กระทรวงเกษตรและสหกรณ์
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
ดำเนินการโดย
คณะทำงานจัดทำเอกสารมาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลักษณะทางวศิ วกรรม
ภายใต
้
คณะกรรมการพจิ ารณาแบบมาตรฐาน กรมชลประทาน
ปงี บประมาณ พ.ศ. 2553
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
เรียน ประธานคณะกรรมการพจิ ารณาแบบมาตรฐาน
ตามคำส่ังคณะกรรมการพิจารณาแบบมาตรฐาน ที่ ข.996/2552 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน
2552 เร่ือง แต่งตั้งคณะทำงานจัดทำแบบมาตรฐานนั้น บัดน้ีคณะทำงานจัดทำมาตรฐานรายละเอียด
และคณุ ลักษณะทางวิศวกรรม ไดจ้ ดั ทำเอกสารมาตรฐานงานคอนกรีต เสร็จเรียบรอ้ ยแลว้
จึงเรยี นมาเพ่ือโปรดพจิ ารณาดำเนินการต่อไป
(นายจรสั เลา้ โสภาภิรมย์)
ประธานคณะทำงานจดั ทำมาตรฐานรายละเอยี ด
และคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม
เรยี น อธช.
เพอื่ โปรดพจิ ารณาอนุมัต
ิ
(นายประสงค์ เส่ียงโชคอย่)ู
รองอธิบดีฝ่ายวชิ าการ
ประธานคณะกรรมการพจิ ารณาแบบมาตรฐาน
อนุมัติ
(นายชลิต ดำรงศักด์ิ)
อธบิ ดีกรมชลประทาน
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
คำส่ังกรมชลประทาน
ที่ ข 996/2552
เรื่อง แต่งตง้ั คณะกรรมการพจิ ารณาแบบมาตรฐาน
อนุสนธิคำสั่งกรมชลประทานที่ ข 1219/2551 ลงวันท่ี 27 ตุลาคม 2551 ได้แต่งตั้ง
คณะกรรมการพจิ ารณาแบบมาตรฐานไว้แลว้ นั้น
เพอื่ ใหก้ ารดำเนนิ งานพจิ ารณาแบบมาตรฐานของกรมชลประทานเปน็ ไปอยา่ งมปี ระสทิ ธภิ าพ
เหมาะสม คล่องตัว และมีความต่อเนื่อง จึงให้ยกเลิกการแต่งตั้งคณะกรรมการพิจารณาแบบมาตรฐาน
ตามคำสั่งกรมชลประทานดังกลา่ ว และเหน็ สมควรให้มกี ารแตง่ ตง้ั คณะกรรมการพจิ ารณาแบบมาตรฐาน
ขนึ้ ใหม่ ตามรายละเอียดดังนี้
1. วิศวกรใหญท่ ่ปี รกึ ษาด้านวิศวกรรมโยธา ที่ปรึกษาคณะกรรมการ
(ดา้ นสำรวจและหรือออกแบบ)
2. รองอธบิ ดฝี ่ายวิชาการ ประธานคณะกรรมการ
3. นายประวิทย์ ตลุ าพันธุ์ รองประธานคณะกรรมการ
ผูอ้ ำนวยการสำนกั ออกแบบวิศวกรรมและสถาปตั ยกรรม
4. นายศุภชัย รุ่งศรี กรรมการ
ผ้อู ำนวยการสำนักวจิ ัยและพัฒนา
5. นายไพศาล แสงจินดา กรรมการ
ผู้เชย่ี วชาญดา้ นวิศวกรรมโยธา (ด้านออกแบบและคำนวณ)
สำนักออกแบบวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรม
6. นายบญุ สนอง สชุ าติพงศ์ กรรมการ
ผู้เช่ียวชาญด้านวิศวกรรมโยธา (ด้านออกแบบและคำนวณ)
สำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปัตยกรรม
7. นายสรุ สทิ ธ์ อินทรประชา กรรมการ
ผเู้ ชีย่ วชาญดา้ นวิศวกรรมโยธา (ดา้ นออกแบบและคำนวณ)
สำนกั ออกแบบวศิ วกรรมและสถาปตั ยกรรม
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรตี
8. นายพิเชษฐ์ ศุภฤกษ ์ กรรมการ
ผเู้ ช่ยี วชาญดา้ นวิศวกรรมโยธา (ด้านออกแบบและคำนวณ)
สำนักออกแบบวศิ วกรรมและสถาปตั ยกรรม
9. นายสมเกียรติ ตั้งจตุพร กรรมการ
ผู้เชย่ี วชาญดา้ นวิศวกรรมโยธา (ดา้ นออกแบบและคำนวณ)
สำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปตั ยกรรม
10. นายสุเทพ สมเจรญิ กรรมการ
ผเู้ ชี่ยวชาญดา้ นวางผงั และออกแบบ
สำนักออกแบบวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรม
11. นายพทิ ักษ์ ศรีอเนกกลุ กรรมการ
ผูเ้ ชย่ี วชาญดา้ นวศิ วกรรมเคร่อื งกล (ดา้ นวางแผนและโครงการ)
กรมชลประทาน
12. นายจรสั เล้าโสภาภริ มย ์ กรรมการ
วิศวกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ
กลมุ่ วิศวกรรม
สำนกั ออกแบบวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรม
13. นางสาวมนสิการ ปานิสวสั ด์ ิ กรรมการ
สถาปนกิ ชำนาญการพเิ ศษ
กลุม่ ออกแบบสถาปตั ยกรรม
สำนักออกแบบวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรม
14. นายอภิชาติ ธาราเวชรกั ษ์ กรรมการ
วศิ วกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ
กลุ่มออกแบบโครงสร้างพิเศษ
สำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปตั ยกรรม
15. นายวริ ัตน์ นาคเรอื ง กรรมการ
วศิ วกรโยธาชำนาญการพิเศษ
กลุ่มออกแบบระบบชลประทาน
สำนักออกแบบวิศวกรรมและสถาปตั ยกรรม
16. นายรงั สรรค์ จนิ จาคาม กรรมการ
วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ
กลุ่มออกแบบระบบชลประทาน
สำนกั ออกแบบวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรม
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
17. นายไกรฤกษ์ อนิ ท์ชยะนันท์ กรรมการ
วิศวกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ
กลุ่มออกแบบเข่อื น
สำนักออกแบบวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรม
18. นายมานพ บุณยประสทิ ธ ์ิ กรรมการ
วิศวกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ
กลุ่มออกแบบเขอ่ื น
สำนักออกแบบวศิ วกรรมและสถาปตั ยกรรม
19. นายสาธิต มณีผาย กรรมการและเลขานุการ
ผเู้ ชย่ี วชาญดา้ นวิศวกรรมโยธา (ดา้ นออกแบบและคำนวณ)
สำนกั ออกแบบวิศวกรรมและสถาปตั ยกรรม
20. นายถิระศกั ดิ์ ทองศิริ กรรมการและผู้ช่วยเลขานุการ
วศิ วกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ
กลมุ่ ออกแบบระบบชลประทาน
สำนกั ออกแบบวศิ วกรรมและสถาปตั ยกรรม
21. นางสาวอไุ รรัตน์ จงก้องเกยี รต ิ กรรมการและผู้ชว่ ยเลขานกุ าร
วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ
กลุ่มออกแบบระบบชลประทาน
สำนกั ออกแบบวศิ วกรรมและสถาปัตยกรรม
โดยใหค้ ณะกรรมการพจิ ารณาแบบมาตรฐานมอี ำนาจและหนา้ ทดี่ ังน้
ี
1. พิจารณาแบบมาตรฐานในดา้ นต่างๆ ของกรมชลประทาน
2. พิจารณารายละเอียดหลักเกณฑ์การออกแบบ คู่มือการใช้แบบมาตรฐานและ
รายละเอียดคุณลกั ษณะทางวิศวกรรม
3. ปรับปรุงเอกสารมาตรฐานและแบบมาตรฐานท่ีใช้ปฏิบัติงานให้สามารถนำไปใช้ได
้
อย่างมีประสทิ ธภิ าพ
4. แตง่ ต้งั คณะทำงานจัดทำแบบมาตรฐานดา้ นตา่ ง ๆ เพ่ิมเตมิ ตามสมควร
ทัง้ น้ี ตง้ั แต่บดั นี้เปน็ ตน้ ไป โดยให้งานดงั กลา่ วแลว้ เสรจ็ ภายในปีงบประมาณ 2553
สงั่ ณ วนั ท่ี 18 พฤศจกิ ายน พ.ศ. 2552
(นายชลติ ดำรงศกั ดิ์)
อธิบดกี รมชลประทาน
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรตี
คำสง่ั คณะกรรมการพิจารณาแบบมาตรฐาน
ที่ 1 /2552
เรอ่ื ง แต่งตงั้ คณะทำงานจดั ทำแบบมาตรฐาน
ตามคำส่ังกรมชลประทาน ท่ี ข 996/2552 ลงวันที่ 18 พฤศจิกายน 2552 ได้แต่งตั้ง
คณะกรรมการพจิ ารณาแบบมาตรฐานไวแ้ ลว้ นัน้
เนื่องจากมีปริมาณงานในการดำเนินการจัดทำแบบมาตรฐาน เอกสารแนวทางหลักเกณฑ์
การออกแบบ คู่มือการใช้แบบมาตรฐานของงานในด้านต่างๆ มีจำนวนมาก รวมทั้งงานติดตามประเมิน
ผลการใช้แบบมาตรฐานที่ได้ดำเนินการเสร็จเรียบร้อยแล้ว ในปีงบประมาณ พ.ศ. 2553 จึงแต่งตั้ง
คณะทำงานจัดทำแบบมาตรฐานแบ่งตามลกั ษณะงาน จำนวน 10 คณะทำงาน ดังนี
้
1. คณะทำงานจดั ทำมาตรฐานการออกแบบเขอื่ นเกบ็ กกั นำ้ และอาคารประกอบ ประกอบดว้ ย
1. รองอธบิ ดฝี า่ ยวิชาการ รธว. ทีป่ รกึ ษาคณะทำงาน
2. นายประวิทย์ ตุลาพันธ ์ุ ผส.อบ. ทป่ี รกึ ษาคณะทำงาน
3. นายสมเกียรติ ตง้ั จตุพร ผชช.อบ.7 ประธานคณะทำงาน
4. นายมานพ บณุ ยประสิทธ ิ์ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ คณะทำงาน
5. นายจริ พงค์ กริตประนาม วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ คณะทำงาน
6. นายไกรฤกษ์ อนิ ท์ชยะนันท์ วศิ วกรโยธาชำนาญการพิเศษ คณะทำงาน
7. นายประวติ ร ปวิ าวัฒนพานิช วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
8. นางสาวอัจฉรา ชุมวงศ ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
9. นายพิเชษฐ รัตนปราสาทกลุ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
10. นายทตั เทพ เยาวพฒั น ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
11. นายยิง่ ยง แพร่ภญิ โญ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
12. นางอรณุ วรรณ อ่ำสกุล วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
13. นายณฐั จันทนนฎั วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
14. นายชมุ พล นพรตั น ์ นายชา่ งโยธาอาวโุ ส คณะทำงาน
15. นายวิกรม เปรมะสตุ วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
และเลขานกุ าร
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
16. นายคารม โชติกรกลุ วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
และผูช้ ว่ ยเลขานกุ าร
เพ่ือรับผิดชอบดำเนินการจัดทำมาตรฐานการออกแบบเข่ือนเก็บกักน้ำและอาคารประกอบ
ดงั น
ี้
1. ปรับแกเ้ อกสารแนวทางและหลักเกณฑ์การออกแบบเขื่อนเกบ็ กกั นำ้ และอาคารประกอบ
ที่ได้รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการพิจารณาแบบมาตรฐานกรมชลประทานในปีงบประมาณ
พ.ศ. 2552
2. ปรับแก้เอกสารตัวอย่างรายการคำนวณเกี่ยวกับเขื่อนดินและหรืออาคารประกอบท่ีได้
รับการตรวจสอบจากคณะกรรมการพิจารณาแบบมาตรฐานกรมชลประทานในปงี บประมาณ พ.ศ. 2552
3. งานอน่ื ๆ ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
2. คณะทำงานจดั ทำแบบมาตรฐานเขอื่ นทดนำ้ ฝาย และอาคารประกอบ ประกอบดว้ ย
1. รองอธบิ ดีฝา่ ยวชิ าการ รธว. ที่ปรกึ ษาคณะทำงาน
2. นายประวิทย์ ตลุ าพนั ธ ุ์ ผส.อบ. ท่ีปรกึ ษาคณะทำงาน
3. นายพเิ ชษฐ์ ศุภฤกษ ์ ผชช.อบ.8 ทป่ี รกึ ษาคณะทำงาน
4. นายไพศาล แสงจินดา ผชช.อบ.2 ประธานคณะทำงาน
5. นายสมพิตร พงศช์ ัยกรุง วศิ วกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ คณะทำงาน
6. นางสาวอไุ รรัตน์ จงก้องเกยี รติ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ คณะทำงาน
7. นายชัยณรงค์ คลอ่ งวานิชย ์ นายชา่ งเคร่ืองกลชำนาญงาน คณะทำงาน
8. ว่าท่ี ร.ต. สำรวย สนั ตปิ าต ี วิศวกรโยธาปฏิบตั กิ าร คณะทำงาน
9. นายชัชพชั ร์ ธรรมอาชีพ นายช่างโยธาชำนาญงาน คณะทำงาน
10. นายถิระศักดิ์ ทองศิริ วิศวกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ คณะทำงาน
และเลขานุการ
เพ่ือรับผดิ ชอบดำเนินการจดั ทำแบบมาตรฐานเข่อื นทดนำ้ ฝาย และอาคารประกอบดงั น
้ี
1. แบบมาตรฐานสถานสี ูบนำ้ แบบแพสบู (ต่อเน่อื งจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
2. แบบมาตรฐานเสริมสันฝาย Ogee กำแพงเอียงด้วยฝายยาง (ต่อเน่ืองจาก
ปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
3. เอกสารแนวทางและหลักเกณฑก์ ารออกแบบสถานสี บู น้ำแบบถาวร
4. งานอ่ืนๆ ทไ่ี ด้รับมอบหมาย
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
3. คณะทำงานจดั ทำแบบมาตรฐานระบบสง่ นำ้ และระบายนำ้ ประกอบดว้ ย
1. รองอธบิ ดีฝา่ ยวิชาการ รธว. ทีป่ รกึ ษาคณะทำงาน
2. นายประวทิ ย์ ตลุ าพันธุ ์ ผส.อบ. ทป่ี รึกษาคณะทำงาน
3. นายศุภชัย รงุ่ ศร ี ผส.วพ. ทีป่ รึกษาคณะทำงาน
4. นายวริ ตั น์ นาคเรอื ง ผชช.อบ.9 ประธานคณะทำงาน
5. นางสาวอุไรรัตน์ จงก้องเกยี รต ิ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ คณะทำงาน
6. นายจิรศักดิ์ หลำสาคร วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
7. นางสาวอจั ฉรา ชมุ วงศ ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
8. นายอิทธิ แมน่ แมน วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
9. นายธวัช ธวชั ศิรโิ รจน์ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
และเลขานกุ าร
เพ่ือรับผิดชอบดำเนินการจัดทำแนวทางและหลักเกณฑ์การออกแบบระบบท่อส่งน้ำรับ
แรงดนั และงานอน่ื ๆ ทไ่ี ดร้ ับมอบหมาย
4. คณะทำงานจดั ทำแบบมาตรฐานอาคารในระบบส่งนำ้ และระบายนำ้ ประกอบดว้ ย
1. รองอธิบดฝี า่ ยวิชาการ รธว. ทป่ี รกึ ษาคณะทำงาน
2. นายประวทิ ย์ ตุลาพันธ์ุ ผส.อบ. ทีป่ รึกษาคณะทำงาน
3. นายพิเชษฐ์ ศุภฤกษ์ ผชช.อบ.8 ประธานคณะทำงาน
4. นายสมชยั สันตริ งยุทธ วิศวกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ คณะทำงาน
5. นายถิระศักด์ิ ทองศิร ิ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ คณะทำงาน
6. นายธวชั ธวัชศริ โิ รจน์ วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
7. นายประวิณ จา่ ภา วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
8. นายสุทธชิ ัย พุทธิรตั น ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
9. นางสาวสมบูรณ์ ช้อนทอง วิศวกรโยธาปฏิบัติการ คณะทำงาน
10. นายไชยวัฒน์ ศิริรัตนว์ รสกลุ นายช่างโยธาชำนาญงาน คณะทำงาน
11. นางลำจวน ชมประดิษฐ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงานและ
เลขานกุ าร
เพ่อื รับผิดชอบดำเนนิ การจัดทำแบบมาตรฐานอาคารในระบบส่งนำ้ และระบายนำ้ ดงั น
้ี
1. อาคารทดน้ำกลางคลอง (ตอ่ เนื่องจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
2. อาคารทอ่ ระบายนำ้ ปลายคลอง (ต่อเนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
3. อาคารท่อลอดคลองส่งนำ้ (ทอ่ เหลยี่ ม) (ตอ่ เนอ่ื งจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
4. อาคารท่อส่งนำ้ เขา้ นา (ต่อเนือ่ งจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
5. Waste way (ต่อเนอ่ื งจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
6. งานอ่ืนๆ ที่ไดร้ ับมอบหมาย
5. คณะทำงานจัดทำแบบมาตรฐานโครงการชลประทานขนาดเล็ก ประกอบดว้ ย
1. รองอธิบดีฝา่ ยวิชาการ รธว. ทีป่ รกึ ษาคณะทำงาน
2. นายประวทิ ย์ ตุลาพันธ ์ุ ผส.อบ. ทป่ี รกึ ษาคณะทำงาน
3. นายไพศาล แสงจินดา ผชช.อบ.2 ท่ีปรกึ ษาคณะทำงาน
4. นายบุญสนอง สชุ าติพงศ ์ ผชช.อบ.6 ประธานคณะทำงาน
5. นายภาณุพนั ธ์ อาจสาลี วิศวกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ คณะทำงาน
6. นายไกรฤกษ์ อินท์ชยะนนั ท ์ วศิ วกรโยธาชำนาญการพิเศษ คณะทำงาน
7. นายพงศธร ศิรอิ อ่ น วิศวกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ คณะทำงาน
8. นางสาวพรทิพย์ ศรสี มญา วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
9. นายสุรพันธ์ุ ไชยชนะ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
10. นายเทอดทลู คลา้ ยขยาย วิศวกรชลประทานชำนาญการ คณะทำงาน
11. นายธีรเนตร ดวงเนตร นายช่างโยธาชำนาญงาน คณะทำงาน
12. นางสาวอุไรรตั น์ จงก้องเกียรติ วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ คณะทำงาน
และเลขานกุ าร
เพือ่ รับผดิ ชอบดำเนนิ การจัดทำเอกสารมาตรฐานโครงการชลประทานขนาดเล็กดงั นี
้
1. โครงการชลประทานขนาดเลก็ ประเภทอา่ งเกบ็ นำ้ (ตอ่ เนอ่ื งจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
2. คูม่ อื การใช้แบบมาตรฐานโครงการชลประทานขนาดเล็กประเภท ประเภทอา่ งเก็บน้ำ
3. งานอื่น ๆ ที่ได้รับมอบหมาย
6. คณะทำงานจัดทำแบบมาตรฐานระบบชลประทานในแปลงนา ประกอบดว้ ย
1. รองอธบิ ดีฝา่ ยวชิ าการ ท่ีปรกึ ษาคณะทำงาน
2. นายประวิทย์ ตุลาพนั ธ ์ุ ผส.อบ. ทป่ี รึกษาคณะทำงาน
3. นายรงั สรรค์ จนิ จาคาม วศิ วกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ ประธานคณะทำงาน
4. นายเศรษฐสดุ กฤดากร ณ อยธุ ยา วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
5. นายวรี ะศกั ด์ิ ตันชูวงศ ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
6. นายสธุ รรม ชนุ เจรญิ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
7. นายยทุ ธนา จิตวรานนท ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
8. นายรังสรรค์ ศรสี ขุ วงศ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
9. นายภานกุ ร ชว่ ยค้ำช ู วศิ วกรโยธาปฏิบตั กิ าร คณะทำงาน
10. นายธรณิศ ศรนี ุน่ วิศวกรโยธาปฏิบตั กิ าร คณะทำงาน
11. นายวัฒนาเกยี รติ ชมสวน วิศวกรโยธาปฏิบตั ิการ คณะทำงาน
12. นายวัฒนา จันทร์ทอง วิศวกรโยธาปฏิบัตกิ าร คณะทำงาน
13. นายทวศี กั ด์ิ เดชานตุ ิ นายชา่ งโยธาชำนาญงาน คณะทำงาน
14. นายโสภณ ปานพฤกษา นายชา่ งโยธาชำนาญงาน คณะทำงาน
15. นายสทุ ธิชยั พทุ ธิรตั น ์ วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
และเลขานกุ าร
เพื่อรับผิดชอบดำเนินการปรับปรุงแบบมาตรฐานระบบชลประทานในแปลงนาที่ดำเนินการ
ไวใ้ นปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 และจดั ทำแบบมาตรฐานระบบชลประทานในแปลงนา ดงั นี้
1. แบบมาตรฐานอาคารท่อปากคูซอย แบบท่ี 5
2. แบบมาตรฐานอาคารท้ิงนำ้
3. งานอื่นๆ ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
7. คณะทำงานจัดทำแบบมาตรฐานงานสถาปตั ยกรรม ประกอบด้วย
1. รองอธบิ ดีฝา่ ยวชิ าการ รธว. ทป่ี รกึ ษาคณะทำงาน
2. นายประวิทย์ ตลุ าพันธ ุ์ ผส.อบ. ทปี่ รกึ ษาคณะทำงาน
3. นายสเุ ทพ สมเจรญิ ผชช.อบ. ประธานคณะทำงาน
4. นางสาวมนสกิ าร ปานิสวสั ด์ิ สถาปนิกชำนาญการพเิ ศษ คณะทำงาน
5. นายสรุ ชยั วีระจิตรเสริมชยั สถาปนกิ ชำนาญการพเิ ศษ คณะทำงาน
6. นายทวีศกั ด์ิ เอื้อเฟือ้ สถาปนกิ ชำนาญการ คณะทำงาน
7. นายโอภาส โภคากร สถาปนกิ ชำนาญการ คณะทำงาน
8. นายภคั พงศ์ อัครเศรณี สถาปนกิ ชำนาญการ คณะทำงาน
9. นายสทิ ธศิ ักด์ิ ประสานทอง สถาปนกิ ชำนาญการ คณะทำงาน
10. นายสุรตั น์ นะมะหตุ สถาปนิกชำนาญการ คณะทำงาน
11. นางสาวศศิโสภติ ลีนะเสน มัณฑนากรปฏบิ ัติการ คณะทำงาน
12. นายสัญชัย บัวทรง นายช่างศิลป์ชำนาญงาน คณะทำงาน
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
13. นายอนิรุจต์ ไชยชมภ ู นายชา่ งศลิ ป์ชำนาญงาน คณะทำงาน
14. นางสาวกัญภัค ฉันทศ์ ริ เิ ดชา นายชา่ งศลิ ปช์ ำนาญงาน คณะทำงาน
15. นายสิปปภาส คำสทิ ธิบรรณ นายช่างศลิ ป์ชำนาญงาน คณะทำงาน
16. นายฑีฆายุ เพ่ิมสิน สถาปนิกปฏิบตั ิการ คณะทำงาน
และเลขานุการ
17. นางสาวธญั ญากร ชาล ี สถาปนิกปฏิบตั ิการ คณะทำงาน
และผู้ชว่ ยเลขานุการ
เพ่ือรับผิดชอบดำเนินการปรับปรุงแบบมาตรฐานงานสถาปัตยกรรมที่ดำเนินการไว้ใน
ปีงบประมาณ พ.ศ. 2545 ดังน้
ี
1. แบบมาตรฐานบ้านพักคนงาน 8 ครอบครวั
2. แบบมาตรฐานบ้านพกั ข้าราชการ ระดับ 1-2
3. งานอ่ืนๆ ทไี่ ด้รบั มอบหมาย
8. คณะทำงานจัดทำแบบมาตรฐานงานวศิ วกรรมโครงสรา้ ง ประกอบด้วย
1. รองอธิบดีฝา่ ยวชิ าการ ท่ีปรกึ ษาคณะทำงาน
2. นายประวทิ ย์ ตุลาพนั ธ์ ุ ผส.อบ. ท่ีปรกึ ษาคณะทำงาน
3. นายสาธิต มณผี าย ผชช.อบ.3 ประธานคณะทำงาน
4. นายอภชิ าติ ธาราเวชรักษ์ วิศวกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ คณะทำงาน
5. นายสมพิตร พงศช์ ยั กรุง วิศวกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ คณะทำงาน
6. นายชุตินทร เพ็ชรไชย วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
7. นายธีระชยั เนียมหลวง วิศวกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
8. นายวรฒุ พจนศ์ ิลปชัย วิศวกรโยธาปฏบิ ัติการ คณะทำงาน
9. นายนฤพนธ์ ภานศุ รี วศิ วกรโยธาปฏิบตั กิ าร คณะทำงาน
10. นายกติ ติศักดิ์ พิทกั ษ์วงศ์ วิศวกรโยธาปฏิบตั กิ าร คณะทำงาน
และเลขานกุ าร
11. นายกีรติ ปกินนกะ วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
เพ่ือรับผิดชอบดำเนนิ การจดั ทำแบบมาตรฐานวิศวกรรมโครงสรา้ ง ดังนี
้
1. กลุ่มอาคารสำนกั งาน
1.1 ทที่ ำการองค์กรผูใ้ ช้น้ำชลประทาน
2. กล่มุ อาคารปฏิบัติการด้านวิศวกรรม
2.1 อาคารทดลองดา้ นวศิ วกรรม (ต่อเน่อื งจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
2.2 อาคารทท่ี ำการสอ่ื สารขนาดใหญ่ (ต่อเน่อื งจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
2.3 อาคารท่ีทำการส่อื สารขนาดเลก็ (ต่อเนอ่ื งจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
2.4 อาคารควบคุมบานระบายขนาดใหญ่
3. กลมุ่ อาคารโรงงานซ่อมบำรุงและโรงเก็บพสั ด
ุ
3.1 อาคารโรงงานซ่อมบำรงุ ขนาดใหญ่ (ต่อเน่ืองจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
3.2 อาคารโรงงานซ่อมบำรงุ ขนาดกลาง (ตอ่ เน่อื งจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
3.3 อาคารโรงงานซอ่ มบำรุงขนาดเล็ก (ต่อเนอ่ื งจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
3.4 อาคารโรงเกบ็ พสั ดขุ นาดใหญ่ (ต่อเนื่องจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
3.5 อาคารโรงเกบ็ พสั ดขุ นาดกลาง (ตอ่ เน่ืองจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
3.6 อาคารโรงเกบ็ พัสดขุ นาดเลก็ (ต่อเนื่องจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
4. กล่มุ อาคารประกอบและสว่ นสนับสนนุ อนื่
4.1 อาคารอเนกประสงคข์ นาดใหญ่ (ต่อเน่อื งจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
4.2 อาคารอเนกประสงคข์ นาดกลาง (ต่อเน่ืองจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
4.3 อาคารอเนกประสงคข์ นาดเล็ก (ต่อเนือ่ งจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
4.4 อาคารรกั ษาความปลอดภยั
4.5 อาคารจอดรถยนต์ (ต่อเน่ืองจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
4.6 อาคารปอ้ มยามขนาดเลก็ (ตอ่ เน่อื งจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
4.7 ป้ายโครงการขนาดใหญ่ (ตอ่ เน่อื งจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
4.8 เสาธงขนาดใหญ่ (ตอ่ เน่อื งจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
4.9 รวั้ คอนกรตี บล็อก
4.10 รัว้ คอนกรีตบลอ็ กลวดหนาม
4.11 ร้ัว ประตู ปา้ ย
4.12 รว้ั เหลก็ ดัดและประตู
4.13 ร้วั ตาข่ายและประต
ู
4.14 รว้ั ลวดหนาม
5. งานอืน่ ๆ ท่ีได้รบั มอบหมาย
9. คณะทำงานจัดทำแบบมาตรฐานบานระบายและเคร่อื งกลไก ประกอบด้วย
1. รองอธิบดฝี ่ายวิชาการ รธว. ทปี่ รกึ ษาคณะทำงาน
2. นายประวิทย์ ตุลาพันธ์ุ ผส.อบ. ทปี่ รกึ ษาคณะทำงาน
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
3. นายจรสั เลา้ โสภาภิรมย์ วศิ วกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ ประธานคณะทำงาน
4. นายภาวัต นวลสกุลกฤป วิศวกรโยธาชำนาญการพิเศษ คณะทำงาน
5. นายรงั ษี เฟือ่ งรอด วิศวกรเครือ่ งกลชำนาญการ คณะทำงาน
6. นายธรี พงศ์ พรมนิมิตร วิศวกรเครื่องกลชำนาญการ คณะทำงาน
7. นายธนิต คำมอี ้าย วิศวกรชลประทานชำนาญการ คณะทำงาน
8. นายสัมฤทธ์ิ พนั ธ์ใุ หม ่ นายชา่ งโยธาชำนาญงาน คณะทำงาน
9. นายศิรวิทย์ นะวะยศ วศิ วกรโยธาปฏิบตั กิ าร คณะทำงาน
10. นายอรรคเดช ฤกษพ์ บิ ูลย ์ วิศวกรโยธาปฏิบัติการ คณะทำงาน
11. นายธนนท์ ผกู พนั ธ ์ วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
และเลขานกุ าร
เพื่อรับผดิ ชอบดำเนนิ การจดั ทำแบบมาตรฐานบานระบายและเคร่ืองกลไก ดงั น้
ี
1. บานระบายฝาท่อรับน้ำทางเดียว (ระดับน้ำสูงไม่เกิน 3.00 ม.) ขนาด 2.75x2.75 ม.
