The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

การทดลองกิจกรรมวิทยาศาสตร์ 20 กิจกรรม

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by rungnapa.langkaweekhet, 2021-08-02 02:03:07

การทดลองกิจกรรมวิทยาศาสตร์ 20 กิจกรรม

การทดลองกิจกรรมวิทยาศาสตร์ 20 กิจกรรม

Keywords: การทดลองกิจกรรมวิทยาศาสตร์ 20 กิจกรรม

รายงานผลการจัดกจิ กรรม

การทดลองตามโครงการบ้านนกั วทิ ยาศาสตรน์ อ้ ย ประเทศไทย
ประจำปีการศกึ ษา 2563

โรงเรียนอนบุ าลภเู กต็
สำนักงานเขตพนื้ ทกี่ ารศึกษาประถมศกึ ษาภเู ก็ต
สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน
กระทรวงศึกษาธิการ

คำนำ

การเรียนรู้การทดลองวิทยาศาสตร์ เป็นกระบวนการแสวงหาความรู้หรือค้นคว้าหาคำตอบ
ในสิ่งที่เด็ก ๆ อยากรู้หรือสงสัยด้วยวิธีต่าง ๆ เป็นวิธีการเรียนรู้ที่เด็ก ๆ ได้เลือกศึกษาตามความสนใจของ
ตนเองหรือของกลุม่ เป็นการตดั สินใจร่วมกัน เป็นกิจกรรมทดลองวทิ ยาศาสตรท์ ี่เดก็ ๆ อยากรู้และอยากสนใจ
มีการจัดการเรียนรู้ที่หลากหลาย เช่น กระบวนการกลุ่ม รายบุคคล การฝึกการคิด การแก้ปัญหาและร่วมมือ
กนั คดิ เดก็ ๆ ทีไ่ ดล้ งมือปฏบิ ตั ิกจิ กรรมตา่ ง ๆ เพื่อค้นหาคำตอบดว้ ยตนเองและได้เรียนรจู้ ากประสบการณ์ตรง
เด็กมีความสนใจและกระตือรือร้นในการร่วมกิจกรรมเป็นอย่างดี รู้จักหน้าท่ี มีความรับผิดชอบของตนเอง
รูจ้ ักการรอคอย เกิดทักษะทางวทิ ยาศาสตร์ มคี วามภาคภูมใิ จในตนเองและผู้อืน่

ขอขอบพระคุณนายวิลาศ ปริญญานิยม ผูอ้ ำนวยการโรงเรยี นอนุบาลภูเก็ต รองผูอ้ ำนวยการโรงเรียน
อนบุ าลภูเก็ต และคณะครูทกุ ทา่ นทีส่ นบั สนนุ กิจกรรมการทดลอง ให้กำลงั ใจและใหค้ ำปรึกษาทดี่ ตี ลอดมา

หวังเป็นอย่างยิ่งว่ากิจกรรมทดลองตามโครงงานวิทยาศาสตร์ จะเป็นประโยชน์กับผู้สนใจและหาก
ทา่ นมีคำแนะนำเพื่อพฒั นากิจกรรมการทดลอง ทางผจู้ ัดทำนอ้ มรับเพื่อจะไดน้ ำไปปรับปรงุ พฒั นาใหด้ ียิ่งข้นึ ไป

คณะผูจ้ ัดทำ
ศนู ย์ปฐมวัยต้นแบบโรงเรียนอนุบาลภเู ก็ต

สารบัญ หน้า

เร่อื ง 1
คำนำ 4
กจิ กรรมที่ 1 หลอดดำน้ำ 7
กิจกรรมที่ 2 กกั นำ้ ไวไ้ ด้ 10
กจิ กรรมท่ี 3 หมดุ ลอยนำ้ 14
กิจกรรมที่ 4 การละลายของนำ้ ตาล 18
กิจกรรมท่ี 5 ป๊ัมขวดและลิฟต์เทยี น 21
กจิ กรรมท่ี 6 ระฆงั ดำน้ำจากขวดและเคร่ืองเปา่ ฟองสบู่ 24
กิจกรรมท่ี 7 เนนิ น้ำ 28
กจิ กรรมท่ี 8 ทอร์นาโดในขวด 31
กิจกรรมที่ 9 แสงเลี้ยวเบน 35
กจิ กรรมท่ี 10 สอ่ งกระจก 39
กจิ กรรมท่ี 11 ภเู ขาไฟระเบดิ 42
กจิ กรรมท่ี 12 กระจกเงาทำไดท้ ุกอยา่ ง 45
กิจกรรมท่ี 13 ฟองสบู่รปู สเ่ี หล่ียมและทรงกลม 48
กิจกรรมที่ 14 อินดเิ คเตอรจ์ ากพืช 51
กิจกรรมที่ 15 ลกู ข่างหลากสี 54
กจิ กรรมท่ี 16 ลกู โปง่ พองโตและขวดบุบเองได้ 57
กจิ กรรมที่ 17 จรวดหลอด 60
กจิ กรรมท่ี 18 ผงลึกลับ 63
กิจกรรมที่ 19 ลมอ่อน ๆ พัดผา่ นหอ้ ง
กจิ กรรมที่ 20 การจดั หมวดหมู่

1

สรปุ กิจกรรมการทดลอง 20 กจิ กรรม

กิจกรรมที่ 1 หลอดดำน้ำ

จุดประสงค์
1. เด็กเข้าใจและตอบคำถามเกี่ยวกับการลอยนำ้ ของวัตถุได้
2. เดก็ สามารถบันทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ข้นั ตอนการจัดกจิ กรรม
1. ครใู ห้เดก็ ๆคาดคะเนว่าส่ิงของชนดิ ใดท่ีลอยนำ้ ไดแ้ ละอะไรทีล่ อยไม่ได้เพราะเหตุใด
2. เด็กและครรู ่วมกนั ทดสอบการลอยของสง่ิ ของตา่ ง ๆ
3. เดก็ ทำการทดลองโดยใช้อุปกรณใ์ นชดุ กจิ กรรมดงั น้ีใช้หลอดขนาดใหญห่ มุ้ ปลายหลอดท้งั สองขา้ ง

ดว้ ยดนิ น้ำมนั เพ่ือปอ้ งกนั ไม่ให้นำ้ เขา้ โดยตัดหลอดขนาดใหญย่ าวประมาณ7เซนติเมตรแลว้ นำดินนำ้ มันมาอดุ
ไว้ที่ปลายท้งั สองขา้ งโดยใหด้ ้านหนงึ่ หนกั กวา่ อกี ดา้ นเพื่อใหห้ ลอดต้งั ตรงและไมใ่ หน้ ำ้ เข้า

4. นำมาทดสอบสมบัติการลอยน้ำในกะละมังหลังจากนั้นนำหลอดที่หุ้มด้วยดินน้ำมันไปใส่ในขวด
บรรจนุ ้ำแล้วบีบขวดนำ้ เบาๆเพ่ือใหม้ นั จมลงไป

5. เด็ก ๆสังเกตผลการทดลองและร่วมกันสรุปผลการทดลอง เรื่อง หลอดดำน้ำ พบว่า เมื่อวัตถุลอย
นิ่ง ในของเหลวแรงพยุงของน้ำจะมีค่าเท่ากับแรงดึงดูดของโลกเมื่อออกแรงบีบขวดจะทำให้ความดันของ
อากาศภายในขวดเพ่มิ กดวตั ถลุ งในทิศทางเดยี วกบั แรงดึงดูดของโลกจงึ ทำใหว้ ตั ถจุ ม

6. เด็กบนั ทกึ ผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีให้สวยงาม

2

ภาพกจิ กรรมการทดลอง หลอดดำนำ้

วสั ด/ุ อปุ กรณ์ท่ีใชใ้ นการทดลอง เด็ก ๆ ร่วมกนั ทำกจิ กรรมการทดลอง

เดก็ ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานทสี่ ำเรจ็ ของเด็ก

3

ผลท่ีเกดิ ข้ึนกับเดก็
1. ผลทเี่ กดิ ขน้ึ ตามจุดประสงค์
1.1 เด็กเข้าใจเร่ืองการลอยน้ำของวัตถุ การลอยน้ำของวัตถุขึ้นอยู่กับน้ำหนักและขนาดของวัตถุ

เมื่อใส่วัตถุลงในน้ำ น้ำจะมีแรงลอยตัวหรือแรงพยุงทำให้วัตถุลอยได้ ถ้าวัตถุนั้นมีน้ำหนักน้อยกว่าหรือเท่ากบั
น้ำ เมื่อใช้หลอดดูดแบบงอได้และลวดเสียบกระดาษนำมาประกอบกัน และใช้หลอดขนาดใหญ่หุ้มด้วยดิ น
น้ำมัน เมื่อนำมาหย่อนลงในขวดบรรจุน้ำ วัตถุทั้งสองชิ้นนี้จะจมลงไปด้านล่างเมื่อบีบขวดและลอยขึ้นมา
ดา้ นบนเม่อื แรงบบี ลดลง

1.2 เด็กสามารถวาดภาพผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองจากการ
วาดภาพของตนเองได้

2. พฒั นาการความสามารถพืน้ ฐาน และพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนรู/้ ด้านภาษา/ดา้ นสตปิ ญั ญา
ด้านการเรยี นรู้
- เดก็ ไดล้ งมอื ทำและทดลองด้วยตนเอง

- เดก็ ได้เรยี นรู้การลอยน้ำของวัตถุข้ึนอยู่กับนำ้ หนักและขนาดของวัตถุ
- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
ดา้ นภาษา
- เดก็ สามารถบอกรายละเอยี ดเกยี่ วกับอุปกรณ์การทดลองได้โดยใชค้ ำพูดของตนเอง
- เด็กพูดอธิบายถงึ สิ่งท่สี ังเกตเหน็ จากการทดลอง
- เดก็ ได้นำเสนอผลงานของตนเองให้เพือ่ นๆฟงั ได้
ดา้ นสตปิ ัญญา
- เด็กคดิ และรจู้ ักการตั้งคำถามในส่ิงทต่ี นสงสัย
- เด็กได้มีการพัฒนาสติปัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะการ
สังเกต การคาดคะเน และการเปรียบเทียบ เป็นตน้
2.2 ด้านสงั คม
- เด็กสามารถทำงานรว่ มกับผู้อ่นื ได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเอง และยอมรบั ฟังความคดิ เห็นของผู้อื่น
- เด็กเคารพกฎ กตกิ าห้องเรียน และระหว่างการปฏิบตั กิ ิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เดก็ ตื่นเต้นสนุกสนาน มีความสขุ ในการทดลอง และขณะปฏบิ ัตกิ จิ กรรม
2.4 ดา้ นการเคล่ือนไหว/รา่ งกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบจับ และใชอ้ ปุ กรณก์ ารทดลองได้คล่องแคลว่
- เด็กสามารถวาดภาพลงในกระดาษไดอ้ ย่างคล่องแคลว่ และชดั เจน

