เอกสารประกอบการสอน
วิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓
ครวู วิ ฒั น์ ทศั วา ครมู นรตั น์ แกว้ เกดิ
ครูคศ. ๑ ครูคศ. ๒
กลุ่มสาระการเรยี นร้ภู าษาไทย กล่มุ สาระการเรียนรู้ภาษาไทย
ชื่อ-สกลุ ....................................................................ชน้ั .............เลขท่.ี .............
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน ๖ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๓
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แกว้ เกดิ ๒) นายวิวฒั น์ ทัศวา ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
คานา
เอกสารประกอบการสอนเล่มนจี้ ัดทาขนึ้ โดยมวี ัตถุประสงค์เพื่อประการจัดการเรยี นการสอน รายวิชา
ท ๒๓๑๐๒ ภาษาไทยพ้ืนฐาน ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ ๓ ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒ ผู้สอนได้รวบรวม
สาระสาคัญของเน้ือหาในรายวิชาประกอบด้วยหลักการใช้ภาษาไทย และวรรณคดีไทย รวมท้ังแบบฝึกหัด
สาหรบั ทบทวนและสร้างความเขา้ ใจในบทเรยี นสาหรบั ผู้เรยี น
ผู้สอนหวงั เป็นอย่างยิง่ ว่าเอกสารประกอบการสอนเลม่ นจี้ ักก่อประโยชนแ์ ก่ผู้เรยี นในการศกึ ษาเนื้อหา
สาระทจี่ าเป็นต่อการพัฒนาทักษะทางภาษาไทย อันจะเปน็ พน้ื ฐานในการเรยี นรู้รายวิชาภาษาไทยและรายวชิ า
อื่น ๆ ท่ีเกี่ยวขอ้ งต่อไป
มนรัตน์ แกว้ เกิด และ
วิวฒั น์ ทศั วา
ผสู้ อน
โรงเรยี นสันติราษฎร์วทิ ยาลัย สังกดั สานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพื้นฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ หนา้ ๑
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรตั น์ แกว้ เกิด ๒) นายวิวฒั น์ ทัศวา ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
อิศรญาณภาษิต
ความเปน็ มา
อศิ รญาณภาษิตเรยี กอกี อยา่ งว่า “เพลงยาวอิศรญาณ” เป็นพระนพิ นธ์ของหมอ่ มเจ้าอิศรญาณ ซง่ึ เล่า
กันว่าเป็นผู้มีพระจริตไม่ปกติ คร้ังหน่ึงพระองค์ได้ทาสิ่งวิปริตไปแล้วพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
ตรับริภาษว่าเป็นบ้า ทาให้ใคร ๆ ก็พากันเห็นด้วยกับพระราชดารัสนั้น ด้วยความน้อยพระทัยของหม่อมเจ้า
อิศรญาณจึงทรงนิพนธ์เพลงยาวฉบับน้ีขึ้น มีผู้สันนิษฐานว่าอิศรญาณภาษิตนี้ ไม่ใช่พระนิพนธ์ของหม่อมเจ้า
อิศรญาณแต่เพียงผูเ้ ดียว หากแต่ทรงนิพนธ์ไว้เพียงตอนแรกเท่านั้น กล่าวคือ สันนิษฐานวา่ ทรงนิพนธ์ถึงวรรค
ว่า “ปุถุชนรักกับชังไม่ยั่งยืน” ซึ่งมีลีลาการแต่งไว้ด้วยน้าเสียงเหน็บแนมประชดประชันอย่างรุนแรง ชัดเจน
ส่วนท่ีเหลือเป็นของผู้อ่ืนแต่งต่อ โดยเป็นการสอนเรื่องท่ัวๆ ไป มีลีลาหรือท่วงทานองแบบเรยี บ ๆ มุ่งสั่งสอน
ตามปกติของผู้มปี ระสบการณ์ในเรื่องตา่ งๆ ซ่ึงไดน้ ามาเรยี บเรียงไวท้ งั้ หมด
ประวัตผิ นู้ ิพนธ์
หม่อมเจ้าอศิ รญาณ (ไมท่ ราบพระนามเดิม) เป็นโอรสในพระเจา้ บรมวงศ์เธอ กรมหลวงมหิศวรินทรา-
มเรศ พระองค์ทรงผนวชที่วัดบวรนิเวศ ได้พระนามฉายาว่า อิสสรญาโณ มีพระชนม์ชีพอยู่ในช่วงรัชสมัย
พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอย่หู วั
ลักษณะคาประพันธ์
กลอนเพลงยาว หมายถึง กลอนที่เขยี นข้นึ เพอ่ื แสดงความรักหรือเลา่ สูก่ นั ฟัง เป็นตน้ กลอนเพลงยาว
เปน็ กลอนทีบ่ ังคับบทขึน้ ตน้ เพยี ง ๓ วรรค จดั เป็นกลอนขน้ึ ตน้ ไมเ่ ตม็ บท ขน้ึ ตน้ ด้วยวรรครบั ในบทแรก สว่ น
บทต่อ ๆ ไปคงมี ๔ วรรคตลอด สัมผัสเป็นแบบกลอนสุภาพ ไม่จากัดความยาวในการแต่ง แต่นิยมจบด้วย
บาทคู่ และตอ้ งลงด้วยคาว่า เอย จานวนคาในวรรคอยู่ระหว่าง ๗-๙ คา
วตั ถุประสงค์สาคัญของเพลงยาว คือใช้เป็นจดหมายโต้ตอบ ระหว่างชาย -หญิง มกั จะหมายความถึง
จดหมายรักท่ีชายเขียนถึงหญิง มเี นอื้ หาในเชิงเก้ียวพาราสี ฝากรัก และตดั พ้อเม่อื ไม่สมหวงั เพลงยาวในความ
เข้าใจของคนทวั่ ไปจึงเป็นเร่ืองทเี่ ก่ียวกบั ความรักเท่าน้ัน แตค่ วามเป็นจริงแลว้ เนือ้ หาของกลอนเพลงยาวไมไ่ ด้
จากดั วา่ จะต้องเปน็ เรอ่ื งเกีย่ วกบั ความรักเพียงอย่างเดยี ว แตจ่ ะแต่งเกี่ยวกบั เร่อื งใด ๆ กไ็ ด้
ัตวอ ่ยางเพลงยาว แผนผังเพลงยาว ๐๐๐๐๐๐๐๐
๐๐๐๐๐๐๐๐ ๐๐๐๐๐๐๐๐
เทศนาคาไทยให้เปน็ ทาน อิศรญาณชาญกลอนอกั ษรสาร
....................................... โดยตานานศุภอรรถสวสั ดี
แสนประเสริฐเลิศภพจบธาตรี .......................................
ยังจรลีเข้าส่นู ิพพานเอย
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ิทยาลัย สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ หนา้ ๒
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทัศวา ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
จุดประสงค์
๑. เพื่อเสนอแนะแนวทางปฏบิ ัตติ นแกผ่ ูอ้ ่าน
๒. เพือ่ สะท้อนความคดิ เหน็ ของผูน้ ิพนธท์ ม่ี ีต่อสังคมในยุคสมยั นัน้
๓. เพื่อให้คติเกย่ี วกับการปฏบิ ัติตนให้ดีงามเพ่อื ให้อยรู่ ว่ มกันได้อยา่ งมคี วามสุข
เนือ้ หา
อศิ รญาณภาษิตมีเน้ือหาท่ีเป็นคาสั่ง สอนแบบเตอื นสติ และแนะนาเกยี่ วกบั การประพฤติปฏิบตั ิให้เป็น
ทพ่ี อใจของผู้อื่น โดยเฉพาะผทู้ ี่มอี านาจมากกว่า สอนว่าควรจะทาอย่างไรจึงจะอยใู่ นสงั คมไดโ้ ดยปราศจากภัย
แก่ตน ทาอยา่ งไรจงึ จะประสบความสาเรจ็ สมหวงั บางตอนก็เนน้ เร่ืองการเหน็ คุณคา่ และ ความสาคัญของผูอ้ ื่น
โดยไมส่ บประมาทหรอื ดูแคลนกัน โดยทงั้ นี้การสอนบางคร้ังอาจเป็นการบอกตรงๆ หรือบางครง้ั ก็สอนโดยคา
ประชดประชันเหน็บแนม เน้ือหาส่วนใหญ่จะสั่งสอนให้คนมีปัญญา ไม่หลงใหลกับคาเยินยอ สอนให้รู้จักคิด
ไตร่ตรองก่อนพูด รูจ้ กั เคารพผูอ้ าวโุ ส รู้จกั ทาตามทผี่ ู้ใหญ่แนะนารู้จกั กตัญญผู ู้ใหญ่
คณุ ค่างานประพนั ธ์
๑. คุณคา่ ด้านเน้ือหา เป็นวรรณคดที ่ีเนือ้ หามีคุณค่าในเชงิ คาสอน แนะนาวาควรปฏิบัตอิ ย่างไรจึงจะ
อยใู่ นสงั คมได้อยา่ งมคี วามสุข โดยมีการสง่ั สอนทงั้ แบบกล่าวเปรียบเทียบ บอกกลา่ โดยตรง และประชดประชัน
เหนบ็ แนมซ่งึ นับเปน็ ลกั ษณะเดน่ ของของลีลาการประพนั ธ์ของหม่อมเจ้าอศิ รญาณ
๒. คุณค่าด้านวรรณศิลป์ ใช้ถ้อยคางา่ ย ๆ มาเรียงร้อยได้เหมาะเจาะและมีความหมายลึกซงึ้ มีการ
นาสานวนมาใช้อย่างเหมาะสม เช่น น้าพึ่งเรือเสือพ่ึงป่า ผีซ้าด้าพลอย เป็นต้น การใช้กวีโวหาร
เช่น การเปรียบเทียบ (อุปมาโวหาร) การยกตัวอย่าง (สาธกโวหาร) และการส่ังสอน (เทศนาโวหาร) เป็นต้น
รวมทง้ั การเล่นเสียงสัมผสั สระ/สัมผัสอักษร
๓. คุณค่าด้านสังคม เป็นวรรณคดีท่ีสะท้อนภาพสังคมในสมัยของพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้า
เจ้าอยู่หัวได้อย่างดี เน่ืองจากในชว่ งระยะเวลานั้นประเทศไทยมีการผสมผสานโครงสรา้ งสังคมท้ังไทยเดิมและ
อทิ ธิพลที่รับมาจากชาติตะวันตก รวมทั้งยังเป็นวรรณคดีท่ีให้ขอ้ คิดในการดาเนนิ ชีวติ เพ่ือดารงอยู่ในสังคมได้
อย่างมีความสุข เช่น การให้ความสาคัญแก่ผู้อาวุโส การรู้จักประมาณตน การรู้จักขยันหม่ันเพียร และการ
ทาบญุ ทาทานตามกาลังทรพั ย์ของตน เป็นต้น
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ิทยาลยั สงั กัดสานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ หน้า ๓
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายววิ ฒั น์ ทศั วา ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
กิจกรรมที่ ๑ ตะลุยล่า...หาคาศัพท์
คาชแี้ จง ใหน้ กั เรยี นนาความหมายของคาทกี่ าหนดให้ไปเขียนลงในชอ่ งวา่ งท่ีตรงกบั ตาแหน่ง
ของคาน้ัน ๆ
แนวนอน แนวตงั้
๑. ท่ีท่ปี ราศจากความเจรญิ , ความฉิบหาย ๔. สาเร็จด้วยใจ
๒. มาตรเงนิ ตามวธิ ปี ระเพณี (หน่วยวัดเงิน) ๖. ความหลง, ความเขลา, ความโง่
๓. ถ้อยคาและความหมายท่ดี ีงาม ๑๓. แปลกใจ, สงสยั
๔. หว้ งนา้ ใหญ่ ๑๔. บ้านเรือน, ทซ่ี ่ึงใช้เปน็ ท่อี าศยั
๕. ช่ัวร้าย, เสนียดจัญไร ๑๕. เลวทรามต่าช้า, อุจาดลามก
๖. ไม่อยกู่ บั รอ่ งกับรอย. ไม่แนน่ อน (ใชแ่ ก่การพูด) ๑๙. รสู้ ึกเศร้าสลดหดหู่ตอ่ ผทู้ ไ่ี ด้รับทุกขเวทนา
๗. ทาเป็นผู้ใหญ่เกินอายุ (มักใช้แกเ่ ด็ก) ๒๐. เสนอราแข่งขันกนั ในการซือ้ หรือขายทรัพยส์ ิน
๘. ผูท้ ข่ี ายตวั ลงเปน็ ผ้รู บั ใชห้ รอื ท่ีนายเงินไถ่ตัวมา ๒๗. เคราะหเ์ ดมิ ร้ายหนักอยู่แล้วยังมเี คราะห์อ่ืนซ้ามา
๙. เดินหรือว่งิ ดว้ ยอาการคลา้ ยกระโดด ๒๘. สลาย, แตกพงั , ทลาย
๑๐. ทิม่ แทง หรอื กระแทกลงไป, กระทุง้ ๒๙. ไม่เทีย่ ง, ไมแ่ นน่ อน, เปลีย่ นแปลงอยู่เสมอ
๑๑. เคลือ่ นไปมาไดใ้ นทีบ่ ังคับ ๓๐. โถมเข้าใส่
๑๒. ผอ่ นออกไป ๓๑. อาการที่ปากหรือมืออยไู่ มส่ ุข
๑๓. พจิ ารณา, ตรวจตรา ๓๒. มอี าการกระปรก้ี ระเปรา่
๑๔. ปัญญา, ความรู,้ ความฉลาดรอบรู้ ๓๓. บุญบารมี, กศุ ลทที่ าใหไ้ ดร้ บั ลาภยศ
๑๕. อุบายดาเนินการ, วธิ ีดาเนินการ ๓๔. แทนทจ่ี ะเป็นอยา่ งน้กี ลับเปน็ อีกอย่างหน่ึง
๑๖. อันบุคคลเหน็ แล้ว, ทันตาเห็น ๓๕. อก
๑๗. เสอื โคร่ง ๓๖. ผูห้ ญิง, เพศหญงิ
๑๘. กาเนิดด,ี พนั ธห์ุ รือตระกลู ดี ๓๗. ทาการใหญไ่ ม่ควรตระหน่ี
๑๙. ท่ีอยู่, ท่ีพกั ,การอยู่ด้วยกัน ๓๘. ร่างกายและจติ ใจ
๒๐. พูดไม่ดี ๓๙. พงุ่ ขึ้นไป
๒๑. ชือ่ แมลงหรือสัตวข์ นาดเล็กมาก ๔๑. ถงุ ผ้าสาหรบั ใส่เงนิ หรือสง่ิ ของ
๒๒. เครอ่ื งทาให้ใจเศร้าหมอง ได้แก่ โลภ โกรธ หลง ๔๒. ไม่งาม. ไมส่ วย, ไมด่ ี (ใช้เรียกศพ)
๒๓. สามญั ชน
๒๔. คาอธิบายขยายความ หมายเหตุ
๒๕. บัวสาย
๒๖. ยนื ยง, ม่ันคง สระท่ีอนุโลมใหใ้ ส่ช่องเดยี วกบั พยญั ชนะไดค้ ือ สระท่ี
๔๐. ผล, มักใชใ้ นความปฏเิ สธ
๔๑. ข้นึ ลงในทีส่ งู ด้วยความระมดั ระวัง อยบู่ น-ล่างพยัญชนะ สระอะ (-ะ) และรูปวรรณยกุ ต์
โรงเรยี นสันติราษฎรว์ ิทยาลยั สงั กดั สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพ้ืนฐาน ๖ ชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี ๓ หนา้ ๔
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกิด ๒) นายววิ ัฒน์ ทัศวา ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
คาศัพท์จากเรอ่ื ง “อศิ รญาณภาษติ ” คะแนนที่ได้
คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นนาความหมายของคาทกี่ าหนดให้ไปเขยี นลงในช่องว่างท่ีตรงกบั
ตาแหนง่ ของคานั้น ๆ
๔๐
๑ ๓๑ ๒ ๔๒ ๓๕
๒๘ ๓๔ ๓
๔ ๓๗
๕
๖ ๓๒ ๗
๓๖
๓๐ ๘
๓๘
๙ ๒๙ ๑๐ ๑๑
๑๒
๒๗ ๑๓ ๑๔
๔๑
๑๕ ๑๖
๓๙
๑๗ ๑๘ ๑๙
๒๐ ๓๓ ๒๑
๒๒ ๒๓ ๒๔
๒๕
๒๖
โรงเรยี นสันติราษฎร์วิทยาลัย สงั กัดสานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน ๖ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ หน้า ๕
ผูส้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกิด ๒) นายววิ ฒั น์ ทัศวา ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
กิจกรรมที่ ๒ ถอดความ...ตามเนือ้ เรอ่ื ง คะแนนทไ่ี ด้
คาชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนบอกความหมาย ข้อคิด และการนาอศิ รญาณภาษิตไปใช้ในชีวิตประจาวัน
บทประพันธ์ ชายขา้ วเปลอื กหญงิ ขา้ วสารโบราณว่า นา้ พง่ึ เรอื เสือพ่ึงป่าอชั ฌาสัย
๑. ความหมาย
ขอ้ คดิ
การนาไปใช้
บทประพนั ธ์ เห็นตาตาแลว้ อยา่ อย่าทาปากบอน ตรองเสยี ก่อนจงึ ค่อยทากรรมทงั้ มวล
๒. ความหมาย
ข้อคิด
การนาไปใช้
บทประพนั ธ์ ผู้ใดดดี ีตอ่ อยา่ ก่อกิจ ผู้ใดผิดผ่อนพกั อยา่ หักหาญ
๓. ความหมาย
ขอ้ คิด
การนาไปใช้
บทประพนั ธ์ นกกระจาบเดมิ หนักหนามากกวา่ แสน ไม่เดือดแค้นสามัคคียอ่ มมีผล
๔. ความหมาย
ข้อคดิ
การนาไปใช้
บทประพันธ์ อยากใชเ้ ขาเราต้องกม้ ประนมกร ใครเลยหอ่ นจะว่าตัวเป็นวัวมอ
๕. ความหมาย
ข้อคิด
การนาไปใช้
โรงเรียนสนั ติราษฎร์วทิ ยาลยั สงั กดั สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ หน้า ๖
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทัศวา ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
กิจกรรมท่ี ๓ พนิ ิจข้อคิด...อิศรญาณภาษติ คะแนนท่ไี ด้
คาชแ้ี จง ใหน้ กั เรียนใสส่ ญั ลักษณ์ ลงในชอ่ งว่างท่ีสมั พันธก์ บั ขอ้ คิดในเรือ่ ง
อิศรญาณภาษติ ที่สามารถนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชีวติ ประจาวนั ได้
ขอ้ คิดท่ีนาไปประยกุ ตใ์ ช้ในชวี ติ ประจาวันได้
คาสอนในเรอ่ื งอิศรญาณภาษติ
การ การ การนับถอื การ การรจู้ กั
พึ่งพากัน ทาความดี ผูใ้ หญ่ คบมติ ร ตนเอง
๑. คบนักปราชญ์น่นั แหละดมี ีกาไร
ท่านย่อมใหค้ วามสบายหลายประตู
๒. อยา่ นอนเปลา่ เอากระจกยกออกมา
สอ่ งดูหน้าเสียทหี นึง่ แล้วจงึ นอน
๓. คนสามขามีปญั ญาหาไวท้ กั
ทีไ่ หนหลักแหลมคาจงจาเอา
๔. เราก็จิตคิดดเู ล่าเขากใ็ จ
รกั กันไวด้ ีกว่าชังระวงั การ
๕. แม้พลัง้ ปากเสียศีลพลาดตนี แพลง
มกั ระแวงข้างเปน็ โทษประโยชน์น้อย
๖. เกดิ เปน็ คนเชงิ ดใู ห้ร้เู ทา่
ใจของเราไมส่ อนใจใครจะสอน
๗. ถ้าทาดีกจ็ ะดเี ป็นศรีศักดิ์
ถ้าทาชั่วชวั่ จักตามสนอง
๘. รักสนั้ นน้ั ใหร้ อู้ ยเู่ พยี งสนั้
รักยาวนนั้ อย่าใหเ้ ย่ินเกินกฎหมาย
๙. เดินตามรอยผูใ้ หญ่หมาไม่กดั
ไปพดู ขดั เขาทาไมขัดใจเขา
๑๐. น้าใจเอย๋ เห็นกรรมไม่ทาชั่ว
บวชตั้งตัวต้ังใจบวชได้เรอ่ื ง
โรงเรียนสนั ติราษฎร์วิทยาลัย สงั กดั สานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน ๖ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ หน้า ๗
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทศั วา ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
กจิ กรรมท่ี ๔ สานวนชวนคิด...อิศรญาณภาษิต คะแนนทไี่ ด้
คาชี้แจง ให้นักเรยี นเขียนคาประพันธท์ ี่สอดคลอ้ งกบั รปู ภาพสานวนตอ่ ไปน้ี
๑.
