โครงสร้าง และแผนการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้ศิลปะ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 แผนกประถมศึกษา โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2566-2568
zxxxx โครงสร้างรายวิชาศิลปะ ป.5 ป.6โครงสร ้ างรายว ิ ชาว ิ ชา สุขศึกษาและพลศึก ล าดับ ที่ ช่ือหน่วยการเรียนรู้ มาตรฐานการ เรียนรู้/ตัวชีว้ัด สาระส าคัญ เวลา (ชั่วโมง) น ้าหนัก คะแนน 1 หน่วยที่ 1 พื้นฐานงานศิลป์ 1. เอกภาพ 1) ระบุปัญหาในการจัด องค์ประกอบศิลป์ และสื่อ ความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการ ปรับปรุงงานให้ดีขึ ้น 2) บรรยายประโยชน์และ คุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มี ผลต่อชีวิตของคนในสังคม ศ 1.1 ป.5/6 ศ 1.1 ป.5/7 การจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยการใช้ หลักการของเอกภาพ คือความประสาน กลมกลืน มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน เป็นกลุ่มก้อน ไม่กระจัดกระจาย 9 2.ความสมดุล 1) ระบุปัญหาในการจัด องค์ประกอบศิลป์ และสื่อ ความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการ ปรับปรุงงานให้ดีขึ ้น 2) บรรยายประโยชน์และ คุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มี ผลต่อชีวิตของคนในสังคม ศ 1.1 ป.5/6 ศ 1.1 ป.5/7 การจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการ ของความสมดุล คือการน าทัศนธาตุทาง ศิลปะมาจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้มีความ ประสานกลมกลืน ความพอเหมาะพอดี ของส่วนต่าง ๆ ในงานศิลปะ
3.จุดเด่น 1) ระบุปัญหาในการจัด องค์ประกอบศิลป์ และสื่อ ความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการ ปรับปรุงงานให้ดีขึ ้น 2) บรรยายประโยชน์และ คุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มี ผลต่อชีวิตของคนในสังคม ศ 1.1 ป.5/6 ศ 1.1 ป.5/7 การจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการ ของจุดเด่น ซึ่งหมายถึงส่วนส าคัญที่ ปรากฏชัด และสะดุดตาในผลงานศิลปะ 4.ความกลมกลืน 1) ระบุปัญหาในการจัด องค์ประกอบศิลป์ และสื่อ ความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการ ปรับปรุงงานให้ดีขึ ้น 2) บรรยายประโยชน์และ คุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มี ผลต่อชีวิตของคนในสังคม ศ 1.1 ป.5/6 ศ 1.1 ป.5/7 การจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการ ของความกลอมกลืน ท าให้ผลงานมี ความสัมพันธ์กลมกลืน สนับสนุนซึ่งกัน และกัน เข้ากันดี และไม่ขัดแย้งกัน
5.ความขัดแย้ง 1) ระบุปัญหาในการจัด องค์ประกอบศิลป์ และสื่อ ความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการ ปรับปรุงงานให้ดีขึ ้น 2) บรรยายประโยชน์และ คุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มี ผลต่อชีวิตของคนในสังคม ศ 1.1 ป.5/6 ศ 1.1 ป.5/7 การจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการ ของความขัดแย้ง ซึ่งหมายถึงการน า ทัศนศิลป์ มาจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้เกิด การตัดกันหรือขัดแย้งกัน เพราะความ ขัดแย้งที่พอเหมาะจะช่วยให้ผลงานดูมี ชีวิตชีวาน่าสนใจ 6.จังหวะ 1) ระบุปัญหาในการจัด องค์ประกอบศิลป์ และสื่อ ความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการ ปรับปรุงงานให้ดีขึ ้น 2) บรรยายเกี่ยวกับจังหวะ ต าแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ที่ ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและ งานทัศนศิลป์ ศ 1.1 ป.5/6 ศ 1.1 ป.5/1 จังหวะที่ปรากฏอยู่ในสิ่งแวดล้อมและ งานทัศนศิลป์ ท าให้เกิดความเคลื่อนไหว และความงาม 7.ต าแหน่ง 1) ระบุปัญหาในการจัด องค์ประกอบศิลป์ และสื่อ ความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการ ปรับปรุงงานให้ดีขึ ้น 2) บรรยายเกี่ยวกับจังหวะ ต าแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ที่ ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและ งานทัศนศิลป์ ศ 1.1 ป.5/6 ศ 1.1 ป.5/1 ต าแหน่งเป็นที่อยู่หรือที่ตั ้งของสิ่งหนึ่งที่ มองเห็น ซึ่งปรากฏอยู่ในสิ่งแวดล้อม และงานทัศนศิลป์
8.ความแตกต่างระหว่าง งานทัศนศิลป์ เปรียบเทียบความแตกต่าง ระหว่างงานทัศนศิลป์ ที่ สร้างสรรค์ด้วยวัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการที่ ต่างกัน ศ 1.1 ป.5/2 งานทัศนศิลป์ มีความแตกต่างกัน แบ่งเป็นงานจิตรกรรม ปะติมากรรม และงานสถาปัตยกรรม 9.ประโยชน์และคุณค่า ของงานทัศนศิลป์ บรรยายประโยชน์และ คุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มี ผลต่อคนในสังคม ศ 1.1 ป.5/7 งานทัศนศิลป์ มีประโยชน์และคุณค่าต่อ มนุษย์ในด้านต่าง ๆ ทั ้งทางด้านจิตใจ ด้านสติปัญญา และด้านประโยชน์ใช้ สอย 2 หน่วยที่ 2 สร้างสรรค์งานศิลป์ 10.การวาดภาพโดยใช้ เทคนิคของแสงและน ้าหนัก วาดภาพโดยใช้เทคนิคแสงเงา น ้าหนัก และวรรณะสี ศ 1.1 ป.5/3 การวาดภาพโดยใช้เทคนิคแสงเงาและ น ้าหนักด้วยการขูด ขีด เขียน ระบาย ด้วยดินสอและ สีชนิดต่าง ๆ เพื่อ ถ่ายทอดลักษณะแสงและเงาด้วยค่า น ้าหนักอ่อนแก่ 7 11.การวาดภาพโดยใช้ เทคนิคของวรรณะสี วาดภาพโดยใช้เทคนิคแสงเงา น ้าหนัก และวรรณะสี ศ 1.1 ป.5/3 การวาดภาพโดยใช้เทคนิควรรณะสีด้วย การขูด ขีด เขียน ระบายด้วยดินสอและ สีชนิดต่าง ๆ เพื่อถ่ายทอดลักษณะแสง และเงาด้วยค่าน ้าหนักอ่อนแก่ของสี
12.การปั้นตามจินตนาการ สร้างสรรค์งานปั ้นจากดิน น ้ามันหรือดินเหนียว โดยเน้น การถ่ายทอดจินตนาการ ศ 1.1 ป.5/4 การปั ้นดินน ้ามันหรือดินเหนียว สามารถ ถ่ายทอดจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ได้หลายรูปแบบตามขั ้นตอนการปั ้น 13.การพิมพ์ภาพด้วยเศษ วัสดุ สร้างสรรค์งานพิมพ์ภาพโดย เน้นการจักวางต าแหน่งของสิ่ง ต่าง ๆ ในภาพ ศ 1.1 ป.5/5 เศษวัสดุต่าง ๆ สามารถน ามาสร้างสรรค์ การพิมพ์ภาพได้ ด้วยการจัดวางต าแหน่ง เศษวัสดุในผลงานให้เกิดเป็นรูปต่าง ๆ ตามจินตนาการ 3 หน่วยที่ 3 งานศิลป์ กับวัฒนธรรม 14.ศิลปวัฒนธรรมไทย ระบุและบรรยายเกี่ยวกับ ลักษณะรูปแบบของงาน ทัศนศิลป์ ในแหล่งการเรียนรู้ หรือนิทรรศการศิลปะ ศ 1.1 ป.5/1 งานทัศนศิลป์ ในท้องถิ่นเป็นสิ่งส าคัญของ ศิลปวัฒนธรรมที่สืบทอดกันมาเป็น ระยะเวลายาวนาน 3 15.ลักษณะรูปแบบงาน ทัศนศิลป์ -ระบุและอภิปรายเกี่ยวกับ ลักษณะรูปแบบของงาน ทัศนศิลป์ ในแหล่งการเรียนรู้ หรือนิทรรศการศิลปะ ศ 1.2 ป. 5/1 งานทัศนศิลป์ ในท้องถิ่นมีหลาบประเภท แตกต่างกันตามวิธีการ วัสดุ อุปกรณ์ เนื ้อหาเรื่องราวสร้างสรรค์และประโยชน์ใช้ สอย
16.งานทัศนศิลป์ ที่สะท้อน วัฒนธรรมและภูมิปัญญา ในท้องถิ่น อภิปรายเกี่ยวกับงานทัศนศิลป์ ที่สะท้อนวัฒนธรรมและภูมิ ปัญญาในท้องถิ่น ศ 1.2 ป. 5/2 -งานทัศนศิลป์ ในท้องถิ่น สะท้อนให้เห็น ความรู้สึกนึกคิด ชีวิตความเป็นอยู่ สิ่งแวดล้อมของคนไทยในอดีตและภูมิ ปัญญาของผู้คนในท้องถิ่นนั ้น ๆ 1
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานงานศิลป์ เรื่อง 1.เอกภาพ สาระส าคัญ การจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยการใช้หลักการของเอกภาพ คือความประสานกลมกลืน มีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกัน เป็นกลุ่มก้อน ไม่กระจัดกระจาย ตัวชี้วัดชั้นปี 1) ระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการปรับปรุง งานให้ดีขึ ้น (ศ 1.1 ป. 5/6) 2) บรรยายประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มีผลต่อชีวิตของคนในสังคม (ศ 1.1 ป.5/7) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บรรยายความหมายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของเอกภาพได้ (K) 2.บอกปัญหาและการปรับปรุงแก้ไขผลงานทัศนศิลป์ ของตนเองได้ (K) 3.เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของเอกภาพ (A) 4.สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ โดยการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของเอกภาพได้ (P) สาระการเรียนรู้ 1.การจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ 2.ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์
ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ให้นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อประเมินความรู้ 2.ครูให้นักเรียนสังเกตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว แล้วและยกตัวอย่างในที่เป็นเอกภาพซึ่งมีความส าคัญใน การจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้นักเรียนเห็น 3.ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้ให้นักเรียนเห็นถึงเอกภาพในลักษณะต่าง ๆ ที่สามารถน าไปใช้ในงาน ทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูอธิบายพื ้นฐานและความหมายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ซึ่งหมายถึงการน าส่วนประกอบต่าง ๆ ของ ทัศนธาตุมาประกอบสร้างเป็นผลงานศิลปะ ซึ่งมีการจัดการใช้หลักเอกภาพ ความสมดุล จุดเด่น ความกลมกลืน และ ความขัดแย้ง
