แผนการจัดการเรยี นร้รู ายวิชา ทช 21002 สขุ ศึกษา พลศึกษา
ระดับมัธยมศึกษาตอนต้น ตามหลักสูตรการศกึ ษานอกระบบระดบั
การศกึ ษาข้นั พน้ื ฐาน พทุ ธศกั ราช 2551 ประจำภาคเรยี นท่ี 1
ปกี ารศกึ ษา 2563
กศน.ตำบลนำ้ ออ้ ม
ศนู ยก์ ารศกึ ษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัยอำเภอกันทรลักษ์
สำนกั งานส่งเสรมิ การศึกษานอกระบบและการศกึ ษาตามอธั ยาศยั
สำนักงานปลดั กระทรวงศึกษาธกิ าร
กระทรวงศึกษาธิการ
คำนำ
แผนการจัดการเรียนรู้ เป็นเคร่ืองมือสำคัญสำหรับครูท่ีจะทำให้การจัดการเรียนรู้บรรลุ
เป้าหมายที่ต้องการ เป็นการวางแผนไว้ล่วงหน้าโดยศึกษาในเร่ือง สาระพระราชบัญญัติการศึกษา
แห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ (ฉบับปรับปรุง พ.ศ. ๒๕๔๕) หมวด ๓ ระบบการศึกษา และ หมวด ๔ แนวการ
จดั การศึกษาทุกมาตรากรอบของการจัดการศึกษาตามหลักสูตรการศึกษานอกระบบระดับการศกึ ษาข้ัน
พ้ืนฐาน พุทธศักราช ๒๕๕๑ เอกสารเก่ียวกับการประกันคุณภาพการศึกษา โดยจัดกระบวนการเรยี นรู้
ให้สอดคล้องกับมาตรฐานเอกสารเกี่ยวกับเนื้อหาในรายวิชาท่ีจัดการเรียนรู้ และศึกษาหาข้อมูลจาก
แหล่งเรียนรูต้ า่ ง ๆ วิธกี ารจัดการเรียนรู้แบบต่าง ๆ ซงึ่ เนน้ ผู้เรียนเปน็ สำคัญและรูปแบบการเรียนรู้ โดย
กำหนดให้ใชร้ ูปแบบการจัดกระบวนการเรียนรู้ กศน. (ONIE MODEL) ซึง่ มี ๔ ขนั้ ตอน ได้แก่ ขนั้ ตอน
ที่ ๑ การกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรียนรู้ (O : Orientation) ขั้นตอนที่ ๒ การ
แสวงหาข้อมูลและจัดการเรียนรู้ (N : New ways of learning) ข้ันตอนท่ี ๓ การปฏิบัติและนำไป
ประยุกต์ใช้ (I : Implementation) ขั้นตอนที่ ๔ การประเมินผล (E : Evaluation) แผนการเรียนรู้จะ
ทำให้ครูได้คู่มือการจัดการเรียนรู้ ทำให้ดำเนินการจัดการเรียนรู้ได้ครบถ้วนตรงตามหลักสูตรและจัดการ
เรยี นร้ไู ด้ตรงเวลา
ในการจัดทำแผนการเรียนรู้ดังกล่าว สำเร็จลงได้ด้วยความร่วมมือจากข้าราชการบำนาญ
ผู้บริหาร นักวิชาการ และครู กศน. ที่ได้เสนอแนะความคิดเห็นอันเป็นประโยชน์ย่ิงต่อการพัฒนาเป็น
แผนการจัดการเรยี นรู้ สำนกั งาน กศน. ขอขอบคุณในความร่วมมอื มาในโอกาสน้ี
ผจู้ ัดทำ
สารบัญ หนา้
คำอธบิ ายรายวชิ า 1
รายละเอยี ดวชิ า 11
ผลการวเิ คราะห์รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา
แผนการจดั การเรียนรู้แบบพบกล่มุ 13
27
แผนการจัดการเรยี นรู้ที่ 1 เรื่อง การดูแลรกั ษาสุขภาพ 32
แผนการจัดการเรยี นรู้ท่ี 2 เร่ือง การป้องกนั สารเสพติด 38
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 3 เรื่อง อบุ ตั ิเหตุ อบุ ัตภิ ัย (ครั้งที่ 1) 43
แผนการจัดการเรียนรู้ที่ 4 เร่ือง อบุ ตั เิ หตุ อุบัตภิ ัย (คร้ังท่ี 2) 43
แผนการจดั การเรยี นร้แู บบการเรียนรู้ด้วยตนเอง 51
แผนการจดั การเรยี นรู้ คร้ังท่ี 5 เร่อื ง พฒั นาการของร่างกาย 56
แผนการจดั การเรยี นรู้ คร้ังที่ 6 เรอ่ื ง การดูแลรักษาสขุ ภาพ 62
แผนการจดั การเรยี นรู้ ครั้งที่ 7 เรือ่ ง สารอาหาร 67
แผนการจดั การเรยี นรู้ คร้ังท่ี 8 เร่อื ง โรคระบาด 72
แผนการจัดการเรียนรู้ คร้ังท่ี 9 เร่อื ง ยาแผนโบราณและสมุนไพร
แผนการจดั การเรียนรู้ คร้ังท่ี 10 เรื่อง ทักษะชวี ติ เพือ่ การสือ่ สาร
คำอธบิ ายรายวิชา ทช 21002 สุขศกึ ษา พลศกึ ษา จำนวน 2 หนว่ ยกติ
ระดับมัธยมศกึ ษาตอนต้น
มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดบั
รู้ เขา้ ใจ มีคณุ ธรรม จริยธรรมและเจตคติทีด่ ี มีทักษะในการดูแล และสร้างเสริมการมี
พฤติกรรมสขุ ภาพที่ดี ปฏิบัตจิ นเปน็ กิจนิสยั หลีกเล่ียงพฤตกิ รรมเสย่ี งต่อสขุ ภาพ ตลอดจนส่งเสริม
สขุ ภาพพลานามัยและสภาพ แวดลอ้ มทีด่ ีในชมุ ชน
ศกึ ษา ฝกึ ปฏิบตั ิ และประยกุ ต์ใช้ สุขศึกษา พลศึกษา ดังน้คี อื
สุขศึกษา พลศึกษา เกี่ยวกับเร่ืองพัฒนาการของร่างกาย ความสัมพันธ์ในครอบครัวและชุมชน
สุขภาพทางเพศ สารอาหาร สุขภาพกาย โรคระบาด ยาแผนโบราณ และสมุนไพร การป้องกันสารเสพ
ตดิ อันตรายจากการประกอบอาชีพ ทักษะชีวติ เพื่อการส่ือสาร เพ่ือให้มีความรู้ ความเข้าใจ มีเจตคติ
ท่ีดี และสามารถดูแลสุขภาพ พลานามัย สร้างเสริมพฤติกรรมสุขภาพท่ีดี มีสรรถภาพทางกายและทาง
จิต ป้องกันโรคได้ ปฏิบัติเป็นกิจนิสัย ดำรงสุขภาพที่ดีและประยุกต์ใช้ในการดำเนินชีวิตของตนเอง
ครอบครวั ชมุ ชนไดอ้ ยา่ งเหมาะสม ปลอดภยั มีความสขุ มีสว่ นรว่ มในการส่งเสริมสุขภาพ พลานามัย
และส่ิงแวดลอ้ มท่ีดีในชมุ ชน
การจดั ประสบการณ์การเรียนรู้
ศกึ ษาเอกสาร ส่อื ทกุ ประเภท วเิ คราะห์ อภปิ รายแลกเปลี่ยนเรียนรู้ ศกึ ษาจากสภาพจริง
สาธิต ทดลองฝึกปฏิบัติ ค้นคว้า สรุป บันทึก ตรวจสอบ การประเมินตนเอง จัดทำชิ้นงาน/ผลงาน
จดั แสดงนทิ รรศการ ศึกษาดูงาน กิจกรรมคา่ ย ฯลฯ
การวัดและประเมินผล
ประเมินความรู้ ความเข้าใจ ตรวจสอบ ช้ินงาน/ผลงานและประเมินการปฏิบัติจริง
โดยวธิ กี ารทดสอบ สังเกต สมั ภาษณ์ ประเมินสภาพจริง
รายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทช 2102 สุขศกึ ษา พลศึกษา จำนวน 2 หน่วยกติ
ระดบั มธั ยมศึกษาตอนต้น
มาตรฐานการเรยี นร้รู ะดับ
รู้ เข้าใจ มีคุณธรรม จริยธรรมและเจตคติท่ีดี มีทักษะในการดูแล และสร้างเสริมการมี
พฤติกรรมสุขภาพท่ีดี ปฏิบัติจนเป็นกิจนิสัย หลีกเล่ียงพฤติกรรมเสี่ยงต่อสุขภาพ ตลอดจนส่งเสริม
สุขภาพพลานามยั และสภาพ แวดล้อมทด่ี ใี นชุมชน
ท่ี หัวเร่อื ง ตัวช้ีวัด เน้อื หา จำนวน
(ช่วั โมง)
1 พัฒนาการของ 1.อธบิ ายโครงสร้าง หน้าที่ 1.โครงสร้าง หนา้ ที่ การทำงาน 10
รา่ งกาย และการทำงานของระบบ และการดูแลรักษาระบบตา่ งๆที่
อวยั วะสำคญั ของร่างกาย 5 สำคัญของร่างกาย 5 ระบบ
ระบบได้อย่างถูกต้อง -ระบบผวิ หนงั
2.ปฏบิ ตั ติ นในการดูแลรกั ษา -ระบบกลา้ มเน้ือ
และปอ้ งกันอาการผิดปกติของ -ระบบกระดูก
ระบบอวยั วะสำคัญ 5 ระบบได้ -ระบบไหลเวียนโลหติ
อยา่ งถูกต้อง -ระบบหายใจ
2. พฒั นาการและการเปล่ียน
แปลงตามวัยด้านร่างกาย จิตใจ
3. อธิบายพฒั นาการและการ อารมณ์ สังคม สตปิ ญั ญา
เปลี่ยนแปลงตามวยั ของมนุษย์ - วยั ทารก
ดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์
- วยั เด็ก
สงั คม สตปิ ัญญาไดอ้ ย่าง
ถูกต้อง - วัยรนุ่
- วยั ผ้ใู หญ่
- วยั ชรา
2 การดแู ลรักษา 1. อธิบายประโยชน์ของการ 1. หลักการดแู ลสุขภาพเบ้ืองต้น 20
สขุ ภาพ ออกกำลงั กายและโทษของการ การดูแลสุขภาพตามหลัก 5 อ
ขาดการออกกำลังกาย ได้แก่ อาหาร อากาศ อารมณ์
อจุ จาระ อนามยั
2. อธิบายรปู แบบและวิธกี าร 2. การออกกำลงั กาย รปู แบบ และ
ออกกำลังกายเพอ่ื สุขภาพ วธิ กี ารออกกำลงั กายเพื่อสขุ ภาพ
- ประโยชนแ์ ละโทษของ
การออกกำลังกาย
- รปู แบบและวธิ กี ารออก
กำลงั กายเพ่ือสุขภาพ
- การเดินเรว็
ท่ี หัวเร่ือง ตัวชี้วัด เนื้อหา จำนวน
3 สารอาหาร (ชั่วโมง)
3. ระบุการเปลย่ี นแปลงเม่ือ - การว่งิ เหยาะ
เขา้ วยั หน่มุ สาว - การข่ีจกั รยาน 10
- การเลน่ โยคะ
4. อธบิ ายวธิ กี ารหลีกเลยี่ ง - เตน้ แอโรบคิ
พฤติกรรมทนี่ ำไปสู่การมี - ว่ายนำ้
เพศสมั พันธ์ การลว่ งละเมดิ ฯลฯ
ทางเพศและการต้ังครรภท์ ไี่ ม่ 3. สขุ ภาพทางเพศ
พึงประสงค์ - การคมุ กำเนดิ
5. อธบิ ายวิธีการดูแลสุขภาพ - การท้องไมพ่ ร้อม
ทางเพศท่ีเหมาะสมและไมท่ ำ - การทำแท้ง
ใหเ้ กดิ ปญั หาทางเพศ - การติดเชอ้ื HIVS
4. พฤตกิ รรมทน่ี ำไปสกู่ ารลว่ ง
1. วเิ คราะห์ปญั หาสุขภาพที่ ละเมดิ ทางเพศ การมี
เกิดจากการบรโิ ภคอาหารทีไ่ ม่ เพศสมั พันธ์ และการต้งั ครรภ์ท่ี
ถกู หลักโภชนาการ ไม่พึงประสงค์
- การเปลย่ี นแปลงเมื่อเข้าสู่
2. บอกปรมิ าณสารอาหารท่ี วยั หนุ่มสาว
