KM แนวทางการเขียนข้อเสนอโครงการวิจัยเพื่อขอรับการสนับสนุนงบประมาณจากกองทุน ววน.

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 47
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

กำรยื่นโครงกำรขอจริยธรรมกำร ิวจัยในมนุษย์
มหำ ิวทยำลัยเทคโนโล ียรำชมงคลธัญบุ ีร
ที่มำ : สถำ ับนวิ ัจยและ ัพฒนำ มหำวิทยำลัยเทคโนโลยีรำชมงคลธัญ ุบรี, 2563)

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 48
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (สกสว.)

บทท่ี 4
กำรย่ืนคำของบประมำณด้ำนวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม

4.1 ประเภทของงบประมำณด้ำนวิทยำศำสตร์ วิจัย และนวัตกรรม และกำรจัดสรรงบประมำณ
ผ่ำนกองทนุ ส่งเสริมดำ้ นวทิ ยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม

4.1.1 ประเภทของงบประมำณดำ้ น ววน.
ตำมท่ีพระรำชบัญญัติกำรส่งเสริมวิทยำศำสตร์ กำรวิจัยและนวัตกรรม พ.ศ. 2562 มำตรำ 5

ระบุว่ำ รัฐต้องให้กำรส่งเสริมและสนับสนุนกำรพัฒนำวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี กำรวิจัยและนวัตกรรม
และศิลปวิทยำกำรแขนงต่ำงๆ เพ่ือสร้ำงควำมรู้นำไปใช้กำหนดนโยบำยสำธำรณะ และกำรพัฒนำงำนวิจัย
และนวัตกรรมให้เกิดมูลค่ำทำงเศรษฐกิจ และประโยชน์ทำงสังคม ควำมมั่นคง และสิ่งแวดล้อม โดยกำรดำเนินกำร
สำคัญประกำรหน่ึง คือ ให้รัฐดำเนินกำรจัดสรรงบประมำณ เพ่ือกำรพัฒนำวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี กำรวิจัย
และนวัตกรรมให้เหมำะสมและสอดคล้องกับควำมต้องกำรของประเทศ และตำมควำมจำเป็นของหน่วยงำน
ของรัฐในระบบวิจัยและนวัตกรรม ทั้งนี้ กสว. และสภำนโยบำย เห็นชอบแนวทำงและกรอบงบประมำณ
ดำ้ น ววน. ของประเทศ ในปีงบประมำณ 2564 - 2566 โดยแบง่ ประเภทของงบประมำณรำยจ่ำยด้ำน ววน. ดงั น้ี

1) ทุนสนับสนุนงำนเชิงกลยุทธ์ (Strategic Fund) เป็นกำรสนับสนุนทุนแบบให้มีกำรแข่งขัน
(Competitive Funding) โดยจัดสรรงบประมำณให้กับหน่วยบริหำรและจัดกำรทุน เพ่ือนำไปสนับสนุนทุน
(Granting) แก่หน่วยงำนระดับปฏิบัติ หรือคณะบุคคล หรือบุคคล โดยต้องเป็นกำรทำวิจัยท่ีเน้นตอบยุทธศำสตร์
และแผนด้ำน ววน. ของประเทศ ซึง่ มกี รอบยทุ ธศำสตร์ อววน. ทัง้ 4 ดำ้ น ได้แก่

1.1) กำรพฒั นำกำลังคนและสถำบนั ควำมรู้
1.2) กำรวจิ ยั และสรำ้ งนวตั กรรมเพื่อตอบโจทยท์ ้ำทำยของสงั คม
1.3) กำรวจิ ัยและสร้ำงนวตั กรรมเพือ่ เพิ่มขีดควำมสำมำรถในกำรแขง่ ขนั
1.4) กำรวจิ ัยและสรำ้ งนวตั กรรมเพอื่ กำรพฒั นำเชงิ พนื้ ทีแ่ ละลดควำมเหลื่อมลำ้
2) ทุนสนับสนุนงำนพื้นฐำน (Fundamental Fund) เป็นกำรสนับสนุนทุน เพ่ือโครงกำร
พัฒนำวิทยำศำสตร์ เทคโนโลยี และโครงกำรวิจัยและนวัตกรรม สำหรับสถำบันอุดมศึกษำและหน่วยงำน
ในระบบ ววน. ทไี่ มใ่ ชส่ ถำบนั ศกึ ษำ โดยมีแนวทำงกำรจัดสรรงบประมำณดำ้ น ววน. แบ่งเป็น 2 กลุม่ คือ
2.1 Basic Research Fund เป็นกำรจัดสรรงบประมำณเพื่อสนับสนุนงำนวิจัยพ้ืนฐำน
(Basic Research) ในสำขำต่ำงๆ กำรสร้ำงนักวิจัยรุ่นใหม่ สร้ำงเทคโนโลยีใหม่ และสร้ำงควำมเข้มแข็งของงำนวิจัย
โครงสร้ำงพื้นฐำนและกำรบรหิ ำรงำนวจิ ยั ของสถำบันควำมรู้ และสถำบันวจิ ัยในหน่วยงำน

สำนักงำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 49
กำรสนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

2.2 Basic Function Fund เป็นกำรจัดสรรงบประมำณตรงไปยังหน่วยงำนที่มีภำรกิจ
เฉพำะด้ำนวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรมและดำเนินกำรวิจัยโดยบุคลำกรของหน่วยงำนเอง ซึ่งอำจเป็น
งบประมำณสำหรบั โครงกำรขนำดใหญด่ ้ำนโครงสร้ำงพ้นื ฐำน หรือโครงกำรรเิ รม่ิ สำคญั เร่งด่วนขนำดใหญ่ หรอื
โครงกำรพิเศษที่ต้องตอบยุทธศำสตร์ชำติและแผนด้ำนวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรมนำไปสู่กำรสร้ำง
National Facilities และ National Research Center ทีเ่ ป็นฐำนและโครงสรำ้ งทีส่ ำคญั ของประเทศ โดยกรอบวงเงนิ
สำหรับทุนสนับสนุนงำนเชิงกลยุทธ์ ไม่น้อยกว่ำร้อยละ 50 และทุนสนับสนุนงำนพ้ืนฐำนไม่เกินร้อยละ 50
ของกรอบวงเงินงบประมำณดำ้ น ววน. ประจำปี

4.1.2 หลักเกณฑ์กำรจัดสรรงบประมำณด้ำนวิทยำศำสตร์วิจัยและนวัตกรรมในกลุ่มทุนสนับสนนุ
งำนพื้นฐำน (Fundamental Fund)

4.1.2.1 Basic Research Fund เพ่ือให้เกิดกำรสร้ำงควำมเข้มแข็งของบุคลำกรวิจัย ควำมเข้มแข็ง
ของหน่วยงำน ควำมเข้มแข็งด้ำนกำรบริหำรงำนวิจัย และควำมเข้มแข็งด้ำนโครงสร้ำงพ้ืนฐำน ท่ีจะเป็นฐำน
สนับสนุนระบบ ววน. ของประเทศ สถำบันอุดมศึกษำสำมำรถยื่นเสนอคำของบประมำณมำยัง สกสว. หรือ
หน่วยบริหำรและจัดกำรทุน โดยมีหลกั เกณฑ์กำรพิจำรณำจัดสรรงบประมำณ ตำมทีส่ ภำนโยบำยกำหนด ดังนี้

1) คุณภำพของแผนงำนย่อย/โครงกำร
2) ควำมพร้อมของหน่วยงำน/นักวิจัย
3) เปำ้ หมำยและผลสัมฤทธท์ิ ีค่ ำดวำ่ จะได้รับ
4) แผนกำรดำเนนิ งำนและกำรบริหำรจัดกำรงำนวิจัย
5) มศี ักยภำพท่ีจะนำไปสผู่ ลกระทบต่อเศรษฐกจิ สงั คม และสิง่ แวดล้อม
6) ควำมเหมำะสมของงบประมำณกบั ผลงำนท่ีส่งมอบของแผนงำน/แผนงำนย่อย/โครงกำร
4.1.2.2 Basic Function Fund สกสว. จัดสรรงบประมำณตรงไปยังหน่วยงำนท่ีมีภำรกิจ
เฉพำะด้ำน ววน. เพื่อดำเนินกำรแผนงำนที่ตอบยุทธศำสตร์ อววน. และแผนด้ำน ววน. ของประเทศ และแผนงำน
ด้ำนโครงสร้ำงพ้ืนฐำนท่ีเกี่ยวกับวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม โดยมุ่งผลสัมฤทธ์ิในกำรสร้ำงควำมเข้มแข็ง
ของหน่วยงำน สร้ำงควำมเข้มแข็งของศูนย์วิจัยระดับชำติ (National Labs) สร้ำงควำมเข้มแข็งด้ำนโครงสร้ำงพื้นฐำน
(National Infrastructures) รวมถึงเครื่องมือวิทยำศำสตร์ขนำดใหญ่ (National Facilities) และสร้ำงควำมเข้มแข็ง
ด้ำนกำรวจิ ยั เฉพำะเร่ืองที่เปน็ ควำมชำนำญของหน่วยงำน โดยมหี ลกั เกณฑก์ ำรพิจำรณำจัดสรรงบประมำณ ดังน้ี

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 50
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (สกสว.)

ที่มำ : คมู่ ือหนว่ ยรบั งบประมำณจำกกองทุนส่งเสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม ปงี บประมำณ 2563 – 2565

4.2 กรอบเวลำกำรย่ืนคำของบประมำณ และปฏิทนิ กำรจดั สรรงบประมำณ
4.2.1 ขนั้ ตอนกำรจัดทำและยืน่ คำของบประมำณของหนว่ ยงำนในระบบ ววน.
1) หนว่ ยงำนรบั ฟงั กำรชแ้ี จงแผน และแนวทำงกำรย่ืนคำของบประมำณจำก สกสว.
2) หน่วยงำนจัดทำคำขอ และยืน่ คำของบประมำณ ผ่ำนระบบ NRIIS
3) สกสว. กลั่นกรองคำของบประมำณ เพื่อเสนอตอ่ กสว. และรัฐมนตรีกระทรวง อว. เพอื่ ให้

ข้อเสนอแนะ
4) สกสว. ปรับปรุงคำของบประมำณของกองทุนส่งเสริม ววน. เสนอคณะกรรมกำรพิจำรณำ

งบประมำณ
5) สกสว. ปรับปรุง / เพ่ิมรำยละเอียดคำของบประมำณของกองทุนส่งเสริม ววน. และกรอกข้อมูล

ในระบบ E-budgeting เสนอสำนกั งบประมำณ
6) สำนกั งบประมำณพิจำรณำรำยละเอียดงบประมำณกองทนุ ส่งเสริม ววน.
7) หน่วยงำนปรับปรงุ รำยละเอยี ดแผนงำนและงบประมำณในคำของบประมำณ
8) สำนกั งบประมำณจัดพิมพ์รำ่ งพระรำชบญั ญตั ิงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปี
9) ร่ำงพระรำชบญั ญตั ิงบประมำณรำยจำ่ ยประจำปี เขำ้ สขู่ ั้นตอนของรฐั สภำ
10) สำนกั เลขำธิกำรคณะรฐั มนตรี (สลค.) นำรำ่ งพระรำชบญั ญตั ิงบประมำณรำยจ่ำยประจำปี 2564

ขึน้ ทลู เกล้ำฯ ถวำยเพอื่ ประกำศใช้
11) สกสว. ดำเนนิ กำรเบิกเงินงวดที่ 1 ใหแ้ ก่หน่วยงำน ตำมท่ีระบุใน MoA

สำนกั งำนส่งเสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 51
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

4.2.2 ป ิฏ ิทนกำร ัจดทำงบประมำณของหน่วยงำน

ท่ีมำ : คู่มือหน่วยรับงบประมำณจำกกอง ุทนส่งเสริมวิทยำศำสตร์
วิจัยและน ัวตกรรม ปีงบประมำณ 2563 – 2565

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 52
กำรสนบั สนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม (สกสว.)

4.3 คำของบประมำณและเอกสำรท่เี ก่ียวขอ้ ง
หน่วยงำนท่ีขอรับกำรจัดสรรงบประมำณด้ำน ววน. ต้องจัดทำคำของบประมำณรำยจ่ำยประจำปี

ดำ้ น ววน. ผ่ำนระบบสำรสนเทศกลำงดำ้ น ววน. ของประเทศ ซงึ่ มีองค์ประกอบ ดังต่อไปน้ี
4.3.1 แผนปฏิบัติกำร เป็นกรอบท่ีรวบรวมแผนงำน ววน. ด้ำนต่ำงๆ ของหน่วยงำน โดยแสดงเป้ำหมำย

หลักและแนวทำงท่ีสอดคล้องกับ OKR รำยโปรแกรมหรือแพลตฟอร์มตำมยุทธศำสตร์ อววน. และแผน
ด้ำน ววน. ของประเทศ ประกอบด้วยข้อมูล

1) ยทุ ธศำสตร์ชำตทิ ่ีสอดคล้องกับแผนปฏิบตั ิงำนดำ้ น ววน. ของหน่วยงำน
2) ขอ้ มลู แผนปฏบิ ตั ิกำรดำ้ น ววน. ของหน่วยงำน
3) พันธกจิ ของหน่วยงำน
4) ผลสัมฤทธ์ิและประโยชนท์ ่ีคำดวำ่ จะได้รบั จำกกำรใชจ้ ่ำยงบประมำณดำ้ น ววน.
5) Mapping พันธกิจของหน่วยงำนกับแผนด้ำน ววน. ของประเทศ (แพลตฟอร์ม/โปรแกรม
และระบุ Objectives และ Key Results ของโปรแกรม) ซงึ่ สอดคลอ้ งกับแผนงำน
6) แผนภำพควำมเช่อื มโยงของแผนงำนท่ีจะนำไปสู่เป้ำหมำย/วสิ ยั ทัศน์/พันธกิจของหน่วยงำน
กับแพลตฟอร์ม/โปรแกรม และระบุเป้ำหมำยและผลสัมฤทธ์ิ ซึ่งสอดคล้องกับกรอบยุทธศำสตร์และแผนด้ำน ววน.
ของประเทศ
7) แผนงำนและงบประมำณเพื่อบรรลเุ ป้ำหมำย
8) วเิ ครำะหช์ ่องว่ำง (Gap) ในกำรดำเนินงำนด้ำน ววน. ของหน่วยงำนท่ีอำจต้องกำรกำรหนุนเสริม
และกำรพฒั นำกำรบริหำรจัดกำรเพอื่ ใหบ้ รรลุเป้ำหมำยของหน่วยงำน
9) โครงกำรวจิ ยั และนวัตกรรม (3 ปยี ้อนหลงั )
10) ผลงำนทีโ่ ดดเด่น

สำนักงำนสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 53
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (สกสว.)

4.3.2 แผนงำน ประกอบด้วย
4.3.2.1 ข้อมลู ทั่วไป

ประเภทงบประมำณ

ท่มี ำ : คมู่ ือหน่วยรบั งบประมำณจำกกองทนุ สง่ เสรมิ วิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม ปงี บประมำณ 2563 – 2565

4.3.2.2 ขอ้ มูลของแผนงำน
1) ลักษณะแผนงำน (แผนงำนใหม่/แผนงำนต่อเนอ่ื ง)
2) ผ้อู ำนวยกำรแผน (ระบุชอื่ ทอี่ ยู่ เบอรโ์ ทร Email)
3) หนว่ ยงำนรว่ มดำเนนิ กำร/ภำคเอกชนหรอื ชุมชนที่ร่วมลงทนุ หรือดำเนินกำร
4) คำสำคัญ (ระบุภำษำไทย และภำษำอังกฤษ)
5) เปำ้ หมำย และตวั ชว้ี ดั
6) แนวทำงเชิงยุทธศำสตร์ของแผนงำน
7) ทีม่ ำและควำมสำคัญของแผนงำน
8) วตั ถปุ ระสงค์ของแผนงำน
9) ควำมสอดคล้องของแผนงำนยอ่ ยภำยใต้แผนงำน
10) ระยะเวลำแผนงำน
11) งบประมำณของแผนงำน (กรณี ของบประมำณเป็นแผนงำนต่อเน่ืองระยะเวลำ

ดำเนนิ กำรวจิ ัยมำกกวำ่ 1 ปี ใหแ้ สดงงบประมำณตลอดแผนกำรดำเนนิ งำน)

สำนักงำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 54
กำรสนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

12) ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบจำกงำนวิจัยท่ีสอดคล้องกับ OKR (Output/
Outcome/Impact)

13) แนวทำงกำรนำผลกำรวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ และหน่วยงำนที่คำดว่ำ
จะนำผลกำรวจิ ยั และนวตั กรรมไปใชป้ ระโยชน์

14) ควำมเช่ือมโยงผลผลิต ผลลัพธ์และผลกระทบของแผนงำนย่อย/โครงกำร
กับเปำ้ หมำยและตวั ชี้วดั ควำมสำเร็จ (OKR) ของแผน

15) กำรประเมินระดับแผนงำน
4.3.2.3 แผนงำนย่อย

สว่ นท่ี 1 ขอ้ มลู ทวั่ ไป
1) ชอื่ แผนงำนยอ่ ย (ระบภุ ำษำไทย และภำษำองั กฤษ)
2) เปำ้ หมำย
3) Key Result – 1
4) Key Result – 2
สว่ นที่ 2 ข้อมูลของแผนงำนยอ่ ย
1) ชือ่ ขอ้ เสนอโครงกำรแผนงำนย่อย
2) งบจดั สรร
3) หัวหนำ้ โครงกำร
4) สำขำทีส่ อดคล้องกับงำนวิจยั

