The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.
Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by prasopchock.pra, 2021-06-10 06:07:04

แผนการจัดการเรียนรู้ ว21101 วิทยาศาสตร์พื้นฐาน

แบบประเมินคุณลักษณะอันพึงประสงค์


คำชี้แจง : ให้ผู้สอนสังเกตพฤติกรรมของนักเรียนในระหว่างเรียนและนอกเวลาเรียน แล้วขีด ✓ลงในช่องที่ตรงกับระดับ
คะแนน

การมี
การทำงาน
การแสดง การยอมรับฟัง ตามที่ได้รับ ความมีน้ำใจ ส่วนร่วมในการ
ลำดับ ชื่อ–สกุล ความคิดเห็น คนอื่น มอบหมาย ปรับปรุง รวม
15
ท ี่ ของนักเรียน ผลงานกลุ่ม
3 2 1 3 2 1 3 2 1 3 1 3 2 1 คะแนน
2
















ลงชื่อ ................................................... ผู้ประเมิน
................/.............../...............


เกณฑ์การให้คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมอย่างสม่ำเสมอ ให้ 3 คะแนน
ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบ่อยครั้ง ให้ 2 คะแนน

ปฏิบัติหรือแสดงพฤติกรรมบางครั้ง ให้ 1 คะแนน



เกณฑ์การตัดสินคุณภาพ

ช่วงคะแนน ระดับคุณภาพ
14-15 ดีมาก
11-13 ดี

8-10 พอใช้
ต่ำกว่า 8 ปรับปรุง


48

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2


การเปลี่ยนแปลงของสาร

เวลา 4 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด

1.1 ตัวชี้วัด

ว 2.1 ม.1/10 อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสสาร โดย

ใช้หลักฐานเชิงประจักษ์ และแบบจำลอง


2. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างพลังงานความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสสารได้ (K)
2. สามารถระบุการเปลี่ยนแปลงสถานะของสสารที่อยู่รอบตัวได้ (P)


3. ใฝ่รู้และรับผดชอบหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย (A)

3. สาระการเรียนรู้


สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

- ความร้อนมีผลตอการเปลี่ยนสถานะของสสาร เมื่อ พิจารณาตามหลักสตรของสถานศึกษา

ให้ความร้อนแก่ของแข็ง อนุภาคของของแข็ง จะมี

พลังงานและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจนถึงระดับหนึ่ง ซึ่ง
ของแข็งจะใช้ความร้อนในการเปลี่ยนสถานะเป็น

ของเหลว เรียก ความร้อนที่ใช้ในการเปลี่ยนสถานะ

จากของแข็งเป็นของเหลวว่า ความร้อนแฝงของการ
หลอมเหลว และอุณหภูมิขณะเปลี่ยนสถานะจะคงท ี่

เรียกอุณหภูมินี้ว่า จุดหลอมเหลว

- เมื่อให้ความร้อนแก่ของเหลว อนุภาคของของเหลว
จะมีพลังงานและอุณหภูมิเพิ่มขึ้นจนถึงระดับหนึ่ง ซึ่ง

ของเหลวจะใช้ความร้อนในการเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊ส
เรียกความร้อนที่ใชในการเปลี่ยนสถานะจากของเหลว

เป็นแก๊สว่า ความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอ และ

อุณหภูมิขณะเปลี่ยนสถานะจะคงที่ เรียกอุณหภูมินี้ว่า
จุดเดือด




49

- เมื่อทำให้อุณหภูมิของแก๊สลดลงจนถึงระดับหนึ่ง
แก๊สจะเปลี่ยนสถานะเป็นของเหลว เรียกอุณหภูมินี้ว่า

จุดควบแน่น ซึ่งมีอุณหภูมิเดียวกับจุดเดือดของ

ของเหลวนั้น

- เมื่อทำให้อุณหภูมิของของเหลวลดลงจนถึงระดบ
หนึ่ง ของเหลวจะเปลี่ยนสถานะเป็นของแข็ง เรียก

อุณหภูมินี้ว่า จุดเยือกแข็งซึ่งมีอุณหภูมิเดียวกับจด

หลอมเหลวของของแข็งนั้น

4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

สารที่อยู่รอบตัวเราล้วนมีสมบัติทางกายภาพ และสมบัติทางเคมีที่แตกต่างกัน ซึ่งอุณหภูมิภายนอกมี
ผลต่อสถานะของสาร ซึ่งเป็นสมบัติทางกายภาพของสารอย่างหนึ่ง เช่น น้ำแข็ง (ของแข็ง) เมื่อได้รับความ

ร้อนจะละลายกลายเป็นน้ำ (ของเหลว) เมื่อน้ำได้รับความร้อนตอเนื่องจะเดอด และระเหยกลายเป็นไอ (แก๊ส)


เป็นต้น ซึ่งความร้อนททำให้ของแข็งเปลยนสถานะเป็นของเหลว เรียกว่า ความร้อนแฝงของการหลอมเหลว
ี่
ี่
ี่
และเรียกความร้อนททำให้ของเหลวเปลี่ยนสถานะเป็นแก๊สว่า ความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอ


5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมั่นในการทำงาน

2) ทักษะการระบุ

3) ทักษะการนำความรู้ไปใช ้
4) ทักษะการเชื่อมโยง

5) ทักษะการจำแนกประเภท

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


6. กิจกรรมการเรียนรู้


 แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีสอน/เทคนิค : สบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)







50

ชั่วโมงที่ 1



ขั้นนำ

กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูถามคำถาม prior knowledge กระตุ้นความคิดของนักเรียนว่า ก้อนน้ำแข็งที่วางทิ้งไว้

กลางแจ้งจะมีการเปลี่ยนแปลงสถานะอย่างไร

(แนวคำตอบ 3 สถานะ ได้แก่ ของแข็ง ของเหลว และแก๊ส)
2. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนด้วยการทดลองหน้าชั้นเรียน เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะ

ของน้ำ โดยครูเตรียมอุปกรณ์ ดังนี้
- น้ำแข็ง 1 ถุง

- น้ำในบีกเกอร์

- ฮอทเพลท


ขั้นสอน
สำรวจค้นหา (Explore)


1. ครูให้นักเรียนศึกษา เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะของสาร ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เลม
1 หน้าท 7-8
ี่
2. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียนออกมาหน้าชั้นเรียน เพื่อทำกิจกรรมตามขั้นตอน ดังนี้

- เทน้ำแข็งลงในบีกเกอร์ จากนั้นให้ความร้อนด้วยฮอทเพลท จนกระทั่งน้ำแข็งละลาย จากนั้นให้

ความร้อนต่อไปจนกระทั่งน้ำในบีกเกอร์เดือดกลายเป็นไอน้ำ
- นำบีกเกอร์ลงจากฮอทเพลท แล้วนำกระจกนาฬิกามาปิดปากบีกเกอร์ขณะที่น้ำเดือด

3. ครูให้นักเรียนสังเกต และจดบันทึกการเปลี่ยนแปลงสถานะของน้ำลงในสมุดบันทึกของนักเรียน

ู้
อธิบายความร (Explain)
1. ครูเขียนคำถามท้ายกิจกรรมบนกระดาน ดังนี้

- ความร้อนที่ใช้ในการเปลี่ยนสถานะของน้ำแข็งกลายเป็นน้ำเรียกว่าอะไร และอุณหภูมิที่ทำให้
น้ำแข็งเปลี่ยนสถานะเรียกว่าอะไร

(แนวคำตอบ ความร้อนแฝงของการหลอมเหลวทำให้น้ำแข็งเปลี่ยนสถานะกลายเป็นน้ำ โดย

อุณหภูมิ ณ จุดนี้ เรียกว่า จุดหลอมเหลว)











51

- ความร้อนที่ใช้ในการการเปลี่ยนสถานะของของเหลวกลายเป็นไอเรียกว่าอะไร และอุณหภูมิที่ทำ
ให้น้ำเปลี่ยนสถานะเรียกว่าอะไร

(แนวคำตอบ ความร้อนแฝงของการกลายเป็นไอทำให้น้ำเปลี่ยนสถานะกลายเป็นไอน้ำ โดย

อุณหภูมิ ณ จุดนี้ เรียกว่า จุดเดือด)
- การเปลี่ยนสถานะของแก๊สกลายเป็นของเหลวเรียกว่าอะไร และอุณหภูมิที่ทำให้ไอน้ำเปลี่ยน

สถานะเรียกว่าอะไร


(แนวคำตอบ การควบแน่นทำให้แก๊สกลายเป็นของเหลว โดยอุณหภูมิ ณ จุดนี้ เรียกว่า จด
ควบแน่น ซึ่งเป็นอุณหภูมิเดียวกับจุดเดือด)

- หากนำน้ำไปแช่ในอุณหภูมิที่ 0 องศาเซลเซียส จนน้ำกลายเป็นน้ำแข็ง เรียกอุณหภูมินี้ว่า อะไร
(แนวคำตอบ จุดเยือกแข็ง ซึ่งเป็นอุณหภูมิเดียวกับจุดหลอมเหลว)

2. ครูให้นักเรียนลอกโจทย์และตอบคำถามลงในสมุดบน

3. สุ่มตัวแทน 4 คน ออกมาเสนอคำตอบท้ายกิจกรรมบนกระดานคนละข้อ
4. ครูเฉลยและอธิบายคำตอบบนกระดานที่ถูกต้อง

ชั่วโมงที่ 2


ขั้นสรุป

ขยายความเข้าใจ (Expand)
1. ครูให้นักเรียนศึกษาตัวอย่างการเปลี่ยนสถานะของน้ำในธรรมชาติ ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์

ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 8 เพื่อขยายความเข้าใจของนักเรียน

2. ครูให้นักเรียนทำใบงานที่ 1.3 เรื่อง ความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสาร
3. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

ชั่วโมงที่ 3



ขั้นสอน


สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูให้นักเรียนจับแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน ทำกิจกรรม เรื่อง อุณหภูมิกับการเปลี่ยนสถานะ ตาม

หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 9 โดยสมาชิกในกลุ่มมีหน้าที่ ดังนี้

ี่
สมาชิกคนท 1 เตรียมอุปกรณ์
สมาชิกคนท 2 และ 3 ทำการทดลอง
ี่
สมาชิกคนท 4 บันทึกผลลงในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 และนำข้อมูลมาแสดงเป็น
ี่
กราฟ


52

สมาชิกคนท 5 นำเสนอผลที่ได้จากกิจกรรม
ี่


ชั่วโมงที่ 4


ขั้นสอน

อธิบายความรู้ (Explain)

1. ครูให้สมาชิกคนที่ 5 ของแต่ละกลุ่ม ออกมานำเสนอผลกิจกรรม เรื่อง อุณหภูมิกับการเปลี่ยน
สถานะ และช่วยเสริมและแก้ไขข้อมูลให้ถูกต้อง

2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลจากกิจกรรม
3. ครูถามคำถามทายกิจกรรม ดังนี้

- เมื่อน้ำมาผสมกับน้ำแข็ง อุณหภูมิของสารมีการเปลี่ยนแปลงอย่างไร

(แนวคำตอบ อุณหภูมิของน้ำแข็งจะสูงขึ้น ขณะทอุณหภูมิของน้ำจะต่ำลง จนกระทั่งสารทั้งสอง
ี่
อยู่ในสภาพสมดลที่อุณหภูมิหนึ่ง)

- หลังจากให้ความร้อนแก่น้ำเป็นเวลา 3 นาที น้ำในบีกเกอร์มีการเปลี่ยนสถานะอย่างไร
(แนวคำตอบ น้ำจะเดือดกลายเป็นไอ ซึ่งเป็นการเปลยนสถานะจากของเหลวเป็นของแข็ง)
ี่
แล้วบันทึกคำตอบลงในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1


ขั้นสรุป

ขยายความเข้าใจ (Expand)

1. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดลงในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
ตรวจสอบผล (Evaluate)

ี่
1. ครูตรวจใบงานที่ 1.3 เรื่อง ความร้อนกับการเปลยนสถานะของสาร
2. ครูตรวจแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
3. ครูประเมินผลการทำกิจกรรม เรื่อง อุณหภูมิกับการเปลี่ยนสถานะ โดยใช้แบบประเมิน

ปฏิบัติการ
4. ครูประเมินผลการทำงานรายบุคคล จากการศึกษากิจกรรมการทดลองของตัวแทนนักเรียน

เรื่อง การเปลยนสถานะของน้ำ สังเกต และจดบันทึกการทดลอง และการตอบคำถามทายการ

ี่
ทดลองจากโจทย์บนกระดาน


7. การวัดและประเมินผล

รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน




53

7.1 การประเมิน
ระหว่าง

การจัดกิจกรรม - ตรวจใบงานที่ 1.3 - เฉลยใบงานที่ 1.3 เรื่อง ร้อยละ 60

1) การเปลี่ยนแปลง เรื่อง ความร้อนกับการ ความร้อนกับการเปลี่ยน ผ่านเกณฑ์
ของสาร เปลี่ยนสถานะของสาร สถานะของสาร

- ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 60

ม.1 เล่ม 1 ผ่านเกณฑ์
2) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2

ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์


3) การปฏิบติการ - ประเมินการปฏิบัติการ - แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ 2
ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์

4) คณลักษณะอัน - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2


พึงประสงค ์ ใฝเรียนรู้ และมุ่งมั่น คุณลักษณะอันพึง ผ่านเกณฑ์
ประสงค ์



8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สื่อการเรียนร ู้
1) หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

2) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

3) อุปกรณ์การทดลอง เรื่อง การเปลี่ยนแปลงสถานะของน้ำ
4) อุปกรณ์การทดลอง เรื่อง อุณหภูมิกับการเปลี่ยนสถานะ

5) ใบงานที่ 1.3 เรื่อง ความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสาร

8.2 แหล่งการเรยนร ู้
1) ห้องเรียน

2) ห้องปฏิบัติการ













54

ใบงานที่ 1.3

เรื่อง ความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสาร



คำชี้แจง : จงศึกษาภาพ และนำคำที่กำหนดให้เติมลงในตารางให้สมบูรณ์


ของแข็ง แก๊ส ของเหลว การระเหย


การควบแน่น การละลาย การแข็งตัว




D E





F G
A B C





ตัวอักษร หมายถึง


A



B


C



D


E



F


G




55

ใบงานที่ 1.3

เฉลย
เรื่อง ความร้อนกับการเปลี่ยนสถานะของสาร



คำชี้แจง : จงศึกษาภาพ และนำคำที่กำหนดให้เติมลงในตารางให้สมบูรณ์


ของแข็ง แก๊ส ของเหลว การระเหย


การควบแน่น การละลาย การแข็งตัว




E
D




F G


A B C



ตัวอักษร หมายถึง


A ของแข็ง



B ของเหลว


C แก๊ส



D การละลาย


E การระเหย



F การแข็งตัว


G การควบแนน




56

บันทึกผลหลังการสอน

 ด้านความรู้




 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน




 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค ์




 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์




 ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))






 ปัญหา/อุปสรรค




 แนวทางการแก้ไข










ลงชื่อ .................................

(นายประสพโชค ประภา)


ตำแหน่ง ครชำนาญการพิเศษ



57

ี่

ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ



ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา



ี่
ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย



ข้อเสนอแนะ


ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา


































58

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3


สารบริสุทธิ์

เวลา 5 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด

1.1 ตัวชี้วัด


ว 2.1 ม.1/1 อธิบายสมบัตทางกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ โดยใช ้
หลักฐานเชิงประจักษ์ที่ได้จากการสังเกต และการทดสอบ และใช้สารสนเทศที่ได้จาก
แหล่งข้อมูลตาง รวมทั้งจัดกลุ่มธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ

ว 2.1 ม.1/2 วิเคราะห์ผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตุกัมมันตรังสี ที่มีต่อ
สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม จากข้อมูลที่รวบรวมได ้

ว 2.1 ม.1/3 ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสี โดยเสนอ

แนวทางการใช้ธาตุอย่างปลอดภัยและคุ้มค่า
ว 2.1 ม.1/7 อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบ โดยใช ้

แบบจำลองและสารสนเทศ
ว 2.1 ม.1/8 อธิบายโครงสร้างอะตอมที่ประกอบด้วยโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน โดยใช ้

แบบจำลอง



2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบ โดยใช้แบบจำลองได (K)

2. อธิบายโครงสร้างอะตอม โดยใช้แบบจำลองได (P)



3. อธิบายสมบัตทางกายภาพบางประการของธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะได (P)

4. วิเคราะห์ผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตุกัมมันตรังสต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม
เศรษฐกิจ และสังคม (P)
5. ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาต (A)















59

3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น



- ธาตุแต่ละชนิดมีสมบัติเฉพาะตวและมีสมบัต ทาง พิจารณาตามหลักสตรของสถานศึกษา

กายภาพบางประการเหมือนกันและบางประการต่างกัน ซึ่ง
สามารถนำมาจัดกลุ่มธาตุเป็นโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ
ธาตุโลหะมีจุดเดือด จุดหลอมเหลวสูง มีผิวมันวาว นำ

ความร้อน นำไฟฟ้า ดึงเป็นเส้น หรือตีเป็นแผ่นบาง ๆ ได ้


และมีความหนาแน่นทั้งสูงและตำ ธาตุอโลหะ มี จุดเดอด

จุดหลอมเหลวต่ำ มีผิวไม่มันวาว ไม่นำความร้อน ไม่นำ
ไฟฟ้า เปราะแตกหักง่าย และมีความหนาแน่นต่ำ ธาตุกึ่ง

โลหะ มีสมบัตบางประการเหมือนโลหะ และสมบัต บาง

ประการเหมือนอโลหะ

- ธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ที่สามารถแผ่รังสีได ้
จัดเป็นธาตุกัมมันตรังสี

- ธาตุมีทั้งประโยชน์และโทษ การใช้ธาตุโลหะ อโลหะ

กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสี ควรคำนึงถึงผลกระทบตอ

สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม

- สารบริสุทธิ์แบ่งออกเป็นธาตุและสารประกอบ ธาต ุ

ประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กที่สุดที่ยังแสดงสมบัติของธาต ุ
นั้นเรียกว่า อะตอม ธาตุแต่ละชนิดประกอบด้วยอะตอม


เพียงชนิดเดยวและไม่สามารถแยกสลายเป็นสารอื่นไดดวย


วิธีทางเคมี ธาตุเขียนแทนด้วยสัญลักษณธาตุ สารประกอบ

เกิดจากอะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปรวมตัวกันทาง

เคมีในอัตราส่วนคงที่ มีสมบัติแตกต่างจากธาตุที่เปน
องค์ประกอบ สามารถแยกเป็นธาตุได้ด้วยวิธีทางเคมี ธาต ุ


