The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

โครงงานโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท จ.เชียงใหม่
สาขาวิชารัฐศาสตร์ ปีการศึกษา 2562

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by Nattaree Sinthunava, 2020-05-05 12:25:04

โครงงานโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท

โครงงานโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท จ.เชียงใหม่
สาขาวิชารัฐศาสตร์ ปีการศึกษา 2562

Keywords: 2562

รายงานการปฏิบตั งิ านสหกิจศกึ ษา

การพฒั นาระบบฐานขอ้ มูลพนักงานรายวัน (Casual) และการสร้างความรู้ ความเข้าใจ
เกี่ยวกับมาตรฐานการดาเนินงานแบบโฟรซ์ ซี ั่นส์
โรงแรมโฟร์ซซี นั่ ส์ รีสอร์ท เชียงใหม่

นางสาวทิพยเ์ กสร สุริยะมณี
รหสั นิสิต 59211480

รายงานเล่มนี้เปน็ สว่ นหนึ่งของรายวิชาสหกิจศึกษา รหสั วิชา 141453
ภาคการศึกษาที่ 2 ปีการศึกษา 2562

สาขารฐั ศาสตร์ คณะรัฐศาสตรแ์ ละสงั คมศาสตร์
มหาวิทยาลยั พะเยา

Four Seasons Resort Chiang Mai
เลขที่ 502 หมู่ 1 ถนน แม่ริม-สะเมิง (สายเก่า)
ตําบลริมใต้ อาํ เภอแม่ริม จงั หวดั เชียงใหม่
50180

วันที่ 24 มีนาคม 2563

เรื่อง ขอสง่ รายงานการปฏิบตั ิงานสหกิจศึกษา

เรียน อาจารย์ที่ปรึกษาสหกิจศึกษาสาขารัฐศาสตร์ ดร.ณฐั ฑรี สนิ ธุนาวา

ตามที่ข้าพเจ้า นางสาวทิพย์เกสร สุริยะมณี นักศึกษาสาขาวิชารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และ
สังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยพะเยา ได้ปฏิบัติงานสหกิจศึกษา ณ โรงแรมโฟร์ซีซ่ันส์ รีสอร์ท เชียงใหม่
(Four Seasons Resort Chiang Mai) จังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายงานทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรม (People &
Culture Department) ตําแหน่ง นิสิตฝึกงานแผนกการเรียนรู้และพัฒนาบคุ ลากร (Learning & Development
Trainee) ระหว่างวันที่ 25 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ถึงวันที่ 13 เดอื น มีนาคม พ.ศ. 2563 และได้รับ
มอบหมายให้จัดทํารายงานเรื่อง การ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลพนักงานรายวัน (Casual) และ
การสร้างความรู้ ความเข้าใจเก่ียวกับมาตรฐานการดาเนินงานแบบโฟร์ซีซั่นส์ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์
รี ส อ ร์ ท เ ชี ย ง ใ ห ม่ ( The development of employee database (Casual) and knowledge creation
Understanding about Four Seasons Operating Standards of Four Seasons Resort Chiang Mai.)

บัดนี้การปฏิบัติงานสหกิจศึกษาได้ส้นิ สุดแล้ว ข้าพเจ้าจึงขอส่งรายงานการปฏิบตั ิงานสหกิจศึกษา
จาํ นวน 1 เลม่ เพื่อให้อาจารย์ไดด้ ําเนนิ การต่อไป

จึงเรยี นมาเพือ่ โปรดพิจารณา

ขอแสดงความนับถอื
นางสาวทิพย์เกสร สรุ ิยะมณี

นกั ศึกษาสหกิจศึกษา



กติ ิกรรมประกาศ

จากการฝึกปฏิบัติงานสหกิจศึกษา ณ โรงแรมโฟร์ซีซนั่ ส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ (Four Seasons Resort
Chiang Mai) จังหวัดเชียงใหม่ ฝ่ายงานทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรม (People & Culture Department)
ตําแหน่ง นิสิตฝึกงานแผนกการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากร (Learning & Development Trainee) ระหว่าง
วันที่ 25 เดอื น พฤศจิกายน พ.ศ. 2562 ถึงวันที่ 13 เดือน มีนาคม พ.ศ. 2563 ทําให้นิสิตได้รับความรู้และ
ประสบการณ์ทีเ่ กิดจากการปฏิบัติงาน สามารถนาํ ไปปรบั ใช้กบั การทาํ งานในอนาคฅได้เปน็ อยา่ งดี

ขอกราบขอบพระคุณ คุณภาวนา คําเจริญ ผู้อํานวยการฝ่ายทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรม
(Director of People & Culture) และพนักงงานแผนกทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรม โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์
รีสอร์ท เชียงใหม่ ที่ได้ให้ความอนเุ คาระห์และให้โอกาสข้าพเจ้าเข้ามาปฏิบัติสหกิจศึกษา ทําให้ข้าพเจ้าได้
เรียนรู้ประสบการณ์ทํางานจริงในองค์กร ตลอดระยะเวลาของการฝึกปฏิบัติสหกิจนี้ คอยให้ความ
ช่วยเหลือแนะนํา และอํานวยความสะดวกตลอดระยะเวลาการฝึกปฏิบัติสหกิจ ผู้ศึกษาขอกราบ
ขอบพระคุณอย่างสูงไว้ ณ โอกาสนี้

ขอกราบขอบพระคุณ คุณชิดชนก ศรีมณี ผู้จัดการแผนกการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากร (Learning
& Development) พนักงานที่ปรึกษาในการฝึกปฏิบัติสหกิจศึกษาในครั้งนี้ ที่ได้ให้คาํ ปรกึ ษา แนะแนวทางใน
การปฏิบัติสหกิจศึกษาและการดําเนินโครงการเป็นอย่างดี การถ่ายทอดความรู้เกี่ยวกบั การปฏิบัติงานใน
แผนกการเรียนรู้และพฒั นาบุคลากรและการปฏิบัติตัวในการดําเนินงานภายในองค์กร ตลอดจนไดร้ ับการ
ดูแลเอาใจใสต่ ลอดระยะเวลาทีข่ ้าพเจ้าปฏิบตั สิ หกิจศึกษา

ขอบพระคุณ ดร.ณัฐฑรี สินธุนาวา อาจารยี่ปรึกษาการฝึกปฏิบัติสหกิจศึกษา สาขารัฐศาสตร์
ที่ได้แนะแนวทางการปฏิบัติงานและการจัดทําโครงการฯ ตลอดจนการให้คําปรึกษา คําแนะนําต่าง ๆ ใน
ระหว่างที่ ข้าพเจ้าไดม้ าฝึกปฏิบตั ิสหกิจศึกษาเป็นอยา่ งดี

ท้ายที่สุดขอขอบคุณพนักงงานโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ทุกท่าน และเพื่อนนิสิต
กลั ยาณมิตรทุกคนที่คอยช่วยเหลือ สนับสนุน และให้คําแนะนําต่าง ๆ ในทุกดา้ น ตลอดจนการให้กําลังใน
การปฏิบัติงานและการจัดทําโครงการฯ ทําให้การปฏิบัติสหกิจศึกษาและการจัดทํารายงานฯ ในครั้งนี้
สาํ เรจ็ ลุลว่ งไปได้ดว้ ยดี

ข้าพเจ้าหวังเป็นอย่างยิ่งว่ารายงานฉบับนี้จะเป็นประโยชน์ไม่มากก็น้อยต่อสถานประกอบการ
มหาวิทยาลัย และผู้ทีส่ นใจศึกษา

นางสาวทิพย์เกสร สุริยะมณี



บทคัดยอ่

การจัดทําโครงการ “การพัฒนาระบบฐานข้อมูลพนักงานรายวัน (Casual) และการสร้างความรู้
ความเข้าใจเกีย่ วกบั มาตรฐานการดาํ เนินงานแบบโฟร์ซซี ่นั ส์ โรงแรมโฟร์ซซี ่นั ส์ รีสอร์ท เชียงใหม่”

โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ (Four Seasons Resort Chiang Mai) เป็นโรงแรมการบริการ
ระดับ 5 ดาว ที่มีขนาดกลาง ได้ให้บริการห้องพักจํานวน 98 ห้อง โดยมีที่ต้ังอยู่ในแหล่งธรรมชาติ
ของจังหวัดเชียงใหม่ โรงแรมโฟร์ซีซ่ันส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ เป็นโรงแรมที่อยู่ในเครือการบริหารงานของ
โฟรซีซั่นส์ (Four Seasons) ซึ่งเป็นบริษัทที่รับบริหารโรมแรมนานาชาติระดบั ห้าดาว จากประเทศแคนาดา
การดําเนินงานต่าง ๆ ภายในโรงแรมฯจึงมีมาตรฐานหลักในการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดทิศทางการบริหาร
งานที่เป็นระบบและเป็นส่วนหนึง่ ในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าทีร่ ับบริการ จึงทาํ ให้ฝ่ายทรัพยากร
บุคคลต้องคัดเลือกบุคลากรที่มีความสามารถและทักษะที่ดี เพื่อสามารถตอบสนองต่อการดําเนินงาน
ภายใต้นโยบายขององค์กร เมื่อพนักงานประจําที่เริ่มทํางาน จะได้รับการบันทึกข้อมูลพนักงานในระบบ
Work Day เพือ่ ใช้เป็นช่องทางในการดําเนินงานเกี่ยวกบั การจัดระบบฐานข้อมลู พนกั งาน (ระเบียนพนกั งาน)
และไดร้ ับการปฐมนิเทศน์เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในมาตราฐานหลกั การดําเนินงานต่าง ๆ เพือ่ ให้
การทํางานเป็นไปในทิศทางเดียวกับองค์กร แต่สําหรับกรณีพนักงานรายวัน (Casual) ที่ถูกจ้างมาเพื่อ
ทํางานช่ัวคราวหรือตามระยะสัญญาที่กําหนด จะไม่ได้รับการปฏิบัติเช่นนั้น เนื่องด้วยข้อจํากัดเกี่ยวกับ
ระยะเวลาการปฏิบัติงาน โดยจะให้พนักงานรายวัน (Casual) กรอกเอกสารใบสมัครงานและแนบเอกสาร
การสมัครงานเบื้องต้นเพื่อใช้เป็นข้อมูลยืนยันการสมัครงาน และบางครั้งเมื่อแผนกต่าง ๆ ในโรงแรมฯ
ต้องการจะจัดจ้างพนักงงานรายวัน (Casual) แบบเร่งด่วนเพื่อมาช่วยทํางาน โดยไม่ได้แจ้งให้ฝ่ายงาน
ทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรมไดร้ ับทราบก่อนดาํ เนินการจัดจ้าง ทําให้โรงแรมฯต้องสูญเสียงบประมาณ
ในการดําเนินงานเกี่ยวกับการบริหารทรัพยารบุคคลต่อปีเป็นจํานวนมาก นอกจากนี้ยังทําให้เกิดความ
ซ้ําซ้อนของข้อมูลพนักงานรายวัน (Casual) ที่มีการเก็บข้อมูลไว้หลากหลายแผนกในโรงแรมฯ อีกท้ังเมื่อ
ไม่ได้รับการปฐมนิเทศน์ก่อนการเริ่มปฏิบัติงาน ทําให้พนักงานรายวนั บางกลมุ่ ขาดความรู้และความเข้าใจ
เกี่ยวกับมาตราฐานการดําเนินงานแบบโรงแรมในเครือโฟร์ซีซั่นส์ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นท้ังในการจัดเก็บ
ข้อมูลที่มีความซ้ําซ้อน ความปลอดภัยของข้อมูล การสูญเสียงบประมาณในการจัดจ้างพนักงานรายวัน
(Casual) โดยไม่ได้รับการวางแผนกําลังทรัพยากรบุคลให้สอดคล้องกับงบประมาณที่จํากัด และคุณภาพ
การทํางานที่ไม่ตรงตามมาตรฐานการดําเนินงานที่องค์กรได้กําหนดไว้ ซึ่งปัญหาเหล่านี้ส่งผลกระทบต่อ
ฝ่ายงานทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรม ทั้งในด้านการการจัดการข้อมูลและส่งผลต่อคุณภาพของการ
ปฏิบตั งิ าน



จากการดําเนินงานของแผนกทรัพยากรบุคคล โรงแรมโฟร์ซีซ่นั ส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ ยงั ไม่ได้มีการ

ดําเนินการแก้ไข“ปัญหาเก่ียวกับการจัดการข้อมูลและวิธีการเตรียมความพร้อมก่อนการเร่ิม

ปฏิบัตงิ านของพนักงานรายวัน (Casual)” ดงั นั้นผู้ศึกษาจึงมคี วามประสงค์ที่จะจดั ทําโครงการ เกีย่ วกับ

การพัฒนาระบบฐานข้อมูลพนักงานรายวัน (Casual) และการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐาน

การดําเนินงานแบบโฟร์ซีซ่ันส์ ของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ โดยการจัดสร้างระบบฐานข้อมูล

พนักงานรายวัน (Casual) สามารถลดความซับซ้อนการจดั เก็บของข้อมูลได้ อีกทั้งให้เกิดความสะดวกต่อ

การใช้งานโดยสามารถค้นหาข้อมูลเพื่อสามารถจัดจ้างงานในคร้ังต่อไปได้ ตลอดจนการจัดทําคู่มือสร้าง

ความรู้ ความเข้าใจในการดําเนินงานของพนักรายงานวนั โรงแรมโฟร์ซีซ่ันส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ การจัดทํา

โครงการ ฯ ในคร้ังนี้ คาดว่าจะสามารถนําไปใช้จัดระเบียบข้อมูลและการเตรียมความพร้อมให้แก่พนกั งาน

รายวัน (Casual) สามารถดาํ เนินงานให้บรรลตุ ามวตั ถุประสงค์ทีอ่ งค์กรได้กาํ หนดไว้ โดย

มีวัตถุประสงค์การจัดทาํ โครงการ ดงั นี้

1. เพื่อพัฒนาระบบฐานข้อมลู พนักงานรายวนั (Casual) ซึง่ สามารถลดความซบั ซ้อนการจัดเกบ็ ของ
ข้อมลู ได้ และเกิดความสะดวกตอ่ การใช้งานใน สําหรับการค้นหาข้อมลู เพือ่ สามารถจัดจ้างงานในครงั้ ต่อไป
ได้

2. เพื่อจัดทําคู่มือเพือ่ สร้างความรู้ ความเข้าใจในการดาํ เนนิ งานของพนกั รายงานวนั (Casual) ตาม
มาตรฐานการดาํ เนินงานแบบโฟร์ซซี ่นั ส์ ของโรงแรมโฟร์ซซี นั่ ส์ รีสอร์ท เชียงใหม่

ผลการดาํ เนนิ โครงการ สรุปได้ดังนี้
การพัฒนาระบบฐานข้อมลู : ได้รวบรวมข้อมูลพนักงงานรายวัน (Casual) แผนกต่าง ๆ ในโรงแรมฯ
เพื่อนํามาจัดสร้างระบบฐานข้อมูล และได้เพิ่มข้อมูลของนิสิตที่เคยฝึกงานกับโรงแรมโฟร์ซีซั่น รีสอร์ท
เชียงใหม่ แผนกต่างๆ โดยได้ทําการจัดแบ่งตามแผนกทีร่ ับผิดชอบซึ่งจะเป็นฐานข้อมูลสามารถจัดจ้างงาน
ในอนาคตได้ และได้จัดทํา QR CODE เพื่อการบันทึกข้อมูลของพนักงงานรายวัน (Casual) สามารถบันทึก
ข้อมูลพนักงงานที่เป็นปัจจุบันได้ ช่วยลดการดําเนินงานเกี่ยวกับการบันทึกข้อมูลในระบบฐานข้อมูลของ
พนักงงานฝ่ายงานทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรมได้ ทั้งนรี้ ะบบฐานข้อมูลพนักงงานรายวนั (Casual) และ
QR CODE เพื่อการบันทึกข้อมูลของพนักงงานรายวัน (Casual) สามารถตรวจสอบการจัดจ้างพนักงาน
รายวัน (Casual) ให้เป็นไปตามระบบการจัดจ้างพนักงงานที่ถูกต้องได้ คือ เมื่อถึงช่วงเวลาของการเบิก
จ่ายเงิน ค่าตอบแทนของพนักงงานรายวนั (Casual) จะต้องสแกน QR CODE สําหรับการบันทึกข้อมูลของ
พนักงานรายวนั (Casual) อีกคร้ัง เพือ่ ยืนยันตัวตนกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายการเงินและบัญชี เพื่อตรวจสอบความ
ถูกต้องของข้อมูลก่อนจ่ายค่าตอบแทน (กรณีที่ไม่มีข้อมูลพนักงงานรายวันในระบบฐานข้อมูล จะต้องทํา



การตรวจสอบว่าพนักงงานไม่ได้บันทึกข้อมูล หรือการจ้างงานที่ไม่ถูกต้องตามระบบการจัดจ้างงานของ
ฝ่ายงานทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรม) ทําให้ช่วยลด่าใช้จา่ ยของการจัดจ้างพนักงานรายวนั (Casual) ได้

