The words you are searching are inside this book. To get more targeted content, please make full-text search by clicking here.

๙๙พระบรมราโชวาท น้อมน�ำ ราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุขศานต์

Discover the best professional documents and content resources in AnyFlip Document Base.
Search
Published by runn0248, 2022-07-13 01:39:03

๙๙พระบรมราโชวาท น้อมน�ำ ราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุขศานต์

๙๙พระบรมราโชวาท น้อมน�ำ ราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุขศานต์

Keywords: ๙๙พระบรมราโชวาท น้อมน�ำ ราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุขศานต์

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎร์รม่ เยน็ เปน็ สุขศานต์

“...คนไทยทุกคนควรจะได้ย้อนคิดถึงบรรพชนของ
เราโดยลำ� ดบั มาวา่ ทา่ นไดต้ ง้ั บา้ นตงั้ เมอื งคอื ประเทศไทย
ในทุกวันนี้ ขึ้นมาได้อย่างไร ได้สร้างสมความเจริญ
ความดีงาม และรักษาไว้ให้ถาวรมาถึงทุกวันนี้ได้ด้วย
ความล�ำบากยากเข็ญเพียงไหน โดยที่ต้องเผชิญกับภัย
อันตรายใหญ่หลวงมาหลายยคุ หลายสมัย การทค่ี นไทย
สามารถรักษาอิสรภาพและความมั่นคงมาได้ยืนยาว
ถึงเพียงน้ี ก็เพราะมีจิตส�ำนึกมั่นอยู่ ว่าตนมีเผ่าพันธุ ์
มชี าตปิ ระเทศ เปน็ อนั หน่งึ อนั เดยี วกัน เปน็ ผมู้ ีอิสรภาพ
สมบูรณเ์ ต็มเป่ยี มมาโดยตลอด จึงท�ำใหเ้ กดิ ความพรอ้ ม
เพรยี งกล้าแขง็ ที่จะต่อส้เู พื่ออสิ รภาพและความเปน็ ไทย
ทั้งมีความเมตตา รักใคร่ สามัคคีปรองดองกันบ�ำเพ็ญ
กรณีย์ท้ังปวงเพ่ือประโยชน์เพื่อความเจริญมั่นคงแห่ง
ส่วนรวม...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาส
ขน้ึ ปีใหม่ พทุ ธศกั ราช ๒๕๒๕ วนั พฤหสั บดี ท่ี ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๒๔

49

พระบรมราโชวาท
นอ้ มนำ�ราษฎร์ร่มเย็นเปน็ สุขศานต์

ความกตญั ญกู ตเวทคี อื สภาพจติ ทร่ี บั รคู้ วามดี และยนิ ดที ่ี
จะกระท�ำความดีโดยศรัทธาม่ันใจ คนมีกตัญญูจึงไม่ลบล้าง
ทำ� ลายความดี และไม่ลบหลผู่ ทู้ ่ไี ดท้ �ำความดีมากอ่ น หาก
เพียรพยายามรักษาความดีทั้งปวงไว้ให้เป็นพ้ืนฐานในความ
ประพฤติปฏิบัติทุกอย่างของตนเอง เม่ือเต็มใจและจงใจ
กระทำ� ทกุ สง่ิ ทกุ อยา่ งดว้ ยความดดี งั นี้ กย็ อ่ มมแี ตค่ วามเจรญิ
มน่ั คงและรงุ่ เรืองก้าวหน้าย่ิงๆ ข้ึน จึงอาจกล่าวได้ว่าความ
กตัญญูกตเวทีเป็นคุณสมบัติอันส�ำคัญยิ่งส�ำหรับนักพัฒนา
และผู้ปรารถนาความเจริญกา้ วหน้าทกุ คน

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะกรรมการวันกตัญญู
กตเวที สภาสังคมสงเคราะห์แห่งประเทศไทย เพื่อเชิญลงพิมพ์
ในหนังสือท่ีระลึกวันกตัญญูกตเวที พระต�ำหนักจิตรลดารโหฐาน
พระราชวงั ดสุ ติ วนั ศกุ ร์ ที่ ๘ เมษายน ๒๕๒๖

50

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎร์รม่ เย็นเป็นสขุ ศานต์

“...การท่ีคนสมัยใหม่บอกว่าคนสมัยเก่ามีความรู้
นอ้ ยกอ็ าจเปน็ จรงิ แลว้ กค็ นสมยั ใหมจ่ งึ เรยี กวา่ ดถู กู หรอื
เหยยี ดหยามคนสมยั เกา่ ได้ มสี ทิ ธ์ิ แตว่ า่ ถา้ พดู ตามความ
จริงแล้ว สิทธิ์ท่ีจะเหยียดหยามคนรุ่นเก่าก็ไม่ควรจะมี
ดว้ ยเหตวุ า่ คนรุน่ เกา่ นเ้ี องทท่ี ำ� ใหค้ นรุ่นใหมเ่ กดิ ขน้ึ มาได้
ท้ังท�ำให้คนรุ่นใหม่น้ีมีโอกาสได้หาความรู้สร้างตัวข้ึนมา
อันน้ีคนเก่าก็น่าจะมีความภูมิใจได้ และคนใหม่ก็น่าจะ
ส�ำนกึ วา่ คนเกา่ นมี้ พี ระคณุ ...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ท่ีเข้าเฝ้าฯ
ถวายพระพรชยั มงคล ในโอกาสวันเฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลา
ดสุ ดิ าลยั พระราชวังดสุ ติ วันอาทติ ย์ ท่ี ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๑

51

ทรงสอนนกั เรียนวงั ไกลกงั วล

ใฝห่ าความรู้ หมนั่ ศึกษาเลา่ เรียน
ทัง้ ทางตรงและทางออ้ ม

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎรร์ ม่ เย็นเป็นสขุ ศานต์

“...การศึกษาเล่าเรียนเป็นเร่ืองท่ีไม่ส้ินสุด ผู้
ปรารถนาความเจริญในการประกอบกจิ การงาน จะตอ้ ง
หมนั่ เอาใจใสแ่ สวงหาความรใู้ หเ้ พม่ิ พนู อยเู่ สมอ มฉิ ะนน้ั
จะกลายเป็นผทู้ ี่ล้าสมยั หยอ่ นสมรรถภาพไป อีกประการ
หน่ึงความเจริญของบ้านเมืองน้ัน ใช่ว่าจะราบรื่นไป
ตลอด โดยมผี ทู้ รงคณุ วฒุ ทิ ส่ี ามารถปราดเปรอ่ื งแตเ่ ทา่ นน้ั
ก็หาไม่ ต้องอาศัยความสามัคคีกลมเกลียวเป็นน�้ำหนึ่ง
ใจเดยี ว รว่ มกนั คดิ อา่ นแกไ้ ขปญั หาและอปุ สรรคตา่ งๆ ให้
ลลุ ว่ งไปดว้ ยดอี ีกทางหนง่ึ ...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ
มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ วันพฤหสั บดี ที่ ๒๓ กุมภาพันธ์ ๒๕๐๔

54

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎรร์ ่มเย็นเป็นสุขศานต์

“...ความรู้ในวิชาการเป็นสิ่งหนึ่งท่ีจะท�ำให้สามารถ
ฟนั ฝา่ อปุ สรรคได้ และทำ� ใหเ้ ป็นคนทมี่ ีเกียรติ เปน็ คนที่
สามารถ เปน็ คนทจ่ี ะมคี วามพอใจไดใ้ นตวั วา่ ทำ� ประโยชน์
แก่ตนเองและส่วนรวม นอกจากวิชาความรู้ก็จะต้อง
ฝึกฝนในส่ิงที่ตัวจะต้องปฏิบัติให้สอดคล้องกับสังคม
สอดคล้องกับสมัย และสอดคล้องกับศีลธรรมท่ีดีงาม
ถ้าได้ทั้งวิชาการ ท้ังความรู้รอบตัวและความรู้ในชีวิต
กจ็ ะทำ� ใหเ้ ป็นคนทค่ี รบคน ท่จี ะภูมิใจได.้ ..”