• สำขำกำรวิจยั หลัก OECD
• สำขำกำรวิจัยย่อย OECD
5) ลกั ษณะแผนงำน (แผนงำนใหม่ / แผนงำนตอ่ เนือ่ ง)
6) หน่วยงำนร่วมดำเนนิ กำร / ภำคเอกชนหรือชมุ ชนทรี่ ว่ มลงทนุ หรือดำเนนิ กำร
7) คำสำคญั (ระบุภำษำไทย และภำษำองั กฤษ)
8) เป้ำหมำยและตัวช้ีวัด
9) แนวทำงเชิงยุทธศำสตรข์ องแผนงำนย่อย
10) ทมี่ ำและควำมสำคัญของแผนงำนยอ่ ย
11) วตั ถปุ ระสงคข์ องแผนงำนย่อย
12) ขอบเขตของแผนงำนย่อย
13) ทฤษฎี สมมตุ ิฐำน และกรอบแนวคดิ ของแผนงำนยอ่ ย

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 55
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

14) กำรทบทวนวรรณกรรม/สำรสนเทศ (Information) ทีเ่ กี่ยวขอ้ ง
15) ระดบั ควำมพรอ้ มท่มี ีอยใู่ นปัจจบุ นั

• ระดับควำมพร้อมทำงเทคโนโลยี (Technology Readiness Level: TRL)
• ระดบั ควำมพร้อมทำงสังคม (Societal Readiness Level: SRL)
16) ควำมสอดคล้องของแผนงำนย่อย
17) ระยะเวลำของแผนงำนยอ่ ย
18) งบประมำณของแผนงำนย่อย (กรณี ของบประมำณเป็นแผนงำนต่อเน่ือง
ระยะเวลำดำเนนิ กำรวิจัยมำกกวำ่ 1 ปี ใหแ้ สดงงบประมำณตลอดแผนกำรดำเนนิ งำน)
19) ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบจำกงำนวิจัยท่ีสอดคล้องกับ OKR (Output/
Outcome/Impact)
20) แนวทำงกำรนำผลกำรวิจัยและนวัตกรรมไปใช้ประโยชน์ และหน่วยงำนท่ีคำดว่ำ
จะนำผลกำรวจิ ยั และนวตั กรรมไปใชป้ ระโยชน์
21) ควำมเช่ือมโยงผลผลิต ผลลัพธ์และผลกระทบของแผนงำนย่อยกับเป้ำหมำย
และตัวช้วี ัดควำมสำเร็จ (OKR) ของแผน
22) กำรประเมนิ ระดบั แผนงำนยอ่ ย
23) ศกั ยภำพของบคุ ลำกรวจิ ยั ท่ีร่วมในแผนงำนย่อย
24) แผนกำรใชป้ ระโยชน/์ ควำมเป็นไปได้ในกำรนำผลงำนวจิ ยั ไปใช้ประโยชน์ (Outcome)
โดยพจิ ำรณำจำกระดบั TRL หรอื SRL
4.3.2.4 โครงกำร
ส่วนที่ 1 ข้อมลู ทว่ั ไป

1) แผนงำนหลกั
2) แผนงำนยอ่ ย
3) แพลตฟอรม์
4) โปรแกรม
5) เปำ้ หมำย
6) ผลสมั ฤทธท์ิ ่ีสำคญั – หลัก
7) ผลสมั ฤทธท์ิ ส่ี ำคัญ – รอง (ถำ้ ม)ี
8).ชื่อชดุ โครงกำรวิจัย/โครงกำรวิจัยเดีย่ ว (ระบุภำษำไทย และภำษำอังกฤษ)
9) ลกั ษณะโครงกำรวจิ ยั (โครงกำรใหม/่ โครงกำรตอ่ เนอ่ื ง)

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 56
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (กองทุน ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (สกสว.)

10) คำสำคัญ (ระบุภำษำไทย และภำษำองั กฤษ)
11) สำขำกำรวจิ ัยหลัก OECD
12) รำยละเอยี ดของคณะผ้วู จิ ัย
สว่ นท่ี 2 ข้อมูลของโครงกำร
1) บทสรุปผูบ้ ริหำร
2) หลักกำรและเหตผุ ล
3) วตั ถุประสงค์
4) สรุปผลกำรดำเนินงำนที่ผ่ำนมำ (กรณี เป็นโครงกำรต่อเนื่อง หรือโครงกำร
ท่มี ผี ลกอ่ นหนำ้ น)ี้
5) กรอบกำรวิจัย
6) แนวคดิ ทฤษฎี และสมมุติฐำนงำนวิจัย
7) วธิ ดี ำเนินกำรวิจัยและแผนกำรดำเนนิ งำนวจิ ัย
8) สถำนทีท่ ำกำรวิจัย
9) แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณของโครงกำรวิจัย (แสดงรำยละเอียด
ประมำณกำรงบประมำณตลอดชุดโครงกำร โดยแยกเป็นงบบริหำรชุดโครงกำรวิจัย และโครงกำรวิจัยย่อย
กรณีของบประมำณเป็นชุดโครงกำรต่อเน่ือง ระยะเวลำดำเนินกำรวิจัยมำกกว่ำ 1 ปี ให้แสดงงบประมำณ
ตลอดแผนกำรดำเนนิ งำน)
10) มำตรฐำนกำรวิจัย
11) หน่วยงำนรว่ มดำเนนิ กำร/ภำคเอกชนหรือชุมชนที่ร่วมลงทนุ หรือดำเนินกำร
12) ระดับควำมพรอ้ มทีม่ อี ยใู่ นปัจจบุ นั (ถ้ำมี)

- ระดับควำมพรอ้ มทำงเทคโนโลยี (Technology Readiness Level :TRL)
- ระดบั ควำมพร้อมทำงสังคม (Societal Readiness Level : SRL)
13) ผลผลิต ผลลัพธ์ และผลกระทบจำกงำนวิจัยท่ีสอดคล้องกับ OKR
(Output/Outcome/Impact)
14) แนวทำงกำรขบั เคลือ่ นผลงำนวจิ ัยและนวตั กรรมไปสู่ผลลพั ธแ์ ละผลกระทบ
15) กำรประเมินตนเองระดับโครงกำร (Self-assessment)
- ควำมสอดคล้องและควำมเป็นไปได้ในกำรตอบ OKR ของแผน
ด้ำน ววน. ของประเทศ

สำนักงำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 57
กำรสนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (กองทุน ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

- ควำมสอดคล้องของโครงกำรวิจัยย่อยกับ KR ของชุดโครงกำร
(เฉพำะชุดโครงกำรวิจัย)

- ประสบกำรณ์บริหำรงำนของหัวหน้ำโครงกำร ในกำรบริหำรโครงกำร
ยอ้ นหลัง ไมเ่ กนิ 5 ปี (โครงกำรที่เกดิ ผลกระทบสูง 5 ลำดับแรก)

4.3.2.5 กำรเตรียมกำรช้ีแจง เอกสำรและคำช้ีแจงอื่นๆ ท่ีหน่วยรับงบประมำณควรจัดเตรียมไว้
สำหรบั ชีแ้ จงฝ่ำยบริหำร และใช้ประกอบเพื่อขอรบั จดั สรรงบประมำณทส่ี ำคัญ เช่น

1) มติคณะรฐั มนตรที เี่ ก่ยี วข้อง
2) รำยงำนกำรเงินประจำปขี องหน่วยงำน
3) แผนควำมต้องกำรงบลงทุนในครุภัณฑ์เพื่อโครงกำรวิทยำศำสตร์และเทคโนโลยี
และโครงกำรวิจยั และนวัตกรรม ใบเสนอรำคำ รำยละเอยี ดคุณลักษณะเฉพำะครภุ ัณฑ์และใบสบื รำคำ เหตผุ ล
ควำมจำเปน็ ในกำรจัดซอื้
4) รำยละเอียด และเหตุผลควำมจำเป็นในภำพรวมของค่ำใช้จ่ำยเก่ียวกับระบบ
เทคโนโลยีสำรสนเทศ และกำรส่ือสำร (ICT) ค่ำใช้จ่ำยในกำรสัมมนำและฝึกอบรม ค่ำโฆษณำและเผยแพร่
(ประชำสัมพันธ์) ค่ำจ้ำงท่ีปรึกษำ ค่ำใช้จ่ำยในกำรเดินทำงไปรำชกำรต่ำงประเทศชั่วครำว กำรวิจัยและ
ถ่ำยทอดเทคโนโลยี คำ่ จำ้ งเหมำบริกำรและคำ่ เชำ่ ทรัพย์สนิ
5) เหตุผลควำมจำเป็น และผลประโยชน์ที่ได้รับจำกกำรจัดสรรเงินอุดหนุนองค์กร
เอกชน (NGO) และเงินอดุ หนุนองค์กรกลุ่มต่ำงๆ
6) หลักเกณฑ์กำรจัดสรรงบประมำณลงพ้ืนท่ีรำยกำรสำคัญ เช่น กำรจัดกำร
ทรพั ยำกรน้ำ PM 2.5 โรคอุบตั ใิ หม่อุบตั ิซ้ำ เป็นต้น
7) ผลงำนวิจัยเด่นของหน่วยรับงบประมำณที่ได้รบั จดั สรรงบประมำณด้ำนวิทยำศำสตร์
วิจัยและนวตั กรรมในปีก่อนหน้ำ และผลกำรวเิ ครำะห์ผลตอบแทนจำกกำรลงทุนทำงเศรษฐกจิ และ / หรอื สงั คม

4.4 ข้ันตอนกำรปรับคำของบประมำณ
เมื่อหน่วยงำนจัดทำคำของบประมำณ และยื่นเสนอต่อ สกสว. ผ่ำนระบบสำรสนเทศกลำง สกสว.

จะมีข้ันตอนในกำรพิจำรณำกล่ันกรองคำของบประมำณ เพ่ือให้กำรปรับปรุงคำของบประมำณ เป็นไป
อยำ่ งมีประสทิ ธภิ ำพและเป็นไปในแนวทำงเดยี วกนั โดยมีขนั้ ตอนกำรพจิ ำรณำ ดังต่อไปน้ี

4.1 เมื่อหน่วยงำนย่ืนคำของบประมำณผ่ำนระบบสำรสนเทศกลำงแล้ว สกสว. พิจำรณำกล่ันกรอง
คำของบประมำณ เพ่อื เสนอตอ่ กสว. โดย สกสว. แจ้งหน่วยงำนใหป้ รบั คำของบประมำณตำมกรอบที่ กสว. แจ้ง

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 58
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม (สกสว.)

4.2 เมื่อคำของบประมำณผ่ำนกำรพิจำรณำในขั้นต้นของ กสว. แล้ว สกสว. จะยื่นคำของบประมำณ
เพ่ือเสนอต่อสำนักงบประมำณ เม่ือสำนักงบประมำณพิจำรณำกลั่นกรองและมีกำรปรับคำของบประมำณ
ทำง สกสว. จะแจง้ ใหห้ น่วยงำนปรบั คำของบประมำณตำมกรอบงบประมำณที่สำนักงบประมำณแจง้

4.3 เม่ือคำของบประมำณผ่ำนกำรพิจำรณำในขั้นท่ีสองจำกสำนักงบประมำณแล้ว สกสว. จะยื่น
คำของบประมำณเพ่ือเสนอต่อคณะกรรมำธิกำรวิสำมัญ เมื่อคณะกรรมำธิกำรวิสำมัญพิจำรณำกล่ันกรอง
คำของบประมำณ และอนุมัติเป็นพระรำชบัญญัติงบประมำณรำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ (เล่มขำวคำดแดง)
ทำง สกสว. จะแจ้งให้หน่วยงำนปรับคำของบประมำณตำมกรอบงบประมำณในพระรำชบัญญัติงบประมำณ
รำยจ่ำยประจำปีงบประมำณ

ทีม่ ำ : คมู่ ือหนว่ ยรับงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม ปงี บประมำณ 2563 – 2565
สำนักงำนสง่ เสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 59
กำรสนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (สกสว.)

บทที่ 5
บทสัมภำษณ์ผ้มู ีประสบกำรณด์ ้ำนงำนวจิ ัย

บทสัมภำษณ์ผ้มู ปี ระสบกำรณ์ด้ำนงำนวิจัยของสำนกั งำนสง่ เสริมและสนับสนุนวิชำกำร

ประเดน็ คำถำม ข้อคำตอบ
1. กำรเตรยี มตัวกอ่ นเร่มิ ทำงำนวจิ ยั
2. แนวทำงกำรกำหนดชื่อเรอ่ื ง/ 1. เตรยี มควำมพร้อมด้ำนควำมร้ตู ่ำงๆ ท่เี กีย่ วกับกำรทำงำน
หัวข้อปญั หำทีจ่ ะทำกำรวจิ ยั วิจยั เช่น ระเบียบวธิ ีวจิ ัยต่ำงๆ กำรกำหนดหวั ข้อวจิ ยั เปน็ ตน้
2. หำกเป็นมอื ใหมใ่ นกำรทำงำนวิจัย ให้มพี เี่ ลี้ยงคอยแนะนำ
3. ปัญหำอปุ สรรคในกำรเขยี นขอ้ เสนอ และเรยี นรรู้ ว่ มกัน
โครงกำรวจิ ัย 3. เปดิ ใจให้พร้อมกับกำรเรยี นรกู้ ำรทำงำนในรูปแบบใหม่ๆ
กำรกำหนดช่ือเรื่อง/หวั ข้อปัญหำทจ่ี ะทำกำรวิจัย จะคำนึงถึง
ปัจจยั ดงั น้ี
1. นโยบำยหรือยุทธศำสตรร์ ะดบั ชำติ/ระดับหน่วยงำนฯ เช่น
- ยทุ ธศำสตรช์ ำติ 20 ปี
- ยุทธศำสตร์กำรพฒั นำประเทศตำมแผนพัฒนำเศรษฐกิจและ
สงั คมแหง่ ชำติ
- ยทุ ธศำสตร์วิจยั และนวตั กรรมแหง่ ชำติ 20 ปี
- นโยบำยและยทุ ธศำสตรก์ ำรอดุ มศึกษำ วิทยำศำสตร์ วิจยั
และนวัตกรรม และแผนดำ้ นวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
- ยุทธศำสตร์ของหน่วยงำน เชน่ ยุทธศำสตร์กระทรวงกำร
พฒั นำสังคมและควำมมั่นคงของมนุษย์ เป็นตน้
2. สถำนกำรณป์ ญั หำ หรือประเด็นกำรวจิ ยั ทอ่ี ยำกใหเ้ กิด
กำรพัฒนำในพืน้ ท่ี เช่น
- สถำนกำรณ์ปัญหำผสู้ งู อำยุ
- สถำนกำรณป์ ัญหำเด็กตัง้ ครรภไ์ ม่พร้อม
- กำรพัฒนำคุณภำพชีวิตผู้สูงอำยุ
- กลยทุ ธส์ ง่ เสริมกำรอออมในผูส้ งู อำยุ
- กำรส่งเสริมกำรมีงำนทำสำหรบั ผสู้ งู อำยุ
ปัญหำอปุ สรรคของกำรเขยี นขอ้ เสนองำนวจิ ยั ไดแ้ ก่
1. งำนวิจัยเม่ือดำเนินกำรเสร็จเรียบร้อยแล้ว อำจจะไม่ทันต่อ
สถำนกำรณ์ท่ีเกิดขึ้นในขณะนั้น เนื่องจำกกำรเขียนข้อเสนอวิจัย
ตอ้ งเขียนกอ่ นลว่ งหน้ำ 1-2 ปี

สำนักงำนสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 60
กำรสนบั สนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (สกสว.)

