The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

เอกสารจากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามเลขที่ พส.ข.๐๒๑๘

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by nongnga.suk, 2022-06-15 04:30:36

ตำรายาวัดสุนทรประดิษฐ์ ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ จังหวัดพิษณุโลก

เอกสารจากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงครามเลขที่ พส.ข.๐๒๑๘

ตำรายาวัดสุนทรประดิษฐ์ ตำบลบางระกำ
อำเภอบางระกำ จังหวดั พิษณโุ ลก

เอกสารจากสำนกั ศลิ ปะและวฒั นธรรม มหาวทิ ยาลัยราชภฏั พิบลู สงคราม
เลขท่ี พส.ข.๐๒๑๘

ปริวรรตโดย
นกั ศกึ ษาสาขาวชิ าภาษาไทย รหสั ๖๒ กล่มุ ๒
คณะมนุษยศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์ มหาวทิ ยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม

ตรวจสอบและอธิบายศัพท์โดย
อาจารย์ภคั รพล แสงเงิน ศศ.ม.วรรณคดไี ทย



คำนำ

ตำรายาวัดสุนทรประดิษฐ์ ตำบลบางระกำ อำเภอบางระกำ
จงั หวัดพิษณุโลก เอกสารจากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวิทยาลัยราช
ภัฏพิบูลสงครามเลขที่ พส.ข.๐๒๑๘ ฉบับน้ี เอกสารต้นฉบับสมุดไทยขาว
บันทึกด้วยหมึกดำ อักษรไทย ภาษาไทย อักษรขอม ภาษาบาลี (คาถา
ประกอบการปรุงยาและไสยศาสตร์) มีจำนวนท้ังสิ้น ๑๔๒ หน้าสมุดไทย
ต้นฉบับเก็บรักษาไว้ที่ห้องสืบค้นภูมิปัญญา ส่วนนิทรรศการชั้น ๒ สำนัก
ศิลปะและวัฒนธรรม มหาวทิ ยาลัยราชพิบูลสงคราม มีเนื้อหาหลักเก่ียวกับ
ตำรับยาแก้กาฬต่าง ๆ แก้พรรดึก แก้ลม แก้ไข้ต่าง ๆ แก้สันนิบาต แก้คุณ
ไสยฯลฯ ข้าพเจ้าขอกราบขอบพระคุณสำนักศิลปะและวัฒนธรรมที่มอบ
โอกาสสำคัญให้ขา้ พเจ้าและนกั ศึกษาได้ศึกษาเอกสารโบราณนี้อันเป็นมรดก
ทางภูมปิ ัญญาสำคัญของชาวพิษณโุ ลกในอดีต

เอกสารฉบบั นีป้ ริวรรตโดยนักศึกษาสาขาวิชาภาษาไทย รหสั ๖๑
กลุ่ม ๒ คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูล
สงคราม ตรวจแก้ไข อธิบายศัพท์เพ่ิมเติม จัดรวมเป็นรูปเล่ม ปก คำนำ
สารบัญและอ่ืน ๆ โดยข้าพเจ้าอาจารย์ภัครพล แสงเงิน อาจารย์ประจำ
สาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราช
ภฏั พบิ ูลสงคราม โดยทา้ ยเลม่ น้ันขา้ พเจา้ แทรกภาพต้นฉบบั ของตำรายาเล่มนี้
ไวเ้ พ่อื ผู้ทสี่ นใจศึกษาอีกด้วย



ด้วยหลักสูตรสาขาวิชาภาษาไทย คณะมนุษยศาสตร์และ
สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏพิบูลสงคราม มุ่งผลิตบัณฑิตนักปฏิบัติ
สร้างสรรค์เทคโนโลยีและนวัตกรรมสู่สังคม ตามปรัชญาของมหาวิทยาลัย
มีความมงุ่ หวังทีจ่ ะนำวรรณกรรมท้องถิ่นของจังหวดั พิษณุโลกมาปริวรรตและ
เผยแพร่องค์ความรู้ตอ่ ผู้สนใจทั่วไป เผยแพรอ่ งคค์ วามรู้จากเอกสารโบราณสู่
สังคมเพ่ือเป็นการสบื สาน รักษาองคค์ วามรขู้ องบรรพชนไทยมใิ ห้เสอ่ื มสูญไป
ตามกาลเวลา อีกทั้งการปริวรรตเอกสารโบราณเหล่านี้เป็นภาษาปัจจบุ ันถือ
เป็น “เทคโนโลยีและนวัตกรรม” สำคัญในการสืบสานและอนุรักษ์
องค์ความรขู้ องชาวพษิ ณุโลกในอดตี อันเป็นความรสู้ ำคัญในการรักษาโรคภัย
ไข้เจบ็ อกี ดว้ ย

ในการปริวรรตโดยเฉพาะคาถาที่ประกอบการเสกยา ข้าพเจ้า
ตรวจสอบแล้วพบว่า อ่านค่อนข้างลำบาก หากคำใดทไี่ ม่สามารถปริวรรตได้
จะคงตามต้นฉบับไว้ทุกประการ หากมีข้อผิดพลาดประการใด ข้าพเจ้าขอ
น้อมรับความผิดพลาดนน้ั ไว้เพียงผูเ้ ดยี ว และหากผู้อา่ นมขี ้อเสนอแนะอนั ใดที่
จะก่อให้เกิดประโยชน์ทางวิชาการต่อไป ข้าพเจ้ายินดีน้อมรับและปรับปรุง
ตามข้อเสนอแนะ กุศลและประโยชน์อันใดที่จะพึงได้จากหนังสือเล่มนี้
ข้าพเจ้าขออทุ ิศให้แดป่ ราชญผ์ ้รู จนาตำรายาเลม่ นดี้ ้วยเทอญ

ภคั รพล แสงเงนิ
พฤษภาคม ๒๕๖๕

สารบญั หนา้
คำนำ ๑
ตำรับยารักษาโรคตา่ ง ๆ ๓
ตำรบั ยาแกก้ าฬสงิ คลแี ละไขต้ า่ ง ๆ ๑๒
ตำรับยาแกอ้ าเจียน ๑๔
ตำรบั ยาแกไ้ ข้ตา่ ง ๆ ๑๖
ตำรบั ยาแก้ไข้ทับฤดแู ละไข้อน่ื ๆ ๑๗
ตำรับยาแกไ้ ข้เพือ่ ลมและเพอ่ื เสมหะ ๒๔
ตำรบั ยาถอนพษิ ตา่ ง ๆ ๒๔
ตำรบั ยาแก้ไขส้ ันนิบาต ๒๖
ตำรบั ยาแก้มตุ กิดและมตุ ฆาต ๒๙
คาถาและพธิ กี รรมประกอบการปรุงยา ๓๕
การสอ่ งเทยี นดูโรค ๓๗
วธิ ีแก้โรคเก่ยี วกบั อาถรรพ์ ๓๘
วิธแี กค้ ุณไสยต่าง ๆ ๔๑
นางโภควดีรกั ษาต้นมะกรดู ๔๔
คาถาเสกนำ้ มนต์ ๔๗
คาถาไลผ่ ี ๔๙
วธิ ีแก้คณุ คน ๕๐
คาถาพระร่วงเสกนำ้ มนั ดิบ ๕๑
ตำรับยารักษาคณุ คน คณุ ผี

สารบัญ (ตอ่ ) หน้า
๕๕
เอกสารอ้างอิง ๕๖
ประวัติ แ ละผล งานผู้ตรวจสอ บการ
ปรวิ รรตและจัดทำคำอธบิ ายศัพท์ ๖๐
ภาคผนวก

ตำรายาวัดสนุ ทรประดิษฐ์ ตำบลบางระกำ
อำเภอบางระกำ จงั หวดั พษิ ณุโลก

เอกสารจากสำนักศิลปะและวัฒนธรรม มหาวทิ ยาลยั ราชภัฏพบิ ลู สงคราม
เลขท่ี พส.ข.๐๒๑๘

ตำรับยารกั ษาโรคต่าง ๆ
๏ สิทธกิ ารยิ ะ จะกล่าวยาแก้จบั ท่านให้เอาใบมะตมู ๑ ใบคนทสี อ

๑ ใบหัสคุณ ๑ หญา้ ลูกเคล้า ๑ ว่านนำ้ ๑ ใบผักเปด็ ๑ ใบทุลังกาสา ๑ พริก
๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ เจตมลู ๑ กระเทียมเท่ายาท้งั หลาย บดละลายน้ำร้อนกินแก้
จับแล ฯ

๏ ยาถอนล้ิน เอาใบกะเพรา ๑ ใบพลูแก ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ สารส้ม ๑
ดินประสิว ๑ ข้ีแมลงสาบ ๑ หรดาล ๑ น้ำประสานทอง ๑ ลูกสะบ้า ๑
ลกู สะบา้ ลิงดำ ๑ ลูกสะบ้าลาย ๑ กระดูกงูเหลอื ม ๑ ดีงูเหลือมเผาไฟ ๑ บด
ละลายน้ำมันงูเหลอื มกวาดถอนล้ินขาวล้ินดำหายแล ๚

๏ สิทธิการิยะ ถ้าจะแก้กาฬในหัวอกให้ร้อนภายในอยู่ แก้
อดี ำอแี ดง รากสาด มหาเมฆ ละอองพระบาท ประกายดาษแลดาษแหง้ ครอบ
ท้งั ปวง ท่านใหเ้ อาปลาไหลเผือก ๑ พุงแก ๑ สีหวดนอ้ ย ๑ รงั ไคร้เครอื ๑ หัว
มหากาฬ ๑ ลูกประคำดีควาย ๑ เบญกานี ๑ วา่ นกีบแรด ๑ เนระพูสี ๑ เขา
กวาง ๑ งาช้าง ๑ เขาวัว ๑ นอแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ บดฝนด้วยน้ำกินแก้
กาฬภายในทั้งปวงหายแล ๚

๏ ถ้าฝีกาฬมันเกิดมันให้คนนอนหลับปากมิออกได้ หายใจสะท้อน
ขน้ึ สะท้อนลงแลร้อนภายใน ถ้าจะแก้เอาตูมกาเครือ ๑ ตูมกาแดง ๑ สีหวด
น้อย ๑ ช้างงาทอก ๑ พญารากขาว ๑ เท้ายายม่อม ๑ หวายตะค้า ๑



พิษนาศน์ ๑ ระย่อม ๑ พาดไฉน ๑ หัวมหากาฬ ๑ เนระพสู ี ๑ รากมะนาว ๑
บดฝนด้วยน้ำซาวขา้ วกิน ถ้ามฟิ ังดงี ตู ัดกินหายแล ๚

๏ ถ้าจะแก้กาฬ สิงคลีกุมจับ หัวใจ เอาน้ำอ้อยแดง ๑ ส้ม
มะขามเปียก ๑ เทียนดำ ๑ ลูกสะบ้าเผา ๑ บดทำแท่งไว้ละลายน้ำอ้อยแดง
น้ำสม้ มะขามเปยี กก็ได้ ล้อมตับดบั พษิ แล ๚

๏ ยาแก้อับจน๑ กาฬสิงคลี กระหนกระหาย แก้ร้อนภายใน
อีดำอีแดง รากสาดแล ครอบไข้ทั้งปวง ท่านให้เอาว่านร่อนทอง ๑ ว่าน
กบี แรด ๑ เนระพูสี ๑ ว่านเปราะ ๑ พิมเสน ๑ จุกโรหินี ๑ อบเชย ๑ จันทั้ง
๒ ลกู จัน ๑ ดอกจนั ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทยี นดำ ๑ ลูกมะขามป้อม ลูก
สมอไทย ๑ ลกู สมอเทศ ๑ เขากวาง ๑ งาชา้ ง ๑ พิษนาศน์ ๑ ระย่อม ๑ บด
เป็นแท่งไว้ แก้อกใจไม่สบาย แก้รอ้ นใน กระหนกระหาย ฝนดว้ ยน้ำซาวข้าว
กิน

ถา้ นวิ้ มือเยน็ ตีนเย็นนำ้ ร้อน
ถา้ ส่นั นำ้ ร้อน
ถา้ มือกำตนี กำนำ้ มะงั่วกนิ หายแล ๚
๏ ยาแก้พรรดึก๒มนั ให้ปวดท้องน้อยอยู่ ถา้ จะแก้เอาลูกจัน ๑ ดอก
จัน ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทียนดำ ๑ เนระพูสี ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่าน
เปราะ ๑ พิมเสน ๑ ใบย่างทราย ๑ ว่านน้ำ ๑ ดีปลี ๑ พริก ๑ ขิง ๑ ข่าแก่

๑ แก้อับจน หมายถงึ ยาขนานนี้ใชร้ ักษาโรคซึ่งยาขนานอนื่ ๆ รักษาไม่ได้แล้ว
หรอื ไม่มียาจะใชร้ ักษาแลว้ (กระทรวงศกึ ษาธิการ, ๒๕๔๒ : ๒๓๗)

๒ พรรดึก หมายถึง อาการท้องผูกมาก มีอุจจาระเป็นก้อนแข็ง คล้ายข้ีแมว
หรือข้ีแพะ (ราชบัณฑิตยสถาน กรมพัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก,
๒๕๕๓ : ๑๙๐)



๑ หัวหญ้ารังกา ๑ แห้วหมู ๑ หญ้าปากควาย ๑ ขม้ินอ้อย ๑ มหาหิงค์ุ ๑
การบูร ๑ มะไฟเดอื นห้า ๑ ดอกบนุ นาค ๑ บดทำแท่งไวล้ ะลายน้ำรอ้ นกนิ

ถ้าหวิ ละลายนำ้ ออ้ ยแดง
ถา้ หาแรงมิไดล้ ะลายน้ำมะงั่วกนิ แกพ้ รรดึกหายแล
๏ ยาแก้บิด ท่านให้เอาสน ๑ จันท้ัง ๒ แก่นสัก ๑ เบญกานี ๑
เปลอื กมังคุด ๑ ฝาง ๑ การบรู บดเป็นแทง่ ไวย้ กั กระสายเอาเถิด ฯ
ขนานหน่ึงเอาการบูร ๑ เฟื้อง พิมเสน ๑ เฟ้ือง ฝ่ิน ๑ เฟื้อง
กระวาน ๑ เฟ้ือง กานพลู ๑ เฟอ้ื ง ลกู จัน ๑ เฟ้ือง ขิง ๑ ไพ ดินประสิว ๑ ไพ
บดเปน็ แทง่ ไวแ้ กบ้ ดิ ทกุ ประการยกั กระสายเอาเถดิ ฯฯ ใชแ้ ล้ว

ตำรบั ยาแกก้ าฬสงิ คลแี ละไข้ต่าง ๆ
๏ ยากาฬสิงคลีกินตามไส้แก้ได้สารพัดทั้งปวงแลสันนิบาตสอง

คลองให้ลง เอายานี้แกเ้ อาฝิ่นเทศ ๑ ฝิ่นเครือ ๑ ดินยากราบเรอื ๑ ชันโพรง
ตะเคยี น ๑ ดนิ ปดิ รูปู ๑ เปลือกยาง ๑ เปลือกหว้า ๑ ใบเทยี น ๑ ใบทับทิม ๑
ใบคาคลอง ๑ ไมอ้ ุดก้นครก ๑ ขา้ วตกขา้ งครก ๑ เขาควายเผอื ก ๑ ลูกพทุ รา
ออ่ น ๑ บดเปน็ แท่งละลายนำ้ ปนู ใสกนิ หายแล ๚

๏ ยาแก้ลงใหญ่ให้ลงสิงคลีแลสันนิบาตสองคลองสารพัดทั้งปวง
เอายานี้แก้ เอาใบทับทิม ๑ ใบสลอด ๑ ใบพุทรา ๑ ใบสะแก ๑ ใบหญ้าสัก
๑ ใบสีฟันคนทา ๑ เฉียงพร้านางแอ ๑ ลูกกล้วยตีบ ๑ ลูกในมะขาม ๑ ตา
ออ้ ยแดง ๑ พริก ๑ ขิง ๑ บดละลายน้ำมะนาว ฝิ่นตัดกินหยุดใช้มามากแล้ว
อย่าสนเทห่ เ์ ลย ฯฯ

๏ ยาแก้กาฬภายในร้อนอกแลอีดำอีแดง รากสาด มหาเมฆ ละออง
ประกายดาษแลครอบทั้งปวง ถ้าจะแก้เอาปลาไหลเผือก ๑ พุงแก ๑ สีหวด
นอ้ ย ๑ รังไคร้เครือ ๑ หัวมหากาฬ ๑ ลูกประคำดีควาย ๑ เบญกานี ๑ ว่าน



กีบแรด ๑ เนระพูสี ๑ เขากวาง ๑ งาช้าง ๑ เขางัว ๑ นอแรด ๑ ว่าน
ร่อนทอง ๑ บดเป็นแท่งไว้ละลายน้ำจัน น้ำดอกไม้ น้ำซาวข้าว น้ำเปล่า กิน
แก้กาฬภายใน แก้อีดำอีแดง ละอองพระบาท ประกายดาษ แลดาษแห้ง
ครอบท้ังปวงหายแล ๛

๏ ยาแก้ลมหกประการ เอาลกู มะขามป้อม ๑ สมอทั้ง ๒ ระย่อม ๑
พิษนาศน์ ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ว่านกีบแรด ๑ รากอบเชย ๑ จันทั้ง ๒ ว่าน
เปราะ ๑ ใบพิมเสน ๑ ลูกจัน ๑ ดอกจัน ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ บดเป็น
แท่งไว้ ถา้ หนาวละลายนำ้ รอ้ น

