ตวั เหนี่ยวนำไฟฟำ้ (inductor)
ตวั เหน่ยี วนำไฟฟ้ำ (Inductor)
•
ตัวเหนย่ี วนาํ เป็นอปุ กรณ์ชน้ิ สว่ นทางอิเล็กทรอนิกส์ชนิดหน่ึง ที่
ประกอบอยใู่ นวงจรเครือ่ งรับ-สง่ วิทยุ วงจรเครื่องรบั โทรทศั น์ วงจร
เลอื กความถี่ และวงจรอน่ื ๆทีอ่ าศยั หลกั การเหนี่ยวนาํ บางครั้งอาจ
เรยี กว่า
อนิ ดัคเตอร์ คอื “คอยล์” หรือ “แอล” แทนก็ได้โดยลักษณะโครงสร้าง
ของอุปกรณ์ประเภทน้ี คอื การเอาลวดตัวนาํ ทองแดงมาพนั เปน็ ขด
จํานวนหลายๆรอบบนแกนอากาศซึ่งขดลวดทองแดงน้จี ะแสดง
คุณสมบัตเิ ปน็ ตวั เหนีย่ วนาํ ทางไฟฟา้ ไดก้ ็ตอ่ เมือ่ มกี ระแสไฟฟา้ ไหล
ผา่ นตวั มนั การเหนย่ี วนําในตัวเอง
หลกั กำรทำงำนตวั เหน่ียวนำไฟฟ้ำ (Inductor)
• หลักการทาํ งาน เมอื่ เราจ่ายกระแสไฟฟา้ ใหไ้ หลเข้าไปในเสน้ ลวดตวั นําจะ
ปรากฎวา่ มีเสน้ แรงแมเ่ หล็กเกดิ ข้นึ ทรี่ อบๆเสน้ ลวดตัวนํา และมีทิศทางตาม
กฎมือซา้ ยถา้ เรานาํ เอาลวดมาขดเป็นคอยลเ์ พ่อื ใหเ้ กิดคณุ สมบัตขิ องตัวนาํ
โดยตอ่ จากแหลง่ จา่ ยไฟ กระแสตรงแลว้ ใชก้ ฎมือซา้ ย ซงึ่ จะบอกให้เราทราบ
ว่านิ้วหวั แม่มอื ซา้ ยจะแสดง ทศิ ทางของสนามแมเ่ หล็กขัว้ เหนือ ของขดลวด
และจํานวนนิว้ ท่ีเหลือทั้ง4 นิ้ว ที่กาํ รอบขดลวดจะเปน็ ทิศทางการไหลของ
กระแสอิเล็กตรอน
• การใชง้ าน การพันขดลวดของตัวเหน่ยี วนําอาจพนั บนแกนชนดิ ตา่ ง ๆ หรอื
เปน็ แบบไม่มีแกน (แกนอากาศ) ซงึ่ แต่ละแบบก็จะมคี ณุ สมบัตทิ ีแ่ ตกต่างกนั
คุณสมบตั ิของกำรเหนย่ี วนำไฟฟ้ำ แบง่ ออกได้เปน็
• 1) ตวั เหน่ียวนําแกนอากาศ (Air Core Inductor)
2) ตวั เหน่ยี วนาํ แกนผงเหลก็ อดั (Powdered - Iron Core
Inductor)
3) ตัวเหนีย่ วนําแกนเฟอรไ์ รด์ (Ferrite Core Inductor)
4) ตวั เหนย่ี วนาํ แกนทอรอยด์ (Toroidal Core Inductor)
5) ตัวเหน่ยี วนําแกนเหลก็ แผน่ (Laminated - Iron Core
Inductor)
1.1 ตัวเหนีย่ วนำอำกำศ (Air Core Inductor)
• ตวั เหน่ียวนาํ แกนอากาศ เปน็ ตัวเหน่ียวนาํ ท่แี กนหรอื ฐานรองทาํ
มาจากวสั ดทุ เี่ ปน็ ฉนวน เช่น คารบ์ อน พลาสตกิ ไฟ
เบอร์ และ PVC เป็นตน้ หรอื อาจพันลอยๆ ไวโ้ ดยไมม่ อี ะไร
รองรบั ตวั เหนีย่ วนาํ ประเภทนี้นยิ มนําไปใช้งานกบั พวกความถ่ี