สานวน
บทประพันธ์
๒.
สานวน
บทประพนั ธ์
๓.
สานวน
บทประพันธ์
๔.
สานวน
บทประพันธ์
๕.
สานวน
บทประพนั ธ์
โรงเรียนสนั ติราษฎรว์ ิทยาลยั สงั กัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ หนา้ ๘
ผ้สู อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แกว้ เกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทศั วา ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
กิจกรรมท่ี ๕ ทบทวนชวนคดิ ...อศิ รญาณภาษิต คะแนนท่ีได้
คาชี้แจง ตอนท่ี ๑ ใหน้ ักเรยี นทาเคร่ืองหมาย X ทับตัวเลือกทถ่ี กู ต้องที่สุด
๑. ขอ้ ใดเปน็ ลกั ษณะการแต่งอศิ รญาณภาษิต
ก. กลอนแปด ข. กลอนสภุ าพ ค. กลอนเพลงยาว ง. กลอนตลาด
๒. “คอ่ ยดาเนินตามไตผ่ ูไ้ ปห่ นา้ ใจความว่าผ้มู คี ุณอย่าหุนหวน” คาทีข่ ดี เสน้ ใต้หมายความวา่ อยา่ งไร
ก. บิดา ข. มารดา ค. ผู้ใหญ่ ง. ญาติ
๓. บทกลอนใดไม่ตรงกบั สานวนสภุ าษิต
ก. ผู้ใดดีดตี อ่ อย่าก่อกจิ ผูใ้ ดผิดผ่อนพักอยา่ หักหาญ
ข. เดินตามรอยผู้ใหญห่ มาไม่กัด ไปพูดขัดเขาทาไมขดั ใจเขา
ค. ถึงบญุ มีไม่ประกอบชอบไม่ได้ ต้องอาศยั คิดดีจงึ มีผล
ง. อนั เสาหนิ แปดศอกตอกเป็นหลัก ไปมาผลกั บอ่ ยเข้าเสายงั ไหว
๔. ขอ้ ใดสอนเร่อื งความมใี จหนกั แนน่
ก. ล้องูเห่าเลน่ ไดใ้ จกล้ากลา้ แต่ว่าอยา่ ยกั เยอ้ื งเขา้ เบื้องหาง
ข. แตไ่ ม้ไผอ่ ันหนง่ึ ตนั อนั หนงึ่ แขวะ สีแหยะแหยะตอกตะบันเปน็ ควนั ฉวิ
ค. ถงึ บุญมไี ม่ประกอบชอบไมไ่ ด้ ตอ้ งอาศยั คดิ ดีจึงมีผล
ง. อันเสาหนิ แปดศอกตอกเป็นหลัก ไปมาผลกั บอ่ ยเข้าเสายังไหว
๕. “ของส่งิ ใดเจ้าว่างามต้องตามเจา้ ใครเลยเล่าจะไม่งามตามเสดจ็ ” ตรงกบั สานวนในข้อใด
ก. เดนิ ตามผใู้ หญ่หมาไมก่ ดั ข. ชน้ี กเป็นนก ชี้ไมเ้ ป็นไม้
ค. นายวา่ ข้ีขา้ พลอย ง. ทนายหนา้ หอ
๖. น้าเสียงของผูแ้ ตง่ เรื่องอศิ รญาณภาษติ ตรงกบั ข้อใด
ก. ปลอบประโลม ข. ชี้แนะ ค. ตาหนิ ง. ประชดประชด
๗. ขอ้ ใดไมใ่ ช่ลักษณะของเรือ่ งอิศรญาณภาษติ
ก. มโี วหารเปรียบเทยี บท่ีคมคาย ข. ใช้คางา่ ยแต่ลึกซ้งึ
ค. มีคาศัพทย์ ากเป็นจานวนมาก ง. เป็นวรรณคดีทม่ี งุ่ เน้นคาสอน
๘. ข้อใดมุ่งสั่งสอนค่สู ามีภรรยา
ก. เปน็ ผหู้ ญิงแม่หม้ายทีไ่ รผ้ วั ชายมกั ย่วั ทาเลียบเทยี บข่มเหง
ข. ถึงร้จู รงิ นิง่ ไวอ้ ยา่ ไขรู้ เต็มที่ครู่เดียวนัน้ เขาสรเสรญิ
ค. อันโลภลาภบาปหนาตัณหาเย็บ เมยี รูเ้ กบ็ ผวั รทู้ าพาจาเรญิ
ง. สงู อย่าใหส้ งู กวา่ ฐานนานไปล้ม จะเรยี นคมเรียนเถดิ อยา่ เปดิ ฝัก
๙. ขอ้ ใดเป็นลักษณะเด่นของคาสอนเรอื่ งอศิ รญาณภาษติ
ก. สอนโดยการบอกตรง ๆ ข. สอนโดยการบอกเปน็ นยั
ค. สอนโดยการประชดประชันเหนบ็ แนม ง. สอนโดยการยกตวั อยา่ งประกอบชัดเจน
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ทิ ยาลัย สงั กัดสานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ หนา้ ๙
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกดิ ๒) นายวิวฒั น์ ทศั วา ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
๑๐ “คนสามขามปี ญั ญาหาไว้ทกั ” คนสามขา หมายความว่าอย่างไร
ก. คนชรา ข. คนทม่ี ีกาลัง
ค. คนแปลกประหลาด ง. คนทม่ี ีพลงั อานาจในตัว
๑๑. “เดินตามรอยผใู้ หญห่ มาไม่กดั ” สะทอ้ นวิถีชีวติ ของคนไทยในด้านใด
ก. การเอาตวั รอด ข. การหาผู้คุม้ ครอง
ค. การปอ้ งกนั ตวั เอง ง. การเคารพผ้ใู หญ่
๑๒. ข้อใดใช้ความเปรยี บแตกต่างจากขอ้ อนื่
ก. เหน็ ตอหลักปกั ขวางหนทางอยู่ พิเคราะห์ดูควรทึ้งแลว้ จงึ ถอน
ข. เอาปลาหมอเป็นครดู ูปลาหมอ บนบกหนออตุ ส่าห์เสอื กกระเดอื กกระดกิ
ค. ช้างถีบอย่าวา่ เล่นกระเดน็ ปลิว แรงหรอื หิวชง่ั ใจดจู ะสู้ช้าง
ง. ล้องเู หา่ เล่นไดใ้ จกลา้ กล้า แตว่ ่าอยา่ ยักเยื้องเขา้ เบ้ืองหาง
๑๓. ขอ้ ใดไม่ได้แสดงแนวคิดทางพระพุทธศาสนา
ก. อยา่ ดถู กู บญุ กรรมว่าทานอ้ ย น้าตาลย้อยมากเมื่อไรได้หนกั หนา
ข. ผีมันหลอกชา่ งผีตามทมี ัน คนเหมอื นกันหลอกกันเองกลัวเกรงนัก
ค. ถงึ บุญมไี ม่ประกอบชอบไมไ่ ด้ ต้องอาศยั คิดดีจงึ มผี ล
ง. อนั โลภลาภบาปหนาตัณหาเย็บ เมียรู้เก็บผัวรูท้ าพาจาเรญิ
๑๔. ขอ้ ความต่อไปน้ี ขอ้ ใดที่สะท้อนวิถีชีวติ ของคนไทยซึ่งมีความเชือ่ ในกฎแหง่ กรรม
ก. ถา้ ทาดกี จ็ ะดเี ป็นศรีศักด์ิ ถา้ ทาชั่วชั่วจักตามสนอง
ข. เกิดเปน็ คนเชงิ ดใู ห้รู้เทา่ ใจของเราไมส่ อนใจใครจะสอน
ค. หลงโลภลาภบาปกร็ ้อู ยวู่ า่ บาป กเิ ลศหยาบยังไม่สุขย่อมทกุ ขงั
ง. อย่าดูถูกบญุ กรรมวา่ ทานอ้ ย น้าตาลยอ้ ยมากเมอื่ ไรได้หนักหนา
๑๕. คาสอนในขอ้ ใดใชก้ ับนกั เรยี นในการศึกษาหาความรไู้ ด้ดที ี่สุด
ก. เดนิ ตามรอยผู้ใหญห่ มาไมก่ ัด ไปพูดขดั เขาทาไมขัดใจเขา
ข. อยา่ คบมติ รจติ พาลสนั ดานชวั่ จะพาตวั ให้เสือ่ มที่เล่อื มใส
ค. เรยี นวิชาไมแ่ มน่ ยาคะนา้ คะเน ไปเท่ียวเตร่ประกอบช่ัวตัวจงึ จน
ง. คบนักปราชญน์ ่ันแหละดีมีกาไร ทา่ นย่อมให้ความสบายหลายประตู
ตอนที่ ๒ ให้นกั เรยี นเลือกกลอนทปี่ ระทบั ใจ ๑ บท แล้ววิเคราะหข์ อ้ คิดทไ่ี ด้ พรอ้ มท้งั เสนอแนะวิธกี ารนา
ข้อคดิ ไปประยุกต์ใชใ้ นชีวิตประจาวัน
บทประพันธ์
ขอ้ คิดและการนาไปใช้
โรงเรียนสนั ติราษฎรว์ ิทยาลยั สงั กัดสานักงานเขตพื้นที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ หน้า ๑๐
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกิด ๒) นายวิวัฒน์ ทศั วา ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
กจิ กรรมที่ ๖ ท่องอาขยาน...อศิ รญาณภาษิต คะแนนทไ่ี ด้
คาชแี้ จง ให้นกั เรยี นท่องจาทานองเสนาะบทอายานวรรณคดีเรอื่ งอศิ รญาณภาษติ ท่กี าหนดให้
บทอาขยาน
อิศรญาณภาษิต
ชายข้าวเปลอื กหญงิ ขา้ วสารโบราณว่า นา้ พึง่ เรอื เสือพึง่ ป่าอัชฌาสัย
เรากจ็ ติ คิดดูเล่าเขากใ็ จ รักกนั ไว้ดีกว่าชังระวงั การ
ผใู้ ดดีดีตอ่ อย่าก่อกจิ ผู้ใดผดิ ผอ่ นพกั อยา่ หกั หาญ
สบิ ดกี ไ็ ม่ถึงกับกึง่ พาล เป็นชายชาญอยา่ เพ่อคาดประมาทชาย
รกั สั้นนั้นอยา่ ใหร้ ู้อยูเ่ พยี งสัน้ รกั ยาวนนั้ อยา่ ใหเ้ ยน่ิ เกินกฎหมาย
มิใช่ตายแต่เขาเรากต็ าย แหงนดฟู ้าอย่าใหอ้ ายแก่เทวดา
อยา่ ดถู ูกบญุ กรรมว่าทาน้อย น้าตาลยอ้ ยมากเม่อื ไรได้หนกั หนา
อยา่ นอนเปล่าเอากระจกยกออกมา สอ่ งดหู น้าเสยี ทีหน่ึงแลว้ จงึ นอน
หมอ่ มเจา้ อศิ รญาณ
เกณฑ์การใหค้ ะแนน เลขท่ี คะแนนทไ่ี ด้
ช่ือ ชัน้ คะแนนเตม็
รายการประเมนิ ๔
๑) ถูกตอ้ งตามฉันทลกั ษณ์ของบทร้อยกรอง ๔
๒) ถูกตอ้ งตามอกั ขรวธิ ี เช่น การอา่ นคา, การออกเสยี งคาควบกลา ร, ล ฯลฯ ๕
๓) นาสียง เช่น ความไพเราะ ความหนกั เบาและความชัดเจน ฯลฯ ๓
๔) ให้อารมณ์ความรู้สึกท่ีสอดคล้องกบั เนอื หาของบทอาขยาน ๓
๕) มีบคุ ลกิ ภาพ ความสง่างาม และความม่นั ใจ ๒๐
คะแนนรวม
ลงช่ือ )
(
ผู้สอน
วนั ท่ี //
ตวั อยา่ งการอ่านทานองเสนาะ
บทอาขยานเร่ืองอิศรญาณภาษติ
ท่ีมา https://www.youtube.com/watch?v=ELMJ11VZHuY
โรงเรยี นสันติราษฎรว์ ิทยาลัย สงั กัดสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ หน้า ๑๑
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกิด ๒) นายวิวัฒน์ ทศั วา ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
การเขยี นแสดงความคดิ เห็น
ความหมายของการเขยี นแสดงความคิดเห็น
การเขยี นแสดงความคิดเห็น คือ การเขยี นท่ีประกอบดว้ ยข้อมูลอันเปน็ ขอ้ เทจ็ จริง กบั การแสดง
ความคิดเห็นตอ่ เรอ่ื งใดเรื่องหนึง่ ความคิดเหน็ น้ันควรจะมีเหตผุ ลและเปน็ ไปในทางสรา้ งสรรค์
หลักการเขยี นแสดงความคิดเห็น
๑. การเลอื กเร่ือง ผู้เขียนควรเลือกเรอื่ งทเี่ ป็นที่สนใจของสงั คมหรือเป็นเรอ่ื งทที่ นั สมยั อาจเกยี่ วกับ
เหตุการณท์ างการเมือง เศรษฐกจิ สงั คม ศาสนา ศลิ ปะ วทิ ยาศาสตรห์ รือข่าวเหตุการณ์ประจาวนั ทงั้ นผ้ี ้เู ขยี น
ควรจะมคี วามรูแ้ ละความเข้าใจเรอ่ื งทต่ี นจะแสดงความคดิ เห็นเปน็ อยา่ งดี เพ่ือจะแสดงความคิดเห็นได้อย่าง
ลึกซึง้
๒. การให้ข้อเท็จจรงิ ข้อมูลที่เลือกมานั้นจะต้องมีรายละเอียดต่าง ๆ เช่น ที่มาของเรื่อง ความสาคัญ
และเหตุการณ์ เป็นตน้
๓. การแสดงความคิดเหน็ ผเู้ ขยี นอาจแสดงความคิดเหน็ ตอ่ เรอื่ งได้ ๔ ลักษณะ คอื
๑) การแสดงความคิดเหน็ เพอ่ื ตง้ั ข้อสังเกต เช่น หวั ข้อเร่ือง การเตบิ โตของธุรกจิ
อินเทอร์เน็ต ความนยิ มรับประทานอาหารเสรมิ สุขภาพ เปน็ ตน้
๒) การแสดงความคิดเห็นเพอ่ื สนับสนนุ ข้อเท็จจริง เชน่ หวั ขอ้ เรื่อง การจดั ระเบียบ
สังคมของรอ้ ยตารวจเอกปรุ ะชยั เป่ยี มสมบูรณ์ เป็นต้น
๓) การแสดงความคิดเหน็ เพอ่ื โตแ้ ยง้ ขอ้ เทจ็ จรงิ เชน่ หวั ข้อเรอ่ื ง การกนิ ยาลดความ
อ้วนของวัยรนุ่ เปน็ ตน้
๔) การแสดงความคิดเห็นเพอ่ื ประเมินคา่ เชน่ หัวขอ้ เรื่อง การวจิ ารณ์เรอ่ื งส้ันที่
ได้รับรางวลั วรรณกรรมสร้างสรรค์ยอดเย่ียมแห่งอาเซียนหรือรางวลั ซไี รต์
๔. การเรยี บเรียง
๑) การต้ังชอื่ ควรต้ังชอ่ื เรื่องให้เรา้ ความสนใจผ้อู ่าน และสอดคลอ้ งกบั เนื้อหาท่ีจะ
เขียน เพราะชอื่ เรือ่ งเป็นสว่ นที่ผอู้ า่ นจะต้องอ่านเปน็ ลาดับแรก และเปน็ การบอกขอบเขตของเร่ืองด้วย
๒) การเปดิ เรอื่ ง ใชห้ ลกั การเขยี นเชน่ เดยี วกับการเขยี นคานา และควรเปิดเรือ่ งให้
น่าสนใจ ชวนให้ผู้อา่ นตดิ ตามเร่อื งต่อไป
๓) การลาดบั เรอ่ื ง ควรลาดับเรอ่ื งใหม้ คี วามต่อเนื่องสอดคล้องกันตัง้ แตต่ ้นจนจบไม่
ควรเขียนวกไปวนมา เพราะผู้อา่ นอาจเกดิ ความสับสนจนไมส่ ามารถแยกแยะได้ว่าส่วนใดเป็นข้อเท็จจรงิ และส่วน
ใดเปน็ การแสดงความคดิ เหน็
๔) การปิดเร่อื ง ใชห้ ลักการเชน่ เดียวกับการเขียนสรุป และควรปิดเร่ืองใหผ้ ู้อ่าน
ประทับใจ
โรงเรยี นสนั ติราษฎร์วทิ ยาลยั สงั กัดสานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน ๖ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ หน้า ๑๒
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกิด ๒) นายววิ ฒั น์ ทัศวา ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
๕. การใชภ้ าษา ควรใช้ภาษาอย่างสละสลวย ชดั เจน ไมเ่ ย่ินเย้อ มกี ารใช้สานวนโวหารอย่างเหมาะสม
กับเรือ่ ง นอกจากนัน้ ยังต้องใชถ้ ้อยคาท่ีสือ่ ความหมายไดต้ รงตามอารมณแ์ ละความรู้สกึ ของผู้เขียน ท้ังนีพ้ ึง
หลีกเล่ยี งการใช้ถอ้ ยคาทีแ่ สดงอารมณ์รนุ แรง ซง่ึ อาจก่อใหเ้ กดิ ความขัดแยง้ อยา่ งรนุ แรงตามมาในภายหลงั
ตวั อย่างการเขียนแสดงความคิดเหน็
โลกาจะวินาศ...จริงหรอื
ประกาศจากองค์การนาซาร์ (NASA) ว่าวันที่ ๒๒ ธันวาคม ค.ศ. ๒๐๑๒ (พ.ศ. ๒๕๕๕) แกน
โลกของเราจะไขว้เขว คือ ข้ัวโลกเหนือจะมาอยู่ขั้วโลกใต้ ช่วงเวลานั้นโลกของเราไม่มีสนามพลังแม่เหล็กเพ่ือ
ป้องกันตัวเอง จากสนามพลังแม่เหล็กและรังสีต่าง ๆ จากอวกาศแล้ววันนั้นจะเป็นวันเดียวกับที่ดวงอาทิตย์จะ
พลิกกลับข้ัวเชน่ กัน ขณะที่ดวงอาทิตย์กาลังพลิกกลับข้ัวนั้น ดวงอาทิตย์จะแผ่สนามแม่เหล็กและรงั สีความร้อน
สงู มายงั โลก ซ่งึ เปน็ เวลาเดียวกับทีโ่ ลกไม่มีสนามแมเ่ หล็กป้องกนั
ปรากฏการณแ์ กนโลกพลิกนี้ส่งผลให้น้าแขง็ ขั้วโลกละลายฉับพลัน น้าจะท่วมโลกไม่มีทางหนไี ดท้ ัน
ประกาศนี้สอดคล้องกับคาทานายของนายกอร์ดอน ไม่เคิล สกาเลียน (Gordon-Michael Scallion) ผู้ท่ีมี
ความสามารถมองเห็นอนาคตด้วยญาณกล่าวว่า วกิ ฤตการณ์มองโลกอันนา่ สะพรึงกลัวนี้ สง่ ผลให้หลายประเทศ
หายไปจากแผนทโี่ ลก ประเทศท่ีเปน็ เกาะจะจมน้าทงั้ หมด ประชากรโลกทรี่ อดตายมเี พียง ๑๐% เทา่ น้ัน
วกิ ฤตโลกอันน่าสะพรงึ กลัวน้ี แสดงให้เห็นว่าโลกเรานี้กาลังเจ็บป่วยอย่างหนักด้วยผลกรรมที่มวล
มนุษย์ชาติกระทาต่อโลกอย่างขาดความกตัญญูกตเวที โดยใช้เทคโนโลยีที่ก้าวล้าทันสมัยทุกชนิด โรงไฟฟ้า
นวิ เคลียรข์ องประเทศทอ่ี า้ งตนเป็นมหาอานาจด้านอตุ สาหกรรม แหล่งกาเนิดรังสที ่ีมาจากการกระทาของมนุษย์
หลายรูปแบบ อาทิ จากการเดินเครื่องปฏิกรณ์ปรมาณู การระเบิดของระเบิดนิวเคลียร์ การใช้เครื่องเอกซเรย์
รวมท้ังการผลิตสารกัมมนั ตภาพรงั สี จากปฏกิ ิรยิ านวิ เคลียร์ตา่ ง ๆ
วิกฤตโลกของมวลมนษุ ย์จะเกดิ ข้ึนหรือไม่ วันส้ินโลกจะจริงหรอื เป็นคาถามทที่ ุกคนชอบถามกันใน
วงสนทนา แต่คาตอบที่ทุกคนควรใส่ใจก็คือประชากรโลกทุกคนต้องช่วยกันถนอมโลกให้ยั่งยืน ด้วยการลดใช้
พลังงานไฟฟ้าให้น้อยลงทุกรูปแบบ ดาเนินชีวิตด้วยความพอเพียง กลมกลืนกับธรรมชาติด้วยความสุขอย่าง
แท้จรงิ ...