ถ้ารอ้ นนำ้ ซาวข้าว
ถา้ มัวน้ำมะนาว
ถ้าเศรา้ อกเศรา้ ใจน้ำจนั
แก้รากสาดอีดำอีแดง กาฬสงิ คลี แกล้ มหกประการ ฝีกาฬจบั หวั ใจ
แก้สะอึก สนั นบิ าตหายแล ฯ
๏ ยาแก้เช่อื มแก้มวั เอาระยอ่ ม ๑ พิษนาศน์ ๑ ว่านกบี แรด ๑ วา่ น
ร่อนทอง ๑ ว่านเปราะ ๑ ใบพิมเสน ๑ ใบมะระ ๑ ใบสมี ๑ ใบมะตูม ๑
เทียนท้ัง ๕๓ เนระพูสี ๑ สีเสียดเทศ ๑ บดละลายน้ำจัน น้ำดอกไม้ กินแก้
เชื่อม แกม้ วั หายแล ฯฯ
๏ ยาเขียวล้อมตับดบั พิษฝีกาฬจับหัวใจ เอาจันท้ัง ๒ รังไครเ้ ครือ ๑
หัสดำ ๑ ระยอ่ ม ๑ พิษนาศน์ ๑ ใบพิมเสน ๑ ใบมะระ ๑ ใบสมี ๑ ใบมะตูม
๑ วา่ นกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ วา่ นเปราะ ๑ บดละลายเหล้ากไ็ ด้ น้ำก็ได้
แก้กาฬมตู รแลเปลวไฟฟ้าแลพิษกาฬมันจบั หัวใจ ยาน้ีตคี ่าไว้แท่งละ ๑ บาท
ทองแล ฯ

๓ พิกดั ทัง้ ๕ หมายถึง ใช่สว่ นของดอก ผล ตน้ รากและใบ



๏ ยาเขียวแก้พิษกาฬท้ังปวง เอาจันทั้ง ๒ สน ๑ นอแรด ๑ เขา
กวาง ๑ งาช้าง ๑ เขากุย ๑ พรมมิ ๑ ใบมะยม ๑ ใบมะเฟือง ๑ ใบมะแว้ง
เครือ ๑ เนระพสู ี ๑ ระย่อม ๑ พิษนาศน์ ๑ รังไครเ้ ครือ ๑ ชะเอม ๑ โกฐทั้ง
๕๔ ลูกจัน ๑ ดอกจนั ๑ เทียนทั้ง ๕๕ กานพลู ๑ ละลายเหล้ากไ็ ด้ น้ำกไ็ ด้แก้
พิษฝกี าฬมันกุมเอาหวั ใจวเิ ศษนกั แล

๏ ยาจักรนารายณ์แกไ้ ข้สารพัดทั้งปวง เอาระยอ่ ม ๑ พิษนาศน์ ๑
ไคร้เครือ ๑ มหาสดำ ๑ เนระพูสี ๑ หวายตะคา้ ๑ หวายตะมอย ๑ จนั ทงั้ ๒
วา่ นเปราะ ใบพิมเสน ๑ ชะเอม ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านรอ่ นทอง ๑ ว่านน้ำ ๑
พรมมิ ๑ สน ๑ เขี้ยวแรด ๑ กรามแรด ๑ เขากวาง ๑ งาช้าง ๑ เขาวัว ๑
เข้ียวเสอื ๑ เข้ียวหมี ๑ เขยี้ วหมู ๑ เขีย้ วจระเข้ ๑ เขาควายเผอื ก ๑ เขาแพะ
๑ เขากุย ๑ เขากาย ๑ นอแรด ๑ ลูกประคำดีควาย ๑ โกฐทั้ง ๕ เทียนท้ัง ๕
การบูร ๑ พิมเสนเกล็ด ๑ ลูกจนั ๑ ดอกจัน ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ บดเอา
ดีงูเป็นกระสาย ละลายน้ำจัน น้ำดอกไม้ น้ำซาวข้าว

หนาวนำ้ ร้อน กินแก้สารพัดทั้งปวงหายแล ฯ
๏ ยาสิทธิกาฬแก้ร้อน แก้คล่ัง แก้กาฬภายใน แก้ปากมิออก แก้
สารพัดท้งั ปวง เอาแตงเถ่ือน ๑ หมูปอย ๑ ระย่อม ๑ พิษนาศน์ ๑ ไคร้เครือ
๑ เนระพูสี ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ รากย่านาง ๑ เขากวาง ๑
งาช้าง ๑ โกฐสอ ๑ บดละลายน้ำจัน น้ำดอกไม้ น้ำซาวข้าว กินแก้ร้อน
ภายในหายแล ฯ

๔ พิกัดโกฐท้ัง ๕ คอื โกฐสอ โกฐหัวบัว โกฐเขมา โกฐเชยี งและโกฐจุฬาลัมพา
(ลัดดาวัลย์ ครปู ัญญามาตย์ (บรรณาธิการ, ๒๕๕๘ : ๑๑๕)

๕ เทียนท้ัง ๕ (เบญจเทียน) คือ เทียนดำ เทียนแดง เทียนขาว เทียน
ข้าวเปลือก และเทียนตาต๊ักแตน (ลัดดาวัลย์ ครูปัญญามาตย์ (บรรณาธิการ, ๒๕๕๘ :
๑๑๕)



๏ ถ้าผู้ใดเป็นไข้ร้อนมนั ให้อยากน้ำแลให้คลัง่ ประดุจดงั ผเี ขา้ ลางที
มันให้เชอ่ื มหลบั ไปเรียกปากมิออก ลางทีมันให้มือตายตีนตาย ถ้าผู้ใดเป็นไข้
ดงั นี้ ท่านว่ากาฬเกิดภายใน ท่านให้เร่งกินยาภายในให้จงหนัก เอาจันท้ัง ๒
สน ๑ หนาดคำ ๑ หัสดำ ๑ งาช้าง ๑ นอแรด ๑ ลูกประคำดีควาย ๑ ไก่ไห้
๑ แตงเถื่อน ๑ สามร้อยราก ๑ ว่านกีบแรด ๑ บดละลายน้ำจัน น้ำดอกไม้
นำ้ ซาวข้าว นำ้ เปล่า กินขบั พษิ กาฬออกนอกสิ้นแล ๚

๏ ถา้ คอแห้งกระหายน้ำ เอาลูกมะกล่ำเครือ ๑ รากส้มปอ่ ย ๑ ต้น
เนระพูสี ๑ ชะเอม ๑ ไคร้เครือ ๑ หวายตะค้า ๑ ระย่อม ๑ พิษนาศน์ ๑
พญารากดำ ๑ ว่านกีบแรด ๑ บดละลายเหล้าดีงูตัด กินแก้ฝีกาฬในท้องมัน
คอแห้งวิเศษนักแล ๚

๏ ยาแก้สันนิบาตหน้าเหลือง ตัวเหลือง ตาแดง เอาเกสรบัวหลวง
๑ เกสรบุนนาค ๑ รากข้ีกาแดง ๑ สน ๑ จันท้ัง ๒ ฝักคูน แฝกหอม ต้ม ๓
เอา ๑ แกส้ นั นบิ าตหายแล ๚

๏ ยาแก้ไข้ ๓ ฤดู ท่านให้เอา โกฐหัวบวั ๑ ล้ินทะเล ๑ นำ้ ประสาน
ทอง ๑ สมุลแว้ง ๑ ดินสอพอง ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ ว่านเปราะ บดละลายน้ำ
ร้อนกนิ แก้ไข้ ๓ ฤดู หายแล ๚

๏ ยาแก้สันนิบาตมนั ให้สะอน้ื ใหห้ ามิได้ มนั ยังครองแครงอยู่ มันแก่
ข้ึนมามันคลุกเอาปากมิออก เอายานี้แก้เอาใบสมี ๑ รากคันทรง ๑ รากคา
คลอง ๑ หัวเอ้ืองควาย ๑ พริก ๑ ขิง ๑ กระเทียม ๑ บดน้ำซาวข้าวกินหาย
แล ๚

๏ ยาแก้ละอองพระบาท เอาหางนกกะลิง ๑ ไก่ไห้ ๑ ย่านาง ๑
นำ้ ใจใคร่ ๑ พญารากดำ ๑ หนามพรม ๑ พงุ แก ๑ พญายา ๑ เจตพังคี ๑ ลูก
ประคำดคี วาย ๑ ปากกา บดละลายดงี ูตัดกนิ หายแล๚



๏ ยาแกล้ ะอองพระบาทกด็ ี ละอองพระกฤษณ์ก็ดี ละอองไฟฟ้ากด็ ี
เอาชะเอม ๑ น้ำใจใคร่ ๑ ไก่ไห้ ๑ ปากกา ๑ ยาท้ังน้ีฝนด้วยเหล้าดีงูตัดกิน
เถิด แก้โรคดังกล่าวมานี้หายแล ๚

๏ ยาแก้ร้อนใน เอารากทุลังกาสา ๑ รากทองพันช่ัง ๑ หัวคล้า ๑
รากมะกอก ๑ ดินประสิว ๑ ดินสอพอง ๑ บดฝนด้วยน้ำซาวข้าวท้ังกินทั้ง
ชโลม แกล้ ะออง แก้ฝีกาฬ แกร้ ้อน แก้คล่ัง แกม้ ัวหายแล

๏ ถ้ารอ้ นแลมัวมันให้มูตรเหลอื ง เอาเขากวาง ๑ งาชา้ ง ๑ นอแรด
๑ ตัวไส้เดือน ๑ เอาเท่ากันค่ัวแต่พอเหลอื ง บดละลายนำ้ อ้อยแดงกนิ เป็นยา
ชูใจแล ฯ

๏ ถ้าเหง่ือออกแลเหนียว เอาลูกสะบ้า ๑ ถ่ัวเขียวคั่วให้เกรียม บด
ละลายน้ำเหลา้ ทาหายแล ฯฯ

๏ ถ้ามฟิ ังเอาใบตำลึง ๑ สันพร้ามอญ ๑ รากย่านาง ๑ บดทาล้อม
เหงื่อตกกาฬสงิ คลีทัง้ ๓ หมู่นห้ี ายแล ฯ

๏ ยาชโลมถอนพิษไข้ท้ังปวง เอารากผักสาบ ๑ ผักเขา ๑ ราก
ครอบ ๑ รากย่านาง ๑ เท้ายายม่อม ๑ รากส้มกบ ๑ รากคาคลอง ๑ เถา
ตำลงึ ๑ ผกั หวานบ้าน ๑ คคุ ะ ๑ ป่เู จ้าลอยท่า ๑ ฝนชโลมแก้ร้อนหายแล ฯ

๏ ยาแก้รากสาดมันให้ปวดหวั ให้มัว ให้เอาดีปลี ๑ ใบพลูแก ๑ ล้ิน
ทะเล ๑ เทียนดำ ๑ ข่าแก่ ๑ บดละลายนำ้ มะง่ัวกินแก้รากสาดให้มัวหายแล
ฯฯ

๏ ถ้าร้อนกระหนกระหาย เอารากผักเค็ด ๑ รากสมี ๑ รากไคร้น้ำ
๑ รากน้ำนอง ๑ วา่ นหางจระเข้ ๑ ฝนน้ำซาวขา้ วทง้ั กนิ ท้ังชโลมหายแล ฯฯ

๏ ถ้ามหาเมฆ มหานิลดำดังคราม ถ้าจะแกเ้ อาก้านสะเดา ๑ แก่น
แสม ๑ เบญกานี ๑ จัน ๑ ฝนดว้ ยนำ้ กินภายในแล ฯฯ



๏ ถา้ มหานิลมันขนึ้ ดำดังก้นหม้อ เม่ือจะไขม้ ันให้สะทา้ นในอกในใจ
ให้อยากน้ำนักตัวรอ้ นนัก ลางทีผดุ ข้ึนมาดำสกั น้อยเท่าขแ้ี มลงวนั พอเห็น ลาง
ทียังมิผุด ถ้าจะแก้ให้เอารากไก่ไห้ ๑ รากมะกอกเผือก ๑ สีหวดน้อย ๑ ถ่ัว
เขียว ๑ รากกะทกรก ๑ เชือกเขามวก ๑ หนามพรม ๑ พุงแก ๑ สมิงกุย ๑
ยาท้งั นี้บดฝนด้วยนำ้ กินเถดิ ฯฯ

ถา้ มฟิ ังฝนดว้ ยเหลา้ กนิ หายแล ฯฯ
๏ ถ้าฟองสมุทรมันข้ึนมันให้มือตายตีนตายเป็นเหน็บไป มันให้
ปากขมปากหวาน มันใหร้ ้อนข้างในขา้ งนอกหนาวห่มผา้ มขิ าดเมอ่ื มันจะผุด ๆ
ใตร้ ักแรก้ ่อนแต่ขาวยังเทยี มเน้อื อยนู่ น้ั ถ้าจะแกเ้ อาหนาดคำ ไก่ไห้ ๑ อัญชัน
๏ ถ้าไข้ฝีกาฬ ฟองสมุทรแลสายฟ้าฟาด เอาจันท้ัง ๒ รากทุลัง
กาสา ๑ ง้ิวเผือก ๑ รากตานหม่อน ๑ รากง้วนหมู ๑ กระดานพน ๑ ราก
มะนาว ๑ รากโมกมัน ๑ หวายสามใบต่อ ๑ หีบลม ๑ เปล้าท้ัง ๒ พุงดอ ๑
หางนกกะลิง ๑ ปลาไหลเผือก ๑ ดีงูต้น ๑ ระงับพิษ ๑ หัวคล้า ๑ หัว
หญ้าปีนตอ ๑ รากเสนยี ด ๑ รากสวาด ๑ มะกลำ่ ต้น ๑ พญายา ๑ กุ่มทั้ง ๒
เท้ายายม่อม ๑ ก้างปลาทัง้ ๒ รากคนทา ๑ ทลุ งั กาสา ๑ สุรามะรดิ ๑ ข่าต้น
๑ เชือกเขามวก ๑ รากมะกา ๑ รากมะเฟอื ง ๑ รากข้ีเหล็ก ๑ ฝนกิน
ถา้ รอ้ นนักให้ถอนมะคังออกเสีย เอาพญารากขาว ๑ ผกั หวานบ้าน
๑ ใสล่ ง
ถา้ เยน็ สะท้านข้นึ มอื ตนี เย็นละลายนำ้ รอ้ นกินแล ฯฯ
๏ ยาแก้ไข้ปวดท้อง ให้เอารากกำจาย ๑ เปลือกตีนเป็ดต้น ๑ ราก
มะตมู ๑ บอระเพด็ ๑ มะแวง้ ทัง้ ๒ แห้วหมู ๑ ยาน้ตี ้มกนิ แกป้ วดท้องแล ฯฯ
๏ ยาชื่อเทพนิมิต แก้ไข้ท้ังปวง แก้กาฬท้ังปวง แก้รากสาด
สันนิบาต อีดำแดง แก้ร้อนภายในกระวนกระวาย แก้เช่ือมแก้มัว มหาเมฆ
มหานิล เปลวไฟฟ้าแก้ละอองพระบาท แก้ไข้ได้ทุกอันแล ท่านให้เอาว่าน



กีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ว่านเปราะ ๑ เนระภูสี ๑ สังกรณี ๑ พิมเสน ๑
พิษนาศน์ ๑ ระย่อม ๑ รังไคร้เครือ ๑ รากอบเชย ๑ ชะเอม ๑ จุกโรหินี ๑
มะแว้งทั้ง ๒ สีหวดท้ัง ๒ เปล้าท้ัง ๒ ไก่ไห้ ๑ พุงแก ๑ รากย่านาง ๑ สาม
ร้อยราก ๑ บอระเพ็ด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ เกสรบัวหลวง ๑ เกสรพิกุล ๑ เกสร
บุนนาค ๑ เกสรสารภี ๑ จำปา ๑ กระดังงา ๑ มะลิ ๒ ดอกการะเกด ๑ ลูก
จัน ๑ ดอกจนั ๑ กานพลู กระวาน ๑ โกฐทั้ง ๕ สน ๑ การบูร ๑ บดเป็นแท่ง
ไว้ แก้ไข้ทั้งปวง แก้สันนิบาต รากสาด กาฬสิงคลี อีดำแดง แก้ร้อนภายใน
กระวนกระวายน้ำซาวข้าว น้ำจัน น้ำดอกไม้ น้ำโกฐหัวบัว แก้มัวน้ำจัน น้ำ
มะงวั่ ตัด แก้มหาเมฆ มหานลิ ละอองบาทแก้ทกุ อันแลกลา่ วมาแต่หลังละลาย
นำ้ เหมอื นกันแล ยาชอ่ื เทพนิมิตรแล

๏ ยาชื่อเทพชุมนุม แก้สันนิบาต รากสาด แก้กาฬสิงคลีมูตรแล
กาฬช้ำแลกาฬภายในให้ร้อนกระวนกระวาย แก้อีดำแดง แกส้ ะดุ้ง แก้ชกั แก้
ปากมิออก แก้สะอกึ สะอ้ืน แกป้ ากหนัก แก้ชกั มือชักตีน กำตีนงอ ตาเหลือก
ตาช้อน นอนมิหลับกระสับกระส่าย แก้มัวหัวตัวร้อน ท่านให้เอาว่านกบี แรด
๑ ว่านร่อนทอง ๑ ว่านเปราะ ๑ พิมเสน ๑ พิษนาศน์ ๑ ระย่อม ๑ รัง
ไคร้เครือ ๑ เนระพูสี ๑ หวายตะค้า ๑ หัสดำ ๑ พญายา ๑ ปู่เจ้าลอยท่า ๑
พงุ แก ๑ ไก่ไห้ ๑ หนาดคำ ๑ หอมแดง ๑ ตับเต่า ๑ สีหวดท้ัง ๒ รากย่านาง
๑ รากนำ้ นอง ๑ เขากวาง ๑ งาชา้ ง ๑ นอแรด ๑ เข้ียวแรด ๑ เข้ยี วจระเข้ ๑
เขย้ี วหมู ๑ เข้ียวหมี ๑ เข้ียวเสือ ๑ เขากุย ๑ เขาแพะ ๑ กรามช้าง ๑ กราม
แรด ๑ เขาวัว เขาควายเผือก ๑ มหากาฬ ๑ มหาละลาย ๑ หัวกระเช้าผีมด
๑ ตูมกาแดง ๑ ต้นกระเบียน ๑ มะคังแดง ๑ แตงเถ่ือน ๑ หมูปอย ๑ ดอก
พิกุล บุนนาค สารภี บวั หลวง กระดังงา จำปา มะลิซ้อน ๑ จันท้ัง ๒ โกฐทั้ง
๕ เทียนทั้ง ๕ ลูกจัน ๑ ดอกจัน ๑ กระวาน ๑ กานพูล ๑ สมอท้ัง ๓ ชะลูด
๑ รากอบเชย ๑ ยานบ้ี ดเป็นแทง่ ไว้ ละลายน้ำจัน นำ้ ดอกไม้ น้ำซาวข้าว