การจัดทําคู่มือ (แผนกแม่บ้าน) การทําความสะอาดห้องพักแบบ Cluster ของโรงแรมโฟร์ซีซ่ันส์
รีสอร์ท เชียงใหม่ ด้วยวิธีการนําเสนอผ่านส่ือมัลติมีเดีย (คลิปวีดิโอ) โดยใช้ Line Application ด้วยวิธีการ
สร้าง Line Group เพื่อใช้เป็นช่องทางการติดต่อส่ือสารและการเรียนรู้มาตรฐานการดําเนินงานแบบโฟร์ซี
ซั่นส์ นอกจากนี้ Line Group สามารถสร้างความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างฝ่ายงานทรัพยากรบุคคลและ
วัฒนธรรมกับพนักงงานรายวัน (Casual) การผลิตส่ือมัลติมีเดียช่วยให้พนักงงานเข้าใจมาตรฐานการ
ดําเนินงานหลักแบบโฟร์ซีซั่นส์ได้และช่วยให้การดําเนินงานของพนักงานรายวัน (Casual) มีคุณภาพตรง
ตามมาตรฐานทอ่ี งค์กรได้กําหนดไว้



สารบญั

เรอ่ื ง หน้า

จดหมายขอนําสง่ รายงานการปฏิบัติสหกิจศึกษา ก
กิตติกรรมประกาศ ข
บทคดั ย่อ จ
สารบญั ช
สารบญั ตาราง ซ
สารบัญรูปภาพ 1
บทที่ 1 บทนาํ 1
2
1.1 ประวตั กิ ารก่อตงั้ โรงแรม 4
1.2 ประวัตโิ รงแรมโฟร์ซซี ่นั ส์ รีสอรท์ เชียงใหม่ (Four Seasons Resort Chiang Mai) 5
1.3 การดําเนนิ งานภายในโรงแรม 6
1.4 โครงสร้างองค์กร 9
1.5 ฝ่ายงานและหน้าทีค่ วามรับผิดชอบ 11
1.6 การให้บรกิ ารภายในโรงแรม 11
บทที่ 2 เอกสารทีเ่ กีย่ วข้อง
19
2.1 แนวคิดการสร้างฐานข้อมลู เพือ่ การบรหิ ารทรพั ยากรมนษุ ย์ในองค์กร 25
2.2 แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาบคุ ลากรในองค์กร 29
2.3 วงจรการควบคุมคุณภาพ (PDCA Cycle) หรือ วงจรเดม็ มิง่ (Deming Cycle) 29
บทที่ 3 การปฏิบัตงิ านของนิสิตต่อองค์กร 30
3.1 โครงสร้างการดําเนนิ งานภายในแผนกที่นิสิตฝึกปฏิบตั สิ หกิจ 31
3.2 ตาํ แหน่งและลกั ษณะงานการฝกึ ปฏิบัตสิ หกิจ 32
3.3 แผนการปฏิบัตงิ านสหกิจศึกษา 32
บทที่ 4 โครงการทีไ่ ด้รับมอบหมาย 32
4.1 ชื่อเรือ่ งการจดั ทําโครงการ 34
4.2 หลักการและเหตุผล
4.3 วัตถุประสงค์



สารบญั (ตอ่ )

เร่อื ง หน้า

4.4 ทฤษฎีและแนวคิดที่นาํ มาใช้ 34
4.5 ขอบเขตการศึกษา 35
4.6 ประโยชน์ที่คาดว่าไดร้ บั 35
4.7 วิธีการดาํ เนินโครงการ 35
4.8 ผลการดาํ เนนิ โครงการ 36
บทที่ 5 สรุปผลการดาํ เนินงาน 42
5.1 ผลการดาํ เนนิ งานโครงการ 42
5.2 ความพึงพอใจจากสถานประกอบการต่อการดําเนินโครงการ 43
5.3 ปัญหาที่พบในการจัดทาํ โครงการ 47
5.4 ข้อเสนอแนะต่อการจดั ทําโครงการในครงั้ ต่อไป 47
5.5 ประโยชน์ทีไ่ ดร้ ับจากการปฏิบตั สิ หกิจ 48
5.6 ปัญหาและอุปสรรคในการปฏิบัตสิ หกิจศึกษา 48
5.7 ข้อเสนอแนะต่อการปฏิบัติสหกิจศึกษา 49
49
5.7.1 ข้อเสนอแนะต่อสถานประกอบการ 49
5.7.2 ข้อเสนอแนะต่อคณะ 49
5.7.3 ข้อเสนอแนะต่อมหาวิทยาลยั 50
บรรณานกุ รม 51
ภาคผนวก 51
ก. การทาแบบสอบถามออนไลน์ เพื่อสารวจความพึงพอใจต่อการดาเนินโครงการ 53
ข. การปฏิบตั งิ านภายในโรงแรมโฟร์ ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่

สารบัญตาราง ช

เร่อื ง หน้า
31
ตารางที่ 1 : แผนการปฏิบัตงิ านสหกิจศึกษา แผนกการเรียนรู้และพัฒนาบคุ ลากร 44
ตารางที่ 2 : สว่ นที่ 1 ข้อมลู ท่วั ไปของผู้ตอบแบบสอบถาม 45
ตารางที่ 3 : แบบสอบถามความพึงพอใจต่อผลการดาเนินโครงการ



สารบญั รปู ภาพ

เร่อื ง หน้า

ภาพที่ 1 : Isadore Sharp ผู้กอ่ ต้ังบริษัทการบริหารโรงแรมเครือโฟร์ซซี ัน่ ส์ 1
ภาพที่ 2 : Four Seasons Resort Chiang Mai Overview. 2
ภาพที่ 3 : แผนทีโ่ รงแรมโฟร์ซซี ่ันส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ 3
ภาพที่ 4 : โครงสร้างการบรหิ ารงานโรงแรมโฟร์ซซี น่ั ส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ 5
ภาพที่ 5 : รูปแบบห้องพักภายในโรงแรม ห้องพกั แบบ Resort Residence 9
ภาพที่ 6 : รปู แบบห้องพกั ภายในโรงแรม ห้องพกั แบบ Pool Villa 10
ภาพที่ 7 : รปู แบบห้องพกั ภายในโรงแรม ห้องพักแบบ Residence Villa 10
ภาพที่ 8 : โครงสร้างการดําเนินงานภายในแผนกบริหารทรัพยากรมนุษย์ โฟร์ซีซ่ันส์ รี 29
สอรท์ เชียงใหม่
ภาพที่ 9 : พนักงงานทีป่ รกึ ษา ขณะฝึกปฏิบัตสิ หกิจศึกษา 30
ภาพที่ 10 : แบบฟอรม์ ระบบฐานข้อมลู พนักงานรายวัน (Casual) 37
ภาพที่ 11 : QR CODE สําหรับการบันทึกขอ้ มูลของพนกั งานรายวนั (Casual) 38
ภาพที่ 12 : แบบฟอรม์ ออนไลน์ สําหรับบนั ทึกขอ้ มูลของพนักงานรายวัน (Casual) 38
ภาพที่ 13 : Line Application ช่องทางการนําเสนอคู่มือการทําความสะอาดห้องพักแบบ 39
Cluster
ภาพที่ 14 : ช่องทางการติดต่อส่ือสารระหว่างฝ่ายงานทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรมกับ 40
พนักงานรายวัน
ภาพที่ 15 : วิธีการเข้าชมสอ่ื มัลติมเี ดยี เกี่ยวกับการทาํ ความสะอาดห้องพกั ฯ 41

1

บทที่ 1

บทนา
1. ข้อมูลพน้ื ฐานขององคก์ ร

1.1 ประวตั ิการก่อต้งั โรงแรม
โรงแรม และรีสอร์ทในเครือโฟร์ซีซั่นส์ เป็นบริษัทมหาชนจํากัดของแคนาดา ซึ่งเป็นที่รู้จักกันดีใน
ฐานะบริษัทผู้นําในการบริหาร โรงแรมระดับโลก จุดมุ่งหมายหลกั ของเราคือ การบริหารโรงแรม รีสอร์ท
และ เรสซิเดนท์ให้ดีที่สุดในด้านการบริการ สภาพแวดล้อมที่ดีเยี่ยม และความเป็นสุดยอดในด้านอาหาร
และเครอ่ื งดืม่
มิสเตอร์ อิซาดอร์ (อิซ)ี ชารป์ ได้กอ่ ตั้งโรงแรม โฟร์ซซี น่ั ส์ มอเตอร์ ใจกลางเมืองโตรอนโต ประเทศ
แคนาดา ในปี 2504 ดว้ ยการตกแต่งที่มีเอกลักษณ์ การตกแตง่ สวนให้ดูร่มรืน่ สงบ อาหารช้ันเลศิ และการ
บริการที่อบอุ่นเป็นกันเอง ส่ิงเหล่านี้ทําให้โรงแรมประสบ ความสําเร็จอย่างรวดเร็ว ขณะเดียวกัน โฟร์ซี
ซั่นส์ได้เริ่มก่อตั้ง ผู้ร่วมลงทุนโดยทํากับ ไอทีที่ เชอร์ราตัน ในการก่อสร้างศูนย์การประชุมด้วยจํานวน
ห้องพัก 1,450 ห้อง ในเมืองโตรอนโตประเทศ แคนาดา ความขัดแย้งระหว่างการดําเนินธุรกิจลักษณะที่
เป็นโรงแรมศูนย์กลางการประชุม ขนาดใหญ่ ในเมืองโตรอนโต และการจัดเล้ียงสําหรับแขกที่ต้องการ
ความหรหู ราจึงดู เป็นไปไดย้ าก จดุ นีเ้ องที่เป็นจุดหักเหของบริษทั วิสัยทศั น์ของมิสเตอร์ชาร์ปเริ่มชดั เจนขึ้น
ว่าการจะดาํ เนินธรุ กิจโรงแรมให้ถงึ กลุ่มเป้าหมาย ที่ต้องการความหรูหรา จะต้อง ดาํ เนินการกับโรงแรมที่มี
ขนาดปานกลางเท่านน้ั ที่จะทาํ ให้เกิดความพอใจสงู สุดได้

ภาพที่ 1 : Isadore Sharp ผู้ก่อตง้ั บรษิ ัทการบรหิ ารโรงแรมเครือโฟร์ซีซน่ั ส์

2

1.2 ประวตั ิโรงแรมโฟร์ซีซัน่ ส์ รีสอรท์ เชียงใหม่ (Four Seasons Resort Chiang Mai)
โฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ ตั้งอยู่เลขที่ 502 หมู่ 1 ถนน แม่ริม-สะเมิง (สายเก่า) ตําบลริมใต้

อําเภอแม่ริม จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งจดทะเบียนบริษัทในนาม บริษัท แม่ริมเทอเรซ รีซอร์ท จํากัด และเปิด
ดาํ เนินกิจการอย่างเป็นทางการในวนั ที่ 1 เมษายน 2538 ระหว่างช่วงเวลาของวันทีเ่ ปิดดาํ เนินการ ถึงวันที่
26 พฤศจิกายน 2546 ชือ่ เดมิ ของรีสอร์ท คือ โรงแรม รีเจนท์เชียงใหม่ รีสอร์ท แอนด์ สปา โรงแรมอยู่ห่าง
จากตัวเมือง เชียงใหม่ไปทางเหนือ โดยใช้เวลาเดินทางประมาณ 20 นาที โดยรถยนต์ ตัวโรงแรมฯ
ต้ังอยบู่ นเชงิ เขาบรเิ วณหบุ เขาแม่สา

สถาปัตยกรรมของโรงแรมสะท้อนถึงศิลปะแบบอาณาจักรล้านนา ในรัชสมัย ของพ่อขุนเม็งราย
เพื่อเป็นการระลึกถึงมรดกทางวัฒนธรรมที่สืบทอดมากกว่า 700 ปี การ ออกแบบโรงแรมเป็นแบบการ
ผสมผสานศิลปะลา้ นนา เนื้อที่ท้ังหมดมี 80 ไร่ ประกอบด้วย สระบวั ทะเลสาป นาข้าวแบบข้ันบันได และ
สวนไมด้ อกไมป้ ระดับ

ภาพที่ 2 : Four Seasons Resort Chiang Mai Overview.
ที่มา : เว็บไซต์ของโรงแรมโฟร์ซซี ัน่ ส์ รีสอร์ท เชียงใหม่

3

ตัวโรงแรมสร้างเป็นอาคาร 2 ชั้น ออกแบบโดย อาจารย์จุลทัศน์ กิติบุตร ท่านเป็นผู้เชีย่ วชาญดา้ น
สถาปัตยกรรมล้านนา ตวั อาคารลักษณะคลา้ ยกบั กลุ่มบ้านแบบลา้ นนาทีเ่ ช่อื มต่อกนั ดว้ ยทางเดนิ จากบ้าน
หลังหนึ่งไปยังอีกหลังหนึ่ง ล็อบบี้ของโรงแรมตั้งอยู่ใน อาคารทรงศาลา คล้ายกับศาลาวัดในหมู่บ้าน
ตามชนบท ห้องพักแบ่งออกเป็นห้องแบบ พาวิลเล่ยี น 64 ห้อง เรสซิเดนซ์ 17 ยนู ิต และ พูลวิลล่า 12 ยูนิต
ห้องพกั สว่ นใหญ่เพดานจะ ยกสูง พนื้ ห้องส่วนใหญท่ ําดว้ ยไม้สัก ส่งิ ก่อสร้างพิเศษของโรงแรม คือ ศาลาที่
อยู่ติดกับ ห้องพักแบบพาวิลเล่ียนทุกห้อง ซึ่งแขกสามารถชมทัศนียภาพของขุนเขา สวนดอกไม้ และ
นาข้าวของโรงแรม

โรงแรมฯ มีห้องอาหารทั้งหมด 2 ห้อง คือ ห้องอาหารข้าว (Khao) ให้บริการอาหารไทย และ
ห้องอาหารนอร์ท (North) ให้บริการอาหารนานาชาติ นอกจากนี้ยังมีบริการอาหารเสริฟที่ห้องพักและ
บริการสอนทําอาหารไทย โดยมีขนาดการสอนได้สูงสุด คร้ังละ 16 คน ต่อ 1 ช้ันเรียน นอกจากนี้เรายังมี
ห้องออกกําลังกาย ซาวน่า ห้องอบไอํน้าแบบสมุนไพร สระว่ายํน้า 2 สระ คือบริเวณใกล้กับห้องอาหาร
และบรเิ วณที่ตั้งเรสซิเดนซ์

ภาพที่ 3 : แผนที่โรงแรมโฟร์ซซี น่ั ส์ รีสอร์ท เชียงใหม่
ทีม่ า : เว็บไซต์ของโรงแรมโฟร์ซซี ั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่

4

1.3 การดาเนนิ งานภายในโรงแรม
 เป้าหมายของโรงแรม
โฟร์ซีซ่นั สม์ ีความเชี่ยวชาญอย่างยอดเยี่ยมในธรุ กิจงานบริการ โดย มุ่งเน้นการบรกิ ารด้าน

โรงแรมอยา่ งดเี ลศิ จดุ มงุ่ หมายหลกั ของเราคือ เปน็ บรษิ ัททีม่ ีการบริหารงานโรงแรมและรีสอร์ทที่ยอดเยี่ยม
ในทุก ๆ ที่ ที่โรงแรมและรีสอร์ทตั้งอยู่ สร้างโรงแรมที่ออกแบบอย่างงดงาม และตกแต่งด้วยวัสดุชั้นเลิศ
เพื่อสนองความ ต้องการและรสนิยมของแขก และคงไว้ซ่งึ ชือ่ เสยี งของบรษิ ทั ที่มีคุณภาพทีด่ ีเยย่ี ม

 ความเชื่อต่อการปฏิบตั ิงานในโรงแรม
“พนักงาน ถือเป็นสมบัติที่มีค่าที่สุด และเป็นฐานพลังนําไปสู่ความสําเร็จ” เราเชื่อว่า

พนักงานทุกคนต้องการศักด์ิศรี ความภูมิใจ และความสุขจากการทํางาน ทั้งนี้ความพึงพอใจของแขกน้ัน
ขนึ้ อยู่กับความร่วมมือร่วมใจในการทาํ งานของพนักงาน ดังนั้นเราจะได้รับความสําเรจ็ ก็ต่อเมื่อเราร่วมมือ
กนั ทาํ งาน เคารพความคิดเหน็ และให้ความสําคัญกับเพื่อนร่วมงาน

1.4 โครงสรา้ งองคก์ ร
ภาพที่ 4 : โครงสร้างการบริหารงาน

5

นโรงแรมโฟร์ซซี นั่ ส์ รีสอร์ท เชียงใหม่

6

1.5 ฝา่ ยงานและหน้าทีค่ วามรับผดิ ชอบ

การทําความเข้าใจถึงงานของฝ่ายต่าง ๆ ในโรงแรมจะช่วยให้พนักงานสามารถให้บริการไดด้ ีขนึ้ ที่
จะกล่าวดังต่อไปนีเ้ ป็นฝา่ ยต่าง ๆ ที่มีหน้าที่รับผิดชอบแตกต่างกันไป ดังมีรายละเอียดโดยย่อดงั นี้

