สํานักพิมพ์ : บริษัท เอส. บี. เค. การพิมพ์ จํากัด 92/6 หมู่ 3 ตําบลบางพลีใหญ่ อําเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ 10540 โทรศัพท์ : 0-2178-8794-5 โทรสาร : 0-2178-8796 098-794-1644 เวบไซต์ : http://www.sbkprinting.com/
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ก กระทรวงศึกษาธิการไดกําหนดนโยบายและจุดเนนของกระทรวงศึกษาธิการ ประจําปงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อใหสวนราชการในสังกัดยึดเปนกรอบและทิศทางในการจัดการศึกษาใหมีประสิทธิภาพ ในทุกมิติ โดยระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวาดวยการตรวจราชการ การติดตาม ตรวจสอบ และประเมิน ผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2560 กําหนดใหสวนราชการในสังกัด ติดตามความ ้ กาวหนาความสําเร็จในการนํานโยบายสูการปฏิบัติและจัดทํารายงานเสนอตอรัฐมนตรีวาการกระทรวง ศึกษาธิการ สํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยสำนักติดตามและประเมินผลการจัด การศึกษาขั้นพื้นฐานได้รับมอบหมายให้ดําเนินการติดตามและรายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงได้ดำเนินการติดตามผล การดำเนินงาน โดยการเก็บรวบรวมขอมูลจาก 1) รายงานผลการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปงบประมาณ พ.ศ. 2566 ประกอบด ี วย 3 ส ้วน่ คือ นโยบายเรงด่วนของส่ ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปงบประมาณ พ.ศ. 2566 ี (Quick Policy : QP) ตัวชี้วัดแผนปฏิบัติราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (Action Plan : AP) และมาตรฐานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งเก็บข้อมูลจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 245 เขต ผ่านระบบติดตามอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (e-MES : electronic Monitoring and Evaluation System) และ 2) ผลการดําเนินโครงการหรือ กิจกรรมที่เกี่ยวของของสํานัก หนวย ศูนย์ในสวนกลาง เพื่อนำมาวิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุปและนําเสนอ ผลการขับเคลื่อนนโยบายลงสูการปฏิบัติของหนวยงานในส่วนกลางและสวนภูมิภาค และจัดทําเปน “รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวของกับสํานักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปงบประมาณ พ.ศ. 2566” ฉบับนี้ ซึ่งแบงการนําเสนอผล การดำเนินงาน ออกเปน 4 มิติคุณภาพตามนโยบายของสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ ดานความปลอดภัย ดานโอกาส ดานคุณภาพ และดานประสิทธิภาพ ทั้งนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ขอขอบคุณสํานัก หนวย ศูนยในสวนกลาง และสํานักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่ใหความรวมมือสนับสนุนขอมูลผลการดําเนินโครงการหรือกิจกรรม ที่เกี่ยวของ และหวังเปนอยางยิ่งวา รายงานฉบับนี้จะเปนประโยชนตอการพัฒนาการดําเนินงาน เพื่อขับเคลื่อนนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการลงสูการปฏิบัติอยางมีคุณภาพและสามารถสราง การรับรู ความเขาใจในการจัดการศึกษาใหแกสาธารณชน ส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พฤศจิกายน 2566 ค�ำน�ำ
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ข ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เรื่อง หน้า หลักการและเหตุผล.......................................................................................................................... ประโยชน์ที่ได้รับ................................................................................................................................. ความสอดคล้องของนโยบายที่เกี่ยวข้อง....................................................................................... ขั้นตอนการดําเนินงาน..................................................................................................................... ผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวข้องกับ สพฐ. ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566............................................................................................................... ด้านความปลอดภัย การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัย................................................................................... การดำเนินงานตามแผน มาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครู และบุคลากร ทางการศึกษา ในการป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่.................................................. การจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของผู้เรียน...... การปกป้องคุมครองต้ อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู ่ เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา... ้ ด้านโอกาส การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย................ การส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการเพื่อป้องกันเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคัน........ การส่งเสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มเปราะบางได้รับการศึกษา ที่เหมาะสมตามความจำเป็นตามศักยภาพ................................................................. การส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับการพัฒนาการสมวัยอย่างมีคุณภาพ..... การจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้ทุกกลุ่มเข้าถึงการศึกษา การเรียนรู้ และการฝึกอาชีพ........................................................................................................ การขับเคลื่อนโครงการทวิศึกษาแนวใหม่....................................................................... ด้านคุณภาพ การยกระดับคุณภาพการศึกษา........................................................................................... การส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของผู้เรียน.................................. การพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21............................. 1 2 3 5 6 8 8 18 21 23 23 28 31 32 36 39 40 44 สารบัญ C o n t e n t s
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ค เรื่อง หน้า การพัฒนาด้านการวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning)............................................................................................................ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning)................................................................... การพัฒนาทักษะดิจิทัลและภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) ของผู้เรียน............................ การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หนาที่พลเมือง ศีลธรรม และ ้ การเสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่ทันสมัย น่าสนใจและเหมาะสมกับวัย ของผู้เรียน.................................................................................................................. การส่งเสริมการให้ความรู้และทักษะด้านการเงินและการออม (Financial Literacy) ให้กับผู้เรียน................................................................................................................ การพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและผลลัพธ์ที่ตัว ผู้เรียน......................................................................................................................... การขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพ......................................................................... การจัดการศึกษาปฐมวัยอย่างมีคุณภาพ......................................................................... การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน...................... การส่งเสริมสนับสนุนวิชาชีพครู บุคลากรทางการศึกษาและบุคลากรสังกัด..................... การส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ (หลักเกณฑ์ PA).......................................................................................................... การพัฒนาสมรรถนะของครูและบุคลากรทางการศึกษาทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและ สมรรถนะที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New Normal................................................ การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา..................................................... ด้านประสิทธิภาพ การพัฒนาระบบราชการและการบริการภาครัฐยุคดิจิทัล.................................................. การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการและการให้บริการ....................................... การทำงานแบบบูรณาการ การมีส่วนร่วมกับชุมชน หน่วยงาน องค์กรอื่น ๆ ทั้งในพื้นที่ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง................................................................................. 48 52 54 58 62 63 67 70 72 75 75 77 80 83 83 86 สารบัญ C o n t e n t s
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ง ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ภาคผนวก นโยบายและคำสั่งที่เกี่ยวข้อง.............................................................................................. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2564........................... คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป. 27/2566 เรื่อง นโยบายการตรวจราชการและติดตาม ประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2566............................................................. ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง นโยบายและจุดเน้นของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ประกาศ ณ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564................................................................ คณะทำงาน.......................................................................................................................... 90 90 90 90 90 เรื่อง หน้า สารบัญ C o n t e n t s
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 1 รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวของกับส ้ ำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เป็นรายงานข้อมูลสารสนเทศที่แสดง ถึงความก้าวหน้าและความสำเร็จของการดำเนินงานตามนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งเชื่อมโยง สอดคล้องกับแผนยุทธศาสตร์ชาติ แผนแม่บทภายใต้ยุทธศาสตร์ชาติ แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม แห่งชาติ แผนการศึกษาแห่งชาติ แผนปฏิบัติราชการของกระทรวงศึกษาธิการ แผนพัฒนาการศึกษา ขั้นพื้นฐาน นโยบายและจุดเน้นของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นโยบายเร่งด่วนของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (Quick Policy : QP) และแผนปฏิบัติราชการของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 มาตรา 12 ได้กำหนดให้ กระทรวงศึกษาธิการกำหนดนโยบาย เป้าหมาย และผลสัมฤทธิ์ของงานในกระทรวงศึกษาธิการ ใหสอดคล้อง้ กับนโยบายที่คณะรัฐมนตรีแถลงไว้ต่อรัฐสภา และมาตรา 20 ให้มีผู้ตรวจราชการและส่วนราชการในสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ ติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงศึกษาธิการจึงกำหนดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการวาด่ วยการตรวจราชการ การติดตาม ตรวจสอบ ้ และประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2560 มอบหมายให้ผู้ตรวจราชการและ ส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการดำเนินการติดตามความก้าวหน้า ประเมินผลสำเร็จในการนำ นโยบายสู่การปฏิบัติ และจัดทำรายงานเสนอต่อคณะกรรมการติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการจัด การศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ซึ่งมีผู้อำนวยการสำนักตรวจราชการและติดตามประเมินผล สำนักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ เป็นกรรมการและเลขานุการ ติดตาม และรวบรวม ส�ำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน รายงานข้อมูล ส�ำนัก หน่วย ศูนย์ในส่วนกลาง รายงานข้อมูล ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา รวบรวม รายงานผลการจัดการศึกษา ส�ำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการ (สป.) โดย ส�ำนักตรวจราชการและติดตามประเมินผล รายงานข้อมูล ส�ำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา (สอศ.) รายงานข้อมูล ส�ำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน (สพฐ.) รายงานข้อมูล กรมส่ งเสริม การเรียนรู้ (สกร.) รายงานข้อมูล ส�ำนักงานคณะกรรมการ ส่ งเสริมการศึกษาเอกชน (สช.) กระทรวงศึกษาธิการ หลักการและเหตุผล แผนภาพแสดงเส้นทางการรายงานข้อมูลของส่วนราชการในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 2 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เปนส็ วนราชการหนึ่งในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการที่ได ่ ้ กำหนดนโยบาย จุดเนนการจัดการศึกษาของหน ้ วยงานให ่สอดคล้ องกับนโยบายและจุดเน ้ นการจัดการศึกษา ้ ของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปงบประมาณ พ.ศ. 2566 และมอบหมายให ีส้ ำนักติดตามและประเมินผล การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งมีบทบาทในการติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามกฎ กระทรวงการแบงส่วนราชการของส่ ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2546 เปนหน็วยงาน่ ที่รับผิดชอบในการจัดทำรายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานและเสนอตอกระทรวงศึกษาธิการ (ส ่ ำนักงาน ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ) โดยการเก็บรวบรวมข้อมูลจาก 1) รายงานผลการบริหารและการจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐานของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปงบประมาณ พ.ศ. 2566 ประกอบด ีวย ้ 3 ส่วน คือ นโยบายเร่งด่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (Quick Policy : QP) ตัวชี้วัดแผนปฏิบัติราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 (Action Plan : AP) และมาตรฐานสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประจำ ปงบประมาณ พ.ศ. 2566 ซึ่งเก็บข ีอมูลจากส้ ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 245 เขต ผานระบบติดตาม ่ อิเล็กทรอนิกส์ของสำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน (e-MES : electronic Monitoring and Evaluation System) รวมทั้งลงพื้นที่ติดตามเชิงประจักษ์ใน 120 เขตพื้นที่การศึกษา และ 2) ผลการดําเนินโครงการหรือกิจกรรมที่เกี่ยวข้องของสํานัก หน่วย ศูนย์ในส่วนกลาง เพื่อวิเคราะห์ สังเคราะห์ สรุปและนําเสนอผลการขับเคลื่อนนโยบายลงสู่การปฏิบัติของหน่วยงานในส่วนกลางและ สวนภูมิภาค และจัดทำเปนรายงาน็ ผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่ เ กี่ ย ว ข้อ ง กั บ สำ นั ก ง า น คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 เพื่อเผยแพรประชาสัมพันธ์ให ่ กับ้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องและสาธารณชน การประชุมสรุปผลการติดตาม ประเมินผลการบริหารและการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 3 ความสอดคล้องระหว่างนโยบาย จุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบายการตรวจราชการและ ติดตามประเมินผลการจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ นโยบาย จุดเน้น และนโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปงบประมาณ พ.