รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบนนทก ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ นางสุฐิณี ยอดแก้ว ต าแหน่ง ครู โรงเรียนเหนือคลองประชาบ ารุง
เอกสารประกอบการเรียนเล่มนี้จัดท าขึ้นเพื่อใช้ประกอบการเรียนในรายวิชาภาษาไทยพื้นฐาน ท ๒๒๑๐๒ มีเป้าหมายในการจัดท าเพื่อให้ผู้เรียนได้เรียนรู้และเข้าใจตามมาตรฐานการเรียนรู้ตามตัวชี้วัดของ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ ซึ่งส่งผลต่อการจัดการเรียนรู้ของนักเรียน สมรรถนะด้าน ต่าง ๆ รวมถึงผู้เรียนยังสามารถน าความรู้ ข้อคิดไปประยุกต์ใช้ในชีวิตประจ าวันได้ โดยเนื้อหาของวรรณคดีและ วรรณกรรมถือเป็นสิ่งส าคัญ เนื่องจากเป็นภาพสะท้อนของมนุษย์ในอดีต สะท้อนความเป็นสังคม ขนบธรรมเนียมและประเพณี วัฒนธรรมต่าง ๆที่ด าเนินเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์ ท าให้ผู้เรียนสามารถมอง เห็นถึงความงามทางด้านวรรณศิลป์ได้อย่างลงตัว เนื่องจากเป็นภาพสะท้อนของมนุษย์ในอดีตสะท้อนความเป็นสังคม ขนบธรรมเนียมและประเพณี วัฒนธรรมต่าง ๆ ที่ด าเนินเรื่องราวได้อย่างสมบูรณ์ ท าให้ผู้เรียนสามารถมองเห็นถึงความงามทางด้าน วรรณศิลป์ได้อย่างลงตัว ซึ่งการจัดท าเอกสารประกอบการเรียนนนี้ก็น ามาจากหนังสือเรียนรายวิชาภาษาไทย พื้นฐานวรรณคดีและวรรณกรรม ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๒ ตามหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ ของกระทรวงศึกษาธิการในหน่วยการเรียนรู้ที่ ๔ บทละคร เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ปราบน นทก เนื่องจากผู้จัดท าเห็นว่าเป็นเรื่องที่น่าสนใจและน่าติดตาม อีกทั้งเนื้อหายังมีความสอด คล้องกับตัวชี้วัดของ หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พ.ศ. ๒๕๕๑ ผู้จัดท าหวังเป็นอย่างยิ่งว่าเอกสารเล่มนี้จะเป็นประโยชน์ต่อการจัดการเรียนการสอนในรายวิชา ภาษาไทยพื้นฐานเป็นอย่างยิ่ง สุฐิณี ยอดแก้ว ผู้จัดท า
ค าน า สารบัญ วัตถุประสงค์ ตัวชี้วัด จุดประสงค์ แบบทดสอบก่อนเรียน แนะน าตัวละคร ประวัติความเป็นมา ผู้แต่ง จุดมุ่งหมายในการแต่ง ลักษณะค าประพันธ์ เนื้อเรื่องย่อ ถอดค าประพันธ์ ค าศัพท์น่ารู้ วิเคราะห์คุณค่าที่ได้รับ ข้อคิดที่ได้รับ แบบฝึกหัด แบบทดสอบหลังเรียน เฉลยแบบทดสอบ บรรณานุกรม
๑. เพื่อใช้ประกอบการเรียนการสอนวรรณคดีไทย เรื่อง รามเกียรติ์ ตอน นารายณ์ ปราบนนทก ๒. เพื่อส่งเสริมการอ่านวรรณคดีไทยส าหรับนักเรียน สาระที่ ๕ วรรณคดีและวรรณกรรม มาตรฐานที่ ๕.๑ เข้าใจและแสดงความคิดเห็น วิจารณ์วรรคดีและวรรณกรรมไทยอย่าง เห็นคุณค่า และน ามาประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ตัวชี้วัดที่ ๑ สรุปเนื้อหาวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่านในระดับที่ยากขึ้น ตัวชี้วัดที่ ๒ อธิบายคุณค่าของวรรณคดีและวรรณกรรมที่อ่าน ตัวชี้วัดที่ ๓ สรุปความรู้และข้อคิดจากการอ่านไปประยุกต์ใช้ในชีวิตจริง ๑. นักเรียนสรุปเนื้อเรื่องจากวรรณคดีได้ ๒. นักเรียนวิเคราะห์ลักษณะนิสัยตัวละครได้