พระบรมราโชวาท พระราชทานเนอ่ื งในโอกาสวนั ปดิ ภาคเรยี น
ของโรงเรียนจิตรลดา ปีการศึกษา ๒๕๑๔ ณ ศาลาผกาภิรมย์
พระราชวงั ดุสิต วันเสาร์ ท่ี ๒๕ มนี าคม ๒๕๑๕

55

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎรร์ ม่ เยน็ เปน็ สุขศานต์

“...วิทยาการทุกอย่างมิใช่มีข้ึนในคราวหนึ่งคราว
เดียวได้ หากแต่ค่อยๆ สะสมกันขึ้นมาทีละเล็กละน้อย
จนมากมายกวา้ งขวาง การเรยี นวทิ ยาการกเ็ ชน่ กนั บคุ คล
จำ� จะตอ้ งคอ่ ยๆ เรยี นรใู้ หเ้ พม่ิ พนู ขน้ึ ตามลำ� ดบั ใหค้ วามร้ ู
ท่ีเพ่ิมพูนขึ้นน้ันเกิดเป็นรากฐานรองรับความรู้ท่ีสูงข้ึน
ลกึ ซ้งึ กว้างขวางขึน้ ต่อๆ ไป...”

พระบรมราโชวาท ในพิธพี ระราชทานปริญญาบัตรแกผ่ ้สู �ำเรจ็
การศึกษาจากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ ประจ�ำปีการศึกษา
๒๕๑๗ – ๒๕๑๘ ณ มหาวิทยาลัยศรนี ครินทรวโิ รฒ บางแสน
วนั พุธ ท่ี ๓๐ มิถุนายน ๒๕๑๙

56

พระบรมราโชวาท
นอ้ มนำ�ราษฎรร์ ม่ เย็นเปน็ สขุ ศานต์

“...การศกึ ษาเปน็ ปจั จยั สำ� คญั ในการสรา้ งและพฒั นา
ความรู้ ความคิด ความประพฤติและคุณธรรมของบุคคล
สังคมและบ้านเมืองใดให้การศึกษาที่ดีแก่เยาวชนได้
อย่างครบถ้วนล้วนพอเหมาะกันทุก ๆ ด้าน สังคมและ
บา้ นเมอื งนนั้ กจ็ ะมพี ลเมอื งทมี่ คี ณุ ภาพ ซงึ่ สามารถธำ� รง
รักษาความเจริญมั่นคงของประเทศชาติไว้ และพัฒนา
ให้ก้าวหน้าต่อไปได้โดยตลอด... การที่อุตส่าห์เล่าเรียน
ดว้ ยความหมนั่ ขยนั มาโดยตลอดนนั้ แทจ้ รงิ คอื การสรา้ ง
รากฐานและแนวทางแหง่ ความสำ� เรจ็ ในชวี ติ ใหแ้ กต่ นเอง
นัน่ เอง เมอ่ื เรม่ิ ตน้ ไดด้ แี ลว้ ขอให้ดำ� เนินให้ดตี อ่ ไปจนถงึ
ที่สุด อย่ายอมย่อหย่อน ชีวิตจักได้เจริญก้าวหน้าอย่าง
มั่นคง และสามารถด�ำรงตนให้เป็นหลักเป็นท่ีอาศัยของ
ส่วนรวมไดใ้ นวนั ขา้ งหนา้ ...”

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่ครูและนักเรียนที่ได้รับ
พระราชทานรางวลั ฯ ณ ศาลาดุสิดาลัย พระราชวังดสุ ิต วันจนั ทร์
ท่ี ๒๗ กรกฎาคม ๒๕๒๔

57

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎร์ร่มเย็นเป็นสุขศานต์

“...ความรู้ที่ใช้ปฏิบัติงานนั้น นอกจากความรู้ทาง
วิชาการที่กล่าวแล้ว ยังมีความรู้ส�ำคัญอีกอย่างหนึ่ง
ท่ีเป็นของคู่กัน ได้แก่ความรู้ที่เกิดจากประสบการณ์ซึ่ง
อธิบายได้ว่า ในชีวิตของคนเรา แต่ละคนต้องผ่านพบ
เรอ่ื งราวและเหตกุ ารณห์ ลายหลากมากมายมาตงั้ แตเ่ กดิ
หลายเรือ่ งหลายสงิ่ เป็นปญั หา ที่ตอ้ งนำ� มาขบคดิ หาเหตุ
ผลความกระจา่ งจริง เพอื่ ยุติแกไ้ ข ประสบการณใ์ นการ
พิจารณาแก้ปัญหาเหล่าน้ี ย่อมสั่งสมเพ่ิมพูนขึ้นเป็น
ความรู้ความฉลาดอันกว้างขวางลึกซ้ึง ซ่ึงถ้ารู้จักน�ำมา
ปรบั ใชค้ วบคกู่ บั ความรทู้ างวชิ าการ ใหถ้ กู ถว้ นพอเหมาะ
พอดี ด้วยความเพ่งพินจิ โดยละเอยี ดรอบคอบแลว้ จะยงั
ประโยชน์แกก่ ารปฏิบัตงิ านอย่างวิเศษสุด...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ
จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย ณ หอประชุมจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย
วนั พฤหสั บดี ท่ี ๑๓ กรกฎาคม ๒๕๓๒

58

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎรร์ ม่ เยน็ เป็นสุขศานต์

“...การศึกษาค้นคว้าที่ส�ำคัญและจ�ำเป็นอย่างแรก
คอื การศึกษาทางแนวลึก อนั ได้แก่การฝึกฝนคน้ ควา้ วชิ า
เฉพาะของแต่ละคน ให้เชยี่ วช�ำนาญแตกฉานลึกซง้ึ และ
พฒั นากา้ วหนา้ พรอ้ มกนั นน้ั ในฐานะนกั ปฏบิ ตั ิ ซง่ึ จะตอ้ ง
ท�ำงานและแก้ปัญหาต่าง ๆ ร่วมกบั ผูอ้ ืน่ ฝา่ ยอนื่ อยเู่ ป็น
ปรกติ ทกุ คนจ�ำเปน็ ตอ้ งศึกษาทางแนวกว้างควบค่กู นั ไป
ดว้ ย การศกึ ษาตามแนวกวา้ งน้ี หมายถงึ การศึกษาให้ร ู้
ใหท้ ราบ ถงึ วทิ ยาการสาขาอนื่ ๆ ตลอดจนความรรู้ อบตวั
เก่ียวกับสภาวะและวิวัฒนาการของบ้านเมืองและสังคม
ในทกุ แง่มุม เพือ่ ช่วยใหม้ องเหน็ ให้เขา้ ใจปัญหาตา่ ง ๆ
อยา่ งชดั เจนถกู ถว้ น และสามารถนำ� วชิ าการดา้ นของตน
ประสานเข้ากับวิชาด้านอ่ืน ๆ ได้โดยสอดคล้องถูกต้อง
และเหมาะสม...”