ศ. 2566 ก ี ำหนด เป็นกรอบเนื้อหาภายใต้ 4 มิติคุณภาพ ความสอดคล้ องของนโยบายที่เกี่ยวข้ อง ด้านความปลอดภัย นโยบายและ จุดเน้นของ สพฐ. นโยบายตรวจราชการฯ นโยบายและจุดเน้นของ สพฐ. การจัดการศึกษา เพื่อความปลอดภัย 1. การด�ำเนินงานตามแผน/มาตรการ ด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครูและ บุคลากรทางการศึกษาในการป้องกัน ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ 2. การจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะ และพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของผู้เรียน 3. การปกป้องคุ้มครองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้น กับผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา นโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) QP1 การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัยและ การบริหารสถานการณ์ที่เกิดขึ้น ตัวชี้วัดตามแผนปฏิบัติราชการ AP1 ผู้เรียนเข้าร่วมกิจกรรมที่ส่งเสริมการสร้าง ภูมิคุ้มกันพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงและ ภัยคุกคามรูปแบบใหม่ในทุกรูปแบบ รู้เท่าทันสื่อ และเทคโนโลยีในการด�ำเนินชีวิตวิถีใหม่และวิถีถัดไป AP2 ผู้เรียนได้รับการศึกษาในสถานศึกษาที่มี ความปลอดภัย AP3 สถานศึกษามีแผน/มาตรการในการจัดการ ภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ โรคอุบัติซ�้ ำ รองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) AP4 ครูบุคลากรทางการศึกษาด�ำเนินการ ตามแนวทางในการจัดการภัยพิบัติและภัยคุกคาม ทุกรูปแบบให้สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่ และโรคอุบัติซ�้ ำรองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) ด้านโอกาส นโยบายและ จุดเน้นของ สพฐ. นโยบายตรวจราชการฯ นโยบายและจุดเน้นของ สพฐ. การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และ ความเท่าเทียมทาง การศึกษาทุกช่วงวัย 1. การส่งเสริมสนับสนุนการด�ำเนินการ เพื่อป้องกันเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคัน 2. การส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กปฐมวัยทุกคน ได้รับการพัฒนาการสมวัยอย่างมีคุณภาพ 3. การส่งสริมสนับสนุนให้ผู้เรียนกลุ่มเป้าหมาย พิเศษและกลุ่มเปราะบางได้รับการศึกษา ที่เหมาะสมตามความจ�ำเป็นตามศักยภาพ 4. การจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้ทุกกลุ่มเข้าถึงการศึกษา การเรียนรู้ และการฝึกอาชีพ 5. การขับเคลื่อนโครงการทวิศึกษาแนวใหม่ นโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) QP2 การด�ำเนินการ “พาน้องกลับมาเรียน” ตัวชี้วัดตามแผนปฏิบัติราชการ AP6 อัตราการเข้าเรียนสุทธิของผู้เรียนปฐมวัย AP7 ผู้เรียนที่เป็นผู้พิการ ผู้ด้อยโอกาสเข้าถึง บริการทางการศึกษาและพัฒนาสมรรถภาพหรือ บริการทางการศึกษาที่เหมาะสมตามความจ�ำเป็น AP8 ผู้เรียนได้รับเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐาน ส�ำหรับนักเรียนยากจน AP13 จัดการเรียนการสอนตามพหุปัญญา
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 4 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566ด้านคุณภาพ นโยบายและ จุดเน้นของ สพฐ. นโยบายตรวจราชการฯ นโยบายและจุดเน้นของ สพฐ. การยกระดับการศึกษา 1. การส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ ฐานสมรรถนะของผู้เรียน 2. การพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะ ที่จ�ำเป็นในศตวรรษที่21 3. การพัฒนาครูในด้านการวัดและประเมินผล เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) 4. การจัดการเรียนรู้ด้วยการลงมือปฏิบัติจริง (Active Learning) 5. การพัฒนาทักษะดิจิทัลและภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) ของผู้เรียน 6. การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอน ประวัติศาสตร์หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม และ การเสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมือง ที่ทันสมัย น่าสนใจและเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน 7. การส่งเสริมการให้ความรู้และทักษะด้านการเงิน และการออม (Financial Literacy) ให้กับผู้เรียน 8. การพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษา ที่เน้นสมรรถนะและผลลัพธ์ที่ตัวผู้เรียน 9. การขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพ 10. การจัดการศึกษาปฐมวัยอย่างมีคุณภาพ นโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) QP4 การน�ำผล RT NT O-NET หรือผลการ ประเมินคุณภาพผู้เรียนอื่น ๆ ไปใช้ในการพัฒนา คุณภาพการศึกษา QP5 การพัฒนาผู้เรียนตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. 2551 ด้วยการจัด การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) QP6a การจัดการศึกษาปฐมวัยอย่างมีคุณภาพ QP6b การจัดการศึกษาเพื่อการศึกษาต่อ/ การมีงานท�ำ QP7 การแก้ไขภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน QP9 การส่งเสริมการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง คุณธรรมจริยธรรม QP10 การบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพและ การใช้ทรัพยากรร่วมกัน ตัวชี้วัดตามแผนปฏิบัติราชการ AP9 นักเรียนปฐมวัยมีพัฒนาการด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา AP11 ผู้เรียนได้รับการพัฒนาให้มีทักษะใน ศตวรรษที่21 AP12 สถานศึกษาเตรียมความพร้อม PISA AP15 ผู้เรียนได้รับการพัฒนาเต็มตามศักยภาพ ตามความถนัด และความสามารถ (วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ทัศนศิลป์นาฏศิลป์ดนตรีกีฬา) AP16 นักเรียนที่มีคะแนน O-NET ร้อยละ 50 ขึ้นไป เพิ่มขึ้น จากปีการศึกษา 2564 AP18 ครูและบุคลากรทางการศึกษาสามารถ จัดการเรียนรู้เชิงรุก การศึกษาเพื่อพัฒนา ทักษะอาชีพและเพิ่ม ขีดความสามารถ ในการแข่งขัน การพัฒนาสมรรถนะอาชีพ โดยการ Re-skill Up-skill และ New skill ในทุกกลุ่มเป้าหมาย รวมทั้งผู้สูงอายุ การส่งเสริม สนับสนุน วิชาชีพครู บุคลากร ทางการศึกษาและ บุคลากรสังกัด กระทรวงศึกษาธิการ 1. การส่งสริมสนับสนุนการด�ำเนินการตามหลักเกณฑ์ การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ (หลักเกณฑ์PA) 2. การพัฒนาสมรรถนะของครูและบุคลากรทาง การศึกษาทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและสมรรถนะ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิต New Normal 3. การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้านประสิทธิภาพ นโยบายและ จุดเน้นของ สพฐ. นโยบายตรวจราชการฯ นโยบายและจุดเน้นของ สพฐ. การพัฒนา ระบบราชการและ การบริการภาครัฐ ยุคดิจิทัล 1. การน�ำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการ และการให้บริการ 2. การท�ำงานแบบบูรณาการ การมีส่วนร่วมกับ ชุมชน หน่วยงาน องค์กรอื่น ๆ ทั้งในพื้นที่ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง นโยบายเร่งด่วน (Quick Policy) QPx2 ส�ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและ สถานศึกษา มีระบบบริหารจัดการที่เป็นดิจิทัล หมายเหตุ QP หมายถึง ตัวชี้วัดนโยบายเร่งด่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (Quick Policy) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 AP หมายถึง ตัวชี้วัดตามแผนปฏิบัติราชการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (Action Plan) ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 5
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 6 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 7
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 8 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานกำหนดมาตรการความปลอดภัยของสถานศึกษา ที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมุ่งมั่นในการพัฒนาการศึกษาขั้นพื้นฐานให้เป็น “วิถีอนาคต วิถีคุณภาพ” มุงเน่ นความปลอดภัยในสถานศึกษา โดยพัฒนาระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัย ้ ให้แก่ผู้เรียน ครู บุคลากรทางการศึกษาและสถานศึกษา จากภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ รวมถึง การจัดสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการมีสุขภาวะที่ดี สามารถปรับตัวต่อโรคอุบัติใหม่และอุบัติซ้ำ ส่งเสริมความ ปลอดภัย สร้างความมั่นใจให้สังคม เพื่อคุ้มครองความปลอดภัยแก่ผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ในสังกัด การป้องกัน ดูแลช่วยเหลือ เยียวยาและแก้ไขปัญหา มีความเป็นเอกภาพ มีข้อมูลสารสนเทศที่เป็น ระบบ สามารถแกไขปัญหาและบริหารจัดการความเสี่ยงได ้อย้ างยั่งยืน ด ่ วยการบริหารจัดการตามมาตรการ ้ 3 ป. ได้แก่ ป้องกัน ปลูกฝัง และปราบปราม ให้เกิดความปลอดภัยมากที่สุด และไม่ให้เกิดเหตุการณ์นั้นซ้ำอีก เพื่อสร้างความมั่นใจและความเชื่อมั่นให้แก่ผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ผู้ปกครอง และประชาชน ทั่วไปในการที่จะได้เรียนรู้อย่างมีคุณภาพ และเกิดความปลอดภัยอย่างมั่นคงและยั่งยืน การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ให้ความสำคัญและตระหนักถึงความปลอดภัยของ ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา โดยดำเนินการโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อรองรับและขับเคลื่อน การจัดการศึกษาเพื่อความปลอดภัยใน 3 ประเด็น ได้แก่ 1. การดำเนินงานตามแผน มาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ในการป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ 2. การจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของผู้เรียน 3. การปกป้องคุ้มครองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ การดำเนินงานตามแผน มาตรการดานความปลอดภัยให ้ แก่ผู ้ เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ้ ในการป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักติดตามและประเมินผล การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ขับเคลื่อนการดำเนินงานตามแผน มาตรการด้านความปลอดภัยให้แก่ ผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษาในการป้องกันภัยคุกคามรูปแบบใหม่ ดังนี้ “สร้างความปลอดภัยในสถานศึกษา และป้องกันภัยคุกคามในชีวิตรูปแบบใหม่และภัยอื่น ๆ” ด้ านความปลอดภัย
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 9 ด้านความปลอดภัย ดูแลช่วยเหลือและคุ้มครองนักเรียน โดยมีกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ 1. สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กรมสุขภาพจิต กระทรวงสาธารณสุข และกองทุน เพื่อความเสมอภาคทางการศึกษา บูรณาการความร่วมมือทางวิชาการเพื่อพัฒนาระบบสารสนเทศ “ดูแล ช่วยเหลือนักเรียนในการศึกษาขั้นพื้นฐาน” ส่งต่อข้อมูลความเสี่ยงด้านพฤติกรรม อารมณ์ สังคม และสุขภาพจิต ให้ได้รับการดูแลช่วยเหลือจากผู้เชี่ยวชาญผ่านระบบดิจิทัล “School Health HERO” เดินหนาสร้ างหลักประกันโอกาสทางการเรียนรู ้อย้ างยั่งยืนร ่ วมกัน ซึ่งที่ผ ่ านมาได ่ เริ่มทดลองน ้ ำรองการพัฒนา ่ ต้นแบบระบบสารสนเทศเพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียนของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ครอบคลุม 28 เขตพื้นที่การศึกษา มีสถานศึกษา เข้าร่วมโครงการ 1,050 แห่ง ทั้งนี้ จะขยายการทำงานกับสถานศึกษาในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานทั่วประเทศ เพื่อประสาน แนวทางในการสงต่อข่ อมูลนักเรียนและส ้งต่อความช่ วยเหลือให ่ กับหน ้ วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการดูแล ่ อย่างกรมสุขภาพจิต มาติดตามนักเรียนที่มีภาวะความเสี่ยงด้านพฤติกรรม อารมณ์ สังคม และปัญหาสุขภาพจิต ในสถานศึกษา รวมถึงประสานให้ผู้เชี่ยวชาญ บุคลากรที่เกี่ยวของทั้งระดับส ้วนกลาง ส่ วนภูมิภาค ่ ร่วมกันพัฒนานวัตกรรมองค์ความรู้สำหรับครู การคัดกรอง การจัดทำแนวทางหรือมาตรการ การป้องกันภาวะเสี่ยงดานพฤติกรรม อารมณ์และ ้ สังคมของนักเรียน โดยการดำเนินการทั้งสามฝ่าย ตกลงว่าจะรักษาข้อมูลของนักเรียนหรือผู้รับ บริการเป็นความลับ ไม่มีการเผยแพร่ให้บุคคล ภายนอกได้รับทราบข้อมูลบางส่วนหรือทั้งหมด เว้นแต่กรณีที่ได้รับอนุญาตเป็นลายลักษณ์อักษร จากเจาของข้ อมูล ซึ่งผลจากการด ้ ำเนินงาน พบวา่ ระบบสุขภาพจิตโรงเรียนวิถีใหม่ (School Health HERO) คือ ระบบที่ออกแบบเพื่อให้ครู ใช้เฝ้าระวัง เรียนรู้ และรับคำปรึกษา เพื่อดูแลนักเรียนที่เสี่ยงตอปัญหาพฤติกรรม อารมณ์ และทักษะสังคม ่ ดูแลสุขภาพจิตนักเรียนกลุ่มเสี่ยง เป็นการพลิกโฉมรูปแบบการดูแล ชวยเหลือนักเรียนในระบบเดิมที่เน ่นงานเอกสารน้ ำไปสูระบบ่ HERO ที่มีขั้นตอนการดำเนินงานเป็นระบบ ครูสามารถเฝ้าระวัง คัดกรอง ช่วยค้นหาเด็กกลุ่มเสี่ยงได้รวดเร็ว ด้วยคำถาม 9 ข้อง่าย ๆ ในการ คัดกรองเด็ก ได้แก่ ซนเกินไป ใจลอย รอคอยไม่ได้ หงุดหงิดง่าย ทอแท้ เบื่อหน ้ าย ไม ่ อยากไปโรงเรียนถูกเพื่อนแกล ่ง แกล้ งเพื่อนและ ้ ไมมีเพื่อน ให ่ ครูประเมินนักเรียนผ ้ านระบบ HERO ่ ได้ทราบผลการประเมินนักเรียนทันที ซึ่งครู ที่สนใจสามารถใชงานผ้านช่ องทาง schoolhealth ่ hero.obec.go.th
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 10 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านความปลอดภัย จำนวนนักเรียนที่เข้าสู่ระบบ School Health HERO ได้รับการคัดกรองและดูแลช่วยเหลือด้านสุขภาพจิต เพิ่มมากขึ้น รวมทั้งในกรณีที่นักเรียนมีความยุ่งยากซับซ้อนหรือมีความจำเป็นต้องเข้ารับการดูแลรักษา ให้เข้าสู่ระบบบริการสาธารณสุขได้ และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ผลงาน “School Health HERO” ระบบสุขภาพจิตโรงเรียนวิถีใหม่ ได้รับรางวัล “ระดับดีเด่น” จากสำนักงานคณะกรรมการพัฒนาระบบ ราชการ ซึ่งเปนรางวัลที่มอบให ็แก้หน่ วยงานที่มุ ่งเน่ นการพัฒนาความเป ้ นเลิศใน 3 ด ็ าน ได ้แก้ 1) ด ่ านบริการ ้ ภาครัฐ 2) ด้านคุณภาพการบริหารจัดการภาครัฐ และ 3) ด้านการบริหารราชการแบบมีส่วนร่วม เป็นอีก ความภาคภูมิใจสำคัญของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รวมถึงเป็นกำลังใจในการดูแล สุขภาพจิต การแนะแนว และการส่งเสริมให้นักเรียนมีสุขภาวะที่ดีและปลอดภัยต่อไป 2. ลงพื้นที่ติดตามเชิงประจักษ์ เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริงตามแนวทางสถานศึกษาปลอดภัยและ ถอดบทเรียน กรณีเกิดเหตุร้ายแรงเพื่อระงับเหตุการณ์หรือแก้ไขปัญหาของนักเรียน ครูและบุคลากร ทางการศึกษา ยกตัวอย่าง เช่น 2.1 กรณีเหตุโกดังเก็บประทัดระเบิดกลางตลาดมูโนะ อำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม 2566 นายธีร์ ภวังคนันท์ รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พร้อมด้วย ศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนา พิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนใต้ เข้าเยี่ยมให้กำลังใจและติดตามการช่วยเหลือครูและบุคลากร ทางการศึกษา นักเรียน และผูปกครอง กรณีเหตุโกดังเก็บประทัดระเบิดกลางตลาดมูโนะ อ ้ ำเภอสุไหงโก-ลก จังหวัดนราธิวาส ซึ่งกรณีดังกล่าว ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนในรัศมี 500 เมตร ได้รับความเสียหายกว่า 100 หลังคาเรือน มีผู้ได้รับบาดเจ็บกว่า 100 ราย และเสียชีวิต จำนวน 9 ราย มีครอบครัวของครูและ ผู้ปกครองนักเรียนรวมอยู่ด้วย นอกจากนี้ มีนักเรียนโรงเรียนบ้านมูโนะได้รับบาดเจ็บ จำนวน 25 ราย ครู และบุคลากรทางการศึกษาที่พักอาศัยในพื้นที่ใกล้เคียงได้รับบาดเจ็บ และบ้านเรือนพังเสียหาย รวมทั้ง โรงเรียนได้รับผลกระทบพังเสียหายด้วย ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานราธิวาส เขต 2 ได้ระดมทุนจากผู้มีจิตศรัทธา ช่วยเหลือเยียวยานักเรียน และผู้ปกครอง โดยจัดทำเป็นถุงยังชีพกระจายไปตามพื้นที่ต่าง ๆ ที่พักอาศัยอยู่กับญาติหรือศูนย์พักพิง พรอมเงินช ้ วยเหลือเพื่อการรักษาพยาบาลจ ่ ำนวนหนึ่งใหกับนักเรียน และมอบหมายให ้ นักจิตวิทยาโรงเรียน ้ ภาพการลงพื้นที่เยี่ยมครู นักเรียน ผู้ปกครอง เหตุโกดังเก็บประทัดระเบิดกลางตลาดมูโนะ จังหวัดนราธิวาส