4

กิจกรรมที่ 2 กกั นำ้ ไว้ได้

จดุ ประสงค์
1. เด็กได้เรยี นรู้และเข้าใจการกกั น้ำด้วยอากาศและแรงดันอากาศ
2. เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ขั้นตอนการจดั กจิ กรรม
1. เดก็ และครูรว่ มสนทนาเก่ยี วกับสิ่งทพ่ี บเหน็ ในชีวิตประจำวนั เช่นเวลาขน้ึ ลิฟตร์ ู้สกึ อย่างไร
2. ครใู หเ้ ด็กตดั กระดาษเปน็ รูปวงกลมหรือสเ่ี หลยี่ ม เพ่ือใช้ปดิ ปากแก้ว
3. เทน้ำใหเ้ ตม็ แก้วท่เี ตรียมไว้ ให้เดก็ ทำการทดลองโดยใชภ้ าชนะขนาดใหญ่รอง
4. ครใู ห้เด็กนำกระดาษปิดปากแกว้ ใหส้ นทิ โดยใชม้ อื กดกระดาษใหป้ ิดปากแกว้ ให้แน่น
5. ควำ่ แกว้ ลงชา้ ๆ ให้แกว้ ต้ังอยบู่ นปลายฝ่ามือ โดยกระดาษอยู่ด้านล่าง
6. ครูต้ังคำถามกับเดก็ ๆ ว่าเกดิ อะไรขึ้นเมอ่ื คอ่ ยๆดึงแก้วขึ้นดา้ นบน มีนำ้ ไหลออกมาจากแกว้ หรอื ไม่
7. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลอง เรื่อง กักน้ำไว้ได้พบว่า น้ำถูกกักไว้ในแก้วโดยไม่ไหลออกมา

เพราะแรงดนั อากาศภายนอกแกว้ ออกแรงดันกับกระดาษทป่ี ดิ ปากแกว้ อยู่ตลอดเวลา
8. เด็กบนั ทกึ ผลการทดลองดว้ ยการวาดภาพระบายสีใหส้ วยงาม

5

ภาพกจิ กรรมการทดลอง กักน้ำไว้ได้

วสั ด/ุ อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการทดลอง เด็ก ๆ รว่ มกันทำกิจกรรมการทดลอง

เด็ก ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานท่สี ำเร็จของเดก็

6

ผลทเี่ กิดขน้ึ กบั เด็ก
1. ผลทีเ่ กดิ ขึ้นตามจุดประสงค์
1.1 เด็กเข้าใจเรื่องการกักน้ำว่าเกิดจากแรงดันอากาศ และสามารถอธิบายได้ว่าอากาศมีน้ำหนัก

และอากาศมีแรงดนั สามารถดันกระดาษทป่ี ดิ ปากแกว้ ไว้แน่น และบนที่สูงจะมีแรงดนั อากาศน้อยกวา่ บนพ้ืนดนิ
1.2 เดก็ สามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้

2. พัฒนาการความสามารถพน้ื ฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย
2.1 ดา้ นการเรยี นรู้/ ดา้ นภาษา/ดา้ นสติปัญญา
ด้านการเรยี นรู้
- เด็กได้ลงมอื ทำและทดลองด้วยตนเอง
- เด็กได้เรียนรู้ว่าแรงดันอากาศภายนอกแก้วจะออกแรงดันกับกระดาษที่ปิดปากแก้ว น้ำจึง

ถกู กกั อยู่ในแกว้ ถา้ ใช้กระดาษบาง ๆ กระดาษจะโค้งเวา้ เขา้ ไปภายในแกว้
- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ

ตนเองได้
ดา้ นภาษา
- เด็กสามารถบอกรายละเอียดเกย่ี วกับอุปกรณ์การทดลองได้โดยใชค้ ำพูดของตนเอง
- เดก็ พูดอธบิ ายถงึ สิ่งท่สี งั เกตเหน็ จากการทดลอง
- เดก็ ไดน้ ำเสนอผลงานของตนเองให้เพอื่ นๆฟังได้
ด้านสตปิ ัญญา
- เด็กคิดและร้จู ักการตัง้ คำถามในสง่ิ ทตี่ นสงสยั
- เดก็ ได้มีการพฒั นาสติปัญญา โดยเกิดทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เชน่ ทกั ษะการ

สงั เกต การคาดคะเน และการเปรยี บเทยี บ เปน็ ต้น
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานรว่ มกบั ผู้อื่นได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเอง และยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผู้อ่นื
- เด็กเคารพกฎ กตกิ าห้องเรยี น และระหวา่ งการปฏบิ ตั ิกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จติ ใจ
- เดก็ ต่ืนเตน้ สนกุ สนาน มคี วามสขุ ในการทดลอง และขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม
2.4 ดา้ นการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคล่ือนไหว หยิบจับ และใช้อุปกรณก์ ารทดลองได้คลอ่ งแคล่ว
- เด็กสามารถวาดภาพลงในกระดาษไดอ้ ย่างคล่องแคลว่ และชัดเจน

7

กิจกรรมที่ 3 หมุดลอยน้ำ

จดุ ประสงค์
1. เด็กสามารถบอกได้วา่ ทำไมหมดุ ลอยน้ำได้
2. เดก็ สามารถบนั ทกึ ผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ขั้นตอนการจัดกจิ กรรม
1. ครูพูดคยุ เกย่ี วกบั แมลงทสี่ ามารถเดนิ บนผวิ นำ้ ได้ เพอ่ื กระต้นุ ใหเ้ ดก็ ๆ สงสยั วา่ ทำไมแมลงพวกน้ีจึง

ไมจ่ มน้ำ
2. แบง่ นกั เรียนออกเปน็ 2 กลุม่ กลมุ่ ละเทา่ ๆ กัน
3. เด็กและครชู ่วยกนั เติมน้ำลงไปกะละมัง สูงประมาณ 5 ซม.
4. ครแู จกหมดุ ให้เดก็ นักเรียนเตรียมคนละ 10 ตวั แจกผ้าเช็ดมือให้กบั เด็กทุกคน
5. เด็ก ๆ ทดลองวางหมุดบนนำ้ ด้วยตนเองในครั้งแรก (สังเกตวา่ หมุดจะจมหรือลอย)
6. ครูสาธิตการวางหมุดให้เด็ก ๆ ดกู ่อนและใหค้ ำแนะนำใหเ้ ด็ก ๆ จับหมุดไวแ้ ละค่อย ๆ วางลงบนผิว

น้ำ (สงั เกตวา่ หมุดจะจมหรอื ลอย)
7. เมื่อวางหมดุ เสร็จแล้วตอ้ งเช็ดมอื ให้แห้งก่อนแลว้ คอ่ ยหยิบหมดุ ตัวต่อไป
8. เมื่อหมดุ หมดแลว้ ครใู ห้เดก็ ๆ ทดลองวางลวดเสียบกระดาษต่อ
9. เด็ก ๆ ใชแ้ ว่นขยายสังเกตผวิ น้ำทีเ่ ป็นวงกลมรอบ ๆ หมดุ ที่ลอยนำ้
10. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลอง เรื่อง หมุดลอยน้ำ พบว่า ปกติหมุดและลวดเสียบกระดาษ

จะจมนำ้ เพราะมนี ้ำหนกั มากกวา่ นำ้ และหมุดสามารถลอยนำ้ ได้เม่อื วางอยา่ งเบามือโดยอาศยั แรงตึงผิวของนำ้
11. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีให้สวยงาม

8

ภาพกจิ กรรมการทดลอง หมุดลอยนำ้

วสั ด/ุ อปุ กรณ์ที่ใชใ้ นการทดลอง เด็ก ๆ ร่วมกันทำกจิ กรรมการทดลอง

เดก็ ๆ นำเสนอผลงานจากรปู วาดของตนเอง ผลงานที่สำเร็จของเดก็

9

ผลทีเ่ กดิ กับเดก็

1. ผลที่เกดิ ขน้ึ ตามจดุ ประสงค์

1.1 เด็ก ๆ สามารถสรปุ ไดว้ ่าเข็มหมดุ ลอยน้ำได้ เพราะน้ำมีแรงยึดเหน่ียวท่ีผวิ น้ำซึ่งเรียกว่า แรงตึง

ผิวและแรงตึงผิวทำให้วัตถุที่มีน้ำหนักเบามาก ๆ สามารถลอยน้ำได้ หมุดมีน้ำหนักค่อนข้างมากจะลอยน้ำได้

ต้องวางอย่างเบามือ

1.2 เด็กสามารถวาดภาพผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองจากการ
วาดภาพของตนเองได้

2. พัฒนาการความสามารถพืน้ ฐาน และพฒั นาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนร้/ู ด้านภาษา/ด้านสติปัญญา
ด้านการเรยี นรู้
- เด็กไดล้ งมอื ทำและทดลองด้วยตนเอง
- เด็ก ๆ ได้เรียนรู้เรื่องแรงตึงผิว เข็มหมุดลอยน้ำได้ เพราะน้ำมีแรงยึดเหนี่ยวที่ผิวน้ำท่ี

เรียกว่าแรงตงึ ผวิ
- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ

ตนเองได้
ดา้ นภาษา
- เด็กสามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกบั อุปกรณ์การทดลองได้โดยใชค้ ำพูดของตนเอง
- เดก็ พูดอธิบายถึงสิ่งทีส่ งั เกตเหน็ จากการทดลอง
- เด็กไดน้ ำเสนอผลงานของตนเองใหเ้ พ่อื นๆฟงั ได้
ด้านสตปิ ญั ญา
- เดก็ คดิ และรูจ้ ักการต้งั คำถามในสง่ิ ทตี่ นสงสยั
- เด็กได้มีการพัฒนาสติปัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะการ

สังเกต การคาดคะเน และการเปรยี บเทยี บ เป็นต้น
2.2 ด้านสงั คม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกบั ผู้อ่นื ได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรับฟังความคดิ เห็นของผู้อนื่
- เดก็ เคารพกฎ กตกิ าห้องเรยี น และระหว่างการปฏบิ ัติกจิ กรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เดก็ ตื่นเต้นสนกุ สนาน มีความสขุ ในการทดลอง และขณะปฏิบัติกิจกรรม
2.4 ดา้ นการเคลื่อนไหว/รา่ งกาย
- เดก็ สามารถเคลื่อนไหว หยิบจบั และใชอ้ ุปกรณก์ ารทดลองได้คล่องแคล่ว
- เด็กสามารถวาดภาพลงในกระดาษไดอ้ ย่างคล่องแคล่วและชดั เจน

10

กิจกรรมท่ี 4 การละลายของนำ้ ตาล

จุดประสงค์
1. เด็กได้เรียนร้แู ละเขา้ ใจเกยี่ วกับการละลายของน้ำตาล
2. เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ขัน้ ตอนการจดั กิจกรรม
1. เดก็ ๆ ฝกึ หยดน้ำจากหลอดหยดเพือ่ ใหร้ วู้ ธิ บี บี และปลอ่ ยจกุ ยางโดยให้น้ำออกมาทลี ะหยด
2. ครูให้เด็ก ๆ สงั เกตการละลายของนำ้ ตาลในนำ้ เมื่อหยอ่ นก้อนนำ้ ตาลลงแกว้ น้ำ
3. ครแู บง่ กลุ่มเป็น 2 กลุม่ เท่า ๆ กัน
4. เดก็ ๆ แตล่ ะกลุ่มเทนำ้ ใสจ่ านจนปริ่มขอบจาน
5. เด็ก ๆ วางน้ำตาล 2 กอ้ น บนผ้าเช็ดมือ และหยดสีลงบนก้อนนำ้ ตาล
6. เด็กหยิบนำ้ ตาลทีห่ ยดสแี ล้วทง้ั 2 ก้อนวางบนจานท่ีใสน่ ้ำไวจ้ นปร่มิ โดยวางใหห้ า่ งกนั 2-3

