95 รูปร่างของปลากระดูกแข็งแต่ละชนิด มีความแตกต่างกันมากใน ลักษณะ สัดส่วน และขนาด โดยทั่วไปตัวปลาจะแบ่งออกเป็ น 3 ส่วน คือ ส่วนหัว (head) คือ บริเวณตั ้งแต่ปลายสุดของจะงอยปาก (snout) ไปจนถึง ริมสุดของฝาปิ ดเหงือก (opercle) ส่วนล าตัว (body)อยู่ถัดจากปลายสุดของ ฝาปิ ดเหงือกไปจนจรดบริเวณเส้นดิ่งตรงระดับรูก้น (anus) ส่วนหาง (tail) เป็ นส่วนสุดท้าย อยู่ถัดจากล าตัวไปจนสุดปลายหาง โดยปกติแล้วร่างกาย ของปลาจะแบ่งออกเป็ นซีกซ้าย ซีกขวา ซึ่งจะเหมือนกันและสัดส่วนเท่ากัน (bilateral symmetry) ยกเว้นกลุ่มปลาซีกเดียว ปลาลิ ้นหมา ซึ่งจะมีซีกซ้าย head Body body tail pelvic fin anal fin dorsal fin caudal fin lateral line scale opercle anus eye nostril snout mouth pectoral fin standard length mandible maxilla
96 และซีกขวาต่างกัน คือ จะมีตาอยู่ทางซีกเดียวของหัวด้านใดด้านหนึ่ง ล าตัวของปลากระดูกแข็งอาจจะมีเกล็ด (scale) หรือไม่มีเกล็ด ปลา บางชนิดเกล็ดอาจเปลี่ยนรูปไปเป็ นหนาม เกราะ หรือแผ่นกระดูก เป็ นต้น ปาก (mouth)ของปลา ประกอบด้วยขากรรไกรบน (maxilla หรือ upper jaw) และขากรรไกรล่าง (mandible หรือ lower jaw) รูจมูก (nostril) มี 1-2 คู่ ตา (eye) มีขนาดแตกต่างกัน และมีที่ตั ้งไม่แน่นอนขึ ้นอยู่กับปลาแต่ละชนิด ครีบ ของปลา มีทั ้งครีบคู่และครีบเดี่ยว ครีบคู่ประกอบด้วย ครีบหู(pectoral fin) และครีบท้อง (pelvic fin) ส่วนครีบเดี่ยวประกอบด้วย ครีบหลัง (dorsal fin) ครีบหาง (caudal fin) และครีบก้น (anal fin) ปลาบางชนิด อาจมีครีบไขมัน (adipose fin) เช่น ปลาอีกง ปลากดขี ้ลิง เป็ นต้น ปลาส่วนใหญ่จะมีอวัยวะ รับความรู้ สึกอยู่ด้านข้างของล าตัว เรียกว่า เส้นข้างตัว (lateral line) และมี เกล็ดในแนวข้างตัวซึ่งมีรูหรือท่อเป็ นทางติดต่อให้น ้าภายนอกผ่านไปสัมผัส กับอวัยวะรับความรู้ สึกภายใน เรียกว่า เกล็ดบนเส้นข้างตัว (lateral line scales) ส าหรับบนหัวมีอวัยวะรับความรู้สึกอยู่ใต้ผิวหนัง เหนือตา ใต้ตา และ บนกระพุ้งแก้ม ปลามีช่องเปิ ดถ่ายของเสียโดยจะขับออกทางรูก้น (anus หรือ vent) ซึ่งมักอยู่ทางด้านหน้าของครีบก้น (วิมล, 2540; คณะประมง, 2541; Carpenter and Niem, 1999a) การวัดขนาดของตัวปลา นิยมวัดขนาดของความยาวมาตรฐาน (standard length : SL) โดยวัดจากปลายสุดของจะงอยปากบนไปยังฐาน ครีบหางบริเวณตอนปลายของกระดูก hypural plate ซึ่งสามารถก าหนดได้ อย่างคร่าวๆ ณ ต าแหน่งที่เกิดเป็ นรอยหักเมื่อยกครีบหางขึ ้น (Hubbs and Largler, 1967)
97 ปลาเป็ นสัตว์เลือดเย็นที่อุณหภูมิในร่างกายเปลี่ยนแปลงตาม สภาพแวดล้อม เนื่องจากในแนวป่ าชายเลนมีการเปลี่ยนแปลงทั ้งทางด้าน กายภาพและเคมีอย่างรวดเร็วและรุนแรง เช่น มีการเปลี่ยนแปลงความเค็ม ของน ้าในช่วงกว้าง ท าให้ปลาที่อาศัยในป่ าชายเลนต้องปรับตัวให้สามารถ ทนทานต่อการเปลี่ยนแปลงความเค็มได้ดี การที่ป่ าชายเลนมีการขึ ้นลงของ น ้าในรอบวัน ท าให้ปลาที่อยู่อาศัยในแนวป่ าชายเลนบางชนิดต้องมีการ ปรับตัวเป็ นพิเศษ เช่น ปลาตีน จะมีอวัยวะพิเศษ เพื่อเก็บน ้าไว้บริเวณโพรง เหนือเหงือก เป็ นต้น ตัวอย่างของปลาในป่ าชายเลนคลองก าพวนที่มีความส าคัญและ สร้างรายได้ให้แก่ชาวประมง เช่น ปลากะพงแดง ปลากระบอก ปลาทรายขาว และปลาจวด เป็ นต้น ในช่วงเวลาน ้าลงในป่ าชายเลน ปลาตีนจะมีการเก็บน ้าเอาไว้ในโพรงเหนือเหงือก เพื่อให้ช่องเหงือก เปี ยกชื้นอยู่ตลอดเวลา และสามารถอยู่เหนือน ้าได้นานเป็ นชั่วโมง
98 ลักษณะ ล าตัวเรียวยาว รูปทรงกระสวยและแบนข้าง ตากลมโต ปากกว้าง ที่ใต้คางระหว่างกระดูกขากรรไกรล่างมีแผ่นกระดูกแข็ง 1 ชิ ้น เรียกว่า gular plate เกล็ดบนล าตัวมีขนาดเล็กเป็ นสีเงินแวววาว เกล็ดบน เส้นข้างตัวมีประมาณ 100 เกล็ด ครีบทุกครีบไม่มีก้านครีบแข็ง ครีบหางเว้า ลึกตรงกลางเป็ นรูปส้อม ล าตัวด้านหลังเป็ นสีน ้าเงินหรือสีเทาอมเขียว ด้านข้างล าตัวเป็ นสีเงิน ครีบเจือสีเหลืองจางๆ นิเวศวิทยา มีความปราดเปรียวว่องไว สามารถปรับตัวให้อาศัย อยู่ในน ้าจืดหรือน ้ากร่อยได้ เป็ นปลาที่มีก้างแทรกอยู่ในเนื ้อเป็ นจ านวนมาก ปลาตาเหลือกยาว Elops hawaiensis Regan, 1909 วงศ์Elopidae Hawaiian ladyfish วงศ์ Matutidae Flower moon crab 95.5 mm SL ตัวอย่างดอง
99 ลักษณะ ล าตัวเรียวและแบนข้าง ปากกว้าง ตามีขนาดใหญ่และมี เยื่อไขมันหนาคลุมอยู่ เกล็ดมีขนาดปานกลางขึ ้นเรียงบนล าตัวอย่างเป็ น ระเบียบ บริเวณใต้คางระหว่างกระดูกขากรรไกรล่างมีแผ่นกระดูกแข็ง 1 ชิ ้น เรียกว่า gular plate ก้านครีบหลังอันสุดท้ายยื่นยาวเป็ นเส้นเห็นได้ชัดเจน เกล็ดบนเส้นข้างตัวมีจ านวน 37-42 เกล็ด ครีบหางมีขนาดใหญ่และเว้าลึก ตรงกลางเป็ นรูปส้อม เกล็ดเป็ นสีเงินแวววาวตลอดทั ้งล าตัว หลังมีสีคล ้า ออกน ้าตาลอมเขียว ครีบต่างๆ ใส ครีบหางสีขุ่น นิเวศวิทยา สามารถปรับตัวให้ อยู่ในน ้าจืดหรือน ้ากร่อยได้ บางครั ้งพบว่ายน ้าเข้ามาในล าคลองที่ติดกับทะเลหรือนากุ้งของชาวบ้าน ปลาตาเหลือกสั้น Megalops cyprinoides (Broussonet, 1782) วงศ์ Megalopidae Indo-Pacific tarpon 175.0 mm SL
