(แนวคำตอบ สารละลาย)
- จากการทดลองนักเรียนคิดว่าสารใดเป็นตัวละลาย และสารใดเป็นตัวทำละลาย
ั
(แนวคำตอบ น้ำเป็นตัวทำละลาย และเกลือเป็นตวละลาย)
่
- จากการทดลองสารละลายที่ได้มีคุณสมบัติแตกตางจากสารตั้งต้นอย่างไร
(แนวคำตอบ สารละลายที่ได้มีสมบัติเป็นของเหลว นำไฟฟ้าได้ และจัดว่าเป็นสารผสมที่เกิดจาก
สสารตั้ง 2 ชนิดมาผสมกันเป็นเนื้อเดียว ขณะสารตั้งต้น เช่น เกลือแกงมีสมบัติเป็นของแขงไม่
็
นำไฟฟ้า ส่วนน้ำมีสมบัติเป็นของเหลวนำไฟฟ้าได้ ซึ่งสารตั้งต้นทั้งสองจัดว่าเป็นสารประกอบ
เป็นต้น)
- นักเรียนคิดว่าสารประกอบแตกต่างอย่างไรกับสารละลาย
ุ
(แนวคำตอบ สารประกอบเกิดจากธาต ตงแต่ 2 ชนิดมารวมกันทางเคมีกลายเป็นสารชนิดใหม่ท ี่
ั้
มีคุณสมบัติแตกต่างไปจากธาตุเดิมที่มาเป็นองค์ประกอบ ซึ่งจัดว่าเป็นสารบริสุทธิ์ แต ่
สารละลายเกิดจากสารตั้งแต่ 2 ชนิดมาผสมกันเป็นเนื้อเดียวกัน ซึ่งจัดว่าเป็นสารไม่บริสุทธิ์)
ชั่วโมงที่ 2
ขั้นสอน
สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูให้นักเรียนสืบค้นวิธีการคำนวณสารละลาย เพื่อใช้เป็นความรู้ในการทำกิจกรรม เรื่อง การ
เตรียมสารละลาย ตามหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 20 แล้วบันทึกผลลงใน
แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
อธิบายความรู้ (Explain)
1. ครูสอนการคำนวณสารละลายในหน่วยร้อยละโดยมวล ร้อยละโดยปริมาตร และร้อยละโดยมวล
ต่อปริมาตร เพื่อทำกิจกรรมการเตรียมสารละลาย
2. ครูสุ่มนักเรียนออกมาทำโจทย์หน้าชั้นเรียน
ชั่วโมงที่ 3
อธิบายความรู้ (Explain)
1. ครูถามคำถามหลังการทดลอง ดังนี้
- จากกิจกรรม นักเรียนคิดว่าสารใดเป็นตัวละลาย และสารใดเป็นตัวทำละลาย
(แนวคำตอบ น้ำเป็นตัวทำละลาย และโพแทสเซียมเปอร์แมงกาเนต หรือด่างทับทิมเป็นตว
ั
ละลาย)
- จากกิจกรรม สีของสารละลายด่างทับทิมที่เตรียมได้แตกต่างกันหรือไม่ อย่างไร
98
่
(แนวคำตอบ แตกต่างกัน สีของสารละลายที่มีดางทับทิม 10 กรัม (ความเข้มข้นมากกว่า) จะมีส ี
เข้มกว่า สารละลายที่มีด่างทับทิม 5 กรัม (เจือจางกว่า))
2. ครูสุ่มนักเรียน 6 คน ออกมาคำนวณความเข้มข้นของสารละลายที่เตรียมได้จากกิจกรรมเป็น
หน่วยร้อยละโดยมวล ร้อยละโดยปริมาตร และร้อยละโดยมวลต่อปริมาตร ตามลำดับ โดย 3 คน
แรกคำนวณโดยใชปริมาณด่างทับทิม 5 กรัม และอีก 3 คน คำนวณโดยใช้ปริมาณดางทบทม 10
่
ั
ิ
้
กรัม
(แนวคำตอบ
่
สารละลายที่มีตัวละลายดางทับทิม 5 กรัม จะมีความเข้มข้นร้อยละโดยมวลเทากับ
่
0.05 ร้อยละโดยปริมาตรเท่ากับ 0.02 และความเข้มข้นร้อยละโดยมวลต่อปริมาตรเท่ากับ 0.05
สารละลายที่มีตัวละลายด่างทับทิม 10 กรัม จะมีความเข้มข้นร้อยละโดยมวล
เท่ากับ 0.10 ร้อยละโดยปริมาตรเท่ากับ 0.04 และความเข้มข้นร้อยละโดยมวลต่อปริมาตร
เท่ากับ 0.10)
3. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลที่ได้จากการทำกิจกรรม
