The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

001คู่มือบริหารล่าสุf 19 มค66.doc(N.)

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by janyai009, 2024-03-03 15:25:28

คู่มือบริหาร

001คู่มือบริหารล่าสุf 19 มค66.doc(N.)

0 คู่มือบริหารในกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลปทุมธานี ลงชื่อผู้รับทราบ คู่มือการปฏิบตัิงานหอผู้ป่วย....................................... ลงชื่อ-สกลุวันที่ ลงชื่อ-สกลุวันที่ ลงชื่อ-สกลุวันที่ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลปทุมธานี หน้า : 1/83 คู่มือปฏิบัติเลขที่ : WI –NSO-001 ปรับปรุงครั้งที่ : เรื่อง : คู่มือบริหาร กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลปทุมธานี วันที่บังคับใช้: 1 ตุลาคม 2554 วันที่ปรับปรุงครั้งที่ 1: 10 ตุลาคม 2560 วันที่ปรับปรุงครั้งที่ 2: 12 พฤสจิกายน 2562 วันที่ปรับปรุงครั้งที่ 3: 1 พฤศจิกายน 2565 แผนก : ทีมนำกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล แผนกที่เกี่ยวข้อง : ผู้ป่วยนอก/ผู้ป่วยใน / กลุ่มภารกิจด้าน การพยาบาล ผู้จัดทำ : นางสาวิตรี สุวณิชชากุล รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (บริหาร) และคณะกรรมการการบริหาร ทรัพยากรมนุษย์ (HRM) ผู้รับผิดชอบ ........................................... (นางสาวิตรี สุวณิชชากุล ) รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (บริหาร) ผู้อนุมัติ ………………………………… (นางพรทิพย์ คนึงบุตร) รักษาการในตำแหน่งหัวหน้าพยาบาล


คู่มือบริหาร กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลปทุมธานี กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลปทุมธานี พุทธศักราช 2566


คำนำ คู่มือการบริหารการพยาบาล กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล โรงพยาบาลปทุมธานี ปี 2566 เล่มนี้ จัดทำขึ้นโดยมีวัตถุประสงค์ เพ่อใช้เป็นเครื่องมือในการสื่อสารให้ผู้บริหารการพยาบาล กลุ่ม ภารกิจด้าน การพยาบาล และบุคลากรทางการพยาบาล ตลอดจนผู้เกี่ยวข้อง ทราบข้อมูล และถือเป็น แนวทางปฏิบัติเดียวกัน ประกอบด้วย ข้อมูลโรงพยาบาลปทุมธานี ข้อมูลกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล งานด้านต่างๆ ในกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลตลอดจนระเบียบการบริหารงานทั่วไป ผู้จัดทำคาดว่าคู่มือการบริหารการพยาบาลเล่มนี้ เป็นประโยชน์ในการบริหารงานเป็นอย่างยิ่ง ผู้จัดทำ


สารบัญ หน้า 1.ข้อมูลทั่วไปโรงพยาบาลปทุมธานี 3 2.วิสัยทัศน์โรงพยาบาล พันธกิจ เป้าประสงค์ ค่านิยม 3 3.ประเด็นยุทธศาสตร์โรงพยาบาล เข็มมุ่ง 4 4.คณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล 4 5.ตัวชี้วัดโรงพยาบาลปทุมธานี 6 7.อัตรากำลังตามกลุ่มวิชาชีพ 8 8.โครงสร้างกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 11 9.โครงสร้างงานพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาล 12 10.คณะกรรมการกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 13 11.วิสัยทัศน์พันธกิจ เข็มมุ่ง ค่านิยม กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 22 12.ตัวชี้วัดตามแผนยุทธศาสตร์กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 24 13.จำนวนบุคลากรทางการพยาบาล 27 14.ผลการพัฒนาที่โดดเด่นและความภาคภูมิใจ ความท้าทาย 28 15.นโยบายการบริหารการพยาบาล 29 16.การจัดอัตรากำลัง การเบิกค่าล่วงเวลา ค่าเวรวันปกติ และ 7 วันอันตราย 31 17.แนวทางการจ่ายค่าตอบแทนผลการปฏิบัติงาน(P4P) 32 18.แนวทางการปฏิบัติด้านจริยธรรม จรรยาบรรณและสิทธิผู้ป่วย 34 19.การบริหารความเสี่ยง 36 20.งานพัฒนาคุณภาพการพยาบาล 43 21การบริหารทรัพยากรบุคคล 45 22.กฎระเบียบการปฏิบัติงาน การลา สวัสดิการ สิทธิและบทลงโทษ 78


ข้อมูลทั่วไปของโรงพยาบาลปทุมธานี โรงพยาบาลปทุมธานีเป็นโรงพยาบาลทั่วไปประจำจังหวัดปทุมธานี โดยเริ่มก่อตั้งขึ้น เมื่อปีพุทธศักราช 2496 มีพื้นที่ขนาด 25 ไร่ ปัจจุบันเป็นโรงพยาบาลขนาด 400 เตียง ระดับ S ให้บริการระดับตติยภูมิ กระทรวงสาธารณสุขกำหนดให้โรงพยาบาลปทุมธานี รับผิดชอบงานสาธารณสุข ในเครือข่าย รวมทั้งหมด 7 อำเภอ และรับผิดชอบสถานริการเครือข่ายบริการปฐมภูมิ 33 แห่ง โดยจัดระดับเป็นสถานบริการศูนย์สุขภาพชุมชน เขตเมือง (P1) 2 แห่ง และโรงพยาบาลส่งเสริม สุขภาพตำบลขนาดใหญ่ (P2) 13 แห่ง โรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบลขนาดกลาง (P3) 17 แห่ง ขอบเขต/ระดับการบริการ 1.ให้บริการตรวจรักษาโรคทั่วไปและภาวะฉุกเฉิน ในสาขาอายุรกรรมทั่วไป อายุรศาสตร์โรค ไต ศัลยกรรมทั่วไป ศัลยกรรมกระดูกและข้อ ศัลยกรรมระบบทางเดินปัสสาวะ ศัลยกรรมระบบ ประสาท กุมารเวชกรรม สูตินรีเวช โสต ศอ นาสิก จักษุ จิตวิทยา จิตเวช อาชีวเวชกรรม รังสีวินิจฉัย เวชศาสตร์ฟื้นฟู และทันตกรรม 2. ให้บริการสุขภาพทั้งด้านการส่งเสริม การรักษา การฟื้นฟูสภาพ และการป้องกันโรค แก่ ประชาชน ทั่วไปทั้งผู้ป่วนอก - ผู้ป่วยใน และอุบัติเหตุ 3. ให้บริการแพทย์ทางเลือก นวดแผนไทย การฝังเข็ม และอบสมุนไพร 4.เป็นแหล่งฝึกปฏิบัติงานแก่บุคลากรสาธารณสุขและแพทย์เพิ่มพูนทักษะนักศึกษาแพทย์ นักศึกษาพยาบาล วิสัยทัศน์โรงพยาบาล: โรงพยาบาลคุณภาพ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมความสุขบุคลากรและชุมชนมีส่วนร่วม พันธกิจโรงพยาบาล 1. บริการสุขภาพอย่างมีคุณภาพ 2. พัฒนาบุคลากรทุกด้าน และเป็นองค์กรแห่งการเรียนรู้ 3.ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพ 4.สร้างและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ เป้าประสงค์ : ประชาชนมีสุขภาพดี ค่านิยม (CORE VALUE) M : Mastery/Management by fact ฝึกฝนตนเองให้มีศักยภาพสูงสุด(ควบคุมตนเองให้ทำงาน คิดพูด อย่างมีสติ ใช้ กิริยาวาจาเหมาะสม มีความซื่อสัตย์ มีคุณธรรม จริยธรรม รักการเรียนรู้ ค้นหา ความรู้สม่ำเสมอ มีวินัย ตรงต่อเวลารับผิดชอบ) O : Originality สร้างสรรค์นวัตกรรม สิ่งใหม่ๆ ที่เป็นประโยชน์ต่อระบบสุขภาพ P : People centered approach ยึดประชาชนเป็นที่ตั้ง เป็นศูนย์กลางในการทำงาน T : Teamwork ทำงานเป็นทีม H : Humility /Humanized Health Care มีความอ่อนน้อมถ่อมตน การเคารพผู้อื่น เห็นแก่ประโยชน์ส่วนรวม รู้แพ้รู้ชนะ เปิดรับฟังความเห็นต่าง จัดการความขัดแย้งด้วย วิธีสร้างสรรค์ ช่วยผู้อื่นแก้ปัญหาในยามคับขัน


ประเด็นยุทธศาสตร์โรงพยาบาล 1. พัฒนาระบบบริการเครือข่าย การเข้าถึงบริการ สร้างความเข้มแข็งให้ชุมชน และ การมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน ( P&P Excellence) 2. พัฒนาคุณภาพบริการอย่างต่อเนื่อง (Service Excellence) 3. พัฒนาระบบบริหารจัดการ ตามหลักธรรมาภิบาล (Governance Excellence) 4. พัฒนาบุคลากรด้านคุณภาพและคุณธรรม (People Excellence) เข็มมุ่ง ปี2564-2568 1. พัฒนาSMART HOSPITAL 2. ลดความแออัด ของผู้ป่วยนอก-ใน และER คณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล 1.นพ.วีรพล กิตติพิบูลย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลปทุมธานี ประธานกรรมการ 2.นพ.ยรรยง เสถียรภาพงษ์ รองผู้อำนวยการด้านนโยบายโรงพยาบาลปทุมธานี กรรมการ 3.นพ.นินนาท มุขดี รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ กรรมการ 4.นพ.เกรียงไกร ก้ำไพบูลย์ รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านอำนวยการ/ กรรมการ รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านกิจกรรมพิเศษ 5.นางพรทิพย์ คนึงบุตร รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กรรมการ 6.นพ.ปรีดา ตั้งจิตเมธี รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านบริการปฐมภูมิ กรรมการ 7.ทพญ.สุพินดา สาทากิจ รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านพัฒนาระบบบริการ กรรมการ และสนับสนุนบริการสุขภาพ 8.พญ.ลักขณา สุวรรณฤกษ์ รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านบริการทุติยภูมิและตติยภูมิ กรรมการ 9.นพ.ธัชณรงค์ ธัญญศรี รองผู้อำนวยการด้านวัสดุและครุภัณฑ์ทางการแพทย์ กรรมการ 10.นพ.บุญักษ์ วิริยะโชค รองผู้อำนวยการด้านการเงินการคลังและจัดเก็บรายได้/ กรรมการ หัวหน้ากลุ่มงานสูติ-นรีเวชกรรม/ ประธานองค์กรแพทย์ 11.นพ.ธนกฤษณ์ คงขำ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านสนับสนุนบริการของโรงพยาบาล กรรมการ 12.พญ.ลายเส้น บางพาน ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านประกันสุขภาพ กรรมการ 13.พญ.พิมสิริ พึ่งสุข ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านยุทธศาสตร์และแผนงานโรงพยาบาล/ กรรมการ หัวหน้ากลุ่มงานยุทธศาสตร์และแผนงานโครงการ 14.พญ.ปายณ์ ปรมกุล ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านสารสนเทศทางการแพทย์/ กรรมการ หัวหน้ากลุ่มงานสารสนเทศทางการแพทย์ 15.นางวรนุช ทิพย์ถิระพงศ์ ผู้ช่วยผู้อำนวยการด้านกิจกรรมพิเศษ/ กรรมการ หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักศัลยกรรม 16.ทพ.ดนุยศ ศรีศัมภุวงศ์ หัวหน้างานทันตกรรม กรรมการ 17.นพ.ปรัชญา สิตะโปสะ หัวหน้างานอายุรกรรม กรรมการ 18.พญ.พรพิมล ผลพิบูลย์ลาภ หัวหน้ากลุ่มงานวิสัญญีวิทยา กรรมการ 19.พญ.นิภาพร ธรรมศรัญยู หัวหน้ากลุ่มงานผู้ป่วยนอก กรรมการ 20.พญ.ธัญญพัทธ สุนทรานุรักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานเวชกรรมสังคม กรรมการ 21.น.ส.สมพร วัฒนวิศิษฎ์สิริ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลชุมชน กรรมการ 22.พญ.อรลักษณ์ เกตุพันธุ์ หัวหน้ากลุ่มงานรังสีวิทยา กรรมการ 23.พญ.จิริสุดา ธานีรัตน์ หัวหน้ากลุ่มงานอาชีวเวชกรรม กรรมการ 24.พญ.อรรถรส ชุมศรี หัวหน้ากลุ่มงานการแพทย์แผนไทยและการแพทย์ทางเลือก/ กรรมการ


หัวหน้ากลุ่มงานเวชศาสตร์ฟื้นฟู 25.นพ.ธนบัตร เชิญรุ่งโรจน์ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรม กรรมการ 26.นพ.ชัยรัตน์ วงศ์วรพิทักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ กรรมการ 27.พญ.จตุพร ตังเจริญ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาคุณภาพบริการและมาตรฐาน/กรรมการ หัวหน้ากลุ่มงานเวชศาสตร์ฉุกเฉิน/หัวหน้ากลุ่มงานนิติเวช 28.นพ.อรรถพงษ์ ฉัตรดอน หัวหน้ากลุ่มงานจิตเวชและยาเสพติด กรรมการ 29.พญ.ปิยวรรณ คงตั้งจิตต์ หัวหน้ากลุ่มงานโสต ศอ นาสิก กรรมการ 30.นพ.ปรัชญ์ เฉลยโภชน์ หัวหน้ากลุ่มงานกุมารเวชกรรม กรรมการ 31.พญ.ปาลิดา เครือเช้า หัวหน้ากลุ่มงานจักษุวิทยา กรรมการ 32.ภก.ปัญญา อุ่ยประเสริฐ หัวหน้ากลุ่มงานเภสัชกรรม กรรมการ 33.นางดวงพร ศาลติกุลนุการ หัวหน้ากลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรบุคคล กรรมการ 34.นางวีนัส วัฒนธำรง หัวหน้ากลุ่มงานสุขศึกษา กรรมการ 35.นางวรภัทร แสงแก้ว หัวหน้ากลุ่มงานสังคมสงเคราะห์ กรรมการ 36.นางละออง ศิริชัยพัฒนา หัวหน้ากลุ่มงานโภชนศาสตร์ กรรมการ 37.น.ส.ภัทรภร รัตนวงศ์เจริญ หัวหน้ากลุ่มงานเทคนิคการแพทย์และพยาธิวิทยาคลินิก กรรมการ 38.นางทิพพา โตดำรงกุญช์ หัวหน้ากลุ่มงานประกันสุขภาพ กรรมการ 39.นางศิริวรรณ เจือจำ หัวหน้ากลุ่มงานทรัพยากรบุคคล กรรมการ 40.น.ส.วาสนา สังฆโสภณ หัวหน้ากลุ่มงานการเงิน กรรมการ 41.นางสาวบุญธิดา คอยผล หัวหน้ากลุ่มงานบัญชี กรรมการ 42.นายกมล จิตชุ่ม หัวหน้ากลุ่มงานโครงสร้างพื้นฐานและวิศวกรรมทางการแทพย์ กรรมการ 43.น.ส.อนัญญา รูปคม หัวหน้ากลุ่มงานพัสดุ กรรมการ 44.นางอรุณ กองสัมฤทธิ์ เกศวารักษ์ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอุบัติเหตุและฉุกเฉินกรรมการ 45.นางสาวศรีวิลัย มากเปี่ยม หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลห้องผ่าตัด กรรมการ 46.นางวัฒนา ภูมี หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลวิสัญญี กรรมการ 47.นางจำรัส รงศ์จำเริญ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยกุมารเวชกรรม กรรมการ 48.นางไพรัช พิณพาทย์ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยกุมารเวชกรรม กรรมการ 49.นางศิริวรรณ โชคชัยสิริ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยหนัก กรรมการ 50.น.ส.ปราณี พวงดี หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยศัลยกรรม กรรมการ 51.นางอุษา ชะโนภาษ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอายุรกรรม กรรมการ 52.น.ส.ปาริชาต พงษ์พันธุ์สิงห์ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยออร์โธปิดิกส์ กรรมการ 53.น.ส.กมลพร ถนอมเงิน หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยสูติ-นรีเวช กรรมการ 54.น.ส.ณัฐสุดา อั้งโสภา หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลด้านการควบคุมและ กรรมการ ป้องกันการติดเชื้อ 55.นางนิตยา สินธุ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลจิตเวช กรรมการ 56.นายวีระ เกตุเคน หัวหน้ากลุ่มงานบริหารทั่วไป (เลขานุการ) 57.น.ส.เพชรสิริรวี หัมพานนท์ หัวหน้างานธุรการ (ผู้ช่วยเลขานุการ)


ตัวชี้วัดโรงพยาบาลปทุมธานี ลำดับ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ 1 : ( P&P Excellence) ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ประชาชนได้รับการส่งเสริมป้องกันและดูแลสุขภาพตัวเองได้ 1 ร้อยละการตรวจติดตามยืนยันวินิจฉัยกลุ่มสงสัยป่วยโรคเบาหวาน(KPIใหม่) 7/12/2565 ≥70% 2 ร้อยละของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงรายใหม่จากกลุ่มสงสัยป่วยที่ได้รับการตรวจ ติดตาม ≥93% 3 ร้อยละของผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับการตรวจภาวะแทรกซ้อนทางตา ≥60% 4 ร้อยละของผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับการตรวจภาวะแทรกซ้อนทางเท้า ≥60% 5 ร้อยละของผู้ป่วย NCD ได้รับการตรวจค้นหาและคัดกรองโรคไตเรื้อรัง ≥80% 6 สัดส่วนการตายของมารดาจากการตั้งครรภ์ และ/ หรือการคลอด (ต่อแสนทารก เกิดมีชีพ) <15:100,000 7 ร้อยละของผู้ป่วย Ischemic stroke ที่มารพ.ภายใน 4.5 ชม. >15 สิ่งแวดล้อมเอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี 8. โรงพยาบาลพัฒนาอนามัยสิ่งแวดล้อมได้ตามเกณฑ์ GREEN&CLEAN plus ผ่านเกณฑ์ระดับPlus ยุทธศาสตร์ที่2 (Service Excellence) บริการเป็นเลิศ ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ 9 ร้อยละของผู้ป่วยฉุกเฉินระดับวิกฤตและฉุกเฉินเร่งด่วนที่มารับบริการที่ห้อง ฉุกเฉินโดนผ่านศูนย์สั่งการ 1669 >20% 10 ร้อยละผู้ป่วย STEMI ได้รับการส่งต่อทำ PCI ถึง รพ.รับส่งต่อ ภายใน 90 นาที 100% 11 ร้อยละการบรรเทาอาการปวดและ/หรือเหนื่อยด้วย opioid ได้เหมาะสมตาม ระดับอาการของผู้ป่วยในกลุ่มผู้ป่วยประคับประคอง > 40% >40% ผู้รับบริการได้รับบริการมีมาตรฐานปลอดภัยรวดเร็ว 12 อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วย stroke <15 13 อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ <15 14 อัตราการเสียชีวิตหลังจากเข้ารับการรักษาของผู้ป่วยโรคปอดบวม <15 15 อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยใน โรคติดเชื้อในกระแสโลหิตและ Septic Shock <30 16 ภาวะขาดออกซิเจนทารกแรกเกิด ≤30:1000 17 ร้อยละของผู้ป่วย CKD ที่มีอัตราการลดลงของ eGFR<5ml/min/1.73m2/yr >66% 18 อัตราการติดเชื้อปอดอักเสบในโรงพยาบาลที่ไม่ได้เกิดจากการใส่เครื่องช่วย หายใจ (HAP) <0.5:1000 19 ระดับของการพัฒนาเป็น RDU hospital ผ่านเกณฑ์RDUขั้น2 พัฒนาระบบบริหารจัดการเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพและส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม 20 ร้อยละผู้ป่วยโรคเรื้อรังรับยาที่ รพ.สต.(ปรับค่าเป้าหมายเพิ่มเป็น³50%) ≥50% 21 ร้อยละของผู้ป่วยเบาหวานที่ควบคุมระดับน้ำตาลในเลือดได้ดี ≥40% 22 ร้อยละของผู้ป่วยความดันโลหิตสูงที่ควบคุมความดันโลหิตได้ดี ≥50%


