจังหวัด กลุ่มจังหวัด 5) สร้างความตระหนักและการยอมรับในคุณค่าและศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ความเท่าเทียมทางสังคมกับคนทุกกลุ่ม ทุกช่วงวัยในชุมชน 6) พัฒนาศักยภาพอาสาสมัครและ ภาคีเครือข่ายทางสังคมเป็นผู้จัดการรายกรณี (CM) เพื่อดูแลคนพิการและครอบครัวในชุมชน และพัฒนาหน่วยบริการชุมชนในการให้บริการเชิงรุกและเป็นหน่วยส่งต่อบริการแบบมุ่งเป้า


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 80 7. การด าเนินงาน One home พม. ในพื้นที่รับผิดชอบของ สสว.1 การด าเนินงานภายใต้นโยบายกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จะมุ่งเน้นการด าเนินภารกิจในมิติการขับเคลื่อนระดับพื้นที่จังหวัด ( Area based) ด้วยการบูรณาการการหน่วยงาน ข้อมูล ศักยภาพการประสานงานภาคีเครือข่าย การสร้าง ความเข้มแข็งของกลไกการประสานส่งต่อระดับพื้นที่ ทีม พม.จังหวัด ภายใต้แนวคิด One Home พม. คู่ขนานไปกับการเร่งรัดการทางานเชิงรุกในประเด็นส าคัญ การขับเคลื่อน นโยบายไปสู่การปฏิบัติและร่วมกันขับเคลื่อนให้เกิดผลอย่างเป็นรูปธรรม อีกทั้งร่วมกันสร้าง ความเข้าใจนโยบายดังกล่าวแก่บุคลากรทุกระดับ เพื่อให้เกิดการรับรู้ถึงทิศทางแนวนโยบาย ของกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ และร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการ แก้ปัญหาสังคมของประเทศไทยอย่างตรงจุด และขับเคลื่อนการพัฒนาสังคมในฐานะภาคี เครือข่ายที่ส าคัญร่วมกันในระยะยาว ซึ่งจะน าไปสู่การลดความเหลื่อมล้ าของสังคมและการ สร้างโอกาสเข้าถึงบริการของรัฐ การด าเนินงาน One Home พม. ในพ ื้นท ี่รับผิดชอบของ สสว.1 พม.


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 81 ภาพการด าเนินงาน One home พม. ในพ ้ื นท ่ ร ี บ ั ผด ิ ชอบของ สสว.1


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 82 8. การติดตามและประเมินผลโครงการที่ได้รับเงินสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ จากการประชุมคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการด าเนินงานของกองทุนเพื่อ การป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ครั้งที่ 2/2564 เมื่อวันอังคารที่ 9 พฤศจิกายน 2564 ปลัดกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เห็นชอบตามมติที่ประชุม มอบหมายให้ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ (สสว.) ในฐานะเป็นผู้ช่วยผู้ตรวจ ราชการกระทรวง ช่วยลงพื้นที่ติดตามและประเมินผลการด าเนินโครงการที่ได้รับ การสนับสนุนเงินจากกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ในกลุ่มเขต จังหวัดที่รับผิดชอบ พร้อมทั้ง ให้กองทุนฯเสนอแผนการด าเนินงาน ปีงบประมาณ 2565 และแผนการด าเนินงานต่อจาก ปีงบประมาณ 2564 ให้ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุน วิชาการ (สสว.) ทราบและลงพื้นที่ติดตามโครงการที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนฯ ซึ่งทางกองทุนเพื่อการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ได้จัดสรรงบประมาณให้ ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 เพื่อใช้ในการลงพื้นที่ติดตามและประเมินผลการ ด าเนินโครงการหน่วยงาน/องค์กรที่ได้รับการสนับสนุนจากกองทุนเพื่อการป้องกันและ ปราบปรามการค้ามนุษย์ ระยะเวลาด าเนินงาน ระหว่างเดือนมิถุนายน – กันยายน 2566 เป็นค่าน้ ามันเชื้อเพลิง จ านวน 5,000 บาท การติดตามและประเมินผลโครงการท ี่ได ้ รับเงินสนับสน ุ น จากกองท ุ น เพ ื่อการปอ ้ งกันและปราบปรามการค ้ ามน ุ ษย์


รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 โครงการที่สสว.1 ได้รับมอล าดับ ชื่อโครงการ 1 โครงการส่งเสริมบทบาทมวลชนเพื่อความมั่นคงภายในเพื่อปฏิบัติงาน ด้านการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ ในพื้นที่จังหวัด สมุทรปราการ กองอมั่นคงสมุทร2 โครงการส่งเสริมบทบาททีมสหวิชาชีพปฏิบัติงานด้านการป้องกันและ ปราบปรามการค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดสมุทรปราการ ส านักความสมุทร3 โครงการอบรมเพิ่มประสิทธิภาพแก่พนักงานเจ้าหน้าที่ตาม พระราชบัญญัติการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์สถานี ต ารวจภูธรบางแก้ว สถานีจังหวั4 โครงการอบรมเชิงปฏิบัติการสร้างภูมิคุ้มกันของสังคมในมิติทาง วัฒนธรรม ต้านภัยค้ามนุษย์ จังหวัดสมุทรปราการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ส านักจังหวั5 โครงการอบรมเสริมสร้างความรู้ความเข้าใจให้แก่เจ้าหน้าที่ ที่เกี่ยวข้อง และผู้ประกอบกิจการตามพระราชบัญญัติภาพยนต์และวีดิทัศน์ พ.ศ. 2551จังหวัดสมุทรปราการ ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ส านักจังหวั6 โครงการพัฒนาศักยภาพทีม ONE HOME พม. เพื่อขับเคลื่อนกลไกการ ส่งต่อระดับชาติ (National Referral Mechanism – NRM) กองต


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 83 อบหมายให้ติดตามในปี2566 หน่วยงาน จ านวนเงินที่ขอรับ การสนับสนุน ระยะเวลาด าเนิน โครงการ หมายเหตุ อ านวยการรักษาความ งภายในจังหวัด รปราการ 102,600 พ.ค. - มิ.ย.66 ด าเนินการ ติดตามแล้ว กงานพัฒนาสังคมและ มมั่นคงของมนุษย์จังหวัด รปราการ 155,850 ก.พ. - มิ.ย.66 ด าเนินการ ติดตามแล้ว นีต ารวจภูธรบางแก้ว วัดสมุทรปราการ 20,350 มี.ค. - ก.ค.66 หน่วยงาน กงานวัฒนธรรม วัดสมุทรปราการ 75,750 เม.ย. – ก.ย. 66 ด าเนินการ ติดตามแล้ว กงานวัฒนธรรม วัดสมุทรปราการ 61,500 ก.ค. – ก.ย. 66 หน่วยงาน ต่อต้านการค้ามนุษย์ 1,673,303 ส.ค. – ก.ย. 66 ด าเนินการ ติดตามแล้ว


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 84 ภาพการลงติดตาม โครงการที่ สสว.1 ได้รับมอบหมายให้ติดตาม ในปีงบประมาณ 2566