ค าชี้แจง ให้นักเรียนเลือกค าตอบที่ถูกต้องเพียงค าตอบเดียว ๑. ใครแต่งเรื่องรามเกียรติ์ ก. รัชกาลที่ ๑ ข. รัชกาลที่ ๒ ค. รัชกาลที่ ๓ ง. รัชกาลที่ ๔ ๒. เรื่องรามเกียรติ์ แต่งด้วยค าประพันธ์ชนิดใด ก. กลอนสุภาพ ข. กาพย์ยานี ๑๑ ค. กาพย์ฉบัง ๑๖ ง. กลอนบทละคร ๓. กลอนบทละครต่างจากกลอนสุภาพอย่างไร ก. จ านวนค าในแต่ละวรรค ข. กลอนบทละครต้องจบด้วย “เอย” ค. กลอนบทละครไม่บังคับเรื่องสัมผัส ง. ถ้าขึ้นต้นด้วยวรรคแรกมักใช้ค าว่า เมื่อนั้น บัดนั้น ๔. สมมุติว่านักเรียนตกอยู่ในสภาพแบบนนทกนักเรียนจะท าอย่างไร ก. วางเฉย ข. หาทางแก้แค้น ค. สาปแช่ง ง. พาเพื่อนมารุมท าร้าย ๕. ข้อคิดจากเรื่องรามเกียรติ์ข้อใดที่เราสามารถน าไปใช้ในชีวิตประจ าวันได้ ก. การอดทนอดกลั้น ข. แค้นนี้ต้องช าระ ค. การใช้อ านาจ ง. เวรย่อมระงับด้วยการจองเวร ๖. ตัวละครตัวใดในเรื่องที่สมควรได้รับการเห็นใจมากที่สุด ก. เทวดา ข. พระอิศวร ค. นนทก ง. พระนารายณ์ 7ข้อใดใช้ค ำรำชำศัพท์ถกต้องที่สด
๗. ข้อใดใช้ค าราชาศัพท์ถูกต้องที่สุด ก. หม่อมฉันขอประทานนิ้วเพชรจากพระองค์ ข. หม่อมฉันขอพระราชทานนิ้วเพชรจากพระองค์ ค. ข้าพระพุทธเจ้าขอประทานนิ้วเพชรจากพระองค์ ง. ข้าพระพุทธเจ้าขอพระราชทานนิ้วเพชรจากพระองค์ ๘. ตัวละครในข้อใดไม่ต้องใช้ค าราชาศัพท์ในการสื่อสารกับตัวละครอื่น ก. พระนารายณ์ ข. พระอินทร์ ค. พระอิศวร ง. เทวดา ๙. ข้อใดมีอุปมาโวหาร ก. กูจะเป็นมนุษย์แต่สองกร ตามไปราญรอนชีวี ข. ฮึดฮัดขัดแค้นแน่นใจ ตาแดงดั่งแสงไฟฟ้า ค. ครั้นถึงบันไดไกรลาส ขัดสมาธินั่งยิ้มริมอ่างใหญ่ ง. เชิญไปสังหารอ้ายอาธรรม์ให้มันสิ้นชีพชีวา ๑๐. ค าประพันธ์ข้อใดเป็นนารีปราโมทย์ ก. สัพยอกหยอกเล่นเหมือนทุกวัน สรวลสันต์เยาะเย้ยเฮฮา ข. เมขลาโยนแก้วแววไว มยุเรศฟ้อนในอัมพร ค. ย้ายท่ามัจฉาชมสาคร พระสี่กรขว้างจักรฤทธิรงค์ ง. สุดเอยสุดสวาท โฉมประหลาดล ้าเทพอัปสร ๑๑. ท่าร าสุดท้ายที่นนทกใช้นิ้วท าร้ายตัวเองคือท่าร าใด ก. กินรินเลียบถ ้า ข. มัจฉาชมสาคร ค. เมขลาโยนแก้ว ง. นาคาม้วนหาง 12. ข้อใดมีการซ ้าค า ัฟ้ ัื่ัป่
๑๒. ข้อใดมีการซ ้าค า ก. พนักงานฟ้อนร าระบ าบัน ชื่อสุวรรณอัปสรเสน่หา ข. งามจริตกิริยางามงอน งามเอวงามอ่อนทั้งกายา ค. เชิญเจ้าร าเถิดนะนางฟ้า ให้สิ้นท่าที่นางจ าได้ ง. ยิ่งคิดยิ่งพิศผูกพัน ก็เดินกระชั้นเข้าไป ๑๓. ท่าร าที่แสดงความหมายของการเคารพกราบไหว้บูชาอธิษฐานคือท่าร าชื่อใด ก. เทพนม ข. พรหมนิมิต ค. พรหมสี่หน้า ง. พิสมัยเรียงหมอน ๑๔. “ด้วยเดชนิ้วเพชรสิทธิศักดิ์ ขาหักล้มลงไม่ทนได้” ค าประพันธ์ข้างต้นนี้เน้นให้เห็นสัจธรรมด้านใดมากที่สุด ก. การใช้อ านาจที่ไม่มีขอบเขต ข. ความชั่วไม่คงที่ ความดีสิคงทน ค. กรรมเป็นของตนไม่มีวันเปลี่ยนแปลงได้ ง. อ านาจที่ใช้เที่ยวระรานผู้อื่น ในที่สุดก็กลับมาลงโทษตัวเอง ๑๕. การศึกษาเรื่องการพิจารณาวรรณคดีด้านวรรณศิลป์ เกิดประโยชน์แก่ผู้อ่านวรรณคดีมากที่สุดในเรื่องใด ก. อ่านได้ศัพท์ ข. อ่านได้รส ค. อ่านได้เรื่อง ง. อ่านได้ความ ๑๖. ตัวละครในข้อใดที่ประพฤติตนไม่ถูกต้อง ก. พระนารายณ์ ข. พระอินทร์ ค. พระอิศวร ง. เทวดา
๑๗. ข้อใดไม่ใช่บุคลิกลักษณะของพระอิศวรจากเนื้อเรื่องตอนนี้ ก. ใจดี ข. ชอบใช้อ านาจ ค. ตัดสินใจเร็ว ง. ให้ขวัญและก าลังใจคนท าความดี ๑๘. ข้อใดเป็นเหตุการณ์ที่เกิดก่อนเหตุการณ์อื่น ก. พระอิศวรประทานพรให้นนทก ข. นนทกถูกเทวดากลั่นแกล้ง ค. นนทกทูลขอนิ้วเพชรจากพระอิศวร ง. นนทกหลงรักนางสุวรรณอัปสร ๑๙. ข้อใดต่อไปนี้ไม่ได้หมายถึงพระอิศวร ก. พระสยมภูวญาณ ข. พระศุลี ค. พระทรงสุบรรณ ง. เจ้าไตรโลกา ๒๐. เหตุการณ์ใดเหมือนตัวละครนนทกในเรื่องนี้ ก. สมชายถูกเพื่อนๆในห้องรุมท าร้าย ข. เพื่อนในห้องไม่พูดกับสมศรี ค. สมศักดิ์ได้รับคัดเลือกเป็นนักเรียนดีเด่น ง. สมเดชสอบไล่ได้เป็นที่ ๑
เทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์มีกายสีขาว แต่พระศอ เป็นสีด า มีพระเนตรถึง ๓ ดวง เป็นผู้ให้พรแก่ นนทก ให้มีนิ้วเพชรสามารถชี้ใครให้ถึงแก่ความตายได้ เป็นเทพเจ้าฝ่ายปราบราม มี ๔ กร อาวุธประจ า พระองค์ คือ ตรี คฑา จักร สังข์ เป็นผู้ที่พระอิศวรโปรด ให้มาปราบนนทก พระอิศวร พระนารายณ์
พระอินทร์ เทวดาผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ มีกายสีเขียว มี พระเนตรถึงพันดวง เป็นผู้ไปทูลฟ้องพระอิศวร เรื่องนนทกใช้นิ้ว เพชรสังหารเหล่าเทวดาบนสวรรค์ นางสุวรรณอัปสร เป็นร่างแปลงของพระนารายณ์ที่แปลงกายเป็นนางฟ้า ผู้ท าหน้าที่เป็นนางระบ าบนสรวงสวรรค์มีหน้าตาสวยงามมาก เพราะ ต้องท าให้นนทกหลงเสน่ห์และจัดการนนทกในที่สุด
เหล่าเทวดา นางฟ้าที่ชอบท าร้าย ดึงผมนนทก จนก่อให้เกิด ความแค้นในใจของนนทก ส่งผลให้เกิดโศกนาฏกรรมในที่สุด เหล่าเทวดา นนทก เป็นยักษ์ ท าหน้าที่ล้างเท้าเหล่าเทวดาที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวร บริเวณเชิงเขาไกรลาส
รามเกียรติ์เป็นวรรณคดีส าคัญเรื่องหนึ่งของไทย โดยมีต้นเค้าจากวรรณคดีอินเดีย คือ มหากาพย์รามายณะที่ฤๅษีวาลมิกิชาวอินเดีย แต่งขึ้นเป็นภาษาสันสกฤต เมื่อประมาณ ๒,๔๐๐ ปีเศษ เชื่อว่าน่าจะเป็นที่รู้จักในหมู่ชาวไทยมาตั้งแต่สมัยโบราณ จากอิทธิพลของลัทธิพราหมณ์ ฮินดูส าหรับเรื่องรามเกียรติ์ของไทยนั้น มีมาตั้งแต่สมัยอยุธยา ในสมัยกรุงธนบุรีสมเด็จพระเจ้า กรุงธนบุรีได้ทรงพระราชนิพนธ์ส าหรับให้ละครหลวงเล่น ปัจจุบันมีอยู่ไม่ครบ ต่อมาในสมัย รัตนโกสินทร์รัชกาลที่ 1 ได้ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเพื่อรวบรวมเรื่องรามเกียรติ์ซึ่งมีมาแต่เดิมให้ ครบถ้วน