100 ลักษณะ ล าตัวเรียวและแบนข้าง หัวโต จะงอยปากสั ้น ปากกว้าง และเฉียงขึ ้นข้างบน ท้องกลมและมีเกล็ดที่เปลี่ยนรูปเป็ นหนามแข็งรูปเข็ม ขนาดเล็ก 2-6 อัน (ส่วนใหญ่มี4อัน)อยู่หน้าครีบท้อง ครีบหลังและครีบก้น มีขนาดใกล้เคียงกัน ครีบหูและครีบท้องมีขนาดเล็ก ครีบหางเว้าลึกเป็นแฉก ล าตัวมีสีเทาโปร่งแสง มีแถบสีขาวเงินคาดที่ข้างล าตัว ด้านหลังของส่วนหัว มีจุดสีคล ้าหนึ่งคู่ ไม่มีเส้นด าอยู่ด้านหลังระหว่างหัวถึงครีบหลัง นิเวศวิทยา มีพฤติกรรมอยู่รวมกันเป็ นฝูงใหญ่ หากินตามผิวน ้า ปลาชนิดนี ้มีความส าคัญทางเศรษฐกิจของประเทศไทยในแง่ของการน ามา ท าเป็ นน ้าปลา ปลากะตักควาย Stolephorus indicus (van Hasselt, 1823) วงศ์ Engraulidae Indian anchovy วงศ์ Matutidae Flower moon crab 51.6 mm SL
101 ลักษณะ ล าตัวแบนข้าง จะงอยปากทู่ มีเกล็ดที่เปลี่ยนรูปเป็ นสัน แข็งคมตั ้งแต่คอดคอถึงหน้าครีบก้น 26-31 อัน ปลายสุดของจะงอยปากอยู่ เหนือจุดศูนย์กลางของตา มีฟันขนาดเล็กจ านวนมากอยู่บนขากรรไกร ครีบ ก้นค่อนข้างยาว ครีบท้องเล็ก ครีบหางหยักเว้าลึก ล าตัวปกคลุมด้วยเกล็ดสี เงิน ส่วนหลังมีแถบสีด าทอดไปตามแนวยาวของล าตัว มีจุดกลมสีด าขนาด เกือบเท่าตาอยู่ตอนบนของขอบฝาปิ ดเหงือก ครีบหูและครีบท้องมีสีเหลือง อ่อน ครีบหางมีสีเหลือง ขอบครีบหางมีสีด า นิเวศวิทยา เป็ นปลาผิวน ้า อาศัยอยู่รวมกันเป็ นฝูง ปลาแมว Thryssa hamiltonii Gray, 1835 วงศ์ Engraulidae Hamilton's thryssa วงศ์ Matutidae Flower moon crab 122.7 mm SL ตัวอย่างปลาจากตลาดก าพวน
102 ลักษณะ ล าตัวแบนข้าง จะงอยปากทู่ มีเกล็ดที่เปลี่ยนรูปเป็ นสัน แข็งคมตั ้งแต่คอดคอถึงหน้าครีบก้น 25-28 อัน ขากรรไกรบนยื่นยาวมาก โดยอาจยาวไปจนถึงจุดเริ่มต้นของครีบก้น มีฟันขนาดเล็กจ านวนมากอยู่ บนขากรรไกร ครีบก้นค่อนข้างยาว ครีบท้องเล็ก ครีบหางหยักเว้าลึก ล าตัว ปกคลุมด้วยเกล็ดสีเงิน ส่วนหัวมีสีทอง ส่วนหลังมีแถบสีเทาทอดไปตามแนว ยาวของล าตัว และมีแถบสีด ารูปสามเหลี่ยมตั ้งอยู่ทางตอนบนของขอบฝา ปิ ดเหงือก ครีบหู ครีบท้องและครีบหางมีสีเหลือง ขอบครีบหางมีสีด า นิเวศวิทยา เป็ นปลาผิวน ้า อาศัยอยู่รวมกันเป็ นฝูงบริเวณปาก แม่น ้ารอยต่อกับทะเล ปลางา Thryssa setirostris (Broussonet, 1782) วงศ์Engraulidae Longjaw thryssa วงศ์ Matutidae Flower moon crab 115.9 mm SL ตัวอย่างปลาจากตลาดก าพวน
103 ลักษณะ ล าตัวป้อมสั ้น เกือบเป็ นรูปไข่ คล้ายกับปลาตะเพียนน ้า จืด ปากเล็ก จะงอยปากสั ้นทู่ ตามีเยื่อไขมันหุ้ม สันท้องมีเกล็ดที่เปลี่ยนรูป เป็ นสันแข็งคมประมาณ 28 อัน เกล็ดบนล าตัวมีขอบท้ายหยัก เกล็ดหน้า ครีบหลังเรียงตัวเป็ นแถวเดียวต่อเนื่องกัน ครีบหางเว้าลึก ครีบอื่นๆ มีขนาด เล็ก สีของล าตัวด้านหลังมีสีด าปนเทา ด้านท้องมีสีขาวเงิน หลังช่องเปิ ด เหงือกมีจุดสีด าข้างละจุด ครีบหางมีสีค่อนข้างเหลือง นิเวศวิทยา ชอบอาศัยอยู่รวมกันเป็ นฝูง หากินตามพื ้นที่หน้าดิน ตามชายฝั่งและบริเวณปากแม่น ้า เนื ้อมีรสอร่อยแต่มีก้างแทรกในเนื ้อ จ านวนมาก ปลาตะเพียนน ้าเค็ม Anodontostoma chacunda (Hamilton, 1822) วงศ์Clupeidae Chacunda gizzard shad 69.0 mm SL ตัวอย่างดอง
104 ลักษณะ ล าตัวลึกปานกลางและแบนข้าง ความลึกล าตัวเป็ น 27- 31 % ของความยาวมาตรฐาน สันท้องมีเกล็ดที่เปลี่ยนรูปเป็ นสันแข็งคม จ านวน 28-30 อัน ขอบปากบนเมื่อมองจากจากด้านหน้าจะเห็นเป็ นขอบ โค้งกลม ไม่มีร่องลึกตรงกลาง ล าตัวด้านบนมีสีเทาและมีแถบสีเงินพาดใน แนวยาวด้านข้างของล าตัว ความกว้างของแถบมีขนาดใกล้เคียงกับขนาด ของตา ขอบด้านในของครีบหางเป็ นขอบกว้างสีค่อนข้างด า นิเวศวิทยา ชอบอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง ปลาระยะวัยรุ่นจะหากิน อยู่บริเวณปากแม่น ้าและจะไปเจริญเติบโตในทะเล ปลากะตักแก้ว Escualosa thoracata (Valenciennes, 1847) วงศ์Clupeidae White sardine 64.0 mm SL ตัวอย่างดอง
105 ลักษณะ ล าตัวเรียวยาว ไม่มีเกล็ดปกคลุม หัวโตและแบนลาดลง ล าตัวส่วนหน้ากลม ส่วนท้ายแบนข้าง ตามีขนาดเล็ก มีหนวด 4 คู่ หนวดที่รู จมูกยาวเลยขอบหลังของตา ครีบหลังและครีบอกมีเงี่ยงแข็งปลายแหลม มี ขอบหยักทั ้งสองด้าน และมีต่อมพิษอยู่ที่ฐานครีบ ครีบหลัง ครีบหางและ ครีบก้ นเชื่อมต่อกัน บริเวณหน้ ารูก้ นจะมีอวัยวะช่วยหายใจ เรี ยกว่า dendritic organ ล าตัวด้านหลังและด้านข้างมีสีด าเรื่อๆ ส่วนท้องมีสีขาว นิเวศวิทยา พบอาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลที่เป็ นโคลนและ บริเวณป่ าชายเลน ในบางครั ้งจะพบขุดรูอยู่ โดยรูหนึ่งจะมีปลาอยู่ประมาณ 10-20 ตัว ปลาด ุกทะเล Plotosus canius Hamilton, 1822 วงศ์Plotosidae Gray eel-catfish 93.8 mm SL