(ต่อเน่อื งจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
2. เครอ่ื งยก ขนาด 4 ตัน (ตอ่ เน่ืองจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
3. งานอน่ื ๆ ทไ่ี ด้รบั มอบหมาย
10. คณะทำงานจดั ทำมาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม ประกอบดว้ ย
1. รองอธิบดฝี ่ายวชิ าการ รธว. ท่ปี รกึ ษาคณะทำงาน
2. นายประวทิ ย์ ตุลาพันธ ุ์ ผส.อบ. ทีป่ รึกษาคณะทำงาน
3. นายจรสั เลา้ โสภาภริ มย ์ วศิ วกรโยธาชำนาญการพเิ ศษ ประธานคณะทำงาน
4. นายสรุ ชัย ทิพย์นอ้ ยสงา่ วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
5. นายเจษฎา อชุ ชิน วิศวกรเครอ่ื งกลชำนาญการ คณะทำงาน
6. นายรังษี เฟ่อื งรอด วศิ วกรเครอื่ งกลชำนาญการ คณะทำงาน
7. นายนภดล ปิยะธรรมธาดา วศิ วกรไฟฟ้าชำนาญการ คณะทำงาน
8. นายเฉลิมศกั ด์ิ พทุ รสเจริญ นายช่างโยธาอาวโุ ส คณะทำงาน
9. นายธนิต คำมอี ้าย วศิ วกรชลประทานชำนาญการ คณะทำงาน
10. นางมงคลทิพย์ วรรณา นายช่างโยธาชำนาญงาน คณะทำงาน
11. นางสาววศพร เตชะพรี พานิช วศิ วกรโยธาชำนาญการ คณะทำงาน
และเลขานุการ
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
เพื่อรับผิดชอบดำเนินการจัดทำมาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลักษณะทางวิศวกรรม ดังน
้ี
1. กำหนดคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม (ตอ่ เนอื่ งจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552) ประกอบดว้ ย
1.1 งานดิน งาน Gabion และ Mattress งานเหล็กรูปพรรณ งานถนน และงาน
ระบายนำ้ (ต่อเนอ่ื งจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
1.2 งานแผ่นใยสังเคราะห์ งานท่อในงานชลประทาน งานสะพานคอนกรีตเสริมเหล็ก
และคอนกรตี อัดแรง (ตอ่ เน่อื งจากปงี บประมาณ พ.ศ. 2552)
2. จัดทำมาตรฐาน TOR (Term of Reference) ประกอบการจัดจ้างสำรวจ-ออกแบบ
(ตอ่ เนื่องจากปีงบประมาณ พ.ศ. 2552)
3. งานอื่นๆ ท่ไี ด้รบั มอบหมาย
โดยให้คณะทำงานจดั นำแบบมาตรฐานทกุ คณะมีหน้าที่ดังน
้ี
1. กำหนดหลักเกณฑ์เพื่อการออกแบบตามลักษณะงานทร่ี ับผิดชอบของแต่ละคณะทำงาน
2. พจิ ารณาจดั ทำแบบมาตรฐาน และคมู่ อื การใชแ้ บบมาตรฐานตามลกั ษณะงานทรี่ บั ผดิ ชอบ
ของแต่ละคณะทำงาน
3. พจิ ารณาจัดทำมาตรฐานรายละเอียดและคุณลกั ษณะทางวิศวกรรม
4. ติดตามประเมนิ ผลงานท่ไี ด้ดำเนินการเสรจ็ เรียบร้อยแลว้
ทง้ั น้ี ใหเ้ สรจ็ สิน้ ภายในปงี บประมาณ พ.ศ. 2553
สงั่ ณ วนั ท่ี 4 ธนั วาคม พ.ศ. 2552
(นายประสงค์ เสี่ยงโชคอยู่)
รองอธบิ ดผี า่ ยวชิ าการ
ประธานคณะกรรมการพิจารณาแบบมาตรฐาน
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
คำนำ
เอกสารมาตรฐานรายละเอียดและคุณลักษณะทางวิศวกรรม งานคอนกรีต เป็น
เอกสารทางวิชาการเรื่องหนึ่งท่ีได้ทำข้ึนเพ่ือเป็นแนวทางสำหรับ วิศวกร และนายช่าง ที่ปฏิบัติ
งานในกรมชลประทานและหน่วยงานท่ีเกี่ยวข้อง เพ่ือที่จะได้ใช้เป็นเอกสารมาตรฐานสำหรับการ
ศึกษา ค้นคว้าเพิ่มเติม และนำไปประยุกต์ใช้ในการปฏิบัติงานให้ถูกต้องตามหลักวิชาการ และให้
เป็นแนวทางเดียวกันตามวัตถุประสงค์ของกรมชลประทานท่ีต้องการให้มีการกำหนดมาตรฐานใน
การปฏบิ ตั ิงานในดา้ นตา่ งๆ ขน้ึ
คณะทำงานขอขอบคณุ ทกุ ท่านที่มสี ว่ นทำใหเ้ อกสารชุดนีม้ คี วามสมบรู ณ
์
คณะทำงานจัดทำมาตรฐาน
รายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวิศวกรรม
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
สารบัญ
หนา้
1
1
เรอื่ ง 1
3
1. ขอบเขตของงาน 3
2. สว่ นประกอบของคอนกรีต 3
2.1 ปนู ซเี มนต์ 4
2.2 มวลรวมละเอียด 4
2.3 มวลรวมหยาบ 5
2.4 น้ำผสมคอนกรตี 5
2.5 แรผ่ สมเพมิ่ 8
2.6 สารเคมผี สมเพิ่มสำหรบั คอนกรตี 9
3. การผลิตคอนกรีต 10
3.1 อัตราสว่ นผสมของคอนกรตี 10
3.2 การผสมคอนกรตี 11
3.3 คอนกรตี ผสมเสรจ็ 12
3.4 อุณหภมู ิคอนกรตี 16
3.5 ความข้นเหลวของคอนกรีต
3.6 การเตรยี มเพอ่ื การเทคอนกรีต 18
3.7 การลำเลียง การเท และการทำคอนกรตี ใหแ้ น่น 18
3.8 การทดสอบหาค่าการยุบตัวของคอนกรตี (Slump Test) 18
โดยการใชก้ รวยทดสอบการยบุ ตวั (Slump Cone)
20
3.9 การตรวจสอบคณุ ภาพคอนกรตี 21
3.10 การเก็บตวั อยา่ งคอนกรีต 22
3.11 การหล่อตวั อย่างแทง่ คอนกรีต และการแกะแบบหล่อ 22
3.12 การทดสอบตัวอย่างแท่งคอนกรตี
3.13 การบม่ คอนกรีต
3.14 การปอ้ งกนั ผวิ หนา้ คอนกรตี
3.15 การทำเคร่อื งหมายบนผิวหนา้ คอนกรตี
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรตี
สารบัญ (ตอ่ )
หนา้
23
25
เรื่อง 27
3.16 งานแบบหล่อ 29
3.17 การซ่อมคอนกรีต 32
3.18 การเก็บตัวอย่างวัสดกุ อ่ สร้างเพอ่ื ทำการทดสอบ 32
และกำหนดอัตราส่วนผสม
32
3.19 ความคลาดเคลือ่ นของอาคารคอนกรตี เสรมิ เหลก็ 34
3.20 การทำชอ่ งคอนกรตี ท่ีเวน้ ไว้ (Blockout) 34
4. งานรอยต่อคอนกรตี 36
4.1 ชนดิ ของรอยตอ่ คอนกรตี 36
4.2 การเคลอื บผิวเพื่อแยกเนื้อคอนกรีตจากกัน 36
4.3 วัสดสุ ำหรบั รอยต่อ 36
5. งานคอนกรีตพ่น (Shotcrete) 36
5.1 วัสดุ 37
5.2 ตะแกรงเหล็ก 38
5.3 การผสม 38
5.4 การปฏิบตั งิ านคอนกรตี พน่
5.5 กำลงั อดั ของคอนกรีตพ่น
5.6 การทดสอบกำลงั อดั
5.7 การตรวจสอบ หรอื การทดสอบทั่วๆไป
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
1
งานคอนกรตี (CONCRETE WORKS)
1. ขอบเขตของงาน
งานคอนกรตี หมายถงึ การจดั หาวสั ดุ อปุ กรณ์ แรงงานและเครอ่ื งจกั รเครอ่ื งมอื ในการผลติ
ขนย้ายก่อสร้าง เท ตกแตง่ บ่ม จดั ทำรอยตอ่ การเสรมิ เหล็ก เหล็กยึด และรื้อแบบพร้อมน่ังร้าน
ตลอดจนงานอ่ืนๆ ทเ่ี กยี่ วเน่ือง เพ่อื ใหง้ านก่อสรา้ งได้ลักษณะ แนว ระดับ ขนาด รายละเอียดอน่ื ๆ และ
คุณภาพของคอนกรีตในแต่ละส่วนต้องเป็นไปตามที่กำหนดไว้ในแบบก่อสร้างของอาคารแต่ละแห่ง
การกอ่ สรา้ งงานคอนกรตี ตอ้ งมีวศิ วกรท่มี คี วามรู้ความชำนาญเก่ยี วกบั การก่อสร้างงานคอนกรีตประจำอยู่
ท่ีสถานที่ก่อสร้าง รวมทั้งจะต้องมีการวางแผนงานก่อสร้าง และมีเอกสารแสดงขั้นตอนการก่อสร้างที่
ชัดเจนก่อนทจ่ี ะเริ่มงานก่อสร้าง
2. สว่ นประกอบของคอนกรีต
คอนกรีตประกอบด้วยส่วนผสมของปูนซเี มนตป์ อรต์ แลนด์ มวลรวมละเอียด มวลรวมหยาบ
น้ำ หรืออาจมีแร่ผสมเพ่ิม (Mineral Admixture) และสารเคมีผสมเพ่ิม (Chemical Admixture)
สำหรับคอนกรีตรวมอยู่ด้วย ซ่ึงส่วนผสมทั้งหมดนี้จะต้องผสมคลุกเคล้ากันอย่างดี และมีความข้นเหลวที่
เหมาะสมกบั ประเภทของงาน และเมอื่ ทำการบ่มอย่างพอเพียงและถูกต้อง คอนกรีตจะตอ้ งมคี วามคงทน
ความทึบนำ้ และความแข็งแรงตามที่กำหนดสำหรับคุณภาพของงานอาคารตา่ งๆ
2.1 ปนู ซเี มนต์ (Cement)
ปูนซีเมนต์ที่ใช้ในการผสมคอนกรีตหากมิได้กำหนดไว้เป็นอย่างอื่น จะต้องเป็นปูนซีเมนต์
ปอร์ตแลนด์ประเภท 1 และมีคุณสมบัติตามมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม มอก. 15-2532 การใช
้
ปนู ซเี มนต์ประเภท 2,3,4 หรอื 5 จะตอ้ งเลือกปนู ซเี มนต์ให้เหมาะกบั ลักษณะงานแต่ละงาน ตามทร่ี ะบุ
ในแบบ หรือต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการตรวจการจ้างเสียก่อน ปูนซีเมนต์ที่ใช้อาจบรรจุในถุง
กระดาษชนิดหลายชั้นหรือเป็นถัง (Bulk) ก็ได้ ปูนซีเมนต์ท่ีใช้ต้องเป็นปูนซีเมนต์ท่ีใหม่ ไม่เสื่อมคุณภาพ
และไม่เปียกชนื้ หรอื จบั ตวั เปน็ กอ้ น
2.1.1 การทดสอบ
ก่อนขนส่งปูนซีเมนต์มายังสถานท่ีก่อสร้าง ผู้รับจ้างจะต้องส่งผลการทดสอบคุณสมบัติของ
ปนู ซีเมนต์ที่รบั รองโดยผ้ผู ลิต ซงึ่ เป็นชนิดเดียวกนั กับปูนซีเมนตท์ ี่จะนำมาใช้ เพ่ือให้คณะกรรมการตรวจ
การจา้ งพจิ ารณาเห็นชอบ โดยสง่ ผลการทดสอบคุณสมบัติปูนซีเมนต์ตามมาตรฐานการทดสอบ ดังนี้
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
2
ความคงทน (Soundness)
ASTM C151
ระยะเวลากอ่ ตวั (Time of Setting)
ASTM C191
แรงอัด (Compressive Strength)
ASTM C109
การก่อตวั ผดิ ปกติ (False Set)
ASTM C451
ความละเอียด (Fineness Test)
ASTM C184
ความร้อนทีเ่ กดิ ข้นึ จากปฎิกริ ิยาระหวา่ งซเี มนต์กับนำ้
ASTM C186
(Heat of Hydration)
ปูนซีเมนต์ท่ีขนส่งไปเก็บไว้เพ่ือใช้งานบริเวณสถานที่ก่อสร้างต้องได้รับการตรวจสอบ โดย
การทดสอบตัวอย่าง จำนวนตัวอย่าง (ตามข้อ 3.18) และวิธีการทดสอบ จะต้องได้รับความเห็นชอบ
จากผ้คู วบคมุ งานของผวู้ ่าจา้ ง ตามมาตรฐานการทดสอบดงั น้
ี
Time of Setting ASTM C191
Compressive Strength ASTM C109
False Set ASTM C451
Fineness Test ASTM C184
อนึ่ง ปูนซีเมนต์ท่ีไม่ผ่านการทดสอบจะต้องขนย้ายออกไปจากบริเวณก่อสร้างทันที และ
ห้ามมใิ หน้ ำปนู ซีเมนตท์ ข่ี นไปเกบ็ ไว้แต่ละเที่ยว ซ่ึงเก็บไวท้ ี่บริเวณกอ่ สร้างนานเกินกว่า 3 เดือน สำหรบั
ฤดแู ล้ง หรอื นานกว่า 1 เดอื น สำหรบั ฤดฝู นไปใชง้ านโดยเดด็ ขาด ยกเวน้ จะผา่ นมาตรฐานการทดสอบ
คณุ สมบัติและได้รบั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจการจา้ ง
2.1.2 การขนสง่
ปูนซีเมนต์ที่จะขนส่งจากโรงงานไปยังบริเวณก่อสร้าง จะต้องใช้อุปกรณ์ที่สามารถกัน
ละอองฝนหรือนำ้ หรอื ความช้ืนได้อย่างพอเพียง ปนู ซีเมนต์ถุงท่บี รรทุกในรถระหวา่ งขนสง่ จะตอ้ งคลุม
ดว้ ยผา้ ใบอยา่ งมดิ ชดิ สำหรบั ปนู ซเี มนตถ์ งั ถงั บรรจจุ ะตอ้ งเปน็ ชนดิ ปอ้ งกนั นำ้ ได้ ระหวา่ งการถา่ ยปนู ซเี มนต์
จากถงั ในรถบรรทุกไปสถู่ ังเก็บต้องมใิ หส้ ัมผสั ความช้ืนเป็นอันขาด
2.1.3 การเก็บรักษา
ผรู้ ับจ้างจะตอ้ งสรา้ งหอ้ งเก็บปูนซเี มนต์ ณ บริเวณก่อสร้างใหส้ ามารถกันนำ้ กนั ฝน และ
กันความชนื้ แกป่ นู ซเี มนตไ์ ด้เปน็ อยา่ งดี พน้ื ที่ใช้กองซีเมนตช์ นดิ บรรจุในถุง จะต้องยกสูงจากระดบั ทอ่ี าจมี
น้ำทว่ มถงึ หรอื มีความสูงจากพน้ื อยา่ งน้อย 30 ซม. การกองปูนซีเมนต์ชนดิ ถุง จะตอ้ งไม่กองซ้อนกนั สูง
เกนิ กวา่ 14 ถงุ สำหรบั ระยะเวลากองไมเ่ กนิ 1 เดอื น และ 7 ถงุ สำหรบั ระยะเวลาการกองเกนิ กวา่ 1 เดอื น
สำหรบั การเก็บปนู ซีเมนต์ถัง จะตอ้ งระมดั ระวังไม่ใหเ้ กดิ การแข็งตวั ในสว่ นหนึ่งสว่ นใดในถัง
การนำปูนซีเมนต์มาใช้ จะต้องให้เป็นไปตามลำดับระยะเวลาการเก็บก่อนหลัง ควรนำ
ปูนซีเมนต์ท่ีมีอายุการเก็บมากกว่ามาใช้งานก่อน ผู้รับจ้างต้องขนปูนซีเมนต์ไปไว้ ณ บริเวณสถานท่ี
ก่อสรา้ งในปริมาณท่ีพอเพียงท่จี ะไมท่ ำใหง้ านกอ่ สร้างลา่ ช้าอนั เน่ืองมาจากการขาดปูนซเี มนต์
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
3
2.2 มวลรวมละเอียด (Fine Aggregates)
มวลรวมละเอียดทใี่ ชใ้ นการผสมคอนกรีต ได้แก่ ทรายนำ้ จืด หรอื ทรายบก ทีม่ ีลกั ษณะหยาบ
เป็นเม็ดแกร่ง สะอาด ปราศจากสารอินทรีย์ และสิ่งไม่พึงประสงค์เจือปน ทรายผสมคอนกรีตจะต้องมี
ขนาดอนุภาคลดหล่ันคละกันไปอย่างเหมาะสมจากขนาดใหญ่จนไปถึงขนาดเล็ก คุณสมบัติและการ
ทดสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานวัสดุวิศวกรรมของสำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน พ้ืนที่ที่จะกอง
ทรายจะตอ้ งสะอาดและมคี วามลาดใหร้ ะบายนำ้ ได้ การกองตอ้ งใหเ้ ป็นระเบียบโดยมคี อกกัน้
2.3 มวลรวมหยาบ (Coarse Aggregates)
2.3.1 ขนาดของมวลรวมหยาบ
มวลรวมหยาบที่จะนำมาใชผ้ สมคอนกรีตจะตอ้ งมีขนาดเหมาะสมกับลักษณะงาน โดยทัว่ ไป
ขนาดใหญ่สุดของมวลรวมหยาบจะต้องไมใ่ หญ่กว่า ของส่วนท่ีแคบทีส่ ุดของโครงสรา้ งคอนกรีตทจี่ ะเท
หรือต้องไม่ใหญ่กว่า ของระยะช่องว่างระหว่างเหล็กเสริม หรือต้องไม่ใหญ่กว่า ความหนาของ
แผน่ พนื้
2.3.2 หินย่อย
หินย่อยที่ใช้ผสมคอนกรีตต้องเป็นหินที่โม่ด้วยเครื่องจักร มีลักษณะรูปร่างเหล่ียมค่อนข้าง
กลม เปน็ หนิ ทแี่ ขง็ แกรง่ ทนทาน ไมผ่ กุ รอ่ น สะอาด ปราศจากสารอนิ ทรยี ์ และสงิ่ ไมพ่ งึ ประสงคเ์ จอื ปน
และมีขนาดลดหล่ันคละกันไปอย่างเหมาะสม คุณสมบัติและการทดสอบให้เป็นไปตามมาตรฐานวัสดุ
