แผ่นดนิ ภเู ขาไฟ
ไหว ระเบดิ
สนึ ามิ
ภเู ขาไฟระเบดิ
แผ่นดนิ ไหว สึนามิ
นายสลุ กิฟลี โสพนั ธ์
ตำแหนง่ ครู วิทยฐานะชำนาญการ
กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
โรงเรยี นสตรยี ะลา อำเภอเมอื ง จังหวัดยะลา
สำนักงานเขตพ้ืนที่การศึกษามัธยมศึกษา ยะลา
สำนักงานคณะกรรมการการศกึ ษาขนั้ พื้นฐาน กระทรวงศึกษาธิการ
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) ก
สำหรบั นักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอื่ ง ธรณีพิบัตภิ ัย
คำนำ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 รหัสวิชา ว30251 สำหรับ
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีท่ี 4 โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้เชิงรุก (Active Learning) ตามแนวสะตีม
ศึกษา (STEAM Education) หน่วยการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง ธรณีพิบัติภัย ประกอบไปด้วยชุดกิจกรรม
การเรยี นรู้ ทงั้ หมด 3 เรอ่ื ง ดงั น้ี
เรอ่ื งท่ี 1 ภูเขาไฟระเบิด
เรื่องท่ี 2 แผน่ ดินไหว
เร่ืองท่ี 3 สึนามิ
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้นี้ จัดทำขึ้นเพื่อเป็นสื่อการสอนสำหรับครูผู้สอน เป็นสื่อการเรียนรู้
สำหรบั ผู้เรยี น และเป็นเครอ่ื งมอื พฒั นาผลสมั ฤทธิ์ทางการเรียนของนกั เรียนโดยยึดนักเรียนเป็นสำคัญ
มุ่งเนน้ ใหน้ ักเรยี นมีส่วนรว่ มในการเรียนรู้ผ่านกิจกรรมและกระบวนการเรียนรู้ทหี่ ลากหลาย สามารถ
สร้างองค์ความรู้ได้ด้วยตนเองทั้งรายบุคคลและเป็นกลุ่ม ส่งเสริมกระบวนการคิด การสืบเสาะหา
ความรู้ การแก้ปัญหา ความสามารถในการสื่อสาร การตัดสินใจ การนำความรูไ้ ปใช้ในชีวิตประจำวัน
ตลอดจนมจี ิตวทิ ยาศาสตร์ คุณธรรมและค่านยิ มอันพึงประสงค์ รวมถึงทกั ษะทจี่ ำเป็นในศตวรรษท่ี 21
บทบาทของครูเป็นผู้ให้คำปรึกษา ชี้แนะ เอื้ออำนวยความสะดวกและกระตุ้นให้นักเรียนประสบ
ความสำเร็จในการเรียนรู้
ผูจ้ ัดทำหวงั เป็นอย่างย่ิงว่าชดุ กิจกรรมการเรียนรนู้ ้ีจะช่วยใหน้ ักเรียนเข้าใจเน้ือหาได้ง่ายและ
ชัดเจนข้ึน มีผลสัมฤทธ์ทิ างการเรียนสูงขนึ้ มีเจตคติท่ีดตี ่อการเรียนวิทยาศาสตร์ (โลก ดาราศาสตร์และ
อวกาศ) เป็นแนวทางหนึ่งให้นักเรียนพัฒนาตนเองได้เต็มศักยภาพ นอกจากจะใช้ประกอบการจัด
กิจกรรมการเรียนรู้ในห้องเรียนแล้ว นักเรียนยังสามารถศึกษาด้วยตนเองเพื่อทบทวนเนื้อหา หรือ
สามารถนำไปใช้ในการเรยี นซอ่ มเสริมไดอ้ ีกดว้ ย
สลุ กิฟลี โสพนั ธ์
ผจู้ ัดทำ
โดย ครสู ลุ กิฟลี โสพนั ธ์ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) ข
สำหรบั นกั เรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ เร่ือง ธรณพี บิ ตั ภิ ยั
หน้า
สารบญั ก
ข
เร่ือง ค
1
คำนำ 2
3
สารบัญ 4
5
สาระและมาตรฐานการเรียนรู/้ ผลการเรยี นรู้/สาระการเรียนร/ู้ จดุ ประสงคก์ ารเรยี นรู้ 6
7
ส่วนประกอบของชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ 8
10
คำชีแ้ จงสำหรบั ครู 15
20
คำช้แี จงสำหรับนกั เรียน 23
24
ข้นั ตอนการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ 28
36
บทบาทของครู 38
39
บทบาทของนักเรยี น 43
ส่ิงทค่ี รแู ละนกั เรยี นตอ้ งเตรยี ม
ใบคำสงั่
แบบทดสอบก่อนเรียน เรอ่ื ง ธรณพี ิบัติภัย
ใบความรู้ท่ี 1 เรื่อง ภเู ขาไฟระเบิด
ใบกจิ กรรมการเรยี นรู้ที่ 1.1 เรือ่ ง เอะ๊ !!! ภูเขาไฟระเบดิ คอื อะไรน่ะ?
ใบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1.2 เรื่อง เหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดทส่ี นใจ
ใบกจิ กรรมการเรยี นรู้ที่ 1.3 เรอื่ ง แบบจำลองภเู ขาไฟระเบดิ
ใบความร้ทู ี่ 2 เรื่อง แผ่นดนิ ไหว
ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 2.1 เรอื่ ง กลไกการเกดิ แผ่นดินไหว
ใบกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ี 2.2 เรอ่ื ง เหตกุ ารณ์แผ่นดินไหวทีส่ นใจ
ใบกิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 2.3 เรอื่ ง โครงสรา้ งตา้ นแผน่ ดินไหว
ใบความรู้ที่ 3 เร่อื ง สึนามิ
ใบกจิ กรรมการเรยี นร้ทู ่ี 3.1 เรอื่ ง เหตุการณ์สนึ ามิทีส่ นใจ 47
ใบกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 3.2 เรือ่ ง เอาตวั รอดจากสึนามิ 48
แบบทดสอบหลังเรียน เรอื่ ง ธรณีพบิ ตั ภิ ยั 53
บรรณานุกรม 58
ภาคผนวก 61
เฉลยแบบทดสอบกอ่ น – หลงั เรยี น
เฉลยใบกิจกรรมการเรยี นรู้
โดย ครสู ลุ กิฟลี โสพันธ์ กล่มุ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) ค
สำหรับนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรียนรู้ เรอ่ื ง ธรณีพบิ ัตภิ ัย
สาระและมาตรฐานการเรียนรู้/ผลการเรียนร/ู้
สาระการเรยี นรู้/จดุ ประสงคก์ ารเรียนรู้
สาระและมาตรฐานการเรยี นร/ู้ ผลการเรยี นรู้
สาระโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ : เข้าใจกระบวนการเปล่ียนแปลงภายในโลก ธรณีพิบัติภัย
และผลต่อสิ่งมีชีวิตและสิ่งแวดล้อม การศึกษาลำดับชั้นหิน ทรัพยากรธรณี แผนที่ และการนำใช้
ประโยชน์
ผลการเรยี นรู้
ม.4/5 อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกดิ ภูเขาไฟระเบดิ และปัจจัยท่ีทำใหเ้ กิดความรนุ แรงของการ
ปะทุและรูปร่างของภูเขาไฟแตกต่างกัน รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย ออกแบบและนำเสนอ
แนวทางเฝา้ ระวังและปฏิบตั ิตนใหป้ ลอดภยั ได้
ม.4/6 อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดขนาดและความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว รวมท้งั
สบื ค้นข้อมูลพื้นทเี่ ส่ียงภยั ออกแบบและนำเสนอแนวทางเฝ้าระวงั และปฏบิ ัตติ นให้ปลอดภยั
ม.4/7 อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกิดและผลจากสึนามิ รวมทั้งสืบค้นข้อมูลพื้นที่เสี่ยงภัย
ออกแบบและนำเสนอแนวทางเฝา้ ระวังและปฏิบตั ติ นให้ปลอดภัยได้
สาระการเรียนรู้
• ภเู ขาไฟระเบดิ
• แนวภูเขาไฟระเบิด, รปู รา่ งของภูเขาไฟ
• แนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏิบัตติ นใหป้ ลอดภัยจากภเู ขาไฟระเบดิ
• สาเหตุการเกดิ แผน่ ดินไหว, กระบวนการเกดิ แผ่นดนิ ไหว
• ขนาดและความรุนแรงของแผ่นดินไหว
• แนวทางการเฝ้าระวังและการปฏบิ ัตติ นใหป้ ลอดภัยจากแผ่นดินไหว
• สาเหตกุ ารเกิดสนึ ามิ, กระบวนการเกิดสนึ ามิ, ผลกระทบท่เี กดิ สนึ ามิ
• แนวทางการเฝ้าระวังและการปฏบิ ตั ิตนใหป้ ลอดภัยจากสึนามิ
โดย ครสู ุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) ง
สำหรบั นักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอื่ ง ธรณพี บิ ตั ิภัย
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1) สามารถอธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิดภเู ขาไฟระเบิดโดยใช้แบบจำลองได้
2) สามารถระบุและอธิบายปัจจัยทท่ี ำใหค้ วามรนุ แรงของการประทุและรูปรา่ งของภเู ขาไฟในแต่
ละพน้ื ที่
3) สามารถสืบคน้ และนำเสนอข้อมลู พน้ื ท่ีเส่ียงภัย และผลจากการเกิดภูเขาไฟระเบิดได้
4) นกั เรยี นสามารถสืบค้นข้อมูล ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวังและการปฏิบัติตน
ให้ปลอดภยั ได้
5) สามารถออกแบบและสร้างสรรค์แบบจำลองภเู ขาไฟระเบิดเพอื่ อธิบายการเกิดภูเขาไฟระเบิด
ได้
6) สามารถอธิบาย กระบวนการเกิด ขนาดและความรุนแรง และผลจากแผ่นดินไหว โดยใช้
แบบจำลองได้
7) สามารถนำความรู้เรื่องคลื่นไหวสะเทือน การสั่นพ้อง สภาพสมดุล รูปทรงเรขาคณิต
กระบวนการวิศวกรรมและการออกแบบไปใชใ้ นการสรา้ งแบบจำลองได้
8) สามารถสบื ค้นข้อมลู พื้นท่เี สียง และผลจากแผ่นดินไหวได้
9) สามารถออกแบบ และนำเสนอแนวทางการเฝ้าระวัง และการปฏิบัติตนให้ปลอดภัยจาก
แผ่นดินไหวได้
10) สามารถอธบิ ายสาเหตุ กระบวนการเกิดสึนามิ
11) สามารถสบื ค้นและนำเสนอข้อมูลพืน้ ท่เี สย่ี งภัย และผลจากสนึ ามิได้
12) สามารถสืบคน้ ข้อมลู ออกแบบและนำเสนอแนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏบิ ตั ติ น
โดย ครสู ลุ กิฟลี โสพันธ์ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 1
สำหรับนกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรอื่ ง ธรณพี ิบตั ภิ ยั
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรเู้ ชงิ รุก (Active Learning)
ตามแนวสะตีมศกึ ษา (STEAM Education) หน่วยการเรยี นรทู้ ่ี 3
เร่อื ง ธรณีพบิ ตั ภิ ัย รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1 (ว30251)
เร่อื ง ภเู ขาไฟระเบดิ , แผน่ ดนิ ไหว, สึนามิ
ส่วนประกอบของชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้
เนื้อหาภายในชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สอดคล้องกับหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพ้ืนฐาน
พุทธศักราช 2551 และตรงตามหลักสูตรกลุ่มสาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี (ปรับปรงุ
ปี 2564) โรงเรียนสตรียะลา รายวิชาวทิ ยาศาสตร์เพิ่มเตมิ โลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1 รหัสวิชา
ว30251 สำหรบั นกั เรียนชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 ภายในชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ ประกอบด้วย
1. คำช้ีแจงสำหรบั ครู
2. คำช้แี จงสำหรับนกั เรียน
3. ขั้นตอนการใช้ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้
4. บทบาทของครู
5. บทบาทของนักเรียน
6. สิง่ ทค่ี รแู ละนักเรียนตอ้ งเตรยี ม
7. ใบคำสั่ง
8. แบบทดสอบก่อน – หลังเรยี น
9. ใบความรู้
10. ใบกิจกรรมการเรยี นรู้
11. ภาคผนวก
เฉลยแบบทดสอบกอ่ น – หลงั เรยี น
เฉลยใบกจิ กรรมการเรียนรู้
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 2
สำหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรอื่ ง ธรณีพบิ ตั ิภัย
คำช้ีแจงสำหรบั ครู
ครผู ใู้ ชช้ ุดกจิ กรรมการเรียนรู้จะตอ้ งศึกษาขัน้ ตอนในการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ใหเ้ ข้าใจ และ
ควรปฏบิ ตั ิ ดังน้ี
1. ครคู วรศึกษาการใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ วิธสี อนและวิธีวัดผลประเมนิ ผลในแต่ละกิจกรรม
ให้เข้าใจ และควรค้นควา้ และอ่านเน้อื หาที่เก่ียวขอ้ งเพ่มิ เตมิ
2. ใหน้ ักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรยี น จำนวน 30 ขอ้ เป็นแบบปรนัย 4 ตัวเลือก ใชเ้ วลา 30
นาที
3. ครูอธิบายและชี้แจงวิธีการเรียน บทบาทของตนเองในการดำเนินกิจกรรมในแต่ละชุด
กจิ กรรมการเรียนรู้ใหน้ กั เรยี นเขา้ ใจ
4. ให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเพื่อทำกิจกรรม กลุ่มละ 5–6 คน คละความสามารถ แบ่งหน้าท่ี
รับผดิ ชอบภายในกลุ่ม และสลบั กนั ทำหนา้ ท่ีในทุกครัง้ ที่เข้าเรยี น
5. ครูดำเนินการจัดกิจกรรมตามที่กำหนดไว้ในแผนการจัดการเรียนรู้ เพื่อกระตุ้นให้นักเรียน
เกิดความสนใจในเนอ้ื หาทก่ี ำลังเรียนโดยคำนึงถึงความสามารถในการรับรู้ของนักเรยี น และ
เน้นผู้เรียนเป็นสำคัญ ให้นักเรียนได้ปฏิบัติตามกิจกรรมที่กำหนดไว้ ด้วยกระบวนการสืบ
เสาะหาความรู้แบบวัฏจกั รการเรยี นรู้ 5 ขน้ั (5E) ดังนี้
5.1 ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement)
5.2 ข้นั สำรวจและค้นหา (Exploration)
5.3 ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรปุ (Explanation)
5.4 ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration)
5.5 ขัน้ ประเมนิ (Evaluation)
6. ขณะปฏิบัติกิจกรรมครูพร้อมที่จะให้ความช่วยเหลือได้ทันที และควรให้คำแนะนำนักเรียน
อยา่ งใกลช้ ดิ
7. ครูและนักเรียนร่วมกันสรุปสิง่ ทไี่ ด้เรยี นมาโดยใหน้ ักเรียนอภิปรายและครคู อยชแี้ นะ
8. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลงั เรียน
9. หากมีนักเรียนไม่ผา่ นเกณฑ์ ครูควรให้นักเรียนนำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ชุดที่ไม่ผ่าน เกณฑ์
ไปศกึ ษาเองเพิม่ เตมิ นอกเวลาเรียน
10.ครูควรสรุปผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ สภาพปัญหาและข้อเสนอแนะหลังจากใช้ชุด
กจิ กรรมการเรียนรู้แตล่ ะครัง้ เพอ่ื นำไปปรับปรุงในการใชค้ ร้ังตอ่ ไป
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 3
สำหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่อื ง ธรณีพบิ ัตภิ ัย
คำชแี้ จงสำหรับนักเรียน
1. ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1 รหัสวิชา ว30251 หน่วยการ
เรียนรู้ เรื่อง ธรณีพิบัติภัย สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีท่ี 4 ประกอบด้วย 3 เรื่อง ได้แก่
ภูเขาไฟระเบดิ แผ่นดินไหว และสนึ ามิ มีส่วนประกอบดงั น้ี
1.1 ใบคำสัง่
1.2 แบบทดสอบก่อนเรยี น เรื่อง ธรณีพบิ ัตภิ ยั
1.3 กระดาษคำตอบกอ่ นเรยี น
1.4 ใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ภเู ขาไฟระเบิด
1.5 ใบกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 1.1 เรอ่ื ง เอ๊ะ!!! ภูเขาไฟระเบิดคืออะไรนะ่ ?