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 85 9. การประเมินมาตรฐานการจัดสวัสดิการบ้านพักเด็กและครอบครัว ตามหนังสือที่ ดย 1304/ว6608 ลงวันที่ 25 กรกฎาคม 2566 กรมกิจการเด็ก และเยาวชน ขอความร่วมมือส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1-11 ด าเนินการ ตรวจประเมินมาตรฐานการจัดสวัสดิการบ้านพักเด็กและครอบครัว ปีงบประมาณ พ.ศ.2566 โดยองค์ประกอบคณะผู้ตรวจประเมินมาตรฐานการจัดสวัสดิการสังคมบ้านพัก เด็กและครอบครัว ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566ประกอบด้วย หัวหน้าคณะผู้ประเมิน 1 คน และผู้ประเมินอย่างน้อย 1 คน รวมเป็นอย่างน้อย 2 คน ซึ่งทาง สสว.1 มีคณะ ประเมิน จ านวน 5 คน มีเกณฑ์มาตรฐานการจัดสวัสดิการบ้านพักเด็กและครอบครัว ประจ าปี งบประมาณ พ.ศ. 2565 ประกอบด้วย 3 หมวด 23 องค์ประกอบ 114 ตัวชี้วัด ดังนี้ หมวดที่ 1 การจัดการองค์กรและบริหาร จ านวน 12 องค์ประกอบ 44 ตัวชี้วัด หมวดที่ 2 การบริการ จ านวน 6 องค์ประกอบ 60 ตัวชี้วัด หมวดที่ 3 คุณภาพการบริการ จ านวน 5 องค์ประกอบ 10 ตัวชี้วัด วัตถุประสงค์การประเมินมาตรฐานการจัดสวัสดิการบ้านพักเด็กและครอบครัว ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เป็นการตรวจสอบและทบทวนการด าเนินงานของ บ้านพักเด็กและครอบครัว เพื่อประเมินผล และรับรองคุณภาพตามมาตรฐานการจัด สวัสดิการบ้านพักเด็กและครอบครัวของปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 และน าไปสู่การ ยกระดับมาตรฐานการจัดสวัสดิการบ้านพักเด็กและครอบครัว ให้สามารถจัดบริการ สวัสดิการ ที่ตอบสนองต่อการด ารงชีวิตของกลุ่มเป้าหมายได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป การประเมินมาตรฐานการจัดสวัสดิการ บ้านพักเด็กและครอบครัว ประจ าปีงบประมาณ พ.ศ. 2566


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี 2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 86 ภาพการการประเมินมาตรฐานการจัดสวัสดิการบ้านพักเด็กแลครอบครัว ประจ าปีงบประมาณ 2566


2023กลุ่มการวิจัย และการพัฒนาระบบ เครือข่าย สรุปผลการด าเนินงาน Annual Report


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 88 3. กลุ่มการละพฒันาระบบเครือ 1. การจัดการความรู้ภายในองค์กร Knowledge Management (KM) KM มีความส าคัญมากส าหรับการพัฒนางานขององค์กร การจัดการความรู้ที่มีอยู่ เป็นเครื่องมือในการน าองค์กรไปสู่องค์กรแห่งการเรียนรู้ และเพื่อให้ทุกคนในองค์กร สามารถเข้าถึงความรู้ น าความรู้ที่ได้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์ ใช้ในการแก้ไขปัญหา และต่อ ยอดการเรียนรู้ภายในหน่วยงาน รวมทั้งการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศ และองค์ความรู้นอก ส่วนราชการเพื่อการแก้ปัญหาและสร้างนวัตกรรม จนเกิดกระบวนการที่เป็นเลิศ และ ผลลัพธ์ที่ดีสู่การบรรลุยุทธศาสตร์และการบริการประชาชนที่ดี โครงการศูนย์บริการวิชาการการพัฒนาสังคม และจัดสวัสดิการสังคม ประจ าปี 2566


