วิธีการจัดทำคู่มือปฏิบัติงาน

การพัฒนางานประจาสู่งานวจิ ยั Routine to Research (R2R)

เทคนคิ และวธิ ีการจัดทาคู่มือปฏบิ ตั ิงาน

นายอภิสทิ ธ์ิ คณุ วรปัญญา นกั ทรัพยากรบุคคล (ผูช้ านาญการพเิ ศษ)

คณะวิทยาศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหดิ ล โทร. 02 201 5094 มือถือ 08 1258 1378
E-mail : [email protected]

Facebook : Aphisit Kunnaworapanya

คูม่ อื ปฏบิ ัติงาน

นิยาม
เอกสารแสดงเสน้ ทางการปฏิบัติงาน ตั้งแตจ่ ุดเร่ิมต้นจนสิ้นสุดกระบวนการ โดยระบุ

ขั้นตอนและรายละเอียดของกระบวนการต่างๆ มีกฎ ระเบียบที่เก่ียวข้อง แนวทางแก้ปัญหามี
ข้อเสนอแนะ ในการปฏิบัติงานเพ่ือปรับปรุงเปลี่ยนแปลงการปฏิบัติงาน บทวิเคราะห์วิจารณ์
ยกตัวอยา่ งในกรณีศึกษาและเสนอแนะแนวทางทป่ี ฏบิ ัติจริงมาแลว้

รปู แบบ
เปน็ รปู เล่มประกอบดว้ ย หวั เรื่อง ประวัตคิ วามเปน็ มา วัตถุประสงค์ ภาระหน้าที่

ความรับผิดชอบ ระเบียบ ข้อบังคับ เอกสารหรือทฤษฎีต่างๆ ท่ีเกี่ยวข้อง เทคนิค/แนว
ทางการปฏิบัติงาน ปัญหา อุปสรรค แนวทางแก้ไข ข้อเสนอแนะ มีเน้ือหาสาระมีความ
สมบูรณ์
การเผยแพร่

เผยแพร่ไปยังหน่วยงานท่ีเก่ียวข้องกับตาแหน่งท่ีเสนอขอ เผยแพร่
หลงั จากที่คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒปิ ระเมินคุณภาพแลว้

ลกั ษณะของค่มู ือปฏบิ ัติงานที่ดี

• ชัดเจน เขา้ ใจง่าย

• เป็นประโยชนใ์ นการปฏบิ ตั งิ านและการฝึกอบรม
• เหมาะสมกบั หนว่ ยงานและผใู้ ชง้ านแตล่ ะกล่มุ
• มคี วามน่าสนใจ น่าติดตาม
• มีความเปน็ ปจั จุบนั (Update) ไม่ลา้ สมัย
• มีตวั อย่างประกอบ

วัตถปุ ระสงคข์ องคมู่ อื ปฏิบัติงาน

• เพื่อให้การปฏิบัตงิ านเปน็ มาตรฐานเดยี วกนั

• ผู้ปฏิบัติงานทราบวา่ ควรปฏิบัตงิ านอย่างไร เมอื่ ใด กบั ใคร
• ผ้ปู ฏบิ ตั งิ านทราบและเขา้ ใจวา่ ควรทาอะไรกอ่ นและหลัง
• ใชเ้ ปน็ เอกสารอ้างองิ ในการปฏบิ ัติงาน
• บุคลากรสามารถทางานแทนกันได้
• ลดข้อผดิ พลาดจากการทางานทไ่ี มเ่ ป็นระบบ
• เปน็ เคร่อื งมือในการจัดฝึกอบรม