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 11 ด้านความปลอดภัย ประจำเขตพื้นที่การศึกษาและครู ได้ลงพบปะพูดคุย ปลอบขวัญนักเรียน สังเกตอาการ ฟื้นฟูสภาพจิตใจ เป็นการเบื้องต้น พร้อมเร่งสำรวจความเสียหายของอาคารเรียน อาคารเอนกประสงค์ บ้านพักครู หอพัก นักเรียน รวมถึง อุปกรณ์การเรียนการสอน เพื่อจัดทำรายละเอียดประมาณการค่าซ่อมแซมทั้งหมด และเร่ง ใหด้ ำเนินการรื้อถอน ปรับปรุงซอมแซม ประตู ฝ้าเพดาน ระบบไฟฟ้า เพื่อให ่ เกิดความปลอดภัยและสามารถ ้ จัดกิจกรรมการเรียนการสอนปกติได้เร็วที่สุด 2.2 กรณีเหตุถังดับเพลิงระเบิด โรงเรียนราชวินิตมัธยม กรุงเทพมหานคร เมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 2566 นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ พร้อมด้วย นายสุทิน แก้วพนา รองปลัดกระทรวงศึกษาธิการและโฆษกประจำกระทรวงศึกษาธิการ นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการ คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน พรอมด้วยผู้ บริหารของกระทรวงศึกษาธิการ และทีมศูนย์ความปลอดภัย ส ้ ำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ลงพื้นที่โรงเรียนราชวินิตมัธยม เขตดุสิต กรุงเทพมหานคร เพื่อติดตามสถานการณ์เหตุ ถังดับเพลิงที่ใชในกิจกรรมสาธิตป้องกันสาธารณภัย ซึ่งมีนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาป ้ ที่ 5 และ 6 เข ีาร้ วมกิจกรรม ่ จำนวน 126 คน ในช่วงเวลาประมาณ 11.20 น. โดยเหตุดังกล่าวส่งผลให้มีนักเรียนเสียชีวิต จำนวน 1 ราย และได้รับบาดเจ็บ จำนวน 10 ราย ทั้งนี้ กระทรวงศึกษาธิการ ได้มีมาตรการเยียวยาดูแลนักเรียนที่เสียชีวิต โดยกำหนดให้มีวงเงินประกันภัยและกองทุน ประกอบด้วย ค่าช่วยเหลืองานศพ จำนวน 100,000 บาท ค่าประกันชีวิต จำนวน 200,000 บาท และส่วนที่เหลือจะได้รับการช่วยเหลือจากสำนักงานปลัดกระทรวง มหาดไทย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผู้ปกครองและสมาคมต่าง ๆ รวมถึงในเขตพื้นที่ ช่วยเหลือ รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 600,000 บาท นอกจากนี้ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการได้กำชับไปยัง โรงเรียนเพื่อดูแลเรื่องความปลอดภัยของนักเรียนใหมากยิ่งขึ้น เนื่องจากกรณีดังกล ้ าวยังไม ่ เคยเกิดขึ้นมาก ่อน ่ รวมถึงการดูแลสภาพจิตใจของนักเรียนที่เห็นภาพขณะเกิดเหตุด้วย โดยกระทรวงศึกษาธิการได้ประสาน ไปยังกรมสุขภาพจิต กรมอนามัย เพื่อส่งนักจิตวิทยาไปดูแลสภาพจิตใจของเด็กนักเรียนคนอื่น ๆ ที่อยู่ ในที่เกิดเหตุแล้ว พร้อมได้กำชับถึงเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องให้ทุกการสาธิตหลังจากนี้จะต้องมีความปลอดภัย และรัดกุมมากขึ้น ภาพการลงพื้นที่ติดตามกรณีเหตุถังดับเพลิงระเบิด โรงเรียนราชวินิตมัธยม กรุงเทพมหานคร
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 12 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านความปลอดภัย 3. อบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ครูแกนนำและบุคลากรทางการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ภายใต้ โครงการ “โรงเรียนสุขใจ ปลอดภัยโรคซึมเศร้า” จังหวัดนครศรีธรรมราช เมื่อวันที่ 24 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมแกรนด์ปาร์ค จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ร่วมกับคณะครุศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา และสถาบันสุขภาพจิตและวัยรุ่น ราชนครินทร์ โดยกิจกรรมดังกลาว ครูและบุคลากรทางการศึกษาแกนน ่ ำจะไดรับความรู ้ และทักษะที่จ ้ ำเปน็ ในการดูแลช่วยเหลือนักเรียนที่มีภาวะโรคซึมเศร้า ประกอบด้วย ความรู้เกี่ยวกับภาวะอารมณ์เศร้าและ โรคซึมเศร้า ทักษะการฟังอย่างตั้งใจ ระบบสุขภาพจิตโรงเรียนวิถีใหม่ ระบบ Demo และระบบแผน เผชิญเหตุ ซึ่งเหล่านี้ล้วนเป็นความรู้และทักษะที่จำเป็นที่ครูและบุคลากรทางการศึกษาที่เกี่ยวข้อง จำเป็น ต้องรับรู้เพื่อจะได้เตรียมตัวรับมือและช่วยเหลือนักเรียนที่มีภาวะโรคซึมเศร้าในเบื้องต้น 4. คัดเลือกครูตนแบบการจัดการเรียนรู ้ บูรณาการทักษะชีวิต ประจ ้ ำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยจัดทำ“คู่มือการคัดเลือกครูต้นแบบการจัด การเรียนรูบูรณาการทักษะชีวิต ประจ ้ ำป 2566” ี เพื่อใหครูและบุคลากร้ ทางการศึกษาใช้เป็นแนวทางในการเสนอขอรับการคัดเลือกเพื่อเป็นครู ต้นแบบการจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต และสําหรับหน่วยงาน ทางการศึกษาในสังกัดสํานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ใชเป้น็ แนวทางในการคัดเลือกครูที่สามารถจัดการเรียนรู้บูรณาการทักษะชีวิต ที่จําเป็นสําหรับนักเรียน ทั้งนี้ ครูที่ได้รับการคัดเลือกจะได้รับการอบรม พัฒนาศักยภาพและมอบรางวัล “ครูตนแบบการจัดการเรียนรู ้บูรณาการ้ ทักษะชีวิต ประจำปี 2566” 5. คัดเลือกสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อรับรางวัลระบบการดูแลชวยเหลือนักเรียน ่ ประจำปี พ.ศ. 2566 เพื่อส่งเสริม สนับสนุน ให้ขวัญกำลังใจสถานศึกษาและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภาพการอบรมเชิงปฏิบัติการให้ความรู้ครูแกนนำและบุคลากรทางการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ภายใต้โครงการ “โรงเรียนสุขใจ ปลอดภัยโรคซึมเศร้า”
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 13 ด้านความปลอดภัย ในการขับเคลื่อนการบริหารจัดการและดำเนินงานระบบการดูแลชวยเหลือ ่ นักเรียนใหมีคุณภาพอย ้างต่ อเนื่อง ส ่งผลต่ อการพัฒนาคุณภาพ สร ่ างทักษะ ้ ให้นักเรียนตามความแตกต่างระหว่างบุคคลและพัฒนาแนวทางใน การดำเนินงาน เพื่อความปลอดภัยในสถานศึกษา ทั้งนี้ สถานศึกษาและ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแตละประเภทที่ผ ่ านการคัดเลือกสถานศึกษา ่ และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาระดับยอดเยี่ยมจาก 4 ภูมิภาค จำนวน 52 รางวัล ไดรับโล ้ รางวัล พร ่ อมเกียรติบัตรระดับส ้ ำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ในการประชุมสัมมนาผูอ้ ำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา ระหว่างวันที่ 17 – 20 กันยายน 2566 ณ สวนนงนุชพัทยา จังหวัดชลบุรี 6. Kick Off “หนึ่งโรงเรียนหนึ่งครูอนามัย สรางเด็กไทยรอบรู ้ สุขภาพ” ้ โดยพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เป็นประธานในพิธีเปิดในวันที่ 13 มกราคม 2566 ณ โรงเรียนโพธิสารพิทยากร กรุงเทพมหานคร ซึ่งโครงการดังกลาวได ่ มีการแต ้ งตั้งคณะกรรมการพัฒนาศักยภาพ ่ เด็กไทยด้านการศึกษาและสาธารณสุข ประกอบด้วย กระทรวงศึกษาธิการ กระทรวงสาธารณสุข และ หนวยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข ่ อง เพื่อบูรณาการการท ้ ำงาน ดำเนินภารกิจตามบทบาทหนาที่ร ้ วมกัน และพัฒนาศักยภาพ ่ เด็กไทยดานสาธารณสุขให ้ มีประสิทธิภาพ พร ้ อมทั้งจัดโครงการ ้ “หนึ่งโรงเรียน หนึ่งครูอนามัย สรางเด็กไทย ้ รอบรู้สุขภาพ” เพื่อความต่อเนื่องในการทำงานร่วมกัน โดยจะดำเนินการทั่วประเทศ ทั้งส่วนกลางและ ส่วนภูมิภาคในทิศทางเดียวกัน โดยมุ่งเน้นความรอบรู้ด้านสุขภาพใน 4 ฐาน คือ 1) กู้ชีพจรขั้นพื้นฐาน CPR 2) คัดกรองสุขภาพจิตและสารเสพติด 3) ผลิตภัณฑ์สุขภาพ และ 4) ตรวจเตานม พร้ อมทั้งจัดการเรียนรู ้ผ้าน่ ระบบ e-Learning ในหลักสูตร 6 ทักษะ ประกอบด้วย 1) ทักษะสุขภาพ 2) ทักษะชีวิต 3) ทักษะสังคม 4) ทักษะการจัดการสภาพแวดล้อม 5) ทักษะเท่าทันด้านเทคโนโลยี และ 6) ทักษะการจัดการงานอนามัย โรงเรียน ซึ่งหลังจากการ Kick Off งานครั้งนี้ หน่วยงานต่าง ๆ จะบูรณาการความร่วมมือในการขับเคลื่อน งานและขยายผลการพัฒนาศักยภาพเด็กไทยให้มีความรอบรู้ด้านสุขภาพ โดยเริ่มต้นอบรมครูในโรงเรียน มัธยมศึกษาตอนปลาย จำนวน 2,369 โรงเรียนจากทั่วประเทศ ซึ่งมีเป้าหมายอบรมนักเรียนระดับมัธยมศึกษา ตอนปลาย ในป พ.ศ. 2566 จ ี ำนวน 1 ลานคน ให ้ มีทักษะเบื้องต ้ นในการช ้ วยฟื้นคืนชีพ (CPR) มีการคัดกรอง ่ สุขภาพจิตและสารเสพติด การตรวจเต้านมด้วยตนเอง และดูแลตนเองตามหลักโภชนาการได้ และพัฒนา ครูอนามัยทุกโรงเรียนให้มีความรู้และเป็นโค้ชการดูแลด้านสุขภาวะเด็กนักเรียน โดยจะสร้างและปรับ ความรอบรูของนักเรียนผ ้ านการฝึกอบรมครูอนามัย ในระดับส ่วนกลางและส่ วนภูมิภาค เพื่อเป ่ นโค ็ ชให ้ ไปสอน ้ นักเรียนในการเฝ้าระวังและให้เกิดความปลอดภัย มีพฤติกรรมที่เหมาะสม และนำไปสู่การมีสุขภาพที่ดี ทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจที่เป็นพื้นฐานสำคัญของการเรียนรู้ และพัฒนาศักยภาพต่อยอดสู่เส้นทาง การศึกษาต่อและการประกอบอาชีพในอนาคต ส˼ǮนักงǮนคณǭกรรมกǮรกǮรศ˸กษǮข˧ ันพ˧˺นฐǮน กรǭทรวงศ˸กษǮธ˴กǮร ศ˽นย˦ควǦมปลǣดภัย ส˴ǦนักงǦนคณǥกรรมกǦรกǦรศ˰กษǦขัน˟พ˲˟นฐǦน ค่มูือการคัดเลอืก สํานักงานเขตพ�ืนทีก�ารศึกษาและ สถานศึกษา เพ�ือรับรางวัล ระบบการดูแลช่วยเหลอืนักเรียน ประจําป�๒๕๖๖
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 14 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านความปลอดภัย การป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา พัฒนา ส่งเสริม สนับสนุนการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีกิจกรรม ต่าง ๆ ดังนี้ 1. จัดสรรงบประมาณให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 245 เขต เพื่อให้ดำเนินกิจกรรม ได้แก่ 1) กิจกรรมค่ายทักษะชีวิตรวมพลังเด็กและเยาวชนปรับเปลี่ยนพฤติกรรมนักเรียนกลุ่มเฝ้าระวัง 2) การเสริมสร้างแผนเผชิญเหตุด้านการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา 3) กิจกรรม ลูกเสือต้านภัยยาเสพติด 4) การเสริมสร้าง ป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด การใช้สื่อนิทานพัฒนาทักษะ สมองในเด็กปฐมวัย (Executive Function : EF) 5) การดำเนินงานนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) ในระดับเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา 6) การขับเคลื่อนงานการป้องกันสารเสพติด (เหลา้ บุหรี่ กัญชา กะท่อม) ในสถานศึกษาสู่ความยั่งยืนให้เหมาะสมตามช่วงวัย และ 7) กิจกรรมบ้านหลังเรียน กิจกรรมภาคฤดูร้อน ผลการดำเนินงานดังกล่าว ทำให้ผู้เรียนได้รับการเสริมสร้างภูมิคุ้มกันในการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดจากกิจกรรมในหลักสูตร นอกหลักสูตรและได้สร้างการรับรู้เกี่ยวกับกิจกรรม ป้องกันยาเสพติดในเครือข่ายสังคมออนไลน์ 2. ประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างศักยภาพ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา หรือผู้ปฏิบัติ หนาที่ผู ้อ้ ำนวยการกลุมส่ งเสริมการจัดการศึกษา เพื่อวางแนวทางเตรียมการขับเคลื่อนงานป้องกันและแก ่ ไข้ ปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ระหว่างวันที่ 25 - 27 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรมพีซี แกรนด์ พาเลซ จังหวัดสกลนคร มีผู้เข้าร่วมประชุมกว่า 300 คน โดยกิจกรรมดังกล่าวเน้น การพัฒนาผูปฏิบัติงานเพื่อให ้ มีทักษะ เทคนิค วิธีการศึกษา ้ วิเคราะห์สภาพการดำเนินงาน การจัดทำรายงาน รูปแบบ หรือนวัตกรรม หรือวิธีการในการดำเนินงานคุ้มครอง ดูแลช่วยเหลือเด็กนักเรียนในการป้องกันและแก้ไขปัญหา ยาเสพติดอย่างชัดเจน และเก็บรวบรวมข้อมูลได้อย่างมี ประสิทธิภาพ ภาพกิจกรรม Kick Off “หนึ่งโรงเรียนหนึ่งครูอนามัย สร้างเด็กไทยรอบรู้สุขภาพ เอกสารประกอบการอบรม 1 โรงเรียน 1 ครูอนามัย
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 15 ด้านความปลอดภัย 3. ประชุมเพื่อเตรียมการพิจารณาออกแบบและการจัดทำคู่มือประกอบการสอนยาเสพติดศึกษา ประจำปี พ.ศ. 2566 ภายใต้โครงการ Capacity Buildings Science and Arts ให้แก่ สาธารณรัฐ ประชาธิปไตยประชาชนลาว ภาคความร่วมมือเพื่อการพัฒนาไทย – ลาว วันที่ 21 มิถุนายน 2566 ณ กรมความร่วมมือระหว่างประเทศ ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ 80 พรรษา 4. ลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินงานการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติดของสถานศึกษา ดังนี้ 4.1 ศูนย์ความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ลงพื้นที่เพื่อติดตาม การดำเนินงานโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ในวันที่ 15 มิถุนายน 2566 จำนวน 2 โรงเรียน คือ โรงเรียนปทุมธานี นันทมุนีบำรุง และโรงเรียนคณะราษฎรบำรุง ปทุมธานี รวมถึงติดตามการดำเนินงานระบบ การดูแลช่วยเหลือนักเรียนและการดำเนินการเยี่ยมบ้านนักเรียนในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566 จำนวน 2 คน คือ นักเรียนที่ได้รับทุนพระราชทานจากสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา เจาฟ้ามหาจักรีสิรินธร รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี โดยได ้ ให้ ขวัญและก ้ ำลังใจกับเด็กนักเรียน และครอบครัวในการใช้ชีวิต ภาพการประชุมเชิงปฏิบัติการเสริมสร้างศักยภาพ ผู้อำนวยการกลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา หรือผู้ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการ กลุ่มส่งเสริมการจัดการศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ภาพการลงพื้นที่เพื่อติดตามการดำเนินงานโครงการป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ณ โรงเรียนปทุมธานีนันทมุนีบำรุง และโรงเรียนคณะราษฎร์บำรุงปทุมธานี
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 16 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านความปลอดภัย 4.2 สำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานติดตามผลการดำเนินงานป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติดในสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ผ่านระบบออนไลน์ (Google Forms) และลงพื้นที่เชิงประจักษ์เพื่อติดตาม ผลการพัฒนารูปแบบหรือวิธีการดำเนินงานป้องกันและแกไขปัญหายาเสพติดของโรงเรียน (น ้ ำรอง) 6 ภูมิภาค ่ จำนวน 12 โรงเรียนที่สามารถเป็นแบบอย่างได้ ได้แก่ โรงเรียนปางมะผ้าพิทยาสรรพ์ (สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาแม่ฮ่องสอน) โรงเรียนชุมชนวัดหนองจวง (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา ปราจีนบุรี เขต 1) โรงเรียนกันเกราพิทยาคม (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครราชสีมา เขต 1) โรงเรียนมัญจาศึกษา (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาขอนแก่น) โรงเรียนท่าวังผาพิทยาคม (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาน่าน) โรงเรียนสุเหร่าใหม่ (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถม ศึกษาปทุมธานี เขต 1) โรงเรียนบ้านหนองขอน (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3) โรงเรียนบานทุ้ งเสือโทน (ส ่ ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3) โรงเรียนหัวไทร (เรือน ประชาบาล) (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3) โรงเรียนบานโคกสิเหรง ้ (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสงขลา เขต 3) โรงเรียนบานแก้ งเกลี้ยง (ส ่ ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาเลย เขต 3) และโรงเรียนวังโป่งศึกษา (สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเพชรบูรณ์) ระบบมาตรฐานความปลอดภัย (MOE Safety Center) เป็นระบบ มาตรฐานความปลอดภัยในโรงเรียนโดยใช้หลัก Digital Based Management เป็นรูปแบบ วิธีการหรือกระบวนการในการดูแลชวยเหลือนักเรียน ครูและบุคลากร ่ ทางการศึกษา หรือประชาชนทั่วไป สามารถเข้าถึงระบบ MOE Safety Center เมื่อมี ความรูสึกไม ้ ปลอดภัยและมีความประสงค์จะร ่ องทุกข์ ร ้ องเรียน หรือเตือนให ้ทราบว้า่ สถานศึกษาแหงหนึ่งกําลังเกิดภัยอย ่ างใดอย ่ างหนึ่งใน 4 กลุ ่ มภัย ได ่แก้ 1) ภัยที่เกิดจาก ่ การใช้ความรุนแรงของมนุษย์ (Violence) 2) ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ (Accident) 3) ภัยที่เกิดจากการถูก ละเมิดสิทธิ์ (Right) และ 4) ภัยที่เกิดจากผลกระทบต่อสุขภาวะทางกายและจิตใจ (Unhealthiness) ภาพการลงพื้นที่เชิงประจักษ์เพื่อติดตามผลการพัฒนารูปแบบหรือวิธีการดำเนินงานป้องกันและแก้ไขปัญหายาเสพติด ของโรงเรียนชุมชนวัดหนองจวง และโรงเรียนกันเกราพิทยาคม