๑๐

ถ้ามัวนำ้ มะง่ัว
แกก้ าฬภายในนำ้ มตู ร นำ้ ชำ ดงี ูตัด
กนิ แกส้ ารพดั ทงั้ ปวงหายแล ฯ
๏ ยาแก้ไข้สันนิบาตปากมิออกแลเลือดลมขบเมื่อยท้ังตัวไข้สัม
ประชวร ปฐมชวร ทุติยชวรแลตรีทูต ถ้าจะแก้เอาว่านน้ำ ๑ สมอไทย ๑
ไคร้เครือ ๑ พริก ๑ ขิง ๑ สมุลแว้ง ๑ ชะเอมเทศ ๑ ลูกจัน ๑ ดอกจัน ๑
กระวาน ๑ กานพลู ๑ น้ำประสานทอง ๑ โกฐทั้ง ๕ เทียนทั้ง ๕ ชะมด ๑
พิมเสน ๑ ยาทั้งนี้เสมอภาค เอาดีปลีเท่ายาทั้งหลาย บดน้ำใบมะกล่ำเครือ
นำ้ สมอ นำ้ ผึ้งหลวง ปั้นเทา่ ลูกพุทรากินหายแล ฯ
๏ ถ้าจะทำยาแกไ้ ข้ทั้งปวงก็ดี เอากระทอื ๑ ไพล ๑ กระชาย ๑ ข่า
๑ ผิวมะกรูด ๑ พริก ๑ ฃิง ๑ ดีปลี ๑ โกฐสอ ๑ โกฐจุฬาลำพา ๑ เทียน
เยาวพาณี ๑ การบรู ๑ พมิ เสน ๑ บดเป็นแท่งไว้ ถา้ สนั นิบาตดเี ดือดเลอื ดลม
เป็นไขเ้ พือ่ เสลดก็ดี เปน็ ปว่ งก็ดี ฝนดว้ ยนำ้ ร้อน น้ำขงิ กนิ หายแล ฯ
๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวแก้ไข้สันนิบาตรากสาดท้ังปวง ถ้าจะแก้ให้
เอาว่านกีบแรด ๑ ว่านเปราะ ๑ ดอกกระดังงา ๑ ดอกจำปา พิกุล บุนนาค
สารภี มะลิ ๑ จันทั้ง ๒ ดอกบวั หลวง บดทำแทง่ ฝนดว้ ยนำ้ จนั กนิ แล ฯ
๏ ยาเขาสรรพกาฬ เอาลูกมะกอก ๗ ลูก ๆ ปะคำดีควาย ๗ ลูก
ตาไม้ไผ่ปา่ ๓๓ ตา หัวกา ๑ หัวกระดูกแรง้ ๑ กระดูกงเู หลือม ๑ รากหนาด
๑ เห็ดกระถินพิมาน ๑ เห็ดมะขาม ๑ เห็ดไม้แดง ๑ เห็ดขี้ววั ๑ หวายตะค้า
๑ รากลำโพงกาสลกั ๑ ข้าว ๓ ปั้น ยาท้ังนีเ้ ผาให้หมดเว้นแต่เหด็ ข้วี ัว เม่ือบด
เอาดีจระเขเ้ ปน็ กระสายทำแท่งไว้ตามแต่จะใช้ละลายเถิด ฯ
๏ สิทธิการิยะ ท่านประกอบยาสำหรับกาฬมูตรสิงคลี ไข้รากสาด
อีดำอีแดง ดาวเรือง ทรหด คัณฑสูตร ประกายดาษ แลกาฬท้ังปวง แล้วจึง
เอายาน้ีให้กินก่อนล้อมตับดับพิษไข้ทั้งหมด ท่านให้เอาหญ้าแพรกเผือก ๑

๑๑

หญ้าปากควาย ๑ หญ้าไซ ๑ ขม้ินอ้อย ๑ ใบมะผู้ ๑ ใบมะเมยี ๑ ใบมะยม ๑
ใบมะเฟือง ๑ ฃ้ีวัว ๑ ใบปีบ ๑ ใบมะไฟ ๑ ใบกำจาย ๑ ใบมะกลำ่ เครือ ๑ ใบ
พิมเสน ๑ ว่านเปราะ ๑ จันทั้ง ๒ ดินประสิว ๑ บดทำแท่งไว้ละลายน้ำซาว
ข้าวทงั้ กินทง้ั ชโลมกินหายแล ฯ

๏ ยาเขียวสารพัดพิษ แก้ฝีกาฬท้ังปวง เอาจันทั้ง ๒ เขากวาง ๑
งาช้าง ๑ นอแรด ๑ เขากุย ๑ สน ๑ หัสดำ ๑ พรมมิ ๑ ใบมะยม ๑ ใบ
มะเฟือง ๑ ใบมะแว้ง ๑ เนระพสู ีไทย ๑ ระย่อม ๑ พิษนาศน์ ๑ ไคร้เครือ ๑
ชะเอม ๑ โกฐทั้ง ๕ ลกู จนั ๑ ดอกจนั ๑ เทยี นทั้ง ๕ การบูร ๑ บดทำแท่งไว้
ฝนดว้ ยเหลา้ กิน

แก้กาฬกุมหัวใจ แก้ไข้รากสาด สันนิบาต อีดำอีแดงก็ได้วิเศษนัก
ฝนดว้ ยนำ้ ซาวขา้ วได้เช่ือมามากแล้วช่ือเขยี วสรรพคณุ แล ๚

๏ ยามหากาฬแกส้ ลบ เอาจนั ๑ ระย่อม ๑ พิษนาศน์ ๑ ไคร้เครือ
๑ เนระพูสีไทย ๑ หวายตะค้า ๑ หวายตะมอย ๑ หรดาล ๑ อบเทศ ไทย ๑
ชะลูด ๑ โกฐสอ ๑ โกฐเชียง ๑ โกฐพุงปลา ๑ เกสรบัวหลวง ๑ ดอกมะลิ ๑
พิกุล ๑ สารภี ๑ ชะมด ๑ พิมเสน ๑ กฤษณา ๑ กระลำพัก ๑ บดทำแท่งไว้
ละลายนำ้ จัน น้ำดอกไม้

ถา้ แมน้ กาฬหลบเข้าขา้ งในละลายน้ำยา่ นางแทรกพิมเสนฝนดว้ ยน้ำ
ซาวขา้ ว แทรกดนิ สอพองพน่ แล ๚

๏ ยาชื่อมหานิลน้อย เอากระดูกแร้ง ๑ กระดูกกา ๑ กระดูกงู
เหลือม ๑ ดอกบุนนาค ๑ ดอกพิกุล ๑ สารภี ๑ มะลิ ๑ บัวหลวง ๑ ว่าน
เปราะ ๑ สันพร้าหอม ๑ สนั พรา้ มอญ ๑ อกเต่า ๑ เขากวาง ๑ งาช้าง ๑ โกฐ
หวั บวั ๑ ใบพิมเสน ๑ ยาทั้งน้เี อากระดกู เผาให้หมดจดุ กาฬน้ำครามแล ฯฯ

๏ ยาแก้สารพัดกาฬ ท่านให้เอาใบกุ่มท้ัง ๒ ใบผักเสี้ยน ๑ ใบ
ระงับพิษ ๑ พริก ๑ ดีปลี ๑ เหด็ ข้วี ัว ๑ บดเป็นแทง่ ไว้ฝนด้วยน้ำซาวข้าว แก้

๑๒

กาฬหินจับลึก ๆ ให้เย็นทั้งตัวแต่ผิวเน้ือให้เหง่อื ออกซิก ๆ ให้เย็นในอกเรียก
กาฬหินแล ฯฯ

๏ ยาแก้เช่ือมมัว ท่านให้เอาหัวบัวขม ๑ หัวบัวเผื่อน ๑ ใบพิมเสน
๑ ใบสันพรา้ หอม ๑ ใบสันพรา้ มอญ ๑ หญ้าปากควาย ๑ ใบทอง ๑ ใบเงิน ๑
ใบฟัก ๑ ใบน้ำเต้า ๑ ใบบวบขม ๑ พรมมิ ๑ ใบผักแว่น ๑ ดอกบัวหลวง ๑
บวั เผอื่ น ๑ ดอกสารภี ๑ ดอกพกิ ุล ๑ บุนนาค ๑ จำปา ๑ บดแท่งไว้

แก้เชอื่ มมัวละลายนำ้ จัน น้ำดอกไม้
ร้อนน้ำซาวขา้ วกนิ หายดงั ใจนัก ฯฯ

ตำรบั ยาแกอ้ าเจยี น
๏ ยาแก้ราก เอาดอกสารภี ๑ ดอกบัวบุนนาค ๑ ใบสฟี ันนางแอ ๑

ใบเทียน ๑ ไพล ๑ ขงิ ๑ จันท้ัง ๒ บดเปน็ แทง่ ไว้
แกร้ ากเหยี นนำ้ แตงกวา รากนำ้ ใบทับทิม ต้มน้ำลกู ยอเผาแล ฯฯ
๏ แก้ลงรากให้ละห้อยละหายไปก็ดี ท่านให้เอายาน้ีแก้ เอาดอก

สารภี ๑ บัวหลวง ๑ บุนนาค ๑ เปลือกสีฟันนางแอ ๑ ข่า ๑ ไพล ๑ ให้
เทา่ กัน ชะเอมเปน็ กระสายบดละลายน้ำจัน น้ำดอกไม้

ถ้ารากน้ำลูกยอเผา ถ้าลงน้ำมะพร้าวอ่อน น้ำลูกทับทิมก็ได้ แก้
กาฬภายในหายแล ฯฯ

๏ ยาแก้ลง เอาสมอไทย ๑ รากบวั หลวง ๑ รากห่ิงหาย ๑ ดอกบัว
หลวง ๑ จัน ๑ คร่ัง ๑ ใบกะเพรา ๑ บดละลายน้ำกินแก้ราก

ถ้าลงน้ำจัน แก้พษิ ร้อนน้ำซาวข้าวกินหายแล ฯฯ
๏ ถ้าไข้รากลมเปล่าแลรากเสลด ให้เอาใบมะระกำมือ ๑ พริก ๗
ขงิ ๗ ตม้ กินหาย

๑๓

๏ ถา้ แลลมย้อนรากข้นึ มาก็ดี กนิ ข้าวรากปากขม เอารากผักเส้ยี นผี
๑ บอระเพ็ด ๑ ใบสะเดา ๑ หญ้าลูกเคล้า ๑ พริก ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ บดเป็น
แทง่ ละลายนำ้ กินหายแล ๚

๏ ถา้ ไข้รากเลอื ด เอาเขากวางแชน่ ำ้ กินหาย ๚ะ
ถ้ามิฟงั เอาหวั แห้วหมบู ดละลายเหลา้ กนิ หาย ๚
๏ ถ้าอยู่ดี ๆ มิเป็นไข้รากเป็นเลือดช่ือว่าฟองเลือด เอารากตดหมู
ใบถ่อนเผาเป็นด่าง ๑ พริก ๑ ขิง ๑ บดด้วยมูตรสีกา ฝนด้วยน้ำซาวข้าวกิน
หาย ๚๚ะ
ถ้ามิฟังเอายอดมะเด่ือปล้อง ๗ ยอด พริก ๑ ขิง บดละลายน้ำกิน
แกร้ ากเลอื ดหายแล ๚
ถา้ มฟิ ังเอาใบคนทสี อ ๑ ขิง บดละลายยากินหาย ๚ะ
๏ ยาแก้ลงเป็นเลือดรากเป็นเลือด ให้เอากำยาน ๑ ลูกกล้วยตานี
๑ ใบขอ่ ย ๑ ขา้ วเหนยี วสุก ๑ บดป้นั ก้อนเผาไฟแชน่ ้ำกินหายแล ๚ะ
๏ ยาแกส้ ะอึก เอาสารส้ม ๑ พิษนาศน์ ๑ บดละลายน้ำผึ้งกนิ หาย
๚ะ
๏ ยาแก้สะอึก เอารากมะอึก ๑ มะเขือขื่น ๑ รากพุทรา ๑ ราก
สลิด ๑ ฝนดว้ ยนำ้ กนิ หาย ๚ะ
แก้สะอึก เอาว่านน้ำ ๑ ขิง ๑ ใบคนทีสอ ๑ พลูแก ๑ สะคา้ น ๑ ใบ
กระวาน ๑ ผิวมะกรูด ๑ ขมิ้นอ้อย ๑ พริก ๑ ดีปลี ๑ บดละลายน้ำมะนาว
กินไดเ้ ชือ่ มามากแล้ว ๚ะ
แก้สะอึก เอาไคร้เครือ ๑ พริก ๑ ขิง ๑ กระเทียม ๑ บดเป็น
ลูกกลอนกินหาย ๚ะ
แก้สะอกึ เอาจันท้ัง ๒ สน ๑ แฝกหอม ๑ บดละลายน้ำมะนาวกิน
หาย ๚ะ

๑๔

แก้สะอึก เอาเขากวาง ๑ งาช้าง ๑ นอแรด ๑ จันหอม ๑ ฝนกิน
หาย ๚ะ

ถ้ามิฟังเอาปลาไหลเผือก ๑ รากมะตูม ๑ รากมะนาว ๑ ราก
ค้อนกลอง ๑ ฝนดว้ ยน้ำซาวข้าวกนิ หาย ๚ะ

แก้สะอกึ เอารากข้กี าแดง ๑ พริก ๑ ขงิ ๑ กระเทียม ๑ ต้มกนิ หาย
๚ะ

๏ ยาแกไ้ อ เอาใบพิมเสน ๑ ชะเอม ๑ การบูร ๑ ใบพริกไทย ๑ ใบ
ย่านาง ๑ ไพร ๑ บดน้ำสารส้มแทรกนำ้ จันกนิ หาย ๚ะ

๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวถึงเยี่ยวมิออก เอารากตดหมู ๑ ราก
ทองพันช่ังฝนกนิ ออกแล ๚ะ

ถ้าขี้มิออกเย่ียวเป็นเลือด เอายอดห่ิงหาย ๑ ยอดฝ้ายเทศ ๑ ยอด
สะแก ๑ ยอดสวาด ๑ ยอดมะเดอ่ื ชมุ พร ๑ บดละลายน้ำกินหาย ๚ะ

๏ เบามิออก ๒ ๓ วันให้เน่าฟกก็ดี เอาใบคาง ๑ ใบตะโก ๑ ใบ
มะเฟือง ๑ ใบมะกรดู ๑ ขมน้ิ ๑ บดละลายน้ำกินหาย ๚ะ

ตำรับยาแก้ไขต้ า่ ง ๆ
๏ สิทธิการิยะ จะกล่าวยาลิ้นละอองพระบาทพระกฤษณ์ ให้เอาผัก

คราด ๑ ใบกะเพรา ๑ ใบพลแู ก ๑ สมอรอ่ งแรง่ ๑ ดินประสิว ๑ พริก ๑ ขิง
๑ ดีปลี ๑ กระเทียม ๑ บดละลายนำ้ ปนู ทาหายแล ๚ะ

๏ ยาจักรนารายณ์น้อย เอาผกั เส้ียนผี ๑ หญ้าไทร ๑ หญ้ากะเม็ง
๑ กระทือ ๑ ไพล ๑ กระชาย ๑ ขม้ินอ้อย ๑ กุ่มทั้ง ๒ คนทีสอ ๑ กรุงเขมา
๑ ใบมะตมู ๑ ใบส้มท้ัง ๖ พริก ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ กระเทียม ๑ บดละลายน้ำ
แก้ไขท้ กุ อนั แล ฯฯ

๑๕

๏ ยาชื่อมหาพิมเสน ท่านให้เอาว่านเปราะ ๑ อบเชย ๑ จันท้ัง ๒
หสั ดำ ๑ พิษนาศน์ ๑ ระย่อม ๑ หนาดคำ ๑ แตงเถื่อน ๑ หมปู อย ๑ หวาย
ตะค้า ๑ สงั กรณี ๑ ชะลดู ๑ ขอนดอก ๑ โกฐสอ ๑ โกฐเขมา ๑ โกฐหัวบัว ๑
โกฐจุฬาลัมพา ๑ กฤษณา ๑ กระลำพัก ๑ ทองคำเปลว ๑ เทียนทั้ง ๕ ลูก
ราชดัด ๑ ล้ินทะเล ๑ น้ำประสานทอง ๑ การบูร ๑ น้ำตาลทั้ง ๒ ฝ่ินท้ัง ๒
หอมแดง ๑ กระถนิ แดง ๑ ดีงู ๑ ดีเหี้ย ๑ ดีปลาผา ๑ ดเี ตา่ ๑ ดีตะกวด ๑ ดี
หมเู ถ่ือน ๑ พงุ เม่น ๑ รกช้าง ๑ ดอกบวั หลวง ๑ สารภี ๑ พิกลุ ๑ บุนนาค ๑
ดอกลำเจียก ๑ จำปา กระดังงา ๑ บัวเผื่อน ๑ บัวบก ๑ กระจับน้ำ ๑ หญ้า
ตีนนก ๑ เขี้ยวเสือ ๑ เข้ียวหมี ๑ เขี้ยวจระเข้ ๑ เข้ียวแรด ๑ กรามช้าง ๑
งาช้าง ๑ เขากวาง ๑ เขาทราย ๑ เขากยุ ๑ ปากกาขา้ งบน ๑ กระดกู แร้ง ๑
กระดูกงเู หลอื ม ๑ กระดูกงูทบั ทาง ๑ บดทาปากมอิ อกละลายน้ำดีงูตัด

