The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

งานวิจัยในชั้นเรียน

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by 61100140119, 2023-01-17 23:02:03

งานวิจัยในชั้นเรียน

งานวิจัยในชั้นเรียน

40 ภาพที่ 2 ขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้โดยใช้รูปแบบ GPAS 5 Steps ขั้นที่ 1 ขั้นสังเกต รวบรวมข้อมูล ครูมีการตั้งค าถาม ตั้งสมมุติฐาน เพื่อกระตุ้น ประสบการณ์ให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ จากนั้นให้ นักเรียนสังเกตและรวบรวมข้อมูลจากแหล่งเรียนรู้ อย่างหลากหลาย เพื่อให้นักเรียนรู้จักเลือกข้อมูลที่ ต้องการ ขั้นที่ 2 ขั้นคิดวิเคราะห์และสรุปความรู้ ครูให้นักเรียนพิจารณาแถบโจทย์สถานการณ์ปัญหา แล้วร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยครูจะใช้ค าถาม กระตุ้นความคิด เพื่อให้นักเรียนกระตือรือร้น มีส่วนร่วมในกิจกรรมการเรียนรู้ ท าให้สมองพัฒนา และมีศักยภาพในการคิดมากขึ้น ขั้นที่ 3 ขั้นปฏิบัติและสรุปความรู้ หลังการปฏิบัติ ครูให้นักเรียนแบ่งกลุ่ม 5 กลุ่ม กลุ่มละเท่า ๆ กัน พร้อมทั้งแจกใบกิจกรรมให้นักเรียนแต่ละกลุ่ม ร่วมกันท า จากนั้นให้นักเรียนร่วมกันสรุปความ เข้าใจจากการท าใบกิจกรรมมาสร้างองค์ความรู้หรือ สรุปเป็นหลักการร่วมกัน ขั้นที่ 4 ขั้นสื่อสารและน าเสนอ ครูสุ่มตัวแทนกลุ่ม ออกมาน าเสนอผลงาน หน้าชั้นเรียน โดยมีนักเรียนและครูร่วมกัน ตรวจสอบความถูกต้อง ขั้นที่ 5 ขั้นประเมินเพื่อเพิ่มคุณค่า บริการสังคมและจิตสาธารณะ นักเรียนน าความรู้ไปช่วยสอนเพื่อน ๆ ให้เข้าใจมาก ยิ่งขึ้นเพื่อเตรียมความพร้อมในการเรียนเรื่องต่อไป และครูจะให้นักเรียนประเมินตนเองหลังการเรียน ในประเด็นต่าง ๆ จากนั้นแลกเปลี่ยนตรวจสอบ ขั้นตอนการท างานทุกขั้นตอนว่าจะเพิ่มคุณค่าไปสู่ สังคม เกิดประโยชน์ต่อสังคมให้มากขึ้นกว่าเดิมใน ขั้นตอนใดบ้างส าหรับการท างานในครั้งต่อไป


41 บทที่ 3 วิธีการด าเนินการวิจัย การศึกษาครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อศึกษาและเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชา คณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยได้น าเสนอวิธีด าเนินการศึกษาตามหัวข้อต่อไปนี้ 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 2. แบบแผนการทดลอง 3. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 1. แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง 4. การเก็บรวบรวมข้อมูล 5. การวิเคราะห์ข้อมูล 6. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1. ประชากร เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จ านวน 4 ห้องเรียน จ านวน 134 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา อ าเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีซึ่งการจัดนักเรียนในแต่ละห้องเรียนเป็นแบบคละความสามารถ (เก่ง ปานกลาง อ่อน) 2. กลุ่มตัวอย่างเป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จ านวน 1 ห้องเรียน จ านวน 35 คน ภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา อ าเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี ที่ได้มาจากการสุ่มตัวอย่างแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling)


42 แบบแผนการทดลอง การศึกษาครั้งนี้มีแบบแผนการทดลอง (Experimental Design) กลุ่มเดียวทดสอบก่อน และหลังการทดลอง One Group Pretest – Posttest Design ตารางที่ 1 รูปแบบการทดลองแบบ One Group Pretest – Posttest Design กลุ่ม สอบก่อน ทดลอง สอบหลัง E T1 X T2 สัญลักษณ์ที่ใช้ในแบบแผนการทดลอง E แทน กลุ่มทดลอง (Experimental Group) T1 แทน การทดสอบก่อนเรียน (Pretest) X แทน การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps T2 แทน การทดสอบหลังเรียน (Posttest) เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย เครื่องมือที่ใช้ในการศึกษาครั้งนี้ประกอบด้วย 1. แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps จ านวน 12 แผน รวม 12 ชั่วโมง 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง เลขยกก าลัง ชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ านวน 20 ข้อ ผู้ศึกษาก าหนดรายละเอียดของการสร้างและหาประสิทธิภาพของเครื่องมือฯ ดังนี้ 1. แผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ผู้ศึกษาได้ด าเนินการสร้าง ดังนี้ 1.1 ศึกษาและวิเคราะห์แนวคิด ทฤษฎี และการจัดการเรียนการสอนวิชาคณิตศาสตร์ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps 1.2 ศึกษาหลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ คู่มือครูหนังสือเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 3 ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่จัดท าโดยกระทรวงศึกษาธิการ 1.3 ศึกษาหลักสูตรสถานศึกษาของโรงเรียนเทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา กลุ่มสาระการเรียนรู้ คณิตศาสตร์ ช่วงชั้นที่ 3 วิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 1.4 สร้างตารางวิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรู้และเนื้อหา


43 1.5 เขียนแผนการจัดการเรียนรู้โดยใช้การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps เรื่อง เลขยกก าลัง 12 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง/คาบ รวมเวลา 12 คาบ ซึ่งมีรายละเอียดดังนี้ แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 1 ทดสอบก่อนเรียน แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 2 ความหมายของเลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เลขยกก าลังที่มีเลขชี้ก าลังเป็นจ านวนเต็มบวก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 การคูณเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกันและเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มบวก (1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 5 การคูณเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกันและเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มบวก (2) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 6 การหารเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกันและเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มบวก (1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 7 การหารเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกันและเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มบวก (2) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 8 การหารเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกันและเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มบวก (3) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 9 การคูณและการหารเลขยกก าลัง เมื่อเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มบวก แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 10 การใช้เลขยกก าลังแสดงจ านวนในรูปสัญกรณ์ วิทยาศาสตร์ (1) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 11 การใช้เลขยกก าลังแสดงจ านวนในรูปสัญกรณ์ วิทยาศาสตร์ (2) แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 12 ทดสอบหลังเรียน 1.6 น าแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญจ านวน 3 ท่าน เป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านการสอนวิชาคณิตศาสตร์ ด้านหลักสูตรและการสอน การวิจัย และการวัดผลประเมินผล ตรวจสอบความถูกต้องเหมาะสม ความสอดคล้องและความเป็นไปได้ระหว่างจุดประสงค์การเรียนรู้ เนื้อหาสาระ กิจกรรมการเรียนรู้และการวัดผลประเมินผล โดยให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณา ตรวจสอบ ให้คะแนนดังนี้ - ให้คะแนนเป็น +1 เมื่อแน่ใจว่าองค์ประกอบนั้นเหมาะสมและสอดคล้อง - ให้คะแนนเป็น 0 เมื่อไม่แน่ใจว่าองค์ประกอบเหมาะสมและสอดคล้อง - ให้คะแนนเป็น –1 เมื่อแน่ใจว่าองค์ประกอบนั้นไม่เหมาะสมและสอดคล้อง