สมบูรณ์ตั้งแต่ต้นจนจบ พระบาทสมเด็จพระพุทธเลิศหล้านภาลัย ได้ทรงพระราช นิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์เพื่อให้ละครหลวงเล่น โดยได้ทรงเลือกมาเป็นตอน ๆ ในสมัย พระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงพระราชนิพนธ์บทละครเรื่องรามเกียรติ์ โดยใช้ ฉบับของอินเดีย (รามายณะ) มาพระราชนิพนธ์ใช้ชื่อว่า "บ่อเกิดรามเกียรติ์" ต้นเค้าของเรื่องรามเกียรติ์น่าจะมาจากเรื่องรามยณะ ของอินเดีย ซึ่งเป็นนิทานที่ แพร่หลายอยู่ทั่วไปในภูมิภาคเอเชียใต้ต่อมาอารยธรรมอินเดียได้แพร่หลายเข้ามาในภูมิภาค เอเชียตะวันออกเฉียงใต้พ่อค้าชาวอินเดียได้น าอารยธรรมและศาสนาเข้ามาเผยแพร่ด้วย ท าให้ เรื่องรามยณะแพร่หลายไปทั่วภูมิภาค กลายเป็นนิทานที่รู้จักกันเป็นอย่างดีและได้ปรับเปลี่ยน เนื้อหาให้สอดคล้องกับวัฒนธรรมของประเทศนั้นจนกลายเป็นวรรณคดีประจ าชาติไป ดังปรากฏ ในหลายๆชาติเช่น ลาว พม่า เขมร มาเลเซีย อินโดนีเซีย ล้วนมีวรรณคดีเรื่องรามเกียรติ์เป็น วรรณคดีประจ าชาติทั้งสิ้น
พระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราช มีพระนามเดิมว่า “ทองด้วงหรือด้วง” เสด็จพระราชสมภพ เมื่อวันที่ ๒๐ มีนาคม พ.ศ. ๒๒๗๙ พระองค์เป็นบุตรคนที่ ๔ ของพระอักษร สุนทรศาสตร์หรือสมเด็จพระปฐมบรมมหาชนก (ทองดี) กับพระอัครชายา (หยกหรือดาวเรือง) พระองค์เป็นกษัตริย์ไทยรัชกาลที่ ๑ ในราชวงศ์จักรี ทรงขึ้นครองราชย์เมื่อวันที่ ๖ เมษายน พ.ศ. ๒๓๒๕ ขณะพระชนมายุ ๔๕ พรรษา ถึง ๗ เมษายน พ.ศ. ๒๓๕๒ ตลอดรัชกาล พระองค์ทรงท าสงครามทั้งกับพม่าและปราบหัวเมืองต่าง ๆ ทรงสร้างระเบียบการปกครอง ทรงฟื้นฟูพระพุทธศาสนา ศิลปะศาสตร์ และอักษรศาสตร์ รวบรวมช าระกฎหมายตราสามดวงจน สมบูรณ์ และพระองค์ยังเป็นกวี โดยทรงพระราชนิพนธ์วรรณคดีไว้หลายเรื่อง ได้แก่ บทละคร เรื่อง รามเกียรติ์ ดาหลัง อุณรุฑ อิเหนา นิทานอิหร่านราชธรรม กฎหมายตราสามดวง และกลอน นิราศเรื่องรบพม่าที่ท่าดินแดง
ทรงพระราชนิพนธ์ขึ้นเหตุผลหลายประการ คือ ๑. ใช้เป็นบทละครใน ๒. ทรงเกรงว่าจะสูญหายไป ๓. เพื่อให้มีเรื่องรามเกียรติ์ฉบับสมบูรณ์ ๔. เพื่อแสดงให้เห็นว่า ธรรมะย่อมชนะอธรรม กลอนบทละคร คือ ค ากลอนที่แต่งขึ้นเพื่อแสดงละครร า เช่น พระราชนิพนธ์บทละครเรื่อง รามเกียรติ์ พระราชนิพนธ์บทละครเรื่องอิเหนา เป็นต้น โดยทั่วไปก็เหมือนกับการแต่งกลอนสุภาพแต่ละวรรคมีค าได้ ตั้งแต่ ๖-๙ ค า การนับกลอน บทละครจะนับเป็นค ากลอนคือ ๒ วรรคเท่ากับ ๑ ค ากลอน การจะใช้ค ามากน้อย ขึ้นอยู่กับท านองร้องเป็นส าคัญ วรรคแรกของกลอนบทละครนิยมใช้ ค าน า หรือ ค าขึ้นต้น เช่น - เมื่อนั้น : ใช้ส าหรับขึ้นต้นเมื่อกล่าวถึงผู้มียศศักดิ์ เช่น เทวดา กษัตริย์ - บัดนั้น : ใช้ส าหรับขึ้นต้นเมื่อกล่าวถึงผู้น้อย เช่น เสนา อ ามาตย์ ทหาร สามัญชน - มาจะกล่าวบทไป : ใช้ส าหรับขึ้นต้นเรื่อง หรือกล่าวถึงเรื่องที่แทรกเข้ามา แต่งด้วยกลอนบทละคร
