The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

ใบงาน ม4 เทอม1.docx

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by jiratta_2006, 2022-05-05 07:43:48

ใบงาน ม.4 เทอม1

ใบงาน ม4 เทอม1.docx

23

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หนว่ ยการจดั กจิ กรรมแนะแนวฉนั พัฒนาได้ ระดับช้นั มัธยมศึกษาปีท่ี 4
ช่อื -สกลุ นกั เรียน..........................................................................................ชน้ั ม.4/..........เลขท.ี่ ..........
ใบงานเร่อื ง นีแ่ หละตัวฉนั

คำชแ้ี จง ให้นักเรียนสำรวจตนเองวา่ มี ข้อดี และข้อบกพร่อง อย่างไรบา้ ง พรอ้ มกบั วเิ คราะหว์ ่าคณุ สมบัติ
เหลา่ น้ัน มสี ว่ นสง่ เสรมิ หรอื สรา้ งปัญหาแก่นักเรียนอย่างไร (เวลา 30 นาที) โดยเขียนลงใน

ตาราง

ขอ้ ดีของฉนั ส่งเสรมิ ชีวติ ฉนั ขอ้ บกพรอ่ งของฉนั เปน็ อปุ สรรคในชวี ติ ฉนั
ดังนี้ ดงั น้ี

ข้อสรปุ ทไ่ี ด้จากกจิ กรรม
............................................................................................................................. .......................................
.......................................................................................... ...........................................................................
............................................................................................................................. ........................................
.....................................................................................................................................................................
.......................................................................................... ...........................................................................
............................................................................................................................. ........................................
.....................................................................................................................................................................

24

ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกจิ กรรมแนะแนวฉันพฒั นาได้ ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4

ชือ่ -สกลุ ......................................................................................................ช้ัน ม.4/..........เลขที.่ ..........

ใบงานเรอ่ื ง แมน้ ความดีเพียงเลก็ น้อยก็ตอ้ งทำ

คำชีแ้ จง ให้นักเรียนเขยี นการกระทำในชวี ติ ประจำวนั ของนกั เรยี น 10 กิจกรรม ลงในตาราง จากนน้ั
วเิ คราะห์ถงึ ประโยชน์ทเี่ กิดข้ึนตอ่ ตนเอง และผู้อ่นื และสรุปสิง่ ท่ไี ดร้ ับจากกิจกรรมนี้

ความดีทีฉ่ นั ทำ ประโยชนท์ ีไ่ ด้รับ
ตวั เอง พ่อแม่ ประเทศชาติ/สังคม
1.
2.
3.
4.
5.
6.
7.
8.
9.
10.

สรุป จากกิจกรรมขา้ งต้น นกั เรยี นไดข้ อ้ คดิ อย่างไรบา้ ง
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
...................................................................................................................................................................
.............................................................................................................………………………………………………
…………………………………………………………...................................................................................................
...................................................................................................................................................................
........................................................

25

ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกจิ กรรมแนะแนวฉนั พฒั นาได้ ระดับชั้น มัธยมศึกษาปที ี่ 4
ชอ่ื -สกลุ .....................................................................................................ชั้น ม.4/..........เลขที่...........
ใบงานเรื่อง บนั ได 5 ขัน้ ของชวี ิต

คำชี้แจง ให้นักเรยี นทบทวนพัฒนาการของตนเองในแต่ละช่วงอายุ ดังตารางและสรปุ สิง่ ทไ่ี ด้รับจากกิจกรรมนี้

ระดับมัธยมต้น ระดบั ชน้ั มัธยมปลาย
สงิ่ ทีภ่ าคภูมิใจ สงิ่ ทภี่ าคภมู ใิ จ............................................
ทำไดอ้ ยา่ งไร..............................................
ทำได้แล้วรู้สกึ อย่างไร..................................

สิง่ ท่ภี าคภูมใิ จ..................................
ทำได้อยา่ งไร....................................
ทำไดแ้ ล้วรสู้ กึ กับตัวเองอยา่ งไร.....................
.......................................................................

ระดบั ประถม ...................................................................
ส่งิ ท่ภี าคภมู ใิ จ ทำได้อย่างไร..............................................
ทำไดแ้ ลว้ รูส้ ึกกับตัวเองอย่างไร.................

ระดบั อนุบาล ......................................................................
สง่ิ ท่ีภาคภมู ิใจ ทำไดอ้ ยา่ งไร.................................................
ทำได้แล้วรสู้ ึกกับตัวเองอยา่ งไร....................

กอ่ นเข้าอนบุ าล .............................................................
สิ่งที่ภาคภูมใิ จ ทำได้อย่างไร........................................
ทำได้แล้วรสู้ ึกกับตวั เองย่างไร..............

26

เอกสารประกอบกจิ กรรมแนะแนว หน่วยการจดั กจิ กรรม ฉนั พฒั นาได้ ระดับชั้น มธั ยมศกึ ษาปีที่ 4
คำชี้แจง ใหน้ ักเรียนวเิ คราะห์ความต้องการของตนเองว่า ปจั จุบันนกั เรียนอยากทำสง่ิ ใดมากที่สุด
และวางแผนวา่ ต้องปฏิบตั ิตนอยา่ งไรบ้างเพื่อพฒั นาความสามารถของตนเองไปสู่เป้าหมายท่ีตอ้ งการ

ส่ิงทฉ่ี ันอยากทำมากทส่ี ดุ ในชน้ั ม.4..................................

ขัน้ ตอนท่ตี ้องพัฒนาตนเอง เพ่อื ไปสเู่ ปา้ หมายทต่ี ้ังใจ
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………

27

เอกสารประกอบกจิ กรรมแนะแนว หน่วยการจดั กิจกรรม ฉันพฒั นาได้ ระดับช้ัน มัธยมศึกษาปีที่ 4

เอกสารเพมิ่ เติมสำหรบั ครู “เรอื่ ง เทคนคิ การพฒั นาตน”

ความหมายของการพัฒนาตน

การพฒั นาตน ตรงกบั ภาษาอังกฤษว่า self-development แต่ยังมีคำท่ีมคี วามหมายใกลเ้ คียงกับคำ
วา่ การพฒั นาตน และมักใชแ้ ทนกันบอ่ ยๆ ไดแ้ ก่ การปรับปรงุ ตน (self-improvement) การบริหารตน (self-
management) และการปรับตน (self-modification) หมายถงึ การเปลย่ี นแปลงตวั เองให้เหมาะสมเพ่ือ
สนองความต้องการและเป้าหมายของตนเอง หรอื เพ่อื ใหส้ อดคลอ้ งกบั สิ่งทีส่ ังคมคาดหวงั

ความหมายท่ี 1 การพัฒนาตนคอื การทบ่ี คุ คลพยายามท่ีจะปรบั ปรงุ เปลี่ยนแปลงตนดว้ ยตนเองให้ดีขน้ึ
กว่าเดมิ เหมาะสมกว่าเดิม ทำให้สามารถดำเนินกจิ กรรม แสดงพฤติกรรม เพื่อสนองความตอ้ งการ แรงจูงใจ
หรอื เปา้ หมายที่ตนต้งั ไว้

ความหมายที่ 2 การพัฒนาตนคือการพัฒนาศักยภาพของตนดว้ ยตนเองให้ดีขึน้ ทง้ั รา่ งกาย จิตใจ อารมณ์
และสงั คม เพื่อให้ตนเป็นสมาชกิ ท่มี ีประสิทธภิ าพของสังคม เปน็ ประโยชน์ตอ่ ผ้อู ื่น ตลอดจนเพือ่ การดำรงชีวิต
อย่างสนั ติสุขของตน

แนวคิดพืน้ ฐานในการพฒั นาตน
บุคคลที่จะพัฒนาตนเองได้ จะต้องเป็นผู้มุ่งมั่นที่จะเปล่ียนแปลงหรือปรับปรุงตัวเอง โดยมี

ความเชื่อหรือแนวคิดพื้นฐานในการพัฒนาตนที่ถูกต้อง ซึ่งจะเปน็ ส่ิงท่ีช่วยสง่ เสริมให้การพัฒนาตนเองประสบ
ความสำเรจ็ แนวคดิ ที่สำคัญมดี งั น้ี

1. มนษุ ย์ทุกคนมีศักยภาพทมี่ ีคณุ ค่าอย่ใู นตวั เอง ทำใหส้ ามารถฝึกหดั และพัฒนาตนไดใ้ น
เกือบทกุ เร่ือง

2. ไม่มีบคุ คลใดท่ีมคี วามสมบรู ณพ์ ร้อมทกุ ด้าน จนไมจ่ ำเป็นต้องพัฒนาในเรอื่ งใดๆ อีก
3. แม้บุคคลจะเปน็ ผูท้ ่ีรจู้ กั ตนเองไดด้ ีที่สดุ แตก่ ไ็ มส่ ามารถปรบั เปล่ยี นตนเองได้ในบาง
เร่อื ง ยงั ต้องอาศัยความชว่ ยเหลือจากผู้อ่นื ในการพัฒนาตน การควบคมุ ความคิด ความรู้สึก และการกระทำ
ของตนเอง มีความสำคญั เท่ากับการควบคมุ สงิ่ แวดลอ้ มภายนอก
4. อปุ สรรคสำคญั ของการปรบั ปรงุ และพัฒนาตนเอง คอื การทีบ่ คุ คลมีความคดิ ตดิ ยึด ไม่
ยอมปรับเปลีย่ นวิธคี ดิ และการกระทำ จึงไม่ยอมสรา้ งนิสัยใหม่ หรือฝกึ ทักษะใหมๆ่ ที่จำเปน็ ตอ่ ตนเอง
5. การปรบั ปรงุ และพัฒนาตนเองสามารถดำเนินการได้ทุกเวลาและอย่างต่อเน่ือง เม่อื พบ
ปญั หาหรอื ข้อบกพร่องเก่ยี วกับตนเอง
ความสำคัญของการพัฒนาตน

28

บคุ คลล้วนตอ้ งการเปน็ มนุษย์ทส่ี มบูรณ์ หรืออยา่ งน้อยกต็ ้องการมชี วี ิตท่ีเปน็ สุขในสังคม
ประสบความสำเรจ็ ตามเป้าหมายและความต้องการของตนเอง พัฒนาตนเองได้ทันตอ่ การเปลยี่ นแปลงที่
เกิดขึน้ ในสังคมโลก การพัฒนาตนจึงมคี วามสำคญั ดังน้ี
ก. ความสำคญั ต่อตนเอง จำแนกได้ดังนี้

1. เปน็ การเตรียมตนให้พรอ้ มในด้านต่างๆ เพอื่ รับกบั สถานการณ์ทัง้ หลายไดด้ ว้ ยความรู้สึกทด่ี ีต่อตนเอง
2. เป็นการปรับปรงุ ส่ิงทบ่ี กพร่อง และพฒั นาพฤติกรรมใหเ้ หมาะสม ขจดั คุณลักษณะทไี่ มต่ ้องการออก
จากตวั เอง และเสรมิ สร้างคุณลกั ษณะที่สังคมต้องการ
3. เป็นการวางแนวทางใหต้ นเองสามารถพัฒนาไปสู่เป้าหมายในชวี ิตได้อยา่ งม่ันใจ
4. ส่งเสรมิ ความรูส้ กึ ในคุณคา่ แห่งตนสงู ให้ข้ึน มีความเข้าใจตนเอง สามารถทำหนา้ ท่ีตามบทบาทของตน
ไดเ้ ต็มศักยภาพ
ข. ความสำคญั ต่อบุคคลอ่ืน

เนอื่ งจากบุคคลยอ่ มตอ้ งเกี่ยวข้องสัมพันธ์กัน การพฒั นาในบุคคลหนึ่งย่อมส่งผลต่อบุคคลอ่ืน
ด้วย การปรับปรุงและพัฒนาตนเองจึงเป็นการเตรียมตนให้เป็นสง่ิ แวดลอ้ มที่ดีของผู้อ่นื ท้ังบุคคลในครอบครัว
และเพื่อนในท่ีทำงาน สามารถเป็นตัวอย่างหรือเป็นท่ีอ้างอิงให้เกิดการพัฒนาในคนอื่นๆ ต่อไป เป็น
ประโยชน์รว่ มกันทั้งชีวติ ส่วนตัวและการทำงานและการอยู่รว่ มกันอย่างเปน็ สุขในชุมชน ท่ีจะส่งผลใหช้ ุมชนมี
ความเข้มแข็งและพัฒนาอยา่ งต่อเนื่อง
ค. ความสำคญั ตอ่ สังคมโดยรวม

ภารกิจที่แต่ละหน่วยงานในสังคมต้องรับผิดชอบ ล้วนต้องอาศัยทรัพยากรบุคคลเป็น
ผู้ปฏิบัติงาน การท่ีผู้ปฏิบัติงานแต่ละคนได้พัฒนาและปรับปรุงตนเองให้ทันต่อพัฒนาการของรูปแบบการ
ทำงานหรือเทคโนโลยี การพฒั นาเทคนิควิธี หรือวิธีคิดและทักษะใหมๆ่ ท่ีจำเป็นต่อการเพ่ิมประสทิ ธภิ าพการ
ทำงานและคุณภาพของผลผลิต ทำให้หน่วยงานน้ันสามารถแข่งขันในเชิงคุณภาพและประสิทธิภาพกับสังคม
อน่ื ได้สงู ขึ้น สง่ ผลให้เกดิ ความมัน่ คงทางเศรษฐกจิ ของประเทศ

(ท่ีมา ผศ.วินยั เพชรชว่ ย http://www.novabizz.com/NovaAce/Learning/Self_Development.htm)

29

ใบความรู้กจิ กรรมแนะแนว หนว่ ยการจัดกิจกรรม ฉนั พัฒนาได้ ระดบั ชัน้ มัธยมศึกษาปีท่ี 4

ใบความรู้ เรอื่ งเทคนคิ การพฒั นาตนตนเองด้วยหลัก 4 Self

ในโลกยคุ โลกาภิวฒั น์ ท่ีมกี ารเปล่ยี นแปลงอยา่ งต่อเน่ืองอยู่เสมอ ไมว่ า่ จะเปน็ ในเรื่องของเทคโนโลยี
การส่อื สาร สภาพเศรษฐกจิ และข้อมลู ข่าวสารต่าง ๆ ที่มีการสง่ ถา่ ยถึงกันและกันเร็วขน้ึ และจากการ
เปลี่ยนแปลงทเี่ กิดขน้ึ อย่างรวดเรว็ นี้เองจงึ เป็นเสมือนพลงั ผลักดนั ให้คนแตล่ ะคนต่างตอ้ งตระหนักถึง
ความสำคญั ของการเปล่ยี นแปลง อันทำใหเ้ กดิ การพัฒนาตนเองอย่างต่อเนื่องอยเู่ สมอเพื่อให้ตนมีความพร้อม
รับมือกบั การเปล่ียนแปลงท่เี กดิ ขน้ึ อย่างไม่หยุดยงั้

ผู้ทีพ่ ัฒนาตนเองยอ่ มเป็นบคุ คลทปี่ ระสบความสำเรจ็ ในหนา้ ทกี่ ารงาน ได้รับความกา้ วหน้าในสาย
อาชีพ ได้รบั คำยกย่อง สรรเสริญมากกว่าผทู้ ่ีอยู่ไปวัน ๆ โดยไมส่ นใจทจ่ี ะพฒั นาความรู้และความสามารถของ
ตนเอง

ดังนน้ั หากมีความต้องการที่จะประสบผลสำเรจ็ ในชวี ติ การเริ่มต้นที่จะพฒั นาตนเองโดยไม่พ่ึงพาผู้อ่นื
เป็นสิง่ ทีค่ วรกระทำเปน็ อย่างยง่ิ ต้องตระหนักอยู่เสมอวา่ “ชวี ิตเรา เราเปน็ ผู้เลอื กทีจ่ ะลิขติ หรอื เลอื กเสน้ ทาง
ในการดำเนินชวี ติ เอง” อยา่ ปลอ่ ยใหผ้ ู้อนื่ มาเปน็ ผู้มีอิทธพิ ลและช้นี ำการดำเนินชีวติ ของตัวเรา

การพัฒนาตนเองให้พบกับความสำเร็จในชวี ิตนนั้ ข้นึ อย่กู บั ความพร้อมและความมุ่งมั่นของตวั เอง
หลักปฏิบัติตนอย่างง่าย ๆ ที่สามารถทำได้ด้วยแนวคดิ ของ 4 Self ดงั ตอ่ ไปน้ี
Self Awareness