44 แล้วน าคะแนนที่ได้มาหาค่าดัชนีความสอดคล้อง (Index of Item – Objective Congruence : IOC) ระหว่างองค์ประกอบของแผนการจัดการเรียนรู้ ได้ค่าดัชนีความสอดคล้องของทุกองค์ประกอบเท่ากับ 0.92 1.7 ปรับปรุง และแก้ไขแผนการจัดการเรียนรู้ตามข้อเสนอแนะของผู้เชี่ยวชาญ 1.8 น าแผนการจัดการเรียนรู้ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปทดลองใช้กับนักเรียนที่ก าลังเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา ปีการศึกษา 2565 ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างของ การวิจัย และได้มาโดยการสุ่มอย่างง่าย จ านวน 4 คน (ทดลองเดี่ยว) ซึ่งประกอบด้วยนักเรียนที่มี ความสามารถอยู่ในระดับ สูง 1 คน ปานกลาง 2 คน และต่ า 1 คน เพื่อตรวจสอบข้อบกพร่องและ ปรับปรุงแก้ไขเกี่ยวกับการใช้ส านวนภาษา 1.9 น าแผนการจัดการเรียนรู้ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วไปทดลองใช้กับนักเรียนที่ก าลังเรียนชั้น มัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนเทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา ปีการศึกษา 2565 ที่ไม่ใช่กลุ่มตัวอย่างของการ วิจัยและได้มาจากการสุ่มอย่างง่าย จ านวน 12 คน (ทดลองกลุ่มเล็ก) ประกอบด้วยนักเรียนที่มี ความสามารถอยู่ในระดับสูง 3 คน ปานกลาง 6 คน และต่ า 3 คน เพื่อหาข้อบกพร่องเกี่ยวกับเวลา สื่อการสอน ปริมาณเนื้อหาและกิจกรรมในแต่ละแผนการจัดการเรียนรู้แล้วปรับปรุงแก้ไขให้สมบูรณ์ 1.10 น าแผนการจัดการเรียนรู้ที่ปรับปรุงแก้ไขแล้วเสนอผู้เชี่ยวชาญอีกครั้งหนึ่ง เพื่อ ตรวจสอบและปรับปรุงแก้ไขเป็นฉบับสมบูรณ์ที่ใช้ในการทดลองภาคสนาม 2. แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษา ปีที่ 1 ที่ผู้วิจัยสร้างขึ้น เป็นแบบทดสอบปรนัยชนิดเลือกตอบมี 4 ตัวเลือก มีขั้นตอนในการสร้าง และหาประสิทธิภาพดังนี้ 2.1 ศึกษาทฤษฎีวิธีสร้าง เทคนิคการเขียนข้อสอบแบบเลือกตอบ คู่มือการจัดการเรียนรู้ กลุ่มสาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เรื่อง เลขยกก าลัง ตามหลักสูตรแกนกลาง การศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551 (ฉบับปรับปรุง พุทธศักราช 2560) 2.2 สร้างตารางวิเคราะห์จุดประสงค์การเรียนรู้และเนื้อหา 2.3 สร้างแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์แบบปรนัย ชนิดเลือกตอบมี4 ตัวเลือก จ านวน 30 ข้อ (ต้องการใช้จริงเพียง 20 ข้อ) ให้ครอบคลุมเนื้อหาสาระ และผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง 2.4 น าแบบทดสอบที่สร้างขึ้นเสนอต่อผู้เชี่ยวชาญ จ านวน 3 ท่าน ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญ ด้านการสอนวิชาคณิตศาสตร์การวิจัยและด้านการวัดผลและประเมินผล เพื่อตรวจสอบความ เที่ยงตรงเชิงเนื้อหา โดยใช้ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) ซึ่งให้ผู้เชี่ยวชาญพิจารณา ตรวจสอบ โดยมีเกณฑ์การให้คะแนนดังนี้ ให้คะแนน +1 เมื่อแน่ใจว่าข้อสอบนั้นวัดได้สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ให้คะแนน 0 เมื่อไม่แน่ใจว่าข้อสอบนั้นวัดได้สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง ให้คะแนน -1 เมื่อแน่ใจว่าข้อสอบนั้นวัดไม่สอดคล้องกับผลการเรียนรู้ที่คาดหวัง


45 2.5 น าผลการประเมินของผู้เชี่ยวชาญ วิเคราะห์หาค่าดัชนีความสอดคล้องระหว่าง ข้อค าถามของแบบทดสอบกับผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยหาค่า IOC ซึ่งมีค่าได้เท่ากับ 0.67 ขึ้นไป 2.6 น าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ไปทดลองใช้กับนักเรียนที่เรียนวิชา คณิตศาสตร์เนื้อหา เลขยกกก าลัง ผ่านมาแล้ว แล้วน าคะแนนที่ได้มาวิเคราะห์หาค่าความยากง่าย (P) และหาค่าอ านาจจ าแนก (r) เป็นรายข้อ ซึ่งมีค่าความยากง่าย อยู่ระหว่าง 0.20 – 0.67 มีค่า อ านาจจ าแนกอยู่ระหว่าง 0.21 – 1.00 2.7 น าข้อสอบที่คัดเลือกแล้วจ านวน 20 ข้อ ไปทดสอบเพื่อหาค่าความเชื่อมั่น ของแบบทดสอบทั้งฉบับ โดยใช้สูตรของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน (KR-20) ซึ่งมีค่าความเชื่อมั่นทั้งฉบับ เท่ากับ 0.80 2.8 น าแบบทดสอบที่ได้ไปวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนกับนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา ที่เป็นกลุ่มตัวอย่างในการทดลองภาคสนาม ต่อไป การเก็บรวบรวมข้อมูล ในการวิจัยครั้งนี้ ผู้วิจัยได้ด าเนินการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างตามล าดับดังนี้ 1. ก่อนการทดลองให้นักเรียนท าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2. ผู้วิจัยด าเนินการสอนกลุ่มตัวอย่างด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้นจ านวน 12 แผน โดยให้นักเรียนเรียนและปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ตามขั้นตอน โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps 3. เมื่อสิ้นสุดการทดลองสอนแล้ว น าแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ ชุดเดิมไปทดสอบนักเรียนอีกครั้ง จากนั้นน าผลที่ได้ไปวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติต่อไป การวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิเคราะห์ข้อมูลการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยด าเนินการโดยใช้โดยใช้โปรแกรม ส าเร็จรูปทางสถิติส าหรับข้อมูลทางสังคมศาสตร์ ตามขั้นตอนดังนี้ 1. ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการหาค่าสถิติ พื้นฐาน คือ ร้อยละ (Percentage) ค่าเฉลี่ย (Mean) และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน (Stand Diavation) 2. เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่าง ก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการทดสอบทีแบบไม่อิสระ (t – test for Dependent Samples) สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิเคราะห์ข้อมูล ผู้วิจัยเลือกใช้สถิติดังนี้ 1. สถิติพื้นฐาน ใช้ค่าเฉลี่ย (x) และค่าเบี่ยงเบนมาตรฐาน ( ̅ S.D.) โดยใช้โปรแกรมส าเร็จรูป ทางสถิติส าหรับข้อมูลทางสังคมศาสตร์


46 2. สถิติที่ใช้ในการวิเคราะห์คุณภาพของเครื่องมือโดยใช้โปรแกรมส าเร็จรูป Test Analysis Program (TAP) 2.1 ค่าความยากง่าย (P) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.2 ค่าอ านาจจ าแนก (r) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน 2.3 ค่าความเชื่อมั่น (r tt) ของคูเดอร์-ริชาร์ดสัน ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียน 2.4 หาความเที่ยงตรงเชิงเนื้อหาของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน โดยใช้ ค่าดัชนีความสอดคล้อง (IOC) IOC = ∑ R N เมื่อ IOC เป็นดัชนีความสอดคล้อง ∑ R เป็นผลรวมของความคิดเห็นของผู้เชี่ยวชาญ N เป็นจ านวนของผู้เชี่ยวชาญ 3. สถิติที่ใช้ทดสอบสมมุติฐาน โดยใช้โปรแกรมส าเร็จรูปทางสถิติส าหรับข้อมูลทาง สังคมศาสตร์ SPSS for Windows คือ สถิติที่ใช้ทดสอบความแตกต่างของผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ก่อนเรียนกับหลังเรียน คือ การทดสอบทีแบบไม่อิสระ


