ระเบียบ ทบ.

คําสั่งกองทัพบก
ท่ี ๘๒๓/๒๕๓๐
เรื่อง กาํ หนดแนวทางรบั ราชการของนายทหารสัญญาบตั ร

เน่ืองดวยการกําหนดแนวทางรับราชการของนายทหารสัญญาบัตร ตามคําส่ัง ทบ.
ที่ ๔๐๙/๒๕๒๒ ลง ๒๓ ก.ย.๒๒ เร่อื งการกาํ หนดแนวทางรับราชการของนายทหารสัญญาบัตรได
ใชเ ปน แนวทางในการดําเนนิ การกาํ ลังพลมาเปน เวลานานแลว ปจ จบุ ันนโยบายและหลกั การตาง ๆ ทาง
ดานกาํ ลังพลเปลี่ยนแปลงไปทาํ ใหค ําส่งั ฯ ดังกลาวไมท ันสมยั จึงเห็นสมควรใหปรบั ปรงุ แนวทางรับ
ราชการของนายทหารสัญญาบตั รเสียใหม ดงั ตอ ไปน้ี

๑. ใหยกเลกิ คาํ สั่ง ทบ.ท่ี ๔๐๙/๒๕๒๒ ลง ๒๓ ก.ย.๒๒ เรอื่ ง การกําหนดแนวทางรบั
ราชการของนายทหารสัญญาบัตร และใหใชแนวทางรับราชการของนายทหารสัญญาบัตรท่ีกําหนด
ไวในคาํ สงั่ ฉบับน้แี ทน (ผนวก ก)

๒. ให กพ.ทบ. รว มกบั หนว ย/เหลา สายวทิ ยาการควบคมุ กาํ กบั ดูแลการปฏบิ ตั ใิ หเปน ไป
ตามคําสัง่ ฉบบั นีโ้ ดยเครงครัด

๓. เหลา ทหารบกทอี่ ยนู อกความรับผิดชอบของ ทบ. คือ เหลา ผท.และ เหลา ธน. เมอ่ื
ผท.ทหาร และ ธน. จะดาํ เนนิ การบรรจุ แตงตัง้ หรอื โยกยายตองขอรับความเห็นชอบจาก ทบ. กอนนัน้
ให กพ.ทบ.และหนว ยท่ีเก่ียวขอ งพิจารณาใหความเห็นชอบโดยใหการบรรจุแตงตัง้ หรอื โยกยายนายทหาร
สญั ญาบัตรเหลา ผท.และ ธน. ใน ทบ. มีแนวทางใกลเ คยี งกับนายทหารสญั ญาบัตรเหลา อน่ื ๆ ใน ทบ. ดว ย

๔. ให จก.กพ.ทบ. มีอาํ นาจในการกาํ หนดและหรือแกไขหลักเกณฑตาง ๆ ในแนวทาง
รับราชการของนายทหารสัญญาบัตร (ผนวก ก) ของคําส่ังฉบับนี้เฉพาะในเรื่องการกาํ หนดและหรือ
แกไขคณุ สมบตั เิ ฉพาะตําแหนง และการแกไขเพม่ิ เตมิ หลกั เกณฑแ ละการดาํ เนนิ การทดสอบสมรรถภาพ
รางกายของนายทหารสัญญาบัตร

๕๐๗

*๕. หลักเกณฑการทดสอบสมรรถภาพรางกายนายทหารชัน้ สญั ญาบัตร (ซง่ึ ใหใ ชท ดสอบ
นายทหารชนั้ ประทวนดว ย) และการดาํ เนินการตาง ๆ ตามท่ีกาํ หนดในผนวก ก ขอ ๗ ใหมีผลบังคับ
ใชและดําเนินการกับกาํ ลังพลตามที่กาํ หนดไดต้ังแตการทดสอบเดือน ส.ค.๓๑ เปนตนไป สวนการ
ทดสอบกอนหนา น้ีใหถือเปน การทดลองทดสอบเพื่อนาํ ขอ มูลและผลการทดสอบไปปรับปรุงหลกั เกณฑ
และวิธีการทดสอบใหเ หมาะสมเทาน้ัน ไมม ีผลตอ กาํ ลงั พลแตประการใด

นายทหารสญั ญาบัตรชั้นนายพล และ พ.อ.(พเิ ศษ) ใหท ดสอบสมรรถภาพรา งกายโดย
ดาํ เนนิ การตามที่กําหนดในคาํ สง่ั ฯสําหรับนายทหารสัญญาบัตรชั้นนายพล และพ.อ.(พิเศษ)

๖. เฉพาะการปลดออกจากประจําการ (ผนวก ก ขอ๘) ใหมีผลใชบังคับตอนายทหาร
สญั ญาบตั รทบ่ี รรจเุ ขา รบั ราชการใน ทบ. ต้งั แตวนั ท่ี ๑ ต.ค. ๒๕๓๐ เปนตน ไป

ท้ังน้ี ต้ังแตบัดนีเ้ ปน ตน ไป

สงั่ ณ วันท่ี ๑ กนั ยายน พ.ศ. ๒๕๓๐

(ลงชอ่ื ) พล.อ.ชวลิต ยงใจยทุ ธ
(ชวลติ ยงใจยทุ ธ)
ผบ.ทบ.

* ยกเลิกความในขอ ๕ และใชค วามใหมแทนตามคําส่ัง ทบ.ท่ี ๖๙๔/๒๕๓๑ ลง ๑๑ ก.ค.๓๑

๕๐๘

ผนวก ก แนวทางรบั ราชการของนายทหารสญั ญาบัตร
(ประกอบคาํ สัง่ ทบ.ที่ ๘๒๓/๒๕๓๐ ลง ๑ ก.ย.๓๐)

๑. กลาวนํา แนวทางรับราชการของนายทหารสัญญาบัตร คือ นโยบาย หลักการและวิธีดาํ เนินการ
กาํ ลังพลตอนายทหารสัญญาบัตรทเี่ กย่ี วกบั การบรรจุและแตงต้ังใหดํารงตาํ แหนงตาง ๆ ต้ังแตเริ่มเขา
รับราชการจนถงึ ตําแหนงสดุ ทายหรือตําแหนง สูงสุดตามแนวทางรับราชการนี้หรือจนพนจากประจําการ
และเร่อื งอืน่ ๆ ทางดา นกาํ ลังพลท่ีเก่ียวของ
๒. ความมุงหมายและขอบเขต

๒.๑ ความมงุ หมาย
๒.๑.๑ เพ่ือใหหนว ย/เหลาสายวิทยาการยึดถือเปน หลกั ในการจัดการและดําเนนิ การกําลังพล
๒.๑.๒ เพ่ือใหนายทหารสัญญาบัตรไดท ราบถงึ ปจ จยั ท่ีจะสงเสรมิ และหรอื จํากดั ความกาวหนา

ในการรับราชการเพื่อจะไดป รับปรุงความรูความสามารถ สรางสมประสบการณและพัฒนาคุณสมบตั ิ
ของตนใหเหมาะสมทจ่ี ะปฏบิ ตั งิ านในตําแหนง หนาทีต่ า ง ๆ ซึ่งจะทาํ ใหร บั ราชการกา วหนาไปไดดีท่ีสดุ

๒.๑.๓ เพือ่ ใหการบรรจแุ ละแตงต้ังนายทหารสญั ญาบัตรไปดํารงตาํ แหนง ตา ง ๆ เปน ไปอยา ง
เหมาะสม อาํ นวยใหก องทพั บกพร่ังพรอ มดวยกําลงั พลนายทหารสญั ญาบัตรทม่ี ปี ระสทิ ธิภาพ มคี วามรู
ความสามารถทจ่ี ะปฏบิ ัติงานในตาํ แหนง ตาง ๆ ได อีกท้งั สามารถพัฒนาและคัดเลอื กนายทหารสญั ญาบตั ร
ทม่ี ีความรคู วามสามารถและมีคณุ สมบตั ิดีทสี่ ุดไปดาํ รงตาํ แหนงบงั คบั บญั ชาและอาํ นวยการในระดับสูง
ไดต อไป

๒.๒ ขอบเขต แนวทางรับราชการของนายทหารสัญญาบัตรนี้ใหยึดถือและใชเปนหลักปฏิบัติตอ
ตอนายทหารสัญญาบัตรทุกเหลา (ยกเวนเหลา ผท.และ ธน.) ตั้งแตเริ่มเขารับราชการ จนมียศเปน พ.อ.
(ไมรวมถงึ พ.อ. รับเงนิ เดือน ระดับ น.๕) สําหรบั นายทหารสัญญาบตั รหญิง ใหใชแนวทางรบั ราชการ
เชนเดียวกับนายทหารสัญญาบัตรชาย เฉพาะในสวนทไ่ี มขัดตอ สภาพรางกายและขนบธรรมเนียมประเพณี
๓. คณุ สมบตั ทิ ่วั ไปของนายทหารสัญญาบตั ร เนือ่ งจาก กองทัพบก จําเปนตอ งสรรหาบคุ คลและพัฒนา
กาํ ลังพล โดยเฉพาะนายทหารสัญญาบัตร ใหมีคุณสมบัติเหมาะสมท่ีจะปฏิบัติภารกิจในการปองกัน
ประเทศและเตรยี มพรอมทจ่ี ะตอ สูใหไดช ยั ชนะในสงครามทุกรปู แบบ จึงกาํ หนดคุณสมบัติของบคุ คล
ที่ตองการ ซง่ึ หนวย/เหลาสายวิทยาการตอ งยึดถอื เปนเปาหมายในการสรรหาและพัฒนาปลูกฝงใหก ับ
นายทหารสญั ญาบัตรทุกนาย ดังน้ี

๕๐๙

๓.๑ คุณสมบัติพื้นฐาน
๓.๑.๑ ยดึ มั่นในอุดมการณของชาติ (หมายถงึ ตองเช่อื ถอื และยึดมนั่ ในสถาบัน องคกร รวมท้ัง

แนวนโยบายตาง ๆ ท่กี าํ หนดขน้ึ โดยสถาบัน และองคกรท่ที าํ หนาท่ปี กครองประเทศโดยถกู ตองอยูนัน้ )
๓.๑.๒ รกั ทหารและกองทัพ
๓.๑.๓ มีความรับผดิ ชอบ
๓.๑.๔ เสียสละ
๓.๑.๕ ซอื่ สตั ยสุจรติ

๓.๒ คุณสมบัตทิ างทหาร
๓.๒.๑ กลา หาญ
๓.๒.๒ พดู ตรง เปดเผยและจริงใจ
๓.๒.๓ มคี วามสามารถรอบรูท้งั ทางเทคนิคและยุทธวิธแี ละการในหนา ที่
๓.๒.๔ เอาใจใสต อภารกิจและความสําเรจ็ ของหนวย
๓.๒.๕ กลา เสี่ยงอยา งมไี หวพรบิ และรูเทาถึงการณ
๓.๒.๖ มีความคดิ รเิ ริม่
๓.๒.๗ ยึดมัน่ และตรงตอหลักการ
๓.๒.๘ มสี มรรถภาพรา งกายตามเกณฑท่ีกําหนด

๔. ประเภทของนายทหารสญั ญาบัตร กาํ ลงั พลนายทหารสัญญาบัตรของกองทัพบกประกอบดวยผูที่
สําเร็จการศึกษาจากสถาบันการศึกษาตาง ๆ กัน พืน้ ความรูของนายทหารสญั ญาบัตรท่สี ําเรจ็ การศึกษา
จากสถาบันการศึกษาตางกันยอมตองตางกันดวย ดังนั้น เพื่อใหการกําหนดแนวทางรับราชการของ
นายทหารสญั ญาบัตร ซ่ึงก็คอื แนวทางการบรรจแุ ละแตงตง้ั ใหไ ปดาํ รงตาํ แหนงตา ง ๆ รวมทั้งการพฒั นา
บุคคลเปน ไปอยา งเหมาะสมสอดคลองกบั ความรพู ื้นฐานจากสถาบันที่เปนแหลงกาํ เนิด จึงแบง นายทหาร
สัญญาบตั รตามพน้ื ความรูห รอื แหลงกําเนดิ เปน ๔ ประเภท คือ

๔.๑ ประเภทที่ ๑ คือ นายทหารสัญญาบัตรที่สําเร็จการศึกษาจากแหลงผลิตหลักของกองทัพบก
ไดแก โรงเรียนนายรอยพระจุลจอมเกลา หลักสูตรหลักประจาํ (กําเนิด นร.), วิทยาลัยแพทยศาสตร
พระมงกุฎเกลา หลักสตู รแพทยศาสตรบณั ฑติ (กาํ เนดิ นพท.) และ โรงเรียนทหารตางประเทศที่ กห.
รับรองหลักสตู รไมต ่ํากวาปรญิ ญาตรี (กาํ เนดิ นรต.)

๕๑๐

๔.๒ ประเภทที่ ๒ คือ นายทหารสัญญาบัตรท่ีไดจากการผลิต ดวยวิธีพิเศษเรงดวนเพื่อแกปญหา
กําลงั พลขาดแคลนเปนครงั้ คราวตามความจําเปน ไดแก นายทหารสัญญาบตั รท่ีสําเรจ็ การศึกษาหลักสตู ร
นักเรยี นนายรอ ยสาํ รอง (กําเนดิ นรส.) และหลักสูตรนกั เรยี นนายรอ ยพเิ ศษ (กําเนดิ นรพ.) และนายทหาร
สญั ญาบัตรทสี่ ําเรจ็ การศกึ ษาจาก โรงเรียนนายทหารตางประเทศ นอกเหนือจาก ขอ ๔.๑

๔.๓ ประเภทท่ี ๓ คอื นายทหารสญั ญาบัตรทเี่ ดมิ รบั ราชการเปน นายทหารชนั้ ประทวนแลว ไดรับ
การคัดเลือกใหเลอ่ื นฐานะเปนนายทหารสัญญาบตั ร ตามโควตาประจาํ ปหรือไดศึกษาตอจนมีคุณวุฒิ
ตั้งแตอ นปุ ริญญาข้ึนไป แลว ใชคุณวุฒนิ ้นั เล่อื นฐานะเปน นายทหารสญั ญาบตั ร (กําเนิด นป.)

