30
31
ตารางเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ประเด็นการ คณุ ลกั ษณะของนกั เรียน
ประเมิน
3 2 1
1. มวี นิ ัย
- มีความตรงตอ่ เวลา มีความซือ่ สตั ย์ - มคี วามซือ่ สตั ย์สจุ รติ - มีความตั้งใจทจ่ี ะ
2. มีความ สจุ ริต - มีความตั้งใจที่จะทำงาน ทำงาน
ใฝเ่ รยี นรู้ - มีความรบั ผดิ ชอบ มีความตัง้ ใจท่จี ะ - มีความรบั ผิดชอบ - รจู้ กั เสียสละ
ทำงาน - มีความอดทน - มีความซ่ือสตั ย์
- มเี คารพในสทิ ธขิ องผู้อน่ื ขยนั หมน่ั เพยี ร สุจริต
- มรี ะเบียบและปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์ - รจู้ ักเสยี สละ
- เห็นอก เหน็ ใจผ้อู ืน่ - เห็นอก เห็นใจผอู้ ืน่ - เข้าร่วมกิจกรรม
- มคี วามอดทนขยันหมั่นเพยี ร การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
- รจู้ กั เสยี สละ รจู้ กั กาลเทศะ - เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
- เอาใจใส่และมคี วามพยายามในการ ตา่ ง ๆ
เรยี นรู้ - เอาใจใส่และมคี วาม
- ต้งั ใจในการเรียนรู้ พยายามในการเรยี นรู้
- เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ -มกี ารบนั ทกึ ความรใู้ นระหว่าง
- มีการบันทึกความรูใ้ นระหว่างเรียน เรียน
- จดสรุปจากทค่ี รเู ขยี น
3. มีความ - เอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัติหน้าทท่ี ไ่ี ด้รับ - ทุ่มเท อดทน ไมย่ อ่ ทอ้ ต่อ - ทุ่มเท อดทน ไม่
ม่งุ มน่ั ในการ มอบหมาย ปัญหาในการทำงาน ย่อท้อต่อปัญหาใน
ทำงาน - มีความตงั้ ใจและรับผิดชอบในการ - มกี ารปรับปรงุ และ การทำงาน
ทำงานใหส้ ำเรจ็ พฒั นาการทำงานด้วยตนเอง
- ทมุ่ เท อดทน ไม่ยอ่ ท้อต่อปัญหาใน - เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบตั ิ
การทำงาน หน้าทที่ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย
- มีการปรับปรงุ และพฒั นาการทำงาน
ด้วยตนเอง
เกณฑ์การประเมิน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 มคี ะแนนมากกวา่ หรือเทา่ กบั 7
คะแนน 9-8 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5 คะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 มคี ะแนนน้อยกว่า 7
คะแนน 7 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4 คะแนน
คะแนน 6-5 คิดเป็นรอ้ ยละ 3 คะแนน
คะแนน 4 คดิ เปน็ ร้อยละ 2 คะแนน
คะแนน 3 คดิ เปน็ ร้อยละ 1 คะแนน
เกณฑค์ ณุ ภาพ
3 คะแนน ดี
2 คะแนน พอใช้
1 คะแนน ปรบั ปรงุ
32
33
34
35
ใบงาน เรื่อง วัฏจักรชวี ติ แบบสลับของพืช
เฉลยใบงาน เรอ่ื ง วฏั จักรชีวิตแบบสลบั ของพืช
36
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 3
กลมุ่ สาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ่ี 5
รายวชิ า ชีววทิ ยา 3 รหัส ว 32243
หน่วยการเรยี นรูท้ ี่ 8 การสบื พันธขุ์ องพืชดอก เวลา 10 ชั่วโมง
เร่อื ง การสรา้ งไมโครสปอร์และเมกะสปอร์ และการสร้างเซลลส์ ืบพันธุ์ เวลา 2 ชว่ั โมง
ภาคเรียนท่ี 1/2565 ครผู ้สู อน นางสาวธัญญาเรศ ทบอาจ
1. มาตรฐานการเรียนรู้ และผลการเรียนรู้
สาระชีววิทยา 3 เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำของพืช การ
ลำเลียงของพืชการสังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต และการ
ตอบสนองของพืช รวมทั้งนำความรไู้ ปใช้ประโยชน์
ผลการเรยี นรู้
3. อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมียของพืชดอก
และอธบิ ายการปฏสิ นธขิ องพืชดอก
2. สาระสำคัญ
พืชดอกมีวัฏจักรชีวิตแบบสลับ ประกอบด้วยสปอโรไฟต์และแกมีโทไฟต์ ซึ่งสปอโรไฟต์เปน็
ระยะที่สร้างสปอร์ คือ ไมโครสปอร์และเมกะสปอร์ท่ีอาจสร้างในดอกเดียวกันหรอื ต่างดอกหรือต่าง
ตน้ ไมโครสปอร์มาเทอร์เซลล์ แบ่งเซลล์แบบไมโอซิสไดไ้ มโครสปอร์ จากนัน้ ไมโครสปอรจ์ ะแบ่งเซลล์
แบบไมโทซิสและพฒั นาไปเป็นแกมโี ทไฟต์เพศผูซ้ ง่ึ ทำหน้าทส่ี ร้างเซลลส์ ืบพนั ธ์ุเพศผู้ ส่วนเมกะสปอร์
มาเทอร์เซลล์แบ่งเซลล์แบบไมโอซิสได้ เมกะสปอรจ์ ากนั้นเมกะสปอรจ์ ะแบ่งเซลล์แบบไมโทซสิ และ
พัฒนาไปเปน็ แกมโี ทไฟตเ์ พศเมยี ซ่งึ ทำหน้าทีส่ รา้ งเซลลส์ ืบพันธ์ุเพศเมีย เมอื่ มีการปฏิสนธขิ องเซลลสืบ
พนั ธุ์เพศผแู้ ละเพศเมียจะได้ไซโกตและพัฒนาไปเปน็ เอ็มบรโิ อแล้วเจรญิ เติบโตเป็นสปอโรไฟต์ต่อไป
3. สาระการเรียนรู้
- การสร้างไมโครสปอรแ์ ละเมกะสปอร์ และการสร้างเซลลส์ บื พันธุ์
4. จดุ ประสงค์การเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้ (K)
1. นกั เรียนอธิบายกระบวนการสรา้ งเซลล์สืบพันธุเ์ พศผูแ้ ละเพศเมยี ของพชื ดอกได้
2. นักเรยี นเปรยี บเทยี บกระบวนการสรา้ งเซลลส์ บื พันธ์ุเพศผูแ้ ละเพศเมียของพืชดอกได้
37
2. ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
นักเรียนสบื ค้นข้อมูลรูปรา่ งลกั ษณะของเรณูและการงอกของหลอดเรณไู ด้
3. ด้านคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
นักเรยี นมีส่วนร่วมในการทำกจิ กรรมและใฝร่ ู้ในงานที่ไดร้ บั มอบหมาย
5. กจิ กรรมการเรยี นรู้
รูปแบบการสอนท่ีใช้ในการจดั กิจกรรมการเรยี นรู้ คอื การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E
ชว่ั โมงท่ี 1
1. ข้ันสรา้ งความสนใจ (Engagement)
นกั เรียนทบทวนความรูเ้ ดมิ เกี่ยวกบั การสบื พนั ธแ์ุ บบอาศัยเพศของพืชดอกโดยครูใช้