47 บทที่ 4 ผลการวิเคราะห์ข้อมูล จากการด าเนินการวิจัยครั้งนี้ มีวัตถุประสงค์ของการวิจัยเพื่อ 1) เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2) เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างก่อนเรียนและหลังเรียน ซึ่งผู้วิจัยขอน าเสนอผลการวิเคราะห์ ตามวัตถุประสงค์ของการวิจัย และผลการศึกษาดังรายละเอียดต่อไปนี้ ตอนที่ 1 ผลการศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์เรื่อง เลขยกก าลัง โดยการจัดกิจกรรม การเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยได้น าคะแนนของผู้เรียนที่ได้จากการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียน โดยการจัด กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps เรื่อง เลขยกก าลัง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็น รายบุคคลและภาพรวมดังแสดงผลการวิเคราะห์ในตารางที่ 2 ตารางที่ 2 คะแนนที่ได้ร้อยละ คะแนนเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของคะแนนผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 คนที่ ก่อนเรียน หลังเรียน คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ 1 8 40 16 80 2 7 35 14 70 3 10 50 15 75 4 9 45 17 85 5 9 45 19 95 6 6 30 18 90 7 11 55 18 90 8 6 30 17 85 9 12 60 16 80 10 7 35 16 80 11 7 35 17 85


48 ตารางที่ 2 คะแนนที่ได้ร้อยละ คะแนนเฉลี่ย และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของคะแนนผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 (ต่อ) คนที่ ก่อนเรียน หลังเรียน คะแนน ร้อยละ คะแนน ร้อยละ 12 8 40 15 75 13 7 35 16 80 14 10 50 18 90 15 9 45 19 95 16 9 45 16 80 17 6 30 15 75 18 11 55 17 85 19 6 30 16 80 20 12 60 19 95 21 7 35 18 90 22 7 35 17 85 23 9 45 16 80 24 11 55 17 85 25 7 35 15 75 26 8 40 16 80 27 9 45 17 85 28 5 25 16 80 29 10 50 17 85 30 12 60 20 100 31 8 40 16 80 32 11 55 17 85 33 7 35 16 80 34 9 45 18 90 35 10 50 16 80 คะแนนเฉลี่ย 8.57 42.86 16.74 83.71 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน 1.93 - 1.32 -


49 จากตารางที่ 2 พบว่าคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนโดยการจัด กิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ก่อนเรียนมีคะแนน เฉลี่ยเท่ากับ 8.57 คิดเป็นร้อยละ 42.86 และหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 16.74 คิดเป็นร้อยละ 83.71 ตารางที่ 3 คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ร้อยละ และการทดสอบทีแบบกลุ่มเดียว โดย เปรียบเทียบกับคะแนนเฉลี่ยกับเกณฑ์ร้อยละ 70 กลุ่ม S.D ร้อยละ t - test กลุ่มทดลอง 16.74 1.34 83.71 12.15** **มีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จากตารางที่ 3 นักเรียนมีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรม การเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ได้คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนไม่น้อย กว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ตอนที่ 2 ผลการเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรม การเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน ดังแสดงในตารางที่ 4 ตารางที่ 4 คะแนนเฉลี่ย ร้อยละ และส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐาน ของคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียน ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างก่อนเรียนกับหลังเรียน ผลการทดสอบ S.D ร้อยละ t - test ก่อนเรียน 8.57 1.94 42.86 26.29** หลังเรียน 16.74 1.34 83.71 **มีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 จากตารางที่ 4 พบว่าการทดสอบก่อนเรียนและหลังเรียนของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 8.57 คะแนน และ 16.74 คะแนน ตามล าดับ และเมื่อเปรียบเทียบระหว่าง คะแนนก่อนเรียนและหลังเรียน พบว่าคะแนนทดสอบหลังเรียนของนักเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี นัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ̅ ̅


50 บทที่5 สรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์เพื่อ 1) ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ และ 2) เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps เรื่อง เลขยกก าลัง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยน าเสนอการสรุปผล อภิปรายผล และข้อเสนอแนะ ดังนี้ วัตถุประสงค์ของการวิจัย ในการวิจัยครั้งนี้มีวัตถุประสงค์ของการวิจัย ดังนี้ 1. เพื่อศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ที่เรียนโดย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 2. เพื่อเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ที่เรียนโดย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่างก่อน เรียนและหลังเรียน สมมติฐานของการวิจัย ผู้วิจัยได้ก าหนดสมมติฐานของการวิจัยดังนี้ 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ไม่น้อยกว่า ร้อยละ 70 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน วิธีด าเนินการวิจัย 1. ประชากรและกลุ่มตัวอย่าง 1.1 ประชากร ประชากรที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ของโรงเรียน เทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา อ าเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานีภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จ านวน 4 ห้อง มีนักเรียนจ านวน 134 คน ซึ่งการจัดนักเรียนในแต่ละห้องเรียนเป็นแบบคละ ความสามารถ (เก่ง ปานกลาง อ่อน)


51 1.2 กลุ่มตัวอย่าง กลุ่มตัวอย่างที่ใช้ในการวิจัยครั้งนี้ เป็นนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1/4 ในภาคเรียน ที่ 1 ปีการศึกษา 2565 โรงเรียนเทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา อ าเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี จ านวน 35 คน ที่ได้มาโดยการสุ่มแบบกลุ่ม (Cluster Random Sampling) 2. เครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย 2.1 แผนการจัดการเรียนรู้โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps เรื่อง เลขยกก าลัง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 จ านวน 12 แผน แผนละ 1 ชั่วโมง/คาบ รวมเวลา 12 คาบ 2.2 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ของ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 เป็นแบบทดสอบแบบปรนัยชนิดเลือกตอบ 4 ตัวเลือก จ านวน 20 ข้อ 3. การเก็บรวบรวมข้อมูล การด าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูล ผู้วิจัยได้ด าเนินการเก็บรวบรวมข้อมูลด้วยตนเอง ในภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 ซึ่งด าเนินการทดลองกับกลุ่มตัวอย่างตามล าดับดังนี้ 3.1 ท าการทดสอบก่อนเรียน (Pretest) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 3.2 ผู้วิจัยด าเนินการสอนกลุ่มตัวอย่างด้วยแผนการจัดการเรียนรู้ที่สร้างขึ้น จ านวน 12 แผน โดยให้นักเรียนเรียนและปฏิบัติกิจกรรมต่าง ๆ ตามขั้นตอนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ รูปแบบ GPAS 5 Steps 3.3 ท าการทดสอบหลังเรียน (Posttest) โดยใช้แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน วิชาคณิตศาสตร์ ชุดเดิมกับการท าการทดสอบก่อนเรียนไปทดสอบนักเรียนอีกครั้ง จากนั้นน าผลที่ได้ ไปวิเคราะห์ข้อมูลทางสถิติต่อไป 4. การวิเคราะห์ข้อมูล ในการวิเคราะห์ข้อมูลการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์โดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps เรื่อง เลขยกก าลัง ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยด าเนินการโดยใช้ โปรแกรมส าเร็จรูปทางสถิติส าหรับข้อมูลทางสังคมศาสตร์ ตามขั้นตอนดังนี้ 4.1 ศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โดยการหา คะแนนเฉลี่ย ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานและร้อยละ 4.2 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่าง คะแนนหลังเ รียนกับเกณฑ์ร้อยล ะ 70 ด้วยก า รทดสอบทีแบบกลุ่มเดียว (t – test for One Sample) 4.3 เปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ระหว่าง ก่อนเรียนและหลังเรียนด้วยการทดสอบทีแบบไม่อิสระ (t – test for Dependent Sample)