 ฝา่ ยห้องพกั
แผนกสาํ รองห้องพกั : รบั ผิดชอบในการรบั จองห้องพัก และการแจกแจง รายละเอียดเกีย่ วกับแขก
ไปยังแผนกต้อนรับส่วนหน้า และคองเซียร์จเกี่ยวกับวันเข้าพัก ราคาห้องและรายการพิเศษอื่นๆ
ที่แขกต้องการ
แผนกต้อนรับส่วนหน้า : แผนกต้อนรับส่วนหน้าทําหน้าที่ต้อนรับการมาถึง การลาแขกและ
ตรวจเช็คความถกู ต้องในการชาํ ระค่าใช้จา่ ยของแขก
แผนกคองเซียร์จ : รับผิดชอบเกี่ยวกับความช่วยเหลือของแขกและตอบคําถามในเรื่องต่าง ๆ
นอกจากนี้ยังมีหน้าที่ขนถ่ายสัมภาระหรือกระเป๋าเดินทาง จากห้องหนึ่งไปยังอีกห้องหนึ่ง การจัด
โปรแกรมทัวร์ บัตรชมภาพยนตร์ สง่ ข้อความเอกสารต่าง ๆ ไปยงั ห้องพักแขก และมีหน้าทีต่ ้อนรับ
แขกเช่นกนั
แผนกแม่บ้าน : รับผิดชอบในการทําความสะอาดห้องพกั แขกให้เป็นไปตามมาตรฐาน นอกจากนีย้ ัง
ดูแลความสะอาดบริเวณรอบ ๆ ตัวอาคาร ที่พักของโรงแรม และมีหน้าที่ในการจัดส่ิงอํานวย
ความสะดวกภายในห้องพักให้พร้อมสําหรับแขก เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างสะดวกและ
ครบครัน
แผนกซักรีด : จัดเตรียมบริการด้านการซักแห้ง ซักเส้ือผ้า ขัดรองเท้า บริการด่วน เช่น รีดผ้า
ซักผ้า ซักแห้ง
ห้องยนู ิฟอร์ม : ห้องน้ีมหี น้าที่ ซกั รีด ทาํ ความสะอาดยนู ิฟอร์ม และการซ่อมแซมชุดท่ชี ํารดุ

 ฝ่ายอาหารและเครื่องดืม่
ห้องอาหารต่างๆ ของฝ่ายอาหารและเครื่องดื่ม ทําหน้าที่บรกิ ารดา้ นอาหาร และเครื่องด่มื แก่แขก

ฝ่ายอาหาร และเครือ่ งด่มื ประกอบไปด้วยสว่ นต่างๆ ดว้ ยกนั โดยมีส่วนที่ เกีย่ วข้องดงั นี้
ห้องอาหารข้าว : เป็นห้องอาหารไทยทีเ่ สริฟอาหารเช้า กลางวัน และเย็น
ห้องอาหารนอร์ท :ให้บรกิ ารอาหารกลางวัน และเย็น โดย มุ่งเนน้ อาหารนานาชาติ (ยุโรป อเมริกัน
จีน และญ่ปี ุ่น เป็นต้น)

7

ห้องอาหารริมใต้ : เปิดดําเนินการในเดอื นมกราคม 2546 โดย เปิดสอนทําอาหารไทย ห้องอาหาร
นอี้ ยู่ตรงข้ามกับสนามเทนนิส โปรแกรมการสอนทาํ อาหาร ประกอบดว้ ย การไปซือ้ วตั ถุดิบที่ตลาด
การแสดงการทําอาหาร และ การลงมือปฏิบัติการแกะสลักผลไม้และ พืชผัก เมนูในการสอน
ทําอาหารจะแตกต่าง กันไปในแตล่ ะวนั และยงั มีร้านขายของทีเ่ กี่ยวกบั การทาํ อาหารด้วย
ราตรีบาร์ : ให้บริการเครื่องด่ืม ทั้งที่มีแอลกอฮอล์ และ ไม่มีแอลกอฮอล์ และของขบเคี้ยวเท่าน้ัน
มมุ นีจ้ ะอยู่ติดกบั ห้องอาหารนอร์ทและสระว่ายน้าํ
พาวิลเลย่ี น ไดนิ่ง (รมู เซอร์วิส) : ให้บรกิ ารอาหาร และเครื่องดม่ื ถึงห้องพักแก่แขกตลอด 24 ช่ัวโมง
และการให้บรกิ ารการจัดเล้ียงทั้งภายในและนอกรีสอร์ท
ห้องอาหารพนกั งาน (ห้องบัวตอง) : ให้บรกิ ารอาหาร และเครื่องดม่ื แก่พนกั งานของรีสอร์ททกุ คน
แผนกครัว : จัดเตรียมอาหาร ตามที่แผนกอาหารและ เครอ่ื งดืม่ แจ้งมาเพือ่ ให้บริการแขก
แผนกสจว๊ ต : ทําหน้าทีจ่ ัดเตรียมอุปกรณ์ต่าง ๆ ในการทําความสะอาด ถ้วยชาม ช้อนสอ้ ม ที่ใช้ใน
ห้องอาหารต่าง ๆ ของรีสอร์ท การดําเนินงานเกี่ยวกบั รักษาความสะอาดของห้องครัว และบริเวณ
ที่เป็นดา้ นหลังของห้องอาหารต่าง ๆ และขนย้ายอปุ กรณ์ต่าง ๆ ทีเ่ กีย่ วกับอาหารและเคร่อื งด่มื ทุก
ครง้ั เมือ่ มีการจดั เล้ียง

 ฝา่ ยบริหาร
สํานักงานบริหาร : เป็นฝ่ายที่กําหนดและจัดตั้งมาตรฐาน ควบคุมและประสานงานในฝ่าย

ปฏิบัตกิ าร ทั้งหมดของรีสอร์ท
แผนกบัญชี : ทําหน้าที่จัดระบบการลงบันทึก ทรัพย์สิน หนี้สิน ระบบการเงินของโรงแรม
และทําหน้าที่จดั เตรียม และลงบันทึกการจ่ายเงินเดอื นของพนกั งานทกุ คน
แผนกจดั ซอื้ : ทําหน้าที่ซ้ือสิ่งของต่างๆ และอาหาร สาํ หรับงานของโรงแรม
แผนกทรพั ยากรบุคคลและวัฒนธรรม : ทําหน้าที่ให้คาํ ปรึกษาระดับหวั หน้างานทกุ คน เกี่ยวกับการ
จ้างงาน ปฐมนิเทศน์ การฝึกอบรม ค่าจ้าง ผลประโยชน์ การส่ือสารภายในโรงแรม และการมี
สัมพันธ์ที่ดีกับพนักงาน และการให้คําปรกึ ษาแก่พนกั งานเมื่อมีปญั หาทีเ่ กี่ยวกบั การทํางาน
แผนกรักษาความปลอดภัย : การจัดวางระบบ การสนับสนุน และการรักษาความปลอดภยั ให้กับ
โรงแรม และการจดั โปรแกรมในการรกั ษาความปลอดภัย

8

 ฝ่ายการตลาด และประชาสัมพันธ์
แผนกการขายและการตลาด : ทําหน้าที่สนับสนุนการขายด้านห้องพัก การจัดเล้ียง การสัมมนา
รวมถึงดา้ นอาหารและเคร่อื งดื่ม
แผนกประชาสัมพันธ์ : ทําหน้าที่สนับสนุนกิจกรรมด้านการขาย และการทําหนังสือแจ้งข่าวสาร
ต่าง ๆ ภายในโรงแรมให้แก่แขก ท้ังนี้รวมถึงข่าวประชาสัมพันธ์ กิจกรรมต่าง ๆ เพื่อเผยแพร่
ภาพพจน์ทีด่ ีของโรงแรมฯ

 ฝา่ ยซ่อมและบารงุ
แผนกช่าง : การจัดซ่อมและบํารุงรักษาเครื่องใช้ต่าง ๆ ของโรงแรม และการรับผิดชอบเกี่ยวกับ
เครอ่ื งจักรกลต่าง ๆ ของโรงแรม

 ฝ่ายอื่น ๆ
เดอะบตู ิก : จําหน่ายของที่ระลกึ และสินค้าพืน้ เมืองจําหน่ายแก่แขก พวกสนิ ค้า เส้อื ผ้า และเครื่อง
ประดับตา่ งๆ และ หนังสือซึ่งเปน็ สนิ ค้าที่มคี ณุ ภาพได้มาตรฐานท่ดี ี
เทนนิสและศูนย์สุขภาพ : จัดให้มีห้องออกกําลังกายสําหรับแขก พร้อมอุปกรณ์ออกกําลังกายที่
ทนั สมัย มีห้องซาวน่าและห้องอบสมนุ ไพร บรกิ ารดว้ ยเช่นกัน ทั้งนยี้ ังมีจักรยานเสือภูเขาไว้บริการ
แก่แขกรีสอร์ทมีสนามเทนนิสแบบใช้หญ้าเทียม 2 สนาม และมีพนักงานสําหรับซ้อมคู่มือเทนนิส
ตลอดเวลาเพื่อทําการแนะนําและ สอนแขกสําหรับการเลน่ เทนนิส
สปา : บริการนวดตัว นวดหน้า ขัดผิว แตง่ ผม แต่งเล็บ (มือและเท้า) โดยมีห้องไว้บรกิ ารท้ังหมด 7
ห้อง ทั้งนีแ้ ขกยงั สามารถขอใช้บริการนวดตวั ได้ที่ห้องพกั

9

1.6 การใหบ้ รกิ ารภายในโรงแรม
 รปู แบบหอ้ งพกั ภายในโรงแรม
การให้บรกิ ารห้องพกั ทั้งหมด 4 รปู แบบ ดังนี้

1. หอ้ งพักแบบ Pavilion

ภาพที่ 4 : รูปแบบห้องพักภายในโรงแรม ห้องพักแบบ Pavilion
2. ห้องพกั แบบ Resort Residence

ภาพที่ 5 : รปู แบบห้องพกั ภายในโรงแรม ห้องพักแบบ Resort Residence

10

3. หอ้ งพักแบบ Pool Villa

ภาพที่ 6 : รูปแบบห้องพกั ภายในโรงแรม ห้องพกั แบบ Pool Villa
4. ห้องพักแบบ Residence Villa

ภาพที่ 7 : รปู แบบห้องพกั ภายในโรงแรม ห้องพักแบบ Residence Villa

11

บทที่ 2

เอกสารที่เกี่ยวข้อง

การพัฒนาระบบฐานข้อมูลพนักงานรายวัน (Casual) และการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ
มาตรฐานการดําเนินงานแบบโฟร์ซีซ่ันส์ ของโรงแรมโฟร์ซีซ่ันส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ ผู้ศึกษาไดศ้ ึกษาแนวคิด
และทฤษฎีทีเ่ กี่ยวข้อง โดยมีประเดน็ การนําเสนอ ดงั นี้

2.1 แนวคิดการสร้างฐานข้อมลู เพื่อการบริหารทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร
2.2 แนวคิดเกีย่ วกบั การพฒั นาบุคลากรในองค์กร
2.3 วงจรการควบคมุ คุณภาพ (PDCA Cycle) หรือ วงจรเดม็ มิ่ง (Deming Cycle

2.1 แนวคิดการสรา้ งฐานขอ้ มลู เพอ่ื การบรหิ ารทรพั ยากรมนษุ ยใ์ นองคก์ ร1

2.1.1 ระบบฐานขอ้ มลู (Database System)

ฐานข้อมูล (Database) คือ กลมุ่ ของข้อมูลท่มี ีความสมั พนั ธ์เกี่ยวข้องเปน็ เรื่องเดยี วกัน เช่น กลุ่ม
ข้อมูลเกี่ยวกับพนกั งานบริษัท ประกอบดว้ ย รหัสพนักงาน ชือ่ นามสกลุ เบอร์โทรศัพท์ และกลุ่มข้อมูล
ดังกล่าวถูกจัดเก็บอยู่รวมกันหลาย ๆ กลุ่ม ซึ่งอาจจะเก็บอยู่ในรูปแฟ้มเอกสารหรืออยู่ในคอมพิวเตอร์
ฐานข้อมูลมีลักษณะสําคัญ ดงั นี้

1. เป็นเรอ่ื งเกี่ยวกับการจัดเกบ็ ข้อมูล
2. ข้อมลู ทีจ่ ดั เกบ็ มีความสัมพนั ธ์เกี่ยวข้องเปน็ เร่อื งเดยี วกนั
3. สามารถแสดงออกมาอยู่ในรปู แบบของตารางได้

 ส่วนประกอบของตารางข้อมูลในฐานข้อมูล

โดยทว่ั ไปแลว้ ตารางข้อมูลที่ใช้งานกันจะประกอบดว้ ย แถว (Row) และคอลมั น์(Column) ต่าง ๆ แต่ถา้ มอง

กนั ในรูปแบบของฐานข้อมลู แลว้ เราจะเรียกรายละเอียดในแถวว่า เรคอร์ด (Record) และเรียกรายละเอียด

ในแนวคอลัมน์ว่า ฟิลด์ (Field) ในฐานข้อมูล 1 ระบบ อาจประกอบดว้ ยตารางขอ้ มูลมากกว่า 1

ตาราง ฐานข้อมูลที่มีตารางข้อมูลมากกว่า 1 ตาราง และมีตารางตั้งแต่ 1 คู่ขนึ้ ไปทีม่ ีความสัมพันธ์กนั ดว้ ย

1 “การพัฒนาระบบฐานข้อมูล”, สือ่ ออนไลน์ https://www.glurgeek.com/education (สืบค้นเมือ่ วนั ที่ 20 กมุ ภาพนั ธ์ 2563)

12

ฟิลด์ใดฟิลด์หนึ่ง เราเรียกฐานข้อมูลประเภทนี้ว่า “ฐานข้อมูลเชิงสัมพันธ์” หรือ Relational Database
โครงสร้างของฐานข้อมลู

 โครงสรา้ งของฐานขอ้ มลู ประกอบดว้ ย
1. Character คือ ตวั อักขระแต่ละตวั / ตวั เลข / เครอ่ื งหมาย
2. Field คือ เขตข้อมูล / ชุดข้อมูลที่ใช้แทนความหมายของส่ือโครงสร้าง เช่น ชื่อของบุคคล

ชือ่ ของวัสดสุ ่งิ ของ
3. Record คือ ระเบียน หรือรายการข้อมลู เช่น ระเบียนของพนักงานแตล่ ะคน
4. Table /File คือ ตาราง หรือแฟ้มข้อมูล ประกอบขึ้นด้วยระเบียนต่างๆ เช่น ตารางข้อมูลของ

บุคคล ตารางขอ้ มลู ของวัสดสุ ง่ิ ของ
5. Database คือ ฐานข้อมูล ประกอบด้วยตาราง และแฟ้มข้อมูลต่างๆ ที่เกี่ยวข้องหรือมี

ความสมั พันธ์กนั

 ชนดิ ของข้อมลู ของเขตขอ้ มูลในตารางข้อมูล ชนิดของข้อมลู (Data Type) แบ่งเป็นและมี
ความหมายดงั นี้
1. Text เป็นข้อมูลชนิดตัวอักษร ขนาดความกว้าง 255 ตัว ปกติโปรแกรมกําหนด (Default) ไว้

50 ตัว ใช้กําหนดให้ฟิลด์สําหรับเก็บข้อมูลเป็นอักขระ ได้แก่ ตัวอักษร ตัวเลข ช่องว่าง เครื่องหมายวรรค
ตอนหรือสัญลกั ษณ์อืน่ ๆ

2. Memo ข้อมูลแบบข้อความใช้บันทึกรายละเอียดปลีกย่อยที่ไม่อาจกําหนดได้อย่างแน่นอน
สามารถบนั ทึกขอ้ มลู ไดถ้ ึง 64,000 ตวั

3. Number ใช้กําหนดให้ฟิลด์ที่เก็บข้อมูลเป็นตัวเลขที่คํานวณได้ เช่น ราคาสินค้า หรือจํานวน
ส่ิงของโดยฟิลด์ที่กําหนดด้วยชนิดของข้อมูลชนิดนี้จะรับ เฉพาะตัวเลขหรือจุดทศนิยมเท่าน้ัน ตัวเลขแบ่ง
ออกเป็นตัวเลขต่างๆชนิด ซึ่งมีขนาดข้อมูลแตกต่างกัน ได้แก่ Byte Integer Long integer Single และ
Double

4. Data / Time ใช้กาํ หนดให้ฟิลดท์ ี่ต้องการเกบ็ ข้อมูลประเภทวนั ที่ เวลา
5. Currency ตวั เลขทางการเงิน ใช้กาํ หนดกับข้อมูลเกี่ยวกบั สกุลเงินตราของประเทศต่างๆ
6. AutoNumber ตัวเลขที่ใช้ในการนับระเบียน เป็นข้อมูลตัวเลขเรียงลาํ ดบั ที่โปรแกรมกาํ หนดให้
เองและจะเปน็ ตัวเลขที่ไมซ่ ้ํากัน ซึง่ ถ้าผู้ใช้เลอื กทาํ เปน็ Primary Key จะมีรูปกุญแจนาํ หน้าชือ่ ฟิลด์

13

7. Yes/No เก็บค่าข้อมูลทางตรรกศาสตร์มี 2 ค่า ใช้กําหนดให้ฟิลด์ที่ต้องการเก็บ ข้อมูล โดยใช้
ตัวอักษรตัวเดียวที่แสดงค่าความจริงเป็นใช่ (Yes, True) หรือไม่ใช่ (No, False) ซึ่งฟิลด์ที่กําหนดด้วยชนิด
ของข้อมลู นจี้ ะรบั ค่า Y หรือ y (Yes), N หรือ n (N), T หรือ t (True) และ F หรือ f (false) โดยความยาวฟิลด์
นกี้ ําหนดไว้เพียง 1 ตวั อักษรเท่านนั้