ถา้ เชือ่ มมัวไปละลายนำ้ จันทงั้ ๒
ถ้าปวดทอ้ งละลายนำ้ มะรุม
ถา้ มนั ให้ตาแดงละลายนำ้ อ้อย
ถา้ ร้อนนำ้ ซาวข้าว
นำมะเด่ือชุมพรเอาเปลือกมาตำให้ป่นแล้วจึงกรองเอาน้ำฝนกับยา
ให้กนิ แกส้ ารพัดทุกอนั แล ๚
๏ ยาช่ือธรณีไหว ให้เอาผักแพวท้ัง ๒ ว่านน้ำ ๑ พรมมิ ๑ ใบหัส
คุณ ๑ สะคา้ น ๑ รากชะพลู ๑ พรกิ ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ กระเทยี ม ๑ เปลา้ นอ้ ย
๑ เกลือสินเธาว์ ๑ หัสดำ ๑ ผักเสี้ยนผี ๑ ใบมะคำไก่ ๑ เอื้องเพชรม้า ๑
เทยี นท้ัง ๕ ดงี ู ๑ ดเี ต่า ๑ ดีปลาผา ๑ ดตี ะกวด ๑ ดเี หีย้ ๑ ดหี มู ๑ มหาหงิ คุ์
๑ การบูร ๑ ผิวมะกรูด ๑ บดละลายน้ำมะนาว แกเ้ สลด ถ้าเย็นท้ังตัวแก้มือ
กำตีนกำแลลมขึ้นในทอ้ งคนมิร้วู า่ ผเี ขา้ อยกู่ ินเอายาธรณไี หวน้กี นิ เถดิ หาย ๚

๑๖

๏ ยาช่ือแพวอากาศน้อย เอาสีหวดทงั้ ๒ นมแมวท้ัง ๒ ขม้ินเครือ
๑ ขมิ้นอ้อย ๑ เชอื กเขาไฟ ๑ ดีงูต้น ๑ แห้วหมู ๑ บอระเพ็ด ๑ หญ้าไทร ๑
เอ้ืองเพชรม้า ๑ ใบมะตูม ๑ ใบมะคำไก่ ๑ สะค้าน ๑ หญ้าลูกเคล้า ๑ พริก
๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ กระเทียม ๑ เกลือเสินเธาว์ ๑ หญ้ารังกา ๑ ผักแพวทั้ง ๒
เทียนท้ัง ๕ มหาหิงคุ์เป็นกระสาย บดละลายน้ำร้อนน้ำ ส้มกินเถิด แก้ไข้มัน
ให้จบั เปน็ ยามไปมิรู้หายแก้สลบแล ๚

๏ ยาช่ือสริ มิ ณฑล เอาจันท้งั ๒ เข้าค่าทัง้ ๒ ยาดำ ๑ โลดทะนง ๑
ปลาไหลเผือก ๑ เปล้าน้อย ๑ ผักแพวแดงทั้ง ๒ ทองหลางใบมน ๑ เปลือก
มะรุม ๑ กุ่มทั้ง ๒ เปล้าเลือด ๑ กระเช้าแดง ๑ หญ้าตีนนก ๑ หญ้ารังกา ๑
ผักเสี้ยนผี ๑ ลูกผักกาด ๑ ลูกผักชี ๑ พันงูแดง ๑ ส้มกบ ๑ พริก ๑ ขิง ๑
ดีปลี ๑ กระเทียม ๑ เกลอื สินเธาว์ ๑ สลงึ บดละลายนำ้ ร้อน แก้ไข้มือเหลือง
หนา้ เหลือง ตนี เหลืองหาย ๚

๏ ยาแก้เหงื่อเหนียวออกทั่วสารพางค์ตัวออกแต่หน้าถึงหัวอกก็ดี
เหง่ือร้ายก็ดีให้เอายานี้ แก้เอารากถั่วพู ๑ ถ่ัวเขียว ๑ ถั่วลสิ ง ๑ ถั่วไก่ ๑ ค่ัว
ให้เหลือง เอาข้าวสารกำมือ ๑ เอามาตำกระทกเอาแต่เนื้อห่อผ้าขาวแต้ม
เหงือ่ หายแล ๚

ตำรับยาแกไ้ ข้ทับฤดูและไขอ้ ่นื ๆ
๏ ยาไข้ทับระดู พริก ๑ ขิงทั้ง ๒ ดีปลี ๑ หางไหลแดง ๑ เจตมูล ๑

สะค้าน ๑ สุรามะริด ๑ ชะพลู ๑ ต้มกินหายแล ๚ ยาไข้ทับระดู ให้เอาราก
มะตมู ๑ รากเตง็ หนาม ๑ พริก ๗ ขิง ๗ ดปี ลี ๗ ต้มกินหายแล ๚

๏ ยาไข้ทับระดู เอาหัวหญา้ คมบาง ๑ ยาขา้ วเยน็ ๑ ตม้ กินหาย ฯฯ
๏ ยาแก้ไข้จับเป็นยามไม่รู้หาย ท่านให้เอามะไฟ ๑ ดีงูต้น ๑ แห้ว
หมู ๑ บอระเพ็ด ๑ หญ้าไทร ๑ เอื้องเพชรม้า ๑ ใบมะตูม ๑ ใบมะคำไก่ ๑

๑๗

สะคา้ น ๑ หญ้าลกู เคล้า ๑ พริก ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ กระเทียม ๑ เกลือสินเธาร์
๑ หญ้ารังกา ๑ ผักแพวทั้ง ๒ เทียนท้ัง ๕ มหาหิงค์ุเป็นกระสาย บดละลาย
น้ำรอ้ น นำ้ สม้ กินเถดิ หายแล ๚

๏ แก้ร้อนแกห้ นาวแก้สะทา้ นวงแดงวงขาว ปานดำปานแดง ถา้ จะ
แก้สะท้านหนาว เอาแก่นแสม ๑ เปลือกหอยแครง ๑ ยาสองส่ิงเผาให้ไหม้
บดละลายน้ำซาวเข้าให้กนิ หายแล ๚

๏ ถ้ามิฟังเอารากถ่ัวพู ๑ ผักสาบ ๑ หัวหญ้าปินตอ ๑ แก้ร้อนพ่น
ชโลมกนิ หาย ๚

๏ ถา้ ปวดหวั และรอ้ นหัว เอารากสม้ กบ ๑ พรมมิ ๑ ฝนกนิ ชโลม ๚
๏ ถา้ จะแก้ภายในแก้รอ้ น เอาไครบ้ ก ไครน้ ้ำ ๑ รากแคแดง ๑ เห็ด
ตบั เต่า ๑ รากละหงุ่ แดง ๑ รากสมอ ๑ ฝนด้วยนำ้ ซาวเข้ากินหายแล ๚
๏ ถ้าจะทำยาแท่งใหญ่ แก้ไข้ท้ังปวง ให้เอากุ่มทั้ง ๒ เจตมูลทั้ง ๒
หสั คณุ เทศ ๑ ใบคนทสี อ ๑ หญา้ ลกู เคล้า ๑ ผกั เสย้ี นผี ๑ ใบคำมะไก่ ๑ ทุลัง
กาสา ๑ ใบสม้ ท้ัง ๕ ผวิ ส้มท้งั ๕ กระทอื ๑ ไพล ๑ ข่า ๑ ว่านน้ำ ๑ ใบมะตูม
๑ รากชะพลู ๑ แห้วหมู ๑ ใบกะเพรา ๑ พริกทั้ง ๒ ดีปลี ๑ ขิง ๑ บดเป็น
แทง่ ต้มแกพ้ ษิ ฝีดาษ
แกไ้ ขล้ ะลายน้ำรอ้ น แก้เจบ็ ท้องนำ้ ส้มกินแก้ไข้ทุกอนั แล ๚

ตำรับยาแก้ไขเ้ พ่อื ลมและเพือ่ เสมหะ
๏ สิทธิการิยะ แก้ไข้เพื่อลมแลเสลดแลน้ำเหลือง แก้สันนิบาตท้ัง

ปวง เอาใบย่างทราย ๑ ใบคนทีสอ ๑ ใบจิงจ้อหลวง ๑ สมี ๑ ใบคูน ๑ ว่าน
นำ้ ๑ ใบหสั คณุ ๑ แฝกหอม ๑ ใบมะนาว ๑ ใบมะกรดู ๑ ใบผกั คราด ๑ ใบ
เสนียด ๑ ใบกระเช้าผีมด ๑ ใบละหุ่งแดง ๑ ใบระงับพิษ ๑ ใบนำ้ นมราชสีห์
๑ ใบชาลีขม ๑ ใบทรงบาดาล ๑ ลกู จนั ๑ ดอกจัน ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑

๑๘

พริก ๑ ขงิ ๑ ดีปลี ๑ กระเทียม ๑ จันท้ัง ๒ เทียนทั้ง ๕ เกลือสนิ เธาว์ ๑ ยา
ทง้ั นบ้ี ดเหล้าเป็นกระสายปัน้ แทง่ ไว้

ถ้าไขเ้ พื่อลมละลายเหลา้
ถ้าไข้เพอื่ เสลดละลายน้ำรอ้ น น้ำสม้ ซา่ ส้มมะงว่ั ก็ได้
ถ้าสันนิบาตละลายนำ้ ซาวข้าว
ไขเ้ หนือเมื่อเชา้ ละลายนำ้ ขงิ
ถ้าไข้เมื่อเที่ยงถึงค่ำละลายน้ำขมิ้นอ้อย น้ำจัน ตัดน้ำตาล การบูร
รำหัด
ถา้ มิฟงั ละลายนำ้ กะเมง็ ชโลมท้ังตัวนอนหลับ
ถา้ ไข้ออกฝดี าษ กินยานอ้ี อกร้ายดแี ล
ถ้าไข้เหงื่อเหนียวออกท้ังตัวละลายน้ำซาวข้าวท้ังกินทั้งชโลมยา
ขนานน้ี
ถ้าจะทำยาเขียวใหญ่ ให้เอาสารพดั ดีใส่ลง
ฝกี าฬฝนด้วยนำ้ ปนู จดุ
กนิ ภายในฝนดว้ ยน้ำ
ถา้ มะเรง็ ตะมอยฝนดว้ ยเหล้าจุด
ยาขนานนี้ชื่อสังขแพทย์ พระฤๅษีทั้ง ๙ พระองค์ประชุมกันต้ังยา
ขนานนี้ไว้ในชมพูทวีปท่านตีค่าไว้ ๑ บาททองแล ยาเหมือนน้ำสุรามะริดแล

๏ ถ้าจะทำยาจักรนารายณ์ใหญ่ เอาระย่อม ๑ เจตพังคี ๑
พษิ นาศน์ ๑ หมูปอย ๑ คุคะ ๑ จันทั้ง ๒ กฤษณา ๑ กระลำพัก ๑ ชะมด ๑
เทียนทั้ง ๕ หัวเข้าค่า ๑ อบเชย ๑ เชือกเขาไฟ ๑ หัวแห้วหมู ๑ ชะเอม ๑
รากมะกล่ำเครือ ๑ ใบมะผู้ ๑ ใบมะเมีย ๑ ใบมะยม ๑ ใบมะเฟือง ๑
ระงับพิษ ๑ ฝ่ินต้น ๑ ฝิ่นเครือ ๑ รากหญ้าคา ๑ ย่านาง ๑ หญ้ากร่อน ๑

๑๙

หสั ดำ ๑ กะตงั ใบ ๑ พญารากดำ ๑ พญายา ๑ หนามพรม ๑ พุงแก ๑ ใบสมี
๑ ใบพิมเสน ๑ ใบว่านเปราะ ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านนางคำ ๑ วา่ นร่อนทอง
๑ ดอกกระดังงา ๑ สารภี ๑ พิกุล ๑ จำปา ๑ บุนนาค ๑ บัวหลวง ๑ บวั ขม
๑ บัวเผือน ๑ ดอกสัตตบุษย์ ๑ แฝกหอม ๑ ลกู ประคำดีควาย ๑ ตรผี ลา๖ ๑
ตรีกฏุก๗ ๑ ใบสะเดา ๑ ขม้ินอ้อย ๑ บอระเพ็ด ๑ ผักขวง ๑ ใบชาลีขม ๑
ใบรักขาว ๑ ขี้วัว ๑ พิมเสนเกล็ด ๑ การบูร ๑ สารพัดกระดูก ๑ สารพัด
เขี้ยว ๑ ยาทัง้ น้เี ปน็ กระสาย ชะมดตัดลงปั้นเปน็ แทง่ ไว้

ถ้าสลบตายไปให้ถอนผมดูก่อน ถ้าผมหลุดอย่ารักษาเลย ถ้ายังไม่
หลุดใหแ้ ก้เถดิ ถ้าหัวอกอ่นุ เท่างบนำ้ ออ้ ยก็ไม่เป็นไร ยาขนานน้ีใชไ้ ด้ ๑๐๘ ได้
เชื่อมามากแลว้ อย่าสนเท่ห์เลย ๚

๏ ยาชอื่ ประสะแสงทอง เอาพริก ๑ ขิง ๑ ดีปลี ๑ โกฐท้งั ๕ เทยี น
ท้ัง ๕ ลูกจัน ๑ ดอกจัน ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ ชะเอมท้ัง ๒ จันท้ัง ๒
กฤษณา ๑ โกฐหัวบัว ๑ โกฐเชียง ๑ เปราะหอม ๑ ลูกราชดัด ๑ ชะลูด ๑
สารพดั พิษ ๑ คุคะ ๑ มหาละลาย ๑ ระยอ่ ม ๑ รังไคร้เครอื ๑ ว่านกีบแรด ๑
ว่านร่อนทอง ๑ สุรามะริด ๑ ว่านน้ำ ยาท้ังน้ีสิ่งละสองสลึง ขอนดอก ๑
ชะมดเชียง ๑ พิมเสนเกล็ด ๑ กรุงเขมา ๑ อำพันทอง ๑ ดอกบุนนาค ๑ น้ำ
ประสานทอง ๑ ล้ินทะเล ๑ ยาทั้งนี้ส่ิงละ ๑ สลึง ชะมดสด ๑ สลึง
ทองคำเปลว ๒๐ แผ่น ดงี ูเหลอื ม ๑ ดีจระเข้ ๑ ดีตะพาบน้ำ ๑ ดีหมูเถ่ือน ๑
ดีปลาช่อน ๑ ดีทั้งน้ีสิ่งละ ๑ เฟื้อง บดเป็นแท่งไว้ละลายน้ำดอกไม้เทศแก้

๖ พกิ ดั ตรผี ลา คอื สมอไทย สมอเทศและมะขามปอ้ ม (ลดั ดาวัลย์ ครูปัญญา
มาตย์ (บรรณาธิการ, ๒๕๕๘ : ๑๑๐)

๗ พิกัดตรกี ฏกุ หมายถงึ ขิงแห้ง พรกิ ไทยและดปี ลี

๒๐

ฝดี าษหัวเดยี ว ถา้ ฝีฟกทมู จุดกไ็ ด้ แก้สารพดั ซางขึ้นในปากในคอ แก้สนั นิบาต
จุกจติ อดุ ใจ แก้กระสับกระส่าย ยานไี้ ดท้ ำมามากแลว้ หายคลัง่ ดีนักแล ๚

ถ้าจะทำยาให้ยิ่งไปกวา่ ประสะแสงทอง ใหเ้ อาสารพดั เขีย้ วใส่ลง งา
นอ ใส่ตามจะได้ตามแต่จะได้แลจึงเอายาประสะแสงทองน้ันคุลีการเข้า
ด้วยกัน บดเป็นแท่งน้ำกระสายเหมือนกันกับประสะแสงทอง แต่ว่าเทพ
ชุมนุม ฯฯ

ถ้าจะทำให้ยาให้ย่ิงไปกว่าเทพชุมนุม ให้เอายาเทพชุมนุมใส่ เอา
เกสรบัวหลวง บัวขาว ๑ สัตตบงกช ๑ สัตตบุษย์ ๑ สัตตบรรณ ๑ บัวขม ๑
บัวเผื่อน ๑ ดอกจำปา ๑ กระดังงา ๑ มะลิ ๑ สารภี ๑ บุนนาค ๑ ชมพู่ ๑
ดอกแก้ว ๑ เกสรเหล่านี้ตามแตจ่ ะได้ บดด้วยกันกับเทพชุมนุม แก้สารพัดไข้
ท้ังปวงทั้งกนิ ทัง้ ใชด้ มแต่ชอ่ื ว่าสมมดิ ตลาดแล ฯฯ

๏ ยาแกไ้ ขท้ ้ังปวง แกห้ อบ แก้ชักคางแข็ง เอาหัวสบั ปะรด ๑ คางงู
เหลือม ๑ คางปลาช่อน ๑ ขนเม่น ๑ กระดูกแร้ง ๑ อาจม ๑ ยาทั้งน้ีเผาให้
ไหม้ เอาลูกจนั ใส่ลงบดเป็นแท่งละลายน้ำมูตร แกไ้ ขต้ ามแตจ่ ะยกั น้ำกระสาย
เอาเถิดใชไ้ ดส้ นิ้ แล ฯฯ

