The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฯ ปีงบประมาณ พ.ศ.2566

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by zexionian, 2023-12-28 19:00:50

รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฯ ปีงบประมาณ พ.ศ.2566

รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฯ ปีงบประมาณ พ.ศ.2566

รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 45 ด้านคุณภาพ ทางการเรียนรู้ จำนวน 450,640 คิดเป็นร้อยละ 79.27 ด้านการเขียนได้ จำนวน 572,298 คน ได้รับการฟื้นฟู ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ จำนวน 451,517 คน คิดเป็นร้อยละ 78.90 ด้านการคิดเลขเป็นจำนวน 661,214 คน ได้รับการฟื้นฟูภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ จำนวน 516,092 คิดเป็นร้อยละ 78.05 นอกจากนี้ยังได้มีการจัดทำเล่มถอดบทเรียนการแก้ไขภาวะถดถอย ทางการเรียนรู้ (Learning Loss) ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน รวมทั้งจัดทำเกณฑ์ และคูมือการคัดเลือกสถานศึกษาและครูผู ่สอน้ ต้นแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตัวอย่างหน่วยการเรียนรู้ บูรณาการการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) โดยใช้แหล่งเรียนรู้ และ Soft Power แนวทางการดำเนินงานต่อยอด AL : Active Learning ดวยการบูรณาการแหล้ งเรียนรู ่ท้องถิ่นกับหลักสูตรสถานศึกษา และบรรณาธิการ ้ กิจเอกสารแนวทางการจัดการเรียนรู้และการวัดและประเมินเพื่อพัฒนา การเรียนรู้ตามแนวคิดการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม โครงการหองเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล ้ อม เป ้นความร็ วมมือระหว ่าง่ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักงานคณะกรรมการการอุดมศึกษา สำนักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ และสถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี เพื่อส่งเสริม ผูมีความสามารถพิเศษทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของประเทศ ซึ่งเป ้ นโครงการที่มุ ็งเน่ นพัฒนาโดยเฉพาะ ้ สาขาที่ขาดแคลน คือ วิทยาศาสตร์และคณิตศาสตร์ กลุ่มเป้าหมายของโครงการเป็นนักเรียนโรงเรียน ในโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม จำนวน 220 โรงเรียน โดยสำนักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา ดำเนินการ ดังนี้ 1. พัฒนาศักยภาพครูในการจัดทำแบบประเมินศักยภาพนักเรียนผูมีความสามารถพิเศษ รวมทั้งพัฒนา ้ ทักษะการแข่งขันและนำเสนอโครงงานของนักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษ 2. จัดประชุมเชิงปฏิบัติการเปิดโจทย์ฟิสิกส์เพื่อส่งเสริม การแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์ ระหว่างวันที่ 3 - 4 เมษายน 2566 ณ โรงเรียนเทพศิรินทร์ กรุงเทพมหานคร และจัดการแขงขันฟิสิกส์ ่ สัประยุทธ์ชิงชนะเลิศ ระดับประเทศ (IYPT THAILAND 2023) ประจำ ปการศึกษา 2565 เพื่อชิงถ ี วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ ้า้ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี จัดขึ้น ระหว่างวันที่ 3 - 5 เมษายน 2566 ณ กรุงเทพมหานคร รวมทั้งมี การนิเทศติดตามการแข่งขันฟิสิกส์สัประยุทธ์ สำหรับครูโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 46 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ 3. จัดสรรงบประมาณสำหรับการดำเนินงานของโรงเรียนแมข่ ายโครงการห ่ องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ ้ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม และพัฒนาครูวิทยาศาสตร์โรงเรียนห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม โดยเข้าร่วมการประชุมเชิงปฏิบัติการด้านดาราศาสตร์ขั้นต้น และขั้นกลาง 4. คัดเลือกครู นักเรียนเข้าร่วมโครงการศึกษาดูงานที่เซิร์น โครงการ Sakura Science High School Program ประจำป 2566 และประชาสัมพันธ์โครงการรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลายและครูวิทยาศาสตร์ ี ฝึกทักษะวิจัย ณ ห้องปฏิบัติการวิจัยของศูนย์วิจัยแห่งชาติ สวทช. ภาคฤดูร้อน พ.ศ. 2566 (ปีที่ 6) ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาในปีการศึกษา 2565 พบว่า ผู้เรียนที่เข้าร่วม โครงการทั้งหมด จำนวน 36,857 คน ได้รับการพัฒนาทักษะ ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ และ เทคโนโลยี เต็มตามศักยภาพ ความถนัดและความสามารถผ่านโครงการห้องเรียนพิเศษวิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ เทคโนโลยี และสิ่งแวดล้อม จำนวน 6,341 คน คิดเป็นร้อยละ 17.20 ขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้สะเต็มศึกษา (STEM Education) กระทรวงศึกษาธิการได้ให้ความ สำคัญกับสะเต็มศึกษา (STEM Education) ซึ่งเปนรูปแบบการจัดการเรียนรู ็ ที่มุ ้ งบูรณาการศาสตร์ทั้ง 4 ด ่าน ้ ไดแก้ วิทยาศาสตร์ (Science) เทคโนโลยี (Technology) วิศวกรรมศาสตร์ (Engineering) และคณิตศาสตร์ ่ (Mathematics) โดยมีเป้าหมายเพื่อสรางเยาวชนไทยให ้ มีความรู ้ ทักษะ กระบวนการ การคิดวิเคราะห์ การคิด ้ สร้างสรรค์ และเจตคติที่ดีต่ออาชีพ สามารถนำไปใช้ในการแก้ปัญหาในชีวิตจริง เตรียมพร้อมเข้าศึกษาต่อ และการประกอบอาชีพ สอดคล้องกับแนวทางการพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ซึ่งในปัจจุบันเน้นที่ สะตีมศึกษา (STEAM Education) เป็นแนวทางการจัดการเรียนรู้ที่บูรณาการศิลปะ (ART : A) เพิ่มเข้ามา เพื่อให้ผู้เรียนได้นำความคิดสร้างสรรค์มาประยุกต์ใช้ในการเรียนรู้ โดยมีกิจกรรมส่งเสริมการจัดการเรียน การสอนสะตีมศึกษา (STEAM Education) ดังนี้ 1. ชี้แจงแนวทางการ ขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ STEAM Education ดวยโมเดล ้ เศรษฐกิจ BCG STEAM x BCG ให้ผู้อํานวยการเขตพื้นที่ การศึกษา ศึกษานิเทศก์ ผู้อํานวยการโรงเรียน และครู ในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา 245 เขต รับทราบ แนวทางการขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้ STEAM x BCG 2. พัฒนาครูดานการพัฒนาทักษะอาชีพผ ้ านกระบวนการเรียนรู ่ STEAM x BCG โดยครู จ ้ ำนวน 1,127 คน จากโรงเรียนใน 6 จังหวัด ไดแก้ จังหวัดเชียงใหม ่ อุดรธานี นนทบุรี พัทลุง ยะลา และจังหวัดนครราชสีมา ่ ได้รับการพัฒนา และมีผลงาน การออกแบบโครงงานอาชีพบนพื้นฐาน STEAM x BCG จำนวน 1,127 ผลงาน


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 47 ด้านคุณภาพ 3. จัดทำเกณฑ์และคู่มือการคัดเลือกสถานศึกษาและครูผู้สอนต้นแบบด้านการจัดการเรียนรู้ STEAM x BCG จำนวน 1 เล่ม รวมทั้งคัดเลือกโรงเรียนต้นแบบด้านจัดการเรียนรู้ STEAM x BCG ได้โรงเรียนต้นแบบ จำนวน 12 โรงเรียน 4. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมโรงเรียนที่ได้รับคัดเลือกการออกแบบกิจกรรมตัวอย่างระดับจังหวัดการพัฒนา ทักษะอาชีพของผู้เรียน STEAM x BCG และติดตาม ให้คำปรึกษาครูด้านการจัดการเรียนรู้ STEAM x BCG 5. ดำเนินการจัดกิจกรรมค่าย Thai Science Camp สำหรับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาตอนปลาย ครั้งที่ 15 ระหว่างวันที่ 9 - 12 มิถุนายน 2566 ณ องค์การพิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์แห่งชาติ เป็นกิจกรรมที่เน้นให้เยาวชนได้รับ ความรู้เกี่ยวกับเทคโนโลยีที่ทันสมัย เข้าใจแนวคิดของ การสร้าง Startup และการเปลี่ยนแนวคิดทางวิทยาศาสตร์ ใหเกิดเป ้ นผลิตภัณฑ์ และกระบวนการใหม ็ ๆ โดยความร ่ วมมือ ่ ระหว่างสมาคมวิทยาศาสตร์แห่งประเทศไทยในพระบรมราชูปถัมภ์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แหงชาติ และมูลนิธิส ่ งเสริมโอลิมปิกวิชาการและพัฒนามาตรฐาน ่ วิทยาศาสตร์ศึกษาในพระอุปถัมภ์สมเด็จพระเจาพี่นางเธอ เจ ้ าฟ้ากัลยาณิวัฒนา กรมหลวงนราธิวาสราชนครินทร์ ้ ซึ่งมีนักเรียนระดับชั้นมัธยมศึกษาตอนปลายจากโรงเรียนมัธยมศึกษาทั่วประเทศที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วม โครงการจำนวน 150 คน ได้รับการส่งเสริมให้มีความรู้ สมรรถนะ และทักษะที่จำเป็นต่อการดำรงชีวิต 6. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการขยายเครือข่ายครูวิทยาศาสตร์ด้านปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน โดยสมาคม เคมีแห่งประเทศไทย ร่วมกับสภาสมาคมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งประเทศไทย สำนักงานคณะ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และกลุ่มบริษัทดาว ประเทศไทย จัดการอบรมเชิงปฏิบัติการ “โครงการ ขยายเครือข่ายครูวิทยาศาสตร์ด้านปฏิบัติการเคมีแบบย่อส่วน” ในวันที่ 8 เมษายน 2566 โดยมี วัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มศักยภาพการเรียนการสอนวิชาวิทยาศาสตร์และเคมีไดอย้ างมีประสิทธิภาพและส ่ งเสริม ่ ให้นักเรียนได้ทำการทดลองจริง โดยการใช้อุปกรณ์การทดลองแบบย่อส่วนที่ปลอดภัย ใช้ปริมาณสารเคมี น้อย ป้องกันอันตรายจากการทดลอง ในพื้นที่ 5 แหง ดังนี้ ่ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตอนบน คือ โรงเรียนเชียงคาน จังหวัดเลย ภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง คือ โรงเรียนบุณฑริกวิทยาคาร จังหวัดอุบลราชธานี ภาคตะวันออก คือ โรงเรียนดัดดรุณี BCG คือ โมเดลเศรษฐกิจ BCG ประกอบด้วย B : Bio Economy เศรษฐกิจชีวภาพ C : Circular Economy เศรษฐกิจหมุนเวียน และ G : Green Economy เศรษฐกิจสีเขียว STEAM x BCG เป็นการจัดการเรียนรู้ STEAM Education ด้วยโมเดลเศรษฐกิจ BCG


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 48 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ จังหวัดฉะเชิงเทรา ภาคเหนือ คือ โรงเรียนสตรีศรีนาน จังหวัดน ่าน ่ ภาคใต คือ โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย จังหวัดภูเก็ต ้ และจัดอบรมในรูปแบบออนไลน์สำหรับครูวิทยาศาสตร์ ทั่วประเทศ ระหว่างวันที่ 20 - 21 พฤษภาคม 2566 7. ชี้แจงและประชาสัมพันธ์การอบรมโครงการ สพฐ. และ THAI PBS “ชวนครูมา Uptrend เสริม Skill กับ 3 โครงการสุดปังปี 2566” ประกอบด้วย 1) Kid rangers ชวนครูวิทย์-คณิตมาคิดให้ WOW ปีที่ 7 หัวข้อ STEAM กับ 4 อาชีพ ของเด็กไทยยุค 4.0 2) ALTV ชวนครู Eng มา Think ให้ FUN และ 3) ALTV Quiz Challenge ปี 4 โดยมีศึกษานิเทศก์จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา 183 เขต รับทราบ แนวทางและประโยชน์ของโครงการ พร้อมประชาสัมพันธ์โครงการไปยังครูระดับ ประถมศึกษาในสังกัดทั่วประเทศ โครงการความร่วมมือการจัดการเรียนรูสะเต็มศึกษา (STEM Education) ระหว่างประเทศไทย ้ และประเทศสิงคโปร์ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานรวมกับสถาบันการศึกษาแห ่ งชาติสิงคโปร์ ่ (National Institute of Education : NIE) มูลนิธิเทมาเส็ก (Temasek Foundation) ศูนย์ระดับภูมิภาค ว่าด้วยสะเต็มศึกษาขององค์การรัฐมนตรีศึกษาแห่งเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ (Southeast Asian Ministers of Education Organization Regional Centre for STEM Education : SEAMEO STEM-ED) ได้ให้ ความสำคัญเกี่ยวกับการบูรณาการสะเต็มศึกษา จึงได้ดำเนินโครงการความร่วมมือการจัดการเรียนรู้สะเต็ม ศึกษา (STEM Education) ระหว่างประเทศไทยและประเทศสิงคโปร์ โดยโรงเรียนสังกัดสำนักงานคณะ กรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไดรับการคัดเลือกและพัฒนาให ้ เป้ นศูนย์การเรียนรู ็ สะเต็มศึกษา (Centre of ้ Excellence, CoEs) จำนวน 10 ศูนย์ และสามารถขยายผลการจัดการเรียนการสอนตามแนวทางสะเต็ม ศึกษาไปยังโรงเรียนทั่วประเทศได้ การพัฒนาด้านการวัดและประเมินผลเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา สำนักทดสอบทางการศึกษา และศูนย์ PISA สำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ใหความส้ ำคัญในเรื่องของการวัดและประเมินผลที่มีประสิทธิภาพ โดยดำเนินการ ดังนี้ พัฒนาและส่งเสริมการวัดและประเมินผลการเรียนรู้เพื่อพัฒนาผู้เรียน ดำเนินการ ดังนี้ 1. จัดทำแนวทางการวิเคราะห์ความสอดคล้องของตัวชี้วัดตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 กับผลลัพธ์การเรียนรู้ตาม (ร่าง) กรอบหลักสูตรการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช .... ระดับประถมศึกษา สำหรับโรงเรียนนำร่องในพื้นที่นวัตกรรมการศึกษาเพื่อใช้ในการบริหารจัดการหลักสูตร สถานศึกษาฐานสมรรถนะ และเป็นแนวทางในการเทียบโอนผลการเรียนของสถานศึกษานำร่องในพื้นที่ นวัตกรรมการศึกษา ในชวงระยะต่ อเนื่องระหว ่ างการใช ่ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช ้ 2551 และหลักสูตรสถานศึกษาฐานสมรรถนะ 2. จัดทำแนวทางการวัดและประเมินผลตัวชี้วัดระหวางทางและตัวชี้วัดปลายทาง และเกณฑ์การตัดสิน ่ ผลการเรียน รวมถึงการจัดทำตัวอย่างการวัดและประเมินผลตัวชี้วัดระหว่างทางและตัวชี้วัดปลายทาง


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 49 ด้านคุณภาพ 8 กลุ่มสาระการเรียนรู้ พร้อมทั้งประชุมสื่อสารสร้างความเข้าใจในรูปแบบออนไลน์ ผ่าน Youtube ช่อง OBEC Channel โดยมีผูบริหารการศึกษา ผู ้ บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ครู และผู ้ สนใจเข ้าร้ วมประชุม ่ รวมทั้งสิ้น 57,287 คน 3. คัดเลือกโรงเรียนต้นแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ด้านการวัดและประเมินผล การเรียนรู้ โดยมีโรงเรียนได้รับการคัดเลือกฯ จำนวน 20 โรงเรียน แบ่งเป็น ภาคเหนือ จำนวน 5 โรงเรียน ภาคใต้ จำนวน 4 โรงเรียน ภาคกลางและภาคตะวันออก จำนวน 4 โรงเรียน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 7 โรงเรียน ทั้งนี้ได้มีการจัดงานวิชาการการพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อแสดงผลงานโรงเรียนต้นแบบการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ดานการวัดและประเมินผลการเรียนรู ้ ในงานวิชาการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4 ภาค ช ้วงระหว่ างเดือนกันยายน ่ 2566 ได้แก่ จุดที่ 1 ภาคเหนือ ณ โรงเรียนอนุบาลเชียงราย จังหวัดเชียงราย จุดที่ 2 ภาคใต้ ณ โรงเรียน กัลยาณีศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช จุดที่ 3 ภาคกลางและภาคตะวันออก ณ โรงแรมราชศุภมิตร จังหวัดกาญจนบุรี และจุดที่ 4 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงแรมอัลวาเรซ (เทพนคร) จังหวัดบุรีรัมย์ 4. ลงพื้นที่ติดตามและถอดบทเรียนสถานศึกษาที่มีผลการประเมินคุณภาพผู้เรียนระดับชาติ (NT) อยู่ในระดับดีมาก ของปีการศึกษา 2565 ช่วงระหว่างเดือนมิถุนายนถึงกรกฎาคม 2566 จำนวน 4 จุด ได้แก่ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาอุดรธานี เขต 4 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา เชียงใหม่ เขต 3 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษานครศรีธรรมราช เขต 3 และสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษาประถมศึกษาสุพรรณบุรี เขต 3 รวมทั้งลงพื้นที่เพื่อถอดบทเรียนสถานศึกษาที่มีพัฒนาการของผล การประเมินคุณภาพผู้เรียนระดับชาติ (NT) สูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง ระหว่างวันที่ 3 - 6 สิงหาคม 2566 ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาน่าน เขต 2 ทำให้มีข้อมูลการบริหารจัดการของสถานศึกษา ในทุกมิติและปัจจัยที่มีผลต่อการพัฒนาคุณภาพผู้เรียน การยกระดับผลสัมฤทธิ์ของผู้เรียน เพื่อนำมาใช้ ในการจัดทำข้อเสนอเชิงนโยบายในการพัฒนาคุณภาพผู้เรียนด้านความสามารถพื้นฐานของผู้เรียน ยกระดับสมรรถนะความฉลาดรู้ของผู้เรียนตามกรอบการประเมิน PISA 2025 ประเทศไทยได้ดำเนินการเก็บข้อมูล PISA 2022 เสร็จเรียบร้อยแล้วเมื่อเดือนสิงหาคม 2565 โดยมี การเผยแพร่ผลการประเมินด้านการอ่าน คณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ ในเดือนธันวาคม 2566 และผล ภาพการประชุมทางไกลสื่อสารสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการนำตัวชี้วัดระหว่างทางและตัวชี้วัดปลายทางตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ไปสู่การปฏิบัติ ผ่านระบบออนไลน์