พระบรมราโชวาท ในพธิ ีพระราชทานปรญิ ญาบัตรแก่ผสู้ �ำเรจ็
การศกึ ษาจากสถาบนั เทคโนโลยรี าชมงคล ณ อาคารใหม่ สวนอมั พร
วันพฤหัสบดี ที่ ๑๙ กรกฎาคม ๒๕๓๓

59

พระบรมราโชวาท
นอ้ มน�ำ ราษฎรร์ ม่ เย็นเป็นสขุ ศานต์

“...ผู้มุ่งหวังความดีและเจริญม่ันคงในชีวิต จะต้อง
ไม่ละเลยการศึกษา ความรูท้ ่จี ะศึกษามอี ยูส่ ามส่วน คือ
ความรู้วิชาการ ความรู้ปฏิบัติการ และความรู้คิดอ่าน
ตามเหตุผลความเป็นจริง ซ่ึงแต่ละคนควรเรียนรู้ให้ครบ
เพ่ือสามารถน�ำไปใช้ประกอบกิจการงาน และแก้ปัญหา
ทั้งปวงไดอ้ ยา่ งมปี ระสิทธภิ าพ...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ
มหาวทิ ยาลัยมหดิ ล ณ อาคารใหม่ สวนอมั พร วนั พฤหสั บดี ที่ ๒
กรกฎาคม ๒๕๓๕

60

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎร์ร่มเย็นเป็นสขุ ศานต์

“...การศึกษาในมหาวิทยาลัย ท่ีมุ่งเน้นให้บุคคลมีความรู้
ความสามารถด้านวิชาการเป็นพื้นฐานส�ำหรับการประกอบการ
งานในชีวิตน้ัน ถือว่าเป็นการศึกษาในระบบ ผู้ศึกษาจะได้รับ
ความรู้ถ่ายทอดจากครูบาอาจารย์ และจากการศึกษาค้นคว้า
ทางตำ� รบั ตำ� ราเปน็ หลกั ตอ่ เมอ่ื ไดอ้ อกไปทำ� การงาน ไดป้ ระสบ
เหตุการณแ์ ละปญั หาตา่ งๆ ใหต้ ้องขบคิดมากมายแล้ว จงึ เกดิ
ความรคู้ วามเขา้ ใจทถี่ อ่ งแทใ้ นสง่ิ ทงั้ ปวง ทเ่ี รยี กวา่ ประสบการณ์
ชีวิตเพิ่มขึ้น ประสบการณ์ในชีวิตนี้เป็นบ่อเกิดแห่งความ
รอบรู้และความฉลาดจัดเจนที่มีค่า ซ่ึงถ้าได้รู้จักน�ำมาใช้ด้วย
ความรู้เท่าถึงเหตุผล และด้วยความรอบคอบระมัดระวังแล้ว
จะยังประโยชนใ์ ห้แกต่ นเองและสังคมอย่างวิเศษสุด

ดังน้ี การศึกษานอกระบบ หรือการศึกษาภายหลังส�ำเร็จ
จากมหาวิทยาลัย จึงมีความส�ำคัญย่ิงยวด ในการสร้างเสริม
ผ้ผู า่ นการศึกษาในระบบมาแล้ว ให้มปี ญั ญาและความสามารถ
ที่จะปรับตนใหเ้ ข้ากบั สภาวะแทจ้ ริงของชวี ิต พร้อมทัง้ ด�ำรงตน
ใหอ้ ยูใ่ นสังคมอย่างเปน็ สขุ และเจรญิ มัน่ คงได้…”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่บัณฑิต
มหาวิทยาลยั ขอนแก่น ณ มหาวิทยาลยั ขอนแก่น วันพฤหัสบดี ท่ี
๑๖ ธนั วาคม ๒๕๓๖

61

ทรงเวียนเทยี น เน่อื งในวนั วสิ าขบชู า ณ วดั พระศรรี ตั นศาสดาราม

รกั ษาวัฒนธรรมประเพณอี ันดงี าม

พระบรมราโชวาท
นอ้ มนำ�ราษฎรร์ ม่ เย็นเปน็ สขุ ศานต์

“...การสร้างอาคารสมัยน้ี คงจะเป็นเกียรติส�ำหรับ
ผ้สู ร้างคนเดียว แต่เรอื่ งโบราณสถานน้ันเป็นเกียรติของ
ชาติ อิฐเก่าๆ แผ่นเดียวก็มีค่าควรที่จะช่วยกันรักษาไว้
ถา้ เราขาดสโุ ขทยั อยธุ ยา และกรงุ เทพฯ แลว้ ประเทศไทย
ก็ไม่มีความหมาย ไม่ควรจะเอาของใหม่ไปปนกับของ
เก่า ควรจะรกั ษาของเกา่ ไวเ้ พราะเปน็ เร่ืองเกี่ยวกบั จิตใจ
ของพลเมือง และส่ิงเหล่านี้เป็นมรดกตกทอดมาจาก
บรรพบรุ ุษ จงึ ควรรักษาไว้...”

พระราชด�ำรัส ในโอกาสที่เสด็จพระราชด�ำเนินเปิด
พพิ ธิ ภณั ฑสถานแหง่ ชาติ เจา้ สามพระยา จงั หวดั พระนครศรอี ยธุ ยา
ในขณะประทับ ณ พระทนี่ ่งั เย็น วันอังคาร ที่ ๒๖ ธนั วาคม ๒๕๐๔

64

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎรร์ ม่ เยน็ เปน็ สุขศานต์

“...พูดถึงเรื่องภาษาว่า เป็นสมบัติของชาติท่ีควร
รักษาและส่งเสริม ภาษานั้นเป็นอุปกรณ์ส�ำคัญส�ำหรับ
หาความรู้ ซ่ึงหมายถึงความก้าวหน้าของคน อุปกรณ์
ส�ำคัญอีกอย่างหนึ่งก็คือประเพณี ประเพณีน้ันหมายถึง
แบบแผน หรอื ขนบธรรมเนียมทปี่ ฏบิ ัตสิ บื ตอ่ กนั มา การ
สิ่งใดท่ีริเริ่มขึ้นแล้ว ได้รับความนิยมถือปฏิบัติตามกัน
ต่อไป จัดว่าเป็นประเพณี คนเราจะด�ำเนินชีวิตก็ต้องมี
แบบแผนเป็นหลัก เราจึงต้องมีประเพณีเป็นแนวปฏิบัติ
ชาติไทยเราได้มีประเพณีท่ีดีงามมาแต่โบราณกาล
บรรพบุรุษของเราได้ปฏิบัติสืบเนื่องมาหลายชั่วคน
เมื่อตกทอดมาถึงเราเช่นน้ี เราควรจะรับไว้ด้วยความ
เคารพ...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิต
จฬุ าลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั ปีการศกึ ษา ๒๕๐๒ วันพฤหัสบดี ท่ี ๒๑
เมษายน ๒๕๐๓

65

พระบรมราโชวาท
นอ้ มน�ำ ราษฎร์รม่ เย็นเปน็ สุขศานต์

“...ประเพณีท้ังหลายย่อมมีประโยชน์ในการด�ำเนิน
ชีวิตของแต่ละคน เรามปี ระเพณขี องชาติไทยเปน็ สมบัติ
เราควรจะยนิ ดีอย่างยงิ่ และชว่ ยกนั สง่ เสรมิ และรักษาไว้
เพื่อความเจริญก้าวหนา้ ของประเทศ...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิต
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลัย ปีการศกึ ษา ๒๕๐๒ วนั พฤหัสบดี ที่ ๒๑
เมษายน ๒๕๐๓

66

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎร์รม่ เย็นเปน็ สุขศานต์

“...โบราณวตั ถุ ศลิ ปวัตถุ และโบราณสถานท้งั หลาย
น้ัน ล้วนเป็นของมีคุณค่าและจ�ำเป็นแก่การศึกษา
ค้นคว้า ในทางประวตั ศิ าสตร์ ศิลป และโบราณคดี เปน็
เครื่องแสดงถึงความเจริญรุ่งเรืองของชาติไทยท่ีมีมาแต่
อดีตกาล สมควรจะสงวนรักษาให้คงทนถาวร เปน็ สมบตั ิ
ส่วนรวมของชาตไิ ว้ตลอดกาล...”