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 17 ด้านความปลอดภัย ผู้ที่ได้รับผลกระทบจากความไม่ปลอดภัยสามารถร้องทุกข์ผ่านระบบ MOE Safety Center ได้ 4 ช่องทาง ซึ่งมีเจ้าหน้าที่ดูแลระบบเรียกว่า SC : Safety Center ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน รับข้อมูลและดําเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริง และแก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน เพื่อสร้างความปลอดภัย สร้างความเชื่อมั่นให้กับนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาหรือประชาชน สามารถลดขั้นตอน ลดเวลา มีความรวดเร็วในการแก้ไขปัญหาและให้การคุ้มครองช่วยเหลือ เยียวยา สร้างความเป็นธรรมให้กับผู้ได้รับ ผลกระทบจากความไม่ปลอดภัยที่เกิดขึ้น โดยปีที่ผ่านมามีนักเรียนกว่า 6,000 เคส ที่ได้รับการช่วยเหลือ ผ่านโครงการนี้ เพื่อสร้างความโปร่งใสในสถานศึกษา ให้ผู้เรียนและครูมีความปลอดภัยในรั้วโรงเรียนอย่าง ยั่งยืน โดยแนวคิดที่สร้างความปลอดภัยคือ 3 ป. ประกอบด้วย “ป้องกัน” 4 กลุ่มภัยใกล้ตัว “ปลูกฝัง” ให้เด็กมี ภูมิคุ้มกันและทักษะชีวิต และ “ปราบปราม” หมดปัญหาเดิม ไม่เพิ่มปัญหาใหม่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ดําเนินการพัฒนาครูและศึกษานิเทศก์และจัดทํา หลักสูตรการพัฒนา รวมทั้งสร้างระบบและกลไกในการดูแลความปลอดภัยที่จะเป็นช่องทางในการแก้ไข ปัญหาอยางเป ่ นรูปธรรม และใช ็ ระบบเทคโนโลยีสารสนเทศเข ้ามาช้วยส่ งเสริม สนับสนุนให ่ เกิดความสะดวก ้ รวดเร็วในการบริหารจัดการความปลอดภัยในสถานศึกษา ภายใต้ศูนย์ความปลอดภัย กระทรวงศึกษาธิการ หรือ MOE Safety Center ให้การรับเรื่องแจ้งเหตุเป็นไปด้วยความรวดเร็ว ผู้บริหารสถานศึกษาและ ผู้บริหารจากส่วนกลางสามารถเห็นการแจ้งเหตุและได้รับรายงานการแก้ไขปัญหาให้กับพ่อแม่ ผู้ปกครอง นักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้อย่างทันท่วงที นอกจากนี้ ยังเล็งเห็นความสําคัญในการใชงาน ้ MOE Safety Center จึงนํามาสู่การจัดกิจกรรมส่งเสริมให้ทั้งครู นักเรียน ผู้ปกครองได้เข้ามามีส่วนร่วม ในโครงการ MOE Challenge แบงเป่ นกิจกรรมการแข ็ งขันตอบปัญหาด ่านความรู้ความเข้ าใจในการใช ้ระบบ ้ MOE Safety Center การประกวดมิวสิควิดีโอ (MV Challenge) และการประกวดหนังสั้นเกี่ยวกับสถานศึกษา ปลอดภัย โดยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการให้เกียรติมอบรางวัลแก่ผู้เข้าแข่งขันทั้ง 3 กิจกรรม ในวันที่ 17 ตุลาคม 2565 ณ กระทรวงศึกษาธิการ สำหรับรางวัลชนะเลิศในแตละกิจกรรมจะได ่ รับโล ้ ประกาศ ่ เกียรติคุณพรอมเงินรางวัล ผลการแข ้ งขันโรงเรียนที่ชนะเลิศ ได ่แก้ 1) การแข ่ งขัน Safety School Challenge ่ ภาพพิธีมอบรางวัลการแข่งขันกิจกรรมเสริมสร้างสมรรถนะนักเรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา ให้มีทักษะชีวิตในศตวรรษที่ 21 ด้านความปลอดภัย โดย นางสาวตรีนุช เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 18 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านความปลอดภัย ระดับประถมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนวัดรำพัน (สุขสวัสดิพิชาญราษฎร์) จังหวัดจันทบุรี และระดับมัธยมศึกษา ได้แก่ โรงเรียนวังกรดพิทยา จังหวัดพิจิตร 2) การประกวดมิวสิกวิดีโอสื่อสร้างสรรค์ความปลอดภัย ได้แก่ โรงเรียนบ้านแท่นวิทยา จังหวัดชัยภูมิ และ 3) การประกวดหนังสั้นสื่อสร้างสรรค์ความปลอดภัย ได้แก่ โรงเรียนวัดท่าไทร (ดิตถานุเคราะห์) จังหวัดสุราษฎร์ธานี การจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมที่พึงประสงค์ของผู้เรียน สำนักพัฒนากิจกรรมนักเรียน และสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา ได้ตระหนักและเห็นถึง ความสำคัญของการปลูกฝังทัศนคติ พฤติกรรม และองค์ความรู้ที่เกี่ยวข้องซึ่งบูรณาการอยู่ในกระบวนการ จัดการเรียนรู้ เพื่อสร้างโอกาสในการเรียนรู้และสร้างภูมิคุ้มกันควบคู่กับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในเชิงบวก และสร้างสรรค์ และส่งเสริมคุณลักษณะและพฤติกรรมที่พึงประสงค์ให้กับผู้เรียน โดยดำเนินการ ดังนี้ สภานักเรียน โดยส่งเสริมและสนับสนุนให้โรงเรียนตระหนักถึงการดำเนินกิจกรรมสภานักเรียน ในโรงเรียนทั้งระบบ นักเรียนไดเรียนรู ้ การปกครองในระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป ้ นประมุข ็ เคารพกฎ กติกา รู้หน้าที่ มีความเป็นผู้นำผู้ตามที่ดี อยู่ร่วมกันโดยใช้หลักประชาธิปไตย บริหารงานโดยหลัก ธรรมาภิบาล เติบโตเป็นพลเมืองดี มีทักษะชีวิตอยู่ในสังคมอย่างมีความสุข ดังนี้ 1. รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการเป็นประธานเปิดอบรมสัมมนาสภานักเรียน ระดับประเทศ ประจำปี 2566 ภายใตแนวคิด ้ “สภานักเรียน สพฐ. สานต่อแนวทางที่สร้างสรรค์ เรียนรู้อย่างเท่าทัน มุ่งมั่นพัฒนาประชาธิปไตย” และบรรยายพิเศษ เรื่อง แนวทางการขับเคลื่อนบทบาทสภานักเรียน เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน โดยชูบทบาทสภานักเรียนคือความหวังในการธำรงความเปนชาติไทยผ ็ านวิชาประวัติศาสตร์ ่ พรอมขยายผลเปิดเวทีให ้ สภานักเรียนโรงเรียนในสังกัดกว ้ า 30,000 โรงเรียน น ่ ำเสนอแนวทางเพื่อการพัฒนา ทุกมิติรอบด้านอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในทุกจังหวัดทั่วประเทศ ทั้งนี้ การอบรมดังกล่าว จัดขึ้นระหว่าง วันที่ 11 – 14 มกราคม 2566 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าอบรมเป็นตัวแทน สภานักเรียนระดับมัธยมศึกษา จังหวัดละ 1 คน พรอมครูที่ปรึกษาสภานักเรียน 1 คน มีกิจกรรมภาคบรรยาย ้ ภาคปฏิบัติ และการศึกษาดูงานที่น่าสนใจ อาทิ การปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ ทรงเป็นประมุข ประวัติศาสตร์ชาติไทยกับการพัฒนาที่ยั่งยืน การรับข้อมูลข่าวสาร New Media อย่างมี ประสิทธิภาพ สภานักเรียนกับความเป็นพลเมืองในระบอบประชาธิปไตย MOE Safety Center โดยมี การเลือกตั้งประธานสภานักเรียนและคณะกรรมการสภานักเรียน ระดับประเทศ ประจำปี พ.ศ. 2566 ในวันที่ 13 มกราคม 2566 และคณะกรรมการสภานักเรียนระดับประเทศได้เข้าคารวะ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ในวันเด็กแห่งชาติ 14 มกราคม 2566 พร้อมทั้งเยี่ยมชมทำเนียบรัฐบาล และอาคารรัฐสภา 2. สภานักเรียนนำเสนอข้อคิดเห็นต่อนายกรัฐมนตรี เนื่องในวันเด็กแห่งชาติ 2566 โดยวันที่ 14 มกราคม 2566 คณะสภานักเรียน นำโดยนายอักขราทร แกวอาษา นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาป ้ ที่ 5 โรงเรียน ี อุดรพิชัยรักษ์พิทยา ประธานสภานักเรียน ระดับประเทศ ประจำปี 2566 พร้อมด้วยสมาชิกสภานักเรียน
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 19 ด้านความปลอดภัย ประจำปี 2566 เข้ารับฟังโอวาทและนำเสนอข้อคิดเห็นในการประชุมสภานักเรียนต่อนายกรัฐมนตรี โดยมี รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการและเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เข้าร่วมรับฟัง ณ ทำเนียบรัฐบาล สำหรับข้อเสนอของสภานักเรียน มี 4 ประเด็นหลัก คือ 1) กลไกการสร้างความสามัคคี ระเบียบวินัย และความปลอดภัยในสถานศึกษา 2) การเรียนรูประวัติศาสตร์ที่นักเรียนคาดหวัง 3) การใช ้ สื่อ้ และเทคโนโลยีอย่างสร้างสรรค์ 4) Soft Power สภานักเรียนไทยก้าวไกลสู่สากล พร้อมทั้งนำเสนอประเด็น ที่อยากขอรับการสนับสนุน ไดแก้ 1) สนับสนุนให ่ มีระบบคัดกรองบุคคลภายนอกโรงเรียน การแจ ้งเหตุอย้าง่ รวดเร็วและติดตามผลได รวมถึง ให ้ มีมาตรการในการป้องกันและแก ้ ปัญหายาเสพติด อีกทั้งการดูแลนักเรียน ้ ที่เกิดภาวะซึมเศร้าอย่างจริงจังเป็นแนวทางเดียวกันทั่วประเทศ 2) การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ควรมีรูปแบบ การจัดการเรียนการสอนที่น่าสนใจ ไม่เน้นการท่องจำเนื้อหาในตำรา ให้นักเรียนร่วมออกแบบสิ่งที่อยากเรียนรู้ โดยปูพื้นฐานการเรียนประวัติศาสตร์ตั้งแต่ระดับประถมศึกษาถึงมัธยมศึกษาตอนต้น ส่วนมัธยมศึกษา ตอนปลายให้เป็นวิชาทางเลือกสำหรับนักเรียนที่สนใจประวัติศาสตร์ 3) ให้มีศูนย์ตรวจสอบข้อมูลบน โซเชียลมีเดีย เพื่อเป็นตัวช่วยในการคัดกรองความถูกต้อง และ 4) สนับสนุนงบประมาณและมีเวที ในการนำเสนอ Soft Power ของสภานักเรียนไทย “TSC เทศกาลดี ๆ ที่บ้านฉัน (Festival)” 3. จัดการแข่งขันโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียน ระดับสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษา ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2566 เพื่อส่งเสริมและพัฒนา กิจกรรมสภานักเรียน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จัดทำ คู่มือการแข่งขันโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียนขึ้น โดยให้คณะกรรมการ คัดเลือกระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาดำเนินการตามคู่มือดังกล่าว เพื่อให้กระบวนการแข่งขันโรงเรียนต้นแบบสภานักเรียนมีรูปแบบและ มาตรฐานเดียวกัน และโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกให้เป็นโรงเรียนต้นแบบ สภานักเรียนสามารถเป็นแบบอย่างให้โรงเรียนอื่น ๆ ได้ศึกษาดูงานต่อไป พัฒนา Character Qualities นักเรียนโรงเรียนวิถีพุทธ เชื่อมโยงกับชุมชน บ.ว.ร. (บ้าน วัด โรงเรียน) ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ ดังนี้ 1. สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาร่วมกับหน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง เช่น ศูนย์คุณธรรม (องค์การมหาชน) สำนักงานพระสอนศีลธรรม มหาวิทยาลัย มหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย เป็นต้น โดยมีการจัดอบรม ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารและครูในหลักสูตรต่าง ๆ เช่น หลักสูตร “ที่ปรึกษาโครงงานคุณธรรม” สำหรับ ศึกษานิเทศก์ หลักสูตร “พัฒนาครูโครงงาน คุณธรรม” หลักสูตร “ยุทธศาสตร์การบริหารและ การพัฒนาการเรียนการสอน โรงเรียนวิถีพุทธ” และหลักสูตร “Good food For All” เป็นต้น
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 20 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านความปลอดภัย 2. จัดประกวดแขงขันโครงงานคุณธรรมเฉลิมพระเกียรติ ่ “เยาวชนไทย ทำดี ถวายในหลวง” ปที่ 17 ี ปีการศึกษา 2565 (ระดับประเทศ) ด้วยรูปแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 16 – 20 มีนาคม 2566 ณ โรงแรม แกรนด์ทาวเวอร์อิน กรุงเทพมหานคร ซึ่งมีโครงงานที่เป็นตัวแทนจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเข้าร่วม แข่งขัน จำนวน 210 โครงงาน ผลการพิจารณา พบว่า มีโครงงานได้รับรางวัลระดับดีเยี่ยม จำนวน 8 โครงงาน ระดับดีเด่น จำนวน 19 โครงงาน ระดับดี จำนวน 34 โครงงาน และระดับชมเชย จำนวน 149 โครงงาน ทั้งนี้ การประกวดแข่งขันโครงงานคุณธรรม ส่งผลให้มีนักเรียนไม่น้อยกว่า 5,000 คน ได้รับการส่งเสริมให้มี ความรู้ ความเข้าใจและเข้าถึงหลักการที่เป็นหัวใจสำคัญของโครงงานคุณธรรม รู้จักสนใจและคิดริเริ่มที่จะ แก้ไขปัญหาด้วยตนเอง เน้นการเรียนรู้ผ่านการปฏิบัติจริงด้วยความเพียรพยายามอย่างต่อเนื่อง เสริมสร้างผู้นำด้วยกระบวนการลูกเสือ โดยฝึกอบรมบุคลากรทางการลูกเสือ หลักสูตรวิชา การจัดค่ายพักแรม ซึ่งภาคเหนือ มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาเชียงราย เป็นผู้ดำเนินการจัดฝึกอบรม ระหว่างวันที่ 2 – 6 ธันวาคม 2565 ณ ค่ายลูกเสือจังหวัดเชียงรายแห่งที่ 2 (ค่ายดอนมูล) อำเภอเวียงชัย จังหวัดเชียงราย และภาคใต้ มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ประถมศึกษาตรัง เขต 1 เป็นผู้ดำเนินการจัดฝึกอบรม ระหว่างวันที่ 9 – 13 ธันวาคม 2565 ณ ค่ายลูกเสือไทย เฉลิมพระเกียรติตำบลบางดี อำเภอห้วยยอด จังหวัดตรัง พัฒนายุวทูตความดีสู่การเป็นยุวพลเมืองที่เข้มแข็งในศตวรรษที่ 21 โดยขับเคลื่อนเพื่อพัฒนา และขยายผลยุวทูตความดีโดยใช้หลักสูตรฐานสมรรถนะเป็นตัวขับเคลื่อน และการต่อยอดนวัตกรรมผู้นำ เยาวชน ค่าย “พี่ชวนน้องรักษ์ป่าน่าน” จัดกิจกรรมเวทีแลกเปลี่ยนในรูปแบบ Hackathon การสร้าง จิตสำนึกร่วมของนักเรียนผู้นำร่วมกับผู้นำเยาวชนเครือข่ายด้านการอนุรักษ์ ภาพการอบรมเชิงปฏิบัติการ “ที่ปรึกษาโครงงานคุณธรรม” สำหรับศึกษานิเทศก์ ระหว่างวันที่ 7 – 9 มกราคม 2566 ณ โรงแรมแกรนด์ทาวเวอร์อิน กรุงเทพมหานคร
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 21 ด้านความปลอดภัย การปกป้องคุ้มครองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักพัฒนาการศึกษาเขตพัฒนาพิเศษเฉพาะกิจจังหวัดชายแดนภาคใต ได้ มีการด ้ ำเนินงานเพื่อปกป้อง คุ้มครองต่อสถานการณ์ที่เกิดขึ้นกับผู้เรียน ครู และบุคลากรทางการศึกษา ดังนี้ ขับเคลื่อนการพัฒนาการศึกษาที่ยั่งยืน โดยจัดสรรงบประมาณ และจัดหาบุคลากรสนับสนุนการปฏิบัติงานดานการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได ้แก้ ่ บุคลากรรักษาความปลอดภัยสถานศึกษา จำนวน 863 ตำแหน่ง บุคลากร โรงเรียนโครงการสานฝันการกีฬาสู่ระบบการศึกษาจังหวัดชายแดนใต้ จำนวน 12 แห่ง 329 คน บุคลากรผู้สอนอิสลามศึกษาในโรงเรียนของรัฐ จำนวน 1,336 คน และบุคลากรโรงเรียนประชารัฐจังหวัดชายแดนภาคใต้ จำนวน 64 แห่ง 100 คน รวมถึงจ่ายเงินค่าตอบแทนพิเศษตามสิทธิที่พึงมี ของบุคลากรผูปฏิบัติงานในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต ้ จ้ ำนวน 4,059 คน โดยให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษาดำเนินการจัดจ้างและ เบิกจ่ายให้บุคลากรในสังกัดต่อไป พัฒนาตามศักยภาพของพื้นที่ โดยจัดสรรงบประมาณเพื่อเปนทุนการศึกษาให ็ กับนักเรียนในพื้นที่ ้ จังหวัดชายแดนภาคใต้ ได้แก่ ทุนการศึกษาในกิจกรรมเสริมสร้างโอกาสทางการเรียนของนักเรียนให้เรียน ในโรงเรียนที่มีชื่อเสียง (โรงเรียนอุปถัมภ์) ทุนการศึกษาภูมิทายาท และทุนนักเรียนโครงการสนองพระราชดำริฯ “ครัวโรงเรียนสู่ครัวบ้าน” นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ยังได้ดำเนินการจัด การประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพครูผูสอนภาษาไทยของศูนย์พัฒนาทักษะทางภาษาเพื่อการสื่อสาร ้ ในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ณ โรงแรมหรรษา เจบี อำเภอหาดใหญ่ จังหวัดสงขลา ระหว่างวันที่ 22 - 24 พฤษภาคม 2566 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนภาษาไทยระดับปฐมวัย และระดับชั้น ประถมศึกษาปีที่ 1 จำนวน 498 คน จากสถานศึกษา จำนวน 249 แห่ง ให้ได้รับการพัฒนาด้านการผลิตสื่อ นวัตกรรมการเรียนการสอนภาษาไทย และการพัฒนาเทคนิควิธีการสอนภาษาไทยที่ถูกตอง จากคณะวิทยากร ้ ที่มีความรู้ความเชี่ยวชาญในการถ่ายทอดประสบการณ์ดังกล่าวจากทุกภูมิภาค ทั่วประเทศกว่า 30 คน เพื่อเป็นการยกระดับคุณภาพการจัดการเรียนการสอนภาษาไทยในจังหวัดชายแดนภาคใต้ ภาพการประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพครูผู้สอนภาษาไทยของศูนย์พัฒนาทักษะทางภาษาเพื่อการสื่อสารในจังหวัดชายแดนภาคใต้