๔.๔ ประเภทที่ ๔ คอื นายทหารสัญญาบัตรท่ีไดจากบคุ คลที่สําเรจ็ การศึกษาจากโรงเรียน วิทยาลยั
หรือ มหาวทิ ยาลัยทางพลเรือนซ่ึงมคี ุณวุฒิในสาขาวิชาตาง ๆ ตามท่ีกองทัพบก ตองการ และทก่ี องทพั บก
รบั โอนจากสว นราชการอน่ื นอก กห. (กําเนดิ พ.)
๕. แนวทางการบรรจุแตง ตง้ั และพฒั นานายทหารสัญญาบตั ร

๕.๑ กลาวทวั่ ไป กองทพั บก จะกําหนดนโยบายและหลกั การในการบรรจุแตง ต้งั และพัฒนานายทหาร
สญั ญาบัตรอยางกวาง ๆ เพอ่ื ให หนว ย/เหลาสายวทิ ยาการ ไดย ึดถอื และใชเ ปน หลกั ในการบรรจุแตง ตั้ง
และพฒั นานายทหารสัญญาบัตร ใน หนวย/เหลา สายวิทยาการ รวมทัง้ เปนการวางแผนเพอื่ หมุนเวียน
บรรจุโยกยายนายทหารสัญญาบัตรอีกดวย ซ่ึงการดําเนินการในเร่ืองนี้จะตองพิจารณาปรับปรุงให
รัดกุมและทนั สมัยอยเู สมอตามระยะเวลาอนั สมควร

๕.๒ หลกั การท่วั ไปในการหมุนเวยี นบรรจุโยกยา ย และพัฒนานายทหารสัญญาบัตร
๕.๒.๑ การบรรจุหรือแตงต้ังนายทหารสัญญาบัตรใหดํารงตําแหนงใดนั้นจะตองพิจารณา

บรรจุหรือแตง ตัง้ จากบคุ คลที่มีคุณวฒุ หิ รอื คุณสมบตั ิตรงกบั คณุ วฒุ ทิ ก่ี ําหนดสําหรับตําแหนง และหรอื
คณุ สมบตั เิ ฉพาะตําแหนงของตําแหนง นั้น ๆ ดวย

๕.๒.๒ การหมนุ เวียนนายทหารสญั ญาบตั ร (รวมทงั้ นายทหาร ฝสธ.) ใหท าํ หนา ท่ตี า ง ๆ เปน
ส่ิงพึงประสงค เปนการฝกงานใหสามารถปฏิบัติหนาที่ตาง ๆ แทนกันได และเทากับเปนการเพิ่ม
ประสิทธภิ าพของนายทหารสญั ญาบตั รแตล ะนายใหส งู ขึน้ การหมนุ เวยี นใหทําหนา ท่นี ้ีจะตอ งพจิ ารณา
ใหเหมาะสมกับช้นั ยศ และความรูความสามารถของนายทหารสญั ญาบตั รแตล ะคน และเพอื่ ใหนายทหาร
สัญญาบัตรไดคุนเคยตอภูมิประเทศในภาคตาง ๆ ในระยะแรก ๆ ของการรับราชการเปนนายทหาร
สญั ญาบัตร (๑-๑๐ ปแ รก) ควรหมุนเวียนบรรจใุ หป ฏบิ ัตหิ นา ท่ีในหนว ยซงึ่ ตั้งอยูใ นตา ง ทภ. หรอื กองพล
ท่ีเปน นขต.ทบ. ใหมากทีส่ ุดเทาท่จี ะทาํ ได

๕๑๑

๕.๒.๓ การบรรจุใหท าํ หนา ที่อยใู นตําแหนง เดียวนาน ๆ พึงละเวน ระยะเวลาที่บรรจุใหทํา
หนาทใ่ี นตาํ แหนงใดตําแหนง หนง่ึ ตามปกติไมค วรเกิน ๓ ป

๕.๒.๔ การเลอื่ นนายทหารสัญญาบัตรใหดํารงตําแหนงสูงขึ้นน้ัน จะตองคัดเลือกจากผูที่มี
คุณสมบัติและคุณวุฒิเหมาะสม มีความรูความสามารถดีเดน โดยพิจารณาจากประวัติการรับราชการ
และรายงานประเมนิ คา การปฏบิ ตั งิ านนายทหาร

๕.๒.๕ การพัฒนานายทหารสญั ญาบตั รดวยการใหก ารศกึ ษาเปน สิ่งจาํ เปน เพื่อใหไ ดนายทหาร
สัญญาบตั รทม่ี ีความรู พอท่ีจะคัดเลอื กบรรจุในตําแหนงตาง ๆ ได เหลาสายวิทยาการจะตองวางแผน
ใหก ารศึกษา เพ่อื ใหนายทหารสญั ญาบตั รในเหลาสายวิทยาการสามารถปฏบิ ตั ิงานในสายงานของตน
ไดเ ปน อยา งดี รวมทัง้ ควรสงเสริมใหเขาศึกษาเพิ่มเติมในสถานศึกษาของพลเรือนในสาขาวิชาตาง ๆ
ที่กองทัพบกตองการ ตามความเหมาะสม มาตรฐานการศกึ ษาทถ่ี ือวา สาํ คญั และจาํ เปน สําหรับนายทหาร
สัญญาบตั รในการบรรจุและเลอื่ นขน้ึ ในตําแหนงระดบั ตา ง ๆ ใหย ดึ ถอื ดงั นค้ี อื

๕.๒.๕.๑ การปฐมนเิ ทศ สําหรบั นายทหารท่ีไดรบั การบรรจุเขา รบั ราชการใหมเ พื่อ
ใหม คี วามรูพืน้ ฐานในเร่ืองตาง ๆ ทจ่ี าํ เปน สาํ หรับการรบั ราชการเปน นายทหารสัญญาบตั ร

๕.๒.๕.๒ หลกั สตู รชน้ั นายรอยของเหลา (หรือเทยี บเทา) ผทู ส่ี ําเร็จการศึกษาหลักสูตร
นี้ ใหเ ลอื่ นขึ้นครองตาํ แหนง อตั รา ร.อ.ได

๕.๒.๕.๓ หลักสูตรชน้ั นายพันของเหลา (หรอื เทยี บเทา) ผูท ่สี ําเร็จการศึกษาหลักสตู ร
น้ี ใหเ ลอ่ื นข้นึ ครองตําแหนง อัตรา พ.ต.ได

๕.๒.๕.๔ การเลอ่ื นข้นึ ในตาํ แหนง อัตรา พ.อ. ตอ งมีคุณวฒุ ิการศึกษา ระดับปริญญาตรี
ในสาขาวิชาที่เก่ียวของกับงานในหนาท่ีท่ีปฏิบัติอยูและหรือที่จะเล่ือนข้ึน และจะตองผานการศึกษา
ตามแนวทางรับราชการในขอ ๕.๒.๕.๒ และ ๕.๒.๕.๓ มากอนดว ย

๕.๒.๕.๕ บรรจุในตําแหนง อัตราของ ฝายเสนาธิการ (สธ.) ตองสําเร็จการศึกษาจาก
รร.เสนาธิการทหารบก หลักสูตรหลักประจํา หรือหลักสูตรท่ี ทบ. กาํ หนดใหเทียบเทา รร.สธ.ทบ.
หลักสูตรหลกั ประจาํ

๕๑๒

๕.๓ แบบฉบบั การรบั ราชการและพฒั นาการของนายทหารสญั ญาบัตรใน ทบ. (อนุผนวก ๑)
๕.๓.๑ การเลือ่ นยศ
๕.๓.๑.๑ นายทหารสญั ญาบัตรจะไดรับการเลอื่ นยศสงู ข้ึนเม่ือมีจาํ นวนปร ับราชการ

ตามทก่ี ําหนดในระเบียบ กห.วาดวยการแตง ต้ังยศและการเล่อื นยศของขา ราชการทหาร อยางไรกต็ ามยงั
มปี จ จยั อ่นื ๆ อกี ทีอ่ าจจะทาํ ใหเ ลอ่ื นยศเร็ว หรอื ชา กวา นไี้ ด ปจจยั เหลา น้ไี ดแก

- ระดบั หรอื คุณวฒุ ิการศึกษากอนเขารบั ราชการ
- เงนิ เดือนที่ไดร ับ/เลื่อนในแตละป
- ตาํ แหนง /อัตรา ทไ่ี ดร ับการบรรจุหรอื แตงตั้ง
- ผลการปฏบิ ตั ิงาน
- หลกั เกณฑอ ื่น ๆ ทที่ างราชการกาํ หนด
๕.๓.๑.๒ แบบฉบับการเล่ือนยศของนายทหารสัญญาบัตรตามเกณฑทั่วไปเมื่อ
พจิ ารณาจากปร บั ราชการ จะเปนดงั น้ี
- รับราชการครบ ๓ ป เลอ่ื นยศเปน ร.ท.
- รับราชการครบ ๗ ป เลอ่ื นยศเปน ร.อ.
- รบั ราชการครบ ๑๐ ป เลื่อนยศเปน พ.ต.
- รบั ราชการครบ ๑๓ ป เลือ่ นยศเปน พ.ท.
- รับราชการครบ ๑๖ ป เลื่อนยศเปน พ.อ.
- และเมอ่ื รบั ราชการครบ ๑๙ ป เลือ่ น เปน พ.อ.พิเศษ และเปน นายพล
ในปที่ ๒๑
๕.๓.๒ การศึกษา นายทหารสัญญาบัตรจะไดรับการพัฒนาดวยการใหการศึกษาฝกอบรม
ตัง้ แตเริ่มเขารับราชการตามลําดับดังนี้
๕.๓.๒.๑ การปฐมนิเทศ เปนการใหความรูพ้ืนฐานที่จาํ เปนสาํ หรับการรับราชการ
เปนนายทหารสัญญาบัตร โดยจะใหเขารับการอบรมหรือปฐมนิเทศต้ังแตเริ่มเขารับราชการ หรือใน
ชวงตน ๆ ของการรับราชการในปแ รก

๕๑๓

๕.๓.๒.๒ หลกั สูตรเฉพาะหนาที่ ซึ่งไดแก หลกั สตู รท่ใี หก ารศกึ ษาเกยี่ วกับการปฏิบัติ
งานในตาํ แหนงหนาที่เฉพาะตาง ๆ ของเหลา หลักสูตรสงทางอากาศ (โดดรม) หลักสูตรจูโจม และ
หลักสูตรศษิ ยการบิน ทบ. เปนตน นายทหารสัญญาบัตรอาจไดรับการคัดเลือกเขาศึกษาในหลักสูตร
เฉพาะหนาที่ของเหลาหรือสายวทิ ยาการตามความเหมาะสม และอาจสมคั รเขา รับการคดั เลอื กเขาศกึ ษา
ในหลักสูตรสงทางอากาศ หลักสูตรจูโจม และหรือหลักสูตรศิษยการบิน ทบ. ไดตามความสมัครใจ
ในชว งตน ๆ ของการรับราชการ (ยศ ร.ต.-ร.ท.) และเมื่อสําเร็จการศึกษาไดรับการบรรจุเขารับราชการ
ในหนว ยและหรอื ตําแหนงทก่ี าํ หนดจะไดรับเงนิ เพ่ิมพิเศษสําหรับคุณวฒุ ินั้น ๆ ดว ย

๕.๓.๒.๓ หลกั สูตรชนั้ นายรอ ย เปน หลกั สูตรสําคญั พื้นฐานท่ีจะใหความรูเบอ้ื งตน
หรือพ้ืนฐานของเหลาท่ีนายทหารสัญญาบัตร สังกัด ถือเปนหลักสูตรสําหรับนายทหารสัญญาบัตร
ทุกนายทีจ่ ะเล่อื นขน้ึ เปน ร.อ. ตอ งเขาและศึกษาใหสําเร็จกอนจึงจะไดรับการพิจารณาใหเลื่อนข้ึนได
(เวน นายทหารสัญญาบัตรคณุ วุฒิพิเศษ ในบางเหลา/สายวทิ ยาการท่ี ทบ.ไดย กเวนหรือผอนผนั ใหแ ลว )
ปกตจิ ะรบั นายทหารสญั ญาบัตรท่ีมชี นั้ เงนิ เดือน ตงั้ แต ระดบั น.๑ ชน้ั ๗ ขึน้ ไป เขาศกึ ษา เวน นายทหาร
สัญญาบัตรทสี่ ําเร็จการศึกษาจาก รร.จปร.ใหเ ขาศกึ ษาไดตั้งแตปแ รกที่ออกรับราชการ

๕.๓.๒.๔ หลักสตู รช้นั นายพนั เปน หลกั สตู รหลักท่ีสําคัญอีกหลักสตู รหน่งึ ท่จี ะให
ความรตู าง ๆ เกี่ยวกับเทคนคิ หรอื การปฏิบัตงิ าน หรอื การปฏบิ ัตกิ ารรบชน้ั สงู ซ่ึงนายทหารชัน้ นายพัน
หรือสงู กวาจะตองทราบเพอ่ื จะไดป ฏิบตั หิ นา ที่อยางมปี ระสิทธิภาพ ถือเปนหลักสูตรสาํ หรับนายทหาร
ที่จะเลื่อนขึ้น พ.ต. ตองเขาและศึกษาใหส าํ เร็จกอนจึงจะเลือ่ นขนึ้ ได (เวนนายทหารสัญญาบตั รคุณวุฒิ
พิเศษ ในบางเหลา/สายวิทยาการที่ ทบ.ไดย กเวนหรอื ผอนผันใหแลว) ปกตจิ ะรบั นายทหารสญั ญาบัตร
ทม่ี ชี ้ันเงินเดือน ต้ังแต ระดับ น.๑ ชน้ั ๑๑ ขึ้นไป

๕.๓.๒.๕ หลักสูตร รร.สธ.ทบ. เปนหลักสูตรสําหรับนายทหารที่จะไปบรรจุทํา
หนาท่ี ฝายเสนาธิการ ในหนวยตาง ๆ นายทหารสัญญาบัตรท่ีจะเขาศึกษาในหลักสูตรน้ีนอกจากจะ
เปนผูท่ีมีคุณสมบัติตาง ๆ ตามท่ีกําหนด (ระเบียบ ทบ. วาดวยโรงเรียนเสนาธิการทหารบก สถาบัน
วิชาการทหารบกช้ันสูง) แลว จะตองผานการสอบคัดเลือกดวยจึงจะเขาศึกษาใน รร.สธ.ทบ.ไดปกติ
นายทหารที่จะรับเขาศึกษาในหลักสูตรนี้ จะตองมีเวลารับราชการครบ ๗ ปแลว ยศและเงินเดือนอยู
ระหวาง ร.อ.รับเงนิ เดือน น.๑ ชัน้ ๑๔ จนถงึ พ.ต.รบั เงนิ เดือน น.๒ ชนั้ ๕

๕๑๔

๕.๓.๒.๖ หลักสูตรของ ทบ. และตางเหลาทัพในชว งช้นั ยศ ร.อ.ถงึ พ.อ. มีอาทิ เชน
หลักสตู ร รร.สธ.ทบ. เรง รัดหรอื เพ่ิมเติม หลักสตู รเตรยี มการสาํ หรบั ผูบงั คบั หนว ย หลกั สตู ร รร.สธ.ทอ.
หลกั สตู ร รร.สธ.ทร. หลักสตู ร รร.สธ.ทหาร และหลักสูตรของสายวทิ ยาการตาง ๆ เชน หลักสตู รนายทหาร
งบประมาณ หลักสูตรการสงกําลังบํารุงช้ันสูง หลักสูตรการขาวกรอง ฯลฯ หลักสูตรตาง ๆ เหลานี้
หรือสายวิทยาการจะขออนมุ ตั ิเปด การศกึ ษาตามความเหมาะสม เพ่ือรับนายทหารสัญญาบัตรในชวง
ชั้นยศนี้เขาศึกษาเปนการเพ่ิมเติมความรูและใหสามารถปฏิบัติงานในตําแหนงตาง ๆ ในระดับน้ีได
อยา งมีประสิทธภิ าพ

๕.๓.๒.๗ สถานศกึ ษาทางพลเรือน เพอื่ เปนการยกระดบั คุณวุฒหิ รอื ความรนู ายทหาร
สญั ญาบัตรของกองทพั บกใหส ูงขึ้น และใหไ ดเทคนิค และวิทยาการทกี่ าวหนา นาํ มาพัฒนากองทัพบก
ใหท นั สมยั ยงิ่ ข้ึน นายทหารสญั ญาบัตรท่มี คี วามรคู วามสามารถ จะไดร บั การสนบั สนุนดว ยการคดั เลือก
เพื่อรบั ทุนการศกึ ษา ไปศึกษาในสถานศกึ ษาของพลเรอื น ในสาขาตาง ๆ ท่กี องทัพบกตองการ สาํ หรับ
นายทหารอื่น ๆ ทัว่ ไปท่ีประสงคจะไปศึกษาเพิม่ เติมโดยทนุ สว นตวั ก็จะไดรบั การสนับสนุนดว ยการ
ใหลาไปศกึ ษาตามความเหมาะสม

๕.๓.๒.๘ หลักสูตร วทบ. เปน หลักสูตรการศึกษาทางทหารระดับสูงสดุ ของกองทพั บก
สาํ หรับนายทหารสญั ญาบัตร ชนั้ พ.อ.-พ.อ.พิเศษ ไดเ ขาศกึ ษา เพอ่ื เพิ่มพูนความรูใหพ รอม สาํ หรับการ
เล่ือนข้ึนปฏบิ ัตหิ นา ทีใ่ นตาํ แหนง ระดับสงู ของกองทัพบกตอ ไป

๕.๓.๓ ตาํ แหนง ราชการ นายทหารสญั ญาบตั รจะไดรบั การบรรจุในตาํ แหนง อัตราท่ีเหมาะสม
สอดคลอ งกับชัน้ ยศ กลาวคือตําแหนง อตั รา ร.ท. จะบรรจุนายทหาร ยศ ร.ต.-ร.ท., ตําแหนง อตั รา ร.อ.
จะบรรจุนายทหาร ยศ ร.ท.-ร.อ. (เวนในกรณีบรรจุใหมและไมมีตําแหนงอัตราต่ํากวานี้อาจบรรจุ
นายทหาร ยศ ร.ต. ใหรักษาราชการได), ตาํ แหนง อัตรา พ.ต. จะบรรจุนายทหาร ยศ ร.อ.-พ.ต. (เวน
ในกรณีเชนเดียวกับอัตรา ร.อ.), ตําแหนง อัตรา พ.ท.จะบรรจุนายทหาร ยศ พ.ต.-พ.ท. และตําแหนง
อัตรา พ.อ. จะบรรจุนายทหาร ยศ พ.ท.-พ.อ.