ท่ีมา กัลยกร มัน่ ถาวรวงศ์ (ออนไลน)์
http://schoolweb.eduzones.com/nisarat/content.php?view=20130327214200uDyRCu8
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ิทยาลัย สังกัดสานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๓ หนา้ ๑๓
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายววิ ัฒน์ ทัศวา ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
กิจกรรมท่ี ๑๓ แสดงความคิด...สะกิดความเหน็ คะแนนท่ไี ด้
คาช้ีแจง ใหน้ ักเรยี นเขียนแสดงความคดิ เห็นเกีย่ วกบั การใช้ส่ือโซเชียล และการโพสต์
ขอ้ ความลงในส่ือเฟซบกุ๊ ดังกลา่ ว ตามหลกั การเขียนแสดงความคิดเหน็
โรงเรียนสันติราษฎรว์ ทิ ยาลยั สงั กดั สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพ้ืนฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศึกษาปีท่ี ๓ หน้า ๑๔
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรตั น์ แกว้ เกิด ๒) นายววิ ัฒน์ ทศั วา ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
การแสดงความคิดเห็นจากการ ฟงั และการดู
ปัจจุบันเราบริโภคส่ือประเภทต่าง ๆ มากมาย ท้ังวิทยุ โทรทัศน์ อินเทอร์เน็ต ซ่ึงเต็มไปด้วยข้อมูล
ข่าวสาร เร่ืองราว ความร้ปู ระเภทตา่ ง ๆ ดังน้นั เมือ่ ดูหรอื ฟังเร่ืองราวต่าง ๆ แล้วทักษะที่เกี่ยวข้องต่อการดูและ
การฟังอีกทักษะหน่ึงคือ การพูดวิเคราะหแ์ ละแสดงความคิดเห็นจากส่ือที่ฟังและดู ซ่ึงเป็นทกั ษะที่ใช้ทักษะการ
ฟัง การดู และการพูดให้สัมพันธ์กัน โดยผู้พูดต้องฝึกฝนทักษะดังกล่าวให้เกิดความชานาญ เพ่ือให้สามารถ
นาไปใชป้ ระโยชนใ์ นชีวิตประจาวนั
การพูดแสดงความคิดเหน็
คือ การพูดแสดงความรู้สึก ความเห็นของตนต่อสิ่งใดสิง่ หนึ่ง หรือเร่อื งใดเร่ืองหนึ่ง จากการอ่าน การดู
การฟัง เป็นการพูดท่ีผู้พูดต้องพูดอย่างมีเหตุมีผล การใช้สรรพนามทนผู้พูดต้องใช้สรรพนามบุรุษที่ ๑ เช่น ผม
เห็นว่า ดฉิ ันเห็นวา่ ดิฉันใคร่ของสรุปวา่ ดิฉนั ของแสดงทัศนะว่า พวกเรามีความเห็นรว่ มกันว่า ฯลฯ นอกจากนี้ผู้
พูดควรใช้คาหรือกลุ่มคาเพื่อบ่งช้ีให้เห็นวา่ เป็นกรแสดงคามคดิ เห็น เช่น คาว่า อาจ อาจจะ คงจะ น่าจะ คาดว่า
หากผู้พูดสามารถใช้ภาษาในการพูดได้อย่างมีประสิทธิภาพก็จะแสดงความคิดเห็นของตน ให้ผู้ฟังเข้าใจและ
นา่ เชื่อถือ
ประเภทของการพูดแสดงความคดิ เหน็
การพูดเพ่ือแสดงความคิดเห็นอาจแบ่งได้หลายประเภทตามโอกาสท่ีพูด หรือตามลักษณะเน้ือหาของ
การแสดงความคิดเห็น แต่ในที่นี้ได้แบ่งประเภทของการพูดแสดงความคิดเห็นตามลักษณะเน้ือหาออกเป็น ๔
ประเภท ดังน้ี
๑. การพูดแสดงความคดิ เหน็ ในเชงิ สนับสนนุ เปน็ การพูดเพือ่ สนบั สนนุ ความคิดเห็นของ
ผ้อู น่ื ซึ่งผพู้ ูดอาจจะพิจารณาแล้วว่า ความคิดเห็นทตี่ นสนับสนุนมสี าระและประโยชน์ต่อหนว่ ยงานและส่วนรวม
เช่น การพดู ในทป่ี ระชมุ การอภปิ ราย การ แสดงปาฐกถา เปน็ ตน้
๒. การพดู แสดงความคิดเหน็ ในเชงิ ขดั แย้ง เป็นการพดู แสดงความคดิ เห็นในกรณที ี่มีความคิดไม่
ตรงกนั และเสนอความคดิ อ่ืน ๆ ทไ่ี มต่ รงกบั ผอู้ ่นื ซ่ึงผู้พูดควรระมัดระวังเรอ่ื งการใชภ้ าษา ความขดั แยง้ ควร
เปน็ ไปในเชงิ สร้างสรรค์ อนั จะก่อประโยชน์ต่อหนว่ ยงานหรอื สาธารณชน
๓. การพดู แสดงความคิดเหน็ ในเชิงวิจารณ์ เป็นการพูดเพื่อวิจารณ์เกีย่ วกับเรือ่ งใดเรอ่ื งหนึ่ง ซงึ่ ผู้
วจิ ารณ์อาจจะแสดงความคิดเหน็ ด้วยหรอื ไม่เห็นด้วย และวิจารณใ์ นเชิงสร้างสรรค์ ผูว้ จิ ารณ์จะต้องวางตัวเป็น
กลาง ไม่อคตติ ่อผ้พู ดู หรือสงิ่ ที่เห็น เช่น การแสดงความคิดเหน็ ตอ่ หนังสือ ละคร ภาพยนตร์ เป็นต้น
๔. การพูดแสดงความคิดเห็นเพ่อื นาเสนอความคิดใหม่ เปน็ การพูดในกรณีท่ีไมเ่ หน็ ด้วยกับการแสดง
ความคิดเหน็ ของผอู้ นื่ และนาเสนอความคิดเห็นใหม่ของตนทคี่ ดิ ว่าจะเป็นประโยชนต์ ่อสว่ นรวม เช่น การแสดง
ความคิดเห็นในทีป่ ระชมุ เป็นต้น
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ิทยาลยั สงั กดั สานกั งานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พนื้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพื้นฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ หนา้ ๑๕
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกดิ ๒) นายววิ ัฒน์ ทัศวา ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
ขอ้ ควรปฏิบตั ใิ นการพูดแสดงความคิดเหน็
☺ ฟงั อ่าน หรือดเู รอื่ งที่ต้องพดู แสดงความคิดเห็นอย่างตงั้ ใจ
☺ ทาความเขา้ ใจกบั เนอื้ เรื่อง
☺ หาขอ้ มูลเพิม่ เตมิ
☺ ใช้ความคิดพิจารณาหาเหตผุ ลเพื่อประกอบการแสดงความคดิ เห็น
☺ มีความยตุ ธิ รรม ไม่เข้าขา้ งฝ่ายใดฝ่ายหน่งึ
☺ ไมน่ าอารมณช์ อบหรือไม่ชอบสว่ นตัวมาเกย่ี วขอ้ ง
☺ พดู อยา่ งมมี ารยาทใชค้ าท่ีสภุ าพ
☺ เรยี งลาดับเรื่องทีจ่ ะพูดใหด้ ีไมเ่ กิดการสบั สน
☺ ไมพ่ ดู ใหเ้ กิดความขัดแยง้ กัน
☺ พูดใหต้ รงประเดน็
การวเิ คราะห์วิจารณเ์ รือ่ งทีฟ่ งั และดู
สงั คมปัจจุบนั ช่องทางการนาเสนอข้อมลู ใหด้ ูและฟงั จะมมี ากมาย ดังนั้นผู้เรยี นควรรจู้ กั เลือกทจี่ ะดูและ
ฟัง เม่ือได้รับรู้ข้อมูลแล้ว การรู้จักวิเคราะห์ วิจารณ์ เพื่อนาไปใช้ในทางสร้างสรรค์ เป็นส่ิงจาเป็นเพราะผลท่ี
ตามมาจากการดูและฟังจะเป็นผลบวกหรือลบแก่สังคม ก็ขึ้นอยู่กับการนาไปใช้นี่เอง นั่นคือผลดีจะเกิดแก่
สังคมก็เมอ่ื ผู้ดูและฟังนาผลท่ไี ด้นั้นไปใช้อย่างสรา้ งสรรค์ หรือในปัจจุบันจะมีสานวนที่ใช้กันอย่างแพร่หลายว่า
คิดบวกน่ันเอง
การวิเคราะห์ หมายถึงการแยกแยะประเภท ลักษณะ สาระสาคัญและการนาเสนอพร้อมท้ังเจตนา
ของผ้พู ดู หรือผู้เสนอ
การวินจิ หมายถงึ การพิจารณาเร่อื งอยา่ งไตรตรอง หาเหตผุ ลข้อดีขอ้ เสยี และคณุ คา่ ของสาร
การวจิ ารณ์ หมายถึง การพิจารณาอย่างมีหลักเกณฑ์ในเร่ืองท่ีฟังและดู ว่ามีอะไรน่าคิดน่าสนใจ
น่าตดิ ตาม นา่ ชมเชย น่าชนื่ ชมและมไี รบกพรอ่ งบ้าง
วิจารณญาณในการฟังและดู หมายถึงการรับสารให้เข้าใจตลอดเรื่องแล้วใช้ปัญญาคิดไตร่ตรอง โดย
อาศัยความรู้ ความคดิ เหตุผล และประสบการณ์เดมิ แล้วสามารถนาสาระต่าง ๆ ไปใช้ในการดาเนินชวี ิตได้อยา่ ง
เหมาะสม การวิจารณ์สารหรือเรื่องที่ได้ฟังและดู เม่ือได้วิเคราะห์และวินิจและใช้วิจารณญาณในการฟังและดู
เรื่องหรือสารท่ีได้รับแล้วก็นาผลมารายงานบอกกล่าวแสดงความคิดเห็นต่อสิ่งน้ัน อย่างมีเหตุผล
มหี ลักฐานประกอบ และเป็นสิง่ สรา้ งสรรค์ ข้ันตอนของการวเิ คราะห์วจิ ารณ์เรือ่ งทีฟ่ ังและดูมีดงั น้ี
๑. ฟงั และดใู หเ้ ข้าใจตลอดเร่อื ง
๒. วเิ คราะหเ์ รือ่ ง ว่าเป็นเร่อื งประเภทใด ลักษณะของเร่ืองและตัวละครเป็นอยา่ งไร มีกลวิธใี นการเสนอ
เรื่องอย่างไร
โรงเรยี นสนั ติราษฎร์วทิ ยาลยั สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ หน้า ๑๖
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทัศวา ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
๓. วินิจฉัย พิจารณาเรื่องที่ฟังเป็นข้อเท็จจริง ความคิดเห็น เจตนาของผู้เสนอเป็นอย่างไร มีเหตุผล
น่าเชื่อถือหรอื ไม่
๔. การประเมินค่าของเร่ือง ผ่านขั้นตอน ๑-๓ แล้ว ก็ประมาณว่าเร่ืองหรือสารนนั้ ดีหรือไม่ดี มอี ะไรท่ี
จะนาไปใช้ใหเ้ ปน็ ประโยชน์ได้
๕. การนาไปใช้ประโยชน์ เป็นสุดท้ายคือ นาคุณค่าของเรื่องท่ีฟังและดูไปใช้ได้เหมาะสมกับกาลเทศะ
และบุคคล
หลักการฟงั อย่างวิจารณญาณ การฟังอย่างวจิ ารณญาณมีหลกั ปฏิบตั ิดงั น้ี
ผูฟ้ งั ต้องพิจารณาว่า ฟังเร่ืองอะไรเปน็ การฟงั ประเภทบทความ บทสัมภาษณ์การเลา่ เร่ืองสรุปเหตุการณ์
ใครเป็นคนพดู คนสัมภาษณ์ ใครเปน็ คนเขยี นบทความ และหัวขอ้ น้นั มีคณุ คา่ แก่การฟงั หรอื ไม่
๑. พจิ ารณาผ้สู ง่ สารว่ามจี ุดมงุ่ หมาย และมคี วามจริงใจในการสง่ สารน้ันเพียงใด
๒. พิจารณาผสู้ ง่ สารวา่ มีความรู้ ประสบการณ์หรือความใกล้ชิดกบั เร่อื งราวในสารนั้นเพยี งใด
๓. พิจารณาผสู้ ่งสารว่าใช้กลวธิ ีในการส่งสารน้ันอย่างไร คอื วิธกี ารธรรมดาหรือยอกย้อนซ่อนปมอยา่ งไร
๔. พิจารณาเนือ้ หาของสารวา่ ส่วนใดเป็นข้อเท็จจริง สว่ นใดเปน็ ขอ้ คดิ เหน็
๕. พิจารณาสารว่าเป็นไปได้ และควรเช่อื เพียงใด
๖. ผ้ฟู ังควรประเมนิ วา่ สิง่ ทีฟ่ งั มปี ระโยชน์และมีคณุ คา่ มากนอ้ ยเพยี งไร
นอกจากน้ีผ้ฟู ัง-ดูจาเป็นจะต้องร้เู กี่ยวกับหลักการแยกขอ้ คิดเห็นและขอ้ เท็จจรงิ เน่อื งจากในการรบั ฟัง
สาร นอกจากจะจับใจความสาคัญของเร่ืองที่ฟงั แล้ว นกั เรยี นจะตอ้ งแยะแยะได้ว่า ใจความตอนใดเป็นข้อคิดเห็น
ส่วนตัวของผู้พูดซึ่งจะมีลักษณะเมื่อพิจารณาความถูกต้องได้ยาก และตอนใดเป็นข้อเท็จจริง ซ่ึงเป็นเรื่องที่
สามารถพิสูจนค์ วามถกู ตอ้ งได้ การแยกขอ้ เทจ็ จริงและขอ้ คิดเห็นมดี งั นี้
๑. การแยกข้อเท็จจริง เป็นข้อมูลท่ีสามารถพิสูจน์ได้ เห็นว่าเป็นจริงหรือเป็นเท็จ ได้จากตัวเลขเชิง
ปริมาณตา่ ง ๆ ท่ีมอี ย่ซู ่งึ ทาการตรวจสอบไดด้ ังนี้ เชน่ ประชาหนัก ๕๐ กโิ ลกรัม, โอภาสสงู กว่าเสกสรร
๒. ความคิดเหน็ เป็นเร่อื งของการคาดคะเนหรอื การทานายโดยอาศยั เหตผุ ลสว่ นตัวซึ่งควรจะเปิดโอกาส
ใหม้ กี ารโต้แยง้ หรอื สนบั สนุน เชน่ ของเก่าดกี ว่าของใหม่, มีเงนิ ดีกวา่ มเี กยี รติ, ประเทศไทยเป็นประเทศทีน่ า่ อยู่
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ทิ ยาลยั สงั กดั สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ หนา้ ๑๗
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกิด ๒) นายวิวัฒน์ ทัศวา ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
กจิ กรรมท่ี ๑๔ ฟงั บทเพลง...ละเลงความเหน็ คะแนนที่ได้
คาช้แี จง ให้นักเรียนเลือกฟังเพลงทีค่ นเองช่ืนชอบหรอื ประทับแล้วนามาเขยี น
แสดงความคดิ เหน็ ที่มตี ่อบทเพลง โดยใชภ้ าษาในการแสดงความคดิ เห็นทถี่ ูกตอ้ ง
๑. เพลงทนี่ กั เรียนช่ืนชอบคือเพลงใด และเปน็ ผลงานของใคร
๒. เนือ้ หาสาระของเพลงกล่าวถึงอะไร
๓. เพลงทีช่ ่ืนชอบใหข้ ้อคิดอย่างไร
๔. นกั เรียนมคี วามคดิ เห็นอยา่ งไรเกี่ยวกับเพลงทช่ี ่นื ชอบ
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ทิ ยาลัย สังกดั สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน ๖ ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ ๓ หน้า ๑๘
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรตั น์ แกว้ เกิด ๒) นายววิ ัฒน์ ทัศวา ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
กจิ กรรมที่ ๑๕ วิเคราะห์วิจารณ์...สือ่ สารความคิด คะแนนที่ได้
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นดภู าพยนตรส์ นั้ เรอ่ื ง “ลองดู We can try” และเขียนบันทึกผล
การวิเคราะหว์ ิจารณ์จากเรอื่ งท่ีฟังและดู
สแกนเพ่อื รบั ชม
ทมี่ า https://youtu.be/5evijBBLU2Q
ชือ่ เรอื่ งทชี่ ม
ประเภทส่อื
เน้ือหาของเร่อื งเก่ียวกับส่ิงใด
คา/ขอ้ ความสาคญั ในเรื่องคอื อะไร
เรื่องน้นี าเสนอขอ้ คดิ อะไร
การนาข้อคดิ ท่ไี ด้ไปปรับใช้ในชวี ิต
เรือ่ งทฟ่ี ังและดมู ีความดีเด่นหรือข้อดอ้ ยหรอื ไมอ่ ยา่ งไร
โรงเรียนสนั ติราษฎร์วิทยาลัย สังกัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ หนา้ ๑๙
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกดิ ๒) นายววิ ัฒน์ ทัศวา ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
การเขียนแผนผังความคดิ จากเรือ่ งทอ่ี ่าน
การเขียนแผนผังความคิด หรือแผนที่ความคิด (Mind Map) เป็นวิธีการในการสรุปความรู้เพ่ือ
เสรมิ สรา้ งทกั ษะในการวิเคราะห์ และการสงั เคราะหข์ ้อมูล อันเป็นพื้นฐานในการเรยี นรู้ จัดระเบียบความคิด จา
ไดท้ นนาน
แผนผังความคิด (Mind Map) คืออะไร
การเขียนแผนภาพความคดิ คือ การถ่ายทอดความคิด หรอื ข้อมลู ต่าง ๆ ทีม่ ีอยู่ในสมองลงกระดาษ
โดยการใช้ภาพ สี เส้น และการโยงใย แทนการจดย่อแบบเดิมที่เป็นบรรทัด ๆ เรียงจากบนลงล่าง ซึ่งใน
ขณะเดียวกันมันก็ช่วยเป็นส่ือนาข้อมูลจากภายนอก เช่น หนังสือ คาบรรยาย การประชุม ส่งเข้าสมองให้เก็บ