ลำดับ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย 23 ร้อยละของผู้สูงอายุที่มีภาวะพึ่งพิงได้รับการดูแลตาม Care plan ≥80% 24 ร้อยละของเด็กอายุ 0-5 ปีทั้งหมดตามช่วงอายุที่กำหนด มีพัฒนาการสมวัย ≥85% 25 ร้อยละของผู้ป่วยที่มีค่า AdjRW ไม่เกิน 0.5 เป้าหมาย ≤30% 26 ร้อยละผู้ป่วย กลุ่ม intermediate care ได้รับการดูแลต่อเนื่อง ≥75% ผู้รับบริการพึงพอใจ 27 ร้อยละความพึงพอใจผู้รับบริการ ผู้ป่วยนอก ≥ 80 % ≥80% 28 ร้อยละความพึงพอใจผู้รับบริการ ผู้ป่วยใน ≥ 80 % ≥80% เป็นรพ.ศูนย์และสถาบันฝึกอบรม 29 รพ.ผ่านเกณฑ์การประเมินเป็น รพ.ศูนย์ 100 30 เป็นสถาบันฝึกอบรม หลังปริญญาอย่างน้อย1 สาขาภายในปี2566 ≥1 31 เป็นสถาบันฝึกอบรมร่วม ระดับปริญญา อย่างน้อย 5 สาขาภายในปี 2566 ≥5 ยุทธศาสตร์ที่3(Governance Excellence) บริหารเป็นเลิศด้วยธรรมาภิบาล การบริหารจัดการทรัพยากรที่ดี โดยยึดหลักธรรมาภิบาล 32 โรงพยาบาลผ่านเกณฑ์การประเมิน ITA เกณฑ์ 100% 33 ความพร้อมใช้ของเครื่องมือแพทย์อุปกรณ์ และเครื่องมือช่วยชีวิต 100% พัฒนาระบบสารสนเทศและการสื่อสารประสานงานให้มีประสิทธิภาพ 34 ระดับความสำเร็จการดำเนินงาน Smart Hospital ≥75% 35 อัตราความพึงพอใจของผู้ใช้บริการระบบสารสนเทศ ≥80% ระบบบริหารความเสี่ยงมีคุณภาพ 36 ประสิทธิภาพระบบบริหารความเสี่ยง ≥80% 37 จำนวนครั้งของการรายงานความเสี่ยงต่อความเสี่ยงทั้งหมดที่เกิดขึ้นเพิ่มขึ้น >5 เรื่อง ยุทธศาสตร์ที่4 (People Excellence) บุคลากรเป็นเลิศ องค์กรแห่งความสุขคู่คุณธรรม 38 ร้อยละความสุขของบุคลากรตามตัวชี้วัด HAPPINOMETER มากกว่า 70 >70% 39 อัตราคงอยู่ของบุคลากร รพ.ปทุมธานี >85% 40 ร้อยละผลการตรวจสุขภาพประจำปีของบุคลากรดีขึ้นเทียบกับปีที่ผ่านมา ในกลุ่ม อายุ <35ปี <35-50% 41 ร้อยละผลการตรวจสุขภาพประจำปีของบุคลากรดีขึ้นเทียบกับปีที่ผ่านมา ในกลุ่ม อายุ ≥35ปี >35-40% องค์กรแห่งการเรียนรู้ 42 จำนวนผลงานวิชาการ งานวิจัย R2R ของบุคลากร รพ. ปทุมธานี ได้รับการ นำเสนอหรือเผยแพร่ 20 เรื่อง/ปี บุคลากรมีสมรรถนะเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน 43 ร้อยละบุคลากรได้รับการพัฒนาตามเกณฑ์ที่กำหนด >80 44 ร้อยละการส่งต่อผู้ป่วยด้วยเหตุผลเกินศักยภาพ <40


อัตรากำลังโรงพยาบาล(ระบุตามกลุ่มวิชาชีพ) การจำแนกตามระบบข้อมูลสารสนเทศทางภูมิศาสตร์ (GIS) ข้อมูล ณ เดือนมกราคม 2566 มีดังนี้ บุคลากร เกณฑ์GIS มีจริง ขาด/เกิน ลาศึกษาต่อ 1. แพทย์ 91 110 +19 4 2. ทันตแพทย์ 47 16 -31 - 3. เภสัชกร 46 33 -13 - 4. พยาบาลวิชาชีพ 528 386 -141 5. พยาบาลเทคนิค 1 6. นักเทคนิคการแพทย์ 24 15 -9 7. เจ้าหน้าที่อื่น ๆ 94 * ลูกจ้างประจำ 27 * ลูกจ้างชั่วคราว รายเดือน 93 รายวัน 114 รายคาบ 4 พกส.383 603 * พนักงานราชการ 36 รวม 1,321 -175 4


จำนวนแพทย์แยกตามสาขา ลำดับ สาขา จำนวน (คน) 1 ผู้บริหาร 1 2 สูติ-นรีเวชกรรม 8 3 ศัลยกรรมทั่วไป 6 4 ศัลยกรรมออร์โธปิดิกส์ 8 5 ศัลยศาสตร์ยูโรวิทยา 1 6 ศัลยกรรมประสาท 3 7 อายุรศาสตร์ทั่วไป 7 8 อายุรศาสตร์โรคไต 2 9 จิต วิทยา 1 10 กุมารเวชศาสตร์ 7 11 รังสีวิทยา 2 12 รังสีวินิจฉัย 3 13 จักษุวิทยา 3 14 โสต ศอ นาสิก ตา 4 15 จิตเวชศาสตร์ 4 16 วิสัญญีวิทยา 7 17 เวชศาสตร์ฟื้นฟู 2 18 เวชศาสตร์ครอบครัว 13 19 เวชศาสตร์ป้องกัน 1 20 แพทย์ศาสตร์ทั่วไป 2 21 อาชีวเวชศาสตร์ 2 22 กุมารศัลยศาสตร์ 1 23 อนุสาขาศัลยศาสตร์กระดูกสันหลัง 1 24 ศัลยศาสตร์ตกแต่ง 2 25 ศัลยศาสตร์หลอดเลือด 1 26 อายุรกรศาสตร์โรคเลือด 1 27 ประสาทวิทยา 2 28 อนุสาขาอายุรศาสตร์ต่อมไร้ท่อและเมตาบอลิซึ่ม 1 29 จิตเวชสาสตร์เด็กและวัยรุ่น 1 30 กุมารเวชสาสตร์โรคระบบการหายใจ 1 31 อนุสาขากุมารเวชศาสตร์พัฒนาการและพฤติกรรม 1 32 อนุสาขากุมารเวชศาสตร์ทารกแรกเกิดและปริกำเหนิด 1 33 อนุสาขากุมารเวชศาสตร์ประสาทวิทยา 1 34 อนุสาขาจักษุวิทยาโรคศัลยสาสตร์ตกแต่งและเสริมสร้าง 1 35 อนุสาขาวิสัญญีวิทยาสำหรับผู้ป่วยโรคระบบประสาท 1 36 สาขาเวชศาสตร์ฉุกเฉิน 6 รวม 111


โครงสร้างการพัฒนาคุณภาพงานบริการพยาบาล


คณะกรรมการกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประกอบด้วย 1.คณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. นางพรทิพย์ คนึงบุตร หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประธาน 2. นางไพรัช พิณพาทย์ ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กรรมการ และหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลตรวจรักษาพิเศษ 3. นางศิริวรรณ โชคชัยสิริ ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กรรมการ และหัวหน้าหอผู้ป่วยศัลยกรรมชาย 4. นางวัฒนา ภูมี ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กรรมการ และหัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลวิสัญญี 5. นางสาวิตรี สุวณิชชากุล รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (บริหาร) กรรมการ และประธานคณะกรรมการการบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM) และหัวหน้าหอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิง และรักษาการหัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษฉัตรหลวง 2 6. นางสาวปราณี พวงดี รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (บริการ) กรรมการ และประธานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพ บริการพยาบาล สาขาศัลยกรรมและหัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 2/1 7. นางวรนุช ทิพย์ถิระพงศ์ รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (วิชาการ) กรรมการ และหัวหน้าหอผู้ป่วยหนักศัลยกรรม 8. นางวรินทร์ธร ร่มไทร รองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (ด้านความเสี่ยง)กรรมการ และหัวหน้าหอผู้ป่วยหนักระบบทางเดินหายใจ 9. นางอุษา ชะโนภาษ รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (ด้านจริยธรรม กรรมการ และจรรยาบรรณวิชาชีพ) และประธานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาล สาขาอายุรกรรม และหัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 2/3 10. นางนัฎฐิณี สิทธิบุญ หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 4/5 กรรมการ 11. นายชาญชัย ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม กรรมการ 12. น.ส.กมลพร ถนอมเงิน หัวหน้าหอผู้ป่วยสูติ-นรีเวช กรรมการ 13. นางอรุณ กองสัมฤทธิ์ เกศวารักษ์ หัวหน้างานอุบัติเหตุฉุกเฉิน กรรมการ 14. น.ส.ศรีวิลัย มากเปี่ยม หัวหน้างานห้องผ่าตัด กรรมการ 15. นางสาวอรทัย ศิลป์ประกอบ หัวหน้าหอผู้ป่วยวิกฤตทารกแรกเกิด กรรมการ 16. นางจันทร์เพ็ญ ดีชัย หัวหน้าหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย กรรมการ 17. นางสาวณัฐสุดา อั้งโสภา หัวหน้างานควบคุมการป้องกันการติดเชื้อ กรรมการ 18. นางสาวปาริชาต พงษ์พันธุ์สิงห์ หัวหน้าหอผู้ป่วยออร์โธปิดิกส์ กรรมการ 19. นางหทัยพัชร์ เมธาโรจนภัทร์ รักษาการหอผู้ป่วย โสต ศอนาสิก จักษุ กรรมการ 20. นางจันทนา พึ่งตน หัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 2 กรรมการ และ รก.หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 3/8 21. นางกิตติกา ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง กรรมการ 22. น.ส.วาสนา พันบุระ หัวหน้าจ่ายกลาง กรรมการ 23. นางนิตยา ศิริพานิช รักษาการหัวหอผู้ป่วยพิเศษ ¼ กรรมการ และหอผู้ป่วยพิเศษ 1/5


24. นางจำรัส รงศ์จำเริญ ประธานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลกรรมการ/เลขนุการ สาขาสาขาสูติ – กุมารเวชกรรม และหัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ พ.3/7 25. นางศรีสกุล วัฒนะศรีหัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 1 กรรมการ/ผู้ช่วยเลขานุการ 26. นางอลิซรา รักษากุล หัวหน้าหอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง กรรมการ/ผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ ๑. รับนโยบายจากผู้อำนวยการ / ผู้บริหารกลุ่มกาพยาบาล นำไปสื่อสารในหน่วยงานและ ทำ แผนปฏิบัติ และพัฒนางานบริการในหน่วยงานที่รับผิดชอบให้บรรลุตามเป้าหมาย พันธกิจ วิสัยทัศน์ ของกลุ่มการพยาบาลและโรงพยาบาล 2. เป็นตัวแทนหัวหน้าพยาบาลปฏิบัติงานด้านที่ได้รับมอบหมายในการประสานและพัฒนา ระบบงานการบริการ 3. บริหารงานในความรับผิดชอบต้านบริหาร บริการ วิชาการ ภายในหน่วยงานตามบทบาทหน้า มอบหมาย ๔. ควบคุมมาตรฐานวิชาชีพและการบริการของหน่วยงานให้ได้มาตรฐาน ๕. วางแผนงบประมาณ ระจำปี ควบคุมการใช้ การเบิกจ่าย ของหน่วยงานให้เกิดประโยชน์สูงสุด 6. ควบคุมกำกับและพัฒนาระบบการบริหารงาน บริหารวัสดุ ของหน่วยงาน ๗. ประสานงาน สนับสนุน และพัฒนาคุณภาพการบริการในหน่วยงานที่รับผิดชอบ ร่วมกับ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในโซน ระหว่างโซนและในหน่วยงานต่าง ๆ ของโรงพยาบาล 1.คณะกรรมการทีมนำทางการพยาบาล 1. นางพรทิพย์ คนึงบุตร หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประธาน 2. นางไพรัช พิณพาทย์ ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กรรมการ 3. นางศิริวรรณ โชคชัยสิริ ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กรรมการ 4. นางวัฒนา ภูมี ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล กรรมการ 5. นางสาวิตรี สุวณิชชากุล รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (บริหาร) กรรมการ และประธานคณะกรรมการการบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM) 6. นางสาวปราณี พวงดี รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (บริการ) กรรมการ และประธานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพ บริการพยาบาล สาขาศัลยกรรม 7. นางวรนุช ทิพย์ถิระพงศ์ รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (วิชาการ) กรรมการ และประธานคณะกรรมการพัฒนาบุคลากร 10. นางวรินทร์ธร ร่มไทร รองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (ด้านความเสี่ยง)กรรมการ คุณภาพบริการพยาบาลสาขาอายุรกรรม 11. นางอุษา ชะโนภาษ รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (ด้านจริยธรรม กรรมการ และจรรยาบรรณวิชาชีพ) และ ประธานคณะกรรมการพัฒนา 12. นางจันทนา พึ่งตน ประธานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพการพยาบาล กรรมการ 13. นายชาญชัย ม่วงสัมฤทธิ์ ประธานคณะกรรมการพัฒนาบุคลากร กรรมการ 14. นายเดชา ใจระห้อย ประธานคณะกรรมการสารสนเทศ กรรมการ 15. น.ส.กมลพร ถนอมเงิน ประธานคณะกรรมการบริหารความเสี่ยง กรรมการ 16. น.ส.ปาริชาต พงษ์พันธุ์สิงห์ ประธานคณะกรรมการการบริหารทรัพยากรมนุษย์ กรรมการ 17. นางนัฎฐิณี สิทธิบุญ ประธานคณะกรรมการกิจกรรมพิเศษ กรรมการ


และประชาสัมพันธ์ 18. น.ส.ณัฐสุดา อั้งโสภา ประธานคณะกรรมการด้านการควบคุม กรรมการ และป้องกันการติดเชื้อ 19. นางจำรัส รงศ์จำเริญ ประธานคณะกรรมการจริยธรรม กรรมการและเลขานุการ และจรรยาบรรณวิชาชีพพยาบาล และประธานคณะกรรมการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาล สาขาสาขาสูติ – กุมารเวชกรรม 20. นางศรีสกุล วัฒนะศรี หัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 1 กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ 1. จัดทำโครงสร้างสายบังคับบัญชา กำหนดบทบาทหน้าที่ และคุณสมบัติเฉพาะของบุคลากร ทางการพยาบาลในแต่ละหน่วยงานทุกระดับ 2. ทำแผนกลยุทธ์ แผนปฏิบัติการ ตัวชี้วัด และการประเมินผลงานบริการพยาบาล 3. จัดทำระบบการพัฒนาคุณภาพงานบริการพยาบาล การนิเทศ ควบคุมกำกับ และสนับสนุน การปฏิบัติงานของบุคลากรทางการพยาบาลทุกระดับให้เป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพอย่าง ต่อเนื่อง 4. สรรหา และพัฒนาบุคลากรทางการพยาบาล รวมทั้ง กับการคงอยู่ในวิชาชีพตามกฎหมาย 5. พัฒนาระบบข้อมูลข่าวสารและสารสนเทศทางการพยาบาล 1. คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพการพยาบาล 1. นางศิริวรรณ โชคชัยสิริ ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ที่ปรึกษา 2. นางสาวปราณี พวงดี รองกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (บริการ) ที่ปรึกษา 3. นางจันทนา พึ่งตน หัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 2 ประธาน และรักษาการหัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 3/8 4. นางจํารัส รงศ์จำเริญ หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 3/7 รองประธาน 5. น.ส.อรทัย ศิลป์ประกอบ หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิด รองประธาน 6. หัวหน้าหอผู้ป่วยทุกหน่วยงาน กรรมการ 7. นางอุษา ชะโนภาษ หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 2/3 กรรมการ 8. นางจันทร์เพ็ญ ดีชัย หัวหน้าหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย กรรมการ 9. นางบังอรรัตน์ บุญคง พยาบาลวิชาชีพชํานาญการ กรรมการ 10. นางชญาสุภา ปิ่นงาม พยาบาลวิชาชีพชํานาญการ กรรมการ 11. น.ส.กาญจนารัตน์ คําเสียง พยาบาลวิชาชีพชํานาญการ กรรมการ 12. น.ส.วัทธิกร มั่นจิตร์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ กรรมการ 13. นางนิตยา ศิริพานิช รักษาการหัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 1/4 กรรมการและเลขานุการ และหอผู้ป่วยพิเศษ 1/5 14. นางฐิติรัตน์ น้อยเกิด พยาบาลวิชาชีพชํานาญการ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 15. นางวารี กะการดี พยาบาลวิชาชีพชํานาญการ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ 1. กำหนดพันธกิจ เป้าหมายของการดําเนินงานคุณภาพบริการพยาบาล 2. กำหนดแผนการดําเนินงานระยะสั้นและระยะยาวของการพัฒนาคุณภาพการพยาบาล 3. นิเทศ ติดตาม ควบคุมกำกับการบริการพยาบาลให้มีคุณภาพ ตามมาตรฐานวิชาชีพ


4.ทบทวนกิจกรรมการพยาบาลและพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลประกันคุณภาพการบริการ พยาบาล 5.การรวบรวมข้อมูล การวิเคราะห์ข้อมูลด้านคุณภาพบริการพยาบาลติดตามประเมินผลและสื่อสารให้กับ หน่วยงานที่รับผิดชอบ 6. สร้างความตื่นตัวทั่วทั้งองค์กรเกี่ยวกับบริการพยาบาล และสร้างวัฒนธรรมการพัฒนาคุณภาพ บริการ 2. คณะกรรมการพัฒนาบุคลากร 1. นางวรนุช ทิพย์ถิระพงศ์ รองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (ด้านวิชาการ) ที่ปรึกษา 2. นายชาญชัย ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม ประธาน 3. น.ส.ปาริชาต พงษ์พันธุ์สิงห์หัวหน้าหอผู้ป่วยออร์โธปิดิกส์ รองประธาน 4. นางจำรัส รงศ์จำเริญ หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 3/7 กรรมการ 5. นางกิตติกา ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง กรรมการ 6. นางฐิติรัตน์ น้อยเกิด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 7. นางนิตยา ศิริพานิช พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 8. นางบังอรรัตน์ บุญคง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 9. นายเดชา ใจระห้อย พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 10. น.ส.ศศิธร สายวงศ์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 11. น.ส.กันทิมา ขาวเหลือง พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 12. นางวารี กะการดี พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 13. นางศรีสกุล วัฒนะศรี หัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม กรรมการและเลขานุกา 14. นางอลิซรา รักษากุล หัวหน้าหอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ ๑. วิเคราะห์ ประเมินปัญหา ความต้องการพัฒนาบุคลากรในแต่ละสาขาด้านการพยาบาล พร้อมจัดทำ แผนพัฒนาบุคลากร ๒. ประเมินสมรรถนะและพัฒนาบุคลากรของกลุ่มภารกิจต้านการพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรฐาน อย่างต่อเนื่อง ๓. จัดกิจกรรมวิชาการ และกิจกรรมเพิ่มพูนทักษะความรู้ ตลอดจนการนำเสนอผลงานวิชาการ ให้กับบุคลากรของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล อย่างสม่ำเสมอ 4. พัฒนาบุคลากรของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลให้มีทักษะ ความรู้ ความสามารถด้านวิชาการ และมีบุคลิกภาพ พฤติกรรมการบริการที่ดี 5. สนับสนุนหาแหล่งฝึกอบรมวิชาการภายนอกที่ตอบสนองต่อความต้องการของหน่วยงานและส่ง บุคลากรเข้ารับการอบรมเพื่อพัฒนาศักยภาพในการให้บริการ ๖.ประสานสถาบันการศึกษาต่างๆในการจัดฝึกอบรม และดำเนินงานในการฝึกภาคปฏิบัติงานของ นักเรียนและนักศึกษาจากสถาบันการศึกษาต่างๆให้เรียบร้อยตรงตามวัตถุประสงค์ 7. ดำเนินการฝึก พัฒนาความรู้ด้านวิชาการและพัฒนาการทำงานให้กับบุคลากรใหม่ของกลุ่มภารกิจ ด้านการพยาบาลทุกระดับ ๘.หน้าที่อื่นๆที่เกี่ยวข้องกับงานพัฒนาบุคลากรตามที่ได้รับมอบหมาย 3. คณะกรรมการการบริหารทรัพยากรมนุษย์ (HRM) 1. นางสาวิตรี สุวณิชชากุลรองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล (ด้านบริหาร)ประธานที่ปรึกษา