๏ ยาแก้สารพดั พิษฝีกาฬ เอาเขากวาง ๑ งาช้าง ๑ นอแรด ๑ เขา
กยุ ๑ เขาแพะ ๑ จนั ทง้ั ๒ สน ๑ ข่าตาแดง ๑ งาดำ ๑ ระย่อม ๑ พษิ นาศน์
๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ว่านเปราะ ๑ ว่านนางคำ ๑ ลูกสะบ้า ๑
ลูกลำโพง ๑ ลกู ประคำดคี วาย ๑ ยา ๓ สิ่งนีเ้ ผาใหส้ กุ เอาดินประสวิ ๑ เทยี น
ทั้ง ๕ หัวคูน บดทำแท่งละลายน้ำกินแก้มหาเมฆ มหานิล ประกายดาษ
ประดง หงส์ระทด มะเร็งตะมอย สังวาลพระอินทร์ คันฑสูตร เปลวไฟฟ้า
เปลวพระอาทติ ย์ ละลอกแกว้ ละอองพระบาท รากสาดตัวเมยี อีดำแดง ปาน
ดำแดง กาฬหิน กาฬสิงคลี กาฬมูตร กาฬจับหัวใจทั้งปวง ถ้าลิ้นแดงดังลูก
ตะขบสุก ดงั ลูกจงิ จ้อ ดงั เม็ดงาดำ

๒๑

ถ้ามนั สะท้านขึ้นมา เอาโคนหวายขมฝนตดั กิน
ถา้ มิฟงั เอาดงี ูเหลอื มตัด
ถา้ มิฟังเอาเหลา้ แทรกกินชอื่ นารายณ์ท้ิงจกั ร ฯฯ
๏ ยาหอมใหญ่แก้ไข้ทง้ั ปวงไขเ้ พื่อพิษเพ่ือกาฬ เอาโกฐท้ัง ๕ เทยี น
ท้ัง ๕ จันท้ัง ๒ ม่วงทั้ง ๒ เกสรบัวทั้ง ๕ เห็ดกระถินพิมาน เห็ดตาล เห็ด
ไม้แดง เห็ดมะขาม เห็ดหมาก เห็ดมะพร้าว ๑ เนระพูสี ๑ พิษนาศน์ ๑ หัส
ดำ ๑ ระย่อม ๑ ว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ว่านเปราะ ๑ กฤษณา ๑
กระลำพัก ๑ ขอนดอก ๑ ชะลูด ๑ อบเชย ๑ ลูกจัน ๑ ดอกจัน ๑ ชะเอม
เทศ ๑ รากผักเขา ๑ รากข้ีกาแดง ๑ ใบทองพันช่ัง ๑ ใบสันพร้าหอม ๑ ใบ
พมิ เสน ๑ ดอกมะลิ จำปา กระดังงา สารภี พิกุล บุนนาค ดอกทองหลางใบ
มน ๑ สารพัดดอกไม้ตามแต่จะได้ เมอ่ื จะบดเอาพญารากขาว พญารากดำตำ
เอาน้ำบดเป็นกระสายป้ันแท่งละลายน้ำจันกิน แกส้ ารพัดไข้ทั้งปวงเป็นมหา
วเิ ศษนักแล ฯฯ
๏ ยาสรรพคุน แก้สารพัดไข้ทั้งปวง เอาใบละหุ่งทั้ง ๒ ใบค้อนท้ัง
๒ ใบคนทีสอ ๑ ใบกะทกรก ๑ ใบยา่ งทราย ๑ ใบผักเขา ๑ ใบชาลีขม ๑ ใบ
มะยม ๑ ใบมะเฟือง ๑ ใบระงับพิษ ๑ ใบผักหวานบ้าน ๑ ใบมะกรูด ๑ ใบ
มะนาว ๑ ใบมะงั่ว ๑ ใบส้มซ่า ๑ ใบส้มป่อย ๑ ใบน้ำเต้า ๑ ใบหนาด ๑ ลูก
คัดเค้า ๑ หัวหญ้าปินตอ ๑ หัวกระเช้าผีมด ๑ หัวถ่ัวพู ๑ ว่านเปราะ ๑ ลูก
ผักกาด ๑ พริก ๑ ขงิ ๑ กระเทยี ม ๑ เอาสารพดั ดเี ปน็ กระสายเวน้ แต่ดีนกยูง
นอกนัน้ ใส่เถิดบดทำแทง่ แก้สารพัดท้งั ปวงอย่าสนเท่ห์เลย ฯฯ
ถ้าจะแก้ฝลี ะลายเหล้าแกฝ้ ีแล ฯฯ
๏ ยาชอื่ มหาพิมเสน แกไ้ ข้ตวั ร้อนให้จบั ใหค้ ลั่ง ให้มวั หาสตมิ ิได้ ให้
ละเมอเพ้อไป ให้ทำยานแี้ ก้เอาระย่อม ๑ ไคร้เครอื ๑ พิษนาศน์ ๑ หัศดำ ๑
วา่ นกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ว่านเปราะ ๑ จันท้ัง ๒ ลูกประคำดีควาย ๑

๒๒

เนระพูสีไทย ๑ หัวแห้วหมู ๑ ดอกบุนนาค ๑ บัวหลวง ๑ สารภี ๑ พิกุล ๑
มะลิ ๑ ดอกบัวแห้ง ๑ ใบพริกแห้ง ๑ ใบสมี ๑ ใบพรมมิ ๑ ยาท้ังน้ีส่ิงละ ๑
บาท ใบพิมเสนเทา่ ยาทั้งหลาย บดปน้ั แทง่ ไวล้ ะลายน้ำแกด้ ังกล่าวมาแล้ว

ถา้ มฟิ งั ละลายด้วยนำ้ มตู รกรอกเข้าไปเถิดหายแล ฯฯ
๏ ยาเขียวพิสดาร เอาย่างทราย ๑ หัสคุณ ๑ ใบโคนดินสอ ๑ ใบ
กระเช้าผีมด ๑ ว่านน้ำ ๑ ใบเสนียด ๑ ใบสมี ๑ ใบผักคราด ๑ ใบมะตูม ๑
ใบน้ำนมราชสีห์ ๑ ใบจิงจ้อ ๑ ใบมะกรูด ๑ ใบมะนาว ๑ ใบชาลี ๑ ใบละหุ่ง
แดง ๑ แฝกหอม ๑ จันท้ัง ๒ ขิง ๑ พริก ๑ กระเทียม ๑ เทียนขาว ๑ บาท
เทียนแดง ๑ บาท เทียนเยาวพาณี ๑ บาท เทียนข้าวเปลือก ๑ บาท ลูกจัน
๑ ดอกจัน ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ ดีงูเหลอื ม ๑ ดจี ระเข้ ๑
ดีเห้ีย ๑ ดีตะพาบน้ำ ๑ แช่เหล้า เอาน้ำรากหญ้าคาเป็นกระสายแทรก
มหาหิงคบ์ุ ดเปน็ แทง่
ถา้ ไข้รากสาดละลายนำ้ ซาวข้าว
ถ้ามฟิ ังละลายน้ำร้อน
ถา้ ลงรากนำ้ ร้อนกนิ ถึง ๙ เมด็
ถา้ ไขส้ ะท้านละลายนำ้ ขิง เหลา้ กิน
ถา้ เสลดปะทะอกละลายน้ำมะนาวเกลอื แทรกกนิ
ถ้าเกดิ กาฬละลายเหลา้ กิน
จุดฝีกาฬละลายเหล้า
ถ้ามัวเมาน้ำดอกไม้ น้ำจัน น้ำลกู จันเทศกนิ
แก้ไขท้ ง้ั หลายเอาดงี ตู ดั กนิ หาย ฯฯ
๏ ถ้าไข้เดือน ๕ ๖ ๗ ๘ ใน ๔ เดือนนี้ ไข้เพื่อเลือดแลกำเดา ไข้ใน
เดือน ๙ ๑๐ ๑๑ ๑๒ เพ่ือลมไข้ในเดือน ๔ เดือนนี้ เพ่ือเสลด ถ้าไขแ้ ต่เช้าถึง
เทย่ี งไข้เพือ่ เสลดแลเลือด ไข้แต่เที่ยงถงึ ค่ำไข้เพ่ือเสลด ไข้แต่ค่ำถึงเทยี่ งคืนไข้

๒๓

เพอ่ื ลม ไขแ้ ต่ค่ำถึงเช้าไข้เพ่ือลมแลเสลด ยาแก้ไข้เทีย่ งคืนถึงคำ่ แต่ค่ำถึงเที่ยง
คืนกด็ ีใหก้ ินยาสมทุ รจร เอาพริก ๑ ขิงแห้ง ๑ กระเทยี ม ๑ รากเจตมลู ๑ ผิว
มะตูม ๑ สมอไทย ๑ พันงูแดง ๑ รากเสนียด ๑ รากหนาด ๑ พิลังกาสา ๑
มหาหิงค์ุ ๑ ลูกจัน ๑ ดอกจัน ๑ กระวาน ๑ กานพลู ๑ เทียนท้ัง ๕ สน ๑
จันทั้ง ๒ เกลือสินเธาว์ ๑ บดเป็นแท่งไว้ละลายน้ำผึ้ง ถ้าลมคืนข้ึนทั้งตัวกิน
หาย เปน็ กอ้ นในทอ้ งกด็ ี ไขป้ หี นง่ึ กด็ ีกินหายแล ฯฯ

๏ ยาดับพิษภายใน เอารากคันทรง ๑ กะทกรก ๑ หีบลม ๑
มะกอกเผอื ก ๑ รากคูน ๑ ง้วนหมู ๑ กระดานพน ๑ ตูมกาตน้ ๑ สหี วดนอ้ ย
๑ คุคะ ๑ พญารากขาว ๑ ขอบชะนางแดง ๑ บดฝนด้วยน้ำกินดบั พษิ ภายใน
แล ฯฯ

๏ ยาชอื่ สว่างอารมณ์ แกว้ หาคา่ มิได้เปน็ ยาหอมแก้สะอึก แก้สลบ
แก้กระหายน้ำ ตกมูกตกเลือด เอาว่านกีบแรด ๑ ว่านร่อนทอง ๑ จันท้ัง ๒
รากอบเชย ๑ เทียนท้ัง ๕ โกฐทั้ง ๕ ชะเอมเทศ ๑ ดอกบัวหลวง ๑ มะลิ ๑
บุนนาค ๑ พิกุล ๑ วา่ นเปราะ ๑ กฤษณา ๑ กระลำพัก ๑ ชะมด ๑ พมิ เสน
๑ ลูกผักกาด ๑ ล้ินทะเล ๑ กระแต ๑ กัญชา ๑ ลูกจัน ๒ ดอกจัน ๑
กระวาน ๑ การบูร ๑ ฝิ่น ๑ ดีงูเหลือม ๑ ยาหกสิ่งน้ีเอาส่ิงละ ๑ ตำลึง เอา
ฝ่ินกับดีงแู ช่นำ้ เปน็ กระสายบดทำแทง่ ละลายนำ้ ดอกไม้

ถา้ ตกมูกเลอื ดละลายนำ้ จนั แดงกินหายแล ฯฯ
๏ ยาขนานน้ีเอาเขากวาง ๑ งาช้าง ๑ เขากุย ๑ เขาแพะ ๑
เขาแกะ ๑ นอแรด ๑ เขี้ยวแรด ๑ เขี้ยวเสอื ๑ เขี้ยวหมี ๑ เข้ยี วหมู ๑ เข้ียว
จระเข้ ๑ กระดองตะพาบน้ำ ๑ กระดกู คา่ ง ๑ กระดูกแรด ๑ กระดกู หมาดำ
๑ หัวแร้ง ๑ หัวกา ๑ ยาทั้งคั่วให้เหลือง แล้วเอาเกสรบัวหลวง ๑ สารภี ๑
พิกุล ๑ บุนนาค ๑ กระดังงา ๑ จำปา ๑ บัวเผื่อน ๑ บัวขาว ๑ สัตตบุษย์ท้ัง
๒ โกฐจุฬาลัมพา ๑ โกฐหัวบัว ๑ กฤษณา ๑ กระลำพัก ๑ อบเชย ๑ จันท้ัง

๒๔

๒ ชะเอมทั้ง ๒ พิมเสน ๑ พิมเสนเกลด็ ๑ บดละลายน้ำซาวข้าวกินแก้เช่ือม
มวั ช่ืนใจชู้ใจ แกอ้ บั จนไดว้ ิเศษนกั แล ฯฯ

๏ จบผูกหนึ่ง ฯฯ

ตำรบั ยาถอนพิษตา่ ง ๆ
๏ ยาถอนพิษสำแดง ท่านให้เอารากมะกรูด ๑ รากมะนาว ๑ ราก

มะปรางหวาน ๑ เถามวกทั้ง ๒ ผักบุ้งร้วม ๑ ผักกระเฉด ๑ ว่านน้ำ ๑
เหมือดคน ๑ พรมมิ ๑ ไมยราพ ๑ กระทืบยอบ ๑ เมด็ บัวหลวง ๑ หัสดำ ๑
หัสแดง ๑ พญารากขาว ๑ พญารากดำ ๑ ว่านเปราะ ๑ ใบพิมเสน ๑ ว่าน
ม่วง ๑ ว่านร่อนทอง ๑ ลูกราชดัด ๑ ลูกผักชีล้อม ๑ ใบระงับพิษ ๑ ใบ
มะละกอ ใบเลบ็ ครุฑ ๑ ผักแขยงเท่ายาทั้งหลาย

ถอนพิษสำแดงน้ำซาวขา้ วเถามวกตัด
ถอนพษิ ยาน้ำกระสายของคาวถอนสานนำ้ ฝน ๚ะ จบ ๚
หน้าปลาย ฯฯ

ตำรับยาแกไ้ ขส้ ันนบิ าต
สิทธิการิยะ จะกล่าวยาต้มแก้สันนิบาตท้ังปวง เอาผักเสี้ยนผี ๑

เชือกเขาหนงั ๑ ไม้สัก ๑ แห้วหมู ๑ สน ๑ จัน ๑ มะแว้งทงั้ ๒ หญ้าขัดมอน
๑ กระดอม ๑ ชาลีขม ๑ บอระเพ็ด ๑ สมอไทย ๑ สมอพิเภก ๑ มะเขือข่ืน
๑ กระพังโหม ๑ จกุ โรหนิ ี ๑ ต้มกินแกส้ ันนิบาตทั้งปวงหายแล ฯฯ

๏ ยาแก้ไข้สันนิบาตมิรู้สึกตัวมันใหก้ ระหนกระหายเอายาน้ีแก้ เอา
กระดอม ๑ จัน ๑ บอระเพ็ด ๑ สมอไทย ๑ สมอพิเภก ๑ อบเชย ๑ ตูดหมู
ตดู หมา ๑ ลกู ชะพู ๑ แห้วหมู ๑ ลกู มะขามปอ้ ม ๑ ตม้ กินหายแล ฯฯ

๒๕

๏ ยาแก้สันนิบาตกระวนกระวายคล่ังไคล้ เอารากกำจาย ๑ ราก
มะพรา้ ว ๑ ตาไมไ้ ผ่ ๑ ต้ม ๓ เอา ๑ ตม้ กินหายแล ฯฯ

๏ ถ้าไขก้ ระตกั หัวดว้ นเม่อื มันจะมนั ใหต้ วั เย็นเป็นเหนบ็ ไปทงั้ ตัว ให้
แก้ด้วยยาน้ีเอารากกระดอม ๑ รากอีเหนียว ๑ รากตูดหมู ๑ หญ้าปากควาย
๑ รากมะเฟือง ๑ สน ๑ จันท้งั ๒ หวั แห้วหมตู ม้ กินแกไ้ ข้ตัวเยน็ หายแล ฯฯ

๏ ยาแก้สันนิบาตมันให้ชี้นั่นชี้น่ี เอากะปิดี ๑ พิษนาศน์ ๑ ลูกผักชี
๑ บดละลายน้ำกินหาย ฯ

๏ ถ้าสันนิบาตก็ดีให้ยานี้ลองดู เอาไพล ๑ รากมะกล่ำ ๑ รากคา
คลอง ๑ ถา้ สนั นบิ าตมนั ฟงั แล ฯฯ

ถ้ามิฟังเป็นรากสาด ถ้าแดงแลขาวแลส่ันแลร้อนแลหนาวแล
สะท้าน ให้เอารากน้ำนอง ๑ คนทา ๑ ชุมพร ๑ ย่านาง ๑ เท้ายายม่อม ๑
ต้มกินหาย ฯ

๏ ทา่ นให้เอารากมะขามป้อม ๑ เถาไข่แลน ๑ ขนั ทองพยาบาท ๑
ไครน้ ้ำ ไคร้หางนาค ๑ ไครห้ างสงิ ห์ ๑ ยาขา้ วเย็นทั้ง ๒ ลง ๑๖ พระองค์๘ ใบ
โพธิ์ ๗ ใบลงประจุคาดกบั ลงประจผุ า้ ไตรลงใส่กน้ หมอ้ ๕ พระองค์๙

๘ คาถาพระพทุ ธเจ้า ๑๖ พระองค์ คอื นอ กอ นะ กะ
นะ มะ นะ อะ นะ อะ กะ อัง
ออ กะ นอ กะ นะ อะ อะ นะ
นะ องั มะ กะ นะ ออ กะ กะ
นอ อะ กอ นอ นะ ออ กะ นะ
นะ กะ องั กะ อะ อะ นะ ออ
นะ นอ อะ กอ อะ อะ กะ อะ
นะ กอ กอ นะ กะ นอ นะ นะ
อะ กอ ออ อะ

๒๖

เบี้ยจั่น ๗ เม็ด เสกด้วยสัพพาสี กะลาสามลูก ลงอาจาริยะ ๓ ฯฯ
ขอของสกั ส่งิ

๏ จะกล่าวทุลาวสา ๔ ประการ คือว่าด้วยน้ำมูตรนั้น เมอ่ื ปัสสาวะ
ออกมาดังน้ำข้าวเช็ด เหลอื งดังขม้ินสด เป็นเสลดสดแดงน้ำฝางตม้ ดำดังน้ำ
ครำ ท้ังนี้ย่อมให้ปวดขัดหัวหน่าวในรูองคชาต ให้สะท้านหนาว เป็นเพลา
ยอ่ มให้เป็นต่าง ๆ อยู่