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 50 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ การประเมินดานความคิดสร ้ างสรรค์ในเดือนธันวาคม 2567 ต ้ อไป ส ่ ำหรับในรอบการประเมินถัดไป คือ PISA 2025 จะเน้นการประเมินความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์เป็นหลัก และมีการประเมินเพิ่มเติมด้านการเรียนรู้ ในโลกดิจิทัล (Learning in the Digital World) โดยประเทศไทยจะมีการจัดสอบรอบทดลองใช้เครื่องมือ ในเดือนสิงหาคม 2567 และจัดสอบรอบการวิจัยหลักในเดือนสิงหาคม 2568 ซึ่งศูนย์ PISA สำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ดำเนินการ ดังนี้ 1. พัฒนาคลังข้อสอบความฉลาดรู้ตามกรอบการประเมิน PISA 2025 สู่การพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน ในศตวรรษที่ 21 ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น โดยสร้างแบบทดสอบวัดความฉลาดรู้ จำนวน 3 ด้าน ประกอบด้วย แบบทดสอบวัดความฉลาดรูด้านวิทยาศาสตร์ ด ้ านคณิตศาสตร์ ้ และด้านการอ่าน และจัดอบรมในรูปแบบออนไลน์ให้กับ ครูที่สนใจ ซึ่งมีครูที่ผ่านการอบรม รวมทั้งสิ้น 735 คน ประกอบดวย ความฉลาดรู้ด้านวิทยาศาสตร์ จ ้ ำนวน 245 คน ความฉลาดรู้ด้านคณิตศาสตร์ จำนวน 245 คน และความฉลาดรู้ ด้านการอ่าน จำนวน 245 คน 2. เสริมสร้างสมรรถนะด้านการประเมินความฉลาดรู้ตามแนวทางการประเมิน PISA แก่บุคลากร ทางการศึกษาสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาผ่านระบบ PISA e-Learning โดยจัดโครงการการพัฒนา ศักยภาพครูผูสอนเพื่อยกระดับสมรรถนะความฉลาดรู ้ด้านการอ้านของผู่ เรียนด ้ วยหลักฐานเชิงประจักษ์จาก ้ โปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล ระยะที่ 1 ผ่านระบบ PISA e-Learning โดยมีครูผู้สอน ที่ผ่านการอบรมจากระบบ PISA e-Learning จำนวน 1,540 คน จาก 245 เขตพื้นที่การศึกษา จำนวนครูผู้สอน แกนนำการพัฒนาความฉลาดรู้ด้านการอ่านของนักเรียนที่ผ่านการอบรมแบบเข้ม จำนวน 180 คน และได้ เผยแพร่เอกสารแนวทางการสร้างข้อสอบความฉลาดรู้ด้านการอ่านตามแนวทางการประเมิน PISA 3. ประชุมเชิงปฏิบัติการพัฒนาศักยภาพศึกษานิเทศก์เพื่อพร้อมรับการประเมิน PISA 2025 ระหว่าง วันที่ 1 – 4 กันยายน 2566 ณ โรงแรมเอวาน่า เขตบางนา กรุงเทพมหานคร สงผลให ่ ศึกษานิเทศก์มีความรู ้ ความเข้ าใจ้ สามารถใช้สื่อและคลังข้อสอบประเมินความฉลาดรู้ สามารถเป็นแกนนำในระดับเขตพื้นที่การศึกษาไปพัฒนา และขยายผลในสถานศึกษาพร้อมรับการประเมิน PISA 2025 ที่จะมีขึ้นในเดือนสิงหาคม 2568 4. จัดการประชุม “สพฐ. Kick Off ขับเคลื่อนการพัฒนาความฉลาดรู้ และเตรียมความพรอมรับการประเมิน PISA 2025” ้ ระหวางวันที่ 4 - 6 ่ สิงหาคม 2566 ณ หอประชุมโรงเรียนวิทยาศาสตร์จุฬาภรณราชวิทยาลัย บุรีรัมย์ ผูเข้าร้ วมประชุม จ ่ ำนวน 200 คน ประกอบดวย ผู้ ทรงคุณวุฒิจาก ้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผูบริหารส ้ ำนักงานเขตพื้นที่


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 51 ด้านคุณภาพ การศึกษามัธยมศึกษา ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารสถานศึกษา รองผู้บริหาร สถานศึกษาฝ่ายวิชาการ หัวหนากลุ้ มสาระการเรียนรู ่ วิทยาศาสตร์ คณิตศาสตร์ ้ และภาษาไทย ครูผู้รับผิดชอบงาน PISA จากโรงเรียนในสังกัดสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบุรีรัมย์ จำนวน 66 โรงเรียน ทำใหผู้เข้าร้วม่ ประชุมมีความรู้ความเข้าใจแนวทางการพัฒนาความฉลาดรู้ตามแนวทาง การประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล เพื่อเป็นการเตรียมความพร้อมรับการประเมิน PISA 2025 สามารถวางแผนพัฒนาคุณภาพการศึกษาและยกระดับสมรรถนะความฉลาดรู้ ด้านการอ่านของผู้เรียน ด้วยหลักฐานเชิงประจักษ์จากโปรแกรมประเมินสมรรถนะนักเรียนมาตรฐานสากล และสามารถดำเนินการ ส่งเสริมการจัดการเรียนรู้และการประเมินผลเพื่อยกระดับความฉลาดรู้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ พัฒนาระบบการประเมินคุณภาพเพื่อการพัฒนาการเรียนรูของผู้ เรียน (Assessment for Learning) ้ 1. จัดทำเล่มหลักสูตรการพัฒนาศักยภาพด้านการวัดและประเมินผล ในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ฉบับปรับปรุง เดือนมิถุนายน 2566 2. พัฒนาศักยภาพศึกษานิเทศก์และครูแกนนำระดับเขตพื้นที่การศึกษา ดานการวัดและประเมินผลในชั้นเรียน เพื่อพัฒนาการเรียนรู ้ของผู้ เรียน (Assessment ้ for Learning) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 จำนวน 2 รุ่น คือ รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 10 – 12 พฤษภาคม 2566 และรุ่นที่ 2 ระหวางวันที่ 18 – 20 พฤษภาคม 2566 ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร ่ 3. จัดสรรงบประมาณไปยังสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อดำเนินโครงการขับเคลื่อนการพัฒนา ศักยภาพดานการวัดและประเมินผลในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนรู ้ของผู้ เรียน (Assessment for Learning) ้ 4. ติดตามตรวจเยี่ยมและถอดบทเรียนในการดำเนินงานขับเคลื่อนการพัฒนาศักยภาพด้านการวัด และประเมินผลในชั้นเรียนเพื่อพัฒนาการเรียนรู้ของผู้เรียน (Assessment for Learning) ตามหลักสูตร แกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 ระหวางวันที่ 20 – 24 สิงหาคม 2566 ณ จังหวัดเชียงราย ่ และจังหวัดพะเยา พัฒนาเครือข่ายดานการวัดและประเมินผล ้ โดยจัดประชุมคณะกรรมการบริหารชุมนุมนักวัดและ ประเมินผลการศึกษาขั้นพื้นฐานแหงประเทศไทย ประจ ่ ำปงบประมาณ พ.ศ. 2566 ในวันที่ 4 เมษายน 2566 ี ด้วยรูปแบบออนไลน์ พัฒนาคลังเครื่องมือมาตรฐานเพื่อการบริการ ดำเนินการ ดังนี้ 1. สร้างและพัฒนาเครื่องมือประเมินความสามารถด้านการอ่านของผู้เรียน (RT) ชั้นประถมศึกษา ปีที่ 1 และเครื่องมือวัดความสามารถพื้นฐานของผู้เรียน ชั้นประถมศึกษาปีที่ 3 (NT) ด้านภาษาไทยและ ด้านคณิตศาสตร์ ใช้สำหรับประเมินปีการศึกษา 2566


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 52 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ 2. สรางและพัฒนาเครื่องมือวัดและประเมินผลการเรียนรู ้ ้ (Formative Assessment) เพื่อประกอบตัวอย่างแผน การเรียนรู้ตามแนวทางการประเมินสมรรถนะผู้เรียนระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐานสำหรับการประเมินระดับชั้นเรียน ใน 6 สมรรถนะ 3. พัฒนาระบบคลังข้อสอบมาตรฐานเพื่อการบริการ สำหรับการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ในระดับชั้นประถม ศึกษาปีที่ 3 ประถมศึกษาปีที่ 6 มัธยมศึกษาปีที่ 3 และมัธยมศึกษาปีที่ 6 ประกอบด้วย เครื่องมือประเมิน สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 และเครื่องมือ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนใน 5 กลุ่มสาระการเรียนรู้ ได้แก่ ภาษาไทย คณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์และ เทคโนโลยี สังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม และภาษาต่างประเทศ (ภาษาอังกฤษ) รวมถึงเครื่องมือวัด สาระการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม 4. ประชาสัมพันธ์ เผยแพร่โครงสร้างแบบทดสอบ Test Blueprint เพื่อการบริการ ได้แก่ 1) โครงสร้างข้อสอบ Test Blueprint 2566 การประเมินความสามารถด้านการอ่านของ ผู้เรียน (RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2566 โครงสรางแบบทดสอบการประเมินความสามารถด ้ ้านการอ่าน (RT) ชั้นประถมศึกษาปีที่ 1 และ 2) โครงสร้างข้อสอบ Test Blueprint 2566 การประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) ชั้นประถม ศึกษาปีที่ 3 ปีการศึกษา 2566 โครงสร้างแบบทดสอบการประเมินคุณภาพผู้เรียน (NT) ชั้นประถมศึกษา ปที่ 3 โครงสร ีางแบบทดสอบด้ านคณิตศาสตร์ และโครงสร ้างแบบทดสอบด้ านภาษาไทยเข ้ าถึงได ้ จากเว็บไซต์ ้ สำนักทดสอบทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน https://bet.obec.go.th/ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา และสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา ใหความส้ ำคัญกับ กระบวนการจัดการเรียนการสอนของครูที่เนนให ้ผู้เรียนได ้ เรียนรู ้ผ้านการลงมือปฏิบัติจริง ส ่ งเสริมให ่ผู้ เรียน ้ ได้ใช้ศักยภาพ ความคิดสร้างสรรค์ตามความถนัดและความสนใจ เหมาะสมสอดคล้องกับระดับการเรียนรู้ ของผู้เรียน โดยดำเนินการ ดังนี้ พัฒนาการจัดการเรียนการสอน (Active Learning) ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษา ขั้นพื้นฐาน โดยดำเนินการ ดังนี้ 1. คัดเลือกโรงเรียนตนแบบด้ านการจัดการเรียนรู ้ เชิงรุก Active Learning เพื่อพัฒนาทักษะในศตวรรษ ้ ที่ 21 และ Soft Power และจัดงานวิชาการเพื่อนำเสนอ แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเผยแพร่ผลงานวิชาการ


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 53 ด้านคุณภาพ ของโรงเรียนตนแบบการจัดการเรียนรู ้ เชิงรุก (Active Learning) ใน 4 ภูมิภาค ได ้แก้ ภาคเหนือ ณ โรงเรียนอนุบาล ่ เชียงราย จังหวัดเชียงราย ภาคใต้ ณ โรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช จังหวัดนครศรีธรรมราช ภาคกลางและ ภาคตะวันออก ณ โรงแรมราชศุภมิตร จังหวัดกาญจนบุรี และภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงแรมอัลวาเรซ (เทพนคร) จังหวัดบุรีรัมย์ ซึ่งบุคลากรในสังกัดได้แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และเผยแพร่ผลงานโรงเรียนต้นแบบ การจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) จำนวน 1,099 ผลงาน แบ่งเป็น 14 ด้าน คือ ต้นแบบการพัฒนา หลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย ต้นแบบการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาที่เอื้อต่อการพัฒนาสมรรถนะผู้เรียน ต้นแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อพัฒนาทักษะในศตวรรษที่ 21 ต้นแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุกที่ใช้ Soft Power เป็นสื่อหรือสถานการณ์การเรียนรู้ ต้นแบบการจัดการเรียนรู้ STEAM ตามโมเดลเศรษฐกิจ BCG ต้นแบบการออกแบบการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมพหุปัญญา ต้นแบบการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์เชิงรุก ต้นแบบการจัดการเรียนรู้ภาษาไทย ต้นแบบการพัฒนาการอ่านและการเขียนภาษาไทยเพื่อแก้ไขปัญหา ภาวะถดถอยทางการเรียนรู้ ต้นแบบด้านการวัดและประเมินผลการเรียนรู้ ต้นแบบการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ภาษาต่างประเทศที่สอง ต้นแบบด้านการจัดกิจกรรมการส่งเสริมนิสัยรักการอ่าน ต้นแบบห้องเรียนกีฬา และต้นแบบการดำเนินกิจกรรมนักเรียนเพื่อนที่ปรึกษา (YC : Youth Counselor) 2. ขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ด้วยการบูรณาการแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่น ปราชญ์ชุมชน และการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง โดยสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาร่วมมือ กับสถานศึกษาวิเคราะห์และสามารถรวบรวมแหลงเรียนรู ่ ในท ้ องถิ่นได ้มากกว้ า 20,000 แห ่ ง จากทั่วประเทศ ่ ซึ่งสามารถบูรณาการแหล่งเรียนรู้ในท้องถิ่นกับมาตรฐานและตัวชี้วัดในหลักสูตรสถานศึกษา วิจัยและพัฒนานวัตกรรมการจัดการเรียนการสอนในรูปแบบ Active Learning ร่วมกับภาคี เครือข่ายสู่ทักษะจำเป็นแห่งอนาคตของผู้เรียน ดำเนินการ ดังนี้ 1. วิจัยและพัฒนานวัตกรรมการออกแบบกระบวนการเรียนรู้ (Learning Design) สู่การพัฒนา ศักยภาพผูเรียนอย ้างสร่ างสรรค์ โดยตีพิมพ์บทความวิจัย จ ้ ำนวน 2 เรื่อง คือ 1) การพัฒนานวัตกรรมการจัดการ เรียนรู้เชิงรุก (AL Cookbook) ที่สนับสนุนการประยุกต์ใช้ตามสถานการณ์และบริบทพื้นที่ 2) การพัฒนา รูปแบบชุมชนนวัตกรรมการจัดการเรียนรู้เชิงรุกเพื่อส่งเสริมทักษะที่จำเป็นแห่งอนาคตของผู้เรียน ภาพกิจกรรมติดตามการขับเคลื่อนต่อยอดการจัดการเรียนรู้ Active learning ด้วยการบูรณาการแหล่งเรียนรู้ท้องถิ่น กับหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนชุมชนบ้านนาเยีย จ.อุบลราชธานี และ โรงเรียนพิจิตรพิทยาคม


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 54 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ 2. พัฒนาครูนักออกแบบกระบวนการเรียนรู้ (Learning Designer) และผู้นำการเปลี่ยนแปลงทาง การศึกษาสู่การพัฒนาศักยภาพผู้เรียนอย่างสร้างสรรค์ (Learning Designer Bootcamp) ระหว่างวันที่ 26 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม 2566 ณ โรงแรม ซัมเมอร์ ทรี กรุงเทพมหานคร และประชุมสังเคราะห์นวัตกรรม การพัฒนาครูนักออกแบบกระบวนการเรียนรู้ (Teacher as a Learning Designer) และชุมชนนวัตกรรม การเรียนรู้ เพื่อขับเคลื่อนการสร้างสรรค์นวัตกรรมการเรียนรู้ที่ใช้ได้ผลจริงในพื้นที่ ระหว่างวันที่ 15 – 18 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพมหานคร การพัฒนาทักษะดิจิทัลและภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) ของผู้เรียน สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา และสำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน ไดด้ ำเนินการพัฒนา ทักษะดิจิทัลและภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) ของผู้เรียน สำหรับการสอนภาษาคอมพิวเตอร์ (Coding) เปนการสร็ างกระบวนการคิด เช ้ น Logical Thinking, Computational Thinking, Systematic Thinking, ่ Analytic Thinking เปนต็ น ซึ่งกระบวนการคิดเหล ้ านี้เป ่ นสิ่งส ็ ำคัญที่ผูเรียนทุกคนควรได ้ รับการปลูกฝังตั้งแต ้ ่ ระดับประถมศึกษาและมัธยมศึกษาตอนต้น ประกอบกับการส่งเสริมให้นำเทคโนโลยีดิจิทัลมาใช้ในการจัด การศึกษา เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงสูสังคมดิจิทัลในโลกยุคใหม ่ และเป ่นรากฐานของการสร็ างนวัตกรรม ้ ทางเทคโนโลยีที่จะนำประเทศไปสู่การพัฒนาตามนโยบายไทยแลนด์ 4.0 ดังนี้ ขับเคลื่อนการจัดการเรียนรู้วิทยาการคำนวณและการออกแบบเทคโนโลยี 1. จัดงาน “สร้างภูมิคุ้มกัน ด้วยวิทยาศาสตร์และ Coding” เพื่อยกระดับคุณภาพการศึกษา ในการพัฒนาและบูรณาการกระบวนการจัดการเรียนรูและการวัด ้ ประเมินผลสู่การปฏิบัติในชั้นเรียน นำไปสู่การสร้างความ ฉลาดรูด้านการอ้ าน วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี สร ่างตรรกะ้ ความคิดแบบเป็นเหตุเป็นผลของนักเรียนไทยให้ทัดเทียมกับ ระดับนานาชาติ ณ ตึกสันติไมตรี ทำเนียบรัฐบาลวันที่ 7 มีนาคม 2566 และ MBK Center กรุงเทพมหานคร ระหว่าง วันที่ 24 – 27 กุมภาพันธ์ 2566 2. อบรมพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแก่ครูและเยาวชนระดับประถมศึกษาและ มัธยมศึกษา ในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก (EEC) ดวยรูปแบบออนไลน์ และ Face to Face ้ ภาพการประชุมเชิงปฏิบัติการ พัฒนาครูนักออกแบบ กระบวนการเรียนรู้สู่กาพัฒนา ศักยภาพผู้เรียนอย่าง สร้างสรรค์ (Learning Designer Bootcamp)


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 55 ด้านคุณภาพ ได้แก่ หลักสูตร “ปัญญาประดิษฐ์เบื้องต้นกับ KidBright AI Simulator” หลักสูตร “การจัดการเรียนรู้ ปัญญาประดิษฐ์ด้วยแพลตฟอร์ม KidBright AI” หลักสูตร “KidBright พื้นฐานผ่าน Simulator” หลักสูตร “การใช้งาน Formula Kid Simulator” และหลักสูตร “การเรียนรู้และการใช้งาน Formula Kid” เพื่อส่งเสริมให้ครูและนักเรียนได้รับการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล และได้รับ การปลูกฝังทักษะที่เน้นกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ สามารถสร้างโครงงานวิทยาศาสตร์หรือโครงงาน สิ่งประดิษฐ์ด้านวิศวกรรมได้ นอกจากนี้ ยังส่งเสริมให้ครูนำความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลไปใช้ในการจัด กิจกรรมการเรียนรู้ในชั้นเรียนวิชาต่าง ๆ ร่วมกับการใช้จินตนาการของนักเรียน โดยใช้แนวคิดและตรรกะ การแก้ปัญหาของพื้นที่ 3. อบรมเชิงปฏิบัติการหลักสูตรอบรมการสอนปัญญาประดิษฐ์ด้วยแพลตฟอร์ม CiRA CORE ระดับ มัธยมศึกษา ให้กับศึกษานิเทศก์และครู และเผยแพร่ประชาสัมพันธ์บันทึกการอบรมฯ ให้กับหน่วยงาน ที่เกี่ยวข้องและสาธารณชน ร่วมกับคณะวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยสวนดุสิต เพื่อพัฒนา การออกแบบชั้นเรียนที่มุ่งเน้นการให้ความรู้และทักษะด้านเทคโนโลยี พัฒนาการคิดเป็นเหตุเป็นผล การคิดสร้างสรรค์ สามารถแก้ปัญหาอย่างเป็นระบบบนพื้นฐานของข้อมูล และประจักษ์พยานที่สามารถ ตรวจสอบได้ ภาพการอบรมสำหรับครูระดับประถมศึกษา ภายใต้โครงการพัฒนาความสามารถด้านเทคโนโลยีดิจิทัล แก่ครูและเยาวชนในพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก CiRA Core คือ เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence : AI) ด้าน Deep Learning หรือ การเรียนรู้เชิงลึก เป็นเทคโนโลยีที่เลียนแบบเครือข่ายเซลล์ประสาทในสมองของมนุษย์ ทำให้เกิดการเรียนรู้ จดจำ วิเคราะห์ แยกแยะ ตัดสินใจ ได้อย่างแม่นยำที่นำมาประยุกต์ใช้งานได้หลากหลาย ซึ่ง CiRA Core ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มกลางที่เชื่อมโยงแอปพลิเคชัน ต่าง ๆ ไปสู่การใช้งานจริง ซึ่งก็คือตัวกลางระหว่างการเรียนรู้จดจำความคิดไปสู่การสั่งงาน โดยผู้ใช้สามารถสร้างอัลกอริทึม หรือแอปพลิเคชันต่าง ๆ ใส่เข้าไป เพื่อสร้างการเรียนรู้จดจำให้แก่ระบบ เช่น สร้างให้จดจำรูปร่างหน้าตาของซองจดหมาย หลังจากระบบได้เรียนรู้จดจำแล้ว เมื่อนำไปใช้ในภาคอุตสาหกรรมก็ต้องมีการสั่งงาน อาทิ การสั่งหุ่นยนต์ให้หยิบซองจดหมาย ออกจากสายพาน เป็นต้น