เซนติเมตร และหยิบน้ำตาลที่ไมไ่ ดห้ ยดสีมาวางบนจานดว้ ย
4. เด็ก ๆ ใชแ้ ว่นขยายส่องดเู พื่อสงั เกตการละลายของก้อนนำ้ ตาล
5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลอง เรื่อง การละลายของน้ำตาล พบว่า สีที่เกิดจากการละลาย

ของน้ำตาลแต่ละสีจะไหลเข้าหากันจะเกิดการแบ่งแยกสีในช่วงแรกเนื่องมาจากความเข้มข้นของน้ำตาล
จากนน้ั จะแพร่เขา้ หากนั และการแพรก่ ระจายสจี ะชา้ ลงจนในทส่ี ุดสีจะผสมกันอยา่ งสมบรู ณ์

6. เดก็ บันทกึ ผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีใหส้ วยงาม

11

ภาพกจิ กรรมการทดลอง การละลายของนำ้ ตาล

วัสดุ/อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการทดลอง เดก็ ๆ ร่วมกนั ทำกจิ กรรมการทดลอง

เด็ก ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานทสี่ ำเรจ็ ของเดก็

12

ผลทีเ่ กิดขนึ้ กบั เด็ก
1. ผลทีเ่ กดิ ขึ้นตามจุดประสงค์
1.1 เด็กเข้าใจและสามารถอธิบายเกี่ยวกับลักษณะการละลายของน้ำตาลในน้ำ น้ำตาลจะค่อยๆ

ละลาย ความเข้มข้นของน้ำตาลจะมีมากบริเวณรอบก้อนน้ำตาลโดยสังเกตได้จากสีจะเข้มมากบริเวณรอบ
ก้อนนำ้ ตาลและส่วนบริเวณท่มี ีความเข้มข้นของนำ้ ตาลน้อยสีจะจางๆและเมื่อน้ำตาลละลายหมดความเข้มข้น
ของน้ำตาลจะเท่ากัน เมื่อใส่น้ำตาลในเครื่องดื่มน้ำตาลจะละลายเร็วมากเพราะน้ำตาลละลายได้ดีในน้ำและ
เครื่องด่ืมจะมรี สหวานมากขึ้นในทันที

1.2 เด็กสามารถวาดภาพผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองจากการ
วาดภาพของตนเองได้

2. พัฒนาการความสามารถพ้นื ฐาน และพฒั นาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ดา้ นการเรยี นร้/ู ด้านภาษา/ด้านสติปัญญา
ด้านการเรียนรู้
- เด็กไดล้ งมือทำและทดลองด้วยตนเอง
- เด็ก ๆ ได้เรยี นรู้เร่อื งลักษณะการละลายของน้ำตาลในน้ำ และนำ้ ตาลละลายไดด้ ีในน้ำ
- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ

ตนเองได้
ดา้ นภาษา
- เดก็ สามารถบอกรายละเอียดเก่ียวกบั อุปกรณ์การทดลองได้โดยใชค้ ำพูดของตนเอง
- เด็กพดู อธบิ ายถึงส่ิงท่ีสงั เกตเหน็ จากการทดลอง
- เดก็ ได้นำเสนอผลงานของตนเองให้เพื่อนๆฟังได้
ดา้ นสติปัญญา
- เด็กคดิ และรจู้ ักการต้ังคำถามในสิ่งทตี่ นสงสยั
- เดก็ ๆ ได้ฝึกทักษะการคิด โดยการคิดเชื่อมโยงสง่ิ ที่ได้ทดลอง ลงมอื ทำกิจกรรมดว้ ยตนเอง

กบั ผลท่เี กิดข้ึน มีการพฒั นาสติปัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น การคาดคะเน ทักษะ
การสังเกต การเปรียบเทียบ เป็นต้น

2.2 ด้านสงั คม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกบั ผู้อืน่ ได้
- เดก็ สามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรับฟังความคดิ เห็นของผู้อื่น
- เดก็ เคารพกฎ กติกาหอ้ งเรยี น และระหวา่ งการปฏิบัตกิ จิ กรรม

2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กตืน่ เตน้ สนุกสนาน มคี วามสขุ ในการทดลอง และขณะปฏบิ ตั กิ จิ กรรม

13

2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคล่ือนไหว หยิบจับ และใช้อุปกรณก์ ารทดลองได้คล่องแคลว่
- เด็กสามารถวาดภาพลงในกระดาษได้อย่างคล่องแคลว่ และชัดเจน

14

กิจกรรมที่ 5 ปั๊มขวดและลิฟต์เทยี น

จุดประสงค์
1. เด็กสามรถบอกได้ว่าอากาศร้อนอากาศเยน็ มีความตอ้ งการทีอ่ ยู่แตกตา่ งกัน
2. เด็กสามารถบอกได้วา่ การจดุ ไฟต้องจุดในทีท่ ่ีมีออกซิเจน เมื่อออกซเิ จนถูกใชไ้ ปไฟก็จะดับ
3. เด็กสามารถบนั ทกึ ผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ขน้ั ตอนการจดั กจิ กรรม
1. ครูตั้งคำถามว่า“มีใครเคยสังเกตหรือไม่ว่า เมื่อล้างแก้วด้วยน้ำร้อนและนำไปคว่ำไว้บนพื้นโต๊ะ

มีเสยี งอะไรเกิดขึ้น”
2. ผสมน้ำกบั สผี สมอาหารบนจานพลาสติก
3. เติมน้ำร้อนในขวดประมาณครึง่ ขวดแล้วเขยา่ จนรสู้ กึ ไดว้ า่ ผวิ ของขวดร้อน แลว้ จงึ เทนำ้ ร้อนออก
4. นำขวดทีเ่ ทน้ำรอ้ นออกแล้วไปคว่ำบนจานทม่ี นี ำ้ ผสมสผี สมอาหารอยู่แล้วสังเกตวา่ มีอะไรเกดิ ข้ึน
5. นำเทยี นถ้วยไปวางบนจานทีม่ ีนำ้ ผสมสผี สมอาหารอยูแ่ ลว้ จดุ ไฟ
6. นำแก้วเตมิ นำ้ รอ้ นรอจนรู้สึกวา่ ผิวด้านนอกทแ่ี กว้ รอ้ น เทนำ้ ร้อนออก
7. นำแก้วทครอบเทียนบนจานท่มี ีนำ้ ผสมสผี สมอาหารอยู่ สังเกตว่าเกิดอะไรขึน้
8. ครูและเดก็ รว่ มกนั สรปุ ผลการทดลอง เรอ่ื ง ปม๊ั ขวดและลฟิ ต์เทยี น พบวา่ ในการทดลองเม่ือนำขวด

ที่รู้สึกร้อนมาคว่ำบนจานที่มีน้ำผสมสีผสมอาหาร น้ำจะเข้าไปอยู่ในขวด และเมื่อนำแก้วร้อนๆมาครอบเทียน
ถ้วย เมื่อเทียนถูกครอบเปลวเทียนค่อยๆดับลง น้ำผสมสีอาหารให้เข้าไปอยู่ในแก้วน้ำและดันเทียนถ้วยลอย
ขึ้นมาพร้อมกับน้ำ ที่เป็นเช่นนี้เพราะออกซิเจนจะถูกใช้อย่างรวดเร็วจนหมดจากการเผาไหม้ ทำให้เทียนดับ
และขณะที่ไฟติดอากาศก็จะร้อน เมื่อไฟดับอากาศจึงค่อย ๆ เย็นลง ทำให้อากาศเคลื่อนตัวเข้าชิดกัน ดึงน้ำท่ี
อยู่ปากแก้วเข้ามาแทนท่ี

9. เด็กบันทึกผลการทดลองดว้ ยการวาดภาพระบายสีใหส้ วยงาม

15

ภาพกิจกรรมการทดลอง ป๊ัมขวดและลิฟต์เทยี น

วัสด/ุ อปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการทดลอง เดก็ ๆ รว่ มกันทำกจิ กรรมการทดลอง

เด็ก ๆ นำเสนอผลงานจากรปู วาดของตนเอง ผลงานทส่ี ำเรจ็ ของเดก็

16

ผลท่ีเกิดข้นึ กับเด็ก
1. ผลที่เกดิ ข้นึ ตามจดุ ประสงค์
1.1 เด็ก ๆ บอกได้ว่าเมื่อขวดร้อนเป็นการเพิ่มอุณหภูมิให้กับพื้นผิวภายในขวดอากาศภายในขวด

ฟุ้งกระจายอยู่เต็มขวดอากาศอยู่ห่างกันมากขึ้น และเมื่ออากาศเย็นตัวลง ทำให้อากาศที่กระจายอยู่เคลื่อนท่ี
เข้ามาอยู่ชิดกนั ทำให้ภายในขวดมีพื้นท่วี ่าง แตอ่ ากาศดา้ นนอกไมส่ ามารถเข้าไปได้ เน่ืองจากมีน้ำอยู่รอบปาก
ขวด นำ้ จึงเข้ามาแทนที่พนื้ ท่ีท่วี า่ งภายในขวด

1.2 เด็ก ๆ บอกไดว้ ่า เม่อื เทียนดบั จึงทำให้ร้วู า่ ภายในแก้วไม่มีอากาศออกซเิ จนอยู่
1.3 เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพน้ื ฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ด้านการเรยี นร/ู้ ดา้ นภาษา/ด้านสตปิ ญั ญา

ด้านการเรยี นรู้
- เดก็ ได้ลงมือทำและทดลองด้วยตนเอง
- การเพ่มิ อุณหภมู ใิ ห้กับพืน้ ผิวภายในขวดอากาศภายในขวดฟุ้งกระจายอยู่เต็มขวดอากาศอยู่
หา่ งกนั มากข้ึน และเมอื่ อากาศเย็นตวั ลง ทำใหอ้ ากาศทีก่ ระจายอยูเ่ คลื่อนทเ่ี ขา้ มาอยชู่ ดิ กัน ทำใหภ้ ายในขวดมี
พื้นที่ว่าง แต่อากาศด้านนอกไม่สามารถเข้าไปได้ เนื่องจากมีน้ำอยู่รอบปากขวด น้ำจึงเข้ามาแทนที่พ้ืนท่ีท่วี ่าง
ภายในขวด
- เด็กได้เรียนรู้ว่าเม่ือออกซิเจนอถูกใช้ในการเผาไหมจ้ นหมดไฟจะดบั
- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้
ดา้ นภาษา
- เดก็ สามารถบอกรายละเอียดเกีย่ วกับอุปกรณ์การทดลองไดโ้ ดยใชค้ ำพูดของตนเอง
- เดก็ พูดอธบิ ายถงึ ส่ิงท่สี งั เกตเหน็ จากการทดลอง
- เดก็ ได้นำเสนอผลงานของตนเองให้เพื่อนๆฟังได้
ดา้ นสติปญั ญา
- เด็กคดิ และรู้จักการต้ังคำถามในสง่ิ ทต่ี นสงสยั
- เดก็ ไดม้ ีการพฒั นาสตปิ ญั ญา โดยเกดิ ทกั ษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะการ
สงั เกต การคาดคะเน และการเปรียบเทียบ เปน็ ตน้
2.2 ด้านสงั คม
- เดก็ สามารถทำงานร่วมกับผู้อนื่ ได้
- เดก็ สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเอง และยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อน่ื
- เดก็ เคารพกฎ กติกาหอ้ งเรียน และระหว่างการปฏิบตั กิ ิจกรรม