๏ จะกลา่ วถึงโรค ๔ ประการนีช้ อื่ ทลุ าวสา พระอาจารยิ ะจึงแต่งยา
ไว้ให้ทำ ใหก้ ารบูร ๑ เทียนดำ ๑ ลูกเอน็ ๑ ลกู แตงกวา ๑ ว่านน้ำ ๑ แห้วหมู
๑ ขงิ ๑ ตำผงละลายนำ้ ผงึ้ กนิ แก้โรคอันเป็นน้ำมตู รแดงนำ้ ขมิน้ นัน้ แล ฯ

ถ้าจะแก้เลือดอันตกออกมาในองคชาตน้ัน เอาสมอไทย ๑
มหาหิงค์ุ ๑ เจตมูล ๑ สารส้มขาว ๑ สารส้มแดง ๑ ดีปลี ๑ ดอกคำ เอาละ
๑ สลงึ ต้มกนิ หาย ฯ

ตำรบั ยาแก้มุตกิดและมุตฆาต
จะกล่าวถึงพระปะระเมหะเป็นกาฬดังน้ี อันว่าทุลาวสาน้ีมี ๔

ประการ อันว่ามตุ กิต ๔ ประการ มุตฆาตอาจาริยท่านกล่าวไว้โรคอันบังเกิด
ในองคชาต มี ๔ ประการ ชื่อทุลาวสา เป็นน้ำขาวออกรกดังน้ำขมิ้นไหล
ออกมา ให้เป็นน้ำเลือดไหลออกมาก็มี เป็นหนองออกมาก็มี ใหด้ ำก็มี บ้างให้
เขยี วออกมาก็มี บา้ งให้ไหลเป็นหนอง ดุจน้ำซาวขา้ ว โรคท้งั ๔ ประการ ยอ่ ม

๙ คาถาพระพุทธเจา้ ๕ พระองค์ คือ นะ โม พุท ธา ยะ

๒๗

บงั เกิดเพ่ือเลือด ให้เอาหัวแหว้ หมใู หญ่ ๑ เทยี นดำ ๑ ลูกมะตมู ๑ ว่านน้ำ ๑
วา่ นเปราะ รากองั กาบ ๑ เทียนดำลกู เล็ก ๑ ว่านเสลด ๑ วา่ นนางคำ ๑ โกฐ
พุงปลา ๑ ยางง้ิว ๑ การบูร ๑ ลูกเอ็น ๑ กานพลู ๑ สารส้ม ๑ ดีปลี ตำให้
เป็นผงละลายน้ำผ้งึ กิน ฯฯ

ยาแกม้ ุตกติ ๑๐บังเกดิ เป็นทลุ าวสา๑๑ มันใหเ้ บาปวดอยู่ ใหเ้ อาเทียน
ดำ ๑ บาท ตำเป็นผงละลายมะนาวกินเถดิ วเิ ศษไดเ้ ชอ่ื แลว้ ฯ

จะแก้เลอื ดอนั ให้ดำก็ดี ขาวก็ดี ตกมาในรูองคชาตนั้น ให้เอาหม่นู ั้น
เทียนดำ ๑ รากมะตูม ๑ รากเสนียด ๑ ใบสะเดา ๑ รากอังกาบ ๑ ลูกเอ็น ๑
โกฐสอ ๑ เกลือสนิ เธาว์ ๑ ตำผงละลายนำ้ อ้อยกิน ฯฯ

อันมุตกิต ๔ ประการ บังเกดิ ใหเ้ ป็นเลอื ดก็ดี เป็นน้ำเหลอื งก็มี เป็น
น้ำขาวก็มี ไหลออกมาก็มี ให้เอามะนาวทั้งรากท้ังดอกท้ังใบ ใบตะแบก ๑
เปลือกโพบาย ๑ เปลือกมะม่วง ๑ รากฝ้าย ๑ สมอไทย ๑ เสนียดทั้งใบ ท้ัง
ราก ขม้นิ ขาว ๑ เปลือกกระทุ่มใหญ่ ๑ ตม้ ๓ เอา ๑ เมือ่ จะกินนำ้ ผ้งึ กินหาย


๑๐ มุตกิด หมายถึง โรคชนดิ หน่ึง เกิดกับผหู้ ญิง ผู้ป่วย มักมีระดูขาว ปสั สาวะ
ขุน่ ข้น บางครง้ั บรเิ วณขอบทวารเบา อาจเป็นเม็ดหรือแผล คัน เป่ือย แสบ เหม็นคาว มี
อาการแสบอก กินอาหารไม่รูร้ ส ปวดหลัง เสียวมดลูก เป็นต้น (ราชบัณฑิตยสถาน กรม
พัฒนาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, ๒๕๕๓ : ๒๐๖)

๑๑ ทุลาวสา หมายถึง ความผิดปกติของน้ำปัสสาวะพวกหนึ่ง เกิดกับผู้ชาย
ผู้ป่วยมีอาการปวดหัวหน่าว เจ็บขัดแสบองคชาติเวลาถ่ายปัสสาวะ น้ำปัสสาวะอาจมีสี
และลักษณะต่างกันได้ 4 แบบ คอื สีขาวขุ่นคลา้ ยน้ำขา้ วเช็ด สเี หลืองคล้ายนำ้ ขม้ินสด สี
แดงคล้ายนำ้ ฝาง และสีดำคล้ายนำ้ ครำ (ราชบณั ฑิตยสถาน กรมพัฒนาการแพทยแ์ ผนไทย
และการแพทย์ทางเลือก, ๒๕๕๓ : ๑๔๗)

๒๘

อันว่ามุตฆาต๑๒ ๔ ประการ เม่ือปัสสาวะออกน้ันให้เจ็บขัดนัก ให้
เป็นเลือดออกมาก็มี ให้เป็นหนองออกมาก็มี มีดำประดุจดังว่าน้ำครำ๑๓ก็มี
โรคทง้ั ๔ ประการ คือเลอื ดมนั แปรเป็นน้ำเน่าก็มี ใหเ้ ป็นหนอง ใหเ้ อาเปลอื ก
กล้วย ๑ ขม้ินอ้อย ๑ ขมิ้นชัน ๑ เปลือกเพกา ๑ เปลือกมะเด่ือ ๑ สมอไทย
สมอเทศ มะขามป้อม ๑ ขา้ วพอกสีดา ๑ สมอร่องแรง่ ๑ ต้ม ๓ เอา ๑ กินดี
นกั แล ฯ

อันหนึ่งเปลือกไคร้ ๑ เปลือกเพกา ๑ ลูกสะค้าน ๑ กระถินแดง ๑
ดปี ลี ๑ เปลือกกุม่ บก ๑ ลูกขนนุ ๑ เปลอื กโลด ๑ ทองหลางใบมนทง้ั ลกู ทั้ง
เปลือก รากขี้กาแดง ๑ เกลือสินเธาว์ ๑ สมอไทย ๑ กานพลู ๑ โกฐสอ ๑
รากมะรุม ๑ ตำผงละลายนำ้ มะนาวกิน ฯ

แก้มตุ ฆาต เอาโกฐสอ ๕ ชะมด ๑ พิมเสน ๑ ขิง ๑ ดอกจัน ๑ แห้ว
หมู ๑ รากข้ีกาแดง ๑ การบูร ๑ รากหม่อน ๑ สมอไทย ๑ สมอพิเภก ๑

๑๒ มุตฆาต หมายถึง โรคชนิดหนึ่งท่ีทำให้เกิดความผิดปกติของน้ำปัสสาวะ
ตำราการแพทย์แผนไทยว่าเกิดจากการกระทบกระท่ัง เช่น จากอุบัติเหตุ เพศสัมพันธ์
ผปู้ ่วยมีอาการปวดมากเวลาถ่ายปัสสาวะ ปัสสาวะกะปริบกะปรอย ปวดขัดบริเวณสขี ้าง
จกุ เสยี ดบริเวณหน้าอก อาเจียนเป็นลมเปลา่ เบ่อื อาหาร เป็นต้น (ราชบณั ฑติ ยสถาน กรม
พฒั นาการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก, ๒๕๕๓ : ๒๐๗)

๑๓ น้ำครำ หรือน้ำไขเสนียด หมายถึง เครื่องยาหรือน้ำกระสายยาชนิดหนึ่ง
ได้มาจากน้ำครำ การนำน้ำครำมาใช้เป็นเครื่องยาน้ัน มีวิธีการดังนี้ น้ำครำได้มาจาก
สถานที่มีน้ำแฉะ ๆ ซ่ึงอยู่ใกล้ครัว ใช้หลักไม้ปักลึกลงไปในดินแฉะ ๆ น้ัน ให้ลึก
พอประมาณ จึงถอนหลกั ขึ้น ระวังอยา่ ให้นำ้ ทขี่ งั แฉะอยใู่ นสถานท่นี ั้นไหลเข้าไปในหลุมดนิ
ทดี่ งึ ไม้นั้นข้ึน แล้วจะมีน้ำซมึ เข้าในหลุมนนั้ เป็นนำ้ ใส ๆ ค่อย ๆ ตกั น้ำในหลมุ น้ันมาใชป้ รุง
ยา หรือจะใชผ้ า้ กรองอีกครั้งจงึ นำไปใชก้ ็ได้ (กระทรวงศกึ ษาธิการ, ๒๕๔๒ : ๘๐๘-๘๐๙)

๒๙

มะขามป้อม ๑ เทียนดำ ๑ น้ำประสานทอง ๑ เอาเท่ากันตำเป็นผงละลาย
น้ำผึ้งกินดนี ักแล ฯ

ยาขนานหนึ่งหญ้าพันงูแดง ๑ รากมะตูม ๑ ขิง ๑ โกฐก้านพรา้ ว ๑
กานพลู ๑ หัวบกุ ๑ หวั อตุ พดิ ๑ รากคราม ๑ ตม้ ๓ เอา ๑ กนิ หาย ฯ๏ฯ

คาถาและพิธกี รรมประกอบการปรงุ ยา
คัจฉามิครูอุปัชฌา อาจาริยะคุณัง อิสินะธะตัทนะนังอะหังวันทามิ

ตัง สจั จะ พะทา ฯ คาถาน้ไี หว้ครเู มือ่ ทำการทัง้ ปวงแล ฯ
สิทธิกิจจังสิทธิกัมมังตชา คะโตสิทธิเตโชชัยเยยาสิทธิ ฯฯ ขอสิทธิ

แก่ครูเม่ือทำทานท้ังปวงแล ฯฯ
นะพทุ ธังครอู ปุ ชั ฌาอาจาริเยพุทธงั สัสะฆสั สะแม คาถานี้เชิญครเู ม่ือ

ทำการทง้ั ปวงจึงประสิทธแิ ล ฯฯ
พุทธังเอหิมามัง ธัมมังมาเรโสสังฆังนะโสทายะ ฯฯ พระคาถา

ทงั้ หลายน้เี มอื่ ทำการทั้งปวงจึงประสทิ ธแิ ล ฯ
นะพุทธงั สะระณงั กัตนังนะ นะธัมมงั สะระณงั กัตนงั นะ นะสงั ฆงั สะ

ระณัง กัตนังนะนะจัตตุหับกับปาเยนะ ฯ คาถานี้ปิดทวารทั้งเก้าเสกของกิน
ท้ังปวงกันตวั เราและเมอื่ จะทำการท้ังปวงแล ฯ

๏ นะมาพทุ ธังสะระณังสักโกนะมาโสเอหิ ฯ พระคาถานท้ี ่านให้ทำ
นำมนต์ให้เขากินลองดูเสียก่อนแล ถา้ เขากินเข้าไปแลว้ จึงถามเขาดูว่ามันให้
เป็นอย่างไรบ้าง ถ้าเข้ามันบอกว่ามันให้ร้อนว่าต้องคุณคน แล้วจึงทำต่อไป
เถิด

ถ้าจะรักษาท่านให้คาถานี้ ฯฯ นะปัตโตนิปัตตังสุนุยะงัปสะหะ
เพลนิ ทานตาย ฯะ เสกแป้งและน้ำมนต์ พอกก็ไดส้ ำคัญออกมา ฯ

๓๐

อันหนึ่งถ้าต้องคุณคนกินน้ำมนต์เข้าไปมันบอกว่าร้อน ท่านว่ามัน
ต้องคุณคน ถ้าแลเราจะรักษาท่านให้คาถานี้ ฯ อาโปธาตุตะกะสินนัง วาโย
ธาตุตะกะสินนัง เตโชธาตุตะกะสินนัง ปะฬิอิโยธาตุตะกะสินนัง ฯ เสกแป้ง
และน้ำมนตพ์ อกและคลงึ ท่มี นั เจ็บน้ันก็จะหายแล ฯ น้ำมนตน์ น้ั ดว้ ยเถดิ

เมื่อจะขับ ๆ ด้วยพระคาถาน้ัน เม่ือจะทำให้ทำปัด ๔ มุม แล้วให้
ทำเคร่ืองผักพล่าปลายำดว้ ย แล้วจึงเอาดิน ๓ ท่า มาทำปนกันให้เข้าแล้ว ๆ
เอาผ้านุ่งผ้าห่มของคนเจ็บมานุ่งรูปห่มรูปเข้า แล้วจึงปั้นแว่นทองให้พร้อม
แล้วจึงเอาไปต้ังไว้ที่ปลายตีนคนไข้ จึงขับไล่ด้วยพระมนต์ เมื่อจะทำเอาเงิน
ตดิ เทียน ๑ สลึง แล้วจึงอา่ นโองการแล้วจึงเอาใบหนาดกวาดฟาดลงไปที่ปัด
น้ันเถิด ทำให้ถว้ น ๓ วนั ต้องคุณนนั้ ก็หายแล ฯฯ

ใหเ้ อาพระมนตบ์ ทน้ี ฯ โอมมะอะอุ โองการพระมหาเถรตำแย อะอิ
ศรีแท้แก่ตัวกู อัมขิ กูจะแก้สิทธิคนแก้ผ้าผะยนประสิทธินานา จิเจรนุ ิ แก้โค
มะหิงสา อกิ ะระติ อิธงั ระปัสสะอุ แก้รูปนุภาพวญิ ญา แก้ภานาสิก แก้ภานา
กร นะมะพะทะ แก้กินนรแี ลกินนร อาวธุ ธานัง แก้มือถือตะบองเหลก็ แกป้ ูน
เพชรแลหินแลง อะระหะ อะระหงั แก้ตารางทองแดง งาแซงและกงจักร จะ
ระณะ แก้ผ้านมพยัคฆ์สุนัขขะหงสา อะสังวสุโลปุสะพุพะพะพุสะปุโล สุ
วะสังอะ แกท้ ง้ั อาถรรพท์ ะนันทัง้ หลาย แก้ผภี ตู และผพี ราย สมงิ พรายน้ำและ
พรายบก อสงั วะธาปกุ ะยะปะ แก้ฝงั รูปในป่าช้าให้ผนิ หนา้ แลผินหลงั ให้รักให้
ชัง ใหค้ ลัง่ เมามวั พุทธังปจั จะขามิ ธัมมังปจั จะขามิ สังฆงั ปจั จะขามิ พุทธังปัจ
จะขาสิ ธัมมังปจั จะขาสิ สังฆังปจั จะขาสิ พุททังปัจจะขายะ ธมั มังปัจจะขายะ
สังฆงั ปัจจะขายะ สงั ฆังปจั จะขายะฯ

แก้คุณชะมบและตะกระคุณ ประสะส้มป่อย ฝังรูปฝังรอยหนทาง
สามแพง่ แก้คณุ พษิ แรงยาแฝดเขาทำมา เสานายะโอม ปู่เจ้าสมงิ พราย

๓๑

แก้ท้ังคุณคนคาถามนต์คนเขาทำมา ด้วยว่านแลยาให้พร่ำรัญจวน
จิต อกิ วติ แกเ้ ทพพระนมิ ติ ร ให้ลำจิตจวนปั่นปว่ นเปน็ ปา่ ไม้ โมนอทอพุ

แก้ดอกจำปา แก้หมากทะลายเหิน ทานะมะอะอุ แก้ไม้ไรอ่ ันรู้เดิน
เอาปลายลงเอาต้นขึ้น เอาเป็นเสนียดเสียดแทง เกี่ยวคาบพิลึกสะพรึงกลัว
หนงั หัวพองสยองเกล้า โอมนะโมวะท่อ มหาทะราระทอ่ กูจะเบกิ บงึ และเบิก
บาง เบิกโขนทวาร บานประตูยล อะยะอูยะ กูเบิกให้ถ้วนถึงพันภักขะวา อิติ
ยันตํ กูจะเรียกยนั ตศ์ าสตราและอาวธุ ให้วินาศสนั ติ เอหิ กูจะเรียกฝงู เทพพระ
มนต์คนแลคาถาให้ใกล้เข้ามา สเพวยักขาพะหูปิสา กูจะเรียกทั้งฝูงผีปีศาจ
หมู่มุขยักษ์ โทวะนิสสติ ให้เข้ามาน่ังใกล้ประนมมอื ไหว้ฟังพุทธโองการ อิติปิ
โสภะคะวา ฯ ล ฯ ภะคะวาติ ฯ คอื ดวงแก้วสมเด็จพระพุทธเจ้าเป็นพระราช
ไมตรี สูฟังคำกูยินดี คันจะอะมันมัมหิโอกาเสติชฐาหิ ฯ เอาพระคาถานี้
ประทับพระมนต์ด้วยเถิด สเพวะทิสา ปะรายันติ พุทธังปัจจะขามิ ธัมมังปัจ
จะขามิ สังฆังปัจจะขามิ คันจะอะมะมัมหิโอกาเสติชฐาหิ ฯ พุทธังสะสังระสุ
โลนาโสทายะ ๗ ที ฯ องค์ ๓ แก้คุณผีปอบ เสกน้ำพ่นตาคุณผีปอบ เป็นท่ีตา
แลหปู วดดจุ จะขาดใจตาย