52 สรุปผลการวิจัย การศึกษาวิจัยครั้งนี้สามารถสรุปผลได้ดังนี้ 1. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ก่อนเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 8.57 คิดเป็น ร้อยละ 42.86 และหลังเรียนมีคะแนนเฉลี่ยเท่ากับ 16.74 คิดเป็นร้อยละ 83.71 และเมื่อเปรียบเทียบ คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 70 พบว่า คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนไม่น้อยกว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 2. นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์โดย การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps เรื่อง เลขยกก าลัง ได้คะแนนเฉลี่ยก่อนเรียนเท่ากับ 8.57 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 42.86 และคะแนนเฉลี่ยหลังเรียนเท่ากับ 16.74 คะแนน คิดเป็นร้อยละ 83.71 เมื่อเปรียบเทียบกันด้วยการทดสอบทีแบบไม่อิสระ (t – test for Dependent Sample) ผล ปรากฏว่า คะแนนเฉลี่ยหลังเรียนสูงกว่าคะแนนเฉลี่ยก่อนเรียน อย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 อภิปรายผลการวิจัย การวิจัยเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง โดยการ จัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ผู้วิจัยขอน าเสนอ ประเด็นการอภิปรายผล ดังรายละเอียดต่อไปนี้ 1. นักเรียนกลุ่มที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps มีผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนเฉลี่ยไม่น้อยกว่าร้อยละ 70 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐานที่ตั้งไว้ ทั้งนี้อาจเนื่องมาจากการ จัดการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps เป็นกระบวนการสอนที่สอนให้นักเรียนเกิดทักษะการคิด วิเคราะห์ โดยมีครูเป็นผู้กระตุ้นความคิดให้กับนักเรียน นักเรียนเป็นผู้ตั้งค าถาม และตอบค าถามด้วย ตนเอง กระบวนการ GPAS เป็นกระบวนการพัฒนาทักษะการคิด โดยครูผู้สอนเป็นผู้คอยกระตุ้นสร้าง บรรยากาศสถานการณ์เร้าใจตลอดจนอ านวยความสะดวกทุกอยางแก่นักเรียน คอยชี้แนะชักน าให้ นักเรียนเกิดความคิดขึ้นครูช่วยทุกอยางแต่เด็กเป็นผู้กระท าคิดเองท าเองและเป็นการจัดกิจกรรมการ เรียนโดยใช้กระบวนการกลุ่มในการท างานและกิจกรรมกิจกรรมการร่วมกันเรียนรู้เป็นกลุ่ม ๆ ละ 4-5 คน โดยแต่กลุ่มที่ประกอบด้วยนักเรียนที่มีความสามารถแตกต่างกน คือ เก่ง ปานกลาง อ่อน มีความ ร่วมมือกัน ให้ความช่วยเหลือซึ่งกันและกันในด้านการเรียนและการท างาน โดยนักเรียนที่มี ความสามารถสูงกว่ามีความรู้ความเข้าใจในเนื้อของบทเรียนได้ดีกว่าได้ช่วยอธิบาย และแลกเปลี่ยน ความคิด กับเพื่อนนักเรียนด้วยกันที่มีความสามารถต่ ากว่าไม่เข้าใจเนื้อหาในบทเรียนและกิจกรรมให้ มีคามเข้าใจในเนื้อหาและกิจกรรมของบทเรียนมากขึ้น ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ ธัญญารัตน์ สุขเกษม (2561) ได้ศึกษาผลการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับ การใช้ค าถามเชิงวิเคราะห์ เรื่อง วิวัฒนาการ ที่มีต่อการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์และผลสัมฤทธิ์


53 ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ผลวิจัยพบว่า นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4 ที่ได้รับ การจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับการใช้ค าถามเชิงวิเคราะห์ เรื่อง วิวัฒนาการ มีค่าเฉลี่ยคะแนนการคิดวิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์หลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียนอย่างมี นัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 และมีค่าเฉลี่ยคะแนนผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อน เรียนอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 นอกจากนี้ยังพบว่าผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูง กว่าเกณฑ์ร้อยละ 70 อย่าง มีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .05 2. ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ที่เรียนโดยการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 มีผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์หลังเรียน สูงกว่าก่อนเรียนอย่างมีนัยส าคัญทางสถิติที่ระดับ .01 ซึ่งเป็นไปตามสมมติฐาน ทั้งนี้อาจเนื่องมาจาก การจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps เป็นวิธีที่ครูใช้จัดกระบวนการเรียนรู้ที่เน้นการ เรียนรู้ที่ผู้เรียนคิดลงมือท าและสรุปความรู้ด้วยตนเอง นักเรียนมีการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ มุมมอง หลากหลายจึงท าให้ผู้เรียนมีข้อมูล น าไปสู่การปรับโครงสร้างความรู้ ความคิดรวบยอด หรือหลักการ ส าคัญที่ศึกษาค้นคว้าด้วยตนเอง จึงเป็นแนวทางที่ตอบสนองความแตกต่างระหว่างบุคคลทั้ง ในแง่ ความสนใจ ประสบการณ์ วิธีการเรียนรู้ และการให้คุณค่า ความรู้ที่ผู้เรียนแต่ละคนสร้างขึ้นอย่างมี ความหมายเพื่อน าไปใช้ให้เกิดประโยชน์ต่อตนเอง ชุมชน และสังคมโลก จึงท าให้คะแนนสอบวัดผล สัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน ซึ่งสอดคล้องกับงานวิจัยของ รจนา ป้อมแดง (2557) ได้ท าการวิจัยเรื่อง การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง ภูมิ ลักษณ์ของ ภูมิภาคต่าง ๆ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs ผลการวิจัยพบว่า 1.) แผนการจัดการเรียนรู้วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง ภูมิลักษณ์ ของภูมิภาคต่าง ๆ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีมีคุณภาพอยู่ในระดับดีมาก โดยมีค่าเฉลี่ย เท่ากับ 4.56 2.) ผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนของนักเรียนที่ได้รับการจัดการเรียนรู้ โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs วิชาสังคมศึกษา ศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง ภูมิลักษณ์ของภูมิภาคต่าง ๆ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 มีคะแนน เฉลี่ยผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนหลังเรียนสูงกว่าก่อนเรียน แตกต่างกันอย่างมีนัยส าคัญ ทางสถิติที่ระดับ .01 3.) ความพึงพอใจของนักเรียนที่เรียน โดยใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs มีค่าความพึงพอใจ เท่ากับ 4.457 อยู่ในระดับมาก ข้อเสนอแนะ 1. ข้อเสนอแนะทั่วไป จากการวิจัยครั้งนี้ผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะส าหรับการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ซึ่งผู้วิจัยมีข้อเสนอแนะในการน าไปใช้ดังนี้ 1.1 ในการน าการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ไปใช้ ครูผู้สอนควรศึกษา และท าความเข้าใจขั้นตอนในการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ให้ชัดเจน เพื่อจัดกิจกรรมได้อย่างเหมาะสม 1.2 ในช่วงเวลาของการจัดกิจกรรมการเรียนรู้ครูผู้สอนควรควบคุมและบริหารเวลาให้ เป็นไปตามที่ก าหนดไว้เพราะการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps มีขั้นตอนการจัด


54 กิจกรรมการเรียนรู้หลายขั้น ทั้งนี้เพื่อที่จะสามารถจัดกิจกรรมการเรียนการสอนได้ครบทุกส่วนและ ทุกขั้นตอนของแผนการจัดการเรียนรู้ 2. ข้อเสนอแนะส าหรับการวิจัยครั้งต่อไป ในการวิจัยครั้งต่อไป ผู้วิจัยขอเสนอแนะประเด็นที่ควรน ามาศึกษาดังนี้ 2.1 ควรท าการศึกษาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps กับเนื้อหา คณิตศาสตร์เรื่องอื่น ๆ ในชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 และชั้นเรียนอื่น ๆ 2.2 ควรมีการศึกษาการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ในตัวแปรอื่น เช่น ความพึงพอใจต่อการจัดการเรียนรู้ ความคงทนในการเรียนรู้ ทักษะกระบวนการทางคณิตศาสตร์ 2.3 ควรมีการปรับปรุงขั้นตอนการจัดกิจกรรมการเรียนรู้รูปแบบ GPAS 5 Steps ให้มี ความเหมาะสมกับเนื้อหาและการจัดการเรียนการสอนในรายวิชาคณิตศาสตร์ จึงหาวิธีการใหม่ ๆ มาสอนให้นักเรียนเกิดการเรียนรู้ได้ดีที่สุด