1.6 ใบกจิ กรรมการเรียนรู้ท่ี 1.2 เรอ่ื ง เหตกุ ารณภ์ ูเขาไฟระเบดิ ท่ีสนใจ
1.7 ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 1.3 เร่ือง แบบจำลองภูเขาไฟระเบิด
1.8 ใบความร้ทู ่ี 2 เรอ่ื ง แผ่นดนิ ไหว
1.9 ใบกิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 2.1 เรื่อง กลไกการเกิดแผน่ ดินไหว
1.10 ใบกจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 2.2 เรอ่ื ง เหตุการณ์แผ่นดนิ ไหวที่สนใจ
1.11 ใบกิจกรรมการเรยี นร้ทู ี่ 2.3 เรือ่ ง โครงสรา้ งต้านแผ่นดนิ ไหว
1.12 ใบความรูท้ ่ี 3 เรอื่ ง สึนามิ
1.13 ใบกจิ กรรมการเรียนรูท้ ี่ 3.1 เรือ่ ง เหตกุ ารณส์ นึ ามิที่สนใจ
1.14 ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 3.2 เรอ่ื ง เอาตัวรอดจากสนึ ามิ
1.15 แบบทดสอบหลังเรียน เรือ่ ง ธรณีพิบตั ภิ ยั
1.16 กระดาษคำตอบหลงั เรียน
2. การทำกจิ กรรมโดยใชช้ ดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้แตล่ ะชดุ ให้ปฏบิ ัติ ดังน้ี
2.1 ศกึ ษาเนอื้ หาวธิ กี าร ใหเ้ ขา้ ใจหากไม่เข้าใจให้ขอคำแนะนำจากครกู ่อนจะทำชุดกิจกรรม
การเรียนรู้
2.2 ทำกิจกรรมโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ให้เสร็จ แล้วจึงเปิดดูเฉลยชุดกิจกรรม หาก
กิจกรรมใดนักเรียนไม่ผ่านเกณฑ์ ร้อยละ 60 ควรกลับไปศึกษา เนื้อหานั้นซ้ำอีกรอบ
หากยงั ไม่เข้าใจให้ขอคำแนะนำจากครู
โดย ครสู ุลกิฟลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 4
สำหรับนักเรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ เรือ่ ง ธรณีพบิ ัตภิ ัย
ขั้นตอนการใช้ชดุ กรรมการเรยี นรู้
ศึกษาคำชีแ้ จงสำหรบั ครูและนักเรยี นในการใช้ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้
ทำความเข้าใจในบทบาทของครูและนักเรียน
ศกึ ษาสงิ่ ท่ีครูและนกั เรยี นตอ้ งเตรยี ม
ทดสอบก่อนเรยี น
ศึกษาชุดกจิ กรรมการเรียนรู้
ทดสอบหลงั เรียน ไม่ผ่าน
ผ่าน
ศึกษาชุดกิจกรรมการเรียนรู้เลม่ ตอ่ ไป
ถ้าไมผ่ ่าน..ต้องกลับไปทบทวน
ใหม่อกี ครัง้ นะครับ
โดย ครสู ลุ กิฟลี โสพันธ์ กล่มุ สาระการเรยี นรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 5
สำหรบั นักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรียนรู้ เร่ือง ธรณพี บิ ตั ภิ ัย
บทบาทของครู
1. ครูแจง้ จุดประสงค์การเรยี นรใู้ หน้ ักเรียนทราบ
2. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบก่อนเรียน เพื่อประเมนิ ความรูเ้ ดมิ ของนักเรียน ก่อนเริม่ เรียนใน
แต่ละชุด
3. เมือ่ นกั เรียนทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นเสร็จ ครูควรตรวจคำตอบแล้วแจง้ คะแนนให้นักเรียน
ทราบทนั ที
4. แบ่งนักเรียนเป็น 5 กลุ่มๆ ละ 5-6 คน คละผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ดังนี้ เรียนเก่ง 2 คน
ปานกลาง 2 คน และเรียนอ่อน 1-2 คน และเป็นกลุ่มตลอดการใช้ชุดกิจกรรม ตามความ
เหมาะสม
5. ครูแนะนำวธิ ีใช้ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้เพื่อให้นักเรยี นปฏิบัตไิ ดอ้ ยา่ งถูกต้อง
6. ในขณะที่นักเรียนปฏิบัติกิจกรรม ครูควรให้การดูแลอย่างทั่วถึง และให้คำแนะนำกรณีท่ี
นักเรียนไม่เข้าใจในกิจกรรมต่างๆ เป็นรายบุคคล และต้องพยายามกระตุ้น ให้นักเรียน
ปฏบิ ตั กิ ิจกรรมด้วยตนเองใหม้ ากทส่ี ดุ
7. ให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หลังจากที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จ
เรียบร้อยในแตล่ ะชุด
8. ครูตรวจคำตอบแบบทดสอบหลังเรียนแล้วแจ้งคะแนนให้นักเรียนทราบ อีกครั้งเพ่ือดู
ความกา้ วหนา้ ของตนเอง
9. กรอกคะแนนในแต่ละกล่มุ ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้ ทั้งคะแนนก่อนเรยี น ระหว่างกิจกรรมการ
เรียน และหลังเรียนลงในแบบประเมนิ ประสทิ ธิภาพของชุดกิจกรรมการเรียนรู้
10. ครูควรย้ำใหน้ กั เรียนเกบ็ ชดุ กิจกรรมการเรียนรูแ้ ละวัสดุอุปกรณ์ตา่ งๆ ใหเ้ รยี บร้อยหลังเสร็จ
สิ้นการจดั การเรียนร้แู ต่ละครั้ง
11. ครูควรสรปุ ผลการใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกคร้งั ตลอดจนปัญหาและขอ้ เสนอแนะไว้ด้วย
หลงั จากทีไ่ ด้ประเมินประสทิ ธิภาพของชุดกจิ กรรมการเรียนรู้
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลุม่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 6
สำหรบั นักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรื่อง ธรณพี บิ ตั ิภัย
บทบาทของนกั เรยี น
1. อา่ นคำช้ีแจง ศกึ ษาวธิ กี ารใช้ชดุ กิจกรรมการเรยี นร้แู ละบทบาทของนักเรียนให้เข้าใจก่อนลง
มอื ศกึ ษาชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้
2. ทำแบบทดสอบกอ่ นเรยี นจำนวน 30 ข้อ โดยใชเ้ วลา 30 นาที เพ่ือตรวจสอบความรู้เดิมของ
นกั เรียน
3. นักเรยี นศกึ ษาชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้ตามขน้ั ตอนที่ระบไุ ว้ในใบคำสง่ั
4. ขณะปฏบิ ตั ิกิจกรรมหากมขี อ้ สงสัยใหข้ อคำแนะนำจากครู
5. นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน หลังจากที่เรียนโดยใช้ชุดกิจกรรมการเรียนรู้เสร็จ
เรียบรอ้ ยในแต่ละชดุ
6. หลังจากทำกิจกรรมเสร็จเรียบร้อยแล้ว ให้นักเรียนเก็บวัสดุอุปกรณ์ประกอบ ชุดกิจกรรม
การเรียนรู้ใหเ้ รียบร้อย
7. ในการทำกิจกรรมตามชุดกิจกรรมการเรียนรู้ทุกเล่ม ขอให้นักเรียนทำด้วยความตั้งใจให้
ความร่วมมือ และมีความซื่อสัตย์ต่อตนเองให้มากที่สุด โดยไม่ดูเฉลยก่อนทำกิจกรรมและ
แบบทดสอบ
8. หากนักเรียนคนใดเรียนไม่ทันหรือเรียนยังไม่เข้าใจ ให้นำชุดกิจกรรมการเรียนรู้ไปศึกษา
เพ่ิมเติมนอกเวลาเรยี น เพือ่ ให้เข้าใจมากยงิ่ ขึ้น
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 7
สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ธรณีพิบัติภัย
สง่ิ ทค่ี รูและนกั เรียนตอ้ งเตรยี ม
สิ่งท่ีครูต้องเตรยี ม
1. ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบการเรียนรู้เชงิ รุก (Active Learning) ตามแนวสะตีมศึกษา
(STEAM Education) รายวิชาโลก ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1 หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง ธรณี
พิบตั ิภยั รหัสวิชา ว30251 สำหรับนักเรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4
2. ศึกษาคมู่ อื ครู แผนการจัดการเรยี นรโู้ ดยละเอียด และปฏิบตั ิกิจกรรมตามแผนการจัดการเรียนรู้
ให้ครบทกุ ขน้ั ตอน
3. ศกึ ษาเนื้อหา วธิ ีการจดั กิจกรรม การวดั และประเมนิ ผลของชดุ กิจกรรมการเรียนรู้โดยใชร้ ปู แบบ
การเรียนรู้เชิงรกุ (Active Learning) ตามแนวสะตีมศึกษา (STEAM Education) รายวิชาโลก
ดาราศาสตร์ และอวกาศ 1 หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง ธรณีพิบัติภัย รหัสวิชา ว30251 สำหรับ
นักเรยี นชน้ั มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 โดยละเอียด
4. ควรเตรยี มสื่อ วัสดุอปุ กรณ์ต่างๆ ใหพ้ ร้อมใชง้ าน
สง่ิ ที่นกั เรียนตอ้ งเตรยี ม
1. หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์เพมิ่ เตมิ รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ เล่ม 1 (สสวท.)
2. สมุดบันทึก
3. เคร่อื งเขยี น
โดย ครสู ุลกิฟลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 8
สำหรับนกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ เรอ่ื ง ธรณพี ิบัติภัย
ใบคำสงั่
คำชแ้ี จง ให้นักเรียนแต่ละคนปฏิบตั ติ ามข้ันตอนต่อไปน้ี
กิจกรรมภูเขาไฟระเบดิ ชวั่ โมงที่ 1
1. ทำแบบทดสอบก่อนเรยี น เรือ่ ง ธรณพี ิบัติภยั (30 นาท)ี
2. ศึกษาใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ภูเขาไฟระเบิด และทำใบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1.1 เรื่อง เอ๊ะ!!!