นนทกเป็นยักษ์ มีหน้าที่ล้างเท้าให้เหล่าเทวดาที่จะไปเข้าเฝ้า พระอิศวรอยู่ที่เชิงเขา ไกรลาส เทวดาเหล่านั้นบ้างก็ถอนผม บ้างก็ตบหัว จนหัวของนนทกโล้นเกลี้ยง นนทกแค้นใจมาก จึงไปทูลขอพรจากพระอิศวรเพื่อให้พระองค์ประทานนิ้วเพชรแก่ตน เมื่อชี้ผู้ใดผู้นั้นก็จะตาย พระอิศวรประทานนิ้วเพชรเพื่อเป็นรางวัลแก่นนทกที่ท าหน้าที่ด้วยความรับผิดชอบมาช้านาน เมื่อ ได้นิ้วเพชรนนทกก็ใช้นิ้วเพชรสังหารเทวดาที่มาแกล้งเสียสิ้น พระอินทร์จึงน าความไปทูลพระ อิศวร พระอิศวรจึงขอให้พระนารายณ์ไปปราบนนทก พระนารายณ์แปลงกายเป็นนางเทพอัปสร ผู้งดงาม เมื่อนนทกเห็นก็เกิดความหลงใหลเข้าไปเกี้ยวพาราสี พระนารายณ์แปลงจึงหลอก ล่อให้นนทกร าตาม พอถึงท่า “ นาคาม้วนหาง ”... นิ้วเพชรของนนทกก็ชี้ไปที่ขาของนนทกเอง ท าให้ขาหักล้มลงทันที ทันใดนั้นนางเทพอัปสรก็กลายร่างเป็นพระนารายณ์มีสี่กร แต่ละกรมี เทพอาวุธ อันได้แก่ ตรี คฑา จักร สังข์ พระนารายณ์เข้าเหยียบร่างนนทกไว้ แล้วเงื้อพระแสงตรี ศูลเพื่อจะ “ สังหารนนทก” นนทกเห็นดังนั้นจึงกล่าวตัดพ้อว่า ตนเองมีสองมือหรือจะสู้สี่มือได้ พระนารายณ์จึงตรัสว่าชาติหน้าให้นนทกมีสิบหน้ายี่สิบมือ ส่วนตนนั้นจะเป็นเพียงมนุษย์ที่มีสอง มือแล้วสู้กับนนทกอีกครั้ง ตรัสแล้วก็ตัดเศียรนนทกกระเด็นไป นนทกเกิดเป็นทศกัณฑ์ ส่วนพระ นารายณ์อวตารเป็นพระราม
มาจะกล่าวบทไป ถึงนนทกน ้าใจกล้าหาญ ตั้งแต่พระสยมภูวญาณ ประทานให้ล้างเท้าเทวา อยู่บันไดไกรลาสเป็นนิจ สุราฤทธิ์ตบหัวแล้วลูบหน้า บ้างให้ตักน ้าล้างบาทา บ้างถอนเส้นเกศาวุ่นไป จนผมโกร๋นโล้นเกลี้ยงถึงเพียงหู ดูเงาในน ้าแล้วร้องไห้ ฮึดฮัดขัดแค้นแน่นใจ ตาแดงดั่งแสงไฟฟ้า เป็นชายดูดู๋มาหมิ่นชาย มิตายจะได้มาเห็นหน้า คิดแล้วก็รีบเดินมา เฝ้าพระอิศราธิบดี คำประพันธ์พร้อมแปล นนทกเป็นยักษ์นั่งประจ าอยู่ที่บันไดของเขาไกลลาส โดยมีหน้าที่ล้างเท้า ให้แก่เหล่าเทวดาที่มาเข้าเฝ้าพระอิศวร เหล่าเทวดามักแกล้งหยอกล้อนนทด้วยการลูบ หัวบ้าง ถอนผมบ้าง จนกระทั่งหัวของ นนทกโล้นทั้งศีรษะ นนทกแค้นใจมาก แต่ ตนไม่มีก าลังจะสู้
ครั้นถึงจี่งประณตบทบงสุ์ ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี ว่าพระองค์เป็นหลักธาตรี ย่อมเมตตาปรานีทั่วพักตร์ ผู้ใดท าชอบต่อเบื้องบาท ก็ประสาททั้งพรแลยศศักดิ์ ตัวข้านี้มีชอบนัก ล้างเท้าสุรารักษ์ถึงโกฏิปี พระองค์ผู้ทรงศักดาเดช ไม่โปรดเกศแก่ข้าบทศรี กรรมเวรสิ่งใดดั่งนี้ ทูลพลางโกศีร าพัน ฯ นนทกกราบทูลว่า พระอิศวรเป็นผู้ครองโลก ย่อมมีความเมตตาปรานี ใครที่ กระท าแต่ความดี เมื่อขอสิ่งใดย่อมได้รับตามค าขอ ตนได้ท างานรับใช้พระอิศวรมานาน ยังไม่เคยได้รับสิ่งตอบแทนใด ๆ เลย
เมื่อนั้น พระอิศวรบรมรังสรรค์ เห็นนนทกโศกาจาบัลย์ พระทรงธรรม์ให้คิดเมตตา จึ่งมีเทวราชบรรหาร เอ็งต้องการสิ่งไรจงเร่งว่า ตัวกูจะให้ดั่งจินดา อย่าแสนโศกาอาลัย ฯ พระอิศวรมีจิตเมตตา เห็นนนทกเศร้าโศกเสียใจ จึงมีรับสั่งว่า “นนทกต้องการ สิ่งใดก็จงรีบบอก พระอิศวรจะได้จะประทานพรให้”