และสารประกอบสามารถเขียนแทนได้ดวยสตรเคมี







- อะตอมประกอบด้วยโปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน

โปรตอนมีประจุไฟฟ้าบวก ธาตุชนิดเดียวกันมีจำนวน

60

โปรตอนเท่ากันและเป็นคาเฉพาะของธาตุนั้น นิวตรอนเป็น

กลางทางไฟฟ้า ส่วนอิเล็กตรอนมีประจุไฟฟ้าลบ เมื่อ



อะตอมมีจำนวนโปรตอนเทากับจำนวนอิเลกตรอน จะเป็น
กลาง ทางไฟฟ้า โปรตอนและนิวตรอนรวมกันตรงกลาง
อะตอมเรียกว่า นิวเคลียส ส่วนอิเล็กตรอนเคลื่อนที่อยู่ใน

ที่ว่างรอบนิวเคลียส

4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

สารที่อยู่รอบตัวล้วนประกอบด้วยธาตและสารประกอบ ธาตุ เป็นสารที่ประกอบดวยอะตอมเพียง



ชนิดเดียว เมื่อธาตุมากกว่า 1 ชนิดมารวมกันทางเคมีในอัตราส่วนโดยมวลคงที่ จะได้สารประกอบท่มี
สมบัติแตกต่างจากธาตุที่เป็นองค์ประกอบเดิม ธาตุและสารประกอบจึงจัดเป็นสารบริสุทธิ์


5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมั่นในการทำงาน

2) ทักษะการระบุ
3) ทักษะการสำรวจ

4) ทักษะการสำรวจค้นหา
5) ทักษะการจำแนกประเภท

6) ทักษะการเปรียบเทียบ

7) ทักษะการนำความรู้ไปใช ้
8) ทักษะการสรุปย่อ

9) ทักษะการรวบรวมข้อมูล


3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต



6. กิจกรรมการเรียนรู้


 แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีสอน/เทคนิค : สบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)







61

ชั่วโมงที่ 1




ขั้นนำ

กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูแจ้งผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ

ู่
2. ครูถามคำถาม prior knowledge เพื่อกระตุ้นความคิดของนักเรียนก่อนเข้าสบทเรียนว่า อากาศที่
อยู่รอบตัวของนักเรียนมีธาตุใดเป็นองค์ประกอบ
(แนวคำตอบ ไนโตรเจน ออกซิเจน อาร์กอน คาร์บอน เป็นต้น)


ขั้นสอน

สำรวจค้นหา (Explore)
ี่
1. ครูให้นักเรียนศึกษาเกี่ยว เรื่อง สารบริสทธิ์ จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าท 10

2. ครูเขียนคำถามบนกระดานให้นักเรียนตอบคำถาม ดังนี้

- สารบริสุทธิ์ คืออะไร

(แนวคำตอบ สารที่มีองค์ประกอบเพียงชนิดเดียว มีสมบัตเฉพาะทางกายภาพและสมบัตทางเคมี)

- เพราะเหตุใด ธาตุจึงจดเป็นสารบริสุทธิ์

(แนวคำตอบ เพราะธาตุประกอบด้วยอะตอมเพียงชนิดเดียว ไม่สามารถแยกหรือสลายออกเป็น



สารอื่นได แต่สามารถทำปฏิกิริยากับสารอื่นแล้วเกิดเป็นสารใหม่ได)
- อะตอมคืออะไร ประกอบไปด้วยอะไรบ้าง
(แนวคำตอบ อะตอม คือ อนุภาคที่เล็กที่สุดของธาตุประกอบไปด้วยอนุภาคมูลฐาน คือ

โปรตอน นิวตรอน และอิเล็กตรอน)
3. ครูนำก้อนดินน้ำมัน มาปั้นเป็นลูกทรงกลม 3 ลูก 3 สี ดังนี้

- ลูกแรก สีแดง คือ นิวตรอน

- ลูกที่สอง สีฟ้า คือ โปรตอน


- ลูกที่สาม สเหลือง คือ อิเล็กตรอน

4. ครูให้นักเรียนสืบค้นข้อมูลเกี่ยวกับแบบจำลองอะตอมของธาต หรือศึกษาจากหนังสือเรียน
วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 10

อธิบายความรู้ (Explain)

1. ครูสุ่มตัวแทนนักเรียนออกมาสร้างและอธิบายแบบจำลองอะตอมโดยใช้ดินน้ำมันที่ครูเตรียมมา
โดยใช้ความรู้จากการสืบค้นข้อมูล

2. ครูตรวจแบบจำลองอะตอมที่นักเรียนปั้น และเพิ่มเติมข้อมูลที่นักเรียนนำเสนอให้ถูกต้อง
3. ครูยกตัวอย่างแบบจำลองอะตอมของธาตุบางชนิด เช่น คาร์บอน ออกซิเจน เป็นต้น




62

ชั่วโมงที่ 2



ขั้นสอน
สำรวจค้นหา (Explore)

1. ครูเกริ่นนำว่า ธาตุในปัจจุบันมีมากว่า 117 ชนิด แล้วถามคำถามนักเรียนว่า เราจะรู้ได้อย่างไรว่า

ธาตุแต่ละชนิดคือธาตุใด
(แนวคำตอบ ใช้สัญลักษณ์ธาตุเป็นตัวอักษรแทนชอธาตุ)
ื่
2. ครูให้นักเรียนศึกษา เรื่อง หลักการเขียนสัญลักษณ์ของธาตุ จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1
เล่ม 1 หน้าที่ 11


3. ครูนำตัวอย่างตารางธาตุที่แสดงสัญลักษณ์นิวเคลยร์ของธาตุมาให้นักเรียนศึกษา
4. ครูให้นักเรียนศึกษา เรื่อง การเขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์
ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 12


5. ครูให้นักเรียนศึกษาสมบัตของธาตุในตารางที่ 1.2 กับตารางธาตุในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1
เล่ม 1 หน้าที่ 12


































ตารางธาตุตวอย่างที่มีสัญลักษณ์นิวเคลียร์ เลขมวล เลขอะตอม








63

อธิบายความรู้ (Explain)
1. ครูให้นักเรียนออกมาเขียนสัญลักษณ์ของธาตุหน้าชั้นเรียน และอธิบายหลักการเขียนสัญลักษณ ์


ของธาตุชนิดนั้น
2. ครูอธิบายตารางท 1.1 จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 11 ให้นักเรียนเข้าใจ
ี่
สัญลักษณ์ของธาตุมากขึ้น

3. ครูสุ่มเรียกนักเรียน 5 คน ออกมาตอบคำถามคนละข้อจากตารางธาต ต่อไปนี้

- จงหาสัญลักษณ์ธาตุทองคำ และเขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ

- จงหาสัญลักษณ์ธาตุซีนอน และเขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ


- จงหาสัญลักษณ์ธาตเงิน และเขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ

- จงหาสัญลักษณ์ธาตปรอท และเขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ

- จงหาสัญลักษณ์ธาตสังกะส และเขียนสัญลักษณ์นิวเคลียร์ของธาตุ

4. ครูและนักเรียนร่วมกันเฉลยคำตอบที่ถูกต้อง


ชั่วโมงที่ 3

ขั้นสอน

สำรวจค้นหา (Explore)

1. ครูถามถามคำถาม ต่อไปนี้

- แนวโน้มของธาตุในตารางสามารถแบ่งธาตุออกเปนกี่ประเภท และแต่ละประเภทมีลักษณะ

อย่างไร
(แนวคำตอบ 3 ประเภท ดังนี้

- โลหะ : เป็นของแข็งที่อุณหภูมิห้อง ทผิวของโลหะจะมันวาว นำไฟฟ้าและความร้อนได้ดี มี
ี่
จุดเดือด จุดหลอมเหลวสูง

- อโลหะ : มีลักษณะตรงข้ามกับโลหะ

- กึ่งโลหะ : ส่วนใหญ่เป็นสารกึ่งตัวนำ โดยจะนำไฟฟ้าได้ดีก็ต่อเมื่ออุณหภูมิสูงกว่า
อุณหภูมิห้อง)

2. ครูเตรียมอุปกรณ์การทดลอง เรื่อง สมบัตของธาตุ ดังนี้

- ตะปูเหล็ก
- กำมะถัน

- กระดาษทราย

- สายไฟ


64

- ถ่านไฟฉาย

- หลอดไฟ
จากนั้นครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทดสอบสมบัติของธาตุตามขั้นตอน ดังนี้

- ใช้กระดาษทรายขัดผิวธาตุ แล้วสังเกตความมันวาว

- ให้นักเรียนต่อวงจรไฟฟ้า ดังภาพ แล้วสังเกตความสว่างของหลอดไฟ




























3. ครูให้นักเรียนตอบคำถามจากการทำกิจกรรม ต่อไปนี้

- เมื่อใช้กระดาษขัดผิวตะปูเหล็ก ผิวของตะปูเหล็กมีลักษณะอย่างไร
(แนวคำตอบ มีผิวมันวาว)

- เมื่อใช้กระดาษขัดผิวกำมะถัน กำมะถันมีลักษณะอย่างไร

(แนวคำตอบ ไม่เกิดการเปลี่ยนแปลง)
- เมื่อนำตะปูเหล็ก ไปต่อกับวงจรไฟฟ้า หลอดไฟสว่างหรือไม่

(แนวคำตอบ หลอดไฟสว่าง)

- เมื่อนำกำมะถัน ไปต่อกับวงจรไฟฟ้า หลอดไฟสว่างหรือไม่

(แนวคำตอบ หลอดไฟไม่สว่าง)













65

ชั่วโมงที่ 4


ขั้นสอน

อธิบายความรู้ (Explain)