106 ลักษณะ ล าตัวเรียวยาว หัวใหญ่และแบนลาดลง มีหนวด 3 คู่ มี ฟันขนาดเล็กอยู่บนเพดานปากด้านละ 2 แถบ บนกระดูกส่วนหัวมีปุ่ มแข็ง จ านวนมาก ส่วนยื่นของกระดูก supraoccipital ค่อนข้างกว้างและมีปลาย กลมมน แผ่นกระดูกหน้าครีบหลังมีขนาดใหญ่รูปทรงคล้ายปี กผีเสื ้อ ไม่มี เกล็ดปกคลุมล าตัว ครีบไขมัน (adipose fin) พัฒนาดี ครีบหางหยักเว้าลึก ล าตัวสีออกเขียวเทา มีแถบสีขาวเงินทอดลงมาในแนวตั ้งตลอดแนว ด้านข้างล าตัว นิเวศวิทยา พบอาศัยอยู่รวมกันเป็นฝูง บริเวณชายฝั่งและปาก แม่น ้า ปลากดขี้ลิง Hexanematichthys sagor (Hamilton, 1822) วงศ์Ariidae Sagor catfish 60.0 mm SL adipose fin
107 ลักษณะ ล าตัวค่อนข้างกลมหนาและแบนข้างตอนท้าย ส่วนหัว แบนลง จะงอยปากกลมมน ตาไม่มีผิวหนังปกคลุม มีหนวดยาว 4 คู่ ล าตัว ไม่มีเกล็ดปกคลุม ครีบไขมันมีขนาดเล็กและมีฐานครีบสั ้นกว่าฐานของครีบ ก้น ครีบหลังและครีบหูมีเงี่ยง และมีต่อมพิษอยู่ที่ฐานครีบ ครีบก้นมีขนาด ใหญ่ ครีบหางพัฒนาดี ปลายหางหยักเว้าลึก ล าตัวมีสีเทาเข้มตรงส่วนหลัง และมีสีจางทางด้านท้อง ครีบทุกครีบมีสีเทาอมเหลืองอ่อนจนถึงสีเทาเข้ม นิเวศวิทยา มักอาศัยอยู่เป็ นฝูงใหญ่บริเวณน ้ากร่อย หรือปาก แม่น ้า มีฤดูผสมพันธุ์อยู่ในช่วงฤดูฝน โดยจะว่ายไปวางไข่ในบริเวณน ้าจืด ปัจจุบันปลาชนิดนี ้พบได้น้อยมากในป่ าชายเลนคลองก าพวน ปลาอีกง Mystus gulio (Hamilton, 1822) วงศ์Bagridae Long whiskers catfish วงศ์ Matutidae Flower moon crab 100.0 mm SL
108 ลักษณะ ล าตัวค่อนข้างเรียว ส่วนท้ายล าตัวแบนข้าง เยื่อไขมันหุ้ม ตาพัฒนาปานกลาง ไม่ปกคลุมส่วนของม่านตา เกล็ดขนาดปานกลางขอบ หยักปกคลุมทั่วตัว ครีบทุกครีบพัฒนาดี ครีบหางเว้าตื ้น ส่วนหลังมีสีเขียว เข้ม ส่วนหัวมีสีน ้าตาล ท้องมีสีขาวเงิน ด้านข้างตอนบนของล าตัวมีแถบสี คล ้า 3-6แถบทอดยาวไปตามแนวยาวล าตัว ครีบหูมีสีเหลืองและอาจมีจุดสี น ้าเงินอยู่ที่ฐานครีบ ครีบหางมีสีน ้าเงินเข้มและมีขอบสีด า นิเวศวิทยา พบรวมฝูงตามแหล่งน ้าใกล้แนวชายฝั่งและยังเข้าไปใน แหล่งน ้ากร่อย และน ้าจืดเพื่อหาอาหาร กินสาหร่าย และซากสารอินทรีย์ เป็ นอาหาร ปลากระบอกด า Chelon subviridis (Valenciennes, 1836) วงศ์Mugilidae Greenback mullet 163.4 mm SL
109 ลักษณะ ล าตัวกลมยาว ส่วนท้ายแบนข้าง หัวกว้างและแบนลง ตา เล็ก ไม่มีเยื่อไขมันปกคลุม มีเกล็ดขนาดใหญ่ปกคลุมล าตัว ครีบหางตัดตรง ล าตัวด้านบนมีสีน ้าตาลปนเทา มีแถบด าพาดตามยาวล าตัว 5-6 แถบ ล าตัวส่วนหลังมีสีน ้าตาลเข้ม ด้านข้างมีสีขาวเงิน ปลาระยะวัยรุ่น ครีบท้อง ครีบก้นและครีบหาง มีสีเหลืองเห็นได้ชัดเจน ครีบหูจะมีสีด าทั ้งครีบ ในตัว เต็มวัย ครีบทุกครีบมีสีเทาอมด า ครึ่งล่างของครีบอกเป็ นสีเหลือง นิเวศวิทยา พบได้ทั่วไปในป่ าชายเลนและบริเวณปากแม่น ้า ปลาที่ พบส่วนใหญ่จะเป็ นปลาในระยะวัยรุ่น โดยจะว่ายน ้าอยู่รวมกันเป็ นฝูงตาม ผิวน ้า ปลากระบอกท่อนใต้Ellochelon vaigiensis (Quoy & Gaimard, 1825) วงศ์Mugilidae Squaretail mullet 47.7 mm SL
110 ลักษณะ เป็ นปลาขนาดเล็ก ล าตัวเรียวและแบนข้างเล็กน้อย ปาก เล็ก หัวและตามีขนาดใหญ่ มุมปากบนยาวถึงแนวขอบหน้าของตาหรือยาว เลยไปเล็กน้อย ส่วนยื่นของกระดูกเหนือขากรรไกรบน (premaxilla) สั ้นและ มีปลายกระดูกส่วนท้ายสุดเรียวแหลม เกล็ดบนล าตัวขอบเรียบและมีขนาด ใหญ่ เกล็ดตามแนวกลางข้ างตัวมี 33-38 เกล็ด ครีบหางหยักเว้ าลึก ด้านหลังล าตัวเป็ นสีเทาอมเขียว มีแถบสีเงินแคบๆ พาดตามแนวยาว ด้านข้างล าตัว นิเวศวิทยา อาศัยในแหล่งน ้าตื ้นตามแนวชายฝั่ง โดยมักพบอยู่ รวมกันเป็ นฝูง ปลาชนิดนี ้ยังขาดข้อมูลทางด้านชีววิทยา ปลาหัวแข็ง Atherinomorus duodecimalis (Valenciennes, 1835) วงศ์Atherinidae Tropical silverside วงศ์ Matutidae Flower moon crab 48.5 mm SL
111 ลักษณะ รูปร่างและลักษณะคล้ายกับปลาหัวแข็ง(Atherinomorus duodecimalis) มาก แต่มีส่วนยื่นของกระดูกเหนือขากรรไกรบนยาวและมี ปลายกระดูกส่วนท้ายสุดทู่ เกล็ดบนล าตัวขนาดใหญ่ขอบเรียบ ส่วนหัวไม่มี เกล็ดปกคลุม ยกเว้นบริเวณฝาปิ ดเหงือก เกล็ดตามแนวกลางข้างตัวมี 40- 46 เกล็ด ครีบหางหยักเว้าลึก ล าตัวด้านบนมีสีเขียวอมน ้าเงิน ด้านท้องมีสี ขาวเงิน เกล็ดเหนือแนวกลางข้างตัวมีสีด า ครีบทุกครีบสีใสและมีจุดสีด า ประปราย นิเวศวิทยา อาศัยในแหล่งน ้าตื ้นตามแนวชายฝั่ง โดยมักพบอยู่ รวมกันเป็ นฝูง ปลาชนิดนี ้ยังขาดข้อมูลทางด้านชีววิทยา ปลาหัวตะกั่ว Hypoatherina valenciennei (Bleeker, 1854) วงศ์Atherinidae Sumatran silverside 38.0 mm SL ตัวอย่างดอง
112 ลักษณะ เป็ นปลาขนาดเล็ก ล าตัวเรียวและแบนข้าง ตามีขนาด ใหญ่ ปากยืดหดไม่ได้ ครีบหูมีขนาดใหญ่ ครีบหลังมีขนาดเล็กตอนเดียว และตั ้งอยู่บริเวณตอนท้ายของล าตัว ฐานครีบก้นค่อนข้างยาว มีเกล็ดขอบ เรียบขนาดปานกลางปกคลุมล าตัว ครีบหางพัฒนาดีและมีขอบตัดตรง ล าตัวมีสีใส (ปลาที่ตายแล้วล าตัวจะมีสีขาวซีด) ส่วนท้องและแก้มมีสีเงิน มี เม็ดสีด าขนาดเล็กกระจัดกระจายอยู่ทั่วตามแนวของสันหลัง ครีบทุกครีบมี สีใส ขอบแพนหางบนและล่างรวมทั ้งขอบของครีบหางมีสีเหลืองสด นิเวศวิทยา พบตั ้งแต่แหล่งน ้าจืดจนถึงน ้ากร่อย ชอบอยู่รวมกันเป็ น ฝูงจ านวนมาก ปลาซิวข้าวสารชวา Oryzias javanicus (Bleeker, 1854) วงศ์Adrianichthyidae Javanese ricefish 25.5 mm SL