สงู ๆ หรอื ความถ่วี ทิ ยุ (RF) จงึ มกั เรยี กตวั เหนี่ยวนาํ ประเภทนี้
วา่ RF โชค้ ตวั เหนย่ี วนําแกนอากาศเปน็ ตวั เหนี่ยวนาํ ทม่ี ีคา่
ความเหนี่ยวนําต่ํา เพราะแกนไม่สามารถช่วยเสรมิ คา่ ความ
เหน่ียวนําได้ การจะทําใหค้ ่าความเหนี่ยวนาํ เพิ่มขึ้นต้องใช้
จาํ นวนรอบในการพนั ขดลวดเพ่ิมข้ึน
1.1 ตัวเหนี่ยวนำอำกำศ
1.2 ตัวเหนย่ี วนำแกนผงเหล็ก
(Powdered - Iron Core Inductor)
• ตวั เหนยี่ วนาํ แกนผงเหลก็ อดั เป็นตวั เหนย่ี วนําท่ีแกนหรอื
ฐานรองรับเส้นลวดทําดว้ ยผงเหลก็ ชนดิ อัดแนน่ โดยนําผงเหล็ก
ผสมกบั กาวอดั แน่นเป็นแทง่ ชว่ ยลดการสูญเสียสัญญาณจาก
กระแสไหลวน (Eddy Current) ลงได้ สัญญาณส่งผา่ นตัว
เหนี่ยวนําแกนผงเหล็กอดั ไดส้ ูงขนึ้ เกิดการสูญเสยี สัญญาณ
ภายในตวั เหนี่ยวนําลดลง ใช้งานได้ดใี นย่านความถีส่ งู ๆ มคี วาม
เหนี่ยวนําสงู แต่มีขนาดเล็ก
1.2 ตวั เหน่ยี วนำแกนผงเหลก็
1.3 ตัวเหนยี่ วนำแกนเฟอรไ์ รต์
(Ferrite Core Inductor)
เป็นตัวเหนี่ยวนาํ ท่ีแกนหรือฐานรองรบั เส้นลวดทาํ ดว้ ยเฟอรไ์ รต์
สว่ นผสมของเฟอรไ์ รต์มคี วามแตกตา่ งกนั หลายอย่าง เช่น
แมกนีเซียมกบั สังกะสี แมกนเี ซยี มกบั แมงกานีส แมกนเี ซยี มกับ
ทองแดง นิกเกลิ กบั สงั กะสี และแมงกานีสกบั สังกะสี เปน็ ตน้
แต่ละชนิดของเฟอรไ์ รต์ใหค้ วามเขม้ ของค่าความเหนีย่ วนาํ แตกตา่ ง
กันข้อดขี องตวั เหนีย่ วนาํ แกนเฟอร์ไรต์ คอื สามารถสรา้ งใหม้ ี
รปู รา่ งลักษณะต่างๆ ได้ ใชง้ านได้ดที ้งั ความถ่ีต่าํ และความถส่ี ูง
1.3 ตวั เหน่ยี วนำแกนเฟอรไ์ รต์
1.4 ตัวเหนย่ี วนำแกนทอรอยต์
(Toroidal Core Inductor)
• ตวั เหนย่ี วนาํ แกนทอรอยต์ เป็นตัวเหน่ียวนาํ ทีแ่ กนหรือฐานรองรบั
เส้นลวดทาํ ดว้ ยผลเหล็กชนิดอัดแนน่ หรอื ไฟอร์ไรต์ โดยสรา้ งขนึ้
เปน็ รปู วงแหวน ขดลวดถูกพันรอบแกนทอรอยต์โดยรอบ
• ชอ้ ดีของการใชแ้ กนทอรอยต์ คอื เส้นแรงแมเ่ หลก็ จะไม่
แพร่กระจายออกไปภายนอก และสนามแม่เหลก็ จากภายนอกก็ไม่
เขา้ มารบกวน สามารถทาํ ให้ตวั เหนยี่ วนาํ แบบนมี้ คี วามเหน่ียวนําสูง
ในขนาดทีส่ รา้ งได้เล็กลง นิยมนาํ ไปใชง้ านวงจรอิเลก็ ทรอนิกส์