2.ครูอธิบายความหมายของเอกภาพ ซึ่งหมายถึงความประสานกลมกลืน ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันเป็นกลุ่มก้อน ไม่กระจัดกระจาย แสดงออกถึงความพอดีของความงาม 3.ครูน าตัวอย่างภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ที่แสดงถึงองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการเอกภาพในผลงาน ให้นักเรียนสังเกต ครูอธิบายเสริมให้เห็นว่าเอกภาพมีประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ อย่างไร 4.ครูขออาสาสมัคร 1 คน เพื่อเปรียบเทียบถึงความเป็นเอกภาพ โดยให้อาสาสมัครออกมายืนสาธิตหน้าชั ้นเรียน จากนั ้นครูอธิบายเปรียบเทียบอาสาสมัครกับความเป็นเอกภาพว่า อาสาสมัครความเป็นเอกภาพว่า อาสาสมัครคือผลงาน ศิลปะที่มีความเป็นเอกภาพที่เป็น (รูป) คนที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง ประกอบไปด้วย ศีรษะ แขน และขา แต่ถ้า อาสาสมัคร (รูป) คนนี ้ไม่มีแขนหรือขาก็จะขาดความเป็นเอกภาพและความสมบูรณ์ไป 5.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันศึกษาค้นคว้าความหมายและลักษณะของเอกภาพในการจัด องค์ประกอบศิลป์ จดบันทึกและวาดภาพประกอบจัดท าเป็นรายงาน 6.แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอการผลการศึกษา บรรยายความหมายของหลักการละเอกภาพในการจัดองค์ประกอบ ศิลป์ ระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และวิธีปรับปรุงแก้ไข โดยครูคอยอธิบายเสริมถึงการใช้เอกภาพกับการ สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง เอกภาพ ที่มีความประสานกลมกลืน ความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันเป็นกลุ่ม ก้อน ไม่กระจัดกระจาย ซึ่งมีปะโยชน์ในการจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่นักเรียนไม่เข้าใจหรือ สรุปไม่ตรงกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน 1.ให้นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม ทดลองจัดองค์ประกอบศิลป์ แบบเอกภาพ แล้วน าเสนอผลงานเกี่ยวกับการใช้ หลักการของเอกภาพในผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันติชม 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ให้มีเอกภาพตามหลักการจัด องค์ประกอบศิลป์ แล้วน าเสนอผลงานโดยการบอกปัญหาและวิธีการปรับปรุงผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูอธิบาย เสริมถึงการน าหลักการของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ไปใช้ในผลงานให้มีความสมบูรณ์สวยงาม ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง เอกภาพ และการจัดองค์ประกอบศิลป์ มาประยุกต์ใช้กับการออกแบบหน้าปกรายงานให้มี ความเป็นอันหนึ่งอันเดียวกัน การจัดป้ายนิเทศวิชาต่าง ๆ ให้มีความสอดคล้องกลมกลืนกัน
กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ 1) นักเรียนศึกษาค้นคว้าผลงานทัศนศิลป์ ที่แสดงถึงเอกภาพในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ในการจัดท า รายงานเกี่ยวกับการแสดงความเป็นเอกภาพในผลงานทัศนศิลป์ แล้วน าเสนนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูสนทนา ซักถามเสริมเกี่ยวกับลักษณะของเอกภาพที่มีความส าคัญของงานทัศนศิลป์ 2) นักเรียนศึกษาค้นคว้าการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของเอกภาพที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจ าวัน เช่น การจัดองค์ประกอบศิลป์ ภายในห้องเรียน การจัดองค์ประกอบศิลป์ ในการแต่งกาย เป็นต้น 2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม 1.นักเรียนสังเกตผลงานทัศนศิลป์ โดยการจ าแนกและเปรียบเทียบลักษณะผลงานที่มีการจัดองค์ประกอบศิลป์ ที่ แสดงถึงหลักการของเอกภาพในลักษณะต่าง ๆ จดบันทึกและวาดภาพประกอบเพื่อน ามาใช้ในการสร้างสรรค์ผลงานของ ตนเองให้มีการพัฒนายิ่งขึ ้น 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานวาดภาพระบายสี โดยใช้หลักการของเอกภาพในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยจุด เส้น สี รูปร่าง รูปทรง ขนาด สัดส่วน พื ้นผิว และแสงเงา ให้มีเนื ้อหาเรื่องราวตามความสนใจ สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ 1.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ห้องสมุด 3.ภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ที่แสดงถึงการจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการของเอกภาพในผลงาน 4.ใบกิจกรรม 5.สื่อการเรียนรู้
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานงานศิลป์ เรื่อง 2.ความสมดุล สาระส าคัญ การจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยการใช้หลักการของความสมดุล คือการน าทัศนธาตุทางศิลปะมาจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้มีความประสานกลมกลืน ความพอเหมาะพอดีของส่วนต่าง ๆ ในงานศิลปะ ตัวชี้วัดชั้นปี 1) ระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการปรับปรุง งานให้ดีขึ ้น (ศ 1.1 ป. 5/6) 2) บรรยายประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มีผลต่อชีวิตของคนในสังคม (ศ 1.1 ป.5/7) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บรรยายความหมายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความสมดุลได้ (K) 2.บอกปัญหาและการปรับปรุงแก้ไขผลงานทัศนศิลป์ ของตนเองได้ (K) 3.เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความสมดุล (A) 4.สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ โดยการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความสมดุลได้ (P) สาระการเรียนรู้ 1.การจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ 2.ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์
ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ให้นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อประเมินความรู้ 2.ครูให้นักเรียนสังเกตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว แล้วและยกตัวอย่างในที่เป็นความสมดุลซึ่งมีความส าคัญ ในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้นักเรียนเห็น 3.ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้ให้นักเรียนเห็นถึงความสมดุลในลักษณะต่าง ๆ ที่สามารถน าไปใช้ใน งานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูอธิบายพื ้นฐานและความหมายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ซึ่งหมายถึงการน าส่วนประกอบต่าง ๆ ของ ทัศนธาตุมาประกอบสร้างเป็นผลงานศิลปะ ซึ่งมีหลักการของการจัดการใช้หลักเอกภาพ ความสมดุล จุดเด่น ความ กลมกลืน และความขัดแย้ง
2.ครูอธิบายความหมายของความสมดุลว่าหมายถึงความประสานกลมกลืน ความความพอดีของส่วนต่าง ๆ แบ่งเป็น 2 ประเภท คือ ความสมดุลแบบ 2 ข้างเท่ากัน และความสมดุลแบบ 2 ข้างไม่เท่ากัน 3.ครูน าตัวอย่างภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ที่แสดงถึงองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการึความสมดุลใน ผลงานให้นักเรียนสังเกต ครูอธิบายเสริมให้เห็นว่าความสมดุลมีประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ อย่างไร 4.ครูขออาสาสมัคร 1 คน เพื่อเปรียบเทียบถึงความสมดุล โดยให้อาสาสมัครออกมายืนสาธิตหน้าชั ้นเรียน จากนั ้นครูอธิบายเปรียบเทียบอาสาสมัครกับความสมดุลว่า อาสาสมัครความสมดุลว่า อาสาสมัครคือผลงานศิลปะที่มี ความสมดุลที่เป็น (รูป) คนที่มีความสมบูรณ์แข็งแรง ประกอบไปด้วย ศีรษะ แขน และขา แต่ถ้าอาสาสมัคร (รูป) คนนี ้ ไม่มีแขนหรือขาก็จะขาดความสมดุลและความสมบูรณ์ไป 5.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันศึกษาค้นคว้าความหมายและลักษณะของความสมดุลในการ จัดองค์ประกอบศิลป์ จดบันทึกและวาดภาพประกอบจัดท าเป็นรายงาน 6.แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอการผลการศึกษา บรรยายความหมายของความสมดุลในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และวิธีปรับปรุงแก้ไข โดยครูคอยอธิบายเสริมถึงการใช้ความสมดุลกับการสร้างสรรค์ ผลงานทัศนศิลป์ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง ความสมดุล ซึ่งหมายถึงความเท่ากัน ความพอเหมาพอดี และมี ประโยชน์ในการจัดองค์ประกอบศิลป์ที่ โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่นักเรียนไม่เข้าใจหรือสรุปไม่ตรงกับจุดประสงค์ การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน 1.ให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม จัดองค์ประกอบศิลป์ แบบความสมดุล แล้วน าเสนอผลงานเกี่ยวกับการใช้หลักการ ของความสมดุลในผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันติชม 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ให้มีความสมดุลตามหลักการจัด องค์ประกอบศิลป์ แล้วน าเสนอผลงานโดยการบอกปัญหาและวิธีการปรับปรุงผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูอธิบาย เสริมถึงการน าหลักการของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ไปใช้ในผลงานให้มีความสมบูรณ์สวยงาม ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง ความสมดุล และการจัดองค์ประกอบศิลป์ มาประยุกต์ใช้ในการเรียนหรือชีวิตประจ าวัน เช่น ในการจัดแจกันดอกไม การจัดโต๊ะหมู่บูชาพระพุทธรูป เป็นต้น
กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ 1) นักเรียนศึกษาค้นคว้าผลงานทัศนศิลป์ ที่แสดงถึงความสมดุลนการจัดองค์ประกอบศิลป์ ในการจัดท า รายงานเกี่ยวกับการแสดงความสมดุลในผลงานทัศนศิลป์ แล้วน าเสนนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูสนทนา ซักถามเสริมเกี่ยวกับลักษณะของความสมดุลแบบ 2 ข้างเท่ากัน และความสมดุลแบบ 2 ข้างไม่เท่ากันว่ามีความส าคัญ ต่อของงานทัศนศิลป์อย่างไร 2) นักเรียนศึกษาค้นคว้าการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความสมดุลที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตประจ าวัน เช่น การจัดองค์ประกอบศิลป์ ในนิทรรศการหรือกิจกรรมต่าง ๆ การจัดองค์ประกอบศิลป์ ในการแขวนโมโบล์ หรือกระดาษสีตกแต่งสถานที่ต่าง ๆ เป็นต้น 2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม 1.นักเรียนนักเรียนสร้างผลงานปั ้นตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ โดยการจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้มีความ สมดุล และน าเสนอผลงานเกี่ยวกับความสมดุลเนื ้อหาในผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานวาดภาพระบายสี โดยใช้หลักการของความสมดุลในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยจุด เส้น สี รูปร่าง รูปทรง ขนาด สัดส่วน พื ้นผิว และแสงเงา ให้มีเนื ้อหาเรื่องราวตามความสนใจ ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้ 1.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ห้องสมุด 3.ภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ที่แสดงถึงการจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการของความสมดุลในผลงาน 4.ใบกิจกรรม 5.สื่อการเรียนรู้
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานงานศิลป์ เรื่อง 3.จุดเด่น สาระส าคัญ การจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยการใช้หลักการของจุดเด่น ซึ่งหมายถึงส่วนส าคัญที่ปรากฏชัด และสะดุดตาในงาน ศิลปะ ตัวชี้วัดชั้นปี 1) ระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการปรับปรุง งานให้ดีขึ ้น (ศ 1.1 ป. 5/6) 2) บรรยายประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มีผลต่อชีวิตของคนในสังคม (ศ 1.1 ป.5/7) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บรรยายความหมายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของจุดเด่นได้ (K) 2.บอกปัญหาและการปรับปรุงแก้ไขผลงานทัศนศิลป์ ของตนเองได้ (K) 3.เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของจุดเด่น (A) 4.สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ โดยการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของจุดเด่นได้ (P) สาระการเรียนรู้ 1.การจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ 2.ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์
ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ให้นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อประเมินความรู้ 2.ครูให้นักเรียนสังเกตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว แล้วและยกตัวอย่างในที่เป็นจุดเด่นซึ่งมีความส าคัญใน การจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้นักเรียนเห็น 3.ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้ให้นักเรียนเห็นถึงจุดเด่นในลักษณะต่าง ๆ ที่สามารถน าไปใช้ในงาน ทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูอธิบายพื ้นฐานและความหมายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ซึ่งหมายถึงการน าส่วนประกอบต่าง ๆ ของ ทัศนธาตุมาประกอบสร้างเป็นผลงานศิลปะ ซึ่งมีหลักการของการจัดการใช้หลักเอกภาพ ความสมดุล จุดเด่น ความ กลมกลืน และความขัดแย้ง
2.ครูอธิบายความหมายของจุดเด่นว่าหมายถึงส่วนต่าง ๆ ที่ปรากฏชัด สะดุดตา ในผลงานศิลปะ ซึ่งสามารถใช้ เส้น สี ขนาด แสงเงา เป็นต้น เน้นให้ผลงานมีความโดดเด่นขึ ้นได้ 3.ครูน าตัวอย่างภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ที่แสดงถึงองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการจุดเด่นในผลงาน ให้นักเรียนสังเกต ครูอธิบายเสริมให้เห็นว่าจุดเด่นมีประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ อย่างไร 4.ครูยกตัวอย่างเรื่องแกะด าในฝูงแกะขาว เพื่อจ าแนกเปรียบเทียบจุดเด่น ที่เกิดขึ ้นระหว่างสีขาวกับสีด า 5.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันศึกษาค้นคว้าความหมายและหลักการของจุดเด่นในการจัด องค์ประกอบศิลป์ จดบันทึกและวาดภาพประกอบจัดท าเป็นรายงาน 6.แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอการผลการศึกษา โดยบรรยายความหมายของจุดเด่นในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์พร้อมกับระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และวิธีการปรับปรุงแก้ไข โดยครู คอยอธิบายเสริมถึงการใช้จุดเด่นในลักษณะที่เหมาะสมกับกับการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง จุดเด่น ว่าเป็นส่วนส าคัญที่ปรากฏชัด สะดุดตา ดึงดูดความสนใจใน ผลงาน โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่นักเรียนไม่เข้าใจหรือสรุปไม่ตรงกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน 1.ให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม วิเคราะห์ภาพ แล้วบรรยายการวิเคราะห์ให้ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันติชม 2.นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม จัดองค์ประกอบศิลป์ แบบเน้นจุดเด่น แล้วน าเสนอผลงานเกี่ยวกับการใช้หลักการของ จุดเด่นในผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันติชม 3.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ให้มีจุดเด่นตามหลักการจัดองค์ประกอบ ศิลป์ แล้วน าเสนอผลงานโดยบอกถึงปัญหาและวิธีการปรังปรุงผลงานให้ครูและเพื่อนฟัง โดยครูอธิบายเสริมการน า หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ไปใช้ในผลงานที่มีความโดดเด่นสะดุดตา ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง จุดเด่น และการจัดองค์ประกอบศิลป์ มาประยุกต์ใช้ในการเรียนหรือชีวิตประจ าวัน เช่น ออกแบบชุดเชียร์กีฬาสี ชุดกีฬา การประกวดแฟชั่นชุดการแต่งกายต่าง ๆ ให้มีความสวยงามสะดุดตาแก่ผู้พบเห็น เป็นต้น
กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ 1) นักเรียนศึกษาค้นคว้าผลงานทัศนศิลป์ ที่แสดงถึงจุดเด่นในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ในการจัดท า รายงานเกี่ยวกับการแสดงจุดเด่นในผลงานทัศนศิลป์ แล้วน าเสนนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูสนทนาซักถาม เสริมเกี่ยวกับลักษณะของจุดเด่นที่ใช้ในผลงาน ว่ามีความส าคัญต่องานทัศนศิลป์ อย่างไร 2) นักเรียนศึกษาค้นคว้าการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของจุดเด่นที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจ าวัน เช่น การจัดองค์ประกอบศิลป์ ในป้ายโฆษณาต่าง ๆ ที่มีความโดดเด่น สะดุดตา สื่อความหมายได้ชัดเจน การจัด องค์ประกอบศิลป์บนปกนิตยสารต่าง ๆ ที่มีสีสันสดใส น่าสนใจเป็นต้น 2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม 1.นักเรียนนักเรียนสร้างผลงานปั ้นตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ โดยการจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้มีความ สมดุล และน าเสนอผลงานเกี่ยวกับความสมดุลเนื ้อหาในผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานวาดภาพระบายสี โดยใช้หลักการของจุดเด่นในการจัดองค์ประกอบศิลป์โดยการใช้จุด เส้น สี รูปร่าง รูปทรง ขนาด สัดส่วน พื ้นผิว และแสงเงา ให้มีเนื ้อหาเรื่องราวตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้ 1.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ห้องสมุด 3.ภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ที่แสดงถึงการจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการของจุดเด่นในผลงาน 4.ใบกิจกรรม 5.สื่อการเรียนรู้