โครงรา่ งคมู่ อื การปฏบิ ัตงิ าน

เทคนิคในการปฏิบัตงิ าน

- แผนกลยทุ ธ์ในการปฏบิ ัติงาน

- ข้ันตอนการปฏบิ ตั งิ าน (Flow Chart) ปญั หาอุปสรรคและแนวทางแก้ไข

- วิธีการใหบ้ ริการกบั ผูร้ บั บรกิ ารมีความพึงพอใจ บทท่ี 4 บทท่ี 5 - ปญั หาอปุ สรรคในการปฏบิ ตั ิงาน
- การตดิ ตามและประเมนิ ผลการปฏิบตั งิ าน - แนวทางแก้ไขในการปฏบิ ตั งิ าน
- ข้อเสนอแนะ บรรณานกุ รม
- จรรยาบรรณ/จติ สานกึ ในการปฏิบตั งิบานทท่ี 3 บทท่ี 1
ภาคผนวก
เอกสารที่เก่ียวข้องกับการศกึ ษา บทท่ี 2
บทนา
- หลักเกณฑ/์ วธิ กี ารดาเนนิ งาน
- ความเป็นมา /ความสาคัญ
- สง่ิ ท่คี วรคานงึ ในการ - วัตถปุ ระสงคข์ องการศกึ ษา
ปฏิบตั งิ าน/ขอ้ ควรระวัง/ข้อสังเกต บทบาทหน้าที่ความรับผดิ ชอบ - ประโยชนข์ องการศึกษา
- ลกั ษณะงานท่ีปฏิบัติ - ขอบเขตของการศึกษา
- กฎ ระเบยี บ ข้อบงั คับ
- หน้าทคี่ วามรับผดิ ชอบ/บทบาทของ
หนงั สอื เวยี น มติ ที่เกีย่ วข้อง
- เอกสาร และงานวจิ ัย/แนวคิดท่ี ตาแหน่ง
- โครงสร้างการบรหิ ารจัดการ
เก่ยี วขอ้ ง

การจัดทาคูม่ ือการปฏิบัติงาน (Work Manual)

หลักการ มจี ดุ เริ่มต้น – จดุ ส้นิ สดุ มีมาตรฐานการทางาน
ระบเุ ปน็ ข้ันตอน มรี ายละเอยี ด ร้วู ่าอะไรทาก่อน-หลัง
จัดทาขน้ึ เมอื่ งานซบั ซอ้ น สอดคลอ้ งกับนโยบาย วิสัยทศั น์ สง่ ผลตอ่ การปฏบิ ัตงิ าน
เก่ยี วขอ้ งกับคนหลายคน ติดตามไดท้ ุกขนั้ ตอน
ปรับเปลี่ยนได้ เปน็ เครื่องมือฝกึ อบรม ส่อื สาร

ความสาคญั ของคมู่ อื การปฏบิ ตั ิงาน

• ใช้เป็นมาตรฐานในการปฏบิ ัตงิ านทสี่ ร้างความเขา้ ใจตรงกนั
• ใชเ้ ปน็ แนวทางสาหรบั ผทู้ ศ่ี กึ ษาดว้ ยตนเอง
• ใช้เป็นเครอื่ งมอื ประกันคุณภาพ ทาใหก้ ารทางานเปน็ ระบบ
• ใช้ในการบรหิ ารจดั การ/การวเิ คราะหร์ ะบบงาน

ลักษณะคมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านท่ดี ี

• กระชับ ชัดเจน เข้าใจง่าย เป็นประโยชนต์ ่อการปฏบิ ตั งิ าน
• เหมาะสมกับผู้ใช้ นา่ สนใจ น่าตดิ ตาม
• เป็นปจั จบุ นั ระบุผ้ทู า วันที่..ทใ่ี ช้ และมตี วั อยา่ งประกอบ

•*** หากระบไุ ดว้ า่ นาไปปฏิบัติจรงิ ตง้ั แตเ่ มื่อใดท่หี น่วยงานใด มปี ัญหาอยา่ งไร
ได้แกไ้ ขมาแลว้ อยา่ งไร ทาให้มีน้าหนกั มากขึ้น

แนวทางการจดั ทาคูม่ ือการปฏบิ ตั ิงาน

• เขียนเปน็ บท อยา่ งนอ้ ย 5 บท
• เป็นเรื่องทส่ี ามารถใชป้ ระโยชน์ พัฒนางาน
• ทาใหล้ ดขนั้ ตอน เวลาในการทางาน
• เปน็ ภาระงานท่ีรบั ผดิ ชอบ
• มคี วามรู้ ความเขา้ ใจ มคี วามชานาญในเร่ืองน้นั เปน็ อยา่ งดี
• สามารถนาไปปฏิบตั ิและทางานได้