รักษาไว้ได้ดีกว่าเดิม ซ้ายงั ช่วยใหเ้ กิดความคิดสรา้ งสรรคไ์ ด้ง่ายเข้า เนอื่ งจะเห็นเป็นภาพรวม และเปิดโอกาสให้
สมองให้เช่ือมโยงต่อข้อมูลหรือความคิดต่าง ๆ เข้าหากันไดง้ ่ายกวา่ “ใช้แสดงการเช่ือมโยงข้อมูลเก่ียวกบั เรือ่ ง
ใดเร่ืองหน่ึงระหว่างความคิดหลัก ความคิด รอง และความคิดย่อยที่เกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน” ซึ่งลักษณะการ
เขียนผงั ความคิด เทคนคิ การคดิ คือ นาประเด็นใหญ่ ๆ มาเป็นหลัก แลว้ ต่อด้วยประเด็นรองในชัน้ ถัดไปหลักการ
สร้างแผนผงั ความคิด มขี ัน้ ตอนดังนี้
๑. เขยี น/วาดมโนทศั นห์ ลกั ตรงกึ่งกลางหนา้ กระดาษ
๒. เขียน/วาดมโนทศั นร์ องที่สัมพนั ธ์กับมโนทัศนห์ ลักไปรอบ ๆ
๓. เขียน/วาดมโนทัศนย์ ่อยทสี่ ัมพันธก์ บั มโนทัศนร์ องแตกออกไปเรื่อย ๆ
๔. ใชภ้ าพหรือสญั ลกั ษณ์สือ่ ความหมายเปน็ ตวั แทนความคิดให้มากท่สี ุด
๕. เขยี นคาสาคญั (Key word) บนเสน้ และเส้นต้องเชอ่ื มโยงกัน
๖. กรณีใช้สี ทัง้ มโนทัศนร์ องและย่อยควรเป็นสีเดยี วกนั
๗. คิดอยา่ งอสิ ระมากทีส่ ุดขณะทา
๘. เขียนคาหลัก หรือข้อความสาคัญของเรื่องไว้กลาง โยงไปยังประเด็นรองรอบ ๆ ตามแต่ว่าจะมีก่ี
ประเดน็
กฎการสรา้ งแผนผงั คดิ
๑. เร่มิ ดว้ ยภาพสีตรงก่งึ กลางหน้ากระดาษ
๒. ใชภ้ าพให้มากท่ีสุดใน Mind Map ของคุณ ตรงไหนท่ีใช้ภาพได้ให้ใช้ก่อนคา หรือรหัส เป็นการช่วย
การทางานของสมอง ดงึ ดดู สายตา และช่วยความจา
๓. ควรเขียนคาบรรจงตวั ใหญ่ ๆ จะชว่ ยใหเ้ ราสามารถประหยดั เวลาได้ เมือ่ ยอ้ นกลบั ไปอ่านอีกครั้ง
๔. เขยี นคาเหนอื เสน้ ใต้ แตล่ ะเสน้ ตอ้ งเชื่อมต่อกบั เส้นอน่ื ๆ เพ่ือให้ Mind Map มีโครงสรา้ ง
พ้ืนฐานรองรับ
๕. คาควรมลี กั ษณะเปน็ "หนว่ ย" เปิดทางให้ Mind Map คล่องตวั และยดื หยนุ่ ไดม้ ากข้ึน
๖. ใชส้ ี ท่วั Mind Map เพราะสชี ่วยยกระดับความคิด เพลินตา กระตุ้นสมองซกี ขวา
๗. เพื่อใหเ้ กิดความคดิ สร้างสรรคใ์ หม่ ควรปลอ่ ยให้สมองคิดมีอิสระมากทีส่ ุดเท่าทีจ่ ะเปน็ ไปได้
โรงเรียนสนั ติราษฎรว์ ิทยาลยั สงั กดั สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพ้นื ฐาน ๖ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ หนา้ ๒๐
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายววิ ัฒน์ ทัศวา ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
วธิ กี ารเขยี นแผนผังความคดิ โดยละเอยี ดอกี วธิ หี นง่ึ คือ
๑. เตรยี มกระดาษเปล่าท่ไี ม่มเี ส้นบรรทัดและวางกระดาษภาพแนวนอน
๒. วาดภาพสหี รอื เขียนคาหรอื ข้อความที่สอื่ หรือแสดงถงึ เรอื่ งจะทา Mind Map กลางหนา้ กระดาษ
โดยใช้สีอย่างน้อย 3 สี และต้องไม่ตกี รอบด้วยรูปทรงเรขาคณติ
๓. คดิ ถึงหวั เรอื่ งสาคัญทเ่ี ป็นส่วนประกอบของเรอื่ งทท่ี า Mind Map โดยใหเ้ ขยี นเปน็ คา ทม่ี ลี ักษณะ
เป็นหน่วย หรอื เปน็ คาสาคญั (Key Word) สั้น ๆ ท่ีมคี วามหมาย บนเส้น ซึง่ เสน้ แต่ละเสน้ จะตอ้ งแตกออกมา
จากศนู ยก์ ลางไม่ควรเกิน ๘ ก่ิง
๔. แตกความคิดของหัวเร่อื งสาคัญแต่ละเรอ่ื งในข้อ ๓ ออกเปน็ กิง่ ๆ หลายกง่ิ โดยเขียนคาหรือวลีบน
เสน้ ท่ีแตกออกไป ลักษณะของกิง่ ควรเอนไม่เกนิ ๖๐ องศา
๕. แตกความคิดรองลงไปทเ่ี ปน็ ส่วนประกอบของแต่ละกงิ่ ในขอ้ ๔ โดยเขียนคาหรอื วลีเส้นท่ีแตก
ออกไป ซ่ึงสามารถแตกความคิดออกไปเรือ่ ยๆ
๖. การเขียนคา ควรเขียนด้วยคาท่ีเป็นคาสาคัญ (Key Word) หรอื คาหลัก หรอื เปน็ วลที ่ีมคี วามหมาย
ชัดเจน
๗. คา วลี สญั ลกั ษณ์ หรือรปู ภาพใดท่ีตอ้ งการเนน้ อาจใชว้ ธิ กี ารทาใหเ้ ดน่ เช่น การลอ้ มกรอบ หรือใส่
กล่อง เปน็ ต้น
๘. ตกแต่ง Mind Map ทเี่ ขยี นด้วยความสนุกสนานทง้ั ภาพและแนวคิดที่เชือ่ มโยงต่อกัน
การนาไปใช้
๑. ใช้ระดมพลังสมอง
๒. ใชน้ าเสนอขอ้ มลู
๓. ใช้จัดระบบความคิดและช่วยความจา
๔. ใช้วเิ คราะห์เนือ้ หาหรืองานต่าง ๆ
๕. ใชส้ รปุ หรือสรา้ งองคค์ วามรู้
ตวั อย่างการเขยี นแผนผงั ความคดิ ที่มา พทุ ธพงศ์ สุขเพิม่ (ออนไลน)์
(Mind map) https://www.gotoknow.org/posts/189992
ท่มี า https://www.youtube.com/watch?v=oudJy9VAOmw
โรงเรยี นสันติราษฎร์วทิ ยาลัย สงั กดั สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน ๖ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ หนา้ ๒๑
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกิด ๒) นายวิวฒั น์ ทศั วา ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
ัตวอย่างแผนผังความ ิคด (Mind map)
โรงเรยี นสันติราษฎร์วิทยาลัย สงั กัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพ้ืนฐาน ๖ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ หน้า ๒๒
ผูส้ อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แกว้ เกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทัศวา ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
กิจกรรมที่ ๑๖ แผนผังความคดิ ...พชิ ิตความเข้าใจ คะแนนท่ีได้
คาชี้แจง ให้นักเรียนเขยี นแผนผงั ความคดิ จากบทความท่ีอ่านตอ่ ไปนี้
“บุหรี่” มหนั ตภัยร้ายใกล้ตัวคุณ
การสบู บุหรีน่ น้ั เปน็ อนั ตรายตอ่ คนสบู เอง แลว้ ยงั เปน็ ทีน่ ่ารงั เกียจของคนรอบข้างอกี ดว้ ย ไม่วา่ จะเป็นคนในครอบครัว เพ่ือน หรือ
คนทั่วไป เพราะควันบุหร่ีนั้นส่งกล่ินเหม็นรบกวน อีกทั้งยังเป็นอนั ตรายกับผู้ท่ีได้รับควันนั้นอกี ด้วย ซึ่งปัจจุบันมีคนติดบุหรี่กว่า
10.5 ลา้ นคนเลยทเี ดียว
ในบุหรี่ 1 มวน ประกอบด้วยใบยาสบู กระดาษที่ใช้มวน และสารเคมีหลายร้อยชนิด เม่อื เกิดการเผาไหม้ จะทาให้เกิด
สารเคมีมากกว่า 4,000 ชนิด เป็นสารพิษ 250 ชนิด สารหลายร้อยชนิดมีผลต่อการทางานของอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย และมี
สารก่อมะเร็งมากกว่า 50 ชนิด
สารพิษที่สาคัญในบหุ ร่ีได้แก่ นิโคติน เปน็ สารทที่ าให้เกดิ การเสพติดและเกิดโรคหัวใจ ซึ่งจากการวิจยั พบว่า นโิ คตินมี
อานาจการเสพติดเทียบเท่ากับเฮโรอีน และเลิกยากเท่ากับการเลิกเฮโรอีน สารทาร์ มีสารก่อมะเร็ง และสุดท้ายคือ
คารบ์ อนมอนอกไซด์ ซง่ึ จะขัดขวางการลาเลยี งออกซิเจนของเม็ดเลือดแดง ทาให้หวั ใจเตน้ เร็วและทางานมากขึ้น ทาใหห้ วั ใจวาย
ได้
จะเห็นได้ว่าในบุหร่ีนั้นมีสารท่ีเป็นอนั ตรายต่อร่างกายมากมาย ยิ่งเราสบู บุหรี่มากขึ้นเท่าไหร่ ก็ยงิ่ สง่ ผลเสียต่อร่างกาย
มากข้ึนเท่านั้น กล่าวคือ ทาให้ผมร่วง สมองฝ่อ ต้อกระจก ฟันผุ ผวิ หนังอักเสบ แผลในกระเพาะอาหาร เสือ่ มสมรรถภาพทาง
เพศ คนที่สูบบุหรี่เป็นเวลานานจะมีความเสี่ยงที่จะเป็นโรคถุงลมโป่งพอง เพราะปอดจะค่อย ๆ เสื่อมสมรรถภาพจากการได้รับ
ควันบหุ รี่ สารไนโตรเจนไดออกไซดใ์ นควันบุหรี่จะไปทาลายเนอ้ื เยือ่ ในปอดและถงุ ลมให้ฉีกขาดทีละนอ้ ยและรวมตัวกนั กลายเป็น
ถงุ ลมทมี่ ขี นาดใหญจ่ นเกิดเปน็ โรคถุงลมโปง่ พอง
การสบู บุหร่ียงั เปน็ สาเหตุของโรคหลอดเลือดหัวใจ โดยส่วนใหญ่เป็นโรคหลอดเลือดหัวใจตีบ เพราะการสูบบุหรท่ี าให้
เกิดการหดตัวของหลอดเลือด และเกิดก้อนเลือดในหลอดเลอื ดหัวใจ ทาให้เกิดภาวะหลอดเลือดหวั ใจตีบตัน ทาให้เกิดอาการจุก
เสียด เจ็บหน้าอก จนถึงข้ันทาให้หัวใจวายหรือเสียชีวิตเฉียบพลันได้ และโรคท่ีเกิดจากการสูบบุหร่ีที่พบมากอีกโรคหนึ่งคือ
โรคมะเร็งปอด ซึ่งเป็นโรคร้ายที่มีสถิติให้คนไทยเสียชีวิตมากเป็นอันดับต้น ๆ นอกจากน้ีผู้ท่ีอยู่ใกล้ชิดกับคนที่สูบบุหร่ีเป็น
เวลานาน ก็มีความเสยี่ งทีจ่ ะเปน็ โรคตา่ ง ๆ ทเี่ ก่ยี วกับบุหรด่ี ้วยเชน่ กนั
อยากเลิกบุหรี่ทาอย่างไร
• ประกาศวันที่คุณจะเลิกสูบบุหร่ี บอกคนใกล้ชิดอย่างคู่ชีวิต ลูกหลาน เพ่ือนสนิท เพื่อให้เป็นสักขีพยานและกาลังใจสาหรับ
ความต้ังใจและความอดทนตอ่ ความทกุ ขท์ รมานทจี่ ะเกดิ ข้ึนในช่วงแรกของการเลกิ บหุ ร่ี
• ขจดั อุปกรณท์ เ่ี กี่ยวกับการสบู บุหรไ่ี มว่ า่ จะเปน็ ทเี่ ข่ียบหุ ร่ี ไฟแช็ก ไมข้ ดี ไฟ และบหุ รีใ่ ห้หมดไป
• ทาความสะอาดหรือจัดบริเวณท่ีเคยน่ังสบู บหุ ร่ีเปน็ ประจาใหม่ ไม่ว่าจะเป็นในบ้าน หน้าบ้าน หอ้ งนา้ ในรถ เพื่อไม่ให้หลงเหลือ
บรรยากาศของการสบู บหุ ร่อี ีกต่อไป
• หากจิ กรรมท่ชี น่ื ชอบทา เช่น ดหู นงั ฟังเพลง ไปเที่ยวกับครอบครัว ทาอาหารกินกันเอง เพือ่ สรา้ งความสัมพันธ์ท่ีดีในครอบครัว
ให้แนน่ แฟน้ มากย่งิ ข้ึน และเปน็ การใช้เวลาวา่ งให้เปน็ ประโยชน์
หากลองเลิกบุหรี่ด้วยตัวเองแล้วไม่สามารถทาได้ สามารถขอคาปรึกษาและคาแนะนาได้ที่ โทร. 1600 ซ่ึงการเลิกบุหร่ีน้ันไม่
ยากจนเกินไป หากมีความมุ่งม่ันและตั้งใจจรงิ คณุ ก็สามารถเลิกไดแ้ ละทาใหม้ สี ุขภาพท่ดี ขี ึน้ ในเรว็ วัน
-----------------------------------------------------------------
แหลง่ ขอ้ มูล : เอกสารเรอ่ื ง “โรคจากการสูบบหุ ร่ี” และ “คูม่ อื เลิกบุหร่ี” ของมูลนธิ ิรณรงคเ์ พอื่ การไมส่ บู บุหรี่
ศ.นพ.ประกิต วาทสี าธกกิจ เลขาธกิ ารมลู นิธริ ณรงค์เพอ่ื การไมส่ บู บหุ รี่ และอดีตคณบดคี ณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธบิ ดี
ผศ.นพ.ประสิทธิ์ กส่ี ขุ พันธ์ ภาควชิ าเวชศาสตรค์ รอบครัว คณะแพทยศาสตร์โรงพยาบาลรามาธิบดี
โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลยั สงั กัดสานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาข้ันพื้นฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน ๖ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ หนา้ ๒๓
ผูส้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกดิ ๒) นายววิ ฒั น์ ทศั วา ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
การเขยี นย่อความ
การเขียนย่อความ หมายถึงการเก็บใจความสาคัญของเรื่องใดเรื่องหนึ่งจากการอ่าน แล้วนามาเขียน
เรยี บเรยี งใหมด่ ว้ ยสานวนของตนเอง
วิธีการเขียนย่อความ ทาได้ดังนี้
๑. อ่านเรื่องท่ีจะย่อความให้จบอย่างน้อย ๒ ครั้ง เพื่อให้ทราบว่าเร่ืองนั้นกล่าวถึงใคร ทาอะไร ที่ไหน
อย่างไร เมือ่ ไร และผลเปน็ อยา่ งไร
๒. บนั ทึกใจความสาคัญของเร่อื งท่ีอ่าน เเล้วนามาเขยี นเรียบเรียงใหม่ดว้ ยสานวนของตนเอง
๓. อ่านทบทวนใจความสาคัญที่เขียนเรียบเรียงแล้ว จากน้ันแก้ไขให้สมบูรณ์ โดยตัดข้อความท่ซี ้าซ้อน
กันออก เพ่ือใหเ้ น้ือหากระชบั และเชือ่ มข้อความใหส้ ัมพนั ธก์ ันตงั้ เเตต่ ้นจนจบ
๔. เขียนย่อความให้สมบูรณ์ โดยเขียนแบบขึ้นต้นของย่อความตามรูปแบบของประเภทข้อความน้ันๆ
เชน่ การยอ่ นทิ าน การยอ่ บทความ
๕. การเขียนย่อความไมน่ ิยมใช้สรรพยามบุรุษที่ ๑ และสรรพนามบุรุษที่ ๒ คือ ฉัน คุณ ท่าน แต่จะใช้
สรรพนามบรุ ษุ ที่ ๓ เช่น เขา และไม่เขยี นโดยใช้อักษรย่อ นอกจากน้ี
หลักในการย่อความ
๑. เรยี บเรียงใหมโ่ ดยใช้สานวนภาษาของผู้ย่อเอง
๒. คาที่ยากและยาวใหเ้ ปล่ยี นใชค้ าธรรมดาท่ีเขา้ ใจงา่ ย
๓. ถ้าเป็นบทสนทนาตอ้ งเปล่ียนเปน็ แบบเร่ืองเล่าและไม่ควรมเี ครื่องหมายคาพูดหรือเครอ่ื งหมายใด ๆ
๔. ถ้าเป็นร้อยกรองตอ้ งเปล่ียนเปน็ ภาษาธรรมดา
๕. ย่อจดหมายต้องใชข้ ้อความบอกเลา่ โดยใชส้ รรพนามบุรุษที่ ๓ ทั้งหมด
๖. ถา้ มคี าราชาศพั ท์ และใจความสาคญั ตอ้ งใช้ราชาศัพท์ ให้คงราชาศัพท์น้ันไว้
๗. เนื้อความที่ย่อแล้วไม่จาเป็นต้องเรียงตามลาดับของเรื่องเดิม แต่ให้คานึงถึงการที่จะทาให้ผู้อ่าน
เขา้ ใจง่ายทส่ี ดุ และไดใ้ จความดีที่สดุ
๘. ไมม่ ีช่อื เร่ืองต้องต้ังชือ่ เรอ่ื งดว้ ย โดยชื่อเร่อื งตอ้ งมีลกั ษณะ ดังน้ี
๘.๑ ใช้ความสาคัญเปน็ ชื่อเรอ่ื ง
๘.๒ ชอื่ เรื่องต้องกะทดั รดั และคลุมใจความสาคญั ทงั้ หมด
๙. เขียนใหถ้ กู ต้องตามแบบของการย่อความ ดงั น้ี
๙.๑ ใช้แบบข้ึนต้นคานาตามประเภทของเรือ่ งทจี่ ะยอ่ เขียนนาเปน็ ย่อหนา้ แรก
๙.๒ เขียนข้อความท่ีย่อแล้วในย่อหน้าต่อไป ส่วนใหญ่ใจความท่ีย่อแล้วจะเหลือเพียงย่อหน้า
เดียว เว้นแต่ข้อความเดมิ เปน็ เรอ่ื งต่างกัน แยกกนั เป็นตอน ๆ อยู่แลว้
ประโยชนข์ องการย่อความ
๑. มีประโยชน์ในการบันทึก เช่นบันทึกการประชุมกลุ่มต่าง ๆ ทาให้ผู้อื่นได้ทราบสาระสาคัญในการ
ประชมุ คร้งั นนั้ ๆ
โรงเรียนสันติราษฎร์วทิ ยาลัย สังกดั สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน ๖ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ หนา้ ๒๔