ถา้ พ่นด้วยน้ำมนต์มิฟงั ท่านให้เสกแป้งพอกมนั ได้สำคญั ออกมา ถ้า
มหิ ายให้ทำตวั เอาผงดนิ สอละลายน้ำมนตห์ ยอดหูหยอดตาหายแล ฯ

อนั หนึ่งมันให้ตัวสั่นดังลูกนก และมันให้ขนลุกหนังหัวพอง ให้ร้อน
ใจยังจะเป็นบ้า ท่านว่ามันต้องกระทำผีท่านจึงให้เอาพระคาถานี้ ฯฯ นะมัส
สะสังวาโสนะโมพุทธสั สะสานะ ฯฯ องค์ ๔ เสกน้ำมนต์ใหม้ ันกนิ เสยี กอ่ นแล้ว
จึงแกต้ อ่ ไปถา้ จะแก้ให้ตงั้ ขวัญขา้ วจึงแกต้ ่อไป

เม่ือจะแก้ท่านให้แก้ด้วยพระคาถานี้ ท่านให้เอาข้าวสารกระทง ๑
ข้าวเปลือกกระทง ๑ ขา้ วสกุ กระทง ๑ ใส่ในบาตรสามมมุ แล้วจึงเสกด้วยพระ
คาถานั้น ๗ ที แล้วจึงตง้ั ไว้บนหัวนอนผเู้ จ็บเม่ือเวลาจะนอน ทำให้ถว้ น ๓ วัน

๓๒

แล้วจึงเอาข้าวสารในบาตรนั้น มาแช่น้ำมนต์ท่ีทำไว้ให้มันกินน้ันแล้ว เอามา
ตำเป็นแป้ง แล้วจึงเอาแป้งมาป้ันเป็นรูปคนเจ็บใส่พานลงไปตั้งไวท้ ี่ริมข้างผู้
เจ็บ แล้วจึงเสกด้วยพระคาถานี้ ฯฯ นะสะโมทานัง เอหิมามัง อะวะหังปินะ
ชาเอหิ ฯฯ องค์ ๔ บริกรรมเรียกพิธี แล้วจึงเอารูปมาต้ังไว้ทีห่ ัวนอนเวลาจะ
นอน ทำให้ถว้ น ๓ วัน แล้วเอารปู มาดูได้สำคญั ทำไปกว่าจะกว่าจะหายเถดิ ฯ


อนั หนง่ึ ถ้าผู้ใดต้องคณุ กระสือ เมอ่ื มันเปน็ มันใหผ้ อมเหลอื งและมัน
ให้หิว ท่านว่ามันต้องคุณกระสือ ถ้าจะรักษาให้เอาพระคาถาน้ี ฯ พุธัสสะโม
ทานงั วตั โตภานะโส ภะคะวา ฯ องค์ ๖ เสกมะนาวกลึง ๓ วันหาย

ถา้ มิหายทา่ นใหท้ ำตัว เอาผงดนิ สอละลายนำ้ มนต์เสกดว้ ยคาถาน้ัน
ทาเขา้ ก็หายอย่าสนเทห่ ์เลย ฯ

อันหนึ่งถ้ามันทำให้ลงไปด้วย ให้ทำน้ำมนต์ให้กินด้วยคาถาน้ันก็
หายแล ฯ

อันหน่ึงถ้าผู้ใดต้องผีเรือนและผีโรงมันให้เป็นต่าง ๆ ไปก็ดี ถ้าจะ
รกั ษาให้เอาพระคาถาน้ี ฯฯ พุธธังเอหิตปิ านงั วะ สัสนะสะนัง ฯ องค์ ๔ เรียก
เข้าไวใ้ นจบั แล้ว เอามันไวท้ ่หี ัวนอนคนเจบ็ นัน้ ๓ วัน แล้วจงึ เอาไขน่ ั้นเจยี วข้ึน
แล้วเราจึงเอามารักษาให้ผเี รอื นผีโรงเขา้ ถิ่น เมื่อจะเซ่นเสกด้วยคาถาน้ันเถิด


๏ อันหนึ่งหญิงใดคลอดลูกมิใคร่ออกก็ดี ตายในทอ้ งกด็ ี รกมิออกก็
ดี ถ้าเขามาหาเรา ๆ จะรักษา ถ้าลูกยังมิตายท่านให้คาถาน้ี ฯ อากัสสะ ฯ
เสกน้ำมนต์ให้กินบ้าง ตบหัวบ้าง ลูบท้องบ้างออกแล ฯ เมื่อจะเสกเงินติด
เทียน ๑ ออกแล ฯ

๓๓

อนั หนึ่งถ้าตายอยู่ในท้อง ท่านใหช้ ักยันตน์ ี้ลงในฝ่ามอื ตบหัวบาง ๗
ที เมื่อจะตบหัวให้บริกรรมด้วยคาถานี้ โอมนกกระจอก ออกนกกาน้ำ ไม้
ขว้าง น้นั โท ๆ ออกสอสาหะ

ออก และเมื่อจะทำให้ตักน้ำสาดข้ึนบนหลังคา แล้วจึงแก้เอาตอก
ผูกข่า ๓ เส้น ใสใ่ นน้ำมนต์ใหก้ นิ บา้ ง ตบหวั บ้างกอ็ อกและถ้ามิใครอ่ อก ให้ทำ
ตัวเอาผงดนิ สอใสใ่ นน้ำมนตใ์ ห้กินบ้าง ตบหัวบา้ งออกแล ฯ

จะถ้ามิใครอ่ อกขัดอยดู่ ้วยกุมารในห้องนัน้ ขดั ไว้ ท่านจึงให้กลว้ ยน้ำ
๓ ลูก เสกแล้วเอาใส่พานไปต้ังไว้ท่ีสูง ๆ แล้วเสกด้วยคาถาน้ี ฯ พุทธังอสุร
กายมามัง กะมานสะสะมามาเอหิมาเรโสนะโสเอหิ ฯ องค์ ๑๐ เสกกลว้ ย ๗
ที คาบ แลว้ จึงเอาคาถาน้ี พุทธสั สะอาตันจัยยะอะมมุ ุมหิเอโทราโทนะโสภะ
คะวา องค์ ๗ เสกข้าวสารซัดเขา้ ท่แี ม่มันนั้นกุมารนั้นก็ออกจากแมม่ นั ก็ขึ้นไป
กินกล้วย ถ้ามันท้ิงเปลือกกล้วยลงมา ๒ ลูกแล้ว จึงเอาพระคาถาน้ี ฯ นะ
พุทธังกัจพะนะธัมมังกะพะวานะสงั ฆังกะพะวา ฯ เสกด้ายมงคลใส่แม่มันกัน
ไว้ มใิ ห้มันมาเขา้ แม่มนั ได้ คอยดูมัน ๆ จะพากล้วยเข้าแม่มัน ถา้ เห็นแมม่ ันจะ
เข้าแม่มันแล้ว ให้จับมันใส่ลงในหม้อใหม่แล้วจึงเสกน้ำมนต์ด้วยคาถานี้
พุทธังปัจจะขามิ ธัมมังปัจจะมาขามิ ฯ ลัดลงไปในหม้อแล้วกดไว้ก่อน อย่า
เผลอเอาไปสะกด ท่านว่าให้เอากเฬวราก ซากศพที่ในท้องแม่น้ันออก
เสียก่อน แล้วจึงเอาพรายกุมารนั้นไปถ่วงเสีย เม่ือจะถ่วงน้ันท่านให้ชักยันต์
กระนี้ปิดปากหม้อ แล้วจึงเรยี กเอาเงิน ๖ สลึงมาติดเทียน มาทำน้ำมนตด์ ้วย
พระคาถาน้ี ๏ นะพุทธังอิติตรึงตะเร อนิจฺจา วต สังฺขาราอุปฺปาทวยธมฺมิโน
อปุ ฺปชฺชิตวฺ า นิรชุ ฺฌนตฺ ิเตสํ วูปสโม สุโข ฯ รดลงในหม้อแล้วเอาไปถว่ งเสยี ใน
นำ้ เมื่อจะมาอยา่ เหลียวหลงั อันหนึง่ เมอ่ื จะถ่วงท่านวา่ เปน็ สองหนใหเ้ รียก

๓๔

ขันข้าว ๒ ที ถ้าจะให้ปรากฏแก่ตัวและเข้า ท่านว่าอย่าเพิ่งเอากุมารน้ันไป
ถ่วง เอาไว้เรยี กเขา้ ในรูปกาย นั้นก่อน เมื่อจะเรยี กทา่ นให้เรียกด้วยคาถานี้ ฯ
พุทธังเอหิกูมาระยัง อะสุริกายยะพันธนังอาปัฐจามิ ฯ บริกรรมเป่าลงท่ีรูป
กายมันน้ันก็ต่ืนข้นึ มาดุจดงั เป็นอยู่แล้วจึงเอาพระคาถานี้ ฯ พุทธัสสะโภชนัส
สะสังยัสสะโธมะ ฯ องค์ ๗ เสกกล้วยน้ำ ๗ ที แล้วเอากล้วยจดเขา้ ที่ปากมัน
ๆ ก็ดูดเอากล้วยนั้นหมดแล้ว ๆ จึงเอาตะปูและเข็มตีลงท่ีหน้าผากมันนั้น
แลว้ เอามันไปถ่วงเสยี เมอ่ื จะถว่ งน้ันท่านให้เอายันต์นีล้ งก้นหม้อแล้วจึงเอาไป
ถ่วงเสีย

๏ อันหนึ่งเขามาหาเราไปสะกดผีตายโหงและตายพรายกด็ ี ทา่ นให้
เอาพระคาถานี้ ฯ พุทธะสังมิ ฯ เสกตะปูและเข็มและไม่กวาดวัดกไ็ ด้ เมื่อจะ
สะกดใหท้ ำผกั พลา่ ปลายำ ๓ กระทง เทียน ๓ เลม่ ตะปู ๓ ตัว

เมื่อจะตตี ะปูให้บริกรรมด้วยพระคาถาน้ี ฯ นะพุทธังอติ ิตรงึ คะเร ฯ
องค์ ๙ แล้วจึงเอาตะปตู ลี งที่หนา้ ผาก

เม่ือสะกดท่านให้เรียกเข้ารูปกายมันก่อน แล้วจึงสะกดเรียกด้วย
คาถานี้ ฯ พุทธังเอหิอสั สะริกายยะมา มังเอหวิ ัตตะโภนะโสภะคะวา ฯะ องค์
๑๕ เรยี ก ๗ ที แล้วจงึ เอากระทงต้ังลงทหี่ น้าผากลกู ๑ ทอี่ กลูก ๑ ทีป่ ลายตีน

๓๕

แลว้ ตีตะปูทห่ี ว่างกระทงน้ันเถิด แล้วผลกั ลงหลุมกลบดินเสยี แลว้ จงึ ทำขอ ๓
อนั ใบไม้ ๓ ใบ วางหวั ใบ ๑ กลางใบ ๑ ปลายตนี ใบ ๑ เอาคาถาบังสุกุลตาย
บรกิ รรมจนจบ เปา่ ลงทใี่ บไม้แลว้ จงึ ตขี อลงทีใ่ บไม้น้ันเถิด ขวัญขา้ ว ๑ บาท ๒
สลงึ เสกด้วยน้ำสิโรเมกนั ตัวเราเถดิ ๚ะ

อันหนึ่งเมื่อแรกเขามาหา เม่ือเรา ๆ จะไปรักษาเขา เราไปถึงท่าน
ให้ทำน้ำมนต์ด้วยคาถานี้ ฯ อาโปธาตุกะสินนัง อาโยธาตุกะสินนัง เตโชธาตุ
กะสินนัง ปฐวีโยธาตุกะสินนัง นะมะพะนะ ฯะ เสกน้ำ ๗ ที คาบให้เขากิน
ลองดู ถ้าเขาบอกว่าเค็มทา่ นว่าต้องกระทำคน ถ้าบอกว่าฟาดท่านว่าต้องคุณ
ผี ถ้าเขาบอกว่าเผ็ดตอ้ งผีปอบ ถา้ เขาบอกว่าดีอย่ถู ้าจะเป็นเพราะโรคตัวของ
เขาเอง

ถ้ากินน้ำมนต์เข้าไปมันให้จุกท่านว่ามันต้องผีโรงตัวของเขาเองและ
ผีเรือนของเขาเองแล ฯ จึงรักษาตามท่านกล่าวไว้น้ันเถดิ ฯ เมื่อจะลองดูเงิน
ตดิ เทียน ๑ สลึง ตามอย่างธรรมเนยี มอันหน่งึ

การส่องเทยี นดูโรค
ถา้ จะส่องเทยี นดู ท่านให้เอาเทียนหนัก ๑ บาท บริกรรมด้วยคาถา

นฯี้ พุทธะคุณังจักขุมุทุจติ ตังทวิ ะสามะมัง อะกิขะยังสัมมา สัทธัสสะคะทามิ
หงั ฯ บรกิ รรมส่องเทียนดู

ถ้าเราเห็นเปน็ กอ้ นเน้อื อยู่ในหนงั ผเู้ จ็บทา่ นว่าต้องคณุ คน
ถ้าว่าเราเห็นเป็นเม็ดทรายและเส้นผมเป็นกลางอยู่ก็ดีท่านว่ามัน
ตอ้ งคุณผี
ถ้าเราเห็นเป็นรปู คนกินไสพ้ งุ อยทู่ า่ นว่ามันตอ้ งผปี อบ
ถ้าแลเห็นเขียวกลมอยูเ่ ท่าลกู สะบ้า และตามันเหลืองอยู่ถ้ามันต้อง
ผกี ระสอื

๓๖

ถ้าแดงขาวเหลืองอยู่ทา่ นว่ามันต้องผเี รือนผีโรง ทา่ นวา่ ใหข้ ับไล่เขา
เสยี เถดิ ฯ

อันหน่ึงหญิงชายผู้ใด ๆ ก็ดี ถ้าต้องผีเรือนและผีโรง ท่านเอาพระ
คาถานี้ นะโมนะสะมัสสะปากะรังอาคันจัยยะปัจจะขามิ ฯ องค์ ๒๐ เสก
เครื่องผักพล่าปลายำ เชิญเขาข้ึนหิ้งและโรงเขาเสีย เมื่อจะบริจาคเขานั้น
ท่านบอกว่าใหบ้ อกพระชยั มงคลเสยี ก่อน แล้วจงึ ทำว่าจะมาขอจับพรายในร่ม
ไม้ชายคาของพระชัยมงคล อย่าได้ขัดไว้ทีเดียว เมื่อจะบอกพระชัยมงคลด้วย
พระคาถาน้ี พุทธัสสะไชยยังชะโนชะนิยังชัยยะ บริกรรม ๗ ที แล้วจึงทำ
ต่อไปเถดิ ฯ

๏ ถ้าแลเราจะไปรักษาเขา ท่านใหเ้ อาพระคาถานี้ ฯ นะพุทธังกพา
วะติ นะธัมมังกพาวะติ นะสังฆังกพาวะติ ฯ เสกหมากกิน มาท่ีเขาหามาให้
เรากนิ กนั ตวั เรากนั คุณและกระทำทั้งปวงอย่าสนเท่หเ์ ลย แกว้ หาคา่ มิได้

ถา้ เราจะไปรักษาเขา ท่านใหท้ ำตัวเอาผงดินสอปนขา้ วสารและขา้ ว
สุก ให้คนท่เี รือนกนิ กันกระทำหาอนั ตรายมิไดเ้ ลย ฯ

อันหน่ึงถา้ เราจะถือความรู้มิให้เสื่อมและบกพรอ่ ง ท่านให้เอาพระ
คาถานี้ ฯ พุธธังปัสสะ จิตตังมักขัง ฯ เสกน้ำล้างหน้าทุกวันประสิทธิอย่า
สนเทห่ ์เลย ฯ

ถ้าทำมิใคร่เป็นให้เอามะกรูดแลส้มป่อย เทียนหนัก ๑ บาท ทำ
นำ้ มนตอ์ าบดีกว่าเกา่ แล ฯฯ

อันหน่ึงถ้าเราจะรักษาเขา ๆ บอกว่าเจ็บที่ไหนก็ดี ให้ทำตัวเอาผง
ดนิ สอด้วยพระคาถาน้ี ฯ นะโมพุทธายะ สะสิโมนะมะอะอุอิสะวาสุ สะสังโม
นะโสภะคะวา ฯ องค์ ๕ เอาผงดนิ สอละลายน้ำมนต์ท้ังกนิ ทั้งทาหาย

ถ้ามิหายให้ชักยันตก์ ระนเ้ี อาผงดินสอละลายน้ำมนต์ทาบ้างกินบ้าง
หายแล ฯ ท่านใหท้ ำบ่อย ๆ แกร้ อ้ นแก้ปวดแล ฯ

๓๗

ถา้ มฟิ ังเอาพระคาถานี้ มะอะอุ สุสะสิโม ฯ องค์ ๗ เสก ๗ ที ฯ

วธิ ีแกโ้ รคเกี่ยวกบั อาถรรพ์
อันหน่ึงถ้าผู้ใดต้องอาถรรพ์รู้มิถึงหมอทั้งปวงว่าต้องปราบ ถ้าแล