วศิ วกรรมของสำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน
2.3.3 กรวด
กรวดท่ีใช้ผสมคอนกรีตต้องเป็นกรวดท่ีมีลักษณะรูปร่างค่อนข้างกลม เป็นกรวดท่ีแข็งแกร่ง
ทนทาน ไม่ผุกร่อน สะอาด ปราศจากสารอินทรีย์ และสงิ่ ไมพ่ งึ ประสงค์เจอื ปน และมีขนาดลดหลัน่
คละกันไปอย่างเหมาะสม คณุ สมบัตแิ ละการทดสอบใหเ้ ป็นไปตามมาตรฐานวัสดุวศิ วกรรมของสำนกั วิจยั
และพัฒนา กรมชลประทาน
2.4 น้ำผสมคอนกรีต
น้ำที่ใช้ผสมคอนกรีตต้องเป็นน้ำจืดที่สะอาด ปราศจากกรด ด่าง น้ำมัน สารอินทรีย์ และ
สารเจือปนอน่ื ๆ ซง่ึ อาจสง่ ผลกระทบต่อคุณสมบตั ิของคอนกรีต
ในกรณีทีส่ งสัยวา่ น้ำดงั กล่าวใช้ผสมคอนกรีตได้หรือไม่ ให้สง่ ตัวอยา่ งน้ำทีจ่ ะใชผ้ สมคอนกรีต
ไปวเิ คราะห์ท่ีสำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
4
2.5 แรผ่ สมเพิม่ (Mineral Admixtures)
กรณีที่ต้องการให้คอนกรีตมีคุณสมบัติพิเศษ เช่น คอนกรีตต้านทานซัลเฟต คอนกรีต
ตา้ นทานน้ำทะเล หรือคอนกรีตสมรรถนะสงู สามารถใช้แรผ่ สมเพิม่ ในส่วนผสมคอนกรีตได้ เช่นเถ้าลอย
(Fly Ash) ซลิ ิกา (Silica Fume) และเถา้ จากเตาถลุงโลหะ (Blast Furnace Slag) เป็นต้น โดยแรผ่ สม
เพม่ิ ดังกล่าวสามารถทำปฏกิ ริ ิยาปอซโซลาน (Pozzolan) หรอื สามารถทำปฏกิ ิริยาไฮเดรช่ัน (Hydration)
เมื่อผสมน้ำ ซ่ึงแร่ผสมเพิ่มท่ีจะนำมาใช้ต้องผ่านการรับรองคุณภาพจากสถาบันที่เชื่อถือได้ โดยเถ้าลอย
ผงซิลิกา และเถ้าจากเตาถลุงโลหะ ต้องมีคุณลักษณะทางเคมี และคุณสมบัติทางฟิสิกส์ตามมาตรฐาน
ว.ส.ท. 1014 “ขอ้ กำหนดมาตรฐานวสั ดแุ ละการกอ่ สรา้ งสำหรบั โครงสรา้ งคอนกรีต” หรอื ASTM C618
และการทดสอบให้ปฏบิ ตั ติ าม ASTM C311
2.6 สารเคมผี สมเพิม่ สำหรับคอนกรตี (Chemical Admixture for Concretes)
ก่อนสารเคมีผสมเพิ่มสำหรับคอนกรีตไปใช้งาน ผู้รับจ้างต้องเสนอรายละเอียดคุณสมบัติ
ต่างๆ และมีเอกสารรับรองจากผู้ผลิตว่าสารเคมีผสมเพิ่มน้ันมีคุณสมบัติตามที่กำหนดตามมาตรฐาน
มอก. 733-2530 หรอื มอก. 985-2533 และตอ้ งไดร้ บั ความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจการจา้ ง
2.6.1 ลักษณะทว่ั ไป
ตามมาตรฐาน มอก. 733-2530 สารเคมีผสมเพิ่มสำหรับคอนกรีตจะต้องเป็นประเภทใด
ประเภทหนึง่ ดงั น้
ี
- ประเภท สารลดน้ำ (Water-Reducing Admixtures)
- ประเภท สารหนว่ งการกอ่ ตัว (Retarding Admixtures)
- ประเภท สารเรง่ การก่อตวั (Accelerating Admixtures)
- ประเภท สารลดนำ้ และหนว่ งการกอ่ ตวั (Water-Reducing and Retarding Admixtures)
- ประเภท สารลดนำ้ และเรง่ การกอ่ ตวั (Water-Reducing and Accelerating Admixtures)
- ประเภท สารลดนำ้ ระดับสูง (Water-Reducing, High Range Admixtures)
- ประเภท สารลดน้ำระดับสูงและหน่วงการก่อตัว (Water-Reducing, High Range
and Retarding Admixtures)
ตามมาตรฐาน มอก. 985-2533 สารเคมีผสมเพิ่มสำหรับคอนกรีตจะต้องเป็นประเภทใด
ประเภทหนงึ่ ดงั น้ี
- ประเภท สารเพื่อการไหล (Plasticizing Admixtures)
- ประเภท สารเพ่ือการไหลและหน่วงการก่อตัว (Plasticizing and Retarding
Admixtures)
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
5
2.6.2 หลกั การใช้งาน
ให้ใช้สารเคมผี สมเพม่ิ สำหรับคอนกรีต ตามหลักการต่อไปน้ี
(1) เมอื่ นบั เวลาตง้ั แตก่ ารเตมิ นำ้ ลงไปในคอนกรตี ขณะผสมถงึ เวลาเทลงแบบเกนิ กวา่ 120 นาที
(2) เมอ่ื โครงสรา้ งคอนกรีตมขี นาดใหญ่มากไม่สามารถเทคอนกรตี ต่อเนื่องกันไดต้ ลอด ทำให้
ช่วงเวลาการเทต่อเนอื่ งระหวา่ งคอนกรีตเดมิ และใหมเ่ กิน 120 นาท
ี
(3) เมอื่ ตอ้ งการคณุ สมบตั ขิ องคอนกรตี เปน็ พเิ ศษ เชน่ เพม่ิ ความสามารถในการทำงาน ลดนำ้
หรือเพิม่ ความตา้ นทานตา่ งๆ
ในกรณีที่ใช้สารเคมีผสมเพ่ิมสำหรับคอนกรีตมากกว่า 1 ชนิด สารเคมีผสมเพิ่มสำหรับ
คอนกรีตแตล่ ะชนิดจะตอ้ งระบชุ ่อื ย่ีห้อใหช้ ดั เจน กอ่ นใชส้ ารเคมผี สมเพม่ิ สำหรับคอนกรตี จะต้องเขยา่ ให้
เขา้ กนั โดยตลอด
2.6.3 วิธกี ารใช้
ผู้รับจ้างต้องส่งตัวอย่างสารเคมีผสมเพ่ิมสำหรับคอนกรีตเพ่ือทำการทดสอบคุณสมบัติท่ีห้อง
ปฎิบัติการภาคสนามของกรมชลประทาน หรือสำนักวิจัยและพัฒนา กรมชลประทาน ภายในกำหนดไม่
เกิน 90 วัน นับถัดจากวันที่คณะกรรมการตรวจการจ้างส่ังให้เข้าปฏิบัติงานได้ เพื่อกำหนดปริมาณของ
สารเคมีผสมเพ่ิมท่ีจะใช้ผสมลงในคอนกรีต โดยผู้รับจ้างเป็นผู้กำหนดระยะเวลาที่ต้องการการก่อตัวของ
คอนกรีต สารเคมผี สมเพิ่มสำหรบั คอนกรีตชนดิ ใดได้รบั การอนุมัติให้ใช้ได้แลว้ ผรู้ บั จ้างจะตอ้ งรบั ผดิ ชอบ
ในคุณสมบัติของสารเคมีผสมเพิ่มสำหรับคอนกรีตนั้นให้มีความคงท่ีไม่เปล่ียนแปลง และผู้รับจ้างจะ
เปลย่ี นไปใช้ผลิตภัณฑช์ นิดอื่นมิไดน้ อกจากจะไดร้ ับการอนุมตั ิจากคณะกรรมการตรวจการจา้ งเสียก่อน
3. การผลิตคอนกรีต
การผลิตคอนกรีต ผู้รับจ้างอาจผลิตโดยวิธีต้ังโรงผสมคอนกรีตชนิดอยู่กับที่ หรืออาจใช้
เครื่องผสมแบบเคล่ือนที่ก็ได้ ทั้งน้ี อุปกรณ์ควบคุมอัตราส่วนผสมจะต้องได้รับการออกแบบให้สามารถ
ปรับอัตราส่วนผสมเพ่ือชดเชยกับการเปล่ียนแปลงความช้ืนของมวลผสมคอนกรีต หรือสามารถปรับ
เปลี่ยนอัตราส่วนผสมได้ ผู้รับจ้างต้องเสนอเอกสารประกอบบรรยายข้ันตอน วิธีการผลิตคอนกรีต
อุปกรณ์ต่างๆ และแปลนแสดงตำแหน่งการติดตั้งเครื่องมือและอุปกรณ์การผลิต รวมท้ังแผนการดำเนิน
งาน การตรวจสอบความแม่นยำของการทำงานของเครื่องผสมคอนกรีตชนิดที่เสนอต่อคณะกรรมการ
ตรวจการจา้ งเพอ่ื พจิ ารณาอนุมัติกอ่ นที่จะเร่มิ การผลิต
3.1 อัตราส่วนผสมของคอนกรีต
ผู้รับจ้างจะต้องรับผิดชอบในการออกแบบและกำหนดส่วนผสมของคอนกรีตแต่ละประเภทท่ี
ต้องใชง้ าน เพ่อื ให้แนใ่ จไดว้ ่าคอนกรตี ที่ใชใ้ นการปฏิบัติงานท้ังหมดน้นั มีคุณสมบตั ติ ามท่ไี ด้กำหนดไว้ ผรู้ บั
จ้างจะต้องใช้วัสดุผสมคอนกรีต ได้แก่ ปูนซีเมนต์ มวลรวมละเอียด มวลรวมหยาบ รวมถึงแร่ผสมเพ่ิม
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
6
และสารเคมีผสมเพิ่มสำหรับคอนกรีต (ถ้าใช้) ซ่ึงได้จัดเตรียมไว้ท่ีบริเวณสถานท่ีก่อสร้างมาทดลองหา
อัตราส่วนผสม และทำการทดสอบแท่งตัวอย่างโดยสำนักวิจัยและพัฒนาหรือห้องปฎิบัติการภาคสนาม
ของกรมชลประทาน โดยทำการทดสอบหลายๆ ตัวอย่าง จนกว่าจะได้ตัวอย่างท่ีมีอัตราส่วนผสมที่
เหมาะสมกบั การใช้งานรปู แบบตา่ งๆ และมกี ำลงั อัดเปน็ ไปตามที่กำหนด
ในกรณีท่ีผู้รับจ้างใช้คอนกรีตผสมเสร็จท่ีสั่งซ้ือจากโรงงาน การกำหนดส่วนผสม ให้ผู้ผลิต
รับผิดชอบในการออกแบบอัตราส่วนผสมเพื่อให้ได้คุณลักษณะของคอนกรีตตามที่กรมชลประทาน
ตอ้ งการ เว้นแต่กรมชลประทานประสงคจ์ ะกำหนดอัตราสว่ นผสมใหผ้ ผู้ ลิตดำเนนิ การผลติ ตามทก่ี ำหนด
อตั ราสว่ นผสมของคอนกรีตจะเปลี่ยนแปลงไปตามลกั ษณะของงาน สภาพแวดล้อม บรเิ วณ
ที่ต้ังของงานก่อสร้าง และแหล่งวัสดุท่ีใช้ผสม การกำหนดอัตราส่วนผสมของคอนกรีตจะต้องคำนึงถึง
คณุ สมบตั ขิ องคอนกรตี เกย่ี วกบั ความแขง็ แรง ความคงทนของคอนกรตี และความสะดวกในการทำงานได้
อัตราส่วนผสมของคอนกรีตนั้นจะต้องคอยตรวจสอบแก้ไขอยู่เสมอ เพื่อท่ีจะได้คอนกรีตที่มีคุณสมบัติดี
และประหยดั
ผู้รับจ้างจะต้องผสมคอนกรีตให้มีความข้นเหลวเหมาะสมกับการเทคอนกรีตในแต่ละสภาวะ
ซ่งึ โดยท่ัวไปจะตอ้ งให้คอนกรตี มคี ่าการยุบตวั (Slump) ต่ำทสี่ ุดเทา่ ท่ีจะทำงานได้ และอาจจะตอ้ งใชส้ ว่ น
ผสมมากกว่าหน่ึงอัตราส่วนในการเทคอนกรีตแต่ละช้ินส่วนของโครงสร้าง โดยผู้รับจ้างจะเรียกร้องค่าใช้
จ่ายเพมิ่ เติมใดๆ ไมไ่ ด
้
3.1.1 โรงผสมคอนกรตี (Batching Plant)
(1) ไม่น้อยกว่า 60 วัน ก่อนท่ีจะเริ่มงานคอนกรีต ผู้รับจ้างจะต้องทำหนังสือเสนอ
คณะกรรมการตรวจการจา้ ง เพ่ือขอตดิ ตัง้ หรือจดั หาโรงงานผสมคอนกรีตและวธิ ดี ำเนนิ งาน เคร่ืองมอื
เครื่องจกั รทจี่ ะใช้ในการผสม การลำเลยี ง การขนสง่ การเก็บวสั ดุ การชัง่ ตวง วัด อัตราสว่ นผสมของ
คอนกรตี และการลดอุณหภูมิของคอนกรตี การผสม และการเทคอนกรตี และปนู ทราย โดยผรู้ ับจา้ งจะ
ตอ้ งแสดงแผนผงั ของเครือ่ งจักรเคร่อื งมือของโรงผสม ข้ันตอนการดำเนินงาน และแหลง่ วสั ดุทจี่ ะใช้
(2) ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาและติดต้ังอุปกรณ์ควบคุมอัตราส่วนผสมคอนกรีตที่ทันสมัย โดย
อุปกรณ์ทั้งหมดต้องติดตั้งรวมกันให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์ มีขีดความสามารถสูงสามารถผลิตคอนกรีตได้
เพียงพอตลอดระยะเวลาการก่อสร้าง มีคุณภาพสม่ำเสมอตรงตามข้อกำหนด ต้องมีเครื่องช่ังสำหรับ
ปนู ซเี มนต์ มวลรวมละเอยี ด และมวลรวมหยาบ และมเี ครอื่ งชงั่ หรอื เครอ่ื งตวงสำหรบั นำ้ และสารผสมเพมิ่
แยกต่างหากเป็นอิสระแก่กัน นอกจากนั้นอุปกรณ์ดังกล่าวจะต้องประกอบด้วยระบบการขนส่งวัสดุเข้า
เครื่องผสมท่ีมีประสิทธิภาพ สามารถป้องกันวัสดุมิให้ตกหล่นออกข้างนอก และป้องกันมิให้น้ำฝนสาด
หรือซึมเข้า
(3) ผู้รับจ้างจะต้องจัดเตรียมน้ำหนักหรือลูกตุ้มมาตรฐานพร้อมอุปกรณ์อ่ืนๆ สำหรับทำการ
ตรวจสอบความถูกต้องของเคร่ืองชั่งและเครื่องตวง โดยต้องครอบคลุมจากขีดศูนย์ถึงขีดสูงสุดของหน้า
ปดั ของเครอื่ งชง่ั และเคร่ืองตวง และการทดสอบความถกู ต้องจะต้องดำเนนิ การโดยผู้รับจ้างเปน็ คร้ังคราว
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
7
ตามวิธีการท่ีผคู้ วบคมุ งานของผวู้ า่ จ้างกำหนด จากน้ันผรู้ ับจา้ งตอ้ งดำเนนิ การแกไ้ ขซอ่ มแซม หรือเปลีย่ น
อุปกรณ์ตามความจำเป็น เพอ่ื ให้เคร่ืองควบคุมอัตราส่วนผสมอยู่ในสภาพสมบรู ณ
์
(4) เครื่องช่ังที่ใช้จะต้องติดต้ังบนโครงสร้างที่มั่นคง แยกเป็นอิสระจากอุปกรณ์อ่ืนๆ
ที่เก่ียวขอ้ ง สามารถมองเหน็ ไดช้ ัดเจนทั้งชดุ โดยเคร่ืองชั่งจะต้องอา่ นได้ละเอยี ดถึง 0.001 เท่าของความ
สามารถสงู สุดของเครื่องช่งั
(5) การลำเลียงวัสดุต่างๆ จากเคร่ืองช่ัง ตวง วัด ไปยังเครื่องผสมคอนกรีต จะต้อง
ระมดั ระวังไม่ให้มีความคลาดเคลื่อน
(6) ผรู้ ับจา้ งจะตอ้ งติดตั้งอุปกรณ์เพ่อื ใช้วัดค่าความชื้นของมวลผสมคอนกรตี
(7) อุปกรณ์ควบคุมอัตราส่วนผสมจะต้องได้รับการออกแบบให้สามารถปรับอัตราส่วนผสม
เพอื่ ชดเชยกับการเปลีย่ นแปลงความช้นื ของมวลผสมคอนกรตี หรอื การเปลี่ยนสว่ นผสมใหมไ่ ดท้ นั ท
ี
(8) กลไกในการจา่ ยนำ้ ไปยงั เครือ่ งผสมคอนกรตี ตอ้ งไม่มีนำ้ รวั่ ซมึ ได้ การทำงานของระบบ
เติมน้ำและจ่ายน้ำต้องเป็นแบบประสานเก่ียวเน่ืองกันคือ ในขณะท่ีประตูเติมน้ำยังปิดไม่สนิท ประตูจ่าย
น้ำจะเปิดออกไมไ่ ด้ และถ้าการจา่ ยนำ้ ใชว้ ดั ดว้ ยมิเตอร์ ตัวมเิ ตอร์จะต้องอา่ นไดล้ ะเอียดถึง 0.5 ลิตร เป็น
อย่างน้อย
(9) การควบคมุ อตั ราสว่ นผสมของสารเคมผี สมเพิม่ จะต้องช่ัง หรอื ตวง และจ่ายเขา้ เคร่ือง
ผสมแยกเป็นอิสระสำหรับแต่ละชนิด และต้องมีเคร่ืองชั่ง หรือตวงที่มีประสิทธิภาพ มีความแม่นยำสูง
สามารถบังคับควบคุมและอ่านค่าไดง้ า่ ย
(10) เคร่ืองควบคุมจะต้องมีอุปกรณ์แสดงและบันทึกเลขหมายของการผสม พร้อมท้ังแสดง
อัตราส่วนผสมและปรมิ าณวัสดทุ ใี่ ช
้
3.1.2 เครอื่ งผสมคอนกรีต (Mixer)
(1) ผู้รบั จา้ งอาจใชเ้ ครอื่ งผสมคอนกรตี ชนิดตั้งอย่กู บั ที่ หรอื ชนดิ ติดต้ังบนรถบรรทกุ กไ็ ด้ โดย
เครื่องผสมดังกล่าวจะต้องสามารถผสมปูนซีเมนต์ วัสดุมวลรวม น้ำ และสารเคมีผสมเพ่ิมให้เป็นเนื้อ
เดียวกันภายในเวลาผสมทกี่ ำหนด และสามารถจา่ ยคอนกรตี ออกได้โดยไมเ่ กดิ การแยกตัวของส่วนผสม
(2) เครื่องผสมคอนกรีตชนิดต้ังอยู่กับท่ีจะต้องประกอบด้วยตัวโม่ผสมคอนกรีตชนิดวางเอียง
และกรวยจ่ายคอนกรีต โดยต้องมีแท่นหรือพ้ืนยกระดับสำหรับผู้ควบคุมเครื่องผสม วางในตำแหน่งท
่ี
ผู้ควบคุมเคร่ืองสามารถมองเห็นคอนกรีตภายในโม่ผสมในขณะผสมและขณะจ่ายคอนกรีตออกจากโม่ได้
อย่างทว่ั ถึงชดั เจน โมผ่ สมคอนกรีตแตล่ ะเคร่ืองจะตอ้ งมีสลักยึดปดิ กรวยจ่ายคอนกรีตจนกวา่ คอนกรตี จะ