*** ยกตัวอย่างทปี่ ฏบิ ัตไิ ด้ / ปฏิบตั ไิ ม่ได้

แนวทางการเขียนคู่มือการปฏิบัติงาน

ขั้นท่ี 1 วเิ คราะห์งานทปี่ ฏบิ ัติงานอะไรบ้างที่ทา ข้นั ตอน ขน้ั ที่ 2 วเิ คราะห์ปญั หา/สาเหตุ ในการ
ปจั จัยทใ่ี ช้ หลกั เกณฑ์ วธิ กี าร เงื่อนไข ปฏิบัติงาน อะไรบา้ ง แยกปัญหาเปน็ ขอ้
ยอ่ ย (คน/กฎ/ระเบยี บ)

ข้ันท่ี 4 ขัน้ วางแผนกาหนดโครงรา่ ง
ทาสารบัญ เนื้อหา

ข้นั ท่ี 3 วเิ คราะห์แนวทางการแกไ้ ขจากปญั หา/
สาเหตขุ นั้ ท่ี 2 คอื คน/กฎ/ระเบียบ

ขัน้ ตอนในการจัดทาค่มู อื การปฏบิ ัตงิ าน

- กาหนดหวั เรอื่ งทจี่ ะทารวบรวมและศึกษารายละเอียด
เอกสารท่เี กี่ยวข้อง
- จัดทา Work Flow
- เขียนรายละเอยี ดในแต่ละข้นั ตอน - ทดสอบ
- ปรบั ปรงุ

เกณฑ์การประเมินคมู่ ือการปฏิบตั งิ าน

คุณคา่ คูม่ ือมปี ระโยชน์ เช่ือถือได้

เสนอแนวคิดผ้เู ขียน ความถกู ต้องและทนั สมัย
ใช้ภาษาถกู ต้อง
การประเมินค่มู ือ ครอบคลมุ ขอบข่ายทุกหัวข้อ

ศกึ ษา คน้ ควา้ สนับสนุนคมู่ ือ จดั เรยี งลาดบั เน้อื หา
รปู แบบการเขียน

ประโยชนข์ องค่มู อื การปฏิบตั ิงาน

• ได้งานทม่ี คี ุณภาพตามท่กี าหนด
• ผู้ปฏบิ ตั งิ านไมเ่ กิดความสบั สน
• แตล่ ะหน่วยงานรูง้ านซง่ึ กนั และกนั
• บคุ ลากรหรอื เจา้ หน้าทีส่ ามารถทางานแทนกนั ได้
• สามารถเริ่มปฏิบตั ิงานไดอ้ ย่างถกู ตอ้ งและรวดเรว็ เม่ือมกี ารโยกยา้ ยตาแหน่งงาน
• ลดขนั้ ตอนการทางานที่ซับซอ้ น
• ลดขอ้ ผิดพลาดจากการทางานทีไ่ มเ่ ป็นระบบ
• ช่วยเสริมสร้างความมน่ั ใจในการทางาน
• ช่วยใหเ้ กดิ ความสม่าเสมอในการปฏิบัตงิ าน
• ช่วยลดความขดั แย้งที่อาจเกิดข้ึนในการทางาน
• ชว่ ยลดการตอบคาถาม
• ชว่ ยลดเวลาในการสอนงาน
• ชว่ ยให้การทางานเป็นมอื อาชพี
• ช่วยในการออกแบบระบบงานใหม่และปรับปรุงงาน

สาเหตทุ ี่หลายหนว่ ยงานไมจ่ ดั ทาคมู่ ือการปฏิบตั งิ าน

ชอบอ้างอิงบุคคลในหนว่ ยงานท่ที างานมานาน มปี ระสบการณส์ ูง
ลักษณะงานไมซ่ บั ซอ้ น มขี ้ันตอนน้อย และจานวนคนน้อย
ไม่มคี นใหม่เขา้ มาทางาน คนเดมิ /คนปัจจุบนั รงู้ านหมดแล้ว

แนวทางการเขยี น Flow Chart

Flow Chart คืออะไร?