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานงานศิลป์ เรื่อง 4.ความกลมกลืน สาระส าคัญ การจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยการใช้หลักการของความกลมกลืน ท าให้ผลงานมีความสัมพันธ์กลมกลืน สนับสนุน ซึ่งกันและกัน เข้ากันได้ดี และไม่ขัดแย้งกัน ตัวชี้วัดชั้นปี 1) ระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการปรับปรุง งานให้ดีขึ ้น (ศ 1.1 ป. 5/6) 2) บรรยายประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มีผลต่อชีวิตของคนในสังคม (ศ 1.1 ป.5/7) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บรรยายความหมายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความกลมกลืนได้ (K) 2.บอกปัญหาและการปรับปรุงแก้ไขผลงานทัศนศิลป์ ของตนเองได้ (K) 3.เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความกลมกลืน (A) 4.สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ โดยการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความกลมกลืนได้ (P) สาระการเรียนรู้ 1.การจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ 2.ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์
ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ให้นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อประเมินความรู้ 2.ครูให้นักเรียนสังเกตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว แล้วและยกตัวอย่างในที่เป็นความกลมกลืนซึ่งมี ความส าคัญในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้นักเรียนเห็น ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูอธิบายพื ้นฐานและความหมายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ซึ่งหมายถึงการน าส่วนประกอบต่าง ๆ ของ ทัศนธาตุมาประกอบสร้างเป็นผลงานศิลปะ ซึ่งมีหลักการของการจัดการใช้หลักเอกภาพ ความสมดุล จุดเด่น ความ กลมกลืน และความขัดแย้ง 2.ครูอธิบายความหมายของความกลมกลืนว่าหมายถึงความสัมพันธ์กัน สนับสนุนกัน เข้ากันได้ ไม่ขัดแย้งกัน ซึ่ง จะท าให้ผลงานมีความสอดคล้องกลมกลืนกัน
3.ครูน าตัวอย่างภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ที่แสดงถึงองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการความกลมกลืนใน ผลงานให้นักเรียนสังเกต ครูอธิบายเสริมให้เห็นว่าจุดเด่นมีประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ อย่างไร 4.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันศึกษาค้นคว้าความหมายและหลักการของความกลมกลืนใน การจัดองค์ประกอบศิลป์ จดบันทึกและวาดภาพประกอบจัดท าเป็นรายงาน 5.แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอการผลการศึกษา โดยบรรยายความหมายของความกลมกลืนในการจัดองค์ประกอบ ศิลป์ พร้อมทั ้งระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ พร้อมกับระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และวิธีการปรับปรุง แก้ไข โดยครูคอยอธิบายเสริมถึงการใช้จุดเด่นในลักษณะที่เหมาะสมกับกับการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง ความกลมกลืน ว่าหมายถึงความสัมพันธ์ สนับสนุนกัน เข้ากันได้ ไม่ขัดแย้งกัน โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่นักเรียนไม่เข้าใจหรือสรุปไม่ตรงกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน 1.ให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม จัดองค์ประกอบศิลป์ แบบความกลมกลืน แล้วน าเสนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันติชม 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ให้มีความกลมกลืนตามหลักการจัด องค์ประกอบศิลป์ แล้วน าเสนอผลงานโดยบอกถึงปัญหาและวิธีการปรังปรุงผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูอธิบาย เสริมการถึงหลักความกลมกลืนไปใช้ในผลงานให้มีความประสานสัมพันธ์ กลมกลืนกัน ไม่ขัดแย้งกันในผลงาน ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง ความกลมกลืน และการจัดองค์ประกอบศิลป์ มาประยุกต์ใช้ในการจัดตกแต่งห้องหรือ สถานที่ต่าง ๆ ให้เกิดความกลมกลืน กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ 1) นักเรียนศึกษาค้นคว้าผลงานทัศนศิลป์ ที่แสดงถึงความกลมกลืนในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ในการจัด ท ารายงาน แล้วน าเสนนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูสนทนาซักถามเสริมเกี่ยวกับลักษณะของความกลมกลืนที่ ใช้ในผลงาน ว่ามีความส าคัญต่องานทัศนศิลป์ อย่างไร
2) นักเรียนศึกษาค้นคว้าการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความกลมกลืนที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตประจ าวัน เช่น การจัดองค์ประกอบศิลป์ของตัวอักษรที่มีความสอดคล้องกับภาพไม่ขัดแย้งกัน การจัดองค์ประกอบ ศิลป์ ของแจกันดอกไม้ต่าง ๆ ที่มีสีสันสดใสประสานกลมกลืนกัน เป็นต้น 2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานวาดภาพระบายสี โดยใช้หลักการของความกลมกลืนในการจัดองค์ประกอบศิลป์ด้วยจุด เส้น สี รูปร่าง รูปทรง ขนาด สัดส่วน พื ้นผิว และแสงเงา ให้มีเนื ้อหาเรื่องราวตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้ 1.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ห้องสมุด 3.ภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ที่แสดงถึงการจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการของความกลมกลืนใน ผลงาน 4.ใบกิจกรรม 5.สื่อการเรียนรู้
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานงานศิลป์ เรื่อง 5.ความขัดแย้ง สาระส าคัญ การจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยการใช้หลักการของความขัดแย้ง ซึ่งหมายถึงการน าทัศนธาตุมาจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้เกิดการตัดกันหรือขัดแย้งกัน เพราะความขัดแย้งที่พอเหมาะจะช่วยให้ผลงานดูมีชีวิตชีวาน่าสนใจ ตัวชี้วัดชั้นปี 1) ระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการปรับปรุง งานให้ดีขึ ้น (ศ 1.1 ป. 5/6) 2) บรรยายประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มีผลต่อชีวิตของคนในสังคม (ศ 1.1 ป.5/7) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บรรยายความหมายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความขัดแย้งได้ (K) 2.บอกปัญหาและการปรับปรุงแก้ไขผลงานทัศนศิลป์ ของตนเองได้ (K) 3.เห็นคุณค่าและประโยชน์ของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความขัดแย้ง (A) 4.สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ โดยการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความขัดแย้งได้ (P) สาระการเรียนรู้ 1.การจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ 2.ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์
ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ให้นักเรียนท าแบบทดสอบก่อนเรียนเพื่อประเมินความรู้ 2.ครูให้นักเรียนสังเกตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว แล้วและยกตัวอย่างในที่เป็นความขัดแย้งซึ่งมีความส าคัญ ในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้นักเรียนเห็น ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูอธิบายพื ้นฐานและความหมายของการจัดองค์ประกอบศิลป์ ซึ่งหมายถึงการน าส่วนประกอบต่าง ๆ ของ ทัศนธาตุมาประกอบสร้างเป็นผลงานศิลปะ ซึ่งมีหลักการของการจัดการใช้หลักเอกภาพ ความสมดุล จุดเด่น ความ กลมกลืน และความขัดแย้ง 2.ครูอธิบายความหมายของความขัดแย้งว่าหมายถึงการตัดกัน การไม่เข้ากัน เพื่อลดความกลมกลืนลงไม่ให้ ผลงานจืดชืด น่าเบื่อหน่าย เพราะความขัดแย้งที่พอเหมาะจะช่วยให้ผลงานดูมีชีวิตชีวาน่าสนใจ
3.ครูน าตัวอย่างภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ที่แสดงถึงองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการความขัดแย้งใน ผลงานให้นักเรียนสังเกต ครูอธิบายเสริมให้เห็นว่าจุดเด่นมีประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ อย่างไร 4.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันศึกษาค้นคว้าความหมายและหลักการของความขัดแย้งใน การจัดองค์ประกอบศิลป์ จดบันทึกและวาดภาพประกอบจัดท าเป็นรายงาน 5.แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอการผลการศึกษา โดยบรรยายความหมายของความขัดแย้งในการจัดองค์ประกอบ ศิลป์ พร้อมทั ้งระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ พร้อมกับระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และวิธีการปรับปรุง แก้ไข โดยครูคอยอธิบายเสริมถึงการใช้ความขัดแย้งในลักษณะที่เหมาะสมกับกับการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง ความขัดแย้ง ว่าเป็นการท าให้เกิดการตัดกัน ขัดแย้งกัน เพื่อลดความ กลมกลืนลง ให้ดูผลงานมีชีวิตชีวา น่าสนใจมากขึ ้น โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่นักเรียนไม่เข้าใจหรือสรุปไม่ตรงกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน 1.ให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม จัดองค์ประกอบศิลป์ แบบความขัดแย้ง แล้วน าเสนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกัน ติชม 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ให้มีความขัดแย้งตามหลักการจัด องค์ประกอบศิลป์ แล้วน าเสนอผลงานโดยบอกถึงปัญหาและวิธีการปรังปรุงผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูอธิบาย เสริมการถึงหลักความขัดแย้ง เพื่อให้ผลงานดูไม่น่าเบื่อหน่าย เพราะความขัดแย้งที่พอเหมาะจะช่วยให้ผลงานมีชีวิตชีวา น่าสนใจ ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง ความขัดแย้งและการจัดองค์ประกอบศิลป์ มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบต่าง ๆ ตาม จินตนาการความคิดสร้างสรรค์อย่างอิสระ กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ 1) นักเรียนศึกษาค้นคว้าผลงานทัศนศิลป์ ที่แสดงถึงความขัดแย้งในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ในการจัด