ร่างกายต้องการตามเพศ วยั - การป้องกันและหลกี เล่ียง
และสภาพร่างกาย พฤติกรรมเส่ยี งต่อการลว่ ง
3. อธบิ ายวิธกี ารประกอบ ละเมิดทางเพศและการตั้งครรภ์
อาหารเพ่ือรกั ษาคุณค่าของ ทีไ่ ม่พึงประสงค์
สารอาหาร 1. ปญั หาสุขภาพทเี่ กิดจากการ
บริโภคอาหารไม่ถกู หลกั
โภชนาการ
- ภาวะทพุ โภชนาการ
- ภาวะโภชนาการเกนิ
อาหาร
2. ปริมาณความต้องการ
สาร อาหารตาม เพศ วยั และ
สภาพร่างกาย
3. วิธีการประกอบอาหารเพือ่
คงคุณคา่ ของสารอาหาร
ที่ หวั เรอื่ ง ตัวชวี้ ัด เน้อื หา จำนวน
(ช่ัวโมง)
4 โรคระบาด อธบิ ายสาเหตุ อาการ การ สาเหตุ อาการ การป้องกนั และ 6
ปอ้ งกันและการรกั ษา โรคท่ี การรกั ษาโรคท่เี ป็นปัญหา
เป็นปัญหาต่อสขุ ภาพไดอ้ ย่าง สาธารณสขุ
ถูกต้อง - โรคไขเ้ ลือดออก
- โรคมาลาเรีย
- โรคไขห้ วัดนก โรคซาร์
- โรคอหวิ าตกโรค
ฯลฯ
5 ยาแผนโบราณและ 1. บอกหลักและวธิ กี ารใชย้ าได้ 1. หลกั และวิธกี ารใช้ยา 6
สมุนไพร อย่างถูกต้อง - ยาแผนโบราณ
- ยาสมุนไพร
2. อธิบายอนั ตรายจากการใช้ 2. อนั ตรายจากการใช้ยา
ยาประเภทตา่ งๆได้อย่าง
ถูกต้อง
6 การป้องกันสาร 1.อธบิ ายปัญหา สาเหตุ 1. ปญั หา สาเหตุ ประเภท และ 6
เสพตดิ ประเภทและชนิดของสารเสพ ชนิดของสารเสพตดิ และการ
ตดิ และการป้องกันแก้ไข ป้องกันแก้ไข
2. บอกลกั ษณะอาการของ 2. ลักษณะอาการของผู้ติด
ผ้ตู ิดสารเสพติด สารเสพติด
3. อธบิ ายอันตราย วธิ ีการ 3. อนั ตราย การป้องกันและ
ปอ้ งกนั และหลีกเล่ียง การหลกี เลี่ยงพฤตกิ รรมเสี่ยงต่อ
พฤติกรรมเสี่ยงต่อสารเสพติด สารเสพติด
7 อบุ ัตเิ หตุ อบุ ัตภิ ยั 1. อธิบายปัญหา สาเหตุของ 1. ปัญหา สาเหตุของการเกดิ 12
การเกิดอุบัติเหตุ อุบตั ิภัย และ อบุ ตั เิ หตุ อบุ ัติภยั และภัย
ภยั ธรรมชาติ ธรรมชาติ
2. วเิ คราะหพ์ ฤตกิ รรมเสยี่ งท่ี 2. การปอ้ งกนั อันตรายและ
จะนำไปสคู่ วามไมป่ ลอดภัยใน หลีกเล่ยี งพฤติกรรมเสีย่ งที่
ชีวิตและทรัพยส์ ิน จะนำไปส่คู วามไมป่ ลอดภัยจาก
อบุ ตั เิ หตุ อบุ ัติภัย และภัย
ธรรมชาติ
3. บอกเทคนคิ วิธีการขอความ 3. เทคนิค วิธีการขอความ
ชว่ ยเหลือและการเอาชีวติ รอด ชว่ ยเหลอื และการเอาชวี ิตรอด
เมือ่ เผชญิ อนั ตรายและสถาน เมอื่ เผชญิ อันตรายและ
การณ์คบั ขันได้อย่างเหมาะสม สถานการณ์คับขนั
4. อธบิ ายวิธกี ารปฐมพยาบาล 4. การปฐมพยาบาลเมื่อได้รบั
เม่ือไดร้ ับอนั ตรายจากอุบัติเหตุ อันตรายจากอุบัติเหตุ อบุ ตั ิภัย
อบุ ตั ิภัยได้อย่างถูกต้อง และภยั ธรรมชาติ
ที่ หัวเรือ่ ง ตัวช้ีวัด เน้ือหา จำนวน
(ชัว่ โมง)
8 ทกั ษะชีวิตเพื่อการ 1. บอกความหมายและ 1. ความหมาย ความสำคญั
ส่อื สาร ความสำคัญของทกั ษะชีวิต ของทักษะชีวติ 10 ประการ
(Life Skill) ไดท้ ง้ั 10 ประการ
2. บอกทักษะชีวติ ท่ีจำเป็นได้ 2.ทกั ษะชวี ติ ทจ่ี ำเปน็ 3ประการ
อย่างน้อย 3 ประการ - ทกั ษะการส่ือสารอย่างมี
ประสิทธิภาพ
- ทกั ษะการสรา้ งสมั พนั ธภาพ
ระหว่างบุคคล
- ทกั ษะในการเข้าใจและเห็น
ใจผ้อู น่ื
3. ประยุกตใ์ ช้กระบวนการ
ทกั ษะชวี ติ ในการดำเนนิ ชวี ติ ได้
อยา่ งเหมาะสม
4. แนะนำผู้อื่นในการนำทักษะ
การแก้ปัญหาในครอบครวั และ
การทำงาน
ตารางผลการวเิ คราะหร์ ายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทช21002 สุขศึกษา พลศกึ ษา
ออกแบบแผนการ
จำนวน จัดการเรยี นรู้
ท่ี ตวั ช้วี ัด เน้ือหา (ชัว่ โมง) พบกลุ่ม เรยี นรู้
ด้วยตนเอง
1 1.อธิบายโครงสร้าง หน้าท่ี 1.โครงสร้าง หน้าที่ การ 10
และการทำงานของระบบ ทำงาน และการดแู ลรกั ษา
อวยั วะสำคญั ของร่างกาย ระบบต่างๆที่สำคัญของ
5 ระบบได้อยา่ งถูกต้อง รา่ งกาย 5 ระบบ
-ระบบผิวหนงั
-ระบบกล้ามเนื้อ
-ระบบกระดูก
-ระบบไหลเวยี นโลหติ
-ระบบหายใจ
2.ปฏิบัติตนในการดแู ลรักษา 2. พัฒนาการและการ
และป้องกนั อาการผดิ ปกติ เปลี่ยนแปลงตามวัยดา้ น
ของระบบอวัยวะสำคญั 5 รา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์
ระบบได้อย่างถกู ต้อง สังคม สตปิ ญั ญา
- วัยทารก
3. อธบิ ายพฒั นาการและการ - วยั เด็ก
เปลี่ยนแปลงตามวัยของ
มนุษย์ดา้ นรา่ งกาย จติ ใจ - วยั รนุ่
อารมณ์สังคม สตปิ ัญญาได้ - วัยผู้ใหญ่
อย่างถูกต้อง - วยั ชรา
2 1. อธบิ ายประโยชน์ของการ 1. หลักการดแู ลสขุ ภาพ 6
ออกกำลงั กายและโทษของ เบื้องตน้ การดูแลสุขภาพ
การขาดการออกกำลงั กาย ตามหลกั 5 อ ไดแ้ ก่ อาหาร
อากาศ อารมณ์ อจุ จาระ
อนามัย
ตารางผลการวเิ คราะห์รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา ทช21002 สขุ ศึกษา พลศึกษา
ออกแบบแผนการ
จำนวน จดั การเรยี นรู้
ท่ี ตวั ชี้วัด เนอื้ หา (ชวั่ โมง) พบกลมุ่ เรยี นรู้
ด้วยตนเอง
2. อธิบายรูปแบบและวธิ กี าร 2. การออกกำลังกาย
ออกกำลงั กายเพอื่ สุขภาพ รูปแบบ และวธิ กี ารออก
กำลังกายเพื่อสุขภาพ
- ประโยชนแ์ ละโทษ
ของการออกกำลังกาย
- รูปแบบและวิธกี าร
ออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
- การเดนิ เรว็
- การว่งิ เหยาะ
- การขจ่ี ักรยาน
- การเลน่ โยคะ
- เตน้ แอโรบิค
- วา่ ยน้ำ
ฯลฯ
3. ระบุการเปลย่ี นแปลงเม่ือ 3. สขุ ภาพทางเพศ 14
เข้าวยั หนมุ่ สาว - การคุมกำเนดิ
- การท้องไมพ่ ร้อม
- การทำแทง้
- การตดิ เช้ือ HIVS
4. อธบิ ายวิธกี ารหลกี เลยี่ ง 4. พฤติกรรมที่นำไปสูก่ าร
พฤติกรรมท่นี ำไปสกู่ ารมี ล่วงละเมดิ ทางเพศ การมี
เพศสัมพันธ์ การลว่ งละเมิด เพศสัมพนั ธ์ และการตัง้
ทางเพศและการตง้ั ครรภท์ ีไ่ ม่ ครรภท์ ่ไี ม่พงึ ประสงค์
พงึ ประสงค์
ตารางผลการวิเคราะห์รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา ทช21002 สขุ ศกึ ษา พลศึกษา
ออกแบบแผนการ
จำนวน จดั การเรยี นรู้
ท่ี ตวั ชี้วดั เน้อื หา (ชั่วโมง) พบกลุ่ม เรียนรู้
ดว้ ยตนเอง
5. อธบิ ายวิธกี ารดแู ลสุขภาพ - การเปลยี่ นแปลงเมื่อ
ทางเพศทเี่ หมาะสมและไมท่ ำ เข้าสูว่ ยั หนุ่มสาว
ให้เกดิ ปัญหาทางเพศ - การปอ้ งกนั และ
หลีกเล่ียงพฤติกรรมเสย่ี งต่อ
การลว่ งละเมิดทางเพศและ
การต้งั ครรภ์ท่ีไม่พงึ ประสงค์
3 1. วเิ คราะห์ปญั หาสุขภาพท่ี 1. ปญั หาสุขภาพทีเ่ กิดจาก 10
เกดิ จากการบรโิ ภคอาหารท่ีไม่ การบรโิ ภคอาหารไมถ่ ูกหลัก
ถกู หลักโภชนาการ โภชนาการ
- ภาวะทพุ โภชนาการ
- ภาวะโภชนาการเกิน
อาหาร
2. บอกปริมาณสารอาหารที่ 2. ปรมิ าณความต้องการ
ร่างกายต้องการตามเพศ วยั สารอาหารตาม เพศ วัย
และสภาพร่างการ และสภาพรา่ งกาย
3. อธิบายวธิ ีการประกอบ 3. วิธกี ารประกอบอาหาร
อาหารเพื่อรักษาคุณค่าของ เพอ่ื คงคุณคา่ ของสารอาหาร
สารอาหาร
ตารางผลการวเิ คราะหร์ ายละเอียดคำอธิบายรายวิชา ทช21002 สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา
ออกแบบแผนการ
จำนวน จัดการเรยี นรู้
ท่ี ตวั ชี้วดั เนื้อหา (ชว่ั โมง) พบกลุ่ม เรยี นรู้
ดว้ ยตนเอง
4 อธิบายสาเหตุ อาการ การ สาเหตุ อาการ การปอ้ งกนั 6
ปอ้ งกันและการรกั ษา โรคที่ และการรักษาโรคท่ีเปน็
เป็นปญั หาต่อสขุ ภาพไดอ้ ย่าง ปัญหาสาธารณสุข
ถูกต้อง - โรคไขเ้ ลอื ดออก
- โรคมาลาเรีย
- โรคไขห้ วดั นก
โรคซาร์
- โรคอหวิ าตกโรค
ฯลฯ
5 1. บอกหลักและวิธีการใชย้ า 1. หลักและวธิ กี ารใชย้ า 6
ไดอ้ ยา่ งถูกต้อง - ยาแผนโบราณ
- ยาสมุนไพร
2. อธบิ ายอันตรายจากการใชย้ า 2. อันตรายจากการใช้ยา
ประเภทต่างๆได้อยา่ งถูกต้อง
6 1. อธบิ ายปัญหา สาเหตุ 1. ปญั หา สาเหตุ ประเภท 6
ประเภทและชนิดของสารเสพ และชนิดของสารเสพตดิ
ตดิ และการป้องกันแก้ไข และการป้องกนั แก้ไข
2. บอกลกั ษณะอาการของผู้ 2. ลกั ษณะอาการของผูต้ ิด
ตดิ สารเสพติด สารเสพตดิ
3. อธิบายอันตราย วิธกี าร 3. อนั ตราย การป้องกันและ
ป้องกันและหลีกเลย่ี ง การหลกี เลีย่ งพฤติกรรม
พฤติกรรมเสย่ี งต่อสาร เสย่ี ง
เสพติด
