Prachinburi Polytechnic College วทิยาลยัสารพดัช่างปราจีนบุรี ส านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา กระทรวงศึกษาธิการ วท ิ ยาลย ั สารพด ั ช ่ างปราจน ี บ ุ ร ี
สารบัญ หน้า คณะผู้บริหารวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ๑ ข้อมูลวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ๒ แผนภูมิโครงสร้างการบริหารสถานศึกษา ๑๐ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ - เรื่อง กรอบมาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พ.ศ. ๒๕๕๑ ๑๑ - เรื่อง กรอบมาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พ.ศ. 2551 ๑๕ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียน ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๖๒ ๑๙ โครงสร้างหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ๓๔ - สาขาวิชาช่างยนต์ ๓๕ - สาขาวิชา ไฟฟ้าก าลัง ๓๙ - สาขาวิชา ช่างอิเล็กทรอนิกส์ ๔๓ - สาขาวิชา การบัญชี ๔๗ - สาขาวิชา คอมพิวเตอร์ธุรกิจ ๕๑ - สาขาวิชา การท่องเที่ยว ๕๕ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ วาดวยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียน ตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงพุทธศักราช ๒๕๕๗ ๕๙ โครงสร้างหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ๗๓ - สาขาวิชา เทคนิคเครื่องกล ๗๔ - สาขาวิชา ไฟฟ้า ๘๒ - สาขาวิชา การบัญชี ๙๑ - สาขาวิชา เทคโนโลยีธุรกิจดิจิทัล ๙๙ กองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) ๑๐๖ ระเบียบวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรีว่าด้วยหลักเกณฑ์ในการพิจารณาโทษนักเรียน นักศึกษา พ.ศ. 256๓ ๑๐๙ **********************
1 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ นางอุบล สารากิจ ผู้อ านวยการวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี นางศรัญญา สุขปลั่ง รองผู้อ านวยการ นายสุทธิพงษ์ ศรีถัน รองผู้อ านวยการ นางสาวสุรีพร แก้วโพธิ์ รองผู้อ านวยการ คณะผู้บริหารวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี
2 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ข้อมูลวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ประวัติของสถานศึกษา วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี จัดตั้งขึ้นโดยกระทรวงศึกษาธิการ ตามนโยบายขยายการศึกษาด้านวิชาชีพ ให้แก่ประชาชนและผู้ด้อยโอกาส ตามแผนพัฒนาระยะที่ ๗ (พ.ศ. ๒๕๓๕-๒๕๓๙) โดยได้มอบให้กรมอาชีวศึกษา เป็นผู้รับผิดชอบด าเนินการจัดตั้งวิทยาลัยสารพัดช่าง และวิทยาลัยสารพัดช่างขึ้นในจังหวัดต่าง ๆ ทั่วประเทศ จังหวัดปราจีนบุรีเป็นจังหวัดหนึ่งที่อยู่ในเป้าหมายของการจัดตั้ง วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี วันที่ ๕ กรกฎาคม ๒๕๓๓ กองการศึกษาอาชีพ กรมอาชีวศึกษา ได้ประสานงานกับจังหวัดปราจีนบุรี ในการจัดตั้งวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี โดยประสานงานกับวิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี พิจารณาใช้ที่ดิน บางส่วนของวิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรี ด้านที่ติดกับศาลากลางจังหวัดปราจีนบุรี (หลังเก่า) เป็นสถานที่ก่อสร้าง โดยมีนางนงเยาว์ แก้วกังวาล ผู้ช่วยผู้อ านวยการวิทยาลัยเทคนิคปราจีนบุรีเป็นผู้ประสานงานกับจังหวัดปราจีนบุรี กรมอาชีวศึกษาพิจารณาแล้วให้ความเห็นชอบ ต่อมาเมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๓๔ จังหวัดปราจีนบุรีแจ้งความ ประสงค์ ที่จะใช้ที่ดินดังกล่าวเป็นที่ก่อสร้างหอพระประจ าจังหวัด โดยได้จัดหาที่ดินทดแทนให้ใหม่ในบริเวณด้าน ตะวันออกของสนามกีฬาจังหวัด ซึ่งเป็นที่ดินราชพัสดุ หมายเลขทะเบียน ปจ.๒๒๑ เนื้อที่เดิม ๑๙-๒-๖๗ ไร่ ซึ่งอยู่ในความครอบครองดูแลของส านักงานศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรี ขณะนั้นนายเกษม หน่ายคอน เป็นศึกษาธิการจังหวัดปราจีนบุรีกรมอาชีวศึกษาพิจารณาแล้วให้ความเห็นชอบ จึงแต่งตั้ง นายสุดใจ ดวงสว่าง เป็นผู้ประสานงานในการจัดตั้งวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ต่อมาภายหลัง จากการตรวจสอบพื้นที่ดังกล่าวกับราชพัสดุจังหวัดปราจีนบุรี พบว่าตามกฎกระทรวง ซึ่งออกตามพระราชบัญญัติผังเมือง พ.ศ.๒๕๑๘ ได้ก าหนดให้ที่ดินบริเวณนั้น เป็นพื้นที่สีเขียวอ่อน ประเภทที่โล่ง แจ้ง เพื่อนันทนาการและรักษาสภาพแวดล้อม ดังนั้นจึงไม่อนุญาตให้ใช้ก่อสร้างวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ตามมติที่ประชุมคณะกรรมการส านักผังเมือง เมื่อวันที่ ๒๑ พฤษภาคม ๒๕๓๕ กรมอาชีวศึกษา จึงได้ยื่นหนังสือ ขอให้ส านักผังเมืองทบทวนมติคณะกรรมการผังเมืองใหม่ วันที่ ๖ กันยายน ๒๕๓๕ ในการประชุมคณะกรรมการผังเมือง ครั้งที่ ๒ ก็ยังคงยืนยันมติเดิม พร้อมทั้งเสนอให้กรมอาชีวศึกษาใช้ที่ดินพื้นที่แปลงเดียวกัน ที่อยู่ทางทิศเหนือของที่ดินแปลงเดิมซึ่งผังเมืองก าหนด พื้นที่ไว้เป็นสีเขียวมะกอกประเภทสถาบันการศึกษา เพื่อสับเปลี่ยนกับที่ดินดังกล่าว ในที่สุดกรมพลศึกษาได้ เห็นชอบสับเปลี่ยนให้กรมอาชีวศึกษาใช้พื้นที่ด้านเหนือของแปลง ปจ.๒๒๑ เนื้อที่ ๑๓-๐-๗๐ ไร่ เมื่อทุกอย่างพร้อม วันที่ ๑๖ มิถุนายน ๒๕๓๖ กระทรวงศึกษาธิการจึงได้ประกาศจัดตั้ง วิทยาลัยสารพัด ช่างปราจีนบุรี โดยตั้งอยู่เลขที่ ๓๐๖/๑ ถนนราษฎรด าริ ต าบลหน้าเมือง อ าเภอเมือง จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีนาย สุดใจ ดวงสว่าง เป็นผู้อ านวยการ พร้อมด้วยนายสมหมาย สว่างศรีและนายโชติปรีชา แก้วกังวาน เป็นผู้ช่วย ผู้อ านวยการ ซึ่งได้รับการจัดสรรงบประมาณเพื่อด าเนินการ ปี ๒๕๓๖ จ านวน ๓๕,๐๕๒,๒๐๐.- บาท มีอาคาร ต่าง ๆ รวม ๕ รายการ ดังต่อไปนี้ ๑. อาคารเรียนและปฏิบัติการ ๔ ชั้น (๓๔๑๙)จ านวน ๒ หลัง ๒. อาคารส านักงานหอประชุม (๓๕๖๔๐) จ านวน ๑ หลัง ๓. บ้านพักอาศัย ๗ – ๘ (๓๕๔๑๐) จ านวน ๑ หลัง ๔. บ้านพักครู ๖ หน่วย (๓๐๐๓) จ านวน ๓ หลัง ๕. บ้านพักภารโรง ๒ หน่วย (๓๖๐๐๑) จ านวน ๓ หลัง ปีการศึกษา ๒๕๓๘ วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้เริ่มด าเนินการจัดการเรียนการสอนหลักสูตร วิชาชีพ ระยะสั้น มีดังนี้ ช่างซ่อมช่างยนต์, ช่างซ่อมวิทยุโทรทัศน์, อาหาร ขนม, บัญชีร้านค้า, ช่างตัดผมชาย, ช่างเสริมสวยสตรี, ตัดเย็บเสื้อผ้าสตรี, ศิลปะประดิษฐ์ โดยตระหนักถึงภาระหน้าที่ในการฝึกอบรมและให้บริการ
3 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ทางวิชาชีพแก่ประชาชนที่ด้อยโอกาส ได้รับการศึกษา หาความรู้ และผลิตบุคลากรให้มีความรู้ความสามารถ ขยัน อดทน และซื่อสัตย์มีความรับผิดชอบต่ออาชีพและการงานโดยให้สอดคล้องกับภาวะเศรษฐกิจและตลาดแรงงาน ของประเทศ พ.ศ. ๒๕๔๐ เปิดท าการเรียนการสอนในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ประเภทวิชาช่าง อุตสาหกรรมคือ ช่างยนต์, ช่างไฟฟ้า, ช่างอิเล็กทรอนิกส์และประเภทวิชาพาณิชยกรรม สาขาวิชาพาณิชยการ ได้มี การพัฒนาหลักสูตรวิชาชีพระยะสั้น เป็นหลักสูตรเสริมวิชาชีพมัธยมศึกษา เพื่อส่งเสริมนโยบายการใช้ทรัพยากร ร่วมกับหน่วยงานภายนอกสถานศึกษา พ.ศ. ๒๕๔๖ เปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ภาคสมทบ ประเภท วิชาบริหารธุรกิจ สาขางานเทคโนโลยีส านักงาน พ.ศ. ๒๕๔๗ ได้ผ่านรับรองมาตรฐานการศึกษาจากส านักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ด้านการอาชีวศึกษา รอบแรก พ.ศ. ๒๕๔๙ เปิดการเรียนการสอน ประเภทวิชาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สาขางานการท่องเที่ยว ระดับ ปวช. และ ระดับ ปวส. เปิดการเรียนการสอนประเภทวิชาบริหารธุรกิจ สาขางานคอมพิวเตอร์กราฟฟิกส์ ภาคปกติ พ.ศ. ๒๕๕๐ ได้ผ่านรับรองมาตรฐานการศึกษาจากส านักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ด้านการอาชีวศึกษา รอบสอง และ เปิดการเรียนการสอน ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ สาขางานเทคโนโลยี ส านักงาน ระดับ ปวส. (ภาคปกติ) พ.ศ. ๒๕๕๒ เปิดการเรียนการสอนประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขางานติดตั้งไฟฟ้า ระดับ ปวส. ระบบทวิ ภาคี ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ สาขางานการบัญชี ภาคปกติ และเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ระดับ ปวส. ทุกสาขาวิชา และสาขางานบริหารทรัพยากรมนุษย์ พ.ศ.๒๕๕๓ เปิดการเรียนการสอนประเภทวิชาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว สาขางานมัคคุเทศก์ทั่วไป ระดับ ปวส. ระบบทวิภาคี พ.ศ. ๒๕๕๔ เปิดการเรียนการสอนประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขางานเทคนิคยานยนต์ระดับ ปวส. ระบบทวิภาคี พ.ศ. ๒๕๕๕ ได้ผ่านรับรองมาตรฐานการศึกษาจากส านักรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ.) ด้านการอาชีวศึกษา รอบสาม พ.ศ. ๒๕๕๖ ได้รับรางวัลศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษาแบบครบวงจร สถานศึกษา สู่ความเป็น เลิศ ระดับ ๕ ดาว ประจ าปีการศึกษา ๒๕๕๖ พ.ศ. ๒๕๕๗ ได้รับงบประมาณก่อสร้างอาคารวิทยบริการ จ านวน ๑ หลัง และเปิดการเรียนการสอน ประเภท วิชาบริหารธุรกิจ สาขางานการบัญชี ระบบทวิภาคี ได้รับคัดเลือกเป็น สถานศึกษาต้นแบบการจัดการอาชีวศึกษาตามหลักปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ประจ าปี ๒๕๕๗ และโล่ประกาศเกียรติคุณ “ สถาบันอาชีวศึกษาดีเด่นโครงการจัดการศึกษาเพื่อการมีงานท า ” ประจ าปี ๒๕๕๗ พ.ศ. ๒๕๕๘ กระทรวงศึกษาธิการ ประกาศให้ วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัลสถานศึกษารางวัล พระราชทาน ระดับอาชีวศึกษา ประเภทสถานศึกษาขนาดเล็ก ประจ าปีการศึกษา ๒๕๕๗ วิทยาลัยฯได้สร้างเหรียญ หลวงพ่อเพชร ด้านหลังเป็นพระวิษณุกรรม เป็นที่ระลึกจ านวน ๒๕๓๙ เหรียญ จัดการศึกษาระบบทวิศึกษา ร่วมกับ โรงเรียนมัธยมศึกษา
4 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ทีมหุ่นยนต์ “มหาโพธิ์”วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัล รองชนะเลิศอันดับ ๑ การแข่งขัน หุ่นยนต์ ABU ชิงชนะเลิศประเทศไทย ประจ าปี ๒๕๕๘ และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ ๒ การแข่งขันหุ่นยนต์ อาชีวศึกษา งานมหกรรมหุ่นยนต์อาชีวศึกษาเฉลิมพระเกียรติ ระดับชาติ ประจ าปี ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับโล่รางวัลส าหรับสถานศึกษาที่มีผลการประเมิน ประสิทธิภาพการบริหารจัดการศูนย์ก าลังคนอาชีวศึกษา ในระดับดีมาก (Star) และมีคะแนนเต็ม ๑๐๐ คะแนน ประจ าปีการศึกษา ๒๕๕๘ พ.ศ. ๒๕๕๙ วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ให้การสนับสนุนการประชุมสัมมนาเชิงปฏิบัติการทางวิชาการ การพัฒนาระบบนิเทศ โดยระบบนิเทศภายในสถานศึกษา ภาคตะวันออกและกรุงเทพมหานคร ปีการศึกษา ๒๕๕๙ โดยศูนย์ส่งเสริมและพัฒนาอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๖๐ เปิดการเรียนการสอนประเภทวิชาอุตสาหกรรม สาขางานยานยนต์ ระดับ ปวส. (ภาคสมทบ) ประเภทวิชาบริหารธุรกิจ สาขางานการบัญชี (ภาคสมทบ) วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้ผ่านการประเมินให้เป็นสถานศึกษาตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ด้านการศึกษา ประจ าปีการศึกษา 2559 วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัลศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา ระดับชาติ (5 ดาว) ประจ าปีการศึกษา 2560 วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับเหรียญทอง สิ่งประดิษฐ์ ประเภทที่ 11 สิ่งประดิษฐ์ประเภทก าหนดโจทย์ กลุ่มที่ 11.2 ด้าน Smart Farm ชื่อผลงาน Green House พ.ศ. 2561 วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัลสถานศึกษารางวัลพระราชทาน ประจ าปี การศึกษา 2561 วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัลหน่วยมาตรฐานดีเด่น สถานศึกษาขนาดเล็กระดับเหรียญทอง ประจ าปีการศึกษา 2561 วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้ผ่านการประเมินให้เป็นศูนย์การเรียนรู้ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจ พอเพียง ด้านการศึกษา ประจ าปีการศึกษา 2561 วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัลชนะเลิศระดับเหรียญทอง ประเภทที่ 9 สิ่งประดิษฐ์ประเภท ก าหนดโจทย์ ชุดควบคุมด้วยเครือข่ายอินเตอร์เน็ตเพื่อชุมชน Internet of things ชื่อผลงาน Smart Home พ.ศ. 2562 วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัลสถานศึกษาคุณธรรมอาชีวศึกษาต้นแบบ ประจ าปีการศึกษา 2562 วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 ระดับเหรียญเงิน ระดับชาติ ประเภทที่ 9 สิ่งประดิษฐ์ประเภทก าหนดโจทย์ ชื่อผลงานสิ่งประดิษฐ์ Future Smart home ในการประกวด “สุดยอด นวัตกรรมอาชีวศึกษา” การประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ ระดับชาติ ประจ าปีการศึกษา 2562 วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี เข้าร่วมการประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ ระดับภาค ประจ าปี การศึกษา 2562 ได้รับรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 ผลงานสิ่งประดิษฐ์ จ านวน 1 ผลงาน และรางวัลชมเชย ผลงานสิ่งประดิษฐ์ จ านวน 6 ผลงาน วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี เข้าร่วมการประกวดสิ่งประดิษฐ์ของคนรุ่นใหม่ ระดับจังหวัด ประจ าปี การศึกษา 2562 ได้รับรางวัลชนะเลิศ ผลงานสิ่งประดิษฐ์ จ านวน 2 ผลงาน รางวัลรองชนะเลิศอันดับ 1 จ านวน 4 รางวัล และรางวัลรองชนะเลิศอันดับ 2 จ านวน 4 ผลงาน วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัลชนะเลิศ ทักษะการตัดแต่งผมสุภาพบุรุษ ระดับอาชีวศึกษา จังหวัดปราจีนบุรี ประจ าปีการศึกษา 2562