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรตั น์ แกว้ เกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทศั วา ภาคเรียนที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
๒. มีประโยชน์ในการช่วยเตือนความจา เช่น จดย่อคาอธิบายของครู จดย่อความรู้จากการฟังและการ
อ่าน ทาให้ไม่ต้องอา่ นทวนซ้าท้งั เล่ม
๓. มปี ระโยชนใ์ นการนาไปใช้ เชน่ การตอบข้อสอบแบบอตั นัย การเลา่ เรือ่ งย่อใหผ้ ูอ้ นื่ ฟงั
รปู แบบของการเขียนย่อความ
๑. เรือ่ งที่ย่อเป็นความเรียงร้อยแก้ว เช่น นิยาย นิทาน ตานาน ประวัติ ฯลฯ ต้องบอกประเภท ช่ือ
เรื่อง ช่ือผูแ้ ตง่ ทมี่ าของเรอื่ งเทา่ ท่จี ะรไู้ ด้ ถา้ เดมิ ไมไ่ ดต้ ง้ั ชอื่ เร่อื งไว้ตอ้ งตัง้ ชอ่ื เร่อื งดว้ ย เชน่
ย่อนิทานเรอื่ ง จากหนงั สือ
ผแู้ ต่ง ความว่า
๒. เร่ืองที่ย่อเป็นพระราชดารัส พระบรมราโชวาท โอวาท สุนทรพจน์ ปาฐกถา คาปราศรัย ต้อง
บอกประเภท เจา้ ของเรือ่ ง ผูฟ้ งั โอกาสท่ีกลา่ ว สถานที่กล่าว วันเวลาทีก่ ล่าวเทา่ ทร่ี ู้
ยอ่ พระบรมราโชวาทของ แก่
เร่ือง ในโอกาส
ณ วันท่ี ความว่า
๓. เร่ือ.ง..ท...ี่ย..่อ...เ.ป...็น...จ...ด..ห...ม...า..ย....ห...น..ัง..ส...ือ...ร..า..ช..ก...า..ร....ส..า..ส...์น....พ...ร...ะ..ร..า..ช...ส..า..ส...์น....ต...้อ..ง..บ...อ..ก...ป...ร..ะ..เ.ภ...ท....เ.จ...้า..ข..อ...ง..เร่ือง
เลขทข่ี องหนังสอื ผู้รบั ช่ือเรื่อง วนั เดือนปที เ่ี ขียนเทา่ ท่ีรู้
ยอ่ จดหมายของ ถึง
เร่ือง ลงวนั ที่ ความว่า
๔. เร่อื งทจ่ี ะยอ่ เปน็ คาประพนั ธ์ ต้องบอก ช่อื เรื่อง เจา้ ของเรือ่ ง ทม่ี าของเรือ่ ง แล้วย่อใจความเปน็
ร้อยแก้ว
ยอ่ คาประพันธ์เร่ือง ของ
จาก ความว่า
ศึกษาวดี ิทศั น์หลกั การเขยี น
ย่อความเพม่ิ เติม
ท่มี า https://www.youtube.com/watch?v=Xw8h_ISX5U4
โรงเรียนสันติราษฎรว์ ิทยาลัย สงั กัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพ้ืนฐาน ๖ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๓ หน้า ๒๕
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทัศวา ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
กจิ กรรมท่ี ๑๗ ทบทวน...ชวนคิด คะแนนท่ีได้
คาชแี้ จง จงเลอื กคาตอบท่ีถูกที่สุดเพียงคาตอบเดยี ว แลว้ กากบาททับขอ้ ท่ถี ูกตอ้ งที่สดุ
๑. ข้อความใดบอกลกั ษณะของการย่อความแบบสรุปความ
ก. การกล่าวเฉพาะความคิดสาคญั
ข. การกล่าวอย่างกระชบั เฉพาะใจความสาคัญ
ค. การกล่าวถงึ ขอ้ เท็จจริงและข้อคิดเห็นท่ีน่าสนใจ
ง. การกลา่ วถึงเนอื้ เรือ่ งอย่างสนั้ ๆ โดยมีตวั ละครและความคิดเหน็ สาคญั ของเรื่อง
๒. ขอ้ ความใดกลา่ วไม่ถูกต้อง
ก. ใจความทย่ี ่อแลว้ จะเปน็ ก่ียอ่ หนา้ ก็ได้
ข. ถา้ เป็นร้อยกรองให้เปลยี่ นเปน็ ภาษาธรรมดา
ค. ถา้ ไม่มีชอื่ เรอื่ งให้ใชใ้ จความสาคญั ต้ังช่อื เร่อื ง
ง. ถ้าเป็นบทสนทนาตอ้ งเปล่ยี นเปน็ แบบเล่าเรื่อง
๓. ข้อความใดอธบิ ายความหมายของยอ่ ความได้ถกู ต้อง
ก. เกบ็ ใจความจากพลความ ข. หาขอ้ เท็จจรงิ จากยอ่ หนา้ หน่ึงๆ
ค. แยกพลความออกจากเน้ือเร่อื ง ง. เกบ็ เนอื้ เร่ืองเฉพาะท่ีเป็นใจความ
๔. “ถา้ เอาออกจากบทเขยี น หรือบทพูดก็จะเปลี่ยนแปลงสารท้ังหมด และข้อความท่ีเหลอื อยู่อาจเข้ากันไมไ่ ด้”
ขอ้ ความนี้กลา่ วถงึ ลกั ษณะของสง่ิ ใด
ก. ใจความ ข. พลความ
ค. ข้อคิดเห็น ง. ขอ้ ความแสดงอารมณ์
๕. ย่อความควรมีกี่ยอ่ หนา้
ก. ยอ่ หนา้ เดยี ว
ข. เท่าจานวนย่อหนา้ ของเน้อื เรอ่ื งเดมิ
ค. ๓ ย่อหนา้ คือ คานา เนื้อเรื่อง สรปุ
ง. ๒ ยอ่ หน้า คอื ยอ่ หน้าคานา และย่อหน้าเนอ้ื ความ
๖. ข้อความใดไมไ่ ดก้ ลา่ วถึงวธิ ีการยอ่ ความ
ก. เขยี นคานาตามแบบ ข. คงราชาศพั ทไ์ ว้
ค. คงสรรพนามเดมิ ไว้ ง. ใช้สานวนภาษาของผยู้ อ่
๗. การย่อความนักเรียนควรปฏิบัตติ ามข้อความใด
ก. ตดั คาราชาศัพทท์ งิ้ ไป ข. เปลีย่ นสานวนเปน็ ของผ้ยู อ่
ค. ย่อหนา้ ทุกครง้ั ท่ขี ึ้นตอนใหม่ ง. เปล่ียนคาราชาศพั ทเ์ ปน็ คาสามญั
โรงเรยี นสันติราษฎรว์ ิทยาลัย สังกัดสานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพื้นฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ หน้า ๒๖
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกิด ๒) นายววิ ัฒน์ ทศั วา ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
๘. การเขียนยอ่ ความควรใชว้ ิธเี ขยี นอย่างไรจงึ จะดีทีส่ ดุ
ก. อ่านวเิ คราะห์ไปพรอ้ มกบั เขียนยอ่ ไป
ข. ตคี วามแต่ละยอ่ หนา้ แล้วนามาเขียนเรยี งลาดับด้วยสานวนของตนเอง
ค. อา่ นจับใจความสาคัญแล้วจงึ เรียบเรยี งเปน็ ขอ้ ความดว้ ยสานวนตนเอง
ง. ขดี เสน้ ใตข้ ้อความท่เี ป็นใจความสาคัญแลว้ นามาเรียบเรียงเขยี นใหต้ อ่ เนือ่ งกนั
๙. ข้อความใดไมใ่ ชป่ ระโยชน์ของการยอ่ ความ
ก. การเขยี นคาตอบข้อสอบ ข. การตีความบทรอ้ ยกรอง
ค. การบนั ทกึ รายงานการประชุม ง. การยอ่ ความร้จู ากหนงั สือเรียน
๑๐. คาประพนั ธน์ ี้มใี จความสาคญั เกยี่ วกับการพดู อย่างไร
“อันพดู น้ันไมย่ ากปานใด เพอ่ื นเอย
ใครที่มลี ้ินอาจ พดู ได้
สาคัญแต่ท่ีใน คาพูด นนั่ เอง
อาจจะทาให้ชอบ หรือชงั ”
ก. ความรสู้ ึกของผู้พูด
ข. ความยากง่ายในการพูด
ค. เจตนาท่ผี ้พู ูดตอ้ งการส่ือ
ง. ความสาคญั ของถอ้ ยคาที่พูด
โรงเรยี นสนั ติราษฎร์วทิ ยาลยั สังกัดสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพื้นฐาน ๖ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ หนา้ ๒๗
ผ้สู อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวฒั น์ ทัศวา ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
กจิ กรรมที่ ๑๘ ยอ่ ความ...ตามเน้อื เรือ่ ง คะแนนท่ไี ด้
คาชี้แจง ให้นักเรียนเขยี นยอ่ ความเรื่องพระบรมราโชวาท ดเู น้อื หาพระบรมราโชวาท
ในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว ทน่ี ่ี
ให้ถูกต้องตามหลกั การเขียนย่อความ
โรงเรยี นสนั ติราษฎร์วทิ ยาลยั สังกัดสานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ หนา้ ๒๘
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทัศวา ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
พระบรมราโชวาท
ผู้ประพันธ์ พระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกลา้ เจ้าอย่หู วั
ที่มาของเรอ่ื ง เปน็ พระราชนพิ นธ์ที่พระราชทานแกพ่ ระเจ้าลกู ยาเธอ ๔ พระองค์เมื่อเสดจ็ ไปทรง
ศึกษาวิชาการ ณ ต่างประเทศ เมื่อ พ.ศ. ๒๔๒๘ คอื
๑. กรมพระจนั ทบรุ ีนฤนาท ๒. กรมหลวงราชบรุ ีดเิ รกฤทธ์ิ
(พระองค์เจ้ากติ ยิ ากรวรลกั ษณ์) (พระองค์เจา้ รพีพัฒนศักด)ิ์
๓. กรมหลวงปราจิณกติ บิ ดี ๔. กรมหลวงนครไชยศรีสรุ เดช
(พระองคเ์ จา้ ประวิตรวฒั โนดม) (พระองค์เจา้ จิรประวัติวรเดช)
พระราชประวัตผิ ู้ทรงพระราชนิพนธ์
พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว เป็นพระโอรสในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว
และสมเดจ็ พระเทพศิรินทราบรมราชนิ ี ทรงพระราชสมภพเมอื่ ๒๐ กันยายน ๒๓๙๖ พระนามเดิม คือ เจ้าฟ้า
จุฬาลงกรณ์ ต่อมาทรงได้รบั การสถาปนาให้ดารงพระยศกรมหม่ืนพฆิ เนศวรสุรสังกาศ และกรมขุนพินิตประชา
นาถ ตามลาดบั พระองค์เสด็จเถลิงถวัลย์ราชสมบัติ เม่ือ ๑ ตุลาคม ๒๔๑๑ ทรงดารงสิริราชสมบตั ิเป็นเวลา
๔๒ ปี เสด็จสวรรคตเม่อื ๒๓ ตุลาคม ๒๔๕๓ ในรัชสมัยของพระองค์ประเทศไทยมีความเจริญกา้ วหน้าเป็นอัน
มาก ทรงใส่พระทัยในทุกข์สุขของราษฎร ประชาชนจึงถวายพระราชสมัญญาว่า สมเด็จพระปิยมหาราช
หมายถงึ มหาราชผู้เปน็ ท่รี ักของปวงชน บทพระราชนพิ นธ์ของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า มีท้ังร้อยแก้ว
และรอ้ ยกรอง เชน่ ไกลบ้าน เงาะป่า โคลงสภุ าษติ ลิลติ นทิ ราชาคริต พระราชพธิ ีสิบสองเดือน พระราชวิจารณ์
เรอื่ งจดหมายเหตุความทรงจาของกรมหลวงนรินทรเทวี เปน็ ต้น
พระราชประวัติพระบาทสมเดจ็
พระจลุ จอมเกล้าเจ้าอยูห่ วั
ทีม่ า https://www.youtube.com/watch?time_continue=11&v=TSRUSkIR9Ps
โรงเรียนสนั ติราษฎรว์ ทิ ยาลัย สงั กัดสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ หน้า ๒๙
ผ้สู อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายววิ ฒั น์ ทศั วา ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
ลักษณะคาประพันธ์ ร้อยแก้ว
เน้อื หาของเรอื่ ง เป็นคาแนะนาส่งั สอนให้พระราชโอรสประพฤตปิ ฏบิ ตั ิตามพระบรมราโชวาท ดังนี้
๑. การไปเรียนในครั้งนี้ให้ต้ังใจไปเพ่ือศึกษาวิชาความรู้อย่างเดียว ไม่ควรไปเปิดเผยหรืเผยแพร่
เกียรติยศช่ือเสียง ไม่ควรประกาศตนว่าเป็นเจ้า เพราะการไว้ยศนน้ั ทาให้วางตนลาบาก จะตอ้ งรักษายศศักด์ิ จึง
ควรประพฤติตนเย่ยี งสามญั ชนทั่วไป
๒. เงินทใี่ ช้สอยในการศึกษาเล่าเรียน เป็นเงินพระคลังข้างท่ี ทั้งน้ีเพราะว่าพระองคม์ ีพระราชโอรสมาก
จงึ ทรงเห็นว่าการใช้เงินแผ่นดินในการสง่ พระราชโอรสไปศกึ ษาเล่าเรียนจึงทาให้พน้ จากคาครหาท้ังปวงได้
๓. ขอใหต้ ระหนักว่า ถึงจะเกิดมาเป็นลกู ของเจ้าฟา้ เจ้าแผน่ ดนิ กม็ ิใชว่ ่าจะฝักใฝแ่ ต่ความสบายอย่าง จึง
ขอใหม้ ีความอุตสาหะใฝใ่ จศกึ ษาเลา่ เรียน
๔. อย่าคิดว่าตนเป็นลูกพระเจ้าแผ่นดิน มีอานาจยิ่งใหญ่ จะมาทาเกะกะระรานไม่เกรงกลัวผู้ใดไม่ได้
พระองค์ทรงปรารถนาให้พระราชโอรสมีความอ่อนน้อม ว่านอนสอนง่าย ให้ประพฤติให้ดีอยเู่ สมอ ถ้าทาผิดจะ
ถกู ลงโทษทนั ที
๕. เงนิ ทองที่ใช้สอย ขอใหจ้ งประหยดั เขม็ดแขม่ อยา่ ทาใจโตใช้จ่ายเงินสุร่ยุ สุรา่ ย ถ้าใครเป็นหนี้กลับมา
พระองคจ์ ะไมย่ อมใช้ให้ หากจะใชใ้ หก้ จ็ ะต้องได้รบั การลงโทษเป็นประกันมนั่ ใจกอ่ นวา่ จะไมก่ ลบั ไปทาอีก
๖. วิชาที่ออกไปศกึ ษาเล่าเรียน ตอ้ งเรียนภาษาให้ไดส้ องในสาม จากภาษาองั กฤษ ฝรั่งเศสและเยอรมัน
ทสี่ าคัญต้องไมล่ มื ภาษาไทย
๗. การเลา่ เรียนท้ังปวงของพระราชโอรส พระองค์ได้ทรงมอบธุระสิทธ์ิขาดให้แก่ กรมหม่ืนเทวะวงษ์โร
ปการ และมรี าชทูตเป็นธรุ ะดแู ลทกุ สงิ่ ทุกอยา่ ง ถา้ มีปญั หาหรือตอ้ งการปรกึ ษาอนั ใดใหส้ อบถามได้
แนวทางในการพจิ ารณาวรรณกรรม
เนือ้ เรือ่ ง
พระบรมราโชวาทนี้สะท้อนว่าพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัวทรงเล็งเห็นคุณค่าของ
การศกึ ษา จงึ สง่ พระราชโอรสไปศกึ ษาท่ีต่างประเทศ เพือ่ จะได้นาความรู้กลับมาพัฒนาประเทศ โดยพระองคไ์ ด้
พระราชทานพระบรมราโชวาทแดพ่ ระเจา้ ลูกยาเธอทจ่ี ะเสดจ็ ไปศึกษาตา่ งประเทศในหลักปฏบิ ัตอิ นั สมควร
๑. คณุ ค่าด้านวรรณศิลป์
ใช้คาว่า “จง...” ในประโยคท่ีเป็นคาเตือน ให้ความรู้สึกเหมือนพ่อแม่ท่ีตามไปตักเตือนลูก
เชน่
“...จงนึกไว้ให้เสมอว่าเงินทองท่ีแลเห็นมาก ๆ ไม่ได้เป็นของหามาได้โดยง่ายเหมือน
เวลาทจ่ี า่ ยไปง่ายนั้นเลย...”
ใช้ภาษาสัง่ สอนท่คี มคายกินใจ โดยการใช้โวหารเปรียบเทียบที่รนุ แรง เช่น
“...ถ้าจะถือว่าเกิดมาเป็นเจ้านายแล้วน่ิง ๆ อยู่จนตลอดชีวิตก็เป็นสบายดังน้ัน จะไม่
ผดิ อันใดกับสัตว์ดิรจั ฉานอย่างเลวนัก สัตว์ดริ ัจฉานมนั เกิดมากิน ๆ นอน ๆ แลว้ ก็ตาย แต่สตั ว์บางอย่างยงั มีหนัง
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ิทยาลัย สงั กัดสานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพ้ืนฐาน ๖ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ หนา้ ๓๐
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกดิ ๒) นายววิ ฒั น์ ทัศวา ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
มีเขามีกระดูกเป็นประโยชน์ได้บา้ ง แต่ถ้าคนประพฤติอย่างสัตว์ดิรัจฉานแล้ว จะไม่มีประโยชน์อันใดย่ิงกว่าสัตว์
ดริ จั ฉานบางพวกไปอกี ...”
ใช้เทศนาโวหารด้วยสานวนภาษางา่ ย ๆ ตรงไปตรงมา เชน่ ขอจดหมายคาส่ังตามความ
ประสงค์ให้แก่ลูก บรรดาซึ่งจะให้ออกไปเรยี นหนงั สอื ในประเทศยโุ รป จง ประพฤตติ ามโอวาททจ่ี ะกล่าวต่อไปนี้
“...การซ่ึงจะให้ออกไปเรียนหนังสือคร้ังน้ี มีความประสงค์มุ่งหมายแต่จะให้ได้วิชา
ความร้อู ยา่ งเดียว ไมม่ ่นั หมายจะใหเ้ ปน็ เกียรติยศช่อื เสยี ง...”