ความถ่สี ูง ทต่ี อ้ งการหาคา่ ความเหนี่ยวนาํ สงู และมสี นามแม่เหล็ก
รบกวนตํา่
1.4 ตวั เหน่ยี วนำแกนทอรอยต์
1.5 ตัวเหนย่ี วนำแกนเหลก็ แผน่
(Laminated - Iron Core Inductor)
• ตวั เหน่ียวนําแกนเหลก็ แผน่ เปน็ ตวั เหน่ียวนําท่แี กนหรอื
ฐานรองรบั เส้นลวดทําดว้ ยเหล็กแผน่ บางวางซอ้ นกัน เหลก็ แผน่
บางแตล่ ะแผ่นเคลือบฉนวนไว้ เพอื่ ชว่ ยลดการสญู เสยี เนอื่ งจาก
กระแสไหลวนและชว่ ยทําใหค้ ่าความเหนีย่ วนาํ เพมิ่ ขึน้ การใช้
งานนิยมนาํ ไปใช้งานในยา่ นความถี่ต่ําในย่านความถ่ีเสยี ง
(AF) มกั เรียกว่า AF โช้ค เช่น ใชเ้ ป็นตวั กรองไฟ
(Filter) แรงดนั ไฟสลับเปน็ แรงดันไฟตรง เป็นตน้
ตวั เหนี่ยวนำแกนเหล็กแผน่
1.5 ตัวเหนี่ยวนำแกนเหลก็
1.5 ตัวเหนี่ยวนำแกนเหลก็
ชนดิ ของตวั เหน่ียวนำ
• ตวั เหนย่ี วนาํ ที่ผลิตออกมาในปจั จบุ นั มีหลายแบบหลายขนาด
วสั ดุทใ่ี ชท้ ําแกนท่นี ิยมก็คอื แกนอากาศ , แกนเหลก็ และแกน
เฟอรไ์ รท์ เราสามารถแบง่ ตัวเหนีย่ วนาํ ได้ 2 ประเภทใหญ่ ๆ คอื
• 1.ตัวเหนีย่ วนําแบบค่าคงท่ี (Fixed Inductors)
• 2.ตัวเหนี่ยวนําแบบปรบั ค่าได้ (Variable Inductors)
1. ตัวเหนยี่ วนำแบบคำ่ คงที่ (Fixed Inductors)
• ตวั เหนยี่ วนำแบบค่ำคงที่ (Fixed Inductors) คือตัวเหนี่ยวนำท่ี
ไม่สำมำรถเปลี่ยนแปลงคำ่ ได้ โดยปกติตัวเหน่ยี วนำประเภทนี้ ทำมำ
จำกขดลวดทองแดง แกนท่ใี ช้พนั ขดลวดจะมีปลำยลวดยื่นออกมำทง้ั
สองข้ำง รูปร่ำงโดยท่วั ไปจะเป็นแกนยำวแบบทรงกระบอก มชี อ่ื เรยี ก
แตกตำ่ ง กนั เชน่ โซลินอยด,์ เซอรเ์ ฟสเมำส์, โช๊ค, ทอร์รอยด์ และแบบ
แถบสี ฯลฯ เปน็ ตน้
2.ตวั เหนยี่ วนำแบบปรบั ค่ำได้ (Variable Inductors)
• ตัวเหนี่ยวนำแบบปรับคำ่ ได้ (Variable Inductors) นิยมใชใ้ น
เคร่อื งรบั วิทยุ ค่ำกำรเหน่ียวนำจะเปล่ียนแปลงไปตำมกำรเคลอื่ นทข่ี องแกน
หมุน ที่สำมำรถปรับสกรูเลื่อนตำแหนง่ ของขดลวดให้เข้ำหรอื ออก เพอื่ เปลีย่ น
คำ่ ของควำมเหนยี่ วนำ ถำ้ แกนเคลอื่ นทอ่ี อกมำนอกสุด คำ่ ควำมเหนย่ี วนำจะ
มีค่ำตำ่ แตถ่ ำ้ หมุนสกรใู หแ้ กนเคลื่อนทเ่ี ขำ้ ไปในขดลวดมำก จะทำให้คำ่ ควำม
เหนี่ยวนำมำกขนึ้ ตำมไปดว้ ย ในกำรปรบั ควรใช้เคร่อื งมอื ที่ทำด้วยพลำสติก