ประเดน็ คำถำม ขอ้ คำตอบ
3. ปญั หำอปุ สรรคในกำรเขียนข้อเสนอ 2. กำรปรบั เปลีย่ นแบบฟอรม์ กำรเขยี นข้อเสนองำนวิจัย ทำให้
โครงกำรวจิ ัย (ต่อ) ผูเ้ ขียนต้องใชเ้ วลำในกำรเรียนรู้ ทำควำมเข้ำใจ และปรับ
รปู แบบกำรเขียนตำมไปดว้ ย
4. แนวทำงแกไ้ ขปญั หำในกำรเขียน 3. ขอ้ เสนองำนวจิ ยั ท่ผี เู้ ขยี นนำเสนอ อำจเป็นไปตำมนโยบำย
ข้อเสนอโครงกำรวิจัยให้สำเรจ็ หรือยุทธศำสตรข์ องประเทศ แตอ่ ำจจะไม่ตรงตำมควำม
ตอ้ งกำรของพนื้ ท่ี
5. ปัจจัยควำมสำเร็จท่ีทำให้ไดร้ บั 4. กำรทำงำนวจิ ยั มำเป็นระยะนำนๆ อำจทำใหเ้ กิดภำวะหมด
กำรไดร้ บั กำรสนับสนนุ งบประมำณ ไฟในกำรคิดขอ้ เสนองำนวิจัยใหม่ๆ
1. ศึกษำงำนวิจัย หรอื ขอ้ มูลท่ีเก่ียวข้องกับกำรคำดกำรณ์
6. ขอ้ เสนอแนะ/คำแนะนำ สำหรับ สภำพปัญหำทำงด้ำนสังคม หรือแนวทำงกำรพัฒนำด้ำนสังคม
ผู้ทส่ี นใจทำงำนวจิ ัย ท่ีจะเกิดขึน้ ในอนำคต
2. ใหเ้ วลำในกำรเรยี นรู้ และทำควำมเข้ำใจกบั แบบฟอร์มกำร
เขียนขอ้ เสนองำนวจิ ัย
3. เปดิ โอกำสให้ผทู้ มี่ ีควำมรแู้ ละควำมสนใจเข้ำรว่ มกำรทำงำน
วิจัยของหนว่ ยงำน
1. ศึกษำและเรียนรู้นโยบำยหรือยุทธศำสตร์ระดับชำติ/ระดับ
หน่วยงำนฯ
2. สังเกตประเด็นที่สำคัญหรือปัญหำที่เกิดขึ้นจริงในพื้นท่ี
ทสี่ ำมำรถแก้ไขไดโ้ ดยงำนวิจัย
3. เรียนรู้กำรศึกษำวิจัยต่อยอด จำกงำนวิจัยที่สำคัญ และ
ประสบควำมสำเรจ็ แลว้ โดยนำมำประยุกต์กับข้อมูลท่ีมีในพื้นท่ี
4. มีท่ีปรึกษำ และเพื่อนร่วมงำนที่ดี ท่ีสำมำรถให้คำแนะนำ
ในกำรเขียนขอ้ เสนอแก่เรำได้
งำนวิจัย เป็นงำนที่ต้องใช้ควำมรู้และต้องใช้ระยะเวลำในกำร
ศึกษำวิจัยเป็นอย่ำงมำก ดังน้ัน ผู้ท่ีจะทำงำนวิจัย อำจจะ
ต้องเป็นผู้ที่มีใจรักในกำรเรียนรู้ กำรค้นคว้ำ/ค้นหำคำตอบ
และตอ้ งเป็นผู้ทมี่ คี วำมขยนั และอดทน

ผู้ให้ขอ้ มูล : ชื่อ-นำมสกุล นำงสำวพีรภำว์ ลมิ ปนวัสส์ ตำแหนง่ นกั พัฒนำสังคมชำนำญกำร
กลุม่ /ฝำ่ ย กลุม่ กำรวจิ ยั และกำรพฒั นำระบบเครือขำ่ ย
หน่วยงำน สำนักงำนสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 3

สำนักงำนสง่ เสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 61
กำรสนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (สกสว.)

บทสัมภำษณ์ผมู้ ปี ระสบกำรณด์ ำ้ นงำนวจิ ยั ของสำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วิชำกำร

ประเดน็ คำถำม ขอ้ คำตอบ
1. กำรเตรยี มตัวกอ่ นเร่มิ ทำงำนวิจัย 1. ศึกษำกระบวนกำรวจิ ัยและระเบียบวิธีวจิ ัย
2. แนวทำงกำรกำหนดชื่อเรือ่ ง/ 2. ศึกษำสถำนกำรณ์และประเดน็ ปัญหำที่เกิดขน้ึ ของ
หวั ข้อปัญหำที่จะทำกำรวจิ ยั กลมุ่ เปำ้ หมำยทีส่ นใจศึกษำ
กำรกำหนดหวั ข้อที่จะทำกำรวิจัย จะคำนงึ กำรแก้ปญั หำหรือ
3. ปัญหำอุปสรรคในกำรเขียนขอ้ เสนอ กำรพฒั นำ และต้องสอดคล้องกับ
โครงกำรวิจัย 1. ยทุ ธศำสตรช์ ำติ 20 ปี
2. นโยบำยของรฐั บำล/นโยบำยเรง่ ดว่ น
3. ยุทธศำสตร์กำรพฒั นำประเทศตำมแผนพัฒนำเศรษฐกิจ
และสงั คมแห่งชำติ
4. ยทุ ธศำสตร์วจิ ยั และนวัตกรรมแหง่ ชำติ 20 ปี
5. นโยบำยและยุทธศำสตร์กำรอุดมศึกษำ วทิ ยำศำสตร์ วิจัย
และนวตั กรรม และแผนด้ำนวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม
6. ยทุ ธศำสตร์ของกระทรวงกำรพัฒนำสงั คมและควำมมั่นคง
ของมนษุ ย์
7. สถำนกำรณข์ องกลุ่มเปำ้ หมำยทส่ี นใจศึกษำทงั้ เรอื่ งปญั หำ
หรือกำรพัฒนำ อำทิเชน่
- สถำนกำรณ์ปัญหำผู้สงู อำยุ
- สถำนกำรณ์ปัญหำเด็กตง้ั ครรภไ์ มพ่ ร้อม
- กำรจำ้ งงำนคนพกิ ำรในภำครฐั
- กำรปรบั ตัวของสตรหี ม้ำยทเ่ี ลย้ี งดบู ุตรตำมลำพัง
- กำรพัฒนำฝีมือแรงงำนของคนไรท้ ่ีพึง่
- รปู แบบกำรช่วยเหลอื หญงิ ไทยในตำ่ งประเทศ
- สถำนกำรณก์ ำรค้ำมนุษย์
1. กำรเขียนข้อเสนองำนวิจัยเพ่ือตอบโจทย์ยุทธศำสตร์ต่ำงๆ
ท่ีเกี่ยวข้องในขณะนั้น แต่เม่ืองำนวิจัยได้รับกำรพิจำรณำ
สนับสนุนงบประมำณ นโยบำย/ยุทธศำสตร์ขณะน้ันอำจ
เปล่ียนแปลง และส่งผลให้ข้อเสนอแนะจำกงำนวิจัยอำจไม่
ส อ ด ค ล้ อ ง กั บ ค ว ำ ม ต้ อ ง ก ำ ร ข อ ง ห น่ ว ย ง ำ น ห รื อ ไ ม่ ทั น ต่ อ
สถำนกำรณ์

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 62
กำรสนบั สนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (สกสว.)

ประเด็นคำถำม ขอ้ คำตอบ
3. ปัญหำอุปสรรคของกำรเขียน 2. กำรปรับเปลี่ยนแบบฟอร์มกำรเขียนข้อเสนองำนวิจัยที่มี
ข้อเสนอ (ตอ่ ) รำยละเอียดท่ีซับซ้อนมำกข้ึน ทำให้ผู้เขียนต้องใช้เวลำในกำร
เรยี นรตู้ ำมไปด้วย
4. แนวทำงแก้ไขปญั หำในกำรเขยี น 3. ข้อเสนอแนะจำกงำนวิจัยอำจเป็นไปตำมนโยบำยหรือ
ขอ้ เสนอโครงกำรวิจัยให้สำเรจ็ ยุทธศำสตร์ของประเทศ แต่อำจจะไม่ตรงตำมควำมต้องกำร
ของพนื้ ท่อี ยำ่ งแทจ้ รงิ
5. ปจั จัยควำมสำเรจ็ ท่ีทำให้ได้รบั 4. ข้อมูลที่จะสนับสนุนให้งำนวิจัยมีควำมน่ำเช่ือถือ อำทิเช่น
กำรไดร้ ับกำรสนบั สนนุ งบประมำณ ข้อมูลท่ีอ้ำงอิงได้หรือตัวเลขที่บ่งบอกควำมสำคัญ ซึ่งบำงคร้ัง
ข้อมูลที่มีอยู่ไม่ใช่ข้อมูลณ ปัจจุบัน แต่เป็นข้อมูลที่เก็บมำแล้ว
6. ขอ้ เสนอแนะ/คำแนะนำ สำหรับผทู้ ่ี และเมื่อวิจัยได้รับกำรสนับสนุนงบประมำณให้ดำเนินกำร
สนใจทำงำนวิจัย ตัวเลขหรือสถำนกำรณ์กลุ่มเป้ำหมำยขณะนั้นอำจเปล่ียนแปลง
ซ่งึ อำจส่งผลให้พนื้ ทท่ี ศ่ี กึ ษำเปลย่ี นแปลงตำมไปดว้ ย เป็นตน้
1. กำรพัฒนำศักยภำพผู้ที่จะดำเนินกำรวิจัยในกำรเรียนรู้
แบบฟอรม์ กำรเขียนขอ้ เสนองำนวิจัยทุกขัน้ ตอนและต่อเน่อื ง
2. กำรศึกษำกำรคำดกำรณ์สถำนกำรณ์ในอนำคตของทุก
กลุ่มเป้ำหมำย และปัญหำที่เกิดข้ึนในปัจจุบันของทุก
กลุ่มเป้ำหมำยทจ่ี ะศกึ ษำ
1. กำรศึกษำกำรต่อยอดงำนวิจัยท่ีสำคัญของกลุ่มเป้ำหมำย
ทศี่ กึ ษำ โดยนำมำประยุกตก์ ับข้อมลู ที่มใี นพ้นื ที่
2. เข้ำใจกำรเชื่อมโยงท่ีต้องสอดคล้องกับยุทธศำสตร์ระดับชำติ
ตำ่ งๆ และยุทธศำสตร์ระดับกระทรวงฯ
3. มีเพ่ือนท่ีคอยแลกเปล่ียนแนวคิดและให้คำแนะนำในกำร
เขยี นขอ้ เสนองำนวิจยั ได้
- ผู้ที่สนใจในกำรเขียนข้อเสนองำนวิจัยมีควำมจำเป็นต้องศึกษำ
ผลงำนวิจัยหรืองำนวิชำกำรท่ีมีผู้วิจัยในแต่ละกลุ่มเป้ำหมำย
ให้มำกๆ เน่ืองจำกงำนวิจัยคือกำรค้นหำคำตอบทีจ่ ะแก้ไขหรอื
พัฒนำ ดังนั้นผู้สนใจต้องมีควำมใฝ่รู้ ใฝ่ศึกษำ มีควำมขยัน
อดทน และทีส่ ำคัญตอ้ งเกิดประโยชน์ตอ่ กล่มุ เปำ้ หมำยท่ีศกึ ษำ

ผู้ใหข้ ้อมลู : ชื่อ-นำมสกุล นำงสำวอำรยำ จ่ำโนนสูง ตำแหน่ง นกั พัฒนำสังคม

กลุม่ /ฝ่ำย กล่มุ กำรวจิ ัยและกำรพัฒนำระบบเครือขำ่ ย

หน่วยงำน สำนักงำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 63
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (สกสว.)

ภำคผนวก

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 64
กำรสนบั สนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม (กองทนุ ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
สง่ เสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (สกสว.)

หลักกำรและวธิ ีกำรกำหนดค่ำใชจ้ ่ำยและงบประมำณเพื่อสนับสนนุ งำนมลู ฐำน
ตำมพนั ธกจิ ของหน่วยรับงบประมำณ (Fundamental Fund; FF)

งบประมาณเพื่อสนับสนนุ งานมูลฐาน (FF) ซึ่งหน่วยรับงบประมาณได้รับจัดสรรตรงจากกองทุนส่งเสรมิ ววน.
จัดเป็นงบประมาณประเภทเงินอุดหนุนเพื่อการวิจัย ถือเป็นงบประมาณแผ่นดิน ดังนั้น การตั้งงบประมาณ
เพื่อโครงการวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (ววน.) หน่วยรับงบประมาณจะต้องคานึงถึงความจาเป็น
ในการใช้จ่ายงบประมาณอย่างคุ้มค่า ประหยัดและเกดิ ประสิทธภิ าพสูงสดุ เพือ่ ใหเ้ ปา้ หมายการวจิ ัยและพัฒนา
นวตั กรรม ตอบสนองตอ่ ความต้องการของประเทศ

ท้ังนี้ การใช้จ่ายเงินอุดหนุนที่หน่วยรับงบประมาณได้รับจัดสรรจากกองทุนส่งเสริม ววน. ให้เป็นไปตามที่
ทาคาของบประมาณและประกาศคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม เร่ือง หลักเกณฑ์
การจัดทาคาของบประมาณและการจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานในระบบวิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ 3)
พ.ศ. 2564 เว้นแต่หน่วยรับงบประมาณมีระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือกฎอ่ืนใช้บังคับอยู่ก่อนวันที่ประกาศน้ี
ใช้บังคับกาหนดการใช้จ่ายเงินของหน่วยรับงบประมาณไว้เป็นการเฉพาะแล้ว ให้ดาเนินการใช้จ่าย
ไปตามระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือกฎอื่นน้ัน โดยมิให้นาประกาศน้ีไปใช้บังคับ เว้นแต่ เงินบารุงสถาบัน
(Overhead) การจ้างที่ปรึกษาและการจ้างนักวิจัยภายในหน่วยงานที่เป็นบุคลากรประจา ต้องดาเนินการ
ตามประกาศฯ ข้างตน้

ในกรณีท่ีอัตราค่าใช้จ่ายที่กาหนดในระเบียบ ข้อบังคับ ประกาศ หรือกฎอ่ืนที่ใช้บังคับแก่หน่วยรับ
งบประมาณมีอัตราต่ากว่าอัตราค่าใช้จ่ายท่ีกาหนดไว้ในประกาศฯ ให้ใช้อัตราตามประกาศฯ โดย สกสว.
กาหนดอัตราคา่ ใช้จ่ายในหมวดตา่ งๆ ในหัวขอ้ ที่ 2 ของบทนี้
1. คำจำกัดควำมและหมวดค่ำใชจ้ ำ่ ย

งบเงินอุดหนุนการวิจัย หมายถึง เงินอุดหนุนท่ัวไปที่กองทุนส่งเสริม ววน. จัดสรรให้แก่หน่วยรับ
งบประมาณ เพื่อดาเนินการส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม แบ่งเป็น
งบดำเนินงำน ประกอบด้วย ค่าจ้าง ค่าใช้สอย และค่าวัสดุ ส่วนงบลงทุน ประกอบด้วย ค่าครุภัณฑ์
ทเี่ กยี่ วข้องกบั โครงการ ววน. โดยมนี ิยามคอื

งบดำเนินงำน หมายถึง รายจ่ายเพื่อดาเนินโครงการด้าน ววน. ได้แก่ รายจ่ายท่ีจ่ายในลักษณะ
ค่าจา้ ง ค่าใชส้ อย และคา่ วสั ดุ รวมถึงรายจ่ายอื่นใดทก่ี าหนดใหจ้ า่ ยจากงบรายจา่ ยดังกลา่ ว ดงั น้ี

1) ค่ำจ้ำง หมายถึง เงินท่ีจ่ายเป็นค่าจ้าง/ค่าตอบแทนแก่ผู้ที่ปฏิบัติงานในโครงการเป็นรายเดือน
ทั้งน้ี หน่วยรับงบประมาณไม่สามารถจ้างบุคลากรภายในหน่วยรับงบประมาณ ซึ่งได้รับเงินเดือนหรือ
ค่าตอบแทน ประจาไดร้ ายจา่ ยทเ่ี ป็นคา่ จ้าง เช่น

สำนักงำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 65
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (สกสว.)

(1) คา่ ตอบแทนนกั วิจัยร่วมโครงการ
(2) ค่าจ้างผ้ชู ่วยวิจัย
(3) ค่าจ้างที่ปรึกษา 1 , 2

หมำยเหตุ :
1 ค่าจ้างที่ปรึกษา หมายถึง ค่าใช้จ่ายในการจ้างบุคคล คณะบุคคล นิติบุคคล ที่มีประสบการณ์ ความรู้ ความชานาญ เพื่อทาหน้าที่ให้คาปรึ กษา
แนะนา ด้านเทคนิค วิชาการ ในสาขาวชิ าชีพต่างๆ แกห่ นว่ ยรับงบประมาณ มิใชก่ ารจ้างที่ปรึกษาเพ่ือดาเนินการวจิ ยั
2 หลักเกณฑ์ อัตราค่าใช้จ่าย และแนวทางการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจาปี การฝึกอบรม สัมมนา การโฆษณา ประชาสัมพันธ์ การจ้าง
ที่ปรึกษา ค่าใชจ้ ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ - กองมาตรฐานงบประมาณ 1 สานกั งบประมาณ ธนั วาคม 2563

2) ค่ำใช้สอย หมายถึง รายจ่ายเพื่อให้ได้มาซึ่งบรกิ าร รายจ่ายท่ีเกี่ยวเน่ืองกับการดาเนินโครงการ
ในลักษณะเหมำจ่ำยเป็นช้ินงำน หรือจ่ายเม่ือส่งมอบงานเป็นคราวๆ ไป และรายจ่ายท่ีเก่ียวเน่ืองกับโครงการ
ทไ่ี มเ่ ขา้ ลักษณะรายจ่ายอืน่ ๆ เชน่

(1) ค่าปฏบิ ตั งิ านลว่ งเวลา
(2) คา่ จ้างเหมาวิเคราะหท์ ดสอบทางวทิ ยาศาสตร์ตา่ งๆ
(3) คา่ จ้างเหมาตรวจวเิ คราะหท์ างการแพทย์
(4) คา่ จ้างเหมาแรงงาน
(5) คา่ จ้างเหมาผูช้ ว่ ยเก็บขอ้ มลู ในพ้นื ท่ี
(6) ค่าจา้ งเหมาผู้นาทางในพื้นที่ ลา่ ม
(7) คา่ จา้ งเหมาแปลภาษา พิสจู นอ์ กั ษร พิมพร์ ายงาน
(8) ค่าจา้ งเหมาถอดเทป
(9) ค่าจ้างเหมาวเิ คราะห์ข้อมูลทางสถิติ
(10) ค่าธรรมเนียมการใช้หอ้ งปฏิบตั กิ าร/เครอื่ งมือภายนอกหนว่ ยรับงบประมาณ
(11) ค่าธรรมเนยี มการตีพมิ พ์บทความในวารสารวชิ าการระดับนานาชาติ (คา่ Page Charge)
(12) คา่ ลงทะเบียนเขา้ ร่วมการนาเสนอผลงานในการประชมุ วิชาการ
(13) ค่าจดั ทาส่งิ พิมพ์/ส่ือเผยแพร่ผลงานวิจยั เช่น แผ่นพบั โปสเตอร์ คลปิ วิดีโอ
(14) ค่าใชจ้ า่ ยในการจัดประชมุ /อบรม ท่ีเก่ียวข้องกับโครงการวิจยั ไดแ้ ก่ ค่าสถานท่ี ค่าอาหาร
(15) คา่ จ้างเหมายานพาหนะ
(16) ค่ายานพาหะเพ่อื เดนิ ทางทาวจิ ัย เชน่ คา่ เครอื่ งบนิ ค่ารถไฟ คา่ รถบัส คา่ เรือ
(17) ค่าตอบแทนวิทยากร/ ผเู้ ช่ียวชาญในการอบรม
(18) คา่ ตอบแทนอาสาสมัคร

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 66
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสริมวทิ ยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (สกสว.)