17

2.3 ดา้ นอารมณ์-จิตใจ
- เด็กต่ืนเต้นสนกุ สนาน มคี วามสขุ ในการทดลอง และขณะปฏบิ ัติกิจกรรม

2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เดก็ สามารถเคล่ือนไหว หยิบจบั และใชอ้ ุปกรณก์ ารทดลองได้คลอ่ งแคล่ว
- เด็กสามารถวาดภาพลงในกระดาษไดอ้ ย่างคล่องแคล่วและชัดเจน

18

กิจกรรมที่ 6 ระฆงั ดำนำ้ จากขวดและเครอื่ งเป่าฟองสบู่

จุดประสงค์
1. เดก็ สามารถบอกได้วา่ อากาศนัน้ มตี วั ตนและตอ้ งการที่อยู่
2. เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ขน้ั ตอนการจัดกจิ กรรม
1. สรา้ งระฆังดำน้ำดว้ ยขวดพลาสตกิ โดยตัดก้นขวดพลาสตกิ ออก ปดิ ฝาขวดให้แนน่
2. เติมน้ำลงในอ่าง จับด้านฝาขวดกดลงในน้ำตามแนวตั้งฉากให้ถึงก้นอ่างและสังเกตผล เปิดฝาขวด

ในขณะที่ปากขวดยังอยใู่ ตน้ ำ้ สังเกตสิ่งทเ่ี กิดขึ้น
3. แนะนำให้เด็ก ๆ เปิด”ระฆังดำน้ำ” เพื่อปล่อยอากาศออกโดยไม่ต้องหงายขวด แต่ให้เด็กค่อย ๆ

เปิดฝาขวดขณะกดระฆังดำน้ำลงกน้ อา่ ง
4. สังเกตสิ่งที่เกิดขึ้นเมื่อเด็ก ๆ ปิดฝาขวดให้แน่น และดึงขวดขึ้นด้านบน แต่ยังไม่ให้ถือขวดขึ้นพ้น

จากผิวนำ้ สงั เกตผล
5. นำขวดพลาสตกิ ใบเดิมมาเจาะรทู ่ฝี าขวด คว่ำขวดลงแล้วหยดน้ำยาล้างจานเล็กน้อยบรเิ วณทเี่ จาะรู
6. นำขวดกดลงไปในนำ้ ในแนวตั้งฉาก แลว้ สังเกตสิ่งท่ีเกิดข้ึน
7. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลอง เรื่อง ระฆังดำน้ำจากขวดและเครื่องเป่าฟองสบู่ พบว่า เมื่อ

กดขวดพลาสติกลงไปในน้ำแนวด่ิง แล้วเปดิ ฝาขวดออก อากาศภายในขวดจะไหลออกทางปากขวดและมีเสียง
เบาๆและเมื่อน้ำขวดที่เจาะรูและหยดน้ำยาล้างจานแล้วกดลงไป จะเกิดเป็นฟองสบู่ขึ้นมาจากรูที่เจาะเพราะ
อากาศจะเคลื่อนตัวขึ้นไปด้านบนและไหลออกมาทางรูที่เจาะซึ่งได้หยดน้ำยาล้างจานเอาไว้ ดังนั้นจึงเกิดฟอง
สบูข่ น้ึ มา และฟองสบจู่ ะคอ่ ยๆโตข้ึนเรื่อย ๆ เมอ่ื กดขวดลงไปในน้ำให้ลกึ มากกวา่ เดมิ

8. เด็กบนั ทกึ ผลการทดลองดว้ ยการวาดภาพระบายสใี ห้สวยงาม

19

ภาพกจิ กรรมการทดลอง ระฆังดำน้ำจากขวดและเครือ่ งเป่าฟองสบู่

วัสด/ุ อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการทดลอง เดก็ ๆ ร่วมกนั ทำกิจกรรมการทดลอง

เด็ก ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานท่สี ำเรจ็ ของเด็ก

20

ผลที่เกดิ กับเดก็

1.ผลทเ่ี กดิ ขน้ึ ตามจดุ ประสงค์

1.1 เดก็ บอกได้ว่าอากาศน้ันมตี วั ตน ตอ้ งการทอ่ี ยู่และอย่ไู ดใ้ นทุก ๆ ที่
1.2 เด็กสามารถบนั ทกึ ผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พฒั นาการความสามารถพ้ืนฐาน และพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย

2.1 ดา้ นการเรียนร้/ู ดา้ นภาษา/ดา้ นสตปิ ัญญา
ด้านการเรยี นรู้
- เด็กไดล้ งมือทำและทดลองด้วยตนเอง
- เด็กได้เรยี นรูเ้ รือ่ งอากาศนน้ั มีตวั ตนและอยู่ได้ในทกุ ๆ ที่
- เด็กได้เรียนรู้ว่า เมื่อกดขวดพลาสติกลงไปในน้ำแนวดิ่ง แล้วเปิดฝาขวดออก อากาศภายใน

ขวดจะไหลออกทางปากขวดและมีเสียงเบาๆและเมื่อน้ำขวดที่เจาะรูและหยดน้ำยาล้างจานแล้วกดลงไป
จะเกดิ เป็นฟองสบขู่ ้ึนมาจากรูทเ่ี จาะเพราะอากาศจะเคลอื่ นตวั ขึ้นไปด้านบนและไหลออกมาทางรู

- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้

ดา้ นภาษา
- เดก็ สามารถบอกรายละเอยี ดเกี่ยวกับอุปกรณ์การทดลองไดโ้ ดยใช้คำพูดของตนเอง
- เดก็ พูดอธบิ ายถงึ ส่งิ ที่สังเกตเหน็ จากการทดลอง
- เดก็ ไดน้ ำเสนอผลงานของตนเองใหเ้ พื่อนๆฟงั ได้
ดา้ นสตปิ ัญญา
- เดก็ คดิ และรจู้ ักการตง้ั คำถามในสง่ิ ที่ตนสงสยั
- เด็กได้มีการพฒั นาสตปิ ัญญา โดยเกดิ ทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เช่น ทักษะการ
สงั เกต การคาดคะเน และการเปรยี บเทียบ เป็นตน้
2.2 ด้านสงั คม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกับผู้อ่นื ได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรบั ฟงั ความคิดเห็นของผู้อื่น
- เดก็ เคารพกฎ กตกิ าห้องเรยี น และระหว่างการปฏบิ ัตกิ จิ กรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เดก็ ตื่นเต้นสนุกสนาน มคี วามสุขในการทดลอง และขณะปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
2.4 ด้านการเคลอ่ื นไหว/รา่ งกาย
- เด็กสามารถเคล่ือนไหว หยิบจบั และใช้อุปกรณก์ ารทดลองได้คลอ่ งแคลว่
- เดก็ สามารถวาดภาพลงในกระดาษได้อย่างคล่องแคลว่ และชดั เจน

21

กจิ กรรมที่ 7 เนินนำ้

จุดประสงค์
1. เด็กเขา้ ใจและตอบคำถามเก่ยี วกบั เรือ่ งแรงตึงผวิ ของน้ำได้
2. เดก็ สามารถบันทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ข้ันตอนการจัดกิจกรรม
1. ครูแจกหลอดหยดและฝาขวดน้ำขนาดเลก็ พรอ้ มถาดรองเพือ่ ให้ฝกึ ใชห้ ลอดหยดดดู นำ้
2. เด็ก ๆ ลองบบี หลอดหยดแล้วสังเกตว่ามีอะไรออกมาหรือไม่ และใหเ้ ดก็ ๆ สงั เกตเวลาที่ดูดน้ำเกิด

อะไรขน้ึ เวลาเราบีบปลายหลอดหยด
3. นำน้ำมาหยดใส่ในฝาขวดเรื่อย ๆ ทีละหยดจนกว่าจะเต็มและในขณะที่น้ำจะล้นให้หยุดสังเกตการ

เปลย่ี นแปลงทเี่ กิดขึน้
4. ครูและเดก็ รว่ มกนั สรุปผลการทดลอง เร่ือง เนนิ น้ำ พบวา่ โมเลกุลของนำ้ มีขนาดเลก็ ยดึ กนั ด้วยแรง

ระหวา่ งโมเลกลุ เป็นแรงทเี่ ราเรยี กวา่ แรงดึงผิวเม่ือปรมิ าณนำ้ ไม่มากพอทจี่ ะทำลายแรงดงึ ผวิ น้กี จ็ ะทำใหเ้ ราเห็น
เนนิ นำ้ แต่ถา้ เราหยอดนำ้ ลงไปอีกทำให้แรงดงึ ผิวไม่สามรถยดึ เกาะกันไดเ้ ช่นเดิมจึงลน้ ออกมา

5. เด็กบันทกึ ผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีให้สวยงาม

22

ภาพกิจกรรมการทดลอง เนินนำ้

วสั ด/ุ อุปกรณ์ท่ีใชใ้ นการทดลอง เด็ก ๆ ร่วมกันทำกิจกรรมการทดลอง

เด็ก ๆ นำเสนอผลงานจากรปู วาดของตนเอง ผลงานท่ีสำเรจ็ ของเด็ก

23

ผลท่เี กิดขึน้ กับเด็ก
1. ผลท่ีเกดิ ขึ้นตามจดุ ประสงค์
1.1 เด็กได้เห็นและรู้จักเนินน้ำและเข้าใจว่าเนินน้ำเกิดจากการที่น้ำมีแรงยึดเหนี่ยวกันทำให้น้ำ

จับตัวกันแน่น โดยเฉพาะที่ผิวน้ำ เรียกว่า “แรงตึงผิว” ที่สามารถทำให้น้ำเกาะกันเป็นหยด หรือรับน้ำหนัก
วัตถเุ บาๆได้

1.2. เด็กสามารถวาดภาพผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองจากการ
วาดภาพของตนเองได้

2. พฒั นาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวยั
2.1 ดา้ นการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ดา้ นสติปญั ญา
ดา้ นการเรยี นรู้
- เดก็ ไดล้ งมือทำและทดลองดว้ ยตนเอง
- เดก็ ไดเ้ รยี นรูเ้ รื่องแรงตึงผิว นำ้ มแี รงยดึ เหน่ียวกันทำใหน้ ำ้ จับตวั กนั แน่นโดยเฉพาะทีผ่ ิวน้ำ
- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ

ตนเองได้
ด้านภาษา
- เดก็ สามารถบอกรายละเอยี ดเกีย่ วกบั อุปกรณ์การทดลองไดโ้ ดยใชค้ ำพูดของตนเอง
- เด็กพูดอธบิ ายถึงส่ิงที่สังเกตเหน็ จากการทดลอง
- เดก็ ไดน้ ำเสนอผลงานของตนเองใหเ้ พอ่ื นๆฟงั ได้
ด้านสติปญั ญา
- เด็กคิดและรจู้ ักการตงั้ คำถามในสิง่ ท่ีตนสงสยั
- เด็กได้มีการพัฒนาสติปัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะการ

สงั เกต การคาดคะเน และการเปรียบเทยี บ เป็นตน้
2.2 ด้านสงั คม
- เดก็ สามารถทำงานร่วมกับผ้อู ื่นได้
- เด็กสามารถแสดงความคดิ เหน็ ของตนเอง และยอมรบั ฟงั ความคิดเหน็ ของผอู้ ่นื
- เดก็ เคารพกฎ กติกาห้องเรียน และระหวา่ งการปฏิบตั กิ ิจกรรม
2.3 ดา้ นอารมณ์-จติ ใจ
- เดก็ ต่นื เตน้ สนุกสนาน มีความสขุ ในการทดลอง และขณะปฏบิ ัติกจิ กรรม
2.4 ด้านการเคล่อื นไหว/ดา้ นรา่ งกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยบิ จบั และใช้อปุ กรณก์ ารทดลองได้คล่องแคล่ว
- เด็กสามารถวาดภาพลงในกระดาษได้อยา่ งคล่องแคล่วและชดั เจน

24

กิจกรรมท่ี 8 ทอร์นาโดในขวด

จุดประสงค์
1. เด็กเข้าใจลกั ษณะและการเกิดทอร์นาโดในขวด
2. เดก็ สามารถบนั ทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ขัน้ ตอนการจดั กจิ กรรม
1. เด็กเติมน้ำลงในขวดประมาณ 2 / 3 ส่วน และหยดสผี สมอาหารลงไป เพอ่ื ให้เห็นการเกดิ ทอร์นาโด

ไดช้ ัดเจนขึ้น โดยมีครูคอยชแ้ี นะและควบคมุ
2. หมนุ ขอ้ ตอ่ ให้ติดแน่นกับขวดใบท่เี ติมนำ้ ขวดเปลา่ อกี ใบวางควำ่ ลงดา้ นบนและหมุนปิดใหแ้ น่น
3. เด็กคาดคะเนว่าจะเกดิ อะไรข้นึ เมอื่ พลกิ ขวดกลับดา้ น
4. เด็กช่วยกันสร้างพายุทอร์นาโด โดยใช้มือข้างหนึ่งจับขวดล่าง ส่วนมืออีกข้างจับขวดด้านบน

หมุนคลายเกลียวอย่างรวดเร็วสังเกตการเปล่ียนแปลง
5. แล้วนำไปวางบนโต๊ะ เพ่อื สังเกต
6. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลอง เรื่อง ทอร์นาโดในขวดพบว่า ภายในขวดที่ว่างเปล่าจะมี

อากาศอยู่ ดงั น้นั แมน้ ้ำหนกั ของน้ำจะพยายามดึงน้ำให้ไหลลงด้านล่าง แต่อากาศท่อี ยู่ในขวดด้านล่างก็ออกแรง

ผลักไม่ให้น้ำไหลลงมาเช่นกันการเกิดสมดุลลักษณะน้ำจะยังคงอยู่จนกว่าจะมีแรงจากภายนอก (เช่นแรงบีบ)

มากระทำและในการเกิดพายุทอร์นาโดในขวดอากาศจะเคลื่อนที่ผ่าน “ ตา ” ของน้ำวนขึ้นสู่ด้านบน

น้ำทห่ี มนุ จะไหลผ่านผิวดา้ นในขวดไปยังดา้ นล่างการหมนุ น้ำจะเกดิ ข้ึนจนกระท่ังขวดที่อยู่ด้านบนว่างเปลา่

7. เด็กบนั ทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสใี ห้สวยงาม

25

ภาพกจิ กรรมการทดลอง ทอร์นาโดในขวด

วัสด/ุ อปุ กรณท์ ี่ใช้ในการทดลอง เด็ก ๆ รว่ มกนั ทำกิจกรรมการทดลอง

เดก็ ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานทสี่ ำเรจ็ ของเด็ก

26

ผลทีเ่ กดิ กับเดก็
1.ผลท่ีเกดิ ขนึ้ ตามจดุ ประสงค์
1.1 เด็กบอกได้ว่า ทอร์นาโดในขวดเกิดขึ้นได้เนื่องจาก ภายในขวดที่ว่างเปล่าจะมีอากาศอยู่

อากาศมีตัวตนและต้องการที่อยู่ และนำ้ กบั อากาศไม่สามารถอยู่ท่เี ดยี วกันไดใ้ นเวลาเดียวกัน ดังนั้นแม้น้ำหนัก
ของน้ำจะพยายามดึงน้ำให้ไหลลงด้านล่าง แต่อากาศที่อยู่ในขวดด้านล่างก็ออกแรงผลักไม่ให้น้ำไหลลงมา
เชน่ กนั การเกิดสมดุลลักษณะนำ้ จะยังคงอยู่จนกว่าจะมีแรงจากภายนอก (เชน่ แรงบีบ) ฟองอากาศจะเคล่ือนท่ี
ข้นึ ด้านบนด้านลา่ งจึงมพี นื้ ท่ีว่างและรับน้ำเข้ามาแทนท่ี

1.2 เดก็ สามารถบันทกึ ผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พฒั นาการความสามารถพ้นื ฐาน และพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย

2.1 ดา้ นการเรียนรู้/ ด้านภาษา/ดา้ นสตปิ ญั ญา
ดา้ นการเรียนรู้
- เดก็ ได้ลงมอื ทำและทดลองด้วยตนเอง
- เด็กสามารถสรุปได้ว่า ทอร์นาโดในขวดเกิดขึ้นได้เนื่องจาก ภายในขวดที่ว่างเปล่าจะมี

อากาศอยู่ อากาศมีตวั ตนและต้องการท่ีอยู่ และนำ้ กับอากาศไมส่ ามารถอยู่ท่เี ดียวกนั ได้ในเวลาเดยี วกัน ดังน้ัน
แมน้ ้ำหนักของนำ้ จะพยายามดงึ นำ้ ใหไ้ หลลงด้านล่าง แตอ่ ากาศท่อี ยู่ในขวดด้านลา่ งก็ออกแรงผลักไม่ให้น้ำไหล
ลงมาเช่นกันการเกิดสมดุลลักษณะน้ำจะยังคงอยู่จนกว่าจะมีแรงจากภายนอก (เช่นแรงบีบ) ฟองอากาศจะ
เคล่ือนทข่ี น้ึ ด้านบนดา้ นล่างจงึ มีพ้ืนทวี่ า่ งและรับน้ำเขา้ มาแทนที่

- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้

ดา้ นภาษา
- เด็กสามารถบอกรายละเอียดเกยี่ วกับอุปกรณ์การทดลองได้โดยใช้คำพูดของตนเอง
- เด็กพูดอธิบายถงึ สงิ่ ท่สี งั เกตเห็นจากการทดลอง
- เดก็ ได้นำเสนอผลงานของตนเองให้เพอ่ื นๆฟงั ได้
ด้านสตปิ ัญญา
- เดก็ คิดและรู้จักการตั้งคำถามในส่ิงทีต่ นสงสยั
- เดก็ ได้มีการพฒั นาสตปิ ัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เช่น ทกั ษะการ
สงั เกต การคาดคะเน และการเปรียบเทียบ เปน็ ต้น
2.2 ด้านสงั คม
- เดก็ สามารถทำงานร่วมกบั ผู้อ่ืนได้
- เดก็ สามารถแสดงความคิดเห็นของตนเอง และยอมรับฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่นื
- เด็กเคารพกฎ กติกาห้องเรียน และระหวา่ งการปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กต่ืนเต้นสนุกสนาน มีความสขุ ในการทดลอง และขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม

27

2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคล่ือนไหว หยิบจับ และใช้อุปกรณก์ ารทดลองได้คล่องแคลว่
- เด็กสามารถวาดภาพลงในกระดาษได้อย่างคล่องแคลว่ และชัดเจน

28

กิจกรรมที่ 9 แสงเลี้ยวเบน

จุดประสงค์
1. เด็กได้เรียนรสู้ มบัติพืน้ ฐานของแสง เขา้ ใจวา่ ทำไมแสงเลย้ี วเบนได้
2. เดก็ สามารถบันทกึ ผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ข้นั ตอนการจดั กจิ กรรม
1. เดก็ และครูรว่ มสนทนาเกย่ี วกับส่ิงทพ่ี บเห็นในชีวติ ประจำวัน เชน่ การปลามองในตปู้ ลาจะเหน็ วา่

ปลาลึกจากผิวนำ้ แตถ่ า้ เปลย่ี นมมุ อาจมองเห็นปลาว่ายชดิ ผิวนำ้ ต่างกัน
2. ครใู หเ้ ดก็ วางแก้วบนเหรยี ญจากน้ันมองแกว้ นำ้ จากมุมตา่ ง ๆ เด็ก ๆ สามารถมองเห็นเหรียญได้ทุก

มุมหรอื ไม่
3. ใหเ้ ด็กนำแกว้ นำ้ มา 2 ใบ ใบหนง่ึ เติมน้ำ ใบหนึ่งไมเ่ ติมน้ำ จากนน้ั ใส่หลอดดูดลงไปในแกว้ แต่ละใบ

ให้เด็กสังเกตความแตกต่างของหลอดดูดในแกว้ ท้งั 2 ใบ
4. ให้เด็กเติมน้ำมนั พชื ลงไปในแก้วทไี่ ม่มีน้ำแล้วใส่หลอดสกั เกตวา่ หลอดมีรอยหกั หรือไม่
5. เติมน้ำลงไปในแก้วที่มีน้ำมัน ตั้งทิ้งไว้จนของเหลวแยกชั้นจากนั้นใส่หลอดดูดลงไปในแก้ว แล้ว

สังเกตวา่ เหน็ ของเหลวชนดิ ใดลอยอยูด่ ้านบนหลอดดดู มลี กั ษณะอยา่ งไร
6. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลอง แสงเลี้ยวเบนได้ เรียกว่า การหักเหของแสง เมื่อใส่หลอดดดู

ลงไปในแก้วนำ้ จะทำให้มองเห็นหลอดูดมีการหักงอระหว่างชั้นของน้ำและอากาศ แต่ความจริงนั้นหลอดดดู มี
ลกั ษณะตรงเมื่อเราดงึ หลอดดดู ขน้ึ มาจากแก้วนำ้

7. เด็กบันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสใี หส้ วยงาม

29

ภาพกิจกรรมการทดลอง แสงเลีย้ วเบน

วัสด/ุ อุปกรณ์ที่ใช้ในการทดลอง เด็ก ๆ รว่ มกนั ทำกิจกรรมการทดลอง

เด็ก ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานทสี่ ำเรจ็ ของเด็ก

30

ผลที่เกดิ ข้นึ กบั เด็ก
1. ผลที่เกดิ ขึ้นตามจดุ ประสงค์
1.1 เดก็ ไดเ้ รียนรสู้ มบัตพิ น้ื ฐานของแสง เขา้ ใจว่าทำไมแสงเลย้ี วเบน เม่ือใสห่ ลอดดูดลงไปในแก้วท่ี

มีนำ้ และน้ำมนั พน้ื ทำให้มองเห็นหลอดดดู มีการหักงอ ทั้งท่ีความจรงิ แลว้ หลอดดดู มลี ักษณะตรง
1.2 เดก็ สามารถบันทกึ ผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้

2. พฒั นาการความสามารถพืน้ ฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย
2.1 ดา้ นการเรียนร/ู้ ดา้ นภาษา/ด้านสติปญั ญา
ด้านการเรยี นรู้
- เดก็ ไดล้ งมอื ทำและทดลองด้วยตนเอง
- เด็กได้เรยี นรสู้ มบตั ิพ้ืนฐานของแสง เขา้ ใจว่าทำไมแสงเลี้ยวเบน เมอื่ ใสห่ ลอดดูดลงไปใน