2. น.ส.ปาริชาต พงษ์พันธุ์สิงห์ หัวหน้าหอผู้ป่วยออร์โธปิดิกส์ ประธาน 3. นางวรนุช ทิพย์ถิระพงศ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักศัลยกรรม รองประธาน 4. นายชาญชัย ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม กรรมการ 5. น.ส.ปราณี พวงดี หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 2/1 กรรมการ 6. นางจำรัส รงศ์จำเริญ หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 3/7 กรรมการ 7. นางวรินทร์ธร ร่มไทร หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักระบบทางเดินหายใจ กรรมการ 8. น.ส.ศรีวิลัย มากเปี่ยม หัวหน้างานห้องผ่าตัด กรรมการ 9. น.ส.กมลพร ถนอมเงิน หัวหน้าหอผู้ป่วยสูติ-นรีเวช กรรมการ 10. นางจันทนา พึ่งตน หัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 2 กรรมการและเลขานุการ และรักษาการหัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 3/8 11. นางศรีสกุล วัฒนะศรี หัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม1 กรรมการและผู้ช่วยเลขาการ หน้าที่ 1. วิเคราะห์อัตรากำลังตามเกณฑ์ของสภาพยาบาลเพื่อนำเสนอในคณะกรรมการบริหารกลุ่มการ พยาบาลและคณะกรรมนโยบายและแผนเพื่อเป็นแนวทางในการสรรหาและ จัดสรรอัตรากำลังทางการ พยาบาลให้เพียงพอเหมาะสมต่อคุณภาพบริการ 2. การวางแผนทรัพยากรทางการพยาบาล (human resource planning) และจัดทำแผนอัตรากำลังระยะ สั้น ระยะยาว 3. ออกสรรหาบุคลาทางการพยาบาลจากหน่วยงานภาครัฐและเอกชนในแต่ละปีสอดคล้องกับกล ยุทธ์และแผนพัฒนาโรงพยาบาล (recruitment and selection process) 4. ติดตามประเมินผลความเป็นอยู่ของพยาบาลจบใหม่เพื่อรักษาบุคลากรให้คงอยู่กับองค์กร 5. สรุปประเด็นปัญหา อุปสรรค การแก้ไขปัญหาและวางแนวทางการแก้ไข 6. เสนอคณะกรรมการบริหารในองค์กรพยาบาล และโรงพยาบาลเพื่อรับทราบร่วมกัน 4. คณะกรรมการบริหารความเสี่ยง 1. นางวรินทร์ธร ร่มไทร รองกลุ่มภารกิจด้านบริหารความเสี่ยง ประธานที่ปรึกษา 2. น.ส.กมลพร ถนอมเงิน หัวหน้าหอผู้ป่วยสูติ-นรีเวช ประธาน 3. หัวหน้าหอผู้ป่วย / หัวหน้างาน กรรมการ 4. นางนิตยา ศิริพานิช รักษาการหัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 1/4 กรรมการและเลขานุการ และหอผู้ป่วยพิเศษ 1/5 5. นางนัฎฐิณี สิทธิบุญ หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 4/5 กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 6. นางศรีสกุล วัฒนะศรี หัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 1 กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ 7. นางฐิติรัตน์ น้อยเกิด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ 1. กำหนดแผนการดำเนินงานระยะสั้นและระยะยาวของการบริหารความเสี่ยงกลุ่มการพยาบาล 2. จัดระบบบริหารความเสี่ยงกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลในภาพรวมให้สอดคล้องกับระบบ บริหารความเสี่ยงและตัวชี้วัดบริหารความเสี่ยงของโรงพยาบาลปทุมธานี 3. จัดประชุมสร้างความเข้าใจด้านการบริหารความเสี่ยงให้กับเจ้าหน้าที่ทุกระดับของกลุ่มการ พยาบาล


4. นิเทศ ติดตาม ควบคุมกำกับมาตรฐานด้านความเสี่ยง และพัฒนาคุณภาพเพื่อป้องกันความ เสี่ยงไม่ให้เกิดซ้ำรวมทั้งคุณภาพการรายงานความเสี่ยงแต่ละหน่วยงานของกลุ่มภารกิจด้าน การพยาบาล 5. จัดทำฐานข้อมูลความเสี่ยงต่างๆ ที่เกี่ยวข้องและส่วนที่ดำเนินการ 6. รวบรวม วิเคราะห์ ทบทวน อุบัติการณ์ เพื่อหาแนวทางปรับปรุงและวางมาตรการป้องกันความเสี่ยงใน หน่วยงาน 7. เชื่อมโยงความเสี่ยงกับทีม HRD และ QA เพื่อพัฒนาบุคลากรและพัฒนาคุณภาพบริการ 8. ติดตามประเมินผลความคืบหน้าการปฏิบัติและสรุป ประเด็นปัญหา อุปสรรค การแก้ไขปัญหา และวางแนวทางการแก้ไขรายงานเสนอคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 7. คณะกรรมการสารสนเทศ 1. นางวัฒนา ภูมี ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประธานที่ปรึกษา 2. นายเดชา ใจระห้อย พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ประธาน 3. น.ส.ปราณี พวงดี หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 2/1 กรรมการ 4. นายชาญชัย ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม กรรมการ 5. น.ส.ปาริชาต พงษ์พันธุ์สิงห์ หัวหน้าหอผู้ป่วยออร์โธปิดิกส์ กรรมการ 6. นางจันทร์เพ็ญ ดีชัย หัวหน้าหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย กรรมการ 7. นางฐิติรัตน์ น้อยเกิด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 8. นางสาวมาลี โกษะ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการและเลขานุการ 9. นางอลิซรา รักษากุล หัวหน้าหอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง กรรมการและเลขานุการ หน้าที่ 1. ออกแบบฟอร์มการเก็บข้อมูลต่างๆ 2. เก็บรวมรวบสถิติ / ตัวชี้วัดของคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 3. วิเคราะห์ข้อมูล สรุปผล และรายงานต่อคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 4. ประสานข้อมูลกับคณะกรรมการที่รับผิดชอบเพื่อจัดส่งข้อมูลสำนักการพยาบาลและหน่วยงาน อื่นๆ 5. งานอื่นๆ ตามได้รับมอบหมาย 8. คณะกรรมการจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพพยาบาล 1. นางอุษา ชะโนภาษรองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล(ด้านจริยธรรม ประธานที่ปรึกษา และจรรยาบรรณวิชาชีพพยาบาล) 2. นางจำรัส รงศ์จำเริญ หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 3/7 ประธาน 3. น.ส.อรทัย ศิลป์ประกอบ หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิด รองประธาน 4. น.ส.ปาริชาต พงษ์พันธุ์สิงห์ หัวหน้าหอผู้ป่วยออร์โธปิดิกส์ กรรมการ 5. นางวรินทร์ธร ร่มไทร หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักระบบทางเดินหายใจ กรรมการ 6. น.ส.กมลพร ถนอมเงิน หัวหน้าหอผู้ป่วยสูติ-นรีเวช กรรมการ 7. นางชญาสุภา ปิ่นงาม พยาบาลวิชาชีพชํานาญการ กรรมการ 8. นางหทัยพัชร์ เมธาโรจนภัทร์ รักษาการหอผู้ป่วย โสต ศอนาสิก จักษุ กรรมการ 9. หัวหน้าหอผู้ป่วยทุกหน่วยงาน กรรมการ


10. นางกิติกา ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง กรรมการและเลขานุการ 11. นางวารี กะการดี พยาบาลวิชาชีพชํานาญการ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ 1. กำหนดนโยบายเกี่ยวกับจริยธรรม 2. พัฒนาระบบและกลไกจริยธรรมของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 3. พัฒนาสมรรถนะทางจริยธรรมและพฤติกรรมของผู้ปฏิบัติการพยาบาล 4. ส่งเสริมองค์ความรู้ด้านจริยธรรมทางการพยาบาลและแนวปฏิบัติทางการพยาบาล 5. ส่งเสริมให้พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติหน้าที่บนพื้นฐานจริยธรรม 6. รวบรวม ทบทวน ประเด็นจริยธรรม กำหนแนวทางปรับปรุงเสนอคณะกรรมการบริหารในองค์กร พยาบาล 9. คณะกรรมการกิจกรรมพิเศษและประชาสัมพันธ์ 1. นางวัฒนา ภูมี ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประธานที่ปรึกษา 2. นางนัฎฐิณี สิทธิบุญ หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 4/5 ประธาน 3. น.ส.กมลพร ถนอมเงิน หัวหน้าหอผู้ป่วยสูติ-นรีเวช รองประธาน 4. นายชาญชัย ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักอายุรกรรม กรรมการ 5. นางกิตติกา ม่วงสัมฤทธิ์หัวหน้าหอผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง กรรมการ 6. นางฐิติรัตน์ น้อยเกิด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 7. น.ส.วาสนา พันบุระ หัวหน้างานจ่ายกลาง กรรมการ 8. นางศรีสกุล วัฒนะศรี หัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 1 กรรมการและเลขานุการ 9. นางอลิซรา รักษากุล หัวหน้าหอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ 1. ประชุมวางแผนจัดกิจกรรมพิเศษประจำกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 2. สื่อสารประชาสัมพันธ์ข้อมูลข่าวสารกิจกรรมพิเศษแก่บุคลากรกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 3. จัดทำโครงการส่งเสริมภาพลักษณ์วิชาชีพพยาบาล และจัดงาน/กิจกรรมพิเศษต่างๆตามที่ได้รับ มอบหมาย 4. จัดเจ้าหน้าที่เข้าร่วมงานกิจกรรมพิเศษต่างๆทั้งในและนอกโรงพยาบาล ตามที่ได้รับมอบหมาย 5. ส่งเสริมเจ้าหน้าที่เข้าร่วมงานกิจกรรมพิเศษอย่างสม่ำเสมอ 6. สรุปผลการดำเนินงานกิจกรรมพิเศษและรายงานต่อผู้บริหาร 10. คณะกรรมการป้องกันและควบคุมการติดเชื้อ (IC) ๑. นางศิริวรรณ โชคชัยสิริ ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประธานที่ปรึกษา ๒. น.ส.ณัฐสุดา อั้งโสภา กลุ่มงานการพยาบาลด้านการควบคุม ประธาน และป้องกันการติดเชื้อ ๓. นางจำรัส รงศ์จำเริญ หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ ๗/๗ รองประธาน ๔. นางวรินทร์ธร ร่มไทร หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักทางเดินหายใจ กรรมการ ๕. น.ส.ปาริชาต พงษ์พันธุ์สิงห์ หัวหน้าหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูก กรรมการ 6. น.ส.ปราณี พวงดี หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 2/1 กรรมการ 7. น.ส.อรทัย ศิลป์ประกอบ หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักทารกแรกเกิด กรรมการ 8. นายชาญชัย ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอป่วยหนักอายุรกรรม กรรมการ


9. นางวารี กะการดี รักษาการหัวหน้างานผู้ป่วยนอก กรรมการ 10. นางอลิซรา รักษากุล หัวหน้าหอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง กรรมการ ๑1. นางจันทร์เพ็ญ ดีชัย หัวหน้าหอผู้ป่วยอายุรกรรมชาย กรรมการ ๑2. น.ส.ศรีวิลัย มากเปี่ยม หัวหน้างานห้องผ่าตัด กรรมการ ๑3. น.ส.สาวิตรี เชยชม พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ ๑4. น.ส.ธนวรรณ โพธิ์เงิน พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ ๑5. น.ส.วัทธิกร มั่นจิตร์ พยาบาลวิชาชีพปฏิบัติการ กรมการและเลขานุการ ๑6. น.ส.วาสนา พันบุระ หัวหน้างานจ่ายกลาง กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ ๑. วางแผนกลยุทธ์ เพื่อพัฒนาคุณภาพการพยาบาลเพื่อป้องกันและควบคุมการติดเชื้อใน โรงพยาบาล 2. ดำเนินการพัฒนาคุณภาพการพยาบาลเพื่อป้องกันและควบคุมการติดเชื้อในโรงพยาบาล 3. ติดตาม / นิเทศ / ประเมินผลการปฏิบัติงานของหน่วยงานตามมาตรการหรือนโยบายของ ICC 4. ประเมินผลความคืบหน้าการปฏิบัติและรายงานเสนอต่อคณะกรรมการบริหารกลุ่มภารกิจด้าน การพยาบาล 11. คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพการพยาบาลสาขาสูติ นรีเวช – กุมารเวชกรรม 1. นางวัฒนา ภูมี ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประธานที่ปรึกษา 2. นางจำรัส รงศ์จำเริญ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยกุมารเวชกรรม ประธาน 3. น.ส.กมลพร ถนอมเงิน หัวหน้าหอผู้ป่วยสูติ-นรีเวช รองประธาน 4. น.ส.อรทัย ศิลป์ประกอบ หัวหน้าหอผู้ป่วยวิกฤตทารกแรกเกิด กรรมการ 5. นางจันทนา พึ่งตน หัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม 2 กรรมการ และรักษาการหัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 3/8 6. น.ส.วาสนา พันบุระ หัวหน้างานจ่ายกลาง กรรมการ 7. น.ส.ณัฐสุดา อั้งโสภา หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลด้านการควบคุม กรรมการ และป้องกันการติดเชื้อ 8. นางศรีสกุล วัฒนะศรี หัวหน้าหอผู้ป่วยกุมารเวชกรรม1 กรรมการและเลขานุการ 9. นางฐิติรัตน์ น้อยเกิด พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ 1. บริหารจัดอัตรากำลังภายในกลุ่มงานสูติ นรีเวช – กุมารเวชกรรม ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงาน ดังนี้ กุมารเวชกรรม1 กุมรเวชกรรม2 สูติ-นรีเวช ห้องคลอด พิเศษ3/7 พิเศษ3/8 NICU 2. พัฒนาศักยภาพ บุคลากรสาขา สูติ นรีเวช –กุมารเวชกรรม 3. พัฒนาระบบงานบริหารการพยาบาลภายในสาขาสูติ นรีเวช –กุมารเวชกรรม 4. นิเทศ ติดตาม การพัฒนางานของหน่วยงานสาขาสูติ นรีเวช –กุมารเวชกรรม 5. อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย 12. คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพการพยาบาลสาขาอายุรกรรม 1. นางไพรัช พิณพาทย์ ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ที่ปรึกษา 2. นางอุษา ชะโนภาษ หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยอายุรกรรม ประธาน 3. นางสาวิตรี สุวณิชชากุล หัวหน้าหอผู้ป่วยอายุรกรรมหญิง รองประธาน 4. นางวรินทร์ธร ร่มไทร หัวหน้าหอผู้ป่วยหนักทางเดินหายใจ กรรมการ 5. นายชาญชัย ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอป่วยหนักอายุรกรรม กรรมการ


6. นางจันทร์เพ็ญ ดีชัย หอผู้ป่วยอายุรกรรมชายและ กรรมการ 7. นางนิตยา ศิริพานิช รักษาการหัวหน้าผู้ป่วยพิเศษ 1/๔ กรรมการ และหอผู้ป่วยพิเศษ 1/5 8. นางขวัญเรือน วงษ์ศิริ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ กรรมการ 9. นางกิตติกา ม่วงสัมฤทธิ์ หัวหน้าหอผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง กรรมการและเลขานุการ 10. นางวารี กะการดี รักษาการหัวหน้าหอผู้ป่วยนอก กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ 1. บริหารจัดอัตรากำลังภายในกลุ่มงานอายุรกรรมซึ่งประกอบด้วยหน่วยงาน ดังนี้ อายุรกรรมชาย อายุรกรรมหญิง พิเศษ1/4 พิเศษ1/5 พิเศษ2/3 พิเศษฉัตรหลวง2 ICUM RCU stroke ไต เทียม ผู้ป่วยนอก 2. พัฒนาศักยภาพ บุคลากรสาขา อายุรกรรม 3. พัฒนาระบบงานบริหารการพยาบาลภายในสาขาอายุรกรรม 4. นิเทศ ติดตาม การพัฒนางานของหน่วยงานสาขาอายุรกรรม 5. อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย 13. คณะกรรมการพัฒนาคุณภาพการพยาบาลสาขาศัลยกรรม 1. นางศิริวรรณ โชคชัยสิริ ที่ปรึกษากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ประธานที่ปรึกษา 2. น.ส.ปราณี พวงดี หัวหน้ากลุ่มงานการพยาบาลผู้ป่วยศัลยกรรม ประธาน 3. นางวัฒนา ภูมี หัวหน้างานวิสัญญี กรรมการ 4. น.ส.ศรีวิลัย มากเปี่ยม หัวหน้างานห้องผ่าตัด กรรมการ 5. นางวรนุช ทิพย์ถิระพงศ์ หัวหน้าหอป่วยหนักศัลยกรรม กรรมการ 6. น.ส.ปาริชาต พงษ์พันธุ์สิงห์ หัวหน้าหอผู้ป่วยศัลยกรรมกระดูก กรรมการ 7. นางนัฎฐิณี สิทธิบุญ หัวหน้าหอผู้ป่วยพิเศษ 4/5 กรรมการ 8. นางอรุณ กองสัมฤทธิ์ เกศวารักษ์หัวหน้างานอุบัติเหตุ-ฉุกเฉิน กรรมการ 9. นางหทัยพัชร์ เมธาโรจนภัทร์รักษาการหอผู้ป่วย โสต ศอนาสิก จักษุ กรรมการ 10.นางอลิซรา รักษากุล หัวหน้าหอผู้ป่วยศัลยกรรมหญิง กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ หน้าที่ 1. บริหารจัดอัตรากำลังภายในกลุ่มงานศัลยกรรม ซึ่งประกอบด้วยหน่วยงาน ดังนี้ ศัลยกรรมชาย ศัลยกรรมหญิง พ.2/1 พ.4/5 พ.2/5 กระดูก ห้องผ่าตัด วิสัญญี อุบัติเหตุ- ฉุกเฉิน ผู้ป่วยนอก ICU.S 2. พัฒนาศักยภาพ บุคลากรสาขาศัลยกรรม 3. พัฒนาระบบงานบริหารการพยาบาลภายในสาขาศัลยกรรม 4. นิเทศ ติดตาม การพัฒนางานของหน่วยงานสาขาศัลยกรรม 5. อื่นๆ ตามที่ได้รับมอบหมาย วิสัยทัศน์กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล : กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลที่มีคุณภาพ ใส่ใจสิ่งแวดล้อม พร้อมความสุขบุคลากร และชุมชนมีส่วนร่วม พันธกิจ กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล : 1. บริการพยาบาลอย่างมีคุณภาพ 2. พัฒนาบุคลากรทางการพยาบาลทุกมิติและเป็นองค์กรที่มีความสุข 3. ส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการดูแลสุขภาพ


4. สร้างและส่งเสริมสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อสุขภาพ เข็มมุ่ง กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล : 1.พัฒนา SMART NURSE 1.1 พัฒนาระบบการบริการพยาบาล 1.2 พัฒนาลดความผิดพลาดในการระบุตัวผู้ป่วย 1.3 พัฒนาแนวทางการป้องกันหลอดเลือดดำอักเสบ 1.4 นำเทคโนโลยีมาพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาล 2.ลดความแออัด ของผู้ป่วยนอก-ผู้ป่วยใน และ ER ค่านิยม ( Core Value ) กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล : PTH SMART NURSE P: People center ผู้ใช้บริการเป็นศูนย์กลาง T: Team work การทำงานเป็นทีม H :Hume nine health care / Happiness บุคลากรมีความสุข S: Service mind การบริการที่เป็นเลิศและความปลอดภัย M: Modernization / Management by fact บริหารด้วยข้อมูล A: Autonomy ความเป็นอิสระทางวิชาชีพ R: Role Modeal ด้านคุณธรรมและจริยธรรมการให้บริการ T: Trust Organization / Technology เป็นที่ไว้วางใจ เป็นองค์กรแห่งพัฒนา วัตถุประสงค์เชิงกลยุทธ์กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1.ผู้รับบริการได้รับการบริการที่มีมาตรฐานปลอดภัย 2.ประชาชนได้รับการส่งเสริมป้องกันและดูแลสุขภาพตัวเองได้ 3.สิ่งแวดล้อมเอื้อต่อการมีสุขภาพดี 4.เป็นโรงพยาบาลศูนย์และสถาบันฝึกอบรม 5.ประชาชนเข้าถึงระบบริการที่มีคุณภาพ 6.ผู้รับบริการพึงพอใจ 7.พัฒนาระบบริหารจัดการเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพและส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม 8.การบริหารจัดการทรัพยากรที่ดีโดยยึดหลักธรรมาภิบาล 9.พัฒนาระบบสารสนเทศและการสื่อสารประสานงานให้มีประสิทธิภาพ 10.ระบบบริหารความเสี่ยงมีคุณภาพ 11.องค์กรแห่งความสุขคู่คุณธรรม 12.องค์กรแห่งการเรียนรู้ 13.บุคลากรมีสมรรถนะเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน


ตัวชี้วัดกลุ่มการพยาบาลโรงพยาบาลปทุมธานี ตามแผนยุทธศาสตร์ ลำดับ ตัวชี้วัด ค่าเป้าหมาย ยุทธศาสตร์ 1 : ( P&P Excellence) ส่งเสริมสุขภาพป้องกันโรค ประชาชนได้รับการส่งเสริมป้องกันและดูแลสุขภาพตัวเองได้ 1 ร้อยละของผู้ป่วยเบาหวานที่ได้รับการตรวจภาวะแทรกซ้อนทางตา ไต เท้า ≥60% 2 ร้อยละของผู้ป่วย NCD ได้รับการตรวจค้นหาและคัดกรองโรคไตเรื้อรัง ≥80% 3. หน่วยงานในกลุ่มการพยาบาลนำเทคโนโลยี่มาใช้ในการให้ความรู้แก่ผู้รับบริการ ทุกหน่วยงาน 4. ร้อยละความสำเร็จของสถานบริการสุขภาพที่มารดาคลอดปกติมีการฝากครรภ์ครบ ตามเกณฑ์คุณภาพและทารกแรกเกิดมีน้ำหนัก 2500 กรัมขึ้นไป ≥80% 5 สัดส่วนการตายของมารดาจากการตั้งครรภ์ และ/ หรือการคลอด (ต่อแสนทารกเกิดมี ชีพ) <15:100,000 6. อัตราการReadmitt ผู้ป่วย Stroke / ผู้ป่วยติดเตียง ใน 28 วัน ≤5% 7. อัตราตาย Sepsis ≤30% Stroke ≤15% STEMI ≤9% สิ่งแวดล้อมเอื้อต่อการมีสุขภาพที่ดี 8 หน่วยงานผ่านเกณฑ์การประเมินสถานที่ทำงานน่าอยู่ ทุกหน่วยงาน 9 ร้อยละหน่วยบริการพยาบาลที่มีจำนวนยา/เวชภัณฑ์/อุปกรณ์ทางการแพทย์หมดอายุ เหลือค้างในหน่วยงาน 0 ยุทธศาสตร์ที่2 (Service Excellence) บริการเป็นเลิศ ประชาชนเข้าถึงบริการที่มีคุณภาพ 10 ร้อยละของทีมและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมีความพร้อมรับอุบัติเหตุและฉุกเฉิน 100% 11. ร้อยละผู้ป่วยSTEMI ได้รับบริการพยาบาลได้ตามที่กำหนด ( Door to drug / Door to EKG ) 100% 12 ร้อยละผู้ป่วย STEMI ได้รับการส่งต่อทำ PCI ถึง รพ.รับส่งต่อ ภายใน 90 นาที 100% 13. ร้อยละของผู้ป่วยหลอดเลือดสมอง ที่มีอาการไม่เกิน 72 ชั่วโมง ได้รับการรักษาใน Unit stroke 100 % 14. ร้อยละของผู้ป่วยIschemic stroke ที่มาโรงพยาบาลภายใน 4.5 ชั่วโมง ≥15% 15 บุคลากรทีมสุขภาพที่เข้ารับการอบรมมีความรู้ทักษะและทัศนคติที่ดีต่อการดูแล ผู้ป่วยต่อเนื่องเพิ่มขึ้น ร้อยละ 80 16 ร้อยละการบรรเทาอาการปวดและ/หรือเหนื่อยด้วยOpioidได้เหมาะสมตามระดับ อาการของผู้ป่วยในกลุ่มผู้ป่วยประคับประคอง>40 % >40 % 17 .ร้อยละของผู้ป่วยประคับประคองที่ได้รับการทำACP >60% >60% 18 ผู้ป่วยที่ส่งต่อเยี่ยมบ้านได้รับการดูแลต่อเนื่อง ร้อยละ 80 19 อัตราการเกิดภาวะแทรกซ้อนหลังจำหน่ายกลับบ้าน ≤5%


ผู้รับบริการได้รับบริการมีมาตรฐานปลอดภัยรวดเร็ว 20 ร้อยละหน่วยงานมีผลการนิเทศติดตาม ควบคุมกำกับ การดูแลตามมาตรฐานวิชาชีพ > 80 % 21 ร้อยละหน่วยงานผ่านเกณฑ์การประเมินคุณภาพภายในโรงพยาบาล (ระดับ 3) 100% 22 ผลการตรวจเยี่ยมการประเมิน คุณภาพภายนอก(NQA) คะแนน > 650) 23 อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยบาดเจ็บหลายระบบ <15 24 ร้อยละผู้ป่วยมะเร็งเต้านม/ลำไส้ ได้รับการผ่าตัด ภายใน 4สัปดาห์ >75 %) >75 % 25 ร้อยละผู้ป่วยมะเร็งเต้านม/ลำไส้ ได้รับเคมีบำบัด ภายใน 6 สัปดาห์ >75 % >75 % 26 อัตราการเสียชีวิตหลังจากเข้ารับการรักษาของผู้ป่วยโรคปอดบวม <15 27 ร้อยละของผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงในหอผู้ป่วยได้รับการคัดกรองภาวะติดเชื้อในกระแสเลือด โดยใช้เครื่องมือคัดกรองSOS Score คัดกรองทันที ที่พบอาการ 2ใน 4ที่มีอาการจาก RIRS ≤30% 28 อัตราการเสียชีวิตของผู้ป่วยใน ด้วยภาวะติดเชื้อในกระแสเลือดและ Septic shock ≤30% 29 จำนวนทารกที่มีการขาดออกซิเจน APGAR SCORE ที่ 1 นาที ≤7 คะแนนในรอบ ระยะเวลา1เดือน ≤30:1000 30 ร้อยละของผู้ป่วย CKD ที่มีอัตราการลดลงของ eGFR<5ml/min/1.73m2/yr >66% 31 อัตราการติดเชื้อปอดอักเสบในโรงพยาบาลที่ไม่ได้เกิดจากการใส่เครื่องช่วยหายใจ (HAP) <0.5:1000 32 ร้อยละผู้ป่วยที่ได้รับยาที่มีความเสี่ยงสูงไม่เกิดภาวะแทรกซ้อน 0 33 .ร้อยละเจ้าหน้าที่ผ่านเกณฑ์การประเมินความรู้การให้ยาที่มีความเสี่ยงสูง > 80 % 34 ร้อยละเจ้าหน้าที่ปฏิบัติตามแนวทางปฏิบัติการให้ยาที่มีความเสี่ยงสูง 100% พัฒนาระบบบริหารจัดการเครือข่ายให้มีประสิทธิภาพและส่งเสริมให้ประชาชนมีส่วนร่วม 35 โรงพยาบาลเครือข่ายสามารถสามารถดูแลผู้ป่วยใส่ท่อช่วยหายใจได้เพิ่มขึ้นอย่างน้อย ≥1 โรงพยาบาล 36 มีแนวปฏิบัติการดูแลผู้ป่วยเป็นแนวทางเดียวกันจากรพช.ถึงรพท.ในทุกสาขาเพิ่มขึ้น อย่างน้อย ≥1 โรค 37 จำนวนรพสต.ติดดาว เพิ่มขึ้น 38 .ร้อยละบุคลากรเห็นความสำคัญและบทบาทในการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบ ประคับประคองให้เกิดคุณภาพชีวิตที่ดี > 90 % 39 บุคลากรเมีทัศนคติที่ดีต่องานดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้ายแบบประคับประคอง > 90 % 40 อัตราการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ในเจ้าหน้าที่และมารดาหลังคลอด 6 เดือน เพิ่มขึ้น 41 ร้อยละของเด็กอายุ 0-5 ปี ได้รับการคัดกรองพัฒนาการ ร้อยละ 90 42 ร้อยละของเด็กอายุ 0-5 ปี ที่มีพัฒนาการสงสัยล่าช้า ได้รับการติดตาม มีพัฒนาการสมวัย ร้อยละ90 43 ร้อยละของเด็กพัฒนาการล่าช้า ได้รับการกระตุ้นพัฒนาการด้วย TEDA4I ร้อยละ 60 44 ร้อยละของเด็กอายุ 0-5 ปีมีพัฒนาการสมวัย 100% 45 ผู้ป่วยStroke ได้รับการ เตรียมความพร้อมก่อนกลับบ้าน ทุกราย 46 อัตราการ readmit ของ ผู้ป่วยStroke ใน 28 วัน .≤1.5 %


ผู้รับบริการพึงพอใจ 47 ร้อยละความพึงพอใจผู้รับบริการ ผู้ป่วยนอก/ER ≥80% 48 จำนวนครั้งข้อร้องเรียนด้านบริการพยาบาล ลดลง 49 ร้อยละความพึงพอใจผู้รับบริการ ผู้ป่วยใน ≥80% 50 ร้อยละความสำเร็จของหน่วยงานในองค์กรพยาบาลบริหารอัตรากำลังได้ตามเกณฑ์ ( KPI กองการ) ≥60% 51 ร้อยละหน่วยงานจัดตั้งทีมประชาสัมพันธ์ 100% 52 ข้อร้องเรียนด้านการให้ข้อมูลในหน่วยงานลดลง ≥50% เป็นรพ.ศูนย์และสถาบันฝึกอบรม 53 ร้อยละความพึงความพึงพอใจแหล่งฝึก > 80% 54 บุคลากรใหม่ มีความรู้และเข้าใจในบริบทขององค์กร > 80% ยุทธศาสตร์ที่3(Governance Excellence) บริหารเป็นเลิศด้วยธรรมาภิบาล การบริหารจัดการทรัพยากรที่ดี โดยยึดหลักธรรมาภิบาล 55 บุคลากรทุกระดับในองค์กรพยาบาลผ่านเกณฑ์การประเมินด้านจริยธรรม 100% พัฒนาระบบสารสนเทศและการสื่อสารประสานงานให้มีประสิทธิภาพ 56 หน่วยงานใช้เทคโนโลยีมาให้ความรู้แก่ผู้รับบริการ ทุกหน่วยงาน 57 หน่วยงานใช้เทคโนโลยีมาใช้พัฒนาหน่วยงาน ทุกหน่วยงาน 58 บุคลากรมีความสามารถในการนำเทคโนโลยีมาใช้ในการทำงาน (Word / Exell/ PP/ google form/ QR code) > 80% ระบบบริหารความเสี่ยงมีคุณภาพ 59 ร้อยละการบริหารความเสี่ยงที่มีคุณภาพ (ตัวชี้วัดผ่านเกณฑ์) ≥80% ยุทธศาสตร์ที่4 (People Excellence) บุคลากรเป็นเลิศ องค์กรแห่งความสุขคู่คุณธรรม 60 ร้อยละความพึงผู้พอใจของผู้เข้าร่วมกิจกรรม >80% 61 อัตราคงอยู่ของบุคลากรทางการพยาบาล รพ.ปทุมธานี >85% 62 ร้อยละความเพียงพอของบุคลากรทางการพยาบาล ≥80% 63 หน่วยงานบริการพยาบาลเข้าร่วมกิจกรรม 100% 64 อุบัติการณ์การเกิดความเสี่ยง ที่ทำให้โรงพยาบาลเสียชื่อเสียงจากการปฎิบัติงานการ พยาบาล ไม่พบ 65 .บุคลากรได้รับการตรวจสุขภาพ ≥ร้อยละ90 66 บุคลากรที่ผิดปกติและกลุ่มเสี่ยงได้รับการติดตาม ≥ร้อยละ 85 67 ร้อยละของการเกิดโรค/โรคที่สืบเนื่องจากการทำงาน ≤1 องค์กรแห่งการเรียนรู้ 68 จำนวนผลงานพัฒนา R2R ≥30% ของหน่วยงาน 69 จำนวนผลงานวิชาการ ของบุคลากรทางการพยาบาล ได้รับการนำเสนอหรือเผยแพร่ ผลงาน > 10 เรื่อง/ปี บุคลากรมีสมรรถนะเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน 70 ร้อยละบุคลากรได้รับการพัฒนาตามเกณฑ์ที่กำหนด 10 วัน/คน/ปี 71 ร้อยละของผู้เข้าร่วมการพัฒนาศักยภาพผ่านเกณฑ์การประเมิน >80%


จำนวนบุคลากรทางการพยาบาล : จำนวน. 668. คน พยาบาลวิชาชีพ 469 คน นักวิชาการปฎิบัติหน้าที่พยาบาลวิชาชีพ 23 คน นักวิชาการ 3 คน พยาบาลเทคนิค 1 คน ผู้ช่วยพยาบาล .. 91 คน ผู้ช่วยเหลือคนไข้. .81.....คน 1) ปริญญาเอก 1 คน 2) ปริญญาโท 27 คน สาขา จำนวน(คน) สาขาการบริหารทางการพยาบาล 1 สาขาการพยาบาลผู้ใหญ่ 7 สาขาการพยาบาลสุขภาพจิตและจิตเวช 4 สาขาการพยาบาลผู้สูงอายุ 2 สาขาการพยาบาลสาธารณสุข 4 สาขาการพยาบาลเวชปฏิบัติครอบครัว 2 สาขาบริหารสาธารณสุข 2 3) ปริญญาตรี..467..... คน 4) APN ..6..... คน สาขา จำนวน(คน) การพยาบาลอายุรกรรมศาสตร์-ศัลยศาสตร์ 2 สาขาการพยาบาลเด็ก 2 สาขาจิตวิทยา 2 5) พยาบาลเฉพาะทาง 125 .คน


ผลการพัฒนาที่โดดเด่นและภาคภูมิใจ 1. พัฒนาระบบการรายงานความเสี่ยง อาการและการติดตามในผู้ป่วยสงสัย/ป่วยติดเชื้อ covid - 19 ทั้งในผู้ป่วยและเจ้าหน้าที่ 2. ระบบการบริหารอัตรากำลังพยาบาลให้เหมาะสม เช่น การวางระบบอัตรากำลังสำรองในภาวะ วิกฤติ, การช่วยเหลือเกื้อกูล ทั้งในเรื่องอัตรากำลังและสถานที่รับผู้ป่วย 3. พัฒนาระบบการบริหารจัดการและการดูแลผู้ป่วย covid-19 ทั้งภาพรวม การดูแลผู้คลอด, ผู้ป่วยล้างไต และทารกแรกคลอด ภายในโรงพยาบาลและภาพเครือข่ายทั้งจังหวัด 4. ส่งเสริม และกระตุ้นให้หน่วยงานมีการทำวิจัย R2R อย่างต่อเนื่องและนำมาใช้ในการพัฒนา งานและดูแลผู้ป่วย 5. พัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วย จากการทบทวนความเสี่ยง โดยการใช้เครื่องมือต่าง ๆ เช่น RCA, Tigger tool เป็นต้น แล้วปรับเปลี่ยน/พัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยเพื่อป้องกันความเสี่ยง เช่น การ ระบุตัวผิดคน/ การให้เลือดผิดหมู่ และการเกิด Phlebitis เป็นต้น 6. พัฒนาระบบการดูแลผู้ป่วยรายโรคได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น Palliative care, Strokeและ มะเร็ง 7. การรับบริจาคอวัยวะ ความท้าทาย ๗.๑ ความท้าทายเชิงกลยุทธ์ 1) พัฒนาสมรรถนะบุคลากรทางการพยาบาลให้มีความเชี่ยวชาญเฉพาะทาง 2) สร้างขวัญกำลังใจและธำรงรักษาบุคลากรทางการพยาบาลไว้ในระบบ 3) การสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจจากผู้รับบริการและทีมสหวิชาชีพ 4) ความสามารถในการดูแลสุขภาพตนเองของผู้ใช้บริการ 5) ดูแลบุคลากรไม่ให้เกิดความแตกต่างของอายุ 6) พัฒนาระบบบริหารความเสี่ยงให้มีประสิทธิภาพ ๗.๒ ความได้เปรียบเชิงกลยุทธ์ 1) คณะกรรมการบริหารของโรงพยาบาลให้ความสำคัญและให้การสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพ บริการพยาบาล 2) คณะกรรมการบริหารโรงพยาบาล เห็นความสำคัญ ให้การสนับสนุนอัตรากำลังให้มีเพียงพอ และ ส่งเสริมการพัฒนาบุคลากร 3) คณะกรรมการบริหารกลุ่มการพยาบาลมีความมุ่งมั่นในการพัฒนาคุณภาพการพยาบาล สู่ความ เป็นเลิศอย่างเป็นรูปธรรม 4) โครงสร้างการบริหารการพยาบาลมีความชัดเจน และครอบคลุมทุกสาขาการพยาบาล 5) โรงพยาบาลที่ได้การรับรองคุณภาพ HA /สถาบันต่างๆ มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง ๕) พยาบาลเฉพาะทางสาขาที่สำคัญมีพยาบาลผู้เชี่ยวชาญที่เป็นต้นแบบ เป็นผู้นำและสามารถ เป็น วิทยากรให้กับหน่วยงานภายในและภายนอกได้ ได้แก่ สาขาทารกแรกเกิด สาขาหัวใจและหลอด เลือด Palliative care งานห้องคลอดและงานไตทียม ๖) บุคลากรทางการพยาบาลมีการทำงานเป็นทีม มีความสามัคคี มีความมุ่งมั่น ตั้งใจ เสียสละ มีจิต อาสา รวมถึงมีวัฒนธรรมองค์กรที่ดี ๗) มีการนำระบบเทคโนโลยี ข้อมูลสารสนเทศ มาเพิ่มประสิทธิภาพในการปฏิบัติการพยาบาล


นโยบายการบริหารการพยาบาล กลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล มีการปรับวิสัยทัศน์ พันธกิจ และโครงสร้างการบริหารภายในให้ สอดคล้องกับบริบทของโรงพยาบาลปทุมธานี ดังนั้นเพื่อให้การบริหารภายในหน่วยงานมีความชัดเจน ยิ่งขึ้น กลุ่มภารกิจ ด้านการพยาบาลจึงทบทวนนโยบายให้ถือปฏิบัติดังนี้ ทุกหน่วยงาน .หัวหน้าทุกหน่วยงานตามโครงสร้างกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล ให้นำนโยบายของกลุ่มภารกิจด้าน การพยาบาลและโรงพยาบาลปทุมธานี สื่อสารให้บุคลากรทุกคนของหน่วยงานเข้าใจตรงกัน และ นำไปสู่การปฏิบัติเพื่อให้บรรลุตามเป้าหมายที่กำหนด ให้ทุกหน่วยงานที่ให้บริการผู้ป่วย 1.นำมาตรฐานด้านคุณธรรม จริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพตามเกณฑ์มาตรฐานของสภาการพยาบาล สื่อสารในหน่วยงานและประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดผลการปฏิบัติต่อตนเอง เพื่อนร่วมงาน ประโยชน์ต่อ องค์กร และผู้ใช้บริการ 2.นำกระบวนการพยาบาลไปใช้ปฏิบัติการพยาบาลในทุกขั้นตอนที่ให้บริการ ตั้งแต่แรกรับ ถึงจำหน่ายจาก การดูแล (การคัดกรองผู้ป่วย การปฏิบัติการพยาบาล การดูแลต่อเนื่องตามความจำเป็นด้านสุขภาพเมื่อ กลับบ้าน และการรับ- ส่งต่อผู้ป่วยทั้งภายใน-ภายนอกโรงพยาบาล) 3.ใช้กระบวนการพยาบาล และหลักวิทยาศาสตร์ในการดูแลผู้ป่วย ใช้ผลการวิจัย อื่นๆที่มีหลักฐานเชิง ประจักษ์ว่าเกิดผลดีกับผู้ป่วยและไม่ละเมิดสิทธิผู้ป่วย 4.นำข้อกำหนดเรื่องการพิทักษ์สิทธิผู้ป่วยตามประกาศสิทธิผู้ป่วย 10 ประการไปสื่อสารและใช้ปฏิบัติใน หน่วยงานให้เป็นรูปธรรม 5.ทบทวนระบบการปฏิบัติเพื่อดูแลผู้ป่วยตามมาตรฐานวิชาชีพ ในหน่วยงานและขอความช่วยเหลือจาก ทีมงานผู้ที่มีความรู้ ความเชี่ยวชาญ และชำนาญกว่าเมื่อมีปัญหาการปฏิบัติ เพื่อการบริการได้ ต่อเนื่องและเหมาะสมกับสภาพผู้ป่วยเป็นรายบุคคล 6.มอบหมายบุคลากรทางการพยาบาลให้รับผิดชอบตามบทบาทหน้าที่ ที่กำหนด (Job Description) หน้าที่พิเศษ และให้ช่วยเหลือเกื้อกูลกันเมื่อบุคลากรภายในหน่วยงานหรือระหว่างหน่วยงานไม่สามารถ ปฏิบัติงานได้ทันในขณะนั้น ซึ่งจะมีผลให้ผู้รับบริการไม่ได้รับบริการตามที่กำหนดและปลอดภัย 7.จัดทำแนวทางการเฝ้าระวังอาการเปลี่ยนแปลงในกลุ่มเสี่ยงและกลุ่มโรคสำคัญ เพื่อให้การช่วยเหลือ ผู้ป่วยได้ทันเวลา และมีระบบให้การดูแลผู้ป่วยเมื่ออยู่ในวาระสุดท้ายตามความเชื่อของผู้ป่วย 8..ประเมินความเจ็บปวดตามแบบฟอร์มที่กำหนด (Pain Scale) และจุดที่ฟอร์มปรอท ประเมินและ เฝ้าระวังผู้ป่วยกลุ่มเสี่ยงไม่ให้เกิดภาวะแทรกซ้อนที่ป้องกันได้ เช่น การลื่นล้ม ตกเตียง (Fall) ฯ 9.ใช้ระบบการดูแลผู้ป่วยระยะสุดท้าย ในผู้ป่วย end of life care ทั้งการดูแลด้านร่างกายและจิตใจ โดยประสานกับผู้ดูแล และ Care giver ในการตัดสินใจด้านการรักษาพยาบาล การปฏิบัติตามความ เชื่อของผู้ป่วยแต่ละศาสนา 10.บันทึกเวชระเบียนผู้ป่วยให้สั้น กระชับ ได้ใจความ ครอบคลุมประเด็นหลักที่สำคัญตามสภาพ และ อาการเปลี่ยนแปลงของผู้ป่วยและสามารถบอกถึงสภาพผู้ป่วยที่อยู่ในความดูแลขณะนั้นรวมทั้งแผนการ ดูแลและการส่งต่อ