(19) ค่าตอบแทนผ้ใู ห้ข้อมูลด้วยการระดมสมอง สมั ภาษณ์ แบบสอบถาม
(20) ค่าตอบแทนผเู้ กบ็ ข้อมลู ทางคลินกิ
(21) คา่ สบื คน้ ประวัตผิ ูป้ ว่ ย เชน่ OPD Card
(22) ค่าตอบแทนผ้ทู บทวนวรรณกรรม (Review Literature)
(23) คา่ ตอบแทนกรรมการ
(24) คา่ เช่าสถานท/ี่ โรงเรอื น
(25) ค่าบริการไปรษณีย์ (รวมค่าดวงตราไปรษณยี ากร)
(26) ค่าบริการโทรศัพท์ ค่าบัตรเติมเงินโทรศัพท์ กรณีต้องใช้โทรศัพท์ในการติดต่อส่ือสาร
กบั ผ้ใู ห้ข้อมูลในโครงการวิจยั
(27) ค่าอินเทอรเ์ นต็ ค่าเชา่ Pocket Wi-Fi กรณีมีการลงพนื้ ท่ที ีไ่ มม่ สี ญั ญาณอินเทอร์เนต็
(28) ค่าประกันภยั ในกรณีทต่ี ้องดาเนนิ โครงการในพื้นท่ีเสย่ี ง เช่น จังหวัดชายแดนภาคใต้ พืน้ ที่
ทีม่ กี ารระบาดของโรคระบาดสงู ตามท่กี ระทรวงสาธารณสขุ ประกาศ หรอื พืน้ ที่เส่ยี งอ่ืนๆ เป็นต้น
(29) ค่าประกนั สงั คมลกู จ้างโครงการ
(30) ค่าสาเนาเอกสาร
(31) คา่ จัดทารปู เล่มรายงาน
(32) ค่าซอ่ มแซมครภุ ณั ฑค์ า่ ปรบั ปรุงครภุ ณั ฑแ์ ละสอบเทียบเครื่องมือ*

* หมำยเหตุ :
หน่วยรับงบประมาณอาจเสนอขอรบั งบประมาณสาหรับค่าซ่อมแซมครุภณั ฑ์ ค่าปรบั ปรงุ ครุภัณฑ์และสอบเทยี บเครอ่ื งมือได้ แต่ไม่เกิน

ร้อยละ 10 ของงบประมาณแผนงานหรือโครงการ เว้นแต่เป็นโครงการท่ีต้องการพัฒนาหรืออัพเกรด (Upgrade) เคร่ืองมือที่ต้องใช้ตามพันธกิจ
ของหนว่ ยรบั งบประมาณโดยเฉพาะ ใหส้ ามารถเสนอวงเงนิ ไดไ้ ม่เกินร้อยละ 20 ของงบประมาณโครงการ

ทั้งน้ี ค่าซ่อมแซมครุภัณฑ์ ค่าปรับปรุงครุภัณฑแ์ ละสอบเทยี บเครื่องมือแล้วต้องไม่เกนิ ร้อยละ 10 ของวงเงินงบประมาณรวมตามคาขอ
งบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ และเมื่อรวมงบประมาณในค่าครุภัณฑ์ ค่าซ่อมแซมครุภัณฑ์และสอบเทียบเคร่ืองมือแล้ว ต้องไม่เกินร้อยละ 20
ของวงเงินงบประมาณรวมตามคาของบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ

งบลงทุน หมายถึง รายจ่ายที่กาหนดให้จ่ายเพื่อการลงทุนในโครงการด้าน ววน. ได้แก่ รายจ่าย
ค่าครุภัณฑ์ และรายจ่ายอื่นใดที่กาหนดให้จ่ายในลักษณะงบลงทุน ทั้งน้ี กองทุนส่งเสริม ววน. ไม่สนับสนุน
งบลงทุนทเ่ี ปน็ ส่ิงปลูกสร้าง

1) ค่ำครุภัณฑ์ หมายถึง รายจ่ายเพ่ือให้ได้มาซ่ึงสิ่งของที่มีลักษณะโดยสภาพคงทนถาวร หรือ
ตามปกติมีอายุการใช้งานยืนนาน มีอายุการใช้งานตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป และมีมูลค่าต้ังแต่ 10,000 บาทข้ึนไป
ไม่สิน้ เปลืองหมดไป หรอื เปลีย่ นสภาพไปในระยะเวลาอันส้นั รวมถงึ รายจา่ ยดังต่อไปน้ี

สำนักงำนส่งเสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 67
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม (สกสว.)

(1) ค่าเครื่องมือวิทยาศาสตร์
(2) ค่าจดั สร้างหรอื ประกอบเครอื่ งมือวิทยาศาสตร์
(3) ค่าจดั สร้างโรงเรือนเพาะปลกู พืช หรอื เลี้ยงสตั ว์
(4) คา่ จดั สรา้ งระบบเพาะเลย้ี งสัตว์น้า
(5) คา่ จัดสรา้ งระบบบาบดั นา้ เสยี เฉพาะท่ีใชใ้ นการทดลอง
(6) ค่าต่อเติมหรือปรับปรุงระบบไฟฟ้า ระบบหมุนเวียนอากาศ ระบบควบคุมอุณหภูมิ
ในห้องปฏิบัตกิ าร ซ่งึ ไมร่ วมการกอ่ สรา้ ง ปรับปรงุ ห้องปฏิบตั กิ าร
(7) คา่ จัดจา้ งพฒั นาฐานข้อมลู แอปพลิเคชน่ั
(8) ค่าครุภัณฑ์คอมพิวเตอร์ โน๊ตบุ๊ค แท็บเล็ต และอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ เช่น เครื่องพิมพ์
โดยจะต้องเป็นไปเพ่ือการดาเนินการตามแผนงานและโครงการท่ีเกี่ยวข้องกับระบบ การคานวณขั้นสูง
การวิเคราะหห์ รือการจัดการขอ้ มูลสารสนเทศทม่ี ปี รมิ าณมาก เท่านัน้
(9) ค่าครุภัณฑ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์หรือค่าลิขสิทธิ์โปรแกรมคอมพิวเตอร์ท่ีราคาสูงกว่า
20,000 บาทขึ้นไป มีอายุการใช้งานหรืออายุลิขสิทธ์ิเกิน 1 ปีขึ้นไป โดยจะต้องเป็นไปเพ่ือการดาเนินการ
ตามแผนงานและโครงการที่เก่ียวข้องกับระบบการคานวณขั้นสูง การวิเคราะห์หรือการจัดการข้อมูล
สารสนเทศทม่ี ปี รมิ าณมากเท่านนั้
(10) คา่ อปุ กรณ์ดจิ ิทัล เชน่ เคร่อื งบันทึกเสียง กล้องถ่ายรูป เครื่องสแกนบารโ์ คด เปน็ ต้น
(11) รายจ่ายท่ีต้องชาระพร้อมกับค่าส่ิงของ เช่น ค่าขนส่ง ค่าภาษี ค่าพิธีการศุลกากร ค่าประกันภัย
ค่าติดต้งั เป็นต้น

หมำยเหตุ :
1) หน่วยรับงบประมาณอาจเสนอขอรับงบประมาณสาหรับจัดซื้อครุภัณฑ์และเคร่ืองมือ อุปกรณ์ได้ โดยหน่วยรับงบประมาณจะต้อง

แสดงรายละเอียดของครุภัณฑ์ เหตุผลและความจาเป็นที่ต้องใช้ครุภัณฑ์น้ัน และต้องแนบใบเสนอราคาครุภัณฑ์ที่จะจัดซื้อหรือจัดจ้างอย่างน้ อย
3 ราย มาพรอ้ มกบั คาของบประมาณด้วย

2) เม่ือหน่วยรับงบประมาณจัดซื้อหรือจัดสร้างครุภัณฑ์เรียบร้อยแล้ว จะต้องบันทึกข้อมูลครุภัณฑ์ลงในระบบข้อมูลสารสนเทศ
วทิ ยาศาสตร์และเทคโนโลยแี หง่ ชาติ (NSTIS) ด้วย

3) กรรมสิทธใ์ิ นครุภณั ฑ์ของโครงการวิจัย
3.1 ใหเ้ ปน็ ของหนว่ ยรับงบประมาณเมอ่ื เสร็จส้ินโครงการวิจัย
3.2 กรณีหน่วยรับงบประมาณมีความจาเป็นต้องขอกรรมสิทธ์ิในครุภัณฑ์ระหว่างการดาเนินงานโครงการวิจัย ให้ทาหนังสือ

แจง้ ตอ่ สกสว. เพ่อื เสนอตอ่ กสว. เพื่อพจิ ารณา อนุมตั ิ
3.3 กรณียกเลิกโครงการวิจัย และหน่วยรับงบประมาณประสงค์จะขอกรรมสิทธ์ิในครุภัณฑ์ขอ งโครงการนั้นๆ ให้ทาหนังสือ

แจ้งเหตผุ ลความจาเป็นและแผนการใชป้ ระโยชน์ตอ่ สกสว. เพื่อเสนอต่อ กสว. เพือ่ พจิ ารณาอนมุ ัติ
หากหนว่ ยรบั งบประมาณไมป่ ระสงคจ์ ะขอกรรมสทิ ธิใ์ นครภุ ณั ฑ์ดังกล่าว สกสว. จะพิจารณาการใช้ประโยชนต์ อ่ ไป

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 68
กำรสนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (สกสว.)

2) อน่ื ๆ
2.1 ค่ำเสริมสร้ำงควำมเข้มแข็งและธรรมำภิบำลในกำรบริหำรจัดกำรแผนงำนและ โครงกำร ววน.

หน่วยรับงบประมาณสามารถเสนอของบประมาณเสริมสร้างความเขม้ แขง็ ในการบริหารจดั การ เพือ่ เสรมิ สร้าง
ประสิทธิภาพ ประสิทธิผลและธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการแผนงานและโครงการ ววน. ได้ ท้ังน้ี ต้องต้ัง
เป็นแผนงานแยกออกมาโดยมีโครงการ/กิจกรรม (รายละเอียดตามแบบฟอร์มในภาคผนวก 3) และระบุ
รายละเอียดงบประมาณท่ีชัดเจนเหมาะสมในวงเงินไม่เกินร้อยละ 5 ของวงเงินงบประมาณรวมตามคาขอ
งบประมาณของหนว่ ยรับงบประมาณ แต่ไมเ่ กนิ 5 ล้านบาท โดยสนับสนุนเป็นค่าใช้จ่ายดงั ตอ่ ไปน้ี

(1) ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแผนงานและโครงการ ววน. เช่น การจัดประชุม ค่าตอบแทน
ผทู้ รงคุณวุฒใิ นการประเมนิ เพอื่ ใหไ้ ดแ้ ผนงานและโครงการท่มี ีคุณภาพ

(2) ค่าใช้จ่ายในการติดตามโครงการ และติดตามผลผลิตของแผนงานและโครงการ ววน.
เช่น คา่ ลงพ้นื ทตี่ ดิ ตามความก้าวหนา้ โครงการ ค่าตอบแทนผู้ทรงคณุ วฒุ ใิ นการประเมิน ความก้าวหนา้

(3) ค่าใช้จ่ายการประเมินผลลพั ธแ์ ละผลกระทบของแผนงานและโครงการ ววน.
(4) ค่าใช้จ่ายในการผลักดันการนาผลงาน ววน. ไปใช้ประโยชน์ เช่น ค่าใช้จ่ายในการ
ยื่นจดสทิ ธิบตั ร ค่าใช้จา่ ยในการจัดประชุมเผยแพรผ่ ลงาน
(5) ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาบุคลากรบริหารแผนงานและโครงการ ค่าใช้จ่ายเพื่อสร้าง
ความเข้มแข็งของกระบวนการบริหารงาน ววน. ของหน่วยรับงบประมาณ เช่น ค่าอบรมเพ่ือเสริมสร้างทักษะ
ด้านการบรหิ ารจัดการงานวิจยั และนวัตกรรมทเ่ี กี่ยวข้อง
(6) ค่าจ้างเลขานุการโครงการ/ผู้ประสานงานโครงการ ท่ีไม่ใช่บุคลากรประจาภายใน
หน่วยงาน เพ่ือช่วยการบรหิ ารจัดการและสนบั สนนุ การดาเนินงานโครงการตามความจาเป็นและเหมาะสม
2.2 ค่ำสำธำรณูปโภคสำหรับโครงกำร ววน. หมายถึง เงินท่ีจ่ายเป็นค่าใช้จ่ายทรัพยากรอ่ืน
เช่น ค่าน้า ค่าไฟที่ใช้ในงานวิจัย ท้ังน้ี กรณีที่หน่วยรับงบประมาณได้รับการสนับสนุนงบประมาณ
สาธารณูปโภคจากรายจ่ายประจาจากสานักงบประมาณ แต่งบประมาณนั้นไม่ครอบคลุมค่าสาธารณูปโภค
ตามแผนงานที่เสนอขอรบั จัดสรรงบประมาณจากกองทุนส่งเสริม ววน. หน่วยรับงบประมาณอาจขอรับจัดสรร
งบประมาณค่าสาธารณูปโภคสาหรับแผนงานนนั้ โดยจะต้องระบุงบประมาณดังกล่าวในแผนงานหรือโครงการ
ท่ีเก่ียวข้อง ทั้งนี้ งบประมาณท่ีเสนอขอรวมแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 1 ของงบประมาณรวมตามคาขอ
งบประมาณของหน่วยรบั งบประมาณ

สำนักงำนสง่ เสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 69
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (สกสว.)

2. อตั รำคำ่ ใช้จ่ำยดำ้ นวทิ ยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม

2.1 ค่ำจ้ำง : คาของบประมาณสาหรับค่าจ้างที่ปรึกษา ค่าจ้างนักวิจัยร่วมโครงการและค่าจ้างผู้ช่วย

นกั วิจยั รวมกันแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 25 ของงบประมาณรวมของแผนงาน

รำยกำร หลกั กำร/ เง่ือนไข อตั รำ

1) คา่ ตอบแทนนักวจิ ยั รว่ ม - การจ้างนักวิจัยร่วมโครงการและผูช้ ว่ ย ป.เอก ไม่เกนิ 30,000 บาทตอ่ เดือน

โครงการ นักวิจัยได้จากบุคคลภายนอกหน่วยรับ ป.โท ไมเ่ กิน 25,000 บาทตอ่ เดอื น

2) คา่ จ้างผู้ชว่ ยนกั วจิ ัย งบประมาณ ป.ตรี ไมเ่ กนิ 18,000 บาทตอ่ เดอื น

- ในกรณีที่นักวิจัยร่วมโครงการหรือ ปวส. ไม่เกนิ 12,500 บาทต่อเดอื น

ผู้ช่วยนักวิจัยมีประสบการณ์มาแล้ว ปวช. ไมเ่ กนิ 11,000 บาทตอ่ เดือน

ให้คิดประสบการณ์เพ่ิมจากอัตราเงินเดือน ระดบั ต่ากวา่ ประกาศนยี บตั รวชิ าชีพ

ไดต้ ามความเหมาะสม อัตราค่าจ้างไม่เกิน 9,000 บาทต่อเดือน

หรือจ่ายตามอัตราคา่ แรงขั้นตา่ รายวนั

ตามที่กฎหมายกาหนด

3) คา่ จ้างทป่ี รึกษา - จ้างได้เฉพาะบุคคลภายนอกหน่วย อัตราค่าจ้างที่ปรึกษาให้เป็นไปตาม

รับงบประมาณเท่าน้ัน และที่ปรึกษาต้อง ระเบียบของกระทรวงการคลังและ

ไมเ่ ปน็ ผดู้ าเนินการวจิ ยั ให้คิดจ่ายเป็นรายบุคคล ต่อวันและ

- การจ้างท่ีปรึกษาจะทาได้เมื่อมีความ เวลาทางาน (man-day) ตามงานที่

จาเป็นที่ต้องได้รับคาปรึกษาด้านเทคนิค ทาจรงิ

วิชาการในสาขาวิชาชีพต่างๆ โดยท่ี

ปรึกษาต้องมีประสบการณ์และคุณวุฒิ

ที่เหมาะสมเพ่ือให้ดาเนินโครงการท่ีเป็น

งานมูลฐานใหไ้ ดผ้ ลสมั ฤทธ์ิ

4) ค่าจา้ งเลขานุการโครงการ/ เป็นส่วนหนึ่งของการบริหารจัดการ -

ผู้ประสานงานโครงการ งาน ววน. ให้ตั้งไว้ในหมวดค่าเสริมสร้าง

ความเข้มแข็งและธรรมาภิบาลในการ

บริหารจัดการและสนับสนุนแผนงาน

ววน. โดยจ้างได้เฉพาะที่ไม่ใช่บุคลากร

ประจาภายในหนว่ ยรบั งบประมาณ

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 70
กำรสนบั สนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทุน ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (สกสว.)