แกว้ ทม่ี นี ้ำและนำ้ มันพืน้ ทำให้มองเห็นหลอดดูดมีการหักงอ ทงั้ ท่คี วามจริงแลว้ หลอดดูดมีลักษณะตรง
- เด็กสามารถบนั ทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ

ตนเองได้
ด้านภาษา
- เด็กสามารถบอกรายละเอยี ดเกีย่ วกบั อุปกรณ์การทดลองไดโ้ ดยใชค้ ำพูดของตนเอง
- เด็กพดู อธบิ ายถงึ สิ่งทีส่ งั เกตเห็นจากการทดลอง
- เด็กได้นำเสนอผลงานของตนเองให้เพ่อื นๆฟงั ได้
ดา้ นสตปิ ัญญา
- เด็กคิดและรจู้ ักการต้งั คำถามในส่ิงท่ตี นสงสยั
- เดก็ ไดม้ ีการพัฒนาสตปิ ญั ญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวทิ ยาศาสตร์ เชน่ ทักษะการ

สังเกต การคาดคะเน และการเปรยี บเทยี บ เปน็ ตน้
2.2 ด้านสังคม
- เดก็ สามารถทำงานร่วมกับผู้อนื่ ได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อื่น
- เดก็ เคารพกฎ กตกิ าหอ้ งเรียน และระหวา่ งการปฏบิ ตั ิกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จติ ใจ
- เดก็ ต่ืนเต้นสนกุ สนาน มีความสขุ ในการทดลอง และขณะปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบจบั และใชอ้ ปุ กรณก์ ารทดลองได้คล่องแคล่ว
- เดก็ สามารถวาดภาพลงในกระดาษได้อย่างคล่องแคลว่ และชดั เจน

31

กจิ กรรมท่ี 10 ส่องกระจก

จุดประสงค์
1. เดก็ สามารถบอกได้วา่ เหน็ ภาพตัวเองผา่ นกระจกได้อย่างไร
2. เด็กได้เรยี นรู้พน้ื ผิวสะท้อนแสงท่ีเรยี บจะใหภ้ าพแตกตา่ งจากพ้ืนผิวโค้ง
3. เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ขั้นตอนการจัดกจิ กรรม
1. เด็ก ๆ หาวัตถุท่ีมีพื้นผวิ สะทอ้ นแสงแบบต่าง ๆ และลองใช้อุปกรณ์อย่างอื่นมาส่องแทนกระจกเงา

เช่น กล่องใส่แผน่ ซีดี ชอ้ น ทัพพีโลหะ เปน็ ตน้ แลว้ สงั เกตภาพหรอื เงาสะท้อนทเ่ี ดก็ เห็นมีลักษณะอย่างไร
2. เด็ก ๆ ยืนอยหู่ นา้ กระจกเงา ภาพทเี่ หน็ ในกระจกเงาเป็นด้านหนา้ หรือดา้ นหลังของเดก็ ๆ
3. เด็ก ๆ ยืนหน้ากระจกเงาและถือตุ๊กตา 1 ตัว จากนั้นชูตุก๊ ตาขึน้ สังเกตภาพในกระจกเงาว่ามอื ข้าง

ไหนชตู ๊กุ ตาขน้ึ
2. เด็กตัดกระดาษเป็นลูกศรหรือวาดลวดลายไว้ด้านหลังแล้วถือลูกศรนี้ไว้ด้านหน้า แล้วมองไปท่ี

กระจกเงาใหส้ ังเกตลูกศรในมือในกระจกเงาช้ีไปในทิศทางใด ในกระจกเงาเรามองเห็นลูกศรดา้ นมลี ายหรือไม่มี
ลาย

3. เด็กยืนหน้ากระจกเงาและวางตัวต่อไม้บล็อกสตี ่าง ๆ ไว้หน้ากระจกเงา สังเกตภาพตัวต่อไม้บล็อก
เรยี งลำดับเหมอื นทีเ่ รยี งไวห้ รือไม่

4. ครแู ละเดก็ รว่ มกันสรุปผลการทดลอง เรื่อง ส่องกระจกพบว่า แผ่นกระจกใสมีสมบตั ิสะท้อนแสงได้
ไม่เท่ากับกระจกเงา กระจกใสจะปล่อยให้แสงผ่านได้บางส่วนและจะสะท้อนแสงออกไปบางส่วนทำให้เรา
มองเห็นภาพตัวเองในแผ่นกระจกใสได้ แต่กระจกเงาสามารถสะท้อนแสงที่กระทบเกอื บทั้งหมด ทำใหส้ ามารถ
มองเหน็ ตนเองในกระจกเงาได้ชดั เจน

5. เด็กบนั ทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีใหส้ วยงาม

32

ภาพกิจกรรมการทดลอง ส่องกระจก

วสั ด/ุ อุปกรณท์ ี่ใช้ในการทดลอง เด็ก ๆ รว่ มกันทำกิจกรรมการทดลอง

เดก็ ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานทีส่ ำเรจ็ ของเด็ก

33

ผลทเี่ กิดขึ้นกบั เด็ก
1. ผลทีเ่ กดิ ขน้ึ ตามจดุ ประสงค์
1.1 เด็กบอกได้ว่าเห็นภาพตัวเองผ่านกระจกได้เกิดจากการสะท้อนแสง กระจกใสสะท้อนแสงได้

บางส่วน กระจกเงาสะทอ้ นแสงไดเ้ กือบท้ังหมด ทำให้มองเหน็ ภาพตัวเองได้ชัดเจนกวา่ กระจกใส
1.2. เด็กเรียนรู้พื้นผิวสะท้อนแสงที่เรียบจะให้ภาพแตกต่างจากพื้นผิวโค้ง ถ้ามองตัวเองบนวัสดุที่

สะทอ้ นแสงรูปโคง้ ทำให้มองเห็นตัวเองเบยี้ วโคงตามวัสดุน้ัน และถ้ามองผ่านพ้นื ผิวเรยี บทำใหม้ องเห็นตัวเองได้
เหมือนจริงมากท่สี ดุ

1.3. เดก็ บนั ทกึ ผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพน้ื ฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย

2.1 ดา้ นการเรียนรู้/ ดา้ นภาษา/ด้านสตปิ ัญญา
ด้านการเรยี นรู้
- เดก็ ได้ลงมอื ทำและทดลองด้วยตนเอง
- เดก็ ได้เรียนรู้เรอ่ื ง การเหน็ ภาพตัวเองผา่ นกระจกเกดิ จากการสะท้อนแสง กระจกใสสะท้อน

แสงไดบ้ างส่วน กระจกเงาสะท้อนแสงได้เกือบทงั้ หมด ทำให้มองเห็นภาพตวั เองได้ชดั เจนกว่ากระจกใส
- เด็กได้เรียนรู้พื้นผิวสะท้อนแสงที่เรียบจะให้ภาพแตกต่างจากพื้นผิวโค้ง ถ้ามองตัวเองบน

วัสดุที่สะท้อนแสงรูปโค้งทำให้มองเห็นตัวเองเบี้ยวโคงตามวัสดุนั้น และถ้ามองผ่านพื้นผิวเรียบทำให้มองเห็น
ตวั เองได้เหมือนจรงิ มากทส่ี ุด

- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้

ด้านภาษา
- เด็กสามารถบอกรายละเอียดเก่ยี วกบั อุปกรณ์การทดลองไดโ้ ดยใช้คำพูดของตนเอง
- เด็กพูดอธิบายถงึ สง่ิ ที่สังเกตเหน็ จากการทดลอง
- เดก็ ได้นำเสนอผลงานของตนเองให้เพือ่ นๆฟังได้
ดา้ นสตปิ ญั ญา
- เดก็ คิดและรจู้ ักการตั้งคำถามในสง่ิ ทตี่ นสงสยั
- เด็กได้มีการพฒั นาสตปิ ัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เชน่ ทักษะการ
สงั เกต การคาดคะเน และการเปรียบเทียบ เป็นตน้
2.2 ดา้ นสงั คม
- เดก็ สามารถทำงานรว่ มกบั ผู้อ่ืนได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรับฟังความคิดเหน็ ของผู้อน่ื
- เดก็ เคารพกฎ กตกิ าห้องเรยี น และระหวา่ งการปฏิบตั ิกจิ กรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จติ ใจ
- เดก็ ต่ืนเต้นสนกุ สนาน มคี วามสขุ ในการทดลอง และขณะปฏบิ ตั กิ จิ กรรม

34

2.4 ด้านการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคล่ือนไหว หยิบจับ และใช้อุปกรณก์ ารทดลองได้คล่องแคลว่
- เด็กสามารถวาดภาพลงในกระดาษได้อย่างคล่องแคลว่ และชัดเจน

35

กิจกรรมท่ี 11 ภูเขาไฟระเบดิ

จดุ ประสงค์

1. เดก็ สามารถบอกการเกดิ ภูเขาไฟได้

2. เด็กรู้จกั คุณสมบัติของกรดมะนาวและเบกกิงโซดา

3. เดก็ สามารถบันทกึ ผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้
ข้นั ตอนการจัดกจิ กรรม

1. ครูนำภาพภเู ขาไฟมาให้เด็ก ๆ ดู พร้อมกบั ใหส้ งั เกตการระเบดิ ของภูเขาไฟ
2. ครูสาธติ การปั้นภเู ขาไฟจำลองดว้ ยดนิ นำ้ มนั และใหเ้ ด็ก ๆ ฝึกปั้นตาม
3. ครใู หเ้ ด็กช่วยปัน้ ดินน้ำเปน็ ภูเขาไฟจำลองสูงไม่ต่ำกวา่ 5 เซนตเิ มตร บนจานก้นลกึ
4. ครูให้เด็กทำปากปล่องภูเขาไฟ โดยให้เด็ก ๆ ใช้นิ้วกดลงไปในปากปล่องภูเขาไฟจำลองให้ลึกและ
กวา้ ง แต่ไมใ่ หท้ ะลถุ ึงจานท่ีต้งั ภเู ขาไฟ
3. ครูให้เด็ก ๆ ช่วยกันจัดเตรียมอุปกรณ์ โดยครูคอยชี้แนะ โดยการเตรียมน้ำมะนาว ¼ แก้ว และ
เบกกงิ โซดา 1 ชอ้ นชา เตรยี มน้ำ 10 มลิ ลิลิตร และผสมสผี สมอาหารเล็กนอ้ ย
4. เด็ก ๆ เทเบกกงิ โซดาและนำ้ ผสมสผี สมอาหารที่เตรยี มไว้ หยดนำ้ ยาล้างจาก 2 หยด ลงไปในปาก
ปลอ่ งภูเขาไฟ
5. เด็ก ๆ ค่อยๆเทน้ำมะนาวทีเ่ ตรยี มไวล้ งไป สังเกตวา่ จะเกดิ อะไรขึ้น
6. ใหเ้ ด็กลองใส่ผงฟูลงไปในปลอ่ งภเู ขาไฟอกี ครั้ง สงั เกตส่งิ ทเ่ี กิดข้ึนอีกครงั้
7. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลอง เรื่อง ภูเขาไฟระเบิดพบว่า น้ำมะนาวมีความเป็นกรดเมื่อ
ผสมกับเบกกิงโซดาจะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้น และสามารถทำให้เกิดฟองฟู่เหมือนภูเขาไฟระเบิดได้
เม่ือใส่สีผสมอาหารลงไปกจ็ ะทำให้เปน็ ฟองเป็นสีแดงดคู ล้ายลาวาชดั เจนมากย่ิงขึ้น และถา้ เติมผงฟูลงไปเพ่ิมก็
จะเกดิ การฟขู่ ้นึ อกี คร้ัง
8. เดก็ บันทกึ ผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสใี หส้ วยงาม