คำถามถามนกั เรียนวา่ ระยะใดทีม่ กี ารสรา้ งเซลลส์ บื พันธใุ์ นวัฏจักรชวี ิตแบบสลบั ของพชื
(แนวคำตอบ แกมโี ทไฟตเ์ ปน็ ระยะท่ีมกี ารสรา้ งเซลลส์ ืบพันธุ์)
2. ขนั้ สำรวจและค้นหา (Exploration)
2.1 นักเรยี นดูรูปการสรา้ งเซลล์สบื พนั ธขุ์ องพชื ดอกเพศเมยี และเพศผู้ ที่ครูเตรียมมา
การสรา้ งเซลลส์ ืบพันธ์ุของพชื ดอกเพศเมยี และเพศผู้
2.2 จากน้นั ครอู ธิบายเพ่ิมเตมิ วา่ ในการสรา้ งเซลลส์ ืบพนั ธเุ์ พศเมีย คอื เซลล์ไข่นั้นสรา้ งใน
ออวุลซึง่ อยใู่ นรังไข่ ส่วนการสร้างเซลลส์ ืบพันธุเ์ พศผูใ้ นพืชบางชนดิ อาจจะยงั ไม่สรา้ งในทันทีแต่ต้องมี
กระบวนการถา่ ยเรณูก่อน
2.3 นักเรียนศึกษารปู พชื ทีม่ ีเกสรเพศผู้และเกสรเพศเมยี อยตู่ ่างดอกภายในต้นเดียวกัน
เช่น ข้าวโพด ปัตตาเวียและฟักทอง หรือพืชที่ดอกเพศผู้และดอกเพศเมียอยู่ต่างต้น เช่น สละ ตำลึง
และตาล แล้วครูถามนักเรียนว่าเรณูจากเกสรเพศผู้จะมายังเกสรเพศเมียได้อย่างไร และพืชดอกมี
กระบวนการอย่างไรท่ที ำใหเ้ ซลล์สืบพนั ธเุ์ พศผูม้ ีโอกาสมาผสมกบั เซลลส์ บื พนั ธเ์ุ พศเมียได้
38
2.4 จากนั้นครูให้นักเรียนทำใบงานวัฏจักรชวี ติ ของพชื และการสร้างเซลลส์ บื พันธ์ุพชื ดอก
2.5 ทำกจิ กรรมที่ 8.2 รปู รา่ งลกั ษณะของเรณแู ละการงอกของหลอดเรณู เพอื่ ศกึ ษา
รูปรา่ งลักษณะของเรณูและการงอกของหลอดเรณู แลว้ บันทกึ ผลการทดลอง
ช่ัวโมงที่ 2
3. ขน้ั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป (Explanation)
3.1 นักเรียนและครูร่วมกนั อธิบายและลงข้อสรุปในภาพที่ 8.11 การสรา้ งเซลลส์ ืบพันธุ์
ของพชื ดอก ในหนงั สือเรยี นชวี วิทยา ม.5 เลม่ 3 การสร้างเซลล์สืบพนั ธ์ุเพศผู้เกิดท่ีอับเรณูภายในอับ
เรณูจะมีไมโครสปอมาเทอรเ์ ซลล์ทแี่ บง่ เซลล์แบบไมโอซิสได้เปน็ ไมโครสปอร์จำนวน 4 เซลล์ โดยไมโค
รสปอร์แต่ละเซลล์นีจ้ ะแบ่งแบบไมโทซสิ ต่อไปได้เป็น 2 นิวเคลียส คือ เจเนอเรทิฟนิวเคลียสกบั ทวิ บ์
นิวเคลยี สซงึ่ เรียกไมโครสปอร์ท่ีผ่านการแบง่ เซลล์แลว้ น้วี ่า เรณซู ึง่ จะทำหนา้ ทส่ี รา้ งสเปริ ์มเพื่อปฏิสนธิ
กบั เซลล์ไข่
3.2 การสร้างเซลลส์ บื พันธ์เุ พศเมียเกดิ ขน้ึ ที่เกสรเพศเมยี โดยจะมเี มกะสปอร์มาเทอร์
เซลลท์ แี่ บง่ เซลล์แบบไมโอซิสไดเ้ ปน็ เมกะสปอรจ์ ำนวน 4 เซลล์ โดยเมกะสปอร์ 3 เซลล์สลายไป เหลือ
เซลล์ที่แบ่งเซลล์แบบไมโทซิส 3 ครั้งติดต่อกัน ได้ 8 นิวเคลียสแยกกันอยู่ที่ขั้วตรงข้าม ขั้วละ 4
นิวเคลียสโดย 3 นิวเคลียสของข้ัวบนเคล่ือนที่ไปอยู่ตรงข้ามกับไมโครไพล์ และสร้างเยือ่ หุม้ ล้อมรอบ
เรียกวา่ แอนติโพแดล ส่วนอีก 3 นวิ เคลียสของข้ัวลา่ งเคลอื่ นไปอยูท่ างดา้ นของไมโครไพลโ์ ดยม1ี เซลล์
ทที่ ำหน้าทเี่ ปน็ เซลล์ไข่ สว่ นอีก 2 เซลล์อยดู่ ้านขา้ งเรียกว่า ซนิ เนอรจ์ ิดและนิวเคลียสท่ีเหลืออีกอย่าง
ละ 1 เซลล์ของขั้วบนและขั้วล่างจะเคล่ือนทม่ี าอย่ตู รงกลาเรียกวา่ โพลาร์นวิ คลีไอเกิดเป็นเซลล์ขนาด
ใหญอ่ ยตู่ รงกลางถุงเอ็มบรโิ อเรยี กวา่ เซนทรลั เซลล์
3.3 ครยู กตัวอยา่ งการทดลองกิจกรรมท่ี 8.2 รปู รา่ งลักษณะของเรณูและการงอกของ
หลอดเรณู ดงั ภาพที่ 1 และ 2
เรณูของชบา เรณูของอญั ชัน เรณูของลลิ ลี่ เรณขู องพุทธรักษา
เรณูของชบา เรณูของชบา
ภาพที่ 1 ลกั ษณะของละอองเรณขู องดอกแตล่ ะชนิด
ทม่ี า : หนงั สอื ค่มู ือครูชีววทิ ยาช้ันมัธยมศึกษาปที ่ี 5
39
ตวั อย่างผลการทำกิจกรรม เรณขู องแพงพวยฝรั่ง
เรมิ่ ศึกษา นาทีท่ี 2 นาทีที่ 5
นาทที ี่ 10 นาทีท่ี 20 นาทที ี่ 30
นาทที ่ี 5
ภาพท่ี 2 การงอกของละอองเรณู
ที่มา : หนงั สอื คู่มอื ครชู ีววิทยาชน้ั มัธยมศึกษาปที ่ี 5
3.4 ครูอธิบายวา่ หลังการถา่ ยเรณู เรณจู ะงอกหลอดเรณูผ่านยอดเกสรเพศเมียแลว้ ผ่านกา้ น
เกสรเพศเมยี ลงไปจนถงึ รังไข่สเปริ ์มเซลล์ทั้ง 2 เซลล์จะเคล่ือนตามทิวบ์นวิ เคลยี สเขา้ ไปในหลอดเรณู
ซึ่งจะผ่านเข้าไปในออวุลทางไมโครไพล์แล้วปล่อยสเปิร์มเข้าไปภายในถุงเอ็มบริโอ เพื่อเกิดการ
ปฏิสนธิต่อไป
4. ขนั้ ขยายความรู้ (Elaboration)
นกั เรียนและครูร่วมกันอภปิ รายเพ่มิ เตมิ เกย่ี วกบั เทคโนโลยกี ารถ่ายเรณเู พ่ือเพ่มิ ผลผลิตของ
พืชเศรษฐกจิ ในท้องถน่ิ จากนน้ั ให้นกั เรียนชว่ ยกนั วเิ คราะห์ว่าเหตุใดจงึ ต้องใชเ้ ทคโนโลยีการถ่ายเรณู
และเทคโนโลยี การถ่ายเรณูมีผลต่อการดำรงชีวิตของคนในท้องถิ่นอย่างไร และพืชในลักษณะใดที่
ต้องใช้เทคโนโลยกี ารถา่ ยเรณูช่วยในการเพ่ิมผลผลติ
5. ข้ันประเมนิ (Evaluation)
5.1 ครูตรวจสอบผลการทำกิจกรรม โดยการสงั เกตพฤตกิ รรมการทำงาน การแสดงความ
คิดเหน็ การตอบคำถาม
5.2 ครแู ละนักเรียนสรปุ ความรู้เก่ียวกบั กระบวนการสรา้ งเซลล์สบื พนั ธเ์ุ พศผแู้ ละเพศเมีย
ของพืชดอก โดยมีแนวการสรุปดังนี้ “พืชต้องสร้างเซลล์สืบพันธุ์กล่าวคือ เมื่อพืชดอกเจริญเติบโต
เตม็ ทีก่ จ็ ะเร่ิมออกดอก ซงึ่ ภายในดอกก็จะสรา้ งเซลล์สืบพนั ธ์ุ โดยเกสรเพศผู้สร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้
หรอื ละอองเรณูเก็บไวใ้ นอบั ละอองเรณู ส่วนเกสรเพศเมียจะมีรังไข่ ภายในรังไขม่ อี อวลุ ทำหน้าท่ีเก็บ
ไข่อ่อนเอาไว้”
40
6. ส่ือ / แหลง่ เรยี นรู้
1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพิ่มเติมวิทยาศาสตร์ชวี วทิ ยา เลม่ 3 ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 5 สสวท.