2.2 ค่ำใช้สอย : หน่วยรับงบประมาณเสนอขอรับงบประมาณค่าใช้สอยได้ ท้ังนี้ ให้พิจารณา

ตามความเหมาะสมและใหค้ านึงถึงความคุ้มค่า

รำยกำร หลักกำร/ เงื่อนไข อัตรำ

1) คา่ ตอบแทนวิทยากร/ - ไมเ่ กนิ 1,200 บาทตอ่ ช่วั โมง

ผเู้ ชีย่ วชาญในการอบรม

2) ค่าปฏิบตั ิงานล่วงเวลา (OT) - 1) วันทาการปกติ ชัว่ โมงละ 50 บาท

ไม่เกนิ วันละ 4 ชว่ั โมง

2) วันหยุดราชการ ชว่ั โมงละ 60 บาท

ไมเ่ กินวันละ 7 ชว่ั โมง

3) ค่าซ่อมแซมครุภัณฑ์ ค่าปรับปรุง เสนอขอรับงบประมาณได้เท่าที่จาเป็น เบกิ จ่ายตามจริง

ครุภณั ฑแ์ ละสอบเทยี บเครอื่ งมือ โดยต้ังในแผนงานหรือโครงการนั้นๆ

แต่ไม่เกินร้อยละ 10 ของงบประมาณ

แผนงานหรือโครงการ เว้นแต่เป็นโครงการ

ที่ต้องการพัฒนาหรืออัพเกรด (Upgrade)

เคร่ืองมือที่ต้องใช้ตามพันธกิจของหน่วย

รับงบประมาณ โดยเฉพาะ ให้สามารถ

เสนอวงเงินได้ไม่เกินร้อยละ 20 ของ

งบประมาณโครงการ ทั้งน้ี ค่าซ่อมแซม

ครุภัณฑ์ ค่าปรบั ปรุงครุภณั ฑแ์ ละสอบเทียบ

เครื่องมือรวมแล้วต้องไม่เกินร้อยละ 10

ของวงเงินงบประมาณรวมตามคาขอ

งบประมาณของหน่วยรับงบประมาณ

และเม่ือรวมงบประมาณในค่าครุภัณฑ์

ค่ า ซ่ อ ม แ ซ ม ค รุ ภั ณ ฑ์ แ ล ะ ส อ บ เ ที ย บ

เครอื่ งมือแล้ว ตอ้ งไมเ่ กินร้อยละ 20 ของ

วงเงินงบประมาณรวมตามคาของบประมาณ

ของหนว่ ยรับงบประมาณ

ค่ำใช้จำ่ ยในกำรเดนิ ทำงภำยในประเทศ สาหรับเป็นคา่ ใชจ้ ่ายในการเดินทางภายในราชอาณาจกั ร เพอื่ การดาเนินการ

ตามแผนงานและโครงการดา้ น ววน. เท่าน้ัน

สำนักงำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 71
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (สกสว.)

รำยกำร หลักกำร/ เงื่อนไข อตั รำ

4) ค่าเบย้ี เลี้ยง - ไม่สามารถเสนอขอรับงบประมาณ วันละไม่เกิน 400 บาท (นับชั่วโมง

ค่าเบี้ยเลี้ยงให้กับบุคลากรที่ได้รับค่าจ้าง การทางานตั้งแต่ออกเดินทาง - กลับถึง

เปน็ รายเดือนจากโครงการได้ ทีพ่ ัก ตอ้ งไม่น้อยกวา่ 12 ชม.)

- ในกรณีที่มีการเล้ียงอาหารครบทุกม้ือ

หา้ มมิให้เบกิ คา่ เบย้ี เลยี้ ง

5) คา่ พาหนะ - - รถจักรยานยนต์ เหมาจ่ายไม่เกิน 4 บาท

ต่อกโิ ลเมตร

- รถยนต์ เหมาจ่ายไม่เกิน 6 บาท ต่อ

กโิ ลเมตร

- รถตู้โดยสาร (เช่า) ไม่เกิน 2,000 บาท

ตอ่ วนั ส่วนคา่ นา้ มนั จา่ ยตามจริง

- แท็กซ่ี อตั ราตามระยะทางจริง

- เคร่อื งบนิ อตั ราตามจรงิ ไม่เกินค่าโดยสาร

เครอ่ื งบนิ ชั้นประหยัด

6) คา่ ที่พกั - จา่ ยตามจรงิ ไมเ่ กินคืนละ 2,000 บาท

ต่อคน

7) คา่ อาหารในการจัดประชุม/ - จ่ายตามจริง ไม่เกิน 1,000 บาท ต่อวัน

อบรมภายในประเทศ ตอ่ คน

ค่ำใช้จ่ำยในกำรเดินทำงต่ำงประเทศ สาหรับเป็นค่าใช้จา่ ยในการเดนิ ทางไปตา่ งประเทศเพื่อการดาเนินการตามแผนงาน

และโครงการด้าน ววน. เท่านนั้

8) ค่าเบย้ี เล้ยี ง ในกรณีที่มีการเลี้ยงอาหารครบทุกม้ือ วันละไม่เกิน 2,500 บาท (นับช่ัวโมง

ห้ามมิให้เบิกค่าเบยี้ เลย้ี ง การทางานตั้งแต่ออกเดินทาง – กลับถึง

ทพี่ ัก ตอ้ งไมน่ ้อยกว่า 12 ชม.)

9) คา่ พาหนะ - - เบิกจา่ ยตามจริง

- ค่าโดยสารเคร่ืองบิน ให้เสนอขอรับ

งบประมาณได้ตามความเหมาะสม

ในอตั ราเคร่อื งบนิ ชน้ั ประหยัด

สำนักงำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 72
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
สง่ เสริมวทิ ยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

รำยกำร หลกั กำร/ เงื่อนไข อัตรำ
10) คา่ ทพี่ กั - เบกิ จ่ายตามจรงิ โดยมีอัตรา
- ประเภท ก ไม่เกนิ 7,500 บาท
11) ค่าใช้จ่ายอื่นๆ ท่ีจาเป็นในการ - - ประเภท ข ไมเ่ กิน 5,000 บาท
เดินทางไปปฏิบัติงานต่างประเทศ - ประเภท ค ไมเ่ กิน 3,500 บาท
อาทิ ค่าประกันภัย ซ่ึงคุ้มครองตาม - ประเทศ ง ให้เบิกได้เท่าท่ีจ่ายจริง
ระยะเวลาของการเดินทางไปปฏิบตั งิ าน โดยสามารถเพิม่ ข้ึนไดไ้ ม่เกินร้อยละ 40
ค่าโทรศัพท์รวมถึงค่าใช้บริการ ซิม จากกลุ่มประเทศ ก แต่ไม่เกินคืนละ
โทรศัพท์ของผู้ให้บริการในต่างประเทศ 10,500 บาท ต่อคน
ค่าบรกิ ารอินเตอร์เนต็ คา่ จัดทาหนังสือ - กลุ่มประเทศ จ ให้เบิกได้เท่าท่ีจ่ายจรงิ
เดินทาง ค่าธรรมเนียมการเข้าประเทศ โดยสามารถเพ่ิมข้ึนได้ไม่เกินร้อยละ 25
(วีซ่า) ค่าธรรมเนียม การใช้สนามบนิ จากกลุ่มประเทศ ก แต่ไมเ่ กินคืนละ
คา่ ภาษีการเดินทางเข้าและออกประเทศ 9,375 บาท ต่อคน
ค่าธรรมเนียมในต่างประเทศ ค่าใช้จ่าย (รายชื่อประเทศที่พักประเภท ก ข และ ค
ในการเผยแพร่ผลงานวชิ าการ เป็นตน้ โปรดดูบัญชีแนบท้ายตามประกาศ
คณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์
วิจัย และนวัตกรรม เรื่อง หลักเกณฑ์
ก า ร จั ด ท า ค า ข อ ง บ ป ร ะ ม า ณ แ ล ะ
การจัดสรรงบประมาณของหน่วยงาน
ในระบบวิจัยและนวัตกรรม (ฉบับที่ 3)
พ.ศ. 2564)
เบิกจ่ายตามจริง โดยคานึงถึงความ
ประหยัด ความเหมาะสม และประโยชน์
เปน็ สาคญั

สำนักงำนสง่ เสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 73
กำรสนบั สนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (สกสว.)

รำยกำร หลักกำร/ เง่อื นไข อัตรำ
12) คา่ ใชจ้ ่ายของนักวิจยั จาก - อตั ราคา่ ใช้จา่ ยของนักวิจยั ต่างประเทศ
ตา่ งประเทศที่มาชว่ ยงานในโครงการ ใ น ข ณ ะ ป ฏิ บั ติ ง า น ใ น ป ร ะ เ ท ศ ไ ท ย
ให้เป็นไปตามเกณฑ์ค่าใช้จ่ายในการ
เดินทางภายในประเทศตามคู่มือฉบบั น้ี

2.3 ค่ำวัสดุ : หน่วยรับงบประมาณสามารถจัดซื้อวัสดุได้ตามความจาเป็นเหมาะสม ประหยัด และ

เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเบิกจ่ายตามจริง การจัดซ้ือวัสดุต่างๆ เพ่ือนามาสร้างหรือประกอบเป็นเคร่ืองมือ

หรอื ระบบสาหรบั ตรวจวัด ทดสอบ หรือทดลองตา่ งๆ ในโครงการ ทีม่ ีสภาพคงทนถาวร ใช้งานได้นานมากกว่า

1 ปขี น้ึ ไป เพอื่ นาไปพัฒนาหรอื สรา้ งเป็นเคร่อื งต้นแบบ ให้หน่วยรับงบประมาณรายงานเคร่ืองตน้ แบบดังกล่าว

เป็นครุภัณฑ์ของโครงการในระบบข้อมูลสารสนเทศวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ (National Science

and Technology Information System: NSTIS) เม่อื โครงการเสร็จสนิ้

รำยกำร หลักกำร/ เงอ่ื นไข อตั รำ

1) ค่าวัสดคุ อมพิวเตอร์ - มีราคาต่อชน้ิ ไม่เกนิ 20,000 บาท

2) ค่าวัสดุโปรแกรมคอมพิวเตอร์หรอื หากราคาสูงกว่าอัตราท่ีกาหนดและมีอายุ มีราคาต่อหน่วยหรือต่อชุดไม่เกิน

ค่าลขิ สทิ ธโ์ิ ปรแกรมคอมพิวเตอร์ การใช้งาน หรืออายุลิขสิทธิ์เกิน 1 ปี จัดเปน็ 20,000 บาท

ครภุ ณั ฑ์

2.4 ค่ำครุภัณฑ์ : หน่วยรับงบประมาณสามารถเสนอขอรับงบประมาณสาหรับจัดซ้ือครุภัณฑ์
สนับสนุนโครงการได้แต่ ต้องไม่เกินร้อยละ 20 ของงบประมาณแต่ละโครงการ และไม่เกินร้อยละ 20 ของ
วงเงนิ งบประมาณรวมตามคาของบประมาณของหนว่ ยรับงบประมาณ ซ่ึงการจดั ซ้ือครภุ ณั ฑ์ เครือ่ งมืออุปกรณ์
ต้องแสดงเหตุผลและความจาเป็น พร้อมแจ้งรายละเอียดของครุภัณฑ์ในการจัดซ้ือต่อ สกสว. และต้องแนบ
ใบเสนอราคาครุภัณฑ์ที่จะจัดซ้ือหรือจัดจ้างอย่างน้อย 3 ราย มาพร้อมกับคาของบประมาณด้วย โดยต้อง
ดาเนินการตามกฎหมายว่าด้วยการจัดซ้ือ จัดจ้าง และบริหารพัสดุภาครัฐ ทั้งนี้ ในการจัดซ้ือหรือจัดจ้าง
ครุภัณฑ์ให้ใช้จ่ายตามจริงและงบประมาณที่เหลือไม่สามารถ โอนย้ายไปใช้จ่ายในส่วนอ่ืนได้ โดยต้องนาส่งคนื
กองทนุ ส่งเสรมิ ววน. เม่อื ดาเนินการตามแผนปฏิบตั ิการด้าน ววน. ของหน่วยรบั งบประมาณเสร็จส้ิน

สำนักงำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 74
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
ส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

รำยกำร หลักกำร/ เงอ่ื นไข อตั รำ

1) ครภุ ณั ฑ์ทมี่ ีมูลคา่ ไม่เกนิ 20 ล้านบาท - เบกิ จ่ายตามจริง

2) ครุภัณฑ์หรือโครงสร้างพ้ืนฐานที่มี หน่วยรับงบประมาณต้องวิเคราะห์ เบิกจ่ายตามจริง

มลู คา่ สงู เกนิ กวา่ 20 ล้านบาท ผลตอบแทน ความคุ้มค่าและความ

สอดคล้องกับแผนด้านวิทยาศาสตร์ วิจยั

และนวัตกรรมของกองทุน รวมถึงสารวจ

และวิเคราะห์ความซ้าซ้อนกับครุภัณฑ์

หรือโครงสร้างพ้ืนฐานของหน่วยงานอื่น

และเสนอแผนการจัดสรรการใช้ครภุ ัณฑ์

หรือโครงสร้างพื้นฐานร่วมกันระหว่าง

หน่วยรับงบประมาณและหน่วยงานอ่ืน

มาพร้อมกับคาของบประมาณเพ่ือเสนอ

ตอ่ กสว. พจิ ารณาอนมุ ตั ิ

2.5 อ่ืนๆ

2.5.1 คำ่ เสริมสรำ้ งควำมเขม้ แขง็ และธรรมำภบิ ำลในกำรบริหำรจัดกำรแผนงำนและโครงกำร ววน.

รำยกำร หลักกำร/ เงอื่ นไข อตั รำ

ค่าเสริมสร้างความเข้มแข็งและ ไม่เกินร้อยละ 5 ของวงเงินงบประมาณ -

ธรรมาภิบาลในการบริหารจัดการ รวมตามคาของบประมาณของหนว่ ยรบั

แผนงานและโครงการ ววน.ประกอบด้วย งบประมาณ แต่ไม่เกิน 5 ล้านบาท ทั้งนี้

1) ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาแผนงาน หน่วยรับงบประมาณต้องจัดทาเป็น

และโครงการ ววน. แผนงานการเสรมิ สรา้ งความเข้มแข็งการ

2) ค่าใช้จ่ายในการติดตามโครงการ บริหารจัดการ โดยมีโครงการหรอื กิจกรรม

และติดตามผลผลิตของแผนงานและ พร้อมท้ังต้องระบุรายละเอียดงบประมาณ

โครงการ ววน. ทช่ี ดั เจนเหมาะสม

3) ค่าใช้จ่ายการประเมินผลลัพธ์และ

ผลกระทบของแผนงานและโครงการ ววน.

4) ค่าใช้จ่ายในการเผยแพร่ ผลักดัน

และเร่งรัดการนาผลงานวทิ ยาศาสตร์

วจิ ัยและนวัตกรรม ไปใชป้ ระโยชน์

สำนกั งำนส่งเสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 75
กำรสนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (สกสว.)

รำยกำร หลกั กำร/ เงอื่ นไข อัตรำ
5) ค่าใช้จ่ายในการพัฒนาบุคลากร
ซึ่งเป็นผู้บริหารแผนงานและโครงการ
เพ่ือสรา้ งความเข้มแขง็ ของกระบวนการ
บริหารงาน ววน. ของหนว่ ยรับงบประมาณ
6) ค่าจ้างเลขานุการโครงการ/ผ้ปู ระสานงาน
โครงการ ท่ีไม่ใช่บุคลากรประจาภายใน
หน่วยงาน เพื่อช่วยการบริหารจัดการ
และสนับสนุนการดาเนินงานโครงการ
ตามความจาเปน็ และเหมาะสม

2.5.2 ค่ำสำธำรณปู โภคสำหรับโครงกำร ววน.

รำยกำร หลกั กำร/ เง่ือนไข อตั รำ

คา่ นา้ ค่าไฟทีใ่ ชใ้ นงานวจิ ัย เฉพาะในกรณีที่หน่วยงานได้รับการ เบิกจา่ ยตามจรงิ

สนับสนุนงบประมาณสาธารณูปโภคจาก

รายจ่ายประจาจากสานักงบประมาณ

แ ต่ ง บ ป ร ะ ม า ณ นั้ น ไ ม่ ค ร อ บ ค ลุ ม

ค่าสาธารณูปโภคตามแผนงานท่ีเสนอ

ขอรับจัดสรรงบประมาณจากกองทุน

ส่งเสริม ววน. โดยต้องระบุงบประมาณ

ส่วนนี้ในแผนงานหรือโครงการท่ีเกี่ยวข้อง

ท้ังน้ี งบประมาณสว่ นน้ีรวมแล้ว ต้องไม่เกิน

รอ้ ยละ 1 ของงบประมาณรวมตามคาขอ

งบประมาณของหนว่ ยรับงบประมาณ

อัตราค่าใชจ้ า่ ยอ่นื ใดซึ่งมิได้ระบุในอัตราค่าใช้จ่ายด้าน ววน. นี้ ใหห้ นว่ ยรบั งบประมาณอ้างอิงระเบียบ
ของกระทรวงการคลัง หรือหลักเกณฑ์อัตราค่าใช้จ่าย ประกอบการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจาปี
ที่เบิกจ่ายในลักษณะค่าตอบแทน ใช้สอย วัสดุ และค่าสาธารณูปโภค และหลักเกณฑ์ อัตราค่าใช้จ่าย
และแนวทางการพิจารณางบประมาณรายจ่ายประจาปีการฝึกอบรม สัมมนา การโฆษณา ประชาสัมพันธ์
การจ้างที่ปรึกษา ค่าใช้จ่ายในการเดินทางไปราชการต่างประเทศ ของสานักงบประมาณ (ธันวาคม 2563)
(https://www.bb.go.th/topic.php?gid=240&mid=282)

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 76
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (สกสว.)