ตําแหนง บรรจใุ นชน้ั ยศตาง ๆ ตาม อนผุ นวก ๑ เปนตาํ แหนงบรรจทุ ีใ่ ชในการบรรจุ
และแตง ต้ังนายทหารสัญญาบตั รทวั่ ไปซ่งึ มคี ุณสมบัติและพัฒนาการเปน ไปตามข้ันตอนตา ง ๆ ตามแบบ
สาํ หรับนายทหารสญั ญาบตั รซ่ึงไมส ามารถพฒั นาและไมมีพัฒนาการเปน ไปตามแบบฉบับน้ี หนว ย/เหลา
สายวิทยาการ จะตอ งปรับการบรรจแุ ตงตัง้ ใหเหมาะสมสอดคลองกบั พัฒนาการของนายทหารสญั ญาบัตร
ผนู ั้นเปนราย ๆ ไป

๕๑๕

๕.๔ นโยบายการบรรจุและพฒั นานายทหารสัญญาบตั รแตล ะประเภท
๕.๔.๑ ประเภทท่ี ๑ เนือ่ งจากเปน กําลงั พลทม่ี คี ณุ คาสูงผลิตไดนอยจึงใหบรรจุในทุกระดับ

หนวยเพื่อเปนหลักเทาท่ีจําเปน และใหวางแนวทางหมุนเวียนทําหนาที่ในตําแหนงตาง ๆ รวมท้ังให
การฝก ศึกษา อบรม ใหมีความรูความสามารถปฏิบัติงาน หรือกํากับดูแลการปฏิบัติงานในตําแหนง
ตาง ๆ ทกุ ระดบั และทุกตาํ แหนงได นายทหารสญั ญาบัตรประเภทน้ตี อ งพัฒนาใหพ รอมท่ีจะเลอ่ื นขึ้น
ดํารงตําแหนงผูบ ังคบั บัญชาและหรอื ฝา ยอํานวยการในระดบั สงู ของ ทบ.ได ตอไป

๕.๔.๒ ประเภทท่ี ๒ เปน กาํ ลงั พลทก่ี องทพั บกจดั หามาบรรจุในตําแหนง ตา ง ๆ เปน คร้งั คราว
เพ่ือแกปญหาการขาดแคลนกําลังพลประเภทอ่ืน สวนใหญเปนการจัดหาแบบเรงดวนดังนั้น การให
การศกึ ษาฝก อบรมกอ นบรรจเุ ขารับราชการ จึงกระทาํ เทาที่จําเปนใหมีความรูพอในการปฏิบัตกิ ารหรอื
ปฏิบัตหิ นาทจี่ าํ กัดอยใู นระดบั หน่ึง การบรรจุท่ตี รงกับวัตถปุ ระสงคและเหมาะสมกับความรู ความสามารถ
ของนายทหารประเภทนก้ี ค็ ือ บรรจุในตาํ แหนงตา ง ๆในชน้ั ตน ที่วางเพื่อเสริมหรือทดแทนนายทหาร
ประเภท ๑ และ ๓ การบรรจุและหมุนเวียนทาํ หนาท่ีตาง ๆ ในชั้นยศ ร.ต., ร.ท. และ ร.อ. (เม่ือสําเร็จ
หลักสูตรช้ันนายรอ ยแลว) คงบรรจุและหมนุ เวียนในตาํ แหนง ตาง ๆ เพอื่ ใหทําหนา ทแ่ี ละมีประสบการณ
ในการบังคับบัญชาและการปฏิบัติการของหนวยทหารระดับหมวดและกองรอย หลังจากน้ันใหวาง
แนวทางพัฒนาดวยการบรรจุหมุนเวียน รวมท้ังการใหการศึกษาฝกอบรมใหมีความรูความสามารถ
ปฏิบัติงานหรือกํากับดูแลการปฏิบัติงานในตาํ แหนงหนาท่ีทางดานธุรการ กําลังพล การฝกศึกษา
การสง กาํ ลงั บํารุง และอ่ืน ๆ ที่ไมใชการบังคับบัญชาหนวยกาํ ลังรบ และไมเกี่ยวของหรือมีหนาท่ีใน
การวางแผนการรบโดยตรง (ไมใชท ําหนา ที่ดา นยุทธการ)

๕.๔.๓ ประเภทท่ี ๓ เนอื่ งจากนายทหารสัญญาบัตรประเภทน้ีเลื่อนฐานะมาจากนายทหาร
ประทวน พ้ืนความรูสวนใหญตํ่ากวาปริญญาตรี (เวนบางรายที่ไปศึกษาตอ) แตมีประสบการณจาก
การปฏิบัติหนาท่ีเมื่อเปนนายทหารช้นั ประทวนเพียงพอที่จะปฏิบัติการหรือปฏิบัติหนาท่ีทางการรบ
สนับสนุนการรบ หรือสนับสนุนการชวยรบ ในหนวยทหารตาง ๆ ได แตไมเหมาะที่จะบรรจุใหทํา
หนา ทใ่ี นตําแหนงทางเทคนิคท่ีตอ งใชความรทู างวิทยาการสาขาตาง ๆ โดยเฉพาะ (เวน แตจะไดรับการ
ศึกษาหรืออบรมเปนการเฉพาะแลว) การบรรจุหมุนเวียนนายทหารสัญญาบัตรประเภทนี้ ในชั้นยศ
ร.ต.-ร.อ. ใหบรรจุหมุนเวียนไดในตําแหนงตาง ๆ เพื่อใหปฏิบัติหนาท่ีและมีประสบการณในการ

๕๑๖

บังคับบัญชาและการปฏิบตั ิการของหนว ยระดับหมวดและกองรอย เวนตําแหนง หนาทท่ี ี่ตอ งบรรจจุ าก
ผูที่มีความรทู างวิทยาการเฉพาะในสาขาน้ัน (ยกเวนผูท่ีไดเล่ือนฐานะโดยใชคุณวุฒิ) หลังจากน้ันให
วางแนวทางพัฒนาเชนเดียวกับนายทหารสญั ญาบัตรประเภทท่ี ๒

๕.๔.๔ ประเภทที่ ๔ นายทหารสัญญาบัตรประเภทน้ีเปนผูที่มีความรูเฉพาะในวิทยาการ
สาขาตาง ๆ ซึ่งกองทพั บกตองการ ปกตจิ ะบรรจใุ หป ฏบิ ตั ิงานในตาํ แหนง หนาที่ที่กําหนดสําหรับคณุ วฒุ ิ
นน้ั ๆ โดยเฉพาะ อยา งไรกด็ เี น่ืองจากนายทหารประเภทนีส้ ว นใหญเปนบุคคลพลเรือนทย่ี งั ไมร จู กั หรือ
คนุ เคยกับชวี ติ และการปฏบิ ัตกิ ารของทหารและหนว ยทหารมากอ น เม่ือบรรจเุ ขารบั ราชการในปแ รก ๆ
หากกระทาํ ไดค วรบรรจใุ หปฏบิ ัตหิ นาทใ่ี นตาํ แหนงในหนวยกําลังรบหรอื ใกลช ิด หรอื สนบั สนนุ โดย
ใกลช ดิ กับหนว ยกาํ ลังรบใหม ากที่สดุ ตอ จากน้ันใหหมุนเวียนเลอ่ื นหรอื แตงตั้งใหดํารงตาํ แหนงท่ตี รง
กบั สายวิทยาการหรอื คุณวุฒิของแตละคน รวมทั้งพัฒนาใหมีความรูความชาํ นาญในวิทยาการเฉพาะ
สาขานัน้ ย่ิง ๆ ขน้ึ เพ่ือใหสามารถปฏิบตั ิหนา ท่ีในตาํ แหนงงานระดับตาง ๆ ของเหลาและสายวิทยาการ
นัน้ ไดตอไป
๖. คุณสมบัตเิ ฉพาะตําแหนง คือ คุณสมบัติของนายทหารสัญญาบัตรท่ีเหมาะสมจะบรรจุในตาํ แหนง
ตาง ๆ แตล ะตาํ แหนงของกองทัพบก ซึ่งจะเปนมาตรการในการควบคมุ และกาํ หนดแนวทางรบั ราชการ
ใหกบั นายทหารสัญญาบตั รทกุ นายไดแ นน อน ถกู ตอง และชดั เจนยิง่ ข้นึ หนว ย/เหลา สายวทิ ยาการจะ
ตองรวบรวมและพิจารณากาํ หนดคุณสมบัติเฉพาะตําแหนง ใหกับตําแหนงตาง ๆ ทุกตําแหนง ท่ี
รับผิดชอบแลวเสนอให ทบ. (โดย กพ.ทบ.) พิจารณาและสั่งใหใชเปนหลักในการบรรจุและแตงตั้ง
นายทหารสัญญาบัตรไปดํารงตาํ แหนงตาง ๆ ตอไป การกําหนดคุณสมบัติเฉพาะตําแหนงดังกลาวน้ี
ใหพิจารณากาํ หนดใหกบั ตําแหนง ตง้ั แตอัตรา พ.ต.ข้ึนไปจนถงึ อตั รา พ.อ.ทกุ ตําแหนง โดยใหใ ชห วั ขอ
คุณสมบัตดิ ังตอไปนเี้ ปน แนวทางในการพจิ ารณากําหนด (นอกเหนอื จากช่อื ตําแหนง ชกท. อตั ราและ
หนาทโี่ ดยยอซึง่ ตอ งกาํ หนดไวท ุกตําแหนง ) คอื

๖.๑ คณุ วุฒทิ ว่ั ๆ ไป (ทางทหารและหรือทางพลเรอื น)
๖.๒ งานหรือตําแหนงงานทเ่ี คยปฏิบตั หิ รือเคยดาํ รงตาํ แหนงมากอ น
๖.๓ เวลารับราชการ, ยศและหรือ ระดับชน้ั เงินเดือนอยางตํ่า
๖.๔ การฝกศึกษาอบรมตามหลักสตู รตา ง ๆ
๖.๕ สมรรถภาพทางรางกาย (โดยยดึ ถอื ตามเกณฑก ารทดสอบสมรรถภาพทางรางกายของกองทพั บก
ตามขอ ๗)

๕๑๗

๖.๖ ผลงานจากรายงานประเมินคา การปฏบิ ตั งิ านนายทหาร เชน ระดับคะแนนหรอื คุณลกั ษณะเฉพาะ
ของนายทหารทีต่ อ งการ เปนตน

๖.๗ เงอ่ื นไขอ่นื ๆ ทีจ่ ําเปน ตองกาํ หนด เชน โรคประจําตวั หรืออาการพกิ ารทพุ พลภาพทไี่ มเหมาะ
กบั การปฏบิ ตั ิงานในตําแหนง น้ี ฯลฯ เปนตน
* ๗. การทดสอบสมรรถภาพรางกายนายทหารสญั ญาบตั ร

๗.๑ ความมงุ หมาย
๗.๑.๑ สาํ หรบั กําลงั พลเปน รายบคุ คล
๗.๑.๑.๑ เพมิ่ ความแข็งแรง
๗.๑.๑.๒ เพมิ่ ความทนทานของระบบการหายใจและการไหลเวียนของโลหติ
๗.๑.๑.๓ รักษาและแกไขสดั สว นบุคคลกิ ทาทาง
๗.๑.๑.๔ ผอ นคลายความเครยี ดของรา งกายและจิตใจ
๗.๑.๑.๕ กระตนุ ใหป รับปรุงสภาพรางกายใหแขง็ แรงอยูเสมอ
๗.๑.๑.๖ มีคณุ สมบตั ิทางรางกายตามเกณฑทีจ่ ะรับราชการประจาํ การและบรรจุใน

ตําแหนงตาง ๆ ตามทก่ี ําหนด
๗.๑.๒ สาํ หรบั กองทพั บก
๗.๑.๒.๑ เพอื่ ให กาํ ลงั พลมีรา งกายสมบูรณแข็งแรง พรอมรบ
๗.๑.๒.๒ ลดการสญู เสียอนั เกดิ จากการเจ็บปว ย
๗.๑.๒.๓ เพ่ิมประสิทธิภาพของกองทัพบก
๗.๑.๒.๔ กอ ใหเกิดความศรัทธาและเชื่อมน่ั แกป ระชาชน
๗.๑.๒.๕ สามารถคัดเลือกนายทหารสัญญาบัตรบรรจุในตําแหนงตาง ๆ ตามคุณสมบตั ิ

ทางรา งกายไดเหมาะสม

* ผนวก ก ขอ ๗ แกไขเพิ่มเตมิ ตามคาํ สัง่ ทบ.ที่ ๖๙๔/๒๕๓๑ ลง ๑๑ ก.ค.๓๑

๕๑๘

๗.๒ ขอบเขต
๗.๒.๑ ประเภทกาํ ลงั พลที่ตองทดสอบสมรรถภาพทางรา งกาย
๗.๒.๑.๑ บุคคลทีจ่ ะไดรับการบรรจุเขา รับราชการเปนนายทหารสัญญาบตั รทงั้ ชาย

และหญิง
๗.๒.๑.๒ นายทหารประทวนทจ่ี ะเล่ือนฐานะเปนนายทหารสญั ญาบตั ร
๗.๒.๑.๓ นายทหารสัญญาบัตรประจาํ การทุกชั้นยศ (นายทหารสัญญาบัตรช้ัน

นายพล และ พ.อ.(พิเศษ) ใหดําเนินการตามคําส่ัง ทบ. เร่ือง กําหนดการทดสอบสมรรถภาพรางกาย
นายทหารสัญญาบัตรชน้ั นายพล และ พ.อ.(พเิ ศษ) ดวย)