ภูเขาไฟระเบดิ คืออะไรนะ่ ? (20 นาที)
3. นำเสนอกิจกรรมการเรียนรทู้ ี่ 1.1 เรื่อง เอะ๊ !!! ภเู ขาไฟระเบดิ คืออะไรนะ่ ? (10 นาท)ี
กิจกรรมชั่วโมงที่ 2-3
4. ศึกษาใบความรู้ที่ 1 เรื่อง ภูเขาไฟระเบิด (เพิ่มเติม) / หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม
รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ เล่ม 1 (สสวท.) / สอ่ื จากอินเตอรเ์ น็ต (10 นาที)
5. ทำใบกิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 1.2 เรื่อง เหตกุ ารณภ์ เู ขาไฟระเบิดทส่ี นใจ (30 นาท)ี
6. ทำใบกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ี่ 1.3 เรื่อง แบบจำลองภเู ขาไฟระเบิด (60 นาที)
7. นำเสนอกิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 1.3 เร่อื ง แบบจำลองภูเขาไฟระเบดิ (20 นาที)
กิจกรรมแผ่นดินไหว ชั่วโมงที่ 4
8. ศกึ ษาใบความรทู้ ี่ 2 เรือ่ ง แผ่นดินไหว (10 นาที)
9. ทำใบกิจกรรมการเรียนรทู้ ่ี 2.1 เรอ่ื ง กลไกการเกิดแผ่นดินไหว (30 นาที)
10. นำเสนอกจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 2.1 เรอ่ื ง กลไกการเกิดแผน่ ดนิ ไหว (20 นาที)
กิจกรรมช่วั โมงท่ี 5
11. ศึกษาใบความรู้ที่ 2 เรื่อง แผ่นดินไหว (เพิ่มเติม) / หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์เพิ่มเติม
รายวิชาโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ เล่ม 1 (สสวท.) / สอ่ื จากอินเตอรเ์ นต็ (10 นาที)
12. ทำใบกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 2.2 เรอื่ ง เหตกุ ารณ์แผน่ ดินไหวทสี่ นใจ พร้อมนำเสนอ (50 นาที)
กิจกรรมชว่ั โมงที่ 6
13. ทำกจิ กรรมออกแบบสร้างอาคารหรือส่งิ ปลกู สรา้ งจากสถานการณ์ท่กี ำหนดโดยวาดภาพร่าง
การกอ่ สรา้ งอย่างสรา้ งสรรคจ์ ากใบกจิ กรรมการเรียนรทู้ ี่ 2.3 เรอ่ื ง โครงสรา้ งต้านแผน่ ดนิ ไหว
(60 นาท)ี
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 9
สำหรับนักเรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรื่อง ธรณีพบิ ัติภยั
ใบคำส่ัง (ต่อ)
คำชแ้ี จง ใหน้ ักเรยี นแต่ละคนปฏิบตั ิตามขนั้ ตอนตอ่ ไปนี้
กิจกรรมชว่ั โมงท่ี 7
14. ทบทวนความรู้จากใบกิจกรรมการเรยี นรู้ที่ 2.3 เรอื่ ง โครงสรา้ งต้านแผน่ ดินไหว (จากการ
พดู คยุ แลกเปลย่ี นและแชร์ความรู้) (10 นาที)
15. ทำกจิ กรรมจากใบกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ี 2.3 เรอื่ ง โครงสรา้ งต้านแผ่นดนิ ไหว (30 นาท)ี
16. นำเสนอพร้อมทดสอบสิ่งประดิษฐ์ด้วยสือ่ การสอน “เครื่องจำลองแผ่นดนิ ไหว” กจิ กรรมการ
เรยี นรู้ท่ี 2.3 เร่อื ง โครงสร้างต้านแผน่ ดินไหว (20 นาท)ี
กจิ กรรมสนึ ามิ ช่วั โมงท่ี 8
17. ศกึ ษาใบความร้ทู ี่ 3 เร่อื ง สึนามิ (10 นาท)ี
18. ทำใบกิจกรรมการเรียนรู้ท่ี 3.1 เร่ือง เหตกุ ารณ์สนึ ามทิ ส่ี นใจ (30 นาที)
19. นำเสนอกจิ กรรมการเรยี นรู้ท่ี 3.1 เรอื่ ง เหตกุ ารณ์สนึ ามทิ ส่ี นใจ (20 นาที)
กจิ กรรมชั่วโมงท่ี 9-10
20. ศึกษาใบความรู้ที่ 3 เรื่อง สึนามิ (เพิ่มเติม) / หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์เพิ่มเติมรายวิชา
โลก ดาราศาสตร์และอวกาศ เล่ม 1 (สสวท.) / ส่อื จากอินเตอรเ์ น็ต และทำใบกิจกรรมการ
เรยี นร้ทู ่ี 3.2 เรื่อง เอาตัวรอดจากสนึ ามิ (60 นาท)ี
21. นำเสนอกจิ กรรมการเรียนรู้ที่ 3.2 เรอ่ื ง เอาตวั รอดจากสนึ ามิ (30 นาที)
22. ทำแบบทดสอบหลงั เรยี น เร่อื ง ธรณพี บิ ตั ิภัย (30 นาที)
เวลาท่ีใช้ทง้ั หมด 10 ชวั่ โมง
มาเรมิ่ กันเลยจา้ ...
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 10
สำหรบั นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรือ่ ง ธรณีพิบตั ภิ ัย
แบบทดสอบกอ่ นเรียน
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้ เรื่อง ธรณพี บิ ตั ภิ ยั
คำชแ้ี จง 1. แบบทดสอบชดุ นี้ เป็นแบบทดสอบแบบปรนยั 4 ตวั เลอื ก จำนวน 30 ขอ้
2. ให้นักเรียนเลือกคำตอบที่ถูกต้องที่สุดเพียงคำตอบเดียว แล้วทำเครื่องหมาย X ลงใน
กระดาษคำตอบ (ใช้เวลา 30 นาที)
1. ข้อความใดกลา่ วถกู ตอ้ ง 4. ภูเขาไฟที่เกิดจากการทบั ถมซ้อนกนั ระหวา่ ง
ก. ภูเขาไฟมัวนาลัวในหมู่เกาะฮาวาย การไหลของลาวากับชิ้นส่วนภูเขาไฟ จัดเป็น
ภูเขาไฟประเภทใด
จดั เป็นภูเขาไฟรูปกรวย
ข. หลักการปะทุของภูเขาไฟ ลาวาที่มี ก. ภูเขาไฟรปู โดม
ข. ภเู ขาไฟรปู แทน่
ปรมิ าณ ชลิ ิกามาก เมอ่ื เย็นตวั และแข็งตัวจะ ค. ภเู ขาไฟรูปโล่
กลายเปน็ หินบะซอลต์ ง. กรวยกรวดสลับชั้น
ค. "วงแหวนแห่งไฟ" (ring of fire) เป็น 5. บรเิ วณใดมโี อกาสเกดิ ภูเขาไฟมากท่สี ดุ
แนวรอยเลื่อนที่เป็นที่ตั้งของภูเขาไฟที่ดับ ก. แนวรอยต่อระหว่างแผ่นเปลือกโลก
สนิทแลว้ ข. บริเวณท่มี กี ารมดุ ตัวของแผน่ เปลอื กโลก
ค. บริเวณที่มีการเกิดหลุมยุบของแผ่นเปลือก
ง. ไมม่ ีขอ้ ใดถูก
โลก
2. ความรุนแรงของการระเบิดของภูเขาไฟ ง. บริเวณท่มี ีการแยกหา่ งจากกันของแผน่
ข้นึ อยู่กับปัจจัยขอ้ ใด
เปลือกโลก
ก. พลงั งานทส่ี ะสม
ข. คาบอุบตั ิซ้ำ 6. ข้อใดไม่ใช่ประโยชน์ที่เกดิ จากการระเบิดของ
ค. ความดันแก๊สใตเ้ ปลอื กโลก ภูเขาไฟ
ง. ความหนดื ของแมกมา
ก. เปน็ แหล่งเกดิ น้ำพรุ อ้ น
3. ความหนืดของแมกมาหรือหนิ หนืดขึ้นอยู่ ข. ทำให้เกิดท่รี าบสงู ต่าง ๆ
ค. ทำใหเ้ กิดภาวะเรอื นกระจก
กับปริมาณของสารใด ง. ทำให้เกดิ ดินทเี่ หมาะแกก่ ารเพาะปลูก
ก. ซัลเฟอรไ์ ดออกไซด์ ข. เหลก็ ออกไซด์
ค. อะลมู ินัม ง. ซลิ กิ า
โดย ครสู ุลกิฟลี โสพันธ์ กลุม่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 11
สำหรบั นกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ เรือ่ ง ธรณีพบิ ัตภิ ยั
7. ข้อใดกล่าวถูกตอ้ ง 11. ข้อใดเป็นแนวทางที่ถูกต้องในการปฏิบัติ
ก. แมกมาเปน็ หนิ หลอมละลายทอ่ี ยนู่ อก ตนใหป้ ลอดภยั จากภเู ขาไฟระเบิด
ช้นั เปลือกโลก
ข. ลาวาเป็นหนิ หลอมละลายทีส่ ะสมอยู่ ก. ควรหลบอยใู่ นสงิ่ ก่อสร้าง
ภายในเปลอื กโลก ข. ควรเกบ็ เคร่ืองมือส่ือสารไวภ้ ายในอาคาร
ค. แรงอดั ทเี่ กดิ จากการดนั ตัวผ่านช้ันหิน ค. ใสห่ น้ากากอนามยั เพือ่ ปอ้ งกนั เถา้ ภูเขาไฟ
ในเปลือกโลก ไมม่ ีผลตอ่ การประทุ ง. ปิดวิทยุและโทรทัศน์เพื่อป้องกันไม่ให้เกิด
ของภูเขาไฟ
ง. ภเู ขาไฟระเบดิ เปน็ การประทุของแมก ไฟฟ้ารวั่
มา แกส๊ ต่างๆ เศษหิน เศษแร่ และ
เถา้ ธลุ ีจากภายในโลกออกมาสผู่ ิวโลก 12. ปรากฏการณ์ในข้อใดท่ีมักเกิดขึ้นหลังจาก
ภเู ขาไฟปะทุ
8. ข้อใดไม่อยู่บริเวณท่ีเรียกว่า “วงแหวน
แหง่ ไฟ” ก. น้ำทว่ ม
ข. ลมพายุ
ก. บริเวณขอบมหาสมุทรแปซิฟกิ ท้ังหมด ค. แผน่ ดนิ ไหว
ข. บริเวณรอยต่อเทือกเขาแอลป์และ ง. เกดิ ภูเขาไฟใหม่
เทือกเขาหมิ าลยั
ค. ประเทศญป่ี ่นุ ท้งั หมด 13. ตำแหน่งที่เป็นจดุ กำเนิดคลื่นไหวสะเทือน
ง. บริเวณด้านตะวันตกของประเทศ เรียกวา่ อะไร
เม็กซโิ ก
9. ข้อใดไม่ใชส่ าเหตุของการเกิดแผน่ ดนิ ไหว ก. ศนู ยเ์ กิดแผน่ ดินไหว
ก. การสร้างเขื่อนหรืออา่ งเกบ็ น้ำ ข. จดุ เหนือศนู ย์เกดิ
ข. การสร้างบา้ นในทร่ี าบลุม่ ค. คาบอุบัติซ้ำ
ค. การเคลอื่ นทีข่ องเปลอื กโลก ง. แผน่ ดินไหวหลัก
ง. การสบู น้ำใต้ดนิ มาใช้
14. ขอ้ ใดกลา่ วถูกต้อง
10. ศูนย์กลางแผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นใน ก. คลน่ื ทุตยิ ภมู ิเปน็ คลน่ื ตามยาว
ประเทศไทย สว่ นใหญเ่ กดิ บริเวณภาคใด ข. คลื่นพื้นผิวเป็นคลื่นที่เดินทางผ่านศูนย์
ก. ภาคใต้ เกิดแผ่นดนิ ไหว
ข. ภาคตะวนั ออกเฉยี งเหนอื ค. คลน่ื ปฐมภมู ิสามารถเดินทางผ่านตวั กลาง
ค. ภาคเหนือ
ง. ภาคตะวันออก ไดท้ กุ สถานะ
ง. คลื่นในตัวกลางจะแผ่ออกจากจุดเหนือ
ศนู ย์เกิดแผ่นดนิ ไหว
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรูว้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 12
สำหรบั นกั เรียนชั้นมธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรือ่ ง ธรณพี บิ ตั ิ
ภัย
15. เครื่องมือในการตรวจจับแผ่นดินไหวคือ 20. การวัดขนาดและความรุนแร งขอ ง
อุปกรณ์ใด แผ่นดินไหวตามหน่วยเมอร์คัลลี ใช้หลักเกณฑ์
ก. เทอรโ์ มมเิ ตอร์ ข. ไฮกรอมิเตอร์ ใดในการวัด
ค. ไซโมกราฟ ง. แอนิมอมิเตอร์ ก. ความเสียหาย และความร้สู ึกของคน
16. มาตราที่ใช้บอกความเสียหายเนื่องจาก ข. เปรยี บเทยี บพลังงานกับการระเบดิ ปรมาณู
ค. ปรมิ าณความร้อนท่ีแผอ่ อกมาจากใต้ผิวโลก
แผ่นดินไหวคือข้อใด ง. ความถกี่ ารสั่นสะเทอื นของแผน่ เปลือกโลก
ก. ริกเตอร์ ข. เมอร์คัลลี
ค. โมห์ ง. เวนสเ์ วอรด์ 21. ธรณีพิบตั ิภยั ในข้อใด ไม่มนี ำ้ มาเกี่ยวข้อง
17. ขอ้ ใดกล่าวถูกตอ้ งเก่ยี วกับคลืน่ สนึ ามิ ก. สึนามิ ข. อุทกภยั
ก. คลื่นสึนามิมีความยาวคลื่นไม่เกิน 50 ค. โคลนถล่ม ง. แผ่นดนิ ไหว
เมตร 22. ข้อใดตอ่ ไปนี้เป็นสาเหตุของการเกดิ สึนามิ
ข. คลื่นสึนามิเกิดจากแผ่นดินไหวใต้ทะเล ก. การเคลือ่ นตวั ของแผ่มหาสมุทรในแนวด่งิ
ข. พายใุ ตฝ้ นุ่ พัดเขา้ ชายฝงั่
เท่านั้น ค. ขอ้ ก และ ข ถกู
ค. คลื่นสึนามิในบริเวณระดับน้ำลึกจะมี ง. ไม่มีขอ้ ใดถกู
ความเรว็ สูง
ง. คลื่นสึนามิจะมีความสูงไม่มากเม่ือ
เคลื่อนทีเ่ ข้าส่ชู ายฝัง่ 23. ขอ้ ใดกล่าวถูกต้อง
18. ข้อใดเปน็ สญั ญาณเตอื นการเกิดสนึ ามิ ก. การระเบิดอย่างรุนแรงของภูเขาไฟใต้ทะเล
ก. น้ำทะเลมีคล่ืนลมสงบ เปน็ หน่งึ ในสาเหตขุ องการเกดิ สนึ ามิ
ข. นำ้ ทะเลมีคล่ืนลมแรง
ค. นำ้ ทะเลลดระดบั ลงอยา่ งรวดเร็ว ข. คลื่นสึนามิที่เกิดในทะเลลึกจะมีขนาดใหญ่
ง. นำ้ ทะเลมีสผี ิดปกติ กว่าคลืน่ สึนามิบรเิ วณชายฝ่ัง
ค. คลนื่ สึนามใิ นทะเลลึกจะมกี ารเคลอ่ื น
ตวั อยา่ งช้า ๆ เปน็ ผลใหค้ ล่นื สนึ ามกิ ลางทะเลไม่
19. ข้อใดตอ่ ไปนีไ้ มใ่ ช่สาเหตกุ ารเกิดสนึ ามิ สร้างความเสียหายใด
ก. การทดลองระเบิดปรมาณูใตน้ ำ้ ง. คล่นื สึนามิจะเขา้ กระทบฝงั่ ดว้ ยความเร็วท่ี
ข. แผ่นดินไหว
เพม่ิ ขึน้ จากเดมิ
ค. ภูเขาไฟใต้นำ้ ระเบิด
ง. ลมพายุ
โดย ครสู ุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 13
สำหรบั นกั เรียนชน้ั มัธยมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ธรณพี บิ ตั ิ
ภยั
24. ในเหตุการณ์สึนามิ วันที่ 26 ธันวาคม 27. เมื่อวันที่ 26 ธันวาคม พ.ศ.2547
2547 มีจดุ กำเนิดทีใ่ ด ประเทศไทยเคยประสบภัย สนึ ามิบริเวณใด
ก. บริเวณเกาะสมุ าตรา ก. ภาคกลาง บรเิ วณปากแมน่ ำ้ เจา้ พระยา
ข. บรเิ วณอา่ วไทย ข. ภาคตะวันออก ชายฝั่งอ่าวไทย
ค. บรเิ วณทะเลจีนใต้ ค. ภาคใต้ ชายฝ่งั ทะเลอนั ดามนั
ง. บริเวณคาบสมทุ รมลายู ง. ภาคใต้ ชายฝ่งั อ่าวไทย
25. สึนามิทำให้เกิดความเสียหายแก่ 28. ขอ้ ใดไมใ่ ช่การปฏิบัติตนหลงั เกดิ สึนามิ
ทรพั ยากรธรรมชาตแิ ละส่ิงแวดล้อมมากมาย ก. ไม่เข้าในพื้นที่ที่แจ้งว่าเป็นพื้นท่ี
ยกเวน้ ขอ้ ใดตอ่ ไป
อันตราย
ก. ปะการังเกดิ ความเสียหาย ข. ตรวจสอบเครือ่ งใชไ้ ฟฟ้ากอ่ นกลบั มาใช้
ข. ป่าชายเลนหักโค่น ค. ระมัดระวงั โรคระบาดหลงั เกิดสึนามิ
ค. ชายหดถกู กัดเซาะ ง. ไปหาของมคี ่าที่พัดจากทีอ่ น่ื
ง. ทำให้ป่าไมอ้ ดุ มสมบูรณ์
26. การเกิดแผน่ ดินไหวแต่ละครั้งท่เี กิดความ 29. ใครต่อไปนี้ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องเมื่อเกิด
เสียหายมากจะเปน็ บรเิ วณใด เหตุการณ์สนึ ามิ
ก. บรเิ วณทีเ่ หนือจดุ ศูนย์เกดิ ก. จองอรู บี วง่ิ ไปอยทู่ ีภ่ เู ขาสูง
ข. บริเวณใกล้จุดศนู ย์ ข. จุนกยรู บี ออกไปจากชายหาด
ค. บริเวณจุดศูนย์กลางโลก ค. มาชริ บี ว่ิงไปท่ีชายหาดเพอ่ื ถา่ ยรปู
ง. ตามผิวโลก ง. จองฮวานรบี นำเรือออกไปยงั นำ้ ลึก
30. ใครต่อไปนี้ที่ปฏิบัติไม่ถูกต้องหากเกิด ไมย่ ากทใี ชไ่ หมครชั ...