บัดนั้น นนทกผู้มีอัชฌาสัย น้อมเศียรบังคมแล้วทูลไป จะขอพรเจ้าไตรโลกา ให้นิ้วข้าเป็นเพชรฤทธี จะชี้ใครจงม้วยสังขาร์ จะได้รองเบื้องบาทา ไปกว่าจะสิ้นชีวี นนทกอ้างว่า เพื่อป้องกันตนเอง จึงขอพรว่า “ ให้นิ้วข้าเป็นเพชร มีฤทธิ์ที่สามารถชี้ใครก็ตาย จะได้เป็นข้ารับใช้ ไปจนกว่าจะสิ้นชีวิต”
เมื่อนั้น พระสยมภูวญาณเรืองศรี ได้ฟังนนทกพาที ภูมีนิ่งนึกตรึกไป อ้ายนี่มีชอบมาช้านาน จ าจะประทานพรให้ คิดแล้วก็ประสิทธิ์พรชัย จงได้ส าเร็จมโนรถ พระอิศวรเห็นว่านนทกนั้นได้ท าความดีความชอบมาช้านาน และการถวาย สัตย์ปฏิญาณต่อหน้าเบื้องพระพักตร์ว่า “จะท าหน้าที่ด้วยความจงรักภักดี ด้วยความเมตตาพระอิศวรจึงประทานพรให้”
บัดนั้น นนทกผู้ใจสาหส รับพรพระศุลีมียศ บังคมแล้วบทจรไป เมื่อนนทกได้รับพรจากพระอิศวรตามที่ขอ จึงลาพระอิศวรกลับไปยัง บันไดเขาไกรลาส
ครั้นถึงบันไดไกรลาส ขัดสมาธินั่งยิ้มริมอ่างใหญ่ คอยหมู่เทวาสุราลัย ด้วยใจก าเริบอหังการ์ นนทกกลับมายังบันไดเขาไกรลาส นั่งขัดสมาธิและยิ้มอยู่ริมอ่างน ้า ด้วย ใจก าเริบเพราะมีนิ้วเพชร รอเทวดามาให้ล้างเท้าเหมือนดังเดิม
เมื่อนั้น เทวาสุราฤทธิ์ทุกทิศา สุบรรณคนธรรพ์วิทยา ต่างมาเฝ้าองค์พระศุลี ในตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นครุฑ เหล่าเทวดา ชาวสวรรค์ที่มีความสามารถใน วิชาดนตรีและขับร้อง ต่างก็มาเข้าเฝ้าพระอิศวร
ครั้นถึงซึ่งเชิงไกรลาส คนธรรพ์เทวราชฤๅษี ก็ชวนกันย่างเยื้องจรลี เข้าไปยังที่อัฒจันทร์ เมื่อถึงเขาไกรลาสแล้ว เหล่าเทวดาต่างพากันไปที่บันไดเขาไกรลาส
นนทกก็ล้างเท้าให้ เมื่อจะไปก็จับหัวสั่น สัพยอกหยอกเล่นเหมือนทุกวัน สรวลสันต์เยาะเย้ยเฮฮา นนทกล้างเท้าให้เหล่าเทวดา เหล่าเทวดาก็กลั่นแกล้งนนทก หยอกเล่น เหมือนเช่นเคยทุกวันอย่างสนุกสนาน
บัดนั้น นนทกน ้าใจแกล้วกล้า กริ้วโกรธร้องประกาศตวาดมา อนิจจาข่มเหงเล่นทุกวัน จนหัวไม่มีผมติด สุดคิดที่เราจะอดกลั้น วันนี้จะได้เห็นกัน ขบฟันแล้วชี้นิ้วไป นนทกเกิดความโกรธแค้น จึงได้ร้องตวาดด้วยความโกรธแล้วชี้นิ้วเพชร ไปยังเหล่าเทวดา
ต้องสุบรรณเทวานาคี ดั่งพิษอสุนีไม่ทนได้ ล้มฟาดกลาดเกลื่อนลงทันใด บรรลัยไม่ทันพริบตา นนทกใช้อ านาจนั้นในทางไม่ชอบ โดยใช้นิ้วเพชร ฆ่าเหล่าเทวดา ครุฑ นาค และคนธรรพ์ล้มตายไปจ านวนมาก
เมื่อนั้น หัสนัยน์เจ้าตรัยตรึงศา เห็นนนทกนั้นท าฤทธา ชี้หมู่เทวาวายปราณ ตกใจตะลึกร าพึงคิด ใครประสิทธิ์ให้มันสังหาร คิดแล้วเข้าเฝ้าพระทรงญาณ ยังพิมานทิพรัตน์รูจี เมื่อนั้นพระอินทร์ผู้เป็นใหญ่ในสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เห็นนนทกชี้หมู่เทวดา ตายเกลื่อน ก็ตกใจชะงักงัน นิ่งคิดไปชั่วขณะใคร่ครวญคิดว่าใครเป็นผู้ประทาน พรให้นนทกมาฆ่าเหล่าเทวดา คิดแล้วก็ขึ้นเฝ้าพระอิศวร