113 ลักษณะ ล าตัวยาว ขากรรไกรล่างยาวมาก อาจยาวเท่ากับหรือ มากกว่าความยาวของหัว ขากรรไกรบนสั ้น ลักษณะเป็ นรูปสามเหลี่ยม มี เกล็ดปกคลุมและมีความกว้างเป็ น 0.6-0.8 เท่าของความยาว ครีบทุกครีบ พัฒนาดี ยกเว้นครีบท้องซึ่งมีขนาดเล็ก มีซี่กรองเหงือกทั ้งหมดบนแกน เหงือกอันแรกมี 23-37อัน ครีบหางหยักเว้าตื ้น ล าตัวส่วนหลังมีสีเขียวเข้ม และมีแถบสีเงินทอดไปตามแนวยาวด้านข้างล าตัว ส่วนท้องมีสีขาว ปลาย สุดของจะงอยปากล่างมีสีแดง นิเวศวิทยา อาศัยอยู่บริเวณผิวน ้าในแหล่งน ้าจืดจนถึงบริเวณปาก แม่น ้า ปลาเข็มปากแดง Hyporhamphus limbatus (Valenciennes, 1847) วงศ์Hemiramphidae Congaturi halfbeak 133.0 mm SL
114 ลักษณะ ล าตัวกลมยาว ปากล่างยื่นยาวมาก ขากรรไกรบนมีความ กว้างมากกว่ายาว 1.05-1.35 เท่า ครีบท้อง ครีบหลัง และครีบก้น ตั ้งอยู่ ทางด้านท้ายของล าตัว ฐานครีบหลังยาวกว่าฐานครีบก้น ก้านครีบหลังก้าน ที่ 4 หรือ 5 ไม่ยื่นยาวในปลาเพศผู้ ครีบหูพัฒนาดี ครีบท้องมีขนาดเล็ก ก้าน ครีบก้นไม่ขยายขนาดหนาขึ ้นและไม่ยื่นยาวในเพศผู้ ครีบหางปลายตัดตรง ถึงปลายกลมมน ล าตัวด้านหลังมีสีน ้าตาลอ่อน ส่วนท้องเป็ นสีขาวเงิน แนว กลางหลังจากหน้าครีบหลังถึงปลายปากบนมีเส้นสีด าเห็นชัดเจน นิเวศวิทยา พบตามผิวน ้าในแหล่งน ้าชายฝั่ง แหล่งน ้ากร่อย กิน แมลงเป็ นอาหาร ปลากระทุงเหว Zenarchopterus buffonis (Valenciennes, 1847) วงศ์Zenarchopteridae Buffon's river-garfish 109.1 mm SL
115 ลักษณะ มีลักษณะคล้ายกับปลากระทุงเหวหลังเส้นด า แต่ในปลา เพศผู้ จะมีก้านครีบหลังก้านที่ 4 หรือ 5 มีปลายครีบที่แบนกว้างและยื่นยาว กว่าก้านอื่นๆ ก้านครีบก้นขยายขนาดหนาขึ ้นและยื่นยาวเลยส่วนท้ายของ ฐานครีบหาง สามารถมองเห็นได้ชัดเจน ล าตัวด้านหลังมีสีน ้าตาลอ่อน ด้านข้างมีแถบสีเงินทอดไปตามแนวยาวล าตัว ส่วนท้องเป็ นสีขาวเงิน นิเวศวิทยา พบตามผิวน ้าในแหล่งน ้าชายฝั่ง แหล่งน ้ากร่อย กิน แมลงเป็ นอาหาร ปลาเข็ม Zenarchopterus dunckeri Mohr, 1926 วงศ์Zenarchopteridae Duncker's river garfish 95.7 mm SL
116 ลักษณะ ล าตัวกลมยาว ปากบนและปากล่างยื่นยาวมาก และมี ฟันขอบคมเรียงตัวอยู่เกือบตลอดปาก ครีบท้องอยู่ทางตอนกลางของล าตัว ครีบหลังและครีบก้นอยู่ทางด้านท้ายของล าตัว เกล็ดหน้าครีบหลังมี 100- 130 เกล็ด ด้านข้างคอดหางไม่มีสันแข็ง ครีบหางปลายกลมมนหรือตัดตรง ล าตัวมีสีเขียวปนน ้าตาล บริเวณด้านท้องและด้านข้างของล าตัวขาวออกสี บรอนด์เงิน ตรงกึ่งกลางของฐานครีบหางจะมีจุดสีด าหนึ่งจุด ปลายครีบหาง และครีบหลังเป็ นสีเหลือง ขอบด้านหน้าของครีบก้นเป็ นสีส้ม นิเวศวิทยาอาศัยอยู่ตามผิวน ้าชายฝั่งทะเลและบริเวณปากแม่น ้า กินแมลงน ้าและปลาขนาดเล็กเป็ นอาหาร ปลากระทุงเหวควาย Strongylura strongylura (van Hasselt, 1823) วงศ์Belonidae Spottail needlefish 124.8 mm SL
117 ลักษณะ ล าตัวทรงกระบอกและแบนข้างตอนท้าย สันหัวแบน จะงอยปากปลายแหลมเมื่อมองจากด้านข้าง ตาโตและอยู่ชิดแนวสันหัว เกล็ดมีขนาดใหญ่ ครีบหางกลมใหญ่และมีปลายแหลม ล าตัวส่วนหลังมีสี เขียวขี ้ม้า ท้องมีสีจาง มีจุดกลมสีเงินเหมือนสีของตะกั่วอยู่บนสันหัวระหว่าง นัยน์ตา มีเหลือบสีฟ้ าและจุดสีส้มประบนตัว ตอนล่างของก้านครีบหลังมี แถบสีด าขนาดใหญ่เห็นได้ชัดเจน ครีบหูและครีบท้องสีเหลืองอ่อน ครีบก้น มีขอบครีบมีสีส้ม ครีบหางมีสีฟ้ าอ่อน ปลายขอบครีบมีสีด า นิเวศวิทยา พบได้ในแหล่งน ้าจืดจนถึงน ้าเค็ม (ความเค็มตั ้งแต่ 0- 35 ppt.)อาศัยอยู่รวมกันเป็ นฝูง ปลาหัวตะกั่ว Aplocheilus panchax (Hamilton, 1822) วงศ์Aplocheilidae Blue panchax 43.7 mm SL
118 ลักษณะ ล าตัวแบนข้าง ปากใหญ่จะงอยปากเฉียงขึ ้น กระดูกใต้ตา มีหนามแหลม 2อัน จุดเริ่มต้นของครีบหลังอยู่ระหว่างขอบหลังของตากับ ขอบกระดูก preopercle ก้านครีบหลัง 3 อันแรกแยกตัวอยู่ห่างจากครีบ หลังตอนที่สองแต่ยังคงเชื่อมต่อกันด้วยเนื ้อเยื่อบางๆ ครีบหูมีขนาดใหญ่ ครีบหางมีขอบโค้งมนเล็กน้อย หนามแหลมที่อยู่ตามล าตัวมีต่อมพิษ หัว และล าตัวมีจุดหรือแต้มสีน ้าตาลเข้มกระจายอยู่ทั่วไป ครีบหูมีแต้มจุดสีด า กระจายอยู่ ครีบหางสีขาวและมีจุดสีด าขนาดเล็กเรียงตัวเป็ นแถวแนวตั ้ง นิเวศวิทยาอาศัยตามแหล่งน ้ากร่อย รวมทั ้งบริเวณคลองในป่ าชาย เลน ปลาขี้ข ุยหางขาว Vespicula trachinoides (Cuvier, 1829) วงศ์Tetrarogidae Goblinfish 36.0 mm SL