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 56 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ 4. จัดงานวิชาการการพัฒนาคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อส่งเสริม สนับสนุนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) และติดตามผลการใช้หลักสูตรการจัดการเรียนรู้ Coding ในโรงเรียน ผานกิจกรรมการเผยแพร ่ องค์ความรู ่และ้ แสดงผลงานดีเด่นด้าน Coding “CODING Achievement Awards” ครั้งที่ 2 ของผู้บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ และครู ทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ณ จังหวัดเชียงราย ภาคกลางและภาคตะวันออก ณ จังหวัดกาญจนบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดบุรีรัมย์ และภาคใต้ ณ จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยสามารถเขาชมผลงานผ้ านเว็บไซต์ youtube หัวข ่อ ้ “CODING Achievement Awards” ครั้งที่ 2 พัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน 1. อบรมหลักสูตรการพัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระดับการศึกษา ขั้นพื้นฐาน : การกลั่นกรองคุณภาพ (CVS) เพื่อการขับเคลื่อนระบบคลังสื่อดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Content Center) รูปแบบออนไลน์ ให้กับศึกษานิเทศก์และผู้ที่เกี่ยวข้องในการขับเคลื่อน การใช้งานระบบ OBEC Content Center ในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา ระหว่างวันที่ 3 – 4 กรกฎาคม 2566 ซึ่งมีการมอบวุฒิบัตรให้กับผู้ที่เข้าอบรมและผ่านเกณฑ์การประเมินหลังการอบรม แบงเป่ น ศึกษานิเทศก์และบุคลากรทางการศึกษาของส ็ ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 724 คน ครูและ บุคลากรทางการศึกษาของสถานศึกษา จำนวน 922 คน รวมทั้งสิ้น 1,646 คน 2. จัดทำแนวทางการขับเคลื่อนระบบคลังสื่อดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Content Center) เกณฑ์การคัดเลือกผลงานที่มีวิธีการปฏิบัติที่เปนเลิศ (Best Practice) รวมทั้งเครื่องมือในการก ็ ำกับ ติดตามการดําเนินการขับเคลื่อนการใชงานระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC ้ Content Center) และจัดสรรงบประมาณให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อเป็นค่าใช้จ่าย ภาพการอบรมหลักสูตรการพัฒนาและส่งเสริมการจัดการเรียนรู้ด้วยสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน : การกลั่นกรองคุณภาพ (CVS) เพื่อการขับเคลื่อนระบบ OBEC Content Center


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 57 ด้านคุณภาพ ในการประชาสัมพันธ์ สงเสริม สนับสนุนให ่ ครูในสังกัดประยุกต์ใช ้ สื่อฯ และคัดเลือกผลงานที่มีวิธีการปฏิบัติ ้ ที่เป็นเลิศ (Best Practice) ของครู เขตละ 3 ผลงาน เพื่อส่งให้สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ทั้งนี้ มีผลงาน Best Practice ระดับเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 422 ผลงาน จำแนกเป็น 1) ประเภทผู้สร้าง สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล จำนวน 176 ผลงาน 2) ประเภทผู้ใช้สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล จำนวน 171 ผลงาน และ 3) ประเภทผูขับเคลื่อนระบบคลังสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน (OBEC Content Center) ้ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 75 ผลงาน สำหรับผลการคัดเลือกฯ พบว่า มีผลงานระดับยอดเยี่ยม จำนวน 40 ผลงาน จำแนกเป็น 1) ประเภทผู้สร้างสื่อเทคโนโลยีดิจิทัล จำนวน 18 ผลงาน 2) ประเภทผู้ใช้ สื่อเทคโนโลยีดิจิทัล จำนวน 18 ผลงาน และ 3) ประเภทผู้ขับเคลื่อนฯ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 4 ผลงาน รวมทั้งมีการประชุมเพื่อพัฒนา แลกเปลี่ยนเรียนรู้ และมอบโล่รางวัล สำหรับผลงานที่มีวิธีการ ปฏิบัติที่เป็นเลิศ (Best Practice) ระดับสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระหว่างวันที่ 6 – 8 กันยายน 2566 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพมหานคร จัดการศึกษาทางไกลแบบสื่อสารสองทาง สำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนต้น 1. ประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจในการขับเคลื่อนและการบริหารจัดการโครงการจัดการศึกษา ทางไกลแบบสื่อสารสองทาง สำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนตน ระยะที่ 2 โดยมีผู ้เข้าร้ วมประชุม ประกอบด ่วย้ ผู้บริหารจากสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและมูลนิธิการศึกษาทางไกลผ่านดาวเทียม ในพระบรมราชูปถัมภ์ (DLTV) ประธานกรรมการบริหารและประธานกลุ่มพื้นที่การศึกษา ศึกษานิเทศก์ ผู้บริหารโรงเรียน ครู ผู้ดูแลระบบของโรงเรียนในโครงการ และผู้ที่เกี่ยวข้อง ระหว่างวันที่ 15 – 18 สิงหาคม 2566 ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร ภาพการประชุมสร้างความรู้ความเข้าใจในการขับเคลื่อนและการบริหารจัดการโครงการจัดการศึกษาทางไกล แบบสื่อสารสองทาง สำหรับระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ระยะที่ 2 การจัดการเรียนการสอนด้วยรูปแบบการสื่อสารสองทาง เป็นการจัดการเรียนการสอนที่ใช้การประชุมทางไกลด้วยภาพ และเสียง (Video Conference) ผ่านเครือข่ายอินเทอร์เน็ต โดยถ่ายทอดการเรียนการสอนจากโรงเรียนต้นทางไปยังโรงเรียน ปลายทาง นักเรียนในหองเรียนปลายทางสามารถเรียนรู ้ ไปพร ้ อมกับนักเรียนในห ้ องเรียนต ้ นทาง สามารถซักถาม โต ้ ตอบกับครูผู ้สอน้ ที่ห้องเรียนต้นทางได้ตลอดเวลาการสอน และสามารถทบทวนบทเรียนด้วยตนเองได้จากวีดิทัศน์การสอนที่บันทึกไว้


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 58 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ 2. จัดสรรงบประมาณให้โรงเรียนต้นทาง โรงเรียนละ 20,000 บาท (เพื่อบริหารจัดการกิจกรรมของ กลุ่มโรงเรียนในแต่ละภูมิภาค) จำนวน 5 โรงเรียน จำนวนทั้งสิ้น 100,000 บาท และจัดสรรงบประมาณให้ โรงเรียนต้นทาง-ปลายทาง (เพื่อจัดหาอุปกรณ์ที่ใช้ในระบบการศึกษาทางไกลแบบสื่อสารสองทาง ผู้ดูแล ระบบ คาใช่จ้ายในการพัฒนาองค์ความรู ่ /สื่อ/เอกสารการเรียนการสอน) โรงเรียนละ 170,000 บาท จ ้ ำนวน 20 โรงเรียน จำนวนทั้งสิ้น 3,400,000 บาท ส่งเสริม สนับสนุนกีฬาอีสปอร์ต (ESPORTS) ต่อยอดนวัตกรรมทางการศึกษา จัดการแข่งขัน OBEC ESPORTS TOURNAMENT 2023 มหกรรมการแข่งขันกีฬาอีสปอร์ตระดับมัธยม ศึกษา โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทย และสมาคม กีฬาอีสปอร์ตจังหวัดสกลนคร รวมถึงภาคีเครือข่ายที่ให้ การสนับสนุนกิจกรรม มีวัตถุประสงค์เพื่อเปิดโอกาสใหนักเรียน ้ ระดับมัธยมศึกษาได้แสดงศักยภาพและได้พัฒนาทักษะในการเล่นกีฬาอีสปอร์ต โดยแบ่งการแข่งขัน ออกเป็น 2 รูปแบบ คือ รอบคัดเลือกจัดแบบออนไลน์ และรอบชิงชนะเลิศจัดที่สนามแข่งขัน ซึ่งได้คัดเลือก นักกีฬาจากโรงเรียนทั่วประเทศทั้ง 4 ภูมิภาค รวมทั้งสิ้น 858 โรงเรียน ในรอบออนไลน์ ตั้งแต่วันที่ 4 – 18 สิงหาคม 2566 จนเหลือ 8 ทีมสุดทายที่เป ้ นตัวแทนของแต ็ ละภูมิภาค เข ่ามา้ แขงขันในรอบชิงชนะเลิศ วันที่ 26 สิงหาคม 2566 ประกอบด ่วย้ ตัวแทนภาคกลาง ได้แก่ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวง วิทยาคม จังหวัดปทุมธานี และโรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี ตัวแทนภาคเหนือ ไดแก้ โรงเรียนก ่ ำแพงเพชร พิทยาคม จังหวัดกำแพงเพชร และโรงเรียนตะพานหิน จังหวัดพิจิตร ตัวแทนภาคอีสาน ได้แก โรงเรียน ่ ชุมแพศึกษา จังหวัดขอนแก่น และโรงเรียนท่าบ่อ จังหวัดหนองคาย และตัวแทนภาคใต้ ได้แก่ โรงเรียน พัทลุง จังหวัดพัทลุง และโรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย จังหวัดภูเก็ต ผลการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ พบว่า ทีมอีสปอร์ตระดับมัธยมศึกษาที่ได้รับรางวัล 3 ทีม ประกอบด้วย ทีมชนะเลิศ ได้แก่ โรงเรียนเบญจมราชูทิศ จังหวัดจันทบุรี รองชนะเลิศอันดับ 1 ได้แก่ โรงเรียนธรรมศาสตร์คลองหลวงวิทยาคม จังหวัดปทุมธานี และ รองชนะเลิศอันดับ 2 ได้แก่ โรงเรียนภูเก็ตวิทยาลัย จังหวัดภูเก็ต การพัฒนารูปแบบการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม และการเสริมสร้างวิถีชีวิตของความเป็นพลเมืองที่ทันสมัย น่าสนใจและเหมาะสมกับวัยของผู้เรียน สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา และสำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา ได้ดำเนินการ พัฒนาการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมือง ศีลธรรม และการเสริมสร้างวิถีชีวิต


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 59 ด้านคุณภาพ ของความเปนพลเมืองที่ทันสมัย น ็ าสนใจและเหมาะสมกับวัยของผู ่ เรียนทั้งมิติของไทย อาเซียนและโลก ส ้ งเสริม ่ การจัดการเรียนรูในระยะเปลี่ยนผ ้านสู่ การจัดการศึกษาฐานสมรรถนะ ควบคู ่ ไปกับการเรียนรู ่ ประวัติศาสตร์ ้ ของทองถิ่น และการเสริมสร ้ างวิถีชีวิตของความเป ้ นพลเมืองที่เข ็ มแข็ง มีความรับผิดชอบต ้ อสังคม มีบทบาท ่ ในชุมชน มีจิตอาสา มีจิตที่เห็นแก่ประโยชน์ของสังคมเป็นหลัก (Active Citizen) รวมทั้งยังมีการส่งเสริม การใช้สื่อเทคโนโลยีร่วมสมัยเชื่อมโยงประวัติศาสตร์กับผู้เรียนในศตวรรษที่ 21 ดังนี้ สื่อสารสร้างความเข้าใจการเรียนประวัติศาสตร์ด้วยกระบวนการจัดการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ไปยังผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษา และผู้บริหารสถานศึกษาทั่วประเทศ ในวันที่ 12 มกราคม 2566 ผ่านช่องทาง OBEC Channel โดยมุ่งเน้นให้มีการจัดการเรียนการสอน วิชาประวัติศาสตร์โดยใช้กระบวนการ Active Learning ที่ทำใหผู้เรียนเกิดกระบวนการคิดวิเคราะห์ ้ และทักษะกระบวนการ ส่งเสริมให้ชุมชนเข้ามา มีสวนร่ วมในการจัดการเรียนรู ่ มีการใช ้แหล้ งเรียนรู ่ ในท ้ องถิ่น น ้ ำเทคโนโลยีมาใชในการจัดการเรียนการสอน ้ และใช้สื่อที่เหมาะสมกับยุคสมัยและช่วงวัยของผู้เรียน อาทิ การ์ตูนแอนิเมชั่น “เดอะไดอารี่” ของมูลนิธิการศึกษา ทางไกลผ่านดาวเทียม ฯ การ์ตูนแอนิเมชั่น “เมืองนิรมิต แห่งจิตตนคร” และ “สัมมาทิฏฐิ ทะลุมิติมายา” ซึ่งถอด มาจากหนังสือพระราชทาน ตามพระราชดำริของในหลวง รัชกาลที่ 9 ซึ่งพระนิพนธ์ในสมเด็จพระสังฆราชเจากรมหลวง้ วชิรญาณสังวร และสืบสานตอยอดโดยในหลวงรัชกาลที่ 10 ่ พัฒนาการจัดการเรียนรู้เพื่อส่งเสริมความเป็นพลเมืองที่เข้มแข็ง (Active Citizen) : การเรียนรู้ ประวัติศาสตร์ พลเมืองอาเซียน และพลโลก 1. จัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ จำนวน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ณ โรงเรียนยุพราชวิทยาลัย จังหวัดเชียงใหม ภาคกลาง ณ ส่ ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษากาญจนบุรี ภาคใต้ ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษานครศรีธรรมราช และภาคใต้ชายแดน ณ สำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาปัตตานี เขต 1 เพื่อใหนักเรียนเห็นถึงคุณค ้ าประวัติศาสตร์ชาติไทย และมุ ่งเน่น้ การจัดกระบวนการเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ หน้าที่พลเมืองและศีลธรรม ให้เหมาะสมกับวัยของนักเรียน นำไปสู่การบ่มเพาะให้เกิดคุณลักษณะที่ดีต่อบ้านเมือง มีผู้เข้าร่วมการพัฒนาฯ ประกอบด้วย ผู้บริหารระดับสูง สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผูบริหารการศึกษา ผู ้ บริหารสถานศึกษา ศึกษานิเทศก์ ครูและนักเรียน ้


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 60 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ 2. อบรมเรื่อง “การสอนประวัติศาสตร์สำหรับการศึกษาในศตวรรษที่ 21” โดยร่วมมือกับ ศูนย์ภูมิภาคโบราณคดีและวิจิตรศิลป์ ในองค์การรัฐมนตรีศึกษาแหงเอเชียตะวันออกเฉียงใต ่ (SEAMEO SPAFA) ้ ผ่านรูปแบบ Face to Face และรูปแบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 16 - 18 มกราคม 2566 ณ โรงแรมรอยัลซิตี้ กรุงเทพมหานคร และศูนย์มานุษยวิทยาสิรินธร (องค์การมหาชน) โดยผู้เข้าร่วมการอบรม ประกอบด้วย ครูและศึกษานิเทศก์ ทั้งหมด จำนวน 550 คน เพื่อพัฒนาการจัดการเรียนการสอนประวัติศาสตร์แนวใหม่ ที่เชื่อมโยงกับท้องถิ่น รวมทั้งจัดกระบวนการเรียนรู้เกี่ยวกับหน้าที่พลเมือง คุณธรรม จริยธรรมที่ส่งเสริม ความเป็นพลเมืองที่เหมาะสมตามวัยของผู้เรียน 3. อบรมประวัติศาสตร์ทองถิ่นร ้ วมสมัย (Workshop in Local History) เพื่อทดสอบความสอดคล ่อง ้ และประสิทธิภาพของแนวทางการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในสังคมร่วมสมัย รวมทั้ง ประสิทธิภาพของสารคดีการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ท้องถิ่นในสังคมร่วมสมัย โดยร่วมมือกับมหาวิทยาลัย ธรรมศาสตร์และบริษัทบ้านใหญ่ครีเอชั่น ผู้เข้าร่วมการอบรมฯ คือ ครูจากโรงเรียนสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานและสังกัดอื่น ๆ ณ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ท่าพระจันทร์ 4. อบรมเรื่อง “การบูรณาการมรดกภูมิปัญญา สู่การจัด การเรียนรู้ในชั้นเรียน Thai - Lao Teacher Training on Bringing Living Heritage to Classroom” ณ จังหวัดอุดรธานี โดยได้รับการสนับสนุนจากองค์การเพื่อการศึกษา วิทยาศาสตร์ และวัฒนธรรมแห่งสหประชาชาติ (UNESCO Bangkok) สถาบัน สื่อเด็กและเยาวชน (สสย.) และมูลนิธิการศึกษาเพื่อสรางพลเมืองไทย ้ (Thai Civic Education) เพื่อเสริมสร้างความรู้และทักษะ ให้กับครูในการนำมรดกภูมิปัญญามาพัฒนารูปแบบการจัด การเรียนการสอนให้สอดคล้องกับผู้เรียน ผู้เข้าร่วมการอบรมฯ คือ ครูระดับมัธยมศึกษา ผูมีต้ นทุนการเรียนรู ้ด้านมรดกภูมิปัญญา ้ จาก 20 จังหวัดในภาคอีสานของประเทศไทย และจาก 4 แขวงของสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว ได้แก่ เชียงขวาง หลวงพระบาง เวียงจันทน์ และจำปาศักดิ์ ภาพการจัดกิจกรรมพัฒนาคุณภาพการจัดการเรียนรู้ประวัติศาสตร์