แนวปฏิบัตใิ นกำรบรหิ ำรงบประมำณเพอ่ื สนับสนนุ งำนมูลฐำนตำมพนั ธกิจ
ของหน่วยรับงบประมำณ (Fundamental Fund; FF) ระหวำ่ งปี

1. กำรเตรยี มตวั กอ่ นทำคำรับรองกำรปฏบิ ตั ิตำมเงื่อนไขของกำรอนมุ ตั ิงบประมำณดำ้ นวิทยำศำสตร์ วจิ ยั
และนวัตกรรม

คารับรองการปฏิบัติตามเงื่อนไขของการอนุมัติงบประมาณด้านวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
ระหว่าง สกสว. และหน่วยรับงบประมาณ เพื่อสนับสนุนงานมูลฐาน (FF) มีกาหนดระยะเวลา 2 ปี โดยให้
โครงการภายใต้คารบั รองฯ มีระยะเวลาดาเนินการ 1 ปี โดยคารับรองฯ และเอกสารแนบประกอบคารบั รองฯ
เอกสารแนบท้ายคารบั รองฯ มีรายละเอยี ดประกอบด้วย

เอกสารแนบ 1 เอกสารจดั สรรเงินพัฒนาวทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม
เอกสารแนบ 2 แผนปฏิบตั ิการของหนว่ ยงาน
เอกสารแนบ 3 แผนการใชจ้ า่ ยงบประมาณของหน่วยงาน
เอกสารแนบ 4 บญั ชีธนาคารของหนว่ ยงาน
เอกสารแนบ 5 การรายงานผลการดาเนนิ งานของหน่วยงาน
เอกสารแนบ 6 การประเมินผลการดาเนินงานของหน่วยงานและการประเมิน ผลลัพธ์และผลกระทบ
ของแผนงานวทิ ยาศาสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม
เอกสารแนบ 7 เอกสารอ่ืน ๆ (ถา้ ม)ี
เม่ือหน่วยรับงบประมาณได้รับการแจ้งจานวนเงินจัดสรรประจาปีงบประมาณจากทาง สกสว. แล้ว
เพื่อให้การเบิกจ่ายงบประมาณเป็นไปตามแผนท่ีกาหนดไว้และเกิดประสิทธิภาพสูงสุด หน่วยรับงบประมาณ
จะต้องจัดทาข้อมูลประกอบการจัดทาคารับรองฯ ตามเง่ือนไขของการอนุมัติงบประมาณด้าน ววน.
จากกองทุนสง่ เสรมิ ววน. ประกอบดว้ ย
1.1 แผนปฏิบัติกำรของหน่วยรับงบประมำณ เป็นกำรสรุปภำพรวมของหน่วยรับงบประมำณ
ประกอบด้วย

1) ขอ้ มูลวสิ ยั ทัศน์และพนั ธกิจของหน่วยรบั งบประมาณ
2) ยุทธศาสตร์ชาติที่สอดคลอ้ งกับแผนปฏิบตั ิงานด้าน ววน. ของหน่วยรับงบประมาณ
3) วงเงนิ งบประมาณกองทุนส่งเสรมิ ววน. ท่ีไดร้ ับการจัดสรรประจาปงี บประมาณ
4) ข้อมูลแผนงานทสี่ ะท้อนเป้าหมายของหน่วยงาน และแผนงานจะตอ้ งประกอบไปดว้ ยโครงการ
ภายใตแ้ ผนงานนัน้ ๆ

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 77
กำรสนบั สนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (สกสว.)

5) ข้อมูลโครงการวิจัยท่ีได้รับอนุมัติ ซ่ึงประกอบด้วยวัตถุประสงค์ (Objectives) ของโครงการ
และผลผลติ ทีค่ าดว่าจะไดร้ ับเม่ือส้ินสดุ โครงการ (Expected Outputs

1.2 แผนกำรใช้จ่ำยงบประมำณของหน่วยรับงบประมำณ เป็นการสรุปภาพรวมของวงเงินงบประมาณ
ท่ีไดร้ บั การจัดสรรในปงี บประมาณ ประกอบด้วย

1) วงเงินงบประมาณที่ได้รับจัดสรร โดยจะแยกให้เห็นรายละเอียดการจัดสรรตามรายโปรแกรม
ตามแผน ววน. และระบุรายช่ือโครงการและงบประมาณที่ได้รบั การอนุมตั ิ

2) แผนการใช้งบประมาณ ซึง่ จะมีรายละเอยี ดแบง่ ออกเปน็
(1) รายละเอียดงบประมาณแยกตามหมวดของแต่ละโครงการท่ีได้รับการอนุมัติ ซึ่งจะมี

หมวดงบประมาณในการดาเนินการ ได้แก่ ค่าจ้าง ค่าใช้สอย ค่าวัสดุ ค่าครุภัณฑ์และอื่นๆ โดยสามารถศึกษา
รายละเอียดของแต่ละหมวดงบประมาณ

(2) แผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณของแต่ละโครงการที่ได้รับการอนุมัติแบ่งเป็น 3 งวด
โดย งวดท่ี 1 = ต.ค.-มี.ค. งวดที่ 2 = เม.ย.-ม.ิ ย. งวดท่ี 3 = ก.ค.-ก.ย ซ่งึ จะเปน็ ไปตามเงื่อนไขการเบิกจ่ายเงิน
จากกองทุนส่งเสริม ววน. ท่ีแบ่งเป็น 3 งวด ตามที่ กสว. กาหนด ดังปรากฏในคารับรองฯ (เอกสารแนบ 3
วงเงินงบประมาณท่ีไดร้ บั จดั สรรและแผนการใช้จ่ายงบประมาณ)

1.3 กำรเปิดบัญชีธนำคำรของหน่วยรับงบประมำณ ขอให้หน่วยรับงบประมาณดาเนินการเปิดบัญชี
ธนาคาร โดยใช้ธนำคำรกรุงไทย จากัด (มหาชน) เพื่อความสะดวกในการโอนงบประมาณ โดยขอให้
เปิดเป็นบญั ชีเดียว “ชื่อหน่วยงาน-กองทุน ววน.” โดยมีเงอ่ื นไขการสั่งจ่าย ไม่นอ้ ยกว่าสองในสาม และหน่ึงในน้ัน
จะต้องเป็นหัวหน้าหน่วยงานผู้ให้คารับรองหรือผู้ท่ีหัวหน้าหน่วยงานมอบอานาจ กรณีท่ีมีการเปลี่ยนแปลง
ผู้มีอานาจส่ังจ่าย หน่วยงานสามารถดาเนินการได้เอง ซ่ึงบัญชีน้ีจะใช้เพื่อรับเงินจัดสรรจากกองทุนส่งเสริม ววน.
เท่าน้ัน และหน่วยรับงบประมาณไม่ต้องดาเนินการเปิดบัญชีใหม่ทุกปีเมื่อหน่วยรับงบประมาณดาเนินการ
เปิดบัญชีธนาคารแล้ว ให้สาเนาหน้าแรกของบัญชีธนาคาร จานวน 1 ชุด พร้อมท้ังแจ้งรายชื่อเจ้าหน้าด้านการเงิน
อีเมล์ และหมายเลขโทรศัพทม์ อื ถอื ลงในคารบั รองฯ เอกสารแนบ 4 บญั ชธี นาคารของหน่วยรับงบประมาณ

1.4 กำรปรับข้อมูลในระบบข้อมูลสำรสนเทศวิจัยและนวัตกรรมแห่งชำติ (NRIIS) ขอให้หน่วยรับ
งบประมาณดาเนินการนาเข้าโครงการท่ีได้รับการอนุมัติ โดยปรับข้อมูลให้ถูกต้องสอดคล้องกับการจัดทา
คารับรองฯ ประจาปีงบประมาณ โดยสามารถศึกษาการนาเข้าข้อมลู ไดจ้ ากคู่มือการนาเข้าโครงการในระบบ NRIIS

1.5 กำรจัดทำคำรับรองฯ เมื่อหน่วยรับงบประมาณได้รับเอกสารคารับรองฯ และเอกสารแนบแล้ว
ขอให้ทาการตรวจสอบความถูกต้องและศึกษาทาความเข้าใจอย่างละเอียด และให้ผู้มีอานาจสูงสุด
ของหน่วยรับงบประมาณหรือผู้ท่ีหัวหน้าหน่วยงานมอบอานาจพิจารณาลงนามในคารับรองฯ และลงนาม
ในเอกสารแนบ 4 ว่าด้วยรายละเอียดของบัญชีธนาคารหน่วยงาน ท้ัง 2 ฉบับ จากนั้นขอให้หน่วยรับ

สำนักงำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 78
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (สกสว.)

งบประมาณดาเนินการเก็บคารับรองฯ พร้อมเอกสารแนบท่ีลงนามครบถ้วนแล้วไว้ท่ีหน่วยรับงบประมาณ
จานวน 1 ฉบบั และสง่ คืน สกสว. 1 ฉบบั เพือ่ ดาเนนิ การเบิกงบประมาณงวดแรกให้หนว่ ยรับงบประมาณต่อไป

หลังจากที่หน่วยรับงบประมาณทาคารับรองฯ กับ สกสว. แล้ว หากหน่วยรับงบประมาณมีการทาสัญญา
กับโครงการ โครงการนั้นควรเร่ิมสัญญาให้สอดคล้องกับคารับรอง คือวันท่ี 1 ตุลาคม หรือภายใน
ไตรมาสแรกของปีงบประมาณนั้นๆ ทั้งน้ี เพ่ือให้การรายงานผลการดาเนินงานเป็นไปตามคารับรองฯ ท่ีหน่วย
รับงบประมาณลงนามกับ สกสว. (กรณีหน่วยรับงบประมาณไม่มีการทาสัญญากับโครงการ สกสว. จะถือว่า
โครงการนั้น เริ่มดาเนินการวันท่ี 1 ตุลาคม เพื่อให้สอดคล้องกับคารับรองฯ ที่หน่วยรับงบประมาณลงนาม
กบั สกสว.)

2. กำรบริหำรกำรเงนิ
หัวหน้าหน่วยรับงบประมาณ และ/หรือผู้ประสานงานหน่วยงาน เป็นผู้ที่มีบทบาทในการควบคุม

การใชจ้ า่ ยงบประมาณของนกั วจิ ยั ใหเ้ ป็นไปตามทหี่ น่วยรับงบประมาณให้คารบั รองฯ ไว้กบั สกสว.
2.1 กำรจดั ทำประกำศกำรบริหำรแผนงำน โครงกำร และงบประมำณ
ก่อนการเบกิ จ่ายเงินอุดหนุนท่ีไดร้ ับจัดสรรจากกองทุน ใหห้ น่วยรบั งบประมาณจัดทาประกาศ

การบริหารแผนงาน โครงการ และงบประมาณท่ีได้รับอุดหนุนโดยประกาศดังกล่าวต้องระบุเป้าหมาย
และผลสัมฤทธ์ิของแผนงานและโครงการแต่ละโครงการ โดยแยกงบประมาณเป็นหมวด ประกาศดังกล่าว
ใหเ้ ผยแพรใ่ ห้ทราบเปน็ การทัว่ ไปในส่อื อิเลก็ ทรอนิกสข์ องหนว่ ยรบั งบประมาณและแจง้ ให้ สกสว. ทราบ

2.2 กำรจดั ทำรำยงำนกำรเงิน
หน่วยรับงบประมาณจะต้องจัดทารายงานการเงินที่ได้รับการจัดสรรตามเอกสารคารับรองฯ

ที่ระบุไว้ พร้อมข้อมูลท่ีถูกต้อง/ครบถ้วนเพียงพอ เพื่อให้ทราบสถานะการเงินของหน่วยรับงบประมาณ
ตามแบบฟอร์มท่ี สกสว. กาหนดไว้ในระบบ NRIIS โดยหัวหน้าโครงการจะต้องนาเข้าข้อมูลรายงานการเงิน
ท่ีโครงการเสนอต่อ สกสว. ประกอบดว้ ยข้อมลู ดงั น้ี

- เงนิ งบประมาณทีไ่ ด้รบั อนมุ ัติจัดสรรจากกองทุน
- เงินงบประมาณท่ีหนว่ ยงานเบกิ จ่ายให้โครงการ
- เงินคงเหลือระหว่างดาเนินการ
การจัดทารายงานการเงนิ ประกอบด้วยข้อมูลสรปุ รายงานการเงนิ รอบ 6 เดอื น เป็นการแสดง
ยอดรายรับ-รายจ่าย-เงินคงเหลือของงบประมาณที่ได้รับในแต่ละงวดผ่านระบบ NRIIS ท้ังนี้ หัวหน้าหน่วยรับ
งบประมาณ และ/หรือผู้ประสานงานหน่วยงานจะต้องตรวจสอบความถูกต้องก่อนนาส่งข้อมูลมายัง สกสว.

สำนักงำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 79
กำรสนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (กองทนุ ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม (สกสว.)

อนึ่ง ในแต่ละงวด หากมีการใช้จ่ายงบประมาณบางหมวดเกินงบประมาณที่ตั้งไว้ (มากกว่าร้อยละ 20
ของงบประมาณในหมวดน้นั ๆ) หวั หน้าโครงการจะตอ้ งชี้แจงเหตุผลให้ชัดเจนไวใ้ นรายงานการเงินด้วย

2.3 กำรเกบ็ หลักฐำน
หน่วยรับงบประมาณต้องแจ้งให้นักวิจัยจัดเก็บใบเสร็จรับเงิน ใบสาคัญรับเงิน ใบรับรองแทน

ใบเสร็จ และหลักฐานประกอบรายการใช้จ่ายงบประมาณอ่ืนๆ ทั้งน้ี เพื่อความเป็นระเบียบในการจัดเก็บ
เอกสาร และสะดวกต่อการตรวจสอบภายหลัง ท้ังน้ี สานักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) หรือ สกสว.
อาจส่มุ ตรวจสอบหลักฐานการใช้จา่ ยงบประมาณโครงการเพอื่ ทดสอบความถูกตอ้ ง

อนึ่ง ขอให้หน่วยรับงบประมาณจัดเก็บหลักฐานการใช้จ่ายเงินโครงการเป็นเวลา 10 ปี
เม่ือครบกาหนดแล้ว สามารถดาเนนิ การทาลายเอกสารไดต้ ามระเบียบราชการ

3. กำรบรหิ ำรโครงกำร
ภายหลังจากที่ได้ดาเนินโครงการมาระยะหน่ึงแล้ว หากหัวหน้าโครงการและทีมวิจัย มีความเห็นว่า

โครงการที่วางไว้เดิมจะไม่สามารถนาไปสู่การบรรลุเป้าหมายหลักหรือวัตถุประสงค์ที่วางไว้ได้สามารถ
ดาเนินการพิจารณาโครงการเดิมให้เหมาะสมอีกคร้ัง ท้ังน้ี ต้องไม่มีการเปลี่ยนแปลงผลผลิตในภาพรวม
ของหน่วยรับงบประมาณที่ต้ังไว้เดมิ และระบุอยใู่ นคารับรองฯ

3.1 กำรปรบั งบประมำณ
กรณีปรับงบประมาณให้เป็นไปตามประกาศคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและ

นวตั กรรม เรือ่ ง หลักเกณฑ์การจัดทาคาของบประมาณและการจดั สรรงบประมาณของหน่วยงานในระบบวิจัย
และนวตั กรรม (ฉบบั ท่ี 3) พ.ศ. 2564 ดังน้ี

1) การปรับงบประมาณข้ามหมวดภายใต้โครงการ ให้หัวหน้าโครงการเสนอต่อหัวหน้าหน่วยรับ
งบประมาณต้นสงั กัดเพ่ือพิจารณาอนุมตั ิ

2) การปรับงบประมาณข้ามโครงการ แต่อยู่ในแผนงานเดียวกันหรือการปรับงบประมาณ
ข้ามแผนงาน ให้หัวหน้าแผนงานหรือโครงการเสนอต่อหัวหน้าหน่วยรับงบประมาณต้นสังกัด เพื่อพิจารณา
อนมุ ตั แิ ละแจง้ ตอ่ สกสว. ทราบ

อน่ึง การปรับงบประมาณเพ่ิมไปยังค่าครุภัณฑ์ และค่าใช้จ่ายในการเดินทางต่างประเทศ
หน่วยรับงบประมาณจะต้องเสนอต่อ กสว. เพ่ือพิจารณาอนุมัติสาหรับการปรับเพ่ิมค่าใช้จ่ายหมวดค่าตอบแทน
สาหรับนกั วิจัย ผ้ชู ่วยนักวจิ ยั และท่ปี รึกษา จะปรับเพมิ่ ได้โดยรวมกันแลว้ ต้องไมเ่ กนิ ร้อยละ 25 ของงบประมาณรวม
ของแผนงาน โดยตอ้ งได้รับอนมุ ัตจิ าก สกสว.

สำนกั งำนส่งเสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 80
กำรสนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (สกสว.)