หรืออุปกรณจ์ ำพวกทไี่ ม่ใช่โลหะ เนอื่ งจำกวสั ดุท่ที ำมำจำกโลหะจะไปรบกวน
กำรเกิดสนำมแม่เหลก็ และมผี ลตอ่ คำ่ ควำมควำมเหนยี่ วนำได้
ปัจจัยทมี่ ผี ลตอ่ คำ่ ควำมเหนี่ยวนำ
• คา่ ความเหนีย่ วนาํ ถูกกาํ หนดโดย 4 ปัจจัย ดังนี้
1. จํานวนรอบของขดลวด
2. พนื้ ที่ของขดลวด
3. ความยาวของขดลวด
4. วสั ดทุ ่ีนํามาทําแกนภายในขดลวด
จำนวนรอบของขดลวด
• ถ้ำตวั เหนี่ยวนำมีจำนวนรอบของขดลวดมำกขนึ้ ดังแสดงในรปู
สนำมแมเ่ หล็กทีเ่ กดิ จำกกำรไหลผ่ำนของกระแสไฟฟำ้ ในขดลวดก็จะเกดิ ขึ้น
มำกดว้ ย สนำมแม่เหลก็ ปริมำณมำกนี้ จะทำใหเ้ กดิ แรงดันไฟฟ้ำข้นึ ในตวั
เหนี่ยวนำทเ่ี รียกว่ำ "Counter EMF หรือ Back EMF" และจำกกำร
ที่มีเสน้ แรงแมเ่ หลก็ จำนวนมำกตดั กบั ขดลวด จงึ ส่งผลใหค้ ่ำควำมเหนย่ี วนำ
มำกตำมไปดว้ ย ดังนั้น ค่ำควำมเหนย่ี วนำ (L) จึงเปน็ สดั ส่วนโดยตรงกบั
จํานวนรอบของขดลวด (N)
•
พื้นทขี่ องขดลวด
• ถ้าพน้ื ทข่ี องขดลวดเพม่ิ ขึน้ สาํ หรับขดลวดที่มจี ํานวนรอบใดๆ ดงั
แสดงในรปู จะทําใหเ้ ส้นแรงแมเ่ หล็กมีจํานวนมากข้นึ ดว้ ย และ
การมสี นามแม่เหลก็ เพม่ิ ขนึ้ จะทําใหค้ ่าความเหนี่ยวนาํ เพิ่มข้นึ
ตาม ดงั นน้ั คา่ ความเหนีย่ วนํา (L) จงึ เปน็ สดั สว่ นโดยตรงกบั
พืน้ ทขี่ องขดลวด (A)
•
ควำมยำวของขดลวด
• ถา้ ทาํ ใหข้ ดลวดจํานวน 4 รอบ ขยายพนื้ ทีอ่ อก (นน่ั คือความยาวของ
ขดลวดเพ่มิ ข้ึน) ดงั แสดงในรูป ผลรวมของสนามแม่เหลก็ ทเี่ กดิ ขน้ึ จาก
ขดลวดแตล่ ะขดจะมปี รมิ าณลดลงในทางกลับกันถ้าขดลวดทมี่ ีจํานวน
เท่าเดิมนน้ี ํามาพันให้อยชู่ ิดกนั มากข้นึ (ความยาวของขดลวดสั้นลง)
สนามแมเ่ หล็กที่เกดิ จากขดลวดในแตล่ ะขดจะเสริมซง่ึ กันและกนั ทาํ ให้
เกิดสนามแมเ่ หล็กทมี่ ีปรมิ าณมากข้นึ ทําใหค้ า่ ความเหนยี่ วนํามคี ่ามาก
ตามไปดว้ ย ดังนน้ั คา่ ความเหน่ยี วนําจงึ เป็นสัดสว่ นผกผันกบั ความยาว
ของขดลวด
วสั ดทุ ่นี ำมำทำแกนภำยในขดลวด (u)
• ตวั เหนีย่ วนาํ สว่ นมากมแี กนทที่ าํ จากวสั ดุจาํ พวกนกิ เกิล โคบอลต์
เหลก็ เฟอร์ไรต์ หรอื อลั ลอย ซึ่งแกนเหลา่ นมี้ คี ุณสมบัติท่จี ะช่วย
รวมหรอื เพิ่มความเข้มของสนามแม่เหล็ก ดงั นัน้ คา่ ความซาบซึม