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 89 1.1 กระบวนกำรด ำเนินงำนศูนย์ช่วยเหลือสังคมต ำบล ภำยใต้กิจกรรมโครงกำรกำรจัดกำรควำมรู้และ ถ่ำยทอดองค์ควำมรู้ (Knowledge Management) กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ได้มีการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือ สังคมต าบล เพื่อเป็นศูนย์กลางบูรณาการความร่วมมือส าหรับการบริการสวัสดิการสังคม ส าหรับกลุ่มเปราะบางและประชาชนทุกช่วงวัย ภายใต้บริการสังคมแบบเบ็ดเสร็จ ณ จุดเดียว (One Stop Service) รวมถึงเป็นศูนย์กลางการบริการแบบมีส่วนร่วมของชุมชน (Community Service Center) เพื่อให้บริการอย่างทั่วถึงและรวดเร็ว โดยการท างาน ร่วมกันระหว่างหน่วยงานของกระทรวง พม. ในพื้นที่ และภาคีเครือข่ายทุกภาคส่วน ทั้งนี้ พม. ได้ขับเคลื่อนการจัดตั้งศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบลในพื้นที่ทั่วประเทศแล้ว จ านวน 4,355 แห่ง ศูนย์ดังกล่าวจะท าหน้าที่เป็นตัวแทนของกระทรวง พม. ในพื้นที่ กลไกการ ขับเคลื่อนการด าเนินงาน คือ คณะท างานศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล โดยมีเจ้าหน้าที่พัฒนา สังคมและความมั่นคงของมนุษย์ในพื้นที่เป็นฝ่ายส่งเสริม สนับสนุนและให้ค าปรึกษาในการ ด าเนินงานด้านต่าง ๆ ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 พิจารณาเห็นถึงความส าคัญของการ จัดท าการจัดการความรู้ (KM) เกี่ยวกับกระบวนการด าเนินงานศูนย์ช่วยเหลือสังคมในด้าน ต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกฎหมาย ระเบียบที่เกี่ยวข้อง แผนงาน/โครงการ งบประมาณ งานด้าน สวัสดิการสังคม กระบวนการท างาน เพื่อใช้เป็นคู่มือ/แนวทางการด าเนินงานให้กับผู้ที่มี ส่วนเกี่ยวข้อง อาทิ คณะท างานศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล เจ้าหน้าที่ พม. อพม. เป็นต้น ซึ่งจะก่อให้เกิดประโยชน์ในการด าเนินงานศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล ในพื้นที่ความ รับผิดชอบของส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 และกระทรวงการพัฒนาสังคม และความมั่นคงของมนุษย์ต่อไป


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 90 วัตถุประสงค์ 1. เพื่อให้ได้เครื่องมือ องค์ความรู้ในการด าเนินงานศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล 2. เพื่อพัฒนาศักยภาพบุคลากร พม. ให้มีความรู้ ความเข้าใจและสามารถน าไป ถ่ายทอดให้กับคณะท างานศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบลในพื้นที่ได้ กลุ่มเป้าหมาย บุคลากรและเจ้าหน้าที่ หน่วยงาน พม. จังหวัดปทุมธานีจ านวน 60 คน จัดอบรม ระหว่างวันที่ 7 – 8 มีนาคม 2566 ณ สถานสงเคราะห์เด็กอ่อนรังสิต จังหวัดปทุมธานี ผลการศึกษา กระบวนการด าเนินงานศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล ภายใต้กิจกรรมโครงการ การจัดการความรู้และถ่ายทอดองค์ความรู้ (Knowledge Management) ประกอบด้วย 1) การบรรยายเรื่อง “ประสบการณ์ในการช่วยเหลือ และบูรณาการแผนงาน/ โครงการด้านการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เพื่อขับเคลื่อนศูนย์ช่วยเหลือ สังคมต าบล ภายใต้โครงการพื้นที่ปฏิบัติการทางสังคม” โดยนางมนัสนันท์ ศุภพิทักษ์สกุล อดีตพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดชลบุรี ได้ให้ความรู้เกี่ยวกับการพัฒนา คนทุกช่วงวัยต้องมองว่าบทบาทหน้าที่ของ พม. คือ การพิทักษ์สิทธิ ให้คนทุกคนเข้าถึงสิทธิ มองเขาอย่างเข้าใจ ซึ่งปัญหาและอุปสรรคแต่ละพื้นที่ไม่เหมือนกัน การท างานของ พม. ต้องมีใจในการท างาน ต้องท าอย่างเต็มที่ ต้องมีความอดทน โดยเฉพาะในการท างานต้องมี องค์ความรู้ เราจะต้องศึกษาหาความรู้เพิ่มอยู่ตลอดเวลา และในการท างานศูนย์ช่วยเหลือ สังคมต าบล คณะท างานศูนย์จะต้องมีเจ้าหน้าที่ของ พม. เข้าไปเป็นผู้ช่วยเลขา เพื่อที่ พม. จะได้รู้ว่าการด าเนินงานของศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบลเป็นอย่างไร ด าเนินการถึงขั้นตอน ไหน