3.2 กำรเปลยี่ นโครงกำร หรือเปลี่ยนชือ่ โครงกำร
1) กรณีการปรับโครงการหรือการปรับช่ือโครงการ โดยไม่กระทบต่อวัตถุประสงค์ ให้หัวหน้า

โครงการดาเนินการได้ ถ้าเห็นว่าจะทาให้ได้ผลงานท่ีดีข้ึน และการเปล่ียนแปลงน้ันจะนาไปสู่การบรรลุ
วตั ถุประสงค์เดมิ ของโครงการ โดยจะต้องนาเสนอขออนุมัตจิ ากหน่วยงานตน้ สงั กัด

2) กรณีการปรับโครงการหรือการปรับชื่อโครงการ โดยกระทบต่อวัตถุประสงค์ ให้เสนอขอ
ความเหน็ ชอบต่อ สกสว.

3.3 กำรเปล่ียนหวั หน้ำโครงกำร/ทมี วิจยั
1) การเปลีย่ นแปลงหวั หน้าโครงการ ให้เสนอขอความเห็นชอบต่อหน่วยงานต้นสังกัด โดยหนว่ ยงาน

ตน้ สงั กดั เป็นผ้อู นมุ ตั ิ และหน่วยงานตน้ สังกดั แจง้ สกสว. เพอื่ ทราบ
2) กรณีเปลี่ยนแปลงทีมวิจัย (เพิ่ม/ลด/ปรับสัดส่วนการทางาน) ให้หัวหน้าโครงการ เสนอขอ

ความเห็นชอบต่อหน่วยงานต้นสังกัด โดยหน่วยงานต้นสังกัดเป็นผู้อนุมัติ และหน่วยงานต้นสังกัดแจ้ง สกสว.
เพ่ือทราบ

3.4 กำรปรับผลผลติ (Outputs)
ภายหลังจากทหี่ น่วยรบั งบประมาณลงนามในคารับรองฯ แล้ว จะไม่สามารถเปลี่ยนแปลงผลผลิต

ของโครงการได้ เน่อื งจากผลผลติ เปน็ สง่ิ ที่โครงการของหน่วยงานตกลงทจี่ ะสง่ มอบแก่ สกสว.
อน่ึง หากหน่วยรับงบประมาณไม่สามารถนาสง่ ผลผลิตตามทีร่ ะบุไว้ในคารับรองฯ ได้ ใหห้ น่วยรบั

งบประมาณทาหนงั สือเพือ่ หารอื กับ สกสว. เพ่อื ปรับแนวทางการดาเนินงานต่อไป
ท้ังน้ี การเปล่ียนแปลงในข้อ 3.1-3.3 ข้างต้น หน่วยงานต้องบันทึกข้อมูลลงในระบบ NRIIS

ให้ถูกตอ้ งและครบถว้ นภายใน 30 วนั หลังจากที่ไดร้ บั อนมุ ัติ

4. กำรรำยงำนผลกำรดำเนินงำน
กสว. กาหนดให้ทุกหน่วยงานท่ีรับงบประมาณเพ่ือสนับสนุนงานมูลฐาน (FF) ต้องบันทึกข้อมูล

รายละเอียดของโครงการวิจัยและพัฒนานวัตกรรมลงในระบบ NRIIS ตามรายละเอียดท่ีออกแบบไว้
หรอื ตามรปู แบบในเอกสารแนบ 5

ทั้งน้ี หน่วยรับงบประมาณจะต้องบนั ทึกความก้าวหน้าในระดับโครงการภายใตแ้ ผนงาน โดยต้องระบุ
วา่ โครงการใดอยภู่ ายใต้แผนงานใด

อนึ่ง หนว่ ยรับงบประมาณจะนาสง่ ผลการดาเนินงานแก่สานกั งานภายในเวลาท่กี าหนด ดังน้ี
4.1 บันทึกความก้าวหน้าการดาเนินงาน อย่างน้อยปีละ 2 คร้ัง ตลอดระยะเวลาตามเอกสารจัดสรร
ภายใน 15 วนั หลังครบกาหนดทุก 6 เดือน จนครบกาหนดตามระยะเวลาคารบั รอง

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 81
กำรสนบั สนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (สกสว.)

4.2 นาส่งผลการดาเนินโครงการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ภายใน 30 วัน หลังส้ินสุด
คารบั รอง

5. กำรของบประมำณเพ่ิมระหวำ่ งปี
เพื่อให้รองรับและตอบสนองต่อสถานการณ์วิกฤต เร่งด่วน หรือตามนโยบายระดับสูง หน่วยงาน

สามารถเสนอขออนุมัติปรับแผนและขออนุมัติงบประมาณเพิ่มระหว่างปีได้ โดยการปรับแผนและงบประมาณ
ระหวา่ งปี สามารถแบ่งได้เป็น 2 กรณี ไดแ้ ก่

5.1 โครงกำรใหม่ ของบประมำณเพมิ่ เติม
หน่วยรับงบประมาณต้องจัดทาคาของบประมาณเพื่อการวิจัยและนวัตกรรมภายใต้เหตุผลที่สาคัญ

และจาเป็นเร่งด่วน และยังมิได้ปรากฏอยู่ในแผนงาน/โครงการท่ีได้รับการจดั สรรงบประมาณรายจา่ ยประจาปี
ของกองทุนส่งเสริม ววน. มีความจาเป็นท่ีต้องเสนอโครงการใหม่ เพ่ือดาเนินการตามข้อสั่งการ
ของนายกรัฐมนตรี มติคณะรัฐมนตรี หรือมติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม
แหง่ ชาติ โดยจัดทาข้อมูลตามแบบฟอรม์ ท่ีกาหนด และระบผุ ู้ใช้ประโยชนจ์ ากผลงาน ววน. ใหช้ ดั เจน ตลอดจน
แ ส ด ง ร า ย ล ะ เ อี ย ด แ ล ะ เ ห ตุ ผ ล ค ว า ม จ า เ ป็ น เ ร่ ง ด่ ว น ข อ ง โ ค ร ง ก า ร แ ล ะ ก ร อ บ ง บ ป ร ะ ม า ณ ที่ เ ส น อ
ท้ังนี้ สกสว. จะดาเนินการพิจารณากลั่นกรองคาขอปรับงบประมาณดังกล่าวก่อนเสนอคว ามเห็นต่อ
คณะอนกุ รรมการจัดทาแผนด้าน ววน. และการจดั กรอบวงเงินงบประมาณ เพ่อื พจิ ารณาใหค้ วามเห็นชอบและ
เสนอต่อ กสว. พิจารณาอนุมัติต่อไป หากการเพิ่มโครงการใหม่และงบประมาณได้รับการอนุมัติ สกสว.จะแจ้ง
ตอ่ หนว่ ยรบั งบประมาณในการจัดทาคารับรองฯ ตามเงอื่ นไขของการอนุมตั ิงบประมาณตอ่ ไป

5.2 โครงกำรเดิม ของบประมำณเพ่ิมเติม
การขอรับงบประมาณเพิ่มเตมิ เพื่อดาเนินงานภายใตโ้ ครงการที่มีอยเู ดิมให้บรรลุตามวัตถุประสงค์

ซ่ึงหากไม่ดาเนินการอาจก่อให้เกิดความเสียหายร้ายแรงได้ ขอให้หน่วยรับงบประมาณย่ืนคาขอปรับงบประมาณ
ต่อ สกสว. ตามแบบฟอร์มท่ีกาหนด และ สกสว.จะดาเนินการพิจารณา กล่ันกรองคาขอปรับงบประมาณ
ดังกล่าว ก่อนเสนอความเห็นต่อคณะอนุกรรมการจัดทาแผนด้าน ววน. และการจัดกรอบวงเงินงบประมาณ
เพ่ือพิจารณาให้ความเห็นชอบและเสนอต่อ กสว. พิจารณาอนุมัติต่อไป หากการขอปรับงบประมาณเพ่ิมเติม
ได้รับการอนุมัติ สกสว. จะแจ้งต่อหน่วยรับงบประมาณในการจัดทาคารับรองฯ ตามเง่ือนไขของการอนุมัติ
งบประมาณต่อไป

สำนักงำนสง่ เสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 82
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

6. กำรยกเลกิ โครงกำร
ภายหลังจากที่หน่วยรับงบประมาณได้จัดทาคารับรองฯ แล้ว และมีความประสงค์จะขอยกเลิก

โครงการดว้ ยเหตสุ ุดวิสัย โดยมรี ูปแบบการยกเลกิ โครงการ 2 ประเภท ดังนี้
6.1 กำรยกเลิกโครงกำรโดย กสว.
กรณีที่หน่วยรับงบประมาณ ใช้งบประมาณไม่เป็นไปตามวัตถุประสงค์ตามท่ีตกลงกันไว้หน่วยรับ

งบประมาณยินยอมให้ สกสว. มีสิทธิระงับโครงการวิจัยช่ัวคราวหรือปรับแก้ไขโครงการวิจัยให้เหมาะสม
ท้ังน้ี สกสว. อาจเสนอให้ กสว. พิจารณาและมีมติยกเลิกโครงการวิจัยตามที่เห็นสมควร และจะมีผลต่อการ
พิจารณาจดั สรรงบประมาณของหนว่ ยรับงบประมาณในปีถัดไป

6.2 กำรยกเลิกโครงกำรโดยหนว่ ยรบั งบประมำณ
1) กรณีหน่วยรับงบประมาณขอยกเลิกโครงการ โดยมูลค่าของโครงการน้ันไม่เกินร้อยละ 20

ของงบประมาณรวมทีห่ น่วยรบั งบประมาณได้รบั จัดสรรในปนี ั้น ๆ ใหเ้ สนอ สกสว. อนุมัติ
2) กรณีหน่วยรับงบประมาณขอยกเลิกโครงการ โดยมูลค่าของโครงการนั้นเกินร้อยละ 20

ของงบประมาณรวมทีห่ นว่ ยรับงบประมาณได้รบั จดั สรรในปนี ้ัน ๆ ใหเ้ สนอตอ่ สกสว. เพอ่ื เสนอ กสว. อนุมตั ิ
อน่ึง หากยกเลิกโครงการแล้ว หน่วยรับงบประมาณสามารถนาโครงการใหม่มาเสนอแทน

โครงการเดิมได้ โดยจะต้องเป็นโครงการท่ีเคยกรอกข้อมูลเข้ามาในระบบ NRIIS แล้ว หรือสามารถเสนอ
โครงการใหม่ได้ ซ่ึงโครงการใหม่ท่ีจะเสนอเข้ามาจะต้องผ่านกระบวนการการพิจารณาจากผู้ทรงคุณวุฒิ
ของหนว่ ยรับงบประมาณแนบมาให้ สกสว. ทราบด้วย ท้ังน้ี การเสนอโครงการใหมจ่ ะตอ้ งไมก่ ระทบต่อผลผลิต
ที่หน่วยรับงบประมาณได้ตกลงไว้ในภาพรวมของคารับรองฯ และการเสนอโครงการใหม่ต้องเสนอก่อนส้ินสุด
ไตรมาส 2 ของปีงบประมาณน้นั ๆ

ในกรณีท่ีหน่วยรับงบประมาณใช้จ่ายเงินอุดหนุนที่ได้รับจัดสรรจากกองทุนส่งเสริม ววน. ไม่เป็น
ตามคารับรองฯ สกสว. จะพิจารณาระงับแผนงานหรอื โครงการช่ัวคราวหรือระงับการให้เงินอุดหนุนงวดตอ่ ไป
หรือพิจารณาปรับแก้ไขแผนงานหรือโครงการให้เหมาะสม หรือดาเนินการอื่นตามท่ีเห็นสมควร ซ่ึง สกสว.
อาจพิจารณาเสนอต่อ กสว. เพ่ือพิจารณายกเลิกโครงการวิจัยตามที่เห็นสมควร ท้ังนี้ สกสว. สงวนสิทธิ
ทีจ่ ะนาชือ่ หนว่ ยรบั งบประมาณบันทกึ ลงในบญั ชรี ายชื่อหนว่ ยงานที่ปฏิบตั ิไมเ่ ปน็ ไปตามคารบั รองฯ

สำนกั งำนส่งเสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 83
กำรสนบั สนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวัตกรรม (สกสว.)

7. กำรขยำยเวลำกำรดำเนินงำน
การขยายเวลาการดาเนินงานภายใต้คารับรองฯ ให้อยู่ในอานาจของหัวหน้าหน่วยรับงบประมาณ

สามารถพจิ ารณาอนุมัติขยายเวลาโครงการได้จานวน 2 ครงั้ ๆ ละ ไม่เกิน 6 เดอื น แต่ไม่เกนิ 1 ปีงบประมาณ
ท้ังนี้ เมื่อมีการขยายเวลาของโครงการ หน่วยรับงบประมาณจะต้องนาเข้าข้อมูลความก้าวหน้า และ

รายงานการใช้จ่ายงบประมาณ ทุก 6 เดือน ผ่านระบบ NRIIS ตามที่ สกสว. กาหนด พร้อมทั้งให้หน่วยรับ
งบประมาณแจ้งสรุปการขยายเวลาโครงการกลับมายัง สกสว. เพื่อทราบล่วงหน้าอย่างน้อย 30 วัน ก่อนวัน
สิน้ สดุ คารบั รองฯ

อนึ่ง หากหน่วยรับงบประมาณไม่สามารถดาเนินการโครงการให้แล้วเสร็จภายใน 2 ปีงบประมาณ
หน่วยรับงบประมาณต้องแจ้งต่อ สกสว. เพื่อขอยุติโครงการและส่งเงินงบประมาณท่ีเหลือคืนแก่กองทุน
ส่งเสริม ววน. หรือหากมีความจาเป็นต้องขยายเวลาโครงการมากกว่า 2 ปีงบประมาณ ขอให้หน่วยรับ
งบประมาณเสนอเร่ืองตอ่ กสว. เพอ่ื พิจารณาตอ่ ไป

8. กำรคนื เงนิ งบประมำณ
8.1 กรณีคนื เงินเมือ่ สน้ิ สุดโครงกำร
หน่วยรับงบประมาณต้องนาส่งเงินอุดหนุนคงเหลือจากการดาเนินงานพร้อมดอกเบี้ย

และผลประโยชน์ท่ีเกิดข้ึนระหว่างการดาเนินการวิจัย คืนให้แก่กองทุนส่งเสริม ววน. ภายใน 60 วัน นับแต่
วันครบกาหนดระยะเวลาดาเนินการตามคารับรองที่ทาไว้กับ สกสว. เว้นแต่หน่วยรับงบประมาณประสงค์
จะเก็บเงินเหลือจ่าย ดอกเบ้ีย และผลประโยชนน์ ้ันไว้ ให้หน่วยรับงบประมาณเสนอแผนการนาเงินดังกล่าวไป
ใช้ประโยชน์ในการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของหน่วยงานต่อ สกสว. ภายในระยะเวลาดังกล่าว
ข้างต้น ในกรณีท่ี สกสว. ให้ความเห็นชอบแผนการนาเงินดังกล่าวไปใช้ประโยชน์ ให้เงินดังกล่าวตกเป็น
ของหน่วยรบั งบประมาณ

8.2 กรณคี ืนเงินเม่อื ยกเลกิ โครงกำร
ในกรณีท่ี กสว. อนมุ ัติให้ยกเลกิ โครงการตามท่ีหนว่ ยรบั งบประมาณเสนอ หรอื กสว. สง่ั ให้ยกเลิก

โครงการ เพราะทาผิดคารับรองที่ทาไว้กับ สกสว. หรือเหตุอื่น หน่วยรับงบประมาณต้องนาส่งเงินอุดหนุน
ท่ีได้รับจัดสรรจากกองทุน รวมท้ังดอกเบี้ยและผลประโยชน์อ่ืนคืนให้แก่กองทุนส่งเสริม ววน. ภายใน 60 วัน
นบั แตว่ นั ทไ่ี ดร้ บั หนงั สือแจง้ จาก สกสว.

ท้ังน้ี หากหน่วยรับงบประมาณมีการใช้จ่ายงบประมาณไปแล้วบางส่วน จะต้องรายงานกิจกรรม
และคา่ ใช้จา่ ยทเ่ี กดิ ข้นึ จริง หลังจากท่หี นว่ ยรับงบประมาณไดร้ บั หนังสอื แจ้งจาก สกสว.

สำนกั งำนส่งเสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 84
กำรสนับสนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (สกสว.)

8.3 กำรคนื เงินคงเหลอื จำกกำรจดั ซื้อครุภณั ฑ์
เงินอุดหนุนด้านครุภัณฑ์ให้หน่วยรับงบประมาณเบิกจ่ายได้เท่าท่ีจ่ายจริงเท่านั้น ในกรณีท่ีมีเงิน

คงเหลือ ให้หน่วยรับงบประมาณนาส่งคืนให้แก่กองทุนส่งเสริม ววน. ภายใน 60 วันนับแต่วันครบกาหนด
ระยะเวลาดาเนนิ การตามคารบั รองฯ ทที่ าไวก้ บั สกสว.