ได้ (Permeability) จงึ เปน็ อกี ปจั จัยหน่งึ ท่ีมีผลตอ่ ค่าความ
เหน่ียวนํา โดยถา้ ค่าความซาบซมึ ไดข้ องวสั ดทุ ่ีใชท้ าํ แกนมีคา่ มาก
ก็จะทาํ ให้คา่ ความเหน่ยี วนํามคี า่ มากตามไปดว้ ย ดงั แสดงใน
ตารางแสดงตัวอย่างของวัสดุหลายชนดิ ท่ีนาํ มาใชท้ าํ แกน
วสั ดทุ ี่นำมำทำแกนภำยในขดลวด (u)
สูตรกำรคำนวณหำคำ่ ควำมเหนี่ยวนำ
• จากปจั จัยทง้ั 4 ประการทมี่ ผี ลต่อคา่ ความเหนย่ี วนาํ ดงั น้นั จงึ
สามารถนํามาเขยี นเป็นสูตรคํานวณหาคา่ ความเหน่ยี วนาํ ไดด้ งั น้ี
ชนิดของตัวเหนยี่ วนำ
• 1)โช้คคอยล์ คอื เสน้ ลวดทองแดงอาบนา้ํ ยาเคลอื บฉนวนพันเปน็
คอยล์เพ่ือใชใ้ นการ กรองกระแส หรือ การเชอ่ื มตอ่ วงจรตา่ งๆซง่ึ
สามารถแบง่ ตามชนิดของแกนไดด้ งั ตอ่ ไปนี้
1.1) โช้คแกนเหล็ก เป็นตวั เหน่ียวนาํ ท่มี ีคา่ ความเหนยี่ วนาํ สูงมาก
1.2) โช้คแกนอากาศ คอื ตัวเหนยี่ วนาํ ท่ใี ช้ในย่านความถี่วทิ ยุ
1.3) โช้คแกนผงเหล็กอัด เป็น R.F Chock อกี ชนิดหนึ่งแต่งจะใช้
แกนผงเหลก็ อดั แทนแกน อากาศซึง่ จะทําใหม้ ีคา่ ความเหนย่ี วนําได้
ปานกลาง
ชนดิ ของตวั เหนย่ี วนำ
• 2 ทรานส์ฟอรเ์ มอร์ เปน็ ขดลวดตวั นําตั้งแต่ 2 ขดขน้ึ ไปพันอยู่บนแกน
เดียวกันโดยจะมขี ดทาง ดา้ นอินพทุ เรียกวา่ ขดปฐมภูมิ และขดทางเอารพ์ ทุ
เรยี กว่า ขดทตุ ยิ ภมู ิ การใชง้ านของ ทรานสฟ์ อรเ์ มอร์ จะใช้เปน็ ตัวเช่อื มตอ่ ระหว่าง
วงจร หรอื ใชใ้ นการเพิม่ -ลด ระดับของ แรงเคลอื่ นไฟฟ้า ซึ่งงเราสามารถแบ่ง
ทรานสฟ์ อรเ์ มอรต์ ามชนดิ ของแกนไดด้ งั น้ี
2.1) ทรานสฟ์ อรเ์ มอร์ชนิดแกนเหล็ก จะใช้กบั งานทางด้านความถ่ีตาํ่
2.2) ทรานส์ฟอรเ์ มอรช์ นิดแกนผงเหล็กอดั หรอื เฟอรไ์ รท์ สว่ นมากจะใช้งานใน
วงจรขยายภาค ไอ.เอฟ
2.3) ทรานส์ฟอรเ์ มอร์ชนดิ แกนอากาศ คอื ขดลวด 2 ขด พนั อยู่บนฉนวนแกน
อากาศซึ่งนาํ ไปใช้งานในยา่ นความถ่สี ูง
1.1) โช้คแกนเหล็ก เป็นตัวเหน่ยี วนำท่มี ีคำ่ ควำมเหน่ยี วนำสงู มำก
1.2) โช้คแกนอำกำศ คอื ตวั เหนี่ยวนำที่ใชใ้ นย่ำนควำมถี่วทิ ยุ
1.3) โช้คแกนผงเหลก็ อัด เป็น R.F Chock
อกี ชนดิ หน่งึ แต่งจะใช้แกนผงเหล็กอัดแทนแกนอากาศซึ่งจะ
ทาํ ใหม้ คี า่ ความเหนยี่ วนําได้ปานกลาง