1. ครูให้นักเรียนของแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียนว่าธาตุ 2 ชนิดจดอยู่ในกลุ่ม
ใด เพราะเหตใด

(แนวคำตอบ ตะปูเหล็กจดเป็นธาตุโลหะ เนื่องจากผิวของตะปูเหล็กมีความมันวาว และเมื่อนำไป

ต่อกับวงจรไฟฟ้าพบว่า ตัวธาตุนำไฟฟ้าได้ทำให้หลอดไฟสว่าง ในทางกลับกันผิวของกำมะถันไม่

มันวาว และไม่นำไฟฟ้าจึงจัดเป็นธาตุอโลหะ)

2. ครูตั้งคำถามให้นักเรียนช่วยกันระดมความคิดตอบคำถาม ต่อไปนี้
- ธาตุโลหะและธาตุอโลหะมีสมบัติเหมือนหรือแตกต่างกันอย่างไร

(แนวคำตอบ ธาตุโลหะจะมีผิวเป็นมันวาว นำไฟฟ้าและความร้อนได้ดี มีจุดเดือด จุดหลอมเหลว
สูง ในทางกลับกันธาตุอโลหะจะมีสมบัติตรงข้าม)

- สมบัติของธาตุโลหะสามารถนำมาใช้ประโยชน์อะไรได้บ้าง จงยกตัวอย่าง

(แนวคำตอบ ธาตุโลหะนำไฟฟ้าได้ดี จึงนิยมนำมาทำสายไฟ เช่น ทองแดง นอกจากนี้โลหะมี
สมบัติในการนำความร้อนได้ดี เช่น อะลูมิเนียมนิยมนำมาทำเป็นภาชนะหุงต้มอาหาร เป็นต้น)



ชั่วโมงที่ 5


ขั้นสอน

สำรวจค้นหา (Explore)

1. ครูให้นักเรียนร่วมกันระดมความคิดว่าในปัจจุบันเรานำธาตุมาใชประโยชน์อะไรบ้าง
2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม สืบค้นประโยชน์ของธาตุให้มากที่สุด
อธิบายความรู้ (Explain)



1. ครูสุ่มตัวแทนกลุ่มออกมานำเสนอผลจากการสบคนประโยชน์ของธาต ุ
2. ครูอธิบายและยกตัวอย่างธาตุที่มีความสำคัญต่อประเทศในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
หน้าที่ 14







66

ขั้นสรุป

ขยายความเข้าใจ (Expand)

1. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดลงในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
ตรวจสอบผล (Evaluate)

1. ครูตรวจแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

2. ครูประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่มจากการสืบคนประโยชน์ของธาต ุ


3. ครูประเมินการนำเสนอประโยชน์ของธาตุ โดยใชแบบประเมินการนำเสนอผลงาน











































67

7. การวัดและประเมินผล

รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน

7.1 การประเมินระหว่าง

การจัดกิจกรรม


1) สารบริสทธิ์ - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝกหัดวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 60

ม.1 เลม 1 ผ่านเกณฑ์

2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ 2

ประโยชน์ของธาต นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
3) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2

ุ่
ุ่
ุ่
รายกลม การทำงานรายกลม การทำงานรายกลม ผ่านเกณฑ์
4) คุณลักษณะอันพึง - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมินคณลกษณะ ระดับคุณภาพ 2



ประสงค ์ ใฝเรียนรู้ และมุ่งมั่น อันพึงประสงค ์ ผ่านเกณฑ์
ในการทำงาน


8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สื่อการเรียนร ู้
1) หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

2) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
3) ภาพสารตัวอย่าง


4) อุปกรณ์การทดลอง เรื่อง สมบัตของธาต ุ
8.2 แหล่งการเรยนร ู้

1) ห้องเรียน

2) สื่ออินเตอร์เน็ต

















68

บันทึกผลหลังการสอน

 ด้านความรู้




 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน




 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค ์




 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์




 ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))






 ปัญหา/อุปสรรค




 แนวทางการแก้ไข










ลงชื่อ .................................

(นายประสพโชค ประภา)


ตำแหน่ง ครชำนาญการพิเศษ



69

ี่

ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ



ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา



ี่
ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย



ข้อเสนอแนะ


ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา



































70

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4


ธาตุกัมมันตรังสี

เวลา 2 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด

1.1 ตัวชี้วัด

ว 2.1 ม.1/2 วิเคราะห์ผลจากการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ และธาตุกัมมันตรังสี ที่มีต่อ

สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคม จากข้อมูลที่รวบรวมได ้
ว 2.1 ม.1/3 ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ธาตุโลหะ อโลหะ กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสี โดยเสนอ

แนวทางการใช้ธาตุอย่างปลอดภัยและคุ้มค่า


2. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายลักษณะของธาตุกัมมันตรังสีได้ (K)

2. วิเคราะห์ผลจากการใช้ธาตุกัมมันตรังสี ต่อสิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจ และสังคมได (P)

3. ตระหนักถึงคุณค่าของการใช้ธาตุกัมมันตรังสี (A)

4. รับผิดชอบต่อหน้าที่ที่ได้รับมอบหมาย (A)


3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

- ธาตุโลหะ อโลหะ และกึ่งโลหะ ที่สามารถแผ่รังสีได พิจารณาตามหลักสตรของสถานศึกษา


จัดเป็นธาตุกัมมันตรังสี
- ธาตุมีทั้งประโยชน์และโทษ การใช้ธาตุโลหะ อโลหะ

กึ่งโลหะ ธาตุกัมมันตรังสี ควรคำนึงถึงผลกระทบตอ

สิ่งมีชีวิต สิ่งแวดล้อม เศรษฐกิจและสังคม



4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด


ธาตุบางชนิดที่มีเลขอะตอมสูงกว่า 83 สามารถแผ่รังสีได้อย่างต่อเนื่อง เรียกว่า ธาตุกัมมันตรังส

เกิดจากนิวเคลยสในอะตอมของธาตุไม่เสถียร จึงสลายตัวแลวเปลี่ยนไปเป็นธาตที่มีความเสถียรมากขึ้น



และปล่อยอนุภาคภายในนิวเคลียสออกมาในรูปของสี ซึ่งรังสีที่แผ่ออกมา เรียกว่า กัมมันตภาพรังส ซึ่งมี
3 ประเภท ได้แก่ อนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา และรังสีแกมมา ซึ่งก่อให้เกิดประโยชน์และโทษตอ

สิ่งมีชีวิต




71

5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมั่นในการทำงาน

2) ทักษะการระบุ

3) ทักษะการเปรียบเทียบ
4) ทักษะการประเมิน

5) ทักษะการวิเคราะห์
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต



6. กิจกรรมการเรียนรู้


 แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีสอน/เทคนิค : สบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)

ชั่วโมงที่ 1



ขั้นนำ

กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูแจ้งผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ


2. ครูกระตุ้นความสนใจของนักเรียนเกี่ยวกับเรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี โดยเปิดวีดทัศน์ เรื่อง ผลกระทบ
นิวเคลียร์ฟุกุชิมะ (แหล่งที่มา https://www.youtube.com/watch?v=TIHc2v-zoec)
จากนั้นครูตั้งคำถามจากวีดีทัศน์ ดังนี้

- ครูถามนักเรียนว่า จากข่าวผลกระทบนิวเคลียร์ฟุกุชิมะเกิดการั่วไหลของสารใด

(แนวคำตอบ สารกัมมันตรังสี)

- ครูถามนักเรียนว่า สารกัมมันตรังสส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไร
(แนวคำตอบ พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน ตัวอย่างเช่น

ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ เป็นต้น)
3. ครูถามนักเรียนว่า นักเรียนคิดว่า ธาตุที่เป็นองค์ประกอบของสารกัมมันตรังสีมีลักษณะอย่างไร จึง

ทำให้เกิดผลกระทบต่าง ๆ ต่อสิ่งมีชีวิต






72

(แนวคำตอบ พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน ตัวอย่างเช่น
ธาตุอาจมีการแผ่กระจายของรังสี เป็นต้น)

ขั้นสอน


สำรวจค้นหา (Explore)

1. ครูจัดเตรียมชุดแบบจำลองนิวเคลียสของอะตอม 3 นิวเคลียส ได้แก่

1) นิวเคลียสขนาดใหญ่ที่มีจำนวนโปรตอนเท่ากับอิเล็กตรอน ครูจัดเตรียมโดยปั้นดินน้ำมันสีเขียว
เป็นก้อนกลม 6 ลูก แตละลูกแทนเป็นโปรตอน 1 อนุภาค และปั้นดินน้ำมันสีส้ม 6 ลูก แต ่

ละลูกแทนเป็นนิวตรอน 1 อนุภาค จากนั้นนำก้อนดินน้ำมันมาติดกัน (อย่าติดแน่นกัน
จนเกินไป)






2) นิวเคลียสที่มีจำนวนโปรตอนมากกว่านิวตรอน โดยครูปั้นดินน้ำมันสีเขียวเป็นก้อนกลม 3 ลูก
และปั้นดินน้ำมันสีส้ม 2 ลูก จากนั้นนำก้อนดินน้ำมันมาติดกัน (อย่าติดแน่นกันจนเกินไป)






3) นิวเคลียสที่มีจำนวนนิวตรอนมากกว่าโปรตอน โดยครูปั้นดินน้ำมันสีเขียวเป็นก้อนกลม 2 ลูก

และปั้นดินน้ำมันสีส้ม 3 ลูก จากนั้นนำก้อนดินน้ำมันมาติดกัน (อย่าติดแน่นกันจนเกินไป)