ได้รับการผสมตามเวลาท่ีกำหนด นอกจากนี้ ตัวโม่ผสมคอนกรีตจะต้องสามารถเทวัสดุหรือคอนกรีตท่ีมี
ส่วนผสมไมถ่ ูกต้องหรอื วิธกี ารผสมไมถ่ กู ต้องหรอื ผสมนานเกนิ ไปออกทงิ้ ไดท้ นั ท
ี
(3) เคร่อื งผสมคอนกรีตชนิดตดิ ตั้งบนรถบรรทุก จะตอ้ งตดิ ตง้ั อุปกรณ์ต่างๆ ดังต่อไปน้ี
(ก) มาตรวัดปริมาณน้ำผสมคอนกรีตส่วนท่ีฉีดออกจากถังน้ำที่ติดอยู่บนรถบรรทุก โดย
ตอ้ งมคี วามแม่นยำสงู
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
8
(ข) เครือ่ งมอื สำหรับวัดจำนวนรอบการหมุนของโม่ผสม
(ค) เครื่องตรวจสอบความถกู ตอ้ งของมาตรวดั นำ้
(ง) อปุ กรณส์ ำหรบั การเตมิ น้ำจากถัง โดยต้องฉดี น้ำออกดว้ ยแรงดันใหก้ ระจายอย่างท่ัว
ถงึ จากหน้าโม่ถึงท้ายโม
่
(4) ผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างอาจทำการทดสอบประสิทธิภาพของโม่ผสมตามวิธีการที่
กำหนดใน ASTM C94 “Specification for Ready-Mixed Concrete” โดยผู้ควบคุมงานของผู้วา่ จ้าง
อาจสง่ั เปลยี่ นแปลง เพม่ิ หรอื ลดระยะเวลาในการผสมใหส้ อดคลอ้ งกบั ประสทิ ธภิ าพการทำงานของโมผ่ สม
(5) เคร่ืองผสมคอนกรีตต้องทำความสะอาด กำจัดคอนกรีตที่เหลือค้างติดเครื่องผสม
คอนกรีตออกให้หมดเป็นประจำทุกวัน และทำการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอว่าเครื่องผสมคอนกรีต
สามารถทำงานไดต้ ามกำลงั เครือ่ งยนต์และความจุทกี่ ำหนดไว้
3.2 การผสมคอนกรตี
จำนวนปนู ซเี มนต์ มวลรวมละเอยี ด มวลรวมหยาบ น้ำ แรผ่ สมเพม่ิ และสารเคมผี สมเพิ่ม
สำหรับคอนกรีตท่ีจะนำไปใช้ในการผสมคอนกรีตแต่ละครั้ง จะต้องได้มาจากการช่ังน้ำหนักหรือการวัด
ปรมิ าตรแล้วแต่กรณีให้ถูกต้องตามสัดส่วน
โดยปกติเมื่อบรรจุวัสดุต่างๆ ลงในโม่ผสมจนครบแล้ว จะต้องให้โม่ผสมหมุนด้วยอัตรา
ความเร็วสม่ำเสมอ โดยปริมาณของวัสดุที่ใช้ผสมแต่ละโม่ต้องไม่เกินปริมาณความจุของโม่ผสมตามที่
กำหนดโดยโรงงานผู้ผลิตโม่ผสมนั้นๆ และห้ามทำการผสมคอนกรีตด้วยอัตราความเร็วเกินกว่าที่ทาง
โรงงานผผู้ ลิตโมก่ ำหนด
ระยะเวลาในการผสมคอนกรตี แต่ละโม่ ให้เร่มิ นับภายหลังทใี่ สว่ สั ดขุ องแข็งลงในโม่จนครบ
¼14
แล้ว ท้ังนี้ จะต้องเติมน้ำท้ังหมดลงในโม่ภายในระยะเวลา ของระยะเวลาในการผสมซ่ึงเป็นไปตามท่ี
กำหนดดังนี้
ความจุของโม่ผสม (ลบ.ม.) ระยะเวลาในการผสมข้นั ตำ่ (นาที)
1.00 1.00
1.50 1.25
2.50 1.50
3.00 1.75
4.00 2.00
4.50 2.25
* ทั้งนร้ี ะยะเวลาการผสมสูงสดุ ไมค่ วรเกิน 5 นาที
** ในกรณีที่ใช้เครื่องผสมคอนกรีตชนิดต้ังอยู่กับท่ี ควรใส่น้ำปริมาณ 5-10% ลงในเครื่อง
ผสมก่อนใส่วัสดแุ ขง็ เพอ่ื ลดการฟุง้ กระจายของปนู ซเี มนต์
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรตี
9
ห้ามเติมน้ำลงในโม่ผสมเพื่อปรับความข้นเหลวของคอนกรีต หากผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้าง
เห็นควรให้เพ่ิมความข้นเหลว จะต้องเติมน้ำและปูนซีเมนต์ในอัตราส่วนน้ำต่อปูนซีเมนต์เท่ากับหรือน้อย
กว่าอัตราส่วนผสมคอนกรีตเดิมแล้วผสมให้ทั่วถึง และผู้รับจ้างจะต้องบันทึกปริมาณน้ำและปูนซีเมนต์
ทงั้ หมดทใี่ ชผ้ สมคอนกรตี ในแตล่ ะโมใ่ หอ้ ยา่ งละเอยี ดถกู ตอ้ ง และใหม้ อบบนั ทกึ นแี้ กผ่ คู้ วบคมุ งานของผวู้ า่ จา้ ง
3.3 คอนกรีตผสมเสร็จ
คอนกรีตผสมเสร็จไดแก่คอนกรีตท่ีใชเคร่ืองผสมคอนกรีตที่ติดต้ังอยู่ท่ีโรงงานและขนส่งโดย
รถโมผ สมคอนกรีต (Mixer Truck) หรือรถกวน (Agitator Truck) ไปยงั จดุ ท่จี ะทาํ การเทคอนกรตี หรือ
การผสมคอนกรีตโดยใชรถโมผสมคอนกรีต (Mixer Truck) โดยชั่งตวงวัตถุดิบลงในรถโมผสมคอนกรีต
จากโรงงานโดยตรง และทาํ การผสมคอนกรีตในรถโมผสมคอนกรีตดังกลา วจนไดเน้อื คอนกรีต สมำ่ เสมอ
และตอ งมคี ณุ ภาพตามมาตรฐานผลติ ภณั ฑ์อตุ สาหกรรม มอก.213-2520 หรือเทียบเทา
เมอื่ ไมกาํ หนดเปน อยา่ งอน่ื ใหคอนกรตี ผสมเสรจ็ ตอ งมีคณุ ลักษณะเฉพาะตามทก่ี าํ หนดดังนี้
(1) หนวยที่ใชในการซ้ือขายคอนกรีต คือปริมาตรเปนลูกบาศกเมตร ค่าการยุบตัวเปน
เซนติเมตร กาํ ลังอัดเปน กิโลกรัมตอตารางเซนติเมตร (ทดสอบดว ยแทง่ ตัวอยา งรูปทรงกระบอกมาตรฐานØ
15x30 เซนติเมตร)
(2) ใหผูผลิตเปนผูรับผิดชอบในการตรวจสอบวัตถุดิบท่ีใชในการผลิตคอนกรีต ปูนซีเมนต์
หิน ทราย น้ำและสารผสมเพิ่มอื่นๆ ใหเปนไปตามมาตรฐานวัสดุของกรมชลประทานโดยผูควบคุมงาน
ของกรมชลประทานสามารถรองขอให้ผูผลิตจัดสงวัตถุดิบในการผลิตคอนกรีตเพื่อทําการตรวจสอบได้
หากเกดิ ขอ สงสัยข้นึ
(3) การกำหนดส่วนผสม ให้ผู้ผลิตรับผิดชอบในการออกแบบอัตราส่วนผสมเพื่อให้ได้
คุณลักษณะของคอนกรีตตามท่ีกรมชลประทานต้องการ เว้นแต่กรมชลประทานประสงค์จะกำหนด
อตั ราส่วนผสมให้ผ้ผู ลติ ดำเนินการผลติ ตามท่ีกำหนด
(4) ผูผลิตตองควบคุมคาการยุบตัว (Slump) ของคอนกรีตใหอยูในชวงท่ีกรมชลประทาน
ระบุโดยเครงครัดหามเติมน้ำเพียงอยา งเดียวลงในสว นผสมคอนกรีตท่ีหนา งานเพื่อเพ่ิมค่าการยุบตัว การ
ทดสอบคา การยบุ ตวั ควรทาํ ทกุ ครงั้ เมอื่ มกี ารเกบ็ แทง่ ตวั อยา่ ง และอาจจะสมุ่ ทดสอบคา่ การยบุ ตวั เพม่ิ เตมิ
เพือ่ ใหแนใ จวาคอนกรตี มคี ณุ สมบัตสิ มำ่ เสมอทัง้ น้ีใหอ้ ยูใ่ นดุลยพินิจของผคู วบคมุ งานของผูว้ ่าจา้ ง
(5) การทดสอบกําลังอัดของคอนกรีตใหเก็บแทงตัวอยางทรงลูกบาศก มาตรฐานขนาด
15x15x15 เซนตเิ มตร อยา งนอ้ ย 1 ชดุ (6 แทง ) ทกุ ๆ ครง้ั ของการเทคอนกรตี และถา มกี ารเทคอนกรตี
ปรมิ าณมาก ควรเกบ็ แทง ตวั อยา่ ง 1 ชดุ ทกุ ๆ การเทคอนกรตี 50 ลกู บาศกเ มตร ทงั้ น้ี ขน้ึ อยกู บั ดลุ ยพนิ จิ
ของผคู วบคุมงานของผู้วา่ จา้ ง โดยคาเฉลี่ยของผลการทดสอบกาํ ลังอดั ทีอ่ ายุ 28 วัน (3 แทง) ตอ งไมตำ่
กวากําลังอัดตามที่แบบกําหนดโดยยอมใหคากําลังอัดที่ทดสอบไดของคอนกรีต จํานวน 1 แทงต่ำกวา
ขอ กาํ หนดไดแ ตต อ งไมน อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 85 ของคา กำลงั อดั ทแี่ บบกาํ หนด ในกรณที ผ่ี ลการทดสอบกาํ ลงั อดั
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
10
ไมผานเกณฑทีก่ าํ หนด ผรู บั จางสามารถรองขอตอคณะกรรมการตรวจการจางใหทาํ การทดสอบกําลังของ
คอนกรีตที่โครงสรา้ ง เชน คอนกรีตเจาะ (Core Test) ตาม ASTM C42 หรือโดยการทดสอบการรับ
น้ำหนักบรรทุกตาม ACI 318 (Strength Evaluation of Existing Structure) โดยผูรับจางเปน
ผูรับผิดชอบคาใชจายในการทดสอบท้ังหมด ซึ่งการทดสอบทุกวิธีใหทดสอบโดยหนวยงานของ
กรมชลประทาน
(6) การจัดสงคอนกรีตตองมีขอมูลรายละเอียดในเอกสารจัดสงคอนกรีตไมนอยกวาที่
กําหนดดงั นี้
• ชอื่ โรงงานท่ีผลิตหรือช่อื ผจู ดั จําหน่ายหรือเคร่อื งหมายการคา้ ที่จดทะเบียนแลว
• ลําดับทข่ี องใบสงของ
• เลขท่ีรถ
• ชื่อผูซื้อ
• ชอื่ และสถานท่ีงาน
• ประเภท และชั้นคณุ ภาพของคอนกรีต
• ปริมาณคอนกรีต
• เวลาทเ่ี ริม่ ผสมและระยะเวลาท่ถี า ยคอนกรตี หมด
• คา การยุบตวั
• ขนาดโตสดุ ของมวลรวม
• ชนดิ และปริมาณสารผสมเพิ่ม
3.4 อณุ หภูมขิ องคอนกรีต
อุณหภูมิของคอนกรีตขณะทำการเทต้องไม่สูงเกิน 40 องศาเซลเซียส ในกรณีที่อุณหภูมิ
อากาศเฉล่ีย ณ บริเวณก่อสร้างของวันท่ีทำการเทคอนกรีตสูงเกิน 35 องศาเซลเซียส ผู้รับจ้างต้อง
ดำเนินการลดอุณหภูมิของวัสดุผสมคอนกรีต โดยการฉีดพ่นน้ำเย็นลงในกองวัสดุมวลรวมหยาบและวัสดุ
มวลรวมละเอียดก่อนนำมาใช้ หรือจัดหาน้ำเย็นเพื่อใช้ในการผสมคอนกรีต หรือทำหลังคาบังแดดคลุม
กองวัสดุ ตลอดจนหาทางปอ้ งกนั อยา่ ใหเ้ ครือ่ งผสมหรือถงั เก็บปูนซเี มนต์ และอุปกรณต์ า่ งๆ ถูกแสงแดด
โดยตรง หรือทำการเทคอนกรตี ในเวลากลางคนื หรอื ใช้กรรมวิธีหลายอยา่ งประกอบกัน
3.5 ความข้นเหลวของคอนกรตี
เนอื่ งจากความช้นื ทมี่ ีอยู่ในวสั ดุทน่ี ำมาผสมคอนกรตี อาจมีการเปล่ียนแปลงได้ ดังนนั้ ปรมิ าณ
น้ำท่ีใช้ผสมคอนกรีตจะต้องคอยปรับเปล่ียนเพ่ือให้ได้ความข้นเหลวท่ีเหมาะสมและคงท่ีอยู่ตลอดเวลา
การยุบตัว (Slump) ของคอนกรีตสามารถเปลยี่ นแปลงได้ในช่วง 2 - 6 น้วิ (50-150 มิลลิเมตร) ท้งั นี้ขน้ึ
อยกู่ บั ลกั ษณะของงาน ความยากง่ายในการเทลงแบบ และความสามารถในการกระทุ้งหรอื เขยา่ คอนกรีต
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรตี
11
ในแบบเพื่อให้คอนกรตี มเี นื้อแน่นไม่เกิดโพรง
ในกรณีคอนกรีตที่จะเทลงแบบมีค่าการยุบตัวน้อยเกินไปไม่เหมาะแก่การใช้งาน สามารถ
เพิ่มค่าการยุบตัวให้แก่คอนกรีตนั้นได้โดยวิธีการเพิ่มน้ำและปูนซีเมนต์ลงไปในส่วนผสม โดยรักษาค่า
อตั ราส่วนน้ำตอ่ ปนู ซีเมนต์ (W/C) ไว้ไม่ให้สูงกวา่ เดิม หรือใช้สารลดน้ำระดบั สงู (Water-reducing, high
range admixtures) ในอัตราที่ทำให้คอนกรีตมีค่าการยุบตัวตามที่ต้องการ ห้ามเติมน้ำในส่วนผสมเพียง
อย่างเดียวเพือ่ เพ่ิมคา่ การยุบตัวให้แก่คอนกรตี โดยเด็ดขาด
3.6 การเตรียมการเพ่ือเทคอนกรีต
ผู้รับจ้างจะต้องไม่เทคอนกรีตจนกว่าจะได้รับการตรวจสอบความเรียบร้อยในเร่ืองการ
ประกอบตดิ ตั้งแบบหล่อ เหลก็ เสรมิ และชนิ้ ส่วนทจ่ี ำเปน็ ตอ้ งฝังในคอนกรีตจากผู้ควบคุมงานของผ้วู ่าจา้ ง
เสียก่อน
พ้ืนผิวท่ีสัมผัสกับคอนกรีตที่จะเทลงไปต้องสะอาดปราศจากน้ำ โคลน เศษไม้ และสิ่งไม่พึง
ประสงค์ตา่ งๆ และพน้ื ผวิ ท่ีสามารถดดู น้ำจากคอนกรีตได้จะต้องทำให้ชน้ื โดยตลอดก่อนเทคอนกรตี
ก่อนที่จะเทคอนกรีตจะต้องเตรียมแบบหล่อให้พร้อม แบบหล่อจะต้องอยู่ในแนวที่กำหนด
ต้องอุดหรือยาแบบหล่อให้สามารถป้องกันน้ำปูนไหลออก แบบหล่อทุกส่วนต้องค้ำยันให้แน่นหนามั่นคง
แข็งแรง
การเตรียมผิวรอยต่อก่อสร้างและรอยต่อเผื่อการหดตัวหรือขยายตัวให้ดูวิธีการในเรื่อง 4
รอยต่อคอนกรีต
3.6.1 การเตรียมการเพอ่ื การเทคอนกรีตบนดนิ
ผู้รับจ้างจะต้องเตรียมชั้นดินท่ีจะเทคอนกรีต โดยต้องปรับระดับดินบริเวณที่จะทำการ
กอ่ สรา้ งใหไ้ ด้ระดับตามทีร่ ะบใุ นแบบกอ่ สรา้ ง พร้อมทง้ั ตอ้ งทำความสะอาดผวิ หนา้ ใหเ้ รียบร้อย และใหม้ ี
ความช้ืนพอเหมาะปราศจากน้ำท่วมขังหรือน้ำไหลผ่าน กรณีท่ีต้องถมดินให้ได้ระดับ ผู้รับจ้างต้องบดอัด
ดนิ ให้มีความแน่นไมน่ อ้ ยกวา่ 95% Standard Proctor Compaction Test หรอื ตามท่รี ะบใุ นแบบ
การเทคอนกรีตงานดาดคลอง พ้ืนดินที่รองรับคอนกรีตหลังจากได้ถากแต่งจนถึงระดับที่จะ
เทคอนกรตี แล้ว จะต้องรกั ษาความชนื้ ในดนิ โดยการฉดี นำ้ เปน็ ฝอยกอ่ นเทคอนกรตี
3.6.2 การเตรยี มการเพ่ือเทคอนกรตี บนหนิ
ผิวหน้าของช้ันหินที่จะเทคอนกรีต ผู้รับจ้างต้องทำความสะอาดรอยแตก รอยแยกของหิน
จนถึงเนือ้ หนิ ทีม่ ่ันคงแขง็ แรงท้งั ด้านลา่ ง และด้านขา้ งทุกดา้ นก่อน จากนั้นจึงอุดรอยแตกดังกล่าวดว้ ยปูน
ทราย (Mortar) หรือคอนกรีต ผู้รับจ้างต้องทำความสะอาดผิวหน้าของหินให้ปราศจากเศษหิน น้ำมัน
โคลน ฝุ่นหรือสิ่งใดๆ ท่ีเคลือบผิวหน้าหิน ด้วยการฉีดพ่นด้วยลม-น้ำ ความดันสูง (Air-Water Jets)
หรือวิธีการอน่ื ๆ ทมี่ ปี ระสทิ ธภิ าพตามที่ผ้คู วบคุมงานของผูว้ า่ จา้ งเหน็ ชอบ ผรู้ ับจ้างจะต้องฉีดพรมผวิ หน้า
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
12
หินให้ช้ืนอยู่เสมอเป็นเวลาอย่างน้อย 12 ช่ัวโมง ก่อนเทคอนกรีต แต่ต้องไม่มีน้ำขังในขณะท่ีทำการเท
คอนกรีต
3.7 การลำเลียง การเท และการทำใหค้ อนกรีตแน่น
3.7.1 การลำเลียงคอนกรตี
ผู้รับจ้างจะต้องลำเลียงคอนกรีตจากเคร่ืองผสมไปยังจุดท่ีจะทำการเทคอนกรีตให้เร็วที่สุด
วิธีการ เคร่ืองมือ และระยะเวลาที่ใช้ในการลำเลียงคอนกรีต จะต้องไม่ทำให้มวลรวมหยาบเกิดการ
แยกตัว (Segregation) หรือเกิดการเปล่ียนแปลงค่าการยุบตัวเกินกว่า 25 มิลลิเมตร ในขณะที่จ่าย
คอนกรีตออกจากเครื่องผสม ห้ามจ่ายคอนกรีตด้วยการเทที่สูงเกินกว่า 2 เมตร นอกจากจะจัดให้มี
อุปกรณ์ท่ีเหมาะสมสำหรับป้องกนั การเกิดการแยกตัวของส่วนผสม แต่ทง้ั นี้ต้องได้รับความเหน็ ชอบจาก
ผู้ควบคมุ งานของผูว้ า่ จ้างกอ่ น
ผรู้ บั จา้ งอาจใชส้ ายพาน รางเท หรอื อปุ กรณอ์ น่ื ๆ ทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ยคลงึ กนั สำหรบั การลำเลยี ง