ตารางผลการวิเคราะหร์ ายละเอยี ดคำอธิบายรายวิชา ทช21002 สขุ ศึกษา พลศกึ ษา
ออกแบบแผนการ
จำนวน จัดการเรยี นรู้
ที่ ตัวชีว้ ดั เนอ้ื หา (ช่ัวโมง) พบกลมุ่ เรียนรู้
ด้วยตนเอง
7 1. อธิบายปัญหา สาเหตุของ 1. ปัญหา สาเหตขุ องการ 6
การเกดิ อุบัตเิ หตุ อบุ ัติภยั เกดิ อบุ ัติเหตุ อบุ ตั ิภัย และ
และภยั ธรรมชาติ ภยั ธรรมชาติ
2. วเิ คราะห์พฤตกิ รรมเสีย่ งที่ 2. การป้องกนั อนั ตรายและ
จะนำไปสู่ความไมป่ ลอดภัยใน หลีกเลี่ยงพฤติกรรมเส่ียงท่ี
ชีวิตและทรัพยส์ นิ จะนำไปสคู่ วามไม่ปลอดภัย
จากอบุ ัติเหตุ อุบตั ภิ ัย และ
ภยั ธรรมชาติ
3. บอกเทคนคิ วธิ ีการขอ 3. เทคนิค วิธีการขอความ 6
ความช่วยเหลอื และการเอา ช่วยเหลอื และการเอาชีวิต
ชวี ติ รอดเมอ่ื เผชญิ อนั ตราย รอดเมื่อเผชญิ อันตรายและ
และสถานการณ์คบั ขนั ได้ สถานการณ์คับขัน
อย่างเหมาะสม
4. อธิบายวธิ กี ารปฐมพยาบาล 4. การปฐมพยาบาลเม่ือ
เมือ่ ได้รับอนั ตรายจาก ไดร้ บั อันตรายจากอบุ ัตเิ หตุ
อบุ ตั เิ หตุ อบุ ัติภัยได้อย่าง อุบตั ิภยั และภัยธรรมชาติ
ถกู ต้อง
8 1. บอกความหมายและ 1. ความหมาย ความสำคัญ 10
ความสำคัญของทกั ษะชวี ติ ของทกั ษะชีวติ 10 ประการ
(Life Skill) ได้ทั้ง 10
ประการ 2.ทกั ษะชีวิตทจี่ ำเปน็ 3
2. บอกทักษะชวี ิตทีจ่ ำเปน็ ได้ ประการ
อย่างน้อย 3 ประการ
ตารางผลการวิเคราะห์รายละเอียดคำอธบิ ายรายวิชา ทช21002 สุขศกึ ษา พลศกึ ษา
ออกแบบแผนการ
จัดการเรยี นรู้
จำนวน
ท่ี ตัวช้วี ัด เน้ือหา (ชว่ั โมง) พบกลุ่ม เรียนรู้
ด้วย
ตนเอง
3. ประยกุ ต์ใช้กระบวนการ - ทกั ษะการสื่อสารอยา่ งมี 10
ทกั ษะชีวติ ในการดำเนินชวี ติ ประสิทธภิ าพ
ได้อย่างเหมาะสม - ทักษะการสรา้ ง
4. แนะนำผอู้ นื่ ในการนำ สมั พนั ธภาพระหว่างบุคคล
ทกั ษะการแกป้ ญั หาใน - ทกั ษะในการเข้าใจและ
ครอบครัวและการทำงาน เหน็ ใจผู้อ่นื
แผนการจัดการเรยี นรู้ รายวิชา ทช21002วิชา สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา
จำนวน...2..หน่วยกิต
ครั้งท่ี 1 แบบพบกลมุ่ (6 ช่ัวโมง)
เรอ่ื ง การดแู ลรกั ษาสขุ ภาพ
ตัวชีว้ ดั 1.อธิบายประโยชน์ของการออกกำลังกายและโทษของการขาดการออกกำลังกาย
2.อธิบายรูปแบบและวิธกี ารออกกำลังกายเพื่อสุขภาพ
เนอื้ หา 1.หลักการดแู ลสุขภาพเบอ้ื งต้นการดูแลสขุ ภาพตามหลัก 5 อ ได้แก่ อาหาร อากาศ อารมณ์
อจุ จาระ อนามัย
2.การออกกำลงั กาย รปู แบบ และวธิ ีการออกกำลังเพื่อสขุ ภาพ
1.1 ประโยชน์และโทษของการออกกำลังกาย
2.2 รปู แบบและวธิ กี ารออกกำลงั กายเพื่อสุขภาพ
2.2.1 การเดนิ เร็ว
2.2.2 การวง่ิ เหยาะ
2.2.3 การขี่จกั รยาน
2.2.4 การเล่นโยคะ
2.2.5 เต้นแอโรบิค
2.2.6 ว่ายน้ำ
ข้ันตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้
ข้ันที่ 1 การกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้
ครทู กั ทายและสอบถามผู้เรียนเก่ียวกับการรับประทานอาหารและการออกกำลงั กาย โดยครู
ยกตัวอยา่ งเพอื่ นในหอ้ งเรยี นที่มีลักษณะรูปร่างอว้ น และรูปรา่ งผอม โดยออกมาหนา้ ช้นั เรยี น และให้
บอกการรับประทานอาหารและการออกกำลงั กายของแต่ละคนให้ครแู ละผู้เรียนฟงั ครูตั้งประเดน็ ใน
เร่อื ง การดูแลรกั ษาสุขภาพตามหลัก 5 อ ไดแ้ ก่ อาหาร อากาศ อารมณ์ อจุ จาระ อนามัย และวธิ ีการ
ออกกำลังกายใหเ้ หมาะสมและถกู วธิ กี ับเพศและวยั โดยแลกเปลย่ี นเรยี นรูร้ ว่ มกนั
ขนั้ ท่ี 2 การแสวงหาข้อมูล และจัดการเรยี นรู้
1.1 ครแู บ่งกลุ่มผู้เรยี นเปน็ กลุ่ม ๆ ละ 6 - 8 คน
1.2 ศกึ ษาหาขอ้ มูลจากใบความรู้
กลุม่ ที่ 1 ความหมาย ความสำคญั ของอาหาร
กลุ่มท่ี 2 ความหมาย ความสำคญั ของอากาศ
กลมุ่ ท่ี 3 ความหมาย ความสำคญั ของอารมณ์
กลุ่มท่ี 4 ความหมาย ความสำคัญของอุจจาระ
กลุ่มที่ 5 ความหมาย ความสำคญั ของอนามยั
กลุม่ ท่ี 6 วธิ กี ารออกกำลังกายใหเ้ หมาะสมกบั เพศและวัย
ขนั้ ที่ 3 การปฏบิ ัตแิ ละนำไปประยกุ ต์ใช้
3.1 ให้ผู้เรียนแลกเปลยี่ นเรียนรภู้ ายในกลุ่มตามใบงานทไี่ ด้รบั พร้อมสรุป 3 – 2 ส่ง
ตัวแทนนำเสนอหน้าช้นั เรียน
3.2 ครูและผเู้ รยี นรว่ มสรุปองค์ความร้รู ่วมกนั
ขน้ั ที่ 4 การประเมินผล
4.1 หวั ข้อประเดน็ ในการใช้เวทีแลกเปลย่ี น
4.2 การสงั เกตการณเ์ ข้ารว่ มกิจกรรม
4.3 ชิ้นงาน/ผล
สอ่ื
1. ใบงาน
2. ใบความรู้
ใบความรู้
เร่อื งอาหารหลกั 5 หมู่
อาหาร หมายถงึ สงิ่ ทม่ี นุษย์กิน ดืม่ หรือรบั
เขา้ รา่ งกาย โดยไม่มีพิษแตม่ ีประโยชน์ตอ่ ร่างกายช่วย
ซอ่ มแซมอวยั วะส่วนทสี่ กึ หรอ และทำให้
กระบวนการต่างๆ ในร่างกายดำเนนิ การไปอยา่ งปกติ ซ่ึง
รวมถงึ น้ำด้วย
หมู่ท่ี 1 นม ไข่ เน้ือสัตวต์ ่าง ๆ ถัว่ เมลด็ แหง้ และงา
นม ไข่ เน้ือสัตว์ตา่ งๆ ถ่ัวเมล็ดแหง้ และงา
เปน็ แหลง่ โปรตนี ทด่ี ี สามารถนำไปเสริมสร้าง ร่างกายใหเ้ จริญเตบิ โตและซ่อมแซมเนื้อเยื่อ เสอ่ื มให้อยู่
ในสภาพปก
หมทู่ ่ี 2 ข้าว แปง้ เผือก มัน นำ้ ตาล
ขา้ ว แป้ง เผือก มนั น้ำตาล มสี ารอาหารคารโ์ บไฮเดรตเปน็ แหล่งอาหารสำคญั ทใี่ ห้พลงั งาน
ขา้ วกล้องและข้าวซอ้ มมอื มีใยอาหาร วติ ามนิ และ แรธ่ าตุ เพ่ือให้ร่างกายได้ประโยชน์มากที่สดุ ควรกิน
สลับกับ ผลิตภณั ฑจ์ ากข้าวและธญั พืชอน่ื ท่ีให้พลังงานเชน่ เดียวกบั ขา้ ว ได้แก่ ก๋วยเตี่ยว ขนมจนี
บะหม่ี วนุ้ เสน้ หรือแปง้ ตา่ งๆ และไม่ควรกินมากเกินความต้องการเพราะอาหารประเภทนี้
จะถูกเปลยี่ นและ เก็บสะสมไว้ในรปู ของไขมันตามส่วนตา่ งๆ ของรา่ งกาย ทำให้เกดิ โรคอ้วน
หมู่ท่ี 3 ผกั ต่างๆ
อาหารหมู่นี้ จะให้วติ ามินและเกลือแร่ แก่รา่ งกายช่วยเสริมสร้างทำให้รา่ งกายแขง็ แรง
มแี รงตา้ นทานเช้อื โรคและชว่ ยให้อวัยวะตา่ งๆทำงานได้อย่างเปน็ ปกติ อาหารท่ีสำคัญของหม่นู ้ี คือ ผัก
ต่างๆ เชน่ ตำลึง ผกั บุ้ง ผักกาดและผักใบเขียวอ่นื ๆ นอกจากนั้นยังรวมถึงพืชผักอ่ืนๆ เช่น มะเขอื
ฟกั ทอง ถ่ัวฝักยาว เป็นตน้ นอกจากน้ัน อาหารหมูน่ ี้จะมีกากอาหารท่ีถูกขับถ่ายออกมาเป็น
อจุ จาระทำให้ลำไส้ทำงานเป็นปกติ
หมทู่ ี่ 4 ผลไม้ตา่ งๆ
ผลไมต้ ่างๆ จะให้วิตามนิ และเกลือแร่ ชว่ ยทำให้รา่ งกายแข็งแรง มแี รงตา้ นทานโรค และมี
กากอาหารช่วยทำให้การขับถ่ายของลำไส้เป็นปกติ อาหารทสี่ ำคญํ ได้แก่ ผลไม้ต่างๆ เช่น กล้วย
มะละกอ สม้ มงั คุด ลำไย เป็นต้น
หมทู่ ี่ 5 ไขมันและนำ้ มนั
ไขมนั และน้ำมนั จะใหส้ ารอาหารประเภทไขมันมาก จะใหพ้ ลงั งานแก่รา่ งกาย ทำให้
รา่ งกายเจรญิ เติบโตร่างกายจะสะสมพลงั งานท่ีได้ไว้ใตผ้ ิวหนังตามสว่ นตา่ งๆ ของรา่ งกาย เชน่ บรเิ วณ
สะโพก ตน้ ขา เปน็ ตน้
ไขมันทีส่ ะสมไวเ้ หล่าน้ีจะใหค้ วามอบอุ่นแกร่ า่ งกายและให้พลังงานท่ีสะสมไว้ใช้ในเวลาที่
จำเป็นระยะยาว อาหารที่สำคัญ ได้แก่
- ไขมันจากสัตว์ เช่น น้ำมนั หมู รวมท้ังไขมนั ทแี่ ทรกอยู่ในเนื้อสัตวต์ ่างๆด้วย
- ไขมันทไ่ี ดจ้ ากพืช เข่น กะทิ นำ้ มันรำ นำ้ นมถ่ัวเหลือง น้ำมันปาลม์ เป็นตน้
ใบความรู้
เร่ืองระบบขับถา่ ย
การขับถา่ ยเป็นระบบกำจัดของเสยี จาก
ร่างกาย และช่วยควบคุมปริมาณของนำ้ ในร่างกายให้
สมบรู ณ์ ประกอบดว้ ย ไต ตับ และลำไส้ เป็นตน้
ไต มหี น้าท่ีขบั ส่ิงท่รี า่ งกายไม่ไดใ้ ช้ออกจาก
รา่ งกาย อยู่ดา้ นหลังของช่องท้อง
ลำไสใ้ หญ่ มหี น้าท่ขี บั กากอาหารทเ่ี หลือจากการย่อยของระบบยอ่ ยอาหารออกมาเปน็
อุจจาระ
โครงสร้างของระบบขับถา่ ย
ไตเป็นอวัยวะท่ีกรองของเสียเพื่อกำจัดของเสียออกจากร่างกาย ไตของคนมี 1 คู่ อย่ใู นชอ่ ง
ทอ้ งสองขา้ งของกระดูกสันหลังระดับเอว มรี ูปร่างคล้ายเมลด็ ถวั่ ต่อจากไตท้ังสองขา้ งมที อ่ ไต
ทำหนา้ ที่ลำเลียงนำ้ ปัสสาวะจากไตไปเก็บไวท้ ก่ี ระเพาะปสั สาวะ กอ่ นจะขับถ่ายออกมานอกรา่ งกาย