8. OLE Object ใช้กาํ หนดให้กับฟิลดท์ ีเ่ ก็บข้อมลู เป็นรูปกราฟิก
9. Hyperlink ชนิดข้อมูลสาํ หรบั เก็บที่อยขู่ องไฟล์ หรือเว็บไซท์ที่อยใู่ นอินเทอร์เน็ต

 คุณสมบัติของฐานขอ้ มลู
1. Data definition: ทําการนิยามโครงสร้างฐานข้อมลู บอกรูปแบบของข้อมูล เช่น เปน็ ตวั เลยหรือ

ว่าเป็นตัวหนังสือ หรือเปน็ วนั ที่
2. Data manipulation: การนาํ ข้อมลู มาใช้งาน เช่น Retrieve Insert Delete Update
3. Data Control: ควบคมุ การใช้งานฐานข้อมูล เช่น ตรวจสอบ Security, Recovery

2.1.2 ระบบฐานข้อมลู (Database System)
ระบบฐานขอ้ มลู (Database System) หมายถึง การรวมตวั กนั ของฐานข้อมูลตั้งแต่ 2 ฐานข้อมลู

เป็นต้นไปที่มีความสัมพันธ์กัน โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นการลดความซ้ําซ้อนของข้อมูล และทําให้การ
บํารุงรักษาตัวโปรแกรมง่ายมากขึ้น โดยผ่านระบบการจัดการฐานข้อมูล หรือเรียกย่อ ๆ ว่า DBMS
องค์ประกอบของระบบฐานข้อมูล ระบบฐานข้อมูลเป็นเพียงวิธีคิดในการประมวลผลรูปแบบหนึ่งเท่านั้น
แตก่ ารใช้ฐานข้อมลู จะต้องประกอบไปดว้ ยองค์ประกอบหลกั ดังต่อไปนี้

1. แอพลเิ คชันฐานข้อมูล (Database Application)
2. ระบบจดั การฐานข้อมูล (Database Management System หรือ DBMS)
3. ดาต้าเบสเซิร์ฟเวอร์ (Database Server)
4. ข้อมลู (Data)
5. ผู้บรหิ ารฐานข้อมลู ((Database Administrator หรือ DBA)

14

 องค์ประกอบของระบบฐานข้อมลู
ระบบฐานข้อมูลโดยส่วนใหญ่แล้ว ป็นระบบที่มีการนําเอาคอมพิวเตอร์มาช่วยในกระบวนการ

จดั เก็บข้อมูล ค้นหาข้อมลู ประมวลผลข้อมลู เพื่อให้ไดส้ ารสนเทศทีต่ ้องการแลว้ นําไปใช้ในการปฏิบตั ิงาน
และบรหิ ารงานของผู้บรหิ าร โดยอาศัยโปรแกรมเข้ามาช่วยจดั การข้อมูล จากกระบวนการดงั กล่าวน้ี

จากกระบวนการดงั กล่าวน้ีระบบฐานข้อมูลจึงมอี งค์ประกอบ 5 ประเภท คือ
1. ฮาร์ดแวร์(Hardware) ในระบบฐานข้อมูลที่มีประสิทธิภาพควรมีฮาร์ดแวร์ต่าง ๆ ที่ พร้อม
จะอ านวยความสะดวกในการบริหารข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพไม่ว่าจะเป็นความเร็วของ หน่วย
ประมวลผลกลางขนาดของหน่วยความจ าหลัก อปุ กรณ์น าเข้าและออกข้อมลู รายงาน หน่วยความจ าส
ารองทีจ่ ะรองรับการประมวลผลข้อมลู ในระบบได้อยา่ งมีประสิทธิภาพ
2. โปรแกรม ( Program หรือ Software) ซึ่งมีหน้าที่ควบคุมดูแลการสร้างฐานข้อมูล การ
เรียกใช้ข้อมูล และการจัดทํารายงาน เรียกว่า โปรแกรมระบบจัดการฐานข้อมูล (Database Management
System : DBMS)
3. ข้อมูล (Data) คือ ฐานข้อมูลเป็นการจดั เก็บรวบรวมข้อมูลให้เป็นศูนย์กลางข้อมูลอย่างมี
ระบบ ซึง่ ข้อมูลเหล่าน้สี ามารถเรียกใช้ร่วมกันไดผ้ ู้ใช้ขอ้ มูลในระบบฐานข้อมูลจะมองภาพข้อมูล ในลักษณะ
ที่ แตกต่างกัน เช่น ผู้ใช้บางคนมองภาพของข้อมลู ที่ถูกจัดเกบ็ ได้ในส่อื ข้อมลู ผู้ใช้บางคนมองภาพข้อมูลจาก
การใช้งาน เป็นต้น
4. บุคลากร (People ware) คือ ผู้ใช้งาน (User) พนักงานปฏิบตั กิ าร (Operator) นกั วิเคราะห์
และออกแบบระบบ (System Analyst) ผู้เขียนโปรแรมประยุกต์ใช้งาน (Programmer) และผู้บริหาร
ฐานข้อมูล (Database Administrator : DBA)
5. ขั้นตอนการปฏิบัติงาน (Procedure) เป็นขั้นตอนและวิธกี ารต่าง ๆ ในการปฏิบตั งิ าน เพื่อ
การทํางานที่ถูกต้องและเป็นไปตามข้ันตอนที่ได้กาํ หนดไว้ จึงควรทําเอกสารที่ระบุขั้นตอนการทํางานของ
หน้าทีต่ ่าง ๆ ในระบบฐานข้อมูล ท้ังขั้นตอนปกติ และข้ันตอนในสภาวะที่ระบบเกิดปัญหา (Failure) งานของ
ระบบฐานข้อมูล ได้แก่
1. บันทึกข้อมูล
2. แทรกขอ้ มลู
3. ดงึ ข้อมลู
4. แก้ไขขอ้ มลู

15

5. ลบขอ้ มูล
6. ย้ายฐานข้อมูล

2.1.3 ระบบจัดการฐานข้อมูล2
ระบบจัดการฐานข้อมูล หมายถึง กลุ่มโปรแกรมหรือซอฟต์แวร์ชนิดหนึ่ง ที่สร้างข้นึ มาเพือ่ ทําหน้าที่

บริหารฐานข้อมูลโดยตรง ให้มีประสิทธิภาพมากที่สุด เป็นเครื่องมือที่ช่วยอํานวยความสะดวกให้ผู้ใช้
สามารถเข้าถึงข้อมูลได้ โดยที่ผู้ใช้ไม่จําเป็นต้องรับรู้เกี่ยวกับรายละเอียดภายในโครงสร้างฐานข้อมูล พูด
ง่าย ๆ ก็คือ DBMS นี้เป็นตัวกลางในการเชื่อมโยงระหว่างผู้ใช้ และโปรแกรมต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบ
ฐานข้อมลู ตัวอย่างของ DBMS ที่นิยมใช้ในปัจจบุ ัน ได้แก่ Microsoft Access, FoxPro, SQL Server, Oracle,
Informix, DB2 เป็นต้น

 หน้าทีข่ องระบบจัดการฐานข้อมูล มีดงั น้ี
1. กาํ หนดมาตรฐานข้อมูล
2. ควบคมุ การเข้าถงึ ข้อมูลแบบตา่ ง ๆ
3. ดูแล-จัดเก็บข้อมูลให้มคี วามถูกต้องแม่นยาํ
4. จดั เรือ่ งการสํารอง และฟื้นสภาพแฟ้มขอ้ มลู
5. จัดระเบียบแฟ้มทางกายภาพ (Physical Organization)
6. รกั ษาความปลอดภัยของข้อมลู ภายในฐานข้อมูล และป้องกันไมใ่ ช้ขอ้ มูลสญู หาย
7. บาํ รุงรักษาฐานข้อมูลให้เป็นอิสระจากโปรแกรมแอพพลเิ คชันอื่น ๆ
8. เชือ่ มโยงข้อมูลทีม่ คี วามสมั พันธ์เข้าดว้ ยกัน เพื่อรองรับความต้องการใช้ขอ้ มลู ในระดบั ต่าง ๆ

 ประโยชนข์ องฐานข้อมูล
1. ลดการเก็บข้อมูลทีซ่ ้ําซ้อน ข้อมูลบางชุดทีอ่ ยู่ในรูปของแฟ้มข้อมูลอาจมีปรากฏอยู่หลาย ๆ แห่ง

เพราะมีผู้ใช้ข้อมูลชุดนี้หลายคน เมื่อใช้ระบบฐานข้อมูลแล้วจะช่วยให้ความซ้ําซ้อนของข้อมูลลดน้อยลง
2. รักษาความถูกต้องของข้อมูล เนื่องจากฐานข้อมูลมีเพียงฐานข้อมูลเดียว ในกรณีที่มีข้อมูลชุด

เดียวกันปรากฏอยู่หลายแห่งในฐานข้อมูล ข้อมูลเหล่านี้จะต้องตรงกัน ถ้ามีการแก้ไขข้อมูลนี้ทุก ๆ แห่งที่
ข้อมูลปรากฏอยู่จะแ ก้ไขให้ถูกต้องตาม กันห มดโดยอัตโนมัติด้ว ยร ะ บบจัดการฐ านข้อมู ล

3. การป้องกันและรักษาความปลอดภยั ให้กบั ข้อมลู ทาํ ได้อย่างสะดวก การป้องกันและรักษาความ

2 “ระบบจัดการฐานข้อมลู ”. สือ่ ออนไลน์ https://nattanichasite.wordpress.com. (สืบค้นเมือ่ วันที่ 25 กมุ ภาพันธ์ 2563)

16

ปลอดภัยกับข้อมูลระบบฐานข้อมูลจะให้เฉพาะผู้ที่เกี่ยวข้องเท่าน้ันซึ่งก่อให้เกิดความปลอดภัย (security)
ของข้อมลู ด้วย

 การจัดเก็บขอ้ มูลเป็นฐานขอ้ มูลไดเ้ ปรยี บกว่าการจดั เก็บขอ้ มลู แบบแฟ้มข้อมูล ดงั นั้น
1. หลกี เลีย่ งความขัดแย้งของข้อมลู การจัดเกบ็ ข้อมูลแบบแฟม้ ข้อมลู โดยข้อมูลเรอ่ื งเดยี วกนั อาจมี

อยู่หลายแฟม้ ข้อมลู ซึ่งก่อให้เกิดความขัดแย้งของข้อมูลได้ (Inconsistency)
2. สามารถใช้ข้อมูลร่วมกันได้ฐานข้อมูลเปน็ การจัดเก็บข้อมลู รวมไว้ดว้ ยกัน เมือ่ ผู้ใช้ต้องการข้อมูล

จากฐานข้อมลู ซึง่ เป็นข้อมลู ทีม่ าจากแฟม้ ข้อมลู ที่แตกต่างกนั จะทําได้สะดวก
3. สามารถลดความซ้ําซ้อนของข้อมูล การจัดเก็บข้อมูลในลักษณะแฟ้มข้อมูลอาจทําให้ข้อมูล

ประเภทเดยี วกนั ถูกเกบ็ ไว้หลาย ๆ แห่งทําให้เกิดความซ้ําซ้อน (Reclundancy) การนาํ ข้อมูลมารวมเกบ็ ไว้ใน
ฐานข้อมลู จะช่วยลดปัญหาความซ้ําซ้อนได้

4. รกั ษาความถกู ต้องฐานข้อมลู บางครง้ั อาจมีขอ้ ผิดพลาดขนึ้ เช่น การป้อนข้อมูลผิด ซึ่งระบบการ
จัดการฐานข้อมลู สามารถระบกุ ฎเกณฑ์เพือ่ ควบคุมความผิดพลาดทีอ่ าจเกิดขนึ้ ได้

5. สามารถกําหนดความเป็นมาตรฐานเดียวกันได้ เพราะในระบบฐานข้อมูลจะมีกลุ่มบุคคลที่คอย
บรหิ ารฐานข้อมูล กําหนดมาตรฐานต่าง ๆ ในการจดั เก็บข้อมลู ในลกั ษณะเดยี วกัน

6. สามารถกําหนดระบบความปลอดภยั ของข้อมูลได้ ผู้บริหารระบบฐานข้อมลู สามารถกาํ หนดการ
เรียกใช้ขอ้ มูลของผู้ใช้แต่ละคนให้แตกต่างกันตามหน้าที่ ความรบั ผิดชอบได้งา่ ย

7. ความเป็นอิสระของข้อมูลและโปรแกรม โปรแกรมที่ใช้ในแต่ละแฟ้มข้อมูลจะมีความสัมพันธ์กับ
แฟม้ ข้อมูลโดยตรงถ้าหากมีการแก้ไขเปล่ยี นแปลงโครงสร้างขอ้ มลู ก็ทําการแก้ไขโปรแกรมนั้น ๆ

2.1.4 การบรหิ ารทรพั ยากรมนษุ ยใ์ นองค์กร
“การบริหารงานบุคคล” ซึ่งเป็นคําเดิมที่เคยใช้มาในอดีตน้ัน เป็นคําที่ส่ือถึงการดําเนิน กิจกรรม
พื้นฐานด้ังเดิม กล่าวคือ การสรรหา บรรจุ แต่งด้ัง การเล่ือนข้ันเงินเดือน การดําเนินการทางวินัย ฯลฯ
ในปัจจุบันความหมายของ “คน” ในองค์การไปไกลกว่านั้นมาก ด้วยถือว่าคนเป็น “ทรัพยากร” ที่มีค่าจึง
เกิดคาํ ว่า “การบริหารทรัพยากรมนุษย์” ขนึ้ หรือในบางองค์การมองไกลกว่า น้ันอีก กล่าวคือมองเห็นว่า
คนเป็น “ต้นทุน” ที่สําคัญขององค์การจึงเกิดคําใหม่ขั้นมาว่า “การบริหารทรัพยากรบุคคลที่เป็นต้นทุน”
หรือ “การบรหิ ารทุนมนุษย”์ หรือ “Human Capital Management” ขั้นอีกหน่งึ คํา ดงั นั้น คําว่า “การบรหิ าร
ทุนมนุษย์” หรือ “การบริหารทรัพยากร มนุษย์” จึงมีความหมายใกล้เคียงกันเนื่องจากมองคนเป็น

17

“ต้นทุน” หรือเป็น “ทรัพยากร” ที่สําคัญขององค์การ หากต้นทุนมีน้อยก็ต้องเติมให้เต็มหรือทําให้มีมาก

เพียงพอ หากต้นทุนมีจุดบกพร่องกต็ ้องพัฒนา แก้ไข หรือเพิม่ คุณค่าเพื่อให้เปน็ พลังขับเคลอ่ื นอย่างแท้จริง

หากต้นทุนมีลักษณะที่เช้าข่าย ที่เรียกว่า “เล่ือม” หรือพัฒนาไม่ขั้นไม่ว่าจะด้วยวิธีการใด ก็ต้องหาทาง

ปรบั เปลย่ี น โยกย้ายหรือแม้กระทั่งต้องดาํ เนินการผ่องถ่ายออกไป

มีผู้ให้ความหมายของการการบริหารทรัพยากรมนุษย์ ไว้หลายอย่าง แต่กล่าวโดยสรุป การ

บริหารทรัพยากรมนุษย์หมายถึง กระบวนการที่ผู้บริหารใช้ดําเนินงานด้านบุคลากร ต้ังแต่การ สรรหา

คดั เลอื ก และบรรจุบุคคลที่มีคุณสมบตั เิ หมาะสมให้ปฏิบัติงานในองค์การ พร้อมท้ังการพัฒนา ธาํ รง รักษา

ให้สมาซิกทีป่ ฏิบัติงานในองค์การได้เพิม่ พูนความรู้ ความสามารถ มีสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจิตที่ดีในการท

างาน และยังรวมไปถึงการแสวงหาวิธีการที่ทําให้สมาซิกในองค์การที่ต้องพ้นจากการทํางานด้วยเหตุ

ทุพพลภาพ เกษียณอายุหรือเหตอุ ืน่ ใดในงานให้สามารถดาํ รงชีวิตอยู่ในสงั คมได้อยา่ งมีความสุข

 ความสาคญั ของการบรกิ ารทรพั ยากรมนุษย์น้นั มีดังต่อไปนีค้ ือ

1. ทําให้มีบุคลากรเพียงพอ เนื่องจากการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดีจะต้องมีการวางแผน
ทรัพยากรมนุษย์โดยมีการทาํ นายความต้องการทรัพยากรมนุษย์ในอนาคต ซึ่งต้องสัมพันธ์กับทิศทางและ
แผนงานขององค์การ ตลอดจนกิจกรรมขององค์การที่คาดว่าจะมีในอนาคต นอกจากนี้ยังต้องคํานึงถึง
ตลาดแรงงานของทรัพยากรมนุษย์ เพื่อที่จะคาดการณ์ได้ว่าองค์การมีความต้องการทรัพยากรมนุษย์
ประเภทใด จํานวนเท่าใด เมื่อใด ทําให้สามารถวางแผนการรับคนเช้าทํางาน การฝึกกอบรมและพัฒนา
และการหาทรพั ยากรอื่นมาทดแทนตามจําเป็นซึง่ จะลง่ ผลให้องค์การมีบคุ ลากรทํางานอย่างเพียงพอตาม
ความจําเป็น และมีบุคลากรที่ ทํางานในหน้าทีต่ ่างๆ อย่างต่อเนื่องลง่ ผลให้องค์การสามารถดาํ เนินงานไป
ได้ตามทิศทางและบรรลุเป้าหมายที่ต้องการ