คอนกรตี ไปยังแบบ โดยต้องเสนอรายละเอียด วธิ ีการต่อคณะกรรมการตรวจการจ้างเพ่ืออนมุ ัต
ิ
3.7.2 การเทคอนกรีตโดยทัว่ ไป
การเทคอนกรตี จะกระทำได้ตอ่ เม่ือได้รบั อนญุ าตจากผูค้ วบคมุ งานของผวู้ ่าจ้าง และจะเทไดก้ ็
ต่อเม่ือมผี คู้ วบคมุ งานของผูว้ า่ จ้างอยู่ด้วยเท่าน้นั
คอนกรีตที่ผสมแล้วต้องรีบนำไปเทลงในแบบหล่อโดยเร็วก่อนท่ีคอนกรีตจะแข็งตัว (ไม่เกิน
45 นาที หลังจากท่ีผสมน้ำแล้ว) คอนกรีตทผี่ สมแล้วเกินกว่า 45 นาที หา้ มใชโ้ ดยเดด็ ขาด ยกเวน้ กรณี
ท่ีใช้สารหน่วงการก่อตัว ซึ่งจะต้องได้รับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจการจ้างเป็นกรณีไป
คอนกรตี ทเ่ี รม่ิ แขง็ ตวั หา้ มนำมาใช้ และหา้ มเตมิ นำ้ ลงในคอนกรตี ทผี่ สมแล้วโดยเดด็ ขาด
ห้ามเทคอนกรีตในที่โล่งแจ้งในขณะท่ีฝนตกหนัก เว้นแต่จะมีการจัดทำระบบป้องกันที่ดี
เพยี งพอ ซ่งึ จะต้องไดร้ ับความเห็นชอบจากผู้ควบคมุ งานของผูว้ ่าจา้ งแลว้ เท่านั้น
หา้ มเทคอนกรตี ลงในนำ้ ที่มนี ้ำไหลโดยตรง
การเทคอนกรตี ลงในนำ้ ใหด้ ูเรื่อง 3.7.3 การเทคอนกรีตในนำ้
วิธีการเทคอนกรีตโดยทว่ั ไปให้ดำเนินการดงั น้ี
(1) การเทคอนกรีตลงในแบบหล่อให้เทต่อเน่ืองกันเป็นช้ันๆ ในแนวราบ ไปจนกระทั่งเสร็จ
ในช้นั นั้นๆ ความหนาคอนกรีตแตล่ ะชน้ั ไมค่ วรเกิน 50 เซนตเิ มตร และตอ้ งรกั ษาอตั ราการเทเพือ่ ใหเ้ ริ่ม
เทชัน้ ต่อไปในขณะท่ผี วิ หน้าของคอนกรตี ช้นั แรกยังไม่เกดิ การกอ่ ตัว การเทคอนกรตี แผ่นพนื้ ท่ีมีความหนา
ไมเ่ กิน 50 เซนตเิ มตร จะตอ้ งเทให้เสรจ็ เปน็ ชน้ั เดยี ว
(2) การเทคอนกรีตแต่ละครั้งต้องพยายามเทให้ใกล้ตำแหน่งที่ต้องการมากที่สุด ห้ามทำให้
คอนกรีตไหลโดยใชเ้ คร่ืองสน่ั สะเทือนหรอื วิธีอ่ืนๆ ระยะความสงู ทจี่ ะปล่อยคอนกรีตโดยตรงลงสแู่ บบหลอ่
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
13
ตอ้ งไมเ่ กิน (1)50 เมตร นอกจากจะหาเคร่ืองมอื ใดๆ ที่เหมาะสมมารองรบั ซึง่ ต้องไดร้ ับความเห็นชอบ
จากผคู้ วบคุมงานของผูว้ า่ จา้ งก่อน
(3) การเทคอนกรีตส่วนหนึ่งส่วนใดต้องเทต่อเน่ืองกันไม่ให้คอนกรีตที่เทแล้วเกิดการแข็งตัว
กอ่ น การเทคอนกรีตใหมห่ ้ามเทคอนกรีตติดต่อกันกับคอนกรีตท่ีเทไว้ก่อนแลว้ เกิน 30 นาที ถ้าเกนิ 30
นาทตี ้องรอให้คอนกรีตท่ีเทไวแ้ ลว้ มีอายไุ มน่ อ้ ยกว่า 20 ชวั่ โมง จงึ จะเทคอนกรีตตอ่ ไปได้ ยกเวน้ กรณที ่ี
ใช้สารหนว่ งการกอ่ ตัว ซึง่ จะตอ้ งไดร้ ับความเห็นชอบจากคณะกรรมการตรวจการจา้ งเปน็ กรณีไป การเท
คอนกรีตคร้ังหน่ึงๆ ต้องเทต่อเนื่องกันไปจนถึงรอยต่อที่กำหนดไว้ในแบบ ในกรณีที่มีเหตุฉุกเฉินหรือ
อุปสรรคทไ่ี ม่สามารถหลกี เลี่ยงได้ และมีความจำเป็นจะตอ้ งหยดุ การเทคอนกรีตก่อนถึงรอยตอ่ ทกี่ ำหนด
ให้หยุดเทคอนกรีตได้โดยผู้รับจ้างต้องหาวิธีการท่ีเหมาะสมโดยการทำรอยต่อก่อสร้าง (Construction
Joints) และได้รบั ความเห็นชอบจากผูค้ วบคมุ งานของผวู้ า่ จ้างดว้ ย
รอยตอ่ ก่อสร้างในพ้ืนหอ้ งใต้ดิน พืน้ หลังคา ผนังห้องใตด้ ิน หรอื ในอาคารทีต่ อ้ งการปอ้ งกนั
การรว่ั ซมึ ของน้ำต้องใส่แผ่นกนั ซมึ (Waterstop) ตลอดแนวรอยตอ่
3.7.3 การเทคอนกรตี ในน้ำ
การเทคอนกรีตในน้ำจะกระทำได้ก็ต่อเม่ือผู้รับจ้างต้องเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับวิธีการและ
อุปกรณ์ที่จะใช้ให้คณะกรรมการตรวจการจ้างพิจารณาอนุมัติ แต่ท้ังน้ีผู้รับจ้างยังคงต้องรับผิดชอบ
คุณภาพของคอนกรีตใหเ้ ป็นไปตามขอ้ กำหนดทุกประการ
3.7.4 การเทคอนกรีตบนพน้ื ลาดเอียง
การเทคอนกรีตบนพ้ืนลาดเอียงต้องใช้คอนกรีตท่ีมีค่าการยุบตัวต่ำ โดยเริ่มเทจากด้านล่าง
ไปสู่ด้านบน การเกลีย่ คอนกรตี และทำใหแ้ นน่ อาจใชบ้ รรทดั ยาวพาดบนโครงไม้ทปี่ รับได้แนวเอยี งตาม
ตอ้ งการ โครงไม้ที่วางเพื่อใช้เป็นแนวหรอื ระดับ จะตอ้ งรือ้ ออกไปก่อนที่คอนกรีตจะเร่มิ ก่อตวั
3.7.5 การเทคอนกรีตในอาคารเสริมเหล็ก
การเทคอนกรีตลงในแบบหลอ่ ที่มกี ารเสรมิ เหลก็ ตอ้ งระมัดระวังที่จะไม่ใหส้ ว่ นผสมเกิดการ
แยกตวั หรอื กระทบกระแทกเหลก็ เสรมิ ใหเ้ กดิ ขยบั ตวั หรอื เคลอ่ื นยา้ ยไปได้ ตอ้ งจดั เตรยี มอปุ กรณท์ เ่ี หมาะสม
เช่น รางเท ท่อ หรือกรวย ท่ีสามารถนำคอนกรีตลงไปในแบบหล่อที่แคบ หรือบริเวณท่ีมีความลึกจน
สามารถทำใหค้ อนกรีตแทรกตวั กบั เหล็กเสริมได้อยา่ งทวั่ ถึง
3.7.6 การทำใหค้ อนกรตี แน่น
การเทคอนกรีตจะต้องทำให้คอนกรีตมีเนื้อแน่นมากท่ีสุดเท่าที่จะทำได้ โดยไม่ให้มีโพรงใน
เน้ือคอนกรีต และให้เน้ือคอนกรีตเบียดแน่นกับผิวของแบบ และจับยึดเหล็กเสริมให้แน่น การเขย่า
คอนกรีตในโครงสร้างต่างๆ ต้องใช้เคร่ืองเขย่าให้เหมาะสมกับลักษณะของงาน ซ่ึงมีท้ังเคร่ืองเขย่าชนิด
หัวจุ่ม (Immersion- type Vibrator) และเครอ่ื งเขย่าชนิดตรงึ ตดิ แบบ (Form-type Vibrator) สำหรับ
ชนิดหวั จมุ่ จะต้องสนั่ ได้อย่างนอ้ ย 7,000 ครง้ั ตอ่ นาที เมอ่ื จุม่ อยู่ในคอนกรีต และชนิดติดกบั แบบจะต้อง
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
14
สั่นไดอ้ ย่างนอ้ ย 8,000 คร้งั ต่อนาที ในการทำให้คอนกรีตแนน่ แต่ละชั้นด้วยเคร่ืองเขยา่ ชนดิ หัวจมุ่ เครอ่ื ง
เขย่าจะต้องตั้งให้ได้ฉากและจุ่มลงไปถึงคอนกรีตช้ันล่างที่ได้ทำการเขย่าเรียบร้อยแล้วเล็กน้อย ระยะ
ห่างของการจุ่มแต่ละคร้ังข้ึนอยู่กับขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางของหัวสั่น ระยะเวลาในการจุ่มหัวส่ันลงใน
คอนกรตี อย่าใหเ้ รว็ หรอื นานเกนิ ไป ควรใชเ้ วลาประมาณ 10 วนิ าทีตอ่ จุด เพอื่ ให้คอนกรีตที่เทใหม่เชื่อม
กับคอนกรีตที่ได้เทไปก่อนแล้ว จะต้องไม่เทคอนกรีตเพิ่มเข้าไปอีกจนกว่าจะได้เขย่าคอนกรีตก่อนหน้านี้
อยา่ งทวั่ ถึงกนั ดแี ล้ว ในขณะเขยา่ จะต้องระมดั ระวงั ไม่ให้หัวสัน่ สมั ผสั กบั ผิวหน้าของแบบ และเหลก็ เสริม
คอนกรตี
การทำใหค้ อนกรตี ท่ีมีความหนาน้อยๆ เชน่ คอนกรตี ถนน หรอื คอนกรตี ดาดคลองเชอ่ื มแนน่
เป็นเน้ือเดียวกัน ควรใช้เคร่ืองเขย่าชนิดตรึงติดแบบ (Form-Type Vibrator) โดยผู้รับจ้างจะต้องเลื่อน
จดุ ยดึ เครอื่ งเขย่าไปจนท่ัวผวิ คอนกรีต
3.7.7 การแต่งผวิ หน้าคอนกรตี
ในการเทคอนกรีตแต่ละชั้น ผู้รับจ้างจะต้องควบคุมคุณภาพของคอนกรีตส่วนผิวบนเป็น
พเิ ศษ โดยต้องเขย่าใหค้ อนกรีตแน่น สำหรับผวิ หน้าของคอนกรีตช้ันบนสดุ ทีเ่ ทในแบบเปดิ และไม่มีงานเท
คอนกรีตหรืองานถมบดอัดกลับทับบนคอนกรีตน้ัน ให้ผู้รับจ้างแต่งผิวหน้าให้เรียบร้อยตามท่ีกำหนดและ
ใหม้ รี ะดับและรปู ทรงเป็นไปตามทแี่ สดงในแบบ
3.7.8 การใช้เครือ่ งสบู อัดคอนกรีต (Concrete Pump)
การเทคอนกรีตด้วยวิธีใช้เคร่ืองสูบอัดคอนกรีตต้องขออนุมัติจากคณะกรรมการตรวจการจ้าง
ก่อน โดยเครื่องสูบอัดคอนกรีตต้องเป็นชนิดไม่อัดลม โดยเคร่ืองและอุปกรณ์รวมทั้งวิธีการดังกล่าวจะ
ต้องสามารถนำไปใช้กับการเทคอนกรีตที่มีส่วนผสมทุกแบบตามท่ีกำหนด โดยไม่ก่อให้เกิดการแยกตัว
หรือเกิดการอุดตันของส่วนผสม ระหว่างการขออนุมัติใช้เคร่ืองสูบอัดคอนกรีต ผู้รับจ้างต้องสาธิตการ
ทำงานของเคร่ืองสูบ อุปกรณ์ และวธิ ีการให้ผคู้ วบคมุ งานของผ้วู ่าจ้างตรวจสอบก่อนกำหนดเวลาที่จะเรม่ิ
ใช้เครื่องน้ันเป็นเวลาอย่างน้อย 15 วัน โดยผู้รับจ้างจะต้องแสดงให้เห็นว่าเคร่ืองดังกล่าว สามารถสูบ
อัดคอนกรีตท่ีมีส่วนผสมตามท่ีผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างเป็นผู้เลือกให้ทดสอบ ในการสาธิตน้ี ผู้รับจ้างจะ
ตอ้ งติดตั้งเครอื่ งพรอ้ มท่อส่งคอนกรีตไมน่ อ้ ยกวา่ 100 เมตร ในแนวราบ และไมน่ ้อยกวา่ 30 เมตร ใน
แนวด่ิง และต้องทำการสูบอัดคอนกรีตในปริมาณไม่น้อยกว่า 8 ลูกบาศก์เมตร ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
เปน็ ที่พอใจของผูค้ วบคมุ งานของผวู้ า่ จา้ ง
ในขณะปฏิบัติงานเทคอนกรีตด้วยเครื่องสูบอัด เคร่ืองมือและอุปกรณ์ท่ีใช้ต้องอยู่ใกล้กับ
สถานที่ท่ีจะเทใหม้ ากที่สุดเทา่ ทจี่ ะทำได้ ขนาดเสน้ ผ่านศนู ย์กลางภายในของท่อจะต้องไมน่ อ้ ยกวา่ 3 เท่า
ของขนาดโตสุดของมวลรวมหยาบ คอนกรีตที่เทควรมขี นาดโตสุดของมวลรวมหยาบไมม่ ากกว่า นวิ้
และต้องมีค่าความยุบตัวประมาณ 100 + 25 มม. หรือตามที่คณะกรรมการตรวจการจ้างเห็นชอบ
ตอ้ งใชป้ ูนทรายเปียก (Mortar) อตั ราสว่ นปูนซีเมนตต์ ่อทราย 1:2 สูบอัดเพื่อไปเคลอื บทอ่ ก่อนแล้วจึงสูบ
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
15
อัดคอนกรีตต่อเนื่องทันที การปล่อยคอนกรีตลงสู่แบบต้องรักษาระดับของท่อส่งคอนกรีตให้อยู่ในแนว
ราบหรอื มมี มุ เงยขน้ึ เลก็ นอ้ ย การสง่ คอนกรตี จะตอ้ งตอ่ เนอ่ื งตลอดเวลาเพอื่ ไมใ่ หฟ้ องอากาศเขา้ ไปแทรกได้
ห้ามส่งคอนกรีตด้วยอัตราความเร็วสูงจนเป็นสาเหตุให้ส่วนผสมเกิดการแยกตัว ห้ามเติมน้ำลงในส่วน
ผสมในขณะกำลงั ปลอ่ ยคอนกรีตออกจากโม่หรอื ขณะกำลงั สบู อัดคอนกรีตลงสู่แบบ
ขอ้ ตอ่ ต่าง ๆ ของท่อส่งคอนกรีตต้องขันให้แน่นเพ่อื ปอ้ งกนั การรว่ั ซึมของน้ำปนู จะต้องจดั
เตรยี มทอ่ สง่ คอนกรตี ไวใ้ หเ้ พียงพอเพ่อื ส่งคอนกรีตเข้าสแู่ บบไดท้ ่ัวถงึ กันตลอดท้ังหมด
นัง่ ร้าน ค้ำยันและอุปกรณ์ต่าง ๆ ทจ่ี ำเป็นตอ้ งติดต้ังใหม้ ่ันคงแนน่ หนาและตอ้ งแยกต่างหาก
จากนง่ั ร้านและแบบในการหล่อคอนกรตี เพ่อื ไมใ่ ห้เกิดการถา่ ยแรงสัน่ สะเทอื นไปถงึ คอนกรตี ทีเ่ ทไปแล้ว
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดในการประกอบ ติดตั้งเครื่องสูบอัดคอนกรีต การจัดหาวัสดุและผลิต
คอนกรตี รวมทงั้ กจิ กรรมอน่ื ๆ ในการสาธติ การทำงานของเครอ่ื งสบู อดั คอนกรตี นเ้ี ปน็ ของผรู้ บั จา้ งเองทง้ั สนิ้
อปุ กรณแ์ ละวธิ กี ารใดๆ ท่ีใช้หากใหผ้ ลไม่เป็นท่ีพอใจของผู้ควบคุมงานของผวู้ ่าจา้ ง ผรู้ ับจา้ งจะตอ้ งทำการ
แกไ้ ข
3.7.9 การเทคอนกรีตหลา (Mass Concrete)
(1) คอนกรตี หลา (Mass Concrete) หมายถงึ คอนกรตี ปรมิ าณมากทเี่ ทลงในโครงสร้างทม่ี ี
สว่ นแคบทส่ี ดุ เกนิ กวา่ 1.50 เมตร
(2) ในกรณีท่ีผ้รู บั จ้างมิไดเ้ สนอวิธกี ารลดอุณหภมู คิ อนกรตี เป็นพเิ ศษ อนุญาตใหผ้ รู้ ับจา้ งเท
คอนกรตี หนาไม่เกินคราวละ 2 เมตร แลว้ ปล่อยให้อุณหภูมิลดลงเปน็ เวลา 5-7 วนั แล้วจึงเทคอนกรีต
เปน็ ช้นั ๆ ต่อไปได้ ในการเทคอนกรตี ให้ปฎบิ ตั ติ ามเรือ่ ง 3.4 อณุ หภมู ขิ องคอนกรตี
(3) ในกรณีที่ผู้รับจ้างต้องการเทคอนกรีตหนาเกิน 2 เมตร ผู้รับจ้างจะต้องเสนอวิธีการ
ดำเนินการเพ่ือควบคุมอุณหภูมิบริเวณผิวภายนอกและภายในคอนกรีตให้ต่างกันไม่เกิน 20 องศา
เซลเซียส และวิธีการควบคุมอุณหภูมิภายในคอนกรีตที่เทลงแบบแล้วไม่ให้มีอุณหภูมิสูงเกิน 70 องศา
เซลเซียส เพือ่ ลดผลกระทบจากการเกิด DEF (Delayed Ettringite Formation) ซงึ่ จะทำให้คอนกรีต
เส่ือมสภาพเร็วกว่ากำหนด และยังทำใหค้ ุณภาพคอนกรตี ลดลงอกี ด้วย รวมทงั้ วธิ ีการตรวจวัดอุณหภูมิตอ่
คณะกรรมการตรวจการจา้ งก่อนดำเนินการไม่นอ้ ยกวา่ 6 สัปดาห์ โดยอาจใช้วธิ ีการดังตอ่ ไปนี้
- ปรับส่วนผสมคอนกรีตโดยลดปริมาณปูนซีเมนต์ โดยที่อัตราส่วนน้ำต่อปูนซีเมนต์
และคุณสมบตั อิ ื่นๆเปน็ ไปตามขอ้ กำหนด
- เลอื กใชแ้ ร่ผสมเพิม่ เช่น เถ้าลอย หรอื ผงซลิ ิกา้ หรือ เถา้ จากเตาถลงุ โลหะในสว่ น
ผสมคอนกรีต ทัง้ นี้ตอ้ งไดร้ ับความเหน็ ชอบจากผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้าง
- เลอื กใช้ปนู ซเี มนตป์ ระเภททใ่ี หค้ วามร้อนตำ่
- ทำใหว้ สั ดผุ สมคอนกรีตมีอณุ หภมู ิต่ำ (Pre-Cool) เชน่ ใช้น้ำเยน็ ผสมหรือทำให้วสั ดุ
ผสมเยน็ ตัวลงก่อนนำไปผสมคอนกรีต
- หลกี เลยี่ งการทำงานคอนกรตี ในสภาพอากาศรอ้ น หรอื ทำงานคอนกรตี ในเวลากลางคนื
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
°¦¸ Ê´ ¸Ê°o Ŧo ´ ªµ¤Á®È °µ¼o ª»¤µ
°oª¼ nµµo
- Á¨Îµº°Ä®Äoª´o¼ »¸Á¤¤°r ¦³¦Á¸£¤¸°»¸ÄÉ ®®o£1ª¼¤6µ·¤Éε¦o°(Pre-µÎÉ Cool) Án ÄoÎʵÁ¥È¤®¦º°ÎµÄ®oª´»¤Á¥È
- ´ª¨n°ÎµÅ¤°¦¸