1. ตระหนกั รูใ้ นความต้องการของตนเอง (Self Awareness) มขี ้นั ตอนดงั น้ี
ขั้นตอนท่ี 1 ตระหนักในเป้าหมายของชีวิต เร่ิมต้นค้นหาว่าส่วนลึก ๆ แล้วต้องการอะไรกันแน่ เป็น
การตระหนกั ในเป้าหมายที่อยากจะมีและอยากจะเป็นในอนาคตข้างหน้า เช่น บางคนอยากมีความสุข บางคน
อยากจะประสบความสำเร็จในการทำงาน บางคนอยากมีร้านเล็ก ๆ เป็นของตนเอง เป็นต้น และเม่ือตระหนัก
รูแ้ ลว้ ว่าเปา้ หมายหรือสิ่งท่ีต้องการจะไปนั้นคอื อะไร
ขน้ั ตอนท่ี 2 ควรสำรวจต้นเหตุ คือสำรวจตนเองลึกลงไปอีกวา่ ตน้ เหตทุ จ่ี ะทำให้ฝันหรอื เปา้ หมายเกิด
ข้ึนมาไดน้ นั้ คืออะไร เช่น อยากมคี วามสุข แลว้ ความสุขจะเกดิ ขึน้ จากอะไร เปน็ ตน้
ข้นั ตอนที่ 3 สำรวจหาแนวทาง เมื่อตระหนักรูว้ ่าอะไรคอื เหตุผลลกึ ๆ ของเปา้ หมายท่กี ำหนดข้นึ แล้ว
ข้นั ตอนถัดไปกค็ ือคุณควรคดิ ไตรต่ รองดวู า่ จะทำอย่างไรใหฝ้ นั นนั้ เป็นจริง เชน่ หากคุณคดิ ว่าการเรียนต่อ
ปรญิ ญาตรี อนั นำมาซึ่งความภาคภูมใิ จในสว่ นลึก ๆ ของคุณเองและคนรอบข้าง
ขัน้ ตอนที่ 4 สำรวจความพร้อม เพื่อสำรวจวา่ ตนเองว่าคุณมคี วามพรอ้ มในเรื่องเวลา และ
งบประมาณมากน้อยแค่ไหน.....หากคณุ คิดว่าคุณพรอ้ มแลว้ คุณกค็ วรเริม่ คิดต่อไปว่าจะต้องทำอยา่ งไรบ้างใน
การเรยี นต่อระดบั ปริญญาตรีใหไ้ ด้ นั่นก็คอื การตรวจสอบมหาวทิ ยาลัยท่ีเหมาะสมและติดตอ่ มหาวทิ ยาลยั เพื่อ
เข้ารบั การทดสอบต่อไป

30

Self Discipline
2. ตระหนักรหู้ นทางสู่ความสำเร็จ (Self Discipline) หรือ Self แหง่ ความมีวินยั Self ตวั นี้จะ

บอกคุณว่าหนทางของความสำเรจ็ ในเป้าหมายท่ีกำหนดขึน้ ไม่ใชเ่ ป็นหนทางของถนนเรียบ แตเ่ ป็นหนทาง
ของถนนทีข่ รุขระซึ่งคณุ เองจะตอ้ งพบเจอกบั ปัญหาและอุปสรรคต่าง ๆ เหมอื นกบั การขนึ้ ภเู ขาทค่ี ุณจะต้อง
คอ่ ย ๆ ไต่ขน้ึ ไปเพื่อให้ไปถงึ ยอดเขา และการข้ึนไปสูย่ อดเขาให้ได้นนั้ คุณอาจจะต้องพบเจอกับ หน้าผาทีส่ งู
ชัน ก้อนหินทข่ี วางทางคุณอยู่ และเมือ่ คุณมเี ป้าหมายท่ีจะขึ้นไปสู่ยอดเขานนั้ ให้ได้ คณุ จะตอ้ งมวี นิ ยั ในตนเอง
วา่ คณุ จะต้องทำใหไ้ ด้เพื่อไปสู่ชยั ชนะท่วี าดฝันไว้ไมว่ า่ จะเจอกบั ปัญหาและอุปสรรคใด ๆ ก็ตาม ซงึ่ Self ตัวนี้
จะเปน็ พลังผลักดนั ใหค้ ุณสร้างวนิ ยั ในการปฏบิ ัตติ นให้ไปสคู่ วามฝันท่กี ำหนดข้ึน ไม่ย่อท้อหรอื หว่นั ไหวไปซะ
ก่อนกบั ปญั หาท่เี กิดขึ้น ดว้ ยการเปลี่ยนเปา้ หมายของตนเอง เชน่ หากคณุ ได้รบั การคดั เลอื กเข้าศึกษาต่อ
ปริญญาตรแี ลว้ ล่ะก็ แนน่ อนว่าคณุ จะต้องเจอะเจอกับปญั หาสารพดั ไม่วา่ จะเป็นเวลาท่ีไม่อาจแบ่งสรรให้กับ
การเรียนได้ ปญั หาเรื่องแฟนหรอื คนในครอบครัวไมช่ อบใจท่คี ณุ ไมใ่ หเ้ วลากบั พวกเขา ปัญหางบประมาณมี
จำกัด ปญั หาเหล่านจี้ ะส่งผลใหค้ ณุ คิดไปเองว่าตนเรียนไม่ไหวอยา่ งแน่นอน น่นั ก็คือคุณพยายามหาเหตผุ ล
สนบั สนนุ วา่ คุณไม่สามารถเรียนตอ่ ในระดับปริญญาตรีได้ เปน็ ตน้ แตห่ ากคุณมี Self แห่งวินัยในตนเองแล้วละ่
ก็ Self ตัวนีจ้ ะเปน็ พลงั ผลักดันใหค้ ุณสรา้ งวินัยในการปฏบิ ตั ิตนใหฟ้ ันฝา่ ปญั หาทเี่ กิดขึ้น ด้วยการจัดสรรเวลา
ให้เหมาะสม และการบังคับตนเองใหม้ วี ินัยพอท่จี ะปฏิบัติตนตามเวลาท่กี ำหนดขน้ึ

SelfI Improvement
3. ตระหนกั รหู้ นทางแหง่ การพัฒนาตนเอง (Self Improvement) Self ท่ีสามนจ้ี ะเป็นเสมอื นตวั

จุดประกายใหค้ ุณมีความรู้ และความสามารถในการสานฝันทีก่ ำหนดขึน้ ใหเ้ ป็นจรงิ ได้ Self ตวั นจ้ี ะทำให้คุณ
เริม่ ถามตนเองว่าคุณจะตอ้ งพัฒนาตนเองในเร่ืองใดบา้ ง เพ่ือให้คุณมีศักยภาพเพยี งพอที่จะทำใหเ้ ป้าหมายของ
ตนเองบรรลผุ ลสำเร็จ หากคุณมีหวั ใจพร้อมท่ีจะพัฒนาแล้วน้นั ยอ่ มจะทำใหค้ ุณมีแรงอึด มพี ลังพอท่ีจะ
ปรบั ปรุงตนเองอย่างต่อเน่ืองอยู่เสมอ ไม่คิดย่อท้อหรือหมดหวงั ที่จะเหน็ ผลสำเร็จของความฝันน้นั ๆ ของคุณ
เอง เช่น หากคุณมโี อกาสเขา้ เรียนต่อในระดบั ปรญิ ญาตรี ซึ่งคณุ พบวา่ มคี วามรู้ในวชิ าทเี่ รยี นไม่เท่ากับเพื่อน ๆ
คนอนื่ แล้วล่ะก็ ความรสู้ ึกท่จี ะเกดิ ขึ้นกับคุณต่อไปน้นั มีอยู่สองดา้ น นัน่ ก็คือ ด้านหนงึ่ เป็นความร้สู กึ ทางลบคอื
คณุ จะเริ่มรสู้ ึกเบื่อ เซ็ง ไม่ชอบในสิง่ ทค่ี ณุ เองได้เลือกไปแล้ว และความรสู้ กึ อกี ด้านหน่ึงเปน็ ความร้สู กึ ใน
ทางบวก ซงึ่ คุณเองต้องพยายามบอกตนเองเสมอว่าคุณจะต้องพัฒนาความร้ทู ี่ยังขาดหายไปให้มมี ากข้นึ ให้จง
ได้ ความรู้สึกในทางบวกน้จี ะเป็นพลงั ผลกั ดันให้คุณหาหนทางและวิธีการตา่ ง ๆ นา ๆ ทจ่ี ะปรับปรงุ ตนเองใหม้ ี
ความรู้ และความสามารถมากยง่ิ ขน้ึ ต่อไป

Self Evaluation
4. ตระหนักรูร้ ะดบั ขั้นของการไปสคู่ วามความสำเรจ็ (Self Evaluation) Self ตวั นี้จะทำให้คณุ

เริม่ ประเมนิ ผลการปฏิบตั ติ นของตวั คุณวา่ ประสบความสำเรจ็ ไปมากน้อยแคไ่ หนบา้ ง ซง่ึ คุณเองจะต้อง
ประเมนิ ผลตนเองเปน็ ระยะอย่างตอ่ เน่ืองอยู่เสมอ ท้งั น้คี ำถามหลัก ๆ ที่คุณจะต้องประเมินตนเอง น่ันก็คือ
คุณยังสามารถทำเป้าหมายท่ีกำหนดข้ึนใหเ้ ป็นจริงไดน้ ัน้ ตามเงอ่ื นไขที่ถกู กำหนดขนึ้ ไว้แล้วไดห้ รือไม่ .......คณุ มี

31

ความรูแ้ ละความสามารถเพียงพอหรือยัง............คณุ จะตอ้ งทำอยา่ งไรบ้างในการทำใหค้ ุณมีความรแู้ ละ
ความสามารถเพ่ิมมากขึ้นในอันที่จะทำให้เปา้ หมายของคณุ บรรลผุ ลสำเร็จ.....ท้งั นกี้ ารประเมนิ ตนเองนั้น
คุณควรกำหนดขนึ้ เปน็ ระยะ ๆ เชน่ ทุกคร่ึงภาคเรยี นทุกภาคเรียน เปน็ ตน้ เชน่ คณุ สามารถประเมินความรู้
ของคณุ วา่ เมื่อไดผ้ ่านการสอบวัดผลในแต่ละครัง้ คุณรอู้ ะไรเพม่ิ มากขึ้นหรือไม่ ความรู้อะไรบ้างทคี่ ุณอยากจะรู้
และยงั ไม่รู้ และคุณจะตอ้ งทำอะไรบา้ งเพอื่ ใหค้ ุณมคี วามรเู้ พม่ิ ขน้ึ ในสิง่ ท่ีตนเองยงั ไม่รู้เป็นต้น

สรปุ การพฒั นาตนเองให้ประสบผลสำเร็จนั้นไม่ยาก ขอเพยี งแต่ว่าคณุ จะตอ้ งมคี วามมุ่งมน่ั และ
ตั้งใจจรงิ ทจี่ ะบรหิ ารตนเอง ( Self) ด้วยการตระหนกั รู้ในความคาดหวังของตนเอง การสร้างวินัยในการ
ปฏบิ ัติตนตามเง่ือนไขของเวลาทก่ี ำหนด การปรบั ปรุงความรคู้ วามสามารถของตนเองอยเู่ สมอ และ
สดุ ทา้ ยน่นั ก็คือการประเมินผลสำเรจ็ ในเปา้ หมายทีต่ ัวคณุ เป็นผลู้ ิขิตขน้ึ เป็นระยะอย่างตอ่ เนอื่ ง

ทีม่ า : http://www.hrcenter.co.th

32

ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจดั กิจกรรมฉันกับคนรอบข้าง ระดับชั้นมธั ยมศึกษาปที ่ี 4

ชอ่ื -สกลุ ...............................................................................ชน้ั ม.4/............................เลขท่ี…………

ใบงานเรื่อง ส่ิงท่ฉี นั ปรารถนา
คำแนะนำ

“ถา้ มแี ก้ววิเศษ ขอพรได้ 3 ข้อ ทม่ี คี วามสขุ ท่ีสดุ ในชวี ติ นกั เรียนจะขออะไรบา้ ง

1

2
3

33

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หน่วยการจัดกจิ กรรมฉนั กับคนรอบข้าง ระดับชั้นมัธยมศึกษาปที ่ี 4

ชือ่ -สกลุ .............................................................................ชนั้ ม.4/............................เลขท่ี…………
กลมุ่ ที่ ………………………………………………………….

ใบงานเรอ่ื ง วิเคราะหค์ วามตอ้ งการ

ความต้องการทางดา้ นร่างกาย ความต้องการทางด้านจติ ใจ

34

ใบความรู้กจิ กรรมแนะแนว หนว่ ยการจัดกจิ กรรม ฉันกับคนรอบขา้ ง ระดับช้ันมัธยมศึกษาปที ี่ 4

ใบความรเู้ ร่ือง ความต้องการพน้ื ฐานของมนษุ ย์ 5 ข้นั ของมาสโลว์ (Maslow’s basic needs)

มาสโลว์นักมานุษยวิทยา ได้เสนอแนวคิดเก่ียวกับความต้องการของมนุษย์ว่า ความต้องการของ
มนุษย์ เป็นไปตามลำดับข้ัน 5 ข้ัน และความต้องการของมนุษย์น้ันจะเป็นตัวกระตุ้น หรือเป็นแรงจูงใจให้
มนุษย์แสดงพฤติกรรมต่างๆ ออกมา เพ่ือสนองตอบต่อความต้องการน้นั ๆ ดงั นนั้ ถา้ เรามีความเข้าใจเรื่องความ
ต้องการของมนุษย์แล้ว เราจะสามารถเข้าใจพ้ืนฐานพฤติกรรมของมนุษย์ได้มากย่ิงขึ้น ซ่ึงมาสโลว์ ได้
ลำดับขั้นความต้องการพนื้ ฐาน แบง่ เป็น 5 ลำดับขน้ั ได้ ดังน้ี

ข้นั ที่ 1 ความตอ้ งการทางร่างกาย (Physiological Needs) เป็นระดบั ความต้องการปัจจยั
พน้ื ฐานของมนษุ ย์ ได้แก่ ปัจจยั 4 อาหาร เคร่ืองนุง่ ห่ม เสื้อผา้ ยารกั ษาโรค และทอ่ี ยู่อาศัย

ขนั้ ท่ี 2 ความต้องการความมนั่ คงและความปลอดภัย (Safety Needs) เชน่ ปลอดภัย จาก
อุบตั เิ หตุ การบาดเจบ็ การเจ็บปว่ ย เศรษฐกจิ ตกตำ่ การถูกข่มขู่จากบคุ คลอนื่ และการถกู โจรกรรม
ทรพั ยส์ นิ เปน็ ตน้

ข้นั ที่ 3 ความตอ้ งการทางสังคม (Social Needs) ไดแ้ ก่ ความต้องการการยอมรับเข้าเปน็ สมาชิก
การใหค้ วามรัก (love and belonging) เป็นตน้

ขั้นที่ 4 ความต้องการการยอมรับนับถือ และเหน็ ว่าตนเองมีคณุ ค่าตอ่ สังคม (Esteem Needs)
มาสโลว์ ไดใ้ หค้ วามหมายไว้ 2 ประการคือ

ประการท่ี 1 ความตอ้ งการการยกย่องนับถือ
ประการที่ 2 ความตอ้ งการที่เก่ยี วกับการมีช่อื เสยี ง
ขั้นที่ 5 ความต้องการความสำเร็จ (Actualization Needs) เปน็ ความตอ้ งการระดับสูงสุดของ
มนษุ ย์ เปน็ ความพยายามของมนุษยท์ จี่ ะให้บุคคลอ่ืนยอมรับนบั ถอื ตนเอง รวมกับความต้องการและ
ความสำเรจ็ ของตนเอง ซง่ึ มาสโลว์ เรียกวา่ ความต้องการความเจริญก้าวหนา้ (Growth Needs)
มาสโลว์ ได้กล่าวเน้นว่า ความต้องการต่าง ๆ เหล่าน้ีต้องเกิดตามลำดับข้ัน ถ้าขั้นที่ 1 ไม่ได้
รับ การตอบสนองความต้องการในลำดับข้ันที่ 2-5 ก็ไม่อาจเกิดขึ้นได้ การตอบสนองที่ได้รับในแต่ละข้ันไม่
จำเป็น ต้องได้รับท้ัง 100% แต่ต้องได้รับบ้าง เพื่อจะได้เป็นบันไดนำไปสู่การพัฒนาความต้องการในระดับที่
สูงขึ้นในลำดบั ข้ันต่อไป