2. เพาเวอรพ์ อยต์ เรอ่ื ง การสร้างไมโครสปอร์และเมกะสปอร์ และการสรา้ งเซลลส์ บื พันธ์ุ
7. ช้นิ งาน/ภาระงาน
1. ใบงาน เรอ่ื ง วฏั จกั รชวี ติ ของพชื และการสร้างเซลล์สบื พนั ธ์ุพชื ดอก
2. กจิ กรรมที่ 8.2 รปู ร่างลักษณะของเรณูและการงอกของหลอดเรณู
8. การวดั และประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์การเรียนรู้ วิธวี ัดผล เครอ่ื งมือวัด เกณฑก์ ารผา่ น
จดุ ประสงค์
ดา้ นความรู้ (K)
อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการ ตรวจใบงาน ใบงาน เรือ่ ง ระดบั คณุ ภาพพอใช้ขึ้น
สร้างเซลล์สบื พันธุ์เพศผู้และเพศเมียของ เรื่อง วัฏจกั ร วัฏจกั รชวี ติ ของ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์
ชีวติ ของพชื พืช และการสร้าง
พืชดอก
และการสร้าง เซลล์สืบพันธ์ุพชื
เซลลส์ ืบพันธุ์พืช ดอก
ดอก
ด้านทักษะกระบวนการ (P)
สืบค้นข้อมูลรูปร่างลักษณะของเรณูและ ตรวจบันทึก บนั ทกึ กจิ กรรมที่ ผา่ นเกณฑ์ระดบั ดีขน้ึ
การงอกของหลอดเรณไู ด้ กิจกรรมท่ี 8.2 8.2 ศกึ ษารูปร่าง ไป
ศึกษารูปรา่ ง ลกั ษณะของเรณู
ลักษณะของ และการงอกของ
เรณแู ละการ หลอดเรณู
งอกของหลอด
เรณู
ด้านคุณลกั ษณะทีพ่ ึงประสงค์ (A)
มีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมและใฝ่รู้ ประเมิน แบบประเมิน ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70
ในงานท่ไี ด้รบั มอบหมาย คุณลกั ษณะอัน คณุ ลักษณะอันพึง ขน้ึ ไป
พงึ ประสงค์ ประสงค์
41
42
เกณฑ์การประเมนิ ผลการทำใบงาน
ประเดน็ การประเมนิ คาํ อธิบายระดบั คุณภาพ/ระดับคะแนน
4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ทำใบงานถูกตอ้ ง
ความถูกตอ้ ง ทำใบงานถูกตอ้ ง ทำใบงานถกู ตอ้ ง ทำใบงานถูกตอ้ ง นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 50
ร้อยละ 80 ข้ึนไป ร้อยละ 65 – 79 รอ้ ยละ 50 - 64
ทำใบงานเปน็
ทำใบงานมคี วามเป็น ทำใบงานมีความเปน็ ทำใบงานเปน็ ระเบียบ สะอาด
เรยี บร้อยพอใช้
ความเปน็ ระเบียบ ระเบยี บ สะอาด ระเบียบ สะอาด ระเบยี บ สะอาด ส่งใบงานล่าชา้ กว่า
ความตรงตอ่ เวลา เวลาท่ีกำหนด
เรยี บร้อยดมี าก เรียบรอ้ ยดี เรียบรอ้ ยปานกลาง มากกว่า 3 วัน
ส่งใบงานทันตาม ส่งใบงานลา่ ชา้ กว่า ส่งใบงานล่าชา้ กว่า
เวลาที่กำหนด เวลาท่ีกำหนดไป 1 วัน เวลาที่กำหนดไป 3
วนั
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน ควรปรับปรุงอยา่ งยง่ิ
0-4
5-6 ควรปรับปรงุ
7-8 พอใช้
9 – 10 ดี
11 - 12
ดีมาก
เกณฑ์การผ่าน ระดบั คุณภาพพอใช้ข้นึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
43
44
เกณฑก์ ารประเมนิ การปฏิบัตกิ จิ กรรม
ประเดน็ ที่ ระดบั คะแนน
ประเมนิ
4. การปฏิบตั ิ 4 32 1
กิจกรรม ทำกจิ กรรมตาม ต้องใหค้ วาม
ขนั้ ตอน และใช้ ทำกจิ กรรมตาม ต้องให้ความ ชว่ ยเหลอื อย่างมาก
5. ความ อปุ กรณไ์ ดอ้ ย่าง ในการทำกจิ กรรม
คลอ่ งแคล่ว ถกู ต้อง ข้นั ตอน และใช้ ช่วยเหลอื บา้ งในการ และการใช้อปุ กรณ์
ในขณะ
ปฏบิ ตั ิ มคี วามคล่องแคล่ว อุปกรณ์ได้อย่าง ทำกิจกรรม และการ ทำกจิ กรรมเสรจ็ ไม่
กิจกรรม ในขณะทำกจิ กรรม ทันเวลา และทำ
โดยไม่ต้องไดร้ ับคำ ถกู ตอ้ ง แต่อาจตอ้ ง ใช้อปุ กรณ์ อุปกรณ์เสยี หาย
6. การบันทกึ ช้แี นะ และทำ
สรปุ และ กิจกรรมเสรจ็ ไดร้ บั คำแนะนำบ้าง ตอ้ งใหค้ วาม
นำเสนอผล ทันเวลา ช่วยเหลืออยา่ งมาก
การปฏบิ ัติ บนั ทึกและสรุปผล มคี วามคลอ่ งแคล่ว ขาดความ ในการบันทกึ สรปุ
กจิ กรรม การทำกจิ กรรมได้ และนำเสนอผลการ
ถกู ตอ้ ง รัดกุม ในขณะทำกิจกรรม คล่องแคล่วในขณะ ทำกจิ กรรม
นำเสนอผลการทำ
กจิ กรรมเป็นขั้นตอน แตต่ ้องได้รบั ทำกจิ กรรมจงึ ทำ
ชัดเจน
คำแนะนำบา้ ง และ กจิ กรรมเสร็จไม่
ทำกิจกรรมเสร็จ ทันเวลา
ทันเวลา
บันทกึ และสรุปผล ต้องใหค้ ำแนะนำใน
การทำกจิ กรรมได้ การบนั ทึก สรปุ และ
ถกู ต้อง แต่การ นำเสนอผลการทำ
นำเสนอผลการทำ กิจกรรม
กจิ กรรมยงั ไมเ่ ปน็
ข้นั ตอน
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
0-3 ปรบั ปรงุ
45
46
ตารางเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ประเด็นการ คณุ ลกั ษณะของนกั เรียน
ประเมิน
3 2 1
1. มวี นิ ัย
- มีความตรงตอ่ เวลา มีความซือ่ สตั ย์ - มคี วามซือ่ สตั ย์สจุ รติ - มีความตั้งใจทจ่ี ะ
2. มีความ สจุ ริต - มีความตั้งใจที่จะทำงาน ทำงาน
ใฝเ่ รยี นรู้ - มีความรบั ผดิ ชอบ มีความตัง้ ใจท่จี ะ - มีความรบั ผิดชอบ - รจู้ กั เสียสละ
ทำงาน - มีความอดทน - มีความซ่ือสตั ย์
- มเี คารพในสทิ ธขิ องผู้อน่ื ขยนั หมน่ั เพยี ร สุจริต
- มรี ะเบียบและปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์ - รจู้ ักเสยี สละ
- เห็นอก เหน็ ใจผ้อู ืน่ - เห็นอก เห็นใจผอู้ ืน่ - เข้าร่วมกิจกรรม
- มคี วามอดทนขยันหมั่นเพยี ร การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