ชั่วโมงที่ 4
ขั้นสอน
สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูให้นักเรียนศึกษา เรื่อง สารแขวนลอย และคอลลอยด์ ในหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
หน้าที่ 21
2. ครูเตรียมชุดสาธิตให้นักเรียนศึกษา เรื่อง สารผสม จากฐานกิจกรรม ดังนี้
ี่
- ฐานท 1 เตรียมน้ำโคลน 500 mL ในบีกเกอร์ขนาด1000 ml
เตรียมน้ำนม 500 mL ในบีกเกอร์ขนาด1000 ml
์
- ฐานท 2 ปรากฏการณทินดอลล ์
ี่
เตรียมน้ำนมผสมน้ำให้มีปริมาตร 300 ml ในบีกเกอร์ขนาด 500 ml
เตรียมน้ำเกลือให้มีปริมาตร 300 ml ในบีกเกอร์ขนาด 500 ml
ไฟฉาย 1 กระบอก
- ฐานท 3 อิมัลชั่น
ี่
เตรียมน้ำมันพืช น้ำส้มสายชู และไข่แดงใสลงในหลอดทดลองอย่างละหลอด
่
3. ครูแจกใบงานที่ 1.6 เรื่อง สารผสม จากนั้นให้นักเรียนจับกลุ่ม 3 คน โดยให้สมาชิกภายในกลุ่ม
ทำกิจกรรมฐานต่อไปนี้
- สมาชิกคนที่ 1 ทำกิจกรรมฐานที่ 1 เรื่อง ความแตกต่างของสารเนื้อผสม
99
- สมาชิกคนที่ 2 ทำกิจกรรมฐานที่ 2 เรื่อง ปรากฏการณ์ทินดอลล ์
- สมาชิกคนที่ 3 ทำกิจกรรมฐานที่ 3 เรื่อง อิมัลชน โดยให้สมาชิกคนที่ 3 ของแต่ละกลุ่มออกมา
ั
รับ หลอดทดลอง 1 หลอด และหลอดดูดสาร เพื่อใช้ทำกิจกรรม
4. ครูให้นักเรียนทำกิจกรรมฐานตามขั้นตอนและบันทึกผลลงในใบงานที่ 1.6 เรื่อง สารผสม
อธิบายความรู้ (Explain)
1. ครูให้สมาชิกภายในกลุ่มนำผลการทดลองที่บันทึกลงในใบงานมาแลกเปลี่ยนข้อมูลและอธิบายผล
จากกิจกรรมฐานให้สมาชิกภายในกลุ่มเข้าใจ
2. ครูสุ่มตัวแทนกลุ่ม 1 คน ออกมาสรุปผลจากใบงานที่ 1.6 เรื่อง สารผสม
3. ครูถามคำถามเพื่อทดสอบความเข้าใจของนักเรียน ดังนี้
- สารผสมทุกชนิดจัดเป็นสารเนื้อผสม นักเรียนเห็นด้วยกับข้อความนี้หรือไม่ อย่างไร
(แนวคำตอบ ไม่ สารผสม เกิดจากสารตั้งแต่ 2 ชนิดมาผสมกัน บางชนิดผสมกันเป็นเนื้อเดียวกัน
เช่น สารละลาย บางชนิดผสมไม่เป็นเนื้อเดียวกัน (สารเนื้อผสม) เช่น สารแขวนลอย และ
คอลลอยด์ เป็นต้น)
- สารแขวนลอย ต่างจากคอลลอยด์อย่างไร
(แนวคำตอบ เมื่อตั้งสารแขวนลอยทิ้งไว้จะตกตะกอน ส่วนคอลลอยด์เมื่อตั้งทิ้งไว้จะไม่ตกตะกอน
เนื่องจากอนุภาคของสารแขวนลอยด์มีขนาดใหญ่กว่าคอลลอยด์)
์
- ปรากฏการณ์ทินดอลล คืออะไร
(แนวคำตอบ ปรากฎการณ์ที่เกิดจากการหักเห และการกระเจิงของแสง เมื่อฉายแสงให้กับสาร
แขวนลอย หรือคอลลอยด์จะเห็นเป็นลำแสงส่องผานสารชนิดดังกล่าว)
่
- อิมัลชั่น และ อิมัลซิไฟเออร์มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
(แนวคำตอบ อิมัลชัน คือ สารผสมที่เกิดจากของเหลวตั้งแต่ 2 ชนิด ที่ไม่ละลายซึ่งกันและกัน และ
อิมัลซิไฟเออร์ คือ ตัวประสานให้ของเหลว 2 ชนิดที่ไม่ละลายซึ่งกันและกัน หรืออิมัลชันมาผสม
รวมกันได้)
ขั้นสรุป
ขยายความเข้าใจ (Expand)
1. ครูให้นักเรียนรวบรวมข้อมูลเรื่อง สารบริสุทธิ์และสารผสม โดยทำในรูปแบบแผนผังมโนทัศน์ท ี่