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 22 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านความปลอดภัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษาในสังกัด รวมแรงร่ วมใจอย ่างเข่ มแข็งในการขับเคลื่อนโครงการ กิจกรรมต ้ าง ๆ เพื่อดูแลความปลอดภัยให ่แก้ นักเรียน ่ ครู บุคลากรทางการศึกษาและสถานศึกษา จากภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบ โดยมีผลการดำเนินงาน ที่ประสบความสำเร็จ ดังนี้ 1. นักเรียนได้รับการศึกษาในสถานศึกษาที่มีความปลอดภัย โดยนักเรียนในสังกัดทั้งหมด จำนวน 6,622,522 คน มีความปลอดภัยจากภัยคุกคามทุกรูปแบบ 4 กลุ่มภัย ได้แก่ ภัยที่เกิดจากการใช้ ความรุนแรงของมนุษย์ (Violence) ภัยที่เกิดจากอุบัติเหตุ (Accident) ภัยที่เกิดจากการถูกละเมิดสิทธิ์ (Right) และภัยที่เกิดจากผลกระทบทางสุขภาวะทางกายและจิตใจ (Unhealthiness) จำนวน 6,576,129 คน คิดเป็นร้อยละ 99.30 2. ครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด ทั้งหมด จำนวน 427,651 คน ดำเนินการตามแนวทางของ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในการจัดการภัยพิบัติและภัยคุกคามทุกรูปแบบใหสามารถปรับตัวต ้ อโรคอุบัติใหม ่ ่ และโรคอุบัติซ้ำรองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) จำนวน 426,209 คน คิดเป็นร้อยละ 99.66 3. สถานศึกษาในสังกัด ทั้งหมด จำนวน 29,033 แห่ง มีแผน มาตรการในการจัดการภัยพิบัติและ ภัยคุกคามทุกรูปแบบ โรคอุบัติใหม่และโรคอุบัติซ้ำรองรับวิถีชีวิตใหม่ (New Normal) จำนวน 28,729 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 98.95 ตัวอย่างนวัตกรรม วิธีการปฏิบัติที่เป็นแบบอย่างได้จากการลงพื้นที่เชิงประจักษ์ นวัตกรรมหุ่นยนต์ 4S ความปลอดภัย ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาศรีสะเกษ เขต 3 โดยพัฒนาระบบสัญญาณเตือนภัย 4S ที่สามารถควบคุมผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือจาก สถานศึกษา โดยเมื่อมีเหตุการณ์ความไม่ปลอดภัย จะมีการส่งสัญญาณไปยังหน่วยงานหลัก คือ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานที่ เกี่ยวของ เช้ น สถานีต ่ ำรวจ โรงพยาบาล หนวยกู่ ชีพ ้ ให้สามารถเข้ามาช่วยเหลือได้ทันที รวมทั้ง ได้มี การพัฒนาโปรแกรมสแกนใบหนา เพื่อสแกนใบหน ้า้ ของบุคคลที่เข้ามาในสถานศึกษา หากมีบุคคล ภายนอกที่ไม่อยู่ในฐานข้อมูลของสถานศึกษา เข้ามาในสถานศึกษา ระบบจะส่งสัญญาณไปยัง ผู้อำนวยการสถานศึกษาเพื่อเข้ามาตรวจสอบทันที โดยสถานศึกษาในสังกัดทุกแห่งได้ติดตั้งกล้องวงจรปิด และมีการเตรียมความพร้อมโดยจัดห้องความปลอดภัยไว้สำหรับให้ผู้เรียนหลบภัย กรณีเกิดเหตุการณ์ ต่าง ๆ เช่น กรณีกราดยิงนักเรียนจังหวัดหนองบัวลำภู เป็นต้น เทคโนโลยีดิจิทัลอัจฉริยะและระบบ สัญญาณเตือนภัยในสถานศึกษา 4S
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 23 ด้านโอกาส สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไดก้ ำหนดนโยบายดานโอกาสและการลดความเหลื่อมล ้ำ้ ทางการศึกษาที่สอดคล้องกับนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ โดยมีจุดเน้นเรื่องการส่งเสริมให้ประชากร ที่มีอายุ 3 – 5 ป และผูี เรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเข ้ าถึงโอกาสทางการศึกษา ป้องกันการหลุดออกจาก ้ ระบบ รวมทั้งติดตาม ชวยเหลือเด็กตกหล ่ นเละเด็กออกกลางคันจากการปักหมุดบ ่ านเด็กให ้ กลับเข ้าสู้ระบบ่ การศึกษา ตลอดจนนโยบายเรงด่ วนเรื่องการด ่ ำเนินการ “พานองกลับมาเรียน” ้ และการสงเสริม สนับสนุน ่ ใหเด็กในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีโอกาสได ้ รับการศึกษาที่มีคุณภาพอย ้ างเสมอภาคและเป ่ นธรรม พัฒนา ็ ระบบข้อมูลสารสนเทศของนักเรียนระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นรายบุคคลเพื่อใช้เป็นฐานข้อมูล ในการบริหารจัดการศึกษา โดยเฉพาะการดูแลและป้องกันไม่ให้นักเรียนหลุดออกจากระบบการศึกษา และ ช่วยเหลือเด็กตกหล่น เด็กออกกลางคันให้กลับเข้าสู่ระบบ ส่งเสริม สนับสนุนให้เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับ การพัฒนาการสมวัยอย่างมีคุณภาพ ส่งเสริม สนับสนุนให้ผู้เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มเปราะบาง ใหได้ รับการศึกษาที่เหมาะสมตามความจ ้ ำเปนตามศักยภาพและเหมาะสมกับบริบทของพื้นที่ ตลอดจนการจัด ็ การศึกษาในรูปแบบที่หลากหลายเพื่อสงเสริมการพัฒนาพหุปัญญา ส ่ งเสริมให ่ นักเรียนได ้ รับการพัฒนาทักษะ ้ ความถนัดและความสามารถเฉพาะดานแตกต้ างกันในแต ่ ละบุคคลเพื่อเป ่นแนวทางส็ ำหรับการศึกษาตอและ่ การประกอบอาชีพในอนาคต การสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ดำเนินการสร้างโอกาส ความเสมอภาค และความเท่าเทียมทางการศึกษาทุกช่วงวัย โดยดำเนินโครงการ กิจกรรมใน 5 ประเด็น ได้แก่ 1. การส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการเพื่อป้องกันเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคัน 2. การสงเสริมสนับสนุนให ่ผู้เรียนกลุ ้ มเป้าหมายพิเศษ และกลุ ่ มเปราะบางได ่ รับการศึกษาที่เหมาะสม ้ ตามความจำเป็นตามศักยภาพ 3. การส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับการพัฒนาการสมวัยอย่างมีคุณภาพ 4. การจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อใหทุกกลุ้มเข่ าถึงการศึกษา การเรียนรู ้ และการฝึกอาชีพ ้ 5. การขับเคลื่อนโครงการทวิศึกษาแนวใหม่ โดยมีรายละเอียด ดังนี้ การส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการเพื่อป้องกันเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคัน สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ให้ความสำคัญกับการดูแลและป้องกันไม่ให้นักเรียน หลุดออกจากระบบการศึกษาและช่วยเหลือเด็กตกหล่น เด็กออกกลางคันให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา ผานการประสานความร ่ วมมือกับหน ่ วยงานและภาคีเครือข ่ ายในพื้นที่ มุ ่งเน่นวางแผนการช้ วยเหลือเป ่ นรายกรณี ็ “เราจะไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง” ด้ านโอกาส
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 24 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านโอกาส โดยพัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศของเด็กและเยาวชนเป็นรายบุคคล เพื่อใช้เป็นฐานข้อมูลในการบริหาร จัดการศึกษา รวมทั้งสนับสนุนค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานอย่างเสมอภาคและเป็นธรรม โดยดำเนินการ ดังนี้ การแก้ปัญหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่นให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา 1. ถอดบทเรียนรูปแบบการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับเด็กตกหลนและเด็กที่อยู ่ นอกระบบการศึกษา ่ ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษาในจังหวัดนำร่อง 13 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดนครพนม อุบลราชธานี กาญจนบุรี ตาก ตรัง ปัตตานี เชียงใหม่ น่าน สระแก้ว นครราชสีมา ราชบุรี บึงกาฬ และจังหวัดสงขลา โดยมีหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมครอบคลุม 4 ด้าน ได้แก่ ด้านการศึกษา ด้านการปกครอง ด้านสาธารณสุข และด้าน คุ้มครองสวัสดิการ ซึ่งจากการถอดบทเรียนได้ข้อมูล ดังนี้ 1) องค์ความรู้สำหรับการจัดการศึกษาของเด็ก นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่น เพื่อการพัฒนาหลักสูตร รูปแบบการจัดการเรียนรู้และแนวทาง การสร้างสัมมาชีพให้สอดคล้องและเหมาะสมกับเด็กนอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่น 2) แนวทาง การสร้างกลุ่มภาคีเครือข่าย หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน ภาคธุรกิจ และเครือข่ายประชาสังคมให้เข้ามา มีส่วนร่วมในการพัฒนาการศึกษาและการเรียนรู้ที่สอดคล้องและเหมาะสมสำหรับเด็กนอกระบบการศึกษา และเด็กตกหล่นในระดับจังหวัด 3) แนวทางพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการจัดการศึกษาของเด็กนอกระบบ การศึกษาและเด็กตกหลนในระดับจังหวัด 4) แนวทางพัฒนาความร ่ วมมือ และพัฒนาศักยภาพความสามารถ ่ ของผู้ที่มีส่วนเกี่ยวข้องในระดับจังหวัด 2. พัฒนาฐานขอมูลเด็กนอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล ้ นระดับจังหวัด ในจังหวัดน ่ ำรอง 13 จังหวัด ่ โดยเชื่อมโยงฐานข้อมูลเด็กและเยาวชนในระดับจังหวัด เพื่อให้สำนักงานศึกษาธิการจังหวัดทราบข้อมูล ประชากรวัยเรียนทั้งหมดกับฐานข้อมูลทะเบียนราษฎร เพื่อพัฒนารูปแบบการช่วยเหลือให้เด็กนอกระบบ การศึกษาและเด็กตกหล่นตามความเหมาะสม และมีประสิทธิภาพทันต่อสถานการณ์ปัญหาของเด็ก นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่น 3. พัฒนารูปแบบการศึกษาเพื่อแก้ปัญหาเด็กตกหล่นและเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาให้กลับเข้าสู่ ระบบการศึกษาบนฐานสมรรถนะด้านวิชาชีพ และมีหลักสูตรที่ยืดหยุ่นสำหรับการจัดการศึกษาที่เหมาะสม กับบริบทของเด็กนอกระบบและเด็กตกหลนในจังหวัดน ่ ำรอง 13 จังหวัด ได ่แก้ การจัดการเรียนการสอนรูปแบบ ่ 1 โรงเรียน 3 ระบบ การพัฒนาโรงเรียนต้นแบบกลไกค้นหา พัฒนา ส่งต่อ การศึกษาสำหรับกลุ่มเป้าหมาย เฉพาะในรูปแบบศูนย์การเรียน และนวัตกรรมโรงเรียนมือถือ (Mobile School) และในปงบประมาณ พ.ศ. 2566 ี ภาคีเครือข่ายในจังหวัดนำร่องสามารถช่วยเหลือเด็กนอกระบบและเด็กตกหล่น จำนวน 2,500 คน
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 25 ด้านโอกาส การป้องกันและลดปัญหาการออกกลางคัน “พาน้องกลับมาเรียน” 1. จัดสรรงบประมาณสำหรับดำเนินโครงการ “พานองกลับมาเรียน” ้ ปการศึกษา 2565 ให ีส้ำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาทั่วประเทศ และสำหรับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่มีผลการดำเนินงานที่ประสบ ความสำเร็จ ซึ่งเป็นกลุ่มเป้าหมายสำหรับดำเนินการวิจัย จำนวน 18 เขต 2. ศึกษาวิจัยและพัฒนาแนวทางป้องกัน เฝ้าระวัง ติดตามชวยเหลือเด็กตกหล ่ นและเด็กออกกลางคัน ่ สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งสามารถสรุปผลการวิจัยได้ ดังนี้ 2.1 ผลการศึกษาสภาพปัญหาหรือข้อจำกัดและความต้องการจำเป็นที่เป็นสาเหตุการตกหล่น และออกกลางคัน พบว่า เกิดจาก 11 สาเหตุ ได้แก่ 1) ความจำเป็น ของครอบครัว 2) ย้ายถิ่นที่อยู่ 3) รายได้ไม่เพียงพอ 4) ปัญหาสุขภาพ หรือ ความพิการ 5) ปัญหาความประพฤติและการปรับตัว 6) ผลกระทบจาก COVID-19 7) เสี่ยงต่อการกระทำผิด 8) การคมนาคมไม่สะดวก 9) สมรส 10) ผลการเรียน และ 11) ผู้ปกครองไม่ใส่ใจ 2.2 พัฒนาแนวทางป้องกัน เฝ้าระวัง ติดตามชวยเหลือเด็กตกหล ่น่ และเด็กออกกลางคัน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตามบทบาทหน้าที่ของผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง ทั้ง 5 ส่วน ได้แก่ 1) สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2) สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 3) สถานศึกษา 4) ครอบครัว/ผู้ปกครอง และ 5) เครือข่ายความร่วมมือ
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 26 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านโอกาส
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 27 ด้านโอกาส 3. สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมให้กำลังใจสถานศึกษาทุกแห่ง และสถานศึกษา ดำเนินการเยี่ยมบานนักเรียนทุกคน เพื่อให ้รู้จักนักเรียนรายบุคคล ทราบถึงความเป ้นอยู็ ความต่องการจ้ ำเปน็ ที่ตองได ้ รับความช ้ วยเหลือ อีกทั้ง สร ่ างความมั่นใจให ้แก้ นักเรียน ผู ่ ปกครอง ประชาชน และสังคมในแนวทาง ้ สรางความปลอดภัย และดูแล คุ ้ มครองนักเรียนในทุกมิติ ป้องกันไม ้ ให่ เด็กหลุดจากระบบการศึกษาอย ้ างยั่งยืน ่ และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสามารถติดตามช่วยเหลือเด็กออก กลางคันได จ้ ำนวน 5,972 คน แบงออกเป ่น กลุ็ มที่พบตัวและได ่ รับการช ้ วยเหลือให ่ กลับเข ้าสู้ ระบบการศึกษา ่ จำนวน 5,916 คน คิดเป็นร้อยละ 94.63 และกลุ่มที่ไม่พบตัว จำนวน 336 คน คิดเป็นร้อยละ 5.37 (ข้อมูล ณ วันที่ 30 สิงหาคม 2566) สนับสนุนค่าใชจ่ายในการจัดการศึกษาตั้งแต่ระดับอนุบาลจนจบการศึกษาขั้นพื้นฐาน ้ โดยมีการปรับ เพิ่มอัตราเงินอุดหนุนสําหรับการศึกษาขั้นพื้นฐานแบบขั้นบันไดตอเนื่อง 4 ป ่ งบประมาณ (พ.ศ. 2566 – 2569) ี ตามมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม 2565 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของนักเรียน ผู้ปกครองและเพิ่ม ศักยภาพสถานศึกษาในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ได้ปรับอัตราเงินอุดหนุน ในรายการค่าจัดการเรียนการสอนเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 2 ค่าอุปกรณ์การเรียนเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 2 ค่าเครื่องแบบนักเรียนเพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 7 และค่ากิจกรรมพัฒนาผู้เรียน เพิ่มขึ้นจากเดิมร้อยละ 2
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 28 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านโอกาส สำหรับภาคเรียนที่ 1/2566 ไดจัดสรรงบประมาณให ้ นักเรียน จ ้ ำนวน 6,552,101 คน ครบรอยละ 100 ้ ของจำนวนนักเรียนปัจจุบันที่สถานศึกษายืนยันขอมูลนักเรียนรายบุคคล (ข ้ อมูล ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2566) ้ เพื่อให้นักเรียนได้รับโอกาสการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพและลดความเหลื่อมล้ำทางการศึกษา ได้แก่ 1) รายการค่าใช้จ่ายในการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน 5 รายการ (ค่าจัดการเรียนการสอน ค่าหนังสือเรียน คาอุปกรณ์การเรียน ค ่ าเครื่องแบบนักเรียน และค ่ ากิจกรรมพัฒนาผู ่ เรียน) ส ้ ำหรับโรงเรียนปกติ และโรงเรียน สังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ 2) รายการเงินอุดหนุนปัจจัยพื้นฐานสำหรับนักเรียนยากจน 3) รายการ ค่าอาหารนักเรียนประจำพักนอน 4) รายการจัดการศึกษาโดยครอบครัวและสถานประกอบการ การส่งเสริมสนับสนุนใหผู้ เรียนกลุ่มเป้าหมายพิเศษ และกลุ่มเปราะบางได ้ รับการศึกษาที่เหมาะสม ้ ตามความจำเป็นตามศักยภาพ สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐานและสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษได้ดำเนินการจัด การศึกษาที่เปิดโอกาสใหกับกลุ ้ มเป้าหมายพิเศษ และกลุ ่ มเปราะบางได ่เข้ าเรียนในทุกช ้ วงวัยและทุกรูปแบบ ่ การศึกษา โดยดำเนินการ ดังนี้ การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับบุคคลที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย ดำเนินการจัดทำร่างคู่มือแนวปฏิบัติการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับบุคคล ที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย สร้างความรู้ความเข้าใจ แนวปฏิบัติการรับเด็กที่ไมมีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม ่ มีสัญชาติไทยและการแก ่ ไข้ สถานะนักเรียนที่มีรหัสขึ้นต้นด้วยตัวอักษร G ให้เปลี่ยนเป็นเลข 13 หลักของ กระทรวงมหาดไทย ตามคู่มือและแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคล ที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ. 2560) ของกระทรวงศึกษาธิการ และจัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายให้นักเรียนที่มี รหัสขึ้นต้นด้วยตัวอักษร G ดำเนินการเปลี่ยนเป็นเลข 13 หลัก เพื่อให้ได้สิทธิขั้นพื้นฐานด้านการศึกษาและ ด้านการบริการสาธารณสุข โดยนำร่อง 3 จังหวัด ได้แก่ จังหวัดเชียงใหม่ เชียงราย และจังหวัดตาก คนละ 200 บาท และการลงพื้นที่ศึกษาดูงานวิธีปฏิบัติตามสภาพจริงการรับเด็กที่ไมมีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือ ่ ไม่มีสัญชาติไทย ณ โรงเรียนบ้านตะเคียนงาม จังหวัดกาญจนบุรี พัฒนาการจัดการศึกษาโรงเรียนที่ตั้งในพื้นที่ลักษณะพิเศษ 1. โรงเรียนในพื้นที่โครงการพัฒนาดอยตุง (พื้นที่ทรงงาน) อันเนื่องมาจากพระราชดำริ และโรงเรียน พื้นที่ขางเคียง ทั้งหมดจ ้ ำนวน 33 โรงเรียน ไดรับการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียน ้ รู้ภาษาไทยสำหรับเด็กที่ไม่ใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ 2. โรงเรียนที่ตั้งในพื้นที่ลักษณะพิเศษ (โรงเรียนพื้นที่สูงในถิ่นทุรกันดาร และโรงเรียนพื้นที่เกาะ) ทั้งหมดจำนวน 1,442 โรงเรียน ได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา (ทักษะวิชาการ คู่มือและแนวปฏิบัติสำหรับการจัดการศึกษาแก่บุคคล ที่ไม่มีหลักฐานทะเบียนราษฎรหรือไม่มีสัญชาติไทย (ฉบับปรับปรุงใหม่ พ.ศ. 2560) ของกระทรวงศึกษาธิการ