4) นิวเคลียสขนาดปานกลางที่ได้รับพลังงานกระตน โดยครูปั้นดินน้ำมันสีเขียวเป็นก้อนกลม 2
ุ้

ลูก และปั้นดินน้ำมันสีส้ม 3 ลูก จากนั้นนำก้อนดนน้ำมันมาติดกัน (อย่าติดแน่นกันจนเกินไป)

แล้ววางบนเครื่องเขย่าสารโดยใชความเร็วในการเขย่าน้อยที่สุด





2. ครูนำเสนอนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีให้นักเรียนดู แล้วดึงก้อนดินน้ำมันสีเขียวและสีเหลืองส ี
สีละ 2 ก้อนออกจากแบบจำลองนิวเคลียสขนาดใหญ่ จากนั้นครูตั้งคำถามนักเรียนว่า นิวเคลียส





73

ที่ครูเตรียมทั้ง 4 นิวเคลียส ซึ่งเป็นนิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสี จะมีการแผ่รังสีชนิดใดออกมา

เพราะเหตุใดจึงคดเช่นนั้น
3. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มๆ ละ 5 คน ออกมารับใบงานที่ 1.4 เรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี จากนั้นครูให้

นักเรียนศึกษาคำชี้แจงในใบงาน สืบค้นเกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสีในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1

เล่ม 1 หน้าที่ 15 แล้วตอบคำถามในใบงานที่ 1.4 เรื่อง ธาตุกัมมันตรังส ตอนที่ 1
อธิบายความรู้ (Explain)

1. ครูให้ตัวแทนนักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอคำตอบในใบงานที่ 1.4 เรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี
ตอนที่ 1 หน้าชั้นเรียน จากนั้นครูและนักเรียนร่วมกันตรวจสอบความถูกต้องและความละเอียด

ของข้อมูลที่แตละกลุ่มนำเสนอหน้าชั้นเรียน

2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและหาข้อสรุปจากการปฏิบัติกิจกรรม โดยใช้แนวคำถามต่อไปนี้

- ธาตุกัมมันตรังสี คืออะไร


(แนวคำตอบ ธาตุกัมมันตรังสี คือ ธาตที่มีเลขอะตอมสูงกว่า 83 ซึ่งสามารถแผ่รังสีได้อย่าง
ต่อเนื่อง เนื่องจากนิวเคลียสภายในอะตอมของธาตุไม่เสถียร จึงต้องมีการเปลี่ยนแปลงไป

เป็นธาตุที่มีความเสถียรมากขึ้นโดยการสลายตัวแล้วปล่อยอนุภาคภายในนิวเคลียส)
- กัมมันตภาพรังสีมีกี่ประเภท อะไรบ้าง

(แนวคำตอบ มี 3 ประเภท ได้แก่ อนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา และรังสีแกมมา)

- อนุภาคแต่ละประเภทเกิดขึ้นได้อย่างไร และมีลักษณะอย่างไร
(แนวคำตอบ อนุภาคแอลฟา เกิดจากนิวเคลียสไม่เสถียร แล้วปล่อยอนุภาคที่มีโปรตอนและ

นิวตรอนออกมาอย่างละ 2 อนุภาค อนุภาคบีตาเกิดจากนิวเคลียสมีจำนวนอนุภาคโปรตอน

และอนุภาคนิวตรอนแตกต่างกัน ทำให้มีการสลายอนุภาคโปรตอนหรือนิวตรอนส่วนเกิน
แล้วแผ่รังสบีตาออกมา รังสีแกมมาเกิดจากนิวเคลยสได้รับพลังงานกระตุ้นสูงทำให้ปลอด


ปล่อยพลังงานออกมาในรูปของคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า)

- ความสามารถในการทะลุทะลวงของรังสีแต่ละประเภทเป็นอย่างไร


(แนวคำตอบ อนุภาคแอลฟามีอำนาจทะลุทะลวงต่ำ ไม่สามารถทะลผานแผ่นกระดาษบาง


ๆ ได้ อนุภาคบีตาสามารถทะลุผานแผ่นกระดาษบาง ๆ ได้ แต่ไม่สามารถทะลุผานแผน

อะลูมิเนียมหนา 2 มิลลเมตรได้ รังสีแกมมาสามารถทะลุทะลวงผ่านแผ่นกระดาษและแผ่น
อะลูมิเนียมหนา 2 มิลลเมตรได้ แต่ไม่สามารถทะลุผ่านแท่งตะกั่วหนา 10 เซนติเมตรได้)










74

ชั่วโมงที่ 2





ขั้นสอน


สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูถามนักเรียนเพิ่มเติมว่า จากการศึกษาลักษณะของธาตุกัมมันตรังสี นักเรียนคิดว่า

ธาตุกัมมันตรังสีมีประโยชน์ต่อสิ่งมีชีวิตหรือไม่ อย่างไร


ู้

(แนวคำตอบ พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดลยพินิจของครูผสอน ตวอย่างเชน

ใช้ในโรงไฟฟ้านิวเคลียร์ ใช้ในการตรวจหาโรค ใช้ปรับปรุงพันธุ์สิ่งมีชีวิต เป็นต้น)
2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มสุ่มจับฉลากหัวข้อเกี่ยวกับการนำความรู้เกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสีไปใช ้
ประโยชน์ ดังนี้

หัวข้อท 1 : การนำความรู้เกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสีไปใช้ดานอุตสาหกรรม
ี่

หัวข้อท 2 : การนำความรู้เกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสีไปใช้ดานการแพทย์

ี่
หัวข้อท 3 : การนำความรู้เกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสีไปใช้ดานการเกษตร

ี่
หัวข้อท 4 : การนำความรู้เกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสีไปใช้ดานธรณีวิทยา

ี่


3. ครูถามนักเรียนว่า นอกจากธาตุกัมมันตรังสจะสามารถนำมาใช้ประโยชน์ได้แล้ว ธาตกัมมันตรังส


จะก่อให้เกิดโทษต่อสิ่งมีชีวิตอย่างไรบ้าง
(แนวคำตอบ พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดลยพินิจของครูผสอน ตวอย่างเชน

ู้


ทำให้สิ่งมีชีวิตเกิดการกลายพันธุ์ ทำให้มนุษย์เป็นโรคมะเร็ง เป็นต้น)
ิ่
4. ครูให้นักเรียนศึกษาผลของกัมมันตรังสีต่อสิ่งมีชีวิตและสงแวดล้อม ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์
ม.1 เล่ม 1 หรือจากแหล่งเรียนรู้อื่น ๆ แล้วให้แต่ละกลุ่มร่วมกันนำเสนอและอภิปราย

อธิบายความรู้ (Explain)

1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มออกมานำเสนอเกี่ยวกับการนำความรู้เกี่ยวกับธาตุกัมมันตรังสีไปใช ้
ประโยชน์ จากนั้นให้นักเรียนแต่ละกลุ่มบันทึกคำตอบลงในใบงานที่ 1.4 เรื่อง ธาตุกัมมันตรังส

ตอนท 2
ี่
2. ครูและนักเรียนร่วมกันแสดงความคิดเห็นเกี่ยวกับประโยชน์ที่ได้รับจากการทำกิจกรรม และ

การนำความรู้ที่ได้ไปใช้ประโยชน์










75

ขั้นสรุป


ขยายความเข้าใจ (Expand)
1. ครูทบทวนความเข้าใจของนักเรียนโดยการใช้แนวคำถาม ดังนี้

– ธาตุกัมมันตรังสี คืออะไร

(แนวคำตอบ ธาตุกัมมันตรังสี คือ ธาตที่สามารถแผ่รังสีได้อย่างต่อเนื่อง เนื่องจากนิวเคลียส

ี่
ภายในอะตอมของธาตุไม่เสถียร จึงต้องมีการเปลยนแปลงไปเป็นธาตุที่มีความเสถียรมากขึ้น
โดยการสลายตัวแล้วปล่อยอนุภาคภายในนิวเคลียส)

– ธาตุกัมมันตรังสีสามารถแผ่รังสีได้กี่ประเภท อะไรบ้าง
(แนวคำตอบ 3 ประเภท ได้แก่ อนุภาคแอลฟา อนุภาคบีตา และรังสีแกมมา)

– รังสีแต่ละประเภทเกิดขึ้นได้อย่างไร
(แนวคำตอบ อนุภาคแอลฟาเกิดจากอนุภาคโปรตอนและอนุภาคนิวตรอนหลุดมาจาก

นิวเคลียสอย่างละ 2 อนุภาค อนุภาคบีตาลบเกิดจากนิวเคลียสมีนิวตรอนมากกว่าโปรตอน

อนุภาคบีตาบวกเกิดจากนิวเคลียสมีโปรตอนมากกว่านิวตรอน และรังสีแกรมมาเกิดจาก
นิวเคลียสมีพลังงานสูงทำให้ไม่เสถียร)

– ธาตุกัมมันตรังสีมีประโยชน์อย่างไรบ้าง
(แนวคำตอบ มีประโยชน์ในด้านการเกษตร การแพทย์ อุตสาหกรรม และธรณีวิทยา เป็นต้น)

– โทษของธาตุกัมมันตรังสีมีอะไรบ้าง

(แนวคำตอบ ทำให้เกิดการกลายพันธุ์ของสิ่งมีชีวิต ทำให้เกิดโรคมะเร็ง เป็นต้น)
2. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

ตรวจสอบผล (Evaluate)

1. ครูตรวจใบงานที่ 1.4 เรื่อง ธาตุกัมมันตรังส ี
2. ครูตรวจแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