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 91 2) การบรรยายเรื่อง “การด าเนินงานศูนย์และประสานงาน อพม. น าไปสู่การเป็น ศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบลการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ร่วมกัน” โดยนางยุวดี บ ารุงบุตร ประธาน อาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัดปทุมธานี ให้ความรู้ว่าอาสาสมัคร พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เป็นกลไกส าคัญในการขับเคลื่อนงานด้านสวัสดิการ สังคมในระดับอ าเภอ ต าบล และหมู่บ้าน โดยมีบทบาทหน้าที่และภารกิจ ดังนี้ (1) ชี้เป้า – เฝ้าระวัง หมายถึง การส ารวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับ กลุ่มเป้าหมายและผู้รับบริการ การเฝ้าระวัง การส่งเสริมและแก้ไขปัญหาด้านสังคมเบื้องต้น และการายงานสถานการณ์ทางสังคมของชุมชน (2) เชื่อมกลุ่มเดิม – เสริมสร้างกลุ่มใหม่ หมายถึง การประสาน การ ส่งต่อผู้รับบริการและการให้ความร่วมมือและสนับสนุนการปฏิบัติงานตามภารกิจของ กระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ (3) ร่วมใจท าแผนชุมชน หมายถึง การผลักดันหรือกระตุ้นให้ชุมชน ร่วมมือ ร่วมใจ ระดมความคิด เพื่อจัดท าแผนชุมชน โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับการ พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ เช่นการจัดท าแผนสวัสดิการชุมชน การด าเนินงานตามบทบาทหน้าที่และภารกิจของอพม. เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพ และ ประสิทธิผล นั้น นอกจากจะต้องใช้ทักษะ ความรู้ ความสามารถในด้านการปฏิบัติงานด้าน สวัสดิการสังคมแล้ว ยังต้องอาศัยเครื่องมือทางด้านเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร เพื่อใช้ในกระบวนการท างานด้วย เช่น การจัดท าแผนสวัสดิการชุมชน การเขียนโครงการ การส ารวจ รวบรวมข้อมูล รายงานผล เป็นต้น ประกอบกับ อพม. นั้น มีระดับอายุและ การศึกษาที่แตกต่างกันท าให้เกิดช่องว่างในการปฏิบัติหน้าที่ การประสานงาน การส่งต่อ รวมทั้งไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้เกิดความเชื่อมโยงกับหน่วยงานราชการได้ ซึ่งทางอาสาสมัครพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ให้ความเห็นว่าในการลง พื้นที่ที่จะด าเนินการเก็บข้อมูล ให้การช่วยเหลือสังเคราะห์ต่าง ๆ ควรบอกให้ อพม.