แผ่นดินไหวขณะทอ่ี ย่บู นอาคารสงู
ก. ฮยอนซอกใช้ลิฟต์เพอ่ื ลงไปช้นั ล่าง
ข. ฮารูโตะควบคมุ สตไิ มใ่ หต้ นื่ ตกใจ
ค. แจฮยอกหมอบแอบอยู่ใต้โต๊ะท่แี ข็งแรง
ง. โดยองรีบหาทางออกจากอาคารทนั ที
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 14
สำหรับนักเรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ เรอ่ื ง ธรณีพิบตั ิ
ภยั
กระดาษคำตอบแบบทดสอบกอ่ นเรียน
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้ เร่อื ง ธรณพี บิ ัตภิ ัย
ชือ่ ............................................................................................ ช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4/....... เลขท่.ี ........
ขอ้ ที่ ก ข ค ง ขอ้ ที่ ก ข ค ง ข้อที่ ก ข ค ง
1 11 21
2 12 22
3 13 23
4 14 24
5 15 25
6 16 26
7 17 27
8 18 28
9 19 29
10 20 30
คะแนนท่ีได้………... ลงชื่อ.....................................................ผู้ตรวจ
ผ่าน
ไม่ผ่าน (.....................................................)
........./.............../............
เกณฑ์การประเมิน
คะแนนเตม็ 10 คะแนน บันทกึ คะแนนเอาไว้
8 – 10 คะแนน = ดีเย่ียม เปรยี บเทยี บ กับหลังเรียน
5 – 7 คะแนน = ดมี าก ดว้ ยนะครชั ...และพยายาม
3 – 4 คะแนน = พอใช้
0 – 2 คะแนน = ปรบั ปรงุ ต่อไปนะ่ สู้ สู้
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุม่ สาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 15
สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ เรอื่ ง ธรณพี บิ ตั ิ
ภยั
ใบความรู้ที่ 1 เรอื่ ง ภเู ขาไฟระเบดิ
ภูเขาเกิดจากการเปล่ียนแปลงลักษณะของเปลือกโลก ซึ่งแผ่นธรณีทวีปดันกันทำให้ชั้นหินคด
โคง้ (Fold) เปน็ รปู ประทุนควำ่ และประทนุ หงายสลับกนั ภูเขาท่ีมียอดแบนราบอาจเกิดจากการยกตัว
ของเปลือกโลกตามบริเวณรอยเลื่อน (Fault) แตภ่ ูเขาไฟ (Volcano) มกี ำเนิดแตกต่างจากภูเขาท่ัวไป
ภเู ขาไฟเกิดจากการยกตัวของแมกมาใต้เปลือกโลก
ภาพท่ี 1.1 โครงสรา้ งของภูเขาไฟ
ท่มี า : http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/geological-phenomenon/volcano
สาเหตขุ องการเกิดภเู ขาไฟระเบิด
กระบวนการระเบิดของภูเขานั้นยังไม่เป็นที่เข้าใจกระจ่างชัดนัก นักธรณีวิทยาคาดว่ามีการ
สะสมของความรอ้ นอยา่ งมากบรเิ วณนนั้ ทำใหม้ แี มกมา ไอน้ำ และแกส๊ สะสมตัวอยมู่ ากขึ้นเรื่อยๆ ซง่ึ
ก่อให้เกิดความดนั ความร้อนสงู เมอ่ื ถึงจดุ หนงึ่ มนั จะระเบิดออกมา อตั ราความรุนแรงของการระเบิด
ขึ้นอยู่กับความรุนแรงของการระเบิด รวมทั้งขึ้นอยู่กับความดันของไอ และความหนืดของลาวา ถ้า
ลาวาขน้ มากๆ อัตราการรุนแรงของการระเบดิ จะรนุ แรงมากตามไปดว้ ย เวลาภเู ขาไฟระเบิด มิใช่มีแต่
เฉพาะลาวาที่ไหลออกมาเท่านั้น ยังมีแก๊สไอน้ำ ฝุ่นผงเถ้าถ่านต่างๆ ออกมาด้วย มองเป็นกลุ่มควัน
ม้วนลงมา พวกไอน้ำจะควบแน่นกลายเป็นนำ้ นำเอาฝุ่นละอองเถา้ ต่างๆ ที่ตกลงมาด้วยกัน ไหลบ่า
กลายเป็นโคลนท่วมในบริเวณเชิงเขาต่ำลงไป ยิ่งถ้าภูเขาไฟน้ันมีหิมะคลุมอยู่ มันจะละลายหิมะ นำ
โคลนมาเป็นจำนวนมากได้ เช่น ในกรณีของภัยพิบตั ิทเ่ี กิดในประเทศโคลัมเบียเมื่อไมน่ านน้ี
โดย ครสู ลุ กิฟลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 16
สำหรบั นกั เรียนชน้ั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่ือง ธรณีพิบตั ิ
ภยั
ประเภทของภเู ขาไฟ
การระเบิดของภูเขาไฟระเบิดจะ 1. ภูเขาไฟที่มีพลัง (Active volcano) เป็น
รุนแรงหรือไม่ขึ้นอยู่กับปริมาณของ ภเู ขาไฟทคี่ กุ รนุ่ อยู่ตลอดเวลา อาจะปะทุหรอื ระเบิด
แก๊สและซลิ กิ าละลายอยูใ่ นแมกมา ขึ้นมาอีกเมื่อไหร่ก็ได้ ส่วนใหญ่พบตรงบริเวณแนว
รอยต่อของแผ่นธรณีภาค (ทั่วโลกมีอยู่ประมาณ
- ถ้ามีแก๊สหรือซิลกิ ามาก >> แมก 1,300 ลกู )
มามีความหนดื มาก การปะทุจะรุนแรง
2. ภเู ขาไฟสงบ (dormant) เปน็ ภูเขาไฟท่ีเคย
- ถ้ามแี ก๊สหรอื ซิลิกานอ้ ย >> แมก ปะทุแล้วแต่ยังคงสงบอยู่ เมื่อมีพลังเพิ่มพูนขึ้นใหม่
มามีความหนืดน้อย การปะทุจะไม่ มากพอก็อาจเกิดการปะทุข้ึนมาอีกได้
รุนแรงมาก เนื่องจากแก๊สสามารถลอย
ออกมาจากแมกมาไดโ้ ดยง่าย 3. ภูเขาไฟดับสนิท (extinct volcano) เป็น
ภเู ขาไฟท่ีไมม่ กี ารปะทุอีกต่อไป ไมป่ รากฎความรอ้ น
รูปรา่ งของภูเขาไฟ ใตพ้ ื้นทบ่ี ริเวณนน้ั
ภเู ขาไฟมรี ูปรา่ งสัณฐานต่าง ๆ กัน เนือ่ งจากเกดิ ขึ้นจากแมกมาซ่ึงมีแหลง่ กำเนิดแตกต่างกัน
และมีองค์ประกอบของแร่แตกต่างกัน เราจำแนกชนิดของภูเขาไฟตามลักษณะทางกายภาพได้ 4
รูปร่าง ดงั น้ี
1. ทีร่ าบสูงบะซอลต์ (Basalt Plateau)
เกิดจากแมกมาบะซอลต์แทรกตัวขึ้นมาตามรอย
แตกของเปลือกโลกแล้วกลายเป็นลาวาไหลท่วม
บนพื้นผิว ในลักษณะเช่นเดียวกับน้ำท่วม เม่ือ
ลาวาเย็นตัวลงก็จะกลายเป็นทีร่ าบสูงลาวาขนาด
ใหญ่ประมาณ 100,000 ถึง 1,000,000 ตาราง
กโิ ลเมตร เชน่ เกาะสกาย ประเทศองั กฤษ
ภาพท่ี 1.2 ท่รี าบสงู บะซอลต์ (เกาะสกาย)
ทมี่ า : http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/geological-phenomenon/volcano
โดย ครสู ุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลุม่ สาระการเรียนร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 17
สำหรับนกั เรียนชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ธรณีพบิ ตั ิ
ภยั
2. ภูเขาไฟรูปโล่ (Shield volcano)
เกิดขึ้นจากแมกมาบะซอลต์ที่มีความหนืดสูง ไหล
ออกมาฟอรม์ ตวั เปน็ ทร่ี าบสงู ลาวา แต่ความหนืดทำ
ให้แมกมาก่อตัวเป็นภูเขาไฟขนาดใหญ่และอาจสูง
ได้ถึง 9,000 เมตร แต่มีลาดชันเพียง 6 - 12 องศา
ภเู ขาไฟรปู โล่มกั เกิดขึ้นจากแมกมาซึ่งยกตัวขึ้นจาก
จุดร้อน (Hotspot) ในเนื้อโลกชั้นล่าง (Lower
mantle) ตัวอย่างเช่น ภูเขาไฟมอนาคีบนเกาะ ภาพที่ 1.3 ภูเขาไฟรูปโล่ (มอนาคี)
ฮาวาย ทกี่ ลางมหาสมทุ รแปซฟิ ิก ทมี่ า : http://www.lesa.biz/earth/
lithosphere/geological-phenomenon/volcano
3. กรวยกรวดภูเขาไฟ (Cinder cone) เป็นภูเขาไฟขนาดเล็กมาก สูงประมาณ 100 - 400
เมตร ความลาดชันปานกลาง เกดิ จากการสะสมตวั ของแก๊สร้อนในแมกมาทีย่ กตัวขึน้ มา เมื่อมคี วามดันสูง
เพียงพอ ก็จะระเบิดทำลายพื้นผิวโลกด้านบนเกิดเป็นปล่องภูเขาไฟ กรวดและเถ้าภเู ขาไฟ กระเด็นข้นึ สู่
อากาศแลว้ ตกลงมากองทับถมกนั บรเิ วณปากปล่องเกิดเป็นเนนิ เขารูปกรวย ข้อสงั เกตคือ ภูเขาไฟแบบนี้
ไมม่ ีธารลาวาซง่ึ เกิดข้ึนจากแมกมาไหล แตจ่ ะมลี ักษณะเป็นกรวดกลมๆ พงุ่ ออกมาจากปากปลอ่ ง แล้วกอง
สะสมกันทำให้เกิดความลาดชันประมาณ 30 - 40 องศา เช่น กรวยภูเขาไฟในรัฐโอรีกอน ประเทศ
สหรฐั อเมรกิ า
ภาพท่ี 1.4 กรวยกรวดภูเขาไฟ
ท่มี า : http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/geological-phenomenon/volcano
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 18
สำหรบั นักเรยี นช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ธรณพี บิ ตั ิ
ภยั
4. ภเู ขาไฟกรวยสลับช้นั (Composite cone volcano) เปน็ ภเู ขาไฟขนาดปานกลาง ที่มี
รปู ทรงสวยงามเป็นรูปกรวยคว่ำ สูงประมาณ 100 เมตร ถงึ 3,500 เมตร เรยี งตวั อย่บู รเิ วณเขตมุดตัว
(Subduction zone) เกิดขึ้นจากแผ่นธรณีมหาสมุทรที่หลอมละลายเป็นแมกมา แล้วยกตัวขึ้นดัน
เปลือกโลกขึ้นมาเป็นแนวภูเขาไฟรูปโค้ง (Volcanic arc) สิ่งที่ภูเขาไฟพ่นออกมามีทั้งธารลาวา และ
กรวดเถ้าภูเขาไฟ สลับชั้นกันไป เนื่องจากในบางครั้งแมกมาแข็งตัวปิดปากปล่องภูเขาไฟ ทำให้เกิด
แรงดันจากแกส๊ ร้อน ดันให้ภูเขาไฟระเบิดและเปลี่ยนรูปทรง ตัวอย่างเชน่ ภูเขาไฟฟูจิ ประเทศญี่ปนุ่
ภูเขาไฟพินาตูโบ ประเทศฟิลิปปินส์, ภูเขาไฟเซนตเ์ ฮเลน รฐั วอชิงตัน ประเทศสหรฐั อเมริกา ภูเขาไฟ
รปู กรวยเปน็ แนวภูเขาไฟรูปโคง้ (Volcano arc) ซึง่ เกิดขึ้นจากแมกมาในบริเวณเขตมุดตัวของเปลือก
โลกมหาสมุทรทีห่ ลอมละลาย ประเภทนี้ระเบดิ จะมีความรุนแรงสูงและก่อให้เกิดความเสยี หายเปน็
อย่างมาก
ภาพที่ 1.5 ภเู ขาไฟกรวยสลับชนั้ (ฟจู ิ)
ทีม่ า : http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/geological-phenomenon/volcano
การประทขุ องภูเขาไฟ
ภูเขาไฟไมม่ ีคาบการระเบดิ ที่แนน่ อน ทงั้ นี้ข้ึนอยกู่ ับแรงดันภายในคุณสมบตั แิ ละปริมาณหินที่