2. ทำนส์ฟอรเ์ มอร์ (หม้อแปลง)
2.1) ทรำนส์ฟอร์เมอรช์ นดิ แกนเหลก็
จะใชก้ ับงำนทำงด้ำนควำมถตี่ ำ่
• ส่วนใหญ่จะใชส้ าํ หรับอปุ กรณ์อิเลก็ ทรอนิกส์รถยนต์, และ
แหลง่ จ่ายไฟ, dcconverter
เหนยี่ วนำแกนเฟอร์ไรต์
2.2) ทรำนส์ฟอรเ์ มอรช์ นดิ แกนผงเหลก็ อัด หรือเฟอร์ไรท์
สว่ นมำกจะใช้งำนในวงจรขยำยภำค ไอ.เอฟ
ชนิดของตัวเหนยี่ วนำ
• การต่อแหล่งจา่ ยแรงดนั ไฟฟา้ คร่อมเขา้ กับขดลวด เปน็ ผลทาํ ใหม้ ี
กระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นขดลวด ซึ่ง กระแสไฟฟา้ นีจ้ ะทําใหเ้ กดิ
สนามแมเ่ หลก็ และความเข้มของสนามแม่เหล็ก จะเพิ่มข้นึ จากค่า
ศนู ย์ไปจนถงึ คา่ สงู สุดในชว่ งเวลาสั้นๆ โดยการขยายตัวของ
สนามแมเ่ หลก็ ไฟฟา้ จะเร่มิ จากสว่ นกลางของลวดตวั นํา ซึง่ การ
ขยายตัวของ เส้นแรงแมเ่ หล็กนี้จะเป็นการเคล่ือนท่ตี ดั กบั ตัวนาํ ทีอ่ ยู่
กบั ที่ ดงั นน้ั จึงส่งผลให้เกดิ แรงดันไฟฟา้ เหนีย่ วนําขน้ึ (การ เหนี่ยวนํา
ของสนามแมเ่ หล็กไฟฟา้ ) การทก่ี ระแสไฟฟา้ ไหลผา่ นลวดตวั นําแล้ว
ทําใหเ้ กดิ แรงดนั ไฟฟา้ เหน่ียวนาํ ภายในน้ี เรยี กว่า การเหนี่ยวนํา
ภายใน (Self Inductance)
1. ตวั เหน่ยี วนำ
ประเภทท่มี ขี ดลวดเพยี งขดเดียว ซงึ่ ถกู เรียกวำ่ โชค้ หรอื คอยล์
โครงสรำ้ งจะประกอบด้วยเสน้ ลวดทองแดงอำบนำ้ ยำฉนวน พันเปน็ ขดอยู่
บนแกน โดยจะเรียกตวั เหนย่ี วนำตำมแกนที่นำมำใชไ้ ดด้ งั น้ี
• 1.1 ตัวเหนี่ยวนาํ แกนอากาศ
1.2 ตัวเหนี่ยวนำแกนเหลก็
1.3 ตวั เหน่ยี วนำแกนเฟอรไ์ รต์
2. ทำนส์ฟอรเ์ มอร์ (หม้อแปลง)
ทำนสฟ์ อรเ์ มอร์ (หม้อแปลง)
ตวั เหนยี่ วนำไฟฟ้ำแบบโคด้ สี
ตัวเหนย่ี วนําแสดงค่าด้วยแถบสี
กำรทดลองตวั เหนยี่ วนำไฟฟ้ำ
• จำกกำรทดลองของไมเคิลฟำรำเดย์ และเฮนรี่เฮรติ สรุปว่ำ
สนำมแม่เหลก็ เคลอ่ื นทต่ี ดั ผ่ำนขดลวด ทำให้เกิดกำรเหนยี่ วนำแรงดัน
ภำยในขดลวด หรอื ในกรณีที่ ใช้ตัวนำเคลือ่ นทตี่ ดั ผำ่ นสนำมแมเ่ หลก็ ก็
จะเกดิ กำรเหน่ียวนำแรงดนั
กำรทดลองตวั เหน่ยี วนำไฟฟำ้
ชนิดของตัวเหน่ียวนำ
• ชนดิ ของตวั เหนยี่ วนาํ ตวั เหนยี่ วนําท่ีผลิตออกมาในปัจจุบันมี
หลายแบบหลายขนาด วสั ดุทใ่ี ช้ทาํ แกนทน่ี ิยมก็คอื แกน อากาศ,