พระราชดำ� รสั ในการเสดจ็ พระราชดำ� เนนิ เปดิ พพิ ธิ ภณั ฑสถาน
แห่งชาติ เจ้าสามพระยา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา วันอังคาร ที่
๒๖ ธนั วาคม ๒๕๐๔

67

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎร์รม่ เยน็ เปน็ สขุ ศานต์

“...การรักษาขนบธรรมเนียมประเพณีเก่านั้นเป็น
ของดี แต่ถ้าประเพณีบางอย่างไม่สะดวกแก่การปฏิบัติ
ไม่เหมาะแก่กาละ ก็ควรจะจัดดัดแปลงบ้าง การที่จะ
เปล่ียนแปลงประเพณีใด ๆ หรือจะรับเอาประเพณีของ
ชาติอน่ื ใดมาใชน้ ้ัน ต้องพจิ ารณาใหร้ อบคอบถ่องแท้เสยี
ก่อนวา่ เหมาะสมหรือไม่ประการใด เปลย่ี นแปลงแลว้ จะ
สะดวกกวา่ เกา่ หรือไม่ จะเป็นประโยชนอ์ ยา่ งไร...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรแก่นิสิต
จุฬาลงกรณม์ หาวทิ ยาลยั วนั พฤหสั บดี ท่ี ๕ กรกฎาคม ๒๕๐๕

68

พระบรมราโชวาท
นอ้ มนำ�ราษฎร์รม่ เย็นเป็นสขุ ศานต์

“...ภาษาไทยน้ัน เป็นเคร่ืองมืออย่างหน่ึงของชาติ
ภาษาทง้ั หลายเปน็ เครอ่ื งมอื ของมนษุ ยช์ นดิ หนงึ่ คอื เปน็
ทางสำ� หรับแสดงความคดิ เห็นอยา่ งหนึ่ง เป็นสงิ่ สวยงาม
อยา่ งหนึง่ เช่น ในทางวรรณคดี เป็นต้น ฉะน้นั จงึ จ�ำเปน็
ต้องรักษาเอาไว้ให้ดี ประเทศไทยน้ันมีภาษาของเราเอง
ซ่งึ ตอ้ งหวงแหน ประเทศใกล้เคยี งของเราหลายประเทศ
มีภาษาของตนเอง แต่ว่าเขาก็ไม่ค่อยแข็งแรง เขาต้อง
พยายามหาทางท่ีจะสร้างภาษาของตนเองไว้ให้มั่นคง
เรามีโชคดที มี่ ีภาษาของตนเองแตโ่ บราณกาล จงึ สมควร
อยา่ งยิ่งที่จะรักษาไว.้ ..”

พระราชดำ� รัส ในการประชมุ ทางวิชาการของชุมนมุ ภาษาไทย
คณะอักษรศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย วันอาทิตย์ ท่ี ๒๙
กรกฎาคม ๒๕๐๕

69

พระบรมราโชวาท
นอ้ มน�ำ ราษฎรร์ ่มเยน็ เป็นสุขศานต์

“...ความสามัคคีและความถือตัวว่าเป็นไทย ท่ีเป็น
เหตุชักน�ำท่านท้ังหลายให้มาประชุมกันได้โดยพร้อม
เพรยี งกนั นี้ เป็นสมบตั มิ คี ่าสูงสุด เพราะเปน็ มรดกท่เี รา
ไดร้ บั สบื ตอ่ มาจากบรรพบรุ ษุ และเปน็ ปจั จยั สำ� คญั ทที่ ำ� ให้
เรารวมกนั อยไู่ ด้ ใหเ้ ราด�ำรงชาติประเทศและเอกราชสืบ
มาได้ ทกุ คนจะตอ้ งรกั ษาความเปน็ ไทยและความสามคั คี
น้ไี วใ้ หม้ ่นั คงในทท่ี กุ แห่ง...”

พระบรมราโชวาท พระราชทานสามัคคีสมาคม ในพระบรม
ราชปู ถัมภ์ ในการประชุมใหญป่ ระจ�ำปี ระหวา่ งวนั อาทติ ย์ ท่ี ๙ –
วนั อังคาร ท่ี ๑๑ เมษายน ๒๕๒๔

70

พระบรมราโชวาท
นอ้ มน�ำ ราษฎรร์ ่มเย็นเป็นสขุ ศานต์

“...ถึงอย่างไรความเป็นไทยน้ันก็เป็นสมบัติอย่าง
หนึ่งท่ีมีค่าประดับโลกอยู่ ไม่ควรที่ใครจะละเลยท�ำลาย
เสยี เพราะจะทำ� ใหส้ ญู เสยี สมบตั มิ คี า่ นนั้ ไป คนทจ่ี ะรกั ษา
ความเป็นไทยได้ม่ันคงท่ีสุด ดีและเหมาะท่ีสุด ไม่มีใคร
อ่ืนนอกจากคนไทย เพราะฉะนัน้ ไมว่ า่ จะอยู่ ณ แหง่ ใด
คนไทยมหี นา้ ทต่ี อ้ งรกั ษาความเปน็ ไทยเสมอ ทงั้ ทางวตั ถุ
ทางจริยธรรม และภูมปิ ญั ญา...”

พระบรมราโชวาท พระราชทานสมาคมนกั เรยี นไทยในประเทศ
ญป่ี ่นุ ในพระบรมราชูปถมั ภ์ ในการประชุมสามญั ประจ�ำปี ณ หอ้ ง
ประชมุ สมาพนั ธเ์ ยาวชนญปี่ นุ่ กรงุ โตเกยี ว ประเทศญป่ี นุ่ วนั อาทติ ย์
ท่ี ๒๗ กมุ ภาพนั ธ์ ๒๕๓๗

71



มศี ลี ธรรม รกั ษาความสตั ย์
หวงั ดตี ่อผ้อู ื่น เผอ่ื แผแ่ ละแบ่งปนั

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎรร์ ม่ เยน็ เปน็ สขุ ศานต์

“...การด�ำเนินชีวิตโดยใช้วิชาการอย่างเดียวยังไม่
เพียงพอ จะต้องอาศัยความรู้รอบตัว และหลักศีลธรรม
ประกอบดว้ ยผทู้ มี่ คี วามรดู้ ี แตข่ าดความยง้ั คดิ นำ� ความร ู้
ไปใช้ในทางมชิ อบ ก็เท่ากับเปน็ บคุ คลทเ่ี ปน็ ภยั แก่สังคม
ของมนุษย์ ฉะนน้ั ขอให้ทกุ คนจงดำ� รงชวี ิตและประกอบ
อาชีพ โดยอาศัยวิชาความรู้ที่ได้รับมาประกอบด้วย
ความยั้งคดิ ช่งั ใจ และศีลธรรมอันดีงาม เพอ่ื ความเจริญ
กา้ วหนา้ ของตนเองและของประเทศชาติ...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบัตรของ
มหาวิทยาลยั ธรรมศาสตร์ วนั จนั ทร์ ที่ ๑๘ กันยายน ๒๕๐๔