5 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ได้รับรางวัลชนะเลิศ ทักษะการน าเสนอการน าเที่ยว ในฐานะมัคคุเทศ ท้องถิ่น ระดับอาชีวศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี ประจ าปีการศึกษา 2562 ได้รับรางวัลชนะเลิศ ทักษะการประกวดร้องเพลงไทยสากล ระดับอาชีวศึกษาจังหวัดปราจีนบุรี ประจ าปี การศึกษา 2562 ปีการศึกษา 2563วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรีเปิดการเรียนการสอนในหลักสูตรวิชาชีพ แผนกวิชา เสริมสวย ตัดผม วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ผ่านการประเมินศูนย์บ่มเพาะผู้ประกอบการอาชีวศึกษา ประจ าปีการศึกษา 2562 ระดับจังหวัด (3 ดาว) นับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งวิทยาลัยฯ จนถึงปัจจุบัน มีผู้บริหารสถานศึกษาจ านวน ๙ คน ดังนี้ 1. นายสุดใจ ดวงสว่าง ด ารงต าแหน่ง ปี พ.ศ. ๒๕๓๖ - ๒๕๔๐ 2. นายโกศล ศรีขวัญ ด ารงต าแหน่ง ปี พ.ศ. ๒๕๔๐ – ๒๕๔๑ 3. นายสุธี เข็มทอง ด ารงต าแหน่ง ปี พ.ศ. ๒๕๔๑ – ๒๕๔๓ 4. นายสมหมาย สว่างศรี ด ารงต าแหน่ง ปี พ.ศ. ๒๕๔๓ – ๒๕๕๑ 5. นายบุญลือ ทองเกตุแก้ว ด ารงต าแหน่ง ปี พ.ศ. ๒๕๕๒ – ๒๕๕๓ 6. นายจ าลอง กล่อมอยู่ ด ารงต าแหน่ง ปี พ.ศ. ๒๕๕๔ – ๒๕๕๔ 7. นายโสภา มะเครือสี ด ารงต าแหน่ง ปี พ.ศ. ๒๕๕๕ – ๒๕๕๖ 8. นางสาววินฑฎา วิเศษศิริกุล ด ารงต าแหน่ง ปี พ.ศ. ๒๕๕๖ – ๒๕๕๙ 9. นายสมเกียรติ ต้องทรัพย์อนันต์ด ารงต าแหน่ง ปี พ.ศ. ๒๕๕๙ – 2562 10.นางอุบล สารากิจ ด ารงต าแหน่ง ปี พ.ศ. 2563 – ปีปัจจุบัน 2.2 วิสัยทัศน์ พันธกิจ นโยบายและยุทธศาสตร์ของสถานศึกษา วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ภายใต้การน าของผู้บริหารและจากการมีส่วนร่วมของครู บุคลากรทางการ ศึกษา และคณะกรรมการสถานศึกษา ได้ร่วมกันวิเคราะห์ประเมินสภาพแวดล้อมภายใน ภายนอก จุดอ่อน จุดแข็ง โอกาส และข้อจ ากัดของวิทยาลัยฯ เพื่อก าหนดเป็นวิสัยทัศน์ พันธกิจ เป้าประสงค์ และประเด็นยุทธศาสตร์การ พัฒนาสถานศึกษา ดังนี้ วิสัยทัศน์ (Vision) มุ่งพัฒนาการจัดการอาชีวศึกษา และฝึกอบรมวิชาชีพอย่างมีคุณภาพได้มาตรฐาน โดดเด่นด้านคุณธรรม น้อมน าศาสตร์พระราชาและหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงเคียงคู่การจัดการ บริหารร่วมสร้างสรรค์ สัมพันธ์ ชุมชน ประสิทธิผลผู้เรียน พันธกิจ (Mission) ๑. จัดการเรียนการสอนด้านวิชาชีพ ให้มีคุณภาพตามมาตรฐานอาชีวศึกษาวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี สอดคล้องกับความต้องการของชุมชน ท้องถิ่น และตลาดแรงงาน ๒. ขยายโอกาสทางการศึกษาด้านวิชาชีพและให้บริการแก่ชุมชนและสังคม 3. พัฒนางานวิจัย สิ่งประดิษฐ์ นวัตกรรม เทคโนโลยี และสร้างองค์ความรู้เพื่อจัดการศึกษาและพัฒนาวิชาชีพ 4. เสริมสร้างให้บุคลากร ผู้เรียน มีคุณภาพ คุณธรรม และจริยธรรม ตามหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง
6 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ 5. พัฒนาประสิทธิภาพการบริหารจัดการสถานศึกษา 6. บริหารปัจจัยพื้นฐานทางการศึกษาของสถานศึกษาให้สามารถจัดการเรียนการสอนและพัฒนาผู้เรียนให้มี คุณภาพตามความมุ่งหมายของการจัดการศึกษา นโยบายของวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ๑. พัฒนาคุณภาพผู้เรียนให้มีประสิทธิภาพ ๒. ส่งเสริม สนับสนุนและพัฒนาบุคลากร ๓. จัดการเรียนการสอนเพื่อให้สถานศึกษาเป็นแหล่งเรียนรู้ ๔. มีการบริหารจัดการโดยเน้นการมีส่วนร่วมทั้งภายในและภายนอก จุดเน้น : มีคุณธรรม มีคุณภาพและมีสุขอย่างพอเพียง ปรัชญา : วินัยดี มีคุณธรรม ก้าวน าวิชาชีพ พุทธศาสนสุภาษิต “โยคา เว ชายเต ภูริ” “ปัญญา ย่อมเกิดขึ้น เพราะการฝึกฝน” คุณธรรมอัตลักษณ์ : รับผิดชอบ มีวินัย ใจอาสา
7 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ อัตลักษณ์ “จิตสาธารณะ ทักษะเยี่ยม” จิตสาธารณะ หมายถึง การเป็นผู้มีความตระหนักและอาสาช่วยเหลืองานที่ เป็นประโยชน์แก่องค์กร สังคม และประเทศชาติ ทักษะเยี่ยม หมายถึง การเป็นผู้มีความสามารถและช านาญทางด้านวิชาชีพปฏิบัติจริงมีผลงานเป็นที่ ยอมรับ เอกลักษณ์ : บริการวิชาชีพสู่ชุมชน วัฒนธรรม : ยิ้ม ไหว้ ทักทาย สวัสดี คุณธรรม เป้าหมาย พฤติกรรมบ่งชี้เชิงบวก ผู้บริหาร ครู/เจ้าหน้าที่ นักเรียน นักศึกษา ความ รับผิดชอบ - เข้าร่วมกิจกรรมหน้า เสาธง - ปิดไฟทุกครั้งหลังใช้งาน - ส่งงานที่ได้รับมอบหมาย ครบถ้วน - รับผิดชอบต่อหน้าที่ - รับผิดชอบต่อหน้าที่ - ท าความสะอาดบริเวณที่ ตนเองรับผิดชอบ - ร่วมกันอนุรักษ์พลังงาน มีวินัย - เป็นแบบอย่างที่ดี - เป็นแบบอย่างที่ดี - มีวินัยในการใช้ทรัพยากร ของโรงเรียน - ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อตกลงของ สถานศึกษา - เคารพสิทธิของตนเองและ ผู้อื่น - ไม่เสียบสายชาร์จ โทรศัพท์ในวิทยาลัยฯ - ตรงต่อเวลาในการเข้า แถวหน้าเสาธง - ปฏิบัติตามระเบียบ ข้อตกลงของสถานศึกษา ใจอาสา - เป็นผู้ให้ - เป็นผู้ให้ - เข้าร่วมกิจกรรมที่เป็น ประโยชน์ต่อวิทยาลัยฯ ชุมชน และสังคม - ค านึงถึงประโยชน์ ส่วนรวมมากกว่า ประโยชน์ส่วนตน - อุทิศเวลา เพื่อวิทยาลัยฯ สังคม และชุมชน - มีใจอาสาช่วยงานโดยไม่ หวังสิ่งตอบแทน - เอื้อเฟื้อ เมตตา มี น้ าใจต่อ ผู้ใต้บังคับบัญชา - ช่วยเหลือพี่ น้อง และ เพื่อน
8 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ สัญลักษณ์ประจ าวิทยาลัย สีประจ าวิทยาลัย : น้ าเงิน เหลือง ดอกไม้ประจ าวิทยาลัย : ดอกอินทนิล
9 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ที่ตั้งวิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี วิทยาลัยสารพัดช่างปราจีนบุรี ๓๐๖/๑ ถ.ราษฎรด าริ ต.หน้าเมือง อ.เมืองปราจีนบุรีจ.ปราจีนบุรี โทรศัพท์: ๐๓๗-๒๑๒๒๒๐ E-mail: ppc๓๖๕๙@gmail.com เนื้อที่ ๑๓-๐-๗๐ ไร่ Website : www.ppcollege.ac.th
10 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ แผนภูมิโครงสร้างการบริหารสถานศึกษา นางอุบล สารากิจ ผู้อ านวยการสถานศึกษา คณะกรรมการบริหารสถานศึกษา นางศรัญญา สุขปลั่ง รองผู้อ านวยการ ฝ่ายพัฒนากิจการนักเรียน นักศึกษา นายสุทธิพงษ์ ศรีถัน รองผู้อ านวยการ ฝ่ายวิชาการ นายภาคภูมิ นาคทิพย์ หัวหน้างานกิจกรรม นางสาวภานุชนาถ ไพรเถื่อน หัวหน้างานครูที่ปรึกษา นายอภิรมย์ สรรพาณิชย์ หัวหน้างานปกครอง นางสุภาพร ศรีถัน หัวหน้างานแนะแนวอาชีพ และการจัดหางาน นายวันชัย พันธุมงคล หัวหน้างานสวัสดิการ นักเรียน นักศึกษา นายอภิรมย์ สรรพาณิชย์ หัวหน้างานโครงการพิเศษ และบริการชุมชน นายปิยะนัฐ หวานเสร็จ หัวหน้างานวางแผน และงบประมาณ นายจักรกฤช ศรีวิเศษ หัวหน้างานศูนย์ข้อมูล สารสนเทศ นายหาญประชา พรหมมา หัวหน้างานความร่วมมือ นายปวีณ แก้วใส หัวหน้างานวิจัยพัฒนา ฯ นายยุทธนา ทรัพย์ประเสริฐ หัวหน้างานประกันคุณภาพ และมาตรฐานการศึกษา นางสาวกมลชนก สว่างกุล หัวหน้างานส่งเสริมผลิตผล การค้าและการประกอบธุรกิจ นางนิภา งามแสง หัวหน้างานบริหารงาน ทั่วไป นางนรีรัตน์ สมใจ หัวหน้างานบุคลากร นายภูมิพัฒน์ ช้างสิงห์ หัวหน้างานบัญชี นางสาวชนิกานต์ สุขขจรกุล หัวหน้างานการเงิน นายชัยยศ มีสวัสดิ์ หัวหน้างานทะเบียน นางสาวทัตพิชา ทับทิมอ่อน หัวหน้างานประชาสัมพันธ์ นายเสรี เสนชู หัวหน้างานพัสดุ นางพิไลวรรณ ตุ่นทอง หัวหน้างานวัดผล และประเมินผล นางสาวจุฑารัตน์ คงประสิทธิ์ หัวหน้างานวิทยบริการ และห้องสมุด นายหาญประชา พรหมมา หัวหน้างานอาชีวศึกษา ระบบทวิภาคี นายศิริพงษ์ พานทอง หัวหน้างานสื่อการเรียนฯ นายเสรี เสนชู หัวหน้าแผนกวิชาช่างยนต์ นายสมเกียรติ สุขปลั่งหัวหน้า แผนกวิชาไฟฟ้าก าลัง นายจักรกฤช ศรีวิเศษ หัวหน้าแผนกวิชาอิเล็กทรอนิกส์ นายวันชัย พันธุมงคล หัวหน้าแผนกวิชาเทคนิคพื้นฐาน นางสาวชนิกานต์ สุขขจรกุล หัวหน้าแผนกวิชาการบัญชี นายสิริปัญญ์ เสริมสิริพิพัฒน์ หัวหน้าแผนกวิชาคอมพิวเตอร์ นางสาวกมลชนก สว่างกุล หัวหน้าแผนกวิชาการท่องเที่ยว นายชัยยศ มีสวัสดิ์ หัวหน้าแผนกวิชาสามัญ ฯ นายสมภพ มงคล หัวหน้างานอาคาร ฯ นางสาวสุรีพร แก้วโพธิ์ รองผู้อ านวยการ ฝ่ายแผนงานและความร่วมมือ นางศรัญญา สุขปลั่ง รองผู้อ านวยการ ฝ่ายบริหารทรัพยากร คณะกรรมการวิทยาลัยฯ นางสาวสุภาพร ดางาม หัวหน้าแผนกวิชาเสริมสวย นางสุภาพร ศรีถัน หัวหน้าศูนย์ประสานงาน สถานศึกษาคุณธรรม นายสมเกียรติ สุขปลั่ง หัวหน้างานหลักสูตร นางนรีรัตน์ สมใจ หัวหน้าแผนกวิชาคหกรรม นายสมเกียรติ สุขปลั่ง หัวหน้างานสถานศึกษาพอเพียง
11 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบมาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พ.ศ. ๒๕๕๑ -------------------------- โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกรอบมาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ให้มี ความ เหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการรักษามาตรฐานวิชาการและวิชาชีพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การ รับรอง วิทยฐานะและมาตรฐานการศึกษา และเพื่อให้การบริหารงานด้านวิชาการด าเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพ ฉะนั้น อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๘ มาตรา ๑๒ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหาร ราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในการประชุม ครั้งที่ ๒/ ๒๕๔๙ เมื่อวันที่ ๒๘ กุมภาพันธ์ ๒๕๔๙ และเพื่อให้การด าเนินการสอดคล้องกับมาตรา ๙ แห่ง พระราชบัญญัติ การอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๑ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจึงอนุมัติกรอบมาตรฐาน หลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) พ.ศ. ๒๕๕๑ ดังต่อไปนี้ ๑. ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ ๑๖ สิงหาคม พ.ศ. ๒๕๔๙ เรื่อง “กรอบ มาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)” ๒. ให้ใช้กรอบมาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.) ตามประกาศกระทรวงศึกษาธิการฉบับนี้ ส าหรับหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพทุกประเภทวิชา โดยก าหนดสมรรถนะตามกรอบ คุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพในแต่ละระดับ และเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพในแต่ละสาขาวิชา ๓. กรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ ก าหนดให้มีสมรรถนะที่ได้จาก มาตรฐานอาชีพหรือมาตรฐานสมรรถนะในสาขาอาชีพระดับฝีมือ ตรงตามความต้องการของสาขาอาชีพ สถาน ประกอบการและชุมชน มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา วางแผน ด าเนินการ ตรวจสอบ และบูรณา การความรู้อย่างเป็นระบบในระดับผู้ปฏิบัติงาน รวมทั้งเป็นผู้ที่มีคุณธรรมจริยธรรม และกิจนิสัย ที่เหมาะสมในการ ท างาน โดยก าหนดสมรรถนะและผลลัพธ์การเรียนรู้เป็น ๓ ระดับ ดังนี้ ๓.๑ ระดับ ปวช. ๑ มีความรู้ความเข้าใจในวิชาการที่สัมพันธ์กับวิชาชีพ สามารถปฏิบัติงาน ในขอบเขตของงานที่ก าหนด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานประจ าและคาดการณ์ได้ โดยใช้ทักษะพื้นฐานและหรือ ทักษะ เฉพาะ รวมถึงทักษะที่สัมพันธ์กับการปฏิบัติงานและการมีส่วนร่วมในคณะท างาน ๓.๒ ระดับ ปวช. ๒ มีความรู้ความเข้าใจในวิชาการที่สัมพันธ์กับวิชาชีพ สามารถปฏิบัติงาน ในขอบเขตของงานที่ก าหนด ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานประจ าและมีความพร้อมในการปฏิบัติงานในขอบเขตงาน หลากหลายและบริบทต่าง ๆ รวมทั้งสามารถรับผิดชอบงานด้วยตนเองและหรือการมีส่วนร่วมในคณะท างาน ๓.๓ ระดับ ปวช. ๓ มีความรู้ความเข้าใจในวิธีการและวิธีด าเนินการ สามารถปฏิบัติงานโดย ใช้ ทักษะในขอบเขตส าคัญและบริบทต่าง ๆ ที่สัมพันธ์กัน ซึ่งส่วนใหญ่เป็นงานประจ า สามารถประยุกต์ทักษะ และ ความรู้ไปสู่บริบทใหม่ ๆ สามารถให้ค าแนะน าและแก้ปัญหาเฉพาะด้าน อาจต้องรับผิดชอบต่อผู้อื่น รวมทั้งมีส่วน ร่วมและหรือมีการประสานงานกลุ่มหรือหมู่คณะ ๔. ปรัชญาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร มุ่งให้มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับแผนการศึกษา แห่งชาติ ปรัชญาการอาชีวศึกษา และมาตรฐานอาชีพหรือมาตรฐานสมรรถนะของสาขาวิชานั้น ๆ ในการจัด การศึกษาทั้งในระบบและการศึกษาตลอดชีวิต โดยมุ่งเน้นผลิตผู้มีความรู้ความเข้าใจและทักษะในระดับ ฝีมือ มี สมรรถนะที่สามารถปฏิบัติงานอาชีพได้จริง มีคุณลักษณะที่พึงประสงค์ รวมทั้งคุณธรรม จริยธรรม และกิจนิสัยที่ เหมาะสมในการท างาน สอดคล้องกับความต้องการของเศรษฐกิจและสังคม สามารถปฏิบัติงานได้อย่างมีความสุข และพัฒนาตนเองให้มีความก้าวหน้าทางวิชาการและวิชาชีพ ๕. ระบบการจัดการศึกษา เป็นการจัดศึกษาแบบเปิดหรือยืดหยุ่น สามารถเทียบโอนหน่วย สมรรถนะ เข้าสู่ระบบหน่วยกิตตามโครงสร้างหลักสูตร โดยใช้ระบบทวิภาค ก าหนดให้ ๑ ปีการศึกษาแบ่งออกเป็น