แกนเหลก็ และแกนเฟอรไ์ รท์ เราสามารถแบ่งตวั เหน่ยี วนาํ ได้ 2
ประเภทใหญ่ ๆ คือ
• 1. ตวั เหนีย่ วนําแบบค่าคงท่ี (Fixed inductors)
• 2. ตัวเหนย่ี วนําแบบปรับคา่ ได้ (Variable inductors)
ตวั เหนี่ยวนำแบบค่ำคงที่ (Fixed inductors)
• คือตัวเหนยี่ วนาํ ทไี่ มส่ ามารถเปล่ยี นแปลงคา่ ได้ โดยปกติตวั เหน่ียวนาํ
ประเภทน้ี ทํามาจากขดลวดทองแดง แกนที่ใช้พนั ขดลวดจะมปี ลายลวด
ย่ืน ออกมาทัง้ สองขา้ ง รปู รา่ งโดยทว่ั ไปจะเป็นแกนยาวแบบทรงกระบอก
มีช่ือเรยี กแตกตา่ งกัน เชน่ โซลิ นอยด์ เซอร์เฟสเมาส์ โชค้ ทอร์รอยด์
และแบบแถบสี ฯลฯ
ตวั เหนีย่ วนำแบบปรบั ค่ำได้ (Variable inductors)
• นิยมใชใ้ นเครอ่ื งรับวิทยุ ค่าการ เหนยี่ วนาํ จะเปล่ียนแปลงไปตามการ
เคลือ่ นท่ีของแกนหมนุ ทส่ี ามารถปรบั สกรูเลอ่ื นตาํ แหนง่ ของ ขดลวด
ใหเ้ ข้าหรอื ออก เพ่อื เปลยี่ นค่าของความเหนยี่ วนาํ ถา้ แกนเคล่อื นท่ี
ออกมานอกสุด ค่าความ เหนี่ยวนําจะมีคา่ ตา่ํ แตถ่ า้ หมนุ สกรใู ห้แกน
เคลือ่ นที่เขา้ ไปในขดลวดมาก จะทาํ ใหค้ ่าความเหนี่ยวนาํ มาก ขน้ึ
ตามไปด้วย ในการปรับควรใช้เครอ่ื งมอื ท่ีทําด้วยพลาสติก หรอื
อปุ กรณ์จาํ พวกที่ไม่ใชโ้ ลหะ เน่ืองจาก วสั ดุท่ีทํามาจากโลหะจะไป
รบกวนการเกิดสนามแม่เหลก็ และมผี ลต่อคา่ ความความเหนีย่ วนําได้
ปจั จยั ที่มผี ลตอ่ คำ่ ควำมเหน่ยี วนำ
ปจั จัยทม่ี ผี ลตอ่ ค่ำควำมเหนีย่ วนำ
• คา่ ความเหน่ยี วนําจะมีค่ามากหรอื นอ้ ยขน้ึ อยกู่ บั ตัวแปร 4 ประการคอื
• 1 จํานวนรอบของขดลวดเขยี นแทนด้วยอกั ษร N ถา้ จาํ นวนรอบของ
ขดลวดมปี ริมาณมาก ก็ จะทําใหเ้ กิดค่าความเหนยี่ วนํามากข้ึนตามไปด้วย
คา่ ความเหนย่ี วนาํ จะแปรผันตรงกับจํานวนรอบของ ขดลวด
• 2 วัสดทุ ่ีนํามาทําเปน็ แกน เขยี นแทนดว้ ยสญั ลักษณ์ u วัสดุที่นาํ มาทําเปน็
แกนมีหลายชนดิ เช่น อากาศ เหลก็ เฟอร์ไรท์ โคบอล ฯลฯ เปน็ ต้น แต่ละ
ชนิดจะมีคณุ สมบตั ิในการเพมิ่ ความเข้ม สนามแม่เหล็ก ที่เรียกว่าความ
ซาบซมึ (Permeability) แตกต่างกนั ในกรณที มี่ คี วามซาบซึมมากก็จะ
ทํา ใหเ้ กดิ ค่าความเหนีย่ วนาํ มาก คา่ ความเหน่ียวนําจะแปรผนั ตรงกับ
ความซาบซึมของแกน