การใช้สัญลกั ษณ์ต่างๆ ในการเขียนแผนผังการทางาน เพือ่ ให้เหน็ ถึงลกั ษณะ
และความสัมพันธก์ ่อนหลังของแตล่ ะข้นั ตอนในกระบวนการทางาน

ประโยชน์ของ Flow Chart
• ชว่ ยให้เข้าใจกระบวนการทางานง่ายขึน้
• เป็นเครือ่ งมือสาหรับฝึกอบรมพนกั งาน
• การช้ีบ่งถึงปญั หา และโอกาสในการปรบั ปรงุ กระบวนการ
• ชว่ ยให้เหน็ ภาพความสมั พนั ธ์ระหว่างบุคคล
• สะดวกในการนาไปเขียนเป็นระเบียบปฏบิ ัติ คูม่ อื การปฏิบตั งิ านหรือวิธกี าร

ปฏิบัติงานในลาดบั ต่อไป

ตวั อย่าง การเขยี นผังของการปฏบิ ัตงิ าน (Flow Chart)

สญั ลักษณ์ทีใ่ ช้

จดุ เร่มิ ตน้ และสนิ้ สุดของกระบวนการ
กิจกรรมและการปฏิบัตงิ าน

การตดั สินใจ เช่น การตรวจสอบ การอนมุ ตั ิ
แสดงถงึ ทศิ ทาง หรือการเคลอื่ นไหวของงาน
จดุ เชื่อมต่อระหวา่ งข้ันตอน เชน่ กรณีการเขยี น
กระบวนการไมส่ ามารถจบไดใ้ น 1 หนา้

การเขียน Flowchart

l ผูเ้ ขียนควรเขา้ ใจกระบวนการและการปฏิบัติงานจรงิ
l กาหนดกระบวนการที่ตอ้ งเขียน Flowchart
l เขยี นข้ันตอน กจิ กรรม การตดั สนิ ใจ
l จัดลาดบั กอ่ นหลงั ของขน้ั ตอนดังกล่าว
l เขยี น Flowchart โดยใชส้ ัญลักษณ์ทีเ่ หมาะสม
l ตรวจสอบและปรบั ปรงุ Flowchart ท่เี ขียนเสรจ็

l ปฏิบัติได้
l กระบวนการมปี ระสทิ ธิภาพ
l ไมซ่ า้ ซอ้ น
l ทาแล้วได้ประโยชน์

ตวั อย่าง Flow Chart

ออกเอกสารขอซือ้ หนว่ ยงานทขี่ อซอื้ กรอกรายละเอยี ดสนิ ค้าทีจ่ ะซือ้
(PR)
ผมู้ อี านาจลงนามอนมุ ตั ิ หากไม่อนุมตั ใิ ห้ผขู้ อซอื้
No นากลับไปพิจารณาหรอื แก้ไข
อนมุ ตั ิ บันทึกเลขที่ PR ในสมุดบันทึกเพอ่ื เปน็ หลกั ฐานอา้ งองิ
Yes
ลง LOG

ออกใบ P/O เปิดเอกสาร PO โดยกรอกรายละเอียดตามเอกสาร PR

สง่ ใบ P/O สง่ ใบสั่งซ้ือสินค้า (PO) ใหก้ บั ทางผ้ขู าย โดยทาง Fax

No หรือE-mail และยืนยันการซ้อื
ตรวจสอบสินคา้
สง่ คนื ตรวจรับสนิ ค้าจากทางผูข้ าย หากไมต่ รงตามขอ้ กาหนด

Yes ให้ส่งคืน และไม่ต้องชาระเงนิ

จดั เก็บเขา้ คลงั สินคา้ จัดเก็บสนิ ค้าทีผ่ ่านการตรวจสอบยังคลังสนิ คา้
และบันทึก Stock ให้ตรงกบั สนิ คา้

การเขียน Flowchart

1. เริ่มดว้ ยคากริ ิยา (ทาอะไร)

รับ (คาร้อง)
บันทึก (ลงโปรแกรม)
อนุมัติ (คาขอ)