3. ครูประเมินพฤติกรรมการทำงานรายกลุ่ม จากการทำใบงานและการศึกษาประโยชน์ของธาต ุ

กัมมันตรังส ี

4. ครูประเมินการนำเสนอใบงานที่ 1.4 เรื่อง ธาตกัมมันตรังสี โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอ
ผลงาน










76

7. การวัดและประเมินผล

รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน

7.1 การประเมินระหว่าง
การจัดกิจกรรม

1) ธาตุกัมมันตรังส ี - ตรวจใบงานที่ 1.4 - เฉลยใบงานที่ 1.4 เรื่อง ร้อยละ 60 ผ่าน
เรื่อง ธาตุกัมมันตรังส ี ธาตุกัมมันตรังส ี เกณฑ์

- ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 60 ผ่าน

ม.1 เล่ม 1 เกณฑ์


2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ 2
ใบงานที่ 1.4 เรื่อง นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์

ธาตุกัมมันตรังส ี

3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
ุ่
ุ่
ทำงานรายกลม การทำงานรายกลม การทำงานรายกลุ่ม ผ่านเกณฑ์
4) คณลักษณะ - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2


อันพึงประสงค ์ ใฝเรียนรู้ และมุ่งมั่น คุณลักษณะอันพึง ผ่านเกณฑ์
ในการทำงาน ประสงค ์



8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สื่อการเรียนร ู้

1) หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
2) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

3) ดินน้ำมัน

4) ใบงานที่ 1.4 เรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี
8.2 แหล่งการเรยนร ู้

1) ห้องเรียน
2) สื่ออินเตอร์เน็ต

- https://www.youtube.com/watch?v=TIHc2v-zoec








77

ใบงานที่ 1.4

เรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี



ตอนที่ 1




คำชี้แจง ให้นักเรียนแตละกลุ่มศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง ธาตกัมมันตรังสี แลวตอบคำถามเกี่ยวกับแบบจำลองนิวเคลยส
ี่
ของธาตุกัมมันตรังสีทครูนำเสนอ
นิวเคลียสของ กัมมันตภาพรังสี ประจุ/การเบี่ยงเบนของ เหตุผล (ที่สนับสนุนว่า

ธาตุกัมมันตรงสี ที่แผ่ออกมา กัมมันตภาพรังสีใน นิวเคลียสแผ่รังสีชนิดนั้น ๆ
สนามไฟฟ้า )
1. อนุภาคแอลฟา ประจุบวก/เบี่ยงเบนเข้าหาขั้ว นิวเคลียสมีขนาดใหญ่มาก

ลบ และปล่อยอนุภาคโปรตอน

และนิวตรอนออกมาอย่าง
ละ 2 อนุภาค

2. อนุภาคเบตาบวก ประจุบวก/เบี่ยงเบนเข้าหาขั้ว นิวเคลียสมีอนุภาคโปรตอน

หรือโพสิตรอน ลบ มาานิวตรอน




3. อนุภาคเบตาลบ ประจุลบ/เบี่ยงเบนเข้าหา นิวเคลียสมีอนุภาคนิวตรอน
หรืออิเล็กตรอน ขั้วบวก มากกว่าโปรตอน



4. รังสีแกรมมา ไม่มีประจุ/ไม่เบี่ยงเบน นิวเคลียสได้รับพลังงานจึง
ทำให้ไม่เสถียร




คำถามหลังกจกรรม

1. ธาตุกัมมันตรังสี คืออะไร

.........................................................................................................................................................................
2. แบบจำลองนิวเคลียสที่ 2 และ 3 จะมีการเปลยนแปลงอย่างไรเมื่อแผ่รังสีแล้ว
ี่
.........................................................................................................................................................................

3. แบบจำลองนิวเคลียสที่ 4 จะมีการเปลี่ยนแปลงเลขมวลและเลขอะตอมหรือไม่หลังจากมีการแผรังสีแล้ว
.........................................................................................................................................................................




78

4. กัมมันตภาพรังสีแต่ละประเภทมีความสามารถในการทะลุทะลวงเป็นอย่างไร
.........................................................................................................................................................................

ตอนที่ 2


คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของธาตกัมมันตรังสี แล้วตอบคำถามลงในใบงาน
การใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรม

ชื่อธาตุกัมมันตรังสี/ ประโยชน์

กัมมันตภาพรังสี







การใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์

ชื่อธาตุกัมมันตรังสี/ ประโยชน์
กัมมันตภาพรังสี








การใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร
ชื่อธาตุกัมมันตรังสี/ ประโยชน์

กัมมันตภาพรังสี







การใช้ประโยชน์ด้านธรณีวิทยา

ชื่อธาตุกัมมันตรังสี/ ประโยชน์

กัมมันตภาพรังสี








79

ใบงานที่ 1.4 เฉลย

เรื่อง ธาตุกัมมันตรังสี



ตอนที่ 1

คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเกี่ยวกับเรื่อง ธาตกัมมันตรังสี แล้วตอบคำถามเกี่ยวกับแบบจำลอง
นิวเคลียสของธาตุกัมมันตรังสีที่ครูนำเสนอ


นิวเคลียสของธาต กัมมันตภาพรังสี ประจุ/การเบี่ยงเบนของ เหตุผล (ที่สนับสนุนว่า

กัมมันตรงสี ที่แผ่ออกมา กัมมันภาพรังสีใน นิวเคลียสแผ่รังสีชนิดนั้นๆ)
สนามไฟฟ้า
1. นิวเคลียสมีขนาดใหญ่มาก

อนุภาคแอลฟา ประจุบวก/เบี่ยงเบนเข้าหา และปล่อยอนุภาคโปรตอน

ขั้วลบ และนิวตรอนออกมาอย่าง
ละ 2 อนุภาค

2. อนุภาคเบตาบวก ประจุบวก/เบี่ยงเบนเข้าหา นิวเคลียสมีอนุภาคโปรตอน

หรือโพสิตรอน ขั้วลบ มากกว่านิวตรอน
3. อนุภาคเบตาลบ ประจุลบ/เบี่ยงเบนเข้าหา นิวเคลียสมีอนุภาคนิวตรอน

หรืออิเล็กตรอน ขั้วบวก มากกว่าโปรตอน

4. นิวเคลียสได้รับพลังงานจึง
รังสีแกรมมา ไม่มีประจุ/ไม่เบี่ยงเบน ทำให้ไม่เสถียร



คำถามหลังกจกรรม

1. ธาตุกัมมันตรังสี คืออะไร

ธาตุที่มีนิวเคลียสภายในอะตอมไม่เสถียร ทำให้เกิดการสลายตัวแล้วปล่อยรังสีออกมา

ี่
2. แบบจำลองนิวเคลียสที่ 2 และ 3 จะมีการเปลยนแปลงอย่างไรเมื่อแผ่รังสีแล้ว
แบบจำลองนิวเคลียสที่ 2 อนุภาคโปรตอน 1 อนุภาคจะสลายและปล่อยโพสิตรอนออกมา

แบบจำลองนิวเคลียสที่ 3 อนุภาคนิวตรอน 1 อนุภาคจะสลายและปล่อยอิเล็กตรอนออกมา

3. แบบจำลองนิวเคลียสที่ 4 จะมีการเปลี่ยนแปลงเลขมวลและเลขอะตอมหรือไม่หลังจากมีการแผรังสีแล้ว
ไม่มีการเปลี่ยนแปลงเลขมวลและเลขอะตอม เนื่องจากรังสีแกมมาเป็นคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า
4. กัมมันตภาพรังสีแต่ละประเภทมีความสามารถในการทะลุทะลวงเป็นอย่างไร


อนุภาคแอลฟา ไม่สามารถทะลผ่านแผ่นกระดาษบาง ๆ ได ้
อนุภาคเบตา ไม่สามารถทะลุผ่านแผ่นอะลูมิเนียมหนา 2 มิลลิเมตรได ้



80


รังสีแกมมา ไม่สามารถทะลผ่านแท่งตะกั่วหนา 10 เซนติเมตรได ้
ตอนที่ 2


คำชี้แจง ให้นักเรียนแต่ละกลุ่มศึกษาเกี่ยวกับประโยชน์ของธาตกัมมันตรังสี แล้วตอบคำถามลงในใบงาน

การใช้ประโยชน์ด้านอุตสาหกรรม

ชื่อธาตุกัมมันตรังสี/ ประโยชน์

กัมมันตภาพรังสี







การใช้ประโยชน์ด้านการแพทย์

ชื่อธาตุกัมมันตรังสี/ ประโยชน์
กัมมันตภาพรังสี








การใช้ประโยชน์ด้านการเกษตร
ชื่อธาตุกัมมันตรังสี/ ประโยชน์

กัมมันตภาพรังสี







การใช้ประโยชน์ด้านธรณีวิทยา

ชื่อธาตุกัมมันตรังสี/ ประโยชน์

กัมมันตภาพรังสี








81

บันทึกผลหลังการสอน

 ด้านความรู้




 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน




 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค ์




 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์




 ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))






 ปัญหา/อุปสรรค




 แนวทางการแก้ไข










ลงชื่อ .................................