12 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ๒ ภาคการศึกษา และ ๑ ภาคการศึกษาปกติมีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า ๑๘ สัปดาห์ ส าหรับการศึกษา ภาคฤดู ร้อน ให้ก าหนดระยะเวลาและจ านวนหน่วยกิตโดยมีสัดส่วนเทียบเคียงกันได้กับการศึกษาภาคปกติ สถานศึกษาที่ จัดการศึกษาระบบอื่น ให้แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการศึกษานั้น รวมทั้งรายละเอียดการเทียบเคียงหน่วย กิตกับระบบทวิภาคไว้ในหลักสูตรให้ชัดเจนด้วย 6. การคิดหน่วยกิต 6.1 รายวิชาทฤษฎีที่ใช้เวลาบรรยายหรืออภิปราย ไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมง เท่ากับ 1 หน่วยกิต 6.2 รายวิชาปฏิบัติที่ใช้เวลาในการทดลองหรือฝึกปฏิบัติในห้องปฏิบัติการ ไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง เท่ากับ 1 หน่วยกิต 6.3 รายวิชาปฏิบัติที่ใช้เวลาในการฝึกปฏิบัติในโรงฝึกงานหรือภาคสนาม 54 ชั่วโมง เท่ากับ 1 หน่วยกิต เท่ากับ 1 หน่วยกิต ไม่น้อยกว่า 6.4 การฝึกงาน ฝึกอาชีพในสถานประกอบการหรือแหล่งวิทยาการ ไม่น้อยกว่า 54 ชั่วโมง 6.5 การท าโครงการตามที่ได้รับมอบหมาย ไม่น้อยกว่า 54 ชั่วโมง เท่ากับ 1 หน่วยกิต 7. จ านวนหน่วยกิตรวม มีจ านวนหน่วยกิตรวมระหว่าง 100-120 หน่วยกิต 8. โครงสร้างหลักสูตร 8.1 หมวดวิชาพื้นฐานประยุกต์ ประกอบด้วยสมรรถนะทั่วไปเพื่อเป็นพื้นฐานในการ ด ารงชีวิต และสมรรถนะหลักเพื่อเป็นพื้นฐานที่สัมพันธ์กับวิชาชีพ ในด้านการสื่อสาร การใช้เทคโนโลยี สารสนเทศ การปรับปรุงการเรียนรู้และการปฏิบัติงานของตนเอง การท างานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหา พื้นฐาน การวิจัย เบื้องต้น การประยุกต์ใช้ตัวเลขและการจัดการธุรกิจเบื้องต้น โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ ความเข้าใจในตนเอง ผู้อื่นและสังคม ตระหนักในคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม สามารถบูรณาการความรู้ได้ อย่างเป็นระบบและน าไปใช้ใน ชีวิตและการประกอบอาชีพได้อย่างมีความสุข รวมไม่น้อยกว่า 30 หน่วยกิต สถานศึกษาอาจจัดวิชาพื้นฐาน ประยุกต์ในลักษณะจ าแนกเป็นรายวิชา หรือลักษณะ บูรณาการใด ๆ ก็ได้ โดยผสมผสานเนื้อหาวิชาที่ครอบคลุม สาระของกลุ่มวิชาภาษาไทย กลุ่มวิชาภาษา ต่างประเทศ กลุ่มวิชาสังคมศึกษา กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มวิชา คณิตศาสตร์ กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพลศึกษา กลุ่มวิชาบริหารและจัดการวิชาชีพ และกลุ่มวิชาเทคโนโลยี สารสนเทศ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อให้บรรลุ จุดประสงค์ของหมวดวิชาพื้นฐานประยุกต์ 8.2 หมวดวิชาชีพ ประกอบด้วยสมรรถนะวิชาชีพเพื่อมุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้สามารถคิด วิเคราะห์ วางแผน จัดการและประเมินผล โดยบูรณาการสู่การปฏิบัติจริง รวมทั้งประยุกต์สู่อาชีพ รวม ไม่น้อยกว่า 64 หน่วยกิต ดังนี้ 8.2.1 วิชาชีพสาขาวิชา ประกอบด้วยสมรรถนะวิชาชีพแกนที่เป็นสมรรถนะร่วมของ ทุกสาขางานในสาขาวิชานั้นๆ ไม่น้อยกว่า 21 หน่วยกิต 8.2.2 วิชาชีพสาขางาน ประกอบด้วยสมรรถนะวิชาชีพที่เป็นสมรรถนะเฉพาะของ สาขางานนั้นๆ ไม่น้อยกว่า 35 หน่วยกิต 8.2.3 ฝึกงาน ประกอบด้วยสมรรถนะวิชาชีพที่เกิดจากการฝึกทักษะเพิ่มพูน ประสบการณ์งานอาชีพในสถานประกอบการ แหล่งวิทยาการต่าง ๆ จ านวน 4 หน่วยกิต 8.2.4 โครงการ ประกอบด้วยสมรรถนะในการท างานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหา การ ปรับปรุงการเรียนรู้และการปฏิบัติงานของตนเอง โดยใช้ลักษณะของการวิจัยเบื้องต้น เพื่อบูรณาการ สู่การปฏิบัติ จริงและประยุกต์สู่อาชีพในสาขาวิชาชีพนั้นๆ จ านวน 4 หน่วยกิต 8.3 หมวดวิชาเลือกเสรี ประกอบด้วยสมรรถนะซึ่งสนับสนุนวิชาชีพและหรือการศึกษาต่อ สามารถเลือกเรียนจากหลักสูตรประเภทวิชาใด ๆ รวมไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต
13 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ 8.4 กิจกรรมเสริมหลักสูตร เป็นส่วนที่ส่งเสริมพัฒนาทักษะวิชาการ ทักษะประสบการณ์ ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าร่วม กิจกรรมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง ทุกภาคเรียน ยกเว้น ภาคเรียนที่มีการฝึกงาน กิจกรรมเสริมหลักสูตรนี้ไม่ นับเป็นหน่วยกิต และทักษะชีวิต สถานศึกษาอาจยกเว้นหรือเทียบโอนหน่วยกิตรายวิชาในหมวดวิชาพื้นฐาน ประยุกต์ หมวดวิชาชีพ และหมวดวิชาเลือกเสรีให้กับผู้เรียนที่มีความรู้ความสามารถที่สามารถวัดมาตรฐานได้ ทั้งนี้ ผู้เรียน ต้องศึกษาให้ครบตามจ านวนหน่วยกิตที่ก าหนดไว้ในกรอบมาตรฐานหลักสูตร และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ และแนวปฏิบัติในการเทียบโอนผลการเรียน และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เข้าสู่หน่วยกิตในหลักสูตร ของส านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 9. เงื่อนไขการจัดการเรียนรู้ 9.1 สถานศึกษาสามารถจัดการเรียนการสอนตามความถนัด ความสนใจและศักยภาพของ ผู้เรียน เพื่อให้สามารถผลิตผู้เรียนในลักษณะที่ 1 เป็นผู้ปฏิบัติการที่มีความช านาญ ลักษณะที่ 2 เป็น ผู้ปฏิบัติการ ที่มีความช านาญ สามารถแก้ปัญหาได้ และหรือลักษณะที่ 3 เป็นผู้ปฏิบัติการที่มีความช านาญ สามารถแก้ปัญหา และประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ โดยใช้กระบวนการวิจัยอย่างง่าย ทั้งนี้ ผู้ส าเร็จการศึกษาต้อง มีสมรรถนะตรงตาม มาตรฐานวิชาชีพที่ก าหนด 9.2 สถานศึกษาต้องจัดเตรียมความพร้อมในด้านอาคารสถานที่ ครุภัณฑ์ และบุคลากร ทาง การศึกษาให้เหมาะสมสอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนแต่ละลักษณะของการผลิตผู้เรียน 9.3 การจัดอัตราส่วนของเวลาการเรียนรู้ภาคทฤษฎีต่อภาคปฏิบัติในหมวดวิชาชีพ ประมาณ 20 ต่อ 80 9.4 สถานศึกษาสามารถพัฒนาวิชาชีพสาขางานได้ตามความต้องการของท้องถิ่น 9.5 สถานศึกษาสามารถจัดการเรียนการสอนได้ทั้งแบบในระบบ นอกระบบ และทวิภาคี โดยวิธีการจัดแบบปกติ สะสมหน่วยกิต เทียบโอนผลการเรียน และเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ โดย ก าหนดวิธีการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณลักษณะทั้งด้านสมรรถนะทั่วไป สมรรถนะหลัก สมรรถนะวิชาชีพ เจต คติและกิจนิสัยที่พึงประสงค์ ให้ตรงตามศักยภาพของผู้เรียนและระดับของคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพของแต่ละ ประเภทวิชา 9.6 สถานศึกษาควรจัดให้มีการเรียนการสอนแบบบูรณาการในแต่ละภาคเรียน เพื่อให้ ผู้เรียนมีสมรรถนะหลักในการท างานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหา การปรับปรุงการเรียนรู้และการปฏิบัติงาน ของ ตนเอง และสมรรถนะวิชาชีพเพื่อบูรณาการสู่การปฏิบัติจริงและประยุกต์สู่อาชีพ โดยจัดท าเป็นโครงการ หรืองาน หรือชิ้นงานที่เกี่ยวกับการผลิตหรือบริการ อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 โครงการหรืองานหรือชิ้นงาน 9.7 สถานศึกษาต้องจัดให้มีการฝึกงานในสถานประกอบการหรือแหล่งวิทยาการที่สอดคล้อง กับสาขาวิชาที่เรียน นอกจากนี้ สถานศึกษาอาจน ารายวิชาในหมวดวิชาชีพไปจัดการเรียนการสอน/จัดการฝึก ใน สถานประกอบการหรือแหล่งวิทยาการได้ โดยอยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาและสถานประกอบการ 9.8 สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนจัดท าโครงการที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่เรียนน าสู่การ ปฏิบัติในอาชีพได้อย่างเป็นรูปธรรมตามโครงสร้างหลักสูตร โดยปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบตามลักษณะการวิจัย เบื้องต้น 9.9 สถานศึกษาต้องจัดให้มีกิจกรรมเสริมหลักสูตร เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ระเบียบของตนเอง การนันทนาการและการส่งเสริมการท างาน โดยใช้กระบวนการกลุ่มในการ ท าประโยชน์ต่อ ชุมชน ท านุบ ารุงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามทุกภาคเรียน 9.10 สถานศึกษาต้องจัดให้มีการประเมินมาตรฐานวิชาชีพในแต่ละสาขาวิชา เพื่อเป็นการ ประกันคุณภาพผู้เรียน 10. คุณสมบัติผู้เรียน เป็นผู้ส าเร็จการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือเทียบเท่า
14 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ 11. คุณสมบัติผู้สอน เป็นผู้ส าเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน วิชาชีพครูที่ก าหนด และหรือเป็นผู้มีสมรรถนะในวิชาชีพนั้น ๆ 12. ชื่อคุณวุฒิการศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพ (เรียกโดยย่อว่า ปวช.) 13. การลงทะเบียน ให้ลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 22 หน่วยกิต ในแต่ละภาคการศึกษาปกติ ส าหรับการลงทะเบียนเต็มเวลา และให้ลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 12 หน่วยกิต ในแต่ละภาคการศึกษาปกติ ส าหรับการลงทะเบียนเรียนไม่เต็มเวลา ส าหรับการลงทะเบียนเรียนในภาคฤดูร้อนให้ลงทะเบียนเรียนได้ ไม่เกิน 12 หน่วยกิต หากสถานศึกษาใดมีเหตุผลและความจ าเป็น การลงทะเบียนเรียนที่แตกต่างไปจากเกณฑ์ ข้างต้นก็ อาจท าได้ แต่ต้องไม่กระทบต่อมาตรฐานและคุณภาพการศึกษา ทั้งนี้ให้ขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของ สถานศึกษา สถานศึกษาสามารถรับเทียบโอนผลการเรียน และหรือเทียบโอนความรู้ประสบการณ์เข้าสู่ หน่วยกิตให้กับผู้เรียนที่ มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์อาชีพ ทั้งนี้ ต้องลงทะเบียนให้ครบ ตามจ านวนหน่วยกิต และเป็นไปตาม หลักเกณฑ์ที่ก าหนด 14. เกณฑ์การวัดผลและการส าเร็จการศึกษา 14.1 การวัดผลการศึกษา ให้เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการประเมินผลการศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพ 14.2 การส าเร็จการศึกษา ให้มีสมรรถนะตรงตามที่ก าหนด ได้จ านวนหน่วยกิตสะสม ครบถ้วน ตามโครงสร้างที่ก าหนดไว้ในหลักสูตร และได้คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ ากว่า 2.00 จากระบบ 4 ระดับ คะแนน 15. การประกันคุณภาพหลักสูตร ให้ทุกหลักสูตรก าหนดระบบประกันคุณภาพไว้ให้ชัดเจน ซึ่ง อย่างน้อยประกอบด้วย 4 ประเด็น คือ 15.1 ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ได้จากมาตรฐานอาชีพหรือมาตรฐานสมรรถนะที่เกี่ยวข้อง 15.2 การบริหารหลักสูตร 15.3 ทรัพยากรประกอบการเรียน 15.4 ความต้องการของตลาดแรงงาน สังคมและชุมชน 16. การก าหนดหลักสูตรและอนุมัติ 16.1 การอนุมัติกรอบมาตรฐานหลักสูตร ให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ 16.2 การก าหนดและเปลี่ยนแปลงกรอบมาตรฐานหลักสูตร ให้เป็นหน้าที่ของส านักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา 16.3 การอนุมัติหลักสูตร ให้เป็นหน้าที่ของส านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 17. การพัฒนาหลักสูตร ให้สถานศึกษามีหน้าที่ในการพัฒนาหลักสูตร ประเมินหลักสูตร และ ปรับปรุงมาตรฐานวิชาชีพสาขาวิชาและคุณภาพการศึกษาเป็นระยะๆ อย่างน้อยทุก 5 ปี หรือมีความจ าเป็นต้อง ปฏิบัตินอกเหนือ 18. ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวได้ จากที่ก าหนดไว้ในประกาศนี้ ให้อยู่ใน ดุลยพินิจของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประกาศ ณ วันที่ 17 กันยายน พ.ศ. 2551 (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
15 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ประกาศกระทรวงศึกษาธิการ เรื่อง กรอบมาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พ.ศ. 2551 ------------------------ โดยที่เป็นการสมควรปรับปรุงกรอบมาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ให้ มีความเหมาะสมยิ่งขึ้น เพื่อประโยชน์ในการรักษามาตรฐานวิชาการและวิชาชีพ เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของเกณฑ์การ รับรองวิทยฐานะและมาตรฐานการศึกษา และเพื่อให้การบริหารงานด้านวิชาการด าเนินไปอย่างมี ประสิทธิภาพ ฉะนั้น อาศัยอ านาจตามความในมาตรา 8 มาตรา 12 และมาตรา 17 แห่งพระราชบัญญัติ ระเบียบบริหาร ราชการกระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. 2546 โดยความเห็นชอบของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ในการประชุมครั้งที่ 2/2549 เมื่อวันที่ 28 กุมภาพันธ์ 2549 และเพื่อให้การด าเนินการสอดคล้องกับ มาตรา 9 แห่งพระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. 2551 รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการจึงอนุมัติ กรอบมาตรฐาน หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) พ.ศ. 2551 ดังต่อไปนี้ 1. ให้ยกเลิกประกาศกระทรวงศึกษาธิการ ลงวันที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2549 เรื่อง “กรอบ มาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.)” 2. ให้ใช้กรอบมาตรฐานหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (ปวส.) ตามประกาศ กระทรวงศึกษาธิการฉบับนี้ ส าหรับหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูงทุกประเภทวิชา โดยก าหนดสมรรถนะ ตามกรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพในแต่ละระดับ และเป็นไปตามมาตรฐานวิชาชีพในแต่ละสาขาวิชา 3. กรอบคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง ก าหนดให้มีสมรรถนะที่ได้ จากมาตรฐานอาชีพหรือมาตรฐานสมรรถนะในสาขาอาชีพระดับเทคนิค ตรงตามความต้องการของสาขาอาชีพ สถานประกอบการและชุมชน มีความสามารถในการคิด วิเคราะห์ แก้ปัญหา วางแผน จัดการตรวจสอบ ให้ ค าแนะน า สอนงาน และบูรณาการความรู้อย่างเป็นระบบในระดับผู้ควบคุมงาน รวมทั้งเป็นผู้ที่มีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพและกิจนิสัยที่เหมาะสมในการท างาน โดยก าหนดสมรรถนะและผลลัพธ์การเรียนรู้ เป็น 2 ระดับ ดังนี้ 3.1 ระดับ ปวส. 1 สามารถปฏิบัติงานโดยใช้ความรู้ในวิชาการที่สัมพันธ์กับวิชาชีพใน ขอบเขตทั่วไปของงานหลากหลาย บางงานที่มีความซับซ้อนและไม่เป็นงานประจ า สามารถประยุกต์ทักษะและ ความรู้ในการจัดการ การแก้ปัญหาและแนะน าผู้อื่น รวมทั้งมีความรับผิดชอบต่อตนเองผู้อื่นและหมู่คณะ 3.2 ระดับ ปวส. 2 สามารถประยุกต์ความรู้และทักษะในวิชาการที่สัมพันธ์กับวิชาชีพตาม แนวทางของตนเองในการวางแผนและจัดการทรัพยากรได้เหมาะสม มีส่วนร่วมในการพัฒนาวิธีการ ริเริ่ม สิ่งใหม่ ๆ มีความรับผิดชอบต่อตนเอง ผู้อื่นและหมู่คณะ เป็นอิสระในการปฏิบัติงานที่ซับซ้อนหรือจัดการ งานผู้อื่นมีส่วน ร่วมที่เกี่ยวกับการวางแผน การประสานงานและการประเมินผล 4. ปรัชญาและวัตถุประสงค์ของหลักสูตร มุ่งให้มีความสัมพันธ์สอดคล้องกับแผนการศึกษา แห่งชาติ ปรัชญาการอาชีวศึกษา และมาตรฐานวิชาชีพหรือมาตรฐานสมรรถนะของสาขาวิชานั้น ๆ ในการจัด การศึกษาทั้งในระบบและการศึกษาตลอดชีวิตโดยมุ่งเน้นผลิตผู้มีความรู้และทักษะในระดับเทคนิค สามารถ ปฏิบัติงานที่ใช้เทคนิค ควบคุมการท างาน มีคุณธรรม จริยธรรม จรรยาบรรณวิชาชีพและกิจนิสัยที่ เหมาะสมใน การท างาน สอดคล้องกับความต้องการของสังคม ชุมชนและสถานประกอบการ สามารถประกอบอาชีพอิสระและ พัฒนาตนเองให้มีความก้าวหน้าทางวิชาการและวิชาชีพ 5. ระบบการจัดการศึกษา เป็นการจัดศึกษาแบบเปิดหรือยืดหยุ่น สามารถเทียบโอนหน่วย สมรรถนะ เข้าสู่ระบบหน่วยกิตตามโครงสร้างหลักสูตร โดยใช้ระบบทวิภาค ก าหนดให้ 1 ปีการศึกษาแบ่งออก เป็น 2 ภาคการศึกษา และ 1 ภาคการศึกษาปกติมีระยะเวลาศึกษาไม่น้อยกว่า 18 สัปดาห์ ส าหรับการศึกษาภาค ฤดูร้อน ให้ก าหนดระยะเวลาและจ านวนหน่วยกิตโดยมีสัดส่วนเทียบเคียงกันได้กับการศึกษาภาคปกติ สถานศึกษา