ใบความรกู้ ิจกรรมแนะแนว หนว่ ยการจัดกจิ กรรมฉนั กับคนรอบขา้ ง 35
ใบความรู้เร่อื ง สิง่ ที่มอบให้
ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4

ท่ามกลางสายลมเย็นในฤดหู นาว เด็กชายยากจนคนหนึง่ ขายหนงั สือพิมพอ์ ย่ตู ามถนน
วนั นนั้ อากาศหนาวกว่าทกุ ๆ วนั ผคู้ นต่างเรง่ รบี กลบั บา้ น ไม่มใี ครซือ้ หนงั สือพิมพเ์ ลย เด็กชาย
ทงั้ หิวและหนาวเหนบ็ จนแทบจะแข็งไปทงั้ ตวั แตเ่ ขาตอ้ งอดทนเรข่ ายหนงั สอื พิมพต์ ่อไป เพราะ
นอ้ งชายตวั เล็กๆกาลงั รออาหารอย่ทู ่บี า้ น อากาศหนาวเย็นขนึ้ เร่ือยๆ รา้ นคา้ ก็พากนั ปิดรา้ น
เพราะไมม่ ลี กู คา้ เดก็ นอ้ ยคิดถึงพ่อแม่ท่ีจากไปเพราะอบุ ตั เิ หตทุ างรถยนต์ คิดถงึ นา้ อ่นุ ๆสกั อกึ
และเตาไฟอ่นุ ๆเพ่อื คลายหนาว แตเ่ ม่อื นึกถึงดวงตาของนอ้ งตวั เล็กๆผดุ ขึน้ มา เขาก็หักใจเดนิ
ขายหนงั สือพิมพต์ ่อไป อย่างนอ้ ย....ขายไดอ้ ีกสกั เลม่ ก็ยงั ดี ขณะนนั้ เองชายท่เี ดนิ ผา่ นมาเรียก
ใหเ้ ด็กชายหยุด แลว้ ลว้ งกระเป๋ าเอาเงนิ จานวนเทา่ หนงั สอื พิมพอ์ อกมาย่นื ให้ พรอ้ มรวบมือ
เล็กๆของเด็กชายไวใ้ นองุ้ มอื “ดสู ิ....มือเยน็ เฉียบเลย อากาศหนาวๆอยา่ งนีเ้ หน่อื ยแย่เลย
เสยี ดายท่ชี ว่ ยอะไรหนไู มไ่ ดม้ าก” มือของชายใจดแี สนอบอ่นุ เดก็ ชายตอบกลบั ไปว่า
“ขอบคณุ ครบั คณุ นา้ ตอนนีผ้ มไมห่ นาวแลว้ ละ แค่คณุ นา้ ชว่ ยใหม้ ือผมอนุ่ พดู เพราะๆกบั ผม
กเ็ ป็นของขวญั ชิน้ ใหญ่สาหรบั ผมแลว้ ครบั ”

ส่งิ ทเี่ รยี กวา่ ”ความรกั ” ไมใ่ ชส่ ่งิ ทใี่ หญ่โตมโหฬารเกนิ กว่าจะเขา้ ใจ
แค่เพยี งการจบั มือคนอนื่ ดว้ ยจิตใจ ทอี่ บอ่นุ การตงั้ ใจฟงั ทกุ ขร์ อ้ นของคนอนื่

ไม่มีอะไรทแี่ ย่ไปกว่า การคดิ ว่าตวั เองไม่มีอะไรมากมายทจี่ ะแบ่งปนั
จึงไม่เคยมอบส่งิ ใดใหใ้ ครเลย
(ดดั แปลงจาก vitamin story หนา้ 102-104)

36

ใบงานกิจกรรมแนะแนว หนว่ ยการจดั กจิ กรรม ฉันกบั คนรอบข้าง ระดบั ช้นั มัธยมศึกษาปที ี่ 4

ช่อื -สกลุ ................................................................................ชนั้ ม.4/............................เลขท่ี…………

ใบงานเรอ่ื ง สิ่งท่ฉี นั ต้องการจากผอู้ น่ื

คำแนะนำ ใหน้ ักเรยี นเขยี นความตอ้ งการของนักเรยี นให้ได้มากทสี่ ดุ ลงในตาราง

บุคคลรอบข้าง สิ่งที่นักเรียนต้องการจะได้รับจากคนรอบขา้ ง

ด้านรา่ งกาย ดา้ นจิตใจ

บดิ า

มารดา

พี่

นอ้ ง

ญาติผู้ใหญ่

ครู
เพื่อน

……….………….
…….…………….

37

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หน่วยการจดั กจิ กรรมฉนั กับคนรอบข้าง ระดบั ช้นั มัธยมศกึ ษาปที ่ี 4

ชอ่ื -สกุล................................................................................ช้ัน ม.4/............................เลขท่ี…………

ใบงานเรอื่ ง การปฏิบตั ติ ่อคนรอบขา้ ง

คำแนะนำ ให้นักเรยี นบอกแนวปฏิบตั กิ ับคนรอบข้างอย่างไรจนเปน็ กิจนสิ ยั เพ่ือความเหมาะสมเป็นประโยชน์
และเปน็ ความสุขทยี่ ัง่ ยนื คนละอยา่ งน้อย 3 ข้อ

ส่งิ ท่ฉี นั ตัง้ ใจจะปฏิบัตติ ่อผู้อน่ื เพ่อื การอยู่รว่ มกนั อย่างเปน็ สขุ
1…………………………………….
2…………………………………….
3……………………………………..

38

เอกสารแนบท้าย
กิจกรรมส่ีเหลี่ยมจตั ุรสั

1. ตดั กระดาษแข็งเปน็ รปู ส่เี หลี่ยมจัตุรสั ขนาด 6 น้วิ จำนวน 5 ช้นิ
2. ตัดส่เี หล่ยี มจัตุรสั ออกเปน็ ชิน้ ส่วนต่างๆ ตามแบบ (ชิน้ A ต้องมีขนาดเดียวกนั )
3. นำชิ้นสว่ นมาผสม โดยใส่ซอง ดงั นี้

ซองที่ 1 AAAC ซองท่ี 2 DF ซองท่ี 3 IHE ซองที่ 4 AJ ซองท่ี 5 GBFC
หมายเหตุ อุปกรณ์ชดุ น้ี ใช้สำหรับนักเรียน 1 กลมุ่ ทมี่ จี ำนวนสมาชิก 5 คน และให้เพ่ิมตามจำนวนกลมุ่ ใน
ช้นั เรียน

A D
CC
B
A

6 นวิ้ 3 นิว้ 3 นวิ้ G
F 3 นิว้
H
E
A
F 3 นิว้
3 นิว้

6 นิว้
I

3 นวิ้

J
3 นวิ้

A

39

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หน่วยการจดั กจิ กรรมเรยี นรู้อย่างเข้าใจ ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4

ชอื่ -สกลุ นักเรียน..........................................................................................ช้นั ม.4/..........เลขท.ี่ ..........

ใบงานเร่อื ง แบบสำรวจสมรรถนะและคุณลกั ษณะ
ตามจดุ หมายของหลกั สูตร

 ให้นักเรียนพจิ ารณาว่า ท่ีผ่านมานักเรียน เคยทำ ส่ิงต่อไปนบ้ี ่อยครัง้ เพียงใด

ขอ้ ที่ ขอ้ ความ ทำเป็น ทำบ่อย ทำ ทำน้อย ไม่ รวม
ประจำ ครั้ง บางค คร้ัง เคย คะแนน
1 ถา่ ยทอดความคดิ ความรสู้ กึ หรอื ความรูใ้ ห้ผู้อนื่ เขา้ ใจ
(4) รง้ั (2) ทำ
(5) (3) (1)

2 แลกเปลยี่ นขอ้ มูลขา่ วสารและประสบการณ์ทเี่ ปน็ ประโยชน์กบั ผอู้ ่ืน ……….
3 เจรจาตอ่ รองเพ่ือขจดั และลดปัญหาความขดั แย้งต่าง ๆ

4 เลือกรับข้อมูลข่าวสารดว้ ยหลกั เหตุผลและความถูกตอ้ ง

5 เลอื กใชว้ ิธีการสอื่ สารทเ่ี หมาะสมโดยคำนึงถึงผลกระทบทเ่ี กดิ ขึ้น

6 จำแนก แยกแยะองค์ประกอบของวัตถสุ ่งิ ของ เร่ืองราว หรอื เหตุการณ์ตา่ ง ๆ ที

เกย่ี วขอ้ งกบั ชีวิตและสังคม

7 หลอมรวมความคดิ จากสิง่ ทอ่ี า่ นหรอื เรยี นรูม้ าจนเกิดส่งิ ใหม่ท่เี ป็นประโยชน์

8 คดิ สร้างสรรค์สิ่งใหม่ๆ ท่ีเปน็ ประโยชน์ จากสง่ิ ทีม่ ีอยเู่ ดิม ……….
9 คิดไตรต่ รองอย่างรอบคอบ กอ่ นการตัดสินใจแกไ้ ขปญั หา

10 คดิ อยา่ งเปน็ ระบบและมีขนั้ ตอนก่อนทำสง่ิ ใด

11 เขา้ ใจทม่ี าของการเกดิ ปัญหา และการเปล่ียนแปลงตา่ งๆในชีวิต

12 ไตร่ตรอง คน้ หาสง่ิ ที่เปน็ เหตุใหเ้ กิดความทกุ ข์ ความไมส่ บายใจ ……….
13 ใช้เหตุผล คณุ ธรรม และข้อมูลในการแกป้ ญั หาและอุปสรรคตา่ งๆ

14 แสวงหาความรู้ มาใช้ในการปอ้ งกันและแกไ้ ขปัญหา

15 ตดั สนิ ใจโดยคำนงึ ถึงผลกระทบทีเ่ กดิ ขน้ึ ต่อตน ผู้อ่นื และสง่ิ แวดลอ้ ม

16 พัฒนาการเรียนรดู้ ้วยตนเองอย่างตอ่ เนอ่ื ง

17 สร้างความสัมพนั ธ์ ในการทำงาน และอยู่ร่วมกนั กบั ผู้อืน่ ……….
18 จดั การปัญหาและความขัดแยง้ ต่าง ๆ ไดอ้ ยา่ งเหมาะสม

19 ปรับตวั ได้ทันกับการเปลย่ี นแปลงของสงั คมและสภาพแวดล้อม

20 หลกี เลยี่ งพฤติกรรมท่ีสง่ ผลกระทบในทางไมด่ ี ต่อตนเองและผู้อ่นื

21 รจู้ ักเลือก และใชเ้ ทคโนโลยี ท่เี ป็นประโยชน์ตอ่ ชีวิต

22 กา้ วทนั เทคโนโลยีทเี่ ปล่ยี นแปลงและเลอื กใช้ได้อยา่ งเหมาะสม

ขอ้ ท่ี ข้อความ 40
ทำเปน็ ทำบ่อย ทำ ทำน้อย ไม่ รวม
23 ใชเ้ ทคโนโลยเี พอื่ การพฒั นาการเรยี นรู้ ประจำ คร้ัง บางค คร้งั เคย คะแนน
24 ใช้เทคโนโลยีอยา่ งถกู ต้อง เหมาะสม มีคณุ ธรรม
25 ใช้เทคโนโลยใี นการทำงาน การแก้ปญั หาอยา่ งสรา้ งสรรค์ (4) รงั้ (2) ทำ
26 รกั ชาติ มีจิตสำนกึ ในความเป็นพลเมืองไทย (5) (3) (1)
27 ศรทั ธาและยดึ มั่นในหลกั ศาสนาที่ตนนบั ถอื
28 ยดึ มัน่ การปกครองแบบประชาธปิ ไตยอนั มีพระมหากษตั ริย์ทรงเป็นประมขุ ……….
29 มีความรู้ความเขา้ ใจเกยี่ วกบั ประวตั ิศาสตรแ์ ละความเป็นมาของชาตไิ ทย
30 ปฏบิ ตั ติ นตามหลกั ธรรมของศาสนาท่ีตนนับถือ ……….
31 ไมล่ กั ขโมย ไม่นำทรพั ย์สนิ และส่ิงของของผ้อู ่ืนมาเป็นของตน ……….
32 พูดความจรงิ ไม่พดู โกหกหลอกลวง
33 ซือ่ สตั ย์ในการเรยี น เชน่ ไม่ลอกการบา้ น ……….
……….
ไม่ขโมยงานเพื่อน ไม่ทจุ รติ ในการสอบ
……….
34 ปฏบิ ตั ิตนอยา่ งซือ่ สตั ย์ อยา่ งตรงไปตรงมาท้ังกาย วาจา ใจ
35 พบสง่ิ ของท่ีผู้อืน่ ลืมหรือทำหายกน็ ำไปคืนเจา้ ของ
36 ปฏิบตั ิตามระเบยี บของโรงเรยี น สงั คม และประเทศชาติ ด้วยตนเอง
37 ปฏบิ ัตหิ นา้ ทต่ี ามบทบาทของตน เช่น เปน็ ลูกที่ดี เปน็ ศษิ ย์ทด่ี ี
38 ควบคุมตนเองในการดำรงชีวิตตามหลกั ศาสนาที่ตนนบั ถือ
39 มาโรงเรียนทนั เวลา/เขา้ เรียนตรงเวลา
40 สนใจกิจกรรมการเรยี นและรับผดิ ชอบงานทีค่ รมู อบหมาย
41 รักการอา่ น การเขยี น และการฟัง
42 สนใจแสวงหาความรจู้ ากแหล่งเรยี นรู้ต่าง ๆ รอบตวั
43 หมั่นพฒั นาตนเอง และพัฒนาศักยภาพท่ตี นมีอยู่เสมอ
44 อา่ นหนงั สอื พิมพ์ วารสาร หรอื นติ ยสารเป็นประจำ
45 มคี วามกระตอื รอื ร้นในการเรียนและเข้าเรยี นสม่ำเสมอ
46 กินอยอู่ ยา่ งประหยัด พอดแี ละพอเพียง
47 ใช้ส่ิงของ เคร่ืองใช้ตา่ ง ๆ อย่างพอดี ตามความจำเปน็
48 มีความพอดไี มห่ มกม่นุ จนเกดิ ผลเสีย เชน่ ตดิ เกม ดารานกั ร้อง นิยาย ฯลฯ
49 สามารถเกบ็ ออมเงนิ ตามฐานะ
50 รู้จักใชท้ รพั ยากรท่มี อี ยจู่ ำกดั ให้มปี ระสทิ ธิภาพและคมุ้ ค่า
51 รจู้ ักวางแผนและทำงานอย่างมขี ้ันตอน
52 หม่นั ตรวจสอบ และมคี วามละเอียดรอบคอบในการทำงาน
53 เพยี รพยายาม ขยัน อดทน ทำงานทไ่ี ด้รับมอบหมายให้สำเร็จ
54 มีความรับผิดชอบ ปฏบิ ตั ิงานทไ่ี ด้รบั มอบหมายจนสำเร็จ

41

ทำเป็น ทำบอ่ ย ทำ ทำน้อย ไม่ รวม

ขอ้ ท่ี ข้อความ ประจำ ครง้ั บางค ครงั้ เคย คะแนน

(4) รั้ง (2) ทำ

(5) (3) (1)

55 มีส่วนร่วมในการแสดงความคดิ ในการทำกจิ กรรมและทำงานร่วมกับผู้อืน่ ได้

56 มีจิตสำนกึ ในการอนรุ กั ษ์วัฒนธรรมไทยและภมู ปิ ัญญาไทย

57 ปฏบิ ัติตนตามประเพณี วฒั นธรรมและคา่ นยิ มที่ดงี ามของไทย

58 มีสว่ นในการเผยแพร่ศลิ ปวัฒนธรรม ประเพณีและภมู ปิ ัญญาไทย ……….