กดทับโพรงแมกมา อย่างไรก็ตามนกั ธรณวี ิทยาสามารถทำการพยากรณ์อย่างคร่าวๆ โดยการวเิ คราะห์
ความถ่ีของคล่นื ไหวสะเทือน ความรนุ แรงของแผ่นดินไหว ความเป็นกรดของนำ้ ใต้ดินซ่ึงเกิดจากแมก
มาอุณหภมู สิ ูงทำให้แรธ่ าตลุ ะลายตวั และความผิดปกติของพฤติกรรมสตั ว
โดย ครสู ุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 19
สำหรบั นักเรียนชนั้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง ธรณพี บิ ตั ิ
ภยั
(ก) (ข) (ค) (ง)
ภาพที่ 1.6 การปะทุของภเู ขาไฟ
ที่มา : http://www.lesa.biz/earth/lithosphere/geological-phenomenon/volcano
การปะทุของภูเขาไฟที่รุนแรงเกิดขึ้น เมื่อแมกมาบะซอลต์ยกตัวขึ้นลอยตัวขึ้นจากชั้นฐาน
ธรณีภาค จะทำให้แผ่นเปลือกโลกธรณีซึ่งเปน็ หินแกรนิตหลอมละลายกลายเป็นแมกมาแกรนิต แล้ว
ดันพื้นผิวโลกให้โก่งตัวขึ้น (ภาพ ก) แรงอัดของแก๊สร้อนดันให้ปากปล่องภูเขาไฟระเบิด พ่นฝุ่นเถ้า
ภเู ขาไฟ (Pyroclastic flow) ซึ่งมคี วามร้อนถงึ 900 องศาเซลเซยี สข้นึ สู่ชนั้ บรรยากาศ (ภาพ ข) แล้ว
ตกลงมาทบั ถมกันที่บริเวณเนนิ ภูเขาไฟ (ภาพ ค) ทงั้ ลาวาที่ไหลออกมาและเศษวัสดุท่ีตกลงมาทับถม
กัน ทำให้บริเวณรอบปากปล่องภูเขามีน้ำหนักมาก จึงทรุดตัวกลายเป็นแอ่งภูเขาไฟรูปกระจาด
(Caldera) เมือ่ เวลาผา่ นไปน้ำฝนตกลงมาสะสมกันทำใหเ้ กดิ เป็นทะเลสาบ (ภาพ ง)
ประโยชน์และโทษของภูเขาไฟ
ภูเขาไฟระเบิดใกล้ชุมชนทำให้เกิดมหันตภัยครั้งย่ิงใหญ่ แผ่นดินไหวทำให้อาคารพังพินาศ
ถนนขาด และไฟไหม้เนื่องจากท่อแก๊สถูกทำลาย ธารลาวา กรวดและเถ้าภูเขาไฟที่ไหลลงมา
(Pyroclastic flow) สามารถทับถมหมู่บ้านและเมืองที่อยู่รอบข้าง ถ้าภูเขาไฟอยู่ชายทะเล
แรงส่ันสะเทือนจากแผน่ ดินไหวจะทำให้เกิดคลื่นสึนามขิ นาดยักษ์กระจายตวั ออกไปได้ไกลหลายร้อย
กโิ ลเมตร ฝนุ่ และเถ้าภเู ขาไฟสามารถปลวิ ไปตามกระแสลมเป็นอุปสรรคต่อการจราจรทางอากาศ แต่
อย่างไรก็ตามภูเขาไฟระเบิดหนึง่ เป็นส่วนหนึ่งของวัฏจักรธรณีแปรสัณฐาน ซึ่งหมุนเวียนธาตุอาหาร
ใหแ้ กผ่ ิวโลก ดนิ ทเี่ กิดจากการสลายตัวของหนิ ภเู ขาไฟ มีความอดุ มสมบรู ณส์ งู ใชป้ ลูกพืชพรรณได้งอก
งาม แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ซึ่งปล่อยออกมาจากปล่องภูเขาไฟ ทำให้พืชสามารถสังเคราะห์ธาตุ
อาหารด้วยแสง แมกมาใตเ้ ปลอื กนำแร่ธาตแุ ละอัญมณที ่ีหายาก เช่น เพชร พลอย ข้ึนมา เปน็ ต้น และ
ดว้ ยเหตทุ ีภ่ เู ขาไฟนำมาซง่ึ ความมั่งคง่ั อดุ มสมบูรณ์ ดงั น้ันชมุ ชนจงึ มกั ต้ังอยทู่ เี่ ชงิ ภูเขาไฟ
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กล่มุ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 20
สำหรบั นกั เรยี นชนั้ มัธยมศกึ ษาปที ี่ 4 หน่วยการเรียนรู้ เร่อื ง ธรณพี ิบตั ิ
ภัย
ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 1.1
เรื่อง เอะ๊ !!! ภูเขาไฟระเบิดคอื อะไรน่ะ?
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. อธิบายสาเหตุ กระบวนการเกดิ ภเู ขาไฟระเบิด
2. ระบุและอธิบายปัจจัยที่ทำให้ความรนุ แรงของการประทุและประเภทของภูเขาไฟในแต่ละ
พืน้ ท่ี
3. สบื ค้นและนำเสนอขอ้ มลู พนื้ ท่ีเส่ยี งภัย และผลจากการเกิดภูเขาไฟระเบดิ และนำเสนอ
แนวทางการเฝา้ ระวังและการปฏิบัติตนใหป้ ลอดภัยได้
วัสด-ุ อุปกรณ์
1. แบบบนั ทึกกจิ กรรมการเรยี นรทู้ ่ี 1.1
2. กระดาษซาลาเปา
วิธกี ารทำกิจกรรม
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเป็น 6 กลุ่ม คละกันตามความสามารถ คือ เก่ง ค่อนข้างเก่ง ปาน
กลาง คอ่ นข้างอ่อน และอ่อน แล้วใหแ้ ต่ละกลมุ่ กำหนดบทบาทหน้าท่ขี องสมาชกิ ในกลุ่มเพ่ือให้ทุกคน
มสี ่วนรว่ มในการทำงาน โดยใหศ้ กึ ษาข้อมูลดงั ตอ่ ไปนี้
1) สาเหตแุ ละกระบวนการเกิดภเู ขาไฟระเบิด
2) ผลกระทบและประโยชน์จากการเกิดภเู ขาไฟระเบิด
3) รปู ร่างของภูเขาไฟ
4) การเตรียมความพรอ้ มกอ่ นเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ
5) การปฏิบัติตนขณะเกิดภูเขาไฟระเบิด
6) การปฏบิ ตั ิตนหลังเกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ
2. ครใู หน้ ักเรียนร่วมกันสืบค้นขอ้ มูลจากหนงั สอื เรียนวิทยาศาสตร์ รายวชิ าเพิม่ เตมิ โลก ดารา
ศาสตร์ และอวกาศ 1 หรือสืบค้นข้อมูลบนอินเตอร์เน็ต และรวบรวมข้อมูลเพื่อนำมาสรุปลงใน
กระดาษซาลาเปา
3. ครใู หน้ กั เรียนนำเสนอข้อมลู ทไ่ี ด้ทำการรวบรวมและสรปุ มานำเสนอหนา้ ช้นั เรียน
4. ครใู ห้แต่ละกลุม่ บนั ทึกขอ้ มูลลงในแบบบนั ทึกการเรียนรู้ท่ี 1.1 ทเี่ พอ่ื นไดเ้ สนอหน้าช้ันเรียน
ในหวั ข้อทีแ่ ตกต่างจากกลุม่ ตัวเองรับผดิ ชอบ
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 21
สำหรับนกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ธรณพี ิบตั ิ
ภัย
แบบบนั ทึกผลการทำกจิ กรรมการเรียนรู้
1) สาเหตแุ ละกระบวนการเกิดภูเขาไฟระเบิด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2) ผลกระทบและประโยชน์จากการเกดิ ภเู ขาไฟระเบิด
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3) รปู ร่างของภเู ขาไฟ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
4) การเตรียมความพร้อมกอ่ นเกดิ ภูเขาไฟระเบดิ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
5) การปฏบิ ัติตนขณะเกดิ ภูเขาไฟระเบดิ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
……………………………………………………………………………………………………………………………………………
….…………………………………………………………………………………………………………………………………
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 22
สำหรบั นกั เรียนชน้ั มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่อื ง ธรณีพิบตั ิ
ภยั
6) การปฏบิ ัตติ นหลังเกดิ ภูเขาไฟระเบดิ
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำถามทา้ ยกจิ กรรม
1. เพราะเหตุใด การปะทขุ องภเู ขาไฟมีความรุนแรงทแี่ ตกตา่ งกัน
ตอบ........................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
2. ภูเขาไฟสว่ นมากเกิดจากแผน่ ธรณีเคล่ือนทใ่ี นลกั ษณะใด
ตอบ........................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
3. ในประเทศไทยส่วนใหญม่ ภี ูเขาไฟรูปแบบใด พร้อมยกตัวอย่างภูเขาไฟทีม่ ีอยู่ในประเทศไทยอยา่ ง
น้อย 2 ตวั อย่าง
ตอบ........................................................................................................................................................
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
เปน็ อยา่ งไรบา้ งครับ
คำถามไม่อยากเลยใชไ่ หมครบั
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลุม่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 23
สำหรับนักเรยี นช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ เร่ือง ธรณีพบิ ตั ิ
ภัย
ใบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 1.2
เร่ือง เหตกุ ารณ์ภเู ขาไฟระเบิดทส่ี นใจ
คำชแี้ จง : ให้นักเรยี นสบื ค้นข้อมูลเกีย่ วกับเหตกุ ารณ์ภเู ขาไฟระเบดิ ท่ีนกั เรยี นสนใจแลว้ สรปุ ความรู้ใน
ประเด็นทก่ี ำหนดให้ดงั นี้
เหตุการณ์ภูเขาไฟระเบิดเกดิ ขึ้นบรเิ วณใด และชว่ งเวลาใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………….……
……………………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………………….……
..........................................................................................................................................................
.
สาเหตุที่ทำให้เกดิ ภเู ขาไฟระเบดิ
……………………………………………………………………………………………………………………….…………..……
…………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
…………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
…………………………………………………………………………………………………………………..….…………………
….
ผลกระทบที่เกดิ จากภเู ขาไฟระเบิด
…………………………………………………………………………………………………………………….....……….………
………………………………………………………………………………………………………………………..……….………
………………………………………………………………………………………………………………………..……….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
.