ทางท่อปัสสาวะเปน็ นำ้ ปสั สาวะน่ันเอง
การดูแลรกั ษาระบบขับถา่ ย
เคยี้ วอาหารให้ละเอียด และรบั ประทานอาหารทช่ี ว่ ยในการขับถ่าย คอื อาหารทมี่ กี ากใย
เชน่ ผกั ผลไม้ และควรดื่มนำ้ ใหม้ าก
การกำจดั ของเสยี ออกทางไต
ไต เปน็ อวยั วะที่ลกั ษณะคล้ายถ่วั มขี นาด
ประมาณ
10 กวา้ ง 6 เซนตเิ มตร และหนา
ประมาณ 3 เซนตเิ มตร
มสี ีแดงแกมนำ้ ตาลมเี ยื่อหมุ้ บางๆ ไตมี 2 ขา้ งซ้ายและขวา
บรเิ วณ ดา้ นหลังของช่องท้อง ใกล้กระดูกสนั หลงั บริเวณ
เอว บรเิ วณส่วนทีเ่ วา้ เปน็ กรวยไต มหี ลอดไต ต่อไป ยังมี
กระเพาะปสั สาวะ
โครงสร้างไต ประกอบดว้ ยเน้ือเย่อื 2 ช้นั หน่วยไตชนั้ นอก
เรยี กว่า คอรด์ เทกซ์ ช้ันในเรยี กวา่ เมดลั ลา ภายในไต ประกอบดว้ ย
หน่วยไต มีลกั ษณะเป็นทอ่ ขดอยู่หลอดเลือดฝอย เปน็ กระจกุ อยู่เตม็
ไปหมด ไตเปน็ อวยั วะทีท่ ำงานหนัก วนั หน่ึง ๆ เลือดที่หมุนเวยี น
ในรา่ งกายต้องผ่านมายังไต ประมาณในแต่ละนาทีจะมีเลือดมายัง
ไตที่ 1200 มิลลิลิตร หรอื วันละ 180 ลิตร ไตจะขับของเสยี มาในรูป
ของนำ้ ปัสสาวะ แลว้ ส่งต่อไปยงั กระเพาะปัสสาวะ มีความจุประมาณ 500 ลกู บาศก์เซนติเมตร
ร่างกายจะรู้สึกปวดปัสสาวะเมื่อน้ำปัสสาวะไหลสกู่ ระเพาะปัสสาวะประมาณ 250 ลูกบาศก์
เซนตเิ มตร ใน 1 วนั คนเราจะขบั ปัสสาวะออกมาประมาณ 1 – 1.5 ลติ ร
การกำจัดของเสียออกทางผิวหนัง ในรปู ของเหงือ่ เหงอ่ื ประกอบไปด้วยน้ำเปน็ ส่วนใหญ่
เหงื่อจะถูกขบั ออกจากรา่ งกายทางผิวหนัง โดยผ่านต่อมเหงอื่ ซ่งึ อยใู่ ต้ผวิ หนงั ต่อมเหงอื่ มี 2 ชนิด
คือ
1. ต่อมเหงือ่ ขนาดเลก็ มีอยู่ท่ัวผวิ หนงั ในร่างกาย ยกเวน้ ท่ารมิ ฝีปากและอวัยวะสืบพันธ์ุ
ตอ่ มเหงื่อขนาดเล็กมีการขับเหง่ือออกมาตลอดเวลา เหงอื่ ท่อี อกจากต่อมขนาดเล็กนี้ประกอบด้วยน้ำ
ร้อยละ 99 สารอน่ื ๆ ร้อยละ 1 ได้แก่ เกลอื โซเดียม และยเู รยี
2. ต่อมเหงื่อขนาดใหญ่ จะอยู่ทบี่ รเิ วณ รกั แร้ รอบหัวนม รอบสะดือ ชอ่ งหูสว่ นนอก
อวยั วะ
เพศบางสว่ น ตอ่ มน้ีมที ่อขบั ถ่ายใหญ่กว่าชนดิ แรกต่อมนจี้ ะตอบสนองทางจติ ใจ สารท่ีขับถ่ายมกั มี
กลิน่ ซ่ึงกค็ ือกลิ่นตัวเหง่ือ จะถกู ลำเลียงไปตามท่อท่เี ปิดอยู่ ท่เี รียกว่า รเู หง่ือ
การกำจดั ของเสียออกทางลำไส้ใหญ่
กากอาหารทเ่ี หลือกจากการย่อย จะถูกลำเลยี งผ่านมาท่ลี ำไสใ้ หญ่ โดยลำไสใ้ หญ่จะทำ
หน้าท่ีสะสมกากอาหารและจะดูดซมึ สารอาหารที่มีประโยชน์ ต่อรา่ งกาย
ได้แก่ น้ำ แร่ธาตุ วติ ามนิ และกลูโคส ออกจากกากอาหาร ทำใหก้ าก
อาหารเหนยี วและขน้ จนเป็นก้อนแข็ง จากนั้นลำไสจ้ ะบีบตัวเพอื่ ให้กาก
อาหารเคลื่อนท่ีไปรวมกันท่ีลำไสต้ รง และขบั ถา่ ยสู่ภายนอกร่างกายทาง
ทวารหนัก ทเี่ รียกว่า อจุ จาระ
การกำจดั ของเสียทางปอด
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ ก๊าซและนำ้ ซึ่งเกิดจากการเผาผลาญ
อาหารภายในเซลล์จะถกู ส่งเข้าสเู่ ลือด จากนน้ั หัวใจจะสบู เลือดทมี่ ีกา๊ ซ
คารบ์ อนไดออกไซด์ไปไวท้ ่ีปอด จากน้ันปอดจะทำการกรองกา๊ ซ
คาร์บอนไดออกไซด์เกบ็ ไว้ แล้วขบั ออกจากร่างกายโดยการหายใจออก
ประโยชน์ของการขับถ่ายของเสยี ตอ่ สขุ ภาพ
การขบั ถ่ายเปน็ ระบบกำจัดของเสียร่างกาย และช่วย
ควบคมุ ปรมิ าณของน้ำในรา่ งกายใหส้ มบูรณ์ประกอบดว้ ย ไต ตบั และ
ลำไส้ เป็นตน้
การปฏบิ ตั ิตนในการขับถ่ายของเสียใหเ้ ปน็ ปกตหิ รอื กจิ วัตรประจำวันเป็นสิ่งจำเป็นอยา่ งยิ่ง
ตอ่ สุขภาพอนามัยของมนษุ ย์ เราไม่ควรให้ร่างกายเกิดอาการท้องผกู เป็นเวลานานเพราะจะทำให้เกดิ
เป็นโรคริดสีดวงทวารหนกั ได้
การปสั สาวะ ถือเป็นการขับถ่ายของเสียประการหน่งึ ทร่ี า่ งกายเราขับเอาน้ำเสยี ใน
ร่างกายออกมาหากไม่ขับถา่ ยออกมาหรือกลน้ั ปสั สาวะไว้นาน ๆ จะทำใหเ้ กิดเปน็ โรคนว่ิ ในไตหรอื ทำ
ใหก้ ระเพาะปัสสาวะอักเสบและไตอักเสบได้
การด่ืมนำ้ การรับประทานผกั ผลไม้ทุกวนั จะช่วยให้รา่ งกายขับถา่ ยไดส้ ะดวกขึน้ การดื่ม
นำ้ และรับประทานทานอาหารทถ่ี ูกสขุ ลักษณะ ตลอดจนการรบั ประทานอาหารทีม่ ีเส้นใยอาหาร
เป็นประจำจะทำใหร้ ่างกายขับถา่ ยของเสยี อยา่ งปกติ
ใบความรู้
เรือ่ งสุขอนามัย
สขุ ภาพอนามัยที่ดี วิธีง่ายๆ สำหรบั ใสใ่ จดแู ลสุขภาพ เพ่ือหลกั อนามัยท่ีดี
อาหาร
อาหาร การรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ โปรตนี จากเนอ้ื นมไข่ ไขมันจากพืชหรือ
เนอื้ สตั ว์ คารโ์ บไฮเดรตจากข้าว แป้ง วิตามินและเกลือแร่จากผกั ผลไม้ เป็นต้น โดยอาหารต้องถูก
สขุ ลกั ษณะ สะอาดปลอดภยั จากสารปนเปื้อนหรือสารพิษต่อร่างกาย ต้องคำนงึ ความเหมาะสมด้าน
ปริมาณ คอื บรโิ ภค ให้เพยี งพอในแต่ละวนั การรับประทานอาหารให้ตรงเวลาโดยเฉพาะมือ้ เชา้ เป็น
มอ้ื อาหารท่สี ำคัญ ในยุคปัจจุบนั ดว้ ยสภาพสังคมท่ีมีความรีบเรง่ ไมเ่ อือ้ อำนวยต่อพฤติกรรมการบรโิ ภค
ที่ถกู สุขอนามัย การรบั ประทานอาหารจานด่วน อาหารสำเร็จรูปท่ปี ระกอบด้วยสารกันบูด หรือวัตถุ
ปรุงแต่งรสอาหารท่หี ากบริโภคในปรมิ าณมากเกินไปอาจเป็นโทษตอ่ ร่างกาย
การบรโิ ภคอาหารควรมคี วามหลากหลาย และควรคำนงึ ถึงความเหมาะสมเฉพาะบคุ คล
ด้วย
เช่นวัยสูงอายุ คนป่วย คนอ้วนหรือผอมเกินไป ผู้ที่มีโรคประจำตัว เพราะบุคคลบางกลุ่มต้องมีการควบคุม
อาหารหรือบรโิ ภคในปริมาณทีเ่ หมาะสม หลกี เลีย่ งอาหารประเภทไขมัน ควบคมุ ปริมาณนำ้ ตาลและ
คลอเรสเตอรอล อาหารรสจัด เช่น รสเคม็ จัด
อารมณ์
อารมณเ์ ปน็ สิ่งท่บี ุคคลแสดงออก สามารถบ่งบอกสภาวะด้านร่างกาย และจิตใจ หากสขุ ภาพ
กายดี สุขภาพจติ ย่อมดตี ามไปด้วยและในทางกลับกันการมสี ขุ ภาพจติ ดยี ่อมส่งเสริมใหร้ ่างกายแข็งแรง
ความเครยี ด อาการหงดุ หงิดฉนุ เฉียว ความวิตกกังกล สง่ ผลกระทบต่อกระบวนการทำงานหรือระบบ
ในรา่ งกาย เชน่ การยอ่ ยอาหาร การหลงั่ กรดในกระเพาะอาหาร รา่ งหลั่งสารเคมบี างอยา่ งมากเกนิ ไป
ส่งผลเสียและก่อให้เกดิ โรค ดังนั้นการควบคุมอารมณ์ การทำจิตใจให้สบาย การมองโลกในแง่ดีและ
การมอี ารมณ์ขัน รู้จักผ่อนคลายความเครยี ดดว้ ยการทำกจิ กรรมตา่ งๆ ทำงานอดเิ รก ทำจิตใจให้ผ่องใส
เบกิ บานออกกำลังกาย ท่องเที่ยวตามโอกาสท่เี หมาะสม เป็นวธิ ีการง่ายๆ ท่ีทำไรอารมณด์ ี
ออกกำลังกาย
ออกกำลงั กาย การออกกำลงั กายเป็นวิธีการงา่ ยๆ ทที่ ำใหส้ ุขภาพดี โดยไม่ต้องเสยี ค่าใช้จ่ายใด
ๆ สามารถทำไดแ้ ทบทกุ สถานที่ ไมว่ ่าจะเป็นทีบ่ า้ น บา้ นท่ีมีบรเิ วณสามารถใชก้ ารออกกำลงั กายเป็นเคร่ืองมือ
ในการสรา้ งสขุ ภาพและความอบอุ่นในครอบครัวได้ โดยสมาชกิ ในครอบครัวออกกำลงั กายร่วมกัน
การทำงานบ้านแบบตา่ งๆ นบั ว่าเป็นการออกกำลังกายทด่ี ีอย่างย่ิงและได้ประโยชนท์ ัง้ สองประการ คอื
รา่ งกายแข็งแรง และบ้านสะอาดเป็นการสร้างสิ่งแวดล้อมท่ีดีเพ่ิมขึ้น สถานทท่ี ำงานกส็ ามารถออกกำลงั กาย
ได้เช่น การข้ึน ลง บันได การออกกำลงั กายแบบเบาๆ โดยใชอ้ ปุ กรณส์ ำนักงานเป็นเคร่ืองมือสำหรับทำกาย
บริหาร ในชว่ งเวลาพักสัน้ ๆ
ควรออกกำลงั กายอย่างสม่ำเสมออยา่ งน้อยสัปดาหล์ ะ 2-3 คร้ัง ระยะเวลาในการออกกำลังกาย
คร้ังละประมาณ 30 นาที เพราะเปน็ เวลาทเ่ี หมาะสมร่างกายสามารถเผาผลาญพลงั งานได้เต็มท่ี อยา่ งไรก็
ตามการออกกำลังกายควรเลือกสรรใหเ้ หมาะสมกับปัจจัยอ่ืนๆ เช่น วัย แต่ละช่วงวยั จะมวี ิธีการออกกำลังกาย
ที่ใหป้ ระสิทธิภาพต่างกนั ประเภทของกีฬาหรือการออกกำลงั กาย ข้อจำกดั ของบุคลทม่ี ีโรคประจำตวั
ระยะเวลา ช่วงเวลาทเ่ี หมาะสม การออกกำลงั กายช่วงเชา้ ช่วยให้ระบบไหลเวยี นโลหติ ดี ร่างกายปลอดโปรง่
ส่ิงแวดล้อม
สงิ่ แวดลอ้ ม เป็นปจั จัยทีม่ ีผลโดยตรงตอ่ ทั้งสขุ ภาพกายและสขุ ภาพจติ การอยอู่ าศัยในสถานแวดล้อม