การเขียน Flowchart

2. เตมิ รายละเอียด : ใคร / ทาทไ่ี หน / ทาเมอ่ื ไหร่ / ทาอย่างไร

(เจา้ หนา้ ที่) รบั (คารอ้ ง)
(เจ้าหนา้ ท่ี) บนั ทกึ (ลงโปรแกรม)
(หัวหนา้ ฝ่าย) อนุมตั ิ (คาขอ)

1ความเปน็ มาและความสาคัญ

ผเู้ ขียนต้องเขียนถึงความเป็นมาและความสาคัญของคู่มือการปฏิบัติงาน
โดยเขียนถึงความเป็นมาของงานท่ีได้ปฏิบัติอยู่ว่ามีความสาคัญอย่างไร มีความจาเป็น
อยา่ งไรทตี่ ้องมคี มู่ ือการปฏิบัตงิ าน

2 วัตถปุ ระสงคข์ องคู่มอื

ผู้เขียนต้องเขียนอธิบายชี้แจงให้ผู้ศึกษา/ผู้ใช้คู่มือฯ ทราบถึงวัตถุประสงค์
ในการจดั ทาคู่มอื การปฏิบตั งิ านนี้ เชน่ การทาคมู่ อื การปฏบิ ัตงิ านนี้ ทาขน้ึ มาเพ่ือให้มั่นใจว่าไดม้ ี
การปฏิบัติตามกฎ ตามระเบียบ ตามข้อบังคับ ตามหลักเกณฑ์ และวิธีการท่ีกาหนดไว้
อย่างสม่าเสมอ มีประสิทธิภาพ สอดคล้องกับนโยบาย และวัตถุประสงค์ของหน่วยงาน/
ของผู้ปฏบิ ตั งิ าน/ของผูร้ บั บริการ

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

3 ประโยชน์ที่ได้รับ

เขียนอธิบายช้แี จงใหผ้ ้ศู กึ ษา/ผใู้ ช้คมู่ อื ฯ ได้ทราบประโยชนใ์ นการจัดทาคู่มือการปฏบิ ัตงิ านนี้อย่างไร

4 ขอบเขตของคู่มือ

เปน็ การช้ีแจงให้ผูอ้ า่ นทราบถงึ ขอบเขตของไกดร้ระับบวนการในคมู่ ือเลม่ น้วี ่า จะครอบคลมุ ตัง้ แต่ 1) ข้ันตอน
ใดถงึ ขัน้ ตอนใด 2) ของหนว่ ยงานใด (ของใคร) 3) กับหน่วยงานใด (กับใคร) และ 4) เมื่อใด

5 นยิ ามศพั ท์

เขยี นอธบิ ายช้ีแจงให้ผู้ศึกษา/ผใู้ ช้คมู่ อื ฯ ทราบถงึ คาจากดั ความตา่ งๆ ท่ีมีอยู่ในคู่มือการปฏิบัติงานนี้
คาศพั ทเ์ ฉพาะท่ีมใี นคู่มอื อาจเป็นภาษาไทย หรือ ภาษาต่างประเทศ หรอื คาย่อ ก็ได้

1ตวั อยา่ ง

บทท่ี 2 โครงสร้าง และ หนา้ ท่คี วามรับผดิ ชอบ

1. โครงสร้างการบริหารจดั การ
โครงสร้างบริหารจัดการ
ภาระหนา้ ท่ีของหนว่ ยงาน

2. บทบาทหน้าท่คี วามรบั ผดิ ชอบของตาแหนง่
หนา้ ทค่ี วามรบั ผดิ ชอบของตาแหน่งตามมาตรฐานกาหนดตาแหน่ง
หนา้ ทคี่ วามรับผิดชอบของตาแหนง่ ตามทไ่ี ด้รบั มอบหมาย

โครงสร้างบริหารจัดการ

เขียนอธิบายชี้แจงให้ผู้ศึกษา/ผู้ใช้คู่มือฯ ทราบถึงโครงสร้างบริหารจัดการ ท่ีมีอยู่ในคู่มือการปฏิบัติงานน้ี
โดยเขยี นเปน็ 3 รูปแบบ คอื