59 รู้ และเขา้ ใจเกย่ี วกับประเพณี วัฒนธรรม และภูมปิ ญั ญาไทย

60 เขา้ ชมหรือรว่ มกจิ กรรมศลิ ปวฒั นธรรมและประเพณีทีด่ ีงามของทอ้ งถนิ่ และของ

ไทย

61 ชว่ ยเหลอื งานบา้ น ชว่ ยแบง่ เบาภาระพอ่ แม่

62 ยนิ ดใี หค้ วามชว่ ยเหลือผู้อ่นื โดยไม่เรียกรอ้ งสง่ิ ตอบแทน

63 ใช้เวลาว่างอาสาทำประโยชนต์ ่อผอู้ นื่ ชมุ ชน และส่งิ แวดลอ้ ม ……….

64 ช่วยเหลืองานโรงเรียน ชว่ ยแบง่ เบาภาระครู

65 แบง่ ปันทรพั ยส์ ิน สิ่งของ ตามกำลังเพือ่ ชว่ ยเหลือผปู้ ระสบปญั หา/ภยั พบิ ัติต่างๆ

42

สรุปผลการสำรวจตนเอง

ด้านท่ีประเมิน รายการ ข้อ คะแนน ค่าเฉลย่ี ระดบั คณุ ภาพ
สมรรถนะสำคัญ 1. ความสามารถในการสอ่ื สาร รวม (คะแนนรวมหารด้วย 5)
คณุ ลกั ษณะอนั พงึ 2. ความสามารถในการคดิ
ประสงค์ 3. ความสามารถในการแก้ปัญหา 1-5
4. ความสามารถในการใช้ทกั ษะชีวิต
5 .ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 6-10

1. รักชาติ ศาสน์ กษตั รยิ ์ 11-15
2. ซอ่ื สตั ย์สจุ รติ
3. มีวินัย 16-20
4. ใฝเ่ รียนรู้
5. อยอู่ ย่างพอเพียง 21-25
6. มงุ่ มน่ั ในการทำงาน
7. รักความเป็นไทย 26-30
8. มจี ติ สาธารณะ 31-35
36-40
41-45
46-50
51-55
56-60
61-65

43

แนวทางการสรา้ งแบบสำรวจสมรรถนะและคุณลกั ษณะตามจดุ หมายของหลักสูตร

1. ลกั ษณะของเครื่องมือ เปน็ แบบตรวจสอบตนเองตามกรอบจุดหมายของหลักสูตร คอื สมรรถนะสำคัญ

5 ด้าน และคุณลักษณะอันพงึ ประสงค์ 8 ประการ โดยจัดทำเป็นข้อความประเมินแต่ละดา้ น ด้าน ๆ ละ 5

ข้อ รวม 65 ข้อ

จุดหมายท่ีประเมิน จำนวนด้าน

สมรรถนะสำคัญ 5 ดา้ น

1. ความสามารถในการสอ่ื สาร 5 ขอ้

2. ความสามารถในการคดิ 5 ข้อ

3. ความสามารถในการแกป้ ัญหา 5 ขอ้

4. ความสามารถในการใช้ทักษะชวี ติ 5 ข้อ

5 .ความสามารถในการใช้เทคโนโลยี 5 ข้อ

คณุ ลักษณะอนั พึงประสงค์ 8 ประการ

1. รกั ชาติ ศาสน์ กษัตรยิ ์ 5 ข้อ

2. ซอ่ื สัตย์สุจรติ 5 ข้อ

3. มีวินยั 5 ขอ้

4. ใฝ่เรยี นรู้ 5 ข้อ

5. อย่อู ยา่ งพอเพียง 5 ขอ้

6. มุง่ มน่ั ในการทำงาน 5 ขอ้

7. รักความเป็นไทย 5 ขอ้

8. มีจิตสาธารณะ 5 ขอ้

2. การตรวจคะแนน

ระดับการตอบ คะแนนท่ไี ด้

ทำเปน็ ประจำ 5

ทำบอ่ ยคร้ัง 4

ทำบางครั้ง 3

ทำนอ้ ยคร้ัง 2

ไมเ่ คยทำ 1

3. การแปลความระดบั คณุ ภาพ ระดบั คณุ ภาพตามจดุ หมายของหลักสตู ร จัดระดบั เป็น 5 ระดบั โดยใชช้ ่วง
คะแนนเฉลี่ย ดังนี้

ชว่ งคะแนนเฉล่ยี ระดบั คณุ ภาพ
4.21 – 5.00 ดีเย่ยี ม
3.41 – 4.20 ดี
2.61 – 3.40 ปานกลาง
1.81 – 2.60
1.00 – 1.80 ควรพัฒนา
ตอ้ งพัฒนาอยา่ งย่ิง

หมายเหตุ : เคร่ืองมือชดุ นีพ้ ัฒนาโดยศูนยพ์ ฒั นาเครือขา่ ยกิจกรรมแนะแนว

44

ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจดั กิจกรรมเรียนรู้อย่างเข้าใจ ระดับชน้ั มัธยมศึกษาปีที่ 4

ช่อื -สกลุ นกั เรยี น..........................................................................................ชน้ั ม.4/..........เลขท.่ี ..........

ใบงานเรอื่ ง วิชานี้เพอ่ื เธอ

ใหน้ ักเรียนอ่านสถานการณแ์ ตล่ ะขอ้ และพจิ ารณาว่าต้องใชค้ วามรูจ้ ากการเรียนวิชาใด
โดยเขียนเคร่อื งหมาย ลงในชอ่ งวิชา (มากกวา่ 1 ช่อง ได)้

วิชาการงานอาชพี

ขอ้ สถานการณ์ ภาษาไทย
ที่ ค ิณตศาสต ์ร
วิทยาศาสต ์ร
ัสงคม ึศกษา
สุข- พล ึศกษา
ิศลปะ
ภาษาอังกฤษ
คอมฯ
เกษตร
ประ ิดษ ์ฐ
งาน ่ชาง
งาน ้บาน
ธุร ิกจ

1 อ่านสลากยาเวลาไม่สบาย
2 คิดเงนิ ทอนเวลาซ้อื ของ
3 ทดสอบหาสารพษิ ในอาหาร
4 ศกึ ษาภูมิประเทศ เตรยี มตวั ไปเทยี่ วเหนอื
5 เลอื กทานอาหารท่ีมคี ณุ ค่า
6 ทำการ์ดใหค้ นสำคญั
7 อ่านสลากยาภาษาอังกฤษ เวลาปว่ ย
8 สัง่ อาหารร้านท่เี มนูเป็นภาษาอังกฤษ
9 ประดิษฐข์ องใช้ ของทร่ี ะลกึ ดว้ ยวัสดตุ า่ ง ๆ
10 ต้องเป็นคนอาราธนาศีลเวลาทำบญุ บา้ น
11 ปอ้ งกนั ตนเองให้ปลอดจากโรคระบาด
12 อา่ นป้ายเวลาหลงทาง
13 ดแู ลตนเองใหห้ า่ งไกลเอดส์
14 ตกแต่งเส้อื ผ้าให้สวยงาม
15 ทำงานคอมพวิ เตอร์ท่ีเมนเู ป็นภาษาองั กฤษ
16 เตรียมป้องกนั ตัวกอ่ นเกดิ ภยั ธรรมชาติ
17 ทำของท่รี ะลึกใหเ้ พอื่ น
18 เขียนจดหมายลาครู
19 บอกรูปพรรณสัณฐานของคนรา้ ย
20 ประดษิ ฐ์ช้นิ งานเพื่อขายหารายไดพ้ เิ ศษ
21 ทำบญั ชีรายรบั รายจา่ ยแตล่ ะเดอื น
22 คำนวณเงนิ ในการปลูกบ้าน
23 ชว่ ยบอกทางแก่ชาวตา่ งชาติทหี่ ลงทาง
24 ออกแบบเสื้อผา้ ให้สวยงาม เหมาะสม
25 ซ่อมเคร่ืองมือเครือ่ งใช้ในบ้านท่ีชำรดุ

45
วิชาการงานอาชพี

ข้อ สถานการณ์ ภาษาไทย
ที่ ค ิณตศาสต ์ร
วิทยาศาสต ์ร
ัสงคม ึศกษา
สุข- พล ึศกษา
ิศลปะ
ภาษาอังกฤษ
คอมฯ
เกษตร
ประ ิดษ ์ฐ
งาน ่ชาง
งาน ้บาน
ธุร ิกจ

26 ทดลองวา่ แชมพยู ่ีห้อไหนใช้แลว้ ไม่แพ้
27 สงั เกตธรรมชาติเพือ่ รู้เท่าทันส่งิ ท่ีจะเกดิ ขึ้น
28 ปลูกต้นไม้ชว่ ยลดโลกร้อน
29 พมิ พร์ ายงานส่งครู
30 เพิ่มสมรรถภาพทางกายของตนเอง
31 รักษาตวั เองให้สขุ ภาพแขง็ แรง
32 เล่าให้เพ่อื นฟังถงึ เรือ่ งราวท่ไี ปอบรมมา
33 ใช้ชวี ิตเวลาไปท่องเทยี่ วต่างประเทศ
34 ดแู ลจดั บ้านเรอื นใหส้ ะอาดน่าอยู่
35 หาขอ้ มลู ความรู้ทางอินเตอรเ์ นต
36 เพาะตน้ ไม้ขายหารายไดพ้ ิเศษ
37 ตรวจดเู วลาไฟฟา้ ในบา้ นดับ
38 ส่ือสารพูดคุยกับชาวต่างชาติ
39 ทำอาหารและขนมเลีย้ งดูคนในครอบครวั
40 ออกแบบปกรายงานส่งครู
41 ตกแตง่ บ้านใหน้ า่ อยู่
42 สเกตภาพคนรา้ ยเพอ่ื ช่วยเหลือตำรวจ
43 ดแู ลคนปว่ ยในบ้าน
44 จัดการแขง่ ขนั กฬี าประเภทตา่ ง ๆ ในโรงเรยี น
45 คดิ ดอกเบ้ียเวลาก้เู งนิ ทำธรุ กจิ
46 จะจดั พธิ ที ำบญุ ทีบ่ า้ น
47 ทำหนา้ ทีเ่ ปน็ ทูตวัฒนธรรมไทยในต่างแดน
48 คิดคา่ นำ้ มนั รถแต่ละเดอื น
49 เขียนจดหมายสมคั รงาน
50 เปรยี บเทียบปรมิ าณและราคากอ่ นซอ้ื
51 ตอ้ งเรียนรมู้ ารยาทในการเข้าสังคม
52 ไวต่อการเปล่ียนแปลงของสงิ่ รอบตัว
53 เปน็ ไกดน์ ำชมสถานท่ีสำคัญตา่ ง ๆ ของไทย
54 คำนวณเงินในการแลกเปล่ียนเงินตรา
55 เขยี นใบสมัครเรยี นตอ่
56 เลอื กน้ำยาลา้ งห้องน้ำท่ีไมเ่ ป็นอนั ตราย
57 เล่าประวตั ศิ าสตรไ์ ทยให้ลูกหลานฟงั

46
วิชาการงานอาชีพ

ข้อ สถานการณ์ ภาษาไทย
ที่ ค ิณตศาสต ์ร
วิทยาศาสต ์ร
ัสงคม ึศกษา
สุข- พล ึศกษา
ิศลปะ
ภาษาอังกฤษ
คอมฯ
เกษตร
ประ ิดษ ์ฐ
งาน ่ชาง
งาน ้บาน
ธุร ิกจ

58 วิเคราะหส์ ว่ นผสมของผลิตภัณฑก์ ่อนซอื้

1. ชอ่ งวชิ าใดทีไ่ ม่มเี คร่อื งหมาย เลย…………………………………………………………

2. ส่ิงทน่ี ักเรยี นได้เรียนรจู้ ากการทำใบงานนี้ คืออะไร
………………………………………………………………………………………………………………………………………………

…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………
3. จากส่ิงทไี่ ดเ้ รยี นรู้ นกั เรยี นจะนำไปประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์อยา่ งไรในการเรียน

………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………………………………………………………………………
…………………………………………………………………………………………….……………………………………………………………

47

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หนว่ ยการจดั กิจกรรมเรียนรอู้ ยา่ งเขา้ ใจ ระดบั ช้นั มธั ยมศึกษาปีท่ี 4

ชอื่ -สกลุ นักเรยี น..........................................................................................ช้ัน ม.4/..........เลขท.ี่ ..........
ใบงานเรื่อง วิชาท่ฉี นั เรียนในชัน้ ม.4

ให้ระบวุ ชิ าท่เี รียนในชัน้ ม.4 จำแนกประเภทตามโครงสรา้ งหลักสูตร ดังนี้

รายวิชาทเ่ี รยี น ในช้นั ม. 4 ภาคเรยี นที่ 1

รายวิชาพนื้ ฐาน

ที่ รหัสวชิ า ชอื่ วิชา ครผู ูส้ อน หน่วยกิต เกรด เกรดที่
เป้าหมาย ได้
1
2 เกรด เกรดท่ี
3 เป้าหมาย ได้
4 ผล
5 ผล ทีไ่ ด้
6 เปา้ หมาย
7
8
9
10
11
12
13

รายวชิ าเพิม่ เติม

ที่ รหสั วชิ า ชอ่ื วชิ า ครผู ูส้ อน หนว่ ยกติ

1
2
3
4

กิจกรรมพฒั นาผเู้ รียน

ท่ี ชื่อกจิ กรรม ครูผู้สอน

1 กจิ กรรมแนะแนว
2 กจิ กรรมรกั ษาดินแดน (รด.)
3 กจิ กรรมชุมนุม
4 กิจกรรมเพอื่ สงั คมและสาธารณประโยชน์

เกรดเฉลี่ยภาคแเผรนียกนาทรจี่ ดั…ก…ารเทรยีี่ตนง้ั รเ้กูป้ ิจากหรมรมาแยนไะวแ้ นวคือ…………………………
เกรดเฉล่ียท่ีไดจ้ ริง คือ……………..………………..

48

ใบความรกู้ จิ กรรมแนะแนว หนว่ ยการจัดกจิ กรรมเรยี นรู้อย่างเขา้ ใจ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปีท่ี 4

ใบความร้เู รือ่ ง “ทักษะการเรียนท่ีมีประสทิ ธิภาพ”

ทักษะการเรยี นทม่ี ีประสิทธภิ าพ ประกอบด้วย

1.เทคนคิ การอา่ นตำราทด่ี ีทสี่ ดุ คือ

เทคนคิ SQ3R :ซึง่ มีความหมายดงั ต่อไปน้ี

S = Survey สำรวจ

Q = Question ตั้งคำถาม

R = Read อา่ น

R = Recite ทอ่ ง

R = Review ทบทวน

รายละเอียดของแต่ละขน้ั ตอน มดี ังน้ี

1.1 สำรวจ ( Survey) เมือ่ เริม่ ศกึ ษาวชิ าหน่งึ วชิ าใดในเบ้ืองตน้ ควรสำรวจตำราเล่มน้นั เพ่ือ

ดูแนวทางกว้างๆของตำราเสียกอ่ น โดยอา่ นคำนำ สารบัญ จากนน้ั ควรสำรวจบทต่างๆของหนังสือ โดยดยู ่อ

หนา้ แรก หัวข้อใหญ่ หัวข้อย่อยภายในบทเพ่อื ท่ีจะไดร้ ู้ว่าหนังสือเลม่ นีม้ ีคณุ ค่าและตรงกับความต้องการ

หรอื ไม่

1.2 ต้งั คำถาม (Question) เม่อื สำรวจเบอื้ งตน้ แล้ว ควรต้งั คำถาม ถามตนเองเกีย่ วกบั

เรือ่ งท่ีผา่ นสายตาวา่ มีเนอ้ื หาอะไรบ้าง มีปญั หาและข้อน่าคดิ ประการใด ข้อเสนอแนะในการตง้ั คำถามไดแ้ ก่

ใคร ทไ่ี หน ทำอะไร เมื่อไหร่ ทำไม ทำอย่างไร เพ่ือบังคับใหร้ ้จู ักไตรต่ รองก่อนที่จะศกึ ษาในรายละเอียด

ตอ่ ไป

1.3 อา่ น (Read) เป็นการอ่านอยา่ งละเอยี ด เพือ่ หาคำตอบใหก้ บั คำถามท่ตี ้งั ไว้เพ่อื จะเข้าใจ