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 61 ด้านคุณภาพ 5. จัดประชุมเพื่อพัฒนากระบวนการจัดการเรียนรูของครู เรื่อง ้ “พลเมืองช่างคิด : กระบวนการสืบสอบ เชิงปรัชญา (Community of Philosophy Enquiry : CoPE)” ระหว่างวันที่ 15 - 17 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรมคุ้มภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ ผู้เข้ารับการพัฒนาฯ คือครูแกนนำสังคมศึกษาจากโรงเรียนในภาคเหนือ และภาคกลาง สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สังกัดสำนักงานคณะกรรมการส่งเสริม การศึกษาเอกชน และสังกัดองค์การบริหารส่วนจังหวัดเชียงใหม่ Metaverse การเรียนรู้ประวัติศาสตร์วิถีใหม่สู่การเรียนรู้วิถีอนาคต (New Normal to Next Normal) สืบเนื่องจากในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาได้จัดอบรม พัฒนา “12 เดือน Webinar การเรียนรู้ประวัติศาสตร์ วิถีใหม่ สู่วิถีอนาคต” ให้กับครูสังกัดสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำหรับปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัด การศึกษา ได้ดำเนินการ ดังนี้ 1. พัฒนาและทดลองใชชุดนวัตกรรม 12 เดือน Webinar การเรียนรู ้ ประวัติศาสตร์ วิถีใหม ้ วิถีอนาคต ่ ในรูปแบบ e-Pocketbook เป็นลักษณะ AR เพื่อให้ครูและบุคลากรที่สนใจได้สามารถนำไปประยุกต์ใช้ หลักสูตรนวัตกรรม Metaverse ครูเสมือนจริง ห้องเรียนเสมือนจริง ห้องสมุดเสมือนจริงสู่การเรียนรู้ ประวัติศาสตร์แบบมีส่วนร่วม Content Creator ด้วยกระบวนการ 12 เดือน Webinar การเรียนรู้ ประวัติศาสตร์วิถีใหม วิถีอนาคตสู ่ห่ องเรียน และสามารถพัฒนา เฟ้นหา 1 นวัตกรรมการเรียนร ้ ู้ประวัติศาสตร์ 1 สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ภาพการประชุม เชิงปฏิบัติการเพื่อเสริมทักษะ และพัฒนากระบวนการ จัดการเรียนรู้ของครู เรื่อง “พลเมืองช่างคิด : กระบวนการสืบสอบ เชิงปรัชญา” ภาพการประชุมเชิงปฏิบัติการถอดประสบการณ์ 12 เดือนวิถีใหม่ วิถีอนาคต


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 62 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ 2. จัดสรรงบประมาณเพื่อส่งเสริมการเฟ้นหานวัตกรรมประวัติศาสตร์สิ่งแวดล้อมท้องถิ่นสู่ความเป็น พลเมือง และตอยอดขยายผลให ่ส้ ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 21 เขต ซึ่งมีการตอยอดในทุกโรงเรียน ่ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาแกนนำและนำร่อง ส่งผลให้นักเรียนทั้งในระดับประถมศึกษาและ มัธยมศึกษา จำนวน 569,753 คน ไดเรียนร ้ ู้ประวัติศาสตร์ในรูปแบบ Metaverse ที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลง การสอนและพัฒนานวัตกรรม ครูเสมือนจริงและห้องเรียนเสมือนจริง ทำให้นักเรียนเกิดทัศนคติที่ดี ในการเรียนรู้ประวัติศาสตร์ การส่งเสริมการให้ความรู้และทักษะด้านการเงินและการออม (Financial Literacy) ให้กับ ผู้เรียน สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ได้ส่งเสริมและพัฒนาแนวทางการให้ความรู้และทักษะ ดานการเงินและการออม (Financial Literacy) ให ้ กับผู ้ เรียนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ ซึ่งมุ ้งเน่ นการพัฒนา ้ การจัดการเรียนรู้ระดับพื้นที่ เพื่อเตรียมผู้เรียนให้ได้รับการจัดการศึกษาอย่างมีประสิทธิภาพและพัฒนา ทักษะทางการเงินตามบริบทของพื้นที่ ซึ่งตอบสนองการเปลี่ยนแปลงในศตวรรษที่ 21 ดังนี้ จัดสรรหนังสือ “ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ฐานสมรรถนะเพื่อส่งเสริม ความฉลาดรูการเงิน (Financial Literacy) ของนักเรียนมัธยมศึกษาตอนต ้ น”้ ให้กับโรงเรียนในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อดำเนินการขับเคลื่อนการจัด การเรียนรู้ที่ส่งเสริมความฉลาดรู้การเงิน (Financial Literacy) ในโรงเรียน พัฒนาครูที่รับผิดชอบการจัดการเรียนรู้สังคมศึกษา ของโรงเรียน ในโครงการการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานในเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ จาก 24 เขตพื้นที่การศึกษา ณ โรงแรมรอแยลเบญจา กรุงเทพมหานคร และศึกษา เรียนรู้ ณ พิพิธภัณฑ์เรียนรู้การลงทุน ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ระหว่างวันที่ 10 - 12 มีนาคม 2566 เพื่อให้ครูมีความรู้ความเข้าใจในการจัดการเรียนรู้ที่ส่งเสริม ความฉลาดรู้การเงิน (Financial Literacy) และพัฒนาแนวทางการขับเคลื่อนความฉลาดรู้การเงิน (Financial Literacy) ของโรงเรียนและการขยายผลสู่พื้นที่อื่น ๆ ภาพการจัดประชุมปฏิบัติการ การจัดการเรียนรู้ ที่ส่งเสริมความฉลาดรู้การเงิน (Financial Literacy) สำหรับโรงเรียนใน เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 63 ด้านคุณภาพ การพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาที่เน้นสมรรถนะและผลลัพธ์ที่ตัวผู้เรียน สำนักทดสอบทางการศึกษา ไดด้ ำเนินการพัฒนาระบบการประเมินคุณภาพสถานศึกษาที่เนนสมรรถนะ้ และผลลัพธ์ที่ตัวผู้เรียน ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2545 มาตรา 47 และมาตรา 48 ที่กำหนดใหมีระบบการประกันคุณภาพการศึกษาเพื่อพัฒนาใช ้คุณภาพ้ และมาตรฐานการศึกษาทุกระดับ และในปี พ.ศ. 2561 กระทรวงศึกษาธิการได้ประกาศกฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 เพื่อเปนการปรับปรุงระบบ หลักเกณฑ์และวิธีการประกันคุณภาพ ็ การศึกษา ให้มีกลไกการปฏิบัติที่เอื้อต่อการดำเนินการตามมาตรฐานการศึกษาของแต่ละระดับ และ เกิดประสิทธิภาพในการพัฒนาคุณภาพการศึกษา และประกาศใหใช้ มาตรฐานการศึกษาระดับปฐมวัย ระดับ ้ การศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐานศูนย์การศึกษาพิเศษ พ.ศ. 2561 สำหรับใหสถานศึกษา ้ ใช้เป็นแนวทางดำเนินงานเพื่อการประกันคุณภาพภายในของสถานศึกษา เตรียมรับการประเมินคุณภาพ ภายนอก เพื่อให้เกิดการพัฒนาและสร้างความเชื่อมั่นให้แก่ผู้มีส่วนเกี่ยวข้องและสาธารณชนว่าสถานศึกษา นั้นสามารถจัดการศึกษาได้อย่างมีคุณภาพตามมาตรฐานการศึกษา และบรรลุเป้าประสงค์ของหน่วยงาน ต้นสังกัดหรือหน่วยงานที่กำกับดูแล โดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานดำเนินการ ดังนี้ ส่งเสริมและพัฒนาระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษาตามกฎกระทรวงการประกัน คุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 สำหรับปงบประมาณ พ.ศ. 2566 ส ี ำนักทดสอบทางการศึกษาไดด้ ำเนินการจัดทำแนวทางการคัดเลือก สถานศึกษาเพื่อรับรางวัล IQA AWARD ประจำปีการศึกษา 2565 สำหรับสถานศึกษาจัดการศึกษาทั่วไป สถานศึกษาจัดการศึกษาสงเคราะห์ สถานศึกษาจัดการศึกษาเฉพาะความพิการและศูนย์การศึกษาพิเศษ ณ โรงแรมริเวอร์ไซด์ กรุงเทพมหานคร และบรรณาธิการกิจแนวทางการคัดเลือกฯ เพื่อให้เหมาะสมกับ บริบทของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา ณ โรงแรมเบลล่าบี จังหวัดนนทบุรี


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 64 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ เสริมสร้างระบบบริหารจัดการคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาเพื่อการประกันคุณภาพที่ใช้ สถานศึกษาเป็นฐาน 1. อบรมเพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการประกันคุณภาพ การศึกษาขั้นพื้นฐานให้กับศึกษานิเทศก์และสถานศึกษาสังกัด สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ด้วยรูปแบบ ออนไลน์ และ Face to Face จำนวน 2 รุ่น รุ่นที่ 1 ภาคเหนือ และภาคกลาง ระหว่างวันที่ 18 – 21 ธันวาคม 2565 และรุ่นที่ 2 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคใต้ ระหว่างวันที่ 21 – 24 ธันวาคม 2565 ณ โรงแรมเอวาน่า กรุงเทพมหานคร และประชุม ปฏิบัติการเพื่อจัดทำรายงานสรุปผลการสัมมนาเชิงปฏิบัติการ เพื่อเสริมสร้างศักยภาพด้านการประกันคุณภาพการศึกษา ขั้นพื้นฐานให้กับศึกษานิเทศก์ ครูและบุคลากรทางการศึกษา จากสถานศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ระหว่างวันที่ 12 – 17 มีนาคม 2566 ณ โรงแรมแกรนด์จอมเทียนพาเลซ พัทยา จังหวัดชลบุรี 2. จัดสรรงบประมาณเพื่อสนับสนุนการดำเนินงานให้แก่เครือข่ายนวัตกรรมคุณภาพสถานศึกษา จำนวน 178 เครือข่าย ภายใต้การกำกับดูแลของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 96 เขต และสำนัก บริหารงานการศึกษาพิเศษ 3. ประชุมการนำเสนอและเผยแพร่ต้นแบบนวัตกรรมคุณภาพเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา ของสถานศึกษา รางวัล IQA AWARD ผ่านระบบออนไลน์ ดวยการสร้ ้างและทดลองใช้ร่างตนแบบนวัตกรรม ้ คุณภาพเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษารางวัล IQA AWARD จำนวน 16 รูปแบบ ภายใต้ 16 บริบท จากสถานศึกษา จำนวน 595 แหง ที่ได ่ รับรางวัลระดับยอดเยี่ยมในป ้ การศึกษา พ.ศ. 2561 – 2562 ี ร่วมกับสถาบันนวัตกรรมการเรียนรู้ มหาวิทยาลัยมหิดล ภาพการประชุมปฏิบัติการเพื่อพัฒนาแนวทางการคัดเลือกสถานศึกษาเพื่อรับรางวัล IQA AWARD ประจำปีการศึกษา 2565 ระหว่างวันที่ 6 - 9 กุมภาพันธ์ 2566 และการประชุมปฏิบัติการเพื่อบรรณาธิการกิจ แนวทางการคัดเลือกฯ ระหว่างวันที่ 15 - 19 พฤษภาคม 2566


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 65 ด้านคุณภาพ พัฒนามาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐานและระบบประกันคุณภาพภายในตามกฎกระทรวง การประกันคุณภาพการศึกษา พ.ศ. 2561 1. วิเคราะห์และสังเคราะห์รายงานการประเมินตนเองของสถานศึกษา ระดับปฐมวัยและระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2564 โดยสำนักทดสอบทางการศึกษา ได้ดำเนินการสังเคราะห์ ผลการประเมินคุณภาพมาตรฐานการศึกษา จากรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) ได้ผลการสังเคราะห์โดยสรุป ดังนี้ 2. จัดทำ (ร่าง) คู่มือการใช้มาตรฐานการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ... เพื่อการประกันคุณภาพภายใน สถานศึกษา ระดับการศึกษาปฐมวัย ระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน และระดับการศึกษาขั้นพื้นฐาน ศูนย์การศึกษา พิเศษ ที่มีความสอดคล้องกับมาตรฐานการศึกษาชาติ มาตรฐานสถานพัฒนาเด็กปฐมวัยแห่งชาติ มาตรฐาน การศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ... และการจัดการเรียนรูที่เน ้ นให ้ เกิดสมรรถนะของผู ้ เรียนตามหลักสูตรแกนกลาง ้ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ภาพกิจกรรมการประชุมการนำเสนอและเผยแพร่ต้นแบบนวัตกรรมคุณภาพเพื่อการประกันคุณภาพการศึกษา ของสถานศึกษา รางวัล IQA AWARD ผ่านระบบออนไลน์ วันที่ 23 มิถุนายน 2566


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 66 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ 3. สื่อสารสร้างความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐานและ การเตรียมความพรอมรับการประเมินคุณภาพภายนอก ประจ ้ ำปงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด ี วยรูปแบบออนไลน์ ้ ให้กับผู้บริหารสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ศึกษานิเทศก์ที่รับผิดชอบงานประกันคุณภาพ จากสำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาทุกเขต ผูบริหารสถานศึกษาและครูผู ้ รับผิดชอบงานประกันคุณภาพการศึกษาของสถานศึกษา ้ จำนวน 3 กิจกรรม ได้แก่ 1) การรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-SAR) 2) การสังเคราะห์รายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษา (SAR) และการวิเคราะห์ประสิทธิภาพและ โอกาสของสถานศึกษา ระดับเขตพื้นที่การศึกษา และ 3) แนวทางการประเมินคุณภาพภายนอกของสำนักงาน รับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) 4. ติดตามและประเมินผลการใช้งานระบบการรายงานผลการประเมินตนเองแบบอิเล็กทรอนิกส์ (e-SAR) ดังนี้ 4.1 ปรับปรุงและพัฒนาคุณสมบัติของระบบ e-SAR ปีการศึกษา 2565 ใน 5 ประเด็น คือ 1) การจัดการบัญชีผูใช้ งาน 2) การรายงานผลการประเมินตนเองของสถานศึกษาแต ้ละแห่ ง 3) การสังเคราะห์ ่ ข้อมูลแต่ละสถานศึกษา 4) การเชื่อมโยงแลกเปลี่ยนข้อมูลการศึกษา และ 5) ระบบรายงานข้อมูลสถิติ 4.2 ประชุมเพื่อพัฒนาเครื่องมือและคู่มือสำหรับการติดตามและประเมินผลการใช้งานระบบ e-SAR ระหว่างวันที่ 9 - 14 กรกฎาคม 2566 ณ โรงแรมเดอะเล็คกาซี จังหวัดนนทบุรี โดยพิจารณา กรอบโครงสร้างเครื่องมือและคู่มือสำหรับการติดตาม และประเมินผลการใช้งานระบบ e-SAR รวมทั้ง การจัดทำเครื่องมือสำหรับใช้ในการติดตามการใช้งาน ระบบ e-SAR 4.3 ตรวจเยี่ยมพื้นที่เชิงประเมิน (Site Visit) เพื่อติดตามและประเมินผลการใช้งานระบบ e-SAR ระหว่างวันที่ 8 – 18 สิงหาคม 2566 โดยลงตรวจเยี่ยม สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา จำนวน 10 เขต และ ภาพการสื่อสารสร้างความเข้าใจแนวทางการดำเนินงานการประกันคุณภาพการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการเตรียมความพร้อมรับการประเมินคุณภาพภายนอกฯ วันที่ 30 พฤษภาคม 2566


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 67 ด้านคุณภาพ สถานศึกษา จำนวน 14 แห่ง ในจังหวัดลำพูน นครพนม ตรัง กระบี่ และจังหวัดนครสวรรค์ เพื่อนำไปใช้ ในการปรับปรุงระบบ e-SAR ให้มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการเชื่อมโยงข้อมูลสารสนเทศการประกัน คุณภาพภายในของสถานศึกษากับหนวยงานภายนอกได ่ รวมถึงมีความปลอดภัยในการใช ้ งานระบบ e-SAR ้ 4.4 ประชุมวิเคราะห์และสรุปผลการติดตามและประเมินผลการใช้งานระบบ e-SAR ระหว่างวันที่ 28 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน 2566 เพื่อจัดทำรายงานสรุปผลการติดตามและประเมินผลการใช้งาน ระบบ e-SAR ณ โรงแรมแกรนด์ราชพฤกษ์ จังหวัดนนทบุรี การขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพ สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา โดยศูนย์ ขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ได้มีการยกระดับสถานศึกษาให้เป็นโรงเรียนคุณภาพ ประกอบด้วย โรงเรียนคุณภาพระดับประถมศึกษา โรงเรียนคุณภาพระดับมัธยมศึกษา และโรงเรียน ที่สามารถดำรงอยู่ได้อย่างมีคุณภาพ (Stand Alone) ให้เป็นศูนย์รวมการศึกษาที่มีคุณภาพและ ใช้ทรัพยากรร่วมกัน ภายใต้จุดเน้น 8 ด้าน ตลอดจนส่งเสริมการมีส่วนร่วมกับทุกภาคส่วนในการพัฒนา การศึกษาเพื่อใหโรงเรียนคุณภาพเป ้ นสถานศึกษาที่มีมาตรฐานความปลอดภัย มีการบริหารจัดการบุคลากร ็ ที่เพียงพอตอการดูแลนักเรียน ได ่ รับการสนับสนุนงบประมาณสอดคล ้องต้อจ่ ำนวนนักเรียนและมีการบริหาร จัดการที่มีประสิทธิภาพ สามารถรองรับการมาเรียนรวมของนักเรียนโรงเรียนเครือขาย และการใช ่ ทรัพยากร ้ ร่วมกันในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยมีผลการดำเนินงาน ดังนี้ 1. จัดสรรงบประมาณเพื่อเป็นค่าใช้จ่ายในการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพ ทำให้การจัดการเรียน การสอนเกิดความต่อเนื่อง รวมถึงเป็นการส่งเสริมให้นักเรียนเกิดทักษะภาษาอังกฤษและภาษาจีน มีพัฒนาการทางภาษาที่ดีมากยิ่งขึ้น โดยมีการจัดสรรงบประมาณ ดังนี้ 2. อบรมเชิงปฏิบัติการดานดนตรี (Music Workshop) และการประกวดวงดนตรีนักเรียน โครงการพัฒนา ้ นวัตกรรมการเรียนการสอนวิชาดนตรีของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ปี พ.ศ. 2566 ครั้งที่ 1 กลุ่มโรงเรียนคุณภาพ จำนวน 18 โรงเรียน จัดโดยสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ร่วมกับ