119 ลักษณะ ล าตัวยาว ส่วนหัวแบนลงมาก มีหนามแหลมที่กระดูก preopercle จ านวน 2 อัน มีฟันบนกระดูก vomer อยู่ในแนวขวางจ านวน 1 แถบ ขอบหน้าสุดของเกล็ดบนเส้นข้างตัวเป็ นสัน หรือหนามขนาดเล็ก ครีบ หลังมีสองตอนแยกออกจากกัน ครีบหางตัดตรง ส่วนหลังมีสีน ้าตาลหรือสี เขียวเข้มและปกคลุมด้วยจุดสีน ้าตาลขนาดเล็กจ านวนมาก ส่วนท้องมีสีขาว ครีบหางมีแถบแนวนอนสีด า 2-3 แถบ และมีแต้มสีเหลืองอยู่ตรงกลางครีบ ครีบหลังทั ้งสองอัน ครีบอก และครีบท้องมีจุดด า นิเวศวิทยา พบอาศัยอยู่ตามพื ้นทรายและพื ้นโคลนบริเวณชายฝั่ง ทะเลและป่ าชายเลน บางครั ้งพบปลาระยะวัยรุ่นในแหล่งน ้าจืด ปลาหัวแบน Platycephalus indicus (Linnaeus, 1758) วงศ์Platycephalidae Bartail flathead 94.5 mm SL แพนหาง
120 ลักษณะ ล าตัวป้ อมและแบนข้างขอบบนของกระดูก supraorbital เป็ นซี่หยัก 3-5 อัน ขอบหลังตอนบนของกระดูก preopercle เรียบหรือเป็ น หยักขนาดเล็ก มีเกล็ดหน้าครีบหลัง 11-14 เกล็ด คอดหางค่อนข้างเรียว มี ความยาวและความลึกเป็ น 20.6-22.2 และ13.0-14.8 % ของความยาว มาตรฐาน ตามล าดับ เส้นข้างตัวไม่ต่อเนื่อง ครีบหางเว้าลึก ล าตัวกึ่งโปร่งใส หัวและท้องเป็ นสีเงิน ครีบทุกครีบมีสีใส เนื ้อเยื่อระหว่างก้านครีบแข็งอันที่ สองและสามมีจุดสีด าประปราย ครีบหางเจือด้วยสีเหลือง นิเวศวิทยา พบในอ่าวตามแหล่งน ้ากร่อย และบางครั ้งเข้าไปอยู่ ในแหล่งน ้าจืด ปลาขี้จีน Ambassis gymnocephalus (Lacepede, 1802) วงศ์Ambassidae Bald glassy 50.5 mm SL
121 ลักษณะ ล าตัวค่อนข้างลึกและแบนข้าง มีความลึกเป็ น 50 % ของ ความยาวมาตรฐาน ขอบบนด้านท้ายของกระดูก supraorbital มีซี่หยัก 1 อัน ขอบด้านล่างของกระดูก interopercle มีซี่หยักไม่มาก มีเกล็ดหน้าครีบ หลัง 13-16 เกล็ด แก้มมีเกล็ดเรียง 2 แถว ก้านครีบแข็งก้านที่สองของครีบ หลังแข็งแรงและยาว เส้นข้างตัวไม่ต่อเนื่อง ครีบหางเว้าลึก ล าตัวสีเทาคล ้า ส่วนของแก้มและท้องเป็ นสีเงิน เนื ้อเยื่อระหว่างก้านครีบแข็งอันที่สองและ สามของครีบหลังเป็ นสีด า เกล็ดตามแนวหลังและฐานของครีบเดี่ยวมีสีคล ้า ครีบหางสีออกเหลือง นิเวศวิทยา พบตามในแหล่งน ้ากร่อย ป่ าชายเลน และในแม่น ้า ปลาแป้ นแก้วครีบยาว Ambassis interrupta Bleeker, 1853 วงศ์Ambassiidae Long-spined glass perchlet 77.7 mm SL
122 ลักษณะ ล าตัวป้ อมและแบนข้าง ขอบบนด้านท้ายของกระดูก supraorbital มีซี่หยัก 1 อัน ขอบด้านล่างของกระดูก interopercle มีซี่หยัก เล็กๆ มีเกล็ดหน้าครีบหลัง 9-11 เกล็ด แก้มมีเกล็ดเรียง 1 แถว เส้นข้างตัว ยาวต่อเนื่อง ครีบหางเว้าลึก ล าตัวสีเงินและโปร่งแสง แนวข้างตัวและท้อง เป็ นสีเงิน มีแถบสีด าตามกลางด้านข้างของล าตัว เนื ้อเยื่อระหว่างก้านครีบ แข็งอันที่สองและอันที่สามของครีบหลังเป็ นสีด า แพนครีบหางมีแถบกว้างสี ค่อนข้างเหลือง และมีแถบสีด าอยู่ที่ขอบแพนหางบนและล่าง นิเวศวิทยา พบได้บ่อยในแหล่งน ้ากร่อย ใกล้ปากแม่น ้า ร่องน ้าใน ป่ าชายเลน ปลาแป้ นแก้วหางแถบ Ambassis urotaenia Bleeker, 1852 วงศ์Ambassidae Banded-tail glassy perchlet 42.0 mm SL ตัวอย่างดอง
123 ลักษณะ ล าตัวป้ อมและแบนข้าง ขอบบนด้านท้ายของกระดูก supraorbital มีซี่จักร3-5 อัน ขอบด้านหลังของกระดูก preopercle มีซี่หยัก 6-13 อัน มีเกล็ดหน้าครีบหลัง 13-16 เกล็ด แก้มมีเกล็ดเรียง 2 แถวหรือ มากกว่า เส้นข้างตัวไม่ต่อเนื่อง ครีบหางเว้าลึก ล าตัวกึ่งโปร่งใส หัวและท้อง เป็ นสีเงิน ครีบหลังสีออกเหลืองยกเว้นส่วนของเนื ้อเยื่อระหว่างก้านครีบแข็ง อันที่สองและอันที่สามซึ่งเป็ นสีด า ครีบหางมักเจือสีเหลือง นิเวศวิทยา พบในอ่าวตามแหล่งน ้ากร่อย ล าคลองป่ าชายเลน และบางครั ้งเข้าไปอยู่ในแหล่งน ้าจืด ปลาแป้ นแก้วตัวเรียว Ambassis vachellii Richardson, 1846 วงศ์Ambassidae Vachelli’s glass perchlet 39.6 mm SL
124 ลักษณะ รูปร่างยาว ล าตัวหนาและแบนข้าง หัวโต ปากกว้าง เฉียง ขึ ้นเล็กน้อยและยืดหดได้ ตาโต มุมปากอยู่เลยไปทางหลังตา มีฟันเขี ้ยวอยู่ บนขากรรไกรบนและล่าง ขอบด้านล่างของกระดูก preopercle เป็ นซี่หยัก และมีซี่หนามขนาดใหญ่อยู่ที่มุมด้านล่าง คอดหางมีขนาดใหญ่และแข็งแรง เกล็ดใหญ่มีขอบหยัก ครีบหลังตอนแรกมีก้านครีบเป็ นหนามแข็ง ปลาย แหลม ตอนที่สองมีก้านครีบอ่อนขนาดใกล้เคียงกัน ครีบหางใหญ่ปลายกลม มน พื ้นล าตัวสีขาวเงินปนน ้าตาล แนวสันท้องสีขาวเงิน นิเวศวิทยา อาศัยอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลและปากแม่น ้าซึ่งเป็น แหล่งน ้ากร่อย กินปลา กุ้งและสัตว์น ้าที่มีขนาดเล็ก เป็ นอาหาร ปลากระพงขาว Lates calcarifer (Bloch, 1790) วงศ์Latidae Barramundi 175.0 mm SL ตัวอย่างดอง
125 ปลากะรังจุดส้ม Epinephelus coioides (Hamilton, 1822) วงศ์Serranidae Orange-spotted grouper ลักษณะ ล าตัวยาวและแบนข้ าง จะงอยปากแหลม ตาโต ปากกว้างและเฉียงขึ ้นเล็กน้อย มีฟันเป็ นเขี ้ยวแหลมคมอยู่บนขากรรไกรทั ้ง บนและล่าง ครีบหลังยาว ครีบหางมีปลายกลมมน ด้านหลังของหัวและ ล าตัวมีสีน ้าตาลเทาและค่อยๆ จางเป็ นสีขาวทางด้นท้อง มีจุดขนาดเล็กสี ส้มอมน ้าตาลหรือสีน ้าตาลแดงจ านวนมากบนหัว ล าตัวและครีบเดี่ยว บน ล าตัวมีแถบแนวทแยงรูปร่างไม่แน่นอนสีคล ้าจางๆ พาด 5 แถบ โดยที่แถบ แยกเป็ นสองแฉกบริเวณด้านล่างของล าตัว นิเวศวิทยา หากินอยู่ตามกองก้อนหินตามชายฝั่งทะเล ปลาระยะ วัยรุ่น อาศัยอยู่ในป่ าชายเลน กินปลา ลูกกุ้ง ตัวอ่อนสัตว์น ้าเป็ นอาหาร 146.6 mm SL