2. ทําให้ได้คนดีและมีความสามารถเช้ามาท างานในองค์การ การจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่ดีจะ
นาํ มาสู่กระบวนการสรรหา คัดเลอื กและบรรจุแต่งด้ังบุคคลที่เป็นคนดีและมีความสามารถสอดคล้องกับ
ความตอ้ งการขององค์การ

3. ทําให้มีการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การฝึกอบรมและพัฒนาบุคลากรนับเป็นบทบาทหนึ่งของ
การจัดการทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งการฝึกอบรมและพัฒนาจะเกี่ยวข้องกับคนที่ทํางานในองค์การ ท้ังคนที่
รับเข้ามาทํางานใหม่และคนที่ทํางานอยู่เดิม เพื่อเพิ่มศักยภาพของทรัพยากรมนุษย์เหล่านี้ให้ทํางานได้
อย่างมีประสทิ ธิภาพมากขึน้ และได้สอดคล้องกับการเปลย่ี นแปลงของปจั จยั ต่างๆ ในการบรหิ ารองค์การ

18

4. ทําให้มีการบริหารค่าตอบแทนและสวัสดิการแก่บคุ ลากรอย่างเหมาะสม การจัดการทรัพยากร
มนุษย์ที่ดีจะทําให้เกิดการพิจารณาเรื่องค่าตอบแทนและสวัสดิการที่เหมาะสมกับการดํารงชีวิตอย่างมี
คุณภาพ เปน็ การดึงดดู และรกั ษาคนให้คงอยู่กบั องค์การ มีขวัญและกําลงั ใจในการทาํ งานให้กบั องค์การ

5. ทําให้เกิดการปูองกันและแก่ไขพฤติกรรมที่เบี่ยงเบนของบุคลากร ในการจัดการทรัพยากร
มนุษย์จะมีการวางกฎระเบียบด้านวินัยของบุคลากรหรือคนทํางานให้เป็นไปตามสภาพลักษณะงาน และ
วัตถุประสงค์ขององค์การ

6. ทําให้เกิดการประเมินผลงานของบุคลากรที่เหมาะสมและสนับสนุนคนทํางานดีการจัดการ
ทรัพยากรมนุษย์ที่มีการก าหนดกระบวนการประเมินผลงานของบคุ คลากรที่ดีและเปน็ ธรรมจะล่งผลให้มี
การให้รางวัล การเล่ือนตําแหน่งแก่ผู้ที่ปฏิบัติงานดีและการลงโทษผู้ที่ปฏิบัติงานไม่ดีและก่อให้เกิดความ
เสยี หายแก่องค์การ อันเป็นการสร้างแรงจงู ใจบคุ ลากรให้ทาํ งานอย่างมีประสทิ ธิภาพและประสิทธิผล

7. เกิดความสัมพันธ์อันดีระหว่างคนท างานด้วยกันและคนท างานกับผู้บริหารเนื่องจากการ
จดั การทรัพยากรมนุษย์จะให้ความส าคัญกับการพัฒนาความสัมพันธ์ที่ดีระหว่างคนทํางานด้วยกัน และ
ระหว่างคนทํางานกับผู้บริหารหรือแรงงานสัมพันธ์ เพื่อให้เกิดบรรยากาศที่ดใี นการทํางาน และเปน็ การลด
ความขดั แย้งและกรณีพิพาทต่าง ๆ ทีจ่ ะลง่ ผลลบตอ่ องค์การ

จากการศึกษาแนวคิดเกีย่ วกับการสร้างฐานข้อมลู เพื่อการบริหารทรัพยการในองค์กร ผู้ศึกษาได้
ศึกษาความหมาย องค์ประกอบการสร้างฐานข้อมูล และประโยชน์ของการสร้างฐานข้อมูล ผู้ศึกษาได้นํา
องค์ความรู้มาประยุกต์ใช้ คือ การสร้างระบบฐานข้อมูลพนักงงานรายวัน (Casual) เพื่อรวบรวมข้อมูล
พื้นฐานของพนักงงานรายวัน และจัดเก็บข้อมูลให้เป็นระเบียบ สะดวกต่อการดําเนินงาน ของฝ่ายงาน
ทรพั ยากรบคุ คลและวัฒนธรรมของโรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ โดยสามารถนําฐานข้อมลู ทีจ่ ัดทํา
ขึ้นมาในครั้งนี้ สามารถติดต่อพนักงงานรายวันที่เคยจัดจ้าง กลับมาทํางานกับโรงแรมฯ อีกครั้งได้ เมื่อ
โรงแรมฯ มีงาน/หน้าที่พิเศษในช่วงเทศกาลต่าง ๆ ที่ต้องการกําลังคน ด้วยนโยบายการดเนินงาน
แบบโฟร์ซีซั่นส์ มาตรฐานการดําเนินงานและวัฒธรรมองค์กร คือหัวใจหลักในการขับเคล่ือนให้องค์กร
บรรลุเป้าหมายตามที่คาดไว้ ดังนั้นพนักงงานที่เคยปฏิบัติงานร่วมกับโรงแรมฯ จึงเป็นทรัพยากรมนุษย์ที่
สาํ คัญในการนาํ พาองค์กรประสบความสําเร็จด้วยเช่นกัน

19

2.2 แนวคิดเก่ยี วกบั การพฒั นาบคุ ลากรในองค์กร3

2.2.1 ความหมายการพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์

Leonard Nadler กล่าวว่า การพฒั นาทรัพยากรมนุษยเ์ ป็นการตระเตรียมคน เพื่อให้สามารถก้าว
ไปพร้อมกับองค์การซึ่งจะพัฒนาเปลย่ี นแปลงและเติบโตได้

Malcolm W. Warren กล่าวว่า การพัฒนาทรัพยากรมนษุ ย์ คือ การ กระทําใด ๆ ขององค์การใน
อันทีจ่ ะเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของสมาชิกในองค์การการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของบุคคลให้เอือ้ อํานวย
ต่อการช่วยให้องค์การบรรลุเป้าหมายได้

จากความหมายดงั กล่าวข้างต้น สรุปลกั ษณะสาํ คญั ของการพฒั นาทรัพยากรมนษุ ยไ์ ด้ ๓ ประการ
ประการแรก เป็นความพยายามอย่างเป็นระบบในการปรับปรุงและเพิ่มพูนศักยภาพในด้านต่างๆ
เพื่อให้ทรพั ยากรมนุษยส์ ามารถทาํ งานอย่างมีประสทิ ธิภาพมากขนึ้ ทั้งในปัจจบุ ันและอนาคต
ประการทีส่ อง เป็นการเตรียมบคุ ลากรให้เติบโตไปพร้อมกบั องค์การ
ประการที่สาม องค์การมีหน้าที่สร้างบรรยากาศในการเสริมให้บุคลากรมีขวัญกําลังใจ ในการทุ่มเท
ปฏิบตั งิ านให้กบั องค์การ
กล่าวไดว้ ่า การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ คือ ความพยายามขององค์การในการที่จะพฒั นาบุคลากร
ให้มีคณุ ภาพโดยส่งเสริมให้บุคลากรประสบความสเร็จในอาชีพพร้อมอๆ กับความสําเร็จขององค์กร ทั้งนี้
องค์การจะต้องมีการพฒั นาเพือ่ ให้เกิดสภาวะที่เหมาะสมกบการพัฒนาและความเจริญเติบโตของบคุ ลากร
ดังนั้น การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของพนักงาน หมายถึง กระบวนการหรือ กิจกรรมที่เป็นระบบ
เพื่อเสริมสร้างการเปล่ียนแปลงพฤติกรรมของมนุษย์ให้เป็นบุคคลที่สมบูรณ์ด้วย ความรู้ ความสามารถ
สติปัญญา ทักษะและประสบการณ์มาปรับปรุงและประยุกต์ใช้ในการพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่อง โดยมี
การศึกษาอบรมและพัฒนาเพิ่มพนู ความรู้ ศักยภาพในการปฏิบตั งิ านให้มคี วามพร้อมในการปฏิบัตหิ น้าที่ใน
ความรับผิดชอบ ให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อองค์กรและหน่วยงานซึ่งส่งผลให้เกิดความก้าวหน้าในตําแหน่ง
หน้าที่ของตนเองและความเจริญกาวหน้าขององค์กร ให้มีประสทิ ธิภาพมากยิง่ ข้นึ

3 “แนวคิดเกีย่ วกบั การพฒั นาบุคลากรในองค์กร”. สือ่ ออนไลน์ http://supervis-nited.blogspot.com. (สืบค้นเมือวนั ที่ 23
กุมภาพันธ์ 2563)

20

 รปู แบบการพฒั นาทรพั ยากรมนษุ ย์
รูปแบบการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ของพนักงาน เป็นวิธีการที่จะนําไปใช้ในการพัฒนา

ทรัพยากรมนุษย์ให้ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพ ซึ่งจะใช้วิธีการใดนั้นให้คํานึงถึงความเหมาะสมของ
แต่ละองค์กร รูปแบบการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มีหลายวิธีการด้วยกัน (นิสดารก์เวชยานนท์. ม.ป.ป:5;
อ้างถงึ ใน ณัฏฐิรา เจริญบญุ , 2551: 15-16) ดงั นี้

1. Coaching เปน็ วิธกี ารทีห่ วั หน้างานจะสอนงานลูกน้องเป็นการสอนตวั ตอ่ ตัว หวั หน้างานที่ดีต้องมี
ศิลปะในการพูดมคี วามตอ้ งการอยากถ่ายทอดความรู้ ยอมรับความแตกต่างระหว่างบุคคล

2. Games คือ การสร้างสถานการณ์จาํ ลองเพื่อชว่ ยในการแก้ปัญหา อาจใช้ในการคดั เลอื กทดสอบ
ผู้มาสมคั รงาน

3. Cases เป็นวิธีการให้รายละเอียดของสถานการณ์ข้อเท็จจริง เปิดโอกาสให้ผู้เข้ารับการอบรมได้
ทดสอบแนวคิดของตนเอง ฝึกทักษะในการวิเคราะห์ปัญหา

4. Discussion เป็นการแบ่งกลุ่มการอบรมออกเป็นกลมุ่ ย่อยๆ เพื่ออภิปรายในหวั ข้อที่กําหนด

5. Behavior modeling เป็นการใช้วิดีโอที่จัดทําขึ้นเพื่อแสดงถึงการแก้ปัญหาว่าแต่ละคนมีวิธีการ
อย่างไร การทําวิดโี อเข้ามาใช้จะช่วยให้แต่ละคนมองเห็นข้อบกพร่องของตนเอง ซึง่ เปน็ การพัฒนาตนเองได้
ทางหนึง่

6. In-basket training เป็นวิธีการอบรมทีเ่ หมาะกับผู้บริหารเพือ่ ดูความสามารถในการบริหาร เช่น
รู้จกั การจัดลําดบั ความสาํ คญั ของงานหรือได้รู้จกั การมอบหมายงานหรือไม่

7. Internships เปน็ วิธฝี ึกปฏิบตั จิ ริง

8. Role playing เป็นการแสดงบทบาทสมมติผู้รับการอบรมจะสมมติหน้าที่ และลองแสดงตาม
เหตุการณ์จาํ ลอง

9. Job rotation เป็นการสับเปล่ียนหมุนเวียนงานหน้าที่หรือตําแหน่ง เพื่อเพิ่มพูนความรู้และ
ประสบการณ์

11. Programmed Instruction เป็นบทเรียนที่เขียนขึ้นมาเพื่อให้ผู้เรียนเรียนด้วยตนเองเหมือนกับ
กาํ ลังได้รบั การสอนในเรือ่ งใดเรื่องหนึ่งจากผู้สอน โดยบทเรียนจะให้ความรู้คร้ังละน้อย ๆ ตามลาํ ดับแลว้ ให้
ผู้เรยี นตอบคําถาม หลงั จากตอบคาํ ถามแลว้ สามารถรู้คําตอบได้ว่าถกู หรอื ผิด

11. Lecture การบรรยายใช้ในการอบรมเพือ่ ต้องการเพิม่ พนู ความรู้

21

12. Apprenticeship การฝึกงาน

13. Simulators เป็นการจัดประสบการณ์การเรียนรู้โดยการแสดงเหตุการณ์ หรือเรื่องราวให้เห็น
เหมือนจริงโดยผู้อบรมจะเป็นผแู้ สดงและให้คนอืน่ สังเกต

2.2.2 กระบวนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์
กระบวนการพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ หมายถึงข้ันตอนการดาํ เนินงานในการพฒั นาทรัพยากรมนุษย์
มีแบบแผนเป็นระบบ การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์นอกจากจะเป็นกิจกรรมหนึ่งในกระบวนการบริหารงาน
บุคคลแล้ว ยังจัดเป็นส่วนหนึ่งของการบริหารงานในองค์การซึ่งมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับลักษณะของ
องค์การ ได้แก่ นโยบายการบริหารงาน บรรยากาศขององค์การ ลักษณะและภารกิจหน้าที่ ผลการ
ดําเนินดงาน และประสิทธิภาพในการให้บริการนั้น ๆ ดังน้ัน กระบวนการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์มี 4
ขั้นตอน คือ
1. การประเมินหาความจาเป็นในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ เป็นการศึกษาวิเคราะห์ข้อมูล
และรายละเอียดเกี่ยวกบั ขอบเขตของภารกิจหนา้ ที่ ผลการดําเนนิ งาน และปญั หาอุปสรรคที่เกิดขนึ้ จากการ
ดําเนินงาน ได้แก่ ปัญหาเกี่ยวกับการขาดความรู้ความเข้าใจในเป้าหมาย นโยบาย แผนการปฏิบัติงาน
ตลอดจน กฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ขององค์การ บุคลากรขาดขวัญและกาลงั ใจในการปฏิบัติงาน ขาด
ความรู้ในการใช้เทคโนโลยี และเครื่องมือสมัยใหม่ เป็นต้น ทั้งนี้ปัญหาการดําเนินงานที่เกิดขึ้นดังกล่าว
จะต้องเป็นปัญหา ซึ่งสามารถแก้ไขได้ด้วยการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ซึ่งมีข้ันตอนในการวางแผนพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ ดงั นี้
1.1 การกาํ หนดความต้องการทรพั ยากรมนษุ ย์

1. การวิเคราะห์องค์กร (Organization Analysis) วตั ถุประสงค์และกลยทุ ธ์สําหรับองค์กรนาํ มา
ซึง่ ความต้องการทรัพยากรมนุษย์ ทั้งในปัจจบุ นั และอนาคต

2. การวิเคราะห์งาน (Job Analysis) เป็นกระบวนการที่ทําขึ้นเพื่อศึกษากิจกรรมหน้าที่และ
ความรับผิดชอบในแต่ละงาน รวมท้ังเป็นแนวทางในการฝึกอบรมและ พัฒนาสายอาชีพ ประเมินผลงาน
และการบรหิ ารค่าตอบแทน

3. การวิเคราะห์บคุ คล (Personnel Analysis) เปน็ กระบวนการในการพยากรณ์จํานวนคน เพื่อ
จดั สรรอตั รากําลังที่เหมาะสม การสรรหาและคัดเลือกบคุ คลท่มี ีคุณสมบัติตรงตามทีต่ ้องการเข้ามาทํางาน
ในหน่วยงานในช่วงเวลาทีเ่ หมาะสมเพื่อปฏิบตั ิงานให้บรรลตุ ามวัตถปุ ระสงค์ขององค์การ

22

1.2 การสํารวจและประเมินทรัพยากรมนุษย์การวางแผนทรัพยากรมนุษย์ เป็นการกําหนดความ
ต้องการด้านกําลังคนไว้สําหรับอนาคต เพื่อเป็นหลักประกันว่าองค์กรจะมีบุคลากรที่มีความรู้
ความสามารถสอดคล้องกบั ความต้องการขององค์กร ตลอดจนมีจํานวนที่เพียงพอต่อการปฏิบตั งิ านให้เกิด
ประสิทธิภาพ การวางแผนทรัพยากรมนษุ ยจ์ ึงเปน็ กิจกรรมหนึ่งที่สําคญั ในการจัดการทรัพยากรมนษุ ย์

1.3 การกําหนดตําแหน่ง เป็นกิจกรรมหนึ่งที่สําคัญในการจัดการทรัพยากรมนุษย์โดยท่ัวไปแล้ว
การกําหนด

1.4 การกําหนดเงินเดือน เป็นกิจกรรมหนึ่งที่ต้องกระทําพร้อมๆ กับการกําหนดตําแหน่งเพื่อให้
บคุ คลที่ทางานในตาํ แหน่งต่าง ๆ ได้รับค่าตอบแทนเพือ่ ใช้ในการจับจ่ายใช้สอยและดํารงชีพ ซึ่งเงินเดือนจะ
เปน็ ค่าตอบแทนพืน้ ฐานทต่ี ้องจ่ายให้กบั บุคลากร