รปู แบบของภเู ขาไฟ
โดย ครสู ลุ กิฟลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 24
สำหรบั นกั เรียนชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ เร่อื ง ธรณีพิบตั ิ
ภัย
ใบกิจกรรมการเรยี นรทู้ ี่ 1.3
เรอื่ ง แบบจำลองภูเขาไฟระเบิด
จุดประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถนำความรเู้ ร่อื งรปู แบบของภูเขาไฟ
2. นกั เรยี นสามารถออกแบบและสร้างแบบจำลองภูเขาไฟระเบิด
3. นกั เรยี นสามารถสืบคน้ และนำเสนอรปู แบบของภเู ขาไฟระเบิดตามท่นี ักเรยี นสนใจ
วสั ด-ุ อปุ กรณ์ 5. นำ้ ส้มสายชู
6. ถว้ ย
1. ถาด 7. สีผสมอาหาร
2. ดนิ นำ้ มัน
3. เบกกงิ้ โซดา
4. นำ้ ยาลา้ งจาน
วิธกี ารทำกิจกรรม
1. ครูกำหนดสถานการณ์ “นักเรียนเป็นผู้โชคดีได้รับทุนการศึกษาเพื่อการท่องเที่ยวจาก
หน่วยงานทางการศกึ ษาพร้อมกบั ครอบครวั ได้ไปเท่ยี วในประเทศอนิ โดนเี ซีย ซง่ึ เปน็ ประเทศท่ีเปน็
เกาะและส่วนใหญ่เป็นภูเขาไฟที่มีหลากหลายรูปแบบ ในระหว่างการท่องเที่ยวนักเรียนได้รับ
มอบหมายให้ศกึ ษา เก็บขอ้ มูลรปู แบบของภเู ขาไฟ กระบวนการเกดิ พร้อมสรา้ งแบบจำลองภูเขา
ไฟและสาธิตการระเบิดของภูเขาไฟ เพื่อไปเผยแพร่ความรู้และประสบการณ์จาการท่องเที่ยวสู่
ห้องเรียนของนักเรียน โดยกำหนดการจำลองการเกิดภูเขาไฟควรมีความสูงอย่างน้อย 10
เซนตเิ มตร พร้อมตกแตร่ อบๆ ภูเขาไฟอย่างสร้างสรรค์ สวยงาม”
2. ใหน้ กั เรยี นออกแบบและร่างแบบ แบบจำลองภเู ขาไฟระเบดิ ตามท่กี ลุ่มนกั เรียนสนใจ
3. ครใู ห้นักเรยี นสรา้ งแบบจำลองภเู ขาไฟระเบิดตามที่ได้ออกแบบไว้
4. เมื่อสร้างแบบจำลองเสร็จแล้วให้นำมาทดสอบการปะทุของภูเขาไฟระเบิด ตามส่วนผสมท่ี
นกั เรียนไดค้ ำนวณไว้
5. ถ้าหากกลุ่มไหนทดสอบและเปน็ ไปตามรูปแบบของภูเขาไฟระเบิด แต่ถ้ากลุ่มไหนทดสอบ
แล้วไม่เป็นไปตามรูปแบบของภูเขาไฟระเบิด ให้กลับไปแก้ไขสัดส่วนที่คำนวณไว้และมาทดสอบอีก
ครัง้ พรอ้ มระบปุ ัญหาและวิธกี ารแก้ปัญหาท่เี กิดขนึ้
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กล่มุ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา
ชดุ กจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 25
สำหรับนกั เรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรื่อง ธรณพี บิ ตั ิ
ภัย
1. จากสถานการณ์ทก่ี ำหนดให้ จงระบุปัญหาทน่ี ักเรยี นจะตอ้ งแก้ไข
ตอบ........................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
วทิ ยาศาสตร์ (S)
(S)
เทคโนโลยี (T)
(S)
(S)
วิศวกรรม (E)
(S)
(S)
ศิลปะ (A)
(S)
(S)
คณติ ศาสตร์ (M)
(S)
(S)
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 26
สำหรบั นกั เรยี นชั้นมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ เร่อื ง ธรณพี บิ ตั ิ
ภัย
2. วาดภาพร่าง 3 มิติ ของสิ่งปลูกสร้าง พร้อมทั้งระบุมาตราส่วนและขนาด รวมทั้งคำนวณปริมาณ
วัสดทุ ่ีจะใช้ในการกอ่ สรา้ ง
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 27
สำหรับนักเรียนชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ เรอ่ื ง ธรณีพบิ ตั ิ
ภยั
บันทึกการแก้แบบ
ปญั หาทนี่ ำไปสู่การแก้แบบ และแนวทางการแกป้ ัญหา
3. จากกจิ กรรมข้างตน้ นกั เรยี นสามารถนำไปประยกุ ตใ์ ชใ้ นชีวิตประจำวันไดอ้ ย่างไร
ตอบ........................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
โดย ครสู ลุ กิฟลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 28
สำหรบั นักเรยี นชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ เรอ่ื ง ธรณีพบิ ตั ิ
ภัย
ใบความรู้ท่ี 2 เรอ่ื ง แผน่ ดินไหว
แผ่นดินไหว เป็นปรากฏการณ์ทางธรรมชาติที่เกิดขึ้น เนื่องจากการเคลื่อนตัวของชั้นหนิ ใน
เปลอื กโลก ทำให้หินเปลยี่ นลกั ษณะ เลื่อนตัว แตกหัก และถา่ ยโอนพลงั งานอย่างรวดเร็วให้กับชั้นหิน
ทอี่ ยู่ติดกนั ในรูปของคลื่นไหวสะเทอื น ส่งผลทำให้เกิดการสนั่ สะเทอื นของแผ่นดนิ ที่รู้สกึ ได้ ณ บริเวณ
ใดบริเวณหนึ่งบนผิวโลก ซึ่งเป็นผลมาจากการปลดปล่อยพลังงานที่สะสมไว้อย่างฉับพลัน เพื่อปรับ
สมดุลของเปลือกโลก จะอยใู่ นรปู ของคลื่นไหวสะเทือน หรอื คลน่ื แผ่นดนิ ไหว
สาเหตุของการเกดิ แผน่ ดนิ ไหว
O สาเหตจุ ากธรรมชาติ เช่น กระบวนการธรณีแปรสัณฐาน ภเู ขาไฟระเบดิ เปน็ ตน้ ซึ่งสง่ ผล
ทำใหช้ ัน้ หนิ ที่อยใู่ นเปลอื กโลกเกิดการเคลือ่ นตวั
O สาเหตุจากมนุษย์ เช่น การทดลองระเบิดนิวเคลียร์ การกักเก็บน้ำในเขื่อน เป็นต้น ซึ่ง
สง่ ผลทำใหช้ นั้ หินที่อยู่ในเปลอื กโลกเกิดการแตกหกั
ภาพที่ 2.1 การปะทขุ องภเู ขาไฟ ภาพท่ี 2.2 การทดลองระเบิดนวิ เคลยี ร์
ท่ีมา : www.leza.biz ท่มี า : www.leza.biz
วา้ ยยย มนุษยเ์ รากม็ สี ว่ นทท่ี ำให้
เกิดแผ่นดินไหวด้วยหรอื เนยี่ ย
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพันธ์ กล่มุ สาระการเรียนรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 29
สำหรบั นกั เรยี นช้ันมธั ยมศึกษาปที ี่ 4 หน่วยการเรียนรู้ เรือ่ ง ธรณีพบิ ตั ิ
ภัย
กระบวนการเกดิ แผ่นดินไหว
การเกดิ แผน่ ดนิ ไหวมกั เกดิ บริเวณรอยแตกของแผ่นธรณที มี่ กี ารเคล่อื นตัวเม่ือเกิดแผ่นดินไหว
คล่ืนไหวสะเทอื นจะแผก่ ระจายจากจุดกำเนิดที่ เรียกว่า ศูนย์เกิดแผ่นดินไหว ไปทุกทิศทุกทาง และ
สามารถเคลื่อนท่ีผ่านตัวกลางต่าง ๆ ภายในโลกข้นึ มาบนผิวโลก จดุ บนผิวโลกท่อี ยู่ในตำแหน่งตรงกับ
ศูนย์เกิดแผ่นไหว เรียกว่า จุดเหนือศูนย์เกิดแผ่นดินไหว ซึ่งมักใช้อ้างองิ ด้วยพกิ ัดละตจิ ูด/ลองจิจดู
เม่อื เกดิ แผน่ ดินไหวจะเกิดคลืน่ ไหวสะเทือน 2 แบบ คอื คล่ืนในตัวกลาง และคล่ืนพืน้ ผวิ
ภาพที่ 2.3 กระบวนการเกดิ แผ่นดินไหว
ที่มา : www.leza.biz
จากการแปรสัณฐานของแผ่นธรณี ทำให้ทราบว่าแผ่นธรณีมีหลายแผ่น แต่ละแผ่นมีทิศ
ทางการเคลื่อนที่และอัตราเร็วในการเคลื่อนที่แตกต่างกัน เมื่อแผ่นธรณีเคลื่อนที่จะเกิดการเสียดสี
หรือชนกนั ทำใหเ้ กดิ ความเค้นกระทำต่อหินในแผ่นธรณอี อกเป็น 3 แบบ
รูปแบบความเค้น ลกั ษณะความเคน้ คำอธบิ าย
ความเคน้ ดึง (แรงดึง) แรงดึงต่อหน่วยพื้นที่หน้าตัดของ
วัตถุ
แรงอัดหรือความเค้นที่มากระทำ
ความเคน้ อดั (แรงอดั ) ต่อวัตถุในทิศที่ตั้งฉากกับพื้นที่
ตดั ขวาง ทำให้วตั ถุหดส้นั ลง
แรงที่กระทำให้วัตถุฉีกขาดออก
ความเค้นเฉือน (แรงเฉอื น) จากกันตามแนวระนาบที่ขนานไป
กับทิศทางของแรง
ภาพที่ 2.4 ความเคน้ (แรงเค้น) ; ทม่ี า : www.leza.biz
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชดุ กิจกรรมการเรยี นรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 30
สำหรบั นักเรยี นชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ เร่อื ง ธรณีพิบตั ิ
ภัย
คลน่ื ไหวสะเทอื น
คล่นื ไหวสะเทือน หรือคลนื่ แผ่นดนิ ไหว เปน็ คลืน่ ท่มี ีความถ่ีตำ่ ซ่งึ ถา่ ยทอดพลังงานผ่านชั้นหิน
ภายในโลก แบ่งตามลักษณะการเคลื่อนที่ของคลื่นออกเป็น 2 ประเภท คือ คลื่นในตัวกลางและคลื่น
พน้ื ผวิ
1. คล่นื ในตัวกลาง (Body wave) เดนิ ทางจากศูนย์เกดิ แผน่ ดนิ ไหว ผา่ นเขา้ ไปในเน้ือโลกใน
ทุกทิศทาง ในลักษณะเช่นเดียวกับคล่ืนเสียงซึ่งเดนิ ทางผ่านอากาศในทุกทิศทาง คลื่นในตัวกลางมี 2
ชนดิ ได้แก่ คลน่ื ปฐมภูมิ (P wave) และ คลื่นทุตยิ ภูมิ (S wave) ดังภาพท่ี 2.5
คล่ืนปฐมภมู ิ (P wave)
เป็นคลื่นตามยาวที่เกิดจากความไหวสะเทือนในตัวกลาง โดยอนุภาคของตัวกลางนั้นเกิด
การเคลอื่ นไหวแบบอัดขยายในแนวเดียวกับที่คล่ืนส่งผา่ นไป คลื่นนส้ี ามารถเคล่ือนที่ผ่านตัวกลางท่ี
เปน็ ของแขง็ ของเหลว และแก๊ส เป็นคล่นื ท่สี ถานวี ัดแรงสั่นสะเทอื นสามารถรบั ได้กอ่ นชนิดอ่ืน โดย
มีความเร็วประมาณ 6 – 7 กิโลเมตร/วินาที
คลน่ื ทุติยภูมิ (S wave)
เป็นคลื่นตามขวางที่เกิดจากความไหวสะเทือนในตัวกลางโดยอนุภาคของตัวกลาง
เคลือ่ นไหวตง้ั ฉากกับทิศทางทค่ี ลื่นผ่าน มที ้ังแนวตง้ั และแนวนอน คลน่ื ชนดิ น้ีผา่ นไดเ้ ฉพาะตวั กลางท่ี
เป็นของแข็งเท่านั้น ไม่สามารถเดินทางผ่านของเหลว คลื่นทุติยภูมิมีความเร็วประมาณ
3 – 4 กิโลเมตร/วนิ าที
ภาพที่ 2.5 คลืน่ ปฐมภมู ิ (P wave)
และคลน่ื ทุติยภูมิ (S wave)
ท่ีมา : www.leza.biz
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 31
สำหรับนักเรยี นช้ันมธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ เรอื่ ง ธรณีพิบตั ิ
ภัย
2. คลื่นพื้นผิว (Surface wave) เดินทางจากจุดเหนือศูนย์กลางแผ่นดินไหว
(Epicenter) ไปทางบนพื้นผิวโลก ในลักษณะเดียวกับการโยนหินลงไปในน้ำแล้วเกิดระลอกคลื่นบน
ผิวน้ำ คลื่นพื้นผิวเคล่ือนทีช่ ้ากว่าคลืน่ ในตัวกลาง คลื่นพื้นผิวมี 2 ชนิด คือ คลื่นเลิฟ (L wave) และ
คลนื่ เรย์ลี (R wave)
คล่นื เลฟิ (L wave) เป็นคลืน่ ท่ีทำ
ให้อนุภาคของตัวกลางสั่นในแนวราบ โดย
มีทิศทางตั้งฉากกับการเคลื่อนที่ของคล่ืน
ดงั ภาพทางขวามือ สามารถทำให้ถนนขาด
หรอื แม่นำ้ เปลี่ยนทิศทางการไหล
คลนื่ เรย์ลี (R wave) เปน็ คล่ืนท่ีทำให้
อนุภาคตัวกลางสั่นม้วนตัวขึ้นลงเป็นรูปวงรีใน
แนวดิ่งโดยมีทิศทางเดียวกับการเคลื่อนที่ของ
คลื่น ดังภาพทางซ้ายมือ สามารถทำให้พื้นผิว
แตกร้าวและเกดิ เนนิ เขา ทำให้อาคารทีป่ ลูกอยู่
ด้านบนเกิดความเสียหาย
ภาพที่ 2.6 คลืน่ พื้นผวิ
ทมี่ า : www.lesa.biz
แผ่นดินไหวก่อให้เกิดคลื่นไหวสะเทือนหลายชนิด ซึ่งนักวทิ ยาศาสตร์สามารถใช้ผลต่างของ
ระยะเวลาทค่ี ล่ืนใชเ้ ดนิ ทางมายังเคร่ืองรับ เพ่อื ระบุพกิ ดั ของการเกิดศนู ย์กลางแผน่ ดนิ ไหวได้ ในขณะ