36

ภาพกจิ กรรมการทดลอง ภเู ขาไฟระเบดิ

วัสด/ุ อปุ กรณท์ ี่ใช้ในการทดลอง เด็ก ๆ รว่ มกันทำกิจกรรมการทดลอง

เดก็ ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานทสี่ ำเรจ็ ของเด็ก

37

ผลทเี่ กิดขน้ึ กับเด็ก
1. ผลที่เกิดขึ้นตามจุดประสงค์
1.1 เด็กบอกได้ว่าภูเขาไฟระเบิดเกิดจาก น้ำมะนาวมีความเป็นกรดเมื่อผสมกับเบกกิงโซดาจะเกิด

ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้น และสามารถทำให้เกิดฟองฟูเ่ หมือนภูเขาไฟระเบิดได้ น้ำยาล้างจานช่วยทำให้เกดิ
ฟอง และสีผสมอาหารทำให้ฟองเป็นสีแดงดูคล้ายลาวาชัดเจนมากย่ิงข้ึน และถา้ เตมิ ผงฟูลงไปเพ่ิมก็จะเกิดการ
ฟูข่ ้นึ อีกครั้ง

1.2 เด็กรู้จักคุณสมบัติของกรดมะนาว เช่น มะนาวเมื่อผสมกับเบกกิงโซดา จะทำให้เกิดก๊าซ
คาร์บอนไดออกไซด์

1.3 เด็กบันทึกผลการทดลอง สรปุ ผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพน้ื ฐาน และพฒั นาการของเดก็ ปฐมวัย

2.1 ดา้ นการเรียนร้/ู ด้านภาษา/ดา้ นสติปัญญา
ด้านการเรียนรู้
- เดก็ ได้ลงมอื ทำและทดลองด้วยตนเอง
- เด็กบอกได้ว่าผลไม้ที่มีรสเปรี้ยวมีความเป็นกรด และน้ำมะนาวมีรสเปรี้ยวมีความเป็นกรด

เช่นกันเมื่อผสมกับเบกกิงโซดาจะเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ขึ้น และสามารถทำให้เกิดฟองฟู่เหมือนภเู ขาไฟ
ระเบิดได้ น้ำยาล้างจานจะทำให้เกิดฟอง และสีผสมอาหารทำให้ฟองเป็นสีแดงดูคล้ายลาวาชัดเจนมากยิ่งขึ้น
และถา้ เติมผงฟูลงไปเพม่ิ กจ็ ะเกิดการฟู่ข้นึ อกี ครง้ั

- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้

ดา้ นภาษา
- เด็กสามารถบอกรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์การทดลองไดโ้ ดยใชค้ ำพูดของตนเอง
- เด็กพูดอธิบายถึงสิ่งที่สงั เกตเหน็ จากการทดลอง
- เดก็ ไดน้ ำเสนอผลงานของตนเองให้เพ่ือนๆฟังได้
ดา้ นสติปญั ญา
- เด็กคิดและรู้จักการตัง้ คำถามในสิง่ ทีต่ นสงสยั
- เด็กได้มีการพัฒนาสติปัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะการ
สังเกต การคาดคะเน และการเปรยี บเทียบ เป็นต้น
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกบั ผู้อ่นื ได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเอง และยอมรับฟังความคิดเห็นของผู้อื่น
- เด็กเคารพกฎ กติกาห้องเรียน และระหวา่ งการปฏิบตั ิกิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เดก็ ต่นื เตน้ สนกุ สนาน มีความสุขในการทดลอง และขณะปฏิบตั ิกจิ กรรม

38

2.4 ด้านการเคล่อื นไหว/ร่างกาย
- เดก็ สามารถเคลื่อนไหว หยิบจับ และใช้อปุ กรณก์ ารทดลองได้คลอ่ งแคลว่
- เดก็ สามารถวาดภาพลงในกระดาษได้อย่างคล่องแคล่วและชดั เจน
- เดก็ สามารถปนั้ ดินน้ำมนั เป็นเหมือนภเู ขาไฟได้

39

กิจกรรมท่ี 12 กระจกเงาทำได้ทุกอยา่ ง

จดุ ประสงค์
1. เด็กสามารถสร้างรปู สมมาตรไดด้ ้วยกระจกเงา
2. เดก็ สามารถเรยี นรแู้ กนสมมาตรจากการใชก้ ระจกเงามาเป็นตวั ชว่ ย
3. เดก็ สามารถบนั ทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ขั้นตอนการจัดกิจกรรม
1. เด็กและครูพูดคุยถึงคุณสมบัติของกระจกว่ามีอะไรบ้าง เช่นทำให้วัตถุบิดเบี้ยว สั้นลง หรือเพิ่ม

จำนวน
2. ครูเตรียมรูปสมมาตร เช่น รูปดาว รูปหัวใจ แล้วนำกระจกมาวางให้ตั้งฉากกับพื้นเลือ่ นกระจกจาก

ด้านหน่ึงไปอกี ดา้ นหนึ่ง ใหเ้ ด็ก ๆ สังเกตภาพทเ่ี ห็นในกระจกเงา
3. เด็ก ๆ นำกระจกเงา 2 บานหันหน้าเข้าหากัน หลังจากนั้นให้หาสิ่งของมาวางด้านหน้ากระจก

เด็ก ๆ สังเกตสง่ิ ท่เี กดิ ขนึ้ ในกระจก
4. ครูแจกกระดาษให้นักเรียนแต่ละคน พับครึ่ง จากนั้นคลี่ออกแล้วให้เด็กวาดรูประบายสีเพียงคร่ึง

เดยี ว แลว้ นำกระจกมาวางให้ต้งั ฉากกับรอยพับ ใหเ้ ดก็ ๆ สังเกตรปู ทเี่ กิดขนึ้ ในกระจกเป็นอยา่ งไร
5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลอง เรื่อง กระจกเงาทำได้ทุกอย่างพบว่า รูปสมมาตรที่เกิดจาก

การสะท้อน โดยมีกระจกเป็นแกนสมมาตรจะไม่เปลี่ยนแปลงจากรูปจริง เนื่องจากอีกรูปจะซ่อนอยู่ในกระจก
เงา แต่รูปที่มองเห็นจากกระจกจะเหมือนรูปที่อยู่ข้างหลังกระจกทุกประการ กระจกทำให้เกิดรูปสมมาตร
และแกนสมมาตรคือตัวกระจกน่นั เอง

6. เดก็ บันทึกผลการทดลองดว้ ยการวาดภาพระบายสีให้สวยงาม

40

ภาพกจิ กรรมการทดลอง กระจกเงาทำได้ทกุ อย่าง

วัสด/ุ อปุ กรณท์ ่ีใชใ้ นการทดลอง เดก็ ๆ ร่วมกันทำกจิ กรรมการทดลอง

เด็ก ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานทส่ี ำเรจ็ ของเดก็

41

ผลที่เกดิ ข้ึนกับเด็ก
1. ผลทเ่ี กดิ ข้นึ ตามจุดประสงค์
1.1. เดก็ สรา้ งรปู ที่มีแกนสมมาตรจากกระจกเงา
1.2 เด็กเรียนร้แู กนสมมาตรจากการใช้กระจกเงามาเป็นตัวช่วย
1.3 เด็กบันทกึ ผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของตนเองได้
2. พัฒนาการความสามารถพนื้ ฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย
2.1 ด้านการเรียนร/ู้ ดา้ นภาษา/ด้านสตปิ ัญญา
ดา้ นการเรยี นรู้
- เด็กได้ลงมือทำและทดลองด้วยตนเอง
- เด็กได้สรา้ งรปู ท่ีมีแกนสมมาตรจากกระจกเงา
- เด็กทราบว่ารูปสมมาตรที่เกิดจากการสะท้อน โดยมีกระจกเป็นแกนสมมาตรจะไม่

เปล่ียนแปลงจากรูปจริง เนื่องจากอีกรูปจะซ่อนอยู่ในกระจกเงา แตร่ ูปทีม่ องเหน็ จากกระจกจะเหมือนรูปที่อยู่
ขา้ งหลังกระจกทุกประการ กระจกทำให้เกดิ รูปสมมาตร และแกนสมมาตรคือตัวกระจก

- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ
ตนเองได้

ดา้ นภาษา
- เดก็ สามารถบอกรายละเอียดเก่ียวกับอุปกรณ์การทดลองได้โดยใช้คำพูดของตนเอง
- เดก็ พดู อธิบายถึงสิ่งท่สี ังเกตเหน็ จากการทดลอง
- เด็กได้นำเสนอผลงานของตนเองใหเ้ พ่อื นๆฟังได้
ด้านสติปญั ญา
- เดก็ คิดและรู้จักการตัง้ คำถามในสง่ิ ที่ตนสงสัย
- เด็กได้มีการพัฒนาสติปัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะการ
สงั เกต การคาดคะเน และการเปรียบเทยี บ เปน็ ต้น
2.2 ด้านสงั คม
- เด็กสามารถทำงานรว่ มกบั ผู้อ่ืนได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเห็นของตนเอง และยอมรบั ฟงั ความคดิ เหน็ ของผู้อ่ืน
- เดก็ เคารพกฎ กติกาห้องเรียน และระหวา่ งการปฏบิ ตั กิ ิจกรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กต่นื เต้นสนุกสนาน มีความสุขในการทดลอง และขณะปฏิบตั กิ ิจกรรม
2.4 ดา้ นการเคลื่อนไหว/ร่างกาย
- เดก็ สามารถเคล่ือนไหว หยิบจบั และใชอ้ ุปกรณก์ ารทดลองได้คลอ่ งแคล่ว
- เด็กสามารถวาดภาพลงในกระดาษได้อย่างคล่องแคลว่ และชัดเจน

42

กจิ กรรมที่ 13 ฟองสบรู่ ูปส่ีเหลีย่ มและทรงกลม

จุดประสงค์
1. เด็กไดเ้ รียนรู้การเปา่ ฟองสบู่ดว้ ยวสั ดุรปู ทรงสี่เหลี่ยมและทรงกลมฟองสบู่ที่ลักษณะที่แตกต่างกนั
2. เด็กสามารถบันทกึ ผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองได้

ขน้ั ตอนการจัดกจิ กรรม
1. เด็กและครูช่วยกันเติมนำ้ ลงในกะละมังประมาณครึ่งกะละมังใส่น้ำยางล้างจานประมาณ 5 ช้อน
2. ครูและเด็กช่วยกันดัดลวดให้เป็นรูปทรงสี่เหลี่ยมโดยใช้บล๊อกไม้ และทรงกลมจากขวดน้ำ และ

รปู ทรงสามาเหลี่ยมจากของเลน่ ในหอ้ งเรยี น
3. เด็ก ๆ ช่วยกนั คาดคะเนวา่ หากนำมาดดั แลว้ จุ่มลงในน้ำสบู่ และเปา่ จะเกิดอะไรข้นึ และจะมีรูปร่าง