ุ
เข้าใจง่ายและสวยงาม ลงในกระดาษ A4 จากนั้นให้นักเรียนสรุปว่า สารบริสทธิ์และสารผสมมี
ความแตกต่างกันอย่างไร
2. ครูให้นักเรียนทำแบบฝึกหัดลงในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
ตรวจสอบผล (Evaluate)
100
ี่
1. ครูตรวจใบงานท 1.6 เรื่อง สารผสม
2. ครูประเมินผังมโนทัศน์ เรื่อง สารบริสุทธิ์และสารผสม
3. ครูตรวจแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
4. ครูกิจกรรมท้าทายความคิดขั้นสูงในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
5. ครูประเมินพฤติกรรมการทำงานรายบุคคลจากการสืบค้นและศึกษา เรื่อง สารละลาย
6. ครูประเมินพฤติกรรมการทำงานรายกลุ่มจากการทำกิจกรรรมฐาน เรื่อง สารผสม
7. ครูประเมินผลการนำเสนอใบงาน เรื่อง สารผสม โดยใช้แบบประเมินการนำเสนอผลงาน
101
7. การวัดและประเมินผล
รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
7.1 การประเมินระหว่าง
การจัดกิจกรรม
ี่
ี่
1) สารผสม - ตรวจใบงานท 1.6 - เฉลยใบงานท 1.6 เรื่อง ร้อยละ 60 ผ่าน
เรื่อง สารผสม สารผสม เกณฑ์
- ประเมินผังมโนทัศน์ - แบบประเมินชิ้นงาน ระดับคุณภาพ 2
เรื่อง สารบริสุทธิ์และ ผ่านเกณฑ์
สารผสม
- ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 60 ผ่าน
ม.1 เล่ม 1 เกณฑ์
2) การนำเสนอผลงาน - ประเมินการนำเสนอ - แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ 2
ใบงานที่ 1.6 นำเสนอผลงาน ผ่านเกณฑ์
3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
ทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล การทำงานรายบุคคล ผ่านเกณฑ์
4) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
ุ่
ุ่
ุ่
ทำงานรายกลม การทำงานรายกลม การทำงานรายกลม ผ่านเกณฑ์
5) คณลักษณะอันพึง - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
ุ
่
ประสงค ์ ใฝเรียนรู้ และมุ่งมั่น คุณลักษณะอันพึง ผ่านเกณฑ์
ในการทำงาน ประสงค ์
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สื่อการเรียนร ู้
1) หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
2) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
3) ภาพสารตัวอย่าง
4) อุปกรณ์การทดลอง เรื่อง สารผสม
5) ใบงานที่ 1.6 เรื่อง สารผสม
ี
8.2 แหล่งการเรยนร ู้
1) ห้องเรียน
2) ห้องปฏิบัติกร
102
ใบงานที่ 1.6
เรื่อง สารผสม
คำชี้แจง ให้นักเรียนทำกิจกรรมฐานต่อไปนี้
ฐานที่ 1 สารใดเป็นสารแขวนลอย
ขั้นตอนการทดลอง : สังเกตตะกอนที่เกิดขึ้นจากบีกเกอร์ที่มีน้ำโคลน และบีกเกอร์ที่มีน้ำนม
สาร ลักษณะที่สังเกตได้จาก
จากการทดลองสารชนิดใดเป็นสารแขวนลอย เพราะเหตุใด
น้ำโคลนเป็นสารแขวนลอย เนื่องจากอนุภาคของสารในน้ำโคลนมีขนาดใหญ่ เมื่อตั้งทิ้งไว้อนุภาคจะ
ฐานที่ 2 ปรากฏการณ์ทินดอลล ์