(นายประสพโชค ประภา)


ตำแหน่ง ครชำนาญการพิเศษ



82

ี่

ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ



ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา



ี่
ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย



ข้อเสนอแนะ


ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา



































83

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5


สารประกอบ

เวลา 2 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด

1.1 ตัวชี้วัด

ว 2.1 ม.1/7 อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบ โดยใช ้

แบบจำลองและสารสนเทศ


2. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายความสัมพันธ์ระหว่างอะตอม ธาตุ และสารประกอบ โดยใช้แบบจำลองได (K)

2. อธิบายโครงสร้างสารประกอบโดยใช้แบบจำลองได้ (K)

3. นำเสนอเกี่ยวกับสมบัติของสารประกอบได้ (P)


4. ใฝ่รู้และรับผดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A)


3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

- สารบริสุทธิ์แบ่งออกเป็นธาตุและสารประกอบ พิจารณาตามหลักสตรของสถานศึกษา
ธาตุประกอบด้วยอนุภาคที่เล็กที่สุดที่ยังแสดง

สมบัติของธาตุนั้นเรียกว่า อะตอม ธาตุแต่ละชนิด
ประกอบด้วยอะตอมเพียงชนิดเดียวและไม่สามารถ

แยกสลายเป็นสารอื่นได้ด้วยวิธีทางเคมี ธาตุเขียน

แทนด้วยสัญลักษณ ์
- ธาตุ สารประกอบเกิดจากอะตอมของธาตุตั้งแต ่

2 ชนิดขึ้นไปรวมตัวกันทางเคมีในอัตราส่วนคงท มี
ี่
สมบัติแตกต่างจากธาตุที่เป็นองค์ประกอบ สามารถ
แยกเป็นธาตุได้ด้วยวิธีทางเคมี ธาตุและ

สารประกอบสามารถเขียนแทนได้ด้วยสูตรเคมี









84

4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด


สารประกอบ คือ สารบริสทธิ์ที่เกิดจากอะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปมารวมกันทางเคมี โดย
อัตราส่วนโดยมวลคงที่ และมีสมบัติของสารแตกต่างไปจากสมบัติของธาตที่เป็นองค์ประกอบ ซึ่ง

สามารถแยกออกเป็นธาตุได้ด้วยวิธีการทางเคมี



5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย

2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมั่นในการทำงาน

2) ทักษะการระบุ
3) ทักษะการสำรวจ

4) ทักษะการจัดกลุ่ม

5) ทักษะการจำแนกประเภท
6) ทักษะการเปรียบเทียบ

7) ทักษะการเชื่อมโยง
8) ทักษะการสรุปย่อ

3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต


6. กิจกรรมการเรียนรู้


 แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีสอน/เทคนิค : สืบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)


ชั่วโมงที่ 1



ขั้นนำ

กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูแจ้งผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ

2. ครูถามคำถามทบทวนความรู้เดิมของนักเรียน ดังนี้
- สารบริสุทธิ์ คืออะไร


(แนวคำตอบ สารบริสทธิ์ คือ สารที่มีองค์ประกอบเพียงชนิดเดียว มีสมบัติเฉพาะทางกายภาพ
และสมบัตทางเคมี)



85

- เพราะเหตุใด ธาตุจึงจดเป็นสารบริสุทธิ์

(แนวคำตอบ เพราะธาตุประกอบด้วยอะตอมเพียงชนิดเดียว ไม่สามารถแยกหรือสลายออกเป็น

สารอื่นได้)

3. ครูเกริ่นว่า อะตอมของธาตุสามารถสร้างพันธะระหว่างกันได้ จากนั้นนำเสนอแบบจำลองสาร
ต่อไปนี้

Mn Cl

O O Na
Na
H C H K
O


4. ครูถามนักเรียนเกี่ยวกับแบบจำลองโครงสร้างสารที่ครูนำเสนอ ดังนี้

- สารทครูแสดงจัดเป็นสารบริสุทธิ์หรือไม่ เพราะเหตุใด
ี่
(แนวคำตอบ พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน ตัวอย่างเช่น

จัดเป็นสารบริสุทธิ์ เพราะมีการสร้างพันธะร่วมกัน เป็นต้น)
ี่
ี่
- สารทครูแสดงมีคุณสมบัติแตกต่างไปจากธาตุทเป็นองค์ประกอบของสารนั้นหรือไม่
(แนวคำตอบ พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน ตัวอย่างเช่น

แตกต่าง เพราะธาตุต่างชนิดกันทำพันธะกัน เป็นต้น)

ขั้นสอน


สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม กลุ่มละ 5 คน จากนั้นให้นักเรียนส่งตัวแทนกลุ่มออกมารับใบงานท 1.5
ี่
เรื่อง สารประกอบ

ี่
2. ครูให้นักเรียนศึกษาเรื่อง สารประกอบ ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าท 18 หรือ
จากแหล่งการเรียนรู้อื่น ๆ จากนั้นให้นักเรียนบันทึกผลการสืบค้นลงในใบงานท 1.5 เรื่อง
ี่
สารประกอบ ตอนที่ 1
อธิบายความรู้ (Explain)


1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอหน้าชั้นเรียน เกี่ยวกับการบันทึกผลการสบค้น
ลงในใบงาน โดยนักเรียนกลุ่มอื่นร่วมกันอภิปรายเกี่ยวกับคำตอบของกลุ่มเพื่อนที่นำเสนอ
2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายและหาข้อสรุปจากกิจกรรม โดยครูถามคำถามนักเรียน ดังนี้

- สารประกอบ คืออะไร
(แนวคำตอบ สารประกอบ คือ สารบริสทธิ์ที่เกิดจากอะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปมา

รวมกันทางเคมี)


86

- อัตราส่วนโดยมวลของธาตที่รวมกันเป็นสารประกอบเป็นอย่างไร

(แนวคำตอบ อัตราส่วนโดยมวลคงที่)

- สมบัติของสารประกอบเปลี่ยนแปลงไปจากสมบัติของธาตุที่เป็นองค์ประกอบเดิมหรือไม่

(แนวคำตอบ สมบัติของสารประกอบเปลี่ยนแปลงไปจากสมบัตของธาตุที่เป็นองค์ประกอบเดิม)

ี่
- สารประกอบชนิดใดทสามารถใช้สตรโมเลกุลได ้

(แนวคำตอบ สารประกอบที่มีธาตุอโลหะเป็นองค์ประกอบเท่านั้น)


ชั่วโมงที่ 2



ขั้นสรุป

ขยายความเข้าใจ (Expand)

1. ครูถามนักเรียนว่า นอกจากตัวอย่างแบบจำลองโมเลกุลของสารประกอบที่ครูนำเสนอแล้ว
นักเรียนคิดว่า มีสารใดรอบตัวนักเรียนที่เป็นสารประกอบอีกบ้าง

(แนวคำตอบ พิจารณาตามคำตอบของนักเรียน โดยให้อยู่ในดุลยพินิจของครูผู้สอน ตัวอย่างเช่น
ผงชูรส น้ำ แก๊สคาร์บอนไดออกไซด์ เปนต้น)

2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ศึกษาค้นคว้าเกี่ยวกับสารประกอบที่อยู่รอบตัวนักเรียน แล้วบันทึกผล

การสืบค้นลงในใบงานท 1.5 เรื่อง สารประกอบ ตอนที่ 2
ี่
ตรวจสอบผล (Evaluate)

1. ครูตรวจแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

2. ครูตรวจใบงานที่ 1.5 เรื่อง สารประกอบ
3. ครูประเมินพฤติกรรมการทำงานกลุ่ม จากการทำใบงานที่ 1.5 เรื่อง สารประกอบ

4. ครูประเมินการนำเสนอใบงานที่ 1.5 เรื่อง สารประกอบ โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน





















87

7. การวัดและประเมินผล

รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การ

ประเมิน
7.1 การประเมิน

ระหว่าง
การจัดกิจกรรม - ตรวจใบงานที่ 1.5 - เฉลยใบงานที่ 1.5 เรื่อง ระดับคุณภาพ 2

1) สารประกอบ เรื่อง สารประกอบ สารประกอบ ผ่านเกณฑ์

- ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 60 ผ่าน
ม.1 เล่ม 1 เกณฑ์

2) การนำเสนอ - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ 2
ผลงาน ใบงานที่ 1.5 เรื่อง นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์

สารประกอบ

3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
ุ่
ทำงานรายกลม การทำงานรายกลม การทำงานรายกลม ผ่านเกณฑ์
ุ่
ุ่

4) คณลักษณะอันพึง - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมินคุณลักษณะ ระดับคุณภาพ 2

ประสงค ์ ใฝเรียนรู้ และมุ่งมั่น อันพึงประสงค ์ ผ่านเกณฑ์
ในการทำงาน



8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้

8.1 สื่อการเรียนร ู้

1) หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
2) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1

3) แบบจำลองโครงสร้างของสาร

4) ใบงานที่ 1.5 เรื่อง สารประกอบ
8.2 แหล่งการเรยนร ู้

1) ห้องเรียน
2) สื่ออินเตอร์เน็ต











88

ใบงานที่ 1.5

เรื่อง สารประกอบ



ตอนที่ 1
คำชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับสารประกอบ แล้วบันทึกผลการสืบค้นลงในใบงาน

สมบัติของ สมบัติของธาตุที่เป็น
รูปโมเดลสารประกอบ ชื่อสารประกอบ
สารประกอบ องค์ประกอบ
โซเดียมไฮดรอกไซด

Na
H
O

O กรดคาร์บอนิก


C H




โพแทสเซียมเปอร์-
Mn O แมงกาเนต



K


Cl โซเดียมคลอไรด ์

Na






คำถามหลังกจกรรม
1. สารประกอบ คืออะไร
...................................................................................................................................................................

...................................................................................................................................................................

2. สารประกอบมีสมบัตเหมือนกับธาตุที่เป็นองค์ประกอบของสารประกอบนั้นหรือไม่
...................................................................................................................................................................