- รจู้ กั เสยี สละ รจู้ กั กาลเทศะ - เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
- เอาใจใส่และมคี วามพยายามในการ ตา่ ง ๆ
เรยี นรู้ - เอาใจใส่และมคี วาม
- ต้งั ใจในการเรียนรู้ พยายามในการเรยี นรู้
- เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ -มกี ารบนั ทกึ ความรใู้ นระหว่าง
- มีการบันทึกความรูใ้ นระหว่างเรียน เรียน
- จดสรุปจากทค่ี รเู ขยี น
3. มีความ - เอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัติหน้าทท่ี ไ่ี ด้รับ - ทุ่มเท อดทน ไมย่ อ่ ทอ้ ต่อ - ทุ่มเท อดทน ไม่
ม่งุ มน่ั ในการ มอบหมาย ปัญหาในการทำงาน ย่อท้อต่อปัญหาใน
ทำงาน - มีความตงั้ ใจและรับผิดชอบในการ - มกี ารปรับปรงุ และ การทำงาน
ทำงานใหส้ ำเรจ็ พฒั นาการทำงานด้วยตนเอง
- ทมุ่ เท อดทน ไม่ยอ่ ท้อต่อปัญหาใน - เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบตั ิ
การทำงาน หน้าทที่ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย
- มีการปรับปรงุ และพฒั นาการทำงาน
ด้วยตนเอง
เกณฑ์การประเมิน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 มคี ะแนนมากกวา่ หรือเทา่ กบั 7
คะแนน 9-8 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5 คะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 มคี ะแนนน้อยกว่า 7
คะแนน 7 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4 คะแนน
คะแนน 6-5 คิดเป็นรอ้ ยละ 3 คะแนน
คะแนน 4 คดิ เปน็ ร้อยละ 2 คะแนน
คะแนน 3 คดิ เปน็ ร้อยละ 1 คะแนน
เกณฑค์ ณุ ภาพ
3 คะแนน ดี
2 คะแนน พอใช้
1 คะแนน ปรบั ปรงุ
47
48
49
50
ตวั อยา่ งกจิ กรรมท่ี 8.2 รปู รา่ งลักษณะของเรณแู ละการงอกของหลอดเรณู
เรณขู องชบา เรณูของอัญชนั เรณขู องลลิ ลี่ เรณขู องพุทธรกั ษา
เรณขู องชบา เรณูของชบา
ภาพท่ี 1 ลกั ษณะของละอองเรณูของดอกแต่ละชนดิ
ทม่ี า : หนังสอื คู่มือครชู วี วทิ ยาชนั้ มัธยมศึกษาปที ่ี 5
ตัวอย่างผลการทำกิจกรรม เรณูของแพงพวยฝร่ัง
เร่มิ ศึกษา นาทีท่ี 2 นาทที ่ี 5
นาทีท่ี 10 นาทที ี่ 20 นาทที ี่ 30
นาทที ่ี 5
ภาพท่ี 2 การงอกของละอองเรณู
ท่มี า : หนงั สอื ค่มู ือครชู วี วทิ ยาช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 5
51
ใบงาน เรือ่ ง วฏั จกั รชวี ิตของพืช และการสรา้ งเซลล์สืบพนั ธ์ุพชื ดอก
.........../…………./……....
52
เฉลยใบงาน เรอื่ ง วฏั จักรชีวิตของพชื และการสรา้ งเซลล์สืบพนั ธ์ุพชื ดอก
53
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4
กล่มุ สาระการเรียนรูว้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชน้ั มธั ยมศึกษาปที ่ี 5
รายวชิ า ชีววิทยา 3 รหสั ว 32243
หนว่ ยการเรยี นรู้ท่ี 8 การสืบพนั ธุ์ของพืชดอก เวลา 10 ช่ัวโมง
เรอ่ื ง การปฏิสนธคิ ูข่ องพชื ดอก เวลา 1 ช่วั โมง
ภาคเรียนที่ 1/2565
ครูผูส้ อน นางสาวธญั ญาเรศ ทบอาจ
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้
สาระชีววิทยา 3 เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำของพืช การ
ลำเลียงของพืช การสังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต และการ
ตอบสนองของพชื รวมทัง้ นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
ผลการเรียนรู้
3. อธิบายและเปรียบเทียบกระบวนการสรา้ งเซลลส์ บื พันธเุ์ พศผ้แู ละเพศเมียของพืชดอก
และอธบิ ายการปฏสิ นธขิ องพืชดอก
2. สาระสำคญั
การปฏิสนธิของพืชดอกเป็นการปฏิสนธิคู่ โดยคู่หนึ่งเป็นการรวมกันของสเปิร์มเซลล์เซลล์
หนึ่งกับเซลล์ไข่ได้เป็นไซโกตซึ่งจะเจริญและพัฒนาไปเป็นเอ็มบริโอ อีกคู่หนึ่งเป็นการรวมกันของ
สเปริ ์มเซลลอ์ ีกเซลลห์ น่งึ กับโพลารน์ ิวคลีไอ ได้เป็นเอนโดสเปริ ม์ นิวเคลียสซงึ่ จะเจรญิ และพฒั นาต่อไป
เปน็ เอนโดสเปริ ม์
3. สาระการเรยี นรู้
- การปฏสิ นธขิ องพืชดอก
4. จดุ ประสงค์การเรียนรู้
1. ด้านความรู้ (K)
อธิบายการปฏสิ นธิคขู่ องพืชดอกได้
2. ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
เขียนแผนผังแสดงถึงกระบวนการสร้างเซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมียในพืชดอกและการ
ปฏิสนธคิ ูข่ องพชื ดอกได้
54
3. ดา้ นคณุ ลกั ษณะอันพงึ ประสงค์ (A)
เกดิ ความอยากรู้อยากเห็นและความมุง่ มั่นอดทนจากการสังเกตพฤติกรรมในการทำกิจกรรม
และการอภิปรายรว่ มกัน
5. กิจกรรมการเรียนรู้
รปู แบบการสอนทีใ่ ชใ้ นการจัดกจิ กรรมการเรียนรู้ คือ การสอนแบบสบื เสาะหาความรู้ 5E
1. ขั้นสรา้ งความสนใจ (Engagement)
นักเรยี นดรู ปู การถา่ ยเรณูของพืชดอกท่คี รูเตรยี มมา แล้วตอบคำถามท่คี รูถาม ดงั นี้
-
-
-
-
-
-
-
การถ่ายเรณูของพชื ดอก
- หลงั การถ่ายเรณูของพชื ดอกจะเป็นอย่างไร
(แนวคำตอบ เรณจู ะงอกหลอดเรณผู ่านยอดเกสรเพศเมยี แล้วผา่ นกา้ นเกสรเพศเมียลง
ไปจนถงึ รังไขส่ เปิร์มเซลล์ทั้ง 2 เซลล์จะเคลอ่ื นตามทวิ บน์ ิวเคลียสเข้าไปในหลอดเรณูซึ่งจะผ่านเข้าไป