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 29 ด้านโอกาส ทักษะชีวิต และทักษะอาชีพ) สำนักนโยบายและแผนการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ได้จัดทำระบบข้อมูลทางการศึกษาและสารสนเทศ เพื่อการบริหารโครงการพัฒนาการจัดการศึกษาโรงเรียนที่ตั้ง ในพื้นที่ลักษณะพิเศษ และจัดทำแนวทางการดำเนินงานและ การบริหารงบประมาณ งบเงินอุดหนุน รายการเงินอุดหนุนคาอาหาร่ นักเรียนพักนอน 3. โรงเรียนที่จัดที่พักนอนสำหรับนักเรียนในพื้นที่ยากลำบาก ทั้งหมด จำนวน 534 โรงเรียน ได้รับการจัดสรรงบประมาณ รายการเงินอุดหนุนค่าอาหารสำหรับนักเรียน พักนอนประจำ ช่วงวันหยุด และก่อนหลังเปิด – ปิด ภาคเรียนในภาคเรียนที่ 1/2565 พัฒนาคุณภาพการจัดการศึกษาเรียนรวม 1. จัดทำเอกสารเกี่ยวกับแนวทางการจัดการเรียนการสอนสำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็น พิเศษ จำนวน 2 ฉบับ ได้แก่ ร่างแนวทางการจัดการศึกษาเรียนรวมสำหรับสถานศึกษา และร่างแนวทาง การจัดการเรียนรู้สำหรับผู้เรียนที่มีความต้องการจำเป็นพิเศษ 2. จัดสรรงบประมาณให้แก่ศูนย์การศึกษาพิเศษ 77 แห่ง แห่งละ 5,000 บาท ในการนิเทศ ช่วยเหลือ ติดตาม และประเมินผลสถานศึกษาที่จัดการศึกษาเรียนรวม รวมงบประมาณ จำนวน 385,000 บาท เพื่อการจัดการศึกษาให้นักเรียนที่มีความต้องการจําเป็นพิเศษทางการศึกษา 9 ประเภท จำนวน 350,427 คน (ข้อมูลระบบโปรแกรมสารสนเทศ SET ณ วันที่ 10 มิถุนายน 2565) ได้รับการพัฒนาการเรียนรู้ โดยได้เรียน รวมกับนักเรียนปกติในโรงเรียนทั่วไป สามารถดํารงชีวิตในสังคมร่วมกันได้อย่างมีความสุขและยอมรับ ซึ่งกันและกัน พัฒนาการจัดการเรียนรูให้สอดคล้ องกับศักยภาพของนักเรียนแต่ละบุคคล ้ ในรูปแบบที่เหมาะสม และฝึกทักษะอาชีพให้สอดคล้องกับความต้องการของนักเรียน โดยจัดสรรงบประมาณสนับสนุนให้กับ สถานศึกษาสังกัดสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ จํานวน 19 แห่ง เป็นจํานวนเงิน 9,347,500 บาท เพื่อพัฒนากระบวนการจัดการศึกษาในสถานศึกษาสังกัดสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ ใหนักเรียนได ้ รับ ้ การเสริมสร้างการพัฒนาทักษะอาชีพ ศูนย์การเรียนสำหรับเด็กในโรงพยาบาล ได้รับการจัดสรรงบประมาณในการจัดซื้อครุภัณฑ์ สําหรับใช้ในการจัดการเรียนการสอนและส่งเสริมประสิทธิภาพการปฏิบัติงานภายในศูนย์ จำนวน 75 ศูนย์การเรียนใน 67 จังหวัด และจัดสรรงบประมาณสำหรับเด็กในโรงพยาบาลที่ไม่ได้รับการสนับสนุนจาก กรมการแพทย์ เนื่องจากจัดตั้งอยู่ในโรงพยาบาลสังกัดหน่วยงานอื่น จำนวน 6 ศูนย์การเรียนใน 4 จังหวัด เพื่อให้เด็กที่มีความบกพร่องทางสุขภาพ จำนวนไม่น้อยกว่า 35,000 คน ที่พักรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล ได้รับการบริการทางการศึกษาอย่างมีคุณภาพ รวมถึงการพัฒนาทักษะการเรียนรู้ การฟื้นฟูสมรรถภาพ ทางร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม และสติปัญญาอย่างเหมาะสมกับสภาพความเจ็บป่วย ข้อจำกัดของโรค
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 30 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านโอกาส การสอนเพื่อพัฒนาทักษะการตัดสินใจด้วยตนเอง (Self - Determination) โดยใช้หลัก การออกแบบการเรียนรู้ที่เป็นสากล (Universal Design for Learning : UDL) ให้กับนักเรียนพิการ ในสถานศึกษาสังกัดสํานักบริหารงานการศึกษาพิเศษ โดยดำเนินการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษา จำนวน 217 คน ผ่านการอบรมออนไลน์เกี่ยวกับการบูรณาการการสอนทักษะการตัดสินใจด้วยตนเอง (Self-Determination) หลักการออกแบบการเรียนรู้ที่เป็นสากล (Universal Design for Learning : UDL) เพื่อประยุกต์ใชในการจัดกิจกรรมการเรียนรู ้ ให้ กับนักเรียนพิการและเตรียมความพร ้ อมเพื่อการเป ้ นพลเมือง ็ ที่มีคุณภาพในอนาคต และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีผลการดำเนินงานที่แสดงถึงผู้เรียน ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานที่มีความต้องการพิเศษได้รับการดูแลช่วยเหลือและส่งเสริมให้ได้รับการศึกษา ที่เหมาะสม ตามความจำเป็น ดังนี้ เด็กพิการเรียนรวม ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ทั้งหมดจำนวน 437,884 คน มีการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) จำนวน 118,872 คน คิดเป็นร้อยละ 27.15 แบ่งเป็นเด็กพิการในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 394,465 คน มีการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) จำนวน 75,453 คน คิดเปนร็ อยละ 19.13 และเด็กพิการ ้ ในสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ จำนวน 43,419 คน มีการจัดทำแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) จำนวน 43,419 คน คิดเป็นร้อยละ 100 เด็กด้อยโอกาส ในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 รวมทุกประเภท จำนวน 3,346,087 คน ได้รับบริการทางการศึกษาและการดูแลช่วยเหลือ จำนวน 3,244,620 คน คิดเป็นร้อยละ 96.97 แบ่งเป็นเด็กด้อยโอกาสในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 3,317,623 คน ได้รับบริการทางการศึกษาและการดูแลช่วยเหลือ จำนวน 3,216,156 คน คิดเป็น การตัดสินใจด้วยตนเอง (Self - Determination) หมายถึง การที่บุคคลมีอิสระในการกำหนดการกระทำ การดำเนินชีวิต ตนเองได้ โดยบุคคลสามารถกำหนดเป้าหมาย เลือก ตัดสินใจ แก้ปัญหาต่าง ๆ ได้ด้วยตนเอง ซึ่งแนวคิดนี้ถูกนำมาประยุกต์ ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้กับนักเรียนพิการ เพื่อส่งเสริมให้ผู้พิการมีสิทธิในการแสดงความต้องการและมีส่วนร่วม ในการรับบริการดานการศึกษาของตนเอง โดยเฉพาะอย ้ างยิ่งในกระบวนการวางแผนการศึกษาเฉพาะบุคคล (Individualized ่ Education Plan : IEP) ตามหลักการออกแบบการเรียนรู้ที่เป็นสากล (Universal Design for Learning : UDL)
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 31 ด้านโอกาส ร้อยละ 96.94 และเด็กด้อยโอกาสในสังกัดสำนักบริหารงานการศึกษาพิเศษ จำนวน 28,464 คน ได้รับ บริการทางการศึกษาและการดูแลช่วยเหลือ จำนวน 28,464 คน คิดเป็นร้อยละ 100 โดยมีกระบวนการ ดูแลชวยเหลือเด็กด ่ อยโอกาสแต ้ ละประเภทตามลักษณะของความต ่องการ ความจ้ ำเปน และความสอดคล็อง ้ ตามศักยภาพของแต่ละพื้นที่ โดยมีแนวทางที่หลากหลายผ่านการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ทั้งภายในและภายนอกองค์กรเพื่อให้ครอบคลุมเด็กด้อยโอกาสทุกกลุ่ม การส่งเสริมสนับสนุนให้เด็กปฐมวัยทุกคนได้รับการพัฒนาการสมวัยอย่างมีคุณภาพ สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐานไดด้ ำเนินการสงเสริม สนับสนุนให ่ เด็กปฐมวัยทุกคนได ้ รับ้ การพัฒนาการสมวัยอย่างมีคุณภาพ โดยดำเนินการ ดังนี้ ส่งเสริม สนับสนุนการรับนักเรียน เพื่อให้เด็กทุกคนในระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานมีโอกาสได้รับ การศึกษาที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับศักยภาพและความถนัดของแต่ละบุคคล ลดความเหลื่อมล้ำและสร้าง โอกาสทางการศึกษา โดยใช้กระบวนการรับนักเรียนที่มีความเป็นธรรม สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ และ เสมอภาคตามหลักธรรมาภิบาล โดยดำเนินกิจกรรม ดังนี้ 1. จัดทำประกาศนโยบายและแนวปฏิบัติเกี่ยวกับการรับนักเรียนระดับชั้นก่อนประถมศึกษา สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2566 ได้แก่ 1) ให้รับเด็กในเขตพื้นที่บริการ อายุ 4 - 5 ปี เข้าเรียนชั้นอนุบาล 2 และอนุบาล 3 โดยห้ามสอบวัดความสามารถทางวิชาการ 2) สถานศึกษา ที่เคยรับเด็กอนุบาล อายุ 3 ปีบริบูรณ์ที่ได้รับอนุญาตให้เปิดรับอยู่ก่อนแล้ว ให้รับเด็กในเขตพื้นที่บริการ อายุ 3 - 5 ปี เข้าเรียนชั้นอนุบาล 1 - 3 โดยห้ามสอบวัดความสามารถทางวิชาการ 3) หากสถานศึกษา มีความจำเป็นและมีความพร้อมด้านคุณภาพการศึกษา ด้านครูและบุคลากรทางการศึกษา และด้านอาคารสถานที่ ที่จะรับเด็กเข้าเรียนชั้นอนุบาล 1 (3 ปีบริบูรณ์) ให้เสนอขอความเห็นชอบจากคณะกรรมการสถานศึกษา ขั้นพื้นฐาน คณะกรรมการรับนักเรียนระดับสถานศึกษาหรือระดับเขตพื้นที่การศึกษา และคณะกรรมการ ศึกษาธิการจังหวัด ตามลำดับ โดยห้ามสอบวัดความสามารถทางวิชาการ 2. กำหนดปฏิทินการรับนักเรียน และจำนวนนักเรียนตอห่ อง สังกัดส ้ ำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3. สื่อสาร ประชาสัมพันธ์ ให้บุคคล คณะบุคคล องค์กร หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เกิดการรับรู้ เข้าใจ โดยประยุกต์ใช้เทคโนโลยีผ่านเครือข่ายต่าง ๆ และช่องทางประชาสัมพันธ์ที่หลากหลาย 4. จัดทำระบบรวบรวม ประมวลผล แผนการรับนักเรียน และ รายงานผลการดำเนินการรับนักเรียนในภาพรวม 5. กำกับ ติดตาม ตรวจสอบ และประเมินผลการรับนักเรียน ของหน่วยงานในสังกัด ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พบว่า ประชากรวัยเรียนตาม ทร.14 กลุ่มอายุ 3 - 5 ปี ทั้งหมดจำนวน 1,886,078 คน กำลังศึกษา หรือได้รับบริการการศึกษาในระดับอนุบาล 1 - 3 ปีการศึกษา 2566
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 32 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านโอกาส สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 859,689 คน คิดเป็นร้อยละ 45.58 แสดงถึง อัตราการเข้าเรียนสุทธิของผู้เรียนปฐมวัยเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบผล 3 ปีย้อนหลัง การจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้ทุกกลุ่มเข้าถึงการศึกษา การเรียนรู้ และการฝึกอาชีพ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย และสำนักนโยบาย และแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ดำเนินการจัดการศึกษาในรูปแบบที่หลากหลาย เพื่อให้ทุกกลุ่มเข้าถึง การศึกษา การเรียนรู้และการฝึกอาชีพ โดยดำเนินโครงการ กิจกรรม ดังนี้ ส่งเสริมและพัฒนาศักยภาพตามพหุปัญญา 1. การพัฒนาและปรับปรุงระบบสำรวจแววความสามารถพิเศษด้วยระบบอิเล็กทรอนิกส์ให้มี ประสิทธิภาพ เพื่อสำรวจ คัดกรอง วัดระดับ ติดตาม ประเมินผลนักเรียน ตามหลักพหุปัญญาเป็นรายบุคคล โดยเปิดระบบสำรวจแววความสามารถพิเศษดวยระบบอิเล็กทรอนิกส์ ประจ ้ ำปการศึกษา 2565 (กุมภาพันธ์) ี และประจำปีการศึกษา 2566 (ระหว่างเดือนกรกฎาคม 2566 ถึงเดือนมีนาคม 2567) 2. การพัฒนาการเรียนการสอนตามพหุปัญญาด้วยแนวทางการออกแบบการเรียนรู้เพื่อส่งเสริม พหุปัญญาและแนวทางการสรางสรรค์นวัตกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์ด ้ วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG โดยประชุม ้ เชิงปฏิบัติการจัดทำแนวทางฯ ระหว่างวันที่ 8 - 11 มกราคม 2566 ณ โรงแรมรอแยลเบญจา กรุงเทพฯ และประชุมเชิงปฏิบัติการบรรณาธิการกิจแนวทางฯ ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม ถึง 1 เมษายน 2566 ณ โรงแรมแกรนด์จอมเทียนพาเลซ จังหวัดชลบุรี 3. อบรมการใชแบบส้ ำรวจแววความสามารถพิเศษของเด็กปฐมวัย วันที่ 11 กุมภาพันธ์ 2566 รูปแบบ ออนไลน์ ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พบว่า สถานศึกษาในสังกัด ทั้งหมด 29,126 แห่ง สามารถจัดการเรียน การสอนตามพหุปัญญา จำนวน 27,241 แห่ง คิดเป็นร้อยละ 93.53 และผู้เรียนระดับชั้นประถมศึกษา ภาพการประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแนวทางการออกแบบการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมพหุปัญญาและแนวทางการสร้างสรรค์ นวัตกรรมโครงงานวิทยาศาสตร์ด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 33 ด้านโอกาส ปีที่ 3 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 ในสังกัด ทั้งหมดจำนวน 3,925,776 คน ได้รับการคัดกรองผ่านระบบ สำรวจแววความสามารถพิเศษดวยระบบอิเล็กทรอนิกส์จากส ้ ำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา เพื่อพัฒนา พหุปัญญารายบุคคล จำนวน 3,198,557 คน คิดเป็นร้อยละ 81.48 พัฒนาคุณภาพการศึกษาด้วยเทคโนโลยีการศึกษาทางไกล 1. จัดทำแผนปฏิบัติการเพื่อขับเคลื่อนการศึกษาทางไกลผ่านเทคโนโลยีสารสนเทศ (DLIT) ภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 และชี้แจงแนวทางการประเมินเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ที่ใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) รูปแบบออนไลน์ ให้กับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ที่รวมด่ ำเนินการ จำนวน 16 เขต และสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนโดยใชการศึกษาทางไกลผ ้ านดาวเทียม ่ (DLTV) จำนวน 1,452 แห่ง โดยมีคู่มือในการดำเนินการ จำนวน 4 เล่ม ประกอบด้วย 1) คู่มือการใช้รูปแบบ การประเมินเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนโดยใช้การศึกษา ทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) 2) คู่มือการประเมินคุณภาพภายในสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนโดยใช้ การศึกษาทางไกลผานดาวเทียม (DLTV) 3) คู ่ มือการตรวจเยี่ยมพื้นที่เชิงประเมิน (Site Visit) ส ่ ำหรับสถานศึกษา ที่จัดการเรียนการสอนโดยใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) และ 4) คู่มือการนิเทศเพื่อการพัฒนา ของสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนโดยใช้การศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม (DLTV) 2. อบรมพัฒนาศักยภาพบุคลากร เพื่อเสริมสร้างประสิทธิภาพการจัดการศึกษาด้วยเทคโนโลยี การศึกษาทางไกล โรงเรียนพระปริยัติธรรม แผนกสามัญศึกษา โครงการพระราชดำริ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี 3. ทดลองการใชรูปแบบการประเมินเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาที่จัดการเรียน การสอนโดยใชการศึกษาทางไกลผานดาวเทียม (DLTV) ณ โรงเรียนเปาหมายปลายทาง 8 ภูมิภาค 16 เขต พื้นที่การศึกษา และประชุมคณะทํางานเพื่อวิเคราะหผลการดําเนินงานการทดลองใชรูปแบบการประเมิน เพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาที่จัดการเรียนการสอนโดยใชการศึกษาทางไกลผาน ดาวเทียม (DLTV) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภาพการประชุมชี้แจงแนวทางการประเมินเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษาที่ใช้การศึกษาทางไกล ผ่านดาวเทียม (DLTV) สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน วันที่ 3 สิงหาคม 2566