126 ปลาอมไข่ Apogon hyalosoma Bleeker, 1852 วงศ์Apogonidae Humpbacked cardinalfish ลักษณะ ล าตัวคล้ายกับสี่เหลี่ยมขนมเปี ยกปูน ส่วนหัวและล าตัว แบนด้านข้าง ตาโต ปลายจะงอยปากกลม ปากเฉียงขึ ้นเล็กน้อย มุมปากแผ่ ขยายเลยขอบหน้าของตา หน้าผากลาดชัน ตอนกลางของล าตัวบริเวณก้าน ครีบหลังอันที่หนึ่งลงมาลึกมาก ครีบทุกครีบพัฒนาดี ครีบหางเว้ าตื ้น บริเวณหลังมีสีน ้าตาลอ่อน ด้านข้างล าตัวมีสีเงินปนขาว ครีบต่างๆ ใส มีจุด สีด ากลมขนาดใหญ่ที่คอดหางขนาดประมาณเท่ากับตาด า ไม่มีแถบสีด า ด้านข้างล าตัวหรือบนหัว นิเวศวิทยา พบในป่ าชายเลน ปากแม่น ้า จนถึงบริเวณที่เป็ นน ้าจืด เป็ นปลาที่ออกหากินในช่วงเวลากลางคืน 100.3 mm SL
127 ปลาช่อนทรายแก้ว Sillago sihama (Forsskaål, 1775) วงศ์Sillaginidae Silver sillago ลักษณะ ล าตัวค่อนข้างกลมและยาวเรียว ส่วนท้ายแบนข้าง จะงอย ปากกลมยาวและเฉียงขึ ้น มีฟันเขี ้ยวที่ขากรรไกรบนและล่าง ส่วนท้ายของ กระเพาะลมแยกออกเป็ น 2 แฉก มีขนาดไม่เท่ากัน เกล็ดบนเส้นข้างตัวมี ประมาณ 70 เกล็ด ครีบหลังแยกออกเป็ นสองตอน แต่มีฐานครีบติดกัน ล าตัวสีเหลืองอมขาวเงินหรือสีน ้าตาลอ่อนอมขาวเงิน หรือสีน ้าตาลจางๆ ท้องสีขาวเงิน กลางล าตัวมีแถบสีขาวเงินยาวตามล าตัว ไม่มีแถบสีด าที่ฐาน ของครีบหู นิเวศวิทยา อาศัยอยู่เป็ นฝูงบริเวณพื ้นทะเลที่เป็ นทรายหรือโคลน ปนทรายใกล้ชายฝั่ง 90.3 mm SL
128 ปลาหางกิ่วหม้อ Caranx sexfasciatus Quoy & Gaimard, 1825 วงศ์Carangidae Bigeye trevally ลักษณะ ล าตัวป้ อมและแบนข้าง ปากกว้าง บริเวณเส้นข้างล าตัว มีเกล็ดขนาดใหญ่แข็งคม โดยเฉพาะบริเวณโคนหาง ตามีขนาดใหญ่ เยื่อ ไขมันหุ้มตาพัฒนาดี ครีบอกยาว ปลายเรียวแหลม ครีบหางหยักเว้าลึก ด้านหลังของล าตัวเป็ นสีเทาเงิน ค่อยๆ เปลี่ยนเป็ นสีขาวเงินบริเวณด้านท้อง ขอบบนของฝาปิ ดเหงือกมีจุดค่อนข้างด าขนาดเล็ก ส่วนยื่นสูงสุดของครีบ หลังอันที่สองและครีบก้นมีปลายสีขาว ปลาระยะวัยรุ่นล าตัวมีสีเหลืองทอง และมีบั ้งขวางล าตัวสีคล ้า 5 หรือ 6 บั ้ง นิเวศวิทยา อยู่รวมกันเป็ นฝูงบริเวณแนวชายฝั่ง ปลาระยะวัยรุ่น อาจพบในบริเวณบริเวณปากแม่น ้าและป่ าชายเลน 57.3 mm SL
129 ปลาสีเสียด Scomberoides commersonnianus Lacepède, 1801 วงศ์Carangidae Talang queenfish ลักษณะ ล าตัวเรียวและแบนข้างมาก ปากกว้าง มุมปากอยู่เลย ขอบหลังของตามาก ครีบหลังแยกเป็ นสองตอน ตอนหน้าจะเป็ นหนามเล็กๆ ตอนหลังเป็ นก้านครีบอ่อน ครีบก้นมีก้านครีบแข็ง 2 อัน แยกออกจากก้าน ครีบอ่อนชัดเจน ที่สันของคอดหางมีครีบฝอย หางเป็ นแฉกเว้าเล็ก ด้านหลัง เป็ นสีเขียวเข้มหรือน ้าเงิน ด้านท้องสีขาว มีแถบวงกลมสีเทาจางขนาด ต่างกัน 5-8 แถบ เรียงตัวอยู่ในแนวด้านข้างของล าตัว โดยแถบวงกลม 2 แถบแรกมักอยู่อยู่บนเส้นข้างตัว ส่วนแถบที่เหลือจะอยู่เหนือแนวเส้นข้างตัว นิเวศวิทยา อาศัยอยู่บริเวณใกล้ชายฝั่ง โดยอยู่รวมกันเป็ นฝูง เล็กๆ ตัวเต็มวัยจะเจริญเติบโตอยู่ในทะเลลึก 71.3 mm SL
130 ปลาแป้ นยักษ์ลาย Aurigequula fasciata (Lacepède, 1803) วงศ์Leiognathidae Striped ponyfish ลักษณะ ล าตัวลึกและแบนข้าง มีความยาวมาตรฐานเป็ น 1.7-2.0 เท่าของความลึกล าตัว เมื่อปากยืดหดปลายปากจะชี ้ลง ส่วนหัวและส่วนอก ไม่มีเกล็ด ก้านครีบแข็งอันที่สองของครีบหลังยื่นยาวเห็นได้ชัดเจน ล าตัวมีสี เงิน มีแถบสีด าในแนวตั ้งพาดอยู่ตรงด้านข้างตอนบนของล าตัวประมาณ 11 แถบ ด้านล่างแถบเหล่านี ้จะมีแถบสีเหลืองสั ้นๆ ทอดไปตามแนวยาวล าตัว ก้านครีบหางจะมีรอยแต้มสีน ้าตาล ครีบหลัง ครีบอก ครีบหางมีสีขาวใส ครีบก้นมีสีเหลือง นิเวศวิทยา อาศัยอยู่รวมกันเป็ นฝูง พบตามแนวชายฝั่งทะเล กิน ไส้เดือนทะเล ครัสตาเซียนและปลาขนาดเล็กเป็ นอาหาร 50.1 mm SL
131 ปลาแป้ นยักษ์ Leiognathus equulus (Forsskål, 1775) วงศ์Leiognathidae Common ponyfish ลักษณะ ล าตัวลึกมากและแบนข้าง มีความยาวมาตรฐานเป็ น 1.7-1.9 เท่าของความลึกล าตัว เมื่อปากยืดหดปลายปากจะชี ้ลง หน้าผาก โค้งนูนออก nuchal spine ยาวมากกว่าเส้นผ่าศูนย์กลางตา ส่วนหัวและ ส่วนอกไม่มีเกล็ด ล าตัวสีเงิน จะงอยปากมีจุดแต้มสีด า ด้านข้างตอนบน ของล าตัวมีเส้นลายแนวตั ้งเป็ นเส้นบางๆ สีคล ้าจ านวน 17-22 เส้น ครีบก้น ตอนหน้ามีสีเหลืองอ่อน มีจุดสีด าที่ฐานตอนบนและล่างของฐานครีบหู นิเวศวิทยาอาศัยอยู่รวมกันเป็ นฝูง พบตามแนวชายฝั่งทะเล ปลา ระยะวัยรุ่นจะพบในป่ าชายเลน 56.1 mm SL