74

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎร์รม่ เย็นเป็นสขุ ศานต์

“...การทปี่ ระชาชนประสบเคราะหร์ า้ ยเมอ่ื ใด เคราะห์
ร้ายน้ันไม่ใช่เฉพาะผู้ที่ประสบภัย เคราะห์ร้ายน้ันตกกับ
ประชาชนท้ังประเทศ เพราะวา่ ถา้ ผูท้ ีเ่ คราะห์ร้ายโดยตรง
ไมไ่ ดร้ บั การชว่ ยเหลอื กท็ ำ� ใหค้ วามเดอื ดรอ้ นนน้ั แผม่ าสู่
สว่ นอนื่ ของประเทศดว้ ย คนทกุ คนในชาตกิ เ็ ดอื ดรอ้ นดว้ ย
การทจ่ี ะบรรเทาความเดอื ดรอ้ นกท็ ำ� ไดอ้ ยา่ งทที่ า่ นทำ� คอื
ผทู้ ยี่ งั พอมกี นิ อยู่ กค็ วรจะเผอื่ แผแ่ กผ่ ทู้ เี่ ดอื ดรอ้ นอยา่ งนี้
ด้วยความสามัคคี ด้วยความเมตตา เราจะบรรเทาความ
เดอื ดรอ้ นสว่ นรวมได้ จะนำ� ความปกึ แผน่ แกบ่ า้ นเมอื งได้
และเป็นกศุ ลดว้ ยเพราะวา่ ไปแผเ่ มตตา...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่คณะกรรมการสมาคม
กลุ่มอาชีพการเกษตรชลบุรี อ�ำเภอบ้านบึง จังหวัดชลบุรี ณ
พระตำ� หนักจิตรลดารโหฐาน พระราชวงั ดสุ ติ วนั พฤหสั บดี ท่ี ๒๖
พฤศจิกายน ๒๕๑๓

75

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎร์รม่ เย็นเป็นสุขศานต์

“...ความเจรญิ ของคนทัง้ หลาย ย่อมเกิดมาจากการ
ประพฤติชอบ และการหาเลี้ยงชีพชอบเป็นหลักส�ำคัญ
ผูท้ ี่จะสามารถประพฤตชิ อบ และหาเล้ยี งชีพชอบได้ด้วย
นน้ั ยอ่ มจะตอ้ งมที ง้ั วชิ าความรู้ ทงั้ หลกั ธรรมทางศาสนา
เพราะส่ิงแรกเปน็ ปัจจยั สำ� หรับใช้กระท�ำการงาน สิ่งหลงั
เป็นปัจจัยส�ำหรับส่งเสริมความประพฤติ และการปฏิบัติ
งานใหช้ อบ คอื ใหถ้ กู ต้องและเปน็ ธรรม...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่คณะครูโรงเรียนราษฎร์สอน
ศาสนาอิสลาม ๔ จังหวัดภาคใต้ ณ มัสยิดกลาง จังหวัดปัตตานี
วันองั คาร ท่ี ๒๔ สงิ หาคม ๒๕๑๙

76

พระบรมราโชวาท
นอ้ มน�ำ ราษฎรร์ ่มเยน็ เป็นสุขศานต์

“...สังคมใดก็ตาม ถ้ามีความเอื้อเฟื้อเก้ือกูลกัน
ด้วยความมุ่งดีมุ่งเจริญต่อกัน สังคมนั้นย่อมเต็มไปด้วย
ไมตรีจติ มติ รภาพ มคี วามรม่ เย็นเป็นสุข น่าอย่.ู ..”

พระราชดำ� รสั พระราชทานเพอื่ เชญิ ลงพมิ พ์ในนติ ยสารทรี่ ะลกึ
ครบ ๓๖ ปี ของสโมสรไลออนสแ์ หง่ กรงุ เทพฯ ในพระบรมราชปู ถมั ภ์
วนั ศกุ ร์ ที่ ๓๑ มีนาคม ๒๕๓๘

77

พระบรมราโชวาท
นอ้ มน�ำ ราษฎร์รม่ เย็นเป็นสขุ ศานต์

“...คุณธรรมขอ้ หนง่ึ ทยี่ ังมอี ยู่อย่างบริบรู ณใ์ นจิตใจ
ของคนไทย กค็ อื การให้ การใหน้ ี้ ไมว่ า่ จะใหส้ ง่ิ ใด แกผ่ ใู้ ด
โดยสถานใดก็ตาม ล้วนเป็นส่ิงท่ีพึงประสงค์อย่างย่ิง
เพราะเปน็ เครอ่ื งประสานไมตรอี ยา่ งสำ� คญั ระหวา่ งบคุ คล
กบั บคุ คล และทำ� ใหส้ งั คมมคี วามมนั่ คงเปน็ ปกึ แผน่ ดว้ ย
สามคั คธี รรม นอกจากนน้ั การใหย้ งั เปน็ บอ่ เกดิ แหง่ ความ
สขุ อีกดว้ ย กลา่ วคือ ผู้ให้กม็ คี วามสุข มคี วามอิ่มเอบิ ใจ
ผู้รับก็มีความสุข มีก�ำลังใจ สังคมส่วนรวมตลอดถึง
ประเทศชาติ กม็ ีความผาสุก มีความร่มเย็น...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทย ในโอกาส
ขน้ึ ปีใหม่ พุทธศกั ราช ๒๕๔๖ วนั องั คาร ที่ ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๔๕

78

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎรร์ ม่ เยน็ เป็นสขุ ศานต์

“...อยา่ งไรกต็ ามเหตตุ า่ งๆ ทงั้ น้นั ได้ทำ� ให้เห็นแจง้
ถงึ นำ�้ ใจของพวกเราอยา่ งเดน่ ชดั วา่ ทกุ คนในผนื แผน่ ดนิ
ไทย ทงั้ ทหาร ต�ำรวจ และพลเรอื น มีความสามคั คีกัน
ต่างห่วงใยกันด้วยใจจริง ได้แสดงเจตนารมณ์ท่ีจะอยู่
ร่วมกันโดยสันติสุข และเมื่อเกิดภัยพิบัติ คนไทยไม่ทิ้ง
กัน ต่างพร้อมเพรียงกันเข้าปฏิบัติช่วยเหลือทันที ด้วย
ความเสียสละและเมตตาจริงใจ ไม่เลือกว่าเป็นชาวไทย
หรือชาวต่างประเทศ...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาส
ขึน้ ปีใหม่ พุทธศกั ราช ๒๕๔๘ วันศุกร์ ท่ี ๓๑ ธนั วาคม ๒๕๔๗

79

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎร์ร่มเยน็ เป็นสขุ ศานต์

“...ความเมตตาปรารถนาดีต่อกันนี้ เป็นปัจจัย
อย่างส�ำคัญ ท่ีจะยังความพร้อมเพรียงให้เกิดมีข้ึน
ท้ังในหมู่คณะและในชาติบ้านเมือง และถ้าคนไทยเรา
ยงั มคี ณุ ธรรมข้อน้ีประจ�ำอยู่ในจิตใจ กม็ คี วามหวังไดว้ า่
บา้ นเมอื งไทยไมว่ า่ จะอยใู่ นสถานการณใ์ ด ๆ กจ็ ะอยรู่ อด
ปลอดภัย และด�ำรงมั่นคงต่อไปได้ตลอดรอดฝั่งอย่าง
แนน่ อน...”