๗.๒.๒ นายทหารช้ันประทวนอื่น ๆ ถึงแมไ มอ ยูในขอบเขตท่ีจะตองดําเนนิ การตามหลักเกณฑ
นี้ แตใหผ บู ังคับบญั ชาทุกระดบั จดั ใหม กี ารทดสอบสมรรถภาพรา งกาย โดยใชห ลกั เกณฑแ ละผลการ
ทดสอบไปดําเนินการกาํ ลังพลในเร่อื งตาง ๆ ทีอ่ ยใู นอาํ นาจของผูบ งั คับบญั ชาแตล ะระดบั ไดโดยอนโุ ลม
เชน เดียวกบั นายทหารสัญญาบัตร

๗.๒.๓ นายทหารท้งั สัญญาบตั รและประทวนที่ไดร บั การสงเคราะหใ หรบั ราชการตอตาม
พระราชบญั ญัติสงเคราะหข า ราชการผไู ดร บั อันตรายหรอื ปวยเจ็บเพราะเหตุปฏบิ ัตริ าชการ พ.ศ.๒๔๙๘
ถาไดร บั บาดเจ็บหรือพิการไมส ามารถทดสอบไดตามความเห็นแพทยท หารใหไดร ับการยกเวนไมต อง
ทดสอบในรายการทดสอบทไ่ี มส ามารถทดสอบได

๗.๓ หลกั เกณฑและการดําเนนิ การทดสอบ
๗.๓.๑ เกณฑที่ถือวา “ผาน” การทดสอบสาํ หรับนายทหารสัญญาบัตร (รวมทั้งนายทหาร

ประทวน) นายทหารประทวนท่ีจะเล่ือนฐานะเปนนายทหารสัญญาบัตร และบุคคลท่ีจะบรรจุเขารับ
ราชการทหารใหใ ชเ กณฑดงั ตอ ไปนี้

๗.๓.๑.๑ ผทู บี่ รรจอุ ยูในหนวย และ/หรือตาํ แหนงท่ไี ดรับเงนิ เพมิ่ คา ฝาอนั ตรายเปน
ประจาํ ประเภท พ.ด.ร. พ.น.บ. พ.ค.บ. พ.ล.ค. และ พ.ป.อ. ตอ งทดสอบไดคะแนนเฉลี่ยไมตาํ่ กวา ๗๐
ใน ๑๐๐ คะแนน (ผไู ดรับเงนิ เพ่ิมประเภทอ่นื นอกเหนอื จากทก่ี ลา ว ใหใชเ กณฑทดสอบตามขอ ๗.๓.๑.๒
หรือ ขอ ๗.๓.๑.๓ แลว แตกรณ)ี

๕๑๙

* ๗.๓.๑.๒ ผทู บ่ี รรจุอยูในหนวยสว นกาํ ลังรบ, หนว ยสวนสนบั สนุนการรบและหนว ย
สว นชว ยการพัฒนาประเทศ ตามบัญชหี นว ยทหาร ที่ ยก.ทบ. กําหนดตองทดสอบไดคะแนนเฉล่ียไม
ตํ่ากวา ๕๕ ใน ๑๐๐ คะแนน

๗.๓.๑.๓ ผทู บี่ รรจอุ ยูในหนว ย และ/หรอื ตําแหนงนอกเหนือจากขอ ๗.๓.๑.๑ และ
ขอ ๗.๓.๑.๒ ตอ งทดสอบไดคะแนนเฉล่ียไมตํา่ กวา ๕๐ ใน ๑๐๐ คะแนน

โดยตองเขารับการทดสอบครบถวนตามรายการทดสอบท่กี ําหนด และถา ตองทดสอบ
ในรายการทดสอบทกี่ ําหนดเฉพาะเกณฑผา น (ไมมีคะแนน) ตอ งทดสอบ “ผา น” เกณฑทกี่ ําหนดดว ย

๗.๓.๒ หวงเวลาท่ที ดสอบ
๗.๓.๒.๑ บุคคล ตามขอ ๗.๒.๑.๑ และนายทหารประทวน ตามขอ ๗.๒.๑.๒ ทดสอบ

กอ นการบรรจเุ ขารบั ราชการ และกอนการเลอื่ นฐานะเปน นายทหารสัญญาบตั ร ตามลาํ ดบั
๗.๓.๒.๒ นายทหารสญั ญาบตั ร ตามขอ ๗.๒.๑.๓ และนายทหารประทวนตามขอ

๗.๒.๒ ทดสอบปละ ๒ ครัง้ ในเดือน กมุ ภาพนั ธ และ สงิ หาคม ของทกุ ป
๗.๓.๒.๓ นายทหารสัญญาบัตรซ่ึงลาปว ยโดยมใี บรับรองแพทยท หารหรือเดินทาง

ไปราชการหรอื ศกึ ษาตา งประเทศ ใหเ ลื่อนการทดสอบและใหทาํ การทดสอบภายใน ๓๐ วัน หลังจาก
หายปวยหรือเดนิ ทางกลับจากราชการหรอื ศึกษาตางประเทศแลว

๗.๓.๓ วิธกี ารทดสอบ
๗.๓.๓.๑ ใหแ ตง ต้ังคณะกรรมการดาํ เนนิ การโดย
- ผบ.หนวย ระดบั กองพัน หรอื เทียบเทา แตงตั้งคณะกรรมการดําเนินการ

ทดสอบสมรรถภาพรางกายของนายทหารสัญญาบตั รช้ันนายรอ ยภายในกองพัน
- ผบ.กรม หรือเทยี บเทา แตงต้ังคณะกรรมการดําเนนิ การทดสอบสมรรถภาพ

รางกายของนายทหารสญั ญาบตั ร (ทกุ ช้ันยศ) ภายในหนวย เวนผทู ี่ไดร ับการทดสอบจากคณะกรรมการ
ของหนวยระดบั กองพนั แลว

- ผบ.พล. หรอื เทยี บเทาขึ้นไป ดําเนินการทํานองเดยี วกับหนวยระดบั กรม

* ขอ ๗.๓.๑.๒ แกไขเพม่ิ เตมิ ตามคาํ ส่งั ทบ.ท่ี ๓๐๗/๒๕๓๖ ลง ๒๗ พ.๕.๓๖

๕๒๐

- การทดสอบบุคคลทจ่ี ะบรรจเุ ขา รับราชการและนายทหารประทวนท่ีจะ
เลื่อนฐานะเปนนายทหารสัญญาบัตรใหดําเนินการโดยคณะกรรมการคัดเลือกที่ไดแตงตั้งไวแลวใน
เร่อื งน้นั ๆ

๗.๓.๓.๒ ผรู บั การทดสอบใหแตงกายชดุ กีฬา
๗.๓.๓.๓ รายการทดสอบใหท ดสอบตามลาํ ดับและภายในวันเดียวกนั ดังน้ี คอื ดันพนื้
ลุกน่ัง และว่งิ ๒ กม. สาํ หรับผูรับการทดสอบเพศหญิง หรืออายุเกินกวา ๔๕ ป หรือผูท่ีแพทยทหาร
ตรวจแลวเห็นสมควรใหทดสอบดวยทาท่ีปรับปรุงจากทาดันพ้ืน ลุกนั่ง และ/หรือเดิน ๓ กม.แทน
รายละเอยี ดการปฎิบตั ิและเกณฑการใหค ะแนนตามอนผุ นวก ๒, ๓ และ ๔
๗.๓.๔ การบนั ทกึ และการรายงานผลการทดสอบ
๗.๓.๔.๑ ผลการทดสอบของนายทหารสัญญาบัตรเปนรายบุคคล ใหบันทึกผลลง
ในแบบบันทกึ ผลการทดสอบ (อนุผนวก ๕)
๗.๓.๔.๒ หนว ยที่แตงต้ังคณะกรรมการทดสอบ ตามขอ ๗.๓.๓.๑ รวบรวมและสรุป
ผลการทดสอบสมรรถภาพรางกายของนายทหารสัญญาบัตร เสนอตามสายการบังคับบัญชา จนถึง
หนวยระดับ นขต.ทบ. และใหหนวยระดับ นขต. รวบรวมและสรุปผลตามแบบสรุปผลการทดสอบ
สมรรถภาพรา งกายนายทหารสัญญาบตั ร (อนผุ นวก ๖) สง ถึง ทบ.(ผาน สบ.ทบ.) เพือ่ เกบ็ รวบรวมไว
เปนหลักฐาน และขอมูลกาํ ลังพล ภายในวันที่ ๑๕ ของเดือนมีนาคม และกันยายน ของทุกป และให
สบ.ทบ. รวบรวมสรปุ ผลท้งั ทบ. แลว แยกเฉพาะรายชอื่ ผูท่ีไมผานการทดสอบและ/หรือผูที่ไมเขารับ
การทดสอบพรอมเหตุผลเสนอ กพ.ทบ. เพ่ือดําเนินการตามขอ ๗.๔ ตอไป ภายในวันท่ี ๕ ของเดือน
เมษายน และ ตลุ าคม
๗.๓.๕ ผทู ขี่ าดการทดสอบใหถือวาเปนผูท่ีทดสอบ “ไมผาน” และไดคะแนนเฉล่ียต่ํากวา
๕๐ ใน ๑๐๐ คะแนน ซึ่งนอกจากจะตองดาํ เนินการตามท่ีกําหนดไวในคําส่ังนี้แลวใหผูบังคับบัญชา
พจิ ารณาลงโทษตามความเหมาะสมดวย
๗.๔ การดาํ เนนิ การกําลงั พลตอนายทหารสญั ญาบัตร ตามผลการทดสอบ
๗.๔.๑ หลงั จากการทดสอบแตล ะครั้งใหด าํ เนินการตอ ผทู ไี่ มผานการทดสอบ ดงั นี้
๗.๔.๑.๑ บุคคลตามขอ ๗.๒.๑.๑ ใหระงับการบรรจุเขารับราชการสวนนายทหาร
ประทวน ตามขอ ๗.๒.๑.๒ ใหระงับการเลือ่ นฐานะเปน นายทหารสัญญาบตั ร

๕๒๑

๗.๔.๑.๒ นายทหารสญั ญาบตั รตามขอ ๗.๒.๑.๓ หากไมผา นการทดสอบตามเกณฑ
ท่ีกาํ หนด (ขอ ๗.๓.๑) ถึง ๒ ครั้งติดตอกันใหพิจารณาปรับยายออกจากหนวยและ/หรือตาํ แหนง
และ/หรือใหงดรับเงินเพิ่มคาฝาอันตรายโดยใหไปอยูในหนวยและ/หรือตาํ แหนงท่ีเหมาะสมกับ
สมรรถภาพรางกาย สาํ หรับผูที่ไมผานการทดสอบและไดคะแนนการทดสอบเฉลี่ยต่าํ กวา ๕๐ ใน
๑๐๐ คะแนน ถึง ๒ ครงั้ ติดตอกันดวย ใหถือวาเปนนายทหารสัญญาบัตรท่ีหยอนสมรรถภาพใหปรับ
ยายเขาประจํา และหากยังไดคะแนนเฉลีย่ ไมถ งึ ๕๐ ใน ๑๐๐ คะแนนในการทดสอบคร้ังตอ มาหลังจาก
ไดปรบั ยายเขาประจําแลว ๑ ป ใหปลดเปน กองหนุน

๗.๔.๒ เม่ือจะพิจารณาบรรจุหรือปรับยายนายทหารสัญญาบัตรไปดํารงตําแหนง
ตา ง ๆ ท่ไี ดก ําหนดคณุ สมบัตเิ ฉพาะตําแหนง เกย่ี วกับผลการทดสอบสมรรถภาพรางกายท่ีตองการไว
ใหหนวย/เหลาสายวิทยาการที่เก่ียวของในการพิจารณาเสนอเร่ืองหรือรายงานขอปรับยายใชผลการ
ทดสอบสมรรถภาพรางกายคร้ังลาสุดของนายทหารสัญญาบัตรผูนั้นพิจารณา โดยจะตองมีผลการ
ทดสอบตามทีก่ าํ หนดในคุณสมบตั ิเฉพาะของตําแหนง ที่จะบรรจุหรอื ปรบั ยายดว ย
๘. การปลดออกจากประจาํ การ การกาํ หนดแนวทางรับราชการและการพัฒนานายทหารสัญญาบัตร
ในดานตา ง ๆ ตามทก่ี ลาวมาแลว จะทําใหกองทพั บกมีนายทหารสญั ญาบัตรท่ีมีประสทิ ธิภาพ สามารถ
ปฏิบัตภิ ารกจิ หนา ทต่ี ามทไี่ ดรบั มอบหมายไดเปนอยา งดี แตอ ยางไรก็ตามอาจมีนายทหารสัญญาบัตร
บางสว นท่ีไมสามารถพฒั นาความรูความสามารถและคุณสมบตั ิตามแนวทางและขั้นตอนทก่ี ําหนดจึง
ไมส ามารถรบั ราชการกา วหนา ตอ ไป และจะตองอยูในตําแหนงเดมิ เปน เวลานานจนเกษียณอายุ ทําให
ปริมาณของตําแหนงตา ง ๆ ซึ่งเปนเครือ่ งมอื สําคัญของการจดั การกําลังพลมจี าํ นวนไมพอเพยี งที่จะใช
ในการดําเนินการกําลงั พลใหเ ปนไปตามแนวทางที่กาํ หนดได จําเปนตองกําหนดวิธกี ารดําเนนิ การเพอื่
ลดจํานวนกําลงั พลดังกลา วรวมท้ังกาํ ลงั พลท่ีมปี ระสทิ ธภิ าพตํ่า เพอ่ื ใหม ีตําแหนง งานอตั ราตา ง ๆ เพยี งพอ
ที่จะใชในการบรรจุหมุนเวียนกําลังพลและคงประสิทธิภาพทางดานกําลังพลไวได หลักเกณฑและ
วิธีการดาํ เนินการ ตามคําสั่ง ทบ.ท่ี ๑๗๖/๒๕๐๘ ลง ๑๐ มิ.ย.๐๘ เร่ือง การหมุนเวียนกาํ ลังพลซึ่งเปน
หลกั เกณฑต ามท่สี ภา กห. ไดมีมติใหส ว นราชการตาง ๆ ใน กห. ปฏบิ ตั ติ ามหลกั การซ่ึงคณะรฐั มนตรี
ไดมมี ติตามหนังสือ ท่ี น.ว.๗๑/๒๕๐๐ ลง ๑๐ พ.ค.๒๕๐๐ เรอื่ ง การปรบั ปรงุ ขาราชการและเจาหนาที่
ของรัฐบาล เปนหลักเกณฑท่ีเหมาะสมและกองทัพบกจะยึดถือปฏิบัติตอไปโดยให หนวย/เหลา
สายวิทยาการ ที่เก่ียวของไดถือปฏิบัติอยางเครงครัด แตเพื่อใหการพิจารณามีความรัดกุมสอดคลอง

๕๒๒

กับแนวทางรับราชการของนายทหารสัญญาบัตร ฉบับนี้ย่ิงข้ึน จึงใหเพิ่มเติมหลักเกณฑการพิจารณา
ปลดประจําการนายทหารสัญญาบัตร ท่ีมีวันรับราชการนานและทาํ งานไมกาวหนา และนายทหาร
สัญญาบัตรทส่ี งู อายุทาํ งานเฉ่ือยชาไมคลอ งแคลว นอกเหนอื จากเกณฑวันรับราชการและเกณฑอายุที่
กาํ หนดไวแลว ตามคําส่ัง ทบ.ที่ ๑๗๖/๒๕๐๘ ลง ๑๐ มิ.ย.๐๘ (เฉพาะที่อยูในขอบเขตของแนวทาง
รบั ราชการฉบบั นี)้ ดงั น้ีคอื