2. การตอบสนองความต้องการทรัพยากรมนุษย์ เป็นข้ันตอนหนึ่งของกระบวนการ จัดการ
ทรพั ยากรมนษุ ย์ โดยในข้ันตอนนีม้ ีกจิ กรรมที่ต้องปฏิบตั ิ ดงั ต่อไปนี้

2.1 การสรรหา (Recruitment) เป็นกระบวนการในการแสวงหาและจูงใจ ผู้สมัครที่ มีความรู้
ความสามารถหรือคณุ สมบัติตรงกับความต้องการขององค์กรให้เข้ามาสมัครงานในองค์กร

2.2 การคัดเลือก (Selection) คือ กระบวนการในการพิจารณาคัดเลือกบุคคลที่ผ่านมาจาก
การสรรหา เพื่อเข้ามาทาํ งานในองค์กร โดยพิจารณาจากความรู้ความสามารถ ทักษะ ประสบการณ์และ
คุณสมบัติเฉพาะอืน่ ๆ ที่จําเปน็ ต่อการปฏิบัติงาน

2.3 การเตรียมความพร้อมของบุคคลสําหรับงาน เป็นกิจกรรมที่นําบุคคลที่ผ่านการคัดเลือกมา
เตรียมความพร้อมสาํ หรับการทํางาน เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในงานที่จะต้องไปปฏิบัติ ซึ่งโดยมากจะ
ดําเนนิ การผ่านการปฐมนิเทศ (Orientation) และการฝึกอบรมกอ่ นเข้า ปฏิบตั ิงาน (Pre - service training)

3. การพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ เมื่อองค์กรได้บุคลากรที่มีความรู้ความสามารถเข้ามาปฏิบตั ิงาน
ให้กบั องค์การแลว้ ในการส่งเสริมและพฒั นาให้บคุ ลากรเหล่าน้ันมีความรู้ ความสามารถ ตลอดจนทกั ษะ
ความชาํ นาญในการปฏิบัติงานที่สูงขนึ้ เพื่อที่จะสามารถปฏิบตั ิงานตอบสนองความต้องการและแก้ปญั หา
องค์กรได้อย่างมีประสิทธิภาพต่อไป การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ในองค์กร หมายถึง การกระท าทุกส่ิง
อย่างที่จะเพิ่มศักยภาพและพัฒนา ความรู้ ทักษะ ความสามารถ ทัศนคติ พฤติกรรม ตลอดจนจริยธรรม
ของบคุ ลากรให้เอือ้ ต่อการปฏิบตั ิงาน เพือ่ การบรรลุวัตถปุ ระสงค์ขององค์กร

3.1 การศึกษา (Education) ถือเป็นการเรียนรู้ตามหลักสูตร การศึกษาเน้นองค์ความรู้หรือ
ภาคทฤษฎีมากกวาการปฏิบัติ ซึ่งโดยปกติจะผ่านสถาบันการศึกษาระดับต่างๆ การศึกษา นอกจากจะเป็น

23

สว่ นหนึ่งของการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ขององค์กรแล้ว ยังเป็นการยกระดับบุคลากรด้วย กล่าวคือ เมื่อ
บคุ ลากรได้รับการศึกษาในระดบั ที่สูงขนึ้ แลว้ โอกาสในการนําความรู้ที่ได้รบั จากการศึกษามาประยุกต์ใช้ใน
การปฏิบตั ิงานยอมมีมากขนึ้ ซึง่ จะส่งผลดีต่อการบริหารและยังช่วยสร้างการยอมรับ และความน่าเชื่อถือ
ในการปฏิบตั หิ น้าที่อีกทางหนึง่ ด้วย

3.2 การฝึกอบรม (Training) เป็นการพัฒนาทักษะ เพิ่มความสามารถในการปฏิบัติงานเฉพาะด้าน
ให้แก่บุคลากร โดยส่วนมากจะเป็นการฝึกอบรมในเรื่องรายละเอียดและเทคนิคที่จําเป็นต้องใช้ในการ
ปฏิบัตงิ านเพือ่ ให้เกิดทกั ษะความชาํ นาญในการปฏิบัติงานมากขนึ้ การฝกึ อบรมจําแนกเป็น 2 ประเภทใหญ่
คือ

1. การฝึกอบรมในงาน (On the job training) การฝึกอบรมไปพร้อม ๆ กับการปฏิบัติงาน เช่น
การสอนงาน การฝึกอบรมประเภทน้จี งึ ได้ท้ังงานและได้ท้ังการฝกึ อบรม

2. การฝึกอบรมนอกงาน (Off the job training) เป็นการฝึกอบรมที่จะต้องหยุดการปฏิบัติงาน
ลงชั่วคราวเพือ่ เข้ารับการฝึกอบรม

3.3 การพัฒนาตนเอง (Self - development) เป็นการเปิดโอกาสให้บุคลากรแสวงหาความรู้ด้วย
ตนเอง เพื่อนําความรู้เหล่าน้ันมาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติหน้าที่ต่อไป การพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ใน
ลักษณะน้จี งึ ขนึ้ อยู่กบั ความพร้อมและความตอ้ งการของบุคลากรแตล่ ะคน เปน็ สําคัญ

3.4 การดูงาน เป็นการเพิ่มพูนความรู้และประสบการณ์อีกทางหนึ่งให้แก่บุคลากร การดูงานนี้
โดยมากจะกระทํา ดว้ ยการนําบุคลากรเยีย่ มชมและฟังการบรรยายสรุปเกี่ยวกบั การ ปฏิบัติงานในองค์กร
อื่นหรือหน่วยงานอื่น ที่ประสบความสําเร็จในการบริหารและการดําเนินงาน เพื่อนําข้อดีขององค์กร
เหลา่ นน้ั มาปรบั ใช้ในการบรหิ ารและการปฏิบตั ิงานต่อไป

4. การธารงรักษาทรัพยากรมนุษย์ขององค์กร คือ ความพยายามใน การจูงใจและสร้างขวัญ
กําลังใจที่ดีในการปฏิบัติงานให้แก่บุคคลากรผู้ที่มีผลการปฏิบัติงานดีเด่นและมีประสิทธิภาพ เพื่อให้
บุคลากรเหล่าน้ันปฏิบัติหน้าที่ให้กับองค์กรได้อย่างยาวนาน มีความสุข และมีคุณภาพชีวิตที่ดี ซึ่งเมื่อ
บุคลากรมีความสุขและพึงพอใจในการปฏิบัติงานแล้ว ยอมจะส่งผลให้เขาเหล่าน้ันปฏิบัติงานอย่างเต็ม
ศกั ยภาพ สามารถช่วยพัฒนา แก้ปญั หา และตอบสนองความต้องการ อย่างบรรลุวัตถุประสงค์ขององค์กร
ต่อไป

24

2.2.3 การพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ยแ์ ละพัฒนาองค์การ
การพัฒนาทรพั ยากรมนษุ ย์ (Human Resource Development, HRD) ได้ว่า มนษุ ย์ คือ สตั ว์ที่รู้จกั ใช้
เหตุผล สัตว์ที่มีจิตใจสูง ทรัพยากร หมายถึง ส่ิงท้ังปวงอันเป็นทรัพย์ ส่วนพัฒนา หมายถึง ทําให้เจริญ
(พจนานุกรม ฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๕๒๕) จากความหมายของศัพท์ ดงั กล่าวอาจประมวลความ
ได้ว่า การพัฒนาทรัพยากรคือ การทําให้มนุษย์เจริญมีศักยภาพมากขึ้นจนกลายเป็นทรัพยากรที่มีค่าใน
สงั คมและในประเทศ
ในการพัฒนาองค์การ จะมีความหมายคือ การให้ความก้าวหน้าทางความรู้ ความสามารถทักษะ
โดยมีวัตถุประสงค์ที่จะปรบั ปรุงผลงานภายในองค์การ สะท้อน ให้เห็นถึงการให้ความสําคัญกบั บคุ คลเท่า
เทียมกบั ผกู มดั ที่ยึดหลกั ปรัชญาในการพฒั นาคนภายในองค์การสคู่ วามเป็นมอื อาชีพ การพฒั นาทรัพยากร
มนุษย์ในองค์การ เป็นการพัฒนาองค์รวมของการพัฒนาบุคคล (ID) พัฒนาวิชาชีพ (CD) และพัฒนา
องค์การ (OD) เพื่อนุ่งสู่การผลติ สูงสุด คุณภาพ โอกาสและการเพิม่ พูน สูงสุด เพื่อสมาชิกองค์การที่พวก
เขาทํางาน ทําให้เป้าหมายขององค์การบรรลุผล การพัฒนาบุคคล (ID Individual Development) ช่วยให้
พนักงานเห็นถึงจุดอ่อน จุดแข็งของตน เสริมจุดแข็งและพัฒนาจุดอ่อน โดยใช้ศักยภาพท้ังหมดเพื่อสร้าง
ประสิทธิภาพองค์การขณะเดียวกันก็บรรลุเป้าหมายส่วนบุคคลด้วย เป็นการพัฒนาบุคคลที่เกิดจากการ
ผ่านทักษะงานหลายตําแหน่ง เช่น ผู้วิเคราะห์ วางแผน สร้างโปรแกรม บรรยายเป็นต้น เพื่อมุ่งพัฒนา
ความรู้ทัศนคติทักษะใหม่ ๆ และพฤติกรรมให้ดีขึ้น เพื่อที่จะทําให้ผลการปฏิบัติงานเพิ่มขึ้นและดีขึ้นอาจ
กระทาํ ผ่านแผนงานทีเ่ ปน็ ทางการหรอื ไมเ่ ปน็ หรือการอบรมขณะปฏิบัติงานกไ็ ด้
การพัฒนาวิชาชีพ (CD Career Development) เห็นการวิเคราะห์เพื่อให้ทราบความสนใจ ค่านิยม
ความรู้ความสามารถ กิจกรรม และการมอบหมายงานให้บุคคลปฏิบัติเพื่อพัฒนาทักษะ สําหรับการ
ปฏิบัติงานในอนาคต การพัฒนาอาชีพนั้นทั้งบุคลากรและองค์การต่างต้องมีกิจกรรมที่จะต้องปฏิบัติทั้ง
2 ฝ่าย ทางฝ่ายบุคลากรจะต้องมีการวางแผนอาชีพ ตระหนกั ในอาชีพตนใช้ประโยชน์จากศูนย์พัฒนาอาชีพ
ในหน่วยงานตนให้มากที่สุด ส่วนกิจกรรมองค์การครอบคลุมระบบให้ คําปรึกษา จัด Workshop สัมมนา
การวางแผนทรพั ยากรมนุษย์ การประเมินผล การปฏิบัติงาน แผนงานเสน้ ทางอาชีพ การพัฒนาองค์การ
(OD Organization Development) มุ่งพัฒนาวิธีแก้ปัญหาองค์การด้วยวิธีการใหม่ ๆ และสร้างสรรค์โดย
พยายามปรับโครงสร้างวัฒนธรรม กระบวนการบริหาร และกลยุทธ์ของการบริหารทรัพยากรมนุษย์ให้
สอดคล้องกัน วิธีการแก้ปัญหาโดยปรับส่วนต่าง ๆ ให้กลมกลืนกันสามารถทําให้องค์การปรับตัวได้ด้วย
ตนเอง และมองเห็นบัญหาและความอ่อนแอของตนเองแล้วนํามาแก้ไข เคยมีผู้กล่าวว่าการพัฒนา

25

ทรัพยากรมนุษย์เป็นส่ิงฟุ่มเฟื่อย แต่ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับแลว้ ว่าการพัฒนาแรงงาน (Work Force) ไมใช่
ส่ิงฟุ่มเฟื่อยอีกต่อไป การอบรมและพัฒนา เป็นความจําเป็นเพื่อความอยู่รอดและการปฏิบัติงานของ
องค์การและช่วยส่งเสริมในการสร้างเป้าหมายชีวิตที่สมบูรณ์ให้กับทุกคน ไม่เพียงในองค์การธุรกิจแต่ใน
ความสมั พนั ธ์กบั ครอบครัว ศาสนาและชุมชนดว้ ย

จากการศึกษาแนวคิดและทฤษฏีเกี่ยวกบั “แนวคิดเกี่ยวกับการพัฒนาบุคลากรในองค์กร” โดยได้
นําแนวคิดและความรู้จากรายวิชา การพัฒนาทรัพยากรมุนษย์ภาครัฐ (Human Resource Development :
HRD.) สาขารัฐศาสตร์ คณะรัฐศาสตร์และสังคมศาสตร์มาประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติสหกิจในครง้ั นี้ ซึง่ แผนก
ที่รับผิดชอบ คือ แผนกการเรียนรู้และการพัฒนาบุคลากร ได้นําวิธีการจัดอบรม รูปแบบการพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์มนุษย์ต่าง ๆ มาประยุกต์ใช้ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลต่อองค์กร และจากการ
ดําเนินโครงการฯ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตราฐานหลักการดําเนินงานแบบโฟร์ซีซั่นส์ ผู้
ศึกษาได้ศึกษารูปแบการพัฒนาทรัพยากรษ์มนุษย์ เพื่อให้เกิดการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยพนักง
งานสามารถศึกษาไดด้ ว้ ยตนเอง ผ่านส่อื มลั ติมเี ดยี ที่ผู้ศึกษาไดจ้ ดั ทาํ ข้ึน

2.3 วงจรการควบคุมคณุ ภาพ (PDCA Cycle) หรอื วงจรเดม็ มิง่ (Deming Cycle)4

2.3.1 ความหมายวงจรการควบคุมคุณภาพ (PDCA Cycle)
วงจรการควบคุมคุณภาพ (PDCA Cycle) หรือ วงจรเด็มมิ่ง (Deming Cycle) คือ แนวคิดการ
พัฒนาการทํางานเพื่อควบคุมคุณภาพงานให้มีการพัฒนาอย่างต่อเนื่อง พัฒนามาจากแนวคิดของ วอล์ท
เตอร์ ซิวฮารท์ (Walter Shewhart) นกั สถิติในงานอุตสาหกรรม ต่อมาแนวคิดนเี้ ริม่ เปน็ ที่รู้จักกันมากข้ึนเมื่อ
เอดวารด์ เดมมิ่ง (W.Edwards Deming) นักจัดการบริหารคุณภาพ ไดน้ ําเสนอและเผยแพร่ใช้เป็นเคร่ืองมือ
สําหรับการปรับปรุงกระบวนการทํางานของพนักงานภายในโรงงานให้ดีขึ้น ซึ่งจะใช้ในการค้นหาปัญหา
อปุ สรรคในขั้นตอนการทาํ งานโดยพนกั งาน จนเป็นที่รู้จักกนั ในชือ่ ว่า วงจรเดม็ มิ่ง หรือ วงจร PDCA
แนวคิดวงจร PDCA เป็นแนวคิดที่ง่ายไม่ซับซ้อน สามารถนําไปใช้ได้ในเกือบจะทุกกิจกรรม จึงทํา
ให้เปน็ ทีร่ ู้จักกนั อย่างแพร่หลายมากขนึ้ ทัว่ โลก PDCA เป็นอกั ษรนําของภาษาองั กฤษ 4 คาํ คือ

4 “วงจรการควบคุมคณุ ภาพ (PDCA Cycle) หรือ วงจรเด็มมงิ่ (Deming Cycle)”. สือ่ ออนไลน์ www.iok2u.com. (สืบค้น
เมื่อวนั ที่ 10 มีนาคม 2563).