132 ปลาแป้ นจมูกสั้น Nuchequula gerreoides (Bleeker, 1851) วงศ์Leiognathidae Decorated ponyfish ลักษณะ ล าตัวลึกปานกลางและแบนข้าง มีความยาวมาตรฐาน เป็ น 1.8-2.3 เท่าของความลึกล าตัว เมื่อปากยืดหดปลายปากจะชี ้ลง แนว จากส่วนหัวจนถึงจุดเริ่มต้นของครีบหลังโค้งมากกว่าส่วนท้อง ส่วนหัวและ ส่วนอกไม่มีเกล็ด ล าตัวเป็ นสีขาวเงิน ปลายจะงอยปากและหน้าผากมีจุด แต้มสีด า บริเวณด้านข้างตอนบนของล าตัวมีเส้นลายลูกคลื่นแนวตั ้งสีคล ้าที่ ปรากฏไม่ชัดเจนนัก ครีบหลังและครีบก้นมีขอบสีเหลือง ครีบอกมักมีสี ค่อนข้างเหลือง นิเวศวิทยา พบในเขตแนวชายฝั่งที่มีพื ้นดินเป็ นโคลนปนทรายใกล้ กับแนวป่ าชายเลน 44.9 mm SL
133 ปลาแป้ นปากหมู Secutor insidiator (Bloch, 1787) วงศ์Leiognathidae Pugnose ponyfish ลักษณะ ล าตัวรูปไข่ ลึกและแบนข้าง มีความยาวมาตรฐานเป็ น 1.6-2.5 เท่าของความลึกล าตัว ส่วนหัวบริเวณเหนือตาเว้าเข้า ปากเฉียง มากและชี ้ขึ ้นเมื่อยืดออก ส่วนแก้ม อก รวมทั ้งส่วนของคอไม่มีเกล็ด เส้นข้าง ตัวยาวถึงก่อนจุดสิ ้นสุดของครีบหลัง เกล็ดบนเส้ นข้ างตัว (นับจนถึง จุดสิ ้นสุดของคอดหาง) มี 84-107 เกล็ด มีหนามแหลมหนึ่งอันอยู่ระหว่างรู จมูกและตา ล าตัวตอนบนมีชุดของบั ้งกับจุดสีคล ้าเรียงตัวตามแนวตั ้ง จ านวน 11-15 แนว ครีบหางบางส่วนมีสีเหลือง ด้านในของฐานครีบอกมี แถบสีด า นิเวศวิทยาอยู่รวมกันเป็ นฝูง ตามแนวชายฝั่งทะเลและปากแม่น ้า 63.0 mm SL ตัวอย่างดอง
134 ปลาแป้ นป้ อม Secutor ruconius (Hamilton, 1822) วงศ์Leiognathidae Deep pugnose ponyfish ลักษณะ ล าตัวรูปไข่ ลึกมากและแบนข้าง มีความยาวมาตรฐาน เป็ น 1.4-1.7 เท่าของความลึกล าตัว ส่วนหัวบริเวณเหนือตาเว้า ปากเฉียง มากและชี ้ขึ ้นเมื่อยืดออก ส่วนแก้ม อก รวมทั ้งส่วนของคอมีเกล็ด เกล็ดบน ล าตัวมีขนาดปานกลาง เส้นข้างตัวยาวถึงตอนกลางของก้านครีบอ่อนของ ครีบหลัง เกล็ดบนเส้นข้างตัว (นับจนถึงจุดสิ ้นสุดของคอดหาง) มี 54-60 เกล็ด ล าตัวมีสีเงินและมีบั ้งเรียงตัวแนวตั ้งประมาณ 10 บั ้ง พาดตามแนว หลังและขยายเลยแนวเส้นข้างตัวลงมาเล็กน้อย ฐานครีบอกมีจุดประสีด า นิเวศวิทยา ปลาตัวเต็มวัยและระยะวัยรุ่น จะเข้าไปอาศัยอยู่ใน แหล่งน ้ากร่อย ป่ าชายเลน และในทะเลชายฝั่งที่มีพื ้นดินเป็ นทรายปนโคลน 26.8 mm SL
135 ปลากะพงแดง Lutjanus argentimaculatus (Forsskål, 1775) วงศ์Lutjanidae Mangrove red snapper ลักษณะ ล าตัวหนา แบนข้าง หัวโต มีฟันเขี ้ยวแหลมคม เกล็ดใหญ่ มีขอบหยัก ตอนหน้าของเกล็ดตามแนวล าตัวตอนบนจะเรียงตัวขนานไป ตามแนวของเส้นข้างตัวและจะเรียงตัวเฉียงขึ ้นทางตอนท้าย ครีบหลังตอน แรกมีก้านครีบเป็ นหนามแข็ง ตอนที่สองเป็ นครีบอ่อนมีขนาดใกล้เคียงกัน ครีบหางใหญ่ ปลายตัดตรง ล าตัวมีสีแดงสดหรือสีน ้าตาลเขียวเข้ม ส่วนท้อง มีสีเงิน ปลาระยะวัยรุ่นจะมีแถบสีขาวประมาณ 8 แถบ พาดลงในแนว ด้านข้างล าตัว และมีแถบสีน ้าเงิน 1-2แถบ พาดผ่านแก้ม นิเวศวิทยา ปลาระยะวัยรุ่นอาศัยอยู่ในบริเวณป่ าชายเลน ตัวเต็ม วัยจะอพยพไปเจริญเติบโตในทะเลลึก กินปลาและครัสตาเซียน เป็ นอาหาร 35.5 mm SL 116.6 mm SL
136 ปลากะพงเหลืองข้างปาน Lutjanus fulviflamma (Forsskål, 1775) วงศ์Lutjanidae Dory snapper ลักษณะ ล าตัวเรียวและแบนข้าง เกล็ดตามแนวล าตัวตอนบนจะ เรียงตัวเฉียงขึ ้นเหนือเส้นข้างตัว ในตัวเต็มวัยระยะห่างระหว่างตากว้างกว่า ความลึกหน้าตามาก ครีบหางใหญ่ ปลายตัดตรงถึงเป็ นแฉกเว้าตื ้น หลัง และด้านบนของล าตัวสีน ้าตาล ส่วนท้องมีสีออกขาวหรือสีน ้าตาลอ่อน ข้าง ล าตัวมีแถบแนวนอนสีเหลือง 6-7 แถบ มีจุดสีด าขนาดเท่าตาอยู่ในต าแหน่ง ใต้ส่วนหน้าของครีบหลังส่วนที่เป็ นครีบอ่อนในระดับเดียวกับเส้นข้างตัว ครีบทุกครีบสีค่อนข้างเหลือง ปลาระยะวัยรุ่นมีแถบสีด าพาดผ่านจะงอย ปากและลูกตา นิเวศวิทยา ปลาระยะวัยรุ่นมักพบในน ้ากร่อยและป่ าชายเลน กร่อย 49.0 mm SL
137 ปลากะพงเหลืองข้างปาน Lutjanus russellii (Bleeker, 1849) วงศ์Lutjanidae Russell's snapper ลักษณะ ล าตัวเรียวและแบนข้าง เกล็ดตามแนวล าตัวตอนบนจะ เรียงตัวเฉียงขึ ้นเหนือเส้นข้างตัว ในตัวเต็มวัยระยะห่างระหว่างตาจะเท่ากับ ความลึกหน้าตา ครีบหางใหญ่ ปลายตัดตรงถึงเป็ นแฉกเว้าตื ้น หลังและ ด้านข้างตอนบนของล าตัวสีออกน ้าตาล ด้านข้างตอนล่างและแนวราวท้อง สีชมพูถึงออกขาว มีจุดสีด าขนาดเท่าตาอยู่ในต าแหน่งใต้ส่วนหน้าของครีบ หลังส่วนที่เป็ นครีบอ่อน โดยจุดสีมีพื ้นที่ส่วนใหญ่อยู่เหนือระดับเส้นข้างตัว มีแถบสีน ้าตาลทอง 7 หรือ 8 แถบข้างล าตัว นิเวศวิทยา ปลาระยะวัยรุ่นมักพบในน ้ากร่อยและป่ าชายเลน 70.6 mm SL
138 ปลาดอกหมากครีบสั้น Gerres erythrourus (Bloch, 1791) วงศ์Gerreidae Deep-bodied mojarra ลักษณะ ล าตัวลึกและแบนข้าง ปากยืดหดได้ แนวด้านหน้าของหัว ลาดลงเกือบเป็ นเส้นตรง ก้านครีบแข็งอันที่สองของครีบก้นแข็งแรงมาก เกล็ดบนเส้นข้างตัวจนถึงฐานของครีบหางมีน้อยกว่า 38 เกล็ด ปลายครีบหู ยาวถึงแนวครีบก้น ครีบหางหยักเว้ารูปส้อม แพนหางกว้าง ปลายครีบทู่ ล าตัวส่วนหลังสีเงินออกน ้าตาล ด้านท้องสีเงินวาว มีบั ้งแคบๆ สีคล ้าแนวตั ้ง จ านวน 7-11บั ้ง พาดข้างตัว (โดยเฉพาะในปลาระยะวัยรุ่น) ครีบท้องและ ครีบก้นมีสีเหลือง ปลายครีบสีขาว ขอบครีบหลังและขอบครีบหางมีสีด า นิเวศวิทยา อาศัยตามแนวพื ้นที่แนวชายฝั่ง บนพื ้นโคลนอ่อนหรือ พื ้นทราย ปลาระยะวัยรุ่นมักเข้ามาอาศัยอยู่บริเวณป่ าชายเลน 57.0 mm SL