๘.๑ นายทหารช้นั สญั ญาบตั รท่จี ะถือวาทํางานไมกา วหนา คอื นายทหารสญั ญาบัตรทไี่ มสามารถ
พฒั นาเล่อื นข้ึนตามแนวทางรบั ราชการน้ีได โดยยงั ครองตําแหนงอัตราเดิมจนเงินเดือนเต็มขั้นช้ันยศ
ตามอตั ราที่ครองอยตู งั้ แต ๒ ปข ้ึนไป

๘.๒ นายทหารช้นั สญั ญาบตั รท่จี ะถือวาทํางานเฉอ่ื ยชา ไมคลองแคลว คือ นายทหารสญั ญาบตั ร
ที่มีผลคะแนนจากรายงานประเมนิ คา การปฏิบัตงิ านนายทหาร ต่ําหรือตํา่ มากตดิ ตอกันตงั้ แต ๒ ปข ึ้นไป

๘.๓ นายทหารชั้นสัญญาบัตรที่เขาเกณฑ ตามขอ ๘.๒ หากอายุยังไมเขาเกณฑปลดประจาํ การ
ได ใหพจิ ารณางดบําเหน็จ หรอื ไมใหเลอื่ นขนึ้ ครองอตั ราสูงข้ึนแทนแลว แตก รณี

อนุผนวก ๑ แบบฉบบั การรบั ราช

ปรับราชการ ๑ ๒๓ ๔๕ ๖ ๗ ๘ ๙

การเล่อื นยศ

ตามเกณฑข อง กห. ร.ท. ร.อ.
รร.สธ.ทบ.
ปฐมนิเทศ
ชนั้ นายพนั
การศึกษา ชนั้ นายรอ ย
สถานศกึ ษาของพลเร
ในโรงเรยี นทหาร/ หลกั สูตรเฉพาะหนา ท่ี
พลเรือน

ตําแหนงบรรจุ - ผบ.มว./ตอน/ - รอง ผบ.รอ ย/เทยี บเทา - ผบ.รอ ย/เทียบเทา
- ฝอ.กองพัน (เวน
เทยี บเทา - ผช.ฝอ.กองพนั ฝอ.๓)
-ประจาํ กองหรอื ประ
- ประจาํ หนวย/ - นายทหารฝายกิจการ จาํ แผนกในหนวย
ตา ง ๆ (อตั รา ร.อ.)
เหลาสายวิทยาการ พิเศษ ของกองพนั / - ครู/อาจารย รร.ทหา
-ผบ.มว. (อตั รา ร.อ.)
- ตําแหนงทก่ี าํ หนด เทียบเทา - นายทหารฝายกิจการ
พิเศษ กรม/เทียบเทา
ใหบรรจไุ ดจ ากผูมี - รกั ษาราชการในตําแหนง

คณุ วุฒสิ าขาตา ง ๆ ครู/อาจารย รร.ทหาร

ประจําแผนก หรือ หน.

แผนก อัตราไมเกิน พ.ต.

ชการและพฒั นาการของนายทหารสญั ญาบัตร

๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑

พ.ต. พ.ท. พ.อ. พ.อ.พเิ ศษ นายพล
วทบ.

หลกั สตู รของ ทบ. หรอื ตางเหลา ทัพ
รือน

- รอง ผบ.พัน./ - ผบ.พนั ./ เทียบเทา ๕๒๓

เทียบเทา -หน.แผนกท่ไี มใช สธ. - รอง ผบ.กรม/เทียบเทา
- หก. (อัตรา พ.อ.)
- ผบ.รอ ย. (อตั รา - อจ.รร.ทหาร - ประจาํ กอง (ที่ไมใ ช สธ.)
- อจ./อจ.หน.รร.ทหาร
พ.ต.)/เทยี บเทา - ผช.นายทหารฝาย - นายทหารฝายกจิ การพิเศษของ
กองทัพ/เทยี บเทา
- ฝอ.๓ กองพนั กิจการพเิ ศษของ - ผบ.พนั (อัตรา พ.อ.)/เทียบเทา

- ฝอ.กรม กองทัพ/เทยี บเทา

าร - หน.แผนก หรือ - รอง ผบ.พัน.
ร
ประจําแผนกใน (อัตรา พ.ท.) /

หนวยตา ง ๆ เทียบเทา

า - คร/ู อาจารย รร.

ทหาร

-นายทหารฝา ยกิจ-

การพเิ ศษ กองพล/

เทียบเทา

อนผุ นวก ๑ แบบฉบบั การรบั ราชกา

ปรบั ราชการ ๐ ๑ ๒ ๓ ๔ ๕ ๖๗ ๘ ๙
ร.อ.
การเล่ือนยศ ร.ท.
ตามเกณฑของ กห.

ตาํ แหนง
บรรจุ
( ผูทสี่ ําเรจ็
รร.สธ.ทบ. )

ารและพฒั นาการของนายทหารสัญญาบัตร (ตอ)

๑๐ ๑๑ ๑๒ ๑๓ ๑๔ ๑๕ ๑๖ ๑๗ ๑๘ ๑๙ ๒๐ ๒๑

พ.ต. พ.ท. พ.อ. พ.อ.พิเศษ นายพล

- ผช.หน.ฝาย (สธ.) - หน.ฝา ย (สธ.) - ผช.หก.(สธ.) ของกองทัพ
ของกองพล หรอื
ผช.หก (สธ.) ของกองพล หรือ (อัตรา พ.อ.) /เทยี บเทา
ของกองทัพ/
เทียบเทา ผช.หก (สธ.) - รอง เสธ.กองพล/เทยี บเทา
-รอง เสธ.กรม
- อจ.รร.สธ.ทบ. ของกองทพั (อตั รา -อจ.หน.หรือ อจ.หก.ใน รร.สธ.ทบ.
- อจ.รร.ทหาร หรือ รร.ทหาร (เฉพาะวิชา ฝอ.)
(วชิ า ฝอ.) พ.ท.) /เทยี บเทา
- ประจําแผนก - ประจํากอง (สธ.) ในกรมฝา ย
(สธ.) ในกรมฝา ย - เสธ. กรม
เสนาธิการหรอื เสนาธกิ ารหรือ หก.(สธ.)
เหลาสายวทิ ยาการ - อจ.รร.สธ.ทบ. ๕๒๔
- รอง หรอื ผบ.หนว ย ในเหลาสายวิทยาการ / เทยี บเทา
ทรี่ ะบุ สธ. - อจ.รร.ทหาร
- ฝายอาํ นวยการใน - ฝายเสนาธิการประจาํ หนว ย หรือ
หนวยที่ระบุ สธ. (วชิ า ฝอ.)
ประจาํ ผช.
- หน.แผนก (สธ.)
ในกรมฝายเสนาธิการ - เสธ.กรม (อัตรา พ.อ.)
หรือเหลาสายวทิ ยาการ - รอง หรอื ผบ.หนวยท่ีระบุ สธ.

- ฝา ยเสนาธกิ าร

ประจาํ หนว ย หรอื

ประจาํ ผบ.

- รอง หรอื ผบ.

หนว ยทร่ี ะบุ สธ.

๕๒๕

๙. อนผุ นวก
๙.๑ อนุผนวก ๑ แบบฉบบั การรบั ราชการและพัฒนาการของนายทหารสัญญาบตั ร
๙.๒ อนผุ นวก ๒ การทดสอบรายการท่ี ๑ (ดันพื้น)
๙.๓ อนุผนวก ๓ การทดสอบรายการที่ ๒ (ลกุ นั่ง)
๙.๔ อนุผนวก ๔ การทดสอบรายการท่ี ๓ (วิง่ ๒ ไมล)
๙.๕ อนุผนวก ๕ แบบบนั ทึกผลการทดสอบสมรรถภาพรางกายนายทหารสญั ญาบัตร
๙.๖ อนผุ นวก ๖ แบบรายงานสรุปผลการทดสอบสมรรถภาพรางกายนายทหารสญั ญาบตั ร

๕๒๖

* อนผุ นวก ๒ การทดสอบรายการที่ ๑ (ดนั พ้ืน)
๑. การปฏิบตั ขิ องผรู ับการทดสอบ

๑.๑ ทา เรมิ่ ตน
๑.๑.๑ ทา “ดันพื้น” นอนควาํ่ หนา, ขาชดิ กัน ลําตวั ตงั้ แตศ ีรษะถึงปลายเทาตรงเปนแนวเดียว

ปลายเทาชดิ กันหรือหา งกนั ไมเกิน ๓๐ ซม.ปก ลงบนพืน้ ฝา มือท้งั สองวางคว่ําอยูบ นพ้ืนตรงแนวไหล
ขอ ศอกเหยียดตรง

๑.๑.๒ ทา “ดันพื้น (ลาํ ตัวข้ึนถึงเขา) ” สําหรับผูรับการทดสอบเพศหญิง หรือผูที่อายุตั้งแต
๔๕ ปข้ึนไป หรือผูท่ีแพทยทหารมีความเห็น ทาเร่ิมตนใหปฏิบัติเชนเดียวกับทาดันพื้น (ขอ ๑.๑.๑)
เวน แตข าทอ นลางตง้ั แตเ ขาถึงปลายเทา ใหว างราบอยูบ นพืน้

๑.๒ การปฏิบัติ งอแขนลดตวั ลงจนหนาอกแตะพื้นหรือสมั ผสั มอื ของกรรมการผูทดสอบ (ในเวลา
ทดสอบ) แลว ดนั พ้ืนกลับไปอยใู นทาเรม่ิ ตน ปฏบิ ตั ิซํ้าใหมากทีส่ ดุ เทา ที่จะทําได ภายในเวลา ๒ นาที
๒. การปฏบิ ตั ิของกรรมการผทู ดสอบ

๒.๑ นั่งลงขาง ๆ ผูรับการทดสอบ เอาฝามือคว่ําลงกับพื้นตรงกับหนาอกตอนลางของผูรับการ
ทดสอบ เริ่มจับเวลาพรอ มกบั ผรู บั การทดสอบเริม่ ปฏิบัติ

๒.๒ แตละคร้ังที่ผูรับการทดสอบงอแขนลดตัวลงจนกระท่ังหนาอกสัมผัสหลังมือกรรมการผู
ทดสอบ และดันตัวขึ้นอยูในทาเริ่มตนโดยถูกตอง ใหนับ ๑ และนับตอไปทุกคร้ังที่ปฏิบัติถูกตอง
(ใหห ยดุ นับในครงั้ ท่ีผรู ับการทดสอบปฏบิ ตั ไิ มถกู ตอ ง) จนหมดเวลา ๒ นาที

๒.๓ บนั ทึกจํานวนครงั้ ท่ีผรู ับการทดสอบปฏิบัติไดโดยถกู ตองลงในแบบบนั ทกึ ผลการทดสอบแลว
ใหผูรับการทดสอบลงชือ่ รบั ทราบและยนื ยนั ผลการทดสอบดวย
๓. คําแนะนาํ การปฏิบตั ิ

๓.๑ ผูรับการทดสอบหญิงและผูท่ีอายุเกิน ๔๕ ป ซ่ึงออกกาํ ลังกายเปนประจํา มีรางกายแข็งแรง
จะเลอื กทดสอบดว ยทา ดันพน้ื (ขอ ๑.๑.๑) กไ็ ด

๓.๒ ทุกคร้งั ที่ผรู บั การทดสอบดันตวั ขนึ้ แขนท้ังสองตอ งเหยียดตรง รา งกายทง้ั ทอนตองตรงเปน
แนวเดียวกัน ไมใ หด นั ไหลข ้นึ กอ นสะโพกหรือยกสะโพกขึน้ กอ นไหล

* อนผุ นวก ๒ (เวนตารางที่ ๑) แกไ ขเพ่มิ เติมตามคําส่ัง ทบ.ที่ ๖๙๔/๒๕๓๑ ลง ๑๑ ก.ค.๓๑

๕๒๗

๓.๓ ทุกคร้ังท่ีผูรับการทดสอบงอแขนลดตัวลง หนาอกตองสัมผัสมอื ของกรรมการผทู ดสอบ ทอง
ขาออน หรอื ขา ตอ งไมส มั ผสั พื้น (เวนทา ดันพื้น (ลําตัวขึ้นถงึ เขา ) ตามขอ ๑.๑.๒)

๓.๔ ผูรับการทดสอบจะหยดุ พักไดโ ดยใหอยูในทา เริม่ ตน แตย ังคงจับเวลาตอไป
๓.๕ กรรมการจับเวลาควรขานเวลาใหผูรบั การทดสอบทราบทุก ๆ ๓๐ วนิ าทแี ละทกุ ๆ วนิ าที เมื่อ
เหลืออีก ๑๐ วนิ าที จะหมดเวลา
๓.๖ ควรจัดใหมกี รรมการจบั เวลาทาํ หนา ทเ่ี ฉพาะการจบั เวลาเทา น้นั อีกคนหน่ึง

๕๒๘

๕๒๙

* อนุผนวก ๓ การทดสอบรายการที่ ๒ (ลกุ น่งั )
๑. การปฏบิ ตั ขิ องผูรบั การทดสอบ

๑.๑ ทา เริ่มตน
๑.๑.๑ ทา “ลุกนั่ง” นอนหงาย งอเขา ใหขาทอนบนและทอนลางทาํ มุม ๙๐ องศา ที่หัวเขา

เทา วางราบกับพ้นื ชดิ กันหรอื หา งกันไมเกิน ๓๐ ซม. น้วิ มอื ทง้ั สองขา งประสานกันหลังศีรษะ (บริเวณ
ทา ยทอย)

๑.๑.๒ ทา “ลุกน่งั (เหว่ียงแขน)” สาํ หรับผรู ับการทดสอบเพศหญิง หรือผูที่อายุต้ังแต ๔๕ ป
ข้ึนไป หรือผูท่ีแพทยทหารมีความเห็น ทาเร่ิมตนใหปฏิบัติเชนเดียวกับทา “ลุกน่ัง” เวนแตแขนท้ัง
สองขางใหเหยียดข้ึนไปเหนอื ศรี ษะ

๑.๒ การปฏิบัติ ยกลําตัวทอนบนข้ึนจนลําตัวตั้งตรงไดฉากกับพ้ืน (สาํ หรับผูปฏิบัติทา “ลุกนั่ง
(เหวี่ยงแขน)” ใหเหวี่ยงแขนขึ้นมาขางหนาเพื่อชวยขณะยกลําตัวขึ้นดวย) แลวเอนตัวลงนอนอยูใน
ทาเริม่ ตน ปฏิบตั ซิ ํา้ ใหม ากครง้ั ที่สดุ ภายในเวลา ๒ นาที
๒. การปฏิบตั ิของกรรมการผทู ดสอบ

๒.๑ นง่ั คกุ เขาตรงเทา ของผรู บั การทดสอบ จับขอเทาของผูรับการทดสอบลงกับพื้นใหม่ันเร่ิมจับ
เวลาพรอ มกบั ผูร ับการทดสอบเรมิ่ ปฏิบตั ิ

๒.๒ แตล ะครงั้ ที่ผรู ับการทดสอบลุกข้ึนนง่ั ไดถ กู ตอ งและกลบั ไปอยูในทาเรมิ่ ตนใหน ับ ๑ และนับ
ตอ ๆ ไปทุกครัง้ ทป่ี ฏิบตั ิถกู ตอง จนหมดเวลา ๒ นาที