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 68 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ มหาวิทยาลัยราชภัฏสวนสุนันทา ณ วิทยาลัยการดนตรี มหาวิทยาลัยราชภัฏบ้านสมเด็จเจ้าพระยา ระหว่างวันที่ 6 - 8 มกราคม 2566 มีกิจกรรมการอบรมเชิงปฏิบัติการดานดนตรี (Music Workshop) จากวิทยากรผู ้ เชี่ยวชาญ ้ ทางด้านการขับร้อง กีต้าร์ เบส กลองชุด และคีย์บอร์ด พร้อมทั้งรับชมการแสดงจากศิลปินรับเชิญสุดพิเศษ นำโดยคุณป๊อบ คเชนทร์ เจริญผลนภาชัย (Champion Overdrive Guitar Contest No.2) และระหว่างวันที่ 20 - 22 มกราคม 2566 มีกิจกรรมการประกวดวงดนตรีนักเรียนชิงถวยรัฐมนตรีว ้ าการกระทรวงศึกษาธิการ ่ และรับชมการแสดงจากศิลปินรับเชิญสุดพิเศษนำโดย คุณแจ็ค ธรรมรัตน์ (Champion Guitar idol of London International Music) และคุณเมย์ พัชรพงษ์ (รองชนะเลิศ Jazz Competition No.3) 3. สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา โดยศูนย์ขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพประจำตำบล ร่วมกับ SEED Thailand จัดอบรมหลักสูตร Digital Insight พี่สอนน้องให้รู้เท่าทันโลกออนไลน์ของโรงเรียน คุณภาพ ระดับภูมิภาค ใหกับนักเรียนของโรงเรียนในโครงการโรงเรียนคุณภาพ ระดับมัธยมศึกษา โดยกิจกรรม ้ ประกอบด้วย การบรรยายให้ความรู้และกิจกรรม Workshop รวมถึงสร้างความรู้ ความเข้าใจและปลูกฝัง ให้เยาวชนมีการเข้าถึงสื่อออนไลน์อย่างมีวิจารณญาณ “เมื่อเทคโนโลยีเปลี่ยนแปลง เด็กไทยต้อง เปลี่ยนตาม” และสามารถใชประโยชน์จากสื่อออนไลน์ไปในทิศทางที่ถูกต ้ อง โดยมีนักเรียนเข ้าร้ วมกิจกรรม ่ กว่า 1,200 คน ซึ่งคัดเลือกโรงเรียนที่มีความพร้อมใน 5 ภูมิภาค ได้แก่ภาคกลางและภาคตะวันออก ณ โรงเรียนวังสมบูรณ์วิทยาคม จังหวัดสระแก้ว และโรงเรียนสวนกุหลาบวิทยาลัย สระบุรี จังหวัดสระบุรี ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ โรงเรียนจัตุรัสวิทยาคาร จังหวัดชัยภูมิ และโรงเรียนศรีวิไลวิทยา จังหวัดบึงกาฬ ภาคเหนือ ณ โรงเรียนแม่จันวิทยาคม จังหวัดเชียงราย และภาคใต้ ณ โรงเรียนเกาะพะงันศึกษา จังหวัด สุราษฎร์ธานี ภาพการอบรมเชิงปฏิบัติการด้านดนตรี (Music Workshop) และการประกวดวงดนตรีนักเรียน โครงการพัฒนานวัตกรรม การเรียนการสอนวิชาดนตรีของนักเรียนในระดับมัธยมศึกษาสู่ความเป็นเลิศ ปี พ.ศ. 2566


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 69 ด้านคุณภาพ 4. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม ติดตามการดำเนินงานการขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพ ดังนี้ 4.1 ลงพื้นที่ถอดบทเรียนการดำเนินโครงการโรงเรียนคุณภาพในพื้นที่จังหวัดสระแก้ว “สระแก้ว โมเดล” ระหว่างวันที่ 9 – 11 พฤศจิกายน 2565 ณ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาสระแก้ว เขต 1 และเขต 2 และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาสระแก้ว โดยลงพื้นที่โรงเรียนคุณภาพที่ได้รับ การจัดสรรงบประมาณในดานต้ าง ๆ เพื่อชี้แจงแนวทางในการขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพ พร ่อมถอด้ บทเรียนเพื่อนำมาปรับปรุง พัฒนาการดำเนินโครงการโรงเรียนคุณภาพให้เกิดประสิทธิภาพและเกิดความ ต่อเนื่องตรงตามวัตถุประสงค์ของโครงการ 4.2 สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษาร่วมกับสำนักงบประมาณ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและ ติดตามการบริหารโครงการและงบประมาณของสถานศึกษาในการขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพในสังกัด เมื่อวันที่ 24 มีนาคม 2565 ณ โรงเรียนศรีวิไลวิทยา สังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษาบึงกาฬ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานมุ่งมั่นเพื่อขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพ อย่างเข้มแข็ง ได้รับความร่วมมือจากทุกฝ่าย ทั้งจากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา โรงเรียนคุณภาพในสังกัด ตลอดจนภาคีเครือข่ายต่าง ๆ ทำให้นักเรียนได้รับโอกาสในการเข้าถึงการศึกษาที่มีคุณภาพ โดยใน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พบว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษามีผลงาน รูปแบบ นวัตกรรมด้านการบริหาร จัดการโรงเรียนคุณภาพ จำนวน 193 เขต คิดเป็นร้อยละ 79.10 และด้านการใช้ทรัพยากรร่วมกันได้สำเร็จ ตามเป้าหมาย จำนวน 118 เขต คิดเปนร็ ้อยละ 48.36 จากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาที่มีโรงเรียนคุณภาพ ในสังกัด จำนวน 244 เขต ภาพพิธีเปิดการอบรมหลักสูตร Digital Insight พี่สอนน้องให้รู้เท่าทันโลกออนไลน์ของโรงเรียนคุณภาพ ระดับภูมิภาค ภาคเหนือ ณ โรงเรียนแม่จันวิทยาคม จังหวัดเชียงราย ภาพการลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมและติดตามการบริหารโครงการและงบประมาณของสถานศึกษา ในการขับเคลื่อนโครงการโรงเรียนคุณภาพในสังกัด


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 70 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ การจัดการศึกษาปฐมวัยอย่างมีคุณภาพ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา และสำนักบริหารงานความเป็นเลิศด้านวิทยาศาสตร์ศึกษา ได้ตระหนักถึงความสำคัญในการพัฒนาเด็กปฐมวัยให้ได้มีพัฒนาการสมวัยอย่างมีคุณภาพ และวางรากฐาน การเรียนการสอนวิทยาศาสตร์สำหรับเด็กปฐมวัยให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น จึงได้ดำเนินการ ดังนี้ ประเมินพัฒนาการนักเรียนระดับปฐมวัย โดยการจัดทำเครื่องมือการประเมินพัฒนาการนักเรียน ที่จบหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย พุทธศักราช 2560 ปการศึกษา 2565 ฉบับสมบูรณ์ และเผยแพร ี ทางเว็บไซต์ ่ สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา ประกอบด้วย คู่มือดำเนินงานประเมินพัฒนาการนักเรียนที่จบ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ชุดกิจกรรมการจัดประสบการณ์สำหรับการประเมินพัฒนาการนักเรียนที่จบ หลักสูตรการศึกษาปฐมวัย แบบบันทึกขอมูลการประเมินพัฒนาการนักเรียนที่จบหลักสูตรการศึกษาปฐมวัย ้ รวมถึงจัดสรรงบประมาณและชี้แจงแนวทางการดำเนินงานให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษา จำนวน 183 เขต ดำเนินการประเมินพัฒนาการนักเรียนระดับปฐมวัย และติดตามผลการดำเนินงาน การประเมินพัฒนาการนักเรียนระดับปฐมวัยของโรงเรียนกลุ่มตัวอย่าง จำนวน 2,355 โรงเรียน พัฒนาการจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุกระดับปฐมวัย 1. ผลการคัดเลือกโรงเรียนตนแบบการเรียนรู ้ เชิงรุก (Active Learning) ด ้ านการจัดการศึกษาปฐมวัย ้ ในเรื่องการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย จำนวน 84 โรงเรียน ซึ่งเป็นโรงเรียนที่มีผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เขามามีส ้วนร่ วมในกระบวนการพัฒนาหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย สอดคล ่ องกับสภาพปัจจุบัน ปัญหา จุดเน ้น้ ความต้องการของสถานศึกษา ชุมชนและท้องถิ่น มีการบริหารจัดการหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย อย่างมีประสิทธิภาพ นำไปสู่การพัฒนาเด็กให้มีพัฒนาการสมวัยอย่างมีคุณภาพ 2. ถอดบทเรียนแนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ระดับปฐมวัยของโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด จำนวน 81 โรงเรียน แบ่งเป็น 5 ด้าน ได้แก่ ด้านหลักสูตรสถานศึกษาปฐมวัย ด้านการจัดการเรียนรู้เชิงรุก ระดับปฐมวัย ดานการประเมินพัฒนาการเด็กปฐมวัย ด ้ านเครือข ้ ายการพัฒนาและการมีส ่วนร่วมของพ่อแม่ ่ ผู้ปกครอง และด้านการบริหารจัดการ และจัดทำในรูปแบบ e-Book เพื่อเผยแพร่ผ่านทางเว็บไซต์สำนัก วิชาการและมาตรฐานการศึกษา และช่องทางการสื่อสารต่าง ๆ ให้ผู้ที่เกี่ยวข้องได้นำไปปรับประยุกต์ใช้ ตามบริบทและความเหมาะสม 3. จัดสรรงบประมาณสนับสนุนโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด จำนวน 81 โรงเรียน เพื่อเป็นแกนนำ ขยายผลการถอดบทเรียนแนวปฏิบัติที่ดีระดับปฐมวัยให้กับโรงเรียนอนุบาลประจำเขตพื้นที่การศึกษาและ โรงเรียนทั่วไป พัฒนาพ่อแม่ ผู้ปกครองของเด็กปฐมวัย โดยดำเนินการสำรวจโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัดที่มี ความเป็นเลิศในการจัดการศึกษาปฐมวัยด้านการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ผู้ปกครองเพื่อการศึกษาและ ถอดบทเรียนทำให้ได้แนวปฏิบัติที่ดี (Best Practice) ของโรงเรียนอนุบาลประจำจังหวัด ด้านเครือข่าย การพัฒนาและการมีส่วนร่วมของพ่อแม่ ผู้ปกครอง จำนวน 12 โรงเรียน


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 71 ด้านคุณภาพ พัฒนาการจัดการเรียนรู้เชิงรุกตามแนวคิดมอนเตสซอรี ระดับปฐมวัย 1. ลงพื้นที่ติดตามผลการยกระดับคุณภาพการศึกษาและคุณภาพผู้เรียนปฐมวัย ด้วยการจัด ประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุก Active Learning ตามแนวคิดมอนเตสซอรี ณ ศูนย์พัฒนาการเรียนรู้ ตามแนวคิดมอนเตสซอรี โรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาญจนบุรี เขต 3 ระหว่างวันที่ 26 – 27 มีนาคม 2566 และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษาชุมพร เขต 2 ระหว่างวันที่ 16 – 18 สิงหาคม 2566 2. จัดทำเอกสารคู่มือพัฒนาการจัดประสบการณ์ระดับปฐมวัยตามแนวคิดมอนเตสซอรีในบริบทของ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ฉบับบรรณาธิการกิจ จำนวน 9 เลม ประกอบด ่ วย 1) หมวดทฤษฎี ้ สู่การปฏิบัติในโรงเรียน 2) หมวดชีวิตประจำวัน 3) หมวดประสาทรับรู้ 4) หมวดภาษา 5) หมวดคณิตศาสตร์ 6) กลุ่มงานวัฒนธรรม 7) การจัดประสบการณ์การเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามแนวคิดมอนเตสซอรี สู่สมรรถนะนักเรียนปฐมวัย 8) คู่มือสำหรับผู้บริหารสถานศึกษาและศึกษานิเทศก์ 9) คู่มือสำหรับครู โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ระดับปฐมวัย เป็นความร่วมมือระหว่างสถาบัน ส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และเครือขาย่ โครงการบ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย (สำนักงานพัฒนา วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ องค์การพิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์แห่งชาติ มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ บริษัท นานมีบุคส์ จำกัด กลุ่มบริษัท บี.กริม) ซึ่งได้ดำเนินโครงการเข้าสู่ปีที่ 12 โดยในแตละป ่ โรงเรียนทั่วประเทศจะขอเข ี ารับการประเมินเพื่อรับตราพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ ้า้ กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี แบงเป่น ็ การประเมินรอบที่ 1 คือการรับตราครั้งแรก (อายุตรา 3 ปี) การประเมินรอบที่ 2 คือการรับตราคงสภาพ ครั้งที่ 1 (อายุตรา 3 ปี) และการประเมิน รอบที่ 3 คือการรับตราคงสภาพครั้งที่ 2 (อายุตรา 5 ป) ในป ี การศึกษา 2565 มีโรงเรียนเข ีาร้ วมโครงการ จ ่ ำนวน 29,144 โรงเรียน ผ่านการประเมินฯ จำนวน 12,654 โรงเรียน และเข้าร่วมพิธีรับตราพระราชทานโครงการ บ้านนักวิทยาศาสตร์น้อย ประเทศไทย ประจำปีการศึกษา 2565 ที่จัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 - 23 กรกฎาคม 2566 ณ อาคารพิพิธภัณฑ์พระรามเก้า องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ จังหวัดปทุมธานี มีมูลนิธิ สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา โดยรองศาสตราจารย์คุณหญิงสุมณฑา พรหมบุญ เป็นประธานในพิธี และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานได้ดำเนินการพัฒนา วิทยากรหลัก (Core Trainer) จำนวน 25 คน ใหสามารถเป ้นผู็สร้างความเข้ มแข็งและถ ้ ายทอดกระบวนการเรียน ่ การสอนของโครงการให้กับศึกษานิเทศก์ที่ทำหน้าที่เป็นผู้นำเครือข่ายท้องถิ่น (Local Network : LN) และ ครูผูสอนระดับปฐมวัยที่ท ้ ำหนาที่เป ้ นวิทยากรเครือข ็ายท่ องถิ่น (Local Trainer : LT) ในระหว ้ างวันที่ 8 - 9 ธันวาคม ่ 2565 ณ บ้านวิทยาศาสตร์สิรินธร สถาบันส่งเสริมการสอนวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี จังหวัดปทุมธานี


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 72 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ และประกาศแต่งตั้งผู้นำเครือข่ายท้องถิ่น (LN) และวิทยากรเครือข่ายท้องถิ่น (LT) รวมทั้งจัดอบรม เพื่อสรางความตระหนัก ความรู ้ และทักษะเชื่อมโยงกับสังคม สิ่งแวดล ้ อม และเศรษฐกิจเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ้ ตามแนวทางการศึกษาเพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน (Education for Sustainable Development : ESD) สำหรับ ผูน้ ำเครือขายท่ องถิ่น (LN) และวิทยากรเครือข ้ายท่ องถิ่น (LT) ้ ใหสามารถน้ ำไปขยายผลกับครูระดับปฐมวัย ในโครงการต่อไป ระหว่างวันที่ 16 - 18 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมคุ้มภูคำ จังหวัดเชียงใหม่ จากการดำเนินงานส่งผลให้สำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษามีจำนวนผู้เรียนปกติระดับปฐมวัย (อ.3) ปีการศึกษา 2565 ทั้งหมดจำนวน 390,393 คน โดยเป็น ผู้เรียนปกติที่ผ่านเกณฑ์การประเมินพัฒนาการ ด้านร่างกาย อารมณ์จิตใจ สังคม และสติปัญญา ระดับ 3 ทั้ง 4 ด้าน จำนวน 363,524 คน คิดเป็นร้อยละ 93.12 การศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน สำนักบริหารงานการมัธยมศึกษาตอนปลาย สำนักวิชาการและมาตรฐานการศึกษา และสำนักพัฒนา นวัตกรรมการจัดการศึกษา ได้ตระหนักและเล็งเห็นถึงความสำคัญของการศึกษาเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพ และเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน โดยจัดการศึกษาให้ผู้เรียนมีทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 นำไปสู่ การมีอาชีพและงานทำ และส่งเสริมความเป็นเลิศของผู้เรียนให้เต็มตามศักยภาพเพื่อเพิ่มขีดความสามารถ ในการแข่งขัน โดยมีผลการดำเนินงาน ดังนี้ จัดกิจกรรม EEC Innovation for the Future Symposium 2023: มหกรรมผลงานวิชาการ และนวัตกรรมแห่งอนาคตของโรงเรียนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ระหว่างวันที่ 29 - 30 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมสตาร์ คอนเวนชั่น จังหวัดระยอง เพื่อเป็นเวทีแสดงผลงานทางวิชาการและ แลกเปลี่ยนเรียนรู้นวัตกรรมของโรงเรียนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรม กิจกรรม EEC Innovation for the Future Symposium 2023: มหกรรมผลงานวิชาการและนวัตกรรมแห่งอนาคต ของโรงเรียนในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 73 ด้านคุณภาพ เป้าหมายตามบริบทของตนเอง อีกทั้งสร้างการรับรู้ถึงศักยภาพและความพร้อมของโรงเรียน ในการรองรับ อุตสาหกรรม S - Curve และ New S - Curve ให้กับนักเรียน ครู ผู้ปกครอง และสาธารณชน เพื่อส่งเสริม ให้มีการบูรณาการในการจัดการศึกษา และทำให้นักเรียนเห็นเส้นทางการศึกษาต่อระดับที่สูงขึ้น หรือการประกอบอาชีพในอนาคตที่สอดคล้องกับอุตสาหกรรมเป้าหมายของพื้นที่ มีความภาคภูมิใจ ในการพัฒนานวัตกรรมและต่อยอดการเรียนรู้ ส่งผลให้ครูเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มีแนวคิด วิธีการ เครื่องมือ การจัดการเรียนการสอน การสรางรายวิชาเพิ่มเติม สื่อ และกระบวนการพัฒนาสมรรถนะที่ตรงตามความถนัด ้ ความสนใจของนักเรียน สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ มีกิจกรรมการแสดงผลงานวิชาการและนวัตกรรมที่สอดคล้องกับ อุตสาหกรรมเป้าหมายในพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก ของโรงเรียนระดับมัธยมศึกษาในสังกัด พื้นที่ EEC และหนวยงานภายนอกด่ านการศึกษา อาทิ ส ้ ำนักงานพัฒนาวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแหงชาติ ่ และมหาวิทยาลัยบูรพา และมีการบรรยายพิเศษเรื่อง “นวัตกรรมแห่งอนาคตและแนวโน้มตลาดแรงงาน ในพื้นที่ EEC” โดยรองศาสตราจารย์ธีรวัฒน์ ประกอบผล ทั้งนี้ มีผูเข้าร้ วมประกอบด ่ วยคณะครู และนักเรียน ้ จำนวน 650 คน อบรมครูเพื่อส่งเสริมพัฒนาทักษะการเรียนรู้การเป็นผู้ประกอบการยุคใหม่ ภายใต้โครงการ นักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ (The Young Entrepreneur Project : YEP) จำนวน 2 รุ่น ๆ ละ 100 คน รุ่นที่ 1 ระหว่างวันที่ 3 - 4 เมษายน 2566 และรุ่นที่ 2 ระหว่างวันที่ 10 - 11 เมษายน 2566 ด้วยรูปแบบออนไลน์ ให้แก่โรงเรียนศูนย์แกนนำขยายเครือข่ายโครงการนักธุรกิจน้อยมีคุณธรรม นำสู่เศรษฐกิจสร้างสรรค์ และโรงเรียนในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ได้รับ การคัดเลือก โดยมี ดร.นิติ นาชิต ที่ปรึกษาดานมาตรฐานอาชีวศึกษาธุรกิจและบริการ ส ้ ำนักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษา เป็นผู้บรรยายให้ทราบถึงแนวนโยบายในการพัฒนาทักษะการเป็นผู้ประกอบการแก่ผู้เรียน และสร้างผู้เรียนสู่ผู้ประกอบการยุคใหม่ ภายใต้ การบูรณาการร่วมกันระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องของ ศูนย์ EEC ในระดับพื้นที่ นอกจากนี้ ยังได้รับเกียรติจาก วิทยากรของสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) เพื่อพัฒนาครู ให้มีความรู้ ความเข้าใจ สามารถบ่มเพาะนักเรียนระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้มีความรู้เกี่ยวกับการเขียนแผน ธุรกิจ โดยบูรณาการเขากับความรู ้ความเข้ าใจทางด ้ าน STEAM และสามารถบ ้ มเพาะนักเรียนระดับการศึกษา ่ ขั้นพื้นฐานให้มีประสบการณ์ด้านอาชีพ ในการดำเนินธุรกิจและเป็นผู้ประกอบการที่มีคุณธรรม ส่งเสริมการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานเพื่อพัฒนาทักษะอาชีพในศตวรรษที่ 21 โดยจัดสรร งบประมาณสนับสนุนการขับเคลื่อนโครงการ/กิจกรรมของโรงเรียนที่บูรณาการการจัดการเรียนรูเพื่อพัฒนา ้ ทักษะอาชีพให้กับนักเรียนระดับมัธยมศึกษาในโครงการห้องเรียนอาชีพ และพัฒนาเป็นแหล่งเรียนรู้