ทรงโน้มนา้ วใจโดยทรงชี้ใหเ้ ห็นท้ังข้อดีและขอ้ เสยี เปรยี บเทยี บกัน เช่น
“ถา้ เป็นเจ้านายแลว้ ตอ้ งรกั ษายศศักด์ิในกิจการท้ังปวงที่จะทาทุกอย่าง เปน็ เคร่ืองล่อ
ตาล่อหูคนทัง้ ปวงท่ีจะพอใจดพู อใจฟัง จะทาอนั ใดก็แพลกว่าคนสามัญ เพราะเขาถือวา่ มั่งมี เป็นการเปลอื งทรัพย์
ในท่ีไม่ควรจะเปลือง เพราะเหตุว่าถึงจะเป็นเจ้าก็ดีเป็นไพร่ก็ดี เม่ืออยู่ในประเทศมิใช่บ้านเมืองของตัวก็ไม่มี
อานาจท่ีจะทาฤทธ์ิเดชอันใดไปผิดกับคนสามัญได้ จะมีประโยชน์อยู่นิดหน่ึงแต่เพียงเข้าท่ีประชุมสูงๆได้ แต่ถ้า
เปน็ ลูกผมู้ ตี ระกูลก็จะเข้าที่ประชมุ สูงๆได้เทา่ กันกบั เป็นเจา้ น่ันเอง”
การเปรียบเทียบความประพฤติของคนที่อยู่น่ิง ๆ โดยไม่ทาการส่ิงใด เพื่อกระตุ้นเตอื นให้
ผู้ฟงั เกิดแรงบนั ดาลใจ มีมานะที่จะหมั่นศกึ ษาหาความรู้ เช่น
“ถ้าจะถือว้าเกิดมาเป็นเจา้ นายแล้วนิ่ง ๆ อยจู่ นตลอดชวี ิตกส็ บายดังนั้นจะไม่ผิดอนั ใด
กบั สัตวด์ ริ ัจฉานอยา่ งเลวนัก”
การใช้ภาพพจน์ เปรียบเทียบใหเ้ กิดจินตภาพ เชน่
“ชีวิตสังขารของมนุษย์ไม่ยั่งยืนยืดยาวเหมือนเหลก็ เหมือนศลิ า ถงึ โดยว่าจะมีพ่ออยใู่ น
ขณะหนึ่ง ก็คงจะมีเวลาท่ีไม่มีได้ขณะหน่ึงเป็นแน่แท้ ถ้าประพฤติความชั่วเสียแต่ในเวลามีพ่ออยู่แล้ว
ความช่ัวน้ันควรปรากฏเป็นโทษติดตวั เหมอื นเงาตามหลังอยไู่ ม่ขาด”
๒. คุณคา่ ดา้ นสงั คม
สะท้อนให้เห็นว่าสมัยแต่เดิมนั้นบุตรของท่านผู้มีบรรดาศักด์ิทั้งหลายจะหาช่องทางรับ
ราชการยากเพราะเป็นผู้มีวาสนาก็จะต้องแต่งต้ังให้รับตาแหน่งใหญ่โตสมฐานะ แต่ถึงตาแหน่งจะใหญ่โตความรู้
ความสามารถก็ยังตอ้ งถงึ ด้วย ดงั คาสอนในพระบรมราโชวาทวา่
“เจ้านายจะเป็นผู้ได้ทาราชการ มีช่ือเสียงดีก็อาศัยได้แต่สติปัญญาความรู้และความ
เพยี รของตัว เพราะฉะนัน้ จงอตุ สาหะเลา่ เรยี นโดยความเพียรอยา่ งยิ่ง”
สมัยก่อนการให้ความรู้น้ันถือว่ามากกว่าทรพั ย์สินเงนิ ทอง เพราะเป็นของตดิ ตัวไม่เสอ่ื มสูญ
ดงั คาสอนในพระบรมราโชวาทวา่
“การซ่ึงให้มีโอกาสและให้ทุนทรัพย์ซึ่งจะได้เล่าเรียนวิชาน้ีเป็นหลักทรัพย์มรดกอัน
ประเสริฐดีกว่าทรัพย์สินเงินทองอ่ืน ๆ ด้วยเป็นของติดตัวอยู่ได้ไม่มีอันตรายที่จะเสื่อมสูญ เหมือนหนึ่งได้แบ่ง
ทรพั ยม์ รดกให้แก่ลูกเสมอ ๆ กนั ทกุ คน”
โรงเรียนสนั ติราษฎรว์ ทิ ยาลยั สังกดั สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพ้นื ฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ หน้า ๓๑
ผ้สู อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกดิ ๒) นายวิวฒั น์ ทศั วา ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
สะท้อนให้เห็นว่าฝร่ังแต่กอ่ นน้ันม่ังมี มีเงนิ ใช้เยอะ ๆ นั้นมาจากการได้ดอกเบ้ีย สมัยก่อน
น้ันจึงสอนบุตรไม่ให้อวดมั่งอวดมีทาเทียบเทียมผู้ดีฝร่ัง ให้ใช้เงินอย่างประหยัด มีเงินใช้เฉพาะแต่ที่จะรักษา
ความสขุ ของตนพอสมควร ดังคาสอนในพระบรมราโชวาทว่า
“ต ้ังใจอยู่เสมอว่าตัวเป็นคนจน มีเงินใช้มีเงินใช้เฉพาะแต่ท่ีจะรักษาความสุขของตน
พอสมควรดัง ไมม่ ่ังมีเหมอื นผู้ดีฝร่ังท่ีเขาสืบตระกูลกันมาได้ด้วยดอกเบี้ย อย่าอวดมั่งอวดมีทาเทียบเทียบเขาให้
ฟุ้งซ่านไปเปน็ อันขาด”
สะท้อนให้เห็นว่าวชิ าความรู้ในสมัยก่อนน้ันยังไม่รุ่งเรือง เหมือนสมัยนี้ มาจากการที่ไม่ได้
คบค้าสมาคมกบั ชาติอน่ื มาชา้ นาน ฝา่ ยหนังสอื ไทยจึงไม่พอที่จะเล่าเรียน จึงต้องไปเรียนภาษาอื่นเพื่อนากลับมา
ใชใ้ ห้เกดิ ประโยชน์ ดงั ทีต่ รัสไวใ้ นพระบรมราโชวาทวา่
“จงเข้าใจว่าภาษาต่างประเทศนั้นเป็นแต่พื้นของความรู้ เพราะวิชาความรู้ในหนังสือ
ไทยท่ีมผี ู้แตง่ ไว้น้นั เป็นแต่ของเก่ามีน้อย เนอ่ื งจากมิไดส้ มาคมกับชาติอื่นมาช้านาน ฝ่ายหนังสอื ไทยจงึ ไม่พอที่จะ
เลา่ เรยี นจึงตอ้ งไปเรยี นภาษาอ่ืน แลว้ เอากลับลงมาใชเ้ ป็นภาไทยท้ังสิ้น”
ข้อคดิ ท่ีไดร้ บั
๑. คนเราควรอุตสาหะเล่าเรียนดว้ ยความเพยี ร เพือ่ นา ความรู้มาใชใ้ ห้เกิดประโยชน์ตอ่ ประเทศชาติ
๒. ใหเ้ ป็นคนวา่ ง่ายสอนงา่ ย อย่ามีทิฐมิ านะในทางท่ผี ดิ
๓. ร้จู ้กั ใช้เงนิ อย่างค้มุ คา่ โดยเฉพาะ
๔. ต้องศกึ ษาเลา่ เรียนด้วยวิรยิ ะอุตสาหะ
๕. ควรรักภาษาไทย เพราะภาษาไทยแสดงถึงความเป็นชาตแิ ละเอกราชของไทย
สรปุ
พระบรมราโชวาทในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกลา้ เจ้าอย่หู ัว เปน็ งานเขยี นรปู แบบจดหมายรอ้ ยแก้ว
ที่พระราชทานแก่พระเจา้ ลูกยาเธอทั้ง ๔ พระองค์ท่เี สด็จไปศึกษาวชิ าการ ณ ต่างประเทศ แสดงใหเ้ หน็ ความรัก
ความห่วงใยของพอ่ ทมี่ ตี อ่ ลกู และแนวคดิ ในฐานะกษัตริย์ ซงึ่ สามารถนอ้ มนาไปใชใ้ นหลักการดาเนนิ ชีวติ ได้
โรงเรียนสันติราษฎร์วทิ ยาลัย สังกดั สานกั งานเขตพื้นท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน ๖ ช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ ๓ หน้า ๓๒
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกิด ๒) นายววิ ฒั น์ ทัศวา ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
กิจกรรมที่ ๑๙ รอ้ ยเรื่องพระบรมราโชวาท คะแนนทไ่ี ด้
คาชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นเติมข้อความท่ีถกู ตอ้ งลงในช่องวา่ ง
๑. ผทู้ รงพระราชนิพนธเ์ รอื่ งพระบรมราโชวาทคอื
๒. ผู้ทรงพระราชนพิ นธ์เร่ืองพระบรมราโชวาททรงไดร้ ับพระราชสมญั ญาวา่
๓. พระราชสมัญญาหมายความวา่
๔. รูปแบบในการทรงพระราชนิพนธ์ “พระบรมราโชวาท” คอื
๕. อยา่ ใช้ “ฮสิ รอแยลไฮเนสปรนิ ซ์” (His Royal Highness Princes) นาหนา้ ชอื่ ให้ใชแ้ ตช่ ่อื เดิมของตวั เองคาว่า
“ฮิสรอแยลไฮเนสปรินซ์” หมายถึง
๗. สาเหตทุ ี่รัชกาลท่ี ๕ ทรงไม่ให้เงินแผ่นดนิ เป็นค่าใชจ้ ่ายของพระราชโอรสเพราะ
๘. รัชกาลที่ ๕ ให้ข้อคิดแกพ่ ระราชโอรสวา่ การเกิดเป็นนายนั้นลาบากเพราะ
๙. สาเหตทุ ่รี ชั กาลท่ี ๕ ทรงไมใ่ หพ้ ระราชโอรสนาเงนิ เบี้ยหวดั และเงินกลางปมี าใชห้ น้เี พราะ
๑๐. เงนิ เบ้ยี หวดั หมายถึง
๑๑. เงนิ กลางปี หมายถึง
๑๒. รชั กาลที่ ๕ ทรงใหพ้ ระราชโอรสศกึ ษาภาษาตา่ งประเทศเพอ่ื
๑๓. รัชกาลท่ี ๕ ทรงมีพระราชดารเิ กย่ี วกับสตั วเ์ ดรจั ฉานกบั มนษุ ยว์ ่า
๑๔. พระบรมราโชวาทน้ี แสดงให้เหน็ วา่ รชั กาลที่ ๕ ทรงส่งั สอนพระราชโอรสบาเพ็ญตนให้เปน็ ประโยชน์แก่
บา้ นเมืองคือ
๑๕. รัชกาลที่ ๕ ทรงมพี ระราชดารเิ กยี่ วกับฐานะของพระมหากษตั ริย์และราชวงศว์ ่า กษตั รยิ ์และราชวงศ์จะทา
อะไรต้องรกั ษายศระวงั ตวั ทกุ อย่างเพราะ
โรงเรยี นสันติราษฎร์วทิ ยาลัย สงั กดั สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ช้ันมัธยมศกึ ษาปที ี่ ๓ หนา้ ๓๓
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แกว้ เกดิ ๒) นายววิ ัฒน์ ทัศวา ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
กจิ กรรมท่ี ๒๐ พนิ จิ ข้อคิด...พระบรมราโชวาท คะแนนที่ได้
คาชแ้ี จง ให้นักเรียนวเิ คราะห์และบอกคุณค่า ข้อคดิ จากขอ้ ความต่อไปนี้
๑. “...อยา่ ไวย้ ศว่าเป็นเจา้ ให้ถอื เอาบรรดาศักดิเ์ สมอ ลูกผมู้ ตี ระกูลในกรงุ สยาม คอื อย่าให้ใช้ ฮิสรอแยล
ปริน้ ซ์ นาหน้าช่ือ ให้ใช้แตช่ ่ือเดิมของตวั เฉยๆ...”
๒. “...เงนิ ค่าท่จี ะใชส้ อยในการเล่าเรียนกินอยูน่ ุ่งหม่ ท้ังปวงนัน้ จะใช้เงนิ พระคลงั ขา้ งที่ คือเงนิ ที่เป็นสว่ น
สทิ ธขิ์ าดแก่ตัวพ่อเองไมใ่ ชเ้ งนิ ทสี่ าหรบั จ่ายราชการแผ่นดนิ ...”
๓. “...อยา่ ไดถ้ ือตวั วา่ ตวั เป็นลกู พระเจา้ แผน่ ดนิ พอ่ มีอานาจยิง่ ใหญอ่ ยูใ่ นบ้านเมอื ง...เพราะฉะนน้ั จงรเู้ ถิด
ว่าถา้ เมอ่ื ได้ทาความผิดเมื่อใดจะไดร้ บั โทษทันทกี ารมพี อ่ เปน็ พระเจ้าแผน่ ดนิ นนั้ จะไม่เป็นการช่วยเหลอื
อดุ หนนุ แก้ไขอันใดได้เลย”
๔. “...เงินนน้ั ไม่ควรจะนามาจาหนา่ ยในการท่ไี มเ่ ป็นประโยชน์ไมเ่ ป็นเรอ่ื ง และเปน็ การไม่มีคุณกลับให้โทษ
แก่ตัว ต้องใช้แต่ในการจาเปน็ ที่จะต้องใช้...”
๔. “...เงินนนั้ ไม่ควรจะนามาจาหนา่ ยในการท่ไี มเ่ ป็นประโยชน์ไม่เป็นเรอื่ ง และเปน็ การไม่มีคุณกลับให้โทษ
แกต่ วั ต้องใชแ้ ต่ในการจาเป็นท่ีจะต้องใช้...”
โรงเรยี นสันติราษฎรว์ ิทยาลัย สงั กดั สานกั งานเขตพื้นที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี ๓ หนา้ ๓๔
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกิด ๒) นายววิ ัฒน์ ทศั วา ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
กิจกรรมที่ ๒๑ ทบทวน...ชวนคดิ คะแนนที่ได้
คาชี้แจง ให้นักเรยี นทาเครือ่ งหมาย X ทับตวั เลือกที่ถกู ตอ้ งท่ีสุด
๑. “การออกไปเรียนครั้งนี้มีความประสงค์มุ่งหมาย แต่จะให้ได้วชิ าความรอู้ ย่างเดยี ว ไมม่ ัน่ หมายจะใหเ้ ปน็
เกียรติยศชอ่ื เสยี งอย่างหนึ่งอย่างใด...” ผลของพระบรมราโชวาทตอนน้ีคือขอ้ ใด
ก. อยา่ ใหใ้ ช้อิสรอแยลไฮเนสปรินซ์นาหนา้ ชื่อ
ข. จะทาอันใดก็ตอ้ งระวังตัวไปทกุ อย่าง
ค. เจา้ นายฝ่ายเรามีมาก ข้างฝา่ ยเขามนี อ้ ย
ง.เงินคา่ ใช้สอยใช้เงินพระคลงั ข้างท่ี
๒. “ทรัพยม์ รดกอนั ประเสริฐดีกว่าทรพั ย์สนิ เงนิ ทองอน่ื ๆ ดว้ ยเปน็ ของตดิ ตัวอยู่ได้ไมม่ อี ันตรายทจ่ี ะเสอื่ มสูญ”
ทรพั ยท์ กี่ ล่าวนีค้ อื ข้อใด
ก. ตาแหน่งหน้าทท่ี างราชการ ข. ยศศกั ด์ิ
ค. วชิ าความรู้ ง. เบยี้ หวดั เงินปี
๓. เพราะเหตุใด พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หู ัว จงึ ใช้เงินพระคลังขา้ งท่ใี นการส่งพระราชโอรสไป
ศกึ ษา ณ ตา่ งประเทศ
ก. พระองค์ต้องการใหพ้ ระราชโอรสสานึกในพระมหากรณุ าธคิ ุณกลับมาทาประโยชน์แกช่ าติ
ข. พระองค์ทรงมพี ระราชโอรสหลายพระองค์เกรงว่าจะกลับมาไม่ไดท้ าราชการคุ้มกับเงนิ แผ่นดิน
ค. ขณะนัน้ ประเทศกาลังประสบกบั ภาวะเศรษฐกจิ พระองคต์ ้องการประหยัดเงนิ แผน่ ดิน
ง. การเบิกจ่ายเงินพระคลังข้างท่ที าได้งา่ ยและสะดวกกวา่ การเบิกจากพระคลังมหาสมบัติ
๔. “ถา้ คนประพฤติอยา่ งสัตว์เดยี รัจฉานแลว้ จะไม่มีประโยชน์อันใดยง่ิ กวา่ สัตว์เดยี รจั ฉานบางพวก...”