๒.๓ บันทกึ จาํ นวนครัง้ ทผ่ี รู ับการทดสอบปฏบิ ัติไดถูกตอง ภายในเวลา ๒ นาที ลงในแบบบันทึก
ผลการทดสอบและใหผ ูร บั การทดสอบลงชื่อรับทราบ และยนื ยนั ผลการทดสอบดวย
๓. คําแนะนาํ การปฏิบตั ิ

๓.๑ ผูรับการทดสอบหญิงและผูท่ีอายุเกิน ๔๕ ป ซ่ึงออกกาํ ลังกายเปนประจํา มีรางกายแข็งแรง
จะเลือกทดสอบดวยทาลกุ น่งั (ขอ ๑.๑.๑) กไ็ ด

๓.๒ ถาผูรับการทดสอบมือหลุดจากศีรษะในการปฏิบัติคร้ังใด (เวน ทา “ลุกน่ัง (เหวี่ยงแขน)”
ตามขอ ๑.๑.๒) หรือยกลาํ ตวั ทอ นบนขนึ้ ไดไ มถ ึงแนวต้งั ฉากกับพนื้ ไมใหนบั การปฏิบตั ใิ นครั้งนนั้

* อนผุ นวก ๓ (เวน ตารางท่ี ๒) แกไขเพม่ิ เติมตามคําส่งั ทบ.ท่ี ๖๙๔/๒๕๓๑ ลง ๑๑ ก.ค. ๓๑

๕๓๐

๓.๓ ผรู บั การทดสอบ จะหยดุ พักการปฏบิ ัตไิ ดโ ดยใหอ ยูในทาน่งั แตย ังคงจบั เวลาตอไป
๓.๔ กรรมการจับเวลา ควรขานเวลาใหผูรับการทดสอบทราบทุก ๆ ๓๐ วินาที และทุก ๆ วินาที
เม่อื เหลอื อกี ๑๐ วินาที จะหมดเวลา
๓.๕ ควรจัดใหม ีกรรมการจับเวลาทาํ หนา ท่เี ฉพาะการจบั เวลาเทาน้ันอีกคนหนง่ึ

๕๓๑

๕๓๒

อนผุ นวก ๔ การทดสอบรายการท่ี ๓ (วิง่ ๒ กม.หรือเดนิ ๓ กม.)
๑. การปฏบิ ตั ขิ องผรู ับการทดสอบ

๑.๑ การแตงกาย เลือกเคร่ืองแตงกายชุดกีฬาที่เหมาะสมไมคับหรือหลวมจนเกินไป รองเทาที่ใช
ควรเปนรองเทาผาใบหรอื รองเทา กีฬาทีเ่ หมาะสมสาํ หรบั การวิง่

๑.๒ การวิ่ง เมื่อไดรับสญั ญาณออกวงิ่ ใหอ อกว่งิ จากจุดเรม่ิ ตนที่กาํ หนดไปจนครบระยะทาง ๒ กม.
หากเปน การวิ่งพรอ มกนั หลาย ๆ คน ใหต างคนตางว่ิง ไมจําเปนตอ งเขาระเบยี บหรือเทา พรอม ระหวา ง
การว่งิ อาจเดินสลับบางก็ได

๑.๓ เฉพาะผูท่ีแพทยทหารมคี วามเหน็ ใหเดนิ แทนวิ่ง ใหท ดสอบดวยการเดิน ๓ กม.แทนโดยตอง
ทาํ เวลาใหไดเทากับหรือนอยกวาเกณฑที่กําหนดในตารางขางลางนี้ จึงจะถือวา “ผานการทดสอบ”
การทดสอบเดิน ๓ กม. แทนการว่ิง ๒ กม.นี้ ไมไหคะแนนและไมตองนําคะแนนไปรวมเฉลี่ยกับ
การทดสอบรายการอื่น

เกณฑท ดสอบ “ เดิน ๓ กม.” ( นาท:ี วินาที )

อายุ
เพศ 17-21 22-26 27-31 32-36 37-41 42-46 47-51 52+
ชาย 22:30 22:50 23:10 23:30 23:50 24:10 24:30 25:10

หญิง 23:50 24:10 24:30 24:50 25:10 25:30 25:50 26:30

๒. การปฏบิ ตั ิของกรรมการผทู ดสอบ
๒.๑ กําหนดจดุ เริ่มตน และปลายทางของการว่ิงใหไ ดระยะทาง ๒ กม. หรอื ถาเปน การเดนิ ท่รี ะยะ

ทาง ๓ กม.
๒.๒ ใหสัญญาณผูรับการทดสอบออกวิ่ง (หรือเดิน) และเร่ิมจับเวลาการว่ิง (หรือเดิน) ของผูรับ

การทดสอบจนวิง่ ครบ ๒ กม. (หรือ ๓ กม. ถาเดนิ )

๕๓๓

๒.๓ บันทกึ เวลา (เปน นาที : วินาที) ที่ผูรับการทดสอบใชในการว่ิง หรือเดินครบตามระยะทางที่
กําหนดในแบบบันทกึ ผลการทดสอบและใหผ ูรบั การทดสอบลงช่ือรับทราบ และยนื ยนั ผลการทดสอบดวย
๓. คาํ แนะนําการปฏบิ ัติ

๓.๑ จะใหผ ูรับการทดสอบวงิ่ (หรอื เดิน) ทลี ะคนหรือหลายคนพรอ มกนั กไ็ ด
๓.๒ ควรใชก รรมการผทู ดสอบ ๑ คน จบั เวลาผรู บั การทดสอบคราวเดยี วกันไมเกิน ๔ คน
๓.๓ ถา เปน การวิ่ง (หรอื เดิน) บนถนนหรือภมู ิประเทศ ควรกําหนดจุดวกกลับท่ีจดุ กึง่ กลางระยะทางวง่ิ
(หรือเดนิ ) เพอื่ ใหผูรับการทดสอบว่งิ (หรอื เดนิ ) กลับครบตามระยะทางที่กาํ หนดทีจ่ ดุ เรม่ิ ตนพอดี
๔. การใหค ะแนน
๔.๑ วง่ิ ๒ กม. ตามตารางท่ี ๓ (เกณฑก ารใหค ะแนนทดสอบวง่ิ ๒ กม. ) ในกรณที ี่ผูรบั การทดสอบ
ทําเวลาไดไ มต รงกบั ชว งเวลาท่ีกาํ หนดในตารางใหไ ดคะแนนในชวงเวลาท่ีไดคะแนนตํ่ากวา เชน ถา
ทาํ เวลาได ๙ นาที ๔๓ วนิ าที ( อยูระหวา งชวงเวลา ๙ : ๔๐ และ ๙:๔๕ ในตาราง) ถา ผรู ับการทดสอบ
เปนชายอายุ ๑๙ ป คะแนนที่ไดคือ ๖๕ คะแนน ซง่ึ เปนคะแนนของชวงเวลา ๙: ๔๕ (ตาํ่ กวา คะแนน ๖๖
ซง่ึ เปนคะแนนของชว งเวลา ๙:๔๐)
๔.๒ เดิน ๓ กม. ไมใ หคะแนน

๕๓๔

ปฏบิ ตั ไิ ด * ตารางท่ี 3 เกณฑการใหค ะแนนทดสอบ " วิ่ง 2 กม." 47 - 51 52+
นาที : วนิ าที 17 - 21 คะแนนท่ีไดตามอายแุ ละเพศ

ช 22 - 26 27 - 31 32 - 36 37 - 41 42 - 46
6:50 100
6:55 99 ช = ชาย
7:00 98 ญ = หญงิ
7:05 97
7:10 96 ช
7:15 95 100
7:20 94 99
7:25 93 98
7:30 92 97
7:35 91 96
7:40 90 95 ช
7:45 89 94 100
7:50 88 93 99
7:55 87 92 98
8:00 86 91 97
8:05 85 90 96
8:10 84 89 95 ช
8:15 83 88 94 100
8:20 82 87 93 99
8:25 81 86 92 98
8:30 80 85 91 97
8:35 79 84 90 96
8:40 78 83 89 95
8:45 77 ญ 82 88 94 ช
8:50 76 100 81 87 93 100
8:55 75 99 80 86 92 99
9:00 74 98 79 85 91 98

* อนผุ นวก ๔ ตารางที่ ๓ แกไขเพ่มิ เติมตามคําสง่ั ทบ. ท่ี ๖๙๔/๒๕๓๑ ลง ๑๑ ก.ค. ๓๑

๕๓๕

* ตารางท่ี 3 เกณฑการใหคะแนนทดสอบ " วงิ่ 2 กม." (ตอ )

ปฏิบัติได คะแนนทีไ่ ดต ามอายุและเพศ
นาที : วนิ าที 17 - 21
22 - 26 27 - 31 32 - 36 37 - 41 42 - 46 47 - 51 52+
9:05 73 97
9:10 72 96 78 84 90 97 ช
9:15 71 95 100
9:20 70 94 77 ญ 83 89 96 99
9:25 69 93 98
9:30 68 92 76 100 82 88 95 97
9:35 67 91 96
9:40 66 90 75 99 81 87 94 ช 95
9:45 65 89 94 ช
9:50 64 88 74 98 80 86 93 100 93 100
9:55 63 87 92 99
10:00 62 86 73 97 79 85 92 99 91 98
10:05 61 85 90 97
10:10 60 84 72 96 78 84 91 98 89 96
10:15 59 83 88 95
10:20 58 82 71 95 77 ญ 83 90 97 87 94
10:25 57 81 86 93
10:30 56 80 70 94 76 100 82 89 96 85 92
10:35 55 79 84 91
10:40 54 78 69 93 75 99 81 88 95 83 90
10:45 53 77 82 89
10:50 52 76 68 92 74 98 80 87 94
10:55 51 75
11:00 50 74 67 91 73 97 79 86 93
11:05 48 73
11:10 46 72 66 90 72 96 78 85 92
11:15 44 71
11:20 42 70 65 89 71 95 77 ญ 84 91
11:25 40 69
11:30 38 68 64 88 70 94 76 100 83 90

63 87 69 93 75 99 82 89

62 86 68 92 74 98 81 88

61 85 67 91 73 97 80 87

60 84 66 90 72 96 79 86

59 83 65 89 71 95 78 85

58 82 64 88 70 94 77 84

57 81 63 87 69 93 76 83

56 80 62 86 68 92 75 82

55 79 61 85 67 91 74 ญ 81

54 78 60 84 66 90 73 100 80

53 77 59 83 65 89 72 99 79

52 76 58 82 64 88 71 98 78

51 75 57 81 63 87 70 97 77

50 74 56 80 62 86 69 96 76

48 73 55 79 61 85 68 95 75

๕๓๖

ปฏบิ ัติได * ตารางท่ี 3 เกณฑก ารใหคะแนนทดสอบ " ว่งิ 2 กม." (ตอ) 47 - 51 52+ ญ
นาที : วนิ าที 17 - 21 คะแนนที่ไดตามอายแุ ละเพศ ชช 100
81 88 99
ชญ 22 - 26 27 - 31 32 - 36 37 - 41 42 - 46 80 87 98
11:35 36 67 ชญชญชญชญชญ 79 86 97
11:40 34 66 46 72 54 78 60 84 67 94 74 100 78 85 96
11:45 32 65 44 71 53 77 59 83 66 93 73 99 77 ญ 84 95
11:50 30 64 42 70 52 76 58 82 65 92 72 98 76 100 83 94
11:55 28 63 40 69 51 75 57 81 64 91 71 97 75 99 82 93
12:00 26 62 38 68 50 74 56 80 63 90 70 96 74 98 81 92
12:05 24 61 36 67 48 73 55 79 62 89 69 95 73 97 80 91
12:10 22 60 34 66 46 72 54 78 61 88 68 94 72 96 79 90
12:15 20 59 32 65 44 71 53 77 60 87 67 93 71 95 78 89
12:20 18 58 30 64 42 70 52 76 59 86 66 92 70 94 77 88
12:25 16 57 28 63 40 69 51 75 58 85 65 91 69 93 76 87
12:30 14 56 26 62 38 68 50 74 57 84 64 90 68 92 75 86
12:35 12 55 24 61 36 67 48 73 56 83 63 89 67 91 74 85
12:40 10 54 22 60 34 66 46 72 55 82 62 88 66 90 73 84
12:45 8 53 20 59 32 65 44 71 54 81 61 87 65 89 72
12:50 6 52 18 58 30 64 42 70 53 80 60 86 64 88 71
12:55 4 51 16 57 28 63 40 69 52 79 59 85 63 87 70
13:00 2 50 14 56 26 62 38 68 51 78 58 84 62 86 69
13:05 48 12 55 24 61 36 67 50 77 57 83 61 85 68
13:10 46 10 54 22 60 34 66 48 76 56 82 60 84 67
13:15 44 8 53 20 59 32 65 46 75 55 81 59 83 66
13:20 42 6 52 18 58 30 64 44 74 54 80 58 82 65
13:25 40 4 51 16 57 28 63 42 73 53 79 57 81 64
13:30 38 2 50 14 56 26 62 40 72 52 78 56 80 63
13:35 36 55 79 62
13:40 34 48 12 55 24 61 38 71 51 77 54 78 61
13:45 32 46 10 54 22 60 36 70 50 76 53 77 60
13:50 30 44 8 53 20 59 34 69 48 75 52 76 59
13:55 28 42 6 52 18 58 32 68 46 74
14:00 26 40 4 51 16 57 30 67 44 73
38 2 50 14 56 28 66 42 72
36 48 12 55 26 65 40 71

๕๓๗

ปฏิบตั ิได * ตารางที่ 3 เกณฑการใหค ะแนนทดสอบ " วิ่ง 2 กม." (ตอ) 47 - 51 52+ 83
นาที : วนิ าที 17 - 21 คะแนนทไ่ี ดตามอายแุ ละเพศ ชช 82
51 75 58 81
ชญ 22 - 26 27 - 31 32 - 36 37 - 41 42 - 46 50 74 57 80
14:05 24 ชญชญชญชญชญ 48 73 56 79
14:10 22 46 72 55 78
14:15 20 34 46 10 54 24 64 38 70 44 71 54 77
14:20 18 32 44 8 53 22 63 36 69 42 70 53 76
14:25 16 30 42 6 52 20 62 34 68 40 69 52 75
14:30 14 28 40 4 51 18 61 32 67 38 68 51 74
14:35 12 26 38 2 50 16 60 30 66 36 67 50 73
14:40 10 24 36 48 14 59 28 65 34 66 48 72
14:45 8 22 34 46 12 58 26 64 32 65 46 71
14:50 6 20 32 44 10 57 24 63 30 64 44 70
14:55 4 18 30 42 8 56 22 62 28 63 42 69
15:00 2 16 28 40 6 55 20 61 26 62 40 68
15:05 14 26 38 4 54 18 60 24 61 38 67
15:10 12 24 36 2 53 16 59 22 60 36 66
15:15 10 22 34 52 14 58 20 59 34 65
15:20 8 20 32 51 12 57 18 58 32 64
15:25 6 18 30 50 10 56 16 57 30 63
15:30 4 16 28 48 8 55 14 56 28 62
15:35 2 14 26 46 6 54 12 55 26 61
15:40 10 54 24 60
15:45 12 24 44 4 53 8 53 22 59
15:50 10 22 42 2 52 6 52 20 58
15:55 8 20 40 51 4 51 18 57
16:00 6 18 38 50 2 50 16 56
16:05 4 16 36 48 55
16:10 2 14 34 46 48 14 54
16:15 46 12
16:20 12 32 44 44 10
16:25 10 30 42 42 8
16:30 8 28 40
6 26 38
4 24 36
2 22 34