เ ยน็ (ถ า้ ม4ี).ข(อ้ 4---ม)o¼¦ ลู ´-ผ-ต ®®ู้รา่ ับoµÎµ¦¨หทงݺจ¸ๆำร®°้าÁใือ¨o°oหทงµอ¥É¸ต°้คตี่ าÄ้ออ้อจ´งนงใµo®ชบบ¦¦ก¨้หันัน¸ร¹µลีตทÁทε
¥¥าเึกกึo°Èªยµยขป·¤¨น็ว้อร¦¸¼¨ิธละมªnÃÁรี°งก¤ูลว่โอɸ¥ดเ¥มกªบย°´ก่ีย¦ดอµนั ¸ว´ว้ากÄÄจย°
ับใ
»ชoอ®ท้°nุ£ณอ่£®µหห¡¼¤¨ภล°·
°n ูมอ่µ°Á¥ิขเยÈ µอ็น«ง°(¦คC(o°อCooนo¦lกoi®¸nรl¦ignีต°º Pg¨iแ³pPεลei)pµµะ¦eก)าεร°
ทµำง¦
า¸ °นÄข¦อÁ³ªง¨ระµบ®¨บ¨µหn°ลÁ¥่อºÈ (oµ¤¸)
o°¤- ¼¨บµnนั ทÇกึ อɸณุ o°หภมู´ิอา¹ กาศ¦³สูง°สดุ แoªล¥ะตำ่ สุดประจำวัน
- - ต´ำแ¹ ห°น»่ง®แ£ล¤¼ ะ°· วµนั ทµ่ีเ«ทค¼ อน» กÂรตี¨³
µÎÉ »¦³µÎ ª´
- - อµÎ Âณุ ®หภnมู Âิอ¨า³กªา´ศขณÉÁ¸ ะเ°ทคอ¦น¸กรีต และอณุ หภมู ิคอนกรีตกอ่ นเท
- - °ก» ร®ณ£ีม¼¤ีก·°าµรใµช«้น
้ำไ³หÁลเว°ียนเพ¦¸่ือหÂล¨่อ³เ°ย» ็น®ช£ั่ว¼¤คร·า°วผ¦ู้ร¸ ับจ°n ้างÁต้องเสนอรายละเอียดการ
บนั ทึกอุณหภมู -ิและก¦ารต¸¤ร¸วจµ¦สÄอบoคÊÎวµÅบ®คุม¨อÁªณุ ¸¥หภÁ¡มู ɺ°ิ ต®อ่ ¨คn°ณÁ¥ะÈกรรÉ´ªมก¦าµรªตรว¼o¦จ´กาoµรจา้ o°ง
Á°¦µ¥¨³Á°¸¥µ¦´¹
°» ®£¼¤Â· ¨³µ¦¦ª°ª»¤°» ®£¤¼ · °n ³¦¦¤µ¦¦ªµ¦oµ
3ง SแCT3¥า.ลlo8u.»นeª8ะ nms µทกetก¤ª´่ีpตา)า¡µร้อรnµซ¦³ทT¦ทงึง่กoด°eµดมµª¦o°าsส¤ส¦ลีµ¥รtคกออ
¤ัก»เ°าวบบ°ทคษµÎราหห่าÁทµณมª´®Áากาแ¤°ด
สค·คะµาลµ¦ส°าารเ่่า¦ะɺป°มอ®กยµnกµค็นาบาบุา¦µÁว¤รร°µกรหÄตา¦ยถº°ย®รnµÅาวัม¥บุเวุบคÂoขท»พตยµตา่¸É¦Äo
¨อไ¦วัรเกด¸วัªoง°ป¥ข้อª´าจข้oคÄÁดิ»อม
ระอ³อทงย¦ข°ตงน°คั้งÈบุ´ªอคอ้°oกµอส£
ตงอง¦รนอµเ°°ดัว°นตีค¥กง¦ขำ¥กจεÄรดร¸เอļnÄระ่ือตีนา้°ง®ตี¦ต(งนÁนิคWª(¸oม้อSกอ¨nª(ง°ือมol(Wานµuอ¦Srทีเร¦mkก¸ส1lยoใี่ใu³aร5หช่ใูน้rp(mb®¦นkีตSแ้้ใผi¸aนชlªTplลา่iµu(bÂntµว่กeSนว้yTmiงsาlเ)lศ¸ieuรสtptร2n)syูนะmทรt-)Tโยห)จ็ำดp6eก์ÃวภใÎทµµยsหÅล¦่าาtTำใ)¥้งคÁาชยไ·ÊªeÄดงÄoอÃใก้sÈดน2โ้นtรoด)า้Ê´oเว¥กว¦ยน-´ªย¦ใรªลกชบª°ทʸ
µีต¥า6า้ก¥¦ด¥น¹Êแรรnµส1°นทนว45อ¥่นดย้วิบ¼nสทน°°นก°´°ทกอดาว้ิาทาบ้งัสรรน®£(ยีหอµ¦1
เµบ¦้ีุµบµา¸ก0¦¡¥ขตคก็บÂ0¥»น้ึnว
µา่ัา»¨ตกร°อมัว³(µายSยª´ลิอ´ª¦รุบlู่กลยu(µ¥ยµ(ตSับเิ¦m่า»Sุบมlัวสงulตตpuคภm(´วัªmɸรอSาCโÃ)po°พpนดl°ouดCกยขCn¥m้ารวอoªeoµ®นpีติธงn·)¦n
µีeÁe¸ S))nlµuÂm¨¹Éµ¤³¦p¸
ล¨า่ ´ง¬8น³้วิ Á(}200¦ªม¥ลิÁลdเิ มตÊ´ร)°สูงoµ12 ¤น¸Á้วิo(30nµ0«ม¼ลิ ล¥rเิ ม¨ตµร)oµมที ่ีเหยีย4บ แลÊ·ªะม(1อื 0จ0ับ ¤ด·¨ังร¨ปู ·Á¤ท่ี 1¦
) oµ¨nµ 8 Ê·ª (200
¤¨· ¨Á· ¤¦) ¼ 12 ª·Ê (300 ¤¨· ¨·Á¤¦) ¤¸ Á¸É ®¥¸¥ ¨³¤º°´ ´ ¦¼É¸ 1
4 ʪ·
¤°º ´ Á®¨È ¦³o»
12 ʪ· ¨µ¥¨¤¤
Áonµ«¼ ¥r¨µ
ÉÁ¸ ®¥¸¥
5/8 ªÊ· ¥µª 24 Ê·ª
8 ʪ·
รปู ท่ี 1¦¼ :¸Éแ1ส:ดÂงกรวยท¦ดªส¥อบกา°รยบุ µต¦วั¥ข»องª´ ค
อ°นกร°ีต(S¦l¸um(SplumCopnCeo)n
e)
¦µ¥¨³Á°¥¸ วิธµทีªด«· สªอบ¦¦
¤µ°¦¸ 15/36
กรวยทดสอบการยุบตัว (Slump Cone) จะต้องชุบน้ำก่อนทดสอบแล้ววางลงบนพื้นราบ
เรียบที่ช้ืนและไม่ดูดน้ำ ระหว่างเติมคอนกรีตลงในกรวยและขณะทำการทดสอบควรหลีกเล่ียงมิให้
ตัวอย่างคอนกรีตสัมผัสกับแดดและลม ส่วนผสมคอนกรีตที่ทำการทดสอบการยุบตัวน้ีจะต้องมีขนาดโต
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
¦ª¥°µ¦¥»´ª (Slump Cone) ³o°»Êεn°°Â¨oªªµ¨¡ºÊ¦µÁ¦¸¥É¸ºÊ¨³
Ťn¼Â¨³ÎµÊ ¨¦¤³®ªªn µn Á¤· ¤°°¦¸¦¸¨Äɸ µÎ ¦µ¦ª¥Â¨³°
³µ¦¥Îµ»µ¦ª´ 17ʸ ³°°o¤ª¸
¦®µ¨¸ÃÁ¨¸É¥» ¤
·Ä°®o¤´ªª°¨¥¦nµª¤®°¥µ¦Å¸¤nÄ´¤®´nª´nµ
·Êª oµ¤ª¨¦ª¤®¥µ¤¸
µÄ®nªnµ Ê·ª o°¦n°nª¸ÉÄ®nÁ· ·Êª °°n°Îµµ¦°
1 1 1 1 1 1
2 2 2
¼o ´Êสใ°หÊ´ุดญ¨ข³อ่เก³งนิม¦วo³°ล¤รµÁว®นม¥้ิวห13¸¥ยอาอ
บก°ไกมอ่ ่ใหน¦É¸Áทญ·¤®ำµ่ก¥กว¸¥า¦่าร
ท°ด´Êสอ¦นบª°้ิว¥ผ
้ทู oµถดɹ้าสÄมªอ®วµบ¤ลoÂจระว¼ตnมอ้ µหงยเหาµÊ´บย¦ยี¨มÁบnµีข·¤บนนา¹ดท°ใีเ่Ê´หหญยยี¦่กบ¤¸วท่า¸¨้งั´สÄอʸ ง2ขน85้า¦้ิวงªใหต¥·Êแ้ª้อนง³รน่6่อo°กนÊ·ªาสรÂÁ่วเ¨นต·¤³ทมิ ี่
3
12 คÊ·ªอÄนกรµีต¦ลÁงใ·¤นก°รวยจ¦ะ¸ต้อ³งเตo°มิÁ3¨ช¸É¥ัน้°ชัน้ล¦¸ะปÄ®ระo¨มาณÉ´ª®oµขอ´งปร¦มิªา¥ตÃรข¥อÂงกn¨รว³ย´Êซ่งึo°ควา¦ม³สูง»oจาoªก¥ชÁ้นั®ล¨่าÈง
¦³»oถ
ึงชµั้นบÁนoมีดnµังน«้ี ¼¥r¨นµ้ิว 56 น·Êª้ิว(1แ6ละ¤·¨1¨2·Á¤น¦ิ้ว) ใน¥กµªาร2เ4ติมคÊ·ªอ(น60ก0รีต¤จ·¨ะ¨ต·Á¤้องเ¦ฉ)ลี่ยคɸ¤อ¸®น´ªกร¨ีต¤ใ¤ห้ลÂงทั่วห¨น¼้าตgัด
妦³³ªo»»o(หใกÄ62หร¹น05้กว¡้า0ยรตʺʴะ¦มัด¡โท´Êดลขิ ¸É°ุ้ง3ยลอลแเิงµมึก¸ ผต®(¦ตลลิว่¨รง¦ะค¦´)ไ³ชอ³ปÂทนั้นµในมตี่ก»oหอÁีช้ร¡งวีต้ัันo°·¤กกʺถรกลัดÁะ8°มา¦ไทรมป³µงุ้กÇนเดพร)แ¦Îµว้ะียĸบยท®งบÁเุ้งหเoลลชȤnªลก¤ู็กั้นก็ปÉεนกล¦Áนื ้อรา่ª´Êะยง¤¥จทใ°หำɸงุ้ก¨2น้กขªาoªวนรรÂÄนะากÅ®¨ทดร³o2เงุ้ะส¦¦5ถ3ท°น้³งึ ุ้งผคพÄใาร่Ç®นo»้นื นง้ั ชoพ®ศ้ัน¦Îµกอนู³ทาดยoµรª่ีีก์กo»(3´ลกร¨า
ะร1¹หงทะ5°¨ลแงุ้ังตทÅจอ้·ªก¦นาง´ÊพÄกกว้ิ°้นืรเn°ตะ(เ1บิมทÊ´6าคำ¦Âๆใ¸อมห¨´)นลิสoª้ÅกลÁมµสร¦เิำ่Áมว่·¤ีต¡เนตสเ¦¸¥ตรมช°³)็มอั้นÁ¨กทยo»Èรวา่ี ¦วนว2´Ê¸ยไo°ป¨Äแแ2¥®รnµ4ลลอoÁะ้วÄบนµใ®È¤¦ๆห3ว้ิ o ้
¦ª¥°¸กระ¦ท´Ê งุ้ จ¦ำ³นวo» น°¸15εคªร้ังก1่อ0น¦แÊ´ ล้วµเติมค´Ê อÄน®กoรµตี ใ®หเ้ ตoµ็มก°รวย¦อ¸กี Äค®รoÁ้ัง¦¥¸ กร(ะทµo ้งุ ³อกี o°จำÁนว·¤น°10ค¦ร¸ั้ง¨จÄากน¦้นั ªใ¥ห้
n°µปา®ดหoµน®้าคoµ¤อนÁก·¤รีต°ให้เร¦ีย¸บ¼(ถ้าµจะ
ต°้องเต¦ªิม¥คÁอน·ก3รีต¤ล·¨งใ¨น·Á¤กรว¦ย) กÂ่อ¨นoªปาªดµหน้า°ห้า¦ม¸เติม¸É®ค¨อnน
กoµรีตÇสูงµจากข¦ªอ¥บ
°°Ä®กo®ร¤วยเ¥กนิ ¦3ª¥ม
ลิ ʹลเิ มoµตÇรÄ)แÂลว้ ªกว·Éาด£คµอ¥นÄกรÁªตี ¨ทµห่ี 3ลน่ –ขา้7งๆª·ฐµาน¸ กµร¦วยออก°ใหห้ µม¦ด¥»ยก´ªกรªว¦ยขεนึ้ Áชา้·ๆµใ¦นÄแ®นoÂว¨ดoªง่ิ
Á¦È £µภ
¥าÄยใÁนª¨เวµล2า123–µ7¸ วินาที การทดสอบการยุบตวั ควรดำเนนิ การให้แล้วเสรจ็ ภายในเวลา
นาท
ี
Slump Cone Slump
¦³´µ¦ª¥
4 Ê·ª
6Ê·ª 12 Ê·ª Á¨ª
¸
3 3/8·Êª
2 5/8 ·Êª
8 ·Êª ¦³´¡Êº
¦¼¸Éร2ปู :ทÂ่ี 2: แสµด¦งªก´ ารวµ¦ดั ¥ก»ารยª´ บุ
ต°วั ขอ°งคอน¦¸กร(ตีSlu(SmlupmTpesTt)eÃst)¥โÄดยo ใช¦ªก้ ¥รวยทด°สอบµก¦า¥ร» ยบุ ´ªตวั (S(lSulmump pCoCnoen) e)
Ã¥Á¨ค
É¥¸ อ®µน¦¨ก¥´ร»ีตµโ´ªด¥
ย°กเฉา¦ลรª่ียย°¥หบุ°ลต°ังวั¦จข¸Âาอª¨กง´ªo ยคÅก(อกนo´รกµ¦วร¼ ยีตอว¨É¸อดั2ก)ไnµดแ®จ้ล¦µา³้วก®ผ(ªด´ªลnµ°ังตร¥า่ ูปnµงªรทµะ¤ี่ °ห2ว)¼า่
หง¦°ค¸าวกาต¹É¦มัวªสอ¥¨งูยµ(ข่า¥1อง¨2งคกอ®รน¦Ê·ªวกº°)ยรÁ°ีต(¸¥1´ซ2ึ่งทªน·µลิว้ ¤า)ยกล¼บั·
งคªห°¦วราือ³ม°เอสียεูงงข¦ผµอ¸¦ิดง
°ปกÎʵต°ิค¸ วร¦จÊ´ ะทªo ำ¥กา°รทด¦ส¸ อÄบ®ซ¤้ำn อ®ีกค¨ร´ ้ังดµ้วªย´คอµน¦ก¥ร» ีตใ´ªหÂม¨่ oªหลªัง¦จÄากoÂวัดnกÁ®าร¨ยÈุบต¦ัว³แลo»้วÁคµว³ร
ใoµช้แÇท่งเ´ªห°ล¥็กnµกร2ะ-ท3ุ้ง
¦´Ê Á¡เºÉ°คาะ¼ขµ¦้างๆ¦»ตัว´ªอ
ย°า่ ง2°-3¦¸คร้งั ɹเพ³ื่อÁดูก}าÁรท¦รɺ°ดุ ตัว¸ÊÄข®อoÁ®งคÈอน»ก£รµตี ¡ส
ด°ซงึ่ จ°ะเป¦น็ ¸เคªnµร¤่อื ¸งช»ใ้ี £หµเ้ ห¡น็ค¸®ุณ¦º°ภÁา¨พªขอ¹Éง
คอนกรีตว่ามีคุณภาพดีหรือเลว ซ่ึงคอนกรีตท่ีมีคุณภาพดีนั้น เมื่อเคาะแล้วจะยุบตัวลงโดยคงรูปเดิมอยู่
¦µ¥¨³Áสแ°่ลว¸¥น้วหคาอµคนªา่ ก·«เรฉªีตลเีย่¦ล¦ว
¤จะµทลา°ยจา¦ก¸ กัน หากสงสัยผลการทดสอบ ควรทำการทดสอบหาค่าการย16ุบ/3ต6ัว 2 ครั้ง
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
18
3.9 การตรวจสอบคุณภาพคอนกรตี
เพื่อตรวจสอบคุณภาพคอนกรีต ต้องทำการตรวจสอบความข้นเหลวคอนกรีตโดยการ
ทดสอบหาคา่ การยบุ ตวั (Slump Test) และการทดสอบกำลังอัดแท่งคอนกรตี ท่อี ายุ 7 วนั และ 28 วัน
หรอื ตามทแี่ บบกำหนด จากการหลอ่ แทง่ คอนกรตี ทรงลกู บาศก์ ขนาด 6 x 6 x 6 นว้ิ (150 x 150 x 150
มลิ ลเิ มตร) จากส่วนผสมคอนกรตี ทใ่ี ชใ้ นการก่อสร้างนน้ั ๆ
3.10 การเกบ็ ตวั อย่างคอนกรีต
ผู้รับจ้างจะต้องทำการทดสอบค่าการยุบตัวและเก็บตัวอย่างแท่งคอนกรีตเพื่อนำไปทดสอบ
กำลงั อัดตามเกณฑด์ ังนี
้
(1) การเกบ็ ตวั อยา่ งเพอื่ ทดสอบหาคา่ การยบุ ตวั (Slump Test) จะเกบ็ อยา่ งนอ้ ยวนั ละ 3 ครง้ั
และเกบ็ ตวั อย่างเพ่มิ ในกรณีทคี่ าดว่าคอนกรตี มคี วามผดิ ปกติ
(2) การเก็บตัวอย่างเพอ่ื ทดสอบกำลงั อดั ใหเ้ ก็บอย่างน้อยวนั ละ 1 ชุด และเก็บตัวอยา่ งเพิม่
ในกรณีท่ีคาดว่าคอนกรีตมีความผิดปกติ โดยแท่งคอนกรีตตัวอย่าง 1 ชุด ประกอบด้วยแท่งคอนกรีต
ตามข้อ 3.9 จำนวน 6 แทง่ ซง่ึ ตอ้ งเกบ็ ในเวลาเดียวกัน มคี วามขน้ เหลวเทา่ กัน และต้องหาคา่ การยุบตัว
(Slump Test) ก่อนดว้ ยทกุ ครั้ง
(3) ความถี่ในการเก็บตัวอย่างเพ่ือทดสอบกำลังอัด ขึ้นกับปริมาณการเทคอนกรีตต่อเนื่องใน
แต่ละครั้ง ตามทกี่ ำหนดดงั น้
ี
ปริมาณการเทคอนกรีตต่อเนอ่ื ง จำนวนการเก็บตวั อยา่ ง
ไมเ่ กนิ 10 ลบ.ม. จำนวนตัวอยา่ ง 1 ชุด (6 แท่ง)
10 ไม่ถงึ 40 ลบ.ม. จำนวนตัวอย่าง 2 ชุด (12 แท่ง)
40 ถึง 80 ลบ.ม. จำนวนตัวอยา่ ง 3 ชดุ (18 แท่ง)
ทกุ ๆ 50 ลบ.ม. ตอ่ ไป เพิม่ ทลี ะ 1 ชดุ (6 แท่ง)
(4) อาจเก็บตัวอย่างแท่งคอนกรีตเพ่ือทดสอบกำลังอัดแยกแต่ละส่วนของโครงสร้างตาม
ความเหมาะสม
3.11 การหล่อตัวอย่างแทง่ คอนกรตี และการแกะแบบหลอ่
3.11.1 การหลอ่ ตัวอย่างแท่งคอนกรีต
แบบหล่อตัวอย่างแทง่ คอนกรตี เปน็ เหล็กทีม่ ีขนาดดงั ระบใุ นรูปที่ 3 กอ่ นการหล่อตอ้ งทาด้วย
น้ำมันทาแบบเสียก่อน โดยคอนกรีตที่จะเก็บตัวอย่างต้องมีขนาดโตสุดของมวลรวมหยาบไม่ใหญ่กว่า
นว้ิ ถ้ามวลรวมหยาบมีขนาดใหญก่ วา่ นิ้ว ตอ้ งรอ่ นเอาส่วนท่ีใหญเ่ กิน นิว้ ออกกอ่ น ซ่ึง
ส่วนผสมคอนกรีตที่ใช้หล่อจะต้องเป็นคอนกรีตที่กำลังจะเทลงแบบ การหล่อตัวอย่างแท่งคอนกรีตให้ใส่
คอนกรีตชั้นละ ของความจุของแบบหล่อ โดยแต่ละช้ันให้กระทุ้งโดยสม่ำเสมอด้วยเหล็กกระทุ้ง
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
¦µ¥¨³Á°¸¥µª«· ª¦¦¤µ°¦¸
Äo®¨n°³o°Á}°¦¸É¸Îµ¨´³Á¨Â µ1¦9®¨n°´ª°¥nµÂn°¦¸Ä®oÄn°¦¸´Ê¨³ 1
°
3
ªµ¤»
°Â®¨n° Ã¥Ân¨³´ÊÄ®o¦³»oÃ¥¤ÉεÁ¤°oª¥Á®¨È¦³»o®oµ´¸ÉÁ®¨É¸¥¤´»¦´
µ
¡หºÊน้าต®É¸ ัดสoµี่เห´ล่ีย1มจ¦ัต.ุรัสʪ· ขนεาดªพื้น3ท5่ีหน¦้า´Êตัดµ¦1¦ต³ร.นo» ิ้วÊ´ Âจ¦ำนวªน¦3¦5³คo»รÄ้ัง®o ก¦า³รกระ¡ทºÊ ุ้ง¨ชnµ้ันÁแรµกÇควรªn กระµท¦ุ้งใ¦ห³้ »o ´Ê
กร°ะÄท®บoพ¦ื้น³ล่าo»งÁ¡เบ¸¥าๆnµส่วนÊ´กÂา¦รก¨ร¹ ะ¨ทุ้งÅชั้นÁ¡ส¥¸องÁใ¨หÈ้กรo°ะ¥ทุ้®งเ¨พ´ ียงµผ่าน¦ช³้ันแo» Áรก¦ลÈึกÄลงÂไป¨n เพ³ียÊ´งเÄล®็กÁo นµ้อ³ยoµหล
ังoµจา
ก°Â
®กร¨ะn°ทÃุ้งเ¥ส¦ร°็จในแεตล่ªะชน้ั10ให–เ้ คา1ะ5ดา้ น¦Ê´ขา้Á¡งขɺ°อÅง¨แn¢บ°บห°ลµ่อµโด«ยÂร¨อoªบÂจำnน®วนoµÄ1®0oÁ¦–¸¥1(5oµครε้ังÁ}เพื่อo°ไลÁฟ่·¤องอ°ากา¦ศ¸¨Ä
Âแล้วแ®ต¨ง่ n°หนn°้าใหÂเ้ รnยี บ·ª(®ถา้ จoµำ®เปoµ¤น็ Áต้อ·¤งเต°ิมคอ¦น¸กร¼ตี ลªงnµใÂนแบ®บห¨ลn°อ่Áก·่อน3แต¤ง่ ·¨ผ¨วิ ห·Á¤น้า¦)หา้ มÄเตมิ ¦คอ¸นกɸ®ร¨ีตn°สูง´ªก°ว¥่าnµÂn
แ°บบห¦ล¸อ่ Ãเกิน¥Ä3oÁม¦ิลºÉ°ลเิ มÁ
ต¥รnµ)°ในกร¦ณ¸ทีÂี่หลอ่ ®ต´ªัวอn»¤ย่าÄง®แoÄท่งnค°อนก¦ร¸ีตÁโ¡ด¸¥ยใชÊ´้เคÁร่ือ¸¥งªเÄข®ยoÁ่าคȤอÂนกร®ตี แ¨บn°บÂห¨oัวªจÄุ่มo®ใ´ªห้ »n¤
°
ÁÂหใซส¨ึ่งัว¦่คกoªจɺ°Äอาุ่มรนÁไเ
Áoมกก¥่ใรบ็¦nหµีต¥¸ตญเวัɸ¤พ่กอ¸
ียµวยง่าา่ ®ชµงั้นแ3Áท0เoµดÄ่งoีย®คมวoÁอิล¦nµในล¸¥หกิเ้«เมรต¼ตตี็ม¥รɹแ1rบ¨µจช¦บµุ่มุดÁหใ
นลÈต°เ่อ้อนแง´ª®้ือเล°ก´ªข้¥ว็บอnµใn»¤งใชหคÅÂ้หแ้¤อัวลnÄนnจ®้วกุ่มเ°รสขีตnรอจ็จªงำภ¦nµเนค¸า3วรย01่ือนใ¤นง·¨เเ»3วข¨ลย·Áจ¤า°o่าุดท1Á¦่ีม5แีขÈลน»n¤นÄ้วา®ÄาใทดoÂชี Áเ¨้เสก
oªÊº°้นรÁ
ียผ¦°ง่าÈปน£าศµด°ูน¥หÄยน์ก¦้าÁลª¸ใาห¨งµ้เεรข1ียอ5ªบง
µ3¸ »
Á®Á®¨¨ÈȦε³®o»µo ´
¨É¸Áµ®¥¨É¸¥¨¤¤¤´¦» ´
Á
oµµn ¡ºÊ«¼É®¸ ¥roµ¨µ´
51/8¦.·ªÊª·Ê¥µª 24 Ê·ª
6 ·Êª 6 ªÊ·
6 ª·Ê
รปู ท¦่ี ¼3:ɸ 3แ:สÂดงแบÂบหล®่อ¨ต°nัวอ´ªย°่าง¥แµn ทÂ่งคnอน°กรตี ¦แ¸ลÂะ¨อ³ปุ °ก»รณ¦์
r
o°ªข¦้อ¦ค³วªร´รÄะวงั µใ¦น®ก¨า°n รห´ªล°อ่ ¥ตnµวัอÂยา่n งแ°ทง่ค¦อ¸ นกรีต
1. ¡
Á¤(((3((54312°µºÊ.º°É 1)))))³ 1ปคเพข·ªÉª¸.มª·2¦ณอา®µµÎืน้ ®ือ่ ¸ดนท ะผµผกกี่วทoµ¦ิวoµ®É¸ิวาราำ®หหรตีง¨°กน°¨แ®แทน°nา°n้ากบี่หา้¨รคะคหบล°nª¦อo°¦แอล¦หอ่¸น¸บน®่อคªลÁ®กĦบกต¦ว¨อ่ ®ร¤·É¨¤รรอ้หค¸ตีÁÂo¸ีตห¸¦ง¦วÁลเ¨®Áให³ลร¥¸ร¨่อหɸ¥ิ่มoลมกี¥¸Éตเ้Ä´แกีเรีรวั®°ละเยีห¦อµ¥ลี่ยÄoดµบµง้¦ยnµี่ยง¦บัใÄ่ากงหoอÁ®ร¼ง¦กา¦ใ้ยÉ´าÂแ¸¥oรชา³า่บถทร้ก¼ใเ³สูกหง่รร°®ÁแÂ่นัคะีย้น¨ดส¦บอสนู°ºº°³ดอน
ะ» ¥หแบเกÄท»ลรชรือÊεอืีตะบุ ÇนยɵÎฝ
น¨ใุบนำ้ด»¤ªต
คๆnµÅำ่ล
ªก
ุม°oวไ่าวข้จอ¦นบ³ก
บร°ะ´ÉนทÂข¹ัง่อÁถªงึงแ¨®เบµว¨Âบล°nาห³แลÂกอ่ ะ
แ®บบ¨n°หลอ่
2.
3.
4.
5.