ทด่ี ชี ว่ ยสง่ เสริมสขุ ภาพใหด้ ตี ามไปด้วย สงิ่ แวดล้อมท่ดี ี คือ ความสะอาด ปลอดภัย จากเชอ้ื โรคฝนุ่ ละออง
ควันพิษ มลภาวะอนั ได้แก่ อากาศเสีย น้ำเสีย สถานทีเ่ สียงดงั รบกวน แหล่งเสอ่ื มโทรม ผิดหลัก
สขุ ลกั ษณะ วิธกี ารงา่ ยๆ ในการดูแลส่ิงแวดล้อมก็เริม่ จากสถานทีใ่ กลต้ วั บา้ นพกั อาศยั รักษาความสะอาด
ภายในและภายนอกบริเวณ สภาพแวดลอ้ มของบ้าน ฝุ่นละออง แสงสว่าง สตั ว์มพี ษิ แมลงนำโรค เช่น
แมลงสาบ หรอื หนู เหล่านม้ี ีล้วนมีผลตอ่ ผอู้ ยอู่ าศยั
นอกจากการใส่ใจดูแลสขุ ภาพ ดำเนนิ ตามแนวทางที่เหมาะสมแล้วสง่ิ สำคัญอีกประการคอื การ
หลกี เล่ียง “พฤติกรรมเส่ียง” เชน่ การสูบบุหรี่ การด่ืมสรุ า การใชส้ ารเสพติด ภาวะความเครียด ความ
กดดัน
ใบความรู้
เรอ่ื งอารมณ์และความเครียด
ความเครียดสามารถเกิดได้ทุกแห่งทุกเวลาอาจจะเกิดจากสาเหตุภายนอกเช่น การย้ายบ้าน
การเปล่ียนงาน ความเจ็บป่วย การหยา่ ร้าง ภาวะว่างงานความสัมพันธ์กับเพือ่ น ครอบครวั หรืออาจจะเกิด
จากภายในผู้ป่วยเอเช่น ความต้องการเรียนดี ความต้องการเป็นหน่ึงหรือความเจ็บป่วย ความเครียดเป็น
ระบบเตือนภัยของร่างกายให้เตรียมพร้อมท่ีกระทำส่ิงใดสิ่งหน่ึง การมีความเครียดน้อยเกินไปและมาก
เกินไปไม่เป็นผลดีต่อสุขภาพ ส่วนใหญ่เข้าใจว่าความเครียดเป็นสิ่งไม่ดีมันก่อให้เกิดอาการปวดศีรษะ ปวด
กล้ามเนื้อ หัวใจเต้นเร็ว แน่นท้อง มือเท้าเย็น แต่ความเครียดก็มีสว่ นดีเช่น ความต่ืนเต้น ความท้าทายและ
ความสนกุ สรุปแลว้ ความเครยี ดคือส่งิ ท่มี าทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงชวี ิตซึ่งมี่ทง้ั ผลดีและผลเสยี
ชนดิ ของความเครียด
1. Acute stress คอื ความเครียดท่ีเกิดข้ึนทันทแี ละร่างกายก็ตอบสนองต่อความเครียด
นน้ั ทันทเี หมือนกนั โดยมีการหล่งั ฮอร์โมนความเครียด เม่ือความเครยี ดหายไปร่างกายก็จะกลบั ส่ปู กติ
เหมอื นเดมิ ฮอร์โมนกจ็ ะกลับสู่ปกติ ตวั อย่างความเครียด เช่น เสยี ง อากาศเย็นหรอื ร้อน ชุมชน
ที่คนมากๆ ความกลัว ตกใจ หิวข้าวอันตราย
2. Chronic stress หรอื ความเครยี ดเรื้อรังเปน็ ความเครยี ดทเ่ี กดิ ข้ึนทุกวนั และร่างกายไม่
สามารถตอบสนองหรือแสดงออกตอ่ ความเครยี ดนน้ั ซ่ึงเม่ือนานวันเขา้ ความเครียดน้นั ก็จะสะสม
เป็นความเครียดเรื้อรงั ตวั อย่างความเครยี ดเรื้อรงั เช่น ความเครียดท่ีทำงาน ความเครียดทเี่ กิดจาก
ความสมั พันธ์ระหว่างบคุ คล ความเครยี ดของแม่บา้ น ความเหงา
ผลเสียต่อสุขภาพ
โรคทางเดินอาหารโรคปวดศรี ษะไมเกรนโรคปวดหลัง โรคความดันโลหิตสงู โรคหลอดเลือด
สมอง โรคหวั ใจ ติดสรุ าโรคภมู แิ พ้ โรคหอบหดื ภมู ิคุม้ กนั ต่ำลง เป็นหวดั ง่าย อบุ ัติเหตุขณะทำงาน การ
ฆา่ ตวั ตายและมะเร็ง
หากทา่ นมีอาการเครยี ดมากและแสดงออกทางร่างกายดังนี้
เชน่ อ่อนแรงไมอ่ ยากจะทำอะไร มีอาการปวดตามตัว ปวดศรี ษะ วติ กกงั วล มีปัญหา
เรื่องการ นอน ไม่มคี วามสุขกบั ชวี ิต เปน็ โรคซึมเศรา้
เม่อื ใดตอ้ งปรึกษาแพทย์
เม่ือคุณรู้สึกเหมือนคนหลงทางหาทางแก้ไขไม่เจอ เมื่อคุณกังวลมากเกินกว่าเหตุ และ
ไม่สามารถควบคุม เม่ืออาการของความเครียดมีผลต่อคุณภาพชีวิต เช่น การนอน การรับประทานอาหาร
งานที่ทำ ความสมั พันธ์ของคณุ กบั คนรอบขา้ ง
26
ใบความรู้
เรอ่ื งมลพิษในอากาศ
ความรทู้ ่ัวไปเก่ียวกับมลพิษในอากาศ
ฝนุ่ ละออง (Particulate Matter) มีความหมายรวมถึง อนุภาคของแขง็ และหยด
ละอองของเหลวทแ่ี ขวนลอย กระจาย ในอากาศ อนุภาคทีแ่ ขวนลอบอยู่ในอากาศน้บี างชนิดมีขนาด
ใหญ่
และมีสีดำจนมองเห็นเปน็ เขม่าและควัน แตบ่ างชนิดก็เลก็ มากจนมาด้วยตาเปล่าไมเ่ หน็ โดยทวั่ ไปฝุ่น
ละอองในอากาศมีขนาดตงั้ แต่ 100 ไมครอนลงมาฝุ่นละออง สามารถก่อให้เกิดผลกระทบต่อสุขภาพ
ของมนุษย์ สัตว์และสิ่งแวดล้อม เกิดความเดือดร้อน รำคาญและความเสยี หายต่ออาคาร เคร่ืองมือ
เคร่ืองใชต้ ่างๆภายในโรงงานด้วย นานาประเทศจึงได้มีการกำหนดมาตรฐานฝนุ่ ละออง ในอากาศขน้ึ
สำหรบั ประเทศสหรัฐอเมริกามีองค์กรชอ่ื US EPA(United State Environmental
Protection Agency) ไดก้ ำหนดคา่ มาตรฐานของฝนุ่ รวม(Total Suspended Particulate) และฝุน่
PM10 แตฝ่ ุ่นท่ีมขี นาดเล็กน้ัน จะเป็นอนั ตราย ต่อมากกว่าฝ่นุ รวม เน่ืองจากสามารถผา่ นเขา้ ไปในระบบ
ทางเดินหายใจ สว่ นในและมีผลกระทบต่อสขุ ภาพมากกวา่ US. EPAจงึ ไดย้ กเลิกคา่ มาตรฐานฝุน่ รวมและ
กำหนดค่ามาตรฐานฝนุ่ ขนาดเล็กเป็น 2 ชนดิ คือ
* PM10 หมายถงึ ฝุ่นหยาบ (Course Particle) เปน็ อนุภาคขนาด 2.5-10 ไมครอน เชน่ ฝ่นุ
ที่
เกิดจากถนนทไ่ี มไ่ ดล้ าดยาง จากโรงงานบด-ย่อยหนิ เปน็ ต้น
* PM2.5 หมายถงึ ฝุ่นละเอยี ด (Fine Particle) เปน็ อนุภาคทมี่ ขี นาดเล็กว่า 2.5 ไมครอน
มแี หลง่ กำเนดิ เช่นจากควนั เสีย ของรถยนต์ โรงไฟฟ้า โรงงานอตุ สาหกรรม กระบวนการผลิตสารเคมีเป็น
ตน้
นอกจากน้ีกา๊ ซ SO2 NOx และสาร VOC จะทำปฏิกิริยากับสารอ่นื ในอากาศจนทำให้เกิด
ฝุ่นละเอยี ดได้
ฝุ่นละออง ขนาดเลก็ มีผลกระทบต่อสุขภาพเปน็ อยา่ งมาก เม่อื หายใจเข้าไปในปอดจะเขา้
ไปอยู่ในทางเดนิ หายใจสว่ นล่าง ในสหรัฐฯพบวา่ ผู้ทีไ่ ด้รับฝนุ่ PM10 ในระดับหนึ่งจะทำใหเ้ กดิ โรคหอบหดื
(Asthma) และฝุ่น PM2.5 ในบรรยากาศจะมีความสมั พนั ธ์กบั อัตราการเพ่ิมของผปู้ ่วยที่เป็นโรคหวั ใจ
และโรคปอดทีเ่ ขา้ มารกั ษาตวั ในห้องฉุกเฉนิ เพิ่มอาการของโรคทางเดินหายใจ ลดประสทิ ธิภาพการ
ทำงานของปอดและเก่ียวโยงกับการเสยี ชีวิตก่อนวยั อนั ควร โดยเฉพาะผู้ปว่ ยสงู อายุ
27
ตัวอยา่ งมลพิษอากาศกบั อุตสาหกรรมท่ีเกี่ยวขอ้ ง
ประเภทอุตสาหกรรม ชอ่ื สารมลพิษอากาศ
อตุ สาหกรรมปุ๋ย ,เซรามิก, อลูมิเนียม ไฮโดรเจนฟลูออไรด์ : HF
โรงกลั่นนำ้ มัน อุตสาหกรรมก๊าซ แอมโมเนยี และเย้ือกระดาษ ไฮโดรเจนซัลไฟด์ : H2S
โรงถลุงโลหะ อตุ สาหกรรมเคมี เซเลเนียมไดออกไซด์ : SeO2
อุตสาหกรรมโซดาไฟ กระบวนการผลติ พลาสตกิ ไฮโดรเจนคลอไรด์ : HCI
การผลิตดินประสิว อุตสาหกรรมต่างๆที่มีการสันดาป ไนโตรเจนออกไซด์ : NO2
การผลิตกรดกำมะถนั อุตสาหกรรมใชน้ ้ำมนั เตา-ถา่ นหิน ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ : SO2
อตุ สาหกรรมป๋ยุ การชบุ โลหะ เวชภัณฑอ์ นิ ทรยี ์-อนินทรีย์ แอมโมเนยี : NH3
ทำพิมพเ์ ขียว
อตุ สาหกรรมย้อมสี การสังเคราะหส์ ารอนิ ทรีย์ ฟอสจีน (PHOSGENE): COCl2
การผลติ กรด Hydrocyanic, การผลิตเหลก็ อตุ สาหกรรมก๊าซ-เคมี ไฮโดรเจนไซยาไนต์ : HCN
การผลิตเวชภัณฑ์ การยอ้ มสี Cholorosulforic Acid คลอโรซัลโฟริก : HSO2CL
การผลติ ฟอร์มาลีน หนงั ยางสังเคราะห์ แผน่ กนั้ แบตเตอร่ี ฟอรม์ าลดีไฮด์ : HCHO
อุตสาหกรรมผลติ หลังคาไฟเบอร์ สไตรีน : C6H5CHCH2
การผลิตเมธานอล การผลิตฟอร์มาลนี อุตสาหกรรมสี อุตสาหกรรม เมธานอล : CH3OH
ยางสังเคราะห์ ทำแชลแลค
28
บนั ทึกผลหลงั การเรยี นรู้
ผลท่เี กดิ กบั ผู้เรียน
ดา้ นกระบวนการจัดกจิ กรรม
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ดา้ นการใชแ้ ผนการพบกลุ่ม
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ด้านสื่อการเรยี นรู้
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ปญั หา/อปุ สรรค
........................................................................................................................................................ ...........
............................................................................................................................. ...............................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแกไ้ ข