20 32

๕๓๘

ปฏบิ ัตไิ ด * ตารางที่ 3 เกณฑการใหคะแนนทดสอบ " วง่ิ 2 กม." (ตอ) 47 - 51 52+ 53
นาที : วินาที 17 - 21 คะแนนทไี่ ดตามอายุและเพศ ชช 52
51
ชญ 22 - 26 27 - 31 32 - 36 37 - 41 42 - 46 40 6 50
16:35 ชญชญชญชญชญ 38 4 48
16:40 36 2 46
16:45 18 30 34 44
16:50 16 28 32 42
16:55 14 26 30 40
17:00 12 24 28 38
17:05 10 22 26 36
17:10 8 20 24 34
17:15 6 18 22 32
17:20 4 16 20 30
17:25 2 14 18 28
17:30 16 26
17:35 12 14 24
17:40 10 12 22
17:45 8 10 20
17:50 6 8 18
17:55 4 6 16
18:00 2 4 14
18:05 2 12
18:10 10
18:15 8
18:20 6
18:25 4
18:30 2
18:35
18:40
18:45
18:50

๕๓๙

* อนุผนวก ๕ แบบรายงานผลการทดสอบสมรรถภาพรางกายนายทหารสัญญาบัตร
๑. แบบรายงานผลการทดสอบสมรรถภาพรางกายนายทหารสัญญาบัตรใหใชตามแบบท่ีแนบซึ่ง
ประกอบดว ย

๑.๑ แบบรายงานผลการทดสอบ ฯ สําหรบั นายทหารจํานวนไมมาก ซึ่งบันทึกไดภายในหนาเดียว
(แบบ ก)

๑.๒ แบบรายงานผลการทดสอบ ฯ สําหรับนายทหารจาํ นวนมาก ตองบันทึกตอกันหลายหนา
(แบบ ข)
๒. คําแนะนาํ ในการบนั ทกึ ผล

๒.๑ ใหบันทกึ ผลการทดสอบของผรู บั การทดสอบ ท่ีมีเพศ ชวงอายุ และระดบั การทดสอบเหมือนกนั
ไวในแบบรายงานฉบับเดียวกัน ผูรับการทดสอบท่ีตางเพศ หรือตางชวงอายุ หรือระดับการทดสอบ
ตางกัน ตอ งแยกรายงานไวในแบบรายงานตาม กลุมเพศ/ชว งอายุ/ระดบั การทดสอบ กลุม ละฉบบั

๒.๒ ระดบั การทดสอบ
ระดับ ๑ ๗๐ เปอรเซ็นต (ตามผนวก ก ขอ ๗.๓.๑.๑)
ระดบั ๒ ๕๕ เปอรเ ซ็นต (ตามผนวก ก ขอ ๗.๓.๑.๒)
ระดับ ๓ ๕๐ เปอรเซน็ ต (ตามผนวก ก ขอ ๗.๓.๑.๓)

๒.๓ ผูที่แพทยส่ังใหเดิน ๓ กม. แทนว่ิง ๒ กม. ไมตองใหคะแนนในชอง “คะแนน” ของชอง
“ วิ่ง ๒ กม.” แตใหลงวา “เดิน” ไวในชอ ง “คะแนน” ดังกลาวแทน และใหรวมเฉพาะคะแนนของทา
“ดันพ้ืน” และ “ลุกนั่ง” ไวในชอ ง “รวม” ดว ย

๒.๔ ใหข ดี เสนใตช ่ือของผูทไ่ี มผ านการทดสอบตามเกณฑทุกคนดว ยหมึกสี “แดง”ดว ย

* อนุผนวก ๕ แกไขเพ่ิมเตมิ ตามคาํ สั่ง ทบ. ท่ี ๖๙๔/๒๕๓๑ ลง ๑๑ ก.ค.๓๑

๕๔๐

(แบบ ก หนาแรก)

ผลการทดสอบสมรรถภาพรา งกายนายทหารสญั ญาบัตร.............................ชวงอาย.ุ ................ถงึ ........................

(ชายหรอื หญิง)

ประเภทการทดสอบ

หนว ยทดสอบ การทดสอบประจาํ ป............ครัง้ ท่.ี ............

(ครัง้ ที่ ๑ กุมภาพันธ/ ครัง้ ที่ ๒ สงิ หาคม)

วนั ทาํ การทดสอบ (วนั เดอื น ป) การทดสอบกอนการ..................................

(บรรจเุ ขา รับราชการ หรือ เล่ือนฐานะ)

ระดบั การทดสอบ (ระดบั ๑ หรอื ๒ หรอื ๓)

ยศ ชื่อ นามสกลุ ผลการทดสอบ ลงชือ่
(หมายเลขประจาํ ตัว)
ดันพนื้ ลุกน่งั วง่ิ ๒ กม. รวม (ผูรบั การทดสอบ)

คร้งั คะแนน คร้งั คะแนน เวลา คะแนน

ไดบนั ทกึ ผลการทดสอบนายทหารสัญญาบัตร ขอรับรองวานายทหารสญั ญาบัตรตามรายชื่อนี้

จํานวน...............นาย ตามรายช่อื ขา งตนดว ยวธิ กี ารทดสอบ ไดเ ขา รบั การทดสอบจรงิ และไดดําเนนิ การทดสอบ

ตามท่ี ทบ.กาํ หนดจรงิ บนั ทึกผลตามวิธกี ารที่ ทบ.กาํ หนด โดยครบถวนถูกตอ ง

(ลงชือ่ ).................................................................... (ลงช่ือ)............................................กรรมการ

(.....................................................................) (ลงชอ่ื )............................................กรรมการ

ผทู ดสอบ (ลงชอ่ื )............................................กรรมการ

๕๔๑

(แบบ ข หนา แรก) หนา ..............ใน.............หนา

ผลการทดสอบสมรรถภาพรางกายนายทหารสัญญาบัตร.............................ชว งอายุ.................ถึง........................

(ชายหรอื หญิง)

ประเภทการทดสอบ

หนวยทดสอบ การทดสอบประจาํ ป. ...........ครัง้ ท่.ี ............

(ครั้งที่ ๑ กมุ ภาพันธ/ ครั้งที่ ๒ สิงหาคม)

วนั ทาํ การทดสอบ (วนั เดือน ป) การทดสอบกอนการ..................................

(บรรจุเขารับราชการ หรือ เล่อื นฐานะ)

ระดบั การทดสอบ (ระดบั ๑ หรือ ๒ หรอื ๓)

ยศ ชือ่ นามสกลุ ผลการทดสอบ ลงช่อื
(หมายเลขประจําตัว)
ดนั พน้ื ลกุ น่งั วง่ิ ๒ กม. รวม (ผรู ับการทดสอบ)

คร้งั คะแนน คร้งั คะแนน เวลา คะแนน

๕๔๒ หนา ..............ใน.............หนา

(แบบ ข หนา กลาง)

ยศ ชอ่ื นามสกลุ ผลการทดสอบ ลงช่อื
(หมายเลขประจําตัว)
ดนั พ้นื ลุกนง่ั วิ่ง ๒ กม. รวม (ผรู ับการทดสอบ)

ครั้ง คะแนน คร้งั คะแนน เวลา คะแนน

๕๔๓ หนา ..............ใน.............หนา

(แบบ ข หนาสุดทา ย)

ยศ ช่ือ นามสกลุ ผลการทดสอบ ลงชอ่ื
(หมายเลขประจําตัว)
ดนั พื้น ลุกนัง่ วง่ิ ๒ กม. รวม (ผูรับการทดสอบ)

ครัง้ คะแนน คร้งั คะแนน เวลา คะแนน

ไดบันทกึ ผลการทดสอบนายทหารสญั ญาบตั ร ขอรบั รองวา นายทหารสญั ญาบัตรตามรายชือ่ นไ้ี ด
จาํ นวน...........นาย ตามรายช่ือขางตน ดว ยวิธีการ เขารบั การทดสอบจริงและไดดําเนินการทดสอบบนั ทึกผล
ทดสอบตามที่ ทบ.กําหนดจริง ตามวิธกี ารท่ี ทบ.กาํ หนดโดยครบถวนถกู ตอง

(ลงชอ่ื ).................................................. (ลงชื่อ)......................................กรรมการ
(.............................................) (ลงชอ่ื )......................................กรรมการ
ผทู ดสอบ (ลงชอ่ื )......................................กรรมการ

ขอ้ บงั คบั กระทรวงกลาโหม


ว่าด้วยการบรรจุ ปลด ย้าย เลือ่ น และลดตำแหนง่ ขา้ ราชการกลาโหม

พ.ศ.๒๕๐๒




โดยทเี่ ปน็ การสมควรปรับปรุงข้อบังคบั กระทรวงกลาโหมวา่ ด้วยการบรรจุ ปลด ยา้ ย เลือ่ น
ลด และรบั สง่ หนา้ ทีใ่ หเ้ หมาะสมยิ่งข้ึน จึงออกข้อบังคบั ไวด้ งั ตอ่ ไปน้ี

ขอ้ ๑. ข้อบังคับน้ีเรียกว่า "ข้อบังคับกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการบรรจุ ปลด ย้าย
เล่อื น และลดตำแหนง่ ข้าราชการกลาโหม พ.ศ.๒๕๐๒"

ข้อ ๒. ใหใ้ ชข้ ้อบังคับนต้ี งั้ แตบ่ ัดน้เี ป็นตน้ ไป

ข้อ ๓. ให้ยกเลิก

(๑) ข้อบังคับทหารท่ี ๗/๒๑๔๘๘๒๑๙
๔ ลง ๒๐ ม.ค.๘๑ ว่าด้วยการบรรจุ ปลด
ยา้ ย เล่อื น ลด และรบั สง่ หนา้ ที
่
(๒) ขอ้ บังคบั กระทรวงกลาโหมว่าด้วยการบรรจุ ปลด ยา้ ย เลอื่ น ลด และ
รบั สง่ หน้าท่ี (ฉบบั ท่ี ๒) พ.ศ.๒๔๙๒

(๓) ขอ้ บงั คับกระทรวงกลาโหมวา่ ด้วยการบรรจุ ปลด ยา้ ย เลื่อน ลด และ
รับสง่ หนา้ ที่ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ.๒๔๙๓

(๔) ข้อบังคบั กระทรวงกลาโหมว่าดว้ ยการบรรจุ ปลด ย้าย เลอ่ื น ลด และ
รับสง่ หนา้ ท่ี (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ.๒๔๙๗


หมวด ๑


การบรรจุ และปลด


ข้อ ๔. ผู้มีอำนาจส่ังบรรจุบุคคลเข้ารับราชการและส่ังปลดข้าราชการกลาโหม

ออกจากราชการ คอื

๕๘๖


(๑) ตำแหน่งต่ำกว่าชั้นสัญญาบัตร ให้ผู้บังคับบัญชาตั้งแต่ชั้นผู้บัญชาการ
กองพล ผู้บงั คับการกองเรือ ผ้บู ัญชาการกองพลบนิ หรือเทียบเท่าขนึ้ ไปเป็นผ้สู ่งั

(๒) ตำแหน่งช้ันสัญญาบัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเป็นผู้ส่ัง

เว้นแต่ตำแหน่งตัง้ แตช่ ้นั ผู้บัญชาการกองพล ผบู้ งั คบั การกองเรือ ผบู้ ญั ชาการกองพลบนิ หรอื เทียบเท่าขน้ึ ไป
พระมหากษัตริย์จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ แต่ถ้าเป็นการให้ออกจากราชการเนื่องจากการลาออก
หรือเน่ืองจากเหตุครบเกษียณอายุตามกฎหมายว่าด้วยบำเหน็จบำนาญข้าราชการ รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงกลาโหมเปน็ ผสู้ งั่


หมวด ๒


การย้าย เลื่อน และลดตำแหนง่


ข้อ ๕. ผู้มีอำนาจส่งั ยา้ ย เล่ือน และลดตำแหนง่ ข้าราชการกลาโหม คือ

(๑) ตำแหน่งต่ำกว่าชน้ั สญั ญาบัตร ให้ผ้บู งั คับบัญชาตั้งแตช่ นั้ ผ้บู ังคับกองร้อย
ผู้บังคับการเรือชั้น ๓ หรือต้นเรือช้ัน ๒ ผู้บังคับหมวดบินชั้น ๒ หรือเทียบเท่าข้ึนไป เป็นผู้ส่ัง

แต่ถ้าเป็นการเปล่ียนพรรค เหล่า จำพวก หรือวิทยาการในหน้าที่ต้องได้รับอนุมัติจากเลขานุการรัฐมนตรี
ว่าการกระทรวงกลาโหม ปลัดกระทรวงกลาโหม สมุหราชองครักษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการ
ทหารบก ผบู้ ัญชาการทหารเรือ และผูบ้ ญั ชาการทหารอากาศ กอ่ น

(๒) ตำแหนง่ ชน้ั สัญญาบตั ร

ก. ตงั้ แตช่ ั้นผบู้ งั คบั กองร้อย ผู้บังคับการเรือชัน้ ๓ หรอื ต้นเรอื ช้ัน ๒
ผู้บังคับหมวดบินชั้น ๒ หรือเทียบเท่าลงไป ให้ผู้บังคับบัญชาช้ันผู้บัญชาการกองพล ผู้บังคับการกองเรือ

ผู้บัญชาการกองพลบิน หรือเทียบเท่าข้นึ ไปเป็นผูส้ ่ัง เวน้ แตก่ ารย้ายซ่ึงเปน็ การเปลย่ี นพรรค เหล่า จำพวก
หรอื วทิ ยาการในหนา้ ทีห่ รอื การเลอ่ื นหรอื ลดตำแหนง่ ใหเ้ ป็นไปตามที่กำหนดไวใ้ นหมายอกั ษร ข.

ข. ต้ังแต่ชั้นผู้บังคับการกรม ผู้บังคับหมวดเรือ ผู้บังคับกองบิน

หรอื เทียบเท่าลงไปและการยา้ ยซ่ึงเปน็ การเปลีย่ นพรรค เหลา่ จำพวก หรอื วิทยาการในหน้าท่ี หรอื การเลอื่ น
หรือลดตำแหน่งต้ังแต่ชนั้ ผบู้ งั คบั กองร้อย ผูบ้ ังคบั การเรอื ชั้น ๓ หรือตน้ เรือช้ัน ๒ ผู้บงั คบั หมวดบินชัน้ ๒
หรือเทียบเท่าลงไป ให้ปลัดกระทรวงกลาโหม สมุหราชองครักษ์ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด ผู้บัญชาการ
ทหารบก ผ้บู ัญชาการทหารเรือ และผบู้ ัญชาการทหารอากาศเปน็ ผู้ส่งั

ค. ต้ังแต่ชั้นผู้บัญชาการกองพล ผู้บังคับการกองเรือ ผู้บัญชาการ
กองพลบนิ หรอื เทียบเทา่ ขึ้นไป พระมหากษตั รยิ ์จะไดท้ รงพระกรุณาโปรดเกล้า ฯ

๕๘๗


ข้อ ๖. การย้ายข้าราชการระหว่างสำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม
สำนักงานปลัดกระทรวงกลาโหม กรมราชองครักษ์ กองบัญชาการทหารสูงสุด กองทัพบก กองทัพเรือ
และกองทัพอากาศ ให้ปฏิบัติดงั นี้

(๑) ตำแหน่งต่ำกว่าชั้นสัญญาบัตร ให้ส่วนราชการท่ีต้องการขอตัว

ไปทำความตกลงกบั สว่ นราชการต้นสังกัดเดมิ ก่อนเม่ือไดร้ บั ความตกลงแลว้

ก. ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมออกคำสั่งให้ข้าราชการผู้นั้นพ้นจาก
ตำแหนง่ หน้าที่และขาดจากอตั ราเงินเดอื นทางสงั กัดเดิม

ข. ให้ส่วนราชการที่ขอตัวไปออกคำส่ังบรรจุเข้าประจำตำแหน่ง

และรับเงินเดือนเท่าท่ีเคยได้รับอยู่ทางต้นสังกัดเดิมต้ังแต่วันที่ข้าราชการผู้นั้นพ้นจากตำแหน่งหน้าท
ี่
ทางต้นสงั กัดเดมิ

ผู้มีอำนาจอนุมัติและส่ังการตามความในหมายอักษร ก. และ ข.