ขั้นตอนการทดลอง : นำไฟฉายมาส่องสารผสมทเตรียมไว้ในบีกเกอร์ สังเกตลำแสงทส่องผ่านผสม
ี่
ี่
สาร ลักษณะที่สังเกตได้จาก
น้ำนมผสมน้ำ เห็นลำแสงส่องผานสาร
่
น้ำเกลือ ไม่เห็นลำแสง
จากการทดลองสารชนิดใดเป็นคอลลอยด์ เพราะเหตุใด
น้ำนมผสมน้ำเป็นสารผสมประเภทคอลลอยด์ เพราะแสงที่ส่องผ่านสารผสมเกิดการกระเจิงของแสง
จากการทดลองน้ำเกลือเป็นสารผสมประเภทใด
น้ำเกลือเป็นสารละลาย เนื่องจากน้ำเกลือเป็นสารผสมเนื้ อเดยว
ี
จากการทดลองนักเรียนมีวิธีแยกน้ำกลั่นกับน้ำเกลืออย่างไร
นำสารทั้งสองไปหาจุดเดือด และจุดหลอมเหลว โดยสารบริสทธิ์จะมีจุดเดือดคงที่ และมีจุดเดือดตำ
่
ุ
ฐานที่ 3 อิมัลชัน
ขั้นตอนการทดลอง : 1. หยดน้ำมันพืชและน้ำส้มสายชูลงในหลอดทดลอง
2. เขย่าหลอดทดลอง สังเกตและบันทึกผล
3. หยดไข่แดงลงในหลอดทดลองข้อ 2. สังเกตและบันทึกผล
ลักษณะสารก่อนหยดไข่แดง ลักษณะสารหลังหยดไข่แดง
ู
เกิดการแยกชั้นระหว่างน้ำมันกับน้ำส้มสายช ู น้ำมันและน้ำส้มสายชผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
น้ำเกลือ ไม่เห็นลำแสง
ไข่แดงจัดเป็นสารประเภทใด ทำหน้าที่อย่างไร
ไข่แดงเป็นอิมัลซิไฟเออร์ ทำหน้าที่เป็นตัวประสานให้น้ำมันรว มกับ
103
คำถามท้ายกิจกรรม
1. สารผสมทุกชนิดจัดเป็นสารเนื้อผสม นักเรียนเห็นด้วยกับข้อความนี้หรือไม่ อย่างไร
่
ไม่ สารผสม เกิดจากสารตั้งแต 2 ชนิดมาผสมกัน บางชนิดผสมกันเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น สารละลาย
่
บางชนิดผสมไม่เป็นเนื้อเดียวกัน (สารเนื้อผสม) เชน สารแขวนลอย และคอลลอยด์ เป็นต้น
2. สารแขวนลอย ต่างจากคอลลอยด์อย่างไร
่
ไม่ สารผสม เกิดจากสารตั้งแต 2 ชนิดมาผสมกัน บางชนิดผสมกันเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น สารละลาย
บางชนิดผสมไม่เป็นเนื้อเดียวกัน (สารเนื้อผสม) เชน สารแขวนลอย และคอลลอยด์ เป็นต้น
่
3. ปรากฏการณ์ทินดอลล์ คืออะไร
ไม่ สารผสม เกิดจากสารตั้งแต 2 ชนิดมาผสมกัน บางชนิดผสมกันเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น สารละลาย
่
่
บางชนิดผสมไม่เป็นเนื้อเดียวกัน (สารเนื้อผสม) เชน สารแขวนลอย และคอลลอยด์ เป็นต้น
ั
4. อิมัลชน และ อิมัลซิไฟเออร์มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
่
ไม่ สารผสม เกิดจากสารตั้งแต 2 ชนิดมาผสมกัน บางชนิดผสมกันเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น สารละลาย
่
บางชนิดผสมไม่เป็นเนื้อเดียวกัน (สารเนื้อผสม) เชน สารแขวนลอย และคอลลอยด์ เป็นต้น
รวมกันได ้
104
ใบงานที่ 1.6 เฉลย
เรื่อง สารผสม
คำชี้แจง ให้นักเรียนทำกิจกรรมฐานต่อไปนี้
ฐานที่ 1 สารใดเป็นสารแขวนลอย
ขั้นตอนการทดลอง : สังเกตตะกอนที่เกิดขึ้นจากบีกเกอร์ที่มีน้ำโคลน และบีกเกอร์ที่มีน้ำนม
สาร ลักษณะที่สังเกตได้จาก
น้ำโคลน เกิดตะกอน
น้ำนม ไม่เกิดตะกอน