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 74 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ ด้านอาชีพ รวมถึงมีการตรวจเยี่ยมการจัดกิจกรรมของโรงเรียนโขงเจียมวิทยาคม จังหวัดอุบลราชธานี โรงเรียนการทำมาหากินวัดโพธิ์เฉลิมรักษ์ (อนุสรณ์วันเด็กแห่งชาติปี พ.ศ. 2537) โรงเรียนสุนทโรเมตตา ประชาสรรค์ และโรงเรียนมัธยมสังคีตวิทยา เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาในการพัฒนาทักษะอาชีพ ในศตวรรษที่ 21 และนอกจากนี้ มีการส่งเสริมการจัดการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ในโรงเรียนมัธยมศึกษา สังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โครงการห้องเรียนกีฬา เพื่อส่งเสริม สนับสนุนให้นักเรียนที่มีความสามารถพิเศษด้านกีฬาได้รับ การพัฒนาศักยภาพใหมีความรู ้ ความสามารถ สมรรถนะทางกาย และทักษะกีฬา ให ้ส้ ำเร็จการศึกษาและศึกษา ต่อในระดับที่สูงขึ้น หรือสามารถประกอบอาชีพที่เกี่ยวกับกีฬา โดยการสนับสนุนงบประมาณให้โรงเรียน ที่ร่วมโครงการจัดการแข่งขันกีฬา เสริมสร้างประสบการณ์ด้านกีฬาในระดับประเทศ ซึ่งมีนักเรียนที่เข้ารับ การคัดกรองผูมีความสามารถพิเศษตามพหุปัญญา ด ้ านกีฬา ในชนิดกีฬาฟุตบอล (ชายและหญิง) วอลเลย์บอล ้ (หญิง) และบาสเกตบอล (หญิง) ปีการศึกษา 2566 มีจำนวน 1,252 คน ซึ่งเพิ่มขึ้นร้อยละ 6.73 เมื่อเทียบกับ ปีที่ผ่านมา (จำนวน 1,173 คน) โดยมีตัวอย่างการจัดการแข่งขันกีฬา ดังนี้ การแข่งขันกีฬานักเรียน นักศึกษาแห่งชาติ ครั้งที่ 42 ประจำปี 2566 การแข่งขันกีฬาโรงเรียนกีฬาแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 24 “นครลำปางเกมส์” การแข่งขันกีฬาวอลเลย์บอลเยาวชน PEA ชิงชนะเลิศแห่งประเทศไทย ครั้งที่ 19 การแข่งขันกีฬาแห่งชาติ ครั้งที่ 48 “กาญจนบุรีเกมส์” จังหวัดกาญจนบุรี การแข่งขันฟุตบอล “THAILAND PRIME MINISTER CUP 2023” ฯลฯ พัฒนานักเรียนผู้มีความสามารถพิเศษด้านทัศนศิลป์ ด้านดนตรี และด้านนาฏศิลป์ โดยจัดสรร งบประมาณใหแก้ โรงเรียนในโครงการห ่ องเรียนดนตรี จ ้ ำนวน 19 โรงเรียน เพื่อเปนค็ าใช่จ้ายในการจัดกิจกรรม ่ แสดงศักยภาพของนักเรียนภายใต้โครงการห้องเรียนดนตรี ส่งผลให้นักเรียนได้รับการพัฒนาความรู้และ ทักษะตามมาตรฐานวิชาชีพและมาตรฐานสากล สามารถเข้าศึกษาต่อในระดับการศึกษาที่สูงขึ้น และมี แนวทางในการประกอบอาชีพในอนาคต ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ในปีการศึกษา 2565 พบว่า ผู้เรียนที่เข้าร่วม โครงการทั้งหมด จำนวน 2,818 คน ได้รับการพัฒนาด้านดนตรี กีฬา ผ่านโครงการห้องเรียนกีฬา ห้องเรียน ดนตรี คิดเป็นร้อยละ 100 การตรวจเยี่ยมการจัดกิจกรรมโครงการอาชีพ วันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2566 ณ โรงเรียนโขงเจียมวิทยาคม จังหวัดอุบลราชธานี


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 75 ด้านคุณภาพ การแข่งขันงานศิลปหัตถกรรมนักเรียนระดับชาติ ครั้งที่ 70 ผ่านกิจกรรมพัฒนาผู้เรียน การให้ความรู้ด้านประวัติศาสตร์ของแต่ละ ภูมิภาค และการสงเสริม Soft Power ในบริบทของแต ่ละท่ องถิ่นใน 4 ภูมิภาค ้ ซึ่งได้กำหนดจัดงานในเดือนมกราคม ถึง เดือนกุมภาพันธ์ 2566 และ ได้มอบหมายให้สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและจังหวัดที่มีความพร้อม เป็นเจ้าภาพในการจัดการแข่งขัน ได้แก่ ภาคใต้ จังหวัดสตูล ระหว่างวันที่ 18 - 20 มกราคม 2566 ภาคกลาง และภาคตะวันออก จังหวัดราชบุรี ระหว่างวันที่ 25 - 27 มกราคม 2566 ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จังหวัดร้อยเอ็ด ระหว่างวันที่ 29 - 31 มกราคม 2566 และภาคเหนือ จังหวัดน่าน ระหว่างวันที่ 3 – 5 กุมภาพันธ์ 2566 การส่งเสริมสนับสนุนวิชาชีพครู บุคลากรทางการศึกษา และบุคลากรสังกัดกระทรวง ศึกษาธิการ สำนักพัฒนาระบบบริหารงานบุคคลและนิติการ ศูนย์บริหารงานการพัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อ ความเปนเลิศ และส ็ ำนักอำนวยการ ดำเนินการสงเสริมสนับสนุนวิชาชีพครูและบุคลากรทางการศึกษาในสังกัด ่ ทั้งส่วนกลางและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาเพื่อรองรับและขับเคลื่อนการส่งเสริมสนับสนุนวิชาชีพครู และบุคลากรทางการศึกษา ใน 3 ประเด็น ดังนี้ 1. การสงเสริมสนับสนุนการด ่ ำเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะแนวใหม (หลักเกณฑ์ PA) ่ 2. การพัฒนาสมรรถนะของครูและบุคลากรทางการศึกษาทางด้านเทคโนโลยีดิจิทัลและสมรรถนะ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New Normal 3. การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ การส่งเสริมสนับสนุนการดำเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ (หลักเกณฑ์ PA) จากการที่สำนักงานคณะกรรมการข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา (ก.ค.ศ.) ได้มีมติกำหนด หลักเกณฑ์และวิธีการประเมินตำแหนงและวิทยฐานะข ่ าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาใหม ้ ประกอบด ่วย้ ว9/2564 สำหรับสายงานสอน ว10/2564 สำหรับสายงานบริหารสถานศึกษา และ ว11/2564 สำหรับ สายงานศึกษานิเทศก์ และ ว12/2564 สำหรับสายงานบริหารการศึกษา มีการนำการประเมินผล


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 76 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ การปฏิบัติงาน (Performance Agreement : PA) มาใชเป้นส็ วนหนึ่งในการประเมิน ท ่ ำใหรูปแบบการประเมิน ้ เปลี่ยนแปลงไปจากเดิม และเป็นเรื่องสำคัญที่ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา มีความตื่นตัว และตองท้ ำความเขาใจในเรื่องนี้ ส ้ ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จึงดำเนินโครงการเพื่อสงเสริม ่ ให้ครูมีความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินการตามหลักเกณฑ์การประเมินวิทยฐานะแนวใหม่ ดังนี้ จัดตั้ง PA Support Team โดยการพัฒนา กลุ่มผู้นำองค์ความรู้สู่การเปลี่ยนแปลงด้าน การบริหารงานบุคคลของขาราชการครูและบุคลากร้ ทางการศึกษาด้วยวิทยากรจากสำนักงาน ก.ค.ศ. ดำเนินการอบรมให้กับบุคลากรครอบคลุมทั้ง 245 เขต ๆ ละ 1 ทีม ประกอบด้วย ผู้อำนวยการและ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล เจ้าหน้าที่ ผูรับผิดชอบงานวิทยฐานะ ศึกษานิเทศก์ ผู ้อ้ ำนวยการ สถานศึกษา และข้าราชการครู รวมทั้งหมด จำนวน 2,471 คน เพื่อเปนแกนน็ ำในการสื่อสารและการถายทอด่ องค์ความรูเกี่ยวกับหลักเกณฑ์และวิธีการที่เกี่ยวข ้ องกับการบริหารงานบุคคลของข ้าราชการครูและบุคลากร้ ทางการศึกษาตามหลักเกณฑ์ PA รวมถึงสื่อสารให้สาธารณชนทั่วไปได้รับทราบหลักเกณฑ์ PA ที่ถูกต้อง พัฒนาศูนย์ HCEC ให้เป็นฐานในการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพในศตวรรษที่ 21 โดยการจัดสรร งบประมาณให้ศูนย์พัฒนาศักยภาพบุคคล เพื่อความเป็นเลิศ (Human Capital Excellence Center : HCEC) จำนวน 185 ศูนย์ ที่ตั้งกระจายอยู่ทั้ง 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคกลาง และภาคใต้ รวมทั้งมีการพัฒนาประธานศูนย์ และเจ้าหน้าที่ศูนย์ในการจัดทำแผนการดำเนินงาน และการใช้งบประมาณของศูยน์ HCEC ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 จำนวน 550 คน เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจในการดำเนินการเตรียมความพร้อมในการพัฒนาสมรรถนะครูและบุคลากรทางการศึกษา รวมทั้งยังมีการศึกษาวิเคราะห์ขอมูลการด้ ำเนินงานที่ผานมาเพื่อส ่ งเสริมจุดเด ่ น ปรับปรุงจุดที่ยังเป ่ นปัญหา ็ เพื่อสร้างความพร้อมให้สามารถดำเนินการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้ได้รับการพัฒนา ตามสมรรถนะวิชาชีพและสมรรถนะในศตวรรษที่ 21 เพื่อรองรับการพัฒนางานตามหลักเกณฑ์การประเมิน วิทยฐานะแนวใหม่ (หลักเกณฑ์ PA) และเป็นฐานในการพัฒนาทักษะความรู้ด้านอื่น ๆ หลักเกณฑ์ PA ของข้าราชการครู คืออะไร “ข้อตกลง ในการพัฒนางาน” หมายถึง ข้อตกลงที่ข้าราชการ ครูได้เสนอต่อผู้อำนวยการสถานศึกษา เพื่อแสดง เจตจำนงว่าภายในรอบการประเมินจะพัฒนาผลลัพธ์ การเรียนรู้ของผู้เรียน เพื่อให้ผู้เรียนมีความรู้ ทักษะ คุณลักษณะประจำวิชา คุณลักษณะอันพึงประสงค์ และ สมรรถนะที่สำคัญตามหลักสูตรให้สูงขึ้น โดยสะท้อนให้ เห็นถึงระดับการปฏิบัติที่คาดหวังของตำแหน่งและ วิทยฐานะที่ดำรงอยู่ และสอดคล้องกับเป้าหมายและ บริบทของสถานศึกษา นโยบายของส่วนราชการและ กระทรวงศึกษาธิการโดยผูอ้ำนวยการสถานศึกษาไดเห็นชอบ ้ ให้เป็นข้อตกลงในการพัฒนางาน


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 77 ด้านคุณภาพ การพัฒนาสมรรถนะของครูและบุคลากรทางการศึกษาทางดานเทคโนโลยีดิจิทัลและสมรรถนะ ้ ที่สอดคล้องกับวิถีชีวิตแบบ New Normal จากมติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 กันยายน 2560 ได้เห็นชอบในหลักการ เรื่อง แนวทางการพัฒนา ทักษะด้านดิจิทัลของข้าราชการและบุคลากรภาครัฐเพื่อการปรับเปลี่ยนเป็นรัฐบาลดิจิทัล ของสำนักงาน คณะกรรมการขาราชการพลเรือน ซึ่งได ้ก้ ำหนดทักษะดานดิจิทัลของข ้ าราชการและบุคลากรภาครัฐ เพื่อให ้ ้ ทุกสวนราชการ หน่ วยงานของรัฐ องค์กรกลางบริหารงานบุคคลและหน ่ วยงานที่เกี่ยวข ่ อง ได ้ ใช้ เป้นกรอบแนวทาง็ ในการพัฒนาขาราชการบุคลากรภาครัฐ ส ้ ำนักงาน ก.ค.ศ. จึงไดก้ำหนดกรอบแนวทางการพัฒนาทักษะดานดิจิทัล ้ สำหรับข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา เพื่อให้ได้รับการพัฒนาทักษะด้านดิจิทัล และพร้อมใน การขับเคลื่อนการพัฒนาประเทศต่อไป ซึ่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้กำหนดกรอบ มาตรฐานสมรรถนะดิจิทัล (Digital Competency : DC) สำหรับครูและบุคลากรทางการศึกษา ระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน เป็น 3 ระดับ 7 ขั้น ได้แก่สมรรถนะดิจิทัลระดับพื้นฐาน (Basic Digital Competency) มี 3 ขั้น คือ DC1 - DC3 สมรรถนะดิจิทัลระดับกลาง (Intermediate Digital Competency) มี 2 ขั้น คือ DC4 - DC5 และสมรรถนะดิจิทัลระดับสูง (Advanced Digital Competency) มี 2 ขั้น คือ DC6 - DC7 โดยได้ดำเนินการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลระดับพื้นฐาน (DC1 - DC3) ให้กับข้าราชการครูและบุคลากร ทางการศึกษาในปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ไปแล้ว จำนวน 5,006 คน และในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ได้มีการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาในหลายหลักสูตรเพิ่มอีก จำนวน 91,900 คน โดยดำเนินการ ดังนี้ ผลิตเนื้อหาประกอบการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลระดับกลาง (Intermediate Digital Competency: DC4 - DC5) และสมรรถนะดิจิทัลระดับสูง (Advanced Digital Competency: DC6 - DC7) เพื่อเป็นสื่อในการพัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะดิจิทัลและสามารถประยุกต์ใช้ใน การจัดการเรียนรู้และการปฏิบัติงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยสื่อประกอบการพัฒนาจะได้รับการตรวจ สอบคุณภาพและรับรองจากผูเชี่ยวชาญด ้ านการพัฒนาสมรรถนะดิจิทัล และมีเนื้อหาในการพัฒนาสมรรถนะ ้ ดิจิทัล ทั้งหมดไม่น้อยกว่า 20 ชั่วโมง


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 78 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ พัฒนาครูและบุคลากรทางการศึกษาให้มีสมรรถนะดิจิทัลร่วมกับหน่วยงานอื่น ดังนี้ 1. จัดอบรมเชิงปฏิบัติการเพื่อพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลสำหรับครูผูสอนและครูแกนน้ ำอยางสร่ างสรรค์ ้ ด้วย iPad เป็นความร่วมมือระหว่างศูนย์บริหารงานการพัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ มูลนิธิครูดี ของแผ่นดิน และบริษัท เอส พี วี ไอ จำกัด (มหาชน) กลุ่มเป้าหมายคือครูในโรงเรียนขนาดกลางขึ้นไป วัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เข้ารับการอบรมมีสมรรถนะดิจิทัล สามารถพัฒนาองค์ความรู้ในด้านเนื้อหาผนวก วิธีการสอนและเทคโนโลยี (TPACK) และสามารถเป็น Apple Teacher ดำเนินการจัดอบรมหลักสูตรระดับ 1 ขั้นพื้นฐาน : การใช้งาน iPad สำหรับ Apple Teacher ในรูปแบบออนไลน์ จำนวน 5 รุ่น ระหว่างวันที่ 5 พฤศจิกายน ถึง 3 ธันวาคม 2565 มีครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ารับการอบรม จำนวนทั้งสิ้น 797 คน ส่งผลให้ผู้เข้ารับการอบรมมีความรู้ในด้านเนื้อหาผนวกวิธีการสอนและเทคโนโลยี เพื่อการจัดการเรียนรู้ อยางสร่ างสรรค์ มีความเข ้ าใจ สามารถน ้ ำอุปกรณ์ iPad ไปใชในการจัดการเรียนรู ้ ให้ กับนักเรียนได ้อย้ างมีคุณภาพ ่ และดำเนินการจัดอบรมหลักสูตรระดับ 2 ขั้นบูรณาการ : การสร้างดิจิทัลพอร์ตฟอริโอ Apple Teacher Portfolio ในรูปแบบออนไลน์ จำนวน 2 รุ่น ระหว่างวันที่ 19 - 28 เมษายน 2566 มีครูและบุคลากรทางการศึกษา เข้ารับการอบรม จำนวนทั้งสิ้น 700 คน ผลการดำเนินงาน พบว่า ผู้เข้ารับอบรมสามารถออกแบบและเลือกใช้ เทคโนโลยีมาบูรณาการในบทเรียนไดอย้างสร่ างสรรค์และทันสมัย สามารถแบ ้ งปัน ่ ความรูให้ ครูภายในโรงเรียนได ้ ส้ งผลให ่ นักเรียนมีทักษะการใช ้ งาน iPad ที่ส ้ งเสริม ่ ต่อการเรียนรู้ของนักเรียนได้อย่างมีคุณภาพ 2. ศูนย์บริหารงานการพัฒนาศักยภาพบุคคลเพื่อความเป็นเลิศ ร่วมกับ บริษัท Inknoe Singapore จัดอบรมการสร้างกิจกรรม Active Learning บน PowerPoint ด้วย ClassPoint 2 พร้อมเคล็ดลับการสร้างสื่อในเวลาจำกัดให้กับครูและบุคลากร ในสถานศึกษา ด้วยรูปแบบออนไลน์ จำนวน 5 รุ่น ระหว่างวันที่ 20 เมษายน ถึง 2 พฤษภาคม 2566 ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้ารับการอบรม จำนวนทั้งสิ้น 2,042 คน มีความรู้ ความสามารถ