ทน่ี ักธรณีฟสิ ิกส์ใชส้ มบตั กิ ารหกั เหของคล่ืน เพื่อวเิ คราะหโ์ ครงสรา้ งภายในโลก แต่อยา่ งไรก็ตาม ก็จะ
มีบริเวณที่ไม่มีคลื่นไหวสะเทือนจากแผ่นดินไหว ซึ่งเป็นบรเิ วณระวา่ งมุม 100-140 องศา วัดจากจุด
เหนือศนู ยเ์ กิดแผ่นดนิ ไหวตามเส้นรอบวงของโลก โดยบริเวณนีเ้ รยี กว่า เขตอับคลนื่ (shadow zone)
หรือเขตปลอดคล่นื S หรือ คลนื่ P
โดย ครสู ุลกิฟลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 32
สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศกึ ษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ เรื่อง ธรณพี บิ ตั ิ
ภยั
ขนาดและความรุนแรงของแผ่นดนิ ไหว
ขนาดแผน่ ดินไหว กำหนดจากปริมาณพลังงาน ความรุนแรงของแผ่นดินไหว กำหนด
ที่ปลดปล่อยออกมาจากศูนย์เกิดแผ่นดินไหว จากผลกระทบ หรือความเสียหายจาก
สามารถตรวจวัดได้ด้วยเครื่องมือที่เรียกว่า แผ่นดินไหวทเ่ี กิดบนผิวโลก ณ จดุ สงั เกต ซ่งึ
เครื่องวัดความไหวสะเทือน (seismograph) โดย มาตราที่ใช้บอกความรุนแรงของแผ่นดินไหว
ชาร์ล เอฟ ริกเตอร์ นักวิทยาศาสตร์ชาวอเมริกัน วิเคราะห์จากความเสยี หายทเ่ี กิดขน้ึ กำหนด
เป็นคนแรกที่คิดค้นสูตรการวัดขนาดของ จากความรู้สึก หรืออาการตอบสนองของ
แผ่นดินไหว ซึ่งมาตราวัดขนาดแผ่นดินไหวที่นิยม ผู้คน คือ มาตราเมอร์คัลลี มี 12 ระดับด้วย
ใช้ ไดแ้ ก่ มาตรารกิ เตอร์ เลขโรมัน
มาตรารกิ เตอร์ มาตราเมอรค์ ลั ลี คำอธบิ าย (ผลกระทบ)
นอ้ ยกว่า 3.5
I ไม่รู้สึกส่ันไหว แต่สามารถวดั ได้ดว้ ยเรอื่ งมือ
3.5
II รู้สึกได้เป็นบางคน โดยเฉพาะผู้ที่อยู่บนอาคารสูง สิ่งของแกว่ง
4.2 ไกว
4.3 III ผู้ที่อยู่ในอาคารรู้สึกได้ โดยเฉพาะผู้ที่อยู่บนอาคารสูง แต่ผู้คน
4.8 ส่วนใหญย่ ังไมร่ ูส้ กึ
4.9-5.4
5.5-6.1 IV ผู้ที่อยู่ในอาคารรู้สกึ ไดม้ าก แต่ผู้ที่อยู่นอกอาคารรู้สึกไดเ้ ป็นบาง
คน หน้าต่างประตสู น่ั มคี วามรู้สึกเหมือนรถบรรทกุ วิ่งผ่านอาคาร
6.2
V ผ้คู นเกือบทงั้ หมดรู้สึกได้ วัตถทุ ีไ่ ม่มนั่ คงล้มควำ่ ต้นไมแ้ กวง่ ไกว
6.9
7.0-7.3 VI ผคู้ นท้ังหมดรูส้ ึกได้ เกดิ ความเสยี หายเล็กน้อยกับอาคาร
VII ผู้ทีข่ บั รถยนต์จะรู้สกึ ได้ อาคารทีไ่ มแ่ ข็งแรงจะเสียหายมาก ส่วน
อาคารทแี่ ข็งแรงจะไม่เสยี หาย หรือเสยี หายเลก็ นอ้ ย
อาคารทไ่ี ม่แขง็ แรงจะเสียหายมาก ผนงั อาคารหลุด บางส่วนของ
VIII อาคารพงั ทลาย ส่วนอาคารท่ีแขง็ แรงจะไมเ่ สียหาย หรือเสียหาย
เล็กน้อย
IX อาคารท่แี ขง็ แรงจะเสียหาย พนื้ ดนิ แตก ท่อใต้ดินแตกหกั
X อาคารที่แข็งแรงจะเสียหายมาก โครงสร้างอาคารพังทลาย ราง
รถไฟบดิ พื้นดนิ แตก แผน่ ดินถลม่ ทรายและโคลนพงุ่ จากพื้นดิน
โดย ครสู ุลกิฟลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 33
สำหรบั นกั เรียนช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4 หน่วยการเรียนรู้ เรือ่ ง ธรณีพบิ ตั ิ
ภัย
มาตรารกิ เตอร์ มาตราเมอร์คัลลี คำอธิบาย (ผลกระทบ)
7.4-8.1
XI สิ่งก่อสร้างเสียหาย พื้นดินมีรอยแยกกว้าง ท่อใต้ดินเสียหาย
มากกว่า 8.1 ท้งั หมด รงรถไฟบิดงอ
XII สิ่งก่อสร้างเสียหายทั้งหมด เห็นคลื่นบนพื้นดิน เส้นแนวระดบั
สายตาบิดเบน วตั ถุสง่ิ ของกระเด็นในอากาศ
ความเสยี หาย ผลกระทบจากแผ่นดินไหวมีทั้งทางตรงและทางอ้อม
หรอื ผลกระทบ เช่น ทำให้เกิดพื้นดินแตกแยก อาคารสิ่งก่อสร้างพังทลาย
จากแผน่ ดินไหว เกิดโรคระบาด ปัญหาด้านสุขภาพจิต และมีผู้เสียชีวิตเป็น
จำนวนมาก
ถ้าแผ่นดินไหวเกิดขึน้ ใต้ทะเล จะทำให้เกิดคลืน่ ขาดใหญ่
ทีเ่ รยี กว่า สนึ ามิ
รอยเล่อื น
รอยเล่อื น หมายถึง รอยแตกในหินและมกี ารเลอ่ื นตัวของหนิ ผ่านรอยแตกน้ันๆ เกิดข้ึนเมื่อหิน
ไม่สามารถทนต่อแรงเค้นที่มากระทำ ทำให้เกิดการแตกหัก และมีการเลื่อนตัวของหินตามรอยแตก
สามารถแยกได้เปน็ 3 ประเภท โดยพิจารณาจากการเล่ือนตวั ของหนิ ตามรอยแตก
1) รอยเลื่อนปกติ (Normal Fault) หมายถึง รอยเลื่อนท่ีมีทศิ ทางการเคลื่อนทีเ่ สมือนหรือไป
ในทศิ ทางตามแรงดงึ ดูดของโลก (รปู ที่ 15.3) ถ้ากำหนดให้หินทร่ี องรับอยู่ด้านลางของรอยเล่ือน เป็น
Foot Wall และหินที่วางตัวอยู่ด้านบนรอยเลื่อนเป็น Hanging Wall ส่วนของ Hanging Wall จะมี
การเลอ่ื นตวั ลงตามรอยเลือ่ นไปในทิศทางเดยี วกันกบั แรงดึงดูดของโลก
ภาพท่ี 2.7 รอยเล่อื นปกติ
ทมี่ า : www.dmr.go.th/main.php?filename=case_eq
โดย ครสู ุลกิฟลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชดุ กิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 34
สำหรบั นกั เรยี นชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ธรณพี บิ ตั ิ
ภัย
2) รอยเลอื่ นย้อน (Reverse Fault) หมายถงึ รอยเล่อื นที่ Hanging Wall จะเลือ่ นตัวข้นึ ตาม
รอยเลอ่ื นไปในทิศทางทตี่ รงกันข้ามกับแรงดึงดูดของโลก
ภาพที่ 2.8 รอยเลอ่ื นย้อน
ทม่ี า : www.dmr.go.th/main.php?filename=case_eq
3) รอยเลื่อนแนวราบ (Strike-slip (Transform) Fault) หมายถึง รอยเลื่อนที่หินท้ัง 2 ด้าน
ของรอยเลื่อน จะเคลื่อนที่ผ่านซึ่งกันและกันไปตามรอยเลื่อน ไม่มีการเลื่อนขึ้นหรือเลื่อนลง แต่จะ
เลื่อนตามแนวระนาบ
ภาพท่ี 2.9 รอยเลื่อนแนวราบ
ทมี่ า : www.dmr.go.th/main.php?filename=case_eq
ใ น ภ ู ม ิ ภ า ค เ อ เ ช ี ย ต ะ ว ั น อ อ ก แ ล ะ เ อ เ ช ี ย ต ะ ว ั น อ อ ก เ ฉ ี ย ง ใ ต ้ ม ี ห ล า ย ป ร ะ เ ท ศ ท ี ่ เ ป็ น
ศูนย์เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ตามแนวรอยต่อของแผ่นธรณี เช่น จีน เมียนมา อินโดนีเซีย ส่งผล
ทำใหป้ ระเทศไทยไดร้ ับแรงสัน่ สะเทอื นจากแผน่ ดนิ ไหวทเ่ี กดิ ขึ้นจากบริเวณดังกลา่ ว
แม้ว่าประเทศไทยไม่ได้ตั้งอยู่บริเวณแนวรอยต่อของแผ่นธรณี แต่ยังมีโอกาสเป็น
ศูนย์เกิดแผ่นดินไหวขนาดเล็ก เนื่องจากการเคลื่อนตัวของรอยเลื่อนมีพลังภายในประเทศที่มี
การสะสมพลงั งานจากกการเคลื่อนทขี่ องแผ่นธรณี
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 35
สำหรบั นักเรียนชั้นมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ เรื่อง ธรณพี บิ ตั ิ
ภยั
แนวรอยเลอ่ื นมพี ลังคืออะไร
ภาพท่ี 2.10 รอยเล่อื นมพี ลงั ในไทย
ทม่ี า : https://twitter.com/kapookdotcom/status/463543349430214656?lang=bg
แผน่ ดนิ ไหวทเี่ กดิ จากแนวรอยเลื่อนมีพลัง (active fault) ซ่งึ เป็นรอยเลอ่ื นท่ีมีหลักฐานทาง
ธรณวี ิทยาวา่ ยงั คงมีการเคล่อื นตัวในปจั จุบัน และอาจเลอ่ื นตวั อีกในอนาคต ในประเทศไทยมีแนวรอย
เลือ่ นเหล่าน้สี ว่ นมากอยู่ในภาคเหนือและภาคตะวนั ตกของประเทศ
โดย ครสู ลุ กิฟลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 36
สำหรับนกั เรยี นช้นั มธั ยมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรียนรู้ เร่อื ง ธรณพี ิบตั ิ
ภัย
ใบกิจกรรมการเรียนรู้ที่ 2.1
เรอ่ื ง กลไกการเกิดแผ่นดินไหว
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
สังเกต อธิบายผลท่ีเกิดกบั แผน่ ไม้ เมอ่ื มีแรงมากระทำ
วสั ด-ุ อปุ กรณ์
ไม้บัลซาร์ ขนาดประมาณ กว้าง เซนติเมตร ยาว 30 เซนติเมตร หนา 0.3 เซนติเมตร 1 แผ่น
(ใช้ไม้ไอศกรมี ล้าง และตากใหแ้ ห้งแทนได)้
วธิ กี ารทำกจิ กรรม
1. เตรียมตัวดันปลายไม้ โดยวางมอื และแผ่นไม้ ดงั รูป
ภาพท่ี 2.11 รอยเล่ือนมีพลงั ในไทย
ทีม่ า : https://www.youtube.com/watch?v=W0MvmJ6rgv4
2. ใชม้ ือสองข้างดนั ปลายไมเ้ ข้าหากนั อยา่ งชา้ ๆ พร้อมสงั เกตการเปล่ียนแปลงลักษณะของแผ่น
ไม้ เสียง และการสั่นสะเทือนของแผ่นไม้ ตั้งแต่เริ่มดันแผ่นไม้จนกระทั่งแผ่นไม้หัก และบันทึกสิ่งที่
สงั เกตไดล้ งในตาราง
3. เปรียบเทียบการเปล่ียนแปลงลักษณะของไม้ในแตล่ ะขนั้ ตอน
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรู้วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 37
สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ เรื่อง ธรณพี ิบตั ิ
ภัย
ตารางบนั ทกึ ผล
ช้ันตอน การเปล่ียนลักษณะของไม้ การ เสียงไม้หัก
สัน่ สะเทือน ม/ี ไมม่ ี
มี/ไมม่ ี
1. กอ่ นดนั แผ่นไม้
2. ขณะดันแผ่นไม้
3. ขณะทีแ่ ผ่นไม้หัก
4. หลงั จากแผน่ ไมห้ กั
สรุปผลการทำกิจกรรม
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…..…..…………………………………………………………………………………………………………………………………….
………………………………………………………………………………………………………………………………………………
คำถามท้ายกิจกรรม
1. การทีแ่ ผ่นไมม้ กี ารโคง้ งอจนกระท่งั หกั นนั้ เน่ืองมาจากสาเหตุใด
ตอบ .......................................................................................................................................................
2. เมอ่ื เริ่มตน้ ดันแผ่นไมจ้ นกระทงั่ แผ่นไม้หกั นกั เรยี นออกแรงเทา่ กนั หรือไม่ค
ตอบ .......................................................................................................................................................
3. เมือ่ แผ่นไม้ไม่สามารถทนตอ่ แรงทม่ี ากระทำได้น้ัน มกี ารเปลีย่ นลกั ษณะไปอยา่ งไร
ตอบ .......................................................................................................................................................
4. ขณะท่แี ผน่ ไม้หกั มสี ่ิงใดเกดิ ข้ึนบ้าง
ตอบ .......................................................................................................................................................