ครั้นถึงจึ่งประณตบทบงสุ์ ทูลองค์พระอิศวรเรืองศรี ว่านนทกมันท าฤทธี ชี้หมู่เทวาบรรลัย อันซึ่งนิ้วเพชรของมัน พระทรงธรรม์ประทานฤๅไฉน จึ่งท าอาจองทะนงใจ ไม่เกรงใต้เบื้องบาทา พระอินทร์กราบทูลพระอิศวรว่านนทกใช้นิ้วเพชรเข่นฆ่า เทวดา ครุฑ นาค และคนธรรพ์ทั้งปวงจนเดือดร้อนไปทั่ว
เมื่อนั้น พระอิศวรบรมนาถา ได้ฟังองค์อมรินทรา จึ่งมีบัญชาตอบไป อ้ายนี่ท าชอบมาช้านาน เราจี่งประทานพรให้ มันกลับทรยศกบฏใจ ท าการหยาบใหญ่ถึงเพียงนี้ เมื่อได้ยินดังนั้น พระอิศวรจึงตอบพระอินทร์ว่า นนทกนั้นท าหน้าที่ด้วย ความจงรักภักดีมานาน ด้วยความเมตตาจึงประทานพรให้ แต่นนทกกลับใช้อ านาจไป ในทางที่ผิด
ตรัสแล้วจึ่งมีบัญชา ดูราพระนารายณ์เรืองศรี ตัวเจ้าผู้มีฤทธี เป็นที่พึ่งแก่หมู่เทวัญ จงช่วยระงับดับเข็ญ ให้เย็นทั่วพิภพสรวงสวรรค์ เชิญไปสังหารอ้ายอาธรรม์ ให้มันสิ้นชีพชีวา พระอิศวรจึงมีบัญชาให้พระนารายณ์ ไปปราบนนทกเพื่อระงับความ วุ่นวายเดือดร้อนที่เกิดขึ้น
เมื่อนั้น องค์พระนารายณ์นาถา รับสั่งถวายบังคมลา ออกมาแปลงกายด้วยฤทธี พระนารายณ์รับค าสั่งจากพระอิศวรให้ไปปราบนนทก พระนารายณ์จึง แปลงโฉมเป็นนางเทพอัปสรที่สวยสดงดงาม
เป็นโฉมนางเทพอัปสร อ้อนแอ้นอรชรเฉลิมศรี กรายกรย่างเยื่องจรลี ไปอยู่ที่นนทกจะเดินมา พระนารายณ์เสด็จมายังเชิงเขาไกรลาส และแปลงกายเป็นนางเทพ อัปสร รูปร่างหน้าตางดงาม แล้วเดินเข้าไปบริเวณใกล้ๆ ที่นนทกจะเดินมา
บัดนั้น นนทกผู้ใจแกล้วกล้า สิ้นเวลาเฝ้าเจ้าโลกา ส าราญกายาแล้วเดินมา นนทกเมื่อเสร็จสิ้นจากการปฏิบัติหน้าที่ต่อพระอิศวร ก็เดินออกมา อย่างสบายใจ
เหลือบเห็นสตรีวิไลลักษณ์ พิศพักตร์ผ่องเพียงแขไข งามโอษฐ์งามแก้มงามจุไร งามนัยน์เนตรงามกร งามถันงามกรรณงามขนง งามองค์ยิ่งเทพอัปสร งามจริตกิริยางามงอน งามเอวงามอ่อนทั้งกายา ถึงโฉมองค์อัครลักษมี พระสุรัสวดีเสน่หา สิ้นทั้งไตรภพจบโลกา จะเอามาเปรียบไม่เทียบทัน ดูไหนก็เพลินจ าเริญรัก ในองค์เยาวลักษณ์สาวสวรรค์ ยิ่งพิศยิ่งคิดผูกพัน ก็เดินกระชั้นเข้าไป ครั้นนนทกได้เห็นนางอัปสรที่มีรูปโฉมงามเกินกว่าใคร ใบหน้าผ่องใส ปากสวย ผมสวย ตาสวย มือสวย สวยราวนางฟ้า ก็หลงรักหลงชอบนางอัปสรทันที นนทกจึงคิดเข้าไปเกี้ยวนางอัปสรผู้เลอโฉม
โฉมเอยโฉมเฉลา เสาวภาคย์แน่งน้อยพิสมัย เจ้ามาแต่สวรรค์ชั้นใด นามกรชื่อไรนะเทวี ประสงค์สิ่งใดจะใคร่รู้ ท าไมมาอยู่ที่นี่ ข้าเห็นเป็นน่าปรานี มารศรีจงแจ้งกิจจา นนทกเข้าไปเกี้ยวพาราสีนางอัปสร ถามนางอัปสรว่าชื่ออะไร เหตุใดถึงได้มาเดินอยู่แถวนี้
เมื่อนั้น นางนารายณ์เยาวลักษณ์เสน่หา ได้ฟังยิ่งท ามารยา ช าเลืองนัยนาแล้วตอบไป ท าไมมาล่วงไถ่ถาม ลวนลามบุกรุกเข้ามาใกล้ ท่านนี้ไม่มีความเกรงใจ เราเป็นข้าใช้เจ้าโลกา พนักงานฟ้อนร าระบ าบัน ชื่อสุวรรณอัปสรเสน่หา มีทุกข์จึ่งเที่ยวลงมา หวังว่าจะให้คลายร้อน พระนารายณ์ที่แปลงกายเป็นนางอัปสร ช าเลืองมองนนทกแล้วถามน นทกว่า นนทกมาลวงถามและลวนลามนาง ไม่มีความเกรงใจ นางเป็นนางร าของ พระอินทร์ชื่อสุวรรณอัปสร มีความทุกข์จึงมาเที่ยวเล่นเพื่อหวังให้คลายร้อน