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 34 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านโอกาส การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานโดยบุคคล ครอบครัวและองค์กรชุมชน ดำเนินการจัดพิมพ์เอกสารคู่มือการจัดตั้งศูนย์การเรียนของสถานประกอบการ และยกร่างต้นฉบับแนวทางการดำเนินงานตามกฎกระทรวงว่าด้วยสิทธิในการจัด การศึกษาขั้นพื้นฐานโดยครอบครัว พ.ศ. 2547 โครงการเด็กดีมีที่เรียน ส่งเสริมนักเรียนผู้มีคุณธรรม จริยธรรมและบำเพ็ญ ประโยชน์เข้าศึกษาต่อสถาบันอุดมศึกษาหรืออาชีวศึกษาใกล้บ้าน โดยมีมหาวิทยาลัย ที่ร่วมโครงการหลายแห่ง ครอบคลุมทุกภูมิภาค และได้ดำเนินการจัดสรรงบประมาณให้แก่สำนักงานเขต พื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง เพื่อถอดบทเรียนการดำเนินโครงการในฐานะหน่วยประสานงาน ที่มีแนวปฏิบัติที่ดี ร่วมกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเครือข่าย จำนวน 4 เขต ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาปราจีนบุรี นครนายก สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาจันทบุรี ผู้แทนจาก มหาวิทยาลัยบูรพา และผู้แทนนักเรียนที่ผ่านการคัดเลือกตามโครงการฯ เพื่อนำผลมาประกอบการจัดทำ (ราง) แนวทางการส ่ งเสริมนักเรียนผู ่ มีคุณธรรม จริยธรรมและบ ้ ำเพ็ญประโยชน์เขาศึกษาต ้ อสถาบันอุดมศึกษา ่ (โครงการเด็กดีมีที่เรียน) และจัดทำวีดิทัศน์การดำเนินงานโครงการฯ ในฐานะหน่วยประสานและเครือข่าย การดำเนินงานภาคตะวันออก นอกจากนี้ได้จัดสรรงบประมาณสนับสนุนการดำเนินงานโครงการฯ ให้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 14 เขต พัฒนาสถานศึกษาเพื่อยกระดับคุณภาพการจัดการศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) 1. อบรมเชิงปฏิบัติการ “แนะเด็กไทยให้พบแนว” ตามโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ให้แก่ครูระดับ มัธยมศึกษาในโครงการฯ จำนวน 80 คน ซึ่งเป็นความร่วมมือระหว่างสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยีแห่งชาติ (สวทช.) สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย และสำนักวิชาการและมาตรฐาน การศึกษา ร่วมกับบริษัทไทยซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ เพื่อสร้างความรู้ความเข้าใจในการพัฒนาสมรรถนะ ด้านกำลังคนให้ตรงกับความต้องการของอุตสาหกรรมตามแนวทางโมเดลเศรษฐกิจใหม่ BCG ที่สอดรับกับ อุตสาหกรรมพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก และเพื่อส่งเสริม สนับสนุนการจัดการเรียนรู้ที่ก่อให้เกิด การค้นพบตัวเองของผู้เรียน ค้นพบเส้นทางอาชีพด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี 2. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนานวัตกรรมที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายเพื่อรองรับ เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (Eastern Economic Corridor : EEC) Youth Camp หลักสูตรอุตสาหกรรม การแพทย์และสุขภาพ ระหว่างวันที่ 13 - 15 กุมภาพันธ์ 2566 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร อุทยาน วิทยาศาสตร์ประเทศไทย เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและเสริมประสบการณ์นอกห้องเรียนให้กับนักเรียน ได้เห็นถึงความสำคัญของวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมต่อการขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศ
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 35 ด้านโอกาส 3. จัดสรรงบประมาณในการพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนการสอน โดยพัฒนารายวิชาเพิ่มเติม สื่อ นวัตกรรมที่สอดคลองกับอุตสาหกรรมเป้าหมายตามบริบทของสถานศึกษาในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ้ (EEC) สำหรับโรงเรียนในโครงการฯ และการนิเทศ กำกับ ติดตามการดำเนินงาน สำหรับสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามัธยมศึกษาฉะเชิงเทรา และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาชลบุรี ระยอง รวมจำนวน 2,640,000 บาท 4. จัดกิจกรรม EEC Innovation for the Future Symposium 2023 : มหกรรมผลงานวิชาการและ นวัตกรรมแหงอนาคตของโรงเรียนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (EEC) โดยมีโรงเรียนในพื้นที่ EEC ่ จำนวน 80 โรงเรียน ประกอบด้วย นักเรียน ครู ผู้บริหาร และผู้ที่เกี่ยวข้อง เข้าร่วมกิจกรรม จำนวน 650 คน ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พบว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีผลการดำเนินงานที่แสดงถึง การสงเสริม สนับสนุนให ่ผู้เรียนศึกษาต ้ อในระดับที่สูงขึ้นหรือมีงานท ่ ำเมื่อจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษา ดังนี้ ภาพการประชุมเชิงปฏิบัติการ พัฒนานวัตกรรมที่สอดคล้อง กับอุตสาหกรรมเป้าหมาย เพื่อรองรับเขตพัฒนาพิเศษ ภาคตะวันออก (EEC) Youth Camp
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 36 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านโอกาส การขับเคลื่อนโครงการทวิศึกษาแนวใหม่ การจัดการทวิศึกษา คือ การจัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ให้แก่ผู้เรียน ในระดับมัธยมศึกษาตอนปลายที่มีความประสงค์จะเรียนในสายวิชาชีพ เมื่อผู้เรียนสำเร็จการศึกษาครบ ตามหลักสูตรจะได้รับประกาศนียบัตรรับรองวุฒิการศึกษา ทั้งในระดับมัธยมศึกษาปีที่ 6 และระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพพร้อมกัน ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาจัดทำบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MOU) ในการพัฒนาการจัด การเรียนรวมหลักสูตรอาชีวศึกษาและมัธยมศึกษาตอนปลาย (ทวิศึกษา) เพิ่มโอกาสทางการศึกษาให ่ผู้เรียน ้ ระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ในการศึกษาตอทางด่ านวิชาชีพ โดยมีแนวทางการรับนักเรียนจากกลุ ้ มโรงเรียน ่ สังกัดการศึกษาพิเศษ เช่น โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ โรงเรียนศึกษาสงเคราะห์ โรงเรียนในโครงการ พระราชดำริ และโรงเรียนมัธยมปกติที่มีความตองการหรือโรงเรียนที่อยู ้ ในพื้นที่ห ่ างไกลส ่ ำหรับผูด้อยโอกาส ้ ยากจน และกลุ่มเปราะบาง ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำเนินการ ดังนี้ ร่วมกับ สอศ. เปิดสอนหลักสูตรทวิศึกษา ทั้งในโรงเรียนมัธยมปกติสังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐานและกลุ่มโรงเรียนสังกัดการศึกษาพิเศษ มีโรงเรียนเข้าร่วมโครงการ จำนวน 163 แห่ง และมีวิทยาลัยในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการอาชีวศึกษาที่จับคู่ความร่วมมือ ทั้งหมด 122 แห่ง โดยมี นักเรียนเข้าร่วม จำนวน 6,515 คน เริ่มเปิดการเรียนการสอนในปีการศึกษา 1/2566 สาขาวิชาที่เปิดสอน เช่น คอมพิวเตอร์ธุรกิจ คอมพิวเตอร์กราฟิก การบัญชี การตลาด การโรงแรม ท่องเที่ยว ช่างยนต์ ช่างเชื่อม ชางอิเล็กทรอนิกส์ ช ่ างไฟฟ้าก ่ ำลัง พาณิชยกรรม อุตสาหกรรม เกษตรศาสตร์ อาหารและโภชนาการ เปนต็น ้ โดยมีแผนการเตรียมความพร้อม ดังนี้ ด้านผู้เรียน มีการปูพื้นฐานด้านอาชีพให้กับนักเรียนที่เข้าใหม่ ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เช่น การศึกษาดูงานในสถานประกอบการที่นักเรียนสนใจเข้าเรียนต่อ ได้แก่ โรงแรมต่าง ๆ บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ อินเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด ร้านอาหารที่มีการจัดบริการ อาหารอย่างเป็นระบบ เป็นต้น และมีการทดสอบมาตรฐานวิชาชีพในสาขาอาชีพที่โรงเรียนเปิดทำการเรียน การสอน เพื่อให้นักเรียนมีฝีมือทัดเทียมกับสายอาชีพนั้น ๆ เช่น สาขาวิชาโลหะการ (ช่างเชื่อม) เป็นต้น ด้านครูผู้สอน มีการฝึกอบรมทักษะงานอาชีพสำหรับครูอยู่เสมอ เช่น ครูช่างเชื่อม จะได้รับการฝึกจากสมาคมช่างเชื่อม และมีการทดสอบฝีมือ และจัดเวทีในการแข่งขันระดับ ต่าง ๆ อยู่เสมอ ด้านอุปกรณ์การเรียน สื่อการเรียนรู้ และเครื่องมือต่าง ๆ จัดหาเครื่องมือให้เหมาะสมกับ การฝึกทักษะสายอาชีพที่สถานศึกษาเปิดทำการเรียนการสอน และจัดหาเครื่องมือ หรือมีภาคี เครือข่ายเพื่อให้นักเรียนได้มีโอกาสได้ฝึกจากเครื่องมือเสมือนจากสถานประกอบการจริง ด้านความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย มีการสร้างความร่วมมือกับภาคีเครือข่าย (MOU) เพื่อการมีสวนร่วมของท่ องถิ่น และการใช ้ นวัตกรรมเป ้ นฐานให ็ นักศึกษาฝึกประสบการณ์ในระยะ ้ เวลา 1 ภาคเรียน (18 สัปดาห์) เช่น บริษัท คาวาซากิ มอเตอร์ อินเตอร์ไพรส์ (ประเทศไทย) จำกัด และบริษัท เซ็นทรัล เรสตอรองส์ กรุ๊ป จำกัด และหางร้ านอื่น ๆ ซึ่งเป ้นผู็น้ ำกลุมธุรกิจด ่ านอาหารและเครื่องดื่ม เป ้นต็น้
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 37 ด้านโอกาส ดำเนินการติดตามการจัดการศึกษาหลักสูตรทวิศึกษาในโรงเรียนการศึกษาสงเคราะห์ และ ราชประชานุเคราะห์ที่เปิดสอนในภาคเรียนที่ 1/2566 โดยลงพื้นที่ติดตามในภาคกลาง ประกอบด้วย จังหวัดตราด จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดนนทบุรี ภาคใต้ ประกอบด้วย จังหวัดภูเก็ต จังหวัดพังงา และ ภาคเหนือ ประกอบด้วย จังหวัดเชียงใหม่ และจังหวัดพะเยา ซึ่งมีตัวอย่างผลการดำเนินการ ดังนี้ โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 48 จังหวัดจันทบุรี มีการจัดการเรียนการสอนในโครงการ ทวิศึกษาไดอย้ างมีประสิทธิภาพ และด ่ ำเนินงานอยางเป ่ นระบบ มีการท ็ ำ MOU รวมกับวิทยาลัยอาชีวศึกษา ่ จำนวน 2 แห่ง ได้แก่ สถาบันการอาชีวศึกษาภาคตะวันออกและวิทยาลัยสารพัดช่างจันทบุรี โรงเรียน ตั้งอยู่ใกล้กับสถาบันอาชีวะทั้งสองแห่งสามารถเดินทางสะดวก มีการจัดการเรียนการสอนทวิศึกษาในสาขา ช่างยนต์และช่างเชื่อม มีนักเรียนศึกษาในหลักสูตร จำนวน 32 คน แต่ยังมีปัญหาขาดแคลนอัตรากำลัง ขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาทั้งของส ้ ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสำนักงาน คณะกรรมการอาชีวศึกษาที่ทำหน้าที่จัดการเรียนการสอนและดำเนินงานทวิศึกษา โรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 จังหวัดพังงา ทำ MOU รวมกับวิทยาลัยการอาชีพตะกั่วป่า ่ จังหวัดพังงา ในสาขาการโรงแรม มีนักเรียนศึกษาในหลักสูตร จำนวน 29 คน โรงเรียนมีแหล่งการเรียนรู้ สาขาการโรงแรม มีบุคลากรที่มีสมรรถนะตรงตามสาขาที่เปิดสอน และมีภาคีเครือขายกับสถานประกอบการ ่ โรงแรมชั้นนำระดับ 5 ดาว ในจังหวัดและสถานที่ท่องเที่ยว นักเรียนมีรายได้เสริมระหว่างเรียนและมีงานทำ หลังจากสำเร็จการศึกษา นอกจากนี้ภายในโรงเรียนยังเปิดสอนทักษะอาชีพในรายวิชาเพิ่มเติม ไดแก้ การเกษตร่ และปศุสัตว์ ซึ่งยังพบปัญหาขาดแคลนบุคลากรของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 จังหวัดพังงา และวิทยาลัย การอาชีพตะกั่วป่า จังหวัดพังงา เนื่องจากการจัดการเรียนการสอนทวิศึกษาของโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 จังหวัดพังงา ไม่ได้เรียนร่วมในห้องเรียนเดียวกับนักเรียนของวิทยาลัยการอาชีพตะกั่วป่า จังหวัดพังงา จึงจำเป็นต้องบริหารจัดการงบประมาณและบุคลากรที่มีอยู่อย่างจำกัดให้เกิดประสิทธิผลสูงสุด การจัดการศึกษาหลักสูตรทวิศึกษาในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 48 จังหวัดจันทบุรี
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 38 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านโอกาส ผลการดำเนินงานดานโอกาสในภาพรวม ้ผานการขับเคลื่อนโครงการ กิจกรรมต ่าง ๆ พบว่ า ประชากร ่ วัยเรียนตาม ทร.14 กลุ่มอายุ 3 - 5 ปี ได้รับบริการการศึกษาในระดับอนุบาล 1 - 3 ปีการศึกษา 2566 สังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานเพิ่มขึ้น เมื่อเปรียบเทียบผล 3 ปีย้อนหลัง ขณะที่เด็กตกหล่น และเด็กออกกลางคันไดรับการติดตามพบตัว จ ้ ำนวน 3,932 คน คิดเปนร็ อยละ 83.43 และได ้ รับการช ้ วยเหลือ ่ ให้กลับเข้าสู่ระบบการศึกษา จำนวน 2,675 คน คิดเป็นร้อยละ 56.76 โดยการสร้้างโอกาสทางการศึกษา ให้เกิดขึ้นอย่างเท่าเทียมและเสมอภาคจากการปรับอัตราเงินอุดหนุนค่าใช้จ่ายการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เพิ่มขึ้นต่อเนื่อง 4 ปี พัฒนาระบบสารสนเทศของนักเรียนเป็นรายบุคคลเพื่อการดูแลช่วยเหลือนักเรียน ในสถานศึกษาที่มีแนวโน้มหรือความเสี่ยงออกกลางคัน พัฒนาช่องทางการแจ้งข้อมูลเด็กตกหล่นที่เข้าถึง ไดง้าย ครอบคลุม สามารถส่งต่ อนักเรียนไปยังหน ่ วยงานที่เกี่ยวข ่ อง รวมทั้งผลักดันโรงเรียนต ้ นแบบที่ ้้ ่ประสบ ความสำเร็จในการแก้ปัญหาเด็กที่อยู่นอกระบบการศึกษาและเด็กตกหล่นให้เกิดการเปลี่่ยนแปลงในระดับ นโยบาย และการศึกษาวิจัยในโครงการ “พาน้องกลับมาเรียน” ทำให้ได้แนวทางป้องกัน เฝ้าระวัง ติดตาม และช่วยเหลือเด็กตกหล่นและเด็กออกกลางคัน นอกจากนี้กลุ่มเป้าหมายพิเศษและกลุ่มเปราะบางได้รับ การส่งเสริม สนับสนุนให้รับการศึกษาที่เหมาะสมตามความจำเป็นและศักยภาพ โดยเด็กพิการเรียนรวม ได้รับการพัฒนาตามแผนการจัดการศึกษาเฉพาะบุคคล (IEP) ร้อยละ 27.15 และเด็กด้อยโอกาสได้รับ การศึกษา และการดูแลช่วยเหลือที่เหมาะสมตามความจำเป็นตามศักยภาพ ร้อยละ 96.97 ตลอดจนการจัด การศึกษาด้วยรูปแบบที่หลากหลาย ส่งเสริมการพัฒนาพหุปัญญา ส่งผลให้นักเรียนได้รับการพัฒนาทักษะ ความถนัดและความสามารถเฉพาะด้าน แตกต่างกันในแต่ละบุคคล เกิดทางเลือกสำหรับการศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพในอนาคต การจัดการศึกษาหลักสูตรทวิศึกษาในโรงเรียนราชประชานุเคราะห์ 35 จังหวัดพังงา
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 39 ด้านคุณภาพ กระทรวงศึกษาธิการมีนโยบายและจุดเน้นเพื่อพัฒนาและเสริมสร้างศักยภาพมนุษย์ทุกช่วงวัย โดยให้มีการพัฒนาการเรียนรู้ที่ตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 และพหุปัญญาของมนุษย์ ที่หลากหลาย การพัฒนาคุณภาพการศึกษาในปัจจุบันมุ่งให้ความสำคัญใน 3 เรื่อง ได้แก่ คุณภาพองค์กร เป้าหมายคือประสิทธิภาพ ประสิทธิผล และการใช้ทรัพยากรทางการศึกษาให้เกิดประโยชน์สูงสุด คุณภาพ บุคลากรสอดคล้องตามมาตรฐานวิชาชีพ หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหน่งและวิทยฐานะข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา และคุณภาพนักเรียนที่เน้นสมรรถนะและทักษะในศตวรรษที่ 21 โดยอาศัย เครือข่ายต่าง ๆ ในการร่วมพัฒนาการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ในฐานะที่เป็น องค์กรหลักในด้านการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้ตระหนักถึงความสำคัญของการพัฒนาประชากรวัยเรียน ให้มีคุณภาพสอดคล้องตามเป้าหมายของยุทธศาสตร์ชาติ และนโยบายของกระทรวงศึกษาธิการ จึงกำหนด นโยบาย แนวทางในการยกระดับคุณภาพการศึกษา ครอบคลุมทั้งในส่วนของการพัฒนาสมรรถนะผูเรียน ้ ครู ผู้บริหาร และบุคลากรทางการศึกษา ตลอดจนการพัฒนาประสิทธิภาพขององค์กร เป็นกรอบแนวทาง ให้หน่วยงานในสังกัดนำไปใช้ในการวางแผนงบประมาณ จัดทำแผนงาน โครงการ กิจกรรมเพื่อพัฒนา ส่งเสริมจัดการศึกษา โดยดำเนินการขับเคลื่อนในส่วนที่เกี่ยวข้อง ดังนี้ 1. การยกระดับคุณภาพการศึกษา 2. การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 3. การส่งเสริมสนับสนุนวิชาชีพครู บุคลากรทางการศึกษาและบุคลากรสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ การยกระดับคุณภาพการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดนโยบายและจุดเน้นด้านคุณภาพเพื่อรองรับ และขับเคลื่อนการยกระดับคุณภาพการศึกษาใน 10 ประเด็น ที่สอดคล้องกับนโยบายการตรวจราชการ ของกระทรวงศึกษาธิการ ได้แก่ 1. การส่งเสริม สนับสนุนการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของผู้เรียน 2. การพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 3. การพัฒนาดานการวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู ้ของผู้ เรียน (Assessment for Learning) ้ 4. การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 5. การพัฒนาทักษะดิจิทัลและภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) ของผู้เรียน 6. การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม และการเสริม สร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่ทันสมัย น่าสนใจและเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน “คุณภาพองค์กร คุณภาพบุคลากร คุณภาพนักเรียน” สร้างเครือข่ายร่วมพัฒนา “เครือข่ายพลังสร้างสรรค์” ด้ านคุณภาพ