ความประพฤตใิ นข้อความน้ีคอื อะไร
ก. เปน็ หนีเ้ ป็นสิน
ข. ใชอ้ านาจขม่ เหงผอู้ ่ืน
ค. ใช้จา่ ยอยา่ งฟุ่มเฟือย
ง. ไม่ทาประโยชน์แก่บา้ นเมอื ง
๕. เจา้ นายจะหาชอ่ งทาราชการไดย้ ากกว่าลูกขุนนาง เพราะเหตุใด
ก. เจ้านายมมี าก ราชการมีน้อย
ข. เจ้านายมพี ระราชอานาจมาก
ค. เจ้านายทรงมีความสามารถสูงกวา่ หนา้ ทที่ างราชการ
ง. เป็นผมู้ บี รรดาศักด์ิมากรับราชการตาแหนง่ ต่าไม่ได้
โรงเรียนสนั ติราษฎรว์ ิทยาลัย สงั กดั สานกั งานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พืน้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ ๓ หนา้ ๓๕
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายววิ ัฒน์ ทศั วา ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
๖. “การทีม่ พี อ่ เป็นพระเจา้ แผ่นดินนน้ั จะไมเ่ ป็นการชว่ ยเหลืออุดหนุนแกไ้ ขอันใดเลย” พระบรมราโชวาทตอนนี้
หมายถงึ ข้อใด
ก. พระองค์จะไมท่ รงชว่ ยพระราชโอรสทม่ี ีความประพฤติไม่เหมาะสม ใชพ้ ระอานาจข่มเหงผ้อู ื่น
ข. พระองคจ์ ะไม่ทรงช่วยพระราชโอรสทีเ่ ปน็ หนเ้ี พราะใชจ้ า่ ยไมป่ ระหยดั
ค. พระองค์จะไม่ทรงช่วยพระราชโอรสทไ่ี มท่ าคุณประโยชนแ์ กบ่ า้ นเมืองให้มีตาแหนง่ สูงขึ้น
ง. พระองค์จะไม่ทรงชว่ ยพระราชโอรสท่ที ่ไี ปศึกษา ณ ต่างประเทศโดยการฝากฝังกบั กษัตรยิ ข์ องประเทศนน้ั
๗. “เงนิ ทองทจ่ี ะใชส้ อยในคา่ กินอยู่ นงุ่ หม่ หรอื ใชส้ อยเบ็ดเสร็จทง้ั วง จงเขมด็ แขม่ ใชแ้ ต่เพยี งพอที่อนญุ าตให้
ใช”้ เพราะเหตุใดพระองคจ์ งึ ทรงทาเชน่ นี้
ก. เพื่อประหยดั เงินพระคลงั ขา้ งท่ี
ข. ทาใหพ้ ระราชโอรสรจู้ ักการประหยดั ใช้จ่ายเฉพาะทจี่ าเปน็
ค. จะไดม้ ีเงนิ ส่งพระราชโอรสองค์อื่นไปศึกษา ณ ตา่ งประเทศ
ง. เพ่อื เป็นการประหยดั งบประมาณของชาติ
๘. ข้อใดแสดงให้เหน็ วา่ พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอย่หู วั ทรงมีความยุตธิ รรมในการให้การศกึ ษา
ก. พ่อได้เอาเงนิ ส่วนที่พ่อจะได้ใช้เองน้ันออกให้เล่าเรียน ด้วยเงินรายน้ีไม่มผี ูห้ นง่ึ ผใู้ ดจะแทรกแซง
ข. ลกู คนใดท่ีมีสติปัญญาเฉลยี วฉลาดกด็ ี หรอื ไมม่ ีสติปัญญาเฉลียวฉลาดก็ดีก็จะต้องส่งออกไปเรยี นวิชาทกุ คน
ค. ถา้ ผู้ใดไปเปน็ หน้มี าจะไมย่ อมใชห้ นี้ให้เลย หรอื ถ้าเปน็ การจาเปน็ ต้องใช้จะไมใ่ ชเ้ ปลา่ โดยไม่มีโทษแก่ตวั เลย
ง. จงรเู้ ถิดวา่ ถ้าเม่ือได้ความผิดเมอื่ ใด จะไดร้ ับโทษโดยทันที การท่มี ีพ่อเปน็ พระเจ้าแผน่ ดนิ จะไมเ่ ป็นการ
ชว่ ยเหลือ
๙. “จงจาไว้ ตั้งใจอยใู่ ห้เสมอว่าตวั เป็นคนจน” เหตทุ พี่ ระองคท์ รงสงั่ สอนเช่นน้เี พราะเหตุใด
ก. เพราะจาได้ไมป่ ระพฤตติ ามแบบเจ้านายของยโุ รป
ข. เพราะจะได้ใช้จ่ายอยา่ งประหยัด ไม่สุรุย่ สุร่ายจนก่อหน้ี
ค. เพราะจะไดร้ ูจ้ กั การอ่อนน้อมถ่อมตน ไม่ตีเสมอผู้ที่เปน็ ใหญก่ วา่
ง. เพราะจะได้รีบเรียนเพอ่ื กลบั มาทาประโยชน์แกบ่ า้ นเมอื ง
๑๐. พระราชนิพนธ์เร่ืองใดในพระบาทสมเด็จพระจลุ จอมเกล้า ท่ีมฉี นั ทลกั ษณแ์ บบเดียวกับพระบรมราโชวาท
ก. พระราชพิธีสิบสองเดือน ข. เงาะป่า
ค. ลิลิตนิทราชาคริต ง. โคลงสุภาษิต
๑๑. วิชาท่ีรชั กาลที่ ๕ มพี ระราชประสงค์ใหพ้ ระราชโอรสไปศกึ ษานน้ั คอื วชิ าใด
ก. ภาษาและวทิ ยาศาสตร์ ข. วิทยาศาสตรแ์ ละคณิตศาสตร์
ค. ภาษาและคณติ ศาสตร์ ง. ภาษาและเทคโนโลยี
โรงเรียนสนั ติราษฎรว์ ทิ ยาลยั สงั กดั สานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพนื้ ฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ หนา้ ๓๖
ผูส้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายววิ ฒั น์ ทัศวา ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
๑๒. พระราชประสงค์ในการสง่ พระราชโอรสไปศกึ ษาแทนการจ้างฝรงั่ มาทางานนน้ั เพราะเหตุผลใด
ก. ตอ้ งการใหถ้ ่ายทอดมาเปน็ ภาษาไทยใหค้ นไทยได้เรียนรู้
ข. เพอื่ เปน็ การประหยดั เงินของแผ่นดิน
ค. เพื่อมิให้ไทยตกเป็นอาณานคิ มของชาตทิ างตะวันตก
ง. เพื่อความสงบสุขของประเทศ
๑๓. “ภาษาไทย และหนงั สือไทยซึ่งเปน็ ภาษาของตวั หนังสอื ของตัว คงจะตอ้ งใช้อย่เู ปน็ นจิ ” พระองค์ทรงใช้
วธิ ีการใดในการเน้นพระราชโอรสในเรอ่ื งนี้
ก. ให้เขยี นจดหมายภาษาไทยถงึ พระองค์ทกุ เดือน
ข. ให้แปลหนงั สอื ต่างประเทศส่งมาใหท้ กุ เดอื น
ค. ทรงสง่ หนงั สือไทยไปพระราชทานพระราชโอรส
ง. ทรงส่งครสู อนภาษาไทยไปกับพระราชโอรส
๑๔. ผู้ดแู ลการศกึ ษาของพระราชโอรสทกี่ รงุ เทพฯ คอื ทา่ นผู้ใด
ก. กรมพระจนั ทบรุ นี ฤนาถ ข. กรมหมืน่ เทวะวงศ์วโรปการ
ค. กรมหลวงปราจณิ กิติบดี ง. กรมหลวงนครไชยศรีสรุ เดช
๑๕. เพราะเหตใุ ดรชั กาลที่ ๕ จึงทรงกาหนดให้พระเจา้ ลูกยาเธอทรงศึกษาภาษายุโรป “ใหไ้ ด้แมน่ ยาชัดเจน
คลอ่ งแคลว่ จนถึงแตง่ หนงั สอื ไดส้ องภาษาเปน็ อยา่ งนอ้ ย”
ก. เพอื่ เปน็ ประโยชนใ์ นการทตู
ข. เพอื่ เปน็ ประโยชนใ์ นการพฒั นาวทิ ยาการ
ค. เพอื่ เปน็ ประโยชนใ์ นการพฒั นาประเทศใหท้ ันชาตติ ะวันตก
ง. เพ่อื ใหเ้ ผยแพร่วทิ ยาการภาษาไทยไปสู่ชาตทิ างยโุ รป
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ทิ ยาลัย สังกัดสานักงานเขตพื้นที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขน้ั พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ ๓ หน้า ๓๗
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกิด ๒) นายวิวฒั น์ ทศั วา ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
การแต่งโคลงสสี่ ุภาพ
โคลงเปน็ บทร้อยกรองเก่าแก่ของไทย ซึง่ มปี ระวตั มิ าตั้งแตส่ มยั กรงุ ศรอี ยุธยา การแต่งบทรอ้ ยกรองไมว่ า่
ประเภทใดก็ตาม ฉนั ทลักษณ์ของบทรอ้ ยกรองแต่ละประเภทและความแตกฉานเร่อื งการใชค้ าในภาษาไทยเป็น
เร่อื งที่ผู้แต่งควรใหค้ วามสาคญั และเรียนรูอ้ ย่างลึกซงึ้ เพือ่ ใหบ้ ทรอ้ ยกรองท่แี ต่งมคี วามถกู ต้องตามฉันทลกั ษณ์
และมีคณุ คา่ ทางวรรณศิลป์
โคลงสี่สภุ าพ เป็นโคลงชนิดหน่งึ ทก่ี วนี ยิ มแต่งมากที่สดุ ด้วยเสน่ห์ของการบังคับวรรณยกุ ต์เอกโทอนั เปน็
มรดกของภาษาไทยทล่ี งตวั ที่สุด คาวา่ สุภาพ หรือ เสาวภาพ หมายถึงคาท่มี ไิ ดม้ ีรูปวรรณยกุ ต์
แผนผังฉนั ทลกั ษณโ์ คลงส่สี ุภาพ
ที่มา อาศรมชาวโคลง
ลกั ษณะคาประพันธ์
๑. บท บทหนงึ่ มี ๔ บาท (หนึ่งบรรทดั คอื หนง่ึ บาท) แต่ละบาทแยกเปน็ ๒ วรรค เรยี ก วรรคหน้ากับ
วรรคหลงั แบ่งเป็นวรรคหนา้ ๕ คา วรรคหลงั ๒ คา เฉพาะบาทท่ี ๔ หรือบาทสุดทา้ ยกาหนดให้วรรคหลังมี ๔
คา
๒. คาสรอ้ ย เฉพาะบาท ๑ กับบาท ๓ อนญุ าตให้มคี าเพิ่มต่อท้ายวรรคหลงั ได้ อกี บาทละ ๒ คา เรยี ก
คาสรอ้ ย หรอื สร้อยคา นยิ มให้ลงท้ายด้วยคาดงั นี้ เฮย แฮ ฮา รา ฤา นา นอ พ่อ แม่ พี่ เอย ฯลฯ
๓. เอก – โท คือ คากาหนดบงั คับเสยี ง อันเป็นลักษณะพเิ ศษของโคลง
คาเอก คอื คาท่กี ากบั ด้วยรูปวรรคยุกตเ์ อก เชน่ แก่ คา่ ใส เฉพาะคาเอกน้ใี นโคลงอนุญาตให้
ใชค้ าตายแทนได้
คาตาย คอื คาท่ีประสมสระเสียงสนั้ แม่ ก กา (ไม่มีตวั สะกด) เชน่ กะ ทิ สิ นะ ขรุ ขระ เละ
เปรี๊ยะ เลอะ โป๊ะ ฯลฯ และคาท่ีสะกดดว้ ยแม่ กก กบ กด เชน่ เลข วดั สารท โจทย์ วิทย์ ศิษย์ มาก โชค ลาภ
ฯลฯ
คาโท คอื พยางค์ท่ีมีรูปวรรณยุกต์โทบงั คับ ไม่วา่ จะเป็นเสยี งวรรณยกุ ต์ใดก็ตามร้อง เช่นไห้ ไม้
ล้ม ตม้ ขา้ ว คาโท ข้า ลม้ เศร้า ค้าน ฯลฯ
โรงเรียนสันติราษฎรว์ ทิ ยาลยั สังกดั สานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พ้ืนฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพน้ื ฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ หนา้ ๓๘
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทัศวา ภาคเรียนท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
กรณีทไี่ ม่สามารถหาพยางคท์ ีม่ ีรปู วรรณยกุ ตต์ ามต้องการไดใ้ ห้ใช้เอกโทษ และโทโทษ
เนือ่ งจากคาเอก คาโท ใชใ้ นการแต่งคาประพันธป์ ระเภท “โคลง” และ “ร่าย”และถือว่าเปน็ ขอ้ บงั คับ
ของฉนั ทลักษณท์ ่ีสาคัญมาก ดงั น้นั จงึ มีการอนโุ ลมใหน้ าคาทไ่ี มเ่ คยใช้รปู เอก รูปโท แปลงมาใช้เอก และโท ได้
เช่น
เล่น นามาเขียนในตาแหนง่ คาโทเป็น เหลน้ เรียกว่า “โทโทษ”
ห้าม นามาเขียนในตาแหนง่ คาเอกเป็น ฮา่ ม เรียกวา่ “เอกโทษ”
อย่างไรกต็ ามแม้คาเอกโทษและโทโทษ จะสามารถนามาใชแ้ ก้ปัญหาได้ แตใ่ นปจั จบุ นั ไม่นิยมใช้เอกโทษ
และโทโทษในการแตง่ บทร้อยกรองประเภทโคลง
๔. สมั ผสั
ก. สมั ผัสนอก หรือสัมผัสระหวา่ งบท อันเป็นสมั ผสั บังคับ คาสุดทา้ ยของบาทหนึ่ง คือ
- คาที่ ๗ ของบาทแรก ส่งสัมผสั ไปรับกบั คาที่ ๕ ของบาทสอง และบาทสาม
- คาที่ ๗ ของบาทสอง ส่งสัมผัสไปรบั กบั คาที่ ๕ ของบาทสี่ (ซึ่งตกในทบ่ี ังคับคาโทจึงต้อง
สง่ -รบั ดว้ ยคาโททง้ั คู่)
ข. สมั ผัสระหวา่ งบท โคลงส่สี ุภาพไมเ่ คร่งสมั ผสั ระหวา่ งบท จะมหี รอื ไมม่ ีกไ็ ด้ หากจะมีกาหนดให้
คาสดุ ทา้ ยของบทคือคาที่ ๗ ของบาทส่ี ส่ง-รับสมั ผสั ไปยังคาท่ี ๑ หรือ ๒ หรือ ๓ ของบาทหนึง่ ในบทถัดไป
ตวั อย่างโคลงสี่สภุ าพ
เสยี งลอื เสียงเล่าอ้าง อันใด พเี่ อย
เสียงยอ่ มยอยศใคร ท่ัวหลา้
สองเขอื พี่หลับใหล ลมื ตน่ื ฤๅพี่
สองพีค่ ิดเองอ้า อยา่ ไดถ้ ามเผอื
“ลิลติ พระลอ”
จากมามาล่วิ ล้า ลาบาง
บางยี่เรอื ราพลาง พ่พี รอ้ ง
เรอื แผงชว่ ยพานาง เมยี งม่าน มานา
บางบร่ ับคาคล้อง คล่าวนา้ ตาคลอ
“นริ าศนรินทร”์
ขอ้ สงั เกต
โคลงทกุ ประเภทไม่เคร่งสัมผัสในจะมีหรือไม่มกี ็ได้ หากจะมีสมั ผัสใน กาหนดให้คาที่ ๒
กับคาท่ี ๓ หรือท่ี ๔ ของทุกวรรคสัมผัสกันได้ โดยมักนยิ มใช้สัมผัสพยญั ชนะ เช่น เสียงย่อมยอยศใคร (สมั ผัส
พยัญชนะ /ย/) และ บางยี่เรือราพลาง (สัมผัสพยัญชนะ /ร/) เปน็ ต้น
โรงเรียนสันติราษฎร์วทิ ยาลยั สังกัดสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพ้ืนฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี ๓ หน้า ๓๙
ผ้สู อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวฒั น์ ทัศวา ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
กจิ กรรมที่ ๒๒ พนื้ ฐาน...กานท์โคลง คะแนนที่ได้
คาชแ้ี จง ตอนท่ี ๑ ให้นักเรยี นเตมิ คาลงในชอ่ งว่างใหไ้ ด้ใจความถกู ตอ้ งและสมบูรณ์
๑. โคลงสส่ี ภุ าพ ๑ บท มี บาท ๑ บาท มี วรรค
วรรคหนา้ มี คา วรรคหลัง มี คา
วรรคสุดทา้ ย มี คา
ทา้ ยบาทท่ี ๑ และ ๓ สามารถเติม ไดบ้ าทละ ๒ คา
๒. สัมผสั คู่ท่ี ๑ ของโคลงสี่สภุ าพคาที่ ของบาทท่ี สัมผัสกับ
คาท่ี ของบาทท่ี
สมั ผัสค่ทู ่ี ๒ ของโคลงส่ีสภุ าพคาที่ ของบาทที่ สมั ผัสกับ
คาที่ ของบาทท่ี
สัมผัสคูท่ ่ี ๓ ของโคลงส่ีสุภาพคาที่ ของบาทท่ี สัมผัสกับ
คาท่ี ของบาทท่ี
๓. คาสรอ้ ยเตมิ ได้ใน บาทที่ และบาทท่ี
๔. โคลงสีส่ ุภาพหนง่ึ บทมีบังคาคาเอก จานวน.......................แหง่ คาโท จานวน.......................แห่ง
บงั คบั คาเอก ตาแหน่งคาที่....................ของบาทแรก, คาท่ี....................และ....................ของบาทที่สอง,
คาท่ี....................และ....................ของบาทที่สาม และคาที่....................และ....................ของบาทสุดท้าย
บงั คับคาโท ตาแหน่งคาท่ี....................ของบาทแรก, คาที่....................ของบาทท่ีสอง, คาท่ี....................
และ....................ของบาทสดุ ทา้ ย
๕. คาเอกโทษ สามารถใช้แทนตาแหนง่ บังคับคา เช่น หล้า เขยี นเป็นเอกโทษคือ
คาโทโทษ สามารถใชแ้ ทนตาแหนง่ บังคบั คา เชน่ เล่า เขยี นเป็นโทโทษคอื
๖. คาตาย สามารถใช้แทนตาแหนง่ บังคบั คา....................เช่นคาวา่ ๑)..............................๒).........................
ตอนที่ ๒ ใหน้ ักเรียนอา่ นโคลงสีส่ ภุ าพที่กาหนด จากนน้ั อธิบายลกั ษณะเฉพาะทางฉนั ทลกั ษณ์ท่กี าหนดให้
เสยี สินสงวนศกั ด์ไิ ว้ วงศห์ งส์
เสียศักดิ์สู้ประสงค์ ส่ิงรู้
เสยี รเู้ ร่งดารง ความสัตย์ ไวน้ า
เสียสตั ยอ์ ย่าเสียสู้ ชพี ม้วยมรณา (โคลงโลกนติ )ิ
๑. คาเอกทต่ี รงตาแหนง่ บงั คับคาเอก ไดแ้ ก่คาวา่ ๑. ๒.
คาตายท่ีใช้แทนคาเอกตาแหน่งบงั คับ ได้แกค่ าว่า ๑. ๒. ๓.
๔. ๕. (นบั ทกุ คา)
๒. คาโทท่ีตรงตาแหน่งบงั คับคาโท ไดแ้ กค่ าว่า ๑. ๒. ๓.
๔.