พระราชด�ำรัส ในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราช
พธิ ีเฉลิมพระชนมพรรษา ณ พระท่ีนง่ั อนนั ตสมาคม วนั พธุ ที่ ๕
ธันวาคม ๒๕๕๕

80

พระบรมราโชวาท
นอ้ มนำ�ราษฎร์ร่มเยน็ เป็นสขุ ศานต์

“...ขา้ พเจา้ จงึ ปรารถนาอยา่ งยง่ิ ทจี่ ะเหน็ คนไทยเรา
ได้ตั้งจิตต้ังใจ ให้ม่ันอยู่ในความเมตตาและหวังดีต่อกัน
ดแู ลเอาใจใสก่ นั ชว่ ยเหลือเกือ้ กูลกนั ใหก้ �ำลงั ใจแกก่ ัน
และกนั ผกู พนั กนั ไวฉ้ นั ญาตแิ ละฉนั มติ ร ทกุ คนทกุ ฝา่ ยจะ
ไดร้ ว่ มมอื รว่ มความคดิ อา่ นกนั สรา้ งสรรคค์ วามสขุ ความ
เจรญิ มน่ั คง ให้แก่ตน แก่ชาติไดด้ งั ที่ต้งั ใจปรารถนา...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่ประชาชนชาวไทยในโอกาส
ขึน้ ปีใหม่ พุทธศักราช ๒๕๕๖ วันอังคาร ท่ี ๑ มกราคม ๒๕๕๖

81



เข้าใจ เรยี นรู้การเปน็
ประชาธิปไตย อนั มีพระมหากษัตรยิ ์

ทรงเป็นประมุขที่ถูกต้อง

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎรร์ ่มเยน็ เปน็ สุขศานต์

“...การมีเสรภี าพนน้ั เปน็ ของดีอยา่ งย่ิง แต่เมอ่ื จะใช้
จ�ำเป็นต้องใช้ด้วยความระมัดระวังและความรับผิดชอบ
มิให้ล่วงละเมิดเสรีภาพของผู้อื่น ที่เขาก็มีอยู่เท่าเทียม
กัน ท้ังมิให้กระทบกระเทือนถึงสวัสดิภาพและความเป็น
ปรกติสุขของส่วนรวมด้วย มิฉะน้ัน จะท�ำให้มีแต่ความ
ยุ่งยาก จะท�ำให้สังคมและชาติประเทศต้องแตกสลาย
จนสน้ิ เชงิ ...”

พระราชดำ� รัส พระราชทานแกผ่ บู้ งั คับบญั ชาลกู เสือ ในโอกาส
เขา้ เฝา้ ทลู ละอองธลุ พี ระบาท และรบั พระราชทานเหรยี ญลกู เสอื สดดุ ี
ณ ศาลาดสุ ิดาลยั พระราชวังดุสติ วันศุกร์ ท่ี ๙ กรกฎาคม ๒๕๑๔

84

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎร์ร่มเย็นเปน็ สุขศานต์

“...ในบ้านเมืองน้ัน มีทั้งคนดีและคนไม่ดี ไม่มีใคร
จะท�ำให้ทุกคนเป็นคนดีได้ท้ังหมด การท�ำให้บ้านเมอื งมี
ความปรกติสุขเรียบร้อย จึงมิใช่การท�ำให้ทุกคนเป็นคน
ดี หากแต่อยทู่ กี่ ารส่งเสรมิ คนดี ใหค้ นดีไดป้ กครองบา้ น
เมอื ง และควบคุมไมใ่ ห้คนไม่ดมี ีอ�ำนาจ ไม่ให้ก่อความ
เดือดรอ้ นวนุ่ วายได้...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีเปิดงานชุมนุมลูกเสือแห่งชาติ
ครัง้ ท่ี ๖ ณ ค่ายวชิราวธุ อำ� เภอศรรี าชา จังหวดั ชลบรุ ี วันพฤหัสบดี
ท่ี ๑๑ ธนั วาคม ๒๕๑๒

85

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎรร์ ่มเยน็ เปน็ สขุ ศานต์

“...ท่านเป็นผู้ที่ได้ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับราษฎรใน
ทอ้ งทข่ี องทา่ นมาอยา่ งใกลช้ ดิ ยอ่ มเขา้ ถงึ จติ ใจและความ
ตอ้ งการของเขาเหลา่ น้นั ไดด้ ีกวา่ ผทู้ อ่ี ยู่ห่างไกล ราษฎร
ย่อมจะต้องหวังพ่ึงท่านเม่ือมีความเดือดร้อน ฉะนั้น
ขา้ พเจา้ จงึ หวงั วา่ ทา่ นทง้ั หลาย จะเอาใจใสด่ แู ลความเปน็
อยขู่ องเขาใหม้ าก และทำ� ตวั เองใหเ้ ปน็ ทพ่ี ง่ึ แกเ่ ขา สมกบั
ท่เี ขาได้ไว้วางใจเลอื กทา่ นขึ้นมาเปน็ หัวหน้า...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานในการอบรมก�ำนันผู้ ใหญ่บ้าน
ในเขตชายแดนภาคตะวันออกเฉียงเหนือ วันอาทิตย์ ที่ ๑๒
สงิ หาคม ๒๕๐๕

86

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎรร์ ่มเย็นเปน็ สุขศานต์

“...การรกั ษาบา้ นเมอื งนนั้ มแี บง่ ไดเ้ ปน็ ภารกจิ หลาย
อย่าง ภารกจิ อย่างหน่ึงกค็ ือการตอ่ สเู้ ชิงรบซงึ่ เปน็ วิชาท่ี
สำ� คญั และวชิ าทค่ี รบถว้ นในตวั เปน็ หนา้ ทเี่ ตม็ เวลาอยแู่ ลว้
แต่ว่าคนไทยเราจะต้องท�ำหน้าท่ีครบถ้วนย่ิงกว่าน้ีอีก
คือจะต้องเป็นผู้ท่ีเป็นคนไทย คนไทยนั้นคือคนที่จะ
ป้องกันอธิปไตยของตัวและจะต้องส่งเสริมให้ทุกคน
รว่ มกนั ในการปอ้ งกนั อธปิ ไตย จะตอ้ งเปน็ ผทู้ ส่ี ง่ เสรมิ ให้
คนในชาตมิ คี วามอยดู่ กี นิ ดี และจะตอ้ งพยายามถา่ ยทอด
วชิ าการ วธิ คี วามคดิ ใหแ้ กท่ กุ คนทม่ี หี นา้ ทท่ี จ่ี ะสรา้ งความ
อย่ดู ีกนิ ดนี ี.้ ..”

พระบรมราโชวาท พระราชทานแก่คณะครูฝึกต�ำรวจ
ตระเวนชายแดน ณ ศาลาเรงิ วงั ไกลกงั วล วนั พธุ ท่ี ๒๑ พฤษภาคม
๒๕๑๘

87

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎรร์ ม่ เยน็ เปน็ สุขศานต์

“…การปกครองน้ีในประเทศหนึ่ง ประเทศหนึ่งก็
ต้องมีการมอบฉันทะให้มีผู้ท่ีปกครอง หมายถึงผู้ที่จะ
เข้ามาจดั การด�ำเนนิ งานต่าง ๆ ของประเทศ แตล่ ะคน ๆ
กอ็ ยากจะมาบอกวา่ ตวั ตอ้ งการทำ� อยา่ งน้ี ๆ ๕๕ ลา้ นคน
พดู พรอ้ มกนั หมดทง้ั ๕๕ ลา้ นคน กฟ็ งั ไมร่ เู้ รอ่ื ง เวลาพดู
พรอ้ มกนั ๑๐ คน กฟ็ งั ไมร่ เู้ รอ่ื งอยแู่ ลว้ พดู กนั ๕๕ ลา้ นคน
กย็ ง่ิ ไมร่ เู้ รอ่ื งใหญ่ แลว้ กท็ ไ่ี มร่ เู้ รอ่ื งเพราะวา่ ๕๕ ลา้ นคน
เขาอาจยงั ไมท่ ราบวา่ ปญั หาคอื อะไร เมอื่ เขาพดู กนั กต็ อ้ ง
พูดบ้าง เพราะต้องพูดก็พูด เสียงจึงหึ่งอึงคะนึงไปหมด
ไม่รู้เร่ือง ฉะน้ันถึงต้องมีผู้แทนของปวงชนซ่ึงตามหลัก
ของการปกครองก็ตอ้ งมผี แู้ ทนราษฎร…”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ
ถวายพระพรชยั มงคล ในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา ณ ศาลา
ดสุ ดิ าลยั สวนจติ รลดา พระราชวงั ดสุ ติ วนั พธุ ที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๔