11.ระบบงาน IC RM HR ทำความเข้าใจ และถือปฏิบัติตามระบบที่กำหนดของงาน IC RM HR ของโรงพยาบาล IC เช่น การแต่งกายและการใช้อุปกรณ์ป้องกันระบบบุคคลไม่ให้เสี่ยงกับการ แพร่กระจายเชื้อให้กับตนเองและผู้อื่น และการแยกผู้ป่วยโรคติดต่อ RM เช่น ดำเนินงานในหน่วยงานเมื่อเกิดเหตุการณ์ทันที ตามระบบบริหารความเสี่ยง ทำ RCA สรุปผลการดำเนินงานและป้องกันการเกิดซ้ำ HR เช่น การประชุม อบรมของบุคลากร ภายนอก/ ภายในตามระบบของโรงพยาบาล ให้ครบตามเกณฑ์ โดยขออนุมัติตามระบบผ่านกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 12.ทุกหน่วยงานต้องมีผลงานเด่นที่เกี่ยวกับการดูแลผู้ป่วยในหน่วยงาน ซึ่งเกิดจากทีมงานปฎิบัติ ร่วมกันในหน่วยงาน /สาขา 13.บันทึกทางการพยาบาล ให้นำมาตรฐานวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ของสภาการ พยาบาลมาใช้ในหน่วยงาน และพัฒนาระบบการบันทึกทางการพยาบาลให้สอดคล้องกับการปฏิบัติการ พยาบาลอย่างต่อเนื่องเป็นปัจเจกบุคคล การจัดอัตรากำลังและเบิกค่าล่วงเวลา ค่าเวร 1การจัดอัตรากำลัง 14.1.1. มีเจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง แบ่งเป็น 3 เวร เวรละ 8 ชั่วโมง เวรเช้า 08.00 – 16.00 น. เวรบ่าย 16.00 – 24.00 น. เวรดึก 24.00 – 08.00 น. 14.1.2. มีวันหยุดรอบตามวันหยุดราชการ 14.1.3. ห้ามปฏิบัติงานติดต่อกันเกิน 16 ชั่วโมง (บ่าย- ดึก) (ดึก-เช้า) 14.1.4.ใช้แนวทางการจัดอัตรากำลังของสภาการพยาบาล ค่าเฉลี่ยของชั่วโมงการพยาบาล ต่อวันนอนตามระดับความหนักเบาของผู้ป่วย (Activity level) และ Staff mix อาจมี RN : NON RN ได้เป็น 100 : 0 80 : 20 70 : 30 65 : 35 หรือ 60 : 40 ก็ได้ ตามความซับซ้อน และความรุนแรงของผู้ป่วยที่ต้องการพยาบาล สำหรับ Skill mix คำนึงถึงความเชี่ยวชาญเฉพาะทางของ RN เช่น ผู้ที่ปฏิบัติงานใน หน่วยงานพิเศษต่าง ๆ รวมทั้ง APN ซึ่งควรมีในบาง Area 2.เบิกค่าล่วงเวลา 1.ตามสัดส่วนที่จัด ส่วนเกินจากวันทำการ 2.กรณีเจ้าหน้าที่ขึ้นปฏิบัติงานแทนผู้ลากิจ - ป่วย - ศึกษาอบรม 3การเบิกค่าเวรบ่ายดึก กำหนดให้เบิกค่าเวรบ่ายดึก 2ใน 3 ของวันทำการ ของการจัดตารางเวร/เดือน/คน 4แนวทางการจัดและตรวจค่าล่วงเวลา7วันอันตราย สัดส่วนการจัดOTและค่าตอบแทน 7 วันอันตราย สัดส่วนการจัด 1มีเวรทั้งหมด ( OT + ปกติ ) 1-3 เวร จัดเป็นOT 1 เวร 2มีเวรทั้งหมด ( OT + ปกติ ) 4-5 เวร จัดเป็นOT 2 เวร 3มีเวรทั้งหมด ( OT + ปกติ ) 6-7 เวร จัดเป็นOT 3 เวร 4มีเวรทั้งหมด ( OT + ปกติ ) 8-9 เวร จัดเป็นOT 4 เวร 5มีเวรทั้งหมด ( OT + ปกติ ) 10 เวร จัดเป็นOT 5 เวร


ค่าตอบแทน 1.5 เท่า ตำแหน่ง ค่าตอบแทนตามระเบียบกระทรวง ค่าตอบแทน1.5 เท่าของอัตราค่าตอบแทนตาม ระเบียบกระทรวง RN สามัญ 600 บาท / เวร 600*1.5= 900 บาท/เวร RN พิเศษ 600 บาท / เวร 600*1.5= 900 บาท/เวร PN 360 บาท / เวร 360*1.5= 540 บาท/เวร NA 300 บาท / เวร 300*1.5= 450 บาท/เวร **ค่าเวรบ่าย- ดึก ได้รับค่าตอบแทนปกติ 240 บาท/เวร ไม่ได้ 1.5 เท่า วิธีการเบิกOT 1.ตรวจสอบปรับเวรช่วง 7 วันอันตราย ให้มีสัดส่วนตามข้อตกลงเบื้องต้น ***RunตามLockปกติ กระจายOTและเวรปกติ ไม่เลือกOT เฉพาะช่วง 2.ทำเบิกค่าตอบแทน OT ปกติ 3.รอการอนุมัติการเบิกจ่ายค่าตอบแทนจากผู้อำนวยการโรงพยาบาล ขอถ่ายสำเนาเอกสารการเบิก ค่าตอบแทนOT ปกติ ทั้งฉบับจากหน่วยงานบัญชี 4.ทำเบิกค่าตอบแทนส่วนเกิน 7 วันอันตรายเฉพาะส่วนเกินคือ ตำแหน่ง ค่าตอบแทน1.5 เท่า (1) ค่าตอบแทนปัจจุบัน (2)(OTปกติที่ปฎิบัติทุกเดือน) ส่วนเกินที่ทำเบิก(1-2) ( ฉบับที่ 2) RN สามัญ 900บาท / 1 เวร 820บาท / 1 เวร 80บาท / 1 เวร RN พิเศษ 900บาท / 1 เวร 790บาท / 1 เวร 110บาท / 1 เวร GN (นวก) 900บาท / 1 เวร 710บาท / 1 เวร 190บาท / 1 เวร PN 540บาท / 1 เวร 450บาท / 1 เวร 90บาท / 1 เวร NA 450บาท / 1 เวร 380บาท / 1 เวร 70บาท / 1 เวร 5.แนบสำเนาเอกสารเบิกค่าตอบแทนOTปกติสำเนาขออนุมัติจัดเวร และสำเนาหนังสือการอนุมัติจ่าย 1.5 เท่า กับเอกสารการเบิกค่าตอบแทนส่วนเกินจากที่เบิกปกติของแต่ละปีในช่วงเวลาที่กำหนดจาก กระทรวงสาธารณสุข การจัดอัตรากำลังเสริมในวาระพิเศษของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล 1. การเตรียมความพร้อมหน่วยบริการเมื่อเกิดโรคระบาด กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาล ปทุมธานีดำเนินการ ดังนี้ 1) การจัดอัตรากำลัง หอผู้ป่วย แยกโรค ( 1/5 ) ให้บริการมีการจัดอัตรากำลังเสริมตาม ความเหมาะสมกับสภาพผู้ป่วย 2) มีแนวทางปฏิบัติ ตาม IC กำหนดการรับผู้ป่วย คุณสมบัติผู้ป่วยที่จำเป็นต้องได้รับการ แยกโรคในห้องแยกผู้ป่วยแบบความดันเป็นลบ (AIIR) เพื่อป้องกันการแพร่กระจายโรค


.แนวทางการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน (Pay for Performance, P4P) 1.หลักเกณฑ์การจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน โรงพยาบาลปทุมธานี 1.1 ยึดแนวทางตามหลักเกณฑ์ฯ ฉบับ 8 และฉบับ9 1.2 ครอบคลุมในเวลาราชการ ไม่ซ้ำซ้อนกับการเบิกจ่ายค่าตอบแทนอื่น (ไม่ซ้ำซ้อนกับฉบับที่5) 1.3 แต้มหรือคะแนนที่ทำได้ ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ ด้านวิชาการ ด้านบริหาร และด้าน บริการ 1.4 ครอบคลุมหน่วยบริการทุกระดับ 1.5 ค่าตอบแทนที่ได้รับ ระบุเป็นรายบุคคล 1.6 ผู้มีสิทธิ์ได้รับค่าตอบแทนตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดนี้ ต้องมีภาระงานที่เกินค่าคะแนนผลการ ปฏิบัติงานขั้นต่ำที่กำหนด 2.หลักเกณฑ์การได้รับค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานฉบับ8และฉบับ9 2.1หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทน ฉบับ 8 -มีวันทำการไม่น้อยกว่า 15 วันทำการในเดือนที่จะเบิกจ่าย เว้นแต่ -มีคำสั่งให้ไปปฏิบัติงานอื่น ลักษณะเฉพาะกิจ -ได้รับคำสั่งให้ไปฝึกอบรมเฉพาะด้านบริหารที่มีความจำเป็นสำหรับส่วนราชการโดยให้เบิกได้ ไม่เกิน 3 เดือน -ได้รับอนุมัติให้ไปประชุม ไม่เกิน 10 วัน/เดือน -ลาอุปสมบท ลาไปประกอบพิธีฮัจย์ ลาคลอดบุตร -ต้องเป็นผู้ที่ได้รับการอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพหรือผู้ประกอบโรคศิลปะ ในกรณีที่เป็นสายงานที่ ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพตามกฎหมาย -กรณีที่มีมติคณะรัฐมนตรีกำหนดให้มีวันหยุดราชการเพิ่มเติม ให้นำวันหยุดราชการตามมติ ครม.นั้น มา นับรวมเป็นวันทำการในเดือนนั้นได้ 2.2หลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขการจ่ายเงินค่าตอบแทน ฉบับ 9 -เจ้าหน้าที่ทุกคนมีสิทธิได้รับแต่ต้องเกินค่าคะแนนประกันขั้นต่ำ -ไม่ซ้ำซ้อนกับฉบับที่ 5 -โรงพยาบาลกำหนดวิธีการ เงื่อนไขฯ ตามรายละเอียดและแนวทางฯ แนบท้าย -โรงพยาบาลขออนุมัติต่อกรรมการข้อ 9 (ระดับจังหวัด)ตามแบบฟอร์มฯ -ขอครั้งแรกก่อนจ่าย และปีต่อไปภายในกันยายน -วงเงินและสัดส่วนวิชาชีพตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด โดยมีการปรับกรอบวงเงินและ สัดส่วนเป็นระยะๆ -กรณีได้รับงบประมาณที่กำหนดให้จ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงานจาก สปสช. หรือ หน่วยงานอื่นใดให้นำงบประมาณดังกล่าวมาจ่ายเป็นค่าตอบแทนโดยถือปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ฉบับนี้ 3.แนวทางการดำเนินงาน P4P โรงพยาบาลปทุมธานี 3.1มอบหมายและแต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติมเพื่อดำเนินการ ดังนี้ (1)คณะกรรมการพิจารณาการจ่ายค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน -มอบหมายคณะกรรมการกำหนดนโยบายการบริหารงานโรงพยาบาล (กนย) -บทบาท : กำหนดนโยบาย กำหนดวงเงิน การจัดสรรวงเงิน การขออนุมัติดำเนินการ (2)แต่งตั้งคณะกรรมการเพิ่มเติม 2 คณะ -คณะกรรมการพิจารณาค่าคะแนนผลการปฏิบัติงาน -คณะกรรมการตรวจสอบคะแนนผลการปฏิบัติงาน


4.การแบ่งกลุ่มบุคลากร แต้มประกันต่อเดือน และสัดส่วนวิชาชีพ -ให้ดำเนินการตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง รายละเอียดการดำเนินการจ่าย ค่าตอบแทนตามผลการปฏิบัติงาน 5.การupdateข้อมูลบุคลากร -ให้กลุ่มงานทรัพยากรบุคคล ตรวจสอบคุณสมบัติและจัดกลุ่มบุคลากรแต่ละหน่วยงานตาม หลักเกณฑ์ที่กระทรวงสาธารณสุขได้กำหนดเป็น 9 กลุ่ม และแจ้งให้หน่วยงานทราบ -ให้กลุ่มงานทรัพยากรบุคคล ส่งFile ข้อมูลบุคลากรให้กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรบุคคล(พรส) ภายในวันที่ 1 ของเดือน -ให้กลุ่มงานพัฒนาทรัพยากรบุคคล(พรส) ส่งข้อมูลตามตาราง Simulate และส่งให้ คณะกรรมการนโยบายฯ ต่อไป 6.การนับจำนวนคนเพื่อคำนวณวงเงิน -กรณีบุคลากรที่ปฏิบัติงานอยู่ ณ ปัจจุบัน แต่มีเวลาปฏิบัติราชการไม่ถึง 15 วันทำการ(ลาตาม สิทธิ เช่น ลาพักผ่อน ลากิจ ลาป่วย) ให้นับจำนวนคนเต็มเหมือนเดิม -บุคลากรที่บรรจุใหม่หรือลาออก ที่มีเวลาปฏิบัติราชการไม่ถึง 15 วันทำการ ไม่ต้องนำมานับ รวมจำนวนคน -บุคคลที่ลาศึกษาต่อเกิน 3 เดือน ไม่ต้องนำมานับรวมจำนวนคน 7.กรณีพยาบาลวิชาชีพที่ยังสอบไม่ผ่านใบประกอบโรคศิลปะ ให้จัดอยู่ในกลุ่มเทียบเท่า ปริญญาตรีซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ฉบับ 8 ที่กำหนดให้พยาบาลวิชาชีพเป็นกลุ่มวิชาชีพที่ต้องมีใบ ประกอบวิชาชีพตามกฎหมาย 8.กรณีพยาบาลเทคนิคที่เรียนต่อและจบหลักสูตรพยาบาลศาสตร์และมีใบประกอบโรค ศิลปะแล้ว แต่ยังไม่มีคำสั่งแต่งตั้งหรือปรับตำแหน่ง แต่หน่วยงานได้มอบหมายให้ปฏิบัติงานใน ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพให้จัดอยู่ในกลุ่มพยาบาลวิชาชีพ ซึ่งเป็นไปตามหลักเกณฑ์ฉบับ 8 ที่ กำหนดให้บุคคลดังกล่าวต้องมีใบประกอบโรคศิลปะและมีคำสั่งมอบหมายงาน 9.ด้านบริหาร 9.1กำหนดกรอบแต้มต่อด้านบริหาร ดังนี้ -ผู้อำนวยการโรงพยาบาล Fix rate 100% ของแต้มมาตรฐาน -รองผู้อำนวยการฝ่ายการแพทย์ Fix rate 100% ของแต้มมาตรฐาน -รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล Fix rate 100% ของแต้มมาตรฐาน -รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจด้านอำนวยการ Fix rate 100% ของแต้มมาตรฐาน -รองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจต่างๆ ไม่เกิน 100% ของแต้มมาตรฐาน -ประธานองค์กรแพทย์ ไม่เกิน 100% ของแต้มมาตรฐาน -ผู้ช่วยรองผู้อำนวยการกลุ่มภารกิจต่างๆ ไม่เกิน 100% ของแต้มมาตรฐาน -หัวหน้ากลุ่มงาน ไม่เกิน 100% ของแต้มมาตรฐาน -หัวหน้างาน ไม่เกิน 100% ของแต้มมาตรฐาน 9.2กรณีท่านใดมีตำแหน่งทางบริหารหลายตำแหน่งให้ได้แต้มต่อในตำแหน่งที่ได้สูงสุด 9.3กรณีผู้ที่ไม่ได้แต้มต่อด้านบริหารแต่ได้รับมอบหมายให้ทำหน้าที่แทน ให้ได้รับแต้มต่อด้านบริหาร ตามสัดส่วนที่ได้ทำหน้าที่แทน 9.4กรณีผู้ที่ได้แต้มต่อด้านบริหารแล้ว และได้รับมอบหมายให้รักษาการหรือทำหน้าที่แทนในตำแหน่งที่ มีแต้มต่อสูงกว่า ให้ได้รับแต้มต่อด้านบริหารเดิมของตนเอง


10.ด้านบริการ -แพทย์ ทันตแพทย์ เภสัชกร พยาบาลวิชาชีพ และอื่นๆ คิดค่าคะแนนตามค่ากลางของแต่ละ วิชาชีพ -สายสนับสนุน คิดค่าคะแนนตามแบบโรงพยาบาลนำร่องของกระทรวงสาธารณสุข ……………………………………………………………………………………………………………………. แนวทางการปฏิบัติด้านจริยธรรม จรรยาบรรณ และสิทธิผู้ป่วย จริยธรรม 6 ประการ 1. สิทธิของผู้ป่วยในการตัดสินใจอย่างเป็นอิสระ (Autonomy) 2. การกระทำเพื่อประโยชน์ของผู้ป่วยเป็นสำคัญ (Beneficence) 3. การกระทำเพื่อหลีกเลี่ยงสาเหตุ หรืออันตรายที่อาจเกิดขึ้น (Normal efficiency) 4. การกระทำด้วยความซื่อสัตย์ตามพันธะสัญญาของวิชาชีพ (Fidelity) 5. การกระทำต่อผู้ป่วยและครอบครัวด้วยความยุติธรรม (Justice) 6. การบอกความจริง (Veracity) จรรยาบรรณพยาบาล 9 ข้อ 1. พยาบาลรับผิดชอบต่อประชาชน ผู้ต้องการพยาบาล และบริการสุขภาพ 2. พยาบาลประกอบวิชาชีพด้วยความเมตตา กรุณา เคารพในคุณค่าของชีวิต ความมีสุขภาพดี และความผาสุกของเพื่อนมนุษย์ 3. พยาบาลมีปฏิสัมพันธ์ทางวิชาชีพกับผู้ใช้บริการ ผู้ร่วมงาน และประชาชน ด้วยความเคารพ ในศักดิ์ศรี และสิทธิมนุษยชนของบุคคล 4. พยาบาลยึดหลักความยุติธรรม และความเสมอภาคในสังคมมนุษย์ 5. พยาบาลประกอบวิชาชีพโดยมุ่งความเป็นเลิศ 6. พยาบาลพึงปูองกันอันตรายต่อสุขภาพและชีวิตของผู้ใช้บริการ 7. พยาบาลรับผิดชอบในการปฏิบัติให้สังคม เกิดความเชื่อถือ ไว้วางใจต่อพยาบาลและต่อ วิชาชีพการพยาบาล 8. พยาบาลพึงร่วมในการทาความเจริญ ก้าวหน้าให้แก่วิชาชีพการพยาบาล 9. พยาบาลพึงรับผิดชอบต่อตนเอง เช่นเดียวกับรับผิดชอบต่อผู้อื่น คำประกาศสิทธิผู้ป่วย 1. ผู้ป่วยทุกคนมีสิทธิพื้นฐานที่จะได้รับบริการด้านสุขภาพ ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ 2. ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับบริการจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดยไม่มีการเลือกปฏิบัติ เนื่องจากความแตกต่างทางด้านฐานะ เชื้อชาติ สัญชาติ สาสนา สังคม ลัทธิการเมือง เพศ อายุ และลักษณะของความเจ็บป่วย 3. ผู้ป่วยที่ขอรับบริการด้านสุขภาพมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลอย่างเพียงพอ และเข้าใจชัดเจนจากผู้ ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพเพื่อให้ผู้ป่วยสามารถเลือกตัดสินใจในการยินยอมหรือไม่ยินยอม ให้ผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพปฏิบัติต่อตน เว้นแต่เป็นการช่วยเหลือรีบด่วนหรือจำเป็น 4. ผู้ป่วยที่อยู่ในภาวะเสี่ยงอันตรายถึงชีวิต มีสิทธิที่จะได้รับการช่วยเหลือรีบด่วนจากผู้ประกอบ วิชาชีพด้านสุขภาพโดยทันทีตามความจำเป็นแก่กรณี โดยไม่คำนึงว่าผู้ป่วยจะร้องขอความ