ของวรรคกอ่ น ใหเ้ ปน็ ไปตามหมวด ๑ ขอ้ ๔. (๑)

(๒) ตำแหน่งช้ันสัญญาบัตร ให้ส่วนราชการที่ต้องการขอตัวไปทำความตกลง
กับส่วนราชการตน้ สงั กดั เดิมกอ่ น เมือ่ ได้รับความตกลงแล้ว จงึ เสนอเร่ืองต่อสำนกั งานปลัดกระทรวงกลาโหม
เพื่อดำเนินการขออนุมัติรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมและออกคำสั่งย้ายต่อไป เว้นแต่ตำแหน่งต้ังแต่
ช้ันผู้บัญชาการกองพล ผู้บังคับการกองเรือ ผู้บัญชาการกองพลบิน หรือเทียบเท่าข้ึนไป พระมหากษัตริย์

จะได้ทรงพระกรุณาโปรดเกลา้ ฯ

ขอ้ ๗. ผู้มีอำนาจส่ังแต่งตั้งข้าราชการให้รักษาราชการในตำแหน่งที่ว่างให้เป็นไปตาม
หมวด ๒ ขอ้ ๕. เว้นแตก่ ารส่งั แต่งตงั้ ข้าราชการใหร้ กั ษาราชการในตำแหน่งตงั้ แตช่ ้ันผู้บญั ชาการกองพล

ผบู้ งั คับการกองเรือ ผูบ้ ญั ชาการกองพลบนิ หรอื เทยี บเท่าขน้ึ ไป รฐั มนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเปน็ ผูส้ ัง่

ขอ้ ๘. ผ้มู อี ำนาจส่ังแตง่ ต้ังข้าราชการใหร้ กั ษาราชการแทนในตำแหน่งอืน่ ใดอีก คือ

(๑) รักษาราชการแทนในตำแหน่งชั้นผู้บังคับหมู่ นายตอน หรือเทียบเท่า
ให้ผู้บังคับบัญชา ช้ันผู้บังคับกองร้อย ผู้บังคับการเรือช้ัน ๓ หรือต้นเรือช้ัน ๒ ผู้บังคับหมวดบินช้ัน ๒

หรือเทียบเทา่ ข้ึนไปเป็นผ้สู งั่

(๒) รักษาราชการแทนในตำแหนง่ ช้นั ผบู้ ังคบั กองรอ้ ย ผู้บงั คบั การเรือชนั้ ๓
หรือต้นเรือช้ัน ๒ ผู้บังคับหมวดบินชั้น ๒ หรือเทียบเท่าลงไป ให้ผู้บังคับบัญชาช้ันผู้บังคับการกรม

ผ้บู ังคับหมวดเรอื ผบู้ งั คับกองบนิ หรอื เทยี บเท่าขน้ึ ไปเปน็ ผ้สู ัง่

๕๘๘


(๓) รักษาราชการแทนในตำแหน่งชั้นผู้บังคับการกรม ผู้บังคับหมวดเรือ

ผู้บังคับกองบินหรือเทียบเท่าลงไป ให้ผู้บังคับบัญชาชั้นผู้บัญชาการกองพล ผู้บังคับการกองเรือ

ผบู้ ัญชาการกองพลบนิ หรอื เทยี บเท่าขึ้นไปเป็นผู้สง่ั

(๔) รักษาราชการแทนในตำแหน่งช้ันผู้บัญชาการกองพล ผู้บังคับการกองเรือ
ผูบ้ ญั ชาการกองพลบิน หรอื เทยี บเทา่ ใหป้ ลัดกระทรวงกลาโหม สมุหราชองครกั ษ์ ผบู้ ญั ชาการทหารสงู สดุ
ผบู้ ญั ชาการทหารบก ผู้บญั ชาการทหารเรือ และผู้บัญชาการทหารอากาศเป็นผู้สง่ั

(๕) รักษาราชการแทนในตำแหน่งชั้นแม่ทัพ หรือเทียบเท่า รัฐมนตรีว่าการ
กระทรวงกลาโหมเปน็ ผสู้ ัง่

ข้อ ๙. การส่ังให้นายทหารประทวนทำหน้าท่ีในตำแหน่งนายทหารชั้นสัญญาบัตรท่ีว่าง
เพ่ือทดสอบความรู้ความสามารถในกรณีที่จะเลื่อนฐานะเป็นนายทหารชั้นสัญญาบัตร ตามหลักเกณฑ์

ในกฎหมายว่าด้วยยศทหาร ให้ผู้บังคับบัญชาช้ันผู้บัญชาการกองพล ผู้บังคับการกองเรือ ผู้บัญชาการ
กองพลบิน หรือเทียบเทา่ ขนึ้ ไปเป็นผู้สัง่

ข้อ ๑๐. การส่งั ยา้ ยซ่ึงตอ้ งเปลี่ยนพรรค เหลา่ จำพวก หรอื วทิ ยาการในหนา้ ท่ี ใหร้ ะบุไว้
ในคำสั่งให้ชัดเจนดว้ ยว่า เปล่ียนไปเป็นพรรค เหล่า จำพวก หรอื วิทยาการในหนา้ ท่ใี ด

ข้อ ๑๑. การส่ังย้ายตำแหน่ง ถ้ามิได้สั่งการเป็นอย่างอ่ืน ให้ผู้ถูกย้ายรับเงินเดือน

ทางตำแหน่งใหมใ่ นเดอื นถัดจากเดือนทีอ่ อกคำสงั่ เปน็ ต้นไป

ข้อ ๑๒. เม่ือได้มีคำส่ังย้ายข้าราชการผู้ใด ให้ส่วนราชการต้นสังกัดเดิมทำหนังสือส่งตัว
พร้อมกับประวัติรับราชการ บัญชีวันลาป่วย บัญชีวันลากิจ และรายงานประจำตัวตลอดจนเอกสารอ่ืน ๆ
ของผ้นู ้นั ไปยังสว่ นราชการตน้ สงั กัดใหมโ่ ดยเร็ว


หมวด ๓


เบ็ดเตลด็


ข้อ ๑๓. การบรรจุ ปลด ยา้ ย เลือ่ น และลดตำแหนง่ ตุลาการพระธรรมนญู อยั การทหาร
นายทหารพระธรรมนูญ จ่าศาลทหาร เจ้าหน้าท่ีกฎหมาย และผู้ช่วยตำแหน่งดังกล่าวซึ่งเป็นเหล่าทหาร
พระธรรมนญู ให้เป็นไปตามกฎหมายและตามทีก่ ระทรวงกลาโหมกำหนด

ข้อ ๑๔. เมื่อมีคำสั่งย้ายข้าราชการหรือให้ข้าราชการออกจากราชการ ให้ผู้บังคับ
บัญชาจัดการใหไ้ ดร้ บั สง่ หนา้ ทีก่ ันโดยเร็ว และใหป้ ฏบิ ตั ดิ งั นี
้

๕๘๙


(๑) ในกรณีย้ายข้าราชการซ่ึงเป็นการสับเปล่ียนตำแหน่ง ให้รับส่งหน้าที่กัน
ตามลำดับจากคนสุดท้ายในชุดการย้ายน้ันข้ึนไป เว้นแต่การรอรับส่งหน้าท่ีตามลำดับน้ันไม่เป็นการสะดวก
แกร่ าชการ หรือมีวิธีอ่ืนใดท่ีจะทำใหร้ บั ส่งหนา้ ที่กันได้เรว็ กว่านก้ี ็ให้ผู้บังคับบัญชาทั้งสองฝ่ายตกลงกัน

(๒) ในกรณีย้ายข้าราชการซึ่งมิใช่เป็นการสับเปล่ียนตำแหน่งและยังมิได้

มีคำส่ังให้ผู้ใดมาครองตำแหน่งนั้นแทน หรือในกรณีให้ข้าราชการออกจากราชการ ให้ผู้บังคับบัญชา

รีบพิจารณาดำเนินการให้ผู้ถูกย้ายหรือถูกสั่งให้ออกจากราชการได้ส่งมอบหน้าที่ให้กับข้าราชการผู้ใดผู้หนึ่ง
ใหเ้ ป็นการเสร็จสิ้นไปเสยี ตอนหนึง่ ก่อน

ข้อ ๑๕. ในระหว่างการส่งมอบหน้าท่ี ให้ผู้ถูกย้ายหรือถูกส่ังให้ออกจากราชการ มีอำนาจ
หน้าท่ีและรับผิดชอบในตำแหน่งเดิมต่อไปจนกว่าจะได้ส่งมอบหน้าที่ให้กับผู้มารับหน้าท่ีเป็นการเสร็จสิ้น
เรยี บร้อยแล้ว

ขอ้ ๑๖. การรับสง่ หนา้ ทใี่ หป้ ฏบิ ตั ดิ งั น
้ี
(๑) ให้ผู้ส่งจัดทำบัญชีส่งหน้าท่ีเฉพาะในกองบังคับการหรือเฉพาะในส่วนท่ี
ตนรับผิดชอบโดยตรง เช่น บัญชีกำลังพล บัญชีอาวุธ บัญชีเงิน บัญชีพัสดุ บัญชียานพาหนะ และ

สตั ว์พาหนะ หรอื บญั ชอี นื่ เฉพาะท่ีจำเป็นตามจำนวนซ่ึงเป็นจรงิ ในวันรับสง่ หนา้ ที่

สำหรับเงิน ผู้มีอำนาจสั่งการเบิกจ่ายเงินกับผู้มีหน้าที่รักษาเงินต้องทำบัญชีรับส่ง
และตรวจตวั เงินด้วย นอกนั้นใหต้ รวจรบั เฉพาะแตท่ ่มี ิได้อย่ใู นความรบั ผดิ ชอบของเจา้ หน้าทช่ี ้นั สัญญาบัตร

เม่ือได้ตรวจรับถูกต้องแล้ว ให้ผู้ส่งและผู้รับเขียนไว้ท้ายบัญชีส่งหน้าที่

ว่าได้ตรวจรับถูกต้องแล้ว และลงช่ือผู้รับไว้ แต่ถ้ามีการคลาดเคลื่อนเกิดขึ้น ก็ให้บันทึกไว้ในบัญชีน้ัน

และลงชื่อผู้รับ ผู้ส่งกับเจ้าหน้าท่ีซ่ึงเก่ียวข้อง แล้วรับส่งกันให้เสร็จไปชั้นหน่ึงก่อน ต่อจากนั้น ผู้รับมอบ
หนา้ ท่ตี อ้ งรบี รายงานให้ผบู้ งั คบั บัญชาโดยตรงทราบโดยเรว็

บัญชีรับ - ส่งหนา้ ท่ี ให้ทำเป็น ๓ ชดุ เก็บไว้ ณ ท่ีทำการเป็นหลักฐาน ๑ ชดุ

ผ้สู ง่ เก็บรักษาไว้ ๑ ชดุ อีก ๑ ชุด นำเสนอผบู้ งั คับบัญชาโดยตรงทราบภายใน ๗ วัน นับตัง้ แต่วันท่ีรบั ส่ง
หน้าท่ีเสร็จ

(๒) ใหผ้ ู้ส่งมอบรายงานประจำตัวของข้าราชการในสังกดั แกผ่ ูร้ ับ ถ้ามีกิจการ
ทจี่ ะปฏิบัตคิ ้างอยู่ หรอื โครงการท่จี ะดำเนนิ การตอ่ ไป กใ็ หช้ แ้ี จงแกผ่ รู้ ับทราบดว้ ย

(๓) เม่ือได้รับส่งหน้าท่ีกัน ณ ที่ทำการเป็นการเสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้ว

ถ้าเป็นผู้บังคับหน่วยกำลังทหาร ให้ผู้ส่งประชุมผู้อยู่ในบังคับบัญชาเท่าที่จะรวบรวมได้ แล้วช้ีแจงและ

มอบหมายการบงั คบั บญั ชาใหแ้ กผ่ รู้ ับต่อไป

๕๙๐


(๔) การรับส่งหน้าที่ในเรือรบหลวงตั้งแต่เรือชั้น ๓ ข้ึนไป ให้เป็นไปตาม


ที่กองทัพเรือกำหนด


ข้อ ๑๗. การเสนอขอบรรจุ ปลด ยา้ ย เล่ือน และลดตำแหน่ง ใหท้ ำเปน็ เอกสารชนั้ ปกปิด

เปน็ อย่างตำ่


ข้อ ๑๘. การสัง่ บรรจุ ปลด ย้าย เล่อื น และลดตำแหนง่ ใหก้ ระทำเป็นลายลกั ษณ์อกั ษร


เม่ือได้มีการส่ังบรรจุ ปลด ย้าย เลื่อน และลดตำแหน่งตามความในวรรคก่อน

ให้ผ้อู อกคำส่ังเสนอสำเนาคำส่ังน้นั ใหผ้ ้บู ังคับบัญชาโดยตรงของตนทราบ ถ้าเป็นคำสงั่ เกี่ยวกบั ขา้ ราชการ

ช้ันสัญญาบัตรต้องส่งสำเนาคำสั่งให้สำนักงานเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สำนักงานปลัด

กระทรวงกลาโหม กรมราชองครักษ์ กองบัญชาการทหารสงู สดุ กองทพั บก กองทัพเรือ และกองทัพอากาศ

ทราบด้วย และถ้าคำสั่งนั้นเป็นเรื่องที่จะต้องงด หรือจ่าย หรือเปล่ียนแปลงเบ้ียหวัดบำเหน็จบำนาญแล้ว

ตอ้ งรีบสง่ สำเนาคำส่ังใหก้ รมการเงนิ กลาโหมทราบภายใน ๗ วนั





ประกาศ ณ วนั ท่ี ๑๔ ธนั วาคม ๒๕๐๒





(ลงช่อื ) พลเอก ถ. กติ ติขจร


รัฐมนตรวี า่ การกระทรวงกลาโหม














หมายเหต ุ : - ยกเลกิ ความในขอ้ ๑๑. และใช้ใหมต่ ามขอ้ บงั คบั กห. ฯ (ฉบบั ที่ ๒) พ.ศ.๒๕๐๕


- ยกเลิกความในข้อ ๕.(๑), (๒) ข., ข้อ ๖. วรรคหน่ึง, ข้อ ๘.(๔) และขอ้ ๑๘. วรรคสอง


และใชใ้ หม่ตามขอ้ บงั คบั กห. ฯ (ฉบบั ท่ี ๓) พ.ศ.๒๕๓๕, (ฉบบั ที่ ๔) พ.ศ.๒๕๓๕