โรงเรยี นสนั ติราษฎร์วทิ ยาลัย สังกัดสานักงานเขตพ้ืนที่การศกึ ษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ หน้า ๔๐
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกดิ ๒) นายววิ ฒั น์ ทศั วา ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศึกษา ๒๕๖๒
กิจกรรมท่ี ๒๓ ตอ่ คา...แมน่ ยาโคลง คะแนนทไ่ี ด้
คาชแ้ี จง ให้นาคาทกี่ าหนดใหเ้ ติมลงในช่องวา่ งใหไ้ ด้ใจความสมบรู ณ์
และถกู ต้องตามฉันทลกั ษณ์โคลงสี่สุภาพ
ข้าวตอกขาวข้าวค่วั ครวั สนอง สิน้ ครรลอง คว่ั
ตราบ ดอ้ ย เปลอื ก
๑. ข้าว คว่ั ครองตรอง ระเบยี บ กฎเอย
เปลอื ก อัตตา
ครอบใจชนะ
เกียจ ครา้ นดงั่ ปลนิ้
ยามดอกไม้แย้มกลีบ เบง่ บาน ทุก แดด เขา้
เชา้ แผ่ ฉาน
๒. รบั อรุณส่อง
สวยสด
ความงาม ตระการ ครบแล้วโลกสวย
ธรรมชาตแิ ต่งเตมิ
ลมเอยพรมผ่าน โลมนวล แสง ไล้ คร่า
๓. โอบอกใจเฝ้า ชู้ นึก ครวญ สู่
รู้
ยามห่าง แต่ หารปู นัน้ เนอ
ให้นรกหกฟา้ หว่ งละหอ้ ยคอยเห็น
เตมิ แรงรกั สรา้ ง หัก สู่ บ่ หล่อ
๔. ใจ ครวญคนงึ หา หลอม รวมเฮย ห้าม ดงั่ ยาม
หาก เชอื่ ใจ ศรัทธา คร่า แม้น
ให้ วนั และเวลา
เตม็ จติ มิคดิ คร้าม
คนแอบรกั แล้ว อกหัก คู่ หนัก เธอ
เกลือกกลิง้ เจ็บ ร้อง คน
๕. นอน ทุกข์ตรม ตามติด โศก ทง้ิ หัก
อีกแล้วตามเดมิ
เธอมี เคยี งรัก
ฉันแค่คนโดน
โรงเรยี นสนั ติราษฎร์วิทยาลัย สงั กัดสานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พน้ื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพืน้ ฐาน ๖ ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี ๓ หนา้ ๔๑
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวฒั น์ ทศั วา ภาคเรยี นท่ี ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
กจิ กรรมท่ี ๒๔ เรยี งถ้อย...รอ้ ยคาโคลง คะแนนท่ไี ด้
คาช้แี จง ให้นักเรยี นเลอื กประเด็นทก่ี าหนดให้เพียง ๑ ประเดน็ มาแตง่ เป็นบทร้อยกรอง
ประเภทโคลงสีส่ ภุ าพ จานวน ๒ บท พรอ้ มอธบิ ายใจความสาคญั ของบทร้อยกรองท่แี ตง่
ความรักคือการให้ ธรรมชาติคอื เพ่ือนมนษุ ย์ เพ่ือนกัน...รักกนั
สามคั คีสร้างความสาเร็จ แทนคุณแผ่นดิน เมืองไทยของเรา
เรื่อง
ใจความสาคัญของบทร้อยกรองคือ
โรงเรียนสนั ติราษฎร์วิทยาลัย สงั กดั สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขัน้ พ้นื ฐาน กระทรวงศกึ ษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ี่ ๓ หน้า ๔๒
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกิด ๒) นายววิ ฒั น์ ทัศวา ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
ชนิดของคา
ชนิดของคา คาแบง่ ออกเป็น ๗ ชนิด คือ
๑. คานาม คือคาที่ใช้เรียกช่ือส่ิงท่ีมีชีวิตและไม่มีชีวิต ทั้งรูปธรรมและนามธรรม เช่น คน
สตั ว์ พชื สิ่งของ สถานที่ อารมณ์ ความรูส้ กึ
๒. คาสรรพนาม คือคาทใ่ี ชเ้ รยี กแทนคานาม
๓. คากรยิ า คอื คาทแ่ี สดงอาการหรือสภาพของคานามและสรรพนาม
๔. คาวเิ ศษณ์ คือคาทปี่ ระกอบคาอ่ืนเพ่อื ขยายเนื้อความให้มีความชัดเจนมากยง่ิ ขน้ึ
๕. คาบพุ บท คือคาที่มีหน้าทีเ่ ชื่อมคาหรอื กลุม่ คา เพ่อื แสดงความสมั พันธก์ ับคาอน่ื ๆ ในประโยค
๖. คาสันธาน คอื คาที่มหี น้าท่เี ช่อื มประโยคเพื่อแสดงความสัมพันธก์ บั ประโยคอื่นที่เกย่ี วขอ้ งกัน
๗. คาอุทาน คือคาทเ่ี ปลง่ ออกมาโดยไม่ตง้ั ใจ เพื่อแสดงอารมณ์และความรู้สกึ ของผพู้ ดู
คานาม
คาสรรพนาม
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ิทยาลยั สังกดั สานักงานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขนั้ พ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน ๖ ช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี ๓ หนา้ ๔๓
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกดิ ๒) นายววิ ฒั น์ ทัศวา ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศึกษา ๒๕๖๒
คากรยิ า
คาวิเศษณ์
คาบุพบทและคาสันธาน
โรงเรียนสนั ติราษฎร์วิทยาลยั สังกดั สานักงานเขตพื้นที่การศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหสั วชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี ๓ หน้า ๔๔
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวัฒน์ ทัศวา ภาคเรียนท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
กลุ่มคา คือ คาต้ังแต่ ๒ คาข้ึนไปเรียงติดต่อกัน มีความหมายไปในทางเดียวกัน เข้าใจได้ แต่ใจความไม่
สมบูรณเ์ หมอื นประโยค กลมุ่ คา เรยี กอกี อย่างหนึ่งว่า วลี นน่ั เอง
ตวั อย่างกลมุ่ คา เขาคนนัน้ เดนิ เร็วจรงิ ๆ
กลุ่มคาแบ่งออกเป็นชนิดต่าง ๆ เช่นเดียวกับคา ได้แก่ กลุ่มคาท่ีใช้เหมอื นคานาม สรรพนาม กริยา
วิเศษณ์ บุพบท สนั ธาน และอุทาน และทาหน้าท่ใี นประโยคเชน่ เดยี วกับคาชนดิ ต่าง ๆ
หนา้ ทขี่ องกลุ่มคาชนิดตา่ ง ๆ ในประโยค
๑. กลมุ่ คาทใ่ี ช้เหมือนคานาม
กลมุ่ คา หนา้ ท่ี ตัวอยา่ งประโยค
คนอ้วนคนน้ัน ประธาน คนอ้วนคนน้ันเปน็ นอ้ งของฉนั
ปลาตัวเลก็ ๆ กรรม แมวกินปลาตัวเล็ก ๆ
พอ่ ของเขา สว่ นเตมิ เต็ม เขาเหมอื นพอ่ ของเขา
เดก็ ซนคนน้ี สว่ นขยายคานาม ศิระเด็กซนคนนี้เรยี นเกง่ จรงิ ๆ
ตอนเชา้ มืด ส่วนขยายตวั แสดง เขาออกไปทางานตอนเช้ามดื ทุกวนั
เดก็ ๆ ท้ังหลาย คาเรยี กขาน เด็ก ๆ ทงั้ หลาย มาดอู ะไรตรงนด้ี กี วา่
๒. กลุ่มคาทใ่ี ชเ้ หมอื นคาสรรพนาม
กลุ่มคา หน้าท่ี ตวั อยา่ งประโยค
เขาคนน้นั ประธาน เขาคนนน้ั เป็นเดก็ ว่านอนสอนง่าย
เราทุกคน กรรม อาจารยช์ ว่ ยเหลือเราทกุ คนเป็นอย่างดี
พอ่ ของเขา สว่ นเตมิ เต็ม ผู้หญงิ พวกนเี้ หมอื นเธอเหลา่ นน้ั จริง ๆ
ท่านทัง้ หลาย คาเรยี กขาน ทา่ นทัง้ หลาย โปรดฟงั ทางนี้
๓. กลุ่มคาที่ใชเ้ หมอื นคากริยา
กลุ่มคา หนา้ ท่ี ตัวอย่างประโยค
รอ้ งเสยี งดงั ตัวแสดง นกดเุ หว่ารอ้ งเสียงดังเวลาเย็น
นอนตืน่ สาย ประธาน นอนตื่นสายเรียกวา่ นอนกนิ บา้ นกนิ เมอื ง
เล่นสนกุ สนาน ส่วนขยายนาม เวลานี้เปน็ เวลาเล่นสนุกสนาน
เดินเลน่ คนเดยี ว สว่ นขยายตวั แสดง พท่ี ิง้ นอ้ งคนเล็กเดนิ เลน่ คนเดยี วหน้าบ้าน
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ทิ ยาลยั สงั กดั สานกั งานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พ้นื ฐาน กระทรวงศึกษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหสั วิชา ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพนื้ ฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ หน้า ๔๕
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวฒั น์ ทัศวา ภาคเรียนที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
๔. กลุ่มคาทีใ่ ช้เหมอื นคาวเิ ศษณ์
กลุ่มคา หนา้ ท่ี ตัวอย่างประโยค
สวยคนนี้ ขยายนาม ผู้หญิงสวยคนน้ีคือนางสาวไทย
ทงั้ หลายเหลา่ นี้ ขยายสรรพนาม เขาท้ังหลายเหล่าน้ีจะต้องถูกลงโทษ
สูงจรงิ ๆ ขยายตัวแสดง นกบนิ สูงจริง ๆ
มากกวา่ ทุกคน ขยายวเิ ศษณ์ เธอเป็นคนเกง่ มากกวา่ ทกุ คน
๕. กลมุ่ คาท่ใี ช้เหมือนคาบพุ บท
กลมุ่ คา หน้าท่ี ตวั อย่างประโยค
ทางด้านหน้า เชอ่ื มกลมุ่ คากรยิ ากับคานาม เขาวางกระเปา๋ ไว้ทางดา้ นหน้าห้องเรียน
ในทา่ มกลาง เชื่อมกลมุ่ คานามกับคานาม การวิ่งในท่ามกลางแสงแดดทาใหเ้ ป็นไขไ้ ด้
๖. กลมุ่ คาทใ่ี ช้เหมอื นคาสันธาน
กล่มุ คา หน้าท่ี ตัวอย่างประโยค
หรือไม่ก็ เช่ือมประโยคกบั ประโยค เขาต้องทอ่ งหนังสอื หรอื ไม่ก็ทาการบ้าน
ในระหวา่ งท่ี เชอื่ มกลุม่ คานามกับคากริยา การดูหนังสือมากเกินไปในระหว่างท่ีปวดศีรษะ
ทาให้เป็นอนั ตรายตอ่ สขุ ภาพ
๗. กลุ่มคาทใ่ี ช้เหมือนคาอุทาน
กลุ่มคา ตวั อย่างประโยค
โอย๊ ตายแลว้ ! โอย๊ ตายแลว้ ! ฉนั ลืมสมดุ จดการบา้ น
พทุ โธ่เอ๋ย ! พทุ โธ่เอ๋ย ! ไมน่ า่ ต้องมาเจบ็ ตวั เลย
แมเ่ จา้ ประคณุ เอย๋ ! แม่เจา้ ประคุณเอย๋ ! ทาไมถึงสวยอยา่ งน้ีนะ
กลุม่ คาทใี่ ช้เหมือนคาอทุ านไม่ได้ทาหน้าท่ตี า่ ง ๆ ในประโยคเช่นเดียวกับคาชนิดอ่ืน
โรงเรียนสันติราษฎร์วิทยาลัย สงั กัดสานกั งานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร
เอกสารประกอบการสอน รหัสวิชา ท ๒๓๑๐๒ วิชาภาษาไทยพื้นฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ี่ ๓ หนา้ ๔๖
ผู้สอน ๑) นางสาวมนรัตน์ แก้วเกิด ๒) นายววิ ฒั น์ ทศั วา ภาคเรยี นที่ ๒ ปกี ารศกึ ษา ๒๕๖๒
กิจกรรมที่ ๒๕ ทบทวน...ชวนคดิ คะแนนท่ไี ด้
คาสั่ง จงเขยี นเคร่อื งหมาย X ทับตัวอกั ษรหน้าข้อที่ถูกตอ้ งท่สี ดุ
๑. ขอ้ ใดไม่ใช่กลมุ่ คา
ก. ปลาตวั น้ี ข. เศษแก้วในถัง
ค. เช้าวันจันทร์ ง. ตานัง่
๒. ข้อใดเป็นกลมุ่ คา
ก. น้าไหล ข. นกบินเรว็
ค. เมืองหลวงของไทย ง. คนน้ีเป็นครู
๓. ในบา้ นหลงั น้ี เป็นกลุ่มคาท่ีใชเ้ หมอื นคาอะไร
ก. นาม ข. กริยา
ค. บุพบท ง. สนั ธาน
๔. กลมุ่ คาที่ขีดเส้นใตใ้ นขอ้ ใดเปน็ กลมุ่ คาท่ีใชเ้ หมอื นคาสันธาน
ก. เขาจะออกข้างนอกทนั ทีถา้ หากว่าเขาทางานเสรจ็
ข. เธอทาไดด้ ีเชน่ เดยี วกับเพ่ือนคนอื่น ๆ
ค. เพือ่ นยืนรอเขาทางด้านหลังของโรงเรียน
ง. ทนี่ อนน้ีเราจัดไว้เฉพาะพวกเด็ก ๆ
๕. กลุ่มคาทีข่ ีดเส้นใต้ในขอ้ ใดใช้เหมือนคากรยิ า
ก. นกร้องเสียงดงั เหลือเกิน ข. ปลาว่ายนา้ เร็วจรงิ ๆ
ค. เรารอจนกระทั่งประตูปดิ ง. เธอตอ้ งออกไปพดู หรอื ไม่ก็ชว่ ยเขียนหนงั สอื
๖. เขาจาเพ่อื นคนน้ีไดด้ ี กลุ่มคาท่ขี ดี เสน้ ใต้ทาหนา้ ทอี่ ยา่ งไรในประโยค
ก. ประธาน ข. กรรม
ค. สว่ นเติมเตม็ ง. ตวั แสดง
๗. กล่มุ คาที่ทาหนา้ ทเ่ี ปน็ ส่วนเตมิ เตม็ ในประโยคจะตอ้ งตามหลงั คากริยาต่อไปนี้ ยกเวน้ ข้อใด
ก. คอื ข. เหมือน
ค. เปน็ ง. ของ
๘. กลุ่มคาท่ีขีดเสน้ ใต้ในข้อใดทาหนา้ ท่ขี ยายตวั แสดง
ก. เขาวิ่งเล่นทางดา้ นหนา้ ตกึ แถว
ข. คุณพอ่ ซ่อมรถจักรยานให้เราแลว้
ค. เธอร้องเพลงเพราะจรงิ ๆ
ง. เธอต้องตั้งใจเรียนมฉิ ะน้ันคณุ พอ่ จะไมใ่ หไ้ ปเท่ยี ว
โรงเรยี นสนั ติราษฎรว์ ิทยาลัย สังกัดสานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศกึ ษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานกั งานคณะกรรมการการศกึ ษาข้ันพ้ืนฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพื้นฐาน ๖ ช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี ๓ หนา้ ๔๗
ผสู้ อน ๑) นางสาวมนรตั น์ แก้วเกดิ ๒) นายวิวฒั น์ ทศั วา ภาคเรยี นท่ี ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
๙. ทา่ นท้ังหลาย โปรดฟังทางนี้ คาท่ีขีดเส้นใตเ้ ป็นกลุ่มคาท่ใี ชเ้ หมอื นคาอะไร
ก. นาม ข. สรรพนาม
ค. กรยิ า ง. วเิ ศษณ์
๑๐. คาว่า “ทา่ นท้ังหลาย” ในขอ้ ๙ ทาหนา้ ที่อะไรในประโยค
ก. ประธาน ข. กรรม
ค. สว่ นเติมเต็ม ง. คาเรียกขาน
กจิ กรรมท่ี ๒๖ ถูกหรอื ผดิ ...คิดใหด้ ี คะแนนที่ได้
คาสั่ง จงเขยี นเครอื่ งหมาย ✓ หนา้ ขอ้ ความท่ีถูก
และเขยี นเคร่ืองหมาย X หน้าข้อความท่ีผดิ
_______ ๑. กลุ่มคา เรยี กอีกอย่างหนึง่ วา่ วลนี ัน่ เอง
_______ ๒. กลุ่มคาเปน็ ส่วนหนึง่ ของประโยค
_______ ๓. เพราะฉะน้นั ...จงึ เป็นกลุ่มคาทใ่ี ช้เหมือนคาบุพบท
_______ ๔. พุทโธเ่ อ๋ย เปน็ กลุ่มคาทีใ่ ช้เหมือนคาอทุ าน
_______ ๕. กลุ่มคาทใ่ี ช้เหมือนคาอุทานไม่ไดท้ าหน้าที่ในประโยคเหมือนกบั กลมุ่ คาชนิดอืน่ ๆ
_______ ๖. “เรอื ลานนั้ แลน่ ไปในทะเล” กลมุ่ คาท่ีขีดเสน้ ใตใ้ ชเ้ หมอื นคานาม ทาหน้าท่เี ปน็
ประธานในประโยค
_______ ๗. “นักเรียนหวั เราะเสยี งดงั ล่ันหอ้ ง” กล่มุ คาท่ีขีดเสน้ ใตใ้ ช้เหมือนคากรยิ า
_______ ๘. กลมุ่ คามีใจความไม่สมบูรณเ์ ท่าประโยค
_______ ๙. กลุม่ คาตอ้ งประกอบดว้ ยคามากกวา่ ๒ คาเสมอ
_______ ๑๐. กลุ่มคาทใี่ ช้เหมือนสนั ธานทาหน้าท่ีเป็นประธานในประโยคไม่ได้
กจิ กรรมที่ ๒๗ เติมเตม็ ให้สมบรู ณ์ คะแนนทีไ่ ด้
คาส่งั จงเติมคาหรือข้อความในช่องว่างให้ถกู ตอ้ ง
๑. “เข้าคลา้ ยพ่ขี องเขา” สว่ นเติมเต็มของประโยค คอื ________________________________
๒. กลุ่มคา คือ คาต้ังแต่ __________ ข้ึนไปเรียงต่อกัน มีความหมายเป็นเร่ืองเดียวกัน แต่ใจความไม่
สมบรู ณ์เทา่ _____________________________
๓. กลมุ่ คาเป็นส่วนหนงึ่ ของ _____________________________
๔. กลุ่มคาทีใ่ ชเ้ หมอื นคาวเิ ศษณ์ ทาหนา้ ทขี่ ยายนาม สรรพนาม ตัวแสดง และ ____________ในประโยค
๕ . ค น บ างค น เท่ านั้ น ได้ รับ เลื อ ก ให้ เข้าท าง าน ค าท่ี ขี ด เส้ น ใต้ เป็ น ก ลุ่ ม ค าที่ ใช้ เห มื อ น ค า
__________________
๖. “คนเดนิ ” เปน็ __________________ “คนน้นั ” เป็น __________________
โรงเรียนสันติราษฎร์วทิ ยาลัย สังกดั สานักงานเขตพื้นท่ีการศึกษามัธยมศึกษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พนื้ ฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
เอกสารประกอบการสอน รหัสวชิ า ท ๒๓๑๐๒ วชิ าภาษาไทยพื้นฐาน ๖ ชั้นมธั ยมศึกษาปีที่ ๓ หน้า ๔๘
ผูส้ อน ๑) นางสาวมนรัตน์ แกว้ เกิด ๒) นายววิ ัฒน์ ทัศวา ภาคเรยี นที่ ๒ ปีการศกึ ษา ๒๕๖๒
๗. เขาเปน็ คนทดี่ ีที่สดุ ในบา้ น คาทขี่ ีดเสน้ ใต้เป็นกลมุ่ คาท่ีใชเ้ หมอื นคา ____________________
๘. “เขาเปน็ หมอท่ีมีชอ่ื เสยี ง” หมอท่ีมีชือ่ เสียงทาหน้าท่เี ป็น _______________________ ในประโยค
๙. ส่วนเตมิ เตม็ ในประโยคจะตามหลังคากรยิ า เปน็ เหมอื น คล้าย เทา่ _________________
๑๐. “คณุ เหยียบเทา้ ผม” กลมุ่ คาที่ควรเตมิ ข้างหนา้ ประโยคนี้คอื __________________________
ประโยค
ประโยค คือ คาทน่ี ามาเรียงกันแล้วไดใ้ จความสมบูรณ์ ประกอบดว้ ยภาคประธานและภาคแสดง เช่น
ฝนตก
นกกางเขนบิน
นายทองดวี ่ายนา้
นกั เรยี นโรงเรียนสันตริ าษฎรว์ ทิ ยาลยั เล่นกฬี าเกง่
ภาคประธาน ประกอบด้วย บทประธานและบทขยายประธาน
ภาคแสดง ประกอบด้วย กรยิ า และบทขยายกริยา ถา้ เป็นสกรรมกรยิ าจะมีกรรมและบทขยายกรรม
เชน่ เดก็ ผู้หญิงตวั เล็ก ๆ คนน้นั กาลงั ว่ายนา้ ในสระ
นกกระจอกฝูงหน่ึงกนิ ข้าวในนาของตามเี กือบหมด
คณุ ลุงเหมอื นคุณพอ่ ของฉนั มาก
ภาคประธาน ภาคแสดง
บทประธาน บทขยายประธาน กรยิ า บทขยายกรยิ า กรรม บทขยายกรรม
เดก็ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ กาลงั ว่ายนา้ ในสระ --
คนนั้น
นกกระจอก ฝงู หนึง่ กิน เกอื บหมด ข้าว ในนาของตามี
คณุ ลงุ - เหมือน คุณพอ่ ของฉนั , มาก - -
ประโยคบางประโยคละประธาน เช่น ประโยคคาสัง่ ขอร้อง ชกั ชวน
ประโยคบางประโยคนากรยิ าขึน้ ต้น ไดแ้ ก่ เกิด มี ปรากฏ เชน่
เกดิ เหตุอาเพศขน้ึ ในพระนคร
มีนักเรยี น ๓๐ คนในหอ้ งนี้
ปรากฏข่าวลือทั่วประเทศ
ประโยคบางประโยคนากรรมขึ้นต้น เชน่
ลาไยขายดี
สุนัขโดนนายพรานตี
แมวถูกขังไวใ้ นกรง
โรงเรยี นสนั ติราษฎร์วทิ ยาลัย สังกดั สานกั งานเขตพ้ืนท่ีการศึกษามัธยมศกึ ษา เขต ๑ สานักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขน้ั พืน้ ฐาน กระทรวงศกึ ษาธกิ าร