แพทยร์ กั ษามิหายแล้ว ถ้าแลเราจะรักษาบ้างให้พจิ ารณาเถิด แล้วจึงถามดูว่า
เมอื่ แรกเริ่มเดิมทมี ันให้เป็นอยา่ งไร ถา้ เขาบอกวา่ มันแตแ่ ม่เทา้ ขึ้นมาก่อน มัน
เปน็ ดังต้องปราบ แล้วอย่มู ามันชาและรอ้ นไปท่ัวสารพางค์ตัว แล้วมันใหจ้ ิตใจ
สน่ั ไปและมนั ให้ร้อนและมันให้หนาวและมนั ให้เสยี ดแทงท่วั สารพางค์ตัว และ
มันให้หายใจสะอี้นสะท้อน ตัวส่ันใจหายดังกล่าวมาฉะนี้ ท่านว่ามันต้อง
อาถรรพ์ ถ้าแลเรารักษาท่านให้เอาพระคาถาน้ี เสกน้ำใส่กินลองดู ๓ วัน ฯ
พุธธานุสสติอาธัสสะชะเนชะนิยัง ฯ ถ้าแลต้องอาถรรพ์ฉะน้ันแล้ว มันกิน
น้ำมนต์เข้าไปแล้วไม่เป็นสุข ก็เป็นไปต่าง ๆ ต้องอาถรรพ์ทั้งปวง ถ้าแลเรา
รักษาท่านให้พระคาถาน้ี ฯ นะมัสสะการุณานุพาเวนะมะ ธายัง อะระหัง
สมาธิยามิ ฯ เทียนหนัก ๑ บาท หนึ่ง แล้วจึงเอาเทียนมาต้ังที่บนกระหม่อม
แลว้ บรกิ รรมเป่าลงทมี่ นั เจบ็ นน้ั กถ็ อยไป

ถ้ามิหายท่านให้เสกแป้งมันเป็นรูปผู้เจ็บแล้วเสก ๗ ที จึงต้ังท่ีหัว
คนไข้ ๓ วัน แล้วจึงเอารูปปั้นมาต้ังขยำน้ำมนต์ด้วยพระคาถานั้นแล้ว จึงเอา
แป้งนั้นคลึงไป ๓ วันกห็ าย

๓๘

ถ้ามิหายเอากำมะถันมาประสมกับผงดินสอจึงทาใบหนาดไว้ เมื่อ
มันขึ้นมาเม่ือใดเอาใบหนาดน้ันจุดไฟลมควันเข้าไปบ้างก็หายอาถรรพ์ เอา
พระคาถาน้ี ฯ พุทธัสสะสานุติอาตังนัยยะ องค์ ๑๐ เสกตัวเองทำ ๓ วันหาย
อาถรรพ์แล ฯ

วธิ แี กค้ ณุ ไสยตา่ ง ๆ
อันหนงึ่ ถา้ ผู้ใดต้องคณุ ลมให้เย็นแต่ปลายตนี ข้ึนมาจนถงึ อก และมัน

เมอ่ื ยและมันให้ขัดข้อทุกแห่งไปท่านว่าต้องคุณลม เพลากลางคืนมันให้เมื่อย
และเย็นไปท้ังตัวก็ดี และมันให้ร้อนเป็นแห่ง ๆ ถา้ แลจะรักษาท่านให้เอาพระ
คาถาน้ี ฯฯ พทุ ธสั สะธานัง อาระหัตโต พระพายยะหากะรงั กเุ รยตุ เตมะปะชา
ยันติ ฯ ๗๗ เสกมะกรูด มะนาวคลงึ ทุกแห่งทุกวันไป แลเสกน้ำอาบทุกวันไป
ดว้ ยพระคาถาตอ้ งคุณลมก็หายแล ฯฯ

อันหนึ่งถ้ารักษาฝ่ายข้างลมเพลมพัดและคุณท้ังปวงหายกันแลว้ ว่า
ยังไม่หาย ท่านให้รู้ด้วยยานี้ ถอนพิษเสียบ้าง ท่านให้เอายานี้ว่านหางช้าง ๗
ใบลงดว้ ย ฯ อิติปิโสจนจบ ขิง ๕ แวน่ ลงดว้ ย นะโมพุทธายะ พรกิ ๗ กะเทยี ม
๗ แล้วจึงทำน้ำมนต์ด้วยพระเจ้า ๑๖ พระองคใ์ ห้กินลงแล ฯ อนึ่งท่านให้ทำ
ยาไล่ภายในผที ้ังปวง สรรพยาน้ันทา่ นใหเ้ อาใบหนาด ๓ ใบ ๆ ตองแตก ๓ ใบ
ๆ ว่านหางช้าง ๓ ใบ ขิง ๓ ชิน้ กระเทียม ๗ กลีบ นะสะวา ลงใบหนาด อสิ ะ
วา ลงใบตองแตก อุปาธงั ลงไปวา่ นหางชา้ ง นะสะเม ลงขิงแลจงึ เอายนั ต์น้ี ฯ

๓๙

เมื่อจะกินเสกด้วยพระเจ้า ๑๖ พระองค์กับคาถาปะจุคาด เมื่อจะ
ลงยนั ต์นั้นท่านให้เอาข้าวตอก ดอกไม้ ธูปเทียน บชู าเสียก่อนจงึ บดยานั้นเถิด
ทำแท่งไว้ทาบ้างกินบ้างก็หายแล ฝนกนิ ดว้ ยน้ำมนต์ก็ลงถอนพิษลมเพลมพัด
ทา่ นให้กนิ ยาลองดูเสยี ก่อน ถา้ มติ ้องผีท้ังปวงกด็ ีแล ฯ

ถ้าต้องผีและคุณท้ังปวงมันมิเป็นสุขแล้ว จึงถามวา่ มันเป็นอย่างไร
บ้าง ถ้าเขาบอกว่ามันให้ร้อนในใจไม่สบาย ท่านว่ามันต้องกระทำ เร่งยาเสีย
แต่ออ่ น ๆ อยา่ สนเท่ห์เลย ฯฯ

อันหนึ่งถ้าผู้ใด้ต้องคุณเพลิง ท่านให้ถอนพิษร้อนด้วยพระคานี้ ฯ
พทุ ธังอัตตียังสะระณัง ปสั สะสาสะณังสะวาหะ ฯฯ องค์ ๔ เสกใบระงับแล้ว
ตำแลว้ เสกน้ำมนต์ละลายอาบ ๗ วันที ๑ ๑๕ วันที ๑ เดือน ๑ ทำให้ทาน ๓
หน หายแล ฯ พทุ ธงั อัตตยิ งั อมุ ิพสิ สะอตั ติกจู ะตพี ิสสะอัตตีสะวาหาย ฯ คาถา
นที้ ่านให้ดับพิษคุณเพลงิ และพิษไฟบริกรรมเป่าลง ๗ ทกี ห็ ายแล ฯ พทุ ธะคุณ
ณังกนั ตังนะจัมมังรัตตะณัง กันภังนะ สะฆะรัตตะณังกันภังนะ ฯฯ เสกน้ำทา
กับตัวเราและผีเขาใช้มาทำเรามทิ ุกข์เลย ฯฯ พุทธังกัน ติยาโน ธัมมังกันติยา
โน สะโฆกันตนิ ิปาณงั ฯ เสกของกนิ ทั้งปวงกนั ตวั เรา ผเี ขาใช้มิทุกข์เลย ใช้ได้
๑๐๘ ตามแต่ใชเ้ ถดิ ฯ

ยารุขับคุณท้ังปวง เอาว่านหางช้าง ๗ ใบลงด้วย อิติปิโส จบภะคะ
วาติ ฯ ว่านน้ำ ๗ ใบ ลงด้วยคาถานี้ สะมุหะนยั ยะสะมูหะนัยโย สะมูหะคะตา
สะมุหะคะโต สะมุหะนัตถิเอวัง สิมายัง สุมุหะนะพาวะตังอถโมสัตถัง ขิง ๗
ชิ้นลงด้วย สะทะวะปิทะสะอุ กระทือ ๗ แว่นลงด้วย สังวะธา ปุกะยะปะ ฯ
พริกไทย ๓ เม็ด กระเทียม ๗ กลีบ ดีปลี ๗ ดอก ตำให้ละเอียด เอาน้ำวัลย์
เปรียงยาว ๓ เกรียก ทบุ เป็นส่ีฟ่นั เอาน้ำรอ้ นราด เอาน้ำเป็นกระสายเอายาใส่

๔๐

ขยำกรองเอาแต่น้ำ ใส่ขี้เกลือตามธาตุหนักเบา เสกด้วยคาถา ๑๖ พระองค์
กบั คาถาประจุคาด กินรุขับคุณทั้งปวงหายแล ฯ

เมื่อทรงขวัญข้าว และจะยกสานุศษิ ยก์ ็ดี ให้บริกรรมด้วยคาถานี้ ฯ
นะพุทธังครูอุปัชฌาอาจาริเยนะมัสสะการิยะเม ฯ เม่ือจะลาบายศรีให้
บริกรรมด้วยคาถานี้ ฯ เสสังมังคะลังสิทธิ ๗ ที จัตตาโรอาวุทธาณัง ติขะ
วาวุทธามะอาอุอุอามะเสตะอาเสณิมะอตุ ิ มิสะพุมะอะปะจะอุ ฯฯ ลงหวายก็
ได้กำราบผที ั้งปวง ฯฯ

เมือ่ จะชักยนั ต์ใหว้ ่าคาถานี้ จัตตโุ กพะวามะหา ยันตงั พรัมมะภัคสะ
มะเหสุรัง องั ตะไนยยะวิชายะเต ฯ ยนั ตะวติ รงึ คะเร กลงึ ยันต์ ฯฯ

เม่ือจะลงอักษรเรียกด้วยคาถา เอหิอัตตะระปาตังทาเรทะ อกั ขระ
ยนั ตังวิตรงึ คะเร กลึงอกั ษร ฯฯ จมิ ิเสขิเสตะอะเส ฯ

เสกข้าวกินอยู่อาวุธทั้งปวง ฯ นะภูกะโมมัต พุทธะรัตธากรีงะ
ยะกัตหัวลัง ฯ มัดบทใหญ่ ทำให้หมด ฯ ออะคะชาหิ ฯ ให้มันออก ฯ มะนัต
ตัง นิกขปิ ปามคิ จั นะอะมุมหิ ะโอกาเสติถาหิ ฯ

ขบั ให้มันออก มนังสังพ นกิ ิบฬมิตจนอมุมิจกาเสติจวหิ ฯ ขับให้มัน
ออก ฯ วัตตังนิมะฐากขัปปามิ คัดชะ ฯ หิ ฯ ให้ออกที่เดียวเถิด ฯ ยะทา
พุทธะโมนะมัต ฯฯ หนังบริกรรมมัดแล้วว่ามัดข้าวเจ้าข้าท่านเจ้าคุณทำวัว
แดงมัด โสอิติ ฯ มัด ฯฯ ว่ามัดข้าวเจ้ามา ฯฯ มทั ธะเกมัทธะรุงคันตติ ะ ฯ เสก
ดา้ ยมัดหวั แมต่ ีนแมม่ ือจับดา้ ยมงคลใส่คอ ฯ นะปัตโตหปิ ัตตังพนั ตะรตั ตะ ฯ

เขามาหาเราให้ภาวนาจนถึงเรือนผู้ไข้สองเพื่อน ถ้าถูกผีข้างพ่อ
เป็นวงขาวข้างซ้าย ถ้าถูกผขี ้างแม่เป็นวงข้างขวา ถ้าถูกผีพรายเป็นวงเขียวท่ี
หน้าผาก ถา้ ถูกคุณเป็นสายเลือดขืน้ ท่ีท้องนอ้ ย ฯ โสทายะ แก้มดั ผี ฯฯ๏ฯ

๔๑

นางโภควดีรกั ษาตน้ มะกรดู
นะโมนะมัสสะกานกรีงะปาฑาน พระธรณีสารจึงประทานให้แก่

พระราชฤๅษีทั้งแปดตน เธอจึงจะปลูกมะกรูดไว้ต้นหนึ่ง มีก่ิงอยู่ ๘ กิ่ง ช้ีไป
แปดทิศ๑๔พระมหาฤๅษีสิทธ์ิ เธอจึงจะให้อำนาจแก้นางโภควดี อยู่เฝ้ารักษา
ก่ิงมะกรดู

ยังมะกรดู ก่ิงหน่ึงชี้ใบข้างทิศบูรพา พระจันทกุมารา ๑๕ พระองค์
อยู่เฝ้ารักษากิ่งมะกรูด พระเจ้าเสกด้วยพระคาถา พัทธัง นะมัง สังยัง สะ
ระณัง คัจฉามิ นะกาโรกู ๆ สัทโฉโกฉาขะมะโน พุทธาโรกัสสะโปมกั โข ๆ ตะ
โมสิระสากะยะมนุ นีนะ กาโร อรยิ ะเมตไตรโย ฯ

ยงั มะกรูดก่ิงหน่ึงช้ีไปทิศอีสาน พระองคุลีมาล ๘ พระองค์ อยู่เฝ้า
รักษากิ่งมะกรูดพระเจ้าเสกไว้ด้วยพระคาถา นะโมพุทธายะ พุทโธเม สะ
ระณัง ธมั โมเม สะระณงั สังโฆเม สะระณัง ฯ

ยังมะกรดู กงิ่ หนง่ึ ชไ้ี ปขา้ งทิศอดุ ร พระพทุ ธขอวอน ๑๗ พระองคอ์ ยู่
เฝ้ารักษาก่ิงมะกรูด พระเจ้าเสกด้วยพระคาถา อิติปิโสภะคะวา นัทธิเมปา
ปังนทั ธเิ มไภยะปาปงั

ยังมะกรูดกิ่งหน่งึ ชไี้ ปข้างทิศพายัพ พระอาทิตย์ ๖ พระองค์อยู่เฝ้า
รกั ษาก่ิงมะกรูด พระเจ้าเสกไว้ดว้ ยพระคาถา กสุ ะลา ธัมมา อะกสุ ะลาธัมมา
อพั ยากะตา ธัมมา

๑๔ ทิศท้ัง ๘ ตามการเรยี กของคนโบราณ คือ ๑. ทิศอุดร หมายถึง ทิศเหนือ
๒. ทิศอีสาน หมายถึง ทิศตะวันออกเฉียงเหนือ ๓. ทิศบูรพา (บูรพ์) หมายถึง ทิศ
ตะวนั ออก ๔. ทศิ อาคเนย์ หมายถึง ทศิ ตะวันออกเฉยี งใต้ ๕. ทิศทักษิณ หมายถึง ทิศใต้
๖. ทิศหรดี หมายถึง ทิศตะวันตกเฉียงใต้ ๗. ทิศประจิม หมายถึง ทิศตะวันตก และ ทิศ
พายพั หมายถงึ ทิศตะวันตกเฉียงเหนอื

๔๒

ยังมะกรูดกิ่งหน่ึงช้ีไปข้างทิศประจิม สาครพระศุกร์คะบวร ๒๑
พระองคอ์ ยู่เฝ้ารักษาก่ิงมะกรดู พระเจ้าเสก พระเจ้าเสกไว้ด้วยพระคาถา อิ
ตปิ าระมติ ตา อติ ิตึงสา สปั พนั ยมุ าคะตาอิติโภมะนุสสะโต อิคปิ ิโสภะคะ วาจะ
เตนะโมพทุ ธายะกันนสุ ันตะระมาพระวาหอุ ะสรุ นิ ธัง อะสงั วิสุโล อะขางมะกิน
นพุ นิ ะโตวะธิงะติ ฯฯ

ยังมะกรูดกิ่งหน่ึงช้ีไปข้างทิศหรดี พระราหู ๑๒ พระองค์อยู่เฝ้า
รักษาก่ิงมะกรูด พระเจ้าเสกไว้ด้วยพระคาถา อิระชา ขะตะระสา ติหังจะโต
โรทนิ ัง ปิสัมระโลปุสะพพุ ะ มะอะออุ อุ ะมะติสะอุอสุ ะติ ฯ

ยงั มะกรดู กิ่งหนง่ึ ชีไ้ ปขา้ งทศิ ทักษณิ พระพฤหสั บดี ๑๙ พระองคอ์ ยู่
เฝ้ารักษากิ่งมะกรูด พระเจ้าเสกมะกรูดพระเจ้าเสกไว้ด้วยพระคาถา นะมะ
นะอะ นอกอนะกะ ออกะนอกะ นะอะกะอัง

ยังมะกรดู ก่ิงหนง่ึ ช้ไี ปขา้ งทศิ อาคเนย์พระ ๑๐ พระองคอ์ ยเู่ ฝ้ารกั ษา
ก่งิ มะกรูด พระเจ้าเสกไว้ด้วยพระคาถา ปัทขุมุตตะโลจะปูระภายังอาขะไนย
เย เนธะอะระโตทักขิเนกัสสะโปพุทโธเนวะหัวระฑี เยสุมังขะโลปะจิมมะ
พุทธะสุกขจิ ะไภยยะเภจะเมธังอุทธะตะเรสิริกะมูนเิ จวะธิสาเน สะระณังกะโร
อุทธะริยังวากู ๆ สังนะโธฑะฑอนนะกาโลกะเอเตธัสสะธิสสา พุทธาราชะ
ธรรมปผุ ชโิ ต นทั ธิโรขัพวะยงั อะโสกังเขมังสัมปัตตินาธะกงั ธกุ ขะ โลขัพวะยัง
สาระพัสสัตตรวู ิฉาสสันติ ฯฯ พระคาถาน้ีประบ่าก็ได้ทำนำ้ มนตร์ ดก็ได้ มดั ได้
ใคร่ ๑๐๘ จบครู่หนึ่ง ฯฯ๏ โมกาโรโกนาขะมะโนกัสสะโปพุทโธ เตโชธาตุพุ
สะมาหิตา ฯฯ ทำน้ำเมตตา ฯ พุทธะกาโรกัสสะโป พุทโธเตโชธาตุตะสะมา
หิตา ฯ ไฟทำอิทธิฤทธ์ิท้ัง ๔ บท ฯ ๏ ทากาโรโขตะโมปะฉาเสตถะวาโยธาตุ
ตะสะมา หิตา ฯ ลมทำเสน่ห์ ฯ สะทะวิปิปะสะอุ นะโมพุทธายะกะทานุสุโร
ขา ทางมุนุสุนุฑอนะ ฯ ทำน้ำมนต์แก้ได้ทุกสิ่ง ฯ อินโทเทวา พรหมราชา
ชมพูทีเปมะนุสสานัง กูลียักโขปะโหปะบัง ยคั ะโจลาปะลายนั ติ พูททงั ลา โภ


Click to View FlipBook Version