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 40 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ 7. การส่งเสริมการให้ความรู้และทักษะด้านการเงินและการออม (Financial Literacy) ให้กับผู้เรียน 8. การพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและผลลัพธ์ที่ตัวผู้เรียน 9. การขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพ 10. การจัดการศึกษาปฐมวัย 11. การสงเสริม สนับสนุนการด ่ ำเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะแนวใหม (หลักเกณฑ์ PA) ่ 12. การพัฒนาสมรรถนะของครูและบุคลากรทางการศึกษาดานเทคโนโลยี และสมรรถนะที่สอดคล ้อง้ กับวิถีชีวิต New Normal 13. การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยได้ดำเนินโครงการ/กิจกรรม ดังนี้ การส่งเสริมสนับสนุนการจัดการเรียนรู้ฐานสมรรถนะของผู้เรียน สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ศูนย์บริหารงานการพัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ และสำนักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา ให้ความสำคัญในการส่งเสริมสนับสนุนการจัด การเรียนรู้ฐานสมรรถนะของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 โดยดำเนินการ ดังนี้ ขับเคลื่อนการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 1. พัฒนาและสงเสริมการใช ่ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยหลอมรวม ้ ตัวชี้วัด และการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาตามจุดเน้นและนโยบาย ศธ. “8+1” โดยการกำหนด โครงสร้างเวลาเรียน 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้และให้จัดแยก 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ 2. สื่อสาร สร้างความเข้าใจ การบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และ 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์ของสถานศึกษาขั้นพื้นฐาน วันที่ 11 มกราคม 2566 ผานทาง Youtube ่ ช่อง OBEC Channel 3. คัดเลือกสถานศึกษาต้นแบบการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่เอื้อต่อการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน โดยได้สถานศึกษาต้นแบบฯ จำนวน 91 แห่ง และฐานข้อมูลตัวอย่างหลักสูตรสถานศึกษา หน่วยการเรียนรู้ และแผนการจัดการเรียนรู้ที่เอื้อต่อการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน เพื่อการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียนผ่าน กระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) 4. จัดเวทีแลกเปลี่ยนเรียนรู้เกี่ยวกับการขับเคลื่อนการใช้หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จำนวน 4 จุด ใน 6 ภูมิภาค ประกาศ ศธ. การบริหารจัดการโครงสร้างหลักสูตร สถานศึกษา 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ และ 1 รายวิชา พื้นฐานประวัติศาสตร์ ดูย้อนหลัง “การสื่อสาร สร้างความเข้าใจ การบริหาร จัดการโครงสร้างหลักสูตรสถานศึกษา 8 กลุ่มสาระ การเรียนรู้ และ 1 รายวิชาพื้นฐานประวัติศาสตร์”
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 41 ด้านคุณภาพ 5. พิจารณาคัดสรรตัวชี้วัดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 โดยจัดเป็น กลุ่มตัวชี้วัดระหว่างทางและปลายทาง จำนวน 2,056 ตัวชี้วัด และจัดแนวทางการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ตัวชี้วัดระหว่างทาง ตัวชี้วัดปลายทาง และเกณฑ์การตัดสินผลการเรียน รวมทั้งสร้างความเข้าใจ ให้แก่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา สามารถรับชมได้ทาง Youtube ช่อง OBEC Channel พัฒนาครูเพื่อการจัดการเรียนรู้สู่ฐานสมรรถนะ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้บริหารการศึกษา ผูบริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ มีส ้วนร่ วมในการสนับสนุน ส ่ งเสริม ให ่ค้ ำชี้แนะการจัดการเรียนการสอน เชิงรุกของครูให้ประสบความสำเร็จ ให้ครูสามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน มีนวัตกรรม การจัดการเรียนรูเชิงรุกที่ประสบความส ้ ำเร็จ หรือผลงานที่เปนแบบอย็ างได ่ เพื่อให ้ข้าราชการครูและบุคลากร้ ทางการศึกษากลุ่มเป้าหมาย จำนวน 100,000 คน มีส่วนในการขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานจัดสรร งบประมาณให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา 245 เขต ๆ ละ 40,000 บาท รวม 9,800,000 บาท ซึ่งสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามีการดำเนินการ และรายงานการจัดกิจกรรมแลกเปลี่ยน เรียนรู้เกี่ยวกับการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเรียบร้อยแล้ว จำนวน 160 เขต ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษามีส่วน ในการขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก จำนวน 213,088 คน ประกอบด้วย 1) ผู้บริหารการศึกษามีกระบวนการส่งเสริมสนับสนุนการขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก เพื่อสนับสนุนให้ครูจัดการเรียนรู้เชิงรุก จำนวน 678 คน 2) ผู้บริหารสถานศึกษา ชี้แนะและสนับสนุนให้ครู ตัวชี้วัดระหว่างทาง เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้และเน้นการประเมินในระหว่างการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ ที่เป็นการประเมินเพื่อพัฒนาผู้เรียนเป็นหลัก (Formative Assessment) และการประเมินขณะเรียนรู้ด้วยวิธีการประเมิน ที่หลากหลายโดยเน้นการวัดและประเมินผลแบบไม่เป็นทางการ เช่น การสังเกตพฤติกรรม การสอบปากเปล่า การพูดคุย การใช้คำถาม การเขียนสะท้อนการเรียนรู้ การประเมินตนเอง เพื่อนประเมินเพื่อน เป็นต้น ตัวชี้วัดปลายทาง เป็นตัวชี้วัดที่ใช้ในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยเน้นที่การประเมินผลลัพธ์สุดท้ายที่ต้องการให้เกิดกับ ผู้เรียน (Summative Assessment) ด้วยวิธีการที่หลากหลาย เน้นการวัดและประเมินผลแบบเป็นทางการ เช่น การประเมิน การปฏิบัติการ ประเมินแฟ้มสะสมงาน การประเมินด้วยแบบทดสอบ การประเมินชิ้นงาน/ภาระงาน เป็นต้น
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 42 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ จัดการเรียนรู้เชิงรุก จำนวน 18,086 คน 3) ศึกษานิเทศก์ ให้การนิเทศ ติดตาม ประเมินผล ชี้แนะการจัด การเรียนรู้เชิงรุกของครู จำนวน 2,148 คน 4) ครูสามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุก แลกเปลี่ยนเรียนรู้ จำนวน 192,176 คน 5) มีแนวทางการจัดการเรียนรู้เชิงรุกที่ประสบความสำเร็จของครูหรือผลงานที่เป็นแบบอย่างได้ จำนวน 435 ผลงาน (สื่อการจัดการเรียนรู้เชิงรุก) วิทยาศาสตร์พลังสิบ ระดับประถมศึกษา 1. ประชุมเชิงปฏิบัติการคัดเลือกโรงเรียนศูนย์วิทยาศาสตร์พลังสิบเป็นโรงเรียนแม่ข่าย และโรงเรียน เครือข่าย จำนวน 960 แห่ง กำหนดแนวทางการคัดเลือกโรงเรียนเครือข่าย และประชุมเตรียมความพร้อม การพัฒนาหลักสูตรวิทยาศาสตร์พลังสิบร่วมกับสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี และสำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2. จัดสรรงบประมาณสำหรับเป็นค่าดำเนินโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ ระดับประถมศึกษา เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนศูนย์วิทยาศาสตร์พลังสิบ ระดับประถมศึกษา และจัดสรร งบประมาณให้แม่ข่ายโรงเรียนศูนย์เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนรู้ของโรงเรียนเครือข่ายวิทยาศาสตร์ พลังสิบ ระดับประถมศึกษา 3. ปฐมนิเทศโรงเรียนศูนย์และโรงเรียนเครือข่ายวิทยาศาสตร์พลังสิบ ให้กับผู้บริหารระดับเขตพื้นที่ การศึกษา และผู้บริหารโรงเรียนในโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ ผ่านระบบออนไลน์ 4. ฝึกอบรมพัฒนาศักยภาพผูน้ ำทางวิชาการโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบระดับประถมศึกษา พัฒนา ศักยภาพบุคลากรโรงเรียนศูนย์วิทยาศาสตร์พลังสิบระดับประถมศึกษา เพื่อการขยายผลสูโรงเรียนเครือข ่าย ่ และพัฒนาศักยภาพบุคลากรโรงเรียนเครือข่ายในโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบระดับประถมศึกษา โดยมี ครูผู้สอนที่ได้รับการอบรมพัฒนาตนเองทางด้านความรู้ ทักษะ และประสบการณ์ในการจัดการเรียนรู้ ตามหลักสูตรโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ จำนวน 288 คน 5. นิเทศ ติดตาม ประเมินผลการดำเนินงานโรงเรียนศูนย์วิทยาศาสตร์พลังสิบ และโรงเรียนเครือข่าย ผลการดำเนินงาน นักเรียนที่มีความสนใจพิเศษด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และเทคโนโลยี ได้รับ การพัฒนาศักยภาพตามมาตรฐานและหลักสูตรโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ รวมทั้งศึกษาต่อระดับ อุดมศึกษาทางด้านวิทยาศาสตร์ จำนวน 8,484 คน โรงเรียนศูนย์วิทยาศาสตร์พลังสิบที่มีความพร้อมและ มีศักยภาพเปนศูนย์ฝึกอบรมและให ็ บริการทางวิชาการให ้ กับโรงเรียนเครือข ้าย จ่ ำนวน 96 โรงเรียน และโรงเรียน เครือข่ายที่มีความพร้อมในการให้บริการทางวิชาการ จำนวน 959 โรงเรียน วิทยาศาสตร์พลังสิบระดับ ระดับมัธยมศึกษา 1. จัดสรรงบประมาณสำหรับการอบรมครูวิทยากรแกนนำในการจัดค่ายวิทยาศาสตร์ ระดับ มัธยมศึกษาให้กับโรงเรียนแม่ข่ายในโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ 2. ประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำเครื่องมือนิเทศ ติดตาม ประเมินผลการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียน ในโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ ระดับมัธยมศึกษา และร่างกรอบแนวทางการพัฒนาครูวิทยากรแกนนำ ในการจัดการเรียนการสอนของโรงเรียนแม่ข่ายในโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ ระดับมัธยมศึกษา
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 43 ด้านคุณภาพ 3. ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพครูแกนนำโรงเรียนแม่ข่าย โครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ ระดับมัธยมศึกษาตอนต้นและระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ระหว่างวันที่ 21-23 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรม รอแยลเบญจา กรุงเทพมหานคร 4. นิเทศติดตามเชิงประจักษ์การเตรียมความพร้อมในการประชุมเชิงปฏิบัติการอบรมวิทยากร ครูแกนนำของโรงเรียนแม่ข่ายให้กับโรงเรียนศูนย์ในโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ ระดับมัธยมศึกษา ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในปีการศึกษา 2565 พบว่า ผู้เรียนที่เข้าร่วม โครงการทั้งหมด จำนวน 36,857 คน ได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี เต็มตามศักยภาพ ความถนัดและความสามารถผ่านโครงการวิทยาศาสตร์พลังสิบ จำนวน 17,253 คน คิดเป็นร้อยละ 46.81 ส่งเสริมและพัฒนาการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย ดำเนินการ ดังนี้ 1. พัฒนาเครื่องมือคัดกรองความสามารถในการอ่าน การเขียน การฟัง และการพูดของนักเรียน ปีการศึกษา 2566 ได้ (ร่าง) ต้นฉบับเครื่องมือคัดกรองความสามารถในการอ่านและการเขียนของนักเรียน ระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 18 ฉบับ ต้นฉบับชุดแบบฝึกซ่อมเสริม การอ่านและการเขียนภาษาไทย จำนวน 9 เล่ม 57 ตอน และปรับปรุงสื่อการเรียนรู้ รายวิชาพื้นฐาน กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ฉบับกระทรวงศึกษาธิการ (ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และประถมศึกษาปีที่ 4 และชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และมัธยมศึกษาปีที่ 4) 2. จัดทำสื่อนวัตกรรมเผยแพรองค์ความรู ่ เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนภาษาไทย ประกอบด ้วย ้ สื่อวีดิทัศน์ แนวทางการสอนเสริมการอ่านและการเขียนภาษาไทย จำนวน 9 ตอน ต้นฉบับหนังสืออุเทศ ภาษาไทย ชุดบรรทัดฐานภาษาไทย เล่ม 6 ฉันทลักษณ์และขนบการเขียนร้อยกรอง และสื่อ 65 พรรษา ในวโรกาสสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจา กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี มีพระชนมายุ ้ 65 พรรษา กลุ่มสาระการเรียนรู้ภาษาไทย ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 - 3 (ฉบับปรับปรุง) 3. จัดการแข่งขันทักษะภาษาไทยระดับประเทศ โครงการรักษ์ ภาษาไทย เนื่องในสัปดาห์วันภาษาไทยแห่งชาติ ปี 2566 วันที่ 29 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรมเอเชียแอร์พอร์ท จังหวัดปทุมธานี โดยผู้เข้าร่วมงานประกอบด้วย นักเรียนระดับชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 และครูผู้สอนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน และสังกัดกองบัญชาการตำรวจตระเวนชายแดน คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ และคณะทำงาน รวมจำนวน 180 คน 4. จัดทำโครงการสรรค์สาร...ปันประสบการณ์การอ่าน มีวัตถุประสงค์เพื่อให้นักเรียนระดับชั้นประถม ศึกษาปีที่ 1 ถึงมัธยมศึกษาปีที่ 6 ได้ฝึกทักษะการอ่านและการเขียน จากหนังสือ บทความ เรื่องสั้น นวนิยาย สื่อต่าง ๆ แล้วสะท้อน แลกเปลี่ยนประสบการณ์จากการอ่าน เผยแพร่ผลงาน นำเสนอความรู้ ข้อคิด ที่ได้จากการอ่านโดยจัดส่งผลงานมายังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่สถานศึกษาสังกัด เพื่อพิจารณา
รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 44 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ ผลงานดีเด่น 3 อันดับ ส่งมายังสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อพิจารณาคัดเลือก ผลงานเพื่อเผยแพรและมอบเกียรติบัตร โดยจัดส ่ งเกียรติบัตรให ่ กับสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และส ้ ำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษา ในภาคเรียนที่ 2 ปีการศึกษา 2565 จำนวน 69 ฉบับ 5. พัฒนาการเรียนการสอนภาษาไทยของโรงเรียน ในโครงการตามพระราชดำริฯ จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนา ศักยภาพการจัดการเรียนการสอนด้านการอ่านและการเขียน ภาษาไทย สำหรับครูผู้สอนภาษาไทย ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 - 4 จัดอบรมแบ่งเป็น 4 รุ่น ใน 4 ภูมิภาค รุ่นที่ 1 ภาคตะวันออก เฉียงเหนือ ระหว่างวันที่ 4 - 7 เมษายน 2566 ณ โรงแรมนภาลัย จังหวัดอุดรธานี รุ่นที่ 2 ภาคกลาง ระหว่างวันที่ 18 - 21 เมษายน 2566 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพมหานคร รุ่นที่ 3 ภาคเหนือ ระหว่างวันที่ 30 เมษายน ถึง 3 พฤษภาคม 2566 ณ โรงแรมคุ้มภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ และรุ่นที่ 4 ระหว่างวันที่ 8 – 11 พฤษภาคม 2566 ณ โรงแรม ไดมอนด์พลาซ่า จังหวัด สุราษฎร์ธานี รวมผู้เข้ารับการอบรม จำนวน 1,315 คน 6. จัดทำเกณฑ์และดำเนินการคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การจัดการเรียนรู้ภาษาไทย และโรงเรียนต้นแบบที่มีการพัฒนาการอ่านและการเขียนภาษาไทย เพื่อแก้ไข ปัญหาการอ่านไม่ออก เขียนไม่ได้ จากภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน ได้โรงเรียน ต้นแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) การจัดการเรียนรู้ภาษาไทย จำนวน 73 โรงเรียน และ โรงเรียนต้นแบบที่มีการพัฒนาการอ่านและการเขียนภาษาไทยเพื่อแก้ไขปัญหาการอ่านไม่ออกเขียนไม่ได้ จากภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของผู้เรียน จำนวน 90 โรงเรียน การพัฒนาผู้เรียนให้มีสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา และสำนักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา ดำเนินการพัฒนาสมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ดังนี้ พัฒนาทักษะการจัดการเรียนรู้เพื่อเสริมสร้างสมรรถนะผู้เรียนที่ตอบสนองการเปลี่ยนแปลง ศตวรรษที่ 21 และจัดการศึกษาเพื่อฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ (Learning Loss Recovery) สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ไดจัดท ้ ำแบบคัดกรอง และคูมือการใช ่ แบบคัดกรองผู ้ เรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาป ้ ที่ 1 - 3 ี ที่มีภาวะถดถอยทางการเรียนรู (Learning Loss) ด ้านความสามารถ้ ทางคณิตศาสตร์ ซึ่งผลจากการคัดกรองผู้เรียนของสถานศึกษา ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาและมัธยมศึกษา จำนวน 5,213,238 คน พบว่า ผู้เรียนมีภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ดานการอ้านออก จ่ ำนวน 568,453 คน ไดรับการฟื้นฟูภาวะถดถอย ้