องค์ประกอบศิลป์ จัดท ารายงาน แล้วน าเสนนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูสนทนาซักถามเสริมเกี่ยวกับลักษณะ ของความขัดแย้งที่ใช้ในผลงาน ว่ามีความส าคัญต่องานทัศนศิลป์ อย่างไร 2) นักเรียนศึกษาค้นคว้าการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยหลักการของความขัดแย้งที่เกี่ยวข้องกับ ชีวิตประจ าวัน เช่น การจัดองค์ประกอบศิลป์ในการแต่งกายแฟชั่นของวัยรุ่น การแต่งกายเลียนแบบตัวการ์ตูนหรือฮีโร่ใน ดวงใจตามงานกิจกรรมต่าง ๆ ที่สามารถน าความขัดแย้งมาสร้างสรรค์ในผลงานได้อย่างน่าสนใจ 2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม 1.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานจากเศษวัสดุใช้หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้เกิดความขัดแย้งในผลงานประมาณ 10%-20% ให้ผลงานมีความน่าสนใจ ตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์อิสระ 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานวาดภาพระบายสีโดยใช้หลักการของความขัดแย้งในการจัดองค์ประกอบศิลป์ด้วยจุด เส้น สี รูปร่าง รูปทรง ขนาด สัดส่วน พื ้นผิว และแสงเงา ให้มีเนื ้อหาเรื่องราวตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ สื่อ / แหล่งการเรียนรู้ 1.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ห้องสมุด 3.ภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ที่แสดงถึงการจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้หลักการของความขัดแย้งในผลงาน 4.ใบกิจกรรม 5.สื่อการเรียนรู้
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานงานศิลป์ เรื่อง 6.จังหวะ สาระส าคัญ จังหวะที่ปรากฏอยู่ในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ ท าให้เกิดความเคลื่อนไหวและความงาม ตัวชี้วัดชั้นปี 1) ระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการปรับปรุง งานให้ดีขึ ้น (ศ 1.1 ป. 5/6) 2) บรรยายเกี่ยวกับจังหวะต าแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ (ศ 1.1 ป.5/1) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บรรยายความหมายของจังหวะที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ได้ (K) 2.บอกปัญหาและการปรับปรุงแก้ไขผลงานทัศนศิลป์ ของตนเองได้ (K) 3.เห็นคุณค่าและประโยชน์ของจังหวะที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ (A) 4.สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ โดยการใช้จังหวะที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ได้ (P) สาระการเรียนรู้ 1.จังหวะของสิ่งต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ 2.การจัดองค์ประกอบศิลป์ และการสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์
ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ครูให้นักเรียนสังเกตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว แล้วและยกตัวอย่างส่วนที่เป็นจังหวะซึ่งมีความส าคัญใน การจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้นักเรียนเห็น 2.ครูอธิบายเปรียบเทียบจังหวะที่มีความส าคัญในด้านต่าง ๆ เช่น จังหวะดนตรี จังหวะการเต้นร า จังหวะการเดิน จังหวะการวิ่ง จังหวะการกระโดด เป็นต้น 3.ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับจังหวะที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมในลักษณะต่าง ๆ ที่สามารถ น าไปใช้กับงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูอธิบายอธิบายความหายของจังหวะว่าหมายถึงช่วงจังหวะความห่าง และความสัมพันธ์ต่อเนื่องที่สม ่าเสมอ ของทัศนธาตุ ท าให้เกิดความเคลื่อนไหวและความงาม ซึ่งปรากฏอยู่ในสิ่งแวดล้อมรอบตัว
2.ครูขออาสาสมัคร 1 คน ออกมาสาธิตการเดินในลักษณะต่าง ๆ ให้นักเรียนสังเกตจังหวะในการเดิน ครูอธิบาย เสริมถึงรอยเท้าในการเดินซึ่งมีความสม ่าเสมอกัน จึงเกิดเป็นจังหวะของการเดิน 3.ครูน าตัวอย่างภาพถ่ายและภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ที่แสดงถึงองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้จังหวะใน ผลงานให้นักเรียนสังเกต ครูอธิบายเสริมให้เห็นว่าจุดเด่นมีประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ อย่างไร 4.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันศึกษาค้นคว้าความหมายและหลักการของจังหวะใน สิ่งแวดล้อม และจังหวะในงานทัศนศิลป์ จดบันทึกและวาดภาพประกอบจัดท าเป็นรายงาน 5.แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอการผลการศึกษา โดยบรรยายความหมายของจังหวะที่ใช้ในการจัดองค์ประกอบศิลป์ พร้อมทั ้งระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ พร้อมกับระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และวิธีการปรับปรุงแก้ไข โดยครูคอยอธิบายเสริมถึงการใช้จังหวะในลักษณะที่เหมาะสมกับกับการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง จังหวะ ว่าเป็นช่วงความห่าง ความสัมพันธ์ต่อเนื่องที่สม ่าเสมอและไม่ สม ่าเสมอ ซึ่งท าให้เกิดความเคลื่อนไหวและความสวยงาม โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่นักเรียนไม่เข้าใจหรือสรุปไม่ ตรงกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน 1.ให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม จังหวะสร้างสรรค์ แล้วน าเสนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันติชม 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ให้มีจังหวะตามหลักการจัดองค์ประกอบ ศิลป์ แล้วน าเสนอผลงานโดยบอกถึงปัญหาและวิธีการปรังปรุงผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูอธิบายเสริมถึงการน า หลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ ไปใช้ในผลงานให้มีจังหวะ เพื่อให้ผลงานดูไม่น่าเบื่อหน่าย เพราะความขัดแย้งที่พอเหมาะจะ ช่วยให้ผลงานมีชีวิตชีวา น่าสนใจ ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง จังหวะ มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบตกแต่งลวดลายให้มีความสม ่าเสมอ หรือรู้สึกถึงการ เคลื่อนไหวบนฉากเวที ป้ายนิเทศ ปกรายงาน กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ 1) นักเรียนศึกษาค้นคว้าผลงานทัศนศิลป์ ที่แสดงถึงจังหวะในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ในการจัด
องค์ประกอบศิลป์ จัดท ารายงาน แล้วน าเสนนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูสนทนาซักถามเสริมเกี่ยวกับลักษณะ จังหวะที่ใช้ในผลงาน ว่ามีความส าคัญต่องานทัศนศิลป์ อย่างไร 2) นักเรียนศึกษาค้นคว้าจังหวะในลักษณะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจ าวัน เช่น จังหวะการเดินของ เข็มนาฬิกา จงัหวะการเปลี่ยนไฟจราจร จังหวะการเต้นของหัวใจ แล้วสรุปว่าจังหวะมีประโยชน์ต่อชีวิตประจ าวันอย่างไร และในงานทัศนศิลป์ อย่างไร 2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม 1.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานการพิมพ์ภาพที่ใช้จังหวะในกรสร้างสรรค์ผลงาน เช่น การใช้ลูกบอลกดลงบนวัสดุ รองรับตามจังหวะที่สม ่าเสมอกัน การใช้นิ ้วมือกดวางลงตามจังหวะที่ต้องการ เป็นต้น 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานวาดภาพระบายสีโดยใช้จังหวะในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยจุด เส้น สี รูปร่าง รูปทรง ขนาด สัดส่วน พื ้นผิว และแสงเงา ให้มีเนื ้อหาเรื่องราวตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้ 1.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ห้องสมุด 3.ภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ที่แสดงถึงการจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้จังหวะในผลงาน 4.ใบกิจกรรม 5.สื่อการเรียนรู้