88

พระบรมราโชวาท
นอ้ มนำ�ราษฎรร์ ม่ เยน็ เปน็ สขุ ศานต์

“...ผู้แทนของปวงชนน้ัน ถ้าเป็นผู้แทนของปวงชน
จรงิ ๆ หมายความว่าประชาชน ๕๕ ลา้ นคน หรอื อยา่ ง
น้อยผู้ที่มีสทิ ธิ์เลอื กตงั้ สามารถชไ้ี ดว้ ่า “ถ้าคนนพ้ี ดู เขา
พดู แทนเรา ผแู้ ทนของเรา พดู แทนเรา” ถา้ เปน็ อยา่ งนไ้ี ด้
ก็ไมต่ ้องมีปัญหาอะไรเลย แตว่ า่ โดยมากจะไม่เป็นอยา่ ง
น้นั เพราะวธิ กี ารไม่ถูก

ประเทศตา่ ง ๆ ในโลกมวี ธิ ตี า่ ง ๆ กนั ในการจดั ระเบยี บ
ให้ปวงชนไดอ้ อกเสยี งเลอื กผแู้ ทนของตน...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ที่เข้าเฝ้าฯ
ถวายพระพรชยั มงคล ในโอกาสวันเฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลา
ดสุ ดิ าลยั สวนจติ รลดา พระราชวงั ดสุ ติ วนั พธุ ท่ี ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๔

89

พระบรมราโชวาท
น้อมน�ำ ราษฎรร์ ่มเยน็ เปน็ สุขศานต์

“...ทุก ๆ ส่ิงมีชีวิต และประเทศไทยก็เป็นประเทศท ี่
มีชีวติ ระเบียบการอะไรก็เปลี่ยนแปลงได้ แลว้ ถา้ เปล่ียน
โดยวิธีพูดกันรู้เรื่อง คือเจรจากันอย่างถูกหลักวิชา
ที่แท้ ท่ีสูงกว่าหลักวิชาในต�ำรา ก็จะหมดปัญหา แต่
ไม่ใชว่ ่าเปลย่ี นไปแล้ว กเ็ ปล่ียนอย่างตายตัวไปเลย เมื่อ
สถานการณ์ไม่อ�ำนวย ก็เปล่ียนต่อไปได้ โดยต้องไม่
ทะเลาะกันอยา่ งหนกั จนกระทัง่ ท�ำใหเ้ สียหาย จนท�ำให้
ประเทศไทยกลบั เปน็ ประเทศท่ลี ้าหลัง...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ท่ีเข้าเฝ้าฯ
ถวายพระพรชัยมงคล ในโอกาสวันเฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลา
ดสุ ดิ าลยั สวนจติ รลดา พระราชวงั ดสุ ติ วนั พธุ ที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๔

90

พระบรมราโชวาท
น้อมนำ�ราษฎรร์ ่มเยน็ เป็นสขุ ศานต์

“...ประเทศตา่ งๆ ในโลกมวี ธิ ตี า่ งๆ กนั ในการจดั ระเบยี บ
ใหป้ วงชนไดอ้ อกเสยี งเลอื กผแู้ ทนของตน...มกี ฎเกณฑอ์ ะไร
กต็ ามกเ็ ปลย่ี นไดท้ ง้ั นน้ั ไมใ่ ชต่ ายตวั อยตู่ ลอดกาล กเ็ ปลยี่ นได้
แต่อย่ามาทะเลาะกัน...เหมือนประเทศสวิสเขาผลัดเปลี่ยน
กันเป็นประธานาธิบดีทุกปี...ของอเมริกาเขาก็เปล่ียน
ประธานาธิบดที กุ สป่ี ี...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่คณะบุคคลต่างๆ ท่ีเข้าเฝ้าฯ
ถวายพระพรชยั มงคล ในโอกาสวนั เฉลมิ พระชนมพรรษา ณ ศาลา
ดสุ ดิ าลยั สวนจติ รลดา พระราชวงั ดสุ ติ วนั พธุ ที่ ๔ ธนั วาคม ๒๕๓๔

91



มรี ะเบยี บวนิ ัย เคารพกฎหมาย
ผู้น้อยร้จู กั เคารพผู้ ใหญ่

พระบรมราโชวาท
นอ้ มนำ�ราษฎรร์ ่มเย็นเป็นสขุ ศานต์

“...ความรอบรู้ ความเช่ียวชาญ ท่ีอุตสาหะศึกษา
ฝึกหัดให้เพ่ิมทวีขึ้นทุกขณะนั้น เม่ือประกอบกันเข้ากับ
ระเบียบวินัยที่ดีและความสุจริตบริสุทธิ์ใจจะรวมกันเป็น
เสมอื นดงั เกราะสำ� หรบั ปอ้ งกนั ภยนั ตรายตา่ งๆ ใหแ้ กท่ า่ น
และจะเป็นพละก�ำลังส่งเสริมให้ท่านสามารถปฏิบัติการ
เพ่ือความเจริญและความม่ันคงของชาติของบ้านเมือง
ได้อย่างดที สี่ ุด...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานกระบี่ และปริญญาบตั ร
แก่ผู้ส�ำเร็จการศึกษา จากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
โรงเรยี นนายเรอื และโรงเรยี นนายเรืออากาศ วนั พฤหัสบดี ที่ ๖
มนี าคม ๒๕๒๓

94

พระบรมราโชวาท
นอ้ มน�ำ ราษฎร์รม่ เยน็ เป็นสุขศานต์

“...คนทอี่ ยรู่ วมกนั เปน็ หมมู่ าก แมไ้ ดช้ อ่ื วา่ เปน็ อสิ รชน ก็
ใชอ้ สิ รภาพ คอื ความเปน็ ใหญข่ องตนเตม็ ทไ่ี มไ่ ด้ หากจำ� เปน็
ต้องจ�ำกัดไว้ด้วยกฎข้อบังคับและวินัยอันเหมาะสม เพื่อให้
แต่ละคนมีอิสรภาพสม�่ำเสมอกัน ท้ังมิให้ล่วงละเมิดกันและ
กนั กฎทบี่ งั คบั ใชแ้ กท่ กุ คนได้ กม็ อี ยอู่ ยา่ งเดยี ว คอื กฎหมาย
ซง่ึ ทา่ นทง้ั หลายไดศ้ กึ ษามาแลว้ โดยตรงพรอ้ มเสรจ็ ทงั้ ตวั บท
และวธิ ใี ช้ และกฎหมายนน้ั โดยหลกั การจะตอ้ งบญั ญตั ขิ น้ึ ใช้
เปน็ อยา่ งเดยี วกนั และเสมอกนั หมดสำ� หรบั คนทงั้ ประเทศ จงึ
เป็นธรรมดาท่ีจะบังคับใช้ให้ได้ผลบริบูรณ์ครบถ้วนทุกกรณี
ไม่ได้คงต้องมีส่วนบกพร่องเกิดข้ึนมากบ้างน้อยบ้าง ตาม
เหตุการณ์และตัวบุคคลผู้น�ำกฎหมายมาใช้ จ�ำเป็นอย่างย่ิง
ท่ีผู้ใช้กฎหมายจะต้องส�ำนึกตระหนักในความรับผิดชอบของ
ตนเองอยู่ตลอดเวลา ในอันที่จะใช้กฎหมายเพื่อธ�ำรงรักษา
และผดุงความยุติธรรมถูกต้องเพียงอย่างเดียว มิใช่เพื่อ
ผลประโยชน์อยา่ งอน่ื ๆ...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานประกาศนียบัตร
แก่ผู้สอบไล่ได้ตามหลักสูตรของส�ำนักอบรมศึกษากฎหมายแห่ง
เนติบัณฑิตยสภา ณ อาคารใหม่ สวนอัมพร วันจันทร์ ที่ ๒๗
ตุลาคม ๒๕๒๓