55 เอกสารอ้างอิง กรมวิชาการ. (2538). คูมือการประกันคณภาพการศึกษา. กรุงเทพมหานคร : โรงพิมพคุรุสภา ลาดพราว กระทรวงศึกษาธิการ. (2551). หลักสูตรแกนกลางการศึกษาขั้นพื้นฐาน พุทธศักราช 2551. กรุงเทพฯ : โรงพิมพ์ชุมนุมสหกรณ์การเกษตรแห่งประเทศไทย จ ากัด. กาญจนา วัฒายุ. (2545). การวิจัยเพื่อพัฒนาคุณภาพการศึกษา. กรุงเทพฯ : ธนพรการพิมพ์. ชนิษฏา อินนวล. (2554). แนวทางพัฒนาการบริหารงานวิชาการของศูนย์พัฒนาเด็กเล็ก สังกัดองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น ในอ าเภอชายแดน จังหวัดตาก. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (การบริหารการศึกษา). ก าแพงเพชร : บัณฑิตวิทยาลัย มหาวิทยาลัยราชภัฎก าแพงเพชร. ชวลิต ชูก าแพง. (2551). การพัฒนาหลักสูตร. มหาสารคาม : มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. ดวงเดือน อ่อนน่วม. (2535). การสร้างเสริมสมรรถภาพการสอนคณิตศาสตร์ ของครูประถมศึกษา. พิมพ์ครั้งที่3. กรุงเทพฯ: คณะครุศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. แดงประเสริฐ, ด. (2549). การพัฒนาทักษะการคิดวิเคราะห์และทักษะการเขียนสรุปความ. ของ นักเรียน. ตาณิกา เงินฝรั่ง. (2556). การฝึกทักษะการเขียนเรียงความโดยใช้กระบวนการจีแพสส าหรับ นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 โรงเรียนจุนวิทยาคม จังหวัดพะเยา. เชียงใหม่ : บัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยเชียงใหม่. ทิศนา แขมมณี. (2545). ศาสตรการสอน. กรุงเทพมหานคร : ส านักพิมพ์แห่งจุฬาลงกรณ มหาวิทยาลัย. ธัญญารัตน์ สุขเกษม. (2561). ผลการจัดการเรียนรู้แบบกระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอน (5 STEPs) ร่วมกับการใช้ค าถามเชิงวิเคราะห์ เรื่อง วิวัฒนาการ ที่มีต่อการคิดวิเคราะห์ทาง วิทยาศาสตร์ และผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4. ศึกษาศาสตร์สารมหาวิทยาลัยเชียงใหม่, 3(2), 24-36. บุญเรียง ขจรศิลป์. (2543). วิธีวิจัยทางการศึกษา. พิมพ์ครั้งที่ 5. กรุงเทพฯ : พี.เอ็น.การพิมพ์. บุษกร พรหมหล้าวรรณ. (2549). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนและเจตคติต่อการเรียน วิชา นาฏศิลป์ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 6 ที่ได้รับการสอนโดยการจัดกิจกรรมการ เรียนการสอนแบบ 4 MAT. ปริญญานิพนธ์การศึกษามหาบัณฑิต, สาขาวิชาการ อุดมศึกษา, บัณฑิตวิทยาลัย, มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประสานมิตร. ประยูร อาษานาม. 2543. พิมพ์ครั้งที่ 2. คู่มือการวิจัยทางการศึกษา. ขอนแก่น : คณะศึกษาศาสตร์ มหาวิทยาลัยขอนแก่น.


56 ปราณี กองจินดา. (2549). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตรและทักษะการคิด เลขในใจของนักเรียนที่ได้รับการสอนตามรูปแบบซิปปาโดยใชแบบฝึกเนนทักษะการ คิด เลขในใจกับนักเรียนที่ได้รับการสอนโดยใชคูมือครู. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (หลักสูตรการ สอน). พระนครศรีอยุธยา : บัณฑิตวิทยาลัยมหาวิทยาลัยราชภัฎพระนครศรีอยุธยา. ถายเอกสาร. ปรัชญนันท์ นิลสุข และปณิตา วรรณพิรุณ. [ออนไลน์]. เข้าถึงได้จาก http://nipatanoy.wordpress.com/. (วันที่ค้นข้อมูล: 12 มีนาคม 2565). พวง รัตน์ ทวี รัตน์. (2530). ก า รส ร้ า งแล ะพัฒน าแบบทดสอบผลสัมฤทธิ์. กรุงเทพฯ : มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒประสานมิตร. พิมพันธ์ เดชะคุปต์ และพเยาว์ ยินดีสุข. (2548). วิธีวิทยาศาสตร์และวิทยาศาสตร์ทั่วไป. กรุงเทพฯ : บริษัทพัฒนาคุณภาพวิชาการ (พ.ว.) จ ากัด. เพ็ญพักตร์ ช่วยพันธ์. (2558). ผลของการใช้กระบวนการเรียนรู้ 5 ขั้นตอนที่มีต่อ ทักษะ กระบวนการทางวิทยาศาสตร์และความคิดสร้างสรรค์ทางวิทยาศาสตร์ กลุ่มสาระการ เรียนรู้ วิทยาศาสตร์ของนักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 3. นครศรีธรรมราช : มหาบัณฑิต หลักสูตรครุศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชาการพัฒนาหลักสูตรและการเรียนการสอน มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราช. ไพศาล หวังพานิช. (2526). การวัดผลการศึกษา. กรุงเทพฯ : ไทยวัฒนาพานิช. ไพโรจน์ คะเชนทร์. (2556). การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน. สืบค้นจาก ww.wattoongpel.com Sarawichakarn/ wichakarn/1-10 การวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน10.pdf. ยุพิน พิพิธกุล. (2549). การเรียนการสอนคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ : คณะครุศาสตร์จุฬาลงกรณ์. รจนา ป้อมแดง. (2557). การศึกษาผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาสังคมศึกษาศาสนาและวัฒนธรรม เรื่อง ภูมิลักษณ์ของ ภูมิภาคต่าง ๆ ของนักเรียนชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 โดยใช้ กระบวนการเรียนรู้ 5 STEPs. (รายงานการวิจัยในชั้นเรียน). จังหวัดอุบลราชธานี: โรงเรียนอนุบาลน้องหญิง. ล้วน สายยศ และอังคณา สายยศ. (2538). เทคนิคการวิจัยทางการศึกษา. (พิมพ์ครั้งที่ 4). กรุงเทพฯ : สุวีริยาสาส์น. วรินทรา วัชรสิงห์. (2537) . หลักและเทคนิคการสร้างแบบฝึกหัดคณิตศาสตร์ระดับประถมศึกษา . กรุงเทพฯ : จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. ศักดิ์ดา บุญโต. (2544). คณิตศาสตร์มหัสจรรย์: คู่มือการจัดการศึกษาส าหรับผู้มีความสามารถ พิเศษด้านหนึ่ง. กรุงเทพฯ : พิมพ์ดี. สมนึก ภัททิยธนี. 2546. การวัดผลการศึกษา. พิมพครั้งที่ 4. กาฬสินธ์: ประสานการพิมพ์. สมบัติท้ายเรือคา. (2555). การวิจัยการศึกษาเบื้องต้น. มหาสารคาม : ภาควิชาวิจัยและพัฒนา การศึกษา คณะศึกษาศาสตร์มหาวิทยาลัยมหาสารคาม. สมพร เชื้อพันธ์. (2547). การเปรียบเทียบผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนคณิตศาสตร์ของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษา ปีที่ 3 โดยใช้วิธีการจัดการเรียนการสอนแบบสร้างองค์ ความรู้ด้วยตนเอง กับการจัดการเรียนการสอนตามปกติ. วิทยานิพนธ์ ค.ม. (หลักสูตรและการสอน).