หวั ใจของเร่ือง ประเด็นหลัก ประเด็นรอง และรายละเอียดปลกี ย่อย เพ่ือจะช่วยใหเ้ ขา้ ใจจดจำได้รวดเร็ว

ยิ่งขึน้

1.4 ท่อง (Recite) หลังจากอ่านจบแตล่ ะบท แต่ละตอน แตล่ ะหัวขอ้ ให้หยดุ เปน็ ระยะ เพ่อื

ทบทวนว่าอา่ นอะไรไปบา้ ง เมื่อท่องทวนความจำน้ีก็คือ การรวบรวมความรเู้ ข้าไปเกบ็ ไว้ในสมองอย่างถาวร

1.5 ทบทวน (Review) คือ การตรวจสอบความถูกตอ้ งซ่ึงเปน็ สิ่งสำคัญทีค่ วรปฏิบัติอย่าง

สม่ำเสมอใหเ้ ปน็ กิจนสิ ัย การทบทวนควรทำภายหลังอ่านตำราเล่มน้ันจบโดยเร็วท่สี ุด

2. เทคนคิ การจำ

2.1 พยายามทำความเข้าใจกับเนอื้ หานัน้ ให้ได้ จงอย่าจำในสงิ่ ท่ีเราไมเ่ ขา้ ใจ

2.2 เช่อื มโยงเนื้อหาใหม่ ๆ กับสิ่งทไ่ี ปเรยี นไปแลว้

2.3 เลอื กจำเฉพาะเนอื้ หาท่ีสำคัญ

2.4 จดั เน้อื หาอย่างมรี ะบบ ใช้แผนภาพ แผนภูมิ และตารางจะชว่ ยให้จำไดง้ ่ายขน้ึ

2.5 การทอ่ งหรือเขียนหรือทำซ้ำ ๆ หลายครง้ั จะชว่ ยใหจ้ ำได้มากข้ึน

49

2.6 บทเรยี นท่ียาว ควรแบง่ เปน็ ส่วน ๆ
2.7 หลงั ช่ัวโมงเรยี นควรบนั ทึกใหเ้ ร็วทส่ี ุด ถา้ ทิ้งไว้อาจจะไม่เขา้ ใจเนอ้ื หานนั้ เลย
3. เทคนิคการจดคำบรรยาย
3.1 ขณะฟังคำบรรยาย ควรฟงั อย่างต้ังใจและคิดตามไปด้วย
3.2 จับประเดน็ สำคัญจากคำบรรยาย
3.3 จดให้ไดเ้ น้อื ความมากท่ีสุดแตไ่ ม่ใชท่ ุกคำพูดโดยไม่กล่ันกรอง
3.4 จดใหเ้ ร็วท่สี ดุ โดยใช้สัญลกั ษณห์ รือคำย่อเข้าช่วย
3.5 ควรจดใหม้ ีระเบยี บทั้งหัวข้อใหญ่ และหวั ข้อรอง โดยใชต้ ัวเลขกำกบั
3.6 การย่อหน้า เว้นชอ่ งวา่ ง ขดี เสน้ ใต้ แบ่งชอ่ งไฟ จะช่วยให้อ่านได้งา่ ยข้นึ
3.7 เม่อื ผ้บู รรยายพดู เรว็ เกนิ ไป ควรเวน้ ว่างไวก้ ่อน การหันไปถามเพื่อนจะทำให้ท้ังเขาและ
เราเสียสมาธิ
3.8 ควรบนั ทกึ ครงั้ ท่ี และวนั ทฟ่ี งั บรรยายทุกคร้ัง
3.9 จดบนั ทกึ วชิ าเดียวกนั ใชเ้ ล่มเดียวกนั อยา่ จดปนกับวชิ าอ่นื
3.10 ทบทวนดบู ันทึก คำบรรยายในวันเดียวกันจะช่วยใหจ้ ำเรือ่ งได้ดขี ้ึน
4. เทคนิคการทำบันทึกย่อ
4.1 อ่านและทำความเข้าใจ เนอ้ื หาท่สี ำคัญ สรปุ สาระสำคัญในแตล่ ะย่อหนา้ หรือแตล่ ะ
หัวข้อ
4.2 จดอย่างสน้ั และกระชบั ความ
4.3 จดให้ครอบคลุมเน้อื หา
4.4 ใชภ้ าพประกอบงา่ ยๆ เพื่อชว่ ยให้เขา้ ใจไดเ้ ร็วข้นึ
4.5 ลอกข้อความทอี่ ่านลงในบนั ทกึ ย่อ
4.6 ควรจดช่ือหนังสือ ผแู้ ตง่ ชือ่ บท และระบหุ น้าของตำรา เพ่อื จะได้ย้อนกลับไปทบทวน
รายละเอียดไดใ้ หม่
5. การขดี เส้นใตแ้ ละจดในตำรา
เพื่อเน้นความสำคญั ของเนอ้ื หาในการขีดควรใช้ปากกาสีตา่ ง ๆ เนน้ เฉพาะข้อความท่ีสำคัญ
เพ่อื ยำ้ ใหเ้ หน็ ถึงประเดน็ ท่สี ำคัญของเรอื่ ง นอกเหนือจากน้ีอาจเขยี นวงกลมล้อมคำทีส่ ำคัญ ทำเครอ่ื งหมายต่าง
ๆ เชน่ สี่เหลยี่ ม ดอกจันประกอบ อย่าหวงตำราทเี่ ราเปน็ เจา้ ของ การเก็บรักษาตำราใหด้ ูเหมอื นใหมอ่ ยู่
เสมอโดยไมย่ อมขดี เขียนนน้ั นบั เป็นอปุ สรรคอยา่ งยง่ิ ต่อการเรียนรู้

50

ใบงานกิจกรรมแนะแนว หนว่ ยการจัดกจิ กรรมเรยี นรอู้ ยา่ งเขา้ ใจ ระดบั ชนั้ มัธยมศกึ ษาปีท่ี 4

ช่ือ-สกุลนกั เรียน..........................................................................................ชั้น ม.4/..........เลขที.่ ..........

ใบงานเรื่อง “วิธีการปฏบิ ตั ิตนเพอ่ื พัฒนาทกั ษะการเรียน
ทีม่ ีประสทิ ธิภาพ”

.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................
.........................................................................................................................................................

51

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หน่วยการจัดกิจกรรมเรยี นรูอ้ ย่างเขา้ ใจ ระดับช้ันมธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4

1.ช่ือ-สกุลนักเรียน......................ชัน้ ม.4/....เลขท่.ี .... 2.ช่อื -สกลุ นกั เรียน.....................ช้ัน ม.4/....เลขที่....
3.ชอื่ -สกุลนกั เรียน......................ชั้น ม.4/....เลขที.่ .... 4.ชื่อ-สกุลนักเรียน.....................ชนั้ ม.4/....เลขที่....

ใบงานเร่ือง “การใช้แหล่งการเรียนรู้”

คำส่ัง ให้นักเรยี นจบั คู่ และช่วยกันคดิ หาคำตอบเกีย่ วกับ การแสวงหาข้อมูลและเลือกใชข้ อ้ มูลจากแหลง่ การ

เรยี นรู้ ตามประเดน็ ดังน้ี

1. ใหน้ กั เรยี นระบุแหลง่ การเรียนรภู้ ายในโรงเรียน

แหล่งการเรยี นรภู้ ายในโรงเรียน ให้ความรใู้ นเรอ่ื ง

1.

2.

3.

2. ให้นักเรียนระบุแหล่งการเรียนร้ภู ายนอกโรงเรียน ใหค้ วามรูใ้ นเรอ่ื ง
แหลง่ การเรยี นรูภ้ ายนอกโรงเรยี น

1.
2.
3.

3. ให้นกั เรียนระบแุ หลง่ การเรียนรูท้ ี่นกั เรยี นนิยมหรือเลอื กใช้ในการแสวงหาความรมู้ ากที่สดุ เพราะอะไร

แหลง่ การเรียนรู้ท่ีนกั เรยี นนยิ มใช้ เหตุผลที่เลอื ก นยิ มใช้
1.
2.
3.

4. ให้นกั เรียนระบแุ หล่งการเรียนรู้ทางอนิ เตอร์เน็ตหรือเว็บไซดท์ ่จี ะเป็นประโยชน์

เวบ็ ไซดท์ นี่ า่ สนใจ ให้ความร้เู กี่ยวกับอะไร
1
2
3

52

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หนว่ ยการจดั กิจกรรม ทางออกของชวี ิต ระดับชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4

ช่อื -สกลุ นกั เรียน..............................................................................ชนั้ ม.4/.............เลขท.ี่ ...................

ใบงานเร่อื ง ถา้ ใช่....ฉันก็โอ.เค.

ใหน้ ักเรียนสำรวจความชอบของตนเองในการดำเนินชวี ิต ดงั ตอ่ ไปน้ี

ลำดบั ที่ ดา้ น ความชอบ (รูปแบบ /ประเภท )

1 อาหาร

2 เสอ้ื ผ้า

3 สี

4 เครื่องประดบั

5 หนงั สอื

6 เพลง

7 ภาพยนตร์

8 สถานทท่ี ่องเทยี่ ว

9 เพ่อื น

10 แฟน

11 งานอดิเรก

12 สตั วเ์ ล้ียง

ถา้ ไม่เป็นไปอย่างท่ฉี นั ชอบหรอื ตอ้ งการ ฉนั จะ……………………………………..
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................
.........................................................................................................................

ใบงานกิจกรรมแนะแนว 53

หนว่ ยการจดั กิจกรรม ทางออกของชวี ติ ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปีท่ี 4

ใบงานเรื่อง รอยแยกในใจฉัน

ขอให้สำรวจสงิ่ ที่เกิดขึ้นกับนักเรียนในรอบ 1 เดือนท่ผี า่ นมา มเี หตกุ ารณ์ ผู้คน หรือสงิ่ ใดบา้ งที่รบกวนให้
นกั เรยี นไมส่ บายใจ กังวลใจ หรือทุกข์ใจ ใหว้ เิ คราะหห์ าสาเหตุของปัญหา บอกส่ิงทตี่ ้องการใหเ้ ปน็ และสง่ิ ที่
นักเรยี นสามารถจดั การไดด้ งั ตัวอย่าง อยา่ งน้อย 5 เหตุการณ์

บอกสาเหตุของปัญหา สง่ิ ที่ต้องการ ส่ิงทีต่ นเอง
ใหเ้ ปน็ สามารถจดั การได้
ปัญหา เกดิ จาก เกดิ จาก
ขอค่าขนมเท่าเดิม กลบั บา้ นตรงเวลา
ตัวอย่าง ตนเอง ผูอ้ นื่ สอบผ่าน - อ่านหนงั สือเพิ่ม
แม่ตัดเงินค่าขนม - เรียนพเิ ศษ
สอบตกภาษาองั กฤษ เพราะ ภาษาอังกฤษ - ตั้งใจเรียนในชัว่ โมง

เรื่องที่ 1 กลับบา้ นคำ่ -

เพราะไม่อา่ น เพราะครู

หนงั สือ สอนเสยี ง

เบา

เรอ่ื งที่ 2

เรอื่ งที่ 3

เรอ่ื งที่ 4

เร่อื งท่ี 5

รอยแยกในใจฉนั .....ทาใหฉ้ ันไดเ้ รียนรูว้ ่า
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................

ใบงานกิจกรรมแนะแนว 54

หนว่ ยการจดั กิจกรรม ทางออกของชีวิต ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปที ี่ 4

ใบงานเร่อื ง รอยแยกในใจฉัน

ขอใหส้ ำรวจสงิ่ ทเี่ กดิ ขึน้ กับนักเรยี นในรอบ 1 เดือนท่ผี า่ นมา มเี หตกุ ารณ์ ผคู้ น หรือสิ่งใดบา้ งทีร่ บกวนให้
นกั เรียนไม่สบายใจ กังวลใจ หรือทุกขใ์ จ ใหว้ เิ คราะห์หาสาเหตุของปัญหา บอกสงิ่ ท่ตี ้องการให้เป็น และสงิ่ ท่ี
นักเรยี นสามารถจดั การได้ดังตวั อยา่ ง อย่างน้อย 5 เหตุการณ์

บอกสาเหตุของปญั หา สง่ิ ทตี่ ้องการ ส่งิ ทตี่ นเอง
ใหเ้ ปน็ สามารถจัดการได้
ปญั หา เกิดจาก เกดิ จาก
ขอค่าขนมเทา่ เดิม กลับบ้านตรงเวลา
ตัวอยา่ ง ตนเอง ผู้อืน่ สอบผ่าน - อ่านหนังสือเพิ่ม
แมต่ ดั เงนิ ค่าขนม - เรยี นพิเศษ
สอบตกภาษาอังกฤษ เพราะ ภาษาอังกฤษ - ตงั้ ใจเรียนในชัว่ โมง

เรื่องท่ี 1 กลับบ้านค่ำ -

เพราะไม่อ่าน เพราะครู

หนงั สือ สอนเสียง

เบา

เรอ่ื งที่ 2

เรอ่ื งท่ี 3

เรื่องที่ 4

เรอ่ื งท่ี 5

รอยแยกในใจฉนั .....ทาใหฉ้ ันไดเ้ รียนรูว้ ่า
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................
................................................................................................................

55

เน้ือเพลง หน่วยการจดั กจิ กรรม ทางออกของชีวติ ระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 4
เน้ือเพลง “ก้อนหิน กอ้ นน้นั ”

ศลิ ปนิ : โรส ศิรินทพิ ย์

เคยมใี ครสกั คนได้บอกฉันมา
ว่าเวลาใครมาทำกับเราใหเ้ จบ็ ชำ้ ใจ
ลองไปเกบ็ ก้อนหนิ ขนึ้ มาสกั อัน
ถอื มันอยู่อย่างนัน้ และบีบมันไว้

บีบให้แรงจนสุดแรง ใหม้ ือท้ังมอื มันเร่มิ สน่ั
ใครคนนน้ั ยิม้ ใหฉ้ นั ถามว่าเจ็บมือใชไ่ หม

ไมม่ ีอะไรจะทำรา้ ยเธอ ได้เทา่ กบั เธอทำตวั ของเธอเอง
ให้เธอคดิ เอาเอง วา่ ชวี ิตของเธอเป็นของใคร
ไม่มีอะไรจะทำร้ายเธอ ถ้าเธอไมร่ บั มนั มาใสใ่ จ
ถูกเขาทำรา้ ย เพราะใจเธอแบกรับมันเอง

ใครมาทำกับเธอให้เจ็บหัวใจ
ก็แค่ให้กอ้ นหนิ กอ้ นนน้ั ใหเ้ ธอรบั มา
เพียงเธอจับมันโยนให้ไกลสายตา
หรือเธอปรารถนาจะเกบ็ มันไว้

หากย่งิ ยอมยง่ิ แบกไป หัวใจของเธอกต็ อ้ งสัน่
หากยังทำตวั แบบนัน้ ถามวา่ ปวดใจใชไ่ หม

ไม่มีอะไรจะทำรา้ ยเธอ ไดเ้ ทา่ กับเธอทำตัวของเธอเอง
ให้เธอคดิ เอาเอง ว่าชวี ิตของเธอเปน็ ของใคร
ไม่มีอะไรจะทำรา้ ยเธอ ถา้ เธอไมร่ บั มนั มาใสใ่ จ
ถกู เขาทำรา้ ย เพราะใจเธอแบกรบั มนั เอง

56

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หนว่ ยการจดั กิจกรรมทางออกของชวี ิต ระดบั ช้ันมัธยมศึกษาปีที่ 4

ช่ือ-สกุลนักเรยี น..............................................................................ชน้ั ม.4/.............เลขที.่ ...................

ใบงานเรื่อง ตารางเจ้าปญั หา
กำหนดให้นักเรยี นนบั ตารางส่ีเหลยี่ มด้านเท่าที่มีอยู่ในภาพท้ังหมด ใหเ้ วลา 3 นาที โดยมีกติกาวา่
หา้ มถามและหา้ มดูของคนอ่ืน

รวมไดจ้ ำนวน..........................ตาราง

สิ่งท่ไี ดเ้ รยี นรูจ้ ากกจิ กรรม
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................
...........................................................................................................................................