16 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ที่จัดการศึกษาระบบอื่น ให้แสดงรายละเอียดเกี่ยวกับระบบการศึกษานั้น รวมทั้งรายละเอียดการเทียบเคียงหน่วย กิตกับระบบทวิภาคไว้ในหลักสูตรให้ชัดเจนด้วย 6. การคิดหน่วยกิต 6.1 รายวิชาทฤษฎีที่ใช้เวลาบรรยายหรืออภิปราย ไม่น้อยกว่า 18 ชั่วโมง เท่ากับ 1 หน่วย กิต 6.2 รายวิชาปฏิบัติที่ใช้เวลาในการทดลองหรือฝึกปฏิบัติในห้องปฏิบัติการ ไม่น้อยกว่า 36 ชั่วโมง เท่ากับ 1 หน่วยกิต 6.3 รายวิชาปฏิบัติที่ใช้เวลาในการฝึกปฏิบัติในโรงฝึกงานหรือภาคสนาม ไม่น้อยกว่า 54 ชั่วโมง เท่ากับ 1 หน่วยกิต 6.4 การฝึกงาน/ฝึกอาชีพในสถานประกอบการหรือแหล่งวิทยาการ ชั่วโมง เท่ากับ 1 หน่วย กิต ไม่น้อยกว่า 54 6.5 การท าโครงการตามที่ได้รับมอบหมาย ไม่น้อยกว่า 54 ชั่วโมง เท่ากับ 1 หน่วยกิต 7. จ านวนหน่วยกิตรวม มีจ านวนหน่วยกิตรวมระหว่าง 80 - 100 หน่วยกิต 8. โครงสร้างหลักสูตร 8.1 หมวดวิชาพื้นฐานประยุกต์ ประกอบด้วยสมรรถนะทั่วไปเพื่อเป็นพื้นฐานการด ารงชีวิต และสมรรถนะหลักเพื่อเป็นพื้นฐานที่สัมพันธ์กับวิชาชีพ ในด้านการสื่อสาร การใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ การ ปรับปรุงการเรียนรู้และการปฏิบัติงานของตนเอง การท างานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหาโดยใช้กระบวนการ ทาง วิทยาศาสตร์ การวิจัย การประยุกต์ใช้ตัวเลขและการจัดการธุรกิจ โดยมุ่งพัฒนาผู้เรียนให้มีความรู้ความ เข้าใจใน ตนเอง ผู้อื่นและสังคม ตระหนักในคุณค่าของศิลปวัฒนธรรม สามารถบูรณาการความรู้ได้อย่าง เป็นระบบ และ น าไปใช้ในชีวิตและการประกอบอาชีพได้อย่างมีความสุข รวมไม่น้อยกว่า 20 หน่วยกิต สถานศึกษาอาจจัดวิชา พื้นฐานประยุกต์ในลักษณะจ าแนกเป็นรายวิชา หรือลักษณะ บูรณาการใด ๆ ก็ได้ โดยผสมผสานเนื้อหาวิชาที่ ครอบคลุมสาระของกลุ่มวิชาภาษาไทย กลุ่มวิชาภาษา - ต่างประเทศ กลุ่มวิชาสังคมศาสตร์ กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ กลุ่มวิชามนุษยศาสตร์ กลุ่มวิชาบริหารและจัดการวิชาชีพ และกลุ่มวิชาเทคโนโลยีสารสนเทศ ในสัดส่วนที่เหมาะสมเพื่อให้บรรลุ จุดประสงค์ของหมวดวิชาพื้นฐานประยุกต์ 8.2 หมวดวิชาชีพ ประกอบด้วย สมรรถนะวิชาชีพเพื่อมุ่งเน้นพัฒนาผู้เรียนให้สามารถคิด วิเคราะห์ วางแผน จัดการ ประเมินผล ควบคุมและสอนงาน โดยบูรณาการสู่การปฏิบัติจริง รวมทั้งประยุกต์ สู่ อาชีพ รวมไม่น้อยกว่า 54 หน่วยกิต 8.2.1 วิชาชีพสาขาวิชา ประกอบด้วยสมรรถนะวิชาชีพแกนที่เป็นสมรรถนะร่วมของ ทุก สาขางานในสาขาวิชานั้น ๆ ไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิต 8.2.2 วิชาชีพสาขางาน ประกอบด้วยสมรรถนะวิชาชีพที่เป็นสมรรถนะเฉพาะของ สาขา งานนั้น ๆ ไม่น้อยกว่า 28 หน่วยกิต 8.2.3 ฝึกงาน ประกอบด้วยสมรรถนะวิชาชีพที่เกิดจากการฝึกทักษะเพิ่มพูน ประสบการณ์งานอาชีพในสถานประกอบการ แหล่งวิทยาการต่าง ๆ ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต 8.2.4 โครงการ ประกอบด้วยสมรรถนะในการท างานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหา การ ปรับปรุงการเรียนรู้และการปฏิบัติงานของตนเอง โดยใช้ลักษณะของการวิจัย เพื่อบูรณาการสู่การปฏิบัติจริง และ ประยุกต์สู่อาชีพในสาขาวิชาชีพนั้น ๆ จ านวน 4 หน่วยกิต 8.3 หมวดวิชาเลือกเสรี ประกอบด้วยสมรรถนะซึ่งสนับสนุนวิชาชีพและหรือการศึกษาต่อ สามารถเลือกเรียนจากหลักสูตรประเภทวิชาใด ๆ รวมไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต
17 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ 8.4 กิจกรรมเสริมหลักสูตร เป็นส่วนที่ส่งเสริมพัฒนาทักษะวิชาการ ทักษะประสบการณ์ ผู้เรียนทุกคนต้องเข้าร่วมกิจกรรมอย่างน้อยสัปดาห์ละ 2 ชั่วโมง ทุกภาคเรียน ยกเว้น ภาคเรียนที่มีการฝึกงาน กิจกรรมเสริมหลักสูตรนี้ไม่นับเป็นหน่วยกิต และทักษะชีวิต สถานศึกษาอาจยกเว้นหรือเทียบโอนหน่วยกิตรายวิชา ในหมวดวิชาพื้นฐานประยุกต์ หมวดวิชาชีพ และหมวดวิชาเลือกเสรีให้กับผู้เรียนที่มีความรู้ความสามารถที่สามารถ วัดมาตรฐานได้ ทั้งนี้ ผู้เรียน ต้องศึกษาให้ครบตามจ านวนหน่วยกิตที่ก าหนดไว้ในกรอบมาตรฐานหลักสูตร และ เป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติในการเทียบโอนผลการเรียน และการเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เข้า สู่หน่วยกิตในหลักสูตร ของส านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 9. เงื่อนไขการจัดการเรียนรู้ 9.1 สถานศึกษาสามารถจัดการเรียนการสอนตามความถนัด ความสนใจและศักยภาพของ ผู้เรียน เพื่อให้สามารถผลิตผู้เรียนในลักษณะที่ 1 เป็นผู้ปฏิบัติการที่มีความช านาญ ลักษณะที่ 2 เป็น ผู้ปฏิบัติการ ที่มีความช านาญ สามารถแก้ปัญหาได้ และหรือลักษณะที่ 3 เป็นผู้ปฏิบัติการที่มีความช านาญสามารถแก้ปัญหา และประดิษฐ์คิดค้นสิ่งใหม่ ๆ โดยใช้กระบวนการวิจัย ทั้งนี้ ผู้ส าเร็จการศึกษาต้องมีสมรรถนะตรงตามมาตรฐาน วิชาชีพที่ก าหนด 9.2 สถานศึกษาต้องจัดเตรียมความพร้อมในด้านอาคารสถานที่ ครุภัณฑ์ และบุคลากร ทาง การศึกษาให้เหมาะสมสอดคล้องกับการจัดการเรียนการสอนแต่ละลักษณะของการผลิตผู้เรียน 9.3 การจัดอัตราส่วนของเวลาการเรียนรู้ภาคทฤษฎีต่อภาคปฏิบัติในหมวดวิชาชีพ ประมาณ 40 ต่อ 60 9.4 สถานศึกษาสามารถพัฒนาวิชาชีพสาขางานได้ตามความต้องการของท้องถิ่น 9.5 สถานศึกษาสามารถจัดการเรียนการสอนได้ทั้งแบบในระบบ นอกระบบ และทวิภาคีโดย วิธีการจัดแบบปกติ สะสมหน่วยกิต เทียบโอนผลการเรียน และเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ โดยก าหนด วิธีการจัดการเรียนรู้เพื่อพัฒนาคุณลักษณะทั้งด้านสมรรถนะทั่วไป สมรรถนะหลัก สมรรถนะวิชาชีพเจตคติและกิจ นิสัยที่พึงประสงค์ ให้ตรงตามศักยภาพของผู้เรียนและระดับของคุณวุฒิการศึกษาวิชาชีพของแต่ละประเภทวิชา 9.6 สถานศึกษาควรจัดให้มีการเรียนการสอนแบบบูรณาการในแต่ละภาคเรียน เพื่อให้ ผู้เรียน มีสมรรถนะหลักในการท างานร่วมกับผู้อื่น การแก้ปัญหา การปรับปรุงการเรียนรู้และการปฏิบัติงาน ของตนเอง และสมรรถนะวิชาชีพเพื่อบูรณาการสู่การปฏิบัติจริงและประยุกต์สู่อาชีพ โดยจัดท าเป็นโครงการ หรืองานหรือ ชิ้นงานที่เกี่ยวกับการผลิตหรือบริการ อย่างน้อยภาคเรียนละ 1 โครงการหรืองานหรือชิ้นงาน 9.7 สถานศึกษาต้องจัดให้มีการฝึกงานในสถานประกอบการหรือแหล่งวิทยาการที่สอดคล้อง กับสาขาวิชาที่เรียน นอกจากนี้ สถานศึกษาอาจน ารายวิชาในหมวดวิชาชีพไปจัดการเรียนการสอน/จัดการฝึก ใน สถานประกอบการหรือแหล่งวิทยาการได้ โดยอยู่ในดุลยพินิจของสถานศึกษาและสถานประกอบการ 9.8 สถานศึกษาต้องจัดให้ผู้เรียนจัดท าโครงการที่สอดคล้องกับสาขาวิชาที่เรียนน าสู่การปฏิบัติ ในอาชีพได้อย่างเป็นรูปธรรมตามโครงสร้างหลักสูตร โดยปฏิบัติงานอย่างเป็นระบบตามลักษณะการวิจัย 9.9 สถานศึกษาต้องจัดให้มีกิจกรรมเสริมหลักสูตร เพื่อปลูกฝังคุณธรรม จริยธรรม ค่านิยม ระเบียบของตนเอง การนันทนาการและการส่งเสริมการท างาน โดยใช้กระบวนการกลุ่มในการ ท าประโยชน์ต่อ ชุมชน ท านุบ ารุงขนบธรรมเนียมประเพณีอันดีงามทุกภาคเรียน 9.10 สถานศึกษาต้องจัดให้มีการประเมินมาตรฐานวิชาชีพในแต่ละสาขาวิชา เพื่อเป็นการ ประกันคุณภาพผู้เรียน 10. คุณสมบัติผู้เรียน เป็นผู้ส าเร็จการศึกษาระดับประกาศนียบัตรวิชาชีพ หรือมัธยมศึกษา ตอน ปลาย หรือเทียบเท่า
18 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ 11. คุณสมบัติผู้สอน เป็นผู้ส าเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี มีคุณสมบัติตรงตามมาตรฐาน วิชาชีพครูที่ก าหนด และหรือเป็นผู้มีสมรรถนะในวิชาชีพนั้นๆ 12. ชื่อคุณวุฒิการศึกษา ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง (เรียกโดยย่อว่า ปวส.) 13. การลงทะเบียน ให้ลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 22 หน่วยกิต ในแต่ละภาคการศึกษาปกติ ส าหรับการลงทะเบียนเต็มเวลา และให้ลงทะเบียนเรียนได้ไม่เกิน 12 หน่วยกิต ในแต่ละภาคการศึกษาปกติ ส าหรับการลงทะเบียนเรียนไม่เต็มเวลา ไม่เกิน 12 หน่วยกิต ส าหรับการลงทะเบียนเรียนในภาคฤดูร้อนให้ ลงทะเบียนเรียนได้ หากสถานศึกษาใดมีเหตุผลและความจ าเป็นการลงทะเบียนเรียนที่แตกต่างไปจากเกณฑ์ทั้งนี้ ให้ขึ้นอยู่ในดุลยพินิจของข้างต้นก็อาจท าได้ แต่ต้องไม่กระทบต่อมาตรฐานและคุณภาพการศึกษาสถานศึกษา สถานศึกษาสามารถรับเทียบโอนผลการเรียน และหรือเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เข้าสู่หน่วยกิตให้กับ ผู้เรียนที่มีความรู้ความสามารถและประสบการณ์อาชีพ จ านวนหน่วยกิต และเป็นไปตามหลักเกณฑ์ที่ก าหนดทั้งนี้ ต้องลงทะเบียนให้ครบตาม 14. เกณฑ์การวัดผลและการส าเร็จการศึกษา 14.1 การวัดผลการศึกษา ให้เป็นไปตามระเบียบว่าด้วยการประเมินผลการศึกษาหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพชั้นสูง 14.2 การส าเร็จการศึกษา ให้มีสมรรถนะตรงตามที่ก าหนด ได้จ านวนหน่วยกิตสะสม ครบถ้วน ตามโครงสร้างที่ก าหนดไว้ในหลักสูตร และได้คะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ ากว่า 2.00 จากระบบ 4 ระดับ คะแนน 15. การประกันคุณภาพหลักสูตร ให้ทุกหลักสูตรก าหนดระบบประกันคุณภาพไว้ให้ชัดเจน ซึ่ง อย่างน้อยประกอบด้วย 4 ประเด็น คือ 15.1 ผลลัพธ์การเรียนรู้ที่ได้จากมาตรฐานอาชีพหรือมาตรฐานสมรรถนะที่เกี่ยวข้อง 15.2 การบริหารหลักสูตร 15.3 ทรัพยากรประกอบการเรียน 15.4 ความต้องการของตลาดแรงงาน สังคมและชุมชน 16. การก าาหนดหลักสูตรและอนุมัติ 16.1 การอนุมัติกรอบมาตรฐานหลักสูตร ให้เป็นหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ 16.2 การก าหนดและเปลี่ยนแปลงกรอบมาตรฐานหลักสูตร ให้เป็นหน้าที่ของส านักงาน คณะกรรมการการอาชีวศึกษา 16.3 การอนุมัติหลักสูตร ให้เป็นหน้าที่ของส านักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา 17. การพัฒนาหลักสูตร ให้สถานศึกษามีหน้าที่ในการพัฒนาหลักสูตร ประเมินหลักสูตร และ ปรับปรุงมาตรฐานวิชาชีพสาขาวิชาและคุณภาพการศึกษาเป็นระยะ ๆ อย่างน้อยทุก 5 ปี หรือมีความจ าเป็นต้อง ปฏิบัตินอกเหนือ 18. ในกรณีที่ไม่สามารถปฏิบัติตามแนวทางดังกล่าวได้ จากที่ก าหนดไว้ในประกาศนี้ ให้อยู่ใน ดุลยพินิจของคณะกรรมการการอาชีวศึกษา ประกาศ ณ วันที่ 14 กันยายน พ.ศ. 2551 (นายสมชาย วงศ์สวัสดิ์) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
19 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๖๒ --------------------------------- โดยที่พระราชบัญญัติการอาชีวศึกษา พ.ศ. ๒๕๕๑ มาตรา ๖ และมาตรา ๙ ก าหนดให้ การ จัดการอาชีวศึกษาและการฝึกอบรมวิชาชีพต้องจัดตามหลักสูตรที่คณะกรรมการการอาชีวศึกษาก าหนด โดยให้ สอดคล้องกับแผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ฉบับที่ ๑๒ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๖๔ แผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๐ - ๒๕๗๙ กรอบคุณวุฒิแห่งชาติ ฉบับปรับปรุง มาตรฐาน การศึกษาของชาติ พ.ศ.๒๕๖๑ กรอบ คุณวุฒิอาชีวศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๖๒ และเกณฑ์มาตรฐานคุณวุฒิอาชีวศึกษาในแต่ละระดับเพื่อผลิตและพัฒนา ก าลังคนให้สอดคล้องกับความต้องการของ ตลาดแรงงานและการประกอบอาชีพอิสระ เพื่อให้มีประสิทธิภาพและ เกิดประสิทธิผล จึงสมควร ออกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผลการเรียน ตามหลักสูตร อาศัยอ านาจตามความในมาตรา ๘ และมาตรา ๑๗ แห่งพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการ กระทรวงศึกษาธิการ พ.ศ. ๒๕๔๖ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ จึงวางระเบียบไว้ ดังต่อไปนี้ ข้อ ๑ ระเบียบนี้เรียกว่า “ระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาและ การ ประเมินผลการเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พ.ศ. ๒๕๖๒” ข้อ ๒ ระเบียบนี้ให้ใช้บังคับตั้งแต่วันถัดจากวันประกาศในราชกิจจานุเบกษาเป็นต้นไป ข้อ ๓ ให้ยกเลิกระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาและการประเมินผล การ เรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ ลงวันที่ ๒๐ มิถุนายน พ.ศ. ๒๕๕๙ ข้อ ๔ ให้ใช้ระเบียบนี้บังคับแก่สถานศึกษาที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ข้อ ๕ ในระเบียบนี้ “หลักสูตร” หมายความว่า หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ ที่คณะกรรมการการอาชีวศึกษา ก าหนด “ประกาศนียบัตรวิชาชีพ” หมายความว่า การศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ หลังจากจบการศึกษาระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือเทียบเท่า ใช้อักษรย่อว่า “ปวช.” “สถานศึกษา” หมายความว่า วิทยาลัยหรือสถานศึกษาที่เรียกชื่ออย่างอื่นของรัฐและเอกชน ที่ จัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ รวมถึงสถานศึกษาในสถาบันการอาชีวศึกษา “หัวหน้าสถานศึกษา” หมายความว่า ผู้อ านวยการวิทยาลัยหรือหัวหน้าสถานศึกษาที่เรียกชื่อ อย่างอื่นของรัฐและเอกชนที่จัดการศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ “หน่วยงานต้นสังกัด” หมายความว่า หน่วยงานที่มีสถานศึกษาที่จัดการศึกษาตามหลักสูตร ประกาศนียบัตรวิชาชีพอยู่ในสังกัดหรือในความควบคุมดูแล “ผู้เข้าเรียน” หมายความว่า ผู้มาสมัครเข้าเรียนในสถานศึกษา หรือสมัครฝึกอาชีพกับ สถาน ประกอบการที่ยังไม่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียน “นักเรียน” หมายความว่า ผู้ที่ได้ขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ “ภาคเรียน” หมายความว่า ช่วงเวลาที่สถานศึกษาเปิดท าการสอน โดยก าหนดให้ ๑ ปี การศึกษา แบ่งออกเป็น ๒ ภาคเรียน และใน ๑ ภาคเรียน มีระยะเวลาจัดการศึกษารวมการวัดผล ๑๘ สัปดาห์ “ภาคเรียนฤดูร้อน” หมายความว่า ช่วงเวลาที่สถานศึกษาเปิดท าการสอนในช่วงปิดภาคเรียน ตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วยการเปิดภาคเรียนฤดูร้อนในสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ
20 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ “การเรียนแบบเต็มเวลา (full-time)” หมายความว่า การจัดการเรียนการสอนในภาคเรียนปกติ หรือภาคฤดูร้อนที่ใช้เวลาในช่วงของวันท าการ โดยนักเรียนจะต้องลงทะเบียนเรียนในแต่ละภาคเรียน ตามเกณฑ์ จ านวนหน่วยกิตมาตรฐานของการลงทะเบียนที่ก าหนดส าหรับการเรียนแบบเต็มเวลา “การเรียนแบบไม่เต็มเวลา (part-time)” หมายความว่า การจัดการเรียนการสอนนอกเหนือจาก การเรียนการสอนภาคเรียนปกติที่ใช้เวลานอกเวลาของวันท าการ โดยนักเรียนจะต้องลงทะเบียนเรียน ในแต่ละ ภาคเรียนตามเกณฑ์จ านวนหน่วยกิตมาตรฐานของการลงทะเบียนที่ก าหนดส าหรับการเรียน แบบไม่เต็มเวลา “สถานประกอบการ” หมายความว่า บริษัท ห้างหุ้นส่วน ร้าน รัฐวิสาหกิจ หน่วยงานของรัฐ และ เอกชนทั้งในประเทศและต่างประเทศที่ร่วมมือกับสถานศึกษาเพื่อจัดการอาชีวศึกษา “ผู้ปกครอง” หมายความว่า บิดา มารดา และบุคคลอื่นที่ท าหน้าที่ปกครองดูแลและให้ความ อุปการะแก่นักเรียน และให้ค ารับรองแก่สถานศึกษาหรือสถานประกอบการว่าจะปกครองดูแล ความประพฤติของ นักเรียนในระหว่างที่เรียนอยู่ในสถานศึกษา และฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ในสถานประกอบการ หรือฝึก อาชีพในการศึกษาระบบทวิภาคี “การศึกษาในระบบ” หมายความว่า การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เน้นการศึกษาในสถานศึกษา เป็น หลัก โดยมีการก าหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตร ระยะเวลา การวัดและการประเมินผล ที่เป็นเงื่อนไข ของการส าเร็จการศึกษาที่แน่นอน “การศึกษานอกระบบ” หมายความว่า การจัดการศึกษาวิชาชีพที่มีความยืดหยุ่นในการ ก าหนด จุดมุ่งหมาย รูปแบบ วิธีการศึกษา ระยะเวลา การวัดและการประเมินผลที่เป็นเงื่อนไขของ การส าเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหาและ ความต้องการของบุคคลแต่ละ กลุ่ม “การศึกษาระบบทวิภาคี” หมายความว่า การจัดการศึกษาวิชาชีพที่เกิดจากข้อตกลงระหว่าง สถานศึกษากับสถานประกอบการ ในเรื่องการจัดหลักสูตร การเรียนการสอน การวัดและการประเมินผล โดย นักเรียนใช้เวลาส่วนหนึ่งในสถานศึกษา และเรียนภาคปฏิบัติในสถานประกอบการ “ผู้ควบคุมการฝึก” หมายความว่า ผู้ที่สถานประกอบการมอบหมายให้ท าหน้าที่ประสานงาน กับ สถานศึกษาในการจัดการศึกษาระบบทวิภาคี และรับผิดชอบดูแลการฝึกอาชีพของนักเรียน ในสถานประกอบการ “ครูฝึก” หมายความว่า ผู้ท าหน้าที่สอน ฝึก อบรมนักเรียนในสถานประกอบการ ตามหลักเกณฑ์ ที่คณะกรรมการการอาชีวศึกษาก าหนด “ครูนิเทศก์” หมายความว่า ครูที่สถานศึกษามอบหมายให้ท าหน้าที่นิเทศ ให้ค าปรึกษา แนะน า แก่นักเรียนที่ฝึกอาชีพและฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ “ครูที่ปรึกษา” หมายความว่า ครูที่สถานศึกษามอบหมายให้ท าหน้าที่ให้ค าแนะน า ให้ค าปรึกษา ติดตามผลการเรียน และตักเตือนดูแลความประพฤติของนักเรียน “มาตรฐานวิชาชีพ” หมายความว่า ข้อก าหนดด้านสมรรถนะวิชาชีพ เพื่อใช้เป็นเกณฑ์ ในการ ก ากับดูแล ตรวจสอบและประกันคุณภาพผู้ส าเร็จการศึกษา “การประเมินมาตรฐานวิชาชีพ” หมายความว่า การทดสอบความรู้ ความสามารถ ตลอดจน ลักษณะนิสัยในการปฏิบัติงานตามมาตรฐานวิชาชีพ โดยใช้เครื่องมือที่เหมาะสมซึ่งก าหนดเกณฑ์ การตัดสินไว้ ชัดเจน พร้อมทั้งจัดด าเนินการประเมินภายใต้เงื่อนไขที่เป็นมาตรฐาน “คณะกรรมการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ” หมายความว่า คณะกรรมการผู้ท าหน้าที่ รับผิดชอบ ในการอ านวยการ ติดตามและก ากับดูแลการประเมินมาตรฐานวิชาชีพของนักเรียนในสถานศึกษา ข้อ ๖ ให้เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษารักษาการให้เป็นไปตามระเบียบนี้ และให้ มี อ านาจตีความและวินิจฉัยปัญหาเกี่ยวกับการปฏิบัติตามระเบียบนี้
21 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ หมวด ๑ ผู้เข้าเรียนและสภาพนักเรียน ------------------------- ส่วนที่ ๑ พื้นความรู้และคุณสมบัติของผู้เข้าเรียน ------------------------- ข้อ ๗ ผู้เข้าเรียน ต้องมีพื้นความรู้ ส าเร็จการศึกษาไม่ต่ ากว่าระดับมัธยมศึกษาตอนต้น หรือ เทียบเท่า ความในข้อนี้ ไม่ใช้บังคับส าหรับผู้ที่เรียนเป็นบางเวลา บางรายวิชา หรือบางส่วนของรายวิชา โดยไม่ นับจ านวนหน่วยกิตมารวมเพื่อตัดสินการส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตรและรับประกาศนียบัตร วิชาชีพ ข้อ ๘ ผู้เข้าเรียน ต้องมีคุณสมบัติ ดังต่อไปนี้ (๑) มีความประพฤติเรียบร้อย (๒) มีสุขภาพร่างกายแข็งแรงไม่เป็นอุปสรรคต่อการเรียน (๓) มีภูมิล าเนาเป็นหลักแหล่ง โดยมีบัตรประจ าตัวประชาชน หรือมีหลักฐานของทางราชการ ใน ลักษณะเดียวกันมาแสดง (๔) มีความเคารพ เลื่อมใส ศรัทธาต่อสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ด้วยความบริสุทธิ์ ใจ (๕) มีเจตคติที่ดีต่อการปกครองระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข (๖) ส าหรับผู้เข้าเรียนการศึกษาระบบทวิภาคี ในวันท าสัญญาการฝึกอาชีพต้องมีอายุ ไม่ต่ ากว่า ๑๕ ปีบริบูรณ์ และมีความตั้งใจที่จะรับการฝึกอาชีพในสาขาวิชาที่สมัคร ผู้เข้าเรียนตามโครงการต่าง ๆ ของ สถานศึกษา ให้สถานศึกษาก าหนดคุณสมบัติเพิ่มเติม ได้ตามความเหมาะสมของโครงการนั้น ส่วนที่ ๒ การรับผู้เข้าเรียน ------------------------- ข้อ ๙ การรับผู้เข้าเรียน ให้ท าการสอบคัดเลือกหรือคัดเลือกตามที่สถานศึกษาก าหนด ในกรณีที่ มีการสอบคัดเลือก ให้ปฏิบัติดังนี้ (๑) ท าการสอบข้อเขียนในหมวดวิชาใด ๆ ตามความต้องการของสถานศึกษาหรือสถาน ประกอบการ หากสถานศึกษาหรือสถานประกอบการจะท าการสอบความถนัดทางการเรียนวิชาชีพและ สอบ สัมภาษณ์ด้วยก็ได้ (๒) สถานศึกษาประกาศรับสมัคร ด าเนินการสอบและประกาศผลสอบ ตามวันและเวลา ที่ หน่วยงานต้นสังกัดก าหนด (๓) ถ้าเหตุการณ์เกี่ยวกับการสอบเป็นไปโดยปกติ ให้สถานศึกษาเก็บรักษาเอกสารเกี่ยวกับ การ สอบคัดเลือกไว้เป็นเวลาไม่น้อยกว่า ๑ ปี นับแต่วันประกาศผลการสอบ การรับผู้เข้าเรียนการศึกษาระบบทวิภาคี สถานประกอบการจะเป็นผู้สอบคัดเลือกหรือคัดเลือก ผู้เข้าเรียนเองตามคุณสมบัติที่ก าหนดและตามจ านวนที่ได้ตกลงร่วมกับสถานศึกษา หรือจะมอบให้ สถานศึกษา เป็นผู้ด าเนินการ หรือด าเนินการร่วมกันก็ได้ การรับผู้เข้าเรียนตามโครงการต่าง ๆ ของสถานศึกษา ให้สถานศึกษาคัดเลือกผู้เข้าเรียน ตาม คุณสมบัติที่ก าหนดตามความเหมาะสมของโครงการนั้น ข้อ ๑๐ ให้มีการตรวจร่างกายโดยแพทย์ปริญญา เฉพาะผู้ที่ผ่านการสอบคัดเลือก หรือได้รับ การ คัดเลือก
22 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ส่วนที่ ๓ การเป็นนักเรียน ------------------------- ข้อ ๑๑ ผู้เข้าเรียนจะมีสภาพเป็นนักเรียน เมื่อได้ขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียนของสถานศึกษา ส าหรับการศึกษาระบบทวิภาคี ผู้เข้าเรียนต้องท าสัญญาการฝึกอาชีพกับสถานประกอบการ การขึ้นทะเบียนเป็นนักเรียนและการท าสัญญาการฝึกอาชีพต้องกระท าด้วยตนเอง พร้อมทั้ง แสดงหลักฐานการส าเร็จการศึกษาตามวัน เวลา ที่สถานศึกษาและสถานประกอบการก าหนด โดยช าระเงิน ค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ตามที่สถานศึกษาก าหนด ทั้งนี้ ให้เสร็จสิ้นก่อนวันเปิดภาคเรียน โดยมีผู้ปกครองซึ่ง สถานศึกษาเชื่อถือมาให้ค ารับรองและท าหนังสือมอบตัว ในกรณีผู้เข้าเรียนที่บรรลุนิติภาวะ สถานศึกษาอาจให้ผู้ปกครองมาท าหนังสือมอบตัว หรือ ด าเนินการในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระเบียบนี้หรือไม่ก็ได้ ให้สถานศึกษาจัดการประชุมชี้แจงผู้ปกครอง และปฐมนิเทศนักเรียน เพื่อให้ทราบแนวทาง การ เรียนและกฎ ระเบียบ ข้อบังคับต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ข้อ ๑๒ ให้สถานศึกษาออกบัตรประจ าตัวให้แก่นักเรียน โดยให้เป็นไปตามระเบียบ กระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยบัตรประจ าตัวนักเรียนและนักศึกษา บัตรประจ าตัวนี้ให้มีอายุเท่ากับระยะเวลาที่มีสภาพนักเรียนในสถานศึกษาแห่งนั้น แต่ต้อง ไม่เกิน ๓ ปี นับแต่วันออกบัตร ถ้าบัตรประจ าตัวหมดอายุในระหว่างที่ยังมีสภาพเป็นนักเรียน ก็ให้สถานศึกษาต่ออายุ บัตรเป็นปีๆ ไป และให้ส่งคืนบัตรประจ าตัวต่อสถานศึกษาเมื่อพ้นสภาพ การเป็นนักเรียน สถานประกอบการจะใช้บัตรประจ าตัวที่สถานศึกษาออกให้ หรือจะออกให้ใหม่ตามความ ต้องการของสถานประกอบการก็ได้ ข้อ ๑๓ ให้สถานศึกษาแต่งตั้งครูที่ปรึกษา เพื่อท าหน้าที่ให้ค าแนะน าเกี่ยวกับการเรียน ให้ ค าปรึกษา ติดตามผลการเรียน และตักเตือนดูแลความประพฤติของนักเรียน และให้สถาน ประกอบการจัดให้มีผู้ ควบคุมการฝึกของนักเรียนในสถานประกอบการ ส่วนที่ ๔ การพ้นสภาพและคืนสภาพนักเรียน ------------------------- ข้อ ๑๔ การพ้นสภาพนักเรียน เป็นไปตามกรณีใดกรณีหนึ่งต่อไปนี้ (๑) ส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตร (๒) ลาออก (๓) ถึงแก่กรรม (๔) สถานศึกษาสั่งให้พ้นสภาพนักเรียนในกรณีใดกรณีหนึ่ง ต่อไปนี้ ก. ขาดเรียน ขาดการฝึกอาชีพ ขาดการฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ หรือ ขาดการ ติดต่อกับสถานศึกษาหรือสถานประกอบการเกินกว่า ๑๕ วันติดต่อกัน ซึ่งสถานศึกษา หรือสถานประกอบการ พิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควร หรือมีพฤติกรรมอย่างอื่นที่แสดงว่า ไม่มีความตั้งใจที่จะศึกษาเล่าเรียน หรือรับการฝึกอาชีพ หรือรับการฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ ข. ไม่ยื่นค าร้องขอกลับเข้าเรียนภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันถัดจากวันครบก าหนด ลาพักการ เรียนหรือการฝึกอาชีพตามข้อ ๒๐ ค. ไม่มาติดต่อเพื่อรักษาสภาพนักเรียน ตามข้อ ๒๗
23 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ง. ได้รับโทษจ าคุก โดยค าพิพากษาถึงที่สุดให้จ าคุก เว้นแต่เป็นโทษส าหรับความผิด ที่ได้ กระท าโดยประมาทหรือความผิดลหุโทษ จ. ขาดพื้นความรู้ ตามข้อ ๗ ฉ. ขาดคุณสมบัติของผู้เข้าเรียน ตามข้อ ๘ ช. พ้นสภาพนักเรียนตามข้อ ๕๗ ซ. พ้นสภาพนักเรียนตามข้อ ๕๘ ข้อ ๑๕ ผู้ที่พ้นสภาพนักเรียน ตามข้อ ๑๔ (๒) (๔) ก. ข. และ ค. ถ้าประสงค์จะขอคืน สภาพการ เป็นนักเรียน จะต้องยื่นค าร้องขอต่อสถานศึกษาภายใน ๑ ปี นับแต่วันถัดจากวันพ้นสภาพ นักเรียน เมื่อ สถานศึกษาพิจารณาเห็นสมควรก็ให้รับเข้าเรียนได้ ข้อ ๑๖ การขอคืนสภาพการเป็นนักเรียนตามข้อ ๑๕ ให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) ต้องเข้าเรียนภายในสัปดาห์แรกของภาคเรียน เว้นแต่กลับเข้าเรียนในภาคเรียนเดียวกัน (๒) ให้น ารายวิชาและจ านวนหน่วยกิตที่ได้ลงทะเบียนรายวิชาไว้ มานับรวมเพื่อพิจารณา ตัดสิน การส าเร็จการศึกษาด้วย ส่วนที่ ๕ การพักการเรียน ------------------------- ข้อ ๑๗ สถานศึกษาและสถานประกอบการอาจพิจารณาอนุญาตให้นักเรียนลาพักการเรียน หรือ การฝึกอาชีพได้ตามที่เห็นสมควร เมื่อมีเหตุจ าเป็นกรณีใดกรณีหนึ่ง ต่อไปนี้ (๑) ได้รับทุนการศึกษาให้ไปศึกษา หรือดูงาน หรือเป็นตัวแทนของสถานศึกษาหรือ สถาน ประกอบการในการเข้าร่วมประชุม หรือกรณีอื่น ๆ อันควรแก่การส่งเสริม (๒) เจ็บป่วยต้องพักรักษาตัวเป็นเวลานาน โดยมีค ารับรองของแพทย์ปริญญา (๓) กรณีลาพักเพื่อรับราชการทหารกองประจ าการให้ลาพักได้จนกว่าจะได้รับการน าปลด (๔) เหตุจ าเป็นอย่างอื่นตามที่สถานศึกษาและสถานประกอบการจะพิจารณาเห็นสมควร ในกรณีที่มีนักเรียนลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพตั้งแต่ต้นปีเป็นระยะเวลานานเกินกว่า ๑ ปี สถานศึกษาและสถานประกอบการอาจพิจารณารับนักเรียนอื่นเข้าเรียนหรือฝึกอาชีพแทนที่ได้ตามที่ เห็นสมควร นักเรียนที่ลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพต้องช าระเงินค่ารักษาสภาพนักเรียนและค่าธรรมเนียม ต่าง ๆ ตามที่สถานศึกษาก าหนด แต่ถ้านักเรียนได้ช าระเงินค่าธรรมเนียมต่าง ๆ ครบถ้วนส าหรับ ภาคเรียนนั้นแล้ว ไม่ต้องช าระเงินค่ารักษาสภาพนักเรียนส าหรับภาคเรียนนั้นอีก ข้อ ๑๘ นักเรียนที่ขออนุญาตลาพักการเรียน หรือการฝึกอาชีพ ต้องยื่นค าร้องเป็น ลายลักษณ์ อักษรต่อสถานศึกษา โดยมีผู้ปกครองเป็นผู้รับรอง ส าหรับผู้ที่บรรลุนิติภาวะจะมีผู้รับรอง หรือไม่ก็ได้ เมื่อได้รับ อนุญาตแล้วจึงพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพได้ มิฉะนั้นจะถือว่าขาดเรียน เว้นแต่มีเหตุผลสมควร ข้อ ๑๙ การอนุญาตให้นักเรียนลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพ ให้สถานศึกษาท าหลักฐาน เป็น ลายลักษณ์อักษรแจ้งให้ผู้ปกครองทราบ เว้นแต่ผู้ที่บรรลุนิติภาวะที่ไม่มีผู้ปกครองมอบตัว ให้แจ้ง นักเรียนโดยตรง ข้อ ๒๐ นักเรียนที่ลาพักการเรียนหรือการฝึกอาชีพ เมื่อครบก าหนดเวลาที่ลาพักการเรียน หรือ การฝึกอาชีพแล้ว ให้ยื่นค าร้องขอกลับเข้าเรียนพร้อมด้วยหลักฐานการอนุญาตให้ลาพักการเรียน หรือการฝึก อาชีพต่อสถานศึกษาภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันถัดจากวันครบก าหนด หากพ้นก าหนดนี้ ให้ถือว่าพ้นสภาพนักเรียน เว้นแต่มีเหตุผลสมควร
24 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ส่วนที่ ๖ การลาออก -------------------- ข้อ ๒๑ นักเรียนที่ประสงค์จะลาออกจากการเป็นนักเรียน ต้องให้ผู้ปกครองเป็นผู้รับรอง การ ลาออก เว้นแต่ผู้ที่บรรลุนิติภาวะ ข้อ ๒๒ นักเรียนที่ลาออกแล้วได้รับอนุญาตให้กลับเข้าเรียนในภาคเรียนเดียวกัน ให้ถือว่า นักเรียน ผู้นั้นมีสภาพนักเรียนมาตั้งแต่ต้นภาคเรียนนั้นทุกประการ หมวด ๒ การจัดการเรียน -------------------- ส่วนที่ ๑ การเปิดเรียน -------------------- ข้อ ๒๓ ให้สถานศึกษาก าหนดวันเปิดและปิดภาคเรียนตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วย ปีการศึกษา การเปิดและปิดสถานศึกษา หากสถานศึกษาใดจะก าหนดวันเปิดและปิดภาคเรียน แตกต่างไปจาก ระเบียบดังกล่าว ให้ขออนุญาตต่อหน่วยงานต้นสังกัด ข้อ ๒๔ สถานศึกษาที่เปิดภาคเรียนฤดูร้อน ให้ปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการ ว่าด้วย การเปิดภาคเรียนฤดูร้อนในสถานศึกษาของกระทรวงศึกษาธิการ ส่วนที่ ๒ การลงทะเบียนรายวิชา -------------------- ข้อ ๒๕ สถานศึกษาต้องก าหนดวันและเวลาให้นักเรียนลงทะเบียนรายวิชาต่าง ๆ ให้เสร็จ ก่อน วันเปิดภาคเรียน ข้อ ๒๖ สถานศึกษาอาจให้นักเรียนลงทะเบียนรายวิชาภายหลังก าหนดตามข้อ ๒๕ ก็ได้ โดยให้ สถานศึกษาก าหนดวันสิ้นสุดการลงทะเบียนตามที่เห็นสมควร แต่ต้องไม่เกิน ๑๕ วัน นับแต่ วันเปิดภาคเรียน หรือไม่เกิน ๕ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียนฤดูร้อน การลงทะเบียนรายวิชาตามวรรคหนึ่ง นักเรียนต้องช าระค่าปรับตามที่สถานศึกษาก าหนด ข้อ ๒๗ นักเรียนที่มิได้ลงทะเบียนรายวิชาภายในวันและเวลาที่สถานศึกษาก าหนดตามข้อ ๒๖ ถ้าประสงค์จะรักษาสภาพนักเรียน ต้องติดต่อรักษาสภาพนักเรียนภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันถัดจาก วันสิ้นสุดการ ลงทะเบียน หากพ้นก าหนดนี้ให้ถือว่าพ้นสภาพนักเรียน เว้นแต่มีเหตุผลสมควร ข้อ ๒๘ การลงทะเบียนรายวิชาต้องได้รับความเห็นชอบจากครูที่ปรึกษา ข้อ ๒๙ นักเรียนต้องลงทะเบียนรายวิชาด้วยตนเอง ตามวันและเวลาที่สถานศึกษาก าหนด ใน กรณีที่นักเรียนไม่สามารถมาลงทะเบียนรายวิชาด้วยตนเองได้ จะมอบหมายให้ผู้อื่น มาลงทะเบียนแทนให้หัวหน้า สถานศึกษาพิจารณาเป็นราย ๆ ไป ข้อ ๓๐ นักเรียนลงทะเบียนรายวิชาได้ไม่เกินภาคเรียนละ ๒๒ หน่วยกิต ส าหรับการเรียน แบบ เต็มเวลา และได้ไม่เกินภาคเรียนละ ๑๒ หน่วยกิต ส าหรับการเรียนแบบไม่เต็มเวลา ส่วนการ ลงทะเบียนรายวิชา ในภาคเรียนฤดูร้อน ให้ลงทะเบียนได้ไม่เกิน ๑๒ หน่วยกิต เว้นแต่ได้รับอนุญาต จากหัวหน้าสถานศึกษา หากสถานศึกษามีเหตุผลและความจ าเป็นในการให้นักเรียนลงทะเบียนรายวิชาที่แตกต่างไปจาก เกณฑ์ข้างต้น อาจท าได้แต่ต้องไม่กระทบต่อมาตรฐานและคุณภาพการศึกษา