ช่วยเหลือหรือไม่ 5ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับทราบชื่อ สกุล และประเภทของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพที่เป็นผู้ ให้บริการแก่ตน 6ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะขอความเห็นจากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพอื่น ที่มิได้เป็นผู้ให้บริการแต่ตน และมีสิทธิในการขอเปลี่ยนผู้ให้บริการ และสถานบริการได้ 7ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับการปกปิดข้อมูลเกี่ยวกับตนเอง จากผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพโดย เคร่งครัดเว้นแต่จะได้รับความยินยอมจากผู้ป่วยหรือการปฏิบัติหน้าที่ตามกฎหมาย 8ผู้ป่วยมีสิทธิที่จะได้รับข้อมูลอย่างครบถ้วน ในการตัดสินใจเข้าร่วมหรือถอนตัวจากการเป็นผู้ถูก ทดลอง ในการทำวิจัยของผู้ประกอบวิชาชีพด้านสุขภาพ 9ผู้ป่วยมีสิทธิที่ได้รับทราบข้อมูลเกี่ยวกับการรักษาพยาบาลเฉพาะของตนที่ปรากฏในเวชระเบียน เมื่อร้องขอทั้งนี้ ข้อมูลดังกล่าวต้องไม่เป็นการละเมิดสิทธิส่วนตัวของบุคคลอื่น 10บิดา มารดา หรือผู้แทนโดยชอบธรรม อาจใช้สิทธิแทนผู้ป่วยที่เป็นเด็กอายุยังไม่เกินสิบแปดปี บริบูรณ์ ผู้บกพร่องทางกายหรือจิต ซึ่งไม่สามารถใช้สิทธิด้วยตนเองได้ การบริหารความเสี่ยง ความหมาย ความเสี่ยงคือ โอกาสที่จะประสบกับความสูญเสียหรือสิ่งที่ไม่พึงประสงค์ ซึ่งความสูญเสียหรือ สิ่งที่ไม่พึงประสงค์ ในโรงพยาบาลได้แก่ อันตรายหรือการบาดเจ็บต่อร่างกายและจิตใจ เหตุร้าย ภาวะ คุกคามความไม่แน่นอน และการเปิดเผยความลับความเสี่ยงที่เกิดกับผู้ป่วย มีทั้ง ด้านกายภาพ อารมณ์ สังคมและจิตวิญญาณ นโยบายความเสี่ยงโรงพยาบาล 1. ทุกหน่วยงานมีการบริหารความเสี่ยงตั้งแต่การค้นหาความเสี่ยง การประเมินความรุนแรง การจดและการประเมินผล 2. เจ้าหน้าที่ที่ทุกคนมีหน้าที่รายงานอุบติการณ์ความเสี่ยง (เฉลี่ย 3 เรื่อง/คน/เดือน) เมื่อพบ เหตุการณ์ เพื่อสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยขององค์กรและพัฒนาแนวทางการทำงาน ไม่ใช่การ จับผิดหรือกล่าวโทษ 3. เมื่อเกิดเหตุการณ์ความเสี่ยงถือเป็นหน้าที่ของเจ้าหน้าที่ทุกคนที่จะแก้ไขความเสี่ยงเบื้องต้น ในหน้างาน 4. กรณีอุบติการณ์/เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (Sentinel Event) ต้องดำเนินการตามแนวทางที่ กำหนด เป้าหมาย การจัดการความเสี่ยง 1. เพื่อสร้างความตระหนักในการป้องกัน และแก้ไขความเสี่ยง 2. เพื่อให้ผู้ป่วย เจ้าหน้าที่ และสิ่งแวดล้อม มีความปลอดภัย 3. เพื่อพัฒนาระบบรายงานให้สะดวก ครอบคลุม และไวต่อปัญหา ความเสี่ยง ของโรงพยาบาลปทุมธานี 1. ความเสี่ยงทางคลินิก (Clinical Risk) คือ เหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิดอันตรายต่อผู้ป่วย ซึ่ง เกิดจากกระบวนการให้บริการ กิจกรรมการตรวจวินิจฉัยและการดูแลรักษาพยาบาล แบ่งระดับความ รุนแรงน้อยไปมาก ตั้งแต่ A – I


2. ความเสี่ยงทั่วไป (Non - Clinical Risk/ General Risk) คือ เหตุการณ์ที่อาจก่อให้เกิด ความเสียหาย หรือเกิดความเสียหายกับ ผู้ป่วย ญาติ เจ้าหน้าที่ จากสาเหตุอื่นที่ไม่ใช่สาเหตุของความ เสี่ยงทางคลินิก เช่น สิ่งของถูกขโมย การทะเลาะวิวาท คอมพิวเตอร์เสีย การคิดค่าใช้จ่ายผิด/ลงสิทธิผิด อาคารสถานที่ชำรุด หลังคารั่ว/ท่อน้ำแตก เป็นต้น แบ่งระดับความรุนแรงน้อยไปมาก ตั้งแต่ 1 - 4 3. อุบัติการณ์/เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (Sentinel Event) หมายถึง เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นโดยไม่ คาดการณ์มาก่อน และอาจจะมีผลทำให้เกิดความเสียหายจนถึงแก่ชีวิต หรือส่งผลร้ายแรงทางด้าน จิตใจ โดยไม่มีความสัมพันธ์กับพยาธิสภาพของโรคที่ผู้ป่วยเป็น หรือเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้วไม่สามารถ ระงับได้ในโรงพยาบาล และอาจทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงของโรงพยาบาล อุบัติการณ์/เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ ( Sentinel Event) 9 เหตุการณ์ ที่ต้องรายงานทันที ได้แก่ 1. ผู้ป่วย/บุคคล ฆ่าตัวตาย ถูกทำร้ายร่างกาย/พยายามฆ่า หรือ ถูกฆาตกรรม ในโรงพยาบาล 2. ผ่าตัดผิดข้าง / ผิดคน / ผิดชนิด 3. ให้เลือดผิดกรุ๊ป จนทำให้เกิด Hemolytic Blood Transfusion Reaction/ การให้ยาผิด /แพ้ยาซ้ำ จนทำให้ผู้ป่วยเกิดอันตรายถาวร / ต้องทำการช่วยชีวิต /เสียชีวิต 4. มารดาเสียชีวิต หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเนื่องจากการเจ็บครรภ์ หรือการคลอดบุตร 5. ผู้ป่วย/ทารก ถูกลักพาตัว / สูญหาย ส่งมอบทารกแก่มารดาผิดคน 6. น้ำท่วม/ ไฟไหม้/ อัคคีภัย / วินาศภัย / โรคอุบัติใหม่ 7. เรื่องที่เสี่ยง โดยมีข่าวถึงสื่อมวลชน & Social media และมีแนวโน้มถูกฟ้องร้องแน่ 8. บุคคลถูกทำร้ายร่างกายและบาดเจ็บจากการทำงานขั้นรุนแรง เช่น รถRefer คว่ำ 9. อุบัติเหตุหมู่และอุบัติเหตุที่เกิดกับบุคคลสาธารณะ (บุคคลที่มีชื่อเสียง) ระบบการบริหารความเสี่ยง 1. การค้นหาความเสี่ยง (Risk Identification) มีการค้นหาความเสี่ยงด้านคลินิก (Clinical Risk) ความเสี่ยงทั่วไป (Non - Clinical Risk/ General Risk) และอุบัติการณ์/เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (Sentinel Event) ในทุกหน่วยงานและในทุกระดับ จัดลำดับความสำคัญ เพื่อกำหนดเป้าหมายความ ปลอดภัยและมาตรการป้องกัน การค้นหาความเสี่ยง ได้จาก 1. การเรียนรู้และค้นหาความเสี่ยงจากเวชระเบียน ได้แก่ การทบทวนเวชระเบียนเชิงคุณภาพ เช่น Trigger Tool, Trigger chart review และทบทวนตามกระบวนการดูแลผู้ป่วย (Patient Care Process) 2. จากกการทบทวน 12 กิจกรรม ได้แก่ 2.1 ทบทวนขณะดูแลผู้ป่วย 2.2 ทบทวนความคิดเห็น/คำร้องเรียนของผู้รับบริการ 2.3 การทบทวนการส่งต่อ/ขอย้าย/ปฏิเสธการรักษา 2.4 ทบทวนการตรวจรักษาโดยผู้ที่ชำนาญกว่า 2.5 ค้นหาและป้องกันความเสี่ยง 2.6 เฝ้าระวังการติดเชื้อในโรงพยาบาล 2.7 เฝ้าระวังความคลาดเคลื่อนทางยา 2.8 ทบทวนการดูแลผู้ป่วยจากเหตุการณ์สำคัญ 2.9 ทบทวนความสมบูรณ์ของเวชระเบียน 2.10 ทบทวนการใช้ความรู้ทางวิชาการ


2.11 ทบทวนการใช้ทรัพยากร 2.12 ติดตามเครื่องชี้วัดที่สำคัญ 3. เรียนรู้จากบทเรียนของผู้อื่น เช่น รายงานจากสื่อมวลชน การเรียนรู้จากเครือข่าย การ สื่อสารทั้งเป็นทางการและไม่เป็นทางการ 4. ทบทวนความรู้ทางวิชาการ และจากเป้าหมายความปลอดภัยของผู้ป่วย (Patient Safety Goals) ที่โรงพยาบาลกำหนด 5. ทบทวนบทเรียนของเราเอง ได้แก่ 5.1 เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เช่น รายงานอุบัติการณ์ ทบทวนเวชระเบียน กิจกรรมทบทวนคุณภาพ หรือการทบทวนทางคลินิก 5.2 เหตุการณ์ที่ยังไม่เคยเกิดขึ้น เช่น การวิเคราะห์กระบวนการ การตามรอยทางคลินิก การ วิเคราะห์ FMEA (โอกาสที่จะเกิดปัญหาขึ้นในอนาคต ในระบบงานที่ยังไม่ได้นำไปใช้ปฏิบัติ) 6. ตรวจสอบสถานการณ์จริงของเรา เช่น การสำรวจในสถานที่จริง การตามรอยกระบวนการ ทำงาน การตามรอยทางคลินิก 1. วิธีการค้นหาความเสี่ยงทางคลินิก 1. Patient round ค้นหาความเสี่ยงจากผู้ป่วยที่อยู่ในโรงพยาบาล และปรับปรุงการดูแล ผู้ป่วยรายนั้นทันที อาจใช้ C3THER ร่วมกับสหวิชาชีพ 2. Chart round คือการสุ่มเวชระเบียนขึ้นมาอ่าน ทบทวนว่ามีอะไรหลุดไป ไม่ได้สื่อสาร หรือ ดูแลไม่สอดคล้องกัน และจะวางระบบเพื่อป้องกันมิให้เกิดขึ้นอีกอย่างไร ควรจะทำให้บ่อยที่สุดเท่าที่จะ เป็นได้ 3. Disease round คือทบทวนจากโรคหรือหัตถการสำคัญเช่น มีความเสี่ยงสูง (High Risk) พบบ่อย (High Frequency) ค่าใช้จ่ายสูง (High Cost) มีวิธีการดูแลรักษาที่หลากหลาย (High Variation) ผลลัพธ์ไม่ดี มีวิธีป้องกันหรือมีโอกาสที่จะตรวจพบ ได้เร็วขึ้น ต้องใช้สหวิชาชีพ ต้องดูแล ต่อเนื่อง พิจารณาว่าประเด็นสำคัญในโรคนี้มีอะไร วัดคุณภาพการดูแลอย่างไร ดูแลตรงไหนให้ดีขึ้น อาจใช้องค์รวม เครื่องชี้วัด ความรู้ทางวิชาการที่เปลี่ยนแปลงไป การค้นหาความเสี่ยงเชิงรุก อาจใช้ การเยี่ยมสำรวจจากทีมพัฒนาคุณภาพที่เกี่ยวข้อง เช่น PCT, IC, ENV, RM, 5ส ฯลฯ การนิเทศทางการพยาบาล และที่สำคัญเป็นกิจวัตรประจาวันอยู่แล้วคือ การ Round ของหัวหน้างาน 2. การประเมินความเสี่ยงและจัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยง 2.1 การประเมินความเสี่ยง คือ การนำความเสี่ยงมาประเมินผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเพื่อแบ่งระดับความ รุนแรง 2.1.1 ความเสี่ยงทางคลินิก (Clinical Risk) ระดับความรุนแรงทางคลินิก แบ่งความรุนแรงน้อยไปมาก เป็น ระดับ A – I ดังนี้ A เหตุการณ์ซึ่งมีโอกาสที่จะก่อให้เกิดความคลาดเคลื่อน B เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้น แต่ไม่ถึงผู้ป่วย C เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้นกับผู้ป่วย แต่ไม่ทำให้ผู้ป่วยได้รับอันตราย D เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้นกับผู้ป่วย ต้องเฝ้าระวังเพื่อให้มั่นใจว่าไม่เกิดอันตรายกับผู้ป่วย E เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้นกับผู้ป่วย ส่งผลให้เกิดอันตรายชั่วคราว และต้องบำบัดรักษา F เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้นกับผู้ป่วย ส่งผลให้เกิดอันตรายชั่วคราว ต้องนอนโรงพยาบาลนาน ขึ้น G เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้นกับผู้ป่วย ส่งผลให้เกิดอันตรายถาวร แก่ผู้ป่วย H เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้นกับผู้ป่วย ส่งผลให้ต้องทำการช่วยชีวิต


I เกิดความคลาดเคลื่อนขึ้นกับผู้ป่วย ซึ่งอาจเป็นสาเหตุของการเสียชีวิต 2.1.2 ความเสี่ยงทั่วไป (Non - Clinical Risk/ General Risk) ระดับความเสี่ยงทั่วไป จะแบ่งความ รุนแรงน้อยไปมากเป็น ระดับ 1-4 ดังนี้ ระดับ 1 มีโอกาสเกิดความเสี่ยง หมายถึง เหตุการณ์ซึ่งมีโอกาสก่อให้เกิดความเสียหาย หรือ ความคลาดเคลื่อน แก่ บุคคล โดยไม่สูญเสียทรัพย์สิน ระดับ 2 เล็กน้อย หมายถึง เหตุการณ์ซึ่งมีโอกาสก่อให้เกิดความเสียหาย แต่ไม่รุนแรง มี ผลกระทบต่อบุคคล สิ่งของเล็กน้อย หรือมีการสูญเสียทรัพย์สิน ไม่เกิน 5,000 บาท ระดับ 3 ปานกลาง หมายถึง เหตุการณ์ซึ่งมีโอกาสก่อให้เกิดความเสียหายปานกลาง มีเรื่อง ร้องเรียนในระดับโรงพยาบาล ต้องได้รับการช่วยเหลือ/แก้ไข ผู้ได้รับผลกระทบ หรือการสูญเสีย ทรัพย์สินตั้งแต่ 5,000 ถึง 50,000 บาท ระดับ 4 รุนแรง หมายถึง เหตุการณ์ซึ่งมีโอกาสก่อให้เกิดความเสียหายรุนแรง มีเรื่องร้องเรียน /ออกสื่อ นอกโรงพยาบาล ต้องได้รับการช่วยเหลือ / แก้ไข ผู้ได้รับผลกระทบในทันที หรือ การสูญเสีย ทรัพย์สิน ตั้งแต่ 50,000 บาท 2.1.3 อุบัติการณ์/เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (Sentinel Event) อุบัติการณ์/เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (Sentinel Event) 9 เหตุการณ์ ที่โรงพยาบาลปทุมธานีกำหนด ถือว่าเป็นระดับรุนแรง ต้องรายงาน ทันที ได้แก่ 1. ผู้ป่วย/บุคคล ฆ่าตัวตาย ถูกทำร้ายร่างกาย/พยายามฆ่า หรือ ถูกฆาตกรรม ในโรงพยาบาล 2. ผ่าตัดผิดข้าง / ผิดคน / ผิดชนิด 3. ให้เลือดผิดกรุ๊ป จนทำให้เกิด Hemolytic Blood Transfusion Reaction/ การให้ยาผิด /แพ้ยาซ้ำ จนทำให้ผู้ป่วยเกิดอันตรายถาวร / ต้องทำการช่วยชีวิต /เสียชีวิต 4. มารดาเสียชีวิต หรือเกิดภาวะแทรกซ้อนรุนแรงเนื่องจากการเจ็บครรภ์ หรือการคลอดบุตร 5. ผู้ป่วย/ทารก ถูกลักพาตัว / สูญหาย ส่งมอบทารกแก่มารดาผิดคน 6. น้ำท่วม/ ไฟไหม้/ อัคคีภัย / วินาศภัย / โรคอุบัติใหม่ 7. เรื่องที่เสี่ยง โดยมีข่าวถึงสื่อมวลชน & Social media และมีแนวโน้มถูกฟ้องร้องแน่ 8. บุคคลถูกทำร้ายร่างกายและบาดเจ็บจากการทำงานขั้นรุนแรง เช่น รถRefer คว่ำ 9. อุบัติเหตุหมู่และอุบัติเหตุที่เกิดกับบุคคลสาธารณะ (บุคคลที่มีชื่อเสียง) 2.2 จัดลำดับความสำคัญของความเสี่ยง คือ การนำความเสี่ยงที่วิเคราะห์ได้มาจัดทำบัญชีความเสี่ยง (Risk Profile) รวบรวมความเสี่ยง ตามความรุนแรงและความถี่ ซึ่งเป็นการนำเสนอภาพรวมของความ เสี่ยง“ทุกหน่วยงานต้องจัดทำบัญชีความเสี่ยงของหน่วยงานตนเอง เป็นรายไตรมาส” 3. การจัดการ/แก้ไข และการกำหนดกลยุทธ์ ป้องกันความเสี่ยง การดำเนินงานเชิงรับ ได้แก่ Root Cause Analysis (RCA) เป็นการวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริง ของ เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว เป็นการแก้ปัญหาที่ยั่งยืน แก้ที่สาเหตุของปัญหา เพื่อค้นหาปัจจัยเชิงระบบที่อยู่ เบื้องหลังและนำไปสู่แก้ปัญหาที่เหมาะสม และมีการกำหนดกลยุทธ์ และมาตรการป้องกันอย่าง เหมาะสม เพื่อให้เกิดการปฏิบัติที่ได้ผล ความเสี่ยงทางคลินิก (Clinical Risk) ความรุนแรงในระดับ E ขึ้นไป ความเสี่ยงทั่วไป (Non - Clinical Risk/ General Risk) ระดับ4 ขึ้นไป และอุบัติการณ์/เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์ (Sentinel Event) ต้องทำ Root Cause Analysis (RCA) สำหรับการดำเนินงานเชิงรุก ได้แก่ การวิเคราะห์ข้อบกพร่องและผลกระทบ (Failure Mode and Effective Analysis (FMEA)) คือ วิธีการค้นหาและป้องกันปัญหาก่อนที่จะเกิดขึ้น มุ่งที่การ ป้องกัน ไม่รอให้เกิดเหตุการณ์ จะทำให้ระบบการทำงานมีความเข็มแข็งมากขึ้น และมีการกำหนดกล ยุทธ์ และมาตรการป้องกันอย่างเหมาะสม สื่อสารและสร้างความตระหนักอย่างทั่วถึง