(1) การแกะแบบหล่อตัวอย่างแท่งคอนกรีต จะต้องกระทำโดยระมัดระวังและไม่แกะแบบ
3ยห .ุบล11ตอ่ .ัวก2่อแน1ลµ.¦ะ1Âห6(ม2µ³าช¦)Âย Âว่ั เเโมลม³่ือข®งÂแแ¨หกท°n ะลง่ แดัง®´ªจ้วบ¨°ายบn°¥กเหคnµหลร´ªลÂอ่ือ่°อ่ ตง¥
เnวัnµขอีย°Âยนา่ ทงnี่ไแ¦มท¸°ล่ ง่ าคงอเ¦ลน¸อืกนรตีเม³แื่อลoถ°ว้ ูกคให¦ว³เ้าขมียชεนÃนื้ วหัน¥ร¦ือเ³นด¤อื้ำ´
น¦³ปªี ´ทÂที่ ¨ำ³กÅา¤รnÂหล³่อÂคา่ก®า¨รn°n°
1(36) หªÉ´ Ãล¤ังแก®ะ¨แ´บบµห®ล¨่อn°แล้วต้องนำตัวอย่างแท่งคอนกรีตไปทำการบ่มด้วยน้ำให้ชื้นตลอดเวลา
รอเวลาเพื่อทดสอบกำลงั อัด
¦µ¥¨³Á°¥¸ µª·«ª¦¦¤µ°¦¸ 18/36
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
20
(4) แทง่ คอนกรตี ที่รา้ วหรือแตกขณะแกะแบบหลอ่ จะตอ้ งทงิ้ ห้ามนำมาทดสอบ
3.12 การทดสอบตวั อย่างแท่งคอนกรตี
แท่งตัวอย่างคอนกรีตท่ีเก็บได้แล้วตามข้อ 3.11 จะต้องนำไปดำเนินการทดสอบตามเกณฑ์
ตอ่ ไปน้ี
3.12.1 จำนวนตวั อยา่ ง
ตัวอย่างแทง่ คอนกรตี 1 ชดุ จำนวน 6 แท่ง จะแบง่ ตวั อยา่ งแทง่ คอนกรีตจำนวน 3 แท่ง
เพื่อทดสอบกำลงั อัดท่อี ายุ 7 วนั ตวั อย่างแท่งคอนกรตี ท่ีเหลอื จำนวน 3 แทง่ ใช้ทดสอบท่อี ายุ 28 วันที่
ห้องปฏิบตั ิการภาคสนามของกรมชลประทาน หรือสถาบันทีม่ มี าตรฐานทีก่ รมชลประทานยอมรบั คา่ ใช้
จ่ายทงั้ หมดที่เกิดขน้ึ จากการทดสอบกำลงั อดั ของคอนกรีตใหอ้ ยู่ในความรับผิดชอบของผู้รบั จ้าง
3.12.2 เกณฑก์ ำหนดค่ากำลงั อดั
กำลังอดั ของแท่งตวั อยา่ งคอนกรตี จะต้องผ่านตามเกณฑ์ที่กำหนดดงั ต่อไปนี
้
กำลงั อัดของแท่งตัวอย่าง กำลงั อัดของแท่งตวั อยา่ ง
คอนกรีตท่อี ายุ 7 วัน คอนกรตี ท่ีอาย ุ 28 วัน
ลำดบั ต้องไมต่ ่ำกวา่ (kg/cm2) ต้องไม่ต่ำกวา่ (kg/cm2) หมายเหตุ
ทรงกระบอก ทรงลกู บาศก์ ทรงกระบอก ทรงลูกบาศก์
cylinder cube cylinder cube
1 110 150 140 180 ถ้าผลการทดสอบกำลังอดั ทอี่ ายุ 7 วัน ของ
2 140 180 175 220 แท่งตัวอย่างคอนกรีตทรงลูกบาศก์หรือทรง
3 170 210 210 260 กระบอกต่ำกว่าเกณฑ์ที่กำหนดน้ีต้องเปล่ียน
4 >75% >75% ตามที่ระบุ ตามทรี่ ะบุ อัตราส่วนผสมของคอนกรีตใหม่โดยทันท
ี
ของกำลงั อัด ของกำลังอดั ในแบบ ในแบบ ตามคำแนะนำของสำนักวิจัยและพัฒนา
ที่กำหนด ท่กี ำหนด กรมชลประทาน แต่การพิจารณากำลงั อัดของ
ในแบบ ในแบบ คอนกรีตจะพิจารณาท่ีอายุ 28 วนั
3.12.3 เกณฑ์การตัดสนิ
เกณฑ์การตัดสินใช้ค่าเฉลี่ยผลการทดสอบกำลังอัดของแท่งตัวอย่างคอนกรีตอย่างน้อย
3 แทง่ ต้องไม่ตำ่ กวา่ กำลงั อดั ท่ีกำหนดในแบบ
3.12.4 คอนกรตี ทมี่ ีคณุ ภาพไมผ่ ่านการทดสอบ
คอนกรตี ส่วนใดๆ ของงานท่ผี ู้ควบคมุ งานก่อสรา้ งไดท้ ำการทดสอบกำลงั อัดจากแท่งตัวอย่าง
คอนกรีตท่ีเป็นตัวแทนของคอนกรตี ในบริเวณน้นั ๆ แลว้ ถา้ ปรากฏว่าผลการทดสอบกำลังอดั ของคอนกรีต
ไม่ผ่าน ตามข้อ 3.12.2 ถือว่าคอนกรีตส่วนน้ันใช้ไม่ได้ จะต้องทำการทุบคอนกรีตส่วนน้ันท้ิงไป หรือ
ใหด้ ำเนินการตามข้อ ก. หรือขอ้ ข.
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
21
(ก) ผู้รับจ้างอาจทำเร่ืองขอให้ทำการเจาะเก็บแท่งตัวอย่างคอนกรีตจากคอนกรีตในบริเวณ
น้ัน (Coring) เพื่อนำมาทำการทดสอบกำลังอัดของคอนกรีต แต่ต้องให้แล้วเสร็จภายในเวลา 30 วัน
หลังจากทราบผลการทดสอบกำลังอัดที่อายุ 28 วัน โดยแท่งตัวอย่างคอนกรีตจะต้องมีลักษณะเป็นแท่ง
ทรงกระบอกขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางไม่น้อยกว่า 2 เท่าของขนาดโตสุด (Max. Size) ของมวลรวม
หยาบ ความยาวไม่น้อยกว่า 2 เท่าของเส้นผ่านศูนย์กลาง จำนวนไม่น้อยกว่า 3 จุด จุดท่ีจะเก็บแท่ง
ตัวอย่างจะพิจารณาโดยคณะกรรมการตรวจการจ้าง หรือผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้าง แท่งตัวอย่าง
คอนกรีตท่ีทำการเจาะมานั้น เม่ือนำมาหาค่าเฉล่ียของกำลังอัด ค่าเฉล่ียต้องมีค่าไม่ต่ำกว่ากำลังอัดของ
คอนกรตี ที่กำหนดในแบบ แสดงว่าผลการทดสอบน้ันผ่านข้อกำหนด (ดู มอก. 409) และ ASTM C42
ขนาดของช้ินตวั อย่างรูปทรงกระบอก
กำลังอัดสมั พัทธร์ ้อยละ
หมายเหตุ
เสน้ ผา่ นศนู ยก์ ลาง x สูง (ซ.ม.)
(กำลงั อดั เทยี บเท่าของกำลังรปู
ทรงกระบอกมาตรฐาน)
5x10
109
7.5x15
106
15x30
100
(ข) ผู้รับจ้างอาจทำเร่ืองขอให้ทำการทดสอบการรับน้ำหนักบรรทุก ซ่ึงวิธีการทดสอบต้อง
เป็นไปตามมาตรฐาน ACI หรือ มาตรฐาน ว.ส.ท. 1008-38 “มาตรฐานสำหรับอาคาร
คอนกรีตเสรมิ เหล็กโดยวธิ ีกำลงั ”
(ค) ผู้รับจ้างอาจเสนอวิธีการทดสอบอื่นๆ นอกเหนือจากนี้ ซึ่งต้องเป็นวิธีการที่มีมาตรฐาน
และเป็นท่ียอมรบั จากสถาบันทเ่ี ชอ่ื ถอื ได้ เพื่อให้คณะกรรมการตรวจการจา้ งพิจารณาเห็นชอบ
ค่าใช้จ่ายทั้งหมดท่ีเกิดขึ้นจากการทดสอบกำลังอัดของคอนกรีตในบริเวณท่ีมีปัญหาให้อยู่ใน
ความรับผิดชอบของผูร้ ับจ้าง
3.13 การบ่มคอนกรีต (Curing for Concrete)
หลังจากคอนกรีตแข็งตัวทั้งก่อนถอดแบบและหลังถอดแบบจะต้องป้องกันการระเหยของน้ำ
ออกจากคอนกรีตเร็วเกินไปอันจะทำให้คอนกรีตแตกร้าวเสียหายได้ ดังน้ัน จึงจำเป็นจะต้องป้องกันผิว
คอนกรีตที่สมั ผสั กับอากาศและโดนแสงแดดโดยการบม่ ดว้ ยวธิ กี ารทีเ่ หมาะสม เช่น บ่มด้วยนำ้ หรอื บม่
ด้วยนำ้ ยาบม่ คอนกรตี
3.13.1 การบ่มด้วยน้ำ
การบ่มด้วยน้ำ ให้กระทำเม่ือผิวหน้าคอนกรีตแข็งตัวดีแล้ว ด้วยการทำให้ผิวหน้าคอนกรีต
ช่มุ ชืน้ อยู่ตลอดเวลา ซ่งึ กระทำไดโ้ ดยการหล่อนำ้ ขังไว้ หรอื คลมุ ดว้ ยวสั ดุท่ีช่มุ นำ้ หรอื ฉดี นำ้ เปน็ ฝอย
ระยะเวลาทใ่ี ชใ้ นการบม่ มีเกณฑด์ ังนี้
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
22
- บม่ คอนกรตี ทนั ทจี นกระทัง่ เทคอนกรตี ใหมท่ ับลงไป
- บ่มคอนกรีตทันทีไม่น้อยกว่า 14 วัน สำหรับคอนกรีตที่ใช้ปูนซีเมนต์ล้วน หรือสำหรับ
คอนกรตี ทใี่ ชเ้ ถา้ ลอยไมเ่ กนิ รอ้ ยละ 30 โดยนำ้ หนกั ของปนู ซเี มนต์ หรอื สำหรบั คอนกรตี ทใ่ี ชแ้ รผ่ สมเพม่ิ อน่ื
- บ่มคอนกรีตทันทีไม่น้อยกว่า 21 วัน สำหรับคอนกรีตที่ใช้เถ้าลอยเกินร้อยละ 30 โดย
น้ำหนกั ของปนู ซีเมนต์
3.13.2 การบ่มด้วยนำ้ ยาบ่มคอนกรตี
น้ำยาบ่มคอนกรีตจะต้องเป็นสารท่ีไม่เป็นพิษต่อร่างกายและไม่ไวไฟ น้ำยาบ่มคอนกรีตจะ
ต้องมีคุณสมบัติในการป้องกันน้ำระเหยจากผิวคอนกรีต (Water Retention) เม่ือทดลองโดย
Water Retention Test ASTM C156 เป็นเวลา 3 วัน น้ำจะต้องหายไปจากคอนกรีตได้ไม่เกิน
0.07 กรมั /ตารางเซนติเมตรของผิวหนา้ คอนกรีต
การบ่มคอนกรีตด้วยน้ำยาบ่มคอนกรีต ปกติจะใช้เม่ือไม่สามารถบ่มด้วยน้ำได้ แต่ห้ามใช้
น้ำยาบ่มคอนกรีตกับผิวคอนกรีตท่ีจะต้องเทคอนกรีตทับหรือฉาบผิวโดยเด็ดขาด การใช้น้ำยาบ่มคอนกรีต
สามารถใช้ทาหรอื พ่นเป็นฝอยอยา่ งสม่ำเสมอบนผิวหน้าคอนกรตี ใหท้ ่ัว โดยใชน้ ำ้ ยาบม่ คอนกรีต 1 ลิตร
ต่อพน้ื ท่ีไม่เกนิ 5 ตร.ม. น้ำยาบ่มคอนกรีตจะต้องมีคณุ สมบตั ิตามมาตรฐานวัสดขุ องกรมชลประทานหรอื
ตามมาตรฐานอตุ สาหกรรม มอก. 841-2548 “สารเหลวบ่มคอนกรตี ”
การพ่นหรือทาน้ำยาบ่มคอนกรีตลงบนผิวคอนกรีตท่ีไม่มีแบบหล่อจะต้องกระทำหลังจากผิว
หน้าคอนกรีตเร่ิมแห้ง แต่สำหรับผิวคอนกรีตท่ีใช้แบบหล่อ ทันทีที่ถอดแบบออกแล้ว จะต้องทำให้ผิว
คอนกรีตเปียกโดยการฉีดน้ำให้เป็นฝอยและจะต้องทำให้เปียกไว้จนกระทั่งผิวนั้นไม่ดูดความชื้นเข้าไปอีก
ทันทที น่ี ำ้ ติดอยูบ่ นผวิ คอนกรตี แหง้ แต่คอนกรตี ยงั ชน้ื อยู่ จะต้องพน่ น้ำยาบม่ คอนกรตี ลงไปทนั ที การ
ดำเนินการใดๆ ที่จะทำให้เกิดความเสียหายแก่ผิวท่ีเคลือบด้วยน้ำยาบ่มคอนกรีต จะต้องทำการพ่นใหม่
ทันท
ี
3.14 การปอ้ งกันผวิ หน้าคอนกรตี
ในระหว่างท่ีเทคอนกรีตหรือได้เทเสร็จเรียบร้อยแล้วแต่ผิวหน้าของคอนกรีตยังไม่แข็งดี หาก
เกิดฝนตก ผู้รับจ้างจะต้องจัดหาวัสดุมาปิดผิวหน้าคอนกรีตเพื่อป้องกันผิวหน้าคอนกรีตถูกฝนชะล้าง ถ้า
ป้องกันโดยใช้กระสอบคลุมจะต้องไม่ใช้กระสอบที่เคยใส่น้ำตาล เกลือ ปุ๋ย หรือสารที่มีผลต่อการแข็งตัว
ของคอนกรีต โดยจะต้องจดั เตรยี มใหพ้ ร้อมก่อนเร่ิมการเททุกครงั้
3.15 การทำเครอื่ งหมายบนผวิ หน้าคอนกรีต
เม่ือคอนกรีตแข็งแห้งสนิทดีแล้วให้เขียนวัน เดือน ปี ที่ทำการเทคอนกรีตนั้นไว้บนผิว
คอนกรีตด้วยสีที่ทนต่อน้ำและความชื้น ในตำแหน่งท่ีสังเกตเห็นได้ง่ายและชัดเจน เพ่ือประโยชน์ในการ
ตรวจสอบภายหลัง
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคณุ ลักษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรตี
23
3.16 งานแบบหล่อ (Formworks)
โดยท่วั ไปการดำเนินงานสำหรับงานแบบหลอ่ ใหผ้ ู้รับจา้ งปฏบิ ตั ิตามข้อกำหนดใน ACI 347
“Recommended Practice for Concrete Formworks” หรอื มาตรฐาน ว.ส.ท. 1014-46 “ขอ้ กำหนด
มาตรฐานวัสดุและการกอ่ สร้างสำหรับโครงสรา้ งคอนกรตี ” ผูร้ ับจา้ งตอ้ งจัดทำแบบสำหรบั หลอ่ คอนกรีต
ให้มีขนาด รูปร่าง แนว และระดับตามแบบท่ีกำหนด โดยผู้รับจ้างเป็นผู้คำนวณออกแบบแบบหล่อและ
นั่งร้านให้มคี วามม่ันคงแข็งแรงเพยี งพอท่ีจะรับแรงทีเ่ กดิ จากการเทคอนกรีต การสนั่ คอนกรตี และนำ้ หนกั
บรรทุกต่างๆ โดยไม่เกิดการเคลื่อนตัว ไม่เสียรูป แนวและระดับตามแบบที่แสดงไว้ และก่อนเริ่มงาน
แบบหล่อ ผู้รับจ้างจะต้องเสนอรายละเอียดเกี่ยวกับอุปกรณ์จัดทำแบบหล่อและนั่งร้าน เช่น ขนาด
รูปร่าง คุณภาพและความแข็งแรงของวัสดุท่ีใช้ให้ผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างพิจารณาอนุมัติ แต่มิได้เป็น
เหตุใหผ้ รู้ ับจ้างหมดความรบั ผดิ ชอบหากมคี วามเสียหายอนั อาจเกิดข้นึ จากงานแบบหลอ่ และน่ังร้าน
การถอดแบบหล่อของคอนกรีตในชั้นใด จะกระทำได้ก็ต่อเม่ือเนื้อคอนกรีตในชั้นน้ันแข็งตัว
แล้ว หา้ มถอดแบบกอ่ น 24 ช่วั โมง หลงั จากเทเสร็จ ระยะเวลาในการถอดแบบหล่อของสว่ นต่างของ
อาคารใหด้ เู ร่อื ง 3.16.5 การตง้ั แบบในชัน้ ต่อไปจะต้องรอจนกวา่ คอนกรตี มกี ำลังอดั เพยี งพอที่จะสามารถ
รับน้ำหนักของคอนกรีตและน้ำหนักอ่ืนๆ ที่เกิดข้ึนระหว่างการก่อสร้างต่อไป และต้องระมัดระวังมิให้
คอนกรีตเกิดความเสียหาย ไม่ว่าในกรณีใดๆ ก็ตามห้ามผู้รับจ้างใช้คานหรือแผ่นพื้นรับน้ำหนักบรรทุก
เกินกว่าค่าท่ีออกแบบไว้ การยึดแบบในช้ันต่อไปจะต้องยึดแบบติดกับคอนกรีตชั้นเดิมให้แน่นจนไม่เกิด
การเคล่ือนตัวหรือเปล่ียนรูป หรือเกิดการร่ัวไหลของน้ำปูน ท้ังน้ี ผู้รับจ้างอาจใช้สลักเกลียวหรือเหล็ก
ยึดแบบได้ตามความเหมาะสม
สำหรับแบบหล่อคอนกรตี เปลอื ย (Exposed Surfaces) หรือแบบหล่อทีต่ อ้ งการความเทยี่ ง
ตรงสูง เช่น แบบหล่อคอนกรีตร่องบานระบาย จะต้องบุผิวหรือจัดทำด้วยแผ่นเหล็ก หรือไม้อัดที่มีผิว
เรียบ ปราศจากรอยตำหนิใดๆ โดยผู้รับจ้างต้องรักษาสภาพของผิวแบบหล่อดังกล่าวให้ดีอยู่เสมอ หากมี
จุดบกพร่องใดๆ เกดิ ขน้ึ จะตอ้ งแก้ไขทันที
3.16.1 วัสดสุ ำหรบั งานแบบหลอ่
วัสดสุ ำหรับงานแบบหลอ่ ทีใ่ ชท้ ำงานคอนกรีต ต้องเปน็ ไปตามขอ้ กำหนดดงั นี
้
(1) ไม้ที่ใช้ทำแบบหล่อและบุแบบ ต้องมีคุณภาพ หรือเคลือบให้มีคุณภาพท่ีจะไม่ทำให้ผิว
คอนกรีตเสียหาย สภาพของไม้ท่ีใช้ทำแบบหล่อหรือบุแบบต้องไม่มีการบิดโค้ง แผ่นไม้ควรมีความหนา
คงท่ี จะตอ้ งทนตอ่ การบิดเบย้ี วซ่ึงเกดิ จากการเทหรอื การสั่นคอนกรตี ไมแ้ บบหล่อต้องสะอาดปราศจาก
สิง่ ไม่พงึ ประสงค์ เชน่ เศษซเี มนต์ เศษดนิ ฯลฯ
(2) การบุแบบหลอ่ ด้วยไม้อัด ใชส้ ำหรับคอนกรตี เปลอื ย ไม้อัดที่ใช้ ตอ้ งเป็นไม้อดั ท่กี ันนำ้ ได้
ไมห่ ด ไมห่ ่อตัว ไมอ้ ัดทีใ่ ช้ตอ้ งมีขนาดความกวา้ ง ความยาว และความหนาสมำ่ เสมอกนั และตอ้ งหนาไม่
น้อยกว่า 10 มิลลิเมตร รอยต่อของไม้อัดต้องราบเรยี บ ไม่มรี อยปะ ตำหนิท่มี อี ยู่ในไม้อดั ต้องได้รับการ
ซอ่ มแซมกอ่ น
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
24
(3) เหล็กที่ใช้ทำแบบหล่อ เป็นเหล็กแผ่นมีความหนาเพียงพอ ประกอบเข้ากับโครงเหล็ก
ตามแบบหลอ่ หรอื เป็นแบบหล่อทท่ี ำจากแผน่ ไม้กระดาน แลว้ บุดว้ ยเหล็กแผน่ บาง
(4) การใช้แบบหล่อซ้ำเป็นครั้งที่สองหรือคร้ังต่อๆไป ผู้รับจ้างจะต้องทำการปรับปรุง
ซอ่ มแซม ให้มสี ภาพแข็งแรงเหมือนของเดมิ ไม่มรี ูร่วั ผิวหน้าตอ้ งเรยี บ และทำความสะอาดตลอดอายุ
การใช้งาน
3.16.2 การยึดแบบหลอ่ (Form Ties and Bolts)
การยึดแบบหล่อต้องยึดให้ม่ันคงแข็งแรง หลังจากหล่อคอนกรีตและถอดแบบหล่อแล้ว
แท่งโลหะทฝ่ี งั ไว้สำหรบั ยึดแบบหลอ่ จะต้องถกู ฝงั ท้งิ ไว้ในคอนกรตี ในกรณีทีม่ แี ท่งโลหะยดึ แบบหล่อเกนิ
ออกมานอกผิวคอนกรีตจะต้องตัดออกตรงจุดท่ีลึกจากผิวคอนกรีตเข้าไปไม่น้อยกว่า 6 มิลลิเมตร
สำหรับตัวยึดปลายของเหล็กยึดแบบที่ฝังในเน้ือคอนกรีตจะต้องเลือกชนิดที่ถอดออกแล้วจะเหลือรูซ่ึงมีรูป
ร่างเรียบร้อยสวยงาม และผู้รับจ้างต้องอุดรูเหล่าน้ีด้วยปูนทรายแห้ง (Dry-Pack Mortar) ดูเรื่อง
3.17.1
3.16.3 เหล็กเส้นสำหรับยึดเหล็กเสรมิ คอนกรตี
เหล็กเส้นสำหรับยึดเหล็กเสริมคอนกรีตให้มีความมั่นคงแข็งแรงขณะเทคอนกรีตน้ันจะต้อง
คงไว้ในเนื้อคอนกรีต ห้ามเช่ือมเหล็กเส้นสำหรับยึดติดกับเหล็กเสริมคอนกรีต หรือเหล็กท่ีเป็นส่วนที่ต้อง
ฝงั เมอ่ื ถอดแบบหลอ่ ออกแล้วต้องมปี ลายอย่ลู ึกจากผวิ คอนกรตี ไม่นอ้ ยกวา่ 50 มิลลิเมตร หรอื ฝงั ไม่นอ้ ย
กว่า 2 เท่า ของขนาดเสน้ ผ่านศูนย์กลางของเหลก็ เส้นสำหรับยึด
อนง่ึ ผรู้ ับจ้างจะตอ้ งนำรายละเอยี ดเกยี่ วกับเหลก็ เสน้ สำหรับยดึ ที่ประสงคจ์ ะใช้งานเสนอตอ่
ผคู้ วบคุมงานของผวู้ า่ จา้ งเพื่อพจิ ารณาอนมุ ัติ
3.16.4 การทำความสะอาดแบบหล่อและทานำ้ มันเคลือบแบบหล่อ
ผู้รับจ้างจะต้องดูแลรักษาผิวหน้าของแบบหล่อในขณะทำการเทคอนกรีตให้สะอาดปราศจาก
คราบน้ำปูน ปูนทราย หรือวสั ดอุ ื่นใดอนั อาจทำให้ผวิ คอนกรีตเสียหาย ก่อนการเทคอนกรีต ผู้รบั จ้าง
จะต้องทาผิวหน้าของแบบหล่อด้วยน้ำมันท่ีใช้สำหรับทาแบบหล่อ โดยน้ำมันดังกล่าวต้องมีคุณสมบัติใน
การป้องกันผิวคอนกรีตไม่ให้ติดกับแบบหล่ออย่างมีประสิทธิภาพ และจะต้องไม่ทำให้ผิวหน้าคอนกรีต
เปรอะเป้ือน ผู้รบั จ้างต้องระมดั ระวงั ไมใ่ หน้ ้ำมันหยดลงบนผวิ หน้าคอนกรตี เดมิ ซงึ่ จะเทคอนกรีตใหม่ทับ