สุดเอยสุดสวาท โฉมประหลาดล ้าเทพอัปสร ทั้งวาจาจริตก็งามงอน ควรเป็นนางฟ้อนวิไลลักษณ์ อันซึ่งธุระของเจ้า หนักเบาจงแจ้งให้ประจักษ์ ถ้าวาสนาเราเคยบ ารุงรัก ก็จะเป็นภักดิ์ผลสืบไป ตัวพี่มิได้ลวนลาม จะถือความสิ่งนี้นี่ไม่ได้ สาวสวรรค์ขวัญฟ้ายาใจ พี่ไร้คู่จะพึ่งแต่ไมตรี นนทกได้ฟังค าของนางอัปสร นนทกจึงตอบนางอัปสรว่า นางอัปสรเป็น หญิงที่มีความงดงามทั้งกายา และมีวาจาที่ไพเราะ เหมาะสมแล้วที่จะเป็นนางร า หาก เราเคยมีวาสนาต่อกันมา เราคงจะได้เป็นคู่กัน พี่ไม่ได้คิดลวนลามน้องนางแต่อย่างใด
เมื่อนั้น นางเทพนิมิตโฉมศรี ค้อนแล้วจึ่งตอบวาที ว่านี้ไพเราะเป็นพ้นไป อันซึ่งจะฝากไมตรีข้า ข้อนั้นอย่าว่าหารู้ไม่ เราเป็นนางร าระบ าใน จะมีมิตรที่ใจผูกพัน ในการนักเลงเพลงฟ้อน จึ่งจะผ่อนด้วยความเกษมสันต์ ร าได้ก็มาร าตามกัน นั่นแหละจะสมดั่งจินดา นางอัปสรค้อนแล้วตอบนนทกว่า ตนนั้นเป็นนางร าหากนนทกจะมีจิต ผูกพัน ก็จงร าไปพร้อมกับนาง หากร าได้และร าตาม นางจึงจะมีไมตรีจิตผูกพันกลับไป
บัดนั้น นนทกผู้ใจแกล้วกล้า ไม่รู้ว่านารายณ์แปลงมา ก็โสมนัสาพันทวี ยิ้มแล้วจึ่งกล่าวว่าสุนทร ดูก่อนนางฟ้าเฉลิมศรี เจ้าจักปรารมภ์ไปไยมี พี่เป็นคนเก่าพอเข้าใจ เชิญเจ้าร าเถิดนะนางฟ้า ให้สิ้นท่าที่นางจ าได้ ตัวพี่จะร าตามไป มิให้ผิดเพลงนางเทวี นนทกไม่รู้ว่าพระนารายณ์แปลงกายเป็นนางอัปสร นนทกรู้สึกหลงรักนางอัปสร เป็นอย่างมาก นนทกพูดกับนางอัปสรว่า “ อย่าได้วิตกไปเลย พี่เป็นข้ารับใช้พระอิศวร มานาน เชิญเจ้าร่ายร าเถอะ ให้หมดทุกท่าที่เจ้าจ าได้ พี่จะร าตามหมดทุกท่าที่เจ้าร ามา”
เมื่อนั้น พระนารายณ์ทรงสวัสดิ์รัศมี เห็นนนทกหลงกลก็ยินดี ท าทีเยื้องกรายให้ยวนยิน พระนารายณ์เห็นนทกหลงกลตน จึงยั่วยวนนทกให้ร าตาม
เทพนมปฐมพรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลาเฉิดฉิน ทั้งกวางเดินดงหงส์บิน กินรินเลียบถ ้าอ าไพ อีกช้านางนอนภมรเคล้า ทั้งแขกเต้าผาลาเพียงไหล่ เมขลาโยนแก้วแววไว มยุเรศฟ้อนในอัมพร ลมพัดยอดตองพรหมนิมิต ทั้งพิสมัยเรียงหมอน ย้ายท่ามัจฉาชมสาคร พระสี่กรขว้างจักรฤทธิรงค์ ฝ่ายนนทกก็ร าตาม ด้วยความพิสมัยใหลหลง ถึงท่านาคาม้วนหางวง ชี้ตรงถูกเพลาทันใด พระนารายณ์ที่แปลงกายเป็นนางอัปสรร่ายร าในท่าต่าง ๆ ได้แก่ เทพนม ปฐม พรหมสี่หน้า สอดสร้อยมาลา เฉิดฉิน กวางเดินดง หงส์บิน กินรินเลียบ ถ ้า ช้านางนอน ภมรเคล้า แขกเต้าเข้ารัง ผาลาเพียงไหล่ เมขลาล่อแก้ว มยุเรศฟ้อน ลมพัด ยอดตอง พรหมนิมิต พิสมัยเรียงหมอน มัจฉาชมสาคร พระสี่กรขว้างจักร ถึงท่านาคาม้วนหาง วง ด้วยฤทธิ์เดชนิ้วเพชรของนนทก ท าให้นนทกขาหักล้มลง นางอัปสรกลายเป็นองค์พระ นารายณ์เข้าไปเหยียบนนทกเพื่อจะสังหาร