25 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ข้อ ๓๑ นักเรียนที่ขอโอนผลการเรียนรายวิชาตามข้อ ๕๙ และข้อ ๖๐ ต้องลงทะเบียน เรียน รายวิชาในสถานศึกษาที่ขอส าเร็จการศึกษา ไม่น้อยกว่า ๑ ภาคเรียน นักเรียนที่ขอเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ตามข้อ ๖๖ ต้องลงทะเบียนเรียนรายวิชา ใน สถานศึกษาที่ขอส าเร็จการศึกษาไม่น้อยกว่า ๑ ใน ๓ ของจ านวนหน่วยกิตที่ระบุไว้ในหลักสูตร แต่ละประเภทวิชา และสาขาวิชา และตามแผนการเรียนที่สถานศึกษาก าหนด ส่วนที่ ๓ การเปลี่ยน การเพิ่ม และการถอนรายวิชา -------------------- ข้อ ๓๒ นักเรียนจะขอเปลี่ยนรายวิชาที่ได้ลงทะเบียนไว้แล้ว หรือขอเพิ่มรายวิชาต้องกระท า ภายใน ๑๕ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียน หรือภายใน ๕ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียนฤดูร้อน ส่วนการขอถอน รายวิชาต้องกระท าภายใน ๓๐ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียน หรือภายใน ๑๐ วัน นับแต่วันเปิดภาคเรียนฤดูร้อน การถอนรายวิชาภายหลังก าหนดตามวรรคหนึ่งอาจกระท าได้ ถ้าหัวหน้าสถานศึกษาพิจารณา เห็นว่ามีเหตุผลสมควร การขอเปลี่ยน ขอเพิ่ม หรือขอถอนรายวิชา ต้องได้รับความเห็นชอบจากครูที่ปรึกษาและ ครูผู้สอนประจ ารายวิชา ข้อ ๓๓ การถอนรายวิชาภายในก าหนด ตามข้อ ๓๒ ให้ลงอักษร “ถ.น.” ในระเบียน แสดงผล การเรียนช่อง “ผลการเรียน” การถอนรายวิชาภายหลังก าหนดตามข้อ ๓๒ และหัวหน้าสถานศึกษาพิจารณาเห็นว่ามีเหตุผล สมควร ให้ลงอักษร “ถ.น.” ในระเบียนแสดงผลการเรียนช่อง “ผลการเรียน” แต่ถ้าหัวหน้าสถานศึกษา พิจารณา เห็นว่าไม่มีเหตุผลอันสมควร ให้ลงอักษร “ถ.ล.” ลงในระเบียนแสดงผลการเรียนช่อง “ผลการเรียน” ส่วนที่ ๔ การเรียนโดยไม่นับจ านวนหน่วยกิตมารวมเพื่อการส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตร -------------------- ข้อ ๓๔ สถานศึกษาอาจอนุญาตให้นักเรียนลงทะเบียนเรียนรายวิชาใดวิชาหนึ่งเพื่อเป็นการ เสริม ความรู้ โดยไม่นับจ านวนหน่วยกิตของรายวิชานั้นมารวมเพื่อการส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตรได้ ข้อ ๓๕ เมื่อได้ท าการวัดและประเมินผลการเรียนแล้วผ่าน ให้บันทึก “ม.ก.” ลงในระเบียน แสดงผลการเรียนช่อง “ผลการเรียน” ถ้าผลการประเมินไม่ผ่านไม่ต้องบันทึกรายวิชานั้น และให้ถือ เป็นการสิ้นสุด ส าหรับการเรียนรายวิชานั้นโดยไม่นับจ านวนหน่วยกิตมารวมเพื่อการส าเร็จการศึกษา ตามหลักสูตร ส่วนที่ ๕ การนับเวลาเรียนเพื่อสิทธิในการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน -------------------- ข้อ ๓๖ นักเรียนต้องมีเวลาเรียนในแต่ละรายวิชาไม่ต่ ากว่าร้อยละ ๘๐ ของเวลาเรียนส าหรับ รายวิชานั้น จึงจะมีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน ในกรณีที่มีความจ าเป็นอย่างแท้จริง หัวหน้าสถานศึกษาอาจพิจารณาผ่อนผันให้เป็นราย ๆ ไป นักเรียนที่ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนตามวรรคหนึ่ง จะขอประเมินเทียบโอน ความรู้และประสบการณ์ ตามข้อ ๖๖ มิได้ ข้อ ๓๗ การนับเวลาเรียนให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) เวลาเปิดเรียนเต็มภาคเรียนละ ๑๘ สัปดาห์
26 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ (๒) นักเรียนที่ย้ายสถานศึกษาระหว่างภาคเรียน ให้น าเวลาเรียนจากสถานศึกษาทั้งสองแห่ง มา รวมกัน (๓) นักเรียนที่ลาออกแล้ว ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าเรียนในภาคเรียนเดียวกันให้นับเวลาเรียน ที่ เรียนแล้วมารวมกัน (๔) นักเรียนที่ลาพักการเรียน หรือการฝึกอาชีพในภาคเรียนใด ได้รับอนุญาตให้กลับเข้าเรียน หรือฝึกอาชีพในภาคเรียนเดียวกัน ให้นับเวลาเรียนหรือฝึกอาชีพก่อนและหลังการลาพักการเรียน หรือ การฝึก อาชีพในภาคเรียนนั้นมารวมกัน (๕) รายวิชาที่มีครูผู้สอน หรือครูฝึกตั้งแต่ ๒ คนขึ้นไป และแยกกันสอน ให้น าเวลาเรียน ที่เรียน กับครูผู้สอนหรือครูฝึกทุกคนมารวมกัน (๖) ถ้ามีการเปลี่ยนรายวิชา หรือเพิ่มรายวิชา ให้นับเวลาเรียนตั้งแต่เริ่มเรียนรายวิชาใหม่ ส่วนที่ ๖ การขออนุญาตเลื่อนการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน -------------------- ข้อ ๓๘ นักเรียนที่ไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนตามวันและเวลาที่สถานศึกษา ก าหนด หัวหน้าสถานศึกษาอาจอนุญาตให้เลื่อนการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนได้ในกรณีต่อไปนี้ (๑) ประสบอุบัติเหตุ หรือเจ็บป่วยก่อนหรือระหว่างการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน (๒) ถูกควบคุมตัวโดยพนักงานเจ้าหน้าที่ตามกฎหมาย (๓) เป็นตัวแทนของสถานศึกษา หรือสถานประกอบการ ในการเข้าร่วมประชุม หรือ กิจกรรม พิเศษอย่างอื่น โดยได้รับความยินยอมจากสถานศึกษา (๔) มีความจ าเป็นอย่างอื่น โดยสถานศึกษา หรือสถานศึกษาและสถานประกอบการ พิจารณา แล้วเห็นว่าเป็นความจ าเป็นอย่างแท้จริง ข้อ ๓๙ นักเรียนที่ขออนุญาตเลื่อนการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน ต้องยื่นค าร้อง พร้อมทั้ง หลักฐานประกอบต่อสถานศึกษาก่อนการวัดผลปลายภาคเรียนไม่น้อยกว่า ๓ วัน หากไม่สามารถ กระท าได้ให้ หัวหน้าสถานศึกษาพิจารณาเป็นราย ๆ ไป กรณีที่หัวหน้าสถานศึกษาอนุญาตให้เลื่อนได้ ให้บันทึก “ม.ส.” ลงในระเบียนแสดงผลการเรียน ในช่อง “ผลการเรียน” และให้นักเรียนเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนทดแทนภายใน ๑๐ วัน นับแต่ วันประกาศ ผลการเรียนหากไม่สามารถด าเนินการได้ ให้หัวหน้าสถานศึกษาพิจารณาจัดการวัดผล ปลายภาคเรียนทดแทน ภายในก าหนดการวัดผลปลายภาคเรียนของภาคเรียนถัดไป การอนุญาตให้เลื่อนการเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน ให้สถานศึกษาท าเป็นลายลักษณ์อักษร มอบให้นักเรียน หมวด ๓ การประเมินผลการเรียน -------------------- ส่วนที่ ๑ หลักการในการประเมินผลการเรียน -------------------- ข้อ ๔๐ ให้สถานศึกษามีหน้าที่และรับผิดชอบในการประเมินผลการเรียนรายวิชาที่เรียน และฝึก ปฏิบัติในสถานศึกษา และให้สถานศึกษาและสถานประกอบการมีหน้าที่และรับผิดชอบร่วมกัน ในการประเมินผล การเรียนรายวิชาที่เรียนและฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ
27 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ข้อ ๔๑ ให้ประเมินผลการเรียนเป็นรายวิชาตามระบบหน่วยกิต ตามสภาพจริงต่อเนื่องตลอด ภาคเรียน ทั้งด้านความรู้ ความสามารถและคุณลักษณะที่พึงประสงค์จากกิจกรรมการเรียนการสอน การฝึก ปฏิบัติและงานที่มอบหมาย รวมทั้งการวัดผลปลายภาคเรียน ซึ่งครอบคลุมจุดประสงค์รายวิชา สมรรถนะรายวิชา และเนื้อหาวิชา โดยใช้เครื่องมือและวิธีการหลากหลายตามความเหมาะสม ทั้งนี้ จ านวนหน่วยกิตของแต่ละ รายวิชา ให้ถือตามที่ก าหนดไว้ในหลักสูตร ส่วนที่ ๒ วิธีการประเมินผลการเรียน -------------------- ข้อ ๔๒ ให้สถานศึกษา พิจารณาท าการประเมินผลการเรียนรายวิชาเมื่อสิ้นภาคเรียน หรือเมื่อ สิ้นสุดการเรียน หรือการฝึกปฏิบัติงานในทุกรายวิชา ส าหรับรายวิชาที่เรียนและฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ ให้สถานศึกษาและสถาน ประกอบการ โดยครูนิเทศก์และครูฝึกร่วมกันประเมินผลการเรียน เมื่อสิ้นสุดการเรียนและฝึกปฏิบัติ ในแต่ละ รายวิชา ข้อ ๔๓ ให้หน่วยงานต้นสังกัดร่วมกับสถานศึกษา ด าเนินการส่งเสริมคุณภาพและควบคุม มาตรฐานการจัดการเรียนการสอน การวัดผลและการประเมินผลการเรียน ข้อ ๔๔ ให้ใช้ตัวเลขแสดงระดับผลการเรียนในแต่ละรายวิชา คิดเป็นร้อยละตามเกณฑ์ ดังต่อไปนี้ ร้อยละ ๘๐ ขึ้นไป ระดับผลการเรียน ๔.๐ หมายถึง ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีเยี่ยม ร้อยละ ๗๕-๗๙ ระดับผลการเรียน ๓.๕ หมายถึง ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดีมาก ร้อยละ ๗๐-๗๔ ระดับผลการเรียน ๓.๐ หมายถึง ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ดี ร้อยละ ๖๕-๖๙ ระดับผลการเรียน ๒.๕ หมายถึง ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์ค่อนข้างดี ร้อยละ ๖๐-๖๔ ระดับผลการเรียน ๒.๐ หมายถึง ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ร้อยละ ๕๕-๕๙ ระดับผลการเรียน ๑.๕ หมายถึง ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์อ่อน ร้อยละ ๕๐-๕๔ ระดับผลการเรียน ๑.๐ หมายถึง ผลการเรียนอยู่ในเกณฑ์อ่อนมาก ต่ ากว่า ร้อยละ ๕๐ ระดับผลการเรียน ๐ หมายถึง ผลการเรียนต่ ากว่าเกณฑ์ (ตก) ข้อ ๔๕ รายวิชาใดที่แสดงระดับผลการเรียนตามข้อ ๔๔ ไม่ได้ ให้ใช้ตัวอักษรต่อไปนี้ ข.ร. หมายถึง ขาดเรียน ไม่มีสิทธิ์เข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน เนื่องจากมีเวลาเรียนต่ ากว่า ร้อยละ ๘๐ โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผลสมควร ข.ป. หมายถึง ขาดการปฏิบัติงาน หรือปฏิบัติงานไม่ครบ โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่า ไม่ มีเหตุผลสมควร ส าหรับรายวิชาที่เรียนหรือฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ ข.ส. หมายถึง ขาดการวัดผลปลายภาคเรียน โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มี เหตุผล สมควร ถ.ล. หมายถึง ถอนรายวิชาภายหลังก าหนด โดยสถานศึกษาพิจารณาแล้วเห็นว่าไม่มีเหตุผล สมควร ถ.น. หมายถึง ถอนรายวิชาภายในก าหนด ท. หมายถึง ทุจริตในการสอบ หรืองานที่มอบหมายให้ท า ม.ส. หมายถึง ไม่สมบูรณ์ เนื่องจากไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียน โดยได้รับ อนุญาตจากหัวหน้าสถานศึกษา หรือไม่ส่งงานอันเป็นส่วนประกอบของการเรียนรายวิชาตามก าหนด
28 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ม.ท. หมายถึง ไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนทดแทนภายในเวลาที่สถานศึกษา ก าหนด ผ. หมายถึง ได้เข้าร่วมกิจกรรมตามก าหนด หรือผลการประเมินผ่าน ม.ผ. หมายถึง ไม่เข้าร่วมกิจกรรม หรือผลการประเมินไม่ผ่าน ม.ก. หมายถึง การเรียนโดยไม่นับจ านวนหน่วยกิตมารวมเพื่อการส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตร และผลการประเมินผ่าน ข้อ ๔๖ ในกรณีต่อไปนี้ให้ระดับผลการเรียนเป็น ๐ (ศูนย์) เฉพาะรายวิชา (๑) ได้ ข.ร. (๒) ได้ ข.ป. (๓) ได้ ข.ส. (๔) ได้ ถ.ล. (๕) ได้ ท. (๖) ได้ ม.ท. ข้อ ๔๗ นักเรียนที่ท าการทุจริต หรือส่อเจตนาทุจริตในการสอบ หรืองานที่มอบหมายให้ท า ใน รายวิชาใด ให้สถานศึกษาพิจารณาด าเนินการ ดังนี้ (๑) ให้ได้คะแนน ๐ (ศูนย์) เฉพาะครั้งนั้น หรือ (๒) ให้ระดับผลการเรียนเป็น ๐ (ศูนย์) โดยบันทึก “ท.” ลงในระเบียนแสดงผลการเรียน ช่อง “ผลการเรียน” ในรายวิชานั้น หรือ (๓) ด าเนินการตาม (๒) และตัดคะแนนความประพฤติตามระเบียบว่าด้วยการตัดคะแนน ความ ประพฤติที่สถานศึกษาก าหนดตามความร้ายแรงแล้วแต่กรณี ข้อ ๔๘ การค านวณค่าระดับคะแนนเฉลี่ย ให้ปฏิบัติ ดังนี้ (๑) ให้น าผลบวกของผลคูณระหว่างจ านวนหน่วยกิตของแต่ละรายวิชากับระดับผลการเรียน หาร ด้วยผลบวกของจ านวนหน่วยกิตของแต่ละรายวิชา คิดทศนิยมสองต าแหน่งไม่ปัดเศษ (๒) ให้ค านวณค่าระดับคะแนนเฉลี่ย จากรายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียนตามข้อ ๔๔ และ ข้อ ๔๖ ส าหรับรายวิชาที่นักเรียนเรียนซ้ า เรียนแทน ให้ใช้ระดับผลการเรียนและนับจ านวนหน่วยกิต ตามข้อ ๔๙ (๓) ให้ค านวณค่าระดับคะแนนเฉลี่ย ดังนี้ ก. ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยประจ าภาคเรียน ค านวณจากรายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียน เฉพาะในภาคเรียนหนึ่ง ๆ ข. ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ค านวณจากรายวิชาที่เรียนมาทั้งหมดและได้ระดับผล การ เรียน ตั้งแต่สองภาคเรียนขึ้นไป ข้อ ๔๙ นักเรียนผู้ใดประสงค์จะเรียนซ้ ารายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียนต่ ากว่า ๒.๐ หรือ เลือก เรียนรายวิชาอื่นแทนถ้าเป็นรายวิชาเลือก เพื่อประเมินปรับค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมให้สูงขึ้น ให้สถานศึกษา หรือสถานประกอบการด าเนินการให้เรียนซ้ าหรือเรียนแทน ภายในเวลา ก่อนส าเร็จการศึกษา การเรียนซ้ ารายวิชา ให้นับจ านวนหน่วยกิตสะสมเพียงครั้งเดียว ส่วนการเรียนแทนให้นับเฉพาะ จ านวนหน่วยกิตของรายวิชาที่เรียนแทนเป็นจ านวนหน่วยกิตสะสม การนับจ านวนหน่วยกิตสะสมในกรณีนี้ จะกระท าเมื่อนักเรียนได้ระดับผลการเรียน ตั้งแต่ ๒.๐ ขึ้นไป รายวิชาที่เรียนซ้ า หรือเรียนแทนแล้วได้ระดับผลการเรียน ๐ (ศูนย์) ให้ถือระดับผลการเรียน ต่ า กว่า ๒.๐ ตามเดิม ยกเว้นการได้ระดับผลการเรียน ๐ (ศูนย์) ตามข้อ ๔๗ (๒) หรือ (๓)