3.1 แนวทางการวิเคราะห์สาเหตุที่แท้จริง (Root Cause Analysis (RCA)) ได้แก่ 3.1.1 ศึกษาเหตุการณ์ที่จะทำ RCA 3.1.2 เขียนเส้นทาง โดยใช้คนหรือสิ่งของที่ได้รับความเสียหายเป็นตัวเดินเรื่อง หรือเดินตาม กระบวนการทำ งาน หรือการดูแลรักษาที่ทำอยู่ตามมาตรฐานหรือวิธีปฏิบัติงาน 3.1.3 ตั้งโจทย์ว่าเกิดอะไรขึ้น ให้ครอบคลุม หาสาเหตุของแต่ละโจทย์ว่ามาจากอะไรได้บ้าง โดยใช้สมมติฐานเท่าที่คิดได้ ใช้คำถาม Why ? 3.1.4 หาข้อมูลจากแหล่งที่เกี่ยวข้อง เช่นเวชระเบียน แบบบันทึกข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับ การทำงานในเรื่องนั้นๆ สัมภาษณ์ผู้ที่เกี่ยวข้อง หรือขอดูกระบวนการทำงาน 3.1.5 เขียนเส้นทาง พร้อมความเชื่อมโยง จากจุดเกิดเหตุไกลออกไปในองค์กร และภายนอก องค์กร (ถ้ามี) 3.1.6 สรุป เกิดอะไรขึ้น มีสาเหตุจากอะไรเป็นแผนภาพ เพื่อเป็นสมมติฐาน 3.1.7 จัดประชุมผู้เกี่ยวข้อง หาข้อยุติ พร้อมหลักฐานที่ปรากฏจริง ตัดสมมติฐานที่ไม่ใช่ความ จริงของ เหตุการณ์นี้ 3.1.8 สรุปสิ่งที่เป็นสาเหตุ และสิ่งที่ต้องปรับปรุง เพื่อนำไปออกแบบและใช้งาน กำหนดกล ยุทธ์ และมาตรการป้องกันอย่างเหมาะสม 3.2 แนวทางการวิเคราะห์ข้อบกพร่องและผลกระทบ (Failure Mode and Effective Analysis (FMEA)) 3.2.1 เขียนกระบวนการหรือขั้นตอนการทำงานเป็นข้อๆ ยิ่งละเอียดยิ่งดี 3.2.2 พิจารณาว่าแต่ละกระบวนการนั้นๆ มีโอกาสเกิดข้อผิดพลาดอะไรได้บ้าง 3.2.3 พิจารณาว่า ข้อผิดพลาดนั้นๆส่งผลอย่างไรต่อกระบวนการหรือผู้ป่วยอย่างไร 3.2.4 ประเมินระดับความเสี่ยง โดยพิจารณาตาม การให้คะแนนของระดับคะแนนความเสี่ยง (Risk Profile Number; RPN) ใน3 เรื่อง 1. โอกาสเกิด 2. โอกาสตรวจพบ/ตรวจจับ 3.2.5 ความรุนแรง โดยให้คะแนนในแต่ละข้อ1-10 ถ้าคะแนนตั้งแต่ 8 ขึ้นไปถือว่าเป็น ความเสี่ยงสูง (High risk) ต้องนำไปจัดทำกลยุทธ์ป้องกัน 3.2.6 จัดทำกลยุทธ์ และมาตรการป้องกันอย่างเหมาะสม สื่อสารและสร้างความตระหนัก อย่างทั่วถึง 4. การรายงานความเสี่ยงเป็นเครื่องมือสำคัญ เพื่อทราบถึงปัญหาที่เกิดหรือเกือบจะเกิดขึ้น การ รายงานควรเป็นการรายงานด้วยความสมัครใจ และ เพื่อให้สามารถนำข้อมูลจากรายงานความเสี่ยงไป วิเคราะห์และนำข้อมูลไปใช้ ในการประเมินประสิทธิผลของมาตรการป้องกันต่างๆ มีวิธีการรายงาน ความเสี่ยง ตามขั้นตอนการจัดการความเสี่ยง 5. การประเมินประสิทธิผลเป็นการประเมินประสิทธิผลของระบบบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย โดยประเมินในประเด็นดังต่อไปนี้ 5.1 วัฒนธรรมความปลอดภัยในองค์กร 5.2 ความครอบคลุมในการค้นหาความเสี่ยงและความรัดกุมของมาตรการป้องกัน 5.3 การปฏิบัติตามมาตรการป้องกันความเสี่ยงที่สำคัญ 5.4 ความครอบคลุมของการรายงานความเสี่ยง 5.5 ความสามารถในการป้องกันและลดความเสี่ยง รวมทั้งความสูญเสียที่เกิดขึ้น ซึ่งการ ประเมินประสิทธิผลของระบบบริหารความเสี่ยงและความปลอดภัย นั้นสามารถนาเสนอได้ดังนี้ 1. การวิเคราะห์แนวโน้ม (Trend) 2. การวิเคราะห์แนวโน้มคู่กับค่าสถิติ (Control Chart) 3. การเปรียบเทียบระหว่างกลุ่ม


4. การเปรียบกับคู่เทียบเคียง (Benchmark) 5. การวิเคราะห์ข้อมูลเชิงความสัมพันธ์ เรื่องร้องเรียน คือ ความเสี่ยงที่ ผู้เสียหายแสดงตนเพื่อเรียกร้องสิ่งใดๆจากผู้กระทำให้เกิดความเสียหาย ถือว่าเป็นความเสี่ยงที่ต้องอาศัยการจัดการเป็นพิเศษ ในการลดความรุนแรง อำนาจในการตัดสินใจ ชดใช้ความเสียหายเบื้องต้น จึงกำหนดให้ เจ้าหน้าที่ที่พบผู้เสียหาย รายงานตามขั้นตอนการรับเรื่อง ร้องเรียน อาจมีได้จากหลายแหล่ง ได้แก่ 1. การมาร้องเรียน หรือ มีข้อเสนอแนะ ด้วยตนเอง 2. กล่องรับเรื่องราว ข้อเสนอแนะ ของโรงพยาบาลปทุมธานี 3. กล่องรับเรื่องราว ข้อเสนอแนะ ผู้อำนวยการโรงพยาบาล 4. ทางโทรศัพท์ / โทรสาร 5. จากทาง เว็บไซต์ (website) ของโรงพยาบาล 6. จากทาง เว็บไซต์ สายตรงผู้ว่าราชการจังหวัด (ศูนย์ดำรงค์ธรรม) 7. จาก หน่วยงานอื่น เช่น สปสช. สำนักงานประกันสังคม สสจ. อบต. สอ. เป็นต้น 8. จากหนังสือพิมพ์ท้องถิ่น / หนังสือพิมพ์ 9. เรื่องจากที่ประชุม ในทุกระดับ 10. อื่นๆ


งานพัฒนาคุณภาพการพยาบาล แผนการนิเทศคุณภาพการพยาบาล ปี 2566 ลำดับ หัวข้อเรื่อง ประเด็นการนิเทศ เดือน 1 1.1 Patients Safety Administration error * การบริหารยา 8R * Adverse drug เหตุการณ์ไม่พึงประสงค์จากการใช้ยา * Stock ยา , ยาตู้เย็น * การบริหารยา Real time , HAD , Drug Reconcile, เลือด , ยาเสพ ติด, IV * การบริหารยาเคมี พ.ย. 1.2 Bed sore: การประเมินและ ป้องกัน (Branden s Score) Observe การทำงาน (bed side technique) สอบถามผู้ปฏิบัติ Bed side review Document review Adverse events Incidences ธ.ค. 1.3 การระบุตัวผู้ป่วย Observe การทำงาน (bed side technique) สอบถามผู้ปฏิบัติ Bed side review Document review Adverse events Incidences ม.ค. 1.4 Falling : การประเมินและป้องกัน Observe การทำงาน (bed side technique) สอบถามผู้ปฏิบัติ Bed side review Document review Adverse events Incidences ม.ค. 1.5 IC : Phlebitis ,VAP,CAUTI : การประเมินและป้องกัน Observe การทำงาน (bed side technique) สอบถามผู้ปฏิบัติ Bed side review Document review Adverse events Incidences การปฏิบัติด้าน UP,ตาม guidelines - Outcomes ต่างๆ ที่สำคัญ เช่น Phlebitis VAP,CAUTI - การจัดสิ่งแวดล้อมในหอผู้ป่วย การจัดเตียง - การล้างมือ cross infection ก.พ.. 1.6 Sepsis : การประเมิน QSOFA และการ Management Observe การทำงาน (bed side technique) สอบถามผู้ปฏิบัติ Bed side review Document review Adverse events Incidences มี.ค. 2. การบรรเทาอาการรบกวน เช่น pain Management Pain Score Observe การทำงาน (bed side technique) สอบถามผู้ปฏิบัติ Bed side review Document review Adverse events Incidences เม.ย. 3 สิ่งแวดล้อม 5 ส. ตรวจประเมินสิ่งแวดล้อม ความสะอาด ภายในและภายนอกหน่วยงาน พ.ค. 4 การจำแนกประเภทผู้ป่วย -การใช้เครื่องมือการจำแนก ประเภทผู้ป่วยตามบริบท ของแต่ละหอผู้ป่วย -วิเคราะห์ รายงานผลการจำแนก -ปัญหาที่พบ มิ.ย. 5 การวางแผนจำหน่าย ตรวจสอบการใช้การวางแผนจำหน่าย ในเวชระเบียน Bed side review Document review ก.ค. 6. การตรวจสอบเวชระเบียน NN -ตรวจสอบเวชระเบียน ตามเกณฑ์ สปสช 9 ข้อ ส.ค. 7 อุปกรณ์ เครื่องมือสำหรับ ให้บริการผู้ป่วยเพียงพอและพร้อม ใช้งานได้ทันที -ตรวจดูเครื่องมือที่มีความสำคัญต่อผู้ป่วย -เครื่องมือที่ใช้กับผู้ป่วยมีการใช้งานที่ถูกต้อง ตาม guidelines -การปรับตั้งเหมาะสมสอดคล้องกับแผนการรักษา เช่น infusion pump -การจัดวางเครื่องตำแหน่งถูกต้องเหมาะสม การเสียบปลั๊ก สาย accessory ต่างๆ ก.ย. 2565


8 อัตรากำลัง -วิเคราะห์ภาระงาน ได้แก่ อาการหนัก/เบาของผู้ป่วย โรค/อาการ treatment/procedure -Competency ของทีมพยาบาลทุกระดับ -การบริหารอัตรากำลัง การลดหรือเพิ่มอัตรากำลังสัมพันธ์กับ workload -Workload ของบุคคลแต่ละคน -ประเมินการจัดเวร การแลกเวร ในระดับการปฏิบัติการ ความเหมาะสม พ.ย.


การบริหารทรัพยากรบุคคล หัวหน้าพยาบาล ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ เชี่ยวชาญ คุณสมบัติ 1.มีคุณสมบัติเฉพาะตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพ ระดับปฏิบัติการและ 2. ดำรงตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง มาแล้ว ดังต่อไปนี้ 2.1 ประเภทอำนวยการ ระดับต้น มาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี 2.2 ประเภทวิชาการ ระดับชำนาญการพิเศษ มาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี 2.3 ดำรงตำแหน่งอย่างอื่นที่เทียบเท่า 2.1 หรือ 2.2 ตามหลักเกณฑ์และเงื่อนไขที่ กพ.กำหนด 2.4 ดำรงตำแหน่งในระดับ 8 หรือ กพ.เทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือดำรง ตำแหน่งไม่ต่ำกว่าระดับ 7 หรือที่ กพ.เทียบเท่ามาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี สำหรับ ข้าราชการพลเรือนสามัญที่มีคุณสมบัติเรื่องระยะเวลาการดำรงตำแหน่งต่างไปจาก คุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งตามมาตรฐานกำหนดตำแหน่งเป็นการเฉพาะคราวใน ครั้งแรกแต่ละบุคคล ตามหนังสือสำนักงาน กพ.ที่ นร. 1006/ว 19 ลงวันที่ 11 ธันวาคม 2551 (นับถึงวันที่ปิดรับสมัคร) และ 3. ปฏิบัติงานด้านพยาบาลวิชาชีพหรืองานอื่นที่เกี่ยวข้องตามที่ส่วนราชการเจ้าสังกัดเห็นว่า เหมาะสมกับหน้าที่ความรับผิดชอบและลักษณะงานที่ปฏิบัติมาแล้วไม่น้อยกว่า 1 ปี ลักษณะงานที่ปฏิบัติ ปฏิบัติงานในฐานะผู้บังคับบัญชาของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาล และตำแหน่งรอง ผู้อำนวยการฝ่ายการพยาบาล รับผิดชอบควบคุมกำกับ ดูแล กลุ่มการพยาบาล และฝ่ายโภชนาการ ทำหน้าที่ความรับผิดชอบด้านการบริหาร วิชาการ การบริการพยาบาลและการผดุงครรภ์ รวมทั้งงาน สนับสนุนอื่น ๆ ตามโครงสร้างโรงพยาบาล กำหนดแผนงานให้สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ และ นโยบายของโรงพยาบาลส่งเสริมการปฏิบัติงานของ เจ้าหน้าที่ทุกระดับให้บริการได้ตามมาตรฐาน รวมทั้งการพิจารณาแก้ไขปัญหา ปรับปรุงการบริการ การให้ คำแนะนำทางวิชาการ และบริหารการ พยาบาล แก่เจ้าหน้าที่ในกลุ่มการพยาบาล ประสานงานร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หน้าที่ความรับผิดชอบ 1. ด้านบริหารและกำกับดูแล 1. กำหนดทิศทางและนโยบายการบริหารการพยาบาลของกลุ่มการพยาบาลเพื่อ ให้บริการรักษาพยาบาลที่มีมาตรฐานวิชาชีพ มาตรฐานจริยธรรม และจรรยาบรรณ วิชาชีพ ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการนโยบายของโรงพยาบาลและ กระทรวงสาธารณสุข 2. กำหนดผลสัมฤทธิ์ทั้งด้านผลผลิตและผลลัพธ์การดำเนินงานของกลุ่มการพยาบาลเพื่อ เป็นแนวทางการดำเนินงานของหน่วยงานในกำกับของกลุ่มการพยาบาล ให้ ปฏิบัติงานได้อย่างตรงตามวัตถุประสงค์ และมีประสิทธิภาพสูงสุด 3. ควบคุม กำกับการบริหารการบริการพยาบาลของทุกหน่วยงานอย่างมีเอกสิทธิ์ เพื่อให้ การดำเนินงานของทุกหน่วยงาน ในกลุ่มการพยาบาลช่วยให้บรรลุตามเป้าหมายที่ กำหนด 4. เจรจาต่อรอง และจัดการกับความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอกองค์กร เพื่อให้เกิด ความร่วมมือในการดำเนินงาน และรักษาสิทธิประโยชน์ของบุคลากรในองค์กรวิชาชีพ


5. นิเทศงานการพยาบาลในกลุ่มการพยาบาล เพื่อกำกับดูแลให้การปฏิบัติการพยาบาล เป็นไปตามเป้าหมาย 6. พิทักษ์สิทธิ์ผู้ประกอบวิชาชีพทางการพยาบาลเพื่อป้องกันการล่วงละเมิดสิทธิตาม จรรยาบรรณและมาตรฐานวิชาชีพ 7. กำหนดอัตรากำลังและกระจายอัตรากำลังทุกระดับให้เพียงพอสำหรับการปฏิบัติงานอย่าง เหมาะสมตลอด 24 ชม. ทั้งในภาวะปกติและฉุกเฉิน 2. ด้านปฏิบัติการ 1. กำหนดแนวทางการปฏิบัติการพยาบาลและการติดตามผลปฏิบัติการพยาบาลของ หน่วยงานในองค์กรพยาบาล เพื่อให้บริการพยาบาลตอบสนองความต้องการของ ผู้ใช้บริการเป็นสำคัญ 2. กำหนดมาตรฐานการบริการพยาบาลในภาพรวมให้สอดคล้องกับมาตรฐานส่วนกลาง และ มาตรฐานวิชาชีพรวมทั้งกลวิธีการนำมาตรฐานไปใช้เพื่อให้ผู้รับบริการได้รับ บริการ 3. ศึกษา วิเคราะห์ข้อมูลทุกหน่วยงานในความรับผิดชอบของกลุ่มการพยาบาล เพื่อเป็น แนวทางการบริหารจัดการระบบบริการของกลุ่มการพยาบาลให้มีคุณภาพและ ทันสมัย 4. จัดระบบสารสนเทศของกลุ่มการพยาบาลให้เชื่องโยง และสอดคล้องกับระบบ สารสนเทศของโรงพยาบาลเพื่อเป็นข้อมูลในการพัฒนาบริการทางการพยาบาล 3. ด้านการวางแผน 1. จัดทำแผนกลยุทธ์ กำหนดเป้าหมายในการพัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลของกลุ่ม การพยาบาลเพื่อให้บรรลุวิสัยทัศน์ พันธกิจตามที่องค์กรกำหนด 2. วางแผนงานประจำปี เพื่อให้บริการรักษาพยาบาลที่มีมาตรฐาน ตอบสนองความ ต้องการของ ผู้ใช้บริการอย่างต่อเนื่อง 3. บริหารทรัพยากรบุคคล งบประมาณ ทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพ เพื่อให้สอดคล้อง กับภารกิจของโรงพยาบาล และกลุ่มการพยาบาลทั้งในปัจจุบันและอนาคต 4. ด้านประสานงาน 1. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อให้เกิดความร่วมมือและการแลกเปลี่ยน ความคิดเห็นและข้อมูลต่างๆ หรือเสนอแนวทางหรือโครงการขอรับความช่วยเหลือ และสนับสนุนโครงการต่างๆ ทางด้านการพยาบาล 2. พัฒ นาระบบการสื่อสารและการประสานงานระหว่างบุคคล ผู้ใช้บริการ และหน่วยงานทั้ง ภายในและภายนอกหน่วยงาน เพื่อให้เกิดความร่วมมือในการ ดำเนินงานให้บรรลุผลสำเร็จ ตามเป้าหมาย 3. สนับสนุนการสร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างบุคลากรของกลุ่มการพยาบาล กับสหวิชาชีพและ ผู้ใช้บริการ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด 4. สร้างและ/หรือ มีส่วนร่วมในเครือข่ายคุณภาพการพยาบาล เพื่อสร้างความเข้มแข็ง ให้กับองค์กรพยาบาล 5. แสวงหาและแลกเปลี่ยนข้อมูลภายในและภายนอกเครือข่าย เพื่อส่งเสริมให้เกิดการ พัฒนา Best Practices ของกลุ่มการพยาบาล


5. ด้านการบริการวิชาการ 1. กำหนดนโยบายและสนับสนุนการผลิต นวตกรรม /สร้างสรรค์งานวิจัยเพื่อสร้างองค์ ความรู้ใหม่และหาคำตอบในการแก้ไขปัญหาการทำงานของกลุ่มการพยาบาล 2. เป็นที่ปรึกษา และให้คำแนะนำด้านวิชาการแก่เจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง ในการ พัฒนาปรับปรุงและประยุกต์ใช้ความรู้ทางการพยาบาล เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถให้บุคคล ดังกล่าวสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 3. ให้คำแนะนำหรือตอบข้อหารือทางการพยาบาลแก่บุคคลหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องใน ประเด็นที่ต้องใช้ความเชี่ยวชาญและประสบการณ์ในด้านการบริหารการพยาบาล เพื่อให้บุคคลหรือหน่วยงานดังกล่าวมีความรู้ความเข้าใจเพียงพอสำหรับการจัดการกับ ปัญหาและ / หรือ ความขัดแย้งในการปฏิบัติงาน 4. ส่งเสริมให้มีการวิจัยทั้งในด้านบริหาร การนิเทศ และการปฏิบัติการพยาบาล ตลอดจนส่งเสริมสนับสนุนให้มีการนำผลการวิจัยมาใช้ เพื่อการพัฒนางานบริการ พยาบาลให้ได้มาตรฐาน และ ทันสมัยยิ่งขึ้น 5. วางแผนร่วมกับสถาบันการศึกษา ในการจัดประสบการณ์การเรียนและการสอน ภาคปฏิบัติของนักศึกษาเพื่อให้การเรียนการสอนมีความสมบูรณ์และถูกต้องยิ่งขึ้น รองหัวหน้าพยาบาล แบ่งงานตามงานที่กำหนด 5 ด้านได้แก่ 1. รองหัวหน้าพยาบาลด้านบริหาร นางสาวิตรี สุวณิชชากุล ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ หน้าที่ของรองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลด้านบริหาร 1.บริหารทรัพยากร (บุคลากร เครื่องมือ ค่าตอบแทนนอกเวลาราชการ) 2.ดูแลสุขภาพ สวัสดิการขวัญกำลังใจ บุคลากรทางการพยาบาล 3.สร้างเสริมบรรยากาศองค์กร 4.การบริหารจัดการสิ่งแวดล้อม อาคารสถานที่ 5.P4P 6.ประเมินและวิเคราะห์ผลการประเมินสมรรถนะบุคลากรทางการพยาบาล 7.บริหารจัดการสารสนเทศทางการพยาบาล 2. รองหัวหน้าพยาบาลด้านบริการ นางสาวปราณี พวงดีตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ หน้าที่ของรองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลด้านบริการ 1.กำหนดและทบทวนมาตรฐาน/แนวทางปฏิบัติ/เกณฑ์ชี้วัดคุณภาพและวางแผนพัฒนางานบริการ พยาบาล 2.นิเทศควบคุมกำกับคุณภาพการให้บริการพยาบาล ให้เป็นไปตามมาตรฐาน 3.วิเคราะห์และประเมินผลคุณภาพการพยาบาลให้เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนดทั้งในเชิงปริมาณ และคุณภาพเพื่อการปรับปรุง 4.การสร้างนวัตกรรมทางการพยาบาลรวมทั้งการนำผลงานวิจัย/นวัตกรรมมาเผยแพร่และพัฒนา งานอย่างต่อเนื่อง