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานงานศิลป์ เรื่อง 7.ต าแหน่ง สาระส าคัญ ต าแหน่งเป็นที่อยู่หรือที่ตั ้งของสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มองเห็น ซึ่งปรากฏอยู่ในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ ตัวชี้วัดชั้นปี 1) ระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ ของตนเอง และบอกวิธีการปรับปรุง งานให้ดีขึ ้น (ศ 1.1 ป. 5/6) 2) บรรยายเกี่ยวกับจังหวะต าแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ (ศ 1.1 ป.5/1) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บรรยายความหมายของต าแหน่งที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ ได้ (K) 2.บอกปัญหาและการปรับปรุงแก้ไขผลงานทัศนศิลป์ ของตนเองได้ (K) 3.เห็นคุณค่าและประโยชน์ของต าแหน่งที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ (A) 4.สร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ โดยการใช้ต าแหน่งที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ ได้ (P) สาระการเรียนรู้ 1.ต าแหน่งของสิ่งต่าง ๆ ในสิ่งแวดล้อมและงานทัศนศิลป์ 2.การจัดองค์ประกอบศิลป์ และการสื่อความหมายในงานทัศนศิลป์ ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์
ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ครูให้นักเรียนสังเกตธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว แล้วและยกตัวอย่างส่วนที่เป็นต าแหน่งซึ่งมีความส าคัญใน การจัดองค์ประกอบศิลป์ ให้นักเรียนเห็น 2.ครูอธิบายเปรียบเทียบต าแหน่งที่มีความส าคัญในด้านต่าง ๆ เช่น ต าแหน่งในการแสดงบนเวที ต าแหน่งในการ เล่นกีฬาประเภทต่าง ๆ ต าแหน่งการวางป้ายลักษณะต่าง ๆ ต าแหน่งในการแสดงกิจกรรมต่าง ๆ เป็นต้น 3.ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับต าแหน่งที่ปรากฏในสิ่งแวดล้อมในสิ่งแวดล้อม ที่นักเรียนเห็น ถึงต าแหน่งในลักษณะต่าง ๆ ที่สามารถน าไปใช้กับงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูอธิบายอธิบายความหมายของต าแหน่งว่าหมายถึงที่ตั ้งสิ่งใดสิ่งหนึ่งที่มองเห็น ซึ่งเป็นจุดสนใจหรือจุดของ ศิลปะ สามารถสังเกตได้โดยใช้กรอบภาพ และเขียนเลขก ากับไว้ ซึ่งในแต่ละต าแหน่งจะให้ความรู้สึกที่แตกต่างกันไป 2.ครูน ากระดาษขนาด A3 ตัดช่องสี่เหลี่ยม ขนาด 20×30 เซนติเมตร ตรงกลางภาพ ครูสาธิตการมองภาพใน ช่องสี่เหลี่ยม อธิบายการจัดองค์ประกอบศิลป์ ภายในช่องสี่เหลี่ยม ในการวางต าแหน่งในลักษณะต่าง ๆ ซึ่งให้ความรู้สึกที่ แตกต่างกัน 3.ครูน าตัวอย่างภาพถ่ายและภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ที่แสดงถึงองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้ต าแหน่งใน ผลงานให้นักเรียนสังเกต ครูอธิบายเสริมให้เห็นว่าต าแหน่งมีประโยชน์ต่อการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ อย่างไร
4.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันศึกษาค้นคว้าความหมายของต าแหน่งในสิ่งแวดล้อม และ ต าแหน่งในงานทัศนศิลป์ จดบันทึกและวาดภาพประกอบจัดท าเป็นรายงาน 5.แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอการผลการศึกษา โดยบรรยายความหมายของต าแหน่งที่ใช้ในการจัดองค์ประกอบ ศิลป์ พร้อมทั ้งระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ พร้อมกับระบุปัญหาในการจัดองค์ประกอบศิลป์ และวิธีการปรับปรุง แก้ไข โดยครูคอยอธิบายเสริมถึงการใช้ต าแหน่งในลักษณะที่เหมาะสมกับกับการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง ต าแหน่ง ว่าเป็นที่ตั ้งของสิ่งใดสิ่งหนึ่ง เป็นจุดสนใจหรือจุดเด่นของงาน ศิลปะ สามารถสังเกตได้โดยใช้กรอบภาพในการวางต าแหน่งจุดสนใจ ซึ่งให้ความรู้สึกต่าง ๆ โดยครูคอยให้ความรู้เสริมใน ส่วนที่นักเรียนไม่เข้าใจหรือสรุปไม่ตรงกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน 1.ให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม สร้างจุดเด่นของต าแหน่ง แล้วน าเสนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันติชม 2.นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ให้มีต าแหน่งตามหลักการจัด องค์ประกอบศิลป์ แล้วน าเสนอผลงานโดยบอกถึงปัญหาและวิธีการปรังปรุงผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูอธิบาย เสริมถึงการน าหลักการจัดองค์ประกอบศิลป์ ไปใช้ในผลงานให้มีต าแหน่ง เพื่อให้เกิดความรู้สึกที่สง่างาม มั่นคง แข็งแรง และความเป็นระเบียบเรียบร้อย ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง ต าแหน่ง มาประยุกต์ใช้ในการตกแต่งห้อง หรือสถานที่ต่าง ในกาจัดวางวัสดุ อุปกรณ์ โต๊ะ เก้าอี ้ โคมไฟ และสิ่งของต่าง ๆ กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ 1) นักเรียนศึกษาค้นคว้าผลงานทัศนศิลป์ ที่แสดงถึงต าแหน่งในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ในการจัด องค์ประกอบศิลป์ จัดท ารายงาน แล้วน าเสนนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง โดยครูสนทนาซักถามเสริมเกี่ยวกับลักษณะ ต าแหน่งที่ใช้ในผลงาน ว่ามีความส าคัญต่องานทัศนศิลป์ อย่างไร
2) นักเรียนศึกษาค้นคว้าต าแหน่งในลักษณะต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตประจ าวัน เช่น การเดินชิดขวาบน ทางเท้า ต าแหน่งการเดินรถชิดซ้าย ต าแหน่งการติดป้ายประเภทต่าง ๆ แล้วสรุปว่าต าแหน่งมีประโยชน์ต่อชีวิตประจ าวัน อย่างไรและมีประโยชน์ในงานทัศนศิลป์ อย่างไร 2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม นักเรียนสร้างสรรค์ผลงานวาดภาพระบายสีโดยใช้ต าแหน่งในการจัดองค์ประกอบศิลป์ ด้วยจุด เส้น สี รูปร่าง รูปทรง ขนาด สัดส่วน พื ้นผิว และแสงเงา ให้มีเนื ้อหาเรื่องราวตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์ ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้ 1.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ห้องสมุด 3.ภาพผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ที่แสดงถึงการจัดองค์ประกอบศิลป์ โดยใช้ต าแหน่งในผลงาน 4.ใบกิจกรรม 5.สื่อการเรียนรู้
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานงานศิลป์ เรื่อง 8.ความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ สาระส าคัญ งานทัศนศิลป์ มีความแตกต่างกัน แบ่งเป็นงานจิตรกรรม ประติมากรรม และงานสถาปัตยกรรม ตัวชี้วัดชั้นปี เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ ที่สร้างสรรค์ด้วยวัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการที่ต่างกัน (ศ 1.1 ป.5/2) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.อธิบายความตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ ได้ (K) 2.ชื่นชมและเห็นความส าคัญของงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ (A) 3.จ าแนกและเปรียบเทียบของงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ (P) สาระการเรียนรู้ ความแตกต่างระหว่างงานทัศน์ศิลป์ ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ครูให้นักเรียนร่วมกันออกมาเขียนชื่อวัสดุ อุปกรณ์ ในการสร้างสรรค์ผลงานศิลปะประเภทต่าง ๆ ให้ได้มากที่สุด ลงบนกระดานด า ครูสุ่มนักเรียนเกี่ยวกับวิธีการใช้ในงานทัศนศิลป์ ประเภทนั ้น ๆ เพื่อประเมินความรู้ของนักเรียนเกี่ยวกับ ความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ 2.ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้เกี่ยวกับความแตกต่างในการใช้วัสดุ อุปกรณ์ และวิธีการสร้างสรรค์ ให้นักเรียนเห็นลักษณะความแตกต่างในงานทัศนศิลป์ ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูน าตัวอย่างภาพงานทัศนศิลป์ ได้แก่ งานจิตรกรรม งานประติมากรรม และงานสถาปัตยกรรม ให้นักเรียน สังเกต พร้อมกับอธิบายถึงความแตกต่างในการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ในแต่ละประเภทว่ามีวิธีการสร้างสรรค์ และการ ใช้วัสดุ อุปกรณ์ที่แตกต่างกันอย่างไร 2.ครูอธิบายความหมายของงานทัศนศิลป์ ว่าหมายถึงศิลปะที่มองเห็น หรือศิลปะที่สามารถสัมผัส รับรู้ ชื่นชม ด้วยประสาทตา สัมผัสจับต้องได้ โดยแบ่งเป็น 3 ประเภท ได้แก่ งานจิตรกรรม งานประติมากรรม และงานสถาปัตยกรรม เพื่อให้นักเรียนรู้ว่างานทัศนศิลป์ มีความแตกต่างกัน สามารถจ าแนกและเปรียบเทียบความแตกต่างได้ 3.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันศึกษาค้นคว้าความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ ประเภท ต่าง ๆ จดบันทึกและวาดภาพประกอบตามหัวข้อดังนี ้ 1) งานจิตรกรรม 2) งานประติมากรรม 3) งานสถาปัตยกรรม 4.แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอการผลการศึกษา เพื่อจ าแนกและเปรียบเทียบความแตกต่างระหว่างทัศนศิลป์ อธิบายถึงวิธีการและวัสดุ อุปกรณ์ ในการสร้างสรรค์ผลงาน รวมถึงลักษณะความแตกต่างของผลงาน โดยครูคอยอธิบาย เสริมถึงการใช้ต าแหน่งในลักษณะที่เหมาะสมกับกับการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์