95

พระบรมราโชวาท
นอ้ มน�ำ ราษฎรร์ ่มเยน็ เปน็ สุขศานต์

“...คนท่มี รี ะเบียบวินัยน้ันเปน็ ผูท้ ีเ่ ข้มแข็ง เป็นผทู้ ่ีหวังดี
ตอ่ ตวั เอง เปน็ ผทู้ จ่ี ะมคี วามสำ� เรจ็ ในอนาคต อนั นเ้ี ปน็ ระเบยี บ
อยา่ งหนึ่ง เปน็ วนิ ยั อย่างหนึง่ คอื ว่าถ้าคนใดมรี ะเบียบมวี ินยั
ในร่างกาย คือหมายถึงการปฏิบัติของตัวในกิริยามารยาท
ท�ำให้ไม่มีอุปสรรคต่อการขวนขวายหา จะหาความรู้ก็ได้
หาอะไรกม็ คี วามสำ� เรจ็ คอื หาสงิ่ ทตี่ วั กำ� ลงั มงุ่ ทจี่ ะปฏบิ ตั ิ การ
ปฏบิ ตั ดิ ว้ ยความมรี ะเบยี บวนิ ยั การปฏบิ ตั นิ นั้ สำ� เรจ็ อนั นเี้ ปน็
ระเบยี บวนิ ยั ชนดิ หนง่ึ ระเบยี บวนิ ยั อกี ชนดิ ทกี่ ลา่ วเมอื่ ตะก้ี ก็
คอื ระเบยี บในใจ ในใจนน้ั กค็ อื การกระทำ� อะไร เราตอ้ งคดิ เมอ่ื
มรี ะเบยี บในความคดิ คอื มเี หตผุ ล สง่ิ ใดทคี่ ดิ กค็ ดิ ออก สมมตุ ิ
ว่าเราคิดเรื่องหนึง่ แล้วก็ไปคดิ ถงึ อกี เรอ่ื งหนงึ่ ทไ่ี ม่เก่ียวข้อง
แล้วไปคิดถึงเรอื่ งทสี่ าม เรอ่ื งทีส่ ่ี เรอ่ื งท้ังสามสีเ่ รือ่ งน้ีก็ไมม่ ี
ความสำ� เรจ็ แนน่ อน เพราะวา่ มนั ฟงุ้ ซา่ น ฉะนนั้ ตอ้ งมรี ะเบยี บ
ในความคิด ท่เี รียกวา่ ระเบยี บในใจหรอื วินยั ในความคดิ ...”

พระราชด�ำรัส พระราชทานแก่นักศึกษามหาวิทยาลัย
ศรีนครนิ ทรวโิ รฒ วิทยาเขตภาคใต้ จงั หวัดสงขลา ณ มหาวิทยาลยั
ศรีนครินทรวิโรฒ จังหวัดสงขลา วันพฤหัสบดี ท่ี ๑๐ กันยายน
๒๕๒๔

96

พระบรมราโชวาท
นอ้ มน�ำ ราษฎร์ร่มเย็นเป็นสขุ ศานต์

“...วนิ ยั แทจ้ รงิ มอี ยสู่ องอยา่ ง อยา่ งหนงึ่ คอื วนิ ยั ตาม
ที่ทราบกนั และถือกนั อนั ได้แก่ข้อปฏิบัติท่ีบญั ญัติไวเ้ ปน็
กฎหมายหรอื ระเบยี บขอ้ บงั คบั ตา่ งๆ ใหถ้ อื ปฏบิ ตั ิ อกี อยา่ ง
หนงึ่ คอื วนิ ยั ในตนเอง ทแ่ี ตล่ ะคนจะตอ้ งบญั ญตั ขิ น้ึ สำ� หรบั
ควบคมุ บงั คบั ใหม้ คี วามจรงิ ใจ และใหป้ ระพฤตปิ ฏบิ ตั ติ าม
ความจริงใจนั้นอย่างม่ันคง มีลักษณะเป็นสัจจาธิษฐาน
หรือการต้ังสัตย์สัญญาให้แก่ตัว วินัยอย่างน้ีจัดเป็นตัว
วินัยแท้ เพราะให้ผลจริงและแน่นอนยิ่งกว่าวินัยที่เป็น
บทบญั ญตั ทิ ง้ั เปน็ ปจั จยั สำ� คญั ทจ่ี ะเกอ้ื กลู ใหก้ ารถอื การใช้
วนิ ยั ทเี่ ปน็ บทบญั ญตั นิ นั้ ไดผ้ ลเทย่ี งตรง ถกู ตอ้ ง สมบรู ณ์
เต็มเปยี่ มตามเจตนารมณ์...”

พระบรมราโชวาท ในพธิ พี ระราชทานกระบ่ี และปรญิ ญาบตั ร
แก่ผู้ส�ำเร็จการศึกษา จากโรงเรียนนายร้อยพระจุลจอมเกล้า
โรงเรียนนายเรือ และโรงเรียนนายเรืออากาศ วันพุธ ท่ี ๒๕
มีนาคม ๒๕๒๔

97

พระบรมราโชวาท
นอ้ มน�ำ ราษฎร์ร่มเย็นเปน็ สขุ ศานต์

“...ปจั จยั สำ� คญั ทจี่ ะเปน็ พน้ื ฐานและสง่ เสรมิ ใหเ้ กดิ ความ
สามารถดังน้ัน ก็คือ ความสุจริตเป็นระเบียบซ่ึงประกอบ
ด้วยความสุจริตเป็นระเบียบในความประพฤติ หรือในทาง
กาย อย่างหนงึ่ ความสจุ รติ เปน็ ระเบียบในความคดิ นึก หรือ
ในทางใจอกี อยา่ งหนึง่ ท้งั สองประการตา่ งอาศัยและเก้อื กูล
กันอยู่ตลอดเวลา จึงจ�ำเป็นต้องอบรมบ�ำรุง ให้เจริญม่ันคง
ขึ้นด้วยกัน เม่ือจัดระเบียบในการกระท�ำและในความคิดนึก
ไดเ้ ทย่ี งตรงแนน่ อนแล้ว ปญั ญา หรอื ความรูค้ วามเข้าใจกนั
ถูกต้องถ่องแท้และตรงจุด ก็จะเกิดข้ึน คือ จะพิจารณา
เรือ่ งราวหรือปญั หาใด ๆ ก็สามารถเขา้ ถงึ สาระของเรอื่ งน้นั
ปัญหานั้นได้ทันที โดยกระจ่างแจ่มชัดปราศจากความลังเล
สบั สน และยอ่ มทำ� ใหส้ ามารถใชค้ วามคดิ วทิ ยาการปฏบิ ตั งิ าน
ทุกอย่างได้โดยถูกต้องพอเหมาะพอดี ทั้งบรรลุผลสมบูรณ์
บริบรู ณต์ ามวตั ถุประสงค์...”

พระบรมราโชวาท ในพิธีพระราชทานปริญญาบตั รแก่ผู้สำ� เรจ็
การศึกษา จากมหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ วิทยาเขตภาคใต้
จงั หวัดสงขลา ณ มหาวทิ ยาลัยศรีนครนิ ทรวโิ รฒ วทิ ยาเขตภาคใต้
วันพฤหสั บดี ที่ ๑๐ กนั ยายน ๒๕๒๔

98


Click to View FlipBook Version