ใบความรกู้ ิจกรรมแนะแนว หนว่ ยการจัดกจิ กรรมทางออกของชวี ติ 57

ใบความรู้เรอื่ ง กระบวนการแกป้ ญั หา ระดบั ชั้นมัธยมศึกษาปที ี่ 4
(Problem Solving Process)

1.ระบปุ ัญหา ตอ้ งหาปัญหาใหพ้ บวา่ คอื อะไร

2. หาสาเหตขุ องปัญหา

3.หาทางเลอื กในการแกป้ ัญหา

4. วิเคราะหท์ างเลอื ก
5.ตดั สินใจเลือกและลงมือปฏบิ ตั ิ

สาเรจ็ ใช่หรอื ไม่ ไม่สำเรจ็
สำเรจ็

นาไปใช้

58

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หน่วยการจดั กจิ กรรม ทางออกของชีวิต ระดับชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4

ชอื่ -สกุลนักเรยี น..........................................................................ชั้น ม.4/.............เลขท.่ี ...................
ชื่อ-สกุลนกั เรียน.............................................................................ช้ัน ม.4/.............เลขท.่ี ...................

ช่อื -สกุลนกั เรยี น...........................................................................ชน้ั ม.4/.............เลขที่....................
ชอ่ื -สกลุ นกั เรยี น.............................................................................ชน้ั ม.4/.............เลขท่ี....................

ใบงานกรณีศึกษาเร่ืองของใบบวั

ใบบัว เป็นนกั เรยี นม.4 ของโรงเรียนเอกชนชือ่ ดังแห่งหนึ่ง แตพ่ อเทอม2 ใบบัวต้องย้ายโรงเรียน
มาเรียนโรงเรียนมัธยมใกล้บ้านเพราะปัญหาเศรษฐกิจของครอบครัว ใบบัวต้องปรับตัวกับเพื่อนๆ และ
โรงเรียนใหมซ่ ึ่งเป็นสิ่งทีท่ ำให้เธอไม่มคี วามสุข เธอไม่ชอบสภาพของโรงเรยี นเพราะเล็ก คบั แคบและดูสกปรก
กว่าโรงเรียนเดิม เพ่ือนๆ ก็ดูไม่น่าคบตามความคิดของใบบัว เพราะส่วนใหญ่มาจากครอบครัวชนช้ันกลาง
มีอาชีพรับจ้าง พูดจาก็หยาบคายแต่จะให้ใบบัวกลับไปคบกับเพ่ือนท่ีโรงเรียนเดิมเธอก็ไม่อยากกลับไปอีก
เพราะรู้สกึ อายท่คี รอบครัว ของเธอยากจนลง ใบบวั จึงเก็บตัว ไม่คบหากับใคร ไม่มีเพือ่ นสนิท ใบบัวสนใจการ
เรยี นน้อยลง ขาดเรียนบ่อยขึ้น บางวนั ใบบัวแต่งตัวออกจากบ้านแต่กลับไม่มาโรงเรียน เธอไปใช้เวลาอยูใ่ นหา้ ง
สรรพสินค้าจนเย็น วันหนึ่งที่บ้านของเธอได้รับจดหมายจากครูประจำช้ัน เชิญให้ไปพบเพราะใบบัวขาดเรียน
ตดิ ตอ่ กนั หลายวัน

ใหน้ กั เรียนช่วยกันวิเคราะห์ และหาทางจัดการแก้ปัญหาจากกรณีตัวอย่าง ใหเ้ วลาทำ 10 นาที

ปญั หาของใบบัว สาเหตขุ องปัญหา

ทางเลือกในการจัดการกับปัญหา

ทางเลือก ผลดี ผลเสีย

1

2

3

4

ทางเลือกท่ีใบบัวตัดสนิ ใจเลือกเพื่อแกป้ ัญหา

59

ใบความรู้กจิ กรรมแนะแนว หนว่ ยการจัดกิจกรรม ทางออกของชวี ติ ระดบั ช้ันมธั ยมศึกษาปีที่ 4

ใบความรู้เรือ่ ง ปญั หามีทางออก
ชีวติ ประจำวนั ทุกคนจะต้องเคยพบปัญหาต่างๆ ท่ีจะต้องหาทางแก้ไข การแก้ปัญหาของแต่ละคน
จะมีวิธีการที่แตกต่างกัน การที่จะให้นักเรียนแก้ปัญหาต่างๆ โดยผ่านกระบวนการคิด และปฏิบัติอย่างมี
ระบบ ผลทไี่ ดจ้ ากการฝกึ จะช่วยให้นกั เรียนสามารถตัดสินใจแก้ปัญหาตา่ งๆ ด้วยวธิ ีการคิดอย่างสมเหตุสมผล
กอ่ นจะลงมือแกป้ ัญหา ต้องเริ่มตน้ ท่กี ารปรับทัศนะในการมองและรบั รูป้ ัญหา ดงั น้ี

- ทุกปญั หายอ่ มมีสาเหตุ

เมื่อเจอปัญหา เราตอ้ งสงบและมีสติ เพื่อวิเคราะหว์ ่าสิง่ ทเ่ี กิดนน้ั ใช่ปัญหาจริงหรอื ไม่ ถ้าจรงิ ก็คอ่ ย
คดิ ต่อว่า สาเหตุแห่งปญั หาน้นั มาจากส่ิงใด จะได้แก้ไขได้ถูกจุด จะพบว่าหลายคร้งั ที่เราเครียดและทุกข์ใจไป
กอ่ นจะรู้วา่ ปัญหาจริงหรือไม่ เฉพาะข่าวลอื การนินทา คำพูดของคนบางคนที่แม้แต่ผู้พูดเองก็ไม่ไดค้ ิดอะไร
แตเ่ รากลบั เก็บเอามาเปน็ อารมณ์ คิดตีความไปเองเรียบรอ้ ย

- ทกุ ปญั หามีทางออก

ทุกปัญหามีทางออก แต่อาจจะแตกต่างกันที่ระยะเวลา ระดับความยากง่ายในการแก้ปัญหา
ถา้ เราทบทวนให้ดจี ะพบว่า ไม่เคยมปี ัญหาใดทีอ่ ยู่กับเราตลอดชีวิต ยกเว้นเราจะเกบ็ มนั ไว้เอง และไมม่ ีปญั หา
ใดที่หาทางออกไม่ได้ ถ้าเราพยายามและให้เวลา ความเชื่อว่า ทุกปัญหามีทางออก จะทำให้เรามีกำลังใจที่
จะแก้ปญั หา ไมท่ ้อถอย แตก่ ระตอื รอื ร้น และแสวงหาทางออกใหก้ บั ตนเอง

- ปัญหาคือความทา้ ทาย

เราอาจจะต้องเล่นเกมกับปัญหา เพราะถ้าปัญหาเล่นงานเราได้ น่ันหมายความว่า เรายังแกร่งไม่
พอ แต่ถ้าเราคิดเสมอว่าปัญหา คือ คู่แข่งของเรา เราต้องเอาชนะมันให้ได้ การได้เจอกับปัญหาก็เหมือนกับ
การได้ฝึกฝนตนเอง ดังเช่น นักยกน้ำหนักท่ีจะไม่สามารถยกลูกเหล็กที่น้ำหนักมากได้ ถ้าไม่เริ่มต้นจากลูก
เหล็กทมี่ ีน้ำหนกั น้อยๆ ก่อน ดังนั้น การเจอกับปัญหาจึงเป็นแบบฝกึ หัดใหเ้ ราพฒั นาจิตใจใหแ้ ข็งแกร่งมากข้ึน
เราต้องคิดเสมอว่า ข้างหน้าเราอาจจะเจอกับปัญหาอุปสรรคท่ีหนักหนามากกว่าน้ี ดังนั้น วันนี้เราจึงต้องฝึก
จติ ใจเพอ่ื รองรับไว้ก่อน

- อยา่ เอาใจไปปรงุ แต่งปญั หา

ระลึกไว้เสมอว่า ปัญหาไม่สามารถเพิ่ม หรือลดระดับความรุนแรงของมันได้ด้วยตัวมันเอง แต่
คนเราต่างหาก ท่นี ำเอาปัญหาภายนอกมาปรุงแต่ง ปรุงรสภายในจิตใจของเรา ปัญหาเปรียบเหมือนก๋วยเต๋ียว
ที่แม่ค้าปรุงมาเหมือนๆกันทุกชาม แต่บางคนบอกว่าอร่อย บางคนบอกว่าไม่อร่อย ที่เป็นเช่นนี้เพราะแต่ละ

60

คนนำมาปรุงเคร่ืองเอาเอง หรืออาจไม่ปรุงด้วยเครื่องปรุงรส ก็อาจปรุงด้วยความรู้สึก หรือความชอบส่วนตัว
บางคนชอบรสหวาน บางคนชอบรสเปรยี้ ว บางคนชอบรสเคม็ ทำให้แตล่ ะคนรบั ร้รู สของปัญหาแตกต่างกนั ไป

ระดบั ความเครียดและความทุกข์ จงึ มไิ ด้เกดิ จากปญั หา แต่เกิดจากการปรงุ แตง่ หรอื จิตใจของ
เราน่นั เอง ดงั น้ัน ทางออกทางแรกในการแกป้ ัญหาจึงต้องเรมิ่ ตน้ ท่ีตัวเราเอง

- ปัญหาคอื แบบฝึกหัดทพี่ ฒั นาจติ ใจเราใหแ้ ข็งแกรง่
- อยา่ เอาใจไปปรุงแตง่ ปัญหา
- ทกุ ปัญหายอ่ มมสี าเหตุ
- ทกุ ปัญหายอ่ มมที างออก
- ทางออกแรกในการแกป้ ัญหาจงึ ตอ้ งเรมิ่ ตน้ ทใี่ จเราเอง
- ใจทอี่ ดึ !..ฮดึ !..ส!ู ้ ..ไมย่ อมแพอ้ ะไรง่ายๆ

61

ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกจิ กรรม ทางออกของชวี ิต ระดบั ชนั้ มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4

ช่ือ-สกุลนกั เรยี น..............................................................................ชน้ั ม.4/.............เลขท่ี....................

ใบงานเรอื่ ง ทางออกของฉัน

คำชีแ้ จง ใหน้ กั เรียนระบปุ ัญหาของตนเองท่กี าลงั เผชิญ 1 ปัญหา
และเขียนลงในแผนภมู ิการแกป้ ัญหาอยา่ งเป็นระบบ

……………………………………………………………………………………………
………………………………………1….ระ…บ…ปุ ัญ…ห…า………..

............................................................................................

2.สาเหตขุ องปัญหา
.......................................................................................

3.ทางเลือกในการแกป้ ัญหา
1...........................................2.............................................
3...........................................4.............................................

.

4.วิเคราะหท์ างเลอื ก
ทางเลือกท่ี 1 ผลดี..........................ผลเสีย.............................
ทางเลือกท่ี 2 ผลดี..........................ผลเสีย.............................
ทางเลือกท่ี 3 ผลดี..........................ผลเสีย.............................
ทางเลือกท่ี 4 ผลดี..........................ผลเสีย.............................
.

5.ทางเลอื กท่ฉี นั ตดั สินใจเลอื ก
..................................................................................................

62

ใบงานกิจกรรมแนะแนว หนว่ ยการจัดกจิ กรรมการฟังอย่างเขา้ ใจ ระดับช้นั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4

ชือ่ -สกุลนักเรยี น………….…………..…..……………………………..ช้ัน ม.4 /..........เลขท…่ี ..............

ใบงานเรื่อง สอนใจสอนฟัง
ให้นักเรียนอา่ นเรื่องต้นแอปเป้ิล กบั เด็กน้อย แล้วตอบคำถามใบใบงาน

ตน้ แอปเปล้ิ กบั เดก็ น้อย
กาลคร้ังหน่ึงนานมาแล้ว มตี น้ แอปเป้ิลใหญ่อยู่ต้นหนึ่ง และกม็ ีเด็กชายตวั เลก็ ๆ คนหน่งึ ชอบเขา้ มาอยู่
ใกล้ๆ และเล่นรอบๆ ต้นไม้น้ีทุกๆ วนั เขาปีนข้ึนไปบนยอดของต้นไมแ้ ละก็กินผลแอปเป้ิล แล้วก็นอนหลับไป
ภายใต้ร่มเงาของต้นแอปเป้ลิ เด็กน้อยรักต้นไม้ และต้นไม้ก็รักเขา เวลาผ่านไป..... เดก็ นอ้ ยโตข้นึ และเขาไม่
มาว่งิ เล่นรอบๆ ตน้ ไม้ทุกวันอีกแล้ว วนั หนงึ่ เด็กนอ้ ย กลับมาหาตน้ ไม้ เด็กนอ้ ยดเู ศร้าๆ
"มาหาฉัน จะมาเล่นกบั ฉนั เหรอ" ต้นไม้ถาม
"ฉันไม่ใชเ่ ดก็ เล็กๆ แลว้ นะ ฉันไมอ่ ยากเลน่ รอบๆ ต้นไม้อีกแล้ว ฉันต้องการของเล่น ฉันอยากได้เงินไป
ซอ้ื ของเลน่ " เด็กน้อยตอบ
"ฉนั ไมม่ เี งินหรอก...เก็บลูกแอปเป้ลิ ของฉันไปขายสิ แลว้ เอาเงินไปซอ้ื ของเล่น" ต้นไมต้ อบ
เด็กน้อยเก็บแอปเปิ้ลไปหมดตน้ แลว้ จากไปไม่กลับมาเลน่ กับต้นไม้ ตน้ ไม้ดเู ศร้า......วนั หน่ึงเด็กน้อย
กลับมา เขาดโู ตขึน้ ตน้ ไม้รสู้ กึ ดใี จตน่ื เตน้ มากทไ่ี ดเ้ จอ
"มาเลน่ กับฉันเหรอ" ตน้ ไม้ถาม
"ฉันไมม่ ีเวลามาเล่นหรอก ฉนั มคี รอบครัวแล้วและต้องทำงาน ตอนน้ีเราต้องการบ้าน ช่วยฉันไดไ้ หม"
"ฉนั ไมม่ ีบ้าน แต่..ตดั ก่ิงกา้ นฉนั ไปสิ...แล้วเอาไปสรา้ งบา้ น"
ดังนั้นเด็กน้อยคนน้ันจึงตัดก่ิงก้านทั้งหมดไป และจากไปอย่างมีความสุขเป็นอีกคร้ังที่ต้นไม้ถูกท้ิงให้
เดียวดาย และเศร้า....และวนั หนงึ่ ในฤดูร้อน เด็กนอ้ ยคนเดมิ ก็กลับมาอกี ต้นไม้ดใี จมาก
"มาหาฉันเหรอ มาเล่นกบั ฉันเหรอ" ตน้ ไม้ถาม
"เปล่า ฉันรู้สกึ ผิดหวังในชวี ิต และเร่ิมแกข่ ้ึน ฉันอยากแลน่ เรือไปพกั ผ่อนไกลๆ ใหเ้ รือฉนั ได้ไหม"
"ใชล้ ำต้นของฉนั ซิ เอาไปสร้างเรอื เพอื่ เธอจะได้แล่นเรอื มคี วามสุข" ตน้ ไมต้ อบ
ดังนนั้ เดก็ นอ้ ยจึงตดั ลำตน้ ไมไ้ ป เขาล่องเรอื ไป และไมก่ ลบั มาอีกนานจนกระทั่งหลายปผี า่ นไป
ในทสี่ ดุ เดก็ น้อยคนเดิมก็กลบั มาคราวนีเ้ ขาดแู กม่ ากๆ
"มาเล่นกับฉนั เหรอ" ต้นไม้ถาม
"ฉันไม่มีฟันจะกินแล้ว ฉันปีนไม่ไหว และฉันแก่แล้ว ตอนนี้ฉันไม่ต้องการอะไรอีกแล้ว แค่อยากได้ที่
พกั พงิ ฉันเหน่อื ยมาหลายปีแล้ว" เด็กนอ้ ยตอบ
"ฉนั เสียใจ ฉันไมเ่ หลืออะไรจะให้อกี แลว้ สง่ิ เดยี วทเ่ี หลือ มเี พียงรากที่กำลังจะตาย" ต้นไมพ้ ูด
อา่ นจบแล้วทบทวนตนเองหน่อยนะ ขอ้ ความตอ่ ไปนผี้ ้พู ดู รู้สกึ อยา่ งไร

63

ข้อความ ความร้สู กึ
“มาหาฉันจะมาเลน่ กบั ฉนั เหรอ”
"ฉนั ไม่มเี งินหรอก...เก็บลูกแอปเป้ิลของฉนั ไปขายสิ แล้วเอาเงนิ ไปซ้ือของ
เลน่ "
"ฉันไมม่ ีบา้ น แต่..ตัดกิ่งก้านฉันไปส.ิ ..แลว้ เอาไปสรา้ งบ้าน"
"ฉันเสียใจ ฉันไม่เหลืออะไรจะให้อีกแลว้ สิง่ เดยี วท่ีเหลอื มีเพียงรากที่
กำลงั จะตาย"
"ฉันไม่ใช่เด็กเล็กๆ แล้วนะ ฉันไม่อยากเล่นรอบๆ ต้นไม้อีกแล้ว ฉันต้องการ
ของเล่น ฉนั อยากไดเ้ งนิ ไปซ้อื ของเลน่ "
"ฉันไม่มีเวลามาเล่นหรอก ฉันมีครอบครัวแล้วและต้องทำงาน ตอนนี้เรา
ตอ้ งการบา้ น ชว่ ยฉนั ไดไ้ หม"
"เปล่า ฉันรู้สึกผิดหวังในชีวิต และเริ่มแก่ข้ึน ฉันอยากแล่นเรือไปพักผ่อน
ไกลๆ ใหเ้ รอื ฉนั ไดไ้ หม"
"ฉันไม่มีฟันจะกินแล้ว ฉันปีนไม่ไหว และฉันแก่แล้ว ตอนนี้ฉันไม่ต้องการ
อะไรอีกแล้ว แค่อยากไดท้ ่ีพักพิง ฉนั เหนอื่ ยมาหลายปแี ลว้ " เดก็ น้อยตอบ

สรุปสง่ิ ทไี่ ด้เรยี นรู้
.......................................
.......................................
.......................................
.......................................
.......................................
.......................................
.......................................
.......................................