อย่างไร
4.เด็ก ๆ ตรวจสอบการคาดคะเนโดยใช้ลวดที่ดัดเป็นรูปร่างต่าง ๆ จุ่มลงในน้ำสบู่แล้วยกขึ้นสังเกต

จากนนั้ เปา่ เบาๆ แลว้ สงั เกตรปู รา่ งของฟองสบู่
5. ครูและเด็กร่วมกันสรุปผลการทดลอง เรื่อง รูปทรงของฟองสบู่ไม่ขึ้นอยู่กับรูปร่างของลวด จะเป่า

จากลวดที่ดัดเป็นรูปอะไรก็ตาม ฟองสบู่นั้นจะเป็นทรงกลมเสมอ เนื่องจากพื้นผิวของฟองสบู่จะเป็นชั้น
ของเหลวบาง ๆ ซึ่งมแี รงตึงผิวคอยดึงใหฟ้ องสบู่คงรูปอยู่

6. เดก็ บันทึกผลการทดลองด้วยการวาดภาพระบายสีใหส้ วยงาม

43

ภาพกิจกรรมการทดลอง ฟองสบู่รปู สี่เหล่ยี มและทรงกลม

วสั ดุ/อปุ กรณ์ท่ีใช้ในการทดลอง เด็ก ๆ รว่ มกันทำกิจกรรมการทดลอง

เดก็ ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานทสี่ ำเรจ็ ของเดก็

44

ผลที่เกิดขึน้ กบั เดก็
1. ผลที่เกิดขนึ้ ตามจุดประสงค์
1.1 เด็กบอกได้ว่า ฟองสบู่นั้นจะเป็นทรงกลมเสมอ ฟองสบู่ไม่ข้ึนอยู่กับรปู ร่างของลวดไม่ว่าจะเปา่

จากลวดท่ีดดั เป็นรูปอะไรก็ตาม เนอื่ งจากพื้นผวิ ของฟองสบู่จะเปน็ ช้ันของเหลวบาง ๆ ซึ่งมีแรงตึงผิวคอยดึงให้
ฟองสบคู่ งรูปอยู่

1.2 เดก็ บันทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองไดด้ ว้ ยตนเอง
2. พฒั นาการความสามารถพื้นฐาน และพัฒนาการของเด็กปฐมวัย

2.1 ด้านการเรียนร้/ู ดา้ นภาษา/ด้านสตปิ ญั ญา
ด้านการเรียนรู้
- เด็กได้ลงมือทำและทดลองด้วยตนเอง
- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ

ตนเองได้
- รูปทรงของฟองสบไู่ ม่ข้ึนอยู่กับรูปร่างของลวด จะเปา่ จากลวดท่ดี ัดเปน็ รปู อะไรก็ตาม ฟอง

สบนู่ ั้นจะเป็นทรงกลมเสมอ เน่ืองจากพ้ืนผวิ ของฟองสบู่จะเป็นชน้ั ของเหลวบาง ๆ ซงึ่ มีแรงตงึ ผิวคอยดงึ ใหฟ้ อง
สบคู่ งรูปอยู่

ด้านภาษา
- เดก็ สามารถบอกรายละเอียดเกีย่ วกบั อุปกรณ์การทดลองไดโ้ ดยใชค้ ำพูดของตนเอง
- เด็กพูดอธบิ ายถงึ สง่ิ ทีส่ งั เกตเห็นจากการทดลอง
- เดก็ ไดน้ ำเสนอผลงานของตนเองใหเ้ พื่อนๆฟังได้
ดา้ นสติปญั ญา
- เดก็ คดิ และร้จู ักการต้ังคำถามในสง่ิ ทต่ี นสงสัย
- เด็กได้มีการพัฒนาสติปัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะการ
สงั เกต การคาดคะเน และการเปรียบเทียบ เปน็ ต้น
2.2 ด้านสงั คม
- เด็กสามารถทำงานร่วมกบั ผู้อ่นื ได้
- เด็กสามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรบั ฟังความคิดเห็นของผู้อนื่
- เด็กเคารพกฎ กติกาหอ้ งเรียน และระหว่างการปฏิบัตกิ จิ กรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กตนื่ เตน้ สนุกสนาน มคี วามสขุ ในการทดลอง และขณะปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
2.4 ด้านการเคล่ือนไหว/ร่างกาย
- เด็กสามารถเคลื่อนไหว หยิบจบั และใชอ้ ปุ กรณก์ ารทดลองได้คล่องแคล่ว
- เดก็ สามารถวาดภาพลงในกระดาษไดอ้ ย่างคล่องแคลว่ และชดั เจน

45

กจิ กรรมที่ 14 อนิ ดิเคเตอร์จากพชื

จุดประสงค์
1. เด็กเข้าใจและสามารถตอบคำถามในเรื่องการเกิดก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ได้
2. เด็กสามารถบันทกึ ผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองไดด้ ้วยตนเอง

ขัน้ ตอนการจดั กิจกรรม
1. นำกะหล่ำปลีสีม่วงมาให้เด็ก ๆ ดู และอธิบายรูปร่าง สี ประโยชน์ น้ำหนัก และขนาด

รวมถึงรสชาติของกะหลำ่ ปลมี ว่ ง
2. ระมดั ระวงั ไม่ให้มเี ครื่องปรุงหรือน้ำยาลา้ งจานตกคา้ งอยู่ทเ่ี ขยี ง มดี หมอ้ และภาชนะอื่น ๆ เพราะ

อาจมีผลต่อการทดลอง
3. ให้เด็ก ๆ ช่วยกันหัน่ กะหลำ่ ปลีม่วงเป็นช้ินเล็ก ๆ ระหวา่ งทำให้สงั เกตด้วยว่ามีสีกะหล่ำปลีติดอยู่ท่ี

มอื หรอื ไม่
4. เทน้ำเย็นลงในแก้วใบที่ 1 และน้ำร้อนลงในแก้วใบที่ 2 หลังจากนั้นนำกะหล่ำปลีม่วงที่หั่นเป็นช้ิน

เล็ก ๆ ใส่ลงในแกว้ ทัง้ 2 ใบ สังเกตการณเ์ ปลยี่ นสขี องน้ำในแก้วทง้ั 2 ใบ นำ้ ในแกว้ ใบไหนเปลีย่ นสเี ร็วกว่าและ
มสี เี ข้มกว่า

5. ใส่กะหล่ำปลีม่วงที่เหลือลงในหม้อ เทน้ำร้อนลงไป ใช้ทัพพีคนและกดกะหล่ำปลีลงไป จากนั้นใช้
กระชอนกรองนำ้ สีท่ไี ด้ แล้วบรรจใุ สข่ วดพลาสตกิ ปดิ ฝา และแช่ตเู้ ยน็ ไว้

6. เทน้ำกะหล่ำปลีม่วงที่แช่เย็นไว้ใส่ในแก้ว 3 ใบ ประมาณ 1/4 แก้ว ถ้าน้ำกะหล่ำปลีสีม่วงมีสีเข้ม
มาก ใหเ้ ตมิ น้ำเพือ่ เจือจางให้น้ำกะหลำ่ ปลมี สี ีน้ำเงิน สว่ นแก้วใบท่ี 4 ใหใ้ สน่ ้ำกะหลำ่ ปลีสมี ว่ งอย่างเดยี ว

7. เตรียมน้ำมะนาวและน้ำโซดาวางไว้บนโต๊ะ ให้เด็ก ๆ ช่วยกันบอกว่าน้ำมะนาวมีรสชาติอย่าง ๆ
และน้ำมะนาวมีรสเปรี้ยว น้ำโซดาจะมรี สเปรยี วด้วยหรอื ไม่

8. ใช้หลอดหยดหยดน้ำมะนาวใส่ในแก้วใบที่ 1 และหยดน้ำโซดาปริมาณเท่ากันลงในแก้วใบที่ 2
พร้อมทั้งสังเกตการณ์เปลี่ยนแปลงของน้ำในแก้วทั้ง 2 ใบ แล้วนำมาเปรียบเทียบกับแก้วใบที่ 4 ที่มีแต่น้ำ
กะหล่ำปลมี ว่ งอยา่ งเดียว

9. เป่าลมผ่านหลอดดูดลงไปในแก้ว ใบที่ 3 ระวังอย่าให้น้ำกระเซ็นออกมา จะพบว่าเกิดฟอง
ก๊าซภายในแกว้ สงั เกตการเปล่ียนแปลงเมื่อเป่าลมในแกว้ 10 คร้งั

46

ภาพกจิ กรรมการทดลอง อนิ ดิเคเตอร์จากพชื

วัสดุ/อปุ กรณท์ ่ีใช้ในการทดลอง เด็ก ๆ ร่วมกนั ทำกจิ กรรมการทดลอง

เด็ก ๆ นำเสนอผลงานจากรูปวาดของตนเอง ผลงานทสี่ ำเรจ็ ของเดก็

47

ผลท่เี กดิ ขนึ้ กบั เดก็
1. ผลที่เกิดขน้ึ ตามจุดประสงค์
1.1 เดก็ บอกไดว้ ่าการเกิดกา๊ ซคาร์บอนไดออกไซด์ได้
1.2 เด็กบันทึกผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองไดด้ ้วยตนเอง
2. พัฒนาการความสามารถพนื้ ฐาน และพัฒนาการของเดก็ ปฐมวัย
2.1 ดา้ นการเรยี นรู้/ ดา้ นภาษา/ด้านสติปัญญา
ด้านการเรียนรู้
- เดก็ ไดล้ งมอื ทำและทดลองด้วยตนเอง
- เด็กสามารถบันทึกผลการทดลอง สรุปผลการทดลอง และนำเสนอผลการทดลองของ

ตนเองได้
ดา้ นภาษา
- เดก็ สามารถบอกรายละเอยี ดเก่ียวกบั อุปกรณ์การทดลองไดโ้ ดยใช้คำพูดของตนเอง
- เดก็ พูดอธิบายถงึ ส่ิงทสี่ ังเกตเหน็ จากการทดลอง
- เด็กได้นำเสนอผลงานของตนเองให้เพอื่ นๆฟังได้
ด้านสตปิ ญั ญา
- เด็กคดิ และรจู้ ักการตั้งคำถามในสิง่ ทีต่ นสงสยั
- เด็กได้มีการพัฒนาสติปัญญา โดยเกิดทักษะกระบวนการทางวิทยาศาสตร์ เช่น ทักษะการ

สงั เกต การคาดคะเน และการเปรยี บเทยี บ เปน็ ต้น
2.2 ด้านสังคม
- เด็กสามารถทำงานรว่ มกับผู้อื่นได้
- เดก็ สามารถแสดงความคิดเหน็ ของตนเอง และยอมรับฟงั ความคดิ เห็นของผู้อน่ื
- เด็กเคารพกฎ กตกิ าห้องเรยี น และระหว่างการปฏิบตั ิกจิ กรรม
2.3 ด้านอารมณ์-จิตใจ
- เด็กตืน่ เต้นสนกุ สนาน มีความสขุ ในการทดลอง และขณะปฏิบตั ิกิจกรรม
2.4 ด้านการเคลอ่ื นไหว/ร่างกาย
- เดก็ สามารถเคลื่อนไหว หยิบจับ เท และใช้อุปกรณ์การทดลองได้คล่องแคลว่
- เดก็ สามารถวาดภาพลงในกระดาษไดอ้ ยา่ งคล่องแคลว่ และชดั เจน


Click to View FlipBook Version