5. หลังจากแผ่นไมห้ กั ออกจากกันแล้ว แผ่นไมย้ ังคงโคง้ งออยหู่ รือไม่ และมีลกั ษณะอย่างไร
ตอบ .......................................................................................................................................................
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 38
สำหรบั นักเรียนช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรียนรู้ เร่ือง ธรณพี ิบตั ิ
ภยั
ใบกจิ กรรมการเรยี นรูท้ ี่ 2.2
เร่ือง เหตกุ ารณแ์ ผน่ ดินไหวทสี่ นใจ
คำชี้แจง : ให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับเหตุการณ์แผ่นดินไหวที่นักเรียนสนใจแล้วสรุปความรู้ใน
ประเด็นที่กำหนดให้ดังนี้
เหตุการณ์แผน่ ดินไหวเกดิ ข้นึ บรเิ วณใด และชว่ งเวลาใด
…………………………………………………………………………………………………………………………………….……
……………………………………………………………………………………………………………………………………….…
…………………………………………………………………………………………………………………………………….……
..........................................................................................................................................................
.
สาเหตุที่ทำใหเ้ กดิ แผ่นดนิ ไหว
……………………………………………………………………………………………………………………….…………..……
…………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
…………………………………………………………………………………………………………..….…………………………
…………………………………………………………………………………………………………………..….…………………
….
ผลกระทบทเ่ี กิดจากแผ่นดินไหว
…………………………………………………………………………………………………………………….....……….………
………………………………………………………………………………………………………………………..……….………
………………………………………………………………………………………………………………………..……….………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………
.
ขนาดของแผ่นดนิ ไหวท่ีเกิดขนึ้ และวัดได้ แหลง่ ข้อมลู ข่าว
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชุดกจิ กรรมการเรียนรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 39
สำหรับนกั เรียนช้นั มัธยมศึกษาปที ่ี 4 หน่วยการเรยี นรู้ เร่ือง ธรณพี บิ ตั ิ
ภัย
ใบกิจกรรมการเรยี นรู้ท่ี 2.3
เรอื่ ง โครงสรา้ งตา้ นแผน่ ดินไหว
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. นักเรยี นสามารถนำความรูเ้ ร่ืองคลื่นไหวสะเทือน การส่ันพ้อง สภาพสมดลุ รูปทรงเรขาคณิต
กระบวนการวศิ วกรรมและการออกแบบไปใชใ้ นการสรา้ งแบบจำลองได้
2. นกั เรยี นสามารถออกแบบ นำเสนอแนวทางการเฝ้าระวงั และการปฏิบตั ิตนให้ปลอดภัยจาก
แผ่นดนิ ไหวได้
วสั ดุ-อปุ กรณ์
1. หลอดดูดนำ้ พลาสตกิ 7. ดนิ นำ้ มนั
2. หนังยาง 8. กระดาษ A4
3. ถงุ ทราย 250 กรมั 9. พลาสติกลูกฟูก 20 x 20 ซม. (ใชเ้ ป็นฐาน)
4. กาวลาเทก็ ซ์ 10. กรรไกร
5. คตั เตอร์ 11. เคร่ืองจำลองการเกิดแผ่นดินไหว
6. เทปใส
วิธีการทำกิจกรรม
1. ครูกำหนดสถานการณ์ “ให้นักเรียนเป็นวิศวกร ที่ต้องออกแบบและสร้างอาคารหรือสิ่ง
ปลูกสร้างที่เป็นแลนด์มาร์กตั้งอยู่ในจงั หวัดยะลา โดยชาวเมืองต้องการให้สร้างส่ิงปลูกสร้างทีม่ ี
ความกว้าง ไม่เกินความกว้างของฐานท่ีกำหนดให้ (พลาสติกลูกฟกู ขนาด 20x20 เซนติเมตร) มี
ความสูง 2 ชั้นขึ้นไป แต่ละชั้นจะต้องสูงอย่างน้อย 15 เซนติเมตร และในแต่ละชั้นของสิ่งปลูก
สร้างจะต้องรับน้ำหนักถุงทราย 250 กรัม ได้อย่างน้อย 1 ถุงโดยที่ไม่พังและไม่ให้ถุงทรายหล่น
ขณะทดสอบกับเครื่องจำลองการเกิดแผ่นดินไหว ซึ่งทนต่อคลื่นไหวสะเทือนได้ดี และจะต้อง
สามารถรับนำ้ หนักที่กำหนดให้ได้”
2. สรา้ งสิ่งปลูกสรา้ ง (โครงสรา้ งตา้ นแผน่ ดินไหว) ให้มคี วามแข็งแรง และมคี วามมัน่ คง โดยใช้
อปุ กรณ์ที่กำหนดให้
3. เมอ่ื สรา้ งเสรจ็ แล้ว ให้นำส่งิ ปลูกสร้าง (โครงสรา้ งตา้ นแผ่นดนิ ไหว) มาทดสอบความแข็งแรง
โดยใชเ้ ครือ่ งจำลองการเกิดแผน่ ดนิ ไหว ซ่งึ จะใชเ้ วลาการส่ันอยา่ งน้อย 1 นาที
4. หากส่งิ ปลกู สร้าง (โครงสรา้ งแผน่ ดนิ ไหว) ของกลมุ่ ใดไม่สามารถทนต่อแรงสน่ั ได้ ให้สามารถ
กลับไปแก้แบบได้ จากนน้ั นำมาทดสอบใหมภ่ ายในเวลา 5 นาที
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กล่มุ สาระการเรียนรวู้ ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชุดกจิ กรรมการเรยี นรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 40
สำหรบั นักเรียนชัน้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรียนรู้ เรือ่ ง ธรณีพบิ ตั ิ
ภัย
1. จากสถานการณท์ ีก่ ำหนดให้ จงระบุปญั หาท่นี ักเรยี นจะตอ้ งแกไ้ ข
ตอบ........................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
วทิ ยาศาสตร์ (S)
(S)
เทคโนโลยี (T)
(S)
(S)
วิศวกรรม (E)
(S)
(S)
ศิลปะ (A)
(S)
(S)
คณติ ศาสตร์ (M)
(S)
(S)
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 41
สำหรับนักเรียนช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4 หน่วยการเรียนรู้ เร่อื ง ธรณพี บิ ตั ิ
ภยั
2. วาดภาพร่าง 3 มิติ ของสิ่งปลูกสร้างอย่างสร้างสรรค์ พร้อมทั้งระบุมาตราส่วนและขนาด รวมท้ัง
คำนวณปริมาณวสั ดุที่จะใช้ในการกอ่ สรา้ ง
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลุ่มสาระการเรียนร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรยี ะลา
ชุดกิจกรรมการเรียนรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 42
สำหรับนักเรียนชนั้ มัธยมศึกษาปที ี่ 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ เรอ่ื ง ธรณีพิบตั ิ
ภยั
บันทึกการแก้แบบ
ปัญหาท่ีนำไปสกู่ ารแกแ้ บบ และแนวทางการแกป้ ัญหา
3. จากกจิ กรรมข้างตน้ นกั เรยี นสามารถนำไปประยุกตใ์ ช้ในชวี ติ ประจำวันไดอ้ ย่างไร
ตอบ........................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
................................................................................................................................................................
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลุ่มสาระการเรยี นรู้วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรยี นสตรียะลา
ชดุ กจิ กรรมการเรยี นรู้รายวชิ าโลก ดาราศาสตรแ์ ละอวกาศ 1 (ว30251) 43
สำหรบั นกั เรยี นชัน้ มธั ยมศึกษาปีท่ี 4 หนว่ ยการเรยี นรู้ เรื่อง ธรณพี บิ ตั ิ
ภยั
ใบความรู้ท่ี 3 เร่อื ง สนึ ามิ
สึนามิ (Tsunami) เป็นคลื่นที่เกิดขึ้นจากแผ่นดินไหว แต่คลื่นผิวน้ำที่เรารู้จักกันทั่วไปเกิด
จากแรงลมพดั พลงั งานจลนจ์ ากอากาศถูกถ่ายทอดสู่ผิวน้ำทำให้เกิดคลน่ื ขนาดของคล่ืนจึงขึ้นอยู่กับ
ความเร็วลม หากสภาพอากาศไมด่ ีมลี มพายพุ ัด คลื่นก็จะมีขนาดใหญ่ตามไปด้วย ในสภาพปกติคลนื่
ในมหาสมุทรจะมีความสูงประมาณ 1 - 3 เมตร แต่คลื่นสึนามิเป็นคลื่นยักษ์มีขนาดใหญ่กว่าคลื่นผิว
น้ำหลายสิบเท่า พลงั งานจลนจ์ ากแผน่ ดนิ ไหวใต้มหาสมุทรถูกถ่ายทอดจากใตเ้ ปลือกโลกถูกถ่ายทอด
ขึ้นสู่ผิวน้ำ แล้วขยายตัวทุกทิศทุกทางเข้าสู่ชายฝั่ง คำว่า “สึ” เป็นภาษาญี่ปุ่นแปลว่าท่าเรือ "นาม"ิ
แปลว่าคลนื่ ทเี่ รียกเชน่ นี้เปน็ เพราะ ชาวประมงญปี่ ุ่นออกไปหาปลา พอกลบั มาก็เห็นคล่ืนขนาดยักษ์
พดั ทำลายชายฝ่ังพังพนิ าศ
กระบวนการเกดิ สึนามิ
คลื่นสึนามิ มกั เกิดจากแผน่ ดินไหวใต้ทะเล เม่ือเกิดแผน่ ดินไหวใต้ทะเล อนั เนื่องมาจากแผ่น
เปลอื กโลก/ธรณีภาค มีการเคลื่อนตัวเกิดรอยเลื่อนทำให้เกิดแรงกระเพื่อมอย่างรนุ แรงตรงบริเวณจุด
โฟกัสของการเคลือ่ นที่ และแรงกระเพ่ือมนี้ถูกถา่ ยทอดไปสูน่ ้ำทะเล ทำให้น้ำทะเลเกิดคลื่นใต้น้ำ ซึ่ง
ในระยะแรกในทะเลลึก คลื่นจะมีลักษณะความยาวช่วงคลื่นมาก ความสูงของคลื่นน้อยแพร่ออกไป
เปน็ วงทกุ ทิศทาง ด้วยความเรว็ ประมาณ 700 กโิ ลเมตร/ชวั่ โมง เม่ือคลน่ื ดังกล่าวเคลอ่ื นเข้าหาชายฝั่ง
ทะเลที่น้ำตื้นจะมีการเปลี่ยนแปลงความยาวช่วงคลื่นลดลง แต่ความสูงของคลื่นจะเพิ่มขึ้น ทำให้มี
พลังทำลายล้างอย่างรนุ แรง
ภาพที่ 3.1 แสดงการมดุ ตวั
(subduction) ของเปลอื กโลกภาคพื้น
มหาสมุทรลงใต้เปลอื กโลกภาคพ้นื ทวีป
ท่มี า : www.scimath.org/lesson-
physics/item/7288-tsunami
โดย ครสู ุลกฟิ ลี โสพนั ธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นร้วู ทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรียะลา
ชุดกิจกรรมการเรยี นรู้รายวิชาโลก ดาราศาสตร์และอวกาศ 1 (ว30251) 44
สำหรบั นกั เรยี นช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 4 หนว่ ยการเรียนรู้ เรื่อง ธรณพี บิ ตั ิ
ภยั
จากภาพจะสังเกตเห็นบริเวณที่เกิดแผ่นดินไหวอันเนื่องมาจาก subduction ซึ่งมีจุด
ศูนย์กลาง (focus) อยู่ในที่ลึกมาก (วงกลมสีแดง) ลึกปานกลาง (วงกลมสีม่วงเหลือง) และระดับตืน้
(วงกลมสเี ขียว)
เม่ือเปลอื กโลกใตม้ หาสมุทร ยุบตวั ลงเปน็ รอ่ งลกึ กน้ สมทุ ร (Oceanic trench) นำ้ ทะเลที่อยู่
ด้านบนก็จะไหลยุบตามลง นำ้ ทะเลในบรเิ วณข้างเคยี งมรี ะดบั สูงกว่า จะไหลเข้ามาแทนที่แล้วปะทะ
กัน ทำให้เกิดคลื่นสะทอ้ นกลบั ในทกุ ทิศทุกทาง (เหมือนกับการทเี่ ราขว้างกอ้ นหินลงน้ำ)
ภาพที่ 3.2 การเกดิ คล่นื สนึ ามิ
ท่ีมา : www.scimath.org/lesson-physics/item/7288-tsunami
นอกจากสาเหตุจากแผ่นดินไหวแลว้ คลื่นสึนามิอาจเกดิ ขนึ้ จากภเู ขาไฟระเบิด ภูเขาใต้ทะเล
ถล่ม หรอื อกุ กาบาตพงุ่ ชนมหาสมทุ ร แรงสน่ั สะเทอื นเชน่ นท้ี ำให้เกดิ คล่ืนขนาดยกั ษ์ทม่ี ีฐานกว้าง 100
กิโลเมตร แต่สูงเพียง 1 เมตร เคลื่อนที่ด้วยความเร็วประมาณ 700 – 800 กิโลเมตรต่อชั่วโมง เมื่อ
คลื่นเดินทางเข้าใกล้ชายฝั่ง สภาพท้องทะเลที่ตื้นเขินทำให้คลื่นลดความเรว็ และอัดตวั จนมีฐานกวา้ ง
2 – 3 กิโลเมตร แต่สูงถึง 10 – 30 เมตร ดังภาพที่ 3 เมื่อคลื่นสึนามิกระทบเข้ากับชายฝั่งจึงทำให้
เกิดภยั พบิ ัตมิ หาศาล เป็นสาเหตกุ ารตายของผ้คู นจำนวนมาก เน่ืองมาจากกอ่ นเกิดคลื่นสึนามิเพียงชั่ว
โดย ครสู ลุ กฟิ ลี โสพันธ์ กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี โรงเรียนสตรยี ะลา