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ลงชื่อ................................................/ผสู้ อน
(นางสาวณัฐธยาน์ ชนาภทั รภณ)
ตำแหน่ง ครศู ูนย์การเรียนชุมชน
ความคิดเห็นของผู้บริหาร
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ลงชือ่ .................................................
(นายชนะชาติ เตง็ ศิริ)
ผอู้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรลกั ษ์
29
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลุ่ม
เรอื่ ง การดแู ลสขุ ภาพ
ลำดับ ชื่อกลมุ่ ความ มีการแบ่ง การ การแสดงความ รวม
ท่ี รับผิดชอบ หน้าทกี่ าร นำเสนอ คิดเหน็ ภายใน (20)
และตรงต่อ ทำงาน (5) กลุ่ม
เวลา (5) (5)
(5)
เกณฑ์การประเมิน อยู่ในเกณฑ์ ดี แสดงวา่ ผา่ น
15 – 20 คะแนน อยู่ในเกณฑ์ พอใช้ แสดงว่า ผ่าน
10 – 14 คะแนน อย่ใู นเกณฑ์ ตอ้ งปรับปรุง แสดงว่า ไม่ผา่ น
ต่ำกวา่ 10 คะแนน
30
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ทช21002วิชา สขุ ศกึ ษา พลศกึ ษา
จำนวน...2..หน่วยกิต
คร้ังที่ 2 แบบพบกลมุ่ (6 ชวั่ โมง)
เรอ่ื ง การปอ้ งกันสารเสพติด
ตวั ชวี้ ัด 1.อธิบายปญั หา สาเหตุ ประเภทและชนิดของสารเสพตดิ และการป้องกนั แก้ไข
2.บอกลกั ษณะอาการของผู้ติดสารเสพตดิ
3.อธบิ ายอันตราย วธิ ีการป้องกันและหลีกเล่ยี งพฤติกรรมเสยี่ งต่อสารเสพตดิ
เนอ้ื หา 1.ปัญหา สาเหตุ ประเภทและชนิดของสารเสพติด และการป้องกันแก้ไข
2.ลกั ษณะอาการของผ้ตู ิดสารเสพตดิ
3.อนั ตราย การป้องกันและการหลีกเล่ียงพฤติกรรมเสย่ี งต่อสารเสพติด
ขั้นตอนการจัดกระบวนการเรยี นรู้
ขน้ั ที่ 1 การกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้
ครนู ำภาพข่าวการจบั ยาเสพติดมาใหผ้ ู้เรยี นวเิ คราะห์ถงึ ปัญหา สาเหตขุ องภาพข่าวดงั กล่าว ครู
ยกตวั อย่างครอบครวั ที่ผูน้ ำครอบครวั ตดิ ยาบา้ และทำร้ายคนในครอบครวั จนไดร้ ับอันตรายถึงชวี ิตดัง
ภาพขา่ วที่ครนู ำมาใหผ้ ู้เรยี นได้ดูตอนแรก ครูและผู้เรยี นได้แลกเปล่ียนเรยี นร้รู ่วมกนั ถงึ ชนดิ ประเภท
และพิษภยั ของสารเสพติด
ขั้นที่ 2 การแสวงหาข้อมูล และจัดการเรยี นรู้
1. ครูแบง่ กล่มุ ผเู้ รียนออกเป็น กลุ่ม ๆ ละ 6 – 8 คน
2. ครูใหผ้ เู้ รยี นศึกษาประเภทของการออกฤทธิ์ของสารเสพติด ลกั ษณะของผู้ตดิ สารเสพติด
และวิธกี ารปอ้ งกนั
- กลุ่มที่ 1 ประเภทกดระบบประสาท
- กลุม่ ที่ 2 ประเภทกระตุน้ ประสาท
- กลุ่มที่ 3 ประเภทหลอนประสาท
- กลมุ่ ท่ี 4 ประเภทออกฤทธหิ์ ลายอยา่ ง
3. ใหผ้ ูเ้ รียนส่งตัวแทนกลุ่มออกนำมาเสนอหนา้ ชั้นเรยี น
ข้นั ที่ 3 การปฏิบัตแิ ละนำไปประยกุ ตใ์ ช้
ใบงาน
1. 1. ให้ผูเ้ รยี นแลกเปลย่ี นเรยี นรูใ้ นกล่มุ เพอื่ หาขอ้ สรุปแลว้ สง่ ตวั แทนนำเสนอหนา้ ช้ันเรียน
กลุ่มที่ 1 สารเสพติดประเภทกดระบบประสาท ไดแ้ ก่.....................................................
31
.............................................................................................................................................................
ลกั ษณะอาการของผ้เู สพ............................................................................................
.............................................................................................................................................................
วิธีปอ้ งกัน................................................................................................................
............................................................................................................................................... .............
กลมุ่ ท่ี 2 สารเสพตดิ ประเภทกระตุน้ ประสาท ไดแ้ ก่......................................................
.................................................................................................................................... .........................
ลักษณะอาการของผูเ้ สพ...........................................................................................
............................................................................................................................. ................................
วิธปี ้องกัน................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................
กลุ่มท่ี 3 สารเสพติดประเภทหลอนประสาท ได้แก่.......................................................
............................................................................................................................ .................................
ลกั ษณะอาการของผู้เสพ...........................................................................................
.............................................................................................................. ...............................................
วิธปี อ้ งกัน................................................................................................................
.................................................................................. ...........................................................................
กลุ่มที่ 4 สารเสพตดิ ประเภทออกฤทธห์ิ ลายอย่าง ไดแ้ ก่...............................................
.............................................................................................................................................................
ลักษณะอาการของผ้เู สพ..........................................................................................
.............................................................................................................................................................
วธิ ปี ้องกัน.................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
3. ครูและผเู้ รยี นรว่ มกันสรปุ สารเสพตดิ แต่ละประเภท และคดิ คำขวญั ต่อต้านยาเสพ
ติด ตดิ บอร์ดในห้องเรยี น
ข้นั ท่ี 4 การประเมินผล
4.1 ประเมนิ ผลงาน
4.2 รูปเลม่ รายงาน
สอ่ื
1. อินเตอร์เน็ต
2. แหล่งเรยี นรู้
32
บนั ทกึ ผลหลงั การเรียนรู้
ผลท่ีเกดิ กบั ผู้เรยี น
ดา้ นกระบวนการจัดกจิ กรรม
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ดา้ นการใช้แผนการพบกลมุ่
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ด้านส่อื การเรยี นรู้
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ปญั หา/อุปสรรค
........................................................................................................................................................ ...........
............................................................................................................................. ...............................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ลงชื่อ................................................/ผสู้ อน
(นางสาวณฐั ธยาน์ ชนาภทั รภณ)
ตำแหน่ง ครูศนู ย์การเรียนชุมชน
ความคดิ เหน็ ของผบู้ ริหาร
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ลงชื่อ.................................................