จากการทดลองสารชนิดใดเป็นสารแขวนลอย เพราะเหตุใด
้
น้ำโคลนเป็นสารแขวนลอย เนื่องจากอนุภาคของสารในนำโคลนมีขนาดใหญ่ เมื่อตั้งทิ้งไว้อนุภาคจะตกตะกอน
ฐานที่ 2 ปรากฏการณ์ทินดอลล ์
ี่
ี่
ขั้นตอนการทดลอง : นำไฟฉายมาส่องสารผสมทเตรียมไว้ในบีกเกอร์ สังเกตลำแสงทส่องผ่านผสม
สาร ลักษณะที่สังเกตได้จาก
น้ำนมผสมน้ำ เห็นลำแสงส่องผ่านสาร
น้ำเกลือ ไม่เห็นลำแสง
จากการทดลองสารชนิดใดเป็นคอลลอยด์ เพราะเหตุใด
น้ำนมผสมน้ำเป็นสารผสมประเภทคอลลอยด์ เพราะแสงที่ส่องผ่านสารผสมเกิดการกระเจิงของแสง
จากการทดลองน้ำเกลือเป็นสารผสมประเภทใด
ื้
น้ำเกลือเป็นสารละลาย เนื่องจากน้ำเกลือเป็นสารผสมเนอเดียว
จากการทดลองนักเรียนมีวิธีแยกน้ำกลั่นกับน้ำเกลืออย่างไร
นำสารทั้งสองไปหาจุดเดือด และจุดหลอมเหลว โดยสารบริสุทธิ์จะมีจุดเดือดคงที่ และมีจุดเดือดต่ำกว่าสารไม่
บริสุทธิ์ ส่วนจุดหลอมเหลวของสารบริสุทธจะสูงกว่าและช่วงการหลอมเหลวจะแคบกว่าสารไม่บริสุทธิ์
ิ์
ฐานที่ 3 อิมัลชั่น
ขั้นตอนการทดลอง : 1. หยดน้ำมันพืชและน้ำส้มสายชูลงในหลอดทดลอง
2. เขย่าหลอดทดลอง สังเกตและบันทึกผล
3. หยดไข่แดงลงในหลอดทดลองข้อ 2. สังเกตและบันทึกผล
ลักษณะสารก่อนหยดไข่แดง ลักษณะสารหลังหยดไข่แดง
เกิดการแยกชั้นระหว่างน้ำมันกับน้ำส้มสายชู น้ำมันและน้ำส้มสายชูผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
น้ำเกลือ ไม่เห็นลำแสง
ไข่แดงจัดเป็นสารประเภทใด ทำหน้าที่อย่างไร
ไข่แดง เป็นอิมัลซิไฟเออร์ ทำหน้าทเป็นตวประสานให้น้ำมันรวมกับน้ำส้มสายชูได้
ั
ี่
คำถามท้ายกิจกรรม
105
1. สารผสมทุกชนิดจัดเป็นสารเนื้อผสม นักเรียนเห็นด้วยกับข้อความนี้หรือไม่ อย่างไร
่
ไม่ สารผสม เกิดจากสารตั้งแต 2 ชนิดมาผสมกัน บางชนิดผสมกันเป็นเนื้อเดียวกัน เช่น สารละลาย
่
บางชนิดผสมไม่เป็นเนื้อเดียวกัน (สารเนื้อผสม) เชน สารแขวนลอย และคอลลอยด์ เป็นต้น
2. สารแขวนลอย ต่างจากคอลลอยด์อย่างไร
เมื่อตั้งสารแขวนลอยทิ้งไว้จะตกตะกอน ส่วนคอลลอยด์ เมื่อตั้งทิ้งไว้จะไม่ตกตะกอน เนื่องจาก
อนุภาคของสารแขวนลอยด์มีขนาดใหญ่กว่าคอลลอยด์
3. ปรากฏการณ์ทินดอลล์ คืออะไร
ปรากฎการณ์ที่เกิดจากการหักเห และการกระเจิงของแสง เมื่อฉายแสงให้กับสารแขวนลอย หรือ
คอลลอยด์จะเห็นเป็นลำแสงส่องผ่านสารชนิดดังกล่าว
4. อิมัลชน และ อิมัลซิไฟเออร์มีความเกี่ยวข้องกันอย่างไร
ั
ี่
อิมัลชน คือ สารผสมทเกิดจากของเหลวตั้งแต่ 2 ชนิด ที่ไม่ละลายซึ่งกันและกัน และอิมัลซิไฟเออร์
ั
คือ ตัวประสานให้ของเหลว 2 ชนิดที่ไม่ละลายซึ่งกันและกัน หรืออิมัลชนมาผสมรวมกันได ้
ั
106
บันทึกผลหลังการสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค ์
ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์
ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
ลงชื่อ .................................