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 79 ด้านคุณภาพ ในการจัดการเรียนรูแบบ Active Learning สามารถผลิตสื่อได ้ง้ายในะยะเวลาอันสั้นและน ่ ำสื่อไปใชในการจัด ้ การเรียนการสอนให้แก่นักเรียนได้อย่างมีคุณภาพ และมีประสิทธิภาพสูงสุด และขยายผลการอบรม โดยศูนย์ HCEC เพิ่มอีกจำนวน 14,299 คน 3. ดำเนินโครงการ Country Programme ระยะที่ 2 ร่วมกับ OECD, UNICEF และสำนักงานปลัด กระทรวงศึกษาธิการ ในการพัฒนาความสามารถดานการออกแบบบทเรียนด ้ วย Digital Platform เพื่อสร ้าง้ วัฒนธรรมการเรียนรู้อย่างมืออาชีพ (Developing Modern Teachers) ให้ครูและบุคลากรทางการศึกษา สามารถนำไปจัดการเรียนรูให้แก้ นักเรียน และส ่ งเสริมนักเรียนให ่ มีความคิดสร ้ างสรรค์ ซึ่งจัดอบรมเชิงปฏิบัติการ ้ พัฒนาครูแกนนำรุ่นใหม่ (Modern Teachers) ใน 5 ภูมิภาค ผ่านศูนย์ HCEC รวมทั้งสิ้นจำนวน 740 คน เพื่อใหครูแกนน้ ำรุนใหม ่ เป่ นปัจจัยหลักในการพัฒนา และเตรียมความพร ็ อมให ้แก้ นักเรียน เพื่อตอบสนองต ่อ่ ความต้องการในศตวรรษที่ 21 พัฒนาทักษะด้านเทคโนโลยีดิจิทัลให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษา ด้วยศูนย์ HCEC ในด้านอื่น ๆ จำนวน 21,931 คน ประกอบด้วย นอกจากนี้ยังมีการพัฒนาครูและบุคลากรผ่านเว็บไซต์ learning-obec จำนวน 51,383 คน แบ่งออกเป็น 11 หลักสูตร ดังนี้ 1. กฎหมายดิจิทัล (Digital Law) และคุณธรรม จริยธรรม วิถีปฏิบัติ และมารยาทในสังคมดิจิทัล (Digital Etiquette) จำนวน 6,752 คน 2. การบำรุงรักษาอุปกรณ์เครื่องมือดิจิทัลพื้นฐาน (Basic maintenance of digital equipment) จำนวน 6,752 คน 3. การใช้เทคโนโลยีดิจิทัลพื้นฐาน (Using Digital Technology) เพื่อสนับสนุนกระบวนการทำงาน จำนวน 6,752 คน


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 80 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ 4. การใช้ และบำรุงรักษาอุปกรณ์ดิจิทัล จำนวน 6,752 คน 5. การรู้เท่าทันสื่อและสารสนเทศ (Media and Information Literacy) จำนวน 6,752 คน 6. การเชื่อมโยงข้อมูลข่าวสารในการสนับสนุนกระบวนการทำงานด้วยดิจิทัล จำนวน 6,752 คน 7. การใช้งานดิจิทัลอย่างมั่นคงปลอดภัย (Digital safety) จำนวน 6,752 คน 8. การใช้งานโปรแกรมเบื้องต้นในสำนักงานและแอปพลิเคชันพื้นฐาน จำนวน 1,521 คน 9. การบำรุงรักษาอุปกรณ์ฮาร์ดแวร์ และซอร์ฟแวร์เบื้องต้น จำนวน 1,521 คน 10. การพัฒนาสมรรถนะดิจิทัลด้านการเป็นพลเมืองดิจิทัล จำนวน 991 คน 11. การพัฒนาบุคลากรสวนกลางในการสร ่ างสื่อการปฏิบัติงานด ้ วย Digital Platform จ ้ ำนวน 86 คน การแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาหนี้สินของข้าราชการ ครูและบุคลากรทางการศึกษา ซึ่งเปนปัญหาที่ต ็องด้ ำเนินการอยางเร่งด่ วนโดยมีหลักการส ่ ำคัญ คือ คลายทุกข์ เสริมสุข อย่างยั่งยืน และมีแนวทางแก้ไขอย่างเป็นระบบโดยอาศัยความร่วมมือจากทั้งหน่วยงานภายใน และภายนอก รวมทั้งบุคลากรของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานที่เกี่ยวข้องทั้งหมด กำหนด ใหมีสถานีแก ้ หนี้ระดับเขตพื้นที่การศึกษา ประกอบด ้วย ผู้อ้ ำนวยการสำนักงานเขตพื้นการศึกษา เปนประธาน ็ รองผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นรองประธาน ผู้อำนวยการกลุ่มบริหารงานบุคคล ผู้อำนวยการ กลุ่มบริหารงานการเงินและสินทรัพย์ ผู้อำนวยการกลุ่มกฎหมายและคดี ผู้อำนวยการโรงเรียน ครู บุคลากร ทางการศึกษา เป็นกรรมการ และผู้อำนวยการกลุ่มอำนวยการ เป็นกรรมการและเลขานุการ เพื่อเป็น การพัฒนาคุณภาพชีวิตของขาราชการครูและบุคลากรทางการศึกษาให ้ มั่นคง ยั่งยืน สามารถด ้ ำรงตนไดอย้าง่ มีศักดิ์ศรี มีคุณภาพชีวิตที่ดีตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งเริ่มดำเนินการในสำนักงานเขตพื้นที่ การศึกษานำร่อง ควบคู่ไปกับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั่วไป ดังนี้ จัดทำฐานข้อมูลหนี้สินข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการบำนาญ และ จัดหมวดหมู่ของปัญหาหนี้สินอย่างเป็นระบบ รับลงทะเบียนแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา กำหนดแนวทางการแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา ร่วมกันระหว่างสหกรณ์ ออมทรัพย์ครู ส่วนราชการและสถาบันการเงิน ในเขตพื้นที่การศึกษาและหน่วยงานระดับจังหวัด จัดให้มีกระบวนการตรวจสอบเงินเดือนคงเหลือสุทธิ ให้เป็นไปตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ วาด่ วยการหักเงินเดือนเงินบ ้ ำเหน็จบำนาญขาราชการเพื่อช ้ ำระหนี้เงินกูให้แก้ สวัสดิการในส ่วนราชการและ่ สหกรณ์ พ.ศ. 2551 ควบคุมการรับรองเงินเดือน การหักเงิน ณ ที่จ่าย การรับรองการให้กู้ การควบคุมยอดหนี้รวม ของครูไว้ในจุดเดียวที่หน่วยเบิกต้นสังกัด จัดกิจกรรมการเรียนรู้ด้านการวางแผนทางการเงิน การลงทุน และการดำเนินชีวิตตามหลัก ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงตามความเหมาะสม


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 81 ด้านคุณภาพ ให้คำปรึกษาปัญหาทางการเงิน เป็นตัวกลางเจรจา ไกล่เกลี่ยระหว่างเจ้าหนี้กับข้าราชการครู และบุคลากรทางการศึกษา ข้าราชการบำนาญ รายที่มีปัญหา ประสานความร่วมมือจากสถาบันการเงิน ส่วนราชการ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อสนับสนุน และช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สินครูและบุคลากรทางการศึกษา นอกจากนี้ ยังมีมาตรการอื่นตามความเหมาะสม เชน สถานีแก ่ หนี้จัดตั้งทีมเคลื่อนที่เร็วในการช ้ วยเหลือ ่ ข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา และมาตรการรับรองเงินเดือน การสรางวินัยทางการเงินของข ้ าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ้ โดยแบงเป่ น 3 กลุ ็ ม ดังนี้ ่ 1. พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มครูผู้ช่วย และบุคลากรทางการศึกษา ที่บรรจุใหม่ไม่เกิน 2 ปี เพื่อให้มีความรู้ทางด้านการเงิน การคลัง การออม และการสร้างวินัยทางการเงิน 2. พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษากลุ่ม คศ.1 ขึ้นไป และบุคลากรทางการศึกษา ที่บรรจุเกิน 2 ปี เพื่อให้มีความรู้ทางด้านการเงิน การคลัง การออม การสร้างวินัย การวางแผน การใชจ้ายเงิน การจัดการหนี้ และการเรียนรู ่ ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให ้ มีภูมิคุ ้ มกัน ้ ทางการเงิน 3. พัฒนาข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา กลุ่มอายุตั้งแต่ 50 ปีขึ้นไป เพื่อให้มีความรู้ ทางด้านการเงิน การคลัง การออม การสร้างวินัย การวางแผนการใช้จ่ายเงิน การจัดการหนี้ และ การเรียนรูตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเพื่อให ้ มีภูมิคุ ้ มกันทางการเงิน ตลอดจนได ้ รับความรู ้ ้ เรื่องการลงทุน ร่วมกับสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการจัดมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย 4 ภูมิภาค (5 จังหวัด) โดยจัด 5 กิจกรรมเพื่อแก้ไขปัญหาหนี้สินให้กับครูและบุคลากรทางการศึกษาเข้าร่วม


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 82 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านคุณภาพ ผลจากมหกรรมการเงินเพื่อครูไทย 4 ภูมิภาค ทำให้ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับแก้ปัญหา หนี้สิน ดังนี้ 4 ได้รับการไกล่เกลี่ยแก้ปัญหาการถูกฟ้องร้องดำเนินคดี จำนวน 20,000 คน 4 ได้รับการปรับโครงสร้างหนี้ให้มีเงินเดือนเหลือสุทธิไม่น้อยกว่าร้อยละ 30 4 ได้รับคำปรึกษาแก้ปัญหาหนี้อย่างถูกวิธี 4 ได้รับความรู้เรื่องการวางแผนทางการเงินและการบริหารจัดการหนี้สิน จำนวนกว่า 30,000 คน 4 ได้รับสิทธิพิเศษสวัสดิการเงินกู้อัตราดอกเบี้ยต่ำเพื่อที่อยู่อาศัยจากสถาบันทางการเงินที่ให้ ความร่วมมือ ผลจากการดำเนินการยกระดับคุณภาพการศึกษาในภาพรวม ผ่านโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ ข้างต้น สงผลให ่ผู้เรียนได ้ รับการส ้ งเสริมทักษะทางวิชาการ ได ่แก้ ด่ านคณิตศาสตร์ วิทยาศาสตร์ การอ ้ านเขียนภาษาไทย ่ การแกไขภาวะถดถอยทางการเรียนรู ้ ทักษะทางภาษาและเทคโนโลยีดิจิทัล ได ้แก้ ภาษาอังกฤษ คอมพิวเตอร์ ่ โปรแกรมต่าง ๆ ทักษะอาชีพ ได้แก่ ห้องเรียนอาชีพ หลักสูตรทวิศึกษา การส่งเสริมการเป็นผู้ประกอบการ ยุคใหม่ เสริมทักษะและความสามารถทางพหุปัญญา ได้แก่ การส่งเสริม สนับสนุนความสามารถพิเศษ ดานดนตรี กีฬา ศิลปะ เข ้าร้ วมการประกวดแข ่ งขันต ่ าง ๆ ได ่ รับรางวัลทั้งในประเทศและต ้ างประเทศ ผู ่ เรียน ้ ระดับปฐมวัยได้รับการพัฒนาอย่างสมวัย นำไปสู่สมรรถนะและทักษะที่จำเป็นในศตวรรษที่ 21 ครูและบุคลากรทางการศึกษาได้รับการพัฒนาสมรรถนะด้านต่าง ๆ ได้แก่ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ฐานสมรรถนะ การวัดและประเมินผลทักษะทางภาษาและเทคโนโลยีดิจิทัล และหลักเกณฑ์และวิธีการประเมินวิทยฐานะ แนวใหม่ ว. PA ส่งผลให้มีความรู้ความเข้าใจสามารถจัดการเรียนรู้เชิงรุก มีองค์ความรู้เกี่ยวกับการวัดและ ประเมินผลเพื่อพัฒนาผูเรียน (Assessment for Learning) การบริหารงานบุคคลของข ้าราชการครูและบุคลากร้ ทางการศึกษาตามหลักเกณฑ์ PA สามารถประยุกต์ใชเทคโนโลยีดิจิทัลในการจัดการเรียนรู ้ และการปฏิบัติงาน ้ ไดอย้ างมีประสิทธิภาพ รวมทั้งได ่ รับการส ้ งเสริม สนับสนุนในการเข ่าร้ วมโครงการศึกษาดูงานทั้งในประเทศ ่ และต่างประเทศ และได้รับการดูแลช่วยเหลือแก้ไขปัญหาหนี้สิน สถานศึกษาได้รับการส่งเสริมและพัฒนาตามระบบการประกันคุณภาพภายในสถานศึกษา มีต้นแบบ สถานศึกษาและนวัตกรรมประเภทต่าง ๆ ที่มีคุณภาพและมาตรฐานพร้อมรับการประเมิน รวมทั้งจัดสรร งบประมาณใหโรงเรียนคุณภาพเพื่อเป ้นค็ าใช่จ้ายในการจ ่ างครู มีการใช ้ ทรัพยากรร ้ วมกันได ่ส้ ำเร็จตามเป้าหมาย มีผลงาน รูปแบบ นวัตกรรมด้านการบริหารจัดการโรงเรียนคุณภาพ


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 83 ด้านประสิทธิภาพ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ตระหนักและเห็นถึงความสำคัญของการนำเทคโนโลยี มาใชในการจัดการศึกษา โดยด ้ ำเนินการพัฒนาระบบสารสนเทศทางการศึกษาตาง ๆ ทั้งในด ่ านการบริหารจัดการ ้ และการจัดการเรียนการสอน รวมถึงการส่งเสริมบทบาทการมีส่วนร่วมของภาครัฐ ภาคเอกชน องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น ครอบครัวและชุมชนในการจัดการศึกษา ทั้งในรูปแบบของการระดมทุน ทรัพยากร หรือการร่วมคิด ร่วมทำ เพื่อลดความเหลื่อมล้ำและตอบสนองความต้องการของพื้นที่ โดยดำเนินโครงการ กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อรองรับและขับเคลื่อนในการพัฒนาระบบราชการและการบริการภาครัฐยุคดิจิทัล ใน 2 ประเด็น ได้แก่ 1. การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการและการให้บริการ 2. การทำงานแบบบูรณาการ การมีส่วนร่วมกับชุมชน หน่วยงาน องค์กรอื่น ๆ ทั้งในพื้นที่และหน่วยงาน อื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยมีรายละเอียด ดังนี้ การนำเทคโนโลยีมาใช้ในการบริหารจัดการและการให้บริการ สำนักเทคโนโลยีเพื่อการเรียนการสอน สำนักนโยบายและแผนการศึกษาขั้นพื้นฐาน สำนักทดสอบ ทางการศึกษา สำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน และสำนักพัฒนาระบบบริหารงาน บุคคลและนิติการ มีการขับเคลื่อนการนำเทคโนโลยีมาใชในการบริหารจัดการและการให ้ บริการ เพื่อรองรับ ้ และขับเคลื่อนการยกระดับประสิทธิภาพการศึกษา ดังนี้ จัดประชุมพัฒนาเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพระบบสำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ (Smart OBEC) และการเพิ่มศักยภาพความรู้ให้กับผู้ปฏิบัติงานเกี่ยวกับพระราชบัญญัติการปฏิบัติราชการอิเล็กทรอนิกส์ พระราชบัญญัติคุมครองข้อมูลส้ วนบุคคลและรับทราบข ่ อมูลปัญหาการใช ้งานระบบส้ ำนักงานอิเล็กทรอนิกส์ (Smart OBEC) โดยกลุ่มเป้าหมาย คือ บุคลากรสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ส่วนกลาง) รวม 60 คน ระหว่างวันที่ 2 – 5 เมษายน 2566 ศึกษาดูงาน ณ สำนักงาน Google ประเทศไทย เพื่อรับฟังการบรรยายเกี่ยวกับ Google for Education รวมถึงแนะนำ Chromebook และระบบปฏิบัติการ ChromeOS Flex ที่สามารถ ใช้กับเครื่องคอมพิวเตอร์ที่มีสภาพเก่าแต่ยังใช้งานได้อยู่ ทำให้เครื่อง คอมพิวเตอร์เกาสามารถปฏิบัติการได ่ ดี อีกทั้งยังเป ้ นระบบที่ออกแบบ ็ “น้อมน�ำหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง ใช้ธรรมาภิบาลบนฐานข้อมูลที่ถูกต้องและเป็นปัจจุบัน” ด้ านประสิทธิภาพ


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 84 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านประสิทธิภาพ สำหรับเทคโนโลยีสมัยใหม่ที่มุ่งเน้นการทำงานบนระบบเครือข่ายอินเทอร์เน็ต ทั้งนี้ Google ได้นำระบบ ปฏิบัติการ ChromeOS Flex ติดตั้งในพื้นที่นำร่อง จำนวน 100 โรงเรียน ประมาณ 1,000 เครื่อง และมีเป้าหมายในการขยายการติดตั้งอีก 500 โรงเรียน ให้แล้วเสร็จในปีงบประมาณนี้ พัฒนาบุคลากรด้านระบบสารสนเทศเพื่อการบริหาร ปการศึกษา 2566 จ ี ำนวน 2 รุน เพื่อพัฒนาบุคลากรของส ่ ำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาให้มีความรู้ ความเข้าใจในระบบสารสนเทศ เพื่อการบริหารการศึกษา ซึ่งสามารถนำไปใชประโยชน์ต ้ อการจัดท ่ ำ ข้อมูลสารสนเทศและพัฒนาระบบสารสนเทศให้มีประสิทธิภาพ มากขึ้น โดยจัดประชุมในช่วงเดือนพฤษภาคม 2566 ณ โรงแรม เอวาน่า แกรนด์ แอนด์ คอนเวนชั่น เซนเตอร์ กรุงเทพมหานคร พัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคล (HRMS.OBEC) ซึ่งเปนระบบที่จัดเก็บข ็ อมูลอัตราก ้ ำลังและ ประวัติบุคลากรทุกประเภท ทุกตำแหนงในสังกัด โดยได ่ด้ ำเนินการปรับปรุงพัฒนาระบบ HRMS.OBEC ในระดับ สถานศึกษา และจัดทำระบบรายงานขอมูลสารสนเทศเพื่อการบริหารทรัพยากรบุคคลในระบบ HRMS.OBEC ้ รวมถึงพัฒนาศักยภาพคณะทำงานให้มีความรู้ความสามารถและทักษะการใช้งานซอฟต์แวร์ Crystal Report และ LINE LIFF (LINE Front-End Frame) และมอบโล่เพื่อยกย่องเชิดชูเกียรติให้แก่ผู้ทำ คุณประโยชน์ต่อสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ซึ่งประกอบด้วย คณะทำงานพัฒนาระบบ HRMS.OBEC และคณะทำงานผู้ให้การสนับสนุนการพัฒนาระบบ HRMS.OBEC โดยจัดประชุมระหว่างวันที่ 29 พฤษภาคม ถึง 2 มิถุนายน 2566 ณ โรงแรมเดอะล็อฟท์ รีสอร์ท กรุงเทพมหานคร ทำให้ระบบ HRMS.OBEC มีข้อมูลที่เป็นปัจจุบัน นำไปสู่การจัดทำข้อมูลอัตรากำลังครู ข้อมูลของผู้เกษียณอายุราชการ ขอมูลความต้ องการครูตามมาตรฐานวิชาเอกในสถานศึกษา และรองรับการเชื่อมโยงข ้ อมูลกับส ้ ำนัก หนวย ศูนย์ ่ ในสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องได้ใช้ประโยชน์ร่วมกันต่อไป การประชุมเชิงปฏิบัติการคณะทำงานพัฒนาระบบบริหารทรัพยากรบุคคล (HRMS.OBEC)