29 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ข้อ ๕๐ กรณีตามข้อ ๔๙ การคิดค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสม ถ้าเป็นรายวิชาที่เรียนซ้ า ให้นับ จ านวนหน่วยกิตเป็นตัวหารเพียงครั้งเดียว ส่วนการเรียนรายวิชาอื่นแทนให้นับเฉพาะจ านวนหน่วยกิต ของรายวิชา ที่เรียนแทนมาเป็นตัวหาร ข้อ ๕๑ ผู้ที่ได้ ม.ส. ตามข้อ ๓๙ และไม่สามารถเข้ารับการวัดผลปลายภาคเรียนทดแทน ภายใน เวลาที่สถานศึกษาก าหนด ให้สถานศึกษาบันทึก “ม.ท.” ลงในระเบียนแสดงผลการเรียน ช่อง “ผลการเรียน” เว้นแต่ได้ ม.ส. ตามข้อ ๓๘ (๓) ให้หัวหน้าสถานศึกษาพิจารณาเป็นราย ๆ ไป กรณีผู้ที่ได้ ม.ส. เนื่องจากไม่สามารถส่งงานอันเป็นส่วนประกอบของการเรียนรายวิชาได้ ตาม ก าหนดให้นักเรียนส่งงานนั้นภายใน ๑๐ วัน นับแต่วันประกาศผลการเรียนรายวิชา หากไม่สามารถ ด าเนินการได้ ให้สถานศึกษาประเมินผลการเรียนจากคะแนนที่มีอยู่ เว้นแต่มีเหตุจ าเป็นที่หัวหน้า สถานศึกษาพิจารณา เห็นสมควร ทั้งนี้ ให้ด าเนินการให้เสร็จสิ้นภายในก าหนดการวัดผลปลายภาคเรียน ของภาคเรียนถัดไป ข้อ ๕๒ นักเรียนต้องเข้ารับการประเมินมาตรฐานวิชาชีพ เมื่อนักเรียนได้ลงทะเบียนรายวิชา ครบ ทุกรายวิชาตามหลักสูตรแต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา หรือตามระยะเวลาที่คณะกรรมการ ประเมินมาตรฐาน วิชาชีพก าหนด ทั้งนี้ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และวิธีการที่ส านักงานคณะกรรมการ การอาชีวศึกษาก าหนด นักเรียนจะส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตรได้ จะต้องเข้ารับการประเมินมาตรฐานวิชาชีพและ ผล การประเมินผ่านเกณฑ์ที่ก าหนด ข้อ ๕๓ นักเรียนต้องเข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมเสริมหลักสูตรที่สถานศึกษาจัดไม่น้อยกว่า ๒ ชั่วโมง ต่อสัปดาห์ ครบทุกภาคเรียนตามแผนการเรียนที่สถานศึกษาก าหนด โดยมีเวลาเข้าร่วมปฏิบัติ กิจกรรมไม่น้อยกว่า ร้อยละ ๖๐ ของเวลาที่จัดกิจกรรมในแต่ละภาคเรียน เมื่อนักเรียนได้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมครบถ้วนตามเกณฑ์ในภาคเรียนใด ถือว่าประเมินผ่าน ใน ภาคเรียนนั้น ให้บันทึกชื่อกิจกรรมและตัวอักษร “ผ.” ในระเบียนแสดงผลการเรียน ช่อง “ผลการเรียน” หากนักเรียนเข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมไม่ครบตามเกณฑ์ในภาคเรียนใด ให้สถานศึกษาพิจารณา มอบงานหรือกิจกรรมในส่วนที่นักเรียนผู้นั้นไม่ได้เข้าร่วมปฏิบัติ ให้ปฏิบัติให้ครบถ้วนภายในเวลา ที่สถานศึกษา ก าหนด เมื่อนักเรียนด าเนินการครบถ้วนแล้วถือว่าประเมินผ่าน แล้วจึงบันทึกชื่อกิจกรรม และตัวอักษร “ผ.” ใน ระเบียนแสดงผลการเรียนของภาคเรียนนั้น ถ้านักเรียนด าเนินการไม่ครบถ้วน ถือว่าประเมินไม่ผ่าน ให้บันทึกชื่อกิจกรรมและตัวอักษร “ม.ผ.” ให้นักเรียนที่เข้าฝึกอาชีพ หรือฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพในสถานประกอบการ เข้าร่วม ปฏิบัติกิจกรรมที่สถานประกอบการจัด ตามเกณฑ์และข้อตกลงร่วมกันระหว่างสถานศึกษา กับสถานประกอบการ ส่วนที่ ๓ การตัดสินผลการเรียน ---------------------- ข้อ ๕๔ การตัดสินผลการเรียนให้ด าเนินการ ดังนี้ (๑) ตัดสินผลการเรียนเป็นรายวิชา (๒) รายวิชาที่มีระดับผลการเรียนตั้งแต่ ๑.๐ ขึ้นไป ถือว่าประเมินผ่านและให้นับจ านวน หน่วย กิต ของรายวิชานั้นเป็นจ านวนหน่วยกิตสะสม (๓) เมื่อได้ประเมินผลการเรียนแล้ว นักเรียนที่มีระดับผลการเรียน ๐ (ศูนย์) ตามข้อ ๔๔ ให้ นักเรียนรับการประเมินใหม่ได้อีก ๑ ครั้ง ภายในเวลาที่สถานศึกษาหรือสถานประกอบการก าหนด ไม่เกิน ๑๐ วัน นับแต่วันประกาศผลการเรียนรายวิชา เว้นแต่มีเหตุจ าเป็นที่หัวหน้าสถานศึกษา พิจารณาเห็นสมควร หากผลการ ประเมินใหม่ไม่ผ่าน ถ้าเป็นรายวิชาบังคับให้เรียนซ้ ารายวิชานั้น ถ้าเป็นรายวิชาเลือกจะเรียนซ้ า หรือเรียนรายวิชา
30 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ อื่นแทนก็ได้ โดยจ านวนหน่วยกิตต้องไม่น้อยกว่า รายวิชาที่เรียนแทน และให้ลงหมายเหตุในระเบียนแสดงผลการ เรียนว่าให้เรียนแทนรายวิชาใด (๔) การประเมินใหม่ตาม (๓) ให้ระดับผลการเรียนได้ไม่เกิน ๑.๐ ข้อ ๕๕ การตัดสินผลการเรียนเพื่อส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ให้ถือตามเกณฑ์ต่อไปนี้ (๑) ได้รายวิชาและจ านวนหน่วยกิตสะสมในทุกหมวดวิชา ครบถ้วนตามที่ก าหนดไว้ใน หลักสูตร แต่ละประเภทวิชาและสาขาวิชา และตามแผนการเรียนที่สถานศึกษาก าหนด (๒) ได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมไม่ต่ ากว่า ๒.๐๐ (๓) ผ่านเกณฑ์การประเมินมาตรฐานวิชาชีพ (๔) ได้เข้าร่วมปฏิบัติกิจกรรมเสริมหลักสูตรตามแผนการเรียนที่สถานศึกษาก าหนด และ “ผ่าน” ทุกภาคเรียน ข้อ ๕๖ ให้หัวหน้าสถานศึกษา เป็นผู้อนุมัติผลการเรียนและการส าเร็จการศึกษา ตามหลักสูตร ข้อ ๕๗ เมื่อนักเรียนได้ลงทะเบียนรายวิชาครบ ๒ ภาคเรียน และได้รับการประเมินใหม่แล้ว หากได้ค่าระดับคะแนนเฉลี่ยสะสมต่ ากว่า ๑.๕๐ ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อไปหรือ ให้พ้นสภาพ นักเรียน เมื่อได้ลงทะเบียนรายวิชาครบ ๔ ภาคเรียน และได้รับการประเมินใหม่แล้ว หากได้ค่าระดับ คะแนนเฉลี่ยสะสมต่ ากว่า ๑.๗๕ ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อไป หรือให้พ้นสภาพนักเรียน เมื่อได้ลงทะเบียนรายวิชาครบ ๖ ภาคเรียน และได้รับการประเมินใหม่แล้ว หากได้ค่าระดับ คะแนนเฉลี่ยสะสมต่ ากว่า ๑.๙๐ ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียนต่อไป หรือให้พ้นสภาพนักเรียน ข้อ ๕๘ นักเรียนที่เรียนแบบเต็มเวลาและได้ลงทะเบียนรายวิชารวม ๖ ภาคเรียนแล้ว แต่ยังไม่ เข้าเกณฑ์การส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ตามข้อ ๕๕ ให้สถานศึกษาพิจารณาว่าควรให้เรียน ต่อไปหรือให้พ้น สภาพนักเรียน ทั้งนี้ ให้เรียนได้ไม่เกิน ๑๒ ภาคเรียน นับตั้งแต่วันขึ้นทะเบียน เป็นนักเรียนโดยไม่นับภาคเรียนที่ลา พักการเรียน นักเรียนที่เรียนแบบไม่เต็มเวลาและได้ลงทะเบียนรายวิชาครบทุกภาคเรียนตามแผนการเรียน ที่ สถานศึกษาก าหนดแล้ว แต่ยังไม่เข้าเกณฑ์การส าเร็จการศึกษาตามหลักสูตร ตามข้อ ๕๕ ให้สถานศึกษาพิจารณา ว่าควรให้เรียนต่อไป หรือให้พ้นสภาพนักเรียน ทั้งนี้ ให้เรียนได้ไม่เกิน ๑๖ ภาคเรียน นับตั้งแต่วันขึ้นทะเบียนเป็น นักเรียนโดยไม่นับภาคเรียนที่ลาพักการเรียน ส่วนที่ ๔ การเทียบโอนผลการเรียนรู้ ----------------------- ข้อ ๕๙ การโอนผลการเรียนส าหรับนักเรียนจากสถานศึกษาซึ่งใช้หลักสูตรประกาศนียบัตร วิชาชีพ พุทธศักราชเดียวกัน ให้สถานศึกษาที่รับนักเรียนเข้าเรียนรับโอนผลการเรียนทุกรายวิชา นอกจากรายวิชา ที่ได้ระดับผลการเรียนต่ ากว่า ๒.๐ สถานศึกษาจะรับโอนหรือจะท าการประเมินใหม่ จนเห็นว่าได้ผลการเรียนถึง เกณฑ์มาตรฐานของสถานศึกษาแล้วจึงรับโอนผลการเรียนรายวิชานั้นก็ได้ ข้อ ๖๐ สถานศึกษาจะรับโอนผลการเรียนรายวิชาจากหลักสูตรอื่นซึ่งไม่ต่ ากว่าระดับ ประกาศนียบัตรวิชาชีพ ได้ตามเงื่อนไขต่อไปนี้ (๑) เป็นรายวิชาหรือกลุ่มวิชาที่มีจุดประสงค์และเนื้อหาใกล้เคียงกันไม่ต่ ากว่าร้อยละ ๖๐ และมี จ านวนหน่วยกิตไม่น้อยกว่าหน่วยกิตของรายวิชาที่ระบุไว้ในหลักสูตร (๒) รายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียนตั้งแต่ ๒.๐ ขึ้นไป โดยสถานศึกษาจะรับโอนผลการเรียน หรือ จะท าการประเมินใหม่แล้ว จึงรับโอนรายวิชานั้นก็ได้
31 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ข้อ ๖๑ เมื่อนักเรียนขอโอนผลการเรียนรายวิชา ให้สถานศึกษาด าเนินการให้แล้วเสร็จก่อน การ วัดผลปลายภาคเรียน ภาคเรียนแรกที่นักเรียนเข้าเรียน ข้อ ๖๒ การบันทึกผลการเรียนตามข้อ ๕๙ และข้อ ๖๐ ลงในระเบียนแสดงผลการเรียน ให้ใช้ รหัสวิชาและชื่อรายวิชาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราชที่ใช้ในปัจจุบัน โดยแสดง หมายเหตุว่า เป็นรายวิชาที่รับโอนผลการเรียน ข้อ ๖๓ สถานศึกษาจะอนุญาตให้นักเรียนไปเรียนรายวิชาบางรายวิชาจากสถานศึกษาแห่งอื่น ใน กรณีที่สถานศึกษาไม่สามารถเปิดท าการสอนในรายวิชานั้นได้ โดยสถานศึกษาพิจารณารายละเอียด เกี่ยวกับ เนื้อหาของหลักสูตรตามที่เห็นสมควร และให้สถานศึกษาทั้งสองแห่งท าความตกลงร่วมกัน ในการจัดสอนและรับ โอนผลการเรียน ข้อ ๖๔ ในกรณีสถานศึกษาอนุญาตให้นักเรียนไปเรียนจากสถานศึกษาแห่งอื่นตามข้อ ๖๓ ให้ สถานศึกษาพิจารณารับโอนผลการเรียน ดังนี้ (๑) รับโอนรายวิชาที่มีผลการเรียนตั้งแต่ ๒.๐ ขึ้นไป หรือ (๒) รายวิชาที่ได้ระดับผลการเรียนต่ ากว่า ๒.๐ สถานศึกษาอาจรับโอนผลการเรียนหรือไม่ก็ได้ ให้ อยู่ในดุลพินิจของสถานศึกษา ทั้งนี้ ให้สถานศึกษาแจ้งให้นักเรียนทราบก่อนที่จะอนุญาตให้ไปเรียน การบันทึกผลการเรียนลงในระเบียนแสดงผลการเรียน ให้ใช้รหัสวิชาและชื่อรายวิชาของ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราชที่ใช้ในปัจจุบัน โดยระบุว่ารับโอนผลการเรียน ข้อ ๖๕ กรณีที่มีการประเมินใหม่ตามข้อ ๕๙ และข้อ ๖๐ ระดับผลการเรียนให้เป็นไป ตามที่ได้ จากการประเมินใหม่ แต่ต้องไม่สูงไปกว่าเดิม ข้อ ๖๖ นักเรียนที่มีความรู้และประสบการณ์ในงานอาชีพ หรือฝึกงานในสถานประกอบการ หรือท างานในอาชีพนั้นอยู่แล้ว หรือมีความรู้ในรายวิชาตรงตามหลักสูตรมาก่อนเข้าเรียน หรือเข้าเรียนแล้ว แต่ได้ เรียนหรือฝึกปฏิบัติในสถานประกอบการ จะขอประเมินเทียบโอนความรู้และประสบการณ์เพื่อนับ จ านวนหน่วย กิตสะสมส าหรับรายวิชานั้นก็ได้ โดยเทียบโอนได้ไม่เกิน ๒ ใน ๓ ของจ านวนหน่วยกิต ตามหลักสูตรแต่ละ ประเภทวิชาและสาขาวิชาและตามแผนการเรียนที่สถานศึกษาก าหนด การเทียบโอนความรู้และประสบการณ์ ให้เป็นไปตามหลักเกณฑ์และแนวปฏิบัติ ที่คณะกรรมการ การอาชีวศึกษาก าหนด ถ้าผลการประเมินไม่ผ่าน นักเรียนสามารถลงทะเบียนเรียนปกติในภาคเรียนนั้น หรือ ขอประเมิน เทียบโอนความรู้และประสบการณ์ในภาคเรียนต่อไปก็ได้ ข้อ ๖๗ นักเรียนที่สถานศึกษาให้พ้นสภาพนักเรียนตามข้อ ๕๗ หรือข้อ ๕๘ แล้วสอบ เข้าเรียน ใหม่ในสถานศึกษาเดิม หรือสถานศึกษาแห่งใหม่ได้ ให้สถานศึกษารับโอนผลการเรียน เฉพาะรายวิชาที่ยังปรากฏ อยู่ในหลักสูตรที่ใช้ในปัจจุบัน และได้ระดับผลการเรียนตั้งแต่ ๒.๐ ขึ้นไป หมวด ๔ เอกสารการศึกษา ------------------------ ข้อ ๖๘ สถานศึกษาต้องจัดให้มีเอกสารการศึกษา ดังต่อไปนี้ (๑) ระเบียนแสดงผลการเรียนตามแบบที่ก าหนดท้ายระเบียบนี้ใช้ชื่อย่อว่า “รบ. ๑ ปวช.” และ ต้องเก็บรักษาไว้ตลอดไป การจัดท าระเบียนแสดงผลการเรียน ให้หัวหน้างานทะเบียนเป็นผู้จัดท า ลงลายมือชื่อ พร้อมทั้ง วัน เดือน ปี และให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้ลงนามรับรองผลการเรียนและการส าเร็จ การศึกษาตามหลักสูตร
32 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ (๒) ระเบียนแสดงผลการเรียนฉบับภาษาอังกฤษ ตามแบบที่ก าหนดท้ายระเบียบนี้และต้อง เก็บ รักษาไว้ตลอดไป การจัดท าระเบียนแสดงผลการเรียนฉบับภาษาอังกฤษ ให้หัวหน้างานทะเบียนเป็นผู้จัดท า ลง ลายมือชื่อ พร้อมทั้ง วัน เดือน ปี และให้หัวหน้าสถานศึกษาเป็นผู้ลงนามรับรองผลการเรียนและ การส าเร็จ การศึกษาตามหลักสูตร (๓) แบบรายงานผลการเรียนของผู้ที่ส าเร็จการศึกษาตามแบบที่ก าหนดท้ายระเบียบนี้ ใช้ชื่อย่อ ว่า “รบ.๒ ปวช.” และต้องเก็บรักษาไว้ตลอดไป (๔) ประกาศนียบัตรและวุฒิบัตร ตามแบบที่ก าหนดท้ายระเบียบนี้ (๕) สมุดประเมินผลการเรียนรายวิชาและหลักฐานเกี่ยวกับการประเมินผลการเรียนในแบบอื่น สมุดบันทึกการฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ หรือสมุดบันทึกการปฏิบัติงานหรือสมุดรายงาน ของนักเรียน (๖) ใบรับรองสภาพการเป็นนักเรียนและใบรับรองผลการเรียนตามแบบที่ก าหนดท้ายระเบียบนี้ ข้อ ๖๙ ให้สถานศึกษาเก็บรักษากระดาษค าตอบ และหลักฐานการประเมินผลการเรียนไว้ เป็น เวลาไม่น้อยกว่า ๑ ปีการศึกษา ข้อ ๗๐ ให้สถานศึกษาแจ้งผลการเรียนของนักเรียนให้นักเรียนและผู้ปกครองทราบทุกภาคเรียน ข้อ ๗๑ ให้ใช้ส าเนาคู่ฉบับระเบียนแสดงผลการเรียน และส าเนาคู่ฉบับระเบียนแสดง ผลการ เรียนฉบับภาษาอังกฤษ เป็นเอกสารรับรองผลการเรียน ข้อ ๗๒ ให้สถานศึกษาออกส าเนาคู่ฉบับระเบียนแสดงผลการเรียน ส าเนาคู่ฉบับระเบียน แสดงผลการเรียนฉบับภาษาอังกฤษ ประกาศนียบัตรและวุฒิบัตร แก่ผู้ส าเร็จการศึกษา ข้อ ๗๓ การท าส าเนาระเบียนแสดงผลการเรียน จะใช้วิธีพิมพ์ใหม่ หรือส าเนาเอกสาร ตาม ต้นฉบับก็ได้ แล้วให้เขียนหรือประทับตรา “ส าเนาถูกต้อง” ส่วนการท าส าเนาระเบียนแสดง ผลการเรียนฉบับ ภาษาอังกฤษจะใช้วิธีพิมพ์ใหม่หรือส าเนาเอกสารตามต้นฉบับก็ได้ แล้วให้เขียน หรือประทับตรา “CERTIFIED TRUE COPY” ให้หัวหน้างานทะเบียน หรือผู้ที่ได้รับมอบหมายให้ท าการแทนลงลายมือชื่อรับรองส าเนา พร้อม ทั้ง วัน เดือน ปี ที่ออกส าเนา และหัวหน้าสถานศึกษาหรือผู้ได้รับมอบหมายลงลายมือชื่อก ากับ ที่รูปถ่าย ข้อ ๗๔ นักเรียนที่ต้องการใบรับรองสภาพการเป็นนักเรียน หรือใบรับรองผลการเรียน จาก สถานศึกษาให้สถานศึกษาออกใบรับรองสภาพการเป็นนักเรียน หรือใบรับรองผลการเรียน แล้วแต่กรณี ใบรับรอง นี้มีอายุ ๖๐ วัน โดยให้สถานศึกษาก าหนดวันหมดอายุไว้ด้วย หมวด ๕ บทเฉพาะกาล ------------------- ข้อ ๗๕ สถานศึกษาใดที่มีนักเรียนอยู่ระหว่างศึกษาตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ ให้ถือปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงศึกษาธิการว่าด้วยการจัดการศึกษาและ การประเมินผล การเรียนตามหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช ๒๕๕๖ ที่ใช้บังคับอยู่เดิม จนกว่านักเรียนจะส าเร็จ การศึกษา ข้อ ๗๖ ในระหว่างที่ยังมิได้ก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ แนวปฏิบัติ หรือข้อบังคับกรณีใด เพื่อ ปฏิบัติตามระเบียบนี้ ให้น าหลักเกณฑ์ วิธีการ แนวปฏิบัติ หรือข้อบังคับที่ก าหนดไว้แล้วซึ่งใช้อยู่เดิม มาใช้บังคับไป พลางก่อน เท่าที่ไม่ขัดหรือแย้งกับระเบียบนี้ ทั้งนี้ จนกว่าจะมีการก าหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ แนวปฏิบัติหรือ ข้อบังคับตามระเบียบนี้
33 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ ในกรณีที่ไม่อาจน าหลักเกณฑ์ วิธีการ หรือแนวปฏิบัติที่ก าหนดไว้แล้วมาใช้บังคับ การจะ ด าเนินการประการใดให้เป็นอ านาจของผู้รักษาการตามระเบียบนี้ ประกาศ ณ วันที่ 24 กันยายน พ.ศ. ๒๕๖2 ณัฏฐพล ทีปสุวรรณ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