57 พระนครศรีอยุธยาบัณฑิตวิทยาลัย สถาบันราชภัฎพระนครศรีอยุธยา. สื่อสารการศึกษา มหาวิทยาลัยนเรศวร. สาคร ธรรมศักดิ์. (2541). ผลการสอนตามแนวคอนสตรัคติวิซึมแบบรวมมือที่มีต่อผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนและความสามารถในการคิดแก้ปัญหาสิ่งแวดลอมของนักเรียนชั้น มัธยมศึกษาปที่ 4. ปริญญานิพนธ กศ.ม. (วิชาการมัธยมศึกษา) กรุงเทพฯ : บัณฑิต วิทยาลัย มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ. สิริพร ทิพย์คง. (2545). หลักสูตรและการสอนคณิตศาสตร์. กรุงเทพฯ : พัฒนาคุณภาพวิชาการ. อธิปัตย์ คลี่สุนทร. "ว่าด้วยคณิตศาสตร์ : ข้อคิดเพื่อพิจารณา," วารสารวิซาการ. 6(4) : 6-9 : เมษายน 2546 อัมพร ม้าคนอง. (2546). คณิตศาสตร์: การสอนและการเรียนรู้. กรุงเทพฯ : ศูนย์ต าราและเอกสาร ทางวิชาการ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย. Bloom, B. (1961). Taxonomy of Educational Objectives, Handbook l : Cognitive Domain. New York Neuman, W.L. (2007) Basics of Social Research Methods: Qualitative and Quantitative Approaches. 2nd Edition, Allyn and Bacon, Boston. Uraiwan. (30 สิงห าคม 2559). ผ ล สัม ฤท ธิ์ท า ง ก า ร เ รี ยน (achievement). สืบค้น จ า ก http://kruoiysmarteng.blogspot.com/2016/08/achievement.html.


ภาคผนวก


ภาคผนวก ก รายนามผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในการวิจัย


60 รายชื่อผู้เชี่ยวชาญตรวจสอบคุณภาพเครื่องมือที่ใช้ในงานวิจัย ผู้เชี่ยวชาญด้านการเรียนการสอนคณิตศาสตร์ที่ประเมินแผนการจัดการเรียนรู้และแบบทดสอบ วัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียน มีรายนามดังต่อไปนี้ 1. นายชัยพงษ์ อินมาตย์ ครูช านาญการ วิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนเทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา อ าเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี 2. นางธันย์วรัชญ์ สรรพกิจก าจร ครูช านาญการพิเศษ วิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนเทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา อ าเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี 3. นางสาวรัติยา ค าใบ ครูช านาญการ วิชาคณิตศาสตร์ โรงเรียนเทศบาล ๕ สีหรักษ์วิทยา อ าเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี


ภาคผนวก ข แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ


62 แบบตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้อง ของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง ค าชี้แจง ขอให้ท่านพิจารณาประเมินแผนการจัดการเรียนรู้ในแต่ละรายการประเมิน โดยท าเครื่องหมาย ในช่องผลการประเมินตามเกณฑ์การพิจารณาดังนี้ +1 หมายถึง รายการประเมินนั้นสอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้ 0 หมายถึง ไม่แน่ใจว่ารายการประเมินนั้นสอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้ - 1 หมายถึง รายการประเมินนั้นไม่สอดคล้องกับแผนการจัดการเรียนรู้ พร้อมให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติม รายการประเมิน ผลการประเมิน ข้อเสนอแนะ +1 0 -1 1. แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญครบถ้วนและ สัมพันธ์กัน 2. เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ 3. กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและวัตถุประสงค์ 4. กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและสอดคล้อง กับความสามารถนักเรียน 5. กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือ ปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง 6. กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับระดับชั้น 7. สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและวัตถุประสงค์ 8. สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และ ความสามารถนักเรียน 9. วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับวัตถุประสงค์และ กิจกรรม 10. เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้านความรู้ ทักษะ และเจตคติ ข้อเสนอแนะอื่น ๆ ............................................................................................................................. ................................... ................................................................................................ ................................................................ ............................................................................................................................. ................................... ลงชื่อ..........................................................ผู้ประเมิน ( ) วันที่...........เดือน...................................พ.ศ...............


63 การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง ค าชี้แจง ขอให้ท่านผู้เชี่ยวชาญได้กรุณาแสดงความคิดเห็นของท่านที่มีต่อแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง โดยใส่เครื่องหมาย ลงในช่องความคิดเห็น ของท่านพร้อมเขียนข้อเสนอแนะที่เป็นประโยชน์ในการน าไปพิจารณาปรับปรุงต่อไป เกณฑ์การประเมิน +1 แน่ใจว่าข้อค าถามสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม 0 ไม่แน่ใจว่าข้อค าถามสอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม -1 แน่ใจว่าข้อค าถามไม่สอดคล้องกับจุดประสงค์เชิงพฤติกรรม จุดประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ น้ าหนัก ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 เขียนเลขยกก าลัง ในรูปการคูณได้ 1. 94 เขียนในรูปเลขยกก าลังได้ตามข้อใด ก. 9 + 9 + 9 +9 ข. 9 x 9 x 9 x 9 ค. 9 - 9 - 9 - 9 ง. 9 9 9 9 เขียนเลขยกก าลัง ในรูปการคูณได้ 2. (-7)(-7)(-7)(-7) เขียนในรูปเลขยกก าลัง ได้ตามข้อใด ก. (−7) ข. (−7) 7 ค. (−7) 4 ง. −7 4 เขียนเลขยกก าลัง ในรูปการคูณได้ 3. an หมายถึงข้อใด ก. a x a x a x … x a (n ตัว) ข. a + a + a + … + a (n ตัว) ค. n + n + n + … + n (n ตัว) ง. n x n x n x … x n (n ตัว) บอกค่าของ เลขยกก าลังได้ 4. (0.5)4 เท่ากับจ านวนใด ก. 2 4 ข. ค. 0.625 ง. 2.0 2 1 4


64 จุดประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ น้ าหนัก ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 บอกค่าของ เลขยกก าลังได้ 5. a0 เท่ากับจ านวนใด ก. 0 ข. 1 ค. a ง. 2 . บอกค่าของ เลขยกก าลังได้ 6. (0.7)4 แทนจ านวนใด ก. 0.28 ข. 0.49 ค. 0.343 ง. 0.2401 บอกค่าของ เลขยกก าลังได้ 7. 3,125 เขียนในรูปเลขยกก าลังได้เท่ากับ ข้อใด ก. 5 3 ข. 5 4 ค. 5 5 ง. 5 6 หาผลลัพธ์ของ การหารของ เลขยกก าลังที่มี เลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 8. (-2)7 2 4 ได้ผลลัพธ์เท่ากับข้อใด ก. -6 ข. 6 ค. -8 ง. 8 หาผลลัพธ์ของ การคูณและการหาร เลขยกก าลัง เมื่อเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มบวกได้ 9. 2 6 2 4 2 7 ได้ผลลัพธ์เท่ากับข้อใด ก. 2 3 ข. 2 4 ค. 2 7 ง. 2 8


65 จุดประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ น้ าหนัก ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 บอกค่าของ เลขยกก าลังได้ 10. 107 + 106 + 105 + 104 + 102 เท่ากับ จ านวนใด ก. 111,101 ข. 1,111,010 ค. 11,111,010 ง. 11,101,100 บอกค่าของ เลขยกก าลังได้ 11. 5,693 105 เท่ากับจ านวนใด ก. 56,930,000 ข. 569,300,000 ค. 5,693,000,000 ง. 66,930 106 หาผลลัพธ์ของการ คูณของเลขยกก าลัง ที่มีเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 12. ผลคูณของ 2 3 2 5 เท่ากับข้อใด ก. 2 4 ข. 2 6 ค. 2 8 ง. 2 10 หาผลลัพธ์ของการ คูณของเลขยกก าลัง ที่มีเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 13. ผลคูณของ 5 10 5 5 5 3 เท่ากับ ข้อใด ก. 5 16 ข. 5 18 ค. 5 20 ง. 5 22