5.ครูอธิบายถึงความแตกต่างระหว่างงานจิตรกรรม ว่าเป็นการวาดภาพระบายสีถ่ายทอดความรู้สึก ความคิด สร้างสรรค์ลงบนพื ้นระนาบรองรับที่เป็น 2 มิติ ส่วนงานประติมากรรม เป็นการปั ้น การแกะสลัก หรือการหล่อขึ ้นรูป ถ่ายทอดความงามและความรู้สึกนึกคิดเป็นรูปทรง 3 มิติ และงานสถาปัตยกรรม หมายถึงการก่อสร้างเพื่อเป็นที่อยู่อาศัย ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง ความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ ซึ่งสามารถแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ งานจิตรกรรม งานประติมากรรม และงานสถาปัตยกรรม โดยผลงานแต่ละประเภทมีวิธีการสร้างสรรค์ วัสดุ อุปกรณ์ ตลอดจนลักษณะรูปแบบของผลงานที่มีความแตกต่างกัน โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่นักเรียนไม่เข้าใจ หรือสรุปไม่ตรงกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน 1.ให้นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม ความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ แล้วให้นักเรียนน าเสนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง ความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ มาประยุกต์ใช้เพื่อเป็นพื ้นฐานในการเรียนวิชาศิลปะ ในระดับสูง หรืออธิบายความแตกต่างของผลงานแต่ละประเภทให้ผู้ที่สนใจฟัง กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ 1) นักเรียนศึกษาลักษณะความแตกต่างของทัศนธาตุ ว่ามีปะโยชน์ในการสร้างสรรค์ผลงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ อย่างไรเพื่อน ามาใช้ในการถ่ายทอดความรู้สึกในการสร้างสรรค์ผลงานเพื่อให้ของตนเองพัฒนามากขึ ้น 2) นักเรียนศึกษาค้นคว้าลักษณะความแตกต่างของสถาปัตยกรรมในแต่ละภาคของประเทศไทย ถึง ความแตกต่างในด้านรูปแบบของศิลปะในท้องถิ่นนั ้น ๆ จดบันทึกและวาดภาพประกอบ แล้วน าเสนอผลงานให้ครูและ เพื่อน ๆ ฟัง 2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม นักเรียนศึกษาความแตกต่างของผลงานทัศนศิลป์ ของศิลปินที่นักเรียนชื่นชอบ จัดท ารายงานแสดงตารางวิธีการ จ าแนกตามหัวข้อ ดังนี ้ 1)ประเภทงาน
2)วิธีการ 3)วัสดุ อุปกรณ์ 4)ลักษณะของผลงาน ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้ 1.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ห้องสมุด 3.ภาพผลงานทัศนศิลป์ได้แก่ งานจิตรกรรม งานประติมากรรม และงานสถาปัตยกรรม 4.ใบกิจกรรม 5.สื่อการเรียนรู้
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 1 พื้นฐานงานศิลป์ เรื่อง 9.ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ สาระส าคัญ งานทัศนศิลป์ มีประโยชน์และคุณค่าต่อมนุษย์ในด้านต่าง ๆ ทั ้งทางด้านจิตใจ ด้านสติปัญญา และด้านประโยชน์ ใช้สอย ตัวชี้วัดชั้นปี บรรยายประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่มีผลต่อชีวิตของคนในสังคม (ศ 1.1 ป.5/7) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.บรรยายประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ได้ (K) 2.ชื่นชมและเห็นความส าคัญของงานทัศนศิลป์ ประเภทต่าง ๆ (A) 3.สร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ เพื่อน าไปใช้ประโยชน์ได้ (P) สาระการเรียนรู้ ประโยชน์และคุณค่างานทัศน์ศิลป์ ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ครูและนักเรียนร่วมกันแลกเปลี่ยนประสบการณ์ของตนเองเกี่ยวกับการน างานทัศนศิลป์ ไปใช้ประโยชน์และให้เกิด คุณค่า เช่น ครูเล่าถึงการใช้เวลาว่างวาดภาพระบายสีเพื่อฝึกสมาธิและระเบียบวินัยกับตนเอง เป็นต้น เพื่อประเมิน ความรู้ของนักเรียน 2.ครูสนทนากับนักเรียนเพื่อเชื่อมโยงความรู้ให้นักเรียนเห็นประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ในด้านต่าง ๆ ทั ้ง ทางด้านจิตใจ ทางด้านสติปัญญา และทางด้านประโยชน์ใช้สอย ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูน าผลงานทัศนศิลป์ เช่น ผลิตภัณฑ์ เครื่องใช้สอย เครื่องเล่นต่าง ๆ เป็นต้น ให้นักเรียนสังเกต พร้อมกับ อธิบายถึงประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ แต่ละชิ ้น 2.ครูแบ่งนักเรียนเป็นกลุ่ม กลุ่มละ 5-6 คน ร่วมกันศึกษาค้นคว้าความแตกต่างระหว่างงานทัศนศิลป์ ประเภท ต่าง ๆ จดบันทึกและวาดภาพประกอบตามหัวข้อดังนี ้ 1) ผลงานทัศนศิลป์ ที่ให้ประโยชน์และคุณค่าทางด้านจิตใจ 2) ผลงานทัศนศิลป์ ที่ให้ประโยชน์และคุณค่าทางด้านสติปัญญา 3) ผลงานทัศนศิลป์ ที่ให้ประโยชน์และคุณค่าทางด้านประโยชน์ใช้สอย 3.แต่ละกลุ่มออกมาน าเสนอการผลการศึกษา โดยบรรยายถึงประโยชน์ละคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่สร้างสรรค์ โดยครูคอยอธิบายเสริมถึงการจ าแนกลักษณะประโยชน์และคุณค่าของผลงานที่มีความแตกต่าง
4.ครูกับนักเรียนร่วมกันบรรยายประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ที่ได้รับกับตนเอง เพื่อร่วมกันแลกเปลี่ยน ประสบการณ์ที่มีต่องานทัศนศิลป์ ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ ในด้านต่าง ๆ ทั ้งทางด้านจิตใจ ทางด้านสติปัญญา และทางด้านประโยชน์ใช้สอย โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่นักเรียนไม่เข้าใจหรือสรุปไม่ตรงกับ จุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ แล้วให้นักเรียนน าเสนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง ประโยชน์และคุณค่าของงานทัศนศิลป์ มาประยุกต์ใช้เพื่อให้เกิดประโยชน์ในชีวิตประจ าวัน ตามความเหมาะสม กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ นักเรียนสร้างสรรค์งานทัศนศิลป์ ที่มีคุณค่าทางด้านประโยชน์ใช้สอยเพื่อน ามาในงานกิจกรรมต่าง ๆ ภายใน โรงเรียน เพื่อหารายได้เป็นค่าขนมหรือรวบรวมเป็นเงินกองกลางของห้องเรียนส าหรับน าไปใช้ในโอกาสต่าง ๆ 2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม นักเรียนศึกษาค้นคว้าประโยชน์ของงานทัศนศิลป์ ที่นักเรียนสนใจ โดยจดบันทึกและวาดภาพประกอบตามหัวข้อ ต่อไปนี ้ 1) ประโยชน์และคุณค่าทางด้านจิตใจ 2) ประโยชน์และคุณค่าทางด้านสติปัญญา 3) ประโยชน์และคุณค่าทางด้านประโยชน์ใช้สอย
ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้ 1.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ห้องสมุด 3.ผลงานทัศนศิลป์ ที่ให้ประโยชน์และคุณค่าทางด้านจิตใจ ด้านสติปัญญา และด้านประโยชน์ใช้สอย 4.ใบกิจกรรม 5.สื่อการเรียนรู้
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 2 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 สร้างสรรค์งานศิลป์ เรื่อง 10.การวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก สาระส าคัญ การวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนักด้วยการขูด ขีด เขียน ระบายด้วยดินสอและสีชนิดต่าง ๆ เพื่อ ถ่ายทอดลักษณะแสงและเงาด้วยค่าน ้าหนักอ่อนแก่ ตัวชี้วัดชั้นปี วาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงา น ้าหนัก และวรรณะสี (ศ 1.1 ป.5/3) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.อธิบายความหมายของการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก ได้ (K) 2.เห็นคุณค่าความส าคัญในการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก (A) 3.สร้างสรรค์ผลงานการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก ได้ (P) สาระการเรียนรู้ การวาดภาพโดยใช้เทคนิคแสงเงาและน ้าหนัก ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ครูให้นักเรียนสังเกตแสงเงาธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว ในส่วนที่สว่างและส่วนที่มืดแล้วร่วมกันสนทนาถึง ความอ่อนแก่ของแสงเงา เพื่อจ าแนกและเปรียบเทียบเป็นค่าน ้าหนักในแสงเงาให้นักเรียนสังเกต 2.ครูสนทนากับนักเรียนถึงการใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนักมาสร้างสรรค์ถ่ายทอดในผลงานวาดภาพระบายสี ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูอธิบายถึงการวาดภาพระบายสีที่ใช้วิธีการขูด ขีด เขียน ระบายด้วยสีต่าง ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ กัน มี ลักษณะ 2 มิติ กว้างและยาว ส่วนมิติที่ 3 คือ ความตื ้นลึกนั ้นขึ ้นอยู่กับน ้าหนักและแสงเงาที่ท าให้เกิดความรู้สึกขึ ้น 2.ครูน าตัวอย่างผลงานการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก ให้นักเรียนสังเกตถึงค่าความอ่อนแก่ ของแสง จากจุดที่มืดที่สุดถึงจุดที่สว่างที่สุด พร้อมกับอธิบายวิธีการสร้างสรรค์และขั ้นตอนการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของ แสงเงาและน ้าหนักให้นักเรียนเข้าใจ 3.ครูสาธิตการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก ให้นักเรียนสังเกตการณ์ลงค่าน ้าหนักด้วยดินสอและ สีชนิดต่าง ๆ เป็นขั ้นตอน โดยครูอธิบายเสริมถึงการถ่ายทอดความรู้สึกด้วยแสงเงา และเงาตกทอดในผลงาน เพื่อให้ นักเรียนจ าแนกส่วนที่เป็นแสง ส่วนที่เป็นเงา และส่วนที่เป็นเงาตกทอด 4.ครูให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าความหมายของการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก จดบันทึกและ วาดภาพประกอบ สร้างสรรค์ผลงานพร้อมทั ้งเขียนอธิบายความรู้สึกที่ต้องถ่ายทอดลงในใบแนวความคิดและจัดท าเป็น รายงานแล้วน าเสนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง
5.นักเรียนน าเสนอรายงานและผลงานการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก โดยครูสนทนาเสริม เกี่ยวกับการถ่ายทอดความรู้สึกด้วยค่าความอ่อนแก่ของน ้าหนักของดินสอและสีชนิดต่าง ๆ รวมทั ้งความสว่าง ความมืด ที่ จะต้องปรับปรุงให้ผลงานสมบูรณ์ยิ่งขึ ้น ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 1.ครูอธิบายสรุปถึงการวาดภาพระบายสีว่าหมายถึง การขูด เขียน ระบายด้วยสีชนิดต่าง ๆ ด้วยวิธีการต่าง ๆ กัน ซึ่งแสดงลักษณะ 2 มิติ คือ กว้างและยาว ส่วนมิติที่ 3 คือ ความตื ้น ลึก โดยใช้เทคนิคของแสงเงา น ้าหนัก และ วรรณะสี 2.ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง การวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก ซึ่งเป็นการใช้ค่า ความอ่อนแก่ของดินสอและสีชนิดต่าง ๆ ในการถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึก โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่นักเรียนไม่ เข้าใจหรือสรุปไม่ตรงกับจุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน 1.นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม ภาพสวยด้วยแสงเงาและน ้าหนัก แล้วอธิบายวิธีการสร้างสรรค์เกี่ยวกับแสงเงาและ น ้าหนักที่มีความอ่อนและความเข้มของแสงในผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง 2.นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม จินตนาการสร้างสรรค์ และอธิบายวิธีการในการสร้างสรรค์เกี่ยวกับแสงเงาและน ้าหนักที่ ถ่ายทอดความรู้สึกในผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง การวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก มาใช้ในการวาดภาพประกอบการ เรียนวิชาต่าง ๆ เช่น การวาดภาพประกอบการสังเกตการณ์ทดลองต่าง ๆ ในวิชาวิทยาศาสตร์ การใช้แสงเงาและน ้าหนัก ในการตกแต่งป้ายนิเทศ เป็นต้น กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ 1) นักเรียนวาดภาพบุคคลที่ชื่นชอบ โดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนักถ่ายทอดความรู้สึกให้มีค่า น ้าหนักอ่อน –แก่ ภายในภาพ 2) นักเรียนศึกษาค้นคว้าแสงเงาในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมทั ้งในตอนเช้า ตอนกลางวัน และตอนกลาง คืน ว่ามีความแตกต่างกันอย่างไร จัดท ารายงานและน าเสนอผลงานหน้าชั ้นเรียน
2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม นักเรียนวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก โดยวาดจากสิ่งของใกล้ตัว เช่น ดินสอ ยางลบ แก้วน ้า ถ้วยกาแฟ กระป่ องต่าง ๆ เป็นต้น ให้มีแสงเงาถูกต้องและชัดเจน ส่ือ / แหล่งการเรียนรู้ 1.ธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม 2.ห้องสมุด 3.ผลงานการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก 4.วัสดุ อุปกรณ์การวาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงาและน ้าหนัก 5.ใบกิจกรรม
โรงเรียนขจรเกียรติโคกกลอย แผนการจัดการเรียนรู้วิชาทัศนศิลป์ ภาคเรียนที่ 1 ชื่อผู้สอน นางสาวสุภาพร ฉายแสง กลุ่มสาระ ศิลปะ ชั ้นประถมศึกษาปีที่ 5 จ านวน 1 คาบ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 สร้างสรรค์งานศิลป์ เรื่อง 11.การวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะสี สาระส าคัญ การวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะด้วยการขูด ขีด เขียน ระบายด้วยดินสอและสีชนิดต่าง ๆ เพื่อถ่ายทอด ลักษณะแสงและเงาด้วยค่าน ้าหนักอ่อนแก่ของสี ตัวชี้วัดชั้นปี วาดภาพโดยใช้เทคนิคของแสงเงา น ้าหนัก และวรรณะสี (ศ 1.1 ป.5/3) จุดประสงค์การเรียนรู้ 1.อธิบายความหมายของการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะ ได้ (K) 2.เห็นคุณค่าความส าคัญในการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะ (A) 3.สร้างสรรค์ผลงานการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะ ได้ (P) สาระการเรียนรู้ การวาดภาพโดยใช้เทคนิควรรณะสี ความสามารถในการสื่อสาร / ความสามารถในการคิด 1.ทักษะการคิดวิเคราะห์ 2.ทักษะการคิดสร้างสรรค์ ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต 1.กระบวนการปฏิบัติ 2.กระบวนการท างานเป็นกลุ่ม
คุณลักษณะอันพึงประสงค์ 1.มีวินัย 2.ใฝ่ เรียนรู้ 3.มุ่งมั่นในการท างาน 4.มีจิตสาธารณะ กระบวนการจัดการเรียนรู้ ขัน้ท่ี1 ขัน้น าเข้าสู่บทเรียน 1.ครูให้นักเรียนสังเกตสีสันในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมรอบตัว แล้วร่วมกันสนนทนาถึงความรู้สึกที่มีต่อสีต่าง ๆ เพื่อเปรียบเทียบและจ าแนกเป็นวรรณะสีอุ่นและวรรณะสีเย็น 2.ครูสนทนากับนักเรียนเกี่ยวกับการใช้เทคนิคของวรรณะสีมาสร้างสรรค์ถ่ายทอดในผลงานวาดภาพระบายสีซึ่งมี อิทธิพลและให้ความรู้สึกแก่ผู้พบเห็น ขั้นที่ 2 ขั้นสอน 1.ครูอธิบายถึงวรรณะสีอุ่น ที่ให้ความรู้สึกร้อน ต่อสู้ดิ ้นร้น ความมีชีวิต ความรุ่งโรจน์ ความโอ่อ่า ความรัก ความรุนแรง และวรรณะสีเย็น ที่ให้ความรู้สึก สดชื่น สันติ เยือกเย็น คิดฝัน ซึ่งทั ้งสองวรรณะสีมีความแตกต่างกันใน การถ่ายทอดความรู้สึก 2.ครูน าตัวอย่างการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะสี ให้นักเรียนสังเกตการณ์ใช้วรรณะสีในการ สร้างสรรค์ ผลงาน พร้อมกับอธิบายถึงอิทธิพลของสีภายในผลงานที่มีต่อผู้ชมตามขั ้นตอนการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะสีให้ นักเรียนเข้าใจ 3.ครูสาธิตการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะสี ให้นักเรียนสังเกตการณ์ใช้สีวรรณะอุ่นและวรรณะเย็นเป็น ขั ้นตอน โดยครูอธิบายเสริมถึงการถ่ายทอดความรู้สึกลงในผลงาน 4.ครูให้นักเรียนศึกษาค้นคว้าความหมายของการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะสี จดบันทึกและวาด ภาพประกอบ โดยสร้างสรรค์ผลงานและเขียนอธิบายความรู้สึกที่ต้องการถ่ายทอดลงในใบแนวความคิด และจัดท าเป็น รายงานแล้วน าเสนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง 5.นักเรียนน าเสนอรายงานและผลงานการวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะสี โดยครูสนทนาเสริมเกี่ยวกับการ ถ่ายทอดความรู้สึกด้วยวรรณะอุ่นและวรรณะเย็น รวมถึงการใช้สีชนิดต่าง ๆ ที่จะต้องปรับปรุงให้ผลงานสมบูรณ์ยิ่งขึ ้น
ขั้นที่ 3 ขั้นสรุป 1.ครูอธิบายสรุปเรื่องสี ที่เป็นองค์ประกอบส าคัญในงานศิลปะทุกประเภท เพราะสีมีอิทธิพลต่ออารมณ์และ ความรู้สึกแก่ผู้พบเห็น ผู้สร้างสรรค์งานศิลปะจึงต้องมีความรู้ความเข้าใจในเรื่องสีและวิธีการน าสีไปใช้ให้ถูกต้องเหมาะสม 2.ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายสรุปเรื่อง การวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะสี ที่ประกอบไปด้วยสีวรรณะอุ่น และสีวรรณะเย็น ซึ่งให้อารมณ์ความรู้สึกที่แตกต่างกัน โดยครูคอยให้ความรู้เสริมในส่วนที่นักเรียนไม่เข้าใจหรือสรุปไม่ตรง กับจุดประสงค์การเรียนรู้ ขั้นที่ 4 ฝึ กฝนนักเรียน 1.นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม วรรณะสีสร้างสรรค์ แล้วอธิบายถึงวรรณะสีที่ใช้ในผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง 2.นักเรียนปฏิบัติ กิจกรรม กลมกลืนด้วยวรรณะสี และอธิบายวิธีการในการสร้างสรรค์เกี่ยวกับวรรณะสีที่ถ่ายทอด ความรู้สึกในผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ร่วมกันติชม ขั้นที่ 5 การน าไปใช้ นักเรียนน าความรู้เรื่อง การวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะสี มาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวัน เช่น การเลือก สีสันเสื ้อผ้าในการแต่งกายต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับงาน การตกแต่งสถานที่ด้วยวรรณะสีที่ให้อารมณ์ความรู้สึกตามที่ ต้องการ เป็นต้น กิจกรรมเสนอแนะ 1.กิจกรรมส าหรับกลุ่มสนใจพิเศษ 1) นักเรียนสังเกตสีสันในธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมในเวลาเช้า กลางวัน เย็น และกลางคืน จดบันทึก และวาดภาพประกอบวรรณะสีที่เกิดขึ ้นในแล่ละช่วงเวลา โดยเปรียบเทียบความแตกต่างกันในแต่ละวรรณะสีและความรู้สึก ในแต่ละช่วงเวลาว่าให้บรรยากาศที่แตกต่างกันอย่างไร และน ามาอธิบายให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง 2) นักเรียนศึกษาค้นคว้าสีสันในธรรมชาติ สิ่งแวดล้อมสถานที่ต่าง ๆ ว่ามีลักษณะความแตกต่างกัน อย่างไร สีในวรรณะใดเหมาะสมกับบรรยากาศไหน จัดท ารายงานและน าเสนอผลงานให้ครูและเพื่อน ๆ ฟัง 2.กิจกรรมส าหรับฝึ กทักษะเพิ่มเติม นักเรียนวาดภาพโดยใช้เทคนิคของวรรณะสี โดยใช้สีชนิดต่าง ๆ ผสมผสานกันตามความสนใจให้เป็นเรื่องราว ต่าง ๆ ตามจินตนาการความคิดสร้างสรรค์