34 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ (ปวช.)
35 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ โครงสร้าง หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม สาขาวิชา ช่างยนต์ สาขางานยานยนต์ ผู้ส าเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างยนต์ ต่างๆ จะต้องศึกษารายวิชาหมวดวิชาต่างๆ รวมไม่น้อยกว่า 103 หน่วยกิต และเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร ดังโครงสร้าง ดังต่อไปนี้ 1. หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต 22 หน่วยกิต 1.1 กลุ่มวิชาภาษาไทย (ไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต) 3 หน่วยกิต 1.2 กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ (ไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต) 6 หน่วยกิต 1.3 กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 1.4 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 1.5 กลุ่มวิชาสังคมศึกษา (ไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต) 3 หน่วยกิต 1.6 กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา (ไม่น้อยกว่า 2 หน่วยกิต) 2 หน่วยกิต 2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ ไม่น้อยกว่า 71 หน่วยกิต 71 หน่วยกิต 2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน (ไม่น้อยกว่า 21 หน่วยกิต) 21 หน่วยกิต 2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ (ไม่น้อยกว่า 24 หน่วยกิต) 24 หน่วยกิต 2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก (ไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิต) 18 หน่วยกิต 2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 2.5 โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 3. หมวดวิชาเลือกเสรี (ไม่น้อยกว่า 10 หน่วยกิต) 10 หน่วยกิต 4. กิจกรรมเสริมหลักสูตร 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ รวม ไม่น้อยกว่า 103 หน่วยกิต 103 หน่วยกิต ตารางสรุปจ านวนหน่วยกิต จ านวนชั่วโมง แต่ละภาคเรียน หมวดวิชา ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ภาคเรียนที่ 3 ภาคเรียนที่ 4 ภาคเรียนที่ 5 ภาคเรียนที่ 6 รวม 1 หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. 1.1 กลุ่มวิชาภาษาไทย 2 2 1 2 3 4 1.2 กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 6 12 1.3 กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ 2 3 2 3 4 6 1.4 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ 2 2 2 2 4 4 1.5 กลุ่มวิชาสังคมศึกษา 1 1 2 2 3 3 1.6 กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา 1 2 1 1 2 3 2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ 2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน 2 6 6 12 4 6 6 7 3 4 21 35 2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ 4 6 6 14 8 18 4 8 2 2 24 48 2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก 6 14 2 4 5 11 2 4 3 7 15 40 2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ 4 20 4 20 2.5 โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ 4 12 4 12 3. หมวดวิชาเลือกเสรี 4 7 6 12 10 19 4. กิจกรรมเสริมหลักสูตร 2 2 2 2 2 2 0 12 รวม 18 35 16 35 17 35 20 35 11 35 21 43 103 218
36 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓
37 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓
38 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓
39 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ โครงสร้าง หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม สาขาวิชา ไฟฟ้าก าลัง. สาขางาน ช่างไฟฟ้าก าลัง ผู้ส าเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างไฟฟ้าก าลัง ต่างๆ จะต้องศึกษารายวิชาหมวดวิชาต่างๆ รวมไม่น้อยกว่า 103 หน่วยกิต และเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร ดังโครงสร้าง ดังต่อไปนี้ 1. หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต 22 หน่วยกิต 1.1 กลุ่มวิชาภาษาไทย (ไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต) 3 หน่วยกิต 1.2 กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ (ไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต) 6 หน่วยกิต 1.3 กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 1.4 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 1.5 กลุ่มวิชาสังคมศึกษา (ไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต) 3 หน่วยกิต 1.6 กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา (ไม่น้อยกว่า 2 หน่วยกิต) 2 หน่วยกิต 2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ ไม่น้อยกว่า 71 หน่วยกิต 71 หน่วยกิต 2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน (ไม่น้อยกว่า 21 หน่วยกิต) 21 หน่วยกิต 2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ (ไม่น้อยกว่า 24 หน่วยกิต) 24 หน่วยกิต 2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก (ไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิต) 18 หน่วยกิต 2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 2.5 โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 3. หมวดวิชาเลือกเสรี (ไม่น้อยกว่า 10 หน่วยกิต) 10 หน่วยกิต 4. กิจกรรมเสริมหลักสูตร 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ รวม ไม่น้อยกว่า 103 หน่วยกิต 103 หน่วยกิต ตารางสรุปจ านวนหน่วยกิต จ านวนชั่วโมง แต่ละภาคเรียน หมวดวิชา ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ภาคเรียนที่ 3 ภาคเรียนที่ 4 ภาคเรียนที่ 5 ภาคเรียนที่ 6 รวม 1 หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. 1.1 กลุ่มวิชาภาษาไทย 2 2 1 2 3 4 1.2 กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 6 12 1.3 กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ 2 3 2 3 4 6 1.4 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ 2 2 2 2 4 4 1.5 กลุ่มวิชาสังคมศึกษา 2 2 1 1 3 3 1.6 กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา 2 3 2 3 2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ 0 0 2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน 6 10 4 8 2 3 2 4 2 3 5 7 21 35 2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ 7 15 6 12 5 11 6 14 24 52 2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก 2 2 3 7 2 4 4 8 2 4 5 11 18 36 2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ 4 20 4 20 2.5 โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ 2 6 2 6 4 12 3. หมวดวิชาเลือกเสรี 2 2 4 8 2 4 2 3 10 17 4. กิจกรรมเสริมหลักสูตร 2 2 2 2 2 2 0 12 รวม 20 35 17 35 18 35 17 35 13 41 18 35 103 216
40 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓
41 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓
42 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓
43 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ โครงสร้าง หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม สาขาวิชา ช่างอิเล็กทรอนิกส์ สาขางาน อิเล็กทรอนิกส์ ผู้ส าเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชา อุตสาหกรรม สาขาวิชาช่างอิเล็กทรอนิกส์ ต่างๆ จะต้องศึกษารายวิชาหมวดวิชาต่างๆ รวมไม่น้อยกว่า 103 หน่วยกิต และเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร ดังโครงสร้าง ดังต่อไปนี้ 1. หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต 22 หน่วยกิต 1.1 กลุ่มวิชาภาษาไทย (ไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต) 3 หน่วยกิต 1.2 กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ (ไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต) 6 หน่วยกิต 1.3 กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 1.4 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 1.5 กลุ่มวิชาสังคมศึกษา (ไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต) 3 หน่วยกิต 1.6 กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา (ไม่น้อยกว่า 2 หน่วยกิต) 2 หน่วยกิต 2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ ไม่น้อยกว่า 71 หน่วยกิต 72 หน่วยกิต 2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน (ไม่น้อยกว่า 21 หน่วยกิต) 21 หน่วยกิต 2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ (ไม่น้อยกว่า 24 หน่วยกิต) 24 หน่วยกิต 2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก (ไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิต) 19 หน่วยกิต 2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 2.5 โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 3. หมวดวิชาเลือกเสรี (ไม่น้อยกว่า 10 หน่วยกิต) 10 หน่วยกิต 4. กิจกรรมเสริมหลักสูตร 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ รวม ไม่น้อยกว่า 103 หน่วยกิต 104 หน่วยกิต ตารางสรุปจ านวนหน่วยกิต จ านวนชั่วโมง แต่ละภาคเรียน หมวดวิชา ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ภาคเรียนที่ 3 ภาคเรียนที่ 4 ภาคเรียนที่ 5 ภาคเรียนที่ 6 รวม 1 หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. 1.1 กลุ่มวิชาภาษาไทย 2 2 1 2 3 4 1.2 กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 6 12 1.3 กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ 2 3 2 3 4 6 1.4 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ 2 2 2 2 4 4 1.5 กลุ่มวิชาสังคมศึกษา 2 2 1 1 3 3 1.6 กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา 1 1 1 2 2 3 2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ 0 0 2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน 8 13 5 9 2 4 2 2 4 7 21 34 2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ 4 8 5 9 11 21 4 8 24 46 2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก 2 2 9 17 6 12 2 4 19 35 2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ 4 20 4 20 2.5 โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ 4 12 4 12 3. หมวดวิชาเลือกเสรี 2 4 2 4 2 4 4 8 10 20 4. กิจกรรมเสริมหลักสูตร 2 2 2 2 2 2 0 12 รวม 21 34 20 35 18 35 17 35 13 38 15 35 104 212
44 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓
45 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓
46 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓
47 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓ โครงสร้าง หลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชา พาณิชยกรรม สาขาวิชา การบัญชีสาขางาน การบัญชี ผู้ส าเร็จการศึกษาหลักสูตรประกาศนียบัตรวิชาชีพ พุทธศักราช 2562 ประเภทวิชา พาณิชกรรม สาขาวิชาการบัญชีต่างๆ จะต้อง ศึกษารายวิชาหมวดวิชาต่างๆ รวมไม่น้อยกว่า 103 หน่วยกิต และเข้าร่วมกิจกรรมเสริมหลักสูตร ดังโครงสร้าง ดังต่อไปนี้ 1. หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง ไม่น้อยกว่า 22 หน่วยกิต 22 หน่วยกิต 1.1 กลุ่มวิชาภาษาไทย (ไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต) 3 หน่วยกิต 1.2 กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ (ไม่น้อยกว่า 6 หน่วยกิต) 6 หน่วยกิต 1.3 กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 1.4 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 1.5 กลุ่มวิชาสังคมศึกษา (ไม่น้อยกว่า 3 หน่วยกิต) 3 หน่วยกิต 1.6 กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา (ไม่น้อยกว่า 2 หน่วยกิต) 2 หน่วยกิต 2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ ไม่น้อยกว่า 71 หน่วยกิต 71 หน่วยกิต 2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน (ไม่น้อยกว่า 21 หน่วยกิต) 21 หน่วยกิต 2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ (ไม่น้อยกว่า 24 หน่วยกิต) 24 หน่วยกิต 2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก (ไม่น้อยกว่า 18 หน่วยกิต) 18 หน่วยกิต 2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 2.5 โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ (ไม่น้อยกว่า 4 หน่วยกิต) 4 หน่วยกิต 3. หมวดวิชาเลือกเสรี (ไม่น้อยกว่า 10 หน่วยกิต) 11 หน่วยกิต 4. กิจกรรมเสริมหลักสูตร 2 ชั่วโมงต่อสัปดาห์ 2 ชั่วโมง/สัปดาห์ รวม ไม่น้อยกว่า 103 หน่วยกิต 104 หน่วยกิต ตารางสรุปจ านวนหน่วยกิต จ านวนชั่วโมง แต่ละภาคเรียน หมวดวิชา ภาคเรียนที่ 1 ภาคเรียนที่ 2 ภาคเรียนที่ 3 ภาคเรียนที่ 4 ภาคเรียนที่ 5 ภาคเรียนที่ 6 รวม 1 หมวดวิชาสมรรถนะแกนกลาง นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. นก. ชม. 1.1 กลุ่มวิชาภาษาไทย 2 2 1 2 3 4 1.2 กลุ่มวิชาภาษาต่างประเทศ 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 1 2 6 12 1.3 กลุ่มวิชาวิทยาศาสตร์ 2 3 2 3 4 6 1.4 กลุ่มวิชาคณิตศาสตร์ 2 2 2 2 4 4 1.5 กลุ่มวิชาสังคมศึกษา 2 2 1 1 3 3 1.6 กลุ่มวิชาสุขศึกษาและพละศึกษา 1 1 1 2 2 3 2. หมวดวิชาสมรรถนะวิชาชีพ 0 0 2.1 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพพื้นฐาน 11 16 8 11 19 27 2.2 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเฉพาะ 3 5 6 10 9 15 6 10 24 40 2.3 กลุ่มสมรรถนะวิชาชีพเลือก 6 8 3 4 6 10 3 4 6 8 24 34 2.4 ฝึกประสบการณ์สมรรถนะวิชาชีพ 4 20 4 20 2.5 โครงการพัฒนาสมรรถนะวิชาชีพ 4 12 4 12 3. หมวดวิชาเลือกเสรี 2 3 3 5 5 8 4. กิจกรรมเสริมหลักสูตร 2 2 2 2 2 2 0 12 รวม 22 32 21 32 20 34 17 29 5 24 17 34 102 185
48 คู่มือนักเรียน นักศึกษา และผู้ปกครอง ประจ าปีการศึกษา 256๓