26

1. การวางแผน (Plan) คือ การวางแผนการดําเนินงาน เพื่อให้เกิดการทํางานที่ได้ผลงาน
การปรบั ปรุงเปล่ยี นแปลง การพฒั นาสง่ิ ใหม่ การแก้ปญั หาที่เกิดขึ้นจากการปฏิบัติงาน มีส่วนทีส่ ําคญั เช่น
การกําหนดเป้าหมาย วัตถุประสงค์ การจัดอันดับความสําคัญของเป้าหมาย กําหนดการดําเนินงาน
กําหนดระยะเวลาการดําเนินงาน กําหนดผู้รับผิดชอบดําเนินการ และกําหนดงบประมาณที่จะใช้
การวางแผนที่ดีควรต้องเกิดจากการศึกษาที่ดี มีการวางแผนไว้รัดกุมรอบคอบปรับเปล่ียนได้ตามความ
เหมาะสมของงานและเหตุการณ์ แผนที่ได้ต้องช่วยในการคาดการณ์ส่ิงที่เกิดขนึ้ และสามารถช่วยลดความ
สูญเสยี ทีอ่ าจเกิดขนึ้ ได้ การวางแผนควรมีการกาํ หนด

- การกาํ หนดเป้าหมาย
- วัตถุประสงค์
- กาํ หนดผรู้ ับผิดชอบ
- ระยะเวลาดําเนนิ การ
- งบประมาณทีก่ าํ หนด
- มีการเสนอเพือ่ ขออนมุ ัติกอ่ นดาํ เนนิ การ

2. ปฏิบตั ติ ามแผน (Do) คือ การดําเนนิ การเพื่อให้ไดต้ ามแผนที่มกี ารกําหนดไว้ อาจมีการกาํ หนด
โครงสร้างคณะทํางานรองรับการดําเนินการเช่น คณะกรรมการ ฯลฯ กําหนดวิธีในการดําเนินงาน
ข้ันตอน ผู้ดูแลรบั ผิดชอบ ผู้ตรวจสอบและทาํ การประเมินผล การปฎิบตั กิ ารควรมี

- มีคณะทาํ งานคอยควบคุม กําหนดนโยบาย ติดตามตรวจสอบการทาํ งาน
- มีการกําหนดขั้นตอนทีช่ ดั เจน
- มีวิธกี ารดําเนนิ การทีส่ ามารถดาํ เนินการได้จริง ไมย่ ากจนเกินความสามารถของผู้ทีจ่ ะทํา
- มีผู้รับผิดชอบดาํ เนินการที่ชดั เจน เพียงพอ
- มีระยะเวลาทีก่ ําหนดท่เี หมาะสม
- มีงบประมาณในการทาํ งาน

3. ตรวจสอบการปฏิบัติตามแผน (Check) คือ ข้ันตอนที่เริม่ เมื่อมีการดําเนินโครงการตามข้อ 2
ควรจะต้องทาํ การประเมินผลการดําเนินงานว่าเป็นไปตามแผนงานที่กาํ หนดไว้หรือไม่ อาจประเมินในส่วน
การประเมินผลงานการดําเนินการ การประเมินผลการดําเนินตามขั้นตอน และการประเมินผลงานตาม
เป้าหมายของแผนงานทีไ่ ดม้ ีการกาํ หนดไว้ ในการประเมินนี้เราอาจสามารถทําได้เองโดยใช้คณะกรรมการ

27

ทีร่ ับผิดชอบในแผนการดําเนินงานภายในเป็นการประเมินตนเอง แต่การใช้คนภายในอาจทําให้ขาดความ
น่าเช่ือถอื หรือประเมินผลได้ไม่เต็มที่ จะดหี ากมีการตั้งคณะประเมินจากภายนอกมาช่วย เพราะน่าจะได้ผล
การประเมินทีด่ ีกว่าทีมงานภายใน เพราะอาจมีปัญหาช่วยกนั ประเมินผลให้ดีเกินจริง แนวทางทีจ่ ะใช้ในการ
ประเมินเช่น

- กําหนดวิธกี ารประเมินแยกให้ชดั เจนสามารถทําได้งา่ ย
- มีรูปแบบการประเมินตรงกับเป้าหมายในงานที่ทํา
- มีคณะผู้จะเข้าทําการประเมินทีม่ ีความรเู้ พียงพอ
- แนวคาํ ตอบผลของการประเมิน ต้องสามารถตอบโจทย์และตรงกบั วตั ถุประสงค์ทีว่ างไว้
- เน้นการประเมินปญั หา / จดุ อ่อน / ข้อดี / จดุ แข็ง ที่มีในการดําเนนิ การ

4. ปรับปรุงแก้ไขพฒั นาตอ่ เน่อื ง (Act) คือ การนําผลประเมินที่ได้มาทาํ การวิเคราะห์ เพือ่ พัฒนา
แผนในการปรบั ปรงุ ต่อไป ในสว่ นนี้ควรจะเสนอแนะปัญหาแนวทางการปรบั ปรุงแก้ไขปัญหาหรือการพัฒนา
ระบบที่มอี ยู่แลว้ ให้ดียิง่ ข้นึ ไปอีกไม่มที ีส่ ิน้ สดุ

- ทําการระดมสมอง เพือ่ หาทางแก้ไข ปัญหา / จดุ อ่อน / ข้อดี / จดุ แขง็ ที่พบ ปรับปรงุ ให้ดี
ยิง่ ข้นึ

- นาํ ผลทีไ่ ดจ้ ากการระดมสมองเสนอผู้เกีย่ วข้องเพื่อพิจารณาใช้วางแผนต่อไป
- กาํ หนดกลยุทธ์ในการจัดทาํ แผนครง้ั ต่อไป
- กาํ หนดผรู้ บั ผิดชอบดําเนินงานครั้งต่อไป
การพัฒนาระบบ PDCA เป็นการปรับปรุงพฒั นาระบบงานที่มีอยู่แล้วให้ดยี ิ่งขนึ้ ไปอีก โดยควรจะมี
การดําเนินการต่อเนื่องไม่มีที่ส้ินสุด จึงเป็นที่มาของแนวคิดการควบคุมคุณภาพและการพัฒนาอย่าง
ต่อเนือ่ ง

จากการศึกษาแนวคิดเกี่ยวกับวงจรการควบคุมคุณภาพ (PDCA Cycle) ผู้ศึกษาได้นําแนวคิดมา
ประยุกต์ใช้ในการจัดทําโครงการคือ การวางแผนการดําเนินงาน เช่น การจัดทําโครงร่างโครงการ วัตุ
ประสงค์ของการดเนินโครงการ การศึกษาเนื้อหาและผู้ทีเ่ กีย่ วกับการจดั ทาํ โครงการเป็นต้น จากน้ัน เข้าสู่
กระบวนการที 2 คือ การเริ่มดําเนินโครงการ โดยเริ่มจากการประสานงานกับแผนกที่เกี่ยวข้องภายใน
โรงแรม การปรึกษากับพนักงานที่ปรึกษา เป็นต้น เมื่อได้ผลการดําเนินงานในช่วงต้นแล้ว จึงเข้าสู่
กระบวนการที่ 3 คือ การประเมินผลงาน โดยผู้ศึกษาได้สอบถามความคิดเห็นจากแผนกที่เกี่ยวข้อง เช่น
แผนกทรัพยากรบุคคลและวฒั นธรรม แผนกแม่บ้าน เกี่ยวกับผลการดาํ เนินงาน และไดจ้ ัดทาํ แบบสอบถาม

28

ความพึงพอใจต่อการจัดทําโครงการ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลพนังานรายวัน (Casual) และการสร้าง
ความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตรฐานการดําเนินงานแบบโฟร์ซซี นั่ ส์ เพือ่ นาํ ผลการสาํ รวจความพึงพอใจต่อ
โครงการมาพัฒนาตอ่ ไป และสาํ หรับกระบวนการที่ 4 จากการประเมินผลงาน ทําให้ทราบว่า ส่อื มลั ติมเี ดีย
เกี่ยวกับการทําความสะอาดห้องพักขอโรงแรมฯ ควรมีจงั หวะ/ทาํ นองเพลงที่เรว็ ขึ้นกว่านี้ เพื่อดึงดูดความ
สนใจต่อผู้ชม และควรนําความรู้ในแผนกต่างๆ มาจัดทําเป็นส่ือการเรียนรู้ เพื่อพัฒนาพนักงงานในองค์กร
ให้เกิดความรแู้ ละทักษะที่จาํ เปน็ ต่อการปฏิบตั ิงาน

29

บทที่ 3

การปฏิบตั ิงานของนสิ ิตต่อองคก์ ร
3.1 โครงสร้างการดาเนนิ งานภายในแผนกทีน่ ิสิตฝึกปฏิบตั สิ หกจิ

คุณภาวนา คาํ เจริญ
ผู้อํานวยการฝ่ายทรพั ยากรมนษุ ย์
(Director of People & Culture)

คุณไกวลา หลวงทมุ มา คุณชิดชนก ศรีมณี
ผู้จัดการการฝ่ายทรัพยากรมนษุ ย์ ผู้จัดการแผนกการเรียนรู้และพัฒนาบคุ ลการ

(People & Culture Manager) (Learning & Development Manager)

คุณพรรณระวี เรือนอินทร์
ผู้ช่วยผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์

(Assistant of People & Culture)

ภาพที่ 8 : โครงสร้างการดาํ เนินงานภายในแผนกบริหารทรัพยากรมนุษย์ โฟร์ซซี นั่ ส์ รีสอร์ท เชียงใหม่

30

3.2 ตาแหนง่ และลกั ษณะงานการฝึกปฏิบตั ิสหกจิ
 วนั ที่ปฏบัติงาน : วนั จันทร์ – วันศุกร์
 เวลาปฏิบตั งิ านต่อวนั : เวลา 08.30 – 18.30 น.
 พนกั งานทีป่ รึกษา : คณุ ชิดชนก ศรีมณี ตําแหน่ง ผู้จดั การแผนกการเรียนรู้และพฒั นา
บุคลากร

ภาพที่ 9 : พนกั งงานที่ปรกึ ษา ขณะฝึกปฏิบัติสหกิจศึกษา
 ตาแหน่งที่นิสิตฝึกปฏิบตั งิ าน (Job Position) : Learning & Development Trainee
 ลักษณะงานที่นิสิตปฏิบัติ (Job Description) : การเตรียมการอบรมท้ังกระบวนการ

รวมทั้งการบันทึกข้อมูลในระบบ การฝึกแระสบการณใ์ นแผนกปฏิบัติการ (Operation) เพื่อ
ฝึกการสังเกตุและการวิเคราะห์จุดปรับปรุงเพื่อการวางแผนการฝึกอบรม การจัดทํา
งบประมาณและการจัดการค่าใช้จ่าย การส่งเอกสารอบรมให้แก่หน่วยงานราชการที่
เกี่ยวข้อง การทําส่ือการสอน การจัดทําบอดร์ด การบันทึกข้อมูลความพึงพอใจในการ
ให้บรกิ ารแก่แขก และการตรวจสอบมาตรฐานการดาํ เนินงาน

31

3.3 แผนการปฏิบตั ิงานสหกจิ ศกึ ษา

ตารางที่ 1 : แผนการปฏิบัติงานสหกจิ ศกึ ษา แผนกการเรยี นร้แู ละพฒั นาบคุ ลากร

หัวข้องาน เดือนที่ 1 เดือนที่ 2 เดือนที่ 3 เดือนที่ 4

1 การเตรียมการฝึกอบรมต่าง ๆ

2 การลงบนั ทึกข้อมลู การฝึกอบรมในระบบ

3 การเตรียม certificate และการประสานงาน

4 ประสบการณใ์ นการทาํ งาน operation

5 การทาํ ตารางการฝึกอบรม

6 การจดั ทาํ campaignและการออกแบบ board

7 การลงข้อมลู การให้ feedback จากแขก

8 การตรวจสอบข้อมลู การ (check standards)

9 การทําข้อมลู standard of procedure

10 การผลติ สอ่ื การสอน

11 การทาํ รายงานต่าง ๆ

12 การทําเอกสารกรมพฒั นาฝีมือแรงงาน

การวางแผนการปฏิบัติงานในระยะเวลา 16 สัปดาห์ แผนกการเรียนรู้และพัฒนาบุคลากร
ณ โรงแรมโฟรีซ่ันส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ การจัดทําแผนปฏิบัติงาน มีวิธีการดังนี้ การปรึกษาและวางแผน
ร่วมกับพนักงานที่ปรึกษา โดยพนักงานที่ปรึกษาจะให้นิสติ เขียนส่ิงที่อยากศึกษาในการฝึกปฏิบัติสหกิจใน
ครงั้ นี้ จาํ นวน 10 ข้อ เพื่อพนักงานจะปรับรูปแบบการเรียน การสอนงานต่าง ๆ ให้เหมาะสมกับการเรียนรู้
ของนิสิต

32

บทที่ 4

โครงการที่ไดร้ ับมอบหมาย

4.1 ชือ่ เรอ่ื ง

การพฒั นาระบบฐานข้อมูลพนกั งานรายวนั (Casual) และการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกบั
มาตรฐานการดําเนินงานแบบโฟร์ซซี ่ันส์ โรงแรมโฟร์ซซี ่ันส์ รีสอรท์ เชียงใหม่

4.2 หลักการและเหตุผล
อุตสหกรรมการท่องเที่ยวถือเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมการบริการที่สร้างรายได้จํานวนมากให้กับ

ประเทศไทย โดยปี 2559 ธุรกิจเหล่านี้ได้สร้างมูลค่ากว่า 17 % ของ GDP ประเทศ หรือมีมูลค่ากว่า
2.5 ล้านบาท (ที่มา: กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา, 2560) การท่องเที่ยวจึงมีบทบาทสําคัญใน
การพัฒนาเศรษฐกิจภายในประเทศเป็นอย่างมาก เมือ่ นักท่องเที่ยวเดนิ ทางไปยังสถานที่ต่าง ๆ ย่อมทาํ ให้
เกิดการบริโภคสินค้าและการบริการต่าง ๆ ซึ่งธุรกิจที่เติบโตควบคู่กับธุรกิจการท่องเที่ยวก็คือ
“ธุรกิจการโรงแรม” เป็นธุรกิจด้านการบริการที่พักให้แก่นักท่องเที่ยว โดยในปัจจุบันในโรงแรมมิได้ให้
การบริการเพียงแค่ที่พักอาศัยเท่านั้น ยังมีการบริการนําเที่ยว การบริการบันเทิงและสันทนาการ เป็นต้น
การบรกิ าร คือ หวั ใจสําคญั ทีข่ บั เคล่อื นให้ธุรกิจโรงแรมเกิดการเจริญเติบโต การบริการสว่ นใหญล่ ว้ นแตใ่ ช้
มนษุ ยใ์ นการบรกิ ารต่าง ๆ ทําให้ฝ่ายทรัพยากรบุคคลในองค์กรต้องสรรหา คดั เลอื ก และพัฒนาบุคคลทจ่ี ะ
เข้ามามีส่วนร่วมในการดําเนนิ งานให้องค์กรเกิดความเจริญก้าวหน้า

โรงแรมเปน็ องค์กรหนึ่งที่มพี นักงานหลากหลายรูปแบบในการดาํ เนนิ งานต่าง ๆ โดยมีรปู แบบดงั นี้
1. พนักงานประจา (Full-time employee) คือ พนักงานหรือลูกจ้างทกุ ระดับตําแหน่งที่สถาน

ประกอบการจ้างให้ทํางานเป็นประจําเต็มเวลา ได้รับค่าจ้างและสวัสดิการที่เป็นประโยชน์
เก้ือกลู 5
2. พนักงานชัว่ คราว (Temporary) คือ พนักงานหรือลูกจ้างที่สถานประกอบการจ้างให้ทํางาน
เป็นบางช่วงเวลา (ระยะเวลาขึ้นอยู่กับสัญญาจ้างที่ผู้ประกอบการต้องการจ้างงาน) การจ้าง
พนักงานชั่วคราวจะเกิดขึ้นเมื่อปริมาณงานที่มากเป็นพิเศษจึงจําเป็นต้องจ้างมาเพื่อช่วย
ปฏิบัติการ และเพื่อดูการทาํ งาน หากทาํ ผลงานได้เป็นที่น่าพึงพอใจก็จะทําให้เกิดการจ้างงาน

5 โครงการการสาํ รวจค่าตอบแทนพนักงานเอกชน ที่มา: www.service.nso.go.th

33

เป็นพนักงานประจําต่อไป โดยพนักงานชั่วคราวจะได้รับเงินเดือนและสวัสดิการตามข้อตกลง
ของสัญญาจ้าง
3. พนักงานรายวัน (Casual) คือ เป็นการจ้างงานแบบชั่วคราวที่มีความยืดหยุ่นเรื่องเวลา
ทาํ งานตามความสะดวกของลูกจ้างและความต้องการของนายจ้าง เปน็ งานชั่วคราวที่เวลาการ
ทํางานไม่แน่นอน และไมไ่ ด้รับสวสั ดิการใดๆ6

เมื่อพนักงานที่ปฏิบัติงานมหี ลากหลายรูปแบบ ทําให้การบรหิ ารจดั การทรัพยากรมนุษยเ์ กิดความท้าทายใน
การจดั การข้อมูลพนักงานและการดาํ เนนิ การพฒั นาพนกั งงาน

โรงแรมโฟร์ซีซ่ันส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ (Four Seasons Resort Chiang Mai) เป็นโรงแรมการบริการ
ระดับ 5 ดาว ที่มีขนาดกลาง ได้ให้บริการห้องพักจํานวน 98 ห้อง โดยมีที่ตั้งอยู่ในแหล่งธรรมชาติ
ของจังหวัดเชียงใหม่ โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ เป็นโรงแรมที่อยู่ในเครือการบริหารงานของ
โฟรซีซ่ันส์ (Four Seasons) ซึ่งเป็นบริษัทที่รับบริหารโรมแรมนานาชาติระดับห้าดาว จากประเทศแคนาดา
การดําเนินงานต่าง ๆ ภายในโรงแรมฯจึงมีมาตรฐานหลักในการปฏิบัติงาน เพื่อให้เกิดทิศทางการบริหาร
งานทีเ่ ปน็ ระบบและเป็นส่วนหนึ่งในการสร้างความพึงพอใจให้แก่ลูกค้าที่รับบริการ จึงทําให้ฝ่ายทรัพยากร
บุคคลและวัฒนธรรมต้องคัดเลอื กบุคลากรทีม่ ีความสามารถและทักษะทีด่ ี เพื่อสามารถตอบสนองต่อการ
ดาํ เนินงานภายใต้นโยบายขององค์กร เมื่อพนกั งานประจําที่เริ่มทํางาน จะได้รับการบันทึกข้อมูลพนักงาน
ในระบบ Work Day เพื่อใช้เป็นช่องทางในการดําเนินงานเกี่ยวกับการจดั ระบบฐานข้อมลู พนักงาน (ระเบียน
พนักงาน) และได้รับการปฐมนิเทศน์เพื่อสร้างความรู้และความเข้าใจในมาตราฐานหลักการดําเนินงาน
ต่าง ๆ เพื่อให้การทํางานเป็นไปในทิศทางเดียวกับองค์กร แต่สําหรับกรณีพนักงานรายวัน (Casual) ที่ถูก
จ้างมาเพือ่ ทํางานชวั่ คราวหรือตามระยะสัญญาที่กําหนด จะไม่ได้รบั การปฏิบัติเช่นน้ัน เนื่องด้วยข้อจํากัด
เกี่ยวกับระยะเวลาการปฏิบัติงาน โดยจะให้พนักงานรายวัน (Casual) กรอกเอกสารใบสมคั รงานและแนบ
เอกสารการสมัครงานเบื้องต้นเพื่อใช้เป็นข้อมูลยืนยันการสมัครงาน และบางคร้ังเมื่อแผนกต่าง ๆ
ในโรงแรมฯ ต้องการจะจัดจ้างพนักงงานรายวัน (Casual) แบบเร่งด่วนเพื่อมาช่วยทํางาน โดยไม่ได้แจ้งให้
ฝ่ายงานทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรมได้รับทราบก่อนดําเนินการจัดจ้าง ทําให้โรงแรมฯต้องสูญเสีย
งบประมาณในการดําเนินงานเกี่ยวกับการบริหารทรัพยารบคุ คลต่อปีเป็นจํานวนมาก นอกจากนี้ยังทําให้
เกิดความซ้ําซ้อนของข้อมูลพนกั งานรายวัน (Casual) ทีม่ ีการเก็บข้อมูลไว้หลากหลายแผนกในโรงแรมฯ อีก
ทั้งเมือ่ ไม่ไดร้ ับการปฐมนิเทศน์ก่อนการเริ่มปฏิบัติงาน ทําให้พนักงานรายวันบางกลุ่มขาดความรู้และความ
เข้าใจเกี่ยวกับมาตราฐานการดําเนินงานแบบโรงแรมในเครือโฟร์ซีซ่ันส์ โดยปัญหาที่เกิดขึ้นทั้งใน

6 ประเภทการจา้ งงาน ท่มี า: www.aboutaussie.com สืบค้นวันท่ี 15 กุมภาพนั ธ์ 2563.