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 92 ในพื้นที่ทราบเพื่อเป็นการรับทราบข้อมูลไปพร้อม ๆ กัน และไม่ให้เกิดเป็นการซ้ าซ้อน ในการให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมาย 3) การบรรยายเรื่อง “การบริหารงานภายในศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบลเพื่อ ขับเคลื่อนโครงการพื้นที่ปฏิบัติการทางสังคม (Social Lab)” โดย ดร.นัทธปราชญ์ นันทิวัฒน์กุล คณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ได้ให้ความรู้ เกี่ยวกับการด าเนินงานศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบล 3.1 ฐานคิดงานวิจัยของท้องถิ่นหรืองานวิจัยเพื่อท้องถิ่น Community -Based Research (CBR) โดยใช้หลักพุทธธรรมเป็นฐานในการขับเคลื่อน งาน เพื่อน าไปสู่การวิเคราะห์ชุมชนและออกแบบชุมชน เพื่อผู้ปฏิบัติจะได้มีวิธีการที่จะ เข้าใจชุมชนที่ถูกต้อง มีวิธีปฏิบัติอย่างไรให้เห็นชุมชนชัดขึ้นในทุกมิติ ซึ่งเครื่องมือส าหรับ การศึกษาพัฒนาเพื่อเป็นฐานในการท างาน ประกอบด้วย 1) ผังชุมชน : โครงสร้าง เครือญาติ ระบบน้ า ที่ท ากิน 2) เส้นทางพัฒนาการของชุมชน : ประวัติศาสตร์ชุมชน 3) วงปีชุมชน : ระบบเศรษฐกิจ ความเชื่อ จารีต ประเพณีวัฒนธรรม 4) แผนที่ท ามือ : แผนที่ครัวเรือน สถานที่ส าคัญ 5) จัดการข้อมูล : แบบส ารวจเพื่อน าข้อมูลมาวิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้ ความเชื่อมโยงจากข้อมูลทุกมิติ และน าไปสู่การวางแผนเพื่อจัดท าแผนพัฒนาชุมชน 3.2 เครื่องมือในการลงพื้นที่เพื่อวางแผนพัฒนาชุมชน อาทิ 1) การท า Mapping ในประเด็นต่าง ๆ เพื่อหาความเชื่อมโยงและ กลไกในการใช้ประโยชน์ที่ดิน เพื่อการวางแผนพื้นที่ในอนาคตที่มีพื้นฐานมาจากชุมชน 2) โฉนดชุมชน: เพื่อท าความเข้าใจเพื่อหาจุดเริ่ม วิเคราะห์ปัญหาและ โอกาส พัฒนาผังและกลไก ทดลองปฏิบัติและสรุปบทเรียน 3) ผังชุมชน เพื่อหาต้นทุนในพื้นที่ พิจารณาประเด็นที่เป็นปัญหาและ โอกาส และการวางแผนอนาคต


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 93 4) การแบ่งกลุ่มเพื่อจัดท าองค์ความรู้กระบวนการด าเนินงานศูนย์ช่วยเหลือสังคม ต าบล โดย ดร.นัทธปราชญ์ นันทิวัฒน์กุล, ดร.รุจิกาญจน์ สานนท์ คณะบริหารธุรกิจ ดร.หวานใจ หล าพรม คณะศิลปศาสตร์ และดร.ปิยวรรณ สนธิโสมพันธุคณะศิลปกรรม ศาสตร์ มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีราชมงคลธัญบุรี ด้วยวิธีการถอดบทเรียนเพื่อให้ผู้เข้าร่วม การประชุมฝึกปฏิบัติการคิดวิเคราะห์ปัญหาการใช้เครื่องมือต่าง ๆดังนี้ 1) ปัญหาคุณภาพชีวิตตามกลุ่มเป้าหมาย ด้วย Mind map ประกอบด้วย (1)คนยากจน (2)คนพิการ หรือคนพึ่งพิงผู้อื่น (3) เด็กและเยาวชน (4) ผู้สูงอายุ (5) สตรี / ผู้หญิง 2) วิเคราะห์ปัญหาการขับเคลื่อนศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบลของหน่วยงาน ร่วมกันด้วยแผนภูมิก้างปลา 3) วิเคราะห์ความรู้ที่ได้รับด้วย 4WHO 4) เรียนรู้แนวทางการขับเคลื่อนศูนย์ช่วยเหลือสังคมต าบลด้วยมิติของการ พัฒนาชุมชน


ส่วนที่ 2 สรุปผลการด าเนินงานที่ส าคัญ ปี2566 รายงานประจ าปี 2566 (Annual Report 2023) ส านักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 1 94 ภาพการจัดการความรู้ภายในองค์กร Knowledge Management (KM)


Click to View FlipBook Version