89

ตอนที่ 2
คำชี้แจง จงเขียนชื่อและสูตรโมเลกุลของสารประกอบรอบตัวของนักเรียนมาอย่างน้อย 5 ชนิด พร้อมกับ

ระบุประโยชน์และโทษของสารประกอบชนิดนั้น


ชื่อสารประกอบ สูตรโมเลกุล ประโยชน์/โทษของสารประกอบ








NH CONH N,H,C,O
2
2

H SO H,S,O
4
2

Hl








Na B O ·10H O
2 4 7
2

CO 2 C,O




C H NO Na
4
5 8



















90

ใบงานที่ 1.5

เรื่อง สารประกอบ



ตอนที่ 1
คำชี้แจง ให้นักเรียนศึกษาเกี่ยวกับสารประกอบ แล้วบันทึกผลการสืบค้นลงในใบงานตอนที่ 1

สมบัติของ สมบัติของธาตุที่เป็น
รูปโมเดลสารประกอบ ชื่อสารประกอบ
สารประกอบ องค์ประกอบ

Na
H โซเดียมไฮดรอกไซด ์
O

O


C H กรดคาร์บอนิก




Mn
O
โพแทสเซียมเปอร์-

K แมงกาเนต


Cl
Na


โซเดียมคลอไรด ์





คำถามหลังกจกรรม
1. สารประกอบ คืออะไร

สารประกอบ คือ สารบริสทธิ์ที่เกิดจากอะตอมของธาตุตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปมารวมกันทางเคมี โดยมี

อัตราส่วนโดยมวลคงท ี่

2. สารประกอบมีสมบัตเหมือนกับธาตุที่เป็นองค์ประกอบของสารประกอบนั้นหรือไม่

สารประกอบมีสมบัติแตกต่างกับธาตุทเป็นองค์ประกอบของสารประกอบนั้น เนื่องจากมีการสร้าง
ี่
พันธะระหว่างอะตอมทำให้กลายเป็นโมเลกุลใหม่





91

ตอนที่ 2
คำชี้แจง จงเขียนชื่อและสูตรโมเลกุลของสารประกอบรอบตัวของนักเรียนมาอย่างน้อย 5 ชนิด พร้อมกับ

ระบุประโยชน์และโทษของสารประกอบชนิดนั้น



ชื่อสารประกอบ สูตรโมเลกุล ประโยชน์/โทษของสารประกอบ


ประโยชน์

1. ใช้แก้ดินเปรี้ยว
2. ใช้ทำยาลดกรดในกระเพาะ

ตัวอย่างคำตอบ อาหาร

แคลเซียมไฮดรอกไซด ์ Ca(OH) 2 โทษ
1. เมื่ออยู่ในรูปสารละลายจะมี

ฤทธิ์เป็นเบส กัดกร่อนผิวหนัง

ก่อให้เกิดการระคายเคือง







































92

บันทึกผลหลังการสอน

 ด้านความรู้




 ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน




 ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค ์




 ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์




 ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))






 ปัญหา/อุปสรรค




 แนวทางการแก้ไข










ลงชื่อ .................................

(นายประสพโชค ประภา)


ตำแหน่ง ครชำนาญการพิเศษ



93

ี่

ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย

ข้อเสนอแนะ



ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา



ี่
ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย



ข้อเสนอแนะ


ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)

ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา



































94

แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6


สารผสม

เวลา 4 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด

1.1 ตัวชี้วัด


ว 2.1 ม.1/4 เปรียบเทียบจุดเดือด จดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสารผสม โดยการวัดอุณหภูมิ
เขียนกราฟ แปลความหมายข้อมูลจากกราฟหรือสารสนเทศ
ว 2.1 ม.1/5 อธิบายและเปรียบเทียบความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม

ว 2.1 ม.1/6 ใช้เครื่องมือวัดมวลและปริมาตรของสารบริสุทธิ์และสารผสม


2. จุดประสงค์การเรียนรู้

1. อธิบายความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้ (K)

2. เปรียบเทียบจุดเดือด จดหลอมเหลวของสารบริสทธิ์และสารผสมได้ (P)


3. เปรียบเทียบความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้ (P)


4. ใช้เครื่องมือวัดมวลและปริมาตรของสารบริสทธิ์และสารผสมได (P)

5. ใฝ่รู้และรับผดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A)


3. สาระการเรียนรู้

สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น

- สารบริสุทธิ์ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วน พิจารณาตามหลักสตรของสถานศึกษา
สารผสมประกอบด้วยสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไป สาร

บริสุทธิ์แต่ละชนิดมีสมบัติบางประการที่เป็น คา

เฉพาะตัว เช่น จุดเดือดและจุดหลอมเหลวคงที่ แต่สาร

ผสมมีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับชนิด

และสัดส่วนของสารที่ผสมอยู่ด้วยกัน
- สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีความหนาแน่น หรือมวลตอ

ี่
หนึ่งหน่วยปริมาตรคงท เป็นค่าเฉพาะของสารนั้น ณ
สถานะและอุณหภูมิหนึ่ง แต่สารผสมมีความหนาแน่นไม่

คงที่ขึ้นอยู่กับชนิดและสัดส่วนของสารที่ผสมอยู่ด้วยกัน






95

4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด

สารผสมเกิดจากสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปมาผสมกัน โดยสารผสมบางชนิดผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
เรียกว่า สารละลาย ซึ่งประกอบด้วยตัวละลายและตัวทำละลาย ซึ่งตัวทำละลายจะมีปริมาณมากกว่า

และมีสถานะเดียวกับสารละลาย นอกจากนี้สารผสมบางชนิดผสมไม่เป็นเนื้อเดียวกัน เรียกว่า สารเนื้อ

ผสม ซึ่งมี 2 ประเภท ไดแก่ สารแขวนลอย และคอลลอยด์



5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์

สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์

1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้

1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
2) ทักษะการระบุ

3) ทักษะการสำรวจ

4) ทักษะการจัดกลุ่ม
5) ทักษะการจำแนกประเภท

6) ทักษะการเปรียบเทียบ


7) ทักษะการเชื่อมโยง

8) ทักษะการสรุปย่อ
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต



6. กิจกรรมการเรียนรู้


 แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีสอน/เทคนิค : สบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)


ชั่วโมงที่ 1


ขั้นนำ

กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูแจ้งผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ

2. ครูนำสารมา 3 ชนิด ได้แก่ น้ำแดง น้ำนม น้ำโคลน แล้วให้นักเรียนเปรียบเทียบความเหมือน และ

ความแตกต่างของสารทั้งสามชนิด



96

3. ครูเกริ่นนำถามคำถามนักเรียนว่า สารผสม คืออะไร และให้นักเรียนยกตัวอย่างสารผสมที่นักเรียน
รู้จักมาคนละชนิด


ขั้นสอน

สำรวจค้นหา (Explore)

1. ครูให้นักเรียนจับคู่ศึกษา เรื่อง สารละลาย จากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 19

2. ครูแบ่งกลุ่มนักเรียนออกเป็น 4 กลุ่ม

3. ครูเตรียมอุปกรณ์การทดลองให้กับแตละกลุ่ม ดังนี้
- เกลือ

- น้ำกลั่น
3
- บีกเกอร์ขนาด 250 cm
- แท่งคนสารช้อนตักสาร

- กระบอกตวง

- เครื่องชั่งสาร

4. จากนั้นครูให้นักเรียนชั่งเกลือมา 10 กรัม ใสลงในบีกเกอร์แล้วเติมน้ำกลั่นจนมีปริมาตรเป็น 100

ลูกบาศก์เซนติเมตร

5. ครูให้นักเรียนสืบค้นคำตอบของคำถามท้าทายความคิดขั้นสูง (H.O.T.S.)

- จงอธิบายความแตกต่างระหว่างการหลอมเหลวกับการละลาย
(แนวคำตอบ การหลอมเหลวเป็นการเปลี่ยนสถานะของสารจากของแข็งเป็นของเหลว แต่ยังคง


เป็นสารชนิดเดิม โดยสารต้องได้รับความร้อนจนกระทั่งถึงอุณหภูมิหนึ่ง ที่เรียกว่า จด
หลอมเหลว ซึ่งเป็นค่าเฉพาะของสารแต่ละชนิด ส่วนการละลายเกิดจากสารชนิดหนึ่ง (ตัวถูก
ละลาย) แตกตัวออกเป็นอนุภาคเลก ๆ และแทรกตัวในสารอีกชนิดหนึ่ง (ตัวทำละลาย)



ี่
กลายเป็นสารชนิดใหม่ หรือมีคุณสมบัตแตกตางไปจากเดิม โดยตัวถูกละลายจะเปลยน หรือไม่
เปลี่ยนสถานะ ขึ้นอยู่กับสถานะของตัวทำละลาย
อธิบายความรู้ (Explain)

1. ครูถามคำถามเพื่อทดสอบความเข้าใจของนักเรียน และอธิบายคำตอบ ดังนี้

- หลังจากเติมเกลือลงไปในน้ำ นักเรียนคิดว่า เกลอหายไปได้อย่างไร
(แนวคำตอบ อนุภาคของเกลือแตกตัว และละลายในน้ำ โดยการละลายเป็นสมบัติเฉพาะของ

สารขึ้นอยู่กับสภาพการละลายของสารแตละชนิด ซึ่งสารบางชนิดไม่ละลายน้ำ เช่น น้ำมัน เป็น
ต้น)

- สารที่ได้หลังจากเติมเกลือลงไป เรียกว่าอะไร



97


Click to View FlipBook Version