(นายชนะชาติ เตง็ ศิริ)
ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรลักษ์
33
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่
เร่อื ง การป้องกนั สารเสพตดิ
ลำดับ ชือ่ กลุ่ม ความ มกี ารแบง่ การ การแสดงความ รวม
ท่ี รบั ผดิ ชอบ หนา้ ทีก่ าร นำเสนอ คิดเหน็ ภายใน (20)
และตรงต่อ ทำงาน (5) กลุม่
เวลา (5) (5)
(5)
เกณฑ์การประเมนิ
15 – 20 คะแนน อยใู่ นเกณฑ์ ดี แสดงวา่ ผ่าน
10 – 14 คะแนน อย่ใู นเกณฑ์ พอใช้ แสดงว่า ผ่าน
ต่ำกว่า 10 คะแนน อยใู่ นเกณฑ์ ตอ้ งปรับปรุง แสดงวา่ ไมผ่ ่าน
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวิชา ทช21002วิชา สขุ ศกึ ษา พลศึกษา
จำนวน...2..หนว่ ยกิต
คร้งั ท่ี 3 แบบพบกลมุ่ (6 ชั่วโมง)
เรอื่ ง อบุ ตั ิเหตุ อุบตั ภิ ัย (คร้ังท่ี 1)
ตัวชีว้ ดั 1.อธิบายปัญหา สาเหตุของการเกิดอุบัติเหตุ อบุ ัติภัย และภยั ธรรมชาติ
2.วิเคราะห์พฤติกรรมเส่ียงท่ีจะนำไปสคู่ วามไมป่ ลอดภัยในชวี ิตและทรพั ย์สิน
3.อธิบายอนั ตราย วิธีการป้องกนั และหลีกเลีย่ งพฤติกรรมเส่ยี งตอ่ สารเสพติด
34
เนอ้ื หา 1.ปัญหา สาเหตขุ องการเกิดอบุ ตั เิ หตุ อุบตั ภิ ัย และภัยธรรมชาติ
2.การปอ้ งกนั อันตรายและหลีกเลีย่ งพฤติกรรมเสย่ี งทจ่ี ะนำไปสคู่ วามไม่ปลอดภัยจาก
อบุ ตั เิ หตุ อุบัตภิ ัย และภัยธรรมชาติ
ข้นั ตอนการจดั กระบวนการเรยี นรู้
ข้นั ที่ 1 การกำหนดสภาพ ปัญหา ความต้องการในการเรยี นรู้
1. ครูนำภาพขา่ วอุบัติเหตเุ กีย่ วกับการขับรถตกทางด่วน และ ภาพเหตกุ ารณน์ ้ำท่วม
จงั หวดั ภูเกต็ เมอ่ื วันที่ 22 สิงหาคม 2555
2. ครแู ละผเู้ รยี นร่วมกนั สนทนาถึงสาเหตขุ องการเกิดอบุ ัติเหตุในเร่ืองการขับรถตกทาง
ด่วนอุบตั เิ หตแุ ละภยั ธรรมชาติเรือ่ งน้ำทว่ ม จังหวัดภเู กต็ เป็นการแลกเปลย่ี นเรยี นรู้ถึงปัญหา สาเหตุ
วิธีการแกไ้ ข มาแลกเปลีย่ นเรียนรู้ร่วมกนั
ขนั้ ที่ 2 การแสวงหาข้อมูล และจัดการเรยี นรู้
1. ครแู บ่งกลุ่มผเู้ รียนออกเป็น กลุ่ม ๆ ละ 6 – 8 คน
2. ใหผ้ ้เู รียนแลกเปลี่ยนเรยี นร้เู ก่ียวกับปญั หา/สาเหตุ/วธิ ีปอ้ งกนั ของการเกิดอุบัติเหตุ
อบุ ตั ิภัย และภยั ธรรมชาติ
3. ให้ผูเ้ รยี นสง่ ตัวแทนกลมุ่ ออกนำมาเสนอหนา้ ชน้ั เรยี น
ขนั้ ที่ 3 การปฏิบตั ิและนำไปประยกุ ต์ใช้
ใบงาน
1. ให้ผูเ้ รียนบอกปัญหา สาเหตุ และวธิ กี ารปอ้ งกันของการเกดิ อุบัติเหตุตา่ ง ๆ ตามท่ีกำหนด
1.1 อบุ ัติเหตกุ ารจราจร
ปัญหา.......................................................................................................................
............................................................................................. ................................................................
สาเหตุ.......................................................................................................................
............................................................................................................................................................
วธิ กี ารป้องกนั ...........................................................................................................
.............................................................................................................................................................
1.2 อบุ ตั เิ หตุในสถานประกอบการ
ปญั หา.......................................................................................................................
.................................................................................................. ...........................................................
35
สาเหต.ุ ......................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
วธิ ีการปอ้ งกัน...........................................................................................................
........................................................................................................................................................... ..
1.3 อบุ ัติเหตใุ นบ้าน
ปญั หา.......................................................................................................................
......................................................................................................... ....................................................
สาเหตุ.......................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
วิธกี ารปอ้ งกนั ..........................................................................................................
.............................................................................................................................................................
1.4 อบุ ตั เิ หตุในโรงเรียน
ปญั หา.......................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................
สาเหต.ุ ......................................................................................................................
................................................................................................... ..........................................................
วิธกี ารปอ้ งกนั ...........................................................................................................
.............................................................................................................................................................
2. ให้ผู้เรยี นบอกสาเหตุและวิธปี อ้ งกันของการเกดิ อบุ ัตภิ ยั และภยั ธรรมชาติ
2.1 ภยั แลง้
ปญั หา.......................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
สาเหต.ุ .....................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
วธิ กี ารปอ้ งกนั ...........................................................................................................
...................................................................................................................................... .......................
2.2 ดินถล่ม
ปญั หา.......................................................................................................................
.................................................................................................................. ...........................................
สาเหตุ......................................................................................................................
...................................................................................... .......................................................................
วิธกี ารปอ้ งกนั ...........................................................................................................
............................................................. ............................................................................................... .
2.3 ไฟปา่
ปัญหา.....................................................................................................................
36
................................................................................................. ............................................................
สาเหตุ............................................................................................. .........................
.............................................................................................................................................................
วิธกี ารปอ้ งกนั ...........................................................................................................
.............................................................................................................................................................
2.4 ภยั ธรรมชาติท่เี กิดจากแผน่ ดินไหว
ปญั หา.......................................................................................................................
............................................................................................................... ..............................................
สาเหตุ......................................................................................................................
.................................................................................. ...........................................................................
วธิ ีการปอ้ งกนั ...........................................................................................................
....................................................... ............................................................................................... .......
ขั้นที่ 4 การประเมินผล
4.1 ประเมินผลงาน
สอ่ื
1. อนิ เตอรเ์ น็ต
2. แหล่งเรียนรู้
3. ใบงาน
37
บนั ทึกผลหลังการเรียนรู้
ผลท่เี กิดกบั ผู้เรยี น
ดา้ นกระบวนการจดั กจิ กรรม
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ดา้ นการใชแ้ ผนการพบกลมุ่
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ด้านสื่อการเรยี นรู้
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ปัญหา/อปุ สรรค
...................................................................................................................................................................
....................................................................................................................... ...... ...............................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ลงชื่อ................................................/ผ้สู อน
(นางสาวณฐั ธยาน์ ชนาภทั รภณ)
ตำแหน่ง ครศู ูนย์การเรียนชุมชน
ความคดิ เหน็ ของผูบ้ รหิ าร
......................................................................................................................................................... ..........
............................................................................................................................. ...............................
ลงชือ่ .................................................
(นายชนะชาติ เต็งศริ ิ)
ผ้อู ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรลกั ษ์
38
แบบประเมินกระบวนการทำงานกล่มุ
เรือ่ ง อุบตั ิเหตุ อุบตั ิภัย ครั้งท่ี 1
ลำดบั ชอื่ กลุ่ม ความ มีการแบ่ง การ การแสดงความ รวม
ท่ี รับผดิ ชอบ หนา้ ทก่ี าร นำเสนอ คิดเหน็ ภายใน (20)
และตรงต่อ ทำงาน (5) กลุ่ม
เวลา (5) (5)
(5)
เกณฑ์การประเมนิ อยใู่ นเกณฑ์ ดี แสดงวา่ ผ่าน
15 – 20 คะแนน อยู่ในเกณฑ์ พอใช้ แสดงว่า ผา่ น
10 – 14 คะแนน อยู่ในเกณฑ์ ต้องปรบั ปรงุ แสดงว่า ไม่
ตำ่ กว่า 10 คะแนน
39
แผนการจดั การเรียนรู้ รายวิชา ทช21002วชิ า สขุ ศึกษา พลศกึ ษา
จำนวน...2..หนว่ ยกิต
ครงั้ ท่ี 4 แบบพบกลมุ่ (6 ช่วั โมง)
เรอ่ื ง อบุ ตั เิ หตุ อุบตั ภิ ัย (ครั้งท่ี 2)
ตัวชีว้ ัด 1.บอกเทคนิค วิธกี ารขอความชว่ ยเหลอื และการเอาชวี ติ รอดเมื่อเผชญิ อันตรายและ
สถานการณ์คบั ขันได้อย่างเหมาะสม
2.อธบิ ายวิธกี ารปฐมพยาบาลเมอื่ ได้รับอนั ตรายจากอุบตั ิเหตุ อุบัตภิ ัยได้อย่างถูกต้อง
เน้อื หา 1.เทคนิค วธิ กี ารขอความช่วยเหลือและการเอาชีวติ รอดเมอ่ื เผชิญอันตรายและสถานการณ์
คับขนั
2.การปฐมพยาบาลเม่ือไดร้ ับอนั ตรายจากอบุ ัติเหตุ อุบตั ิภยั และภัยธรรมชาติ
ขั้นตอนการจดั กระบวนการเรียนรู้
ขน้ั ท่ี 1 การกำหนดสภาพ ปญั หา ความต้องการในการเรยี นรู้
1. ครูแสดงบทบาทสมมตุ ิโดยนำภาพผ้าผูกคอสามเหล่ยี มเพอื่ พยุงแขนทเ่ี กดิ สาเหตุจาก
ไหลห่ ลุดและให้ผเู้ รยี นรว่ มกนั วเิ คราะหถ์ งึ สิ่งทีเ่ ห็นว่าเกิดสาเหตุ และวธิ กี ารปฐมพยาบาลด้วยตนเองได้
หรอื ไม่ โดยใชก้ ระบวนการแลกเปลยี่ นเรียนรู้ และครเู ปน็ ผู้สรุปว่าส่งิ ทเี่ กดิ ข้ึนมาจากอบุ ตั ิเหตุ ลม้ และ
เกดิ ปวดหัวไหล่ จึงนำผ้าสามเหล่ยี มทอ่ี ยู่มาผูกและชว่ ยผยุงไหล่และแขนเป็นการปฐมพยาบาลเบอ้ื งตน้
ก่อนไปพบแพทย์ ซง่ึ เปน็ การชว่ ยเหลอื ตัวเองเบื้องต้นได้
ขนั้ ท่ี 2 การแสวงหาข้อมูล และจดั การเรียนรู้
1. ครแู บง่ กล่มุ ผเู้ รียนออกเป็น กลุ่ม ๆ ละ 6 – 8 คน
2. ให้ผูเ้ รยี นสาธติ วธิ ีการปฐมพยาบาลเบ้ืองตน้ ของผปู้ ว่ ย
- กลุ่มท่ี 1 การปฐมพยาบาลเม่อื ถูกไฟฟ้าชอ็ ต
40
- กลุม่ ที่ 2 การปฐมพยาบาลผูป้ ่วยที่มีอาการชอ็ ตเน่ืองจากเลือดไปเลี้ยงเซลล์ตา่ ง ๆ ไม่
เพียงพอ
- กล่มุ ท่ี 3 การปฐมพยาบาลท่มี ีอาการหายใจลำบากหรอื หยุดหายใจ
- กลุ่มที่ 4 การปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยเป็นลมแดด
- กล่มุ ที่ 5 การปฐมพยาบาลผูป้ ว่ ยเปน็ ลมจากความร้อน
ข้นั ที่ 3 การปฏิบตั แิ ละนำไปประยกุ ต์ใช้
ใบงาน
1. ให้ผูเ้ รยี นแลกเปลยี่ นเรยี นรู้ในกลุ่มเพ่ือสรุปนำเสนอหนา้ ชนั้ เรยี น
2. ใหผ้ เู้ รยี นสาธิตวธิ ีการปฐมพยาบาลเบอื้ งตน้ ของผปู้ ว่ ยตามทกี่ ำหนด
กลุม่ ท่ี 1 การปฐมพยาบาลเมื่อถูกไฟฟา้ ช็อต
สาเหตุ.......................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................
อาการ.......................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
การปฐมพยาบาล.....................................................................................................
............................................................................................................................. ................................
กลุ่มที่ 2 การปฐมพยาบาลผปู้ ่วยทีม่ อี าการชอ็ ตเน่ืองจากเลอื ดไปเลีย้ งเซลลต์ ่าง ๆ ไม่
เพยี งพอ
สาเหตุ......................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
อาการ...................................................................................................... .................
................................................................................................................................................. ............
การปฐมพยาบาล.....................................................................................................
............................................................................................................................... ..............................
กลุ่มท่ี 3 การปฐมพยาบาลท่ีมอี าการหายใจลำบากหรือหยุดหายใจ
สาเหต.ุ ......................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................
อาการ.......................................................................................................................
...................................................................................................... .......................................................
การปฐมพยาบาล......................................................................................................
.............................................................................................................................................................