(นายประสพโชค ประภา)
ู
ตำแหน่ง ครชำนาญการพิเศษ
107
ี่
ึ
ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)
์
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา
ี่
ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย
ึ
ข้อเสนอแนะ
ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)
์
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา
108
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7
สมบัติของสารบริสุทธิ์และสารผสม
เวลา 5 ชั่วโมง
1. มาตรฐาน/ตัวชี้วัด
1.1 ตัวชี้วัด
ว 2.1 ม.1/4 เปรียบเทียบจุดเดือด จุดหลอมเหลวของสารบริสุทธิ์และสารผสม โดยการวัด
อุณหภูมิ เขียนกราฟ แปลความหมายข้อมูลจากกราฟหรือสารสนเทศ
ว 2.1 ม.1/5 อธิบายและเปรียบเทียบความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสม
ว 2.1 ม.1/6 ใช้เครื่องมือวัดมวลและปริมาตรของสารบริสุทธิ์และสารผสม
2. จุดประสงค์การเรียนรู้
1) อธิบายความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้ (K)
ุ
2) เปรียบเทียบจุดเดือด จดหลอมเหลวของสารบริสทธิ์และสารผสมได้ (P)
ุ
3) เปรียบเทียบความหนาแน่นของสารบริสุทธิ์และสารผสมได้ (P)
ุ
4) ใช้เครื่องมือวัดมวลและปริมาตรของสารบริสทธิ์และสารผสมได้ (P)
5) ใฝ่รู้และรับผิดชอบต่องานที่ได้รับมอบหมาย (A)
3. สาระการเรียนรู้
สาระการเรียนรู้แกนกลาง สาระการเรียนรู้ท้องถิ่น
- สารบริสุทธิ์ประกอบด้วยสารเพียงชนิดเดียว ส่วน พิจารณาตามหลักสตรของสถานศึกษา
ู
สารผสมประกอบดวยสารตงแต่ 2 ชนิดขึ้นไป สาร
้
ั้
่
บริสุทธิ์แต่ละชนิดมีสมบัติบางประการที่เป็น คา
เฉพาะตัว เช่น จุดเดือดและจุดหลอมเหลวคงที่ แต่สาร
ผสมมีจุดเดือดและจุดหลอมเหลวไม่คงที่ ขึ้นอยู่กับชนิด
ี่
และสัดส่วนของสารทผสมอยู่ด้วยกัน
่
- สารบริสุทธิ์แต่ละชนิดมีความหนาแน่น หรือมวลตอ
หนึ่งหน่วยปริมาตรคงท เป็นคาเฉพาะของสารนั้น ณ
่
ี่
สถานะและอุณหภูมิหนึ่ง แต่สารผสมมีความหนาแน่นไม่
้
ี่
ั
คงที่ขึ้นอยู่กับชนิดและสดสวนของสารทผสมอยู่ดวยกัน
่
ระหว่างอนุภาคน้อยทสด อนุภาคเคลอนที่ไดอย่างอิสระ
ื่
ี่
้
ุ
ทุกทิศทาง ทำให้มีรูปร่างและปริมาตรไม่คงท ี่
109
4. สาระสำคัญ/ความคิดรวบยอด
สารผสมเกิดจากสารตั้งแต่ 2 ชนิดขึ้นไปมาผสมกัน โดยสารผสมบางชนิดผสมเป็นเนื้อเดียวกัน
เรียกว่า สารละลาย ซึ่งประกอบด้วยตัวละลายและตัวทำละลาย ซึ่งตัวทำละลายจะมีปริมาณมากกว่า
ี
และมีสถานะเดียวกับสารละลาย นอกจากนี้สารผสมบางชนิดผสมไม่เป็นเนื้อเดยวกัน เรียกว่า สารเนื้อ
ผสม ซึ่งมี 2 ประเภท คือ สารแขวนลอยและคอลลอยด์
5. สมรรถนะสำคัญของผู้เรียนและคุณลักษณะอันพึงประสงค์
สมรรถนะสำคัญของผู้เรียน คุณลักษณะอันพึงประสงค์
1. ความสามารถในการสื่อสาร 1. มีวินัย
2. ความสามารถในการคิด 2. ใฝ่เรียนรู้
1) ทักษะการสังเกต 3. มุ่งมั่นในการทำงาน
2) ทักษะการระบุ
3) ทักษะการเปรียบเทียบ
4) ทักษะการจำแนกประเภท
5) ทักษะการให้เหตุผล
6) ทักษะการรวบรวมข้อมูล
7) ทักษะการสำรวจค้นหา
3. ความสามารถในการใช้ทักษะชีวิต
6. กิจกรรมการเรียนรู้
ื
แนวคิด/รูปแบบการสอน/วิธีสอน/เทคนิค : สบเสาะหาความรู้ 5Es (5Es Instructional Model)
ชั่วโมงที่ 1
ขั้นนำ
กระตุ้นความสนใจ (Engage)
1. ครูแจ้งผลการเรียนรู้ให้นักเรียนทราบ
2. ครูนำแก้วมา 2 ใบ โดยใบหนึ่งใส่น้ำเกลือ และอีกใบหนึ่งใส่น้ำธรรมดา จากนั้นครูหย่อนลูกปัด ลง
ในแก้วที่มีน้ำเกลือและน้ำธรรมดา จากนั้นครูให้นักเรียนเปรียบเทียบผลที่เกิดขึ้น เพื่อให้นักเรียน
เห็นถึงความแตกต่างของสารบริสทธิ์กับสารผสม
ุ
110
ขั้นสอน
สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูให้นักเรียนสบคนข้อมูล หรือศกษาจากหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 22 ว่า
ึ
ื
้
ั
เพราะเหตุใดลูกปัดจึงจมในน้ำเกลือ แต่กลบลอยในน้ำธรรมดา เพื่อเกริ่นนำให้เรียนรู้จักความ
หนาแน่นจำเพาะของสาร ซึ่งเป็นสมบัติทางกายภาพ
2. ครูเกริ่นนำว่าสารบริสุทธิ์และสารผสมมีสมบัติทางกายภาพ เช่น จดเดือด จุดหลอมเหลว ความ
ุ
หนาแน่น เป็นต้น ที่แตกต่างกัน
ิ
ื
ึ
ุ
3. ครูให้นักเรียนศกษา เรื่อง สมบัตของสารบริสทธิ์และสารผสมในหนังสอเรียนวิทยาศาสตร์
่
ี่
ม.1 เลม 1 หน้าท 22
อธิบายความร (Explain)
ู้
ื
ุ่
้
ั้
1. ครูสมเรียกนักเรียนออกมาอธิบายผลจากการสบคนข้อมูลหน้าชนเรียน
ิ
2. ครูเฉลยคำตอบ และเพิ่มเตมความรู้ให้กับนักเรียนว่า เพราะเหตุใดลูกปัดจึงลอยในน้ำทะเล
แต่กลับจมในน้ำธรรมดา
(แนวคำตอบ เพราะ น้ำเกลือ เป็นสารผสม ที่ความหนาแน่นมากกว่าน้ำธรรมดาซึ่งเป็นสาร
้
ุ
บริสุทธิ์ จึงเป็นเหตลูกปัดลอยในน้ำได)
3. ครูอธิบายเพิ่มเติมเกี่ยวกับความหนาแน่นจำเพาะของสารในกรอบ Science focus
ชั่วโมงที่ 2
สำรวจค้นหา (Explore)
ุ
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มออกเป็น 4 กลุ่ม ศึกษากิจกรรม การตรวจสอบสารบริสทธิ์และสารละลาย
ในตอนที่ 1 จากนั้นครูอธิบายขั้นตอนการทดลองในตอนที่ 1 อย่างละเอียด ตามหนังสือเรียน
วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 หน้าที่ 23
2. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มทำกิจกรรมตอนที่ 1 เรื่อง การหาจุดเดือดของเอทานอล และสารละลาย
กลีเซอรอลในเอทาน แล้วบันทึกผลลงในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
ชั่วโมงที่ 3
สำรวจค้นหา (Explore)
1. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเดิม ศึกษากิจกรรม การตรวจสอบสารบริสุทธิ์และสารละลาย ในตอนที่ 2
จากนั้นครูอธิบายขั้นตอนการทดลองในตอนที่ 2 อย่างละเอียด ตามหนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.
1 เล่ม 1 หน้าที่ 23
111
2. ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่มเดิมจากชั่วโมงที่แล้วเพื่อทำกิจกรรมตอนที่ 2 เรื่อง การหาจุดหลอมเหลว
ของแนฟทาลีน และสารละลายกรดเบนโซอิคในแนฟทาลีน แล้วบันทึกผลลงในแบบฝึกหัด
วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
ชั่วโมงที่ 4
อธิบายความรู้ (Explain)
1. ครูให้นักเรียนแต่ละกลุ่มส่งตัวแทนออกมานำเสนอผลจากกิจกรรมการตรวจสอบสารบริสุทธิ์และ
สารละลาย ทั้งในตอนที่ 1 และตอนที่ 2 จากชั่วโมงที่แล้ว
2. ครูและนักเรียนร่วมกันอภิปรายผลกิจกรรมการตรวจสอบสารบริสุทธิ์และสารละลาย
3. ครูและนักเรียนร่วมกันตอบคำถามท้ายกิจกรรม แล้วบันทึกลงในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1
เล่ม 1
แนวตอบคำถามท้ายกิจกรรม
1. เพราะ การให้ความร้อนโดยตรงแก่หลอดทดลอง และหลอดคะปิลลารีจะทำให้อ่านอุณหภูมิของจุด
เดือด และจุดหลอมเหลวของสารไม่ทัน
2. แตกต่างกัน เพราะ เอทานอลเป็นสารบริสทธิ์จะมีจุดเดือดคงท และต่ำกว่าสารผสม โดยกลีเซอรอลท ี่
ุ
ี่
ผสมกับเอทานอลซึ่งเป็นสารไม่บริสุทธิ์ หรือสารผสมจะมีจุดเดือดทสูงกว่า
ี่
3. แตกต่างกัน เพราะ แนฟทาลีนเป็นสารบริสุทธิ์จะมีจุดหลอมเหลวสูงกว่าสารผสม โดยสารละลาย
็
เบนโซอิคในแนฟทาลีนซึ่งเปนสารไม่บริสุทธิ์ หรือสารผสมจะมีจุดหลอมเหลวต่ำกว่า
ชั่วโมงที่ 5
ขั้นสรุป
ขยายความร (Expand)
ู้
ิ
1. ครูให้นักเรียนศึกษาสมบัตตอลลิเกทีฟของสารละลาย ใน science focus จากหนังสือเรียน
ุ
วิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1 เพื่อขยายความใจว่าเพราะเหตุใดสารบริสทธิ์จึงมีจุดเดือดต่ำกว่าสาร
ผสม และสารบริสทธิ์มีจุดหลอมเหลวสูงกว่าสารผสม
ุ
2. ครูให้นักเรียนทำ self check และ Unit Question
3. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายหน่วย
4. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบท้ายเล่ม ในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
5. ครูให้นักเรียนทำแบบทดสอบหลังเรียน
112
ตรวจสอบผล (Evaluate)
1. ครูเฉลย self check และ Unit Question แล้วให้นักเรียนประเมินตนเอง
้
2. ครูตรวจแบบฝึกหัดทายเล่มจากแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
3. ครูตรวจแบบฝึกหัดในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
4. ครูตรวจแบบทดสอบท้ายหน่วยที่ 1 ในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
้
5. ครูตรวจแบบฝึกหัดทายเล่มในแบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
6. ครูประเมินผลงานจากการทำกิจกรรมกลุ่มจาก group activity
7. ครูประเมินผลการทำกิจกรรม การตรวจสอบสารบริสุทธิ์และสารละลาย โดยใชแบบประเมินการ
้
ปฏิบัติการ
ุ
8. ครูประเมินผลการทำงานรายกลุ่ม จากการทำกิจกรรมการตรวจสอบสารบริสทธิ์และสารละลาย
9. ครูตรวจแบบทดสอบหลังเรียน
113
7. การวัดและประเมินผล
รายการวัด วิธีวัด เครื่องมือ เกณฑ์การประเมิน
7.1 การประเมินระหว่าง
การจัดกิจกรรม
1) สมบัตของสาร - ตรวจแบบฝึกหัด - แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ร้อยละ 60 ผ่าน
ิ
บริสุทธิ์และสารผสม ม.1 เล่ม 1 เกณฑ์
2) พฤติกรรมการทำงาน - สังเกตพฤติกรรม - แบบสังเกตพฤติกรรม ระดับคุณภาพ 2
ุ่
รายกลม การทำงานรายกลม การทำงานรายกลม ผ่านเกณฑ์
ุ่
ุ่
3) พฤติกรรมการ - สังเกตพฤติกรรม - แบบประเมินการ ระดับคุณภาพ 2
ปฏิบัติการ การปฏิบัติการ ปฏิบัติการ ผ่านเกณฑ์
4) คุณลักษณะอันพึง - สังเกตความมีวินัย - แบบประเมิน ระดับคุณภาพ 2
่
ประสงค ์ ใฝเรียนรู้ และมุ่งมั่น คุณลักษณะอันพึง ผ่านเกณฑ์
ในการทำงาน ประสงค ์
7.2 การประเมินหลังเรียน
ั
- แบบทดสอบหลง - ตรวจแบบทดสอบ - แบบทดสอบหลังเรียน ประเมินตามสภาพ
เรียน หลังเรียน จริง
หน่วยการเรียนรู้ที่ 1
เรื่อง สารรอบตัว
8. สื่อ/แหล่งการเรียนรู้
8.1 สื่อการเรียนร ู้
1) หนังสือเรียนวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
2) แบบฝึกหัดวิทยาศาสตร์ ม.1 เล่ม 1
3) อุปกรณ์การทดลอง เรื่อง ความหนาแน่น เช่น น้ำเกลือ น้ำธรรมดา คลิปหนีบกระดาษ เป็นต้น
4) อุปกรณ์การทดลอง เรื่อง การตรวจสอบสารบริสุทธิ์และสารผสม
8.2 แหล่งการเรยนร ู้
ี
1) ห้องเรียน
2) ห้องปฏิบัติการ
114
บันทึกผลหลังการสอน
ด้านความรู้
ด้านสมรรถนะสำคัญของผู้เรียน
ด้านคุณลักษณะอันพึงประสงค ์
ด้านความสามารถทางวิทยาศาสตร์
ด้านอื่น ๆ (พฤติกรรมเด่น หรือพฤติกรรมที่มีปัญหาของนักเรียนเป็นรายบุคคล (ถ้ามี))
ปัญหา/อุปสรรค
แนวทางการแก้ไข
ลงชื่อ .................................
(นายประสพโชค ประภา)
ู
ตำแหน่ง ครชำนาญการพิเศษ
115
ี่
ึ
ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย
ข้อเสนอแนะ
ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)
์
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา
ี่
ความเห็นของผู้บริหารสถานศกษาหรือผู้ทได้รับมอบหมาย
ึ
ข้อเสนอแนะ
ลงชื่อ .................................
(นางสาวสุภัสตรา ฝ่ายสงค)
์
ตำแหน่ง รองผู้อำนวยการโรงเรียนโคกโพธิ์ไชยศึกษา
116
117