64

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หน่วยการจดั กิจกรรมการฟงั อย่างเข้าใจ ระดบั ชั้นมัธยมศกึ ษาปที ่ี 4

ชอ่ื -สกลุ นกั เรยี น………….……………..…………….……….………..ชั้น ม.4 /..........เลขที…่ ..............

ใบงานเร่ือง ฟงั ด้วยใจ

ใหน้ กั เรยี นพจิ ารณาประโยคตอ่ ไปน้ี แลว้ เขยี นความรู้สกึ ของผู้พดู ลงในชอ่ งว่าง

ข้อความ (เนอ้ื หา) ความรูส้ ึก

1. ไม่รูเ้ ปน็ อย่างไร อะไร ๆ ก็ดนู ่าเบือ่ ไปเสียหมด

2.นกึ ถึงเม่ือตอนเดก็ ๆ แล้วอยากย้อนเวลากลับไปอีกครง้ั จังเลย

3.ของงา่ ยๆ อย่างน้เี ธอยงั ทำไมไ่ ด้ แลว้ ต่อไปเธอจะทำอะไรเป็น

4.พดู ไปแมก่ ็ไมเ่ ข้าใจอยดู่ ี ไม่พดู ดกี ว่า

5.อะไรๆ ก็ให้น้องก่อน แล้วหนูไม่ใชล่ กู แม่หรอื ไง

6.โอ้โห งานเกา่ กย็ ังทำไม่เสร็จ แลว้ ครยู งั ส่ังงานเพ่มิ อีก

7.ไปไหนมา กลับเอาจนป่านนี้ เอนแ่ี ยจ่ รงิ ๆ

8.ไป ไป๊ จะไปไหนก็ไปเลย แล้วไมต่ ้องกลับมาอีกนะ

9.เอะอะ แม่ก็วา่ แต่ผม ทพ่ี ี่ทำอะไรไม่เห็นแม่วา่ เลย

10. พอ่ ไมส่ บายใจเลยทล่ี ูกกลับบา้ นดกึ ๆ อย่างนท้ี ุกวัน

11. งานแค่นไ้ี ม่เหน็ จะยากเลย ใครๆ ก็ทำได้

12. เมอ่ื เช้ากนิ ข้าวหรือกนิ หญา้ มาจะ๊

13. ฉันว่าแล้ว ยงั ไงๆ เธอก็ทำไม่ได้หรอก บอกแลว้ กไ็ มเ่ ช่ือ

65

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หน่วยการจดั กิจกรรมการฟังอย่างเข้าใจ ระดบั ชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ่ี 4

ช่ือ-สกุลนักเรียน………….………………………….………………..ชน้ั ม.4 /..........เลขท่ี…..............

ใบงานเรอ่ื ง ช่วยกนั ฟงั : เรื่องของกุ๊บกิ๊บ
กุ๊บกิ๊บ กำลังเรียนชั้น ม.5 เธอมีพ่ีน้อง 3 คน เธอเป็นลูกสุดท้องของครอบครัว พ่ีชายคนโต
เรียนคณะแพทยศาสตร์ ชั้นปีที่ 3 ส่วนพี่สาวก็เรียนคณะเภสัชศาสตร์ ชั้นปีท่ี 1พ่อกับแม่ชื่นชมและภูมิใจใน
ตัวพี่ชายกับพ่ีสาวมาก และมักจะบอกกับกุ๊บกิ๊บว่าให้ต้ังใจเรียนและให้ดูพี่ๆ ท้ัง 2 เป็นตัวอย่าง อย่าทำตัว
เหลวไหล วันน้ีกุ๊บก๊ิบไปฉลองวันเกิดของเพ่ือนกลับบ้านตอนสามทุ่มคร่ึง พอเข้าบ้าน ก็เจอพ่อกับแม่รออยู่
ด้วยสหี นา้ เคร่งเครียด
พอ่ : ไปไหนมา กลับเอาจนป่านนี้ แย่ลงทกุ วันนะเรา
แม่ : ทำไมไมโ่ ทรมาบอก แลว้ ปิดเคร่ืองทำไม
กบุ๊ ก๊บิ : หนไู ปเลยี้ งวันเกดิ เพอื่ นทส่ี ยาม ก็บอกแม่แล้วไง
แม่ : บอกเมือ่ ไร แม่ไมเ่ ห็นรูเ้ รอ่ื งเลย
กุ๊บกิ๊บ : แม่ลมื อีกแลว้ เป็นอย่างนี้ทุกที
พอ่ : แลว้ ทำไมปิดเครือ่ ง โทรตดิ ต่อไมไ่ ด้เลย
ก๊บุ กบ๊ิ : ก็แบ๊ตมนั หมด
แม่ : เธอรู้ไหมพ่อกับแม่ยังไม่ได้กนิ ขา้ วเลย รอเธอ ติดต่อก็ไมไ่ ด้
กุ๊บกบ๊ิ : จะรอทำไม หนโู ตแล้วนะ

อ่านเรือ่ งนี้แล้วขอให้นักเรยี นช่วยกนั พิจาณา
1. ผูพ้ ดู รสู้ ึกอย่างไรในแต่ละประโยค (พ่อ/แม/่ กุ๊บก๊ิบ)
2. ถ้านกั เรยี นเปน็ ก๊บุ กบิ๊ นกั เรยี นจะพดู กับพอ่ แมอ่ ย่างไรโดยใช้ทักษะการฟังอย่างเข้าใจ

66

ใบงานกจิ กรรมแนะแนว หน่วยการจัดกจิ กรรมการฟังอย่างเขา้ ใจ ระดับชน้ั มธั ยมศกึ ษาปที ี่ 4

ชือ่ -สกุลนักเรียน………….……………..……………………………..ช้ัน ม.4 /..........เลขท่ี…..............

ใบงานเรื่อง ช่วยกนั ฟัง : เรื่องของตเี๋ ล็ก
ตี๋เล็กกับเฟย เป็นเพ่ือนสนิทกัน ท้ังคู่เป็นเด็กต่างจังหวัดและเรียนอยู่โรงเรียนเดียวกันต้ังแต่ ม.1
ปัจจุบันมาเรียนอยู่ชั้น ม.4 ห้องเดียวกันท่ีกรุงเทพและเช่าหออยู่ด้วยกัน เห็นตี๋เล็กที่ไหนก็ต้องเห็นเฟยท่ีนั่น
มาระยะหลงั เฟยเริ่มสนใจ เมย์ นักเรียนหญิงต่างโรงเรียน ทุกเช้าเฟยจะรบี ไปดักรอเมย์ท่ีหน้าโรงเรียนก่อนจะ
มาโรงเรยี นตัวเอง ทำให้มาโรงเรียนสายบ่อยๆ และใช้เวลาส่วนใหญ่อยู่กับเมย์ บางครั้งก็ขาดเรียน ตี๋เล็กเคย
เตือนให้เฟยกลบั มาสนใจเรียนและทำงานท่คี ้างอยู่ใหเ้ สรจ็ แตเ่ ฟยกไ็ มส่ นใจ วันหน่ึงเฟยคยุ กบั ตี๋เล็ก
ต๋เี ล็ก : ทำการบา้ นคณติ กับอังกฤษหรอื ยงั
เฟย : การบา้ นเหรอ เสร็จแลว้ ขอยมื ลอกหนอ่ ยนะ
ตี๋เลก็ : จะไปไหนอีกละ ทำไมไมท่ ำเองละ
เฟย : กทู ำไม่ได้ มึงกร็ ู้กไู ม่ได้เขา้ เรยี นต้ังหลายคร้งั แลว้ วันนีน้ ดั เมยไ์ วจ้ ะไปเดนิ สยามกัน
ตเ๋ี ลก็ : เดย๋ี วกส็ อบตกหรอก หนงั สือกไ็ ม่อา่ น การบ้านก็ไมท่ ำ แล้วมึงนะโดดเรียนหลายวัน ครูวทิ ยาถาม

หามึงแลว้ นะ

เฟย : เออน่า...ทำยงั กะพอ่ กู มงึ นะเป็นแค่เพ่ือนนะ อยา่ บ่น..รำคาญวะ่
ตเ๋ี ล็ก : ตามใจมงึ เตือนแล้วไม่เชื่อ การบา้ นมึงทำเองก็แลว้ กัน
เฟย : เออ..งกจริงๆ นะ เพื่อนกันลอกแค่นี้กไ็ ม่ได้
ตีเ๋ ลก็ : มึงเงยี บไปเลย จะไปไหนก็ไป กูไมย่ ุ่งกะมงึ แล้ว

อ่านเรื่องน้ีแลว้ ขอให้นักเรยี นช่วยกันพจิ ารณา
1. ผ้พู ูดรู้สึกอย่างไรในแตล่ ะประโยค
2. ถ้านักเรยี นเปน็ เฟย นักเรยี นจะพดู กับตีเ๋ ล็กอยา่ งไรโดยใชท้ ักษะการฟังอยา่ งเข้าใจ

67

ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกจิ กรรมการฟังอย่างเข้าใจ ระดับช้ันมธั ยมศึกษาปที ่ี 4

ชือ่ -สกลุ นกั เรยี น………….……………..……………………………..ชั้น ม.4 /..........เลขท…่ี ..............

ใบงานเร่อื ง ช่วยกันฟงั : เร่ืองของปอนด์
ปอนด์ เรยี นอยู่ ม.4 หอ้ งครสู ุดใจ เป็นครูประจำช้ัน ระยะหลังครสู ดุ ใจสังเกตว่าปอนดม์ า
โรงเรยี นสายบอ่ ยและบางคร้งั กข็ าดเรียนหลายวันตดิ ต่อกนั ครสู ดุ ใจจึงเรียกปอนด์ไปพบ
ครูสดุ ใจ : อาทติ ย์น้เี ปน็ อะไร ทำไมขาดเรยี นต้งั 3 วัน
ปอนด:์ ผมไมส่ บายครับ
ครสู ดุ ใจ : เป็นอะไรไปละ หนา้ ตาก็ไมเ่ ห็นเหมือนคนปว่ ย
ปอนด:์ ผมท้องเสีย หมอบอกว่าอาหารเปน็ พษิ
ครสู ุดใจ : แลว้ ทำไมระยะน้ีมาโรงเรียนสายบอ่ ยๆ ครสู งั เกตมาหลายครง้ั แลว้
ปอนด:์ ผมตนื่ สายครบั
ครสู ดุ ใจ : นอนดกึ ละสิ เลน่ เกมส์มากใชเ่ ปลา่ คราวหลังถา้ มาสายอีกครจู ะเชญิ ผูป้ กครองแล้วนะ
ปอนด:์ เปลา่ ครบั ผมช่วยแมข่ ายของ เพราะไม่มีคนงานแล้ว
ครสู ดุ ใจ : แม่เธอขายอะไร ทำไมต้องขายดกึ ๆ แลว้ ไมร่ ู้เหรอวา่ ลูกต้องมาโรงเรียน แลว้ พ่อเธอไปไหนละ

ทำไมไมช่ ว่ ย
ปอนด:์ แม่ผมขายอาหารตามสงั่ ครับ พ่อผมเสียไปหลายปีแล้ว ถ้าผมไมช่ ่วยแม่ผมคงทำคนเดยี วไม่ไหว

คา้ ขายไม่ดแี มเ่ ลยให้ลูกจ้างออกไป

อ่านเร่ืองนแี้ ลว้ ขอให้นักเรียนช่วยกันพิจาณา
1. ผ้พู ูดรู้สกึ อยา่ งไรในแตล่ ะประโยค
2. ถ้าครสู ดุ ใจ ใช้ทักษะการฟังอย่างเขา้ ใจ ครูสุดใจจะพูดอย่างไรกับปอนด์

68

ใบงานกิจกรรมแนะแนว หน่วยการจัดกจิ กรรมการฟังอยา่ งเข้าใจ ระดับช้นั มธั ยมศึกษาปีที่ 4

ช่ือ-สกลุ นกั เรยี น………….……………………….…………………..ชนั้ ม.4 /..........เลขท่…ี ..............

ใบงานเรื่อง ฟังอย่างเข้าใจ

ใหน้ ักเรียนอา่ นเร่ืองต้นแอปเป้ิล กับ เด็กน้อย อีกครั้ง ถา้ นกั เรียนเป็นเด็กนอ้ ยคนนน้ี ักเรยี นจะสื่อสาร
กับตน้ แอปเปิล้ อย่างไรเพอื่ แสดงวา่ นกั เรียนฟังต้นแอปเปิ้ลอยา่ งเข้าใจ โดยเตมิ ประโยคเหล่านน้ั ลงในช่องวา่ ง

ต้นแอปเปล้ิ กบั เดก็ น้อย
กาลครง้ั หน่ึงนานมาแลว้ มีตน้ แอปเปลิ้ ใหญ่อยตู่ น้ หนงึ่ และกม็ ีเด็กชายตวั เลก็ ๆ คนหน่งึ ชอบเข้ามาอยู่
ใกลๆ้ และเล่นรอบๆ ตน้ ไม้นี้ทกุ ๆ วนั เขาปีนข้นึ ไปบนยอดของตน้ ไม้และก็กนิ ผลแอปเปล้ิ แลว้ กน็ อนหลับไป
ภายใตร้ ่มเงาของต้นแอปเปิล้ เด็กนอ้ ยรักตน้ ไม้ และตน้ ไม้ก็รกั เขา เวลาผ่านไป..... เดก็ น้อยโตข้นึ และเขาไม่
มาว่งิ เล่นรอบๆ ตน้ ไมท้ ุกวนั อีกแล้ว วนั หนึ่งเดก็ นอ้ ย กลับมาหาตน้ ไม้ เดก็ น้อยดเู ศร้าๆ

"มาหาฉัน จะมาเลน่ กบั ฉนั เหรอ" ตน้ ไม้ถาม
"...................................................................................................... ........................................................
.............................................................................................................. เด็กน้อยตอบ
"ฉนั ไม่มีเงนิ หรอก...เกบ็ ลกู แอปเปล้ิ ของฉันไปขายสิ แล้วเอาเงินไปซื้อของเล่น" ตน้ ไมต้ อบ
“...................................................................................................................... ”แล้วเด็กน้อยกจ็ ากไป
ต่อมาอีกหลายปีเด็กน้อยกลับมา เขาดโู ตขนึ้ ตน้ ไมร้ ูส้ ึกดีใจตน่ื เตน้ มากที่ไดเ้ จอ

"มาเลน่ กบั ฉันเหรอ" ตน้ ไมถ้ าม
"............................................................................................................................. .................................
.................................................................................................. ............."เด็กน้อยตอบ

"ฉนั ไมม่ ีบ้าน แต.่ .ตดั ก่งิ ก้านฉันไปสิ...แลว้ เอาไปสร้างบา้ น"
“...................................................................................................................... ” แลว้ เด็กนอ้ ยก็จากไป
อยา่ งมีความสขุ

วนั หนึ่งในฤดูรอ้ นอกี หลายปตี ่อมาเด็กนอ้ ยกลับมาอีกคร้งั เขาดูมีอายมุ ากข้นึ ต้นไมร้ ู้สกึ ดีใจ
ตน่ื เตน้ มากทไ่ี ดเ้ จอ

"มาหาฉันเหรอ มาเลน่ กับฉันเหรอ" ต้นไม้ถาม
"..............................................................................................................................................................
............................................................................................................" เด็กน้อยตอบ

"ใชล้ ำต้นของฉันซิ เอาไปสร้างเรอื เพ่ือเธอจะไดเ้ ล่นเรอื มีความสุข" ตน้ ไม้ตอบ
“............................................................................................................................. ..............
.........................................................................................................................."เด็กน้อยตอบ

69

ชื่อ................................................นามสกุล...................................ชนั้ ม.4 / ............ เลขที.่ .................