ในออวลุ ทางไมโครไพล์ แล้วปลอ่ ยสเปิรม์ เข้าไปภายในถุงเอ็มบริโอ เพอ่ื เกิดการปฏิสนธติ ่อไป)
2. ขนั้ สำรวจและคน้ หา (Exploration)
2.1 นักเรยี นศึกษารปู การปฏิสนธิคขู่ องพชื ดอกทีค่ รเู ตรียมมา และตอบคำถามเพอ่ื นำเขา้
ไปสเู่ รือ่ งการปฏสิ นธิควู่ ่า การปฏิสนธขิ องพืชดอกเกิดขนึ้ ได้อย่างไร และมีกระบวนการอย่างไร ครูต้ัง
คำถามเพื่อนำไปสู่การอภิปรายดงั น้ี
55
การปฏิสนธิคขู่ องพชื ดอก
- ใน 1 เรณูมสี เปริ ม์ นวิ เคลยี สจำนวนเทา่ ใด แต่ละนวิ เคลยี สมีโครโมโซมก่ีชดุ
- ใน 1 ถงุ เอ็มบรโิ อมเี ซลลไ์ ข่จำนวนเท่าใด และมีโครโมโซมกช่ี ดุ
3. ข้นั อธบิ ายและลงข้อสรุป (Explanation)
3.1 นกั เรยี นและครูร่วมกนั อภปิ รายสรปุ ไดว้ า่ ใน 1 เรณูจะมสี เปิรม์ นิวเคลียส 2 สเปิรม์
นวิ เคลยี สและแต่ละสเปริ ม์ นวิ เคลยี สมีโครโมโซม 1 ชุด สว่ นเซลลไ์ ข่มีจำนวน 1 เซลล์และมโี ครโมโซม
1 ชดุ ครถู ามคำถามเพิม่ เติมดังน้ี
- กระบวนการปฏสิ นธิเกดิ ขึน้ ทใ่ี ด
- ไซโกตเกดิ ได้อยา่ งไรและไซโกตมีโครโมโซมก่ีชุด
- เอนโดสเปิรม์ เกิดไดอ้ ย่างไรและมโี ครโมโซมก่ีชุด
4. ข้นั ขยายความรู้ (Elaboration)
นักเรยี นและครูรว่ มกันอภปิ รายเพิม่ เตมิ ว่า กระบวนการปฏสิ นธเิ กดิ ขนึ้ ในรงั ไข่ โดย
เกิดขึ้น 2 คู่ในคราวเดยี วกนั คูแ่ รกเกดิ จากสเปริ ม์ นวิ เคลียสหน่ึงไปปฏิสนธกิ ับเซลลไ์ ขซ่ ง่ึ มี 1 เซลล์ ได้
เป็นไซโกตซึ่งมีจำนวนเซลล์ 1 เซลล์และมีโครโมโซม 2 ชุด หรือ 2n ส่วนอีกคู่หนึ่งเกิดจากสเปิร์ม
นวิ เคลียสอกี สเปริ ม์ หน่ึงไปผสมกบั โพลาร์นิวคลีไอซ่งึ มี 2 นวิ เคลยี สได้เป็นเอนโดสเปิร์มนิวเคลียสซึ่งมี
โครโมโซม 3 ชุด หรือ 3n ซึ่งการปฏิสนธิ ทั้ง 2 ครั้ง ที่เกิดขึ้นนี้จะเกิดขึ้นพร้อมกันจึงเรียกว่า การ
ปฏสิ นธคิ ู่ จากนน้ั ใหน้ ักเรียนเขียนแผนผังสรุป และทำใบงานเร่อื ง การปฏสิ นธิของพชื ดอก
56
5. ขน้ั ประเมนิ (Evaluation)
นักเรยี นร่วมกนั ตอบคำถามทคี่ รูถามเพอ่ื ประเมนิ ความรู้ว่า การปฏสิ นธขิ องพืชดอก
แตกต่างจากการปฏิสนธิของสัตว์อย่างไร
(แนวคำตอบ ในพืชมีการปฏสิ นธิคู่ คือสเปริ ม์ นวิ เคลียสหนงึ่ ปฏิสนธิกบั เซลลไ์ ขไ่ ด้เปน็
ไซโกต (2n) ซึง่ จะพฒั นาเปน็ เอ็มบรโิ อและอีกสเปริ ์มนิวเคลียสหนงึ่ ผสมกบั โพลารน์ ิวคลไี อได้เอนโด
สเปิรม์ นิวเคลียส (3n) ซง่ึ จะพฒั นาเปน็ เอนโดสเปิรม์ ทำหนา้ ท่ีเปน็ แหลง่ อาหารของเอ็มบรโิ อ สว่ นสัตว์
น้นั มีสเปริ ์ม 1 เซลลท์ ่จี ะปฏิสนธกิ ับเซลลไ์ ข่ 1 เซลล์ได้เป็นไซโกต (2n) ซึ่งจะพฒั นาเป็นเอ็มบริโอ)
6. สอ่ื / แหลง่ เรียนรู้
1. หนงั สือเรยี นรายวชิ าเพมิ่ เติมวิทยาศาสตรช์ วี วทิ ยา เล่ม 3 ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 5 สสวท.
2. เพาเวอร์พอยต์ เรือ่ ง การปฏิสนธิของพชื ดอก
7. ชิน้ งาน/ภาระงาน
1. ใบงาน เรอ่ื ง การปฏสิ นธขิ องพชื ดอก
2. เขยี นแผนผงั แสดงถงึ กระบวนการสร้างเซลล์สบื พันธเ์ุ พศผู้และเพศเมียในพืชดอกและการ
ปฏสิ นธิคขู่ องพืชดอก
57
8. การวัดและประเมนิ ผล
จุดประสงค์การเรยี นรู้ วิธีวัดผล เคร่อื งมือวัด เกณฑก์ ารผา่ น
จุดประสงค์
ด้านความรู้ (K) ตรวจใบงาน ใบงาน เรอื่ ง การ
อธิบายการปฏิสนธคิ ู่ของพชื ดอกได้ ระดบั คุณภาพพอใช้
ขนึ้ ไปถอื วา่ ผา่ นเกณฑ์
เรื่อง การ ปฏิสนธขิ องพืช ระดับคุณภาพพอใช้
ข้นึ ไปถือวา่ ผา่ นเกณฑ์
ปฏสิ นธิของพชื ดอก
ผ่านเกณฑร์ ้อยละ 70
ดอก ขึ้นไป
ดา้ นทกั ษะกระบวนการ (P)
เขียนแผนผงั แสดงถึงกระบวนการสร้าง เขยี นแผนผงั ตรวจแผนผงั แสดง
เซลล์สืบพันธุ์เพศผู้และเพศเมียในพืช แสดงถึง ถงึ กระบวนการ
ดอกและการปฏสิ นธิคู่ของพืชดอก กระบวนการ สร้างเซลล์สืบพนั ธ์ุ
สร้างเซลล์ เพศผู้และเพศเมยี
สืบพนั ธุ์เพศผู้ ในพืชดอกและการ
และเพศเมียใน ปฏสิ นธิคขู่ องพืช
พืชดอกและ ดอก
การปฏิสนธคิ ู่
ของพชื ดอก
ดา้ นคุณลกั ษณะท่พี งึ ประสงค์ (A)
เกิดความอยากรู้อยากเห็นและความ ประเมนิ แบบประเมิน
มุ่งมั่นอดทนจากการสังเกตพฤติกรรม คุณลักษณะอัน คุณลักษณะอันพึง
ในการทำกิจกรรมและการอภิปราย พึงประสงค์
รว่ มกนั ประสงค์
58
59
เกณฑ์การประเมนิ ผลการทำใบงาน
ประเดน็ การประเมนิ คาํ อธิบายระดบั คุณภาพ/ระดับคะแนน
4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ทำใบงานถูกตอ้ ง
ความถูกตอ้ ง ทำใบงานถูกตอ้ ง ทำใบงานถกู ตอ้ ง ทำใบงานถูกตอ้ ง นอ้ ยกว่ารอ้ ยละ 50
ร้อยละ 80 ข้ึนไป ร้อยละ 65 – 79 รอ้ ยละ 50 - 64
ทำใบงานเปน็
ทำใบงานมคี วามเป็น ทำใบงานมีความเปน็ ทำใบงานเปน็ ระเบียบ สะอาด
เรยี บร้อยพอใช้
ความเปน็ ระเบียบ ระเบยี บ สะอาด ระเบียบ สะอาด ระเบยี บ สะอาด ส่งใบงานล่าชา้ กว่า
ความตรงตอ่ เวลา เวลาท่ีกำหนด
เรยี บร้อยดมี าก เรียบรอ้ ยดี เรียบรอ้ ยปานกลาง มากกว่า 3 วัน
ส่งใบงานทันตาม ส่งใบงานลา่ ชา้ กว่า ส่งใบงานล่าชา้ กว่า
เวลาที่กำหนด เวลาท่ีกำหนดไป 1 วัน เวลาที่กำหนดไป 3
วนั
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ ระดับคุณภาพ