66 จุดประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ น้ าหนัก ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 หาผลลัพธ์ของการ คูณของเลขยกก าลัง ที่มีเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 14. (9.7)4 (9.7)-3 เท่ากับข้อใด ก. 1 ข. 9.7 ค. (9.7)7 ง. (9.7)-12 หาผลลัพธ์ของการ คูณของเลขยกก าลัง ที่มีเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 15. 32 2 -5 3 -1 เท่ากับข้อใด ก. ข. 1 ค. 3 ง. 0 หาผลลัพธ์ของการ คูณของเลขยกก าลัง ที่มีเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 16. ผลลัพธ์ของ (3 2 ) (3) 2 ( 12) เป็นเท่าใด ก. 9 14 ข. 9 16 ค. 27 14 ง. 27 16 หาผลลัพธ์ของการ คูณของเลขยกก าลัง ที่มีเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 17. 1,599 เท่ากับข้อใด ก. 1,599 ข. 1,600 ค. 21,599 ง. 21,600 หาผลลัพธ์ของการ คูณของเลขยกก าลัง ที่มีเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 18. 5 8 25 เท่ากับข้อใด ก. 5 4+1 ข. 5 6+2 ค. 5 8+2 ง. 5 10+1 3 1


67 จุดประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ น้ าหนัก ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 หาผลลัพธ์ของการ คูณของเลขยกก าลัง ที่มีเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 19. (9 55) x (9 125) เท่ากับข้อใด ก. 81180 ข. 81−180 ค. −9 180 ง. 9 180 เขียนจ านวนที่ ก าหนดให้ ในรูป สัญกรวิทยาศาสตร์ ได้ 20. 0.0000045 เขียนให้อยู่ในรูป A 10n เมื่อ 1 A < 10 และ n เป็นจ านวนเต็ม ใด ๆ ได้เท่าไร ก. 4.5 10-5 ข. 4.5 10-6 ค. 4.5 105 ง. 4.5 106 หาผลลัพธ์ของ การหารของ เลขยกก าลังที่มี เลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 21. ผลหารของ 7 6 7 5 เท่ากับข้อใด ก. 7 ข. 7 0 ค. 7 2 ง. 7 3 หาผลลัพธ์ของ การหารของ เลขยกก าลังที่มี เลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 22. ผลหารของ 0.1 6 0.1 10 เท่ากับข้อใด ก. 0.1 −4 ข. 0.1 −3 ค. 0.1 −2 ง. 0.1 −1 หาผลลัพธ์ของ การหารของ เลขยกก าลังที่มี เลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 23. ผลหารของ (−10) 9 (−10) 2 เท่ากับข้อใด ก. (−10) 7 ข. (−10) −7 ค. 107 ง. 10−7


68 จุดประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ น้ าหนัก ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 บอกค่าของ เลขยกก าลังได้ 24. 2 10 + 2 8 เท่ากับข้อใด ก. 1,280 ข. 1,380 ค. 2,280 ง. 2,380 บอกค่าของ เลขยกก าลังได้ 25. 2 n 2 n 2 2n มีค่าเท่ากับข้อใด ก. 4 2n ข. 2 2n + 1 ค. 2 4n ง. 2 n 2 + 2n หาผลลัพธ์ของ การคูณและการหาร เลขยกก าลัง เมื่อเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มบวกได้ 26. เท่ากับจ านวนใด ก. 0 ข. 1 ค. 2 ง. หาผลลัพธ์ของการ คูณของเลขยกก าลัง ที่มีเลขชี้ก าลังเป็น จ านวนเต็มได้ 27. (−2 2 ) (−3) 2 (4 2 ) เท่ากับข้อใด ก. 24 6 ข. −24 5 ค. −72 6 ง. 72 6 เขียนจ านวนที่ ก าหนดให้ ในรูป สัญกรวิทยาศาสตร์ ได้ 28. ข้อใดเป็นรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ของ 23,500 ก. 2.35 x 10 ข. 2.35 x 10 2 ค. 2.35 x 10 3 ง. 2.35 x 10 4 0.5 2 (0.25) 4 3 4 − − − 2 1


69 จุดประสงค์ การเรียนรู้ ข้อสอบ น้ าหนัก ข้อเสนอแนะ -1 0 +1 เขียนจ านวนที่ ก าหนดให้ ในรูป สัญกรวิทยาศาสตร์ ได้ 29. ข้อใดเป็นรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ของ 0.0001 ก. 1 x 10 −2 ข. 1 x 10 −4 ค. 1 x 10 −6 ง. 1 x 10 −8 เขียนจ านวนที่ ก าหนดให้ในรูป สัญกรวิทยาศาสตร์ ได้ 30. ข้อใดเป็นรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ของ 2,300 ก. 2.3 x 10 −2 ข. 2.3 x 10 −3 ค. 2.3 x 10 2 ง. 2.3 x 10 3 ข้อเสนอแนะ ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................................................. ................................... ............................................................................................... ................................................................. ............................................................................................................................. ................................... .......................................................................................................................................................... ...... ลงชื่อ........................................ผู้ประเมิน (............................................................)


ภาคผนวก ค ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ


71 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 24 เรื่อง ความหมายของเลขยกก าลัง ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้


72 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 25 เรื่อง เลขยกก าลังที่มีเลขชี้ก าลังเป็นจ านวนเต็มบวก ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้


73 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 26 เรื่อง การคูณเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกันและ เลขชี้ก าลังเป็นจ านวนเต็มบวก (1) ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้


74 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 27 เรื่อง การคูณเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกันและ เลขชี้ก าลังเป็นจ านวนเต็มบวก (2) ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้


75 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 28 เรื่อง การหารเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกันและ เลขชี้ก าลังเป็นจ านวนเต็มบวก (1) ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้


76 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 29 เรื่อง การหารเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกันและ เลขชี้ก าลังเป็นจ านวนเต็มบวก (2) ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้


77 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 30 เรื่อง การหารเลขยกก าลังที่มีฐานเดียวกันและ เลขชี้ก าลังเป็นจ านวนเต็มบวก (3) ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้


78 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 31 เรื่อง การคูณและการหารเลขยกก าลังเมื่อเลขชี้ก าลัง เป็นจ านวนเต็มบวก ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้


79 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 32 เรื่อง การใช้เลขยกก าลังแสดงจ านวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ (1) ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้


80 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแผนการจัดการเรียนรู้วิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 33 เรื่อง การใช้เลขยกก าลังแสดงจ านวนในรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ (2) ข้อ รายการพิจารณา ความคิดเห็น ผู้เชี่ยวชาญคนที่ ค่า IOC แปลผล 1 2 3 1 แผนการจัดการเรียนรู้มีองค์ประกอบส าคัญ ครบถ้วนและสัมพันธ์กัน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 2 เนื้อหา/สาระการเรียนรู้สอดคล้องกับจุดประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 3 กิจกรรมการเรียนรู้สอดคล้องกับเนื้อหาและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 4 กิจกรรมการเรียนรู้หลากหลาย เหมาะสมและ สอดคล้องกับความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 5 กิจกรรมการเรียนรู้เน้นทักษะกระบวนการคิด การลงมือปฏิบัติ และสร้างความรู้ด้วยตนเอง +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 6 กิจกรรมการเรียนรู้มีความยากง่ายเหมาะสมกับ ระดับชั้น +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 7 สื่อ/แหล่งเรียนรู้สอดคล้องกับกิจกรรมและ วัตถุประสงค์ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 8 สื่อหลากหลายสอดคล้องกับวัตถุประสงค์ วัย และความสามารถนักเรียน +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 9 วิธีการวัดผลและเครื่องมือสอดคล้องกับ วัตถุประสงค์และกิจกรรม +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้ 10 เกณฑ์การประเมินผลชัดเจน ครอบคลุมทั้งด้าน ความรู้ ทักษะ และเจตคติ +1 +1 +1 1.00 ใช้ได้


81 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง ข้อที่ ผลการประเมินผู้เชี่ยวชาญ รวม IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 1 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 2 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 3 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 4 0 +1 +1 2 0.67 ใช้ได้ 5 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 6 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 7 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 8 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 9 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 10 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 11 +1 +1 0 2 0.67 ใช้ได้ 12 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 13 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 14 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 15 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 16 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 17 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 18 +1 0 +1 2 0.67 ใช้ได้ 19 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 20 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 21 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 22 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 23 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้