แบบทดสอบความคิดสรา้ งสรรคข์ องคุณ

(คณุ ฉลาดมากกว่าท่ีคณุ คดิ : คบไฟ; 2540)

การทดสอบการคิดอย่างสร้างสรรค์ของคุณ ต่างจากการทดสอบทั่วๆ ไป อย่างมาก การทดสอบนี้ไม่
สนใจว่า คุณจะหาคำตอบที่ "ถูกต้อง" ส่ิงท่ีเราต้องการจะรู้ก็คือว่า โดยปกติแล้วคุณคิด รู้สึก และปฏิบัติ
ตัวอย่างไรในชีวิตจริงๆ แบบทดสอบน้ีได้พัฒนา และแก้ไขโดยใช้เวลาค่อนข้างนาน โดยได้ศึกษาตัวอย่างของ
การคิดแบบสร้างสรรค์ และการคิดแบบทำลายล้างจากงานของนักวิจัย และจิตแพทย์ ท่ีได้ศึกษาถึงอิทธิพล
ของการคดิ ต่อพฤติกรรมของมนษุ ย์

ขอใหค้ ุณทำแบบทดสอบนี้ โดยการใหห้ มายเลขในช่องวา่ งหนา้ ประโยคแต่ละขอ้ ตามตารางดงั ตอ่ ไปนี้

ถ้าคุณเห็นวา่ ประโยคขา้ งลา่ ง

ผดิ โดยสน้ิ เชงิ ใส่เลข 1

ผิดเปน็ ส่วนใหญ่ ใสเ่ ลข 2

ไม่ถกู หรอื ผิด หรือตัดสนิ ใจไมไ่ ด้ ใส่เลข 3

ถูกเปน็ สว่ นใหญ่ ใส่เลข 4

ถกู โดยสิ้นเชิง ใสเ่ ลข 5

............ 1. ฉันไม่วติ กถงึ เร่อื งท่ี ฉันไม่อาจทีจ่ ะจัดการอะไรกบั มันได้

............ 2. ฉันเป็นคนชนดิ ทีจ่ ะลงมือทำมากกว่าการแค่คิด หรอื บ่นเกยี่ วกบั สถานการณต์ ่างๆ

............ 3. ฉันรสู้ กึ วา่ ถ้าใครปฏบิ ตั ิตอ่ เราอยา่ งเลวรา้ ย เรากค็ วรปฏิบตั ติ ่อเขาอยา่ งเลวรา้ ยเช่นเดยี วกนั

............ 4. ฉนั พบว่า การพดู ถงึ ความสำเรจ็ ทฉ่ี ันคาดหวังไวก้ ่อนจะเป็นลาง ที่ทำให้สง่ิ นั้นเลยไมเ่ กิดเปน็

จรงิ ขึน้ มา

............ 5. ถา้ หากฉันทำข้อสอบครั้งสำคญั ได้ดมี าก ฉันรสู้ กึ เหมือนไดพ้ บความสำเร็จครั้งยิ่งใหญ่ และชวี ิต

ฉนั จะก้าวไปไกลมาก

............ 6. ฉนั เชือ่ ในเร่อื งโหราศาสตร์

............ 7. ฉันไมก่ งั วลต่อเร่ืองเล็กๆ นอ้ ยๆ

............ 8. ถ้าหากฉันจำเป็นต้องทำงานทีฉ่ ันไม่ชอบ ฉนั พยายามจะทำใหด้ ีทีส่ ดุ โดยการคิดถงึ มนั ใน

แง่บวก

............ 9. ในโลกน้ี โดยท่วั ไปแลว้ มีคนเพยี ง 2 ชนิด คอื คนดแี ละคนเลว

.......... 10. เม่ือมบี างส่ิงทด่ี ๆี เกดิ ขึ้นกับฉนั ฉนั เชอ่ื วา่ คร้งั ต่อไปฉันคงไดร้ ับส่ิงทไ่ี มด่ ี เปน็ การชดเชยให้

สมดุลกัน

70

.......... 11. ฉันเชื่อวา่ คนเราสามารถทำทุกสิง่ ทเ่ี ขาต้องการใหส้ ำเรจ็ ได้ ถา้ หากเขามีอำนาจของความตงั้ ใจ
(will power) อย่างมากพอ

.......... 12. ฉนั จะมีโชคดอี ยา่ งนอ้ ยหนึ่งครง้ั
.......... 13. ฉนั ไม่ได้รูส้ กึ (เหมือนคนบางคน) ท่วี า่ จะต้องทำใหไ้ ดด้ ีอยา่ งยอดเย่ยี มเสียก่อน ถงึ จะถือว่า

ตวั เองเปน็ คนมคี ณุ คา่ ได้
.......... 14. ฉันมองการท้าทาย (challenges) ต่างๆ วา่ ไมใ่ ช่สิ่งท่ีนา่ กลวั แตเ่ ป็นโอกาสทฉี่ ันจะไดท้ ดสอบ

ตวั เอง และเรียนรู้
.......... 15. ฉนั คดิ วา่ มที างเลือกท่ผี ิดอยู่หลายทาง แตม่ ีทางเลอื กท่ถี ูกเพียงทางเดยี วเท่านน้ั ในการทำแทบ

ทกุ ส่ิงทุกอย่าง
.......... 16. ฉันเชอ่ื ในเรือ่ งลางดแี ละลางรา้ ย
.......... 17. ฉนั คดิ ว่าทกุ คนควรรักพ่อแมข่ องตวั เอง
.......... 18. ฉนั เชอ่ื ว่าผมี ีจรงิ
.......... 19. ฉนั มกั จะคิดถึงเรื่องดีๆ ในอดีตมากกวา่ เรอ่ื งที่ไม่ดี
.......... 20. เมือ่ ฉนั ต้องเผชิญกับงานท่ียากลำบาก ฉันคิดถึงสิง่ ท่ีทำให้เกิดกำลังใจทีช่ ่วยใหฉ้ นั ทำไดด้ ี

ทส่ี ุด
.......... 21. ฉันมักจะจดั คนวา่ คนไหนเปน็ พวกเดยี วกับฉนั หรอื พวกต่อตา้ นฉัน
.......... 22. บางคร้งั ฉันคิดวา่ ถ้าฉนั ต้องการใหบ้ างส่ิงบางอยา่ งเกดิ ขน้ึ อยา่ งมาก มันจะทำใหส้ ิ่งนน้ั เลยไม่

เกิดขึ้น
.......... 23. ถา้ หากฉันได้รบั การยอมรับ ในการสัมภาษณค์ รั้งสำคญั ฉันจะรสู้ กึ และคิดวา่ ต่อไปฉนั จะหา

งานดๆี ได้เสมอ
.......... 24. ฉนั เชอ่ื วา่ คนบางคนมีความสามารถทจี่ ะอา่ นใจคนอ่นื ได้
.......... 25. ฉนั ไม่ใชค่ นท่ีจะไมพ่ อใจใครเปน็ สว่ นตัวไดง้ ่ายๆ
.......... 26. เม่ือตอ้ งเผชิญกบั เหตุการณท์ ่ไี ม่น่าพอใจ ฉันมักจะคิดอย่างรอบคอบ ว่าจะจัดการกบั มนั

อยา่ งไรดี
.......... 27. ฉันชอบตดั สินคนอืน่ โดยใชต้ นเองเป็นทีต่ ง้ั และสรุปวา่ คนๆนัน้ เป็นอยา่ งนั้นอย่างน้ี
.......... 28. ฉันไดเ้ รียนรูท้ จ่ี ะไมห่ วังอะไรใหม้ าก เพราะวา่ ส่งิ ท่ฉี ันหวงั จะได้มกั จะไมค่ ่อยเกดิ ขนึ้
.......... 29. ฉันเชื่อวา่ ถ้าฉันทำส่ิงทีด่ ี สิง่ ท่ดี ๆี กจ็ ะเกิดขน้ึ กับฉนั
.......... 30. ฉนั เชอ่ื วา่ มีคนท่ีสามารถมองเห็นอนาคตล่วงหนา้ ได้

71

วธิ ีการวัดผลการสดสอบ
อาศัยวิธีการทางสถิติการวิจัย ผู้เขียนได้จัดกลุ่มแบบแผนของการคิดท่ีเกี่ยวข้องกับการคิดสร้างสรรค์

และการคิดอย่างทำลายล้างออกเป็น 6 กลุ่ม รายการข้างล่างน้ี เป็นการเรียงลำดับประโยคที่ใช้ทดสอบใหม่
โดยจัดแยกตามกลุม่ 6 กลมุ่ แต่ยังใช้หมายเลขขอ้ ทดสอบเหมอื นเดิม วิธีการวัดผล คอื ให้คุณบวกคะแนนทค่ี ุณ
เคนให้ไว้หน้าหมายเลขข้อทดสอบของทุกกลุ่ม ตอนนี้คุณยงั ไม่ตอ้ งสนใจว่า แตล่ ะกลุ่มหมายถงึ อะไร ผู้เขียนจะ
อธิบายภายหลัง แต่คุณก็อาจจะพอสังเกตเห็นได้เองว่า 2 กลุ่มแรก เก่ียวกับการคิดอย่างสร้างสรรค์ ขณะที่ 4
กลุ่มหลัง เกี่ยวกับการคิดอย่างทำลายล้าง

การรู้จักการจัดการกบั อารมณ์ (Emotional Coping)
รวมคะแนนในขอ้ ที่ 1 7 13 19 25

การรู้จกั จัดการกบั พฤตกิ รรม (Behavioral Coping)
รวมคะแนนในข้อที่ 2 8 14 20 26

การคิดแบบแบ่งเปน็ 2 ขวั้ สุดโต่ง (Categorical Thinking)
รวมคะแนนในข้อท่ี 3 9 15 21 27

การคดิ แบบเชื่อโชคลาง (Superstitious Thinking)
รวมคะแนนในข้อที่ 4 10 16 22 28

การคดิ แบบเช่อื ในสิ่งนอกเหนือปรากฏการณธ์ รรมชาติ (Esoteric Thinking)
รวมคะแนนในขอ้ ที่ 6 12 18 24 30

การมองโลกในแง่ดีอย่างอ่อนหัด (Naive Optimism)
รวมคะแนนในขอ้ ท่ี 5 11 17 23 29

72

วธิ ีคดิ คะแนนการคิดอยา่ งสรา้ งสรรค์
บวกคะแนนรวมของกลุ่มท่ีเกี่ยวกับการคิดสร้างสรรค์ 2 กลุ่มแรก คือ กลุ่มการรู้จักการจัดการกับ

อารมณ์ และการรู้จกั จัดการกบั พฤตกิ รรม ส่วน 3 กลุ่มถัดมาใช้ 30 เป็นตัวต้ัง แล้วลบด้วยคะแนนใน แต่
ละกลุ่มของทั้ง 3 กลุ่ม แล้วจึงเอาคะแนนที่ได้ทั้ง 5 กลุ่มมารวมกัน ส่วนกลุ่มการมองโลกในแง่ดีอย่างอ่อนหัด
ไม่ตอ้ งนำคะแนนมารวมดว้ ย ดว้ ยเหตผุ ลท่จี ะอธิบายทหี ลัง สรุปคือ คิดคะแนน ดงั น้ี

.......... คะแนนรวมของกลุ่มการรจู้ กั จัดการกบั อารมณ์
.......... คะแนนรวมของกลมุ่ การรจู้ ักจดั การกับพฤติกรรม
.......... (30-) คะแนนรวมของกลุม่ การคิดแบบแบ่งเป็น 2 ข้วั สุดโต่ง
.......... (30-) คะแนนรวมของกลมุ่ การคดิ แบบเชอื่ โชคลาง
.......... (30-) คะแนนรวมของกลมุ่ การคิดแบบเชื่อในสิ่งนอกเหนือปรากฏการณ์ธรรมชาต
.......... คะแนนรวมทั้งหมด

ลกั ษณะนสิ ัยทีส่ ่งเสริมการคดิ สรา้ งสรรค์

1. การรจู้ ักจดั การกับอารมณ์ (Emotional Coping)
การรู้จักจัดการอารมณ์ และการรู้จักจัดการกับพฤติกรรม (behavioral coping) เป็นส่วนประกอบที่

สำคัญท่ีสุด 2 อย่างของคิดอย่างสร้างสรรค์ การรู้จักใช้ปัจจยั ทั้ง 2 ควบคู่กันไป จะทำให้เราสามารถจัดการกับ
โลกภายในของความรู้สึก และโลกภายนอกของเหตุการณ์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ คนที่รู้จกั จัดการกับอารมณ์
ได้ดี จะสามารถจัดกับอารมณ์ความรู้สึก ในแง่ลบได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขามักจะมีจิตใจท่ีสงบ และมี
ระดับความเครียดต่ำ เป็นคนเรียบๆ ที่มีความสมดุลย์ ไม่ตื่นเต้นหวือหวา ไม่ติดเร่ืองหยุมหยิม ไม่เก็บเรื่องที่
ผ่านมาคิดให้รกหัว ไม่รู้สึกหว่ันไหว หรือไม่พอใจกับความผิดหวังมากเกินไป และไม่วิตกกังวลกับสิ่งที่อยู่
นอกเหนือการควบคุมของเขา เขาไม่วิจารณ์ตัวเองหรือคนอื่นมากเกินไป ไม่สรุปอะไรแบบเป็นนัยท่ัวไปอย่าง
ง่าย (overgeneralize) หรือมีปฏิกริยาตอบสนองต่อเหตุการณ์ท่ีไม่ดีมากเกินไป ไม่คิดซ้ำซากอยู่กับความโชค
ร้ายในอดีต หรือวิตกกังวลกบั อนาคตมากเกินไป คนที่รู้จักจัดการกับอารมณ์ได้ดี เม่ืออะไรผิดพลาดเขาจะมอง
วา่ นเ่ี ป็นเหตุการณเ์ พียงครงั้ เดียว ไมไ่ ด้แปลวา่ ความผิดพลาดเพยี งคร้งั เดยี วน้ี จะทำใหเ้ ขาล้มเหลวตลอดชีวติ

2. การรจู้ ักจัดการกับพฤตจิกรรม (Behavioral Coping)
ขณะที่การจัดการกับอารมณ์ ประกอบไปด้วยความสามารถที่จะหลีกเล่ียงไม่ให้ตัวเราเองมีความคิด

และอารมณ์ความรู้สึกแบบลบ ซึ่งเป็นการทำร้ายตัวเอง การจัดการกับพฤติกรรมเน้นในแง่บวก การรู้จัก
จัดการกับพฤตกิ รรม คือ การคิดในเชิงปฏิบัติการ (actionoriented thinking) คนท่ีรู้จักจัดการพฤติกรรมได้ดี
คิดถึงวิธีท่ีจะทำให้เกิดการกระทำที่มีประสิทธิภาพ การมองโลกในแง่ดีของเขา ทำให้เขากล้าท้าทาย และกล้า
เสี่ยง เพราะเขามีความม่ันใจว่า สิ่งต่างๆ จะต้องเป็นไปด้วยดี เขาจะลืมเรื่องที่แล้วมา จะไม่ร่ำครวญถึงความ


Click to View FlipBook Version