ช่วงคะแนน ควรปรับปรุงอยา่ งยง่ิ
0-4
5-6 ควรปรับปรงุ
7-8 พอใช้
9 – 10 ดี
11 - 12
ดีมาก
เกณฑ์การผ่าน ระดบั คุณภาพพอใช้ข้นึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
60
61
เกณฑ์การประเมนิ ผลการทำแผนผัง
ประเดน็ การประเมิน คําอธบิ ายระดับคณุ ภาพ/ระดับคะแนน
4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ทำแผนผงั ถูกตอ้ ง
ความถูกต้อง ทำแผนผังถูกตอ้ ง ทำแผนผังถกู ตอ้ ง ทำแผนผงั ถูกตอ้ ง นอ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 50
ร้อยละ 80 ขึ้นไป ร้อยละ 65 – 79 รอ้ ยละ 50 - 64
ทำแผนผงั เปน็
ทำแผนผงั มคี วามเปน็ ทำแผนผงั มคี วามเป็น ทำแผนผงั เป็น ระเบยี บ สะอาด
เรียบรอ้ ยพอใช้
ความเป็นระเบยี บ ระเบียบ สะอาด ระเบียบ สะอาด ระเบียบ สะอาด สง่ แผนผังล่าช้ากว่า
ความตรงต่อเวลา เวลาท่ีกำหนด
เรียบรอ้ ยดมี าก เรยี บร้อยดี เรียบรอ้ ยปานกลาง มากกวา่ 3 วัน
ส่งแผนผังทันตาม ส่งแผนผังล่าช้ากวา่ สง่ แผนผังล่าช้ากวา่
เวลาท่ีกำหนด เวลาท่ีกำหนดไป 1 วัน เวลาท่ีกำหนดไป 3
วัน
เกณฑก์ ารตัดสนิ คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ควรปรับปรุงอยา่ งยง่ิ
0-4
5-6 ควรปรบั ปรงุ
7-8 พอใช้
9 – 10 ดี
11 - 12
ดมี าก
เกณฑ์การผ่าน ระดับคุณภาพพอใช้ข้นึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
62
63
ตารางเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ประเด็นการ คณุ ลกั ษณะของนกั เรียน
ประเมิน
3 2 1
1. มวี นิ ัย
- มีความตรงตอ่ เวลา มีความซือ่ สตั ย์ - มคี วามซือ่ สตั ย์สจุ รติ - มีความตั้งใจทจ่ี ะ
2. มีความ สจุ ริต - มีความตั้งใจที่จะทำงาน ทำงาน
ใฝเ่ รยี นรู้ - มีความรบั ผดิ ชอบ มีความตัง้ ใจท่จี ะ - มีความรบั ผิดชอบ - รจู้ กั เสียสละ
ทำงาน - มีความอดทน - มีความซ่ือสตั ย์
- มเี คารพในสทิ ธขิ องผู้อน่ื ขยนั หมน่ั เพยี ร สุจริต
- มรี ะเบียบและปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์ - รจู้ ักเสยี สละ
- เห็นอก เหน็ ใจผ้อู ืน่ - เห็นอก เห็นใจผอู้ ืน่ - เข้าร่วมกิจกรรม
- มคี วามอดทนขยันหมั่นเพยี ร การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
- รจู้ กั เสยี สละ รจู้ กั กาลเทศะ - เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
- เอาใจใส่และมคี วามพยายามในการ ตา่ ง ๆ
เรยี นรู้ - เอาใจใส่และมคี วาม
- ต้งั ใจในการเรียนรู้ พยายามในการเรยี นรู้
- เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ -มกี ารบนั ทกึ ความรใู้ นระหว่าง
- มีการบันทึกความรูใ้ นระหว่างเรียน เรียน
- จดสรุปจากทค่ี รเู ขยี น
3. มีความ - เอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัติหน้าทท่ี ไ่ี ด้รับ - ทุ่มเท อดทน ไมย่ อ่ ทอ้ ต่อ - ทุ่มเท อดทน ไม่
ม่งุ มน่ั ในการ มอบหมาย ปัญหาในการทำงาน ย่อท้อต่อปัญหาใน
ทำงาน - มีความตงั้ ใจและรับผิดชอบในการ - มกี ารปรับปรงุ และ การทำงาน
ทำงานใหส้ ำเรจ็ พฒั นาการทำงานด้วยตนเอง
- ทมุ่ เท อดทน ไม่ยอ่ ท้อต่อปัญหาใน - เอาใจใส่ตอ่ การปฏิบตั ิ
การทำงาน หน้าทที่ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย
- มีการปรับปรงุ และพฒั นาการทำงาน
ด้วยตนเอง
เกณฑ์การประเมิน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 มคี ะแนนมากกวา่ หรือเทา่ กบั 7
คะแนน 9-8 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5 คะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 มคี ะแนนน้อยกว่า 7
คะแนน 7 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4 คะแนน
คะแนน 6-5 คิดเป็นรอ้ ยละ 3 คะแนน
คะแนน 4 คดิ เปน็ ร้อยละ 2 คะแนน
คะแนน 3 คดิ เปน็ ร้อยละ 1 คะแนน
เกณฑค์ ณุ ภาพ
3 คะแนน ดี
2 คะแนน พอใช้
1 คะแนน ปรบั ปรงุ
64
65
66
67
ใบงาน เร่ือง การปฏิสนธขิ องพืชดอก
68
เฉลยใบงาน เรอื่ ง การปฏสิ นธขิ องพืช
ดอก
69
แผนการจดั การเรยี นรทู้ ่ี 5
กลุ่มสาระการเรยี นรวู้ ิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ชัน้ มัธยมศกึ ษาปที ่ี 5
รายวิชา ชวี วทิ ยา 3 รหัส ว 32243
หน่วยการเรียนรู้ที่ 8 การสบื พนั ธ์ุของพืชดอก เวลา 10 ชั่วโมง
เรื่อง การเกดิ ผลและเมล็ด เวลา 1 ช่วั โมง
ภาคเรียนที่ 1/2565
ครผู ู้สอน นางสาวธัญญาเรศ ทบอาจ
1. มาตรฐานการเรยี นรู้ และผลการเรยี นรู้
สาระชีววิทยา 3 เข้าใจส่วนประกอบของพืช การแลกเปลี่ยนแก๊สและคายน้ำของพืช การ
ลำเลียงของพืช การสังเคราะห์ด้วยแสง การสืบพันธุ์ของพืชดอกและการเจริญเติบโต และการ
ตอบสนองของพชื รวมทง้ั นำความร้ไู ปใชป้ ระโยชน์
ผลการเรียนรู้
4. อธิบายการเกิดผลและการเกิดเมล็ดของพืชดอกโครงสร้างของเมล็ดและผลและ
ยกตัวอยา่ งการใช้ประโยชนจ์ ากโครงสร้างต่าง ๆ ของเมลด็ และผล
2. สาระสำคญั
ภายหลังการปฏิสนธิ รังไข่จะมกี ารเจรญิ และพัฒนาไปเปน็ ผล และออวุลจะมีการเจริญและ