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 85 ด้านประสิทธิภาพ พัฒนาระบบข้อมูลสารสนเทศด้านการจบ การศึกษาและการเทียบวุฒิการศึกษาระดับ การศึกษาขั้นพื้นฐาน เพื่อการส่งเสริมและพัฒนา ศักยภาพตามพหุปัญญาและส่งต่อการพัฒนา ให้เต็มตามศักยภาพ โดยได้ประชุมชี้แจง ซักซ้อม ความเข้าใจในรูปแบบออนไลน์ เกี่ยวกับการรายงาน ตรวจสอบ และจัดเก็บแบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษา ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน (ปพ.3) ประจำปีการศึกษา 2565 ผ่านระบบ ปพ.3 ออนไลน์ ของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 เพื่อให้การดำเนินการเป็นไปในทิศทางเดียวกันและเกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ รวมทั้งประชุมวิเคราะห์ และตรวจสอบความถูกต้องแบบรายงานผู้สำเร็จการศึกษาตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีการศึกษา 2565 ผ่านระบบ ปพ.3 ออนไลน์ ระหว่างวันที่ 7 – 12 พฤษภาคม 2566 ตลอดจนตรวจเยี่ยม ติดตามการดำเนินงานใน 4 ภูมิภาค ได้แก่ ภาคเหนือ ณ จังหวัดตาก และจังหวัดสุโขทัย ภาคกลาง ณ จังหวัดอุทัยธานี และจังหวัดชัยนาท ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ณ จังหวัดเลย และภาคใต้ ณ จังหวัดตรัง และจังหวัดกระบี่ ระหว่างเดือนเมษายน ถึง เดือนพฤษภาคม 2566 พัฒนารูปแบบการรายงานผลการดำเนินงานออนไลน์ผ่านระบบ e-MES (electronic Monitoring and Evaluation System) เพื่อใหส้ ำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาสามารถรายงานผลการบริหาร และการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ผ่านระบบติดตามอิเล็กทรอนิกส์ของสำนักติดตามและประเมินผลการจัด การศึกษาขั้นพื้นฐาน (e-MES) ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ทั้งนี้สำนักติดตามและประเมินผลการจัดการศึกษา ขั้นพื้นฐาน มีการจัดรายการ “คลินิก สตผ.” เพื่อส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจ และสร้างความตระหนักเกี่ยวกับ การนำนโยบายจุดเนนของส้ ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ สูการปฏิบัติ รวมทั้งให ่ค้ ำปรึกษา แนะนำ ชี้แจงประเด็นขอสงสัยการขับเคลื่อนนโยบาย จุดเน ้นของส้ ำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน และการใช้งานระบบ e-MES เพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษาให้กับ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษา เป็นเวทีในการแลกเปลี่ยนเรียนรู้และส่งเสริมชุมชนแห่ง การเรียนรู้ในการขับเคลื่อนนโยบายสู่การปฏิบัติต่อไป


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 86 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านประสิทธิภาพ พัฒนาบุคลากรแกนนำในการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ชาติสู่การปฏิบัติ ในการใชงานระบบติดตาม ้ และประเมินผลแหงชาติ (eMENSCR) โดยสร ่างความรู้ ความเข้ าใจในการบูรณาการโครงการตามแผนปฏิบัติการ ้ ของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และการนำเข้าข้อมูลโครงการในระบบติดตามและประเมินผลแห่งชาติ (eMENSCR) เพื่อให้สามารถขยายผลสู่บุคลากรอื่นของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาได้ ระหว่างวันที่ 30 สิงหาคม ถึง 1 กันยายน 2566 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมประชุมจาก สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 4 ภูมิภาค จำนวน 160 คน พัฒนาศักยภาพทางเทคโนโลยีสารสนเทศและการสื่อสาร ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 โดยชี้แจง งานด้านเทคโนโลยีดิจิทัลของส่วนกลางและสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาให้เกิดแนวทางการปฏิบัติงาน ที่ชัดเจน และมีเครือข่ายความร่วมมือระหว่างบุคลากรที่ปฏิบัติงานด้านเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อช่วยยกระดับ การศึกษาและการใหบริการประชาชนให ้ ดียิ่งขึ้น ซึ่งมีบุคลากรของกลุ ้มส่ งเสริมการศึกษาทางไกล เทคโนโลยี ่ สารสนเทศและการสื่อสารของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาทุกแห่งเข้าร่วมประชุม ระหว่างวันที่ 4 - 7 กันยายน 2566 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพมหานคร ผลการดำเนินงานในปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 พบว่า สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา และสถานศึกษา สามารถบริหารจัดการและดำเนินงานด้วยเทคโนโลยีที่ได้รับการสนับสนุนจากสำนักงานคณะกรรมการ การศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยมีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีตาง ๆ มาใช ่ เพื่อสนับสนุนการบริหารจัดการส ้ ำนักงาน เขตพื้นที่การศึกษาทั้ง 4 ดาน และมีระบบฐานข ้ อมูลสารสนเทศที่เชื่อมโยงข ้อมูลและเข้ าถึงได ้ แบบ Real Time ้ การทำงานแบบบูรณาการ การมีส่วนร่วมกับชุมชน หน่วยงาน องค์กรอื่น ๆ ทั้งในพื้นที่ และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง สำนักพัฒนานวัตกรรมการจัดการศึกษา ไดขับเคลื่อนการท ้ ำงานแบบบูรณาการการมีสวนร่ วมกับชุมชน ่ หน่วยงาน องค์กรอื่น ๆ ทั้งในพื้นที่และหน่วยงานอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง เพื่อรองรับและขับเคลื่อนการยกระดับ ประสิทธิภาพการศึกษา ดังนี้ โครงการคอนเน็กซ์อีดี เกิดจากนโยบายการขับเคลื่อนยุทธศาสตร์ประชารัฐ เพื่อเศรษฐกิจฐานราก ผ่านการรวมพลังระหว่างภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม เพื่อพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 87 ด้านประสิทธิภาพ ประกอบดวย 3 กลุ ้ มเป้าหมาย คือ โรงเรียนประชารัฐ รุ ่ น 1 – 3 ่ กลุ่มโรงเรียนในอุปถัมภ์ของภาคเอกชน รุ่น 1 – 2 และกลุ่ม โรงเรียนกองทุนการศึกษา โดยมีผลการดำเนินงาน ดังนี้ 1. ประชุมชี้แจงการพัฒนาและอบรมหลักสูตร “ศูนย์การเรียนรู้ชุมชน (Learning Center) ผ่าน กระบวนการเรียนการสอนของโรงเรียนในชุมชน” ผานระบบออนไลน์ ให ่ กับผู ้อ้ำนวยการโรงเรียน ครู และ ศึกษานิเทศก์ ที่รับผิดชอบโครงการคอนเน็กซ์อีดี ในพื้นที่จัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ชุมชน (Learning Center) จำนวน 24 แห่ง เมื่อวันที่ 9 มีนาคม 2566 เพื่อให้โรงเรียนจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้ชุมชน (Learning Center) มีการจัด การเรียนการสอนตามกระบวนการเรียนรูของโครงการเป ้ นไปอย ็ างมีประสิทธิภาพ และ ่ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์ อาหาร จำกัด (มหาชน) : (CPF) จัดอบรมครูโรงเรียนคอนเน็กซ์อีดีในพื้นที่ดูแล ได้แก่ จังหวัดนครราชสีมา ชัยภูมิ และจังหวัดบุรีรัมย์ เพื่อพัฒนาให้ครูสามารถจัด การเรียนการสอนที่เน้นการมีส่วนร่วมของผู้เรียน ให้มี การฝึกการใช้กระบวนการคิดวิเคราะห์ การระดมสมอง และลงมือ รวมทั้งสร้างความรู้ความเข้าใจในการจัด การเรียนการสอนรูปแบบ Active Learning และบทบาทของ Proactive Teacher ในการเปนผู็น้ ำการเปลี่ยนแปลง ทางการศึกษา ระหว่างวันที่ 18 - 19 กุมภาพันธ์ 2566 ณ โรงแรมฟอร์จูน จังหวัดนครราชสีมา 2. จัดประกวดคลิปวิดีโอในหัวขอ ้ “ภาพความสำเร็จของการดำเนินงานโรงเรียนภายใตโครงการ ้ คอนเน็กซ์อีดี” โดยไดประชาสัมพันธ์การประกวดและมีโรงเรียนสนใจส ้ งโครงเรื่องเข ่ ารับการคัดเลือก จ ้ ำนวน 143 โรงเรียน ซึ่งคณะกรรมการของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐานพิจารณาคัดเลือกโครงเรื่อง จำนวน 26 โรงเรียน เพื่อจัดสรรงบประมาณในการจัดทำคลิปวิดีโอให้โรงเรียนละ 5,000 บาท 3. อบรมหลักสูตรผู้นําด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ICT Talent ภาครัฐ ปี 2566 ร่วมกับมูลนิธิสานอนาคต การศึกษา คอนเน็กซ์อีดี ให้แก่ ICT Talent ภาครัฐ รุ่นที่ 3 ระหว่างวันที่ 17 - 18 กุมภาพันธ์ 2566 โดยผู้มีสิทธิ์เข้ารับ การอบรมฯ มีจำนวน 679 คน และบริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) จัดอบรมออนไลน์ครั้งที่ 1 ประจำปี 2566 ให้แก่ ICT Talent ในหัวข้อ “แนะนำสื่อทรูปลูกปัญญาและกระบวนการนำไปประยุกต์ใช้เพื่อการอบรม ในโรงเรียน” ให้กับ ICT Talent หรือกลุ่มผู้นำด้านเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา โดยการแนะนำคอนเทนต์ใหม่ ๆ อย่าง Short Note และ Digital Textbook รวมถึงแพลตฟอร์มออนไลน์ VCOURSE และ VLEARN เพื่อ นำไปเผยแพร่ให้แก่ครูในโรงเรียนคอนเน็กซ์อีดี 4. โครงการ “ปลูกใจเยาวชนรักษ์ธรรมชาติ คืนชีวิตฟื้นสิ่งแวดล้อม” โดยธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สำนักพิมพ์ประพันธ์สาส์น จำกัด ได้มอบหนังสือเข้าห้องสมุดโรงเรียนที่ขาดแคลน และอยู่ห่างไกลในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน จำนวน 400 แห่ง จำนวนกว่า 100,000 เล่ม รวมมูลค่า 8 ล้านบาท ประกอบไปด้วย หนังสือนิทาน 2 ภาษา (ไทย - อังกฤษ) จำนวน 9 เรื่อง เน้นเนื้อหา เกี่ยวกับการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม น้ำ อากาศ สัตว์ พืช เพื่อให้เด็ก ๆ เข้าใจง่าย เสริมสร้างจินตนาการ


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 88 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ด้านประสิทธิภาพ หนังสือการ์ตูนชุด “เรียนคณิต คิดสนุก” จำนวน 5 เรื่อง เพื่อบมเพาะนิสัยรักวิชาคณิตศาสตร์ และหนังสืออ ่านนอกเวลา ่ จำนวน 25 เรื่อง อาทิ สารคดี หนังสือความรู้รอบตัว นวนิยายสั้น เพื่อเสริมสร้างประสบการณ์ชีวิต 5. พัฒนาวิทยากรแกนนำตามเป้าหมายการพัฒนา อย่างยั่งยืน ด้านการบริหารการศึกษา ภายใต้โครงการคอนเน็กซ์อีดี ระยะที่ 1 รุ่นที่ 2 และรุ่นที่ 3 ให้แก่ ผู้บริหารการศึกษานิเทศก์ และผู้บริหารสถานศึกษา ในเดือนเมษายน 2566 ณ โรงแรมเดอะพาลาสโซ กรุงเทพมหานคร โดยมีผู้เข้าร่วมการอบรม จำนวน 98 คน 6. วิจัยและพัฒนารูปแบบการอบรม ออกแบบการจัดการเรียนรู้ PCARE เพื่อการเข้าถึงโครงสร้าง พื้นฐานดิจิทัลของสถานศึกษา (Digital Infrastructures) ในการเสริมสร้างความสามารถในการใช้ Digital Device Based Learning (DDBL) ในการจัดการเรียนรู้เชิงรุกร่วมกับมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ โครงการอารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ด้วย “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” เปนอีกโครงการหนึ่งของ อารยเกษตร สืบสาน รักษา ็ ต่อยอด ตามแนวพระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียง ด้วยการน้อมนำแนวทางพระราชทานของพระบาท สมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดช มหาราช บรมนาถบพิตร ในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง และทฤษฎีใหม่ มาประยุกต์ด้วยการปั้นโคก ขุดหนอง และทำนา เพื่อปรับเปลี่ยนพื้นฐานแนวความคิด ฝึกวินัย ลงมือปฏิบัติ แก้ปัญหาได้จริงในท้องถิ่น ในส่วนของสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐาน ได้ขับเคลื่อนโรงเรียนอารยเกษตร โดยการจัด ประชุมคณะกรรมการ ประกอบด้วย ผู้รับผิดชอบส่วนกลาง ทีมวิจัยอารยเกษตรสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการศึกษา ขั้นพื้นฐานในแตละภูมิภาค ผู ่ ้แทนครูปฏิบัติการอารยเกษตร ในแต่ละภูมิภาค ผู้แทนจากสถาบันอาศรมศิลป์ ผู้แทนจาก ศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน ผู้แทนจาก ศูนย์การเรียนกสิกรรมธรรมชาติมาบเอื้อง ผูแทนจากคณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย รวมทั้งผู ้ ปฏิบัติงาน ้ โครงการ รวมจำนวน 45 คน และได้มีการประชุมจัดทำแผนการดำเนินงานโรงเรียนแกนนำอารยเกษตร รุ่นที่ 1 ประจำปี 2566 เพื่อขับเคลื่อนและขยายผลโครงการโรงเรียนอารยเกษตร สืบสาน รักษา ต่อยอด ตามแนว พระราชดำริเศรษฐกิจพอเพียงด้วย “โคก หนอง นา แห่งน้ำใจและความหวัง” สู่โรงเรียน กลุ่มเป้าหมาย ทุกภูมิภาค


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 89 ด้านประสิทธิภาพ นอกจากนี้ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน โดยโรงเรียนแกนนำอารยเกษตร และผู้แทน สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ได้เข้าร่วมแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในการประชุมเชิงปฏิบัติการ โครงการอารยเกษตรฯ ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ของศูนย์ อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน เมื่อวันที่ 9 - 11 สิงหาคม 2566 ณ ศูนย์เรียนรู้ศาสตร์พอเพียงพรรณา จังหวัดนครราชสีมา เพื่อแกปัญหา 5 ประการ ได ้แก้ เป้าหมาย ่ ปากท้องและหนี้สิน เป้าหมายด้านสุขภาพ เป้าหมาย ด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม เป้าหมาย ด้านการศึกษาอารยเกษตร และเป้าหมายในการให้ชุมชนได้เข้าร่วมดูแลซึ่งกันและกันในด้านการป้องกัน และแก้ไขปัญหายาเสพติด ผลการดำเนินงานด้านประสิทธิภาพ สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน มีการขับเคลื่อน โครงการ กิจกรรมตาง ๆ เพื่อการพัฒนาเทคโนโลยีมาใช ่ ในการบริหารจัดการ เช ้ น การพัฒนาระบบส ่ ำนักงาน อิเล็กทรอนิกส์ (Smart OBEC) เพื่อการรับ สงเอกสารและการบริหารจัดการต ่าง ๆ ผ่ านระบบอิเล็กทรอนิกส์ ่ ทั้งในระดับสวนกลางและระดับเขตพื้นที่การศึกษา และศึกษาดูงานเทคโนโลยีสมัยใหม ่ ในส ่ ำนักงาน Google ประเทศไทย เพื่อเสริมประสิทธิภาพการใชเทคโนโลยีในสถานศึกษา รวมทั้งพัฒนาระบบเทคโนโลยีสารสนเทศ ้ ในการเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น ระบบบริหารทรัพยากรบุคคล (HRMS.OBEC) ระบบติดตามและประเมินผล (e-MES) ทั้งนี้ในส่วนของสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาและสถานศึกษามีการพัฒนาระบบเทคโนโลยีมาใช้ อำนวยความสะดวกในการทำงานที่หลากหลายตามความตองการของแต้ ละพื้นที่ และพัฒนาระบบเชื่อมโยง ่ ข้อมูลสารสนเทศแบบ Real Time เพื่อใช้ในการบริหารจัดการ เป็นระบบที่รองรับการจัดเก็บข้อมูลให้เป็น ปัจจุบัน มีการแบ่งปันข้อมูลในระบบกับสถานศึกษา และหรือหน่วยงานภายนอกอื่น ๆ ทั้งนี้ มีการทำงาน แบบบูรณาการการมีสวนร่ วมกับชุมชน หน ่ วยงาน องค์กรอื่น ๆ เพื่อพัฒนาประสิทธิภาพในการจัดการศึกษา ่ เชน มูลนิธิสานอนาคตการศึกษา คอนเน็กซ์อีดี พัฒนา ICT Talent หรือกลุ ่มผู่น้ ำดานเทคโนโลยีเพื่อการศึกษา ้ บริษัท เจริญโภคภัณฑ์อาหาร จำกัด (มหาชน) : (CPF) จัดอบรมครูโรงเรียนคอนเน็กซ์อีดี ในความดูแล ส่งเสริมการเรียนการสอนแบบ Active Learning ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) และบริษัท สำนักพิมพ์ ประพันธ์สาส์น จำกัด สนับสนุนหนังสือให้โรงเรียนที่ขาดแคลน และร่วมเรียนรู้โครงการอารยเกษตร สืบสาน รักษา ตอยอด ตามแนวพระราชด่ ำริเศรษฐกิจพอเพียงดวย ้ “โคก หนอง นา แห่งนำ้ใจและความหวัง” กับศูนย์อำนวยการใหญ่จิตอาสาพระราชทาน เป็นต้น


รายงานผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานตามนโยบายกระทรวงศึกษาธิการ 90 ที่เกี่ยวข้องกับส�ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 นโยบายและค�ำสั่ งที่ เกี่ยวข้อง 1. ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง นโยบายและจุดเน้นของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 29 ธันวาคม พ.ศ. 2564 2. คำสั่งกระทรวงศึกษาธิการ ที่ สป. 27/2566 เรื่อง นโยบายการตรวจราชการและติดตามประเมินผล การจัดการศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2566 3. ประกาศสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน เรื่อง นโยบายและจุดเน้นของสำนักงาน คณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปงบประมาณ พ.ศ. 2566 ประกาศ ณ วันที่ 28 ธันวาคม พ.ศ. 2564 ี คณะท�ำงาน ภาคผนวก ที่ปรึกษา 1. นายอัมพร พินะสา เลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 2. นางเกศทิพย์ ศุภวานิช รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 3. นายพัฒนะ พัฒนทวีดล รองเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน 4. นางสาวรัตนา แสงบัวเผื่อน ผู้อำนวยการสำนักติดตามและประเมินผล การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน คณะท�ำงาน คำสั่งสำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ที่ 1683/2566 เรื่อง แต่งตั้ง คณะทำงานสรุปผลการติดตามและรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบาย กระทรวงศึกษาธิการที่เกี่ยวของกับส ้ ำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2566 ลงวันที่ 3 สิงหาคม พ.ศ. 2566 คณะบรรณาธิการกิจ 1. นางวันดี จิตรไพวรรณ ผู้อำนวยการกลุ่มติดตามและประเมินผล การจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ภาคใต้ 2. นางสาวอริศรา ตระกูลวารีสุข นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ 3. นางสาวปณิธิภัธน์ พรหมประสาธน์ นักวิชาการศึกษาชำนาญการพิเศษ 4. นางสาวนาราทิพย์ ทองโสภา นักวิชาการศึกษาชำนาญการ 5. นางสาวฉัตรชนก จันทร์แย้ม นักวิชาการศึกษาชำนาญการ 6. นางสาวสิรีธร ไหวพริบ นักวิชาการศึกษาปฏิบัติการ 7. นางสาวบัณฑิตา ชาญธัญกรรม เจ้าพนักงานธุรการปฏิบัติงาน


Click to View FlipBook Version