3.16.5 การถอดแบบหลอ่ และคำ้ ยัน
ผู้รบั จา้ งจะต้องถอดแบบหล่อด้วยความระมดั ระวังโดยไม่เกิดความเสียหายตอ่ คอนกรตี และ
ให้ดำเนินการอย่างเร็วที่สุดเท่าท่ีจะปฏิบัติได้เพ่ือไม่ให้เกิดความล่าช้าในการบ่ม และซ่อมผิวคอนกรีต แต่
ท้ังนี้การถอดแบบหล่อจะกระทำได้ก็ต่อเม่ือผู้ควบคุมงานของผู้ว่าจ้างอนุมัติแล้วเท่าน้ัน แบบหล่อและไม้
ค้ำยันบางส่วนของงานคอนกรีตจะต้องไม่ถอดออกจนกว่าคอนกรีตมีความแข็งแรงเพียงพอ และเมื่อถอด
แล้วจะไม่เกดิ รอยร้าว การโกง่ ตวั หรือจะไมเ่ กดิ ความเสยี หายแก่คอนกรีต สำหรับระยะเวลานอ้ ยท่ีสุด
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
25
ทจี่ ะถอดแบบและค้ำยันให้ใช้ตามขอ้ กำหนดดงั น ้ี คือ
1. แบบหลอ่ ดา้ นข้างของฐานราก กำแพง เสา และคาน 2 วัน
2. แบบหล่อใตแ้ ผน่ พนื้ 14 วัน
3. แบบหลอ่ ใต้ทอ้ งคาน 21 วนั
(หรอื เมอ่ื คอนกรตี จะมีกำลังอัดไมน่ อ้ ยกวา่ รอ้ ยละ 90 ของคา่ ทอ่ี อกแบบ)
4. ค้ำยันใต้ท้องคานและแผ่นพืน้ 28 วนั
(หรอื เม่ือคอนกรีตมีกำลงั อดั ร้อยละ 100 ของคา่ ทอี่ อกแบบ)
5. การติดต้ังไม้ค้ำยัน ไม้นั่งร้าน แบบหล่อที่ต้องกระทำต่อเนื่องหรือจะทำให้เกิดความ
กระทบกระเทอื นบนคอนกรตี จะกระทำไดเ้ ม่ือคอนกรีตนน้ั มอี ายเุ กิน 48 ชัว่ โมง
ในกรณีท่ีต้องการถอดแบบหล่อออกก่อนกำหนด ผู้รับจ้างจะต้องมีผลทดสอบกำลังอัดของ
คอนกรตี นัน้ ตามท่ีกำหนด แล้วเสนอให้ผคู้ วบคมุ งานของผ้วู า่ จ้างพจิ ารณาเห็นชอบกอ่ น
ความเสียหายใดๆ ที่เกิดข้ึนเน่ืองจากการถอดแบบหล่อนั้น ผู้รับจ้างจะต้องรีบดำเนินการ
แกไ้ ขซอ่ มแซม และบ่มคอนกรีตตามกำหนดทนั ที โดยจะไมม่ กี ารจา่ ยเงนิ เพ่มิ เตมิ จากผวู้ า่ จา้ งไมว่ า่ ในกรณี
ใดๆ ทัง้ ส้นิ
3.16.6 แบบหลอ่ สำหรบั คอนกรตี ผิวโคง้
แบบหล่อสำหรับงานผิวโค้ง ต้องสร้างให้แบบหล่อโค้งตามแบบกำหนด แนวอ้างอิง ระยะ
ราบ ระยะดิ่งตลอดแนวเส้นโค้ง ผู้รับจ้างจะต้องประเมินแนวโค้งระหว่างหน้าตัดท่ีกำหนดเพ่ือก่อสร้าง
แบบหล่อ ให้ได้โคง้ อยา่ งต่อเน่อื ง ภายหลงั จากถอดแบบหลอ่ หากผิวหนา้ คอนกรตี ไมไ่ ดโ้ คง้ ตามแบบ หรอื
ผวิ หนา้ ไม่เรียบตอ้ งทำการแกไ้ ข รวมทงั้ ผิวหนา้ ท่หี ยาบ มเี หลี่ยมมุมเนอ่ื งจากอปุ กรณห์ รอื เคร่อื งมือทีใ่ ชจ้ ะ
ต้องตกแต่งผวิ ให้ได้ตามท่ตี อ้ งการ
3.17 การซอ่ มคอนกรตี
การซ่อมคอนกรีตจะต้องกระทำโดยช่างผู้ชำนาญงาน และจะกระทำได้ก็ต่อเมื่อมีผู้ควบคุม
งานของผู้ว่าจ้างกำกับอยู่ด้วยเท่านั้น นอกจากจะได้รับการเห็นชอบเป็นอย่างอื่น คอนกรีตที่ใช้แบบหล่อ
ถา้ มีการซ่อมจะต้องทำใหเ้ สร็จภายใน 24 ชว่ั โมง หลงั จากถอดแบบหล่อ คอนกรตี ท่ีเปน็ รวงผึ้ง แตกร้าว
หรือเสียหายอย่างอ่ืนใด จะต้องสกัดส่วนท่ีเสียหายออกจนหมด จากน้ันจึงซ่อมแล้วแต่งให้ได้ผิวหน้าตาม
แนวที่กำหนดด้วยปูนทรายแหง้ (Dry-Pack Mortar) ปูนทรายเปียก (Mortar) คอนกรีต (Concrete)
ปนู ซเี มนต์พิเศษ ประเภทรบั กำลังสูง (Epoxy และ Non-shrink) ตามความเหมาะสม
3.17.1 การซ่อมดว้ ยปนู ทรายแห้ง (Dry-Pack Mortar)
การซอ่ มด้วยปูนทรายแห้ง ใชใ้ นการซ่อมผวิ คอนกรีตท่ีมคี วามเสยี หายเปน็ รูเลก็ ๆ ร่องแคบๆ
ที่เซาะข้ึนเพ่ือซ่อมรอยร้าว รูท่ออัดน้ำปูน และรูหัวน็อตเหล็กยึดแบบ ซึ่งปูนทรายแห้งน้ีห้ามใช้อุดรู
คอนกรีตที่เห็นเหล็กเสริม และจะต้องมีอัตราส่วนปูนต่อทราย เท่ากับ 1:2.5 โดยปริมาตร ทรายที่ใช้จะ
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอยี ดและคุณลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
26
ต้องร่อนผ่านตะแกรงเบอร์ 16 ผสมน้ำพอสมควรท่ีจะทำให้ปูนทรายแห้งมีความเหนียวข้นโดยให้มีค่า
การยุบตัว (Slump) เป็นศูนย์หรือใกล้ศูนย์ ทั้งน้ี การซ่อมด้วยปูนทรายแห้งจะต้องอัดให้แน่นด้วย
กรรมวิธที ่ีเหมาะสม
3.17.2 การซ่อมด้วยปูนทรายเปยี ก (Mortar)
การซอ่ มด้วยปูนทรายเปยี ก ใชซ้ อ่ มผวิ คอนกรตี ท่ีเป็นแอง่ หรอื รอ่ งท่ีกวา้ งเกนิ กว่าท่ีจะใช้ปูน
ทรายแห้งได้และต้ืนเกินกว่าที่จะใช้คอนกรีตซ่อมได้ และจะต้องไม่ลึกจนถึงเหล็กเสริมด้านท่ีอยู่ใกล้ผิว
คอนกรีต อัตราส่วนปูนต่อทรายท่ีใช้ เทา่ กบั 1:1 โดยปรมิ าตร วิธกี ารซอ่ มอาจซ่อมดว้ ยมอื หรอื ใชห้ วั ฉดี
กไ็ ด้
3.173 การซ่อมด้วยคอนกรีต (Concrete)
การซ่อมดว้ ยคอนกรตี จะใช้สำหรับซ่อมความเสยี หายในกรณตี ่อไปน้
ี
- รโู พรงที่มเี นอื้ ทีม่ ากกว่า 1 ตารางฟตุ ลกึ มากกว่า 4 นิว้ และไมม่ เี หล็กเสรมิ
- รูโพรงในคอนกรีตท่ีมีเหล็กเสริม ท่ีมีเน้ือท่ีระหว่าง 0.5-1 ตารางฟุต และลึกเลยเหล็ก
เสริมดา้ นที่อยู่ใกลผ้ วิ คอนกรีตเขา้ ไป
ก่อนเทคอนกรีตให้เตรียมผิวคอนกรีตเดิมโดยต้องสกัดคอนกรีตส่วนที่จับตัวไม่แน่นออก และ
ทำพื้นผิวคอนกรีตเดิมให้สะอาด จะต้องสกัดเอาคอนกรีตท่ีติดอยู่บริเวณรอบเหล็กเสริมออกโดยรอบไม่
น้อยกว่า 1 น้ิว พร้อมทำความสะอาดเหล็กเสริม ขอบบนของรูโพรงต้องสกัดผิวให้มีความลาดเอียง
ประมาณ 1:3 เพ่ือสะดวกในการเทคอนกรีต คอนกรีตที่ใช้จะต้องมีอัตราส่วนปูนต่อทรายต่อหินย่อย
เท่ากบั 1:1:1 โดยปรมิ าตร โดยใช้หินย่อยขนาดโตสดุ ไมใ่ หญ่กวา่ นว้ิ
ในกรณที ี่ขนาดของรูโพรงเลก็ กว่า 0.5 ตารางฟตุ หรอื ขนาดรูโพรงตืน้ กวา่ 4 น้วิ อาจใช้
น้ำยาเช่ือมประสานเน้ือคอนกรีต (Bonding Agent) หรือทำการขยายรูโพรงนั้นจนได้ขนาดสำหรับการ
ซ่อมดว้ ยคอนกรีต เพื่อใหค้ อนกรตี ทใี่ ช้ซอ่ มแซมมกี ารยึดเกาะกบั คอนกรีตเดมิ ไดด้ ี ทง้ั น้ีให้อย่ใู นดุลยพนิ ิจ
ของผ้คู วบคมุ งานของผู้วา่ จ้าง
ในกรณีที่รูโพรงท่ีมีเนื้อที่ใหญ่เกินกว่าที่ระบุข้างต้น ให้ผู้รับจ้างเสนอวิธีการซ่อมแซมต่อ
คณะกรรมการตรวจการจา้ งพิจารณาเหน็ ชอบก่อนดำเนนิ การ
3.17.4 การซอ่ มดว้ ยนำ้ ยาเชอื่ มประสานประเภท Epoxy
การซอ่ มคอนกรีตโดยการใช้นำ้ ยาเชอื่ มประสาน (Epoxy Bonding Agent) ใช้สำหรับการ
ซ่อมส่วนของอาคารซง่ึ ต้องรบั กำลงั สงู การดำเนินการทำไดห้ ลายวิธีการดังน้
ี
- การซ่อมด้วยน้ำยาเช่ือมประสานผสมทราย (Epoxy Mortar) ใช้ซ่อมคอนกรีตท่ีเป็นรู
โพรงซง่ึ ต้องรบั กำลังสูงเปน็ พิเศษ โดยความลึกทีจ่ ะซอ่ มควรอยู่ระหว่าง 1.5 – 6 นิ้ว หรือการใชง้ าน
พิเศษ เช่น สมอยึด (Anchor Bar) ก่อนดำเนินการซ่อมให้ทำความสะอาดพื้นผิวคอนกรีตเดิมให้แห้ง
สะอาดปราศจากฝนุ่ แลว้ ให้ทาพืน้ ผิวด้วยนำ้ ยาเชื่อมประสานโดยแปรงหรอื ลูกกลิง้ หรอื การฉดี พ่น แล้ว
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี
27
จึงทำการซอ่ มดว้ ย Epoxy Mortar โดยจะตอ้ งกระทำในขณะท่นี ำ้ ยาเช่ือมประสานยังไมแ่ ห้ง
- การซอ่ มดว้ ยน้ำยาเช่ือมประสานโดยการฉีดอัดด้วยความดนั ใช้ซอ่ มคอนกรีตท่ีเปน็ รอย
แตกร้าวขนาดเลก็ ของคอนกรตี โครงสร้าง เชน่ คาน
รายละเอียดการซ่อมด้วยน้ำยาเชื่อมประสานประเภท Epoxy ให้ถือตามคำแนะนำใน
Concrete Manual พิมพ์คร้ังท่ี 8 ของ U.S. Department of the Interior Water and Power
Resources Service
3.17.5 การซ่อมคอนกรีตด้วยวสั ดพุ เิ ศษประเภทอน่ื ๆ
การซ่อมคอนกรีตด้วยวัสดุพิเศษประเภทอื่นๆ เช่น Non-Shrink Grout, Latex-Bonding
Agent, Cementitious grout นอกเหนอื จากทรี่ ะบขุ า้ งต้น ใหผ้ ูร้ ับจา้ งเสนอรายละเอียดวัสดุ วธิ กี าร
ซ่อมแซมที่เหมาะสมตอ่ ผ้คู วบคุมงานของผวู้ ่าจ้างเพ่อื ขออนมุ ตั ิก่อนการดำเนินการ
3.18 การเก็บตัวอย่างวสั ดุก่อสร้างเพอื่ ทำการทดสอบและกำหนดอตั ราส่วนผสม
กอ่ นทจ่ี ะเร่มิ งานก่อสรา้ ง ผรู้ บั จ้างจะตอ้ งส่งตวั อย่างวสั ดุกอ่ สรา้ งตา่ งๆ ไปทำการตรวจสอบ
คุณภาพและกำหนดอัตราส่วนผสมคอนกรีตที่ห้องปฏิบัติการในสนาม หรือสำนักวิจัยและพัฒนา
กรมชลประทาน ก่อนทกุ ครงั้ ตามปริมาณทก่ี ำหนดไวด้ ังตอ่ ไปน้ี
3.18.1 ปรมิ าณการเก็บตัวอย่างวัสดุกอ่ สร้างเพอื่ ทำการทดสอบ
(1) ปนู ซีเมนต์ - เกบ็ ทกุ ๆ 50 เมตรกิ ตนั หรอื นอ้ ยกวา่ ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง
(2) แรผ่ สมเพิม่ - เกบ็ ทกุ ๆ 10 เมตรกิ ตนั หรอื นอ้ ยกวา่ ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง
(3) สารเคมีผสมเพ่มิ สำหรบั คอนกรตี (สวพ. ไม่ไดร้ ะบวุ ่าใหเ้ กบ็ เท่าไหร)่
• ชนดิ ผง เก็บ 1 ตัวอย่าง ต่อ 1 ชนิด
• ชนิดเหลว เกบ็ 1 ตัวอยา่ ง ตอ่ 1 ชนดิ
(4) สารเคมีบม่ คอนกรตี - เกบ็ ทุกๆ 1,000 ลติ ร หรอื น้อยกว่า ต่อ 1 ตัวอย่าง
(5) ทราย หนิ ย่อย กรวด หินใหญ่ - เกบ็ ทกุ ๆ 2,000 ลบ.ม. หรอื นอ้ ยกวา่ ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง
(6) เหล็กเสน้ เสรมิ คอนกรตี
• น้อยกวา่ 30 ตนั เกบ็ จำนวน 3 ทอ่ น ต่อ 1 ตวั อยา่ ง ตอ่ 1 ขนาด
• ระหวา่ ง 30 – 60 ตนั เก็บจำนวน 5 ท่อน ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง ต่อ 1 ขนาด
• มากกวา่ 60 ตนั เก็บจำนวน 7 ทอ่ น ต่อ 1 ตวั อย่าง ต่อ 1 ขนาด
- เหล็กรปู พรรณชนดิ รีดร้อน - เกบ็ ทกุ ๆ 20 ตนั หรอื นอ้ ยกวา่ ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง ตอ่ 1 ขนาด
- เหล็กรปู พรรณชนดิ ขน้ึ รูปเยน็ - เกบ็ ทกุ ๆ 10 ตนั หรอื นอ้ ยกวา่ ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง ตอ่ 1 ขนาด
(7) เข็มพดื เหล็ก - เกบ็ ทกุ ๆ 300 ทอ่ น หรอื นอ้ ยกวา่ ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง ตอ่ 1 ขนาด
(8) เหล็กหล่อ - เกบ็ ทุกๆ 50 ตัน หรอื นอ้ ยกว่า ต่อ 1 ตวั อย่าง
(9) เหลก็ เส้นแบน - เกบ็ ทกุ ๆ 10 ตนั หรอื นอ้ ยกวา่ ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง ตอ่ 1 ขนาด
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลกั ษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรีต
28
(10) เหล็กแผ่น - เกบ็ ทกุ ๆ 100 แผน่ หรอื นอ้ ยกวา่ ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง ตอ่ 1 ขนาด
(11) เหลก็ กลา้ ไรส้ นมิ - เกบ็ ทุกๆ 100 แผน่ หรือนอ้ ยกว่า ต่อ 1 ตัวอย่าง
(12) วัสดอุ ุดรอยต่อคอนกรีต - เกบ็ ทกุ ๆ 1,000 ตร.ม. หรอื นอ้ ยกวา่ ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง
(13) แผน่ ใยสงั เคราะห ์ - เก็บทุกๆ 20,000 ตารางเมตร หรือนอ้ ยกวา่
ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง
(14) กลอ่ งลวดตาขา่ ยเหล็ก - เก็บทุกๆ 500 กล่อง หรอื นอ้ ยกวา่ ตอ่ 1 ตัวอย่าง
เคลอื บสงั กะสี Gabions
(15) กล่องลวดตาขา่ ยเหลก็ - เกบ็ ทกุ ๆ 500 กลอ่ ง หรือน้อยกว่า ตอ่ 1 ตวั อยา่ ง
เคลือบสังกะสี Mattress
(16) แผ่นกนั ซึม - เก็บทกุ ๆ 150 เมตร หรอื น้อยกว่า ตอ่ 1 ตัวอยา่ ง
ตอ่ 1 ขนาด
3.18.2 ปรมิ าณวสั ดทุ ี่ใชเ้ พ่อื การทดสอบคณุ ภาพกอ่ นนำมาใชง้ าน (ต่อ 1 ตัวอย่าง)
(1) ปูนซเี มนต์ (ถงุ ละ 50 กิโลกรัม) 1 ถงุ
(2) ทราย 25 กิโลกรมั
(3) หนิ ย่อย หรือกรวด (แตล่ ะขนาด) 25 กิโลกรมั
(4) หินใหญ่ ขนาด 0.20 – 0.40 เมตร 2 ก้อน
(5) เหล็กเส้นเสรมิ คอนกรีตยาวทอ่ นละ 0.60 เมตร (แตล่ ะขนาด) 3 ท่อน
(6) เหล็กชนิดอื่นนอกเหนือจากเหล็กเส้นเสริมคอนกรีต มีขนาดและรูปร่างชิ้นทดสอบ
ตามมาตรฐานกำหนด (แต่ละขนาด)
ทดสอบแรงดงึ และส่วนยดื 3 ท่อน
ทดสอบการดดั โคง้ เยน็ (ถา้ ม)ี 3 ทอ่ น
ทดสอบความแข็ง (ถา้ ม)ี 3 ทอ่ น
(7) แร่ผสมเพมิ่ (ท่ีกำหนดเปน็ 25 กก) 10 กโิ ลกรมั
(8) สารเคมผี สมเพิม่ สำหรบั คอนกรีต ชนดิ ผง 1 กิโลกรัม
ชนิดเหลว 1 ลติ ร
(9) สารเคมีบม่ คอนกรีต 1 ลิตร
(10) แผ่นกันนำ้ ซึม ยาวท่อนละ 0.30 เมตร (แต่ละชนิด) 1 ท่อน
(11) วัสดุอุดรอยตอ่ คอนกรตี ขนาด 0.30 x 0.30 เมตร 1 แผน่
(12) แผ่นใยสงั เคราะห์ ขนาด 1.50 x 1.50 เมตร 1 แผ่น
(13) กล่องลวดตาข่ายเหล็กเคลอื บสงั กะสี Gabions (แตล่ ะขนาด) 1 กล่อง
(14) กลอ่ งลวดตาข่ายเหล็กเคลอื บสังกะสี Mattress (แต่ละขนาด) 1 กลอ่ ง
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคณุ ลกั ษณะทางวิศวกรรม
งานคอนกรีต
29
3.18.3 ปรมิ าณวสั ดทุ ใ่ี ชเ้ พอ่ื หาอตั ราสว่ นผสมคอนกรตี (Mix Design) (ตอ่ หนงึ่ อตั ราสว่ นผสม)
(1) ปูนซีเมนต์ (ถุงละ 50 กิโลกรมั ) 2 ถุง
(2) ทราย 150 กิโลกรัม
(3) หนิ ยอ่ ย หรือกรวด (แตล่ ะขนาด) 200 กโิ ลกรัม
(4) แร่ผสมเพม่ิ 25 กโิ ลกรมั
(5) สารเคมผี สมเพม่ิ สำหรับคอนกรตี ชนดิ ผง 1 กิโลกรมั
ชนดิ เหลว แกลลอน
3.19 ความคลาดเคลือ่ นของอาคารคอนกรีตเสรมิ เหลก็
ความคลาดเคลื่อนในท่ีนี้ หมายถึง ความคลาดเคลื่อนท่ียอมให้เกิดข้ึนจากวิธีการก่อสร้าง
ผู้รับจา้ งจะต้องทำการก่อสร้างงานคอนกรีตท้งั หมดให้ไดแ้ นว ระดบั และขนาดทรี่ ะบไุ วใ้ นแบบ แตเ่ มอ่ื ทำ
ด้วยความระมัดระวังอย่างดีที่สุดแล้วยังมีความคลาดเคลื่อนอยู่ ซ่ึงความคลาดเคลื่อนน้ันจะต้องไม่เกิน
เกณฑท์ ีก่ ำหนดไว้ (ข้อ 3.19.1) เวน้ แตเ่ มือ่ ผู้วา่ จ้างพิจารณาเหน็ วา่ ความคลาดเคลือ่ นนั้นมผี ลกระทบต่อ
การใช้งานของอาคาร ผวู้ ่าจา้ งมสี ทิ ธิท่ีจะไมย่ อมรับความคลาดเคลอื่ นนัน้ โดยที่ผู้รับจ้างจะต้องรือ้ หรอื
ทุบออกแลว้ ทำการซ่อมแซมหรือสร้างใหม่ ดว้ ยค่าใช้จ่ายของผรู้ ับจ้างเองทั้งหมด
3.19.1 เกณฑค์ วามคลาดเคลือ่ นที่ยอมให้สำหรบั คอนกรตี เสรมิ เหล็ก
ความคลาดเคล่ือนทย่ี อมให้สำหรบั งานคอนกรีตให้เปน็ ไปตามขอ้ กำหนดดังตอ่ ไปน
้ี
(1) สำหรบั อาคารทุกชนดิ
ชนดิ ของความคลาดเคลอ่ื น ความคลาดเคลอ่ื นทย่ี อมให้
ความคลาดเคลอื่ นในแนวราบจากตำแหน่งทกี่ ำหนดไว้ในแบบ
- ทุกๆ ระยะ 6 เมตร ไมเ่ กนิ 1.3 ซม.
- ค่าสงู สุดตลอดความยาว ไม่เกิน 1.8 ซม.
(ก) ความคลาดเคลอื่ นจากแนวดิ่ง, ลาดเทท่กี ำหนด, พ้ืนผวิ โคง้ ของอาคารต่าง ๆ
รวมทัง้ ผิวของเสา, กำแพง, ตอม่อ, Vertical Joint Grooves, Buttresses, Arch
Section และสว่ นอืน่ ๆ ทม่ี ลี กั ษณะคลา้ ยคลงึ กัน
ส่วนของอาคารทีม่ องเห็นได
้
- ทกุ ๆ ระยะ 3 เมตร ไมเ่ กนิ 1.3 ซม.
- ทกุ ๆ ระยะ 6 เมตร ไมเ่ กนิ 1.8 ซม.
- คา่ สงู สดุ ตลอดความยาว ไม่เกิน 3.2 ซม.
ส่วนของอาคารท่ีฝังดนิ เป็นสองเท่าของคา่ ปกติ
กรมชลประทาน
มาตรฐานรายละเอียดและคุณลักษณะทางวศิ วกรรม
งานคอนกรตี