139 ปลาดอกหมากกระโดง Gerres filamentosus Cuvier, 1829 วงศ์Gerreidae Whipfin silver-biddy ลักษณะ ล าตัวลึกและแบนข้าง ปากยืดหดได้ แนวด้านหน้าของหัว ลาดลง ก้านครีบแข็งอันที่สองของครีบหลังแบนและยื่นยาวเป็ นเส้น มีปลาย สุดยาวไปจนถึงอย่างน้อยก้านครีบแข็งอันแรกของครีบก้น เกล็ดบนเส้นข้าง ตัวจนถึงฐานของครีบหางมี43-46 เกล็ด ปลายครีบหูยาวถึงแนวครีบก้น ครีบหางหยักเว้ารูปส้อม แพนหางเรียว ปลายครีบแหลม ล าตัวมีสีเงิน ส่วน หลังมีสีน ้าตาลเงินวาว ท้องสีขาวเงิน ด้านข้างล าตัวมีจุดสีคล ้ารูปวงรีเรียง ตัวเป็ นแถวในแนวตั ้ง 7-10แถว ครีบทุกครีบสีเทาอมเหลือง นิเวศวิทยา อาศัยตามอยู่เป็ นฝูงตามแนวชายฝั่งทะเล ที่มีพื ้นเป็ น ทราย กินครัสตาเซียน และไส้เดือนทะเลเป็ นอาหาร 84.0 mm SL ตัวอย่างดอง
140 ปลาดอกหมาก Gerres macracanthus Bleeker, 1854 วงศ์Gerreidae Longspine silverbiddy ลักษณะ ล าตัวลึกและแบนข้าง ปากยืดหดได้ แนวด้านหน้าของ หัวค่อนข้างโค้ง ก้านครีบแข็งอันที่สองของครีบหลังยื่นยาว เกล็ดบนเส้นข้าง ตัวจนถึงฐานของครีบหางมีประมาณ 42-43 เกล็ด ปลายครีบหูยาวถึงแนว ครีบก้น ครีบหางหยักเว้ารูปส้อม แพนหางเรียว ปลายครีบแหลม ล าตัวมีสี เงิน ส่วนหลังมีสีน ้าตาลอ่อนเงินวาว ท้องสีขาวเงิน มีแถบสีคล ้าเรียงตัวเป็ น แถวในแนวตั ้ง 7-10 แถว บริเวณด้านข้างล าตัว ครีบทุกครีบสีใส นิเวศวิทยา อาศัยตามอยู่เป็ นฝูงตามแนวชายฝั่งทะเลที่มีพื ้นเป็ น ทราย และพบในบริเวณป่ าชายเลน 60.5 mm SL
141 ปลาดอกหมาก Gerres oblongus Cuvier, 1830 วงศ์Gerreidae Slender silver-biddy ลักษณะ ล าตัวค่อนข้างเรียว แบนข้าง มีความยาวมาตรฐานเป็ น 2.5-3.0 เท่าของความลึกล าตัว ปากยืดหดได้ แนวด้านหน้าของหัวลาดลง ท ามุม 30องศากับแนวระนาบ เกล็ดบนเส้นข้างตัวจนถึงฐานของครีบหางมี ประมาณ 40-43 เกล็ด ปลายครีบหูยาวไม่ถึงแนวครีบก้น ครีบหางหยักเว้า รูปส้อม แพนหางเรียวยาว ปลายครีบแหลม ล าตัวมีสีเงิน ส่วนหลังมีสีเขียว อมน ้าตาล ขอบครีบหลังตรงส่วนที่เป็ นก้านครีบแข็งมีสีด า ครีบอื่นๆ มีสีใส ปลาระยะวัยรุ่นจะมีแถบสีด าพาดลงตามแนวด้านข้างล าตัว นิเวศวิทยา อาศัยตามอยู่เป็ นฝูงตามแนวชายฝั่งทะเลที่มีพื ้นเป็ น ทราย กินสัตว์หน้าดินเป็ นอาหาร 45.8 mm SL
142 ปลาสร้อยนกเขาปากหมู Plectorhinchus gibbosus Lacepède, 1802 วงศ์Haemulidae Harry hotlips ลักษณะ ล าตัวป้ อมและลึก ริมขอบปากหนาและจะขยายใหญ่ขึ ้น ตามอายุ ใต้คางมีรู 6 รู ไม่มีรอยบุ๋มลึกตรงกลางใต้ปากล่าง เกล็ดบนล าตัว มีขอบหยัก ตรงบริเวณรอยต่อระหว่างส่วนที่เป็ นก้านครีบแข็งกับก้านครีบ อ่อนของครีบหลังมีลักษณะเว้าลึก ครีบหางตัดตรงหรือโค้งออกเล็กน้อย ปลาระยะวัยรุ่น ล าตัวมีสีน ้าตาลเข้ม ครีบหางมีสีใสหรือสีชมพู ขอบครีบ หลังตรงส่วนของก้านครีบอ่อนและขอบครีบก้นมีสีขาว ตัวเต็มวัยมีสีล าตัว ตั ้งแต่สีเทาเข้ม สีน ้าตาลเข้มจนถึงสีด า และอาจมีจุดประสีน ้าตาลบนล าตัว นิเวศวิทยา ปลาระยะวัยรุ่น จะอ าพรางตัวคล้ายใบไม้โดยตะแคง ตัวและล่องลอยบนผิวน ้า 36.4 mm SL
143 ปลาครืดคราด Pomadasys kaakan (Cuvier, 1830) วงศ์Haemulidae Javelin grunter ลักษณะ ล าตัวป้ อมและแบนข้าง ส่วนหัวทู่ ริมขอบปากไม่หนา ใต้ คางมีรู 2 รู และมีรอยบุ๋มลึกตรงกลางใต้ปากล่าง เกล็ดบนล าตัวมีขอบหยัก ตรงบริเวณรอยต่อระหว่างส่วนที่เป็ นก้านครีบแข็งกับก้านครีบอ่อนของครีบ หลังมีลักษณะเว้าลึก ครีบหางหยักเว้าตื ้น ปลาระยะวัยรุ่น ล าตัวมีสีเขียว เงินวาว บริเวณส่วนหลังเป็ นสีทองออกเงินและแนวสันท้องเป็ นสีขาวเงิน ข้างล าตัวมีจุดหรือแต้มสีน ้าตาลเข้มเรียงตัวเป็ นแถวแนวตั ้งจ านวน 12 แถว หรือมากกว่านั ้น ครีบหลังมีจุดสีน ้าตาลด าหลายจุด ปลาตัวเต็มวัย ล าตัวมีสี เขียวทองบริเวณหลัง ด้านล่างเป็ นสีเงิน จุดบนครีบหลังไม่ชัดเจน นิเวศวิทยาอาศัยในทะเลชายฝั่ง และบริเวณปากแม่น ้า 120.5 mm SL
144 ปลาจวดหางพัด Johnius belangerii (Cuvier, 1830) วงศ์Sciaenidae Belanger's croaker ลักษณะ ล าตัวเรียวและลึกปานกลาง จะงอยปากกลมและเปิ ดออก ค่อนมาทางด้านล่าง ไม่มีฟันเขี ้ยว ครีบหางปลายตัดแบบจั่ว เกล็ดขอบกลม ปกคลุมจะงอยปาก ใต้ตาและตอนหน้าของอก เกล็ดขอบหยักปกคลุมส่วน อื่นของหัวและล าตัว เส้นข้างตัวยาวไปถึงปลายสุดของครีบหาง กระเพาะ ลมมีลักษณะคล้ายกับค้อนและมีรยางค์ 11-15 คู่ เกาะล้อมอยู่โดยรอบ ล าตัวมีจุดสีด าปกคลุมทั่วตัว ส่วนท้องมีสีจางกว่าส่วนหลัง มีแถบสีด าอยู่ที่ แถบด้านหลังของครีบหลัง ครีบหู ครีบท้องและครีบก้นมีสีออกด า นิเวศวิทยา พบตามบริเวณชายฝั่งทะเลและบริเวณป่ าชายเลน กิน หนอนที่อาศัยตามหน้าดินเป็ นอาหาร 126.5 mm SL