พัฒนาไปเป็นเมล็ด โครงสร้างของผลประกอบด้วยผนังผลและเมล็ด ส่วนโครงสร้างของเมล็ด
ประกอบด้วยเปลือกเมล็ดเอ็มบริโอและเอนโดสเปิร์ม โครงสร้างแต่ละส่วนของผลและเมล็ดมี
ประโยชน์ตอ่ พืชและต่อส่ิงมชี ีวิตอ่ืน ซง่ึ มนุษยใ์ ชป้ ระโยชนจ์ ากโครงสรา้ งของผลและเมล็ดในด้านต่างๆ
3. สาระการเรียนรู้
- การเกดิ เมล็ดและการเกิดผล
- โครงสรา้ งของเมลด็ และผล
4. จุดประสงคก์ ารเรยี นรู้
1. ดา้ นความรู้ (K)
อธิบายการเกิดเมลด็ และผล โครงสร้างของเมล็ดและผลได้
2. ดา้ นทักษะกระบวนการ (P)
เขียนแผนผังความคดิ เกีย่ วกบั เกดิ เมล็ดและผลโครงสรา้ งของเมลด็ และผลได้
70
3. ดา้ นคุณลักษณะอนั พงึ ประสงค์ (A)
นกั เรียนรบั ผิดชอบตอ่ หนา้ ที่และงานทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
5. กิจกรรมการเรยี นรู้
รปู แบบการสอนท่ใี ชใ้ นการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ คือ การสอนแบบสืบเสาะหาความรู้ 5E
1. ขัน้ สร้างความสนใจ (Engagement)
นักเรียนดูภาพผลไม้ชนิดตา่ ง ๆ แล้วถามนักเรียนวา่ ผลไมแ้ ต่ละชนดิ มคี วามเหมอื นหรือ
แตกตา่ งกนั อย่างไร
(แนวคำตอบ ผลไม้แต่ละชนิดมีรูปร่างลักษณะขนาดเปลือกของผลที่มองเห็นภายนอก
แตกต่างกันและเมื่อผ่าผลไม้แต่ละชนิดจะพบเมล็ดอยู่ข้างในซึ่งเมล็ดก็มีรูปร่างลักษณะ
และจำนวนทีแ่ ตกต่างกัน)
2. ขัน้ สำรวจและคน้ หา (Exploration)
2.1 นกั เรยี นศึกษารปู 8.13 ดอกมะเขือและผลมะเขอื ในหนงั สอื เรยี นชีววทิ ยา ม.5 เล่ม 3
เพื่อให้นักเรียนเปรียบเทียบส่วนของดอกที่เจริญไปเป็นผล แล้วถามนักเรยี นวา่ ผลและเมล็ดของพชื
พฒั นามาจากส่วนใดของดอก จากนัน้ ให้นักเรียนศกึ ษาเกี่ยวกับผนงั ผลในรูป 8.14 ผนังผล ในหนังสือ
เรยี นชีววิทยา ม.5 เล่ม 3
2.2 นกั เรยี นศึกษารปู 8.15 ผลมเี นอ้ื และรูป 8.16 ผลแหง้ ในหนงั สอื เรียนชีววิทยา ม.5
เลม่ 3 แล้วอภปิ รายรว่ มกนั เกีย่ วกับลักษณะของผนงั ผล
2.3 นกั เรียนศกึ ษารูป 8.17 การเจรญิ และพัฒนาของเอม็ บริโอและเอนโดสเปิร์ม
ในหนังสือเรียนชีววิทยา ม.5 เล่ม 3 เพื่อศึกษาเกี่ยวกับการเจริญและพัฒนาของเอ็มบริโอและ
เอนโดสเปริ ์ม
2.4 ในการศกึ ษาเก่ียวกับเมล็ดและส่วนประกอบต่าง ๆ ครูแจกเมล็ดทแี่ ชน่ ้ำจนเปลือกนุ่ม
ใหแ้ ก่นักเรียนเพ่อื สังเกตเมล็ดในประเดน็ ตา่ ง ๆ ตอ่ ไปนี้
71
- ลักษณะภายนอกของเมลด็
- ลักษณะภายในของเมลด็
- สว่ นประกอบของเอ็มบรโิ อ
- จำนวนใบเลยี้ ง
2.5 นกั เรียนสรุปสว่ นประกอบของเมลด็ เป็นแผนผงั ความคิด
3. ข้ันอธบิ ายและลงข้อสรปุ (Explanation)
3.1 นกั เรียนและครูร่วมกนั อธบิ ายและลงขอ้ สรุป ผลพัฒนามาจากรงั ไข่ ผนงั รังไข่
เปลี่ยนแปลงไปเป็นผนังผลและเมล็ดพัฒนามาจากออวุลจากน้ันให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับผนงั ผลใน
รปู 8.14 ผนังผล ในหนงั สือเรยี นชีววทิ ยา ม.5 เลม่ 3 อาจแบง่ ไดเ้ ป็น 3 ชนั้ คือ ผนังผลชัน้ นอก ผนัง
ผลชั้นกลาง และผนังผลชัน้ ใน ผลบางชนิดสามารถแยกผนงั ผลออกเป็น 3 ชั้นได้ชัดเจน เช่น มะม่วง
และมะพร้าว แตผ่ ลบางชนดิ ไมส่ ามารถแยกผนงั ผลเป็น 3 ชั้นออกจากกันได้อย่างชัดเจน เช่น เมลอน
มะเขือเทศ ฟักทอง และแตงโม สว่ นทีเ่ ป็นเนอ้ื ผล คอื ผนงั ผลชั้นกลางและผนังผลชน้ั ใน
3.2 นกั เรียนและครูอภิปรายร่วมกันเก่ียวกบั ลักษณะของผนงั ผล ซง่ึ นกั เรยี นควรสรุปได้ว่า
ลักษณะของผนังผลอาจอ่อนนุม่ มีลักษณะอวบน้ำ เรียกว่า ผลมีเนื้อ และผนังผลที่แห้งแข็ง เรียกว่า
ผลแห้งซึ่งผลแห้งน้นั มี 2 แบบ คอื ผลแหง้ แบบแตกและผลแห้งแบบไม่แตก
3.3 อภิปรายเกยี่ วกบั เมลด็ และเอ็มบรโิ อ หลงั การปฏิสนธอิ อวลุ จะเจริญไปเป็นเมล็ด โดย
ผนังออวุลจะเปล่ียนไปเป็นเปลือกเมล็ด ซึ่งห้มุ ล้อมเอ็มบริโอและเอนโดสเปิรม์ ที่อยภู่ ายในเอาไว้
เอนโดสเปิรม์
ใบเลยี้ ง
ยอดแรกเกดิ
เมลด็ บัว ไฮโพคอทิล เมล็ดละมุด
รากแรกเกดิ
ภาพท่ี 1 โครงสร้างของเมลด็ และเอ็มบรโิ อของเมล็ดบัวและละมุด
ทม่ี า : หนงั สอื ค่มู ือครชู ีววิทยาช้นั มัธยมศึกษาปีที่ 5 สสวท.
72
4. ขั้นขยายความรู้ (Elaboration)
นกั เรียนตอบคำถามที่ครเู ตรียมมาดังน้ี
- ขา้ วสารทผ่ี ่านการขดั สเี อารำข้าวออกไปจะทำให้จมูกข้าวหรือเอ็มบริโอซึง่ อยทู่ ป่ี ลาย
เมลด็ หลดุ ออกไปด้วยขา้ วสารจะงอกเปน็ ต้นกล้าได้หรอื ไมเ่ พราะเหตุใด
(แนวคำตอบ งอกไม่ได้เพราะเอม็ บรโิ อเปน็ ส่วนทจี่ ะเจรญิ ไปเป็นส่วนรากและลำต้นของ
ตน้ กล้า)
5. ข้นั ประเมิน (Evaluation)
นกั เรยี นรว่ มกนั ตอบคำถามท่ีครถู ามเพอ่ื ประเมินความรู้ว่า ถา้ เมลด็ ไมม่ ีเอนโดสเปริ ์มจะ
งอกเปน็ ตน้ กลา้ ไดห้ รอื ไมเ่ พราะเหตใุ ด
(แนวคำตอบ งอกไดเ้ พราะเมล็ดพชื บางชนดิ เมอ่ื โตเต็มท่ีจะไมพ่ บเอนโดสเปิร์มแต่จะมใี บ
เลี้ยงทท่ี ำหน้าทเ่ี ก็บสะสมอาหารแทนเอนโดสเปริ ์ม)
6. สือ่ / แหลง่ เรยี นรู้
1. หนังสือเรยี นรายวิชาเพิ่มเตมิ วิทยาศาสตรช์ วี วทิ ยา เล่ม 3 ช้นั มัธยมศกึ ษาปีท่ี 5 สสวท.