- โครงสรา้ งองค์กร (Organization chart)
- โครงสรา้ งการบรหิ าร (Administration chart)
- โครงสร้างการปฏบิ ัตงิ าน (Activity chart)

ภาระหนา้ ท่ขี องหน่วยงาน

ประกอบด้วย

เขยี นภาระหน้าที่หลกั ของหนว่ ยงานทที่ า่ นสังกัด วา่ รับผิดชอบปฏบิ ตั ิในเร่อื งใด อาจเขียนเปน็ ขอ้ ๆ หรอื
เป็นรอ้ ยแก้วกไ็ ด้

บทบาทหน้าทีค่ วามรบั ผิดชอบของตาแหนง่

ผู้เขียนคู่มือการปฏิบัติงาน ต้องเขียนอธิบายช้ีแจงให้ผู้ศึกษา/ผู้ใช้คู่มือฯ ทราบถึงบทบาทหน้าท่ีความ
รบั ผิดชอบ ทมี่ อี ย่ใู นคู่มือการปฏบิ ัตงิ านน้ี โดยเขียนแยกเป็น

- บทบาทหน้าของตาแหนง่ ตามเกณฑม์ าตรฐานกาหนดตาแหนง่
- บทบาทหน้าทคี่ วามรบั ผดิ ชอบของตาแหนง่ ตามที่ไดร้ ับมอบหมาย

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

บทที่ 3 หลักเกณฑ์ วธิ กี ารปฏบิ ตั งิ าน

หลักเกณฑ์วธิ ีการปฏิบตั ิงาน (มาจาก..กฎ ระเบียบ คาสง่ั ประกาศ ข้อบงั คบั มตทิ ี่ประชุม เกณฑม์ าตรฐาน
สูตรคานวณ แนวคิด ทฤษฎี ฯลฯ)

- หลกั เกณฑ์วธิ กี ารการปฏบิ ัตงิ าน
- ข้อควรระวงั ในการปฏบิ ัตงิ าน

หลักเกณฑ์การปฏิบัติงาน จะเป็นการอธิบายว่าในการปฏิบัติงานตามคู่มือเล่มน้ี จะเกี่ยวข้องกับ กฎ ระเบียบ
คาสง่ั ประกาศ ขอ้ บังคับ มติที่ประชมุ เกณฑ์มาตรฐาน สูตรคานวณ แนวคิด ทฤษฎี ฯลฯ อะไรบา้ ง?

โดยเขียนสรุปให้เป็นภาษาเขียนที่สอดคล้องกับภาษาท่ีใช้ในการปฏิบัติงานท่ีใครๆ อ่านแล้วก็เข้าใจ ไม่ควรลอก
กฎ ระเบียบ คาสัง่ ประกาศ ขอ้ บังคบั ฯลฯ ทั้งหมด เนอ่ื งจากจะทาใหผ้ ู้อา่ นเข้าใจยาก

ในการปฏิบัติงานตามคู่มือการปฏิบัติงานเล่มนี้ มีอะไร ที่ผู้ปฏิบัติงานต้อง คานึง พึงระวัง สังเกต หาไม่แล้วจะ
เกดิ ข้อผิดพลาดขึน้ ไดจ้ ากการปฏบิ ตั งิ าน

ทาให้ผู้ใช้คู่มือการปฏิบัติงานเล่มน้ี สามารถเรียนรู้ จากประสบการณ์ของผู้เขียน แล้วสามารถนามาปรับใช้ใน
การปฏบิ ตั ิงานได้อย่างรวดเร็วมีประสทิ ธิภาพ

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

บทที่ 4 เทคนคิ การปฏบิ ัติงาน

กิจกรรม / แผนการปฏิบตั งิ าน
ในการปฏิบัติงานใดๆ ควรที่จะมี กิจกรรม/แผนปฏิบัติ

งาน เพื่อที่จะบอกว่าในแต่ละกิจกรรม กิจกรรมใดเริ่มเม่ือใด
และส้ินสุดการปฏิบัติการเมื่อใด วิธีการให้เอากิจกรรมแต่ละ
กจิ กรรมที่เขียนไวใ้ น Flow Chart มาเขียนเป็นแผนปฏิบัติงาน
ที่ถูกกากับด้วย เวลา เริ่มตน้ – สน้ิ สดุ