กล่มุ ที่ 4 การปฐมพยาบาลผู้ปว่ ยเป็นลมแดด
สาเหต.ุ ......................................................................................................................
................................................................................................................................. ............................
41
อาการ.......................................................................................................................
............................................................................................................................. ................................
การปฐมพยาบาล......................................................................................................
............................................................................................................................. ................................
กลุม่ ท่ี 5 การปฐมพยาบาลผูป้ ว่ ยเป็นลมจากความร้อน
สาเหตุ.......................................................................................................................
....................................................................................... ......................................................................
อาการ.......................................................................................................................
.............................................................................................................................................................
การปฐมพยาบาล......................................................................................................
............................................................................................................................................................
ขั้นที่ 4 การประเมนิ ผล
4.1 ประเมนิ ผลงาน
สอ่ื
1. อนิ เตอร์เน็ต
2. แหล่งเรียนรู้
3. ใบงาน
42
บนั ทึกผลหลังการเรยี นรู้
ผลทเ่ี กิดกบั ผ้เู รียน
ดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรม
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ดา้ นการใช้แผนการพบกลุม่
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ด้านสอ่ื การเรยี นรู้
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ปญั หา/อปุ สรรค
........................................................................................................................................................ ...........
............................................................................................................................. ...............................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ลงชื่อ................................................/ผูส้ อน
(นางสาวณัฐธยาน์ ชนาภทั รภณ)
ตำแหนง่ ครศู ูนยก์ ารเรียนชุมชน
ความคิดเหน็ ของผูบ้ รหิ าร
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ลงชือ่ .................................................
(นายชนะชาติ เตง็ ศิริ)
ผู้อำนวยการ กศน.อำเภอกันทรลกั ษ์
43
แบบประเมนิ กระบวนการทำงานกลมุ่
เรือ่ ง อุบตั ิเหตุ อุบตั ิภยั คร้งั ท่ี 2
ลำดับ ช่อื กลุ่ม ความ มีการแบง่ การ การแสดงความ รวม
ที่ รบั ผิดชอบ หนา้ ทกี่ าร นำเสนอ คิดเห็นภายใน (20)
และตรงต่อ ทำงาน (5) กลมุ่
เวลา (5) (5)
(5)
เกณฑ์การประเมนิ อยู่ในเกณฑ์ ดี แสดงว่า ผา่ น
15 – 20 คะแนน อยใู่ นเกณฑ์ พอใช้ แสดงว่า ผา่ น
10 – 14 คะแนน อย่ใู นเกณฑ์ ตอ้ งปรับปรงุ แสดงว่า ไม่ผ่าน
ต่ำกวา่ 10 คะแนน
44
แผนการจัดการเรียนรู้ รายวชิ า ทช21002 วิชา สุขศกึ ษา พลศกึ ษา
จำนวน...2..หนว่ ยกติ
ครัง้ ที่ 5 แบบ การเรียนรู้ดว้ ยตนเอง (10 ช่ัวโมง)
เรื่อง พัฒนาการของร่างกาย
ตวั ชี้วัด 1.อธิบายโครงสรา้ ง หน้าท่ี และการทำงานของระบบอวัยวะสำคัญของรา่ งกาย 5 ระบบ
ได้อย่างถูกต้อง
2.ปฏบิ ตั ติ นในการดูแลรักษาและป้องกนั อาการผิดปกตขิ องระบบอวัยวะสำคัญ 5 ระบบ
ไดอ้ ย่างถูกต้อง
3. อธบิ ายพัฒนาการและการเปล่ยี นแปลงตามวยั ของมนษุ ย์ ด้านร่างกาย จติ ใจ อารมณ์
สงั คม สตปิ ัญญาได้อยา่ งถกู ต้อง
เนื้อหา 1.โครงสรา้ ง หน้าท่ี การทำงาน และการดูแลรักษาระบบตา่ งๆท่ีสำคัญของรา่ งกาย 5 ระบบ
- ระบบผวิ หนัง
- ระบบกล้ามเน้ือ
- ระบบกระดกู
- ระบบไหลเวียนโลหิต
- ระบบหายใจ
2. พฒั นาการและการเปล่ยี นแปลงตามวยั ดา้ นร่างกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สตปิ ัญญา
- วัยทารก
- วัยเด็ก
- วยั รุน่
- วยั ผู้ใหญ่
- วยั ชรา
ขนั้ ตอนการจัดกระบวนการเรียนรู้
ข้นั ที่ 1 การกำหนดสภาพ ปัญหา ความตอ้ งการในการเรียนรู้
ครูนำรูปประกอบโครงสร้างหน้าที่การทำงานระบบต่าง ๆ ของร่างกายพร้อมอธิบายความสำคัญ
บทบาทหนา้ ทก่ี ารทำงานของรา่ งกาย 5 ระบบ หากผู้เรียนได้รบั มอบหมายใหไ้ ปหาวิธีการป้องกันดูแลรักษา
ของระบบอวัยวะสำคัญ 5 ระบบ และพัฒนาการและการเปล่ียนแปลงตามวัยด้านร่างกาย จิตใจ อารมณ์
สงั คม สติปญั ญา ตามใบงานต่อไปน้ี
2. วธิ ีการดแู ลรักษาระบบของอวัยวะสำคญั ของรา่ งกาย
2.1 วิธีการดูแลรักษาระบบผวิ หนงั
2.2 วิธกี ารดแู ลรักษาระบบกลา้ มเนื้อ
2.3 วธิ ีการดูแลรกั ษาระบบกระดูก
2.4 วธิ กี ารดแู ลรกั ษาระบบไหลเวียนโลหติ
2.5 วธิ ีการดูแลรักษาระบบหายใจ
3. การพฒั นาการ การเปลี่ยนแปลงตามวัยด้านรา่ งกาย จติ ใจ อารมณ์ สงั คม สติปญั ญา
45
2.1 วัยทารก
2.2 วยั เด็ก
2.3 วัยร่นุ
2.4 วัยผใู้ หญ่
2.5 วยั ชรา
ขนั้ ท่ี 2 การแสวงหาข้อมลู และจดั การเรียนรู้
1. ให้ผู้เรยี นศกึ ษาค้นควา้ ข้อมูลจากแหลง่ เรียนรตู้ ่าง ๆ เกยี่ วกบั วิธกี ารปอ้ งกนั ดแู ลรักษาระบบ
อวัยวะ 5 ระบบ
1.1 วธิ กี ารดูแลรกั ษาระบบผวิ หนงั
1.2 วธิ กี ารดแู ลรักษาระบบกล้ามเนื้อ
1.3 วธิ ีการดูแลรกั ษาระบบกระดูก
1.4 วธิ ีการดูแลรกั ษาระบบไหลเวียนโลหิต
1.5 วธิ กี ารดแู ลรักษาระบบหายใจ
2. การพฒั นาการ การเปลยี่ นแปลงตามวยั ดา้ นรา่ งกาย จิตใจ อารมณ์ สังคม สตปิ ัญญา
2.1 วยั ทารก
2.2 วยั เดก็
2.3 วัยรุ่น
2.4 วัยผ้ใู หญ่
2.5 วัยชรา
3. ใหผ้ เู้ รียนนำข้อมลู ทไี่ ด้จากการศึกษาคน้ ควา้ จัดทำเปน็ รูปเลม่ รายงาน
ขั้นที่ 3 การปฏบิ ตั แิ ละนำไปประยกุ ต์ใช้
46
ใบงาน
1 ให้ผเู้ รยี นศึกษาค้นควา้ โครงสร้างหน้าท่แี ละการดแู ลรักษาระบบทีส่ ำคัญของรา่ งกาย
1.1 ระบบผิวหนงั
ความหมาย
................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................
............................................................................................................................................................
หน้าท่ี
...............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................
............................................................................................................................................................
วธิ กี ารปอ้ งกันดูแลรกั ษา
.............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................
.......................................................................................................................................................
1.2 ระบบกลา้ มเนอ้ื
ความหมาย
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................
.......................................................................................................................................................
หน้าท่ี
....................................................................................... .....................................................................
................................................................................................................................... ................................
.......................................................................................................................................................
วธิ กี ารป้องกนั ดูแลรกั ษา
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................
...................................................................................................................................................
47
1.3 ระบบกระดกู
ความหมาย
............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................
.......................................................................................................................................................
หน้าท่ี
................................................................................................ .............................................................
........................................................................................................................................... ........................
.......................................................................................................................................................
วธิ กี ารปอ้ งกันดูแลรักษา
........................................................................................... .................................................................
....................................................................................................................................... ............................
.......................................................................................................................................................
1.4 ระบบไหลเวียนโลหิต
ความหมาย
.............................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ......................................
.......................................................................................................................................................
หนา้ ท่ี
...................................................................................................... ......................................................
.................................................................................................................................................. .................
.......................................................................................................................................................
วธิ กี ารปอ้ งกนั ดแู ลรักษา
............................................................................................................... ..............................................
.......................................................................................................................................................... .........
.......................................................................................................................................................
48
1.5 ระบบหายใจ
ความหมาย
............................................................................................................ .................................................
....................................................................................................................................................... ............
.......................................................................................................................................................
หนา้ ที่
............................................................................................................................. ................................
...................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
วธิ ีการป้องกนั ดูแลรักษา
............................................................................................................................. ...............................
...................................................................................................................................................................
.......................................................................................................................................................
2. ใหผ้ ู้เรียนศึกษาค้นควา้ การพฒั นาการและการเปล่ียนแปลงด้านตา่ ง ๆ ของแต่ละวัย
2.1 วัยทารก อาย.ุ ............. ปี
- ดา้ นร่างกาย....................................................................................................................
- ดา้ นจติ ใจ.......................................................................................................................
- ดา้ นอารมณ์...................................................................................................................
- ดา้ นสังคม.....................................................................................................................
- ด้านสติปัญญา................................................................................................................
2.2 วัยเดก็ อาย.ุ .................... ปี
- ด้านรา่ งกาย...................................................................................................................
- ด้านจติ ใจ.......................................................................................................................
- ด้านอารมณ.์ ..................................................................................................................
- ด้านสงั คม.....................................................................................................................
- ดา้ นสติปัญญา................................................................................................................
2.3 วยั รุ่น อายุ.................... ปี
- ดา้ นร่างกาย.....................................................................................................................
- ดา้ นจติ ใจ........................................................................................................................
- ด้านอารมณ์.....................................................................................................................
- ด้านสังคม........................................................................................................................
- ด้านสตปิ ญั ญา..................................................................................................................
2.4 วยั ผ้ใู หญ่ อาย.ุ ................... ปี
- ด้านรา่ งกาย.....................................................................................................................
- ด้านจิตใจ........................................................................................................................
- ดา้ นอารมณ์.....................................................................................................................
49
- ดา้ นสงั คม.......................................................................................................................
- ดา้ นสตปิ ัญญา.................................................................................................................
2.5 วยั ชรา อายุ..................... ปี
- ดา้ นรา่ งกาย.....................................................................................................................
- ดา้ นจิตใจ........................................................................................................................
- ด้านอารมณ.์ ....................................................................................................................
- ด้านสังคม.......................................................................................................................
- ด้านสตปิ ัญญา.................................................................................................................
ขั้นที่ 4 การประเมนิ ผล
สอ่ื
1. หนงั สือเรียน/สอื่ สงิ่ พิมพ์
2. อินเตอร์เน็ต
50
บนั ทึกผลหลังการเรยี นรู้
ผลท่เี กิดกบั ผู้เรยี น
ดา้ นกระบวนการจัดกิจกรรม
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ดา้ นการใช้แผนการพบกลุม่
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ด้านสื่อการเรยี นรู้
...................................................................................................................................................................
............................................................................................................................. ...............................
ปัญหา/อปุ สรรค
...................................................................................................................................................................
....................................................................................................................... ...... ...............................
ข้อเสนอแนะ/แนวทางแก้ไข
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ลงชื่อ................................................/ผสู้ อน
(นางสาวณฐั ธยาน์ ชนาภทั รภณ)
ตำแหน่ง ครูศูนย์การเรยี นชุมชน
ความคดิ เหน็ ของผูบ้ รหิ าร
....................................................................................................................................................... ............
............................................................................................................................. ...............................
ลงชื่อ.................................................
(นายชนะชาติ เต็งศริ ิ)
ผูอ้ ำนวยการ กศน.อำเภอกันทรลกั ษ์