3. รองหัวหน้าพยาบาลด้านวิชาการ นางวรนุช ทิพย์ถิระพงศ์ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ หน้าที่ของรองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลด้านวิชาการ 1.ประเมินวิเคราะห์ความต้องการการพัฒนาการเรียนรู้ของบุคลากรทางการพยาบาล 2.วางแผนและพัฒนาศักยภาพของบุคลากรทางการพยาบาลโดยครอบคลุมทุกระดับ 3.ส่งเสริมและสนับสนุนเจ้าหน้าที่ให้ได้รับการประชุม อบรมและการศึกษาต่อเนื่องเพื่อฟื้นฟูองค์ ความรู้ของเจ้าหน้าที่ทุกระดับ พร้อมทั้งสนับสนุนในการถ่ายทอดองค์ความรู้ในองค์กร 4.ปฐมนิเทศพยาบาลจบใหม่นักเรียน/นักศึกษาและผู้มาฝึกปฏิบัติงานในโรงพยาบาล 5.บริหารจัดการด้านการฝึกปฏิบัติงาน ของนักเรียน/นักศึกษา/ผู้มาฝึกปฏิบัติงานและผู้ศึกษาดูงาน 6.พัฒนา/จัดทำ Model และแบบประเมินสมรรถนะบุคลากรทางการพยาบาล 7.สนับสนุนและส่งเสริมการทำวิจัยทางวิชาชีพจัดให้มีการนำเสนอผลงานทางวิชาการ/งานวิจัย/ นวัตกรรมร่วมกับคณะกรรมการของโรงพยาบาล 8.จัดหาเอกสารและตำราทางวิชาการ 4. รองหัวหน้าพยาบาลด้านความเสี่ยง นางวรินทร์ธร ร่มไทรตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ หน้าที่ของรองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลด้านความเสี่ยง 1.กำหนดนโยบายและแผนดำเนินการด้านความเสี่ยงของกลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลให้ สอดคล้องกับระบบบริหารความเสี่ยงของโรงพยาบาล 2.จัดประชุมสร้างความเข้าใจและให้ความรู้แก่บุคคลากรเรื่องการบริหารจัดการความเสี่ยง ให้กับเจ้าหน้าที่ทุกระดับของกลุ่มการพยาบาล 3. ส่งเสริมและกระตุ้นการ เฝ้าระวัง ป้องกัน ความเสี่ยง ที่เกิดขึ้น ให้เกิดเป็นวัฒนธรรมการ บริหารจัดการความเสี่ยงแก่เจ้าหน้าที่ทุกระดับ 4. นิเทศติดตามประเมินผลการดาเนินงาน รวบรวมข้อมูล และวิเคราะห์/สังเคราะห์ข้อมูล ความเสี่ยง หาแนวโน้มและประเด็นสำคัญเพื่อใช้ในการจัดทำนโยบายและวางแนวทางป้องกันแก้ไข อย่างมีประสิทธิภาพ 5. รองหัวหน้าพยาบาลด้านจริยธรรม หน้าที่ของรองหัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลด้านจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ นางอุษา ชะโนภาษ ตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการพิเศษ 1.กำหนดนโยบายและแนวทางปฏิบัติจริยธรรมและจรรยาบรรณวิชาชีพ 2.ส่งเสริมแผนจริยธรรมองค์ 3.เฝ้าระวังและวิเคราะห์ความเสี่ยงด้านจริยธรรมในองค์วิชาชีพ 4.พัฒนาทักษะและสมรรถนะด้านจริยธรรมให้แก่บุคลากรทางการพยาบาล คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง คุณสมบัติทั่วไป 1. มีคุณสมบัติเฉพาะสำหรับตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการหรือชำนาญการพิเศษ 2. เป็นผู้ที่ปฏิบัติงาน หรือเคยได้รับมอบหมายให้ปฏิบัติหน้าที่ผู้บริหารทางการพยาบาลใน ตำแหน่งใดตำแหน่งหนึ่ง หรือหลายตำแหน่ง โดยมีระยะเวลาการปฏิบัติงานตามที่กำหนด มาแล้วไม่น้อยกว่า 2 ปี


ความรู้ความสามารถที่ต้องการ 1. มีความรู้ ความสามารถ และความเชี่ยวชาญด้านการพยาบาลและการผดุงครรภ์ 2. มีความรู้ในหลักการบริหารงานพยาบาล บริหารงานทั่วไป และบริหารงานบุคคล 3. มีความเข้าใจในพระราชบัญญัติ ข้อบังคับ ข้อระเบียบ และนโยบายของสภาการพยาบาล 4. สามารถวิเคราะห์ปัญหา ตัดสินใจและวางแผนดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม 5. มีความรู้ ความเข้าใจ ด้านการบริหารงานงบประมาณ อุปกรณ์และอาคารสถานที่ 6. มีความรู้ในหลักการสอนและการค้นคว้าวิจัย ส่งเสริมสนับสนุนงานทางด้านวิชาการ ตลอดจน งานวิจัย และสามารถนิเทศงานเจ้าหน้าที่ทางการพยาบาล 7. สามารถติดต่อประสานงาน และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง 8. มีความรู้ทันต่อความก้าวหน้าทางวิชาการ และการเปลี่ยนแปลงของสังคม หน้าที่ความรับผิดชอบ ( สายประสานงาน) 1. พัฒนาระบบการบริการพยาบาลในส่วนที่ได้รับมอบหมาย 2. นิเทศการพยาบาล ตามมาตรฐานวิชาชีพ 3. สนับสนุนการปฏิบัติงานในหน่วยงาน ตามสาขาที่ได้รับมอบหมาย 4. ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งภายในและภายนอก 5. สรุปและรายงานผลการปฏิบัติงานตามระยะเวลาที่กำหนด หัวหน้าหอผู้ป่วย/หัวหน้างาน ลักษณะงานที่ปฏิบัติ เป็นผู้ปฏิบัติ และควบคุมการปฏิบัติงาน บริหารบุคลากร จัดการโครงการของหน่วยงาน ตามขอบเขตและความรับผิดชอบ ร่วมให้คำแนะนำและแสดงความคิดเห็นในงานที่รับผิดชอบ เป็นที่ ปรึกษาให้กับบุคลากรในหน่วยงาน คิดค้นวิธีการนำจุดเน้นของหน่วยงานลงสู่การปฏิบัติและเป็นผู้นำใน การพัฒนาคุณภาพการพยาบาลในหน่วยงาน คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง คุณสมบัติทั่วไป 1. ได้รับปริญญาตรีหรือเทียบเท่าได้ไม่ต่ำกว่านี้ทางการพยาบาล และได้รับใบอนุญาต ประกอบวิชาชีพสาขาการพยาบาลและการผดุงครรภ์ชั้นหนึ่ง 1.ดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการไม่น้อยกว่า 5 ปี และมีใบประกอบวิชาชีพ ด้านการพยาบาล – ผดุงครรภ์ ที่ได้ไม่หมดอายุ 2. ปฏิบัติงานด้านการพยาบาล/บริหารการพยาบาลในหน่วยงานกลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลปทุมธานีไม่น้อยกว่า 1 ปี คุณสมบัติเฉพาะ 1.ผ่านการอบรมด้านการพยาบาลที่เกี่ยวข้อง / เกื้อกูล กับลักษณะงานในหน่วยงาน ที่จะ ดำรงตำแหน่ง ที่จะแต่งตั้ง อย่างน้อย 1 สัปดาห์ (เฉพาะหัวหน้างานวิสัญญี ผู้สมัครต้อง ผ่านการอบรมพยาบาลวิสัญญี อย่างน้อย 1 ปี และปฏิบัติงาน/มีประสบการณ์ การ ปฏิบัติงานในหน่วยงานวิสัญญี กลุ่มการพยาบาล โรงพยาบาลปทุมธานี ไม่น้อยกว่า 2 ปี) 2. มีความสามารถในการบริหารหน่วยงาน และสามารถปฏิบัติงานทดแทนพยาบาลวิชาชีพ กรณีขาดแคลนบุคลากร ได้ทั้งในและนอกเวลาราชการ 3. ได้รับการอบรมหลักสูตรด้านการบริหาร และด้านการพยาบาลที่เกี่ยวข้อง 4. ปฏิบัติหน้าที่ผู้ตรวจการพยาบาลไม่น้อยกว่า 1 ปี


ความรู้ความสามารถที่ต้องการ 1. มีความรู้ในหลักการบริหารงานพยาบาล บริหารงานทั่วไป และบริหารงานบุคคล 2. มีความเข้าใจในพระราชบัญญัติ ข้อบังคับ ข้อระเบียบ และนโยบายของสภาการพยาบาล 3. สามารถวิเคราะห์ปัญหา ตัดสินใจและวางแผนดำเนินการแก้ไขปัญหาได้อย่างเหมาะสม 4. มีความรู้ ความเข้าใจ ด้านการบริหารงานงบประมาณ อุปกรณ์และอาคารสถานที่ 5. สามารถติดต่อประสานงาน และให้ความร่วมมือกับหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง หน้าที่ความรับผิดชอบ 1. ด้านบริหารและกำกับดูแล 1. บริหารจัดการระบบบริการพยาบาลในระดับหอผู้ป่วย/หน่วยงาน ตามนโยบาย ยุทธศาสตร์ และแผนงานที่กลุ่มการพยาบาลกำหนด เพื่อให้หน่วยงานสามารถให้บริการได้อย่างต่อเนื่อง เกิดผลลัพธ์ด้านการรักษาพยาบาลได้ตามมาตรฐานที่กำหนด 2. บริหารจัดวัสดุ ครุภัณฑ์ และเวชภัณฑ์ในหน่วยงาน เพื่อให้มีใช้เพียงพอ และเหมาะสม สำหรับการ ให้บริการ 3. วิเคราะห์ประสิทธิภาพของการบริหารและการพัฒนาคุณภาพบริการในหน่วยงานที่ รับผิดชอบ เพื่อปรับปรุงระบบบริการของหน่วยงานให้สามารถบรรลุผลลัพธ์การดำเนินงาน ที่พึงประสงค์และมีความคุ้มค่าคุ้มทุน 4. จัดระบบการมอบหมายงานให้กับบุคลากรในความรับผิดชอบเพื่อให้ผู้ป่วยได้รับการดูแล อย่างต่อเนื่องตามเกณฑ์มาตรฐานการจัดบริการของหน่วยงาน 5. จัดระบบข้อมูลสารสนเทศภายในหน่วยงานอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อเป็นข้อมูลในการ พัฒนาคุณภาพการพยาบาลของหน่วยงาน 6. กำกับดูแลให้มีการปฏิบัติงานตามนโยบาย แนวทางปฏิบัติงานของหน่วยงาน/โรงพยาบาล เพื่อให้ ผู้รับบริการได้รับบริการที่มีคุณภาพตามมาตรฐานของหน่วยงาน 7. กำกับดูแลการจัดการด้านสิ่งแวดล้อม รวมถึงการใช้ Isolation Precautions ในหน่วยงาน เพื่อให้ผู้ป่วยและบุคลากรในหน่วยงานเกิดความปลอดภัย 8. กำกับดูแล และตรวจสอบการปฏิบัติงานของผู้ใต้บังคับบัญชา เพื่อให้การปฏิบัติงานของ บุคลากร ในหน่วยงานเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพ และบรรลุตามวัตถุประสงค์ของ หน่วยงานที่กำหนดไว้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด 9. ประเมินผลการปฏิบัติงานของบุคลากร ในหน่วยงานที่รับผิดชอบเพื่อเป็นแนวทางในการ กำหนดแผนพัฒนาบุคลากรให้สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. ด้านปฏิบัติการพยาบาล 1. พัฒนาคุณภาพบริการพยาบาลในหน่วยงานให้สอดคล้องตามเข็มมุ่งและเป้าหมายของกลุ่ม การพยาบาลรวมทั้งภารกิจหลักหรือจุดเน้นของหอผู้ป่วย/หน่วยงาน ที่ตอบสนองความ ต้องการของผู้รับบริการเพื่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงและเกิดผลลัพธ์สูงสุดกับของหน่วยงาน 2. ให้การพยาบาลและเป็นที่ปรึกษาเกี่ยวกับการให้บริการพยาบาลผู้ป่วยที่มีความยุ่งยาก ซับซ้อน เพื่อให้เกิดความปลอดภัยและผลลัพธ์ที่พึงประสงค์แก่ผู้ป่วย 3. จัดทำมาตรฐาน/แนวทางในการปฏิบัติงานของหน่วยงานให้เหมาะสมกับการเปลี่ยนแปลง ของ สถานการณ์และความต้องการของผู้รับบริการ เพื่อให้บุคลากรในหน่วยงาน ปฏิบัติงานได้ถูกต้องและมีคุณภาพ


4. ศึกษา วิเคราะห์ปัญหา/สถานการณ์ต่างๆ ที่เกิดขึ้นในหน่วยงานที่รับผิดชอบ เพื่อการ วินิจฉัยแก้ไขและป้องกันปัญหาต่างๆ ได้อย่างเหมาะสม ทันเวลา 5. สร้างสรรค์บรรยากาศในการทำงานเพื่อสร้างแรงจูงใจในการทำงานให้กับบุคลากรในหน่วยงาน 6. ดูแลให้มีการปฏิบัติงานตามนโยบาย แนวทางปฏิบัติงานของหน่วยงาน/โรงพยาบาล 3. ด้านการวางแผน 1. จัดทำแผนปฏิบัติการของหน่วยงานด้านบริหาร บริการและวิชาการ เพื่อให้สอดคล้องกับ แผนยุทธศาสตร์และแผนปฏิบัติการของกลุ่มการพยาบาล 2. จัดทำแผนวัสดุ ครุภัณฑ์ เวชภัณฑ์และสิ่งก่อสร้างประจำปี เพื่อให้หน่วยงานสามารถ ให้บริการ ได้อย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพ 3. จัดทำแผนบุคลากรของหน่วยงาน เพื่อให้มีบุคลกรที่มีประสิทธิภาพ และเพียงพอ ต่อการ ปฏิบัติงาน 4. ร่วมวางแผนการศึกษาและการสอนนักศึกษาทางคลินิกในหลักสูตรการพยาบาลและผดุง ครรภ์ เพื่อให้การเรียนการสอนดังกล่าวมีความสมบูรณ์ ถูกต้อง และร่วมผลิตนักศึกษาที่มี คุณภาพเหมาะสมกับการปฏิบัติงานพยาบาล 5. สรุปผลการดำเนินงานของหน่วยงาน เพื่อเป็นข้อมูลสำหรับการจัดทำแผนปฏิบัติการหรือ ปรับเปลี่ยนแผนกลยุทธ์ของกลุ่มการพยาบาล 4. ด้านการบริการวิชาการ 1. สอนงานและฝึกอบรมเจ้าหน้าที่หรือบุคคลที่เกี่ยวข้อง เพื่อเพิ่มพูนความรู้ ความสามารถให้ บุคคลดังกล่าวสามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 2. ให้คำแนะนำ/ปรึกษาหรือตอบข้อหารือทางการพยาบาล แก่บุคลากรภายในหน่วยงานหรือ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องในประเด็นที่ต้องอาศัยความชำนาญและประสบการณ์ เพื่อให้บุคคล หรือหน่วยงานดังกล่าวมีความรู้ความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องที่เป็นปัญหา 3. จัดทำหรือสนับสนุนบุคลากรในหน่วยงานหรือหน่วยงานในการศึกษา วิจัย คิดค้นหา ความรู้วิธีการใหม่ ๆ ที่เป็นประโยชน์ในการพยาบาลเพื่อปรับปรุงคุณภาพการพยาบาลของ หน่วยงาน 5. ด้านการประสานงาน 1. เป็นตัวแทนของหน่วยงานในการประชุมคณะกรรมการต่างๆ ของกลุ่มการพยาบาลและ โรงพยาบาลเพื่อให้ข้อมูลเสนอความคิดเห็น และประสานงานในประเด็นต่างๆ เกี่ยวกับการ พยาบาล 2. ดำเนินการประสานงานทั้งภายในหน่วยงานและภายนอกหน่วยงานเพื่อให้การปฏิบัติงาน บรรลุ ผลสำเร็จตามเป้าหมาย 3. สร้างสัมพันธภาพอันดีระหว่างบุคลากรในหน่วยงานกับสหสาขาวิชาชีพ และผู้รับบริการ เพื่อให้เกิดความพึงพอใจสูงสุด 4. เจรจาต่อรอง แก้ไขและประสานความขัดแย้งทั้งภายในและภายนอกหน่วยงานเพื่อให้เกิด ความร่วมมือในการดำเนินงาน และรักษาสิทธิประโยชน์ของบุคลากรในหน่วยงาน 5. จัดระบบการสื่อสารภายในหน่วยงานให้มีประสิทธิภาพเพื่อให้การปฏิบัติงานภายใน หน่วยงาน ที่รับผิดชอบเป็นไปอย่างรวดเร็ว คล่องตัว


พยาบาลตรวจการ ลักษณะงานที่ปฏิบัติ 1) สำรวจปัญหาและความต้องการบุคลากรในแต่ละหน่วยงาน ช่วยเหลือเจ้าหน้าที่เพื่อให้ สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีคุณภาพ 2) นิเทศการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ทางการพยาบาลในหน่วยงานที่ได้รับมอบหมายนอก เวลาราชการ 3) นิเทศการใช้กระบวนการพยาบาลในการปฏิบัติ และบันทึก โดยการสุ่มสำรวจข้อมูลจาก หน่วยงาน ที่กำหนด และวิเคราะห์คุณภาพจากการสังเกต การปฏิบัติการพยาบาล สอบถามจากผู้ปฏิบัติ/ผู้ใช้บริการ และการบันทึกรายงาน 4) ช่วยแก้ปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติงานที่เกิดขึ้นอย่างปัจจุบันทันด่วน ทั้งที่เกี่ยวกับการ ปฏิบัติงาน ผู้ให้บริการและผู้ใช้บริการ เช่น อุบัติเหตุหมู่เจ้าหน้าที่ปฏิบัติงานที่มีการป่วยหรือ ขาดงานกะทันหัน 5) ช่วยสนับสนุนการพัฒนาคุณภาพ การปฏิบัติงานพยาบาลของเจ้าหน้าที่ โดยการนิเทศ ตามการประเมินการปฏิบัติงานของเจ้าหน้าที่ในหน่วยงานที่ถูกนิเทศให้ปฏิบัติงานได้อย่าง ถูกต้องมีประสิทธิภาพทั้งทางตรงและทางอ้อม สร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างเจ้าหน้าที่ ให้ความร่วมมือและสนับสนุนให้เกิดการประสานงานที่มีประสิทธิภาพ 6) ประสานงานระหว่างหน่วยงานในความรับผิดชอบกลุ่มการพยาบาลและหน่วยงานที่ เกี่ยวข้อง ช่วยจัดหาอุปกรณ์เครื่องมือเครื่องใช้ เพื่อการรักษาพยาบาลผู้ป่วยที่จำเป็น ต้องการใช้ฉุกฉิน 7) รายงานเหตุการณ์ความเสี่ยงตามลำดับที่กำหนด ในกรณีที่มีเหตุการณ์ที่เวรตรวจการไม่ สามารถที่จะแก้ปัญหาเบื้องต้น/ตัดสินใจได้ให้ปรึกษาเวรตรวจการพี่เลี้ยง หรือหัวหน้า พยาบาล คุณสมบัติเฉพาะตำแหน่ง 1. ดำรงตำแหน่งพยาบาลวิชาชีพชำนาญการ (ซี 7 ) อย่างน้อย 5 ปี 2. วุฒิการศึกษาระดับปริญญาตรีทางการพยาบาล หรือเทียบเท่า 3. ได้รับใบอนุญาตประกอบวิชาชีพการพยาบาลและการผดุงครรภ์ ชั้น 1 และไม่หมดอายุ 4. ได้รับการอบรมหลักสูตรการบริหารและประสบการณ์ในการบริหาร 5. มีความสามารถในการตัดสินใจและวางแผนการดำเนินงานได้อย่างเหมาะสมในกรณี ฉุกเฉิน หน้าที่ความรับผิดชอบ ปฏิบัติงานในฐานะเป็นผู้รับผิดชอบแทน หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการพยาบาลนอกเวลา ราชการ ในการนิเทศ ควบคุม กำกับ ให้คำแนะนำ และเป็นที่ปรึกษาด้านการบริหาร การบริการ และ ด้านวิชาการให้กับเจ้าหน้าที่ทางการพยาบาลทุกระดับในหอผู้ป่วย และหน่วยงานต่าง ๆ ที่อยู่ในความ รับผิดชอบของกลุ่มการพยาบาล ประสานนโยบาย/แผนงานจากระดับผู้บริหารและหน่วยงานที่ เกี่ยวข้องไปสู่ผู้ปฏิบัติ บูรณาการความรู้ ทักษะด้านการพยาบาลและศาสตร์อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องเพื่อให้เกิด การบริการที่ดีมีคุณภาพ ได้มาตรฐาน และรายงานผลการนิเทศงานต่อหัวหน้าพยาบาล


Click to View FlipBook Version