เทคนิคการปฏิบตั ิงาน
ใช้หลักเกณฑ์วิธีปฏิบัติงาน (ท่ีการปฏิบัติงานต้อง

อาศัยกฎ ระเบียบประกาศ เกณฑ์มาตรฐาน แนวคิดทฤษฎี
ฯลฯ) ตามท่ีเขียนไว้ในบทท่ี 3 มาเขียนรายละเอียด
ประกอบการอธบิ ายการปฏบิ ัติงานทลี ะเรอ่ื ง ใหค้ รบทุกเรอื่ ง
ทกุ ประเด็น ตามหลักเกณฑ์ทเี่ ขียนไว้ในบทที่ 3

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

การเขยี นเทคนคิ การปฏิบัตงิ านในบทที่ 4
1) การยกตวั อย่าง
2) การคาถาม-คาตอบ
3) การใช้รปู ภาพ

ตัวอยา่ งในการเขยี นในบทที่ 4 ทีใ่ ช้เทคนิค : การยกตวั อย่าง

* ยกตัวอย่างใหย้ กใหเ้ ห็น 2 ด้าน คอื กรณีที่ “ถูก” หรอื “ทาได”้ และกรณที ี่ “ผิด” หรอื
“ทาไม่ได”้ การ

* การใช้คาถาม-คาตอบให้เหน็ 2 ดา้ น คอื กรณีที่ “ถกู ”หรือ “ทาได้” และ กรณที ่ี “ผิด” หรอื “ทาไม่ได้”

1ตวั อยา่ ง

1ตวั อยา่ ง

ตวั อยา่ ง

1

ตวั อยา่ ง

ตวั อยา่ ง

บทที่ 5 ปัญหาอุปสรรค และขอ้ เสนอแนะ

- ปัญหาและอปุ สรรค

- แนวทางแก้ไขปัญหาและอุปสรรค

- ข้อเสนอแนะเพือ่ การพัฒนางานหรอื ปรบั ปรุงงาน
นาเสนอปัญหา อุปสรรค และการใช้คู่มือการปฏิบัติงานเพ่ือให้ผู้ศึกษาค้นคว้า/ผู้นาคู่มือไปใช้เล็งเห็นถึงปัญหา

อปุ สรรค การจดั ทา การนาไปใช้ และการแกไ้ ขคมู่ อื การปฏบิ ตั ิงาน เพือ่ จะไดด้ าเนินการใช้คู่มอื อย่างมปี ระสทิ ธภิ าพ
จากประสบการณ์ของผู้เขียนที่ปฏิบัติงานในด้านน้ีมาเป็นเวลานาน ผู้เขียนควรท่ีจะเสนอแนวทางการพัฒนางาน

หรือปรับปรุงงาน ที่จะทาให้งานท่ีเราทาอยู่น้ันดีย่ิงขึ้นไป หรือประหยัดทรัพยากร เช่น สามารถลดคน ลดเวลา ลด
กระดาษ ฯลฯ

การที่จะเขียนปัญหาในบทที่ 5 ให้เขียน/บอกถึงปัญหาตามข้ันตอนต่างๆ ของการปฏิบัติงานท่ีกล่าวไว้ในบทท่ี 2
หรอื 3 ว่าในแตล่ ะขัน้ ตอน

- มีปญั หาอะไร? และเมอื่ พบปัญหาแลว้
-ไดแ้ กไ้ ขปญั หาดว้ ยวธิ กี ารอะไร? และ
- ทาอยา่ งไร?
- ผลเปน็ อยา่ งไร ?

จากนั้นจึงทาการตั้งปัญหาหรือตั้งอุปสรรคขึ้นมาเอง แม้ปัญหาหรืออุปสรรคจะยังไม่เกิดข้ึนก็ตาม และเม่ือต้ัง
ประเด็นปัญหา/อุปสรรคขึ้นมาแลว้ ก็ทาการตอบปัญหาหรอื แก้ปัญหาน้นั เอง

ตวั อย่าง การเขยี นหวั ข้อ 5.1-5.2 (แบบควบรวม)