9. กำรบรหิ ำรจัดกำรทรพั ย์สินทำงปัญญำ
หนว่ ยรับงบประมาณจะต้องดาเนินการด้านทรัพย์สินทางปัญญาให้เป็นไปตามระเบียบและหลักเกณฑ์

ของหน่วยรับงบประมาณ แต่ท้ังนี้ระเบียบและหลักเกณฑ์ดังกล่าวต้องไม่ขัดต่อข้อกฎหมายท่ีเก่ียวข้อง
กรณีที่หน่วยงานยังไม่มีระเบียบและหลักเกณฑ์การบริหารจัดการทรัพย์สินทางปัญญา หน่วยรับงบประมาณ
ควรจัดใหม้ ีระเบยี บดงั กล่าวโดยเร็วทส่ี ดุ เพ่ือการส่งเสริมให้เกิดการนาผลงานวิจยั และนวตั กรรมไปใช้ประโยชน์

10. กำรเผยแพร่ผลงำนที่ได้รับงบประมำณจำกกองทุนสง่ เสริม ววน.
การส่ือสารหรือเผยแพร่ผลงานของโครงการที่ได้รับงบประมาณจากกองทุนส่งเสริม ววน. ในรูปแบบใดๆ

ก็ตาม หน่วยรับงบประมาณจะต้องอ้างอิงกองทุนส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม ทุกครั้งที่มีการจัด
กจิ กรรมหรอื เผยแพร่ผลงาน โดยใช้ชื่อ “กองทนุ สง่ เสริมวทิ ยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม หรอื กองทุนสง่ เสริม
ววน.” เช่น “งานวจิ ัย เร่ือง ………….. โดย มหาวิทยาลยั /กรม/หน่วยงาน…………ไดร้ ับการสนบั สนนุ จากกองทุน
ส่งเสริม ววน.” พร้อมท้ังใส่ตราสัญลักษณ์ของกองทุนส่งเสริม ววน. และตราสัญลักษณ์ของหน่วยงาน
ที่เกี่ยวขอ้ ง และขอความอนเุ คราะหส์ ง่ สาเนาของสิ่งท่ีไดโ้ ฆษณาเผยแพร่นั้นให้ สกสว. จานวน 1 (หน่งึ ) ชดุ ดว้ ย

สำนักงำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 85
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

แนวทำงกำรตดิ ตำมประเมินผลของหนว่ ยรับงบประมำณในระบบ ววน.

1. ระบบกำรติดตำมและประเมนิ ผล
การติดตามและประเมินผล เป็นกลไกสาคัญหน่ึงในการขับเคล่ือนและติดตามผลการดาเนินงาน

ของการพัฒนาวิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมของประเทศ ว่าสามารถตอบสนองต่อทิศทางและการพัฒนา
ตามที่กาหนดไว้ในยุทธศาสตร์ นโยบาย และแผนด้านให้ประสบความสาเร็จได้ตามเป้าหมายที่กาหนดไว้ได้
อย่างไร การติดตามและประเมินผลท่ีดีต้องมีการวิเคราะห์ข้อมูลและนาผลที่ได้จากการประเมินผลแจ้งให้
ผูถ้ ูกประเมินทราบ เพอื่ ใหเ้ กิดการเรียนรู้ ปรบั ปรุงและพัฒนาการดาเนนิ งานอย่างเป็นระบบ

ทง้ั นี้ การตดิ ตามและประเมินผลการดาเนนิ งานของหนว่ ยงานที่ได้รับงบประมาณจากกองทุนส่งเสริม ววน.
จะดาเนินการภายใต้คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม
ตามมาตรา 64 แห่งพระราชบัญญัติสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวตั กรรมแห่งชาติ พ.ศ.2562
ท่ีได้กาหนดให้มีคณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม
ซึ่งประกอบด้วย ผู้ทรงคุณวุฒิท่ีมีความรู้และประสบการณ์สูงด้านการวิจัยและนวัตกรรม ซ่ึงสภานโยบายแต่งตั้ง
เป็นประธานกรรมการ ผู้แทนกระทรวงกลาโหม ผู้แทนกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและ
นวัตกรรม ผู้แทนกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ผู้แทนกระทรวงสาธารณสุข ผู้แทนสานักงบประมาณ
ผู้แทนสานักงานสภาพัฒนาการเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ ผู้แทนกรมบัญชีกลาง ผู้แทนสภาอุตสาหกรรม
แห่งประเทศไทย ผู้แทนสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย ผู้แทนสมาคมธนาคารไทย และผู้ทรงคุณวุฒิอ่ืน
ท่ีมีความรู้และประสบการณ์สูงด้านการประเมินผลงานวิจัยและนวัตกรรม ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี
ด้านสังคมศาสตร์และด้านมนุษยศาสตร์ ซึ่งสภานโยบายแต่งตั้งจานวนไม่น้อยกว่าส่ีคน แต่ไม่เกินเก้าคน
เป็นกรรมการ และให้คณะกรรมการติดตามและประเมินผลการสนับสนุนวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม
แต่งตั้งเลขานุการและผู้ช่วยเลขานุการได้ ทั้งนี้ ประธานสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัย
และนวัตกรรมแห่งชาติ ได้ลงนามคาสั่งสภานโยบายการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมแห่งชาติ
ที่ 8/2562 เรื่องแต่งตั้งประธานกรรมการและกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิในคณะกรรมการติดตามและประเมินผล
การสนับสนุนวิทยาศาสตร์ การวิจัยและนวัตกรรม เม่ือวันที่ 17 ธันวาคม พ.ศ.2562 โดยได้เร่ิมดาเนินการ
ประชุมและวางกรอบแนวทางการติดตามประเมนิ ผลของกองทุน ส่งเสริม ววน. เปน็ ท่เี รยี บร้อยแล้ว

ระบบติดตามและประเมินผลงานวิจัยและนวัตกรรมของประเทศ และระบบติดตามการประเมินผล
การดาเนนิ งานของหน่วยรับงบประมาณที่ไดร้ ับเงนิ งบประมาณจากกองทุนส่งเสริม ววน. จัดทาขึน้ เพือ่ ตดิ ตาม
ผลลัพธ์และผลกระทบจากผลงาน ววน. ที่ตอบสนองต่อการพัฒนาประเทศตามแผนยุทธศาสตร์ชาติ 20 ปี
และเพื่อให้การลงทุนเงนิ งบประมาณด้าน ววน. มคี วามโปร่งใส และทาให้เกิดความรบั ผิดรับชอบ (Accountability)

สำนักงำนสง่ เสรมิ และสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 86
กำรสนบั สนุนงบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
ส่งเสรมิ วิทยำศำสตร์ วิจยั และนวัตกรรม (สกสว.)

ในระบบต่อการใช้งบประมาณอย่างคุ้มค่า ท้ังนี้ เป้าหมายและผลสัมฤทธิ์ในการติดตามและประเมินผล
ของกองทุนฯ มี 2 มิติ คือ ผลงานในภาพรวมของกองทุนส่งเสริม ววน. และผลการประเมินผลการดาเนินงาน
ของหนว่ ยรับงบประมาณ โดยมีแนวทางการตดิ ตามและประเมนิ ผลของกองทนุ ส่งเสริม ววน. ดังน้ี

1.1 ดำ้ นควำมสำมำรถในกำรดำเนินกำรตำมแผน
1) การติดตามการใช้จ่ายเงินงบประมาณ เป็นการประเมินเชิงปริมาณ (Quantitative) แบบราย

6 เดือน โดยพิจารณาจากผลการใช้จ่ายเงินงบประมาณเทียบกับแผนการใช้จ่ายเงินที่ต้ังไว้ของหน่วยรับ
งบประมาณท่ีได้กาหนดไว้ในคารับรองฯ ในปีงบประมาณน้ันๆ โดยหน่วยรับงบประมำณต้องดำเนินกำร
รำยงำนผลกำรใช้จำ่ ยเงินในระบบ NRIIS

2) การปิดโครงการได้ตามกาหนดระยะเวลา จะพิจารณาจากจานวนแผนงานวิจัยและนวัตกรรม
ที่สามารถปิดได้จริงตามกาหนดระยะเวลาท่ีระบุไว้ในคารับรองฯ เทียบกับจานวนแผนงานวิจัยและนวัตกรรม
ท้ังหมดที่หน่วยรับงบประมาณได้ระบุไว้ในแผนปฏิบัติการของคารับรองฯ โดยหน่วยรับงบประมาณต้องปรับ
สถานะของแผนงานวจิ ัยและนวัตกรรมใหเ้ ป็นปัจจุบันที่สุด (Update) ในระบบ NRIIS

1.2 ดำ้ นประสทิ ธิภำพและประสทิ ธผิ ล
1) กำรติดตำมผลผลิต (Outputs) เป็นการประเมินผลผลิตที่ปฏิบัติได้จริงจากแผนงานเทียบ

กับท่ีคาดการณ์และระบุไว้ในคารับรองฯ อันเป็นการประเมินความรับผิดชอบ (Accountability) ท้ังใน
เชิงปริมาณและคุณภาพของการสรา้ งและนาส่งผลผลติ ซ่ึงมีรายละเอียดดงั น้ี

(1) กำรติดตำมระหว่ำงดำเนินกำรวิจัย เป็นการติดตามความก้าวหน้าการดาเนินการ/การสร้าง
ผลผลิต ซ่ึงหน่วยรับงบประมาณต้องติดตำมให้หัวหน้ำโครงกำรทุกโครงกำร รายงานข้อมูลการสร้างผลผลิต
ให้เป็นปัจจุบันที่สุด (Update) ทุก 6 เดือน ในระบบ NRIIS โดยจะพิจารณาจากความก้าวหน้า (Progress)
ในการสรา้ งผลผลิต เทียบกบั แผนงานและกาหนดเวลาทีก่ าหนดไวใ้ นคารบั รอง

(2) กำรติดตำมเมื่อส้ินสุดกำรวิจัย เป็นการติดตามการส่งมอบผลผลิตที่ปฏิบัติได้จริง
ของแผนงานเทียบกับผลผลิตท่ีได้กาหนดไว้ในแบบคารบั รอง ซงึ่ จะประเมนิ เม่ือครบ 1 ปี โดยหนว่ ยรับงบประมำณ
ต้องติดตำมให้หัวหน้ำโครงกำรทุกโครงกำร รายงานผลผลิตให้เป็นปัจจุบันท่ีสุด (Update) พร้อมท้ัง
แนบหลกั ฐำน/เอกสำรประกอบยืนยันคุณภำพของผลผลิต ในระบบ NRIIS ทัง้ นีจ้ ะอนญุ าตให้นาส่งผลผลิตได้
ภายในไม่เกิน 2 ปีงบประมาณ โดยจะพิจารณาความก้าวหน้าในการส่งมอบผลผลิต เทียบกับแผนงาน
และกาหนดเวลาทีไ่ ด้กาหนดไว้ในคารบั รอง

สำนักงำนส่งเสริมและสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 87
กำรสนับสนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจยั และนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (สกสว.)

2) กำรตดิ ตำมกำรใช้ประโยชน์ และผลลพั ธ์ (Outcomes) ของงำนวิจยั และนวัตกรรม
(1) การติดตามการใช้ประโยชน์ พิจารณาจากสัดส่วนจานวนโครงการด้าน ววน. ท่ีถูกนาไปใช้ประโยชน์

ต่อจานวนโครงการที่สิ้นสุดในปีงบประมาณน้ันๆ โดยหน่วยรับงบประมำณ ต้องปรับสถำนะของข้อมูลกำรนำ
ผลงำนวจิ ัยไปใช้ประโยชน์ให้เปน็ ปจั จุบันทีส่ ุด (Update) ลงในระบบ NRIIS หรอื ตามรปู แบบที่ สกสว. กาหนด

(2) ผลลัพธ์ของงานวิจัยและนวัตกรรม หน่วยรับงบประมำณจะต้องติดตำมให้หัวหน้ำ
โครงกำรทกุ โครงกำรรำยงำนผลลัพธ์ท่ีเกดิ ขึ้นจำกงำนวิจัยและนวัตกรรมที่ไดร้ ับเงินงบประมาณจากกองทุน
ส่งเสริม ววน. ในระบบ NRIIS ทุกปีเป็นระยะเวลำต่อเน่ือง 5 ปี เพ่ือประกอบการติดตามและประเมินผล
งานวจิ ยั และนวัตกรรมของประเทศ

3) กำรประเมนิ ผลกระทบ (Impacts)
หน่วยรับงบประมาณคัดเลือกแผนงานหรือโครงการที่สิ้นสุดแล้วและมีผลกระทบสูง ท้ังใน

ด้านเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ที่มีมูลค่าไม่เกิน 100 ล้านบาท จานวนไม่น้อยกว่า 3 - 5 แผนงาน
เพ่ือประเมินผลกระทบของงานวิจัยและนวัตกรรมท่ีได้รับเงินอุดหนุนจากกองทุนส่งเสริม ววน. โดยจะ
ดาเนินการตามหลักเกณฑ์ที่คณะกรรมการติดตามและประเมินผลฯ กาหนด (สกสว. จะแจ้งให้ท่านทราบ
ในภายหลัง) ท้ังนี้ หน่วยรับงบประมำณต้องส่งสรุปผลกำรประเมินผลกระทบมำยัง สกสว. เพ่ือตรวจสอบ
ความถูกต้อง (Validation and Verification) ของผลการประเมินผลกระทบของงานวิจัยและนวัตกรรม
ตามหลักวชิ าการ (ประเมนิ ทกุ ปีงบประมาณ)

ทั้งนี้แผนงานวิจัยและนวัตกรรมที่มีขนาดใหญ่มูลค่า 100 ล้านบาทขึ้นไป สกสว.
โดยผู้ทรงคุณวุฒิภายนอกที่เชี่ยวชาญด้านการประเมินผลลัพธ์และผลกระทบของงานวิจัย จะเป็นผู้ดาเนินการ
ประเมินผลกระทบของแผนงานวิจัยและนวัตกรรมดังกล่าว โดยได้รับความเห็นชอบก่อนการดาเนินการ
ดังกล่าวจากคณะกรรมการติดตามและประเมินผลฯ ทุกคร้ัง โดยหน่วยรับงบประมำณจะต้องยินยอม
และอำนวยควำมสะดวกให้ สกสว. หรือผู้ท่ี สกสว. มอบหมำยเข้ำไปในสถำนที่ทำกำรของหน่วยรับ
งบประมำณหรือสถำนที่ที่ทำกำรวิจัย และข้อมูลที่เก่ียวข้องกับแผนงำนวิจัยและนวัตกรรมดังกล่ำว
เพือ่ ประโยชนใ์ นการตดิ ตามและประเมนิ ผลการวิจยั ของแผนงานวจิ ัยและนวตั กรรมได้

1.3 ด้ำนกระบวนกำรทำงำน (Process Evaluation)
การประเมินกระบวนการทางาน (Process Evaluation) เป็นการประเมินเชิงคุณภาพ โดยใช้

หลักการประเมินเพื่อการพัฒนา (Developmental Evaluation) โดยประเมินกระบวนการทางานของ
หน่วยรับงบประมาณต้ังแต่ต้นน้า กลางน้า และปลายน้า รวมท้ังเรื่องธรรมาภิบาลและความโปร่งใส เพื่อช่วย
พัฒนากระบวนการทางานให้มีประสิทธิภาพและเกิดประสิทธิผลมากยิ่งข้ึน ซึ่งจะดาเนินการโดยผู้ทรงคุณวุฒิ
ภายนอกที่มีความรู้ความเข้าใจการบริหารจัดการงานวิจัย (Research Management) ท้ังนี้ หน่วยรับ

สำนักงำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 88
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ยั และนวัตกรรม (กองทุน ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (สกสว.)

งบประมำณจะต้องยินยอมและอำนวยควำมสะดวกให้ สกสว. หรือผู้ท่ี สกสว. มอบหมำยเข้ำไปในสถำนที่
ทำกำรของหน่วยรับงบประมำณ หรือสถำนท่ีท่ีทำกำรวิจัย และข้อมูลที่เก่ียวข้องกับกำรประเมินผล
กำรดำเนินงำนดังกล่ำว

นอกจากนี้ สกสว. ยังจัดให้มีกระบวนการสนับสนุนและส่งเสริมด้านการติดตามประเมินผลลัพธ์
และผลกระทบให้แก่หน่วยรับงบประมาณจากกองทุนส่งเสริม ววน. อาทิ จัดให้มีการอบรมและเผยแพร่
ความรู้ ด้านการติดตามและประเมินผล ววน. เพื่อให้เกิดความรู้ความเข้าใจในการติดตามงานวิจัยและนวัตกรรม
ให้เกิดประสิทธิภาพและประสิทธิผลที่ดี/จัดทาและเผยแพร่คู่มือศาสตร์การติดตามและประเมินผลงานวิจัย
และนวัตกรรม และจัดให้มีสมาคม (Consortium) ของผปู้ ระเมนิ ผลงานวจิ ยั และนวตั กรรมของประเทศ เพื่อให้
เกิดมาตรฐานกลางในการประเมินผลลัพธ์และผลกระทบงานวิจัยและนวัตกรรมของประเทศใ ห้เกิดข้ึนอย่าง
เป็นรูปธรรม

สำนกั งำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เร่ือง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพ่ือขอรับ 89
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนักงำนคณะกรรมกำร
สง่ เสริมวทิ ยำศำสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม (สกสว.)

ประกาศคณะกรรมการส่งเสริมวิทยาศาสตร์ วจิ ยั และนวตั กรรม เรอ่ื ง หลักเกณฑ์การจดั ทาคาของบประมาณและ
การจัดสรรงบประมาณของหน่วยงานในระบบวจิ ยั และนวตั กรรม (ฉบบั ที่ 3) พ.ศ. 2564

สำนกั งำนสง่ เสริมและสนบั สนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 90
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 91
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 92
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 93
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 94
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 95
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4

กำรจัดกำรองค์ควำมรู้ (Knowledge management : KM) เรื่อง แนวทำงกำรเขียนข้อเสนอโครงกำรวิจัยเพื่อขอรับ 96
กำรสนบั สนนุ งบประมำณจำกกองทุนส่งเสริมวิทยำศำสตร์ วิจัยและนวตั กรรม (กองทนุ ววน.) สำนกั งำนคณะกรรมกำร
สง่ เสรมิ วทิ ยำศำสตร์ วจิ ัยและนวตั กรรม (สกสว.)

สำนักงำนส่งเสรมิ และสนับสนนุ วชิ ำกำร 4