82 ผลการตรวจสอบคุณภาพของเครื่องมือโดยผู้เชี่ยวชาญ การหาค่าดัชนีความสอดคล้องของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ (Index of Item Objective Congruence : IOC) เรื่อง เลขยกก าลัง ข้อที่ ผลการประเมินผู้เชี่ยวชาญ รวม IOC แปลผล คนที่ 1 คนที่ 2 คนที่ 3 24 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 25 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 26 +1 0 +1 2 0.67 ใช้ได้ 27 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 28 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 29 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ 30 +1 +1 +1 3 1.00 ใช้ได้ หมายเหตุ การแปลผลค่า IOC ใช้เกณฑ์ ดังนี้ IOC < 0.5 หมายถึง ข้อสอบไม่สอดคล้องกับเนื้อหา ควรตัดข้อสอบนั้นทิ้งไป IOC ≥ 0.5 หมายถึง ข้อสอบสอดคล้องกับเนื้อหา สามารถใช้ข้อสอบข้อนั้นได้


ภาคผนวก ง แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ผลการวิเคราะห์ค่าความยากง่าย (p) และค่าอ านาจจ าแนก (r)


84 แบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ สาระการเรียนรู้คณิตศาสตร์ หน่วยการเรียนรู้ที่ 2 เลขยกก าลัง ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 1 ประจ าภาคเรียนที่ 1 ปีการศึกษา 2565 จ านวน 20 ข้อ คะแนนเต็ม 10 คะแนน เวลา 50 นาที ค าชี้แจง แบบทดสอบฉบับนี้เป็นแบบทดสอบแบบเลือกตอบชนิด 4 ตัวเลือก จ านวน 20 ข้อ โดยให้นักเรียนท าเครื่องหมาย ลงในกระดาษค าตอบในข้อที่ถูกต้องที่สุดเพียงข้อเดียว 1. a n หมายถึงข้อใด ก. a x a x a x … x a (n ตัว) ข. a + a + a + … + a (n ตัว) ค. n + n + n + … + n (n ตัว) ง. n x n x n x … x n (n ตัว) 2. (-7)(-7)(-7)(-7) เขียนในรูปเลขยกก าลัง ได้ตามข้อใด ก. (−7) ข. (−7) 7 ค. (−7) 4 ง. −7 4 3. (0.5)4 เท่ากับจ านวนใด ก. 2 4 ข. 1 2 4 ค. 0.625 ง. 2.0 4. (0.7)4 แทนจ านวนใด ก. 0.28 ข. 0.49 ค. 0.343 ง. 0.2401 5. 3,125 เขียนในรูปเลขยกก าลังได้เท่ากับ ข้อใด ก. 5 3 ข. 5 4 ค. 5 5 ง. 5 6 6. ผลคูณของ 2 3 2 5 เท่ากับข้อใด ก. 2 4 ข. 2 6 ค. 2 8 ง. 2 10 7. ผลคูณของ 5 10 5 5 5 3 เท่ากับ ข้อใด ก. 5 16 ข. 5 18 ค. 5 20 ง. 5 22 8. (9.7)4 (9.7)-3 เท่ากับข้อใด ก. 1 ข. 9.7 ค. (9.7)7 ง. (9.7)-12 9. ผลลัพธ์ของ (3 2 ) (3) 2 ( 12) เป็นเท่าใด ก. 9 14 ข. 9 16 ค. 27 14 ง. 27 16 10. 1,599 เท่ากับข้อใด ก. 1,599 ข. 1,600 ค. 21,599 ง. 21,600


85 11. (9 55) x (9 125) เท่ากับข้อใด ก. 81180 ข. 81−180 ค. −9 180 ง. 9 180 12. ผลหารของ 7 6 7 5 เท่ากับข้อใด ก. 7 ข. 7 0 ค. 7 2 ง. 7 3 13. ผลหารของ 0.1 6 0.1 10 เท่ากับข้อใด ก. 0.1 −4 ข. 0.1 −3 ค. 0.1 −2 ง. 0.1 −1 14. ผลหารของ (−10) 9 (−10) 2 เท่ากับข้อใด ก. (−10) 7 ข. (−10) −7 ค. 107 ง. 10−7 15. (-2)7 2 4 ได้ผลลัพธ์เท่ากับข้อใด ก. -6 ข. 6 ค. -8 ง. 8 16. 2 6 2 4 2 7 ได้ผลลัพธ์เท่ากับข้อใด ก. 2 3 ข. 2 4 ค. 2 7 ง. 2 8 17. 0.0000045 เขียนให้อยู่ในรูป A 10n เมื่อ 1 A < 10 และ n เป็น จ านวนเต็มใด ๆ ได้เท่าไร ก. 4.5 10-5 ข. 4.5 10-6 ค. 4.5 105 ง. 4.5 106 18. ข้อใดเป็นรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ของ 23,500 ก. 2.35 x 10 ข. 2.35 x 10 2 ค. 2.35 x 10 3 ง. 2.35 x 10 4 19. ข้อใดเป็นรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ของ 0.0001 ก. 1 x 10 −2 ข. 1 x 10 −4 ค. 1 x 10 −6 ง. 1 x 10 −8 20. ข้อใดเป็นรูปสัญกรณ์วิทยาศาสตร์ของ 2,300 ก. 2.3 x 10 −2 ข. 2.3 x 10 −3 ค. 2.3 x 10 2 ง. 2.3 x 10 3


86 เฉลยแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ ข้อ ก ข ค ง ข้อ ก ข ค ง 1 11 2 12 3 13 4 14 5 15 6 16 7 17 8 18 9 19 10 20


87 ผลการวิเคราะห์ค่าความยากง่าย (p) และค่าอ านาจจ าแนก (r) ของแบบทดสอบวัดผลสัมฤทธิ์ทางการเรียนวิชาคณิตศาสตร์ เรื่อง เลขยกก าลัง ข้อที่ ประสิทธิภาพแบบทดสอบ ผลการวิเคราะห์ ค่าความยากง่าย (p) ค่าอ านาจจ าแนก (r) 1 0.57 0.08 ใช้ไม่ได้ 2 0.63 0.80 ใช้ได้ 3 0.67 0.58 ใช้ได้ 4 0.60 0.69 ใช้ได้ 5 0.53 0.01 ใช้ไม่ได้ 6 0.43 0.53 ใช้ได้ 7 0.37 0.23 ใช้ได้ 8 0.20 0.33 ใช้ได้ 9 0.57 0.69 ใช้ได้ 10 0.10 0.02 ใช้ไม่ได้ 11 0.17 0.13 ใช้ไม่ได้ 12 0.47 0.71 ใช้ได้ 13 0.43 0.71 ใช้ได้ 14 0.53 0.69 ใช้ได้ 15 0.10 0.02 ใช้ไม่ได้ 16 0.50 0.82 ใช้ได้ 17 0.43 0.30 ใช้ได้ 18 0.23 0.04 ใช้ไม่ได้ 19 0.50 0.50 ใช้ได้ 20 0.30 0.37 ใช้ได้ 21 0.40 0.23 ใช้ได้ 22 0.50 1.00 ใช้ได้ 23 0.37 0.53 ใช้ได้ 24 0.37 0.14 ใช้ไม่ได้ 25 0.17 0.04 ใช้ไม่ได้ 26 0.20 0.15 ใช้ไม่ได้ 27 0.50 0.19 ใช้ไม่ได้ 28 0.37 0.21 ใช้ได้ 29 0.47 0.82 ใช้ได้ 30 0.50 0.60 ใช้ได้


88 หมายเหตุ การพิจารณาค่าความยาก (p) ที่พอเหมาะ ควรมีค่าตั้งแต่ 0.20 – 0.80 การพิจารณาค่าอ านาจจ าแนก (r) ที่พอเหมาะ ควรมีค่าตั้งแต่ 0.20 ขึ้นไป


89 ผลการทดสอบระหว่างคะแนนหลังเรียนกับเกณฑ์ร้อยละ 70 วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมส าเร็จรูป PSPP ผลการทดสอบค่าเฉลี่ยของสมมติฐานทางสถิติ (t-test for Dependent Sample) ระหว่างคะแนนก่อนเรียนกับคะแนนหลังเรียน วิเคราะห์ข้อมูลโดยใช้โปรแกรมส าเร็จรูป PSPP


Click to View FlipBook Version