2. เพาเวอร์พอยต์ เรอ่ื ง การเกิดผลและเมลด็
7. ช้นิ งาน/ภาระงาน
1. เขยี นแผนผังความคดิ เกี่ยวกับเกดิ เมล็ดและผลโครงสรา้ งของเมล็ดและผล
73
8. การวดั และประเมนิ ผล
จดุ ประสงค์การเรยี นรู้ วธิ ีวดั ผล เครอื่ งมอื วัด เกณฑ์การผ่าน
จุดประสงค์
ด้านความรู้ (K)
อธิบายการเกิดเมล็ดและผล โครงสร้าง สังเกตจากการ แบบประเมินการ ผา่ นเกณฑ์ระดับดีข้นึ ไป
ของเมล็ดและผล ปฏบิ ตั กิ จิ กรรม
ตอบคำถามและ
แสดงความ
คิดเหน็
ด้านทกั ษะกระบวนการ (P)
เขยี นแผนผังความคิดเก่ียวกับเกิดเมล็ด ตรวจแผนผงั แผนผงั ความคิด ระดบั คณุ ภาพพอใช้
และผลโครงสร้างของเมล็ดและผล ความคิดเกีย่ วกับ เกย่ี วกบั เกิด ขน้ึ ไปถอื ว่าผา่ นเกณฑ์
เกดิ เมลด็ และผล เมลด็ และผล
โครงสร้างของ โครงสรา้ งของ
เมล็ดและผล เมล็ดและผล
ดา้ นคุณลกั ษณะที่พงึ ประสงค์ (A) ประเมิน แบบประเมนิ ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70
รับผิดชอบต่อหน้าที่และงานที่ได้รับ คณุ ลกั ษณะอัน คณุ ลกั ษณะอนั ข้นึ ไป
มอบหมาย พงึ ประสงค์ พึงประสงค์
74
75
เกณฑก์ ารประเมนิ การปฏิบัตกิ จิ กรรม
ประเดน็ ที่ ระดบั คะแนน
ประเมนิ
7. การปฏิบตั ิ 4 32 1
กิจกรรม ทำกจิ กรรมตาม ต้องใหค้ วาม
ขนั้ ตอน และใช้ ทำกจิ กรรมตาม ต้องให้ความ ชว่ ยเหลอื อย่างมาก
8. ความ อปุ กรณไ์ ดอ้ ย่าง ในการทำกจิ กรรม
คลอ่ งแคล่ว ถกู ต้อง ข้นั ตอน และใช้ ช่วยเหลอื บา้ งในการ และการใช้อปุ กรณ์
ในขณะ
ปฏบิ ตั ิ มคี วามคล่องแคล่ว อุปกรณ์ได้อย่าง ทำกิจกรรม และการ ทำกจิ กรรมเสรจ็ ไม่
กิจกรรม ในขณะทำกจิ กรรม ทันเวลา และทำ
โดยไม่ต้องไดร้ ับคำ ถกู ตอ้ ง แต่อาจตอ้ ง ใช้อปุ กรณ์ อุปกรณ์เสยี หาย
9. การบันทกึ ช้แี นะ และทำ
สรปุ และ กิจกรรมเสรจ็ ไดร้ บั คำแนะนำบ้าง ตอ้ งใหค้ วาม
นำเสนอผล ทันเวลา ช่วยเหลืออยา่ งมาก
การปฏบิ ัติ บนั ทึกและสรุปผล มคี วามคล่องแคล่ว ขาดความ ในการบันทกึ สรปุ
กจิ กรรม การทำกจิ กรรมได้ และนำเสนอผลการ
ถกู ตอ้ ง รัดกุม ในขณะทำกจิ กรรม คล่องแคล่วในขณะ ทำกจิ กรรม
นำเสนอผลการทำ
กจิ กรรมเป็นขั้นตอน แตต่ ้องได้รบั ทำกจิ กรรมจงึ ทำ
ชัดเจน
คำแนะนำบ้าง และ กจิ กรรมเสร็จไม่
ทำกิจกรรมเสร็จ ทันเวลา
ทันเวลา
บันทกึ และสรุปผล ต้องใหค้ ำแนะนำใน
การทำกจิ กรรมได้ การบนั ทึก สรปุ และ
ถกู ต้อง แตก่ าร นำเสนอผลการทำ
นำเสนอผลการทำ กิจกรรม
กจิ กรรมยังไมเ่ ปน็
ข้นั ตอน
เกณฑก์ ารตัดสินคณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ระดับคณุ ภาพ
10-12 ดีมาก
7-9 ดี
4-6 พอใช้
0-3 ปรบั ปรงุ
76
77
เกณฑ์การประเมนิ ผลการทำแผนผังความคิด
ประเด็นการประเมนิ คาํ อธบิ ายระดับคณุ ภาพ/ระดับคะแนน
4 คะแนน 3 คะแนน 2 คะแนน 1 คะแนน
ทำแผนผงั ความคดิ
ทำแผนผังความคดิ ทำแผนผงั ความคดิ ทำแผนผงั ความคิด ถกู ตอ้ ง
ความถกู ต้อง ถกู ตอ้ ง น้อยกวา่ รอ้ ยละ 50
ถกู ตอ้ ง ถกู ตอ้ ง ทำแผนผงั ความคิด
เป็นระเบยี บ สะอาด
ร้อยละ 80 ขึ้นไป รอ้ ยละ 65 – 79 รอ้ ยละ 50 - 64 เรียบรอ้ ยพอใช้
ความเปน็ ระเบียบ ทำแผนผังความคิดมี ทำแผนผงั ความคดิ มี ทำแผนผงั ความคิด สง่ แผนผังความคดิ
ความเป็นระเบยี บ ความเป็นระเบยี บ เป็นระเบียบ สะอาด ลา่ ช้ากว่าเวลาที่
สะอาด เรยี บร้อยดี สะอาด เรียบร้อยดี กำหนดมากกวา่ 3
เรยี บร้อยปานกลาง วัน
มาก
สง่ แผนผงั ความคิด ส่งแผนผงั ความคิด ส่งแผนผังความคิด
ความตรงต่อเวลา ทันตามเวลาที่ ลา่ ช้ากว่าเวลาท่ี ลา่ ชา้ กว่าเวลาที่
กำหนด กำหนดไป 1 วัน กำหนดไป 3 วัน
เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ ระดบั คณุ ภาพ
ช่วงคะแนน ควรปรบั ปรงุ อยา่ งย่ิง
0-4 ควรปรับปรงุ
5-6
7-8 พอใช้
9 – 10 ดี
11 - 12 ดีมาก
เกณฑ์การผา่ น ระดับคุณภาพพอใช้ขนึ้ ไปถือวา่ ผ่านเกณฑ์
78
79
ตารางเกณฑ์การให้คะแนนแบบประเมนิ คณุ ลักษณะอันพึงประสงค์
ประเด็นการ คณุ ลกั ษณะของนกั เรียน
ประเมิน
3 2 1
1. มวี นิ ัย
- มีความตรงตอ่ เวลา มีความซือ่ สตั ย์ - มคี วามซือ่ สตั ยส์ ุจรติ - มีความตั้งใจทจ่ี ะ
2. มีความ สจุ ริต - มีความตั้งใจท่ีจะทำงาน ทำงาน
ใฝเ่ รยี นรู้ - มีความรบั ผดิ ชอบ มีความตัง้ ใจท่จี ะ - มีความรับผิดชอบ - รจู้ กั เสียสละ
ทำงาน - มีความอดทน - มีความซ่ือสตั ย์
- มเี คารพในสทิ ธขิ องผู้อน่ื ขยนั หมน่ั เพยี ร สุจริต
- มรี ะเบียบและปฏิบตั ติ ามกฎเกณฑ์ - รจู้ ักเสียสละ
- เห็นอก เหน็ ใจผ้อู ืน่ - เห็นอก เห็นใจผ้อู นื่ - เข้าร่วมกิจกรรม
- มคี วามอดทนขยันหมั่นเพยี ร การเรยี นรู้ตา่ ง ๆ
- รจู้ กั เสยี สละ รจู้ กั กาลเทศะ - เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้
- เอาใจใส่และมคี วามพยายามในการ ตา่ ง ๆ
เรยี นรู้ - เอาใจใสแ่ ละมีความ
- ต้งั ใจในการเรียนรู้ พยายามในการเรยี นรู้
- เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรตู้ า่ ง ๆ -มกี ารบนั ทกึ ความรใู้ นระหว่าง
- มีการบันทึกความรูใ้ นระหว่างเรียน เรียน
- จดสรุปจากทค่ี รเู ขยี น
3. มีความ - เอาใจใสต่ อ่ การปฏบิ ัติหน้าทท่ี ไ่ี ด้รับ - ทุ่มเท อดทน ไม่ยอ่ ทอ้ ต่อ - ทุ่มเท อดทน ไม่
ม่งุ มน่ั ในการ มอบหมาย ปัญหาในการทำงาน ย่อท้อต่อปัญหาใน
ทำงาน - มีความตงั้ ใจและรับผิดชอบในการ - มกี ารปรับปรงุ และ การทำงาน
ทำงานใหส้ ำเรจ็ พฒั นาการทำงานด้วยตนเอง
- ทมุ่ เท อดทน ไม่ยอ่ ท้อต่อปัญหาใน - เอาใจใสต่ อ่ การปฏิบตั ิ
การทำงาน หน้าทที่ ่ไี ดร้ ับมอบหมาย
- มีการปรับปรงุ และพฒั นาการทำงาน
ด้วยตนเอง
เกณฑ์การประเมิน ผ่านเกณฑ์ร้อยละ 70 มคี ะแนนมากกวา่ หรือเทา่ กบั 7
คะแนน 9-8 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 5 คะแนน ไม่ผ่านเกณฑ์รอ้ ยละ 70 มคี ะแนนน้อยกว่า 7
คะแนน 7 คดิ เปน็ รอ้ ยละ 4 คะแนน
คะแนน 6-5 คิดเป็นรอ้ ยละ 3 คะแนน
คะแนน 4 คดิ เปน็ ร้อยละ 2 คะแนน
คะแนน 3 คดิ เปน็ ร้อยละ 1 คะแนน
เกณฑค์ ณุ ภาพ
3 คะแนน ดี
2 คะแนน พอใช้
1 คะแนน ปรบั ปรงุ