34

การจัดเก็บข้อมูลที่มีความซ้ําซ้อน ความปลอดภัยของข้อมูล การสูญเสียงบประมาณในการจัดจ้าง
พนักงานรายวัน (Casual) โดยไม่ได้รับการวางแผนกําลังทรัพยากรบคุ ลให้สอดคล้องกับงบประมาณที่จํากัด
และคณุ ภาพการทาํ งานที่ไมต่ รงตามมาตรฐานการดําเนินงานที่องค์กรได้กําหนดไว้ ซึง่ ปัญหาเหลา่ นีส้ ่งผล
กระทบต่อฝ่ายงานทรัพยากรบคุ คลและวัฒนธรรม ท้ังในด้านการการจัดการข้อมูลและสง่ ผลต่อคุณภาพ
ของการปฏิบัตงิ าน

จากการดําเนินงานของแผนกทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรม โรงแรมโฟร์ซีซ่ันส์ รีสอร์ท เชียงใหม่
ยังไม่ได้มีการดําเนินการแก้ไข“ปัญหาเก่ียวกับการจัดการข้อมูลและวิธีการเตรียมความพร้อมก่อน
การเรม่ิ ปฏิบัติงานของพนักงานรายวัน (Casual)” ดังนั้นผู้ศึกษาจึงมีความประสงค์ที่จะจดั ทาํ โครงการ
เกี่ยวกับ การพัฒนาระบบฐานข้อมูลพนักงานรายวัน (Casual) และการสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับ
มาตรฐานการดําเนินงานแบบโฟร์ซีซั่นส์ ของโรงแรมโฟร์ซีซ่ันส์ รีสอร์ท เชียงใหม่ โดยการจัดสร้างระบบ
ฐานข้อมูลพนักงานรายวัน (Casual) สามารถลดความซับซ้อนการจัดเก็บของข้อมูลได้ อีกท้ังให้เกิดความ
สะดวกต่อการใช้งานโดยสามารถค้นหาข้อมูลเพื่อสามารถจัดจ้างงานในคร้ังต่อไปได้ ตลอดจนการจัดทํา
คู่มือสร้างความรู้ ความเข้าใจในการดําเนินงานของพนักรายงานวัน โรงแรมโฟร์ซีซั่นส์ รีสอร์ท เชียงใหม่
การจดั ทําโครงการ ฯ ในครั้งนี้ คาดว่าจะสามารถนาํ ไปใช้จดั ระเบียบข้อมูลและการเตรียมความพร้อมให้แก่
พนักงานรายวัน (Casual) สามารถดําเนินงานให้บรรลตุ ามวัตถุประสงค์ทีอ่ งค์กรได้กาํ หนดไว้

4.3 วตั ถุประสงค์
1. เพือ่ พัฒนาระบบฐานข้อมูลพนักงานรายวัน (Casual) ซึ่งสามารถลดความซับซ้อนการจัดเก็บของ

ข้อมูลได้ และเกิดความสะดวกตอ่ การใช้งานใน สาํ หรับการค้นหาข้อมลู เพือ่ สามารถจดั จ้างงานในครงั้ ต่อไป
ได้

2. เพือ่ จดั ทําคู่มือเพือ่ สร้างความรู้ ความเข้าใจในการดําเนนิ งานของพนกั รายงานวนั (Casual) ตาม
มาตรฐานการดาํ เนินงานแบบโฟร์ซซี ่ันส์ ของโรงแรมโฟร์ซซี ่ันส์ รีสอร์ท เชียงใหม่

4.4 ทฤษฎีและแนวคิดที่นามาใช้
4.1 แนวคิดการสร้างฐานข้อมลู เพือ่ การบริหารทรัพยากรมนษุ ยใ์ นองค์กร
4.2 แนวคิดการพัฒนาบุคคลกรในองค์กร
4.3 วงจรการควบคมุ คณุ ภาพ (PDCA Cycle) หรือ วงจรเด็มมิ่ง (Deming Cycle)

35

4.5 ขอบเขตการศึกษา
5.1 ขอบเขตดา้ นเวลา : เริ่มดําเนินโครงการ วันที่ 25 พฤศจิกายน 2562
ส้นิ สดุ โครงการ วนั ที่ 13 มีนาคม 2563
5.2 ดา้ นแผนกงานที่จัดสรา้ งคู่มือเพอ่ื พฒั นา : แผนกแม่บ้าน โรงแรมโฟร์ซซี ั่นส์ รีสอร์ท
เชียงใหม่

4.6 ประโยชนท์ ี่คาดว่าได้รบั
1. การพัฒนาระบบฐานข้อมูลพนักงานรายวัน (Casual) เกิดการจัดระเบียบข้อมูลต่าง ๆ ที่สําคัญ

เพื่อสะดวกตอ่ การใช้งานในรปู แบบตา่ ง ๆ เช่น การสบื ค้นข้อมลู พนกั งานฯ การจดั จ้างพนกั งานในครั้งต่อไป
ได้

2. การจัดทําคู่มือการทําความสะอาดห้องพัก แผนกแม่บ้าน เพือ่ สร้างความรู้ ความเข้าใจในการ
ดาํ เนนิ งานของพนกั รายงานวนั (Casual) ตามมาตรฐานการดาํ เนินงานแบบโฟร์ซซี ่ันส์ เพือ่ ให้พนกั งานไดร้ ับ
ทราบมาตรฐานการดําเนินงานตลอดจนการพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ของโรงแรมโฟร์ซีซ่ันส์ รีสอร์ท
เชียงใหม่

3. การสร้างช่องทางส่ือสารและการนําเสนอคู่มือให้แก่พนักงงานรายวัน (Casual) โดยใช้โซเชียล
มีเดียเปน็ สือ่ กลางผ่านแอพลเิ คชัน่ Line (Line Group)

4.7 วิธีการดาเนนิ โครงการ
1. เครื่องมือทีใ่ ชใ้ นการดาเนนิ งาน

เครื่องมือที่ใช้ในการจัดทําโครงการในคร้ังนี้ คือ การใช้โปรแกรม Microsoft Excel ในการจัดทํา
ฐานข้อมูลพนักงานรายวัน (Casual) สําหรับเครื่องมือที่ใช้ในการจัดทําคู่มือเพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ
เกี่ยวกับมาตราฐานการดําเนินงานแบบโฟร์ซีซั่นส์ การนาํ เสนอความรู้เกีย่ วกับมตรฐานการทํางาน (แผนก
แม่บ้าน) การจดั ทาํ ส่อื อิเลก็ ทรอนิกส์ (Video)

2. การเก็บรวบรวมข้อมูล

การสัมภาษณ์แบบเจาะลึกแบบมีโครงสร้าง โดยเลอื กแบบคาํ ถามปลายเปิด ผู้ศึกษาไดป้ รกึ ษาการ
จดั ทําโครงการฯ กับพนกั งงานที่ปรกึ ษา แผนกการเรียนรู้และพัฒนาบคุ ลากร ประเด็นดังต่อไปน้ี ปญั หาที่
เกิดขนึ้ ภายในองค์กร มาตราฐานการดําเนนิ งานแบบโฟร์ซซี ั่นส์ ข้อมูลพนกั งงานรายวัน (Casual) ที่เคยผ่าน

36

การทาํ งานกับโรงแรมโฟร์ซซี นั่ ส์ รีสอรท์ เชียงใหม่ เป็นต้น และสมั ภาษณ์พนักงานแผนกแม่บ้าน ใน
ประเดน็ ต่างๆทีเ่ กี่ยวข้องกับการจัดทาํ คู่มือ

3. การวิเคราะห์ขอ้ มลู

เมือ่ เก็บข้อมูลจากการสมั ภาษณ์และขอ้ มลู แบบลายลกั ษณ์อกั ษรครบถ้วนแล้ว ได้ตรวจสอบความ
ถกู ต้องของข้อมลู กบั พนกั งงานที่ปรกึ ษาอีกครั้ง โดยเริม่ ศึกษามาตราฐานหลักในการดําเนนิ งานของแผนก
แม่บ้าน จากน้ันได้เร่มิ ดาํ เนนิ การจัดสร้างฐานข้อมลู พนักงงานรายวัน (Casual) กาและจัดสร้างคู่มือเกี่ยวกับ
การดําเนนิ งานของแผนกแม่บ้าน ในลําดบั ต่อไป

4.8 ผลการดาเนนิ โครงการ
4.8.1 การพฒั นาระบบฐานขอ้ มูลพนกั งงานรายวนั (Casual)

 ข้นั ตอนการสรา้ งฐานข้อมูล
1. การรวบรวมข้อมลู พนกั งงานรายวนั (Casual) และนิสิตทีฝ่ ึกงานเสร็จส้นิ แล้ว จากใบสมัครงานจาก

ฝ่ายงานทรัพยากรบุคคลและวัฒนธรรม และข้อมูลการจ้างงานของแผนกต่าง ๆ ภายในโรงแรม
เช่น แผนกแม่บ้าน แผนกอาหารและเคร่อื งดืม่ เป็นต้น
2. การออกแบบฐานข้อมลู ในโปรแกรม Microsoft Excel โดยรายละเอียดข้อมลู ที่บนั ทึกในฐานข้อมูล มี
ดงั นี้

2.1 Title (คํานําหน้า)
2.2 Name - Family Name in English (ชื่อ-สกลุ ภาษาองั กฤษ)
2.3 Name - Family Name in Thai (ชือ่ - สกุล ภาษาไทย)
2.4 Nick Name (ชือ่ เลน่ )
2.5 Dept. (แผนก)
2.6 Address (ทีอ่ ยู่)
2.7 Tel.No (หมายเลขโทรศพั ท์)
2.8 E-mail
2.9 Identification No. (หมายเลขบัตรประชาชน)

37

2.10 Birthday (วนั เดอื น ปีเกิด)
2.11 Age (อาย)ุ
2.12 Gender (เพศ)
2.13 Name and location of school/ college/ university (ชื่อ และสถานท่ตี ้ังของโรงเรียน/

วิทยาลยั /มหาวิทยาลัย)
2.14 "Certificate/ Degree received (ประกาศนียบัตร / ปรญิ ญาทีไ่ ดร้ ับ)
2.15 Employment record (ประวตั กิ ารทาํ งาน)
2.16 Have you ever been arrested and convicted of a crime? (ท่านเคยถกู จับ หรือ

ต้องดทษในคดีอาญาหรือไม่)
2.17 Are you infected with Hepatitis or not? (ท่านเปน็ ไวรัสตบั อักเสบหรือไม)่
2.18 Remark (หมายเหต)ุ : กรณีนถี้ ้าเคยทาํ งานกับโรงแรมฯ จะถูกบนั ทึกไว้
2.19 Period (ระยะเวลาการทํางาน)

ตัวอย่าง แบบฟอรม์ ระบบฐานข้อมลู พนกั งานรายวัน (Casual) และนิสิตทีเ่ คยฝึกงานกับโรงแรมฯ

ภาพที่ 10 : แบบฟอรม์ ระบบฐานข้อมูลพนกั งานรายวัน (Casual)

38

 ขน้ั ตอนการใช้งานระบบฐานข้อมลู
1. พนกั งานรายวนั จะไดร้ ับใบสมคั รงานเพื่อกรอกข้อมลู ต่าง ๆ ตามแบบฟร์อมของโรงแรมฯ และ

ได้รับ QR CODE เพื่อกรอกขอ้ มูลการติดต่อและประวัติการทาํ งาน จากฝ่ายงานทรพั ยากรบคุ คล
และวัฒนธรรม
ภาพตัวอย่าง QR CODE สาํ หรับการบันทึกข้อมูล

ภาพที่ 11 : QR CODE สาํ หรับการบันทึกขอ้ มูลของพนกั งานรายวนั (Casual)
ภาพตวั อย่าง แบบฟอรม์ ออนไลน์ สาํ หรับบันทึกขอ้ มูลของพนกั งานรายวัน (Casual)

ภาพที่ 12 : แบบฟอรม์ ออนไลน์ สําหรับบนั ทึกขอ้ มลู ของพนกั งานรายวัน (Casual)

39

2. เมือ่ พนกั งานรายวนั (Casual) บันทึกข้อมูลต่าง ๆ ลงในแบบฟอรม์ ออนไลน์เรยี บร้อยแลว้ เจ้าหน้าที่
ฝ่ายงานทรพั ยากรบุคคลและวฒั นธรรม จะดงึ ข้อมลู จากแบบฟอร์มออนไลน์ เพือ่ มาบนั ทึกไว้ใน
ฐานระบบข้อมลู ทีถ่ กู จัดสร้าง ดงั ภาพที่ 10 : แบบฟอร์มระบบฐานข้อมลู พนักงานรายวัน (Casual)
ซึง่ ทาํ ให้เกิดการจัดเรียงข้อมูลที่เป็นระเบียบ สะดวกตอ่ การใช้งาน เช่น การค้นหาประวัติ และการ
ค้นหาข้อมูลเพื่อจดั จา้ งครั้งต่อไป

3. เมือ่ ถึงช่วงเวลาของการเบิกจา่ ยเงิน ค่าตอบแทนของพนักงงานรายวัน (Casual) จะต้องสแกน QR
CODE สาํ หรบั การบันทึกขอ้ มลู ของพนักงานรายวัน (Casual) อีกครั้ง เพื่อยืนยันตัวตนกบั เจ้าหน้าที่
ฝ่ายการเงินและบญั ชี เพื่อตรวจสอบความถูกต้องของข้อมลู กอ่ นจ่ายค่าตอบแทน กรณีที่พนักงาน
รายวันยังไมม่ ีขอ้ มูลการติดต่อ จะต้องทาํ การบันทึกขอ้ มูลใหม่ในแบบฟอรม์ ออนไลน์ เพื่อการ
จดั เกบ็ ฐานข้อมลู ในระบบตอ่ ไป

4.8.2 การจดั ทาคมู่ ือ เพอ่ื สร้างความรู้ ความเข้าใจเก่ยี วกบั มาตราฐานการดาเนนิ งานแบบ
โฟร์ซีซั่นส์

การจัดทําคู่มือ เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจเกี่ยวกับมาตราฐานการดําเนินงานแบบโฟร์ซีซั่นส์
ในครั้งนี้ ได้จัดทําคู่มือเกี่ยวกับการทําความสะอาดห้องพักแบบ Custer ของแผนกแม่บ้าน เนื่องด้วยเป็น
แผนกที่เปน็ สว่ นสําคัญในการดูแลความเรียบร้อยภายในห้องพักและความปลอดภัยทรัพย์สินของแขกผู้มา
พัก จึงต้องเน้นย้ําเรื่องมาตราฐานการดําเนินงานหลักเป็นสําคัญ โดยมีวิธีการจัดสร้างคู่มือ ผ่านส่ือ
มัลติมีเดีย เพื่อให้พนักงงานรายวัน (Casual) ได้เข้าใจถึงการทําความสะอาดห้องพักและมาตราฐานการ
ดําเนินงานหลักแบบโฟร์ซีซั่นส์ และใช้ช่องทางโซเชียลมีเดียสําหรับการนําเสนอส่ือมัลติมีเดีย คือ Line
Application

ภาพที่ 13 : Line Application ช่องทางการนําเสนอคู่มือการทําความสะอาดห้องพกั แบบ Cluster


Click to View FlipBook Version